17 เหตุผลที่คนเลือก นอกใจแฟน มันทั้งน่าตกใจและชวนใจสลายมาก!

account_circle

ปัญหา นอกใจแฟน เป็นปัญหาระดับสากลโลกที่มีอยู่ในทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว และทุกเพศ

จากข้อมูลของสมาคมที่ปรึกษาปัญหาครอบครัวและชีวิตคู่แห่งอเมริการะบุว่า กว่า 60% ของคู่ชีวิตทั้งหมด ล้วนเคยประสบปัญหาคู่ครองนอกใจ อย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงชีวิตแต่งงาน

เห็นตัวเลขสูงเกินกึ่งแล้วก็อย่าเพิ่งตาโต ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเพียงตัวเลขประมาณขั้นต่ำ เนื่องจากว่าไม่ใช่ทุกคนจะยอมรับว่าตนเองหรือคู่ครองของตนเคยนอกใจกันมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อยังมีกลุ่มคนที่มีแนวความคิดว่าแค่พูดคุย คบหากับ “กิ๊ก” ไม่เรียกว่าเป็นการนอกใจแต่อย่างใด เพราะยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันซะหน่อย

จะว่าไปมุมมองต่อปัญหานอกใจนี้ก็เข้าข่าย คนทำไม่ได้คิด(มาก) แต่คนที่ถูกกระทำ(ไม่ได้ทำ) ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน กลับคิดและต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ถึงจะเป็นการนอกใจแบบไม่มีเพศสัมพันธ์มาเกี่ยวข้อง แต่ความรุนแรงของมันก็ไม่ต่างอะไรกับการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ และเป็นการบ่งบอกว่า “คู่ของเรา” ได้ตัดสินใจลาออกจากชีวิตคู่แล้ว

เพราะการนอกใจในรูปแบบนี้สามารถทำลายความสัมพันธ์ได้ยิ่งกว่าการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ ค่าที่มันสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองได้มากกว่าการยอมรับตรง ๆ ว่านอกใจเสียอีก

เนื่องด้วยมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการหลอกลวงนี้เกิดขึ้นอย่างจงใจ ซึ่งถือเป็นหัวใจของการทรยศเลยทีเดียว โดยผู้หญิง 88% จะให้ความสำคัญกับการที่คู่ครองคบหากับคนอื่นมากกว่าการที่คู่ครองมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากกว่าคำตอบของฝั่งผู้ชายถึง 2 เท่า

แล้วทำไมเมื่อรู้ว่าผลของการนอกใจสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองเพียงใดแล้ว คนจำนวนมากถึงยังเลือก นอกใจแฟน กันอีกล่ะ?

17 เหตุผลชวนใจสลายต่อไปนี้ อาจทำให้คุณที่ผ่านพบประสบการณ์แย่ๆ เข้าใจถึงสาเหตุมากขึ้น

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม
Photo: @nathan_mcb on Unsplash

1.คนที่นอกใจเป็นพวกหลงตัวเองและต้องการย้ำเตือนความสำคัญของตัวเองไม่มีที่สิ้นสุด

คนประเภทนี้มักจะค้นหาเป้าหมายใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ตัวเองยังรู้สึกมั่นใจอยู่ จึงมีอาการเหมือนเสพติดการเป็นคนสำคัญที่ต้องการให้คนอื่นคอยช่วยย้ำเตือนความสำคัญของตนเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะแท้จริงแล้วคนประเภทนี้รู้สึกไม่มั่นใจและมีความมั่นใจในตัวเองต่ำ มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าสำหรับคนพวกนี้ในการหาคนอื่นมาคอยชื่นชมตัวเองแทนที่จะเผชิญหน้ากับความไม่มั่นใจที่คอยหลอกหลอนตัวเองอยู่

2.คนที่นอกใจมีปัญหาในการควบคุมความต้องการของตนเอง

สัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาความบกพร่องในการควบคุมความต้องการของตนเองนั้นคือการเสพติด “ความสุข” จากสิ่งต่าง ๆ เช่น สุรา อาหาร หรือการพนัน มากเกินไป ซึ่งการนอกใจก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของปัญหานี้เช่นกัน แม้แต่เรื่องที่ดูเล็กน้อยอย่างการให้ท่าแบบไม่มีพิษภัยหรือการคบหาที่ไปไกลกว่าคำว่า “เพื่อน” ก็ส่งผลให้คนเหล่านี้ต้องปกปิดความผิดอย่างเลี่ยงไม่ได้

3.คนที่นอกใจเชื่อว่าการมีกิ๊กเป็นเรื่องที่ถูกต้องสำหรับตนเอง

คนประเภทนี้ชอบอ้างว่า “มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร คนเรามีชีวิตเพื่อเติมเต็มความต้องการเป็นธรรมชาติ” และข้ออ้างนี้ก็ถูกใช้สร้างความชอบธรรมให้กับพฤติกรรมของคนประเภทนี้ พร้อมกับเหตุผลอีกสารพัดว่าทำไม “เพื่อน” คนนี้หรือการมีคนอื่นถึงสำคัญกับชีวิตของเขา และการคบซ้อนแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์แต่อย่างใด

ที่สำคัญคนประเภทนี้ยังเชื่อจริง ๆ อีกว่า ตัวเอง “ไม่ได้เจ้าชู้” และพร้อมจะหาเหตุผลสารพัดมายืนยันตัวเอง ซึ่งเหตุผลอย่างหนึ่งก็คือรายได้ของคนที่นอกใจมากพอที่จะไปมีคนอื่นได้

4.คนที่นอกใจเชื่อว่าตัวเองเป็นคนดีและไม่คิดว่าพฤติกรรมของตนเป็นเรื่องผิด

คนประเภทนี้เชื่อว่าการนอกใจที่เป็นความผิดหมายถึงการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตนเท่านั้น และในเมื่อเขาไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องรู้สึกผิดอะไรกับการทำกิจกรรมอื่น ๆ และคิดเพียงแค่ว่าคู่ของตนนั้นคิดมาก ขี้หึง กลัวถูกทิ้ง หรือเจ้ากี้เจ้าการน่ารำคาญ ฯลฯ

คนประเภทนี้จะชอบย้ำว่าตัวเองไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะ “ทำผิด” (คือแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น) แต่จะเพิกเฉยกับการกระทำอื่น ๆ ที่ก็ถือเป็นการนอกใจทั้งหมด

5.คนที่นอกใจปฏิเสธใครไม่เป็น

คนประเภทนี้มองว่าตนเองเป็นที่พึ่งสำคัญของคนอื่น ไม่ว่าจะเพราะคนอื่นที่ว่านี้ต้องการ “ความช่วยเหลือ” หรือเพราะตัวคนที่นอกใจต้องการรู้สึกเป็นคนสำคัญอยู่ลึก ๆ ก็ตาม

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม
Photo: @naveenkumar on Unsplash

6.คนที่นอกใจไม่ชอบให้คู่ครองคอย “บงการชีวิต”

คนประเภทนี้มักล้มเหลวในการสื่อสารความต้องการของตนเองอย่างถูกวิธี จึงคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่คือการต่อสู้เพื่ออิสรภาพในชีวิต ทั้งที่แท้จริงแล้วก็ยังติดอยู่กับการถูกบงการ ด้วยการไม่ยอมอ่อนข้อให้กับคู่ของตน คนประเภทนี้ก็เพียงแค่แสดงให้คู่ของตนเห็นว่าขอบเขตของการควบคุมอยู่ตรงไหนเท่านั้น

7.คนที่นอกใจโตมาในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการนอกใจ

คนประเภทนี้อาจมีญาติพี่น้องที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกันและไม่คิดว่าการนอกใจเป็นเรื่องผิด เมื่อค่านิยมในครอบครัวคือการป้องกันตัวอย่างไร้ความรับผิดชอบและแก้ปัญหาด้วยการโยนความผิด ไม่รับผิด มีความเชื่อผิด ๆ และไม่ยอมรับความจริง คนประเภทนี้ก็ย่อมมีพฤติกรรมไม่ต่างกัน

8.คนที่นอกใจไม่พอใจคู่ของตนเองแต่ไม่แสดงออก

คนประเภทนี้ไม่สามารถแสดงความรู้สึกของตน (โดยเฉพาะความรู้สึกแง่ลบ) ออกมาได้ และมักตามใจคนอื่นเพื่อหลีกหนีปัญหา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าที่จะแสดงตัวเป็น “คนดี” แล้วแอบไปหาที่เติมพลังที่อื่น

9.คนที่นอกใจรู้สึกผิดหวังในความสัมพันธ์หรือในตัวคู่ครอง

คล้ายกับเหตุผลก่อนหน้า คนประเภทนี้จะไม่แสดงออกตรง ๆ เมื่อความโกรธขึ้นมา คนประเภทนี้จะไม่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นความผิดหวังในแง่ของชีวิตคู่ที่ไม่เหมือนฝัน หรือคู่ครองที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม การแสดงออกถึงความรู้สึกแง่ลบกับคู่ครองของตนโดยตรงก็ดูจะเสี่ยงเกินไปสำหรับคนประเภทนี้

10.คนที่นอกใจกลัวการผูกมัด

การผูกมัดเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนประเภทนี้ ที่แม้จะใจใฝ่หาแต่ก็หวาดกลัว มันจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะหามือที่ 3 มาผสมโรงแทนที่จะพูดคุยกับคู่ของตนตรง ๆ คนประเภทนี้จะทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ลึกซึ้งและเลือกที่จะคบหาแบบปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยความกลัวว่าจะเป็นฝ่ายถูกทิ้ง คนประเภทนี้จึงมักเตรียมทางออกไว้เพื่อให้ตัวเองไม่เสียความรู้สึก เพราะการเป็นฝ่ายทิ้งย่อมรู้สึกดีกว่า

11.คนที่นอกใจเคยพบว่าพ่อแม่ของตนก็นอกใจ

ประสบการณ์แบบนี้ทำให้คนประเภทนี้มองว่าการนอกใจเป็นเรื่องธรรมดา ชีวิตคู่ที่ดีนั้นเป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับคนประเภทนี้ คนกลุ่มนี้จึงทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับคนอื่นได้อย่างไม่มีกาลเทศะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการนอกใจเช่นกัน

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม
Photo: @etonesabina on Unplash

12.คนที่นอกใจกำลังอยู่ในห้วงทุกข์ของความสูญเสีย

คนประเภทนี้ยังมีใจกับคนรักเก่า (อาจจะเป็นคู่ที่เสียชีวิตไปแล้ว คู่ที่เลิกรากันไป หรือแม้แต่รักแรก) ทำให้คนประเภทนี้ไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์ใหม่เมื่อเทียบกับคนเก่าที่ยังอยู่ในใจ

13.คนที่นอกใจมีคู่ครอง(หรือลักษณะความสัมพันธ์)ที่ไม่ตอบสนองความคาดหวัง

คนประเภทนี้อาจมีคู่แต่งงานที่จริงจังและหัวโบราณจนน่าเบื่อ ก็เลยเลือกที่จะไปตีสนิทกับคนอื่นที่สนุกสนาน มีสีสัน และอิสระมากกว่า คนประเภทนี้มักรู้สึกเก็บกดเวลาอยู่กับคู่ครอง แต่จะรู้สึกมีอิสระในการเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่กับชู้รัก และการได้ปลดปล่อยตัวตนที่เก็บซ่อนไว้ก็เป็นเรื่องที่รู้สึกดีเสียด้วย

14.คนที่นอกใจใฝ่หาความรู้สึกสดใหม่

คนประเภทนี้ต้องการความรู้สึกสดใหม่ในชีวิตที่หาไม่ได้จากที่บ้าน

15.คนที่นอกใจต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

คนประเภทนี้เหนื่อยกับการทำตัวเป็นคนดีตลอดเวลา จึงอยากทำเรื่องไม่ดีเพื่อปลดปล่อยตัวเองบ้าง ซึ่งก็เป็นข้ออ้างที่คนประเภทนี้มักเอามาใช้

16.คนที่นอกใจชอบมีความลับ

การมีความลับนั้นเย้ายวนใจและให้ความรู้สึกว่าเป็นฝ่ายมีอำนาจเหนือกว่าในความสัมพันธ์ คนประเภทนี้อาจจะชอบมีความลับตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นนิสัย

17.คนที่นอกใจเป็นพวกไม่ยอมโต

ไม่ว่าจะความรู้สึกว่าอยากเป็นเด็กตลอดไป หรือความไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตของตัวเองแบบผู้ใหญ่ก็ทำให้คนประเภทนี้เลือกที่จะหนีความจริง ทุกความสัมพันธ์ล้วนมีอุปสรรคแต่คนประเภทนี้จะตัดสินใจหนีมากกว่าเผชิญหน้ากับปัญหา

แต่ไม่ว่าคู่ของคุณจะนอกใจคุณเพราะสาเหตุใด การเข้าใจที่มาที่ไปของเขาก็ไม่ใช่เพื่อจุดมุ่งหมายให้คุณ “ยอม” อยู่ตกอยู่ในสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่มันควรจะเป็นความเข้าใจที่อยู่บนพื้นฐานว่าคุณจะหาทางออกให้กับปัญหาการนอกใจนี้ในทิศทางใด

ให้เวลาเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรรม หรือเดินจากมา

Bangkok Art Biennale 2020

“กรมสมเด็จพระเทพฯ” เสด็จฯเปิดงาน Bangkok Art Biennale 2020 เป็นการส่วนพระองค์

Alternative Textaccount_circle
Bangkok Art Biennale 2020
Bangkok Art Biennale 2020

“กรมสมเด็จพระเทพฯ” เสด็จฯเปิดงาน เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ Bangkok Art Biennale 2020 (BAB 2020)

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 เวลา 17.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงาน เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ Bangkok Art Biennale 2020 (BAB 2020) เป็นการส่วนพระองค์ ณ ชั้น 15 อาคาร The Parq (พระราม 4)

"กรมสมเด็จพระเทพฯ" เสด็จเปิดงาน Bangkok Art Biennale 2020 เป็นการส่วนพระองค์

โดยมี นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในนามประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งมูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่, นางปภัชญา สิริวัฒนภักดี, นายปณต สิริวัฒนภักดี, ม.ล.ตรีนุช สิริวัฒนภักดี, ศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ประธานอำนวยการและผู้อำนวยการศิลป์ บางกอกอาร์ต เบียนนาเล่, นายนิติกร กรัยวิเชียร กรรมการมูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ และคณะผู้จัดงานเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ

"กรมสมเด็จพระเทพฯ" เสด็จเปิดงาน Bangkok Art Biennale 2020 เป็นการส่วนพระองค์

เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ Bangkok Art Biennale 2020 (BAB 2020) เป็นงานที่มีหัวเรือใหญ่อย่าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผสานความร่วมมือครั้งสำคัญจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุกๆ 2 ปี เพื่อสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัย บอกเล่าความเป็นไทยไปทั่วโลก ถือเป็นโครงการสำคัญที่ทำให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวที่สำคัญทางด้านศิลปะร่วมสมัยในอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นจุดหมายของนักเดินทางผู้รักงานศิลปะจากทั่วโลก

"กรมสมเด็จพระเทพฯ" เสด็จเปิดงาน Bangkok Art Biennale 2020 เป็นการส่วนพระองค์

เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ Bangkok Art Biennale 2020 (BAB 2020) ชวนเสพงานศิลป์วิถีใหม่ New Normal กับผลงานศิลปะกว่า 200 ชิ้น โดย 82 ศิลปินชั้นนำทั่วโลก จาก 35 ประเทศ รวม 5 ทวีป ที่จะมาสร้างความอลังการและความยิ่งใหญ่ให้กับวงการศิลปะไทย กับแนวคิดหลักสุดท้าทาย “Escape Routes” หรือ “ศิลป์สร้าง ทางสุข” ที่จะนำมาจัดแสดงบน 10 สถานที่สำคัญใจกลางกรุงเทพมหานครได้แก่ เดอะ ปาร์ค, BAB BOX, เดอะ พรีลูด โครงการวัน แบงค็อก จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2563 และจะเปิดแสดงเพิ่มในพื้นที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร, วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร, หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร, ล้ง 1919, มิวเซียมสยาม และ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก โดยจะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2563 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564

"กรมสมเด็จพระเทพฯ" เสด็จเปิดงาน Bangkok Art Biennale 2020 เป็นการส่วนพระองค์

ทั้งนี้ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในนามประธานกรรมการ และผู้ก่อตั้งมูลนิธิ  บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ได้กล่าวว่า “การจัดงานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 ถือเป็นการตอกย้ำความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของมูลนิธิบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ที่จะใช้พลังสร้างสรรค์ของเหล่าศิลปินระดับโลกทั้งไทยและต่างประเทศจากทุกทวีปทั่วโลกมาช่วยส่งเสริม และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมในรูปแบบของการจัดเทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติถึงแม้ทั่วโลกจะเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2020  แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนไทย ประเทศไทยถือว่าสามารถบริหารจัดการควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่แสดงให้ทั่วโลกได้มั่นใจในศักยภาพของประเทศไทยของเรา

“ศิลป์สร้าง ทางสุข” หรือ Escape Routes ที่เป็นแนวคิดหลักของการจัดงานครั้งนี้ คณะกรรมการบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ได้เล็งเห็นว่าช่วงเวลาของปี 2020 คือการขึ้นทศวรรษใหม่ที่ท้าทาย ซึ่งองค์การสหประชาชาติประกาศว่าเป็น “ทศวรรษแห่งการลงมือทำ” หลังจากการประกาศ 17 เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนมา 5 ปี ซึ่งกระตุ้นความตื่นตัวในเรื่องการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน รวมทั้งการตื่นตัวของบริษัทในตลาดทุนในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก ที่เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ที่สามารถทำคะแนนได้สูงขึ้นในทุกปี แต่โลกของเราก็ยังมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่นำมาซึ่งความกังวลใจร่วมกัน เช่น ปัญหาทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และโดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ก็เป็นสิ่งเตือนใจให้กับคนทั่วไปในความใส่ใจในสุขภาพทั้งของตนเองและสุขภาพของโลกของเราที่ถือเป็นเรื่องสำคัญ   มูลนิธิบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ จึงตั้งใจที่จะกำหนดแนวคิดหลักของงานให้เป็นการกระตุ้นศิลปินที่เป็นนักคิดนักสร้างสรรค์ที่ร่วมมาแสดงผลงานครั้งนี้ จะร่วมสร้างสรรค์ชิ้นงานศิลปะในรูปแบบต่างๆ ที่ถ่ายทอดและกระตุ้นความคิดใหม่ๆ อีกทั้งสะท้อนถึงมุมมองจากสถานการณ์ปัจจุบัน แล้วจะชวนเรามองไปถึงอนาคตที่น่าอยู่ที่ยั่งยืนได้อย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่ชวนให้ติดตามชมเป็นอย่างยิ่ง

“ผมมีความยินดีขอเชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบหรือผู้ที่รักในงานศิลปะทั้งหลายได้ติดตามชมงานศิลปะระดับโลกที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ เพราะนี่คือความคิดสร้างสรรค์จากศิลปินระดับโลกนานาชาติ 51 ท่าน จาก 35 ประเทศ และ ศิลปินไทย 31 ท่าน รวมแล้วเรามีศิลปินถึง 82 ท่าน ซึ่งมากกว่างานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ที่จัดครั้งที่แล้วในปี 2018 ที่ผ่านมา การจัดงานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 ถือเป็นการตอกย้ำความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของ มูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ที่จะใช้พลังสร้างสรรค์ของเหล่าศิลปินระดับโลกทั้งไทย และต่างประเทศจากทุกทวีป ทั่วโลกมาช่วยส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ในรูปแบบของการจัดเทศกาล ศิลปะร่วมสมัย นานาชาติ”

“โดยในการจัดบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2018 นั้น จากสถิติที่ TCEB หรือสํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ที่ได้เก็บข้อมูลตลอดการจัดงานพบว่า มีนักท่องเที่ยวในเชิงศิลปวัฒนธรรมจากต่างชาติสูงถึง 1.44 ล้านคน ในระหว่างการจัดงาน และสามารถสร้างรายได้เพิ่มทางเศรษฐกิจสูงถึง 8 พันล้านบาท ในปี 2020 นี้ ถึงแม้ทั่วโลกจะเผชิญกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2020 แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนไทย ประเทศไทยเราถือว่าสามารถบริหารจัดการควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สําคัญที่แสดงให้ทั่วโลกได้มั่นใจในศักยภาพของประเทศไทยของเรา คณะจัดงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงาน บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 ครั้งนี้ จะมีส่วนส่งผลให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางศิลปะร่วมสมัยระดับโลก และช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว เสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างรายได้ในภาพรวมตั้งแต่ชุมชนคนรักศิลปะไปจนถึงเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในบริเวณโดยรอบของพื้นที่จัดงานได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว”


