วางไทม์ไลน์วันแต่งงานล่วงหน้า ตัดปัญหาพาหัวหมุนในวันจริง!

account_circle

แพรวเวดดิ้งมาชวนคุณเตรียมทำไทม์ไลน์สำหรับ วันแต่งงาน ของคุณกันค่ะ เริ่มกันตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงขั้นตอนส่งแขกกลับหลังจากงานเลี้ยงเสร็จสิ้น และถ้าจะให้ดีสุดๆ เราแนะนำให้ชวนคุณว่าที่สามีมานั่งทำด้วยกันเลย เพราะมันมีประโยชน์มากๆ และเรารับรองว่าเมื่อถึงวันนั้นคุณทั้งคู่จะคลายกังวลไปได้มากเลยล่ะค่ะ

 

  • วางไทม์ไลน์ให้ครบถ้วนทุกขั้นตอน แล้วเผื่อเวลา 5-10 นาทีไว้ในแต่ละขั้นตอน เพราะระหว่างนั้นอาจมีอีเวนท์ที่ไม่คาดฝันเข้ามา แค่วางขั้นตอนให้เป๊ะและเผื่อเวลาไว้บ้างเท่านั้นเอง งานนี้นอกจากจะไม่พลาดทุกขั้นตอนของวันสำคัญแล้ว คุณเองก็ไม่ต้องกังวลหรือเครียดกับเรื่องเวลาที่วางไว้อีกด้วย

  • ก่อนวันงาน 2 สัปดาห์ เราแนะนำให้คุณทำลิสท์แขกคนสำคัญให้กับช่างภาพ คุณจะได้มั่นใจว่าโมเม้นท์ในวันสำคัญของคุณกับคนพิเศษเหล่านั้นจะไม่ตกหล่นหายไป และถูกเก็บไว้โดยช่างภาพของคุณ

  • ถ้างานนี้คุณจัดเองโดยไม่พึ่งแพลนเนอร์ คุณควรจัดไทม์ไลน์ในการเตรียมงานในวันนั้นให้เหมาะสม สถานที่จัดงานอนุญาตให้เข้าเตรียมงานได้เทื่อไร ทีมดอกไม้ควรเริ่มและใช้เวลาแค่ไหน ทีมแสงสีเสียงควรเข้าตอนไหน อาหารและเครื่องดื่มควรพร้อมก่อนงานเริ่มสักกี่ชั่วโมง เป็นต้น คุยกับทุกเวนเดอร์ของคุณให้ชัดเจน ทำความใจให้ตรงกันจะได้ไม่เกิดความผิดพลาด ทั้งนี้คุณควรวางไทม์ไลน์ให้รอบคอบเพื่อให้งานของคุณไม่ต้องขาดองค์ประกอบที่สำคัญต่างๆ ไป

  • ใช้เวลาสำหรับเสริมสวยให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในวันสำคัญอย่างนี้เสื้อผ้า หน้า และผมนั้นสำคัญซะยิ่งกว่าอะไรสำหรับคุณเจ้าสาว เพื่อนเจ้าสาวเองก็ต้องทำงานหนักในขั้นตอนนี้ ดังนั้นเราแนะนำว่าอย่าเร่งรีบกับขั้นตอนนี้จนเกินไปนัก เพราะฉะนั้นเริ่มให้ไว เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาทำสวยเยอะๆ

  • อย่าพลาดช็อตสำคัญขณะเตรียมตัวระหว่างขั้นตอนต่างๆ สะกิดช่างภาพกันลืมให้เก็บโมเม้นท์พวกนั้นไว้ ไม่ว่าจะเป็นชุดบ่าว-สาว รองเท้าคู่สวย ของชำร่วย เป็นต้น แล้วอย่าลืมให้ช่างภาพเก็บภาพคุณกับคู่รักยิ้มกว้างๆหลังจากเตรียมตัวเสร็จไว้ด้วย ยิ่งกับสถานที่ที่สวยงามและมีความหมายด้วยแล้ว งานสำคัญแบบนี้ก็ต้องเริ่มต้นด้วยความสดใสสิ จริงไหมคะ

วันแต่งงาน

  • ถ้างานนี้มีเด็กน้อยน่ารักมาเป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย คุณต้องแน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการดูแลที่ดี มีสถานที่ให้เด็กๆ ได้พักผ่อน พร้อมขนมนมเนยที่จะทำให้หนูๆ ทั้งหลายสดชื่นและมีพลัง

วันแต่งงาน

  • อย่าลืมใส่ช่วงเวลาในการรับประทานอาหารของคุณและคู่รักลงไปในไทม์ไลน์ช่วงงานเลี้ยงฉลองเชียว จะวุ่นวายหรือซาบซึ้งกินในจนทานอะไรไม่ลงคุณก็ต้องเตือนตัวเองไว้ กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะคะสาวๆ ไม่ทานอะไรแล้วออกไปเต้นรำเปิดฟลอร์นี่อาจจะพาคุณหน้ามืดได้ง่ายๆ เลยน้า

วันแต่งงาน

  • เจรจากับทุกเวนเดอร์ของคุณไว้ก่อน ในกรณีที่งานอาจจะเลทออกไปด้วยหลายๆ ปัจจัย พูดคุยกันให้เข้าใจว่ามันอาจเกิดขึ้นได้และนั่นอาจหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องเพิ่มขึ้นด้วย

>> ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

cr : marthastewardwedding.com

7 คาถามหาเสน่ห์ เสริมความเนื้อหอมแบบไม่ต้องพึ่งน้ำหอม!!

account_circle

ท่องไว้ให้ติดปากกับ คาถามหาเสน่ห์ เสริมความเนื้อหอม

แพรว wedding ได้รวบรวมสารพัด คาถามหาเสน่ห์ มาฝากคุณสาวๆ หรือหนุ่มๆ ไว้ไปเพิ่มเสน่ห์กัน ถ้าพร้อมแล้วจุดธูปจุดเทียน พนมมือไว้ให้พร้อม แล้วเริ่มบริกรรมคาถาได้เลย

ขอเริ่มต้นที่ พระคาถามหาเสน่ห์ ซึ่งเป็นคาถาพุทธคุณ (คุณของพระพุทธเจ้า) ที่จะต้องท่องนะโม 3 จบก่อน แล้วจึงท่องพระคาถาตามดังนี้

พุทโธ จับจิต ธัมโม จับใจ สังโฆ รักใคร่
พุทโธ มามา ธัมโม มามา สังโฆ มามา
นะเมตตา โมเห็นหน้ารักสนิท พุทจับจิต ธามิให้กำจัด
ยะกระหวัดจิต…(ชื่อคนรัก)…รักอย่าละ
ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระนังคัจฉามิ ฯ

เวลาที่จะใช้คาถาพุทธคุณบทนี้ แนะนำให้สวดภาวนาพร้อมกับสีผึ้งทาปากหรือลิปสติกก่อนที่จะไปติดต่อพูดคุย เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้เกิดความรักใคร่เป็นมหานิยมคนรักคนหลงเป็นมหาเสน่ห์ อ่ะๆๆ รู้แบบนี้แล้ว จะค้าขายสร้างอนาคต หรือจะไปพบผู้ใหญ่ขอความรักความเอ็นดูก็อย่ารอช้า ท่องเลย!!

ต่อกันที่เซ็ตคาถามหาเสน่ห์ที่ทำให้เกิดความหลงใหลหรือความปลาบปลื้มใจกันดีกว่า ซึ่งสารพัดคาถาด้านล่างนี้สามารถใช้ได้ทั้งกับสาวโสดหนุ่มหงอย และหนุ่มสาวที่รักกันดีแต่อยากเพิ่มเติมความหวานให้แก่กัน

คาถามหาเสน่ห์ (เจอ) รักแท้

โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง
สะระติจิตตังสะมาเรมะมะเอทิเอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา
พะหูชะนา เอหิ

คาถาแรกนี้จัดมาให้กับบรรดาคนโสดโดยเฉพาะ หากกำลังจะออกไปเจอคนที่หมายปอง แค่ท่องคาถานี้ใส่ลูกอมก่อน เมื่อเจอหน้ากันก็หยิบลูกอมเม็ดนี้มาอม เชื่อกันว่าเขาจะเกิดอาการปิ๊งๆ กลับมาแน่นอน

คาถามนต์รักมหาเสน่ห์

โอม นะ ปะ โร รันนะขุเภติ
พุทธัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา
ธัมมัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา
สังฆัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา

ว่ากันว่าคาถาบทนี้จะดีงามก็เมื่อท่องใส่ช่อดอกไม้ที่จะนำไปให้คนที่หมายปอง เพราะเมื่อเขาได้สูดดมกลิ่นหอมเข้าไปจะทำให้หลงเสน่ห์และมอบความรักกลับมา ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นจริงไหม ลองนำไปทำตามกันดูนะจ๊ะ

คาถามหาเสน่ห์อินเลิฟยิ่งกว่าเดิมร้อยเท่า

จันโทอะภกันตะโร
ปิติ ปิโย เทวะมนุสสานัง
อิตภิโยปุริ โส
มะ อะ อุ อุ มะ อะ อิสวาสุ อิกะวิติ

จัดว่าเป็นคาถาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเท่าที่ค้นคว้าข้อมูลมาการันตีเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้แล้วเห็นผลดีมานักต่อนัก เพียงแค่ภาวนาคาถานี้ 3 จบ ก่อนออกไปพบคนที่เราหมายปอง เขาก็จะให้ความรักเรากลับมา อ่ะ…ก็ลองดู!!

คาถาผัวรักผัวหลง

โอม นะจิตตัง เห็นหน้า…(ชื่อ)…รักสนิท
ธาจับจิต ยะจับใจ…(ชื่อ)…นะหลงใหล
จับใจ…(ชื่อ)…ให้มารัก นะโมพุทธายะ

ใครมีคู่แล้วต้องบทนี้ เพราะเชื่อว่าบทนี้จะช่วยทำให้เขาคนนั้นยิ่งรักยิ่งหลง วิธีใช้งานก็ง๊ายง่าย แค่สวดวันละ 3 จบ (แหม…ยังกับกินยาหลังอาหาร 3 มื้อ) ส่วนจะท่องเวลาไหนไม่ว่ากัน ขอให้ท่องทุกวี่วันเขาจะเลิฟเขาจะหลงคุณแน่นอน

คาถาขุนแผนมหาเสน่ห์

คาถาบทนี้ สวดสั้นๆ แต่เจ๋งแน่ๆ “เอหิมะมะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ” เพราะขึ้นชื่อว่าขุนแผนขนาดนี้ เวลาท่องก็ต้องนึกถึงชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล โดยคาถาบทนี้สามารถใช้ท่องกับของส่วนตัวชิ้นไหนของเราก็ได้ จากนั้นใช้ของชิ้นนั้นซะ เชื่อว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มเสน่ห์

ปิดท้ายคาถาเสริมเสน่ห์เพิ่มความเอ็นดูให้กับบุพการีของแฟนกันดีกว่า เราขอจัดให้ตรงๆ กับ คาถาเอ็นดูมหาเสน่ห์ ที่ว่า

วิชชาจะระณะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา
ปิยะเทวะมนุสสานังปิโยพรหมานะ มุตตะโม
ปิโยนาคะ สุปัณณานัง
ปิณินทะริยัง นะมามิหัง
นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู

คาถาบทนี้สาวๆ หนุ่มๆ ควรรู้ไว้ติดตัวหรือนำใช้ก่อนออกไปพบผู้หลักผู้ใหญ่จะทำให้ท่านเกิดความรัก ความเอ็นดู หรือจะใช้ตอนที่ต้องเข้าไปพบพ่อ-แม่แฟนที่บ้านก็เลิศไม่น้อย

คาถามหาเสน่ห์ที่ว่ามานี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลนะจ้ะ ถ้าท่องแล้วสบายใจไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำเถอะ แต่สิ่งที่คุณๆ ท่านๆ ทั้งหลายควรทำมากที่สุดคือการดูแลตัวเองให้ดี ประพฤติดีประพฤติชอบ และมอบความรักให้แก่กันด้วยความจริงใจ เพียงแค่นี้ คาถาไหนๆ ก็สู้ไม่ได้แล้วล่ะจ้ะ

แถมให้อีกนิดกับ วิธีการการทำบุญให้เจอคู่แท้

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.goosiam.com, www.rakjung.com, blog.eduzones.com/lunla, horoscope.sanook.com, บทสวดมนต์-คาถา.blogspot.com, board.palungjit.org

4 ข้อผิดพลาดต้องเตรียมการให้ดีเกี่ยวกับการขอแต่งงานที่หนุ่มๆ ควรรู้

account_circle

ยังคงอินกันต่อกับเรื่องราวของการ ขอแต่งงาน อย่างที่เคยบอกกันไปแล้วว่าจะขอสาวแต่งงานทั้งทีก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม เพราะไม่ใช่ทุกคนหรอกนะคะที่จะสมหวัง ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แป้กๆ หนุ่มๆ ก็ควรจะรู้ก่อนว่าอะไรคือข้อผิดพลาดที่ทำให้การขอแต่งงานของคุณล่มไม่เป็นท่า

ขอเธอแต่งงานมือเปล่า

อย่ามีเพียงมือเปล่าไปขอสาวแต่งงานโดยเด็ดขาด จำไว้นะคะว่าผู้หญิงร้อยทั้งร้อยคาดหวังแหวนวงงามพร้อมถ้อยคำขอแต่งงานหวานๆ จากคุณ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่คุณมีและเป็นเครื่องการันตีว่าคุณไม่ได้มาเล่นๆ

ขอเธอแต่งงานเร็วเกินไป

อย่ามั่นใจในรักระยะสั้น เพราะมันสุ่มเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธเอามากๆ บางทีความรักที่ดูหวานแหวว ณ ปัจจุบันอาจไม่ได้แปลว่าเธอจะตัดสินใจใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับคุณ เชื่อเถอะว่าดูกันไปนานๆ ดีที่สุด หรืออย่างน้อยก็ควรรอสัญญาณดีจากเธอเสียก่อน แล้วค่อยเดินหน้าสานรักแบบเต็มกำลังก็ยังไม่สายเกินไป

