นักแสดงหนุ่มหล่อ

ระวังตกหลุมรัก 5 นักแสดงหนุ่มหล่อ งานดีพรีเมี่ยม คลื่นลูกใหม่ ช่อง3

Alternative Textaccount_circle
นักแสดงหนุ่มหล่อ
นักแสดงหนุ่มหล่อ

งานดีจนอยากจะร้องกรี๊ดให้กับ 5 นักแสดงหนุ่มหล่อ ของช่อง 3 แถมยังมากด้วยความสามารถ ชนิดที่อยากจะยกให้เป็นพ่อทูนหัวไม่ว่าจะเป็น ริว วชิรวิชญ์, กองทัพ พีค, โบ๊ท ธารา, เค้ก นัทธวัชร์ และ เกี๊ยก วัทธิกร ที่ฟาดเสน่ห์มัดใจสาวเล็กสาวใหญ่ได้อยู่หมัด งานนี้แฟนๆ เตรียมตัวเปิดบ้านรับเป็นสามี (มโน) กันได้เลย

ระวังตกหลุมรัก 5 นักแสดงหนุ่มหล่อ งานดีพรีเมี่ยม คลื่นลูกใหม่ ช่อง3

​เริ่มจากพระเอกหนุ่มหน้าใส “กองทัพ พีค” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ พ่อปราบ ยุทธพิชัย ที่ได้เข้าไปนั่งในใจใครหลายๆ คน กับบทบาท “คิว” เด็กหน้ามึนในเรื่อง “ให้รักพิพากษา” ประกบนางเอกเบอร์ต้นอย่างเบลล่า ราณี ที่ตอนนี้ถูกพูดถึงในโลกโซเชียลไม่ขาดปาก ต้องบอกว่าหนุ่มคนนี้ไม่ได้ดังแค่ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะเจ้าตัวเคยเป็นเด็กฝึกคนไทยคนแรกที่ได้เข้าร่วมรายการดังของเกาหลีอย่าง “PRODUCE X 101” นอกจากนี้เจ้าตัวยังมีผลงานเพลงประกอบละคร Promise you และ ทุกนาที ที่ขอแต่งเอง ร้องเอง ตามไปฟังและส่งกำลังใจเชียร์หนุ่มคนนี้ “ให้รักพิพากษา” วันพุธที่ 1 กันยายน นี้ เสนอเป็นตอนจบ

นักแสดงหนุ่มหล่อ

ตามมาติดๆ กับพระเอกขี้เล่น “โบ๊ท ธารา ทิพา” ที่ได้ลองเล่นซีรีส์วายครั้งแรกในเรื่อง “Golden Blood รักมันมหาศาล” ในบท บอดี้การ์ดหน้าหล่อ ก็ดังเป็นพลุแตกข้ามประเทศ! จนยอดคนติดตามในอินสตาแกรมทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่พิสูจน์ฝีมือจนได้ดี และต้องบอกว่าปีนี้ดูจะเป็นปีทองของเขาจริงๆ เพราะมีผลงานให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่องกับ “ปีศาจแสนกล” ในบท พรต ที่มาพร้อมกับฉายา หลวงตา นอกจากนี้เจ้าตัวยังเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่ติดอันดับ 8 ของประเทศมาแล้ว! งานดีมีระดับแบบนี้แฟนๆ อย่าปล่อยให้หลุดมือ ระหว่างนี้ตามไปดูผลงานของเขากันได้ก่อนกับ “ปีศาจแสนกล” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น.

โบ๊ท ธารา ทิพา

​มากันที่หนุ่มมาดเซอร์ “เค้ก นัทธวัชร์ แก้วบัวสาย” พี่ชายแท้ๆ นางเอกสาว พาย รินรดา หนุ่มเค้กเป็นพระเอกหนึ่งเดียวที่ชนะจากการแคส ซีรีส์ลูกผู้ชาย ตอน ปัทม์ จากการออดิชันรวม 1,000 คน จากชีวิตหนุ่มแอร์กราวนด์ที่ฝันจะเป็นนักบินที่เบนเข็มเปลี่ยนทิศ เพราะได้ดีทางการแสดงการันตีด้วยผลงานที่มีออกมาให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ดูจะเป็นปีทองของเจ้าตัวเช่นกัน เพราะพร้อมใจรับส่งไม้ต่อให้แฟนๆ ได้ติดตามถึง 2 เรื่อง กับ ให้รักพิพากษา วันพุธที่ 1 กันยายน นี้ เสนอเป็นตอนจบ จากนั้นจากต่อให้ ดวงตาที่ 3 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 31 สิงหาคม นี้ เนื้อหอมขนาดนี้แฟนๆ ตามไปให้กำลังใจกันด่วน!

นักแสดงหนุ่มหล่อ ช่อง3

หนุ่มหน้าคม “เกี๊ยก วัทธิกร เพิ่มทรัพย์หิรัญ” ที่เคยทำให้เหล่า FC ดีดดิ้นกันมาแล้ว ด้วยโปรไฟล์ชั้นดีงานดีซิกแพ็คแน่น เป็นที่ถูกตาต้องใจสุดๆ ต้องบอกว่าหนุ่มคนนี้ฝีมือการแสดงไม่ธรรมดาเหมือนหน้าตา ที่มีผลงานให้ได้ชมกันอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดกำลังมีผลงานออนแอร์อยู่กับ “ปีศาจแสนกล” ในบท ผีทองห่อ ที่เจ้าตัวบอกว่าทุ่มสุดตัวโชว์ฮาไม่จำกัด ซึ่งพิธีกรคนดังอย่าง “คุณหนุ่ม กรรชัย” เคยได้รับบทบาทนี้มาแล้วให้เวอร์ชั่นปี 2553 และต้องบอกว่าหนุ่มคนนี้หัวบันไดแทบไม่แห้งเพราะมีสาวๆ ต่อแถวรอดามใจเพียบหลังไม่สมหวังด้านความรักในเรื่อง “สองเสน่หา” อยากเห็นบทบาทใหม่ของหนุ่มคนนี้ต้องดู “ปีศาจแสนกล” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.00 น.

เกี๊ยก วัทธิกร เพิ่มทรัพย์หิรัญ

​และสุดท้ายกับพระเอกป้ายแดง “ริว วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล” ดีกรีระดับนักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย ที่เห็นแล้วรู้สึกร้อนผ่าวหล่อไม่สงสารใจเลยพ่อทูนหัว คลื่นลูกใหม่ลูกนี้ดูจะมาแรงสุดๆ เพราะล่าสุดเตรียมส่งผลงานให้ได้ชมสำหรับ “พฤษภา-ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน” ที่ดูกระแสมาแรงแซงโค้งสุดๆ ด้วยความสนใจของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และ กัมพูชา เรียกว่าสุดปังตั้งแต่ละครยังไม่เริ่มออนแอร์เลยทีเดียว มีผลงานออกมาให้แฟนๆ ได้กระชุ่มกระชวยหัวใจแบบนี้ตามไปให้กำลังใจพร้อมกันใน “พฤษภา-ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน”

ริว วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล

​เล่นทำใจหวั่นไหวหลายริกเตอร์กันเลยทีเดียวกับ 5 หนุ่ม คลื่นลูกใหม่ของ ช่อง 3 นอกจากงานดีแล้วดีกรีก็ไม่ธรมดา รักใครชอบใครอย่าปล่อยให้พลาด! ติดตามทุกความเคลื่อนไหวได้ทาง CH3Thailand และ ตามไปเสพผลงานของหนุ่มๆ กันได้ที่ CH3Plus


 

inDriver features

inDriver แอปพลิเคชันเรียกรถยนต์รับจ้างระดับโลกพร้อมให้บริการแล้วในเขตกรุงเทพมหานคร

inDriver features
inDriver features

กรุงเทพมหานคร inDriver ผู้ให้บริการเรียกรถโดยสารและรถรับจ้าง ผ่านทางแอปพลิเคชัน
แบบเรียลไทม์ (Ride-hailing service) ระดับโลก จากประเทศรัสเซีย เราได้นำนวัตกรรมแห่งอนาคต เพื่อให้ผู้ใช้งานมีอิสระในการเลือก พร้อมเปิดให้บริการเรียกรถโดยสารและรถรับจ้างโดยมีบริการทั้งรถยนต์
และรถจักรยานยนต์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป inDriver เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันเรียกรถระดับชั้นนำของโลก ที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนใคร โดยผู้โดยสารและคนขับ สามารถต่อรองราคาค่าโดยสารได้อย่างอิสระและเป็นธรรม

inDriver ได้เข้าสู่ตลาดรถยนต์รับจ้างที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชันในประเทศไทยในปี 2019 ด้วยการเปิดตัวให้บริการในประเทศไทยในระดับภูมิภาค เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต และเขตพัทยา

Egor Fedorov ประธานฝ่ายปฏิบัติการ inDriver กล่าวว่า “ทางบริษัทได้เปิดตัวแอปพลิเคชันเรียกรถยนต์รับจ้างในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่เราให้ความสำคัญ ที่นอกจากจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับ
แบรนด์ inDriver ในประเทศไทย และยังช่วยกระตุ้นการเติบโตของบริษัทในประเทศไทยอีกด้วย

เรามีความภูมิใจที่ได้นำนวัตกรรมการเรียกยานพาหนะผ่านทางแอปพลิเคชันเข้าสู่กรุงเทพมหานคร
อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2019 ทั้งนี้พันธกิจสำคัญของแอป inDriver คือการนำเสนอราคาที่ย่อมเยา เข้าถึงได้ ก่อให้เกิดความยุติธรรม ซึ่งรูปแบบการให้บริการที่เป็นเอกลักษณ์ของ
แอปพลิเคชัน inDriver คือการมอบเสรีภาพในการเลือกที่มากขึ้นและเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ใช้งานในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเรียกใช้บริการ inDriver ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดึงดูดนักเดินทางรูปแบบใหม่

เราเชื่อว่าการให้บริการรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยยังคงมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นและมีโอกาสทางการแข่งขันสูง ดังนั้น การเปิดตัวในการให้บริการในวันนี้ จึงมีนัยยะสำคัญอย่างยิ่งเพราะไม่เพียงแต่จะทำให้เราอยู่ในตำแหน่งการแข่งขันที่ดียิ่งขึ้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพว่าเราเป็นผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทย

คำมั่นสัญญาในการให้บริการของเรา จะยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งทั้งทางด้านบริการ และ ประสบการณ์การใช้งานที่เปี่ยมด้วยความประทับใจ นำเสนอการบริการ และคุณสมบัติการใช้งานรูปแบบใหม่เพื่อรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

inDriver มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทาย จากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในทั่วโลก บริการการเรียกรถยนต์รับจ้างของเราที่มีความโดดเด่นถือเป็นก้าวที่สำคัญในปีนี้ ปัจจุบันทางบริษัทได้ให้บริการการเรียกรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ครบ 1 พันล้านเที่ยวทั่วโลกในเดือนมิถุนายน 2564 และมีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันกว่า 1 ร้อยล้านครั้งทั่วโลก บนแพลตฟอร์ม Android และ iOS ในเดือนกันยายน 2564

inDriver features

ความพิเศษของ inDriver  มีความแตกต่างมากกว่าแอปพลิเคชันเรียกรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ให้บริการในประเทศไทย ซึ่ง inDriver ให้อิสระแก่ผู้ใช้ในการตัดสินใจ ตามข้อตกลงและความชอบของผู้โดยสาร ผ่านบริการ Real-time Deals (RTD) ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเสนอราคา
ค่าโดยสารตามราคาที่แนะนำหรือราคาที่ผู้โดยสารร้องขอ และเมื่อผู้ขับที่อยู่บริเวณใกล้เคียงและบริเวณโดยรอบได้รับคำขอจากผู้โดยสารแล้ว จะสามารถเลือกตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอหรือเจรจาเพิ่มเติม
เพื่อต่อรองค่าโดยสารที่ดีกว่าได้

คุณสมบัติ RTD มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือการไม่กำหนดผู้ขับให้กับผู้โดยสารแบบอัตโนมัติ เมื่อผู้โดยสารรับข้อเสนอจากเคาน์เตอร์ของแอปพลิเคชันที่อยู่ในระแวกเดียวกันแล้ว ผู้โดยสารสามารถเลือกคนขับ
ตามความต้องการได้อย่างอิสระ โดยประเมินได้จากทั้งราคาค่าโดยสาร คะแนนคนขับ เวลาที่คาดว่า
จะมาถึง หรือรุ่นรถยนต์ที่ผู้โดยสารต้องการจะใช้บริการได้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ inDriver จึงได้นำเสนอคุณสมบัติต่างๆ เช่น ความสามารถในการแชร์ตำแหน่งที่ตั้งผ่านระบบ GPS และแสดงรายละเอียดการโดยสารแบบเรียลไทม์ที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงปุ่มฉุกเฉินเฉพาะ ที่จะสามารถติดต่อหน่วยงานภาครัฐได้ทันที ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด

 แอปพลิเคชัน inDriver มีให้ดาวน์โหลดฟรีผ่าน Google Play Store, Apple AppStore และ Huawei AppGallery.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: Mohd Zulkarnain

ผู้จัดการแผนกสื่อสารได้ที่อีเมล : [email protected] / [email protected].

 

 

เกี่ยวกับ inDriver

inDriver ก่อตั้งขึ้นที่ไซบีเรียในปี 2012 ด้วยแนวคิดที่ต้องการปกป้องผู้โดยสารจากการให้บริการที่ขาดความยืดหยุ่น inDriver ถือเป็นบริการที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นผู้ให้บริการยานพาหนะผ่านทาง
แอปพลิเคชัน (Ride-hailing service) ที่สามารถให้บริการแบบเรียลไทม์ ก้าวไปสู่การพัฒนาบริการ
The Mobility Service หรือระบบขนส่งสาธารณะ โดยมอบสิ่งที่ผู้ใช้ให้ความสำคัญสูงสุด นั่นก็คือ อิสระในการเลือก โดยในปี 2018 ทางบริษัทได้เริ่มขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ทำให้เราสามารถให้บริการผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคนใน 500 เมือง จาก 34 ประเทศ

ปรัชญาของเรามุ่งเน้นไปที่อิสระของผู้ใช้บริการและผู้ขับขี่ในด้านของการต่อรองราคา ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้เรายังพุ่งเป้าไปที่การตอบสนองความพึงพอใจและความต้องการของผู้ใช้ด้วยเทคโนโลยีที่ดียิ่งขึ้น ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเหตุผลสำคัญในการขยายแพลตฟอร์มระบบขนส่ง เราได้สร้างโซลูชันสำหรับการโดยสารระหว่างเมือง และช่วยให้ผู้โดยสารสามารถแพลนการโดยสารได้อย่างไร้ขีดจำกัด

วันนี้ inDriver มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เมือง เมาน์เทนวิว แคลิฟอร์เนีย มีสำนักงานตั้งอยู่ที่เม็กซิโกซิตี กวาดาลาฮารา มอสโก ยาคุตสค์ เรซิเฟ่ คุร์เคาน์ และกัวลาลัมเปอร์ inDriver ยังมีบุคลากรชั้นนำมากกว่า 1500 คน ที่มีจุดมุ่งหมายในการมอบอิสระและทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้บริการ

Wedding Checklist วางแผนแต่งงาน

แจก Wedding Checklist วางแผนแต่งงาน ฉบับบ่าวสาวมือโปร

Alternative Textaccount_circle
Wedding Checklist วางแผนแต่งงาน
Wedding Checklist วางแผนแต่งงาน

ว่าที่บ่าวสาวที่กำลัง วางแผนแต่งงาน ตามไปเซฟ Wedding Checklist นี้ เพื่อเป็นตัวช่วยดีๆ ได้เลยค่ะ รับรองว่าจะไม่พลาดทุกสเต็ปอย่างแน่นอน (หากว่าที่บ่าวสาวมีเวลาเตรียมตัวไม่ถึง 12 เดือน ก็สามารถปรับเปลี่ยนไทมไลน์ตามแบบฉบับของตัวเองได้เลยค่ะ)

แจก Wedding Checklist วางแผนแต่งงาน ฉบับบ่าวสาวมือโปร

12 Months Before

  • หาฤกษ์และกำหนดวันเดือนปีที่ชัดเจน
  • กำหนดจำนวนแขกคร่าวๆ
  • ตั้งงบประมาณในการจัดงาน
  • หาข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบหรือธีมงานแต่งที่ต้องการ แล้วสรุปรูปแบบงาน ไม่ว่าจะเป็นธีมงาน ธีมสี การตกแต่ง หรือลักษณะการจัดเลี้ยง
  • หาสถานที่จัดงานที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องฤกษ์ จำนวนแขก งบประมาณ และรูปแบบงาน หากเจอสถานที่ที่ถูกใจก็จองเลย
  • หาข้อมูลเกี่ยวกับเวดดิ้งแพลนเนอร์ ช่างภาพนิ่ง ช่างภาพวีดีโอ และวงดนตรี แล้วเปรียบเทียบผลงานและราคาของแต่ละเจ้า จากนั้นนัดพบเพื่อคุยรายละเอียดงาน
  • หาข้อมูลเกี่ยวกับทีมตกแต่ง ทีมจัดดอกไม้ หรือทีมทำพร็อปส์ แล้วเปรียบเทียบผลงานและราคาของแต่ละเจ้า จากนั้นนัดพบเพื่อคุยรายละเอียดงาน
  • หาแบบชุดแต่งงานที่ถูกใจ และหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านตัดชุดหรือร้านเช่าชุดแต่งงาน แล้วเปรียบเทียบผลงานและราคาของแต่ละเจ้า
  • หาสไตล์การแต่งหน้า-ทำผมที่ถูกใจ และหาข้อมูลเกี่ยวกับช่างแต่งหน้า-ทำผม แล้วเปรียบเทียบผลงานและราคาของแต่ละเจ้า
  • เริ่มดูแลความงามที่ต้องใช้เวลา เช่น ผิวหน้า ลดน้ำหนัก ไว้ผมยาว

