พิปพา มิดเดิลตัน

พรมแดงแรกหลังคลอด! พิปพา มิดเดิลตัน โชว์ลุคสวยหวาน หุ่นเป๊ะในเดรสคัลเลอร์ฟูล

พิปพา มิดเดิลตัน
พิปพา มิดเดิลตัน

พิปพา มิดเดิลตัน ออกงานอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังคลอดลูกชายในช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ด้วยลุคสวยหวานละมุน พร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสของเธอ

ก่อนหน้านี้คุณแม่มือใหม่ได้อวดบอดี้เฟิร์มๆ หลังคลอดลูกได้สองเดือนในชุดว่ายน้ำสีขาวกันไปแล้ว ล่าสุดเธอได้เดินทางมาเป็นประธานร่วมของมูลนิธิหัวใจ British Heart Foundation Beating Hearts Ball องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ณ ศาลากลาง กรุงลอนดอน ซึ่งงานนี้ถือเป็นการปรากฏตัวบนพรมแดงอย่างเป็นทางการครั้งแรกของพิปพา หลังจากคลอดลูกชายคนแรก อาร์เธอร์ เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

พิปพา มิดเดิลตัน

พิปพา มิดเดิลตัน

โดยแฟชั่นลุคที่เธอครีเอทมาร่วมงานในยามค่ำคืน เป็นเดรสคัลเลอร์ฟูลสดใสจาก Temperley London Canopy Evening Dress ราคาเต็มจะอยู่ที่ $2,918 หรือประมาณ 91,593 บาท แต่ตอนนี้ลดไปถึง 60% จึงเหลือเพียง $1,167 หรือประมาณ 36,630 บาท ซึ่งลุคนี้โดดเด่นด้วยเดรสสไตล์โมเดิร์น แต่โรแมนติก ดึงดูดใจผ่านรายละเอียดงานปักชั้นสูง ถือว่าสวยจบครบในตัวเดียว และลุคนี้พิปพาได้พิสูจน์อีกครั้งว่าเซ้นส์ด้านแฟชั่นของเธอไม่เป็นรองใคร สังเกตจากแฟชั่นที่ผ่านๆ มาก็มักจะถูกสื่อจับตามองและพูดถึงอยู่เสมอ

พิปพา มิดเดิลตัน

นอกจากเดรสตัวสวยจะช่วยขับลุคให้มีเสน่ห์ชวนมองมากยิ่งขึ้น เธอได้เลือกคลัทช์สีแดงจาก Emmy London และต่างหูเพชรมาคอมพลีคลุคได้อย่างดีงาม ต้องบอกว่าสไตล์ของพิปพายังคงถูกชื่นชมและโดนใจเหล่าคนรักแฟชั่นเสมอ ไม่ว่าจะปรากฏตัวผ่านสื่อกี่ครั้งก็ตาม

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Sparkle Look! เจ้าหญิงเคท งดงามในเดรสสุดบลิ้งค์ เจิดจรัสราวกับมีสปอร์ตไลท์ส่อง

ราคานี้จ่ายไหว? เปิดกรุกระเป๋า ดัชเชสเมแกน ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน

งานนี้ล้มละลาย! Levi’s® x Peanuts ปล่อยคอลเล็คชั่นสุดน่ารัก ที่เหล่าสาวกต้องโดนป้ายยา

 กระเป๋าหรือแหวน! Jacquemus นำเทรนด์ไอเท็มใบเล็กกลับมาอีกครั้ง แถมไซส์จิ๋วยิ่งกว่าเดิม

โอ้แม่เจ้า ใจหายใจคว่ำ! เคนดัลล์ เจนเนอร์ แซ่บเว่อร์ร่วมงาน Oscar After Party 2019

อยากซื้อต้องรู้! พาส่องข้อมูล ‘Dior Saddle Bag’ กระเป๋าทรงอานม้า อีกหนึ่งรุ่นขึ้นแท่นขายดี

นาทีนี้ต้องซื้อเก็บไว้ 5 กระเป๋า Chanel รุ่นไอคอนิกที่คุ้มค่าแก่การลงทุน

 เช็คข้อมูลก่อนหิ้ว กระเป๋า Chanel Sunset on the Sea หนังโทนสี Ombre ที่ต้องมีสักใบ!

Romantic Style! เจ้าหญิงเคท งดงามสะกดทุกสายตา ในเดรสสีหวานจาก Gucci

ต้องฟาดสักใบ! กระเป๋า Chanel Backpack ไอเท็มใหม่ล่าสุดของ ‘ลิซ่า BLACKPINK’


ภาพ : www.bysymphony.com , www.popsugar.com

อวตารยานแม่แด่พื้นโลกมาแล้ว ดัง พันกร บุณยะจินดา กับลุคแฟชั่นมิกซ์แมทช์ชมพูเขย่าโลก

“คำจำกัดความง่ายๆ ที่เป็นสไตล์การแต่งตัวของ ดัง พันกร คือ แต่งแล้วเป็นตัวดังเอง บ่งบอกความเป็นเรา”

เป็นสัญญาณที่อวตารยานแม่ ส่งถึงชาวโลก  …ทราบแล้วเปลี่ยน

ด้วยเหตุนี้ ใครๆ จึงเรียกเขาว่าเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวแม่สุดแซ่บ ซึ่งมีไม่บ่อยนักที่ ‘ดัง’ จะพูดถึงสไตล์การแต่งตัว นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ ‘เขา’ ยอมพูดถึงสไตล์แต่งตัว และ ‘ลุค’ สีชมพูเขย่าโลกกับ ‘แพรวดอทคอม’

 ดัง พันกร บุณยะจินดา
ทองหล่อทัก

“ต้องบอกว่ายุคนี้คือการรวมกันของการเป็น Metrosexual หรือเป็น Genderless แฟชั่นไม่มีผิดไม่มีถูก คนไทยอาจมองว่าการที่ดังใส่กระเปรงเป็นเรื่องแปลก แต่คนญี่ปุ่นก็ใส่กระเปรงเหมือนกัน จนแทบจะเรียกว่าเป็นชุดปรกติของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะแฟชั่นแบรนด์ต่างๆ ของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น Comme des Garcons หรือ Yohji Yamamoto ล้วนออกแบบเป็นกระเปรงเหมือนกัน เพียงแต่เป็นกระเปรงสไตล์ฝั่งญี่ปุ่น ส่วนที่ดังใส่เป็นฝั่งยุโรป ใส่แล้วมั่นใจ เป็นตัวเรา เพราะถ้าใส่แล้วไม่ใช่ตัวดังเอง จะไม่ใส่เลย”

ดัง พันกร บุณยะจินดา
ธรรมดาโลกไม่จำ

กระเปรงไฮแบรนด์สุดจี๊ด ที่ดังใส่แล้วใครๆ ก็ชมว่าแซ่บ จนเหล่าสาวกกุชชี่กรี๊ดอยากได้ เป็นกระเปรงสีชมพู Gucci ซึ่งเจ้าตัวเล่าให้ฟังว่า

“มีหลายคนโทร.มาถามด้วยความชื่นชอบว่ากระเปรงสวย ซื้อที่ไหน บางคนถามว่ามีที่ไหนขายอีก อันนี้ดังก็ตอบไม่ได้ เพราะกว่าดังจะควานหามาได้ ใช้ความพยายามนานมาก เพราะอยากได้มาก ควานหาแทบทุกที่ แต่ไม่เคยเห็นว่าประเทศอื่นในเอเชียมีกระเปรงสีชมพูตัวนี้นะ จะเป็นแนวสปอร์ตี้หน่อยๆ มีสไตล์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ดูมีสีสัน เข้ากับซัมเมอร์นี้ด้วย ที่สำคัญคือใส่แล้วลมระบายดี…555!

ดัง พันกร บุณยะจินดา

“เวลาแต่งตัว ดังใช้วิธีมิกซ์แมทช์อะไรก็ได้ ที่ใส่แล้วเป็นตัวเรามากที่สุด เช่น ถ้าใส่กางเกงสั้นมากดังจะเบรคด้วยชิ้นบนที่ดูไม่แรง หรือถ้าใส่กระเปรงแล้ว ชิ้นบนอาจต้องใส่เป็นเสื้อโปโล รองเท้าผ้าใบ เพื่อเบรกความเป็นกระเปรงพลีทลงมาให้ดูเป็นสตรีทแฟชั่นมากขึ้น ซึ่งดังมองว่าลุคนี้ใส่ได้ทั้งผู้ชาย-ผู้หญิง ผู้หญิงใส่ก็ดูเท่ ผู้ชายใส่ก็ดูหวาน ถ้าคุณมีความกล้าพอ และอินเนอร์ของคุณมาโทนเดียวกับดัง ;))”

ดัง พันกร บุณยะจินดา
ชมพูได้อี๊กกกก

ชุดล่าสุดที่ไปญี่ปุ่นมา เป็น Gucci Total Look ตั้งแต่หมวก จัมเปอร์ กางเกง และรองเท้าแตะ มีกระเป๋าเบอร์กิ้นสีชมพูซ้อนท้ายจักรยานสีชมพู ซึ่งดังเล่าว่า

“เป็นลุคที่เปลี่ยนบุคลิกดังมากเลย เพราะเดิมทีดังไม่ใส่รองเท้าแตะแบบนี้ หรือใส่กางเกงทรงนี้ ซึ่งดูเป็นสตรีท การแต่งตัวแฟชั่นก็เหมือนเปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนทรงผมใหม่ครั้งหนึ่ง เหมือนเราเปลี่ยนคาแรคเตอร์ตัวเอง ขนาดเรายังตื่นตาตื่นใจกับแฟชั่นที่ใส่ คนดูก็ต้องตื่นตาตื่นใจไปกับเราด้วยเหมือนกัน แทนที่จะแต่งอะไรซ้ำๆ ซึ่งทำให้เบื่อหน่าย”

ดัง พันกร บุณยะจินดา
ลุคละมุน

ส่วนลุคนี้เป็นแว่นสีชมพูรูปหัวใจ เขียนคำว่า ‘Love’ ของ Dolce Gabbana จ้า

ดัง พันกร บุณยะจินดา
ชมพูได้ใจ

ส่วนลุคนี้เป็นแว่นสีดำประดับคริสตัลของ Gucci ใส่กับเสื้อสีชมพู Gucci แถมแอบแซวตัวเองอีกต่างหากว่า — “ไม่กล้าใส่ยี่ห้ออื่น เดี๋ยว Gucci เขาไม่ให้เราเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ 555! แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ใช่แบรนด์แอมบาสเดอร์นะ เป็นแค่คนที่ชอบกุชชี่มากเท่านั้นเอง”

ดัง พันกร บุณยะจินดา

แจ็คเก็ตสีชมพูปักลายดอกไม้ของ Gucci  เขาเล่าว่า “ด้วยความที่ผมสีบลอนด์ จึงลองใส่กับแจ็คเก็ตสีชมพูตัวนี้ ดูแล้วละมุนเป็นโอปป้าดี ทำให้หน้าดูไบรท์ขึ้น ชอบแจ็คเก็ตตัวนี้ตรงที่มีดีเทล ใส่แล้วมีความสุข ถึงจะราคาสูง แต่เป็นงานมีคุณภาพ ใส่แล้วมั่นใจ เมื่อความมั่นใจมา สิ่งดีๆ จะเข้ามาหาเอง”

ดัง พันกร บุณยะจินดา
Keep Walking

ส่วนนี่เป็นกระเปรงและรองเท้าบู๊ท Hermes สวมทับด้วยเฟอร์สีเทาเป็นปล้องๆ ทำจากขนหนูภูเขา หนึ่งปล้องเท่ากับขนหนูหนึ่งตัว เป็นเฟอร์มีตัวเดียวในโลก เพราะดังจ้างดีไซเนอร์ออกแบบเฟอร์เพื่อเขาโดยเฉพาะ

ดัง พันกร บุณยะจินดา

“เป็นเฟอร์ที่อุ่นมากๆ ใช้สำหรับใส่เล่นสกี แต่ในเมื่อดังไม่ได้ไปเล่นสกี จึงใส่ไปช้อปปิ้งแทน 555! ซื้อจากเมืองเซนต์มอร์ริส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนราคาต้องจ่าย 7 หลักอยู่แล้ว ใครที่ใส่เฟอร์ดีๆ ก็จะรู้ว่าราคาประมาณนี้อยู่แล้ว”

ดัง พันกร บุณยะจินดา
เดินต่อไป

ส่วนลุคนี้เป็น Fur Fox ยืมเพื่อนมาห่มชั่วคราว “ด้วยความที่ดังอยากแต่งตัวสตรีท จึงแต่งเป็น Gucci Total Look ตั้งแต่หมวก เสื้อ กางเกง รองเท้า ถือกระเป๋าแอร์เมสสีชมพู แต่เดินๆ ไปแล้วหนาวมาก เลยบอกเพื่อนว่า แก…ฉันหนาว ขอยืมเฟอร์คลุมหน่อย ได้มาจากเซนต์มอร์ริสเหมือนกัน”

ดัง พันกร บุณยะจินดา

ส่วนลุคนี้ สวมแจ็คเก็ตมีฮู้ดสีน้ำเงิน กระเปรงสีน้ำเงิน ถือกระเป๋าชมพู แบรนด์ Hermes ทั้งหมด แมทช์กับรองเท้าผ้าใบสีเหลือง Gucci หมวก Prada

ดัง พันกร บุณยะจินดา

ลุคนี้ละ…เป็นแว่นตา Gucci ใส่คู่กับเสื้อ Gucci ดังเล่าว่า “ใส่แล้วรู้สึกเหมือนเป็นดังคนใหม่ที่มีสีสัน ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เราต้องตามโลก แต่ไม่ว่าดังจะแต่งตัวแบบไหน ก็ยังร้องเพลงสายแข็งได้นะ เพราะอินเนอร์เราเป็นร็อคอยู่แล้ว ดังคิดว่าการแต่งตัวแบบนี้ ทำให้เป็นสีสันกับวงการบันเทิง คนดูเอง ก็จะได้เสพทั้งแฟชั่นและเพลงร็อคไปพร้อมกัน”

ส่วนลุคที่น่าเอ็นดูกว่านั้น คือ แม้แต่ตะกร้าเก็บสตรอว์เบอร์รี่ของดัง ก็ยังเป็นสีชมพูหวานแบ๊วนะจ๊ะ คิดดูแล้วกันค่ะคุณผู้ชม ว่าเขาเลิฟ Pink Mode ขนาดไหน

ดัง พันกร บุณยะจินดา

นอกจากนี้ ‘ดัง’ ยังพูดถึงงานปีนี้ ที่เตรียมจัดฉลองการเป็นศิลปินเพลงครบ 20 ปีด้วยว่า

“ความพิเศษของงานปีนี้ต้องจัดเต็มแน่นอน! ยิ่งกว่าทองหล่อทักอีก 555! เป็นอีกหนึ่งงานที่คนไทยทั้งประเทศจะได้เห็นดังในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งดังตั้งใจทำมากๆ ก็หวังว่าจะถูกใจแฟนๆ แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ว่าจะเป็นอะไร  รู้แต่ว่า ‘ดัง พันกร’ เล็กๆ…ไม่ ใหญ่ๆ…เท่านั้น

“ชื่อ ‘ดัง’ ทำอะไรเบาๆ ไม่เป็นอยู่แล้ว ;))”

ภาพ : @dunkphunkorn

คุณประเมินตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริงหรือเปล่า? เปิดวิธีคิด ปลุกไฟให้คนธรรมดา กับ ประภาส ทองสุข ผู้บริหารธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย  

เรามักมองตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริง จนการมองนั้นอาจบดบังแสงสว่างและความกล้าหาญในตัวเอง บางครั้งประสบการณ์ชีวิตบางอย่างอาจทำให้รู้สึกหวาดกลัว และหยุดยั้งไม่ให้เราก้าวเดิน ทั้ง ๆ ที่หากลองอีกครั้ง เราอาจประสบความสำเร็จได้ในที่สุด…เพราะชีวิตไม่เคยมีสูตรสำเร็จ จิตใจคนเราก็แปรเปลี่ยนได้เสมอ จึงมีเพียงศรัทธาและความเชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้นที่จะนำทางให้เราค้นพบ ‘แรงบันดาลใจ’ แนวคิดสำคัญที่สะท้อนชีวิตคนทำงาน ซึ่งเรามีโอกาสได้พูดคุยกับ ‘ประภาส ทองสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สื่อสารองค์กร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย’ ถึงแง่มุมสำคัญที่หลายคนมองข้ามไป

การสร้างแรงบันดาลใจกับแคมเปญ ‘Hero In You’

‘Hero In You ’เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับความเป็นองค์กรขนาดเล็กอย่าง ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย พอเราคิดว่าตัวเองเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ก็จะรู้สึกว่าสู้คนอื่นไม่ได้ เราจึงพยายามสร้างให้คนมีกำลังใจ ว่าในความเล็กไม่ได้แปลว่าต้องแพ้ เรามีเรื่องดี ๆ เยอะแยะเต็มไปหมด เหมือนกับตัวเราเอง สุดท้ายคนที่จะลุกขึ้นก้าวเดินไปข้างหน้าก็คือ ‘ตัวเอง’ ต้อง ‘เชื่อมั่น’ ในตัวเองก่อน เพราะองค์กรเราต้องการการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดจึงต้องคิดสร้างกำลังใจให้คนในองค์กร เราค้นพบว่าพนักงานมักจะคิดว่าตัวเองเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ขององค์กร ไม่สำคัญอะไร คงช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่เอาจริง ๆ แล้ว ผมอยากบอกว่า มันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก “คุณคือคนที่มีความสามารถ คุณเป็นส่วนสำคัญ ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานเข้าใหม่หรืออยู่มานาน คุณต่างสำคัญต่อองค์กรทั้งสิ้น ขอให้คุณเชื่อมั่นแล้วเดินไปด้วยกัน”

อุปสรรคของคนทำงาน

ยิ่งเป็นองค์กรที่มีพนักงานเยอะ ความยากคือเรื่องความหลากหลายของผู้คน ทุกคนคิดไม่เหมือนกันหรอก การจะทำให้ทุกคนคิดคล้อยไปในทางเดียวกันเป็นเรื่องท้าทาย ปัญหาในการทำงานมักมาใน 2 แบบ คือ ความยากของตัวงานและวิธีทำงาน ทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่คนทำงานทุกคนต้องเจอ บางครั้งก็อาจทำให้ท้อแท้ ยิ่งการแข่งขันสูงก็ยิ่งทำให้หมดกำลังใจ ดังนั้น จะทำอย่างไรให้ภารกิจลุล่วง…ก็ต้องสื่อสาร พยายามส่งสัญญาณให้คนรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ต้องเจอ อย่าท้อถอย เชื่อมั่นในตนเอง แต่มันก็ไม่ง่ายเลย…เพราะเป็นสัจธรรมของคนทำงานทุกคน ยิ่งโตยิ่งเจอสิ่งที่ยากและท้าทายให้หมดกำลังใจมากขึ้นเรื่อย ๆ (หัวเราะ)

วิธีสร้างแรงบันดาลใจ

เราต้องมีกำลังใจของตัวเองก่อนที่จะไปสร้างให้คนอื่น อาจจะเริ่มต้นจากครอบครัว อย่างผมโชคดีหน่อยผมมีคุณพ่อเป็นต้นแบบ ด้วยความที่คุณพ่อเป็นทหาร ผมได้เห็นและซึมซับความอดทน ความฮึดสู้ ไม่เคยบ่นจากคุณพ่อของผม นอกจากนี้ ผมโตมากับหนังสือและภาพยนตร์ และที่สำคัญ ผมเจอกับผู้คนมาหลากหลายแบบ ผมเก็บเกี่ยวข้อคิด แง่มุมที่เป็นบทเรียน จะดีหรือร้าย แต่สุดท้ายคนเราจะมีจิตวิญญาณแห่งความดีงามอยู่ในนั้น และพยายามถ่ายทอดสิ่งที่เห็นว่าเป็นประโยชน์เหล่านั้นให้ผู้อื่นเมื่อมีโอกาส ผ่านการพูดในที่ประชุมต่างๆ ผ่านโซเชียล หรือผ่านบทบาทหน้าที่ๆ รับผิดชอบอยู่ และได้มีโอกาสทำ campaign ‘Hero In You’

Hero In You จึงเป็น content ที่นำเสนอเรื่องราวของคน 2 กลุ่ม กลุ่มพนักงานเก่าและพนักงานใหม่ มีพนักงานเก่าไม่น้อย ที่คิดว่าตัวเองเป็นแค่ฟันเฟืองชิ้นเล็ก ๆ ที่อยู่มานาน ความจริงแล้วไม่ใช่นะ คุณมีความชำนาญ มีประสบการณ์ คุณคือสมบัติล้ำค่าขององค์กร ถ้าคุณเข้าใจถึง strength ที่คุณมี ส่วนพนักงานใหม่ อาจรู้สึกตัวเองเพิ่งเข้ามา ตำแหน่งก็เล็ก เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก ทั้งที่จริงคนรุ่นใหม่ไม่ใช่เสียงเล็ก ๆ แต่คุณนำพาสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา มีพลัง มีความกระตือรือร้น อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่า

ภายในพื้นที่อาคาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เราพยายามสร้างสิ่งแวดล้อมให้เป็นมีเดีย ใช้ข้อความดี ๆ กระตุ้นพลังใจแม้จะสักเล็กน้อยก็น่าดีใจแล้ว ผมคิดว่าเป็นหน้าที่ของเราที่จะส่งต่อกำลังใจให้คนอื่น นอกจากนั้นยังมีการสร้างกิจกรรมภายในอยู่เรื่อย ๆ วันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ วันตรุษจีน ฯลฯ รวมถึงตามสาขาก็ด้วย ทำให้เกิดความเคลื่อนไหว ให้คนรู้สึกว่าไม่ใช่การมาทำงานไปวัน ๆ  แต่ได้พูดคุย เจอกัน แชร์ปัญหากัน สร้างบรรยากาศแบบ I am ok, you are ok.

วิธีดึงตัวเองแบบเร่งด่วนหากหมดไฟ

ส่วนตัวผมชอบใช้วิธี Reversal thinking เวลาที่เราจมดิ่ง เราต้องลุกขึ้นสู้ คือเรื่องแบบนี้ยากที่เราจะไปบอกใครแล้วเขาจะเชื่อเราได้ทันที ดังนั้นต้องทำให้เขาคิดได้แล้วลุกเอง ต้องเป็นตัวเองเท่านั้น มันอยู่ที่ตัวคุณว่าคุณจะล้มหรือคุณจะลุก ไปทำอะไรก็ได้ที่เราชอบ เลือกทางเลือกง่าย ๆ ที่จะประสบความสำเร็จก่อน หรือเปลี่ยนวิธีคิด อย่าทำอะไรที่ซ้ำ อย่าไปเอาสิ่งที่ทำให้เราหมดกำลังใจย้ำลงไป เราต้องฉีกตัวเองออกไปจากช่วงเวลาที่ทำให้เราแย่ลง ถ้าคุณอกหักผิดหวังกับความรักอย่าฟังเพลงเศร้า

คาดหวังอะไรจากการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น

ผมอยากทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ที่อยากทำมากที่สุดแม้จะหลายปีต่อจากนี้ในอนาคต คือการกลับมาสร้างคนให้องค์กร ผมมองหน้าที่ของเรามี 3 มิติคือ ทำงานของเรา สร้างคนในองค์กรให้แข็งแรง เพิ่มขีดความแข่งขันขององค์กร และทำประโยชน์ให้สังคม อยากให้โอกาสน้อง ๆ ได้ทำงานมากขึ้น ให้ทุกคนได้ตัดสินใจ ลงมือทำ หาแผนงานเพื่อให้เกิดงาน เพื่อให้ทุกคนได้มีจุดยืนของตัวเอง เมื่อเราไม่อยู่แล้วองค์กรต้องเดินต่อไปได้เหมือนปกติ ผมต้องเตรียมเพื่อให้พวกเขาเป็นกำลังสำคัญ และแม้เราจะเป็นธนาคารขนาดเล็ก เราก็ได้ทำเพื่อส่วนรวมตลอด อย่างกิจกรรมเพื่อสังคมเราก็เน้นไปที่การศึกษาซึ่งเป็นรากฐาน เรามีความทุ่มเทและตั้งใจจริง เราได้ให้ความช่วยเหลืออุปกรณ์การศึกษาจำพวกเทคโนโลยีแก่โรงเรียนที่ขาดแคลนห่างไกลอยู่เสมอ ช่วยสร้างงานอาชีพในชุมชนนั้น โรงเรียนแต่ละโรงเรียนในประเทศจะมีจุดแข็งไม่เหมือนกัน ซึ่งอย่างน้อยเด็กควรได้เรียนจนจบการศึกษาพื้นฐาน อย่างน้อยควรมีวิชาชีพและอยู่ในท้องถิ่นของเขาได้ พอเราออกไปหาคนที่ลำบากกว่าเราแล้ว พอทุกคนกลับมาทุกคนจะขยันหมด สิ่งเหล่านี้ช่วยปลุกพลัง Hero In You ให้ทุกคนได้อย่างดี

ข้อคิดสำหรับมนุษย์เงินเดือน

อย่าไปคิดว่าตัวเองเป็นคนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ เรื่องอายุเป็นสิ่งที่คนเราทุกคนต้องแก่ไปทุกนาที ทุกคนมีคุณค่า แต่จะมีได้คุณต้องสร้างด้วยตัวคุณเอง คุณต้องมีความชำนาญ ต้องใช้ประสบการณ์ชีวิต อย่าเอาแต่บอกว่า “ทำไม่ได้ อย่าทำ เชื่อพี่เถอะเพราะพี่อยู่มานาน” แต่ควรจะมองว่า “เชื่อพี่เถอะเพราะพี่มีประสบการณ์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมา พี่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ดังนั้นถ้าจะทำขอให้ระมัดระวังสิ่งเหล่านี้” แนวคิดนี้คือภาพสะท้อนคุณค่าของตัวเราเอง ขณะที่คนรุ่นใหม่ก็เหมือนกัน คุณมีสิ่งที่ดีคือความสด ความแข็งแกร่ง ความรู้ที่ทันสมัย แต่ก็ต้องยอมรับว่าตัวเองขาดประสบการณ์ สิ่งแรกที่คุณควรฝึกคือการเคารพกฎระเบียบ เพราะกฎระเบียบคือพื้นฐานของการอยู่ร่วมกับคนจำนวนมาก ไม่ว่าคุณจะรุ่นไหนก็สามารถสร้างคุณค่าให้ตัวเองได้เพียงแค่คุณเข้าใจบริบทของมัน

นับเป็นแรงบันดาลใจได้อย่างดีสำหรับธนาคารเล็ก ๆ ที่มาพร้อมแนวคิดไม่ธรรมดา ชวนให้เราต้องมองลึกลงไปในตัวเล็ก ๆ และสองมือของเราว่า แท้ที่จริงแล้วอาจมีพลังใจยิ่งใหญ่ ความสามารถมากมายเพียงแค่เปลี่ยนวิธีคิด และกล้าทำ ไม่สบประมาทตัวเอง เช่นเดียวกับหัวใจหลักที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีตลอดมาก็คือ ‘Forward Together’ เชื่อมั่นในพลังที่อยู่ในตัวคุณ แล้วก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน

พระองค์หริภา

พระองค์หริภาฯ ทรงเผยพระอิริยาบถน่ารัก ขณะประทับแรม ณ โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์

Alternative Textaccount_circle
พระองค์หริภา
พระองค์หริภา

พระองค์หริภาฯ ทรงเผยพระอิริยาบถน่ารัก ขณะประทับแรม ณ โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์… เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 10.51 น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จไปยังวิหารวัดจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ทรงยกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือยอดองค์เจดีย์วัดจันทร์ ซึ่งกรมศิลปากรทำงานแบบบูรณาการ ร่วมกับนักวิชาการท้องถิ่น เพื่อวิเคราะห์สาเหตุความเสียหาย และหารือร่วมกันในการกำหนดแนวทางการเสริมความมั่นคงและการบูรณะ ซึ่งได้อนุรักษ์ฉัตรเดิม มีการบูรณะซ่อมแซมโดยการลงรักปิดทอง ใช้เวลาดำเนินงาน 240 วัน แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2561

พระองค์หริภา

พระองค์หริภา

พระองค์หริภา

โอกาสนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระประธานประจำวิหาร ทรงกราบ ทรงศีล เมื่อประธานสงฆ์ถวายศีลจบ เสด็จออกจากวิหารไปยังแท่นประดิษฐานฉัตร ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมและทรงปิดทองฉัตร ทรงถือสายสูตร เจ้าหน้าที่กว้านฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือยอดองค์เจดีย์วัดจันทร์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ ทรงจุดเครื่องทองน้อยบูชาองค์เจดีย์วัดจันทร์ ทรงกราบ จากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการชั่วคราวการบูรณะองค์เจดีย์วัดจันทร์ เสด็จเข้าพระวิหาร ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายแด่พระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก

พระองค์หริภา

พระองค์หริภา

พระองค์หริภา

สำหรับ วัดจันทร์ เป็นวัดโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สันนิษฐานว่ามีอายุแรกสร้างตั้งแต่สมัยล้านนา ราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 และเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนหลากหลายกลุ่มชาติพันธุ์มาช้านาน เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมบนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เคยเสด็จพระราชดำเนินเมื่อปี 2522 มีโบราณสถานสำคัญ คือ องค์เจดีย์และวิหาร

พระองค์หริภา

พระองค์หริภา

นอกจากนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ยังประทานพระรูปที่ทรงฉายด้วยพระองค์เอง ขณะประทับแรม เมื่อวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2562 ณ โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ วัดจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ให้พสกนิกรชาวไทยได้ชื่นชมในพระอิริยาบถน่ารักๆ อีกด้วย


 

ข้อมูลและภาพ : กองทุนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์


 

ติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่

เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ในรัชสมัยรัชกาลที่ 10

กรมธนารักษ์ เปิดจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกและเหรียญที่ระลึก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

“หน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์” เครื่องมุทิตาบรรณาการจากศรีลังกา เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

Levi’s® x Peanuts

งานนี้ล้มละลาย! Levi’s® x Peanuts ปล่อยคอลเล็คชั่นสุดน่ารัก ที่เหล่าสาวกต้องโดนป้ายยา

Levi’s® x Peanuts
Levi’s® x Peanuts

น่ารักจนใจสั่น! เมื่อแก๊งพีนัตส์ เหล่าตัวการ์ตูนสุดคิ้วต์ ชาร์ลี บราวน์และผองเพื่อน มาร่วมสร้างความสนุกสนานในคอลเล็คชั่นล่าสุด Levi’s® x Peanuts

