5 เคล็ดลับถ่ายรูปเซลฟี่แหวนแต่งงานยังไงไม่ต้องง้อแอปฯ

account_circle

ฝ่ายชายได้ฤกษ์คุกเข่าขอแต่งงานสวมแหวนอย่างเป็นทางการสักที แล้วผู้หญิงอย่างเราจะเก็บเงียบไว้คนเดียวได้อย่างไรจริงไหมคะ แต่ๆๆ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งดีใจถ่ายรูปแหวนโดยเร็วไว้แล้วอัพโหลดในทันทีทันใดนะจ๊ะ ตั้งสติให้ดี จัดที่จัดทางให้เรียบร้อย เพราะแพรว wedding มีเทคนิค เซลฟี่แหวนแต่งงาน มาฝาก ใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจรับรองว่าเร็วไวอัพภาพได้ทันใจแน่นอน

1. แสงธรรมชาติยังไงก็รอด

แสงจากธรรมชาติจะช่วยให้แหวนเพชรเม็ดงามของคุณดูสวยงามและน่าหลงใหล เพราะฉะนั้นลองถ่ายข้างหน้าต่าง หรือพื้นที่ที่แหวนแต่งงานสามารถรับแสงจากธรรมชาติได้ รับรองว่าเพชรเม็ดงามของคุณจะง๊ามงามมากขึ้นไปอีก ว่าที่บางคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ แล้วฉันถ่ายในห้องไม่ได้เหรอ? ได้ค่ะ แต่อาจจะต้องทำใจสักนิดเพราะถ้าหากคุณถ่ายภายในห้องโดยมีเพียงแสงจากหลอดไฟ แสงฟลูออเรดเซนต์ หรือแสงไฟสีเหลืองจะทำให้เพชรของคุณดูไม่เจิดจ้า จึงเป็นปัญหาที่ว่าถ่ายยังไงก็ไม่สวยสักที เพราะฉะนั้นแสงจากธรรมชาติจะช่วยคุณได้แทบจะภายในช็อตเดียวด้วยซ้ำ

เซลฟี่แหวนแต่งงาน

2. หาเหลี่ยมมุมที่ดี

อย่ามั่นใจเกินไปด้วยการถ่ายเพียงภาพเดียวแล้วรีบโพสต์ทันที เพราะบางทีคุณอาจจะยังไม่ได้ได้มุมภาพที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นลองถ่ายภาพในแต่ละมุมเอาไว้เผื่อเลือกสักหน่อย อาจจะเป็นมุมท็อป มุมข้าง หรือเลือกเหลี่ยมมุมที่มือของคุณจะดูสวยที่สุดในแหวนเพชรเม็ดงาม และก่อนถ่ายอย่าลืมปิดแฟลชกันด้วยนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นภาพที่ออกมาอาจจะเป็นภาพสะท้อนแสงที่เจิดจ้าจนมองไม่เห็นแหวนก็ได้

3. เติมสีเล็บ ตัดแต่งเล็บให้พร้อม

แน่นอนว่าถ่ายภาพเซลฟี่แหวน นั่นแปลว่าคุณอยากอวดแหวนไม่ได้อยากอวดมือของคุณ แต่คงไม่ดีแน่หากภาพที่ออกไปคือสีเล็บที่กระดำกระด่าง หรือเล็บที่ยังไม่ได้ตัดแต่งไว้อย่างเรียบร้อย หรือแม้กระทั่งมือที่แห้งผากหยาบกระด้างก็คงไม่ดูดีในภาพถ่ายแน่ๆ เพราะฉะนั้นทำเล็บสวยพร้อมเมื่อไหร่ แล้วค่อยถ่ายเซลฟี่แหวนเก็บไว้จะดีกว่า แล้วก่อนถ่ายอย่าลืมเพิ่มความชุ่มชื้นให้มือสวยๆ ของคุณด้วยการทาโลชั่นสักหน่อย จากนั้นก็ครีเอตท่าสวยๆ ในแหวนเพชรเม็ดโตได้เลย รับรองงานนี้ได้อวดทั้งแหวน ได้อวดทั้งสีเล็บแน่นอน

4. หาแบ็กกราวนด์แบบใหม่ที่น่าตื่นเต้น

ได้เวลาปลดปล่อยความเป็นสไตลิสต์ในตัวของคุณออกมาอย่างเต็มที่ เพราะการมองหาฉากหลังที่สวยงามหรือมีลูกเล่นแปลกๆ ก็ช่วยเสริมภาพเซลฟี่แหวนของสาวๆ ให้ดูโดดเด่นได้ เช่น ฉากหลังเป็นภาพแมกกาซีนสวยๆ, บนหมอนดีไซน์เก๋ หรือจะเล่นกับพื้นหลังที่ธรรมชาติรังสรรค์มาให้อย่างเส้นขอบฟ้าที่ตัดกับน้ำทะเลก็โรแมนติกดีเหมือนกันนะคะ

5. อย่าซูมภาพผ่านกล้องโทรศัพท์มือถือ

การถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์มือถือคุณอาจจะไม่ได้ไฟล์ภาพที่ชัดเท่ากับระดับกล้องตัวใหญ่ ยิ่งโดยเฉพาะโหมดซูมภาพก็ยิ่งไปกันใหญ่เลยค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้เห็นแหวนเพชรเม็ดเป้ง ก็เพียงแค่ขยับกล้องมือถือเข้าไปให้ใกล้แหวนอีกสักนิดแทนการกดซูมภาพ เท่านี้คุณก็ได้ภาพเซลฟี่แหวนแต่งงานที่สวยงามไม่แพ้การถ่ายจากกล้องตัวใหญ่แล้วค่า

แล้วสุดท้ายก็แค่แชร์ไปให้โลกรู้ค่า!! อ่อ แล้วอย่าลืมเขียนแคปชั่นภาพหวานๆ หรือแท็กหาเพื่อนคนสนิทหรือคนในครอบครัวให้รู้ตัวกันด้วยนะจ๊ะ 

ถ่ายเซลฟี่อวดแหวนแต่งงานกันไปแล้ว แต่กว่าจะถึงวันแต่งงานแหวนหมั้นวงสวยอาจจะหมองไปแล้วหรือเปล่า!! นี่เลย ทำเถอะ! 5 เรื่องดีๆ ที่จะทำให้แหวนแต่งงานคงสภาพสวยปิ๊งตลอดกาล

เต็มอิ่มครบทุกอารมณ์ 10 ปีแห่งความสุข สุดยิ่งใหญ่กับ เทศกาลดนตรี เพลงรัก Season of Love Song 10

account_circle

10 ปีแห่งความสุขถูกกลั่นออกมาใน เทศกาลดนตรี “Chang Music Connection Presents Season of Love Song 10 “A Decade of Happiness หนึ่งทศวรรษแห่งความสุข ในวันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ที่เวเนโต้ สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี โดยในโอกาสครบรอบ 10 ปี บริษัท CI : CREATE INTELLIGENCE นำความสุขมาแบ่งปันให้แฟนๆ SOLS อย่างยิ่งใหญ่

เริ่มตั้งแต่เวที Tiny Sheep ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นครั้งแรก ความสนุกเริ่มต้นโดย YENTED ตั้งแต่บ่ายสอง ส่งต่อความสดใสกับสาวๆ HERS feat. VALENTINA PLOY ตามด้วยสองหนุ่ม MINTS และหนุ่มมาดเซอร์ ALYN ก่อนจะปิดเวที Tiny Sheep ด้วยวง MOVING AND CUT ที่สะกดคนดูได้อยู่หมัด

ด้านเวที Fluffy Sheep ก็สนุกไม่แพ้กัน เริ่มโชว์ด้วยวง SEASON FIVE ที่ขนเอาเพลงซึ้งมาสร้างบรรยากาศให้คึกคัก ตามมาด้วยหนุ่มๆ วง MEAN ที่เรียกเสียงกรี๊ดได้ทุกซีน ก่อนจะเพิ่มความสนุกไปกับความขี้เล่นของ NONT TANONT ต่อด้วยสเต็ปแดนซ์และลูกคอของ TWO POPETORN ก่อนที่เวเนโต้จะดังกระหึ่มจากเพลงรักของ DA ENDORPHINE ที่ทุกคนช่วยกันร้อง ความสนุกพึ่งเริ่มต้น เพราะ TATTOO COLOUR ทำให้คนเริ่มลุกขึ้นเต้น ตามมาด้วย SLOT MACHINE ที่ระเบิดความมันส์จากแสงสีเสียง

ในตอนเที่ยงคืน มีไฮไลท์สำคัญจาก SCRUBB ในเพลง ยังจำได้ไหม ที่ระเบิดความสุขบนท้องฟ้าด้วยพลุสุดปัง ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล เพราะ COCKTAIL บิวต์ความมันส์ไม่น้อยหน้า ตามมาด้วย GETSUNOVA และ MILD ที่เอาเพลงโดนๆ มาสะกดคู่รักและคนโสดให้อยู่หมัด ก่อนสลับอารมณ์ไปกับ PARADOX ที่ยังทำให้คนลุกขึ้นเต้นได้ ส่วนวง PAUSE ก็กลับมาพร้อมเพลงในตำนานและเพลงใหม่สุดซึ้ง ปิดท้ายโชว์ในตอนเช้ามืดกับ NAP A LEAN ที่มาเติมเต็มความสุขได้อย่างสมบูรณ์แบบของงานในครั้งนี้

นอกจากเสียงเพลง กิจกรรมใน Popsitive Zone นั้นก็สร้างความทรงจำดีๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการส่งโปสการ์ดหาคนที่คิดถึง ตู้คีบของที่ระลึก และมุมถ่ายภาพเก๋ๆ ที่เนรมิตให้คิดถึงวันเก่าๆ และร้านอาหารที่คัดสรรโดย StarvingTime ถือเป็นความสุขที่เติมพลังให้ทุกคนตลอดค่ำคืน

ถ้าคิดว่า Season of Love Song ครบรอบ 10 ปี ยิ่งใหญ่แล้ว ปี 2020 กด See First เพจ Season of Love Song ไว้ให้ดี มีเซอร์ไพรส์อีกเพียบ ขอบคุณที่ให้ Season of Love Song มอบความสุขมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ในหลวง ร.10 ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวง ร.9

Alternative Textaccount_circle

ในหลวง ร.10 ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวง ร.9… วันนี้ (5 ธันวาคม 2562) เวลา 17.19 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง เพื่อทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเข้าร่วมพระราชพิธีด้วย รวมถึง ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เข้าร่วมพระราชพิธีด้วย


 

ข้อมูลและภาพ : Royal World Thailand – รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย, matichon.co.th, เรารักราชวงศ์จักรี “We love Chakri Dynasty”

 

Arborinci (อะบอรินชี่) แบรนด์ไทยน้องใหม่ที่อุดมไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ

Arborinci (อะบอรินชี่) มาจากคำ 2 คำ คือคำว่า arbor มาจากภาษาละตินซึ่งเป็นรากศัพท์ของภาษาอังกฤษแปลว่าต้นไม้ สื่อความหมายถึงธรรมชาติ และคำว่า inci มาจาก inci name ซึ่งเป็นชื่อสากลของสารต่างๆที่ใช้ในการจดทะเบียนเครื่องสำอาง ดังนั้น Arborinci จึงหมายถึงการดูแลบำรุงผิวโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติจนไปถึงสารบำรุงและนวัตกรรมต่างๆที่มาจากกระบวนการวิทยาศาสตร์ ด้วยความตั้งใจที่ว่าอยากทำผลิตภัณฑ์ให้ออกมาดีและมีประสิทธิภาพสูงสุดให้เสมือนว่าเราผลิตมาใช้กับตัวเอง จึงคัดสรร ingredients ชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ Organic จากธรรมชาติหรือเป็นสารที่เกิดทางกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่มี innovation ใหม่ๆ เผื่อมาตอบสนองในการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่ต้องเผชิญทั้งแสงแดด ฝุ่นควัน มลภาวะ ความภาวะผิวติดสาร steroid เป็นต้น

Le dore treatment cleansing oil (ขนาด 100 ml. ราคา 1,190 บาท)

Cleansing oil ที่รวบรวม 9 คุณประโยชน์จาก Organic oil ที่เราคัดสรรค์มาเป็นอย่างดีเพื่อการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างลํ้าลึกสะอาดหมดจดโดยที่ไม,ต้อง double clean หลังล้างหน้าจะสัมผัสได้ถึงผิวนุ่มชุ่มชื่นไม่แห้งดึง พร้อมบำรุงผิวด้วยวิตามิน A,C,E,F และแร่ธาตุต่างๆรวมถึงกรดไขมันที่จำเป็นต่อผิวอย่าง Linoleic acid ที่ช่วยเรื่องต้านการอักเสบและลดสิว Linolenic acid กรดไขมันซึ่งร่างกายมนุษย์ไม่สามารถ สร้างเองไต้ ช่วยกระตุ้น Collagen และ Elastin ใต้ชั้นผิวให้ผิวอิ่มนํ้าปรับสมดุลการผลิตนํ้ามันใต้ชั้นผิวกระตุ้น healing process ให้ผิวหนัง

 

Rouge Liquid Essence Toner (ขนาด 100 ml. ราคา 890 บาท)

Essence toner ที่ผสานประสิทธิภาพจาก Rosemary water และ Eucalyptus water ที่มีกลิ่นหอมเป็นสดชื่นเป็นเอกลักษณ์และยังทำช่วยลดสิวนอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยสารสกัดต่างๆจากธรรมชาติ อาทิเช่น Witch hazel extract ที่สกัดด้วยกระบวนการพิเศษโดยปราศจาก Alcohol จึงทำให้ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ช่วยกระชับรูขุมขนและลดสิวไต้ดี Astaxanthin   สายพันธุ์ Haematococcus pluvialis นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีงานวิจัยรองรับว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุด เป็น Super Anti-oxidants, Anti aging, ยับยั้ง Hyperpigmentation ลดการสร้างเม็ดสี melanin และเป็น UV blocking และช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวหลัง การออกแดดได้อีกด้วย

Blanc de Blanc Concentrate Serum (ขนาด 30 ml. ราคา 3,290 บาท)

ผสมผสาน 3 สารสกัดสุดยอดไว้ในเซรั่มขวดเดียว สกัดด้วยกระบวนการสกัดแบบพิเศษ Biocellular extraction ทำให้ได้สารต่างๆออกมาได้ครบถ้วนโดยที่สารไม่ Lost potency ทำให้ได้สารที่มี Phytoactive compounds ที่มีความเสถียรสูงและมีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ได้ดี เซรั่มขวดนี้ประกอบด้วยสารสกัดหลักๆจากพืช 3 ชนิด ได้แก่ Kakadu plum, Finger lime caviar และ Dessert lime มีสาร Ferulic acid มีประสิทธิภาพสูงในเรื่อง Anti aging สามารถดูดซึมลงสู่ผิวได้ทันทีและมี Vitamin C สูงที่สุดในโลกเป็นอนุพันธ์ที่ stable สูงทำให้ช่วยระต้นการสร้าง Collagen ใต้ชั้นผิวเห็นผลลัพธ์ใน 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีสาร Coumarin และ Gallic acid ที่ทำหน้าที่ Anti-melanogenic (ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน) ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ลดเลือนจุดด่างดำพร้อมกระชับรูขุมขนและลดเลือนริ้วรอยร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

