Royal Update

การประสูติของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ได้เปลี่ยนประวัติศาสตร์การสืบทอดราชบัลลังก์ในการปกครองของราชวงศ์อังกฤษ และทลายประเพณีและกฎเกณฑ์โบราณของราชวงศ์ไปอย่างสิ้นเชิง! นับตั้งแต่ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระธิดาในเจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงประสูติ ดูเหมือนว่าปริ้นเซสองค์น้อยวัย 6 ชันษาจะโดดเด่น และทรงมีอิทธิพล กลายเป็นขวัญใจของคนทั่วโลกไม่แพ้ พระมารดา (ดัชเชสเคท) พระอัยยิกา (เจ้าหญิงไดอาน่า) และ พระปัยยิกา (ควีนเอลิซาเบธที่ 2) เลยทีเดียว ที่กล่าวเช่นนั้นก็เพราะ เพียงแค่เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ปรากฎพระวรกายต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล เซ็นต์ เจมส์ ก็เกิดปรากฎการณ์ตามล่าหาชุดที่เหมือนเจ้าหญิงองค์น้อยใส่กันยกใหญ่ หรือจะเป็นฉลองพระองค์เดรสสุดน่ารักที่ใส่มาอวดโฉมในงานสำคัญต่างๆ ก็ขายดี ขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่นาที เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ได้กลายเป็นไอคอนตัวจิ๋วของราชวงศ์ที่สร้างเม็ดเงินมูลค่าแสนล้านให้กับประเทศ การประสูติของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เปลี่ยนประวัติศาสตร์การปกครองของ ราชวงศ์ อันที่จริงแล้วอิทธิพลของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงแค่นั้น อย่างที่ทราบกันดีว่า ราชวงศ์อังกฤษยึดมั่นในประเพณีและกฎเกณฑ์โบราณ ซึ่งกำหนดมานานแล้วว่าใครจะได้รับตำแหน่งหรือมีบทบาทอย่างไรในการปกครอง แต่ทว่าการเปลี่ยนแปลงระบบการสืบทอดราชบัลลังก์ในการปกครองของราชวงศ์อังกฤษล่าสุด ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนตุลาคม 2554 นั้น เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ได้ทรงเปลี่ยนประวัติศาสตร์การขึ้นครองราชย์ของราชวงศ์อังกฤษ โดยทรงเป็นรัชทายาทหญิงพระองค์แรก ที่รักษาลำดับสืบสันตติวงศ์ไว้ได้ โดยไม่ต้องทรงถูกลดขั้นลงเมื่อทรงมีพระอนุชา ซึ่งแต่เดิมนั้นตามกฎการสืบสันตติวงศ์อังกฤษ มีกำหนดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1701 […]

พบกับ เจ้าชายไฮน์ริช โดนาทุส วัย 27 ชันษา แห่งราชวงศ์เยอรมัน ผู้ทรงหล่อเหลา แถมยังจิตใจดี ทรงเป็นอาสาสมัครร่วมกับ Interhelp เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่เมืองเมดีกา ชายแดนโปแลนด์ นาทีนานาประเทศต่างซัพพอร์ตประเทศยูเครน หลายภาคส่วนให้การช่วยเหลือประชากรยูเครนจากการถูกรุกรานจากรัสเซีย โดยเฉพาะผู้ลี้ภัยที่ต้องหนีออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน หล่อเหลา จิตใจดี เจ้าชายไฮน์ริช โดนาทุส แนวหน้าช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยูเครน หนึ่งในนั้นที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจอย่างเต็มที่คือ เจ้าชายไฮน์ริช โดนาทุส ทรงร่วมเป็นแนวหน้าในการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Interhelp เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในเมืองเมดีกา ซึ่งเป็น 1 ใน 3 จุดผ่านแดนหลักจากยูเครนเข้าสู่ โปแลนด์ ไม่เพียงเจ้าชายไฮน์ริช จะทรงประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนให้ผู้คนมาช่วยเหลือชาวยูเครนแล้ว พระองค์ยังทรงมอบรถพยาบาลที่มีอุปกรณ์ครบครันพร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที ซึ่งรถพยาบาลคันนี้ถูกนำไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่เดินทางมาถึงเมืองเมดีกา ทั้งนี้มีรายงานว่าองค์กร Interhelp ได้ช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กราว 25 คน ในที่นี้รวมแม่และหนูน้อย Lev วัย 3 สัปดาห์ ซึ่งลืมตาดูโลกได้เพียง 1 สัปดาห์ก่อนการบุกรุก ตามรายงานของสื่ออังกฤษเผย เจ้าชายไฮน์ริชตรัสว่า ได้ทรงมอบรถบัสให้กองกำลังแพทย์ของยูเครน เพื่อมุ่งหน้าไปช่วยเหลือชาวยูเครนที่ยังติดอยู่ในกรุงเคียฟ […]

