แกรนด์ แอสเสทฯ ยกระดับการท่องเที่ยวบนมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด พร้อมจับมือพันธมิตรธุรกิจ ชวนเที่ยวไทยกับ 6 โรงแรมรีสอร์ทชั้นนำ

แกรนด์ แอสเสทฯ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขภาพ พร้อมดูแลนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ ด้วยบริบทใหม่ด้านสุขอนามัย เพิ่มความมั่นใจด้วยการเป็นครั้งแรกของโรงแรมไทยที่ติดตั้งเครื่อง TytoCare และบริการแพทย์ออนไลน์โดยโรงพยาบาลพญาไท นำโซลูชั่นทันสมัยจากเอไอเอสมาใช้คัดกรองผู้เข้าพัก พร้อมเอาใจนักเดินทางด้วยบัตรกำนัลแทนเงินสดเพิ่มมูลค่าใช้บริการโรงแรมรีสอร์ทหรูได้ 6 แห่งในกรุงเทพ หัวหิน ปราณบุรี ภูเก็ต ตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียราคาพิเศษ ประกันโควิด19 จากทิพยประกันภัย สำหรับผู้ซื้อบัตรกำนัล และสิทธิประโยชน์จากไอซีบีซี และบัตรเครดิตกรุงไทย

กรุงเทพฯ 24 มิถุนายน – แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้  บริษัทชั้นนำด้านการบริหารจัดการโรงแรม และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ได้แถลงถึงความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ โดยมี นายวิชัย ทองแตง ประธานกรรมการ และ นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ร่วมด้วย นพ.อภิรักษ์ ปาลวัฒน์วิไชย ผู้อำนวยการประสานงานฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลกลุ่ม Phyathai- Paolo Medical Campus  นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล  หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)  นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย นายวัน ฮัท โจเซฟ เชีย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายธุรกิจสาขา ธนาคารไอซีบีซี(ไทย) จำกัด(มหาชน) และนางสาวปริม ปัญญาเสรีพร ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต (โรงแรม) บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงถึงความร่วมมือในครั้งนี้

นายวิชัย ทองแตง เปิดเผยว่า นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญขององค์กรเอกชนชั้นนำ ในการจับมือกันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยวันนี้ประเทศไทยได้แสดงศักยภาพในการเป็นประเทศที่สามารถควบคุมและขจัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอันดับสองของโลก ส่งผลให้การเดินทางและจองห้องพักกลับมาคึกคักอีกครั้ง  นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย สำหรับโรงแรมในเครือ แกรนด์ แอสเสทฯ ยังได้ยกระดับการท่องเที่ยวบนมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสูงสุด โดยนักท่องเที่ยวและผู้มาใช้บริการทุกคนจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษด้วยบริบทใหม่ด้านสุขอนามัย และเป็นครั้งแรกในวงการโรงแรมไทยที่มีการนำวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าและเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาสนับสนุน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสัมผัสได้ถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพอย่างแท้จริง ซึ่งมาตรการต่างๆ นอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้ว ยังเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างประเทศอีกด้วย

นายวิทวัส วิภากุล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า แกรนด์ แอสเสทฯ มีความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรใน 2 ด้าน ได้แก่ ด้านความปลอดภัยด้านสุขภาพ  มีการร่วมมือกับ เครือโรงพยาบาลพญาไท  เอไอเอส  และ ทิพยประกันภัย ทั้งการติดตั้งเครื่องมือทางการแพทย์ TytoCare บริการแพทย์ออนไลน์โดยโรงพยาบาลพญาไท นำโซลูชั่นทันสมัยจากเอไอเอสมาใช้คัดกรองผู้เข้าพัก ประกันโควิด-19 จากทิพยประกันภัย ด้านการท่องเที่ยว เราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพันธมิตรชั้นนำ ทั้ง ตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียราคาพิเศษ และสิทธิประโยชน์จากธนาคารไอซีบีซี  และบัตรเครดิตกรุงไทย นอกจากนี้ แกรนด์ แอสเสทฯ ยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยการจัดทำชุดบัตรกำนัลเพิ่มมูลค่า ที่สามารถเลือกใช้บริการโรงแรมและรีสอร์ทระดับห้าดาวได้ถึง 6 แห่ง ทั้งในกรุงเทพ หัวหิน ปราณบุรี และภูเก็ต โดยเป็นโรงแรมในเครือแกรนด์ แอสเสทฯ 5 แห่ง  ได้แก่  ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท,  รอยัล ออคิด เชอราตัน,  เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท กรุงเทพฯ, เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา, เชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า และโรงแรมพันธมิตรอีก 1 แห่งได้แก่ อมาธารา เวลเนส รีสอร์ท ภูเก็ต โดยบัตรกำนัลราคา 6,000 บาท มีมูลค่า 10,000 บาท และบัตรกำนัลราคา 12,000 บาท มีมูลค่า 20,000 บาท ใช้ได้ทั้งห้องพัก รับประทานอาหาร และบริการสปา ซื้อได้ที่โรงแรมทั้ง 6 แห่ง ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 กรกฏาคมนี้ สามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่มียกเว้นวันหยุด จนถึง 23 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สามารถนำบัตรกำนัลไปเลือกใช้กับเชนโรงแรมที่ต่างกันได้

สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขภาพจากเครือโรงพยาบาลพญาไท  นพ.อภิรักษ์ ปาลวัฒน์วิไชย กล่าวว่า เครือโรงพยาบาลพญาไท มีบริการทางการแพทย์เพื่อเสริมความมั่นใจให้ผู้เข้าพัก โดยเป็นครั้งแรกของโรงแรมในเมืองไทยที่จะมีการติดตั้งเครื่องTytoCare” เทคโนโลยีทางการแพทย์ล่าสุดที่สามารถตรวจร่างกายผู้ป่วยเบื้องต้น และส่งข้อมูลสุขภาพ อาทิ ปอด หัวใจ การเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต ช่องปาก ช่องหู ผิวหนัง ไปให้แพทย์วินิจฉัย ควบคู่กับบริการ “Clinic Connect” ปรึกษาแพทย์ทางออนไลน์ได้จากโรงแรม โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล มีความร่วมมือในการจัดการด้านสุขอนามัย และการตรวจคุณภาพอากาศภายใต้ระบบ Indoor Air Quality การวัดคุณภาพอากาศ โดยเป็นการตรวจวัดค่าฝุ่นละออง สารพิษ สารก่อภูมิแพ้ การตรวจวัดอุณหภูมิ ในพื้นที่จุดสำคัญหลักของโรงแรม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อภาวะสุขภาพของผู้เข้าพัก ความปลอดภัยของเครื่องมือเครื่องใช้ในโรงแรม ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์การรับรองโดยกลุ่มโรงพยาบาลพญาไท รวมถึงการอบรมด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยให้พนักงานโรงแรม โดยเฉพาะส่วนงานบริการ ทั้งห้องพัก ห้องอาหาร ห้องประชุม สระว่ายน้ำ และยกระดับความปลอดภัยและการให้บริการอาทิ การอบโอโซนในห้องพัก รถพยาบาลพร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง เป็นต้น

ด้าน นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล เปิดเผยว่า “เอไอเอส” มีความร่วมมือในการนำเสนอโซลูชั่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เข้าพัก โดยนำ “ระบบอ่านอุณหภูมิบนใบหน้า (Thermal Face Recognition)” มาใช้คัดกรองผู้มาใช้บริการโรงแรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการตรวจสอบอัตลักษณ์ใบหน้า ด้วยระบบ Face Recognition ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลอัตลักษณ์และอุณหภูมิที่ตรวจสอบได้ในคราวเดียวกัน และสามารถแสดงจำนวนผู้มาใช้บริการแบบเรียลไทม์ พร้อม “ระบบติดตามตัว (Traveler Tracking Solution)” อุปกรณ์ติดตามการเดินทางของนักท่องเที่ยว ด้วยเทคโนโลยี NB-IoT ทำให้สามารถทราบข้อมูลย้อนหลัง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในกรณีที่ต้องมีการสอบสวนโรค มีระบบสามารถกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังและแจ้งเตือนกรณีที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปในบริเวณดังกล่าว มีปุ่มกดฉุกเฉินแจ้งให้ระบบรับทราบกรณีเกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทั่วไป   สามารถซื้อบัตรกำนัลเงินสดของแกรนด์ แอสเสทฯ ผ่านแอพพลิเคชั่น“จองสบาย” พร้อมมอบส่วนลดเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด อีกด้วย

ผู้ซื้อชุดบัตรกำนัล ยังจะได้รับประกันโควิด-19 จากทิพยประกันภัย โดย ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ทิพยประกันภัย พร้อมมอบความคุ้มครองให้แก่ผู้ใช้บริการโรงแรมที่ซื้อบัตรกำนัลแทนเงินสด ด้วยแผน “ประกันภัยคุ้มครองการติดเชื้อไวรัสโคโรนา” ที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด 100,000 บาท พร้อมค่าชดเชยการเจ็บป่วยด้วยภาวะโคม่าจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา สูงสุด 100,000 บาท และยังมีความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอีก 100,000 บาท  โดยลูกค้าจะได้รับความคุ้มครอง เป็นระยะเวลา 30 วัน

พร้อมกันนี้ แกรนด์ แอสเสทฯ ยังมีความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ เปิดเผยว่า จากความร่วมมือในครั้งนี้ ไทยแอร์เอเชีย ได้มอบบัตรโดยสารราคาพิเศษเส้นทางบินภายในประเทศให้กับผู้ที่จองห้องพักโรงแรมในเครือแกรนด์ แอสเสทฯ เพื่อให้มั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายจะนำเอาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์และบริการมาร่วมกันนำเสนอให้ผู้ที่กำลังวางแผนเดินทางท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือจากพันธมิตรด้านการเงิน ได้แก่ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) โดย นายวัน ฮัท โจเซฟ เชีย เปิดเผยว่า ธนาคารจะมอบสิทธิพิเศษให้ผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคาร ที่ซื้อบัตรกำนัลของแกรนด์ แอสเสทฯ โดยสิทธิพิเศษนี้เฉพาะผู้ถือบัตรเครดิตไอซีบีซีที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งมีทั้งลูกค้าชาวไทย และนักธุรกิจชาวจีนในเมืองไทยซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังในการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวสูง ในส่วนของ บัตรเครดิต เคทีซี โดย นางสาวปริม ปัญญาเสรีพร กล่าวว่า บัตรเครดิตเคทีซี มอบสิทธิพิเศษคุ้มค่า เพื่อให้สมาชิกบัตรได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่พิเศษสุด  โดยผู้ถือบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท เมื่อซื้อบัตรกำนัลของแกรนด์ แอสเสทฯ  จะได้รับส่วนลดทันที 4% หรือ ผ่อนชำระ 0% 5 เดือน สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตที่ซื้อบัตรกำนัลผ่าน KTC World Travel Service Center ระหว่างวันที่ 1-31 กรกฏาคม 2563 สามารถเลือกรับส่วนลดทันที 4% หรือ เลือกผ่อนชำระ 0% นาน 5 เดือน และยังสามารถแลกคะแนนเท่ายอดซื้อ เพื่อเป็นส่วนลดเพิ่มอีก 12% ได้อีกด้วย

‘Wraith Kryptos Collection’ ยนตรกรรมวงกตแห่งรหัสลับ

  • โรลส์-รอยซ์ เชิญชวนลูกค้าให้มาร่วมถอดรหัสลับที่ซ่อนอยู่ภายในยนตรกรรมคอลเลกชันรุ่นใหม่ล่าสุด
  • เรธ คริปโทส คอลเลกชัน (Wraith Kryptos Collection) คือยนตรกรรมที่มาพร้อมกับชุดรหัสลับ
  • มีเพียง 2 คนในโลกเท่านั้นที่รู้คำตอบและความลับเบื้องหลังรหัสดังกล่าว
  • กุญแจไขรหัสลับนี้ถูกใส่ซองปิดผนึกอยู่ในตู้เซฟของประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโรลส์-รอยซ์

โรลส์-รอยซ์ คอลเลกชัน คาร์ส คือศูนย์รวมของศิลปะและทักษะที่งดงามราวบทกวี เนรมิตขึ้นด้วยมือของทีมนักออกแบบที่ประสบความสำเร็จของแบรนด์  เป็นดั่งภาพสะท้อนของความเชี่ยวชาญในศาสตร์และศิลป์ของทีมนักออกแบบ Bespoke Collective อีกทั้งยังเป็นสินค้าสุดพิเศษที่ผลิตขึ้นจำนวนจำกัด โรลส์-รอยส์ คอลเลกชัน คาร์ส ตกแต่งโดยใช้วัสดุที่ดีที่สุด พัฒนาขึ้นด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่มีแรงผลักดันมาจากความหลงใหลและทักษะทางเทคนิค ยนตรกรรมเหล่านี้เข้าถึงจินตนาการของลูกค้าทั่วโลก ร้อยเรียงเข้าเป็นมหากาพย์ของยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

โดยธรรมชาติแล้วความพยายามในเชิงสร้างสรรค์ล้วนมีจุดเริ่มต้นที่การออกแบบ และสำหรับคอลเลกชันใหม่ของ เรธ คริปโทสความหลงใหลในศาสตร์การเข้ารหัส หรือ cryptography ของนักออกแบบท่านหนึ่ง ก็ได้ทำให้ยนตรกรรมเรธกลายเป็นผืนผ้าใบอย่างดีสำหรับการออกแบบที่ละเอียดประณีตและลึกลับ เรธ คริปโทส คอลเลกชัน ซึ่งจะประกอบไปด้วยยนตรกรรมเพียง 50 คัน ได้รวมเอาเขาวงกตแห่งรหัสลับที่ซับซ้อนไว้ภายใต้รูปโฉมที่มีเสน่ห์

คัทริน เลห์มันน์ นักออกแบบบีสโป๊กของโรลส์-รอยซ์กล่าวว่า “ชื่อ คริปโทส (Kryptos) นั้นได้มาจากภาษากรีกโบราณ หมายถึงสิ่งที่มองไม่เห็น ซ่อนเร้น ถูกเข้ารหัส ไปจนถึงสิ่งที่มีอยู่แค่ในตำนาน การเข้ารหัสเป็นกลเม็ดที่มนุษย์รู้จักนำมาใช้ตั้งแต่หลายพันปีก่อน ทั้งในยามสงบและยามสงคราม และเป็นสิ่งที่เหล่าบุคคลที่ปราชญ์เปรื่องที่สุดในโลกหลงใหล ในฐานะนักออกแบบ ดิฉันรู้สึกหลงใหลกับความคิดที่ว่า คุณสามารถส่งข้อความที่มีเพียงคนวงในไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้าใจ โดยใช้สัญลักษณ์ อักษรภาพ และรหัส ทั้งหมดนี้ทำให้การค้นหากุญแจไขรหัสกลายเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจความหมายที่สมบูรณ์ของบางสิ่งบางอย่าง ที่หากมองผ่านๆ แล้วก็อาจเป็นเพียงแค่งานศิลปะชิ้นหนึ่ง”

ยนตรกรรมในชุด เรธ คริปโทส คอลเลกชัน ประกอบไปด้วยสัญลักษณ์ที่ผ่านการเข้ารหัส กระจายไปตลอดทั่วทั้งตัวรถ โดยหวังให้ลูกค้าได้มีความพึงพอใจและความเพลิดเพลิน เสมือนได้ออกเดินทางเพื่อไปค้นหาและพบสิ่งน่าสนใจที่ซ่อนอยู่ สำหรับคนทั่วไป รหัสเหล่านี้อาจจะเป็นเพียงแค่การออกแบบที่ดึงดูดสายตา มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อสุนทรียภาพ และยากที่จะมองให้ออกเป็นรูปร่าง อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองลึกลงไปกว่านั้น และสำหรับคนเพียงไม่กี่คนที่ครอบครองกุญแจไขรหัส การออกแบบนี้คือจุดเริ่มต้นของประสบการณ์ที่นำไปสู่ข้อสรุปที่กระจ่างชัด

มร. ทอร์สตัน มูเลอร์ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวว่า “มันสมองที่ยอดเยี่ยมและเปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบบีสโป๊กของโรลส์-รอยซ์ ได้พิสูจน์ความเป็นเลิศของพวกเขาอีกครั้งหนึ่งแล้ว โดยได้สร้างยนตรกรรมเรธที่ไม่ธรรมดา ร่วมสมัย และทรงพลัง เมื่อได้เห็น เรธ คริปโทส คอลเลกชัน เป็นครั้งแรก เราอาจคิดว่านี่คือสิ่งประดิษฐ์ที่แสดงถึงพลวัต แต่เมื่อมองให้ละเอียด เราจะเห็นชุดข้อความที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้รหัสลับของโรลส์-รอยซ์ ผมตั้งตารอด้วยความตื่นเต้นว่าจะมีลูกค้าของเราท่านใดสามารถถอดรหัสรหัสได้บ้าง”

แท้จริงแล้ว รหัสลับขั้นสุดยอดนี้มีบุคคลเพียง 2 ท่าน ณ Home of Rolls-Royce ในกู๊ดวูดเท่านั้นที่ทราบคำเฉลยและลำดับของรหัสที่สมบูรณ์ ได้แก่ ผู้ออกแบบและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คำตอบนั้นอยู่ในซองปิดผนึกที่เก็บในตู้เซฟของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ณ Home of Rolls-Royce ในกู๊ดวู้ด เวสต์ซัสเซ็กส์ และเราขอเชิญชวนให้ลูกค้าร่วมถอดรหัสผ่านและส่งคำตอบได้ทาง วิสเปอร์ส แอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัยสูงสำหรับสมาชิกครอบครัวโรลส์-รอยซ์เท่านั้น

การเดินทางเพื่อไขรหัส เริ่มต้นที่สัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี ซึ่งประดับอยู่บนฝากระโปรงของยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์มานานกว่าหนึ่งศตวรรษ ที่ฐานของสัญลักษณ์นี้จะพบรอยสลักลึกลับที่ตกแต่งด้วยการเคลือบสีเขียว นอกจากนี้เมื่อมองต่ำลงมาจะเห็นว่าบริเวณแผงกันชนของตัวรถได้ถูกออกแบบขึ้นใหม่ ถือเป็นการปรับเปลี่ยนทั้งบุคลิกและท่วงท่าของยนตรกรรมเรธอย่างแนบเนียนเพื่อให้คอลเลกชันนี้มีเอกลักษณ์พิเศษเป็นของตัวเอง

คู่สีที่สวยงามของคอลเลกชันก็ยังช่วยสื่อเป็นนัยถึงความลับที่ลึกล้ำที่สุดภายในตัวรถ สีภายนอกคือสีเทาเดลฟิก เกรย์ (Delphic Grey) เป็นสีสั่งผลิตพิเศษซึ่งประกอบด้วยสีพื้นคือสีเทาแอนธราไซต์ (solid Anthracite) และเพิ่มเทคนิคพิเศษที่จะเผยให้เห็นเกล็ดของแร่ไมกาสีฟ้าและเขียวเมื่อมีแสงแดดตกกระทบ ลูกเล่นนี้ถูกขับให้เด่นด้วยเส้นโค้ชไลน์แบบคู่ที่วาดด้วยมือ เส้นบนใช้สีคริปโทส กรีน (Kryptos Green) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ในขณะที่เส้นล่างช่วยเล่นแสงเงาด้วยสีเทาเข้ม (Dark Grey)  ทั้งสองสีต่างเป็นคำใบ้ที่เกี่ยวโยงไปถึงรหัสที่ซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร อีกสิ่งหนึ่งที่เข้ามาเติมเต็มความสุนทรีย์ด้านนอกตัวถังรถก็คือล้อแม็กซ์ขัดเงา ตรงกลางเป็นสีเทาออร์บิต เกรย์ (Orbit Grey) ตกแต่งด้วยแถบพินสไตรป์ที่มีสีสัน

เมื่อก้าวข้ามแผ่นป้ายโลหะที่ส่องสว่างเข้าไปยังด้านในของตัวรถ จะพบกับรหัสลับที่แฝงตัวอยู่ในองค์ประกอบต่างๆ สิ่งที่สะดุดสายตาเมื่อเปิดประตูเข้ามาคือเบาะหนังแท้สีเซลบีย์ เกรย์ (Selby Grey) หรือแอนธราไซต์ (Anthracite) ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งไฮไลท์สีคริปโทส กรีน (Kryptos Green) ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อให้เกิดลูกเล่นแบบเมทัลลิก ในส่วนต่อมา ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นคำใบ้ที่ชัดเจนที่สุด คือ องค์ประกอบของรหัสที่ถูกปักลงบนพนักพิงศีรษะของเรธ แทนที่สัญลักษณ์โมโนแกรมตัว R คู่ที่เราคุ้นเคย และเพื่อความเพลิดเพลินของผู้ขับขี่ ในยนตรกรรมยังมีลวดลายที่น่าสนใจวิ่งไปทั่วทั้งแผงหน้าปัดที่แผ่เต็มความกว้างของตัวรถด้านใน

