เอริกะ คาราตะ

จุดจบคนอวดแฟนที่ไม่ใช่แฟนเรา! ดาราสาว เอริกะ คาราตะ ถูกแฉต่อเนื่อง

Alternative Textaccount_circle
เอริกะ คาราตะ
เอริกะ คาราตะ

ดาราสาว เอริกะ คาราตะ ถูกขุดภาพในอินสตาแกรมแฉอย่างต่อเนื่อง ภายหลังถูกสื่อแทบลอยด์ญี่ปุ่น Bunshun เปิดเผยชนวนเหตุทำครอบครัว “วาตานาเบะ แอน” พัง

การออกมาเปิดเผยข่าวฉาวล่าสุดของสื่อแทบลอยด์ญี่ปุ่น Bunshun  เกี่ยวกับการเป็นมือที่ 3 ของดาราสาวหน้าใส เอริกะ คาราตะ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนระอุ แม้คู่กรณีทั้ง 3 คนได้แก่ ภรรยาอย่าง “วาตานาเบะ แอน” นักแสดงสาวคนดังจากเรื่อง  “เมโกะ สาวน้อยนักกิน”, สามี “มาซาฮิโระ ฮิกาชิเดะ” และผู้ที่มีชื่อเกี่ยวพันเป็นมือที่ 3 “เอริกะ คาราตะ” จะออกมาชี้แจงกับสังคมพร้อมๆ กันแบบม้วนเดียวจบ แต่ทว่าเรื่องไม่ได้จบลงง่ายๆ เพราะดาราสาวคาวาอี้สไตล์ ถูกคนตามขุดคุ้ยประเด็นของเธอมากมาย

เอริกะ คาราตะ

หัวข้อสำคัญพุ่งเป้าไปที่อินสตาแกรมของ “เอริกะ” @erika_karata ในช่วงที่ “วาตานาเบะ แอน” ตั้งท้องทายาทคนที่ 3 ดาราสาวหน้าใสมักจะโพสต์ภาพของ “มาซาฮิโระ ฮิกาชิเดะ” อยู่เสมอ  หากมองในแง่มุมหนึ่งก็คือเป็นมิตรภาพที่ทั้งสองได้มีโอกาสร่วมงานกันในภาพยนตร์เรื่อง “Sleeping of Walking” ซึ่งเธอได้เคยตอบคำถามในเรื่องนี้ว่า “ฉันแค่ถ่ายรูปคนที่ฉันชอบเท่านั้น”

เอริกะ คาราตะ

เอริกะ คาราตะ

คลิปวิดีโอด้านล่างนี้คือสิ่งที่ “เอริกะ” เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกัน “เวลากลับบ้านไป เวลานอน เวลาลืมตาตื่น ทุกอย่างก็คือยังอยู่ในหัว แม้ว่าตอนนอน ในฝันก็ยังรู้สึกเรื่อยๆ ถึงจะเป็นช่วงหยุดพักถ่าย ชื่อของ “มาซาฮิโระ ฮิกาชิเดะ”ก็บอกให้อ่านหนังสือ” จากคำพูดของเธอ ทำให้รับรู้ว่าเธอปลื้มฝ่ายชายไม่น้อย แต่ถึงเธอจะเคยยืนยันความบริสุทธิ์ใจ สุดท้ายเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมาภาพของนักแสดงหนุ่มในอินสตาแกรมของเธอก็ถูกลบไปจนหมด

ทั้งนี้ก่อนที่เรื่องจะแดง “เอริกะ” ก็เคยโพสต์ภาพคล้ายคนอินเลิฟ ในหลายภาพมักจะมีอวัยวะของชายหนุ่มโผล่เข้ามาในภาพเสมอ แม้ไม่เห็นหน้าแต่หลายคนก็เชื่อว่านั่นคือสามีของนางเอก “เมโกะ สาวน้อยนักกิน” นั่นเอง

เอริกะ คาราตะ

อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียง “เอริกะ” ที่กำลังเผชิญกับปัญหาเท่านั้น เพราะฝ่ายชายเองก็อยู่ในช่วงสุ่มเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาที่เขาสานสัมพันธ์พิเศษกับนักแสดงสาวหน้าใส ตั้งแต่เธออายุได้ 19 ปี ซึ่งเท่ากับว่าคบหากันทั้งที่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทำให้เขาเผชิญกับปัญหาใหญ่อยู่ในขณะนี้


ข้อมูลจาก : daily-rose

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เมโกะ สาวน้อยนักกิน จ่อหย่าสามี เหตุนอกใจคบ เทพธิดาแห่งญี่ปุ่น

 เมโกะ สาวน้อยนักกิน จ่อหย่าสามี เหตุนอกใจคบ เทพธิดาแห่งญี่ปุ่น

4 ปี หวานไม่เปลี่ยน Kim Woo Bin – Shin Min Ah คอยสนับสนุนกันและกันมาตลอด

หวานรับปีใหม่ตามประสาคู่รัก Shin Min Ah และ Kim Woo Bin ระหว่างออกเดทที่ออสเตรเลีย

สวยคู่ดูโอ้ 2 นางเอกตัวแม่ Gong Hyo Jin – Shin Min Ah ออกงานด้วยกัน

พ่อแท้ๆ เปิดศึกต่อสู้เพื่อสิทธิ์ในการสืบทอดมรดก ซอลลี่ ไอดอลสาวผู้ล่วงลับ 

คริสตี้ ชุง คุณบุญเลื่อง แห่งจันดารา สาวแรกแย้มในวัย 50 หน้าเด็กเทียมลูกวัย 22

 เฉิน EXO ประกาศตู้มเดียว! เตรียมแต่งงานพร้อมยืนยันกำลังมีลูก

มิตรภาพของไอดอลสาวต่างยุค เอลล่า S.H.E. – ลิซ่า BLACKPINK

6 เรื่องรู้จัก นางเอกเกาหลี Bae Suzy ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีดีแค่แฟนหล่อ

 สวยเปรี้ยวเฉี่ยวชิค ฟ่านปิงปิง (Fan Bingbing) ลุคผมสั้นรับศักราชใหม่

Crash Landing on You จะเป็นโปรเจ็กต์พบรักของ ฮยอนบิน – ซนเยจิน หรือไม่?

ชาวบลิ๊งค์ เคลื่อนไหว! ถล่มการใช้ภาษาลวนลามทางเพศผ่านสื่อออนไลน์

โศกนาฏกรรม 2019 โรคซึมเศร้ามัจจุราชเงียบ คร่าชีวิตคนดังเกาหลีใต้

นางเอกซูเปอร์สตาร์ ชเวจีอู ประกาศข่าวดีตั้งท้องทายาทคนแรก

โชคชะตาของ ซอฮโยริม ! จากแม่-ลูกในละคร กลายมาเป็นครอบครัวจริงๆ

เธอสวยและรวยมาก! 5 ดาราหญิงเกาหลี ที่มีเงินมากที่สุดในวงการ K-POP

สวยปิ๊ง! หน้าเด็กเหมือนโกงอายุ ลียองเอ ตัวแม่ของวงการ นางเอกเกาหลี แดจังกึม

หลี่ยั่วถง เซียวเหล่งนึ่ง จากมังกรหยกเผย เคล็ดลับดูแลหุ่น ให้ยังดูเป๊ะในวัย 52

นี่แหละคนมีเสน่ห์ 5 นางเอกเกาหลี หน้าตาเป็นรอง แต่ความสามารถเกินร้อย

สวยกว่าเก่า สาวกว่าเดิม “ฉันนี่แหละ…คิมซัมซุน” นางเอกเกาหลี วัย 46 ปี

เบเบ้-ธันย์ชนก

จากสาวไซส์มินิสู่การเป็นแรงบันดาลใจ “เบเบ้-ธันย์ชนก” กับทริคเวิร์คเอ๊าต์ฉบับสาวมั่น

Alternative Textaccount_circle
เบเบ้-ธันย์ชนก
เบเบ้-ธันย์ชนก

จากผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่วันนี้ “เบเบ้-ธันย์ชนก ฤทธินาคา” กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนลุกขึ้นมาออกกำลังกายและมีหุ่นเป๊ะเว่อร์เหมือนเธอ เบเบ้บอกว่าหุ่นดีทำได้ไม่ยาก แค่มีความคิดว่าอยากหุ่นดีก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว ที่เหลือก็แค่ “ลงมือทำ” เพราะผลลัพธ์ของการออกกำลังกายไม่ใช่แค่รูปร่างที่สวยงาม แต่จะเปลี่ยนความคิดให้คุณกลายเป็นคนที่มั่นใจ ภูมิใจ และรักในรูปร่างของตัวเองในแบบที่ไม่ต้องเหมือนใคร

เบเบ้-ธันย์ชนก

Workout is my job

สำหรับเบ การออกกำลังกายไม่ใช่สิ่งที่ทำเล่นๆ ฆ่าเวลา เพราะชื่อก็บอกแล้วว่า “Workout” ดังนั้นมันคือการทำงาน ซึ่งในการทำงานทุกอย่างเราต้องทุ่มเท จริงจัง และทำให้เป็นประจำ กว่าจะได้หุ่นแบบนี้เบออกกำลังกายมา 3 ปี แถมเพิ่งมารู้เรื่องจริงๆ คือทำแบบมีความรู้ว่าเล่นท่านี้เพื่ออะไร ให้ได้ผลลัพธ์แบบไหน ก็เพิ่ง 1 ปี ที่ผ่านมานี้เอง ดังนั้นเราจะออกกำลังได้ ต้องไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อ ต้องรักมันให้ได้ ถ้าเบื่อก็ต้องหาลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็นการหาท่าออกกำลังใหม่ๆ หรือเพิ่มสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เช่น หูฟังน่ารักๆ หรือชุดออกกำลังสวยๆ ใส่แล้วรู้สึกดี ก็จะอยากออกกำลังกาย เป็นอีกแรงผลักให้อยากลุกขึ้นไปเวิร์คเอ๊าต์ ทุกวันนี้นอกจากออกกำลังกายเองแล้ว ยังให้คำแนะนำเบื้องต้นกับคนอื่นด้วย นี่เบเพิ่งไปลงเรียนเพื่อให้ได้ใบรับรองการเป็นเพอร์ซันนัลเทรนเนอร์แบบสากล (Certified Personal Trainer) จริงจัง เพิ่งเริ่มเป็นคอร์สแรก คงใช้เวลาอีกสักระยะ จะได้มีความรู้จริงๆ เวลามีใครมาถามข้อมูลเชิงลึก (ยิ้ม)

Bebe’s program

เวลาออกกำลังกายเบเน้นคาร์ดิโอเป็นหลัก 5 วันต่อสัปดาห์ เพราะช่วยเผาผลาญและสร้างความแข็งแรงให้หัวใจ ทำให้เราเหนื่อยยาก การจะคาร์ดิโอให้ได้ผลต้องทำให้หัวใจเราเต้นและทำงานติดต่อกันเป็นระยะเวลา 30-45 นาทีสม่ำเสมอ โดยอาจสลับเปลี่ยนรูปแบบการคาร์ดิโอไปเรื่อยๆ เพื่อแก้เบื่อค่ะ ส่วนยิม เบจะเข้าวันเว้นวัน ตก 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน เช่น ก้น ต้นขา

เบเบ้-ธันย์ชนกกินได้ แค่มีสติ

สารภาพตรงนี้เลยว่าเบชอบกินขนมปังมากค่ะ หลายคนรู้แล้วตกใจว่าออกกำลังกายแล้วกินแป้งได้หรือ ความจริงแล้วเบไม่ได้เข้มงวดกับการกินขนาดนั้น ถ้าออกกำลังกายหนักก็ต้องกินเยอะหน่อย ไม่อย่างนั้นร่างกายจะไม่ไหว ทุกวันนี้เบกินข้าว 3 มื้อตามปกติ แต่กินแค่พออิ่ม เน้นโปรตีนในแต่ละมื้อเยอะหน่อย เช่น พวกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงของมันและทอด อย่างผัดกะเพราก็ใช้น้ำแทนน้ำมัน แล้วไม่ปรุงเยอะ ที่ไม่กินเลยคือบุฟเฟ่ต์ เพราะรู้สึกว่าเราควบคุมปริมาณอาหารไม่ได้ คือเรางกเงิน จ่ายแล้วต้องกินให้คุ้ม (หัวเราะ) ดังนั้นไม่กินเลยจะดีกว่า

ผลไม้ก็ต้องกิน เพราะให้กากใย ดีต่อระบบขับถ่าย ของโปรดคือส้มโอ ของหวานกับน้ำหวานก็มีบ้าง ไม่ถึงกับอดเลย ไว้แก้เบื่อ แต่เบจะเลือกเครื่องดื่ม แคลอรีต่ำ หรือเลือกส่วนผสมที่ให้รสชาติหวาน แต่ไม่ใช้น้ำตาล ซึ่งทุกวันนี้มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ไม่ก็พวกชาเขียวไม่ใส่น้ำเชื่อมก็ได้

หลักๆ คือแค่ดูตัวเองค่ะ ถ้าวันไหนรู้สึกว่ากินเยอะไปก็ตื่นมาวิ่งให้เยอะกว่าเดิม (หัวเราะ) สำหรับใครที่อยากลดน้ำหนัก เบแนะนำให้กินอาหารครบ 3 มื้อ แต่ต้องกินมื้อสุดท้ายให้เสร็จ 4 ชั่วโมงก่อนนอน ให้ท้องว่าง ถ้าหิว เบแนะนำให้ลุกขึ้นไปแปรงฟันหรืออมน้ำยาบ้วนปากเผ็ดๆ แล้วนอนต่อ (หัวเราะ) วันรุ่งขึ้นค่อยตื่นตี 5 แล้วอัดขนมปังให้หายหิว กินเยอะตอนเช้าได้ค่ะ เพราะร่างกายเราแอ๊คทีฟแล้ว แต่ไม่ใช่กินแล้วกลับไปนอนต่อนะ (หัวเราะ) ให้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาหาอะไรทำด้วยเบเบ้-ธันย์ชนก

Make-up for workout 

ตอนออกกำลังกายก็สวยได้ ส่วนตัวเบจะขอปัดคิ้วนิดหนึ่งพอให้เข้ารูป ทาลิปกลอสนิดหน่อยพอให้ดูระเรื่อสดใส เดี๋ยวปากซีดแล้วคนจะนึกว่าป่วย ส่วนแป้ง ไม่ทาเลย เพราะสุดท้ายแล้วเหงื่อจะออกเยอะมาก แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเวลาผู้หญิงเหงื่อออกจะสวย ผิวจะอมชมพูเลย เชื่อเบ (ยิ้ม)

Work it out baby!

