L'Astelle

ชุดแต่งงาน L’Astelle งานปักระดับโอต์ กูตูร์ ส่งต่อความงดงามจากบทกวี

Alternative Textaccount_circle
L'Astelle
L'Astelle

เมื่อพูดถึงแบรนด์แฟชั่นและชุดแต่งงานที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์การเย็บระดับโอต์ กูตูร์ หลายคนคงนึกถึง “ลาสเทล (L’Astelle)” เป็นอันดับต้น ๆ เพราะถึงแม้จะเพิ่งเปิดตัวครั้งแรกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา แต่ก็ต่างได้รับคำชื่นชมจากเหล่าคนแฟชั่นมากมาย

โดยล่าสุด เจน-ทิพย์วิภา กิตติ์อัครานนท์ ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง “ลาสเทล” (L’Astelle) ได้จัดงานแฟชั่นโชว์ครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมอวดโฉมผลงานการดีไซน์อันประณีตบรรจงในคอลเล็คชั่นโอต์ กูตูร์ล่าสุดที่มีชื่อว่า “ทราแว๊กเซ่ เลอ ตองค์” (Traversée le temps) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวผ่านกาลเวลาที่หยิบยกมาจาก บทกวีของ ลินดา ปาสแตน (Linda Pastan)  ถ่ายทอดสู่ผลงานอาภรณ์อันเป็นเอกลักษณ์

ชุดแต่งงาน1

ซึ่งคอลเล็คชั่นนี้ได้ใช้เวลานานกว่า 2 ปี ในการสร้างสรรค์ผลงานโดยสื่อสารอารมณ์ของบทกวีที่ให้ภาพความงดงามเหนือกาลเวลา แต่ก็ยังคงความโก้หรูของดีไซน์เอาไว้ แต่เพิ่มลูกเล่นให้กับชุดด้วยงานปักประดับที่ได้รับการออกแบบอย่างใส่ใจ พิถีพิถัน รวมถึงเลือกใช้แมททีเรียลที่มีคุณภาพทั้งขนนก และผ้าแต่ละชนิด รวมถึงการส่งปักที่โรงปักเดียวกับแบรนด์โอต์ กูตูร์ระดับโลกเท่านั้น

L'Astelle2
L'Astelle4
L'Astelle3

โดยผลงานในคอลเล็คชั่นนี้ประกอบด้วยชุดแต่งงานหลากหลายดีไซน์ทั้งแบบสั้น ยาว ทรงหางปลา หรือกระทั่งไล่เลเยอร์ แต่ทั้งหมดยังคงเอกลักษณ์สำคัญเอาไว้ทั้งความเรียบโก้ และดีเทลงานปักที่แสนประณีตพร้อมด้วยคริสตัล ลูกปัด และขนนกที่มาช่วยเพิ่มความสง่างามให้กับชุด สำหรับว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่ต้องการความละเอียดของดีเทลในชุดแต่งงานแบรนด์ “ลาสเทล” (L’Astelle) ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

ฮันโซฮี

สวยทะลุเฟรม! เปิดลุค ‘ฮันโซฮี’ เดรสขาวขับผิว ในนิทรรศการ Her time จาก OMEGA

Alternative Textaccount_circle
ฮันโซฮี
ฮันโซฮี

ส่งท้ายนักแสดงสุดสวยของเรา ’ฮันโซฮี’ ด้วยการเปิดลุควันงานเปิดตัวนิทรรศการสุดยิ่งใหญ่ “Her time” จาก OMEGA ที่จะพาทุกคนเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ ณ ลานพาร์ค พารากอน

เรียกได้ว่าพารากอนแทบแตกกับการปรากฏตัวของ ฮันโซฮี ในงานนิทรรศการกับฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ OMEGA ความสวยเกินจะจับต้องได้ทำให้ใครต่อใครพูดถึงกันอย่างมากมายจน #HanSoohee ติดเทรนด์บนโลกทวิตเตอร์กันเลยทีเดียว ถือเป็นการสร้างความทรงจำที่ดีทั้งเธอ แฟนคลับ และบรรดาแขกที่มาร่วมงาน

ฮันโซฮี 1

และแน่นอนว่านอกจากความสวยของเธอที่ทำให้ใครต่อใครต้องพูดกันปากต่อปากแล้ว ลุคในวันนั้นของเธอก็เป็นที่เลื่องลือไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นเราจะพาทุกคนไปเปิดลุคของเธอ พร้อมส่องนาฬิกาเรือนที่เธอใส่ซึ่งเป็นนางเอกสำคัญของงานในครั้งนี้ด้วยกัน

ฮันโซฮีปรากฏตัวในลุคเรียบหรูน้อยแต่มากด้วยเดรสสั้น Strapless Train Dress สีขาวขับผิวให้มีออร่า จาก ROKH ที่ส่งตรงมาจากกรุงปารีส เอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์นี้อยู่ที่การออกแบบให้มีความโมเดิร์น ใช้สีน้อยส่วนใหญ่จะไม่เกิน 3 สีเพื่อไม่ให้สีไหนดูโดดเกินไป

สำหรับเดรสของฮันโซฮีมีดีเทลที่น่าสนใจอยู่ที่จีบของผ้าบริเวณหน้าอก ที่ถูกดีไซน์ให้คล้ายกับโบว์ทำให้ชุดนี้ดูมีความ Feminine มากยิ่งขึ้น รวมถึงหางปลาข้างหลังที่เข้ามาช่วยเพิ่มความ elegant ถ้าใครอยากได้เดรสตัวนี้คงหายากหน่อย เพราะตอนนี้ในเว็บไซต์ก็ได้ขึ้น Sold out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แล้วก็มาถึงอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ฮันโซฮีเลย นั่นก็คือนาฬิกาเรือนนี้ที่เธอสวมใส่อยู่กับ MINI TERSOR QUARTZ 26 MM รุ่น 18K Moonshine Gold นาฬิกาขาดกะทัดรัด 26 มิลลิเมตร พร้อมเพชรที่โค้งรับตัวเรือนอย่างสวยงามในแต่ละด้าน เป็นดีไซน์ที่เรียบหรูและใส่ได้ในทุกวัน โดยมูลค่าอยู่ที่ 789,000 บาท

ฮันโซฮี 5
รูขุมขน

อาหารอะไรที่ควรกินและควรเลี่ยง เพื่อผิวเนียนสวย จบปัญหา ‘รูขุมขน’ กวนใจ

Alternative Textaccount_circle
รูขุมขน
รูขุมขน

ผู้หญิงหลายคนที่ประสบปัญหารูขุมขนกว้าง แน่นอนว่าการดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญ แต่การตระหนักถึงสิ่งที่กินเป็นประจำทุกวัน ก็สามารถจัดการกับปัญหารูขุมขนได้จากภายในร่างกายเช่นเดียวกัน เพราะอาหารที่สะสมในแต่ละวันจะปรากฏบนผิวเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น มาเรียนรู้เกี่ยวกับสารอาหารและอาหารที่ช่วยแก้ปัญหา ‘รูขุมขน’ และดูแลผิวให้แข็งแรงกันเถอะ

อาหารอะไรที่ควรกินและควรเลี่ยง เพื่อผิวเนียนสวย จบปัญหา ‘รูขุมขน’ กวนใจ

วิตามินเอ [สำหรับรูขุมขนแห้ง]

หากผิวขาดความมันเนื่องจากความแห้งกร้านในฤดูหนาวหรือการชะล้างมากเกินไป ผิวจะแห้ง และรูขุมขนจะมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น สำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับรูขุมขนเช่นนี้ แนะนำให้กินวิตามินเอ

วิตามินเอเกี่ยวข้องกับการผลิตเซลล์ที่ประกอบเป็นผิวหนังและเยื่อเมือก ดังนั้น การกินวิตามินเอ จึงทำให้ปัญหาต่างๆ เช่น ความแห้งกร้านและริ้วรอยของผิวหนังและเยื่อเมือกมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยลง

อาหารที่มีวิตามินเอ

  • คันโยก
  • ปลาไหล
  • แครอท
  • ฟักทอง
  • ผักโขม
  • โมโรเฮยะ

วิตามิน B2

กล่าวอีกนัยหนึ่ง รูขุมขนมักพบในบริเวณทีโซน เช่น รอบจมูก เมื่อการเผาผลาญของผิวหนังถูกรบกวน เคราตินและความมันจะอุดตัน จากการสะสมสิ่งสกปรกในการแต่งหน้าและมลภาวะ

วิตามินบี 2 มีผลในการส่งเสริมการเผาผลาญไขมันจึงสามารถควบคุมปริมาณไขมันและช่วยขจัดรูขุมขนที่อุดตัน นอกจากนี้ วิตามิน B2 ยังเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีน เรียกได้ว่าเป็นสารอาหารที่ควรตระหนักเพื่อสร้างผิวที่แข็งแรง

อาหารที่มีวิตามินบี2

  • คันโยก
  • ไข่
  • นัตโตะ
  • นม
  • สาหร่ายและสาหร่ายวากาเมะ
  • อัลมอนด์

วิตามิน B6

วิตามินบี 6 เป็นสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญโปรตีน ด้วยการส่งเสริมการเผาผลาญโปรตีน จึงสามารถลดปัญหาผิว เช่น รูขุมขนอุดตันและสร้างผิวสุขภาพดี

อาหารที่มีวิตามิน B6

  • ทูน่า
  • กล้วย
  • อกไก่/เนื้อไก่
  • ปาปริก้า
  • มันเทศ
  • ข้าวกล้อง

วิตามินซี & วิตามินอี [สำหรับรูขุมขนกว้าง]

สิวหัวดำเกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนเสื่อมสภาพ ไขมันและเคราตินสัมผัสกับอากาศและออกซิไดซ์จนกลายเป็นสีดำ ดังนั้นจึง เป็นสิ่งสำคัญที่จะป้องกันการเกิดออกซิเดชันและการสร้างเม็ดสีเมลานินในรูขุมขน

วิตามินซีและวิตามินอีมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและสามารถป้องกันการเกิดออกซิเดชัน นอกจากนี้ วิตามินยังทำงานเพื่อป้องกันการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน เรียกได้ว่าเป็นสารอาหารที่เหมาะกับสิวหัวดำและรูขุมขน

วิตามินอีทำงานเพื่อขยายหลอดเลือดและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด จึงกระตุ้นการเผาผลาญของผิวหนังได้

อาหารที่มีวิตามินซี

  • มะนาว
  • กีวี่
  • สตรอเบอร์รี่
  • มันเทศ
  • พริกหยวก
  • ปาปริก้า
  • บร็อคโคลี
  • กะหล่ำปลี

อาหารที่มีวิตามินอี

  • อาโวคาโด
  • ถั่ว
  • อัลมอนด์
  • ฟักทอง
  • งา

โปรตีน [สำหรับรูขุมขนที่หย่อนคล้อย]

โปรตีนเป็นแหล่งของความชื้นและความยืดหยุ่นของผิว แนะนำให้ใช้ โปรตีนจากสัตว์และพืชร่วมกัน หากเน้นเฉพาะโปรตีนจากสัตว์ ปริมาณไขมันก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ถ้ากินโปรตีนจากพืชด้วย ก็จะสามารถได้รับสารอาหาร เช่น วิตามินและแร่ธาตุ

กินโปรตีนจากสัตว์และผักรวมกัน เช่น “ไข่ x ถั่วแระญี่ปุ่น” หรือ “เต้าหู้เย็น x นัตโตะ”

อาหารที่มีโปรตีน

  • เนื้อไก่
  • ไข่
  • เต้าหู้
  • โคยะ-เต้าหู้
  • นัตโตะ
  • ถั่วเขียว
  • บร็อคโคลี
  • หน่อไม้ฝรั่ง

สังกะสี [สำหรับรูขุมขนทุกประเภท]

สังกะสีเป็นสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญต่างๆ ในร่างกาย ช่วยส่งเสริมการเผาผลาญของผิวหนังและช่วยขจัดปัญหาผิวเช่นรูขุมขนอุดตัน

ในบรรดาแร่ธาตุ ว่ากันว่าขาดสังกะสีได้ง่าย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะกินเติมเข้าไปบ้าง หากกินร่วมกับวิตามินซี อัตราการดูดซึมจะเพิ่มขึ้น ดังนั้นโปรดระวังสังกะสีและวิตามินซีผสมกัน เช่น “หอยนางรม x ซูดาจิ” และ “อัลมอนด์ x กีวีฟรุต”

อาหารที่มีสังกะสี

  • หอยนางรม
  • หอยเชลล์
  • เนื้อวัว
  • นัตโตะ
  • ไข่
  • เม็ดมะม่วงหิมพานต์

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงปัญหารูขุมขน

หากกินคาร์โบไฮเดรตมากๆ มักจะเกิด “saccharification (ปรากฏการณ์ที่โปรตีนและน้ำตาลทำปฏิกิริยากัน)” และความกระชับของผิวจะหายไปได้ง่าย ทำให้ความหย่อนคล้อยและริ้วรอยเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกลูโคสเป็นแหล่งพลังงานสำหรับสมอง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตโดยสิ้นเชิง เริ่มกินผักก่อน และเลือกอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีเส้นใยอาหาร (มันเทศ ฟักทอง ฯลฯ)