เรธ คริปโทส คอลเลกชัน เพิ่มความรื่นรมย์ให้กับผู้โดยสารด้วยแสงไฟจากเฮดไลเนอร์แบบสองสีที่ทำขึ้นอย่างงดงามและพิถีพิถัน สะท้อนแนวคิดศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกระแสของข้อมูลที่กำลังหลั่งไหล ช่องเก็บของตรงประตูมีไฟส่องสว่าง แต่งด้วยหนังทอของโรลส์-รอยซ์และด้ายสีคริปโทส กรีน เผยให้เห็นแสงสว่างที่ทั้งแนบเนียนและคาดไม่ถึงในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะค่อยๆ จางหายไปบริเวณฐานของช่องเก็บของ ช่องเก็บของตรงกลางได้รับการเย็บอย่างประณีต ล้อไปกับเส้นแนวนอนของช่องเก็บของที่ประตู และยังเป็นการสื่อให้เห็นถึงคุณลักษณะที่เน้นผู้ขับขี่เป็นสำคัญของยนตรกรรมแสนพิเศษคันนี้ด้วย

ชีวิตสีเข้มของ 'เต้ย-จรินทร์พร' ในวัยเลขสาม ตกตะกอนความคิดเพื่อก้าวต่อไป

ชีวิตสีเข้มของ ‘เต้ย-จรินทร์พร’ ในวัยเลขสาม ตกตะกอนความคิดมากขึ้นเพื่อก้าวต่อไป

Alternative Textaccount_circle
ชีวิตสีเข้มของ 'เต้ย-จรินทร์พร' ในวัยเลขสาม ตกตะกอนความคิดเพื่อก้าวต่อไป
ชีวิตสีเข้มของ 'เต้ย-จรินทร์พร' ในวัยเลขสาม ตกตะกอนความคิดเพื่อก้าวต่อไป

คุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ ‘เต้ย-จรินทร์พร’ ชีวิตสีเข้มๆ ในวัยเลยสาม โตขึ้น สงบขึ้น ตกตะกอนความคิดมากขึ้น เพื่อก้าวเดินต่อไปอย่างแข็งแกร่ง

ความอะเมซิ่งสำหรับ “เต้ย – จรินทร์พร จุนเกียรติ” ก็คือ ภาพจำของวันแรกๆ ที่ทุกคนเห็นตอนเธอเป็นเด็กสาวอายุ 17 ปี ว่าเป็นอย่างไร เวลาผ่านไปจนถึงวัย 30 ปี ความน่ารักสดใสเปี่ยมพลังของเธอก็ยังคงเหมือนเดิมอย่างนั้นไม่มีเปลี่ยน

ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตปริญญาโทอีกครั้งนะคะ

“ขอบคุณค่า (ยิ้ม) ในที่สุดก็ทำสำเร็จ เรียนจบปริญญาโท สาขาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลแล้วค่ะ (ยิ้มกว้าง) จริงๆ เต้ยอยากจบตั้งนานแล้ว แต่ด้วยงานและเวลาหลายๆ อย่าง ซึ่งปีนี้เวลาบังคับ (ปีที่ 5) ว่าต้องจบแล้วจริงๆ บวกกับสถานการณ์โควิด เลยทำให้มีเวลาว่างทำวิทยานิพนธ์จนสำเร็จ ในหัวข้อ ‘พฤติกรรมการอนุรักษ์เต่ามะเฟืองของประชาชนในตำบลท้ายเหมือง จังหวัดพังงา’ ค่ะ (ยิ้ม)

“ต้องเล่าจุดเริ่มต้นของการเรียนปริญญาโทก่อนค่ะ คือเมื่อประมาณ 5 ปี ที่แล้วที่เต้ยและอเล็กซ์ (อเล็กซ์ เรนเดลล์) ได้รู้จักกับครูกต (ดร.อลงกต ชูแก้ว) ตอนที่เต้ยช่วยช้างขวัญเมืองที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เขาใหญ่ จากนั้นมีโอกาสไปดำน้ำกับครูกตที่พังงา ซึ่งไม่ใช่เพื่อความสนุกเพียงอย่างเดียว แต่ครูพาเด็กๆ ดำน้ำไปเรียนรู้โลกใต้ทะเล เพื่อศึกษาและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

“การดำน้ำครั้งนั้นทำให้เต้ยตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉันชอบธรรมชาติ ชอบไปเที่ยว ชอบดำน้ำ แต่ไม่รู้เรื่องการอนุรักษ์เลย เต้ยกับอเล็กซ์เห็นตรงกันว่า เรามาทำอะไรด้วยกันเถอะ จึงเกิดเป็นค่าย EEC โดยนำสิ่งที่ครูกตสอนมาขยายความจริงจัง และความที่ EEC เป็นองค์กรที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เต้ยกับอเล็กซ์จึงคิดว่าเราควรไปเรียนต่อด้านนี้เพิ่มเติมด้วย เพื่อเสริมองค์ความรู้ให้แข็งแรงขึ้นแบบเจาะลึก จนมาถึงช่วงที่ต้องทำวิจัย ต้องเดินทางไปเก็บข้อมูลด้วยตัวเอง ซึ่งช่วงนั้นเต้ยยังมีงานหลายอย่าง ติดถ่ายละครด้วย จึงใช้เวลานานหน่อยกว่าจะเรียนจบ” (ยิ้ม)

ชีวิตสีเข้มของ 'เต้ย-จรินทร์พร' ในวัยเลขสาม ตกตะกอนความคิดมากขึ้นเพื่อก้าวต่อไป

งานของเต้ยใน EEC เป็นประมาณไหน

“ช่วงแรกเต้ยกับอเล็กซ์ทำกันเองหมดทุกอย่างเลยค่ะ ทุกอย่างจริงๆ นะ ตั้งแต่ทำโลโก้ ออกแบบภาพรวม เต้ยดูแล Art Direction ทั้งหมดขององค์กร ทำเฟซบุ๊ก ไอจี เว็บไซต์ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการสื่อสาร รวมทั้งคิดว่าควรมีคอร์สเรียนอะไรบ้าง จนถึงการติดต่อประสานงาน อย่างติดต่อหาสถานที่พักเวลาจะพาเด็กๆ และผู้ปกครองไป เรื่องบัญชีก็ต้องเรียนรู้ด้วยว่าต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง คือดูแลด้านการจัดการเป็นหลักค่ะ

“ตอนนั้นเราสองคนคิดเหมือนกันว่าในการจะเริ่มทำอะไรสักอย่างควรต้องรู้ดีเทลจริงๆ เหมือนการปลูกต้นไม้ต้องมุ่งให้รากแข็งแรงก่อน จึงทำกันเองทุกอย่าง อย่างเวลาไปออกค่าย เมื่อก่อนเต้ยจัดเตรียมของ แบกของ จนถึงล้างจาน ฯลฯ เพื่อจะได้รู้ปัญหาในทุกจุด ส่วนเรื่องการเรียนการสอนก็ยกให้เป็นงานของครูอลงกตไป

“ขณะที่อเล็กซ์รับหน้าที่ Managing Director และตอนนี้เป็น CEO ดูภาพรวมทั้งหมด เรามีทีมงานประมาณ 20-30 คนที่คอยดูแลงานในส่วนต่างๆ (ยิ้ม) เต้ยเป็น Co-founder และเป็นเหมือนที่ปรึกษาเวลามีเรื่องที่ต้องช่วยกันตัดสินใจ สำหรับด้านการบริหารจัดการคน เต้ยเน้นการใช้ Soft Side ของตัวเอง ในการแก้ปัญหา ซึ่งจริงๆ ปัญหาส่วนใหญ่อเล็กซ์จัดการได้เองอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าเจอเรื่องที่ใหญ่จริงๆ หรือต้องการอีกเสียงช่วยตัดสินใจ เต้ยก็จะช่วยตรงนั้น โดยมองจากมุมนอกเข้าไป เพราะบางครั้งอเล็กซ์เขาอยู่ใกล้เกินไป อาจมองไม่เห็นในบางมุม เต้ยก็จะช่วยมอนิเตอร์ดูอยู่รอบๆ เรียกว่าคอยช่วยอยู่เบื้องหลัง ประมาณนั้นค่ะ” (ยิ้ม)

สถานะความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปมีผลกับการทำงานไหม

(ส่ายหน้า) “เหมือนเดิมทุกอย่างค่ะ เราค่อนข้างแฮ็ปปี้มาก (ยิ้ม) เพราะเต้ยกับอเล็กซ์ไม่ได้ใช้ความรู้สึกด้านอารมณ์มาปน เราแยกได้ ไม่มีว่าเลิกกันแล้ว ต้องไม่คุยไม่คบ เราไม่เคยคิดไม่ดีต่อกันเลย ที่สำคัญคือ ไม่ดราม่าใส่กัน เพราะฉะนั้นการทำงานด้วยกันจึงค่อนข้างชิลมากค่ะ และเต้ยก็เชื่อว่าอเล็กซ์เขาเก่งมากอยู่แล้ว (ยิ้ม)

“อย่างล่าสุดเขาเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นทูตสันถวไมตรีแห่งชาติด้านสิ่งแวดล้อมคนแรกของไทยจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เต้ยดีใจกับเขามากๆ เพราะเขาพร้อมอยู่แล้ว ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท นี่เป็นสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับเขามากเลยค่ะ” (ยิ้ม)

ชีวิตสีเข้มของ 'เต้ย-จรินทร์พร' ในวัยเลขสาม ตกตะกอนความคิดมากขึ้นเพื่อก้าวต่อไป

การทำงานบันเทิงตั้งแต่อายุ 17 จนถึงตอนนี้เปลี่ยนไปอย่างไรบ้างคะ

“สำหรับในวงการบันเทิง เต้ยไม่รู้จริงๆ ว่าจะตั้งเป้าตัวเองอย่างไรดี ถ้าในแง่รางวัลเราก็เคยได้รับ ละครและภาพยนตร์ก็เล่นมาหลายบทบาท และบางครั้งเราไม่ได้เป็นคนกำหนดงานของตัวเอง แต่มาจากผู้ใหญ่เลือกให้ รวมทั้งผู้จัดละครและลูกค้า

“อย่างเมื่อก่อนเคยคิดว่าในอนาคตอยากเป็นผู้กำกับหรือผู้จัดฯ แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบให้ตัวเอง รู้แค่ว่าเราแฮ็ปปี้กับสิ่งที่ทำอยู่ในช่วงเวลานั้นๆ อย่างเร็วๆ นี้กำลังจะมี Youtube Channel ชื่อ เต้ย จรินทร์ ซึ่งคิดมานานมากแล้วว่าทำดีไหม คนรอบข้างทุกคนเชียร์ให้ทำ แต่ที่ลังเลเพราะเต้ยรู้สึกว่าถ้าไปเที่ยวแล้วต้องถือกล้องถ่ายตัวเองตลอดจะทำได้เหรอ แต่สุดท้ายก็ขอลองดูค่ะ

“เพราะจริงๆ แล้วเต้ยอยู่ได้ด้วยแพสชั่นประมาณหนึ่ง เวลาที่ทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ ก็เป็นธรรมดาที่รู้สึกเบื่อบ้าง แต่ไม่ได้ท้อนะ ก็แค่หาอะไรอย่างอื่นทำเพิ่ม สำหรับงานการแสดงคงพักไม่ได้ ต้องทำไปเรื่อยๆ ใช้วิธีปรับมุมมองใหม่ๆ ถ้ารู้สึกเบื่อก็ลองชาลเลนจ์ตัวเองดู แม้บทอาจจะคล้ายเดิม แต่เราลองหามุมใหม่ๆ ให้ได้ท้าทายตัวเอง มันก็สนุกขึ้นนะ ซึ่งการแสดงมีความแปลกอย่างหนึ่งนะคะ ถ้าตั้งใจเกินไปก็ไม่ดี ไม่ตั้งใจเลยก็ไม่ได้ ประมาณว่าต้องตั้งใจแบบไม่ตั้งใจ (หัวเราะ) ฉะนั้นต้องทำการบ้านมาให้แน่น ซึ่งก็คือความตั้งใจ แต่พออยู่หน้าเซต เราจะต้องปล่อยให้ตัวละครไหลลื่นไปเอง ซึ่งที่ผ่านมาเต้ยสู้กับตัวเองตลอด อยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดก็ได้รับบทที่สนุกมากๆ ในเรื่อง ทุ่งเสน่หา ทำให้รู้สึกว่าแพสชั่นที่เริ่มจะมอดกลับมาลุกโชนใหม่อีกครั้ง

“เรื่องนี้ตัวละครมีพัฒนาการชีวิตค่อนข้างเยอะ เต้ยจึงต้องทำการบ้านมากๆ ปกติเต้ยท่องบทก่อนไปถึงกองอยู่แล้ว หมายถึงว่าท่องให้แม่นตั้งแต่ก่อนวันถ่าย เพราะไม่อยากให้เวลาทำงานจริงแล้วคนอื่นต้องมารอเพราะเราพูดไม่ได้ อารมณ์ไม่มา เทคนิคของเต้ยคือ เติมสีให้ตัวละครไว้ในบทแต่ละช่วง เพื่อแทนความรู้สึกและความคิดในช่วงเวลานั้น เช่น ตัวละครยุพินช่วงแรกอาจเป็นสีชมพูสดใส แต่พอเวลาผ่านไปเริ่มมีสีอื่นเข้ามาผสม อย่างสีน้ำเงิน สีเทา เพราะบางครั้งเต้ยถ่ายละคร 2 เรื่องพร้อมกัน เรื่องหนึ่งเป็นเหมือน กระต่าย มีความซอฟต์มาก อีกเรื่องสตรองเชียว ฉะนั้นเราต้องแยกให้ออกว่าตัวละครแต่ละตัวกำลังรู้สึกอย่างไร ผ่านอะไรมาบ้าง โดยดูจากสีที่เราแต้มไว้ในบท”

แล้วชีวิตจริงตอนนี้เต้ยเป็นสีอะไรคะ

“….มีหลายสีเลยค่ะ แต่ออกไปทางโทนเข้มๆ หนักๆ หน่อย อย่างสีเอิร์ธโทน สีคราม หรือสีที่ดูนิ่งสงบ คือไม่ได้เจอเรื่องหม่นหมองนะ แต่เหมือนเริ่มตกตะกอนอะไรหลายๆ อย่างในชีวิต แต่ก็ยังต้องตกตะกอนไปอีกเยอะเลย

“หลายคนอาจจะดูเหมือนเต้ยเป็นสีรุ้งใช่ไหม แน่นอนว่ามุมร่าเริงก็มีค่ะ เพียงแต่ค่อนไปทางจริงจังและมุ่งมั่นมากกว่า และจริงๆ แล้วเบื้องลึกค่อนข้าง Introvert (เก็บตัว) การชาร์จพลังของเต้ยคือการอยู่นิ่งๆ ได้เห็นต้นไม้งอกออกมาทีละนิด นี่คือสิ่งที่ทำให้มีความสุขมาก เต้ยรู้สึกว่าการที่ได้อยู่นิ่งๆ เหมือนเราได้เคลียร์ใจ เต้ยเชื่อว่าทุกคนมีถังขยะในตัวเอง พอเจอเรื่องนู่นนี่นั่นก็จะเก็บมาใส่ในถังไว้ ฉะนั้นการชาร์จพลังของเต้ยคือการกลับมาอยู่กับตัวเอง แล้วดูว่าตอนนี้เรามีขยะอะไรบ้าง เพื่อหยิบทิ้งออกไป ให้จิตใจได้พัก และโล่งขึ้น

“หลายคนบอกว่าเต้ยชอบคิดชอบทำอะไรแก่ๆ (หัวเราะ) ชอบอยู่นิ่งๆ เข้าวัดปฏิบัติธรรม จึงคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นสีคราม สีน้ำตาลอ่อน สีเบจ แล้วก็มีสีเหลืองปนนิดหน่อย (ยิ้ม) แบบบาลานซ์ทั้งเรื่องจริงจังและความสนุก”

ชีวิตสีเข้มของ 'เต้ย-จรินทร์พร' ในวัยเลขสาม ตกตะกอนความคิดมากขึ้นเพื่อก้าวต่อไป

ปีนี้เข้าสู่เลข 3 แล้ว เป็นอย่างไรบ้าง

“เปลี่ยนไปเยอะมากค่ะ ช่วง 25-30 ของเต้ยมีความซัฟเฟอร์หนัก ซึ่งหลายคนก็น่าจะเป็นเหมือนกัน คือต้องการหาตัวเอง แบบว่าเราต้องมีโน่นมีนี่ มองหาความมั่นคงอะไรบางอย่าง

“พอปีนี้อายุ 30 แล้ว เต้ยคิดว่าเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้วนะ จึงเป็นปีที่เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน จากเมื่อก่อนตั้งโกลระยะสั้นๆ เพราะเวลาตั้งเป้าสั้นๆ แล้วทำสำเร็จ เราจะแฮ็ปปี้ แตพอยิ่งโตขึ้น ด้วยอายุ ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้เรามีช่องว่างของเป้าหมายกว้างขึ้น เช่น เมื่อก่อนเป้าสั้นๆ ของเต้ยคือซื้อรถให้คุณพ่อ ซื้ออะไรให้คนนี้คนนั้น แต่พอ 25 เป้าหมายใหญ่ขึ้น ต้องใช้เวลานานขึ้น อย่างสร้างบ้าน เรียนปริญญาโท ความรู้สึกคล้ายกับที่กว่าต้นไม้จะออกผล ต้องใช้เวลา และปีนี้บ้านสร้างเสร็จ เรียนจบปริญญาโทสำเร็จ ก็ถือว่าแฮ็ปปี้ค่ะ (ยิ้ม)

“เพราะจริงๆ แล้วเต้ยเป็นคนจริงจัง และยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุ จนช่วง 28 29 30 คือจริงจังแบบพีคสุดๆ ค่อนข้างซีเรียสนะคะ (หัวเราะ) เรียกว่ามีความมุ่งมั่นมากกว่า ชอบก้าวไปข้างหน้าอยู่ตลอด ชอบพัฒนาตัวเองเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ประมาณหนึ่ง แต่พอเราเรียนรู้มาเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าบางอย่าง ถ้าเราอยากได้มากๆ ก็อาจจะไม่ได้ แต่ถ้าลองนิ่งแล้วมองดูดีๆ มันอาจจะอยู่ตรงนั้นแล้วก็ได้ ทำให้เราต้องกลับมามองและเรียนรู้ตัวเองจริงๆ ว่าชีวิตเราต้องการอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นแน่ๆ คือ เต้ยเรียนรู้ผู้คนมากขึ้น การเห็นอกเห็นใจผู้อื่น รวมถึงการเรียนรู้ข้างในใจของเราเองและสนุกกับการได้มองเห็นมุมมองต่างๆ จากปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตค่ะ

“เพราะเต้ยทำงานมาตั้งแต่เด็ก ชอบหาอะไรใหม่ๆ ทำ ตั้งแต่ EEC ทำเสื้อผ้า ทำแหวนขาย และช่วงปลายปีนี้ก็กำลังจะเปิดธุรกิจใหม่ด้วย แต่ยังบอกไม่ได้ (ยิ้ม) ทั้งหมดนั้นทำให้ได้เรียนรู้การแก้ปัญหาใหม่ๆ อยู่ตลอด ทั้งจากคนอื่นและตัวเอง เช่น ที่ผ่านมาเราเคยรับมือกับปัญหานี้อย่างไร และวันนี้เรารับมือกับปัญหาแตกต่างไปจากเดิมหรือไม่ อย่างไรบ้าง

“ซึ่งนี่คือเป้าหมายต่อไปในชีวิตของเต้ย คือการรวบทุกอย่างใน 30 ปีที่ผ่านมา เหมือนการจัดชั้นวางของในตัวเราใหม่ให้เรียบร้อยขึ้น เพื่อที่จะก้าวต่อไปสู่อีกสเต็ปของชีวิตให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเรานิ่งขึ้นกว่าเดิม มองเห็นภาพหลายๆ อย่างชัดกว่าเดิมแล้ว การตัดสินใจจะดีขึ้นกว่าเดิม”