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

“กรมสมเด็จพระเทพฯ” ทรงรับการทูลเกล้าฯถวายรางวัล ผู้นำสตรีโลก 2563

ทรงเรียบง่าย “พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์” ทรงบำเพ็ญพระกุศลในวันคล้ายวันประสูติ

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงรับพระราชทานปริญญาบัตร ศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต

‘ไม่ขอเจ็บช้ำซ้้ำๆ ที่เดิม ขอปลีกวิเวก ไม่รับฟังเรื่องราวใดๆ’ ดูดวงรายวัน 15 ตุลาคม 2563

ดูดวงรายวัน 15 ตุลาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องเดินทางและการติดต่อ หรืองานประดิษฐ์ พวกเครื่องมือสื่อสาร หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ วันนี้ความสนิทสนมกับลูกน้องมากไป อาจทำให้คุณต้องแบกรับงานหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น จึงควรใช้ความรู้ ความสามารถ และเทคนิคเฉพาะบุคคล เพื่อเจรจาต่อรอง ประนีประนอม แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

การเงิน :  มีความสามารถในการทำงานหาเงิน แต่ก็ใช้เงินเก่งเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องการเข้าสังคม และการเดินทางท่องเที่ยว

ความรัก :  คุณขี้เบื่อ ยิ่งช่วงนี้งานเยอะ คุณให้เวลากับการทำงานมากกว่าครอบครัว จึงทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งห่างเหินกันขึ้นไปอีก หากได้โยกย้ายที่ทำงานก็ควรพาคู่ไปด้วย จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ เผื่อความรักจะสดชื่นขึ้น คนโสด  อารมณ์คุณไม่มั่นคงเปรียบเหมือนสายลม เปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก จนสามารถเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ

สุขภาพ :  โหมงานหนัก ควรระวังกิจกรรมที่ต้องเดินหรือยืนเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้คุณปวดเมื่อยตั้งแต่เอวลงมา กล้ามเนื้ออาจอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการใช้คำพูดหรือวาจาในการติดต่อสื่อสาร เช่น นักการทูต นักสื่อสารมวลชน ศิลปินดารา พิธีกร ฯลฯ รวมถึงพนักงานส่งเสริมการขายทุกประเภท วันนี้คุณอาจได้เดินทางไปทำงานหรือบุกเบิกตลาดใหม่ยังสถานที่ใหม่ๆ อาจเป็นต่างจังหวัด หรือได้ยวดยานพาหนะใหม่ ก็มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จด้วยดี ได้พบเจอคู่ค้าที่มีความจริงใจสามารถคบกันได้ในระยะยาว หากคุณประกอบสัมมาชีพด้วยความถูกต้องและซื่อสัตย์ก็จะเป็นความสำเร็จอย่างยั่งยืน

 

การเงิน : รายได้ส่วนใหญ่มาจากการเดินทางและการติดต่อ ซึ่งคุณควรพอใจในสิ่งที่ตัวเองหาได้ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ไม่ควรคาดหวังมากกว่านั้น เพราะอาจถูกหลอกจนเสียเงินเสียทอง

ความรัก :  หากคุณมีโครงการที่จะเดินทางโยกย้ายที่อยู่ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ วันนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมกะทันหัน เพราะคู่คุณอารมณ์ไม่ค่อยดี เดี๋ยวจะไป เดี๋ยวก็ไม่ไปอีกแล้ว   คนโสด คุณอาจได้เจอคนถูกใจระหว่างการเดินทาง มาแบบธรรมะสายแข็งเลยทีเดียว

สุขภาพ :  ระวังโรคลำไส้ ระบบย่อยอาหารและโรคกระเพาะ ซึ่งคุณเป็นพวกปล่อยวางเรื่องงานไม่ได้ง่ายๆ  จึงเพิ่มความเครียด และนอนไม่หลับเข้ามาด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานบุญงานกุศล หรือจิตอาสาทำประโยชน์เพื่อสังคม วันนี้คุณคาดหวังความสำเร็จอย่างแรงกล้ามาก แต่ก็จะมีปัญหาขลุกขลักเข้ามาตลอด ต้องระวังเอกสารทางราชการอาจผิดพลาด จนกลายเป็นคดีความ ทางที่ดีคุณอาจชวนเพื่อนสนิทผู้หญิงที่ไว้ใจได้ หรือผู้รู้ผู้มีประสบการณ์มาช่วยงานก็จะประสบความสำเร็จขึ้น

การเงิน : รายได้จะมาจากอำนาจและบารมี ดังนั้น รายจ่ายของคุณจึงอยู่ที่การเลี้ยงดูมิตรสหายและบริวาร เพื่อต่อยอดบารมี รวมถึงการทำบุญ บริจาคทรัพย์คืนกลับสู่สังคม

ความรัก : เป็นความรักความสัมพันธ์ในหมู่ญาติผู้หญิง ซึ่งครอบครัวคุณค่อนข้างมีกฎระเบียบที่เคร่งครัดตึงเป๊ะ จึงต้องระวังเรื่องทิฐิและความมั่นใจในตัวเองมากๆ เพราะทุกคนต้องการที่จะเอาชนะ ไม่เน้นการประนีประนอม   คนโสด หากคุณหลงรักเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิง ก็ต้องพยายามฝ่าด่านทางบ้านของเธอให้ได้

สุขภาพ :  ภูมิแพ้มาแล้วจ้า ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยจึงควรระวังระบบทางเดินหายใจจะทำงานไม่สะดวก ทำให้คัดจมูก จามถี่ๆ จนอาจเป็นไซนัส หรือเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานเอ็นเทอร์เทน เช่น เอ็นเทอร์เทนเนอร์ ศิลปินนักร้อง ดีเจ นักธุรกิจประกอบการสถานบันเทิง ฯลฯ วันนี้คุณอาจรู้สึกระแวง ไม่มั่นใจในงานที่ตัวเองทำ จนอยากไปเรียนต่อเพื่อเพิ่มพูนทักษะการทำงานในวิชาชีพให้แน่นขึ้น ก็นับว่าเป็นทางออกที่ดีค่ะ

การเงิน :  คุณมีรายได้จากงานประจำซึ่งไม่พอใช้ แม้จะได้งานจ็อบ รายได้สูงก็ตาม แต่หากคุณยังคงใช้เงินตามอารมณ์แบบนี้ หาเท่าไหร่ก็ไม่พอค่ะ

ความรัก : ต้องระวัง ประสบการณ์ที่เคยผิดหวังเก่าๆ จะย้อนกลับมา เพราะเขายังเลิกนิสัยเจ้าชู้ไม่ได้ จึงทำให้คุณเจ็บซ้ำๆ ที่เดิมจนอาจมาถึงจุดที่ขอตัวไปปลีกวิเวก ไม่อยากรับฟังเรื่องราวใดๆ คนโสด คุณไม่อาจทนรับความเจ็บปวดจากความรักได้อีกแล้ว จึงยังคงเป็นโสด อยู่กับครอบครัวดีกว่า

สุขภาพ : อวัยวะที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ มดลูก และอวัยวะในช่องท้อง ซึ่งหากคุณล้มป่วยจะมีอาการหนักถึงขั้นล้มหมอนนอนให้น้ำเกลือเลย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : เป้าหมายในการทำงานของคุณ ก็คือความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงาน ลาภยศ ชื่อเสียง เงินทอง ซึ่งคุณพยายามทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงจุดนั้น วันนี้เตรียมใจไว้เลยว่า จะมีปัญหาขลุกขลักเข้ามาตลอด เอกสารทางราชการอาจผิดพลาดจนกลายเป็นคดีความ ดังนั้น จึงควรเข้าทางผู้ใหญ่และคนใกล้ชิด เพราะเขาพร้อมจะสนับสนุนให้คุณได้เดินไปถึงเป้าหมาย

การเงิน : รายได้มาจากอำนาจและบารมี รวมถึงผู้ใหญ่ที่จะช่วยเหลือคุณไม่ให้เดือดร้อน ดังนั้น คุณจึงควรเลี้ยงดูปูเสื่อญาติสนิทมิตรสหายที่มีบุญคุณกับคุณอย่างดีด้วย

ความรัก :  คุณให้ความสำคัญกับการหาเงิน เพื่อแลกกับเครื่องอำนายความสุขสบายให้กับครอบครัว ดังนั้น คุณจึงค่อนข้างเอาแต่ใจและยึดติดความเป็นตัวเอง จนไม่สนใจความรู้สึกของคนรอบข้าง ต้องการเอาชนะมากกว่าการประนีประนอม คนโสด เอาแน่เอานอนอะไรกับคุณไม่ได้ค่ะวันนี้ อาจถูกใจข้าราชการหนุ่มรูปหล่อ หน้าที่การงานดี แต่แป๊บเดียวก็เปลี่ยนใจแล้ว

สุขภาพ : อวัยวะที่ต้องให้ความสำคัญอันดับหนึ่งคือ หัวใจ และโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจทุกชนิด รองลงมาคือ ความสามารถทางการมองเห็น อาจต้องเปลี่ยนแว่นใหม่ หรือลองไปวัดสายตาเตรียมใส่แว่น

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์คิดค้น หรือศิลปินผู้สร้างงานศิลปะ จนถึงนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังทดลองค้นคว้าวิจัยสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคม วันนี้คุณอาจถูกกดดันให้ต้องกระโดดเข้าสู่การแข่งขัน ในเรื่องของหน้าที่การงาน และผลประโยชน์อย่างรุนแรง รวมถึงอาจถูกบีบบังคับด้วยสัญญา ไม่ว่าจะสัญญาใจ หรือเอกสารสัญญา ให้ต้องทำงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ส่งผลให้คุณอึดอัดและคับข้องใจมาก จนคุณอาจหลุด คุมตัวเองไม่อยู่ อาจทุบโต๊ะกลางห้องประชุมเลยก็ได้

การเงิน :  จะมีเงินเข้ามาสม่ำเสมอ แต่ก็ไม่ถือว่ารวย เพราะส่วนมากเป็นเงินหมุน ใช้ไปกับการลงทุน ระวังถูกมิจฉาชีพหลอก ถูกโกง จนเสียเงินก้อนใหญ่

ความรัก : อาจต้องระวังปัญหาเรื่องมือที่สาม ซึ่งจะเข้ามาหลอกให้รักแล้วก็จากไปพร้อมๆ กับผลประโยชน์ โดยปล่อยให้คุณกับคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง เพราะเหมือนถูกหยามเกียรติและศักดิ์ศรี คนโสด คุณอาจถูกหลอกหรือกดดันให้คบกับคนที่คุณไม่ชอบ จนอาจมีปากเสียงทะเลาะกัน เพื่อหาทางออกจากสภาวะนี้

สุขภาพ :  ใจเย็นๆ นะคะ ความใจร้อนเป็นบ่อเกิดของอุบัติเหตุ ทั้งจากการขับขี่และการทะเลาะวิวาท ต้องระวังให้มากๆ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ทักษะและความสามารถส่วนตัวสูง เช่น ทหาร ตำรวจ นักการเมือง นักปกครอง ฯลฯ วันนี้คุณอาจต้องใช้แรงกาย แรงใจ เพื่อเอาชนะปัญหาและอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา เรียกว่าเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดเลยทีเดียว แต่ก็พอเบาใจได้ว่าผู้ใหญ่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนคุณเต็มที่ เพื่อนร่วมงาน และเจ้านายก็เมตตาเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ

การเงิน : หาเงินได้มากก็ใช้จ่ายมาก play hard & work hard ก็อย่าลืมดูแลให้ความช่วยเหลือญาติสนิทมิตรสหายด้วย

ความรัก :  คุณทำงานหนักหาเลี้ยงครอบครัว รวมถึงญาติผู้ใหญ่ ขณะที่คู่คุณเป็นนักเที่ยวนักดื่ม นักสังสรรค์ปาร์ตี้ ดังนั้น วันนี้คุณจึงอาจกลับมาคิดทบทวนตัวเองว่า ควรจะอยู่คนเดียวดีไหม คนโสด คุณให้ความสำคัญกับการทำงาน แม้ผู้ใหญ่จะนัดเดทให้ แต่คุณก็ไม่สนใจ

สุขภาพ :  ระวังอุบัติเหตุที่เกิดจากของมีคม และความร้อน อย่าประมาท

 

 

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่ 

มีคู่แข่งหัวใจ จะแย่งชิงหรือจะปล่อยให้เธอไป ดูดวงรายวัน 10 ตุลาคม 2563

คนรักเก่ายังไม่ยอมไปไหน แต่เพราะศักดิ์ศรีจึงใจอ่อนไม่ได้ ดูดวงรายวัน 11 ตุลาคม 2563

ถูกผู้ไม่หวังดีดราม่า เขย่าจนเตียงสะเทือน ดูดวงรายวัน 12 ตุลาคม 2563

ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ เลิกคิดจริงจังกับใคร ดูดวงรายวัน 14 ตุลาคม 2563

เต๋อ-ฉันทวิชช์

เคมีเกินต้าน! บทสนทนาชวนอมยิ้มของคู่จิ้น #ลุงลุง โป๊ป-ธนวรรธน์ & เต๋อ-ฉันทวิชช์

Alternative Textaccount_circle
เต๋อ-ฉันทวิชช์
เต๋อ-ฉันทวิชช์

บทสนทนาชวนอมยิ้มของ เต๋อ-ฉันทวิชช์ ,โป๊ป-ธนวรรธน์ และ แซมมี่ เคาวเวลล์ 3 นักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อง “My God Father…เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” 

My God Father...เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ

ถือเป็นการโคจรมาเจอกันที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว สำหรับ 2 พระเอกสุดฮ็อตจากสายหนังและสายละคร เต๋อ-ฉันทวิชช์ และ โป๊ป-ธนวรรธน์ ที่มาเจอกันเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง “My God Father…เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ” ซึ่งแม้จะเข้าฉายไปไม่กี่วันแต่กลับได้กระแสตอบรับจากผู้ชมอย่าถล่มทลาย เป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวด้วยรายได้สูงสุดในสถานการณ์โควิดแบบนี้ โดยเฉพาะการแสดงของ 3 นักแสดงนำต่างได้รับเสียงชื่นชมว่าแคสติ้งออกมาได้ดีมาก เพราะเล่นออกมาได้ทั้งซึ้งทั้งฮา

เห็นแบบนี้แล้ว แพรวดอทคอม เลยไม่พลาดขอจับเข่าคุยกับเหล่านักแสดงนำ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ ซึ่งขอบอกเลยว่า บทสัมภาษณ์ครั้งนี้ 3 นักแสดงปล่อยมุกกันแบบโบ๊ะบ๊ะมากๆ เลยทีเดียว

เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ

มาร่วมงานกันครั้งแรกในภาพยนตร์ “เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ“เป็น อย่างไรบ้าง?

แซมมี่ : สำหรับพี่โป๊ปมีความใกล้เคียงกับที่เคยคิดไว้ แต่สำหรับพี่เต๋อ (หัวเราะ) คือเขาก็เป็นคนดีอย่างที่เราคิดไว้แหละ แต่ก็ความแตกต่างหลายอย่างที่คาดไม่ถึง เช่นเขาเป็นคนชอบอำ

โป๊ป : จริงๆ ผมเคยรู้จักแซมมี่มาก่อนหน้านี้แล้ว ก็เลยไม่ค่อยแปลกใจในการทำงานร่วมกัน แต่ส่วนเต๋อ จริงๆ เต๋อก็ไม่ได้แตกต่างจากที่เราคิดไว้ แต่ที่ไม่เหมือนกับที่เราคิดไว้อย่างหนึ่งก็คือ ตอนดูหนังมองว่าเขาหล่อ ดูดี แต่พอเจอตัวจริงก็ …แค่นั้นแหละที่ผมรู้สึก

เต๋อ : กับแซมมี่ผมไม่เคยคิดเลยครับว่าเขาจะเป็นแบบไหน เพราะเราไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกัน จนได้มาเล่นเรื่องนี้ แล้วพอมาร่วมงานกัน มันก็มีที่ไม่เหมือนกับความคิดบางอย่าง เช่นเราไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเป็นคนที่อ่านบทละเอียดมาก อย่างบางครั้งผมกับโป๊ปเล่นกันก็รู้สึกผิด เพราะหันไปเห็นแซมมี่ตั้งใจกับบทมากๆ ส่วนคุณโป๊ปผมคิดว่าเขาจะเป็นแนวศิลปินมากๆ เก็บตัว เป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง แต่พอได้มาร่วมงานกันจริงๆ เขาต๊องนะ เขามีความติ๊งต๊อง มีความสนุกสนาน เป็นคนที่หัวเราะง่าย หรืออาจจะเป็นเพราะผมเป็นคนตลกด้วยหรือเปล่า

โป๊ป : เพื่อนเป็นคนตลกไง มันก็เลยขำใหญ่เลย

เต๋อ : รู้สึกโชคดีครับ ที่ได้มาร่วมงานกับสองคนนี้ มันเป็นโอกาสที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นง่าย เพราะเราก็อยู่คนละสังกัดกัน ดังนั้นโอกาสจะมาเจอกันก็ค่อนข้างยาก

คาแร็กเตอร์แต่ละคนในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

โป๊ป : ผมรับบทเป็น “ก็อต” ค่อนข้างเป็นเด็กที่ชอบแหกกฎ ไม่ยอมคน รั้นๆ กวนๆ  และไม่ค่อยรักพ่อเท่าไหร่ เพราะเข้าใจว่าพ่อไม่ดีกับแม่มาตลอด เลยกลายเป็นเด็กที่มีปัญหา เขาจึงหาทางออกด้วยการทำอะไรที่รุนแรง ชอบขับรถซิ่ง มีเรื่องกับคนอื่น ซึ่งทำให้พ่อเสียใจและทุกข์ใจ

แซมมี่ : รับบทเป็น “บิ” ในเรื่องจะเป็นแฟน “เปรม” (เต๋อ) เป็นผู้หญิงที่มีความฝันว่าอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ เพราะเขาโตมากับครอบครัวที่ไม่ได้สมบูรณ์มาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเขาอยากจะมีสามีและมีลูก แต่ก็ค่อนข้างมีความเด็ดเดี่ยวด้วย เพราะต้องเอาเปรมให้อยู่ เพราะเขาก็เป็นนักเลงหัวโจก

เต๋อ : รับบทเป็น “เปรม” ซึ่งจะเป็นพ่อของ “ก็อต” สำหรับบทนี้ก็เป็นนักเลงหัวไม้เลย เป็นคนที่รักพวกพ้องมาก รักความยุติธรรม แต่ไม่ค่อยฉลาด คิดอะไรก็คือคิดชั้นเดียว ไม่ค่อยมีความซับซ้อนทางอารมณ์ รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาแบบนั้น อารมณ์ขึ้นง่าย แต่พื้นฐานจิตใจเป็นคนดี

เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ

ถ้าในชีวิตจริง “เต๋อ” กลายเป็นพ่อของ “โป๊ป” คิดว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร?

โป๊ป : ผมก็คงจะแฮ็ปปี้จริงๆ พ่อเป็นคนอารมณ์ดีแบบนี้ ถึงแม้มันจะฝืดไปบ้าง แต่ก็ทำให้เราตลก ผมคิดว่าถ้าผมเป็นลูกเขาผมก็คงมีความสุขนะ และจริงๆ ก็มีคนบอกเหมือนกันว่าเราสองคนหน้าคล้ายกันด้วย

เต๋อ : ส่วนถ้าในชีวิตจริงผมมีลูกอย่าง “โป๊ป” ก็น่าจะภูมิใจในตัวเขานะ เพราะเขาเป็นคนที่ทำอะไรที่เราไม่อาจคาดคิดได้ เช่น เตะฟุตบอลก็เก่ง กีตาร์ก็เล่นได้ วาดรูปยิ่งวาดเก่งมาก การแสดงก็เก่ง ในฐานะที่เป็นพ่อเรารู้สึกดี พาไปไหนมาไหนเราก็ภูมิใจในตัวเขา ถ้าไม่นับเรื่องชอบแกล้งนะ

โป๊ป : ถ้ามีลูกหน้าตาแบบนี้จะดีไหม?

เต๋อ : ได้พ่อมาเต็มๆ

ในเรื่องนี้ทั้งโป๊ปและเต๋อก็มีมุมแข่งกันจีบสาวกัน อยากรู้ว่าระหว่าง เปรม กับ ก็อต แซมมี่ในฐานะบิถ้าให้เลือก 1 ในสองคนนี้จะเลือกใคร?

แซมมี่ : พี่ๆ ลองขายตัวเองมาก่อน ว่าแต่ละคนมีข้อดีอะไร

โป๊ป : คือ “ก็อต” ไม่มีอะไรดี มีแค่หน้าตา จบ

เต๋อ : ส่วน “เปรม” หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ แต่ทุกอย่างที่เหลือดีหมด

แซมมี่ : ก็คงเลือกเปรมแหละค่ะ คือในเรื่องมันคบมานานมากแล้ว แล้วจะไปเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่มันก็เสียเวลาไง ก็ขอเลือกเปรมดีกว่า แต่ก็อาจจะแว็บมาหาก็อต (หัวเราะ)

แซมมี่ เคาวเวลล์

อยากให้ 3 นักแสดงฝากถึงภาพยนตร์เรื่องนี้?

