“พีท – กันตพร หาญพาณิชย์” กำลังเป็นที่จับตามองในฐานะผู้บริหารไฟแรงแห่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ทั้ง 15 สาขา รวมถึงโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ การันตีความสำเร็จจากรางวัลต่างๆ มากมาย ขณะที่อีกพาร์ตของชีวิต เขาจัดเป็นหนุ่มสายแฟจัดเต็มไอเท็มหายากมามิกซ์แอนด์แมตช์ และยังเป็นนักช้อปตัวยง เรียกว่าจะหายากแค่ไหน ก็ตามเก็บได้หมด

เจาะสไตล์ “พีท – กันตพร” กู๊ดบอยสายแฟ ตัวท็อปแรร์ไอเท็ม

Collaboration ทวีความพิเศษ

“ผมชอบแต่งตัวแนวสตรีท ตั้งแต่แบรนด์ไฮเอนด์ไปจนถึงสตรีทแบรนด์ จากที่เมื่อก่อนสมัยเรียนมัธยมโรงเรียนเซนต์คาเบรียลยังอยู่ในกฎระเบียบของเครื่องแบบและทรงผม ไม่ได้สนใจเรื่องแฟชั่น เพราะยังแต่งตัวได้ไม่มาก พอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เพื่อนๆ รวมถึงตัวผมเริ่มดูแลตัวเองและชอบแต่งตัวมากขึ้น แฟชั่นจึงเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

“จำได้ว่าสมัยเรียนปี 1 แนวสตรีทฮิตมาก เริ่มจากรองเท้า Adidas Yeezy ที่ดีไซน์แปลกตา ทรงสวย ต่างจากรองเท้าในยุคนั้น ทำให้ Yeezy ดังมาก จากนั้นก็มีคู่ฮิตอื่นๆ ออกมาเรื่อยๆ ยิ่งแบรนด์ไฮเอนด์มีการคอลแล็บกับแบรนด์ไฮเอนด์ด้วยกันหรือคอลแล็บกับแบรนด์สตรีท ผมก็ไม่พลาดสักคอลเล็คชั่น รู้ตัวอีกทีตอนนี้มีรองเท้ากว่า 200 คู่ ซึ่งทีแรกผมไม่ได้นับหรอก กระทั่งวันที่เริ่มถ่ายคอนเทนต์ลงยูทูบแล้วลองนับก็รู้สึกตกใจ เดิมคิดว่าหากห้องเต็มไม่มีที่เก็บจะเลิกซื้อ แต่ถึงเวลาจริงก็สร้างห้องเพิ่มครับ (หัวเราะ)

“ต้องบอกว่าเสน่ห์ของการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์แฟชั่นยิ่งทำให้ไอเท็มทวีความหายากมากยิ่งขึ้น เดิมเวลาแบรนด์ต่างๆ ออกรุ่นพิเศษก็ขายหมดตลอดอยู่แล้ว เมื่อคอลแล็บกับแบรนด์สตรีทหรือไฮเอนด์ด้วยกันยิ่งต้องรีบเก็บ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะโคจรมาร่วมงานกันอีก หรือต่อให้มี แต่รูปลักษณ์หรือลายก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี

“ดังนั้นรุ่นที่คอลแล็บกันระหว่างแบรนด์ดัง อย่าง Gucci x Balenciaga, Gucci x Adidas, Fendi x Versace ผมมีแทบจะครบทุกชิ้น หรือ Louis Vuitton x Supreme ผมซื้อเป็นคนแรกๆ ตั้งแต่ของยังไม่ทันวางจำหน่าย หน้าร้านก็ขายเกลี้ยง เรียกว่าปล่อยอะไรออกมาก็ขายหมดตลอด จนบางอย่างที่ผมซื้อไม่ทันหรือหาซื้อไม่ได้ก็ต้องไปไล่หาตามเว็บไซต์ หรือเพจร้านรับหิ้วและร้านรีเซล แม้ราคาจะแพงกว่าในช็อปก็ต้องยอมจ่ายครับ”

3 Favorite Brands

“อันดับหนึ่งผมยกให้ Louis Vuitton ที่ใช้มาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จึงมีไอเท็มของแบรนด์นี้เยอะ ชอบทั้งดีไซน์คลาสสิก จนถึงช่วงหลังมานี้แบรนด์เริ่มปรับดีไซน์ลดอายุลงมา ดูวัยรุ่นขึ้น มีสีสันให้เลือกมากขึ้น สามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์ใส่ได้หลากหลายแนว หากอยากได้ลุคทำงานแบรนด์นี้ก็เหมาะ หรือจะแมตช์ใส่ให้เป็นแนวสตรีทก็ดูเท่ไปอีกแบบ อย่างแจ็กเก็ตที่ผมชอบมาก นานๆ จะมีออกมา ล่าสุดผมซื้อเก็บทั้ง 4 สีเลย

“ต่อมา Gucci หลายคนอาจเคยติดภาพจำว่าดูมีอายุ แต่เดี๋ยวนี้ทั้งสีสันและลวดลายดูวัยรุ่นมากขึ้น และใครที่ชอบแนวสตรีทก็ต้องชอบแบรนด์นี้ ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนั้น

“อีกแบรนด์ไฮเอนด์ที่สายสตรีทอย่างผมไม่พลาดคือ Balenciaga ทีแรกไม่คิดว่าจะชอบ กระทั่งมีรองเท้ารุ่นฮิตที่หลายคนตามหากันอย่าง Triple S ที่ดูหนาและหนักมาก แต่พอใส่แล้วสวย ฟากเสื้อผ้าแม้จะยังไม่ถูกใจลวดลาย แต่ความโอเวอร์ไซส์ของแบรนด์นี้ถูกใจผู้ชายตัวเล็กแบบผมมากๆ”

