10 ไอเท็มสุดเก๋ไว้ตกแต่งงานแบบฉบับ ธีมงานแต่ง คู่รักนักเดินทาง

account_circle

คุณคือคู่รักนักท่องโลกหรือเปล่า? ถ้าใช่ แพรวเวดดิ้งเชื่อว่าต้องถูกใจไอเดียสร้างสรรค์ ธีมงานแต่ง ที่นำมาฝากกันในวันนี้แน่ๆ กับธีมงานเก๋ไก๋เพื่อคู่รักนักเดินทาง (Travel Wedding Theme) ไปดูกันดีกว่าว่ามีไอเท็มอะไรบ้างที่จะทำให้งานแต่งของคุณเป็นงานแต่งของคู่รักนักเดินทางตัวจริง

1. กระเป๋าเดินทาง

นอกจากเป็นพร็อพส์ตกแต่งทั่วไปแล้ว เรายังสามารถครีเอทกระเป๋าเดินทางให้กลายเป็นกล่องใส่ซองแสนเก๋ หรือทำเป็นกระเป๋าเดินทางใบจิ๋วเพื่อใช้เป็นแพคเกจจิ้งของชำร่วยน่ารักๆ

2. Luggage Tag

ใช้ป้ายติดกระเป๋าเดินทางเป็นของชำร่วย เข้ากับธีมแถมแขกเหรื่อยังได้นำไปใช้ประโยชน์อีกด้วย

3. แผนที่

กระดาษแผนที่สามารถนำมาประดิษฐ์เป็นพร็อพส์ต่างๆ แพคเกจจิ้งของชำร่วย นำมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้แล้วทำเป็นช่อบูเกต์ บูโทเนียร์ หรือใช้เป็นลวดลายการ์ด เค้ก แบ็กดร็อป

4. ลูกโลก
ธีมงานแต่ง

ให้แขกเหรื่อเขียนคำอวยพรลงบนลูกโลกแทนการเขียนลงบนสมุดอวยพรก็เก๋ไม่เบา หรือจะใช้เป็นพร็อพส์ตกแต่งทั่วไปก็ได้

5. เข็มทิศ

ธีมงานแต่ง

สัญลักษณ์สุดคลาสสิกสำหรับนักเดินทาง ถ้าแจกเป็นของชำร่วยรับรองว่าต้องถูกอกถูกใจแขกเหรื่อแน่นอน

6. Passport

ธีมงานแต่ง

การ์ดเชิญที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Passport เติมความหวานง่ายๆ ด้วยรูปคู่บ่าวสาวน่ารักๆ

7. Boarding Pass

ธีมงานแต่ง

การ์ดเชิญสไตล์ Boarding Pass เป็นอีกหนึ่งไอเดียเก๋ๆ สำหรับ Travel Wedding Theme

8. Postcard

ธีมงานแต่งเหมาะจะเป็นได้ทั้งการ์ดเชิญและบัตรอวยพร อาจใส่ไอเดียน่ารักๆ ด้วยหน้า Postcard รูปคู่บ่าวสาวหรือรูปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เคยไปเยือน

9. เครื่องบิน

ธีมงานแต่งอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่านี่แหละงานแต่งของคู่รักนักท่องโลก ลองใช้สัญลักษณ์นี้กับสิ่งต่างๆ เช่น การ์ด ป้ายติดของชำร่วย เค้ก แบ็กดร็อป เป็นต้น

10. กล้อง

ธีมงานแต่งเพราะการเดินทางกับการถ่ายภาพเป็นของคู่กัน ดังนั้นพร็อพส์ตกแต่งเท่ห์ๆ อย่างกล้องจึงขาดไม่ได้สำหรับ Travel Wedding Theme

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพจาก : guidesforbrides.co.uk

รักเป็น …ไม่เห็นทุกข์ ข้อคิดเรื่องความรัก จากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต

account_circle

ข้อคิดเรื่องความรัก “รักให้เป็น ก็ไม่เห็นทุกข์” จากแม่ชีศันสนีย์

อย่ากลัวความรักไปเลย ถ้า ” รักเป็น ” คุณก็จะไม่เป็นทุกข์ ใครกำลังหวาดกลัวความรัก อยากให้อ่านบทความต่อไปนี้ค่ะ แล้วคุณจะพบว่าถ้าเรารักด้วยความเข้าใจ รักด้วยสติปัญญา … ความรักก็เป็นสิ่งสวยงาม แต่ถ้าความรักของเราเริ่มต้นอย่างขาดสติปัญญา … เราจะพบว่าความรักนั้นจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดแบบที่ไม่มีใครปรารถนา ดังนั้น คงจะดีไม่น้อยหาก ข้อคิดเรื่องความรัก ในบทความนี้จะชักนำให้ผู้อ่านเลือกใช้สตินำทางความรักจากนี้เป็นต้นไป 🙂

เพราะความรักคือความสวยงาม เมื่อใดก็ตามที่มีความรัก ชีวิตจะร่าเริงเบิกบาน ยามใดที่ขาดรัก จะเห็นว่าจิตใจของเราห่อเหี่ยว ลองนึกย้อนไปถึงความรู้สึกเมื่อแรกรักดูว่า ความรักทำให้คุณและเขา ร่าเริงเบิกบานแค่ไหน ลองมองกลับมาที่ตัวเอง จะเห็นว่า … เวลาที่เรารักใครสักคนหนึ่ง เรามักจะปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำให้คนคนนั้น มีความสุขเพราะเรา เวลาที่เรารักใครสักคนหนึ่ง เรามักจะดำรงชีวิตของเรา เพื่อคนคนนั้นอย่างเต็มที่ เราจะรักษาความสุขในปัจจุบันเพื่อให้คนที่อยู่ข้างหน้าเรามีความสุขไปกับเราด้วย

เวลาที่เรามีความรัก เราต้องฝึกฝนที่จะเข้าใจคนที่เรารักด้วย ถ้าเรามัวแต่ปรารถนาให้คนที่เรารัก ทำอะไรดั่งใจเรา เราอาจจะทุกข์ก็ได้ แต่ถ้าเรามีโอกาสที่จะพัฒนาสติปัญญาของเรา แล้วเข้าใจคนที่เรารักอย่างลึกซึ้ง การเข้าใจอย่างลึกซึ้งนี้เอง จะทำให้เรารู้ว่าทำไมเขาจึงเป็นเช่นนั้น

การฝึกมองคนอย่างนี้ เราจะรู้ว่าความปรารถนาดีของเราที่แผ่ออกไปนั้น เป็นผลพวงแห่งความรัก แล้วการให้โอกาสคนที่เรารักได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อย่างคนที่รู้ว่าเราพร้อมที่จะให้โอกาสเขาเสมอนั้น เป็นหนทางที่ดีที่จะทำให้ความรักของเรายั่งยืน อย่าคิดที่จะรักแล้วทำให้คนที่เรารักเป็นดั่งใจคุณ แต่ขอให้คุณมีความสุขที่ได้รัก และพัฒนาชีวิตของคุณให้รักได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คนที่คุณรักนั้นทำสิ่งที่ผิดพลาด แล้วก็รู้ว่าความผิดพลาดนั้นจะทำให้สามารถมองหาทางออก ที่จะพัฒนาความรักของคุณและเขาด้วย

ความรักไม่ใช่เรื่องน่ากลัวค่ะ ฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องเข็ดความรัก เพราะขยาดความทุกข์ แค่รักให้เป็น … ก็ไม่เป็นทุกข์ความรักไม่ได้ทำให้เราทุกข์ … ความยึดติดที่จะให้เขาเป็นดั่งใจเราต่างหากที่ทำให้ทุกข์

ว่าแล้วก็มาดูวิธีรักษาความรักให้สดใสอยู่เสมอกันดีกว่า >>> “รักเราไม่เก่าเลย” 5 วิธีดูแลความรักให้สดใสอยู่เสมอ

Cr : นิตยสาร Secret

คอร์สเร่งรัด! เรียนรู้อุปกรณ์พร้อมมารยาทงานแต่งแบบโต๊ะจีนที่แขกต้องรู้

account_circle

อีกหนึ่งรูปแบบงานแต่งที่ได้รับความนิยมคือ งานแต่งแบบโต๊ะจีน เพราะนอกจากจะมีที่นั่งแล้วยังรับประกันได้ว่าแขกจะทานอาหารอิ่มอร่อยกลับบ้านชัวร์ แถมบ่าวสาวยังควบคุมงบประมาณได้ง่ายอีกด้วย แต่ที่ไม่ง่ายสำหรับแขกก็คือหากต้องนั่งร่วมโต๊ะกับแขกแปลกหน้าที่ไม่สนิทนี่สิจะต้องทำตัวยังไง? แพรว wedding เลยจัดคอร์สมารยาทบนโต๊ะจีนแบบเร่งรัดมาฝาก

โต๊ะจีนของแท้ต้องทรงกลม

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของโต๊ะจีนคือโต๊ะทรงกลม ซึ่งไม่เกี่ยวกับความเสมอภาคใดๆ ทั้งสิ้น แต่เพื่อให้แขกทุกคนบนโต๊ะสามารถตักอาหารทุกจานได้อย่างทั่วถึง โดยที่ไม่ต้องยกจานส่งต่อกันแขนล้าเพราะก็อย่างที่เห็นๆ กันนั้นล่ะค่ะว่าอาหารที่มาเสิร์ฟแต่ละจานนั้นก็ใหญ่โตใช่เล่น เพราะฉะนั้นคนที่นั่งกินหมดโอกาสยกจานส่งต่อกันแน่นอน นอกเสียจากว่าอยากจะออกกำลังกายลดเหนียงระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งปัจจุบันโต๊ะจีนก็ได้พัฒนาดีไซน์ใหม่ให้ง่ายกว่าเดิมที่เรียกว่า เลซี่ ซูซาน (Lazy Susan) หรือกระจกกลางโต๊ะที่หมุนได้รอบ จึงทำให้แขกไม่ต้องลุกขึ้นเพื่อข้ามไปตักอาหารอีกฝั่งให้หน้ามืด แค่นั่งหมุนกระจกสวยๆ อาหารจานโปรดก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว

งานแต่งแบบโต๊ะจีน

อาวุธพิชิตอาหาร

ส่วนมากแล้วโต๊ะจีนจะมี 10 ที่นั่ง แต่ละที่นั่งก็จะมีอุปกรณ์ไม่เยอะแถมไม่ยุ่งยากเท่ากับการจัดโต๊ะแบบยุโรปที่เต็มไปด้วยสารพัดช้อนส้อม แต่อุปกรณ์บนโต๊ะจีนนั้นแค่เริ่มต้นด้วย ตะเกียบ 1 คู่ วางอยู่นอกสุดทางด้านซ้าย ต่อด้วยช้อนขนาดใหญ่ 1 คัน อ๊ะ! แต่ไม่ใช่สำหรับตักอาหารเข้าปากนะคะ แต่เพื่อใช้คลุกเคล้าอาหารที่อยู่ตรงหน้าต่างหาก

ถัดจากช้อนและตะเกียบแล้ว ลำดับถัดมาคือ จานอาหาร มักจะเป็นจานที่ไม่ใหญ่มากนักประมาณ 6.5 นิ้ว เล็กๆ กำลังดี เหนือจานขึ้นไปคือ ถ้วยชาร้อน เป็นถ้วยชาขนาดเล็ก ซึ่งสาเหตุที่โต๊ะจีนมักจะเสิร์ฟเป็นชาจีนก็เนื่องมาจากว่าอาหารจีนส่วนมากจะทั้งเลี่ยนและน้ำมันเยอะจึงต้องมีน้ำชามาดับความเลี่ยนของอาหารนั่นเอง

ส่วนตำแหน่งข้างๆ ถ้วยชา คือถ้วยซุปและช้อนซุป ซึ่งในบางที่ถ้วยซุปนี้จะไมได้ทำหน้าที่เป็นถ้วยใส่ซุปหรอกนะคะ แต่จะใช้เป็นแค่ที่พักช้อนเท่านั้นเอง เพราะเมื่อถึงเวลาเสิร์ฟก็จะมีถ้วยซุปมาให้อยู่แล้ว

มารยาทเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรรู้บนโต๊ะจีน

  • คำแรกของโต๊ะ ต้องตักให้ผู้อาวุโสที่สุดก่อน
  • ถ้าอยากจะคีบอาหารให้กับใคร ต้องกลับด้านตะเกียบก่อนเสมอ
  • เศษอาหารทิ้งไว้บนโต๊ะได้นะ
  • ปลาตัวใหญ่ ไม่ต้องพลิกกลับด้าน แต่ใช้วิธีเลาะก้างปลาออก

เป็นไงบ้างคะ เห็นไหมว่าถึงจะเป็นโต๊ะจีนที่เราคุ้นๆ กันอยู่แล้ว แต่กลับมีเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ซ่อนเอาไว้ที่ต้องรู้ เพื่อที่จะได้เข้าร่วมโต๊ะแบบไม่เคอะเขินแถมยังดูดีมีมารยาทอีกด้วย

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณวีรพงษ์ ซ้อนศรี ผู้จัดการแผนกจัดเลี้ยงโรงแรม โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพ และ คุณ ภัทรียา ณ นคร
ภาพ : yoyochinese.com, www.sino-hotels.com

นักแสดง F4 ฉบับไทยแลนด์

เผยโฉมแก๊ง นักแสดง F4 ฉบับไทยแลนด์ คาด ไบร์ท-วชิรวิชญ์ สวมบท เต้าหมิงซื่อ

Alternative Textaccount_circle
นักแสดง F4 ฉบับไทยแลนด์
นักแสดง F4 ฉบับไทยแลนด์

เผยโฉมแก๊ง นักแสดงซีรีส์ F4 ฉบับไทยแลนด์ ไบร์ท-วชิรวิชญ์ , วิน-เมธวิน , นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ และ ดิว-จิรวรรตน์ 