“BTL EMSELLA” เก้าอี้แห่งความสุขสุดไฮเทคของสาวยุคใหม่

Alternative Textaccount_circle

บีทีแอล (BTL) ผู้นำเทคโนโลยีด้านความงามระดับโลกจากประเทศอังกฤษ เปิดตัว BTL EMSELLA” (บีทีแอล เอ็มเซลล่า) เก้าอี้สุดไฮเทคที่มาพร้อมเทคโนโลยีกระชับอุ้งเชิงกราน พร้อมเสริมสมรรถภาพทางเพศ ที่ได้รับขนานนามว่าเป็น “เก้าอี้แห่งความสุข” (The Happy Chair) สร้างความฟิตและฟินให้กับผู้หญิงยุคใหม่มาแล้วทั่วโลก

จากผลการวิจัยพบว่า ปัญหาปัสสาวะเล็ด (Urinary Incontinence) ส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันกว่า 25 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง นอกจากนั้น พวกเธอยังผิดหวังซ้ำ ๆ จากการแก้ปัญหาและรักษาด้วยวิธีการแบบเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แผ่นรองกันซึมเปื้อน การออกกำลังกายอุ้งเชิงกราน หรือ “การขมิบ” รวมถึงการรีแพร์ที่สร้างความเจ็บปวด ทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นสูญเสียความมั่นใจ เกิดความกังวลตลอดเวลา ไม่สามารถออกไปท่องเที่ยว ออกเดท และใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ

จากปัญหาดังกล่าวสู่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด “BTL Emsella” เก้าอี้กระชับอุ้งเชิงกรานรูปทรงทันสมัย ที่ใช้เทคโนโลยี High Intensity Focus Electro Megnatic (HIFEM) ซึ่งเป็นพลังงานใหม่ที่บริษัท BTL คิดค้นจากประเทศอังกฤษ ภายใต้สโลแกน “เก้าอี้แห่งความสุข” แค่นั่งก็แฮปปี้ ทำให้ผู้หญิงหลายคนเป็นอิสระจากปัญหาปัสสาวะเล็ด นอกจากนั้น ยังช่วยให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานแข็งแรง กระชับ และสามารถมีความสุขกับคู่รักได้มากขึ้นอีกด้วย

กระบวนการทรีตเม้นท์ของ “BTL Emsella” ใช้เวลาเพียง 28 นาทีต่อครั้ง โดยนั่งบนเก้าอี้ BTL Emsella ในท่วงท่าที่สบาย และไม่ต้องถอดเสื้อผ้า จากนั้นเก้าอี้จะส่งส่งคลื่น HIFEM ไปบริเวณอุ้งเชิงกราน เพื่อให้ยกให้อุ้งเชิงกรานอยู่ในบริเวณที่เหมาะสมโดยไม่ต้องผ่าตัด BTL Emsella สามารถควบคุมระบบประสาทของกล้ามเนื้อ (Neuromuscular Control) จะทำให้กล้ามเนื้อเชิงอุ้งกรานเกร็ง เทียบเท่ากับการออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel exercise) หรือ “การขมิบ” ถึง 11,200 ครั้ง เมื่ออุ้งเชิงกรานแข็งแรงจะทำให้ร่างกายเกิดความสมดุลทางกายภาพ ส่งผลให้กล้ามเนื้อในบริเวณลึกของช่วงท้องและหลังแข็งแรงขึ้น รวมถึงกระดูกสันหลังได้รับการสนับสนุนจากกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น รักษาอาการปัสสาวะเล็ด และยังช่วยให้สรีระดีขึ้น ตัวตรง หลังไม่คด นอกจากนั้น ประสิทธิภาพของ BTL Emsella ยังช่วยคืนวัยสาวและความสุขทางเพศให้กลับมาเหมือนช่วงวัยรุ่นอีกครั้ง เนื่องจากกล้ามเนื้อที่แข็งตัวเป็นกลุ่มของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับช่องคลอดและการถึงจุดสุดยอด (Climax)

นายแพทย์นพภาวิต หน่อไชย แพทย์ที่ปรึกษาด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ฟื้นฟูสุขภาพ และความงาม ให้ข้อมูลว่า “ปัญหาปัสสาวะเล็ดเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อาทิ การคลอดบุตร ผู้สูงวัย ขาดการออกกำลังกาย หรือวัยหมดประจำเดือน เหล่านี้ส่งผลให้อุ้งเชิงกรานอ่อนแอ และไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะได้ดี การเสริมสร้างกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน จะช่วยให้โครงสร้างของอุ้งเชิงกรานทั้งหมดแข็งแรง รวมถึงกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะ ผลที่ได้คือการควบคุมปัสสาวะได้ดีขึ้นนั่นเอง ผลดีอีกประการหนึ่ง คือบรรเทาความรู้สึกของความดันในอุ้งเชิงกรานหรือความหนักเบาการทำงานทางเพศที่ดีขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อรอบช่องคลอดมีความกระชับและทำให้ถึงจุดสุดยอดที่แข็งแกร่งอีกด้วย”

สำหรับงานเปิดตัว “BTL Emsella” ครั้งแรกในประเทศไทย จัดขึ้นที่ “APEX MEDICAL CENTER” ศูนย์กลางความงามแห่งเอเชียแปซิฟิกใจกลางกรุงเทพฯ ได้รับความสนใจจากทั้งสื่อมวลชนและเซเลบริตี้ที่ตบเท้าร่วมงานอย่างคับคั่ง และร่วมสัมผัส “เก้าอี้แห่งความสุข” กันอย่างแฮปปี้ นำโดย ซินดี้ สิรินยา บิชอพ, ชุติมา ทีปะนาถ, เมษา – วรรณวิไล เตชะสมบูรณ์, ม.ร.ว. จันทรลัดดา ยุคล, พลอย ปิ่นแสง และ เพลินจันทร์ วิญญรัตน์

ฐิตารีย์ บัลเล็สเตร็อส ผู้จัดการ BTL ประเทศไทย บริษัท บริษัท บีทีแอล เมดิคอล เทคโนโลจีส์ จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้นำ BTL Emsella มาสู่เมืองไทยเป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้หญิงไทยได้สัมผัสกับสุดยอดเทคโนโลยีที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้นโดยไม่ยุ่งยากซับซ้อน สามารถกลับมาทำกิจกรรมประจำวันได้ทันทีหลังการทำทรีตเม้นท์ และสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรก และจะเห็นผลลัพธ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการทำทรีตเม้นท์ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ครั้งละ 28 นาที ซึ่งจะเปิดให้บริการทรีตเม้นท์ BTL Emsella ที่ APEX MEDICAL CENTER

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.​ 02 650 7848 หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.btlaesthetics.com  หรือเฟซบุ๊ก @BTLMedThailand

BLACK PHANTOM REACTOR ลำโพงไร้สายขนาด XXS กะทัดรัดที่ให้พลังเสียงดีที่สุดในโลกระดับ XXL

บริษัท เดโค 2000 จำกัด ผู้นำเข้าแบรนด์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ชั้นนำของโลก นำโดย DEVIALET จากประเทศฝรั่งเศส สุดยอดแบรนด์ลำโพงไร้สายที่ดีที่สุดในโลกที่ได้รับการสร้างสรรค์โดยทีมวิศวกรด้านอะคูส ติก, นักออกแบบ และนักลงทุนชาวฝรั่งเศส 3 คนที่ใช้เวลาในการออกแบบวิจัยและพัฒนานับ 10 ปี การันตีด้วยรางวัลด้านเสียงและการออกแบบมากถึง 57 รางวัล และจดสิทธิบัตรไปแล้วมากถึง 107 ใบ พร้อมด้วยความร่วมมือด้านการลงทุนจากกลุ่มบริษัท LVMH MOËT HENNESSY จัดงาน DEVIALET Phantom Reactor: Unreasonable Sound, Look xxs sound xxl ชวนสัมผัสประสบการณ์ของพลังเสียงจากลำโพงไร้สายที่ดีที่สุดในโลกจาก “เดอวิอาเลต์ แฟนทอม รีแอคเตอร์” (Devialet Phantom REACTOR) ภายในงานได้รับเกียรติจาก มร. มาร์ติน คู ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค DEVIALET และ กฤตภาส อนุสรณ์ศิริศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ Marconi ร่วมแนะนำ Devialet Phantom Reactor ที่ได้รับคำนิยามจากคนฟังเพลงระดับปรมาจารย์และคนดังในแวดวงดนตรีทั่วโลกว่า “The Best Sound in The World” ที่ครั้งนี้มาในขนาดเล็กกะทัดรัดแต่ยังคงให้พลังเสียงที่ดีที่สุด พร้อมสีใหม่ BLACK MATTE เท่ล้ำกว่าใคร โดยในงานเปิดตัวครั้งนี้ได้รับเกียรติจากเซเลบริตี้ระดับเอลิสต์ชื่อดัง อาทิ กรองกาญจน์ ชมะนันทน์, พลตรี พงศ์พิพัฒน์ ชมะนันทน์, สวินณา-อัครพงศ์ ดาโลดม, ศุภมาส-จิราภา ลักษณวิศิษฏ์, นุชนาถ ระวีแสงสูรย์, ม.ล. อนุชา ยุคล, พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล, ฐิติพงษ์ ล้อประเสริฐ, จุฬาลักษณ์ ผลภิภม, วรวุฒิ โตวิรัตน์ ฯลฯ ร่วมงานด้วย ณ ร้าน Marconi ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี

มร. มาร์ติน คู ผู้อำนวยการฝ่ายขาย DEVIALET กล่าวว่า สำหรับ “เดอวิอาเลต์ แฟนทอม” เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นลำโพงไร้สาย 100% ตัวแรกของโลกที่พัฒนาและออกแบบขึ้นมาด้วยการผสมผสานที่สุดแห่งพลังเสียง เข้ากับความงามของงานดีไซน์ ร่วมด้วยเทคโนโลยีวิศวกรรมไร้สายแห่งอนาคตแบบที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ล่าสุด DEVIALET ได้ใช้เวลาถึง 3 ปีในการพัฒนาลำโพงรุ่นใหม่ ด้วยการย่อส่วนลำโพงให้เล็กลงจาก Phantom รุ่นก่อน แต่ยังคงคุณภาพเสียง Unreasonable Sound ให้เสียงเพลงที่ไพเราะ ทรงพลังแบบโมเดลรุ่นพี่อย่าง Phantom Premier, Phantom Classic จนได้เป็น Phantom Reactor ลำโพงไร้สายตั้งโต๊ะขนาดเล็กกะทัดรัดมาในราคาที่จับต้องได้เพื่อให้เหมาะกับห้องขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น แต่ให้เสียงที่ทรงพลังเกินขนาดของลำโพง มาพร้อมรูปทรงสวยงาม ทันสมัย ตามแบบฉบับชาวปารีเซียง ซึ่ง Phantom Reactor ใช้เวลาวิจัยถึง 3 ปี และได้รับสิทธิบัตรกว่า 100 รายการ จนกลายเป็นที่สุดของการสั่นสะเทือน ทำให้ได้เสียงทรงพลังคมชัด ใสเคลียร์ และให้เสียงเบสที่แน่น กระชับ ลงได้ลึกเกินตัว พร้อมระเบิดพลังเสียง.. ให้ทุกคนได้ตกตะลึง

ทางด้านการใช้งานของ Devialet Phantom Reactor กฤตภาส อนุสรณ์ศิริศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ MARCONI บริษัท เดโค 2000 จำกัด กล่าวถึง Phantom Reactor ว่าเป็น WIRELESS SPEAKER ที่สามารถจับคู่เชื่อมต่อเป็น Stereo และ Multiroom ด้วยการใช้ Reactor เพิ่มอีก 1 ตัว เพื่อติดตั้งให้เป็นระบบ Stereo โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์อื่นเพิ่มอีก เมื่อเปิดพร้อมกัน 2 ตัวจะให้เสียงที่กว้าง Phantom Reactor สร้างเวอร์ชั่นใหม่ของระบบปฏิบัติการ Devialet (DOS 2) กำหนดค่า 2 เครื่องของรุ่นเดียวกัน ผ่านแอปพลิเคชั่น Devialet สำหรับ Phantom Reactor (ดาวน์โหลดได้แล้วทั้งใน App Store และ Google Play) ซึ่งจะเปลี่ยนระบบของคุณจาก Solo เป็น Duo Mode ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที อีกทั้งยังสามารถรวมการใช้งานของทุกผลิตภัณฑ์เข้าด้วยกัน เพื่อทำให้การควบคุมต่างๆ ง่ายกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการปรับเสียงเบส ปิดเสียง เล่นเพลงและเปลี่ยนเพลง ทำให้การควบคุมต่างๆ ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

DEVIALET Phantom Reactor ตอบสนองความถี่ 18Hz – 21kHz แบ่งเป็นสองรุ่นได้แก่ Phantom Reactor 600 (SPL 95dB) และ Phantom Reactor 900 (SPL 98dB) รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่านสายเคเบิ้ลทั้ง AUX และ Optical หรือผ่านการเชื่อมต่อไร้สายรูปแบบต่างๆ อย่าง Wi-Fi Bluetooth Airplay และ Spotify Connect เรียกว่าจะใช้งาน iOS หรือ Android ก็ใช้งานได้ลื่นไหล รวมถึงการเชื่อมต่อด้วยสายออพติคอลและอนาล็อค 3.5 มม. จนกลายเป็นที่สุดของการสั่นสะเทือน ทำให้ได้เสียงแหลม ที่คมชัด ใสเคลียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเบสที่ลงลึกได้มากและให้เสียงที่ทรงพลังระดับผิวสัมผัส

DEVIALET Phantom Reactor มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ Reactor 600 มีกำลังขับ 600 W peak (ราคา 47,990 บาท) และ Reactor 900 กำลังขับ 900 W peak (ราคา 61,990 บาท) เพื่อให้เหมาะในการเลือกใช้งานตามขนาดของพื้นที่และความดังของเสียงที่ต้องการ มี 2 สี ได้แก่ สีขาวคลาสสิค และใหม่ สีดำ Matte Black Edition..ผู้สนใจสามารถทดลองฟังพลังเสียงที่อยู่เหนือเหตุผลและคำอธิบายใดๆ ของ DEVIALET Phantom Reactor ได้แล้ววันนี้ ณ ร้าน Marconi ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โทร.02-160 5776, ร้าน Marconi ชั้น 3 Siam Takashimaya ไอคอนสยาม, ร้าน Meridian ชั้น 3 Helix,The EmQuartier โทร. 02-003 6154, Hear by mongkolgadget ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โทร 02-610-9982 และ Dotlife ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โทร 02-613-1299

 

 