ขอเธอแต่งงานต่อหน้าสาธารณชน

ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนหรอกนะคะที่ชอบป่าวประกาศความรักให้คนทั้งโลกรู้ ดังนั้นการเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงานต่อหน้าสาธารณชนจึงเป็นเรื่องที่คุณควรมั่นใจก่อนว่าสาวเจ้าเขาจะโอเค หนุ่มๆ หลายคนคงไม่รู้สินะว่าการอยู่กันสองต่อสองจะทำให้เธอเผยความในใจได้เต็มที่มากกว่า ดังนั้นถ้าอยากดื่มด่ำกับช่วงเวลาแสนหวาน เราขอแนะนำว่าขอกันสองคนก็ดูเอ็กซ์คลูซีฟดีนะคะ

บอกแผนการให้คนอื่นรู้มากเกินไป

การแพร่งพรายถึงแผนการให้คนอื่นรู้มากเกินไปอาจทำให้เรื่องไปถึงหูสาวคนรักของคุณก็ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วมันจะไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพร้ส์สำหรับเธออีกต่อไป อีกทั้งแม่สาวของคุณอาจจะไม่ค่อยปลื้มใจเท่าไหร่นัก ถ้ารู้ว่ามีคนมากมายที่รู้แผนการนี้ เพราะมันดูไม่พิเศษเอาซะเลย

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

8 ไอเดียประหยัดงบตกแต่งงานแต่งงานให้สวยด้วยผ้าโปร่งทั้งผืน

account_circle

เคยมีความคิดหนึ่งแว่บเข้ามาในหัวว่า ถ้าวันหนึ่งได้แต่งงานจะประหยัดงบประมาณในการ ตกแต่งงานแต่งงาน ด้วยการใช้ผ้าชนิดเดียวกัน แบบเดียวกัน ที่ซื้อมาทีละเยอะๆ ในราคาไม่แพงมาตกแต่งให้ทั่วทุกจุด และใช้กับทุกสิ่งเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งมาถึงวันนี้ แม้จะยังไม่ได้แต่ง แต่ไอเดียที่ว่าก็พวยพุ่งจนหาข้อมูลมาได้ว่า ผ้าโปร่งในความคิด ผลิตเป็นชิ้นงานในงานแต่งได้จริงเพียบเลย ว่าแล้วใครจะแต่งงานตอนนี้ ก๊อปปี้ไปใช้ได้เลย ไอเดียทั้งหลายนี้ไม่มีหวง

ใช้เป็นฉากหลังบนเวทีหรือแท่นประกอบพิธี

ห้อยผ้าโปร่งที่ฉากหลังบนเวทีหรือแท่นทำพิธีในงานแต่งงานเอาท์ดอร์ หรือในห้องจัดเลี้ยงได้ทั้งหมด ซึ่งถ้าอยากเพิ่มความมีอะไรก็นำผ้าโปร่งมาจับชั้นทำระบายใส่เลเยอร์ หรือแม้แต่มัดเป็นปมแบบมีดีไซน์ก็กลายเป็นการตกแต่งเก๋ๆ ได้อีกเยอะ แต่ถ้าขยันหน่อยและมีแรงงานช่วย จะวัดขนาดผ้าโปร่งตัดเป็นเส้นๆ ติดไปบนกำแพงให้พลิ้วไหวเวลาต้องลมก็จะได้ภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึกเพียบ

ตกแต่งงานแต่งงาน

ทำเป็นผ้าปูโต๊ะก็ได้

แค่การนำผ้าสีพื้นมาคลุมโต๊ะดินเนอร์หรือโต๊ะทานเลี้ยงแบบ Long Table อาจดูว่าธรรมดาเกินไป คุณอาจนำผ้าโปร่งมาคลุมทับหรือจับจีบแต่งช่วงปลายแล้วทิ้งชายลงข้างโต๊ะ ก็เพิ่มรายละเอียดความสวยงามในงานแต่งได้ไม่เหมือนใคร

จัดผ้าโปร่งมาคลุมเก้าอี้

อีกดีไซน์หนึ่งที่เข้ากันได้ดีและทำตามไม่ยาก คือตัดผ้าโปร่งเป็นชิ้นยาวขนาดพอดีคลุมเก้าอี้ในงาน โดยจะนำมาย้อมสีเข้าธีมก่อนก็ได้ (แต่ต้องชัวร์นะว่าสีไม่ตกและตากแห้งสนิทแน่นอน แบบว่านั่งลงไปไม่มีสีมาติดชุดสวยหรือฝนตกใส่สีไม่ละลายออกมา) คลุมลงไปที่เก้าอี้ทุกตัว โดยให้ความยาวของผ้าทิ้งชายจรดพื้นที่ด้านหน้าและตรงพนักพิง

ใช้ผ้าโปร่งกลบความไม่สวยงามด้านในเต๊นท์

อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะผ้าโปร่งที่ว่านี้สามารถช่วยกลบความไม่สวยที่บริเวณเพดานภายในเต๊นท์ แค่จับผ้าขึ้นด้านบนและขึงแบบทิ้งน้ำหนัก (ตามภาพ) โดยขึงให้ทั่วเพดานปกปิดความไม่สวยในจุดที่ต้องการค่ะ

ทำเป็นพู่ Pom Pom ย้อมสีตกแต่งงาน

ตัดผ้าโปร่งเป็นชิ้นๆ มาเป็นเป็นลูก Pom Pom คละขนาดแล้วย้อมสีแค่ช่วงปลาย จากนั้นนำมาห้อยแขวนเรียงรายกันที่ประดูทางเข้างาน กำแพง ห้อยจากเพดานหรือตกแต่งที่โต๊ะเค้ก สารพัดจุดที่สามารถตกแต่งได้ค่ะ

ง่ายสุดๆ กับการใช้เป็นผ้าม่าน

ไม่ยากสักนิดกับหัวข้อนี้ เพราะแค่วัดขนาดความสูงให้เหมาะแล้วทำเป็นผ้าม่านให้ครบทั้งสี่มุมในบริเวณจุดลงทะเบียน โต๊ะวีไอพี หรือแม้แต่ตรงประตูทางเข้าที่บางฮอลล์จะมีทางเข้าหลายจุด

พันไว้กับช่อดอกไม้เจ้าสาว

จากช่อดอกไม้เจ้าสาวธรรมดาๆ ที่นิยมใช้ริบบิ้นทึบๆ มาพันก้านเอาไว้กันหนามกุหลาบตำมือก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้ผ้าโปร่งสีขาวพันแทน แบบนี้เข้าธีมกว่ากันเยอะเลยเห็นไหม

ประกอบใหม่เป็นเครื่องประดับสิ่งต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นกิ๊บติดผมเด็กโปรยดอกไม้นำบ่าวสาวเข้างาน ที่ผูกข้อมือเพื่อนเจ้าสาว ที่ติดหน้าอกเจ้าบ่าวหรือแม้แต่ประดับผมเจ้า แค่ตัดผ้าโปร่งมาจับช่อขึ้นรูปใหม่ติดกิ๊บหรือเข็มกลัดลงไปก็ใช้งานได้แล้วค่ะ

เห็นไหมละคะ ว่าผ้าโปร่งชนิดเดียวกัน ซื้อมาเป็นผืนใหญ่ๆ พับโตๆ คุณก็สามารถประหยัดงบประมาณได้เพียบ แถมยังนำไปตกแต่งได้อีกสารพัดสิ่งในงานเกินคาดหมายจริงๆ ค่ะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

5 ความประทับใจจาก "โห! เอื้อยอย่างจ๊วด" คลิปรายการแรกของ "พระองค์หริภา"

5 ความประทับใจจาก “โห! เอื้อยอย่างจ๊วด” คลิปรายการแรกของ “พระองค์หริภา”

Alternative Textaccount_circle
5 ความประทับใจจาก "โห! เอื้อยอย่างจ๊วด" คลิปรายการแรกของ "พระองค์หริภา"
5 ความประทับใจจาก "โห! เอื้อยอย่างจ๊วด" คลิปรายการแรกของ "พระองค์หริภา"

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงเริ่มต้นวิถีบล็อกเกอร์อย่างสวยงาม โดยทรงปล่อยคลิปรายการ “โห!!! เอื้อยอย่างจ๊วด” ออกมาสร้างความประทับใจ

ก่อนหน้านี้ เราได้เห็นเฟซบุ๊กเพจกองทุนพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เผยแพร่เรื่องราวส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ อยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น พระกรณียกิจด้านการทำนุบำรุงศาสนสถาน พระกรณียกิจด้านการช่วยเหลือสัตว์ เรื่องราวของสัตว์ทรงเลี้ยง หรือพระฉายาลักษณ์แบบเซลฟี่ที่เอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ซึ่งสร้างความประทับใจแก่พสกนิกร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการได้เห็นพระจริยวัตรน่ารัก อ่อนน้อม และทรงเป็นกันเอง ที่ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายคนกลายเป็นแฟนคลับของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และตั้งหน้าตั้งตารอติดตามเรื่องราวต่างๆ ของพระองค์จากเฟซบุ๊กเพจกองทุนฯ ราวกับว่าพระองค์ทรงเป็นบล็อกเกอร์หรืออินฟลูเอนเซอร์เลยทีเดียว ซึ่งล่าสุดพระองค์ก็ทรงทำคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กเพจกองทุนฯเป็นครั้งแรกด้วย

5 ความประทับใจจาก "โห! เอื้อยอย่างจ๊วด" คลิปรายการแรกของ "พระองค์หริภา"

คลิปวิดีโอดังกล่าวมีชื่อรายการว่า “โห!!! เอื้อยอย่างจ๊วด” ซึ่งในอีพีแรก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงทำภารกิจสนุกๆ และสร้างสรรค์ โดยเสด็จออกตามหาผ้ามัดย้อมจากสีกลีบบัวที่บ้านโนนกอก อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี

เนื่องจากพระองค์ทรงตั้งพระปณิธานในการทำคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียครั้งนี้ว่า ทรงอยากให้ทุกคนที่ได้ดูคลิป ช่วยกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่นให้คงอยู่คู่กับแผ่นดิน รวมถึงทรงอยากกระตุ้นความสนใจ เพื่อให้เกิดการศึกษาหาความรู้ การทดลองทำ และการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่มาจากภูมิปัญญาไทย เพื่อส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านโนนกอกต่อไป

และอย่างที่บอกกันในตอนต้นว่า เรามักจะได้เห็นพระจริยวัตรน่ารักๆ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าจากคลิปวิดีโอนี้ก็เช่นกัน โดย 5 พระจริยวัตรที่สร้างความประทับใจจากรายการ “โห!!! เอื้อยอย่างจ๊วด” EP.1 คือ

  1. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงคมผู้ใหญ่เสมอ
  2. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงขับรถด้วยพระองค์เอง
  3. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงพยายามลองทำทุกกิจกรรมอย่างเต็มที่
  4. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงฝึกตรัสภาษาอีสาน และทรงโชว์ร้องเพลงลูกทุ่งอีสานอย่างไพเราะ
  5. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงเป็นกันเองกับทีมงานและทุกคนเป็นอย่างมาก

จากกระแสความนิยมที่เห็นได้จากยอดไลค์และยอดแชร์ ปฏิเสธไม่ได้ว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ทรงถือเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ยุคใหม่ที่ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้นผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย บวกกับพระจริยวัตรน่ารักที่ทำให้ทุกคนชื่นชมและตกหลุมรักพระองค์


ข้อมูลและภาพ : กองทุนพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทรงเมตตาต่อสัตว์เสมอ ‘พระองค์หริภา’ ทรงช่วยเหลือสุนัข 48 ตัว จากฟาร์มปิดกิจการ

ทรงซึ้งพระทัยมาก ‘พระองค์หริภา’ ทรงอัดคลิปขอบคุณที่ช่วยตามหาสุนัขทรงเลี้ยง

‘พระองค์หริภา’ ทรงเผยประวัติ ‘คุณ Tomcat’ แมวทรงเลี้ยงตัวแรก ในวันกอดแมวสากล

เพชรโกลคอนดา ไข่มุกบาสรา มรกตแพนจ์เชียร์ สุดยอดความงาม อัญมณีในตำนาน

account_circle

โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ ร่วมกับ พัดมา เจมส์ แบรนด์สุดยอด “อัญมณี” ในตำนาน และเครื่องประดับเลอค่าจากประเทศอินเดีย มีประวัติมายาวนานกว่าสี่ชั่วอายุคน ได้หลอมรวมความงดงามของอัญมณีที่ธรรมชาติได้สร้างขึ้นปรากฏเป็นเครื่องประดับหลากหลายดีไซน์ จัดทำ “The Jewellery of Legends Collection” นำสุดยอด อัญมณีทั้ง 3 ชนิด ได้แก่

เพชรโกลคอนดา (Golconda Diamonds) เพชรที่ได้ชื่อว่ามีน้ำดีที่สุดของโลกและไม่สามารถหาได้อีกแล้ว มาจากเหมืองในรัฐโกลคอนดา ซึ่งในปัจจุบันคือ รัฐอานธรประเทศและรัฐเตลังคานาในประเทศอินเดีย

ในช่วงศตวรรษที่ 16-17 เหมืองโกลคอนดาเรียกได้ว่าเป็นแหล่งผลิตเพชรที่ใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อถึงศตวรรษที่ 19 เพชรโกลคอนดา เป็นที่รู้จักทั่วโลกว่าเป็นเพชรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีคุณภาพ ประกายสุกใสกว่าเพชรจากเหมืองอื่นๆ ซึ่งสะท้อนจากเพชรที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกส่วนใหญ่นั้นมาจากเหมืองโกลคอนดา

อาทิ โคอินัวร์ (Koh-i-Noor) เพชรเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาด 105.6 กะรัต ซึ่งแรกเริ่มเพชรโคอินัวร์ มีขนาด 187 กะรัต และถูกเปลี่ยนมือมาแล้วมากมายก่อนจะถูกนำส่งไปถวายสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร ในปี ค.ศ. 1849 โดยเจ้าชายอัลเบิร์ต พระสวามี ไม่พอพระทัยในลักษณะของเพชรที่ดูไม่ค่อยเปล่งประกายแวววับนัก จึงทรงรับสั่งให้ช่างนำไปเจียระไนใหม่เหลือ 105.6 กะรัต

ในปัจจุบันเพชรโคอินัวร์ถูกเก็บรักษาไว้ใน Tower of London โดยเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ เพชรโกลคอนดาที่ลือชื่ออื่นๆ ได้แก่ เพชรโฮป (Hope Diamond) สีฟ้าเทา มีขนาด 45.52 กะรัต ปัจจุบันเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์ สมิธโซเนียน (Smithsonian) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เพชรสีชมพูที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดาเรียอินัวร์ (Daria-i-Noor) ขนาด 182 กะรัต

ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องราชกกุธภัณฑ์ของอิหร่าน เพชรสีเขียว เดรสเดน กรีน (Dresden Green Diamond) ขนาด 41 กะรัต เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์เมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนีเป็นต้น ทั้งนี้เมื่อเหมืองเพชรโกลคอนดาได้ปิดกิจการลง อุตสาหกรรมเพชรจึงขยายไปสู่แหล่งผลิตเพชรใหม่ในประเทศแอฟริกา ออสเตรเลีย และรัสเซีย

 ไข่มุกบาสรา (Basra Pearls) สุดยอดอัญมณีที่หลอมรวมความงามแห่งท้องทะเล มีต้นกำเนิดในอ่าวเปอร์เซีย นอกเขตประเทศบาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ในอดีตเมืองบาสรา ประเทศอิรัก เคยเป็นศูนย์กลางการค้าไข่มุกจึงได้ขนามนามว่า ไข่มุกบาสรา ไข่มุกธรรมชาติที่เก่าแก่เกิดจากหอยนางรมเพียงชนิดเดียวที่พบในบริเวณอ่าวเปอร์เซียจึงทำให้หาได้ยาก โดยจุดเด่นอยู่ที่น้ำหนักเบา แสงเงาของมุก ที่เกิดจากน้ำจืดและน้ำเค็มมาผสมกันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งไข่มุกจากที่อื่นไม่มีแต่เป็นที่น่าเสียดายที่อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันได้ทำลายระบบนิเวศของอ่าวเปอร์เซีย ส่งผลให้มุกธรรมชาติอันมีค่าถูกทำลายไปมาก

บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวพันกับ Basra Pearls คือ มหาราชา แห่ง รัฐบาโรดา (Maharaja Khanderao Gaekwad of Baroda) ในปี ค.ศ. 1865 พระองค์ได้สั่งทำพรมที่งามมหัศจรรย์ เพื่อนำถวายพระศาสดามะหะหมัด ณ นครมะดีนะฮ์ (Medina) พรมผืนนี้ ผลิตโดยช่างฝีมือชั้นเอกจากราชสำนักโมกุล ออกแบบเป็นเส้นสายลายเถาวัลย์และไม้ดอก ปักอย่างวิจิตรด้วยมุกคุณภาพเลิศกว่า 1.5 ล้านเม็ด เสริมด้วยมรกต เพชร และแซฟไฟร์ พรมผืนนี้ ประมูลผ่านบริษัท Sotheby’s เมื่อปี ค.ศ. 2009 ในราคา 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยผู้ซื้อนิรนาม ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศกาตาร์ (National Museum of Qatar)

มรกตแพนจ์เชียร์ (Panjshir Emeralds) จากอัฟกานิสถาน มรกตที่ดีที่สุดของโลก มรกตนับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาที่ลึกลับ จากธาตุ 2 ชนิดที่หายากที่สุด

นั่นคือ ธาตุ “เบริลเลียม” จากทวีปสูง ซึ่งพบได้ไม่กี่แห่งบนโลก และ ธาตุ “โครเมียม” จากก้นทะเล หรือ ธาตุ “วานาเดียม” เกิดการปะทะกันภายใต้แรงกดดัน ความชื้นและอุณหภูมิที่สมบูรณ์ เกิดปฏิกิริยาทางเคมีก่อเกิดเป็น มรกตสีเขียว ซึ่งทั่วโลกพบมรกตที่เกิดจากธาตุเบริลเลียมและธาตุโครเมียมได้ที่เทือกเขาแอนดีสในประเทศโคลอมเบีย และ หุบเขามรกตแพนจ์เชียร์ ในเขตเทือกเขาฮินดูกูช ประเทศอัฟกานิสถานเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มรกตแพนจ์เชียร์ มีสีเขียวบริสุทธิ์และสีจัดกว่ามรกตจากโคลอมเบีย เพราะมีธาตุโครเมียมในปริมาณที่มากกว่า สำหรับมรกตที่พบในประเทศอื่นนั้นเกิดจากโครเมียมทำปฏิกิริยากับเหล็กเกิดเป็นมรกตสีเขียวอมฟ้า

แม้ว่าในปัจจุบันนี้แหล่งผลิต เพชรโกลคอนดา (Golconda Diamonds) และ ไข่มุกบาสรา (Basra Pearls) จะปิดกิจการไปเนิ่นนาน แต่ แหล่งผลิตมรกตจากจังหวัดแพนจ์เชียร์ (Panjshir) ในประเทศอัฟกานิสถาน ยังคงเปิดดำเนินการให้ได้ชื่นชมความงามของมรกตอยู่อีกมาก และในอดีตมีการทำเหมืองมรกต Panjshir มากว่า 2,000 ปี โดยนำไปขายในเส้นทางสายไหม (Silk Road) แต่มาระยะหลังมรกตแพนจ์เชียร์กลับเป็นที่รู้จักน้อยกว่ามรกตจากโคลอมเบีย และส่วนอื่นๆ ของโลก เนื่องจากสาเหตุทางการเมืองเป็นหลัก

เมื่อรัสเซียเข้าครอบครองอัฟกานิสถาน ทำให้การเดินทางเข้าออกบริเวณนี้ไม่ปลอดภัย แต่ในทางกลับกันก็ช่วยทำให้เหมืองมรกตดังกล่าวถูกอนุรักษ์ไว้โดยปริยาย นอกจากนี้ ลักษณะภูมิประเทศและระดับความสูงของเหมือง ที่ 4,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ในเทือกเขาฮินดูกูช ก็เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงเช่นกัน จึงทำให้ มรกตแพนจ์เชียร์ เป็นอัญมณีหายาก และเป็นที่ต้องการของนักสะสมอัญมณี

อัญมณีในตำนาน

 

Golconda and Basra Pearl Choker สร้อยเพชรโกลคอนดา ประดับด้วยไข่มุกบาสรา 71.30 กะรัต โดดเด่นด้วยเพชร 36.00 กะรัต เจียระไนแบบ Old Mine cut and Old European cut เพิ่มเสน่ห์ให้น่ามองด้วย ไข่มุกทรงกลม

อัญมณีในตำนาน

Keshi Pearl Drop Earrings ต่างหูเพชรระย้า 17.37 กะรัต ประดับด้วยไข่มุกเคชิ (Keshi Pearl)

Golconda Necklace สร้อยคอเพชรจากเหมืองเพชรโบราณโกลคอนดา (Golconda) ในรัฐอานธรประเทศของอินเดีย น้ำหนักรวมเพชร 125.6 กะรัต

Chandelier diamond earrings ต่างหูดีไซน์แชนเดอเลีย โดดเด่นด้วยการเจียระไนรูปสามเหลี่ยม รวมน้ำหนักเพชร 19.68 กะรัต ตัวเรือนทำจากทองคำขาว

Diamond and Pearl Necklace สร้อยไข่มุกเลี้ยงญี่ปุ่น ดีไซน์พู่ญี่ปุ่น ประดับเพชร เจียระไนทรง new Round Brilliant cut Diamonds 6.64 กะรัต

อัญมณีในตำนาน

Basra Pearl Earrings ต่างหูไข่มุกบาสรา 41.32 กะรัต ประดับเพชร 24 เม็ด รวมน้ำหนักเพชร 13.58 กะรัต

Golconda and Panjshir Emerald Bracelet สร้อยข้อมือ มรกตแพนจ์เชียร์ 31.47 กะรัต เด่นด้วยมรกตสีเขียวสดใส เจียระไนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัดมุม เพิ่มความหรูด้วยเพชรโกลคอนดา และ เพชรเจียระไนทรงบาแกตต์ หรือ รวมน้ำหนักเพชร 13.87 กะรัต

Golconda and Basra Pearl Earrings ต่างหูเพชรโกลคอนดา 14.33 กะรัต ประดับด้วยไข่มุกบาสรา 59.75 กะรัต ดีไซน์หรู สวยสะดุดตาด้วยประกายเพชรเมื่อต้องแสงไฟและความเงาของไข่มุก เป็นแอ็คเซสซอรี่ที่ช่วยเติมเต็มลุคให้เพอร์เฟค

Golconda Earrings ต่างหูเพชรดีไซน์รูปก้นหอย เด่นด้วยเพชรโกลคอนดาเม็ดเดี่ยวตรงกลาง เจียระไนแบบ Old European cut และเพชรโกลคอนดาทรงหยดน้ำ (Pear shaped) ผสานกับเพชรเจียระไนแบบ Brilliant cut Diamonds รวมน้ำหนักเพชร 18.39 กะรัต

Golconda Bracelet สร้อยข้อมือเพชรโกลคอนดา เจียระไนแบบ old European cut ดีไซน์คลาสสิก ผสานกับเพชรเม็ดเดี่ยว รวมน้ำหนักเพชร 6.02 กะรัต ประดับด้วย มรกตแซมเบีย 1.75 กะรัต และ Emerald and Diamond Bracelet สร้อยข้อมือเพชรโกลคอนดาเจียระไนแบบ Old Mine cut และ Old European cut รวมน้ำหนักเพชร 17.33 กะรัต และ ประดับด้วย มรกตแซมเบียธรรมชาติ 7.02 กะรัต

อัญมณีในตำนาน

Ruby and Diamond Earrings ต่างหูทับทิมพม่า 10.91 กะรัต ประดับเพชรโกลคอนดา เจียระไนแบบเหลี่ยมเก่า 9.75 กะรัต และ Diamond and Ruby Rings แหวนเพชรโกลคอนดา 2.88 กะรัต ประดับทับทิมพม่า 0.85 กะรัต

หากใครสนใจสามารถรับชมความงดงามของ Lotus Arts de Vivre x Padma Gems: “The Jewellery of Legends Collection” ได้ที่ โลตัส อาร์ต เดอร์ วีฟว์ บูทีคโรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 022500732 หรือ www.lotusartsdevivre.com      


 

นิตยสารแพรว

แบมแบม กล้ามแน่นเกินต้าน! ฉายเดี่ยวขึ้นปก นิตยสารแพรว ติดเทรนด์อันดับ 1

Alternative Textaccount_circle
นิตยสารแพรว
นิตยสารแพรว

“แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” เซ็กซี่งานดี  กล้ามแน่นเกินต้าน! ฉายเดี่ยวขึ้นปก นิตยสารแพรว ฉบับ ต.ค. 63 จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1

นิตยสารแพรว

หลังจากเมื่อปี 2018 นักร้องหนุ่มเกาหลีสายเลือดไทย  “แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” เคยจับคู่กับศิลปินรุ่นพี่ “เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร” มาแจกความสดใสบนปก นิตยสารแพรว กันไปแล้ว ล่าสุดในเดือนตุลาคมนี้ แบมแบม กลับมาขึ้นปกอีกรอบแบบเดี่ยวๆ บอกเลยว่าเหล่าอากาเซ่ห้ามพลาด! เพราะนอกจากบทสัมภาษณ์ครั้งนี้จะแน่นกว่าครั้งก่อนแล้ว แฟชั่นปกก็ยังจัดเต็มด้วยกล้ามแน่นๆ ของหนุ่มคนนี้ และจากกระแสตอบรับอย่างล้นหลามนี้เองส่งให้ แฮชแท็ก #PraewxBamBam ติดเทรนด์ Twitter อันดับ 1

นิตยสารแพรว

ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถ Pre- Order นิตยสารแพรว ฉบับ ต.ค. 63 “แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล”ได้ที่ 1. แผนกสมาชิก โทร. 02-423-9889 กด 1 2. ร้านนายอินทร์ ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์  Shop24 และ ร้านบีทูเอส ในวันที่ 16-25 ก.ย. 63 นะจ๊ะ


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เด็กติดเกมในวันนั้น สู่ซุป’ตาร์ในวันนี้ “แบมแบม GOT7” สู้และอดทนเพื่อครอบครัว

Exclusive 10 เรื่อง! แบมแบม GOT7 จับคู่ชมพู่ ออกอีเว้นท์ที่ไทยก่อนเวิลด์ทัวร์ยาว

ฟินหนักมาก! แบมแบม GOT7 กับ 5 เรื่องเล่าบนเตียงที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน

 

กักเคน โฮลดิ้งส์ จับมือพันธมิตร เอช.ไอ.เอช.ทัวร์ส์ ขยายธุรกิจ “กักเคน คลาสรูม” พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กในยุคศตวรรษที่ 21

บริษัทกักเคนโฮลดิ้งส์(GakkenHoldingsCo.,Ltd.)บริษัทชั้นนำด้านการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่นจับมือกับบริษัทเอช.ไอ.เอส.ทัวร์ส์(H.I.S.ToursCo.,Ltd.)บริษัทเอเจนซี่ชั้นนำด้านการท่องเที่ยวร่วมมือในการเปิดศูนย์พัฒนาทักษะการเรียนรู้ภายใต้ชื่อกักเคนคลาสรูม(Gakken Classroom) ซึ่งส่งเสริมให้เด็ก ได้พัฒนาทักษะการเรียนรู้ในยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วประเทศไทย

มร.คุณมานาบุ ฟูจิอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กักเคน ประเทศไทย (Gakken Thailand) เปิดเผยว่าบริษัทกักเคนได้ก่อตั้งกักเคนคลาสรูมขึ้นในปีค..1980กักเคน คลาสรูมมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในอุตสาหกรรมการศึกษาของประเทศญี่ปุ่นในด้านการเรียนวิชาคณิตศาสตร์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษกักเคนคลาสรูมเป็นศูนย์พัฒนาทักษะการเรียนรู้ที่ช่วยให้เด็ก (อายุ 5-12 ปี) ได้พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่21ผ่านกระบวนการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ด้วยหลักสูตรของกักเคน คลาสรูม

เนื่องจากบริษัทกักเคนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นแต่อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในประเทศไทยดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์(brand awareness)และเพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆในระยะเวลาอันสั้น และเราได้ตัดสินใจร่วมมือกับทางบริษัทเอช.ไอ.เอส.ทัวร์ส์ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง มีเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่และมีกำลังเราเชื่อว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะทำให้เราได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และสามารถขยายแบรนด์ของเราให้ประสบความสำเร็จได้