หลังจาก “GMMTV” ผู้นำด้านคอนเทนต์บันเทิงแบบครบวงจร ปล่อยสปอตเปิดตัวนักแสดง ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ “F4 Thailand” ซีรีส์เรื่องดังตลอดกาล ที่ประสบความสำเร็จที่สุดทั่วทั้งเอเชียต่อเนื่องยาวนาน ออกมาให้ได้ชมกัน ก็ได้กระแสตอบรับแบบถล่มทลาย โดยเฉพาะการเปิดโผทีมนักแสดงนำสุดฮ็อต “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี, วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร, นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ, ดิว-จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์” ที่จะมารับบทเป็น F4 ฉบับไทยแลนด์ และนางเอกน้องใหม่ “ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล” สร้างความฮือฮาไปแบบสุดๆ โดยผ่านฝีมือการกำกับของ “โอ-ปัฏฐา ทองปาน” ผู้กำกับฯ มือดี จาก บริษัท ภาพดีทวีสุข จำกัด ซึ่งฝากผลงานไว้มากมาย การันตีคุณภาพเต็มร้อยอย่างแน่นอน

โดยทาง สถาพร พานิชรักษาพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด กล่าวถึงการตัดสินใจคว้าลิขสิทธิ์ในการสร้างซีรีส์สุดฮอต F4 เวอร์ชั่นไทย พร้อมเหตุผลในการเลือก บริษัท ภาพดีทวีสุข จำกัด รวมถึงผู้กำกับฯ “โอ-ปัฏฐา ทองปาน” มาร่วมงานในครั้งนี้ว่า “ที่เราเลือกเรื่องนี้ เพราะว่าเป็นซีรีส์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีในทุกๆ เวอร์ชั่นที่ทำ และเรามองว่าเนื้อหาของซีรีส์มีประเด็นที่สะท้อนปัญหาสังคมที่ร่วมสมัย และสามารถปรับให้เข้ากับบริบทของสังคมไทยได้ ทำให้มีความน่าดูน่าติดตามไปอีกแบบหนึ่งครับ ที่สำคัญเป็นการส่งเสริมนักแสดงทั้งหมดให้มีการพัฒนา และท้าทายฝีมือทางด้านการแสดงในระดับที่สูงขึ้นไปอีก โดยเราได้มอบหมายให้ บริษัท ภาพดีทวีสุข เป็นผู้ผลิต เพราะเราร่วมงานกันมาแล้วหลายๆ งาน จึงมีความมั่นใจว่าจะสามารถทำงานนี้ออกมาอย่างดีที่สุดครับ”

นักแสดง F4 ฉบับไทยแลนด์

ด้าน โอ-ปัฏฐา ทองปาน ผู้กำกับฯ เผยถึงเนื้อหาความสนุกเข้มข้น พร้อมเหตุผลในการคัดเลือกนักแสดงนำเวอร์ชั่นนี้ว่า “ต้นฉบับของซีรีส์ทุกเวอร์ชั่นมาจากการ์ตูน “สาวแกร่งแรงเกินร้อย” เพราะฉะนั้นจุดสตาร์ทของเราก็เริ่มจากการ Base On การ์ตูนเป็นหลักก่อน แต่เนื่องจากการ์ตูนถูกสร้างมา 20 กว่าปีแล้ว บริบทต่างๆ ในเรื่องก็จะเป็นตามในยุคสมัยนั้น เราอยากทำให้เวอร์ชั่นนี้แตกต่างและเข้ากับยุคสมัยนี้มากขึ้น ดังนั้นในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นเวอร์ชั่นที่พูดประเด็นสังคมต่างๆ ที่หนักแน่นเข้มข้นมากขึ้น อย่างการ Bully ในโรงเรียน เราอยากเล่าเรื่องนี้และอยากโยนคำถามที่จริงจังกว่าเวอร์ชั่นก่อนๆ ว่าถ้าตัวเอกของเรื่องเป็นต้นตอของการ Bully สุดท้ายเขาจะเติบโตและเรียนรู้อะไรบ้างก่อนที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกันความฟินและความน่ากรี๊ดของเหล่า F4 ทั้งสี่คนก็จะมาเต็มไม่แพ้กันครับ ส่วนการเลือกนักแสดงคือความยากอันดับแรกของการทำงาน

ซึ่ง “ไบร์ท” เป็นคนแรกที่เราได้มาครับ เพราะตัวละคร “ธาม” ในเรื่องจะมีความเป็นผู้ชายที่เท่มากๆ และเป็นศูนย์กลางของกลุ่มนี้แบบเบ็ดเสร็จ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือมุมอ่อนต่อโลกและจริงใจของตัวละครก็ต้องชัดเจนมากๆ ด้วย พูดง่ายๆ คือต้องเป็นตัวละครที่คนดูพร้อมจะเกลียด และค่อยๆ รักมากขึ้นเรื่อยๆ ได้ในทุกๆ ตอน ซึ่งไบร์ททำตรงนี้ได้ดีมากๆ ครับ และเราจะได้เห็นเหลี่ยมมุมที่ไม่เคยเห็นจากไบร์ทมาก่อนแน่นอน

ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี

ส่วน “วิน” เราลองให้น้องได้แคสต์หลายๆ บท ก่อนจะพบว่าวินเหมาะสมกับบท “กวิน” มากๆ จนน่าตกใจ เพราะกวินเป็นคาแรกเตอร์ที่มีความลึกสูงมาก หน้าฉากเป็นผู้ชายเจ้าชู้แบบผู้ดีที่มีเสน่ห์แบบสุดๆ แต่ในขณะเดียวกันก็จะมีมุม​ดราม่าที่รุนแรง และต้องแบกเส้นเรื่องที่ทรงพลังของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าเราต้องการคนที่มีเสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์มากๆ ต้องดึงความสนใจเราได้ และต้องมีฝีมือทางการแสดงไม่แพ้กัน ซึ่งวินตอบโจทย์ทุกอย่าง วินทำให้ตัวละครนี้ยิ่งมีเสน่ห์ และสดใหม่มากขึ้นไปอีกครับ

วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร

สำหรับ “นานิ” ผู้รับบท “เอ็มเจ” แม้ว่านานิจะยังใหม่แต่เป็นคนที่มีเซนส์การแสดงที่น่ามองมากๆ ครับ สิ่งที่ผมชอบที่สุดคือนานิมีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความจี๊ดจ๊าด ความเท่ และความนุ่มนวลน่าค้นหา ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากๆ ในคนๆ เดียวกัน บอกเลยครับว่านานิจะเป็นเอ็มเจที่อาจจะทำให้คุณเผลอตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัวได้เลย

บทสุดท้ายที่เราหากันนานที่สุดคือบท “เร็น” ครับ ความยากของบทนี้คือมีความเป็นการ์ตูนสุดๆ และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเจอหนุ่มหล่อเงียบๆ อินดี้ๆ แต่อบอุ่นสุดๆ แบบนี้ในชีวิตจริง คือมีความแฟนตาซีสูงมากครับ พูดง่ายๆ คือเร็นเป็นบทที่ต้องเล่นนิ่งๆ ตลอดเวลา และหลายครั้งก็จะทำให้นักแสดงที่มาแคสต์มีเสน่ห์ลดลง แต่ในที่สุดเราก็ได้เจอกับ “ดิว” และค้นพบว่าดิวสามารถปล่อยออร่าที่ทำให้เราหยุดมองเขาไม่ได้ออกมา แม้ว่าจะยืนอยู่นิ่งๆ ก็ตาม

ส่วนตัวละครสุดท้ายที่สำคัญที่สุดอย่าง “กอหญ้า” ที่เราได้ “ตู” มานั้น ขอยังไม่บอกอะไรมากนะครับ อยากอุบไว้ก่อน บอกได้แค่ว่าตูซ่อนของไว้เยอะมาก และจะเป็นนางเอกที่ทุกๆ คนรักอย่างแน่นอน เรียกว่าซีรีส์เรื่องนี้ยากมากๆ ทุกๆ ดีเทลสำคัญไปหมดเลย และที่สำคัญเรารู้ดีว่าเป็นซีรีส์ในดวงใจของหลายๆ คน เพราะฉะนั้นเราเลยเต็มที่สุดๆ เพื่อให้งานนี้สมบูรณ์แบบครับ”

อย่างไรก็ตามในโลกออนไลน์ได้มีการเปรียบเทียบกับ F4 ต้นฉบับทซึ่งดูเหมือนว่าไบร์ท-วชิรวิชญ์ น่าจะรับบทเป็น เต้าหมิงซื่อ ขณะที่ วิน-เมธวิน นานิ-หิรัญกฤษฎิ์ และ ดิว-จิรวรรตน์ ยังไม่แน่ใจว่าจะรับบาทเป็นใครกันแน่ แต่ที่แน่นอนก็คือบท ซันช่าย จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากนางเอกน้องใหม่“ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล”

สามารถติดตามชมซีรีส์ “F4 Thailand” ซึ่งจะมีกำหนดออกอากาศในปี 2021 และอัพเดททุกความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/gmmtvofficial & IG & YouTube & Twitter & Weibo : GMMTV


 

ไมค์-พิรัชต์

เปิดศึกเรื่องลูก! ซาร่า คาซิงกีนี VS ไมค์-พิรัชต์ คำตอบต่างคนต่างมุมมอง

Alternative Textaccount_circle
ไมค์-พิรัชต์
ไมค์-พิรัชต์

คำตอบต่างคนต่างมุมมองของ ซาร่า คาซิงกีนี VS ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล เปิดศึกกันผ่านสื่อหลังจากที่มีปัญหากันเรื่องลูก! 

เรียกว่าเป็นประเด็นร้อนจริงๆ สำหรับกรณีของ ซาร่า คาซิงกีนี และ ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ หลังจากที่มีปัญหากันเรื่องลูก หลังจากที่ฝ่ายชายต้องออกมาร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นพ่อโดยชอบธรรมตามกฎหมาย เพื่อให้มีสิทธิ์ในการตัดสินใจในตัวลูกด้วยกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ได้สรุปออกมาเป็นประเด็นดังนี้

ประเด็นขอลดคุณภาพชีวิตลูก

ในมุมของซาร่า : ซาร่าเปิดเผยว่ายกเว้นช่วงแรกที่คุยไม่ลงตัว ไมค์ไม่ได้ดูแลเธอและลูก แต่หลังจากนั้นก็ช่วยเหลือและดูแลกันมาตลอด กระทั่งวันนี้เขาขอลดคุณภาพชีวิตลูก เธอจึงไม่อยากยอมรับ เลยคิดว่าอยากปกครองลูกแต่เพียงผู้เดียวดีกว่า

โดยคำชี้แจงในส่วนของค่าเล่าเรียนนั้นซาร่าเผยว่า ตามที่มีการแจ้งว่ามีค่าใช้จ่ายปีละเป็นล้านไม่เป็นความจริง นั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งไม่ใช่ ซาร่าอ้างว่าค่าเทอมของลูกชายในปีแรก 5 แสนบาท ปีที่สอง 6 แสนบาท ปีที่สาม 7 แสนบาท ดังนั้นไม่ถึง 8 แสนอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งล่าสุดไมค์ได้เสนอให้เหลือปีละ 1 แสนบาท ซึ่งเธอไม่โอเคที่คุณภาพชีวิตลูกจะลดลง ซึ่งเธอได้ย้ำหนักแน่นว่า “ถ้าวันหนึ่งเขาไม่ไหว หรือไม่อยากให้ต่อ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่เรายังอยากคุมคุณภาพชีวิตของลูก ซึ่งเราก็พร้อมเต็มที่ที่จะดูแลลูกของเรา”

นอกจากนี้ ซาร่ายังได้เล่าถึงการมาใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯว่า ไมค์อยากให้เธอและลูกอยู่ที่กรุงเทพฯ เขาบอกว่าพร้อมที่จะดูแล แต่วันหนึ่งเขาบอกว่าไม่ไหวที่จะจ่ายตรงนี้ เขาจะล้มละลายช่วงโควิด ซาร่าจึงได้บอกไปว่าถ้ามีปัญหาให้มาคุยกัน เพราะเธอเองก็พร้อมจะช่วยเหลือ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาขอลดคุณภาพชีวิตลูก เช่นเรื่องที่พักเขาเสนอให้เราอยู่ห้องเดือนละ 4 พัน ขนาด 22 ตารางเมตร ทำให้เธอรู้สึกสงสารลูกและคิดว่าบ้านที่ภูเก็ตก็มีพื้นที่กว้างให้วิ่งเล่น ดังนั้นจึงคิดว่ากลับไปอยู่บ้านที่ภูเก็ตดีกว่า

ซาร่า คาซิงกินี

ในมุมของไมค์ : ไมค์บอกว่าเขาไม่ได้มีงานมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายยังเหมือนเดิม และไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้จะอยู่ไปอีกนานแค่ไหน ก็เลยไปปรึกษาเขาเพื่อวางแผนอนาคตลูก โดยเฉพาะเรื่องโรงเรียนที่บอกกับซาร่าไปว่าถ้าต้องจ่าย 8-9 แสนต่อปีคงไม่ไหวหรอก จึงได้ชวนให้ซาร่าลองหาที่อื่นดู และจากที่ดูมาทั้งหมดและคิดว่าจะให้แม็กซ์เวลล์เรียนที่เลิศหล้าเพราะที่นี่ค่อนข้างดี มีสอนทั้งภาษาไทย-ภาษาอังกฤษ และราคาสมเหตุสมผล โดยค่าเทอมประมาณ 150,000 บาท แต่เขาก็เสนอให้ผมไปดูที่อีกโรงเรียนหนึ่ง

ส่วนเรื่องที่ผมเอาลูกออกจากโรงเรียนนานาชาติ ไบรท์ตัน คอลเลจโดยที่เขายังไม่รู้ เพราะพอไปถามโรงเรียนเขาบอกว่าถ้าจะ withdraw ให้ดำเนินการภายในวันนั้นเพราะมันเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เงินมัดจำ 3 แสนบาทคืน  ในขณะที่ซาร่ายังไม่ตัดสินใจ แต่มันก็ใกล้ที่จะเปิดเทอม ไมค์จึงตัดสินใจยอมเสียเงิน 3 แสนเพื่อที่จะให้ลูกกลับไปเรียนที่เดิม แต่สุดท้ายซาร่าก็พาลูกบินไปอยู่ที่ภูเก็ต ไมค์รู้สึกว่าเหมือนเอาเงินไปละลายน้ำ ทั้งที่เงินจำนวนนี้น่าจะนำไปเป็นค่ามัดจำสำหรับโรงเรียนใหม่ของลูก และไมค์ยังบอกอีกว่าเคยคุยกับซาร่าเหมือนกันว่าอยากจะแชร์ค่าใช้จ่าย เพื่อจะได้ช่วยกัน แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบจนวันนี้ จนทุกวันนี้ไมค์เองก็ยังไม่รู้เลยว่าลูกเรียนโรงเรียนอะไร