เป็นประจำทุกปีของชาวคริสต์ที่จะร่วมกันเฉลิมฉลองในวันนักบุญแพทริก รวมถึงราชวงศ์อังกฤษเช่นกัน ซึ่งในทุกครั้งก็จะมีการปรากฏตัวของเหล่าสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ

ถึงจะไม่เห็น คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ออกงานสำคัญเท่า ดัชเชสเคท แต่ทุกครั้งที่คามิลลาปรากฏตัวเธอก็มักสวมเครื่องประดับสุดหรูของราชวงศ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ แหวนหมั้น ที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์คุกเข่าขอเธอแต่งงาน ไม่รู้ที่มา! แหวนหมั้นของ คามิลลา ว่าที่ราชินีอังกฤษ วงที่ชาร์ลส์คุกเข่าขอแต่งงาน ย้อนกลับไปในปี 2005 ภายหลังจากที่ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลล์ทรงสิ้นพระชนม์ในปี 1997 แปดปีให้หลังจากนั้น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และ คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ ก็ได้ประกาศว่าทั้งคู่หมั้นหมายเป็นที่เรียบร้อย โดยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงแถลงการณ์อย่างเป็นทางการด้วยความตื่นเต้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2005 ว่า “คามิลลา และ ข้าพเจ้ายินดีเป็นอย่างยิ่ง วันนี้เป็นวันที่น่าจดจำสำหรับครอบครัวของเรา” แม้จะไม่มีใครรู้รายละเอียดต่างๆ ของงานหมั้นในครั้งนั้น แต่คามิลลาได้เคยเปิดเผยว่า “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์คุกเข่าเพื่อขอเธอแต่งงานตามธรรมเนียม” ทั้งนี้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ยังได้มอบแหวนเพชรอันล้ำค่าที่สุดวงหนึ่งให้กับ คามิลลา แม้จะไม่ได้มีรายละเอียดว่าแหวนวงนี้ได้มาจากไหน แต่ Clarence House (กองงานในเจ้าชายแห่งเวลส์) ได้ยืนยันเพียงแค่ว่า “แหวนเป็นมรดกตกทอดของราชวงศ์” สำหรับแหวนเพชรวงนี้มีดีไซน์แบบ อาร์ตเดคโค ตัวแหวนทำจากแพลทินัม ฝังด้วยเพชรน้ำงาม 5 กะรัตที่เจียระไรแบบ […]

“เจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ” ทรงถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการพัฒนาผ้าไทยจากสีย้อมธรรมชาติเพื่อความยั่งยืนในงานเสวนาวิชาการ “การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล”  ที่จังหวัดมหาสารคาม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมผ้าทอในแต่ละท้องถิ่น พร้อมพัฒนาต่อยอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยองค์ความรู้ใหม่ซึ่งบรรจุอยู่ในหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย หรือ  THAI TEXTILES TREND BOOK Spring/Summer 2022 เล่มแรกที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดทำขึ้น โดยทรงรับหน้าที่เป็นบรรณาธิการบริหาร ทรงค้นคว้าองค์ความรู้ และควบคุมการผลิตทุกขั้นตอนด้วยพระองค์เอง ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ต่อเนื่องมาถึงเล่มที่ 2 THAI TEXTILES TREND BOOK Autumn/Winter 2022-2023 ในการนี้ได้เสด็จไปทรงเปิดงาน “THAI TEXTILES TREND BOOK Autumn/Winter 2022-2023 และงานเสวนาวิชาการ” ซึ่งจัดโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ ศูนย์บริการวิชาการ  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล ประจำปี 2564 พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการ และทรงเป็นประธานในงานเสวนาวิชาการ ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร เมื่อวันก่อน และเพื่อเป็นการแบ่งปันองค์ความรู้ดังกล่าวให้แก่นักศึกษา ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมสิ่งทอ แฟชั่น และงานดีไซน์ ในระดับภูมิภาค ได้ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผ้าไทย จึงมีการจัดงานเสวนาวิชาการหนังสือแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย เล่มที่ 2 Thai Textiles Trend Book Autunm/Winter 2022-2023 ณ จังหวัดมหาสารคาม โอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงเป็นประธานงานเสวนาวิชาการ “การส่งเสริมและพัฒนาภาพลักษณ์ผ้าไทยสู่สากล” พร้อมทอดพระเนตรนิทรรศการแนวโน้มและทิศทางผ้าไทยและการออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย โดย 12 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชั้นนำ รวมถึงการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย ผลิตภัณฑ์จากโครงการศิลปาชีพ […]