เวลามีปัญหาปรึกษาใคร

“ชอบปรึกษาแก๊งพี่ๆ ค่ะ อย่างพี่โอปอล์ (ปาณิสรา อารยะสกุล) ที่พร้อมจะคุยกับเราได้ทุกเรื่องจริงๆ ส่วนใหญ่เรื่องที่ทำให้เต้ยเครียดคือเรื่องความรับผิดชอบที่เต้ยยึดถือมาตั้งแต่เด็ก ทั้งงาน ธุรกิจ ครอบครัว

“แต่ที่ทำให้รู้สึกเครียดจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องคนค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ อย่างความคิดเห็นของคน ทุกวันนี้เต้ยยังไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองฟื้นคืนชีพจากเหตุการณ์นั้นหรือยัง (จากข่าวเรื่องความรัก) มันยากมากจริงๆ เพราะเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้”

ชีวิตสีเข้มของ 'เต้ย-จรินทร์พร' ในวัยเลขสาม ตกตะกอนความคิดมากขึ้นเพื่อก้าวต่อไป

หมายถึงคอมเมนต์ต่างๆ ในโซเชียล

“ใช่ค่ะ ซึ่งจริงๆ เต้ยคิดว่าตัวเองก็โชคดีระดับหนึ่งแล้วนะที่โดนไม่เยอะ แต่พอตอนโดนก็เจ็บมากนะ เพราะเต้ยค่อนข้างแคร์คนอื่น ก่อนหน้านั้นเคยโดนมาแล้วรอบหนึ่ง ก็พยายามทำความเข้าใจว่าเราไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้ นานาจิตตัง แล้วแต่คนคิด ซึ่งพอคิดแบบนั้นได้ ก็เรียนรู้ที่จะปล่อย ไม่เอาใจไปจับ ไม่โฟกัสกับคอมเมนต์ต่างๆ แค่ทำตัวเองให้ดีก็พอ ซึ่งเต้ยก็อยู่อย่างนั้นมายาวๆ เลยนะ กระทั่งโดนอีกรอบ ชีวิตเลยสะดุด แต่ตอนนี้ก็โอเคขึ้นแล้ว ถือเป็นอีกสิ่งที่เราได้เรียนรู้ และรู้ว่าสมัยนี้รุนแรงกว่าเมื่อก่อนมาก (ยิ้ม)

“เต้ยเคยคุยกับคนในวงการหรือคนที่รู้จัก อย่างบางคนที่ดูสตรองมากๆ เวลาเจอคอมเมนต์ร้ายๆ เขาก็เจ็บนะ เต้ยเชื่อว่าไม่มีใครที่โดนแล้วจะไม่รู้สึกหรอก แม้กระทั่งคนที่คอมเมนต์เอง ถ้าเขาโดนบ้างก็ต้องรู้สึก แต่ทำไมผู้คนยังปาเรื่องเหล่านี้ใส่กัน ทั้งที่เวลาโดนเราก็เจ็บเหมือนกัน”

แล้วกับแก๊งเพื่อนๆ คนอื่นๆ ล่ะคะ

“เจมส์ก็ใช่ค่ะ วันนี้จึงดีใจมากที่ได้ทำงานด้วยกันอีกครั้ง เพราะไม่ได้เจอกันนานเลยค่ะ ล่าสุดตั้งแต่ตอนไปเล่นสโนว์บอร์ดด้วยกันที่ญี่ปุ่น จากนั้นพอเป็นช่วงกักตัวก็มีโทรศัพท์คุยกันบ้างนิดหน่อย เต้ยรู้จักกับเจมส์มานานหลายปี ตั้งแต่ตอนที่น้องเพิ่งเข้าวงการและได้เล่นหนังด้วยกัน เจมส์เป็นน้องคนหนึ่งที่เต้ยรักค่ะ เราคุยกันได้ในหลายๆ เรื่อง และเขาก็เป็นคนที่รู้เรื่องของเต้ยเยอะด้วย (หัวเราะ) เต้ยเอ็นดูเจมส์นะ คือรักนางแหละ (ยิ้ม)

“ส่วนสาวๆ แก๊งเฟอร์บี้เรามาสนิทกันตอนทำงานของช่อง 3 ส่วนใหญ่จะนัดสังสรรค์ เป็นสายเฮฮา อีกแก๊งที่สนิทมานานมากๆ คือแก๊งญาติมิตร อย่างพี่โอปอล์ รู้จักกันมากว่า 10 ปีแล้ว พี่อ้อม (สุนิสา สุขบุญสังข์) ก็รู้จักกันตั้งแต่เต้ยเข้าวงการใหม่ๆ พี่จ๋า (ยศสินี ณ นคร) พี่ป๋อมแป๋ม (นิติ ชัยชิตาทร) เวลาเจอจะมีเรื่องคุยกันประมาณล้านหัวข้อ (หัวเราะ)

“เต้ยเคยฟังที่พี่นิ้วกลม (สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์) บอกว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องถ่ายเทความรู้สึกซึ่งกันและกัน การที่เราไม่ได้พูดออกมาก็เหมือนเราไม่ได้เทถังขยะ ซึ่งวันหนึ่งมันอาจจะระเบิดได้ ฉะนั้นเราต้องหมั่นทบทวนตัวเอง เทถังขยะ และคุยกับใครสักคนเพื่อเปิดมุมมองของตัวเองให้เพิ่มขึ้น รับฟังความคิดของคนอื่น

“เต้ยรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่มีคนรอบข้างเป็นแรงบันดาลใจที่ดี เวลาเจอกันก็มีแต่จะส่งพลังบวกให้กัน มีความสุขและสบายใจ เต้ยเชื่อว่าชีวิตของคนเราต้องมี Safe Zone หรือมีใครที่ไว้ใจได้จริงๆ สำหรับให้เราเล่าอะไรได้ให้เราเป็นตัวเองได้อย่างสบายใจ ซึ่งเต้ยโชคดีที่มีตรงนี้ มีคนที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่อง คิดแบบไหนก็พูดออกมา โดยเราอาจไม่ต้องเป็นคนดีเต็มร้อย แต่เป็นตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และเป็นการได้ทบทวนตัวเองด้วย อย่างที่บอกไปว่า เต้ยกำลังจัดชั้นวางของในตัวเองใหม่ เตรียมพร้อมสำหรับก้าวต่อไปของชีวิตค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 960

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

8 ปี บนเส้นทางมายา ‘เจมส์-จิรายุ’ ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

เปิดดวง12 ราศีครึ่งปี 2563 กับพยากรณ์หนุ่มสุดหล่อ”หมอแชมป์”เงิน งาน ความรัก ปังหรือแป้ก!

ชีวิตบนความคาดหวัง เผยแผลศัลยกรรมตาสองชั้นของ ‘หมอรวงข้าว’

เทรนด์ชุดเจ้าสาว จากร้าน The Classic Studio & Planner สวยหรูดูมีระดับ

account_circle

เทรนด์ชุดเจ้าสาว สวยหรูดูมีระดับ จากร้าน The Classic Studio & Planner

ก่อนหน้านี้ลูกเล่นบนชุดแต่งงานมีทั้งโบ, ชุดแต่งงานเฉดสีต่างๆ, ชุดแต่งงานแบบกางเกง และชุดแต่งงานประดับดอกไม้ ซึ่งเทรนด์เหล่านี้ก็จะยังไม่ได้หายไปไหนเรายังจะได้เห็นอีกในปี 2020 ไปจนถึงปีหน้า และนี่คือ เทรนด์ชุดเจ้าสาว จาก The Classic Studio & Planner ที่เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่ต้องการความเรียบหรู ดูดี คลาสสิคไม่มีตกยุค

เทรนด์ชุดเจ้าสาว

เทรนด์ชุดเจ้าสาว

เทรนด์ชุดเจ้าสาว

ดูแบบชุดแต่งงาน The Classic Studio & Planner เพิ่มเติม คลิกเลย!

เสื้อผ้า : The Classic Studio & Planner
ถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ)
โทร. 0-2381-4959 กด 0
เว็บไซต์ : www.theclassicstudio.co.th
เฟซบุ๊ก : The Classic Studio & Planner

ต้องมนตร์ขลัง จิเวลรี่จาก ศิลปะแลคเกอร์ (ญี่ปุ่น) งานแฮนด์เมดฝีมือชั้นเยี่ยม

account_circle

ต้องมนตร์ขลัง จิเวลรี่จาก ศิลปะแลคเกอร์ (ญี่ปุ่น) งานแฮนด์เมดฝีมือชั้นเยี่ยม สู่งานศิลปะที่เสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ

นอกจากงานศิลปะแลคเกอร์ (ญี่ปุ่น) จะปรากฏอยู่ในของประดับตกแต่งบ้านสุดหรูในคอลเล็คชั่น Eastern Curiosities – Lacquer Collection จาก โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ แล้ว ทางแบรนด์ยังได้รังสรรค์งานศิลปะชั้นสูงให้มาอยู่ในรูปแบบของงานจิเวลรี่ที่มีความวิจิตร งดงาม ที่สำคัญคือมีหนึ่งเดียวในโลกอีกด้วย

สำหรับคอลเล็คชั่น Eastern Curiosities – Lacquer Collection ทางแบรนด์โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ ได้รังสรรค์ศิลปะแลคเกอร์ออกมาในรูปแบบเครื่องประดับ อาทิ

ศิลปะแลคเกอร์

Japanese Lacquer Bangle with Pink Tourmaline Frog กำไลเคลือบญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยลวดลายใบบัว เพิ่มความเก๋ด้วยรูปกบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของน้ำและความอุดมสมบูรณ์ ประดับ ทัวร์มาลีน สีชมพู 1.15กะรัต และดวงตาของกบประดับด้วยเพชร 0.11 กระรัต เจียระไนทรงโรส-คัท

ศิลปะแลคเกอร์

Japanese Maki-e Lacquer Ring with Diamond and Emerald แหวนไม้ญี่ปุ่น โดยใช้เทคนิคมากิ-เอะ แลคเกอร์ การสร้างลวดลายด้วยการโรยผงทอง ผสานกับเทคนิคเรเด็น แลคเกอร์ การสร้างลวดลายโดยการประดับด้วยมุก (เปลือกหอยมุก) โดดเด่นด้วยลายหางนกยูง สัญลักษณ์แห่งความสุขและความสง่างาม ประดับด้วยเพชร 0.01 กะรัต และมรกต 0.07 กะรัต

Teak Wood Loop Necklace with Japanese Lacquer Centerpiece สร้อยคอไม้สักพร้อมจี้สไตล์ญี่ปุ่น ดีไซน์เก๋ด้วยลวดลายใบเมเปิ้ลหลากสี ตกแต่งด้วยเพชร 1.64 กะรัต ทัวร์มาลีน สีชมพู 1.61 กะรัต ซึ่งชาวญี่ปุ่นเรียกใบเมเปิ้ลว่า Momiji หมายถึง ใบไม้เปลี่ยนสี ดึงดูดสายตาด้วยเปลือกหอยมุกแกะสลักเป็นรูปงูสามตัวพันเกี่ยวกันเป็นเกลียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจและสติปัญญา

Cinnabar Lacquer Earrings with Dangling Pearls and Black Agate ต่างหูสีแดงชาด ศิลปะแลคเกอร์สไตล์จีน (ไชนีส ซีนาบาร์ แลคเกอร์) สวยเด่นด้วยลวดลายแกะสลักลายน้ำเต้า ซึ่งชาวจีนเชื่อว่า น้ำเต้าเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี เพิ่มความหรูหราด้วยการประดับเพชร น้ำหนักรวม 4.02 กะรัต โดดเด่นด้วยโคมระย้าไข่มุกน้ำจืดประดับ แบล็คอาเกต (Black Agate) เป็นหินที่นำโชคด้านชัยชนะ

Cinnabar Lacquer Earrings with Diamond ต่างหูสีแดงชาด ศิลปะแลคเกอร์สไตล์จีน (ไชนีส ซีนาบาร์ แลคเกอร์) สวยเด่นด้วยลวดลายแกะสลักลายใบน้ำเต้า ประดับด้วยเพชรเจียระไนทรง โรส-คัท น้ำหนักรวม 1.88 กะรัต

Antique Japanese Fan Necklace สร้อยคอดีไซน์เก๋ รูปทรงพัดโบราณญี่ปุ่น ตกแต่งด้วยศิลปะแลคเกอร์สไตล์จีน (ไชนีส ซีนาบาร์ แลคเกอร์) ประดับมุก และเพชร 11.310 กะรัต ตรงกลางประดับด้วยมรกต 1.060 กะรัต สำหรับชิ้นงานศิลปะแลคเกอร์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นของสะสมของรอล์ฟ วอน บูเรน นั้นมีหลากหลายชิ้นแต่ละชิ้นมีอายุยาวนานแต่ยังคงความสวยงดงามจนน่าครอบครอง


 

คิมเบอร์ลี่ ผมสั้น

ลุคใหม่สุดชิล “คิมเบอร์ลี่” หั่นผมสั้นทำสีประกายธรรมชาติ หน้าเด็กลงแต่ดูเปรี้ยวขึ้น

Alternative Textaccount_circle
คิมเบอร์ลี่ ผมสั้น
คิมเบอร์ลี่ ผมสั้น

ลุคใหม่สุดชิล คิมเบอร์ลี่ ผมสั้น ทำสีเป็นแบบประกายธรรมชาติ กระชากวัยให้ดูหน้าเด็กลง แต่กลับดูเปรี้ยวขึ้นไม่เบา

ไหนๆ ก็ปิดกล้องละครเรื่องใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว ไม่รอช้านางเอกสาวสวย คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ ก็เลยขอหั่นผมสั้น อัพลุคใหม่กระชากวัยกว่าเดิม ซึ่งก็นับว่าเป็นลุคที่แปลกตามาก ถ้าไม่รวมการเมคโอเวอร์ลุคผมสั้นที่เคยเห็นผ่านๆ มา เรียกได้ว่านี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้าวงการมา ที่สาวคิมหันมาหั่นผมสั้นขนาดนี้

และ คิมเบอร์ลี่ ยังได้โพสต์แซวตัวเองในลุคนี้ว่า “What’s her name again?” พร้อมข้อความขอบคุณทีมที่มาอัพลุคใหม่ให้เธอว่า “Big thanks to my huge makeover team” ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น คุณก้อง Hive Salon แฮร์สไตลิสต์ชื่อดัง ที่สาวคิมเองก็สนิทมากด้วยเช่นกัน และคุณก้องยังโพสต์ข้อความไว้ว่า “เปลี่ยนลุคให้น้องคิมด้วยกันกับจิ้บบี้ งานฝอจ๋วยๆ ^^ หวังว่าจะชอบลุคใหม่ของน้องกันนะครับ”  โดยที่สาวคิมก็ได้เข้ามาคอมเม้นต์ว่า “ขออภัยคุณลูกค้าทุกท่านในร้าน ที่กรี๊ดเสียงดังตอนตัดนะคะ btw you always bring out the best in me Love chuuu ❤️❤️❤️”

และโททัลทุคที่สวยเฉียบจะขาดเมคอัพอาร์ติสต์คนสนิทที่รู้ใจอีกคนไปไม่ได้ นั่นคือ จิ๊บ JiBbie Rubiie ช่างแต่งหน้าและบล็อกเกอร์สาวสวยที่ดาราในวงการต่างก็ชื่นชอบในฝีมือการแต่งหน้าเธอมาก โดยสาวจิ๊บ ก็ได้โพสต์ข้อความลงว่า “@kimmy_kimberley ผมสั้นละค้าาเปรี้ยวมากก เปลี่ยนลุคโดย พี่ก้อง @gonghivesalon24 และ makeup by @jibbierubie ผมสั้นทำสีแบบเป็นประกายธรรมชาติเหมือนผมจริง สวยมาก ก ก ส่วนเมคอัพ สายฝ แต่ยังคงงานผิวแบบ signature look”

และสำหรับสาวๆ คนไหนที่อยากเปลี่ยนลุคหั่นผมสั้นแบบสาวคิมบ้าง แต่ไม่มั่นใจ ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะผมประบ่า คือทรงที่น่าลองที่สุดค่ะ ไม่สั้นเกินไป และก็ไม่ยาวเกินไป เรียบๆ แต่ก็ซ่อนความเก๋ไว้เพียบนะจ๊ะ เพราะไม่ได้สั้นมาก ยังสามารถครีเอตลุคได้หลายทรง อยากดูหวานก็ทำได้ อยากดูเท่ก็ทำได้ หรืออยากดูเปรี้ยวก็ยังทำได้ เพียงแค่ลองม้วนลอนจัดแต่งทรงใหม่ หรือแสกข้างใหม่ หรือรวบครึ่งศีรษะด้านบนก็ดูเริ่ด เหมือนได้เปลี่ยนลุคทุกวันแล้วแต่ครีเอตเลยค่ะซิส


ภาพ IG : kimmy_kimberley , gonghivesalon24 , jibbierubie

 

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สวยชิคทุกทรง! ส่องลุคผมสั้นสไตล์ต่างๆ ของ ซอเยจี ดาเมจแรงโดยไม่มีอะไรกั้น

พอกันทีหน้าเทา! รวมทริคแต่งหน้าให้เข้ากับโทนสีผิว รับรองสวยรอดเริ่ด

ทริคแต่งหน้าเทรนด์ยุค 90 ให้สวยโมเดิร์นไม่หลุดยุค จากเมคอัพอาร์ติสต์ระดับท็อป

 

 

AP เดินหน้าเข้มแข็ง โชว์แบ็คล็อกกว่า 56,100 ล้าน พร้อมรุก 5 หัวเมืองใหญ่ด้วยแบรนด์ ‘อภิทาวน์’

  • ยกสินค้าแนวราบซูเปอร์สตาร์ของปี ครึ่งปีหลังเตรียมเปิด 26 โครงการใหม่ มูลค่า 26,000 ล้านบาท 
  • ส่งแบรนด์ใหม่ ‘อภิทาวน์’ ลุยตลาดต่างจังหวัด ชูจุดเด่นเรื่องการออกแบบพื้นที่ใช้สอยและนวัตกรรมความปลอดภัย นำร่อง 5 จังหวัด นครศรีธรรมราช ระยอง ขอนแก่น อยุธยา และเชียงราย เริ่ม 1.5-9 ล้านบาท
  • ครึ่งปีแรกกวาดยอดขาย 15,085 ล้านบาท หลังเซนติเมนต์ลูกค้าเป็นบวก ดีมานด์คอนโดยังไม่หาย ด้วยความคุ้มค่าของสินทรัพย์ที่มากกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น

เอพี ไทยแลนด์ เดินหน้าไปต่อ หลังตลาดเริ่มฟื้นเซนติเมนต์เป็นบวก เชื่อดีมานด์ คอนโดฯ ยังไม่หาย ด้วยความคุ้มค่าของสินทรัพย์ที่มากกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น ยกให้สินค้าแนวราบเป็นซูเปอร์สตาร์ของปี เตรียมพร้อมมูฟออนตามโรดแมพ MASTERPLAN FOR TOMORROW ขยายขอบเขตในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ด้วยการเปิด 26 โครงการใหม่ มูลค่า 26,000 ล้านบาท พร้อมปั้น ‘อภิทาวน์’ แบรนด์ใหม่บุกตลาดต่างจังหวัด นำร่อง 5 จังหวัด พร้อมเตรียมโอนฯ 2 คอนโดใหม่ LIFE อโศก-พระราม 9 และ ASPIRE อโศก-รัชดา เติบโตอย่างมั่นคงด้วยแบ็คล็อกในมือมากกว่า 56,149 ล้านบาท รับรู้รายได้จนถึงปี 2566

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่า “วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เปรียบเหมือนเป็นซูเปอร์โนวาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก สร้างผลกระทบที่ใหญ่และรุนแรงกว่าวิกฤตครั้งไหนในอดีต ซึ่งตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ ดำเนินงานด้วยความระมัดระวังควบคู่ไปกับการปรับแผนงานให้สอดรับกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา โดยมี EMPOWER LIVING เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญขององค์กร ส่งผลให้ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวมได้ทั้งสิ้น 15,085 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ 14 โครงการ มูลค่า 15,500 ล้านบาท และจากโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการขายอีกกว่า 100 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 70,000 ล้านบาท พร้อมประสบความสำเร็จในการโอนกรรมสิทธิ์ LIFE ลาดพร้าว คอนโดมิเนียมร่วมทุนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มทยอยส่งมอบเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าดีมานด์คอนโดยังไม่หาย ด้วยความคุ้มค่าของสินทรัพย์ที่มากกว่าการลงทุนรูปแบบอื่น

ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังของปี 2563 บริษัทฯ ยังคงดำเนินงานตามโรดแมพ MASTERPLAN FOR TOMORROW  ที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี ด้วยการเดินหน้าขยายขอบเขตในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งการอยู่อาศัยคุณภาพให้ครอบคลุมความต้องการของคนไทยที่มากขึ้น ผ่านแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบใน 5 จังหวัด ด้วยแบรนด์ ‘อภิทาวน์’ มูลค่ารวม 4,700 ล้านบาท ได้แก่ นครศรีธรรมราช ระยอง อยุธยา ขอนแก่น และเชียงราย ในรูปแบบโครงการแบบมิกซ์ โปรดักส์ (Mix Products) ตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งในแบบบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ราคาเริ่มต้น 1.5 – 9 ล้านบาท พร้อมแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ อีกจำนวน 21 โครงการ โดยเป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 7,970 ล้านบาท และทาวน์โฮม 13 โครงการ มูลค่า 13,330 ล้านบาท รวมครึ่งปีหลังบริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่รวมทั้งสิ้น 26 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 ล้านบาท

“อภิทาวน์ จะเป็นชื่อแบรนด์สินค้าในกลุ่มต่างจังหวัดที่เพิ่มเข้ามาในพอร์ตเอพี ซึ่งสื่อถึงความตั้งใจของเอพีที่จะสร้างและส่งมอบมาสเตอร์แพลนแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้กับคนไทยทุกคน ด้วยการผสาน 2 จุดแข็งหลัก ได้แก่ 1. การเป็นผู้นำในเรื่องของสเปซดีไซน์ (Leading in SPACE Design) โดยรูปแบบบ้านในแต่ละโครงการจะได้รับการออกแบบเพื่อให้สอดรับกับความต้องการและพฤติกรรมของคนในแต่ละจังหวัดตามคอนเซ็ปต์ Dynamic Personalized Model และ 2. Tech-Life Management การนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ในการอยู่อาศัย ด้วยการติดตั้งนวัตกรรมคัดสรรภายในโครงการ ซึ่งเป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการความปลอดภัยภายในหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง ทำหน้าที่คัดสรร ดูแลความปลอดภัยในทุกมิติของการอยู่อาศัยภายในหมู่บ้านจัดสรร ผ่านระบบแพลตฟอร์มอัจฉริยะ โดยพร้อมเปิดตัวโครงการแรกที่ อภิทาวน์ นครศรีธรรมราช พรีเซลในช่วงวันที่ 26-27 กันยายน และโครงการอื่นๆ ในช่วงเดือนตุลาคม” นายวิทการ กล่าวเสริม

สำหรับสินค้าคอนโดมิเนียมในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ มีคอนโดมิเนียมใหม่ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จอยู่ในแผน การส่งมอบอีกจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ LIFE อโศก-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 9,800 ล้านบาท สถานะยอดขาย 94% พร้อมส่งมอบเดือนสิงหาคมนี้ และ ASPIRE อโศก-รัชดา มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท ยอดขาย 95% พร้อมส่งมอบเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังมีแบ็คล็อกคอนโดมิเนียมที่รอรับรู้ไปในอีก 3 ปีข้างหน้า (จนถึงปี 2566) มูลค่ามากถึง 42,915 ล้านบาท ด้านโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย บริษัทฯ มีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายจำนวน 18 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 21,000 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถึงแม้จะส่งผลให้ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อลงทุนระยะสั้นชะลอการตัดสินใจลงทุน แต่ลูกค้ากลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวก็ยังคงเห็นถึงความคุ้มค่าของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มากกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น และถึงแม้บริษัทฯ จะขยับแผนการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ออกไป แต่ทีมงานทุกคนยังคงทำงานตามแผนเดิม เพื่อให้โครงการพร้อมเปิดตัวทันทีหากสถานการณ์ในไตรมาส 4 มีทิศทางที่ดีขึ้นหรือมีแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ

“ผลกระทบครั้งนี้ไม่เหมือนในอดีต เรายังคงอยู่กับสภาวะความผันผวนเช่นนี้ต่อไป แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมไม่เหมือนเดิม Challenge ที่น่าสนใจคือ วันนี้คำว่า New Normal ที่เราพูดถึงกันนั้น ยังเกิดขึ้นอย่างไม่สมบูรณ์แบบ  วิกฤตยังเดินไปไม่ถึงตอนจบ ยังไม่รู้ว่าอีก 6 เดือนข้างหน้าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรอีก ดังนั้น เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไปต่อท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ นอกจากความพร้อมของคนในองค์กร การบริหารกระแสเงินสดแล้ว แผนธุรกิจที่ยืดหยุ่นคือหนทางที่จะผ่านวิกฤตในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาโครงการภายใต้แบรนด์ AP มีพื้นฐานที่แข็งแรงอยู่แล้ว สะท้อนได้จากกราฟการเข้าเยี่ยมชมโครงการและยอดขายที่มีสัญญาณเป็นบวก โครงการแนวราบก็มีสัดส่วนการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนยอดการโอนกรรมสิทธิ์โครงการ LIFE ลาดพร้าวที่เริ่มทยอยโอนในเดือนมีนาคม จึงเชื่อว่าภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลังจะมีการปรับตัวที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะสมดุลในเร็ววัน” นายวิทการ กล่าวเสริม

สรุปแผนการดำเนินงานธุรกิจอสังหาฯ ในปี 2563 ณ วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ทั้งปี 2563 บริษัทฯ เปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 41,500 ล้านบาท จำนวน 40 โครงการ โดยแบ่งเป็นสินค้าบ้านเดี่ยวจำนวน 18 โครงการ มูลค่ารวม 20,470 ล้านบาท ทาวน์โฮม 17 โครงการ มูลค่า 16,330 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 5 โครงการ มูลค่า 4,700 ล้านบาท และมีสินค้าคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่างการขายจำนวน 18 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 21,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายที่ 33,500 ล้านบาท  ตั้งเป้ารายได้รวม 100% โครงการร่วมทุน 40,550 ล้านบาท เปิดตัวไปแล้วในครึ่งปีแรกจำนวน 14 โครงการ มูลค่าประมาณ 15,500 ล้านบาท สร้างยอดขายครึ่งปีแรกเท่ากับ 15,085 ล้านบาท

ในปีนี้บริษัทฯ มีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จเตรียมส่งมอบจำนวน 4 โครงการ เริ่มส่งมอบไปแล้วในครึ่งปีแรก ได้แก่ LIFE ลาดพร้าว มูลค่า 8,000 ล้านบาท และ ASPIRE สุขุมวิท-อ่อนนุช มูลค่า 1,600 ล้านบาท และเตรียมส่งมอบในครึ่งปีหลังอีก 2 โครงการ ได้แก่ LIFE อโศก-พระราม 9 มูลค่า 9,800 ล้านบาท และ ASPIRE อโศก-รัชดา มูลค่า 2,900 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 มิถุนายน 2563 บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุน (Backlog) มูลค่ามากถึง 56,149 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 13,234 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียม มูลค่า 42,915 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 15,602 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566

มิลา The Face

งานแต่งงาน มิลา The Face กับ ปันปัน นักบินไทยสไมล์ อบอุ่นไปด้วยความรัก

Alternative Textaccount_circle
มิลา The Face
มิลา The Face

หลังจากหายหน้าไปนาน ล่าสุดสาว มิลา The Face ซีซั่น 1 มาพร้อมข่าวดี เมื่อเธอตัดสินใจเข้าประตูวิวาห์กับหนุ่มนักบินไทยสไมล์ ซึ่งงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างอบอุ่นที่ อาสนวิหารอัสสัมชัญ กรุงเทพมหานคร

มิลา The Face

แฟนๆ ยังจำเธอคนนี้ได้ไหม มิลา-ธนาภา ภูมิดิษฐ์ หรือ มิลา The Face Thailand ซีซั่น 1 ปัจจุบันเธอผันตัวเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินไทยสมายล์ และนี่เองทำให้ได้เธอพบรักกับ “ปันปัน” หนุ่มนักบินสายการบินเดียวกัน ซึ่งหลังจากที่คบหาดูใจกันมาประมาณปีกว่าๆ ล่าสุดทั้งคู่ได้ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน และเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ได้มีการจัดพิธีที่อาสนวิหารอัสสัมชัญ กรุงเทพมหานคร  มีครอบครัวและเพื่อนๆ ที่รักมาร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น

มิลา The Face

โดยเมื่อวานนี้ (14ก.ค.2563) เธอได้โพสต์ภาพงานมงคลพร้อมกับเปิดเผยจุดเริ่มต้นความรักของเธอกับสามีให้ได้รู้กันด้วย 

“My wedding ❤️❤️❤️ บทบาทชีวิตเริ่มต้นใหม่กับบทบาท “ภรรยา” ชีวิตรักเราสองคนเริ่มต้นด้วยพรหมลิขิต ใครจะไปคิดว่าผู้ชายที่แอบเอานิตยสารที่เราขึ้นปกกลับบ้านจะมาเป็นสามีเราวันนี้ ใครจะคิดว่านักบินใหม่ที่เราแค่บอกว่าพี่สู้ๆ นะคะ จะมาเป็นคู่ชีวิตเราวันนี้ พี่ปันแสดงให้หนูเห็นมาตลอดว่าพี่รักและซื่อสัตย์กับหนูมาเสมอ คบกันแล้วสบายใจ ไม่ต้องมีคำถามเยอะ แม้จะมีอุปสรรคบ้าง แต่นั่นก็แค่บททดสอบว่าเราจะมีวันนี้ได้ไหม และนั่นก็พิสูจน์แล้วว่า “รักของเราเอาชนะได้ทุกอย่าง”

หลังจากนี้เราจะเริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นครอบครัวเป็นสามีภรรยากัน หนูจะเป็นภรรยาที่ดีของพี่ จะรักและดูแลพี่อย่างดีที่สุด และในอนาคตก็จะดูแลลูกของเราให้ดีที่สุดด้วย❤️❤️❤️ รักพี่มากๆ นะคะ จะโอบกอดพี่ไว้ในยามที่ทุกข์ และจะเป็นรอยยิ้มให้พี่ทุกเช้าตอนตื่นนอน…จากภรรยาคนสวย😘 #milapunpunforever”

มิลา The Face

สำหรับ มิลา-ธนาภา เป็นที่รู้จักจากการประกวด The Face Thailand ซีซั่น 1 เป็นลูกทีมของ “หญิง-รฐา” ด้วยลุคที่ดูเฉียบคม ทำให้เธอกลายเป็นที่จับตามองในการประกวด แม้สุดท้ายจะไม่ได้รางวัลชนะเลิศ แต่ก็ยังได้รางวัลรองชนะเลิศ จากนั้นไม่นานเธอมีผลงานแสดงก็คือ สงครามนางงาม ซีซั่น 2  ,สงครามนักปั้น, บาปรัก และชายไม่จริงหญิงแท้ หลังจากนั้นก็ผันตัวไปเป็นแอร์โฮสเตสอย่างที่ทราบกัน


ภาพจาก : IMPRESSSHOT

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

บรู๊คลิน กล่าวว่า เขาคือผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกที่ได้เป็นคู่ชีวิต โคล่า เพลท์ซ

เปิดตัวปุ๊บแต่งปั๊บ รถเมล์-คะนึงนิจ เตรียมเป็นว่าที่เจ้าสาวคนต่อไป

แต่งก่อนไม่รอแล้วนะ โอซา แวง เริ่มต้นชีวิตคู่ หนุ่มนักธุรกิจ จอห์น ลอว์ 

 

‘เปิดฉากผูกพันกันแบบชายไม่จริง หญิงไม่แท้’ ดูดวงรายวัน 15 กรกฎาคม 2563

ดูดวงรายวัน 15 กรกฎาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  คุณอาจรับอาสาเจ้านายไปบุกเบิกงานใหม่ หรือมีโครงการที่จะพัฒนาและปรับปรุงงานที่มีอยู่เดิมให้ดีขึ้น ซึ่งคุณคาดหวังกับความสำเร็จในครั้งนี้มากจนไม่เป็นอันปฏิบัติงานของตัวเองเลย ก็ต้องระวังคนใกล้ชิดที่เคยไว้ใจ วันนี้จะเปลี่ยนท่าทีกลับมาหักหลังคุณ

การเงิน : ก่อนจะรับปากหรือเซ็นสัญญาเรื่องเงิน และผลประโยชน์ ควรพิจารณาให้ดี เพราะอาจมีข้อผิดพลาดให้คุณเดือดร้อนในภายหลัง

ความรัก : คุณรักครอบครัว ทำงานได้เท่าไหร่ก็ให้กับครอบครัวหมดทุกบาททุกสตางค์ เวลาของคุณจึงอยู่กับงาน อยู่นอกบ้านตลอดเวลา ส่วนหน้าที่ดูแลครอบครัวกลายเป็นของคู่คุณแทน คนโสด คุณทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ส่วนเรื่องความรักเดี๋ยวก็มาเดี๋ยวก็ไป จนคุณสับสนว่า อยู่คนเดียวดีกว่าไหม

สุขภาพ : คงต้องบิ๊กคลีนนิ่งบ้านและโต๊ะทำงานบ้าง ก่อนที่คุณจะเป็นภูมิแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น โฆษณาประชาสัมพันธ์ สื่อสารมวลชน งานในวงการบันเทิง วันนี้คุณอาจได้ร่วมงานหรือร่วมหุ้นลงทุนกับผู้หญิง หรือเพื่อนสนิท ซึ่งคุณเก่งอยู่แล้ว มีทั้งความรู้ ความสามารถ และบารมีที่สะสมมาตลอดชีวิตการทำงาน งานจึงสำเร็จได้ไม่ยาก

การเงิน :  ผู้ใหญ่อุปถัมภ์ อาจได้มรดกด้วยความสิเน่หา ก็ควรเก็บเงินไว้บ้าง เพราะเหมือนคุณมีภาพอยู่ในใจเตรียมจะไปซื้อ ซึ่งเป็นของที่มีมูลค่าสูง

ความรัก : วันนี้เน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้องผู้หญิงในครอบครัว ที่อาจเข้ามาขอพึ่งบารมีคุณ ซึ่งคุณก็ยังลังเล โลเล ไม่กล้าให้ความช่วยเหลือ   คนโสด คุณอาจเกิดความผูกพันกับความรักประเภทชายไม่จริง หญิงไม่แท้นะคะ หากอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข จะแคร์ทำไม

สุขภาพ : ระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกาย เช่น น้ำเหลือง น้ำเลือด น้ำย่อย และฮอร์โมน อาจมีความผิดปกติ รวมถึงน้ำในหูด้วย

                                                                

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน  :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น ดีไซเนอร์ ออกแบบตกแต่ง และงานที่ต้องใช้มุมมองด้านความสวยงามมาเกี่ยวข้อง วันนี้คุณปรารถนาความสำเร็จอย่างแรงกล้า ก็ควรเตรียมรับมือกับความขลุกขลักไม่ราบรื่นไว้ด้วย งานนี้คุณต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และเทคนิคการต่อรอง เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้สำเร็จลุล่วงไปให้ได้ ก็ต้องระวังเรื่องเอกสารทางราชการ ทางที่ดีควรหาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์มาช่วยดีกว่า

การเงิน : รายได้ของคุณมาจากอำนาจและบารมี คุณจึงต้องเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนสนิทมิตรสหาย หรือผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อต่อยอดบารมี

ความรัก : คุณมี 2 บุคลิก เวลาเอาจริงเอาจัง ใครก็ขวางคุณไม่ได้ ทิฐิมาเต็ม แต่หากเวลาที่คุณชิลล์ ก็ชิลล์จริงจัง กิน ดื่ม เที่ยวไม่สนใจใดๆ เลย คนที่อยู่ด้วยก็คงทำใจลำบาก  คนโสด คุณมีมาตรฐานในการเลือกคู่ชีวิตสูงมาก จึงพร้อมที่จะเลิกและเริ่มต้นใหม่ได้ทุกเมื่อ  หากไม่ใช่

สุขภาพ : ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องยืนหรือเดินเป็นเวลานาน เพราะคุณจะปวดตั้งแต่สะโพกลงไป รวมถึงข้อเท้าและข้อเข่าที่รับน้ำหนักตัวทำให้มีอาการปวดบวม

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  วันนี้คุณโดดเด่นในการติดต่อประสานงาน การให้บริการคำปรึกษา และการบริหารจัดการ ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะพบกับความสำเร็จ แต่ก็ต้องระวังไม่ควรกล้าได้กล้าเสีย หรือรีบด่วนตัดสินใจโดยไม่รับฟังความคิดเห็นจากใคร เพราะอาจเกิดความผิดพลาด แม้คุณจะเรียกร้องขอความเห็นใจจากผู้ใหญ่ แต่เขาก็ไม่สนใจ

การเงิน : มีความคล่องตัวสูง แต่ก็ไม่ควรหลงเชื่อ หรือร่วมทุนกับคนไว้ใจหรือคนใกล้ชิด เพราะคุณอาจสูญเงินแล้วไม่ได้คืนด้วย

ความรัก : แม้คุณจะประสบความสำเร็จในชื่อเสียงและหน้าที่การงาน แต่ด้วยทิฐิและความมั่นใจในตัวเองที่สูงทำให้คุณไม่ยอมลงให้กัน มีแต่เอาชนะกัน วันนี้ไม่ใครก็ใครอาจต้องออกจากบ้าน แม้จะตามไปอ้อนวอนแล้วก็ไม่ยอมกลับ คนโสด คุณเป็นผู้หญิงเก่ง เป็นผู้นำ มีความก้าวหน้า เพราะฉะนั้นหากจะเลือกใครมาเป็นแฟน ควรต้องดูให้ดี แต่ที่กำลังเล็งๆ กันอยู่ตอนนี้ คุณสมบัติอาจยังไม่พอ

สุขภาพ : คุณอาจโหมงานหนัก ไม่พักผ่อนและไม่ดูแลตัวเอง จนสุขภาพย่ำแย่ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ หลอดเลือด และหัวใจ เมื่อเป็นแล้วก็จะรักษายาก จึงควรตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานโฆษณาประชาสัมพันธ์ งานในวงการบันเทิง งานสื่อสารมวลชน รวมถึงงานช่างฝีมือทุกชนิด อาจเป็นการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ หรือนวัตกรรมใหม่เพื่อประโยชน์ของสังคม วันนี้คุณอาจต้องใช้ความสามารถทางวาทศิลป์ในการนำเสนองาน เพื่อให้งานไปสู่ความสำเร็จ

การเงิน : ผู้ใหญ่อุปถัมภ์ อาจได้รับมรดกด้วยความสิเน่หา ซึ่งคุณก็เตรียมที่จะใช้ เพื่อตอบสนองความสุขของตัวเองแล้ว ควรเก็บเงินไว้บ้าง

ความรัก : วันนี้คุณอารมณ์ไม่นิ่ง ลังเล โลเล ตัดสินใจไม่เด็ดขาด จึงควรปล่อยให้คู่คุณตัดสินใจไปก่อน เพราะไม่เช่นนั้นอาจทะเลาะกันแน่ๆ คนโสด มีโครงการไปดูเรือนหอกันแล้ว แต่คุณก็ยังลังเล ไม่แน่ใจว่า เขาจะใช่เนื้อคู่คุณหรือเปล่า

สุขภาพ : หากคุณนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมนานๆ ควรลุกขึ้นเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง ไม่เช่นนั้นจะปวดตามแนวกระดูกสันหลัง ตึงยึดบริเวณคอ บ่า ไหล่

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : วันนี้คุณอาจเครียด เพราะถูกเจ้านายกดดัน จนต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และเทคนิคส่วนบุคคลมาใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ก็ต้องระวัง เจ้านายคุณไม่ธรรมดา อาจผูกมัดคุณด้วยสัญญา ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษร หรือสัญญาใจ จนคุณไปทำงานที่อื่น่ไม่ได้

การเงิน :  ผู้ใหญ่อุปถัมภ์ แต่ยังมีรายจ่ายกับการเดินทางท่องเที่ยว การเข้าสังคม ไม่ควรให้ใครกู้ยืมเงิน หรือเซ็นค้ำประกันรถให้ใคร รวมถึงเข้าไปพัวพันกับเงินสินบนหรือใต้โต๊ะ เพราะคุณอาจต้องรับภาระหนี้สินนั้นแทน

ความรัก : ชีวิตครอบครัวคุณถือว่าอบอุ่น เพราะคู่ทำหน้าที่เป็นคู่คิดและแนะนำแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องให้ จนอาจไปสะดุดตาบุคคลที่สามโดยไม่รู้ตัว วันนี้เธอเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ เมื่อได้แล้วก็ตีจาก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคู่อาจไม่เหมือนเดิม คนโสด คุณตกอยู่ในบ่วงรัก ยอมแม้กระทั่งไปในทางสายมู

