ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทย

ปังมากกก! แอน-อั้ม 2 ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทย ปะทะกันบนปก แพรว ก.พ. 63

Alternative Textaccount_circle
ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทย
ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทย

นิตยสารแพรว ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ปังหนักมาก! เมื่อ 2 ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทย ‘แอน ทองประสม‘ และ ‘อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ‘ โคจรมาเจอกันบนปกล่าสุด

ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทย

เรียกว่ารับไม้ต่อจากปก 3 สามีแห่งชาติ ก้อง-ซันนี่-นาย ได้อย่างสมศักดิ์ศรีจริงๆ สำหรับนิตยสารแพรว ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2563 กับปกสุดปังที่เกิดจากการโคจรมาเจอกันของ 2 ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทย ‘อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ’ และ ‘แอน ทองประสม’ ในลุคผมหน้าม้าสุดคิวต์ ซึ่งทีมงานแพรววางคอนเซ็ปต์ให้ แอน-อั้ม เป็นคุณหนูคู่ซี้ในลุคสุดแพง แฝงไปด้วยความหวาน เซ็กซี่ ซุกซน ปนเท่เบาๆ

ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทย

สำหรับอีกหนึ่งเหตุผลที่ชาวแพรวควรมีฉบับนี้ไว้ในครอบครอง เพราะนี่นับเป็นครั้งแรกที่ แอน-อั้ม ได้มาร่วมงานแบบเจอหน้ากันจริงๆ กับทีมงานแพรว หลังจากที่เฉียดกันไปเฉียดกันมาหลายครั้ง รวมถึงในแฟชั่นเซตของนิตยสารแพรว เมื่อปี 2547 ที่เป็นการมาทำงานแบบคนละเวลา เพราะคิวว่างไม่ตรงกัน

ตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทย

บอกเลยว่าเอ็กซ์คลูซีฟจริงๆ จ้าพี่จ๋า ใครที่เป็นชาวแพรวพันธุ์แท้ และเป็นแฟนตัวยงของทั้ง 2 อ. ตัวแม่ ‘แอน ทองประสม’ และ ‘อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ’ ก็อย่าลืมตามไปเป็นเจ้าของนิตยสารแพรว ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งจะวางแผงกันเร็วๆ นี้ได้เลยจ้า


 

ภาพ : นิตยสารแพรว ฉบับ 955

แต่งหน้าโทนส้ม

โทนนี้สีผิวไหนก็รอด! แนะทริค แต่งหน้าโทนส้ม ให้สวยสดใสสไตล์ชมพู่ อารยา

Alternative Textaccount_circle
แต่งหน้าโทนส้ม
แต่งหน้าโทนส้ม

โทนนี้สีผิวไหนก็รอด! แนะทริค แต่งหน้าโทนส้ม ให้สวยสดใสสไตล์ชมพู่ อารยา

แม้ว่า PANTONE ปี 2020 นี้จะคือ สี Classic Blue จากชาร์จ PANTONE หมายเลข 19-4052 ซึ่งเป็นสีน้ำเงินที่สง่าเรียบง่ายเหมือนท้องฟ้ายามค่ำนั้น แต่เชื่อเถอะว่าเมคอัพสีที่สวยคลาสสิก และสาวๆ นิยมแต่งกันมากชนิดที่ว่าแต่งไปไหนก็รอด ไม่ตกม้าตายแน่นอนก็คือ โทนส้ม และโทนชมพู

แต่วันนี้ แพรวดอทคอม จะขอหยิบยกไอเดียการ แต่งหน้าโทนส้ม มาบอกทริคกันสักน้อยว่าทำไมสาวๆ จึงควรแต่งโทนนี้ พร้อมกับที่นำไอเดียเมคอัพสไตล์ขุ่นแม่ชม – ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต มาฝากด้วย จะได้เห็นชัดๆ ว่าโทนร้อนนี้สวยและละมุน แต่แอบเปรี้ยวแค่ไหน

แต่งหน้าโทนส้ม

ซึ่งจริงๆ แล้วเชื่อว่าสาวๆ หลายคนยอมรับแหละว่า สีชมพู นี่แหละรอดสุด แต่กับบางคนที่ไม่ใช่สายหวานอาจจะค้านในใจว่าโทนสีเบสิค นอกจากสีชมพูที่รอดจริงๆ ก็คือสีน้ำตาลต่างหากล่ะ และก็อาจจะคิดว่าสีส้มแต่งยากจะตายไป แต่อยากจะบอกว่าสีโทนนี้ฮิตไม่น้อยนะจ๊ะ เพราะสีส้มบางเฉดจะออกโทนสีพีช ซึ่งเป็นสีโปรดของใครหลายคน แถมแต่งได้ยังเข้ากับทุกสีผิวอีกด้วย

บอกเลยว่าปัง ไม่ควรมองข้ามโทนนี้เด็ดขาด เพราะไม่ว่าจะใช้สีเข้มแบบสไตล์คัลเลอร์บล็อกหรือแต่งอ่อนๆ ให้ใบหน้าดูไม่ป่วย เมคอัพโทนสีส้ม ก็สามารถนำมาแต่งได้ทั้งบนเปลือกตา แก้ม และปาก ช่วยทำให้หน้าดูสดใส มีชีวิตชีวา มีความเปรี้ยวอมหวานกรุบๆ นอกจากนี้ สีส้มจะช่วยอําพรางปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้อีกด้วย เพราะจะช่วยวอร์มผิวหน้าให้ดูกลมกลืนและสมดุลกับสีผิวจริง ทำให้รอยแดงหรือใต้ตาดำต่างๆ ดูจะลดลงอีกด้วย

และนอกจากสาย ฝ. ที่ชอบแต่งโทนนี้ สายเอเชียอย่างฝั่งเกาหลีก็ฮ็อตไม่แพ้กันเลยละค่ะ ซึ่งการแต่งหน้าโทนส้มนี้ เพื่อไม่ให้ใบหน้าทั้งหมดกลายเป็นส้มทั้งสวน จึงควรเน้นที่การทาปากให้มีสีส้มฝาดๆ จะไม่ต้องแน่นมาก แนะนำเนื้อแมตต์ ทาแล้วใช้นิ้วเกลี่ยๆ ช่วยให้เบลอสวยๆ ก็ได้ พร้อมฟาดอายแชโดว์ในโทนสีส้มลงบนเปลือกตา แต่ขอเน้นเป็นเนื้อแมตต์เช่นกัน ไม่เอาชิมเมอร์นะจ๊ะ ไม่งั้นได้พุ่งไปดาวอังคารแน่ ส่วนแก้มปัดให้อ่อนที่สุด หรือไม่ปัดเลยก็ได้ ไม่เน้นแต่งแก้มให้มีสีส้มเด่นออกมาไม่งั้นใบหน้าจะไม่มีมิติ ไม่มีจุดให้โฟกัสสักอย่าง

เทคนิคการแต่งหน้าโทนส้ม จำไว้ให้ขึ้นใจเลยว่าเลือกทาแค่สองอย่างก็พอ เช่น ปากกับตา หรือ ตากับแก้ม เท่านั้น อย่าเหมาหมดทั้งตา แก้ม และปาก เพราะมันจะดูเยอะเกินไป

และสีส้มมีหลายเฉดสี  แนะนำว่าถ้าสีผิวอ่อนให้เลือกสีส้มอมน้ำเงิน ถ้าสีผิวปานกลางให้เลือกสีส้มแท้ ถ้าสีผิวเข้มก็ให้เลือกสีส้มอมแดง ถ้าสาวๆ มีปัญหาในการหาอันเดอร์โทนของสีส้ม แค่จำไว้ว่ายิ่งผิวอ่อนยิ่งต้องเลือกสีส้มอ่อนตามผิวเราไปด้วย และถ้าผิวเข้มก็จะเหมาะกับสีส้มที่เข้มขึ้นหน่อย เพื่อให้สีดูคมชัดบนใบหน้าและไม่หายกลืนไปกับสีผิวนั่นเอง

 แต่งหน้าโทนส้ม แต่งหน้าโทนส้ม


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ IG : chomismaterialgirl , yiim_makeup

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Tips แต่งหน้าโทนสีส้มพีชให้ซี๊ดขึ้น จากเมคอัพอาร์ติสต์คู่กาย “ไคลีย์ เจนเนอร์”

ฟ้ามาแรง! รวมไอเดียบิวตี้สไตล์สี Classic Blue ประจำปี 2020 ซ้อมแต่งไว้ไม่เอ้าท์

ทริคเทคแคร์ผิวและใต้ตาให้สดใสของ Fei Fei Sun ซูเปอร์โมเดลหมวยอินเตอร์

หวานแหววเชียว! แม่แอฟ แต่งหน้าให้ น้องปีใหม่ เป็นครั้งแรกในวันซ้อมใหญ่บัลเลต์

เคล็ดลับหน้าเด็กและผิวดีของ ยูอินนา ไม่ได้มาเพราะธรรมชาติแต่ต้องใส่ใจ!!

DIOR เปิดซีซั่น SS 2020 ด้วยเมคอัพลุค แฟชั่นชั้นสูง กรีดหางตาเป็น ปีก สวยเฉี่ยว

เปิดเคล็ดลับความงามของ “ซนเยจิน” ที่ทำให้สหายผู้กองเกาหลีเหนือตกหลุมรัก

“ฉันเป็นผู้หญิงข้ามเพศ” Nikkie บิวตี้ยูทูปเบอร์ชื่อดัง เผยความลับที่ปิดมา 11 ปี

สรุปควันหลง บิวตี้เทรนด์ ปีที่ผ่านมา และยังคงอินต่อในปี 2020 นี้

บิวตี้ทิปส์ดูแลผิวและใต้ตาของ “มิว นิษฐา” แม้ลุยงานหนักก็ยังสวยได้ ไม่มีโทรม!!

2020 แล้วต้องล้ำแบบมีมิติ! เมคอัพปากเปลือกหอย เทรนด์นี้น่าแต่งตามไหม?

 

 

CU Cheerleader

ต่อเนื่อง 3 ปี NARS ผู้สนับสนุนแต่งหน้าอย่างเป็นทางการ CU Cheerleader รุ่น 74

CU Cheerleader
CU Cheerleader

NARS Cosmetics ผู้สนับสนุนแต่งหน้าอย่างเป็นทางการ CU Cheerleader แบรนด์เครื่องสำอางแฟชั่นจากนิวยอร์ก ก่อตั้งขึ้นโดย ฟรองซัวส์ นารส์ (François Nars) ตอกย้ำความเป็นแบรนด์เครื่องสำอางแฟชั่นและสนับสนุนทุกการสร้างสรรค์งานศิลป์อย่างแท้จริง

ภายใต้แคมเปญระดับโลก ‘NARS Artist Program’ (นาร์ส อาร์ทิสต์ โปรแกรม) จึงได้ร่วมทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนแต่งหน้าอย่างเป็นทางการให้กับผู้นำเชียร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Cheerleader) รุ่นที่ 74 ประจำปี 2020 จำนวน 15 คน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 การสนับสนุนในปีนี้ NARS นำคอลเล็กชั่นบลัชออนเม็ดสีเข้มข้น 10 เฉดสีใหม่ที่โดดเด่นด้วยเฉดสี ORGASM X ปัดพวงแก้มให้สดใสและไอเท็มแต่งผิวชิ้นสำคัญรุ่นคลาสสิกยอดนิยมระดับสากลของนาร์ส ไม่ว่าจะเป็น Natural Radiant Longwear Foundation รองพื้นสูตรมอบการปกปิดระดับสูง แนบสนิทติดทนนาน Sheer Glow Foundation รองพื้นเนื้อโปร่งใส ครองใจสาวกประจำแบรนด์ตลอดกาล และ Radiant Creamy Concealer คอนซีลเลอร์สูตรอเนกประสงค์ ติดอันดับขายดี เนื้อสัมผัสเกลี่ยง่าย มอบการปกปิดและอำพรางริ้วรอยข้อบกพร่องบนผิวให้ดูกระจ่างสดใสเป็นธรรมชาติอย่างแนบเนียน เพื่อนำมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะการแต่งหน้าให้แก่ผู้นำเชียร์ได้มีเมกอัปลุคที่อินเทรนด์ตลอดการทำกิจกรรมของสถาบันการศึกษา อาทิ การถ่ายภาพโปรโมตกิจกรรมและร่วมงานแถลงข่าวต่างๆ อีกทั้งจัดเวิร์กช็อปสอนแต่งหน้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟแก่กลุ่มผู้นำเชียร์ ณ NARS 979 Boutique Siam Center เพื่อถ่ายทอดการครีเอตเมกอัปลุคและการใช้เครื่องสำอางได้อย่างเหมาะสมในแบบฉบับเฉพาะตัว

ภาพผลงานล่าสุดการแต่งหน้าผู้นำเชียร์ถ่ายภาพโปรโมทงาน “BAKA Begins งานเปิดเทศกาลงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 74”

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

CU Cheerleader

นอกจากนี้ NARS ยังสนับสนุนแต่งหน้าให้กับ CU Cheerleader ให้กับรุ่น 73 และรุ่น 74 รวมจำนวน 30 คน ในวันงาน BAKA Begins เทศกาลงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 74 ที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 8 ก.พ. 63 ณ สนามศุภชลาสัย

ความสัมพันธ์ร้าวฉานของ “แมดด็อกซ์” และอดีตพ่อบุญธรรม “แบรด พิตต์”

account_circle

เผยสาเหตุ ความสัมพันธ์ร้าวฉานของ “แมดด็อกซ์” ที่มีต่ออดีตพ่อบุญธรรม “แบรด พิตต์” บาดแผลในใจที่ยากเกินจะลบเลือน แม้เวลาจะผ่านมาแล้วถึง 3 ปี หลังพ่อแม่บุญธรรมของเขาเลิกรากัน

ลองนึกภาพการมีพ่อแม่เป็นคนดัง โดยเฉพาะซุป’ตาร์ระดับโลกอย่างวงการฮอลลีวู้ด ในอีกด้านหนึ่งคุณอาจจะได้รับผลประโยชน์ ได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง ได้ออกไปพบเจอผู้คนมากมายและได้ไปร่วมเดินพรมแดงพร้อมกับพ่อแม่พวกเขา ซึ่งดูแล้วมันก็น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?