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงตั้งพระทัยที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อรักษาสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ โดยเฉพาะศิลปหัตถกรรมผ้าทอในแต่ละท้องถิ่น

พบกับ 3 กษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในดินแดนน้ำมัน ซึ่งแต่ละพระองค์มาจากประเทศไหนกันบ้าง และมีทรัพย์สมบัติมากมายเพียงใด แพรวลิสต์มาให้คุณๆ ได้ดูกันค่ะ เป็นประจำทุกปีที่จะมีการจัดอันดับมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดโลก หรือรวยที่สุดในประเทศ ขณะเดียวกันยังมีการจัดอันดับกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลกด้วย หากดูจากการจัดอันดับนั้นจะพบว่า ผู้ที่ติด Top 5 มาจากประเทศที่อุดมไปด้วยบ่อน้ำมันถึง 3 พระองค์อย่างประเทศ บรูไน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ซาอุดอาระเบีย ซึ่งทั้งสามพระองค์นั้นจะเป็นใครกันบ้าง ใครรวยที่สุด และ มีทรัพย์สินมากเพียงใด เชิญชม… พบกับ 3 กษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในดินแดนน้ำมัน องค์ไหนมาวินคว้าอันดับ 1 ไปครอง สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน อันดับ 1 กษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในดินแดนน้ำมันของลิสต์นี้คือ สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ พระองค์ทรงมีทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 28,000 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ รายได้ส่วนใหญ่ของพระองค์นั้นมาจาก อุตสาหกรรมปิโตรเลียม และ น้ำมันสำรอง ความร่ำรวยของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ จัดว่าไม่ธรรมดา พระองค์ทรงมีพระราชวังขนาดใหญ่ ซึ่งมีที่จอดรถถึง 800 คัน ภายในมีห้องต่างๆ […]

เจ้าชายมีร์โก้ แห่งบัลกาเรีย ราชนิกุลผู้ทรงสง่า เพอร์เฟคทุกรอบด้าน วิชาการก็เยี่ยม กิจกรรมก็เริ่ด เพราะเป็นทั้งคุณหมอ และยังโปรดปรานในกีฬาเซิร์ฟ ครบสูตรเจ้าชายในฝัน!! อาจกล่าวได้ว่าการเป็นลูกหลานของกษัตริย์นั้นทำให้คุณมีชีวิตที่หรูหรา รายล้อมไปด้วยคนดัง และงานปาร์ตี้ของเหล่าเศรษฐี แต่มีเจ้าชายที่ขอ “ผ่าน” ทุกสิ่งเพื่ออุทิศตนให้กับการศึกษาและเลือกดำเนินชีวิตตามแบบแผนที่ตนเองตั้งใจ ดังเช่น เจ้าชายมีร์โก้ แห่งบัลกาเรีย หนึ่งในพระราชนัดดาในสมเด็จพระเจ้าซาร์ซีเมียนที่ 2 แห่งบัลแกเรีย เจ้าชายมีร์โก้ แห่งบัลกาเรีย ราชนิกุลผู้ทรงสง่า คุณหมอ นักเซิร์ฟ ครบสูตรชายในฝัน! หลายคนอาจไม่คุ้นหน้าและไม่ค่อยมีใครรู้จักเกี่ยวกับชีวิตของชายหนุ่มที่สุขุมและน่าดึงดูดคนนี้อย่าง เจ้าชายมีร์โก้ แห่งบัลกาเรีย วัย 25 ชันษา สักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะพระองค์ไม่ค่อยออกสื่อมากนัก เจ้าชายมีร์โก้ทรงเป็นพระโอรสพระองค์ใหญ่ในเจ้าฟ้าชายคูบราต เจ้าชายแห่งพานากิวริชเต กับเจ้าหญิงคาร์ล่า พระชายา ทรงเกิดในกรุงมาดริด และอาศัยอยู่ในเมืองหลวงจนถึงวัยที่เริ่มศึกษา ทรงมีพระอนุชาอีก 2 พระองค์คือ เจ้าชายลูคัส วัย 20 ชันษา และ เจ้าชาย Tirso วัย 16 ชันษา ในวัยเด็กเจ้าชายทั้งสามพระองค์ใช้ชีวิตอย่างราบเรียบ […]

