สุดปังทั้งร่าง!! ซ่อมสารพัดปัญหาผิวด้วย Bio-Oil ในตำนาน ต่อไปนี้พี่เน้นรับงานผิวนะคะ!!

ยอมรับว่าได้ยินชื่อเสียงของ  Bio-Oil มาเนิ่นนาน เรื่องของคุณสมบัติครอบจักรวาลจนกลายเป็นชิ้นที่สาวสายบิวตี้ควรต้องมีไว้ในคอลเลคชั่น แต่ด้วยความที่พัดชาไม่ค่อยได้มีปัญหาผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นอย่างจริงจัง เลยเหมือนยังไม่มีดวงที่จะได้ลอง  Bio-Oil อย่างจริงจังเสียที

จนกระทั่งกักตัวช่วงโควิด19ที่ผ่านมากับภารกิจลดน้ำหนักมาราธอน หักโหมวิ่งเสียจนน้ำหนักหายไปหลายกิโลหุ่นเป๊ะปังขึ้นเป็นที่น่าพอใจ แต่ที่ทัวร์ลงหนักมากก็คือผิวแตกลาย

ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าผิวที่ยืดขยายของคนเรานั้นจะสร้างความเสียหายได้ระเนระนาดขนาดที่บิวตี้ เอดิเตอร์อย่างอิชั้น ทนรับตัวเองไม่ได้ แค่ต้องไปโชว์ร่างให้เทอราปิสนวดในสปาอย่างรู้สึกขัดเขิน ก็แหม…ลายเสียอย่างกับเป็นคุณแม่หลังคลอด บอกตรงๆ ว่าพี่อ๊ายยย อาย

Bio-Oil

สูตรออยล์ VS สูตรเจล เริ่ดทั้งคู่เลือกดูตามไลฟ์สไตล์

คราวนี้เลยมีชื่อ  Bio-Oil เป็นชื่อแรกที่ผุดขึ้นในหัว ในที่สุดก็ได้โอกาสทำความรู้จักกับนางเสียที รุ่นดังเดิมที่โด่งดังสุด ๆ เป็นออยล์ในขวดใสสีส้มพีช  Bio-Oil Specialist Skincare Oil ตัวนี้ถือเป็น Original ที่ขึ้นชื่อเรื่องการแก้ปัญหาผิวแตกลาย แผลเป็น สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวขาดความชุ่มชื้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ส่วนรุ่นใหม่  Bio-Oil Dry Skin Gel เป็นสูตรเจลเนื้อบางเบาโดยมีน้ำเป็นส่วนผสมเพียงแค่ 3% เท่านั้น จึงทำให้ส่วนผสมจากธรรมชาติทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสูตรนี้เหมาะกับการบำรุงดูแลผิวให้ชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน

Bio-Oil

ตัวออยล์นั้นมีส่วนผสมนั้นจากสารสกัดของพืชและวิตามินที่แขวนลอยในรูปแบบของน้ำมันซึ่งมีคุณสมบัติทำให้รอยแผลเป็น ผิวแตกลายไม่สม่ำเสมอต่างๆ ดูจางลงหลังจากการใช้เพียง 8 สัปดาห์

Bio-Oil

ส่วนสูตรเจลมีส่วนผสมที่เป็นออยล์จากธรรมชาติสูงถึง 87% ทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นแบบเน้นๆในขณะที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาไม่เหนอะหนะ ส่วนตัวพัดชาใช้คู่กันทั้ง 2 ตัวโดยใช้ออยล์เน้นบริเวณผิวที่มีปัญหาแตกลาย ส่วนสูตรเจลผิวมีปัญหาแห้งกร้านตรงไหนจัดไปตรงนั้นเลยจ้า

Bio-Oil

ซ่อมปัญหาผิวแตกลาย เกิดแผลเป็น อ้วนขึ้น /ผอมลง /คลอดน้อง ต้องโดน

ขอเล่าก่อนว่าผิวของพัดชาที่ผ่านการลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็วนั้นแตกลายได้อย่างไร นั่นก็เพราะเมื่อร่างกายขยายหรือหดตัวอย่างรวดเร็วผิวหนังเดิมจะไม่สามารถขยายหรือหดตัวเข้ามาครอบคลุมได้ทัน จนทำให้เนื้อเยื่อของผิวเกิดการฉีกขาดพูดง่ายๆ ก็คือกลายเป็นแผลเป็นในลักษณะแตกลาย ซึ่งปัญหาแบบนี้เชื่อว่าคุณแม่หลังคลอดต้องเจอแบบเต็มๆ แม้แต่น้องๆ ที่อยู่ในวัยกำลังโตเข้าวัยรุ่น มีน้ำหนักร่างกายเพิ่มขึ้นรวดเร็วก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น

พัดชานวด  Bio-Oil Specialist Skincare Oil บริเวณที่เป็นรอยแตกลาย คือช่วงสะโพกและขาพับที่เป็นหนักๆ วันละสองครั้งทั้งเช้าและเย็น เชื่อไหมว่าแค่เดือนแรกก็เห็นผลถึง รอยแตกที่จางลงจนกระทั่งหายไปแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าในเดือนที่3 สังเกตได้ว่าเมื่อใช้ต่อไปเรื่อยๆ  รอยแตกจางๆ ซึ่งเป็นรอยเก่าสมัยที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเข้าวัยรุ่นก็ยังสามารถจางหายไปได้ ทำให้เข้าใจเลยว่าชื่อเสียงของเค้าที่เลื่องลือนั้นไม่ใช้ได้มาเล่นๆ

Bio-Oil

อาบน้ำร้อน/นอนห้องแอร์ แม่ก็ซ่อมได้!!

พอรอยแตกลายเริ่มจางหายเลยได้ใจ เพราะสังเกตได้ว่าทั้งออยล์และเจลตัวนี้เมื่อใช้สลับกันแล้วผิวชุ่มชื้นดีเหลือเกิน แบบนี้มีเหรอจะหยุดใช้ง่ายๆ พฤติกรรมทำร้ายผิวที่เชื่อว่าพัดชาไม่ได้เป็นอยู่คนเดียวคือการติดอาบน้ำอุ่น ร้อนๆ ฟินๆ ก็อาบแล้วมันผ่อนคลายหายเหนื่อย เสร็จแล้วยังไงต่อ ก็มานอนไถฟีดอัพเดทโซเชียลในห้องแอร์เย็นเจี๊ยบจนผิวขาดความชุ่มชื่น มีอาการแห้งคันอยู่เป็นระยะ

Bio-Oil

ตั้งแต่เปลี่ยนรูทีนอาบน้ำเสร็จเช็ดตัวหมาดๆ แล้วใช้  Bio-Oil Specialist Skincare Oil ชโลมแล้วนวดบริเวณที่มีปัญหาผิวแตกลาย ตามด้วย Bio-Oil Dry Skin Gel ลงบนจุดที่แห้งมากเป็นพิเศษอย่างเรียวขา ข้อศอก ก็เห็นได้ชัดว่าผิวดูชุ่มชื้นอาการแห้งคันหายไป ที่เคยดูเป็นรอยแห้งๆ บางครั้งก็เป็นขุยกลับเรียบเนียนดูเต่งตึง งานนี้คิดถูกแล้วจริงๆ ที่ใช้ต่อเนื่อง

Bio-Oil

สีผิวไม่สม่ำเสมอ ใครทน…พี่จะไม่ทน

อีกปัญหาที่เจอมากับตัวแล้วได้  Bio-Oil มาช่วยกู้ภัยไว้ได้คือปัญหา ‘สีผิวไม่สม่ำเสมอ’ หลายคนเจอปัญหานี้จากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานหรือเคยผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่วนตัวพัดชามักเจอปัญหานี้ในเวลาที่มีประจำเดือน ผิวจะมีความผันผวนบอกไม่ถูก ดูหม่นหมองและมีความไม่สดใสไม่สม่ำเสมอ มาเจอช่วงเวลาแบบนี้ทีไรต้องเลือกใช้  Bio-Oil Specialist Skincare Oil หยดน้อยๆ แล้วนวดเบาๆ นอกจากใช้กับบอดี้แล้วพอมาลองกับผิวหน้าก็ช่วยปรับสภาพให้ ผิวหน้าดูสดใสเรียบเนียนได้ไม่แพ้การใช้บูสเตอร์

Bio-Oil

ผิวสูงวัยก็ต้องใช้  Bio-Oil

ไม่ใช่แค่เรื่องความชุ่มชื้นแต่ออยบำรุงสูตรลับของ  Bio-Oil ยังมีผลไปถึงเรื่องของแอนตี้เอจจิ้ง ทั้งริ้วรอยความแต่งตึงบนผิวหน้าและผิวกาย เพราะเขามีส่วนผสมหลายชนิดที่ช่วยในการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน เติมคอลลาเจนและอีลาสติน สร้างความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ริ้วรอยนั้นเลือนหาย

ลองหยด  Bio-Oil Specialist Skincare Oil ลงบริเวณที่มีความกังวลทั้งเช้าและเย็น อย่างพัดชานี่เน้นๆ เลยบริเวณหน้าผากและร่องแก้ม นวดเบาๆ ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวสดใสริ้วรอยเลือนหาย

Bio-Oil

ปลื้มปริ่มขนาดนี้ขอสรุปความประทับใจให้คะแนนไบโอ-ออยล์แบบเต็ม 10 จากที่คาดหวังสูงเพราะได้ยินชื่อเสียงมานาน แล้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ผลิตภัณฑ์ของเขาถือว่ามีความเป็น BACK TO BASIC เรียบง่าย อ่อนโยน แต่ได้ผลจริงจังแถมยังครอบจักรวาล ไม่ต้องใช้ตัวนั้นตัวนี้เยอะแยะให้เวิ่นเว้อ ถือว่าเหมาะกับสาวยุคใหม่ที่มีเวลาน้อยแต่อยากได้ผิวสวยปังทั้งหน้าและกาย

ช่วงนี้บอกลูกค้าเลย “พี่เน้นรับงานผิว” นะคะ คือมั่นหน้า มั่นใจ มั่นไปทั้งบอดี้…เอาซี๊!!

แอนนา-นาตาชา เปลี่ยนวิถี

อัปเดตชีวิต แอนนา-นาตาชา เปลี่ยนวิถี “สองแม่ลูก แม้จะเหนื่อยแต่ก็มีความสุข”

Alternative Textaccount_circle
แอนนา-นาตาชา เปลี่ยนวิถี
แอนนา-นาตาชา เปลี่ยนวิถี

อัปเดตชีวิตซิงเกิ้ลมัม แอนนา-นาตาชา เปลี่ยนวิถี อดีตนางแบบสาวแถวหน้าของเมืองไทย กับชีวิตสองแม่ลูกที่แม้จะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขล้นใจ

แอนนา-นาตาชา เปลี่ยนวิถี

หลังจากปิดฉากชีวิตคู่ 11 ปี ไปเมื่อปีที่แล้ว ก็ไม่ค่อยได้เห็น อดีตนางแบบสาวแถวหน้าของเมืองไทย แอนนา-นาตาชา เปลี่ยนวิถี ในวงการบันเทิงสักเท่าไหร่  ล่าสุดเธอได้มีโอกาสปรากฏในงานแถลงข่าว  โครงการพันธมิตรสร้างแบรนด์ และธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในการแข่งขัน (Born Strong) ซึ่งในงานวันนี้เธอได้อัปเดตถึงชีวิตปัจจุบันในฐานะซิงเกิลมัมให้ได้ฟังกันด้วย

บ้านคือสนามรบ เหนื่อยแต่ก็สนุก

“ช่วงนี้เป็นช่วงที่เขาชอบแกล้งมากกว่า แสบมากตั้งใจแกล้งแม่ตลอด ตอนนี้ใช้ทุกวิธีเลยค่ะ ต้องปราบทุกวันถามว่าดุไหม เราเป็นคนไม่ดุเลย ไม่เคยดุใครในชีวิตเลย แต่คนนี้ไม่ดุไม่ได้ จากที่ไม่เคยดุ ต้องดุค่ะ เหนื่อยมากค่ะถามว่ามีตีไหม คือเหมือนเขาจะรู้ว่าแม่ไม่กล้าตี เลยแผลงฤทธิ์อยู่ทุกวัน สมมติว่าถ้ากล้าตีสักวัน คงจะหยุดแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าตี มีขู่เหมือนกันแกล้งตีเฉี่ยวๆ ถึงเหนื่อยมากค่ะแต่ก็สนุกค่ะ อยู่บ้านอย่างกับสนามรบแต่เราคนเดียวมาตลอดอยู่แล้ว เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ ไม่ยอมให้ใครเลี้ยงอยู่แล้วค่ะ”

ชีวิตสองแม่ลูกแฮ็ปปี้

“แฮ็ปปี้ด้วย เหนื่อยด้วยค่ะ เวลาเขาหลับ ก็แฮ็ปปี้แล้วค่ะ เขาหมดฤทธิ์แล้ว”

ความฝันของไตตั้น

“ความฝันของเขาก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะคะ บางครั้งก็อยากเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ แต่เราว่าเด็กสมัยนี้อยากเป็นยูทูบเบอร์ เกมเมอร์ แต่เราไม่สนับสนุนเรื่องเกมเพราะเราไม่เล่นเกมอยู่แล้ว แต่ว่าสังคมยุคนนี้เพื่อนเขาเล่น เราก็ให้เขาเล่นบ้างค่ะ แต่ก็พยายามจะบอกเขาว่า เขาต้องทำหน้าที่ของเขาให้เรียบร้อยก่อน เรียนภาษาไทยก่อน ซ้อมเปียโนก่อน พยายามจะดึงไว้ บังคับให้ทำในสิ่งที่ควรทำก่อน เล่นเกมก็มีจำกัดเวลาค่ะ อย่างกิจกรรมที่ให้เขาทำ เขาก็ทำได้ค่ะ อย่างเล่นเปียโน ถ้าเด็กที่ไม่ชอบเลยก็จะไม่ทำ แต่ด้วยความที่เขาเป็นเด็กจะให้อ่านโน้ตแล้วเล่นเอง ก็เป็นไปไม่ได้ ก็ต้องใช้เวลาและวิธีการสอนค่ะ”

อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับอดีตสามี ตุ้ย-ธีรภัทร์ สัจจกุล ก็ได้ตอบเพียงสั้นๆ เท่านั้น

พี่ตุ้ย-ธีรภัทร์ เขาได้เข้ามาช่วยอะไรไหม?”ขออนุญาต ไม่ตอบดีกว่า ไม่พูดถึงดีกว่าค่ะ” ตอนนี้น้องก็อยู่กับเราตลอดไม่ได้ไปหาคุณพ่อเลยใช่ไหม? “อยู่ตลอดค่ะ ตัวติดกันทั้งคู่ค่ะ”