แต่ในทางกลับกัน ชีวิตของเด็กๆ เหล่านั้นอาจจะได้รับความสนใจที่มากเกินไป อย่างการถูกตามถ่ายรูปจากเหล่าปาปารัสซี่ตลอดเวลา ไม่มีความเป็นส่วนตัว แม้พ่อแม่ของพวกเขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะปกป้องลูกๆ จากสิ่งเหล่านั้น แต่ดูเหมือนว่าก็ไม่ค่อยเป็นผลมากนัก ซึ่งหนึ่งในครอบครัวที่ลูกๆ ของพวกเขาได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ เป็นอย่างมากเห็นจะเป็นเด็กๆ จากตระกูล Jolie-Pitt

แมดด็อกซ์

ความสัมพันธ์ของครอบครัวนี้ ภายนอกนั้นดูอบอุ่น เพราะก่อนที่ทั้งคู่จะหย่าร้างกัน เวลาไปไหนมักยกกันไปเป็นขบวน ลูกๆ ของพวกเขามักอยู่ในสายตาของทั้งคู่ตลอด แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆ แล้วความสัมพันธ์ของ แมดด็อกซ์ ลูกชายคนโต เด็กชายชาวกัมพูชาและแบรด พิตต์ พ่อบุญธรรม เริ่มไม่ลงรอยและมีความตึงเครียดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งโจลี่และแบรดเลิกกัน แมดด็อกซ์ก็ยังมีทีท่าห่างเหินและเคยเผยด้วย “เขาไม่เห็นว่าตัวเองเป็นลูกชายของแบรด”

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 ข่าวการเลิกราของแบรดและโจลี่นั้นสร้างความเซอร์ไพร้ส์ให้กับใครหลายคนไม่ใช่น้อย เมื่อโจลี่ออกมาประกาศหย่าสามีที่ครองคู่มานานถึง 12 ปี ทำเอาคนทั่วโลกตกตะลึง เพราะไม่น่าเชื่อว่าคู่ที่เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันทั้งครอบครัว เป็นพ่อแม่ตัวอย่างที่รักลูกมากจะตัดสินใจแยกทางกัน

ซึ่งสาเหตุใหญ่อันเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้โจลี่และแบรดเลิกกันนั้น รวมถึงพ่อลูกเข้าหน้ากันไม่ติด โดยสื่อต่างประเทศได้เผยว่า ในช่วงเดือนกันยายน 2559 แบรด พิตต์และแมดด็อกซ์ได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ขณะที่ครอบครัวกำลังเดินทางจากฝรั่งเศสไปแอลเอ สหรัฐอเมริกา ซึ่งแหล่งข่าวอ้างว่า แบรด พิตต์ ที่อยู่ในสภาพเมามายได้ลงมือทำร้ายแมดด็อกซ์หลังจากที่เขาแสดงท่าทีว่ากำลังปกป้องโจลี่ เพราะหงุดหงิดที่ภรรยาขอร้องให้เขาเงียบลง

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าแมดด็อกซ์มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร สื่อบางสำนักได้รายงานเพิ่มเติมว่า อันที่จริงแล้วแบรด พิตต์ ไม่ได้ทำร่างกายลูกชาย เพียงแต่ใช้คำต่อว่าที่รุนแรงกับแมดด็อกซ์และโจลี่เท่านั้น

โดยเหตุการณ์นี้หน่วยคุ้มครองเด็กและครอบครัว ลอส แอนเจลิสได้เข้ามาสืบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า แบรด พิตต์ได้ลงมือทำร้ายแมดด็อกซ์จริงหรือไม่ ซึ่งผลจากการสืบสวนออกมาว่า แบรดจำทุกๆ อย่างในวันนั้นได้ เขาไม่ได้เมาจนขาดสติถึงขั้นทำร้ายร่างกายแมดด็อกซ์

ภายหลังจากเหตุการณ์บนเครื่องบิน โจลี่ก็ได้ยื่นเรื่องฟ้องหย่าแบรด พิตต์ ด้วยเหตุผลที่ว่า “เข้ากันไม่ได้ และอารมณ์ของเขาจะส่งผลต่อการเลี้ยงดูเด็กๆ” ซึ่งแหล่งข่าว  TMZ ได้เผยว่าแบรดมีปัญหาในการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะเป็นการมีอารมณ์ฉุนเฉียวกับเด็กๆ และยังมีการใช้กัญชา รวมถึงมีการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากจนเกินไป ซึ่งโจลี่มองเห็นว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นอันตรายต่อเด็กๆ ได้

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นการฟ้องหย่าเพื่อให้สิทธิ์เลี้ยงดูลูกดูเหมือนจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะทางแบรดเองก็ได้หลักฐานซึ่งเป็นเทปลับที่แฉอดีตภรรยาของเขาว่าเป็นพวกคลั่งยาเสพติด และนิยมเซ็กซ์วิตถาร ซึ่งหากเทปนี้หลุดออกไปโจลี่จะถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้ดูแลลูกๆ ทั้ง 6 คนคือ  น็อกซ์ และวิเวียน ลูกฝาแฝดของทั้งคู่ แม็ดดอกซ์​,  แพกซ์, ซาฮาร่า, ไชโลห์ ซึ่งเด็กทั้งสามคนนี้เป็นลูกบุญธรรมที่โจลี่อุปถัมป์มาเลี้ยง ทั้งนี้เทปเจ้าปัญหาของโจลี่นั้นก็ยังไม่ได้หลุดออกมาและไม่มีใครเห็นว่ามันจริงอย่างที่แบรดพูดหรือเปล่า

หลังจากเหตุการณ์บนเครื่องบินและการหย่าร้างของโจลี่และแบรด มีรายงานจากวงในว่า “แมดด็อกซ์ ไม่ต้องการเห็นพ่อของเขาอีก” และ “เขาไม่เห็นว่าตัวเองเป็นลูกชายของแบรด” จริงอยู่ที่ว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ออกมาจากแมดด็อกซ์โดยตรง แต่มีการคาดการณ์ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ซ่อมให้ดีเหมือนเดิม ดูจากการนัดเจอของแบรดกับลูกๆ แต่ไร้เงาของแมดด็อกซ์ ซึ่งเด็กหนุ่มมักใช้เวลาอยู่กับแม่ของเขามากกว่า

สถานการณ์ทั้งหมดดูเหมือนว่าจะมีผลกระทบยาวนานกับความสัมพันธ์ของแบรดและลูกชายของเขา แม้ว่าโจลี่ และแบรดจะเลิกรากันไปพักใหญ่แล้วก็ตาม

แมดด็อกซ์

โดยในช่วงเดือนกันยายน 2562 แมดด็อกซ์ที่บินไปเรียนต่อด้านชีวเคมี ที่มหาวิทยาลัยยอนเซ เกาหลีใต้ เขาได้ถูกปาปารัสซี่ตามถ่ายภาพและได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ In Touch Weekly โดยแมดด็อกซ์ถูกถามว่าพ่อของเขาจะไปเยี่ยมที่เกาหลีใต้หรือไม่ ซึ่งตัวเขาเองได้ตอบว่า “อืม ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย” และเมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์ของเขากับแบรดว่าเป็นอย่างไร แมดด็อกซ์ก็ได้ตอบแบบคลุมเครือว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”

อย่างไรก็ตาม แบรด พิตต์ เองก็ได้พยายามปรับความเข้าใจและเข้าหาลูกชายของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ผล เพราะแมดด็อกซ์เองก็พยายามที่จะถอยห่าง ไม่ยุ่งด้วย ซึ่งแบรดก็ได้แต่ทำใจและยอมรับในความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปกับลูกชายของเขา

ปัจจุบันการต่อสู้ในชั้นศาลเกี่ยวกับสิทธิในการเลี้ยงดูเด็กๆ ทั้ง 6 คน ที่มีอย่างยาวนานมาถึง 2 ปีครึ่ง ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็สามารถตกลงกันได้ โดยแบรดได้คืนสถานะโสดให้กับโจลี่ และได้เซ็นยินยอมในข้อตกลงเรื่องสิทธิ์เลี้ยงดูลูกทั้ง 6 คน ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของลูกๆ ของพวกเขา


ข้อมูล : www.nickiswift.com

ภาพ : Getty Image

จากคฤหาสน์พันล้าน แมดด็อกซ์ ลูกชาย แองเจลินา โจลี ใช้ชีวิตแบบเด็กหอ

Banpu Presents Tote Bag Music Festival

พกกล่องข้าว หิ้วถุงผ้า มา “Tote Bag Music Festival” เทศกาลดนตรี ที่นี่จะไม่มีขยะ!

Banpu Presents Tote Bag Music Festival
Banpu Presents Tote Bag Music Festival

ไม่ใช่ดูดีแต่ชื่อ แต่งานนี้จริงจังกับการดูแลสิ่งแวดล้อมสุดๆ สมกับเป็นคลื่นวิทยุสีเขียว ที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกกับการจัดเทศกาลดนตรีเต็มรูปแบบในชื่อ Banpu Presents Tote Bag Music Festival” เทศกาลดนตรีที่รักโลก พอๆกับรักเธอ

กรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม คลื่นวิทยุที่ยืนหนึ่งเรื่องรักสิ่งแวดล้อมจับมือกับ บริษัท แก่น 555 จำกัด ผู้จัดเทศกาลดนตรีมือหนึ่งในวงการ และ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ร่วมสร้างประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของเทศกาลดนตรีแรกของประเทศไทย ที่นำเทคโนโลยีพลังงานมาขับเคลื่อนเต็มรูปแบบมาใช้กับทุกกิจกรรมในงาน Banpu Presents Tote Bag Music Festival” เทศกาลดนตรีที่รักโลก พอๆกับรักเธอ  

Banpu Presents Tote Bag Music Festival             

โดยเทศกาลดนตรีครั้งนี้จะเน้นเรื่องการลดใช้พลังงานสิ้นเปลือง อาทิ น้ำมันดีเซลที่ใช้ในเครื่องปั่นไฟ แล้วหันมาใช้พลังงานทางเลือกแทน เพื่อเป้าหมายสูงสุดในอนาคต คือ เป็น เทศกาลดนตรีแบบ ZERO CARBON FOOTPRINT และในส่วนของวัสดุต่างๆ ที่อยู่ในงาน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การตกแต่งเวที รวมไปถึงภาชนะใส่อาหาร ก็จะใช้หลักการลดการใช้วัสดุแบบใช้ครั้งเดียว  ให้ของทุกอย่างภายในงานต้องใช้ซ้ำ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ขยะเหลือศูนย์หรือไม่มีขยะนั่นเอง

Banpu Presents Tote Bag Music Festival

ความพิเศษของเทศกาลดนตรี “Banpu Presents Tote Bag Music Festival”  ยังมีอะไรอีกบ้าง

1. ใช้ชีวิตแบบ low waste ในเทศกาลดนตรีโดยใช้พลังงานทางเลือก อย่าง พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ในการจัดงานยังไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยมาก่อน หากจะกล่าวว่านี่คือการปฏิวัติวงการเทศกาลดนตรีของประเทศไทยก็ไม่ผิดนัก

2. การตกแต่งเวทีและ production design ถูกคิดขึ้นมาแบบ “ที่ไปก่อนที่มา” อย่างในกรณีนี้คือคำนึงก่อนว่าจะสร้างหลังคาโรงเรียน แล้วจึงค่อยคิดย้อนกลับมาว่าจากหลังคาดังกล่าว จะนำมาสร้างเป็นรูปแบบเวทีได้อย่างไร ที่ทำให้ไม่เหลือขยะจากการสร้างเวทีเลย

Mini Stage :  “เวทีนั้น” เวทีเล็กที่รวมศิลปินอินดี้มาแรง เจ้าของบทเพลงที่ทำให้เราตกหลุมรัก ชื่อเล่นของเวทีนี้คือเวทีต้นไม้ หลังจบงานวันอาทิตย์แล้ว ผู้ชมสามารถนำต้นไม้ที่ใช้ตกแต่งเวทีกลับไปปลูกต่อที่บ้านได้เลย

Main Stage : “เวทีนี้”  เวทีใหญ่ที่รวบรวมศิลปินรุ่นใหม่ ขวัญใจชาวกรีนเวฟ เวทีนี้ถูกเพ้นท์ด้วยสีรุ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง เพราะ หลังจากจบคอนเสิร์ต วัสดุที่ใช้บนเวทีจะถูกนำไปสร้างเป็นหลังคาให้แก่โรงเรียนชุมชนบ้านก่อดำ อ.บ้านลาว จ.เชียงราย ต่อไป

“เวที นู้น”  เวทีของ“ตัวจริง” ในวงการกรีน ที่จะมาเล่าเรื่องราวของพวกเขาเหล่านั้นให้เราฟังจากสปีกเกอร์หลากหลายวงการ อาทิ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล , ท็อป พิพัฒน์ , ฟ้า-ษริกา ,แพท-รัณนภันต์  นักร้องนำวงเคลียร์ เป็นต้น โดยทอล์กสเตจมีทั้ง 2 วัน ตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น.

Banpu Presents Tote Bag Music Festival

3. ตลาดนัดถุงผ้า No more single-use! บริจาคของที่ไม่ได้ใช้แล้ว เพื่อนำไปส่งต่อใน “ตลาดนัดถุงผ้า” ภายในงาน หรือถ้าใครถนัดช้อปปิ้งมากกว่า ห้ามพลาดเป็นอันขาด เพราะนอกจากจะมีของจากเพื่อนๆ ชาวกรีนเวฟแล้ว ยังมีของจากศิลปินชื่อดังมากมายมาร่วมจำหน่ายในงานนี้ด้วย โดยรายได้ทั้งหมดจากการขายของจะนำไปบริจาคให้แก่มูลนิธิปันกัน สุขใจทั้งผู้ให้ อิ่มใจทั้งผู้ช้อป

กติกาสำหรับผู้ส่งต่อ ของที่นำมาบริจาคต้องเป็นของที่อยู่ในสภาพดี พร้อมให้ผู้อื่นนำไปใช้งานต่อได้

กติกาสำหรับขาช้อป สินค้ามี 3 ราคาเท่านั้น ได้แก่ 20 บาท 60 บาท และ 100 บาท และอย่าลืมพกถุงผ้ามาช้อปปิ้งภายในงาน

4. เวิร์กช้อปทำผ้าไขผึ้ง หรือ beeswax wrap : ผ้าที่จะมาแทนพลาสติก wrap และบรรจุภัณฑ์

  • Beautiful Me เวิร์กช็อปทำเครื่องสำอาง ได้แก่ ลิปสครับ ลิปมัน ลิปทินต์ ไปจนถึง makeup remover
  • Tee To Won (ที ทู วน) เวิร์กช็อป DIY เสื้อเก่า ของคุณให้กลายเป็นจานรองแก้วและปลอกสวมแก้วพร้อมสายสะพาย

Banpu Presents Tote Bag Music Festival

ใครอยากไปมันแบบรักโลกในงานนี้ เตรียมตัวให้ดี 14 ก.พ. 63 วันแห่งความรักเขาเตรียมขายบัตรกันแล้ว โดยงาน “Banpu Presents Tote Bag Music Festival” (บ้านปู พรีเซนส โท้ต แบ้ก มิวสิค เฟสติวัล) เทศกาลดนตรีที่รักโลกพอๆ กับรักเธอ จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 21 และวันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 12.00 – 23.00 น. (เวทีแรกเริ่ม 15.00 น.) ณ สนามเทพหัสดิน (BTS สนามกีฬาแห่งชาติ) จำหน่ายบัตรที่ www.ticketmelon.com  บัตรมี 2 ประเภท ได้แก่ แบบ One Day Pass ราคา 900 บาท และแบบ 2 Day pass ราคา 1,300 บาท สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.greenwave.fm

*งานนี้ไม่มีบัตรพลาสติกให้ สามารถเข้างานโดยแสดง QR CODE ที่ทาง ticketmelon ส่งมาในอีเมล์ให้แก่เจ้าหน้าที่หน้างาน (ปรินท์มา หรือโชว์ในมือถือก็ได้) หรือ ในกรณีที่ซื้อบัตรมากกว่า 1 ใบ สามารถ forward QR CODE ไปให้เพื่อนได้

 

 

ซ่อนเงารัก

ม้วนเดียวจบ! บทสรุปดราม่า ซ่อนเงารัก เปลี่ยนตัวนางเอกกลางอากาศ

Alternative Textaccount_circle
ซ่อนเงารัก
ซ่อนเงารัก

ดราม่าแรงของวงการบันเทิงนาทีนี้คงไม่มีเรื่องไหนจะร้อนไปกว่าละครเรื่อง ซ่อนเงารัก ของค่ายเลิฟดราม่า เพราะความแซบและความเข้มข้นไม่ได้มีเพียงในละครเท่านั้น แต่เรื่องดราม่านอกจอยังระอุกว่าในจอเสียอีก

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ Ep.9-Ep.10 มารีน่า-ศดานันท์ บาเล็นซิเอก้า เข้ามารับไม้ต่อบท “ขวัญเอย” และ “ขวัญมา” ต่อจาก “ริชชี่-อรเณศ ดีคาบาเลส” เนื่องจากในเรื่องฝาแฝดทั้งสองเสียโฉม จึงได้ทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้า ด้วยความที่ผู้ชมยังอินและชื่นชอบฝีมือทางการแสดงของ “ริชชี่” มาตั้งมาตั้งแต่ต้นเรื่อง เมื่อเปลี่ยนตัวนักแสดงจึงทำให้ผู้ชมไม่เปิดใจเท่าไหร่ และมีการเข้าไปคอมเม้นต์เชิงบ่นในอินสตาแกรมของผู้จัด “ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา”