การบริโภคไขมันมากเกินไปจะส่งเสริมการหลั่งไขมัน ซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้รูขุมขนอุดตัน ในบรรดาไขมัน กรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น DHA (docosahexaenoic acid) และ EPA (eicosapentaenoic acid) มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น มันมีอยู่ในน้ำมันเพริลลา น้ำมันลินสีด และน้ำมันปลาดังนั้นพยายามใช้ไขมันคุณภาพดี

  • สารกระตุ้น (คาเฟอีน เครื่องเทศ ของหมักดอง ฯลฯ)

อาหารรสเผ็ดอาจทำให้ลำไส้ทำงานแย่ลง หากสภาพแวดล้อมในลำไส้ถูกรบกวน ระบบเผาผลาญจะเสื่อมลง การย่อยและการดูดซึมสารอาหารจะทำงานได้ไม่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การขาดสารอาหารที่ดีต่อผิวและทำให้เกิดปัญหาผิวมากขึ้น

จำกัดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ให้อยู่ที่ 1-2 ถ้วยต่อวัน นอกจากนี้เรายังต้องการหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีสารกระตุ้นจำนวนมาก เช่น ผงกะหรี่และกิมจิทุกวัน

ปัญหารูขุมขนที่คุกคามผู้หญิงหลายคน แน่นอนการดูแลผิวภายนอกเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเริ่มต้นด้วยอาหารประจำวันของคุณในแต่ละวันเพื่อผิวสวยก็สำคัญไม่แพ้กัน


ข้อมูล : bybirth.jp
ภาพ : Pexels

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

LINE THAILAND BUSINESS COVER

LINE จัดงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022 เสริมแกร่งความรู้และอาวุธทางธุรกิจ แนะไทยเติบโตฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก

LINE THAILAND BUSINESS COVER
LINE THAILAND BUSINESS COVER

LINE ประเทศไทย จัดงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022 สัมมนาธุรกิจครั้งใหญ่แห่งปี ครั้งแรกของการกลับมาสำหรับงานอีเวนท์ใหญ่ในรูปแบบออฟไลน์จาก LINE for Business ที่ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและธุรกิจ ร่วมเปิดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2023 ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจโลกหดตัว วิเคราะห์พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวิกฤตใหม่ โดยเน้นย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจไทย พร้อมชี้แนะการใช้เทคโนโลยีภายใต้หลักเข้าใจลูกค้า (Customer-Centricity) คือแรงขับเคลื่อนสำคัญเพื่อการเติบโต

นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้วิกฤตโรคระบาดได้ผ่านไปแล้ว ภาคธุรกิจไทยได้มีการปรับตัวมากมายให้สามารถอยู่รอดและเติบโตมาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ความท้าทายยังไม่หมดไป วิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่กำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้งและถือเป็นครั้งใหญ่ เราเห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย LINE ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อธุรกิจของคนไทย จึงได้จัดงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022 ภายใต้แนวคิด Navigating through the Turbulence with Customer-Centricity ทำอย่างไรให้ธุรกิจไทย เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจโลก ชวนผู้เชี่ยวชาญมาร่วมอัพเดทสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมชี้แนะแนวทางการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดและเติบโตได้แบบสวนกระแส โดยครั้งนี้เป็นการจัดงานใหญ่ประจำปีแบบออฟไลน์ครั้งแรกในรอบ 2 ปี มีภาคธุรกิจรวมถึงแบรนด์ชั้นนำของไทยให้ความสนใจร่วมงานเป็นจำนวนมากกว่า 250 คน และคาดว่าจะมีบุคคลทั่วไปรับชมแบบออนไลน์กว่าแสนคน

LINE จัดงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022 เสริมแกร่งความรู้และอาวุธทางธุรกิจ แนะไทยเติบโตฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก

“บรรยากาศอึมครึมทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 และความขัดแย้งในเวทีโลก นำมาสู่ข้อสงสัยและความกังวลว่า ประเทศไทยจะข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้หรือไม่ท่ามกลางปัจจัยลบมากมาย หากแต่ในความเป็นจริงสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว มีดัชนีชี้วัดหลายตัวที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องแม้ในช่วงวิกฤต และกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ดัชนีการพัฒนามนุษย์ หรือ HDI (Human Development Index) ที่จัดลำดับการพัฒนามนุษย์ในแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดอันดับจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ให้เป็นประเทศที่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์สูง (ค่าดัชนีสูงกว่า 0.8) เทียบเท่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ นอกจากนั้น อัตรารายได้ต่อหัวของไทยยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปีที่แล้วแม้เรายังไม่ได้เปิดประเทศ เป็นข้อพิสูจน์ว่าเราได้ก้าวข้ามวิกฤตและสามารถเติบโตต่อไปได้ แม้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัจจัยหลักยังไม่ได้กลับมาฟื้นตัวเต็มกำลัง จนปัจจุบัน ประเทศไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี (Income per capita) ใกล้แตะ 22,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 800,000 บาท ซึ่งเป็นค่ารายได้เฉลี่ยต่อหัวของประเทศพัฒนาแล้วเช่นกัน ขณะเดียวกัน เมื่อมองในด้านของศักยภาพการแข่งขัน LINE เห็นถึงการปรับตัวอย่างรวดเร็วของผู้ประกอบการไทยขนาดใหญ่ SME และรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพธุรกิจ และการเข้าถึงประชาชนทั่วประเทศในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนที่ใดในโลก เราจึงเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยศักยภาพที่มีอยู่อย่างมากมาย ประเทศไทยจะสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคครั้งใหญ่ได้ และเติบโตต่อได้อย่างแข็งแกร่ง โดย LINE มุ่งให้การสนับสนุนด้วยโซลูชั่นทางธุรกิจที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องจากอินไซต์ความต้องการของคนไทย โดยผู้พัฒนาไทย ที่เข้าใจผู้ใช้งานคนไทยอย่างแท้จริง” นรสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร หนึ่งในวิทยากรในงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022 ได้อัพเดทถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกว่า ยังเป็นสถานการณ์ที่ต้องจับตามอง ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ยังควบคุมเงินเฟ้อไม่ได้ จึงต้องมีการเร่งการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจของฝั่งประเทศยุโรป ที่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก จากเงินเฟ้อพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เศรษฐกิจถดถอย ในขณะที่เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างมากจาก มาตรการ Zero COVID ปัญหาในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การกีดกันด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐ และการเดินหน้าเข้าสู่สังคมสูงวัย ไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกดังกล่าวนี้จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณจากอัตราเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวสูงขึ้น หากแต่ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาเกื้อหนุน อาทิ การกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ธุรกิจภาคบริการที่เริ่มฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับเข้ามา อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังต้องจับตามองสถานการณ์รอบตัวอย่างใกล้ชิด เพราะยังมีเรื่องน่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นการปรับเพิ่มของต้นทุน ค่าจ้าง และราคาสินค้า ที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อ ผู้ประกอบการไทยต้องตั้งรับและปรับตัวให้ทัน ขณะเดียวกันต้องมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโต และต้องใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนธุรกิจ

ในขณะที่ แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลก ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมแบ่งปันข้อมูลในงานนี้ด้วย โดย มร. อเล็กซานเดอร์ โกรมอฟ และ ดาลัด ตันติประสงค์ชัย พาร์ทเนอร์ แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี เปิดเผยว่า เราทุกคนกำลังอยู่ในยุคแห่งความไม่แน่นอน โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทั้งในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เงินทุนสำรอง การใช้จ่าย และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ทำให้เกิดภัยภิบัติ นำมาซึ่งทั้งโอกาสและความท้าทายแก่ธุรกิจ โดยเฉพาะประเทศในเอเชียที่กำลังเดินมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ กลายเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพสูงของโลก อีกทั้งในแต่ละประเทศยังสามารถส่งเสริมและเติมเต็มความได้เปรียบของกันและกันได้เป็นอย่างดี และในทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นการเติบโตเชิงเทคโนโลยีในกลุ่มประเทศเอเชียเป็นอย่างมาก ทั้งในเชิงรายได้ของบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยี การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา ไปจนถึงสินทรัพย์ทางปัญญาในโลกเทคโนโลยีที่เติบโตกว่า 87% เหล่านี้นำไปสู่รายได้ประชากรและกำลังซื้อในการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับประเทศไทย ก็เช่นกัน มีกำลังซื้อกลุ่มใหม่ๆ เกิดขึ้นและคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปี ข้างหน้าจะมีมูลค่าการบริโภคถึง 4 แสนล้านเหรียญต่อปี

มูลค่าการใช้จ่ายจะเติบโตมากถึง 90% ภายในปี 2030 จากข้อมูลเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่า เอเชียจะเป็นภูมิภาคแห่งการเติบโตทั้งในด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจในยุคหลังโควิดนี้ ธุรกิจไทยต้องใช้โอกาสนี้ เตรียมตัวให้พร้อม ใช้เทคโนโลยีให้เป็น เพื่อเดินหน้าธุรกิจพร้อมรับการเติบโตกำลังเกิดขึ้น 

ผู้สนใจงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022  สามารถติดตามข่าวสารและรับชมงานย้อนหลังได้ทาง FB Fanpage : LINE for Business และทาง YT : LINE for Business ได้เร็วๆ นี้

เจ้าหญิงเคท

สุดประหยัด แสนมัธยัสถ์ เจ้าหญิงเคท สวมต่างหูแบรนด์สตรีทราคาเพียงครึ่งร้อย

account_circle
เจ้าหญิงเคท
เจ้าหญิงเคท

สุดประหยัด แสนมัธยัสถ์ เจ้าหญิงเคท ขึ้นแท่นราชินีสายสตรีท สวมต่างหูดีไซน์เก๋ ดูหรูหราแต่ราคาเพียง 1.50 ปอนด์ หรือประมาณ 64 บาท!!

สุดประหยัด แสนมัธยัสถ์ เจ้าหญิงเคท สวมต่างหูแบรนด์สตรีทราคาเพียงครึ่งร้อย

เจ้าหญิงเคท

เมื่อไม่นานมานี้ เจ้าหญิงเคท และ เจ้าชายวิลเลียมได้เสด็จเยือน สการ์เบอโร เมืองชายทะเลซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเหนือของประเทศอังกฤษ เพื่อระดมทุนสนับสนุนสุขภาพจิตของคนหนุ่มสาว โดยได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิรอยัล

เจ้าหญิงเคท
เจ้าหญิงเคท

เจ้าหญิงเคททรงปรากฏพระองค์ในลุคเรียบหรูโทนน้ำตาล สง่างามเหมือนเช่นเคย แต่ที่ทำเอาแฟนๆ ราชวงศ์ประทับใจในลุคนี้คือ ต่างหูห่วงทองรุ่น Twisted circle drop ที่ทรงแมชต์ให้เข้ากับลุคนี้จากแบรนด์ Accessorize  ซึ่งมีราคาเพียง 1.50 ปอนด์ หรือ ประมาณ 64 บาท

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระองค์ทรงใส่ต่างหูอันนี้ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหญิงเคทได้ทรงแมชต์กับ ชุดเดรสสไตล์วินเทจจากแบรนด์ Oscar de la Renta เมื่อครั้งเสด็จไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์ที่ไอร์แลนด์เมื่อปี 2020 และอีกครั้งที่ทรงใส่คือ ขณะที่กำลังวิดีโอคอลร่วมกับเจ้าชายวิลเลียมเพื่อพูดคุย และขอบคุณอาสาสมัครจาก Shout สำหรับการสนับสนุนที่พวกเขามอบให้กับชุมชน

เจ้าหญิงเคททรงเป็นต้นแบบให้กับสาวๆ ในเรื่องแฟชั่นที่ยั่งยืน แม้บางชิ้นจะทรงเคยใส่แล้วมาหลายครั้ง หรือแม้กระทั่งตกรุ่น และ ราคาไม่แพง แต่เจ้าหญิงเคทก็หยิบกลับมาใส่ได้ไม่รู้เบื่อ


La Roche-Posay (ลา โรช-โพเซย์) Cover

กันแดดที่คุณใช้ อาจปกป้องผิวจากรังสียูวีได้แค่ 70%! ใหม่ล่าสุด”! La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 จิ๊กซอว์ของการปกป้องรังสี “ULTRA LONG UVA” เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า”!

La Roche-Posay (ลา โรช-โพเซย์) Cover
La Roche-Posay (ลา โรช-โพเซย์) Cover

หลายๆคนน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าแสงแดดเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา แต่ก็สามารถเป็นศัตรูแสนร้ายกาจของผิวเราได้อีกด้วย ทั้ง UVA และ UVB และที่มากไปกว่านั้นคือ ULTRA-LONG UVA ที่มีมากถึง 30% ของ UV ทั้งหมด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดริ้วรอย ความหมองคล้ำ และยังทำร้ายผิวถึงชั้น DNA ได้อีกด้วย ซึ่งสารกันแดดในปัจจุบันบางตัวอาจไม่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ครอบคลุมถึง ULTRA-LONG UVA นี้ได้ La Roche-Posay (ลา โรช-โพเซย์) แบรนด์เวชสำอางจากฝรั่งเศสที่แพทย์ผิวหนังทั่วโลกแนะนำเป็นอันดับ 1 ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาผิว และการปกป้องผิวจากแสงแดด เห็นความสำคัญของการปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาผิว และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลและปกป้องผิวจากแสงแดด

ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาภายใต้การควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี เพื่อพัฒนาการปกป้องรังสี UV ครอบคลุมไปจนถึงช่วง 380-400 นาโนเมตร หรือในเรียกว่า “ ULTRA-LONG UVA” ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 ที่มาพร้อมกับสารกันแดดตัวใหม่ Mexoryl 4002 พร้อมมาเป็นจิ๊กซอว์ของการปกป้องรังสียูวีให้คุณ

กันแดดที่คุณใช้ อาจปกป้องผิวจากรังสียูวีได้แค่ 70%! ใหม่ล่าสุด”! La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 จิ๊กซอว์ของการปกป้องรังสี “ULTRA LONG UVA” เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือกว่า”!

