รักสุดใจเหมือนคนในครอบครัว Corrada ม้าตัวใหญ่สีขาว ของ นริศา คุโบตะ

account_circle

รักสุดใจเหมือนคนในครอบครัว Corrada ม้าตัวใหญ่สีขาว ของ นริศา คุโบตะ ปกติเธอรักสัตว์อยู่แล้ว ยิ่งเมื่อได้พบกับม้าในฝัน คุณหนูนาก็พร้อมทุ่มเท ความรักให้อย่างสุดใจเหมือนคนในครอบครัว

“ตอนเด็ก ๆ หนูนาเรียนขี่ม้ากับพี่น้องทุกวันเสาร์- อาทิตย์เป็นประจำที่โปโลคลับ หยุดไปเพราะไปเรียนต่อต่างประเทศ กระทั่ง 5 ปีที่แล้วถูกชะตากับม้าตัวหนึ่ง เป็นม้าตัวใหญ่สีขาว สายพันธุ์ Holsteiner Warmblood มาจากประเทศ
ออสเตรีย ชื่อ Corrado แรกๆเขาดูตื่นๆ เช่น เวลาได้ยินเสียงอะไรในพุ่มไม้หรือเสียงม้าตัวอื่นวิ่ง ก็จะวิ่งออกไปเลย  ซึ่งเป็นธรรมชาติของม้าที่มีสัญชาตญาณการระวังภัยสูง ทำให้ขี้กลัวมากน้อยแล้วแต่ตัว แต่หนูนาชอบที่เขาเป็นยักษ์ใหญ่ใจดี จึงกลายมาเป็นม้าคู่ใจ มาหาเขาที่คลับเป็นประจำสัปดาห์ละ 4 – 5 วัน พาเขาออกกำลังกายครั้งละประมาณ 45 นาที

“หนูนาเคยให้คอราโด้ลงแข่งของโปโลคลับบ้าง แต่ตอนนี้ลดการขี่หนักๆลงแล้ว เพราะเขาอายุมากถึง 20 ปี เทียบกับคนก็เท่ากับ 60 ปี จะเน้นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความเข็งแรงและคงสภาพกล้ามเนื้อ รวมถึงการดูแล
มากกว่า หลังจากขี่เสร็จอาจมีอาการปวดเมื่อยตัวเหมือนคนที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จ ก็จะประคบน้ำแข็งที่ขาเพื่อป้องกันการอักเสบของกล้ามเนื้อ ระหว่างวันจะใช้น้ำอุ่นประคบคลายกล้ามเนื้อที่หลังให้บ้าง

โดยคุณหมอจะดึงเหยียดขาและทำเลเซอร์คลายจุดที่ตึงเป็นพิเศษให้ที่คอกเดือนละครั้ง เวลาทำเขาจะสบายตัวมาก แลบลิ้นหน้าพริ้มเชียว (หัวเราะ) ที่เขาชอบสุดๆคือการเกาก้นค่ะ พอชอบเขาจะยกหลังขึ้น เป็นทริคของคุณหมอสำหรับยืดคลายกล้ามเนื้อ  ขณะเดียวกันก็ต้องใส่ใจเรื่องการขี่ โดยขี่แบบให้ม้าใช้หลัง ซึ่งจะให้คุณครูช่วยฝึกและสอนเราตอนขี่ให้ถูกต้องด้วย  สำหรับเกือกม้าจะทำทุกเดือน ส่วนกีบม้าต้องดูแลไม่ให้เปียกแฉะ เพราะอาจจะทำให้กีบผุและเน่าเปื่อยได้ รวมถึงทาครีมและให้ วิตามินบำรุงกีบด้วย นอกจากนี้มีวิตามินบำรุงข้อ

“อาหารหลักจะเป็นหญ้าแพงโกล่า 70 เปอร์เซ็นต์ และเสริมด้วยอาหารเม็ดบ้าง กับกากถั่วเหลืองเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อประมาณ 500 กรัม โดยจะผสมกับข้าว แบ่งวันละ 2 มื้อ อ้อ ต้องให้เกลือแร่ผงเพื่อช่วยในการระบายความร้อนกับโพรไบโอติกส์เพื่อช่วยบำรุงลำไส้ด้วยค่ะ ส่วนที่ม้าไม่ควรกินมากไปคืออะไรที่มีน้ำตาล เช่น ขนมม้า ส่วนแครอตหรือแอ๊ปเปิ้ลจะให้กินเป็นรางวัลประมาณครั้งละ 1 ลูกเท่านั้นพอค่ะ”