ซ่อนเงารัก

ด้วยกระแสละครที่แรงขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นแง่บวกหรือแง่ลบก็มักได้ฟีดแบ็กแบบคูณ 2-3 เท่า ทำให้ผู้จัดต้องออกมาชี้แจงอย่างเร่งด่วนถึงเรื่องนี้ว่า “ขอแถลงนิดนึงนะคะว่าถามไก่และต่อว่าไก่ ว่าเปลี่ยนตัวละครทำไมหรือทำไมเปลี่ยนตัวละคร ก็อยากบอกว่าช่วยย้อนกลับไปถามดาราดูว่าอะไรยังไง” โพสต์แซบขนาดนี้เลยยิ่งทวีคูณความรุนแรง พร้อมกันนี้ทางฝั่งชาวทวิตเตอร์ก็พากันติดแฮชแท็ก #saveริชชี่ พร้อมงัดหลักฐานมาโชว์ว่าที่จริงแล้วเรื่องนี้มีการวางบทแบบเปลี่ยนตัวละครมาตั้งแต่แรกหรือเปล่า เพราะวันบวงสรวงก็จะมี “มารีน่า” อยู่ด้วยตั้งแต่แรก

ความเผ็ดร้อนมากขึ้นเมื่อ “ม้า-อรนภา กฤษฎี” เพื่อนสนิทของ “ไก่-วรายุฑ มิลินทจินดา” ได้พูดถึงประเด็นนี้ผ่านทางรายการ “ข่าวใส่ไข่” ว่าเรื่องเปลี่ยนตัวนี่รู้มาจาก “พี่ไก่” เลย เพราะพี่เขาทนไม่ไหว ทนมา 9 ตอนแล้ว ไม่ทนอีกต่อไป ที่หลายคนชื่นชมนางเอกของเรื่องว่าเล่นดีขึ้นนั้นแท้จริงเพราะช่วยตัดต่อ เป็นต้น จริงๆ มีหนักกว่านี้แต่ไม่อยากพูด

ซ่อนเงารัก

เป็นเรื่องเป็นราวมาขนาดนี้ “ไก่-วรายุฑ” เลยต้องออกมาชี้แจงในงาน “เปิดวิกบิ๊ก3 50ปี เรื่องนี้เรื่องใหญ่” (เรื่องใหญ่จริงๆ) โดยบอกว่าปัญหาก็มีบ้าง แต่ไม่ได้อะไรเยอะแยะ ไม่ได้ทะเลาะหรือไม่ได้ทนไม่ไหว อยู่วงการมา 50 ปี ตนไม่เคยเอาเปรียบเด็กหรือฆ่าเด็ก ที่เปลี่ยนตัวเพราะบทเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ส่วนเรื่อง “พี่ม้า” นั้นเขาเล่าเกินจริงใส่ไข่ 20 ฟอง สำหรับความรู้สึกส่วนตัวของ “ไก่-วรายุฑ” นั้นก็ได้บอกว่า ถึงแม้คนจะด่า แต่ตนก็ยังชอบ ด่ามาเถอะขอให้ดู ตนยินดี

ซ่อนเงารัก

อย่างไรก็ตามด้าน “ริชชี่” ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมระบุว่า “หนูอยากขอบคุณสำหรับคนที่รักขวัญเอย-ขวัญมา และขอบคุณทุกคนที่รักและปกป้องหนูเคียงข้างหนูเสมอมานะคะ หนูตั้งใจอย่างมากที่สุดที่จะถ่ายทอดตัวละครเรื่องนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่หนูจะทำได้…หนูขอบคุณผู้เขียนบทที่ทำให้มีบทละครเรื่องนี้เกิดขึ้นมา ขอบคุณพี่อี๊ด พี่ไก่ที่ให้โอกาสริชได้เล่นเป็นขวัญเอย-ขวัญมา พี่นาย พี่ปุ๋มที่คอยซัพพอร์ตให้กำลังใจหนู

หนูอยากบอกว่า หนูขอบคุณทุกช่วงเวลาที่ทำให้หนูเติบโตและเข้มแข็งขึ้น ขอบคุณ…คุณแม่ คุณพ่อ คุณลุงเพื่อนๆ น้องๆ สำหรับความรักความเมตตาและมิตรภาพที่เกิดขึ้นในกองเรื่องนี้ และในท้ายสุดนี้หนูต้องขอโทษถ้าหากว่าหนูยังทำได้ไม่ดีพออย่างที่พี่ๆ ทีมงานคาดหวังไว้ หนูพยายามตั้งใจอดทน เข้มแข็งอย่างมากเท่าที่หนูจะทำได้ในทุกวินาทีแล้วจริงๆ ค่ะ

ถ้ามีโอกาสต่อไปหนูก็หวังว่าตัวหนูเองจะพัฒนามากๆ ยิ่งขึ้นไป หวังว่าทุกคนจะให้โอกาสหนูและเคียงข้างหนู เห็นถึงพัฒนาการของเด็กคนนี้เติบโตไปเรื่อยๆ นะคะ #ขอบคุณพระเจ้าที่มอบกำลังและปลอบใจหนู #ขอบคุณทุกคนที่รักและให้โอกาสเมตตาหนูนะคะ #ริชชี่อรเณศ”

ซ่อนเงารัก


 

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

ใบนี้มีหรือยัง? เช็คก่อนซื้อ กระเป๋า Prada Re-Edition 2000 รุ่นดังที่ใครก็สะพาย!

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000
กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

 พาเช็คข้อมูล กระเป๋า Prada Re-Edition 2000 ไอเท็มฮ็อตมาแรง ที่คนดังสะพายกันทั้งเมือง!

กระเป๋าไนลอนทรง Mini Hobo (ทรงมินิโฮโบ) รุ่น Re-Edition เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 นับเป็นหนึ่งใน IT Bag ณ ตอนนี้ ด้วยรูปทรงแบบวินเทจและแฝงกลิ่นอายยุค 90s แมตช์เข้ากันกับชุดได้ง่าย รุ่น Re-Edition คือกระเป๋าไนลอนรูปทรงต่างๆ ที่เคยประสบความสำเร็จ ได้นำมา Re-Edit พร้อมใส่ลูกเล่นทันสมัยและเสนอในหลากหลายโทนสี

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

โดยเปิดตัวอีกครั้งในโทนสีสันสดใสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อาทิ สีชมพู สีเหลือง สีฟ้า สีแดง และสีส้ม เป็นต้น กระเป๋ารุ่นนี้สามารถสังเกตได้จากแท็กป้ายห้อยที่ประทับโลโก้ Re-Edition พร้อมระบุปี ค.ศ. ที่เปิดตัว

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

ซึ่งกระเป๋า Re-Edition ทั้งหมดอยู่ภายใต้แนวคิด Classic With A Twist มาในราคาใบละ 21,500 บาท

แน่นอนว่าด้วยกระแสที่แรงอย่างต่อเนื่อง ไอเท็มชิ้นนี้เลยต้องตาโดนใจคนดังอยู่ไม่น้อย เพราะเหล่าเซเลบไม่พลาดที่จะหยิบมาใช้ โดยเฉพาะแม่ชม แฟชั่นนิสต้าของไทยที่มีครบทุกสี! แถมยังแมตช์เข้ากับลุคต่างๆ ได้เก๋สุดๆ เช่นการเล่นกับโทนสีที่มีความไปด้วยกัน ทำให้ลุคออกมาโดดเด้งและเทรนดี้มาก

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

ส่วนคนดังฝั่งเอเชียอย่าง คิมเบอร์ลี่ , เก้า-สุภัสสรา , ไอดอลเกาหลี ไอรีน สมาชิกวง Red Velvet ก็ถูกใจกระเป๋ารุ่นนี้เช่นกัน และเมื่อข้ามฟากไปฮอลลีวู้ด โมเดลตัวท็อป เคนดัลล์ เจนเนอร์ , เอลซ่า ฮอสค์ ต่างก็มี Prada Re-Edition 2000 เป็นกระเป๋าลูกรักเหมือนกัน แหม…กระแสมาแรงขนาดนี้ แถมราคายังสู้ไหว แบบนี้ต้องจัดสักใบแล้วล่ะ

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000

กระเป๋า Prada Re-Edition 2000


ภาพ : Prada , IG@chomismaterialgirl , @kimmy_kimberley , @supassra_sp

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นาทีนี้ใครๆ ก็ต้องสะพาย! ทำความรู้จัก Beat กระเป๋าสุดฮ็อตจาก Coccinelle

8 ปีผ่านไปยังสวย! ดัชเชสเคท ใส่เดรสแบรนด์โปรดอีกครั้ง ร่วมงาน BAFTAs 2020

แบรนด์ไทยมาแรง! โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ กับ 3 ชุดแต่งงานดีไซน์เซ็กซี่ โชว์หุ่นโมเดล

สวยทุกสไตล์! ‘น้ำชา ชีรณัฐ’ เลือกชุดแต่งงาน 3 ลุคจากแบรนด์ไทย-อินโดฯ

หวานซ่อนเปรี้ยว! มิว-นิษฐา โชว์ฝีมือออกแบบไอเท็มพิเศษ Disaya x Mew Nittha

คัมแบ็กอย่างควีน! เบลค ไลฟ์ลี่ หวนคืนพรมแดงอีกครั้ง หลังคลอดลูกคนที่สาม

สวยพิฆาต ติดขอบรันเวย์! 8 ลุค ‘ชมพู่ อารยา’ ใน Paris Fashion week 2020

ยิ่งใหญ่ สมศักดิ์ศรี! โชว์อำลาของ Jean Paul Gaultier หลังเป็นดีไซเนอร์มา 50 ปี

เรียบง่ายและผ่อนคลาย ลุคแรกของ ‘เมแกน มาร์เคิล’ กับการใช้ชีวิตในแคนาดา

สวยเท่ น่าค้นหา! ครั้งแรกของ ‘มิว นิษฐา’ กระทบไหล่ ‘จีดราก้อน’ ชมโชว์ Chanel

เจ้าแม่รันเวย์ ‘ไคอา เกอร์เบอร์’ สวมชุดแต่งงาน Givenchy พร้อมผ้าคลุมผืนยักษ์!

ช้อปตามได้! ‘ดัชเชสเคท’ เปิดตัวเดรสใหม่ในราคาเพียง 600 บาท

ท้องโตยิ่งสวย! 12 แฟชั่นชุดคลุมท้อง ‘เนย-โชติกา’ กับการเตรียมเป็นคุณแม่ลูกสอง

สวยคลาสสิกฉบับ ‘ดัชเชสเมแกน’ รวม 10 ลุคโทน Classic Blue สีประจำปี 2020

แมทช์กับอะไรก็ดี! 12 กระเป๋าแบรนด์เนม สี Classic Blue แพนโทนประจำปี 2020

Freyja Peau มาส์ก

Freyja Peau มาส์ก 6 สูตรจากแผ่นมาส์กที่แนบหน้าเนียนสนิทจนทำทุกภารกิจได้แสนสมูธ เจ้าของรางวัล Praew Iconic Beauty แบบครบทั้งคอลเล็คชั่น

Freyja Peau มาส์ก
Freyja Peau มาส์ก

จากความรู้ใหม่ที่ได้ยินกันมาคือสาวๆ เราสามารถมาส์กหน้าได้ทุกวันไม่ติด ไม่ผิดกฏ โดยสามารถเปลี่ยนสูตรไปได้ตามความต้องการในช่วงเวลานั้นๆ ตราบใดมาส์กที่ว่านั้นไม่ทำให้เกิดสิวอุดตันใดๆ ก็จงใช้ไปโลด

ฟังดูสาวๆ ก็คงอยากจะมาส์กทุกวันได้ถ้ามีเวลา แต่มันติดปัญหาอยู่ที่เวลามันไม่มีนี่สิ!!

ก็จะมาส์กหน้าทีมันต้องมีพิธีกรรม ลงนอนนิ่งๆ เป็น 10/20 นาที หลังกลับบ้านจากงานอันหนักหน่วงก็เหนื่อยจะแย่ อินสตาแกรมก็อยากจะอัพ ซีรีย์ก็อยากจะเปิดดู จะให้มานอนนิ่งๆ มันยากยิ่งสำหรับสาวยุคนี้

ด้วยแผ่นมาส์กหน้าสไตล์เดิมๆ แค่ลุกขึ้นวิ่งเข้าห้องน้ำทำอะไรนิดหน่อยนางก็พร้อมจะไหลเผละลงมากองที่ตัก เสียดายของ เสียดายเวลาแถมหน้าก็ยังไม่ทันชุ่มชื้น

แต่ในที่สุดพัดชาก็ค้นพบชีทมาส์กที่สามารถใช้ไปทำกิจกรรมไปได้แบบแนบสนิทไม่ต้องกลัวหลุด แถมยังให้ผลลัพธ์ชุ่มชื้นดีงามจนต้องใช้วนไปทุกวันจากมาส์กหน้าที่เข้าประกวด Praew Iconic Beauty ครั้งที่ผ่านมา Freyja Peau Face Mask จากแบรนด์ Freyja Peau ที่เข้ารอบมาแบบครบทั้งคอลเล็คชั่นที่มีมากถึง 6 สูตรด้วยกัน ประกอบด้วย

– Collagen mask ผิวหน้ากระชับ ยืดหยุ่น ดูมีชีวิตชีวา
– Whitening mask ผิวสว่าง เปล่งปลั่ง กระจ่างใส
– Hyaluronic mask เติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ
– Aloe mask ลดรอยดำ รอยแดง ลดผิวอักเสบจากสิวและแสงแดด
– Honey Mask ฟื้นฟูสภาพผิว ด้วยส่วนผสมของน้ำผิ้งบริสุทธิ์
– Firming Mask ช่วยให้ผิวกระชับ เรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์

แถมมีคำเคลมที่เก๋กว่าแบรนด์อื่นๆในด้านของการออกแบบแผ่นมาส์กให้แนบสนิทไปกับผิวจนสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ไปพร้อมกันได้ ท้ามาแบบนี้พัดชาเลยต้องรีบลอง ขอพลีวีคนี้ทั้งวีควนไปกับสูตรต่างๆ ของ Freyja Peau Face Mask จะได้เล่าความแตกต่างให้สาวๆ ฟังได้ครบทุกสูตรกันไปเลย

เผยผิวสวย มีออร่า บำรุงผิวหน้าอย่างมีระดับกับแผ่นมาส์กจากเส้นใยธรรมชาติ

มาส์กคอลเล็คชั่นนี้เขามีสโลแกนว่า เผยผิวสวย มีออร่า บำรุงผิวหน้าอย่างมีระดับแน่นอนว่าทุกสูตรนั้นมีคุณสมบัติที่ต้องมีร่วมกันคือการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นมีออร่าเปล่งประกาย มาในซองสีพาสเทลวัสดุแมตท์ทำให้รู้สึกว่าหวานละมุนดูปลอดภัย จุดร่วมอีกอย่างคือความพิเศษของแผ่นมาส์ก ชนิด Tencel ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติที่สามารถส่งเซรั่มเข้าบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกกว่าวัสดุทั่วไป

เมื่อแกะซองแล้วได้สัมผัสตัวแผ่นมาส์กจริงๆ จะพบความแตกต่างได้ชัดเจนคือความบางเฉียบและความยืดหยุ่นของแผ่นมาส์กที่เหมือนเป็นเส้นใยจากธรรมชาติบางๆ แนบสนิทไปกับผิวหน้าได้โดยไม่มีการเปิดเผยอ หรือไม่พอดี