สำหรับคนที่อยากเริ่ม เราต้องเริ่มจากการเปลี่ยนความคิดตัวเองก่อนเลยค่ะว่าจะออกกำลังกายแล้วนะ ไปหารูปนางแบบสวยๆ หุ่นฟิตๆ มาดูเป็นกำลังใจก็ได้ สเต็ปต่อมาคือลุกขึ้นไปออกกำลังกาย! แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่ไปถึงปุ๊บต้องเริ่มท่ายากเลยนะคะ ทุกอย่างต้องใช้เวลาฝึกฝน มีสเต็ปของมัน ต้องไม่ใจร้อน ค่อยๆ ทำไปค่ะ อีกอย่างคือแต่ละคนมีสรีระไม่เหมือนกัน ตามดีเอ็นเอ เราไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เช่น รูปทรงของกระดูกหรือความยาวขา อย่าไปเปรียบเทียบกับใคร การออกกำลังกายจะทำให้เราดูดีที่สุดในแบบของเราเอง ซึ่งไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบไหน เราก็จะมีข้อดีและข้อด้อยอยู่ในตัว อย่างเบแต่เดิมผอมอยู่แล้ว พอมาออกกำลังกายจึงเห็นกล้ามท้องได้ชัดค่อนข้างเร็ว (ต้องอธิบายก่อนว่าทุกคนมีกล้ามท้องอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะมีไขมันมาบังไว้ พอออกกำลัง ไขมันที่สะสมอยู่ก็จะค่อยๆ หายไป ทำให้เห็นกล้ามท้องชัดขึ้น) ซึ่งคนผอมที่มีไขมันตรงหน้าท้องน้อยก็จะเห็นผลเร็วหน่อย แต่ถ้าอยากให้ขาและก้นเด้งนี่ทำยากมาก ในขณะที่ผู้หญิงเจ้าเนื้อหน่อยจะปั้นขาและก้นได้ง่ายกว่า เพราะมีเนื้ออยู่แล้ว ทำให้กล้ามจับตัวได้เร็วกว่า ดังนั้นที่อยากบอกคือ เราไม่ต้องกังวลหรือหมกมุ่นเรื่องรูปร่างของตัวเองมาก เพราะเมื่อออกกำลังกายไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง เราจะชอบตัวเอง รักที่เราเป็นแบบนี้ เพราะทุกอย่างล้วนเกิดจากความพยายามและทุ่มเทของเราเอง ทำให้เราภูมิใจและไม่สนใจเลยว่าซิกซ์แพ็คหรือกล้ามของเราเป็นแบบไหน แต่เราจะรักที่มันเป็นแบบนี้ เหมือนพ่อแม่ที่ภูมิใจในตัวลูกของตัวเอง (หัวเราะ)


 

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 944

ภาพ : @thisisbebe

‘จะเลือกรักใหม่ หรือทิ้งรักเก่า ก็ขอให้เฮงๆ ปังๆ รวยๆ’ ดูดวงรายวัน 24 มกราคม 2563

ดูดวงรายวัน 24 มกราคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : สำหรับผู้ที่อยู่ในสายครูบาอาจารย์ นักวิชาการ หรือโค้ชชิ่ง เทรนนิ่ง วันนี้อาจเป็นวันที่ทีมงานเดิมๆ ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ก็อย่าคิดหรือคาดหวังอะไรมากกว่าที่เห็น ควรยึดหลักวิชาการ หรือความเป็นจริงให้มากที่สุด แล้วคุณจะประสบความสำเร็จ

การเงิน :  รายได้หลักมาจากงานประจำ ระวังอาจถูกมิจฉาชีพหรือคนใกล้ชิดหลอก ถูกโกง ไม่ควรให้กู้ยืมเงิน หรือค้ำประกัน

ความรัก : คุณอาจได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เพราะผู้ใหญ่เป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาต่างๆ  ให้ คนโสด อดีตคนรักเก่าอาจกลับมาขอคืนดี แต่คุณอยากอยู่อย่างสงบแล้ว จึงอาจได้แค่ความเป็นเพื่อน

สุขภาพ : ระบบหมุนเวียนเลือดไม่ปกติ อาจเป็นโรคเหน็บชา ควรรับประทานอาหาร หรือผักผลไม้ที่ช่วยในการบำรุงเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  หากคุณอยู่ในสายงานบริการ งานเอ็นเทอร์เทน หรือสถานบันเทิงยามราตรี วันนี้คุณคาดหวังความสำเร็จสูงมาก จนทำอะไรก็มีปัญหาขลุกขลักตลอดเวลา ที่สำคัญต้องระวังเอกสารทางราชการอาจเกิดความผิดพลาด ควรใช้สติ และสมาธิในการแก้ปัญหา อย่าใช้อารมณ์โดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

การเงิน : หมดกับการเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง จนต้องหมุนเงินตัวเป็นเกลียว จึงไม่ควรให้เขากู้ยืมเงิน หรือค้ำประกันใดๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับงานราชการ

ความรัก : ควรลดทิฐิและความยึดมั่นถือมั่นในตัวเองลง เพราะวันนี้อาจมีข่าวฉาวเรื่องมือที่สามเข้ามาให้คุณวุ่นวายใจ ควรยึดหลักเหตุและผล เพราะคุณจะยึดแต่ความถูกต้องของตัวเองเป็นใหญ่มากกว่าการประนีประนอม คนโสด อาจมีหนุ่มข้าราชการ หรือนักการทูตมาชอบ หรือเจอกันระหว่างการเดินทาง แต่เสียดายเขามีเจ้าของแล้ว

สุขภาพ : หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ รสจัด เพราะอาจไม่สด ทำให้คุณติดเชื้อที่อยู่ในอาหาร จนท้องเสีย และเสี่ยงกับการรับพยาธิ์เข้าสู่ร่างกาย

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  หากวันนี้คุณต้องติดต่อประสานงาน หรือเจรจาต่อรอง หรือประนีประนอม ก็อาจต้องลดความสตรอง กล้าได้กล้าเสีย ลุยโดยไม่ฟังความคิดเห็นจากใครเลยลงบ้าง เพราะการตัดสินใจที่เฉียบขาด แต่ขาดการเตรียมข้อมูลที่ดีอาจทำให้การตัดสินใจผิดพลาดได้

การเงิน : คุณชอบความเสี่ยงในการลงทุน วันนี้ก็อาจหมุนเงินมาใช้กับการลงทุน ได้หรือไม่ต้องรอลุ้น แต่ที่อาจต้องเสียแน่ๆ คือหมดกับเรื่องความรัก ออกเดท หรือบุตรหลานในบ้าน

ความรัก : วันนี้คุณสตรองกับเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ และชีวิตคู่มาก เน้นที่ความถูกใจของคุณอย่างเดียว ก็ควรลดความเอาแต่ใจลงบ้าง เพราคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในจักรวาล คนโสด คุณกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก จนไม่สนใจว่าจะได้เขามาอย่างถูกต้องหรือเปล่า ก็ควรท่องคำว่า สติไว้ให้มั่น

สุขภาพ : ไม่ควรประมาท เดินทางไปไหว้เจ้า ไม่ว่าจะทางบกหรือทางน้ำ ควรระมัดระวังให้ดี เมาไม่ขับ ง่วงก็อย่าฝืน

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  คุณอาจถูกมอบหมายให้เป็นตัวหลักของทีมงาน หรือเป็นแม่งาน หากวันนี้ไม่อยากถูกเพื่อนร่วมงานเขม่น ก็ควรลดอีโก้และความเชื่อมั่นในตัวเองลง เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย ปัญหาต่างๆ ก็จะพลอยเบาลงและสามารถปล่อยมือได้บ้าง   

การเงิน : หากคุณคิดจะเข้าหุ้นร่วมทุนกับแฟน ผู้ใหญ่จะอุปถัมภ์ ซึ่งก็ควรให้แฟนดูแลจัดการเรื่องทรัพย์สิน เพราะคุณสนใจเรื่องงานมากกว่าเงิน

ความรัก : คุณเป็นหลักของครอบครัว ทำงานหาเงินเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่ดีกินดี แต่วันนี้อาจมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งคุณก็ไม่ซีเรียส ไม่ทุกข์ไม่ร้อนใดๆ คนโสด คุณค่อนข้างซีเรียสเพราะต้องรับผิดชอบครอบครัว วันนี้คุณอาจได้พบคนถูกใจที่ค่อนข้างชิล ก็คงต้องปรับตัวกันให้ดี ไม่อย่างนั้นต้องมีใครสักคนที่รับไม่ไหว

สุขภาพ : ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : คุณอาจถูกเจ้านายกดดันให้ต้องใช้ความรู้ ความสามารถอย่างมาก คุณจึงต้องเดินทางติดต่องานทั้งวัน วันนี้ไม่ควรให้ความสนิทสนมกับผู้ร่วมงานที่เป็นเด็กใหม่มากเกินไป เพราะเขาอาจไฟแรงตัดสินใจแทนคุณโดยพลการ จะนำมาซึ่งปัญหาและอุปสรรคยาวเลย

การเงิน :  เสียเหงื่อจึงจะได้มา ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ไม่ถูกต้อง ทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ หรือการเสี่ยงโชค เพราะอาจมีผลต่อหน้าที่การงาน

ความรัก : คุณอาจใช้ชีวิตหรือแต่งงานกันมานานจนความสัมพันธ์เข้าสู่สภาวะนิ่งสงบ ขณะที่ปัญหายังมีมาทุกวัน อาจมีผู้หวังดี แต่ประสงค์ร้ายเม้าท์มอยว่า คู่คุณแอบมีกิ๊ก วันนี้ก็ควรถามเลย เพราะเขามีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลที่จะให้คำตอบได้อย่างชัดเจน คนโสด  คุณอาจกำลังเปิดศึกหน้านาง พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามา ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องใช้มนต์คาถา มูเตลู

สุขภาพ : ควรรับประทานอาหารที่สะอาดถูกสุขลักษณะ เพราะคุณอาจท้องเสีย อาหารเป็นพิษ จนถึงขั้นอ่อนแรง หน้ามืด วิงเวียนศีรษะเลยทีเดียว

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : คุณอาจรับอาสาเจ้านายไปทำงานทางด้านศิลปะศิลปิน หรืองานที่เกี่ยวข้องกับความสวยงาม ซึ่งคุณก็จะประสบความสำเร็จด้วยดี แต่อย่าคาดหวังคนใกล้ชิดหรือเพื่อนร่วมงานว่าจะช่วยเหลือคุณเหมือนเดิม เพราะวันนี้เขาอาจเปลี่ยนท่าที นอกจากไม่ช่วยแล้วยังแทงข้างหลังอีก

การเงิน : อาจมีลาภแบบฟลุ๊คๆ เฮงๆ ได้รับซองแดงนะเนี่ย

ความรัก :  ก็ยังมีความโลเล ไม่ค่อยมั่นใจอยู่เยอะ อาจเพราะคู่คุณยังทำตัวไม่ค่อยให้มั่นใจมากนัก แต่หากวันนี้คุณรับข้อเสนอของเขาที่ต้องทำตัวเป็นช้างเท้าหลังได้ ก็ไม่น่ามีปัญหา  คนโสด คุณมีเสน่ห์ และก็พร้อมจะรักใครได้อย่างง่ายๆ และก็เริ่มต้นใหม่ได้อย่างง่ายดาย เช่นกัน

สุขภาพ : อาจมีปัญหาเรื่องระบบน้ำย่อย กระเพาะอาหาร จึงควรรักษาด้วยหลักโภชนาการบำบัด อาจมีอาการเครียด ปวดศีรษะไมเกรนร่วมด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : วันนี้คุณมีความเป็นผู้นำสูง จึงควรลดอีโก้และความเชื่อมั่นในตัวเองลง เปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมงานได้ร่วมแสดงความคิดเห็นบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นคุณอาจถูกเขม่น หรือใส่ร้ายป้ายสี แม้ผู้ใหญ่ผู้หญิงจะให้ท้ายคุณอยู่ แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยได้

การเงิน : ผู้ใหญ่อาจให้ซองแดง แต่คุณก็อาจนำไปลงทุน หรือเสี่ยงโชคจนหมด ซึ่งวันนี้ได้ไม่คุ้มเสีย

ความรัก : วันนี้วันไหว้ สมาชิกในครอบครัวได้มาอยู่กันอย่างพร้อมหน้า ก็ต้องลดทิฐิและความเป็นตัวเองลงหน่อย เน้นการประนีประนอมรอมชอมกัน แล้วบรรยากาศจะมีแต่ความสุขและความอบอุ่น คนโสด เนื้อหอม เจ้าเสน่ห์ ก็ควรดูดีๆ ไม่เช่นนั้นคุณอาจเป็นรักที่ซ่อนเร้น เปิดเผยไม่ได้ของใครบางคน

สุขภาพ : อาจเกิดปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารและลำไส้ หรือแผลผ่าตัดในช่องท้อง หรือแผลจากการคลอดบุตรอาจเกิดการอักเสบ

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

สมกับเป็นวันเสาร์ เพราะพวกเธอใช้ชีวิตโสดลั้ลลามาก  ดูดวงรายวัน 18 มกราคม 2563

ปัญหาดก ทั้งหึงหวง อารมณ์รุนแรง เป็นโสดดีที่สุด  ดูดวงรายวัน 19 มกราคม 2563

ไม่อยากผิดหวังอีก จึงควรตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม ดูดวงรายวัน 20 มกราคม 2563

หน้าอย่างใจอย่าง ต้องจับให้ได้ไล่ให้ทัน ดูดวงรายวัน 21 มกราคม 2563

คนนะคะ ไม่ใช่แมว จะตกเป็นทาสอะไรได้ขนาดนั้น  ดูดวงรายวัน 22 มกราคม 2563

รู้ทั้งรู้ว่าเขาหลอก แต่ขอไม่พูดเยอะ เจ็บคอ ดูดวงรายวัน 23 มกราคม 2563

อัพเดท!! เครื่องประดับผมสำหรับเจ้าสาวปี 2020 แต่งปีนี้ก็สวยล้ำนำเทรนด์ไปเลย

account_circle

เครื่องประดับผมสำหรับเจ้าสาว ที่สาวๆ แต่งปีนี้ห้ามพลาด!

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ชุดแต่งงานแบบต่างๆ ก็คือ เครื่องประดับผมสำหรับเจ้าสาว ที่มีทั้ง เวล, เฮดพีช, งานดอกไม้ และหมวก หากคุณเป็นเจ้าสาวปี 2020 และมีทรงผมสำหรับวันแต่งงานในใจแล้วก็ลองมาดูไอเดียเครื่องประดับผมสวยๆ กันเลย

 

ที่คาดผมสุดอลัง

ภาพ pinterest

ถ้าสโลแกนของคุณคือ เล็กๆ ไม่! ใหญ่ๆ เรา!  ก็ต้องจัดไปกับที่คาดผมสุดหรู ไม่ว่าจะเป็น ที่คาดผมประดับไข่มุกที่เข้ากับชุดแต่งงานแบบเรียบง่าย ให้ลุคหรูดูแพง หรือจะหวานขึ้นมาหน่อยก็เป็นที่คาดผมประดับดอกไม้เสริมด้วยเวลเหมือนเจ้าหญิง แต่ถ้าเป็นช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ต้องจัดไปกับที่คาดผมประดับลูกปัดวิบวับล้อแข่งกับแสงไฟแสงแฟลชไปเลย

ภาพ Alyssa Greenberg
ภาพ Lihi Hod

 

ดอกไม้แบบ 3D

ภาพ pinterest

หากคุณคือเจ้าสาวสายแฟชั่นก็ต้องรู้ดีว่าเทรนด์ชุดแต่งงานประดับลูกไม้แบบ 3 มิติคือเทรนด์ในปีนี้ และตอนนี้เทรนด์ดังกล่าวได้อัพเลเวลขึ้นมาอยู่บนศีรษะแล้วจ้า ซึ่งเจ้าสาวคนไหนที่โนสนโนแคร์เป็นเจ้าสาวสดใสรักความสนุกจัดงานแต่งในสวนก็จัดลุคนี้ไปโลด แต่ถ้ามั่นไม่พอหรือโดนเจ้าบ่าวสั่งเบรกก็อาจลดความเยอะลงมาอีกนิด เช่น ประดับผมด้วยดอกไม้สดสวยๆ แทน ก็ยังดูสวยหวานมีเสน่ห์อยู่นะ บอกเลยว่าตอนนี้หมดยุคของมงกุฎดอกไม้แล้วจ่ะ

ภาพ Isabelle Armstrong
ภาพ Seiji Fujimori

 

กิ๊บติดผม

ภาพ pinterest

ไอเทมสไตล์ 90s ที่กำลังมาแรงมาในโลกแฟชั่นมากกก… เรียกว่าไปตลาดก็ต้องติดเพราะเขาฮิตกัน แล้วอย่างนี้ในวงการเวดดิ้งจะพลาดได้ยังไง ว่าที่เจ้าสาวสายมุ้งมิ้งก็ต้องจัดไปสิคะ ไม่ว่าจะเป็น กิ๊บประดับเพชร ประดับมุก ก็แค่จัดหามาให้เข้ากับลุคและชุดแต่งงาน

ภาพ Berta
ภาพ David’s Bridal

 

หมวก

ดูเหมือนไม่น่าจะเป็นแอคเซสซอรี่ที่เหมาะกับชุดแต่งงาน แต่เอาจริงๆ เจ้าสิ่งนี้ดันติดเทรนด์ในปี 2020 ด้วย แต่อาจจะเฉพาะเจาะจงสำหรับเจ้าสาวที่จัดงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ หรือเจ้าสาวสายโบฮีเมียน เคล็ดลับของลุคนี้ก็แค่เลือกหมวกให้ไปทางเดียวกับชุดแต่งงาน เช่น เลือกเนื้อผ้าของหมวกให้เข้ากับเนื้อผ้าของชุด หรือจะเสริมด้วยเวลให้ดูเป็นเจ้าสาวมากขึ้นก็ได้

ภาพ Theia
ภาพ Valentini Spose

 