ด้าน มร. โนริคะซุ สึดะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช.ไอ.เอช.ทัวร์ส์ สาขาประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท เอช.ไอ.เอช.ทัวร์ส์ คือ บริษัทท่องเที่ยวที่ก่อตั้งขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นในปี .. 1980 และเริ่มเปิดสาขากรุงเทพเมื่อปีค..1997และปัจจุบันเราขยายสาขาไปในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยหลายท่านอาจเข้าใจว่าบริษัทเอช.ไอ.เอช.ทัวร์ส์ให้บริการเพียงแค่การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว เราให้บริการการท่องเที่ยวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ

บริษัทเอช.ไอ.เอช.ทัวร์ส์เป็นบริษัทท่องเที่ยวแต่เราพยายามที่จะลองทำในหลากหลายธุรกิจเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความก้าวไกลของสังคมในช่วงปีที่ผ่านมาไม่เพียงแค่ในกรุงเทพฯ แต่ในต่างจังหวัดของประเทศไทยมีความต้องการโรงเรียนกวดวิชาเพิ่มขึ้น พร้อมกับเราสามารถใช้บุคลากรที่มีอยู่ของบริษัทสาขาหน้าร้านของเราที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย รวมถึงความรู้ในด้านธุรกิจได้อย่างเกิดประโยชน์ ในการร่วมมือกันในธุรกิจการศึกษาได้

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและเป็นโอกาสอันดีสำหรับการขยายธุรกิจของเรากับโปรเจ็คที่เป็นความท้าท้ายใหม่ ในความร่วมมือระหว่าง บริษัท เอช.ไอ.เอช.ทัวร์ส์ และบริษัท กักเคน โฮลดิ้งส์ กับการเปิดศูนย์พัฒนาทักษะการเรียนรู้กักเคน คลาสรูมที่เกิดขึ้นในวันนี้ 

กักเคนคลาสรูมได้ถูกขยายสาขาอย่างประสบความสำเร็จ ด้วยการมีผู้เรียนมากกว่า 420,000 คนและมีจำนวนศูนย์มากกว่า 15,000 ศูนย์ในประเทศญี่ปุ่นและได้เริ่มขยายสาขาทั่วโลกเพื่อรองรับความต้องการในการเรียนให้ดียิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์ของกักเคนคลาสรูมประเทศไทยคือเพื่อช่วยให้เด็กๆได้พัฒนาทักษะการเรียนรู้สำหรับยุคศตวรรษที่21เช่นทักษะการคิดอย่างมีตรรกะทักษะการแก้ไขปัญหาเป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาของกักเคน คลาสรูม นั่นคือ เรียนอย่างมีความสุข (joy of learning) มีความเชื่อมั่นในตนเอง (self-confidence) และสนุกกับการใช้ชีวิต (zest for living) ผ่านกระบวนการการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา ด้วยหลักสูตรคณิตศาสตร์ และ STEAM ของกักเคน คลาสรูม

จากความร่วมมือนี้ บริษัท เอช.ไอ.เอช.ทัวร์ส์ ได้เปิดศูนย์ กักเคน คลาสรูม  ที่ ศรีราชา ระยอง ภูเก็ตและเชียงรายในเดือนกันยายนนี้โดยตอนนี้เราเปิดให้เด็กๆได้ทดลองเรียนฟรี จึงอยากขอเชิญชวนให้ทุกท่านได้ลองพาบุตรหลานของท่านไป และภายในปีนี้มีแผนที่จะเปิดให้ได้ 12 แห่ง และเปิดให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยภายในปี .. 2025

เราจะเร่งพัฒนาธุรกิจเพื่อให้สามารถส่งมอบการศึกษาที่ดีกว่าให้กับเด็กๆให้ได้มากที่สุด และเราหวังอย่างยิ่งว่าเด็กๆจะได้เรียนรู้อย่างสนุกและมีความสุข โดยผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียด ได้ที่ GAKKENCLASSROOMTHAILAND

รองเท้า วินสตัน เมซง

รู้จัก วินสตัน เมซง รองเท้าหนังสัญชาติไทย กับความพิเศษที่มีเฉพาะคู่

รองเท้า วินสตัน เมซง
รองเท้า วินสตัน เมซง

WINSTON MAISON (วินสตัน เมซง) แบรนด์รองเท้าชั้นนำสำหรับสุภาพบุรุษที่ผสานดีไซน์ร่วมสมัย เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความคลาสสิกซึ่งเปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นเอกที่มาพร้อมคุณภาพและมาตรฐานจากช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญตอบโจทย์ความต้องการของชายหนุ่มที่หลงใหลในแฟชั่นและใส่ใจในคุณภาพ ล่าสุดจัดงานเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการ ณ WINSTON MAISON Boutique Store (วินสตัน เมซง บูทีค สโตร์) ชั้น 3 เกษรวิลเลจ

หัวใจหลักของรองเท้าวินสตัน เมซงคือประสบการณ์กว่า 30 ปีของช่างผู้เชี่ยวชาญที่อุทิศความทุ่มเทและใส่ใจให้กับทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยวัสดุที่ผ่านการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันอย่างหนังวัวฟอกฝาด (Vegetable-tanned cowhide) คุณภาพเยี่ยมจากอิตาลีและสเปน หนังแกะนัปปา ไปจนถึงหนังจระเข้จากแหล่งคุณภาพ ที่ทำให้สวมใส่สบายจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรองเท้าวินสตัน เมซง อีกทั้งยังคำนึงถึงคุณภาพในทุกขั้นตอนการผลิตไม่ว่าจะเป็นการตัดเย็บ การขึ้นรูป การทำพื้นรองเท้า/ส้นรองเท้า และทุกฝีเข็มที่บรรจงปักเป็นตะเข็บร้อยเรียงอย่างสวยงามรวมไปถึงขั้นตอนการแต่งแต้มสีสันบนรองเท้าด้วยลายเส้นพู่กันของช่าง จนเกิดเป็นงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซที่มีความพิเศษเฉพาะคู่

เริ่มต้นด้วย Giverny (ชิแวร์นี่) รองเท้า Whole-Cut Oxford Brouge (โฮล-คัต อ็อกซ์ฟอร์ด โบรก) อันเป็นซิกเนเจอร์ของวินสตัน เมซงที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ลายฉลุ (Brogue) ดีเทลสุดคลาสสิกเหนือกาลเวลาบนผืนหนังวัวฟอกฝาด (Vegetable TannedCowhide) นำเข้าจากอิตาลี แต่งแต้มสีสันด้วยเทคนิคแบบ Patina (พาทิน่า) จากช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ อันเปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นเอกที่ถูกรังสรรค์ขึ้นสำหรับผู้สวมใส่โดยเฉพาะ

Barcelona (บาร์เซโลนา) รองเท้า Wingtip in Sneakers (วิงทิป อิน สนีคเกอร์) เอาใจสายสตรีทด้วยสนีกเกอร์หนังวัวแท้นำเข้าจากสเปน พื้นยืดหยุ่นนุ่มสบายออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้รองรับน้ำหนักและอุ้งเท้าได้อย่างพอดี เสริมความคล่องตัวในทุกย่างก้าว ผสานด้วยกรรมวิธีการลงสีแบบพาทิน่า อันเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของวินสตัน เมซงพร้อมพื้นหน้าทรงปีกนก (Wingtip) ช่วยครีเอทลุคใหม่ของหนุ่มสายสตรีทให้มีลูกเล่นของความหรูหรา แต่ไม่ทิ้งความเท่มีเสน่ห์ พร้อมออกไปท้าทายแบบไร้ขีดจำกัด

Brussels (บรัสเซลส์) รองเท้า Belgian Loafer (เบลเจียน โลฟเฟอร์) สไตล์เรียบง่ายแต่หรูหรา พร้อมสัมผัสแห่งความนุ่มเบาสบาย ด้วยหนังแกะพรีเมียมจากออสเตรเลีย โดดเด่นด้วยโทนสีคลาสสิกและดีไซน์ร่วมสมัยแบบ Belgian Tassel Loafer (เบลเจียน แท็สเซล โลฟเฟอร์) เรียกได้ว่ารองเท้าคู่เดียวก็สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับสไตล์การแต่งตัวได้ทั้งในวันสบายๆ หรือในโอกาสที่เป็นทางการ

Cannes (คานส์) รองเท้าอ็อกซ์ฟอร์ด หัว Almond Toe (อัลมอนด์ โท) สุดคลาสสิกที่เน้นความสุภาพและเป็นทางการสำหรับสวมใส่ในงานสำคัญต่างๆ ทั้งในกลุ่มหนุ่มออฟฟิศ รวมไปถึงเจ้าบ่าว สามารถนำไปแมทช์กับสูทคัตติ้งเนี้ยบรวมไปถึงทักซิโด้ เพื่อช่วยเปลี่ยนลุคให้ดูหรูหราแต่เรียบง่ายโดยวินสตัน เมซงได้รังสรรค์รองเท้าอ็อกซ์ฟอร์ดออกมาในสไตล์ของตัวเอง นั่นคือการบรรจงแต่งแต้มสีแบบ Hand Painted (แฮนด์ เพ้นท์) ลงบนหนังวัวคุณภาพเยี่ยมที่มีความเงางามโดดเด่นสามารถเลือกได้ทั้งแบบ Cap-Toe Oxford (แคป โท อ็อกซ์ฟอร์ด) และ Whole-Cut Oxford (โฮล-คัต อ็อกซ์ฟอร์ด) เพื่อคอมพลีทลุคของผู้สวมใส่ให้เรียบหรูสมบูรณ์แบบในทุกสไตล์ของตัวเอง

Saint Tropez (แซ็งทรอเป) รองเท้า Wingtip (วิงทิป) ที่มีหนังส่วน Upper (อัปเปอร์) รูปทรงคล้ายปีกนก เพิ่มความพิเศษด้วยการลงฝีเข็มปักเส้นด้ายโชว์รอยตะเข็บตามแนวปีกนก ซึ่งมีความแตกต่างจากรองเท้าวิงทิปแบบดั้งเดิมที่ใช้เพียงลายฉลุมาประดับตกแต่งเท่านั้น โดยใช้หนังวัวคุณภาพพรีเมียมบวกกับเทคนิคลงสีแบบพาทิน่าอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทำให้รองเท้าวิงทิปของวินสตัน เมซงมีความแตกต่าง และสามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น

Oslo (ออสโล) รองเท้า Norwegian Split Toe (นอร์วีเจียน สปลิต โท) ได้รับอิทธิพลมาจากชาวนอร์เวย์มีเอกลักษณ์เป็นรอยแยกที่ปลายรองเท้าทรงเหลี่ยม ซึ่งเป็นที่นิยมจากชายหนุ่มทั่วโลก ด้วยการใช้งานที่หลากหลายไม่จำเป็นต้องใส่คู่กับสูทเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถหยิบมาใส่ในโอกาสสบายๆคู่กับยีนส์เท่ๆ ก็ครีเอทลุคใหม่ให้กับผู้สวมใส่ได้ โดยใช้หุ่นรองเท้าที่เน้นความสบาย ไม่บีบรัดปลายนิ้วเท้า แต่กระชับตรงกลางเท้า จึงช่วยให้เดินได้อย่างมั่นใจ รวมถึงการใช้หนังวัวคุณภาพที่เพ้นท์สีอย่างสวยงาม ช่วยให้ผู้สวมใส่ดูสมาร์ทและมีเสน่ห์น่าค้นหาในคราวเดียวกัน

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

น่ารัก น่าเปย์! Keds x Kate Spade ออกสนีกเกอร์ใหม่ ใส่สบาย เหมาะกับทุกลุค

เปิดคลังแสง! กระเป๋าแบรนด์เนม ไคลีย์ เจนเนอร์ รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

ยอมจ่ายไม่อั้น! คนดังในอินสตาแกรมถือ กระเป๋าแบรนด์เนม ใช้ชีวิตสุดหรู

ลิสต์เอาไว้! กระเป๋า Louis Vuitton 6 เฉดสีหวาน สวยละมุน ชวนเสียตังค์

เปิดโพย กระเป๋า Gucci 5 รุ่นดังน่าเปย์ ที่ควรมีอยู่ในคลังแสง

10 ผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่น ปี 2019 ดัชเชสเมแกนที่ 1 , ลิซ่า แซงไคลีย์ เจนเนอร์

มีเกินร้อยชิ้น! ปาล์ม-จิตติมา เซเลบสาวผู้หลงรัก แบรนด์ SIRIVANNAVARI

เพราะอะไร ‘ดัชเชสเคท’ สวมเดรสสีดำ แต่ไม่ผิดกฎราชวงศ์อังกฤษ

แฟชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน” สง่างามในลุคเวิร์คกิ้งวูแมน

สวยพร้อมชิงมง! ฟ้าใส ปวีณสุดา MUT 2019 ยิ่งใกล้วันประกวด ยิ่งออร่าจับ

รู้หรือไม่? สุภาพสตรีในราชวงศ์อังกฤษ ห้ามสวมหมวกหลัง 6 โมงเย็น

ยกเลิกขนสัตว์จริง! ควีนเอลิซาเบธ ทรงมีรับสั่ง ต่อไปจะใช้ขนเทียมเท่านั้น

เพราะเหตุใด กระเป๋า Hermes ถึงเป็นที่ต้องการ แม้ราคาจะแพงหูฉี่

อยากได้แบรนด์นี้ ต้องซื้อรุ่นไหน! กระเป๋า Chanel 5 ตัวท็อปใช้ได้นาน คุ้มค่าเงิน

ฟังให้ชัด! ตั๊ก-บงกช เผย อยู่กับสามีรวย ต้องหาเงินให้เก่ง อย่าใช้เพียงอย่างเดียว

account_circle

ทำเอา ตั๊ก-บงกช  เบญจรงคกุล ถึงกับของขึ้น เพราะเมื่อไม่นานมานี้เจอคอมเม้นต์จากชาวเน็ตบางคนที่เข้ามาเขียนถึงเธอว่า อยู่กับเจ้าสัวบุญชัยเพราะ “เงิน” งานนี้องค์แม่ลง ออกมาอัดคลิปพร้อมกับสามี เคลียร์ชัดอยู่กับเจ้าสัวเคยขอเงินไหม พร้อมกับโพสต์ประวัติปัจจุบัน ส่งข้อความเน้นๆ บอกชาวเน็ตชัดๆ