9 Months Before

  • เริ่มลิสต์รายชื่อแขก
  • จองเวดดิ้งแพลนเนอร์ ช่างภาพนิ่ง ช่างภาพวีดีโอ และวงดนตรี
  • จองทีมตกแต่ง ทีมจัดดอกไม้ หรือทีมทำพร็อปส์
  • จองช่างแต่งหน้า-ทำผม
  • นัดชิมอาหารกับทางโรงแรมหรือแคเทอริ่ง

6 Months Before

  • ประสานงานกับทีมตกแต่ง ทีมจัดดอกไม้ หรือทีมทำพร็อปส์ เพื่อย้ำรายละเอียดและดูแบบร่างการตกแต่งงาน
  • หาแบบเค้กแต่งงานและหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านเค้ก จากนั้นนัดชิมเค้ก
  • หาและสรุปแบบการ์ดเชิญ ของชำร่วย และของไหว้ผู้ใหญ่
  • หาแบบเครื่องประดับสำหรับเจ้าสาว ไม่ว่าจะเป็นต่างหู สร้อยคอ กำไล เวล เครื่องประดับผม หรือรองเท้า
  • หากจะตัดชุดแต่งงานใหม่ให้เลือกร้านที่ถูกใจ แล้วสั่งตัดในเดือนนี้เลย

4 Months Before

  • ดูแบบการตกแต่งที่แก้ไขมาแล้ว จากนั้นสรุปรายละเอียดครั้งสุดท้าย
  • สั่งพิมพ์การ์ดเชิญและแผนที่สถานที่จัดงาน สั่งทำของชำร่วยและของไหว้ผู้ใหญ่
  • สรุปเมนูอาหารและเครื่องดื่มกับทางโรงแรมหรือแคเทอริ่ง
  • สรุปแบบเค้กและสั่งเค้ก
  • ทาบทามเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาว และหาแบบชุดเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาว
  • ติดต่อเชิญประธานในพิธี (เชิญปากเปล่า)
  • เจ้าสาวเลือกซื้อเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นต่างหู สร้อยคอ กำไล เวล เครื่องประดับผม หรือรองเท้า
  • เจ้าบ่าวเลือกซื้อเสื้อเชิ้ตสำเร็จรูปสำหรับใส่ด้านในและพร็อปส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโบไท ถุงเท้า หรือรองเท้า
  • ลองชุดแต่งงานครั้งที่ 1

3 Months Before

  • ถ่ายพรีเวดดิ้ง
  • ทำวิดีโอพรีเซ็นเทชั่น
  • ติดต่อพิธีกร
  • รับการ์ดเชิญ ของชำร่วย และของไหว้ผู้ใหญ่
  • สั่งตัดหรือเช่าชุดเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาว
  • ลองชุดแต่งงานครั้งที่ 2

2 Months Before

  • เริ่มแจกการ์ดเชิญ ทั้งการเชิญด้วยตัวเองและส่งทางไปรษณีย์
  • สรุปรายชื่อเพลงที่จะให้วงดนตรีเล่นในช่วงต่างๆ เช่น ช่วงเปิดตัวบ่าว-สาว ช่วงตัดเค้ก ช่วงโยนดอกไม้ รวมถึงเพลงที่จะให้เล่นคลอในงาน
  • ซื้อของขวัญให้คนที่มาช่วยงาน รวมถึงของขวัญที่จะมอบให้ประธานในพิธี
  • เพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาวลองชุด
  • ลองแต่งหน้า-ทำผมเหมือนวันจริง
  • ลองชุดแต่งงานครั้งที่ 3 พร้อมเครื่องประดับ

1 Month Before

  • เช็กว่าแจกการ์ดเชิญครบหรือยัง ถ้ายังมีตกหล่นก็รีบจัดการส่งเลย
  • สรุปลำดับพิธีการและร่างสคริปต์
  • สรุปผังที่นั่งแขก
  • ร่างคำกล่าวขอบคุณแขก
  • เดินทางไปเชิญประธานด้วยตัวเอง
  • ลองชุดแต่งงานครั้งสุดท้ายและนัดวันรับชุด
  • เข้มงวดกับการกินผักผลไม้และดื่มน้ำมากๆ ตลอด 1 เดือนก่อนวันงาน เพื่อคงสภาพหุ่นสวยและผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง

2 Weeks Before

  • คอนเฟิร์มกับทีมตกแต่ง ทีมจัดดอกไม้ หรือทีมทำพร็อปส์ นัดวันเวลาและสถานที่ในการจัดส่งและติดตั้ง
  • คอนเฟิร์มวันเวลาและสถานที่กับช่างแต่งหน้า-ทำผม
  • คอนเฟิร์มวันเวลา สถานที่ และลำดับพิธีการกับช่างภาพนิ่งและช่างภาพวิดีโอ
  • คอนเฟิร์มเรื่องวันเวลาและสถานที่ในการจัดส่งกับร้านเค้ก
  • คอนเฟิร์มเรื่องเวลาเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม
  • รับชุดแต่งงาน (สำหรับในกรณีตัดซื้อ แต่หากเป็นการเช่าตัดหรือเช่า ส่วนใหญ่จะรับชุดแต่งงานได้ก่อนวันงานประมาณ 5 วัน)
  • คุยลำดับพิธีการกับพิธีกรและเจ้าของสถานที่
  • ลิสต์รายชื่อคนรับแขกหน้างานและคนนั่งประจำโต๊ะลงทะเบียน
  • แบ่งหน้าที่ให้กับเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาว
  • ร่างตารางการรับและคืนชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาว รวมถึงข้าวของต่างๆ ที่เช่าหรือยืมมา
  • เช็กของใช้เล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องใช้ในวันงานว่ามีครบหรือยัง เก็บไว้ที่ไหน ใครเป็นคนนำไปที่งาน ใครรับผิดชอบ
  • ทำสีผมหรือเติมสีที่โคนผม

1 Week Before

  • โทร.ไปย้ำเรื่องวันเวลาและสถานที่กับประธาน พิธีกร ช่างแต่งหน้า-ทำผม ช่างภาพนิ่ง ช่างภาพวิดีโอ และทีมงานต่างๆ
  • ซ้อมเสมือนจริงกับพิธีกรและเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาว (ถ้ามี) เรื่องบทพูด การเดินเข้างาน ตำแหน่งการยืนบนเวที การตัดเค้ก และการโยนดอกไม้
  • กำจัดขนทุกส่วนที่จำเป็น เช่น แผ่นหลัง แขน ขา
  • เข้าสปานวดผ่อนคลาย สครับ หรือทำทรีตเมนต์

1 Day Before

  • เตรียมเงินค่าใช้จ่ายที่ต้องเคลียร์หลังงานเลิก และมอบให้คนที่ไว้ใจได้ดูแลในวันงาน
  • เตรียมของใช้เล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องใช้ในวันงานให้พร้อม อาจวางเตรียมไว้หรือนำขึ้นรถเลยก็ได้
  • เจ้าสาวทำเล็บให้สวยงาม
  • เจ้าบ่าวโกนหนวดเคราให้เกลี้ยงเกลา
  • สระผมโดยใช้แชมพูเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ผมไม่ลื่น ง่ายต่อการจัดทรง
  • ดื่มน้ำมากๆ หากมีปัญหาเรื่องการขับถ่ายควรกินผักผลไม้ โยเกิร์ต นมเปรี้ยว เพื่อช่วยได้ขับถ่ายได้ง่ายในวันรุ่งขึ้น
  • พักผ่อน 8-10 ชั่วโมง

Wedding Day

  • กินอาหารเช้าให้อิ่ม เลี่ยงอาหารที่มีกากใยหรือเสี่ยงต่อการท้องเสีย
  • เผื่อเวลาแต่งหน้า ทำผม แต่งตัวก่อนงานเริ่มประมาณ 4 ชั่วโมง
  • ผ่อนคลายและยิ้มรับวันสำคัญ

ภาพ : pixabay.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เลื่อนดีกว่าเลิก 7 เหตุผลที่ควร เลื่อนงานแต่ง ดีกว่ายกเลิกในสถานการณ์โควิด-19

บ่าวสาวควรรู้ไว้ 5 เหตุผลที่ควรซ้อมรันคิว พิธีเลี้ยงฉลองงานแต่ง ก่อนเวลาจริงมาถึง

ช็อตนี้ต้องมี! 8 โมเม้นต์ “ภาพเบื้องหลังงานแต่ง” ที่บ่าวสาวไม่ควรพลาด

พิธีทำบุญใหญ่เนื่องในโอกาสครบรอบ 23 ปี อิมแพ็ค เมืองทองธานี

Alternative Textaccount_circle

พิธีทำบุญใหญ่เนื่องในโอกาสครบรอบ 23 ปี อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อความเป็นสิริมงคลสถานที่และขวัญกำลังใจในการทำงาน

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด นำโดย คุณพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้จัดพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสครบรอบ 23 ปี โดยอาราธนานิมนต์ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธัมมธโช) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการเถรสมาคม พร้อมคณะสงฆ์ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร สวดเจริญพระพุทธมนต์ ผู้บริหารและพนักงานร่วมถวายภัตตาหารและเครื่องสังฆทาน และพระสงฆ์ได้พรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลสถานที่และขวัญกำลังใจในการทำงาน
.
ทั้งนี้มีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้าร่วมงาน อาทิ คุณสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี,นายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้แทนรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข,คุณทวีศักดิ์ ธีระเกียรติกำจร ที่ปรึกษาประธานกรรมการ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน),คุณระริน อุทกะพันธุ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์ พับบลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน)ฯลฯ

งานพิธีทำบุญครบรอบ 23 ปี อิมแพ็ค เมืองทองธานี


 

 

บำรุงผิว

แชร์ลิสต์ “สมุนไพรไทย” หาทานง่าย แก้โรคยอดฮิต และ บำรุงผิว ช่วงปลายฝนต้นหนาว

Alternative Textaccount_circle
บำรุงผิว
บำรุงผิว

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำ ตำรับยา ฟ้าทะลายโจร ยาแก้ไอมะขามป้อม ยาปราบชมพูทวีป พร้อมชูพืช ผักสมุนไพรรสเปรี้ยว ขมและ เผ็ดร้อนมาปรุงเป็นอาหาร ช่วยแก้อาการเจ็บป่วย และ บำรุงผิว ในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว ตามศาสตร์ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย โดยเฉพาะคนที่เกิดธาตุน้ำ ต้องดูแลสุขภาพร่างกายเป็นพิเศษ เพราะจะเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าคนธาตุอื่นๆ ในช่วงฤดูนี้

ช่วงเปลี่ยนฤดูกาล ในฤดูฝน มีธาตุลมเป็นเหตุให้เจ็บป่วย ในฤดูหนาวมีธาตุน้ำเป็นเหตุให้เจ็บป่วย ช่วงเปลี่ยนฤดูฝนเป็นฤดูหนาว ร่างกายมีไอความร้อนค้างอยู่ตอนหน้าฝน พออากาศเย็นลงอย่างรวดเร็วปรับตัวไม่ทันเกิดภาวะธาตุไฟพิการ ก็เลยเจ็บป่วยได้ง่าย ในคนที่มีภูมิต้านทานดีก็จะไม่มีอาการใดๆ แต่ในคนที่ภูมิต้านทานไม่ค่อยดี ช่วงนี้ถือว่าเป็นจุดอ่อน จะป่วยได้ง่ายมากในฤดูหนาว ตามหลักการแพทย์แผนไทย มีธาตุน้ำ เป็นที่ตั้งที่แรกของการเกิดของโรคต่างๆ หมายถึงการเจ็บป่วยมักเกิดจากธาตุน้ำก่อน อากาศที่เย็นลงทำให้เสมหะกำเริบ เกิดอาการภูมิแพ้ มีอาการคัดจมูก จาม น้ามูกไหล ไอ ครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ต่ำๆ

ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพในเบื้องต้นแพทย์แผนไทยจะเริ่มโดยการใช้อาหารในการปรับสมดุลของร่างกาย โดยใช้รสอาหาร เปรี้ยว ขม เบื่อ เอียน ดังคำโบราณว่า ปลายฝนต้นหนาว ให้กินแกงส้มดอกแค เพื่อปรับสมดุลธาตุในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล เนื่องจากแกงส้ม เครื่องแกง จะมีรสเผ็ดร้อน บำรุงและแก้เกี่ยวกับธาตุลม (ฤดูฝน) การปรุงรสโดยใส่มะขามเปียกให้มีรสเปรี้ยวจะบำรุงและแก้ธาตุน้ำ (ฤดูหนาว) รวมทั้งการใส่ดอกแค โดยดอกแคไม่ต้องเอาก้านเกสรออก (รสขม) จะช่วยแก้ไข้หัวลมได้ การกินแกงส้มดอกแคจะช่วยปรับสมดุลธาตุในร่างกายไม่ให้ธาตุลมลดลงอย่างเฉียบพลัน และเตรียมรองรับธาตุน้ำที่มากับฤดูหนาว ร่างกายจะเกิดสมดุลของธาตุในช่วงเปลี่ยนผ่านของสองฤดูนี้

สำหรับพืชผักสมุนไพรที่ควรรับประทานในช่วงฤดูนี้ ได้แก่ รสเปรี้ยว เช่น

  • มะขามป้อม สรรพคุณ แก้หวัด แก้ไอ ละลายเสมหะ เป็นยาระบาย
  • ชะมวง สรรพคุณ แก้ไข้ ระบายท้อง ขับเสมหะ
  • มะเขือพวง สรรพคุณ ขับเสมหะ แก้ไอ ช่วยย่อยอาหาร ลดความดันโลหิต
  • รสขม เช่น ดอกแค สรรพคุณ แก้ไข้เปลี่ยนฤดู
  • ขี้เหล็ก สรรพคุณ เป็นยาระบาย ช่วยให้นอนหลับสบาย
  • สะเดา สรรพคุณ แก้ไข้ แก้ร้อนใน กระหายน้า

บำรุงผิว 1

นอกจากนี้ หากเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ร่างกายอาจได้รับความเย็นมากเกินไป จนรู้สึกหนาว ท่านสามารถรับประทานอาหารที่มีพืชผักสมุนไพรรสเผ็ดร้อนเป็นส่วนผสม เพื่อเสริมสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายได้ เช่น

  • พริกไทย สรรพคุณ ขับเสมหะ แก้ท้องอืดเฟ้อ
  • กระชาย สรรพคุณ ทาให้กระชุ่มกระชวยเป็นยาบำรุงร่างกาย
  • กะเพรา สรรพคุณ แก้ท้องอืดเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง ขับลม แก้คลื่นไส้
  • กระเทียม สรรพคุณ แก้อาการจุกเสียดแน่นอืดเฟ้อ
  • ผักชี สรรพคุณ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้ไข้ ไอ หวัด
  • หอมแดง สรรพคุณ แก้ไข้หวัด คัดจมูก น้ามูกไหล ขับลม บารุงธาตุพิการ
  • ขิง สรรพคุณ ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน ขับเสมหะ

ในส่วนตำรับยาสมุนไพร ที่ควรมีติดบ้าน ติดตัวเอาไว้ เพื่อใช้รักษาอาการเจ็บป่วยในช่วงฤดูหนาว คือ

  • ฟ้าทะลายโจร สรรพคุณ รักษาอาการเป็นไข้ ไอ เจ็บคอ
  • ยาแก้ไอมะขามป้อม สรรพคุณ บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ
  • ยาปราบชมพูทวีป สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการหวัด ภูมิแพ้อากาศ ต้านการอักเสบ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยยาดังกล่าวสามารถสั่งจ่ายโดยแพทย์แผนไทย/แพทย์แผนไทยประยุกต์ ในคลินิกการแพทย์แผนไทยโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ

บำรุงผิว 2

สำหรับการดูแลผิวพรรณในช่วงฤดูหนาวก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้ามีอาการผิวหนังแห้งและคัน ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย แนะนำให้ใช้พืชผักสมุนไพรที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ได้แก่

  • ว่านหางจระเข้
  • แตงกวา
  • มะเขือเทศ
  • กล้วย
  • น้ำมันมะพร้าว
  • น้ำมันงา

ข้อมูล : กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แพทย์เตือน “สารปรอท” ที่พบบ่อยในสกินแคร์ อันตรายมีผลกระทบต่อร่างกายหลายระบบ

รู้หรือไม่? “ภูมิแพ้อาหารแฝง” กับ “อาการแพ้อาหาร” ไม่เหมือนกัน

แพทย์ผิวหนังชี้การ ‘ฉีดสารแปลกปลอม’ เข้าสู่ผิวหนัง อาจเกิดอันตรายได้

 

 

นาฬิกา SWATCH X PEANUTS

แก๊งนี้น่ารัก นาฬิกา SWATCH X PEANUTS คอลเล็คชั่นพิเศษที่ต้องมี

นาฬิกา SWATCH X PEANUTS
นาฬิกา SWATCH X PEANUTS

เปิดตัวคอลเล็คชั่นสุดพิเศษ นาฬิกา SWATCH X PEANUTS ที่เหล่าตัวการ์ตูน Snoopy และผองเพื่อนสุดน่ารักจะมาสร้างรอยยิ้มให้กับคุณ