มาส์กไปแดนซ์ไปยังได้เลย

ทีเด็ดคือความแนบสนิทนี้เองทำให้ตัวมาส์กล็อคไปกับผิวอย่างกระชับ เรียกว่าลุกไปทำอะไรฆ่าเวลาได้ตั้งแต่ดูซีรีย์ยันเล่นโยคะ โดยไม่ต้องคอยเสียวหลุดๆ อย่างเมื่อก่อน ถึงแม้จะบางก็จริงแต่ความชุ่มฉ่ำของเนื้อมาส์กนั้นบอกเลยว่าแน่นมาก Freyja Peau เขาใส่เซรั่มมาแบบไม่อั้น บำรุงกันไปเลยแบบจุกๆ โดยมาส์กทิ้งไว้ 10-20 นาที จะให้ดีหลังจากถอดมาส์กออกลองใช้ปลายนิ้วนวดวนให้เนื้อเซรั่มบำรุงซึมเข้าผิวต่ออีกเล็กน้อย จะเป็นการใช้มาส์กอย่างคุ่มค่าเห็นผล

ไบรท์ๆ ใช้สูตร Whitening สีขาว

มาทำความรู้จักมาส์กทั้ง 6 สูตรกันแบบละเอียดเน้นๆ กันก่อนดีกว่าเริ่มจากสูตรนี้ที่สาวไทยน่าจะเลิฟมาเป็นอันดับ 1 คือ ซองสีขาว ตัวนี้มีเอสเซ้นท์วิตามินสูตรไวท์เทนนิ่ง ช่วยปรับสภาพเซลล์ผิวที่หมองคล้ำและลดปัญหาสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ  พร้อมกับการเร่งผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วทำให้สามารถเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสกว่าเดิมได้ในเร็ววัน ใช้แล้วผิวนิ่มเด้งเปล่งปลั่ง แถมยังช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์อีกด้วย

ผิวเฟิร์มกระชับด้วยสูตรเฟิร์มมิ่งซองสีดำ

ซองสีดำสุดเท่นี้ดูแตกต่างออกมาจากกลุ่มเพื่อนฝูงสีพาสเทล เป็นสูตร Firming ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างอิลลาสตินและคอลลาเจนใต้ผิวหนังทำให้ผิวกระชับแน่น แต่งตึง เรียกว่าเน้นไปที่การฟื้นฟูผิวหย่อยคล้อยให้กลับคืนความแข็งแรงเนียนนุ่มชุ่มชื่น วัยเริ่มเพิ่มขึ้นก็ต้องใช้แล้วล่ะ

ตามเทรนด์สุดฮิต ไฮยาลูโรนิค ชุ่มชื้นสดใสใช้ซองฟ้า

สูตรที่น่าจะเป็นยอดฮิตนาทีนี้ต้องยกให้ Hyarolonic เก็บกักความชุ่มชื้น ต้นกำเนิดของผิวที่แข็งแรงและอ่อนเยาว์ แก้ปัญหาผิวที่ลอกแห้งเป็นขุยจากการขาดความสมดุลย์ หรือผ่านการเผชิญกับอากาศเปลี่ยนแปลงจากการออกทริปต่างๆ

ที่พัดชาชอบมากๆ คือตัวนี้ให้ความรู้สึกของผิวที่อิ่มฟูและเนียนนุ่มชวนสัมผัส จากกระบวนการเร่งฟื้นฟูเซลล์ผิว ช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระแถมยังช่วยกรองรังสีจากแสงแดดตัวการร้ายทำลายผิว สาวเมืองใหญ่ต้องใช้สูตรนี้เน้นๆ เลยล่ะ

Honey หว๊านหวานช่วยงานผิวอ่อนเยาว์

คนรักผิวน่าจะได้ยินสรรพคุณมาเยอะ เรื่องคุณค่าของน้ำผึ้งที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์สดใส มาส์กสูตรฮันนี่ซองสีเหลืองตัวนี้ เน้นไปที่การดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวทำให้ริ้วรอยที่สาวๆ สุดจะกลัวนั้นลดเลือนลงไปพร้อมๆ กับการเติมความชุ่มชื้น ใครเน้นการใช้ครีมสูตรแอนตี้เอจจิ้งอยู่แล้ว เติมตัวนี้เข้าไปก็จะเปินการเสริมพลัง

แพ้ง่ายระคายเคืองต้องสูตร Alo ซองสีเขียว

ผิวอ่อนแอแพ้ง่ายใช้อะไรก็ระคายเคือง ต้องเติมความชุ่มชื้นอ่อนโยนต้องมาส์กสูตร Alo ที่สกัดจากว่านหางจระเข้ ช่วยยับยั้งอาการอักเสบผื่นคัน รอยแดงและปัญหาจากการเผชิญกับมลภาวะ ยิ่งใครต้องออกแดดเป็นเวลานานๆ สูตรนี้จะช่วยให้ผิวสงบลดการอักเสบพร้อมกับเติมความชุ่มชื้นจัดแน่นๆ ทำให้ผิวแข็งแรง

ผิวเด้งดึ๋งด้วยมาส์กสูตรคอลลาเจน

ส่วนสูตรสุดท้ายใครอยากมีผิวอ่อนเยาว์ต้องมีไว้ เพราะเป็นสูตร Collagen ที่ช่วยปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรงเรียบเนียน ชุ่มชื่น บอกลาริ้วรอยและความหมองคล้ำทำให้ผิวใสเด้งแบบผิวเด็ก พร้อมช่วยเติมความแข็งแรงให้ผิวมีความยืดหยุ่นอุ้มน้ำได้ดี  มีความเต่งตึง

หลังจากใช้ครบทุกสูตรก็ต้องยอมรับแหล่ะค่ะ ว่าสาวๆ เราจะดูแลผิวแค่ในด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ Freyja Peau Face Mask ทำให้ตกหลุมรักจนต้องใช้ครบทุกสูตรวนไป แถมด้วยการให้คะแนนเต็มยกตำแหน่ง Iconic Facial Mask Collection คอลเล็คชั่นมาส์กแห่งปีจาก Praew Iconic Beauty ให้่แบบไม่ต้องคิดเยอะ

ก็มาส์กไปเต้นไปยังสามารถ จะมีใครทำได้แบบนี้อี๊ก!!

เรื่อง: Padcha_Praewnista

ภาพ: วรสันต์

สไตลิสต์: UP_KAMPHOO

ผู้ช่วยช่างภาพ: ณัฐชา ชาวเกวียน

Uniqlo U

เตรียมตัวเสียตังค์! Uniqlo U คอลเล็คชั่นล่าสุด เรียบง่าย ใส่สบาย ดีไซน์คลาสสิก

Uniqlo U
Uniqlo U

คอลเล็คชั่น Uniqlo U ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2020 Future LifeWear Essentials คอลเล็คชั่นอนาคตไลฟ์แวร์ เตรียมวางจำหน่าย 21 กุมภาพันธ์นี้

ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่น ประกาศเตรียมวางจำหน่าย Uniqlo U (ยูนิโคล่ ยู) คอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2020 ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ โดย ยูนิโคล่ ยู ที่นับว่าเป็น Future LifeWear Essentials ซึ่งออกแบบโดยผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ คริสตอฟ เลอแมร์ (Christophe Lemaire) ร่วมกับทีมงานที่ศูนย์วิจัยและพัฒนา ยูนิโคล่ (UNIQLO R&D) ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งมุ่งมั่นสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่สามารถใส่ได้ในทุกวัน โดยใช้วัสดุที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ในสไตล์ร่วมสมัย จึงมั่นใจได้ว่าคอลเล็คชั่นในแต่ละฤดูกาลถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันที่สุดและคงความเป็นเสื้อผ้าที่เรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น

เรียบหรูและคล่องตัว เสื้อผ้าผู้หญิงโมเดิร์นที่ตอบสนองชีวิตแอคทีฟและเป็นตัวเอง

เสื้อผ้าผู้หญิงคอลเล็คชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเอง รักอิสระและแอคทีฟ ที่พร้อมจะออกไปสำรวจโลก ซึ่งลงตัวกับ Uniqlo U ที่ผสมผสานสไตล์โมเดิร์น เนื้อผ้าแห่งนวัตกรรมและโทนสีเรียบหรู คอลเล็คชั่นนี้จึงช่วยเสริมสร้างพลังและความมั่นใจให้กับผู้หญิงยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น

Uniqlo U

Uniqlo U

กางเกงผ้าฝ้ายสวมใส่สบาย ทรงพาราชูท (Light Cotton Parachute Pants) เพิ่มลูกเล่นด้วยกระเป๋าขนาดใหญ่และลูกเล่นแบบผ้าต่อบริเวณเข่า พร้อมด้วยกระดุมบริเวณข้อเท้าที่ช่วยเปลี่ยนกางเกงขากระบอกธรรมดาให้กลายเป็นกางเกงแทรค (track pants) สำหรับเสื้อแจ็คเก็ตสูทผ้าเจอร์ซี่ (Jersey Tailored Jacket) และกางเกงรีแลกซ์ผ้าเจอร์ซี่ ทอทวิลล์ (Twill Jersey Relaxed Pants) นั้นได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากชุดสูทที่ใส่ระหว่างเดินทาง ด้วยผ้าเจอร์ซี่ที่นุ่มและสวมใส่สบายของ Uniqlo U ช่วยเสริมให้เสื้อผ้าดูเรียบหรูยิ่งขึ้น ขณะที่เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายเนื้อโปร่งสวมใส่สบาย แบบมีกระดุม ให้โอกาสสวมใส่ได้ทั้งแบบเป็นทางการและลุคลำลอง

Uniqlo U

Uniqlo U

เสื้อผ้าผู้ชายสำหรับวันนี้ ที่ทั้งใช้งานได้จริงและจำเป็น พร้อมด้วยรายละเอียดแบบคลาสสิกที่สมบูรณ์แบบ

คอลเล็คชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการนำชุดทำงานสไตล์วินเทจและเสื้อผ้าทหารมาปรับวิธีการตัด ความเข้ารูป เนื้อผ้า และรายละเอียดต่างๆ ที่ช่วยให้เสื้อผ้าดูผ่อนคลายและร่วมสมัยยิ่งขึ้น โดยนอกจากจะเสริมสไตล์ขณะสวมใส่ ยังทำให้คล่องตัวด้วยดีเทลและการออกแบบที่พิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียด

Uniqlo U

Uniqlo U

สำหรับคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2020 ยูนิโคล่ ยู มุ่งพัฒนานวัตกรรมผ้าและใส่ใจในรายละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อคงเสน่ห์ของแพทเทิร์นคลาสสิก พร้อมเพิ่มสีสันด้วยการใช้เฉดสีใหม่ๆ เช่น เสื้อเชิ้ตคอปกสไตล์คิวบา ไอเท็มคลาสสิกสุดโปรดของผู้ชายหลายคน ซึ่ง ยูนิโคล่ ยู ได้เสริมความโดดเด่นด้วยการตีเกล็ดเสื้อสองข้าง กระเป๋าตรงหน้าอก พร้อมใช้ผ้าฝ้ายโปร่งสบาย และคอปกกว้าง เหมาะกับสภาพอากาศชื้น นอกจากนั้น เสื้อโค้ทแบบมีฮู้ดที่ถอดแบบมาจากชุดพาร์กาทหารยังดูเรียบหรูยิ่งขึ้นด้วยการใช้สีตัดกันด้านใน

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นาทีนี้ใครๆ ก็ต้องสะพาย! ทำความรู้จัก Beat กระเป๋าสุดฮ็อตจาก Coccinelle

8 ปีผ่านไปยังสวย! ดัชเชสเคท ใส่เดรสแบรนด์โปรดอีกครั้ง ร่วมงาน BAFTAs 2020

แบรนด์ไทยมาแรง! โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ กับ 3 ชุดแต่งงานดีไซน์เซ็กซี่ โชว์หุ่นโมเดล

สวยทุกสไตล์! ‘น้ำชา ชีรณัฐ’ เลือกชุดแต่งงาน 3 ลุคจากแบรนด์ไทย-อินโดฯ

หวานซ่อนเปรี้ยว! มิว-นิษฐา โชว์ฝีมือออกแบบไอเท็มพิเศษ Disaya x Mew Nittha

คัมแบ็กอย่างควีน! เบลค ไลฟ์ลี่ หวนคืนพรมแดงอีกครั้ง หลังคลอดลูกคนที่สาม

สวยพิฆาต ติดขอบรันเวย์! 8 ลุค ‘ชมพู่ อารยา’ ใน Paris Fashion week 2020

ยิ่งใหญ่ สมศักดิ์ศรี! โชว์อำลาของ Jean Paul Gaultier หลังเป็นดีไซเนอร์มา 50 ปี

เรียบง่ายและผ่อนคลาย ลุคแรกของ ‘เมแกน มาร์เคิล’ กับการใช้ชีวิตในแคนาดา

สวยเท่ น่าค้นหา! ครั้งแรกของ ‘มิว นิษฐา’ กระทบไหล่ ‘จีดราก้อน’ ชมโชว์ Chanel

เจ้าแม่รันเวย์ ‘ไคอา เกอร์เบอร์’ สวมชุดแต่งงาน Givenchy พร้อมผ้าคลุมผืนยักษ์!

ช้อปตามได้! ‘ดัชเชสเคท’ เปิดตัวเดรสใหม่ในราคาเพียง 600 บาท

ท้องโตยิ่งสวย! 12 แฟชั่นชุดคลุมท้อง ‘เนย-โชติกา’ กับการเตรียมเป็นคุณแม่ลูกสอง

สวยคลาสสิกฉบับ ‘ดัชเชสเมแกน’ รวม 10 ลุคโทน Classic Blue สีประจำปี 2020

แมทช์กับอะไรก็ดี! 12 กระเป๋าแบรนด์เนม สี Classic Blue แพนโทนประจำปี 2020

 

คิมเบอร์ลี่

ฟรุ้งฟริ้งกว่ากระโปรงก็หัวใจนี่แหละ! คิมเบอร์ลี่ – หมาก หวานเบาๆ แต่ทำอิจฉาทั้งวิก

Alternative Textaccount_circle
คิมเบอร์ลี่
คิมเบอร์ลี่

โชว์หวานเบาๆ แต่ทำอิจฉาทั้งวิก  หมาก-ปริญ สุภารัตน์ & คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ ฟรุ้งฟริ้งกว่ากระโปรงก็หัวใจนี่แหละ! 