หมอกจางๆ ก็ไม่ใช่! “ฝุ่น” ภัยร้ายที่มากับหน้าหนาว

หมอกจางๆ ก็ไม่ใช่! “ฝุ่น” ภัยร้ายที่มากับหน้าหนาว…ช่วงนี้หลายคนฟินกับอากาศเย็นๆ เพราะนานๆ ทีประเทศไทยจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ แต่ลมหนาวก็มักจะมากับอากาศที่แห้ง ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุของฝุ่นด้วย ดังนั้น ใครที่อยากสูดอากาศเย็นๆให้ชุ่มปอดก็อาจจะต้องระวังกันด้วย

PM2.5 หรือ Ultra-Fine Particulate Matter ฝุ่นอนุภาคเล็กที่คนไทยเริ่มจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีหลังจากฝุ่นชนิดนี้เริ่มเข้ามาปกคลุมหลายพื้นที่ของประเทศอีกครั้งโดยเฉพาะในเขตพื้นที่เมืองใหญ่ ทุกครั้งที่สูดอากาศที่เราหายใจเข้าไปในแต่ละวันนั้นก็ล้วนปนเปื้อนไปด้วยไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในบ้าน

จากผลการศึกษาของ United States Environmental Protection Agency หรือ EPA หน่วยงานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ ระบุว่า คนเราได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศภายในอาคารมากกว่านอกอาคาร 2 ถึง 5 เท่า เนื่องจากประชากรเกือบทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่นั้น ใช้เวลามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์อยู่ภายในอาคาร และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการจัดการอากาศที่อยู่ภายในอาคาร จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเพื่อให้เราได้อาศัยอยู่ในสภาพอากาศที่ดีมากที่สุด

แน่นอนว่าสภาพอากาศภายนอกเป็นปัจจัยที่ยากจะควบคุมและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ในปัจจุบันเราสามารถฟอกอากาศภายในบ้านของเราให้กลายเป็นเขตปลอดมลพิษได้ ซึ่งทำให้ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ‘เครื่องฟอกอากาศ’ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการป้องกันฝุ่น ที่มอบอากาศบริสุทธิ์ให้คนเมืองได้หายใจกันแบบเต็มปอด และเป็นไอเท็มชิ้นสำคัญที่ทุกคนควรจะต้องมีติดบ้าน

ล่าสุด  ซัมซุง คิวบ์ AX9500 (CUBE) ก็เป็นอีกไอเท็มใหม่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์ รวมถึงซัมซุง บลู สกาย (BLUE SKY) เพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ให้สามารถเลือกใช้งานตามขนาดพื้นที่ในบ้านได้อย่างเหมาะสม โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมสมาร์ทฟังก์ชัน และการออกแบบที่สวยงามลงตัวไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็น Air Sensing Light ระบบไฟอัจฉริยะ 4 สี ที่แสดงคุณภาพอากาศได้อย่างชัดเจนแม้มองจากระยะไกล ความสามารถในการสั่งการผ่านแอปพลิเคชั่น SmartThings การฟอกอากาศได้รวดเร็วผ่านช่องรับอากาศด้านหน้าที่สามารถกระจายอากาศบริสุทธิ์ได้ 3 ทิศทาง และนวัตกรรมฟอกอากาศบริสุทธิ์หลายขั้นตอน ที่สามารถขจัดฝุ่นอนุภาคเล็ก 0.3 ไมครอน ซึ่งเป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ได้มากถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์

ซัมซุง คิวบ์ AX9500 สีเมทัลซิลเวอร์ วางจำหน่ายที่ราคา 28,900 บาท และซัมซุง บลู สกาย AX7500 ราคา 29,900 บาท ซัมซุง บลู สกาย AX5500 ราคา 20,900 บาท และ ซัมซุง บลู สกาย AX3300 ราคา 11,900 บาท สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.samsung.com/th/air-purifier/

 

‘อาจตกที่นั่งนารีอุปถัมภ์ เสียทั้งตัวและทรัพย์’ ดูดวงรายวัน 5 ธันวาคม 2562

ดูดวงรายวัน 5 ธันวาคม 2562 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะ ปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  วันนี้คุณอาจอึดอัด เพราะงานศิลปะ หรืองานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือมีมุมมองของความสวยงามเข้ามาเกี่ยวข้องที่กำลังทำอยู่ ต้องส่งงานให้เจ้านายพิจารณา ส่งผลให้คุณทำงานด้วยความเบื่อหน่าย แต่ก็ไม่ถือว่าเลวร้ายอย่างที่คิด เพราะคุณได้ผู้ใหญ่ผู้หญิงให้ความช่วยเหลือสนับสนุน จนงานอาจผ่านฉลุยเลยก็ได้

การเงิน : มีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ก็จริง แต่คุณจะหมดกับการสังสรรค์ ปาร์ตี้ รวมถึงการเสี่ยงโชค

ความรัก : วันนี้วันพ่อแห่งชาติที่บ้านคุณอาจจัดงาน เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้มาอยู่พร้อมหน้ากัน หลังจากนั้นคุณอาจออกไปสังสรรค์ปาร์ตี้กับเพื่อนต่อ ไม่อยู่กับครอบครัว  คนโสด  คุณอาจกำลังเป็นนารีอุปถัมภ์โดยไม่รู้ตัว วันนี้เขาเรียกร้องจากคุณสูง ทั้งตัวและทรัพย์เลยทีเดียว

สุขภาพ : หลีกเลี่ยงการกินดื่ม สังสรรค์ปาร์ตี้ต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน เพราะนอกจากจะเสียสุขภาพแล้ว ยังเสียเงินอีก

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  หากคุณกำลังคิดจะร่วมหุ้นร่วมทุนกับเพื่อนสนิท เปิดกิจการที่เกี่ยวกับความสวยความงาม เอ็นเทอร์เทน หรือมีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจเป็นธุรกิจน้ำเมาก็ได้ ความที่คุณสตรอง เอาจริงเอาจัง ชอบลุยงานคนเดียว โดยอาจมองข้ามความคิดเห็นของเพื่อน จึงน่าจะทำงานคนเดียวดีกว่า

การเงิน :  ยังอยู่ในช่วงต้นเดือน วันนี้คุณอาจหมดเงินกับความหรูหราฟุ่มเฟือย จนถึงหมุนเงินทำธุรกิจที่ท้าทาย

ความรัก :  จะเป็นความรักความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ระหว่างญาติผู้หญิง ซึ่งวันนี้คุณเอาแต่ใจค่อนข้างมาก แถมเป็นวันสำคัญคุณก็ยังไม่อยู่บ้านอีกด้วย  คนโสด คุณอาจชอบเพื่อนหญิงคนสนิททั้งๆ ที่รู้ว่า เขามีแฟนอยู่แล้ว

สุขภาพ : ระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกาย ซึ่งมีน้ำเหลือง น้ำเลือด น้ำย่อย จนถึงน้ำในหูอาจมีปัญหา

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : หากคุณคิดที่จะออกจากงานประจำมาทำธุรกิจที่บ้าน วันนี้นับว่าประสบความสำเร็จ สามารถยึดเป็นอาชีพในช่วงสุดท้ายของการทำงานได้ จนวันนี้คุณสามารถใช้ชีวิตช่วงเกษียณ หรือลาพักร้อนได้อย่างสบายใจ

การเงิน : มีโชคลาภเหลือเชื่อเหนือความคาดหมาย ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ แต่ควรทำเองดีกว่าร่วมหุ้นกับคนอื่น

ความรัก : คู่คุณให้ความรักใส่ใจดูแลเป็นอย่างดี ให้เงินทองใช้อย่างไม่ติดขัด เพื่อแลกกับการที่คุณเชื่อฟังและเป็นกำลังใจให้เขาตลอดเวลา แต่วันนี้คุณไม่สามารถทำได้ทุกๆ เรื่อง จึงอาจเกิดความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน คนโสด มีหนุ่มๆ อยากได้คุณไปเป็นแม่ศรีเรือนทั้งนั้น แต่วันนี้คุณวางเฉย อยากพักกับเรื่องชู้สาวคาวโลกีย์แล้ว

สุขภาพ :  หากเดินทางไกล ควรระวังเรื่องอาหาร อากาศ และการใช้ของสาธารณะ เพราะคุณอาจติดเชื้อ ทำให้เป็นภูมิแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  คุณมีความคิดและอุดมการณ์ที่สุดโต่ง ทำงานด้วยยาก เพราะฉะนั้นแม้จะเป็นวันหยุด แต่คุณก็อาจต้องแบกรับภาระหน้าที่ที่หนักหนาสาหัสแต่เพียงคนเดียว โดยอยู่ภายในสายตาของหัวหน้างาน จึงทำให้คุณต้องขยันมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว แถมยังต้องช่วยเหลืองานคนอื่นด้วยอีก

การเงิน : คุณมีแต่ให้ ให้อย่างไม่สิ้นสุด แล้วให้ไปก็ไม่มีวันได้คืนด้วย

ความรัก : ชีวิตคู่ราบเรียบและราบรื่นดี แต่อาจเพราะงานยุ่งจึงไม่ได้ใช้เวลาวันพ่ออยู่กับครอบครัวได้เต็มที่นัก  คนโสด วันนี้มีแต่งานอย่างเดียวเลย ซึ่งคุณยึดความเป็นตัวเองสุดโต่งมาก ใครพูดอะไรคุณก็ไม่ปรับเปลี่ยน

สุขภาพ : โหมงานหนัก จนไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นอนน้อย รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เป็นหวัดได้ง่าย ยิ่งตอนนี้อากาศเปลี่ยนด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  คุณมีภาวะผู้นำสูง อาจได้เป็นผู้นำทีมไปสอบแข่งขัน หรือประมูลงาน ซึ่งคุณพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้งานสำเร็จ แต่วันนี้งานอาจมีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ระวังคุณอาจเดินเข้าสู่ทางตัน ไปต่อไม่ถูก ควรใช้ประสบการณ์ชั่วโมงบินสูง จะทำให้คุณก้าวข้ามช่วงเวลานี้ไปได้อย่างไม่เจ็บตัว

การเงิน : สามารถใช้เงินทำงาน สร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง อาจได้เงินพิเศษ

ความรัก :  คุณดูแลหาเลี้ยงครอบครัว จนดูเหมือนเป็นคนซีเรียส ใส่ใจทุกรายละเอียด แต่ก็ต้องเข้าใจว่า ไม่มีใครสามารถทำให้ทุกคนพอใจได้หมดทุกอย่าง วันนี้หากคุณได้ในสิ่งที่ไม่พอใจ ก็ควรปล่อยวาง คนโสด คุณพยายามทำทุกอย่าง เพื่อแย่งชิงคนที่ถูกใจมาเป็นของตัวเอง แต่เมื่อได้แล้วไม่ใช่อย่างที่คิด คุณก็สามารถมีรักใหม่ได้โดยไม่ติดใดๆ

สุขภาพ : ควรให้ความสำคัญในการขับถ่าย ไม่ควรนั่งทำงานติดเก้าอี้ จนไม่ลุกไปปัสสาวะเลย เพราะจะส่งผลให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  แม้จะเป็นวันหยุดแห่งชาติ แต่คุณก็ตกอยู่ท่ามกลางการต่อสู้แข่งขัน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งหน้าที่การงานและผลประโยชน์ แม้คุณจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้งานสำเร็จ อาจถึงกับเข้าไปขอเป็นการส่วนตัวกับเจ้านายเลย แต่ก็เหนื่อยเปล่าค่ะ

การเงิน : อาจได้เงินจากการทำงานพิเศษ แต่ก็ต้องสูญเงินเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ

ความรัก : ระวังจะมีปากเสียงกัน เพราะวันนี้จิตที่ต้องการเอาชนะ เอาแต่ใจ มีสูงมาก จนอาจถึงกับแยกบ้าน นอนกันคนละห้องเลยทีเดียว คนโสด ไม่ต้องไปยื้อแย่งจีบร่วมกับคนอื่นหรอกค่ะ เพราะได้มาก็ไม่เหมาะสมกับคุณ

สุขภาพ :  อาจเกิดการบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท ปล่อยวางบ้าง เพราะอาจเสียทั้งสุขภาพกายและจิตเลย

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  ก็ยังอยู่ในเรื่องของการประสานงาน การเจรจาต่อรอง หรือรับเป็นที่ปรึกษา ซึ่งวันนี้คุณขยันทำงาน ใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เฉพาะบุคคลมาใช้ในการทำงานอย่างมาก จนคุณอาจไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเลย วันนี้ควรเปิดใจกว้างรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง จะทำให้งานสำเร็จได้โดยง่าย

การเงิน : คุณมีแต่ให้ แล้วคนที่มาขอเป็นคนที่รักทั้งนั้น ไม่ว่าจะญาติพี่น้อง หรือคนรัก จึงปฏิเสธไม่ได้

ความรัก : ครอบครัวค่อนข้างราบเรียบและราบรื่น คู่คุณก็ยึดมั่นถือมั่นกับการหาเลี้ยงครอบครัว จนอาจดูใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด แต่ก็คิดเสียว่า เขาทำด้วยความรักแล้วกัน คนโสด อาจได้เจอหนุ่มเกาหลี เจอปุ๊บตกหลุมรักทันที แล้วคุณก็หวงมากเสียด้วย

สุขภาพ : ยังคงดื่มไม่ขับอยู่นะคะ เพราะอาจมีโอกาสบาดเจ็บตั้งแต่ฟกช้ำดำเขียว จนถึงอุบัติเหตุใหญ่

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

วันนี้แม้ยังไม่ใช่เป้าหมาย แต่ก็ขอเคี้ยวเล่นกรุบกริบก่อน ดูดวงรายวัน 30 พฤศจิกายน 2562

เมื่อหมดรัก เริ่มจะเอาแต่ใจตัวมากกว่าเอาใจคุณ  ดูดวงรายวัน 1 ธันวาคม 2562

สเป๊กสายหมอ ทั้งแม่หมอ พ่อหมอ หมอความมาหมด ดูดวงรายวัน 2 ธันวาคม 2562

รักนี้ไม่มีเงื่อนไข แม้จะเป็นผู้ชายสายหวานก็ตาม ดูดวงรายวัน 3 ธันวาคม 2562

อย่ามัวแต่หมาหยอกไก่ คุณอาจพลาดช่วงจังหวะดีๆ ของชีวิตไป ดูดวงรายวัน 4 ธันวาคม 2562

 

3 ข้อคุยให้เคลียร์กับช่างทำผมเจ้าสาว รับรองได้ทรงผมเป๊ะดั่งใจในวันแต่งงาน

account_circle

สิ่งสำคัญสำหรับทรงผมของเจ้าสาวคือการพูดคุยกับ ช่างทำผมเจ้าสาว ให้ชัดเจนถึงแบบทรงผมที่เจ้าสาวต้องการ และทรงผมนั้นจะต้องไปกันได้ดีกับชุดแต่งงาน รูปหน้าของเจ้าสาว รวมไปถึงธีมงานด้วย เพราะฉะนั้นการพูดคุยกับช่างทำผมให้เข้าใจตรงกันในทุกๆ เรื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่เจ้าสาวจะได้ผมสวยเป๊ะดั่งใจในวันแต่งงาน แพรว wedding เลยจัด 3 หัวข้อสำคัญที่เจ้าสาวจะต้องเคลียร์ให้ชัดเจนกับช่างทำผมมาฝาก