เดนิมคือความคลาสสิกของอเมริกัน ชาร์ลี บราวน์ก็เช่นเดียวกัน ด้วยความสำเร็จอันล้นหลามของการทำงานร่วมกันในคอลเล็คชั่น Levi’s® x Snoopy ในปีที่แล้ว ในปี 2019 นี้ ลีวายส์® โคจรมาพบกับความน่ารักของสนูปี้ ตัวการ์ตูนอันเป็นที่รักของ ชาร์ลส์ มอนโร ชูลส์ (Mr. Charles M. Schulz) อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ ไม่ได้มาแค่สนูปี้ แต่ยังมีเหล่าผองเพื่อน ทั้งชาร์ลี บราวน์ (Charlie Brown), มาร์ซี่ (Marcie), ไลนัส (Linus), ลูซี (Lucy) เปปเปอร์มินต์ แพตตี้ (Peppermint Patty) โดยแก๊งการ์ตูนสุดน่ารักจะปรากฏอยู่บนกางเกงยีนส์ เสื้อยืด เสื้อสเวตเตอร์ ทรัคเกอร์แจ็คเก็ตและแอคเซสเซอรี่อื่นๆ เพื่อช่วยเพิ่มสีสันและความน่าสนใจให้กับคอลเล็คชั่น Levi’s® x Peanuts

Levi’s® x Peanuts

สำหรับลีวายส์® และ พีนัตส์ ถือเป็นการร่วมมือกันที่ลงตัว เนื่องจากทั้งสองแบรนด์ถือเป็นความคลาสสิกที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมอเมริกันมายาวนาน สร้างแรงบันดาลใจและสามารถเชื่อมต่อเจเนอเรชั่นหนึ่งสู่เจเนอเรชั่นหนึ่งได้ และทั้งสองยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเขตชายฝั่งแคลิฟอร์เนียอีกด้วย และทั้งสองแบรนด์ต่างให้ความสำคัญกับคุณภาพเสมอมา ซึ่งความโดดเด่นอันเป็นคาแร็คเตอร์ของทั้งสองแบรนด์สะท้อนให้เห็นไม่ใช่แค่ลวดลายกราฟิกของคอลเล็คชั่น แต่ยังอยู่ในกระบวนการการสร้างสรรค์และการผลิตอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นป้าย Tab สีเหลืองสดใสและป้ายหนังที่โดดเด่นปรากฏอยู่บนไอเท็มผ้าเดนิมทุกชิ้นในคอลเล็คชั่นนี้ รวมไปถึงลายพิมพ์พีนัตส์ที่ปรากฏอยู่ด้านในกระเป๋าของกางเกงยีนส์อีกด้วย

Levi’s® x Peanuts

ตามกระแสนิยมในยุคปัจจุบันที่ลวดลายกราฟิกคือเทรนด์ของสตรีทแวร์ในปัจจุบันนี้ ทั้งการสร้างความน่าสนใจให้กับเสื้อผ้า หรือการสร้างอารมณ์ขัน การมองโลกในแง่ดี ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นสิ่งที่การ์ตูนพีนัตส์และลีวายส์®โดดเด่นเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยในคอลเล็คชั่นนี้มีการสร้างสรรค์ลวดลายสนูปี้บนโลโก้ลีวายส์® และ เปปเปอร์มินต์ แพตตี้และมาร์ซี่ กำลังพูดคุยกันโดยมีคำว่า “Girl Talk” อยู่ด้านล่าง และอีกหนึ่งความพิเศษของคอลเล็คชั่นนี้ คือ กางเกงยีนส์ 501® สำหรับผู้ชายและผู้หญิง ด้วยการยิงเลเซอร์สร้างลวดลายแก๊งพีนัตส์ทั้งหมดลงบนยีนส์

นอกจากนี้ลีวายส์® ในคอลเล็คชั่นนี้ ยังมีแอคเซสเซอรี่ กระเป๋าเป้ , กระเป๋าสตางค์ , กระเป๋าสะพาย หมวกและผ้าพันคอ ทั้งหมดนี้คือคอลเล็คชั่นที่สร้างความตื่นเต้นให้กับเด็กๆ รวมไปถึงรุ่นคุณปู่คุณย่าหรือจะบอกว่าทุกเจเนอเรชั่นก็ว่าได้ ซึ่งคอลเล็คชั่น Levi’s® x Peanuts จะวางจำหน่ายที่ร้านลีวายส์® ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ www.levis.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง พบความน่ารักขี้เล่นของตัวการ์ตูนพีนัตส์ได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป 

‘คอนเซ็ปท์รักเพื่อนมาแรง ภายนอกเป็นนักรัก แต่ในใจแอบชอบเพื่อน’ ดูดวงรายวัน 1 มีนาคม 2562

ดูดวงรายวัน 1 มีนาคม 2562 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : สิ่งแปลกใหม่ที่คุณกำลังคิดจะทำในช่วงนี้ อยู่ท่ามกลางการแข่งขันแย่งชิงผลประโยชน์หรือตำแหน่งหน้าที่การงานสูงมาก วันนี้สิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญคือ การปกครองลูกน้อง ที่ผ่านมาอาจเพราะคุณให้ความสนิทสนมมากไปจนลูกน้องไม่เกรงใจคุณ ข้ามหน้าข้ามตาซะงั้น

การเงิน :  อย่าเพิ่งลงทุนหมดหน้าตักโดยยังไม่เห็นผลตอบแทน เพราะอาจต้องเดือดร้อนไปถึงผู้ใหญ่ที่บ้าน

ความรัก : ช่วงนี้เวลาที่คุณอยู่ด้วยกันก็จะไฟล์ทกันตลอดเวลา อาจเพราะอยู่ด้วยกันมานานจนเริ่มจะเบื่อหน่ายกันแล้ว ก่อนที่จะรุนแรงไปกว่านี้ เสาร์อาทิตย์นี้ก็ควรเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวกันบ้าง กลับมาจะได้ซอฟท์ลง คนโสด วันนี้คุณอาจต้องไฟล์ทเพื่อให้ได้ไปดินเนอร์กับคนที่คุณพอใจ หรือเป็นคนที่ได้เจอกันปุบปับ ก็แค่วันเดียวแล้วจบ ไม่มีความผูกพันใดๆ

สุขภาพ :  ออกจากบ้านควรพกยาดม ยาหม่องไปด้วยนะคะ เพราะคุณอาจมีอาการวูบโดยไม่รู้ตัว

                                                                        

ผู้ที่เกิดวันจันทร์       

การงาน : คุณขยัน ทำงานหนัก ยิ่งวันนี้นอกจากงานประจำแล้ว อาจต้องใช้เวลาอยู่กับการค้นคว้าหาข้อมูล เพื่อไปช่วยงานคนอื่น หรือให้คำปรึกษาทางธุรกิจที่เกี่ยวกับเรือกสวนไร่นา หรืองานทุกประเภทที่เกี่ยวกับพืชผลทางการเกษตร

การเงิน : ธุรกิจมีผลกำไร ซึ่งคุณก็ควรแบ่งเงินไปทำบุญหรือสงเคราะห์ผู้อื่นที่เดือดร้อนด้วย

ความรัก : คุณได้คู่ครองที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ เข้าใจและดูแลเอาใจใส่คุณอย่างดี ความสัมพันธ์จึงค่อนข้างราบเรียบและราบรื่น แต่วันนี้อาจสะดุดเพราะความหึงหวง ขี้น้อยใจ แสนงอนจนทำให้เกิดความไม่พอใจและหงุดหงิดง่าย คนโสด วันนี้เนื้อหอมนะคะ มีทั้งหนุ่มและไม่หนุ่ม ทั้งมาเองหรือผู้ใหญ่จัดให้ ทุกคนล้วนพร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตคุณ

สุขภาพ  : เป็นช่วงที่คุณมีความสุข รับประทานข้าวได้ นอนหลับเต็มที่ จึงควรระวังเรื่องน้ำหนักด้วย ควรงดอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน และคลอเรสเตอรอลสูง เพราะจะทำให้เกิดโรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  : คุณทำงานประจำมานาน ถึงวันนี้รู้สึกว่าอยากออกไปแสวงหาความตื่นเต้นที่อยู่นอกออฟฟิศบ้าง ซึ่งคุณมีความเป็นอัจฉริยะอยู่ในตัว มองโลกในแง่ดี สามารถพลิกแพลงหรือใช้กลยุทธ์ในการทำงานได้ จึงสามารถทำงานได้หลากหลายอาชีพ แม้กระทั่งโหราศาสตร์ก็สามารถเรียนและเป็นหมอดูที่มีชื่อเสียงโด่งดังทีเดียว

การเงิน : หาเงินเก่ง เพราะคุณกล้าเสี่ยง กล้าเก็งกำไร วันนี้จึงมีความผันผวนตลอด

ความรัก : คุณทุ่มเทให้กับความรักมากจนน่ากลัว จึงไม่แปลกหากคุณจะหึงหวง แสดงความเป็นเจ้าของสูง ขณะที่คู่ก็อารมณ์ดีชิลๆ ไม่พูดหรือแสดงความรู้สึกใดๆ จึงไปด้วยกันได้  คนโสด  วันนี้อารมณ์คุณผาดโผนขึ้นลงแบบสุดโต่ง อาจดึงเพื่อนมาเป็นแฟนโดยไม่บอกใครก็ได้

สุขภาพ :  อย่าประมาท คุณอาจเจ็บป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงาน รวมทั้งการกินอาหารไม่ตรงเวลา หรือรับประทานยาชนิดใดชนิดหนึ่งยาวนานเกินไป จะเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน  :  หลังจากที่ทำงานหนักและเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด วันนี้คุณพอมีเวลาหายใจได้คล่องขึ้น แต่ก็อย่าปล่อยมือเสียทีเดียว เพราะลูกน้องที่รักกำลังปีนเกลียวข้ามศีรษะคุณอยู่ ต่อไปควรใช้ทั้งพระเดชและพระคุณในการปกครอง

การเงิน : มีโชคในการทำธุรกิจการลงทุน แต่ควรทำเองจะดีกว่าร่วมหุ้นกับบุคคลอื่น

ความรัก : ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน แม้คู่จะมีความเป็นแฟมิลี่แมนที่ดี แต่คุณเรียกร้องและคาดหวังกับคู่ค่อนข้างสูง วันนี้ควรหาเวลามาจูนปรับมุมมองให้ตรงกัน หากคิดจะอยู่ด้วยกันต่อก็ไม่มีคำว่าสาย   คนโสด  คุณไปดื่มกินเที่ยวสังสรรค์ให้สมกับวันศุกร์เงินเดือนออก ก็ยังคอนเซ็ปท์เดิม ภายนอกคุณดูเป็นนักรัก แต่ในใจคุณแอบชอบเพื่อนอยู่

สุขภาพ : หากเดินทางไปในสถานที่ไม่คุ้นเคย ให้ระวังเรื่องอาหารและอากาศ อาจทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ หรือติดเชื้อไวรัส

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  คุณเป็นคนจริงจังในการทำงาน หากได้เริ่มต้นทำงานแล้ว แม้จะมีปัญหาและอุปสรรคก็จะเดินหน้า แต่วันนี้คุณคงต้องยอมผิดคอนเซ็ปท์ เพราะปัญหามากมายเกินกว่าจะฝืนสู้ อาจเกี่ยวข้องกับคดีความ ฉะนั้นก่อนจะทำอะไรควรคิดพิจารณาให้ดี อดทน และรอคอยจังหวะ

การเงิน : หากคุณกำลังคิดจะร่วมหุ้นลงทุน ควรชะลอก่อน เพราะวันนี้จะติดขัด ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้ ต้องหมุนเงินตัวเป็นเกลียว

ความรัก : คุณอยู่ในครอบครัวที่ตั้งกฏเกณฑ์สูงกว่ามาตรฐาน ซึ่งคุณไม่ชอบถูกจำกัดความคิดและอิสรภาพ วันนี้จึงทำให้คุณหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ  คนโสด คุณมีอัธยาศัยดี จึงมีเพศตรงข้ามเข้ามาอยากรู้จักคุณมากมาย ระวังหนึ่งในนั้นอารมณ์รุนแรง คบไปอาจถึงกับลงไม้ลงมือ

สุขภาพ  : ควรระวังโรคที่เกี่ยวข้องกับการขับถ่าย โดยเฉพาะการกลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้ไตและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน  : วันนี้คุณจะจับมือเพื่อนผู้หญิงที่รู้ใจเริ่มต้นงานใหม่ ด้านการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ หรือการเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ ที่คุณมีความเชี่ยวชาญ เป็นงานที่ค่อนข้างท้าทายความสามารถ เพื่อแลกกับค่าตอบแทนที่สูงขึ้นด้วย

การเงิน : ต้นเดือน ก็อย่าเพิ่งซื้อความสุขราคาแพงให้กับตัวเองจนหมดกระเป๋านะคะ

ความรัก : เน้นที่ความสัมพันธ์กับเพศหญิงในครอบครัว เช่น แม่ พี่สาว น้องสาว ลูกสาว วันนี้มีรักใคร่กันดี แต่คุณก็ควรลดๆ ทิฐิและความเชื่อมั่นในตัวเองลงบ้าง เพราะคุณมักจะยึดถือความถูกต้องของตัวเองมากกว่าเหตุผล  คนโสด เนื้อหอมเบอร์หนึ่งเลยทีเดียว มีทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามตามติดขอดินเนอร์ด้วย

สุขภาพ : ระวังระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกาย เช่น น้ำเหลือง น้ำเลือด น้ำย่อย มีปัญหา เพราะอาจทำให้คุณติดไวรัส เป็นภูมิแพ้ได้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  วันนี้หากคุณคิดที่จะช่วยงานของครอบครัวหรือคนรู้จักนอกเหนือจากงานประจำแล้ว อาจเป็นงานที่เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งอาคารบ้านเรือนหรือสำนักงาน หรืองานช่างต่างๆ ก็พอจะทำได้ แต่ควรทำแบบเงียบๆ ไม่ควรทำแบบเปิดเผย เพราะอาจมีผลกับงานประจำ

การเงิน : มีรายได้เข้ามาง่ายๆ อาจถูกหวยรวยเบอร์ ก็ควรเล่นแบบมีสตินะคะ

ความรัก : ระวังอาจมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์นะคะ คู่อาจนัดกิ๊กเก่าไปดินเนอร์ด้วย ใจเย็นๆ วันนี้เขาอาจเป็นเพื่อนที่ดีกันก็ได้  คนโสด วันศุกร์ต้นเดือนเหมาะกับการไปดื่มกินสังสรรค์ปาร์ตี้มาก วันนี้คุณอาจได้คนถูกใจกลับมาด้วย
สุขภาพ  : ระวังโรคที่เกี่ยวกับการหมุนเวียนเลือด ทำให้มีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด ตาลาย เวียนศีรษะ ควรทานวิตามินบำรุงเลือด

Live Listen จับคู่ AirPods ตัวช่วยใหม่ฟังชัดทุกสถานการณ์!

หลายคนน่าจะเคยนัดเพื่อนๆตามคาเฟ่ ร้านอาหาร หรือนัดทีมประชุมนอกสถานที่ จะต้องมีบางจังหวะที่มีเสียงจากสิ่งแวดล้อมรอบข้างแทรกเข้ามา ทำให้ไม่ค่อยได้ยิน ฟังไม่รู้เรื่อง สื่อสารกันผิดพลาดบ้าง ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างคะ?