แซมมี่ : เรื่องนี้แซมมี่ถือว่าเป็นน้องใหม่ในวงการภาพยนตร์ เป็นเรื่องแรก และมีโอกาสได้มาร่วมงานกับพี่เต๋อและพี่โป๊ป บอกเลยว่ามันมากกว่าความสนุกแน่นอน

โป๊ป : เรื่องนี้ครบรสอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องราวของครอบครัว ความรักของพ่อและลูก ยังไงก็ฝากด้วยครับ

เต๋อ : สำหรับเรื่องนี้มีครบทุกรสชาติเลยครับ เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าถ้าไปดูฟิกันทั้งครอบครัวอย่างแน่นอน

คลิกหน้า 2 อ่านบทสัมภาษณ์คู่จิ้น #ลุงลุง โป๊ป & เต๋อ

มีลุ้นมงลง มาเรีย “MU ฟิลิปปินส์” นางพยาบาลลากองไปรักษาผู้ป่วย จนติดโควิด

account_circle

จับตา Maria Isabela Galeria หนึ่งในผู้เข้าประกวด “MU ฟิลิปปินส์” Miss Universe Philippines 2020 ด้วยเรื่องราวที่น่าทึ่งในอาชีพของเธอ งานนี้มีลุ้นอาจมงลง

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับการประกวด Miss Universe Philippines 2020 รอบไฟนอล ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2563 นี้ แน่นอนว่าบ้านเขาเองก็มีนางงามตัวเต็งเหมือนกับบ้านเราเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในผู้เข้าประกวดที่ฉายแสงและมีลุ้นมงลงมากที่สุดเห็นจะเป็น María Isabela Galería เพราะเธอมีสตอรี่ที่เรียกได้ว่าน่าประทับใจสุดๆ

สำหรับ María Isabela Galería เป็นตัวแทนจาก ซอร์โซกอน จังหวัดหนึ่งในเขตบีโคล ประเทศฟิลิปปินส์ มาเรียเป็นหนึ่งใน 51 จากผู้เข้าประกวด Miss Universe Philippines 2020 โดยเว็บไซต์นางงามอย่าง angelopedia ได้กล่าวว่ามาเรียคือ ส่วนผสมผสานระหว่างความสวยและมีสมอง (ฉลาด) เธอคือหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่แข็งแกร่งที่สุดที่ต้องระวังในการประกวดระดับประเทศในปีนี้

ด้วยความฝันที่อยากจะช่วยให้ประชาชนทั่วไปในรัฐของเธอ ที่พวกเขาต้องต่อสู้และเผชิญกับความทุกข์ทรมานในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน นับตั้งแต่นั้นมา มาเรียได้ตั้งคำมั่นและสัญญากับตัวเองว่าจะเข้าร่วมงานบริการด้านการแพทย์ให้จงได้ มาเรียจึงตัดสินใจเลือกเรียนในวิทยาลัยการแพทย์ และจบการศึกษาที่ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัย รามอน แมกไซไซตะวันออก เมมโมเรียล ด้วยปริญญาพยาบาลศาสตร์ และตอนนี้เธอได้เป็นพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกันมาเรียยังรู้สึกขอบคุณ สำหรับการสนับสนุนของ เฮิร์ต อีวานเกลิสตา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของจังหวัดซอร์โซกอน ซึ่งเธอเป็นภรรยาของ ฟรานซิส เอสคูเดโร ผู้ว่าการรัฐซอร์โซกอนคนปัจจุบัน ทั้งนี้มาเรียยังได้ทำงานใกล้ชิดกับ เฮิร์ต และรัฐบาลของ Sorsogon City สำหรับโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพประชาชนในซอร์โซกอน ซึ่งรวมถึงโปรแกรม “TeleMed / TeleDoc” ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยจากพื้นที่ห่างไกลของซอร์โซกอน สามารถปรึกษาแพทย์ โดยใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ตได้

มาเรียในอาชีพพยาบาลได้ช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งที่ฟิลิปปินส์ถือว่าหนักหนาสาหัสเลยทีเดียว โดยในขณะที่เธอเข้าประกวด Miss Universe Philippines 2020 เธอได้แสดงสปิริตในอาชีพด้วยการขอลากองประกวดออกไปทำหน้าที่พยาบาลดูแลผู้ป่วย จนสุดท้ายเธอกลายเป็นผู้ป่วยเสียเอง เมื่อมาเรียดันติดโควิด-19 นั่นจึงให้เธอต้องพักไปรักษาตัว และกลับมาเข้ากองมาประกวดต่อ

ทั้งนี้เธอได้โพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า สวัสดีทุกคน ฉันมีเรื่องที่น่าเศร้าต้องแจ้งให้คุณทราบว่า ฉันตรวจพบ COVID-19 rtPCR ในเชิงบวก ข่าวนี้ทำให้หัวใจของฉันแตกสลายและฉันต้องขออภัยหากทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยง

เราได้ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันความปลอดภัยทั้งหมดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่ก็ยังตรวจพบมัน ฉันได้พูดคุยกับคนที่ใกล้ชิดฉันที่มะนิลา ทุกคนตรวจพบว่าเป็นลบ ซึ่งตอนนี้ฉันได้พักรักษาตัวและถูกกักบริเวณ

ฉันขอให้ใครก็ตามที่ใกล้ชิดกับฉัน โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมือง / เทศบาลของคุณ และทีมของพวกเขา เพื่อเข้าไปตรวจร่างกายให้ หวังว่าฉันจะไม่ส่งต่อไวรัสให้กับคุณ

สำหรับเวที Miss Universe Philippines ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกแห่งการประกวดของเธอ มาเรียได้เข้าร่วมการประกวด Miss Mandaluyong 2019 ซึ่งเธอได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 3 ก่อนที่จะลองเสี่ยงโชคใน Binibining Pilipinas 2019 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในครั้งนั้นเธอติดท็อป 15 จากการประกวด

นอกจากการเป็นนางพยาบาลแล้ว เธอยังเขียนนวนิยายใน Wattpad ที่ชื่อว่า “ Wrong Number” ซึ่งต่อมาได้รับการดัดแปลงเป็นมินิซีรี่ส์โดย TV5 ซึ่งตอนนั้นเธออายุได้เพียง 14 ปี

ด้วยสตอรี่และรูปร่างหน้าตาที่คมเข้มของ María Isabela Galería ตำแหน่ง Miss Universe Philippines 2020 อาจไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมสำหรับเธอ


CR : @mariaisabelagaleria

6 เรื่องรู้จัก อแมนด้า-ชาลิสา ออบดัม Miss Universe Thailand 2020

ปังสมมง ตรงคอนเซ็ปต์จักรวาล “อแมนด้า” คว้ามิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020

ช่วยเหลือสัตว์

ไม่ต้องซื้อก็บริจาค! อาวร์กลาส ชวนโพสต์ภาพคู่สัตว์เลี้ยง เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือสัตว์ทั่วโลก

Alternative Textaccount_circle
ช่วยเหลือสัตว์
ช่วยเหลือสัตว์

Hourglass Cosmetics ชวนทุกคนขับเคลื่อนวงการบิวตี้ ช่วยเหลือสัตว์ ไปกับแคมเปญ “Eye to Eye” ตอกย้ำความเป็นวีแกน (Vegan) และครูเอลตี (Cruelty) ฟรี บริจาค 1 ดอลลาร์ ต่อ 1 โพสต์แก่ มูลนิธิพิทักษ์สัตว์

ครั้งแรกในไทยที่ อาวร์กลาส (Hourglass) ลักซ์ชัวรี่เมคอัพแบรนด์จากอเมริกา เปิดตัวโซเชียลแคมเปญ Eye to Eye” เชิญชวนสาวกบิวตี้และเหล่าโซเชียลอินฟลูเอ็นเซอร์ทั่วโลก ร่วมขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมความงาม เพียงถ่ายภาพตัวเองคู่กับสัตว์เลี้ยงและโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดีย พร้อมติดแฮชแท็ก #HG_EyetoEye และ #HourglassCosmeticsThailand โดยอาวร์กลาสร่วมบริจาคเงินจำนวน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 31 บาท) ต่อ 1 การโพสต์ แก่มูลนิธิพิทักษ์สัตว์ (Non-human Right Project) สมทบทุนกิจกรรมเพื่อการช่วยเหลือสัตว์ทุกประเภททั่วโลกที่ถูกคุกคามและทารุณอย่างโหดร้ายในระบบอุตสาหกรรม เพื่อปลดปล่อยสัตว์เหล่านี้คืนสู่ธรรมชาติพร้อมอิสรภาพอย่างแท้จริง

จากความเชื่อที่ว่า “พลังแห่งความงามนั้น คือสิ่งเดียวกับหัวใจรักในความยุติธรรม” เป็นกำลังสำคัญที่ทำให้อาวร์กลาส ตั้งใจปฏิวัติอุตสาหกรรมความงามให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับด้วยการไม่ทดลองกับสัตว์ (Cruelty-Fee) และก้าวเข้าสู่การเป็นผลิตภัณฑ์บิวตี้ที่ปราศจากส่วนผสมจากสัตว์ (Vegan) อย่างเต็มตัวในปี 2020 นี้ พร้อมทั้งบริจาค 1% ของกำไรจากยอดขายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ แบรนด์ให้แก่พาร์ทเนอร์สำคัญที่ยืนหยัดต่อสู้ไปกับอาวร์กลาสมาโดยตลอดอย่าง “มูลนิธิพิทักษ์สัตว์” (Nonhuman Rights Project) องค์กรเพื่อสิทธิพลเมืองเพียงหนึ่งเดียวที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิพื้นฐานของบรรดาสัตว์ทั่วโลก

HourglassCosmeticsThailand

มาค่ะสายบิวตี้ทุกคน มาโพสต์ภาพคู่สัตว์เลี้ยงลงบนโซเชียลมีเดียพร้อมติดแฮชแท็ก #HG_EyetoEye #HourglassCosmeticsThailand ซึ่ง อาวร์กลาส จะร่วมบริจาคเงินจำนวน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1 การโพสต์ แก่มูลนิธิพิทักษ์สัตว์ (Non-human Right Project) และพิเศษ เพียงแสดงโพสต์ “Eye to Eye” ของตัวเอง รับทันที Veil Translucent Setting Powder Deluxe จำนวน 1 ชิ้น ตั้งแต่วันที่ 10-30 ตุลาคม 2563 ที่เคาน์เตอร์อาวร์กลาสทุกสาขา

HourglassCosmeticsThailandHourglassCosmeticsThailand HourglassCosmeticsThailand

สะท้อนชีวิตจิตใจจากนัยน์ตาของเหล่าสัตว์ที่เรารัก ไปกับโซเชียลแคมเปญ “Eye to Eye” ด้วยกันค่ะ


 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

INGLOT ฉลองครบรอบ 2 ปี ปล่อยพาเล็ตต์ 3 เฉดสีใหม่ สามารถแต่งได้ถึง 9 ลุค

เปิดราคาขายบิวตี้ไอเท็มชิ้นเด็ดที่สร้างชื่อเสียงของ “ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี่” ในไทย

5 วิธีเลือก ครีมกันแดด และเฉลยว่าควรเติมกันแดดระหว่างวันหรือไม่?

 

 

เบื้องหลังโต๊ะข่าวของ "พุทธอภิวรรณ" ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวฝีปากกล้าแห่งอมรินทร์ทีวี

เบื้องหลังโต๊ะข่าวของ “พุทธอภิวรรณ” ผอ.ฝ่ายข่าวฝีปากกล้าแห่งอมรินทร์ทีวี

Alternative Textaccount_circle
เบื้องหลังโต๊ะข่าวของ "พุทธอภิวรรณ" ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวฝีปากกล้าแห่งอมรินทร์ทีวี
เบื้องหลังโต๊ะข่าวของ "พุทธอภิวรรณ" ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวฝีปากกล้าแห่งอมรินทร์ทีวี

ค้นโต๊ะข่าว เจาะเบื้องหลังการทำงานของ พุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี ผอ.ฝ่ายข่าวฝีปากกล้า สร้างปรากฏการณ์ทุบโต๊ะข่าวฟีเวอร์

พุทธอภิวรรณ องค์พระบารมี ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวและผู้ประกาศข่าวฝีปากกล้า จากช่อง อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 ด้วยลีลาการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา ทำให้มีแฟนคลับอยู่ทั่วประเทศและต่างแดน การันตีด้วยรางวัลเกียรติยศสำหรับคนเล่าข่าวที่เขาได้รับมาตลอด 4 ปี

“หน้าจอของการอ่านข่าวไม่กี่ชั่วโมง หลังจอมีกระบวนการเตรียมงานหลายส่วนมาก ต้องใช้เวลากว่า 6-7 ชั่วโมงในทุกวัน เริ่มจากผมต้องมาถึงสถานีประมาณช่วงบ่าย เพื่อประชุมทีมงาน ดูภาพรวมของข่าวทั้งหมดตั้งแต่ต้นทาง ไม่ว่าจะเนื้อหา เคาะประเด็น แล้วควรจะเสนอประเด็นไหนก่อน หนึ่ง สอง สาม สี่ กำหนดเนื้อข่าวไล่เรียงไปตามลำดับความสำคัญของเนื้อข่าวในแต่ละวัน

“รวมทั้งกำหนดว่าจะทำอินโฟกราฟิก (การแสดงข้อมูลโดยใช้ภาพ) อย่างไร แล้วตอนนี้เรามี 3D Animation ประกอบด้วย จากยุคแรกมีแค่สองตัว แต่วันนี้มีประมาณ 10-20 ตัวต่อวัน ขึ้นอยู่กับเรื่องราวของข่าว เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เช่น ตึกถล่มที่ว่าเกิดจากโครงสร้างเอียงนั้นคือเอียงแบบไหน เกิดรอยร้าวตรงไหน การสร้างภาพจำลองเหตุการณ์ทำให้คนดูเข้าใจง่ายขึ้น

เบื้องหลังโต๊ะข่าวของ "พุทธอภิวรรณ" ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวฝีปากกล้าแห่งอมรินทร์ทีวี

“สำหรับเนื้อข่าวที่ต้องเตรียมสำหรับนำเสนอทั้งหมดที่พริ้นต์ออกมาจะหนาเหมือนวิทยานิพนธ์เลย ประมาณ 200-300 แผ่นต่อวันที่ต้องอ่าน แล้วแต่ละข่าวไม่ได้มีข้อมูลแค่ไม่กี่บรรทัด เนื่องจากเราหาข้อมูลเพิ่มจากที่อื่นนอกจากที่ทีมเราหามาด้วย นี่คือความยากในการเตรียมพร้อมของทุบโต๊ะข่าวก่อนออกอากาศ

“พอจบรายการก็ต้องประชุมสรุปงานกันต่อว่าวันนี้มีความผิดพลาดตรงไหน แล้ววันถัดไปมีเรื่องอะไรที่ต้องตามต่อ ทีมคนไหนต้องไปทำอะไร กว่าจะจบงานจริงๆ ก็เกือบตีสอง

“เรื่องที่ทำให้ลุ้นเสมอเวลาอยู่หน้างานคือ ข้อมูลภาพจะส่งกลับมาทันออกอากาศไหม หรือนักข่าวพร้อมที่จะรายงานสดหรือยัง อย่างข่าวการชุมนุม เราอยากได้ภาพสดออกอากาศ แต่บางทีสัญญาณไม่มา นักข่าวไม่พร้อม ภาพไม่สามารถส่งเข้าระบบ ฯลฯ ถ้าเป็นอย่างนี้ผมก็ต้องอ่านข่าวเรื่องอื่นไปก่อนจนกว่าจะพร้อม

“การจัดรายการครั้งที่ถือว่ายากที่สุด น่าจะเป็นเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช วันนั้นตอนประมาณหกโมงเย็นมีข่าวแจ้งเข้ามาว่าเกิดการกราดยิงแล้วมีผู้เสียชีวิต 9 คน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผู้ประกาศข่าวต้องตั้งสติ ผมตัดสินใจนำข่าวนี้เข้ารายการเลย เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ แล้ววันนั้นผมจัดรายการตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนตี 3 ใช้เวลากว่าแปดชั่วโมง ถือเป็นการจัดรายการที่ยาวนานมาก บางทีผมต้องออกจากหน้าจอด้วยการส่งให้เพื่อนผู้ประกาศคือคุณจิตดี (จิตดี ศรีดี) เล่าข่าวไปก่อน กล้องก็จะจับไปที่คุณจิตดีคนเดียว ส่วนผมวิ่งออกไปไกด์ไลน์ประเด็นให้ทีมงานว่าขอเรื่องนี้ก่อน สำคัญกว่า ลองติดต่อคนนั้นคนนี้ เพื่อจะได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วสั่งให้ช่างภาพตามเก็บภาพมุมต่างๆ ส่งเข้ามา เพราะน้องๆ ไม่ได้ทำข่าวมานานเหมือนผม อาจจะไม่เคยแก้ปัญหาในช่วงสถานการณ์วิกฤติอย่างนี้ นี่คือสิ่งที่ไม่ได้ออกอากาศ คนดูจะเห็นเพียงผู้ประกาศนั่งประจำโต๊ะเท่านั้น

“หลายคนมักมองว่าสื่อเป็นคนทำให้เกิดกระแส ผมว่าเราไม่มีสิทธิ์ในการสร้างกระแส เราเพียงเลือกสรรสิ่งที่คนอยากรู้จริงๆ มากกว่า ผมว่าเราประเมินความรู้สึกคนดูได้ จึงหยิบยกประเด็นต่างๆ มานำเสนอให้เกิดความน่าสนใจ แล้วติดตามประเด็นที่ไม่เหมือนกับที่อื่น จึงทำให้ข่าวช่องอมรินทร์ทีวีแตกต่าง คือมี ‘ความใหม่’ ในเรื่องเดียวกัน

“อย่างคดีน้องชมพู่ แรกเริ่มเป็นเรื่องของเด็กสามขวบหายขึ้นไปบนเขา เพราะเราทำข่าวมาเยอะ จะรู้ว่าน้องคงต้องเจ็บปวดและทรมานมาก แล้วเราเข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่ดีว่าคงต้องอยากให้มีใครมาช่วย ในฐานะที่เราเป็นสื่อ ควรมีส่วนช่วยตรงนี้ ผมจึงให้นักข่าวลงพื้นที่เป็นสื่อแรกเพื่อช่วยค้นหาตั้งแต่ที่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไป ตามต่อทุกวัน จนกระทั่งพบศพน้อง

“ตอนแรกไม่ได้คาดหวังว่าสิ่งที่เราอยากมีส่วนช่วยเหลือจะกลายเป็นข่าวที่มีคนรับรู้มากมาย อาจจะเป็นความโชคดีที่ผมทำข่าวอาชญากรรมสืบสวนสอบสวนมาก่อน แล้ววันนั้นพอเห็นข่าวน้องชมพู่ก็เกิดคำถามว่าเด็กสามขวบหายบนเขาได้อย่างไร ต้องมีคนพาไปหรือเปล่า แล้วน้องไปเสียชีวิตตรงนั้นได้อย่างไร ผมเชื่อว่าคนอยากรู้ข่าวต่อ แต่ยังไม่มีใครทำให้เขาดู ในขณะเดียวกันเราก็มีนักข่าวที่มีความสามารถที่จะทำข่าวอย่างไรเพื่อคลายสิ่งที่ผู้คนอยากรู้

“ผมว่าข่าวต้องมีความน่าสงสัย ต้องน่าติดตาม ทั้งตัวคนร้าย ทั้งผลที่ตามมา ซึ่งช่องอื่นอาจจะจับคนร้ายได้แล้วจบ พรุ่งนี้ไม่ตามแล้ว แต่อมรินทร์ทีวียังไม่จบ เราตามไปถึงผลกระทบต่อคนในข่าวด้วย เขาจะอยู่ต่อยังไง ซึ่งเราเลือกหยิบมุมแบบนี้มานำเสนอ จึงทำให้ข่าวอมรินทร์มีความพิเศษจากข่าวช่องอื่น

“มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การที่เราเสนอข่าวแต่เรื่องดราม่าแบบนี้มากพอสมควร เรารับฟังนะครับ ผมมองอีกมุมหนึ่งว่าดราม่าก็คือชีวิต ข่าวก็สะท้อนชีวิต อย่างกรณีข่าวน้องชมพู่ เราใช้เวลาเล่าข่าว 40-50 นาที ขณะที่บางช่องเสนอ 5 นาที ก็เปลี่ยนข่าว ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ผมบอกว่าคนดูอยากรู้ สื่อก็อยากรู้ เราจึงทำให้เขารู้และคลายสงสัยด้วยการนำเสนอชีวิตของคนในแบบธรรมดาที่สุด ผลตอบรับคือคนดูเฝ้าตามดูทั้งประเทศ ไม่เปลี่ยนช่องไปไหน ถือว่าเราตอบโจทย์ได้มากกว่า

“หลายครั้งที่เราได้คุยกับคนในพื้นที่ กลายเป็นว่าเขาขอบคุณเรา แล้วมีหลายข่าวที่เขาบอกว่าให้อมรินทร์ทีวีอยู่ต่อนะ อย่าเพิ่งไปไหน เพราะถ้านักข่าวเราพ้นพื้นที่ไปแล้วเรื่องราวจะเงียบ ถ้าดราม่าคือชีวิต เราก็ได้ช่วยเหลือชีวิตของพวกเขา

“ความภูมิใจที่สุดของผมในฐานะคนทำข่าวคือ การได้มีส่วนช่วยเหลือสังคม แล้วได้รับการยอมรับจากคนดูในที่สุด เคยมีคนถามผมว่าสามารถทำข่าวให้คนสนใจได้มากกว่าละครหรือเปล่า เรตติ้งรายการข่าวจะชนะละครได้ไหม แต่สุดท้ายก็เกิดขึ้นได้ คนสนใจข่าวมากกว่าละครฟอร์มยักษ์ไปแล้ว นี่คือปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพฤติกรรมคนดูเปลี่ยนไปแล้ว เนื่องจากคนทำข่าวอย่างเราเปลี่ยนตัวเอง คือต้องรู้ว่าคนดูอยากดูอะไร จะทำอย่างไรให้คนดูหายสงสัยในหลายๆ เรื่อง ถือเป็นปรากฏการณ์ในวงการข่าวเลย แสดงว่าเรามาถูกทางแล้วครับ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 963

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ครั้งแรก! เปิดบ้านริมทะเลสาบสุดอลังของ “ตัน ภาสกรนที” และครอบครัวแสนอบอุ่น

สัมภาษณ์หยิกแกมหยอกของ เบลล่า-ราณี & โป๊ป-ธนวรรธน์ คู่จิ้นที่มองตาก็รู้ใจ

สวยเก่งใช่เล่น! “ชาเม-ยาหยี” สองสาวลูกไม้ใต้ต้นของคุณพ่อ “ติ๊ก ชิโร่”

กระเป๋ากระจูดของ แอฟ ทักษอร

สนับสนุนฝีมือคนไทย กระเป๋ากระจูดของ แอฟ ทักษอร ราคาไม่ถึง 2 พันบาท!