เพลิดเพลินไปกับคอลเล็คชั่นสุดพิเศษ SWATCH X PEANUTS นาฬิกาที่มาพร้อมกับตัวการ์ตูน Snoopy , Charlie Brown , Woodstock และผองเพื่อนจาก Peanuts แบบครบแก๊ง แฟนๆ เตรียมพร้อมรับความน่ารักสีสันสดใสไปกับการร่วมมือกับการ์ตูนขวัญใจผู้คนทั่วโลก ที่มาพร้อมกับเหล่าคาร์แรกเตอร์สุดไอคอนิกของ Charles M. Schulz (ชาร์ลส์ เอ็ม ชูลซ์) ที่ทำให้คอลเล็คชั่นนี้เต็มไปด้วยจินตนาการและโมเม้นต์อันแสนพิเศษจากการ์ตูน Peanuts ที่พร้อมปลดปล่อยความเป็นเด็กและส่งมอบความสนุกสนานให้กับข้อมือของทุกคน

สำหรับคอลเล็คชั่นสุดพิเศษ Swatch X Peanuts มาพร้อมกับดีไซน์สุดน่ารักทั้ง 6 แบบ ที่พร้อมเฉลิมฉลองให้กับคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันไปของแก๊ง Peanuts โดยนาฬิกามากับสีสันสดใสแสดงถึงความเป็น Swatch ได้อย่างชัดเจน รวมถึงยังมีดีเทลที่น่าสนใจทำให้การร่วมมือกันกับการ์ตูนชื่อดังเรื่องนี้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีก นั่นคือการนำเรื่องราวรายละเอียดจากในการ์ตูนมาดีไซน์ลงบนนาฬิกา

Swatch X Peanuts มาในโมเดล Gent และ New Gent ที่ตัวเรือนทำจากวัสดุจากแหล่งชีวภาพ (Biosourced Materials) และสายนาฬิกาทำจากซิลิโคน โดยมีดีเทลโลโก้ Peanuts บนลูป ซึ่งแต่ละสไตล์มาพร้อมกับแพ็คเกจจิ้งดีไซน์สุดพิเศษ เริ่มกันที่โมเดล Gent หน้าปัดขนาด 34 มม.ที่มากันทั้งหมด 2 เรือน

เพิ่มความสดใสและสนุกสนานให้กับข้อมือของคุณกับคอลเล็คชั่น Swatch x Peanuts ทั้ง 6 สไตล์น่าสะสม ได้แล้ววันนี้ สำหรับโมเดล Gent หน้าปัดขนาด 34 มม.มาในราคา 2,800 บาท และโมเดล New Gent หน้าปัดขนาด 41 มม. ในราคา 3,300 บาท


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ครั้งแรก! กระเป๋า O&B มาเป็นคอลเล็คชั่น มีให้เลือกกว่า 20 สี ราคาดีจนต้องเปย์

ส่องโฉมใหม่ รองเท้า Onitsuka Tiger จับมือแบรนด์กราฟิกสิ่งทอ nowartt

สาวไซส์มินิต้องจัด! รองเท้า Keds Triple Series แมตช์กับชุดไหนก็เก๋

 

M·A·C x L

เหล่าบลิงค์เตรียมสอย M·A·C x L เมคอัพคอลเล็คชั่นที่ “ลิซ่า” ร่วมคอลแลบ ขาย 12 พ.ย.นี้

Alternative Textaccount_circle
M·A·C x L
M·A·C x L

เหล่าบลิงค์เตรียมสอยได้แล้ว หลังเฝ้ารอคอยที่จะครอบครองเป็นเจ้าของคอลเล็คชั่น M·A·C x L ที่ “ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล” ร่วมออกไอเดียคอลแลบกับแบรนด์เครื่องสำอาง M·A·C ในฐานะ Global Ambassador ซึ่งคอลเล็คชั่นพิเศษนี้เตรียมจำหน่ายในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.64) และไม่ต้องกลัวจะหาซื้อยากแต่อย่างใด เพราะคอลเล็คชั่นนี้เข้าไทยด้วย

โดยคอลเล็คชั่นนี้ประกอบด้วย อายแชโดว์พาเลตต์ 12 เฉดสีจุกๆ สำหรับแต่งเติมเปลือกตาได้หลากหลายลุค, ลิปสติกแบบจิ้มจุ่ม 4 เฉดสี , อายไลเนอร์เฉดสีดำ , บลัชออน , และไฮไลต์ มาในแพ็คเก็จจิ้งสีม่วงกลิตเตอร์วิบวับดูเฟียร์ส ที่สำคัญหากสอยครบคอลฯ จะได้กระเป๋ามินิสไตล์คลัตช์ มีสายโซ่สำหรับสะพายเก๋ๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ “ลิซ่า” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการได้ร่วมงานสร้างสรรค์คอลเล็คชั่นของตัวเองออกมาด้วย โดยเธอบอกว่ามันคือฝันที่เป็นจริง ตั้งแต่ที่ได้ทำหน้าที่ในฐานะ Global Ambassador จนถึงการสร้างสรรค์คอลเล็คชั่นของตัวเองกับ M·A·C ถือเป็นเกียรติมากที่เธอได้มีโอกาสนำเสนอไอเดียของตัวเอง จนกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ M·A·C x L

สำหรับแรงบันดาลใจเบื้องหลังคอลเล็คชั่นนี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เธอชอบจริงๆ เช่น สีที่ชอบ ดอกไม้ แมวที่รัก และอื่นๆ จากทุกที่ ทุกคน และทุกอย่างในชีวิต รวมถึงภาพยนตร์ที่ชอบด้วย สำหรับใครก็ตามที่ได้ใช้คอลเล็คชั่นนี้ เธอหวังว่าจะทำให้ทุกคนรู้สึกใกล้ชิดกับเธอจริงๆ ผ่านเมคอัพคอลเล็คชั่นนี้

สำหรับเครื่องสำอางที่ชอบที่สุด เธอบอกว่าเป็นเรื่องยากที่จะเลือก แต่ถ้าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็คงเป็นผลิตภัณฑ์ M·A·C Powder Kiss Lip ตัวแรกที่เธอใช้ทาริมฝีปาก เพราะมีสีที่หลากหลายทำให้เปลี่ยนลุคได้ง่ายตามอารมณ์ของวันนั้นๆ

เชื่อว่าตั้งแต่มีข่าวออกมาแรกๆ เหล่าบลิงค์ก็คงเตรียมเงินไว้พร้อมแล้ว เตรียมปักหมุดหาซื้อคอลฯ นี้ได้ผ่านช่องทาง SEPHORA Online, SEPHORA Shop ทุกสาขา, Maccosmetics.co.th และช่องทาง Flagship Store ของแบรนด์


ภาพ : Courtesy of M·A·C

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พาส่อง 4 ไอเท็มตอบโจทย์การอาบน้ำในแบบเซเลบริตี้ที่ไม่ธรรมดา

เทคนิคทาลิปสติกสีเข้ม แบบพลัมหรือแดงเบอร์กันดีให้ดูสวยหวานสไตล์ PONY MAKEUP

ของมันต้องมีติดบ้าน! แนะ 5 มาสก์หน้า ไอเท็มฟื้นฟูผิวอิ่มฟู นุ่มชุ่มชื้น ราวเสกได้

 

 

‘อยากจะลงจากวิมานไปอาบแสงสีเสียงบ้าง ก็มีดวงที่จะเกิดปากเสียงอย่างรุนแรง’ ดวงรายวัน 11 พฤศจิกายน 2564

ดวงรายวัน 11 พฤศจิกายน 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘อยากจะลงจากวิมานไปอาบแสงสีเสียงบ้าง ก็มีดวงที่จะเกิดปากเสียงอย่างรุนแรง’

ดวงรายวัน 11 พฤศจิกายน 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้คำพูดในการติดต่อประสานงาน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน พนักงานขาย ฯลฯ มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้เริ่มต้นงานใหม่ที่นอกเหนือจากงานประจำ ทางที่ดีวันนี้คุณควรรับงานนี้ เพราะแม้จะท้าทายและมีการแข่งขันสูง แต่ทุกคนที่แวดล้อมรอบตัวคุณ ทั้งผู้ใหญ่ในครอบครัว คนใกล้ชิด รวมถึงเจ้านายผู้หญิง จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ โดยมีโอกาสได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งด้วย

การเงิน  :  คุณใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจนไม่ได้คิดถึงตัวเอง ซึ่งผลจากการให้นั้น วันนี้จะทำให้คุณมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ ไม่ตกอับ

ความรัก :  หากคุณกำลังลังเล สงสัย ไม่แน่ใจว่า ควรจะทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่แคร์ใครเลยจะดีไหม มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้จะมีคำตอบ เพราะมีโอกาสที่สมาชิกในครอบครัวจะมารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งทำให้คุณค้นพบว่า ความสุขของคุณอยู่ตรงนี้เอง คนโสด คุณหลงรักคนง่าย ต้องการให้ตัวเองมีความสุขที่สุด ก็ใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งเลือกใคร เดี๋ยวจะพลาด เพราะวันนี้มีโอกาสได้พบคนรักที่จะทำให้คุณมีความสุขที่สุด

สุขภาพ  :  มีโอกาสที่ระบบย่อยอาหารจะมีปัญหา มีการเจ็บป่วยในช่องท้องและลำไส้ หากคุณเพิ่งผ่าตัดในช่องท้องมีความเสี่ยงที่แผลจะอักเสบ รวมถึงการผ่าตัดจากการคลอดบุตรด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจสายบุญ สายกุศล  สาย CSR เพื่อสังคม โดยทำงานกับผู้ที่มีบุญญาธิการสูง มีอำนาจและบารมี มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะได้ใช้พลังกาย พลังใจอย่างเข้มแข็ง แก้ปัญหาและอุปสรรคที่จะเข้ามาอย่างหนักหนาสาหัส เพราะคุณจะมีโอกาสได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาหรือไม่ถูกหลักศีลธรรม ซึ่งสวนทางกับการทำงานของคุณ จึงมีความเป็นไปได้อีกว่า จะหนักเกินกว่าคุณจะรับมือไหว หากในกรณีรุนแรงจะถึงขั้นลาออกจากงาน หรือยกเลิกกิจการเลย

การเงิน :  คุณชอบทำบุญทำกุศล ซึ่งจริงๆ แล้วทางบ้านคุณก็มีฐานะพร้อมจะสนับสนุนได้ตลอด วันนี้ควรหลีกเลี่ยงจากธุรกิจสีเทา เพราะมีโอกาสจะทำให้เดือดร้อนไม่หยุด จนถึงขั้นวิกฤติเลยทีเดียว

ความรัก : ชีวิตคู่ของคุณค่อนข้างอยู่ในกฎระเบียบ อยู่กับครอบครัวที่ดี ซึ่งคู่คุณเป็นนักเที่ยว เจ้าชู้ ไม่ค่อยอยู่บ้าน ซึ่งวันนี้เขาก็พยายามเป็นแฟมิลี่แมนที่น่ารัก กลับบ้านเร็ว แต่พอมีเวลาอยู่ด้วยกันมาก ก็มีความเสี่ยงที่จะมีปากเสียงอย่างรุนแรง คนโสด คุณเป็นคุณหนูที่อยู่ในโอวาทของผู้ใหญ่มาโดยตลอด หากวันนี้คุณอยากจะลงจากวิมานไปอาบแสงสีเสียงบ้าง ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง

สุขภาพ  :  ภูมิแพ้มาแล้วจ้า ณ วันนี้ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่า เข้าหน้าหนาวจริงๆ หรือ เพราะยังมีฝน แดดยังร้อน หากดูแลตัวเองไม่ดี ระวังร่างกายจะแพ้อากาศ หายใจไม่สะดวก จามบ่อย หากเป็นไซนัสอยู่ระวังจะกำเริบ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้คำพูดในการติดต่อประสานงาน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน พนักงานขาย ฯลฯ ความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้เริ่มต้นงานใหม่ที่นอกเหนือจากงานประจำ เป็นงานที่ท้าทายและแข่งขันสูง ก็บอกเลยว่า ความสำเร็จไม่ได้มาอย่างบังเอิญ แต่ต้องแลกด้วยพลังกาย พลังใจที่แรงกล้า ดังนั้น หากคุณคิดจะทำแบบถนอมเนื้อถนอมตัว ไม่ทุ่มเท เพราะไม่มีเวลามากพอ หรือกลัวความผิดพลาดและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ก็ควรเลื่อนไปก่อน เพื่อรอให้พร้อมมากกว่านี้

การเงิน :  คุณใจบุญ ช่วยเหลือคนอื่นจนไม่คิดถึงตัวเองเลย วันนี้ก่อนจะควักเงินออกจากกระเป๋าก็ควรมีสติ เพราะมีความเป็นไปได้ว่า คุณจะพาบริวาร เพื่อนสนิท ญาติพี่น้องไปเลี้ยงข้าวอย่างอิ่มหมีพีมันเลยทีเดียว

ความรัก :  หากคุณเลือกคู่ด้วยความลังเล สงสัย ไม่แน่ใจ โดยที่คุณก็ใช้ชีวิตอยู่กับเขาแบบหวาดระแวง วันนี้น่าจะวางใจได้บ้างแล้ว เพราะเขาจะส่งเสริมสนับสนุนในเรื่องงาน และให้เกียรติคุณอย่างเต็มที่ คนโสด  ยังไม่ควรตัดสินใจคบกับใครด้วยความสับสนมากกว่าความชอบ เดี๋ยวจะพลาดแรง เพราะวันนี้มีโอกาสได้พบกับผู้บริหารหนุ่มที่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนหน้าที่การงานของคุณได้ด้วย

สุขภาพ :  ปกติคุณดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี แต่วันนี้จะมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาที่อวัยวะในช่องท้อง รวมถึงมดลูกจะมีปัญหา

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับกฎหมาย เช่น ผู้พิพากษา ทนายความ อัยการ ตำรวจ รวมถึงเจ้าของธุรกิจ มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะมีภาวะผู้นำสูง บุกเบิก ลุยเดี่ยว โดยไม่รับฟังความคิดเห็นจากใครเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมาในสายนักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ นักทดลอง ค้นคว้า ฯลฯ ด้วยแล้ว วันนี้งานที่ตั้งใจสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นสาธารณะประโยชน์ เพื่อมวลชน จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สร้างชื่อเสียงให้กับคุณในฐานะผู้มีคุณานุปการที่ยิ่งใหญ่ ทางที่ดีไม่ควรตัดสินใจเร็วและขาดสติ รวมถึงการมีบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ จะทำให้งานเสี่ยงต่อความผิดพลาดเสียหายอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น

การเงิน : หากวันนี้คุณคิดจะร่วมหุ้นลงทุนกับคนรัก ผู้ใหญ่จะให้การสนับสนุน แต่มีความเป็นไปได้ว่า อาจต้องออกเงินล่วงหน้าไปก่อน

ความรัก :  หากคุณกำลังแยกกันอยู่จะชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม วันนี้คุณสตรองมาก ไม่ค่อยแคร์กับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะมีความเป็นไปได้ว่า คุณมีเป้าหมายใหม่ให้เล็งแล้ว  คนโสด  หากคุณกำลังเล็งใครอยู่ วันนี้อยู่เงียบๆ ไม่ไหวแล้ว คุณจะไม่สน แม้เขาจะมีคู่หรือมีแฟนอยู่แล้วก็ตาม

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา หากในกรณีรุนแรงมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อในกระแสเลือดได้

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  มีโอกาสที่คุณจะได้ทำงานใหม่ที่เกี่ยวกับการเดินทางไปๆ มาๆ ไม่ได้หยุดนิ่งเลย หรือจะเป็นโครงการเดิมที่มีอยู่แล้วขึ้นมาพัฒนาปรับปรุงใหม่ มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้ร่วมงานหรือร่วมหุ้นทำธุรกิจกับเพื่อนสนิท (ผู้หญิง) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานที่เกี่ยวกับความบันเทิง ศิลปะ โฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน หรือสินค้าบริการที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ วันนี้คุณจะทำได้ดี ซึ่งคุณควรยึดหลักความถูกต้อง ถูกศีลธรรม พอดีและพอเพียง จึงจะไปรอดในช่วงเศรษฐกิจขณะนี้

การเงิน  :  ก่อนจะรับปากหรือเซ็นสัญญากับใคร ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนว่า คุณทำได้ตามนั้นไหม เพราะมีโอกาสที่คุณจะต้องเสียทั้งเงินและเครดิต

ความรัก :  คุณรักครอบครัวมาก ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ญาติผู้หญิง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า พวกเธอจะเยอะและฟุ่มเฟือยมาก ดังนั้น วันนี้จึงควรอยู่บนทางสายกลาง จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจ คนโสด  หากคุณกำลังจะยกระดับความสัมพันธ์จากเพื่อนหญิงมาเป็นคนสนิท วันนี้มีโอกาสที่คุณจะเข้าใจสัจธรรมว่า ‘มีรักก็มีทุกข์’

สุขภาพ :  บิ๊กคลีนนิ่งบ้านบ้างหรือยัง เพราะวันนี้มีโอกาสที่คุณจะเป็นภูมิแพ้ หากในกรณีรุนแรงจะถึงขั้นไม่สบาย ปอดบวมเลย

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจการเกษตร ตั้งแต่เกษตรกร ออกแบบตกแต่งสวน ศิลปะวัฒนธรรม โอท็อป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ การเงิน การธนาคาร หรือการรักษาพยาบาล ฯลฯ ด้วยแล้ว มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะได้ใช้เทคนิคและความเชี่ยวชาญชำนาญงานของคุณในการเจรจาต่อรอง ประนีประนอม จนสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสำเร็จลุล่วงลงได้ด้วยดี

