กลศาสตร์เสนี

เปิดครั้งแรก! บ้านสวยสุดหรู + สวนอลังการของครอบครัว “กลศาสตร์เสนี” 

Alternative Textaccount_circle
กลศาสตร์เสนี
กลศาสตร์เสนี

แพรว ถือเป็นสื่อแรกที่ได้เปิดบ้านสวย…สวนอลังการของครอบครัว “กลศาสตร์เสนี” โดยมีสมาชิกคนสำคัญคอยต้อนรับอย่างอบอุ่น คุณปืน – วินท์รดิศ กลศาสตร์เสนี General Manager, Direct-to-Consumer, Taiwan, Hong Kong & Southeast Asia The Walt Disney Company (Southeast Asia) เคียงข้างด้วยศรีภรรยาคนสวย คุณแอ๊นท์ – กาญจน์ชนิตา กลศาสตร์เสนี ที่ห่างหายไปจากแวดวงสังคม เพราะต้องติดตามสามีไปทำงานที่ต่างประเทศ วันนี้เธอยังคงความสวยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมด้วยลูกชาย น้องธาม – ธามชวินท์ กลศาสตร์เสนี วัย 6 ขวบ

เปิดครั้งแรก! บ้านสวยสุดหรู + สวนอลังการของครอบครัว “กลศาสตร์เสนี”

Classic Modern Style

ระหว่างรอน้องธามกลับจากโรงเรียน คุณปืนและคุณแอ๊นท์พาเราทัวร์บ้านที่เพิ่งจัดปาร์ตี้ขึ้นบ้านใหม่เมื่อไม่นานมานี้ คุณปืนเล่าให้ฟังว่า

“เราซื้อบ้านหลังนี้เก็บไว้หลายปีแล้ว ตอนนั้นพยายามหาบ้านที่อยู่ในโลเกชั่นที่ตอบโจทย์ทั้งผมและแอ๊นท์ คือต้องไม่ไกลจากบ้านคุณพ่อคุณแม่ของเรา ซึ่งโครงการ Grand Bangkok Boulevard ราชพฤกษ์ – จรัญฯ ตอบโจทย์ที่สุดในเวลานั้น

กลศาสตร์เสนี

“บ้านเราถือเป็นบ้านหลังแรกในเฟส 2 ของโครงการนี้ ดูครั้งแรกก็ชอบเลย ด้วยดีไซน์และด้านหน้าบ้านติดกับสวน จึงตัดสินใจจองตั้งแต่วันแรกที่เปิดโครงการ ส่วนเรื่องการตกแต่งภายในใช้เวลาเกือบ 2 ปี จึงจะจบเรื่องแบบ เพราะความที่ผมเดินทางเดือนละหลายทริป ทำให้ไม่มีเวลาสรุปเรื่องอินทีเรียร์ดีไซน์

“กระทั่งปี 2020 เราปักหมุดว่าคงต้องลดการเดินทางและงานที่ต่างประเทศ (บริษัท Discovery Inc. ที่อังกฤษ) แล้วกลับมาอยู่บ้าน จึงเป็นที่มาของการพูดคุยกับอินทีเรียร์ดีไซเนอร์อย่างจริงจัง แม้เราสองคนชอบการตกแต่งหลายสไตล์ แต่สุดท้ายก็สรุปจบกันที่สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก เมื่อแบบจบแล้ว ใช้เวลาอีกหนึ่งปีในการตกแต่งภายใน โดยเลือก Ka-RiT Design”

กลศาสตร์เสนี

Furniture Stories

คุณแอ๊นท์รับหน้าที่เป็นแม่งานในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในบ้าน

“ด้วยนิสัยเราสองคนเวลาเดินทางไปไหนมักจะซื้อของแต่งบ้านเก็บไว้ตลอด และโชคดีที่ชอบอะไรเหมือนกัน ทำให้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในบ้านมีสตอรี่ทุกชิ้น อย่างแชนเดอเลียร์สีชมพูในห้องนอน ปืนได้มาตอนไปทำงานที่มิลาน แอ๊นท์จึงฝากเขาเลือกดูแชนเดอเลียร์สำหรับตกแต่งห้องนอน เขาก็ตรงไปที่ช็อปของแบรนด์มูราโนที่เวนิส เห็นชิ้นนี้ก็ตัดสินใจซื้อเลย รวมทั้งแชนเดอเลียร์อื่นๆ ในบ้านก็มาจากช็อปมูราโนหลายชิ้น