ภาพจาก : @natasha_plienvit

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติทมได้ที่นี่

เซ็นใบหย่า! “ตุ้ย ธีรภัทร์” กับ “นาตาชา” ปิดฉากชีวิตคู่รัก 11 ปี

Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด

Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด เทคโนโลยีล่าสุดของโลก

Alternative Textaccount_circle
Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด
Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด

เผยโฉมนวัตกรรมล้ำสมัยที่โดดเด่นด้วยดีไซน์มินิมอล เรียบง่ายที่ถูกพัฒนากรอบแว่นแบบเจาะรุ่นแรกๆ ของโลกที่ไม่มีการยึดหน้าเลนส์กับขาด้วยสกรู และไม่มีการใช้กาวในการยึดติด

ก็อตติ (Götti) คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด “เปอร์สเปคทีฟ” (Perspective) ครั้งแรกในประเทศไทยที่ร้านแว่นตา WALTZ เผยโฉมนวัตกรรมล้ำสมัยที่โดดเด่นด้วยดีไซน์มินิมอล เรียบง่ายที่ถูกพัฒนากรอบแว่นแบบเจาะ (Rimless) รุ่นแรกๆ ของโลกที่ไม่มีการยึดหน้าเลนส์กับขาด้วยสกรู และไม่มีการใช้กาวในการยึดติด (NO SCREW, NO GLUE) แต่เน้นโครงสร้างนวัตกรรมการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ภาพสามมิติสุดล้ำในการสร้างวัสดุที่ยึดหน้าเลนส์และขาเข้าด้วยกัน ผ่านการใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยมพร้อมงานประกอบฝีมือมาตรฐานขั้นสูง ทำให้แว่นมีน้ำหนักเบาสบายเป็นพิเศษและแตกต่างไม่เหมือนใคร เสริมบุคลิกให้โดดเด่นมีสไตล์และมีความเป็นมืออาชีพ

เพราะบุคลิกภาพคือกุญแจสู่ความสำเร็จชิ้นหนึ่ง การเลือกใช้เครื่องแต่งกาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือแว่นตา จึงเปรียบเสมือนกระจกที่สะท้อนให้คนรอบข้างได้รับรู้ถึงรสนิยมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้สวมใส่ไม่มากก็น้อย ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และดีที่สุดของโลก ที่ถูกดีไซน์และผลิตจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์

Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด

สำหรับคอลเล็คชั่นล่าสุด ก็อตติ เปอร์สเปคทีฟ (Götti Perspective) แสดงถึงความเรียบง่าย สง่างาม  ซึงถือเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบแว่นตาที่เหนือกาลเวลาของก็อตติ ทีช่วยขับใบหน้าให้โดดเด่นมีเสน่ห์แบบเรียบหรูและตอบรับกับสไตล์ของผู้สวมใส่ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างอย่างลงตัว โดยมีทรงแว่นตาให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ Rimless พลิกโฉมแว่นไร้กรอบหรือแว่นกรอบเจาะที่ทันสมัยที่สุดในโลกด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ มอบลุคมินิมอลสไตล์แบบน้อยแต่มากเรียบแต่โก้ นอกจากนี้ ก็อตติยังนำเสนอดีไซน์รูปกรอบที่หลากหลาย เพิ่มลูกเล่นให้แว่นตาโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบวงขอบแว่น Loop เป็นแว่นกรอบบางเน้นความเรียบง่าย ส่วน Bold คือกรอบแว่นที่เพิ่มความหนากว่ารุ่นอื่น ทำให้กรอบมีความคมชัดดูดีมี Character และ Space แว่นกรอบดีไซน์สุดล้ำโฉบเฉี่ยว ไฮแฟชั่นไม่เหมือนใคร โดยทุกแบบมาพร้อมสีสันต่างๆ ให้เลือกอีกมากมาย

Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด

กว่าสามปีในการวิจัยและค้นคว้าพัฒนากรอบแว่นแบบเจาะที่ดีทีสุดของโลกด้วยชิ้นส่วนประกอบแว่นเพียงไม่กี่ชิ้น พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิตด้วยงานฝีมืออันประณีตจากผู้เชี่ยวชาญงานฝีมือสวิสเซอร์แลนด์ เน้นดีไซน์ฟังก์ชั่นบางเบา ใส่สบาย เรียบง่าย แตกต่างไม่เหมือนใคร ด้วยนวัตกรรมพิเศษไม่ใช้สกรู ไม่ใช้กาว ในการเชื่อมต่อขาแว่นและแป้นจมูก แต่เป็นการเชื่อมแบบพิเศษด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติสุดล้ำสมัยลิขสิทธิ์เฉพาะของก็อตติ ในการสร้างวัสดุยึดหน้าเลนส์และขาแว่นเข้าด้วยกัน

ซึงส่งผลให้รูยึดมีแรงยึดเกาะสูงแต่ในขณะเดียวกันยังคงความยืดหยุ่นทียอดเยี่ยม โดยตัวกรอบทำจากสแตนเลสสตีลเกรดพรีเมี่ยมน้ำหนักเบา ทนทานสูงต่อการใช้งานและสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด โดยข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบและคุณภาพนั่นคือ การคว้ารางวัลกว่า 8 รางวัล ในด้านเทคนิคนวัตกรรมใหม่ (Technical Innovation) และงานดีไซน์ที่ยอดเยี่ยม (Refined Design)

Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด Götti นวัตกรรมกรอบแว่นตาแบบเจาะไร้วัสดุในการยึดติด

คอลเล็คชั่นใหม่ “เปอร์สเปคทีฟ” (Perspective) มีวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ในราคา 16,900 บาท ที่ร้านแว่นตาชั้นนำในกรุงเทพฯ – WALTZ ทุกสาขา, OPTICLAND และร้านแว่นตาราชดำริ

พิเศษสุดๆ กับงาน Götti Perspective Trunk Show งานที่รวบรวมแว่นก็อตติ (Götti) คอลเล็คชั่นล่าสุดมาให้เลือกแบบครบทุกรุ่น พร้อมโปรโมชั่นลดแบบจุใจสูงสุดถึง 35 % พร้อมกับเลนส์มาตรฐานสูงสุดจากประเทศเยอรมัน มากไปกว่านั้นสำหรับลูกค้าที่ซื้อแว่นก็อตติภายในงาน รับฟรี!! คลิปออน Caesar Flip หรือเลือกรับเป็น บัตรกำนัลส่วนลด 2,000 บาท ในรอบบิลถัดไป โดยงานนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5-11 กันยายน 2563 ที่ร้านแว่นตา WALTZ สาขาสยาม พารากอน และสาขาคริสตัล ปาร์ค นี้เท่านั้น

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ก็อตติ (Gotti) ได้ที่เว็บไซต์ https://www.waltzvision.com/gotti หรือ เฟซบุ๊ค Waltz และอินสตาแกรม Waltzvision


 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แว่นตาพับได้! ROAV แบรนด์น้องใหม่จากอเมริกา น้ำหนักเบา บาง แต่แข็งแรง

สายแฟต้องมี! ส่องคอลเล็คชั่นใหม่ “แว่นของญาญ่า” ดีไซน์แต่ละแบบคือเก๋และชิค

แว่นกันแดดไม่ใช่แค่แฟชั่น! รู้หรือไม่ สีของเลนส์แต่ละสีช่วยป้องกันดวงตาต่างกัน

 

 

 

ยูนิโคล่

ราคาดี คุณภาพเริ่ด! ยูนิโคล่ เปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ แฝงกลิ่นอายยุค 70s

ยูนิโคล่
ยูนิโคล่

จำหน่ายแล้ว! ยูนิโคล่ เปิดตัวคอลเล็คชั่น UNIQLO/ INES DE LA FRESSANGE 2020 Fall/Winter เฉลิมฉลองสัญลักษณ์เสรีภาพสตรียุค 70s

ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่น ประกาศวางจำหน่ายคอลเล็คชั่นล่าสุดกับ อิเนส เดอ ลา เฟรซองจ์ (Ines de la Fressange) แฟชั่นไอคอนแถวหน้าระดับโลกที่มาร่วมออกแบบ เตรียมวางจำหน่ายในทุกสาขาทั่วประเทศไทยและทางเว็บไซต์ uniqlo.com/th  ในวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป

โดยสินค้าแต่ละสาขาอาจแตกต่างกันออกไป สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ยังคงลักษณะเด่นในสไตล์เสื้อผ้าที่หรูหราและล้ำลึก โดยได้ผสานรวมเข้ากับความเชื่อในการออกแบบของอิเนส ดีไซเนอร์ผู้ตั้งใจเนรมิตเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงเพื่อให้ทุกคนสามารถสวมใส่ได้อย่างสบายตัว พร้อมกับเผยเอกลักษณ์ความงามของแต่ละคน

ยูนิโคล่

ยูนิโคล่

ยูนิโคล่

นอกจากนี้ คอลเล็คชั่นดังกล่าวยังได้ยึดหลักปรัชญาไลฟ์แวร์ (LifeWear) จากยูนิโคล่ที่มุ่งสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายเปี่ยมคุณภาพ โดดเด่นด้วยนวัตกรรม ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย ทั้งในแง่การออกแบบและความสวมใส่สบาย อีกทั้งยังตรงกับทุกความต้องการของไลฟ์สไตล์ในแต่ละวัน

 อุทิศแก่ผู้นำวงการแฟชั่นยุค 70s

สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ อิเนสได้รับแรงบันดาลใจจากบรรดาผู้หญิงที่เป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพในกลุ่มสตรีและวงการแฟชั่นในช่วงปี 1970 กลุ่มคนเหล่านี้รวมถึง เจน เบอร์กิ้น (Jane Berkin) นักแสดง นักแต่งเพลง และนางแบบ และนักแต่งเพลงอย่าง ฟรองซวส แมดแลน ฮาร์ดี (Françoise Madeleine Hardy) อิเนสได้บรรยายถึงเหตุการณ์ในสมัยนั้นว่า

“ในช่วงยุค 70s ผู้หญิงหลายคนต้องการปลดเปลื้องออกจากขนบธรรมเนียมเดิมๆ กลุ่มคนที่รักอิสระเหล่านี้ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการแฟชั่นและนำเสนอแนวการใช้ชีวิตในทิศทางใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น” อาจกล่าวได้ว่าคอลเล็คชั่นนี้ได้ร่วมยกย่องเหล่าผู้หญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายจิตวิญญาณอันรักอิสระ

คอลเล็คชั่นประจำฤดูใบไม้ร่วง/ ฤดูหนาวในครั้งนี้ได้สานต่อแนวคิดการออกแบบหลัก 3 แนวทาง แนวทางแรกแฝงกลิ่นอายในแบบโบฮีเมียน ซึ่งได้แรงบันดาลจากวัฒนธรรมเสรีนิยมในช่วงปี 1970 โดดเด่นด้วยกระโปรงและชุดเดรสจับจีบด้วยมือมาในลวดลายพาสลีย์ (Paisley) หรือลายลูกน้ำและโพลกา ดอท และเพื่อช่วยเติมความอบอุ่นให้กับฤดูกาลที่กำลังมาถึง ยูนิโคล่ได้นำเสนอไอเท็มหลักจากผ้าถัก (Knitwear) ด้วยลาย Fair Isle ที่มอบความรู้สึกพื้นบ้านเฉพาะตัว

คอลเล็คชั่นนี้ยังถือเป็นครั้งแรกที่ UNIQLO/ INES DE LA FRESSANGE ได้ร่วมมือกันนำเทคโนโลยี 3D Knit มาใช้ เพื่อมอบความสบายแบบเหนือระดับในการสวมใส่และสร้างสรรค์กรรมวิธีการถักทอลายผ้าที่ชัดเจน แนวคิดถัดมาคือ ธีมนีโอบูร์ชัวร์ (Neobourgeois) ซึ่งนำเสนอไอเดียการออกแบบผ่านเสื้อเบลาส์ผ้าไหมแท้ 100% และเดรสผูกเอวซึ่งถือเป็นไอเทมที่ผู้หญิงทุกคนต่างๆ ต้องมีติดตู้เสื้อผ้า เหมาะสำหรับการจับคู่ทั้งกับแจ็กแก็ตปกขนสัตว์ เสื้อคาร์ดิแกนตัวยาว และกางเกงคูลอตสำหรับโอกาสแบบสบายๆ

ปิดท้ายด้วยสไตล์การออกแบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชายและได้รับความนิยมจำนวนมากในกลุ่มผู้หญิงในยุค 70s ไม่ว่าจะเป็น เสื้อโค้ต แจ็กแก็ตผ้าทวีดแบบคลาสสิก กางเกงลูกฟูก (couduroy) และไอเท็มต่างๆ ตามแบบฉบับเสื้อผ้าผู้ชายอีกมากมาย

รายการสินค้า ราคา (บาท) รายการสินค้า ราคา (บาท) 
เสื้อตัวนอก 2,490 – 5,990 นิตแวร์ 1,490 – 3,490
กางเกงและกระโปรง 1,490 – 2,490 เดรส 1,490 – 4,990
เสื้อเชิ้ต 990 – 2,490 เครื่องประดับ 790 – 990


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กลับมาแล้ว! คอลเล็คชั่นพิเศษ ยูนิโคล่ X มารีเมกโกะ คุณภาพดี ราคาจับต้องได้

น่ารักยกแก๊ง! CHAMPION x SESAME STREET ขนตัวละครดังมาอยู่บนเสื้อผ้า

4 แบบ 4 สไตล์! นาฬิกา SWATCH รุ่นใหม่ล่าสุด ราคาน่ารัก หลักพันต้นๆ

 

‘เป็นโสดดีกว่าเป็นที่สอง แถมยังจบไม่สวยด้วย’ ดูดวงรายวัน 28 สิงหาคม 2563

ดูดวงรายวัน 28 สิงหาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : วันนี้คุณอาจถูกญาติพี่น้องชักชวนให้ไปร่วมงานในธุรกิจของครอบครัว ในฐานะที่ปรึกษา หรือผู้บริหารโครงการ โดยทำเป็นจ็อบพิเศษนอกเหนือจากงานประจำ ก็เป็นงานที่ท้าทาย  แต่ไม่ควรรีบตัดสินใจ ควรหาข้อมูลก่อนจะรับปาก หากมีการเปลี่ยนแปลงจะได้ไม่เสียความสัมพันธ์