สุขภาพ :  ใช้เวลาทั้งหมดกับการทำงาน ไม่สนใจดูแลร่างกาย กว่าจะรู้ตัวว่าป่วย ร่างกายอาจรับไม่ไหว

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : สำหรับผู้ที่อยู่ในตำแหน่งบริหาร หรือเกี่ยวข้องกับการบริหารองค์กร มีลูกน้องอยู่ในการปกครองหลายชีวิต วันนี้คุณควรมีพลังกายพลังใจที่เข้มแข็ง เดินทางสายกลาง ไม่ควรใช้อำนาจเผด็จการ ไม่เช่นนั้นอาจไม่มีใครอยู่ทำงานให้คุณเลย แม้คุณจะเรียกร้องขอความเห็นใจก็ตาม

การเงิน : คุณมีความสามารถใช้เงินทำงานสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง แต่หากคุณต้องการรายได้ที่สูงกว่า นอกจากไม่ได้แล้ว อาจทำให้ต้องเสียเงินให้กับคนใกล้ชิด

ความรัก : คุณทำหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัว เป็นเสาหลักของครอบครัว จึงทำให้คุณซีเรียสจริงจังในชีวิต จึงควรเดินทางสายกลาง ไม่อย่างนั้นจะไม่เหลือใครอยู่ข้างคุณเลย คนโสด คนที่คุณกำลังทั้งเล็งและส่องอยู่ ไม่เหมาะสมกับคุณเลยนะคะ

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะจนกลายเป็นความเคยชิน เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา อาจติดเชื้อในกระแสเลือดได้

 

เช็กดวงย้อนหลังกันได้ที่นี่

แอบรักใครอยู่หรือเปล่า น่าจะหิน เพราะอินดี้กันทั้งคู่ ดูดวงรายวัน 11 กรกฎาคม 2563

เป็นนารีอุปถัมภ์อยู่เงียบๆ จนถึงใช้สายมูมาช่วย ดูดวงรายวัน 12 กรกฎาคม 2563

กำลังรอใครอยู่หรือเปล่า?? วันนี้เขาอาจติดต่อกลับมา ดูดวงรายวัน 13 กรกฎาคม 2563

แม้จะถูกใจ แต่ไม่ถูกต้อง ไม่ควรยุ่ง ดูดวงรายวัน 14 กรกฎาคม 2563

ทำไม 'ควีนเอลิซาเบธที่ 2' ทรงสวมถุงมืออยู่เสมอ

เหตุผลไม่ซับซ้อน ทำไม ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’ ทรงสวมถุงมืออยู่เสมอ

ทำไม 'ควีนเอลิซาเบธที่ 2' ทรงสวมถุงมืออยู่เสมอ
ทำไม 'ควีนเอลิซาเบธที่ 2' ทรงสวมถุงมืออยู่เสมอ

เผยเหตุผลง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่กลับพิสูจน์ว่า ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีความรอบคอบอย่างมาก เมื่อพระองค์ทรงสวมถุงมืออยู่เสมอมานานหลายสิบปี

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนหลายพันคนตลอดเวลาในฐานะสมเด็จพระราชินีของสหราชอาณาจักร แต่รู้หรือเปล่าว่าพระองค์ทรงสวมถุงมืออยู่เสมอ ทำไมกันล่ะ?

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 อยู่บนบัลลังก์เป็นเวลาเกือบ 70 ปีและตอนนี้ทรงมีพระชนมายุ 94 พรรษา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันและเข้าชุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้มองเห็นได้ง่าย เมื่อพระองค์อยู่ต่อหน้าฝูงชน แต่คุณสังเกตหรือไม่ว่าควีนเอลิซาเบธทรงสวมถุงมือเกือบทุกครั้ง ซึ่งเหตุผลที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังนั้นง่ายมากๆ

'ควีนเอลิซาเบธที่ 2' ทรงสวมถุงมืออยู่เสมอ

ในขณะที่การระบาดของโคโรนาไวรัส ทำให้คนส่วนใหญ่คำนึงว่าอาจจะได้รับเชื้อโรคเมื่อจับมือกับผู้อื่น แต่ควีนเองก็ทรงมีความคิดเช่นนี้มาหลายปี เหตุผลที่พระองค์สวมถุงมือเมื่อออกไปปฏิบัติหน้าที่ในที่สาธารณะ คือเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเชื้อโรคในขณะที่จับมือผู้อื่น ทั้งนี้ก็เพราะพระองค์คือสมเด็จพระราชินีและประมุขแห่งสหราชอาณาจักร จึงไม่มีเวลาที่จะเจ็บป่วย

เวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ควีนเอลิซาเบธสวมถุงมือจาก Cornelia James ถุงมือทำจากผ้าฝ้ายแท้และปัดด้วยแปรงสำหรับหนังกลับในตอนสุดท้าย สไตล์การเลือกของควีนนั้นมาจากคอลเล็คชั่น Francesca และ Regina พระองค์ทรงใช้แบรนด์นี้มาตั้งแต่ช่วงฮันนีมูนปี 1947

จนในปี 1979 ทาง Cornelia James ได้เป็นผู้ผลิตถุงมืออย่างเป็นทางการให้กับควีนเอลิซาเบธ แบรนด์ได้ทำถุงมือใหม่สำหรับควีนประมาณ 60 ถึง 70 คู่ และมีรายงานว่าถุงมือแต่ละคู่ใช้เวลาทำประมาณ 45 นาที ซึ่งควีนก็ไม่ได้ใช้ถุงมือเหล่านี้อย่างสิ้นเปลือง พระองค์ทรงเก็บรักษาถุงมือบางส่วน ซึ่งมีราคา 110 ปอนด์ต่อคู่ (หรือประมาณ 4,400 บาท) เป็นเวลานานถึง 40 ปี


ที่มา : www.express.co.uk

ภาพ : www.express.co.uk , www.thesun.co.uk

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไม่เคยละเลย! ควีนเลตีเซียแห่งสเปน สวยทุกลุคแม้อยู่ภายใต้แมสก์

ซื้อตามไม่ยาก! รองเท้า Converse ของมาดามตั๊ก ราคาน่ารักจนต้องอยากสอย

ดราม่าชุดสูท! สไตลิสต์ถูกต่อว่าหลัง ลิซ่า Blackpink ใส่ชุดนี้ขึ้นแสดง

 

10 ไอเดียกิจกรรมแก้เบื่อที่คู่รักต้องทำรับประกับความสวีทเว่อร์

account_circle

ทำแต่กิจกรรมเดิมๆ น่าเบื่อไหมค่ะ? งั้นลองมาดู ไอเดียกิจกรรมแก้เบื่อ ที่คู่รักต้องทำ อยากรู้แล้วใช่ไหมละว่ามีกิจกรรมอะไรที่คู่เราจะทำได้บ้าง ตามไปดูกันเลย

1. จูงมือถ่ายภาพสไตล์ Minimal

เทรนด์ที่กำลังมาแรงและนิยมกันในหมู่ของวัยรุ่นคงจะหนีไม่พ้นการถ่ายภาพของชาวฮิปสเตอร์ ที่ออกมาในแนว Minimal คือรูปที่แสดงหน้านิ่ง ไม่มีอารมณ์ หันข้างบ้าง หรือเหม่อมองไปทางอื่นในสถานที่ ที่มีพื้นหลังเรียบๆ และนำภาพที่ได้มาแต่งในโทนสีขาวขุ่น เพียงเท่านี้ก็กลายเป็นคู่รักสายฮิปสเตอร์กันแล้วจ้า

Simply-girly1

2. คู่รักสาย Healthy

เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมารักสุขภาพกันมากขึ้น บวกกับเทรนด์ของรองเท้ากีฬาที่กำลังนิยมกันสุดๆ หลายต่อหลายคู่รักก็เลยจับมือกันเข้าฟิตเนส แถมยังมีท่าออกกำลังกายเป็นคู่ด้วยนะ บางคู่ก็พากันไปวิ่งกันที่สวนสาธารณะ ขี่จักรยานมุ้งมิ้งกันไป แล้วเซลฟี่ลงไอจี แหม…น่าอิจฉาจริงๆ

3. ผจญภัยสุดมันส์กับกิจกรรมแอดเวนเจอร์

สำหรับคู่รักที่ชื่นชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ต้องไม่พลาด ไม่ต้องไปไกล เพราะในกรุงเทพฯ ก็มีสถานที่ให้คู่รักมาผจญกันแบบสุดเหวี่ยง เพราะเดี๋ยวนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างแรง เหล่าดารา หรือไม่ว่าใครๆ ก็ไปกัน เป็นอีกกิจกรรมที่แปลกใหม่ น่าตื่นเต้น และยังได้ในเรื่องของสุขภาพอีกด้วย

AP4_0186

4. แบ็คแพ็คคู่รัก

ไปเที่ยวแบบสบายๆ นอนบ้านพักเขาไม่นิยมแล้วนะเธอ เพราะกระแสเที่ยวแบ็คแพ็คไปแต่ตัวทัวร์เป็นคู่สองต่อสองนิยมสุดๆ ไปเลย ไม่ต้องมีรถขับ แต่เดินทางด้วยรถไฟ หรือรถทัวร์ ไปแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง เรียกได้ว่าไปหาเอาข้างหน้าไม่ว่าที่พัก ที่เที่ยว เจอร้านไหนก็กินร้านนั้น แบบว่าเป็นคู่รักที่ชิลล์ๆ กินง่ายอยู่ยังไงละ

5. จับคู่จิตอาสา

ใจบุญสุนทานก็มา สำหรับคู่รักที่ชอบพากันไปทำจิตอาสา ทำความดี บนเขาบนดอย นำอาหารเสื้อผ้าของใช้ไปให้เด็กๆ ที่ขาดแคลน หรือถ้าในกรุงเทพฯ ก็จะนิยมไปเลี้ยงอาหารเด็กที่สถานสงเคราะห์ หรือบ้านพักคนชรา เป็นกิจกรรมที่ดีและสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก สนับสนุนสุดๆ เลยค่า

6. เดินสายไหว้พระ-ทำบุญ

เดี๋ยวนี้คู่รักเขาก็หันหน้าเข้าวัดเข้าวา ทำบุญกันเยอะขึ้นเหมือนกันนะจ๊ะ เพราะอะไรนะหรอ ? ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน ชาติหน้าฉันใดก็จะได้เกิดมาเป็นเนื้อคู่กันอีกยังไงละ ว่าแล้วอาทิตย์นี้ก็ลองชวนคุณแฟนเลยสิจ้ะ ปล่อยนกปล่อยปลา น่ารักมุ้งมิ้งไปอีก

7. คู่รักนักกิน

เรื่องกินเรื่องใหญ่สำหรับคู่รักที่ชอบตระเวนหาร้านอาหารอร่อยๆ เรียกว่าว่างทั้งทีเสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่รู้จะไปไหน นอกจาก “ตัวเอง….ไปกินร้านนี้กันไหม เค้าพึ่งดูรายการมาน่ากินมากเลย” ร้านไหนอร่อย ไม่อร่อย เด็ดไม่เด็ด เป็นอันว่ารู้กันทุกร้านเลยทีเดียว

กิจกรรมคู่รัก

8. เช็คอินโชว์ความหวาน

โลกโซเชียลมันมาแรง ถ้าไม่เล่นก็จะหาว่าตกยุคสิจ้ะ ไม่ว่าจะไปไหนทำอะไรก็ต้องบอกให้ทั้งโลกรู้กันนิดนึงว่าทำอะไรอยู่ เค้าอยู่ร้านนี้นะ อยู่กับแฟนด้วย ยิ่งถ้าเป็นสถานที่ใหม่ๆ พึ่งเปิดละก็….ต้องรีบไปเช็คอินโชว์ความหวานด่วนๆ เลยค่ะ เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าเป็นสาวยุคหลังได้นะเธอ

9. เสริมสวย เสริมหล่อ

ไม่ใช่แต่ผู้หญิงแล้วนะที่จะเข้าร้านเสริมสวยได้ ผู้ชายแมนๆ ก็หันมาเข้าร้านเสริมสวยเช่นกัน แต่ไม่ได้ไปเสริมสวยนะ อย่าพึ่งเข้าใจผิด ไปเสริมหล่อต่างหากจ้ะ ไปกันแบบเป็นคู่ชวนกันไปทำหน้า ยกกระชับ หน้าเนียน เต่งตึง จะได้ออกมาสวยหล่อกันทั้งคู่ยังไงละ

10. ธุรกิจคู่รัก พารวย

ไม่ทำมาหากินก็อยู่ไม่รอดนะจ้ะ บรรดาคู่รักเลยพากันลงทุนทำธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ พบเห็นกันได้ทั่วไปในโลกโซเชียล เช่นขายครีม ขายขนม มีเงินมากหน่อยก็เปิดร้านเป็นของตัวเอง อย่างร้านกาแฟ ร้านเบเกอรรี่ ขยันทำมาหากินแบบนี้รับรองว่าไม่นาน รวยแน่ค่า

ภาพ : article.shopspotapp.com, www.teambenefit.co.uk, www.bounceinc.co.th, www.girlsallaround.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

คุณสมบัติแม่สามี & แม่ยาย แบบนี้แหละที่ลูกสะใภ้และลูกเขยอยากเจอ

เช็กด่วน 6 สัญญาณนี้จะบอกให้คุณรู้ว่า “เราพร้อมแต่งงานกันแล้ว”

บอกลาคานกับ 8 วิธี จีบเขาก่อนยังไงไม่ให้น่าเกลียดเนียนๆ แบบไม่นก

เตรียมซองในพิธีแต่งงานให้ใคร ใส่เงินเท่าไหร่ เรามีคำตอบ

account_circle

“เตรียมซองในพิธีแต่งงาน” คือสิ่งที่ทำให้บ่าวสาวหลายคู่ต้องกุมขมับกันมาแล้ว ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินใส่ซองหรอกนะคะ แต่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมไว้กี่ซอง ต้องให้ใครบ้าง และใครเป็นคนให้ รวมถึงให้ตอนไหนดี แพรว wedding เลยทำสรุปมาให้หมดแล้วค่ะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่า ในแต่ละช่วงพิธีสำคัญของงานแต่งงาน จะต้องเตรียมซองให้ใคร อะไรยังบ้าง

  • พิธีสงฆ์

1. พระสงฆ์ ลืมไม่ได้เด็ดขาดกับการเตรียมซองใส่ปัจจัยถวายพระนะคะ เพราะหลังจากที่พระสงฆ์ทั้ง 9 รูปทำพิธีให้กับคู่บ่าวสาวเรียบร้อยแล้ว คุณจะถวายสังฆทานปิดท้าย ซึงตอนนั้นละค่ะ ที่บ่าวสาวต้องนำซองถวายไปพร้อมกัน

ภาพงานแต่งงานคุณแพรและคุณพีร์ ถ่ายโดย Coffeoto

2. มัคทายก (ผู้นำทำพิธี) บอกเลยว่าพิธีสงฆ์จะดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่ได้ถ้าขาดผู้ช่วยสำคัญอย่างมัคทายกที่จะมาช่วยดำเนินงานพิธีสงฆ์และอารธนาศีล บ่าวสาวจึงควรตอบแทนโดยการเตรียมซองให้กับทางมัคทายก ซึ่งถือเป็นการแสดงถึงความมีน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ

3. คนขับรถ เมื่องานพิธีเช้ามาถึง สิ่งแรกที่ควรเริ่มคือการไปนิมนต์พระมาจากวัดบริเวณใกล้เคียง เราจึงต้องจัดเตรียมหารถหรือเช่าบริการรถเพื่อไปนิมนต์พระมายังสถานที่จัดงาน ฉะนั้นเราจึงควรเตรียมซองไว้ให้กับคนขับรถเพื่อเป็นค่าบริการ หรือเป็นสินน้ำใจตอบแทน ในกรณีที่เราไม่ได้เป็นคนจัดงาน แถมบ่าวสาวก็ไม่มีเวลาออกมาให้โดยส่วนตัวก็สามารถฝากซองไว้กับทางผู้จัดงานได้เช่นกัน

4. เด็กวัด กรณีที่มีเด็กวัดมาช่วยในการจัดพื้นที่ วางอาสนะหรืออำนวยความสะดวกอื่นๆ ในพิธี บ่าวสาวต้องไม่ลืมเตรียมซองไว้ให้ด้วยนะคะ ส่วนจะให้เป็นรายบุคคลหรือให้ซองเดียวค่อยไปแบ่งกันก็แล้วแต่ความสะดวกค่ะ

  • พิธีแห่ขันหมาก

1. ผู้กั้นประตูเงินประตูทอง (ฝ่ายเจ้าสาว) แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่าเมื่อมีพิธีแห่ขันหมากจะต้องมีการกั้นประตูเงินประตูทองเป็นแน่ ฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้องไม่ลืมเตรียมซองไว้เพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ ขอแนะนำว่าเตรียมไว้เยอะหน่อยก็ดีนะคะ เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่า จะมีประตูทั้งหมดกี่ประตู ประตูที่กั้นแล้วจะเวียนมากั้นอีกไหม ซึ่งเรื่องนี้อาจเช็คคร่าวๆ ก่อนได้โดยการสอบถามไปกับฝ่ายเจ้าสาว เพื่อจะได้เตรียมซองเผื่อๆ ไว้ ทีนี้ก็จะได้ไม่หน้าแตกคาขบวนไงคะ  อ้อ…กระซิบบอกอีกนิดว่า 1 ประตูไม่ใช่ว่า 2 ซองจบนะจ้ะ ที่เราเคยเจอมาเนี่ย 1 คู่เรียกมาคนละ 5 ซองมาแล้วก็มี!

2. ผู้ถือขันหมากฝ่ายเจ้าบ่าวใครว่าฝ่ายเจ้าบ่าวต้องเตรียมซองเท่านั้น เพราะเจ้าสาวก็ต้องเตรียมเช่นกัน แต่อาจจะน้อยกว่า ซึ่งคนทำหน้าที่มอบซองให้ก็คือคุณพ่อคุณแม่หรือประธานฝ่ายเจ้าสาว ซองที่ว่านี้มอบให้กับผู้ที่ยกขันหมากเข้ามาในพิธีไงคะ และที่ให้ก็ด้วยสินน้ำใจหรือเป็นค่าเหนื่อยที่ช่วยกันยกขบวนนำแก้วแหวนเงินทองและของมงคลมานั่นเอง

ภาพงานแต่งงานของคุณกิฟและคุณติณ ถ่ายโดย @nawaphon_present

*ทริคดีๆ อย่าคิดว่าเจ้าบ่าวของเราจะไม่ต้องถือซองนะคะ มีติดตัวไว้ก็ดี เพราะเจ้าบ่าวจะต้องเจอกับประตูผ่านศึกสุดท้ายก่อนที่จะได้พบเจ้าสาว บอกเลยว่าไม่ต่ำกว่า 1 ซองแน่นอน ก็นะ …. ถ้าอยากเจอเจ้าสาวของเราก็ต้องใจป้ำนิดนึงนะจ๊ะ เราเลยมีทริคดีๆ ช่วยเจ้าบ่าวคือ จำนวนเงินไม่ต้องเยอะแต่ควรเยอะจำนวนซอง เช่น ซองละ 50-100 บาท เป็นต้น

  • รับไหว้-ยกน้ำชา
งานแต่งงานของคุณว่านและคุณเต้ ถ่ายโดย @sitphotograph

เพื่อนของบ่าวสาว ในช่วงพิธีรับไหว้หรือยกน้ำชานี้ ข้างๆ ตัวบ่าวสาวจะมีเพื่อนอย่างน้อย 2 คนมานั่งประกอบคอยส่งของรับไหว้และรับซองมาวางเก็บให้ ฉะนั้นบ่าวสาวจึงไม่ควรลืมเตรียมซองค่าเหนื่อยให้เพื่อนด้วยนะคะ

  • งานฉลองมงคลสมรส

1. พิธีกร งานเฉลิมฉลองตอนเย็นส่วนใหญ่คิดว่าไม่ต้องเตรียมซองให้ใคร แต่ความจริงแล้วต้องเตรียมซองให้กับบุคคลบางส่วน ที่ทำหน้าที่ให้งานนี้ออกมาดีอย่างสมบรูณ์ เช่น พิธีกรดำเนินงานซึ่งในที่นี้อาจเป็นเพื่อนจึงมาช่วยฟรี จึงต้องเตรียมซองให้ถือว่าเป็นสินน้ำใจที่มาช่วยเหลืองาน

2. นักดนตรี อีกกลุ่มคนที่มอบความสนุกและสีสันภายในงานให้ครึกครื้นมีชีวิตชีวาอย่างนักดนตรี ในที่นี้อาจเป็นคนรู้จักจึงมาช่วยฟรี หรือบางคนก็จะเกรงใจ แต่อย่างไรแล้วการเตรียมซองให้นั้นถือว่าเป็นสินน้ำใจหรือค่าตอบแทนที่มาช่วยเหลืองาน

7

นอกจากนี้คุณอาจมองข้ามบุคคลที่ช่วยให้งานสำเร็จรุร่วงไปด้วยดีคือ เจ้าหน้าที่ของโรงแรม ควรเตรียมซองไว้บางส่วนเพื่อให้เป็นพิเศษ เช่น กรณีเชิญแขกเข้างาน หรือพาแขกมานั่งที่เก้าอี้ในกรณีที่จัดงานที่โรงแรม เพราะเจ้าหน้าที่จะช่วยงานตั้งแต่เช้า จัดสถานที่ เช็คความเรียบร้อย เพื่อให้งานออกมาดี จึงมอบซองพิเศษหรือที่เรียกว่าทิป เพื่อเป็นค่าเหนื่อยหรือเป็นการชมว่าทำงานดีมาก หรือจะให้กับกัปตันหัวหน้าใหญ่คนเดียว แล้วนำไปแบ่งกันก็ได้นะจ๊ะ

สุดท้ายแล้วการเตรียมซองให้ใคร ใส่เท่าไหร่ในพิธีแต่งงาน ก็อย่าลืมตรวจสอบเงินให้กระเป๋าให้ดีก่อน ไม่เกี่ยวว่าใส่มากใส่น้อยแล้วจะดูดี หรือใส่ตามที่ใครๆ บอกมา เพราะซองที่เราเตรียมให้ถือว่าเป็นสินน้ำใจหรือค่าตอบแทนที่มาจากใจเราจริงๆ นะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : Jirayu The Wedding Planner
ภาพเปิดจาก งานแต่งงานของคุณปรีณัน ณีศะนันท์ และคุณสุกิตติ์ ตั้งมณีนิมิตร โดย SitPhotography

อ่านบทความเพิ่มเติม

เลขใช้แล้วดี – เลขใช้แล้วร่วงกับความเชื่อเรื่องตัวเลขฉบับนานาชาติ

Step by Step พิธีแต่งงานจีน แบบเป๊ะๆ จัดอย่างนี้สิผู้ใหญ่ปลื้ม

ทริคเด็ด!! พูดยังไงให้ผ่านประตูเงินประตูทองแบบฉลุย!