            จุ๊เจอประจำเลยค่ะ เพราะเราต้องเดินทางบ่อยๆมีเสียงรถ เสียงแตรแทรกตลอด หรือมีนัดประชุมตามคาเฟ่ต่างๆ พบเจอผู้คนมากมาย ยอมรับเลยว่าบางครั้งการสนทนาไม่ลื่นไหล ทำให้ต้องเอ่ยปากเพื่อขอให้อีกฝ่ายพูดซ้ำอีกครั้ง เพราะเราไม่แน่ใจว่าเขากำลังสื่อสารอะไร แล้วเราเองก็กลัวรับสารมาไม่ถูกต้องค่ะ แต่ตอนนี้จุ๊แฮปปี้ขึ้นมากตั้งแต่ได้รู้จัก Live Listen

Live Listen เป็นฟีเจอร์หนึ่งในระบบปฏิบัติใน iOS12 จาก Apple ทำหน้าที่เป็นไมโครโฟนรับเสียงให้กับ iPhone และ iPad แต่ฟีเจอร์นี้จะต้องทำงานคู่กับหูฟังไร้สาย AirPods เพื่อช่วยให้เราได้ยินเสียงที่ไม่ชัดแบบ Realtime ให้ชัดเจนมากขึ้น แม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดังรบกวนก็ตามค่ะ และความพิเศษอยู่ตรงที่ผู้ที่มีความผิดปกติทางการได้ยิน เช่น การฟังผิดปกติต้องใช้เครื่องช่วยฟังตลอด เป็นต้น

คราวนี้เรามาดูวิธีการทำงานจริงของ Live Listen และ AirPods กันค่ะ ว่าเราจะใช้งานได้อย่างไร

  1. ก่อนอื่นเราต้องไปตั้งค่าฟีเจอร์ก่อนะคะ ให้ไปที่ Setting
  2. เลือกศูนย์ควบคุมหรือ Control Center
  3. เลือกกำหนดแถบควบคุมเองหรือ Customize Control

4. เลือกที่เป็นรูปหูด้านล่าง + Hearing พอเรากดจะขึ้นเป็น – Hearing มาอยู่ที่ด้านบนนะคะ

5. ให้เราใส่ AirPods จะข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้นะคะ

6. จากนั้นออกจากหน้าตั้งค่า แล้วเลื่อนหน้า Control Center ขึ้นมาค่ะ

7. กดที่ Hearing แล้วเราจะเห็นสถานะ Off คือปิดอยู่ให้กดอีกครั้งจะเปลี่ยนเป็น On

8. เมื่อออกมาหน้า Home หรือ Log หน้าจอไว้ เราจะสังเกตเห็น ไอคอนรูปไมค์สีแดง อยู่มุมบนซ้าย

9. วางโทรศัพท์ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้เสียงเข้าได้ง่าย แล้ว AirPods จะทำหน้าที่เป็นเครื่องช่วยฟังห้เราได้ยินเสียงที่อยากจะโฟกัสจริงๆ ได้ชันเจนขึ้นค่ะ

อ่อ! ถ้าใครลองหูฟังธรรมดา ทำไม่ได้เลยนะคะ ต้องเป็น AirPods เท่านั้นค่ะ แต่จะเป็น iPhone หรือ iPad รุ่นอะไรก็ได้นะคะ เพียงแต่ต้องอัพเดทเป็น iOS12 ให้เรียบร้อยก่อนค่ะ

เป็นยังไงบ้างคะ ตัวช่วยดีๆ สะดวกสบาย ใช้ได้ในชีวิตประจำวันจริงๆ อย่าลืมไปทำตามนะคะ ใครใช้ได้ดีไม่ดีอย่างไร มากระซิบบอกจุ๊บ้างนะคะ!

เก๋ ชลลดา ออกแบบแว่นตา KCM X NVENVY FOR THE VOICE คอลเล็กชั่นนี้เพื่อเจ้าสี่ขา

account_circle

เป็นอีกหนึ่งสาวสวยในวงการบันเทิงที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม สำหรับ เก๋ ชลลดา โดยเฉพาะกับเจ้าบรรดาสัตว์สี่ขา ซึ่งเธอนั้นยังเป็นผู้ก่อตั้ง The voice (เสียงจากเรา)  มูลนิธิเพื่อช่วยเหลือน้องหมา น้องแมวที่เจ็บป่วยและไม่สบาย รวมถึงยังถูกทอดทิ้งและทารุณกรรมอีกด้วย

เก๋ ชลลดา

ซึ่งล่าสุดสาวเก๋ได้ร่วมมือกับ NVENVY แบรนด์แว่นตาไฮเอนด์สัญชาติไทย ออกคอลเล็กชั่น KCM X NVENVY FOR THE VOICE  ออกแบบแว่นตาขึ้นมาทั้งหมด 2 รุ่น โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความรักความเมตตาที่มีต่อน้องหมาน้องแมว ประกอบกับความตั้งใจ และ ทุ่มเทที่จะช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ จึงเกิดเป็นคอลเล็กชั่นที่สร้างสรรค์ เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตาและแรงบันดาลใจคอลเล็กชั่นนี้ขึ้น

แว่นตารุ่น FOR PAW (รุ่นน้องหมา)  ราคา 3,990 บาท

คนรักน้องหมาห้ามพลาดกับ แว่นตาดีไซน์เรียบหรู แต่แอบแฝงไว้ด้วยความเท่ มีสไตล์ ตกแต่งด้วยกิมมิก เก๋ๆ เป็นรูปกระดูกไขว้ฉลุตรงส่วนบนของแว่นตา และในส่วนของขาแว่นมีดีเทลความน่ารักซ่อนอยู่ด้วยลายปริ๊นรูปอุ้งเท้าของน้องหมา อีกทั้ง ขาแว่นสีดำที่แมชกับตัวเลนส์สีดำปรอทยิ่งทำให้แว่นดูมีความน่าสนใจ ใส่แล้วดูโดดเด่นสะดุดตาที่สุด

แว่นตารุ่น FOR FRIEND (รุ่นน้องแมว) ราคา 3,990 บาท

ทาสทั้งหลายเตรียมฟาด กับแว่นตาที่ถูกออกแบบมาให้มีเสน่ห์ ชวนมอง ใส่ได้ง่ายทุกโอกาส สามารถเข้าได้กับทุกรูปหน้า พร้อมลูกเล่นตรงจมูกรูปหูแมว ที่ดีไซน์ออกมาได้ถูกใจเหล่าทาสน้องแมวเข้าอย่างจัง ขาแว่นสีทองดูเรียบหรู แมชต์กับตัวเลนส์สีชาที่ใส่แล้วสบายตา และยังสามารถป้องกันแสงแดด UV400 ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มลูกเล่นของแว่นตาในคอลเลคชั่นนี้เข้าไปอีก ด้วยคลิปออน LOVE PAW ที่ดีไซน์ออกมาได้ สวย เก๋ ดูมีสไตล์ คลิปออนนี้สามารถซื้อแยกได้ในราคา 1,000 บาท นอกจากคลิปออน จะสามารถแมชได้กับแว่นตาในคอลเล็กชั่นนี้แล้วยังสามารถนำไปแมชได้กับแว่นตา Oversize ที่มีอยู่แล้วของทุกคนได้อีกด้วย

รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปสมทบทุนโครงการ “แหม๋ว (แมว+หมา) ไม่อด” โครงการเพื่อช่วยเหลือน้องหมาน้องแมวยากไร้ภายใต้ความดูแลของมูลนิธิ The voice (เสียงจากเรา)

สามารถสั่งซื้อได้ที่ Line : @nvenvy หรือแวะมาช็อปกันได้ที่ Nvenvy Flagship store CTW ชั้น 3, Nvenvy Paragon department store ชั้น M, Nvenvy Central chitlom ชั้น 3, Nvenvy Emquartier ชั้น 2

 

 

เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ในรัชสมัยรัชกาลที่ 10

account_circle

เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ เรียกย่อว่า ตรามหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ในโอกาสครบรอบการสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานีครบ 100 ปี ใน พ.ศ. 2425 สำหรับพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ที่สืบเนื่องโดยตรงในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก หรือผู้ซึ่งพระบรมวงศานุวงศ์ดังกล่าวได้เสกสมรสด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถพระราชทานแก่ประมุขของต่างประเทศอีกด้วย

เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์

ตรามหาจักรีบรมราชวงศ์ เคยเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่มีลำดับเกียรติสูงสุด ลำดับที่ 1แต่ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงสร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นมงคลยิ่งราชมิตราภรณ์ขึ้น สำหรับพระราชทานแด่ประมุขของต่างประเทศเท่านั้น และจัดเป็นลำดับเกียรติสูงสุด ลำดับที่ 1 ในหมู่เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทยจากทั้งหมด 36 ลำดับ ตรามหาจักรีบรมราชวงศ์จึงมีลำดับเกียรติเป็นลำดับที่ 2 แต่ถือเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดที่พระบรมวงศานุวงศ์ไทยจะได้รับพระราชทาน

เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์

สำหรับตรามหาจักรีบรมราชวงศ์ มีการพระราชทานครั้งล่าสุด คือ ในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 โดยพระราชทานเแด่สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุล ฮาลิม มูอัซซัม ชาห์แห่งมาเลเซีย เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2556 ในโอกาสเสด็จ ฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่9

ปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเป็นองค์ประธานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.จ.ก. นี้ และยังไม่มีการพระราชทาน ตรามหาจักรีบรมราชวงศ์ แก่พระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดในรัชสมัยนี้

เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ออกแบบโดยเสวกเอก หม่อมเจ้าประวิช ชุมสาย องค์ประกอบ 1 สำรับ ได้แก่ ตรามหาจักรี, ตราจุลจักรี, ดาราจักรี และ สายสร้อยและแพรแถบ

ด้านหน้าเป็นรูปจักร 8 กลีบ ลงยาสีขาว มีรูปตรีศูลเงินระหว่างกลีบจักร กลางวงจักรเป็นรูปปทุมอุณาโลมประดับเพชร พื้นลงยาสีฟ้า ขอบลงยาสีแดง มีอักษรทองเป็นคาถาภาษิตภาษาบาลีเขียนอักษรไทยว่า ติรตเน สกรฏฺเฐ จ สมฺพํเส จ มมายนํ สกราโชชุจิตฺตญฺจ สกรฏฺฐภิวฑฺฒนํ แปลว่า ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง

รอบขอบเป็นมาลัยชัยพฤกษ์ ใบลงยาสีเขียว ดอกลงยาสีชมพูใต้พวงมาลัยเป็นแพรแถบลงยาสีชมพู มีอักษรย่อเป็นภาษิตของเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์นี้ว่า ร.จ.บ.ต.ว.ห.จ. ย่อมาจาก เราจะบำรุงตระกูลวงศ์ให้เจริญ

เบื้องบนมีอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ป.ร.ร. 4 ไขว้กัน โดยย่อมาจากคำว่า บรมราชาธิราชรามาธิบดีที่ 4 อันหมายถึง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และมีพระมหามงกุฎทองรัศมีเงิน

ด้านหลังเป็นรูปครุฑ ปราสาท มหามงกุฏ และจุลมงกุฏ ทำด้วยทอง พื้นลงยาสีเขียว ขอบรอบลงยาสีแดง และมีอักษรทองว่า ปีมะเมีย จัตวาศก ศักราช ๑๒๔๔ และ ปฐมรัชกาลเป็นปีที่ครบร้อย สายสร้อยเป็นรูปอุณาโลมลงยา กลางอุณาโลมประดับเพชร สลับกันไปกับจักรีแฝดลงยา มีสร้อยทองยึดตลอด ยาว 55 เซนติเมตร ไว้สำหรับห้อยตรามหาจักรี

 

ดาราจักรีในสำรับเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ออกแบบโดยเสวกเอก หม่อมเจ้าประวิช ชุมสายดาราจักรี เป็นรูปจักร 10 กลีบ ลงยาสีขาว มีรูปตรีศูลเงินและรัศมีเปลวสีเงินสลับกันไปรอบกลีบจักร กลางดาราเป็นรูปปทุมอุณาโลมประดับเพชรขอบลงยา และมีคาถาภาษิต ติรตเน สกรฏฺเฐ จ สมฺพํเส จ มมายนํ สกราโชชุจิตฺตญฺจ สกรฏฺฐภิวฑฺฒนํ หมายถึง ความนับถือรักใคร่ในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงศ์ตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง


ข้อมูล : คุณชินดนัย มีชัย (@chin_meechai)

ภาพ : Pinterest History Archive : Sothebys.com,  Thomas Ghysdaël

 

เทรนด์ เล็บเจ้าสาว ลายดอกไม้ แบบใหม่! อัพเกรดกว่าเดิม!

account_circle

แปลงโฉม เล็บเจ้าสาว ให้สดใสด้วยลายดอกไม้ไปทั้งมือ

เล็บเจ้าสาว ลายดอกไม้ ฟังยังไงก็ดูซ้ำและน่าเบื่อเนอะ? แต่เทรนด์เล็บเจ้าสาวลายดอกไม้แบบใหม่นี้ คุณจะต้องยังไม่เคยเจอที่ไหนแน่นอน ถ้าไม่อยากได้เล็บเจ้าสาวแบบเดิมๆ ต้องดูค่ะ

เทรนด์เล็บเจ้าสาวลายดอกไม้ ถือเป็นเทรนด์เด่นที่ไม่เคยหนีหายไปไหนเลยนะคะ เพราะเป็นลวดลายที่ทำยังไงก็สวย ดูอ่อนหวานอ่อนช้อย ช่วยให้เรียวเล็บเรียบๆของเจ้าสาวดูมีอะไรมาส่งให้แหวนหมั้นของเราดูโดดเด้ง แต่ในตอนนี้เทรนด์เล็บเจ้าสาวลายดอกไม้ได้อัพเกรดไปอีกขั้น ถึงแม้ล่าสุดนี้เราจะมีเรียวเล็บติดดอกไม้แห้งที่ดูเก๋ไก๋แล้ว คราวนี้ดอกไม้แห้งที่นำมาติดเรียวเล็บนั้นไม่ต้องผ่นการถูกรีดให้แบนเหมือนเก่า แต่ติดเข้าไปทั้งดอกแบบนั้นเลย! ทำให้เราได้เทรนด์ใหมเป็นเรียวเล็บดอกไม้แบบ 3D เก๋ไปอี้กกก ดูอย่างรูปด้านล่างนี้สิ!

IG @dantenewyorkcity

หรือจะเป็นดอกไม้สามมิติประดับเพชรบานิ้วก็หรูหราดีนะ

IG @nail_unistella

หรือถ้ายังไม่หนำใจ ติดทั้งกิ่งลงบนมือเลยสิจ๊ะ อย่าได้แคร์!