จัดใหญ่สมคอนเซ็ปต์ “เปิดวิกบิ๊ก3 50ปี เรื่องนี้เรื่องใหญ่” จริงๆ สำหรับงานเปิดผังละครของสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่จัดขึ้น ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ ซึ่งปีนี้ดาราที่มาร่วมเดินพรมแดงยังคงแน่นกว่า 100 ชีวิตเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น “แอน  ทองประสม”, “มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน”, “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์”, “มิ้นต์-ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง”, “เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ” รวมถึง คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เทียมศิริ ปีนี้เธอมาในลุคที่สวยแรงและแพงมาก อาจจะสืบเนื่องมาจากบท “เจ้าหญิงทรรศิกา” ในละครเรื่อง “ดั่งดวงหฤทัย” ผลงานชิ้นล่าสุด

โดยลุคแรกของสาวคิมนั้น เปิดตัวบนสเตจด้วยชุดขนโทนสีคลาสสิกขาว-ดำ จากแบรนด์ VALENTIER สวยยืนหนึ่งท่ามกลางหนุ่มๆ ทั้ง 3 คน จากละครเรื่อง 4 หัวใจแห่งขุนเขา “ณเดชน์ คูกิมิยะ”, “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” และหวานใจตัวจริง “หมาก-ปริญ สุภารัตน์” ที่ยืนเคียงข้างกันตลอดทั้งบนเวทีและนอกเวที ทำเอาหนุ่มบอยต้องแซวยกใหญ่ด้วยความอิจฉาเบาๆ

คิมเบอร์ลี่
ชุดจากแบรนด์VALENTIER
คิมเบอร์ลี่
ภาพจาก @venis_venice
คิมเบอร์ลี่
ภาพจาก @venis_venice
คิมเบอร์ลี่
ภาพจาก @fa_pitsineemk

คิมเบอร์ลี่

คิมเบอร์ลี่
ภาพจากครอบครัวข่าว

ส่วนลุคที่ 2 นั้นเป็นลุคจากในละคร “ดั่งดวงหฤทัย” ที่เธอรับบทบาทเป็นเจ้าหญิง กระโปรงเดรสสีเทา-น้ำเงินเพิ่มความแพง  บวกกับเมคอัพแบบพอดีๆ ไม่เยอะไปหรือน้อยไป ทำให้เธอสวยสง่างามทั้งในจอและนอกจอเลยทีเดียว

คิมเบอร์ลี่

คิมเบอร์ลี่

 


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

มาครบแม่-ลูก! เจโล ควงลูกสาว เอ็มมี่ มาริเบล มูนิช ขึ้นโชว์ Super Bowl

เอวดีแม้วัย 50 ปี! เปิดเคล็ดลับความฟิตแบบฉบับ Jennifer Lopez

“เนม ปราการ” สลัดลุคนักร้องแบดบอย กลายเป็นคุณพ่อแสนอบอุ่น

 เปิดหมดเปลือก “ชาคริต แย้มนาม” ถอดเขี้ยวเล็บเกลี้ยง แฮ็ปปี้กับชีวิตแฟมิลี่แมน

จับเข่าคุย นิว – จี๋ 2 พระเอกหนุ่มจากเรื่อง Classic Again จดหมายสายฝน ร่มวิเศษ

 เปิดหมดเปลือก “ชาคริต แย้มนาม” ถอดเขี้ยวเล็บเกลี้ยง แฮ็ปปี้กับชีวิตแฟมิลี่แมน

ล้วงเหตุผลที่ “ก้อง-สหรัถ” ในวัย 51 ปี ยังหล่ออมตะ อบอุ่นละมุนใจ ไม่เคยเปลี่ยน

หล่อ นิสัยดี กตัญญู “นาย ณภัทร” เผยเป้าหมายใหญ่ในชีวิต เก็บเงินซื้อบ้านให้แม่

 

‘เจอรุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง แต่วันนี้คุณไม่นิ่ง…อยากตื๊ด’ ดูดวงรายวัน 5 กุมภาพันธ์ 2563

ดูดวงรายวัน 5 กุมภาพันธ์ 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  คุณเป็นผู้หญิงเก่ง มีความรู้ความสามารถ และมีบารมีที่สะสมมาตลอดชีวิตการทำงาน วันนี้อาจได้เริ่มต้นกิจการใหม่ หรือโยกย้ายงานไปสู่หน่วยงานที่มีค่าตอบแทนสูงขึ้น ซึ่งคุณอาจไปเป็นตัวหลักของทีม ก็ต้องระวังอีโก้และความเชื่อมั่นของตัวเองด้วย เพราะคุณจะไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น อาจเป็นการสร้างศัตรูตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มงานเลย

การเงิน :  ให้ความสำคัญกับตัวงานมากกว่าตัวเงิน ไม่ควรใช้เงินกับการเสี่ยงโชค หรือใช้ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง

ความรัก : จริงๆ คุณให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว แต่ช่วงนี้งานเร่งจึงอาจต้องเอางานเป็นหลักก่อน ส่วนครอบครัวเป็นรอง คนโสด คุณทำงานเก่งจึงถูกจับตามอง เป็นจุดสนใจในสังคม จนผู้ชายอาจไม่กล้าเข้ามาจีบ ซึ่งคุณก็ไม่แคร์

สุขภาพ :  ระวังอาหาร อากาศ และฝุ่นละออง เดินทางไปไหนควรคาดหน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา เพราะคุณอาจติดเชื้อ เป็นภูมิแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : หากคุณคิดจะขอลาหยุดพักร้อน จนถึงลาออก ก็คงต้องคิดใหม่ทำใหม่ เพราะงานที่ทำอยู่อาจมีปัญหาเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง อาจเพราะคำพูดที่คุณรับปากตกลงไว้ แล้วทำไม่ได้ตามนั้น หรือจากเอกสารสัญญาที่ทำไว้ ทั้งในเรื่องผลประโยชน์และเรื่องส่วนตัว จะทิ้งไปกลางคันไม่ได้

การเงิน :  อาจมีปัญหาเข้าขั้นวิกฤติ ซึ่งคุณหันไปขอความช่วยเหลือใครก็ไม่ได้ด้วย

ความรัก : เดิมคุณกับคู่ก็มีแนวคิดเรื่องการใช้ชีวิตคู่ไม่ลงตัวกันอยู่แล้ว วันนี้อาจมีประเด็นที่ทำให้คุณทะเลาะกันรุนแรง พยายามอยู่ห่างๆ กันไว้ก่อน คนโสด คุณรักใครรักจริง เกลียดก็เกลียดจริง ซึ่งวันนี้อาจได้เจอคนที่เกลียดมากกว่ารัก เพราะมีดวงว่าจะทะเลาะกันใหญ่โต

สุขภาพ : บิ๊กคลีนนิ่งกันบ้างหรือยัง วันนี้คุณอาจเจอศึกทั้งในและนอกบ้าน ในบ้านเจอฝุ่น ออกนอกบ้านต้องระวังการใช้สิ่งของร่วมกับคนอื่น เพราะคุณอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ควรคาดหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  หากคุณทำงานศิลปะไม่ว่าจะแขนงใดก็ตาม หรืองานที่เกี่ยวกับความสวยความงาม วันนี้คุณอาจต้องใช้ความรู้ความสามารถ และเทคนิคส่วนบุคคล ในการเจรจาประสานงาน หรือต่อรอง ซึ่งคุณจะใช้กลยุทธ์เดิมๆ ไม่ได้แล้ว อาจใช้เคล็ดความเชื่อ เช่น สีมงคล ฤกษ์ยาม หรือฮวงจุ้ยมาช่วย ก็จะทำให้ปังขึ้น

การเงิน :  มีผู้ใหญ่ให้ความอุปถัมภ์ มีเงินใช้คล่องมือ อาจได้โชคลาภมาแบบไม่คาดหวัง

ความรัก : คุณแบกรับภาระเรื่องราวของสมาชิกในครอบครัวไว้เต็มสองบ่า ยิ่งวันนี้คุณเป็นผู้นำ ทั้งงานในบ้าน และนอกบ้าน เรื่องไหนไม่สำคัญก็ปล่อยๆ ไปบ้าง ไม่เช่นนั้นคุณอาจหนักและเหนื่อยเกินไป คนโสด คุณมีเสน่ห์มากมาย ทั้งหนุ่มและไม่หนุ่มต่างก็มารุมมาตุ้มหลงรัก แถมหึงหวงคุณอีกต่างหาก

สุขภาพ : เดทเยอะ ระวังเรื่องน้ำหนักด้วย เพราะอาจทำให้ตั้งแต่สะโพกลงไปมีอาการปวดตึง ข้อเข่าและข้อเท้าบวม เวลายืนหรือเดินนานๆ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  วันนี้ถือว่าคุณโชคดี ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ เพื่อนร่วมงาน และเจ้านายก็เมตตาและเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ แต่ควรทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถูกทำนองคลองธรรม ไม่เช่นนั้นคุณอาจถูกพิจารณางาน ส่งผลให้อึดอัดและเบื่อหน่าย ก็ควรระวังคำพูด ใจเย็น และอดทนรอ ไม่เช่นนั้นจากความโชคดีอาจกลายเป็นโชคร้ายทันที

การเงิน :  คุณใจดี วันนี้อาจมีญาติพี่น้องมาขอให้คุณช่วยเหลือ หากเป็นเงินหรืองานที่ไม่ถูกต้อง ก็ควรปฏิเสธ ไม่เช่นนั้นคุณอาจหมดตัว

ความรัก : อาจมีความคิดเห็นขัดแย้งกัน เพราะคู่ชอบอยู่เงียบๆ เข้าห้องพระสวดมนต์ ขณะที่คุณก็ออกงานกลางคืน ดินเนอร์กับลูกค้าตลอด ก็ปล่อยให้ต่างคนต่างทำในสิ่งที่ชอบ ไม่ขัดใจกันก็ไม่มีปัญหา คนโสด คุณอาจได้เจอรุ่นใหญ่ใจนิ่ง แต่คุณยังใจไม่นิ่ง ยังอยากตื๊ดๆ อยู่

สุขภาพ : ระวังหกล้ม บาดเจ็บกล้ามเนื้อ กระดูก หรือเส้นเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงขาและหลัง

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : หากคุณทำงานราชการ หรือต้องติดต่องานกับหน่วยงานราชการ ความสำเร็จไม่ได้มาง่ายๆ ต้องแลกด้วยพลังกาย พลังใจที่เข็มแข็ง วันนี้คุณอาจตกอยู่ในสถานะที่เรียกร้องขอความช่วยเหลือ ครั้งแรกอาจได้รับการเมินเฉย อย่าหยุด ต้องพยายามต่อ ใช้วาทศิลป์ให้เป็นประโยชน์

การเงิน :  มีโชคลาภก็จริง แต่ระวังอาจสูญเงินก้อนโต ซื้อเครื่องประดับราคาแพงด้วยความไว้ใจ

ความรัก : อารมณ์คุณขึ้นลงง่ายมาก ไม่แน่นอน เปรียบเหมือนพระจันทร์ ที่มีทั้งด้านมืดกับด้านสว่าง อยู่ที่ว่าคนที่คุณอยู่ด้วยจะเจอด้านไหน ซึ่งวันนี้อาจเจอด้านมืด เพราะเขาตีตัวออกห่างเลย แม้คุณจะตามไปงอนง้อ เขาก็ไม่กลับ คนโสด  อาจถูกใจชายหนุ่มหน้าที่การงานดี จิตใจดี จนอยากผูกข้อไม้ข้อมือกันแล้ว ลองคบกันสักพักไหม เพราะเขาอาจไม่ใช่คู่

สุขภาพ : ตามธรรมดาคุณดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองอย่างดี แต่วันนี้อาจพลาดไปติดเชื้อจากคนที่อยู่รอบตัว จึงควรป้องกันตัวเองให้ดี

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  วันนี้คุณปรารถนาความสำเร็จอย่างแรงกล้า ทำทุกอย่างอย่างใจกล้าบ้าบิ่น ก็ต้องระวังเรื่องเอกสารสัญญา ไม่ว่าจะเป็นลายลักษณ์อักษร หรือสัญญาใจ ไม่เว้นแม้กระทั่งสัญญาทาส โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับทางราชการ วันนี้อาจเกิดความผิดพลาด คุณอาจถูกฟ้องร้อง หรือเป็นคดีความ

การเงิน :  อาจถูกมิจฉาชีพหลอก หรือโกง ไม่ควรให้ใครกู้ยืมเงิน หรือเซ็นค้ำประกันกู้เงิน หรือดาวน์รถ วันนี้อาจมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง

ความรัก :  อาจมีบุคคลที่สามเข้ามาวุ่นวายในชีวิตครอบครัว ซึ่งเธอมาเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างเดียวเลย เมื่อได้สมใจแล้วก็ตีจาก วันนี้อาจต้องใช้อำนาจทางกฎหมายกับเธอ คนโสด คุณอาจติดบ่วงรักรัดขาไว้จนไปไหนไม่ได้ หากแค่ลดทิฐิและอีโก้ตัวเองลง ใช้หลักการประนีประนอมมากกว่าจะยึดเหตุผลตัวเองเป็นใหญ่ คุณก็อาจเป็นอิสระ

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : คุณอาจรู้สึกอึดอัด งานที่ทำอาจเข้าสู่ทางตัน ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ ก็ควรใช้ความรู้ ความสามารถ และเทคนิคการต่อรอง หรือการประสานงานให้เป็นประโยชน์ เพราะวันนี้คุณได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากผู้ใหญ่ผู้หญิงก็จัดไป อย่าให้เสีย

การเงิน :  คุณอาจต้องจ่ายเงินให้กับคนที่คุณรัก ในเรื่องการลงทุนใหม่ๆ การเข้าสังคม หรือการเดินทางท่องเที่ยว

ความรัก : คุณแบกรับเรื่องราวของสมาชิกในบ้านไว้จนหนักอึ้ง วันนี้ที่บ้านอาจมีงานหรือวาระโอกาสพิเศษที่สมาชิกในบ้านได้มาอยู่รวมกัน ซึ่งคุณก็รับหน้าที่เป็นแม่งาน เรียกว่า เหนื่อยทั้งกายใจ คนโสด ได้เจอคนถูกใจจนคุณยอมเป็นนารีอุปถัมภ์ แต่ก็ต้องระวังความหึงหวงที่จะทำให้ไปต่อกันไม่ได้

สุขภาพ : หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ตั้งแต่สะโพกลงมาถึงต้นขาปวดตึง ข้อเข่าและข้อเท้ามีอาการบวมแดง

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

อำนาจความโสดอยู่ในมือคุณแล้ว เลือกให้ดี ดูดวงรายวัน 1 กุมภาพันธ์ 2563

ความคิดที่สุดโต่ง อาจทำให้เริ่มเร็วและจบเร็ว ดูดวงรายวัน 2 กุมภาพันธ์ 2563

อาจผิดใจกับเพื่อน เพราะหลงรักผู้ชายคนเดียวกัน ดูดวงรายวัน 3 กุมภาพันธ์ 2563

จะจีบก็เกรงอำนาจบารมี ได้แค่ยั่วให้อยากแล้วก็จากไป ดูดวงรายวัน 4 กุมภาพันธ์ 2563

ไวรัสอู่ฮั่น

ทาสแมวมั่นใจได้ นักวิจัยเผย โคโรนาแมวคนละสายพันธุ์กับ ไวรัสอู่ฮั่น ไม่ติดสู่คน

Alternative Textaccount_circle
ไวรัสอู่ฮั่น
ไวรัสอู่ฮั่น

นักวิจัยเผย โคโรนาแมวคนละสายพันธุ์กับ ไวรัสอู่ฮั่น ไม่ติดสู่คน ทาสแมวมั่นใจได้

จากกรณีสำนักข่าวเดลีเมล์ รายงานว่า กระแสหวาดผวา ไวรัสอู่ฮั่น ทำให้ทางการจีนสั่งให้ประชาชนทิ้งสัตว์เลี้ยงในบ้าน อ้างว่าอาจเป็นพาหะแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา ทั้งที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่าไม่เคยมีหลักฐานว่าไวรัสโคโรนาจะติดต่อผ่านแมวหรือสุนัขได้

ผศ.สพ.ญ.ดร.ศิรินทร์ ธีระวัฒนศิริกุล นักวิจัยจาก ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ได้ยืนยันข้อมูลเช่นเดียวกันว่า ไวรัสโคโรนา เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคในแมวได้เช่นกัน แต่เป็นคนละสายพันธุ์กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไวรัสอู่ฮั่น (nCoV-2019) ในทางการแพทย์ได้ตรวจพบไวรัสโคโรนาในสัตว์มานานแล้ว ซึ่งไวรัสโคโรนาในสัตว์นั้นเป็นไวรัสที่จำเพาะเจาะจงในแต่ละสายพันธุ์ จะไม่แพร่เชื้อข้ามสายพันธุ์สัตว์ โดยในสุนัขจะมีไวรัสโคโรนาเฉพาะสายพันธุ์ คือ Canine coronavirus  ส่วนในแมวไวรัสโคโรนาเฉพาะสายพันธุ์ คือ Feline coronavirus (FCoV) ทั้งนี้โคโรนาไวรัสในสุนัขและแมวนั้นคนละสายพันธุ์กัน ดังนั้นเมื่อติดเชื้อจึงจะแสดงอาการต่างกัน

ไวรัสโคโรนา เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคในแมวได้เช่นกัน แต่เป็นคนละสายพันธุ์กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไวรัสอู่ฮั่น