การเงิน : คุณสามารถใช้เงินสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง แต่เพราะคุณใจดี ชอบช่วยเหลือญาติมิตรหรือเพื่อนฝูงที่เดือดร้อน ปฏิเสธไม่เป็น จึงเหมือนหาเงินมาเพื่อให้คนอื่นใช้

ความรัก : คุณเป็นหัวหน้าครอบครัว มีหน้าที่ทำงานหาเงินจึงค่อนข้างจริงจังกับทุกๆ เรื่อง ยกเว้นความรักความสัมพันธ์ของคุณที่เริ่มลังเล ไม่แน่ใจว่าจะอยู่กันได้นานหรือเปล่า   คนโสด คุณมีเสน่ห์ในวงสังคม วันนี้อาจได้เจอผู้บริหารหนุ่มที่ถูกใจจนอยากจูงมือไปอยู่ด้วยกันเลย

สุขภาพ : ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ จนถึงเป็นลมล้มทั้งยืนได้ ควรพกยาดม ยาหม่อง ยาประจำตัวไปด้วย และควรรับประทานอาหารและผักผลไม้ที่ช่วยบำรุงเลือด  รวมถึงวิตามิน อาหารเสริม

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้คำพูดในการติดต่อประสานงาน เช่น งานพีอาร์ประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารมวลชน พนักงานขาย ฯลฯ วันนี้คุณอยู่ในภาวะที่หวาดระแวง ไม่มั่นใจ ไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรเลย จนเกิดความอึดอัด ร้อนรุ่ม อยากลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป ต้องอดทน เพื่อรักษาตัวให้รอดจากสถานการณ์ตรงหน้าให้ได้ก่อน

การเงิน : ใจดี ชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูง หรือญาติพี่น้องที่เดือดร้อน จนเหมือนหาเงินมาเพื่อให้คนอื่นใช้ ระวังอาจต้องเสียเงินก้อนใหญ่ให้กับคนใกล้ชิด หรือคนรักโดยไม่รู้มาก่อนล่วงหน้า ทำให้ร้อนเงิน ต้องไปหยิบยืมเงินมาหมุน

ความรัก : ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา คุณผิดหวังกับความรักไม่รู้จักกี่ครั้งแล้ว วันนี้ก็เช่นกัน มีปัญหาบุคคลที่สามเข้ามาวุ่นวายในชีวิตครอบครัวของคุณ ที่จะทำให้เกิดการทะเลาะกันเพราะความหึงหวง คนโสด คุณมีเสน่ห์แต่แฝงอยู่ด้วยความไม่ยอมใคร วันนี้คุณอาจได้เจอชายหนุ่มที่ถูกใจอย่างไม่คาดฝัน เจอปุ๊บคุณอาจหึงหวงเลยก็ได้

สุขภาพ : ต้องระวังความเจ็บป่วยในอวัยวะของผู้หญิง เช่น มดลูก อวัยวะเพศ รวมถึงประจำเดือนมาไม่ปกติ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อสื่อสาร เช่น พีอาร์ประชาสัมพันธ์ โฆษณา ออร์กาไนซ์ สื่อสารมวลชน หรือพนักงานขาย ฯลฯ  รวมถึงงานที่ให้บริการวันนี้คุณอาจต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ส่วนบุคคลมาใช้ในการทำงานอย่างมาก ควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่ต่างด้วย แล้วคุณจะประสบความสำเร็จ ได้เงินได้ทอง

การเงิน : อาจเสียเงินกับการซื้อขนมนมเนยเลี้ยงบุตรหลาน หรือลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชา รวมถึงซื้อของมีมูลค่าราคาแพงให้กับตัวเอง

ความรัก : คุณค่อนข้างยึดติดกับขนบธรรมเนียมประเพณี ดังนั้น เมื่ออยากจะมีทายาทก็อาจต้องวางแผนกันอย่างจริงจัง ซึ่งอาจต้องไปปรึกษาหมอเลยทีเดียว โดยเฉพาะในเรื่องอารมณ์ เพราะคุณเหวี่ยงวีนง่ายมาก คนโสด คบกับใครต้องระวังทั้งตัวและใจ เพราะคุณอาจมีข่าวมงคลเร็วกว่าที่คิดก็ได้

สุขภาพ : หากคุณเลือกรับประทานแต่อาหารที่ชอบ ต้องระวัง ร่างกายอาจขาดวิตามินหรือสารอาหารบางชนิด จึงควรฝืนใจรับประทานบ้าง เพื่อให้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  วันนี้ก็ยังอยู่ที่การนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์มาใช้กับการทำงาน ยิ่งหากคุณเป็นพนักงานใหม่จะมีปัญหาและอุปสรรคเข้ามาท้าทายความสามารถ ซึ่งคุณก็ไฟแรง มีไอเดียเลอค่า อีโก้จัด ไม่ฟังความคิดเห็นที่แตกต่างจากตัวเอง หากสามารถแก้ปัญหาได้ก็ดี แต่หากพลาด คุณจะถูกมองว่าก้าวร้าว ไม่เคารพรุ่นพี่ ทางที่ดีจึงขอทำส่วนตัวเลยดีกว่า

การเงิน : รายได้มาจากน้ำพักน้ำแรง จึงไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เพราะอาจทำให้หน้าที่การงานมัวหมอง

ความรัก : คุณครองรักกันอยู่ภายใต้ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม จนกลายเป็นที่อิจฉาตาร้อนของผู้อื่น จึงมาเม้าท์มอยให้ฟังว่า คู่คุณแอบซุกกิ๊ก ซึ่งอาจยุไม่ขึ้นก็ได้ เพราะคุณไม่แคร์ คนโสด ‘หากรักชอบกันจริงๆ ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตูนะคะ’ คุณกล่าว….

สุขภาพ : ต้องหลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ ไม่สด รสชาติแซ่บเว่อร์ เพราะจะทำให้คุณมีปัญหาเรื่องท้องไส้ อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  : ท่าทางจะเหนื่อย เพราะคุณอาจตกอยู่ในสถานการณ์แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ในเรื่องหน้าที่การงาน และผลประโยชน์ อย่างดุเดือด แม้คุณจะนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์มาใช้กับการทำงานอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่หากคุณยังปิดกั้นความคิดอยู่แต่กับพรรคพวกของคุณ อาจทำให้งานหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย จึงควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างด้วย

การเงิน : ไม่ควรทุ่มลงทุนโดยที่ยังไม่เห็นผลตอบแทน เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะล้มละลาย หรือขาดทุน

ความรัก : คุณแต่งงานครองคู่กันอยู่ภายใต้ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม แต่วันนี้อาจมีใครสักคนที่ก้าวล่วงหรือหยามศักดิ์ศรีโดยไม่ตั้งใจ จึงอาจเป็นประเด็นถึงขนาดปิดฉากความสัมพันธ์ได้เลย  คนโสด หากคุณกำลังคิดที่จะแย่งชิงหนุ่มตี๋ที่คุณถูกใจอยู่ วันนี้ไม่ใช่วันของคุณ เพราะคุณจะไม่ได้

สุขภาพ : ควรระวังอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นจากการเดินทาง หรือการทะเลาะวิวาท โดยเฉพาะเรื่องชู้สาว จึงควรหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายเอ็นเทอร์เทน เช่น เอ็นเทอร์เทนเนอร์ นักร้อง หรือธุรกิจผู้ประกอบการสถานบันเทิง วันนี้หากคุณกำลังจะเริ่มต้นโปรเจกใหม่อาจต้องชะลอนิดหนึ่ง ควรหาผู้รู้หรือที่ปรึกษาที่ดีให้ได้ก่อน หรือไม่คุณก็อาจต้องไปเรียนเพิ่มเติม เพราะหากเปิดทันที อาจมีสิทธิ์ล้มได้เลย

การเงิน : รายได้หลักมาจากงานประจำ หากคุณหวังรายได้เสริมจากงานร้องเพลง หรือการเปิดผับบาร์ อาจต้องผิดหวังก็ได้ เพราะฉะนั้นจึงควรประหยัด เก็บเงินไว้ดีที่สุด

ความรัก : หากคุณต้องการใช้ชีวิตวันศุกร์หรรษา ด้วยการไปสังสรรค์ปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง ต้องระวังเรื่องชู้สาว หากไม่เคลียร์ให้ดีกับคู่ของคุณ ความรักความสัมพันธ์อาจจบลงอย่างไม่คาดคิด คนโสด อยู่เป็นโสดก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งเจ้าชู้ ไม่เช่นนั้นคุณอาจตกเป็นมือที่สาม แถมยังจบไม่สวยด้วย

สุขภาพ : ระบบหมุนเวียนในเลือดไม่ปกติ อาจเป็นโรคเหน็บชา ความดัน จนถึงภาวะวัยทอง ไม่พอใจในสิ่งต่างๆ รอบตัว เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : วันนี้คุณได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ให้เป็นหลักของทีม ซึ่งภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับอีโก้ที่สูงลิ่ว จนคุณไม่สนใจความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานเลย ยึดแต่ไอเดียของตัวเอง จึงไม่แปลก หากเพื่อนร่วมงานจะหมั่นไส้และใส่ร้ายป้ายสี จนเกิดผลร้ายและผลกระทบต่อหน้าที่การงานได้อย่างกะทันหัน จึงควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง

การเงิน : คุณเป็นหัวหน้าครอบครัว หาเงินเลี้ยงดูสมาชิกทุกชีวิตในครอบครัว อย่างไม่คาดหวังผลตอบแทนใดๆ  รวมถึงการทำงาน คุณก็คิดถึงแต่ตัวงานก่อนตัวเงิน จึงควรหาผู้จัดการมาดูแลผลประโยชน์ ไม่เช่นนั้นอาจถูกเอาเปรียบได้ง่ายๆ

ความรัก : คุณเปรียบเหมือนเสาหลักของครอบครัว มีความคิดของตัวเองชัดเจน ยึดมั่นในอุดมคติมากกว่าความรักเชิงชู้สาว วันนี้ก็เอาแน่เอานอนอะไรกับคุณไม่ได้ เปลี่ยนใจวันละหลายๆ รอบ จนทำให้คนที่อยู่ด้วยเดาใจลำบาก คนโสด คุณมีอุดมการณ์แน่วแน่ว่า จะทำงานหาเลี้ยงครอบครัวก่อนที่จะคิดถึงเรื่องความรัก

สุขภาพ : ก็ยังคงคิดถึงเรื่องงานมากกว่าสุขภาพของตัวเอง วันนี้ร่างกายอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาวะของอากาศ อาจเป็นไข้หวัด หรือแพ้อากาศได้นะคะ

 

เช็กดวงย้อนหลังกันได้ที่นี่

ระวัง!! เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ลอบตีท้ายครัวจนแตก ดูดวงรายวัน 22 สิงหาคม 2563

มีเกณฑ์พัวพันเรื่องชู้สาว ทำหน้าที่การงานพัง ดูดวงรายวัน 23 สิงหาคม 2563

หากเคลิบเคลิ้มกับเด็ก คุณอาจตกเป็นมือที่สาม ดูดวงรายวัน 24 สิงหาคม 2563

ขอเตือน หากกำลังมีรักที่ซ่อนเร้น วันนี้อาจถูกจับได้ ดูดวงรายวัน 25 สิงหาคม 2563

ไม่ควรกินเด็กในที่ทำงาน เพราะจะเสียการปกครอง ดูดวงรายวัน 26 สิงหาคม 2563

คุณได้เจอผู้ชายที่ตรงสเป๊ก หากพลาดต้องรออีกนานเลย ดูดวงรายวัน 27 สิงหาคม 2563

แม่ก็คือแม่! 30 ปี ไม่พลิกล็อค “คริสติน่า อากีล่าร์” ครองฉายา Queen of Dance

แม่ก็คือแม่! 30 ปี ไม่พลิกล็อค “คริสติน่า อากีล่าร์” ครองฉายา Queen of Dance

Alternative Textaccount_circle
แม่ก็คือแม่! 30 ปี ไม่พลิกล็อค “คริสติน่า อากีล่าร์” ครองฉายา Queen of Dance
แม่ก็คือแม่! 30 ปี ไม่พลิกล็อค “คริสติน่า อากีล่าร์” ครองฉายา Queen of Dance

คุยเอ็กซ์คลูซีฟกับเจ้าของฉายา Queen of Dance “คริสติน่า อากีล่าร์” 30 ปี บนถนนสายดนตรี แม่ก็คือแม่! แบบไม่พลิกล็อค

นักร้องหญิงแนวป็อปแดนซ์ฉายา “Queen of Dance” สร้างกระแสความฮ็อตให้ยุค 90 ด้วยเพลงฮิตอย่าง นินจา, พลิกล็อค, ประวัติศาสตร์ และอีกหลายเพลง ที่ดังไปทั่วบ้านทั่วเมือง ชนิดไปไหนก็ต้องได้ยิน ที่สำคัญเธอคือนักร้องสาวคนแรกที่สร้างผลงานยอดขายอัลบั้มเกินล้านตลับ (ตลับในยุคนั้นแทนคำว่าตลับเทปคาสเส็ต) ได้ตั้งแต่อัลบั้มแรกภายในระยะเวลาแค่ 6 สัปดาห์ และยังทำสถิติเป็นนักร้องหญิงคนเดียวของไทยที่ทำยอดขายเกินหนึ่งล้านตลับ 4 อัลบั้มติดกัน คือ อัลบั้มนินจา (2533), อาวุธลับ (2533), Red Beat รหัสร้อน (2537) และ Golden Eyes (2540) อาจเพราะเอกลักษณ์การร้องที่โดดเด่น ทันสมัย ภาพลักษณ์ที่เปรี้ยวล้ำ บวกลีลาการแดนซ์แบบจัดเต็ม ทำให้เธอกลายเป็นซุป’ตาร์ตลอดกาล แม้จะผ่านมากว่า 30 ปี ติ๊นาในวันนี้ก็ยังดูฮ็อตและเต็มไปด้วยพลังแบบ…แม่ก็คือแม่

คริสติน่า อากีล่าร์

พลิกล็อคกันน่าดู ถล่มทลาย…

เมื่อพูดถึงการก้าวเข้ามาสู่เส้นทางนักร้องซุป’ตาร์ที่ออกอัลบั้มแรกปุ๊บก็ดังปั๊บ จนกลายเป็นไอดอลของสาวๆ ยุคนั้น ติ๊นายอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

