account_circleต้อนรับเดือนแห่งความรักกับภาพยนตร์แสนอบอุ่นสุดแสนโรแมนติกกับเรื่อง Classic Again จดหมายสายฝน ร่มวิเศษ ที่ได้ทำมารีเมคใหม่ให้ใกล้ชิดคนไทยมากขึ้น โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้นักแสดงนำชายอย่าง “นิว – ฐิติภูมิ เตชะอภัย”และ “จี๋ -สุทรักษ์ ทรัพย์วิจิตร” ที่หลายคนน่าจะเคยเห็นผลงานมาแล้วบ้าง ทั้งซีรีส์ ละคร เอ็มวี มากมายมาร่วมถ่ายทอดความรู้สึกในหนังเรื่องนี้อีกด้วยแถมยังเป็นหนังเรื่องแรกของทั้งคู่อีกด้วย แพรวดอทคอม ก็ไม่พลาดที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 2 หนุ่ม 2 สไตล์ ที่หลายคนต้องตกหลุมรักค่ะ
ทำไมถึงได้มารับบทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้?
นิว : ทางทีมงานได้รับลิขสิทธิ์มาจากเกาหลี ที่ต้นฉบับเขาชื่อ The Classic ของเราก็เลยมีชื่อว่า Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ ทุกอย่างของเรื่องผมรู้สึกว่าเขายกมาหมดเลย เหมือนเดิมบริบททุกอย่างการถ่ายทำสถานที่ของเราเขาทำออกมาได้ใกล้ชิดกับคนไทยมากขึ้น
จี๋ : คือเรื่องนี้มันเป็นหนังที่มีคุณค่าอยู่แล้วในใจของใครหลายๆ คนรวมถึงพวกเราด้วยพอมีโอกาสได้มาทำเรื่องนี้ ก็รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากๆ คือหนังในตำนานเลยนะ แล้วมันได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังที่อยู่ในใจใครหลายๆคน รู้สึกดีมากๆ
บทบาทความยากง่ายกับภาพยนตร์เรื่องนี้?
จี๋ : ก็มีการทำเวิร์คช็อปกันพอสมควร ซีนแต่ละซีนแต่ละบทบาทมันเชื่อมต่อกันหมดเลยก็มีการเตรียมตัวกันพอสมควรเลยแต่ว่าด้วยความที่เอาหนังที่ทำไว้ดีมาก พอได้นำกลับมาทำใหม่คนเลยคาดหวังไว้สูงครับ แล้วก็มีการเตรียมตัวกันค่อนข้างมากทั้งเรื่องสถานที่แล้วก็การแสดง
นิว : การเตรียมตัวเนื่องจากว่านิวเล่นเป็นรุ่นพ่อ ซึ่งเกิดในปียุค 2510 เป็นแบบรุ่นพ่อรุ่นแม่เราเลยแหละครับ ซึ่งแบบด้วยสังคมสมัยก่อน ด้วยวัฒนธรรมด้วยประเพณีของเขา ค่อนข้างสมัยก่อน เขาจะมีกรอบมีกฎเกณฑ์ของเขา การขยับตัวการพูดจา แต่ก่อนเป็นยุคที่แบบสโลว์ไลฟ์ ทุกอย่างมันค่อนข้างช้า พอเทียบกับเราสมัยนี้คือทุกอย่างเร็วไปหมดวิธีการพูดอะไรต่างๆ ปรับเยอะ ยุคก่อนคนโบราณเขาแบบดูเก่าไปหมดเราก็มีการจัดการในมุมนี้ที่ต้องกลับไปตัวแบบนั้นก็เลยยากครับ ยากสำหรับนิวที่ต้องทำตัวให้เป็นคนยุคก่อน
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกของทั้งคู่ มีความกดดันมากไหม?
จี๋ : กดดันครับ เพราะเราแบกความคาดหวังไว้ ทางเกาหลีทำไว้คือดีมากๆ แน่นอนว่ามันต้องมีความเครียด ความคาดหวังอยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ต้องทำออกมาให้ได้ดีที่สุดอยู่ในแบบฉบับของเราเอง
มีไปเรียนการแสดงเพิ่มเติมไหม?
นิว : เรียกว่าไปเวิร์คช็อปดีกว่าครับ ก็มีไปเวิร์คช็อปกับพี่ผู้กำกับแล้วก็มีไปเรียนกับครูส้ม แล้วครูส้มเป็นครูการแสดงครับ
พูดถึงรักครั้งแรกของเราหน่อย มีการคาดหวังกับรักครั้งแรกไว้แค่ไหน?
จี๋ : คือรักครั้งแรกของทุกๆ คนก็เกิดขึ้นตอนที่เราเด็กๆ ละเนอะตอนเด็กๆ เราก็คิดว่าทุกอย่างก็จะสวยงามไปหมดเลย ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบ ตามประสาเด็ก ก็คาดหวังแต่พอโตขึ้นมาก็เข้าใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นครับ
นิว : นิวค่อนข้างเหมือนจี๋ครับ โลกสวยครับเด็กมันยังไม่เจออะไรมากมาย สภาวะแวดล้อมยังไม่เจอปัจจัยอะไรต่างๆ พอโตขึ้นเราก็รู้เองว่าตอนเด็กทำไมเป็นแบบนั้นเราก็ต้องทำความเข้าใจกับมันครับ
ช่วงนี้ปัญหาฝุ่น pm2.5 ค่อนข้างหนัก พี่ๆต้องเดินสายโปรโมทภาพยนตร์มีวิธีรับมือฝุ่นพวกนี้อย่างไรบ้าง?