เพิ่งสวีทหวานครบรอบแต่งงาน 8 ปีไปหมาดๆ สำหรับคู่ของ ตั๊ก บงกช และ เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล โดยทั้งคู่ได้ควงกันไปทานอาหารญี่ปุ่น โดยสาวตั๊กโพสต์รูปหวานพร้อมแคปชั่นว่า “รักจริงนะคนนี้ จดทะเบียนสมรสได้ 8 ปีเเล้ว วันนี้คุณบุญชัยพามาเลี้ยง ถั่วญี่ปุ่น #คนนี้ตั๊กรักจริง โปรดอย่าเเย่ง #เป็นแฟนกับฉันกฎข้อเเรกก็คือห้ามทิ้ง #ข้อที่2ก็คือห้ามทิ้ง”

ตั๊ก-บงกช

ผ่านไปแค่ 1 วันหลังจากเจอคอมเม้นต์ของชาวเน็ตบางคนที่ออกมาวิจารณ์เธอในแง่ลบที่รูปนั้นจนต้องปิดคอมเม้นต์ ทำเอามาดามตั๊กของขึ้นหนัก ถึงขั้นต้องออกมาอัดคลิปพร้อมกับสามี แถลงชัดว่า “ตอบคำถาม..ฉันอยู่กับคุณเคยขอเงินคุณมั๊ย…..เเละคอมเมนท์ในข่าว #ฟังให้จบนะค่ะ #อย่ามาดูถูกตั๊กทำงานตั้งเเต่เด็กไม่เคยข่มขู่เอาเงินใคร” #ตั๊กเป็นเเม่คนนะ!!! เเละความจริงคือไม่เคยได้อะไรด้วยเพราะไม่ขอเเละไม่รับ ให้ก็ไม่เอาเพราะเอามาก็ถูกดูถูกอีก

ฟังให้ชัด! ตั๊ก-บงกช เผย อยู่กับสามีรวย ต้องหาเงินให้เก่ง อย่าใช้เพียงอย่างเดียว

ซึ่งในคลิปเจ้าสัวบุญชัยได้เล่าว่า “ทุกวันนี้คุณตั๊กหาเงินได้เยอะกว่าผม ถ้าคุณไปสนามบิน คุณจะเห็นภาพคุณตั๊กยิ้มแฉ่ง นั่นได้มาหลายตังค์อยู่ เร็วๆ นี้คุณตั๊กก็จะปลูกโกโก้ ช็อกโกแลตกระป๋องขาย อีกหน่อยนับเงินไม่ถ้วนหรอก” พร้อมกับบอกอีกด้วยว่า ตั๊กไม่เคยเบียดเบียนเงินตนหรือบังคับให้เอาเงินมา

ด้านสาวตั๊ก บงกช ก็ได้ชี้แจงว่า  “ไม่เคยเบียดเบียนกันเลยนะคะ อยู่กันมา เข้าใจกันมาตลอดเลยว่าคุณบุญชัยลำบากมากนะ เพราะคุณบุญชัยต้องใช้จ่ายเงินเยอะ เป็นนักธุรกิจที่ต้องดูแลหลายเรื่อง” ก่อนที่เจ้าสัวบุญชัยจะเล่าว่า “โครงการสำนึกรักบ้านเกิดใช้เงิน 200 กว่าล้านบาท แล้วน้องๆ ไปรักบ้านเกิดหมดแล้ว หายไปเลย 25 ปี พิพิธภัณฑ์ปีหนึ่งจ่าย 37 ล้านบาทครับ 7 ปี ลองคูณดูสิครับ หายไปกับสายลม”

“ตั้งแต่แต่งงานมา อยู่ด้วยกันแบบเข้าอกเข้าใจกัน แล้วดิฉันเป็นผู้หญิงที่ผลาญเงินเหรอ ดิฉันไม่เคยผลาญเงินคุณเลยนะคะ มีคนมาหาว่าดิฉันอยู่เพราะเงิน เพราะหมื่นล้าน ถามว่าคุณมีเงินหมื่นล้านเหรอคุณบุญชัย” เจ้าสัวบุญชัยบอกว่า “มีทรัพย์สิน แต่ไม่มีเงินสดหมื่นล้าน มีอาคารใหญ่ๆ ผมไปหุ้นกับน้องๆ มีธุรกิจ มันมีมูลค่าของธุรกิจ ผมมีรูปวาดจำนวนมหาศาล ผมมีที่ดิน ผมมีของสะสมอะไรพวกนี้”

ตั๊ก-บงกช

“คุณบุญชัยให้เงินครั้งเดียว คือครั้งที่ขอแต่งงาน หลังจากนั้นดิฉันไม่เคยขอคุณบุญชัยเลย เราอยู่ด้วยกันเพราะเรามีลูกด้วยกัน เรามีความรับผิดชอบร่วมกัน ดิฉันไม่เคยเบียดเบียนเงินคุณบุญชัยเลย เราแบ่งกันใช้ เวลาผู้ชายพาเมียไปกินข้าว เมียควรออกเงินเหรอ ผู้ชายก็ต้องออกสิถูกไหม เพราะฉะนั้นอย่ามาตราหน้าว่าดิฉันอยู่กับเขาเพราะเงิน เพราะทำให้ดิฉันเสียชื่อ ตั๊กเป็นแม่คน คนอื่นจะมองตั๊กยังไง ลูกเรากำลังโต ตั๊กก็รู้สึกว่าทำไมมาว่าตั๊กแบบนี้ ถ้าลูกตั๊กอ่าน ลูกตั๊กจะรู้สึกยังไง ลูกตั๊กเขาก็เห็นว่าตั๊กเป็นยังไง”

คุณบุญชัยเป็นผู้ชายที่หายาก คือทำมาหากินจริงๆ มีเงินแต่ไม่โปรโมตตัวเอง เขาสอนให้ตนทำมาหากินสร้างอาหารด้วยตนเอง สนใจเรื่องเกษตร ทำเรื่องการสร้างอาหาร เป็นทั้งกัลยาณมิตรและคู่ชีวิตที่ดี เพราะฉะนั้นถ้าจะว่าตั๊กอีกจะฟ้องเรียกเงินคนละล้านจากคอมเม้นต์ต่างๆ เพราะตนมีลูกที่ต้องแคร์

พร้อมกันนี้ สาวตั๊กยังได้ โพสต์ประวัติตอนนี้ โดยมีใจความสำคัญว่า ประวัติตอนนี้..

ตั๊ก-บงกช
เป็นผู้หญิงชอบเเต่งตัวเด็ก เเต่ความคิดเเละ สมองเเก่ เพราะฉะนั้นเวลาคุยอย่าลามปาม ชอบคนให้เกียรติ ชอบหาเงินเเข่งกับสามี เพราะอยากมีส่วนเป็นใหญ่ในบ้าน หากขอเขาอย่างเดียวอาจต้องยอมทุกเรื่อง #เลยต้องเเสดงให้เห็นว่าเราช่วยทำมาหากินได้ เเละต้องทำให้ได้ด้วย!..

การอยู่กับสามีที่มีเงินมากต้องทำมาหากินเก่งพอๆ กับเขา ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงผลาญเงินเค้าฝ่ายเดียว นั่นคือสิ่งที่อยากบอกผู้หญิงทุกคนที่ได้เนื้อคู่เเบบตั๊กเเละต้องเข้ามาในชีวิตของผู้ชายที่สร้างตัวเองจนมีทุกอย่างมากมาย:) ความคิดเขาคือ อยากได้ผู้หญิงมาช่วยกันทำมาหากิน ถึงจะอยู่ด้วยกันรอด !!

มาดามตั๊กเคลียร์ชัดขนาดนี้ ชาวเน็ตที่ชอบวิจารณ์คนอื่นต้องหยุดได้แล้วนะจ๊ะ หากใครไม่หยุด เตรียมเงินล้านไว้ได้เลยจ้า

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย @bong_kod_tak เมื่อ


CR : @bong_kod_tak

ซีรีส์ซอนต๊อก

ทำไมสาวกว่าเดิม! พระสนมมีซิล จาก ซีรีส์ซอนต๊อก อายุจะ 50 แต่ยังสวยเปรี๊ยะ

Alternative Textaccount_circle
ซีรีส์ซอนต๊อก
ซีรีส์ซอนต๊อก

เปิดเคล็ดลับความสาวของ นักแสดงเกาหลีหญิง “โกฮยอนจอง” หรือ  พระสนมมีซิล จาก ซีรีส์ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน อายุย่างเลข 5 แต่ผิวยังเปรี๊ยะ

เมื่ออายุมากขึ้นเราจะรู้สึกว่าใบหน้าของเราก็สูงขึ้นตามวัยไปด้วย แต่ทุกคนก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว เพราะก็มีหลายคนเหมือนกันที่มีใบหน้าอ่อนเยาว์สวนทางอายุ หนึ่งในนั้นก็คือนางร้ายขวัญใจชาวเกาหลี “โกฮยอนจอง” (Go Hyun Jung) เจ้าของบท”พระสนมมีซิล” ใน ซีรีส์ซอนต๊อก มหาราชินีสามแผ่นดิน

ซีรีส์ซอนต๊อก

ปัจจุบันอายุของ  “โกฮยอนจอง” กำลังจะย่างเข้า 50 แล้ว แต่เธอกลับยังดูสาวกว่าตอนที่แสดงซีรีส์เสียอีก ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นที่โซเชียลเกาหลีกำลังพูดถึงอย่างมาก หลังจากที่ นักแสดงหญิงเกาหลี คนนี้ได้โพสต์ภาพใบหน้าไร้เมคอัพล่าสุดลงในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ ซึ่งชาวเน็ตได้บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ใบหน้าของเธอในเวลานี้อ่อนเยาว์มากๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอกำลังจะอายุ 50 ปีแล้ว

โกฮยอนจอง

Sandglass
เรื่อง Sandglass ผลงานเมื่อ 25 ปีที่แล้วของนักแสดงสาว

“โกฮยอนจอง” ถือเป็นหนึ่งในดาราสาวที่ได้รับฉายาว่าเป็นบิ้วตี้ควีนของเกาหลี เพราะไม่เพียงแต่เธอจะเคยได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศมิสเกาหลีประจำปี 1989 เธอยังเคยเป็นผู้ทรงอิทธิพลในผลิตภัณฑ์ความงามหลากหลายแบรนด์ นอกจากนี้ยังเคยเขียนหนังสือเคล็ดลับความงามที่ใช้ชื่อว่า “Go Hyun-jung’s Texture” เพื่อบอกเล่าประสบการณ์และวิธีการดูแลตัวเองของเธอให้กับสาวเกาหลีได้ลองทำตามกัน

โดยหนึ่งในทริคที่เคยเปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์ก็คือ การล้างหน้าตามแนวเส้นขน  และวิธีนี้ยังสามารถใช้กับการทาครีมประจำวันให้กับคุณสาวๆ ได้อีกด้วย

ขั้นตอนแรกของ การล้างหน้าตามแนวเส้นขน นั้น ให้ล้างด้วยน้ำอุ่นเพื่อเปิดรูขุมขน จากนั้นผสมโฟมล้างหน้ากับน้ำอุ่นแล้วปั้นเป็นฟองขนาดเท่าไข่ไก่ แล้วถูกทำความสะอาดบนใบหน้าตามทิศทางของเส้นผม วิธีนี้จะช่วยไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย โดยส่วนของใบหน้าที่ควรทำความสะอาดก่อนก็คือบริเวณทีโซน (T-zone) หลังจากนั้นให้ทำความสะอาดบริเวณยูโซน (U-zone) เนื่องจากบริเวณนี้เป็นผิวที่ค่อนข้างแห้งง่าย ซึ่งตัวเธอใช้เวลาในการล้างหน้าต่อครั้งถึง 15 นาทีเลยทีเดียว

ไม่เพียงเท่านั้น นักแสดงสาวยังได้แนะนำว่าสิ่งสำคัญ “อย่าลืมล้างมือก่อนที่จะล้างหน้าเด็ดขาด” โดยนอกจากวิธีการล้างหน้าที่กล่าวมาแล้ว “โกฮยอนจอง”  ยังได้แนะนำให้ทำความสะอาดตั้งแต่หลังหูไปจนถึงกรามด้วย

โกฮยอนจอง


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เมคอัพเบาหวิว + ทรงคิ้วลดอายุ เทคนิคสวยแบ๊วตลอดกาลของ ‘ซงฮเยคโย’

อ่อนกว่าวัย! “คิมฮีแอ” แม้จะดูรู้ว่าเป็นรุ่นใหญ่ แต่ก็เดาไม่ได้ว่าอยู่ในวัย 50+

กินแบบสาวสองพันปี ‘ลียองเอ’ วัยใกล้แตะเลข 5 แต่หน้ายังตึง ไม่พึ่งโบท็อกซ์

 

 

 

 

3 หมื่นบาท! Face Shield แบรนด์หรู Louis Vuitton สวยมีสไตล์ป้องกันโควิด

ป้องกัน โควิด-19 อย่างมีสไตล์ Face Shield แบรนด์หรู Louis Vuitton ผลงานในคอลเล็คชั่น Cruise 2021 มาในราคาเบาๆ แค่ 3 หมื่นเองค่ะคุณ

โควิด-19 มีผลกระทบต่อโลกของเราอย่างมาก ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมแฟชั่นและการค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น Louis Vuitton ก็ยังคงให้ความช่วยเหลือในวิกฤตครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การผลิตเจลแอลกอฮอล์และผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อมอบให้แก่บุคลากรแนวหน้าทางด้านสาธารณสุข

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Louis Vuitton กลับมาเปิดโรงงาน 5 แห่งที่ตั้งอยู่ในสถานที่ต่างๆ ของฝรั่งเศสอีกครั้ง เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะ และตั้งเป้าไว้ว่าจะผลิตหน้ากากกว่า 1 แสนชิ้นต่อสัปดาห์เลยทีเดียว ล่าสุดแบรนด์เฮ้าส์ชื่อดัง Louis Vuitton ก็ได้ผลิต Face Shield หรือหน้ากากพลาสติกในราคา 961 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็คชั่น Cruise 2021 นอกจากจะเป็น Face Shield ที่สามารถป้องกันโควิด-19 ก็ยังมีสไตล์ที่หรูหราด้วยเช่นกัน