พบกับ เจ้าหญิงแห่งยุโรป ที่สิริโฉมงดงาม และ เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ซึ่งทั้ง 5 พระองค์นี้เป็นว่าที่ราชินีของประเทศ หลายประเทศที่ยังมีระบบกษัตริย์ โดยส่วนใหญ่มักให้ราชวงศ์ชายขึ้นปกครอง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่สามารถให้สมาชิกราชวงศ์หญิงขึ้นเป็นราชินี เป็นประมุขของประเทศได้ โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป พบกับ 5 เจ้าหญิงแห่งยุโรป ว่าที่ราชินีผู้ทรงสิริโฉมงดงาม เจ้าหญิงวิคตอเรีย มกุฏราชกุมารีแห่งราชวงศ์สวีเดน แม้ว่าเจ้าหญิงวิคตอเรีย มกุฏราชกุมารีแห่งราชวงศ์สวีเดน จะทรงประสูติในปี 2520 ก่อนที่พระราชบัญญัติสืบราชสันตติวงศ์จะกำหนดให้สมาชิกราชวงศ์หญิง หรือ ชายในปี 2523 ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เจ้าหญิงวิคตอเรียก็ยังสามารถสืบสันตติวงศ์ในราชบัลลังค์ของสวีเดนได้ เนื่องจากกฎใหม่มีผลย้อนหลัง เจ้าหญิงวิคตอเรีย ทรงเป็นพระธิดาองค์แรกใน สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน และ สมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน ทั้งนี้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงพระราชบัญญัติสืบราชสันตติวงศ์ เจ้าฟ้าชายคาร์ล ฟิลิปแห่งสวีเดน ดยุกแห่งแวร์มลันด์ พระอนุชาจะทรงขึ้นเป็นมกุฎราชกุมารแทน สำหรับเจ้าหญิงวิคตอเรียนั้น จะทรงเป็นประมุขหญิงองค์ที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของประเทศและเป็นราชินีองค์แรกที่ครองราชย์นับตั้งแต่ สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 2 แห่งสเปน ในปี ค.ศ. 1800 เจ้าฟ้าหญิงเลโอนอร์ เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส มกุฎราชกุมารีแห่งสเปน  […]

สั่นสะเทือนไปทั้งเครือจักรภพมาตั้งแต่มีข่าวฉาวเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศสาวอเมริกันวัย 17 ปี ของเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก  พระราชโอรสในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ในวันนี้ ทางสำนักพระราชวังได้ออกประกาศถึงเส้นทางของเจ้าชายแอนดรูว์ในราชวงศ์อังกฤษที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้ตัดสินพระทัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