ไวรัสอู่ฮั่น
ไวรัสอู่ฮั่น

สำหรับไวรัสโคโรนาในแมว (Feline coronavirus หรือ FCoV) เป็นไวรัสที่สามารถพบได้ในลำไส้ของแมว โดยมักจะพบการแพร่ของเชื้อไวรัสนี้ได้ในการเลี้ยงแมวร่วมกันหลายตัว และใช้กะบะทรายขับถ่ายร่วมกัน เนื่องจากมีการแพร่เชื้อผ่านการกินอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระที่มีเชื้อไวรัสตัวนี้ จะก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหารในแมว  แมวอาจไม่แสดงอาการใดๆ เลย หรือมีอาการลำไส้อักเสบและท้องเสียไม่รุนแรง ไปจนถึงพัฒนาเป็นโรค “เยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อในแมว” (FIP)  ที่แมวจะมีอาการซึม เบื่ออาหาร หายใจผิดปกติ ไปจนถึงมีอาการที่รุนแรงขึ้นคือ พบของเหลวขังตามช่องอกหรือช่องท้อง และอาจเสียชีวิตได้ในที่สุด  ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หาย หรือวัคซีนที่ป้องกันไวรัสตัวนี้ให้ได้ผลจริงๆ ในการรักษาในปัจจุบันจึงเป็นการรักษาแบบพยุงหรือประคับประคองอาการเท่านั้น สำหรับคำถามที่ว่า “มีโอกาสแพร่จากแมวสู่คนได้หรือไม่ ?” นั้น ปัจจุบันยังไม่มีรายงานใดว่ามีการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาในแมวมาสู่คน ทั้งจากการคลุกคลีกับแมวหรือการกินแมว แต่คำแนะนำคือ “เราไม่ควรกินสัตว์ที่ไม่ได้มาจากปศุสัตว์เพื่อการบริโภค ให้กินอาหารปรุงสุกใหม่ๆ สะอาด ใช้ช้อนกลางจะดีที่สุด” 

ไวรัสอู่ฮั่น

ทั้งนี้ในช่วง ปี 2560 – 2562 ที่ผ่านมา ตนและทีมได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง “การตรวจคัดกรองโมเลกุลขนาดเล็กที่ยับยั้งโปรติเอสหลักของไวรัสโคโรนาในแมวโดยใช้แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อศึกษายาหรือสารที่มีโมเลกุลเล็กที่สามารถต้านไวรัสโคโรนาในแมว ชนิดที่ก่อโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อในแมว ที่มีความรุนแรงมากในแมวอายุน้อย หรือแมวที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ และมีอัตราการตายสูง โดยผลงานวิจัย พบสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่ต้านการติดเชื้อของไวรัสและต้านการทำงานโปรตีนของไวรัสโคโรนาที่ชื่อ 3C – like protease ได้โดยตรง จำนวน 3 สาร ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาต่อเป็นยารักษาโรคในกลุ่มไวรัสโคโรนาในแมว และโรคไวรัสโคโรนาอื่นๆ ต่อไป

และ ผศ.สพ.ญ.ดร.ศิรินทร์ ได้กล่าวแสดงทัศนะถึงความสำคัญของงานวิจัยที่มีต่อสังคมว่า “งานวิจัยทุกชิ้นมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจัยวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (Basic science) ที่ทำให้เราเข้าใจสิ่งที่จะศึกษาได้อย่างลึกซึ้ง จากจุดเล็กๆ ทีละส่วนขององค์ความรู้ จะสามารถพัฒนาหรือต่อยอดสมบูรณ์มากขึ้น และทำให้เรารู้เท่าทันและรับมือปัญหาปัจจุบันทันที เช่น สภาวการณ์ที่มีโรคระบาด หรือโรคอุบัติใหม่ เป็นต้น สามารถนำความรู้ที่ได้จากผลงานวิจัยมาต่อยอด ตอบโจทย์ปัญหาในสังคม และช่วยทำให้สื่อสารสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนสังคมได้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้องค์ความรู้ที่เป็นจุดเล็กๆ จากผลงานวิจัยจะสามารถมาพัฒนาให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น  ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในภาวะวิกฤตอย่างกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นต้น”


ภาพ : Pixabay 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าติดตาม

ความเสี่ยงในไทย กับการระบาดของ ไวรัสอู่ฮั่น หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ลุ้น! จีนผลิต วัคซีนต้านไวรัสโคโรนา ภายใน 1 ปี

การเฝ้าระวัง โรคปอดบวมปริศนา กระแสที่ต้องจับตามอง แม้ยังไม่พบหลักฐานชี้ชัด

ฮาวทูเซฟชีวิตในวิกฤต ฝุ่น PM2.5 มหันตภัยร้ายเล็กจิ๋วที่ห้ามมองข้าม!

วิธีฟื้นฟูและรักษาสมดุลคนที่ผิวแพ้ง่าย จนเกิดผดผื่น สิว จากปัญหา ฝุ่น PM 2.5

 

 

แต้ว ณฐพร

แต้ว ณฐพร รับเห็นใจ เจมส์จิ & โฟม ฝ่าดราม่าคนไม่เปิดใจรับคบหากัน

Alternative Textaccount_circle
แต้ว ณฐพร
แต้ว ณฐพร

” แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ ” รับเห็นใจพระเอก “เจมส์จิ-จิรายุ ตั้งศรีสุข” และ “โฟม” สาวคนพิเศษ ฝ่าดราม่าคนไม่เปิดใจรับคบหากัน

มีข่าวว่าพระเอกหนุ่ม “เจมส์จิ-จิรายุ ตั้งศรีสุข” ใช้เวลาศึกษากับสาวนอกวงการที่ชื่อ “โฟม” มาพักใหญ่แล้ว แต่กลับไม่ค่อยมีภาพคู่กันออกมาให้เห็นสักเท่าไหร่ ด้วยอาจจะเพราะกลัวกระแสต่างๆ แต่ล่าสุด ” แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ ” ก็ได้โพสต์ภาพทั้งคู่รกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่เดินทางไปเที่ยวด้วยกัน ทำให้กลายเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก ล่าสุดในงาน้เปิดตัวแอมบาสเดอร์ RADO คนแรกของประเทศไทย แต้วถูกถามถงเรื่องนี้จึงได้ให้สัมภาษณ์อธิบายเรื่องนี้ให้หลายๆ คนเข้าใจ

ล่าสุดไปญี่ปุ่นมาเป็นอย่างไรบ้าง?

“สนุกค่ะ แต่ไม่สนุกตรงโคโรน่านี่แหละค่ะ (หัวเราะ) เป็นการเที่ยวแบบระแวง ระวังหลังตลอด เพราะ 2-3 วันหลังเป็นการเที่ยวที่ต้องพบปะผู้คน เลยต้องมีความระแวงนิดหนึ่งค่ะ”

แต่เห็นลงรูปคู่กับ เจมส์ จิรายุ เยอะกว่าแฟน?

“อ๋อ….จริงเหรอคะ ไม่ได้สังเกตเลยอ่ะ

แต้ว ณฐพร

เหมือนเป็นการสยบข่าวที่ก้อนหน้านี้ว่าคู่เราห่างเหินกัน?

“ก็ไม่ได้สยบข่าวอะไร เราก็วันต่อวันค่ะ ว่าวันนี้เรารู้สึกยังไง ไม่ได้แบบจะต้องทำเพื่ออะไร เราอยากจะลงเราก็ลง เรายังไม่อยากจะลงก็ยังไม่ลง อาจจะแบบยังไม่ได้มีช็อตที่เรารู้สึกอยากลงอะไรแบบนี้ค่ะ”

มีแฟนคลับมีเข้าไปถามเยอะไหม เมื่อไหร่จะลงรูปคู่พี่ต้น?

“ไม่ได้ถึงกับไดเรกต์มาอะไรขนาดนั้น แต่ว่าพอบางทีลงก็จะมีบอกว่า รูปที่รอ อะไรแบบนี้นิดหน่อยเท่าที่เห็นนะคะ”

จริงๆ มีรูปที่หวานกว่าที่โพสต์ไปแล้วไหม ?

“ไม่มีค่ะ (หัวเราะ) ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ก็โอเคค่ะ เรื่อยๆ”

ทริปนี้มีดราม่าขึ้นมาเบาๆ เมื่อลงรูปติด น้องโฟม แฟนสาว เจมส์ จิรายุ?

“ทำไมอ่ะ ห้ามลงเหรอ (หัวเราะ) แต้วไม่ได้เห็นคอมเมนต์อะไรแบบนี้เลยค่ะ มีเหรอคะ เหมือนได้ยินมานิดหนึ่ง แต่อะไรที่เรารู้สึกว่า ทำไมอ่ะ เราไม่ได้สนใจ แต่ก็ฟังแหละ แต่ก็รู้สึกว่าเราคิดดีแล้ว ไม่ได้ลงไปโดยขาดสติ เรารู้สึกว่าเป็นเพื่อนที่เราอยากจะเก็บไดอารี่ไว้ในอินสตราแกรมว่าเราเคยไปเที่ยวแบบนี้ มีเขา เราคิดว่ามันเป็นสิทธิ์ของเราเนอะ พื้นที่ของเราด้วย”

แอบสงสารเขาไหม เหมือนเขาจะโดนตลอด?

“แต้วว่าเขาคงโอเคแล้วแหละ (หัวเราะ) เขาคงรู้ว่าจะรับมือยังไง เขาคงเจออะไรเยอะแล้วแหละ แต้วคิดว่านะ (หัวเราะ) โฟมเขาน่ารักค่ะ ดูแลทุกคน เรารู้สึกว่าเรามีทัศนะคติที่ดีกับเขา แล้วเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เราอยากจะมีความหวังดีต่อกัน ก็ดีใจ เพราะนอกจากมีเจมส์เป็นเพื่อนแล้ว ก็ยังมีโฟมเป็นเพื่อนด้วย”

แต้ว ณฐพร

พอมีโดนโฟกัสอะไร มีแอบหงุดหงิดใจเบาๆ ไหม?

“ไม่นะ เรารู้สึกว่าก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่จะมาคอมเมนต์ไม่เห็นด้วย แต่เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้จะทำร้ายใคร ถามว่าอยากให้คนแอนตี้ลองเปิดใจหรือเปล่าแต้วว่าเราเปลี่ยนความคิดใครไม่ได้ เราแค่รู้สึกว่าเราโอเคกับใคร เราก็แชร์โมเมนต์ที่เราแฮปปี้แค่นั้นเอง คุณอยากจะมากดไลก์ กดแชร์ก็ได้”

อย่างรูปที่ เจมส์ ลงภาพก็โดนไปด้วย แอบเห็นใจไหม ?

“ก็เห็นใจนิดหนึ่ง แต่ว่ามันเป็นทางที่ทุกคนตัดสินแล้ว เราไม่ก้าวก่ายกันว่าเธอควรทำยังนี้ ไม่ควรทำอย่างนี้นะ แต่ว่าในพื้นที่ของเรา และเราเคยคุยกันแล้วว่ามันได้แค่ไหน อะไร ยังไง เราก็ทำตามสิ่งที่เราเคยคุยกันไว้”

ทริปนี้ โฟม จะเป็นคนถ่ายให้ส่วนใหญ่?

“ไม่ๆ เราก็ถ่ายทั้งตอนมีโฟม ไม่มีโฟม ไม่ได้ตั้งใจ ก็มีรูปที่มีเยอะ แต่เป็นรูปฟิล์ม เพราะเจมส์เอากล้องฟิล์มไปด้วย”

แต่ เจมส์ คงไม่ลงให้เห็นใช่ไหม?

“รูปสวยๆ อดเห็นเลยเนี่ย (หัวเราะ)”


 

5 สิ่งต่อไปนี้ในพิธีแต่งงานจีน ที่ว่าที่อาตี๋อาหมวยต้องทำในวันส่งตัว

account_circle

5 สิ่งต่อไปนี้ใน พิธีแต่งงานจีน ที่ว่าที่อาตี๋อาหมวยต้องทำในวันส่งตัว

พิธีแต่งงานจีน เป็นอีกหนึ่งพิธีแต่งงานที่มีธรรมเนียมปฏิบัติและขั้นตอนต่างๆ เยอะแยะไม่แพ้กับพิธีแต่งงานไทย และหนึ่งในพิธีสำคัญที่คนจีนถือปฏิบัติกันมายาวนานก็คือ วันส่งตัว ที่งานนี้ไม่ใช่แค่ไปส่งเจ้าสาวให้ถึงบ้าน หรือกล่าวคำอวยพรกับบ่าวสาวบนเตียงนอนเหมือนพิธีแต่งงานไทยนะคะ เพราะในวันส่งตัวของคนจีนนั้น ประกอบไปด้วยขั้นตอนและข้าวของต่างๆ มากมาย เอาเป็นว่ามีขั้นตอนอะไร และต้องเตรียมอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

กินอาหาร 10 อย่างที่พ่อแม่คีบให้

วันส่งตัว พิธีส่งตัวเริ่มที่บ้านเจ้าสาว โดยส่วนใหญ่ฤกษ์ส่งตัวของเจ้าสาวมักเป็นช่วงเวลากลางคืน จึงเป็นที่มาของคำว่า คืนส่งตัว ในวันนี้คุณแม่ของเจ้าสาวจะติดปิ่นทองและทับทิมให้ที่ผมเจ้าสาว จากนั้นเจ้าสาวจะทำพิธีไหว้เทพยาดาฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษ และกินอาหาร 10 อย่างที่พ่อแม่คีบให้ พร้อมฟังคำอวยพรที่พ่อแม่ช่วยกันเอ่ยตามความหมายของอาหารมงคลชนิดต่างๆ

ได้เวลาเจ้าบ่าวมารับ

จากนั้นก็จะถึงเวลาที่เจ้าบ่าวมารับ เมื่อเจ้าบ่าวมาถึงบ้านเจ้าสาวพร้อมเถ้าแก่และเดินฝ่าประตูเงินประตูทองแล้วจะเจอเจ้าสาวในชุดแต่งงานนั่งถือพัดแดงคอยอยู่ จากนั้นทั้งคู่จะต้องกินขนมอี๊สีชมพูด้วยกันโดยผลัดกันป้อนในคำแรก จากนั้นจะป้อนกันจนหมดชามหรือต่างคนต่างกินก็ได้ แต่ก็มีบางบ้านตั้งโต๊ะให้คู่บ่าวสาวป้านแดงกินอาหารมงคล 10 อย่างด้วยกัน ก่อนจะลาพ่อแม่ขึ้นรถแต่งงานออกไป โดยมีเคล็ดว่าระหว่างทางเจ้าสาวห้ามเหลียวหลังกลับมามองบ้านเป็นอันขาด (ในขั้นตอนนี้พ่อแม่เจ้าบ่าวจะรออยู่ที่บ้าน และไม่ปรากฏตัวจนกว่าจะถึงพิธียกน้ำชา ถ้าออกมาก่อนเวลาเชื่อว่าจะไม่ถูกกับลูกสะใภ้)

พิธีแต่งงานจีน

ในรถแต่งงาน (หรือในขบวนรถ)

จะต้องขนกระเป๋าเสื้อผ้า ทรัพย์สิน ของติดตัวเจ้าสาวที่พ่อแม่ให้มา ตลอดจนของขวัญที่เจ้าสาวเตรียมไว้แจกญาติเข้าบ่าวไปด้วย นอกจากบ่าวสาวนั่งในรถแล้ว จะต้องมีญาติเจ้าสาวซึ่งเป็นผู้ชายถือตะเกียงนำขบวนไปด้วย เพื่อเป็นเคล็ดให้คู่บ่าวสาวได้ลูกชายไว้สืบสกุล