หากมั่นใจว่าช่างคนนี้ใช่ ให้รีบจองคิว

อย่าชะล่าใจและโทรนัดช่างทำผมเมื่อใกล้ถึงวันสำคัญ เพราะไม่อย่างนั้นคุณอาจจะพลาดคิวช่างทำผมคนสำคัญได้ เพราะฉะนั้นหากมั่นใจในฝีมือและโอเคเรื่องราคาควรรีบจองคิวให้ด่วน เพราะนอกจากการรันตีได้ว่าจะได้ช่างคนนี้มาไว้ในงานแต่งแน่ๆ ยังช่วยในเรื่องการวางแผนทรงผมเจ้าสาวอีกด้วย เพื่อที่จะได้นัดพบกับช่างทำผมเจ้าสาวล่วงหน้าสักประมาณ 1 เดือนก่อนถึงวันแต่งงาน เพื่อที่คุณและช่างจะได้มีเวลาปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับทรงผม และอย่าลืมบอกถึงรูปแบบชุดแต่งงานที่เจ้าสาวจะสวมในวันนั้น ยิ่งถ้ามีภาพของชุดที่เป๊ะหรือใกล้เคียงของจริง 100% แล้วยิ่งดี เพื่อที่ช่างจะได้มองเห็นภาพว่าเจ้าสาวจะดูสวยงามได้อย่างไรในชุดนั้น พร้อมบอกธีมงานคร่าวๆ ให้ช่างทำผมทราบเพื่อที่ช่างจะได้ออกแบบทุกอย่างให้ดูกลมกลืนเป็นภาพเดียวกันที่สุด เพราะฉะนั้นการเผื่อเวลาไว้จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ช่างได้มีเวลากลับไปทำการบ้านในการหาแนวทางทำให้เจ้าสาวออกมาสวยที่สุด

สำรวจสไตล์ไปพร้อมๆ กัน

ในวันที่นัดพูดคุยกับช่างทำผม เจ้าสาวควรบอกถึงสไตล์ทรงผมที่อยากได้ และควรจะมีภาพเป็นเรฟเฟอร์เรนซ์ไปให้ช่างดูด้วยเพื่อที่จะได้เห็นภาพชัดเจนที่ตรงกัน และอย่าลืมบอกสิ่งที่เจ้าสาวชอบและไม่ชอบ ซึ่งไม่ต้องเกรงใจที่จะพูดในสิ่งที่เรารู้สึกนะคะ เพราะอย่าลืมว่าวันนั้นเป็นวันสำคัญของคุณและช่างทำผมเขาก็พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของคุณเสมอ เช่น หากเจ้าสาวอยากได้แบบเรียบหรู หรืออยากได้แบบฟุ้งๆ ดูชวนฝัน ก็บอกสิ่งที่ต้องการไปให้ชัดเจนเพื่อที่ช่างจะได้ต่อยอดจากภาพถ่ายและความคิดเหล่านั้นให้ออกมาเป็นทรงผมที่เข้ากับเจ้าสาวได้มากที่สุด และนอกจากการที่จะได้คุยกันเรื่องสไตล์แล้ว ในวันนั้นช่างทำผมยังจะได้เห็นสภาพเส้นผมของเจ้าสาวด้วยว่ามีความยาวและสีผมเป็นอย่างไร เหมาะกับการทำทรงผมที่เจ้าสาวต้องการหรือไม่ เพื่อที่จะได้ให้คำแนะนำกับเจ้าสาวได้อย่างถูกต้อง

จงเป็นตัวของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ

เจ้าสาวอาจจะเห็นแบบทรงผมมากมายจากเจ้าสาวรุ่นพี่ แต่อย่าลืมนะคะว่าแบบที่เราเห็นว่าสวยๆ นั้นบางทีอาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้ เพราะมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ต้องคำนึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความยาว สภาพเส้นผม หรือสีผม เป็นต้น และบางครั้งเจ้าสาวหลายคนเลือกที่จะเสริมแอคเซสซอรี่บางอย่าง หรือเลือกการต่อผมเพื่อที่จะให้ผมมีความยาวหรือหนาขึ้นพอที่จะทำผมตามแบบที่ต้องการได้ แต่บางครั้งสิ่งเหล่านั้นอาจกลายเป็นสิ่งที่น่าหงุดหงิดสำหรับเจ้าสาวในวันสำคัญ เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น แอคเซสซอรี่ประดับเพชรพลอยชิ้นงามเกิดหลุดหายไปหนึ่งเม็ด หรือช่อผมที่ต่อไว้ดันหลุดในวันงาน จากความสวยงามก็กลายเป็นพังพินาศได้ในพริบตา

เพราะฉะนั้นเราขอแนะนำให้คุณเป็นตัวของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด และจงให้ความเชื่อใจกับช่างทำผมเจ้าสาว ว่าเขาจะสามารถเนรมิตในสิ่งที่คุณมีแบบไม่ต้องเพิ่มเติมอะไรเข้าไป เพียงแค่เจ้าสาวบอกความต้องการที่อยู่ในใจออกมาให้หมด รับรองว่าช่างทำผมมืออาชีพที่คุณเลือกมาจะสามารถเสกให้เจ้าสาวสวยสมบูรณ์แบบโดยที่ไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง พร้อมๆ ไปกับได้ทรงผมในแบบที่เจ้าสาวต้องการและชื่นชอบได้อย่างแน่นอน เพราะคุณคงไม่อยากดูเป็นคนอื่นในวันสำคัญของตัวเอง จริงไหมล่ะคะ

ดูเรื่องความสวยความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : chrysalissalon.com, bridalmusings.com

5 เรื่องที่ควรกระซิบบอกแม่ๆ ก่อนปล่อยให้เลือกชุดไปงานแต่งลูก

account_circle

แปลกนะคะที่บ่าวสาวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องธีมการแต่งตัวของเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวมากมาย แต่กับคุณแม่ ซึ่งจริงๆ แล้วมีฐานะเป็นเจ้าภาพเช่นเดียวกับคุณกลับมีความงงกันตลอดว่า ต้องแต่งตัวยังไงดีจึงจะเหมาะกับ งานแต่งลูก วันนี้ แพรว wedding จึงสรุปมาให้ว่ามีเรื่องไหนบ้างที่คุณควรกระซิบบอกคุณแม่เพื่อเป็นแนวทางให้ท่านได้เตรียมชุดเหมาะๆ เพื่องานแต่งของคุณ


1. งานของคุณเป็นงานแบบทางการหรือไม่เป็นทางการ

เกริ่นบอกท่านสักหน่อยว่า ธีมงานของคุณเป็นแบบไหน แต่การบอกครั้งนี้ต้องใส่รายละเอียดด้วยนะคะ เพราะท่านไม่ได้โตมาในยุคเดียวกับคุณ งานแต่งงานในยุคของท่านกับยุคของคุณคนละแบบแน่นอน ดังนั้นอย่าบอกแค่ว่าคนเยอะหรือคนน้อยแล้วให้จินตนาการความเป็นทางการไปเอง แต่ให้เล่าคร่าวๆ ถึงพิธีการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นมีความเป็นทางการหรือบรรยากาศจริงจังแค่ไหน เพื่อท่านจะได้เลือกเสื้อผ้าที่ดูดี ใส่แล้วภูมิฐาน สมฐานะพ่อแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่จะยืนรับแขกคนสำคัญที่เชิญมาร่วมงาน

 

2. สถานที่จัดงานแต่งงานเป็นแบบไหน

จริงอยู่ที่ก่อนจะเลือกสถานที่จัดงานแต่งงาน หลายคู่ก็ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ แต่ก็มีหลายคู่เช่นกันที่พ่อแม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของคุณ ซึ่งนี่แหละเป็นเหตุผลที่คุณต้องแจ้งบอกกับท่านสักหน่อยว่า สถานที่ที่จะจัดงานแต่งงานเป็นแบบไหน เช่นงานนี้เป็นงานแต่งงานริมทะเลอารมณ์สบายๆ เป็นกันเอง ท่านจะได้ไม่ต้องสั่งตัดสูทหรือเดรสผ้าลูกไม้เนื้อดีลากกระโปรงชายยาวมาใส่บนพื้นทราย หรือถ้าเป็นงานแต่งในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นห้องขนาดไหน ก็บอกกันไปตรงๆ ให้รู้จะได้เตรียมชุดหรูให้เข้ากัน

 

3. ธีมสีของงานแต่งงาน

ในเมื่อคุณตัดสินใจเลือกกันมาอย่างคร่ำเคร่งจนได้ข้อสรุปแล้วว่า งานแต่งงานของคุณจะใช้สีธีมงานไหนเป็นหลัก ก็ควรจะแจ้งบอกท่านให้รู้เช่นเดียวกับที่บอกแขกและแก๊งเพื่อนบ่าวสาว อย่างน้อยเพื่อให้ท่านได้มีตัวเลือกในการตัดชุดมางานของคุณแคบลง และไม่เลือกแบบตามฉันจนโดดเด่นซะแขกเหรื่อเอาไปเม้าได้ว่า เป็นเจ้าภาพยังไม่แต่งตามธีม แล้วจะมาหวังอะไรให้แขกแต่งตามส่วนคุณพ่อแม้จะใส่สูทก็จะได้เลือกเนคไทเข้ากับสีธีมงานและเข้าคู่กับคุณแม่ยังไงละคะ

 

4. สีชุดของแก๊งเพื่อนเจ้าสาว

ข้อนี้ต้องบอกกับคุณแม่ของคุณให้จงได้ เพราะต่อให้คุณแจ้งบอกเรื่องธีมสีงานแต่งไปแล้ว แต่ต้องกระซิบบอกให้ท่านเลือกเฉดสีของชุดให้ต่างจากชุดเพื่อนเจ้าสาวนะคะ ก็แหม…ไม่ต้องบอกก็คงคิดภาพออกใช่ไหมว่าแขกจะตะลึงแค่ไหน ถ้าหันไปเจอคุณแม่บ่าวสาวใส่ชุดสีเดียวกันเป๊ะๆ กับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวทั้งแก๊ง

 

5. สีชุดของเจ้าสาว

แน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าสาวยึดสีขาวไปเป็นสีชุดแต่งงานแทบทั้งนั้น แต่อย่าลืมสิคะว่า สีขาวไม่ได้มีเฉดเดียว และยุคนี้ก็ไม่ได้จำกัดว่าชุดแต่งงานต้องมีสีขาวเสมอไป คุณอาจเลือกสีขาวงาช้างที่ไม่ใช่ขาวจั๊วะหรือบางนางเลือกชุดแต่งงานสีชมพูอ่อนไม่ก็สีแชมเปญตามเทรนด์ ฉะนั้นเวลาแจ้งบอกคุณแม่อย่าลืมคิดด้วยว่าคุณแม่ไม่ได้ตามเทรนด์ไปพร้อมๆ กับคุณนะคะ บางท่านอาจนึกว่าสีงาช้างมันเป็นเฉดสีขาวก็จริงแต่ออกไปทางเฉดขาวครีมๆ น่าจะใส่ได้ ซึ่งกลายเป็นว่าตรงกับขาวที่คุณเลือกเป็นชุดเจ้าสาวซะงั้น

หรือบางท่านอาจคิดเอาเองว่าลูกน่าจะใส่สีขาว งั้นตัดชุดสีชมพูอ่อนสื่อถึงความรักไปงานลูกดีกว่า แต่พอมาเจอกันหน้างาน อ้าว…ลูกสาวของแม่เลือกชุดเจ้าสาวสีชมพู แบบนี้เรียกว่าโป๊ะแตกยังกับแฝดซะงั้น

5 เรื่องง่ายๆ ที่แค่สละเวลากระซิบบอกท่านเอาไว้ อย่างน้อยเพื่อเป็นแนวทางให้ท่านได้ตัดสินใจเลือกชุดสวยๆ มาใส่ให้สมฐานะคุณแม่บ่าวสาว แล้วรับรองว่างานนี้ไม่มีดราม่าและไม่มีการว่ากันว่า ‘ทำไมคุณแม่ไม่ถามหนู’ หรือ ‘ทำไมลูกไม่บอกแม่ให้เสียอารมณ์’

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว และเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! 

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : marthastewartweddings.com

4 สไตล์ชุดแต่งงานไทยของว่าที่เจ้าบ่าว หล่อเป๊ะถูกใจคุณเจ้าสาว

account_circle

ส่อง 4 สไตล์ ชุดแต่งงานไทยเจ้าบ่าว

คุณว่าที่เจ้าบ่าวทั้งหลายคงไม่หนักใจเท่าไหร่สำหรับการเลือกชุดแต่งงานแบบสูทสากล แต่การเลือก ชุดแต่งงานไทย นี่สิที่ทำเอาหนุ่มๆ ทั้งหลายเกือบจะออกอาการเบ้ปาก เพราะใส่แล้วออกจะรู้สึกเก้ๆ กังๆ เคอะๆ เขินๆ เหมือนจะเดินไม่ถูก แต่แหม…ครั้งหนึ่งในชีวิตนะคะคุณขาที่จะได้ใส่อะไรที่เป็นไท๊ยไทยแบบนี้ เอาเป็นว่า เพื่อลดอาการเกร็งของคุณเจ้าบ่าว แพรว wedding มีแบบ ชุดแต่งงานไทยเจ้าบ่าว 4 สไตล์มาฝาก มั่นใจแบบไหนก็บอกสาวข้างกายแล้วจูงมือกันไปลองได้เลย

ชุดแต่งงานไทยชายแบบประยุกต์

ชุดแต่งงานไทยเจ้าบ่าว
ชุดแต่งงานไทย เจ้าบ่าว
ภาพจาก @margie_rasri

สำหรับว่าที่เจ้าบ่าวที่เจ้าสาวอยากให้ใส่ชุดไทย แต่อีกใจไอเราก็อยากดูดี ชุดแต่งงานไทยแบบประยุกต์ นี่แหละตอบโจทย์สุด เพราะตัวเสื้อช่วงบนหนุ่มๆ สามารถเลือกสวมสูทแบบสากลได้ โดยอาจจะเลือกเฉดสีที่ไปในทางเดียวกันกับธีมงาน หรือชุดแต่งงานไทยของเจ้าสาว ส่วนท่อนล่างก็อนุรักษ์ความเป็นไทยด้วยการนุ่งโจงกระเบน ที่เมื่อจับคู่กันแล้วได้ลุคที่ดูกึ่งทางการ ส่วนรองเท้าก็อาจจะเลือกเป็นรองเท้าหนังเฉดสีที่เข้ากันกับชุด หรือจะเลือกสวมเป็นสนีกเกอร์เหมือนหนุ่มป๊อกในรูปก็ได้นะ เท่ดีไปอี๊กกกกกก