กว่า 10 ปีของการค้นคว้าและวิจัยของบริษัทลอรีอัล จนได้สารกันแดดลิขสิทธิ์ใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมบทพิสูจน์กับ 65 งานวิจัย และ 25 สิทธิบัตร “MEXORYL400 (เม็กโซริล 400)” สารกันแดดตัวแรกและหนึ่งเดียว** ของลา โรช-โพเซย์ ที่ สามารถปกป้องรังสี UVA ในช่วง “ULTRA-LONG UVA” และมีอยู่ในผลิตภัณฑ์ “Anthelios UVMune 400” ผลิตภัณฑ์กันแดดกลุ่มแรก”ที่พูดได้ว่าสามารถปกป้องได้ครอบคลุมที่สุดถึง “ULTRA-LONG UVA”

La Roche-Posay ภูมิใจที่ได้ยกระดับการปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย Anthelios UVMune 400 กันแดดตัวใหม่ล่าสุดของ La Roche-Posay ที่อัพเกรดการปกป้องผิวจากแสงแดดกับการค้นพบสารกันแดดที่สามารถปกป้องรังสียูวีครอบคลุมในช่วง 380 – 400 นาโนเมตร หรือเรียกว่า “ULTRA-LONG UVA” ซึ่งมีปริมาณสูงถึง 30% ของปริมาณรังสียูวีทั้งหมดบนโลกของเรา และยังเป็นช่วงที่ยาวที่สุดของรังสียูวี จึงสามารถทะลุผ่านลงไปทำร้ายผิวหนังของเราได้ลึกที่สุด

La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 มีให้เลือกถึง 2 สูตร คือ Anthelios UVMune 400 Invisible Fluid สำหรับทุกสภาพผิว เนื้อสัมผัสแบบ Invisible Fluid บางเบาไม่ทิ้งคราบ ไม่หนักหน้า สามารถใช้ได้ทุกวัน กันน้ำ กันเหงื่อ รวมไปถึงกันทราย ราคา 1,450 บาท และ Anthelios UVMune 400 Hydrating Cream สำหรับผิวแห้ง เนื้อสัมผัสแบบครีม ที่ให้ความชุ่มชื้น ราคา 1,300 บาท

La-Roche-Posay-ลา-โรช-โพเซย์-1
La-Roche-Posay-ลา-โรช-โพเซย์-2

ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยกันแดดทรงประสิทธิภาพที่ปกป้องได้ถึง “ULTRA LONG UVA” ได้แล้ววันนี้ กับ La Roche-Posay Anthelios UVMune 400 มีจำหน่ายที่โรงพยาบาล ร้านขาย วัตสัน บู๊ทส์ และอีฟแอนด์บอย และยังสามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ ได้แล้ววันนี้ที่ Shopee และ Lazada ในร้าน La Roche-Posay Official Store

แอนนา เสืองามเอี่ยม

งามอย่างไทย ‘แอนนา เสืองามเอี่ยม’ กินรีในป่าหิมพานต์

Alternative Textaccount_circle
แอนนา เสืองามเอี่ยม
แอนนา เสืองามเอี่ยม

หนึ่งวันสำคัญของคนไทยที่ช่วยถ่ายทอดวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี คือ ‘วันลอยกระทง’ กิจกรรมมากมายถูกจัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ลอยกระทง หัวใจหลักของงานเอง หรือการประกวดนางนพมาศ ประกวดกระทง รำวง และบรรดาซุ้มของเล่น ที่เป็นเหมือนสิ่งเชิญชวนให้ผู้คนหลั่งใหลกันออกมามีส่วนร่วม

ซึ่งเมื่อมีโอกาสที่จะได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมดี ๆ แบบนี้ ‘แอนนา เสื่องามเอี่ยม’ Miss Universe Thailand 2022 ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นกระบอกเสียงและตัวแทนของคนไทย ที่ช่วยส่งต่อคุณค่าและความดีงามของวันลอยกระทง

เธอปรากฏตัวในชุด ’ปทุมแก้วแววฟ้าป่าหิมพานต์’ ออกแบบการแต่งกายโดย ภูษาผ้าลายอย่าง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการแต่งกายของละครนาง ถ่ายทอดผ่านรูปแบบกินรี นุ่งผ้าลายอย่าง ’เกาะแก้วสุมาลย์รมณ์’ พันเคียนอกด้วยผ้าไหมสีเขียวสมอ สวมศิราภรณ์ที่เรียกว่า ’รัดเกล้าเปลว’ ใส่ถนิมพิมพาภรณ์ และสวมปีกหางกินรีเขียนลายอย่างโบราณ เป็นสง่างดงามและเป็นดั่งคุณค่าที่ควรส่งต่อในวัฒนธรรมไทยของเราจริง ๆ

ภาพ : Instagram @annasnga_1o

ข้อมูล : Instagram @annasnga_1o

คิมฮเยซู

เปิดชีวิต คิมฮเยซู นางเอกเอลิสต์เกาหลีใต้ หมดตัว! เพราะแม๊ก่อหนี้ไม่หยุด

Alternative Textaccount_circle
คิมฮเยซู
คิมฮเยซู

สำหรับดาราหลายคนแม้เราจะเห็นพวกเขาเริ่มทำงานในวงการบันเทิงหาเงินหาทองได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ แต่ก็ใช่ว่าปัจจุบันจะมีชีวิตที่สุขสบายเสมอไป ยกตัวอย่างเช่น คิมฮเยซู (KIM HYE SOO) นางเอกระดับแถวหน้าของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งกำลังมีผลงานซีรีส์ Under The Queen’s Umbrella ใต้ร่มราชินี ออกอากาศอยู่ในขณะนี้

คิมฮเยซู

KIM HYE SOO เป็นนักแสดงที่มีผลงานมาตั้งแต่ยุค 80 แม้จะโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาแล้วถึง 36 ปี แต่เธอยังได้รับความนิยมอยู่เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จากเริ่มต้นกับภาพลักษณ์นางเอกสุดฮ็อตขวัญใจวัยรุ่น ปัจจุบันทุกแม้จะเข้าสู่วัย 52 ปีแล้วแต่เธอยังมีแฟนคลับมากมายจากผลงานการแสดง ทั้งหนังและละครการันตีด้วยเรตติ้งและผลงานการทำเงิน

สำหรับดาราระดับนี้แฟนๆอาจเห็นผลงานของเธอนานๆ ครั้ง บางคน 2-3 ปี 1 เรื่อง บางคน 5 ปี 1 เรื่อง แต่กับ KIM HYE SOO เธอมีผลงานใหม่มาเสิร์ฟความสนุกให้กับแฟนๆตลอด ซึ่งแม้ว่าเธอจะไม่ได้ออกมาพูดถึงเหตุผลอย่างจริงๆ จังๆ แต่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอต้องคอยหาเงินจำนวนมากเพื่อตามล้างนี้ให้กับมารดาบังเกิดเกล้า

คิมฮเยซู 001

ย้อนกลับไปในปี 2012 KIM HYE SOO ได้รับทราบว่าแม่ของเธอมีหนี้เป็นจำนวนมาก เธอรู้สึกตกใจจนไม่สามารถทำงานได้ รวมถึงรู้สึกกังวลไปหมดไม่รู้คนอื่นจะคิดกับเธออย่างไร จนบางครั้งเธอรู้สึกว่าไม่อยากทำงานอีกต่อไปแล้ว แต่เมื่อได้ลองตรองดูเธอคิดว่าไม่ควรที่จะยอมแพ้ เพราะกว่าที่จะมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่อง่ายๆ ดังนั้นจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาทางการเงินของแม่

แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถปิดบังปัญหานี้จากสาธารณชนได้เนื่องจากหนี้สินของแม่ทั้งหมดมันเกินกว่าที่เธอจะแบกภาระต่อไปได้ เธอจึงตัดสินใจยกทรัพย์สินที่เธอมีทั้งหมดให้กับผู้เป็นแม่เพื่อนำไปใช้หนี้ ซึ่งเพื่อนของเธอได้ออกมาเปิดเผยว่า KIM HYE SOO ต้องย้ายไปอยู่ห้องราคาถูกแห่งหนึ่งหลังจากที่ทำหน้าที่ลูกกตัญญู

คิมฮเยซู 002

แต่เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมาก็เกิดข่าวฉาวกับ KIM HYE SOO อีกครั้งเพราะแม่ของเธอ เนื่องจากแม๊ได้ไปงหลอกเงินคนมาลงทุนรวมแล้วประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 40 ล้านบาท โดยผู้เสียอ้างบอกว่าพวกเขาหลงเชื่อจนโอนเงินให้ไปเพราะอีกฝ่ายเป็นแม่ของดาราชื่อดังอย่าง คิมฮเยซู นั่นจึงทำให้ผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อและเรียกร้องให้ดาราสาวคนดังรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม คิมฮเยซู ได้ประกาศว่าเธอคงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรแม่ได้อีกต่อไป ทนายความบอกว่าเธอเสียใจมามากในตลอดหลายปีนี้ และยืนยันว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่แม่ทำอย่างแน่นอน

ฉลองขึ้นปีที่ 44 แพรว จัดเซอร์ไพรส์ Praew the gift แจกที่พักโรงแรมหรู 10 รางวัล

Alternative Textaccount_circle

เพิ่งผ่านวันครบรอบปีที่ 43 พร้อมจัดงานมหากุศลแพรวแชริตี้ 2022 ที่ได้กระแสตอบรับจากเซเลบริตี้ คนดังและแฟนๆ ที่ไปร่วมทำบุญ เพื่อนำเงินไปบริจาคให้กับมูลนิธิเพื่อสนับสนุนการผ่าตัดหัวใจเด็กและมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ แต่เซอร์ไพรส์ยังไม่จบ เพราะในโอกาสก้าวขึ้นสู่ปีที่ 44 แพรวส่งแคมเปญฉลองขอบคุณแฟนๆ อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ชื่อ “ Praew the gifts” โดยจะมีการแจกรางวัลฉลองขึ้นปีที่ 44 นิตยสารแพรว จัดเซอร์ไพรส์ Praew the gift แจกที่พักโรงแรมหรู 10 รางวัล

สำหรับกติกาการร่วมสนุก เพียงซื้อนิตยสารแพรวฉบับเดือน พฤศจิกายน 2565 ปก ใบเฟิร์น แล้วตัดหน้า “รักใครให้อ่านแพรว” ตามตัวอย่าง แล้วส่งมาที่ นิตยสารแพรว เลขที่ 378 ถนนชัยพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170 วงเล็บ (Praew the gifts)

สำหรับแคมเปญ “Praew the gifts” แจกรางวัลที่พักโรงแรมหรู 10 รางวัล (สามารถส่งชิ้นส่วนได้มากกว่า 1 ชิ้น เพื่อร่วมลุ้นรับของรางวัล) ประกาศชื่อผู้โชคดีทางนิตยสารแพรว ฉบับเดือน มกราคม 2566

‘ดวงได้พบชาวต่างชาติที่ตรงกัน ทั้งความคิดและทัศนคติ แต่ดวงเป็นรักที่ซ่อนเร้นก็มีสูง! ‘ ดวงรายวัน 9 พฤศจิกายน 2565

‘ดวงได้พบชาวต่างชาติที่ตรงกัน ทั้งความคิดและทัศนคติ แต่ดวงเป็นรักที่ซ่อนเร้นก็มีสูง! ‘

ดวงรายวัน 9 พฤศจิกายน 2565

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคที่น่าหนักใจ จนมีแนวโน้มที่จะถึงขั้นไปต่อไม่ได้ วันนี้นับเป็นข่าวดีที่คุณจะได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ยิ่งหากเป็นงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวกับสายน้ำ เช่น ทหารเรือ ตำรวจน้ำ การประมง การท่าเรือ อู่เรือ ด้วยแล้ว จากความรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์และความรับผิดชอบที่ยอดเยี่ยมของคุณ วันนี้มีโอกาสที่คุณจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเลยทีเดียว หรือหากอยู่ในตำแหน่งนั้นแล้วก็มีแนวโน้มที่งานจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

การเงิน  :   หากที่ผ่านมาคุณกำลังเดือดร้อนจนชักหน้าไม่ถึงหลัง วันนี้จากความสามารถคาดว่าคุณจะได้พบช่องทางที่จะสร้างรายได้อย่างมั่นคง ได้ทำงานที่มีผลตอบแทนสูง ทางที่ดีควรเก็บเงินไว้บ้าง เพราะมีโอกาสที่จะหมดเงินไปกับการเลี้ยงดูญาติสนิทมิตรสหาย

