Royal Update

‘เจ้าฟ้าหญิงเลโอนอร์’ เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส มกุฎราชกุมารีแห่งสเปน พระธิดาองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเป้ที่ 6 และสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน โดยในปีนี้เจ้าหญิงเลโอนอร์ทรงมีพระชันษา 16 ปี และทรงเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลมูลนิธิ Princess of Girona หลังกลับมาที่สเปน เมื่อจบปีการศึกษาที่โรงเรียนประจำ UWC Atlantic College ในเมือง Galés ซึ่งเป็นปีที่สามที่เจ้าหญิงได้เข้าร่วมงานมอบรางวัลให้กับหนุ่มสาวที่มีความโดดเด่นในอาชีพที่ยอดเยี่ยม โดยจัดขึ้นมายาวนานถึง 13 ปีแล้ว สวยสะพรั่งในวัยเจริญชันษา “Leonor Princess” ว่าที่กษัตริย์แห่งสเปน สำหรับปีที่แล้วเจ้าหญิงเลโอนอร์ปรากฏตัวในงานด้วยชุดเดรสสีแดงที่ดูเรียบง่าย แต่ยังคงความสวยสง่า และต่อมาในปีนี้เธอเผยโฉมด้วยชุด Light Blue Musia Dress เปิดไหล่เปลือย ดูหรูหราของแบรนด์ Miphai ในราคาเพียง 195 ยูโร หรือประมาณ 7,000 บาท แมตช์กับ Sky Blue Earrings ทองคำขาวประดับเพชรแวววาว เสริมลุคด้วย Slingback Pumps ส้นเข็มสีนูดจากแบรนด์ Carolinaherrera ทำให้เปล่งปลั่งดูมีออร่า […]

ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงปรากฏพระองค์พร้อมกับความสง่างาม ในงาน Wimbledon tennis championships ซึ่งในปีนี้ Kate Middleton เลือกสวมเดรสสีฟ้าทรงวินเทจลาย Polkadot จากแบรนด์ Alessandra Rich ในราคา 1,515 ยูโร หรือประมาณ 55,700 บาท แมตช์กับพระกุณฑลที่โดดเด่นเป็นต่างหูประดับมุก เสริมออร่าอันทรงเสน่ห์ด้วยรองเท้าส้นสูงแบบรัดส้นสีขาวของ Alessandra Rich เช่นกัน และกระเป๋าถือ Mulberry สีขาวที่เข้ากับชุดนี้ ปิดท้ายด้วยแว่นตา finlayandco กรอบลายกระสไตล์วินเทจ สมถะเยี่ยงสามัญชน ดัชเชสเคทใส่เดรสซ้ำ ตามรอยเจ้าหญิงไดอาน่า ดัชเชสเคท ยังเคยเผยโฉมในชุดเดรสสีฟ้าทรงวินเทจลาย Polkadot ตัวเดิมนี้ ต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในระหว่างการเฉลิมฉลองช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของ Platinum Jubilee ซึ่งการปรากฏพระวรกายของเธอในครั้งนั้น แสดงให้เห็นว่าพระองค์ยังคงใช้ชีวิตอย่างสมถะเยี่ยงสามัญชน และถือเป็นการเซอร์ไพรส์ประชาชนด้วยการเข้าร่วมปาร์ตี้ริมถนน ใน Kensington London ราคาชุดขนาดนี้ แต่ใส่ซ้ำหลายครั้ง ถือว่าใช้ได้คุ้มค่า คุ้มราคาจริงๆ ในปีนี้ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ ยังได้ดีไซน์ชุดเดรสจากแบรนด์ Alessandra […]

