ความงดงามของอัญมณีหายาก ผนวกเข้ากับกลไกซับซ้อนของนาฬิกาแบรนด์หรู กลายเป็น High Jewelry Watch อันวิจิตรงดงาม เป็นที่ต้องการของนักลงทุนและผู้ที่ชอบความพิเศษ หนึ่งในนั้นคือ ดร.เน้น – ฐิติพร สถาวรมณี เจ้าของแบรนด์ Sette เครื่องประดับหรูสัญชาติไทยสไตล์อิตาเลียน
คลังแรร์ไอเท็ม! ไฮจิเวลรี่และนาฬิกาหรูของ “ดร.เน้น – ฐิติพร สถาวรมณี”
แซปไฟร์…เกินห้ามใจ
คุณเน้นเล่าถึงที่มาความชอบสะสมเครื่องประดับที่ได้รับการถ่ายทอดจากคุณแม่ (คุณสุจิตรา สงวนปิยะพันธ์) ก่อนจะอธิบายถึงชิ้นพิเศษต่างๆ ที่คัดมาให้ แพรว ชมว่า
“เน้นโชคดีค่ะ นอกจากครอบครัวทำธุรกิจขายเพชรพลอย ป.กวง คุณแม่ท่าน ยังชอบของหายาก เริ่มสะสมเพชรพลอยตั้งแต่อายุ 17 ต้น ๆ แล้วออกแบบให้เป็น เครื่องประดับเซตต่าง ๆ ทำให้ลูก ๆ รวมถึงเน้นได้รับของขวัญเป็นมรดกสวย ๆ ตาม เทศกาลสำคัญ จากชิ้นเล็กชิ้นน้อยสู่ชิ้นใหญ่ขึ้นตามวัยและวาระ ไม่นับการอ้อนขอเพิ่มจากคุณแม่เวลาที่ช่วยท่านจัดของ (หัวเราะ)
“มีหลายชิ้นที่คุณแม่ทำเพื่อใส่ออกงานและเป็นมรดกไว้ให้ลูก ๆ แต่ครั้งนี้คัด มาเฉพาะชิ้นพิเศษ อย่างจี้มรกต 26 กะรัต ถือว่าเป็นมรกตธรรมชาติจากโคลอมเบีย ที่ขนาดใหญ่มากและสีเขียวสดสวยงาม ราคากว่า 5 ล้านบาท ปัจจุบันในท้องตลาด เหลือน้อยแล้ว คุณแม่เลือกดีไซน์ให้เป็นจี้แบบคลิปหนีบ เพื่อให้สามารถเปลี่ยนไปแมตช์กับสร้อยคอรูปแบบต่าง ๆ หรือจะดัดแปลงนำมาเป็นเข็มกลัดก็ได้ วันนี้เน้น เลือกแมตช์กับโช้กเกอร์ทองคำขาว 18k ให้ลุคเรียบหรู แต่ถ้าอยากได้ลุคที่หรูหรา มากขึ้นเพื่อออกงาน อาจใส่กับสร้อยคอที่มีลักษณะเหมือนโซ่ประดับเพชร ความยาว ระดับกึ่งกลางหน้าอก ได้ทั้งความโก้และเซ็กซี่นิด ๆ ชิ้นนี้คุณแม่ยังไม่ได้ยกให้ เป็นกองกลางของครอบครัวไว้ใส่ออกงานด้วยกันก่อน

“อีกชิ้นที่เน้นชอบและเป็นชิ้นที่ซื้อเองในปีนี้เลยคือทัวร์มาลีน (Tourmaline) ที่เป็นตระกูลพลอยมีหลากสีหลายชื่อ อย่างสีชมพูเข้มถึงสีแดงจะเรียกว่ารูเบลไลต์ (Rubellite) สีเขียวเรียกพาราอิบา (Paraiba) และอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งสีที่หายาก ที่สุดคือทัวร์มาลีนสีเข้มในทุกเฉด ซึ่งกว่าจะหาพลอยที่มีขนาด สี และความบริสุทธิ์ ใกล้เคียงกันถือเป็นเรื่องยาก ใช้เวลาสะสมพลอยชุดนี้ประมาณ 2 ปี ก่อนจะนำมา ประกอบเป็นสร้อยคอ โดยเจียระไนพลอยเป็นรูปครึ่งวงกลมแบบโดมด้วยฝีมือ ช่างชาวเยอรมัน นอกจากความสวยหายากนี้ เน้นยังเชื่อในความหมายมงคลในสีต่าง ๆ ของพลอยด้วย ซึ่งสร้อยเส้นนี้ประกอบด้วยพลอยหลากสี จึงยิ่งทรงพลังในการขจัด ความชั่วร้ายและนำความรุ่งเรืองให้แก่ผู้ที่สวมใส่ (ยิ้ม)