เมื่อถามไมค์ถึงสิ่งที่ซาร่าออกมาเปิดเผยว่าเขาจะให้ลูกอยู่คอนโดเดือนละ 4 พันนั้น ไมค์บอกว่า คอนโดที่ซาร่าอยู่นั้นแท้จริงแล้วเป็นของพี่ชาย ไมค์ได้เช่าในราคาถูกกว่าปกติเนื่องจากพี่ชายของไมค์ก็คิดว่าให้หลานอยู่ แต่ด้วยพิษโควิดทำรายได้ไม่ดีเหมือนเดิม จึงคิดปล่อยห้องให้คนอื่น ซึ่งห้องซาร่าอยู่นั้นโอกาสมากที่สุด พี่ชายจึงให้ไมค์ไปคุยกับซาร่าว่าไหนๆ ย้ายโรงเรียนแล้วก็ย้ายไปอยู่ใกล้ๆ โรงเรียนเลยดีกว่า ไมค์จึงหาที่พักในแถบเกษตรนวมินทร์ ไมค์ยืนยันว่าไม่ได้บังคับให้ต้องอยู่ห้องเดือนละ 4 พันบาท แต่ให้ซาร่าดูหลายๆ ที่ ซึ่งแต่ละที่โอเคและราคาไม่แพง โดยวัดจากถ้าไมค์อยู่ได้ ลูกก็น่าจะอยู่ได้ โดยราคามีตั้งแต่ 4,800-13,000 บาท

ไมค์-พิรัชต์

ประเด็นไมค์ร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นพ่อโดยชอบธรรมตามกฎหมาย เพื่อให้มีสิทธิ์ในการตัดสินใจในตัวลูกด้วย

ในมุมของซาร่า : ซาร่ามองว่าด้วยความที่เธอและหนุ่มไมค์ไม่ได้เป็นสามีภรรยาที่อยู่บ้านเดียวกัน อีกอย่างหนึ่งไมค์ก็อยู่ที่เมืองจีนเป็นหลัก ดังนั้นเวลาจะทำเอกสารต่างๆ ต้องรอให้เขามาเซ็นยินยอม ขณะที่ไมค์ก็ไม่ได้ว่างตลอด 24 ชั่วโมง เธอจึงมองว่าลูกจะมีปัญหากับชีวิตลูกจะรวน  ซาร่ายังบอกอีกว่าที่ผ่านมาเธอและหนุ่มไมค์ได้ทำหน้าที่ตัดสินใจเรื่องลูกด้วยกันมาตลอด ไม่ใช่เธอที่ตัดสินใจฝ่ายเดียว ก่อนจะทิ้งท้ายไว้ว่า “ความเป็นพ่ออยู่ที่การกระทำ ไม่ใช่กระดาษ”

ในมุมของไมค์ : ไมค์มองว่าสาเหตุที่ซาร่ายกมาพูดน่าจะมาจากเรื่องเมื่อต้นปีที่แล้ว ที่เขามาขอลายเซ็นไปเพื่อทำพาสปอร์ตใหม่ให้กับลูก แต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่โควิดระบาดหนักที่สุด ผมไม่ได้จะไม่ทำให้ แต่ผมเพียงแค่ไม่อยากให้ลูกไปในช่วงนั้น ผมแค่สงสัยว่าทำไมต้องรีบบิน  รอให้สถานการณ์ดีขึ้นก่อนก็ได้

โดยทนายความได้ตอบแทนไมค์ในเรื่องนี้ว่า “การที่ยื่นคำร้องขอเป็นพ่อโดยชอบธรรมตามกฎหมาย เด็กไม่ได้เสียผลประโยชน์ คนเป็นพ่อต่างหากที่ต้องเสียเงิน เพราะศาลจะให้กำหนดรายจ่ายที่ต้องเสียเป็นรายเดือน นี่คือการทำเอกสารเพื่อมัดตัวไมค์นะ”

นอกจากนี้ ไมค์ยังได้ยืนยันด้วยว่าไม่ได้ขอสิทธิ์เอาลูกไป เพราะเขาคิดว่าลูกต้องการแม่และพ่อ จะขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้ ยังไงก็ต้องมีแม่ และซาร่าก็คือแม่ของเขา มันเป็นอะไรที่เปลี่ยนไม่ได้

ประเด็นการขอรับรองบุตร

ในมุมของซาร่า : ซาร่าบอกว่าตั้งแต่เรื่องเกิดขึ้นฝ่ายชายไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย มีเพียงสื่อและข่าวที่ออกไป ย้อนกลับไป 5 ปีก่อนเธอและไมค์มีปัญหากันเรื่องนี้ ช่วงหนึ่งทุกคนได้รู้ว่า 1 ปีไม่ได้มีการรับรองเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่เคยเรียกร้องอะไร

ในมุมของไมค์ : ในเรื่องนี้ไมค์ยืนยันว่ามีการคุยกันตั้งแต่แรก ทำไมตนไม่อยากจะเซ็น เพียงแต่ว่าฝ่ายหญิงบอกกับเขาว่าอยากให้เขาให้เกียรติเธอและลูก เมื่อโตขึ้นแม็กซ์เวลล์จะเป็นคนตัดสินว่าเขาทำหน้าที่พ่อได้ดีหรือเปล่า ซึ่งไมค์ก็คิดเหมือนกันว่ามันอยู่ที่การกระทำและนั่นก็เป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้น

ประเด็นที่ การที่จะได้เจอหน้าลูกค่อนข้างลำบาก

ในมุมของซาร่า : ซาร่าเล่าว่าปกติแล้วเธอใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดภูเก็ต แต่เมื่อคุยกับไมค์ลงตัวเธอจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ และให้ลูกชายเรียนที่นี่ด้วย เนื่องจากอยากให้พ่อกับลูกมีเวลาอยู่ด้วยกัน ซึ่งตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เธออำนวยความสะดวกให้กับคุณพ่อตลอด บางครั้งเธอไม่ว่างก็จะแจ้งหนุ่มไมค์ไป พร้อมกับยืนยันว่าที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายก็เข้าใจกันมาตลอด และเธอไม่ได้คิดพาลูกหนี โดยอ้างว่าถ้าติดตามมาตลอดจะทราบว่าทุกๆ ปีในวันเกิด เธอจะพาลูกไปภูเก็ต  ขณะเดียวกันก็ยังได้บอกว่าก่อนหน้านี้ได้ไปสอบถามกับไมค์แล้ว โดยฝ่ายชายอ้างว่าไม่สะดวกเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เธอจึงได้พาลูกกลับไป แต่เนื่องจากวันไม่ชัดเจน เธอจึงไปบอกไปคร่าวๆ ว่าเป็นภายในอาทิตย์นี้

ในมุมของไมค์ : ไมค์เล่าในอีกมุมที่แตกต่างกันนับตั้งแต่ไปขอซาร่าลดรายจ่าย ก็ค่อนข้างมีปัญหาในการเจอลูกมากขึ้น โดยมีเหตุการณ์ใหญ่อันหนึ่งที่รู้สึกไม่โอเคมากๆ คือวันที่ไมค์ไปรอลูกเก้อที่สนามบิน

คือเรื่องมันเกิดขึ้นวันที่ 8 ก.ค. 63 ไมค์บอกซาร่าว่าอยากไปรับลูกมาเป่าเค้กที่บ้าน เพราะใกล้วันเกิดลูกแล้ว และรู้ว่าซาร่าจะพาลูกกลับภูเก็ต เขาก็บอกว่าให้มาพรุ่งนี้ เพราะอีกวันจะเดินทาง ในวันที่ 10 ก.ค. 63 ไมค์พิมพ์บอกว่าจะไปรับลูกตอน 15.00 น. ซึ่งผมใส่ชุดสไปเดอร์แมนไปด้วย แต่กลับติดต่อไม่ได้ ก็รออยู่เป็นชั่วโมง จนเขาตอบกลับมาว่าเขายังไม่ได้ตกลงเลย แต่ก็ได้ยื้อกันจนสุดท้ายก็ได้เจอลูก แต่ก็อยู่ด้วยกันได้ไม่กี่นาที

เช้าวันถัดมา ซาร่าพิมพ์มาบอกไมค์ว่า “จะมารับลูกไหม?” แต่ว่าวันนั้นไมค์ติดงาน เขาจึงได้ถามเธอไปว่า “ต้องไปรับกี่โมง และไปส่งกี่โมง” เขาบอกมาแค่ว่าส่งถึงบ้าน 1 ทุ่ม แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดอื่นๆ ด้วยความที่ติดงานจึงไปดักรอที่สนามบิน ก็คิดเอาเองว่าถ้าเขาบอกให้ส่งถึงบ้านทุ่มนึง ก็น่าจะเป็นเที่ยวบินหลังจากนั้น  ก็เลยไปดักที่สนามบิน รอจนถึง 4 ทุ่มก็ไม่มีใครมา พอไปถามที่เคาน์เตอร์ก็ได้ทราบว่าเที่ยวบินสุดท้ายคือ 1 ทุ่ม และทำให้ไมค์ได้รู้ว่าลูกไม่ได้กลับภูเก็ตวันนี้ ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องโกหกกัน

สุดท้ายของการให้สัมภาษณ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อไมค์ถูกถามว่าถ้าแม็กซ์เวลล์เปิดมาเจอคลิปนี้ในอนาคตอยากจะบอกอะไรกับเขาในการที่พ่อ-แม่ออกมาทะเลาะกันแย่งลูก “อยากจะบอกลูกว่ามันเป็นเรื่องปกติ แด๊ดดี้เป็นดาราต้องเจอแบบนี้ยู่แล้ว และเราอยู่ในที่สว่างยังไงเรื่องเหล่านี้มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย การที่มันเป็นแบบนี้แด๊ดดี้ไม่อยากให้เอาไปเป็นปม แม่และแด๊ดดี้รักแม็กซ์ที่สุดอยู่แล้ว แต่ปัญหาของผู้ใหญ่วันนี้ก็แก้วันนี้ แม็กซ์ไม่ต้องคิดน้อยใจว่าทำไมชีวิตต้องเป็นแบบนี้ ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำไมครอบครัวเราไม่ปกติเหมือนคนอื่น อย่าไปน้อยใจ หลังจากนี้อยากให้แม็กซ์รู้ว่าไม่ว่าใครจะพูดอะไร จะคิดยังไง จะพูดให้ฟังยังไงก็แล้วแต่ ขอให้รู้เลยว่าวันนี้กระทั่งวันตายของแด๊ดดี้ก็รักและจะไม่ทอดทิ้ง ไม่ว่าแม็กซ์จะพูดอะไร แด๊ดดี้ไม่ถือสาและจะไม่เปลี่ยนความคิดนี้ และถ้าวันหนึ่งไม่ได้อยู่กับแม็กซ์ ที่ตรงนี้ก็ยังเป็นของแม็กซ์เสมอ สามารถกลับมาหาได้เสมอ”


ข้อมูล : รายการ โหนกระแส และ  Nine Entertain MCOT

เลนส์ตัดแสงสีฟ้า

เลนส์ตัดแสงสีฟ้า จำเป็นหรือไม่ เพราะแสงสีฟ้ามีอยู่ทุกที่ ทั้งกลางแจ้งและในร่ม

Alternative Textaccount_circle
เลนส์ตัดแสงสีฟ้า
เลนส์ตัดแสงสีฟ้า

เวลาไปตัดแว่น นอกจากจะมีผู้เชี่ยวชาญมาคอยวัดค่าสายตา เลือกแว่นให้เข้ากับใบหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่เรามักจะพบกับคำถามที่ว่า “จะใส่เลนส์ตัดแสงด้วยไหมค่ะ หรือจะเพิ่ม เลนส์ตัดแสงสีฟ้า ด้วยไหมค่ะ”?