4 คุณสมบัติต่อไปนี้ลูกสะใภ้จำไว้ให้ดีแม่สามีจะทั้งรักทั้งหลง

account_circle

ลูกสะใภ้ ที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ รับรองชนะเลิศ

จากแฟนสาว เมื่อเข้าห้องหอก็ต้องเปลี่ยนสถานะมาเป็น ลูกสะใภ้ ซึ่งสาวๆ หลายคนอาจจะร้อนๆ หนาวๆ เพราะอาจจะเคยได้ยินเสียงร่ำลือว่า ลูกสะใภ้กับแม่สามีนั้นเป็นคู่ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นมาทำทุกอย่างให้ลงรักพอดีเป๊ะ ด้วย 5 คุณสมบัติต่อไปนี้ที่ แพรว wedding นำมาฝากดีกว่า รับรองว่าลูกสะใภ้คนไหนปฏิบัติได้ครบทั้ง 5 ข้อแบบสม่ำเสมอ แม่สามีที่ว่าเฮี้ยวๆ จะเปลี่ยนมาทั้งรักทั้งหลงแน่นอน

แม่ศรีเรือน

อย่าคิดว่าเป็นลูกสะใภ้ยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจงานบ้านงานเรือน เพราะอย่าลืมว่าแม่ผัวบางคนก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความหัวโบราณเอาไว้อย่างหนักแน่น ดังนั้นย่อมอยากได้ลูกสะใภ้ที่มีความเป็นแม่ศรีเรือน เพราะอย่างน้อยก็จะได้คอยปรนนิบัติพัดวีลูกชายของเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง หรือดูแลบ้านช่องให้สะอาดสะอ้านน่ามอง ลูกสะใภ้บางคนมีความคิดว่าฉันทำงานนอกบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว งานบ้านขอปล่อยให้เป็นหน้าที่แม่บ้านเถอะ ซึ่งก็เป็นความคิดที่ไม่ผิดอะไร แต่ทั้งนี้ก็ต้องวิเคราะห์ทัศนคติแม่ผัวของคุณก่อนว่าเขาปลื้มกับวิธีนี้ด้วยหรือเปล่า เพราะถ้าเกิดไม่ปลื้มขึ้นมาจะกลายเป็นปัญหาที่ทำให้คุณอยู่ยากเสียเปล่าๆ

femside.com_แม่ศรีเรือน

จากการสืบสาวราวเรื่องของ เราพบว่ามีแม่ผัวจอมเป๊ะบางคนที่ตามเช็คฝุ่นในบ้านทุกกระเบียดนิ้ว (แหม! ถ้าเอากล้องจุลทรรศน์ส่องได้ก็คงทำ) หรือแอบส่องว่าเสื้อผ้าของลูกชายรีดเรียบกริบกลีบโง้งหรือเปล่า ซึ่งหากคุณเป็นคนที่ไม่ถนัดงานบ้านงานเรือนฟังแล้วก็คงท้อ แต่ของอย่างนี้ฝึกหัดกันได้ หรือจะเอาดีเป็นอย่างๆ ไปก็เวิร์ค เช่น ถ้าแม่ผัวชอบกินคุณก็หมั่นโชว์เสน่ห์ปลายจวักมัดใจซะเลย

ขยันทำมาหากิน

แน่นอนว่าไม่มีแม่ผัวคนไหนชอบใจกับลูกสะใภ้ที่ขี้เกียจตัวเป็นขน ความขยันทำมาหากินจึงถือเป็นคุณสมบัติที่ลูกสะใภ้คู่บุญของแม่ผัวจอมเฝ้าทรัพย์ควรมี และยังเป็นคุณสมบัติที่แม่ผัวทั่วหล้าต่างก็ปลาบปลื้มอีกด้วย เพราะลูกสะใภ้ประเภทนี้จะทำให้แม่ผัวหมดห่วงคลายกังวลไปได้หลายอย่าง ทั้งหมดห่วงว่าลูกสะใภ้จะมาช่วยใช้ทรัพย์สมบัติหรือเปล่า และหมดห่วงว่าลูกชายของเขาจะไม่ลำบากกัดก้อนเกลือกินอย่างแน่นอน
blogs.tradegateway

อีกทั้งความขยันทำมาหากินยังส่งผลดีระยะยาวต่อชีวิตครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นต่อตัวคุณเองและสามี รวมถึงต่อลูกน้อยกลอยใจในอนาคต จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมบรรดาแม่ผัวถึงอยากได้ลูกสะใภ้ขยันขันแข็งกันนัก สมมติเล่นๆ ว่าให้แม่ผัวเลือกระหว่างลูกสะใภ้แม่ศรีเรือนกับลูกสะใภ้ขยันทำมาหากิน เราฟันธงได้แม่นยิ่งกว่าหมอลักษณ์ว่าลูกสะใภ้ขยันทำมาหากินมาวินแน่นอน ดังนั้นสาวๆ ทั้งหลายจงพกคุณสมบัติข้อนี้ติดตัวไว้เถิด รับรองว่าเข้าบ้านไหนแม่ผัวก็เปิดไฟเขียวให้ผ่านฉลุย

นอบน้อมถ่อมตน

คุณสมบัติข้อนี้อย่าว่าแต่แม่ผัวเลยที่ปลื้ม ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ชื่นชอบทั้งนั้น เพราะความนอบน้อมถ่อมตนและเคารพผู้ใหญ่ถือเป็นคุณสมบัติพึงมีที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตสำนึกของคนไทยมาแต่โบราณ อย่างน้อยที่สุดคือการไปลามาไหว้ เราเห็นมานักต่อนักแล้วที่ลูกสะใภ้มือแข็งไม่ยกมือไหว้แม่ผัวที่ (ควร) เคารพรัก ไม่ว่าจะด้วยความลืมหรือตั้งใจก็แล้วแต่ แค่เรื่องที่หลายคนมองว่าเล็กจิ๊บจ๊อยนี่แหละกลับกลายเป็นปัญหาบาดหมางใหญ่โตระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ให้ชายกลางต้องเอามือก่ายหน้าผาก
lullabelly.com_นอบน้อมถ่อมต

นอกจากนี้ความเคารพนอบน้อมยังเป็นคุณสมบัติที่ปูทางไปสู่การเป็นลูกสะใภ้คนโปรดอีกด้วย เพราะแน่นอนว่าแม่ผัวย่อมปรารถนาลูกสะใภ้ที่เคารพเชื่อฟัง ว่านอนสอนง่าย ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ซึ่งประเด็นนี้แหละที่ลูกสะใภ้ควรระวังเพื่อแยกให้ออกระหว่างความเคารพกับความอ่อนข้อ เพราะแม่ผัวบางคนเหมารวมเบ็ดเสร็จแล้วแปลงร่างแผลงฤทธิ์เป็นจอมเผด็จการใส่คุณ เราจึงอยากเตือนกันไว้ว่า การนอบน้อมเป็นสิ่งดีที่ลูกสะใภ้ทั้งหลายควรปฏิบัติ แต่ก็อย่ามากเกินไปจนทำให้แม่ผัวเข้าใจผิดคิดว่าคุณหัวอ่อน

ฉลาดเฉลียว

เพราะโลกหมุนไวและหมุนไปไกล ความฉลาดจึงเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของลูกสะใภ้ที่แม่ผัวถวิลหา แต่ความฉลาดที่ว่าไม่ได้หมายถึงไอคิวสูงหรือเรียนเก่งแต่อย่างใด เราหมายถึงฉลาดในการใช้ชีวิต หรือฉลาดในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ถ้าถามว่าเพราะเหตุใดแม่ผัวจึงปรารถนาลูกสะใภ้ประเภทนี้ คำตอบง่ายๆ เพราะลูกสะใภ้เปรียบเสมือนตัวแทนของแม่ผัวที่ต้องมารับช่วงต่อเพื่อทำหน้าที่เป็นเพื่อนคู่คิดของสามี และหนุนนำกันไปสู่ความเจริญงอกงาม ดังนั้นการมีลูกสะใภ้ฉลาดหลักแหลมจึงสร้างความเบาอกเบาใจให้แม่ผัวได้

huffingtonpost.com_ฉลาด

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ เราอยากเตือนสาวๆ เคยได้ยินไหมคะว่า “ความฉลาดเหมือนกางเกงใน ต้องใส่แต่ไม่ควรอวด” ทั้งนี้เพราะเหรียญมีสองด้านเสมอ บางครั้งการแสดงตนว่าฉลาดมากจนเกินไปอาจกลายเป็นความน่าหมั่นไส้ จำไว้นะคะว่าฉลาดได้แต่ต้องถูกที่ถูกเวลา และที่สำคัญอย่าเผลอโชว์ความฉลาดจนเกินหน้าเกินตาแม่ผัว เพราะคุณอาจจะกลายเป็นคนโง่โดยไม่รู้ตัว

อ่านบทความเพิ่มเติม

หนุ่มๆ จงฟังถ้าไม่อยากแป้ก! วิธีขอแต่งงานอย่างไรให้ได้ใจสาว

9 วาจาสุดหวานหูที่ชายสุดที่รักมักทำให้สาวใจอ่อนแบบไม่รู้ตัว

“รักเราไม่เก่าเลย” 5 วิธีดูแลความรักให้สดใสอยู่เสมอ

ยิ่งบ่าวสาวยิ่งต้องรู้! งานแต่งศาสนาคริสต์ มีกฎระเบียบข้อห้ามไหนให้ต้องเตรียมตัว

account_circle

พิธีแต่งงานของชาวคริสตังคริสเตียนเป็นพิธีในฝันของเจ้าสาวหลายๆ คนที่หลงใหลกับความโรแมนติก ชื่นชอบบรรยากาศอบอุ่นที่เต็มไปด้วยความรักทั้งคู่บ่าวสาว ครอบบครัว และมิตรสหายคนสำคัณที่มาเป็นพยานการแต่งงานในครั้งนี้ เมื่อเชื่อว่าเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาย่อมมีกฎระเบียบตามมาเป็นของคู่กัน ซึ่งกฎระเบียบในพิธีแต่งงานของศาสนาคริสนั้นก็จะแตกต่างกันออกไปในต่ละโบสถ์ด้วยนะคะ คู่บ่าวสาวหรือผู้ที่กำลังจะไปร่วม งานแต่งศาสนาคริสต์ จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้างลองมาศึกษากันก่อนค่ะ

งานแต่งศาสนาคริสต์

นิกายโปเตสแตนต์

ต้องขอบอกก่อนเลยว่าพิธีแต่งงานของชาวคริสเตียนในแต่ละโบสถ์อาจจะมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราได้นำข้อมูลโบสถ์ย่านฝั่งธนที่มีสไตล์โมเดิร์นไม่เหมือนโบสถ์ที่ไหนๆ ชื่อ คริสตจักรสานสัมพันธ์ธนบุรี (Nexus Christian Church Thonburi) โบสถ์นี้เป็นของนิกายโปเตสแตนต์ ซึ่งกฎระเบียบในพิธีแต่งงานจะมีหลักๆ ด้วยกัน 4 ข้อเองค่ะ

1. คู่สมรสหรือคู่บ่าวสาวจะต้องนับถือศาสนาคริสด้วยกันทั้งคู่ ต้องเชื่อในพระเจ้า เหตุที่เป็นเช่นนี้คือต้องการให้ครอบครัวมีพระเจ้าเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นศูนย์กลางในครอบครัว เพราะปกติแล้วชีวิตคู่ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป อาจมีงอนง้อกันบ้าง แต่เมื่อทั้งคู่เชื่อในสิ่งเดียวกันก็จะทำให้การใช้ชีวิตคู่นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นจริงไหมคะ?

2. ต้องวางตัวดี ไม่กุ๊กกิ๊กมีอะไรกันก่อนการแต่งงานเช่นเดียวกับวัฒนธรรมไทยของเราเลยนะคะ แต่ที่นี่อาจจะเคร่งนิดนึงตรงที่ห้ามจับมือและถูกเนื้อต้องตัวกันมากจนเกินไป และคู่บ่าวสาวก่อนเข้าพิธีแต่งงานควรเป็นคู่ที่มีความบริสุทธิ์ทั้งกายและจิตใจเพื่อให้สมกับการเป็นคู่รักของพระเจ้าค่ะ

3. แต่งตัวเหมาะสมสุภาพ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเจ้าสาวใส่ได้เฉพาะชุดแต่งงานที่มีแขนยาวนะคะ เจ้าสาวสามารถใส่ชุดแต่งงานได้ตามยุคสมัย เพราะถือว่าวันนี้จะเป็นวันที่ผู้หญิงสวยที่สุดในชีวิตก็ต้องขอแต่งตัวสวยๆ ตามแฟชั่นกันนิดนึงเนอะ

4. ภายในงานห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของมึนเมาเข้ามา แต่ถ้าจะเป็นไวน์ หรือแชมเปญนั้นมีได้ค่ะ แค่ต้องดื่มให้รู้ลิมิตของตัวเอง และห้ามเมาโวยวายด้วยนะจ๊ะ

งานแต่งศาสนาคริสต์

 

งานแต่งศาสนาคริสต์

นิกายโรมันคาทอลิก

พิธีแต่งงานของนิกายโรมันคาทอลิกในแต่ละโบสถ์จะมีความแตกต่างกันไม่มากนัก โดยนิยกายนี้จะมี อาสนวิหารอัสสัมชัญหรือโบสถ์อัสสัมชัญ เป็นโบสถ์ที่หลายๆ แห่งยึดถือกฏระเบียบปฏิบัติตาม แถมโบสถ์อัสสัมชัญยังเป็นโบสถ์ที่คู่แต่งงานหลายคู่นิยมเลือกเป็นสถานที่ประกอบพิธี เพราะเป็นโบสถ์ที่คลาสสิคสวยงามของสถานที่อันเก่าแก่กว่า 207 ปี และชื่อเสียงที่จัดพิธีแต่งงานมานับครั้งไม่ถ้วนจึงช่วยสร้างความอุ่นใจให้คู่รักได้ไม่น้อย ส่วนในวันพิธีจะมีข้อห้ามใดบ้างเตรียมจดกันเลยค่ะ

1. มาให้ตรงเวลานะจ๊ะ หากคู่บ่าวสาวมาไม่ตรงเวลาจะส่งผลกระทบต่อการจัดพิธีของคู่ต่อไป ต้องอย่าลืมนะคะว่าในหนึ่งวันทางโบสถ์อาจมีคู่รักหลายคู่ก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์ แล้วยิ่งโบสถ์สวยๆ ด้วยแล้วคู่ไหนก็อยากเลือกเป็นสถานที่สร้างความทรงจำชั่วนิรันดร์

2. ที่นี่จะเน้นย้ำเรื่องการแต่งกายเป็นอย่างมาก คู่บ่าวสาวและผู้มาร่วมงานทุกคนต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ห้าม! เกาะอก เปิดไหล่ กระโปรงสั้น ชุดเซ็กซี่มาซีทรูเลยงี้ก็ไม่ควรนะคะ

3. สำหรับเหล่าดารา เซเลบคนดังทางโบสถ์จะไม่อนุญาตให้สื่อมาทำข่าวถ่ายภาพ เพราะอาจเกิดความวุ่นวาย ทุกคนภายในงานจำเป็นต้องมีสมาธิเป็นการให้เกียรติแก่คู่บ่าวสาว แต่วันสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตใครๆ ก็อยากมีภาพความประทับใจจริงไหมคะ ซึ่งก็สามารถมีช่างภาพได้ โดยช่างภาพต้องแต่งกายสุดภาพ ห้ามเข้าไปในเขตหวงห้าม มีอาการสำรวม ส่วนอุปกรณ์บางอย่างก็ห้ามนำมาใช้ เช่น เครนแขวนกล้อง ไฟสปอร์ตไลท์

4. บทเพลงที่จะนำมาใช้สร้างบรรยากาศในพิธีต้องเป็นบทเพลงในพิธีกรรมที่ผ่านการตรวจสอบจากทางโบสถ์แล้วเท่านั้น ฉะนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวควรเตรียมเพลย์ลิสต์มาดีๆ ด้วยน้า

5. ไม่มีการจัดงานเลี้ยงฉลองบริเวณรอบๆ แต่สามารถเตรียมเป็นของว่างแบบ Snack box ได้ แนะนำทานให้อิ่มก่อนมาร่วมพิธีจะดีกว่านะคะ ถ้าหิวระหว่างพิธีแล้วลุกออกมาหาอะไรกินจะดูไม่ดีได้งานแต่งศาสนาคริสต์

ทั้งนี้ต้องอย่าลืมนะจ๊ะว่าแต่ละโบสถ์จะมีกฎข้อห้ามไม่เหมือนกัน บางที่อาจเคร่งครัดมาก บางที่อาจจะพออะลุ่มอล่วยได้บ้างต้องลองศึกษาให้ดี ไม่งั้นทำผิดขึ้นมาพลาดความทรงจำดีๆ ไปไม่รู้ด้วยน้า

ขอบคุณข้อมูลจาก : คริสตจักรสานสัมพันธ์ธนบุรี และ อาสนวิหารอัสสัมชัญ

รูปภาพจาก : linusmoranphotography.co.uk, c6c16u6.uteeni.com,
thesaintspub.wordpress.com, manager.co.th, nicoleamanda.ca

อ่านบทความเพิ่มเติม

4 ข้อห้ามในงานแต่ง … ความเชื่ออินเตอร์ที่ฝรั่งเขาทำกัน

ฤกษ์แต่งงานแบบฤกษ์สะดวก ถ้าเลือกให้ดีก็เป็นมงคลได้

เลื่อนจัดงานแต่ง ต้องบอกใครก่อนกันนะ!? เรามีคำตอบมาให้แล้ว

ละครช่อง 3

เปิดโผ ละครช่อง 3 ออนแอร์ 2564 จัดหนักขนทัพดาราทั่วฟ้าเมืองไทยเขย่าเรตติ้ง

Alternative Textaccount_circle
ละครช่อง 3
ละครช่อง 3

เปิดโผ  ละครช่อง 3 ออนแอร์ 2564 ที่น่าดู กะรัตรัก – สร้อยสะบันงา – เกมปรารถนา – Help me คุณผีช่วยด้วย – ยมทูตกับภูติสาว  – พฤษภา ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน ฯลฯ