“ไฮไลต์ที่สุดคงต้องยกให้ชุดแฟนซีแซปไฟร์ (Fancy Sapphire) ที่คุณแม่ ให้เน้นเป็นของขวัญวันแต่งงาน มีทั้งสร้อย ต่างหู และแหวน ความพิเศษอยู่ที่ ความหลากหลายของสีสันของพลอยแซปไฟร์ อาทิ สีฟ้าอ่อน สีชมพูอ่อน สีม่วงอ่อน สีเหลือง จนถึงสีออกโทนเขียว ที่สำคัญเป็นสีธรรมชาติ ไม่ผ่านการเผาเพื่อปรับปรุงสี คนโบราณเชื่อว่าเป็นหินที่มาจากฟ้า ผู้สวมใส่จะมีพลังชีวิตที่สดใส ปัจจุบันจะหา แซปไฟร์สีธรรมชาติที่สวย มีความใส บริสุทธิ์ไม่มีตำหนิแบบนี้ ถือว่าหายากมากค่ะ
“คุณแม่ท่านใช้เวลาประมาณ 3 – 5 ปีตามหาซื้อพลอยจากแอฟริกาใต้จนครบ 22 เม็ด แล้วประกอบเป็นเครื่องประดับชุดนี้ ซึ่งพลอยแต่ละเม็ดน้ำบริสุทธิ์มาก และมีขนาดใหญ่ ท่านจึงออกแบบให้ชูความโดดเด่นสดใสของพลอย แล้วล้อมเพชร 2 ชั้น คือนอกจากความยากของการคัดเลือกขนาดและคุณภาพความใสของพลอย ให้เท่ากันทุกเม็ด ยังต้องคัดขนาดและสีของเพชรที่ใช้จำนวนเยอะให้เท่ากันทั้งหมด อีกด้วย เป็นของขวัญที่เป็นตัวแทนความรู้สึกของคุณแม่…เน้นรักมากค่ะเส้นนี้” (ยิ้ม)