แล้วแสงสีฟ้าคืออะไร มีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องเพิ่มออฟชั่นนี้ด้วย คุณชนิตา ตันเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบแว่นตาจาก Chic Optical ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าแสงสว่างหรือแสง UV นั้น ช่วยทำให้เรามองเห็นได้ดีขึ้น ซึ่งถ้าปริมาณความสว่างไม่พอ จะส่งผลทำให้เรามองเห็นชัดได้น้อยลง ที่มาของแสงนอกจากดวงอาทิตย์ที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงตามธรรมชาติแล้ว พวกแหล่งกำเนิดแสงต่างๆ

แสงสีฟ้า

ที่มนุษย์สร้างขึ้นก็สามารถให้แสงสว่างได้เหมือนกัน เช่นหลอดไฟ LED หน้าจอมือถือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ จอ TV  จอโน๊ตบุค
 จอแทบเล็ต 
แม้สิ่งเหล่านี้มีผลดีให้ความสว่างกับเราได้ แต่รู้ไหมคะว่าในความสว่างนั้นยังมีความอันตรายจาก แสง UV ซ่อนอยู่โดยเฉพาะ ที่เราเรียกว่า “แสงสีฟ้า”

แสงสีฟ้า

แสงสีฟ้าคือแสงที่เรามองเห็นอยู่ทุกๆ วัน ถือเป็นหนึ่งในสามของแสงขาวจากแสง UV สามารถมองเห็นได้และมีพลังงานสูง หรืออธิบายได้ดังนี้ว่า
แสงทั้งหมดมี 7 สี คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง และแสงสีฟ้าหรือน้ำเงิน ซึ่งแต่ละสีมีความยาวคลื่นและพลังงานแตกต่างกัน
แสงที่เรามองเห็นได้จะอยู่ที่ช่วงความยาวคลื่นประมาณ 400-700 nm โดยแสงสีฟ้าอยู่ที่ช่วงประมาณ 380-480 nm นั่นเอง

แสงสีฟ้า

ซึ่งแสงสีฟ้าที่เราพบนั้นมีอยู่ 2 ประเภท คือ แสงสีฟ้าที่ดี และ แสงสีฟ้าที่เป็นโทษ 


  • แสงสีฟ้าที่ดีจะช่วยทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกมาช่วยทำให้เรากระฉับกระเฉง รู้ว่าเวลาไหนควรนอน เวลาไหนควรตื่น หรือแม้แต่บอกว่าเราควรกินตอนไหน ถ่ายตอนไหน เรียกง่ายๆ ว่า “นาฬิกาชีวิต” ที่ทำให้ร่างกายทำงานเป็นปกตินั่นเอง
  • แสงสีฟ้าที่เป็นโทษจะอยู่ในช่วงคลื่นที่  415-455 nm จะเป็นแสงที่ส่งผลเสียทำให้จอประสาทตาเราค่อยๆ เสื่อมลงได้ หากรับในปริมาณที่มากเกินไป แสงสีฟ้าส่งผลเสียโดยตรงกับดวงตา เพราะเป็นแสงที่เรามองเห็นได้ จึงสามารถทะลุผ่านเลนส์ตาและกระจกตาเข้าไปถึงจอประสาทตาได้ หากได้รับเป็นเวลานานจะส่งผลทำให้มี อาการตาล้า เพราะแสงสีฟ้าที่เราจ้องมองอยู่มีความสว่างมากทำให้ดวงตาต้องทำงานอย่างหนัก
อาการตาแห้ง เพราะอุปกรณ์ที่เราจ้องมองส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กทำให้เราต้องจ้องมองมากกว่าปกติ
จอประสาทตาอาจเสื่อมได้ เนื่องจากแสงสีฟ้าสามารถทะลุเข้าไป และทำลายเซลล์รับแสงในจอประสาทตาได้ และอาจเป็นปัจจัยสำคัญของการสูญเสียการมองเห็นได้นั่นเอง
ดังนั้นจึงควรป้องกันไว้ดีกว่าแก้ หากปล่อยไว้นานอาจจะสายเกินไป

แสงสีฟ้า

แสงสีฟ้านั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้งหรือในร่ม เราก็ยังเจอแสงสีฟ้าได้ตลอดเวลาแม้ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงสักแค่ไหน แต่ก็ยังหนีไม่พ้นอยู่ดี เพราะมนุษย์เรานำ LED มาผลิตเป็นแหล่งกำเนิดแสงนั่นเอง ทางที่ดีควรป้องกันให้ถูกวิธีจึงน่าจะดีที่สุด โดยเฉพาะคนที่ต้องจ้องอยู่หน้าจอเป็นเวลานานๆ ซึ่งในปัจจุบันมีเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันแสงสีฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอีกหลากหลายเลนส์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละคน


 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

วิธีคลีนหน้าใส 3 ข้อ ล้างหน้าอย่างไรไม่ให้แก่ คีพความหน้าเด็ก เเถมสะอาดหมดจด

5 วิธีเลือก ครีมกันแดด และเฉลยว่าควรเติมกันแดดระหว่างวันหรือไม่?

5 วิธีเลือก ครีมกันแดด และเฉลยว่าควรเติมกันแดดระหว่างวันหรือไม่?

วงจรสิว เข้าแล้วออกยาก! ลองแก้ด้วย 5 วิธีดูแลผิวง่ายๆ ให้หลุดจากวังวนสิวซ้ำซาก

 

 

อนันดาฯ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ เปิดตัวแนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC”

อนันดาฯ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ เปิดตัวแนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC” พร้อมส่งมอบ 5 โครงการพร้อมเข้าอยู่ใหม่ล่าสุด ครบทุกเซ็กเมนต์ มั่นใจผลตอบรับยอดโอนตามเป้าหมาย ชี้โอกาสทองคนอยากมีที่อยู่อาศัยและลงทุน

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง และผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า เดินหน้ากระตุ้นตลาดอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมเอาใจผู้ที่อยากมีที่อยู่อาศัยทั้งอยู่เองและเพื่อลงทุน เปิดตัวแนวคิดใหม่เพื่อการใช้ชีวิต “THE NEW ICONIC” ที่มีจุดเด่นสำคัญคือLocation / Building / Facility / Living ตอบโจทย์และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้ดีขึ้น กับ 5 โครงการพร้อมอยู่ ครบทุกเซ็กเมนต์ ภายใต้แบรนด์คุณภาพ แอชตัน / ไอดีโอ คิว / ไอดีโอ โมบิ / ไอดีโอ และ เอลลิโอ มั่นใจยอดรับรู้รายเป็นไปตามเป้าหมายในไตรมาสที่ 3 และ 4  ด้วย Backlog 12,200 ล้านบาท พร้อมกิจกรรมชวนคนเมืองร่วมส่งพลังความสุขด้วยรอยยิ้ม กับ #KEEPSMILING 

คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากภาพรวมดีมานด์ที่อยู่อาศัยที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และความสำเร็จของแคมเปญต่างๆ ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่ออนันดาฯ ในฐานะผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า  บวกกับพฤติกรรมดีมานด์ของการซื้อยังคงให้ความสำคัญกับทำเลที่มีความพร้อมและมีแนวโน้มในการเติบโตมากกว่า เช่น ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าหรือย่านที่มีความพร้อมของแหล่งงานและศูนย์การค้า ทำให้อนันดาฯ มุ่งสร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา

โดย 5 โครงการพร้อมอยู่นี้ ประกอบด้วย โครงการแอชตัน อโศก – พระราม 9 โครงการไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 โครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์พอยท์ โครงการไอดีโอ รัชดา สุทธิสาร และโครงการเอลลิโอ สาทร วุฒากาศ  ซึ่งทั้ง 5 โครงการนี้เปิดตัวภายใต้แนวคิด The New Iconic ที่มีจุดเด่นในความเป็น Iconic ในด้านต่างๆ ที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น 

  1. Iconic Location : โครงการที่ตั้งอยู่บน Prime Location ที่มีศักยภาพทั้งการใช้ชีวิตเมือง และศักยภาพด้านมูลค่า เรียกได้ว่าเป็น Blue Chip Location ไม่ว่าจะเป็นโครงการแอชตัน อโศก – พระราม 9 ที่ตั้งอยู่บนหัวมุมถนนพระราม 9 ตัดถนนรัชดา เป็น Golden Corner แห่งหนึ่งของกรุงเทพ โครงการไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 ที่ตั้งอยู่ใจกลาง Mid-Sukhumvit เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง และโครงการไอดีโอ โมบิ อีสต์พอยท์ ที่ตั้งอยู่บนทำเล Landmark ของกรุงเทพฝั่งตะวันออก
  2. Iconic Building : เอกลักษณ์การออกแบบด้านสถาปัตยกรรมทำให้ตัวอาคารเปรียบดั่ง Sculpture และเป็นหนึ่งใน Skyline ของเมืองที่สวยงาม สะท้อนตัวตนและสร้างความภูมิใจให้กับผู้อยู่อาศัย ด้วยการออกแบบตึกคู่ภายใต้แนวคิด Alpha & Omega ของโครงการแอชตัน อโศก – พระราม 9 หรือ Sky Bridge เชื่อมต่ออาคารที่ โครงการไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36
  3. Iconic Facility : ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันในแต่ละโครงการ ให้คุณสามารถใช้ชีวิตภายในโครงการได้อย่างเต็มที่  โดยเฉพาะโครงการเอลลิโอ สาทร วุฒากาศ ที่เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่มีพื้นที่ส่วนกลางดีที่สุดในย่านสาทร – วุฒากาศ
  4. Iconic Living : ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเมืองได้ครบทุกโหมดการใช้ชีวิต ให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ 24 ชม. เช่นที่โครงการไอดีโอ รัชดา – สุทธิสาร ตั้งอยู่บนทำเลที่ไม่เคยหลับใหล พร้อมฟิตเนสให้บริการ 24 ชม. และรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่เพิ่มความมั่นใจให้คุณไร้กังวลจาก Covid-19 ด้วยระบบไร้สัมผัสในการเข้าพื้นที่อาคาร และการใช้พื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบให้มีระยะห่าง รวมถึงมาตรการรองรับมาตรฐานด้านสุขอนามัยต่างๆ

ทั้งหมดนี้ อนันดาฯ ตั้งใจส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับการใช้ชีวิตที่ดีขึ้นของคนเมือง และเตรียมออก Corporate Campaign ภายใต้แนวคิด #KeepSmiling  “เปลี่ยนวันใหม่ที่ตัวเรา พร้อมมอบรอยยิ้มให้ตัวเองในทุกเช้า” โดยอนันดาฯ ขอชวนคนเมืองร่วมส่งพลังความสุขด้วยรอยยิ้ม เริ่มสร้างความสุขที่ตัวเรา แล้วส่งต่อความสุขไปยังคนรอบข้าง เราเชื่อว่าหากเรามอบรอยยิ้มให้คนรอบข้าง คนรอบข้างก็จะมอบรอยยิ้มให้กันและกัน มาร่วมกันสร้างให้เมืองนี้กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งด้วยพลังของพวกเรา 

เสื้อฮาวาย โรเซ่ BLACKPINK

ฮ็อตจนต้องเปิดจองล่วงหน้า! เสื้อฮาวาย โรเซ่ BLACKPINK จากแบรนด์ดัง

เสื้อฮาวาย โรเซ่ BLACKPINK
เสื้อฮาวาย โรเซ่ BLACKPINK

ทนกระแสไม่ไหว! SAINT LAURENT เปิดรับจอง เสื้อฮาวาย โรเซ่ BLACKPINK จากคอลเล็คชั่น Spring Summer 2021 ในระยะเวลาจำกัดเท่านั้

หลังจากโรเซ่ได้ลงภาพในอินสตาแกรมพร้อมกับลุคเสื้อฮาวายไปเมื่อหลายวันก่อน แฟนๆ ทั่วโลกก็ต่างอื้ออึงกับเสื้อตัวนี้หนักมากกก เพราะคนพรีเซ็นต์ใส่ออกมาสวยเท่ จนใครๆ ก็อยากสอยตามกันเป็นขบวน แม้ว่าจะเป็นเสื้อในคอลเล็คชั่นของหนุ่มๆ ก็ตาม ซึ่งตอนนี้เสื้อเชิ้ต Hawaiian ตัวที่โรเซ่ใส่ยังไม่มีวางขาย

SAINT LAURENT เปิดรับจอง เสื้อฮาวาย โรเซ่ BLACKPINK SAINT LAURENT เสื้อฮาวาย โรเซ่ BLACKPINK

เสื้อฮาวาย SAINT LAURENT โรเซ่ BLACKPINK

แต่ทาง SAINT LAURENT ได้เผยโฉม Men’s Spring Summer 21 project curated by Anthony Vaccarello ออกมาแล้วเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา โดยเสื้อฮาวายตัวดังก็เป็นส่วนหนึ่งในคอลเล็คชั่นนี้ และหลังจากมีกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด Saint Laurent ก็ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์ โดยเฉพาะเสื้อเชิ้ตแขนสั้น Hawaiian ลายดอกไม้ต้อนรับฤดูร้อน ที่สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศ จากคอลเล็คชั่น Spring Summer 21

สามารถสั่งจองล่วงหน้าและเป็นเจ้าของเสื้อเชิ้ตจากคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด ในราคา 26,050 บาท ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 21 กันยายนนี้ ผ่านทางเว็บไซต์ ysl.com & ysl.cn และผ่านทางแอพพลิเคชั่น WeChat เท่านั้น

เสื้อฮาวาย SAINT LAURENT โรเซ่

เสื้อฮาวาย รุ่น โรเซ่

Men’s Spring Summer 21 project curated by Anthony Vaccarello

ส่วนวันจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ทางแบรนด์ยังไม่มีการคอนเฟิร์ม แต่ถ้าใครใจร้อนอยากช้อป เพราะกลัวว่าจะพลาด ก็เข้าไปสั่งจองก่อนได้เลย จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดาย ถ้าเกิดวางขายตามปกติแล้ว Sold out ภายในพริบตา


CHARLOTTE TILBURY เปิดแฟล็กชิฟสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ต.ค.นี้ป้ามาแน่! Charlotte Tilburyเฟิร์มเปิดแฟล็กชิฟสโตร์ในไทย ไม่ต้องกดพรีแล้ว

Alternative Textaccount_circle
CHARLOTTE TILBURY เปิดแฟล็กชิฟสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
CHARLOTTE TILBURY เปิดแฟล็กชิฟสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สมการรอคอย! เดอะมอลล์ กรุ๊ป ทุ่มงบกว่า 120 ล้าน คว้าแบรนด์เครื่องสำอางระดับเวิลด์คลาส CHARLOTTE TILBURY เปิดแฟล็กชิฟสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แว่วว่าราคาดีไม่ต่างจากพรีออเดอร์ แถมได้ลองเท็กเจอร์ด้วยตัวเองที่เคาน์เตอร์ด้วย แล้วแบบนี้จะไม่แอบกรี๊ดไหวหรือ??