โมเมนต์หวานหาดูยากของ เจ้าชายวิลเลียม-ดัชเชสเคท ที่แสดงความรักต่อกันอย่างนุ่มนวลด้วยการกอดกันเบาๆ และ ทักทายกันอย่างหวานชื่นท่ามกลางงานแข่งขันโปโล โมเมนต์หวานหาดูยากของ เจ้าชายวิลเลียม-ดัชเชสเคท ในงานโปโล นานๆ ทีจะเห็น เจ้าชายวิลเลียม และ ดัชเชสเคท ในพระอิริยาบถเหมือนคู่แต่งงานทั่วไป งานนี้ทำเอาแฟนๆราชวงศ์ถึงกับต้องอมยิ้ม เพราะโดยปกติแล้วทั้งสองพระองค์มักจะเสด็จไปงานที่เป็นทางการ เราจึงมักได้เห็นลุคที่สง่างาม และดูภูมิฐานของ ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เสมอ สำหรับ โมเม้นต์อันแสนหวานนี้เกิดขึ้นที่งานโปโล ทั้งสองพระองค์ทรงเดินโอบกันด้วยท่าทีสบายๆ ดูผ่อนคลาย ทักทายกันแบบ CHEEK TO CHEEK (แก้มชนแก้ม) ทั้งนี้ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ได้เข้าร่วมเป็นแขกรับเชิญสำหรับงาน Royal Charity Polo Cup ซึ่งการแข่งขันม้าในครั้งนี้ คาดว่าจะระดมทุนได้ 1 ล้านปอนด์สำหรับองค์กรการกุศลที่ทั้งสองพระองค์สนับสนุน อาทิ London’s Air Ambulance Charity, องค์กรไร้บ้าน The Passage และ บ้านพักเด็ก East Anglia ในขณะที่การแข่งขันกำลังดำเนินไปนั้น ช่างภาพยังได้จับภาพของดัชเชสเคทขณะกำลังจิบ Pimm และ ทรงลูบหัวสุนัขอย่างอ่อนโยน สำหรับลุคในวันนี้ของดัชเชสเคทก็ดูเรียบแต่โก้ พระองค์ทรงสวมเดรสสีขาวคาดเข็มขัดจาก […]

สเปนเซอร์ เทียร่า หนึ่งในมงกุฎที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงโปรดปรานที่สุด อีกทั้งยังเป็นมงกุฎที่พระองค์ทรงเลือกใส่ในพิธีอภิเษกสมรส แต่รู้หรือไม่หลังจากที่เจ้าหญิงไดอาน่าสิ้นพระชนม์ เทียร่าอันล้ำค่านี้ตกอยู่ที่ใคร? หลังเจ้าหญิงไดอาน่า สิ้นพระชนม์ รู้หรือไม่ สเปนเซอร์ เทียร่า ตกอยู่ที่ใคร? สเปนเซอร์ เทียร่า มงกุฎอันเก่าแก่ที่อยู่คู่กับตระกูลสเปนเซอร์มาหลายทศวรรษ และเป็นมงกุฎที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงโปรดปรานไม่แพ้ Love Knot อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 25 ปีที่แล้ว มงกุฎองค์นี้ก็ไม่ถูกพบเห็นบ่อยในที่สาธารณะ สำหรับ สเปนเซอร์ เทียร่า เป็นมงกุฎที่ประดับเพชรหลากหลายรูปทรงไม่ว่าจะเป็น ทรงลูกแพร์ ทรงกลม โรส คัท และ คุชชั่น คัท ตัวมงกุฎมีลักษณะเป็นรูปดาว และ Trumpet-shaped Flower (ทองอุไร) ขณะที่ช่วงด้านหน้ากลางมงกุฎถูกดีไซน์ให้มีลักษณะเป็นรูปหัวใจ มงกุฎองค์นี้ถูกสร้างขึ้นโดย  Garrard ในช่วงทศวรรษที่ 1930  ทั้งนี้มีการกล่าวว่า ที่เจ้าหญิงไดอาน่าทรงเลือกที่จะใส่ สเปนเซอร์ เทียร์ร่า ในวันสำคัญของพระองค์ นับว่าเป็นการให้เกียรติตระกูลสเปนเซอร์ที่ได้เข้าร่วมในพิธีอภิเษกสมรส ปัจจุบัน สเปนเซอร์ เทียร์ร่า ยังคงเป็นมรดกตกทอดของตระกูลสเปนเซอร์ และเคยถูกสวมใส่โดย ซีเลีย […]