ในฐานะผู้นำแห่งวงการ ละครช่อง 3 ยังคงเดินหน้าลุยสร้างงานละครอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลายค่ายพร้อมใจกันฟิตติ้งละครหลากรส หลายแนว พร้อมลุยเปิดกล้องถ่ายทำทันที ประเดิมด้วย ละครที่เป็นกระแสทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ของผู้จัดมือทอง “แอน ทองประสม” แห่ง บริษัท ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ หลังจากโกยเสียงชื่นชมถล่มทะลายจากละคร “อกกือบหักแอบรักคุณสามี” ไปแล้ว ก็เดินหน้าคว้า 2 ซุปตาร์ “มาริโอ้ เมาเร่อ” และ “ญาญ่า อุรัสยา” มาประกบคู่กันเป็นครั้งแรก ในละคร “คือเธอ” และเป็นครั้งแรกของมาริโอ้ที่ได้ร่วมงานกับผู้จัดแอน ส่วนสาวญาญ่านั้นเคยร่วมงานกับแอนมาแล้วในละคร “ลิขิตรัก The Crown Princess” นอกจากนี้ ยังได้ สาว “ออกแบบ – ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง” มาร่วมงานอีกด้วย โดยการกำกับของ “อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร” ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง และ “ดนยา ทรัพย์ยิ่ง” นักเขียนบทละครดังหลายเรื่อง อาทิ เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ, คลื่นชีวิต และ เลือดรักทระนง ฯลฯ มาร่วมสร้างความเข้มข้น

 ละครช่อง 3

ส่วนละครเรื่อง “กะรัตรัก” ของ ผู้จัด “คิง สมจริง” แห่งค่ายกู๊ด ฟีลลิ่ง ที่สร้างความเซอร์ไพรส์สะเทือนโลกโซเชี่ยล เมื่อคว้าตัวเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง “แอน ทองประสม” กลับมารับงานละครอีกครั้ง ในรอบ 6 ปี ประกบคู่ พระเอกรุ่นน้อง “เจมส์ จิรายุ” เป็นการสร้างเคมีพระนางต่างรุ่นสุดว้าว ไม่เพียงแค่นั้น ยังได้ “แซม ยุรนันท์” กลับมาร่วมงานกับทางช่อง 3 อีกครั้งในรอบ 18 ปี อีกด้วย

ละครช่อง 3

ข้ามมาที่ ละครพีเรียด ย้อนยุค “สร้อยสะบันงา” ของ ผู้จัด “นก จริยา” แห่งค่าย Maker J ได้นางเอก “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” มาร่วมงานกับช่อง 3 ครั้งแรก ประกบคู่ พระเอกหนุ่ม “นาย ณภัทร” ซึ่งทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้ว ในภาพยนตร์ “Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน” เห็นเสื้อผ้า หน้าผม ภาพฟิตติ้งแล้ว บอกได้คำเดียว ห้ามพลาด

ละครช่อง 3

ต่อเนื่องความเชือดเฉือน ด้วย “เกมปรารถนา” ของผู้จัด “อาร์ต-พลังธรรม กล่อมทองสุข” ก็จับเอา พระนาง “อาเล็ก ธีรเดช” “ณิชา ณัฏฐณิชา” มาประกบคู่กันอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่เคยร่วมงานกันในเรื่อง “สะใภ้จ้าว” มาแล้ว ร่วมด้วย นักแสดงมากฝีมือ แซม ยุรนันท์ ,โดนัท มนัสนันท์ ,ป็อป ฐากูร ร่วมระเบิดความมันส์ แฟนละครสายปะทะ ที่ชอบความสะใจ ล้างตารอได้เลย

เกมปรารถนา

พักความร้อนแรง มาที่ละครแนวคอมเมดี้ แฟนตาซี “Help me คุณผีช่วยด้วย” ของ ผู้จัด “ปิ่น ณัฐนันท์” แห่งค่ายทีวีซีน ที่จับ หนุ่มมาดกวน “เต๋อ ฉันทวิชช์” มารับบท “คุณผี” สุดหล่อ ที่พร้อมจะเรียกเสียงฮา โดยมี 2 สาวสวย เดียร์น่า ฟลีโป ,ปราง กัญญ์ณรัณ และ พระเอกหนุ่มมาแรง “ปาริธ ทิมทอง” ร่วมผสมโรงความสนุก

Help me คุณผีช่วยด้วย

ส่วนอีกเรื่อง คือ “ยมทูตกับภูติสาว” ของ ผู้จัด “อุ๊-พัชนี จารุจินดา” แห่งค่าย “สเต็ปออนเวิร์ด” ได้พระนาง “ออกัส วชิรวิชญ์” ประกบคู่ “อาย กมลเนตร” อีกครั้ง หลังจากที่เคยเล่น ซีรีส์ “Notification เตือนนัก..รักซะเลย” ด้วยกันมาแล้ว นอกจากนั้นยังดึง “พรีม รณิดา” ประกบคู่ “ปั้นจั่น ปรมะ” ครั้งแรกในละคร “ซ่อนกลิ่น” แนวโรแมนติก คอมเมดี้ มีผีหลอกพร้อม “แคร์ ฉัตรฑริกา” และ “บอล-กัมมัญญ์” งานนี้เรียกว่าฮากันท้องแข็ง พร้อมทั้งหยิบละคร “แม่ครัวคนใหม่” กลับมา รีเมคใหม่อีกครั้ง คว้าพระเอกดาวรุ่งอนาคตไกล “ออกัส วชิรวิชญ์” ประกบคู่ นางเอกน้องใหม่ “น้ำฟ้า ธัญญภัสร์” ร่วมป่วนด้วย “เซ้นต์ ศุภพงษ์” “ซี พฤกษ” ที่ แท็กทีมเรียกเสียงหัวเราะ

ซ่อนกลิ่น

ปิดท้ายที่ฟากผู้จัดน้องใหม่ แต่เก๋าเกมส์การแสดง ขอประเดิมที่ “โดนัท มนัสนันท์” บริษัท ดอร์เธอร์โปรดักชั่น จำกัด ที่ลุยละครเรื่องที่สอง “พฤษภา ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน” โดยได้ พระนาง ริว วชิรวิชญ์ ,แยม มทิรา ประกบคู่กันครั้งแรก ร่วมด้วยนักแสดงสุดคุ้นเคย อย่าง บอม ธนิน ,ชาคริต แย้มนาม ที่เคยทำงานร่วมกันในละคร “เดือนประดับดาว” ที่เจ้าตัวประเดิมเป็นผู้จัดครั้งแรกให้กับช่อง

พฤษภา ธันวา รักแท้แค่เกิดก่อน

และผู้จัดคนเก่ง “อ้อม พิยดา” แห่งค่ายเมจิค อีฟ เอนเตอร์เทนเม้นท์ ที่เคยส่งผลงานสร้างชื่อเรื่องแรกในฐานะผู้จัดช่อง 3 คือ “ด้ายแดง” มาครั้งนี้ ขอฉีกแนวดราม่าเข้มข้น ลุยโปรเจ็คสุดแนวเรื่องที่สอง กับละครแนวโรแมนติก ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี “แค้นรักสลับชะตา” โดยได้ 4 นักแสดงนำ อาเล็ก ธีรเดช ,น้ำตาล พิจักขณา ,บัว นลินทิพย์ ,กระทิง ขุนณรงค์ ร่วมประชันฝีมือ การันตีความสนุก ครบรส

แค้นรักสลับชะตา

เอาเป็นว่า ส่งภาพฟิตติ้งเป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยกันไปก่อน ใครที่รอหน้าจอ ช่อง 3 กด33 รอได้ รับรองเสิร์ฟจานหลักแต่ละเรื่องลงจอเมื่อไหร่ อิ่มอร่อยจุกๆ กันไปเลย


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

อิน-สาริน เขย่าวงการซีรี่ส์ Y คุณหมีปาฏิหาริย์ แรงติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1

ปูพรมแดงต้อนรับ “เอี๊ยง-ไอซ์” คว้าบทคู่ขวัญ บังเกิดเกล้า สู่บ้านอมรินทร์ทีวี

เจมส์-จิรายุ มาเรียกแฟนคลับกลับด้อม! กับผลงานใหม่ “พยากรณ์ซ่อนรัก”

toi et moi สัญลักษณ์แห่งความโรแมนติก สู่งาน“จิเวลรี่”ชั้นสูง Dior et Moi

account_circle

จากเครื่องประดับสัญลักษณ์แห่งความโรแมนติกที่รู้จักกันในชื่อ “toi et moi” หรือ “you and me” สู่งาน”จิเวลรี่”ชั้นสูงชั้นสูงคอลเล็คชั่น Dior et Moi

“toi et moi” คือสัญลักษณ์แห่งความรักที่เชื่อมจิตวิญญาณสองดวงเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวผ่านแหวนที่ดีไซน์ให้ 2 อัญมณีวางเคียงข้างกัน ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากแหวนแห่งรักอันเป็นตำนานที่นโปเลียน โบนาปาร์ต สมัยเป็นนายทหารได้มอบให้แก่โชเซฟีน เดอ โบอาร์เน และแหวนที่ จอห์น เอฟ. เคนเนดี้มอบให้ แจ๊คเกอลีน เคนเนดี้

จิเวลรี่
DIOR ET MOI DOUBLE RING แหวนทองคำขาวประดับเพชร ตกแต่งทัวร์มาลีนสีฟ้าอมเขียวประดับเพชร และเทอร์คอยส์ ล้อมซาโวไรต์การ์เน็ต หรือโกเมนสีเขียว และโอปอลเคลือบเงา

 

จิเวลรี่
DIOR ET MOI NECKLACE สร้อยคอมุกทองคำขาว  และพิ้งค์โกลด์ประดับโอปอลสีดำล้อมรอบด้วยสปิเนล
สีแดง และมรกตล้อมเพชร

เรื่องราวความโรแมนติกของ “toi et moi” คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้วิกทัวร์  เดอ  คาสเตลลาน (Victoire de Castellane)  อาร์ติสติกไดเร็คเตอร์ฝ่ายจิเวลรี่ชั้นสูงของดิออร์  วาดฝันไปสู่ชิ้นงานไฮจิเวลรี่ที่ก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดด้วยการผสมผสานพลอยที่มีความพิเศษและพลอยเนื้ออ่อนชนิดต่างๆ

จิเวลรี่
DIOR ET MOI EARRINGS ต่างหูทองคำขาว  เยลโลว์โกลด์ และพิ้งค์โกลด์ประดับเพชร ตกแต่งโอปอลสีดำล้อมรอบสปิเนลสีแดงและเทอร์คอยส์ ส่วนอีกข้างตกแต่งมรกต ประดับเพชรและเพชรล้อมรอบ ด้วยเทอร์คอยส์เคลือบเงา
จิเวลรี่
DIOR ET MOI DOUBLE RING แหวนเยลโลว์โกลด์และ พิ้งค์โกลด์ประดับเพชร ตกแต่งแซปไฟร์สีชมพูล้อมเพชร
โอปอลสีดำ  และมุกล้อมอัญมณี ไล่เฉดสี ทั้งแซปไฟร์สีชมพู สีฟ้า สีม่วง และสีเหลือง ซาโวไรต์การ์เน็ต 
แมนดารินการ์เน็ต เพริดอต และมรกต

งานสร้างสรรค์ 39 ชิ้นประกอบด้วยสร้อยคอ กำไล ต่างหู และแหวน เผยให้เห็นถึงความหาญกล้าของผู้กุมบังเหียนแห่ง Dior Joaillerie ที่เปิดประตูให้เห็นอีกด้านของความสวยงามที่ต่างจากเดิมในการสวมใส่จิเวลรี่แก่หญิงสาวยุคใหม่

DIOR ET MOI BRACELET  กำไลพิ้งค์โกลด์ประดับรูเบลไลต์เจียทรงหลังเต่า (Cabochon) ล้อมเพชร
เพิ่มลูกเล่นให้ตัวเรือนด้วยการเคลือบเงาสีชมพู
DIOR ET MOI TRIBALES EARRINGS  ต่างหู พิ้งค์โกลด์ประดั เพชรและมุกล้อมรอบด้วยแซปไฟร์สีชมพู  ส่วนอีกข้างประดับโอปอลและแซปไฟร์สีชมพู ล้อมรอบด้วยเพชร

เธอกล้าใช้สีที่ไม่เป็นไปตามแบบแผน รวมถึงการหยิบสัดส่วนและรูปทรงต่างๆ การเคลือบเงามาผสมผสานเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์อันน่าทึ่ง ออกมาเป็น 15 เฉดสีที่คาดไม่ถึง ซึ่งได้รับการพัฒนาจากความรู้ของอะเตลิเยร์หรือช่างจิเวลรี่แห่ง
เมซงดิออร์ การพ่นบนทองคำขัดเงาเป็นการเนรมิตเสน่ห์ใหม่ให้เพชรพลอยแต่ละชิ้นสวยแปลกตาขึ้น

DIOR ET MOI DOUBLE RING  แหวนทองคำขาว  เยลโลว์โกลด์  และพิ้งค์โกลด์ประดับเพชร  ตกแต่งโอปอลสีดำล้อมรอบด้วยสปิเนลสีแดง  มรกตล้อมเพชร  และเทอร์คอยส์เคลือบเงา
DIOR ET MOI EMERALD RING แหวนทองคำขาวและแพลทินัมประดับมรกตล้อมเพชรและเทอร์คอยส์ล้อมเพชร
DIOR ET MOI PHALANX RING แหวนคู่สองวงเชื่อมติดกัน ประกอบด้วยแหวนทองคำขาวประดับเทอร์คอยส์ล้อมเพชร และแหวนทองคำขาว ประดับพิ้งค์บลูแซปไฟร์ล้อมมรกต

อัญมณีล้ำค่าที่นำมาสร้างสรรค์ในคอลเล็คชั่น Dior et Moi ประกอบไปด้วยพลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อน เช่น เพชร มรกต  แซปไฟร์สีฟ้า หรือสีชมพูบริลเลียนต์คัต สำหรับรูปทรงมีทั้งทรงหยดน้ำ (Pear Shape) ทรงคุชชั่นหรือทรงหมอน (Cushion Shape) ที่เป็นสี่เหลี่ยมขอบมน และทรงรูปไข่ (Oval Shape) นอกจากนี้ยังแต่งแต้มความมีชีวิตชีวาด้วยสปิเนล (Spinel) ทัวร์มาลีน (Tourmaline) รูเบลไลต์ (Rubellite) คุนไซต์ (Kunzite) เทอร์คอยส์(Turquoise) โอปอล (Opal) และไข่มุก

DIOR ET MOI TRIBALES EARRINGS ต่างหูทองคำขาวประดับเพชร ตกแต่งโอปอลสีขาวและทัวร์มาลีนล้อมเพชรอีกข้างตกแต่งซาโวไรต์ล้อมเพชร และเทอร์คอยส์เคลือบเงา
DIOR ET MOI NECKLACE สร้อยคอทองคำขาวและเยลโลว์โกลด์ประดับเพชร และโอปอลขนาดใหญ่
สีขาวล้อมรอบด้วยอัญมณีไล่เฉดสี ทั้งแซปไฟร์สีชมพู สีฟ้า สีม่วง และสีเหลือง ซาโวไรต์การ์เน็ต 
แมนดารินการ์เน็ต เพริดอต และมรกต
DIOR ET MOI DOUBLE RING แหวนพิ้งค์โกลด์ประดับเพชร ตกแต่งมุกล้อมเพชร โอปอลทรงหยดน้ำล้อมเพชร และเพชรเม็ดใหญ่ทรงคุชชั่นล้อมเพชร
DIOR ET MOI RING  แหวนพิ้งค์โกลด์ประดับเพชร  พิ้งค์แซปไฟร์และโอปอลสีชมพูเคลือบเงา

หนึ่งในเพชรพลอยที่วิกทัวร์ เดอ คาสเตลลาน ชื่นชอบคือโอปอล ได้ผงาดอย่างภาคภูมิด้วยไซส์ XXL และเพิ่มมนตร์สะกดด้วยการเคลือบเงาบนเซตสร้อยคอที่ตกแต่งด้วยเพชร ส่วนต่างหูทรงอสมมาตรนั้นเจิดจรัสด้วยสีสว่างไสวจากสีเขียวไปจนถึงสีชมพูที่เผยถึงความขี้เล่นและร่วมสมัยในแง่ของการสานต่องานแห่งจิเวลรี่ชั้นสูง ครั้งนี้เราได้เห็นทั้งงานศิลปะและความอัจฉริยะของช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญทางด้านอัญมณี ผู้อยู่เบื้องหลังมนตร์เสน่ห์ในเครื่องประดับชั้นสูงของดิออร์


นิตยสารแพรว ฉบับ 958

 

ฉีดวัคซีน

“ผู้ใหญ่ก็ต้องฉีดวัคซีน” แม้จะเคยฉีดตอนเด็กๆ ป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา

Alternative Textaccount_circle
ฉีดวัคซีน
ฉีดวัคซีน

ถึงแม้ว่าผู้ใหญ่จะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงกว่าเด็ก แต่สำหรับบางโรค แม้ว่าเราจะเคย ฉีดวัคซีน แล้วตอนเด็กๆ ระดับภูมิคุ้มกันกลับค่อยๆ ลดลงจนไม่เพียงพอสำหรับการป้องกันโรคอีกต่อไป

นอกจากนี้ยังมีโรคที่อุบัติใหม่ขึ้นอยู่เสมอ ทำให้มีการค้นพบวัคซีนใหม่ๆ ดังนั้น วัคซีนจึงไม่ใช่สิ่งที่ใช้เฉพาะเด็กเล็กอีกต่อไป พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จาก Addlife Check-Up Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) จะมาเล่าถึงวัคซีนที่จำเป็นสำหรับผู้ใหญ่นะคะ ว่ามีอะไรบ้าง

  • วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม (Measles-Mumps-Rubella Vaccine : MMR) โดยปกติผู้ที่เคยฉีดวัคซีนครบ 2 ครั้งแล้ว ไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำอีก เนื่องจากระดับภูมิคุ้มกันสูงเพียงพอที่จะป้องกันโรคได้ตลอดชีวิต แต่ผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยป่วยเป็นโรคทั้ง 3 นี้มาก่อน รวมทั้งผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน หรือได้รับวัคซีนไม่ครบ 2 ครั้ง ควรได้รับวัคซีนรวมอย่างน้อย 1 ครั้ง โดยเฉพาะหญิงวัยเจริญเจริญพันธุ์ควรได้รับวัคซีนชนิดนี้อย่างน้อย 1 ครั้ง และหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์เป็นเวลา 3 เดือนหลังฉีดวัคซีน

 

  • วัคซีนอีสุกอีใส งูสวัด (Varicella Vaccine) ควรฉีดในผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนหรือไม่เคยเป็นอีสุกอีใสหรืองูสวัดมาก่อน โดยฉีด 2 ครั้งห่างกัน 4-8 สัปดาห์ หญิงวัยเจริญพันธุ์ควรหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์เป็นเวลา 1 เดือนหลังฉีดวัคซีน ผู้ที่สัมผัสโรคควรฉีดวัคซีนภายใน 72 ชั่วโมงหลังสัมผัสโรคจึงป้องกันได้ หากเกิน 5 วันไม่สามารถป้องกันโรคแต่สามารถลดความรุนแรงของโรคได้

 

  • วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Influenza Vaccine) โดยทั่วไปไข้หวัดใหญ่มักมีอาการรุนแรงกว่าไข้หวัดและหายใน 5-7 วัน แต่การติดเชื้อในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้มีโรคเรื้อรังในระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจเรื้อรัง ฯลฯ อาจมีอาการรุนแรง เกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้มีอัตราการเสียชีวิตสูง แนะนำให้ฉีดทุกปี เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ทุกปี โดยฉีดปีละ 1 ครั้ง ช่วงก่อนมีการระบาด ในประเทศไทยมักระบาด 2 ช่วงคือช่วงฤดูฝน และช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้ห้ามฉีดในผู้ที่แพ้ไข่อย่างรุนแรง เนื่องจากไข่เป็นส่วนหนึ่งในขบวนการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่

 

  • วัคซีนปอดอักเสบ (Pneumococcal Vaccine) เชื้อนิวโมคอคคัสเป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคติดเชื้อในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ฯลฯ โดยเฉพาะการติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดรุกล้ำ (Invasive pneumococcal disease ย่อว่า IPD) ทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ ในผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนเพียงครั้งเดียว แต่อาจฉีดกระตุ้นอีกครั้งหลังฉีดครั้งแรก 3-5 ปี

ฉีดวัคซีน

เมื่อทราบดังนี้แล้วก็แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อได้รับวัคซีนให้ครบนะคะ เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาค่ะ