Face Shield แบรนด์หรู Louis Vuitton

ซึ่ง Face Shield ตกแต่งด้วยลายโมโนแกรมอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ตัวกระดุมมีการสลักชื่อ Louis Vuitton แถบคาดศีรษะสามารถปรับได้ หมวกยังสามารถสวมขึ้นด้านบนเป็นหมวกยอดแหลมแบบคลาสสิก โดย Face Shield จะเริ่มวางจำหน่ายทางออนไลน์และที่ร้าน Louis Vuitton ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้

Face Shield ของ Louis Vuitton Face Shield Louis Vuitton


ที่มา : edition.cnn.com

ภาพ : www.dezeen.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

งูเขียวใบละ 7 หมื่น! กระเป๋าแบรนด์ Bvlgari ของ อั้ม พัชราภา คาดเอว คาดอกก็เก๋

สร้างเทรนด์เอง! ลิซ่า แปลว่าอิสระ จะใส่เสื้อยืดตัวละ 4 พัน สลับหน้าหลังก็ได้

เปิดตัวแบรนด์ เสื้อผ้าเด็ก สายฟ้า พายุ แม่ชมการันตีราคาจับต้องได้ เพราะเข้าใจพ่อแม่

 

 

รู้จัก "เอิง-สร้อยสกุล คุณสุข" นักบินฝนหลวงหญิงคนแรก ผู้สร้างสุขจากสายฝน

รู้จัก “เอิง-สร้อยสกุล คุณสุข” นักบินฝนหลวงหญิงคนแรก ผู้สร้างสุขจากสายฝน

Alternative Textaccount_circle
รู้จัก "เอิง-สร้อยสกุล คุณสุข" นักบินฝนหลวงหญิงคนแรก ผู้สร้างสุขจากสายฝน
รู้จัก "เอิง-สร้อยสกุล คุณสุข" นักบินฝนหลวงหญิงคนแรก ผู้สร้างสุขจากสายฝน

เปิดเส้นทางกว่าจะมาถึงวันนี้ “เอิง-สร้อยสกุล คุณสุข” นักบินฝนหลวงหญิงคนแรก ผู้มุ่งมั่นสร้างความสุขจากสายฝน

“ฝนหลวง” เปรียบได้กับความมหัศจรรย์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่ชาวไทยทั้งประเทศ และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงคนนี้ “เอิง-สร้อยสกุล คุณสุข” มุ่งมั่นและตั้งใจก้าวขึ้นมาเป็นนักบินหญิงคนแรกของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร

นักบินหญิงฝนหลวง

เอิง นักบินหญิงวัย 27 ปี บอกกับ แพรว ว่า เพราะเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หลังจากเรียนจบปริญญาตรี เธอจึงสนใจอาชีพนักบิน

“หลังจากเรียนจบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีรุ่นพี่ที่รู้จักกันเป็นนักบิน เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์การทำงาน วิธีคิดต่างๆ จึงเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับนักบิน จากที่รู้สึกแค่ว่าเท่ดี พอพบว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ เป็นงานที่ต้องมีการคิดวางแผน ก็ยิ่งทำให้สนใจ และอยากเรียนต่อด้านนี้ จึงไปสมัครเรียนหลักสูตรการบินที่โรงเรียนการบินกรุงเทพ (Bangkok Aviation Center)

รู้จัก "เอิง-สร้อยสกุล คุณสุข" นักบินฝนหลวงหญิงคนแรก ผู้สร้างสุขจากสายฝน“พอเรียนจบหลักสูตรประมาณ 1 ปี ก็ไปสอบใบประกาศ ซึ่งตอนนั้นเราชัดเจนแล้วว่าชอบทางนี้จริงๆ จึงเริ่มมองหางานนักบินตามสายการบินต่างๆ เห็นกรมฝนหลวงและการเกษตรประกาศรับสมัครนักบิน รู้สึกสนใจมากๆ เพราะเป็นการทำงานอีกแบบหนึ่งที่แตกต่างจากสายการบินเชิงพาณิชย์ จำได้ว่ารุ่นที่เอิงสมัครมีผู้หญิงแค่ 3 – 5 คนเท่านั้น หลังจากสอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ และสอบปฏิบัติ เอิงก็ได้เป็นนักบินผู้หญิงคนแรกที่ผ่านการคัดเลือกในปีนั้น (ยิ้ม)

“เมื่อเข้ามาที่กรมต้องเรียนเพิ่มเติม ทั้งทฤษฎีต่างๆ ฝึกการบิน และเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับการทำฝนหลวงว่ามีขั้นตอนอะไรบ้าง ยอมรับค่ะว่าช่วงแรกค่อนข้างยากและกดดัน ต้องอ่านหนังสือทุกวัน เพราะเป็นเรื่องใหม่ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งในความคิดของเอิง นักบินที่นี่แตกต่างจากที่อื่น เพราะเป็นการบินเพื่อปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมาย

“โดยเริ่มจากการทำงานร่วมกับนักวิชาการ เพื่อดูว่าพื้นที่ตรงไหนต้องการความช่วยเหลือ ดูสภาพอากาศ ความชื้น เวลาที่เหมาะสม และทำงานร่วมกัน ซึ่งความแตกต่างของการบินเพื่อทำฝน ก็คือต้องบินเข้าไปใกล้เมฆ ซึ่งตามปกติเราจะไม่เข้าไปใกล้เมฆ เพราะอาจจะเกิดสภาพอากาศแปรปรวนได้ แต่ถ้าจะทำฝน เราต้องบินไปใกล้เมฆ เพื่อ เข้าไปเติมความชื้นให้สารเกิดการควบแน่น ช่วงแรกจึงต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเยอะ ทั้งการบิน เรื่องของสภาพอากาศ และเทคนิคการบิน เพราะไม่ว่าจะปฏิบัติการอะไรก็ตาม ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับแรกค่ะ”

สร้างสุข…จากฝน

แม้นักบินฝนหลวงเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทน เผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ แต่เวลาที่ได้เห็นพื้นดินแห้งแล้งกลับมาชุ่มชื้นจากสายฝน ก็ทำให้เธอเป็นสุขใจทุกครั้ง

“การทำงานหลักๆ ของนักบินฝนหลวงจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเปิดฤดูฝน คือเดือนมีนาคมถึงตุลาคม ซึ่งมักมีภัยแล้งในหลายพื้นที่ นักบินฝนหลวงจะออกไปประจำการตามจังหวัดต่างๆ จังหวัดละ 2-3 เดือน แต่ถ้าแล้งมากๆ ก็อาจจะอยู่ถึง 4-5 เดือน อีกช่วงคือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ที่เรียกว่าช่วงปิดฤดูฝน นักบินจะกลับมาประจำที่กรมการฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อเข้าคลาสเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม แต่ถ้าพื้นที่ไหนต้องการความช่วยเหลือ ก็จะมีหน่วยฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วไปคอยดูแลได้ตลอดค่ะ

“ปีแรกของการทำงาน เอิงโชคดีได้ไปประจำที่จังหวัดจันทบุรี บ้านเกิด จากนั้นไปอยู่สระแก้ว สุรินทร์ หัวหิน กาญจนบุรี และล่าสุดประจำอยู่สุรินทร์ สลับไปเรื่อยๆ ค่ะ โดยการขึ้นบินจะดูตามความเหมาะสม บางสัปดาห์บินทุกวัน เพราะเราไม่ได้ทำฝนให้ตกในพื้นที่เกษตรกรรมอย่างเดียว แต่รวมไปถึงน้ำในการอุปโภคบริโภคที่ต้องสร้างฝน เพื่อเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำไว้ใช้ด้วย

รู้จัก "เอิง-สร้อยสกุล คุณสุข" นักบินฝนหลวงหญิงคนแรก ผู้สร้างสุขจากสายฝน

“แต่การบินเพื่อทำฝนหลวงจะไม่ทำในกรุงเทพฯนะคะ เนื่องจากความปลอดภัยของพื้นที่ที่มีตึก ไม่ได้เป็นพื้นที่โล่ง และไม่ได้มีพื้นที่เกษตรกรรมมาก แต่ช่วงที่มีปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ทีมนักบินจะแสตนด์บายอยู่ที่สนามบินอู่ตะเภา จังหวัดระยอง หรือจังหวัดนครสวรรค์ และคอยตรวจตราดูสภาพอากาศว่าเป็นอย่างไร สมมติว่าเจอเมฆในระยะใกล้ที่กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าไปในกรุงเทพฯ ทีมนักบินจึงจะออกไปทำฝนหลวงในบริเวณนั้น เพื่อเพิ่มความชื้นให้ก้อนเมฆเคลื่อนตัวไปตกเป็นฝนเพื่อลดปัญหาฝุ่นในกรุงเทพฯ

“และความที่ครอบครัวของเอิงเป็นเกษตรกร ปลูกผลไม้ที่จันทบุรี ทำให้เข้าใจความต้องการและปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เรารู้ว่าถ้าปลูกผลไม้แล้วไม่มีฝนจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเกษตรกรลงทุนไปเยอะ ถ้าช่วงที่ต้องเก็บผลผลิต แต่ผลไม่ออกเพราะแล้ง ผลไม้ราคาตก ทุกอย่างเสียหมดเลยนะคะ เหมือนว่าที่ตั้งใจทำมาทั้งปีคือสูญเปล่า

“เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2561 – 2562) เอิงไปอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ จำได้เลยว่าปีแรกที่ขึ้นบินผ่านอ่างเก็บน้ำ เห็นภาพเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ แต่เมื่อปีที่แล้วบินผ่านจุดเดิม ภาพที่เห็นคือเป็นพื้นดินแห้งแล้ง ไม่มีน้ำเลยค่ะ จนเกือบจำไม่ได้ว่าตรงนี้คือพื้นที่เก็บน้ำ ทำให้ต้องคิดว่าแล้วชาวบ้านจะอยู่กันอย่างไร เราจะช่วยเขาอย่างไรได้บ้าง

“และเมื่อทีมนักบินเริ่มทำงานขึ้นไปสร้างฝนหลวง จากเดิมที่มีปริมาณน้ำน้อยมากๆ ค่อยๆ เห็นปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลับมาเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ได้ ในฐานะนักบิน เอิงรู้สึกว่าฝนหลวงคือสิ่งมหัศจรรย์มากๆ ค่ะ เพราะเราเห็นและอยู่กับมันทุกขั้นตอน จากพื้นดินแห้งแล้ง ท้องฟ้าสว่างสดใส จากนั้นเมฆก็เริ่มก่อตัวจนมืดดำ แล้วกลายเป็นฝนตกลงมา รู้สึกดีใจและภูมิใจทุกครั้งที่เห็นภาพแบบนี้ (ยิ้ม) และตรงนี้เองที่เป็นแรงผลักดันและกำลังใจในการทำงานที่ทำให้เอิงอยากพัฒนาตัวเอง อยากเรียนรู้ให้มากขึ้น

“ในการเป็นนักบินฝนหลวง อย่างแรกต้องคิดถึงความเดือดร้อนของผู้คน ฉะนั้นเราต้องทำหน้าที่ให้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องกลับมาดูตัวเองทุกครั้งหลังจบงานว่ายังมีจุดไหนที่ต้องแก้ไข และต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเพื่อพัฒนาตัวเอง ทำให้งานมีประสิทธิภาพและดีขึ้นเรื่อยๆ

“การเป็นนักบินช่วยให้เอิงคิด วางแผน และทำงานอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ เพราะเวลาที่อยู่หน้างาน ถ้ามีบางอย่างไม่ตรงกับแผนที่วางไว้จะมัวตกใจไม่ได้ ต้องมีสติ นั่นคือสิ่งสำคัญมากค่ะ และต้องมีแผนสำรองอยู่เสมอ

“เอิงรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของนักบินผู้หญิง ทำให้หลายๆ คน รู้ว่าผู้หญิงก็เป็นนักบินฝนหลวงได้ ซึ่งถ้ามองในด้านทางกายภาพ แน่นอนว่าผู้หญิงแตกต่างกับผู้ชาย แต่เอิงเชื่อว่า ในการทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ถ้าเรามีศักยภาพ มีความตั้งใจ อะไรก็เป็นไปได้ค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 955

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชีวิตจริงยิ่งกว่าซีรีส์ “ผึ้ง-ประภาภรณ์” ธุรกิจโดนโกง สามีนอกใจ ฮึดสู้สู่เจ้าของแฟรนไชส์ดัง

ดราม่า ‘มาดามตวง’ ถูกตัดสิทธิ์ในมรดกตระกูลนับ 1,000 ล้าน เพียงเพราะเป็นผู้หญิง

เส้นทางสู่แชมป์ไม่ง่าย แมมมอธ วัย 18 ปี ลายมือสวยขั้นเทพ มุ่งฝึกฝนจนเป็นที่หนึ่ง

 

จะจัดงานแต่งทั้งทีลองดูฮวงจุ้ยงานแต่งงาน จัดตามนี้รับรองว่าดี!

account_circle

ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน โดยซินแส เป็นหนึ่ง จัดตามนี้รับรองว่าดี!

จะสร้างเรือนหอ จะเปิดบริษัท ยังต้องมีหลักฮวงจุ้ย แล้วทำไมจะจัดงานแต่งทั้งที จะอาศัยหลัก ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน มาเสริมดวงด้วยไม่ได้ งานนี้ ซินแสเป็นหนึ่ง  ซินแสด้านฮวงจุ้ยชื่อดังแห่งยุคและยังเป็นผู้ออกแบบโลโก้งานแต่งงานให้กับนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ จะมาเปิดเผยความลับฟ้าดิน ทั้งตำแหน่งในงานแต่ง และการออกแบบการ์ดแต่งงาน วางตำแหน่งให้ถูกตำราชีวิตรักยั่งยืน!!

ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน

การวางตำแหน่ง ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน เป็นเรื่องสำคัญที่พลังจะช่วยหนุนนำคู่รักให้ครองคู่กันอย่างยั่งยืน  จำหลักง่ายๆ เมื่อหันหน้าเข้าหางาน คือ

ขวาไฟ ซ้ายน้ำ

ด้านขวาของงานควรจะเป็นโทนสีส้มแดง หรือมีการตกแต่งด้วยแสงไฟ

ด้านซ้ายของงานควรจะเป็นโทนสีฟ้า ที่ให้ความร่มเย็น หรือประดับด้วยสายน้ำ

หญิงยืนซ้าย ชายยืนขวา

ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน

ตำแหน่งการยืนของคู่บ่าวสาว คือเมื่อหันหน้าเข้าสู่งาน ผู้หญิงต้องยืนฝั่งซ้าย ผู้ชายยืนฝั่งขวา เป็นไปตามหลักของหยินและหยาง

จำนวนโต๊ะในงานแต่ง ต้องเป็นเลขคี่! หรือบวกกันได้เลขคี่ เพราะเป็นเลขที่แฝงไว้ด้วยความสำเร็จ และทำให้เรื่องราวมีความสมดุลกัน

โลโก้งานแต่ง

การออกแบบโลโก้งานแต่งซินแสเป็นหนึ่ง บอกว่าเป็นเรื่องยากที่ใช้ความละเอียดอ่อนอย่างสูง ต้องดูวันเดือนปีเกิด ลักษณะนิสัย มาร่วมออกแบบด้วย หากเป็นคนอารมณ์ร้อนทั้งคู่ ก็จะต้องใช้เรื่องสีที่ให้รู้สึกว่าเย็น ลายเส้นต้องลื่นไหล หากเป็นคนชอบบริหารเสน่ห์ก็ต้องตัดบางอย่างออกเพื่อให้รักนี้สมบูรณ์

การ์ดแต่งงานเจนี่

ถึงจะฟังดูแล้วยาก แต่คู่รักที่อยากออกแบบเองอย่างง่าย ซินแสเป็นหนึ่งก็แง้มหลักสำคัญเอาไว้ให้ ตามนี้

  1. ลายเส้นโลโก้ควรเป็นลายเส้นที่ต่อเนื่องกัน ห้ามขาดออกจากกัน
  2. ห้ามมีเหลี่ยมมุมในตัวลายเส้น
  3. หากมีมุมแหลมในโลโก้ ก็ต้องทิ่มออกด้านนอก ห้ามทิ่มเข้าสู่ตัวโลโก้
  4. 3 รูปต้องที่มี คือ วงกลม หัวใจ และรูปอินฟินิตี้ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความสุข และการเงินที่สมบูรณ์

บ่าวสาวคู่ไหนที่อยากได้ทริคดีๆ แบบนี้สำหรับการจัดงานแต่งงาน เรายังมีอีกเพียบเลยนะ ไม่ว่าจะเป็น >> พิธีไทย << และ >> พิธีสากล <<

ภาพ IG : fengshui6909  และ pinterest

3 เคล็ดลับดี๊ดีของ อาหารมงคล ในงานแต่งทำแบบนี้แล้วดีคอนเฟิร์ม!

account_circle

แน่นอนว่าในงานแต่งคุณต้องสรรหาอาหารรสเลิศมาบริการแขกเหรื่อ แต่เราขอเตือนไว้ว่าถ้าอยากให้ชีวิตคู่แฮปปี้ อาหารที่หามาจะอร่อยอย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็น อาหารมงคล ด้วยนะจ๊ะ โดยหลักจำง่ายๆ ในเบื้องต้นคือ เมนูไหนเปล่งเสียงออกมาแล้วแบบว่าฟังดูไม่รื่นหูก็อย่าสั่ง เมนูไหนพูดออกมาแล้วรู้สึกถึงความหมายดีๆ ออเดอร์เลย ว่าแล้วไปดูค่ะว่า เมนูไหนบ้าง

1. เมนูฟังแล้วไม่รื่นหูก็อย่าสั่ง

อาหารคาวที่ว่ากันว่าห้ามไม่ให้นำมาเลี้ยงแขกหรือแม้แต่มีในงานแต่ง ได้แก่ อาหารจำพวกแกงบอน แกงหอยขม ต้มยำ เพราะชื่อไม่เป็นมงคล ฟังแล้วแสลงใจ เดี๋ยวก็ (ปาก) บอน เดี๋ยวก็ (ชีวิต) ขม  รู้แบบนี้ห้ามออร์เดอร์เด็ดขาด!

2. เมนูความหมายดีต่อใจ

ส่วนใครที่ปลื้มมากกับอาหารเส้น ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนหรือแม้แต่ฝอยทอง ต้องใช้แบบที่เป็นจับสวย เส้นไม่ขาด เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้มีชีวิตคู่ยืดยาว ฉะนั้นแล้วถ้าจะนำมาเลี้ยงแขกขอให้กำชับคนจัดสำรับเลยว่าอย่าให้เส้นขาดเด็ดขาด OK นะจ๊ะ

3. ห้ามกินจนหมดเกลี้ยงชามเด็ดขาด

ในส่วนของประเพณีแต่งงานแบบจีนนั้น พิธีกินขนมอี๋หรือขนมบัวลอย บ่าวสาวต้องจำไว้ว่าห้ามกินจนหมดถ้วยเด็ดขาด จะต้องเหลือติดถ้วยประมาณ 4-8 ลูก เพราะชาวจีนเชื่อว่าจะทำให้บ่าวสาวร่ำรวย มีเงินเหลือกินเหลือใช้ไงจ๊ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับแนวทางการสั่งอาหารมงคลในงานแต่งงาน สั่งมาไว้ในงานเถอะจ้ะ รับรองได้ว่าจะมงคลกันทุกหน่วยในงานแน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อในงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ : site.google.com

5 ปัญหาก่อกวน ชีวิตคู่ ให้ล่มก่อนได้เริ่ม ที่ว่าที่บ่าวสาวต้องรู้ก่อนแต่งงาน

account_circle

ชีวิตคู่ ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อคนสองคนต่างที่มา ต่างการเติบโต แล้วต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่หนทางการประคับประคองให้ยืนยาวอยู่เป็นคู่จะง่ายมากขึ้น หากรู้จัก 5 ปัญหาเล็กๆ ที่อาจลุกลามจนนำไปสู่การหย่าร้างได้ตั้งแต่ก่อนวันแต่งงาน

1. ไม่มีความเป็นตัวเอง

หลายคนบอกว่า เป็นตัวเองมากไปก็อยู่กับคนอื่นยาก แต่ถ้าไม่มีความเป็นตัวเองเลย ก็ทำให้อยู่กับคนอื่นไม่ได้เหมือนกันนะ โดยเฉพาะกับคนที่จะต้องอยู่ไปด้วยกันตลอดชีวิต เพราะหากเริ่มต้นโดยการยอมไปเสียทุกอย่าง แล้วคุณคิดว่าจะยอมไปได้อีกนานแค่ไหนกัน เมื่อถึงวันที่ยอมไม่ไหวแล้ว ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้น ทางที่ดีคือตลอดเวลาที่เรียนรู้กันคุณต้องค่อยๆ เปิดความเป็นตัวเองให้อีกฝ่ายได้เห็น ให้เวลาทำให้เราได้เรียนรู้กันมากขึ้น และอย่าลืมตระหนักในคุณค่าของตัวเองด้วย

2. แต่งงานเพราะอะไร

เมื่อคิดถึงเรื่องแต่งงาน อย่าลืมถามตัวเองด้วยว่า เราอยากแต่งงานเพราะอะไร หากมีคำตอบว่า เพราะแรงกดดันจากสังคม สถานภาพทางการเงิน การงาน นั่นอาจแปลว่าคุณยังไม่พร้อมแต่งงาน เพราะปัจจัยเหล่านี้ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้คู่รักอยู่ด้วยกันได้ยืนยาวเลย แต่หากคำตอบคือความรัก ความเข้าใจ ล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามัวรีรอที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเลย

3. ไม่เคยคุยเรื่องเป้าหมายการใช้ชีวิตกันเลย

เรื่องเป้าหมายการใช้ชีวิตเป็นเรื่องใหญ่ และใหญ่มากสำหรับคนสองคนที่จะมาอยู่ด้วยกัน หากว่าไม่ได้มีเป้าหมายเดียวกัน หรือไม่เคยรู้เป้าหมายของกันและกันมาก่อน ก็อาจจะต่างกันพาครอบครัวไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ทางที่ดีจึงควรมานังจับเข่าเปิดอกพูดคุยถึงเป้าหมายของแต่ละคน หากว่าเหมือนกันก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่ การยอมรับในเหตุผลและการพบกันครึ่งทาง จะทำให้ทางเดินที่วาดหวังไว้ทอดยาวไปได้อีกไกล

4. ไม่ยอมรับในความแตกต่าง

เราไม่จำเป็นต้องพูดถึงความแตกต่างในแง่ของการเลี้ยงดู พื้นฐาน ฐานะ หรือใดๆ เอาแค่เรื่องแรก คือความแตกต่างระหว่างความเป็นหญิง ความเป็นชาย หากไม่สามารถยอมรับและเข้าใจในจุดนี้ได้ เรื่องความแตกต่างอื่นๆ ก็ยากที่จะคุยกันลงตัวได้แล้ว ทางที่ดีจึงควรคุยกันด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง บางคู่อาจรวมไปถึงการทำข้อตกลงต่างๆ ร่วมกันเพื่อเป็นบรรทัดฐานของการใช้ชีวิตคู่ และไม่ว่าจะคุยกันเช่นไรต้องไม่ลืมว่านี่คือการปรับตัวเข้าหากัน ไม่ใช่การที่ฝ่ายใดยอมจนไม่เหลือความเป็นตัวเองนะ

5. ไม่ตั้งความหวังจนเกินจริง

หลายคนอาจจะบอกว่า “หวังให้ไกล แล้วไปให้ถึง” แต่สำหรับชีวิตคู่แล้วการตั้งความหวังนั้นทำได้ แต่ควรอยู่บนพื้นฐานของความจริงด้วย แล้วให้ความหวังนั้นเป็นเพียงแรงผลักดันเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่ดีกว่า อย่าเคร่งเครียดจนกลายเป็นแรงกดดัน และแรงบีบคั้น เพราะแต่ละคนก็มีกำลังที่จะทนแรงกดดันได้ไม่เท่ากัน หากว่าอีกคนยอมแพ้ไปก่อน ชีวิตคู่ ที่ตั้งใจไว้ก็อาจจะเหลือเพียงตัวคนเดียวได้เหมือนกัน

หากว่าคุณบ่าวสาวพูดคุยตกลงทั้ง 5 ข้อนี้ลงตัวแล้ว ก็จะทำให้เกิดความเข้าใจพื้นฐานในการใช้ชีวิตคู่ แล้วปัญหาที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจับมือฝ่าฝันไปด้วยกันบนพื้นฐานของความเข้าใจ แต่ถ้าอยากรู้เรื่องเคล็ดลับให้รักยืนยาวก็ >> คลิกอ่านได้เลย <<

ภาพ unsplash.com

25 กิมมิคสร้างสีสันให้งานแต่งงานจากธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

account_circle

แพรวเวดดิ้งขอนำ 25 กิมมิคน่ารักๆ จาก ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์ ที่เหล่าสาวกของการ์ตูนค่ายนี้ต้องลองนำไปใช้ตกแต่งงานแต่งงาน บอกเลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆ

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

สร้างสีสันบนโต๊ะอาหารให้เหมือนกับอยู่ในท้องทะเลอย่างในการ์ตูนเรื่อง Little Mermaide โดยใช้ปลาดาวตกแต่งและใช้จานคล้ายเปลือกหอยโทนสีเขียวอ่อนๆ ตัดกับดอกไม้สีสวยๆ บนโต๊ะ ก็ดูสวยน่ารักไม่เบา

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

มอบความสดชื่นให้กับแขกที่มาร่วมงานด้วยเครื่องดื่มสุดวิเศษอย่างการ์ตูนในเรื่อง Alice in the wonderland แก้วทรงสูงผูกด้วยโบว์สีหวานพร้อมหลอดสีฟ้าตัดขาวโทนสีพาสเทล

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

การ์ดเชิญที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่อง Beauty and the Beast  สร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาร่วมงานตั้งแต่แรกเห็นและยังเปลี่ยนการ์ดเชิญแบบธรรมดาให้แตกต่างที่ทั้งสวยและหรูหรามากขึ้นโดยเพิ่มโบว์และอัญมณีสวยๆ และใช้อักษรที่ดูหรูเข้ากับการ์ด ดูแล้วเจิดสุดๆ

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

กิมมิคๆ เล็กทางประตูเข้าออกของงานจากเรื่อง Tinker Bell ใช้กากเพชร (pixie dust) โปรยปรายให้ระยิบระยับ ดูฟรุ้งฟริ้ง เพ้อฝัน ให้เหมือนเหล่าบรรดาแขกที่มาร่วมงานเป็นนางฟ้า เทวดา โลดแล่นอยู่ในงาน

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

เข็มกลัดผู้กล้าจากเรื่อง Up ก็เป็นกิมมิคที่สามารถติดบนเสื้อของเจ้าบ่าวได้

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

หมวกมิกกี้เม้าส์และมินนี่เม้าส์ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว อะไรจะน่ารักขนาดนี้

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

แรงบันดาลใจในการตกแต่งสถานที่ จากเรื่อง Tangled  ทำให้บรรยากาศในงานดูอบอุ่นและโรแมนติกที่สุด

ธีมงานแต่งการ์ตูนดิสนีย์

หรือจะเป็นการถ่ายพรีเวดดิ้งแบบเรื่อง Tangled อีกเช่นกัน ที่ให้อารมณ์แปลกไม่เหมือนใคร และดูโรแมนติกเหมือนกับตัวการ์ตูนในเรื่อง

9

อีกหนึ่งที่กิมมิคที่เราขอแนะนำเลย เพราะในงานเหล่าบรรดาสาวๆ ที่จิกส้นสูงมางานก็คงต้องเมื่อยกันบ้าง หากมีสลิปเปอร์ให้เปลี่ยนก็คงดีไม่น้อย โดยไอเดียนี้ได้จากเรื่อง Cinderella

10

กระดุมมิกกี้เม้าส์ ดีเทลเกร๋สำหรับเจ้าบ่าวที่ทำให้ไม่น้อยหน้าเจ้าสาวได้นะจ๊ะ

11

กุหลาบในโหลแก้วหนึ่งดีเทลสำคัญในเรื่อง Beauty and the Beast หากลองนำมาตกแต่งบนโต๊ะอาหารในงานต้องสวยงาม ชวนฝัน และโรแมนติกสุดๆ ท่ามกลางแสงเทียนแน่นอน

12

สมุดภาพอัลบั้มรวมรูปถ่ายพรีเวดดิ้ง เก็บความทรงจำดีๆ ให้แขกได้ร่วมซาบซึ้งและยังเป็นของตกแต่งภายในงานได้อีกด้วย กิมมิคเกร๋ๆ จากเรื่อง Up

13

มาการองรูปมิกกี้เม้าส์และมินนี่เม้าส์ ของว่างในงานที่แสนจะอร่อยและยังน่ารักอีกด้วย

14

อย่าลืมมองข้ามสิ่งเล็กๆ อย่างเล็บที่มีส่วนให้สาวๆ ดูสมบูรณ์แบบที่สุดในวันสำคัญ ลองเพ้นท์เป็นลวดลายที่ชอบหรือ อย่างลายนี้ได้แรงบันดาลใจจากเจ้าหญิง จัสมิน จากเรื่อง Aladdin

15

คัพเค้กขนมยอดฮิตที่เราเห็นในงานแต่งงาน หากใส่จานก็คงดูธรรมดาไป ว่าไหม ลองเปลี่ยนมาใส่ถ้วยน้ำชาสวยๆ ปักข้อความเกร๋ๆ อย่างในภาพนี้นั้นได้กิมมิคจากเรื่อง Alice in wonderland

16

มองเผินๆ โต๊ะอาหารในภาพอาจจะดูธรรมดา แต่เดี่ยวก่อนลองดูบนโต๊ะอีกรอบเชิงเทียนที่อยู่ในรถฟักทองนั้นช่างทำให้ดีเทลบนโต๊ะอาหารดูหรูขึ้นมาทันทีและคงไม่ต้องบอกว่างานนี้นั้นได้แรงบันดาลใจจากเรื่อง Cinderella นั่นเอง

17

เค้กแต่งงานสุดน่ารักที่ได้หุ่นยนต์จากเรื่อง Wall E มาเป็นตัวแทนของบ่าวสาว น่ารักมากว่าไหม ?