ความน่ารัก และความสดใสของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระธิดาในดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์นั้น ทำเอาใครหลายคนต่างตกหลุมรัก จนถอนตัวไม่ขึ้น ยิ่งเห็นพระองค์เติบโตขึ้นทุกวัน ความน่ารักก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น ครั้งที่เจ้าชายหลุยส์ พระอนุชา ของพระองค์ประสูติ ได้มีภาพอันประทับใจออกมาให้พวกเราเห็นถึงสายสัมพันธ์ความรักของพี่น้อง แต่นอกจากความน่ารักและมีเสน่ห์ที่เราเห็นแล้ว สิ่งหนึ่งที่หากใครลองสังเกตุ คือ พระองค์ยังมีพระพักตร์ละม้ายคล้ายกับราชวงศ์ท่านอื่นๆ อีกด้วย โดยเฉพาะ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ถอดแบบมาเป๊ะ! เทียบภาพ ควีนเอลิซาเบธ – เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เหมือนกันไม่มีผิด ประเดิมด้วยภาพแรก พระพักตร์ของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์นั้น ถึงแม้ว่าจะมีพระชันษาที่ต่างกันมากจาก พระปัยยิกา (ย่าทวด) สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แต่พระพักตร์ก็ถอดแบบออกมาเป๊ะ ทั้งตา และทรงจมูก ที่เหมือนกันมาก นอกจากพระองค์จะพระพักตร์คล้ายกันแล้ว ยังมีท่าทางที่เหมือนกันอีกด้วย โดยภาพซ้ายเป็นพระบรมฉายาลักษณ์วัยเด็กของ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ในปี 1930 และภาพขวาคือ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์เมื่อครั้งเสด็จไปเยือนแคนาดาในปี 2016 โครงหน้าและรอยพระสรวล เมื่อเทียบด้านหน้าแล้ว เหมือนกันอย่างกับแกะไม่มีผิด ภาพในวัยเด็กของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อ พระชนมพรรษา […]

เจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอร์ พระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ ที่ 5 และสมเด็จพระราชินีซอนยา แห่งนอร์เวย์ เป็นรัชทายาทลำดับที่ 4 ของราชวงศ์นอร์เวย์ พระองค์พบรักใหม่กับ ดิวเรค เวอร์เรตต์ ชาวอเมริกัน โดยเปิดเผยความสัมพันธ์ผ่านอินสตาแกรมในปี 2562 ซึ่งจะเห็นทั้งคู่เติมความรัก ด้วยการทำกิจกรรมร่วมกันสม่ำเสมอ ทลายกฎราชวงศ์ เจ้าหญิงมาร์ธา แห่งนอร์เวย์ หมั้นกับนักจิตวิญญาณ เป็นที่รู้กันว่า เจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอร์ ทรงสนพระทัยเรื่องการฝึกจิต เพราะเธอเชื่อว่า ตนเองมีความสามารถทางจิตสัมผัส สามารถสื่อสารกับเหล่าฑูตวิญญาณได้ ยามว่างเธอมักจะฝึกบำบัดจิตอยู่เสมอ จนได้มาเจอกับดิวเรค แวร์เรตต์ วัย 47 ปี ที่มีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์เหมือนกัน หรือที่ใครๆ รู้จักในชื่อ ‘ชามานดิวเรค’ เนื่องจากเขาเป็นชามานรุ่นที่ 6 หรือที่เรียกว่า นักปฏิบัติทางจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นคนดังคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรื่องความเชื่อกับสิ่งที่มองไม่เห็น และเป็นผู้เขียนหนังสือ Spirit Hacking ที่ติดอันดับเป็นหนังสือขายดีในสหรัฐฯ แม้ทั้งคู่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องความไม่เหมาะสมของการคบหากัน ตามสื่อออนไลน์ต่างมีคำถามว่า “เจ้าหญิงจะรักกับหมอผีได้อย่างไร” แต่เธอไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้น เพราะเธอเลือกคนรักจากความรัก และเธอคิดว่า […]