การเงิน :  ก็ยังเกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายที่ดิน ต้นไม้อยู่ วันนี้อย่าหลงเชื่อคำพูดที่มีหลักการและเหตุผลที่จะมาหลอกลวงคุณ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน เดินทางท่องเที่ยว รวมถึงงานสังคม เพราะคุณจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทุกประเภท

ความรัก :  คุณอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น รักและดูแลเอาใจใส่คุณอย่างดีมาตลอด ลูกก็เป็นที่พึ่งให้กับคุณได้ แต่วันนี้มีความเสี่ยงว่า จะมีปัญหาที่หนักอึ้งรอคุณอยู่ คนโสด  นับว่าคุณโชคดีที่มีคนรักที่จริงใจและจริงจังกับคุณ จนมีโอกาสสร้างความอิจฉาริษยาให้กับคนอื่น วันนี้ควรระวังผู้ไม่หวังดีที่แอบจ้องคนรักคุณอยู่เงียบๆ

สุขภาพ :  หากคุณทำงานที่ต้องยืนหรือเดินอยู่ตลอด วันนี้มีความเสี่ยงที่ขาตั้งแต่สะโพกลงไป จนถึงข้อเข่า ข้อเท้าจะปวดและบวม หากในกรณีรุนแรงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นจะอักเสบ จึงควรพักขาบ้าง

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะได้รับการชักชวนจากญาติพี่น้องหรือคนรู้จักให้เข้าไปทำงานด้วย หากเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานศิลปะ งานออกแบบ สถาปนิก ฯลฯ แล้วล่ะก็ คุณจะทำได้ดี เป็นงานที่มีการแข่งขันสูง และท้าทาย ผลตอบแทนสูงด้วย ดังนั้น จึงควรเตรียมงานให้พร้อม วางแผนล่วงหน้าให้ดี เพื่อป้องกันการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ผิดพลาด

การเงิน :  มีโอกาสได้รับเงินปันผลจากธุรกิจของครอบครัว ซึ่งจะเป็นเงินที่ทำให้คุณใช้จ่ายได้อย่างสุขสบายเลยทีเดียว วันนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้เงินที่ไม่ถูกต้องหรือการเสี่ยงโชค

ความรัก :  หากคุณเพิ่งแต่งงานหรือกำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูน คงไม่ต้องบอกว่า วันนี้คุณจะแฮปปี้ขนาดไหน คนโสด หากคุณได้พบชายในฝันที่ถึงขนาดจะจูงมือไปอยู่ด้วยกันเลย ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ เพราะวันนี้คุณมีเสน่ห์เลือกได้เลย

สุขภาพ :  ภูมิแพ้มาแล้ว มีความเสี่ยงที่คุณจะแพ้สารเคมีที่ผสมอยู่ในน้ำยาทำความสะอาด เช่น แอลกอฮอล์ทั้งแบบสเปรย์ และเจน รวมถึงแอลกอฮอล์สำหรับดื่มด้วย มีโอกาสที่จะขึ้นผื่นคัน ลมพิษ หากในกรณีรุนแรงจะบวมแดง

 

 

 

 

บอกต่อความปังแห่งปี ยกกระชับ อัพผิวเด็กด้วย New Thermage FLX ที่ THE KLINIQUE

แม้ปี 2021 วงการความงามจะเจอวิกฤติหนักหน่วงจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ความปังของคลินิกความงามเบอร์ต้นของเมืองไทยอย่าง THE KLINIQUE ซึ่งนำทัพโดยนายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ผู้บริหารและผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ ยังคงพุ่งแรงแบบฉุดไม่อยู่

ด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 12 ปี และจำนวนสาขาที่มีมากถึง 30 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงการเลือกสรรนวัตกรรมความงามจากทั่วโลกที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดมาให้กับคนไทยเสมอ โดยเฉพาะความฮ็อตและความเริ่ดแบบเกินต้านของนวัตกรรม New Thermage FLX ของที่นี่ ซึ่งการันตีได้จากการคว้ารางวัลบิวตี้แห่งปีอย่าง Praew Iconic Beauty 2021 ในสาขา Iconic Thermage FLX Facelift Technique ไปครองแบบไร้ข้อกังขาใดๆ แพรว จึงขอตอกย้ำความดีงามให้ฟังกันแบบเน้นๆ ตรงนี้

THE KLINIQUE

เหนือกว่าด้วยหัวทิปรุ่นใหม่ล่าสุด
โปรแกรม New Thermage FLX ของ THE KLINIQUE เป็นนวัตกรรมอัพเดตล่าสุดเพียงหนึ่งเดียว ที่ช่วยยกกระชับผิว คืนความอ่อนเยาว์ พร้อมปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก โดยสามารถรักษาได้ทั้งผิวเปลือกตา ผิวหน้า และผิวกาย ด้วยหัวทิปรุ่นใหม่ที่ออกแบบอย่างจำเพาะสำหรับผิวแต่ละบริเวณ อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์ความแตกต่างของผิวแต่ละบริเวณได้อย่างแม่นยำ เพื่อการรักษาที่จำเพาะและผลการรักษาที่ชัดเจนมากกว่าเดิม

โดยหัวทิปรุ่นใหม่ New Total Tip 4.0 ช่วยรักษาได้ดีและเร็วกว่าเดิมถึง 25% และสามารถรักษาได้ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าเดิมถึง 33% อีกทั้งยังมีหัวทิปที่มีความจำเพาะต่อการรักษาผิวแต่ละบริเวณ เช่น  FLX Eye Tip สำหรับยกกระชับผิวหนังตาและรอบดวงตา FLX Face Tip สำหรับยกกระชับผิวหน้าและลำคอ และ FLX Body Tip ที่สามารถยกกระชับผิวได้ทั่วทั้งตัว

THE KLINIQUE

 

ผลลัพธ์สุดปัง! ด้วยเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง

New Thermage FLX ของ THE KLINIQUE เป็นเครื่องเทอร์มาจรุ่นล่าสุด ซึ่งอัพเดตให้พลังงานมีความเสถียรและความอ่อนโยนมากกว่ารุ่นเดิม โดยผสานเทคโนโลยี AccuREPTM และ Advanced CPT เอาไว้ ทำให้พลังงานสามารถลงลึกได้อย่างจําเพาะไปที่ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมสลายไขมันได้สูงสุด ที่สำคัญยังช่วยให้ผิวผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลาการรักษา

AccuREPTM Technology เป็นเทคโนโลยีที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ปรับระดับพลังงานหลักในการรักษาให้เหมาะสมกับผิวแต่ละบริเวณ ซึ่งเมื่อผสานความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเทอร์มาจล่าสุดที่สามารถตรวจวัดความต้านทานของผิวอย่างละเอียดโดยอัตโนมัติ ก่อนการปล่อยพลังงานทุกช็อต ทำให้พลังงานที่ถูกส่งลงไปมีความจำเพาะต่อผิวบริเวณนั้นๆ มากยิ่งขึ้น การรักษาจึงมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน

Advanced CPT (Comfort Pulse Technology) เป็นระบบปฏิบัติการของเทอร์มาจที่ช่วยให้ผิวผ่อนคลายได้มากขึ้นตลอดการรักษา โดยทำงานร่วมกับระบบ Thermage Cool ที่ปล่อยความเย็นมาช่วยปกป้องผิวด้านบน พร้อมช่วยเสริมให้สามารถส่งพลังงานลงลึกไปยังชั้นไขมันใต้ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เสริมความเพอร์เฟคด้วยเทคนิคพิเศษ

ด้วยความมุ่งมั่นของ THE KLINIQUE ในการพัฒนาเทคนิคการรักษา ร่วมกับความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ปัญหาผิว และการเลือกใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยและเหมาะกับการแก้ไขปัญหาผิวนั้นๆ ทำให้สามารถออกแบบการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและปลอดภัย

Ultimate Lift & Firm Strength ถือเป็นเทคนิคล่าสุดในการยกกระชับและปรับรูปหน้า ที่ช่วยกระตุ้นการจัดเรียงและการสร้างคอลลาเจนใหม่ในโครงสร้างผิวอย่างจำเพาะ ทำให้โครงสร้างผิวใหม่อัดแน่นไปด้วยคอลลาเจนที่สมบูรณ์ และเรียงตัวเป็นระเบียบ ผิวจึงยกกระชับ เรียบเนียน และอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังสามารถส่งพลังงานลงลึกผ่านชั้นผิวไปยังเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิว ทำให้เซลล์ไขมันส่วนเกินบริเวณนั้นฝ่อสลายไป รูปหน้าจึงกลับมาเรียวเล็กได้อีกครั้งอย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญผลลัพธ์ความอ่อนเยาว์ยังสามารถอยู่ได้นานกว่า 1-2 ปี

THE KLINIQUE คลินิกความงาม

การันตีความดีงามด้วยรางวัลระดับท็อป

รีวิวความประทับใจจากลูกค้าทุกคน รวมถึงเหล่าเซเลบริตี้และดาราแถวหน้าของเมืองไทย ทำให้ THE KLINIQUE ได้รับการยอมรับในความเชี่ยวชาญและมาตรฐานการรักษาที่ขึ้นแท่นระดับสากล ซึ่งการันตีได้จากการคว้ารางวัลทั้งในระดับประเทศและนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Top Thermage FLX Authentic Clinic รางวัล The Thailand Top Achievement for Ultherapy หรือรางวัลThe Winner of Asia Pacific Highest Achievement for Ultherapy ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของภูมิภาค

ล่าสุดในปีนี้ กับการคว้ารางวัลบิวตี้แห่งปีอย่าง Praew Iconic Beauty 2021 ในสาขา Iconic Thermage FLX Facelift Technique ไปครอง ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำในความเชี่ยวชาญด้านการยกกระชับและปรับรูปหน้าของ THE KLINIQUE ได้อย่างแท้จริง

 

THE KLINIQUE

Call Center : 08-0000-9800 และ 08-8887-8900

Line : @theklinique

Facebook : TheKliniqueMedicalClinic

Instagram : @theklinique

Website : www.theklinique.com

นางเอกเกาหลี ซงฮเยคโย

เบื้องหลังความร่ำรวยของ นางเอกเกาหลี ซงฮเยคโย ดราม่าควีน ออฟ โคเรีย

Alternative Textaccount_circle
นางเอกเกาหลี ซงฮเยคโย
นางเอกเกาหลี ซงฮเยคโย

แม้วงการบันเทิงจะผลัดเปลี่ยนผู้คนไปตามกาลเวลา แต่เชื่อหรือไม่ว่านักแสดงที่เดบิวต์มามากกว่า 2 ทศวรรษ อย่าง นางเอกเกาหลี ซงฮเยคโย กลับไม่เคยหายหรือตกยุคไปเลย

ดาราสาวที่โด่งดังข้ามกาลเวลามาตั้งแต่ยุค 90 จนกระทั่งปัจจุบัน แต่ยังได้รับความนิยมอยู่เสมอไม่ว่าจะในแง่การแสดงที่มีผลงานปังๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความนิยม เธอยังคงเป็นคนดังที่อยู่ในกระแสตลอดเวลาดูเหมือนว่า สิ่งที่เธอมีไม่แพ้ชื่อเสียงเลยก็คือ ทรัพย์สิน ว่ากันว่ามูลค่าที่เธอครอบครองอยู่นั้นมากมาย วันนี้แพรวจึงขออาสาพาทุกคนไปเจาะเบื้องหลังความร่ำรวย ของ ดราม่าควีนออฟ โคเรีย คนนี้กันค่ะ

เบื้องหลังความน่ำรวยของ นางเอกเกาหลี ซงฮเยคโย ดราม่าควีน ออฟ โคเรีย

ซงฮเยคโย ดราม่าควีน

รายได้จากการแสดง

ซงฮเยคโย เริ่มก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ตอนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา เธอเข้ารวมการประกวดนางแบบนางแบบรุ่นเยาว์ และยังคว้ารางวัลชนะเลิศได้สำเร็จ ต่อมาได้เริ่มต้นงานแสดงจากบทเล็กๆ ในเรื่อง First Love และมีผลงานต่อมาในอีกหลายเรื่อง ที่เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Autumn in my heart รักนี้ชั่วนิรันดร์ ,Full House สะดุดรัก ที่พักใจ, Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ ฯลฯ

สื่อเกาหลีใต้เคยเปิดเผยว่า เธอน่าจะได้รับค่าตัวสำหรับการแสดงมากถึง 60 ล้านวอน ประมาณ 1.7 ล้านบาท ต่อ 1 ตอน โดยเฉลี่ยละครเกาหลีจะออกอากาศประมาณ 16 ตอน นั่นหมายความว่า 1 เรื่อง นักแสดงสาวน่าจะได้ค่าเหนื่อยมากถึง 960 ล้านวอน หรือประมาณ 28 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในปี 2023 มีการเปิดเผยว่านักแสดงสาวได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดมากถึง 233.33 % จากการร่วมงานกับ Netflix ในผลงานซีรีส์ The Glory มากถึง 200 ล้านวอน ประมาณ 5.3 ล้านบาท  ต่อ 1 ตอน เท่ากับว่ารวมทั้งหมด 8  ตอน เธอได้รับเงินถึง 42 ล้านบาทสำหรับการแสดงในครั้งนี้เลยทีเดียว

ซงฮเยคโย encounter

รายได้จากงานพรีเซนเตอร์

ไม่ใช่เพียงรายได้จากการแสดงเท่านั้น แต่เธอยังเป็นที่สนใจจากบรรดาเจ้าของสินค้าแบรนด์ต่างๆ  ว่าจ้างให้เธอเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ สำหรับสินค้าที่นางเอกคนดังรับเป็นพรีเซนเตอร์ก็ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งบิวตี้ ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ตลอดจนสินค้าอุปโภคและบริโภค จนได้ฉายาเจ้าแม่พรีเซนเตอร์ของวงการ

ขณะที่สื่อเกาหลีใต้ TMI NEWS ได้วิเคราะห์รายได้จากการเป็นนางแบบโฆษณาของนางเอกคนดังไว้ว่า เธอน่าจะได้รับค่าจ้างประมาณ 900 ล้านวอน หรือ 26 ล้านบาท ต่อโฆษณา 1 ชิ้น ซึ่งในปี 2020 เธอมีงานโฆษณาจำนวน 4 ชิ้น คาดว่าจะได้รับเงินรวมแล้วมากถึง 3,600 ล้านวอน หรือ 104 ล้านบาท

รายได้จากช่องทางโซเชียลมีเดีย

และอย่างที่ทราบกันว่าในยุคนี้โซเชียลมีเดียเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำเงินสำคัญ  และเช่นเดียวกับอินฟลูเอนเซอร์คนอื่นๆ ซงฮเยคโย สามารถทำเงินจากการมีผู้ติดตามในอินสตราแกรมได้ไม่น้อยเลย เพราะนิตยสารแฟชั่นระดับโลก W Company เปิดเผยว่าแบรนด์แฟชั่นสุดหรูอย่าง  Fendi ได้ว่าจ้างฮเยคโยอัปโหลดภาพสินค้าบนโซเชียลมีเดียของเธอ ด้วยราคาสูงถึง 540 ล้านวอน หรือประมาณ 15 ล้านบาท

ซงฮเยคโย Fendi

วงการบันเทิงไม่ใช่เพียงรายได้ทางเดียวของนางเอกสาวคนนี้ เพราะเธอยังเป็นคนดังอีกคนหนึ่งที่ชอบลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ มีรายงานจากสื่อท้องถิ่นว่า นักแสดงสาวคนดังมีบ้านพักในย่านที่ดินแพงอย่าง ซัมซอง มากถึง 3 หลัง โดยหลังแรกนั้นเธอซื้อเมื่อปี 2004 ในราคา 5 พันล้านวอน หรือประมาณ 145  ล้านบาท แต่ปัจจุบันมูลค่าของบ้านหลังนี้ในตลาดได้สูงถึง 10,000 ล้านวอน หรือประมาณ 290 ล้านบาท หลังถัดมาเธอซื้อต่อจากอดีตประธานบริษัท ดงอา ฟาร์มาซูติคอล ในราคา 9.2 พันล้านวอน หรือประมาณ 268  ล้านบาท เมื่อปี 2017 รวมถึงเธอยังซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มอีกหนึ่งหลังมูลค่า 3,000 ล้านวอน หรือประมาณ 87 ล้านบาท แต่การมีบ้านหลายหลังในประเทศอาจจะดูธรรมดาเพราะในปี2008 ซงฮเยคโย ได้ลงทุนซื้อคอนโดหรูที่มหานครนิวยอร์ก ในราคา 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 56 ล้านบาท

คอนโดหรูที่มหานครนิวยอร์ก

อย่างไรก็ตาม ซงฮเยคโย ไม่ใช่นางเอกขายดีเฉพาะช่วงที่มีข่าวดีๆ เท่านั้น เพราะแม้เวลายากลำบากตอนที่เธอตอนเป็นข่าว ถอนหมั้น หรือ หย่าร้าง ความนิยมก็ไม่ได้ลดลงเลย สมกับเป็นซูเปอร์สตาร์ที่ยืนหนึ่งข้ามยุคจริงๆ

ซงฮเยคโย นางเอกเกาหลีใต้ ซงฮเยคโย นางเอกเกาหลีใต้


ภาพจาก : IG @kyo1122

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เจาะค่าตัว เจ้าแม่พรีเซนเตอร์ ซงฮเยคโย นางเอกซูเปอร์สตาร์เกาหลีใต้ 

เปิดเผย ภาพวัยเด็ก ซงฮเยคโย จากนางแบบโนเนมสู่นางเอกเอลิสต์เกาหลีใต้

ซงฮเยคโย ไอคอนยืนหนึ่ง ต้นแบบของสาวๆ สวยครบเครื่องรอบด้าน

ทำความรู้จัก 4 เมกะสตาร์จีน ตัวพ่อ-ตัวแม่แห่ง วงการบันเทิงแดนมังกร

Alternative Textaccount_circle

ทำความรู้จัก 4 เมกะสตาร์จีน ตัวพ่อ-ตัวแม่แห่ง วงการบันเทิงแดนมังกร ตี๋ลี่เร่อปา,เซียวจ้าน, หยางมี่ และ หยางหยาง

หากพูดถึงซีรีส์ต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสมัยแรกในเมืองไทยคงหนีไม่พ้นซีรีส์จีน แม้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาจะมีซีรีส์จากชาติอื่นเข้ามาชิงความนิยมบ้าง แต่กลุ่มแฟนคลับซีรีส์จีนในเมืองไทยยังคงเหนียวแน่นเสมอ โดยไม่กี่ปีที่ผ่านมากระแสซีรีส์จากประเทศจีนได้หลั่งไหลเข้ามาให้แฟนๆ ได้รู้จักเป็นจำนวนมาก จนจุดกระแสให้ซีรีส์จีนกลับมาเป็นที่นิยมในเมืองไทยอีกครั้ง 

เช่นนั้นวันนี้แพรวจะพาไปรู้จัก4 เมกะสตาร์จีนที่มีฐานแฟนคลับมากมายทั่วโลกมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็น ตี๋ลี่เร่อปา (Dilraba) เจ้ากระต่ายน้อยแสนอบอุ่น เซียวจ้าน (Xiao Zhan) รวมถึงขุ่นแม่  หยางมี่ (Yang Mi) และลูกแกะน้อยรอยยิ้มละลายอย่าง หยางหยาง (Yang Yang)

ทำความรู้จัก 4 เมกะสตาร์จีน ตัวพ่อ-ตัวแม่แห่ง วงการบันเทิงแดนมังกร

ตี๋ลี่เร่อปา (Dilraba) ซุปตาร์หน้าหมวยอินเตอร์ที่นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก!