Patek Philippe ความประทับใจแรก
“นอกจากเพชรพลอย คุณแม่ยังชอบเรื่องกลไกนาฬิกา โดยเฉพาะพวก เรือนพิเศษที่ตกแต่งด้วยอัญมณีหายาก แบรนด์แรก ๆ ที่ท่านสะสมคือ Patek Philippe ส่วนหนึ่งเพราะท่านรู้จักกับผู้นำเข้าด้วย จึงมีโอกาสเรียนรู้และได้รุ่นดี ๆ เน้นเองก็รู้สึกผูกพันกับแบรนด์นี้ เพราะคุณแม่พาไปเลือกซื้อด้วยกัน ท่านสอนว่า นอกจากนาฬิกาจะเป็นเครื่องบอกเวลาที่แสดงรสนิยมแล้ว ยังให้ผลตอบแทนที่ดี ในแง่การลงทุน จากราคาที่ซื้อไว้ เห็นได้ชัดเจนว่าปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นมาก ด้วยจุดเด่น ของแบรนด์ที่ไม่ได้มีแค่ความหรูหรา ยังมีความซับซ้อนของกลไกที่เป็นเอกลักษณ์ มีฟังก์ชั่นเยอะ ต้องใช้เทคนิคเฉพาะของช่างยอดฝีมือ เรียกว่าสวยนอก เก่งใน เป็นเสน่ห์ที่ทำให้เน้นหลงรักปาเต็ก ฟิลิปป์ ตอบโจทย์คติประจำใจของเน้นด้วยว่า ผู้หญิงต้องสวยทั้งจากภายนอกและมีความเก่งอยู่ภายใน (ยิ้ม)
“นาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์ เรือนแรกเน้นได้เป็นของขวัญจากคุณพ่อตอนท่าน ฉลองอายุครบ 6 รอบ ท่านแก่กว่าคุณแม่ 1 ปี เป็น Patek Philippe Gondolo Golden Jubilee of Thailand กรอบหน้าปัดโรสโกลด์ 18k ผลิตพิเศษในโอกาส ในหลวงรัชกาลที่ 9 ฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี ปี 1996 โดยได้อัญเชิญ พระปรมาภิไธยย่อ ภปร และมหามงกุฎประดับไว้บนหน้าปัด ผลิตออกมาจำนวนจำกัด เพียง 300 เรือนเท่านั้น โชคดีที่บ้านเรารู้จักกับผู้จัดจำหน่ายปาเต็ก ฟิลิปป์ จึง มีโอกาสสั่งจองถึง 2 เรือน นอกจากด้านหลังตัวเรือนสลักตราสัญลักษณ์กาญจนาภิเษก ยังระบุเลขที่สั่งจองไว้ด้วย คุณแม่เลือกเลขที่ 197 ท่านเชื่อว่าเป็นเลขแห่งความ สำเร็จรุ่งโรจน์ คิดการงานใดมักจะประสบผลสำเร็จ กับอีกเบอร์ที่อยู่ติดกันคือ 196 ปัจจุบันราคาขายในตลาดอยู่ที่ประมาณ 1,200,000 บาท แต่ของเน้นพิเศษกว่านั้น เพราะยังซีลพลาสติกเรียบร้อย ไม่เคยใช้งาน แถมยังมีใบรับรองจากโรงงาน (Certificate of Origin) ครบถ้วน ถือว่าหายากมากค่ะ
“ปีถัดมาเน้นได้นาฬิกาประดับอัญมณีเรือนแรกมาจากคุณแม่คือ Patek Philippe Ladies Twenty-4 Rose Gold ราคากว่า 5 ล้านบาท ใช้ระบบไขลาน แบบดั้งเดิม (Mechanical Manually Wound Movement) ซึ่งนักสะสมนาฬิกา ตัวจริงจะรู้ว่าคลาสสิกมาก ใช้ในการผลิตนาฬิกายุคแรก ๆ และไม่ผลิตออกมาอีกแล้ว ซึ่งคุณแม่ให้เน้นตอนฉลองอายุครบ 6 รอบ หรือ 72 ปี ที่ถือว่าเป็นวันเกิดสำคัญ สำหรับชาวจีน วันนั้นเน้นให้เงินคุณแม่เป็นธรรมเนียมเล็กน้อย แต่เทียบไม่ได้กับ ของขวัญเลยค่ะ

“อีกเรือนที่ชอบมาก เพราะเป็นเรือนแรกที่เน้นซื้อเองสมัยไปเที่ยวประเทศออสเตรียกับสามี (คุณศรายุทธ สถาวรมณี) เมื่อ 7 ปีที่แล้ว วันนั้นเดินผ่านหน้าร้าน เห็นมีรุ่นยอดนิยมหลายเรือนจึงเข้าไปขอชมและสอบถามราคา 2 – 3 เรือน ซึ่งปกติ รุ่นพิเศษพวกนี้ไม่ใช่ว่าจะสามารถซื้อได้ง่าย ๆ เพราะส่วนใหญ่ต้องต่อคิวสั่งจอง หรือต้องซื้อรุ่นอื่น ๆ สะสมยอดก่อน ทีแรกลังเล เลือกไม่ถูกระหว่างรุ่น Patek Philippe Nautilus Ladies Automatic หน้าปัดสีเงิน (Silver Opaline) กรอบ หน้าปัดประดับเพชร 56 เม็ด ตัวเรือนทำจากสเตนเลส เป็นระบบอัตโนมัติที่ไม่ต้อง ใช้แบต ถ้าไม่ได้ใช้นาน ๆ เวลานำมาใส่ก็แค่เขย่าเล็กน้อย กับรุ่น Aquanaut 5269 หน้าปัดประดับเพชร กรอบหน้าปัดโรสโกลด์ ระบบควอร์ต (Quart) ที่จะต้องดูแล มากกว่า ถ้าไม่ได้ใช้นาน ๆ จะต้องคอยเปลี่ยนแบต เน้นรู้สึกว่าสีโรสโกลด์เหมาะกับ สีผิว ใส่แล้วดูสวยและชอบมากกว่า ราคาตอนนั้นไม่ได้ต่างกันมาก เรือนหนึ่งใส่แล้วสวย ส่วนอีกเรือนก็เป็นที่ต้องการมาก จะเสียเงินทั้งทีเลือกแบบไหนดี จึงโทร. ปรึกษาคุณแม่ ท่านแนะนำให้ซื้อรุ่น Nautilus เพราะกลไกการทำงานของนาฬิกา ในอนาคตจะยิ่งหายากและราคาขึ้นแน่นอน เน้นเชื่อคุณแม่ ตัดสินใจซื้อมาในราคา 1.06 ล้านบาท ถือเป็นของขวัญที่ซื้อให้ตัวเองชิ้นใหญ่ชิ้นแรกและมีคุณค่าทางจิตใจ และยังเป็นการช็อปปิ้งครั้งที่ประทับใจที่สุดด้วยค่ะ