กลศาสตร์เสนี

“ขอเล่าถึงห้องนอนต่อเลยนะคะ เรายกหน้าที่วางคอนเซ็ปต์ให้อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ แต่ขอเลือกเฟอร์นิเจอร์เอง อย่างเตียงนอนพยายามหาหลายที่มาก ปืนชอบเตียงหลังนี้ แต่ก็แอบลังเล เพราะลายฉลุเยอะ การทำความสะอาดค่อนข้างยาก จึงคิดที่จะสั่งทำ โดยมีเรเฟอเรนซ์จากต่างประเทศ ปรากฏว่าหาช่างทำให้ไม่ได้ จึงลองหาจากร้านที่นำเข้าเตียงจากต่างประเทศ แต่ติดปัญหาคือสินค้าหมด นำเข้าไม่ได้ สุดท้ายก็มาจบที่เตียงที่ปืนเลือกไว้ตั้งแต่แรก

กลศาสตร์เสนี

“ส่วนวอลล์เปเปอร์แอ๊นท์สั่งทำเป็นลายดอกไม้ ไหนจะแชนเดอเลียร์สีชมพูอีก เรียกว่ามีความเป็นแอ๊นท์มาก (หัวเราะ) รู้สึกเกรงใจสามีจนต้องถามเขาว่า ปืนจะนอนในห้องที่มีแต่สีชมพูได้จริงไหม พอเขาตอบว่าได้ เราก็โอเค ขอบคุณนะคะ” (ยิ้มมีความสุข)

กลศาสตร์เสนี

เราสังเกตเห็นว่าทุกมุมของบ้านมีโมเดลสตาร์ วอร์ส และซูเปอร์ฮีโร่ ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นของใคร

“ถือเป็นความชอบส่วนตัวครับ ผมเป็นแฟนหนังพวกนี้มาตั้งแต่เด็ก ถึงขั้นเคยตั้งชื่อบริษัทตามชื่อของคาแร็กเตอร์สตาร์ วอร์ส ผมพยายามซื้อเก็บมาเรื่อยๆ แต่ความที่ผมต้องย้ายไปทำงานหลายประเทศ จึงไม่มีที่เก็บอย่างจริงจัง กระจายอยู่ตามบ้านต่างๆ ในหลายประเทศ ประกอบกับตอนนี้ผมได้ทำงานกับ The Walt Disney Company พอดี เหมือนความฝันกับงานมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว จึงสร้างห้องสำหรับเก็บโมเดลที่สะสม และทำแท่นสำหรับวางโมเดลไว้ในมุมต่างๆ ของบ้าน”

กลศาสตร์เสนี

ความมีสตอรี่ของเฟอร์นิเจอร์บ้านนี้ยังไม่จบนะคะ คุณแอ๊นท์เล่าให้ แพรว ฟังต่อว่า

“เฟอร์นิเจอร์ชิ้นแรกๆ ที่ซื้อคือโต๊ะอาหาร เป็นหินเอกโซติกสีดำจากประเทศบราซิล ซื้อมาในราคา 3 แสนบาท ถูกใจตรงลวดลายของหินที่คล้ายกับมังกร ถ้าวางแนวตั้งจะเห็นได้อย่างชัดเจน สำหรับเก้าอี้สั่งทำพิเศษ โดยมีเรเฟอเรนซ์ให้ช่าง ขอย่อส่วนลายฉลุด้านหลังให้ซอฟต์ลง 50 เปอร์เซ็นต์ แล้วทาด้วยสีทองเฉดอ่อนๆ เบาๆ สำหรับผ้าบุแอ๊นท์เลือกลายเองจาก PASAYA คือเราใช้เวลาในการทำการบ้านเยอะมาก”

กลศาสตร์เสนี

สำหรับห้องนั่งเล่นชั้นบนก็มีดีเทลไม่แพ้กัน ต้องส่งต่อให้เจ้าของไอเดียคือคุณปืนช่วยเล่าต่อ

“ผมมองว่าชั้นล่างเป็นสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกแล้ว ห้องนั่งเล่นข้างบนจึงอยากได้สไตล์สแกนดิเนเวียน เพราะคุณพ่อเคยเป็นทูตในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ผมจึงซึมซับความชอบนี้มาด้วย โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์เป็นไม้สีอ่อน ให้ความรู้สึกอบอุ่น