IG @nail_unistella

เก็บไอเดีย 13 ทรงผมของคุณแม่สายสตรอง “แอฟ ทักษอร” ลุคเปรี้ยว ลุคหวาน ออกงานได้

Alternative Textaccount_circle

ช่วงนี้งานละครอาจจะยังไม่มีให้ได้ชมผลงาน แต่งานพิธีกรและอีเว้นท์ต่างๆ คุณแม่คนสวยสายสตรองของน้องปีใหม่ “แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” ก็ยังคงมีผลงานด้านนี้ออกมาให้ติดตามกันอยู่เรื่อยๆ และแน่นอนเวลาจะออกงานหรือออกกล้องย่อมต้องสวยเนี้ยบ เป๊ะ เป็นธรรมดา ฉะนั้น ทั้งหน้า ผม เครื่องประดับ และเครื่องแต่งกายต้องพร้อม ซึ่งนอกจากเมคอัพที่คุณแม่แอฟ ชอบแต่งโทนหวานเบาๆ กรุบๆ แนวเอิร์ธโทน สีชมพู สีพีช สีส้มอ่อนๆ ใสๆ เน้นสวยด้วยงานผิวแบบธรรมชาติแล้ว ทรงผมยังเป็นอีกสิ่งที่เด่นสะดุดตาและแฟนคลับก็สนใจไม่น้อย หลังจากที่ก่อนหน้านี้คุณแม่แอฟได้ลองทำทรงดังโงะไว้หน้าม้าแบ๊วมากเว่อร์ จนเป็นที่ฮือฮาไม่น้อยกับนิวลุคนั้น แพรวดอทคอม เลยตามไปส่องอินสตาแกรมคุณเปิ้ล plepattra888 แฮร์สไตลิสต์ที่ตอนนี้คุณแม่แอฟทำผมด้วยเป็นประจำว่าคุณเปิ้ลครีเอทผมทรงไหนให้คุณแม่แอฟบ้าง เอามาฝากสาวๆ เผื่อเป็นไอเดียเวลาอยากดูสวยหวานแต่สตรอง เลื่อตามมาค่ะ

 

ดูเหมือนว่าเครื่องหัวหรือเครื่องประดับผม อาทิเช่น กิ๊บติดผม ที่คาดผม จะยังคงอินยาวววววววไม่มีวี่แววว่าเอ้าท์เลยสักนิด เพราะทั้งเหล่าไอดอลไทยและเทศ หรือเหล่าคนดังเซเลบริตี้ทั้งหลายต่างก็ยังใช้เป็นไอเท็มเด็ดในการตกแต่งประดับผมอยู่ดี และต้องบอกเลยว่าไอเท็มติดผมจะติดให้ดูเปรี้ยวแซ่บแบบโคเรียสไตล์หรือน่ารักคิคุแบบสาวเจแปนนิสต์สไตล์ก็ย่อมได้

ย้ำไว้ว่าเลยทุกทรงที่คัดมาไม่ซ้ำกันแน่นอน แม้มองเพียงผิวเผินจะคล้ายๆ แต่ดีเทลต่างกัน อย่างทรงด้านบนนี้ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เห็นคุณแม่แอฟทำผมทรงลอนเมอเมดเปรี้ยวๆ คูลๆ กิ๊บเพชรที่ติดผมแม้ไม่ใหญ่บึ้มแต่ก็กระแทกตาไม่น้อย

หรือจะแสกกลางม้วนลอนใหญ่ แล้วเสริมไอเท็มอย่างกิ๊บเพชรด้านข้างที่เหน็บใบหูก็ดูหวานหยดย้อย

สาวๆ ที่ชอบม้วนลอนใหญ่ เบื่อแสกกลางไปแสกข้างก็ได้ อย่าลืมติดกิ๊บเก๋ๆ ตามสไตล์ที่ชอบด้านข้างที่เหน็บใบหู ยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์

สวยน่ารักกระชากวัยเหมือนไอดอลสาว เจนนี่ แบล็คพิ้งค์ไปเลยค่าคุณแม่แอฟ

เห็นไหมว่าเครื่องประดับทรงผมไม่จำกัดถูกผิด ชอบติดตรงไหนก็ติดจะด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลังก็ได้หมด

แสกกลาง บิดเกียว ติดกิ๊บซ่อนด้านหลัง ลอนใหญ่สางๆ ธรรมชาติแต่เนี้ยบก็เป็นลุคที่น่ารักและเรียบร้อยมากเชียวล่ะ

หวานๆ ออกงานไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่ แค่เกล้าผมรวบตึง หางม้าม้วนลอนเก๋ๆ ถ้าเบื้อติดกิ๊บก็ลองผูกโบว์ดูหวาน ก็ได้ลุคออกงานที่ไม่ยาก ซอฟท์ๆ เบาๆ ดูน่ารักไปอีกแบบแล้ว

รวบตึงเหมือนกันแต่ให้ลุคที่เปรี้ยวกว่า โดยการรวบหางม้ายกสูงด้านหลังหางม้าปล่อยตรงจะดูเปรี้ยว เท่ อีกสไตล์

เดี่ยวนี้ใครอยากไว้หน้าม้าแต่ไม่สะดวกตัดผม ไม่ต้อวลำบากใจแล้วนะคะ แฮร์พีชหน้าม้ามีแล้วจ้า ลองไปหามาแล้วให้ช่างทำผมจัดทรงให้ รับรองเปลี่ยนลุคได้ดังใจนึกสลับวันไปเลยค่ะ

ถ้าต้องออกงานที่เป็นทางการ ทรงนี้ก็เหมาะไม่น้อย เก็บเนี๊ยบไม่มีชี้ฟูด้วยค่ะ

ทรงนี้ก็เป็นอีกทรงที่คนดังทำบ่อยๆ รวบเก็บแต่มีความแมสซี่นิดๆ

และนี่คือทรงผมหน้าม้าแบ๊วกรุบที่คุณแม่อฝแอฟทำแล้วหน้าเด็กเว่อร์


เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ IG: aff_taksaorn , plepattra888

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

 

วงแจมป์

เส้นทางความรักสุดหวานชื่นของ “ปอ” วงแจมป์ กับ “อาจารย์ดัง-สุทธิวรรธน์”

Alternative Textaccount_circle
วงแจมป์
วงแจมป์

หลังจากปล่อยให้เพื่อนๆ สละโสดแซงหน้าไปหลายคน ล่าสุด “ปอ” วงแจมป์ หรือ “ปอ-ณฐมน ภูวะปัจฉิม” ก็ได้ฤกษ์หมั้นกับ  “อาจารย์ดัง-สุทธิวรรธน์ บุรุษพัฒน์” ในวันที่ 8 มี.ค.2562

วงแจมป์

เมื่อไม่นานมานี้ นักร้องสาว “ปอ- ณฐมน ภูวะปัจฉิม” หรือ ปอ วงแจมป์ และสมาชิก Teen 8 Grade A ได้ประกาศข่าวดีว่าเธอกำลังจะสละโสดในเร็วๆ นี้ เพื่อนทั้งในและนอกวงการ รวมถึงแฟนคลับ ต่างก็เข้ามาแสดงความยินดีกับเธอผ่านอินสตาแกรม โดยว่าที่เจ้าบ่าวก็คือ “อาจารย์ดัง-สุทธิวรรธน์ บุรุษพัฒน์” ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์นั่นเอง

และเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา “แพรวดอทคอม” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์อดีตนักร้องวัยรุ่นยุค 90 ซึ่งเธอได้พูดถึงเรื่องงานแต่งงาน และเส้นทางความรักสุดหวานชื่นให้เราได้ฟังด้วย

โดยศิลปินสาวเปิดเผยถึงความพร้อมของงานหมั้นในวันที่ 8 มี.ค.นี้ว่า เธอเตรียมการไปได้ประมาณ 80% แต่ก็ยังมีส่วนที่ไม่เรียบร้อยอีกเล็กน้อย สำหรับพิธีในงานหมั้นก็จะมี ขันหมาก, พิธีนับสินสอด และสวมแหวน ส่วนพิธีแต่งงานและรดน้ำสังข์จะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ย.2562 ซึ่งในส่วนของสถานที่นั้นก็กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ ดังนั้น จึงยังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้

วงแจมป์

วงแจมป์

เมื่อถามถึงความตื่นเต้นในงานหมั้นที่จะเกิดขึ้น เธอบอกว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นหน่อยๆ รวมถึงยังมีเรื่องกังวลใจอยู่ด้วยก็คือเรื่องชุดเพื่อนเจ้าสาวที่บางคนยังไปไม่ถึงมือ ของชำร่วย รวมถึงโลเคชั่นสถานที่จัดงานที่มันอยู่ในซอยลึก กลัวว่าแขกจะมาหลง

ในส่วนของเพื่อนเจ้าสาวนั้นปอบอกว่าไม่ได้มีเยอะมาก มีเพื่อนนอกวงการ 5 คน ส่วนในวงการก็คือเพื่อนสนิทที่คบหากันมาเป็น 10 ปี “แองจี้ เฮสติ้งส์” ที่จะบินมาเพื่องานของเธอโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีแขกและเพื่อนๆ ในวงการอีกจำนวนหนึ่ง อาทิ “ธัญญาเรศ เองตระกูล”, “ลูกหมี-รัศมี ทองสิริไพรศรี”,”หมิง-ชาลิสา (อรินทร์มาศ) บุญครองทรัพย์”, “แอนนิต้า-ศรุชา พงศ์ทรงกุล” ฯลฯ

ปอได้เล่าถึงโมเม้นต์สุดโรแมนติกตอนที่อาจารย์ดังขอแต่งงานว่า “ตอนที่ขอแต่งงานเป็นตอนที่เราไปเที่ยวมัลดีฟส์กันประมาณ 5 วัน โดยวันก่อนที่จะเดินทางกลับ ปอก็เพิ่งขึ้นจากการว่ายน้ำมา พอเข้าไปในห้องพี่ดังก็เอาแหวนมาคุกเข่าขอแต่งงาน ตอนนั้นเราอยู่ในสภาพที่โทรมมาก แล้วก็มีบัตเลอร์ของห้องที่อยู่เขาก็มาถ่ายรูปให้ ก็เป็นอะไรที่ซึ้งมาก โดยตั้งแต่ที่รู้จักเขามา เขาเป็นคนที่อ่อนโยนมากคนหนึ่ง เขาบอกกับปอว่าเขาไม่เคยคิดจะแต่งงานกับใครมาก่อน และยังบอกกับเพื่อนว่าชีวิตนี้จะไม่ขอใครแต่งงาน แต่เขาก็ทำให้กับปอ”

วงแจมป์

วงแจมป์

สำหรับจุดเริ่มต้นของความรักครั้งนี้ปอเล่าว่า “ได้มีโอกาสเจอกันครั้งแรกเมื่อ 2 ปี ที่แล้ว พี่เขาเป็นเพื่อนของรุ่นพี่ที่สนิท ซึ่งจากจุดเริ่มต้นพี่เขาก็ใช้ความพยายามในการจีบเราอยู่นานพอสมควรประมาณ 1 ปี กว่าที่เราจะตัดสินใจไปไหนมาไหนกับเขา”

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาสาวปอเล่าว่า “เราทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกันเลย ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องอะไรที่คิดไม่เหมือนกัน แต่ก็สามารถเข้าใจกันได้ เราเหมือนกันตรงที่ไม่เก็บสะสมปัญหาจนเกิดความน้อยใจและทะเลาะกัน” โดยสาวปอบอกอีกว่าเป็นเรื่องแปลกเพราะที่ผ่านมาเธอทะเลาะกับหนุ่มๆ เยอะมา

เมื่อถามถึงสิ่งที่ประทับใจที่สุดในตัวอาจารย์ดัง ปอบอกว่า “เขาเป็นคนจริงจัง พอคุยกันได้ประมาณ 1 ปี เขาก็เริ่มคุยกับปอเรื่องนี้ พาคุณพ่อ,คุณแม่มาคุยด้วยตัวเอง ตอนนั้นเราก็คิดว่ามันไม่จำเป็นต้องจริงจังขนาดนี้หรือเปล่า นอกจากความจริงจังแล้วเขายังเป็นคนที่อ่อนโยนมากๆ เอาใจใส่และเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเป็นคนติดดิน และฉลาดในหลายๆ เรื่อง ถึงแม้จะอย่างนั้นแต่พี่ดังไม่อีโก้เลย เวลาที่เขาคุยกับปอ แม้จะเขาโตและประสบการณ์ชีวิตเยอะกว่าแต่พี่เขาก็ยอมรับฟังปอเสมอ”

อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงแพลนทายาท นักร้องสาวบอกว่า “ปีนี้คิดว่าน่าจะยังไม่มีน้อง เพราะตอนนี้ปอมีแพลนทำธุรกิจกับพี่ดัง ดังนั้นก็ไม่รู้จะมีน้องได้หรือเปล่า แต่ส่วนตัวปออยากมีลูกแต่ก็ต้องดูหลายๆ อีกทีเพราะเราเองก็อายุไม่น้อยแล้ว”

วงแจมป์

วงแจมป์

 วงแจมป์


 

ช้ากว่าแต่ถึงชัวร์! รถไฟผู้นำเกาหลีเหนือ หรูหราระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่

ช้ากว่าแต่ถึงชัวร์! รถไฟผู้นำเกาหลีเหนือ หรูหราระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่…ช่วงนี้ข่าวการเมืองทั้งในประเทศ และต่างประเทศร้อนแรงกันเหลือเกิน ในบ้านเราก็กำลังจะมีการเลือกตั้ง ฝั่งเพื่อนบ้านอย่างอินเดียกับปากีสถานก็ดันปิดน่านฟ้าเปิดสงครามกันแล้ว และอีกข่าวใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังจับตามองมากที่สุดก็คือ การพบกันระหว่าง 2 มหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือ

แน่นอนว่าการเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาพบกันครั้งนี้ ฝั่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์นั้นเดินทางมากับเครื่องบินประจำตำแหน่งที่แสนจะหรูหราโอ่อ่า วันนี้เลยพามาดูยานพาหนะระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ของฝั่งผู้นำเกาหลีเหนือกันบ้าง นั่นก็คือ ขบวนรถไฟส่วนตัวสีเขียวขบวนนี้นั่นเอง

หลายคนอาจสงสัยว่าระดับผู้นำเกาหลีเหนืออย่าง คิม จอง อึน จากที่สำนักข่าวต่างประเทศได้เคยให้ข้อมูล เขาเองค่อนข้างใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยอยู่พอสมควร แต่เหตุใดถึงเลือกใช้พาหนะในการเดินทางไกล ในการมาพบปะผู้นำสหรัฐฯ ด้วยรถไฟแทน ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะการเดินทางด้วยรถไฟนั้นคือธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่รุ่นปู่ (คิม อิล ซุง) มาจนถึงรุ่นพ่อ (คอม จอง อิล) ของเขาแล้ว สมัยนั้นไม่ว่าจะเดินทางมาเวียดนาม หรือข้ามมายังยุโรปตะวันออก ก็จะใช้รถไฟในการเดินทางอยู่เสมอ เนื่องจากว่าเขาเป็นคนกลัวการขึ้นเครื่องบินนั่นเอง

สำหรับภายในรถไฟขบวนนี้ แน่นอนว่าระดับผู้นำสูงสุดของประเทศเผด็จการจะให้กระจอกก็คงจะไม่สมฐานะ  จะมีแต่ที่นั่งไล่เรียงอยู่ทุกโบกี้น่ะหรอ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ในทางกลับกันรถไฟขบวนนี้ภายในถูกแบ่งออกเป็นห้องรับรองที่มีโซฟานุ่มๆ บุด้วยหนัง และมีส่วนของห้องประชุมด้วย และทุกโบกี้ยังถูกออกแบบให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกันกระสุนรอบด้านบวกบอดี้การ์ดคอยดูแลอย่างใกล้ชิด อาจจะขนมาทั้งกองทัพเลยมั้ง เพราะขบวนก็ยาวอยู่….โดยการเดินทางแต่ละครั้งก็ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ใจจริงๆ ว่าเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปจุดหมายปลายทาง จะไม่มีเหตุร้ายที่ทำให้ท่านผู้นำต้องหงุดหงิดหรือเกิดอันตราย

ภายในขบวนรถไฟที่ตกแต่งใหม่ สดใส สีชมพู หวานๆ กันไปเลย

จะบอกว่าเป็นมรดกตกทอดที่กลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของผู้นำเกาหลีไปแล้วก็ว่าได้ แต่สำหรับการเดินทางข้ามประเทศด้วยรถไฟในยุคนี้ แม้จะดูไม่ไฮเทคล้ำสมัยเหมือนประเทศอื่นๆ แต่ก็คงคิดว่าดีแล้วล่ะมั้งว่าเอาช้าแต่ชัวร์ดีกว่า

 