เฮดพีช

ภาพ Dan Lecca
ภาพ David’s Bridal

ความสวยงามจากยุคเรเนซองส์กลับมาอยู่ในความสนใจในวงการเวดดิ้งอีกครั้ง กับเฮดพีชคาดศีรษะที่ให้ลุคโดดเด่น ดูเรียบหรู ย้อนยุคนิดๆ ไม่ว่าจะเป็น เฮดพีชประดับคริสตัลหรือไข่มุก ที่เหมาะกับพิธีแต่งงานเป็นทางการในห้องบอลรูม หรือจะเป็นเฮดพีชผ้าลูกไม้ ที่ให้ลุคไม่เป็นทางการเหมาะกับงานแต่งงานกลางแจ้ง เป็นต้น

 

เวลเจ้าสาวสไตล์ Juliet

ภาพ pinterest

เทรนด์เวลเจ้าสาวในปีหน้าไม่ใช่เวลผืนใหญ่ลากยาวอีกต่อไป เพราะต้องหลีกทางให้กับเวลเจ้าสาวสไตล์ Juliet ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมาก ให้ลุคสวยงามโรแมนติกสุดๆ ใส่แล้วเหมือนได้ย้อนยุคหลุดเข้าไปอยู่ในนิยายโรมิโอและจูเลียดของเชกสเปียร์ ส่วนมากเวลสไตล์นี้มักเป็นผ้าโปร่งบางหรือผ้าลูกไม้ หรือเจ้าสาวบางคนก็เลือกเครื่องประดับมาแมตช์กับเวลสไตล์นี้ด้วย

ภาพ Alyssa Greenberg ชุดแต่งงานจากแบรนด์ Reem Acra
ภาพ Reem Acra

แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวผมสั้นก็ไม่ต้องเสียใจไปว่าจะใส่เครื่องประดับผมสุดอินเทรน์เหล่านี้ไม่ได้ ลองเข้าไปดู เจ้าสาวผมสั้น ต้องอ่าน! เรารวมแบบผมเจ้าสาว ไล่ระดับความยาวแบบจัดเต็ม! ก่อนแล้วค่อยมาแมตช์เครื่องประดับผมที่ชอบอีกทีก็ได้ ^^

เจ้าสาวหุ่นดี หน้าเป๊ะ สวยแซ่บไม่แพ้นางแบบรันเวย์ ด้วย 6 เทคนิคที่ต้องบอกต่อ

account_circle

6 เทคนิคช่วยให้ เจ้าสาวหุ่นดี ในวันสำคัญ

ไม่ว่าจะมีหุ่นแบบไหน ในวันพิเศษสาวๆ ก็อยากดูดีเป็นพิเศษ พร้อมด้วยหุ่นเป๊ะปัง แต่ถ้าไม่ได้หุ่นเหมือนนางแบบวิคตอเรีย อะไรๆ ก็ดูจะขัดตาเจ้าสาวไปหมด แต่ไม่ต้องห่วง เรามี 6 เทคนิคลับขั้นเทพ ที่ทำให้ เจ้าสาวหุ่นดี ในวันแต่งงาน เหมือนเกิดมาพร้อมหุ่นนางแบบแฟชั่นวีคเลยล่ะ

1. เลือกชุดแต่งงานที่เข้ากับรูปร่าง

สำหรับสาวๆ ที่ไม่มั่นใจในรูปร่าง ชุดแต่งงานทรงเอมไพร์และทรงเอไลน์ คือเซฟโซนที่ไม่ว่าหุ่นแบบไหนก็ใส่แล้วรอด ด้วยโครงสร้างของชุดที่ค่อยๆ บานออก ช่วงอำพรางต้นขาและสะโพก อีกทั้งยังช่วยให้ช่วงเอวดูมีสัดส่วนที่สวยงาม แล้วถ้าเป็นคอวี หรือผ่าลึก จะยิ่งทำให้รูปร่างดูสูงโปร่งมากขึ้นด้วย

2. หาช่างแต่งหน้ามือคอนทัวร์

หาช่างแต่งหน้าที่ถนัดงานคอนทัวร์เฉดดิ้ง โดยเลือกเฟ้นดูจากไอจีที่ลงผลงานเก่าๆ เพราะการคอนทัวร์ เฉดดิ้ง จะช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลง เพรียวลง แต่ก็อย่าถึงกับให้ช่างแต่งจนเปลี่ยนรูปหน้าไปเลย เพราะในวันแต่งงานเจ้าสาวควรจะสวยที่สุดพร้อมกับที่เป็นตัวของตัวเองที่สุดด้วย

3. เลือกทำผมที่เข้ากับรูปหน้า

การทำผมที่เข้ากับรูปหน้าไม่เพียงแต่ทำให้ดูสดใสเหมาะสมเท่านั้น แต่ยังช่วยปกปิดส่วนบกพร่องบนใบหน้าได้อีกด้วย โดยควรบอกกับช่างทำผมว่าเราไม่มั่นใจส่วนไหนบนใบหน้า เช่น บางคนไม่มั่นใจสันกรามที่ชัดเจน โหนกแก้ม หรือหน้าผากกว้างๆ ซึ่งช่างจะช่วยออกแบบทรงผมที่อำพรางข้อเสียเหล่านั้นได้

TIP : การทำผมสีดำ พร้อมกับทรงผมฟุ้งๆ ช่วยให้ใบหน้าดูเล็กลง พร้อมๆ กับที่ดูเด็กลงได้ด้วยนะ

4. ใส่ชุดกระชับสัดส่วน

แม้การใส่ชุดกระชับสัดส่วนจะทำให้รู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่ก็ช่วยเก็บรูปร่างให้เป็นทรงมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเก็บเนื้อไม่ให้ปลิ้นเป็นก้อนแบบที่ชุดชั้นในปกติทำไม่ได้  และการใส่ชุดกระชับสัดส่วนยังช่วยป้องกันเจ้าสาวที่ไม่ระวังตัวไม่ให้โป๊ด้วยนะ

5. เข็มขัดเส้นเล็กๆ

การใส่เข็มขัดเส้นเล็กๆ จะช่วยให้ดูมีทรวดทรงองค์เอวมากขึ้น โดยจะต้องเป็นสีที่เห็นได้ชัดเจน เช่น สีชมพูอ่อนๆ หรือเป็นกริตเตอร์เล่นกับแสงไฟ ตอนลองชุดก็ลองถามกับร้านดูว่ามีเข็มขัดให้ลองไหม แล้วอย่าลืมดูว่าเข้ากับชุดหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นชุดที่ดูโอเคแล้ว ก็ไม่ต้องมีเข็มขัดก็ได้นะ

6. รองเท้าส้นสูง

การใส่รองเท้าส้นสูงจะช่วยให้ดูสูงโปร่งมากขึ้น โดยเฉพาะรองเท้าสีนู้ด และจะให้ดีควรเป็นรองเท้าหัวแหลม ส้นไม่ต้องถึงกับเข็มมาก ให้ดูบาลานซ์กับขนาดตัว และที่ห้ามเด็ดขาดคือรองเท้าส้นตึก เพราะจะทำให้เจ้าสาวที่ไม่ว่าจะเพรียวบางลู่ลมแค่ไหนก็ดูเป็นสาวตันไปได้ในทันที

นอกจาก 6 ข้อนี้แล้ว อีกอย่างที่เจ้าสาวต้องทำคือต้องจริงจังกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะสำหรับเจ้าสาวที่อยากลดน้ำหนัก ห้ามว่อกแว่ก พ่ายแพ้ต่อกิเลสไม่ว่าจะเป็น ชานมและของหวานเด็ดขาด! ส่วนเคล็ดลับเทคนิคอื่นๆ เรายังมีอีกเพียบ มาอ่านเลย

ภาพ Pixabay, Pinterest

อรเณศ ดีคาบาเลส

เส้นทางบันเทิงของนางเอกเจ้าน้ำตา ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส

Alternative Textaccount_circle
อรเณศ ดีคาบาเลส
อรเณศ ดีคาบาเลส

เส้นทางบันเทิงของนางเอกเจ้าน้ำตา ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส นักแสดงสาวผู้ไม่เคยหยุดพัฒนาฝีมือการแสดงของตัวเอง

ได้กระแสตอบรับดีและกำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากเลย สำหรับบทบาทล่าสุดของนางเอกเจ้าน้ำตา ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส ในละครเรื่อง “ซ่อนเงารัก” ของค่าย เลิฟดราม่า โดยเธอแสดงเป็นฝาแฝดชายหญิงที่ชื่อ ขวัญเอย และ ขวัญมา

อันที่จริงแล้ว ตลอดระยะเวลาหลายปี  “ริชชี่” ค่อยๆ พัฒนาการแสดงมาอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่เด่นชัดเท่าไหร่ แต่ปีที่ 7 นี้ดูจะเป็นปีที่ดีของเธอ เพราะนักแสดงสาวได้รับคำชื่นชมในด้านการแสดงอย่างล้นหลาม นับเป็นกำลังใจให้เธอเป็นอย่างมาก

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน แพรว ได้เคยสัมภาษณ์นางเอกสาวคนนี้ถึงเส้นทางในวงการบันเทิง ซึ่งก็มีเรื่องที่คาดไม่ถึงหลายอย่าง วันนี้เลยจะขอพาผู้อ่านกลับไปฟังเรื่องราวของเธอคนนี้กันอีกครั้งค่ะ

 ริชชี่ อรเณศ

เส้นทางบันเทิงของ ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส นางเอกเจ้าน้ำตา

“ตอนเด็กๆ สมัยเรียนชั้นประถม ริชชี่เคยดูละครคู่กรรมเวอร์ชัน “พี่หนุ่ม-ศรราม” กับ “พี่เบนซ์- พรชิตา” ริชชี่กับพี่สาวยังแย่งกันสมมุติตัวเอง เป็นนางเอก แต่ตอนหลังเริ่มเกี่ยงกันเพราะคิดว่านางเอกใจร้าย (หัวเราะ) พอเข้าห้องสมุดเห็นหนังสือก็หยิบมาอ่าน ทำให้จำเนื้อเรื่องได้คร่าวๆ กระทั่งพบกับ “พี่เอ-เอศุภชัย ศรีวิจิตร” ระหว่างซ้อมแบดมินตัน ได้รับคำชวนให้มาแคสติ้งเรื่อง คู่กรรม ซึ่งเราจำได้ว่าเคยอ่าน ริชชี่ก็กลับไปปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ก่อน ท่านไฟเขียว ยอมรับว่าพอได้แสดงก็ยังงงๆ แต่ดีใจมาก หลังจากนั้น ต้องเรียนแทบทุกอย่าง ทั้งการแสดง ฝึกพูด ว่ายน้ำ พายเรือ ภาษา ญี่ปุ่น และยังมีเวิร์คชอปอีกเยอะมาก ทุกอย่างยากไปหมด”

 ริชชี่ อรเณศ

บททดสอบและการฝึกฝนเพื่อเป็นมืออาชีพ

“เริ่มจากการเรียนแอ๊คติ้ง ฝึกทักษะพื้นฐานอย่างการเดิน การมอง ขยับร่างกายให้เหมือนอังศุมาลิน ก่อนจะเริ่มอ่านบท ฝึกพูด โดยมีพี่เรียวคอยกำกับและอธิบายให้ฟังถึงอารมณ์ ความรู้สึก สิ่งที่ต้องแสดง ในแต่ละซีน จนใกล้ๆ ถ่ายจริงพี่ณเดชน์ก็มาซ้อมด้วย มีทักษะพิเศษ ก่อนเข้าชั้นเรียนแต่ละวันคือ ฝึกร้องไห้5 นาที เพราะตามบทอังศุมาลิน ต้องร้องไห้เยอะ ขณะที่ตัวเราเองไม่ค่อยร้อง และยังมีบทเรียนอื่นๆ ที่ต้องหัดเพิ่มเติม เช่น พายเรือ ที่ริชชี่ไปรบกวนรุ่นพี่นักแข่งพายเรือ ทีมชาติสอนให้ คลาสแรกไปพายอยู่กลางแม่น้ำปิงเลยทั้งที่ยังไม่เคย และว่ายน้ำก็ไม่เป็น เพราะบอกพี่เขาว่าอยากเป็นเร็ว (หัวเราะ)

นอกจากนี้ยังต้องเรียนว่ายน้ำคอร์สเร่งรัด 3 ชั่วโมง เอาแค่พอว่าย จากจุดหนึ่งไปถึงจุดหนึ่งโดยไม่จม แต่อย่าให้หยุดนะคะ หยุดจมเลย เพราะลอยตัวอยู่กับที่ไม่เป็น โชคดีตอนถ่ายพี่ๆทีมงานสร้างฐานในคลอง รองรับตัวไว้ เพราะสถานที่จริงน้ำลึกสุดๆ และอีกทักษะคือการวิ่งหลบ ระเบิด ที่มีทั้งเวิร์คชอปและซ้อมก่อนหลายครั้ง โดยผูกลวดสะลิงไว้ที่ตัว พอวิ่งมาถึงจุดที่ต้องปลิวตามแรงระเบิด ทีมงานจะช่วยกระตุกเราไปใน ทิศทางที่มีเบาะรองอยู่ ถึงเวลาถ่ายจริงก็ถอดสะลิงและดึงเบาะออก ปรากฏว่าล้มลุกคลุกคลานกว่าตอนซ้อมเยอะ เพราะพอกระโดดเอง เราเหาะออกไปไกลกว่าตอนซ้อม (หัวเราะ)”

ริชชี่ อรเณศ

เรียกว่าเป็นนักแสดงที่คนยอมรับนั้นไม่ง่ายเลยจริงๆ ต้องใช้การฝึกฝน ความพยายามรวมถึงเวลาในการพิสูจน์ฝีมือเป็นอย่างมาก เห็นได้จากสาวริชชี่นี่แหละที่วันนี้ได้โอกาสลบคำสบประมาท จนกลายเป็นนางเอกที่เข้ามาอยู่ในใจแฟนละครอย่างในวันนี้


ภาพ : นิตยสารแพรว ปีที่ 34 ฉบับที่ 807

 

เรียนรู้งานศิลปะจากช่างฝีมือขั้นสูง ผ่านงานมาสเตอร์พีซ จาก โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์

account_circle

หายเอ่ยถึง โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) หลายคนอาจเกิดคำถามว่า… คืออะไร? แต่สำหรับนักสะสมงานศิลปะทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์จิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านชื่อก้องโลก โดยช่างฝีมือชั้นสูงสัญชาติไทยมาตรฐานระดับสากล ก่อตั้งโดย คุณรอล์ฟ วอน บูเรน และภรรยา เฮเลน วอน บูเรน ในปี พ.ศ. 2525

แม้ คุณรอล์ฟ วอน บูเรน จะเป็นชาวเยอรมัน และ ภรรยา คุณเฮเลน วอน บูเรน เป็นลูกครึ่ง สกอตแลนด์-ไทย แต่หัวใจรักเมืองไทยเกินร้อย และด้วยความรักในงานศิลปะ รักงานดีไซน์ กอปรกับความชื่นชอบท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมและงานหัตถกรรมของแต่ละประเทศทั่วโลก สิ่งเหล่านี้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบจิเวลรี่และของตกแต่งบ้าน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสะท้อนงานศิลป์สไตล์เอเชีย ผ่านวัสดุหลากหลายที่หายากมาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานอันเลอค่า ที่เป็นมากกว่าเพียงแค่จิเวลรี่และของตกแต่งบ้าน

จากวันนั้นถึงวันนี้ กว่า 37 ปี โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ เป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่อยู่ในใจของเหล่านักสะสมทั่วโลกได้รู้จักคำว่า “แบรนด์จิเวลรี่และของตกแต่งบ้านจากประเทศไทย มาตรฐานระดับสากล และสร้างชื่อเสียงระดับโลก”

โดยทุกชิ้นงานจะเริ่มต้นออกแบบในประเทศไทยและจะถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อประดิษฐ์ชิ้นงานก่อนจะถูกส่งกลับมาประเทศไทยอีกครั้งเพื่อให้ช่างฝีมือของไทยซึ่งได้ชื่อว่ามีฝีมือละเอียดอ่อน ประณีต ได้ทำการเก็บรายละเอียดต่างๆ ก่อนออกสู่สายตาให้คนทั้งโลกได้ยลโฉมงานศิลปะอันเลอค่า

และถือเป็นโอกาสอันดีที่ทางแบรนด์ฯ ได้ทำคอลเล็คชั่นพิเศษฉลอง 37 ปี ซึ่งแต่ละชิ้นได้สะท้อนความสวยงามของศิลปหัตถกรรมของประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ ศิลปะการลงรัก แบบมากิเอะ จากประเทศญี่ปุ่น และ การลงรักสีแดงชาด จากประเทศจีน  มาปรากฏในชิ้นงานแต่ละชิ้น วันนี้จึงอยากจะพาไปเรียนรู้คุณค่าของงานศิลปะ ที่สะท้อนจิตวิญญาณของวัฒนธรรมแต่ละประเทศ

โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์

เริ่มต้นกันที่ประเทศที่คนไทยหลงใหลมากที่สุด “ญี่ปุ่น” ประเทศเล็กๆ ที่มีมหาสมุทรแปซิฟิกล้อมรอบ แม้จะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก แต่ยังคงรักษาวัฒนธรรม ศิลปะ อันเป็นแก่นของชาติไว้ได้อย่างดีงาม ซึ่งศิลปะต่างๆ ของญี่ปุ่นนั้นส่วนมากมีรากฐานมาจากศาสนาชินโต ครอบคลุมไปถึงความเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ในธรรมชาติมิติต่างๆ ผสานกับพุทธศาสนานิกายเซนด้วยแนวคิดนิยมธรรมชาติและความเรียบง่าย

สิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดสู่งานศิลปะ เช่น ชะโด (พิธีชงชา), อิเคะบะนะ (การจัดดอกไม้), โชโดะ (การเขียนพู่กันญี่ปุ่น) รวมถึงเครื่องปั้นดินเผาโบราณ ประติมากรรม และการเขียนตัวอักษรบนผ้าไหมและกระดาษ ภาพอูกิโยะ และภาพที่พิมพ์จากแม่พิมพ์ไม้แกะสลักงานเครื่องเคลือบ การพับกระดาษ เป็นต้น

ทั้งหมดล้วนได้รับอิทธิพลอย่างมากจากปรัชญาอันเป็นเอกลักษณ์ของนิกายเซน เน้นความสงบ ความเรียบง่าย และการเติบโตของตนเอง เมื่อญี่ปุ่นเปิดการติดต่อกับโลกตะวันตกในช่วงศตวรรษที่ 19 ศิลปะญี่ปุ่นมีอิทธิพล  อย่างยิ่งต่อศิลปะยุโรป โดยเฉพาะกับแนวศิลปะบาศกนิยม (Cubism) และอิมเพรสชันนิสม์ (Impressionism) และมีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมและการออกแบบของตะวันตกในช่วงศตวรรษที่ 20

โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์
“การลงรัก แบบมากิเอะ” (Maki-e lacquering)

ชาวญี่ปุ่นได้พัฒนาเทคนิค การลงรัก แบบมากิเอะ” (Maki-e lacquering) ซึ่งเป็นศิลปะการลงรักอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่นโดย การลงรัก แบบมากิเอะ (Maki-e lacquering) เป็นเทคนิคที่นิยมใช้เพิ่มความสวยงามให้กับของใช้ในครัวเรือนทำจากไม้ สำหรับราชวงศ์และผู้นำทางทหารในฐานะสัญลักษณ์แห่งอำนาจ โดยใช้พู่กันวาดภาพลงบนภาชนะ เครื่องใช้ในครัวเรือน แล้วลงรักด้วยการโรยผงทอง ก่อนจะเคลือบทับด้วย แลคเกอร์จากธรรมชาติ

“สาธารณรัฐประชาชนจีน” เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีงานศิลปหัตถกรรมอันลือเรื่องของโลกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจาก ลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื๊อ และพุทธศาสนา จนเกิดเป็นความเชื่อต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะความเชื่อในเรื่อง “เทพเจ้า” ที่จะนำความมงคลมาสู่ครอบครัว

โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์

นอกจากเครื่องประดับนำโชคแล้ว ยังเชื่อเรื่องการนำของมงคลมาตกแต่งบ้าน ตามศาสตร์   ฮวงจุ้ย อาทิ จิ้นฉาน หรือ คางคกนำมาซึ่งความโชคดีช่วยดึงดูดและคุ้มครองความมั่งคั่ง ร่ำรวยและปกป้องโชคร้าย

พระจีนถือเงินตำลึงจีน แสดงถึงความมั่งคั่งและความโชคดี

เต่า สัญลักษณ์การมีอายุยืนยาว จึงเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ได้มาครอบครอง หากต้องการนำรูปปั้นเต่ามาประดับไว้ในบ้าน ตำแหน่งที่ควรวางไว้คือห้องผู้สูงอายุ เหมือนกับเป็นเครื่องรางช่วยเสริมพลังงานชีวิตของผู้สูงอายุให้มีอายุยาวนานขึ้น

ศิลปะแบบจีนที่โด่งดังไปทั่วโลกนั้นก็คือ เครื่องปั้นดินเผา แต่งานเครื่องเขินแกะสลักแบบจีน ก็เป็นอีกหนึ่งศิลปหัตถกรรม ที่โดดเด่นและใช้กันมาไม่ต่ำกว่า 3,000 ปี โดยจักรพรรดิมักนิยมพระราชทานให้เป็นของขวัญทางการทูต การเมือง หรือมอบให้กับศาลหัวเมืองในราชวงศ์

เสือ สัญลักษณ์ของผู้ทรงอำนาจ กล้าหาญ และแข็งแกร่งสมเป็นผู้นำ ห้องของผู้บริหารจึงเหมาะที่จะต้องมีรูปปั้นเสือเพื่อเสริมบารมี

มังกร ชาวจีนเชื่อว่า มังกร คือ สัตว์ของเทพเจ้า เป็นตัวแทนแห่งพลังอำนาจ ความยิ่งใหญ่ ความรุ่งเรือง ดังนั้นจึงนิยมนำรูปปั้นมังกรมาประดับไว้ในห้องทำงาน เพื่อเสริมฮวงจุ้ย

การลงรัก สีแดงชาด ศิลปะการลงรักของประเทศจีน

แน่นอนว่างานเครื่องเขินแกะสลักแบบจีนนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะใช้เทคนิค การลงรัก สีแดงชาด หรือ เลือดมังกร โดยการนำยางของต้นครั่ง (Lac tree) ซึ่งมีสีแดง กันน้ำ ทนความร้อนสูง มีความยืดหยุ่น และไม่พบในโลกตะวันตก มาใช้ในการสร้างผลงานศิลปะ โดยจะลงรักสีแดงทีละชั้นเป็นร้อยๆ ชั้น ให้มีความหนาพอที่จะแกะสลัก และนำไปครีเอทเป็นเครื่องประดับนั่นเอง

หยกแกะสลัก” เป็นอีกหนึ่งอัญมณีสำคัญของชาวจีน เพราะหยกถูกใช้เพื่อสร้างทั้งเครื่องใช้และเครื่องพิธีกรรม และถือเป็น “อัญมณีแห่งจักรพรรดิ” หยกมีคุณสมบัติพิเศษ เทียบได้กับทองคำและเพชรในโลกตะวันตก ชาวจีนมีความเชื่อทางจิตวิญญาณว่า 

หยก เป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอำนาจปกป้องและรักษาร่างกายและวิญญาณของผู้สวมใส่จากสิ่งชั่วร้าย นำมาซึ่งสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความมีโชคแก่ผู้ครอบครองและทำให้อายุยืนอีกด้วย

ดังนั้นชาวจีนจึงนำหยกมาเป็นเครื่องประดับและเครื่องราง เพราะเชื่อว่า หยก จะเปลี่ยนสีตามผู้สวมใส่ หากหยกมีสีสันสดใส นั่นก็หมายความว่า เจ้าของหยกกำลังจะมีโชค แต่ถ้าหากหยกมีสีหมองลงหรือมองเห็นรอยแตกร้าวชัดขึ้นก็แปลว่า เจ้าของหยกกำลังจะมีเคราะห์มาเยือนนั้นเอง

ได้เรียนรู้ศิลปะ ความงดงามของงานฝีมือจากผู้เชี่ยวชาญ จากหลากหลายประเทศผ่านจิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านที่แฝงไปด้วยความหมาย คุณค่าของวัฒนธรรมที่สะท้อนออกมาเป็นงานดีไซน์อันมีเอกลักษณ์… ผู้ที่หลงใหล งานศิลปะจากช่างฝีมือชั้นสูง สามารถครอบครองงานดีไซน์สุดเลอค่ากับ 90 ผลงานแฮนด์เมดมาสเตอร์พีซ จากช่างฝีมือชั้นสูง สะท้อนคุณค่าวัฒนธรรมและหัตถกรรมของเอเชีย เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 37 ปี แบรนด์โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) ได้ที่ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค ชั้น 1 โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เวลา 10.00 – 19.00 น.

รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.lotusartsdevivre.com

 

กงซีฟาไฉ! รับทรัพย์ปีหนูทอง กับเหล่า “ซองแดง” จาก 15 แบรนด์ไฮเอนด์

account_circle

กงซีฟาไฉ ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ! เตรียมรวย รับทรัพย์ปีหนูทอง กับเหล่า “ซองแดง” จาก 15 แบรนด์ไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Louis Vuitton, Fendi, Celine, Valention และ Calvin Klein

นอกจากเหล่าแบรนด์แฟชั่นไฮเอนด์จะเปิดตัวไอเท็มลิมิเต็ดอิดิชั่น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือ แอคเซสซอรี่ ต้อนรับปีหนู ในช่วงตรุษจีนนี้แล้ว ยังมีซองแดง หรือ ซองอั่งเปา ที่ผลิตออกมาเพื่อเทศกาลนี้โดยเฉพาะ  ซึ่งแต่ละแบรนด์นั้นก็ยังใส่เอกลักษณ์ของตัวเองเข้าไป พร้อมด้วยตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่ปั๊มฟรอยสีทอง มีความสวยหรู แค่เห็นก็ดีต่อใจกับผู้รับ

เชื่อว่าในที่นี้ต้องรู้จักกับซองแดงเป็นอย่างดี แต่สำหรับคนไทยแท้อาจจะยังไม่คุ้นเคยมากนัก โดยซองแดง หรือ ซองอั่งเปานั้น ภายในจะบรรจุเงิน ซึ่งคนจีนจะเรียกว่า Lai See หรือ Hong Bao โดยเป็นประเพณีของคนจีนที่ผู้อาวุโส จะให้เงินกับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า เพื่อให้ผู้รับโชคดีและมีความสุข

แม้ว่าในตอนนี้ประเทศจีนจะสามารถส่งอั่งเปา หรือที่บางบ้านเรียกว่า แต๊ะเอีย ในรูปแบบการโอนเงินผ่านทาง Wechat ซึ่งกลายเป็นค่านิยมมาสักพักใหญ่แล้ว แต่ซองแดงก็ยังเป็นธรรมเนียมที่ยังคงอยู่ เพราะมีความคลาสสิก และเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้

กงซีฟาไฉ! รับทรัพย์ปีหนูทอง กับเหล่า “ซองแดง” จาก 15 แบรนด์ไฮเอนด์

Gucci

Heison Ho/Hypebae
Heison Ho/Hypebae

Louis Vuitton

Heison Ho/Hypebae

Celine

Heison Ho/Hypebae

Fendi

Heison Ho/Hypebae
Heison Ho/Hypebae

Valentino

Heison Ho/Hypebae

Burberry

Heison Ho/Hypebae

Loewe

Heison Ho/Hypebae

Versace

Heison Ho/Hypebae

RIMOWA

Heison Ho/Hypebae

Tiffany & Co.

Heison Ho/Hypebae

Calvin Klein

Heison Ho/Hypebae
Heison Ho/Hypebae

HBX

Heison Ho/Hypebae
ซองแดง
Heison Ho/Hypebae

BAPE

ซองแดง
Heison Ho/Hypebae
ซองแดง
Heison Ho/Hypebae
ซองแดง
Heison Ho/Hypebae

Adidas Original

ซองแดง
Heison Ho/Hypebae
ซองแดง
Heison Ho/Hypebae

Nike

ซองแดง
Heison Ho/Hypebae

Credits : https://hypebae.com/

 

 

 

STYLISTA WEDDING ร้านชุดแต่งงานที่มีบริการทั้งแบบปลีกและแบบส่ง พร้อมสร้างลุคเจ้าสาวดูมีสไตล์ในวันแต่งงาน

account_circle

ชุดแต่งงานเป็นเรื่องแรกที่ว่าที่เจ้าสาวจะคิดถึงก่อนเสมอ ซึ่งปัจจุบันนี้ ร้านชุดแต่งงาน มีมากมายให้ว่าที่เจ้าสาวได้เลือกตามความชอบหรือตามงบประมาณที่มี ซึ่งว่าที่เจ้าสาวหลายคนอาจจะกำลังคิดว่าแค่เลือกแบบชุดก็ปวดหัวแล้ว นี่ยังต้องมาเลือกร้านชุดแต่งงานอีกเหรอ แพรวเวดดิ้งเลยขอแนะนำร้านชุดแต่งงาน Stylista Wedding ร้านชุดแต่งงานที่เนรมิตลุคเจ้าสาวให้สวยดั่งใจในวันวิวาห์แบบที่ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

Stylista Wedding ร้านชุดแต่งงานที่มีบริการจำหน่ายและตัดชุดแต่งงานทั้งชุดเจ้าสาวสากลและชุดไทย มากไปกว่านั้นที่นี่ยังจำหน่ายชุดแต่งงานทั้งแบบปลีกและแบบส่งอีกด้วย ซึ่งทางร้านมีทีมดีไซเนอร์ที่จะออกแบบชุดแต่งงานและสามารถสั่งตัดได้ตามความต้องการของลูกค้า โดยมีทั้งชุดเจ้าสาวสากล ชุดหมั้น ชุดไทย ชุดไทยนุ่งสด และชุดไทยประยุกต์ เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบทุกชุดกลับไปเลย ซึ่งราคาเริ่มต้นของชุดแต่งงานแบบสั่งตัดอยู่ที่ 75,000 บาท ส่วนชุดแต่งงานแบบส่งหากสั่งซื้อ 6 ชุดขึ้นไปรับส่วนลด 10% ทันที

Stylista Wedding มีแบบชุดตัวอย่างที่หลากหลายให้เจ้าสาวได้เลือกชม ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งงานสากล ชุดไทย ชุดหมั้น ชุดน้ำชา โดยทุกชุดจะมีรูปแบบ ดีไซน์ และการเลือกใช้ผ้าที่มีความแตกต่างกัน เพื่อให้เจ้าสาวได้เห็นภาพจริงและรู้ถึงความแตกต่างของชุดทั้งหมด เพื่อที่จะได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อหรือสั่งตัด นอกจากนี้เจ้าสาวยังสามารถลองชุดแต่งงานได้ด้วยหากสวมใส่แล้วชอบใจก็สามารถรับชุดกลับบ้านได้เลย

ซึ่งแต่ละชุดทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบเกรด A อย่างดีเพื่อนำมาตัดเย็บ ผ่านการตัดเย็บด้วยความประณีตของช่างมืออาชีพ ซึ่งที่ร้านจะมีรูปแบบหรือแพตเทิร์นของชุดที่ค่อนข้างหลากหลายเพื่อให้เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวแต่ละแบบ แต่ถ้าเจ้าสาวยังไม่ถูกใจอยากสร้างความโดดเด่นมากกว่านี้ ทางร้านก็สามารถปรับชุดนั้นๆ ให้เข้ากับความชอบหรือความต้องการของเจ้าสาวได้เช่นกัน

เจ้าสาวที่สนใจอยากจะไปชมชุดแต่งงานสวยๆ ในปี 2020 นี้สามารถเริ่มจองชุดแต่งงานที่ร้านชุดแต่งงาน Stylista Wedding กันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ร้านตั้งอยู่ในตัวเมืองราชบุรี ซึ่งสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก โดยใช้เวลาเดินทางจากปิ่นเกล้าไปเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น รับรองว่าไปแล้วไม่เสียเที่ยวได้ชุดแต่งงานสวยๆ กลับบ้านทันวันแต่งงานแน่นอน หรือจะลองเข้าไปชมผลงานก่อนได้ที่ www.stylistawedding.com หรือไอจี stylistawedding หรือจะโทร. สอบถามเพิ่มเติม 062-239-7463 และไลน์ไอดี @stylistawedding

วิลลา เดอ บัว ชวนคุณมาร่วมงาน Villa De Bua Open House ภายใต้ธีม Marble & Lilac สุดโรแมนติคในคฤหาสน์ที่มีความเป็นส่วนตัว

account_circle

วิลลา เดอ บัว ชวนคุณมาร่วมงาน Villa De Bua Open House ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2020 เวลา 9.00 – 19.00 น. ภายใต้ธีม Marble & Lilac สุดโรแมนติคในคฤหาสน์ที่มีความเป็นส่วนตัว

พร้อมโอกาสในการเดินชมสถานที่ สัมผัสกับบรรยากาศการตกแต่งเสมือนจริง และลิ้มลองอาหารจัดเลี้ยงจาก Catering ชื่อดัง I DO Catering ร่วมพูดคุยกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานแต่งงาน พร้อมรับส่วนลดและสิทธิพิเศษมากมายจาก 10 แบรนด์ชั้นนำ!