ความรัก  :   หากคุณกำลังมีปัญหาทะเลาะกันรุนแรง วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะเน้นที่เหตุผลและความเหมาะสมของการมีชีวิตคู่มากกว่าอารมณ์และความรู้สึก แม้คุณอยากจะง้อ แต่ก็ยังโรแมนติกไม่พอ คนโสด  เช่นกัน หากคุณกำลังมีปัญหาทะเลาะกันรุนแรง แล้วหากยังอยากจะคบกันอยู่ วันนี้อยากให้ยอมหลบสักครั้ง  เพื่อที่จะสานต่อความสัมพันธ์ให้ยาวนานออกไป

สุขภาพ  :   จริงๆ แล้วคุณก็ดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี แต่วันนี้หากคุณยังหักโหมทำงานหนัก ไม่พักผ่อนนอนหลับอย่างเต็มที่ มีความเสี่ยงที่สุขภาพจะย่ำแย่ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ หลอดเลือด และหัวใจ รวมถึงสายตาและปวดหลังด้วย   

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  จริงๆ แล้วคุณมีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือส่งเสริมและสนับสนุนด้วยดีมาตลอด รวมถึงเพื่อนร่วมงาน และเจ้านายก็รักและเมตตาเอ็นดูเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรชะล่าใจ  โดยยึดติดในอีโก้ของตัวเอง จนไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเสนองานหรือโครงการไปแล้ว หรือกำลังจะเสนอ ด้วยแล้ว เพราะเป็นไปได้ว่าคุณจะถูกอิจฉาริษยา จนทำให้งานไม่ผ่านการพิจารณาในเร็ววัน ทางที่ดีควรใจเย็นๆ หนักแน่น อย่าโวยวายหรือเรียกร้องใดๆ เพราะมีความเสี่ยงที่งานจะสะดุดหยุดลงกลางคัน  

การเงิน  :   เป็นไปได้ว่าคุณจะมีเหตุให้ต้องใช้จ่ายค่อนข้างมาก ทั้งกับเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ผู้ใหญ่ในครอบครัวจนชักหน้าไม่ถึงหลัง จนเป็นไปได้ว่าต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ไม่ถูกต้อง

ความรัก  :   จริงๆ แล้วคู่คุณก็มีเหตุผลและทัศนคติตรงกับคุณดีอยู่น้า แต่วันนี้เป็นไปได้ว่า ไม่คุณก็คู่มีโอกาสหลงเสน่ห์ใครบางคนหรือบางสิ่ง จนมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นความหึงหวงได้ง่ายๆ คนโสด  วันนี้คงห้ามไม่ได้แล้วมั้ง เพราะมีโอกาสที่คุณจะได้พบกับคนถูกใจทั้งความคิดและทัศนคติ ยิ่งหากเป็นชาวต่างชาติสูงวัยด้วยแล้ว ก็ใช่เลย แต่ควรดูดีๆ ว่าเขามีคู่แล้วหรือยัง วันนี้ดวงคุณเป็นรักซ่อนเร้นแจ่มชัดมาก  

สุขภาพ  :   หากคุณเป็นนักดื่ม วันนี้ก็อย่าดื่มหนักมากนักนะคะ มีความเสี่ยงที่คุณจะหกล้มหกลุกได้ง่ายๆ แล้วจะเกิดการบาดเจ็บที่บริเวณกล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหลัง

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :   หากที่ผ่านมาคุณทำงานด้วยความไม่มั่นคงในสถานภาพการทำงานของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอยู่ในสายงานศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ ความสวยงาม หรืองานบันเทิงด้วยแล้ว วันนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น คุณมีโอกาสได้รับการทาบทามให้เข้าไปทำงานในธุรกิจของครอบครัว ทางที่ดีควรวางแผนและเตรียมงานล่วงหน้าให้ดี เพราะงานนี้คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างโดดเด่นเลยทีเดียว

การเงิน  :  หากคุณเสียเงินให้กับคนใกล้ชิดอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ วันนี้คาดว่าจะได้รับกลับมาเป็นสองเท่าจากครอบครัว ในรูปของเงินรางวัลตอบแทน

ความรัก :   หากคุณกำลังหวาดระแวงในความมั่นคงของชีวิตคู่ วันนี้ด้วยความรับผิดชอบในหน้าที่ความเป็นแม่ศรีเรือนของคุณ ทั้งในบ้านและนอกบ้าน จะมีโอกาสให้ครอบครัวกลับมารักกันใหม่ คนโสด  เช่นกัน หากคุณยังไม่มั่นใจในตัวแฟน วันนี้ไม่ต้องง้อเขาก็ได้นะ เพราะคุณมีเสน่ห์ มีคนเข้าคิวรออีกเพียบ

สุขภาพ  :  วันนี้ก็ยังต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารพวกของมัน ของหวาน ของทอด อยู่น้าเพราะมีความเสี่ยงที่จะเป็นไขมัน เบาหวาน ความดัน รวมถึงเลือดลมที่จะทำงานไม่สมบูรณ์ จนมีความเสี่ยงที่จะวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลมได้โดยไม่รู้ตัว

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  วันนี้คุณก็ยังคงใช้ความเก่ง ความรู้ ความสามารถ และมีบารมีจากตำแหน่งหน้าที่การงานในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานหรือดำเนินธุรกิจสายช่าง นักวิทยาศาสตร์ นักค้นคว้าทดลอง รวมถึงกำลังสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคม หรือเพื่อประเทศชาติ คาดว่าในเร็ววันนี้คุณจะได้บุกเบิกงานใหม่ ซึ่งความสำเร็จไม่ได้มาอย่างบังเอิญ แต่ต้องแลกด้วยพลังกายพลังใจที่แรงกล้า  

การเงิน  :  คุณขยันทำมาหากิน และมีความสามารถในการบริหารเงินอย่างมีระบบระเบียบ ดังนั้น แม้วันนี้คุณจะทำงานเพื่อกล่องมากกว่าเงิน แต่ก็สามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคง

ความรัก  :  ก็ยังอยู่กับเรื่องของเกียรติยศและศักดิ์ศรี เหตุผลและความเข้าใจกัน ซึ่งวันนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นประเด็นเกี่ยวกับบ้านและที่อยู่อาศัย   คนโสด  วันนี้คุณมีทัศนคติในเรื่องของเกียรติยศและศักดิ์ศรีสูงมาก เพราะฉะนั้นหากจะมีแฟนสักคน คนๆ นั้นต้องสมน้ำสมเนื้อกับคุณ

สุขภาพ  :  ก็ยังพลังเยอะอยู่นะคะ แม้คุณจะดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี แต่วันนี้มีความเสี่ยงที่ออฟฟิศซินโดรมจะถามหา หากนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ  เป็นไปได้ว่าจะปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ จึงควรลุกเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจติดต่อประสานงาน โฆษณา-ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นงานหรือธุรกิจสายช่าง นักวิทยาศาสตร์ นักทดลอง ค้นคว้า รวมถึงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคมและประเทศชาติด้วยแล้ว หากคุณคาดหวังความสำเร็จไว้อย่างแรงกล้า ก็อาจต้องลดๆ ลงหน่อย เพราะช่วงนี้ดวงการงานของคุณไม่ค่อยดี มีความเสี่ยงที่เอกสารทางราชการจะผิดพลาด เป็นคดีความได้ทั้งทางแพ่งและอาญา ทางที่ดีควรหาเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้ หรือปรึกษาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์  

การเงิน  :  มีโอกาสที่คุณจะใช้เงินในการตกแต่งบ้านใหม่ หรือสร้างเรือนหอ เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ แต่วันนี้ไม่ควรให้เป็นนายหน้าให้ใครกู้ยืมเงิน หรือเซ็นค้ำประกันให้ใคร โดยเฉพาะคนใกล้ชิด เพราะมีโอกาสที่คุณจะรับผิดชอบภาระนั้นแทน

ความรัก  :  วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะซ่อมแซมและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันขนานใหญ่เลย ทางที่ดีควรลดทิฐิและความปรารถนาในตัวคู่ชีวิตลงด้วย เพราะมีแนวโน้มที่คุณจะไปต่อกันไม่ได้ คนโสด  หากคุณกำลังมีความรัก วันนี้เป็นไปได้ว่าคุณจะโรแมนติก และซื่อสัตย์จริงจังสูงมาก แต่ก็ควรลดทิฐิมานะและความคาดหวังลงบ้าง เพราะจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่คุณจะไปกันไม่ได้

สุขภาพ  :   วันนี้อวัยวะที่ควรให้ความสำคัญที่สุดคือ หัวใจ และโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ รวมถึงออฟฟิศซินโดรมก็อย่าได้ละเลย ยิ่งหากคุณทำงานในท่าเดิมนานๆ วันนี้มีความเสี่ยงสูงมาก  

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  :  คุณมีความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบที่ดีเยี่ยม รวมถึงความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จสูงมาก วันนี้มีแนวโน้มที่คุณจะได้ร่วมงานกับผู้ใหญ่ที่มีบุญบารมีในงานที่เกี่ยวกับงานบุญงานกุศล CSR เพื่อสังคม ซึ่งเป็นไปได้ว่างานนี้จะไม่ได้มีคุณคนเดียว แต่ต้องเข้าสู่การแข่งขัน การประมูลงาน การประกวด รวมถึงการสอบเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งคุณก็คาดหวังความสำเร็จไว้สูงมาก จนสามารถทำได้ทุกวิถีทาง แม้จะไม่ถูกต้องชอบธรรมนักก็ตาม  

การเงิน  :   คุณมีโชคทางด้านทรัพย์สิน เงินทอง ชื่อเสียงและตำแหน่งหน้าที่การงาน รวมถึงผู้ใหญ่ก็อุปถัมภ์ มีโอกาสได้เงินรางวัลตอบแทนการทำงานด้วย

ความรัก :   หากคุณแต่งงานอยู่ในครอบครัวที่เป็นที่นับหน้าถือตาของสังคม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่คุณต้องยึดมั่นในหลักการและความเหมาะสมในการครองคู่มากกว่าจะแสดงความสวีตหวานต่อหน้าธารกำนัลได้    คนโสด  มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับผู้มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มั่นคง แต่กระนั้นก็ตามเส้นทางรักของคุณวันนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะไม่ได้มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่พบเจอเขา

สุขภาพ  :   ภูมิแพ้มาแล้วจ้า ลมหนาวกำลังมา วันนี้จึงมีโอกาสที่คุณจะปรับสภาพร่างกายไม่ทัน จึงมีความเสี่ยงที่จะแพ้อากาศ หายใจไม่สะดวก หากเป็นไซนัสอยู่แล้ว คาดว่าจะกำเริบ

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :   สำหรับผู้ที่ทำงานหรือดำเนินธุรกิจที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และความประสบการณ์ความเชี่ยวชาญขั้นเทพ เช่น นักธุรกิจ นักการทูต แพทย์ ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย นักการเมือง การปกครอง จนถึงซินแส หมอดู ฯลฯ หากคุณกำลังทำงานอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่จริงใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เคยไว้ใจที่กลายมาสร้างความเจ็บปวดให้คุณที่สุด ซึ่งวันนี้มีโอกาสที่คุณจะตีตื้นกลับมา โดยสามารถแซงหน้าคนๆ นั้นไปได้ด้วย

การเงิน  :  หากการเงินของคุณไม่แน่นอน ขึ้นๆ ลงๆ วันนี้มีโอกาสที่คุณจะมีเงินเข้ามาอย่างไม่ขาดมือ ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะมาจากผู้ใหญ่ ซึ่งคุณก็จะสามารถบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความรัก   :  ก็ยังมีความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้คุณจะจริงจังและยึดติดในขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม ซึ่งก็เป็นวิธีการที่ดีคุณจะสามารถเอาชนะใจและความไม่ลงรอยระหว่างกันได้ คนโสด  วันนี้คุณมีความคิดเห็นเป็นตัวของตัวเองชัดเจนมาก ซึ่งก็จะไปเข้าตาและถูกจริตกับชาวต่างประเทศมากกว่าคนไทย แล้วไม่ได้มาแค่คนเดียวนะ  

สุขภาพ  :  หากคุณเครียดและจริงจังกับเรื่องต่างๆ ที่เข้ามา วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะปวดศีรษะอย่างต่อเนื่อง  ไมเกรน จนถึงท้องไส้ที่จะทำงานไม่เป็นระบบ จนเป็นโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบได้ง่ายๆ  

เอ็นซีที วันทูเซเว่น

ร้อนแรงทะลุขีดจำกัด! เอ็นซีที วันทูเซเว่น บัตรคอนเสิร์ต 3 รอบขายหมดเกลี้ยง

Alternative Textaccount_circle
เอ็นซีที วันทูเซเว่น
เอ็นซีที วันทูเซเว่น

‘NCT 127’ ( เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ตอกย้ำความนิยมที่ร้อนแรงทะลุขีดจำกัด ในเวิลด์ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สอง NCT 127 2ND TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE LINK’ (เอ็นซีที วันทูเซเว่น เซคเคินด์ ทัวร์ ‘นีโอ ซิตี้ : แบงค็อก – เดอะ ลิงก์’) ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2565 (เวลา 18.00 น.), วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2565 (เวลา 18.00 น.) และวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 (เวลา 16.00 น.) ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยล่าสุดที่ได้เปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการในรอบสมาชิก SM True MEMBERSHIP วันที่ 5 และรอบบุคคลทั่วไปในวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างถล่มทลาย จนบัตรคอนเสิร์ตของทั้ง 3 รอบการแสดง ถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงทันที

เอ็นซีที วันทูเซเว่น

อีกทั้ง ‘NCT 127’ (เอ็นซีที วันทูเซเว่น) ยังได้ส่งคลิปแทนความคิดถึง พร้อมขอบคุณทุกความรักและการสนับสนุนจาก NCTzen (เอ็นซีทีเซ็น: ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ชาวไทย ดังนี้

❝ สวัสดีครับ To the world! Here is NCT! สวัสดีครับ พวกเรา NCT 127 ครับ ทุกคนรอนานไหมครับ? ในที่สุดพวกเราก็ได้มาบอกข่าวดีกับแฟน ๆ ชาวไทยแล้วครับ! ข่าวดีอะไรเหรอครับ? พวกเราจะไปพบกับ NCTzen ชาวไทยทุกคน พร้อมกับคอนเสิร์ต NCT 127 2ND TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE LINK’ ครับ! เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยความรักและการสนับสนุนที่ร้อนแรงถล่มทลายจากแฟน ๆ ชาวไทยทุกคน ทำให้ครั้งนี้พวกเราได้จัดคอนเสิร์ตที่อิมแพ็ค อารีน่า ทั้งหมด 3 รอบการแสดงด้วยกันครับ! ขอบคุณครับ! ใช่แล้วครับ! คอนเสิร์ต NCT 127 2ND TOUR ‘NEO CITY : BANGKOK – THE LINK’ จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2565 (เวลา 18.00 น.), วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2565 (เวลา 18.00 น.) และวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 (เวลา 16.00 น.) ทั้งหมด 3 รอบการแสดง ที่พวกเราจะใช้เวลาอันเหมือนฝันร่วมกับทุกคนครับ! พวกเราทั้งตื่นเต้นและก็ตั้งตารอมาก ๆ เพราะเป็นการไปประเทศไทยหลังจากผ่านมานานจริง ๆ ครับ NCTzen ชาวไทยก็คงกำลังรอพวกเราด้วยความตื่นเต้นเหมือนกัน อยากไปพบกับทุกคนไว ๆ แล้วครับ~ เพื่อให้สมกับที่ไม่ได้พบกันมานาน พวกเราก็จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมของ NCT 127 ผ่านคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ดังนั้น หวังว่าทุกคนจะตั้งตารอและมาเจอกันที่คอนเสิร์ตให้ได้นะครับ! ถ้าคิดถึง NCT 127 ต้องมาหากันที่คอนเสิร์ตนะครับ! พวกเราคิดถึง NCTzen ชาวไทยที่สุดเลยครับ! ขอบคุณครับ~ บ๊ายบาย ❞

เอ็นซีที วันทูเซเว่น

สำหรับแฟน ๆ ท่านใดที่ยังไม่มีบัตรคอนเสิร์ตดังกล่าว สามารถรอร่วมเล่นกิจกรรมลุ้นรับบัตรคอนเสิร์ตจากทางสปอนเซอร์ ได้แก่ Lotus’s, แว่นท็อปเจริญ, บริษัท ดีคอลเจน จำกัด, COUNTER SERVICE และ CP

หมอสอง

เส้นทางรัก “เฟร้นช์ฟราย-หมอสอง” คอยช่วยเหลือกันและแม้ในวันที่ยากลำบาก

account_circle
หมอสอง
หมอสอง

กลายเป็นประเด็นฮอตเมื่อ “หมอสอง” หรือ นพ.นพรัตน์ รัตนวราห ถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถในต่างแดน และสามารถเจรจาช่วยเหลือให้กลับมาประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังการเจรจาครั้งนี้คือ แฟนสาวหมอสอง หรือ เฟร้นช์ฟราย-รินทร์ณฐา อัจฉริยวัฒนกุล ผู้ประกาศข่าวช่วงเย็นจากรายการ เรื่องเด่นประเด็นดัง (Top talk Daily) ทางช่องMONO29 

เส้นทางรัก “เฟร้นช์ฟราย-หมอสอง” คอยช่วยเหลือกันและแม้ในวันที่ยากลำบาก

หมอสอง

ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเผยถึงเรื่องราวความรักว่าก่อตัวขึ้นเมื่อไหร่  และการแบกความรู้สึกระหว่างแฟนหนุ่มถูกลักพาตัวไป เฟร้นช์ฟราย ผ่านมาได้อย่างไรเผยให้ฟังว่า

“พี่หมอเขามาจีบเราก่อนค่ะ ตอนนั้นรู้จักกันจากเพื่อนที่มหาวิทยาลัย พี่หมอทักมาแนะนำตัว แล้วก็เปิดใจพูดคุยกัน ปรากฎว่ามีไลฟ์สไตล์ที่ตรงกัน เป็นคนทำงานทั้งคู่ เลยต้องบริหารให้งานกับการแบ่งเวลาดี ๆ อาจจะไม่เจอกันทุกวันแต่คุยกันทุกวัน ไว้ใจตั้งแต่แรกแล้ว เพราะต่างคนต่างชัดเจน ไม่อยากให้มีปัญหาแล้วปวดหัว เดียวมันจะไปกระทบเรื่องงาน  เราสองคนไม่ได้สมูทหรือราบรื่นแต่เข้าใจกันทุกเรื่อง  ออกความเห็นกันตรง ๆ แบบผู้ใหญ่ ไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ต้องคิดเองไม่ต้องจินตนาการ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีแพลนข่าวดีค่ะ ขอเวลาอีกหน่อยละกันนะคะ (หัวเราะ) 

หมอสอง

ตลอดเวลาที่เขาถูกจับไป 25 วัน เรามีความหวังในทุก ๆ วัน เราพยายามไม่ให้สติตัวเองหลุด ยังคงแบ่งพาร์ททำหน้าที่ของตัวเอง ทำงานผู้ประกาศ สอนภาษาจีน เห็นเรายิ้มเห็นเราดูปกติ แต่ถึงอย่างนั้นก็แอบมีมุมทุกข์ใจ เพราะจิตใจเหมือนมีเรื่องเครียดให้เราคิดตลอด นั่งอ่านสคริปต์ไปร้องไห้ไปก็มี อ่านข่าวไปก็เป็นห่วงไป เพราะฉะนั้นจะไม่ปล่อยให้ตัวเองว่าง เลยให้ตัวเองพักผ่อนสมองไปกับการทำงาน ไม่หมกมุ่นกับเรื่องพี่เขามากจนเกินไป ทำเท่าที่ทำได้ ออกไปทำบุญ คิดในแง่ดีว่าพี่เขาจะต้องปลอดภัย

ขณะที่มูไปก็ช่วยเหลือติดต่อประสานงานตามที่ต่าง ๆ ไปด้วย ปรึกษาผู้รู้ หาวิธีติดต่อเมืองแบบนี้ หาทีมซัพพอร์ต คีย์แมนในการช่วยเหลือ มีสติ ไม่โวยวาย ถ้าเราร้องไห้ฟูมฟาย อาจจะไม่มีสติไม่มีสมาธิในการช่วยเหลือหรือทำงานในแต่ละวันได้ค่ะ”


ชุดนางนพมาศ

เปิดดีเทล ชุดนางนพมาศ ของ โบว์-เมลดา มูลค่า 20 ล้านบาท

Alternative Textaccount_circle
ชุดนางนพมาศ
ชุดนางนพมาศ

สำหรับงานเทศกาลลอยกระทงปีนี้ถือได้ว่าคึกคักที่สุดตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเลย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไอคอนสยาม ได้มีการจัดงาน “ICONSIAM CHAO PHRAYA RIVER OF ETERNAL PROSPERITY ลอยกระทงบนสายน้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง” ภายในงานมีกิจกรรมมากมายรวมถึง เปิดตัวนางเอกสาว โบว์-เมลดา สุศรี มาแปลงโฉมเป็น นางนพมาศ ประจำปี 2565 สืบสานประเพณีวันลอยกระทง ภายใต้ชุดสุดงดงาม รวมมูลค่าชุดและเครื่องประดับมีราคา 20 ล้าน

สำหรับชุดนี้มีชื่อว่าชุด “นพนารีศรี ชลมารค” ออกแบบโดยห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ โดย สรรค์ สุดเกตุ ดีไซน์เนอร์และเจ้าของห้องเสื้อ ซึ่งได้อธิบายเบื้องหลังและความเป็นมาของชุดนี้ไว้อย่างน่าสนใจ

“นับเป็นครั้งสำคัญและรู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ ที่ทางห้องเสื้อของเราได้มีโอกาสร่วมงานกับทาง ไอคอนสยาม ในงานประเพณีลอยกระทงปี 2565 นี้ ชุดนางนพมาศที่เรารังสรรค์ขึ้นในครั้งนี้ เป็นชุดไทยจักรีประยุกต์ที่ผสานความเป็นไทยและตะวันตกเอาไว้ด้วยกันได้อย่างสวยงาม โดยเลือกใช้ผ้าไหมยกดอกลำพูนโทนสีขาวในการตัดเย็บทั้งชุด เพื่อสื่อถึงแสงของดวงจันทร์ ปักด้วยคริสตัลสะท้อนความระยิบระยับคล้ายดวงดาวส่องประกายยามต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน งานปักลายสื่อถึงความหมายของสายน้ำและจันทราในคืนพระจันทร์เต็มดวง เป็นอีกหนึ่งชุดไทยที่นอกจากสวยงดงาม เลอค่ามาก ๆ แล้ว ยังมีความหมายสอดแซกอยู่ในลวดลายของผ้าไหมอีกด้วยนอกจากนี้เรายังได้รับเกียรติจากแบรนด์ทองถนิม ช่วยรังสรรค์เครื่องประดับทองคำที่สลักลวดลายโบราณล้ำค่า “โรหิณีจันทราพิม พาภรณ์” สัญลักษณ์แห่งจันทราให้กับชุดไทยจักรีของเราในครั้งนี้อีกด้วย”

ชุดนางนพมาศ 06
ชุดนางนพมาศ 05
ชุดนางนพมาศ 04
ชุดนางนพมาศ 03
ชุดนางนพมาศ 07
ชุดนางนพมาศ 08

ข้อมูลจาก : www.amarintv.com

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

5 แบรนด์ชุดเพื่อนเจ้าสาว เสกลุคสวยปังไม่ซ้ำกันยกทีม

ชุดเพื่อนเจ้าสาว
ชุดเพื่อนเจ้าสาว

SOBASIZ

เริ่มกันที่ร้านแรก SOBASIZ มีให้เลือกทั้งแบบมินิเดรส สำหรับใส่งานกลางวันฟรุ้งฟริ้งในสวน จนถึงชุดราตรีสั้นและยาว ไม่ว่าจะงานดินเนอร์กลางคืน หรือปาร์ตี้สุดเหวี่ยงก็เอาอยู่ แถมยังมีให้เลือกหลายโทนสี หลายสไตล์ ตั้งแต่เดรสสายเดี่ยว คล้องคอ ไหล่เดี่ยว ฯลฯ จุดเด่นมีทั้งดีเทลสายเพชรวิบวับ จนถึงโบน้อยใหญ่  ทุกอย่างคือส่วนผสมเสริมเสน่ห์ลุคหวานซ่อนเปรี้ยวช่วยให้งานแต่งของเพื่อนซี้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น จะเลือกเป็นชุดสีเดียวกันทั้งแก๊ง หรือจะคัลเลอร์ฟูลก็สวยแปลกตา ที่สุดของความปังอยู่ที่มีไซส์ให้เลือกตั้งแต่ XS S M L XL ส่วนราคาเริ่มต้นที่กว่าสองหมื่นบาท และ 6 ชุดขึ้นไปมีส่วนพิเศษให้ 10% สามารถเลือกชมสินค้าได้ที่ EXHIBIT 2F Central embassy และ SOBASIZ 1F Emporium หรือติดต่อ 02 715 0121 และ Line: @sobasizvip

Stolen Stores

            มาต่อกันที่ Stolen Stores เอาใจสายฝอที่หลงรักผ้าซาตินพลิ้วๆ โชว์เอวเอสได้โดดเด่นสุดปังที่คนดังหลายคนยกให้เป็นที่หนึ่งในใจ แถมยังมีแทบทุกเฉดสี ตั้งแต่โทนสว่างจนถึงเข้ม และดีไซน์ชุดหลากหลายแบบให้เลือกเสริมสร้างความมั่นใจและส่งต่อไปเป็นกำลังใจเจ้าสาวด้วย สำหรับสาวที่ชอบความเรียบหรูมีสไตล์ อาจเลือกเดรสเกาะอก ผ่าสูง  หรืออยากให้ลุคดูน่าค้นหาจะใส่เดรสคล้องคอ โชว์หลัง ก็สวยแซ่บไปอีกแบบ แต่ใครที่ขอแนวสวยแบบมีอะไรในดีเทลจะเลือกเป็นเดรสแขนยาวเว้าเอวก็เก๋ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3,890 – 8,900 บาท สั่งจองล่วงหน้า 7-10 วันติดต่อLine: @stolenstores