 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เช็ค 5 โรคอันตราย ภัยจาก WFH นั่งๆ นอนๆ เกิดเป็นภาวะขี้เกียจไม่เคลื่อนไหว

อายุเท่ากัน แต่หน้าตาและผิวพรรณกลับดูต่างกันอย่างเห็นได้ชัด มีสาเหตุจาก

ผอมเกินไปไม่ดี! 4 ทริคเพิ่มน้ำหนัก คนผอมลำไส้เล็ก เสี่ยงโรคไม่น้อยกว่าคนอ้วน

 

 

8 ปี บนเส้นทางมายา 'เจมส์-จิรายุ' ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

8 ปี บนเส้นทางมายา ‘เจมส์-จิรายุ’ ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

Alternative Textaccount_circle
8 ปี บนเส้นทางมายา 'เจมส์-จิรายุ' ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต
8 ปี บนเส้นทางมายา 'เจมส์-จิรายุ' ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

อัพเดตชีวิต 8 ปี บนเส้นทางสายบันเทิงของ ‘เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข’ ซุป’ตาร์ที่ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมเปลี่ยนแปลงตามจังหวะชีวิต

จากคำว่าซูเปอร์สตาร์สายฟ้าแล่บที่ได้มาจากความดังแบบพลุแตกในละครเรื่องแรก สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ปี 2556 ตามด้วยผลงานสร้างชื่ออีกมากมายในวงการบันเทิง พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทั้งหมดนั้นไม่ใช่โชคช่วย แต่มาจากความพยายาม ความตั้งใจ และฝีมือ

“สองเดือนที่ผ่านมาเป็นการได้พักแบบยาวๆ ครั้งแรกในรอบหลายปีของผมเลย” เจมส์เปิดบทสนทนากับ แพรว เล่าถึงช่วงกักตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้เขาได้เข้าสู่โหมดพักผ่อนอย่างจริงจัง หลังจากทำงานหนักมาหลายปี

8 ปี บนเส้นทางมายา 'เจมส์-จิรายุ' ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

ช่วงอยู่บ้านทำอะไรบ้างคะ

“นอนครับ จริงๆ นะ (หัวเราะ) เหมือนผมได้เวลาพักผ่อนมาแบบบังเอิญ เพราะก่อนหน้านี้ถ่ายละครต่อเนื่องตลอด ทำงานหนึ่งเรื่องใช้เวลาเกือบปี จึงไม่ได้มีช่วงว่างมากนัก แต่พอได้รับเวลาว่างมาแบบงงๆ วันแรกๆ ก็ไม่ชินนะครับ (หัวเราะ) แต่พอผ่านไปสักพักก็ปรับตัวได้ แล้วผมไปช่วยงานช่อง 3 ระดมทุน เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ จึงไม่ถึงกับว่างแบบ 100 เปอร์เซ็นต์

“ช่วงที่อยู่บ้านก็พักผ่อนแบบเต็มที่ นอนยาวๆ เลย ซึ่งปกติเวลาที่เราเจอกันนี่ (11.30 น.) ผมยังไม่ตื่นนะ ต้องประมาณเที่ยงไปแล้ว (หัวเราะ) นอกจากนั้น สิ่งที่ดีมากคือมีเวลากลับมาออกกำลังกายแบบจริงจังขึ้น กับได้อัดคลิปทำกิจกรรมต่างๆ ให้แฟนๆ ดูบ้าง”

เพิ่งได้พักนานสุดตอนนี้เลยเหรอ

“ใช่ครับ 7 ปีแล้ว ตั้งแต่เล่นละครเรื่องแรก แต่ถ้านับตั้งแต่เข้าวงการจริงๆ ก็น่าจะ 8 ปีครับ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีนะ มองย้อนกลับไปผมคิดว่าตัวเองเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ ทั้งจากวัย ประสบการณ์ โอกาสที่เข้ามา และงานที่ได้ทำ”

อย่างวิธีเลือกรับงาน พอโตขึ้นมีวิธีคิดที่เปลี่ยนไปไหมคะ

“ยังคงเหมือนเดิมครับ คือผมไม่ได้ตั้งกติกาอะไรไว้ เปิดให้กับโอกาสที่จะ เข้ามา อย่างทำงานกับช่อง 3 ผู้ใหญ่จะเลือกให้ว่าผมเหมาะกับละครเรื่องอะไร ซึ่งเมื่อได้รับโอกาส ผมก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เวลามีคำถามว่าผมอยาก เล่นบทแบบไหน ก็ต้องบอกตรง ๆ ว่าผมไม่มีไอเดีย เนื่องจากบทที่ผู้ใหญ่พิจารณา เลือกมาให้ก็ค่อนข้างมีความหลากหลายอยู่แล้ว เพราะไม่อยากให้เราเล่นแบบซ้ำ ๆ ตัวละครเดิม ๆ เรื่องราวเดิม ๆ ผมจึงได้เปลี่ยนบทบาทไปเรื่อย ๆ ซึ่งพองานเข้ามา แบบไม่ซ้ำเลย มันก็ทำให้ผมรู้สึกสนุกกับทุกบทบาทที่ได้รับจริง ๆ แล้วพอเริ่มงาน ใหม่ก็แปลกอีก สนุกอีก ผมจึงไม่ต้องเฟ้นหา…ผมสรุปออกมาได้แบบนี้ครับ

“เวลาทำงานผมก็ไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษอะไร นอกจากอ่านบทแล้วพยายาม หาจุดต่าง ๆ ของตัวละครให้เจอ ศึกษาชีวิตของตัวละครในแต่ละด้านจนเข้าใจ คือไม่ถึงกับทำการบ้านแบบหนักหน่วง แต่จะพยายามหาไอเดียจากสิ่งรอบตัว ในชีวิตประจำวัน อย่างถ้าตัวละครนั้นมีอาชีพอะไร ผมก็จะไปค้นความเป็นอาชีพ นั้น ๆ ให้ลึกซึ้ง เพื่อดูว่าเราจะสร้างตัวละครนั้น ๆ ขึ้นมาในรูปแบบไหนได้บ้าง คือ นำข้อมูลมาปรับใช้กับตัวละคร เพื่อให้ได้ความสมจริง มีมิติ”

8 ปี บนเส้นทางมายา 'เจมส์-จิรายุ' ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

คิดว่าอะไรในความเป็นเจมส์จิที่ทำให้ได้รับโอกาสดีๆ อยู่ตลอด

“อืม…(หยุดนึก) น่าจะเป็นบุญเก่า (หัวเราะ) จริง ๆ นะ คงเป็นแต้มบุญ ที่ผมสะสมมา เพราะถ้าบอกว่าคือความตั้งใจทำงาน ผมว่าทุกคนก็คงจะพยายาม และตั้งใจทำงานที่ตัวเองได้รับมาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือโอกาสดี ๆ ที่ เข้ามาหาแต่ละคนไม่เหมือนกัน”

ถ้าเป็นความเก่งล่ะ เจมส์เก่งเรื่องอะไรที่สุด

“คงไม่ที่สุด (ยิ้ม) ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนที่เก่งเป็นพิเศษ ซึ่งพอคิด แบบนี้ก็เลย…ทำให้ผมพยายามพัฒนาตัวเองในทุก ๆ ด้าน เพื่อทำงานให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ คือเราอาจจะไม่ได้เก่งอะไรสักทาง แต่จะใช้ความพยายามให้ดีที่สุดสำหรับใน ทุก ๆ อย่างที่เข้ามา ส่วนที่หลังจากได้รับโอกาสแล้ว ทำแล้วชอบอะไร หรือเก่ง ด้านไหนมากที่สุด…ตอบยากมากเลย เพราะผมชอบทุกอย่างที่ตัวเองทำน่ะ”

แล้วอะไรที่เจมส์ไม่ถนัดที่สุด

“…ไม่ชอบเต้นครับ ผมเขินตัวเอง (ยิ้มเขิน) หลายคนบอกว่าเจมส์เต้นได้ จากภาพที่เห็นในคอนเสิร์ตหรือตามงานต่าง ๆ ซึ่งเจมส์ก็เต้นได้จริงครับ แต่ ในใจจะรู้สึกตะขิดตะขวงนิด ๆ เขินหน่อย ๆ (ยิ้ม) แม้จะผ่านมาหลายงาน แต่ ทุกวันนี้เวลาที่ต้องเต้นก็ยังเขินอยู่ตลอดเลยครับ”

ชีวิตในวัยใกล้ 27 ปีของเจมส์เป็นอย่างไร

“โห…ผมจะ 27 แล้วเหรอ (ทำเสียงตกใจจริงจัง) ผมไม่เคยคิดถึงตัวเลข ของอายุ ซึ่งถ้ามองตัวเลข 27 อาจจะบ่งบอกถึงศักยภาพหรือสมรรถภาพทาง ร่างกายมากกว่า (หัวเราะ) และตอนนี้ผมก็ไม่ได้ซีเรียสกับชีวิตว่าเราโตขึ้นขนาดไหน แล้ว เป้าหมายในอีก 10 ปีคืออะไร

“แต่เมื่อ 3 ปีที่แล้วผมเคยตั้งเป้าไว้เหมือนกันนะว่าเราต้องเก่งในเรื่องนี้ให้ได้ เช่น ต้องเก่งการแสดงให้มากกว่านี้ หรือต้องเล่นดนตรีให้ได้ ต้องทำงาน ให้ดีขึ้นจากเดิม เพราะช่วงนั้นเหมือนค้นหาความหมายของชีวิต ซึ่งผมคิดว่า หลายคนที่อยู่ในช่วงอายุประมาณ 20 – 30 ปีก็น่าจะรู้สึกคล้าย ๆ แบบนี้ ประมาณว่าชีวิตจะไปทางไหนต่อ จะทำอะไรดี เราต้องเป็นคนแบบไหน บวกกับ ผมค่อนข้างเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ ฉะนั้นสิ่งที่ตามมาคือความกดดันและความ เครียดในตัวเอง

“ช่วงนั้นผมอ่านหนังสือหลายเล่ม จนที่สุดเริ่มตกผลึกว่าบางเรื่องเราก็ ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบก็ได้นะ อย่างมีการทดลองหนึ่งเขาให้คนกลุ่มนี้ไปหา ความหมายของชีวิต ส่วนอีกกลุ่มไปหาความสุขในชีวิต ซึ่งผลสรุปที่ได้คือ จริง ๆ แล้วความสุขไม่ใช่สิ่งที่จะตามหาได้ แต่เป็นผลจากการกระทำของเรา สุดท้าย ผมจึงถามตัวเองว่า แล้วเราจะตั้งเป้าหมายนี้ไปเพื่ออะไร หรือจริง ๆ แล้วชีวิต ไม่ต้องมีเป้าแบบชัดเจนขนาดนั้นก็ได้ แค่เรามีความสุขก็น่าจะเพียงพอแล้วมั้ง

“ผมจึงเลือกจะใช้ชีวิตไปกับความสุขเล็ก ๆ ในทุก ๆ วัน ไม่ต้องมองภาพไกลมาก ซึ่งความสุขของผมคือการที่ได้มีโอกาสทำงาน ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยการ แบ่งปันความรู้และความสุขให้กับคนรอบตัว ผมว่าแค่นี้แหละ…โอเคแล้ว

“สำหรับ 7 ปีในวงการบันเทิง ชีวิตผมเปลี่ยนไปหลายเรื่องเลยครับ อาจ จะไม่ได้ใช้แค่คำว่าโตขึ้น แต่ถ้ามองภาพรวม ผมคิดว่า…ผมมีความสุขมากขึ้น (ยิ้ม) มีความสุขกับการทำงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากช่วงแรกที่ผมเข้าวงการบันเทิง แล้วได้เล่นละครเรื่องแรก ทำให้มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้น หลังจากนั้นช่วงปีแรก ๆ ตอนทำงานเยอะ ๆ ผมรู้สึกว่าเหนื่อยจัง…แต่พอเวลาผ่านไป เมื่อผมเข้าใจอะไร มากขึ้นก็เริ่มสนุกกับการทำงานและมีความสุขมากขึ้นในทุก ๆ ช่วงชีวิต คือ ก็ยังมีเหนื่อยบ้าง แต่มีความสุขครับ” (ยิ้ม)

8 ปี บนเส้นทางมายา 'เจมส์-จิรายุ' ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

มองภาพตัวเองในวงการบันเทิงจากนี้ไว้อย่างไร

“ไม่ได้ปักธงไว้ชัดเจนครับ ผมเชื่อว่าความคิดของเราจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามโอกาสและยุคสมัย ผมอาจจะทำงานในวงการบันเทิงไปจนแก่ก็ได้ แต่เปลี่ยน ตำแหน่งหน้าที่ จากเป็นพระเอกไปเล่นเป็นตัวละครอื่นบ้าง หรือไปทำนู่นทำนี่อยู่เบื้องหลัง หรืออาจจะเป็นผู้กำกับ เป็นผู้จัดฯก็ได้ แล้วแต่โอกาส จังหวะ รวมถึงความคิดและไอเดีย ณ ตอนนั้นครับ”

ไม่ยึดติดกับความเป็นพระเอก

“ผมเคยอ่านเจอว่า ความทุกข์มี 2 แบบ แบบแรก ความทุกข์เฉียบพลัน ซึ่งเกิดง่ายมาก คือการใช้ตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แบบนั้นทุกข์แน่นอน แบบที่สองคือ การยึดติดหรือคาดหวังกับอนาคต ก็เกิดความทุกข์แน่นอนเช่นกัน เพราะเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่เราพยายามไปเคร่งเครียด หมกมุ่นอยู่กับมัน

“ซึ่งบางทีการที่เรายึดติดอยู่กับอนาคตก็อาจจะทำให้เราได้ผลงานที่ดีก็ได้ เพราะเราเต็มไปด้วยความคาดหวัง ซึ่งไม่ผิดนะครับ แต่บางทีมันก็ทำให้ความสุขระหว่างทางหายไป กว่าเราจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้

“ผมจึงเลือกมีความสุขกับปัจจุบัน ไม่เอาตัวเองไปยึดติด แค่ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนควรทำ เราก็แค่วางแผนแล้วลงมือทำ สมมติผมมีไอเดียว่าอยากนำเสนอเนื้อหาแบบนี้ ผมก็จะไม่คิดไปถึงภาพใหญ่โตว่าถ้าทำสิ่งนี้แล้วจะได้อะไรกลับมาบ้าง แล้วจากนั้นควรทำอะไรต่อ ซึ่งการที่คิดใหญ่ไว้ก่อนมันก็ดีนะ แต่คิดบาง ๆ ได้บางครั้งก็ดีกว่าครับ (ยิ้ม) คิดบาง ๆ ของผมคือ แค่ทำสิ่งนั้นให้ดี ยังไม่ต้องไปกังวลถึงอนาคต”

8 ปี บนเส้นทางมายา 'เจมส์-จิรายุ' ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

แสดงว่าทุกอย่างที่ทำมาจากความชอบจริงๆ

“ใช่ครับ สำหรับในตอนนี้นะครับ จะมาจากความรู้สึก ความชอบ ทำในสิ่งที่ผมรู้สึกว่าโอเค มันดีต่อตัวเรา ดีต่อคนอื่นด้วย และไม่ได้ทำร้ายใคร

“อย่างตอนนี้ผมชอบนอนที่สุดเลยนะ (หัวเราะ) ล้อเล่นครับ ผมจะยกตัวอย่างการถ่ายภาพที่เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมชอบ ทั้งชอบถ่าย ชอบแต่งรูป และชอบซื้ออุปกรณ์ด้วย ตัวนี้ออกใหม่ รุ่นนี้ลิมิเต็ด จนตอนนี้น่าจะมีราว ๆ 30 ตัว แล้วครับ คือทั้งสนุกที่ได้ถ่ายและได้ซื้อ (ยิ้ม) แต่ก็พยายามจะหยุด ไม่ซื้อแล้วละ…พยายามอยู่จริง ๆ นะครับ (หัวเราะ)

“เมื่อก่อนผมพกกล้องติดตัวตลอดเวลา ถ่ายแทบทุกอย่าง เพราะผมไม่ได้มีอะไรที่ชอบถ่ายเป็นพิเศษ ถ่ายทุกอย่าง ทั้งวิว คน ไม่มีหมวดหมู่ จนมาถึงช่วงที่พกไว้เฉย ๆ แต่ไม่ถ่ายอะไรเลย คือแบกกล้องจนปวดไหล่ไปหมด (หัวเราะ) จึงเริ่มคิดว่าเพราะอะไรที่ทำให้เราเริ่มเบื่อหรือไม่อยากถ่าย ก็เลยคิดโปรเจ็กต์สนุก ๆ มาเติมสีสันให้ตัวเอง แพลนไว้ว่าในอนาคตอยากทำโปรเจ็กต์ถ่ายรูป ทุกวันเวลาออกไปทำงาน เจอเพื่อน พอครบ 1 ปีก็มานั่งดูภาพทั้งหมด เราคงได้เห็นเรื่องราวระหว่างทางมากมาย เป็นการรวบรวมความสุขในระหว่างทาง”

เวลานึกถึงเจมส ์ ภาพที่เห็นคือรอยยิ้ม ความสดใส เคยมีมุมเครียดๆ บ้างไหม

“ไม่ค่อยมีเลยครับ…ผมค่อนข้างสบาย ๆ ชิล ๆ (หยุดนึก) นึกไม่ออกจริง ๆ ครับว่าผมเคยโกรธใครหรือโมโหเรื่องอะไรจริงจัง คงเพราะผมปล่อยผ่านได้ง่าย ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ดีนะครับ เพราะบางเรื่องก็ไม่ควรปล่อย ไม่ได้หมายความว่าเราต้องไปเอาเรื่องใครเขานะ เพียงแต่อาจจะต้องจัดการอะไรบ้าง แต่ผมสามารถยอมรับได้ด้วยความรู้สึกว่า ‘ไม่เป็นไร’ คือคนทั่วไปเขาต้องฝึกตัวเองไม่ให้โมโห
ใช่ไหมครับ แต่ผมพยายามฝึกตัวเองให้โมโหเป็นอยู่ครับ” (ยิ้มหวาน)

8 ปี บนเส้นทางมายา 'เจมส์-จิรายุ' ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

ดูแลตัวเองอย่างไรจึงดูเด็กและสดใสอยู่ตลอด

“น่าจะเป็นแต้มบุญอีกเช่นกัน (หัวเราะ) โชคดีที่หน้าเด็ก จึงยังดูเด็กอยู่ แม้อายุจะเพิ่มขึ้น แต่ผมก็พยายามดูแลตัวเองให้ดีเท่าที่ทำได้นะ อย่างนอนเยอะ ๆ ไง (ยิ้มกวน) วิ่งออกกำลังกาย เพราะอย่างอื่นไม่ถนัดครับ”

เวลาอยู่กับแก๊งเพื่อนๆ เป็นอย่างไรบ้าง

“สนุกครับ อย่างวันนี้ดีใจมากที่ได้มาทำงานกับพี่เต้ยอีก เพราะเราสนิทกันมานานแล้วครับ ประมาณ 5 ปีแล้ว ช่วงไหนไม่ได้เจอก็โทร.คุยอัพเดตเรื่องราวจะได้รู้ความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง คุยตั้งแต่เรื่องทั่วไปจนถึงชีวิตช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ (ทำเสียงจริงจัง)

“แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวจะไม่ค่อยแชร์กันนะ เพราะอย่างพี่เต้ย พี่แต้ว (ณฐพร) สองคนนี้เป็นผู้หญิงแกร่ง สายสตรองมาก ถ้านึกภาพตามก็คือผู้หญิงที่ยกเวตกล้ามใหญ่ๆ (ยิ้ม) ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ เขามีมุมมองในการใช้ชีวิตที่ดีมาก ๆ และหลายครั้งที่ผมได้คำแนะนำในการใช้ชีวิตจากพี่ ๆ เป็นความรักที่เรามีให้กัน (ยิ้ม) ผมคิดว่ามิตรภาพและความรักเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ทุกคนจำเป็นต้องมีความรัก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว เราทุกคนเติบโตได้ด้วยความรักครับ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 960

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดดวง12 ราศีครึ่งปี 2563 กับพยากรณ์หนุ่มสุดหล่อ”หมอแชมป์”เงิน งาน ความรัก ปังหรือแป้ก!

ชีวิตบนความคาดหวัง เผยแผลศัลยกรรมตาสองชั้นของ ‘หมอรวงข้าว’

ฝันให้ไกลไปให้ถึง “มีมี่ เทา” ไม่สนคำคน พกฝันสู่รันเวย์ระดับโลก

keyboard_arrow_up