“อีกมุมหนึ่งที่ผมกับแอ๊นท์ชอบตรงกันคือโคมไฟตรงบันได นำเข้ามาจากประเทศตุรกี คือถ้ามองหาแชนเดอเลียร์ที่ไม่ใช่แนวคลาสสิก โคมไฟตุรกีถือว่าเป็นที่สุด แรกๆ เราไปหาตามจตุจักร พอจะติดต่อซื้อ คนขายบอกว่าหมดแล้ว ผมจึงพยายามหาช่องทางออนไลน์ จนเจอแบบที่ชอบจากร้านในตุรกี แล้วสามารถคัสตอมไมซ์สีและแบบได้ เราเลือกแบบที่มี 40 โป๊ะ ซึ่งลิงก์กับรูปภาพตรงกำแพงที่เป็นภาพสามมิติ ได้จากตุรกีเหมือนกัน”

ปิดท้ายทริปออนทัวร์พื้นที่ภายในบ้านด้วยห้องของน้องธาม มีทั้งหมด 2 ห้องที่ยังคงความเป็นคัสตอมไมซ์ไม่แพ้กัน โดยคุณแอ๊นท์บอกว่า

“ห้องนอนของน้องธาม เราตกแต่งจากความชอบของเขาเป็นหลัก แทบทุกอย่างเราสั่งเป็นคัสตอมไมซ์ ตั้งแต่วอลล์เปเปอร์ที่เป็นรูปอวกาศ เตียงทรงรถเฟอร์รารี่ขนาด 6 ฟุต เผื่อพ่อแม่ลงไปนอนกับเขาด้วย จึงต้องสั่งนำเข้า เพราะเมืองไทยมีแค่ไซส์ 3 ฟุตครึ่ง ความพิเศษของเตียงนี้คือมีไฟและลำโพงในตัว สามารถเปิดเพลงฟังได้

กลศาสตร์เสนี

“ส่วนห้อง Play Room เราเน้นดีไซน์ของตู้ต่างๆ ที่ได้ไอเดียจากต่างประเทศ ห้องนี้กว่าจะลงตัวต้องใช้เวลา เพราะเราร่วมลงรายละเอียดกับอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ ตั้งแต่ช่องเก็บของต้องเป็นแบบนี้ ไซส์และสีโทนอย่างนี้ หรือเบาะต้องเป็นแบบที่สามารถนั่งและนอนอ่านหนังสือได้ด้วย”

กลศาสตร์เสนี

Majestic Garden

ไฮไลต์ของบ้านนี้คือสวน คุณแอ๊นท์บอกว่าสวนนี้เกิดขึ้นจากความชอบที่ไม่เหมือนกันของทั้งคู่

“คุณปืนมีความใฝ่ฝันเรื่องต้นบอนไซมานานแล้ว ถ้ามีบ้านเขาอยากจะทำเป็นสวนบอนไซ ส่วนแอ๊นท์ชอบสวนดอกไม้ที่มีหลากสีสัน สไตล์ English Garden แล้วเราสองคนก็ดีไซน์กันว่าพื้นที่ตรงไหนจะเหมาะสม พอสรุปได้แล้วจึงนัดคุยกับนักจัดสวนของ Little Garden ที่สามารถเลือกดอกไม้ได้ถูกใจมาก ตอนแรก

ตั้งใจให้เป็นดอกไม้จากต่างประเทศทั้งหมด แต่ด้วยสภาพอากาศและแสงแดดจึงต้องสลับด้วยต้นพันธุ์ไทยบ้าง เพื่อให้เขาอยู่ได้ยาวๆ”

กลศาสตร์เสนี

เจ้าของสวนบอนไซที่จัดวางเรียงเป็นชั้นๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ต้น ขอเสริมข้อมูลว่า

“สมัยเด็กผมเรียนอยู่ที่อเมริกา คุณพ่อชอบพาไปแคมป์ตามอุทยานแห่งชาติ อยู่ท่ามกลางต้นไม้แต่ละต้นที่อายุเป็นร้อยปี ทำให้ผมมีความผูกพันกับธรรมชาติมาก ผสมกับความชอบในวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ทำให้ผมหลงรักความอ่อนช้อยของบอนไซ ซึ่งเป็นการย่อส่วนต้นไม้ใหญ่ที่ผมเคยเห็นให้อยู่ในกระถางเล็กๆ แบบนี้