พบกับข้อเสนอสุดพิเศษเพียงท่านจองสถานที่ในงานนี้เท่านั้น

– รับ Welcome Drinks Table บาร์เครื่องดื่มพิเศษสำหรับต้อนรับแขก พร้อมแชมเปญวอลล์ จาก I Do Catering

– รับ Voucher ส่วนลดสูงสุด 5,000 บาท จาก ห้องเสื้อVanus Couture

– รับส่วนลด 10% สำหรับเค้กแต่งงานและขนมจัดเลี้ยง จาก The Pastry & Co

พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย จากZpell Studio, Pila Studio, I Hear Band, Make Me From Paper, Wela Coffee Roaster, Kure และ Sweet Herb ที่มีเฉพาะในงานนี้ เท่านั้น!

มางานนี้ทีเดียวจบ พบกันอีกทีงานแต่ง! ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใคร https://www.villadebua.com

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-103-1337
Facebook: VILLADEBUA
IG: VILLADEBUAVENUE
LINE: @VILLADEBUA

CELINE CNY 2020

สดใสพร้อมรับตรุษจีน CELINE อัพเดตไอเท็มสีแดง เสริมความมงคลให้สายแฟ

CELINE CNY 2020
CELINE CNY 2020

สีแดงสดพร้อมต้อนรับ เทศกาลตรุษจีน ส่องไอเท็มจาก CELINE ที่จะมาอัพเดตให้ตรุษจีนนี้ของคุณไม่น่าเบื่อ แถมยังสวยหล่อตามเทรนด์อีกด้วย

สำหรับเทศกาลตรุษจีนปีนี้ CELINE ไม่พลาดที่จะมาอัพเดตความพิเศษด้วยคอลเล็คชั่น TRIOMPHE CANVAS กับการใช้ลวดลายตัวอักษร C สองตัวติดกัน พร้อมตกแต่งด้วยสีแดงที่เป็นสีสัญลักษณ์ของเทศกาลตรุษจีน โดยในคอลเล็คชั่นนี้ประกอบไปด้วยกระเป๋านามบัตรและพวงกุญแจ ซึ่งสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลตรุษจีน CELINE ก็ไม่พลาดที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนด้วยคอลเล็คชั่นที่เป็นสีแดง

CELINE
CELINE CNY CAPSULE CARDHOLDER

ทั้งนี้ไอเท็มสีแดงดีไซน์โดนๆ มีให้เลือกสรรทั้งสำหรับสาวๆ และหนุ่มๆ ที่รักการแต่งตัว ชอบมิกซ์แอนด์แมตช์ รับรองว่าไอเท็มสีแดงของเซลีนจะทำให้ตรุษจีนของคุณดูสนุกและน่าสนใจมากขึ้น

ไอเท็มสำหรับคุณผู้หญิง

CELINE

CELINE

CELINE

CELINE

CELINE

ไอเท็มสำหรับคุณผู้ชาย

CELINE

CELINE

CELINE

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เรียบง่ายและผ่อนคลาย ลุคแรกของ ‘เมแกน มาร์เคิล’ กับการใช้ชีวิตในแคนาดา

สวยเท่ น่าค้นหา! ครั้งแรกของ ‘มิว นิษฐา’ กระทบไหล่ ‘จีดราก้อน’ ชมโชว์ Chanel

เจ้าแม่รันเวย์ ‘ไคอา เกอร์เบอร์’ สวมชุดแต่งงาน Givenchy พร้อมผ้าคลุมผืนยักษ์!

ช้อปตามได้! ‘ดัชเชสเคท’ เปิดตัวเดรสใหม่ในราคาเพียง 600 บาท

ท้องโตยิ่งสวย! 12 แฟชั่นชุดคลุมท้อง ‘เนย-โชติกา’ กับการเตรียมเป็นคุณแม่ลูกสอง

สวยคลาสสิกฉบับ ‘ดัชเชสเมแกน’ รวม 10 ลุคโทน Classic Blue สีประจำปี 2020

แมทช์กับอะไรก็ดี! 12 กระเป๋าแบรนด์เนม สี Classic Blue แพนโทนประจำปี 2020

ปิดตายแฟชั่นตะวันตก! การแต่งตัวของ ‘สตรีอิหร่าน’ ก่อนปฏิวัติ 2522

แต่งเหมือนนัดกันมา! รวมชุดหางปลามาแรง บนพรมแดง ลูกโลกทองคำ ปี 2020

เหตุใด 6 ลุคนี้ของ ‘ดัชเชสเคท’ ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2019

2019 ช็อกวงการแฟชั่น 5 ประเด็นดังสุดเศร้าของแบรนด์ระดับโลก

แรงมากแม่! กระเป๋าแบรนด์เนม แห่งปี 2019 มีดีอะไร ทำไมถึงฮ็อตที่สุด

เปิดคลังแสง! กระเป๋าแบรนด์เนม ไคลีย์ เจนเนอร์ รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

ลิสต์เอาไว้! กระเป๋า Louis Vuitton 6 เฉดสีหวาน สวยละมุน ชวนเสียตังค์

เปิดโพย กระเป๋า Gucci 5 รุ่นดังน่าเปย์ ที่ควรมีอยู่ในคลังแสง

 

เมโกะ สาวน้อยนักกิน

เมโกะ สาวน้อยนักกิน จ่อหย่าสามี เหตุนอกใจคบ เทพธิดาแห่งญี่ปุ่น

Alternative Textaccount_circle
เมโกะ สาวน้อยนักกิน
เมโกะ สาวน้อยนักกิน

“วาตานาเบะ แอน” นางเอก “เมโกะ สาวน้อยนักกิน” ขอแยกอยู่กับสามี “มาซาฮิโระ ฮิกาชิเดะ” และกำลังดำเนินการเรื่องหย่า หลังจับได้แอบสานสัมพันธ์พิเศษกับ “เอริกะ คาราตะ” ดาวรุ่งหญิงเจ้าของฉายา “เทพธิดาแห่งญี่ปุ่น” ระหว่างที่เธอตั้งท้องลูก

เมโกะ สาวน้อยนักกิน

จากข่าวรักๆ เลิกๆ ของคนในวงการบันเทิงไทย ฮอลลีวู้ด จีน และ เกาหลีใต้ วันนี้ขอพามาที่ฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง เพราะข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงนั่นคือกรณีการแยกกันอยู่ของสุดยอดคู่รักของญี่ปุ่น ซึ่งทั้งคู่พบรักกันหลังจากร่วมงานในเรื่อง“เมโกะ สาวน้อยนักกิน” (ซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จเรตติ้งสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นในรอบ 15 ปี ของ NHK Morning Drama)

เมโกะ สาวน้อยนักกิน

โดย Bunshun  สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่านางเอกสาว “วาตานาเบะ แอน” ได้แยกบ้านอยู่กับสามี “มาซาฮิโระ ฮิกาชิเดะ” ซึ่งต้นสังกัดของทั้งสองก็ได้ยืนยันแล้วว่าเป็นความจริง โดยฝ่ายสามีไปอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเม้นต์สำหรับครอบครัวในกรุงโตเกียว สำหรับเหตุผลของการแยกกันอยู่นั้นสื่อบอกว่าเกิดขึ้นเพราะฝ่ายชายไปสนิทสนมกับ “เอริกะ คาราตะ” ดาวรุ่งหญิงเจ้าของฉายา “เทพธิดาแห่งญี่ปุ่น” (แสดงซีรีส์เกาหลี “Arthdal Chronicles” ด้วย ) ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน  ซึ่งเป็นช่วงที่ภรรยาของเขาตั้งท้องลูกคนที่ 3

เมโกะ สาวน้อยนักกิน

โดยต้นสังกัดของ “มาซาฮิโระ ฮิกาชิเดะ” เผยว่านักแสดงหนุ่มพยายามหนักที่จะประสานรอยร้าวความสัมพันธ์ เขาไม่ต้องการหย่า นั่นทำให้เขาต้องแสดงเจตนาทั้งหมดด้วยการเปลี่ยนวิถีชีวิตและทัศนคติเพื่อที่จะฟื้นฟูความไว้วางใจในฐานะพ่อและสามี

เมโกะ สาวน้อยนักกิน

อย่างไรก็ตามทางด้านต้นสังกัดของ “เอริกะ คาราตะ” ได้อธิบายว่า จากข้อมูลครั้งนี้เจ้าตัวรู้สึกสำนึกผิดเป็นอย่างมากกับการกระทำที่วู่วาม เธอเผชิญกับความอ่อนแอของตัวเอง ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์คิดน้อยจนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องดังกล่าว เพื่อให้สถานการณ์นี้ไม่เกิดขึ้นอีก เราจะให้คำแนะนำอย่างเข้มงวด ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจ ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง


ข้อมูลจาก : neotokyo2099.com

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

จุดจบคนอวดแฟนที่ไม่ใช่แฟนเรา! ดาราสาว เอริกะ คาราตะ ถูกแฉต่อเนื่อง

 

4 ปี หวานไม่เปลี่ยน Kim Woo Bin – Shin Min Ah คอยสนับสนุนกันและกันมาตลอด

หวานรับปีใหม่ตามประสาคู่รัก Shin Min Ah และ Kim Woo Bin ระหว่างออกเดทที่ออสเตรเลีย

สวยคู่ดูโอ้ 2 นางเอกตัวแม่ Gong Hyo Jin – Shin Min Ah ออกงานด้วยกัน

พ่อแท้ๆ เปิดศึกต่อสู้เพื่อสิทธิ์ในการสืบทอดมรดก ซอลลี่ ไอดอลสาวผู้ล่วงลับ 

คริสตี้ ชุง คุณบุญเลื่อง แห่งจันดารา สาวแรกแย้มในวัย 50 หน้าเด็กเทียมลูกวัย 22

 เฉิน EXO ประกาศตู้มเดียว! เตรียมแต่งงานพร้อมยืนยันกำลังมีลูก

มิตรภาพของไอดอลสาวต่างยุค เอลล่า S.H.E. – ลิซ่า BLACKPINK

6 เรื่องรู้จัก นางเอกเกาหลี Bae Suzy ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีดีแค่แฟนหล่อ

 สวยเปรี้ยวเฉี่ยวชิค ฟ่านปิงปิง (Fan Bingbing) ลุคผมสั้นรับศักราชใหม่

Crash Landing on You จะเป็นโปรเจ็กต์พบรักของ ฮยอนบิน – ซนเยจิน หรือไม่?

ชาวบลิ๊งค์ เคลื่อนไหว! ถล่มการใช้ภาษาลวนลามทางเพศผ่านสื่อออนไลน์

โศกนาฏกรรม 2019 โรคซึมเศร้ามัจจุราชเงียบ คร่าชีวิตคนดังเกาหลีใต้

นางเอกซูเปอร์สตาร์ ชเวจีอู ประกาศข่าวดีตั้งท้องทายาทคนแรก

โชคชะตาของ ซอฮโยริม ! จากแม่-ลูกในละคร กลายมาเป็นครอบครัวจริงๆ

เธอสวยและรวยมาก! 5 ดาราหญิงเกาหลี ที่มีเงินมากที่สุดในวงการ K-POP

สวยปิ๊ง! หน้าเด็กเหมือนโกงอายุ ลียองเอ ตัวแม่ของวงการ นางเอกเกาหลี แดจังกึม

หลี่ยั่วถง เซียวเหล่งนึ่ง จากมังกรหยกเผย เคล็ดลับดูแลหุ่น ให้ยังดูเป๊ะในวัย 52

นี่แหละคนมีเสน่ห์ 5 นางเอกเกาหลี หน้าตาเป็นรอง แต่ความสามารถเกินร้อย

สวยกว่าเก่า สาวกว่าเดิม “ฉันนี่แหละ…คิมซัมซุน” นางเอกเกาหลี วัย 46 ปี

DDC สกินแคร์

ผิวใสแบบไม่ฮาร์ดคอร์!!! DDC สกินแคร์ดูแลสิวและผิวบอบบาง เซ็ตนี้ที่บล็อกเกอร์ตัวแม่ มด Cinnamongal ครีเอทมาเพื่อให้ซิสที่มีผิวแพ้ง่ายคลายกังวล

DDC สกินแคร์
DDC สกินแคร์

ถือว่าเป็นปรากฏการณ์เลยทีเดียว เมื่อแบรนด์สกินแคร์ DDC คว้ารางวัล ICONIC SKINCARE KIT จากงาน Praew Iconic Beauty 2019 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป

เพราะอะไรน่ะหรือคะ เพราะไม่เคยมีใครได้รางวัลทีเป็นเซ็ตแบบนี้มาก่อนไง เซ็ตนี้เลยต้องมีอะไรเด็ดที่กรรมการเทใจแบบให้ยกแผงกันไปเลย

เริ่มแรกพัดชารู้จักแบรนด์นี้จากเสียงอื้ออึงของบรรดาบิวตี้บล็อกเกอร์ทั่ววงการถึงความน่าใช้ ซึ่งสารภาพตามตรงแอบคิดอยู่ในใจประมาณว่าอวยเว่อร์ป่าวเพราะแบรนด์นี้เป็นผลงานที่บิวตี้บล็อกเกอร์ผู้ทรงอิทธิพลต่อใจผู้บริโภคอย่างพี่มด Cinnamongal ทำร่วมกับบิวตี้คลีนิค Dr Demis ก็คนรู้จักกันต้องมีอวยกันบ้างล่ะน่า จนกระทั่งได้มาลองเองการเป็นกรรมการในงาน Praew Iconic Beauty นี่เองถึงได้มายอมรับว่า อวยก็อวยฟระ ก็ของเขาดีจริง

เมื่อบิวตี้บล็อกเกอร์ ฟีทเจอริ่งกับแพทย์ผิวหนัง

จุดเริ่มต้นของDDC มาจากการที่พี่มด Cinnamongal จับมือกับคุณหมอโจ้นายแพทย์ ดิสพงศ์ ปณิฐาภรณ์ แห่งคลีนิค Dr Demis ผู้ที่ดูแลงานผิวให้พี่มดเป็นประจำ คิดค้นสกินแคร์ดูแลผิวให้แข็งแรงโดยไม่ทำร้ายผิว โดยเฉพาะกับคนที่เป็นสิวแพ้ง่าย ชื่อ DDC นั้นมาจาก Dr Demis x Cinnamongal  นั่นเอง

ซึ่งฝีไม้ลายมือของคุณหมอโจ้นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะดูแลคนไข้ที่มีปัญหาผิวพรรณ โดยเฉพาะสิวมาแล้วแบบทุกมิติทุกองศา ถ้าทำให้สาวที่เป๊ะ เลือกเยอะและรู้เยอะอย่างคุณพี่มดของเราติดใจในฝีมือได้ ก็บอกได้เลยว่าต้องไม่ธรรมดา นั่นจึงเป็นที่มาของการสร้างสรรค์โปรดักส์ที่เริ่มต้นจากเซรั่มแต้มสิว แตกออกไปเป็นไลน์ DDC Healthy Skincare Set 5 ชิ้นที่จะทำให้สาวผิวแพ้ง่ายได้พบกับแสงสว่างที่แท้ทรู

หน้าตึงไม่หย่อนคล้อยคือผิวในฝัน แต่ผิวตึงคือฝันร้ายเลยนะซิส

เรามาเริ่มชิ้นแรกกันตามลำดับขั้นตอนการใช้เลยดีกว่าชิ้นหนึ่งที่มักสร้างความรุนแรงต่อผิวที่บอบบางอย่างไม่รู้ตัวคือตัวเช็ดเครื่องสำอางสาวผิวแห้งบอบบางจะดู้ดีว่าสารเคมีต่างๆที่ใส่ลงในคลีนซิ่งวอเทอร์เพื่อต้องการกำจัดเครื่องสำอางได้รวดเร็วนั้นมักทำให้ผิวแห้งตึง