ชุดแต่งงานแบบสูทสากล

ชุดแต่งงานไทย
ชุดแต่งงานไทย เจ้าบ่าว
ภาพจาก @Jakawinphotography

แต่ถ้าหนุ่มๆ คนไหนที่คิดว่ายังไงก็ไม่น่าจะรอดกับชุดแต่งงานไทยแบบเต็มยศ ก็อาจจะขออนุโลมการแต่งกายกับคุณพ่อคุณแม่ และเจ้าสาว โดยเปลี่ยนมาสวมเป็น ชุดสูทสากล แทน ยิ่งถ้าหากคุณเจ้าสาวเลือกสวมชุดแต่งงานไทยแบบประยุกต์ด้วยแล้ว บอกเลยว่ายังไง๊ยังไงก็เข้ากันได้ดีกับชุดสูทเต็มยศของว่าที่เจ้าบ่าวแน่นอน ส่วนเฉดสีนั้นก็อาจจะเลือกเป็นเฉดสีอ่อนลงมาหน่อย เช่น สีขาว สีเทา หรือสีครีมเป็นต้น

ชุดแต่งงานไทยแบบเต็มยศ

ชุดแต่งงานไทย
ชุดแต่งงานไทย เจ้าบ่าว
ภาพจาก @GorgaiPhotography

เสื้อราชปะแตน จับคู่กับผ้านุ่งโจงกระเบน นี่แหละลุคชายไทยที่แท้ทรู แถมยังเป็นสไตล์ชุดที่สามารถเข้ากันได้ดีกับชุดแต่งงานไทยของเจ้าสาวทุกแบบ ซึ่งเคล็ดลับการใส่ชุดแต่งงานไทยสไตล์นี้ให้รอดก็คือ การตัดเย็บเสื้อให้มีความพอดีกับรูปร่าง เพราะถ้าหากเสื้อใหญ่เกินไป เดี๋ยวจากเจ้าบ่าวจะกลายเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านไปไม่รู้ตัว ส่วนเฉดสีอาจจะเลือกให้เข้ากับสีของชุดเจ้าสาวเป็นหลัก เท่านี้ก็สวยหล่อแพ็คคู่แล้วจ้า

ชุดแต่งงานไทยแบบย้อนยุค

ชุดแต่งงานไทย
ชุดแต่งงานไทย เจ้าบ่าว
ภาพจาก FB Unfriend-The-Wedding / FB 21day

ชุดแต่งงานไทยสไตล์ย้อนยุคนิดๆ กับชุดไทยเสื้อราชปะแตนจับคู่กับผ้านุ่งโจงกระเบน แล้วเพิ่มเครื่องประดับอย่างผ้าผูกเอว เข็มขัด และสังวาลย์ ถึงจะดูเป็นลุคไทยแบบจัดเต็มแต่เมื่อแต่งออกมาแล้วก็ไม่เตร๊งเตรงเตร่งเตร๊งเป็นลิเกนะจ๊ะ เพราะหนุ่มเป๊กเปรมเขาพิสูจน์มาแล้วว่าลุคนี้หน่ะ ผ่าน!!

ติดตามไอเดียเกี่ยวกับชุดแต่งงานเจ้าบ่าวอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

นางงามจักรวาล

แชมป์เก่าไม่ธรรมดา สปป.ลาว ส่งช้างชมพู สู้ศึกการประกวด นางงามจักรวาล

Alternative Textaccount_circle
นางงามจักรวาล
นางงามจักรวาล

แชมป์เก่าไม่ธรรมดา สปป.ลาว ส่งช้างชมพู สู้ศึกการประกวด นางงามจักรวาล คอนเซ็ปต์ปกป้องปอดของโลก ชวนให้ผู้คนเห็นความสำคัญของป่าไม้ที่กำลังลดลง

สาวงามจากทั่วโลกได้เดินทางเข้ากองประกวด Miss Universe  2019 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัวแทนสาวไทย “ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น” ก็เป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก และเว็บไซต์ต่างๆ ก็ได้มีการคาดคะเนกันว่าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สคนล่าสุดอาจจะตกเป็นของตัวเต็งอันดับหนึ่งอย่างสาวไทย

และอีกหนึ่งมุมที่หลายคนจับตามองก็เป็นเรื่องของการประกวดในรอบชุดประจำชาติ (National Costume) ซึ่งแต่ละประเทศก็มีไอเดียที่แตกต่างกันออกไป เช่นของประเทศไทยที่นอกจากจะประกาศให้ชาวโลกรู้จักผีตาโขนแล้วยังนำวัสดุเหลือใช้มาเป็นธีมหลักในการเรียกคะแนนจากคณะกรรมการด้วย

และอีกหนึ่งประเทศที่ไม่จับตามองไม่ได้เลยคือแชมป์เก่า สปป.ลาว เพราะล่าสุดได้มีการปล่อยภาพชุดนี้ออกมาให้ได้ชมกันแล้ว โดยชุดนี้จะสวมใส่โดย “เม- วิจิดตา พอนวิไล” Miss Universe Laos 2019 เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยแห่งชาติพนมเปญ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาปริญญาโทในประเทศอังกฤษ

สำหรับโดยในการออกแบบชุดนี้จะโดดเด่นด้วยช้างซึ่งเป็นสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของ สปป.ลาว มีความงดงาม แข็งแกร่ง และใจดี เช่นเดียวกับผู้คน โดยที่คอของช้างจะถูกประดับด้วย “ดอกลีลาวดี” หรือชาวพื้นเมืองนิยมเรียกว่า “ดอกจำปา” ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติ ขณะที่บนหลังช้างจะมีภาพของ “พระธาตุหลวง” หรือ “เจดีย์โลกะจุฬามณี” ส่วนลวดลายบนตัวช้างนั้นมาจากเครื่องสานพื้นบ้านสื่อถึงเอกลักษณ์ของชนชาติได้อย่างลงตัว

นางงามจักรวาล

อย่างไรก็ตามไม่เพียงแค่การออกแบบที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ชุดนี้ยังนำเสนอและชวนให้ผู้คนได้เห็นความสำคัญของป่าไม้ซึ่งเป็นปอดของโลก ทั้งยังยกเหตุการณ์เกี่ยวกับไฟไหม้ป่าอเมซอน อันเกิดจากภาวะโลกร้อนซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกัน ไม่ว่าจะมาจากประเทศไหนเพื่อช่วยโลกของเรา เหล่าสัตว์และป่าไม้ไม่มีสามารถพูดได้ ดังนั้นเราจึงควรร่วมมือกันเพื่อเป็นกระบอกเสียงแทนสัตว์ป่า ป้องกันและอนุรักษ์สิ่งเหล่านี้

 

นางงามจักรวาล

นางงามจักรวาล

 


ภาพและขhอมูลจาก : May Vichitta Phonevilay – Miss Universe Laos 2019

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ความบังเอิญที่เหมือนพรหมลิขิต บี-มาติกา & กร ทายาทแห่งอาณาจักรซัมมิท

สูตรนี้ทำตามได้! ทริคหุ่นเป๊ะ ผิวสวยจาก “บิ๊นท์ สิรีธร” มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019

สวยทริปเปิล! “มิว – ไอซ์ – นาตาลี” 3 ว่าที่เจ้าสาวใน ปาร์ตี้สละโสด

 อดีตดาราเด็ก น้องแพรตาหวาน เข้าพิธีกับแฟนหนุ่ม “ตั้ม Take Me Out”

หวานพอไหม? พี่แอฟ – น้องต่อ คู่จิ้นข้ามรุ่นในละคร ” ขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ “

คู่จิ้นใหม่ “กองทัพพีค – เบลล่า” ให้รักพิพากษา DARE TO LOVE

เจาะลึก 4 ละครเข้ารอบสุดท้าย รางวัล Asian Academy Creative Awards 2019

นักแสดงและศิลปินไทย บิลลี่-ภัทรชนน ผู้เคยปฏิเสธโอกาสจากวงการบันเทิงเกาหลี

ฟ้าหลังฝน คิมอูบิน พระเอกเกาหลี ดีใจได้กลับมาพบแฟนคลับที่รักเขาอีกครั้ง

เวลคัมทูไทยแลนด์ บิ๊นท์-สิรีธร มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019 หอบมงกุฎกลับบ้านเกิด

หลากหลายไอเดีย ชุดประจำชาติ เตรียมขึ้นเวที Miss Universe 2019

 จบม. 6 สอบขับเครื่องบิน ตอบคำถามแบบ “ชาลี” ไม่ชอบเรียน แต่อย่าเลียนแบบผม!

ขั้วตรงข้าม ปราง-นวลวรรณ พรรณเชษฐ์ ลูกสาวคนเก่งของ มาดามแป้ง

ขั้วตรงข้าม ปราง-นวลวรรณ พรรณเชษฐ์ ลูกสาวคนเก่งของ มาดามแป้ง

น่ารักคิ้วต์ๆ “น้องเลิฟ” หลานรัก “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” แห่ง KING POWER

Domohorn Wrinkle Cream 20

หลบหน่อย…แม่มา!!!  ทำความรู้จัก DOMOHORN WRINKLE CREAM 20 ครีมคอลลาเจนอัดแน่นรุ่นบุกเบิก เจ้าของรางวัลแอนตี้เอจจิ้งเทคโนโลยี จาก PRAEW ICONIC BEAUTY 2019

Domohorn Wrinkle Cream 20
Domohorn Wrinkle Cream 20

คอลลาเจนครีมอีกแล้ววววเรอะ….ถามว่าโวยวายทำไมจ้ะพัดชา ก็สกินแคร์ประเภทคอลลาเจนพักหลังๆ มีอยู่มากมายล้นตลาด ซึ่งส่วนใหญ่ใช้แล้วก็รู้สึกชุ่มชื้นแค่ช่วงเริ่มแรก จากนั้นก็เริ่มรู้สึกงั้นๆ ไม่ต่างจากครีมทั่วไป อาจเป็นเพราะชนิดของคอลลาเจนที่ไม่มีความบริสุทธิ์แท้และมีปริมาณไม่เข้มข้นพอที่จะให้เห็นผลในระยะยาว

แต่ๆๆ พอพัดชาแกะกล่องผลิตภัณฑ์ที่เข้าประกวดจากงาน Praew Iconic Beauty 2019 มาเจอกับสกินแคร์ผสมคอลลาเจน Cream 20 จาก Domohorn Wrinkle  เท่านั้นแหละ รู้เลยว่าเพราะส่วนตัวพัดชาได้เคยร่วมบิวตี้ทริปกับแบรนด์นี้ที่เมืองคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น และได้เห็นถึงความจริงจังยิ่งใหญ่ เนี้ยบเป๊ะในทุกขั้นตอนของการคิดค้นและผลิตโปรดักส์จนต้องยอมใจ

รวมถึงความประทับใจจากการได้เห็นการดูแลลูกค้าอย่างมีไมตรีจิตของ ‘Pleaser’ พนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นที่แสนใจเย็นตามสไตล์ของชาวญี่ปุ่น ที่พร้อมให้คำปรึกษาปัญหาผิวและแนะนำสิ่งดีๆ ให้แก่ลูกค้าด้วยความจริงใจ เรียกว่าคุยกับลูกค้าอย่างสนิทสนมจนกลายเป็นเหมือนคนในครอบครัว

ได้สัมผัสจริงจนอินกับ ‘Domohorn Wrinkle’ ขนาดนี้เลยได้โอกาสแนะนำให้ทุกคนรู้จักชิ้นที่เป็น Best Seller ในระดับที่เคลมได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่มียอดขายอันดับ 1 ของญี่ปุ่นอย่าง ‘Cream 20’ กันสักหน่อย

เปิดตำนานสกินแคร์คอลลาเจนตัวแรกของญี่ปุ่น

แบรนด์ ‘Domohorn Wrinkle’ อาจจะใหม่ในประเทศไทย แต่เก่าแก่และมีแฟนหนาแน่นในประเทศญี่ปุ่น Cream 20 ตัวนี้ถูกพัฒนามายาวนานถึง 45 ปี จนปัจจุบันนับเป็นเวอร์ชั่นที่ 18 ซึ่งทรงอานุภาพสามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวแห่งวัยได้ครบทุกมิติในหลอดเดียว ที่ต้องเน้นย้ำคือเขาเป็นรายแรกในประเทศญี่ปุ่นที่เล็งเห็นถึงพลังอันล้ำเลิศของคอลลาเจนในการช่วยฟื้นฟูผิว เพราะฉะนั้นถามว่าใครเป็น ‘ต้นตำหรับ’ ของครีมคอลลาเจนก็ต้องผายมือมาทาง Cream 20 ตัวนี้เลยเชียว

ผิวเด้งสร้างได้ด้วยคอลลาเจนเน้นๆ จากปลาฮาโมะ

‘Domohorn Wrinkle’ เลือกใช้คอลลาเจนจากปลาฮาโมะ เพราะเป็นส่วนผสมที่มีคอลลาเจนบริสุทธิ์สูงช่วยในเรื่องความยืดหยุดเรียบเนียนและรักษาความชุ่มชื้นในผิวได้อย่างยาวนาน ผสมผสานกับคอลลาเจนจากปลามัตสึได ช่วยให้ผิวแข็งแรงยืดหยุ่น ไม่พ่ายแพ้ต่อการทำร้ายของรังสี UV ทำให้กลายเป็นครีมบำรุงที่มีปริมาณคอลลาเจนบริสุทธ์อัดแน่นถึง 20%

ส่วนผสมทรงคุณค่าที่คัดสรรมาด้วยใจ

นอกจากการอัดคอลลาเจนเข้าผิวแบบแน่นๆ Cream 20 ยังมีส่วนผสมที่ช่วยดึงพลังคอลลาเจนที่มีอยู่ในผิวให้ทำงานได้อย่างเต็มที่อย่าง ‘สารสกัดโสมขาวจากเทือกเขาฉางไป๋ซาน’ ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น ‘ราชาแห่งสมุนไพร’ ด้วยเป็นโสมหายากที่ใช้เวลาปลูกยาวนานถึง 7 ปี อาศัยการเติบโตท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ในป่าลึก บนเทือกเขาสูงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นส่วนผสมที่ราคาสูงมากกกก

อีกส่วนผสมสำคัญคือสารสกัดจากดอกชิรานุยคิคุ ดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ที่ช่วยปกป้องคอลลาเจนและยับยั้งโปรตีนตัวที่เร่งความชราของผิว จึงช่วยดูแลผิวในหลากหลายมิติทั้งเรื่องของริ้วรอย จุดด่างดำ และความเปล่งปลั่งสดใส

ตัวสุดท้ายคือเทคโนโลยีในการสกัดสารจากดอกทิวลิปที่ถูกทำให้มีอานุภาคเล็กจิ๋วและจับตัวกันในรูปแบบแคปซูล เพื่อเพิ่มเติมประสิทธิภาพให้ผิวคงความชุ่มชื้นยาวนาน ลดเลือนริ้วรอยและกระตุ้นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้ตามธรรมชาติ