เรื่องความสวยงาม คุณหนูนาก็จัดหนักจัดเต็มเพื่อให้ม้าของเธอดูดีตลอด “หนูนาให้คอราโด้อาบน้ำทุกวัน เพราะอากาศในประเทศไทยร้อน บางทีอาบน้ำเปล่า บางครั้งก็ลงแชมพูให้ด้วย ส่วนตรงหางม้าต้องใช้น้ำยาพิเศษ โดยหลังอาบน้ำเสร็จจะสเปรย์ให้ทั่วเพื่อให้ขนที่หางลื่น สามารถหวีให้ขนเรียงตัวสวยงาม ของม้าส่วนใหญ่ ทั้งอุปกรณ์  อาหาร และวิตามินผลิตในยุโรป จึงต้องนำเข้ามา

“ข้อต่อมาคือต้องใช้กราด (คล้ายหวี) ให้ขนที่ผลัดร่วงหลุดออกมา ต้องกราดทุกวันเพื่อไม่ให้ฝุ่นหมักหมมจนสกปรก  เพราะจะเกิดโรคผิวหนัง นอกจากนี้การกราดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดที่ผิวหนัง เหมือนได้นวดไปในตัว
ปกติหนูนาจ้างพี่เลี้ยงม้าอยู่แล้ว ก็จะให้เขาคอยช่วยจัดการ รวมถึงทำเองด้วยในบางครั้ง อีกอย่างที่ทำทุกวันก็คือหวีปัดฝุ่นค่ะ เป็นลักษณะการหวีขนม้าให้สวยและสะอาด”

ด้วยความรักและความผูกพันที่มีให้กันตลอด 5 ปี คุณหนูนายอมทุ่มทุกอย่างเพื่อให้คอราโด้ ม้าของเธอปลอดภัยจากโรคร้าย

“ช่วงที่โควิดระบาดปีที่แล้ว เกิดโรคชื่อ African Horse Sickness หรือกาฬโรคม้าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ถ้าม้าติดจะมีโอกาสเสียชีวิตเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอนนั้นในประเทศไทยมีม้าตายไปเกิน 500 ตัว เริ่มระบาดจากปากช่อง ซึ่งตัวที่เป็นพาหะคือ ริ้น เป็นแมลงดูดเลือด อันตรายมาก มันจะมากับลมหรืออาจติดมากับฟาง หญ้า ตอนนั้นคุณหมอบอกว่าธรรมชาติของตัวริ้นจะเข้ามาตามกระแสลมช่วงแรกกรุงเทพฯยังอยู่ไกลจากรัศมี ม้ายังอยู่นอกมุ้งได้  แต่ต้องรีบป้องกัน คือ ไม่ให้ม้าออกมานอกคอกช่วงเช้ากับเย็น  เพราะริ้นจะออกมาเวลานั้น โรคนี้ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน แต่กว่าวัคซีนจะมาก็ยาวนาน เพราะตรงกับช่วงโควิด การขนส่งจากต่างประเทศยากลำบาก ตอนนั้นหนูนากับเพื่อนที่เลี้ยงม้าเหมือนกันก็ช่วยกันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการติดมุ้งพิเศษครอบทั้งคอกเพื่อกันแมลง

โดยหนึ่งคอกจะมีม้า 60 ตัว แล้วก็สั่งน้ำยากันแมลงมาพ่นให้ทั่ว กับสั่งผ้าคลุมให้ม้าด้วย พอเขาไม่สามารถออกไปข้างนอก ต้องใช้ชีวิตในมุ้งประมาณหนึ่งเดือนเพื่อความปลอดภัย ทั้งที่เขาเป็นสัตว์ที่ต้องออกกำลังกายทุกวัน เราก็ใช้วิธีไปเดินจูงเขาในคอก จะได้ไม่เครียด รู้สึกเลยว่าเรารักเขาจริงๆ พอจูงเสร็จก็นั่งแปรงขน ดูแลเขาใกล้ชิด จนวัคซีนมาถึง  แต่ฉีดแล้วเป็นไข้อีก ช่วงกลางคืนต้องให้พี่เลี้ยงคอยช่วยประคบน้ำเย็นจนค่อยๆดีขึ้น…โล่งใจไป

“การมีสัตว์เลี้ยง เราต้องพร้อมดูแล ทุ่มเทให้เหมือนเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 975

Praew Recommend

keyboard_arrow_up