DDC Double Micellar Cleansing Water ตัวนี้ใช้เช็ดเครื่องสำอาง สิ่งสกปรก มลภาวะต่างๆ ออกจากผิวก่อนการล้างหน้า ซึ่งทีเด็ดของเขาอยู่ที่ความอ่อนโยนพิเศษของสารสกัดธรรมชาติ 100% จากน้ำตาล สารสกัดจากข้าว Pentavitin และเติมความชุ่มชื้นด้วย Beta-Glucan ที่เห็นสีเป็นน้ำออกเหลืองหน่อยๆ นั้นก็เป็นสีตามธรรมชาตินั่นเอง ตัวนี้เขาออกแบบให้มีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติของผิวจริง เพราะฉะนั้นเรื่องของการแห้งตึงก็ลืมไปได้เลย

ถามว่าอ่อนโยนขนาดนี้จะเช็ดเครื่องสำอางออกไหม บอกเลยว่าเช็ดเกลี้ยงเริ่ดเว่อร์ ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและรอบดวงตา นอกจากคนที่แต่งตาแน่นจริงๆ แนะนำให้ใช้อายเมคอัพรีมูฟเว่อร์เช็ดรอบแรกก่อนแล้วตามด้วยตัวนี้ก็ปิดจ๊อบได้เกลี้ยงเกลา

ล้างหน้าไม่เอี๊ยดด้วยคลีนเซอร์ไร้สารลดแรงตึงผิว

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการล้างหน้าอย่างหนึ่งคือการที่คิดไปเองว่าฟองเยอะคือดี’ ฟองเยอะคือสะอาด อันที่จริงแล้วคลีนเซอร์ที่มีความเป็นธรรมชาติสูงไม่ทำร้ายผิวจะไม่มีฟองมากมายแต่กลับให้ความรู้สึกสบายหลังใช้ อย่าง DDC Gentle Cleanser Sulfate Free ตัวนี้ประทับใจในความชุ่มชื้นหลังใช้ เพราะเขาเคลมว่ากักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง ปราศจากสารลดแรงตึงผิว จึงอ่อนโยนใช้ได้แม้แต่ผิวที่บอบบางหรือช่วงกำลังเป็นสิว มีส่วนผสมจากข้าว Pentavitin เหมือนกับตัวก่อน พร้อม Grape Seed ที่ได้รับการรับรองจาก Eco Clarified ของประเทศฝรั่งเศส

เซรั่มบูสผิวสตรองสู้สิว เนียบกริบผดยังกลัว

แพทย์ผิวหนังที่แท้เขาแนะนำให้ดูแลปัญหาสิวด้วยความอ่อนโยน อย่างเซรั่ม DDC Skin Booster Serumตัวนี้ที่ต้องยกให้เป็นเซรั่มสามัญประจำผิวช่วงไหนที่รู้สึกว่าผิวไม่เรียบเนียนเริ่มจะมีสิวผุดๆผดรุมๆกลับมาใช้ตัวนี้ทีไรความเนียนใสบังเกิด

ความลับอยู่ที่สัดส่วนของส่วนผสมที่ผู้เชี่ยวชาญคิดมาแล้วว่าเป็นอาหารผิวที่เหมาะกับความต้องการแบบพอดิบพอดี Niacinamide (Vitamin B3 )10% ลดรอยแดงรอยดำและเติมความชุ่มชื้น Hyaluronic Acid 2% เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิมฟูอ่อนเยาว์ Zinc PDA  1% ลดปริมาณแบคทีเรียและควบคุมความมัน Panthenol ปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด เป๊ะแบบนี้ทั้งสิวและผดจึงหดหาย ที่ชอบมากๆ คือความเบาบางของเนื้อสัมผัสที่เกือบจะใส ทำให้ซึมซาบเร็วไม่ทิ้งความรู้สึกรำคาญ

สิวยุบเพราะผิวไม่ระคายเคือง รู้ยัง!!

ชิ้นนางเอกของ DDC ที่เป็นต้นกำเนิดของการแตกไลน์เป็นสกินแคร์เซ็ตนี้คือตัวนี้นี่เอง DDC Herbal Acne Serum ซึ่งเขาใช้คำว่าเป็นเซรั่มแต้มสิวไม่ใช่ยาแต้มสิวแบบเคยๆเพราะเขาไม่มีสารเคมีฆ่าเชื้อใดๆที่จะทำให้ผิวลอกแห้งหลังใช้เหมือนยาแต้มสิวแบบเก่าๆ

ความเก๋อยู่ที่การใช้ส่วนผสมที่ส่วนใหญ่มาจากสมุนไพรไทยๆอันได้รับการยอมรับว่าดีเยี่ยมจริงในเรื่องของสรรพคุณที่ช่วยลดการอักเสบระคายเคืองแถมยังไม่ทำร้ายผิว

อย่างกลุ่มที่ช่วยฆ่าเชื้อ ลดการอักเสบจากสารสกัดใบทองพันช่าง สารสกัดจากเปลือกมังคุด ใบรางจืด ไพล สะเดา สารสกัดจากเปลือกไม้ Willow Bark ที่ช่วยลดการอุดตัน พร้อมเติมความชุ่มชื้นด้วยสารสกัดจากแตงกวาและว่านหางจระเข้

อ่อนโยนดีต่อใจแบบนี้เลยทำให้เซรั่มแต้มสิวตัวนี้สามารถทาซ้ำๆได้ตลอดวันโดยจะแต้มเป็นจุดหรือทาทั่วหน้าก็ยังได้

ซันสกรีนอ่อนโยนสบายผิวฟีลด์กู้ด

สุดท้ายสาวๆ เรายังจบไม่ได้ถ้าไม่มีกันแดด ชิ้นสำคัญที่จะช่วยดูแลผิวให้แข็งแรงอ่อนเยาว์ DDC Sun Drops SPF50 PA++++ ตัวนี้เหมาะอย่างยิ่งกับสาวขี้แพ้ เพราะเขาใส่สารกันแดดมาน้อยตัว เหลือแต่ตัวที่ช่วยสะท้อนแสงแดดออกจากผิว อย่าง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ที่สามารถปกป้องรังสียูวีได้ทุกช่วงคลื่น

เห็นเนื้อสีแล้วอาจจะแอบตกใจเพราะดูจะมีความขาวสว่างเหลือเกิน แต่พอทาเข้าไปจริงๆ รับรองว่าไม่ว่อก ไม่ลอย แถมเป็นเหมือนฟีล์มเคลือบอยู่บนผิวบางเบาทำให้ผิวดูเรียบเนียนพร้อมสู่ขั้นตอนของการเมคอัพได้อย่างดีงาม ล่าสุดออกเป็น Packaging ใหม่พร้อมปรับสูตรให้เบาบางยิ่งขึ้น

New  Packaging

นี่แหล่ะผลงานฟิเจอร์ริ่งของผู้เชี่ยวชาญแห่งวงการบิวตี้ อ่อนโยนต่อผิว ดีต่อใจ จนต้องให้มงแบบยกเซ็ตไปเลย

เรื่อง: Padcha_Praewnista

ภาพ: อิทธิศักดิ์ บุญปราศภัย

สไตลิสต์: UP_KAMPHOO

ผู้ช่วยช่างภาพ: ณัฐชา ชาวเกวียน

รักข้ามรุ่น”จ๊ะจ๋า & จิ๊บ”กับ แหวนเพชร 7 กะรัตที่ไม่ได้สำคัญที่มูลค่าแต่เป็นเหมือนสัญญาใจ

account_circle

ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคความรักของ จ๊ะจ๋า – พริมรตา เดชอุดม และ จิ๊บ – วสุ แสงสิงแก้ว ที่แม้อายุจะห่างกันถึง 16 ปี แต่ความรักที่ทั้งคู่หมั่นเติมความหวานให้กันอยู่ตลอด ที่สุดจึงถึงเวลาสำหรับการบินไปขอแต่งงานกันไกลถึงเมืองหลังคาโลกท่ามกลางหิมะโปรยปรายกับ แหวนเพชร ที่ว่าที่เจ้าสาวบอกว่า “ไม่ได้สำคัญที่มูลค่าแต่เป็นเหมือนสัญญาใจ” – เรื่อง  Minim / ภาพ กัญชนิกา

Will you marry me?

จ๊ะจ๋า – พริมรตาออกตัวว่าเธอเป็นคนช่างสงสัย ฉะนั้นใครคิดจะเซอร์ไพร้ส์เธอนั้นยากมากๆ แต่ครั้งนี้ว่าที่เจ้าบ่าวทำสำเร็จค่ะ “ตอนแรกที่บอกว่าจะไปเที่ยวทิเบตกัน จ๊ะจ๋าก็คิดแหละว่าทริปนี้พิเศษ แอบคิดว่าเขาจะขอแต่งงานไหม ซึ่งจ๊ะจ๋าเป็นคนตรงๆ มีอะไรก็จะถามตลอด ก่อนไปก็ถามพี่จิ๊บว่าจะขอแต่งงานหรือเปล่า จ๋าต้องเตรียมชุดสีขาวไปไหม จองช่างภาพไหม (หัวเราะ) เพราะเห็นรูปเวลาคนอื่นขอแต่งงานกันเขาแต่งตัวสวยๆ ทั้งนั้นเลย แต่พี่จิ๊บยืนยันว่าไม่มีแน่นอน ไปเที่ยวกันเฉยๆ แถมไปกับทัวร์ด้วย เป็นไปไม่ได้หรอก แล้วก็บอกให้จ๊ะจ๋าไปเตรียมร่างกายออกกำลังกายด้วย เพราะที่โน่นอากาศหนาว เป็นที่สูง ออกซิเจนก็น้อย บางคนเป็นลมเลยนะ จึงทำให้เราหันไปสนใจเรื่องการเตรียมความพร้อมไปเที่ยวแบบเต็มตัว แต่ก็ยังไม่วางใจนะคะ คอยดูว่าเขามีแอบไปซื้อแหวนช่วงไหนหรือเปล่า ซึ่งปรากฏว่าก่อนเดินทางพี่จิ๊บทำงานทุกวัน มีเวลาเก็บ กระเป๋าแค่คืนก่อนเดินทางก็เลยหายสงสัยเรื่องนั้นไป”

“พอไปถึงก็ว่ากันตามปกติของโปรแกรมทัวร์เลยค่ะ ซึ่งการไปเที่ยวทิเบตไกด์มีข้อห้าม 3 ข้อคือ 1. ห้ามทำอะไรเร็ว ห้ามลุกเร็วเกินไป เพราะออกซิเจนน้อย ร่างกายจะปรับตัวไม่ทัน 2. ห้ามตะโกนเสียงดัง และ 3. อย่าตื่นเต้น เพราะหัวใจจะเต้นเร็วจนอาจช็อกได้ซึ่งอันตรายมากๆ เราก็โอเคทำทุกอย่างตามกฎ จนไปถึงยัมดร๊อก (Yumdrok-Tso) ซึ่งเป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ที่สูงกว่าระดับทะเล 5,000 เมตร เราต้องพกออกซิเจนกระป๋องไปด้วย แต่พอไปถึงปรากฏว่าพี่จิ๊บทำทุกข้อห้ามเลยค่ะ ทั้งวิ่งบนเนิน จ๊ะจ๋าบอกว่าอย่าวิ่งๆ เขาก็บอกว่าวิวสวยมากๆ แล้วตะโกนเรียกให้ไปดู จากนั้นก็วิ่งไปที่เนินเขาอีกลูก เพราะว่าเขาชอบถ่ายรูปจึงเสาะหามุมสวยๆ เก๋ๆ ซึ่งตอนนั้นจ๊ะจ๋าตกใจกลัวเขาจะป่วย พยายามบอกเขาว่าอย่าวิ่งๆ แต่เขาก็ยังวิ่งไปเรื่อยๆ จนเห็นเขาตัวเล็กนิดเดียว กระทั่งไกด์มาบอกจ๊ะจ๋าว่าอีกสักพักต้องไปที่อื่นแล้วนะ เลยรีบเดินไปตามเขา ตอนนั้นยอมรับว่าหงุดหงิดมากๆ ค่ะ เพราะเกรงใจกลัวว่าคนอื่นๆ จะรอด้วย กลัวอันตรายด้วย แต่พี่จิ๊บก็ยังเรียกและจูงมือให้ขึ้นไปดูวิวข้างบน ระหว่างทางที่เขาจูงมือจ๊ะจ๋าไปเราบ่นเขาตลอดทางเลยนะ กระทั่งขึ้นไปแล้วเห็นวิวตรงหน้าถึงได้ใจเย็นลงเพราะสวยมากจริงๆ”

“เรายืนอยู่บนยอดเขา โอบล้อมด้วยท้องฟ้า และธงสีสันสดใสที่มาจากความเชื่อว่าถ้าอธิษฐานแล้วนำธงมาปักไว้ตรงนั้นจะโชคดี ซึ่งระหว่างที่เรากำลังอินกับบรรยากาศรอบตัว พี่จิ๊บก็พูดประมาณว่า เราคบกันมานานแล้วนะ…ตอนนั้นจ๊ะจ๋าตื่นเต้นมาก หูอื้อ ลมก็พัดแรง อากาศหนาวมาก จนฟังที่เขาพูดไม่รู้เรื่องเลยค่ะ กระทั่งเขาบอกว่า ‘แต่งงานกับพี่นะ’ จ๋าตอบว่า โอเค พี่จิ๊บบอกว่าไม่ใช่ๆ ตอบใหม่ เราจึงตอบไปว่า Yes (ยิ้ม)

“จากนั้นเขาก็ถอดถุงมือออกให้แล้วสวมแหวน จังหวะนั้นน้ำตาไหลเลยค่ะ จ๋าเข้าใจความรู้สึกคนที่ถูกขอแต่งงานแล้วว่าเป็นอย่างไร เป็นความรู้สึกที่ทั้งดีใจ ตื่นเต้น ตื้นตัน พูดไม่ถูก รู้แต่ว่ามีความสุข เป็นความรู้สึกมหัศจรรย์ที่คนสองคนได้ตกลงอะไรกันบางอย่างท่ามกลางสถานที่สวยงามและมีความมหัศจรรย์ ซึ่งระหว่างที่เราเดินลงมาที่รถหิมะก็โปรยปรายลงมาตลอดทาง ท้องฟ้าเป็นใจมากๆ ค่ะ (ยิ้ม) และในที่สุดเขาก็เซอร์ไพร้ส์จ๊ะจ๋าสำเร็จ”

Symbols of Love

“ก่อนหน้านี้คุณแม่ของพี่จิ๊บ (สุดาชา แสงสิงแก้ว) มอบแหวนแต่งงานของท่านให้จ๊ะจ๋าไว้ เป็นแหวนเพชรรูปหัวใจ สวยงามและมีคุณค่ามากๆ จ๊ะจ๋าคิดว่าจะ ใช้เป็นแหวนแต่งงาน แต่สำหรับแหวนวงนี้ไม่รู้ว่าพี่จิ๊บแอบไปทำมาตอนไหนเหมือนกันค่ะ เป็นแหวนเพชร 7 กะรัต สวยมาก และไม่รู้ว่าเขาซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อได้อย่างไร ซึ่งปกติจ๊ะจ๋าไม่ใส่แหวน และไม่ได้มีความรู้เรื่องเพชร มากนักจึงไม่ได้มีแบบที่คิดไว้ ยังถามพี่จิ๊บเลยว่ามีวงเล็กกว่านี้ไหม เพราะเราซุ่มซ่ามด้วย”

“สำหรับจ๊ะจ๋าแหวนไม่ได้สำคัญที่มูลค่า แต่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ว่าเราได้ตกลงใจ จะเป็นคู่ชีวิตกับคนนี้แล้วนะ”

อ่านเรื่องราวความรักของคู่รักคนดังได้อีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

Sretsis เปิดตัวคอลเลกชัน Resort 2020 ‘Midnight Sun’

เสียงใบไม้ที่กระทบกันผ่านสายลม แสงแดดรำไรที่สาดส่องลงบนต้นไม้ใบหญ้า ความสงบที่เกิดขึ้นในอารมณ์ของฤดูร้อนที่กำลังจะเข้ามา สเรทซิสเฉลิมฉลอง Endless Summer โดยได้รับแรงบันดาลใจปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนในแถบประเทศแสกนดิเนเวีย กับคอลเลกชัน Resort 2020 ‘Midnight Sun’ บอกเล่าถึงทัศนคติอันอิสระไร้กังวลของหญิงสาว ในวันที่พระอาทิตย์ไม่ลับขอบฟ้าและท้องฟ้าสว่างตลอดวัน การออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ไปปิกนิก เก็บผลสตรอเบอร์รี่และเดินเล่นในป่าจึงเป็นที่มาของเสื้อผ้าที่หรูหราแต่ยังคงความ Carefree ไว้ในแบบของสเรทซิส