กระเป๋ากระจูดของ แอฟ ทักษอร
กระเป๋ากระจูดของ แอฟ ทักษอร

คนสวยน้ำใจงาม สนับสนุนผลงานของคนไทย กับ กระเป๋ากระจูดของ แอฟ ทักษอร ที่เจ้าตัวถือถ่ายรูปสวยๆ ริมทะเล มาพร้อมราคาน่ารักเพียงหลักพันต้นๆ เท่านั้น

คุณแม่ยังสาว แอฟ ทักษอร ขนาดว่านั่งชิลริมทะเลก็ยังสวย แม้ชุดที่ใส่จะเป็นเพียงเสื้อกล้ามและกางเกงยีนส์ง่ายๆ ก็ดูน่ามอง เพราะหนึ่งในไอเท็มที่แม่แอฟตั้งใจพรีเซ็นต์ในลุคนี้คือกระเป๋ากระจูดเพ้นท์ลายนั่นเอง ซึ่งเป็นผลงานของร้านในอินสตาแกรมที่ใช้ชื่อบัญชีว่า foolgee23__uncle_dog แน่นอนนี่คือฝีมือคนไทยที่แม่แอฟช่วยสนับสนุนและแฟนๆ ที่ติดตามอยู่ 5 ล้านกว่าคนในอินสตาแกรมก็จะได้เห็นว่ากระเป๋าสานแบบไทยๆ ฝีมือดีไม่แพ้ไฮแบรนด์ แถมยังมีเอกลักษณ์อีกด้วย

โดยกระเป๋ากระจูดของร้านนี้จะใช้เวลาในการผลิตประมาณ 7 – 10 วัน เป็นกระเป๋ากระจูดสานเกรดA สานขัดตอกอบแห้งอย่างดี เพ้นท์ด้วยสีอะคริลิคชั้นเยี่ยมไทโทน เนี้อสีเเน่นยืดหยุ่นได้ดี มาด้วยกัน 2 ขนาดคือใบเล็กก้นกระป๋ากว้าง 7 นิ้ว สูง 9 นิ้ว ขอบปากกระเป๋ากว้างประมาณ 13 นิ้ว ราคาใบละ 1,500 บาท ส่วนใบใหญ่ที่แม่แอฟใช้ ก้นกระป๋ากว้าง 10 นิ้ว สูง 11 นิ้ว ราคาใบละ 1,800 บาท การเพ้นท์ลายชื่อจะอยู่ด้านหลัง และลายอยู่ด้านหน้า

ถือเป็นชิ้นงานที่น่าอุดหนุนและช่วยส่งเสริมผลงานของคนไทยได้ดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ใครๆ ก็พากันไปทะเล กระเป๋าสานแบบนี้เป็นตัวเลือกที่ดี แถมราคาก็ยังน่าคบอีกด้วย

สนับสนุนฝีมือคนไทย กระเป๋ากระจูดของ แอฟ ทักษอร ราคาไม่ถึง 2 พันบาท!

สนับสนุนฝีมือคนไทย กระเป๋ากระจูดของ แอฟ ทักษอร ราคาไม่ถึง 2 พันบาท!

กระเป๋ากระจูดของ แอฟ ทักษอร ราคาไม่ถึง 2 พันบาท!

กระเป๋ากระจูดของ แอฟ ทักษอร


ภาพ : IGaff_taksaorn  , @foolgee23__uncle_dog

เรื่อง : ฮานะ_แพรวนิสต้า

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สุดแสนจะชิล! เปิดสไตล์นอกเวที อแมนด้า ผู้คว้ามงกุฎ MUT 2020

ดัชเชสเคท ส่งข้อความลับถึง ควีนเอลิซาเบธ ด้วยการเลือกสีชุดที่มีความหมาย

กางปีกพร้อมบิน! แม่ชม ในชุด Balenciaga เสริมไหล่สูง ไม่แน่จริง ลุคนี้อาจไม่รอด

 

Lucas Bravo เชฟหนุ่มหล่อจากเรื่อง Emily in Paris

ตกหลุมรัก! หนุ่มเมืองน้ำหอม Lucas Bravo เชฟหนุ่มหล่อจากเรื่อง Emily in Paris

Alternative Textaccount_circle
Lucas Bravo เชฟหนุ่มหล่อจากเรื่อง Emily in Paris
Lucas Bravo เชฟหนุ่มหล่อจากเรื่อง Emily in Paris

ตกหลุมรัก! หนุ่มเมืองน้ำหอม Lucas Bravo เชฟหนุ่มหล่อล่ำจากเรื่อง Emily in Paris

โดนแล้วจ้า โดนหนุ่มเมืองน้ำหอมตกเข้าอย่างจัง!!! หล่อกระชากใจอะไรเบอร์นี้ Lucas Bravo (ลูคัส บราโว) หนุ่มหล่อสัญชาติฝรั่งเศส เรื่องของเรื่องคือแค่ลองเปิดเข้าไปดู Emily in Paris ในใจก็คิดว่า ลองดูก่อนว่าสนุกไหม ปรากฏว่าดูเพลิน 5 ชั่วโมงรวดจบเลยค่ะ เนื้อเรื่องไหลรื่นกำลังดีในส่วนผสมของความจิกกัด และวัฒนธรรมกรุบกริบ และต้องยอมรับตรงๆ ว่า ส่วนหนึ่งที่ดึงดูดให้ทางเราดูเพลินจนจบก็คือหนุ่มลูคัส ที่รับบทเป็น เชฟกาเบรียล เชฟหนุ่มสุดหล่อ และหุ่นล่ำน่าซบสุดแซ่บ!!

คอนเฟิร์มเลยว่าสาวๆ หลายคนต้องตกหลุมรักเขา ตั้งแต่วินาทีแรกที่ปรากฏตัวในเรื่องแน่นอน และรู้หรือไม่ว่า ในเรื่องที่เขารับบท เชฟกาเบรียล ได้สมบทบาทนั้น เป็นเพราะตัวจริงเขาเคยทำงานเป็น Sous Chef หรือเชฟผู้ช่วยในร้านอาหารฟิวชั่นฝรั่งเศส-ญี่ปุ่นมาก่อนที่จะได้เล่นเรื่องนี้ด้วย ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับนักวิจารณ์หนังอย่าง Manny the Movie Guy “ไม่กี่ปีก่อนผมเคยเป็นซูส์เชฟในร้านอาหาร เพราะฉะนั้นตอนที่ผมได้รับสคริปต์ครั้งแรก ผมรู้เลยว่าบทนี้ที่เกิดมาเพื่อผมแน่ๆ และผมก็คิดว่าตัวเองต้องได้ใช้สกิลเหล่านั้นอย่างแน่นอน แล้วก็เป็นจริง เพราะเขาให้ผมทำตอร์ติย่าให้เอมิลี่กินในเรื่องด้วย” 

และหากสาวๆ คนไหนอยากรู้จักเขาคนนี้มากขึ้นล่ะก็ เขาเกิดที่เมืองนีซ Nice เมืองทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เขาเกิดในปี 1988 ตอนนี้ก็อายุ 32 ปีแล้ว เป็นหนุ่มหล่อผมสีน้ำตาลบลอนด์นัยน์ตาสีฟ้า และด้วยความสูงที่มากถึง 185 เซนติเมตร ทำให้เขาได้แคสเป็นนายแบบ ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนคุ้นหน้าเขาอยู่บ้าง เพราะเขาเคยถ่ายโฆษณาให้กับแบรนด์ดังอย่าง CHANEL ที่เล่นกับ Ellie Bamber มาแล้ว นอกจากนี้เขายังเคยเป็นนักแสดงจากมินิซีรี่ส์อย่าง Relation Libre, Caprice และ Beautiful Injuries อีกด้วย

 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by L U C A S 🪐 B R A V O (@lucasnbravo) on


และเรื่องที่สาวๆ อยากรู้ที่สุดคือ ลูคัสยังโสด!!! เขาได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Glamour ว่าตอนนี้เขายังไม่มีคนรู้ใจนะ Oop! และหากต้องการส่องไลฟ์สไตล์เขามากขึ้นล่ะก็ ไปติดตามได้ทางอินสตาแกรมส่วนตัว @lucasnbravo เขาได้เลย บอกเลยว่าฮ็อตมาก จากคนติดตามหลักหมื่น ตอนนี้ทะลุเจ็ดแสนอัพแล้วนะ xoxo

Lucas Bravo (ลูคัส บราโว) Lucas Bravo (ลูคัส บราโว) Lucas Bravo (ลูคัส บราโว) Lucas Bravo (ลูคัส บราโว) Lucas Bravo (ลูคัส บราโว) Lucas Bravo (ลูคัส บราโว) Lucas Bravo (ลูคัส บราโว) Lucas Bravo (ลูคัส บราโว)

 


 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หุ่นกร้าวใจมาก! ปั้นซิกแพคแบบ “คิมซูฮยอน” แค่ 5 ท่าง่ายๆ อยู่บ้านก็ทำได้

หล่อแถมซิกแพคน่าลูบ “แบรี่-ณเดชน์ คูกิมิยะ” แชร์ทริคฟิตหุ่น บวกดูแลผิวครบสูตร

ทำตัวเป็นเด็กบ้างก็ได้! เคล็ดลับหล่อกระชากวัยของ “กงยู” แถมแฮนซัมน่ากอดที่สุด

 

 

4 สาว BLACKPINK

หลากหลายมิติของ 4 สาว BLACKPINK เพื่อนและทีมเวิร์คที่มองตาก็รู้ใจ

Alternative Textaccount_circle
4 สาว BLACKPINK
4 สาว BLACKPINK

หากพูดถึง 4 สาว BLACKPINK ในวันนี้ เชื่อว่าทุกคนทราบดีกว่าพวกเธอประสบความสำเร็จมากขนาดไหน แต่! กว่าที่จะมาถึงจุดนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ซึ่งล่าสุดพวกเธอได้บอกเล่าถึงประสบการณ์และความตั้งใจ ผ่านสารคดีชุด BLACKPINK: Light Up The Sky

 4 สาว BLACKPINK

สารคดีชุด BLACKPINK: Light Up The Sky มีกำหนดออกอากาศทาง Netflix ออริจินัล ในวันนี้ (14 ต.ค. 2563) โดยสารคดีชุดดังกล่าวจะบอกเล่าเรื่องราว การเดินทาง ความพยายาม ความทุ่มเทของ 4 สาว BLACKPINK  ที่ยาวนานและท้าทาย กว่าที่พวกเธอประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง และสามารถพิสูจน์ให้ทั้งโลกเห็นว่า ถึงแม้ภาษาของคนทั้งโลกจะต่างกัน แต่ดนตรีคือภาษาสากลที่ไร้พรมแดนและเชื่อมโยงทุกคนเข้าไว้ด้วยกันได้

โดยเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ผ่านมา จีซู , เจนนี่ ,โรเซ่ , ลิซ่า และผู้กำกับ แคโรไลน์ ซอ ได้ร่วมให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวภาพยนตร์สารคดี โดยทั้งหมดต่างผลัดกันตอบคำถาม และบอกเล่าเบื้องหลังการทำงานชิ้นสำคัญนี้ ซึ่งพวกเธอตื่นเต้นและลุ้นมากๆ ว่าในวันที่สารคดีออกอากาศคนดูจะชอบไหม ฟีดแบ็คจะเป็นอย่างไร BLINK จะรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของพวกเธอหรือเปล่า

 4 สาว BLACKPINK

สารคดีเรื่องใหม่ล่าสุดของแบล็กพิงก์กำลังจะได้ฉายใน 190 ประเทศทั่วโลก ผ่านทาง Netflix คุณรู้สึกอย่างไร?

โรเซ่ : พวกเราทุกคนดูแล้ว เรารู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่สารคดีของเราจะได้ฉายก็ตื่นเต้นมากๆ เพราะสารคดีเรื่องนี้มีทั้งเบื้องหลัง ความกดดัน ความรักจากแฟนๆ และที่สำคัญ เรามีเซอไพร้ส์ด้วย พรุ่งนี้ทุกคนจะสามารถเลือกหน้าเราทั้ง 4 คน ตั้งเป็น profile ของทุกคนได้แล้ว

ลิซ่า : ฉันแทบอยากจะเปลี่ยนไอคอนบนโปรไฟล์ของฉันเดี๋ยวนี้เลย

เจนนี่ : สำหรับโปรเจ็กต์นี้ เราทำงานกันอย่างใกล้ชิดมากๆ กับผู้กำกับของเรา เราตั้งตารอคอยที่จะได้ชมผลงานสารคดีชิ้นนี้อย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ สารคดีเรื่องนี้จะเป็นเหมือนของขวัญให้ BLINK ทุกคน หวังว่าสารคดีนี้ จะเป็นสะพานที่ช่วยเชื่อมระหว่างเราและแฟนๆ BLINK ไว้ด้วยกันค่ะ

จีซู : การที่เน็ตฟลิกซ์เลือกที่จะทำสารคดีของเราต่อจากศิลปินระดับโลกอย่าง Beyonce , Taylor Swift และ Lady Gaga  ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก และรอคอยจะได้เผยแง่มุมต่างๆ ของเราให้แฟนๆ ได้เห็นค่ะ

เจนนี่ : เราเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นศิลปินฝึกหัด จนได้เดบิวต์ และมาถึงวันนี้ แฟนๆ BLINK จะได้เห็นการทำงาน ความทุ่มเทของเรา ความ authentic ที่ไม่เคยได้เห็นที่ไหน และเราหวังว่าพวกเค้าจะชอบค่ะ

ในสารคดีนี้มีตอนที่แบล็กพิงก์ได้ขึ้นเวที Coachella ด้วย พวกคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?

จีซู : ในสารคดีมีซีนที่เทศกาลดนตรีโคเชลลาด้วย ฉันเชื่อว่าแฟนๆ น่าจะเคยดูโชว์เราบนเวทีแล้ว แต่มีซีนหลังเวทีที่ยังไม่มีใครเคยเห็น ฉันดีใจมากๆ ที่มันอยู่ในสารคดีเรื่องนี้ด้วย แล้วมันอะเมซิ่งมากๆ ที่เราเคยซ้อมทำโชว์โคเชลลาตอนที่ยังเป็นศิลปินฝึกหัด ไม่คิดเลยว่าเราจะได้ขึ้นโชว์จริงๆ

สมาชิกของวงมาจากต่างวัฒนธรรม ต่างสิ่งแวดล้อม ทำให้สารคดีนี้มีความหลากหลายทางภาษามาก ใช่หรือเปล่า?

โรเซ่ : ตอนที่ถ่ายซีนสัมภาษณ์ เราจริงใจกันมากๆ เปิดใจ เปิดความคิด พวกเราจะพูดในภาษาที่สบายใจ มีหลายภาษาเลยค่ะ ลิซ่าพูดภาษาไทย จีซูภาษาเกาหลี ฉันกับเจนนี่โตในต่างประเทศก็จะพูดทั้งเกาหลี-อังกฤษ เราได้พูด ได้แสดงออกในภาษาที่เราถนัด ผู้ชมจะได้เห็นถึงความแตกต่างหลากหลาย ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ความเป็นแบล็กพิงก์ที่ผสมผสานความหลากหลาย และมันคือตัวเราทุกคน เราเชื่อว่าแฟนๆ จะชอบค่ะ

เจนนี่ : ถึงแม้เราจะสื่อสารกันหลากหลายภาษา แต่เราทุกคนเข้าใจกันเป็นอย่างดี ภาษาไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย We’re the world

การถ่ายทำสารคดีเป็นอย่างไรบ้าง?

ลิซ่า : นี่เป็นครั้งแรกที่ถ่ายทำสารคดีแบบที่มีกล้องและทีมงานติดตาม 24 ชั่วโมง แรกๆ ฉันรู้สึกประหม่ามาก แต่สักพักก็เริ่มชิน ยิ่งถ่ายทำไปนานๆ เรายิ่งเป็นธรรมชาติ และสนุกไปกับการถ่ายทำ เพราะผู้กำกับน่ารัก และเป็นกันเองมากๆ เรื่องนี้ต้องขอบคุณผู้กำกับมากที่เตรียมตัวในการทำงานอย่างดี และทำให้เราได้เป็นตัวเราเองจริงๆ

ลิซ่า BLACKPINK

ช่วยเล่าถึงความเป็นแบล็กพิงก์ในสารคดีเรื่องนี้หน่อยได้ไหม?

แคโรไลน์ : พวกเขาเป็นเหมือนทั้งเพื่อนและครอบครัว

เจนนี่ : เราอยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกันมาตั้งแต่เป็นศิลปินฝึกหัด เห็นการเติบโตของกันและกัน แบ่งปันความรู้สึก ช่วยเหลือกัน เราเหมือนเป็นครอบครัวจริงๆ ที่มีความผูกพัน รู้สึกสบายใจ เป็นตัวของตัวเองได้เมื่ออยู่ด้วยกัน และเราดึงส่วนที่ดีของกันและกันออกมา

จีซู : Teddy Park เป็นคนที่เก่งมากค่ะ เขารับฟัง เข้าใจ และสามารถสะท้อนสิ่งต่างๆ ออกมาเป็น direction ของวงได้ อาจจะเรียกว่าเขาเป็นสมาชิกคนที่ 5 ของวงก็ว่าได้ เขามีความสำคัญและจำเป็นต่อวงของเรามากๆ ค่ะ

โรเซ่ : การทำงานกับแคโรไลน์ เธอจะพูดคุยรายละเอียดกับเราก่อน ว่าเราสบายใจที่จะทำจริงๆ และดึงความเป็นธรรมชาติของเราออกมาได้ดีมาก เธอเจ๋งมากๆ เลยค่ะ

แคโรไลน์ คิดว่าการทำงานกับแบล็กพิงก์เป็นอย่างไรบ้าง?

แคโรไลน์ : เป็นโปรเจ็กต์ที่สนุกมาก แบล็กพิงก์เป็นวงที่ทำงานด้วยแล้วสนุก สารคดีนี้ก็จะเป็นสารคดีที่สนุก เป็นเรื่องราวที่ดูแล้วรู้สึกถึงพลังบวก สาวๆ แบล็กพิงก์ก็มีเสน่ห์มากและฉลาดมากๆ ด้วยค่ะ

อะไรที่ทำให้คุณมาทำสารคดีเรื่องนี้?