อภิมหาเศรษฐี ส่องชีวิตสุดหรูของ เจ้าหญิงฮายา แห่งจอร์แดน อดีตชายา ชีคห์ โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตู เจ้าผู้ครองนครดูไบ เรื่องราวสุดมหากาพย์ การตัดสินใจหลี้ภัยออกจากดูไบของ เจ้าหญิงฮายา แห่งจอร์แดน เพื่อหนี ชีคห์ โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคตู เจ้าผู้ครองนครดูไบ นำไปสู่การฟ้องร้างซึ่งตัดสินโดย ศาลสูงลอนดอน ทั้งนี้ผลการตัดสินนั้นศาลสั่งให้ เจ้าหญิงฮายาเป็นผู้ชนะ และเจ้าผู้แห่งดูไบนั้นต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นจำนวนสูงถึง 728 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท เรียกได้ว่าเป็นการหย่าร้างที่แพงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว หากย้อนกลับไปในช่วงที่เจ้าหญิงฮายายังทรงประทับอยู่ที่ดูไบนั้น ต้องบอกเลยว่าพระองค์มีชีวิตที่หรูหรา และมีเงินใช้อย่างไร้ขีดจำกัด และนี่คือความร่ำรวยก่อนที่พระองค์จะหนีไปสหราชอาณาจักรในปี 2019 มีเงินใช้มหาศาล ไร้ขีดจำกัด เจ้าของเรือยอร์ช และ เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ความร่ำรวยของเจ้าหญิงฮายา เรียกได้ว่าพระองค์ทรงมีชีวิตหรูหราตั้งแต่เกิด ทรงเป็นพระธิดาในกษัตริย์ฮุสเซนแห่งจอร์แดน และ พระราชินีอาเลีย ภายหลังการเสกสมรสกับ ชีคห์ โมฮัมเหม็ดฯ เจ้าผู้ครองนครดูไบ […]

พาทำความรู้จัก Superga สนีกเกอร์สัญชาติอิตาลี แบรนด์โปรดของ ‘ดัชเชสเคท’ ที่ไม่ได้มีดีแค่ราคาประหยัดเท่านั้น หลายครั้งที่เราจะเห็น ดัชเชสเคท ในลุคทะมัดทะแมงสวมกางเกงและรองเท้าผ้าใบ แต่รู้หรือเปล่าว่ารองเท้าผ้าใบหรือสนีกเกอร์คู่ใจที่มักจะไปไหนมาไหนกับดัชเชสเคทอยู่ตลอด เป็นแบรนด์คุณภาพดีที่ราคาไม่ได้แพงเลย ซึ่งมุมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นคนเรียบง่ายของดัชเชสเคทได้ดี โดยรองเท้าแบรนด์โปรดคู่นี้มาจากแบรนด์ Superga รุ่น Superga 2750 ราคาเพียง 1,850 บาทเท่านั้น ถือเป็นไอคอนิกไอเท็มที่โดดเด่นและคลาสสิกในแบบอิตาเลียนสไตล์ สามารถสวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง รองเท้ารุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นในปี ค.ศ.1925 โดยวอลเตอร์ มาร์ตินีที่ต้องการทำรองเท้ากีฬาพื้นยางสำหรับภรรยาของเขา รองเท้ารุ่น Superga 2750 เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน จนกลายเป็นไอเท็มสุดคลาสสิกที่ไร้กาลเวลา สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส พร้อมให้เหล่าดีไซเนอร์และศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานลงบนรองเท้ารุ่นนี้และเป็นที่นิยมของบุคคลสำคัญต่างๆ ในหลากหลายวงการทั่วโลก Superga (ซูเปอร์ก้า) แบรนด์รองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิกจากอิตาลี มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ที่เรียกได้ว่าเป็นรองเท้าผ้าใบประจำชาติที่คนอิตาลีต้องมี! Superga เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน ซึ่งชื่นชอบรองเท้าลำลอง ใส่ง่ายในวันสบายๆ แต่มีความทันสมัย และเป็น fashion piece ของเหล่าบล็อกเกอร์ทั่วโลก ไม่ใช่แค่ดีไซน์เรียบง่ายและดูมีสไตล์ คุณสมบัติของรองเท้าผ้าใบ Superga […]