“หัวยังใจว่างแต่ปอด 2 ข้างมี PM 2.5” ครับ คือเราทำอะไรมากไม่ได้นอกจากพักผ่อนให้เพียงพอแล้วหาแมสใส่ ต่อให้เราจะกินวิตามินหรือฉีดวิตามินมากแค่ไหนมันก็ช่วยไม่ได้ คือเราก็ต้องป้องกันตัวเอง พักผ่อนให้เพียงพอใส่แมสครับแค่นั้น คือถ้าเราเจอนานๆ ทีก็ไม่เป็นไร แต่นี่เราเจอมันทุกวันวิธีนี้คือวิธีป้องกันที่ดีที่สุดถ้าจะแก้ก็ต้องไปแก้ที่ต้นเหตุมากกว่าทำยังไงให้ไม่เกิดฝุ่นตั้งแต่แรก แต่มันก็เป็นการวางแผนระยะสั้นระยะยาวด้วย “การมีฝุ่นมันก็ทำให้เรานึกถึงความรักตลอดเวลา เพราะคำว่ารักมันกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว”
นิวมาเล่นกับคู่ผู้หญิงกลัวกระแสจิ้นกับ “เต-ตะวัน” ลดลงบ้างไหม?
นิว : ไม่เลยครับ เพราะว่าตั้งแต่วันแรกที่เราทำงานเราก็เล่นคู่ชายหญิงแล้วพอมีวันหนึ่งเขาให้เราเล่นชาย ชาย เราก็เล่นเป็นคู่จิ้นเราก็เล่น เพราะเรารู้สึกว่าไม่เลือกงานเราก็ไม่อดตาย ก็คือเราไม่เลือกงานเพราะฉะนั้นวันนี้เล่นชายหญิงเราก็ต้องเล่น มุมคนอื่นมองยังไงไม่รู้แต่สำหรับมุมนิวมองว่ามันคือการทำงาน เราเป็นนักแสดงมีงานอะไรเราก็ไปแสดงเป็นอาชีพเรา
แต่เคมีของเราคือเล่นกับผู้ชายขึ้นมันเป็นภาพติดตา?
นิว : คือนิวมองว่า สังคมปัจจุบันเราเขาเปิดรับในทุกเพศทุกวัย แต่ก่อนถ้าเป็นชายๆ เขาอาจจะไม่เปิดเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เขาเปิดแล้วทุกคนก็เริ่มแสดงออกมันมากขึ้น ซึ่งผมก็มองว่าชายหญิงยังไงก็เป็นแกนหลักของโลกอยู่ดี
ได้ยินข่าวว่านิวไม่โสดแล้ว?
นิว : คบกันมาปีกว่าๆ แล้วครับเรื่องการมองอนาคต คือผมจริงจังนะ นิวจริงจังกับทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแหละ คนก่อนก็คบมา 3 ปีว่ามีปัญหากันแต่คุยกันจบกันดีครับ มองอนาคตไว้ขนาดไหน ถ้าเราคบกันไปจนแต่งงาน เราก็มองยังไงอยู่แล้ว สำหรับนิวมองเขาว่าเขาไม่ได้มีอะไรแย่ คือเราเลือกมาแล้วเราก็รู้จักกันมาคุยกันมาชักพักหนึ่งแล้วก็มาเป็นแฟนกัน
กลัวแฟนคลับไหม?
นิว : ไม่ครับแฟนคลับเราก็เข้าใจ แต่ก็จะมีอีกส่วนหนึ่งที่ทำไมไม่บอก แต่ว่าตอนนี้ทุกคนก็รับรู้เข้าใจเราครับ
มีบทบาทไหนที่จี๋อยากลองเล่นบ้างหรือเปล่า?
จี๋ : ผมอยากเล่นเยอะเลยครับ อยากเล่นแบบมาเฟียครับ เหมือนหนัง The Godfather อยากเล่นอารมณ์แบบนี้ครับอยากลองเล่นดีมันน่าสนุกดีแล้วก็อยากเล่นเป็นโจ๊กเกอร์หลุดๆอยากเล่นเป็นคนโรคจิต
นิว : นิวอยากลองเล่นหนังบู๊ดู คือรู้สึกว่ามันอยากใช้พลัง คือในเรื่องมันมีฉากทหารวิ่งลุย แล้วก็เรื่องอุบัติรักแล้วมีฉากลื่นล้มแล้วมันรู้สึกไม่เจ็บเลยเราก็ค้นพบว่ามัน ร่างกายเรารับได้แล้วต้องเป็นสายบู๊แล้ว ด้วยความที่ชอบอะไรมันๆ ก็เลยอยากลองดู
ฝากภาพยนตร์เรื่องนี้หน่อย?
จี๋ : ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกนะครับซึ่งผมมองว่าที่เห็นทีเซอร์ มันเป็นหนังรักที่อบอุ่นมากจริงๆ ถ้าใครได้มีเวลาว่างหรือช่วงเดือนแห่งความรักเดือนกุมภาพันธ์นี้นะครับ ลองเข้าไปดูกันหรือจะพาครอบครัวไปดูก็ได้ครับ