“วันไหนทำงานวุ่น พอกลับมาบ้านแล้วนั่งดูต้นบอนไซ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย จิตใจสงบ และขณะเดียวกันการดูแลก็ค่อนข้างยาก ต้องน้ำถึง ปุ๋ยถึง ใบจึงจะออกมาสวย ผมตั้งใจจะทำหน้าที่บำรุงต่อไป เพื่อส่งต่อให้รุ่นลูกดูแล ซึ่งแต่ละต้นของที่บ้านมีอายุไม่ต่ำกว่า 80 ปี ราคาสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 70,000 – 80,000 บาท”

โซนสวนหลังบ้านก็มีเรื่องราวไม่แพ้กัน “ต้องบอกก่อนว่าโซนนี้มีความปืน ไม่ใช่ความแอ๊นท์นะคะ (หัวเราะ) คุณปืนมีสเป็กว่าต้องทำเป็นน้ำตกอย่างนี้ เป็นธรรมชาติ มีพวกมอสส์และเฟินเกาะ ไม่ใช่นำหินมาแบบที่เห็นทั่วไป และต้องติดเครื่องผลิตหมอกอีกด้วย ปืนยังรีเควสต์อีกว่าต้องมีอ่างจากุซซี่เอ๊าต์ดอร์สำหรับนอนแช่น้ำดูน้ำตก ซึ่งดูแลรักษายากมาก ใบไม้ร่วงใส่ตลอด ต้องคอยเก็บ ทำให้ต้องสั่งทำกันสาดที่พับเก็บได้มาเพิ่ม แต่สุดท้ายพ่อลูกก็ได้ใช้จริงนะคะ นอนแช่น้ำดูไอแพ็ดกัน หรือเวลาเพื่อนของลูกมาเที่ยวที่บ้านก็จัดปาร์ตี้โฟมให้เขาได้เล่นกัน

กลศาสตร์เสนี

“สำหรับกลาสเฮ้าส์หลังนี้ก็เป็นความปืนอีกค่ะ (หัวเราะ) คือแรกๆ เราฝันอยากมีกลาสเฮ้าส์ในบ้าน ประมาณสีขาวๆ ธรรมดา สำหรับนั่งจิบน้ำชายามบ่าย ไม่คิดว่าจะอลังการเหมือนอยู่ในรีสอร์ตที่เขาใหญ่อย่างนี้ เริ่มจากปืนเลือกแบบกลาสเฮ้าส์ ซึ่งไม่เคยเห็นสีขาวแบบนี้ในเมืองไทย ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศด้วยน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัม เพราะส่งมาพร้อมกับกระจก

กลศาสตร์เสนี

“เมื่อมาถึงก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดอีก เราต้องให้ช่างทำฐานรากวางเสาเข็มและหาช่างประกอบติดตั้งสำหรับกลาสเฮ้าส์ ระหว่างนั้นก็สั่งโคมไฟจากต่างประเทศเพื่อให้แมตช์กัน พอติดตั้งกลาสเฮ้าส์เรียบร้อยก็ต้องทำพื้นขึ้นมาใหม่ให้เป็นขาวดำแบบในหนังพีเรียดของฝรั่งเศส โดยทำจากหินแกรนิตสีดำ แล้วนำมาเบลนด์กับหินเทียมขาว เพราะหินแกรนิตธรรมชาติไม่มีสีขาวล้วน จากนั้นต้องขัดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็พบว่าข้างในร้อนมาก ต้องติดม่านไฟฟ้าบังแดดที่ด้านบน แต่ก็ยังไม่หายร้อน จึงต้องติดฟิล์มที่กระจกทุกบาน เมื่อเสร็จแล้วหายเหนื่อยเลยค่ะ เราได้ใช้ทุกส่วนของบ้าน จริงๆ ตอนที่ชวนพี่ๆ เพื่อนๆ มาปาร์ตี้เปิดบ้านใหม่ เรายังย้ำว่าไม่ต้องเอาอะไรมานะคะ เพราะบ้านเต็มหมดแล้วค่ะ (หัวเราะ)


ที่มา : นิตยสารแพรว 989

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Praew Recommend

keyboard_arrow_up