ทั้งเล็ง ทั้งชะเง้อคอรอมานาน ได้แต่กดพรีออเดอร์ไปวันๆ ในที่สุดก็มาสักที! Charlotte Tilbury (ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี) แบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์ระดับเวิลด์คลาสสัญชาติอังกฤษ คอนเฟิร์มมาแน่แล้ว 29 ตุลาคม 2563 นี้ เปิดแฟล็กชิฟสโตร์ในไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมกัน 2 สาขา ที่ Beauty Hall เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์

สำหรับป้าชาร์ลอต ที่เหล่าบิวตี้เลิฟเวอร์ต่างพูดกันติดปาก หรือแบรนด์ Charlotte Tilbury ก่อตั้งขึ้นโดย ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี เมคอัพอาร์ติสต์ชื่อดังชาวอังกฤษและเป็นเมคอัพอาร์ติสต์อันดับ 1 ของโลก ถือเป็นผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงความงาม เซเลบริตี้ – ดาราชื่อดังระดับโลก บิวตี้เอดิเตอร์ และบล็อกเกอร์ทั่วโลก ต่างชื่นชมและให้การยอมรับจากประสบการณ์ในฐานะช่างแต่งหน้าผู้คร่ำหวอดในวงการมามากกว่า 28 ปี

CHARLOTTE TILBURY เปิดในไทย

ทำให้ป้าชาร์ลอต ได้สร้างสรรค์และพัฒนาแบรนด์ Charlotte Tilbury จนสามารถคว้ารางวัลมากกว่า 320 รางวัลจากทั่วโลกนับตั้งแต่ ปี 2013 – 2020 ซึ่ง Charlotte Tilbury ถือว่าเป็นลักซ์ชัวรีแบรนด์ที่เหล่าบิวตี้เลิฟเวอร์รอคอย และหลายคนเป็นแฟนตัวยงที่ชื่นชอบในเครื่องสำอางแบรนด์นี้

โดยไอเท็มเด็ดที่สร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ Charlotte Tilbury มีมากมาย อาทิ ลิปสติก Pillow Talk ลิปสติกสีชมพูนู้ด ที่ถูกจำหน่ายทุก 2 นาที , ลิปสติกMatte Revolution สีแดงเบอรี่ที่สาวๆ ทุกคนต้องมีในกระเป๋า , Magic Cream หรือ Magic Skin , Wonder Glow Face Primer , แป้ง Filmstar Bronze and Glow , มาสคาร่า Pillow Talk Mascara , และฮีโร่โปรดักส์อย่าง Magic Foundation เป็นอีกหนึ่งไอเท็มลูกรักของใครหลายคน หรือแม้กระทั่ง รองพื้นสูตรใหม่ล่าสุด Airbrush Flawless ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาให้เข้ากับผู้หญิงทุกโทนสีผิวกว่า 650 คน อีกทั้งยังมีครบทุกเฉดสีและทุกโทนสีผิว เพื่อช่วยเนรมิตผิวให้ดูเนียนเป็นธรรมชาติและปกปิดได้อย่างยาวนาน ตอบโจทย์การแต่งหน้าของผู้หญิงได้อย่างไร้ที่ติ

Charlotte Tilbury (ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี) แบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์Charlotte Tilbury (ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี) แบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์

นับเป็นการปฏิวัติวงการบิวตี้โดยรังสรรค์เทรนด์ความงาม และสไตล์การแต่งหน้าที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับสาวๆ สวยอย่างมีสไตล์โดดเด่นในแบบของตัวเอง ถือเป็นลักซ์ชัวรี่เเบรนด์เครื่องสำอางที่มีมากกว่าความหรูหรา และเราเชื่อมั่นว่าการดึงแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Charlotte Tilbury ในครั้งนี้จะสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคนในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจในเรื่องของความงามในแบบของตน อีกทั้งจะครองใจสาวๆ ในเมืองไทยได้อย่างแน่นอน

Charlotte Tilbury (ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี) แบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์ Charlotte Tilbury (ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี) แบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์ Charlotte Tilbury (ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี) แบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์

เอาเป็นว่าสิ้นสุดการรอคอยเสียที บิวตี้เลิฟเวอร์สาวกของป้า Charlotte Tilbury ปลายปีนี้เตรียมเงินให้พร้อม!! พบกับเครื่องสำอาง แบรนด์ดังระดับเวิลด์คลาส Charlotte Tilbury พร้อมกัน 2 สาขาที่ Beauty Hall เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป

ปักหมุดรอไม่ต้องพรีออเดอร์กันเลย บูติกและป๊อปอัพใหม่ล่าสุดของ ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี เอ็กซ์คลูซีฟที่บิวตี้ฮอลล์ เฉพาะพารากอนและเอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ที่เปิดประสบการณ์ของโลกแห่งความงามดั่งต้องมนตร์ที่ ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี สร้างสรรค์ขึ้น ผสมกลิ่นอายน่าตื่นเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ นั่นคือ ความฮอลลีวู้ดและรายละเอียดอันน่าหลงใหลที่ทางแบรนด์นำมารังสรรค์เฉพาะบูติกและป๊อปอัพแห่งใหม่ทั้งสองนี้

และเตรียมตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศสุดพิเศษภายในร้านอย่าง 10 Looks Wardrobe , Magic Skin Bar , Makeup Revolution Bar และ Lip Bar ที่รวบรวมสุดยอดผลิตภัณฑ์ปรนนิบัติผิวและเครื่องสำอางที่กวาดรางวัลการันตีมาอย่างมากมายมาไว้ในที่เดียว รอเลย 29 ตุลาคม 2563 นี้

Charlotte Tilbury (ชาร์ลอต ทิวเบอร์รี) แบรนด์เครื่องสำอางไฮเอนด์


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ส่องเมคอัพคอลเล็คชั่นเปิดตัว RARE BEAUTY ของ เซเลนา โกเมซ หลังอุบมา 2 ปี

คัด 5 คุชชั่นเนื้อดีโดนใจ บางเบา แต่ปกปิดหน้าเนียนเป๊ะจนใครก็จับโป๊ะไม่ได้

7 น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ หอมหวานชวนหลงใหล ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูละมุนขึ้น

 

 

ชุดประจำชาติ มิสแกรนด์

เห็นแล้วชวนหิว! ก๋วยเตี๋ยวอยุธยา VS ก๋วยจั๊บอุบล ชุดประจำชาติ มิสแกรนด์ 2020

Alternative Textaccount_circle
ชุดประจำชาติ มิสแกรนด์
ชุดประจำชาติ มิสแกรนด์

อร่อยเด็ดประเทศไทย เห็นแล้วหิว! ก๋วยเตี๋ยวอยุธยา VS ก๋วยจั๊บอุบล ชุดประจำชาติ จากเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 สร้างสีสันความสนุก

เสน่ห์ของเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ที่เป็นไฮไลท์ให้คนได้พูดถึงทุกปี นอกจากลีลาการแนะนำตัวของสาวงามที่เป็นเสน่ห์ของแต่ละจังหวัดแล้ว ยังมีไม้ตายเรื่อง ชุดประจำชาติ ให้ผู้คนได้จับจ้องมองกันตาไม่กระพริบ ซึ่งในช่วงค่ำวันนี้ (16 ก.ย. 2563) จะมีการประกวดในรอบชุดประจำชาติ แน่นอนว่าแต่ละจังหวัดต้องจัดหนักจัดเต็มมาเรียกความสนุกสนานให้กับเวทีนี้อย่างแน่นอน

โดยก่อนที่จะไปชมภาพชุดเต็มๆ กันในคืนนี้ แพรวดอทคอม มีสองชุดจากสองจังหวัด มาให้แฟนนางงามได้ชมกันเป็นน้ำจิ้ม เป็นชุดประจำชาติแนวเห็นแล้วหิวของ 2 จังหวัดดัง คือ พระนครศรีอยุธยา และอุบลราชธานี

มิสแกรนด์พระนครศรีอยุธยา
มิสแกรนด์พระนครศรีอยุธยา “พลอย-อิสรีย์ รอดวิเศษ”

 

มิสแกรนด์อุบลราชธานี “พริ้ง-ชุติญา เจียรกุล”
มิสแกรนด์อุบลราชธานี “พริ้ง-ชุติญา เจียรกุล” 

เริ่มที่มิสแกรนด์พระนครศรีอยุธยา “พลอย-อิสรีย์ รอดวิเศษ” ที่มาในชุดที่มีชื่อว่า “ชุดก๋วยเตี๋ยวล่องนาวา อยุธยามหาธานี” โดยที่มาของชุดนี้มาจากเมนู ก๋วยเตี๋ยวเรือ อาหารขึ้นชื่นอีกหนึ่งอย่างของจังหวัด ด้วยก๋วยเตี๋ยวที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนอยุธยามาช้านานในสมัยก่อนก๋วยเตี๋ยวเรือจะขายในเรือพายตามสายน้ำจึงเป็นที่มาของชื่อ ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา

นอกจากนี้ ยังได้หยิบยกวิถีชีวิตและสัญลักษณ์ของเรือ มาออกแบบชุดเป็นชุดประจำจังหวัด ชุดออกแบบให้มีลักษณะเป็นรูปทรงเรือ และยังคงวิถีชีวิตตั้งแต่โบราณ เพิ่มลูกเล่นในชุดด้วยน้ำ ที่เปรียบเสมือนเรือลอยอยู่ในสายน้ำ และยังได้หยิบยกวัดใหญ่ชัยมงคล วัดซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาเป็นสัญลักษณ์ และเสริมสร้างความเป็นศิริมงคลแก่ผู้สวมใส่อีกด้วย โดยชุดนี้ออกแบบโดย “นายชัชชญา อนันตโสภณ” ตัดเย็บโดย “ห้องเสื้อ STAR IN SIDE”

ชุดประจำชาติ มิสแกรนด์

อีกหนึ่งชุดที่เรียกความฮือฮาไม่แพ้กันเลยก็คือ “พริ้ง-ชุติญา เจียรกุล” มิสแกรนด์อุบลราชธานี ที่มาในชุด “ต้มจั๊บอุบล” หรือ “ก๋วยจั๊บอุบล” เมนูสุดเลื่องชื่อของเมืองหลวงแห่งก๋วยจั๊บ ก๋วยจั๊บญวณ เป็นที่รู้จักมานานกว่าเกือบร้อยปี การปรุงแต่ละจังหวัดจะใส่ของดีประจำจังหวัดเข้าไปด้วย เช่นหมูยอ เพื่อเพิ่มความหลากหลาย และความอร่อยจนกลายเป็นเมนูเส้น ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอุบลราชธานี ที่อยู่คู่กับชาวอุบลมาจนถึงทุกวันนี้ การแต่งกายที่สื่อถึงวัฒนธรรมร่วมขออีสานและญวน ผสมผสานผ่านชุด ต้มจั๊บอุบล มีกลิ่นอายความเป็นญวณและอีสาน สื่อให้เห็นว่าชาวอุบล มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ที่มีความผูกพันธ์และมีวัฒนธรรมที่ผสมผสานมาอย่างยาวนาน สำหรับชุดนี้ออกแบบโดย นาย อัศวเทพ ศรีเฉลา

ชุดประจำชาติ มิสแกรนด์

สำหรับการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 ในรอบชุดประจำชาตินี้จะมีขึ้นในวันที่ 16 กันยายน 2563 เวลา 19.00 น.


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

มิสแกรนด์จันทบุรี 2020 นางงามไอที ผู้หญิงในโลกดิจิทัลที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวย

 

เปิดตัว 77 สาวงาม Miss Grand Thailand 2020 : Covid episode

เปิดตัวมงกุฎใหม่ “The Power of Lady Torches” มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020

กระเป๋าแบรนด์หรูของ 'คิมเบอร์ลี่' Coccinelle

กระเป๋าแบรนด์หรูของ ‘คิมเบอร์ลี่’ จ่ายไม่เกิน 2 หมื่นก็ซื้อไอเท็มใบสวย คุณภาพดีได้

กระเป๋าแบรนด์หรูของ 'คิมเบอร์ลี่' Coccinelle
กระเป๋าแบรนด์หรูของ 'คิมเบอร์ลี่' Coccinelle

ราคาดี คุณภาพสุดปัง! Coccinelle กระเป๋าแบรนด์หรูของ ‘คิมเบอร์ลี่’ จากประเทศอิตาลี ที่มาในธีม Business Casual ขอบอกว่าคอลเล็คชั่นนี้สวยเด็ดทุกใบ

แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กระเป๋าในคอลเล็คชั่นล่าสุดของ Coccinelle หากเปรียบเป็นเมืองใหญ่สักเมือง คงเปรียบได้กับมหานครนิวยอร์ก มีทั้งความมีชีวิตชีวา หรูหรา และปราชญ์เปรื่อง หากเปรียบเป็นคลับเก๋ๆ สักแห่ง คงเปรียบได้กับคลับในเมืองแมนแฮตตัน ที่ตกแต่งด้วยบาร์ไม้  โต๊ะบิลเลียด และแสงไฟสลัว และหากเปรียบเป็นหญิงสาวสักคน หญิงสาวคนนั้นคงเป็นคนที่มีอารมณ์มั่นคง มีความมุ่งมั่น และสง่างาม เหมือนกับเมอรีล สตรีป  (Meryl Streep) ในภาพยนตร์เรื่อง Kramer vs. Kramer

Coccinelle กระเป๋าแบรนด์หรูของ 'คิมเบอร์ลี่'
Louise สี Noir Curacao ราคา 18,900 บาท

กระเป๋าแบรนด์หรูของ 'คิมเบอร์ลี่'

กระเป๋าแบรนด์หรู คิมเบอร์ลี่

Coccinelle คอลเล็คชั่น  Autumn-Winter 2020 นี้ มาในธีม Business Casual ที่เน้นการเชิดชูพลังของผู้หญิง ตลอดจนการแสดงออกที่หลากหลายและเป็นแบบเฉพาะของพวกเธอเอง ซึ่งสะท้อนออกมาผ่านกระเป๋ารุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวในซีซั่นนี้นั่นคือรุ่น Louise กระเป๋า Hand bag ที่ให้ลุคของหญิงสาวที่มีความมั่นใจและสมาร์ท ทั้งยังโดดเด่นและหรูหราด้วยตัวล็อคทรงปิ๊กกีต้าร์และอะไหล่สีทอง พร้อมช่องใส่ของทั้งบริเวณด้านหลังของกระเป๋าและภายในกระเป๋าอีก 3 ช่องที่ออกแบบมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองอย่างที่สุด

กระเป๋าแบรนด์อิตาลีของ คิมเบอร์ลี่
กระเป๋า Louise ราคา 18,900 บาท
กระเป๋าแบรนด์อิตาลี
กระเป๋า Louise ราคา 18,900 บาท
Coccinelle กระเป๋าแบรนด์หรูของ 'คิมเบอร์ลี่' จากประเทศอิตาลี
กระเป๋า Louise แบบมีสายหนังถัก ราคา 22,900 บาท

อีกหนึ่งในไฮไลท์ของคอลเล็คชั่นนี้คือกระเป๋าทรงอานม้าหรือพระจันทร์เสี้ยว ในรุ่น  Anais ที่เน้นความหรูหราอันไร้ขอบเขต พร้อมจะนำทุกคนย้อนกลับไปยังความเป็นอิตาลีดั้งเดิมแบบ 100% และเป็นการตอกย้ำถึงความต้องการที่ฝังอยู่ลึกๆ ในตัวของหญิงสาวที่อยากจะใช้ของที่สวยๆ งามๆ ในชีวิตประจำวัน รังสรรค์ออกมาทั้งในรูปแบบของหนังนิ่ม (Suede) และหนังพิมพ์ลายจระเข้ (Croco)