Miss Modern

อีกหนึ่งร้านผ้าซาตินที่ให้ลุคเพื่อนเจ้าสาวสุดแซ่บ สีสันสดใส มีหลากหลายโทนสีทั้งโทนสว่าง โทนสีเข้ม โทนสีหวานละมุน รวมถึงดีไซน์ก็มีให้เลือกเยอะถึง 10 แบบ นอกจากใส่มางานแต่งของเพื่อนซี้ยังสามารถสวมใส่ได้อีกหลายโอกาส

ราคาเริ่มต้นที่ 2,890 บาท หากสั่งแบบเดียวกันทั้งหมดมีส่วนลดพิเศษให้ 5% สำหรับ 5 คนขึ้นไป และลด 10% สำหรับ 9 คนขึ้นไป รวมถึงมีบริการตัดตามสีและไซส์ ช่วงปกติใช้เวลาดำเนินการ 7-14 วัน แต่ช่วงที่ออร์เดอร์เยอะอาจใช้เวลา 1-2 เดือน สามารถเข้าไปลองชุด เลือกสีและดีไซน์ได้ที่ ชั้น 3 Park avenue, Ekamai และ SOS Siam flagship store ติดต่อโทร 061 456 2168 และ Line: @missmodern

NICHp 

ต่อกันที่แบรนด์ NICHp สไตล์เรียบหรู แต่โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการใส่ใจทุกรายละเอียดในการตัดเย็บแบบคัตติ้งเนี้ยบ  แต่ถ้าไม่อยากเพิ่มดีกรีความหวาน อาจใช้ลูกเล่นผ้าตาข่ายเพิ่มความฟูของกระโปรง หรือแขนเสื้อ รวมไปถึงการจับพลีตต่างๆ ก็จะได้ชุดที่สวยหวานกำลังดี ส่วนใครที่รีเควสลุคเซ็กซี่นิดๆ ก็มีทั้งแบบไหล่เดี่ยว เปิดหลัง เกาะอก และอื่นๆ ราคาเริ่มต้นที่ 2,590 บาท เบื้องต้นมีสามไซส์คือ S M L หากต้องการตัดตามไซส์ เพิ่ม 1500 บาท ใช้เวลาดำเนินการ 1 เดือน หรือลองมาเลือกชมก่อนได้ที่สาขาใหญ่ Flagship store งามวงศ์วาน15 ติดต่อโทร 084 522 2951

Firrr Officials

ปิดท้ายด้วยแบรนด์ราคาย่อมเยา แต่สวมใส่ออกมาแล้วเรียบหรูดูแพง เหมาะกับงานเป็นทางการ แต่ก็ยังมีดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเดรสแขนตุ๊กตา เดรสคอปีนแขนกุด หรือจะเดรสโชว์หลังเติมความเก๋โดดเด่น มาในโทนสีเรียบง่ายแมทช์เข้ากันได้ทุกแบบและใส่ได้หลากโอกาส ราคาเริ่มต้น 1,290 บาท หรือเลือกชมสินค้าได้ที่ SOS Central Lardprao @firrr_officials โทร 094 289 6945

งานแต่งงานแบบล้านนา

งานแต่งงานแบบล้านนา ที่จังหวัดเชียงใหม่ ของนักแสดงหนุ่ม โกสินทร์ ราชกรม

Alternative Textaccount_circle
งานแต่งงานแบบล้านนา
งานแต่งงานแบบล้านนา

หลังจากที่ศึกษาดูใจกันมานาน 10 ปี ในที่สุดนักแสดงหนุ่มช่อง 3 โกสินทร์ ราชกรม ก็ได้ถือฤกษ์ดีวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จัดพิธี งานแต่งงานแบบล้านนา ขึ้นที่ Monfai Cultural Centre ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลป่าตัน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

โดยเจ้าบ่าว-จ้าสาว และแขกที่มาร่วมงานพร้อมใจกันสวยหล่อในชุดไทยแบบพื้นเมือง แม้จะเป็นงานที่ถูกจัดขึ้นในต่างจังหวัด แต่ก็มีผู้เข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างมากมาย รวมถึงเพื่อนในวงการบันเทิง นำโดย มาร์กี้ ราศรี, มิ้นต์ ชาลิดา, พลอย ชิดจันทร์, แพง ภิชาภัช ฯลฯ ก็เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีด้วย


และนี่คือบรรยากาศในงานที่เกิดขึ้น บอกเลยว่าเป็นงานแต่งงานที่อบอุ่นมากอีกงานหนึ่งเลยก็ว่าได้

งานแต่งงานแบบล้านนา
งานแต่งงานแบบล้านนา 05
งานแต่งงานแบบล้านนา 07
งานแต่งงานแบบล้านนา 03
งานแต่งงานแบบล้านนา 04
งานแต่งงานแบบล้านนา 01

ภาพจาก : IG @ mint_chalida, ploychidjun, pang_pichapat, mickbaromvudh, power3taem, kittipas_ton, wasin_aunchanum, aomm.rua

คอกกั้นเด็กแบรนด์ไทย HOYO cover

ซูมความสำเร็จ “ญาภัทร สรรพวัฒน์” CEO “HOYO” คอกกั้นเด็กแบรนด์ไทยคุณภาพพรีเมียม  

คอกกั้นเด็กแบรนด์ไทย HOYO cover
คอกกั้นเด็กแบรนด์ไทย HOYO cover

Exclusive Talk ครั้งนี้ แพรว ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “คุณก้อย – ญาภัทร สรรพวัฒน์” CEO หญิงเก่งบวกแกร่ง เจ้าของผลิตภัณฑ์คอกกั้นเด็กแบรนด์ไทย HOYO ที่สร้างปรากฏการณ์เปลี่ยนภาพลักษณ์สินค้าแบบเดิมๆ ก้าวสู่อันดับหนึ่งในตลาด ด้วยระยะเวลาเพียง 5 ปี โดยมีคำว่า Passion เป็นแรงขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ

ค้นหา Passion

“ก่อนที่จะมาทำแบรนด์คอกกั้นเด็ก HOYO อย่างทุกวันนี้ ต้องบอกว่าตอนแรกก้อยไม่ได้มาทางนี้เลย ตอนเรียนปริญญาตรีก้อยมีความสนใจด้านกฎหมาย เลยเลือกคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ตอนไปฝึกงานที่สำนักกฎหมายช่วงเรียนปี 3 – 4 ก็รู้ว่าอาชีพนี้ไม่น่าจะเหมาะกับตัวเอง จึงตัดสินใจเบนเข็มไปเรียนต่อปริญญาโทคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเรียนปริญญาโทอีกหนึ่งใบด้าน MSc Strategic Marketing ที่ Imperial College London

“พอกลับมาเมืองไทยก็เริ่มจากการทำงานเป็น Management Trainee ที่ Foremost Thailand ก่อนจะมาช่วยงานคุณพ่อในตำแหน่งผู้จัดการโรงงาน มีหน้าที่หลักคือเรียนรู้ทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิตและเซตระบบ ISO ซึ่งครอบครัวก้อยทำธุรกิจโรงงาน OEM ผลิตเบาะรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้มาตรฐานสากล โดยเราทำส่งให้กับค่ายรถระดับโลกอย่างฮอนด้าและคาวาซากิมากว่า 30 ปีแล้ว

“หลังจากช่วยธุรกิจที่บ้านมาประมาณ 3 ปี ก้อยก็แต่งงาน แพลนตอนนั้นคือก้อยอยากทำงานที่มีเวลาดูแลลูกได้ด้วย ประกอบกับตอนเรียนที่อังกฤษ โปรเจ็กต์ที่ก้อยทำก่อนเรียนจบคือการพัฒนาบริษัทขายของเด็ก จึงทำให้มีความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานสากลของสินค้าเด็ก และรู้สึกว่าอยากทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็กที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก

“ในตอนนั้นก้อยรู้สึกว่าของใช้สำหรับเด็กในท้องตลาดบ้านเรายังไม่ค่อยได้มาตรฐานความปลอดภัย โดยเฉพาะสินค้าคอกกั้นเด็กที่ยังใช้หนัง PVC และไม่มีแม้แต่ มอก.หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมควบคุม จึงทำให้รู้สึกว่าสินค้าที่มียังไม่ค่อยปลอดภัยเพียงพอสำหรับลูกของเรา ตรงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของคอกกั้นเด็ก HOYO ว่าในเมื่อของที่มีในท้องตลาดดูไม่ค่อยปลอดภัยกับลูกของเรา ทำไมเราไม่ทำขึ้นมาเองเลยล่ะ”

ฉีกกฎคอกกั้นเด็ก

“ย้อนไปเมื่อ 5 – 6 ปีที่แล้ว จะเห็นว่าคอกกั้นเด็กมักมีสีฉูดฉาดและจะทำเป็นคอกแบบหนาๆ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ดูแข็งแรง แต่ก้อยกลับมองว่ามีความเทอะทะและอายุการใช้งานสั้น เมื่อลูกโตขึ้นก็จะกลายเป็นของเกะกะบ้าน แล้วด้วยความที่คอกกั้นเด็กเป็นของชิ้นใหญ่และราคาสูง เราจึงอยากยืดอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนโต

“ก้อยจึงมีไอเดียและเริ่มดีไซน์ให้คอกกั้นเด็กสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้เป็นรูปทรงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอกกั้น เบาะนอน หรือโซฟา และสามารถโยกย้ายไปในที่ต่างๆ ได้ง่าย รวมถึงพับเก็บได้โดยไม่กลายเป็นขยะในอนาคต อีกทั้งยังเน้นความสวยงามแบบมินิมัลให้เป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในบ้าน

“ด้วยความที่ธุรกิจของที่บ้านผลิตเบาะจากหนังเทียม ทำให้ก้อยรู้จักวัตถุดิบทุกอย่าง รวมถึงซัพพลายเออร์ทั้งในและต่างประเทศ สำหรับวัสดุที่ใช้ก้อยเลือกนำเข้าหนังเทียม PU เกรดสำหรับเด็กอ่อนโดยเฉพาะจากประเทศเกาหลี ซึ่งมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านนี้อยู่แล้ว ทำให้เนื้อสัมผัสของหนังเนียนนุ่ม ไร้กลิ่น ไม่ร้อน รวมถึงปลอดภัยจากสารเคมีตามมาตรฐานยุโรปและอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น PVC Free, BPA Free, Phthalates Free, DMF Free, VOCs Free, Formaldehyde Free, Formamide Free และผ่านมาตรฐาน ASTM 963, EN 71 Part 3 และ RoHS ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีใครทำได้อย่างนี้

“สำหรับโฟมที่บุด้านในเราผลิตเอง โดยใช้ Know-How จากประเทศญี่ปุ่นมาพัฒนาสินค้า จะเห็นได้จากการทดสอบด้วยการทิ้งไข่ไก่สดลงไปที่เบาะ HOYO แล้วไข่ไม่แตก ทำให้คอกกั้นนี้สามารถซัพพอร์ตศีรษะเด็กได้อย่างดีเยี่ยม

“ตอนนั้นก้อยใช้เวลาในการออกแบบและพัฒนาสินค้ากว่า 1 ปี เริ่มตั้งแต่เซอร์เวย์ ทำวิจัยโฟกัสกรุ๊ป ทั้งลองกับเด็กทุกช่วงวัย แก้ไขปรับปรุงมาตลอด ทำการบ้านอย่างดีก่อนจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ HOYO โดยเราเปิดตัวแบรนด์ HOYO ครั้งแรกที่งาน Amarin Baby & Kids Fair ปี 2017 จำได้ว่าเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม ตอนนั้นท้องลูกคนแรก 7 เดือนแล้ว ก้อยไปยืนขายเองกับสามีในงานทุกวัน แรกๆ ลูกค้าเห็นว่าคอกกั้นเด็กของ HOYO สามารถโยกได้ก็พากันส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่แข็งแรง จึงต้องใช้เวลาในการอธิบายให้ลูกค้าฟังว่าเราตั้งใจออกแบบให้มีความยืดหยุ่น เพราะพ่อแม่หลายคนอาจคิดแค่ว่าเวลาเด็กเดินในคอกจะล้มไปที่พื้นอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วเขาล้มชนผนังด้วย โจทย์คือจะทำอย่างไรให้มีกันชน (Buffer) ที่ผนัง เพื่อไม่ให้เด็กๆ ได้รับบาดเจ็บ เราจึงออกแบบให้มีความยืดหยุ่นแทนที่จะแข็งเหมือนแบบเดิมๆ ก้อยยืนอธิบายอย่างนี้ให้กับลูกค้าวันละร้อยๆ รอบโดยที่ไม่ท้อเลยค่ะ กลับรู้สึกดีใจที่ลูกค้าเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร

“จากนั้นเรานำทุกคำถามหรือข้อสงสัยมาทำการบ้านเพิ่มเพื่อสื่อสารกับลูกค้าให้ดีขึ้น อย่างเรื่องความยืดหยุ่นที่เล่าไป หรือเรื่องความสูง แต่ละแบรนด์มีความสูงต่างกัน บางแบรนด์ทำคอกกั้นสูงมิดศีรษะเด็ก ขนาดเมตรกว่า แต่ของ HOYO สูงเพียง 50 เซนติเมตร เพื่อให้พอดีกับความสูงของเด็กวัยที่หัดเกาะยืน ถ้าเด็กมีตัวช่วยที่เหมาะสม เด็กจะเริ่มเกาะยืนได้ตั้งแต่อายุ 5 เดือน คอก HOYO จะช่วยซัพพอร์ตพัฒนาการตามช่วงวัย ต้องบอกเลยว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้คอกกั้นเป็นที่กักขังเด็กๆ แต่ต้องการให้เป็น Safe Zone ในการฝึกพัฒนาการได้ตั้งแต่เล็กจนโต และการที่คอกสูงเกินไป เวลาปีนตกลงมาจะยิ่งเจ็บ เราออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เรื่องนี้ที่สุด พิสูจน์ให้เห็นได้จากทุกวันนี้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้านึกถึงคอกกั้นปรับฟังก์ชันได้ ต้องคอกกั้นเด็ก HOYO เท่านั้น และยังการันตีด้วยรางวัล Best Baby Playpens ถึง 3 ปีซ้อน”

ตอบโจทย์ชนะใจลูกค้า

“แบรนด์ HOYO โตขึ้นตั้งแต่ปีแรก จนตอนนี้เข้าปีที่ 5 แล้ว ขอบอกตามตรงนะคะว่าตั้งแต่เปิดจำหน่ายมา แบรนด์เราแทบไม่เคยลดราคาสินค้าเลย เพราะต้นทุนผลิตกับราคาขายต่างกันน้อยมาก อย่างที่บอกว่าจุดเริ่มต้นคือเราอยากทำเพื่อให้ลูกได้ใช้ จึงเลือกแต่วัสดุคุณภาพระดับพรีเมียมจริงๆ จึงเป็นเหตุผลที่ลดราคาได้เพียงเล็กน้อย

“ที่ผ่านมาช่วงโควิด-19 ระบาด เราก็ได้ฟีดแบ็กจากลูกค้าจำนวนมากว่าเวลาเด็กนอนที่เบาะจะสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อโรคไหม ก้อยจึงติดต่อกับซัพพลายเออร์ที่ประเทศเกาหลีว่าจะทำยังไงให้เบาะของเราปลอดภัยที่สุด ซึ่งเขามีนวัตกรรมในการผลิตหนังที่ฆ่าเชื้อโรคได้ 99.9 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะแบคทีเรียอีโคไลและสเตร็ปโตค็อกคัสที่ทำให้เด็กป่วยมากที่สุด โดยเขาจะนำเส้นใยไปชุบสารฆ่าเชื้อโรคแล้วทอขึ้นมาเป็นผ้าหนัง ทำให้เรานำนวัตกรรมนี้มาผลิตคอกกั้นเด็กที่เป็นตัวพรีเมียม ซึ่งตั้งแต่เปิดตัวมาผลตอบรับจากลูกค้าดีมากๆ

“การก้าวไปสู่แบรนด์อันดับหนึ่งของคอกกั้นเด็กในวันนี้ ก้อยมองว่าความซื่อสัตย์กับลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไรก็ตาม เราต้องสามารถตอบได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผลิตภัณฑ์จะต้องดีทั้งในเรื่องคุณภาพและอายุการใช้งาน เรามั่นใจว่าหนัง PU ของเราอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป ส่วนโฟมอายุการใช้งานเป็น 10 ปี

“ก้อยให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการเท่ากันๆ ค่ะ ทีมงานต้องเซอร์วิสลูกค้าให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ มีเคสหลังการขายที่พบเจอบ่อยคือที่บ้านลูกค้าน้ำท่วม ทำให้ต้องส่งเบาะมาทำความสะอาด ระหว่างรอสินค้าเราจะจัดส่งชิ้นสำรองให้ใช้ก่อน เพราะเราดูแลลูกค้าโดยอิงจากความเป็นแม่เหมือนกัน

“ณ ตอนนี้เรากล้าพูดเลยว่าดาราส่วนใหญ่เลือกใช้คอกกั้นเด็กของ HOYO ไม่ว่าจะเป็นคุณอั๋น – ภูวนาท, คุณุ มิว – นิษฐา, คุณก้อย – รัชวิน เราภูมิใจมากๆ ที่สามารถส่งต่อสิ่งดีๆ ที่เราตั้งใจทำให้เกิดประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่กว่าหมื่นครอบครัว จนทุกคนต่างพูดว่าคอก HOYO เป็นคอกที่มีทุกบ้าน” (ยิ้ม)

ชีวิตนอกเวลา CEO

“จริงๆ แล้วทุกวันนี้ก้อยแทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย แต่ก็มีความสุขมากๆ นะคะ อย่างตอนมีลูกคนแรกก้อยดูแลเองแบบ 24 ชั่วโมง ไม่มีพี่เลี้ยงมาช่วย เพราะกลัวลูกติดพี่เลี้ยง (ยิ้ม) ก้อยให้ลูกเป็นที่หนึ่งเสมอ พอลูกหลับเราก็ค่อยเคลียร์งานต่อ กลางวันลูกงีบ บางทีเราก็แอบงีบด้วย

“ส่วนคุณโอม สามีเป็นผู้พิพากษา แรกๆ เขาต้องย้ายไปทำงานตามต่างจังหวัด ก้อยจะดูแลลูกมือเดียวเลยค่ะ และสมัยก่อนยอดขายยังไม่ได้มากเท่าทุกวันนี้ จึงสามารถดูแลลูกเองทั้งวันแล้วก็ตอบงานไปด้วย แต่ปัจจุบันองค์กรใหญ่ขึ้น ก้อยจะพยายามแบ่งเวลาในชีวิตให้ชัดเจน ส่วนใหญ่เวลากลางวันจะเน้นแค่คุยประสานงานและประชุมตามวาระ นอกนั้นจะเป็นเวลาของลูกๆ พอถึงตอนกลางคืนจึงจะเป็นการทำงานที่ต้องโฟกัสรายละเอียด”

สำหรับหน้าที่ศรีภรรยา คุณก้อยตอบทันทีว่า “ก้อยให้สามีดูแลค่ะ (หัวเราะ) ช่วงเช้าถึงเย็นหน้าที่ของเขาคือผู้พิพากษา แต่ช่วงค่ำคือดูแลภรรยาค่ะ เรารักกันมาเข้าปีที่ 20 แล้ว เขาเป็นรักแรกของก้อย เรารู้จักกันตอนเรียน ม.4 ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แล้วเรียนต่อที่จุฬาฯด้วยกัน และเราสู้มาด้วยกันตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำธุรกิจนี้ ปรึกษากันได้ทุกเรื่อง”

แน่นอนว่าการดูแลสุขภาพถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเวิร์คกิ้งวูแมนลูกสองคนนี้ “ก้อยมักจะทำกับข้าวเอง หลังจากคลอดลูกคนที่สองน้ำหนักเกินไปเป็น 10 กิโลกรัม จึงใช้วิธีควบคุมอาหาร โดยเน้นอาหารที่มีประโยชน์ โปรตีน ผัก ผลไม้ ส่วนการออกกำลังกายถือว่าน้อยมาก เพราะแค่ทำงานก็เหนื่อยแล้ว อาศัยทำงานบ้าน วิ่งตามลูก อุ้มลูก เหมือนได้ออกกำลังไปในตัว

“ถ้ามองย้อนกลับไป ความสำเร็จในวันนี้เกิดจากแพสชั่น ลูก และการซัพพอร์ตที่ดีของครอบครัว แม้จะเหนื่อยกาย แต่เรามีความสุขกับสิ่งที่ทำ ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงเป็นไปตามที่คิดไว้ค่ะ”

“Cute Press” เปิดตัวพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ “CI-LAB SENSITIV” Cover

“Cute Press” เปิดตัวพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ “CI-LAB SENSITIV” คว้า “มะปราง อลิสา” และ “กลัฟ คณาวุฒิ” เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจดูแลผิว

“Cute Press” เปิดตัวพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ “CI-LAB SENSITIV” Cover
“Cute Press” เปิดตัวพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ “CI-LAB SENSITIV” Cover

‘คิวท์เพรส’ (Cute Press) สร้างความตื่นเต้นครั้งใหม่ให้ผู้บริโภค เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์เสริมปราการผิว ’CI-LAB SENSITIV’ (ซี-แล็บ เซนซิทีฟ) สกินแคร์สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย ที่คิดค้นมาเพื่อคนเมืองร้อนโดยเฉพาะ โดยมีให้เลือกใช้ 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มเซฟผิวหน้า เซฟผิวกาย เซฟผิวจากแสงแดด และเซฟจุดซ่อนเร้น พร้อมคว้านักแสดงสาวมากความสามารถ ‘มะปราง อลิสา ขุนแขวง’ เป็นพรีเซนเตอร์กลุ่มเซฟผิวหน้า และพระเอกหนุ่มสุดฮอต ‘กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์’ เป็นพรีเซนเตอร์กลุ่มเซฟผิวกาย เพื่อเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจดูแลผิว และชวนให้ทุกคน #เซฟผิวแพ้ง่าย และปลดล็อกความมั่นใจ ออกไปสนุกกับทุกกิจกรรมได้อย่างเต็มที่แบบไร้กังวล

“Cute Press” เปิดตัวพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ “CI-LAB SENSITIV” คว้า “มะปราง อลิสา” และ “กลัฟ คณาวุฒิ” เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจดูแลผิว

นางสาวสรลักขณ์ จุนเกียรติ Brand Communication Director ผลิตภัณฑ์ Cute Press กล่าวว่า “Cute Press เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคเมืองร้อนชื้นอย่างลึกซึ้ง และแบรนด์เครื่องสำอางไทยที่ได้รับการยอมรับมายาวนานเกือบ 50 ปี โดยที่ผ่านมาเราสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และเป็นตัวช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างนิยามความสวยในแบบของตัวเอง ปลดล็อกความมั่นใจ และมีความสุขกับการใช้ชีวิตในเมืองร้อน ตามแบรนด์คอนเซปต์ ‘Tropical Life is Beautiful อยู่เมืองร้อน อยากสวยต้องได้สวย’ โดยล่าสุดจับ Pain point คนเมืองร้อนชื้นที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย มาพัฒนาไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘CI-LAB SENSITIV’ (ซี-แล็บ เซนซิทีฟ) สกินแคร์สำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย ที่คิดค้นมาเพื่อคนในเขตร้อนชื้นโดยเฉพาะ ชูความอ่อนโยนขั้นสุด มาพร้อมนวัตกรรม SUB-MICRON BARRIER RESCUE COMPLEX เอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ซึ่งทีมวิจัยได้ทำให้สารบำรุงผิวมีอนุภาคเล็กพิเศษ บำรุงลึกถึงชั้นเซลล์ผิว (ผิวชั้นนอก) พร้อมผสาน 4 พลังสารบำรุงผิว ได้แก่ Ceramide, Phytosphingosine, Aloe Vera และ D-Panthenol ทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยเติมและล็อกความชุ่มชื่นได้นาน 24 ชั่วโมง ช่วยบำรุงผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ ปกป้องและฟื้นฟูผิวบอบบาง แพ้ง่ายให้กลับมาแข็งแรง โดยมี 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ผิวกาย กันแดด และจุดซ่อนเร้น โดยทุกสูตรผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง* จากสถาบันชั้นนำว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง”

พร้อมดึงตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจดูแลผิว อย่าง “มะปราง อลิสา” และ “กลัฟ คณาวุฒิ” นั่งแท่นพรีเซนเตอร์ฮีโร่โปรดักส์ เพื่อชวนคนรุ่นใหม่มาเซฟผิวบอบบาง แพ้ง่าย และปลดล็อกความมั่นใจไปด้วยกันด้วย Cute Press CI-LAB SENSITIV นอกจากนี้ยังเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ชุดล่าสุด เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมาย

มะปราง – อลิสา ขุนแขวง แบรนด์พรีเซนเตอร์กลุ่มผลิตภัณฑ์เซฟผิวหน้า สาวสวยสายลุย เผยประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ และความประทับใจว่า “ดีใจค่ะ ที่ Cute Press ให้โอกาสมะปรางได้มาเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์เซฟผิวหน้าของ CI-LAB SENSITIV และเป็นตัวแทนสาว ๆ ที่มี Tropical lifestyle ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงกับมะปรางมาก ๆ เพราะปกติมะปรางเป็นคนที่ค่อนข้างลุย และชอบทำกิจกรรมที่หลากหลายสนุก ๆ มัน ๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้องเพลง แข่งรถ ถ่ายรูป และดำน้ำ ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่จะต้องโดนแดด โดนฝุ่นควันตลอดเวลา รวมถึงเวลาที่เราทำงานก็ต้องแต่งหน้าและเจอแสงไฟตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยค่ะ ทำให้ผิวมะปรางเริ่มแพ้ง่ายขึ้น เราเลยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลผิว โดยเฉพาะผิวหน้า ซึ่งจากประสบการณ์การใช้จริง มะปรางรู้สึกได้ว่าผลิตภัณฑ์เซฟผิวหน้าของ CI-LAB SENSITIV อ่อนโยนกับผิวมาก ๆ เนื้อครีมก็บางเบา ทาแล้วไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะไว้เลย ที่สำคัญมั่นใจได้ เพราะผ่านการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมาแล้ว เรียกว่าเป็นไอเทมเด็ดในการดูแลผิวหน้าของมะปรางเลยค่ะ”