ZARA คือแบรนด์ที่ควีนเลตีเซียทรงปลื้ม จนเรียกได้ว่าเป็น เจ้าแม่ ZARA ก็คงไม่เว่อร์เกินจริง เพราะทรงเลือกฉลองพระองค์จากแบรนด์สัญชาติสเปนออกงานอยู่บ่อยครั้ง จนใครๆ ก็รู้ว่านี่แหละคือแบรนด์โปรดของพระองค์ ยังคงเรียบง่ายและไม่ฟุ้งเฟ้อ สำหรับควีนเลตีเซีย หรือสมเด็จพระราชินีเลตีเซียแห่งสเปน แฟชั่นไอคอนของสาวๆ หลายคน ที่มักจะสวมฉลองพระองค์ซ้ำอยู่หลายครั้ง แม้แต่ในงานสำคัญๆ ก็ยังเห็นควีนเลตีเซียทรงสวมฉลองพระองค์ที่คุ้นตา โดยไม่กังวลว่าเคยใส่มาแล้ว แม้จะถูกจับตามองทุกครั้งที่เสด็จฯ ยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของแฟชั่นที่เป็นประเด็นให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าได้พูดถึงกันอยู่เสมอก็ตาม ซึ่งจุดสังเกตนอกจากจะทรงเลือกฉลองพระองค์ตัวเดิมใส่ออกงานแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือแบรนด์ที่ควีนเลตีเซียทรงปลื้มอย่าง ZARA แบรนด์สัญชาติสเปน โดย ZARA เป็นแบรนด์ที่หลายคนสามารถช้อปได้แบบเพลินๆ เพราะราคาไม่สูงมาก และถ้าไปช้อปถึงถิ่นกำเนิดแบรนด์อย่างสเปน ขอบอกเลยว่าราคาก็ยิ่งถูกลงไปอีก เสื้อผ้าดีไซน์สวยๆ บางตัวมีราคาเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น ซึ่งควีนเลตีเซียแห่งสเปนก็ทรงโปรดปรานอย่างมาก และชุดไหนที่ควีนทรงใส่เป็นต้อง Sold out! นับว่าเป็นการช่วยส่งเสริมแบรนด์บ้านเกิดให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น ทั้งยังทำให้ผู้คนหันมาสนใจเสื้อผ้าของ ZARA เพิ่มขึ้นด้วย แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ที่ยอดขายดีอยู่แล้ว แต่เมื่อควีนแห่งสเปนช่วยโปรโมทให้ทางอ้อม ก็ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมของ ZARA เลยทีเดียว นอกจากจะช้อปช่วยชาติแล้ว การที่ควีนเลตีเซียทรงเลือกสวมฉลองพระองค์จาก ZARA เสด็จฯ ออกงานสำคัญๆ ยังช่วยให้ชื่อแบรนด์ถูกพูดถึงหลายๆ ครั้งจากสื่อทั่วโลก และฉลองพระองค์จาก ZARA ใช่ว่าซื้อมาแล้วจะทรงใส่แค่ครั้งเดียว […]

นับว่าเป็นไอเท็มชิ้นโปรดที่ใช้มานาน สำหรับ นาฬิกา Rolex ‘ซารา ทินดอลล์’ ธิดาองค์เล็กของเจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี ซึ่งเคยรับหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ Rolex อย่างเป็นทางการมาแล้ว ถ้าพูดถึงสมาชิกราชวงศ์อังกฤษผู้มีความสามารถทางด้านกีฬา ซารา ทินดอลล์ ธิดาองค์เล็กของเจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี ก็คือหนึ่งในนั้น เพราะเธอเป็นนักกีฬาขี่ม้าโอลิมปิกที่โดดเด่นและถูกจับมองในขณะนั้น หากย้อนกลับไปในอาชีพนักกีฬาขี่ม้าของซารา เธอได้เป็นตัวแทนประเทศในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2012 และได้รับการโหวตให้เป็น BBC Sports Personality แห่งปีในปี 2006 ทั้งยังดำรงตำแหน่ง Rolex Testimonee ซึ่งเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนกีฬาขี่ม้าที่ซาราลงแข่งขันอีกด้วย โดย Rolex ยังเป็นนาฬิกาแบรนด์เดียวที่ซาราใช้และโปรดปราน จนเรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Rolex ก็ว่าได้ ก่อนที่จะมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการในปี 2001 เมื่ออายุได้ 20 ปี จนกระทั่งทุกวันนี้ นาฬิกาแบรนด์โปรดของซาราก็ยังคงเป็น Rolex โดยเรือนที่เธอใส่บ่อยที่สุดไม่ว่าจะทำกิจกรรมชิลๆ สายลุย หรือออกงานที่ต้องแต่งตัวสวยงาม Rolex Oyster Perpetual Yacht-Master 40 ก็ยังถูกประดับอยู่บนข้อมือของซาราเสมอ แม้ว่าราคาจะแรง […]