“ครั้งแรกที่ออกอัลบั้มในปี 1990 ไม่คิดเลยว่าจะดัง ติ๊นาแค่คิดว่าเราได้มีโอกาสทำในสิ่งที่รักมาตลอดตั้งแต่สมัยยังเด็ก คือการร้องเพลงที่จู่ๆ พี่เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์ ก็ให้โอกาสติ๊นา สารภาพว่าตอนนั้นไม่รู้เลยว่าการเป็นนักร้องต้องเจออะไรบ้าง รู้แค่ว่าจะได้ร้องเพลงที่มีคนแต่งให้ แค่นั้นก็แฮ็ปปี้แล้ว ส่วนเพลงแดนซ์ก็ไม่มีปัญหา เพราะชอบอยู่แล้ว เต้นได้ ไม่อาย แฮ็ปปี้ด้วย แค่ต้องเรียนเต้นเพิ่ม เพราะเต้นบนเวทีกับเต้นที่บ้านไม่เหมือนกัน แต่ไม่ยาก เพราะเราค่อนข้าง ‘เร็ว’ (เน้นเสียงไปพร้อมกับยิ้มสนุก) ก็พยายามทำให้เป็นธรรมชาติที่สุด ติ๊นาคิดว่าเพลงแดนซ์นี่แหละลงตัวกับเราที่สุดแล้ว

“วันแรกที่ปล่อยทีเซอร์ออกมาเป็นมินิซีรี่ส์ กระแสตอบรับดีมาก จนพี่เล็ก (บุษบา ดาวเรือง) โทร.มาเล่าให้ฟังด้วยความตื่นเต้น ซึ่งเราก็ดีใจแล้วนะ พอถึงวันที่อัลบั้มวางแผง ก็ยิ่งได้รับการตอบรับที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งวันที่เปิดจองบัตรคอนเสิร์ต นี่คือที่สุดเลย สมัยนั้นนักร้องดังต้องเล่นที่ MBK Hall ปรากฏบัตรขายหมดเกลี้ยง คนแย่งกันจนกระจกร้านแตก โอ้โฮ มันกลายเป็นกระแสที่เราไม่ได้คาดหวังไว้เลย อาจเพราะเมืองไทยตอนนั้นยังไม่มีนักร้องสไตล์นี้ ภาพลักษณ์ของเราจึงเป็นกึ่งๆ ‘ไคลี่ มิโนค’ (Kylie Minogue) คือเป็นสาวแดนซ์ เซ็กซี่ เปรี้ยว สนุก ทำให้ลุคของติ๊นาในตอนนั้นที่ผมสั้น ใส่ชุดหมีรัดรูป เข็มขัดใหญ่ๆ ฮิตกันไปทั่ว (ยิ้ม)

คริสติน่า อากีล่าร์

“ยิ่งตอนอัลบั้มสาม Red Beat นี่คือสุดยอดมากๆ เพราะทำยอดขายได้ เกิน 3 ล้านก๊อปปี้ เป็นยอดที่สูงที่สุดในบรรดานักร้องหญิง แล้วแต่ละเพลงก็ดังมาก (เช่น ไม่ยากหรอก, เลิกเหอะ, ไปด้วยกันนะ ฯลฯ) เกินจากที่เราหวังไปมาก แล้วไม่ใช่แค่นั้น ตอนขายบัตรคอนเสิร์ตคนแย่งกันจนทีมงานต้องวิ่งหนี (หัวเราะ) จำได้ว่าหนนั้นต้องไปเปิดขายบัตรกันในลานจอดรถของมาบุญครอง เพราะเขาไม่ให้ขายในร้านด้านในแล้ว เนื่องจากเคยทำร้านข้างในกระจกแตก ปรากฏคนมาปูเสื่อนั่งนอนรอเข้าคิวตั้งแต่คืนก่อนหน้าที่จะเปิดขาย พอเปิดขาย จำไม่ได้ว่า 9 หรือ 10 โมง นี่แหละ แป๊บเดียวบัตรหมด คนข้างหลังจึงมีโวย เกือบจะจราจล ทีมงานต้องกระโดดหนี กลัวโดนลูกหลง จนสุดท้ายจึงต้องเปิดคอนเสิร์ตรอบสอง

“ซึ่งปัจจุบันด้วยยุคสมัยคงยากที่ใครจะทำสถิติแบบขายอัลบั้มได้เกินล้านอีกแล้วละ ติ๊นาคิดว่าตัวเองโชคดีที่มีโอกาสเริ่มต้นทำงานในช่วงเวลาที่ถูกต้อง คืออยู่ในยุคทองของวงการเพลง คนฟังเพลงเยอะ และได้ร่วมงานกับคนที่ถูกต้อง อย่างพี่เต๋อและพี่ๆ นักแต่งเพลงระดับท็อปของเมืองไทย สำหรับติ๊นาจะรู้สึกว่าเพลงช้าร้องยากกว่าเพลงเร็ว เพราะต้องลากเสียงและใช้ความรู้สึกข้างในเยอะ แต่พี่เต๋อสอนว่าต้องเข้าใจเนื้อหาของเพลงก่อน ซึ่งช่วงแรกติ๊นายังไม่เข้าใจภาษาไทยอย่างลึกซึ้ง ก็ต้องอ่านเนื้อเพลงหลายๆ รอบ โดยพี่เต๋อช่วยอธิบายให้ฟัง เพื่อทำความเข้าใจอารมณ์เพลงให้ดีก่อนว่าถ้าอยู่ในสภาพแบบนี้ เราจะรู้สึกแบบไหน ในขณะเดียวกันฝั่งคนแต่งเพลงก็ใช้ภาษาสวยมาก ติ๊นาว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเพลงในยุคนั้นที่ติ๊นาชอบมากนะ ต้องมีคำที่คล้องจองกัน เป็นภาษาที่ต้องตีความ ไม่ใช่ภาษาพูดแบบทุกวันนี้ พี่นิ่ม สีฟ้า เคยบอกว่าเวลาจะแต่งเพลงที ต้องไปอ่านหนังสือกำลังภายในจีน เพราะมีภาษาเชิงเปรียบเทียบและภาษาที่สวยงามอยู่เยอะ ต้องอ่านเยอะๆ เพื่อเป็นไอเดียและจดคำเหล่านั้นมาปรับใช้

“ติ๊นาจึงกล้าบอกว่าทุกอย่างที่พี่เต๋อให้มาคือการวางรากฐานให้เรามีพื้นฐานที่แข็งแรงมาก อย่างที่นักร้องคนหนึ่งควรจะมีในการทำงานตรงนี้ คือมีเพลงดี เสื้อผ้า หน้าผม ทุกอย่างลงตัวหมดเลย ส่งผลให้แต่ละอัลบั้มทำยอดขายได้ดีตลอด เมื่อเราเริ่มต้นไว้ดีและแข็งแรง จากนั้นมาจึงเหนื่อยน้อยลง เราได้ทำงานกับคนที่ละเอียด ถ้าไม่ใช่พี่เต๋อ ติ๊นาก็คงไม่ใช่ติ๊นาที่ยังทำงานตรงนี้”

คริสติน่า อากีล่าร์

30 ปีบนถนนดนตรีและเวทีเพลงแดนซ์

นับจากครั้งแรกที่เดบิวต์ในปี 2533 จากยุคเทปคาสเส็ตสู่ยุคดิจิทัลดิสรัปชั่น จนมาถึงยุคโควิด-19 จนถึงวันนี้คริสติน่า อากีล่าร์ ก็ยังครองใจแฟนคลับและผู้ชมมาได้อย่างยาวนาน โดยพลังความสนุกยังไม่เคยลดลง

“ติ๊นาผ่านมาหมดแล้วนะ ทั้งช่วงที่วงการเพลงฮ็อตสุดๆ ได้รับการตอบรับที่ดี ทำสถิติได้สูงสุด จนมาถึงช่วงเซ็งที่สุด คือช่วงที่อัลบั้ม Paradise (ชุดที่ 5) กำลังจะวางแผง แล้วมีของปลอมมาวางตัดหน้า เรื่องแบบนี้ทำให้คนทำเพลงหมดกำลังใจ ติ๊นาเป็นนักร้องได้รับ ผลกระทบ แต่ยังพอมีคนจ้างไปร้องเพลง แต่นักแต่งเพลง คนเขียนทำนองที่รายได้มาจากการทำเพลง พอเจอแบบนี้ก็ส่งผลกระทบถึงเขาเต็มๆ เลย เขาอุตส่าห์ทำงานหนัก ตั้งใจทำเพลงดีๆ ออกมา แต่มาโดนก๊อปแบบนี้ ไม่แฟร์เลย ติ๊นาจึงหยุดทำอัลบั้มไปตั้งแต่มีเรื่องเทปผีซีดีเถื่อน แต่โชคดีที่ยังมีโชว์เข้ามาตลอด และเวลาไปร้องเพลงที่ไหนก็ยังมีแต่คนอยากฟังเพลงเดิมๆ อย่างพลิกล็อค, นินจา, พูดอีกที, ประวัติศาสตร์, ไม่ยากหรอก, ไปด้วยกันนะ, เปล่าหรอกนะ, เวลาไม่ช่วยอะไร, ฝากความยินดี นี่คือเพลงที่ต้องร้อง ไม่ร้องก็ไม่ได้ ประกอบกับติ๊นาเองก็ยังมีความสุขกับการได้ร้องเพลงและได้ขึ้นโชว์

คริสติน่า อากีล่าร์

“ความจริงตอนอายุ 30 กว่าๆ เคยคิดว่าเดี๋ยว 40 คงต้องเลิกร้องเพลง เพราะไม่น่าจะมีใครมาฟังเราแล้ว เราเองก็ไม่รู้ว่าจะเต้นไหวไหม แต่กลายเป็นว่าปัจจุบันอายุจะ 54 แล้ว ก็ยังเต้นได้อยู่และแฮ็ปปี้ด้วย จึงคิดว่าจะไม่กำหนดหรือจำกัดเวลาในการทำงานหรือแนวเพลงของเราอีกต่อไป รอดูสถานการณ์ ณ ตอนนั้นแทน ที่เหลือก็อยู่ที่ว่าเราดูแลตัวเองอย่างไร มีวินัยมากแค่ไหน รักอาชีพและมีความรับผิดชอบในงานมากแค่ไหน มีความสุขกับสิ่งที่ทำและการมอบความสุขให้คนอื่นอยู่ไหม ก็จะอยู่ต่อไปจนกว่าจะรู้สึกว่าพอแล้ว ไม่ไหวแล้ว หรืออยากเปลี่ยนแนวไปทำอย่างอื่น ค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ยังสนุกอยู่ ถ้าไม่ได้เต้นจะอึดอัด เวลามีคอนเสิร์ต หลายครั้งที่ทีมงานก็ไม่อยากให้ติ๊นาเต้นเยอะ แต่ติ๊นาไม่ยอม ขอเต้นเยอะๆ ท่ายากก็ได้ รู้สึกว่าถ้าเต้นน้อยหรือเวลาเจอท่าง่ายแล้วไม่ท้าทาย ยิ่งยากยิ่งทำให้เราอยากพัฒนาตัวเอง ถ้าทำไม่ได้ก็ร้องไห้ด้วยนะ อย่างเวลาเล่นคอนเสิร์ตไหนแล้วเต้นผิดท่าไปนิดหนึ่ง พอลงมาแล้วร้องไห้เลย โกรธตัวเอง เจ็บใจว่าทำไมพลาดเรื่องเล็กน้อย

“ถ้าสังเกตจากอัลบั้มชุดแรกมาจนถึงวันนี้ ท่าเต้นในทุกคอนเสิร์ตของติ๊นาจะยากขึ้น ไม่ง่ายลง ดังนั้นถ้าใจไม่รักหรือร่างกายไม่แข็งแรงพอ เราจะทำไม่ได้ สิ่งสำคัญคือเราจะไม่สร้างข้อจำกัดให้ตัวเอง ถ้ากลัวพลาดก็ซ้อมให้เยอะ ก่อนขึ้นคอนเสิร์ตติ๊นาขอซ้อมเยอะมาก เพราะยิ่งซ้อมมากยิ่งได้เปรียบ เนื่องจากเวลาอยู่บนเวทีเราต้องทำหลายอย่าง แยกประสาทหลายเรื่อง ไหนจะเนื้อร้อง เต้น สคริปต์ บล็อกกิ้ง แต่ถ้าเราซ้อมมาเยอะจนจำท่าเต้นได้โดยไม่ต้องนับหรือคิดเรื่องนี้ เราจะสามารถไปโฟกัสกับเรื่องอื่นได้เต็มที่

คริสติน่า อากีล่าร์

“แม้วันนี้วงการเพลงจะเปลี่ยนไปมาก ติ๊นาก็ทำใจได้นะว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา ก็ต้องหาวิธีทำงานให้ได้ อีกหน่อยคนอาจจะไม่ซื้อตั๋วเข้าไปดูคอนเสิร์ตก็ได้ อาจจะดูผ่านออนไลน์แทน แต่ติ๊นายืนยันว่าฟีลลิ่งไม่เหมือนกับการเข้าไปดูหน้าเวทีแน่นอน เพราะเสน่ห์ของคอนเสิร์ตคือแสงสีเสียงและพลังที่ส่งถึงกันระหว่างคนบนเวทีกับคนในฮอลล์ ถ้าไม่ได้ไปยืนอยู่ตรงนั้น ไม่มีทางได้เจอกับอารมณ์นั้น ซึ่งนี่คือสาเหตุที่ทำให้ติ๊นาชอบโชว์บิส คือเราไม่ได้ทำเพลงใหม่ๆ ออกมาแล้ว แต่ยังชอบการขึ้นแสดงอยู่ มีความสุขทุกครั้งที่ขึ้นเวที อะดรีนาลินมาเต็ม เพราะเรารู้ว่าคนที่อยู่ในนั้นคือคนที่รักและตั้งใจมาดูเรา ต้องทำให้เขาแฮ็ปปี้ที่สุด อย่างคอนเสิร์ต ‘เวทีคอนเสิร์ตคืนรอยยิ้ม’ ที่เพิ่งจัดไป ณ True Icon Hall ก็ทำให้เรากลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง เพราะตั้งแต่มีโควิด-19 มา วงการเพลงเงียบเหงาไปมาก เราจึงต้องหาวิธีการทำให้นักร้อง คนเบื้องหน้าและเบื้องหลังได้ทำงานและ มีรายได้เข้ามา กลายเป็น Hybrid Concert ที่สามารถเข้ามาชมในฮอลล์แบบคอนเสิร์ตปกติ ภายใต้กฎระเบียบและการป้องกันสูงสุด หรือจะดูแบบไลฟ์ผ่าน ออนไลน์ก็ได้เช่นกัน ก็ถือว่าทำให้ทุกคนได้มาปลดปล่อย สนุกสนานไปกับการฟังเพลงหลังจากอัดอั้นมานานด้วยกัน และหวังว่าจะเป็นอีกแนวทางในการเล่นคอนเสิร์ตให้นักร้องคนอื่นในยุคที่เราต้องมีการปรับตัว”


ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 961

ภาพเพิ่มเติม : c_aguilar

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

อัพเดตชีวิต 15 ปี เส้นทางนักร้อง “เป๊ก-ผลิตโชค” ล้มลุกแล้วโลดแล่นด้วยพลังบวก

เปิดใจ “เฌอปราง” จากวันแรกถึงวันนี้ ขึ้นแท่นไอดอลอายุน้อย แต่เต็มร้อยเกินวัย

8 ปี บนเส้นทางมายา ‘เจมส์-จิรายุ’ ไม่ยึดติดบทพระเอก พร้อมบรรเลงตามจังหวะชีวิต

 

 

เช็คกันหน่อย…8 เรื่องนี้คุณทำได้ดีแค่ไหนในปีแรกของ ชีวิตแต่งงาน

account_circle

คู่ไหนบ้างที่กำลังจะครบรอบแต่งงาน 1 ปีคะ? เพราะวันนี้เราอยากให้คุณเช็คกันสักหน่อยว่า ความสัมพันธ์ของคุณกับคนที่คุณเรียกว่า “คู่ชีวิต” ในปีแรกของ ชีวิตแต่งงาน เป็นอย่างไรบ้าง ราบรื่นอย่างที่คิดหรือผิดแปลกไปจากที่ฝันไว้ มีเรื่องไหนบ้างที่คุณต้องทบทวนและตอบให้ได้ว่าคุณทำหน้าที่คู่ชีวิตได้ดีแค่ไหน ไปดูกันค่ะ

ปรับตัวเข้าหากันได้ดีไหม?