แม้จะเจอกระแสวิพากษ์ วิจารณ์แต่ เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ก็มิได้หวั่น เดินทางกลับอังกฤษพร้อมกับ เจ้าชายแฮร์รี่เพื่อมาร่วมงาน พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี  (Platinum Jubilee) เมินคำวิจารณ์ “เมแกน มาร์เคิล” กลับอังกฤษครั้งแรก หลัง Megxit เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ได้เสด็จไปร่วมงาน Trooping the Color ณ พระราชวังบัคกิงแฮม โดยทั้งสองไม่ได้เสด็จออกหน้าสีหบัญชรร่วมกับสมาชิกราชวงศ์องค์อื่นๆ ทั้งนี้ ดัชเชสเมแกนถูกจับภาพได้ขณะยืนชมพิธีสวนสนามของทหาร ที่หน้าต่างบานหนึ่ง ขณะกำลังกำลังหยอกล้อ อย่างสนุกสนาน กับ มีอา อิสลา และ สะวันนาห์ ลูกสาวของ ปีเตอร์ และ ออทัมน์ ฟิลลิปส์ พระธิดาใน เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี อย่างไรก็ตาม นี่ยังเป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกของ เจ้าชายแฮร์รี่ และ ดัชเชสเมแกน รวมถึงเป็นครั้งแรกที่ดัชเชสแห่งซัสเซกส์กลับมาเยือนอังกฤษอีกครั้ง หลังถอยออกจากการเป็นสมาชิกระดับสูง (Megxit) […]

ทำความรู้จัก เจ้าหญิงลัลลา คาดิจา แห่งโมร็อกโก ผู้ได้ฉายา ‘Princess of Hearts’ การประสูติของพระองค์นั้นเป็นสาเหตุให้พระบิดา สมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 แห่งโมร็อกโก พระราชทานอภัยโทษนักโทษเกือบ 9,000 คน เจ้าหญิงลัลลา คาดิจา ทรงเป็นพระธิดาใน สมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 และ เจ้าหญิงลัลลา ซัลมา แห่งโมร็อกโก ในตอนที่พระองค์ประสูติเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2550 นั้นเรียกได้ว่ามีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ Princess of Hearts แห่งโมร็อกโก เจ้าหญิงลัลลา ผู้ปลดปล่อยนักโทษ 9 พันคน สมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 ทรงต้อนรับเจ้าหญิงพระองค์น้อยด้วยการยิงสลุต 21 นัด และประทานสินค้าฟุ่มเฟือยให้เป็นของขวัญกับเด็กหญิงทุกคนที่เกิดวันเดียวกับพระธิดา ขณะที่ชาวโมร็อกโกทั่วประเทศต่างออกมาแสดงความยินดี และลงนามถวายพระพรเจ้าหญิงลัลลาในสมุดอวยพรสีทองที่ถูกจัดไว้ให้ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ วันประสูติของ เจ้าหญิงลัลลายังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6 ทรงพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวนักโทษเป็นจำนวน 8,836 คน และลดโทษจำคุกนักโทษอีก […]

หลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดนั้นเริ่มเบาบางลง ในปีนี้การเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี ครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก็จะมีการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง และในปีนี้ก็เป็นครั้งแรกที่พระองค์จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร โดยที่ไม่มีเจ้าชายฟิลิปป์ ดยุกแห่งเอดินบะระ และ สมาชิกราชวงศ์ บางพระองค์ เคียงข้างพระวรกายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