Zero Depreciation

“อย่างที่บอกว่าความที่ตัวเล็กจึงชอบชุดโอเวอร์ไซส์ ยิ่งเป็นเทรนด์ด้วยยิ่งเหมาะ (ยิ้ม) วิธีการเลือกซื้อก็ไม่มีอะไรมากเลยครับนอกจากความชอบ เห็นแล้วถูกใจก็จัดเลย พยายามจะมีเสื้อผ้าให้หลายสีและหลากแนว เพื่อให้เลือกหยิบใส่ได้ทุกโอกาส ส่วนที่เป็นชิ้นหายากตามซื้อเก็บอยู่แล้วครับ (ยิ้ม)

“เสื้อสตรีทที่สวยในสายตาของผมนอกจากตัวใหญ่ ต้องลายเยอะๆ ดูรกๆ หน่อย ไม่ได้ติดว่าจะต้องเป็นแบรนด์ไฮเอนด์หรือแบรนด์สตรีทที่ดังเท่านั้น แบรนด์สตรีทในประเทศอื่นๆ คนไทยแทบไม่รู้จัก แต่ผมรู้สึกว่าสวยและแปลกดีก็มีเยอะ

“นอกจากรองเท้า ผมยังสะสมนาฬิกา อย่าง Rolex ก็มีหลายรุ่นหายาก แต่เรือนที่นำมาให้ชมครั้งนี้คือแบรนด์ Hublot x Murakami รุ่นลิมิเต็ด มีเพียง 200 เรือนในโลก โดยมีหมายเลขกำกับ ของผมคือ 57 เพราะแบรนด์นาฬิกาเหล่านี้ไม่ค่อยไปแมตช์กับใคร นิยมออกรุ่นหายากของตัวเองมากกว่า เรือนนี้จึงเป็นเรือนโปรดที่สุด ราคาในช็อปกว่าล้านบาท แต่ผมซื้อไม่ทัน จึงต้องตามหาเองนานกว่า 6 เดือน และได้มาในราคา 2 เท่า

“ผมว่าไอเท็มแฟชั่นแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะไฮเอนด์หรือสตรีท ข้อดีคือสามารถส่งต่อง่าย แม้ผมจะชอบซื้อเก็บ ไม่ปล่อยขาย แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าของที่อยู่กับเรามูลค่าไม่หายไป กลับกันบางชิ้นมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า อย่างเสื้อผ้าคอลเล็คชั่นที่ผมซื้อก็มักเป็นชิ้นที่ยังไม่ทันวางขายก็หมดแล้ว แนวสตรีทพวกแจ็กเก็ตถ้าจะขายก็ได้ราคาดี และผมคิดว่ารองเท้ารุ่นหายากขาดทุนน้อย แต่ของทุกอย่างต้องเก็บรักษาอย่างดี ผมจึงติดเครื่องควบคุมความชื้นเพื่อควบคุมอากาศให้พอดี”

มีไว้ก่อน…หาโอกาสทีหลัง

คุณพีทเล่าว่าไอเท็มเด็ดที่มีอยู่หาโอกาสใช้ยากหน่อย เพราะทุกคนจะได้เห็นผู้บริหารสายแฟได้แค่วันเสาร์และวันอาทิตย์

“ในวันทำงานผมแต่งชุดเครื่องแบบของโรงพยาบาลกับชุดสูท เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย อาจมีเข็มขัดแบรนด์นิดหน่อย หรือนาฬิกาที่ใส่ประจำก็เป็น Apple Watch เพราะชอบออกกำลังกาย

“ในยามเร่งด่วนคิดอะไรไม่ออกผมมักจะเลือกแต่งโททัลลุค เพราะง่ายสุด ไม่ต้องคิด แบรนด์เขาคิดมาใหhแล้ว ส่วนใหญ่เป็น Louis Vuitton กับ Gucci

“หลายคนไม่รู้ว่าผมชอบชุดเอี๊ยมด้วย ล่าสุดซื้อของ Prada สวยดี บางทีซื้อมาไม่ได้ใส่หรอก เก็บไว้ในตู้ก่อน เดี๋ยวค่อยหาโอกาสหยิบมาใช้ในอนาคต

“ตั้งแต่มีแก้มบุ๋ม (คุณปรียาดา สิทธาไชย) เข้ามาในชีวิต ผมเริ่มทำรายการในยูทูบ ทำให้สนุกและมีโอกาสได้แต่งตัวมากขึ้น รวมถึงมีคนสนุกกับการแต่งตัวไปด้วยกัน แม้เขาจะไม่ค่อยชอบแต่งแบรนด์ เนื่องจากปกติใส่เสื้อผ้าไม่ซ้ำ อะไรที่ผมซื้อให้เขาก็ใส่แค่ครั้งเดียว แต่บอกว่าจะเก็บไว้อย่างดี (ยิ้ม) บางทีผมนึกสนุกซื้อแบบที่ผมชอบมาใส่คู่กับเขา โดยไม่ได้ถามเขาหรอกนะว่าชอบไหม (หัวเราะ)

“ผมว่านอกจากแฟชั่นจะสร้างสีสันให้ชีวิตประจำวันแล้ว การที่มีใครมาสนุกกับการแต่งตัวไปด้วยกันก็เติมเต็มชีวิตมากยิ่งขึ้นครับ”

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 992

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