เมกะสตาร์จีน

“ตี๋ลี่เร่อปา” หรือ “ดิลราบา ดิลมูรัต” นักแสดงสาวชาวจีนเชื้อสายอุยกูร์ วัย 29 ปี ที่มีใบหน้าอันเป็นเอกลักษณ์ กับดวงตากลมโต สวยคมชนิดที่ว่าเห็นปุ๊บ จำได้ปั๊บ ซึ่งตลอดกว่า 8 ปีที่ผ่านมานั้น เธอได้สร้างปรากฏการณ์สุดว้าวอะไรประดับวงการไว้แล้วบ้าง ตามไปส่องกันได้เลย!

หลังจากที่เธอเข้าวงการมาได้แค่สองปี เธอก็ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการคว้ารางวัล “นักแสดงดาวรุ่งที่ผู้ชมชื่นชอบที่สุด” จากงาน China TV Drama Awards ครั้งที่ 7 ในปี 2558 แถมในปีต่อมาเธอก็ได้รับรางวัล “นักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม” ถึงสองครั้งจากสองเวที และยังมีรางวัลอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย โดยตลอดระยะเวลาที่เธออยู่ในวงการ เธอกวาดไปแล้วกว่า 30 รางวัลเลยนะ! สำหรับผลงานที่ทำให้เธอดังเป็นพลุแตก คงจะหนีไม่พ้น “สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่” (Eternal Love) ที่ออกอากาศเมื่อปี 2560 ถือเป็นซีรีส์ที่สร้างปรากฏการณ์ ทำลายสถิติยอดวิวทั้งทางช่องโทรทัศน์และออนไลน์ด้วยการเป็นซีรีส์ที่ยอดวิวทะลุ 1 หมื่นล้าน และ 2 หมื่นล้านเร็วที่สุดในจีน แต่ความปังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะซีรีส์ภาคต่ออย่าง “สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย” (Eternal Love of Dream) ก็ได้กลายเป็นซีรีส์ที่มียอดวิวสูงสุดประจำปี 2563 บนแอปพลิเคชันและได้เคยสร้างปรากฏการณ์ซีรีส์ที่ยอดการรับชมสูงสุดถึง 45 ล้านนาทีในหนึ่งวัน แบบนี้ไม่เรียกว่าปัง ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว

ดิลราบา ดิลมูรัต

ต่อด้วยปรากฏการณ์ความปังของตี๋ลี่เร่อปาที่มีมาอย่างต่อเนื่องแบบที่แรงสุดๆ จนฉุดไม่อยู่ เพราะเธอได้ทำให้ซีรีส์ที่เธอแสดงเรื่องล่าสุดอย่างซีรีส์เรื่อง “สตรีหาญฉางเกอ” (The Long March of Princess Changge) มียอดวิวพุ่งทะลุแอปฯ เป็นคอนเทนต์ที่มีคนดูมากที่สุดในในครึ่งปีแรก (Q1-Q2) ของปี 2564 ไปเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน ความปังของเธอนั้นไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เธอได้สร้างปรากฏการณ์ไว้อีกมากมายจนเล่าไม่หมด ล่าสุดเธอก็มีผลงานเรื่อง “ดุจดวงดาวเกียรติยศ” (You are My Glory) ซีรีส์แนวโรแมนติกที่ประกบคู่กับหยาง หยาง ทำเอาทุกคนฟินกับเคมีสุดลงตัวของทั้งคู่ที่เหมาะกับการเยียวยาหัวใจในเวลานี้ได้เป็นอย่างดี

เซียวจ้าน (Xiao Zhan) จากหนุ่มดีไซน์เนอร์สู่ไอดอล และเมกะสตาร์จีนที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการบันเทิงเอเชีย

ดาราแดนมังกร

“เซียวจ้าน” มีชื่อเล่นว่า จ้านจ้าน (Zhan Zhan) อายุ 30 ปี หนึ่งในเมกะสตาร์จีนที่มีฉายาว่า ‘กระต่ายน้อย’ หรือเหล่าแฟนคลับมักจะเรียกว่า “จ้านเกอ หรือ พี่จ้าน” เขาได้เรียนจบด้านการออกแบบ Modern International Art Design Academy จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและธุรกิจฉงชิ่ง เคยทำงานเป็นช่างภาพ และเป็นกราฟิกดีไซเนอร์จนในปัจจุบันได้กลายมาเป็นเซเลบริตี้ที่ได้ร่วมงานกับหลากหลายแบรนด์ดังทั้งแบรนด์ระดับอินเตอร์ และแบรนด์ท็อปฮิตในจีนอีกมากมายรวมมูลค่าแบรนด์สูงลิบลิ่ว และยังเป็นหนึ่งในเมกะสตาร์จีนที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร ก็ขึ้นติดเทรนด์ในโลกโซเชียลเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลงานการแสดง การปรากฎตัวตามงานอีเวนต์ของแบรนด์ต่างๆ ที่ร่วมงานด้วย เรียกว่าสร้างปรากฏการณ์ปังๆ ไม่เว้นแต่ละวันกันเลยทีเดียว

สำหรับปีทองของเซียวจ้านนั้นก็คือปี 2562 กับผลงานที่ทำให้เขาโด่งดังจนกลายเป็นหนึ่งในเมกะสตาร์ของจีนในเวลาอันรวดเร็ว จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลก คือกระแสซีรีส์ “ปรมาจารย์ลัทธิมาร” (The Untamed) ที่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทุกครั้งที่ออกอากาศ และที่สำคัญคือ แฟนคลับชาวไทยนั้นมีความปังเกินต้าน ส่งแฮชแท็กภาษาไทย #ปรมาจารย์ลัทธิมารep50 ติดอันดับหนึ่งทั้งเทรนด์ประเทศไทย รวมถึงเทรนด์โลก แถมมียอดการรีทวีตมากกว่า 1 ล้านครั้ง บอกเลยว่าโลกต้องจดจำ! ปรากฏการณ์ต่อมา ก็ยังคงหยิบยกความปังในไทยกันแบบต่อเนื่อง โดยการจัดงานแฟนมีตติ้งของปรมาจารย์ลัทธิมารในไทยเมื่อปี 2562 นั้น มีคิวกดซื้อบัตรร่วมแสนคิว ทั้งๆ ที่มีบัตรขายแค่ 5,000 ใบเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงกลายเป็นซีรีส์ที่มียอดวิวสูงสุดของปี 2562 บนแอปฯ WeTV และยังคงติดอันดับ 4 ซีรีส์พากย์ไทยที่มียอดชมสูงในครึ่งปีแรก (Q1-Q2) ของปี 2564 เช่นกัน

และอย่างที่แฟนๆ รู้กันดี ว่าเซียวจ้านไม่ได้มีดีแค่หน้าตาและความสามารถด้านการแสดง เพราะเซียวจ้านเคยเดบิวต์ในฐานะวงไอดอล X-NINE มาก่อน ทำให้เขาได้เคยสร้างปรากฏการณ์ในวงการเพลงไว้ด้วยเช่นกัน ด้วยการส่งซิงเกิล “Spotlight” จนได้บันทึกสถิติ Guinness World Record ว่าเป็นซิงเกิลดิจิทัลที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในจีน โดยเป็นเพลงที่มียอดดาวน์โหลดสูงกว่า 25.48 ล้านครั้ง และสร้างยอดขายได้เกินกว่า 76.41 ล้านหยวนใน 24 ชั่วโมงแรก จนกลายเป็นอัลบัมดิจิทัลแรกที่มียอดขายเกิน 100 ล้านหยวน และมียอดจำหน่ายมากกว่า 30 ล้านแผ่น โดยสถิติทั้งหมดนี้เกิดขึ้นทั้งที่ไม่มีการโปรโมตใดๆ ก่อนวันวางจำหน่ายเลย แบบนี้ต้องเรียกว่าที่สุดแห่งปรากฏการณ์แล้วรึเปล่าเนี่ย?!

ทุกคอนเทนต์ของเซียวจ้านนั้นมักจะได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ ทุกครั้ง สำหรับปรากฏการณ์ความปังล่าสุดของเซียวจ้านเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คือซีรีส์แนวแฟนตาซีสร้างจากอนิเมะชื่อดังของจีน  “ตำนานจอมยุทธ์ภูตถังซาน” (Douluo Continent) ติดอันดับ 5 ซีรีส์พากย์ไทยที่มียอดชมสูงในครึ่งปีแรก (Q1-Q2) บน WeTV อีกด้วย ทั้งหมดนี้เป็นเพียงปรากฏการณ์ส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับแฟนๆ ที่อยากติดตามชมผลงานที่กำลังรอออนแอร์ของเขาเรื่อง “The Oath of Love” ในบทคุณหมอกู้เว่ย แพทย์หนุ่มแสนสุขุม และ “The Longest Promise” รวมถึงผลงานยอดฮิตก่อนๆ เช่น “ปรมาจารย์ลัทธิมาร” (The Untamed) หรือ “กระบี่เทพสังหาร” (Jade Dynasty) 

เมกะสตาร์ระดับตำนานอย่างขุ่นแม่ หยางมี่ (Yang Mi) ตัวแม่แห่งวงการบันเทิง และวงการธุรกิจอย่างแท้จริง

วงการบันเทิงแดนมังกร

“หยางมี่” นักแสดงระดับตำนานแห่งวงการบันเทิงจีน ที่ถือว่าเป็นตัวแม่ทั้งในโลกแห่งการแสดง รวมถึงโลกแห่งธุรกิจที่เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน เธอได้เคยสร้างปรากฏการณ์ปังๆ อะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

อย่างที่ทุกคนทราบกันดี ว่าวงการบันเทิงจีนนั้นยกให้เธอเป็นหนึ่งในสาวเก่งทั้งด้านการแสดง และด้านธุรกิจ ในปี 2558 เธอได้ก่อตั้งบริษัท Jaywalk Studios ร่วมกับผู้จัดการส่วนตัวของเธอด้วยเงินทุนกว่า 250 ล้านหยวน และในปี 2560 บริษัทก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างซีรีส์ “สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่” (Eternal Love) ซึ่งหยางมี่ก็ได้รับบทนำและแสดงร่วมกับนักแสดงในสังกัดของตัวเองอย่าง ตี๋ลี่เร่อปา ด้วยปรากฏการณ์ความฮิตของซีรีส์เรื่องนี้ที่โด่งดังไปทั่วโลกทำให้บริษัทฯ ของเธอมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 20 เท่าในเวลาแค่ 3 ปีเท่านั้น เชื่อแล้วว่าสาวเก่งคนนี้เป็นตัวแม่แห่งวงการบันเทิงและวงการธุรกิจอย่างแท้จริง

แต่ความปังของเธอกับซีรีส์ “สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่” (Eternal Love) ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะตั้งแต่ซีรีส์เรื่องนี้ได้ถูกฉายทางโทรทัศน์ที่จีนตั้งแต่ปี 2017 จนยอดวิวจบที่ 4 หมื่นล้านวิว แต่ซีรีส์ยังคงเดินหน้าสร้างปรากฏการณ์อย่าต่อเนื่อง เพราะหนึ่งปีต่อมา ยอดวิวพุ่งไปแตะยอด 5 หมื่นล้านวิวไปแล้วเรียบร้อย เฉลี่ยแล้วมีคนดูมากถึง 100 ล้านวิวต่อวันเลยนะ!

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ของเธอเท่านั้น ด้วยความปังขนาดนี้ จึงทำให้ปี 2563 ที่ผ่านมา Forbes China ได้จัดให้เธอได้ขึ้นเป็นอันดับ 6 ของเซเลบริตี้ผู้ทรงอิทธิพลจากทั้งหมด 100 คน บอกเลยว่าหยางมี่ คือตัวแม่แห่งวงการจริงๆ สำหรับใครที่อยากชมผลงานของเธอ สามารถรับชมได้เช่นเรื่อง “มหัศจรรย์กระบี่เจ้าพิภพ” (Swords of Legends) และผลงานที่รอออนแอร์ 2 เรื่องสองสไตล์อย่างซีรีส์แนวเทพเซียนที่สร้างจากนิยายชื่อดังไข่มุกเคียงบัลลังก์ อย่างเรื่อง Novoland: Pearl Eclipse และผลงานแนวโรแมนติกอย่าง She & Her Perfect Husband ที่ประกบคู่กับสวีข่าย นักแสดงหนุ่มขวัญใจสาวไทยที่กำลังมาแรงในขณะนี้

 หยาง หยาง  (Yang Yang)  ที่สุดแห่งใบหน้าชวนฝัน เจ้าของฉายาลูกแกะน้อยหน้ามนยิ้มละลายใจแฟนๆ ทั่วโลก

“หยาง หยาง”พระเอกใบหน้าหล่อดุจเทพบุตร ผู้ที่ได้รับฉายาลูกแกะน้อย หรือหนุ่มหน้าฟ้าประทานยิ้มละลายใจเขาคือนักแสดงที่มาเพื่อละลายใจแฟนๆ ทั่วโลกอย่างแท้จริง เรามาดูกันว่าตลอดระยะเวลากว่า10 ปีเขาได้สร้างปรากฏการณ์ความปังอะไรกันบ้าง

สำหรับ หยาง หยาง ที่อยู่ในวงการมากว่าสิบปี บอกเลยว่าได้สร้างปรากฏการณ์ไว้แบบจุกๆ แต่ที่โดดเด่นเลย คือ ภาพยนตร์เรื่อง The Left Ear ที่ทำรายได้ไปถึง 78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนละครออนไลน์ เรื่อง The Lost Tomb มียอดผู้ชมถึง 100 ล้านวิวในเวลาเพียง 22 ชั่วโมงเท่านั้น! ที่สุดแห่งความปังจริงๆ ผู้ชายคนนี้ ในปี 2559 เขาได้กวาดรางวัลไปอีกมากมาย ทั้งรางวัล “นักแสดงสร้างชื่อเสียงและความสนใจมากที่สุด” และรางวัล “นักแสดงที่มีอิทธิพลต่อสื่อ” จาก  Anhui TV Drama Awards รวมถึงรางวัล “นักแสดงยอดนิยม (จีนแผ่นดินใหญ่)” จาก Weibo Power Star Top 10 และล่าสุดในปี 2563 ที่ผ่านมา เขาก็ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ซูเปอร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์ร่วมทุนสร้างไทย-จีน เรื่อง “แวนการ์ด หน่วยพิทักษ์ฟัดข้ามโลก” (Vanguard) ซึ่งเป็นการร่วมงานกับนักแสดงคิวบู๊ระดับตำนานอย่าง “เฉินหลง” อีกด้วย