อยากผิวใสให้เปิดหลอดสิคะ

ก่อนจะเปิดหลอดให้ดูต้องเท้าความก่อนว่า ผลิตภัณฑ์ของ Domohorn Wrinkle มีเพียงไลน์เดียว 8 ชิ้น ซึ่งมีวิธีใช้ค่อนข้างเฉพาะตัว Cream 20 นี้จะอยู่ในขั้นตอนที่ 6 หลังเอสเซ้นท์ แล้วต่อด้วยโลชั่น หากใช้ผลิตภัณฑ์จาก Domohorn Wrinkle แบบ Full Set ลองดูลำดับได้ตามนี้ค่ะ

  1. Oil-in-Gel Remover (1,800 THB)
  2. Silky Cream Foam (1,800 THB)
  3. Softening Foam Mask (4,200 THB)
  4. Intense Hydrator (1,800 THB)
  5. Vital White Essence (3,500 THB)
  6. Cream 20 (4,500 THB)
  7. Milky Veil Lotion (1,800 THB)
  8. UV Dress Cream (1,800 THB)

ส่วนใครอยากลองเฉพาะ Cream 20 ก็จัดตัวนี้ไว้ในขั้นตอนครีมบำรุงตามปกติได้ไม่ว่ากัน  แพคเกจจิ้งแบบหลอดดูเรียบง่ายตามสไตล์แบรนด์จากญี่ปุ่น เปิดหลอดแล้วบีบเนื้อครีม Cream 20 กะวัดตามความยาวของปากหลอดจะเป็นปริมาณที่พอเหมาะ แต้มผลิตภัณฑ์ลงบริเวณ 5 จุดคือ หน้าผาก ปลายจมูก แก้มทั้ง 2 ข้าง และคาง จากนั้นก็เกลี่ยเบาๆ จนทั่วใบหน้า

ประทับใจในความละมุน

ที่เลิฟเลยตั้งแต่บีบเนื้อสัมผัสคือความนุ่มนวลละมุนของเนื้อครีมสีขาวที่มีความบางเบาเกลี่ยง่าย ซึมซาบลงผิวได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องรอยาวนานสำหรับขั้นตอนถัดไป ความฟินอีกอย่างคือกลิ่นหอมแบบพฤกษาธรรมชาติไม่ต้องปรุงแต่ง ส่วนตัวคิดว่ากลิ่นแบบนี้ต่อให้เป็นคนที่ไม่ชอบกลิ่นหอมจากสกินแคร์อย่างที่สุดก็ยังรับได้ สำหรับพัดชาที่ชอบกลิ่นสกินแคร์อยู่แล้วนี่หลงรักเลย

ผลลัพธ์ผิวอิ่มฟู…ดูยังไงก็เด็กลง

ตลอดระยะเวลา 3 เดือนของการทดลองผลิตภัณฑ์ที่เข้าประกวด Praew Iconic Beauty 2019 Cream 20 ถือว่าให้ผลลัพธ์น่าพอใจจนเข้าวินมาเบอร์ต้นๆ ของหมวดแอนตี้เอจจิ้ง จากความรู้สึกที่ว่าผิวแข็งแรงขึ้น มีความสดใสยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์ลงจนมีคนทัก ไม่ใช่ตึงแบบน้องโบฯ นะจ๊ะ แต่เป็นความตึงขึ้นแบบฟูๆ เหมือนสมัยที่ผิวเรายังเด็ก 

ผลพลอยได้ที่สัมผัสอย่างชัดเจนคือผิวสามารถทนกับแสงแดดได้มากขึ้น หลังออกแดดยังคงความชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน บวกกับริ้วรอยที่เริ่มจางหายไปกลายเป็นความอิ่มฟู จนต้องยกรางวัลให้เป็น Iconic Innovative Anti-Aging Technology เป็นรางวัลแด่ความจริงจังจริงใจในการคัดสรรส่วนผสมและเทคโนโลยีมาเพื่อรังสรรค์ผิวพรรณให้อ่อนเยาว์อย่างแท้จริง

ผิวงี้…ฝากขอบคุณมาเลยค่ะ

สนใจทดลองใช้ได้โดยวิธีการลงทะเบียนรับผลิตภัณฑ์เซ็ตทดลอง ผ่านทางโทรศัพท์ได้ที่เบอร์โทร 02-260-2222
หรือเว็บไซต์  Domohorn Wrinkle และสามารถสัมผัสประสบการณ์ได้ด้วยตัวเองที่ “Domohorn Wrinkle Experience Space” ซอยสุขุมวิท 24 เบอร์โทรสำหรับนัดหมาย 02-258-5306

เรื่อง: Padcha_Praewnista

ภาพ: อิทธิศักดิ์ บุญปราศภัย

สไตลิสต์: UP_KAMPHOO

ผู้ช่วยช่างภาพ: ภาดร ขจรฤทธิ์/ กรพินธุ์ บุญส่งทรัพย์

MQDC ผนึก ททท. และสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ จัดงาน Beautiful Bangkok ต่อเนื่องปีที่ 3 ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ปักหมุดแลนด์มาร์คเคาท์ดาวน์แห่งใหม่ใจกลางเมือง

  • เนรมิตการแสดงแสงสีเสียงสุดยิ่งใหญ่ตระการตา บนโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ    บูเลอวาร์ด หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของย่านราชประสงค์ ให้เจิดจรัสประดับฟากฟ้ากรุงเทพฯ ฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี
  • เปิดการแสดงรอบปฐมฤกษ์ 16 ธันวาคมนี้ และจัดต่อเนื่องไปจนถึง 31 ธันวาคม 2562
  • จัดการประกวดภาพถ่ายที่แสดงถึงความสวยงามของงาน Beautiful Bangkok 2020: A Blossom of Happiness ที่รังสรรค์ให้กับกรุงเทพฯ ชิงรางวัลกล้อง Leica
  • พร้อมพบกับกิจกรรมความสนุกสนานมากมายทั้งย่านราชประสงค์ ฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เสริมความแข็งแกร่งกรุงเทพมหานครในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) ประกาศความพร้อมการจัดงาน “Beautiful Bangkok 2020การแสดงแสงสีเสียงสุดยิ่งใหญ่ตระการตา ที่จะเนรมิตอาคารโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ให้สว่างไสวสวยงามโดดเด่นบนฟากฟ้ากรุงเทพฯ โดยในปีนี้ใช้ชื่อการแสดงว่า “Beautiful Bangkok 2020: A Blossom of Happiness” ซึ่งมาพร้อมกับกิจกรรมอีกมากมาย ณ ลานหน้าโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี และมอบความสุขให้แก่ผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตอกย้ำความแข็งแกร่งของกรุงเทพฯ และประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวชั้นนำที่ครองใจคนทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเปิดการแสดงรอบปฐมฤกษ์วันที่ 16 ธันวาคม 2562 นี้ และจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า “งาน Beautiful Bangkok 2020: A Blossom of Happiness” จัดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการสื่อถึงความสุขและความปรารถนาดีที่เราต่างมอบให้กันอย่างจริงใจ  เปรียบเสมือนจิตใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขเบ่งบานสดใส เฉกเช่นดอกไม้ที่บานอยู่กลางใจของคนกรุงเทพฯ พร้อมส่งมอบความสุขสดใสให้แก่ นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาเยือนกรุงเทพฯ ผ่านการมอบช่อดอกไม้ช่อแรกของปีให้เป็นตัวแทนของความสุขและความปรารถนาดีสำหรับทุกคน โดยได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงอันอ่อนช้อยงดงามของดอกแมกโนเลีย ดอกไม้มงคลของไทย และดอกไม้นานาชาติอีกหลากหลายชนิด ซึ่ง MQDC ได้ทุ่มงบประมาณจัดกิจกรรม Beautiful Bangkok 2020: A Blossom of Happiness ในปีนี้ให้มีความยิ่งใหญ่และพิเศษมากกว่าปีก่อนๆ โดยในปีนี้ใช้เทคโนโลยี AI ล้ำสมัย และการแสดงแสงสีตระการตาจากทีมสร้างสรรค์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น บนตึกโครงการ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ความสูง 60 ชั้น ที่ออกแบบอย่างสวยงามอ่อนช้อยจากแรงบันดาลใจของกลีบดอกแมกโนเลีย เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญที่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของย่านราชประสงค์”

งาน Beautiful Bangkok 2020: A Blossom of Happiness มีกำหนดจัดแสดงรอบปฐมฤกษ์ ณ โครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ในวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2562 เวลา 18.00 – 21.00 น. และจะเปิดการแสดงรอบประชาชนทั่วไปในวันที่ 17 – 31 ธันวาคม 2562 เวลา 18.00 – 23.00 น. โดยในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะจัดการแสดงจนถึงเวลา 24.00 น. นอกจากนั้น ในปีนี้ MQDC ยังจัดให้มีกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น The Wonder Flower Land ณ บริเวณลานหน้าโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่การแสดงแสงสีแบบ Interactive ด้วยเทคโนโลยี AI สุดล้ำจากประเทศญี่ปุ่น ที่จะทำให้ทุกคนสนุกสนานไปกับการแสดงแสงสีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างแท้จริง โดยมาจากจังหวะการเต้นของหัวใจและชีพจรของแต่ละบุคคล ทำให้ผู้ร่วมงานแต่ละคนได้ภาพแห่งความประทับใจของตัวเองโดยเฉพาะและไม่ซ้ำกับใคร ทั้งนี้ MQDC ได้จัดรถรับส่ง Beautiful Bangkok Free Shuttle เส้นทางราชดำริ – พระราม 4 – สยาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยวในย่านราชประสงค์ และมาร่วมมีความสุขที่งาน Beautiful Bangkok ได้อย่างสะดวกสบาย

 

นอกจากนั้น ยังได้จัดให้มีกิจกรรมประกวดภาพถ่ายจากงาน Beautiful Bangkok 2020: A Blossom of Happiness โดยเฟ้นหาภาพที่แสดงให้เห็นถึงความสวยงามที่งาน Beautiful Bangkok ณ อาคารแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด มอบให้กับกรุงเทพฯ มีองค์ประกอบภาพ และการถ่ายทอดความสวยงามออกมาได้อย่างน่าประทับใจและสร้างสรรค์ที่สุด ตัดสินการประกวดโดย MQDC ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยภาพที่ได้รับการคัดเลือกว่าสวยงามที่สุด 3 อันดับแรก จะมอบให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำไปผลิตเป็นโปสการ์ดโปรโมทการท่องเที่ยวประเทศไทยต่อไป และผู้ชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับกล้อง Leica 1 รางวัล

MQDC ในฐานะสมาชิก RSTA มีความยินดีและภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความงดงามให้กับฟากฟ้ากรุงเทพฯ ผ่านการจัดงาน Beautiful Bangkok ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 แล้ว อันเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เราสร้างสรรค์ความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนแก่ผู้อยู่อาศัยและสังคมรอบข้าง (For All Well Being) รวมทั้งกิจกรรมดังกล่าวนี้ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ และประเทศไทย โดยในปีที่ผ่านๆ มาได้รับการความสนใจจากชาวกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากร่วมชื่นชมความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตาของการแสดงแสงสีเสียง ซึ่งสามารถรับชมได้จากหลากหลายมุมและหลากหลายสถานที่ของกรุงเทพฯ อันมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ให้คึกคักได้เป็นวงกว้าง” นายวิสิษฐ์ กล่าว

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “กรุงเทพมหานครและประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ครองใจผู้คนทั่วโลก เอาชนะเมืองชั้นนำในหลายประเทศทั่วโลกติดต่อกันมาตลอดหลายปี ด้วยความหลากหลายของแม็กเน็ตด้านการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของนักเดินทางทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม ซึ่งงาน Beautiful Bangkok 2020: A Blossom of Happiness จะเป็นอีกหนึ่ง  attraction ที่สำคัญ และน่าตื่นเต้นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี ช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงสุดท้ายก่อนสิ้นปี ซึ่งคาดว่าเฉพาะช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองความสุขส่งท้ายปี จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมากกว่าทุกปี โดยในปีนี้ภาครัฐมีนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตั้งเป้าเติบโตขึ้นกว่าจากปีก่อน”

นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ กล่าวว่า “ย่านราชประสงค์เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการค้าที่สำคัญกลางใจเมือง มีผู้คนหมุนเวียนในแต่ละวันกว่า 600,000 คน และคาดว่าจะเพิ่มมากกว่า 50% เป็น 900,000 คน ในช่วงไฮซีซั่น โดยการจัดงาน Beautiful Bangkok ใน 2 ปีที่ผ่านมา เป็นแม็กเน็ตสำคัญที่ช่วยดึงดูดผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากให้เข้ามาในย่านราชประสงค์ โดยในปีนี้ ผู้ประกอบการต่างๆ ในย่านราชประสงค์ต่างเตรียมพร้อมในการจัดกิจกรรมมากมาย เพื่อร่วมผนึกกำลังสร้างสรรค์ความสนุกสนานและความน่าดึงดูดใจ ตอกย้ำความแข็งแกร่งของย่านราชประสงค์ในฐานะจุดหมายปลายทางด้านช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาค

ติดตามรอบการแสดง “Beautiful Bangkok 2020: A Blossom of Happiness” และกติกาประกวดภาพถ่ายได้ที่ www.mqdc.com หรือ https://www.facebook.com/mqdcforallwellbeing/

“โชรส์เบอรี กรุงเทพ-ซิตี้ แคมปัส” เปิดตัวหลักสูตรระดับโลก เพื่อเด็กวัยแรกเรียน

วัยเด็กเป็นวัยที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งการเรียนรู้ จึงนับเป็นช่วงเวลาของการสร้างรากฐานที่มั่นคง เพื่อการเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต ดังนั้นนอกจากความรักและการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องจากพ่อแม่ผู้ปครองแล้ว การศึกษาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กๆ 

จากคำกล่าวของ ศ.ดร.เจมส์เจ เฮกแมน นักเศรษฐศาสตร์ รางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ ที่ว่า“การลงทุนพัฒนาเด็กปฐมวัย เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าให้ผลตอบแทนแก่สังคมดีที่สุดในระยะยาว” ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการเลือกโรงเรียนที่มีคุณภาพให้กับลูกหลาน

งานนี้ แพรวดอทคอม จึงมีข่าวดีมาฝากสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่กำลังมองหาโรงเรียนคุณภาพเกรดดีเยี่ยมและมีมาตรฐานระดับสากล เพราะล่าสุด โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ-ซิตี้ แคมปัส โรงเรียนระดับอนุบาลและประถมศึกษาแห่งแรกของโลก ได้เปิดตัวหลักสูตร Design, Engineer, Construct (DEC) ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาจากประเทศอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก มุ่งเน้นพัฒนาทักษะการเรียนรู้ตามความสนใจ ด้านการออกแบบ วิศวกรรม และการสร้างสรรค์โครงการ ให้กับเด็กวัยแรกเรียน