แคโรไลน์ : จริงๆ แล้วฉันไม่ได้คุ้นเคยกับ K-Pop เท่าไหร่ แต่ทางหลานของชั้นจะเป็นแฟน K-Pop ตัวยงเลยค่ะ แต่ฉันรู้จักแบล็กพิงก์นะคะ พอเริ่มทำ research เกี่ยวกับวงการนี้มากขึ้น ชั้นก็รู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ

ไฮไลท์ของสารคดี BLACKPINK: Light Up The Sky คืออะไร?

แคโรไลน์ : สำหรับสารคดีเรื่องนี้ จะถ่ายทอดมุมมองของแบล็กพิงก์ ในหลากหลายแง่มุม มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ไม่ได้มีเพียงมิติเดียว โดยจะเล่าเรื่องราวตั้งแต่การมารวมตัวกันของสมาชิกทั้ง 4 คน และอะไรที่ทำให้แบล็กพิงก์กลายมาเป็นปรากฏการณ์แห่งยุคสมัย

BLACKPINK: Light Up The Sky

ในฐานะผู้กำกับ คุณคงได้รับรู้และเห็นเรื่องราวเบื้องหลังมากมาย พอจะเล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหม?

แคโรไลน์ : ใช่เลย มันน่าตื่นเต้นมากๆ ที่ได้เห็นการทำงานเบื้องหลัง และการร่วมงานของศิลปินระดับโลกด้วยกัน โดยเฉพาะตอนที่เราไปถ่ายทำ แบล็กพิงก์มีโปรเจ็กต์กับ Lady Gaga พอดี เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจ

ที่ผ่านมาแบล็กพิงก์ไม่ค่อยได้ปรากฏตัวในวาไรตี้โชว์ หรือเรียลลิตี้โชว์มากนัก สารคดีอันนี้ถือเป็นความท้าทายใหม่ของพวกคุณ รู้สึกอย่างไรบ้าง?

ลิซ่า : การถ่ายทำเนื้อหาเรียลลิตี้ไม่ใช่เรื่องแรก แต่งานนี้เป็นสารคดีอันแรกของพวกเรา ฉันไม่ได้รู้สึกว่ามีส่วนไหนที่ยากเป็นพิเศษนะคะ พวกเราทุกคนสนุกกับมันมาก เราตื่นเต้นกันมากๆ ที่จะได้ชมในวันพรุ่งนี้และหวังว่าทุกคนจะชื่นชอบ

เป็นสารคดี K-Pop Netflix Original เรื่องแรก มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ที่เลือกแบล็กพิงก์ คุณต้องการไฮไลต์อะไรเป็นพิเศษในสารคดีนี้?

แคโรไลน์ : ครั้งนี้เน็ตฟลิกซ์ได้ร่วมงานกับ YG และแบล็กพิงก์เป็นโปรเจ็กต์แรก พวกเราอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวของสมาชิกแต่ละคน และการที่พวกเขาได้สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกขึ้นมา

ในสารคดีมีทั้งส่วนที่เจาะลึก มีแง่มุมที่หลากหลาย และรวมถึงช่วงเวลาที่ไม่มั่นคงของสมาชิกในวง?

จีซู : ตั้งแต่ที่เริ่มต้นโปรเจ็กต์นี้ เราต้องการที่จะแสดงให้คนดูเห็นถึงความเป็นตัวตนของเราผ่านบทสนทนาต่างๆ เพื่อให้คนรู้จักเรามากขึ้น และตระหนักว่าเรามีความหมายต่อกันมากแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ BLINK เราต้องการที่จะแชร์ความเป็นตัวเราให้พวกเขารู้จักเรามากขึ้น

ในการถ่ายทำสารคดี มีอะไรบ้างที่คุณได้เรียนรู้จากแบล็กพิงก์?

แคโรไลน์ : ฉันคิดว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้ คือความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ สมาชิกแต่ละคนของ BLACKPINK มีความแข็งแกร่ง ไม่ท้อถอย (fearless) และทุ่มเทอย่างหนักมาก เพื่อที่จะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

เจนนี่ BLACKPINK

อะไรเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้พวกคุณเป็น แบล็กพิงก์ในทุกวันนี้ มีอะไรที่อยากพูดถึงตัวเองตอนเป็นศิลปินฝึกหัดบ้าง

เจนนี่ : ฉันคิดว่าพวกเราทั้ง 4 คนมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเป็นสมาชิกของ แบล็กพิงก์ทุกช่วงเวลาที่เราผ่านมาด้วยกัน ถึงเม้พวกเราจะมีสไตล์และจุดเด่นที่ต่างกัน แต่พวกเรามีความเป็นทีมเวิร์ค และเรียนรู้ที่นำจุดเด่นของแต่ละคนมาผสมสานกันเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย ถ้าฉันสามารถย้อนเวลากลับไปสมัยที่เป็นศิลปินฝึกหัดได้ ฉันอยากจะบอกกับตัวเองและพวกเราทุกคนว่า “เพลิดเพลินและดื่มด่ำไปกับช่วงเวลานั้น” (Enjoy the Moment) เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามาก เรารู้สึกสนิทสนมกันมาก เพราะเราผ่านอะไรหลายอย่างมาด้วยกัน และฉันจะบอกว่า “เธอทำได้ดีแล้วและจงก้าวต่อไป” เพราะเราจะกลายเป็นแบล็กพิงก์ในทุกวันนี้

ในสารคดี ด้านไหนของแบล็กพิงก์ที่คุณอยากให้ความสำคัญมากที่สุด

แคโรไลน์ : ความมุ่งมั่น ความพยายามของเหล่าสมาชิก ว่าพวกเขาต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะมาเป็นแบล็กพิงก์ ในวันนี้

ชื่อเรื่อง Light Up the Sky มีความหมายและน่าจดจำอย่างไร และสำหรับแบล็กพิงก์ ตอนไหนคือช่วงที่โลกของคุณสดใสที่สุด (The world lights up the brightest)?

โรเซ่ : สำหรับชื่อเรื่อง ตอนนั้นพวกเราอยู่ด้วยกันที่สตูดิโอพร้อมกับแคโรไลน์ พวกเรามีเพลงที่ชื่อว่า “How You Like That” และท่อนหนึ่งของเนื้อเพลงว่า “Light Up The Sky” เราเลยรู้สึกว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่เพอร์เฟ็คมาก และฉันอยากจะบอกว่าตอนที่เราทั้ง 4 คนอยู่ด้วยกัน ท้องฟ้าของเราจะสว่างไสวที่สุดค่ะ

ในฐานะแบล็กพิงก์ คุณภูมิใจกับอะไรมากที่สุด?

โรเซ่ : จริงๆ แล้วมีหลายอย่างมากเลยค่ะ แต่ฉันอยากจะบอกว่า ทุกครั้งที่เราออกซิงเกิ้ลใหม่ เปิดตัว mv ใหม่ หรือมีผลงานใหม่อะไรก็ตาม พอเราเห็นสิ่งที่เราตั้งใจทำออกมาเป็นผลงานจริงๆ นั่นคือที่เราภูมิใจมากๆ แม้ว่าระหว่างทางเราจะท้อ หรือเหนื่อย แต่เมื่อเรากลับมาดูผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา ได้เห็นถึงพลังบวกจากแฟนๆ เราก็มีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อค่ะ

โรเซ่ BLACKPINK

แบล็กพิงก์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว อะไรเป็นกุญแจสำหรับความสำเร็จของคุณ

จีซู : ฉันอยากจะบอกว่า การทำเพลงในทุกวันนี้มีความแตกต่างจากเมื่อก่อน มันมีเรื่องของ visual เข้ามาเกี่ยวข้อง และแฟนๆ ที่เขาฟังเพลง พวกเขาอยากจะมีส่วนร่วมกับมัน พวกเราจึงอยากจะนำเสนอแนวเพลงในรูปแบบใหม่ๆ ให้แฟนๆ ได้รู้สึกภูมิใจไปพร้อมๆ กับเราด้วยค่ะ นอกจากนี้ เวลาที่เราจะออกผลงานใหม่ๆ พวกเราคุยกันเยอะมาก บางไอเดียก็ถูกเลือกขึ้นมาทำ บางไอเดียก็ไม่ เราพยายามนำเสนออะไรใหม่ๆ มาให้แฟนๆ ของเรา แล้วสุดท้าย ส่วนใหญ่แล้วพวกเราค่อนข้างเห็นตรงกันเสมอค่ะ

ได้ข่าวว่าสารคดีนี้จะมีฟุตเทจแปลกๆ มากมายเลยที่คนทั่วไปไม่เคยเห็นมาก่อน

แคโรไลน์ : โชคดีมากที่ YG ถ่ายฟุตเทจตอนที่วงยังเป็นศิลปินฝึกหัด หรือบรรยากาศเบื้องหลังต่างๆ ไว้เยอะมาก มีฟุตเทจเป็นพันๆ เลยที่ฉันได้ดู ซึ่งมันเป็นวัตถุดิบที่มีค่ามากๆ รวมถึงภาพเก่าๆ สมัยเด็กของสมาชิกแต่ละคน ฉันต้องขอบคุณแบล็กพิงก์มากๆ ที่มอบสิ่งเหล่านี้ให้

BLACKPINK: Light Up The Sky

สารคดีเรื่องนี้ น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นอีกมากมายที่อยากจะเป็นอย่างแบล็กพิงก์ คุณอยากจะบอกพวกเขาว่าอย่างไร?

ลิซ่า : ฉันอยากบอกว่าให้หาสิ่งที่คุณรักให้เจอ (find what you truly love) มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเอง ดูแลตัวเอง และรักตัวเองมากๆ ค่ะ

ความทรงจำที่ประทับใจที่สุดเบื้องหลังโปรเจ็กต์สารคดีชิ้นนี้?

โรเซ่ : เราได้ดูฟุตเทจเก่าๆ ด้วยกัน มันสนุกมาก ได้เห็นมุมของแต่ละคนที่เราไม่เคยเห็น

เจนนี่ : ในสารคดีเราต้องให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวต่างๆ ซึ่งฉันตื่นเต้นมาก ก่อนให้สัมภาษณ์ก็จะต้องซ้อมคุยกับตัวเองก่อน

ลิซ่า : เรื่องราวของโรเซ่ตอนเด็ก เป็นเรื่องที่ประทับใจฉันที่สุดเลยค่ะ

จีซู : ฉันยังไม่ได้ดูสารคดีเลย อยากรู้มากๆ ว่า Teddy พูดถึงพวกเราแต่ละคนว่าอย่างไรบ้าง

ภาพลักษณ์ของแบล็กพิงก์ที่เราเห็นกัน กับตัวตนจริงๆ ของพวกเธอเป็นอย่างไรบ้าง?

แคโรไลน์ : ครั้งแรกที่ฉันได้เจอสาวๆ BLACKPINK ที่หลังเวทีคอนเสิร์ต พวกเธอเป็นคนง่ายๆ สบายๆ  ช่างพูดช่างคุย และเป็นกันเอง พอฉันได้มาถ่ายทำสารคดีติดตามชีวิตพวกเธอ ฉันเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจ และการเป็นพลังสนับสนุนให้กันและกัน นั่นเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากๆ ค่ะ

ตั้งแต่เป็นศิลปินฝึกหัด คุณอยู่ด้วยกันมาเกือบทศวรรษแล้ว พวกคุณเปลี่ยนไปแค่ไหนบ้าง แล้วเรียนรู้อะไรจากกันและกันบ้าง?

จีซู : เราเติบโตขึ้นมาก บางครั้งฉันก็ย้อนกลับไปดูช่วงที่เราออกคอนเสิร์ตที่ Coachella เพื่อให้รางวัลตัวเอง เหมือนเราทำได้ตามเป้าหมายทีละอย่างๆ ตั้งแต่เราเดบิวต์เป็นศิลปิน ทุกๆ คนก็จับตามอง เราอยากทำให้ดีที่สุด เพื่อแฟนๆ ของเรา บางครั้งเราเหนื่อย และอยากยอมแพ้ แต่เรามีเป้าหมายเป็นแรงผลักดัน ให้เรามุ่งมั่นต่อไป เป็นพลังให้กันและกัน ช่วยเหลือกันเหมือนคนในครอบครัว

เจนนี่ : เราแต่ละคนเติบโตมาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่เราเป็นเพื่อนกันได้ แบบมองตาก็รู้ใจ เรากลายเป็นทีมเวิร์คที่ดีเยี่ยม และส่งพลังบวกที่เรามีให้แก่กัน

จีซู BLACKPINK

4 ปี หลังจากที่เดบิวต์ แบล็กพิงก์ได้แสดงคอนเสิร์ตที่ Coachella และร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย อะไรคือเป้าหมายต่อไปของพวกคุณในอนาคต และคิดว่าแบล็กพิงก์ จะเป็นอย่างไรในอีก 10 ปีข้างหน้า?

จีซู : เมื่อเร็วๆ นี้ เราเพิ่งปล่อยอัลบั้มแรกอย่างเป็นทางการของพวกเรา หลังจากนี้พวกเราก็จะคิดกันว่าจะทำอะไรใหม่ๆ แสดงให้คนเห็นถึงความท้าทายใหม่ๆ ของพวกเรา เราอยากจะสร้างสรรค์ผลงานที่ดีที่สุดให้กับแฟนๆ ของพวกเรา สารคดี Light Up The Sky ที่จะออนแอร์วันพรุ่งนี้ก็ถือเป็นก้าวแรกของความท้าทายนี้ และพวกเราก็ตั้งตารอคอยกับผลงานชิ้นนี้ค่ะ ในอีก 10 ปีข้างหน้าพวกเราก็หวังว่าจะเป็น BLACKPINK เหมือนที่เราเป็นในทุกวันนี้


ข้อมูล : Netflix

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทำความรู้จัก 4 เหมียวน้อยตระกูล “L” ลูกรักของ ลิซ่า BLACKPINK

10 เรื่องของ ลิซ่า แบล็กพิงก์ อาชีพในฝัน ทาสแมว ลายมือ ไอดอลผู้มีจิตใจงดงาม

คุณแม่จิตทิพย์ ลมใต้ปีกแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ ลิซ่า BLACKPINK

5 เช็กสิสต์ที่คู่รักต้องเข้าใจเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ระดับความต้องการทางเพศ

account_circle

ระดับความต้องการทางเพศ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถวัดปริมาณความต้องการจากค่าของฮอร์โมนในกระแสเลือด เหมือนเวลาเราไปเจาะเลือดหาค่าคลอเรสเตอรอล หรือไตรกลีเซอไรด์ได้

ทั้งนี้ในแต่ละคนจะมีระดับความต้องการทางเพศ มากน้อยต่างกันไป โดยความเหมาะสมของความต้องการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีก

ความต้องการทางเพศควรมีแค่ไหน

คำว่า “พอเหมาะ” ไม่อาจบอกได้ว่าเท่าไหร่ เพราะไม่มีค่าฮอร์โมนหรือสารเคมีวัดได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของตนเองและคู่ครอง ความพอเหมาะของคนหนึ่งอาจน้อยไปหรือมากไปสำหรับคนอื่น ๆ ก็ได้ แต่หากวัดจากการมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ ซึ่งทำให้มีลูกง่ายในวัยเจริญพันธุ์ ควรมีความต้องการทางเพศอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

ส่วนคนที่มีความต้องการมากทางเพศทุกวัน แต่สามารถควบคุมตนเอง แสดงออกอย่างเหมาะสม เช่น ช่วยตนเองในสถานที่ส่วนตัว ไม่เป็นปัญหากับการทำงาน หรือการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ก็ยังเรียกว่ามีความต้องการทางเพศในระดับที่พอเหมาะได้เช่นกัน

แต่สำหรับคนที่มีความต้องการที่เข้าข่ายใช้คำว่า “ไม่เหมาะสม” คือ คนที่มีความต้องการทางเพศมากเกินไป หรือที่เรียกว่า Allosexual โดยไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตนเองได้ ชอบแสดงออกในทางผิด จนเลยเถิดถึงขั้นกระทำผิดกฎหมาย เช่น  ทำอนาจารผู้อื่น หรือชอบโชว์ (Exhibitionist)  กลุ่มนี้ควรได้รับการบำบัดรักษาจากทางแพทย์

เหมาะสมหรือไม่ก็เรื่องหนึ่ง แต่ระดับความต้องการเข้ากันได้รึเปล่า นี่สิที่สำคัญ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @wevibe on Unsplash

ต้องบอกว่าสำหรับคู่ชีวิต ระดับความต้องการทางเพศที่เข้ากันได้ของคนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากฝ่ายหนึ่งมีความต้องการทางเพศสูง ในขณะที่อีกฝ่ายมีความต้องการทางเพศต่ำ การสานสัมพันธ์คู่รักก็คงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะถ้าฝ่ายหนึ่งมีความรู้สึกว่าการมีเซ็กส์เป็นส่วนสำคัญกับชีวิตคู่ ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ต้องการมีเซ็กส์เอาซะเลย

แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่คุณจะเริ่มจิ๊จ๊ะว่า “คู่ฉันมีปัญหาไหม?” แพรวเวดดิ้งแนะนำว่า คุณกับคู่ของคุณควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความต้องการทางเพศในระดับที่ทัดเทียมกันด้วย

และนี่คือ 5 เช็กสิสต์ความเข้าใจ ที่ทุกคู่รักต้องรู้เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ระดับความต้องการทางเพศ

1.ความเปลี่ยนแปลงของระดับความต้องการทางเพศเป็นเรื่องปกติ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @henrimeilhac on Unsplash

Mayo Clinic ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ความต้องการทางเพศนั้นมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงเวลาที่ผ่านไป ผนวกกับปัจจัยแวดล้อมหลาย ๆ อย่างที่อาจส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลง เช่น

ความเครียด ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราว หรือวิถีชีวิตที่สะสมความเครียดมาเป็นเวลานานก็ส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลงได้

ปัญหาความสัมพันธ์ การทะเลาะ การนอกใจ และการขาดความไว้เนื้อเชื่อใจสามารถส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลงได้

แผลใจ ประสบการณ์ที่ไม่น่าพึงใจในอดีตสามารถส่งผลให้เกิดความเครียดและนำไปสู่ความต้องการทางเพศที่มีระดับผิดปกติได้

อายุ ความต้องการทางเพศอาจเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงอายุได้เช่นกัน โดยทั่วไปความต้องการทางเพศจะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย

ความเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมน ช่วงหมดประจำเดือน ช่วงการตั้งครรภ์ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอื่น ๆ ก็ส่งผลกับความต้องการทางเพศได้

การใช้ยา ยารักษาโรคหลายชนิดมีผลข้างเคียงที่ส่งผลต่อความต้องการทางเพศ เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน ยารักษาความดัน และยารักษาภูมิแพ้ เป็นต้น

โรคประจำตัวบางอย่าง ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ โรคระบบหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน ความดัน มะเร็ง อาจส่งผลทำให้ความต้องการทางเพศลดต่ำลงได้

อย่างไรก็ตามปัญหาความต้องการทางเพศต่ำจากอาการเจ็บป่วยนั้น โดยปกติแล้วสามารถรักษาให้หายได้ โดยคุณอาจพบว่าความต้องการทางเพศของคุณกลับสู่ระดับปกติเมื่อเวลาผ่านไปหลังทำการรักษา นอกจากนี้ยังมีวิธีทางธรรมชาติอีกหลายทางที่ช่วยเพิ่มระดับความต้องการทางเพศของคุณได้

2.สารสื่อประสาทในสมอง อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกับความต้องการทางเพศ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @wevibe on Unsplash

หากพบว่ามีสารซีโรโทนิน (Serotonin ) สูง จะมีความต้องการทางเพศลดลง แต่ถ้ามีสารโดปามีน (Dopamine) และนอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) ในสมองสูง ความต้องการทางเพศจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ความแข็งแรงของระบบประสาทสมอง ระบบไหลเวียนโลหิต ก็มีผลต่อระดับความต้องการทางเพศเช่นกัน

3.เชื้อชาติ สิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม และวัฒนธรรม ตัวแปรสำคัญของความต้องการทางเพศ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @aiony on Unsplash

ในสภาพแวดล้อมที่มีความเข้มงวดเรื่องการแสดงความต้องการทางเพศ อาจทำให้ผู้ที่โตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมดังกล่าวมีความต้องการทางเพศที่ลดลง แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งกระตุ้นทางเพศมาก ก็จะทำให้มีความต้องการทางเพศสูง

เพราะฉะนั้นในคู่ที่เป็นคู่รักข้ามชาติ รักข้ามพรมแดน การจูนความต้องการทางเพศจึงต้องคิดถึงปัจจัยข้อนี้พ่วงเข้าไปด้วย

4.ต้องเข้าใจว่าระดับความต้องการทางเพศที่ไม่เท่ากันสามารถส่งผลกับชีวิตคู่ในระยะยาวได้จริงๆ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @cristian_newman on Unsplash

บางคู่อาจยอมรอให้คู่รักฟื้นความต้องการทางเพศจนพร้อมจะกลับมาสานสัมพันธ์กันได้ ขณะที่บางคู่อาจยอมอดทนกับคนรักที่มีความต้องการทางเพศต่ำจนแทบจะไม่มีกันเซ็กส์เลย บางคู่อาจเผชิญอุปสรรคในชีวิตจากการไม่มีเซ็กส์เป็นเวลานาน ซึ่งการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีนั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก ถ้าเซ็กส์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ แต่ไม่ใช่สิ่งที่คู่ของคุณต้องการ

ดังนั้น หากว่าคุณกับคู่ของคุณมีระดับความต้องการทางเพศที่ไม่ตรงกัน การพูดคุยเพื่อปรับตัวและทำความเข้าใจจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณดีขึ้นได้โดยที่ไม่มีใครต้องเสียใจ

5.ถ้าคุณรู้สึกว่าการมีเซ็กส์กับคู่ของคุณมีบางอย่างไม่เหมือนเดิมต้องพูดออกมา

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @priscilladupreez on Unsplash

การพูดคุยเป็นสิ่งสำคัญในการสานสัมพันธ์รัก โดยเฉพาะเมื่อความต้องการทางเพศของคุณเปลี่ยนไป คุณอาจจะลองเปิดประเด็นด้วยประโยคต่อไปนี้:

“ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าความอยากทำการบ้านเปลี่ยนไป และฉันอยากคุยกับคุณเรื่องนี้สักหน่อย”

“ถ้าคุณรู้สึกว่าฉันไม่เหมือนเดิมตอนที่เรามีอะไรกัน คุณไม่ต้องคิดมากนะ คือสาเหตุมันเป็นเพราะ…..”