พระองค์เจ้านโรดม พงสุริยา แห่งประเทศกัมพูชา เจ้าหญิงเจน Z ราชวงศ์รุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะ “จีน” ว่าทรง “พรั่งพรูไปด้วยความงามและสติปัญญา” หลังจากที่ สำนักราชวังกัมพูชาได้เผยแพร่ภาพ พระองค์เจ้านโรดม พงสุริยา ขณะทรงสวมชุดครุย พร้อมกับในพระหัตถ์ที่ทรงถือปริญญาบัตร อีกทั้งยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยในกรุงปักกิ่ง ทันทีที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไป พระองค์เจ้านโรดม พงสุริยา ก็ได้รับการพูดถึงในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะชาวเน็ตแดนมังกรที่ต่างชื่นชม และยกย่องให้พระองค์ทรงเป็น “เจ้าหญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งของโลก” การที่พระองค์ทรงเลือกเรียน และจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศจีน กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีราชวงศ์เพียงไม่กี่พระองค์ในโลกที่เลือกศึกษาต่อในประเทศจีน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเลือกเรียนที่ประเทศในยุโรปเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามมีชาวเน็ตหลายคนวิเคราะห์ว่า นี่อาจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการเมืองของกัมพูชา ในการมุ่งกระชับความสัมพันธ์กับประเทศจีน กล่าวกันว่า พระมหาวีรกษัตรีย์นโรดม มุนีนาถ สีหนุ พระวรราชมารดา พระอัยยิกาของพระองค์เจ้านโรดม ทรงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศจีนมานานหลายทศวรรษ ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปประเทศจีนทุกปี และในปี 2018 ทรงประทับอยู่ในกรุงปักกิ่งกับพระโอรส พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี  ซึ่งประธานาธิบดีสีจิ้นผิง และ เผิง ลี่หยวน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ก็เคยเป็นพระราชอาคันตุกะยังที่ประทับแปรพระราชฐานส่วนพระองค์ในเกาะเตียวหยูอีกด้วย […]

รอยร้าวความบาดหมางที่เกิดขึ้นหลังจากการลาออกจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ไม่ใช่แค่เกิดแรงสั่นสะเทือนภายในราชวงศ์เท่านั้น แต่ยังทำให้ทั่วโลกต่างจับตามองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ทั้งคู่ได้ไปออกรายการทอล์คโชว์ของ โอปราห์ วินฟรีย์ จนเกิดราม่าเรื่องการแบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว

การประสูติของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ได้เปลี่ยนประวัติศาสตร์การสืบทอดราชบัลลังก์ในการปกครองของราชวงศ์อังกฤษ และทลายประเพณีและกฎเกณฑ์โบราณของราชวงศ์ไปอย่างสิ้นเชิง! นับตั้งแต่ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระธิดาในเจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงประสูติ ดูเหมือนว่าปริ้นเซสองค์น้อยวัย 6 ชันษาจะโดดเด่น และทรงมีอิทธิพล กลายเป็นขวัญใจของคนทั่วโลกไม่แพ้ พระมารดา (ดัชเชสเคท) พระอัยยิกา (เจ้าหญิงไดอาน่า) และ พระปัยยิกา (ควีนเอลิซาเบธที่ 2) เลยทีเดียว ที่กล่าวเช่นนั้นก็เพราะ เพียงแค่เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ปรากฎพระวรกายต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล เซ็นต์ เจมส์ ก็เกิดปรากฎการณ์ตามล่าหาชุดที่เหมือนเจ้าหญิงองค์น้อยใส่กันยกใหญ่ หรือจะเป็นฉลองพระองค์เดรสสุดน่ารักที่ใส่มาอวดโฉมในงานสำคัญต่างๆ ก็ขายดี ขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่นาที เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ได้กลายเป็นไอคอนตัวจิ๋วของราชวงศ์ที่สร้างเม็ดเงินมูลค่าแสนล้านให้กับประเทศ การประสูติของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เปลี่ยนประวัติศาสตร์การปกครองของ ราชวงศ์ อันที่จริงแล้วอิทธิพลของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงแค่นั้น อย่างที่ทราบกันดีว่า ราชวงศ์อังกฤษยึดมั่นในประเพณีและกฎเกณฑ์โบราณ ซึ่งกำหนดมานานแล้วว่าใครจะได้รับตำแหน่งหรือมีบทบาทอย่างไรในการปกครอง แต่ทว่าการเปลี่ยนแปลงระบบการสืบทอดราชบัลลังก์ในการปกครองของราชวงศ์อังกฤษล่าสุด ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนตุลาคม 2554 นั้น เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ได้ทรงเปลี่ยนประวัติศาสตร์การขึ้นครองราชย์ของราชวงศ์อังกฤษ โดยทรงเป็นรัชทายาทหญิงพระองค์แรก ที่รักษาลำดับสืบสันตติวงศ์ไว้ได้ โดยไม่ต้องทรงถูกลดขั้นลงเมื่อทรงมีพระอนุชา ซึ่งแต่เดิมนั้นตามกฎการสืบสันตติวงศ์อังกฤษ มีกำหนดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1701 […]

