account_circle4 เหตุผล ทำไม…เอกลักษณ์และตัวตนของ Prada ถึงโดดเด่นได้ใจคอแฟชั่นทั่วโลก
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1913 จากร้านเครื่องหนังเล็กๆ ในมิลาน Prada เติบโตขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ภายใต้การนำของ Miuccia Prada (มิวเซีย ปราด้า) หลานสาวและสามี Patrizio Bertelli (พาทริซิโอ เบอร์เทลลี่) ด้วยพรสวรรค์ด้านแฟชั่น เธอได้ต่อยอดจากไอเท็มกระเป๋าสู่เครื่องแต่งกายเสิร์ฟทั้งหญิงและชาย จนกลายเป็นแบรนด์อันดับต้นๆ ของโลก
ไม่ว่าจะเป็นลายพิมพ์ที่สะดุดตา การปฏิวัติแนวคิดการทำกระเป๋าที่นำผ้าไนลอนมาดีไซน์ เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันได้หลากหลายรูปแบบจนได้รับความนิยมจากสาวๆ ทั่วโลก ก่อนจะกลายเป็นกระเป๋ารุ่นคลาสสิกของแบรนด์ที่มาเมื่อไหร่ก็ฮิต บวกกับแนวคิดด้านอุตสาหกรรมในโลกของแฟชั่นจึงทำให้เอกลักษณ์และตัวตนของ Prada โดดเด่นได้ใจคอแฟชั่นทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน
Fall / Winter 2018
คอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวปี 2018 นี้ Prada ได้รวบตัวตนและผลงานที่คงความคลาสสิกตลอดกาลของแบรนด์ ตั้งแต่ยุคแรกมาผสมผสานไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคอลเล็คชั่น Prada Linea Rossa การใช้วัสดุไนลอนดำ (Black Nylon) ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงลายพิมพ์ผ้าอันโด่งดังนำมาตีความใหม่ให้มีความร่วมสมัยและตอกย้ำความเป็นไอคอนของแบรนด์ สร้างความแข็งแกร่งที่เป็นตำนานให้มากขึ้นกว่าเดิม
PRADA LINEA ROSSA จากเรือใบ…สู่รันเวย์
Prada Linea Rossa กลับมาสร้างสีสันอีกครั้งในปี 2018 โดยคอลเล็คชั่นนี้ใช้ผ้าไนลอนเป็นวัสดุหลัก แล้วเพิ่มคุณสมบัติใหม่ในกระบวนการผลิตพิเศษที่ใช้ความร้อนประกบเนื้อผ้า เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ทันสมัยมากกว่าเดิม รวมถึงเทคนิคการบุผ้าด้วยวัสดุสองชนิดเข้าด้วยกัน คือรีไซเคิลพอลิเอสเตอร์และแกรฟีนที่ช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้มีความสมดุลตลอดเวลา แล้วยังมีผ้าซับในที่ทำจากผ้าไนลอน น้ำหนักเบาพิเศษ สามารถกันน้ำ ระบายอากาศได้ดี แยกชิ้นส่วนออกจากตัวนอกได้ จึงตอบสนองการใช้งานอย่างตรงจุด
ส่วนโครงเสื้อนั้นออกแบบและตัดเย็บให้เป็นทรงโอเวอร์ไซส์ แต่คงไว้ซึ่งความง่ายในการมิกซ์แอนด์แมทช์ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใส่ไปเดินเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ สำหรับโทนสีนอกจากขาว – ดำที่เป็นสีหลักแล้ว ยังมีสีนีออน เรืองแสงบนเสื้อผ้าและเครื่องประดับ และเพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาให้มากขึ้นอีกด้วย การตกแต่งแถบโลโก้สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ช่วยเติมกลิ่นอายความทันสมัยแบบสปอร์ตได้อย่างลงตัว