“ช่วงหลังเน้นเริ่มสนใจแบรนด์ Audemars Piguet ที่นักสะสมนาฬิกาต้องมี ไว้ในลิสต์ ความจริงเน้นชอบมานานแล้ว แต่หารุ่นที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้ จนมาเจอ Vintage Gold รุ่น Royal Oak ของคุณแม่ ทีแรกท่านไม่ยกให้ เพราะเป็นเรือนโปรด เน้นตามตื๊อเดือนกว่า ทำทีเข้าไปปรึกษาอยากจะซื้อนาฬิกา AP บ้าง เอ่ยถามถึงบ้างว่าแม่ไม่ได้ใช้ใช่ไหม เน้นขอยืมมาใส่ก่อนนะ จนท่านใจอ่อน (หัวเราะ) ที่ชอบเรือนนี้มากเพราะเป็นรุ่นออริจินัลหรือรุ่นทดลอง ผลิตปี 1979 ดีไซน์คลาสสิก ผ่านมากว่า 40 ปีก็ยังไม่ล้าสมัย ปัจจุบันยังคงเป็นต้นแบบในการผลิตให้กับรุ่นอื่น ๆ รูปทรงของนาฬิกาเวลาสวมใส่ ใครเห็นก็ต้องรู้เลยว่า AP เพราะเป็นนาฬิกาสปอร์ตหรู หน้าปัดทรงแปดเหลี่ยมประดับนอต เป็นไอคอนิกคอคเล็คชั่นของแบรนด์”

Piaget ความหรูหราของทองคำผสานเพชร
“นอกจากปาเต็ก ฟิลิปป์ อีกแบรนด์ที่คุณแม่ติดตามเก็บสะสมคือเพียเจต์ เรือนที่เน้นเลือกมาวันนี้เป็นรุ่น Classic Gold Watch คุณแม่มอบให้เน้นวันที่ คลอดลูกคนแรก เหมือนเป็นการรับขวัญหลานด้วย มีความพิเศษมาก นอกจาก ตัวเรือนทำจากทอง 18k ประดับเพชรทั้งหน้าปัดและสายนาฬิกา มีความยากในการ คัดไซส์เพชรให้เท่ากันทุกเม็ด และแสดงถึงความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือด้วย
“สำหรับเน้น แบรนด์เพียเจต์ให้ลุคภูมิฐานและเป็นทางการ ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา สง่างาม เป็นเอกลักษณ์ อย่างเรือนนี้ Piaget Vintage Gold Watch คุณแม่มอบ ให้ตอนมีลูกคนที่สอง ตัวเรือนทองคำ 18k ใช้วิธีการทำแบบดั้งเดิมและกลไกนาฬิกา ด้านในบางเป็นพิเศษ ถือเป็นนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์เช่นกัน
“ส่วนเรือนนี้ Piaget Double Logo Retailed by Asprey คุณแม่ให้เป็น ของขวัญวันเกิดอายุ 40 ปี หลังจากที่คุณแม่เห็นว่าเน้นชื่นชอบแบรนด์เพียเจต์ ด้วย เป็นรุ่นพิเศษประทับ 2 โลโก้ที่แบรนด์เพียเจต์ผลิตเฉพาะขายที่ Asprey เป็นร้านจิเวลรี่เก่าแก่ชื่อดังบนถนน Bond Street ของประเทศอังกฤษ ร้านนี้ เป็นตำนานระดับที่ว่าแบรนด์หรูมากมายต่างมาสร้างสรรค์คอลเล็คชั่นร่วมกัน”