เรื่องแรกที่เราอยากให้คุณเช็คตัวเองคือ คุณได้ทำการปรับตัวเองเข้าหาอีกฝ่ายบ้างหรือยัง แม้คุณจะบอกว่าแต่งงานไปก็สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมก็เถอะ แต่เอาเข้าจริงๆ การใช้ชีวิตคู่ของคุณย่อมมีการปรับตัวบ้างไม่มากก็น้อย เพราะตอนนี้คุณต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันใต้ชายคาเดียวกัน ไม่เกี่ยวว่าเป็นบ้านใครคนใดคนหนึ่งหรือเป็นบ้านของคุณเอง เพราะไม่ว่าจะอยู่บ้านไหน ระหว่างคุณสองคนก็ต้องปรับตัวเข้าหากันอยู่ดี แต่คุณสังเกตเห็นหรือเปล่าว่าคุณหรืออีกฝ่ายปรับตัวกันอยู่ไหม แล้วมันส่งผลอย่างไรกับการใช้ชีวิตร่วมกัน ถามตัวเองอีกนิดว่าตอนที่ปรับตัวเนี่ย รู้สึกเต็มใจจะทำหรือทำไปให้ผ่านๆ เพราะไหนๆ ก็แต่งกันไปแล้ว ถ้าความรู้่สึกเทมาประเด็นหลัง บอกเลยค่ะว่าคุณยังทำได้ไม่ดีพอ

ยอมรับเรื่องไม่คาดคิดที่เพิ่งได้รู้ก็เมื่อแต่งงานไปแล้วได้ดีแค่ไหน?

เมื่อก่อนแค่ไปรับ-ส่งที่บ้าน ตอนนี้ต้องอยู่ด้วยกันมากขึ้น เวลาเจอเรื่องใหม่ๆ ที่ผิดวิสัยคนทั่วไปทำหรือคุณไม่เคยรู้มาก่อนว่าอีกฝ่ายเป็นแบบนี้ คุณรู้สึกแบบไหนและยอมรับได้หรือเปล่า ซึ่งเรื่องที่เราว่านี้อาจไม่ใช่เรื่องเครียดอะไรมากมาย แต่เป็นเรื่องทั่วไปของชีวิตอีกคนที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน เช่น เดินๆ อยู่แล้วผายลมออกมาหน้าตาเฉย, มีอาการติดไอแพดขั้นสูงถึงขนาดคุณรู้สึกเหมือนไม่มีตัวตน, ชอบตื่นมากลางดึกทุกๆ เที่ยงคืนถึงตีหนึ่งเพื่อควานหาของกินแล้วนอนต่อ โดยไม่แปรงฟัน หรือแม้แต่ท่านั่งแสนสบายในแบบที่คุณไม่เคยเห็น คุณรู้สึกยังไง? คุณยอมรับได้ไหมและรับมือได้ดีหรือเปล่าเมื่อเผชิญกับสิ่งเหล่านั้น

จัดสมดุลเวลา 24 ชั่วโมงของคุณทั้งคู่ได้ดีแค่ไหน?

แม้จะแต่งงานกันไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า 24 ชั่วโมงของคุณต้องมีกันและกันเสมอไป สิ่งสำคัญคือ คุณจัดลำดับความสำคัญและใช้เวลาร่วมกันได้ดีแค่ไหน และทุกครั้งที่ได้ใช้เวลาด้วยกันเป็นเวลาทรงคุณภาพ (Quality Time) หรือเป็นแค่ปริมาณของระยะเวลาที่มีให้กันที่ก็แค่นอนเตียงเดียวกัน ตื่นเช้ามาแยกย้ายไปทำงานอะไรแบบนั้นหรือเปล่า ลองเช็คตัวเองและพิจารณาพฤติกรรมของคุณดูเองละกัน

เข้ากับครอบครัวของอีกฝ่ายได้ดีแค่ไหน?

ปีแรกของการแต่งงานก็คือปีแรกที่คุณได้ครอบครัวใหม่มามากกว่าครอบครัวของคุณเอง เพราะคุณคือสามาชิกใหม่ของครอบครัวอีกฝ่าย ลองเช็คดูค่ะว่าคุณสามารถกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับอีกบ้านได้ดีแค่ไหนหรือพูดอะไรไปแล้วโดนเมินใส่ พูดไปแล้วยังรู้สึกเหมือนเป็นคนนอก และอึดอัดทุกครั้งที่มีการเจอกันทั้งตระกูล ถ้ายังรู้สึกว่าแปลกแยก เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่สำคัญกว่านั้นคือ ถ้ารู้สึกเข้ากันได้ยังไม่ดีอย่าเก็บไว้ บอกคนกลางอย่างคู่ชีวิตของคุณให้ได้รับรู้ไว้บ้างก็ดี

เรื่องเงินๆ ทองๆ ลงตัวดีไหม?

บางคนบอกว่าลงตัวสิเพราะแยกกระเป๋ากันมาตั้งแต่เป็นแฟน แต่คุณอย่าลืมนะว่าเมื่อเป็นสามีภรรยาแล้ว การแยกกระเป๋าแบบเดิมๆ คุณโอเคหรือเปล่า เพราะบ้านที่อยู่ร่วมกันย่อมมีการใช้ของบางอย่างร่วมกัน ฉะนั้นรูปแบบการใช้เงินที่คุณทำอยู่ยังโอเคจริงไหม หรือการที่คุณตกลงกันไว้ว่าค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านอย่างการซื้อของเข้าบ้านเป็นหน้าที่ของฝ่ายหญิง ส่วนเรื่องใหญ่ๆ เงินก้อนโตๆ อย่างค่าผ่อนบ้านคุณผู้ชายดูแล เอาเข้าจริงมันโอเคใช่ไหม ถ้าไม่โอเคคุณทำอย่างไร อะไรที่เรียกว่าลงตัวดีในความรู้สึกของคุณ ไหนตอบตัวเองสิคะ

ทำเรื่องบนเตียงโอเคได้ดีแค่ไหน?

สามีภรรยามีอะไรกันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เกี่ยวว่าก่อนหน้าที่จะแต่งงานเคยมีอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า เพราะตอนนี้คุณนอนร่วมเตียงกันทุกคืน ยิ่งการเป็นคู่รักปีแรกด้วยแล้วละก็ ความรู้สึกพิศวาสยังมีอยู่ในเปอร์เซนต์ที่สูงไหม เพราะโอกาสจะมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นได้เท่าที่สองคนยินยอมพร้อมใจและยังถูกต้องตามวิถีพึงเป็น แต่ในที่นี่เราไม่ได้พูดถึงความถี่บ่อยเท่านั้น  แต่ดีแค่ไหนคือสไตล์ต่างหากว่าเข้ากันได้ดีไหม คุณแชร์สิ่งที่รู้สึกกันได้ดีหรือเปล่า หรือแม้แต่ปัญหาเรื่องอย่างว่าช่วยกันแก้ไขยังไง เรื่องนี้สำคัญนะคะ ลองเช็คดูอย่างมีสติ เอาใจเขามาใส่ใจเราแล้วคุณจะได้คำตอบที่เป็นกลาง

สื่อสารระหว่างกันดีแค่ไหน?

ในการอยู่ร่วมกันปีแรก คือเวลาที่คุณได้เข้าใกล้กันและเรียนรู้กันมากกว่าเดิม เป็นช่วงเวลาของการเริ่มต้นสื่อสารกันอย่างเปิดอกในฐานะสามีภรรยา ซึ่งในปีแรกที่เริ่มต้นอยู่ด้วยกันนั้นการสื่อสารและผลที่ออกมา จะเป็นแนวทางให้คุณได้ทิศทางที่เหมาะสมของคู่ตัวเองได้นะคะ ลองเช็คดูง่ายๆ ว่าเวลามีปัญหาขึ้นมา คุณคือคู่รักที่เปิดอกสื่อสารกันตรงไปตรงมาหรือเปล่า แล้วหลังจากสื่อสารไปแล้วได้ผลแบบไหนบ้าง ซึ่งการสื่อสารที่ว่านี้ ไม่ใช่แค่เรื่องปัญหาที่เกิด แต่รวมถึงเมื่อคุณแชร์สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต เช่นเรื่องการทำงาน การจราจร เรื่องเพื่อนสนิทให้ฟังอีกฝ่ายได้รับรู้ เขามีปฏิกริยาอย่างไร ถ้าแค่ฟังไปแต่ไม่หือไม่อือแบบนี้ไม่ไหวนะคะ เพราะนั่นมีแนวโน้มว่ารูปแบบในการสื่อสารของคุณอาจไม่ได้ผลหรือบางทีคุณอาจไม่รู้จักวิธีสื่อสารที่เหมาะสมกับอีกฝ่ายก็เป็นได้

เข้าใจหรือเคยชิน…คุณใช้คำไหนมากกว่ากัน?

เรื่องสุดท้ายที่เราอยากให้คุณรีเช็คกันว่า ปีแรกของการแต่งงาน ความรักของคุณยังดีอยู่ไหมก็คือ ความรู้สึกที่อยู่ร่วมกันไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรืออีกฝ่ายมีพฤติกรรมแบบไหนซึ่งเป็นสิ่งที่คุณไม่ชอบใจ ไม่คุ้นเคย คุณรู้สึก “เข้าใจ” ในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็นแล้วยอมรับกับสิ่งนั้นได้อย่างดี หรือคุณรู้สึกว่า “เคยชิน” เพราะอยู่กันไปและเจอแบบนั้นบ่อยๆ ก็รู้สึกชินชา ซึ่งถ้าคำตอบของคุณคือ อยู่ๆ ไปก็ชิน เราแนะนำว่า ในก้าวต่อไปของชีวิตคู่ที่กำลังจะเข้าสู่ปีที่สอง ขอให้ลดคำว่าเคยชินมาเป็นเข้าใจให้มากขึ้น แล้วสัญญาณดีๆ ในชีวิตคู่จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ถ้าคำตอบจาก 8 ประเด็นที่เราบอกคุณไปคือ คุณมั่นใจว่าคุณทำได้ดีมากกว่า 4 ประเด็น เราก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะนั่นหมายความว่าคุณเริ่มต้นชีวิตคู่ในปีแรกได้ค่อนข้างดี และมีแนวโน้มว่าปีต่อๆ ไป ถ้าคุณยังรักษามาตรฐานไว้ได้ ชีวิตคู่ของคุณจะมีความสุขมากขึ้นๆ แต่ถ้าคำตอบที่ได้ยังไม่น่าปลื้ม ขอให้ลองดูอีกสักตั้ง อย่าเพิ่งยกธงขาวซะละ เพราะของแบบนี้ต้องใช้เวลาค่ะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

ใช่หรือไม่? กับ 7 สัญญาณกระตุ้นหัวใจว่าคนนี้แหละคือคู่ชีวิต

5 กิจวัตรชีวิตคู่ต้องทำตามเพื่อชีวิตรักสุดสตรอง

ไม่ยากอย่างที่คิด! เทคนิค จัดพานขันหมาก ให้ถูกหลักตามตำรับไทยแท้

account_circle

กลายเป็นข้อสงสัยแบบไม่รู้จบกับการจัดพานขันหมากสำหรับพิธีแต่งงานแบบไทยที่มีทั้ง “พานขันหมากเอก” และ “พานขันหมากโท” หลายคนถามเข้ามาหลังไมค์ว่าสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร แล้ว จัดพานขันหมาก แบบไหนจึงจะถูกต้อง เราจึงสายตรงหาผู้เชี่ยวชาญนำคำตอบมาบอกกัน

ไม่ยากอย่างที่คิด! เทคนิค จัดพานขันหมาก ให้ถูกหลักตามตำรับไทยแท้

 “พานขันหมากเอก” มี 1 พาน โดยในพานจะบรรจุสิ่งของดังนี้

  • พลูจีบ นำมาพนมเข้ากันประมาณ 50-60 คำ ให้สวยงามพอดีกับขนาดของพาน (ส่วนมากจะนิยมใช้พานขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8-9 นิ้ว)
  • เจียนหมากเป็นคำๆ ขนาดพองาม จำนวน 9 คู่
  • ถั่ว งา ข้าวเปลือก ข้าวตอก ใส่ไว้ในถุงเงิน ถุงทอง
  • ใบเงิน ใบทอง ใบนาค
  • ดอกไม้มงคล เช่น ดอกรัก ดอกดาวเรือง ดอกบานไม่รู้โรย

หลังจากที่ฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวตรวจสอบสินสอดว่าครบถ้วนตามจำนวนที่ตกลงกันไว้แล้ว พ่อแม่ของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว จะหยิบหมากพลูในพานขันหมากเอกแจกจ่ายให้กับญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เพื่อแสดงถึงการยอมรับเข้ามาเป็นทองแผ่นเดียวกันของทั้งสองครอบครัว