ทางด้านแฟนคลับชาวไทยเองก็ต้านความหล่อทะลุพิกัดของเขาไม่ไหวเช่นกัน เพราะเมื่อปี 2562 ตอนเปิดตัว WeTV ที่ประเทศไทยนั้น เพื่อโปรโมตซีรีส์ เรื่อง “เทพยุทธ์เซียนกลอรี่” (The King’s Avatar) ที่หยาง หยาง นำแสดง โดยในแฟนมีตติ้งครั้งนั้น หยาง หยางได้สลัดภาพความสุขุมมาดนิ่ง มาร่วมสนุกกับแฟนคลับผู้โชคดีชาวไทยอย่างเป็นกันเอง จนแฟนๆ ทั่วโลกต้องอิจฉาไปตามๆ กัน ถือเป็นการจัดแฟนมีตติ้งต่างประเทศครั้งแรก และจนถึงปัจจุบันก็เป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่เขาเคยจัดงานแฟนมีตติ้งกับแฟนๆ นอกประเทศจีน และซีรีส์ที่กำลังสร้างปรากฏการณ์อยู่ตอนนี้ คือซีรีส์ที่กำลังออนแอร์เรื่อง “ดุจดวงดาวเกียรติยศ” (You are My Glory) การโคจรมาพบกันของคู่เคมีฟ้าประธานระหว่างหยาง หยางและตี๋รี่เร่อปา เริ่มออกอากาศไปเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา สร้างปรากฎการณ์ทำยอดวิวสูงถึง 100 ล้านวิวภายใน 4 ชั่วโมงแรกที่ออกอากาศที่ประเทศจีน แฟนๆ สามารถรับชมผลงานของเขา เช่น  “เทพยุทธ์เซียนกลอรี่” (The King’s Avatar) และซีรีส์ที่รอออนแอร์แนวย้อนยุคเรื่อง “เทียบท้าปฐพี” (Who Rules The World) ที่ประกบคู่กับดาราสาวดาวรุ่ง “จ้าวลู่ซือ” ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าจะตามอง


เทคนิคทาลิปสติกสีเข้ม

เทคนิคทาลิปสติกสีเข้ม แบบพลัมหรือแดงเบอร์กันดีให้ดูสวยหวานสไตล์ PONY MAKEUP

Alternative Textaccount_circle
เทคนิคทาลิปสติกสีเข้ม
เทคนิคทาลิปสติกสีเข้ม

ลิปสติกสีเข้ม แต่ทาแล้วดูหวาน ทำได้ไงมาดูเทคนิคของ Pony Makeup หรือ ‘โพนี่’ (ปาร์ค ฮเย มิน) เมคอัพอาร์ติสต์พ่วงตำแหน่งบิวตี้บล็อกเกอร์ที่ดังที่สุดในเกาหลี เธอให้ทริคทาลิปสติกสีเข้มแบบพลัมหรือแดงเบอร์กันดีให้ดูสวยหวาน

เทคนิคทาลิปสติกสีเข้ม แบบพลัมหรือแดงเบอร์กันดีให้ดูสวยหวานแบบ PONY MAKEUP

“เทคนิคการทาลิปสติกสีเข้มเป็นเรื่องที่ถามกันมาก เข้าใจว่าสาวๆ เอเชียแม้จะชอบในสีสันที่เก๋แปลกของเทรนด์ลิปสติกช่วง Fall/ Winter แค่ไหน แต่ก็ไม่อยากดูเข้มดุดันจนเกินไป ต้องเผื่อใจไว้สำหรับใช้ชีวิตตอนกลางวันด้วย

“การทาลิปสติกสีพลัมหรือแดงเบอร์กันดีให้ดูหวานนั้นทำได้ง่ายๆ แค่ต้องเกลี่ยให้มีความซอฟต์เบลอ กลบสีปากด้วยคอนซีลเลอร์เนื้อครีมชุ่มฉ่ำเสียก่อน อาจทาปากทับไปก่อน 1 ชั้นด้วยลิปสติกสีนู้ด จากนั้นค่อยแตะลิปสีเข้มลงเฉพาะช่วงกลางปากด้านใน แนะนำเนื้อสัมผัสแบบครีมเนื้อแมตต์ เพราะเกลี่ยแล้วดูฟุ้งสวยง่าย อาจเม้มปากแล้วใช้นิ้วช่วยก็ได้ แต่ถ้าอยากให้ดูเนี้ยบนวลเนียน แนะนำว่าใช้พู่กันขนแน่นๆ เกลี่ยจะสวยมากค่ะ”


ภาพ : ponysmakeup

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ของมันต้องมีติดบ้าน! แนะ 5 มาสก์หน้า ไอเท็มฟื้นฟูผิวอิ่มฟู นุ่มชุ่มชื้น ราวเสกได้

วิตามินซี ใช้ร่วมกับอะไรแล้วไม่เริ่ด? พร้อมคัด 6 ไอเท็ม อยากหน้าใสต้องใช้แล้วแหละ

สวยแท้แม้ปิดแมสก์ แนะ 3 บลัชออนสีน่ารัก ปัดแล้วพวงแก้มสวยระเรื่อ ดูอ่อนเยาว์

 

 

รักสุดใจเหมือนคนในครอบครัว Corrada ม้าตัวใหญ่สีขาว ของ นริศา คุโบตะ

account_circle

รักสุดใจเหมือนคนในครอบครัว Corrada ม้าตัวใหญ่สีขาว ของ นริศา คุโบตะ ปกติเธอรักสัตว์อยู่แล้ว ยิ่งเมื่อได้พบกับม้าในฝัน คุณหนูนาก็พร้อมทุ่มเท ความรักให้อย่างสุดใจเหมือนคนในครอบครัว

“ตอนเด็ก ๆ หนูนาเรียนขี่ม้ากับพี่น้องทุกวันเสาร์- อาทิตย์เป็นประจำที่โปโลคลับ หยุดไปเพราะไปเรียนต่อต่างประเทศ กระทั่ง 5 ปีที่แล้วถูกชะตากับม้าตัวหนึ่ง เป็นม้าตัวใหญ่สีขาว สายพันธุ์ Holsteiner Warmblood มาจากประเทศ
ออสเตรีย ชื่อ Corrado แรกๆเขาดูตื่นๆ เช่น เวลาได้ยินเสียงอะไรในพุ่มไม้หรือเสียงม้าตัวอื่นวิ่ง ก็จะวิ่งออกไปเลย  ซึ่งเป็นธรรมชาติของม้าที่มีสัญชาตญาณการระวังภัยสูง ทำให้ขี้กลัวมากน้อยแล้วแต่ตัว แต่หนูนาชอบที่เขาเป็นยักษ์ใหญ่ใจดี จึงกลายมาเป็นม้าคู่ใจ มาหาเขาที่คลับเป็นประจำสัปดาห์ละ 4 – 5 วัน พาเขาออกกำลังกายครั้งละประมาณ 45 นาที

“หนูนาเคยให้คอราโด้ลงแข่งของโปโลคลับบ้าง แต่ตอนนี้ลดการขี่หนักๆลงแล้ว เพราะเขาอายุมากถึง 20 ปี เทียบกับคนก็เท่ากับ 60 ปี จะเน้นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความเข็งแรงและคงสภาพกล้ามเนื้อ รวมถึงการดูแล
มากกว่า หลังจากขี่เสร็จอาจมีอาการปวดเมื่อยตัวเหมือนคนที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จ ก็จะประคบน้ำแข็งที่ขาเพื่อป้องกันการอักเสบของกล้ามเนื้อ ระหว่างวันจะใช้น้ำอุ่นประคบคลายกล้ามเนื้อที่หลังให้บ้าง

โดยคุณหมอจะดึงเหยียดขาและทำเลเซอร์คลายจุดที่ตึงเป็นพิเศษให้ที่คอกเดือนละครั้ง เวลาทำเขาจะสบายตัวมาก แลบลิ้นหน้าพริ้มเชียว (หัวเราะ) ที่เขาชอบสุดๆคือการเกาก้นค่ะ พอชอบเขาจะยกหลังขึ้น เป็นทริคของคุณหมอสำหรับยืดคลายกล้ามเนื้อ  ขณะเดียวกันก็ต้องใส่ใจเรื่องการขี่ โดยขี่แบบให้ม้าใช้หลัง ซึ่งจะให้คุณครูช่วยฝึกและสอนเราตอนขี่ให้ถูกต้องด้วย  สำหรับเกือกม้าจะทำทุกเดือน ส่วนกีบม้าต้องดูแลไม่ให้เปียกแฉะ เพราะอาจจะทำให้กีบผุและเน่าเปื่อยได้ รวมถึงทาครีมและให้ วิตามินบำรุงกีบด้วย นอกจากนี้มีวิตามินบำรุงข้อ

“อาหารหลักจะเป็นหญ้าแพงโกล่า 70 เปอร์เซ็นต์ และเสริมด้วยอาหารเม็ดบ้าง กับกากถั่วเหลืองเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อประมาณ 500 กรัม โดยจะผสมกับข้าว แบ่งวันละ 2 มื้อ อ้อ ต้องให้เกลือแร่ผงเพื่อช่วยในการระบายความร้อนกับโพรไบโอติกส์เพื่อช่วยบำรุงลำไส้ด้วยค่ะ ส่วนที่ม้าไม่ควรกินมากไปคืออะไรที่มีน้ำตาล เช่น ขนมม้า ส่วนแครอตหรือแอ๊ปเปิ้ลจะให้กินเป็นรางวัลประมาณครั้งละ 1 ลูกเท่านั้นพอค่ะ”

เรื่องความสวยงาม คุณหนูนาก็จัดหนักจัดเต็มเพื่อให้ม้าของเธอดูดีตลอด “หนูนาให้คอราโด้อาบน้ำทุกวัน เพราะอากาศในประเทศไทยร้อน บางทีอาบน้ำเปล่า บางครั้งก็ลงแชมพูให้ด้วย ส่วนตรงหางม้าต้องใช้น้ำยาพิเศษ โดยหลังอาบน้ำเสร็จจะสเปรย์ให้ทั่วเพื่อให้ขนที่หางลื่น สามารถหวีให้ขนเรียงตัวสวยงาม ของม้าส่วนใหญ่ ทั้งอุปกรณ์  อาหาร และวิตามินผลิตในยุโรป จึงต้องนำเข้ามา

“ข้อต่อมาคือต้องใช้กราด (คล้ายหวี) ให้ขนที่ผลัดร่วงหลุดออกมา ต้องกราดทุกวันเพื่อไม่ให้ฝุ่นหมักหมมจนสกปรก  เพราะจะเกิดโรคผิวหนัง นอกจากนี้การกราดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดที่ผิวหนัง เหมือนได้นวดไปในตัว
ปกติหนูนาจ้างพี่เลี้ยงม้าอยู่แล้ว ก็จะให้เขาคอยช่วยจัดการ รวมถึงทำเองด้วยในบางครั้ง อีกอย่างที่ทำทุกวันก็คือหวีปัดฝุ่นค่ะ เป็นลักษณะการหวีขนม้าให้สวยและสะอาด”

ด้วยความรักและความผูกพันที่มีให้กันตลอด 5 ปี คุณหนูนายอมทุ่มทุกอย่างเพื่อให้คอราโด้ ม้าของเธอปลอดภัยจากโรคร้าย

“ช่วงที่โควิดระบาดปีที่แล้ว เกิดโรคชื่อ African Horse Sickness หรือกาฬโรคม้าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ถ้าม้าติดจะมีโอกาสเสียชีวิตเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอนนั้นในประเทศไทยมีม้าตายไปเกิน 500 ตัว เริ่มระบาดจากปากช่อง ซึ่งตัวที่เป็นพาหะคือ ริ้น เป็นแมลงดูดเลือด อันตรายมาก มันจะมากับลมหรืออาจติดมากับฟาง หญ้า ตอนนั้นคุณหมอบอกว่าธรรมชาติของตัวริ้นจะเข้ามาตามกระแสลมช่วงแรกกรุงเทพฯยังอยู่ไกลจากรัศมี ม้ายังอยู่นอกมุ้งได้  แต่ต้องรีบป้องกัน คือ ไม่ให้ม้าออกมานอกคอกช่วงเช้ากับเย็น  เพราะริ้นจะออกมาเวลานั้น โรคนี้ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน แต่กว่าวัคซีนจะมาก็ยาวนาน เพราะตรงกับช่วงโควิด การขนส่งจากต่างประเทศยากลำบาก ตอนนั้นหนูนากับเพื่อนที่เลี้ยงม้าเหมือนกันก็ช่วยกันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการติดมุ้งพิเศษครอบทั้งคอกเพื่อกันแมลง

โดยหนึ่งคอกจะมีม้า 60 ตัว แล้วก็สั่งน้ำยากันแมลงมาพ่นให้ทั่ว กับสั่งผ้าคลุมให้ม้าด้วย พอเขาไม่สามารถออกไปข้างนอก ต้องใช้ชีวิตในมุ้งประมาณหนึ่งเดือนเพื่อความปลอดภัย ทั้งที่เขาเป็นสัตว์ที่ต้องออกกำลังกายทุกวัน เราก็ใช้วิธีไปเดินจูงเขาในคอก จะได้ไม่เครียด รู้สึกเลยว่าเรารักเขาจริงๆ พอจูงเสร็จก็นั่งแปรงขน ดูแลเขาใกล้ชิด จนวัคซีนมาถึง  แต่ฉีดแล้วเป็นไข้อีก ช่วงกลางคืนต้องให้พี่เลี้ยงคอยช่วยประคบน้ำเย็นจนค่อยๆดีขึ้น…โล่งใจไป

“การมีสัตว์เลี้ยง เราต้องพร้อมดูแล ทุ่มเทให้เหมือนเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 975

คริปโตเคอร์เรนซี่

อนาคต “คริปโตเคอร์เรนซี่” จะเป็นอย่างไร by ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล

Alternative Textaccount_circle
คริปโตเคอร์เรนซี่
คริปโตเคอร์เรนซี่

มาถึงวันนี้ “คริปโตเคอร์เรนซี่” (Cryptocurrency) เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางตลาดที่ขึ้นลงเป็นรถไฟเหาะ แต่หลายคนยังยอมเสี่ยงกระโดดเข้าร่วมวง เพราะพวกเขาเชื่อว่าคริปโตเคอร์เรนซี่คือโลกอนาคตที่จะเปลี่ยนแปลงวงการการเงินโลก เรื่องนี้คงต้องฟังผู้เชี่ยวชาญอย่าง คุณแบงค์- ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งซิปเม็กซ์ (Zipmex) ประเทศไทย

อนาคต “คริปโตเคอร์เรนซี่” จะเป็นอย่างไร by ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล

Q1 : สินทรัพย์ดิจิทัลจะเปลี่ยนแปลงโลกการเงินอย่างไร

“ผมขออธิบายแบบนี้นะครับ คริปโตเคอร์เรนซี่นั้นเกิดจากวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ใช้คอมพิวเตอร์หรือรหัสคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยซัพพอร์ตให้การประกอบธุรกิจและการดำรงชีวิตสะดวกสบาย ตรวจสอบได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เมื่อก่อนถ้าจะโอนเงินต้องไปธนาคารให้พนักงานโอนให้ กระทั่งมีตู้เอทีเอ็ม พนักงานก็ลด บทบาทไป  พอมาถึงยุคคริปโตเคอร์เรนซี่  ซึ่งมีเทคโนโลยี ‘บล็อกเชน’ [การเก็บ ข้อมูลในรูปแบบบล็อก (Block)  ซึ่งเชื่อมโยงกันบนเครือข่ายเหมือนห่วงโซ่ (Chain) โดยทุกคนในเครือข่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลชุดเดียวกัน เมื่อมีการทำธุรกรรมเกิดขึ้น ข้อมูลจะถูกบันทึกลงในบล็อกนั้นๆ] อยู่เบื้องหลัง ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแลกเปลี่ยน มูลค่ากันบนอินเทอร์เน็ตได้เร็ว สะดวกและง่ายขึ้น โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร แต่ให้คนในเครือข่ายช่วยกันประมวลผลและยืนยันธุรกรรมที่เกิดขึ้น เป็นการกระจายอำนาจให้แต่ละคนจริงๆ ทำให้ตัวกลางอย่างธนาคารยิ่งมีบทบาทน้อยลง ซึ่งธนาคารอาจไม่ได้หายไปไหน แต่เปลี่ยนจากผู้ให้บริการ (Service Provider) เป็นผู้ให้บริการทางเทคโนโลยี (Technology Provider) แทน

“ซึ่งในอนาคตผมเชื่อว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตคนมากขึ้น  โดยอาจจะเริ่มจากการดำเนินธุรกิจหลากหลายรูปแบบ  โดยเฉพาะการ ยืนยันธุรกรรม ระบบการนำเข้า -ส่งออกสินค้า ไปจนถึงการชำระเงินและการโอน ข้ามประเทศให้ง่ายขึ้น ไร้พรมแดน และสะดวกรวดเร็วมากขึ้นไปอีก หรือสามารถใช้ลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็น Global หรือระดับโลกจริงๆ อย่างตอนนี้มีบิทคอยน์แล้ว ในอนาคตคนไทยอาจข้ามไปลงทุนในโปรเจ็กต์ของประเทศบราซิลหรือ รัสเซียแบบไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่นเดียวกับที่บริษัทเหล่านั้นสามารถระดมทุนจากทั่วโลกได้เลย โดยไม่จำกัดแค่ในประเทศเขา ดังนั้นช่องทางการเข้าสู่ตลาดและการหาเงินเข้าตลาดก็จะเร็วมากขึ้น โลกจะเป็นหนึ่งเดียวแบบโลกาภิวัตน์จริงๆ