Chopard เรือนเดียวในเอเชีย
คุณเน้นเล่าว่า ความรู้สึกทั้งหมดที่เล่ามายังไม่เท่าความชอบ ที่คุณแม่และเธอมีให้กับ Chopard เพราะความน่ารักของดีไซน์ เอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ จึงได้รับการคัดเลือกให้มาอยู่ใน ช่วงเวลาสำคัญของชีวิต
“เน้นเริ่มชอบโชพาร์ดจริงจังตอนที่คุณแม่ ให้จี้รูปหัวใจพร้อมสร้อย Happy Diamonds เป็นของขวัญตอน รับปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นของขวัญที่มีราคาค่อนข้างสูง สำหรับเน้นที่ตอนนั้นอายุ 21 ปี ประทับใจในดีไซน์น่ารัก กรอบ หัวใจสีเหลืองทอง 18k ล้อมเพชรและมีเพชร ‘ลอย’ เคลื่อนไหว ได้อย่างอิสระอยู่ด้านใน 5 เม็ดระหว่างกระจกแซปไฟร์คริสตัล 2 ชิ้นที่เป็นเทคโนโลยีพิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ เห็นแล้วรู้สึกมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ความที่ชอบเครื่องประดับ รูปหัวใจเป็นทุนเดิม และคุณแม่ยังตั้งใจสื่อถึงลูก ๆ 5 คน จี้เส้นนี้ จึงมีความหมายพิเศษและคุณค่าทางใจมาก

“นอกจากจี้ คุณแม่ยังให้นาฬิกา Chopard Watch รุ่น Happy Diamonds Oval Quartz Gold ตัวเรือนขนาดกำลังดี สำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน ไม่อลังการเกินไป ด้วยความเรียบง่าย ทว่าดูหรูหราของดีไซน์ ทำให้นาฬิกาของโชพาร์ดคอลเล็คชั่นนี้ เป็นที่นิยมมาก พอถึงตอนรับปริญญาเอกด้านศาสตร์แห่งผู้บริโภค จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน คุณแม่ก็ให้โชพาร์ดเป็นของขวัญเช่นกัน เป็นรุ่น Imperile Chronograph 18k Gold & Diamond Lady’s Wristwatch มีความพิเศษที่สามารถจับเวลาได้ พร้อมเอกลักษณ์ 3 หน้าปัดย่อยสำหรับบอกวินาที นาที และชั่วโมงของการจับเวลา
“ส่วนเรือนพิเศษที่เน้นรักมาก คุณแม่ให้เป็นของขวัญ วันแต่งงาน เป็นรุ่น La Strada Pink Diamonds Yellow and White Gold ท่านได้มาตอนที่แบรนด์จัดงานที่ประเทศไทย ความพิเศษอยู่ที่ตรงกลางสายนาฬิกาประดับเพชรทรงบาแก็ตต์หรือ สี่เหลี่ยมผืนผ้า (Baguette Cut) ที่มีการคัดสีและไซส์ของเพชร ใกล้เคียงกันชนิดที่แทบจะเหมือนกันเลยทุกเม็ด ในหมู่คนทำอัญมณี เป็นที่รู้กันว่าเมื่อเพชรบาแก็ตต์ไปปรากฏอยู่บนเครื่องประดับ อะไรก็ตามจะมีมูลค่าสูงขึ้นมาก ความยากที่ท้าทายฝีมือของ ช่างจิเวลรี่คือการจัดเรียงเพชรบาแก็ตต์ให้โค้งรับกับตัวเรือน และ ด้านหลังมีเลขที่ผลิตนาฬิกา ของเน้นประทับเลข 1 กำกับ เพราะ ผลิตขึ้นมาเป็นเรือนแรก และรุ่นนี้เน้นเป็นเจ้าของเรือนเดียวในเอเชียค่ะ (ยิ้ม)

“ความที่อยู่ในธุรกิจจิเวลรี่จึงมีความรู้เป็นพิเศษเกี่ยวกับ เรื่องอัญมณี ความหายากและคุณค่าที่แตกต่างกันของพลอย แต่ละชนิด เช่นเดียวกันกับการเลือกซื้อนาฬิกาที่ต้องศึกษาเรื่อง รายละเอียดและกลไกซึ่งเป็นปัจจัยส่งผลต่อมูลค่าเพิ่มในอนาคต การเลือกซื้อแบบมีความรู้จะช่วยในการตัดสินใจได้ถูกต้องค่ะ”
ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 988
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