“พานขันหมากโท” มี 1 พาน โดยในพานจะบรรจุสิ่งของดังนี้

  • ใบพลู 9 เรียง เรียงละ 9 ใบ
  • หมากจำนวน 9 คู่ ไม่ต้องเจียนออกเป็นคำๆ แต่ให้ใส่ลงไปทั้งลูก โดยปาดส่วนหัวออกเล็กน้อยแล้วใช้ปูนแดงทาให้สวยงาม จากนั้นจัดวางหมากทั้งหมดเป็น 3 กระจุก ซึ่งหมายถึงครอบครัวที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก

สิ่งสำคัญสำหรับพานขันหมากโทรคือ ขอให้บ่าวสาวและญาติผู้ใหญ่จำไว้ว่า “ในขณะทำพิธี ห้าม! หยิบของในพานขันหมากโทออกไปใช้เด็ดขาด” เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ให้บ่าวสาวนำไปบูชาพระและขอพรให้ครอบครัวมีความสุข มีลูกมีหลานที่ดี แล้วจึงเก็บไว้ในห้องพระ 7-9 วัน หลังจากนั้นจะนำไปลอยน้ำ หรือฝังดินก็ตามแต่ความสะดวก (ส่วนมากจะนิยมนำไปลอยน้ำมากกว่า)

ลงรายละเอียดลึกและชี้ชัดกันมาขนาดนี้ หวังว่าคงจะไขข้อสงสัยให้บ่าวสาวได้หลายคู่ ต่อจากนี้จะได้จัดทั้งพานขันหมากเอก และพานขันหมากโทแบบถูกต้องเป๊ะๆ ตามตำรับไทยแท้กันแล้วนะคะ

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีไทย >>> เซฟไว้และทำตาม…กำหนดการพิธีแต่งงานเช้าชั่วโมงต่อชั่วโมง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : บ้านดอกไม้ไทย ฐาวรีย์ กรุ๊ป โทร. 08-1929-9642

6 ไอเดียเสกอาหารในงานแต่งงานแสนเก๋ เพื่อสร้างความประทับใจขั้นสุด

account_circle

อาหารในงานแต่งงาน เป็นปัจจัยหนี่งที่สำคัญที่สามารถทำให้แขกที่มาร่วมงานแต่งงานนั้นจดจำ และประทับใจ ทั้งยังนำรสชาติอาหารไปพูดต่อ และถ้าถามว่าชอบส่วนไหนมากที่สุดในงานแต่งงาน แน่นอนว่าส่วนใหญ่มักจะตอบว่าอาหาร ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการคิดให้ดี วันนี้เรารวมหลากหลายไอเดียที่น่าสนใจมาฝากกัน ถูกใจแบบไหนก็อย่าลืมหยิบไปใช้กันนะคะ 😉

Food Truck

อาหารในงานแต่งงาน

เป็นอีกหนึ่งไอเดียล่าสุดที่แฝงความกิ๊บเก๋ไว้ ที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับงานแต่งงานที่จัดเอาท์ดอร์ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์ให้กลายเป็นค็อกเทลบาร์สำหรับงาน After Party ให้แขกทุกท่านได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการจิบเครื่องดื่มแอลกลอฮอร์เย็นฉ่ำ พร้อมเสียงเพลง นอกจากนี้ราคาก็ไม่สูง และยังบริการอาหารที่สดใหม่ และเครื่องดื่มสำหรับแขกที่มาร่วมงานด้วยวิธีที่ไม่ซ้ำใครอีกด้วย

Candy Bar Corner

อาหารในงานแต่งงาน

สรรสร้างงานแต่งงานสุดพิเศษให้น่าจดจำ ด้วยบรรยากาศ และรสชาติหอมหวานของขนมหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแลตบาร์ ลูกกวาด ถั่วเคลือบช็อคโกแลต และอื่นๆอีกมากมาย เนื่องจากไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเพศไหน ก็มักจะชอบหยิบขนมขบเคี้ยวเหล่านี้เข้าปากเสมอ ดังนั้นจึงเป็นไอเดียที่ดีที่จะทำให้แขกทุกท่านเพลิดเพลินไปกับขนมหวานกองใหญ่ที่มีให้เลือกสรรกันตามใจชอบ

Ice Pop in alcohol flavors

อาหารในงานแต่งงาน

น่าจะเป็นหนึ่งในไอเดียที่มีความน่าสนใจมากทีเดียวสำหรับงานแต่งงานที่มีเพื่อนมาร่วมงานเยอะ เพราะทำง่าย และยังสามารถทำได้เองอีกด้วย! อะไรจะดีไปกว่า การนำเครื่องดื่มแอลกลอฮอล์เหล่านั้นมาประยุกต์ในรูปแบบของไอศรีมแท่ง! ผสมผสานไปกับผลไม้ต่างชนิด เพื่อลิ้มรสชาติที่หลากหลาย อาจจะเป็นผลไม้ตามฤดูกาล หรือผลไม้เขตร้อนก็ช่างดูน่าอร่อยเช่นกัน

Vegetarian Food

งานแต่งงาน

ไอเดียนี้เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับคู่แต่งงานที่รักสุขภาพ หรืออยากทำให้งานแต่งงานของตัวเองเป็นที่น่าจดจำ และมีความแปลกแหวกแนวไปกว่าคู่อื่นๆ โดยการนำอาหารมังสวิรัติเข้ามามีบทบาทสำคัญในงานแต่งงาน นอกจากจะได้ทำบุญละเว้นเนื้อสัตว์แล้ว ยังอร่อย และดีต่อสุขภาพของทุกคนอีกด้วย

Make It Interactive

งานแต่งงาน

มุมสำหรับอาหารและขนม DIY ที่สามารถลงมือทำเองได้ โดยไม่ต้องรอใคร อยากจะกินอะไร แบบไหน รสชาติยังไงก็ผสมกันเอาเองตามใจชอบ เช่น มุมไอสครีม จะมีถ้วยไอสครีม เยลลี่ ผลไม้เชื่อม และช้อกโกแล็ตรสต่างๆให้เลือกสรร

Drink up

งานแต่งงาน

มุมเครื่องดื่มที่เป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นซิกเนเจอร์ค็อกเทลที่คู่บ่าวสาวลงมือผสมกันเอง หรือว่าจะเป็นเครื่องดื่มอย่างอื่นที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสมอไป อาจจะเป็น ชา กาแฟ นมและเครื่องดื่มอุ่นๆก็ดูน่าอร่อยไม่แพ้กัน

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

cr : thesukosol.com, wedmegood.com, eatdrinkpretty.com, occasionlab.com, vhlending.com, hambycatering.com

10 สิ่งที่ต้องทำใน คืนก่อนแต่งงาน เพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวที่สดใส

account_circle

แม้ว่า คืนก่อนแต่งงาน อาจจะไม่ใช่วันพิเศษ แต่ว่าที่เจ้าบ่าวอย่าลืมเช็ครายละเอียดและดูแลตัวเอง เพื่อวันรุ่งขึ้นที่แสนพิเศษกันนะ

คืนก่อนแต่งงาน ว่าที่เจ้าบ่าวคงจะตื่นเต้นไม่ต่างจากว่าที่เจ้าสาวใช่ไหมล่ะคะ? แน่นอนว่ากว่าจะถึงวันแต่งงานที่รอคอย ก็มีรายละเอียดมากมายให้ตระเตรียมและติดต่อตรวจสอบ เพื่อที่จะรังสรรค์ให้วันแต่งงานเป็นภาพในความทรงจำที่ดีที่สุด แต่นอกจากส่วนประกอบต่างๆ ในงานแต่งแล้ว ก็ยังมีอีก 10 สิ่งที่ต้องทำที่ แพรว wedding ได้รวบรวมมาให้คุณว่าที่เจ้าบ่าวได้เช็คลิสต์ เตรียมความพร้อมขั้นสุดท้ายก่อนวันรุ่งขึ้น รับรองได้เลยว่า เช้าวันแต่งงานของคุณจะเป็นวันที่อบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่นจริงๆ นะ ^^

1. มาส์กหน้า

แม้ว่าผู้ชายหลายๆ คนอาจจะมองข้ามการดูแลผิวหน้า แต่จริงๆ แล้วหน้าตาสามารถบ่งบอกได้ถึงสุขภาพและการถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกได้ ดังนั้น การมาส์กหน้าจะช่วยปลอบประโลมผิวหน้าได้อย่างอ่อนโยนและช่วยให้ผิวสดชื่น เปล่งปลั่งได้ในทันที หากว่าที่เจ้าบ่าวกังวลว่าจะใช้มาส์กหน้าแบบไหนดี ลองปรึกษาว่าที่เจ้าสาวของคุณสิคะ มาส์กหน้าคู่กันก็จะยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่น่ารักก่อนวันแต่งงานด้วยนะ แค่คิดก็เขินแล้ว ><

2. ห้ามดื่ม!

ใช่แล้วค่ะ ห้ามดื่มในคืนก่อนแต่งงานเด็ดขาด เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวหน้าของคุณไม่สดใสและดูหมองคล้ำได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ แอลกอฮอล์จะทำให้ใบหน้าของคุณบวมในวันถัดไปด้วยหน่ะสิ วันแต่งงานจะหมดหล่อเพราะแอลกอฮอล์ไม่ได้เลยนะ!!

3. ดื่มน้ำเปล่า

น้ำเปล่าจะช่วยเติมเต็มน้ำให้กับผิวหน้าและร่างกาย เมื่อคุณตื่นนอนมาควรจะดื่มน้ำมากๆ แล้วก็อย่าลืมพกขวดน้ำไว้ดื่มระหว่างวันด้วย เพราะปริมาณน้ำที่ร่างกายควรได้รับต่อวันอยู่ที่ประมาณ 8-10 แก้ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของแต่ละคนด้วยนะคะ นอกจากนี้ว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาว คงจะยุ่งในการเตรียมงาน จึงควรจะดื่มน้ำมากๆ เพื่อที่จะไม่เป็นลมระหว่างงานด้วย

4. ตั้งเวลาเข้านอน

วันสำคัญของคุณไม่ควรจะสายนะ การตั้งนาฬิกาปลุกก่อนนอนจึงสำคัญมากๆ เพื่อป้องกันความกังวลและความตื่นเต้นในคืนก่อนแต่งงาน หรือถ้าคุณจะบอกเพื่อนเจ้าบ่าวให้มาปลุกในตอนเช้าก็ดีเหมือนกันนะ เป็นการป้องกันที่ดีมากๆ หากคุณเป็นคนตื่นยาก หรือว่าร่างกายอาจจะเหนื่อยล้าเกินไป

5. ส่องกระจกเช็คความหล่อ

คืนก่อนแต่งงาน

เช็คทรงผมและโกนหนวดบนใบหน้าให้เรียบร้อย เพื่อให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ลองผูกเนคไทอีกครั้งเพื่อความชัวร์ว่าคุณสามารถผูกได้อย่างมืออาชีพ และอย่ากังวลหรือเครียดจนเกินไปนะคะ คุณควรปล่อยวางและยิ้มมากๆ เพราะเจ้าสาวก็อยากจะเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของคุณนะ

6. ตรวจเช็ครายละเอียดสำคัญ

ตรวจสอบให้มั่นใจว่าแขกผู้ใหญ่ทราบกำหนดการและสถานที่งานแต่งเรียบร้อยแล้ว ประสานงานกับเวดดิ้งแพลนเนอร์ให้แน่ใจว่าเตรียมการครบทุกอย่างตามที่วางแผนไว้ รวมถึงแผนสำรองป้องกันในเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้ภายในงานดำเนินไปอย่างราบรื่น

7. เตรียมของขวัญพิเศษให้ว่าที่เจ้าสาว

คืนก่อนแต่งงาน

ก็ไม่ใช่ถึงกับว่าจะเป็นเจ้าบ่าวสายเปย์นะ แต่การเตรียมของขวัญเล็กน้อยให้เจ้าสาว เพื่อเป็นการขอบคุณและดูแลเธอ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนจดหมายบอกความในใจ หรือเตรียมแชมเปญเพื่อฉลองกันในคืนวันแต่งงาน เพียงเท่านี้ก็ทำให้วันที่สำคัญนั้นพิเศษอย่างมหัศจรรย์ และอย่าลืมตระเตรียมให้ถูกที่ ถูกเวลาด้วยนะ เจ้าสาวจะได้เซอร์ไพรส์คูณสองไปเลย

8. เพียงแค่บอกว่า “ผมรักคุณ”

คืนก่อนแต่งงาน

“ผมรักคุณ” ประโยคสั้นๆ ที่ทำให้หัวใจพองโตด้วยความรัก ไม่ว่าจะกระซิบบอกเธอข้างหูด้วยโทนเสียงที่น่ารักและอบอุ่น หรือจะเขียนโน้ตแปะตามที่ต่างๆ และต้องเป็นที่ที่เจ้าสาวของคุณจะเห็นได้ชัดๆ ด้วยนะ ลองคิดดูสิถ้าเจ้าสาวได้เห็นข้อความนี้ยามตื่นเช้าขึ้นมาจะมีความสุขมากขนาดไหนกัน และคุณเองก็มีความสุขไปด้วยใช่ไหมล่ะคะ <3

9. เตรียมคำกล่าวในงานแต่ง

ในวันแต่งงาน ไม่ว่าคุณจะพกความมั่นใจมามากแค่ไหน แต่รับรองว่าคุณต้องตื่นเต้นมากๆ จนอาจทำให้คุณลืมคำพูดที่จะกล่าวในงานไปแน่ๆ เพราะฉะนั้นเขียนโน้ตไว้กันลืมดีกว่านะ ไม่ว่าจะในมือถือ หรือกระดาษ แล้วซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทของคุณ และอย่าลืมฝึกพูดให้คล่องด้วยล่ะ

10. แหวน

คืนก่อนแต่งงาน

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเจ้าบ่าวคือ แหวนแต่งงาน! หากคุณเตรียมให้มีคนถือแหวนล่ะก็ คุณควรจะเช็คให้มั่นใจว่าแหวนของคุณจะพร้อมสำหรับพิธีแต่งงานในวันรุ่งขึ้น หรือคุณจะเป็นคนเก็บแหวนไว้กับตัวเอง แต่อย่าเผลอไปลืมวางแหวนทิ้งไว้นะ เพราะเจ้าสาวของคุณต้องเป็นผู้ที่สวมแหวนวงนั้นน้า

ในเมื่อว่าที่เจ้าบ่าวเตรียมตัวพร้อมเรียบร้อย แล้วเจ้าสาวล่ะคะ? มาเช็คลิสต์กับ >> 10 สิ่งต้องทำในคืนก่อนแต่งงานแล้วทุกสิ่งจะสวยงามสมดั่งใจ