ภาพ : BBC News

อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่นี่

เปิดPrivate Jet เศษเงินของท่านปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ หรูหรากว่า Air Force 1ซะอีก!
พุฒ-จุ๋ย

ไม้ตรวจไข่คือไอเท็มคู่ใจ! ชีวิตหลังแต่งงานของ “พุฒ-จุ๋ย” คู่สามีภรรยาสุดน่ารัก

Alternative Textaccount_circle
พุฒ-จุ๋ย
พุฒ-จุ๋ย

ไม้ตรวจไข่คือไอเท็มคู่ใจ! ชีวิตหลังแต่งงานของ “พุฒ-จุ๋ย” คู่สามีภรรยาสุดน่ารัก… “จากฝัน ก็กลายเป็นมากกว่าฝัน ฝันกลายเป็นจริงขึ้นมา” ประโยคเดียวกันนี้ถูกโพสต์ในอินสตาแกรมของ “พุฒ” เมื่อหลายเดือนก่อน ในขณะที่ขอ “จุ๋ย” แต่งงาน โดยข้อความนี้มาจากเนื้อเพลง คนในฝัน ที่ใช้ประกอบละครเรื่อง ฝันเฟื่อง ที่ทั้งคู่ได้เจอกันเป็นครั้งแรก ก่อนที่ความรักจะค่อยๆ เติบโต และฝ่าฟันอุปสรรคอีกไม่น้อย จนมาถึงวันแต่งงาน วันที่ฝันเฟื่องกลายเป็นฝันที่เป็นจริง

พุฒ-จุ๋ย

เช้าวันแรกหลังวันแต่งงานเป็นอย่างไรครับ

พุฒยิ้มกว้าง “ตื่นมาก็ชวนกันไปหาของอร่อยกินก่อนเลยครับ เพราะในวันงานเราแทบไม่ได้กินอะไรเลย ต้องตื่นมาแต่งหน้าตั้งแต่ตี 3 สำหรับงานเช้าถึงเที่ยง ช่วงบ่ายๆ แถลงข่าว เสร็จแล้วกลับมาส่งตัวเข้าหอ ตกดึกก็นับซอง (หัวเราะ) ทำบัญชีเคลียร์ค่าใช้จ่ายต่างๆ กว่าจะเสร็จก็ตี 2 เกือบน็อกรอบ 24 ชั่วโมง พอหัวถึงหมอนก็สลบยาวเลย”

ยังมีแรงนับเลขใช่ไหม

“ยังมีสติอยู่ (หัวเราะ) เรื่องตัวเลขต้องยกให้จุ๋ยที่เป๊ะมาก เขารู้ว่าต้องใช้อย่างไร จัดสรรปันส่วนและเก็บออมแบบไหน จุ๋ยทำได้ดีกว่าผมเยอะ”

จุ๋ยยิ้มรับ “เรื่องเงินไม่มีกระเด็นค่ะจริงๆ ก่อนหน้านี้จุ๋ยเหมือนเป็นเด็กคนหนึ่ง ที่พอทำงานมีเงินแล้วอยากได้อะไรก็ซื้อ แต่พอใกล้วันแต่งงาน จู่ๆ ความคิดก็เปลี่ยน ยิ่งคิดถึงแพลนการมีลูก ก็รู้สึกอยากวางแผนการใช้เงินให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้น”

พุฒเล่าต่อ “เราแบ่งกันอย่างนี้ครับ แต่ละคนจะมีบัญชีส่วนตัวกับมีบัญชีกลางที่ใช้จ่ายเรื่องราวในชีวิตคู่ เช่น ตอนนี้กำลังทำบ้าน ถ้าผมหรือจุ๋ยไปทำงานอะไรมาจะโอนเงินส่วนหนึ่งเข้าบัญชีนี้ หรือถ้าเป็นงานที่ทำด้วยกันอยู่แล้ว อย่างมาถ่ายแฟชั่นกับ แพรว เราจะนำเงินทั้งหมดเข้าบัญชีกลาง ขณะเดียวกันเราก็จะไม่รบกวนบัญชีส่วนตัวของกัน เพราะคิดว่าแต่ละคนต้องมีความสุขในการใช้เงินกับสิ่งที่ตัวเองอยากได้ด้วย”

ชีวิตหลังแต่งงานของคุณสามีกับภรรยาบ้านนี้เป็นอย่างไรครับ

“สนุกสนานดีนะคะ ถ้าถามว่ามีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง จริงๆ ไม่มาก แต่อาจรู้สึกสบายขึ้นในหลายๆ เรื่อง เช่น เราเป็นคู่ที่แสดงความรักต่อกันเป็น เรื่องปกติ ด้วยความที่บ้านจุ๋ยเวลาเจอกันจะกอดและหอมแก้ม ฝั่งพุฒก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นพุฒกับจุ๋ยจึงมองเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่การที่เรามีชื่อเสียงก็อาจมีคนบอกว่า เฮ้ย ยังไม่แต่งงานกันเลย เพราะฉะนั้นเมื่อวันนี้แต่งงานกันแล้ว ก็รู้สึกว่าสบายใจมากขึ้นที่สามารถแสดงความรักกันได้เปิดเผย”

เวลาคู่นี้ทะเลาะกัน…ใครชนะ

พุฒตอบก่อน “แล้วแต่สถานการณ์ครับ ถ้าตีกันเล่นๆ ผมก็ยอมๆ เขาบ้าง”

จุ๋ยแซวคืน “บางทีจุ๋ยก็แกล้งยอมแพ้เหมือนกัน ประมาณว่า อุ๊ย…ยอมแล้วจ้า เค้าผิดเอง คือให้เขารู้สึกได้เป็นผู้ชนะบ้าง (หัวเราะ) แต่เรายังไม่เคย ทะเลาะกันแบบหนักๆ เลยค่ะ”

พุฒ-จุ๋ย

การแต่งงานทำให้แผนในชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมไหมครับ

“เปลี่ยนนิดหนึ่งนะครับ ผมคิดถึงอนาคตมากขึ้น วางแผนรับงานมากกว่าเดิม ซึ่งปกติก็ค่อนข้างแน่นอยู่แล้วละ ทั้งถ่ายละคร จัดรายการวิทยุ รับอีเว้นต์บ้าง หรือมีรายการทีวีที่ถ่ายยาวเป็นซีซั่น แต่เป็นปริมาณงานที่ผมค่อนข้างโอเค แต่หลังจากนี้ตั้งใจทำงานเยอะเท่าที่ทำได้ เพราะไม่ได้มีแค่ตัวเราคนเดียวแล้ว ยังมีภรรยา และต่อไปจะมีลูก ผมจะคิดถึงอนาคตแค่ 1-2 ปีเหมือนเดิมไม่ได้ ต้องมองออกไปไกลกว่านั้น เช่น จะมีเงินเลี้ยงดูลูกไปจนถึงเขาเรียนจบไหม สิ่งเหล่านี้คือความรับผิดชอบที่มากขึ้น ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องโตขึ้นไปอีกสเต็ปหนึ่ง ยังเคยคิดว่าในช่วงที่จุ๋ยตั้งท้อง ผมอยากให้เขาโฟกัสไปที่ลูกอย่างเดียว คงหยุดงานสักพัก ส่วนผมจะทำงานอย่างบ้าคลั่ง”

จุ๋ยทำตาซึ้งให้พุฒ “ใครบอก จุ๋ยจะเป็นคนท้องที่ทำงานจนกว่าจะอุ้ยอ้ายหรือเดินไม่ไหวจริงๆ อยากหาเงิน เก็บไว้ให้ลูก”

พุฒตอบภรรยา “ใครให้เธอทำงาน…แต่เดี๋ยวรอให้ท้องก่อน แล้วค่อยมาสัมภาษณ์กับ แพรว อีกครั้ง จุ๋ยยังอยากทำงานอยู่ไหม” (จุ๋ยหัวเราะชอบใจมุกสามี)

เล่าถึงแผนการมีพุฒจุ๋ยจูเนียร์หน่อยครับ ช่วงนี้คุยอะไรกันบ้าง

พุฒ “ช่วงนี้คุยกันบ่อยว่าเดือนนี้จะท้องปะ (หัวเราะ) ด้วยความที่ชอบเด็กและอยากมีลูกด้วยกันทั้งคู่ จึงไม่เคยกังวลว่าต้องใช้ชีวิตกันสองคนอีกสักพักก่อน เราอยากมีลูกเลย แล้วจุ๋ยเป็นสายมูเตลูนิดหนึ่ง เขาไปดูดวงมาว่าถ้ามีลูกปีนี้ซึ่งเป็นปีหมูทอง ลูกจะเสริมดวงปีเสือของผม แต่ถ้าเขาเกิดปีหน้าก็จะ เสริมดวงของจุ๋ย เราจึงคุยกันว่าอยากมีลูกสัก 3 คนในช่วง 2 ปีนี้ จะได้เสริมดวงทั้งพ่อและแม่ตามที่จุ๋ยต้องการ แต่เบื้องต้นขอให้คนแรกมาก่อน (หัวเราะ) เราก็ไม่รู้ว่าถ้ามีแบบธรรมชาติแล้วเขาจะมาเลยไหม เพราะมีเคสของเพื่อนๆ หลายคนที่อยากมีลูกแต่ไม่มา ขณะที่บางคู่อยากรอก่อนแต่มาเลย

“พูดแล้วก็เขิน จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะมาถึงตัวเองนะ คือก่อนหน้านี้มีคำสอนจากรุ่นพี่หลายคนที่มีลูกยากว่า ถ้าวันไหนภรรยาไข่ตก ไม่ว่าผมทำอะไรอยู่ก็ตาม ให้รีบกลับมาทำการบ้าน เพราะเป็นวันดีที่สุดในรอบเดือนที่จะมีโอกาสมีลูก ตอนนั้นผมฟังแล้วยังคิดว่าต้องขนาดนั้นเลยเหรอ แต่พอแต่งงาน วันนั้นก็มาถึง เมื่อคุณภรรยาบอกว่าซื้อที่ตรวจไข่มาแล้วนะ ตัวเครื่องมีสัญลักษณ์หน้ายิ้มปกติกับยิ้มแบบกะพริบ ซึ่งหมายถึงไข่ตก โดยเดือนหนึ่งจะมีช่วงดีที่สุดประมาณ 48 ชั่วโมง ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนในชีวิต เหมือนได้เปิดโลก (หัวเราะ) ช่วงนี้ผมจึงเห็นจุ๋ยถือไม้ตรวจไข่เข้าไปห้องน้ำทุกเช้า”

จุ๋ยหัวเราะ “เรียกน่าเกลียดอะ เขาเรียกเครื่องตรวจฮอร์โมน ลักษณะเหมือนที่ตรวจครรภ์ แต่มีขนาดใหญ่กว่า แล้วจุ๋ยก็ทำตามเอกสารแนบว่าต้องตรวจด้วยปัสสาวะแรกของวัน”

พุฒเล่าต่อ “ถ้าตรวจแล้วไข่ไม่มา จุ๋ยจะเงียบๆ แต่ถ้าสัญลักษณ์ขึ้นหน้ายิ้มแบบกะพริบจะวิ่งเอามาให้ผมดูว่าวันนี้พีคนะ ไข่ตกชัวร์”

พุฒ-จุ๋ย

เราจะไม่ถามต่อแล้วกันว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น

จุ๋ยขำ “ช่วงปลายปีที่ผ่านมาเราไปทำงานที่ญี่ปุ่น ไม้ตรวจฮอร์โมนก็ส่งสัญญาณยิ้ม แต่เราเหนื่อยกันมาก แทบไม่มีเวลาเลย สรุปว่าตอนนี้ประจำเดือนก็มาปกติ (หัวเราะ) ความจริงเราวางแผนจะมีลูกกันเลย แต่หลังแต่งงานยังติดพันงานหลายอย่าง ทั้งถ่ายแบบเอย ถ่ายโฆษณาเอย ก็เลยไว้ก่อนละกัน”

พุฒถามจุ๋ย “แล้วรีบซื้อที่ตรวจไข่มาทำไม ก่อนเจอ แพรว วันนี้ก็เตรียมพร้อมมาเป็นเดือน แล้วตรวจทุกวัน”

จุ๋ยยิ้ม “ก็อยากรู้วิธีการไง อยากรู้ว่าเวลาสัญลักษณ์หน้ายิ้มขึ้นมาจะเป็นอย่างไร เพราะเรามีเวลาแค่ 48 ชั่วโมง จะได้รู้ว่าเราควรปฏิบัติภารกิจในช่วงเวลา นั้น…เอ๊ ว่าแต่ทำไมเราต้องลงรายละเอียดเรื่องนี้ขนาดนี้ด้วยคะ” (จุ๋ยถามพุฒแล้วหัวเราะทั้งคู่)

ดูแล้วคุณวรัทยาค้นคว้าข้อมูลแน่นมาก

พุฒพยักหน้ารัวๆ ก่อนที่จุ๋ยจะเล่าต่อ “จุ๋ยพาพุฒไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลด้วย จะได้รู้ว่าควรกินอะไรเสริมบ้าง แม้อาจยังไม่ถึงช่วงที่มั่นใจว่าจะท้องได้ แต่กินไว้เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมที่สุด”

คิดเล่นๆ ว่าเมื่อถึงวันที่เครื่องตรวจฮอร์โมนส่งสัญญาณยิ้มแฉ่ง แต่พุฒติดงานทุกวัน…

จุ๋ยตอบทันที “พุฒต้องมาเจอจุ๋ยให้ได้ 48 ชั่วโมงถือว่ามีเวลามากพอ”

พุฒ “นี่ไงครับปัญหาของคุณผู้ชายทั้งหลาย สมมุติพุฒถ่ายละครอยู่ ก็ต้องบอกพี่ผู้กำกับครับว่า เอิ่ม…ผมขอกลับบ้านแป๊บเดียวนะครับพี่ ภรรยาไข่ตก ให้พูดแบบนี้เหรอ” (จุ๋ยหัวเราะชอบใจ)

กว่าจะมาถึงบทสนทนาเรื่องการมีลูก ที่ผ่านมาเส้นทางความรักของจุ๋ยกับพุฒก็ไม่ง่าย ช่วงหนึ่งมีกระแสแอนตี้เล็กๆ จากแฟนคลับพุฒ พอฝ่าฟันมาถึงวันนี้ได้ รู้สึกอย่างไรครับ

พุฒขอตอบก่อน “พอมองย้อนกลับไปในจุดเริ่มต้น เหตุการณ์ที่ผ่านมา ทั้งมรสุมและเรื่องราวหนักๆ เป็นช่วงที่ผมกับจุ๋ยให้กำลังใจกัน จับมือและดูแลความรู้สึกกันมา ตอนนั้นเราคุยกันว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง แต่เราต้องอดทนรอหน่อย เมื่อมาถึงวันนี้ พอมองย้อนกลับไป สำหรับผมมันกลายเป็น ประสบการณ์ขำๆ ที่ทำให้เราสตรองขึ้น รวมทั้งเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งให้เราได้อยู่ด้วยกันตรงนี้ ได้วางแผนว่าจะมีลูกและสร้างครอบครัวที่แข็งแกร่งในวันข้างหน้า”

จุ๋ยยิ้ม “จุ๋ยคิดคล้ายๆ กัน อยากตอบเหมือนกัน เหมือนอย่างที่พุฒบอกว่า สิ่งที่ผ่านมากลายเป็นเรื่องที่เรายิ้มได้ หลายคนอาจมองว่าความรักของเราไม่ราบรื่น มีอุปสรรคในตอนคบกันบ้าง แต่จุ๋ยกลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะทำให้เห็นถึงความรักและเป็นห่วงที่พุฒมีให้จุ๋ย เช่น การให้สัมภาษณ์ปกป้อง ทำให้ครอบครัวจุ๋ยเห็นเขาผ่านสื่อโดยที่เราไม่ต้องพาไปแนะนำตัว แล้วทุกคนก็ประทับใจในตัวพุฒมากที่ให้เกียรติเราตั้งแต่ต้น ถึงแม้ตอนนั้นยังไม่ได้วางแผนเรื่องความรักว่าจะลงเอยอย่างไร แต่พุฒก็ดูแลความรู้สึกจุ๋ยมาตลอด”