Coccinelle กระเป๋าแบรนด์หรูของ 'คิมเบอร์ลี่'
กระเป๋ารุ่น Anais สี Caramel ราคา 12,500 บาท
 กระเป๋าแบรนด์หรูของ 'คิมเบอร์ลี่'
กระเป๋ารุ่น Anais สี Marsala ราคา 12,500 บาท

รวมถึงกระเป๋ารุ่นไอคอนิกของแบรนด์อย่าง Arlettis ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ได้อย่างลงตัว มาในรูปแบบของทั้งหนังนิ่ม (Suede) และหนังแกะนุ่ม (Soft Nappa) นอกจากนี้ยังมีกระเป๋ารุ่นยอดฮิตจากซีซั่น Spring-Summer 2020 ที่ อัดแน่นด้วยกลิ่นอายของมหานคร จากโทนสีใหม่ที่เพิ่มมา ทั้งรุ่น Marvin กระเป๋าทรงเรียบหรู โดดเด่นด้วยตัวล็อคทรงปิ๊กกีต้าร์ และกระเป๋า Crossbody ทรง Camera bag อย่างรุ่น Beat ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 70s

Coccinelle กระเป๋าแบรนด์อิตาลี คิมเบอร์ลี่
กระเป๋า Marvin ราคา 18,900 บาท
กระเป๋าแบรนด์ Coccinelle คิมเบอร์ลี่
กระเป๋า Marvin ราคา 18,900 บาท

ความคอนทรานส์ของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลก็ถูกนำมาผสมผสานสะท้อนผ่านเฉดสีและวัสดุของกระเป๋าที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสี Burgundy , Night black , Grey-green กับพื้นผิวของหนังกระเป๋าอย่างหนังพิมพ์ลายจระเข้ หนังเลียงผา และหนังลูกม้า อีกทั้งยังมีการนำขนแกะเทียม (Eco-shearling) ให้ความรู้สึกสัมผัสถึงธรรมชาติของพื้นป่ามาใช้ เหมือนกับได้ทั้งอารมณ์ท่องเที่ยวและคงรักษาธรรมชาติไว้ได้อย่างยั่งยืน

กระเป๋าแบรนด์อิตาลี คิมเบอร์ลี่
กระเป๋า Gabrielle สี Seashell ราคา 17,900 บาท

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นางฟ้าตลอดกาล! ส่อง 14 ลุควันสบายๆ สไตล์ ‘มิแรนด้า เคอร์’ คุณแม่ลูกสาม

สร้างเทรนด์เอง! ลิซ่า แปลว่าอิสระ จะใส่เสื้อยืดตัวละ 4 พัน สลับหน้าหลังก็ได้

3 หมื่นบาท! Face Shield แบรนด์หรู Louis Vuitton สวยมีสไตล์ป้องกันโควิด

 

 

 

 

 

 

นางเอกตัวแม่ ฟ่านปิงปิง

ความรักเบ่งบานอีกครั้ง! ข่าวดีของ นางเอกตัวแม่ ฟ่านปิงปิง กับอดีตคู่หมั้น หลี่เฉิน

Alternative Textaccount_circle
นางเอกตัวแม่ ฟ่านปิงปิง
นางเอกตัวแม่ ฟ่านปิงปิง

ดูเหมือนว่าหัวใจของ นางเอกตัวแม่ ฟ่านปิงปิง จะกลับมาเบ่งบานเป็นสีชมพูอีกครั้ง กับ หลี่เฉิน อดีตคู่หมั้นหนุ่มที่เลิกกันไป

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2017 หนุ่มๆ ทั้งหลายอกหักกันทั่วประเทศ เมื่อ นางเอกตัวแม่ ฟ่านปิงปิง (Fan Bing Bing) ซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งที่ว่ากันว่าเป็นสมบัติแห่งชาติของแดนมังกร ถูกพระเอกหนุ่ม หลี่เฉิน (Li Chen) เซอร์ไพร้ส์คุกเข่าขอแต่งงานแบบสายฟ้าแลบในวันเกิดของเธอ

โดยบรรยากาศในวันนั้นบอกเลยว่าโรแมนติกมากๆ หลี่เฉินสั่งดอกกุหลาบที่ฝ่ายหญิงชอบมาตกแต่งในงานเป็นแสนดอก ส่วนแหวนเพชรที่ใช้หมั้นก็ไม่ต้องพูดถึง อลังการดาวล้านดวงสุดๆ เพราะมีน้ำหนักถึง 20 กะรัต นอกจากนี้ยังมีตุ๊กตาหน้าฟ่านปิงปิงที่สั่งทำเป็นพิเศษนานถึง 1 ปี มูลค่า 9.9 ล้านบาท มามอบให้กับเธอด้วย ซึ่งทำให้แฟนคลับหลายคนอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กันเลยทีเดียว

นางเอกตัวแม่ ฟ่านปิงปิง

แต่ว่าช่วงความสุขผ่านไปไวเหมือนโกหก ขณะที่ดาราสาวชาวจีนกำลังเตรียมงานแต่งงาน ก็มีมรสุมใหญ่เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว ฟ่านได้ถูกทางการจีนตรวจสอบและโดนตั้งข้อหาหลีกเลี่ยงภาษี เธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนานหลายเดือน ซึ่งมีข่าวลือว่าเธออาจถูกจับสอบสวน เนื่องจากจีนมีกฎหมายที่เด็ดขาด
ไม่นานหลังจากนั้นได้มีคนออกมาเปิดเผยว่าเธอพยายามเทขายทรัพย์สินต่างๆ เพื่อนำมาเสียค่าปรับภาษีย้อนหลังจำนวน 4,200 ล้านบาท ซึ่งหลี่เฉินคู่หมั้นของเธอก็ได้ออกมาประกาศขายบ้านหรูที่อยู่ใจกลางปักกิ่งเพื่อหวังจะนำเงินก้อนนี้มาสมทบช่วยแก้ปัญหาให้กับคู่หมั้นของเขาด้วย

นางเอกตัวแม่ ฟ่านปิงปิง

แม้ว่าจะเสียค่าปรับไปแล้ว แต่ฟ่านก็ยังถูกแอนตี้อย่างหนักจากผู้ชม รวมถึงสถานีใหญ่ๆ ก็ไม่นำเสนอข่าวของเธอ แน่นอนว่าทำให้กระทบไปถึงรายได้ ทั้งในฐานะนักแสดงและพรีเซ็นเตอร์สินค้าต่างๆ แต่ที่หนักสุดก็คือคู่หมั้นหนุ่มที่ถูกโจมตีไปด้วย ทั้งยังมีข่าวเลิกกันออกมารายวัน

ในที่สุดเมื่อกลางปีที่แล้วทั้งคู่ก็ได้ออกมาประกาศถอนหมั้นกับแฟนหนุ่ม หลังจากที่หมั้นหมายกันมาเกือบ 2 ปี ซึ่งเป็นการแยกจากกันด้วยดี และทั้งคู่จะยังสนับสนุนกันและกันต่อไปในฐานะเพื่อนที่ดีที่สุด

แต่ล่าสุดความสัมพันธ์เพื่อนดูเหมือนจะแปรเปลี่ยนเป็นความสัมพันธ์แบบคนรักอีกครั้ง เมื่อสื่อฮ่องกงออกมาเปิดเผยว่าน่าจะกำลังรีเทิร์นความสัมพันธ์ โดยรายงานระบุว่าในวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะถึงวันเกิดครบรอบ 39 ปีในอีกแค่วันเดียว มีคนพบเห็นกิจกรรมบนท้องฟ้าเหนือนครเซี่ยงไฮ้ ด้วยการใช้โดรนแปรอักษร ซึ่งข้อความที่ปรากฏมีดังนี้ “Happy Birthday”, “FBB” (น่าจะมาจากชื่อย่อของ Fan Bing Bing) และ “I ❤️大黑牛” (大黑牛 เป็นชื่อเล่นของหลี่เฉิน) ซึ่งหลายคนเชื่อว่าข้อความนี้น่าจะเป็นของ “หลี่เฉิน” อดีตคู่หมั้นของฟ่านปิงปิงที่อยากจะทำเซอร์ไพร้ส์เธอในวันเกิดนั่นเอง

หลี่เฉิน

อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าโชว์บินโดรนที่เกิดขึ้นนี้น่าจะมีค่าใช้จ่ายถึง 700,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 2.8 ล้านบาท ส่วนสรุปแล้วเรื่องนี้จะเป็นเพียงสิ่งที่ผู้คนคาดการณ์หรือกลับมาคบกันจริงๆ คงต้องรอฟังจากเธอแล้ว


ข้อมูล : hk.on.cc

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

อุปสรรคพิสูจน์รักแท้ หลี่เฉิน ตัดสินใจขายบ้านและที่ดินช่วยคู่หมั้น ฟ่านปิงปิง

อื้อหื้อแซบ ลี่เฉิน ว่าที่สามี ฟ่านปิงปิง ซิกแพคเกินห้ามใจ

ฟ้าหลังฝน! สื่อจีนเผยฤกษ์แต่งงานใหม่ ของ ฟ่านปิงปิง และ ลี่เฉิน

จากฉลองพระองค์ สมเด็จพระพันปีหลวง รังสรรค์สู่ ชุดไทยจิตรลดา สาวงาม MUT

account_circle

จากฉลองพระองค์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กลายเป็นแรงบันดาลใจ รังสรรค์สู่ ชุดไทย จิตรลดา ของสาวงาม MUT “พรฟ้า ปุณิกา” ผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020

เป็นธรรมเนียมปฏิบัติแทบทุกปีที่เราจะได้เห็นเหล่าบรรดาสาวงามผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ สวมชุดไทยเพื่อไป สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งปีนี้ก็เช่นเดียวกัน

แน่นอนว่าไฮไลท์ของวันนี้ก็ไม่พลาดที่นางงามบรรดาตัวเก็งจะเป็นที่จับตามองว่าพวกเธอสวมชุดไทยแบบไหน สีสันอะไรมาประชันกัน โดยหนึ่งในชุดไทยที่เห็นแล้วสะดุดตาคือ ชุดไทยจิตรลดาสีครีมขาวของ ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ (พรฟ้า) ผู้เข้าประกวดหมายเลข 18

จากฉลองพระองค์ สมเด็จพระพันปีหลวง รังสรรค์สู่ ชุดไทยจิตรลดา สาวงาม MUT

ซึ่งชุดไทยจิตรลดาที่เธอใส่เข้าร่วมกิจกรรมกับกองประกวดในวันนี้มาจากห้องเสื้อวนัชกูตูร์ โดย คุณสรรค์ สุดเกตุ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ห้องเสื้อวนัชกูตูร์และวนัชเฟิร์ส ได้เป็นผู้ออกแบบและตัดเย็บขึ้นมา โดยได้มีการเลือกใช้ผ้าไหม SILK JACQUARD สีครีมขาว ยกดอกให้นูนเด่นด้วยดิ้นสีทองและสีบรอนซ์อมฟ้านำเข้ามาจากประเทศอิตาลี ตัดเย็บด้วยแพทเทิร์ลแบบฝรั่งเศส เพิ่มความหรูหราด้วยการประดับด้วยเม็ดกระดุมทองฝังเพชรซีก

สำหรับผ้า SILK JACQUARD เป็นการทอแบบพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งในเมืองไทยยังไม่สามารถผลิตเองได้จึงต้องสั่งนำเข้ามาจากประเทศอิตาลี (เนื่องด้วยผ้าชนิดนี้มีมูลค่าสูงจึงนิยมใช้กันเฉพาะกลุ่มแบรนด์ห้องเสื้อกูตูร์ระดับโลกเท่านั้น)

นอกจากขั้นตอนการปักเย็บสุดปราณีต รวมไปถึงเนื้อผ้าชั้นสูงที่นำมาทอนั้น คุณสรรค์ยังหยิบอิทธิพลของการเลือกใช้สีเพื่อเพิ่มพลังบวกให้กับผู้ที่สวมใส่ชุดนี้ อย่าง

สีครีมขาว : สีนี้มีพลังช่วยสร้างสมดุลให้กับการตัดสินใจ สร้างความรู้สึกสะอาด ช่วยชำระล้างความคิดและความรู้สึก รวมถึงจิตวิญญาณและพลังในด้านลบ

สีทอง : สีนี้เป็นสีแห่งความสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง พลังอำนาจ มิตรภาพ และความประสบสำเร็จ

สีบรอนซ์อมฟ้าอ่อน : สีนี้ช่วยให้รู้สึกสุขสงบ เป็นสีที่กระตุ้นปฎิกิริยาเคมีในร่างกาย กระตุ้นพลังบวกและความคิดสร้างสรรค์

เครื่องประดับที่ทำจากมือ : กรรเจียกจรใบไม้ไหวสีทอง , ต่างหูดอกรักที่มีกลิ่นอ่อนเฉพาะ

ปิดท้ายสิ่งสำคัญที่สุดของชุดนี้คือ แรงบันดาลใจในการในการสรรค์สร้างผลงานมาจาก ฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้นายปิแอร์ บัลแมง ( Pierre Balmain ) ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบและตัดเย็บ ซึ่งโดยมากมักเลือกใช้ผ้าไหม JACQUARD นำมาเป็นวัตถุดิบหลักในการตัดเย็บ

ในส่วนของราคาชุดนี้นั้นทาง คุณสรรค์ สุดเกตุ ได้แจ้งราคากับทางแพรวดอทคอมว่า รวมแล้วประมาณ สองแสนบาท สวยงาม เลอค่า สมกับงานฝีมือชั้นสูงจริงๆ 


CR : @vanuscouture_official

5 ปี กับตราบาปในชีวิต พรฟ้า-ปุณิกา ยืนยันบริสุทธิ์ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