“ช่วงหลัง ๆ นี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นเลย เรามาลองอะไรใหม่ ๆ กันหน่อยมั้ย?”

“ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้คุณไม่ค่อยอยากจู๋จี๋กันเท่าไหร่ คุณอยากคุยกันหน่อยมั้ย?”

“เราไม่ได้มีอะไรกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อน และฉันอยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม คุณคิดว่ายังไง?”

แต่ถ้าคุณคิดว่าการพูดคุยตรง ๆ ยากเกินไป ลองปรึกษากับที่ปรึกษาครอบครัวหรือนักบำบัดทางเพศดู พวกเขาอาจช่วยให้คุณพูดคุยกับคู่รักและหาทางออกร่วมกันได้ง่ายขึ้น

บางครั้ง ถ้าคุณรู้สึกว่าการมีเซ็กส์มันไม่รู้สึกดีเหมือนเก่าอย่างบอกไม่ถูก การลองทำอะไรใหม่ ๆ เช่น การเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเดทสุดสัปดาห์ การลองท่าร่วมรักที่ไม่เคยลอง หรือการลองของเล่นใหม่ก็อาจช่วยได้เหมือนกัน

 

ภาพ: https://unsplash.com/

‘ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ เลิกคิดจริงจังกับใคร’ ดูดวงรายวัน 14 ตุลาคม 2563

ดูดวงรายวัน 14 ตุลาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : ก็ยังอยู่กับงานที่มีกฎเกณฑ์และรูปแบบชัดเจน เช่น ในหน่วยงานราชการ งานเอกสาร งานบัญชี เป็นต้น หากคุณต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์คิดค้น เช่น ช่างฝีมือ หรือการสร้างงานของศิลปิน รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นคว้าทดลองนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม     วันนี้คุณก็ยังนั่งอยู่บนหลังเสือ ลุยงานอย่างเคร่งเครียดดุดัน โดยไม่ฟังความคิดเห็นของใคร เพราะฉะนั้นก็ยังต้องระวังการตัดสินใจที่รวดเร็ว และการมีบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ จะทำให้งานผิดพลาดได้อย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น

การเงิน : คุณชอบหมุนเงินทำธุรกิจที่ท้าทายและมีความเสี่ยงสูง ก็ไม่ควรลงเชื่อคำพูดที่มีหลักการและเหตุผลที่มาเสนอให้ลงทุนทำธุรกิจใหม่ๆ คุณอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ถูกหลอกและถูกโกง เพราะต้องเก็บเงินไว้สำหรับลงทุนทำงาน

ความรัก :  หากคุณเป็นศิลปิน วันนี้อาจกำลังเตรียมการแสดงชุดใหญ่เป็นบิ๊กเซอร์ไพร์ส เพื่อพิสูจน์ความรักแท้ที่มีต่อคู่ของคุณ คนโสด คุณมีความรักที่ซื่อสัตย์ จริงจัง และจริงใจ แต่ความหยิ่งก็มีเยอะ กลัวเสียเหลี่ยมจึงทำให้คุณไม่แสดงออกว่า ถูกใจใคร จนกระทั่งแน่ใจจริงๆ

สุขภาพ : หากคุณทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จะเริ่มมีปัญหาไล่ตั้งแต่คอ บ่า ไหล่ จนถึงหลัง ควรลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ หรือไม่ก็หาหมอนวดฝีมือดีมานวดแก้อาการ

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดและจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ เช่น ดีไซเนอร์ผลิตภัณฑ์ งานโฆษณาประชาสัมพันธ์ นักประดิษฐ์ นักค้นคว้า นักเขียน ฯลฯ วันนี้คุณอาจได้บุกเบิกเริ่มต้นงานใหม่ โดยได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ และคนใกล้ชิดที่จะสนับสนุนให้คุณได้เดินตามความฝัน แต่เพราะคุณติสท์ จึงยากที่จะทำงานร่วมกับคนอื่น จึงควรเป็นฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการเลยดีกว่า

การเงิน :  คุณมีผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือไม่ให้ต้องเดือดร้อนเรื่องเงิน ซึ่งคุณก็ใจดีและใจบุญ ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนและไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่อย่างไรก็ควรช่วยแบบพอดีๆ เพราะเงินอาจไม่พอช่วย

ความรัก : คุณยึดมั่นในอุดมการณ์มากกว่าความโรแมนติก จึงเน้นการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในหน้าที่การงาน และทัศนคติต่อสังคมมากกว่าความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว ขณะที่คู่คุณก็สงบร่มเย็น ไม่หือไม่อือใดๆ จึงอยู่ด้วยกันได้ คนโสด คุณอาจพบสัจธรรมที่ว่า ที่ใดมีรักที่นั่นก็มีทุกข์ ก็เลยไม่คิดจะจริงจังกับใครแล้ว

สุขภาพ :  สภาพร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปกับสภาพอากาศ พายุมาต่อเนื่องเช่นนี้ ต้องระวังป่วยไข้ไม่สบายและภูมิแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : อาจได้รับการติดต่อทาบทามให้ไปทำงานกับคนรู้จักหรือธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเป็นงานที่ต้องติดต่อและเดินทางอยู่ตลอดเวลา หรืองานประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือสื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ วันนี้หากไม่อยากวุ่นวายทั้งกายและใจ ควรเตรียมทำการบ้านก่อนรับปาก เพราะอาจได้เจอเพื่อนร่วมงานที่ขัดแย้งกับคุณทุกเรื่อง มีผลให้คุณหวั่นไหวจนไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรเลย

การเงิน : คุณจะได้เงินจากผู้ใหญ่หรือธุรกิจในครอบครัวไม่ให้ขาดมือ แต่ก็ไหลออกไปอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องการลงทุน และการใช้เงินกับคนรัก

ความรัก : หากคุณแต่งงานหรือตัดสินใจใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้ศึกษานิสัยใจคอกันให้ดีเสียก่อน ก็จะเป็นสาเหตุให้คุณรู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตคู่เร็วเช่นกัน และก็พร้อมที่จะขัดทุกอย่างหากพูดไม่เข้าหู   คนโสด คุณอาจได้เจอหนุ่มในฝันที่อยากจูงมือไปเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกันทันที อาจเหมาะที่จะหวานแหววแป๊บๆ แต่ไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตคู่ด้วยกันยาวๆ เพราะความคิดสวนทางกันตลอดๆ

สุขภาพ : ระบบหมุนเวียนเลือดลมมีปัญหา ทำให้มีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ จนถึงเป็นลม หากออกจากบ้านควรพกยาดม ยาหอม ยาหม่อง ติดกระเป๋าไว้ด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น ศิลปิน นักร้อง นักแสดง ดีไซเนอร์ เมคอัพอาร์ตติส ข้อดีของคุณก็คือขยันและตั้งใจทำงาน และชอบช่วยเหลือผู้อื่น แต่ข้อเสียก็คือ ติสจัดจนไม่มีใครสามารถทำงานด้วยได้ ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรรับงานเป็นฟรีแลนซ์ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจเลยจะดีกว่า รวยคนเดียว

การเงิน : ร่ำรวยๆๆ เงินไหลมาเทมา อาจได้จากผู้ใหญ่อุปถัมภ์ด้วย ซึ่งคุณใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจนไม่หวังผลตอบแทน หาได้เท่าไหร่ก็ไม่เหลือเก็บ

ความรัก : คุณมีอุดมการณ์ในเรื่องความรักชัดเจน มีภาวะผู้นำสูงทั้งงานในบ้าน และนอกบ้านก็สามารถส่งเสริมหน้าที่การงานของคุณสามีด้วย แต่ก็คาดหวังสูงไม่แพ้กัน คนโสด เก่ง ใจดี และรวยมาก แต่กว่าจะเข้าถึงตัวเธอก็ยากเช่นกัน

สุขภาพ : ถึงเวลาที่ต้องคุมน้ำหนักแล้ว หากคุณกำลังเอ็นจอยอีตติ้ง ก็ควรงดแป้ง น้ำตาล ของมันของทอดด้วย เพราะจะมีโรคอ้วนตามมา

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : หากวันนี้คุณคิดที่จะเริ่มต้นงานใหม่ หรือนำโครงการเดิมที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุงพัฒนางานใหม่ ก็ควรคิดใหม่ทำใหม่ เพราะคุณอาจได้เจอกับปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามาจนยากที่จะแก้ไขได้อย่างทันท่วงที จนทำให้คุณเกิดความระแวงและไม่มั่นใจตัวเอง และไม่ควรที่จะตอบโต้ด้วย จะทำให้เหนื่อยเปล่าๆ ทางที่ดีควรเอาตัวรอดจากสถานการณ์ตรงนี้ไปให้ได้ก่อน

การเงิน : ก่อนตกปากรับคำหรือเซ็นสัญญากับใคร ในเรื่องของผลประโยชน์ และการเงิน ควรพิจารณาให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นคุณอาจต้องเสียเงินก้อนใหญ่โดยไม่รู้ตัว

ความรัก :  คุณรักใครรักจริง แต่หากเบื่อก็เบื่อจริงจัง ฉะนั้น วันนี้แค่น้ำผึ้งหยดเดียวอาจลุกลามกลายเป็นใหญ่โตและรุนแรง คนโสด คุณผิดหวังและมีความทรงจำที่ไม่ดีกับความรักมาตลอด วันนี้คุณกลับมาอยู่กับครอบครัวกับคนที่รักคุณดีกว่า

สุขภาพ : บิ๊กคลีนนิ่งบ้านบ้างหรือยังคะ เพราะด้วยสภาพอากาศที่ฝนตกตลอดแบบนี้ เชื้อโรคชอบนักล่ะ จนทำให้สมาชิกในครอบครัวเริ่มเป็นภูมิแพ้แล้ว

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานทางด้านความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานออกแบบ นักคิดนักเขียน นักสื่อสารมวลชน ฯลฯ หากวันนี้คุณกำลังจะเริ่มต้นงานใหม่ หรือนำโครงการที่มีอยู่เดิมขึ้นมาปรับปรุงใหม่ก็จะประสบความสำเร็จด้วยดี แต่หากเลือกได้คุณควรเป็นฟรีแลนซ์ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจจะดีกว่า รวยแบบไม่ต้องปวดศีรษะ

การเงิน : ก่อนที่จะรับปากหรือเซ็นสัญญาในเรื่องของผลประโยชน์ ควรตรวจดูให้รอบคอบ เพราะด้วยความใจบุญและใจดีของคุณ จะเป็นช่องทางให้ถูกหลอกได้อย่างง่ายดาย

ความรัก : คุณมีภาวะผู้นำสูง หากเป็นหัวหน้าครอบครัวก็สามารถนำพาครอบครัวไปสู่ความสำเร็จ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ทุกคนต้องอยู่ภายใต้ความคิดและอุดมการณ์ของคุณ คนโสด คุณมีอุดมการณ์ความรักแรงกล้ามาก จนหาคนที่จะมาอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ยากมาก

สุขภาพ :  บ้านนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องบิ๊กคลีนนิ่งเหมือนกัน เพราะด้วยสภาพอากาศอาจทำให้คุณและสมาชิกในครอบครัวเป็นภูมิแพ้ จนเริ่มมีอาการเจ็บคอ และมีไข้เล็กๆ แล้ว

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ หรือการให้คำปรึกษาแนะนำ วันนี้ต้องระวังเพื่อนร่วมหุ้นหรือเพื่อนสนิทผู้หญิงให้ดี เพราะเธอกำลังแย่งชิงตำแหน่งและหน้าที่การงาน โดยโยนความผิดมาให้คุณ ส่วนตัวเธอก็รับความชอบไป จึงไม่ควรกล้าได้กล้าเสียมาก หรือลุยเดี่ยวไม่ฟังคำแนะนำจากใครเลย

การเงิน : หากลงทุนใดๆ ต้องระวังถูกโกง หรือไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ถูกขโมยทรัพย์สิน หรือหากซื้อเครื่องประดับมูลค่าสูง อาจเจอของปลอมนะคะ

ความรัก : ความสัมพันธ์ระหว่างญาติสนิทมิตรสหายที่เป็นผู้หญิง วันนี้อาจมีมือที่สามเข้ามาวุ่นวาย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครเป็นเพื่อนสนิทหรือคนคุ้นเคยกับบ้านคุณนั่นเอง คนโสด เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ อาจเข้ามาช่วงชิงคนที่คุณถูกใจด้วย แม้จะรู้ทั้งรู้

สุขภาพ : ระบบไหลเวียนน้ำในร่างกาย เช่น น้ำเหลือง น้ำเลือด น้ำย่อย จนถึงน้ำในหู อาจทำงานผิดปกติ โดยเฉพาะฮอร์โมนอาจสวิง ส่งผลให้เหวี่ยงวีน

 

 

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่ 

มีคู่แข่งหัวใจ จะแย่งชิงหรือจะปล่อยให้เธอไป ดูดวงรายวัน 10 ตุลาคม 2563

คนรักเก่ายังไม่ยอมไปไหน แต่เพราะศักดิ์ศรีจึงใจอ่อนไม่ได้ ดูดวงรายวัน 11 ตุลาคม 2563

ถูกผู้ไม่หวังดีดราม่า เขย่าจนเตียงสะเทือน ดูดวงรายวัน 12 ตุลาคม 2563

หน้ากากผ้า ยูนิโคล่  AIRism Mask

6 ข้อควรรู้ก่อนซื้อ! ยูนิโคล่ AIRism Mask พร้อมวางขายในไทย 16 ตุลาคมนี้

หน้ากากผ้า ยูนิโคล่  AIRism Mask
หน้ากากผ้า ยูนิโคล่  AIRism Mask

ยูนิโคล่ เตรียมวางจำหน่าย AIRism Mask ในไทย 16 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป หน้ากากผ้าประสิทธิภาพสูงสวมใส่สบายสำหรับทุกคน

ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่น เตรียมวางจำหน่ายหน้ากากผ้าแอริซึ่ม (AIRism Mask) ในทุกสาขาทั่วไทย รวมถึงออนไลน์สโตร์ ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป โดยการใส่หน้ากากถือเป็นวิธีการที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการรักษาสุขภาพ นอกจากนั้น ผู้คนทั่วไปในเอเชียตะวันออกยังมักสวมใส่หน้ากากเวลาป่วยเพื่อปกป้องตัวเองจากมลพิษ หรือใช้เหมือนเป็นแฟชั่นไอเท็มชิ้นหนึ่งไปแล้ว

ยูนิโคล่ เตรียมวางขาย AIRism Mask 

ดังนั้นยูนิโคล่จึงนำวิถีปฏิบัติใหม่ของผู้คนทั่วโลก รวมถึงความต้องการของลูกค้ามาใช้ในการพัฒนาหน้ากาก เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องและสวมใส่สบายในชีวิตประจำวัน โดยหน้ากากผ้าแอริซึ่ม ยังสะท้อนถึงพันธกิจของยูนิโคล่ในการช่วยทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นผ่านปรัชญาไลฟ์แวร์ (LifeWear) ได้เป็นอย่างดี

 ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นด้วยการปกป้องสามชั้น

หน้ากากผ้าแอริซึ่มมีเลเยอร์ถึง 3 ชั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน โดยเลเยอร์ชั้นแรกที่สัมผัสผิวผู้สวมใส่โดยตรงนั้นสวมใส่สบาย และยังนุ่มสบายผิวด้วยผ้าแอริซึ่มตาข่าย สำหรับเลเยอร์ชั้นกลางใช้ตัวกรองที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองและเกสรดอกไม้ได้ สำหรับชั้นนอกสุดใช้ผ้าแอริซึ่มตาข่ายที่ใช้เทคโนโลยีป้องกันรังสียูวีมาช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี โดยโครงสร้างทั้งสามชั้นของหน้ากากผ้ามีค่า UPF 50+ ซึ่งสามารถป้องกันรังสียูวีได้มากกว่า 90%

คงประสิทธิภาพในการปกป้องได้ดีแม้ผ่านการซัก

หน้ากากผ้าแอริซึ่มพัฒนาโดยให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นอันดับหนึ่ง เพราะยูนิโคล่เข้าใจดีว่าลูกค้าเลือกที่จะสวมใส่หน้ากากที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำกันมากขึ้น เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยหน้ากากผ้าแอริซึ่มสามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้และใช้ได้กับผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าทั่วไป จากการทดสอบพิสูจน์ได้ว่าตัวกรองที่ใช้ในโครงสร้างทั้งสามชั้นของหน้ากากผ้ายังคงประสิทธิภาพในการป้องกันได้ดีแม้ผ่านการซักในอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสไป 20 ครั้ง

หน้ากากผ้า ยูนิโคล่

ยูนิโคล่  AIRism Mask

สวมใส่สบายกว่าหน้ากากผ้านอนวูฟเวนหรือผ้าคอตตอน

หน้ากากผ้าแอริซึ่มให้สัมผัสนุ่มสบายผิว โดยเนื้อผ้าแอริซึ่มชั้นในสุดไม่หนาหรือสากเหมือนผ้านอนวูฟเวน (ผ้าไม่ถักไม่ทอ) และผ้าคอตตอน จึงลดการเสียดสีกับผิวหน้า นอกจากนี้ โครงสร้างผ้าตาข่ายสามชั้นยังทำให้หน้ากากบางและเบา ช่วยให้หายใจได้โล่งสบายยิ่งขึ้น 

พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นจากกระแสตอบรับของลูกค้าในญี่ปุ่น

ยูนิโคล่ตัดสินใจวางจำหน่ายหน้ากากผ้าแอริซึ่มทั่วโลก หลังจากเปิดตัวครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเยี่ยมและสัมผัสสบายของผ้าแอริซึ่ม รวมถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ยูนิโคล่

มีให้เลือกใส่ 3 ขนาด

ยูนิโคล่สร้างสรรค์หน้ากากผ้าแอริซึ่มออกมา 3 ขนาดจากประสบการณ์อันยาวนานในวงการเสื้อผ้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกขนาดของหน้ากากที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด โดยเด็กควรสวมใส่หน้ากากผ้าภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่ และหน้ากากแอริซึ่ม (แพ็ค 3 ชิ้น) มาในราคา 390 บาท

ขนาด S : สำหรับเด็ก เหมาะสำหรับเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาขึ้นไป

ขนาด M : สำหรับผู้ใหญ่ที่มีใบหน้าเล็ก

ขนาด L : สำหรับผู้ใหญ่ที่มีใบหน้ามาตรฐาน

ยูนิโคล่  AIRism Mask AIRism Mask หน้ากากผ้า AIRism Mask

รับฟังความคิดเห็นของลูกค้าเพื่อพัฒนาหน้ากากผ้าอย่างไม่หยุดยั้ง

ปัจจุบันหน้ากากถือเป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้ในการดูแลรักษาสุขภาพ และยูนิโคล่มุ่งมั่นที่จะส่งมอบหน้ากากที่ดีตามคอนเซ็ปต์ของผลิตภัณฑ์ไลฟ์แวร์ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น และแม้ว่ายูนิโคล่จะเปิดตัวหน้ากากผ้าแอริซึ่มไปแล้ว แต่บริษัทจะยังคงนำความคิดเห็นของลูกค้ามาพัฒนาสินค้าให้ดียิ่งขึ้นโดยไม่หยุดนิ่ง ทั้งในด้านคุณภาพและฟังก์ชั่นการใช้งาน


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มากกว่าเม็ดเงิน! Gucci สนับสนุนให้ผู้บริโภคซื้อของมือสอง

สวนกระแส! เหตุใดความต้องการซื้อ สินค้าแบรนด์เนม ของจีนจะเพิ่มขึ้น 30% ในปีนี้

ออกใหม่ให้ใจเต้น รองเท้าทรงกระสอบ ASICS x VIVIENNE WESTWOOD 8 พันบาท!