“หรืออีกไม่นานอาจไม่มีโฉนดที่ดินแบบกระดาษ แต่จะเป็นโฉนดที่ดินดิจิทัล โดยอาจมาในรูปของ NFT (Non-Fungible Token เหรียญที่สามารถสร้างทรัพย์สินขึ้นมาชิ้นเดียวในโลก ไม่สามารถทำซ้ำ แต่สามารถตรวจสอบสิทธิ์การเป็นเจ้าของและนำไปซื้อขายต่อหรือโอนสิทธิ์ได้) เช่น นาย ก. จะโอนที่ดินให้นาย ข. ก็สามารถโอนผ่านบล็อกเชนได้เลย เพราะสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานและลดคนทำงานในสำนักงานที่ดินได้เยอะ จ่ายค่าธรรมเนียมเท่าไร ก็โอนเข้ารัฐได้ทันทีแบบเรียลไทม์ เป็นต้น  อย่างไรก็ตาม แม้ตอนนี้เราอาจยังเห็นภาพไม่ชัด แต่ผมเชื่อว่าเทรนด์ในอนาคตจะไปทางนี้ คือ เทคโนโลยีใหม่ๆ จะเข้ามาเพื่อทำให้ทุกอย่างรวดเร็วสะดวกสบายขึ้น”

 

Q2 : ในอนาคตคริปโตเคอร์เรนซี่จะเติบโตไปในทิศทางใด  จะสามารถใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าแทนเงินสด ได้จริงไหม 

“ผมมองว่าเราจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) กันมากขึ้น  เงินในปัจจุบันจะกลายเป็นเงินรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น  โดยแบ่งเป็นสองโลก คือโลก Centralized (รวมอำนาจ) ที่รัฐบาลต้องการควบคุมการไหลของเงิน ต้องการรู้ว่าเงินอยู่ที่ใคร ใช้จ่ายอย่างไร โอนไปที่ไหนบ้าง ผ่าน CBDC (Central Bank Digital Currency) หรือเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของรัฐ เช่น เงินบาทดิจิทัล หรือเงินหยวนดิจิทัล ซึ่งจะใช้แทนเงินสดได้เลย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นอุปกรณ์ควบคุมของภาครัฐ เพราะสามารถมอนิเตอร์และติดตามตรวจสอบได้หมดทุกอย่าง ถือเป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลทั่วโลกอยากควบคุมเพื่อปกป้องประชาชน ส่วนอีกโลกหนึ่งคือ Decentralized (การกระจายอำนาจ) ที่ไม่มีอำนาจส่วนกลาง สามารถโอนเงินให้กันได้โดยไร้การตรวจสอบจากรัฐ  คือโลกของบิทคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีไว้สำหรับลงทุน เนื่องจากมีคนอีกฝั่งที่เชื่อว่า  ทรัพย์สินที่เขาหามานั้นเป็นสิทธิ์ของเขาที่จะนำไปใช้ทำอะไรก็ได้ รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ มาควบคุม เพราะเขาเชื่อในอิสระและเสรีภาพของทรัพย์สินส่วนบุคคล ก็คงเป็นสองโลกคู่ขนานกันไปแบบนี้ครับ”

คริปโตเคอร์เรนซี่

Q3 : ท่ามกลางกระแสการแบนหรือควบคุมคริปโตเคอร์เรนซี่ จากรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลก  อุปสรรคหรือความท้าทายที่เกิดขึ้นใน โลกการเงินดิจิทัลคืออะไร  และอะไรที่จะเป็นเกณฑ์ตัดสินว่า คริปโตเคอร์เรนซี่ตัวไหนจะไปรอดในระยะยาว

“ต้องบอกว่าความท้าทายที่เกิดจากการถูกภาครัฐเพ่งเล็งหรือแบนสินทรัพย์ ดิจิทัลนั้นถือเป็นเรื่องปกติ  เพราะหากย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการที่เป็นนวัตกรรมหรือความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มักต้องต่อสู้กับกฎเกณฑ์และกติกามาโดยตลอด แน่นอนว่าอะไรที่รัฐบาลควบคุมได้ก็ต้องอยากจัดการเป็นปกติ ซึ่งอีกหน่อยผมเชื่อว่าภาครัฐก็คงเข้ามากำกับดูแลมากขึ้น แต่จะแค่ไหน อย่างไร ก็คงต้องติดตามกันต่อไป อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นจะเข้ามา เพื่อคืนอำนาจให้ประชากรทั่วโลกในระดับหนึ่ง

“ส่วนที่ว่าอะไรจะเป็นปัจจัยชี้วัดว่าคริปโตเคอร์เรนซี่ตัวไหนจะอยู่ได้ใน ระยะยาว ปัจจุบันมีคริปโตเคอร์เรนซี่อยู่ 12,000 สกุลเหรียญ แต่บอกได้เลยว่า 95 เปอร์เซ็นต์นั้นไม่ได้ทำประโยชน์หรือแก้ปัญหาอะไรในชีวิตได้จริง  ส่วนใหญ่มีประโยชน์แค่ใช้ในการเทรดและการลงทุน  แต่ผมเชื่อว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจะมีมูลค่าที่แท้จริงก็ต่อเมื่อมีประโยชน์ต่อบริษัท กิจการ สังคม หรือตอบโจทย์อะไร บางอย่างทำให้ผู้บริโภคสะดวกสบายขึ้นจริงๆ สินทรัพย์นั้นจึงจะประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ ที่เห็นชัดในตอนนี้ก็คือบิทคอยน์ที่สามารถลงทุน ในระยะยาวได้เหมือนทอง หรือ Ethereum ที่ใช้จ่ายเป็นค่าแก๊สหรือเติมน้ำมันในเครือข่าย เป็นต้นครับ”

 

Q4 : หลังจากระดมทุนรอบล่าสุด Zipmex มีแผนจะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ใดอีกบ้าง 

“การระดมทุนครั้งที่ผ่านมาเพื่อให้เราสามารถลุยต่อกับวิสัยทัศน์ของเรา คือการให้คนทั่วไปในภูมิภาคนี้เข้าถึงผลิตภัณฑ์การเงินแบบดิจิทัลให้มากที่สุด โดยเราไม่ได้มีแค่การเงินดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังผูกเข้ากับเรื่องไลฟ์สไตล์ด้วย เราจึงเป็นแพลตฟอร์มที่ทั้งซื้อขายได้ ออมได้ ลงทุนในโปรเจ็กต์ต่างๆ และใช้จ่ายได้ เพื่อสร้างระบบนิเวศให้มีความครบถ้วน รวมถึงการพัฒนาระบบให้ปลอดภัย สะดวก และดีกว่าเดิม เจาะตลาดให้มีผู้ใช้งานมากขึ้น อย่างตอนนี้เรามีโปรดักส์ใหม่คือ ZLaunch แพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อผู้ใช้งาน Zipmex กับโปรเจ็กต์โทเคนที่จะเปิดตัวใหม่ โดยหากคุณมี ZMT (Zipmex Token) จำนวนหนึ่ง แล้วล็อกเหรียญ ZMT ไว้ตามระยะเวลาที่กำหนดแต่ละครั้ง ก็จะได้รับสิทธิพิเศษสำหรับโปรเจ็กต์ใหม่ เช่น ได้รับโทเคนใหม่จำนวนหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งได้เปิดให้ใช้งานแล้วเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา (https://zipmex.com/th/zlaunch/) นอกจากนี้ ก็ยังมีโปรดักส์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างเกม E-sport ให้คนรุ่นใหม่ที่สนใจ รวมถึง NFT ซึ่งจะกลายเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญมาก อยากให้รอติดตามกันครับ

“แม้ Zipmex ประเทศไทยเปิดตัวมาได้แค่ปีกว่า แต่เราเติบโตขึ้นมาเป็นพันเปอร์เซ็นต์แล้ว เฉพาะในไทยก็ 5 แสนกว่าบัญชี ถ้าทั่วโลกก็ล้านกว่าบัญชี ซึ่งเรายังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แน่นอนว่าเราไม่ได้มุ่งแต่หาลูกค้าอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าด้วย อย่างที่ผ่านมาลูกค้าบางคน ไม่เคยลงทุนมาก่อน แต่กระโดดเข้ามาในสินทรัพย์ดิจิทัลเลย กลายเป็นว่าเขาได้ เรียนรู้ด้านการออมและการลงทุนไปกับเรา จนสามารถหารายได้เพิ่มนอกจากอาชีพหลัก อีกทั้งมีวินัยในการออมและลงทุนมากขึ้น ถือเป็นฟีดแบ็กที่ทำให้ผม ประทับใจมาก หวังว่าเราจะได้เติบโตไปด้วยกัน รับรองว่าปีหน้าจะมีอะไรมาให้ว้าวอีกแน่นอนครับ”

คริปโตเคอร์เรนซี่


 

อกหัก

คนโสดที่มัก อกหัก ผิดหวังในความรักสายไหน เสี่ยงโรคหัวใจมากที่สุด

Alternative Textaccount_circle
อกหัก
อกหัก

อกหัก คือประสบการณ์ทางความรักที่ใครหลายคนอาจเคยผ่านมาในชีวิต เช่น อกหักเพราะแฟนหรือคู่ชีวิตทอดทิ้ง อกหักเพราะแอบรักเขาข้างเดียวและเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว การอกหักเป็นความไม่สมหวัง ความผิดหวังส่งผลให้เกิดความเสียใจ แต่จะเสียใจนานแค่ไหนหรือมีพฤติกรรมหลังอกหักอย่างไร ขึ้นกับประสบการณ์ของแต่ละคน มาดูกันว่าอกหักสายไหนเสี่ยงโรคหัวใจ หรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากกว่ากัน

อกหักสายกิน (​แหลก)

สายนี้บรรเทาความเครียดหรือความผิดหวังด้วยการกิน ทั้งของที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ แม้อาการช่วงแรกที่มีผลมาจากความเครียดทำให้เราจะกินอะไรไม่ค่อยลง หลังจากนั้นไม่นาน เราจะเริ่มมีอาการอยากกิน จนกลายเป็นคนกินจุ และมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นตามมาได้ นั่นเพราะเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด ระดับฮอร์โมนคอติซอลที่สูงขึ้น จะส่งผลให้ระดับอินซูลินสูงขึ้นตาม ทำให้ร่างกายอยากของหวานมากขึ้น นอกจากนั้นในบางรายที่นอนดึก นอนไม่หลับ จะทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความหิวอย่างเกรลินออกมามากผิดปกติ ทำให้เราอยากทานน้ำตาล อาหารไขมันสูง หรืออาหารรสเค็ม มากเป็นพิเศษ หากไม่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย โรคอ้วนจะตามมาได้ และเมื่อมีภาวะอ้วน จะส่งผลให้เกิดการอักเสบซ่อนเร้น เสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวานและ โรคหัวใจ ได้

อกหักสายเมา (มาย)

สายนี้ถ้าปล่อยให้ อกหัก มักจะรีบโทรหาเพื่อนเพื่อชวนดื่มแอลกอฮอล์​ ประหนึ่ง “วันนี้ต้องเมา วันนี้ต้องลืมเธอให้ได้”

แอลกอฮอล์ในเครื่องดื่ม คือเอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) หรือเอทานอล (Ethanol) เป็นสารที่แปรรูปด้วยการกลั่นและหมักจากข้าว ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ หรือผลไม้ โดยความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเบียร์ อยู่ที่ประมาณ 5% ไวน์ประมาณ 12% และสุรากลั่นประมาณ 40% แอลกอฮอล์ออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งเป็นประสาทที่ควบคุมความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งหากดื่มเข้าไปในปริมาณมาก จะทำให้มีอาการง่วงซึม หรือขาดสติได้ แต่หากดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ทำให้สนุกสนานอารมณ์ดี

สายนี้หากดื่มแต่พองาม พบว่าแอลกอฮอล์ มีประโยชน์ต่อหัวใจอยู่บ้าง จากการวิจัยของวิทยาลัยสาธารณสุขแห่งฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา (Harvard T.H. Chan School of Public Health) ให้ข้อมูลว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อวัน ในปริมาณปานกลางเป็นประจำหรือประมาณ 2 แก้วในผู้ชายและ 1 แก้วในผู้หญิง จะมีอัตราการรอดชีวิตจากหัวโรคหัวใจมากกว่าผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ 25-40%

โดยนักวิจัยให้เหตุผลว่า การดื่มแบบปานกลางนี้ช่วยเพิ่มระดับเอชดีแอลโคเลสเตอรอล (HDL) หรือไขมันดี ได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณ​สูงติดต่อกันนานๆ จะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้เลือดข้นเหนียวขึ้น จับตัวกันเป็นลิ่มและอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยเฉพาะที่หัวใจและสมอง

นอกจากนี้ คนที่มีไตรกลีเซอไรด์สูงเป็นเวลานานจะทำให้ระดับเอชดีแอลโคเลสเตอรอล (HDL) หรือไขมันดีในเลือดลดต่ำลงด้วย จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคตับอ่อนอักเสบได้ ใครจะเมาหัวราน้ำ ติดต่อกันในช่วงทำใจขอให้คิดด้วยความรอบคอบเพื่อสุขภาพหัวใจ

อกหักสายร้องไห้ (ฟูมฟาย)

สายนี้เมื่อบอกโดนเลิกปุ๊บ จะมีอาการเสียใจอย่างรุนแรงจนร้องไห้หนักมาก  บางคนแทบเหมือนคนบ้า ร้องข้ามวันข้ามคืน  บางคนเสียใจไปหลายเดือน ใครที่เคยมีเพื่อนอยู่สายนี้จะเข้าใจเป็นอย่างดี สายฟูมฟายนี้ หากปล่อยไว้นานจนเกินไปจะเสี่ยงต่อการเกิด Broken​ Heart Syndrome​ หรือภาวะหัวใจสลาย มากกว่าสายอื่น เพราะเป็นสายที่ไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลย

ภาวะหัวใจสลาย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Stress-induced Cardiomyopathy หรือ Takotsubo Cardiomyopathy หรือ Apical ballooning syndrome คือภาวะที่ความสามารถในบีบตัวของหัวใจลดลงอย่างเฉียบพลัน โดยสาเหตุของโรคยังเป็นที่ถกเถียงกัน แต่ทางการแพทย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเกิดจากฮอร์โมน Catecholamine ที่สูงขึ้นเฉียบพลันจากความเศร้าเสียใจหรือความเครียดอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

อาการของโรคหัวใจสลาย

ที่พบได้บ่อยคือ เจ็บหน้าอกรุนแรงอย่างกะทันหันคล้ายอาการของภาวะหัวใจขาดเลือด นานหลายนาทีหรือเป็นชั่วโมง หน้ามืด ความดันเลือดต่ำ หัวใจเต้นผิดจังหวะ หายใจลำบาก อาการของหัวใจสลาย จะไม่สามารถแยกโรคออกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ จนกว่าจะได้รับการฉีดสีดูหลอดเลือดหัวใจ (Coronary angiogram) ซึ่งในผู้ป่วยที่แพทย์สงสัยว่าเป็นกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันนั้น มีประมาณ 1% ที่เป็น Stress-induced Cardiomyopathy  จากการศึกษาพบว่าประมาณ 90% ของผู้ป่วยเป็นผู้หญิง และ 80% เป็นผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ช่วงอายุที่พบบ่อย 58-77 ปี ใครที่อกหักแล้วรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ ไม่ควรเศร้าหรือร้องไห้ฟูมฟายนาน เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคซึมเศร้าจนอาจคิดสั้นได้

อกหักสายไม่ (เคย) ว่าง

สายนี้แม้จะมีอาการเสียใจ แต่มักจะหาใครมาแทนที่ได้ทันที หัวบันไดจึงไม่เคยแห้ง เพราะสายนี้จะมีอาการเหงาหรือฟุ้งซ่านตลอดเวลา บางรายจะไปเที่ยวตามสถานบันเทิง หรือเล่นแอพหาคู่เพื่อหาเพื่อนคุยแก้เหงาหรือมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด จนกว่าจะทำใจได้หรือจนกว่าจะลืมคนๆ นั้นไปได้ สายนี้แม้จะไม่มีความเสี่ยงโรคหัวใจ แต่หลายรายติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เนื่องจากไม่ได้ป้องกันและมีคู่นอนหลายคน จึงควรเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย

อกหักสายชิล

สายนี้เสียใจหรือร้องไห้ได้ไม่นาน หลายคนใช้วิธีเข้าวัด ฟังธรรม หรือมีเพื่อนคอยเตือนสติจนมองปัญหาอย่างทะลุปรุโปร่งและใช้สติตกผลึกปัญหาจนผ่านไปได้อย่างเข้มแข็ง  บางรายมีประสบการณ์อกหักมาหลายครั้ง สุดท้ายเมื่อตั้งสติและเรียนรู้จากอดีต จะค่อยๆ เห็นตัวเอง ปลอบใจตัวเอง ยอมรับความจริง ไม่โกรธ จนในที่สุดก็สามารถผ่านปัญหานี้ไปได้ เช่นกัน ซึ่งจัดว่าเป็นสายที่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพใดๆ

อกหัก 1

การดูแลตนเองจากอาการอกหัก

หากอกหักจนมีความเครียดสะสมนานเกินไป นอกจากจะทำให้สุขภาพจิตไม่ดี ระยะยาวส่งผลให้เกิดโรคได้หลายชนิด เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ดังนั้นการลดความเครียดคือทางออกที่ดีที่สุด

  • พยายามวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้เราเครียด และแก้ปัญหาที่ต้นเหตุนั้น
  • ตัดใจ ปล่อยวาง อย่าจมปลักนาน และลุกขึ้นมาก้าวต่อไป
  • หมั่นออกกำลังกายบ่อยๆ ลดอาการฟุ้งซ่าน (ควรออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน)
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มกระตุ้นประสาท
  • พบปะเพื่อนฝูงบ้าง เพื่อพูดคุย และระบายปัญหาต่างๆ (หากเพื่อนรับฟัง)
  • จัดการสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ เช่น จัดบ้าน หรือโต๊ะทำงานให้ผ่อนคลาย ปลูกต้นไม้เล็กๆ หรือแจกันดอกไม้สร้างความสดชื่น
  • ดูภาพยนตร์และอ่านหนังสือตลกหรือสนุกสนาน
  • ไม่ปิดกั้นใจกับความรักครั้งใหม่ หากวันใดวันหนึ่งคุณได้เจอคนใหม่ที่อาจจะดีกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก : นพ. กฤษฎา วิไลวัฒนากร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ สมิติเวช สุขุมวิท 

