หายเอ่ยถึง โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) หลายคนอาจเกิดคำถามว่า… คืออะไร? แต่สำหรับนักสะสมงานศิลปะทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์จิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านชื่อก้องโลก โดยช่างฝีมือชั้นสูงสัญชาติไทยมาตรฐานระดับสากล ก่อตั้งโดย คุณรอล์ฟ วอน บูเรน และภรรยา เฮเลน วอน บูเรน ในปี พ.ศ. 2525
แม้ คุณรอล์ฟ วอน บูเรน จะเป็นชาวเยอรมัน และ ภรรยา คุณเฮเลน วอน บูเรน เป็นลูกครึ่ง สกอตแลนด์-ไทย แต่หัวใจรักเมืองไทยเกินร้อย และด้วยความรักในงานศิลปะ รักงานดีไซน์ กอปรกับความชื่นชอบท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมและงานหัตถกรรมของแต่ละประเทศทั่วโลก สิ่งเหล่านี้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบจิเวลรี่และของตกแต่งบ้าน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสะท้อนงานศิลป์สไตล์เอเชีย ผ่านวัสดุหลากหลายที่หายากมาสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานอันเลอค่า ที่เป็นมากกว่าเพียงแค่จิเวลรี่และของตกแต่งบ้าน
จากวันนั้นถึงวันนี้ กว่า 37 ปี โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ เป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ที่อยู่ในใจของเหล่านักสะสมทั่วโลกได้รู้จักคำว่า “แบรนด์จิเวลรี่และของตกแต่งบ้านจากประเทศไทย มาตรฐานระดับสากล และสร้างชื่อเสียงระดับโลก”
โดยทุกชิ้นงานจะเริ่มต้นออกแบบในประเทศไทยและจะถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อประดิษฐ์ชิ้นงานก่อนจะถูกส่งกลับมาประเทศไทยอีกครั้งเพื่อให้ช่างฝีมือของไทยซึ่งได้ชื่อว่ามีฝีมือละเอียดอ่อน ประณีต ได้ทำการเก็บรายละเอียดต่างๆ ก่อนออกสู่สายตาให้คนทั้งโลกได้ยลโฉมงานศิลปะอันเลอค่า
และถือเป็นโอกาสอันดีที่ทางแบรนด์ฯ ได้ทำคอลเล็คชั่นพิเศษฉลอง 37 ปี ซึ่งแต่ละชิ้นได้สะท้อนความสวยงามของศิลปหัตถกรรมของประเทศในแถบเอเชีย ได้แก่ ศิลปะการลงรัก แบบมากิเอะ จากประเทศญี่ปุ่น และ การลงรักสีแดงชาด จากประเทศจีน มาปรากฏในชิ้นงานแต่ละชิ้น วันนี้จึงอยากจะพาไปเรียนรู้คุณค่าของงานศิลปะ ที่สะท้อนจิตวิญญาณของวัฒนธรรมแต่ละประเทศ
เริ่มต้นกันที่ประเทศที่คนไทยหลงใหลมากที่สุด “ญี่ปุ่น” ประเทศเล็กๆ ที่มีมหาสมุทรแปซิฟิกล้อมรอบ แม้จะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก แต่ยังคงรักษาวัฒนธรรม ศิลปะ อันเป็นแก่นของชาติไว้ได้อย่างดีงาม ซึ่งศิลปะต่างๆ ของญี่ปุ่นนั้นส่วนมากมีรากฐานมาจากศาสนาชินโต ครอบคลุมไปถึงความเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ในธรรมชาติมิติต่างๆ ผสานกับพุทธศาสนานิกายเซนด้วยแนวคิดนิยมธรรมชาติและความเรียบง่าย
สิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดสู่งานศิลปะ เช่น ชะโด (พิธีชงชา), อิเคะบะนะ (การจัดดอกไม้), โชโดะ (การเขียนพู่กันญี่ปุ่น) รวมถึงเครื่องปั้นดินเผาโบราณ ประติมากรรม และการเขียนตัวอักษรบนผ้าไหมและกระดาษ ภาพอูกิโยะ และภาพที่พิมพ์จากแม่พิมพ์ไม้แกะสลักงานเครื่องเคลือบ การพับกระดาษ เป็นต้น