 

รุ่นใหญ่แต่เก๋าเกมส์! รู้จักสามพระเอกดังในตำนาน ซุป’ตาร์แถวหน้าของฮ่องกง

account_circle

การันตีความยิ่งใหญ่กับการยกทัพ ซุป’ตาร์แถวหน้าของฮ่องกง มาร่วมประชันฝีมือกันมากมาย โดยเฉพาะ 3 พระเอกรุ่นเก๋าชื่อดังของฮ่องกง อาทิ “โรเจอร์ คว็อก” (กัวจิ้นอัน), “แฟรงกี้ ลัม” (หลินเหวินหลง) และ “เบนจามิน เหยือน” (หยวนเหว่ยหาว) กับซีรีส์ฮ่องกงฟอร์มยักษ์แนวโรแมนติก-ดราม่า Another Era ดับแค้นแผนธุรกิจ” ที่มาร่วมกันสะท้อนเรื่องการหักเหลี่ยมและเชือดเฉือนในธุรกิจการเงิน งานนี้เราจะพาไปทำความรู้จักพระเอกรุ่นเก๋าทั้ง 3 คน! แต่ละคนดีกรีไม่ธรรมดากันจริงๆ!

รุ่นใหญ่แต่เก๋าเกมส์! ทำความรู้จักสามพระเอกดังในตำนาน ซุป’ตาร์แถวหน้าของฮ่องกง

ซุป'ตาร์แถวหน้าของฮ่องกง

เริ่มที่น้องชายคนเล็กพระเอกฮ่องกงชื่อดังขวัญใจสาวๆ หลายคน “เบนจามิน เหยือน” หรือ “หยวนเหว่ยหาว” เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 1891 ปัจจุบันอายุ 39 ปี ชื่อของ หยวนเหว่ยหาว ขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งซุปเปอร์สตาร์ของฮ่องกง และด้วยไลฟ์สไตส์ลุยๆ ของผู้ชายคนนี้จึงทำให้มีแฟนคลับสาวๆ ติดตามเขาทั่วเอเชียเลยทีเดียว และเมื่อปี 2018 เขาก็เพิ่งได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดนิยมของมาเลย์เซียและสิงคโปร์อีกด้วย ส่วนชาวไทยไม่ต้องน้อยใจไป เพราะเขาเคยมาเมืองไทยหลายครั้ง ประทับใจเมืองไทยมากๆ ที่สำคัญยังชอบข้าวเหนียวมะม่วงของเมืองไทยสุดๆ อีกต่างหาก!

ซุป'ตาร์แถวหน้าของฮ่องกง

มาต่อที่พี่ชายคนรอง “แฟรงกี้ ลัม” หรือ “หลินเหวินหลง” อีกหนึ่งพระเอกรุ่นเก๋าวัย 52 ปี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคนที่ชาวฮ่องกงให้การยอมรับทางด้านการแสดงของเขา ไม่ว่า หลินเหวินหลง ถึงแม้เดิมทีเขาเข้าวงการมาจากการประกวดเป็นนักร้องก็ตาม! ด้วยความสามารถรอบด้าน จึงทำให้ หลินเหวินหลง ได้รับการทาบทามจากแมวมองมาแสดงหนังและซีรีส์ต่างๆ จนแจ้งเกิดได้รับรางวัลการันตีมากมาย

ซุป'ตาร์แถวหน้าของฮ่องกง

คนสุดท้ายกับพี่ชายคนโต “โรเจอร์ คว็อก” หรือ “กัวจิ้นอัน” แฟนๆ หนังฮ่องกงหลายคนคงจะรู้จักผู้ชายคนนี้เป็นอย่างดี เพราะเขาคือพระเอกรุ่นใหญ่ชื่อดังของฮ่องกง ที่ชาวฮ่องกงต่างยอมรับและยกให้เขาเป็นพระเอกอันดับเบอร์ต้นๆ เลยทีเดียว! ถึงแม้ว่าปัจจุบัน กัวจิ้นอัน จะอายุ 55 ปีแล้วก็ตาม แต่ก็ไมได้ทำให้เรตติ้งความนิยมของเขาลดน้อยลงเลยด้วยซ้ำไป! ด้วยบุคลิคที่เป็นผู้ใหญ่ สุขุม ดูอบอุ่น มาดแฟมิลี่แมนของเขา ยิ่งทำให้ กัวจิ้นอัน ขึ้นหิ้งเป็นดาวค้างฟ้าของวงการบันเทิงฮ่องกงเลยทีเดียว!


 

อแมนด้า ผู้คว้ามงกุฎ MUT 2020

สุดแสนจะชิล! เปิดสไตล์นอกเวที อแมนด้า ผู้คว้ามงกุฎ MUT 2020

อแมนด้า ผู้คว้ามงกุฎ MUT 2020
อแมนด้า ผู้คว้ามงกุฎ MUT 2020

สลัดลุคนางงาม อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม เจ้าของตำแหน่ง MUT 2020 พร้อมเผยสไตล์ที่ดูสบายๆ นอกเวทีการประกวด แล้วคุณจะตกหลุมรักกับความเรียบง่ายของเธอ

ไม่พลิกโผ อแมนด้า ลูกครึ่งชาวไทย-แคนาดา 1 ในตัวเต็งท็อป 5 ที่แฟนนางงามพากันเชียร์ ก็สามารถคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 มาครอบครอง และขั้นต่อไปคือการเตรียมตัวเพื่อพิชิตมงกุฎจักรวาลมงที่ 3 ของไทย แต่ก่อนจะถึงช่วงเวลาแห่งการลุ้นจนตัวเกร็งอีกครั้ง วันนี้เรามารู้จักสาวงามคนนี้ให้มากขึ้น ผ่านสไตล์การแต่งตัวของเธอกันดีกว่า

แม้ว่าการเก็บตัวและทำกิจกรรมในกองประกวดที่ผ่านมา อาจทำให้หลายคนติดภาพความสวยเป๊ะในแบบนางงามมาไม่น้อย แต่ลุคนอกเวทีการประกวดของอแมนด้าจะทำให้คุณตกหลุมรักและได้มองเห็นเธออีกมุมที่ต่างออกไป ในวันที่ไม่มีกฎของทางกองประกวดมาเป็นกรอบ สไตล์ของอแมนด้าจะเป็นยังไง เรามาดูกันเลย

สุดแสนจะชิล! เปิดสไตล์นอกเวที อแมนด้า ผู้คว้ามงกุฎ MUT 2020

จากลุคของอแมนด้าที่คัดมาทุกคนได้ดูกัน จะสังเกตว่าถ้าไม่ต้องทำงานในฐานะนางแบบ หรือทำกิจกรรมของกองประกวด อแมนด้าจะแต่งตัวสบายๆ ไม่เยอะชิ้น แม้แต่ชุดว่ายน้ำก็ยังเป็นแบบเรียบๆ ไม่เน้นลายหรือสีสันฉูดฉาด และการแต่งตัวที่เธอถนัดก็คือสไตล์เซ็กซี่ ซึ่งเหมาะกับหุ่นเฟิร์มๆ หน้าสวยๆ ของอแมนด้ามาก นอกจากนั้นยังแต่งตัวตามความเหมาะสมได้ดีอีกด้วย


ภาพ : [email protected]

เรื่อง : ฮานะ_แพรวนิสต้า

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดัชเชสเคท ส่งข้อความลับถึง ควีนเอลิซาเบธ ด้วยการเลือกสีชุดที่มีความหมาย

สวยเด่นเรียกซีน! น้ำตาล ชลิตา เอาใจเชียร์นางงามรุ่นน้อง ร่วมงาน MUT 2020

กางปีกพร้อมบิน! แม่ชม ในชุด Balenciaga เสริมไหล่สูง ไม่แน่จริง ลุคนี้อาจไม่รอด

 

กาละแมร์-พัชรศรี

กาละแมร์-พัชรศรี สวยบนคานพันล้าน มีเงิน ไม่มีผู้ชายก็ได้

Alternative Textaccount_circle
กาละแมร์-พัชรศรี
กาละแมร์-พัชรศรี

คุยเรื่องความรักกับพิธีกรสาวแถวหน้าของวงการ  กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ สวยบนคานพันล้าน มีเงิน ไม่มีผู้ชายก็ได้

นานๆ จะมีโอกาสได้ออกมาพูดเรื่องความรักสักที สำหรับพิธีกรแถวหน้าของวงการ กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ  ที่งานนี้เจ้าตัวจัดหนักจัดเต็มเปิดหมดเปลือก เล่าทุกโมเมนต์ในช่วงชีวิตหัวใจ ในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ว่าแฮ็ปปี้ชีวิตโสด  มากในตอนนี้ ไม่ไขว่คว้าหาแฟน ออกตัวเป็นคนเลือกเยอะ-เรื่องเยอะ เพราะอยากได้คนที่ใช่และเข้าใจเรา ถ้าหาไม่ได้ ก็ไม่มีดีกว่า ไม่กลัวขึ้นคาน บอกถ้าอยู่คาน 1,000 ล้าน ไม่ต้องมีผู้ชายก็ได้ สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้แบบมีความสุข

กาละแมร์-พัชรศรี

จุดเปลี่ยนจุดหนึ่งเลยที่ทำให้คนได้รู้จัก กาละแมร์ มากขึ้น คือการที่ออกพ็อกเก็ตบุ๊คซึ่งแรงมาก ?

“ผู้ชายเลวกว่าหมาไม่ได้มาจากดาวอังคาร เรามาเปิดอ่านหนังสือของตัวเองตอนที่อายุมากขึ้น พอเราได้อ่านคือ เราอุทานกับตัวเองเลยว่าแรงมาก อีนี่แรงมาก แต่คือ เนื้อเรื่องข้างในคือ ความจริงทั้งหมดที่ทั้งตัวเราเจอและเพื่อนเจอในวัย 20 กว่า แก่นแก้ว ก๋ากั่น ตอนนั้นที่เราเขียนแบบเอามัน ณ ตอนนั้นคือลงในหนังสือ สุดสัปดาห์ แล้วผู้ชาย คือ รออ่านลุ้นว่าจะเป็นเรื่องของตัวเองไหม ตอนนั้นก็จะมีผู้ชายใกล้ตัวมาถามเราว่า แมร์ ไม่เขียนเรื่องพี่เหรอแบบนี้ด้วย”

เพราะหนังสือเล่มนี้ไหมที่ทำให้ผู้ชายกลัวแมร์?

“คือ เราไม่ได้คิดประหัตประหารอะไรกับใคร แต่มุมมองในความเป็นผู้หญิงแบบว่า ความเจ็บปวดมันมี ความเจ็บซ้ำมันมี แต่ข้างในมันไม่ได้มีอะไรมากเท่าชื่อ คือ เมื่อก่อนเราเป็นคนหมกมุ่นในเรื่องของความรัก เพราะเราอยากมีแฟน อยากรู้ว่าผู้ชายพูดแบบนี้ ทำแบบนั้นหมายถึงอะไร เราอยากเข้าใจเพศตรงข้าม ซึ่ง when are form Mars women are from venus เป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อหนังสือ ซึ่งคนที่ตั้งชื่อ ผู้ชายเลวกว่าหมาและไม่ได้มาจากดาวอังคาร เป็นพี่นักเขียนรุ่นใหญ่ ที่เป็นที่ปรึกษาในด้านการเขียน เขาตั้งให้ในวันที่เราเสียใจกับหนังสือเล่มแรกที่ไม่สำเร็จ เขาก็ปลอบเราว่าไม่ต้องเสียใจนะพี่ตั้งชื่อเล่มต่อไปไว้ให้แล้ว เราก็หายเศร้าเลยแล้วถามพี่เขาว่าเขาตั้งได้ยังไง มันมากเลยนะ พอเราเอาไปบอกเพื่อนผู้หญิง ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกับเรา แต่เราถามแต่ผู้หญิงลืมถามผู้ชาย”

พัชรศรี เบญจมาศ

กาละแมร์ เป็นผู้หญิงที่ทำงานๆเอาความสุขไปผูกไว้ที่เรื่องของงาน เป็นคนที่มั่นใจแข็งแกร่ง จนสโลแกนในชีวิตของน้องเปลี่ยนไปไม่มีผัว แต่มีเงิน จะได้ยินคำว่าเงินจาก กาละแมร์ เยอะมาก

” (หัวเราะ)คือหนูแค่ย้ายโฟกัส เมื่อก่อนเราทำงานแล้วเราก็มีแฟน ซึ่งมันเป็นคู่ขนานและต้องลงแรงทั้งคู่เลยนะ คือ ลงใจและลงแรงให้กับทั้งคู่เลย แล้วมาวันหนึ่งทุกอย่างเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือตัวแสดงมันเป็นวงจรแบบ รัก เลิกทะเลาะ เสียใจวนไปแบบนี้เรื่อยๆ จนเราเบื่อ แล้วเราก็ได้มาค้นพบศักยภาพบางอย่างในตัวเองนอกเหนือจากการเป็นพิธีกร ก้าวข้ามความกลัวบางอย่างในชีวิต แล้วเผชิญหน้ากับความฝันที่รอเราอยู่ คือ เราอยากเป็นเจ้าของธุรกิจในสิ่งที่ตัวเองสนใจ พอเราไม่ได้เอาใจไปยุ่งเกี่ยวกับความรักเหมือนเมื่อก่อนแล้วเราก็เอาพลังกาย กับใจมาทุ่มให้กับธุรกิจของเราเลย แล้วเราก็ตั้งเป้าเงินเลยการตั้งเป้าเงินเป็นอะไรที่จับต้องได้มันเหมือนกับการเล่นเกม มันคือ ความมันระหว่างทางมันไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว แต่ตอนที่มาทำธุรกิจคือการที่เราต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเลย เราชอบกับสิ่งที่เราเริ่มต้นใหม่มากเพราะเราต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด คือ เราใช้พลังแห่งการรักใครสักคน มาเป็นความรักและแรงบันดาลใจในงานของเรา เรามองงานของเราให้เป็นเหมือนเราได้เจอผู้ชายคนหนึ่งแล้วเราตกหลุมรัก ทำยังไงเราถึงได้เจอ พิชิตใจเขาได้”

แล้วคิดไว้บ้างไหมว่าเมื่อประสบความสำเร็จที่จุดนั้นได้ โดยก็ยังมีส่วนอื่นๆเข้ามาร่วมระหว่างทางได้ด้วย ?

“เผอิญว่าเรายังไม่เจอผู้ชายที่น่าสนใจพอให้มันเบียดเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ คือ เราไม่ได้ปิดนะเพียงแต่เราไม่ได้เปิดตามอง อย่างพอเราไม่ปิดเรดาร์ เราไปงานเลี้ยงกับเพื่อนแล้วเพื่อนเราสะกิดว่าผู้ชายมองเรายังมองไม่เห็นเขาเลย ตอนนี้เราเปิดเรดาร์เฉพาะว่าเราจะทำงานกับงานของเรายังไงให้ประสบความสำเร็จ”

พัชรศรี เบญจมาศ

แล้วอกหักของ กาละแมร์ ที่สุดคือ เกิดขึ้นตอนไหน?

ถ้าเราจับได้ 1 ครั้ง คือ เราเลิกเลย หลายคนบอกว่าโหดร้ายใจร้าย แต่เราให้โอกาสคุณมาตลอดการคบหา ถามว่าเราร้องไห้เสียใจไหม เราก็ร้องไห้เหมือนในมิวสิกวิดีโอ แต่สุดท้ายเราก็บอกตัวเองว่าพอแล้วไหมแล้วเราก็โทรบอกเลขาเลยว่ารับงานเลยเยอะๆ คือ มันเป็นการย้ายโฟกัส ไม่งั้นความรู้สึกเราจะเล่นซ้ำๆ แล้วเราก็บอกพี่อ้อยว่าช่วงนี้ขอไม่ฟังเพลงเศร้านะคะ ต้องย้ายก่อนเลยไปฟังเพลงอะไรที่ฮึกเหิมเลยตอนนั้น”

เคยมีไหมที่คนที่เขาทำผิดกับเราแล้วกลับมาขอโทษและขอโอกาส แล้วเราให้โอกาสเขาไหม

เคยมีนะคะ คือ ตอนนั้นแบบเรานิสัยเด็กๆแล้วมันไม่เข้าใจ แล้วพอเราโตขึ้นแล้วเราได้มาเจอกันและลองคุยกัน แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดอยู่ดี”

หลายๆความรักที่ไปไม่รอดเพราะเขา หรือ เพราะเรา

มันก็ต้องประกอบกันมันก็แค่การที่เขามีคนอื่น หรือการที่เราคิดว่าเขาไม่ใช่ล่ะ มันก็ต้องประกอบไปด้วยคนสองคน ถ้ามาถาม ณ วันนี้นะ ไม่ได้โทษใคร ไม่ได้โทษเขาไม่ได้โทษเราทุกอย่างมันเกิดขึ้นมันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเสมอ แฟนเก่าบางคนชอบรู้สึกผิดอยู่นั่นแหละ แล้ววันเกิดเราเขาชอบส่งข้อความมาขอโทษ เราเลยบอกเขาว่าเลิกส่งมาขอโทษสักที ทุกวันนี้รวยขึ้นก็เพราะเลิกกับเธอ เพราะเราไม่เคยคิดโกรธเกลียด หรือ ว่าอะไรใครอยากมาปรึกษาอะไรเราให้คำปรึกษาได้”

เมื่อก่อนเราเคยคิดว่าการมีแฟน คือ สรณะ ถ้าฉันไม่มีแฟนดูเหมือนไม่มีคุณค่าในตัวเองแล้วมันมาเปลี่ยนตอนไหนที่ไม่มีใครก็ได้

ตอนวันที่เราเป็นโสด เราคิดว่าเราต้องอยู่กับตัวเองให้ได้ ช่วงนั้นเราอ่านและฟังธรรมะเยอะมาก ทำให้เราคิดได้ว่าถ้าไม่มีแฟน หรือ ไม่มีใครลองยืนด้วยขาตัวเองให้ได้ ทำให้เรามีความรู้สึกมันดีแบบนี้เลยเหรอ ดีในแง่ที่ว่าฉันเริ่มรักตัวเองเป็นแล้ว จากที่เมื่อก่อนหัวใจฉันต้องฝากไว้ที่ใคร ต้องฝากไว้ที่เขาตลอดเวลา ผูกเขาไว้ตลอดเวลา ก็เริ่มทำตามแบบที่ตัวเองชอบบ้าง งานอดิเรก และ เริ่มเดินทางคนเดียว เพราะเมื่อก่อนเราต้องเริ่มว่าเธอจะไปไหน ทำอะไร แต่วันนี้ ฉันอยากเดินทาง ฉันอยากไปที่นี่ งั้นฉันไป มันเหมือนนกที่ได้บินไปเดี่ยว แล้วเชื่อใจในปีกของตัวเอง นี่มันคือความสุขของชีวิตที่เราไม่เคยได้สัมผัสเลย เพราะเรามัวแต่เอาความสุขของเราไปฝากไว้กับอีกคน”

เพราะคิดแบบนี้หรือเปล่า เลยไม่มีแฟนอีกเลย

มันก็มีคนเข้ามานะคะ ไม่ได้ปิดตาย ก็เรียนรู้กันไป ถ้าไม่เวิร์กก็เลิก ก็ไม่ได้ต้องมายื้ออะไรกัน”

ความสุขของกาละแมร์ คือ การไปถึงเป้าหมายแล้วความสุขระหว่างทางของ กาละแมร์ คือ อะไร

คือ การที่เราได้ชนะใจตัวเอง การที่ทำพันล้านของเรา เราต้องผ่านอะไรเยอะมาก ที่เราตั้งเป้าหมายยากๆ เหมือนเราได้ฝึกวิชา เราต้องฝืนความต้องการ ความแบบสบายของตัวเองเยอะมาก อย่างช่วงโควิด มันคือช่วงแห่งการวัดใจเลย หนูคุยกับหุ้นส่วนเลยว่าเอาไงดี เขาเลิกกิจการกันนะ เขาหยุดกันทั่วโลก เราหยุดไหมคือหุ้นส่วนบอกเขาเห็นเราเหนื่อยมากเพราะเราเป็นทัพหน้าเขาบอกเราถ้าเหนื่อยหยด แต่เราคิดว่าเราสวนกระแสเลยยอดสั่งของเราพอหลังโควิดเพิ่มเท่าทวีคูณดังนั้นมันอยู่ที่ใจนิดเดียว”