ดังนั้น โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ-ซิตี้ แคมปัส จึงนับเป็นโรงเรียนแห่งแรกของไทยที่นำหลักสูตรระดับสากลนี้มาใช้ในการเรียนการสอนเด็กวัยแรกเรียนเลยทีเดียว ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการส่งเสริมพัฒนาการและศักยภาพของผู้เรียนอย่างรอบด้านตั้งแต่แรกเริ่ม อีกทั้งเป็นการสานต่อความสำเร็จในฐานะโรงเรียนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

อแมนดา เดนนิสสัน และ เคที่ ฮอลแลนด์

สำหรับหลักสูตร Design, Engineer, Construct (DEC) ซึ่งเน้นพัฒนาทักษะด้านการออกแบบ วิศวกรรม และการสร้างสรรค์โครงการ เป็นหลักสูตรที่มีการคิดค้นและต่อยอดให้เหมาะกับเด็กวัยแรกเรียน โดยเด็กๆ จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการได้รับการวางรากฐานอย่างเหมาะสม และได้รับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในอนาคตตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์แบบมีเหตุผล การคิดอย่างสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาต่างๆ และทักษะการทำงานเป็นทีม

ทั้งนี้ อแมนดา เดนนิสสัน ครูใหญ่ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ-ซิตี้ แคมปัส ได้พูดถึงการเปิดตัวหลักสูตร Design, Engineer, Construct (DEC) ไว้ว่า “โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ-ซิตี้ แคมปัส ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมพัฒนาการและศักยภาพของเด็กๆ อย่างรอบด้าน และเริ่มตั้งแต่วัยแรกเรียน เพราะซึบซับได้ดีกว่า เราจึงได้นำหลักสูตร DEC จากประเทศอังกฤษ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลก มาใช้ในการเรียนการสอนสำหรับเด็กอนุบาลและประถมศึกษาเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและในโลก เป็นการเปิดมิติใหม่ทางการเรียนรู้ให้แก่เด็กๆ และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับเส้นทางอาชีพในสายงานสถาปนิก วิศวกรรมศาสตร์ และการสร้างสรรค์โครงการ โดยเน้นการลงมือปฏิบัติโครงการที่มีความยั่งยืนและการทำเวิร์คช็อป ควบคู่ไปกับการเรียนรู้วิธีนำคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน และการต่อยอดทักษะด้านภาษา การอ่านและการเขียน ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการทำรายงาน การนำเสนอ และการโต้ตอบ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้สำรวจความคิดที่ท้าทายบริบททางสังคม ผ่านตัวอย่างและโครงการที่นำมาสอนภายใต้สภาพแวดล้อมที่กำหนดขึ้น ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาให้กับเด็กๆ”

“ครูผู้สอนเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการนำหลักสูตรคุณภาพมาใช้ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เราจึงได้แต่งตั้ง เคที่ ฮอลแลนด์ ซึ่งเป็นครูผู้ชำนาญการด้านการออกแบบและเทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษ มารับตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาการออกแบบและนวัตกรรมเทคโนโลยี (Design and Technology Innovation Leader) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาสำคัญสำหรับนักเรียนตั้งแต่ชั้น Year 1 และการนำหลักสูตร DEC มาใช้จะทำให้การเรียนการสอนด้านการออกแบบและเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จับต้องได้ และมีความเชื่อมโยงกับผู้เรียนมากขึ้น”

ส่วน เคที่ ฮอลแลนด์ ได้กล่าวเสริมว่า “หลักสูตร DEC จะช่วยให้เด็กนักเรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มากขึ้น จากการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและเทคโนโลยีตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ประยุกต์ การคิดเชิงวิเคราะห์และสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม ความกล้าเสี่ยง และความสามารถในการปรับตัว เป็นต้น ซึ่งช่วยพัฒนารูปแบบการคิด รวมถึงส่งผลต่อไปถึงพฤติกรรมและการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน ดังนั้นการนำหลักสูตรดังกล่าวนี้มาใช้ในการเรียนการสอนเด็กตั้งแต่วัยแรกเรียนย่อมมีประโยชน์ต่อพัฒนาการมากที่สุด”

นอกจากนี้ อแมนดา เดนนิสสัน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “โชรส์เบอรีให้ความสำคัญอย่างมากกับช่วงอายุ 7-8 ปี หรือชั้น Year 3 เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีความสำคัญอีกช่วงหนึ่ง เพราะถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโต ดังนั้นรูปแบบการเรียนการสอนสำหรับเด็กชั้นปีนี้ โชรส์เบอรีจึงเน้นให้มีความเฉพาะทางและเป็นระเบียบแบบแผนมากขึ้น เพื่อให้เด็กๆ ได้นำทักษะและความรู้ที่ได้จากการเรียนในชั้นปีก่อนๆ มาใช้ในการพัฒนาต่อยอดการมีส่วนร่วม การสร้างแรงบันดาลใจ การคิดวิเคราะห์ และการดูแลตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น ซึ่ง Year 3 ที่โชรส์เบอรี เด็กๆ จะได้เริ่มสวมเสื้อเชิ้ต ผูกเน็คไท และใส่รองเท้านักเรียน เริ่มย้ายห้องเรียนจากชั้นล่างขึ้นไปอยู่ชั้นบน เริ่มได้ใช้พื้นที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงเรียนมากขึ้น และเริ่มได้รับมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันที่ช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้และสัมผัสได้ถึงการเติบโตขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเปิดโลกทัศน์และโอกาสทางการเรียนรู้ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เด็กมีความพร้อมและประสบความสำเร็จในการศึกษาระดับที่สูงขึ้นในอนาคต”

“อีกทั้งจากการศึกษาวิจัยพบว่า หากต้องการพัฒนาทักษะด้านภาษาของบุตรหลานให้ดีเทียบเท่ากับเจ้าของภาษานั้นๆ ควรเริ่มต้นก่อนอายุ 10  ปี ซึ่งตรงกับแนวทางการเรียนการสอนที่ ซิตี้ แคมปัส ซึ่งให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษโดยครูผู้สอนจากประเทศอังกฤษ และการผนวกหลักสูตรภาษาไทยและภาษาจีนกลางที่ดีที่สุดเข้าไปในการเรียนการสอนตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนจะมีทักษะภาษาอังกฤษที่เป็นเลิศ และสามารถใช้ภาษาไทยและภาษาจีนกลางได้อย่างคล่องแคล่วแตกฉาน ทั้งทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนชั้น Year 3 ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้ด้านภาษา โดยจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทยและภาษาจีนกลางมาร่วมวางแผนการเรียนการสอนกับครูประจำชั้นอย่างใกล้ชิด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของประโยชน์ที่เด็กๆ จะได้รับจากการเริ่มต้นศึกษาในหลักสูตรนานาชาติตั้งแต่อายุยังน้อย แทนที่จะรอจนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ซึ่งอาจจะสายเกินไปสำหรับการสร้างพัฒนาการที่สมบูรณ์” 

ทั้งหมดนี้คือวิสัยทัศน์ที่อัดแน่นด้วยคุณภาพของ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ-ซิตี้ แคมปัส โดยเฉพาะหลักสูตร Design, Engineer, Construct (DEC) ที่ออกแบบมาเพื่อเด็กวัยแรกเรียน ซึ่งน่าจะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองตัดสินใจเลือกโรงเรียนที่ดีที่สุดให้กับเด็กๆ ได้ง่ายขึ้น 

หากพ่อแม่ผู้ปกครองสนใจนำลูกหลานมาสมัครเรียน ก็สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมหรือลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม Open House ของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ-ซิตี้ แคมปัส เพื่อเยี่ยมชมบรรยากาศการเรียนการสอน และพูดคุยกับครูใหญ่รวมทั้งบุคลากรอย่างใกล้ชิดได้ทางเว็บไซต์ www.shrewsbury.ac.th/city

ผิวแห้ง

ลมหนาวมาแล้ว! ขอแชร์ 5 วิธีดูแลผิว ไม่ให้หยาบกร้าน แห้งเหี่ยว จนเกินเยียวยา

Alternative Textaccount_circle
ผิวแห้ง
ผิวแห้ง

ปัญหาผิวแห้ง นอกจากจะสร้างความรำคาญ เพราะอาการคันยิบๆ กวนใจเราแล้ว รู้หรือไม่ว่าหากปล่อยไว้ไม่ หา วิธีดูแลผิว จะส่งผลเสียกับผิวในอนาคตได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นเราควรมาทำควรรู้จักกับเรื่องของ “ผิวแห้ง” ให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ทราบ วิธีดูแลผิว และ รักษาอย่างถูกวิธี

เริ่มจาก ลักษณะอาการของผิวแห้ง (Xerosis) คือ ผิวจะดูไม่สดใส หยาบกร้าน สัมผัสแล้วไม่นุ่มนวล อาจมี ผิวแห้งลอกเป็นขุย แตกลอกออกมาเป็นแผ่นให้เห็นได้ ซึ่งเมื่อเกิดผิวแห้งแล้ว ในระยะสั้น จะทำให้เกิดอาการคัน ไม่สบายเนื้อสบายตัว หากเป็นมากๆ อาจมีปัญหาผิวหนังอักเสบตามมา และนอกจากนี้พบว่า ผิวที่แห้งดัน มีการอักเสบ และการเกานั้นมีความเสี่ยงที่จะพบการติดเชื้อบนผิวหนังได้มากขึ้นอีกด้วย ส่วนในระยะยาว คนที่มีผิวแห้งนั้น พบว่าจะมีความเสี่ยงของการเกิดริ้วรอยเที่ยวย่นก่อนวัยได้มากกว่าคนที่มีผิวมันอีกด้วย

สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้ผิวแห้ง

อาทิ อาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีความชื้นต่ำ หรืออยู่ในบริเวณที่มีอากาศหนาว สัมผัสกับแสงแดดมากกว่าปกติ และสัมผัสน้ำ สบู่ สารลดแรงตึงผิวบ่อยๆ เช่น การล้างมือหรืออาบน้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำร้อน

วิธีดูแลผิว

ส่วนบุคคลที่มีความเสี่ยงที่จะมีผิวแห้งมากกว่าคนปกติ ได้แก่

  • คนสูงอายุ เนื่องจากในคนสูงอายุจะมีการลดลงและมีการแปลงแปลงของอัตราส่วนของไขมันในชั้นหนังกำพร้า รวมทั้งผิวหนังเองมีความสามารถในการกักเก็บความชุ่มขึ้นได้น้อยลง เนื่องจากมีการลดลงของสารให้ความชุ่นชื้นตามธรรมชาติ (natural moisturizing factor NMF) ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มขึ้นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
  • โรคผิวหนังบางชนิดที่มีความผิดปกติในพันธุกรรม ทำให้ผิวมีความแห้งมากกว่าปกติ เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis), โรคหนังเกล็ดปลาบางชนิด (cthyosis vulgaris) เป็นต้น
  • โรคประจำตัว หรือสภาวะทางร่างกายบางประเภท เช่น โรคเบาหวาน, โรคไต, ผู้ที่มีการทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ, ภาวะขาดสารอาหาร เป็นต้น

วิธีดูแลผิว

5 วิธีดูแลผิว แห้งให้เนียนนุ่ม

  1. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นประจำ เช่น petrolatum, urea, ceramide, lactic acid เป็นต้น
  2. การทำความสะอาดผิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว มีความเป็นด่างต่ำ อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรซ์เซอร์ร่วมด้วยเพื่อทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
  3. อุณหภูมิของน้ำที่ใช้ในการอาบ ควรเป็นน้ำอุณหภูมิปกติหรืออุ่นเพียงเล็กน้อย ไม่ควรใช้น้ำร้อน
  4. หลีกเลี่ยงการฟอก ขัดผิว อื่นๆ โดยเกินความจำเป็น หากผิวแห้งมากอาจไม่จำเป็นต้องฟอกสบู่ทั้งตัว แต่ให้เลือกทำการฟอกบริเวณที่อับขึ้น หรือบริเวณที่ผิวมีการผลิตน้ำมันเยอะแทน เช่น ซอกพับต่างๆ หน้าอกเป็นต้น
  5. กรณีที่ผิวแห้งก่อให้เกิดการอักเสบของผิว แพทย์จะพิจารณาการให้ใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ในระยะสั้น เพื่อลดการอักเสบ และอาการคัน ควรใช้ยาในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสม และควรใช้ควบคู่กับครีมให้ความชุ่มชื้น เพื่อลด โอกาสการกลับมาเป็นซ้ำอีก

 


ขอบคุณข้อมูลจาก : พญ. นุชจรินทร์ เตกะจรินทร์ ร.พ.สมิติเวช
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รู้ไว้ก่อนอย่ารอให้ผิวแห้ง! 6 วิธีดูแลผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่หยาบกร้าน

ชุบชีวิตหนังศีรษะแห้งลอกด้วยทรีทเมนต์จาก “SUBLIMIC’ เพราะผมก็เหมือนผิวที่ต้องบำรุง

ทำทุกวันได้ผล! 20 ข้อ Do & Don’t สำหรับคนอยากผิวขาว

HOW TO แต่งหน้ากลบสิว และเทคนิคแต่งหน้าอย่างไร ไม่ให้สิวเห่อ!!

แค่ดูแลผิวให้ถูก! 7 วิธีจบปัญหา ผิวแห้ง หยาบกร้าน ให้นุ่มชุ่มชื้นขึ้น

ทำทุกวันได้ผล! 20 ข้อ Do & Don’t สำหรับคนอยากผิวขาว

HOW TO แต่งหน้ากลบสิว และเทคนิคแต่งหน้าอย่างไร ไม่ให้สิวเห่อ!!

5 วิธีรักษาสิวหัวช้าง แบบเบื้องต้นด้วยตัวเอง นอกจากอย่าแกะ เกา ควรทำตามนี้

ส่องเทรนด์เสริมความงาม เพราะยุคนี้แค่สะบัดแปรงแต่งหน้าอย่างเดียวอาจไม่พอ

“เมนูอาหารบำรุงผิว” ที่ผู้หญิงต้องมีไว้ในลิสต์ และเพื่อวันนั้นของเดือน!