กระเป๋าแบรนด์เนม

ยอมจ่ายไม่อั้น! คนดังในอินสตาแกรมถือ กระเป๋าแบรนด์เนม ใช้ชีวิตสุดหรู

กระเป๋าแบรนด์เนม
กระเป๋าแบรนด์เนม

ส่องชีวิตอันน่าอิจฉาของ ผู้ทรงอิทธิพลในอินสตาแกรม ที่มียอดติดตามตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน กับไลฟ์สไตล์สุดหรู ชนิดที่หิ้ว กระเป๋าแบรนด์เนม กันเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว

ไม่มีวันไหนที่น่าเบื่อ ถ้าหากได้ใช้ชีวิตแบบพวกเขาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวไปยังสถานที่แปลกใหม่ หรือนั่งอยู่หลังพวงมาลัยของรถซูเปอร์คาร์ เรียกได้ว่าเป็นชีวิตมั่งคั่ง ร่ำรวย เหมือนกับภาพที่หลายๆ คนวาดฝันไว้ และไลฟ์สไตล์สุดหรูก็สามารถดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาติดตามได้ไม่น้อย

ซึ่งบัญชีอินสตาแกรมของบุคคลที่มีชีวิตสุขสำราญเหล่านี้ มียอดผู้ติดตามเกือบ 8 แสนคน บางบัญชีก็มียอดติดตามถึงหลักล้าน เพราะความน่าตื่นเต้นอลังการที่ถูกโพสต์บนโซเชียลอยู่บ่อยครั้ง ทำให้มีคนสนใจในไลฟ์สไตล์ของพวกเขามากยิ่งขึ้น เช่น การใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งตัว นั่งโพสต์ท่าสวยๆ บนรถราคาแพง หรือจะชิลๆ ในวันหยุดด้วยการกินพิซซ่าหน้าเห็ดทรัฟเฟิลที่มีมูลค่าแพงพอๆ กับเพชรเม็ดงาม ไม่ก็อีกหนึ่งกิจกรรมของคนมีตังค์ นั่นคือการเลี้ยงลูกเสือ หรือพักผ่อนนอนแช่น้ำในสระโรงแรม 5 ดาวที่ดูไบ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาทำกันเป็นเรื่องปกติ

พิซซ่าหน้าเห็ดทรัฟเฟิล
อุ้มลูกเสือหลังพวงมาลัยรถเฟอร์รารี่ ส่วนเครื่องประดับก็จัดมาทั้งแหวน นาฬิกา กำไลข้อมือ
นอนแช่น้ำชมวิวในสระโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ดูไบ

บอกเลยว่าถ้านั่งไถทั้งวันก็ส่องความเว่อร์วังอลังการไม่หมดจริงๆ วันนี้เราจึงขอโฟกัสกลุ่มคนรักแบรนด์เนม ชนิดที่หอบหิ้วสินค้าแบรนด์เนมกันเป็นคันรถเลยทีเดียว หรือแม้แต่การครีเอทลุคด้วยเสื้อผ้า , กระเป๋า , รองเท้า จากแบรนด์ดังราคาแพงที่พวกเขายอมควักตังค์จ่ายแบบไม่อั้น

Dor Bukobza ถือกระเป๋าสีแดงสดจากคอลเล็คชั่นพิเศษ Supreme x Louis Vuitton และเดินทางมากับเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว
Alex สาว YouTuber ชาวออสเตรเลีย มาพร้อมกับเข็นรถแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็น Dior , Chanel หรือ Gucci
Nicole Louise ระหว่างเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปลอนดอนและโมนาโก กำลังถือกระเป๋า Chanel ใบใหญ่และกระเป๋า Hermès ที่ราคาแรงแบบไม่ต้องสืบ
Veronika กับกระเป๋าใบเด่นจาก Gucci Dionysus และขวดแชมเปญขนาดใหญ่ในวันเกิดของเธอ
Elena Chigirinskaya กับกองถุงแบรนด์เนมชื่อดัง Louis Vuitton ที่แทบจะวางบนรถซูเปอร์คาร์สุดหรูไม่พอเลยทีเดียว
Olesya Malinskaya ดีไซเนอร์สาวที่ขนไอเท็มจาก Chanel มาทั้งหมวกและกระเป๋า แมทช์เข้ากับเสื้อโค้ทขนสัตว์และแว่นตาจาก Dior
Gabby สไตลิสต์และนักออกแบบแฟชั่นเด็ก นั่งเครื่องบินชั้น first class พร้อมกระเป๋าสัมภาระจาก Louis Vuitton และ Chanel
แม้จะไม่ได้นั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัว แต่ก็ยังคงเป็นชั้น first class ที่เต็มไปด้วยข้าวของแบรนด์เนมอย่าง Fendi และ Hermès

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ลิสต์เอาไว้! กระเป๋า Louis Vuitton 6 เฉดสีหวาน สวยละมุน ชวนเสียตังค์

เปิดโพย กระเป๋า Gucci 5 รุ่นดังน่าเปย์ ที่ควรมีอยู่ในคลังแสง

10 ผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่น ปี 2019 ดัชเชสเมแกนที่ 1 , ลิซ่า แซงไคลีย์ เจนเนอร์

มีเกินร้อยชิ้น! ปาล์ม-จิตติมา เซเลบสาวผู้หลงรัก แบรนด์ SIRIVANNAVARI

เพราะอะไร ‘ดัชเชสเคท’ สวมเดรสสีดำ แต่ไม่ผิดกฎราชวงศ์อังกฤษ

แฟชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน” สง่างามในลุคเวิร์คกิ้งวูแมน

สวยพร้อมชิงมง! ฟ้าใส ปวีณสุดา MUT 2019 ยิ่งใกล้วันประกวด ยิ่งออร่าจับ

รู้หรือไม่? สุภาพสตรีในราชวงศ์อังกฤษ ห้ามสวมหมวกหลัง 6 โมงเย็น

ยกเลิกขนสัตว์จริง! ควีนเอลิซาเบธ ทรงมีรับสั่ง ต่อไปจะใช้ขนเทียมเท่านั้น

เพราะเหตุใด กระเป๋า Hermes ถึงเป็นที่ต้องการ แม้ราคาจะแพงหูฉี่

อยากได้แบรนด์นี้ ต้องซื้อรุ่นไหน! กระเป๋า Chanel 5 ตัวท็อปใช้ได้นาน คุ้มค่าเงิน

ไฮโซเซนต์พร้อมเปย์! ตามใจ มิว-นิษฐา เลือกชุดแต่งงานแบรนด์ดังจากนิวยอร์ก

ขายหมดเกลี้ยง! กระเป๋า Chanel ใบเก่งของ ‘ดัชเชสเคท’ ที่ทรงถือมาตลอด 3 ปี


ที่มา : www.dailymail.co.uk

ภาพ : superrichkidsofficial

วางไทม์ไลน์วันแต่งงานล่วงหน้า ตัดปัญหาพาหัวหมุนในวันจริง!

account_circle

แพรวเวดดิ้งมาชวนคุณเตรียมทำไทม์ไลน์สำหรับ วันแต่งงาน ของคุณกันค่ะ เริ่มกันตั้งแต่ตื่นนอน จนถึงขั้นตอนส่งแขกกลับหลังจากงานเลี้ยงเสร็จสิ้น และถ้าจะให้ดีสุดๆ เราแนะนำให้ชวนคุณว่าที่สามีมานั่งทำด้วยกันเลย เพราะมันมีประโยชน์มากๆ และเรารับรองว่าเมื่อถึงวันนั้นคุณทั้งคู่จะคลายกังวลไปได้มากเลยล่ะค่ะ

 

  • วางไทม์ไลน์ให้ครบถ้วนทุกขั้นตอน แล้วเผื่อเวลา 5-10 นาทีไว้ในแต่ละขั้นตอน เพราะระหว่างนั้นอาจมีอีเวนท์ที่ไม่คาดฝันเข้ามา แค่วางขั้นตอนให้เป๊ะและเผื่อเวลาไว้บ้างเท่านั้นเอง งานนี้นอกจากจะไม่พลาดทุกขั้นตอนของวันสำคัญแล้ว คุณเองก็ไม่ต้องกังวลหรือเครียดกับเรื่องเวลาที่วางไว้อีกด้วย

  • ก่อนวันงาน 2 สัปดาห์ เราแนะนำให้คุณทำลิสท์แขกคนสำคัญให้กับช่างภาพ คุณจะได้มั่นใจว่าโมเม้นท์ในวันสำคัญของคุณกับคนพิเศษเหล่านั้นจะไม่ตกหล่นหายไป และถูกเก็บไว้โดยช่างภาพของคุณ

  • ถ้างานนี้คุณจัดเองโดยไม่พึ่งแพลนเนอร์ คุณควรจัดไทม์ไลน์ในการเตรียมงานในวันนั้นให้เหมาะสม สถานที่จัดงานอนุญาตให้เข้าเตรียมงานได้เทื่อไร ทีมดอกไม้ควรเริ่มและใช้เวลาแค่ไหน ทีมแสงสีเสียงควรเข้าตอนไหน อาหารและเครื่องดื่มควรพร้อมก่อนงานเริ่มสักกี่ชั่วโมง เป็นต้น คุยกับทุกเวนเดอร์ของคุณให้ชัดเจน ทำความใจให้ตรงกันจะได้ไม่เกิดความผิดพลาด ทั้งนี้คุณควรวางไทม์ไลน์ให้รอบคอบเพื่อให้งานของคุณไม่ต้องขาดองค์ประกอบที่สำคัญต่างๆ ไป

  • ใช้เวลาสำหรับเสริมสวยให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในวันสำคัญอย่างนี้เสื้อผ้า หน้า และผมนั้นสำคัญซะยิ่งกว่าอะไรสำหรับคุณเจ้าสาว เพื่อนเจ้าสาวเองก็ต้องทำงานหนักในขั้นตอนนี้ ดังนั้นเราแนะนำว่าอย่าเร่งรีบกับขั้นตอนนี้จนเกินไปนัก เพราะฉะนั้นเริ่มให้ไว เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาทำสวยเยอะๆ

  • อย่าพลาดช็อตสำคัญขณะเตรียมตัวระหว่างขั้นตอนต่างๆ สะกิดช่างภาพกันลืมให้เก็บโมเม้นท์พวกนั้นไว้ ไม่ว่าจะเป็นชุดบ่าว-สาว รองเท้าคู่สวย ของชำร่วย เป็นต้น แล้วอย่าลืมให้ช่างภาพเก็บภาพคุณกับคู่รักยิ้มกว้างๆหลังจากเตรียมตัวเสร็จไว้ด้วย ยิ่งกับสถานที่ที่สวยงามและมีความหมายด้วยแล้ว งานสำคัญแบบนี้ก็ต้องเริ่มต้นด้วยความสดใสสิ จริงไหมคะ

วันแต่งงาน

  • ถ้างานนี้มีเด็กน้อยน่ารักมาเป็นส่วนหนึ่งของงานด้วย คุณต้องแน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการดูแลที่ดี มีสถานที่ให้เด็กๆ ได้พักผ่อน พร้อมขนมนมเนยที่จะทำให้หนูๆ ทั้งหลายสดชื่นและมีพลัง

วันแต่งงาน

  • อย่าลืมใส่ช่วงเวลาในการรับประทานอาหารของคุณและคู่รักลงไปในไทม์ไลน์ช่วงงานเลี้ยงฉลองเชียว จะวุ่นวายหรือซาบซึ้งกินในจนทานอะไรไม่ลงคุณก็ต้องเตือนตัวเองไว้ กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะคะสาวๆ ไม่ทานอะไรแล้วออกไปเต้นรำเปิดฟลอร์นี่อาจจะพาคุณหน้ามืดได้ง่ายๆ เลยน้า

วันแต่งงาน

  • เจรจากับทุกเวนเดอร์ของคุณไว้ก่อน ในกรณีที่งานอาจจะเลทออกไปด้วยหลายๆ ปัจจัย พูดคุยกันให้เข้าใจว่ามันอาจเกิดขึ้นได้และนั่นอาจหมายถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องเพิ่มขึ้นด้วย

>> ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

cr : marthastewardwedding.com

7 คาถามหาเสน่ห์ เสริมความเนื้อหอมแบบไม่ต้องพึ่งน้ำหอม!!

account_circle

ท่องไว้ให้ติดปากกับ คาถามหาเสน่ห์ เสริมความเนื้อหอม

แพรว wedding ได้รวบรวมสารพัด คาถามหาเสน่ห์ มาฝากคุณสาวๆ หรือหนุ่มๆ ไว้ไปเพิ่มเสน่ห์กัน ถ้าพร้อมแล้วจุดธูปจุดเทียน พนมมือไว้ให้พร้อม แล้วเริ่มบริกรรมคาถาได้เลย

ขอเริ่มต้นที่ พระคาถามหาเสน่ห์ ซึ่งเป็นคาถาพุทธคุณ (คุณของพระพุทธเจ้า) ที่จะต้องท่องนะโม 3 จบก่อน แล้วจึงท่องพระคาถาตามดังนี้

พุทโธ จับจิต ธัมโม จับใจ สังโฆ รักใคร่
พุทโธ มามา ธัมโม มามา สังโฆ มามา
นะเมตตา โมเห็นหน้ารักสนิท พุทจับจิต ธามิให้กำจัด
ยะกระหวัดจิต…(ชื่อคนรัก)…รักอย่าละ
ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระนังคัจฉามิ ฯ

เวลาที่จะใช้คาถาพุทธคุณบทนี้ แนะนำให้สวดภาวนาพร้อมกับสีผึ้งทาปากหรือลิปสติกก่อนที่จะไปติดต่อพูดคุย เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้เกิดความรักใคร่เป็นมหานิยมคนรักคนหลงเป็นมหาเสน่ห์ อ่ะๆๆ รู้แบบนี้แล้ว จะค้าขายสร้างอนาคต หรือจะไปพบผู้ใหญ่ขอความรักความเอ็นดูก็อย่ารอช้า ท่องเลย!!