พิธีกรเก่งกล้า มีความสามารถ มันยิ่งทำให้เราหาผู้ชายสักคนหนึ่งยากหรือเปล่า

หนูต้องการแค่ผู้ชายคนเดียว คือเราหามาเยอะแล้ว เรามีมาเยอะแล้ว ดังนั้นเราต้องการของคุณภาพแค่อย่างเดียวเท่านั้นเอง แต่ถ้าสุดท้ายถ้าไม่มี หนูก็มีตัวเองเป็นเพื่อนนะ แล้วคือเราไม่ได้กลัวการที่เราไม่ได้อยู่คนเดียว คือ เราจะบอกว่าถ้าคุณไม่ได้มาเป็นเราคุณจะไม่รู้ว่า ถ้าคุณรู้ใจตัวเองเพียงพอว่าคุณชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีความสุขกับอะไร อะไรที่ทำแล้วหัวใจคุณพองโต การไม่มีแฟนไม่ได้แปลว่าคุณไม่มีกัลยาณมิตร เรายังมีเพื่อนที่ดีๆ มีคนรอบข้าง แท้ที่สุดก็คือ เรายังมีตัวเราเป็นมิตรที่ดีที่สุดแล้วเรารู้เลยว่าตัวเราไม่ทิ้งเราไปไหนแน่นอน ดังนั้นถ้ามันไม่ได้มีแล้วให้เราบวกขึ้น หนูก็พร้อมที่จะอยู่คนเดียว”


ภาพจาก : IG @kalamare

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เฮลตี้ตัวแม่ กาละแมร์ เผยเทคนิคปฏิวัติชีวิต…สุดฟิตแบบ 24 ชั่วโมง

วิถีสาวสายบุญ กาละแมร์ งดงามในชุดไทยห่มสไบ จัดเต็มตั้งแต่หัวจรดเท้า

ร่างกายเหนื่อยล้า

ภาวะ ร่างกายเหนื่อยล้า ในหมู่คนทำงาน บ่อนทำลายสุขภาพที่ไม่ควรละเลย

Alternative Textaccount_circle
ร่างกายเหนื่อยล้า
ร่างกายเหนื่อยล้า

ความเครียด หรือ ภาวะ ร่างกายเหนื่อยล้า ถือเป็นปัญหาที่พบมากในหมู่คนทำงาน ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับอาการเหล่านี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ได้ก่อให้เกิดผลร้ายอย่างเฉียบพลัน

หลายคนต้องประสบกับอาการหลงๆ ลืมๆ เมื่อเรามีอายุมากขึ้น การศึกษาวิจัยได้สรุปออกมาว่า เมื่อเราอายุมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานของสมองจะค่อยๆ ลง โดยทั่วไปจะการทำงานของสมองจะเริ่มลดลงตั้งแต่เมื่ออายุ 30 ปี และจะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่ออายุ 50 ขึ้นไป นายแพทย์ เขษม์ชัย เสือวรรณศรี อายุรแพทย์ด้านประสาทวิทยา ศูนย์ประสาทวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้แนะนำว่า การมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น และทำให้สมองและจิตใจมีความกระตือรือร้นตลอดเวลาและจะสามารถช่วยลดหรือชะลออาการหลงๆ ลืมๆ ตามวัยได้อีกด้วย 

อาการหลงๆ ลืมๆ ถึงแม้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแก่ตัว แต่ก็สามารถเป็นผลจากปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้เช่นกัน  อย่างเช่น ความเครียด หรือ ภาวะร่างกายเหนื่อยล้า ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่พบมากในหมู่คนทำงาน ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ให้ความสำคัญกับอาการเหล่านี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ได้ก่อให้เกิดผลร้ายอย่างเฉียบพลัน

“ภาวะร่างกายอ่อนล้านั้น เป็นภาวะที่เรารู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีเรี่ยวแรง เซื่องซึม และซบเซา ภาวะร่างกายเหนื่อยล้าเป็นสาเหตุหลักของอาการหลงๆ ลืมๆ ชั่วคราวในหมู่คนวัยกลางคน และจะดีขึ้นได้เองเมื่อสุขภาพดีขึ้น

“ภาวะ ร่างกายเหนื่อยล้า เป็นบ่อนทำลายสุขภาพเป็นอย่างมาก จึงไม่ควรละเลย”

คุณหมอเขษม์ชัย ยังได้แนะนำอีกว่า หากคุณกำลังประสบอาการหลงๆ ลืมๆ บ่อยๆ และติดต่อกันเป็นเวลานาน หนทางที่ดีที่สุดก็คือ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง

ปรับรูปแบบการดำเนินชีวิต เพื่อเพิ่มสมรรถนะของความจำให้ดีขึ้น

ทุกคนต้องมีอาการหลงลืมบ้างในบางที แต่อาการหลงลืมไม่ใช่ปัญหาเล็กน้อยในการมีสุขภาพที่ดีของเรา ถึงแม้ว่าเมื่อร่างกายเราแก่ตัวไปจะไม่สามารถป้องกันอาการหลงๆ ลืมๆ ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การดูแล และเพิ่มสมรรถนะของสมองให้ทำงานได้ดีเยี่ยมตลอดเวลาอาจจะช่วยให้ความจำมีประสิทธิภาพได้ยาวนานขึ้นได้

คุณหมอเขษม์ชัย ยังได้แนะนำอีกว่า วีถีการดำเนินชีวิตต่อไปนี้ จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพสมองให้แข็งแรง

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยมีสุขลักษณะการนอนที่ดี
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้เพียงพอ และสมดุลกับความต้องการของร่างกาย อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายย่อมมีประโยชน์ต่อสมองด้วยเช่นกัน
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังจะช่วยให้ระบบการหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ดี ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เข้าสังคม มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนบ่อยๆ จะช่วยให้สมองได้ทำงานสม่ำเสมอ และยังช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าอีกด้วย
  • หลีกเลี่ยงความเครียดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าหักโหมใช้สมองมากจนเกินไป
  • ดื่มน้ำเยอะๆ

อาหารสมอง

อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวัน นอกจากจะช่วยบำรุงร่างกายแล้ว ยังมีผลต่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานของสมองอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวของอาหารที่จะช่วยการป้องกันอัลไซเมอร์ หรือโรคเกี่ยวกับสมองอื่นๆ แต่การรับประทาน “อาหารสมอง” บางชนิด จะช่วยให้รักษาระดับความจำเมื่อเราแก่ตัวไปได้

การรับประทานอาหารที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และวิตามินบางตัว เช่น วิตามินบี12 วิตามินซี วิตามินอี จะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองอยู่ในภาวะที่ดีที่สุด

  • ปลาทะเลต่างๆ เช่น แซลมอน ปลาเทราท์ ปลาทู มีปริมาณโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการทำงานของสมองสูง
  • ถั่วและเมล็ดธัญพืชต่างๆ ที่มีวิตามินอีสูง ซึ่งจะช่วยป้องกันความจำเสื่อม โดยเฉพาะในหมู่ผู้สูงอายุ
  • พืชผักใบเขียว เช่น บร๊อคโคลี่ ผักโขม ผักคะน้า มีปริมาณวิตามินอี สูง
  • อโวคาโด เป็นอาหารที่มีวิตามินอีและสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้

ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รู้หรือไม่? แสงไม่จ้าก็ทำร้ายดวงตาได้ จึงควรพักสายตาด้วยกฎ 20-20-20

หลับยาก! เช็คลิสต์ 5 โรคฮิตต้นเหตุของปัญหาการนอนไม่หลับ

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง อาการคัน แดง แห้งเป็นขุย รักษาหายขาดไม่ได้ แต่ป้องกันได้!

 

 

 

‘เบื่อกับการมีรัก มีเงินดีกว่า เดี๋ยวทุกอย่างก็ตามมา’ ดูดวงรายวัน 13 ตุลาคม 2563

ดูดวงรายวัน 13 ตุลาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่มีรูปแบบและกฎเกณฑ์ตายตัว เช่น งานในหน่วยงานราชการต่างๆ งานบัญชี งานเอกสาร ฯลฯ หากคุณได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นผู้บริหาร หรือทำงานในฝ่ายบริหาร แม้จะไม่ต้องการก็ตาม แต่เมื่อขึ้นหลังเสือแล้ว คุณก็มีพลังกายพลังใจเกินร้อย พร้อมที่จะบุกเบิกลุยงานแบบถึงไหนถึงกัน วันนี้ควรระวังการตัดสินใจที่เฉียบขาดและรวดเร็ว จนอาจไม่ทันได้ไตร่ตรองให้ดี รวมทั้งบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ จะเป็นสาเหตุให้เกิดความผิดพลาดล้มเหลวได้อย่างไม่น่าเกิดขึ้น

การเงิน : คุณมีความสามารถใช้เงินทำงานสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง แต่ก็อย่าหลงเชื่อคำพูดที่มีหลักการและเหตุผลที่มาชวนคุณไปลงทุน เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ความรัก :  คุณเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ใส่ใจสมาชิกในทุกๆ รายละเอียด วันนี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะลูกหลาน รวมถึงบริวารในบ้านก็ให้ความเกรงใจคุณ มีความประพฤติดี สามารถพึ่งพาได้ดังใจ คนโสด  แอบรักใครอยู่หรือเปล่าคะ แม้จากตำแหน่งหน้าที่การงานอาจทำให้คุณไม่สามารถแสดงออกได้เต็มที่ แต่วันนี้อาจไม่แคร์ก็ได้นะคะ

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะจนติดเป็นนิสัย เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้คำพูดในการติดต่อประสานงาน เช่น นักการทูต นักสื่อสารมวลชน ดีเจ พิธีกร ศิลปินดารา หรืองานที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการขายทุกประเภท วันนี้หากคุณอยากเติบโตในหน้าที่การงาน อยู่นิ่งๆ ไม่ได้แล้ว อาจต้องวิ่งเต้นเข้าหาผู้ใหญ่บ้าง โดยเน้นไปที่เอกสารสัญญา หรือทางด้านของกฎหมาย เช่นการต่อสัญญาการจ้างงาน แต่ไม่ควรไว้ใจคนมาก เพราะเวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน จากผู้ที่เคยให้ความช่วยเหลืออาจเปลี่ยนท่าที ขณะที่ผู้ที่ไม่เคยให้ความช่วยเหลือมาก่อนเลย อาจกลายเป็นมิตรที่ดีก็ได้

การเงิน :  หากคิดจะร่วมหุ้นกับแฟนทำธุรกิจ จะมีผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งคุณติดหรู เลือกของใช้แต่ละอย่างราคาสูง ดังนั้น ก่อนใช้เงินแต่ละบาทจึงควรคิดให้รอบคอบ ต้องประหยัด

ความรัก : วันนี้อารมณ์คุณขึ้นลง เหวี่ยงวีนอย่างไม่มีสาเหตุ ซึ่งเสี่ยงต่อการที่คุณจะตัดสินใจแยกกันอยู่ง่ายมาก  เรียกว่าถึงขั้นดำเนินการทางกฎหมายเลยทีเดียว คนโสด คุณเป็นประเภทรักง่ายหน่ายเร็ว จึงไม่ต้องรีบให้เขาพาแม่มาขอนะคะ เพราะพรุ่งนี้คุณอาจเบื่อแล้วก็ได้

สุขภาพ :  ควรระวังการป่วยไข้ไม่สบายจากโรคร้ายที่สะสมมานาน โดยไม่มีอาการหรือลางบอกเหตุใดๆ ซึ่งจะเกิดอย่างปัจจุบันทันด่วนโดยไม่คาดคิด แล้วมาทีก็หนักเลย

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบ และความคล่องตัวสูง เช่น นักบัญชี นักกฎหมาย ผู้ตรวจสอบ นักข่าว นักประชาสัมพันธ์ ฯลฯ คุณตั้งคอนเซ็ปท์ในการทำงานก็เพื่อความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน และความมั่นคงในรายได้ให้ทัดเทียมกับผู้คนในสังคม วันนี้คุณจึงบุกเบิกงานอย่างถึงลูกถึงคน พยายามทำทุกวิธี เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ใดก็ตามที่จะทำให้คุณหลุดจากเก้าอี้

การเงิน :  มุ่งมั่นทำงานหาเงินเพื่อสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง  ซึ่งคุณก็ทำได้ดี แต่หากคุณลดการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จะทำให้คุณมีเงินมากกว่านี้  โดยเฉพาะการจ่ายเงินโดยใช้อารมณ์เป็นใหญ่ที่จะทำให้คุณสูญเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์

ความรัก :  คุณให้ความสำคัญกับการหาเงินสร้างครอบครัวให้มีหน้ามีตาทัดเทียมกับผู้อื่น จนลืมคิดถึงเวลาและความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน แม้จะเคยทำให้ชีวิตครอบครัวคุณพังมาแล้ว แต่คุณก็ไม่สามารถปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลงได้  คนโสด ผิดหวังมาเยอะ จนคุณอาจเฉยๆ กับการมีครอบครัวแล้ว หาเงินดีกว่า มีเงินเดี๋ยวทุกอย่างก็ตามมาเอง

สุขภาพ : ปกติคุณแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วย จึงต้องระวัง เพราะหากเป็นก็จะอาการหนักเลย อวัยวะที่ต้องห่วงใยดูแลเป็นพิเศษคือ ช่องท้อง และมดลูก

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายบ้านและที่ดิน อสังหาริมทรัพย์  ตั้งแต่เกษตรกร นักธุรกิจเพชรพลอย อัญมณี นักแต่งสวน จนถึงศิลปินพื้นบ้าน งานโอท็อป ฯลฯ วันนี้หากคุณกำลังคิดที่จะบุกเบิกงานใหม่ หรือขยับขยายธุรกิจเพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคง ความสำเร็จกำลังรอคุณอยู่ แต่ก็ควรระวังความเชื่อมั่นที่สูงมากจนเกินไป จะทำให้การตัดสินใจประกอบอาชีพผิดพลาดหรือมีจุดหักเหในชีวิตจนไม่ตั้งตัว ซึ่งอาจประสบปัญหาในหน้าที่การงานอย่างไม่น่าเป็นได้ หากเลือกได้ควรทำธุรกิจส่วนตัวจะดีกว่าทำงานประจำ

การเงิน :  ก็ยังมีรายได้ที่สูงอยู่ ซึ่งอาจได้จากการซื้อขายบ้านและที่ดิน หากจะสะดุดบ้างก็ตรงที่ญาติผู้ใหญ่ขอยืมเงิน หรือลงทุนผิดพลาด แต่ก็เป็นแค่เพียงระยะสั้นๆ

ความรัก :  มักมาพร้อมๆ กับความพร้อมของฐานะการเงิน ซึ่งคุณก็อยู่ในครอบครัวที่มีรากฐานที่มั่นคง รัก และดูแลเอาใจใส่คุณอย่างดี  คนโสด คุณมีเสน่ห์และโชคดีในความรัก อาจได้เจอคนที่เพอร์เฟ๊กท์ ทั้งฐานะความเป็นอยู่และความจริงใจก็ได้นะ

สุขภาพ : เคยเป็นเด็กขี้โรคมาก่อนหรือเปล่าคะ ถึงตอนนี้จึงใช้ชีวิตสมบุกสมบันมากไม่ได้ ป่วยง่ายมาก จึงควรดูแลสุขภาพ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายเป็นประจำ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : เป้าหมายในการทำงานของคุณคือ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน และการยอมรับจากสมาชิกในองค์กร จนถึงสถานภาพทางสังคม แล้ววันนี้คุณก็ทำได้เสียด้วย โดยได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากผู้ใหญ่ ส่วนเพื่อนร่วมงานและเจ้านายก็เมตตาเอ็นดูคุณเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามเมื่อมีคนรัก ก็ต้องมีคนชังเป็นธรรมดา แม้คุณจะได้อยู่ในตำแหน่งที่สูงสมใจ แต่ก็อาจหนาวได้

การเงิน : คุณหมกมุ่นครุ่นคิดอยู่กับการทำธุรกิจ และการแสวงหาลาภยศ เงินทอง มากกว่าเรื่องอื่นใด ซึ่งคุณก็มีโอกาสได้โชคลาภอย่างไม่คาดคิด อย่างไรก็ตามควรให้ความดูแลสงเคราะห์ญาติผู้ใหญ่ด้วย

ความรัก :  คุณเป็นแม่บ้านที่ขยันขันแข็ง ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวตัวเป็นเกลียว ดังนั้น สมาชิกรวมถึงผู้ใหญ่ในบ้านจึงรักใคร่ และภูมิใจในตัวคุณมาก คนโสด คุณให้ความสำคัญกับการทำมาหากิน สร้างฐานะให้กับตัวเอง จนไปเข้าตาผู้ใหญ่บ้านอื่น อยากขอคุณไปเป็นสะใภ้นะคะ

สุขภาพ : ไม่ควรโหมงานหนัก จนใช้ร่างกายสมบุกสมบันมากไป เพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็นได้ ทั้งโรคขาดสารอาหาร กับโรคอ้วน จนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายแรงตามมา

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  หากคุณเป็นคนขยัน ตั้งใจทำงาน และให้ความช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานเป็นประจำ วันนี้ผู้ใหญ่ รวมถึงเพื่อนร่วมงาน และเจ้านายจะเล็งเห็นถึงสิ่งที่คุณทำ จึงให้การสนับสนุนเอ็นดูเป็นพิเศษ แต่คุณไม่ควรดีแตก ยึดมั่นในความคิดเห็นของตัวเองมากจนไม่ฟังความคิดเห็นของคนอื่นเลย เพราะจากความเมตตาเอ็นดูจะกลายเป็นการใส่ร้ายป้ายสีทันที ซึ่งจะส่งผลร้ายและกระทบต่อหน้าที่การงานอย่างกะทันหัน

การเงิน : คุณใจดี ใจบุญ วันนี้คุณอาจให้การสงเคราะห์ญาติสนิทมิตรสหายที่เดือดร้อน หรือช่วงนี้เป็นหน้ากฐิน คุณอาจรับเป็นเจ้าภาพหรือกรรมการไว้หลายวัด จนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก : ชีวิตรักและความสัมพันธ์ในครอบครัวของคุณก็ราบเรียบและราบรื่นดี ซึ่งคุณเหมือนเป็นหลักชัยของครอบครัวและญาติผู้ใหญ่ แต่ก็อาจมีปัญหาความหึงหวงบ้างพอเป็นกระษัย   คนโสด คุณให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นหลัก เรื่องผู้ใหญ่ที่บ้านเป็นที่สอง ส่วนเรื่องรักสุดท้ายเลย

สุขภาพ : มีโอกาสได้รับบาดเจ็บและเกิดอุบัติเหตุต่างๆ อย่างไม่คาดคิดในวิถีการใช้ชีวิตประจำวัน จึงไม่ควรประมาท

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : หากคุณกำลังมีโครงการสอบเข้าทำงานในหน่วยงานที่มีรูปแบบกฎเกณฑ์ตายตัว เช่น งานราชการ งานบัญชี งานเอกสาร ฯลฯ วันนี้อาจมีปัญหาและอุปสรรคในการติดต่อประสานงาน โดยเฉพาะเรื่องการใช้ภาษา เพราะฉะนั้นควรระวังให้ดีและเพิ่มความรอบคอบ ซึ่งหากคุณสอบเข้าทำงานได้ คุณสามารถยึดเป็นเรือนตายได้เลย

การเงิน : รายได้ของคุณมาจากแรงงานและความสามารถของตัวเองเป็นหลัก จึงอย่าให้คนอื่นมาชุบมือเปิบได้ง่ายๆ เพราะวันนี้คุณอาจต้องเสียเงินซื้อของให้กับคนรัก ยิ่งหากชวนคุณไปลงทุนหรือทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องปฏิเสธเลย อาจมีผลให้คุณมัวหมองในหน้าที่การงาน

ความรัก : เกี่ยวข้องกับเรื่องลูกๆ หรือเด็กในบ้าน คุณจะได้พบทั้งเด็กก้าวร้าวเอาแต่ใจ และเด็กดีมีความรับผิดชอบ ซึ่งอาจเกิดปัญหาลำเอียง รักไม่เท่ากันก็ได้นะคะ คนโสด คุณกำลังถูกใจศิลปินอารมณ์ดี ซึ่งคุณพยายามฝ่าบรรดาแฟนคลับเพื่อต้องการเอาชนะใจเขาให้ได้

สุขภาพ : เดินทางไปไหนอย่าประมาท เพราะคุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทั้งทางน้ำและทางบกสูง เบาะๆ ก็อาจเดินชนนั่นนี่จนเป็นแผลฟกช้ำดำเขียวตามร่างกาย ขอแค่นั้นพอ

 

 

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่ 

มีคู่แข่งหัวใจ จะแย่งชิงหรือจะปล่อยให้เธอไป ดูดวงรายวัน 10 ตุลาคม 2563

คนรักเก่ายังไม่ยอมไปไหน แต่เพราะศักดิ์ศรีจึงใจอ่อนไม่ได้ ดูดวงรายวัน 11 ตุลาคม 2563

ถูกผู้ไม่หวังดีดราม่า เขย่าจนเตียงสะเทือน ดูดวงรายวัน 12 ตุลาคม 2563

keyboard_arrow_up