เมื่อถึงบ้านฝ่ายเจ้าบ่าว

บ่าวสาวต้องทำพิธีไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ ไหว้บรรพบุรุษเพื่อแจ้งให้ศักดิ์สิทธิ์รับรู้ว่าครอบครัวนี้กำลังมีสมาชิกใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน และเพื่อขอพรให้อยู่กันอย่างราบรื่น โดยเจ้าบ่าวจะต้องเตรียมของไหว้ดังนี้ ส้ม 5 ผล, ขนม 1 จาน, ชา 5 ถ้วย, ขนมอี๊ 5 ชาม, เทียนแดง, กระถางธูป, และธูป 10 ดอก (เจ้าสาว 5 ดอก เจ้าบ่าว 5 ดอก) ส่วนเจ้าสาวเตรียมแค่เชิงเทียนมา 1 คู่

ยกน้ำชา

จากนั้นจึงเป็นพิธียกน้ำชาให้พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชาย โดยเจ้าสาวจะต้องเป็นฝ่ายเตรียมชุดน้ำชาที่ใส่น้ำตาลกรวดประมาณ 1 หยิบมือเพื่อเป็นเคล็ดให้ญาติเจ้าบ่าวที่ดื่มชารักและเอ็นดู เมื่อดื่มชาแล้วผู้ใหญ่จะให้เงินทองหรือของขวัญ ซึ่งเจ้าสาวจะต้องแสดงความขอบคุณด้วยของที่เตรียมมา

ภาพ www.pinterest.com

3 เรื่องต้องทำ! หาก “แหวนแต่งงาน” ยังไม่ถูกใจ

account_circle

ช่วงเวลาที่แฟนหนุ่มคุกเข่าตรงหน้าและเปิดกล่องแหวนพร้อมพูดคำว่า “แต่งงานกันนะครับ” ช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขสำหรับสาวๆ ทุกคนนะคะ บางคนแค่เห็นว่าเป็นแหวนก็ยิ้มจนแก้มปริ พอเวลาผ่านไปความตื่นเต้นเริ่มเบาลงประกอบกับว่าได้มีเวลาพินิจพิจารณาแหวนชัดๆ กลับพบว่าหลวมไปนิด แน่นไปหน่อย ไม่ค่อยชอบดีไซน์ แหวนแต่งงาน เท่าไหร่  เอ้า! เจอสถานการณ์แหวนแต่งงานไม่โดนใจแบบนี้ แพรว wedding มี 3 ข้อที่คุณควรทำกับแหวนมาฝาก

3 เรื่องต้องทำ! หาก “แหวนแต่งงาน” ยังไม่ถูกใจ

1. อย่าผลีผลามตัดสินใจว่าไม่ชอบ

หลังจากที่ได้สวมแหวนกับนิ้วนางข้างซ้ายแล้ว เราอยากจะให้คุณมองแหวนให้ครบทุกมุมค่ะ ลองหมุนมือซ้ายขวา ดูว่ามันสวยรับพอดีกับมือไหม ถ้ามองแล้วยังรู้สึกว่าไม่ใช่ก็ลองให้เวลากับมันสักนิด ลองใส่ดูสัก2-3วัน หรือใส่นานหน่อยประมาณ 1-2 สัปดาห์ก็ได้ ระหว่างนั้นก็ค่อยๆ สังเกตไปเรื่อย เมื่อมันได้มาอยู่ในมือคุณนานๆ ความถูกใจ ความชอบก็อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นให้เวลาทำความรู้จักกับแหวนแต่งงานที่แฟนหนุ่มตั้งใจเลือกให้สักนิด ถ้าในที่สุดแล้วยังไม่ถูกใจก็ค่อยดำเนินการขั้นต่อไปเนอะ

2. ถามเขาสักนิดว่า “ทำไมถึงเลือกแหวนวงนี้ล่ะ?”

แต่ก็อย่างที่เขาเคยพูดกันว่า อย่าตัดสินใจหนังสือเพียงแค่ดูหน้าปก ฉันใดก็ฉันนั้นจ้ะ ลองถามแฟนหนุ่มของคุณสักหน่อยว่า “ทำไมเขาถึงเลือกแหวนวงนี้มาให้คุณล่ะ?” บางทีแหวนวงนี้อาจมีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่มากกกว่าที่คุณเห็น เช่น มันเป็นแหวนมรดกหรือมีดีไซน์คล้ายคลึงกับแหวนของคุณแม่ของเขา หรืออาจจะมีเรื่องราวความทรงจำดีๆ ระหว่างคุณกับเขาซ่อนอยู่ ไม่แน่ว่าแหวนวงนี้อาจจะมีคุณค่าทางใจมากกว่าที่คุณเห็นก็ได้นะ

3. บอกเขาว่าคุณชอบนะ แต่มันยังไม่ใช่อ่ะ!
ถ้าดูก็แล้ว ใส่ก็แล้ว สุดท้ายก็ยังไม่ถูกใจ เราขอแนะนำว่าให้เปิดใจคุยกับคนที่ให้แหวนคุณนั่นแหละค่ะ แต่ก็ต้องค่อยๆ พูดนะคะ และคุณควรตระหนักไว้ว่าแหวนที่เขาให้มาเกิดจากความตั้งใจเลือกของเขา แต่มันก็อาจจะมีบางจุดที่ยังไม่ถูกใจคุณเสียทีเดียว คุณอาจจะเริ่มพูดว่า “แหวนสวยดีนะ แต่ว่า….” แล้วก็ตามด้วยเหตุผลที่คุณไม่ชอบ เช่น หลวมไป แน่นไป ดีไซน์แหวนยังไม่ถูกใจ เป็นต้น แต่จงจำไว้ว่าหลังจากพูดคุยกันเสร็จแล้วก็ถามเขาด้วยว่า จะสามารถปรับแหวนได้หรือไม่ จากนั้นก็พากันไปที่ร้านแหวน แล้วค่อยดูว่าจะปรับแก้ไขอย่างไรให้ได้ตามที่คุณชอบ

อย่าลืมนะคะว่าแหวนแต่งงานจะเป็นสิ่งที่อยู่ติดตัวคุณไปตลอดชีวิต คุณจะต้องเห็นมันทุกครั้งที่ตื่น เดิน กิน นอน ลองพิจารณาดูว่ามันเป็นแหวนในแบบที่คุณชอบจริงหรือไม่ ใส่พอดีหรือเปล่า ถูกใจอย่างที่คุณต้องการจริงๆ ไหม เพราะไหนๆ ก็ต้องใส่ติดตัวตลอดชีวิตอยู่แล้ว เราก็อยากจะให้สาวๆ ทุกคนยิ้มและนึกถึงความทรงจำดีๆ ทุกครั้งที่ยกมือขึ้นมาดูมันนะคะ

ดูแบบแหวนแต่งงาน และคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรียบเรียงจาก bridesmaidforhire.com
ภาพจาก clarajewellery.com

เคล็ดลับวางแผนชุดเพื่อนเจ้าสาวยังไงให้ลงตัวสวยเริดเจิดกันยกแก๊ง

account_circle

ไม่ใช่แค่เจ้าสาวนะที่ปวดหัวเรื่องชุด เพราะแก๊งเพื่อนสาวของคุณก็มึนไปกับ ชุดเพื่อนเจ้าสาว ของพวกเธอเหมือนกัน!!

หากวันแต่งงานเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเจ้าสาว ก็ขอให้วันนี้เป็นวันแห่งความทรงจำสำหรับกลุ่มเพื่อนของคุณด้วยเช่นกัน ตามมาดูคำแนะนำจากแพรว wedding ที่จะช่วยให้เจ้าสาวแอนด์เดอะแก๊งสวยจบ สวยเจิด สวยเริดกันยกกลุ่ม กับเคล็ดลับการวางแผนเรื่อง ชุดเพื่อนเจ้าสาว ที่เรานำมาฝาก

สเต็ปเลือกชุดสุดเพอร์เฟกต์ ลำดับขั้นตอนง่ายๆ ที่ไม่ว่าเพื่อนซี้กลุ่มไหนก็ทำตามได้ไม่ยาก

  1. เริ่มต้นที่เจ้าสาว ก่อนการออกแบบชุดเพื่อนเจ้าสาว ต้องเริ่มต้นจากตัวของเจ้าสาวก่อนว่าอยากแต่งตัวแบบใด และอยากให้กลุ่มเพื่อนในวันงานออกมาเป็นแบบไหน
  2. วางคอนเซปต์ชุด โดยปกติแล้วเจ้าสาวจะมีภาพรวมชุดเพื่อนเจ้าสาวไว้ในใจ ดังนั้นเจ้าสาวและเพื่อนควรพูดคุยกันเพื่อวางคอนเซปต์ให้ชัดเจน ขั้นตอนนี้ให้ยึดความต้องการของเจ้าสาวเป็นหลัก จากนั้นค่อยต่อยอดรายละเอียดปลีกย่อย
  3. เพื่อนเจ้าสาวเลือกแบบชุด เลือกแบบที่ตัวเองมั่นใจ แต่ต้องอยู่ในความพอดี ไม่น้อยหรือเยอะจนเกินไป และไม่เด่นเกินเจ้าสาว ถ่ายรูปออกมาจะได้ดูบาลานซ์และไปด้วยกันกับกลุ่มเพื่อน

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

เลือกเนื้อผ้าอย่างไรให้สวยหรูดูแพง

เปลี่ยนความคิดที่ว่าชุดจะสวยถ้าตัดด้วยผ้าราคาแพง เพราะผ้าแต่ละชนิดก็เหมาะสำหรับแบบชุดที่แตกต่างกันไป ซึ่งถ้าหากเจ้าสาวมีงบมากหน่อย (กรณีที่เจ้าสาวรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้) หรือคุณเป็นแก๊งเพื่อนเจ้าสาวสายเปย์ที่อยากได้ลุคดูสวยหรู แนะนำให้เลือกผ้าซิลค์ซาติน แต่ถ้าอยากได้เท็กซ์เจอร์แบบผ้าชีฟอง แนะนำให้เลือกเป็นผ้าซิลค์ชีฟองแทน แต่ถ้าอยากลดงบลงสักหน่อย ก็อาจจะเลือกผ้าราคากลางๆ ที่มีเนื้อมันวาวที่เมื่อตัดออกมาแล้วดูดีไม่แพ้เนื้อผ้าแพงๆ แนะนำให้เลือกเป็นผ้าออร์แกนดี้

ชุดเจิด คนจบ งบไม่บาน

สิ่งสำคัญอันดับแรกเมื่อเริ่มตัดชุดคือ เรื่องผ้า แนะนำให้เจ้าสาวซื้อผ้าเผื่อให้เพียงพอและซื้อแบบครั้งเดียวจบ เพราะมีข้อดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นได้รับส่วนลดจากการซื้อผ้าจำนวนมาก ตัดชุดได้หลากหลายแบบเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อผ้าแบบจำกัด ไม่ต้องวิ่งหาผ้าชนิดอื่นมาผสมกันหากผ้าไม่พอ และข้อสุดท้ายคือ คุณสามารถนำผ้าที่เหลือไปใช้ทำอย่างอื่นได้อีก

เรื่องต่อมาคือภาพรวมชุดเจ้าสาว แนะนำให้ ตัดชุดเพื่อนเจ้าสาวจากร้านเดียวกัน เพราะร้านหรือดีไซเนอร์แต่ละคนจะมีซิกเนเจอร์อันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ภาพรวมของชุดที่ออกมาดูกลมกลืนไปด้วย การสั่งตัดชุดแบบแยกร้าน แม้จะใช้ผ้าสีและชนิดเดียวกัน แต่เมื่อมาอยู่รวมกันอาจดูโดดไปกันคนละทาง

เรื่องสุดท้ายที่แก๊งเพื่อนเจ้าสาวต้องใส่ใจและให้ความสำคัญคือ เป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงที่อยากสวย แต่อย่าลืมว่างานแต่งงานนั้นเป็นงานของเจ้าสาว ฉะนั้นไม่ว่าสไตล์ชุดหรือธีมสีที่เจ้าสาวเลือกจะถูกใจคุณหรือไม่ ก็ขอให้ยิ้มรับและมีความสุขกับงานครั้งสำคัญของเพื่อนสาวดีกว่านะคะ … แล้วค่อยไปจัดเต็มในงานตัวเนอะ ^^

ถ้าตกลงกันได้แล้วก็ตามไปส่องชุดสวยๆ กับร้านดังที่เรานำมาฝากเลย >>> รวมร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวสวยงามอลังการ ราคาแค่หลักร้อยถึงหลักพัน

ภาพ sheknows.com, greenweddingshoes.com, insideweddings.com

ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก เปิดประสบการณ์เสพงานศิลป์ ณ พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลแห่งแรกของไทยกับ  SOMETHING NOUVEAU. KLIMT, MUCHA, BEARDSLEY นิทรรศการมัลติมีเดียสุดตระการตา

ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก (River City Bangkok) ศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ศูนย์กลางศิลปะและวัตถุโบราณ ที่เปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัย ล่าสุดในปี 2020 นี้ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก นำโดย ลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ ภูมิใจนำเสนอนิทรรศการมัลติมีเดียครั้งใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ “SOMETHING NOUVEAU. KLIMT, MUCHA, BEARDSLEY” นำเสนอโดยพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัล (Museum of Digital Art – MODA)ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจ็คต์ใหญ่ตลอดทั้งปีนี้คือ มร.โอเลก มารินิน (Oleg Marinin) แห่ง Vision Multimedia Projects (VMP) บริษัทดิจิทัลโปรดักชั่นจากยุโรป ภายในงานเปิดนิทรรศการให้กับสื่อมวลชนและเหล่าอาร์ตเลิฟเวอร์สที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มกราคม ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยเซเลบริตี้และผู้ชื่นชอบศิลปะเข้าร่วมงานมากมาย อาทิ คุณวลัยทิพย์ พิริยะวรสกุลและคุณนิจพร จรณะจิตต์ ผู้บริหาร พร้อมด้วยศิลปินและเหล่าคนในวงการศิลปะของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น สมนึก คลังนอก, สิริมา ไชยปรีชาวิทย์, จิตต์สิงห์ สมบุญ, เจย์ สเปนเซอร์, เพ็ญสุภา คชเสนี, ณัฏฐิ์ประภา-ณัฏฐิ์มาฎา-ณัฏฐกรณ์ ชุณหะวัณ, ดวงฤทธิ์ บุนนาค และธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง

นิทรรศการ “SOMETHING NOUVEAU. KLIMT, MUCHA, BEARDSLEY” จัดขึ้นที่ MODA Gallery ชั้น 2 ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม-16 เมษายน 2020 นี้ เป็นนิทรรศการที่นำเสนอผลงานของกุสตาฟ คลิมท์ (Gustav Klimt) อัลโฟนส์ มูคา (Alphonse Mucha) และออเบรย์ เบียร์ดสเลย์ (Aubrey Beardsley) ศิลปินแถวหน้าของยุคอาร์ต
นูโว (Art Nouveau) ซึ่งเป็นยุคที่ได้รับการยอมรับว่างานศิลปะ งานกราฟิค และสถาปัตยกรรมมีเสน่ห์ที่สุดยุคหนึ่ง
มานำเสนอในรูปแบบมัลติมีเดีย กล่าวได้ว่า มรดกแห่งโลกศิลปะผ่านการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ถูกปลุกให้มีชีวิตอีกครั้งผ่านภาพเคลื่อนไหว องค์ประกอบสำคัญถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น มีการยิงแสงเลเซอร์และฉายโปรเจ็กเตอร์บนผนังและทั่วทั้งพื้นห้องพร้อมกับเสียงเพลงเร้าอารมณ์ของนักดนตรีผู้มีชื่อเสียง เพื่อมอบประสบการณ์ให้ผู้ชมได้ดำดิ่งไปกับงานศิลปะอย่างไม่รู้ตัว ทั้งยังมีอุปกรณ์ headset ทำให้ผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมในเกมหรือการเดินทางไปสู่โลกเสมือนจริงเกินจะจินตนาการได้

นิทรรศการ Something Nouveau แบ่งออกเป็น 3 โซน เพื่อมอบประสบการณ์อันหลากหลายให้กับผู้ชมทุกเพศวัย