ทางด้านพรีเซนเตอร์หนุ่ม กลุ่มผลิตภัณฑ์เซฟผิวกาย รอยยิ้มใจละลาย กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ กล่าวว่า “ผมว่าเดี๋ยวนี้กลุ่มผู้ชายรุ่นใหม่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลผิวกันมากขึ้น รวมถึงตัวผมด้วย เพราะด้วยสภาพอากาศ มลภาวะ และฝุ่นควันที่ต้องเจอในแต่ละวันทำร้ายผิวมาก ๆ ครับ รวมถึงแต่ละกิจกรรมที่ผู้ชายชอบทำส่วนใหญ่ก็จะเป็นกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องเจอทั้งแดด เหงื่อ และความชื้น อย่างตัวกลัฟเอง พอมีเวลาว่างจากตารางงานก็จะชอบไปออกกำลังกาย หรือไปเตะบอลกับเพื่อน ๆ ผมเลยต้องหาตัวช่วยสำหรับดูแลผิวกายเอาไว้ นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์เซฟผิวกายของ CI-LAB SENSITIV ครับ ยิ่งได้มาเป็นพรีเซนเตอร์และได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จริงก็รู้สึกได้เลยว่าเหมาะกับตัวเองมาก ๆ ครับ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนไทยและคนในสภาพอากาศร้อนชื้นจริง ๆ แถมมีให้เลือกใช้ทั้งแบบเนื้อโลชั่นสำหรับคนผิวธรรมดา และครีมสำหรับคนที่ผิวแห้งมาก อยากบอกต่อทุกคนให้หันมาเซฟผิวกันด้วย CI-LAB SENSITIV กันครับ”

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อสินค้าได้ตั้งแต่วันนี้ ทั้งช่องทางออฟไลน์ ได้แก่ Cute Press Shop ทั่วประเทศ ร้านตัวแทนจำหน่าย Watsons, EVEANDBOY, BEAUTRIUM รวมถึงช้อปออนไลน์ผ่าน  www.cutepress.com, Cute Press Facebook Official, IG Official, Line Official, Line My Shop, Shopee, Lazada, Konvy และแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ Grab Mart, Line Man Mart, Panda Shops

สวยเก่งครบสูตร คุณแน็ตตี้-นิดา วงศ์พันเลิศ Cover

สวยเก่งครบสูตร คุณแน็ตตี้-นิดา วงศ์พันเลิศ ผู้บริหารโรงแรม 137 พิลลาร์ (137 Pillars) ด้วยวัยเพียง 22 ปี

สวยเก่งครบสูตร คุณแน็ตตี้-นิดา วงศ์พันเลิศ Cover
สวยเก่งครบสูตร คุณแน็ตตี้-นิดา วงศ์พันเลิศ Cover

คุณแน็ตตี้-นิดา วงศ์พันเลิศ ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง 137 พิลลาร์ (137 Pillars) ลักซ์ชัวรี่บูติคโฮเตล เรียนจบทางด้านวิศวะปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยบริสตอล (University of Bristol) และปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) หลังเรียนจบกลับมาเป็นช่วงที่ครอบครัวขยายกิจการโรงแรม 137 พิลลาร์ เฮ้าส์ เชียงใหม่ (137 Pillars House Chiang Mai) มาสร้างโรงแรมที่กรุงเทพฯ พอดีจึงต้องเข้ามาช่วยดูแลตั้งแต่การดีไซน์ การก่อสร้าง และทีม จนสามารถเปิดให้บริการได้

จากสาววิศวะ…สู่ผู้บริหารโรงแรมลักซ์ชัวรี่

“ขอย้อนเล่ากลับไปถึงสาเหตุที่แน็ตตี้ตัดสินใจเลือกเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์ เพราะตอนแรกหวังว่าจะกลับมาดูแลธุรกิจสิ่งทอของครอบครัว และสมัยเด็กๆ คะแนนวิชาคณิตศาสตร์ค่อนข้างโดดเด่นกว่าวิชาอื่นๆ มาก ส่วนทางด้านวิทยาศาสตร์ คะแนนฟิสิกส์ก็เด่นสุดเช่นกัน รวมถึงมีความฝันอยากเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรม แต่คุณพ่อเป็นวิศวกร จึงแนะนำให้แน็ตตี้เลือกเรียนวิศวกรรมศาสตร์ เนื่องจากแน็ตตี้เก่งเลขมากกว่าการวาดรูป และสามารถต่อยอดทำอย่างอื่นได้หลายอย่าง แล้วแน็ตตี้เองก็รู้สึกชอบด้วยจึงเลือกทางด้านนี้ค่ะ

“พอเรียนจบกลับมาเป็นจังหวะที่ครอบครัวกำลังสร้างโรงแรม 137 พิลลาร์ ที่กรุงเทพ ก่อนที่ครอบครัวจะตัดสินใจสร้างเป็นโรงแรม ตั้งใจจะทำเป็นอพาร์ทเม้นท์ ทำให้ช่วงแรกที่แน็ตตี้เข้ามาดูแลเป็นโปรเจกต์แมเนจเมนต์ มีการปรับเปลี่ยนจากแผนเดิมประมาณ 50% เลยค่ะ ตอนนั้นแน็ตตี้อายุ 22 ปี ช่วยดูตั้งแต่เรื่องการดีไซน์ วางคอนเซ็ปต์ให้เป็นลักซ์ชัวรี่โฮเทล 7 ชั้น สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของโรงแรม นอกจากเรื่องการออกแบบยังช่วยดูแลเรื่องการบริหารจัดการด้านงานผู้รับเหมา การเลือกใช้วัสดุ การตกแต่งภายใน ทำงบประมาณต่างๆ และดูแลทีมที่มีทั้งคนไทยและฮ่องกง ซึ่งได้นำทักษะที่เรียนทั้งหมดมาปรับใช้ โดยก่อสร้างต่างๆ ใช้เวลาจนแล้วเสร็จประมาณ 2 ปีครึ่ง จึงสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ

“จากนั้นแน็ตตี้อยากลองทำความเข้าใจธุรกิจให้มากขึ้นจึงย้ายมาอยู่แผนกการขายและการตลาด (Sales&Marketing) ของโรงแรมที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ด้วย ทำให้เข้าใจการตลาดและการประชาสัมพันธ์มากขึ้น อย่าง การทำโปรดักซ์ชั่นถ่ายภาพห้องพักของโรงแรม ธุรกิจบริการและการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ได้พบปะสื่อมวลชน เข้าใจโลกของการทำ PR เริ่มฝึกบริหารงานจากตำแหน่งนี้ประมาณ 2 ปี ก็กลับไปสู่การดูแลภาพรวมทั้งหมดของโรงแรมอีกครั้งเนื่องจากมีแผนสร้างโครงการที่ 3 โรงแรม 137 พิลลาร์ ภูเก็ต และคุณพ่อก็มอบตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัวให้ในวัย 30 ปี

อุปสรรคของผู้บริหารอายุน้อย

“แน็ตตี้เริ่มเข้ามาทำงานที่โรงแรมด้วยวัย 22 ปี ตอนนั้นทีมมีแค่ 5-6 คน ให้ดูแล แต่ตอนนี้วัย 30 ปี คุณพ่อให้มาเป็นผู้บริหารโรงแรม และพนักงานกว่า 100 คน ซึ่งตอนที่ได้มาเป็นผู้บริหารใหม่ๆ ขาดความมั่นใจ เคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะทำได้ไหม แต่ความที่แน็ตตี้อยู่และลงมือทำตั้งแต่แรกเริ่มสร้างโรงแรมจนถึงตอนนี้ทำให้พนักงานเดิมที่ยังคงอยู่ที่โรงแรมเขาเห็นถึงความตั้งใจในการทำงานและความพยายามพัฒนาให้โรงแรมเติบโต ส่วนพนักงานที่เข้ามาใหม่ แน็ตตี้เป็นคนรับเข้ามาด้วยตัวเอง สัมภาษณ์พนักงานด้วยตัวเอง ทำให้แน็ตตี้ได้รู้จักเขาและเขาเองก็ได้รู้จักแน็ตตี้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้เขาต้องมาทำงานกับผู้บริการอายุน้อยแต่ก็เกิดความยอมรับซึ่งกันและกัน ซึ่งฟีดแบคที่ประทับใจที่ได้จากพนักงานคือ เขาก็ชอบการทำงานกับคนรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้พนักงานมีอิสระทางความคิดและลองทำสิ่งใหม่ๆ

“อุปสรรคที่ได้พบคือพนักงานเก่าแก่ที่มีหลายระดับ แน็ตตี้ก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจและพยายามเข้าถึงใจพวกเขาให้ได้ค่ะ โดยอันดับแรกต้องเริ่มจากเชื่อมั่นในตัวเอง และเชื่อมั่นในตัวหัวหน้าแผนกที่ทำงานด้วยกัน เพราะถ้าแน็ตตี้เข้าไปจุกจิกมากเกินไปอาจทำให้เขาทำงานด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าคิด กล้าทำ จึงต้องไว้ใจในการตัดสินใจของเขาด้วย หากเกิดข้อผิดพลาดก็ค่อยเข้าไปช่วยแก้ไขและสอนเขา แน็ตตี้จะพยายามเปิดกว้างทางความคิดและรับฟังพนักงาน อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการสื่อสาร กระชับและต้องชัดเจนเพื่อให้เข้าใจง่าย เข้าใจได้เร็ว ทำให้คล่องตัวในการทำงานต่อไปค่ะ

ช่วงวิกฤตที่สุดโควิด-19 รายได้เป็น 0

“เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 เป็นช่วงที่แย่ถึงขีดสุดเลย เพราะทั้งจังหวัดเชียงใหม่และกรุงเทพฯ ต้องล็อคดาวน์ ทำให้รายได้ตอนนั้นลดไปเหลือ 0 เลยค่ะ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวไม่ได้ ร้านอาหารต่างก็ปิด ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่บ้างเพราะโรงแรมที่กรุงเทพฯ ยังมีแขกชาวญี่ปุ่นที่เข้าพักระยะยาวและกลับประเทศตัวเองไม่ได้ ในระหว่างนั้นเองก็เป็นช่วงที่แน็ตตี้กำลังจะขยายธุรกิจโรงแรม สร้างโปรเจคที่ 3 โรงแรม 137 พิลลาร์ ภูเก็ต ทำได้ยังไม่ถึงปีก็เกิดวิกฤตโควิดจึงทำให้ลังเลว่าควรเปิดหรือไม่ พออยู่กับวิกฤตโควิดได้ 1 ปี ยังไม่มีวี่แววที่จะเปิดประเทศ ไม่เห็นหนทางที่สถานการณ์โควิดจะเบาลง ทำให้แน็ตตี้กังวล รู้สึกมืดไปหมดทุกทางเลย และเริ่มคิดพิจารณาแล้วว่าโรงแรมยังคงเป็นธุรกิจที่ควรทำต่อไปในระยะยาวหรือไม่

“โชคดีที่ไม่ได้ตัดสินใจทิ้งโครงการไป เพราะช่วงนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นทำให้โรงแรมเริ่มกลับมาเปิดได้ก็รู้สึกดีใจที่จะได้ลุยโครงการต่อ แต่ช่วงเวลานั้นก็ไม่เคยหยุดพัฒนา มีการหาคอร์สเรียนด้านออนไลน์เพิ่มเติมอยู่เสมอ และหาโปรเจคอื่นๆ หรือธุรกิจประเภทอื่นเพิ่มเติม ซึ่งแน็ตตี้และคุณพ่อให้ความสำคัญกับเรื่องโลกร้อน เป็นปัญหาที่ทุกคนในสังคมต้องช่วยกันอย่างจริงจัง ซึ่งคุณพ่อได้ทำโครงการปลูกป่าและสมุนไพร ที่โพธาราม จังหวัดราชบุรี บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ต้องใช้เวลา 10-20 ปี กว่าต้นไม้ที่ปลูกจะเติบโตจนสูง 30-40 เมตร แน็ตตี้ตั้งใจว่าจะช่วยคุณพ่อทำจนกว่าจะเห็นว่าอีก 20 ปี ข้างหน้าโครงการนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้สูง

“แน็ตตี้รู้สึกว่าช่วงโควิดก็ได้ทำให้ได้ทำหลายอย่างที่ไม่คิดว่าจะได้ทำ เป็นโครงการดีๆ ที่คุณพ่อคิดขึ้นมาและได้มีส่วนช่วยสังคมด้วยค่ะ ความที่ว่าตอนนี้สถานการณ์โควิดด็ยังได้ไม่กลับสู่สภาวะปกติดี ช่วงนี้แน็ตตี้ตั้งใจดูแลวางระบบองค์กรให้ทั้ง 2 โรงแรม ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ด้วยตัวของมันเอง ทำกำไรช่วงโควิดที่หายไปกลับคืนมาให้ได้ก่อน และสร้างโครงการโรงแรมสาขาภูเก็ตให้แล้วเสร็จจนเปิดบริการอย่างเป็นทางการ ถ้าทุกอย่างเข้าที่ดีแล้วจึงคิดขยายไปโปรเจคอื่นๆ ต่อไปค่ะ”

keyboard_arrow_up