คีย์ลุคแรก ‘Transporting Dreams’ 

เพราะผู้หญิงสเรทซิสรักการเดินทาง ในคีย์ลุคนี้จึงขอเชิญหญิงสาวทุกคนไปเฉลิมฉลองกลางวันอันไม่มีวันสิ้นสุดกับ Travelling Suit เตรียมพร้อมการเดินทางด้วย Serena Sailor Jacket and Pants – ชุดสูทผ้าทวีตสุดคลาสสิคสไตล์ 60s, Alicia Berry Blouse มิกซ์กับ Luna Tweet Dress – ลุคยูนิฟอร์มเข้าคู่ ด้วยเสื้อเชิ้ตผ้าคอตตอนเนื้อบางพิมพ์กำมะหยี่พร้อมงานปักสตรอเบอร์รี่ที่ปกเสื้อ มิกซ์กับชุดเดรสสั้นผ้าทวีตสีพาสเทล, Berry Valley Tea Dress – ชุดเดรสที่โดดเด่นด้วยปก Sailor เพิ่มระบาย, Lin Ping Top and Pants – ชุดจีนประจำฤดูกาลในผ้า Baby Strawberry ซึ่งเป็นผ้าคอตตอนเนื้อบางพิมพ์ลายสตรอเบอรี่และลายจุดกำมะหยี่ พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มงานปักหมีแพนด้าอันเป็นสัตว์ประจำชาติจีน ที่กำลังเอร็ดอร่อยกับสตรอเบอร์รี่อยู่บนเสื้อ และ Straw-Berry Bucket – อุดมสมบูรณ์ด้วยสตรอเบอร์รี่กับกระเป๋าประจำซีซันต้อนรับกิจกรรมสนุกๆในช่วงซัมเมอร์

คีย์ลุคที่สอง ‘Carefree Luxury’ 

ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทัศนคติอันหรูหราผสมผสานกับความน่าค้นหาของสไตล์ร็อคแอนด์โรล สนุกสนานแบบสาวซ่ารักอิสระในทุกกิจกรรมด้วยการมิกซ์แอนด์แมทช์แบบคัลเลอร์บล็อค อาทิเช่น ลายเสือ Baby Leopard มิกซ์กับผ้าลาย Juicy Strawberry สีสดใส ได้แก่ Strawberry Dance – เดรสที่จะพาหญิงสาวไปเต้นรำในทุ่งสตรอเบอร์รี่, Leopard Berry Mini Dress – เดรสสั้นแบบสาวร็อคสตาร์ยุค 70s, Merry Berry Ruffle Top and Tier Skirt – เสื้อและกระโปรงผ้าลินินเข้าเซ็ทปักลายสตรอเบอร์รี่แสนซุกซน, Ellie Top, Jane Berry Jeans และ Ebba Strawberry Cardigan – ลุคสบายในวันพักผ่อนกับการผสมผสานของเสื้อลายทางสีเรนโบว์มิกซ์เข้ากับเสื้อคาดิแกนและกางเกงเดนิมลายสตอเบอร์รี่ ให้อารมณ์ที่สดใหม่แต่ยังคงความวินเทจ และ Straw-Berry On Top Hat – หมวกสตรอเบอร์รี่ทะลักประจำฤดูกาลที่ตกแต่งด้วยผ้าลาย Baby Strawberry 

เนื่องจากสเรทซิสเป็นแบรนด์ที่เต็มไปด้วยความแฟนตาซี ในปรากฏการณ์ Midnight Sun ครั้งนี้สเรทซิสขอเฉลิมฉลองแสงสว่างที่ไม่ดับสูญแม้เวลากลางคืนด้วยเซอไพรซ์ประจำซีซั่นอย่าง Sweet and Juicy Sweater – เสื้อ UV Activated ที่ลายปรินท์สามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อยามออกแสงแดด โดยการวางลายผ้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากป้าย label ของแพ็คเกจสตรอเบอร์รี่ที่กำลังจะถูกจัดจำหน่าย ผนวกกับการทวิสต์คำให้สนุกสนานในสไตล์ของสเรทซิส

คีย์ลุคสุดท้าย ‘Midsommar Nights’

หากนึกถึงความสวยงามของแสงสว่างที่ไม่มีวันหลับใหล สเรทซิสจินตนาการถึงท้องฟ้าที่มีทั้งพระอาทิตย์ พระจันทร์และดวงดาวอยู่ด้วยกัน จึงนำแนวคิดนี้มาใส่ลงในลายผ้า Midnight Sun และได้เติมรูปหัวใจอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เข้าไปด้วย โดยลายผ้านี้ถูกพิมพ์อยู่บนผ้าวิสโคสเนื้อซาตินสุดหรูหรา อันได้แก่ Moon Stars Sundress และ Moondance – เดรสในซิลลูเอทซิกเนเจอร์ของสเรทซิส อิสระด้วยการปลดกระดุมมิกซ์กับชุดด้านในหรือใส่เป็น Evening Dress ก็ดูหรูหรา, Lady Strawberry Valentin – เดรสในซิลลูเอทสุดคลาสสิคตัดเย็บด้วยผ้าทูลพิมพ์ลาย Sparkling Strawberry จากการพิมพ์กากเพชรลงบนผ้าเป็นผลสตรอเบอรี่และพิมพ์กำมะหยี่ทับเป็นใบสีเขียว และ Midnight Sun Silk Cocktail Dress – ค็อกเทลเดรสในลายผ้า Midnight Sun ที่พิเศษยิ่งขึ้นด้วยฟังก์ชั่นที่สามารถใส่แบบ Reversible ในผ้าซิลค์ชีฟองพร้อมเข็มขัด

สเรทซิสจิวเวลรี่ ‘Joie De Vivre’

สเรทซิสนำเสนอจิวเวลรี่ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับการแต่งตัวในฤดูกาลนี้ด้วย Juicy Strawberry Pearl Drop Earrings – ต่างหูรูปสตรอเบอร์รี่ประดับมุก, Midnight Sun Earrings – ต่างหูรูปพระอาทิตย์ที่อยู่คู่กับดวงดาวและพระจันทร์ และ Twin Hearts Earrings – ต่างหูรูปหัวใจขนาดใหญ่ซิกเนเจอร์ของสเรทซิสในโทนสีแดงและสีชมพู 


พบกับคอลเลกชัน Resort 2020 ‘Midnight Sun’ ได้ในเดือนธันวาคม 2019 นี้
ที่สเรทซิสทุกสาขา และ SRETSIS.COM

แฟชั่นชั้นสูง

DIOR เปิดซีซั่น SS 2020 ด้วยเมคอัพลุค แฟชั่นชั้นสูง กรีดหางตาเป็น ปีก สวยเฉี่ยว

Alternative Textaccount_circle
แฟชั่นชั้นสูง
แฟชั่นชั้นสูง

DIOR เปิดซีซั่น Haute Couture Spring Summer 2020 ด้วยลุคแต่งหน้าคอลเล็คชั่น แฟชั่นชั้นสูง

DIOR เปิดเมคอัพประจำซีซั่นนี้ (Haute Couture Spring Summer 2020) ด้วยลุคแต่งหน้าคอลเล็คชั่น แฟชั่นชั้นสูง เน้นความโดดเด่นในการแต่งดวงตาจากการใช้อายไลเนอร์กรีดขอบตาบน และล่างเป็นเส้นขนาน พร้อมทวีความหรูหราด้วยเฉดสีประกายทอง สำหรับลุคการแต่งหน้าในการแสดงคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าชั้นสูงประจำฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2020 นี้ ออกแบบโดย มาเรีย กราเซีย ชิอูริ

“ผมใช้อายไลเนอร์ดำกรีดเส้นขอบตาบน และล่างเป็นแนวขนานกันให้เลยหางตาออกมาเป็น ปีก ขนาดเล็ก นี่เป็นลูกเล่นกราฟิกที่ดูโฉบเฉี่ยว และละเมียดละไมไปพร้อมกัน จากนั้น ผมก็ปาดสีทองตรงช่องว่างระหว่างเส้นทั้งสองตรงหางตา”

แฟชั่นชั้นสูง

ดวงตา

ในการแต่งหน้าลุคนี้ ใช้ DIOR BACKSTAGE EYELASH CURLER ดัดขนตาก่อนปัดมาสคาร่า DIORSHOW ICONIC OVERCURL 090 OVER BLACK เล็กน้อยตรงโคนขนตา, หางตา, ปลายขนตาบน และล่าง

จากนั้นก็ใช้ DIORSHOW ON STAGE LINER สีดำ 091 MATTE BLACK กรีดเส้นขอบตา แล้วเติมอายแชโดว์สีทองลงตรงช่องว่างระหว่างเส้นขอบตาที่เลยหางตาออกมาเล็กน้อย

โดยเลือกใช้ทิปชุบน้ำพอหมาดลงเฉดจาก DIOR BACKSTAGE CUSTOM EYE PALETTE 001 UNIVERSAL NEUTRAL สำหรับขั้นตอนสุดท้ายในการเน้นดวงตาคือการวาดโครงกรอบคิ้วด้วย DIORSHOW BROW STYLER ร่วมกับ DIORSHOW PUMP ‘N’ BROW

แฟชั่นชั้นสูง

ผิว

ผิวให้งดงามตามธรรมชาติอย่างที่สุดจากการเตรียมผิวด้วย DIOR BACKSTAGE FACE & BODY PRIMER เพื่อเลือนอำพรางริ้วรอยต่างๆ ให้เนื้อผิวแลดูเรียบเนียนก่อนลง DIOR BACKSTAGE FACE & BODY FOUNDATION รองพื้นเนื้อละเอียดเนียนในเฉดสีกลมกลืนกับโทนผิวของนางแบบแต่ละคน มอบผลลัพธ์ของผิวธรรมชาติเปลือยเปล่าได้อย่างสมจริง และสำหรับขั้นตอนสุดท้ายใช้คอนซีลเลอร์ DIOR FOREVER SKIN CORRECT สูตรใหม่ในการเก็บรายละเอียดด้านริ้วรอยข้อบกพร่องที่ยังหลงเหลือให้หมดจด

ริมฝีปาก

ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติผ่านการเตรียมผิวด้วย DIOR LIP SUGAR SCRUB หมายเลข 001ก่อนใช้ DIOR LIP MAXIMIZER เฉด 001 PINK และทำการซับประกายมันวาวออกก่อนขึ้นรันเวย์

เล็บ

ใช้ DIOR VERNIS เฉด 108 MUGUET แต่งเล็บให้ดูเป็นธรรมชาติ

แฟชั่นชั้นสูง

ทรงผม

ออกแบบทรงผมโดย กุยโด ปาโล เขาเลือกปล่อยผมนางแบบให้ทิ้งตัวยาวลงมาสบายๆ แล้วคาดเกลียวเปียลงบนกระหม่อมไว้เป็นฐานรองรัดเกล้าซึ่ง สตีเฟน โจนส์ ออกแบบ จากนั้นก็ติดผ้าโปร่งคลุมหน้าผืนเล็กตามลงไป

แฟชั่นชั้นสูง แฟชั่นชั้นสูง แฟชั่นชั้นสูง


ภาพ : VINCENT LAPPARTIENT FOR CHRISTIAN DIOR PARFUMSCHRISTIAN
DIOR MAKE-UP ออกแบบลุค และกำหนดสีสันโดยปีเตอร์ ฟิลิปส์

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สวยมั่นเซ็ตง่าย! รวมลุค คนดังผมสั้น ร่วมพรมแดง GOLDEN GLOBES 2020

อินหรือเอ้าท์! อัพเดท เทรนด์แต่งหน้า สไตล์ 2020 บวกทริคแต่งแบบเดย์แอนด์ไนท์

สรุปควันหลง บิวตี้เทรนด์ ปีที่ผ่านมา และยังคงอินต่อในปี 2020 นี้

2020 แล้วต้องล้ำแบบมีมิติ! เมคอัพปากเปลือกหอย เทรนด์นี้น่าแต่งตามไหม?

ซีซั่นนี้ขอแซ่บแบบคูลๆ! เปิด 3 เทรนด์สีผมไม่ลองเปลี่ยนลุคไม่ได้แล้ว

ฟ้ามาแรง! รวมไอเดียบิวตี้สไตล์สี Classic Blue ประจำปี 2020 ซ้อมแต่งไว้ไม่เอ้าท์

รวมเมคอัพสุดไฮแฟชั่นของ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ลงปกนิตยสารแพรว ฉบับธ.ค.62

HERMÈS บุกสายบิวตี้ เตรียมปล่อยลิปสติก 24 สี อินสไปร์จากกระเป๋ารุ่นไอคอนิก

เปิดเคล็ดลับความงามของ “ซนเยจิน” ที่ทำให้สหายผู้กองเกาหลีเหนือตกหลุมรัก

ทำตัวเป็นเด็กบ้างก็ได้! เคล็ดลับหล่อกระชากวัยของ “กงยู” แถมแฮนซัมน่ากอดที่สุด

 เคยโดนดูถูกแต่ไม่ถอย! JESSI เมคอัพอาร์ติสต์ ที่ใช้ปากแทนมือแต่งหน้า

2 นางงาม เวที MU “เวียดนาม – อาร์เจนตินา” หั่นผมสั้น แซ่บรับปีใหม่!

 

 

แคมเปอร์ เปิดตัวรองเท้าสีนีออน

ต้องจัดสักคู่! แคมเปอร์ เปิดตัว SS 2020 รองเท้าสีนีออน สวยสดสะดุดตา

แคมเปอร์ เปิดตัวรองเท้าสีนีออน
แคมเปอร์ เปิดตัวรองเท้าสีนีออน

แคมเปอร์ (CAMPER) เปิดตัวคอลเล็คชั่นประจำฤดูใบไม้ผลิ–ฤดูร้อน 2020 ในคอนเซ็ปต์ “NEON” สดใสต้อนรับปีชวด

พบกับแคมเปอร์คอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ล่าสุดในคอนเซ็ปต์ “แคมเปอร์ แคมป์ปิ้ง” (Camper Camping) ที่ได้แรงบันดาลใจจากความเป็นอิสระและกิจกรรมกลางแจ้ง โดยทิ้งเรื่องราวต่างๆ เอาไว้เบื้องหลังแล้วออกไปผจญภัยในป่าเพื่อค้นพบแนวคิดใหม่ๆ ซีซั่นนี้เกี่ยวกับความขี้เล่น สนุกสนาน และความเป็นอิสระในการใช้ชีวิตนอกบ้าน โดยสีสันที่ใช้เน้นโทนสีที่แสดงถึงความสนุกสนานที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศในฤดูร้อน รวมถึงการผสมผสานระหว่างการออกแบบในสไตล์สปอร์ตและวัสดุที่ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ บวกกับเฉดสีนีออนที่ดูสดใส

แคมเปอร์
ราคา 5,950 บาท
แคมเปอร์
ราคา 5,950 บาท
แคมเปอร์
ราคา 5,950 บาท
แคมเปอร์
ราคา 5,950 บาท

ในคอลเล็คชั่นนี้ คลาวเดีย มาเทย์ (Claudia Maté) ได้มุ่งเน้นการออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดและการพัฒนารองเท้าให้มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร โดยได้แรงบันดาลใจมาจากวัยรุ่นที่หลงใหลในธรรมชาติและการก้าวออกไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงในช่วงสุดสัปดาห์ บวกกับการออกแบบที่ดูขี้เล่นผสานกับสไตล์สปอร์ต

ในซัมเมอร์นี้นีออน คอลเล็คชั่นรองเท้าจะมาทั้งในรุ่นพิกซ์ (PIX) โควบ (COURB) และน๊อตติงค์ (NOTHING) ในคอนเซ็ปต์ “นีออน” โดยมาในเฉดสีเขียวสะดุดตา

แคมเปอร์
ราคา 5,950 บาท
แคมเปอร์
ราคา 6,150 บาท
ราคา 6,550 บาท

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เรียบง่ายและผ่อนคลาย ลุคแรกของ ‘เมแกน มาร์เคิล’ กับการใช้ชีวิตในแคนาดา

สวยเท่ น่าค้นหา! ครั้งแรกของ ‘มิว นิษฐา’ กระทบไหล่ ‘จีดราก้อน’ ชมโชว์ Chanel

เจ้าแม่รันเวย์ ‘ไคอา เกอร์เบอร์’ สวมชุดแต่งงาน Givenchy พร้อมผ้าคลุมผืนยักษ์!