เป็นประจำทุกปีของวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่เราจะได้เห็นเหล่าสมาชิกราชวงศ์อังกฤษมาร่วมพิธี Remembrance หรือ วันรำลึกถึงทหารที่สละชีพในสงคราม สง่างามไร้ที่ติ ดัชเชสเคท ทรงทำหน้าที่แทนควีนเอลิซาเบธที่ 2 ได้อย่างดีเยี่ยม อย่างไรก็ตามในปีนี้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรทรงไม่สามารถเสด็จมาร่วมปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้เหมือนทุกปี โดยพระราชวังบักกิงแฮมกล่าวในแถลงการณ์ว่า “พระราชินีทรงเสียใจอย่างยิ่งที่ทรงไม่สามารถเข้าร่วมพิธีรำลึกในวันอาทิตย์ที่ Cenotaph ได้ อันเนื่องอาการเจ็บพระปฤษฎางค์ (หลัง) ถึงอย่างนั้นก็ตาม เคท มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ก็ทรงเป็นตัวแทนของพระองค์ได้อย่างสง่างาม พร้อมด้วย คามิลลา ดัชเชสแห่งคอนวอลล์ และ โซฟี เคาน์เตสแห่งเวสเซกซ์ ที่เสด็จมาร่วมงานสำคัญนี้ เช่นเดียวกัน ทั้งนี้สื่อต่างประเทศสังเกตว่า ลุคของดัชเชสเคท โดยเฉพาะ พระมาลาสีดำ (หมวก) ราคา 275 ปอนด์จาก Tiffany มีความคล้ายคลึงกับพระมาลาของ ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลล์ พระสสุระของพระองค์ที่ทรงสวมในงานเดียวกันเมื่อปี 1992 ขณะเดียวกันดัชเชสเคทยังได้สวมต่างหู Collingwood ของเจ้าหญิงไดอาน่าอีกด้วย ด้านผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกล่าวว่า ดัชเชสเคททรงเป็นสมบัติอันล้ำค่าของราชวงศ์ หลายคนที่เห็นพระองค์ทรงยืนอยู่บนระเบียงซึ่งเป็นที่ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ […]

Meiji Scroll Tiara มงกุฎองค์แรกและยังเก่าแก่ที่สุดแห่งบัลลังก์เบญจมาศ แต่คงไว้ซึ่งความงดงาม แม้มีอายุนับร้อยปี สำหรับราชวงศ์ญี่ปุ่นแล้ว เราอาจะไม่ค่อยได้เห็น เครื่องถนิมพิมพาภรณ์  (เครื่องประดับ) ถูกพูดถึงกันบ่อยครั้ง โดยมากที่เห็นจะเป็นราชวงศ์อังกฤษซะส่วนใหญ่ แต่อันที่จริงบัลลังก์ดอกเบญจมาศ ยังมีเครื่องประดับสำคัญประจำราชวงศ์ โดยเฉพาะเทียร่า ที่เรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ทุกราชวงศ์ในโลกต้องมี สำหรับมงกุฎของราชวงศ์ญี่ปุ่นนั้น Meiji Scroll Tiara นับว่าเป็นองค์แรก และยังเก่าแก่มากที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งบัลลังก์ดอกเบญจมาศ ตามประวัติของเทียร่าองค์นี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1885 (หรือหลังจากนั้น) เพื่อสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง พระพันปีหลวง (1849-1914) ซึ่งพระองค์ทรงเป็นพระมเหสีของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ ประวัติของเทียร่าองค์นี้ เรียกได้ว่าสำคัญกับราชวงศ์ญี่ปุ่นมากเลยทีเดียว เพราะเป็นมงกุฎสำหรับสมเด็จจักรพรรดินีโดยเฉพาะ เทียร่าองค์นี้นอกจากจะสวยงามและทรงคุณค่าแล้ว ยังมีความพิเศษคือเพชรรูปดาวที่ประดับด้านบนมงกุฎสามารถถอดออกได้ จึงทำให้มงกุฎองค์นี้มีสองรูปแบบในหนึ่งเดียว อีกทั้งยังได้ถูกส่งต่อรุ่นสู่รุ่นมาตั้งแต่สมัยเมจิ (สมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง พระพันปีหลวง) ไทโช (สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม) โชวะ (สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุง) เฮเซ (สมเด็จพระจักพรรดินิมิชิโกะ) อย่างไรก็ตาม เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นเทียร่าองค์นี้บ่อยครั้งนัก เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วองค์จักรพรรดินีจะสวมใส่ในพิธีสำคัญๆ เท่านั้น เช่น พิธีราชาภิเษกและพิธีอภิเษกสมรส ทั้งนี้สมเด็จพระจักพรรดินิมิชิโกะ ทรงสวมเทียร่าองค์นี้สองครั้งคือ งานพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระจักพรรดิเฮเซ เมื่อปี 1990 […]