พบกับ เจ้าชายไฮน์ริช โดนาทุส วัย 27 ชันษา แห่งราชวงศ์เยอรมัน ผู้ทรงหล่อเหลา แถมยังจิตใจดี ทรงเป็นอาสาสมัครร่วมกับ Interhelp เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่เมืองเมดีกา ชายแดนโปแลนด์ นาทีนานาประเทศต่างซัพพอร์ตประเทศยูเครน หลายภาคส่วนให้การช่วยเหลือประชากรยูเครนจากการถูกรุกรานจากรัสเซีย โดยเฉพาะผู้ลี้ภัยที่ต้องหนีออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน หล่อเหลา จิตใจดี เจ้าชายไฮน์ริช โดนาทุส แนวหน้าช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยูเครน หนึ่งในนั้นที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจอย่างเต็มที่คือ เจ้าชายไฮน์ริช โดนาทุส ทรงร่วมเป็นแนวหน้าในการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Interhelp เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในเมืองเมดีกา ซึ่งเป็น 1 ใน 3 จุดผ่านแดนหลักจากยูเครนเข้าสู่ โปแลนด์ ไม่เพียงเจ้าชายไฮน์ริช จะทรงประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนให้ผู้คนมาช่วยเหลือชาวยูเครนแล้ว พระองค์ยังทรงมอบรถพยาบาลที่มีอุปกรณ์ครบครันพร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที ซึ่งรถพยาบาลคันนี้ถูกนำไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่เดินทางมาถึงเมืองเมดีกา ทั้งนี้มีรายงานว่าองค์กร Interhelp ได้ช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กราว 25 คน ในที่นี้รวมแม่และหนูน้อย Lev วัย 3 สัปดาห์ ซึ่งลืมตาดูโลกได้เพียง 1 สัปดาห์ก่อนการบุกรุก ตามรายงานของสื่ออังกฤษเผย เจ้าชายไฮน์ริชตรัสว่า ได้ทรงมอบรถบัสให้กองกำลังแพทย์ของยูเครน เพื่อมุ่งหน้าไปช่วยเหลือชาวยูเครนที่ยังติดอยู่ในกรุงเคียฟ […]

เป็นประจำทุกปีของชาวคริสต์ที่จะร่วมกันเฉลิมฉลองในวันนักบุญแพทริก รวมถึงราชวงศ์อังกฤษเช่นกัน ซึ่งในทุกครั้งก็จะมีการปรากฏตัวของเหล่าสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ

ถึงจะไม่เห็น คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ออกงานสำคัญเท่า ดัชเชสเคท แต่ทุกครั้งที่คามิลลาปรากฏตัวเธอก็มักสวมเครื่องประดับสุดหรูของราชวงศ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ แหวนหมั้น ที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์คุกเข่าขอเธอแต่งงาน ไม่รู้ที่มา! แหวนหมั้นของ คามิลลา ว่าที่ราชินีอังกฤษ วงที่ชาร์ลส์คุกเข่าขอแต่งงาน ย้อนกลับไปในปี 2005 ภายหลังจากที่ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลล์ทรงสิ้นพระชนม์ในปี 1997 แปดปีให้หลังจากนั้น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และ คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ ก็ได้ประกาศว่าทั้งคู่หมั้นหมายเป็นที่เรียบร้อย โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงแถลงการณ์อย่างเป็นทางการด้วยความตื่นเต้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2005 ว่า “คามิลลา และ ข้าพเจ้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง วันนี้เป็นวันที่น่าจดจำสำหรับครอบครัวของเรา” แม้จะไม่มีใครรู้รายละเอียดต่างๆ ของงานหมั้นในครั้งนั้น แต่คามิลลาได้เคยเปิดเผยว่า “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์คุกเข่าเพื่อขอเธอแต่งงานตามธรรมเนียม” ทั้งนี้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ยังได้มอบแหวนเพชรอันล้ำค่าที่สุดวงหนึ่งให้กับ คามิลลา แม้จะไม่ได้มีรายละเอียดว่าแหวนวงนี้ได้มาจากไหน แต่ Clarence House (กองงานในเจ้าชายแห่งเวลส์) ได้ยืนยันเพียงแค่ว่า “แหวนเป็นมรดกตกทอดของราชวงศ์” สำหรับแหวนเพชรวงนี้มีดีไซน์แบบ อาร์ตเดคโค ตัวแหวนทำจากแพลทินัม ฝังด้วยเพชรน้ำงาม 5 กะรัตที่เจียระไรแบบ […]

“เจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ” ทรงถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการพัฒนาผ้าไทยจากสีย้อมธรรมชาติเพื่อความยั่งยืนในงานเสวนาวิชาการ “การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล”  ที่จังหวัดมหาสารคาม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมผ้าทอในแต่ละท้องถิ่น พร้อมพัฒนาต่อยอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยองค์ความรู้ใหม่ซึ่งบรรจุอยู่ในหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย หรือ  THAI TEXTILES TREND BOOK Spring/Summer 2022 เล่มแรกที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดทำขึ้น โดยทรงรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการบริหาร ทรงค้นคว้าองค์ความรู้ และควบคุมการผลิตทุกขั้นตอนด้วยพระองค์เอง ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ต่อเนื่องมาถึงเล่มที่ 2 THAI TEXTILES TREND BOOK Autumn/Winter 2022-2023 ในการนี้ได้เสด็จไปทรงเปิดงาน “THAI TEXTILES TREND BOOK Autumn/Winter 2022-2023 และงานเสวนาวิชาการ” ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ ศูนย์บริการวิชาการ  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2564 พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการ และทรงเป็นประธานในงานเสวนาวิชาการ ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร เมื่อวันก่อน และเพื่อเป็นการแบ่งปันองค์ความรู้ดังกล่าวให้แก่นักศึกษา ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมสิ่งทอ แฟชั่น และงานดีไซน์ ในระดับภูมิภาค ได้ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผ้าไทย จึงมีการจัดงานเสวนาวิชาการหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย เล่มที่ 2 Thai Textiles Trend Book Autunm/Winter 2022-2023 ณ จังหวัดมหาสารคาม โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเป็นประธานงานเสวนาวิชาการ “การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล” พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย โดย 12 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชั้นนำ รวมถึงการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ผลิตภัณฑ์จากโครงการศิลปาชีพ […]

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตั้งพระทัยที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อรักษาสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ โดยเฉพาะศิลปหัตถกรรมผ้าทอในแต่ละท้องถิ่น

พบกับ 3 กษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในดินแดนน้ำมัน ซึ่งแต่ละพระองค์มาจากประเทศไหนกันบ้าง และมีทรัพย์สมบัติมากมายเพียงใด แพรวลิสต์มาให้คุณๆ ได้ดูกันค่ะ เป็นประจำทุกปีที่จะมีการจัดอันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดโลก หรือรวยที่สุดในประเทศ ขณะเดียวกันยังมีการจัดอันดับกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลกด้วย หากดูจากการจัดอันดับนั้นจะพบว่า ผู้ที่ติด Top 5 มาจากประเทศที่อุดมไปด้วยบ่อน้ำมันถึง 3 พระองค์อย่างประเทศ บรูไน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ซาอุดอาระเบีย ซึ่งทั้งสามพระองค์นั้นจะเป็นใครกันบ้าง ใครรวยที่สุด และ มีทรัพย์สินมากเพียงใด เชิญชม… พบกับ 3 กษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในดินแดนน้ำมัน องค์ไหนมาวินคว้าอันดับ 1 ไปครอง สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน อันดับ 1 กษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในดินแดนน้ำมันของลิสต์นี้คือ สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ พระองค์ทรงมีทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 28,000 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ รายได้ส่วนใหญ่ของพระองค์นั้นมาจาก อุตสาหกรรมปิโตรเลียม และ น้ำมันสำรอง ความร่ำรวยของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ จัดว่าไม่ธรรมดา พระองค์ทรงมีพระราชวังขนาดใหญ่ ซึ่งมีที่จอดรถถึง 800 คัน ภายในมีห้องต่างๆ […]