เครดิตข้อมูลจาก : glamour/ wedding ideasmag / ภาพจาก Pinterest

ใช่หรือไม่? กับ 7 สัญญาณกระตุ้นหัวใจว่าคนนี้แหละคือคู่ชีวิต

account_circle

หากยังไม่แน่ใจว่าคนข้างกายของคุณจะใช่ คู่ชีวิต ตัวจริงเสียงจริงหรือเปล่า แพรว wedding แนะนำให้คุณลองสังเกต 7 สัญญาณกระตุ้นหัวใจดังต่อไปนี้ ถ้ามีครบเมื่อไหร่ก็มั่นใจได้เลย

  • เขาทำให้คุณมีความสุข

คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของคุณ เขาต้องเป็นคนที่ทำให้คุณมีความสุขได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความสุขที่เกิดจากสิ่งที่เขาทำให้คุณ ความสุขที่เกิดจากสิ่งที่เขาเป็น หรือสำหรับบางคนแค่อยู่ด้วยกัน อยู่ใกล้ๆ กัน รู้สึกว่ามีกันและกันก็มีความสุขแล้ว

  • เขาพร้อมเผชิญปัญหากับคุณ

ปัญหาเป็นสิ่งที่ต้องผ่านเข้ามาในชีวิตของทุกคน ซึ่งอาจมากหรือน้อยแตกต่างกันไป ดังนั้นคนที่พร้อมจะเป็นคู่ชีวิตของคุณ เขาก็ต้องพร้อมเผชิญปัญหาร่วมกับคุณด้วย เพราะอย่างน้อยๆ เขาก็จะเป็นกำลังใจสำคัญสำหรับคุณ หรือหากดีกว่านั้นเขาก็จะเป็นคนที่ช่วยคุณแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้

  • เขามองข้ามข้อเสียของคุณ

ข้อดีเป็นสิ่งที่ทำให้คนเรารักใคร่ชอบพอกันได้ แต่ในทางตรงข้ามข้อเสียก็ทำให้คนเราเห็นถึงส่วนลึกภายในใจของกันและกันได้เช่นกัน ทั้งนี้เพราะข้อเสียเป็นเหมือนเครื่องพิสูจน์ใจ หากเขาพร้อมจะมองข้ามข้อเสียของคุณไป โดยไม่ขอให้คุณปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อเขา ก็เป็นสัญญาณบอกว่าเขาพร้อมจะเป็นคู่ชีวิตของคุณแล้วล่ะ

  • เขาเปิดใจกับคุณ

คู่ชีวิตหมายถึงคนสองคนก็จริง แต่ในความหมายลึกๆ แล้ว คู่ชีวิตหมายถึงการเป็นคนๆ เดียวกันต่างหาก ดังนั้นคนที่พร้อมจะเป็นคู่ชีวิตของคุณ เขาก็ต้องเปิดอกเปิดใจพูดคุยกับคุณได้ทุกเรื่อง ต้องไม่มีความลับต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขหรือทุกข์ เพราะเรื่องของคุณและเรื่องของเขาต้องกลายเป็นเรื่องเดียวกันแล้ว

  • คุณเชื่อใจเขาได้

ความเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตคู่ ดังนั้นคนที่จะเป็นคู่ชีวิตของคุณ เขาต้องเป็นคนที่คุณสามารถเชื่อใจได้ในทุกเรื่อง โดยเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่ต้องกังวลหรือเป็นห่วงเป็นใยในเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ต้องคอยตามจิกหรือจับผิดว่าเขาจะทำเรื่องไม่ดี นั่นหมายความว่าเขาคือคนที่พร้อมจะเป็นคู่ชีวิตของคุณแล้ว

  • คุณรู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขา

ชีวิตคู่สำหรับบางคู่อาจไม่ใช่เรื่องของคนสองคน เพราะครอบครัวก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่มีอิทธิพล ด้วยเหตุนี้หากคุณจะใช้ชีวิตคู่กับใครสักคน คุณจึงต้องรู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขาเสียก่อน ต้องมั่นใจว่าสามารถเข้ากับครอบครัวของเขาได้ ต้องรู้สึกรักใคร่พ่อแม่พี่น้องของเขาให้เหมือนเป็นครอบครัวของตัวเอง และที่สำคัญต้องรู้สึกว่าพวกเขารักคุณเหมือนลูกหลานคนหนึ่งเช่นกัน แต่หากคุณไม่สามารถฝ่าด่านญาติพี่น้องของเขาได้ เขาก็ต้องเป็นคนที่ทำให้คุณรู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขา ด้วยการแสดงให้เห็นว่าเขาพร้อมจะปกป้องและยืนเคียงข้างคุณเสมอ

  • คุณรู้สึกเป็นคนสำคัญของเขา

คู่ชีวิตคือการเป็นคนสำคัญของกันและกัน ดังนั้นหากเขาแสดงให้เห็นว่าคุณคือคนสำคัญสำหรับเขาเสมอ หรือคุณไม่เคยต้องน้อยอกน้อยใจว่าเขาไม่ให้ความสำคัญเลย ก็แปลว่าเขาพร้อมจะเป็นครึ่งหนึ่งในชีวิตของคุณแล้วล่ะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

ข้อควรรู้ชีวิตหลังแต่งงาน ให้สามีภรรยาป้ายแดงสดใสเหมือนข้าวใหม่ปลามันทุกวัน

วางแผนชีวิตคู่ให้ปลอดภัย เพื่องานแต่งงาน บ้านใหม่ และเจ้าตัวเล็ก

ภาพ : pexels.com

โครงการ DANTH DIGI-CAMP ติวฟรีไม่มีกั๊ก

โครงการ DANTH DIGI-CAMP ติวฟรีไม่มีกั๊ก กับหลักสูตร Digital Marketing

จาก Dentsu Aegis Network เรียน 8 ครั้งรับรองได้

****สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FAN Page : DAN People Thailand

ครบรอบ 20 ปี แพนดอร่า ส่ง 3 คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด แทนคำขอบคุณ

account_circle

แพนดอร่า ส่ง คอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ Pandora Moments Charm Signature” เพื่อแทนคำขอบคุณ โดยดีไซน์เนอร์ของแบรนด์ได้นำสัญลักษณ์ไอคอนโลโก้รูปตัวโอ (Iconic Pandora Crown O) พร้อมมงกุฎเพชร ที่เป็นเอกลักษณ์สะท้อนถึงแบรนด์แพนดอร่า มาดีไซน์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพิ่มประกายแวววาวจากเพชร และคริสตัล  เพื่อคอมพลีทลุคให้กับสาวๆได้ทุกโอกาส เพราะมีให้เลือกครบทั้งสร้อยข้อมือ, ต่างหู, แหวน และสร้อยคอ เรียกได้ว่าสามารถมิกซ์แอนด์แมตช์ในสไตล์ของตัวเองได้ ตอบโจทย์และอัพลุคของคุณในทุกวัน

นอกจากนี้ สร้อยข้อมือแบรนด์แพนดอร่า ที่ถูกดีไซน์มาให้อยู่บนข้อมือสาวๆหลายเจเนอเรชั่นรวมกว่า 20 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากคอลเล็คชั่น “Pandora Moment Snake Chain Bracelet” ซึ่งทีมดีไซเนอร์ได้ปรับโฉมสร้อยข้อมือรุ่น Snake Chain พร้อมผลิตและออกแบบขึ้นใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ  20 ปีอีกด้วย ภายใต้รูปลักษณ์ของ T-Bar Snake Chain Bracelet ที่เพิ่มความเก๋และความสะดวกในการใส่มากยิ่งขึ้น แฟนพันธุ์แท้แพนดอร่าต้องไม่พลาดช็อปคอลเล็คชั่นนี้ไปสะสม

และอีกหนึ่งคอลเล็คชั่นไฮไลท์ที่เป็นที่นิยมอย่างมากมาจนถึงปัจจุบันคือ คอลเล็คชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟระหว่าง Pandora x Disney ที่นำคาแรคเตอร์การ์ตูนสุดคลาสสิคของแฟนๆทั่วโลกอย่าง มิกกี้ เมาส์ และมินนี่ เมาส์ ตลอดจนคาแรคเตอร์จากเทพนิยายเรื่องดังของดิสนีย์มาดีไซน์ในรูปแบบของเครื่องประดับสุดน่ารัก

โดยในโอกาสครบรอบ 20 ปี ทีมดีไซเนอร์จึงได้ออกแบบชาร์มสุดพิเศษที่แปลงโฉมมิกกี้ และมินนี่ให้กลายเป็นหุ่นยนต์ที่มีชีวิต “Mickey Mouse & Minnie Mouse Iconic Charm Robot” และเลือกใช้วัสดุแบบทูโทนเป็นครั้งแรก (2-Tone)คือ เงินสเตอริง ผสานกับโรสโกลด์ แต่ยังคงความคลาสสิคของคาแรคเตอร์ไว้บนสีสันของเสื้อผ้า และโบว์ด้วยการลงอีนาเมลสีแดงสดใส ซึ่งส่วนของหัว แขนและขาของมิกกี้และมินนี่สามารถขยับได้ กลายเป็นหุ่นยนต์ที่มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา แบรนด์แพนดอร่า ได้ออกแบบเครื่องประดับเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงมาแล้วทั่วโลก โดยอยากให้ผู้หญิงทุกคนสนุกสนานไปกับการออกแบบเครื่องประดับที่สามารถสะท้อนตัวตน เรื่องราวประทับใจ หรือประสบการณ์ที่น่าจดจำในสไตล์ของตัวเองได้ ลองให้แพนดอร่าเป็นเครื่องประดับชิ้นแรกของคุณ หรือเลือกซื้อให้กับคนที่คุณรักในโอกาสพิเศษต่างๆ แล้วคุณจะค้นพบความพิเศษ และหลงรักเครื่องประดับที่มีเรื่องราวนี้อย่างแน่นอน

เลือกซื้อเครื่องประดับที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ กับแพนดอร่าคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด ฉลองครบรอบ 20 ปี ได้แล้ววันนี้ ที่ร้านแพนดอร่าทุกสาขาทั่วประเทศ หรือทางออนไลน์ Line @pandora.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. Call Center 02.264.5080 #PANDORATH #HARRYPOTTERxPANDORA #TANACHIRA @TanachiraOfficial


 

กระเป๋า Pocket bag จาก Burberry

ใบนี้ต้องรู้จัก! เบลล่า ฮาดิด พรีเซ็นต์ความฮ็อตของ Pocket bag จาก Burberry

กระเป๋า Pocket bag จาก Burberry
กระเป๋า Pocket bag จาก Burberry

เบลล่า ฮาดิด สวมบทบาทแม่เสือสาว มาพร้อม กระเป๋า Pocket bag ซิกเนเจอร์ใบใหม่ ในแคมเปญล่าสุดจาก Burberry

Riccardo Tisci ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ Burberry กล่าวว่า “แนวคิดสร้างสรรค์อันหลากหลายล้วนมาจากการนำลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของแฟชั่นเฮ้าส์มาสร้างสรรค์เป็นไอเท็มใหม่ เช่นเดียวกับ Pocket Bag รุ่นนี้ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก archives ของ Burberry สำหรับแคมเปญแรกของ Pocket Bag ผมได้นำความทันสมัยเข้ามาผสมผสาน รวมไปถึงการร่วมงานระหว่าง Katy , Inez และ Vinoodh ที่สร้างความแปลกใหม่และน่าตื่นเต้น

เบลล่า ฮาดิด ถือกระเป๋า Pocket bag จาก Burberry เบลล่า ฮาดิด ถือกระเป๋า Pocket bag จาก Burberry

โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Burberry’s Animal Kingdom ซึ่งสัตว์ต่างๆ ล้วนเป็นสัญลักษณ์ที่ผมชื่นชอบมาโดยตลอดและเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากเมื่อ เบลล่า ฮาดิด ได้ปรากฏตัวในลุคเสือสาว เธอเป็นคนที่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังและเสน่ห์แห่งความเป็น raw femininity แสดงให้เห็นจิตวิญญาณของสัตว์ได้อย่างชัดเจน”

Pocket Bag คือหนึ่งในซิกเนเจอร์ใหม่ของ Burberry ที่ออกแบบโดย Riccardo Tisci ทรงของกระเป๋าได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระเป๋า Burberry ในอดีต โดยกระเป๋าได้ถูกนำมาออกแบบใหม่ด้วยการเพิ่มช่องด้านหน้าและตกแต่งด้วยเทปหนัง เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวกระเป๋าด้วยวัสดุผ้าแคนวาสผสมผสานวัสดุหนังคุณภาพดีจากประเทศอิตาลี ซึ่งการผสมผสานระหว่างหนังและผ้าแคนวาส บ่งบอกถึงมรดกทางวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของแบรนด์เป็นอย่างดี

เบลล่า ฮาดิด ถือกระเป๋า Pocket bag จาก Burberry เบลล่า ฮาดิด ถือกระเป๋า Pocket bag จาก Burberry

แคมเปญนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Burberry’s  Animal Kingdom โดย Thomas Burberry ผู้เลือกที่จะนำเสนอสัญลักษณ์ของแบรนด์ด้วยลวดลายอัศวินบนหลังม้า และยูนิคอร์น โดยภายหลัง Ricardo Tisci ได้ร่วมพัฒนาลายพริ้นต์สัตว์และลวดลายใหม่ๆ สำหรับแต่ละซีซั่น นับตั้งแต่แรกที่เข้ามามีบทบาทกับแบรนด์ Burberry

โดยครั้งนี้ได้นางแแบบสาวอย่าง เบลล่า ฮาดิดมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวอีกเป็นครั้งที่สอง และแคมเปญนี้ได้ทำการถ่ายโดยช่างภาพคู่หูอย่าง Inez และ Vinooh ที่นำเสนอพลังและจิตวิญญาณของความเป็นผู้หญิง ที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ Thomas Burberry และ Riccardo ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

กระเป๋า Pocket bag จาก Burberry กระเป๋า Pocket bag จาก Burberry กระเป๋า Pocket bag จาก Burberry

Inez , Vinoodh และ Riccardo รวมถึงสไตลิสต์ Katy England , Isamaya French Burberry Global Beauty Director และ ช่างทำผม Christian Houtenbos ได้รวมทีมเพื่อสร้างสรรค์และรวมพลังแห่งจิตวิญญานของแคมเปญนี้  Pocket Bag มาในหลากหลายไซส์และสี ตั้งแต่ผ้าแคนวาสไปจวบจนถึงหนังลายนูน และวางขายแล้ววันนี้ที่ Burberry stores ทั่วโลกและทางออนไลน์สโตร์ www.Burberry.com