พุฒ-จุ๋ย

พุฒกับจุ๋ยเจอกันครั้งแรกในละครเรื่อง ฝันเฟื่อง มาถึงวันนี้คงต้องเรียกว่าฝันเป็นจริง

จุ๋ยกับพุฒพยักหน้าแล้วยิ้ม ก่อนที่พุฒจะตอบคำถามนี้ “ตอนที่ผมขอจุ๋ยแต่งงานก็โพสต์ภาพบรรยากาศของวันนั้นในอินสตาแกรม แล้วเขียนแคปชั่นว่า… จากฝัน ก็กลายเป็นมากกว่าฝัน ฝันกลายเป็นจริงขึ้นมา…ซึ่งเป็นเนื้อเพลง คนในฝัน ที่ใช้ประกอบละครเรื่อง ฝันเฟื่อง ด้วย (ยิ้ม) ละครเรื่องนี้ทำให้เราได้เจอกัน ทำให้ผมได้รู้จักตัวตนจริงๆ ของจุ๋ย ซึ่งไม่เป็นเหมือนภาพที่เคยคิดไว้ จะบอกว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็ได้”

จุ๋ยย้อนเล่าถึงวันวาน “ช่วงแรกที่รู้จักกัน พุฒกลัวว่าตัวเองเป็นนักแสดงใหม่ ขณะที่จุ๋ยทำงานในวงการบันเทิงมานาน ตัวแม่แบบนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ คือพุฒอาจเคยเจอคนที่หยิ่ง ไม่ได้น่ารักกับเขาเวลาทำงาน ประสบการณ์นั้นทำให้เขาใช้ตัดสินคนต่อๆ ไป ตอนแรกจึงคิดว่าจุ๋ยเข้าถึงยาก เช่นเดียวกับหลายๆ คนที่เห็นเราในละครหรือรูปภาพแล้วคิดว่าจุ๋ยหน้าดุ คงไม่เป็นมิตรเท่าไร”

พุฒยอมรับ “ผมคิดแบบนั้นจริงๆ มองแล้วรู้สึกว่าวรัทยาเป็นผู้หญิงนิ่งๆ ดูหยิ่ง มีความเป็นเทพอะไรอย่างนี้ แต่พอได้รู้จักจริงๆ อ้าว…ไม่เหมือนภาพที่คิดไว้ ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าเราไม่สามารถตัดสินคนจากภาพที่เห็นโดยยังไม่ได้รู้จักหรือคุยกับเขาได้”

จุ๋ยพูดต่อ “จุ๋ยคิดว่าหลายคนเคยอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกัน เช่น รู้สึกไม่ถูกชะตากับคนนี้ จริตไม่ตรงกันเลย นักแสดงคนนี้ต้องเป็นเหมือนที่ข่าวบอกแน่ๆ เคยเล่นละครแย่งสามีคนอื่น ตัวจริงก็คงแย่งเก่งเหมือนกัน ในสังคมมีคนที่คอยตัดสินคนอื่นอยู่ตลอด จุ๋ยก็เคยตัดสินใครบางคนมาเหมือนกัน แต่ เมื่อโตขึ้น รู้จักเรื่องราวเหล่านี้มากขึ้น ก็ทำให้รู้ว่าการตัดสินแบบนั้นไม่ยุติธรรมกับอีกฝ่าย เพราะเขาอาจไม่ได้เป็นเหมือนที่คนอื่นพูดก็ได้

“เหมือนเรื่องที่เราผ่านมา อุปสรรคและความไม่ราบรื่นส่วนหนึ่งก็เกิดจากการตัดสินที่เขาอาจเข้าใจผิด หรือชื่นชอบในตัวพุฒแล้วไม่อยากให้คบกับจุ๋ย อยากให้คบคนที่เด็กกว่า ดีกว่า หรือคนที่เล่นละครกับพุฒในตอนนั้น ซึ่งจุ๋ยไปว่าอะไรเขาไม่ได้ แต่อยากพูดในฐานะคนที่เคยผ่านการถูกตัดสิน ในช่วงนั้นก็มีความทุกข์เกิดขึ้นแหละ แต่จุ๋ยผ่านมาได้แบบไม่ยากเท่าไร แต่เราไม่รู้ว่าคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วจะผ่านมาได้เหมือนกันไหม เขาอาจใช้ชีวิตลำบาก กลายเป็นภาวะซึมเศร้า หรืออาจตัดสินใจทำสิ่งร้ายแรงกับตัวเองได้

“ประสบการณ์นี้จะคอยเตือนเราเสมอว่าต้องมองคนให้ละเอียด ค่อยๆ ดู และพูดคุย อย่าตัดสินเขาเพียงเพราะความรู้สึกแรกหรือเพียงเพราะใครนำมาพูด ให้ฟัง เพราะข่าวหรือข้อความโซเชียลมีเดีย จุ๋ยคิดว่าถ้าคนไทยหรือคนในโลกลดการตัดสินคนอื่น สังคมก็น่าจะสงบสุขขึ้น”

พุฒ-จุ๋ย

ภาพหนึ่งที่เห็นทั้งคู่โพสต์ในโซเชียลมีเดียเสมอคือการไปเยี่ยมครอบครัวของอีกฝ่าย

จุ๋ยยิ้ม “จุ๋ยโชคดีที่ได้อยู่ในครอบครัวที่ดี ตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่ของตัวเองที่สอนให้มีความสุขง่ายๆ ในแบบของเรา รวมถึงป๊าม้าของพุฒที่เป็นพ่อแม่สามี สายชิลมากๆ อย่างในงานแต่งงานของเรา ไม่ว่าจุ๋ยกับพุฒตัดสินใจอย่างไร ท่านโอเคหมด พ่อแม่จุ๋ยก็เหมือนกัน อนุญาตให้เราจัดการกันเอง ชอบอะไร สะดวกแบบไหนก็ทำแบบนั้น ท่านพร้อมซัพพอร์ตอยู่ข้างๆ ขอให้บอกว่าเขาต้องไปกี่โมงหรือต้องทำอะไรบ้างแค่นั้นเอง ซึ่งไม่ใช่ทุกครอบครัวที่จะให้อิสระเราแบบนี้ จุ๋ยโชคดีและมีบุญมากจริงๆ”

พุฒ “ผมรู้สึกคล้ายๆ กัน ทุกครั้งที่เจอพ่อแม่จุ๋ยจะรู้สึกได้รับความรักและความอบอุ่นกลับมา ไม่เคยรู้สึกว่าเราเป็นส่วนเกิน คือไปแล้วเหมือนเป็นคนในครอบครัวจริงๆ”

จุ๋ย “เวลาพุฒไปบ้านจุ๋ย เขาเป็นตัวเองได้เต็มที่ ไม่ว่าอยากทำอะไร อยากพูดอะไรก็ทำได้แบบชิลๆ แล้วเวลามาที่บ้าน พ่อจุ๋ยจะเรียกว่า ไอ้ลูกชายคนเล็กของพ่อมาแล้ว” (ยิ้ม)

ถ้าถามพุฒว่า ภรรยาคนนี้น่ารักอย่างไร

พุฒตอบก่อน “จุ๋ยเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรก ก่อนแต่งงานนิสัยอย่างไร หลังแต่งก็เป็นเหมือนเดิม แต่เหมือนผมได้รู้จักเขาในหลายมิติมากขึ้น และอนาคตที่ไกลกว่านี้ก็เชื่อว่าเราจะได้รู้จักกันในอีกหลากหลายแง่มุม ซึ่งผมยังไม่รู้ว่าจะเจออะไร…”

จุ๋ยฟังแล้วขอแทรกแบบขำๆ “คำถามคือจุ๋ยดียังไง ทำไมฟังดูแปลกๆ ไม่ได้ชื่นชมว่าจุ๋ยทำกับข้าวเก่ง เก็บเงินได้ ดูแลงานบ้านงานเรือนได้ ดีกับคนรอบข้างหรืออะไรแบบนี้”

พุฒหัวเราะ “ก็กำลังจะพูดต่อว่า ไม่ว่าในอนาคตจะดีกว่านี้หรืออาจไม่ดี สิ่งที่อยากบอกคือ ผมรับทุกอย่างที่เป็นจุ๋ยได้”

ขอฟังคำตอบจากจุ๋ยบ้างครับ

“จริงๆ ก็คิดคล้ายกันอีกแล้วค่ะ ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน พุฒเป็นตัวของตัวเองมาตลอด มีความเสมอต้นเสมอปลาย แต่ยิ่งสนิทกันเท่าไรก็ยิ่งกวนมากขึ้น เท่านั้น ช่วงแรกๆ ไม่ค่อยเป็น…”

พุฒขอแทรกพูดบ้าง “อันนี้ดีหรือไม่ดีเนี่ย ชักเริ่มแปลกๆ แล้ว”

“ดีสิ” จุ๋ยหัวเราะแล้วพูดต่อ “ขอตอบแบบพุฒบ้างละกันว่า เราก็คงมีอีกหลายเรื่องให้เรียนรู้กัน และความที่เป็นปุถุชนธรรมดา ก็ต้องมีทั้งมุมดีและไม่ดี ไม่มีใครเพอร์เฟ็กต์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว แต่การที่เราเลือกเขาเป็นสามี แน่นอนว่า 99 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปพุฒจะต้องดี แต่ 0.99 ที่เป็นหลักทศนิยมก็อาจมีเรื่องที่ไม่ดีบ้าง แต่เป็นสิ่งที่จุ๋ยรับได้ เท่าที่พุฒเป็นมาตลอด รวมถึงสิ่งต่างๆ ที่ทำให้กันก็เพอร์เฟ็กต์แล้วสำหรับจุ๋ย”


 

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 943

นั่งผิดชีวิตเปลี่ยน หมอชี้ “นั่งจนชิน” เสี่ยงเป็นโรคร้าย โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศ

account_circle

เร่เข้ามาจ้าเหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศ  เพราะหากคุณ “นั่งจนชิน” หมอชี้อาจเสี่ยงเป็นโรคร้ายได้โดยไม่รู้ตัว!!

งานนี้ ดร.เสถียร สว่างโลก หรือ หมอเปิ่น ผู้บรรยายความรู้ด้านไคโรแพรคติก คลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์สว่างโลก ได้เผยว่า “หนุ่มสาวออฟฟิศต้องระวังหากนั่งผิดท่านานจนเคยชิน จะส่งผลเสียต่อโครงสร้างกระดูกสันหลังและระบบประสาท ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นกระดูกคด กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปัญหาด้านการขับถ่าย รุนแรงจนถึงระดับหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นต้น”

อีกทั้งดร.เสถียรยังเผยอีกว่า จากการสำรวจกลุ่มผู้ป่วยที่มารับการรักษาพบว่าอาการส่วนใหญ่จะปวดตั้งแต่ต้นคอ กลางหลัง ไปจนถึงสะโพก รวมถึงการปวดศีรษะ และมีเสียงสะท้อนในหู ซึ่งสาเหตุมาจากพฤติกรรมการนั่งในรูปแบบต่างๆ ที่ผิดหลักซ้ำจนเกิดความเคยชินและไม่รู้ตัว

โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศ

 

เริ่มจากพฤติกรรมการนั่งยอดฮิต คือ “นั่งทำงาน” โดยเฉพาะในกลุ่มมนุษย์ออฟฟิศที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์วันละไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมง ไม่นับรวมการก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอาการส่วนใหญ่ที่พบ คือ การปวดบริเวณคอและบ่า เนื่องจากการก้มหน้ามองจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าสายตา รวมถึงการใช้กำลังแขนในการพิมพ์งาน บางรายมีอาการปวดร้าวไปจนถึงบริเวณหลังและสะโพก เพราะเวลาที่จดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ จะทำให้ร่างกายเกิดการเกร็งกล้ามเนื้อลำตัว และทิ้งน้ำหนักทั้งหมดไปที่บริเวณสะโพก

การแก้ไขเบื้องต้น คือ การปรับเปลี่ยนวิธีการนั่งใหม่ โดยนั่งให้สุดเก้าอี้ ไม่ควรนั่งเพียงแค่ปลายเก้าอี้ ใช้หมอนรองบริเวณหลังตรงสะโพก ปรับระดับคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา สังเกตเวลาพิมพ์งานจะต้องไม่ก้มหน้า และที่สำคัญคือ ทุกๆ 1 ชั่วโมง จะต้องลุกขึ้นเดินไปมา 3-5 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้ทำงาน

ส่วนพฤติกรรมต่อมาเป็นกิริยายอดฮิตของสาวๆ คือ “นั่งไขว่ห้าง” เพราะหลายคนคิดว่าการนั่งในลักษณะนี้จะทำให้มีบุคลิกภาพที่ดี แต่หากนั่งเป็นเวลานานจะทำให้น้ำหนักลำตัวเทไปที่ก้นข้างใดข้างหนึ่ง ส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณเอว หลัง และเข่า โดยไม่รู้ตัว บางรายเกิดอาการหน้ามืดเวลาลุกขึ้นยืน เพราะเส้นเลือดใหญ่ที่ต้นขาทั้งสองถูกบีบเอาไว้ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก หัวใจทำงานหนักขึ้นกว่าปกติ อีกทั้ง หากนั่งไขว่ห้างจนติดเป็นนิสัย จะส่งผลเสียต่อกระดูกเชิงกรานคดผิดรูป ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการนั่งด้วยท่าดังกล่าว และควรนั่งให้ถูกวิธี คือ นั่งลำตัวตรง ขาทั้งสองข้างชิดกันพอหลวมๆ และปรับเก้าอี้นั่งให้หัวเข่าอยู่ต่ำกว่าเอวเล็กน้อย

“นั่งเท้าคาง” ก็เป็นอีกหนึ่งกิริยาที่สาวๆ ส่วนใหญ่ชอบทำเป็นประจำระหว่างนั่งคิดงาน หรือนั่งพักสายตา แต่รู้หรือไม่การนั่งเท้าคางเป็นประจำมีโทษร้ายแรงต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะมือที่เท้าคางจะไปดันกระดูกบริเวณหน้า ทำให้กรามเบี้ยวไปโดนเส้นประสาท ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน รวมถึงการได้ยินเสียงวิ๊งๆ ในหูตลอดเวลา สาวๆ จึงควรต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมของตัวเองให้ดีและปรับเปลี่ยนอย่างเร่งด่วน ด้วยวิธีง่ายๆ คือ เวลาคิดงานเปลี่ยนจากการคิดในสมอง มาใช้วิธีการจดลงบนสมุด เพราะจะทำให้เราใช้มือเขียนแทนการเท้าคาง หรือหากต้องการพักสายตา ให้เอนศีรษะไปที่พนักเก้าอี้แทน ซึ่งนอกจากจะช่วยหลีกเลี่ยงการเท้าคางแล้วยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณคอจากการก้มหน้าทำงานได้อีกด้วย