MODA Galley เป็นการฉายโปรเจ็คเตอร์สุดล้ำโดยในครั้งนี้มีการฉายภาพศิลปะอาร์ตนูโวบนพื้นห้องนิทรรศการขนาดใหญ่ที่แตกต่างจากครั้งก่อน เพื่อเอาใจเหล่าอาร์ตเลิฟเวอร์สและผู้ชอบการถ่ายภาพ

MODA SPACE ในส่วนนี้นำเสนองานสามมิติที่ผู้ชมต้องสวมแว่นพิเศษที่ MODA ได้เตรียมไว้ให้เพื่อสัมผัสกับระสบการณ์แบบ immersive เมื่อซื้อบัตรชมนิทรรศการ Something Nouveau จะได้ชมทั้งสองส่วนนี้ในราคาเดียว

นอกจากนี้ยังมี MODA VR STUDIO ที่จะนำเสนอโลกเสมือนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งผู้ชมต้องใช้อุปกรณ์ในการชมและฟังเพื่อดื่มด่ำไปกับโลกแห่งสามมิติแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ และสามารถเนรมิตโลกเสมือนขึ้นมาได้ด้วยตนเองด้วยอุปกรณ์ VR หรือ Visual Reality ในส่วนนี้จะนำเสนอเรื่องราวแห่งศิลปะที่นอกเหนือไปจากอาร์ต นูโว

ในโอกาสพิเศษนี้ ลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก กล่าวว่า ปี 2019 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของริเวอร์ ซิตี้  แบงค็อก เราได้จัดแสดงผลงานของศิลปินชั้นครูระดับตำนานและศิลปินไทยร่วมสมัยซึ่งเป็นศิลปินรุ่นใหม่ รวมถึงนิทรรศการ “From Monet to Kandinsky” และ “Italian Renaissance” ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้ชมทุกเพศทุกวัยกว่า 80,000 คน 

“ปีนี้เราเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลของกรุงเทพฯ หรือ MODA ทำให้ทุกคนได้ใกล้ชิดกับงานศิลปะที่มีชื่อเสียงของศตวรรษโดยอาศัยเทคโนโลยีหลายมิติและการมอบประสบการณ์ร่วมให้ผู้ชม โดยนิทรรศการ Something Nouveau เป็นปฐมบทของ MODA เราได้เลือกสรรยุคทองของอาร์ตนูโว นำเสนอเรื่องราวของศิลปินกุสตาฟ คลิมท์ อัลโฟนส์ มูคา และออเบรย์ เบียร์ดสลีย์ ศิลปินแถวหน้าของยุคนั้น เพราะปรารถนาที่จะเริ่มต้นปีใหม่ด้วยสิ่งที่เรียกว่า ‘New art’ หรือศิลปะแบบใหม่ของศตวรรษ นอกจากส่วนที่เรียกว่า MODA Multimedia Gallery และ MODA Immersive Room แล้ว ยังมีส่วนที่เรียกว่า MODA VR Studio ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมและเนรมิตงานศิลปะดิจิทัล ให้ผู้ชมได้ดื่มด่ำงานศิลป์ผ่านโลกสามมิติ ที่เราอยากให้ทุกท่านมาสร้างประสบการณ์ด้วยตัวเอง” ลินดา อธิบาย และกล่าวต่อไปว่า ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ภูมิใจนำเสนออีกหนึ่งนิทรรศการ ‘ครั้งแรก’ ของกรุงเทพ กับประโยคที่ว่า “15 minutes of fame” หรือ “ทุกคนจะมีโอกาสมีชื่อเสียงในระดับโลก คนละ 15 นาที” สำหรับทุกท่านได้มาสัมผัสและเพลิดเพลินไปกับนิทรรศการนี้ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้เร็วๆ นี้

มร.โอเลก มารินิน Managing Partner บริษัท Vision Multimedia Projects กล่าวว่า เรายินดีที่จะนำเสนอพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลแห่งแรกในประเทศไทย เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ที่รวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของพื้นที่พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัย ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก เช่น BORDERLESS ณ กรุงโตเกียว และ ATELIER des LUMIERES ณ กรุงปารีส ทั้งสองแห่งก่อตั้งขึ้นไม่นานแต่ก็เป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกต่างปรารถนา อย่างไรก็ตาม BORDERLESS เน้นไปที่งาน        อินสตอลเลชั่นที่ให้ผู้ชมมีประสบการณ์ร่วม ขณะที่ ATELIER des LUMIERES นำเสนอโชว์มัลติมีเดีย “ส่วน MODA โปรเจ็คต์ใหม่ของเราที่ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก นั้นมีทุกอย่างที่ว่านี้รวมกันและมีสิ่งต่างๆ เพิ่มขึ้นไปอีก จุดประสงค์ของเราคือนำเสนอศิลปะในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Artainment ซึ่ง MODA Bangkok เป็นพื้นที่อันหลากหลายซึ่งเปลี่ยนงานศิลปะแบบดิจิทัลโดยการผนวกศิลปะคลาสสิคและร่วมสมัยไว้ด้วยกัน”

“เราเริ่มต้นด้วยครั้งแรกของโชว์มัลติมีเดีย “Something Nouveau. Klimt, Mucha, Beardsley” อันเป็นยุคทองแห่งอาร์ต นูโว ศิลปะลัทธิอาร์ตนูโวในช่วงที่กำลังเบ่งบานนั้นถือเป็นความอวองการ์ดหรือล้ำสมัยอย่างแท้จริง อาร์ตนูโวแสดงให้เห็นถึงความพยายามอันสำคัญยิ่งในการพยายามที่จะประนีนอมระหว่างความต้องการแห่งยุคเทคนิคและความปรารถนาอันเป็นอมตะในเรื่องความงามและความรุ่งโรจน์ ผู้ชมจะเพลิดเพลินไปกับภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งคลอไปกับเสียงดนตรี”

มร.โอเลก กล่าว และอธิบายถึงการจัดแสดงว่า เนื้อหาจะเน้นไปที่ผลงานที่กำลังนำเสนออยู่จากยุคสมัยและจากสถานที่ที่ต่างกัน ทีมออกแบบของเราได้เนรมิตภาพกราฟิคที่เคลื่อนไหวได้ซึ่งจะมีชีวิตชีวาต่อหน้าผู้ชมและแน่นอนว่าพวกเขาจะชื่นชอบผลงานมาสเตอร์พีซอันคลาสสิค บนผนังและพื้นห้องถูกเนรมิตให้กลายเป็นผืนผ้าใบที่มีชีวิต

เปิดประสบการณ์ไปกับ MODA พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลที่กรุงเทพที่ MODA Gallery ชั้น 2 ของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ตั้งแต่วันนี้จนถึง 16 เมษายน บัตรราคาปกติ 350 บาท (สำหรับผู้ใหญ่) ราคา 250 บาท (สำหรับเด็กอายุ 4 ขึ้นไป นักเรียน นักศึกษาในระดับไม่เกินปริญญาตรี และผู้อาวุโสอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องแสดงบัตร) โดยบัตรทั้งสองราคานี้เข้าชมได้เฉพาะในส่วน MODA Gallery และ MODA Space

สำหรับ MODA VR Studio ต้องซื้อบัตรเพิ่มในราคา 200 บาท (สำหรับผู้ใหญ่) และราคา 100 บาท (สำหรับเด็ก นักเรียน และผู้สูงอายุ) โดยเนื้อหาในส่วนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอาร์ต นูโว แต่เป็นเรื่องราวของศิลปินอื่นๆ พร้อมผลงานของพวกเขาที่คัดสรรมาแล้ว

หมายเหตุ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่สามารถใช้อุปกรณ์ VR ได้แต่มีในส่วน Interactive Experience ให้เล่นในราคา 100 บาท

ติดตาม MODA ซีรี่ส์ที่สองได้ในเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นเรื่องราวของศิลปินระดับเวิลด์คลาส ติดตามอัพเดทได้ทาง Facebook : River City Bangkok

หมอโอ๊ค แนะวิธีกินข้าวแบบไม่ทำร้ายหุ่น ลดน้ำหนัก แถมดีต่อสุขภาพ

account_circle

ช่วงนี้เทรนด์ ลดน้ำหนัก และ อาหารเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง และอีกหนึ่งวิธีการลดน้ำหนักที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้ก็คือ “คีโตเจนิค” การงดกินอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลไม่ว่าจะเป็น ข้าว แป้ง ธัญพืช ผลไม้ และของหวานทุกชนิด เปลี่ยนมาเป็นเน้นกินอาหารหมู่โปรตีนและไขมันแทน

ซึ่งการลดน้ำหนักด้วยการกิน “คีโตเจนิค” นั้นสิ่งสำคัญเลยก็คือจะต้องเลือกอาหารให้ดีและต้องมีวินัยมากๆ  แอบเห็นข้อจำกัดเยอะขนาดนี้อยากมีสุขภาพและหุ่นที่ดีแต่ก็แอบมีท้อกันบ้าง

งานนี้ หมอโอ๊ค – นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล คุณหมอด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัยเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพจริงๆ เพราะถึงแม้จะเป็นคุณพ่อลูกสองแต่ความหล่อ และความหน้าเด็กยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เลยไม่พลาดที่จะนำเคล็ดลับการดูแลสุขภาพตัวเองง่ายๆ มาฝากกัน

หมอโอ๊ค แนะวิธีกินข้าวแบบไม่ทำร้ายหุ่น ลดน้ำหนัก แถมดีต่อสุขภาพ

 ลดน้ำหนัก

พร้อมเฉลยแบบไม่กั๊กว่า เทคนิคดูแลสุขภาพสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวตั้งแต่ภรรยา โอปอลปาณิสรา ไปจนถึงลูกแฝดวัยซนอย่างอลิน-อลัน นั้นไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากหลักพื้นฐาน 3 อ. อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย ที่หลายคนรู้

อีกหนึ่งเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพในครอบครัวก็คือ การกินข้าวที่ขัดสดใหม่ทุกมื้อ ซึ่งถ้าพูดถึงการกินข้าวหลายคนที่กำลังจะลดน้ำหนักอาจส่ายหน้า เพราะกังวลเรื่องการควบคุมแป้ง แต่ในความเป็นจริงนั้นข้าวไม่ใช่ผู้ร้ายอย่างที่คิด ในทางกลับกันข้าวคือพระเอกในมื้ออาหารด้วยซ้ำ

เพราะนอกจากจะช่วยเติมเต็มรสชาติอาหารไทยให้สมบูรณ์ ยังช่วยลดความจัดจ้านของอาหารไทยให้กลมกล่อมด้วยรสสัมผัสและความหวานที่พอดีแถมอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ สิ่งสำคัญคือการรับประทานอาหารที่พอเหมาะไม่ตามใจปาก สำหรับคนทั่วไป แนะนำที่มื้อละประมาณ 2 อุ้งมือ และยิ่งถ้าได้กินข้าวที่ขัดสดใหม่จะทำให้ร่างกายได้รับคุณค่าสารอาหารที่ครบถ้วน แถมความหอม และรสชาติก็อร่อยขึ้น

เพราะอะไรถึงต้องเป็นข้าวขัดสดใหม่ และข้าวขัดสดใหม่คืออะไร หาได้จากที่ไหน?

สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับข้าวขัดสดใหม่ ต้องปรับความคิดก่อนว่า ข้าวก็มีชีวิตเหมือนกัน ข้าวที่มีคุณค่าและรสชาติดีที่สุดต้องผ่านการขัดมาไม่เกิน สัปดาห์ แต่กว่าที่ข้าวจะส่งมาถึงมือผู้บริโภคต้องผ่านกระบวนการสี และขัด ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ จึงทำให้คุณค่าและรสชาติที่แท้จริงของข้าวลดลงไปอย่างน่าเสียดาย 

เพราะฉะนั้นหากเราได้กินข้าวที่ขัดสดใหม่ ร่างกายจะได้รับคุณค่าสารอาหารที่ครบถ้วน ทั้งคาร์โบไฮเดรตที่มีกากใยสูง และวิตามินแร่ธาตุต่างๆ ที่อาหารชนิดอื่นที่ไม่สามารถทดแทนได้

ปัจจุบัน หมอโอ๊ค – นพ.สมิทธิ์ ไม่เพียงเป็นกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนา ไมโกะ พลัส เครื่องขัดข้าวใช้ในครัวเรือน ยังนำความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามมาต่อยอดสู่การผสานคุณประโยชน์จากสายพันธุ์ที่หลากหลายของข้าวให้คนไทยได้รับโภชนาการที่เหมาะสมตามความต้องการที่ต่างกันทั้ง 6 สูตรไม่ว่าจะเป็นสูตรควบคุมน้ำหนัก, สูตรควบคุมน้ำตาล, สูตรบำรุงผิวและความงาม, สูตรเด็กเล็ก เพื่อพัฒนาการ, ข้าวหอม 5 สายพันธุ์ และ ข้าวหอมมะลิ 105 ออร์แกนิค

หมอโอ๊ค – นพ.สมิทธิ์ ยังพูดถึงความใส่ใจดูแลเรื่องอาหารและนิสัยการกินที่แตกต่างคนในครอบครัวว่า “ทุกวันนี้ที่บ้านผมเปลี่ยนมากินข้าวที่ขัดสดใหม่ทุกมื้อ ด้วยเครื่องไมโกะ พลัส นอกจากจะได้คุณประโยชน์ที่ครบถ้วนจากข้าวที่ขัดสดใหม่แล้ว ทุกครั้งที่ขัดข้าวเราจะได้ของแถมเป็นรำข้าวมาด้วย ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี วิตามินบีและกรดไขมันจำเป็น เราสามารถนำรำข้าวมาใส่ในสลัด หรือจะนำมาทำขนมก็ได้แล้วแต่ความชื่นชอบ

 ลดน้ำหนัก

อย่างตัวผมเองด้วยความที่ทำงานหนัก ต้องดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการกินอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน ที่ครบถ้วน เพื่อให้ได้โภชนาการครบ โดยเฉพาะข้าวเป็นจานหลักที่ขาดไม่ได้ คุณโอปอล์ปาณิสรา เช่นกัน ด้วยความที่เขาดูแลสุขภาพเรื่องความสวยความงาม แต่ก็ยังกินข้าวในสัดส่วนที่พอเหมาะ อาจจะเน้นข้าวสูตรควบคุมน้ำหนัก กินกับอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ แต่ได้คุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน  

 ลดน้ำหนัก

ขณะที่อลิน อลันเป็นคู่แฝดที่นิสัยการกินต่างกันมาก อลินชอบกินผัก-ผลไม้ พวกโปรตีน แต่กินคาร์โบไฮเดรตน้อย กินข้าวไม่ค่อยเก่ง จะเห็นว่าค่อนข้างผอม  ผมก็ต้องใช้วิธีพยายามทำเมนูใหม่ๆ เช่น ข้าวปั้น ข้าวทอด เพื่อสร้างความแปลกใหม่ ส่วนอลัน ตรงข้ามเลยไม่เน้นผัก อาหารที่มีกากใย แต่กินข้าวเก่งกว่าอลิน ก็ต้องใช้วิธีเพิ่มสัดส่วนอาหารที่มีกากใย อย่างผัก เข้าไปในมื้ออาหาร แต่โดยพื้นฐานผมจะเลือกข้าวสูตรเด็กเล็กเพื่อพัฒนาการ เพื่อช่วยเรื่องพัฒนาการให้เขา” 

 รู้แบบนี้แล้วใครที่กำลังลังเลจะงดข้าวอยู่ ก็สบายใจได้แล้วนะคะเพราะคุณหมอโอ๊ค คอนเฟิร์มแล้วว่า การกินข้าวไม่ได้ทำร้ายหุ่นอย่างที่คุณคิด แถมถ้ากินอย่างถูกวิธียังดีต่อสุขภาพอีกด้วย

 

keyboard_arrow_up