ต่อกันที่เซ็ตคาถามหาเสน่ห์ที่ทำให้เกิดความหลงใหลหรือความปลาบปลื้มใจกันดีกว่า ซึ่งสารพัดคาถาด้านล่างนี้สามารถใช้ได้ทั้งกับสาวโสดหนุ่มหงอย และหนุ่มสาวที่รักกันดีแต่อยากเพิ่มเติมความหวานให้แก่กัน

คาถามหาเสน่ห์ (เจอ) รักแท้

โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง
สะระติจิตตังสะมาเรมะมะเอทิเอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา
พะหูชะนา เอหิ

คาถาแรกนี้จัดมาให้กับบรรดาคนโสดโดยเฉพาะ หากกำลังจะออกไปเจอคนที่หมายปอง แค่ท่องคาถานี้ใส่ลูกอมก่อน เมื่อเจอหน้ากันก็หยิบลูกอมเม็ดนี้มาอม เชื่อกันว่าเขาจะเกิดอาการปิ๊งๆ กลับมาแน่นอน

คาถามนต์รักมหาเสน่ห์

โอม นะ ปะ โร รันนะขุเภติ
พุทธัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา
ธัมมัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา
สังฆัง สะระติ จิตตัง สมาคะมา

ว่ากันว่าคาถาบทนี้จะดีงามก็เมื่อท่องใส่ช่อดอกไม้ที่จะนำไปให้คนที่หมายปอง เพราะเมื่อเขาได้สูดดมกลิ่นหอมเข้าไปจะทำให้หลงเสน่ห์และมอบความรักกลับมา ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นจริงไหม ลองนำไปทำตามกันดูนะจ๊ะ

คาถามหาเสน่ห์อินเลิฟยิ่งกว่าเดิมร้อยเท่า

จันโทอะภกันตะโร
ปิติ ปิโย เทวะมนุสสานัง
อิตภิโยปุริ โส
มะ อะ อุ อุ มะ อะ อิสวาสุ อิกะวิติ

จัดว่าเป็นคาถาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเท่าที่ค้นคว้าข้อมูลมาการันตีเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้แล้วเห็นผลดีมานักต่อนัก เพียงแค่ภาวนาคาถานี้ 3 จบ ก่อนออกไปพบคนที่เราหมายปอง เขาก็จะให้ความรักเรากลับมา อ่ะ…ก็ลองดู!!

คาถาผัวรักผัวหลง

โอม นะจิตตัง เห็นหน้า…(ชื่อ)…รักสนิท
ธาจับจิต ยะจับใจ…(ชื่อ)…นะหลงใหล
จับใจ…(ชื่อ)…ให้มารัก นะโมพุทธายะ

ใครมีคู่แล้วต้องบทนี้ เพราะเชื่อว่าบทนี้จะช่วยทำให้เขาคนนั้นยิ่งรักยิ่งหลง วิธีใช้งานก็ง๊ายง่าย แค่สวดวันละ 3 จบ (แหม…ยังกับกินยาหลังอาหาร 3 มื้อ) ส่วนจะท่องเวลาไหนไม่ว่ากัน ขอให้ท่องทุกวี่วันเขาจะเลิฟเขาจะหลงคุณแน่นอน

คาถาขุนแผนมหาเสน่ห์

คาถาบทนี้ สวดสั้นๆ แต่เจ๋งแน่ๆ “เอหิมะมะ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ” เพราะขึ้นชื่อว่าขุนแผนขนาดนี้ เวลาท่องก็ต้องนึกถึงชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล โดยคาถาบทนี้สามารถใช้ท่องกับของส่วนตัวชิ้นไหนของเราก็ได้ จากนั้นใช้ของชิ้นนั้นซะ เชื่อว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มเสน่ห์

ปิดท้ายคาถาเสริมเสน่ห์เพิ่มความเอ็นดูให้กับบุพการีของแฟนกันดีกว่า เราขอจัดให้ตรงๆ กับ คาถาเอ็นดูมหาเสน่ห์ ที่ว่า

วิชชาจะระณะสัมปันโน อิติปิโสภะคะวา
ปิยะเทวะมนุสสานังปิโยพรหมานะ มุตตะโม
ปิโยนาคะ สุปัณณานัง
ปิณินทะริยัง นะมามิหัง
นะเมตตา โมกรุณา พุทปรานี ธายินดี ยะเอ็นดู

คาถาบทนี้สาวๆ หนุ่มๆ ควรรู้ไว้ติดตัวหรือนำใช้ก่อนออกไปพบผู้หลักผู้ใหญ่จะทำให้ท่านเกิดความรัก ความเอ็นดู หรือจะใช้ตอนที่ต้องเข้าไปพบพ่อ-แม่แฟนที่บ้านก็เลิศไม่น้อย

คาถามหาเสน่ห์ที่ว่ามานี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลนะจ้ะ ถ้าท่องแล้วสบายใจไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำเถอะ แต่สิ่งที่คุณๆ ท่านๆ ทั้งหลายควรทำมากที่สุดคือการดูแลตัวเองให้ดี ประพฤติดีประพฤติชอบ และมอบความรักให้แก่กันด้วยความจริงใจ เพียงแค่นี้ คาถาไหนๆ ก็สู้ไม่ได้แล้วล่ะจ้ะ

แถมให้อีกนิดกับ วิธีการการทำบุญให้เจอคู่แท้

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.goosiam.com, www.rakjung.com, blog.eduzones.com/lunla, horoscope.sanook.com, บทสวดมนต์-คาถา.blogspot.com, board.palungjit.org

4 ข้อผิดพลาดต้องเตรียมการให้ดีเกี่ยวกับการขอแต่งงานที่หนุ่มๆ ควรรู้

account_circle

ยังคงอินกันต่อกับเรื่องราวของการ ขอแต่งงาน อย่างที่เคยบอกกันไปแล้วว่าจะขอสาวแต่งงานทั้งทีก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม เพราะไม่ใช่ทุกคนหรอกนะคะที่จะสมหวัง ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แป้กๆ หนุ่มๆ ก็ควรจะรู้ก่อนว่าอะไรคือข้อผิดพลาดที่ทำให้การขอแต่งงานของคุณล่มไม่เป็นท่า

ขอเธอแต่งงานมือเปล่า

อย่ามีเพียงมือเปล่าไปขอสาวแต่งงานโดยเด็ดขาด จำไว้นะคะว่าผู้หญิงร้อยทั้งร้อยคาดหวังแหวนวงงามพร้อมถ้อยคำขอแต่งงานหวานๆ จากคุณ เพราะมันแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่คุณมีและเป็นเครื่องการันตีว่าคุณไม่ได้มาเล่นๆ

ขอเธอแต่งงานเร็วเกินไป

อย่ามั่นใจในรักระยะสั้น เพราะมันสุ่มเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธเอามากๆ บางทีความรักที่ดูหวานแหวว ณ ปัจจุบันอาจไม่ได้แปลว่าเธอจะตัดสินใจใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับคุณ เชื่อเถอะว่าดูกันไปนานๆ ดีที่สุด หรืออย่างน้อยก็ควรรอสัญญาณดีจากเธอเสียก่อน แล้วค่อยเดินหน้าสานรักแบบเต็มกำลังก็ยังไม่สายเกินไป

ขอเธอแต่งงานต่อหน้าสาธารณชน

ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนหรอกนะคะที่ชอบป่าวประกาศความรักให้คนทั้งโลกรู้ ดังนั้นการเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงานต่อหน้าสาธารณชนจึงเป็นเรื่องที่คุณควรมั่นใจก่อนว่าสาวเจ้าเขาจะโอเค หนุ่มๆ หลายคนคงไม่รู้สินะว่าการอยู่กันสองต่อสองจะทำให้เธอเผยความในใจได้เต็มที่มากกว่า ดังนั้นถ้าอยากดื่มด่ำกับช่วงเวลาแสนหวาน เราขอแนะนำว่าขอกันสองคนก็ดูเอ็กซ์คลูซีฟดีนะคะ

บอกแผนการให้คนอื่นรู้มากเกินไป

การแพร่งพรายถึงแผนการให้คนอื่นรู้มากเกินไปอาจทำให้เรื่องไปถึงหูสาวคนรักของคุณก็ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วมันจะไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพร้ส์สำหรับเธออีกต่อไป อีกทั้งแม่สาวของคุณอาจจะไม่ค่อยปลื้มใจเท่าไหร่นัก ถ้ารู้ว่ามีคนมากมายที่รู้แผนการนี้ เพราะมันดูไม่พิเศษเอาซะเลย

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

8 ไอเดียประหยัดงบตกแต่งงานแต่งงานให้สวยด้วยผ้าโปร่งทั้งผืน

account_circle

เคยมีความคิดหนึ่งแว่บเข้ามาในหัวว่า ถ้าวันหนึ่งได้แต่งงานจะประหยัดงบประมาณในการ ตกแต่งงานแต่งงาน ด้วยการใช้ผ้าชนิดเดียวกัน แบบเดียวกัน ที่ซื้อมาทีละเยอะๆ ในราคาไม่แพงมาตกแต่งให้ทั่วทุกจุด และใช้กับทุกสิ่งเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งมาถึงวันนี้ แม้จะยังไม่ได้แต่ง แต่ไอเดียที่ว่าก็พวยพุ่งจนหาข้อมูลมาได้ว่า ผ้าโปร่งในความคิด ผลิตเป็นชิ้นงานในงานแต่งได้จริงเพียบเลย ว่าแล้วใครจะแต่งงานตอนนี้ ก๊อปปี้ไปใช้ได้เลย ไอเดียทั้งหลายนี้ไม่มีหวง

ใช้เป็นฉากหลังบนเวทีหรือแท่นประกอบพิธี

ห้อยผ้าโปร่งที่ฉากหลังบนเวทีหรือแท่นทำพิธีในงานแต่งงานเอาท์ดอร์ หรือในห้องจัดเลี้ยงได้ทั้งหมด ซึ่งถ้าอยากเพิ่มความมีอะไรก็นำผ้าโปร่งมาจับชั้นทำระบายใส่เลเยอร์ หรือแม้แต่มัดเป็นปมแบบมีดีไซน์ก็กลายเป็นการตกแต่งเก๋ๆ ได้อีกเยอะ แต่ถ้าขยันหน่อยและมีแรงงานช่วย จะวัดขนาดผ้าโปร่งตัดเป็นเส้นๆ ติดไปบนกำแพงให้พลิ้วไหวเวลาต้องลมก็จะได้ภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึกเพียบ

ตกแต่งงานแต่งงาน

ทำเป็นผ้าปูโต๊ะก็ได้

แค่การนำผ้าสีพื้นมาคลุมโต๊ะดินเนอร์หรือโต๊ะทานเลี้ยงแบบ Long Table อาจดูว่าธรรมดาเกินไป คุณอาจนำผ้าโปร่งมาคลุมทับหรือจับจีบแต่งช่วงปลายแล้วทิ้งชายลงข้างโต๊ะ ก็เพิ่มรายละเอียดความสวยงามในงานแต่งได้ไม่เหมือนใคร

จัดผ้าโปร่งมาคลุมเก้าอี้

อีกดีไซน์หนึ่งที่เข้ากันได้ดีและทำตามไม่ยาก คือตัดผ้าโปร่งเป็นชิ้นยาวขนาดพอดีคลุมเก้าอี้ในงาน โดยจะนำมาย้อมสีเข้าธีมก่อนก็ได้ (แต่ต้องชัวร์นะว่าสีไม่ตกและตากแห้งสนิทแน่นอน แบบว่านั่งลงไปไม่มีสีมาติดชุดสวยหรือฝนตกใส่สีไม่ละลายออกมา) คลุมลงไปที่เก้าอี้ทุกตัว โดยให้ความยาวของผ้าทิ้งชายจรดพื้นที่ด้านหน้าและตรงพนักพิง

ใช้ผ้าโปร่งกลบความไม่สวยงามด้านในเต๊นท์

อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะผ้าโปร่งที่ว่านี้สามารถช่วยกลบความไม่สวยที่บริเวณเพดานภายในเต๊นท์ แค่จับผ้าขึ้นด้านบนและขึงแบบทิ้งน้ำหนัก (ตามภาพ) โดยขึงให้ทั่วเพดานปกปิดความไม่สวยในจุดที่ต้องการค่ะ

ทำเป็นพู่ Pom Pom ย้อมสีตกแต่งงาน

ตัดผ้าโปร่งเป็นชิ้นๆ มาเป็นเป็นลูก Pom Pom คละขนาดแล้วย้อมสีแค่ช่วงปลาย จากนั้นนำมาห้อยแขวนเรียงรายกันที่ประดูทางเข้างาน กำแพง ห้อยจากเพดานหรือตกแต่งที่โต๊ะเค้ก สารพัดจุดที่สามารถตกแต่งได้ค่ะ

ง่ายสุดๆ กับการใช้เป็นผ้าม่าน

ไม่ยากสักนิดกับหัวข้อนี้ เพราะแค่วัดขนาดความสูงให้เหมาะแล้วทำเป็นผ้าม่านให้ครบทั้งสี่มุมในบริเวณจุดลงทะเบียน โต๊ะวีไอพี หรือแม้แต่ตรงประตูทางเข้าที่บางฮอลล์จะมีทางเข้าหลายจุด

พันไว้กับช่อดอกไม้เจ้าสาว

จากช่อดอกไม้เจ้าสาวธรรมดาๆ ที่นิยมใช้ริบบิ้นทึบๆ มาพันก้านเอาไว้กันหนามกุหลาบตำมือก็เปลี่ยนมาเป็นการใช้ผ้าโปร่งสีขาวพันแทน แบบนี้เข้าธีมกว่ากันเยอะเลยเห็นไหม

ประกอบใหม่เป็นเครื่องประดับสิ่งต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นกิ๊บติดผมเด็กโปรยดอกไม้นำบ่าวสาวเข้างาน ที่ผูกข้อมือเพื่อนเจ้าสาว ที่ติดหน้าอกเจ้าบ่าวหรือแม้แต่ประดับผมเจ้า แค่ตัดผ้าโปร่งมาจับช่อขึ้นรูปใหม่ติดกิ๊บหรือเข็มกลัดลงไปก็ใช้งานได้แล้วค่ะ

เห็นไหมละคะ ว่าผ้าโปร่งชนิดเดียวกัน ซื้อมาเป็นผืนใหญ่ๆ พับโตๆ คุณก็สามารถประหยัดงบประมาณได้เพียบ แถมยังนำไปตกแต่งได้อีกสารพัดสิ่งในงานเกินคาดหมายจริงๆ ค่ะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

keyboard_arrow_up