รู้งี้กินนานแล้ว 4 ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก ช่วยทั้งเรื่องสุขภาพและความอ่อนเยาว์

เปิด สูตรลดน้ำหนัก ด้วยวิธีธรรมชาติ ช่วยลด 18 โลได้ในเวลาไม่นาน

 

 

 

นาฬิกามิโด

มิโด ออกนาฬิกาคอลเล็คชั่นพิเศษ ส่งท้ายปีเก่า พร้อมแนะทริคเลือกของขวัญปีใหม่

นาฬิกามิโด
นาฬิกามิโด

แบรนด์เรือนเวลาหรู ‘มิโด’ (Mido) ร่วมเติมความสุขส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยนาฬิกาคอลเล็คชั่นสุดพิเศษ พร้อมแนะนำเทคนิคการเลือกของขวัญรับเทศกาลปีใหม่

ก้าวเข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่จะได้อยู่ร่วมกันกับคนที่เรารัก ซึ่งแน่นอนว่าการมอบของขวัญแสนพิเศษให้กันและกัน ย่อมช่วยเติมเต็มบรรยากาศอันแสนอบอุ่นช่วงสิ้นปีได้อย่างแน่นอน ที่ล่าสุดแบรนด์เรือนเวลาหรูสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ ‘มิโด’ (Mido) ร่วมเติมเต็มความสุขมอบแก่เหล่าหนุ่มสาวส่งท้ายปีกับ 4 เรือนเวลาคอลเล็คชั่นสุดโดดเด่น อาทิ ‘บารอนเชลลี่ เทอโน เลดี้’ (Baroncelli Tonneau Lady), ‘บารอนเชลลี่ เลดี้ เดย์ แอนด์ ไนท์’ (Baroncelli Lady Day & Night), ‘คอมมานเดอร์ บิ๊ก เดท’ (Commander Big Date) และ‘มัลติฟอร์ท ดูล ไทม์’ (Multifort Dual Time) พร้อมแนะนำเทคนิคการเลือกนาฬิกาเป็นของขวัญรับเทศกาลปีใหม่

เนื่องในโอกาสพิเศษส่งท้ายปีนี้ แบรนด์ ‘มิโด’ (Mido) ขอแนะนำเรือนเวลาคอลเล็คชั่นสุดโดดเด่นอย่าง ‘บารอนเชลลี่ เทอโน เลดี้’ (Baroncelli Tonneau Lady) นาฬิกาสำหรับผู้หญิงที่เผยโฉมรูปแบบใหม่สวยล้ำสมัยด้วยเส้นโค้งที่สื่อถึงความอ่อนไหวเช่นเดียวกับผู้หญิง นาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมกับการออกแบบที่ประณีตแลดูโฉบเฉี่ยวตามแบบฉบับคอลเล็คชั่นบารอนเชลลี่ เฮอริเทจ (Baroncelli Heritage) ด้านตัวเรือนเคลือบด้วย PVD สีโรสโกลด์ ขอบตัวเรือนสองชั้นช่วยเผยให้เห็นหน้าปัดสีขาวเด่น พร้อมประดับด้วยเพชรสิบสองเม็ดแทนหลักชั่วโมงเพิ่มความหรูหรา ด้านหลังตัวเรือนโค้งมนได้รับการดีไซน์ให้เข้ากับสรีระข้อมือของผู้หญิง ส่วนหน้าปัดปิดทับด้วยกระจกแซฟไฟร์ทนแรงกระแทกและรอยขีดข่วน พร้อมขับเคลื่อนด้วยกลไกที่ได้รับมาตรฐานจาก COSC.

ต่อมาที่คอลเล็คชั่น ‘บารอนเชลลี่ เลดี้ เดย์ แอนด์ ไนท์’ (Baroncelli Lady Day & Night) นาฬิกาสำหรับหญิงสาวที่มีคอนเซ็ปต์หนึ่งเรือนเวลาที่สะท้อนได้ถึงสามอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นสุขุม ภูมิฐาน หรือหรูหราอย่างเหนือระดับ ถูกผสมผสานให้อยู่ในนาฬิกาเพียงเรือนเดียวเพียงแค่ปรับเปลี่ยนสายตามไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ ได้แก่ สายหนังสีดำแบบกึ่งด้านที่เหมาะสำหรับหญิงสาวผู้ต้องการความเรียบโก้และน่าเชื่อถือ

ต่อมาที่สายหนังสีแดงเคลือบแลคเกอร์ให้แวววาวขึ้น เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่ต้องการนาฬิกาดีไซน์หรูสำหรับใส่ออกงาน และสายผ้าลวดลายซาตินสีเทา ซึ่งเหมาะสำหรับเวิร์คกิ้งวูแมนที่ชื่นชอบความเรียบง่ายและมีไลฟ์สไตล์ที่คล่องตัว โดยสายทั้งสามรูปแบบนี้สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับตัวเรือนทรงกลมสแตนเลสสตีล ซึ่งถูกสร้างสรรค์ให้ลงตัวกับชุดหน้าปัดสีขาวมุก พร้อมลวดลายสวยสะดุดตาบนหน้าปัด อีกทั้งยังเพิ่มการประดับเพชรในตำแหน่งตัวเลข 3, 9 และ 12 ซึ่งช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้นาฬิการุ่นดังกล่าวได้เป็นอย่างดี รวมถึงการติดตั้งกลไกรหัสคาร์ลิเบอร์ 80 ที่มีกำลังสำรองสูงถึง 80 ชั่วโมง

ถัดมาที่คอลเล็คชั่นสำหรับผู้ชาย คอมมานเดอร์ บิ๊ก เดท’ (Commander Big Date) นาฬิกาออโตเมติกอันสง่างามที่ยังคงงานดีไซน์ตามแบบฉบับของรุ่นคอมมานเดอร์ไม่เสื่อมคลาย ด้วยหน้าปัดขนาดใหญ่ ที่มีจุดบอกเวลาเป็นตัวเลขแบบขีด และมีช่องบอกวันที่ตรงบริเวณเลข 6 ของหน้าปัด ผลิตโดยช่างทำนาฬิกาชั้นสูงที่ผสานกลไกทรงประสิทธิภาพด้วยพลังงานสำรองยาวนานกว่า 80 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับกลไกนาฬิกามาตรฐานทั่วไปที่มีระยะเวลาเพียง 42 ชั่วโมง

ปิดท้ายที่ ‘มัลติฟอร์ท ดูล ไทม์’ (Multifort Dual Time) เรือนเวลาสำหรับนักเดินทาง ที่มาพร้อมกับกลไกระดับสุดยอดของแบรนด์ Caliber 80 ให้พลังงานสำรองยาวนานกว่า 80 ชั่วโมง ด้านตัวเรือนทรงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร ผ่านการขัดแต่งด้วยลวดลายซาตินขัดเงาให้สัมผัสที่แข็งแกร่ง เคลือบด้วย PVD สีโรสโกลด์เพิ่มความหรูหรา เสริมลุคให้ดูเคร่งขรึมและภูมิฐานด้วยลวดลายบนหน้าปัดแบบเจนีวา สไตรป์ (Geneva Stripes) สีดำแอนทราไซต์ที่วางตัวในแนวตั้งซึ่งสื่อถึงสายเคเบิลที่รองรับน้ำหนักและการสั่นสะเทือนที่ถูกขึงอยู่บนสะพานข้ามอ่าวซิดนีย์ พร้อมชุดเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีมีการตกแต่งแบบไดมอนด์-คัต ขัดแต่งลวดลายซาติน และตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกาบนหน้าปัดถูกออกแบบให้เป็นช่องแสดงวันที่ พร้อมลูกเล่นที่เพิ่มหน้าปัดอีกหนึ่งไทม์โซนเหมาะกับนักเดินทาง ปิดครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ทนแรงกระแทกและรอยขีดข่วน พร้อมเคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้ง 2  ด้าน ปิดทับฝาหลังแบบใสสามารถมองเห็นกลไกการทำงานได้

นอกจากนี้ทางแบรนด์ ‘มิโด’ (Mido) ยังได้แนะนำเทคนิคการเลือกนาฬิกาเป็นของขวัญรับเทศกาลปีใหม่นี้ เริ่มที่เรือนเวลาที่เหมาะกับหนุ่มสาวนักธุรกิจ ที่ต้องการลุคที่ดูภูมิฐาน มีความน่าเชื่อถือเป็นสำคัญ นาฬิกาที่เหมาะสำหรับเป็นของขวัญแก่หนุ่มสาวนักธุรกิจ ควรเลือกเป็นนาฬิกาดีไซน์คลาสสิกสามารถสวมใส่เข้ากันได้ดีกับทั้งชุดสูทหรือชุดเดรส อย่างสายสแตนเลสตีลแบบต่อข้อ หรือสายหนังโทนสีดำหรือสีน้ำตาล ส่วนด้านตัวเรือนอาจจะเลือกหน้าปัดวงกลม หรือหน้าปัดสี่เหลี่ยมก็ดูเหมาะสม สำหรับมอบให้สาวๆ อาจเลือกที่มีเพชรตกแต่งประดับหน้าปัดช่วยเสริมลุคเพิ่มความหรูหรามากยิ่งขึ้น

ต่อมาที่หนุ่มสาวมินิมอล การเลือกนาฬิกาเป็นของขวัญสำหรับหนุ่มสาวสายมินิมอลนั้น สามารถเลือกเป็นนาฬิกาที่มีดีไซน์เรียบๆ โทนสีเบสิก อย่างสีขาวหรือสีดำ อาจจะเลือกเป็นสายหนังเรียบ หรือสายผ้าสีพื้น ที่มีหน้าปัดทรงกลมแบนขนาดพอดีกับข้อมือ เพราะจะไม่ทำให้นาฬิกาโดดเด่นกว่าเสื้อผ้าได้

ถัดมาที่หนุ่มสาวนักเดินทาง ควรจะเน้นเลือกนาฬิกาที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นเป็นอันดับแรก เช่นหน้าปัดที่สามารถบอกได้ถึง 2 ไทม์โซนที่เหมาะสำหรับเดินทาง กลไกมีความทนทาน ได้รับมาตรฐานการรับรองจาก COSC. ต่อมาอาจจะเลือกดีไซน์ตัวเรือนที่เน้นความคลาสสิกเหนือกาลเวลาในโทนสีเข้ม และอาจเลือกเป็นสายหนัง หรือสายสแตนเลสสตีลที่เหมาะกับการมิกแอนด์แมทช์เข้ากับเสื้อผ้าทุกสไตล์ได้อย่างลงตัว

 

 

เอส แอนด์ พี ฉลอง 46 ปี ส่งความสุขแบบไทยๆ ในเทศกาลปีใหม่ 2563

กรุงเทพฯ 28 พฤศิจกายน 2562 – บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) จัดงานฉลองครบรอบ 46 ปี เอส แอนด์ พี  ส่งความสุขแบบไทยๆ ในเทศกาลปีใหม่ 2563 ที่จะมาถึง ด้วยการจัดโชว์เค้กอลังการ ผสมผสานความเป็นไทย พร้อมขนทัพสินค้าของฝาก ของขวัญมาให้เลือกสรร โดยมีภัทรา ศิลาอ่อน ประธานกรรมการ บมจ. เอส แอนด์ พี ซินดิเคท และทยา ทีปสุวรรณ ร่วมเปิดงานในวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ณ ลานเวิร์กแอนด์เพลย์ ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม 9

วิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “งานฉลองครบรอบ 46 ปี จัดขึ้นเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าที่ให้การสนับสนุนเอส แอนด์ พี ด้วยดีเสมอมา โดยในงานได้นำสินค้าของฝาก ของขวัญ มาให้ลูกค้าเลือกสรรในราคาสุดพิเศษ ทั้งเค้ก คุกกี้ แฮมเปอร์ นอกจากนี้ภายในงานยังได้สืบสานวัฒนธรรมความเป็นไทย ด้วยการจัดงานในรูปแบบที่สะท้อนถึงความสุขแบบไทยๆ     ทั้ง 4 ภาค เพื่อให้ลูกค้าได้ชื่นชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีการแสดงต่างๆ ในแต่ละวัน ซึ่งจะมีศิลปินหมุนเวียนมามอบความสุขแบบไม่ซ้ำ อาทิ หนามเตย กบ สุวนันท์ –น้องณดา-น้องณดล ปุณณกันต์ และอินทัช ฤกษ์เย็น งานนี้ เอส แอนด์ พี ได้ตั้งใจมอบความสุขส่งท้ายปลายปีให้กับทุกคน อยากให้มีความสุขแบบไทยๆ กลับบ้านกันไป และส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนที่คุณรักและปรารถนาดีร่วมกันอย่างแท้จริง”

ภัทรา ศิลาอ่อน และทยา ทีปสุวรรณ ร่วมกันตีกลองสะบัดชัยในพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ตามธรรมเนียมประเพณีไทย จากนั้นร่วมพูดคุยสนทนาประวัติความเป็นมาของเอส แอนด์ พี พร้อมเรื่องราวความประทับใจและความผูกพันจากดาริกา ปุณณกันต์ และทยา ทีปสุวรรณ พร้อมด้วยมณีสุดา ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร มาบอกเล่ากิจกรรมและความพิเศษภายในงานที่แตกต่างจากโปรโมชั่นหน้าร้าน

กิจกรรมภายในงานพบกับบูธสินค้าราคาพิเศษมากมาย อาทิ สินค้าเค้ก คุกกี้ และแฮมเปอร์คอลเล็คชั่น ปี 2020 เพื่อต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง เครื่องดื่มบลูคัพ ขนมอบ แซนวิช อบสดใหม่ทุกวัน กิจกรรมแต่งหน้าเค้ก D.I.Y การแสดงโชว์ศิลปะ  4 ภาค และพบกับศิลปินที่จะมามอบความสุขกันตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน  – 1 ธันวาคม 2562 อาทิ อินทัช ฤกษ์เย็น หนามเตย สะแบงบิน ครอบครัวปุณณกันต์ กบ สุวนันท์ – ณดา – ณดล ตามลำดับ พร้อมอลังการกับเค้กมาสเตอร์พีซ “S&P Cake Story มหัศจรรย์ของดี 4 ภาค” สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยในแต่ละภาค ในรูปแบบงานแอนนิเมชั่น  2 มิติขนาด 1,500 ปอนด์   สูง 1.50 เมตร  พิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะที่นี่ที่เดียว งานจัดตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2562 ณ ลานเวิร์กแอนด์เพลย์ ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม 9

บรรจุภัณฑ์คอลเล็คชั่น 2020 ออกแบบโดยนำเสนอลวดลายสะท้อนความสุขแบบไทยๆ ทั้ง 4 ภาค นอกจากนี้ยังลายดอกไม้ไทย อาทิ ดอกคัลทียา ดอกกล้วยไม้ เป็นต้น ในกล่องรูปแบบต่างๆ อาทิ กล่องคุกกี้ลายหมอนขิด กล่องคุกกี้กระปุกออมสิน กล่องคุกกี้หนังสือ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยเอส แอนด์ พี คำนึงถึงการออกแบบที่สามารถนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ให้คุ้มค่ามากกว่าแค่สะสมเพื่อความสวยงามอีกด้วย

เอส แอนด์ พี ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้า เมื่อซื้อเค้ก 1 ปอนด์ขึ้นไป จำนวน 2 จาน รับส่วนลดทันที 20% ซื้อคุกกี้ 4 กระป๋องฟรีอีก 1 กระป๋อง  (สินค้าแถมราคาที่เท่ากันหรือต่ำกว่า) สำหรับลูกค้าสมาชิก S&P Joy Card รับส่วนลด 15% เมื่อซื้อเค้กและคุกกี้ เริ่ม 1 ธันวาคม 2562 – 10 มกราคม 2563 เฉพาะร้านเอส แอนด์ พี ที่ร่วมรายการ งดร่วมรายการกับรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ และบริการจัดส่งถึงบ้าน 1344 

keyboard_arrow_up