คุณๆ คงเคยได้ยิน หรือ ได้อ่านเส้นทางความรักของ เจ้าหญิงเกรซ หรือ เกรซ เคลลี่ ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดังที่ชีวิตเปลี่ยนกลายมาเป็น เจ้าหญิงแห่งโมนาโก กันมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าหนึ่งสิ่งที่ทำให้ เกรซ เคลลี่ กลายมาเป็นสมาชิกราชวงศ์โมนาโกได้อย่างสมบูรณ์แบบคือ เธอต้องจ่ายเงินค่าสินสอดในการเสกสมรสกับ เจ้าชายเรนิเยร์ที่ 3 แห่งโมนาโก เกรซ เคลลี่ ได้ละทิ้งชีวิตอันเย้ายวนใจในวงการฮอลลีวู้ด เพื่อมาเป็นเจ้าหญิงแห่งโมนาโก โดยในเดือนเมษายน พ.ศ. 2499 เธอได้เข้าพิธีเสกสมรสกับ เจ้าชายเรนิเยร์ที่ 3 แห่งโมนาโก ในขณะเดียวกันเธอก็ต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อแลกกับความรัก และ เกียรติยศ เช่นกัน ย้อนกลับไปในช่วงที่ เกรซ เคลลี่ ตัดสินใจที่จะแต่งงานกับ เจ้าชายเรนิเยร์ที่ 3 แห่งโมนาโก เธอจัดได้ว่าเป็นนักแสดงหญิงที่ได้รับค่าตัวสูงสุดในตอนนั้น ซึ่งมีการคาดว่าเธอจะกวาดรายได้โดยประมาณ $1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 5 ปี หากเธอยังอยู่ในวงการฮอลลีวู้ด เมื่อเทียบกับค่าเงินปัจจุบันแล้วเป็นจำนวนเงินถึง 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ในปี 2499 ซึ่งเป็นปีที่ […]

ภาพแห่งความทรงจำ! มกุฎราชกุมารอากิชิโนะ, เจ้าหญิงคิโกะ และ เจ้าหญิงคาโกะ แสดงความยินดีกับการสมรสของ มาโกะ โคมุโระ อดีตเจ้าหญิงแห่งญี่ปุ่น หลังจากหมั้นหมายกันมานานถึง 3 ปี พร้อมกับฟันฝ่าอุปสรรค ดราม่า และโรคเครียดจากคอมเม้นต์ที่รุนแรงมานับไม่ถ้วน ในที่สุด มาโกะ โคมุโระ อดีตเจ้าหญิงแห่งญี่ปุ่น ถือฤกษ์ดีในวันที่ 26 ตุลาคม 2564 สมรสกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน เค โคมุโระ แม้จะยังมีกระแสคัดค้านอยู่บ้าง แต่ประชาชนจำนวนไม่น้อยเลยที่แสดงความยินดีและสนับสนุนความรักของอดีตเจ้าหญิง เช่นเดียวกับสมาชิกราชวงศ์ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวลือว่าไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ท่ามกลางความกดดันของหลายฝ่าย แต่สุดท้ายแล้วก็เลือกที่จะสนับสนุนและร่วมยินดีกับความรักนี้ ทั้งนี้หนึ่งในภาพของวันนี้ ที่หลายคนพูดถึงว่าเป็นภาพที่แห่งความประทับใจ คงหนีไม่พ้นภาพอันอบอุ่นที่ มกุฎราชกุมารอากิชิโนะ, เจ้าหญิงคิโกะ และ เจ้าหญิงคาโกะ เสด็จส่งอดีตเจ้าหญิงที่หน้าพระราชวังเพื่อเดินทางไปจดทะเบียนสมรสกับนาย เค โคมุโระ ซึ่งเป็นภาพที่บอกเล่าความแน่นแฟ้นของสมาชิกราชวงศ์ได้เป็นอย่างดี ราชวงศ์อบอุ่น ยินดีกับการสมรสของ มาโกะ โคมุโระ อดีตเจ้าหญิงแห่งญี่ปุ่น