Prada Linea Rossa คือ คอลเล็คชั่นย่อยที่แตกออกมาจากกลุ่มเครื่องแต่งกายหลักของแบรนด์ มีจุดเริ่มต้นมาจากทีมแข่งเรือใบภายใต้สังกัดของปราด้า กรุ๊ปในชื่อทีม Luna Rossa ซึ่งเป็นกีฬาโปรดของพาทริซิโอ เบอร์เทลลี่ และในปี 1997 ได้มีการออกแบบชุดแต่งกายเพื่อใช้ สำหรับแข่งขันโดยเฉพาะ ก่อนจะ ต่อยอดมาเป็นคอลเล็คชั่น Linea Rossa ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจนถึงปัจจุบัน
ด้วยดีไซน์แนวสปอร์ตหรูหรา เน้นรูปทรงที่ให้ความคล่องตัว ทะมัดทะแมง ตัดเย็บจากผ้าไนลอนด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน ตกแต่งด้วยโลโก้แถบสีแดงที่มีความหมายตรงตัวจากคำว่า Linea ที่แปลว่า เส้นหรือแถบ และ Rossa แปลว่า สีแดง ในภาษาอิตาลี
PRADA BLACK NYLON นึกถึง Prada นึกถึงไนลอน
Prada นำผ้าไนลอนสีดำกลับมาสร้างความโดดเด่นอีกครั้ง ครั้งนี้ใช้ผ้าไนลอนกาบาร์ดีนมาออกแบบตัดเย็บเป็นเครื่องแต่งกายรูปทรงเรขาคณิต ที่มีความเนี้ยบเป๊ะ ทันสมัย พร้อมเทคนิคพิเศษ บุผ้าไนลอนภายในจึงนุ่ม เบา ใส่สบาย ถือเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากคอลเล็คชั่นก่อนๆ สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้สวมใส่
ARCHIVE PRINTS งานศิลปะผสมแฟชั่น
ซีซั่นนี้ Prada หยิบความสวยงามโดดเด่นของลวดลายพิมพ์ที่คลาสสิกจากหลากหลายซีซั่น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 – 2016 มาปัดฝุ่น ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และดีไซน์ขึ้นใหม่ให้มีความร่วมสมัย
ไม่ว่าจะเป็นลวดลายยอดฮิตอย่างลายพิมพ์เปลวไฟจากคอลเล็คชั่น ฤดูใบไม้ผลิ / ฤดูร้อนปี 2012 ลายพิมพ์ลายลิปสติกจากคอลเล็คชั่น ฤดูใบไม้ผลิ / ฤดูร้อนปี 2000 ลายพิมพ์ดอกกุหลาบจากคอลเล็คชั่น ฤดูใบไม้ร่วง / ฤดูหนาวปี 2005 ลายพิมพ์ทะเลสีขาว – ดำจากคอลเล็คชั่น ฤดูใบไม้ผลิ / ฤดูร้อนปี 2009 ลายพิมพ์กล้วยจากคอลเล็คชั่น ฤดูใบไม้ผลิ / ฤดูร้อนปี 2011 หรือลายพิมพ์อวกาศจากคอลเล็คชั่น ฤดูใบไม้ร่วง / ฤดูหนาวปี 2016 เกิดเป็นลวดลายใหม่อย่างลายเปลวไฟกับกล้วย เป็นต้น ผสมผสานกับการตัดเย็บแบบลายชนลายบนเสื้อผ้าชิ้นเดียว เกิดเป็นผลงานที่มีความสนุกสนาน แปลกใหม่สะดุดตาและลงตัวตามแบบฉบับของแบรนด์
Prada คอลเล็คชั่น Fall / Winter 2018 นี้ จึงเป็นการรวบรวมเอกลักษณ์และความโดดเด่นทั้งหมดของแบรนด์เอาไว้ ตอกย้ำถึงความเป็นไอคอนตัวจริงแห่งวงการแฟชั่นได้อย่างชัดเจน
ภาพและที่มา : นิตยสารแพรวฉบับ 934 คอลัมน์ FASHION SCOOP หน้า 74-79