สำหรับคุณผู้ชายที่ชอบเอากระเป๋าสตางค์เหน็บไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง และ “นั่งทับกระเป๋าสตางค์” เป็นประจำจนเกิดความเคยชินก็เป็นการทำร้ายร่างกายเช่นกัน เพราะกระเป๋าสตางค์ที่นั่งทับจะทำให้การนั่งไม่สมบูรณ์ การรับน้ำหนักลำตัวของก้นทั้งสองข้างไม่เท่ากัน จึงทำให้กระดูกบริเวณสันหลังและสะโพกเคลื่อนตัวไปรบกวนเส้นประสาท ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะภายใน บริเวณช่วงล่าง ทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ อาทิ ท้องผูก กระเพาะปัสสาวะอักเสบ  การเสื่อมของระบบสืบพันธุ์ ลำไส้อุดตัน ร้ายแรงถึงการเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท เป็นต้น วิธีการแก้ไขง่ายๆ คือ ถือกระเป๋าสตางค์แทนการเอาใส่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง อาจจะมาวางบนโต๊ะ เอาไว้ในลิ้นชักที่ปลอดภัย หรือพกเพียงเงินและบัตรต่างๆ เฉพาะที่จำเป็น ใส่ในกระเป๋าเสื้อแทน

ทั้งนี้ ดร.เสถียร ยังกล่าวต่อว่า “วิธีการรักษาอาการปวดเมื่อยเรื้อรังต่างๆ ที่ดีที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ถูกหลักโครงสร้างของร่างกาย และควรยึดหลักการเดินให้มากกว่านั่ง หาเวลาออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ เล่นโยคะ เพื่อให้ทุกสัดส่วนของร่างกายได้ขยับเคลื่อนไหว ส่วนใครที่เริ่มมีอาการปวดเมื่อยแล้วก็ควรรักษาทันทีอย่าปล่อยไว้


ภาพ : Pexels 

 

 

Sparkle Look! เจ้าหญิงเคท

Sparkle Look! เจ้าหญิงเคท งดงามในเดรสสุดบลิ้งค์ เจิดจรัสราวกับมีสปอร์ตไลท์ส่อง

Sparkle Look! เจ้าหญิงเคท
Sparkle Look! เจ้าหญิงเคท

Sparkle Look! เจ้าหญิงเคท ส่องประกายในเดรสสีเขียวมิ้นท์จากแบรนด์สุดหรูที่ระยิบระยับไปทั้งตัว ราวกับมีแสงสปอร์ตไลท์คอยตามส่องกันเลยทีเดียว

เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (27 ก.พ. 62) ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เสด็จฯ ร่วมงานเลี้ยงตอนเย็น ณ  Empire Music Hall ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศไอร์แลนด์ ทันทีที่เจ้าหญิงเคทเสด็จฯ ลงจากรถก็ต้องว้าวกับลุคสุดหรูที่ส่องแสงแวววับ ด้วยเดรสสีเขียวมิ้นท์จากแบรนด์ระดับไฮเอนด์ของอิตาลีที่สามารถสะกดผู้คนได้อย่างอยู่หมัด รวมถึงเหล่าตากล้องก็ต้องตามแชะภาพกันเป็นแถว

Sparkle Look! เจ้าหญิงเคท

โดยเดรสสุดบลิ้งค์ตัวนี้ถูกดีไซน์ท่อนบนเป็นครอสโอเวอร์แบบไขว้ ด้านล่างเป็นกระโปรงจีบที่ดูคลาสสิก ความยาวเลยเข่าลงมากำลังดี ความวิ้งค์ของตัวเดรสส่องประกายระยิบระยับไปทุกทิศทาง และเมื่อสีเขียวมิ้นท์ผสานกับความวิบวับจึงทำให้เดรสสุดหรูถ่ายทอดความเปรี้ยวปนซ่าออกมาด้วย เรียกได้ว่าเป็นยามค่ำคืนที่ช่างดูสดใสจริงๆ

Sparkle Look! เจ้าหญิงเคท
เดรสจาก Missoni สนนราคา $2,480 หรือประมาณ 77,859 บาท
สร้อยคอและต่างหูจาก Kiki McDonough

นอกจากชุดเดรสตัวสวยจะช่วยให้ลุคของเจ้าหญิงเคทเป็นที่จับตามองแล้ว องค์ประกอบอื่นๆ ต่างก็ทำหน้าที่ได้ดี อย่างกระเป๋าสีนู้ดไซส์พอเหมาะจาก Mulberry และรองเท้าส้นสูงจาก Gianvito Rossi ก็เข้าคู่กันอย่างลงตัว ส่วนเครื่องประดับเจ้าหญิงเคทก็ทรงเลือกสีสันโทนเดียวกับเดรสมาปิดท้ายลุคให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยสร้อยคอและต่างหูสีเขียวอ่อนสุดละมุนมาจาก Kiki McDonough แบรนด์เครื่องประดับที่เจ้าหญิงเคททรงโปรดปราน

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ราคานี้จ่ายไหว? เปิดกรุกระเป๋า ดัชเชสเมแกน ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน

 กระเป๋าหรือแหวน! Jacquemus นำเทรนด์ไอเท็มใบเล็กกลับมาอีกครั้ง แถมไซส์จิ๋วยิ่งกว่าเดิม

โอ้แม่เจ้า ใจหายใจคว่ำ! เคนดัลล์ เจนเนอร์ แซ่บเว่อร์ร่วมงาน Oscar After Party 2019

อยากซื้อต้องรู้! พาส่องข้อมูล ‘Dior Saddle Bag’ กระเป๋าทรงอานม้า อีกหนึ่งรุ่นขึ้นแท่นขายดี

นาทีนี้ต้องซื้อเก็บไว้ 5 กระเป๋า Chanel รุ่นไอคอนิกที่คุ้มค่าแก่การลงทุน

 เช็คข้อมูลก่อนหิ้ว กระเป๋า Chanel Sunset on the Sea หนังโทนสี Ombre ที่ต้องมีสักใบ!

Romantic Style! เจ้าหญิงเคท งดงามสะกดทุกสายตา ในเดรสสีหวานจาก Gucci

แมทช์ลุคเพอร์เฟ็ค! 13 สไตล์ที่เข้ากันได้ดีของ ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์

ต้องฟาดสักใบ! กระเป๋า Chanel Backpack ไอเท็มใหม่ล่าสุดของ ‘ลิซ่า BLACKPINK’


เรื่อง : Hana_แพรวดอทคอม (ฮานะ)

ภาพ : Getty Images , www.kiki.co.uk

Facebook ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ ช่วย Admin กลุ่มดูแลสมาชิกดีขึ้น!

ถึงแม้ว่า Facebook จะมีสมาชิกอยู่นับพันล้านคน แต่รู้ไหมคะว่าทุกคนไม่ได้ใช้ Facebook ทุกวันหรือตลอดเวลานะคะ ในจำนวนนี้มีผู้ใช้ราวๆ 200 ล้านคน ที่ลงชื่อเข้าใช้อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น Facebook จึงต้องพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกมารองรับพฤติกรรมของผู้ใช้อยู่เสมอค่ะ ซึ่งล่าสุดมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จุ๊คิดว่าน่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์กับแฟนๆ ของแพรวที่ใช้ Facebook กันเป็นประจำอยู่แล้ว เลยอยากนำมาอัพเดทให้ทราบพร้อมกันค่ะ

โดยเฉพาะกลุ่มต่างๆ ที่มีสมาชิกอยู่มากมายและยากต่อการจัดการ Facebook ก็พัฒนาฟีเจอร์มาเอาใจมากกว่าเดิม ให้ทุกคนในกลุ่มสามารถดูแลกันเองได้ง่ายมากขึ้น เป็นระบบระเบียบมากขึ้นด้วยค่ะ เริ่มจาก…

  1. ระบบการให้คำแนะนำหรือให้คำปรึกษา

จริงๆ ฟีเจอร์นี้ Facebook มีมาสักพักแล้วนะคะ แต่หลังจากพัฒนาอย่างจริงจัง ก็เตรียมเปิดใช้ก่อนที่อเมริกาเหนือและใต้ในเร็วๆ นี้ คือเมื่อเราเข้ากลุ่มไปแล้ว มีคอนเทนต์หรือคำถามในกลุ่มขึ้นมาเต็มไปหมด ทำให้เลือกอ่านไม่ถูก ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะ Facebook จะจับคู่ที่ปรึกษาส่วนตัวให้เราเอง ตามความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์และความถนัด เราสามารถเลือกปรึกษาสิ่งที่อยากรู้กับกูรูที่ Facebook แนะนำให้ในกลุ่ม ได้สบายๆ เลยล่ะค่ะ

2. Admin ได้ใช้ระบบหาสมาชิกง่ายขึ้น

บางครั้ง Admin ก็อาจจะมีเบลอๆ บ้าง ตามลูกเพจในกลุ่มไม่ทันบ้าง ว่าใครโพสต์อะไรที่ถูกหรือผิด หรือมีใครกดขอเข้ากลุ่มแล้วไม่ได้รับบ้าง ต่อไปไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ เพราะว่า Facebook สามารถให้ Admin นำชื่อของผู้ที่อยากเป็นสมาชิกในกลุ่มไปเสิร์ชเพื่อรับคำร้องขอได้ นอกจากนี้หากมีสมาชิกในกลุ่มโพสต์ข้อมูลที่ไม่เป็นไปตามกฎกติกาของกลุ่ม Admin สามารถแจ้งเตือนได้ทันที ด้วยการค้นหาจากวันที่ของโพสต์นั้นๆ ค่ะ

3. อนุญาตให้บางกลุ่มคิดเงินค่าสมาชิกได้

ฟีเจอร์นี้ค่อนข้างน่าสนใจนะคะ เพราะหลักๆ นอกจากเป็นการคัดสมาชิกเข้ากลุ่มตามที่ Admin ของกลุ่มนั้นๆ ตองการ หรือเฉพาะคนที่สนใจจริงๆ น่าจะช่วยสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงได้ดีทีเดียวค่ะ แต่ Facebook จะเริ่มทดลองการใช้งานกับพาร์ทเนอร์ก่อนนะคะ ซึ่งจุ๊คิดว่าการจะเก็บค่าสมาชิกได้นั้น กลุ่มก็ต้องมีข้อมูลที่ลึก หรือ Exclusive ไว้คอยซับพอร์ตสมาชิกด้วยเช่นกัน อนาคตต้องติดตามฟีเจอร์นี้อย่างใกล้ชิดเลยค่ะ

4. จัดรูปแบบการโพสต์ใหม่

โดยการโพสต์ของ Admin กลุ่มนั้นจะอ่านได้ง่ายขึ้น ชัดเจนขึ้น ในการสื่อสารกับสมาชิกค่ะ เพราะ Facebook สามารถปรับให้ทำตัวหนาได้ ใส่ Quote คำได้ และตั้งหัวข้อต่างๆ ให้อ่านง่ายขึ้นได้ค่ะ

5. กลุ่มสามารถทำงานร่วมกับแบรนด์ได้

ข้อมูลตรงนี้ยังมีไม่มากเท่าไหร่ค่ะ แต่จุ๊เชื่อว่ากลุ่มที่จะได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ อาจจะเป็นกลุ่มที่เปิดเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เฉพาะทางระหว่างสมาชิกด้วยกันอยู่แล้ว อย่างเช่น เรื่อง การเงิน สุขภาพ เป็นต้น จึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือจากแบรนด์เข้ามาช่วยซับพอร์ต เพื่อให้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับสมาชิก ยังไงต้องรอติดตามกันไปยาวๆ เลยค่ะ

จุ๊เชื่อว่าใครที่เป็นสมาชิกกลุ่มที่ตัวเองสนใจอยู่ตอนนี้ ลองเริ่มสังเกตกันได้เลยนะคะ เผื่อว่า Facebook ปล่อยฟีเจอร์ให้คนไทยใช้ได้เร็วขึ้นก็ได้นะคะ

 

 

 

 

 

 

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก

กรมธนารักษ์ เปิดจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกและเหรียญที่ระลึก พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

Alternative Textaccount_circle
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก

กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ จัดทำ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและเผยแพร่พระเกียรติคุณของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ตลอดจนเพื่อน้อมนำจิตใจของปวงชนชาวไทยให้แสดงความรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนทุกหมู่เหล่า รวมทั้งเพื่อความเป็นสวัสดิมงคลของประเทศชาติ

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก

โดยวันนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2562) ณ กระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้จัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 โดยจัดทำขึ้น จำนวน 3 ประเภท ประกอบด้วย

1. เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 3 ชนิดราคา ได้แก่
• เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกทองคำ ชนิดราคา 19,000 บาท ประเภทขัดเงา ราคาจำหน่ายเหรียญละ 40,000 บาท
• เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเงิน ชนิดราคา 1,000 บาท ประเภทขัดเงา ราคาจำหน่ายเหรียญละ 3,000 บาท
• เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา จ่ายแลกเหรียญละ 20 บาท

2. เหรียญที่ระลึก 3 ประเภท ได้แก่
• เหรียญที่ระลึกแพลทินัม (Platinum) จำหน่ายราคาเหรียญละ 1,000,000 บาท
• เหรียญที่ระลึกเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ จำหน่ายราคาเหรียญละ 5,000 บาท
• เหรียญระลึกทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ จำหน่ายราคาเหรียญละ 3,000 บาท

3. เหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ ชนิดบุรุษ และสตรี จำหน่ายราคาเหรียญละ 1,600 บาท

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก

นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ทุกแห่งทั่วประเทศ ในการเปิดเป็นหน่วยรับจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกและเหรียญที่ระลึก โดยกำหนดเปิดรับจองตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม – 4 เมษายน 2562 ณ สถานที่ดังต่อไปนี้
• หน่วยงานของกรมธนารักษ์
• สำนักการคลัง กรมธนารักษ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ
• พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพฯ
• สำนักบริหารเงินตรา ถนนพลโยธิน จังหวัดปทุมธานี
• สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ 76 พื้นที่
• ศาลาธนารักษ์ 1 ถนนราชดำเนิน จังหวัดเชียงใหม่
• ศาลาธนารักษ์ 2 ศาลากลางจังหวัด จังหวัดสงขลา
• ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
• บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
• บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก

โดย 1 คน สามารถจองได้ 1 สิทธิ์ 1 หมายเลขบัตรประชาชนที่แสดงความเป็นบุคคลสัญชาติไทยที่ทางราชการออกให้ ดังนี้

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก
• เหรียญทองคำขัดเงา จำนวน 1 เหรียญ
• เหรียญเงินขัดเงา จำนวน 1 เหรียญ
• เหรียญโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) จำนวนไม่เกิน 20 เหรียญ

เหรียญที่ระลึก
• เหรียญแพลทินัม ไม่จำกัดจำนวน แต่ไม่เกินตามจำนวนผลิต
• เหรียญเงินรมดำพ่นทราย จำนวน 1 เหรียญ
• เหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ จำนวน 1 เหรียญ

กำหนดรับเหรียญ ณ สถานที่สั่งจอง หรือส่งทางไปรษณีย์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป สำหรับเหรียญเฉลิมพระเกียรติ หรือเหรียญประดับแพรแถบ สั่งซื้อที่กรมธนารักษ์ โดยจะแจ้งกำหนดการจำหน่ายให้ทราบต่อไป และรายได้จากการจำหน่ายเหรียญที่ระลึกดังหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
• กรมธนารักษ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระรามที่ 6 โทร. 0-2273-0899-903
• พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ ถนนจักรพงษ์ กรุงเทพฯ โทร. 0-2281-0345-51
• สำนักบริหารเงินตรา ถนนพหลโยธิน จังหวัดปทุมธานี โทร. 0-2565-7900
• ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111
• บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โทร. 1545
• บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด โทร. 0-282-7788


 

ข้อมูลและภาพ : สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station

keyboard_arrow_up