18

สแครบเบิ้ลของเล่นที่เราเห็นในเรื่อง Toy Story ลองนำมาเป็นของตกแต่งในงานให้แขกได้เล่นเพลินๆ หรือจะตั้งไว้ให้แขกได้เรียงเป็นคำอวยพรถ่ายรูปเกร๋ๆ อัพ IG หรือ Facebook แฮชแทคชื่องงานเรา ก็เป็นกิมมิคที่ดูแล้วสร้างสรรค์ไม่น้อย

19

ของตกแต่งบนโต๊ะอาหารในบางทีก็ไม่จำเป็นต้องดูหรูหราเสมอไป ลองสร้างเรื่องราวหรือกิมมิคอย่างในเรื่อง Alice in the wonderland กาน้ำชาลอยได้ที่ดูแล้วชวนมองและดูวิเศษ รับรองว่าบนโต๊ะอาหารของคุณไม่จำเจและน่าเบื่อแน่นอน

20

หากใครเคยดูการ์ตูนเรื่อง Cinderllea ต้องไม่มีทางลืมรถฟักทองที่พานางซินของเราไปพบเจ้าชายแน่นอน แต่หากเรื่องจริงมีรถฟักทองมารับเจ้าสาวของเราบ้างล่ะ คงวิเศษสุดๆ ไปเลยล่ะ

21

ไอเดียจากเรื่อง Sleeping Beauty โดยนำแกนด้ายมาใช้ตกแต่งบนโต๊ะอาหาร และยังมีกระดาษเน็ตใบเล็กที่ซ่อนข้อความอยู่บนแกนด้ายให้แขกได้อ่านก็ดูสร้างสรรค์ไม่น้อย

22

นี่ต้องเป็นเตกิล่าที่ดูน่าดื่มและดูตื่นตาที่สุด เพราะได้ไอเดียจากเรื่อง Peter Pan นั้นเอง

23

บอลดอกไม้กลมๆ ที่เราเห็นทั่วไป อาจดูธรรมดาเกินไป เปลี่ยนบอลดอกไม้ของเราเป็นรูปมิกกี้เม้าส์ก็เกร๋อย่าบอกใครเชียวล่ะ

24

โอ้ว มาย ก็อด เจ้าสาวคนไหนได้แหวนวงนี้ไปต้องร้องกรี๊ดดีใจสุดๆ แน่นอน เพราะแหวนวงนี้ได้แรงบันดาลใจมากเจ้าหญิงเอลซ่า จากเรื่อง Flozen สวย เว่อ อลังการมาก

25

เค้กรูปปราสาท มีไฟวิบวับ ให้ความรู้สึกวิเศษ และดูน่าตื่นเต้นไม่เหมือนใคร สวยงาม หรูหรา แต่กินไม่ได้นะจ๊ะ

สาวๆ คนไหนดูแล้ว ได้ไอเดียก็นำไปลองใช้กับงานตัวเองเป็นกิมมิคเสริมในงาน รับรองว่างานของคุณต้องไม่น่าเบื่อและพิเศษกว่างานไหนๆ แน่นอน

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.huffingtonpost.com/,http://2.bp.blogspot.com/

คุชชั่นยี่ห้อไหนดี

คัด 5 คุชชั่นเนื้อดีโดนใจ บางเบา แต่ปกปิดหน้าเนียนเป๊ะจนใครก็จับโป๊ะไม่ได้

Alternative Textaccount_circle
คุชชั่นยี่ห้อไหนดี
คุชชั่นยี่ห้อไหนดี

คุชชั่นยี่ห้อไหนดี ที่ติดโผจนหนุ่มสาวต่างก็เลิฟ เพราะเนื้อดีโดนใจ หน้าเนียนเป๊ะจนใครก็จับโป๊ะไม่ได้

#PraewIconicBeauty2020 #IconicBeautySelected บิวตี้ไอเท็มที่ฮ็อตไม่แพ้อุณหภูมิบ้านเราคงหนีไม่พ้นคือ คุชชั่น  รองพื้นในรูปแบบตลับที่ซึมซับอยู่ในฟองน้ำ ช่วยปกปิดพร้อมบำรุงให้ผิวสวยใสชุ่มชื่น ด้วยเนื้อสัมผัสบางเบา ใช้ง่าย พกพาสะดวก ไม่เลอะมือด้วย บอกเลยว่าหนุ่มสาวคนไหนชอบงานผิวดิวอี้ฉ่ำน้ำ จะพลาดจากคุชชั่นไปไม่ได้ เพราะเป็นบิวตี้ไอเท็มสุดฮิตที่สามารถเนรมิตผิวฉ่ำสุขภาพดีได้รวดเร็วดังใจคิด

จุดเด่นสำหรับคนที่ชอบใช้คุชชั่นคือ ถ้าชอบงานผิวจะให้ฟีลเหมือนไม่แต่งหน้าแต่ปกปิดได้เนียนกริบ และเสกผิวให้โกลว์กึ่งๆ Glass Skin ดูสุขภาพดีด้วย แถมคุชชั่นยังสามารถใช้ทัชอัพระหว่างวันให้ดูสวยเฟรซขึ้นแบบไม่ต้องกลัวเยิ้มแล้ว เดี๋ยวนี้สูตรพัฒนามามีหลากหลายเนื้อ แต่เนื้อที่ออก Semi-Matte จะได้รับความนิยมมากในสาวเอเชีย เพราะไม่ทำให้ผิวเยิ้มหรือแห้งเกินไป แต่กำลังสวยพอดี

 

คุชชั่น งานผิว
LAURA MERCIER Flawless Lumière Cushion SPF 50 UVA/UVB PA+++ (์New 2020)

LAURA MERCIER Flawless Lumière Cushion SPF 50 UVA/UVB PA+++ New 2020 (1,800 บาท)

ถือเป็นครั้งแรกของลอร่า เมอร์ซิเอ เลยก็ว่าได้ กับการแนะนำรองพื้นในรูปแบบคุชชั่นที่ปกปิดแบบเซ็ตตัวเนียนกริบ แต่ก็ยังคงให้ความชุ่มชื้นและเพิ่มความเปล่งประกายให้ผิว และแน่นอนว่าไม่ต้องกลัวเยิ้ม เพราะติดทนนานถึง 12 ชั่วโมง ให้ลุคผิวดิวอี้ผสมผสานด้วยผงเพชรที่บดละเอียด แอบกระซิบว่าถ้าจะให้ครบเซ็ตแบบเก๋ๆ ตอนนี้มีโปรฯ แถมฟรี Luminous Case มูลค่า 790 บาท รีบเลยค่ะ เนื้อดีแบบเซมิแมตต์ แพ็คเก็จก็เก๋กรุบ ถ้าซื้อไม่ทันแอบมีนอยบอกเลย
คุชชั่น งานผิว
YSL Le Cushion Encre de Peau 2020

YSL Le Cushion Encre de Peau 2020 (2,750 บาท)

แว่บแรกเลยที่สะดุดตาเห็นจะเป็นตลับดีไซน์ใหม่ หรูหราน่าจับจองเป็นที่สุด เคสหนังนี้ได้แรงบันดาลใจจากชุดหนังสีดำ ซึ่งเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ที่โด่งดังที่สุดของอีฟ แซ็งต์ โลร็องต์ สื่อออกมาในรูปของตลับขอบทองบุหนังเทียมสีดำเป็นลายบั้งยศ ส่วนตัวเนื้อสัมผัสก็เป็นคุชชั่นรองพื้นในรูปแบบ ink-in-cushion พกพาสะดวก ทันสมัยขึ้นด้วยสูตรต้านความหมองคล้ำและควบคุมความมันเงา พร้อมคอนโทรลผิวให้สวยกระจ่างใสได้ดั่งใจ คุมมันอยู่หมัด ฟินิชลุคแมตต์ แต่ไม่แห้งแตกเป็นคราบ ลองเลย เชียร์!

คุชชั่น งานผิว
DIOR Forever Couture Perfect Cushion

DIOR Forever Couture Perfect Cushion (2,400 บาท)

เพื่อให้คุชชั่นรองพื้นสำหรับพกติดตัวรุ่นนี้หย่อนลงในกระเป๋าถือได้ดูสวยแพง จึงออกมาในรูปแบบเคสหุ้มหนังประดับลายขัดสานแบบฉบับจากห้องเสื้อแฟชั่น พร้อมตราประทับโมโนแกรมสีเงิน รูปทรงเพีรยวบางยิ่งขึ้นช่วยเพิ่มความงามสง่า และทันสมัยไปพร้อมกัน  ที่สำคัญเป็นทั้งเมคอัพ และเครื่องประดับเก๋ๆ ไว้พกพาสะดวก แถมเวลาหยิบขึ้นมาทัชอัพระหว่างก็ดูแพงขึ้นไปอีก ส่วนเนื้อสัมผัสบางเบา ตัวเม็ดแป้งคุชชั่นให้ฟินิชลุคเนื้อแมตต์ละมุนละไม แอบมีความฉ่ำนิดๆ ไม่แห้งผาก หายห่วงได้ และเป็นสูตร long-wear ติดทนนาน 24 ชั่วโมงจุกๆ

 

คุชชั่น เกาหลี
JUNGSAEMMOOL Masterclass Radiant Cushion (1,800 บาท)

JUNGSAEMMOOL Masterclass Radiant Cushion (1,800 บาท)

ถ้าพูดถึงงานผิวสไตล์เกาหลี ต้องยกให้เจ้าแห่งคุชชั่นอย่าง JUNGSAEMMOOL แน่นอน เพราะเค้าขึ้นชื่อเรื่องงานผิวฉ่ำวาว Glass Skin เรียกว่าออกคุชชั่นมากี่สูตรก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แถมรุ่นใหม่นี้ดูมีความมาสเตอร์คลาสมาก ให้อารมณ์เหมือนได้นั่งโรลส์-รอยซ์ เบาๆ ทั้งส่วนผสมที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดให้ฟินิชลุคที่กริบแต่บางเบา เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟินิชลุคผิวอิ่ม ดูสุขภาพดีแต่ไม่ต้องการความฉ่ำวาวจนเกินไป และRadiant Mool Ampoule ที่เป็นส่วนผสมในคุชชั่นนั้น  Ampoule เป็นบริสุทธิ์ ไม่มีส่วนผสมของน้ำ จึงทำให้ยิ่งเติมก็ยิ่งบำรุง ช่วยเติมความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก ด้วยกรดไฮยาลูโรนิก 8 ชั้น ผิวจึงดูอิ่มเหมือนผิวที่ดื่มน้ำมาเต็มที่ตลอดวัน และไม่หมองหรือดร็อป ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง

คุชชั่น งานผิว
ARTISTRY Exact Fit Cushion Foundation All Day Cover EX (1,845 บาท)

ARTISTRY Exact Fit Cushion Foundation All Day Cover EX (1,845 บาท)

ผิวโกลว์เจิดจรัสได้ในทันทีด้วยไข่มุกตาฮิติ ปกปิดทุกจุดบกพร่องบนใบหน้า ช่วยอำพรางรูขุมขนและริ้วรอย ให้สีผิวสม่ำเสมอเรียบเนียนด้วยเทคโนโลยี เพอร์เฟคท์ ทรี ช่วยให้คุชชั่นเกาะติดบนผิวหน้าอย่างบางเบา หน้าไม่ดร็อประหว่างวันแม้ในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา แต่ไม่ต้องหน้าจะหมอง เพราะมีส่วนผสมของลูทีนที่ช่วยปกป้องผิวสวยของสาวยุคดิจิทัลจากแสงสีฟ้าที่ออกมาจากจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน พร้อมป้องกันผิวจากแสงยูวีด้วย SPF 50+ PA+++ มาในคอมแพ็ครูปลักษณ์ใหม่สะท้อนความสวยโกลว์พร้อมกับพัฟฟ์ทรงหยดน้ำ เนื้อแน่นเนียนนุ่ม ช่วยควบคุมปริมาณเนื้อคุชชั่นได้ดี สามารถเกลี่ยผิวได้เรียบเนียนยิ่งขึ้น และรูปทรงของพัฟฟ์ทำให้สามารถเข้าถึงมุมเล็กๆ บนใบหน้าได้เนียนกริบอีกด้วย


เรื่อง : Primphy_praewnista

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คัดแป้งผสมรองพื้น 4 ยี่ห้อ ตบผิวเนียนใส ถูกใจสาวออนเดอะโก

ผิวเนี๊ยบ! 7 รองพื้น เบลอ บางเบา บำรุง และปกปิด ให้ลุคซอฟท์แมตต์เนียนสวย

ต้องลอง! 5 คอนซีลเลอร์ที่ให้ฟีลสกินนี่ที่สุด แต่ปกปิดรอยตำใจ เนียนกลืนไปกับผิว

 

 

keyboard_arrow_up