ทั้งหมดล้วนได้รับอิทธิพลอย่างมากจากปรัชญาอันเป็นเอกลักษณ์ของนิกายเซน เน้นความสงบ ความเรียบง่าย และการเติบโตของตนเอง เมื่อญี่ปุ่นเปิดการติดต่อกับโลกตะวันตกในช่วงศตวรรษที่ 19 ศิลปะญี่ปุ่นมีอิทธิพล อย่างยิ่งต่อศิลปะยุโรป โดยเฉพาะกับแนวศิลปะบาศกนิยม (Cubism) และอิมเพรสชันนิสม์ (Impressionism) และมีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมและการออกแบบของตะวันตกในช่วงศตวรรษที่ 20

ชาวญี่ปุ่นได้พัฒนาเทคนิค “การลงรัก แบบมากิเอะ” (Maki-e lacquering) ซึ่งเป็นศิลปะการลงรักอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่นโดย การลงรัก แบบมากิเอะ (Maki-e lacquering) เป็นเทคนิคที่นิยมใช้เพิ่มความสวยงามให้กับของใช้ในครัวเรือนทำจากไม้ สำหรับราชวงศ์และผู้นำทางทหารในฐานะสัญลักษณ์แห่งอำนาจ โดยใช้พู่กันวาดภาพลงบนภาชนะ เครื่องใช้ในครัวเรือน แล้วลงรักด้วยการโรยผงทอง ก่อนจะเคลือบทับด้วย แลคเกอร์จากธรรมชาติ
“สาธารณรัฐประชาชนจีน” เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีงานศิลปหัตถกรรมอันลือเรื่องของโลกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจาก ลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื๊อ และพุทธศาสนา จนเกิดเป็นความเชื่อต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะความเชื่อในเรื่อง “เทพเจ้า” ที่จะนำความมงคลมาสู่ครอบครัว
นอกจากเครื่องประดับนำโชคแล้ว ยังเชื่อเรื่องการนำของมงคลมาตกแต่งบ้าน ตามศาสตร์ ฮวงจุ้ย อาทิ จิ้นฉาน หรือ คางคกนำมาซึ่งความโชคดีช่วยดึงดูดและคุ้มครองความมั่งคั่ง ร่ำรวยและปกป้องโชคร้าย
พระจีนถือเงินตำลึงจีน แสดงถึงความมั่งคั่งและความโชคดี
เต่า สัญลักษณ์การมีอายุยืนยาว จึงเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ได้มาครอบครอง หากต้องการนำรูปปั้นเต่ามาประดับไว้ในบ้าน ตำแหน่งที่ควรวางไว้คือห้องผู้สูงอายุ เหมือนกับเป็นเครื่องรางช่วยเสริมพลังงานชีวิตของผู้สูงอายุให้มีอายุยาวนานขึ้น
ศิลปะแบบจีนที่โด่งดังไปทั่
เสือ สัญลักษณ์ของผู้ทรงอำนาจ กล้าหาญ และแข็งแกร่งสมเป็นผู้นำ ห้องของผู้บริหารจึงเหมาะที่
มังกร ชาวจีนเชื่อว่า มังกร คือ สัตว์ของเทพเจ้า เป็นตัวแทนแห่งพลังอำนาจ ความยิ่งใหญ่ ความรุ่งเรือง ดังนั้นจึงนิยมนำรูปปั้นมั

แน่นอนว่างานเครื่องเขิ
“หยกแกะสลัก” เป็นอีกหนึ่งอัญมณีสำคั
หยก เป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอำนาจปกป้
ดังนั้นชาวจีนจึงนำหยกมาเป็
ได้เรียนรู้ศิลปะ ความงดงามของงานฝีมือจากผู้เชี่ยวชาญ จากหลากหลายประเทศผ่านจิวเวลรี่และของตกแต่งบ้านที่แฝงไปด้วยความหมาย คุณค่าของวัฒนธรรมที่สะท้อนออกมาเป็นงานดีไซน์อันมีเอกลักษณ์… ผู้ที่หลงใหล งานศิลปะจากช่างฝีมือชั้นสูง สามารถครอบครองงานดีไซน์สุดเลอค่ากับ 90 ผลงานแฮนด์เมดมาสเตอร์พีซ จากช่างฝีมือชั้นสูง สะท้อนคุณค่าวัฒนธรรมและหัตถกรรมของเอเชีย เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 37 ปี แบรนด์โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ (Lotus Arts de Vivre) ได้ที่ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีค ชั้น 1 โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ เวลา 10.00 – 19.00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.lotusartsdevivre.com