ช้อปตามได้! ‘ดัชเชสเคท’ เปิดตัวเดรสใหม่ในราคาเพียง 600 บาท

ท้องโตยิ่งสวย! 12 แฟชั่นชุดคลุมท้อง ‘เนย-โชติกา’ กับการเตรียมเป็นคุณแม่ลูกสอง

สวยคลาสสิกฉบับ ‘ดัชเชสเมแกน’ รวม 10 ลุคโทน Classic Blue สีประจำปี 2020

แมทช์กับอะไรก็ดี! 12 กระเป๋าแบรนด์เนม สี Classic Blue แพนโทนประจำปี 2020

ปิดตายแฟชั่นตะวันตก! การแต่งตัวของ ‘สตรีอิหร่าน’ ก่อนปฏิวัติ 2522

แต่งเหมือนนัดกันมา! รวมชุดหางปลามาแรง บนพรมแดง ลูกโลกทองคำ ปี 2020

เหตุใด 6 ลุคนี้ของ ‘ดัชเชสเคท’ ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2019

2019 ช็อกวงการแฟชั่น 5 ประเด็นดังสุดเศร้าของแบรนด์ระดับโลก

แรงมากแม่! กระเป๋าแบรนด์เนม แห่งปี 2019 มีดีอะไร ทำไมถึงฮ็อตที่สุด

เปิดคลังแสง! กระเป๋าแบรนด์เนม ไคลีย์ เจนเนอร์ รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

ลิสต์เอาไว้! กระเป๋า Louis Vuitton 6 เฉดสีหวาน สวยละมุน ชวนเสียตังค์

MQDC เปิดโครงการ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” ที่อยู่อาศัยเพื่อทุกเจเนอเรชั่น แห่งแรกของประเทศไทย

  • คอนโดมิเนียม ระดับ Super-Luxury โครงการแรกภายใต้แบรนด์  “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” ที่ถูกออกแบบเพื่อทุกเจเนอเรชั่น เติมเต็มความสัมพันธ์ของครอบครัว ให้ทุกคนได้ดูแลกัน กลับสู่รากฐานของความสุขที่แท้จริง 
  • มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท บนทำเลใจกลางสุขุมวิท เพียง 250 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าเอกมัย รายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์รองรับคนทุกเจเนอเรชั่น 
  • ใส่ใจในการออกแบบพื้นที่แห่งความสุข เลือกใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยรองรับการอยู่อาศัย
    พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยหลากหลายการบริการสุดพิเศษ และกิจกรรมสานความสุขที่ครอบคลุมทุกความต้องการ 
  • เปิดพรีเซลล์ 1 – 2 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ในราคาเริ่มต้น 175,XXX บาท / ตารางเมตร 

MQDC บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” (MULBERRY GROVE Sukhumvit by MQDC) อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรก โดยถือเป็นแบรนด์ที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนซ์ แบรนด์แรกและแห่งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ถูกพัฒนา    และออกแบบให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของครอบครัวหลากหลายช่วงวัย ภายใต้แนวคิด “DESIGN FOR THE FINEST INTERGENERATION LIVING คอนโดที่ออกแบบเพื่อทุกเจเนอเรชั่น” โดยมี นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ ประธานผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นายรุ่งโรจน์ จงศุจิพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ให้ข้อมูลโครงการ และ นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมให้ข้อมูล ณ สำนักงานขาย โครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท

นายคีรินทร์ ชูธรรมสถิตย์ ประธานผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า “ด้วยแนวคิดของ MQDC ที่มุ่งมั่นในการดำเนินงานตามแนวคิด For All Well-Being ผ่านการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย บนพื้นฐานของการสร้างสุขภาวะที่ดีในทุก ๆ องค์ประกอบ เพื่อที่จะสร้างสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงทุกช่วงวัยได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยมี “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจจาก MQDC เพื่อให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่จะเป็นพื้นที่ของความสุข ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทุกเจเนอเรชั่น         เติมเต็มความสัมพันธ์ของครอบครัวให้ทุกคนได้ดูแลกัน กลับสู่รากฐานของความสุขที่แท้จริง”

นายรุ่งโรจน์ จงศุจิพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” (MULBERRY GROVE) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า โครงการ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิทby MQDC นับเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับ Super-Luxury Residence แบรนด์แรกและแห่งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่ถูกพัฒนาและออกแบบให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของครอบครัวหลากหลายช่วงวัย บนพื้นฐานจากการศึกษาวิจัยอย่างลึกซึ้งของ MQDC ที่ทำให้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ต้องการอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ ในขณะที่ทุกคนก็ยังต้องการพื้นที่ของตัวเอง มีความต้องการ ในรายละเอียดที่แตกต่าง เราจึงออกแบบการอยู่ด้วยกันแบบ ‘INTERGENERATION’ ที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยน และการใช้เวลาอยู่ด้วยกันภายในครอบครัว โดยทุกรายละเอียดของโครงการ ได้ถูกออกแบบและพัฒนามาจากความต้องการของสมาชิกทุกรุ่น เพื่อการใช้ชีวิตในแบบ Intergeneration Living อย่างแท้จริง

โครงการ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ สูง 37 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่
2 ไร่ครึ่ง จำนวนห้องพักอาศัย 287 ยูนิต พร้อมพื้นที่จอดรถกว่า 100 % มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท 

“มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” มาพร้อมความโดดเด่นในแต่ละด้าน ตามแนวคิดสำคัญของโครงการ นั่นคือ “DESIGN FOR THE FINEST INTERGENERATION LIVING คอนโดที่ออกแบบเพื่อทุกเจเนอเรชั่น” เริ่มจาก พื้นที่ส่วนกลาง (MULBERRY INTERGENERATION FACILITY) ที่ถูกจัดสรรพื้นที่ขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น พื้นที่ส่วนกลางมากถึง 1.9 ไร่ และพื้นที่สีเขียวเกือบ 1 ไร่ ซึ่งมีจำนวนมากเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตและจำนวนผู้พักอาศัย โดย MULBERRY INTERGENERATION FACILITY แบ่งออกเป็น 5 ด้านหลัก ๆ ได้แก่ 

 

  • INTERGENERATION WELL-BEING เสริมสร้างสุขภาวะที่ดีของคนทุกเจเนอเรชั่น
    ด้วย CAREGIVER ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่คอยให้คำปรึกษา และความช่วยเหลือตลอด 24 ชม.,
    สระว่ายน้ำมากถึง 4 สระ ที่ถูกออกแบบตามความเหมาะสมของแต่ละช่วงวัย
    ทั้ง INFINITY SKY POOL, HYDROTHERAPY POOL, THERMAL POOL และ CHILDREN’S POOL, SKY-HIGH GYM STUDIO ตอบโจทย์คนรักสุขภาพด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ครบครันจากแบรนด์ที่ดีที่สุด, PRIVATE SPA ห้องสปาส่วนตัวพร้อมอุปกรณ์ครบครัน, PRIVATE SKY-HIGH ONSEN ออนเซนส่วนตัว ที่สามารถจองล่วงหน้าเพื่อใช้บริการกับคนในครอบครัว, BALLET SUITE, PATIO GYM, YOGA SUITE ที่สามารถนำครูมาสอนได้ถึงที่โครงการฯ เป็นต้น 
  • INTERGENERATION KNOWLEDGE พื้นที่แห่งการเรียนรู้สุดหลากหลายได้ที่โครงการฯ
    ด้วย PRIVATE STUDY STUDIO พื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำงาน ทำการบ้าน หรือเรียนพิเศษ
    ที่สามารถจองเพื่อใช้งานส่วนตัวได้, THE MULBERRY’S LIBRARY ห้องสมุดที่จะรวบรวมหนังสือประเภทต่าง ๆ ไว้, CHILDREN’S ROOM ที่ถูกออกแบบเพื่อให้สภาพแวดล้อมช่วยส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กทุกคนค้นพบความสามารถ และพัฒนาทักษะทางสังคมของพวกเขา
  • INTERGENERATION SOCIAL LIFESTYLE SUITE พื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ สานความสุข ทั้ง GRAND PRIVATE FAMILY ROOM ห้องกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับครอบครัว ภายในมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน, RESIDENTIAL LOUNGE เลานจ์สุดหรู พื้นที่สำหรับการพักผ่อน เพลิดเพลินกับทิวทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้า พร้อมบริการ Afternoon Tea ฟรีทุกวัน, PRIVATE STYLE ATELIER ห้องแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม และทำเล็บสำหรับคุณผู้หญิง ที่สามารถเรียกช่างมาเสริมความงามแบบส่วนตัวได้ ซึ่งโซนดังกล่าวสามารถจองการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นได้อย่างสะดวกสบาย
  • INTERGENERATION NATURE สร้างที่อยู่อาศัยให้อยู่คู่ธรรมชาติ กับ 3 สวนยั่งยืนบนพื้นดินโครงการ GOURMET COURTYARD สวนปลูกพืชผักสวนครัวที่ลูกบ้านสามารถมาร่วมกันปลูกผักไว้รับประทานเองได้ ซึ่งทางโครงการมีเจ้าหน้าที่ดูแลสวนผักเพื่อนำมาบริการให้สำหรับลูกบ้าน, ENGLISH COURTYARD สวนหน้าบ้านที่ออกแบบเป็นสวนในสไตล์อังกฤษ ที่สามารถให้ผู้อยู่อาศัยมาปิคนิคกันได้, INTERGENERATION COURTYARD พื้นที่สำหรับทุกเจเนอเรชั่นมาใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่จิบน้ำชาสำหรับคุณแม่ สนามเด็กเล่น บ้านต้นไม้ และพื้นที่
    ออกกำลังกายของผู้สูงอายุ
  • INTERGENERATION MULBERRY SERVICE ยกระดับคุณภาพชีวิต กับการบริการครบครัน
    ทั้ง WELLNESS MANAGER เจ้าหน้าที่ดูแลและให้คำปรึกษาด้านการออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพ, COMPLIMENTARY AFTERNOON TEA มีบริการน้ำชา และอาหารว่างให้แก่ลูกบ้านฟรี, CONCIERGE SERVICE เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือไลฟ์สไตล์ด้านต่าง ๆ, MULBERRY ACTIVITIES กิจกรรม หรือเวิร์คชอปต่าง ๆ ที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้สำหรับผู้อยู่อาศัยได้ร่วมสานความสุขในครอบครัวตลอดทั้งปี 

 

ในส่วนของการออกแบบภายในตัวโครงการและส่วนห้องพัก ตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวคิด “DESIGN FOR THE FINEST INTERGENERATION LIVING” ออกแบบให้พื้นที่ภายในห้องพัก กลายเป็นบ้านที่ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขที่สุด มีทั้งพื้นที่ส่วนตัว แต่ก็ยังมีพื้นที่ที่สามารถแบ่งปัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ เพื่อใช้เวลาอยู่ร่วมกัน สร้างรากฐานแห่งความสุขของการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง

ภายในห้องพักถูกออกแบบให้มีรายละเอียดสำหรับทุกช่วงวัยไม่ว่าจะเป็น NOOK MULTI-PURPOSE SPACE พื้นที่อเนกประสงค์ที่ออกแบบไว้ให้สำหรับเป็นพื้นที่ส่วนตัว ปรับใช้ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น   มุมอ่านหนังสือสำหรับเด็ก ๆ มุมรับประทานน้ำชาของคุณแม่ หรือมุมจัดสวนสำหรับคุณปู่, WIDE FRONTAGE DESIGN ห้องพักทุกห้องเป็นกระจกหน้ากว้างที่สามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มที่, LIVING ROOM ห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกัน เป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถมารวมตัวกันทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว, A SPACIOUS MASTER BEDROOM ห้องนอนที่ออกแบบมาให้มีสภาพแวดล้อมที่กว้างขวาง พื้นที่บริเวณรอบเตียงสามารถเข็นรถเข็นของผู้สูงอายุ เข้าไปได้   และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับเตียงเสริมได้, ENCLOSED DESIGN KITCHEN ห้องครัวขนาดใหญ่แบบปิด และมีระบบระบายอากาศ 2 ระบบ ที่สามารถกำจัดกลิ่นไม่ให้รบกวนพื้นที่อื่น ๆ พร้อมอุปกรณ์ครัวคุณภาพครบครัน พร้อมกันนั้น ในแต่ละห้องนอนถูกออกแบบให้มี ระบบ ERV (ENERGY RECOVERY VENTILATION) ที่สามารถตรวจวัดอากาศภายในห้อง โดยตรวจวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ และนำออกซิเจนเข้ามาในห้องอย่างอัตโนมัติเพื่อให้มีอากาศบริสุทธิ์ให้กับทุกคนในครอบครัว ที่สำคัญแต่ละยูนิตได้ออกแบบโครงสร้างเพื่อให้สามารถปรับเชื่อมต่อกันได้ เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการอยู่อาศัย รองรับความต้องการของครอบครัวในทุกรูปแบบและที่สำคัญ MQDC ยังรับประกันโครงการนานถึง 30 ปี

ปิดท้ายที่ความสะดวกสบายของทำเลที่ตั้ง ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของแต่ละช่วงวัยให้มีความลงตัว   และสะดวกสบายมากที่สุด โดยตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นศูนย์กลางของย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ      เป็นศูนย์กลางของการดำเนินชีวิต วัฒนธรรม ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเอกมัยเพียง 250 เมตร ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน รายล้อมด้วยโรงเรียน ย่านธุรกิจ แหล่งไลฟ์สไตล์ รวมถึงโรงพยาบาลชั้นนำ 

ทั้งนี้ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” ประกอบด้วยห้องพัก 1 Bedroom ขนาด 47 – 56.50 ตร.ม.,
2 Bedroom ขนาด 87 – 114 ตร.ม. และ Penthouse 2 – 5 Bedroom ในราคาขายเริ่มต้นอยู่ที่ 175,XXX บาท / ตารางเมตร โดยมีกำหนดเปิดพรีเซลล์ในวันที่ 1 – 2 กุมภาพันธ์ ศกนี้ โดยเชื่อว่าจากความตั้งใจในการออกแบบ ที่ให้ความสำคัญในทุก ๆ รายละเอียด “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” จะเป็นพื้นที่ของความสุขที่สามารถสานความสุข ให้ทุกเจเนอเรชั่นได้อย่างแท้จริง” นายรุ่งโรจน์ กล่าว

ด้าน นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เทรนด์การเลือกที่อยู่อาศัยของคนในยุคปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์สังคมไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ซึ่งจำเป็นต้องมีที่อยู่อาศัยที่สามารถรองรับกับความต้องการดังกล่าวได้     

 “ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มการพัฒนาโครงการอสังหาฯเทรนด์ใหม่เริ่มเด่นชัดเช่นกัน ซึ่งผู้ประกอบการเริ่มหันมาพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น เหมือนกับทาง MQDC ที่ได้ทำการศึกษาวิจัย และพัฒนาเป็น “มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท” ที่เปิดตัวในวันนี้

นอกจากการพัฒนาโครงการเพื่อให้ตอบโจทย์สังคมที่เปลี่ยนไปแล้ว การบริการต่าง ๆ ภายในโครงการก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะโครงการระดับ Super-Luxury ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเลือกสรรบริการที่มีความพรีเมียม เป็นที่ยอมรับ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกบ้าน อาทิ Caregiver Service บริการการดูแลผู้สูงวัยด้านสุขภาพ หรือเมื่อมีเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ, Wellness Manager เจ้าหน้าที่ดูแล และให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพ, Concierge Service เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ และ 30-Year Warranty การรับประกัน 30 ปี ครอบคลุมองค์ประกอบหลัก 4 อย่าง อาทิ อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในยูนิต โครงสร้าง, ประตู หน้าต่าง, ระบบสุขาภิบาล และระบบไฟฟ้า

นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่ต่างกัน เพราะสังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่ Sharing Community หรือเน้นการมาพบปะและทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น ซึ่งแต่ละโครงการควรให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง ไม่ใช่เพียงสระว่ายน้ำ หรือฟิตเนส แต่ต้องมีส่วนกลางที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์   และเอื้อต่อการสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมกัน สร้างชุมชนของโครงการให้เป็นสังคมที่น่าอยู่ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ให้มีความสุขในการใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียมได้อย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น” นางสาวอลิวัสสา กล่าวในตอนท้าย

keyboard_arrow_up