account_circleหลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดนั้นเริ่มเบาบางลง ในปีนี้การเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี ครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก็จะมีการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง และในปีนี้ก็เป็นครั้งแรกที่พระองค์จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร โดยที่ไม่มีเจ้าชายฟิลิปป์ ดยุกแห่งเอดินบะระ และ สมาชิกราชวงศ์ บางพระองค์ เคียงข้างพระวรกายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดถึง 70 ปี โดยเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อ 6 ก.พ. ค.ศ. 1952 และทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกเมื่อ 2 มิ.ย. ค.ศ. 1953 โดยงานฉลองครั้งนี้จะมีตั้งแต่งานเลี้ยงฉลองตามท้องถนน คอนเสิร์ตรวมศิลปินดังระดับโลก รวมถึงการเปิดพระราชวังให้ประชาชนเข้าชมด้วย
ไร้เงา 3 สมาชิกราชวงศ์ผู้อื้อฉาว ออกสีหบัญชร ร่วมฉลองควีนครองราชย์ 70 ปี
โดยในวันที่ 2 มิ.ย. นี้ จะมีพิธีสวนสนามของทหารที่เรียกว่า Trooping the Colour อย่างเต็มรูปแบบ จะมีทหารเข้าร่วม 1,400 นาย ม้า 200 ตัว และนักดนตรี 400 คน ซึ่งในวันนั้นสมเด็จพระราชีนีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร พระราชวังบักกิงแฮม ร่วมกับสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆ ซึ่งในปีนี้แน่นอนแล้วว่า เจ้าชายแอนดรูว์ พระราชโอรสผู้อื้อฉาวที่ถูกศาลอเมริกาฟ้องในคดีล่วงละเมิดทางเพศนั้น จะไม่ได้เข้าร่วมด้วย รวมถึงเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน มาเคิล ที่เคยประกาศลาออกจากฐานันดร และมีข่าวดราม่าเรื่องที่ทั้งคู่ไปสัมภาษณ์ในรายการของโอปราห์ วินฟรีย์ แม้จะมีข่าวว่าทั้งสองจะพาอาร์ชีและลิลิเบต ไปอังกฤษเป็นครั้งแรก เพื่อร่วมฉลองงานใหญ่ของราชวงศ์ แต่ก็ไร้ชื่อที่จะเข้าร่วมออก ณ สีหบัญชร
แน่นอนว่าสมาชิกราชวงศ์ที่เหลือ โดยเฉพาะเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และดยุกแห่งเคมบริดจ์จะต้องยืนเคียงข้างควีนเอลิซาเบธที่ 2 ในวันนั้น ในฐานะ รัชทายาทลำดับที่ 1 และ 2 โดยมีเหล่าสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆ รายล้อมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในส่วนของอดีตดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์และเจ้าชายแอนดรูว์ แม้ว่าจะไม่ได้ปรากฏตัว ณ สีหบัญชร ร่วมกับสมาชิกราชวงศ์ แต่ในงานนี้ก็ได้รับเชิญให้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบการครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เช่นกัน และนี่ก็จะเป็นครั้งแรกที่อาร์ชีและลิลิเบธ โอรสและธิดาของทั้งสองจะได้เข้าเฝ้าพระองค์เป็นครั้งแรกด้วย
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อที่นี่
เหตุใดฉลองพระองค์ ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’ ต้องมีหมายเลขกำกับทุกชุด
ควีนเอลิซาเบธ ทรงมีรับสั่งให้ ดัชเชสเคท ปรับการแต่งตัว เมื่อต้องออกงาน