 

 

 

Baby Bua Baby Skin Cream

เปิดที่มา ครีมสมุนไพร Baby Bua Baby Skin Cream สกินแคร์ลดผดผื่นสำหรับเด็ก

Baby Bua Baby Skin Cream
Baby Bua Baby Skin Cream

การใช้ชีวิตเป็น ‘มนุษย์แม่’ ว่ายากแล้ว แต่ถ้ายิ่งเป็นมนุษย์แม่ที่มีลูกเจ็บไข้ได้ป่วย อาการตั้งแต่น้อยไปมาก ย่อมสร้างความกังวลใจให้ไม่น้อย เช่นเดียวกับคุณแม่แฝดสอง ‘คุณแนน-แพรธารา อมรศักดิ์’ ที่พยายามค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด เพราะพาลูกไปหาหมอก็ไม่หายสักที จึงสั่งทำผลิตภัณฑ์สูตรพิเศษที่ดีและปลอดภัยที่สุดใช้เอง เพื่อสุขภาพผิวและไม่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการที่ดีและความสุขของลูกและทุกคนในครอบครัว จนเกิดเป็นครีมสมุนไพร 9 ชนิด ที่มาในชื่อ Baby Bua Baby Skin Cream

 

เลี้ยงลูกแฝดชาย-หญิงให้อยู่หมัด

“ครอบครัวเรามีลูกยาก จึงปรึกษาแพทย์เพื่อทำอิ๊กซี่ (เด็กหลอดแก้ว) ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายคือได้ตัวอ่อนมาสี่ตัว ตรวจเพศจึงรู้ว่าเป็นชาย 3 หญิง 1 โดยคุณหมอให้เลือกว่าจะเอาตัวไหนฝังในมดลูกเรา แนนจึงเลือกเป็นลูกแฝดหญิงและชาย โดยลูกชาย (น้องบุญ) คลอดก่อนลูกสาว (น้องบัว) 1 นาที แต่เราพยายามสอนให้เขามีความเป็นพี่น้องกัน พี่ต้องดูแลน้อง ความที่เราชอบเลี้ยงเด็ก และเรียนปริญญาโทด้านจิตวิทยาพัฒนาการเด็กมาด้วย ทำให้รู้ว่าการที่เขาต่างเพศกัน ย่อมมีวิธีเลี้ยงดูต่างกัน เราต้องเข้าใจบุคลิกและความรู้สึกลูกแต่ละคน ลูกสาวค่อนข้างซนกว่าลูกชาย เราต้องใช้เหตุผลอธิบายเป็นหลัก หรือการฝึกให้เขากินข้าวเองได้ตั้งแต่ 6เดือน ก็เป็นการจัดระเบียบวินัย สอนให้เขารู้จักเวลาในการทำกิจวัตรประจำวัน ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการกิน”

คุณแนน-แพรธารา อมรศักดิ์

ลูกคันเพราะภูมิแพ้ผิวหนัง

“แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมาก โดยเฉพาะช่วงอายุ 4-5 เดือน จู่ๆ น้องบัวมีแผลผื่นคันบริเวณข้อเท้าเยอะมาก คันและเกาแทบไม่ได้นอน ใช้ยาทุกชนิดที่มีขายก็ไม่หาย ขนาดใช้สเตียรอยด์ก็ไม่หาย ส่วนพี่บุญผิวแข็งแรง ไม่ค่อยเป็นอะไร พอเราเห็นแผลที่ข้อเท้าลูกแล้วเครียดเลย กลัวเป็นอะไรมาก

“ปรึกษาเพื่อนที่เป็นหมอและเภสัชกร เขาบอกว่าถ้าไม่อยากใช้สเตียรอยด์ ต้องหาสูตรผสมที่เหมาะกับลูกเอาเอง ซึ่งแนนเชื่อในสมุนไพรไทย คนโบราณไม่มียาแผนปัจจุบัน เขายังใช้สมุนไพรรักษาได้เลย จึงทดลองพัฒนาสูตรร่วมกับโรงงานผลิตมา จนมาลงตัวที่ครีมสมุนไพร 9 ชนิด ทดลองใช้กับน้องบัวไปเรื่อยๆ ทาบริเวณข้อเท้าที่คันมานานทุกคืน อาการเขาค่อยๆ ดีขึ้นจนหาย และไม่ทิ้งร่องรอยดำไว้ที่ผิว หรือถ้าเขาแพ้อะไร เรารีบทาทันที ไม่นานแผลก็ยุบลง แนนเองก็ใช้ด้วย เพราะเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเหมือนกัน ทาไม่เกิน 15 นาที อาการคันก็หายไป สามี (คุณอัฐ-บงกช พิพิธรังสี) เป็นผื่นแพ้เหงื่อ พอทาให้เขาแล้วก็หายคัน จึงส่งให้เพื่อนๆ ในกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีลูกเป็นภูมิแพ้เหมือนลูกเราทดลองใช้ ปรากฏว่าเขาหายคัน หลายคนจึงเชียร์ให้ผลิตขาย แนนจึงเริ่มทำขายจริงจังในชื่อ ‘Baby Bua Baby Skin Cream’ ขายในออนไลน์ได้เกือบหนึ่งพันหลอด”

คุณแนน-แพรธารา อมรศักดิ์

9 สมุนไพรช่วยแก้ปัญหาผิว

“Baby Bua Baby Skin Cream เป็นครีมที่ผลิตจากสมุนไพร 9 ชนิดสูตรออร์แกนิก ช่วยลดอาการคันและอักเสบ อาทิ คาโมมายล์ แตงกวา รางจืด ขมิ้นชัน เปลือกมังคุด ฯลฯ สารสกัดบางชนิดได้รับใบรับรองจากสถาบันผิวหนังประเทศฝรั่งเศส ช่วยลดผื่นแพ้คันสำหรับเด็ก คนท้อง คนผิวแพ้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นแพ้เหงื่อ แพ้น้ำลาย แพ้ผ้าอ้อม แพ้น้ำเหลือง แพ้น้ำลายยุง กลากน้ำนม ฯลฯ ครีมเบบี้บัวหลอดนี้ช่วยขจัดปัญหาผิวได้ หาซื้อได้ทางออนไลน์เป็นหลัก อีกทั้งยังส่งออกไปขายที่ประเทศจีนและเวียดนามด้วย

“นอกจากนี้เรายังผลิตครีมพอกผิว Fresh Herbal Fresh Mask สำหรับผู้ใหญ่ผิวแพ้ง่าย โดยมีส่วนผสมสมุนไพร 12 ชนิด อาทิ น้ำมันมะพร้าว ขมิ้น มะขาม และคอลลาเจน ฯลฯ สำหรับขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เป็นการดีท็อกซ์และบำรุงผิวไปในตัว วางขายตามร้านเครื่องสำอาง สยามสแควร์ และห้างฯฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ปลายปีมีออกบู๊ธงาน Amarin Baby & Kids ด้วย

“เพราะปัญหาของลูก เป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนเป็นแม่เสมอ ไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของลูก”

คุณแนน-แพรธารา อมรศักดิ์

หาซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่

Facebook : Baby Bua Baby Skin Cream

Instagram : BabyBuaBabyskincream

Line: @babybua

Lazada, Shopee, JD central

กรูเม่ มาร์เก็ต 5 สาขา

สาขา สยามพารากอน

สาขา mrt ลาดพร้าว

สาขา เดอะมอลล์ บางกะปิ

สาขา เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

สาขา เดอะมอลล์โคราช

 

เรื่อง : ดั่มดั๊มพ์

ภาพ : อิทธิศักดิ์ บุญปราศภัย

ผู้ช่วยช่างภาพ : สุธนา อายุศนิล

สถานที่ : Hyde Sukhumvit 11

HYDE Heritage

10 ชุดเพื่อนเจ้าสาว เดรสงานปักดีไซน์หรู ใส่แล้วสวยปัง แต่ไม่แย่งซีน

บอกเลยว่าใส่แล้วสวยเฉิดฉายอย่างแน่นอน สำหรับ 10 ชุดเพื่อนเจ้าสาว ที่เราเตรียมมาเสิร์ฟคุณสาวๆ ในดีไซน์งานปักวิบวับมีมิติ ทั้งสไตล์ที่จะใส่ในงานช่วงเช้าหรือร่วมปาร์ตี้ในช่วงค่ำ เราก็มีมาให้เลือกแบบครบครัน รับรองว่าโดนใจอย่างแน่นอน

ใครรับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาว เชื่อว่าคุณจะมีความกังวลใจไปไม่น้อยกว่าเพื่อนของคุณอย่างแน่นอน เพราะเพื่อนเจ้าสาวต้องแต่งตัวให้เข้าธีมกับอีกหลายๆ คน ซึ่งสไตล์ของแต่ละคนก็ต่างกัน การจะหาจุดตรงกลางจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสรุปได้ภายในวันสองวันว่าชุดแบบไหนที่จะลงตัวสำหรับทุกคน

แต่ในงานแต่งงานหากคุณสามารถตกลงกับเจ้าสาวได้ว่าไม่ต้องลงลึกถึงดีไซน์ ขอแค่โทนสีใกล้เคียงกันก็พอ ก็จะกลายเป็นโจทย์การหาชุดที่ง่ายขึ้น เพราะเจ้าสาวสามารถกำหนดทิศทางของโทนสีในงานแต่งของตัวเองได้ดีกว่าใคร ฉะนั้นเมื่อเรามีสิทธิ์เลือกดีไซน์ชุดเอง ก็อย่าได้ดร็อป เพราะสไตล์ชุดที่จะทำให้คุณแจ้งเกิดก็คือเดรสสุดหรูที่เน้นงานปัก ไม่ว่าจะแบบเซ็กซี่ โก้หรู สวยหวาน หรือดูซุกซน ก็ล้วนทำให้คุณโดดเด่นได้และที่สำคัญจะไม่มีการแย่งซีนเพื่อนรักของคุณเด็ดขาด

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

หากคุณกำลังสนใจเดรสงานปักสวยๆ ดีเทลแน่นๆ แต่ยังหาแรงบันดาลที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้ ก็ขอเชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะเราคัดมาให้แล้ว 10 ดีไซน์ ไม่ว่าคุณจะแต่งตัวสไตล์ไหนก็มีให้เลือกสรรอย่างแน่นอน

10 ชุดเพื่อนเจ้าสาว เดรสงานปักดีไซน์หรู ใส่แล้วสวยปัง แต่ไม่แย่งซีน

ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว


ภาพและที่มา : www.brides.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

จัดแบบเรียบง่าย งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน เชิญแขกเพียง 22 คน

เช็กเทรนด์ชุดเพื่อนเจ้าสาว 2021 สไตล์ไหนมาแรง เตรียมหาใส่ให้เป๊ะปัง!

สวยไม่หลุดกรอบกับการเลือก ชุดเพื่อนเจ้าสาว ให้เหมาะกับสถานที่แต่งงาน

 

เบลล่า ฮาดิด

เบลล่า ฮาดิด แชร์ภาพขณะร้องไห้ เปิดใจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต และ ซึมเศร้า

account_circle
เบลล่า ฮาดิด
เบลล่า ฮาดิด

แฟนๆ เบลล่า ฮาดิด ต่างส่งกำลังใจหลังเห็นนางแบบสาวแชร์ภาพตัวเองขณะร้องไห้ นอกจากนี้เธอยังเปิดใจถึงอาการร้องไห้ และ หมดไฟ ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว

เบลล่า ฮาดิด แชร์ภาพขณะร้องไห้ เปิดใจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต และ ซึมเศร้า

เบลล่า ฮาดิด

เป็นอีกหนึ่งคนดังระดับโลกที่กำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับ (Mental Health) สุขภาพจิต สำหรับ เบลล่า ฮาดิด นางแบบชื่อดังวัย 25 ปี ซึ่งล่าสุดเบลล่าได้ออกโพสต์คลิปวิดีโอของ Willow Smith เพื่อนสนิท พร้อมกับรูปที่เธอกำลังร้องไห้อีกหลายรูป ทั้งนี้เบลล่ากล่าวว่าคลิปของวิลโลว์ ทำให้เธอได้รับแรงบันดาลใจที่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ของเธอกับเกี่ยวกับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

โดยเบลล่า ฮาดิด ได้เล่าถึงอาการไม่มั่นคงทางจิตใตของเธอว่า “ฉันรักเธอและคำพูดของเธอ มันทำให้ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวน้อยลงและนั่นเป็นสาเหตุที่ฉันอยากจะโพสต์สิ่งเหล่านี้”

เบลล่าได้ถอดคำพูดของวิลโลลว์จากคลิปโดยเธอบรรยายว่า “มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่ทุกคนจะคิดว่าตัวเองจะดีพอหรือไม่มั่นใจในผลงานของคุณ แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็รู้สึกเหมือนได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า มนุษย์ทุกคนมีความแตกต่างกัน เราทุกคนมีสิ่งพิเศษและไม่เหมือนใคร”

“ผู้คนลืมไปว่าโดยพื้นฐานแล้วทุกคนก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน หลงทาง สับสน ไม่อาจรู้จริงๆ ว่าทำไมพวกเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ความกังวลที่ทุกคนรู้สึกและพยายามปกปิดมันทางใดทางหนึ่ง แต่เราจะมารวมข้อบกพร่องของพวกเรา ความไม่มั่นคงของพวกเรา ความสนุกสนานของพวกเรา ความสุขของพวกเรา และพวกเรายอมรับว่าทุกสิ่งสวยงามและเป็นธรรมชาติ”

หลังจากนั้นเบลล่า ก็ได้พูดถึงสุขภาพจิตของเธอว่า “สิ่งที่ฉันเป็นเกือบทุกวัน ทุกคืน ในช่วงไม่กี่ปีจนถึงตอนนี้ โซเชียลมีเดียไม่มีอยู่จริง สำหรับใครที่กำลังต่อสู้ปัญหาทางด้านจิตใจอยู่ โปรดจำไว้ว่าบางครั้งสิ่งที่คุณอยากได้ยินก็คือคุณไม่ได้อยู่คนเดียว ดังนั้น จากฉันถึงคุณ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว ฉันรักคุณ ฉันเห็นคุณ และฉันได้ยินคุณ การพึ่งพาตนเอง และ อาการป่วยทางจิต ความไม่สมดุลของสารเคมีไม่ได้เป็นเส้นตรง มันเกือบจะเหมือนกับรถไฟเหาะที่ไหลผ่านอุปสรรคต่างๆ”

เบลล่า ฮาดิดกล่าวต่อไปว่า “มักจะมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เสมอ” แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะจำไว้ว่า “มันจะต้องดีขึ้น”

ฉันร้องไห้และเหนื่อยหน่ายมามากพอแล้วที่จะรับรู้เรื่องเหล่านี้ “หากคุณทำงานอย่างหนักด้วยตัวคุณเอง ใช้เวลาอยู่คนเดียวเพื่อทำความเข้าใจกับบาดแผลทางจิตใจ ความไม่สบายใจ ความสุข และกิจวัตรต่างๆ คุณจะสามารถเข้าใจหรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความเจ็บปวดของตัวเองได้เสมอ และหาวิธีจัดการกับมัน ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่คุณสามารถถามได้จากตัวคุณเอง แต่ก็นั่นแหละ”

หลังจากนั้นเบลล่าได้กล่าวปิดท้ายว่า “มันยากขึ้นเรื่อยๆ นะ ที่จะไม่เปิดเผยความจริงของฉัน ขอบคุณที่ชมฉันและขอบคุณที่รับฟัง ฉันรักคุณ”

ทั้งนี้เบลล่า เคยพูดถึงเกี่ยวกับสุขภาพจิตของเธอ โดยบอกกับผู้ติดตาม Instagr เมื่อเดือนกันยายนว่าเธอ “ทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลอย่างรุนแรง” ตลอดช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ เมื่อเธอเข้าสู่วัย 20 ปี นางแบบสาวกล่าวว่า ความวิตกกังวลทางสังคมของเธอแย่ลง

เธอก้าวออกจากโซเชียลมีเดียเมื่อต้นปีนี้เพื่อ “ไตร่ตรองและเรียนรู้” เกี่ยวกับตัวเอง ขณะออกจากโซเชียลมีเดีย เบลล่า กล่าวว่า เธอพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับตัวเองยิ่งขึ้น เข้าถึงจิตวิญญาณของตัวเอง และมุ่งพลังงานของเธอไปที่เพื่อนๆ และ หนังสือ

เบลล่ากล่าวต่อไปว่า “ฉันค้นพบตัวเอง ความเข้มแข็ง และแสงสว่างของฉันอีกครั้ง ฉันอยู่ที่นี่เพียงเพื่อเป็นเครื่องมือแห่งสันติภาพและความรัก เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ทุกข์ทรมานและหวังว่าจะช่วยโลกได้ทันเวลา ใช้เวลาเพื่อขอความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตของคุณ มันคุ้มค่าที่จะดึงศักยภาพของคุณออกมาอย่างเต็มที่”


ที่มา : www.insider.com, bellahadid/Instagram

keyboard_arrow_up