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

วางขายแล้ว! หน้ากากอนามัยคุณภาพสูงจาก Burberry มาพร้อมลายซิกเนเจอร์

อัพเดตก่อนใคร! Versace Cruise 2021 โทนสีพาสเทลสดใส สวยจนใจละลาย

งานหนังต้อง Bottega Veneta เจาะดีเทลกระเป๋า 2 รุ่นใหม่ มีความพิเศษยังไง

 

คุณแม่สายแฟ

2 คุณแม่สายแฟ ปั้นธุรกิจเล็กๆ จากประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกเจาะระดับ Global

Alternative Textaccount_circle
คุณแม่สายแฟ
คุณแม่สายแฟ

ในยุคที่โอกาสเข้ามาใกล้ตัว และมีช่องทางสำหรับการช้อปปิ้งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ไอเดียการสร้างธุรกิจจาก “ความรัก” นั้นเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม ดังเช่น คุณแม่สายแฟ 2 ท่านนี้

ความเป็นแม่นั้นยิ่งใหญ่เกินจะหานิยามใดมาเปรียบได้ การคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกคงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของบรรดาคุณแม่ทั้งหลาย เมื่อก่อนนี้อาจจะตั้งใจในการเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว แต่ในยุคที่โอกาสเข้ามาใกล้ตัว และมีช่องทางสำหรับการช้อปปิ้งใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ไอเดียการสร้างธุรกิจจาก “ความรัก” นั้นเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม ดังเช่นคุณแม่สายแฟ 2 ท่านนี้ ที่สร้างธุรกิจเล็กๆ ขึ้นมาจากประสบการณ์ของการเลี้ยงลูกน้อย และไม่ใช่แค่เพียงการมองตลาดในประเทศเท่านั้น แต่ภายใต้ Smart Style กลับมองไปไกลถึงระดับ Global เลยทีเดียว

ตูน-สุภัชชา ปิตินันท์ เจ้าของแบรนด์ “Minisizeme” และ ชุดผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ
ตูน-สุภัชชา ปิตินันท์ เจ้าของแบรนด์ “Minisizeme” และ ชุดผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ

คุณแม่คนสวย ตูน-สุภัชชา ปิตินันท์ อดีตนักร้องสาวชื่อดัง ที่วันนี้ผันตัวมาเป็นเจ้าของแบรนด์ “Minisizeme” เสื้อผ้า สินค้าไลฟ์สไตล์แม่และเด็กตั้งแต่แรกเกิด เล่าว่า แบรนด์นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากลูกสาว ที่เป็นผื่นแพ้ผิวหนังตั้งแต่ 3 เดือน ค้นหาสาเหตุและคำตอบจนรู้ว่ามาจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ทั้งลูกและแม่ หลังจากพยายาม​หาซื้อเสื้อผ้า​ที่ทำจากธรรมชาติ​ในเมืองไทย​ก็ไม่มี จึงคิดที่จะผลิตเองจากผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติมาจากธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำคัญเลยคือมีเทคโนโลยีแอนตี้ แบคทีเรีย (Anti Bacteria) ช่วยป้องกันเชื้อโรคที่อยู่รอบตัว แล้วเมื่อก่อนไม่มีใครทำเสื้อคู่แม่ลูกตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ มีแต่อายุขวบขึ้นไป เลยเป็นไอเดียที่ทำแบรนด์นี้ขึ้นมาเพื่อให้ทั้งครอบครัวได้ใส่เสื้อผ้าธีม (Theme) เดียวกัน

“ตอนนี้เริ่มจำหน่ายกับลูกค้าในต่างประเทศด้วย จากการเข้าร่วมงาน STYLE BANGKOK ตั้งแต่ปีที่แล้ว และได้ร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ฝรั่งเศส ฯลฯ กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ทราบความต้องการของลูกค้าและเอามาปรับดีไซน์ โดยเสื้อผ้าแบรนด์ Minisizeme สามารถปรับได้หลายขนาด ของลูกนั้นสามารถใส่ได้ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึง 1-2 ขวบ ส่วนคุณแม่ก็ใส่ได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ไปจนถึงให้นมลูก ส่วนใหญ่เราจำหน่ายผ่านออนไลน์เพราะสะดวกและคุณแม่ยุคใหม่ก็ถนัดแบบนี้ ที่สำคัญเลยคือช่วงโควิด-19 กลายเป็นว่าจุดเด่นของการเป็นเสื้อผ้าธรรมชาติทำให้ลูกค้าต้องการมากขึ้น มีการสั่งซื้อจาก แคนาดา อเมริกา ฝรั่งเศส ฮ่องกง สิงค์โปร์ ซึ่งเราดีใจมาก ทำให้สนุกกับการลงมือลุยธุรกิจนี้มากขึ้นไปอีก”

โอ๋ - ปริยา ชัยลิมปมนตรี เจ้าของแบรนด์ “นิทาน” และ ชุดให้นมบุตรสุดแฟชั่น
โอ๋ – ปริยา ชัยลิมปมนตรี เจ้าของแบรนด์ “นิทาน” และ ชุดให้นมบุตรสุดแฟชั่น

ส่วน โอ๋ – ปริยา ชัยลิมปมนตรี เจ้าของแบรนด์ “นิทาน” ผู้ดีไซน์ผ้าคลุมและชุดให้นมบุตรจนถูกอกถูกใจเหล่าคุณแม่ เล่าว่า แบรนด์นิทานนั้นเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของบรรดาคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะดวกในการให้นมและปั๊มนมตอนอยู่ข้างนอก ชุดไม่สวย อึดอัด โดยจุดเริ่มต้นของแบรนด์นั้นเกิดจากเมื่อมีลูกคนแรกแล้วต้องใส่เสื้อที่มีกระดุมหน้าตลอดเวลา รู้สึกจำเจกับชุดเดิม และไม่สะดวกต่อการให้นม พอจะมีลูกคนที่ 2 จึงออกแบบและดีไซน์ขึ้นมาใช้เอง โดยเน้นเรื่องความง่ายของการให้นม การปั๊มนมแบบข้างเดียวและสองข้าง และมีฟังก์ชั่นใช้งานที่คนเป็นแม่ต้องการทั้งหมด เมื่อเพื่อนเห็นแล้วชอบจึงชวนให้ผลิตเพื่อไปจำหน่ายในงาน Baby and Kids Best Buy และได้รับผลตอบรับที่ดีมาก จึงเริ่มทำแบรนด์อย่างจริงจังจนถึงทุกวันนี้ 5 ปีแล้ว

“สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น กลุ่มคุณแม่คนไทยที่อยู่เมืองนอกเริ่มรู้จักแบรนด์มากขึ้นในช่วงปีที่ 2 จากดีไซน์ที่สวย ทันสมัย สามารถให้นมลูกได้สะดวก  โดยเฉพาะญี่ปุ่น อังกฤษ  ยุโรป และสหรัฐอเมริกา และเรายังได้เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจในต่างประเทศก็ยิ่งทำให้ขยายตลาดได้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งช่องทางออนไลน์ถือเป็นช่องทางหลักของการสั่งซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นเวบไซต์ เฟซบุ๊ค และไลน์ ตอนนี้แบรนด์มีไลน์สินค้าใหม่ ๆ มาเอาใจคุณแม่สายแฟชั่นด้วย เช่น กางเกงพยุงครรภ์และกางเกงเพื่อความสบายหลังคลอด เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องการจริงๆ”

ด้าน นายสมเด็จ  สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “สิ่งสำคัญที่ทุกๆ แบรนด์จะต้องคำนึงถึงหากต้องการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ คือ สินค้าจะต้องตอบโจทย์ความต้องการ มีคุณภาพ พัฒนารูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ และเจ้าของแบรนด์ต้องสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เตรียมการจัดงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok 2021 ในวันที่ 10 – 14 มีนาคม 2564 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ตลอดจนผู้ประกอบการในกลุ่ม Niche Market ได้แก่ สินค้าผู้สูงอายุ (60 +) สินค้าแม่และเด็ก (Mom & Kids) สินค้าสัตว์เลี้ยง (PET) ได้พบปะเจรจาการค้ากับผู้ซื้อ / ผู้นำเข้าทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร. 02 507 8363 และ 8364


 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ความรักของนางร้ายสาวรสแซ่บ เจนิส-เจณิสตา เจ็บปวดเพราะคำว่าที่ 1 ค้ำคอ!

ส่องไลฟ์สไตล์ ‘เจ็ท –ณัฐพงศ์’ กับอีกมุมของการเป็นไบค์เกอร์สายเท่

Wedding is coming soon? คนดังที่กำลังจะมีงานแต่งงานในปี 2020

 

 

 

ส่องความเริ่ด Roselin Wellness Center บิวตี้คลินิกขึ้นชื่อเรื่องการ ปรับรูปหน้า ครบวงจร

สาวๆ รักสวยรักงงามต้องดู! แพรวดอทคอม พาไปส่องความเริ่ดของ Roselin Wellness Center บิวตี้คลินิกสุดโด่งดัง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการปรับรูปหน้าแบบครบวงจร

เชื่อว่าสาวๆ ทั้งหลาย โดยเฉพาะคนที่รักสวยรักงามเป็นชีวิตจิตใจ ต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ Roselin Wellness Center หรือที่หลายคนเรียกติดปากกันว่า RWC Clinic อย่างแน่นอน เพราะบิวตี้คลินิกแห่งนี้ ถือเป็นคลินิกเสริมความงามชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่างย่านเอกมัย โดยขึ้นชื่อเรื่องการปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็ม รวมถึงการปรับแก้ไขโหงวเฮ้ง และการวิเคราะห์ใบหน้าอย่างครบวงจร

พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์ หรือ คุณหมอขนม

ขอบอกเลยว่า Roselin Wellness Center ได้รับความไว้วางใจในหมู่สาวๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการฉีดสารเติมเต็ม ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ (Hyaluronic acid filler) หรือการฉีดเติมเต็มด้วยไขมันตัวเอง (Fat grafting) รวมถึงการวิเคราะห์เพื่อปรับแก้ไขรูปหน้า และการแก้ไขโหงวเฮ้งในรูปแบบเฉพาะบุคคล ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์ หรือ คุณหมอขนม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพจาก American Board of Anti-aging and regenerative medicine  สหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังควบตำแหน่งแพทย์ผู้สอนฉีดฟิลเลอร์ของทางบริษัท Galderma Aesthetic ประเทศไทย

Roselin Wellness Center ปรับรูปหน้า

โดยสาวๆ สามารถเข้ารับบริการได้อย่างมั่นใจ เพราะแพทย์ผู้ดูแลการรักษาทุกท่านของที่นี่เป็นแพทย์เฉพาะทางผิวหนัง (ตจวิทยา) ซึ่งผ่านการฝึกอบรมเรื่องการปรับรูปหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็มอย่างถูกต้อง รวมถึงแพทย์ทุกท่านยังมีความใส่ใจรายละเอียดในหัตถการที่ทำ โดยเน้นการปรับรูปหน้าแบบเป็นธรรมชาติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้อย่างดีที่สุด

Roselin Wellness Center ปรับรูปหน้า

องค์ประกอบทั้งหมดนี้ ทำให้ Roselin Wellness Center เติบโตเป็นที่รู้จัก และได้รับการบอกต่ออย่างรวดเร็วในหมู่คนไข้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณและความงาม รวมถึงการันตีฝีมือด้วยดารา เซเลบริตี้ นักการเมือง และนักธุรกิจชื่อดัง ที่ต่างไว้วางใจเข้ารับบริการปรับรูปหน้าและเสริมโหงวเฮ้งกับคุณหมอขนม

Roselin Wellness Center ปรับรูปหน้า

นอกจากความใส่ใจในการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดของ Roselin Wellness Center ที่ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากสาวๆ อย่างล้นหลามแล้ว บิวตี้คลินิกแห่งนี้ยังได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์และสื่อต่างๆ ให้ติดท็อปเรื่องการปรับรูปหน้า ไม่ว่าจะเป็น การฉีดไขมันเติมเต็ม การฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงได้รับรางวัลจากบริษัทฟิลเลอร์และโบทูลินั่มท็อกซิน โดยขึ้นแท่น 1 ใน 10 คลินิก ที่มีการใช้ฟิลเลอร์และโบทูลินั่มท็อกซินสูงสุดในปีที่ผ่านมา

Roselin Wellness Center ปรับรูปหน้า

สำหรับคุณหมอขนม ถือเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้าแบบเฉพาะตัว ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษเฉพาะของ Roselin Wellness Center เท่านั้น  นั่นคือเทคนิค 3-dimensions lifting technique ซึ่งเป็นเทคนิคที่ปรับรูปหน้าให้ดูสวยทุกองศา โดยคุณหมอจะใช้ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มยกเส้นเอ็นของใบหน้า เพื่อให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น ช่วยยกมิติของใบหน้าให้ดูพุ่ง ทำให้ใบหน้าแคบเล็กลง ช่วยยกผิวให้อิ่มฟู และสร้างสุขภาพผิวดีจากภายใน

Roselin Wellness Center ปรับรูปหน้า

ด้วยประสบการณ์และฝีมือที่สร้างชื่อให้กับคุณหมอขนม ทำให้ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า หรือเติมความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ต่างรีเควสว่าอยากเข้ารับการรักษาจากคุณหมอขนม โดยในแต่ละวันคุณหมอจะรับเคสจำนวนจำกัด เพื่อให้มีเวลาคุยกับคนไข้ และได้วิเคราะห์ปัญหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการรักษาออกมาดีที่สุด ดังนั้นถ้าใครสนใจอยากเข้ารับคำปรึกษากับคุณหมอขนม ก็อย่าพลาดนัดหมายคิวล่วงหน้า

Roselin Wellness Center ปรับรูปหน้า

นอกจากการบริการเรื่องการปรับรูปหน้าแล้ว Roselin Wellness Center ยังมีบริการความงามอื่นๆ ที่โดดเด่นจนเป็นที่บอกต่ออีกมากมาย เช่น โปรแกรมการดูแลผิวขั้นพื้นฐาน เลเซอร์รักษาหลุมสิว การยกกระชับใบหน้า ดูดไขมัน โปรแกรมกระชับช่องคลอด การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตนเอง การสลายไขมันด้วยความเย็น เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้มีรีวิวจากคนไข้ที่ใช้บริการจริงมากมายเช่นกัน

สาวๆ ที่อยากปรึกษาปัญหารูปหน้า หรือแก้ไขโหงวเฮ้งด้วยสารเติมเต็ม สามารถตามไปขอคำแนะนำดีๆ ได้ที่ Roselinwellness center (โรสลินเวลเนส เซ็นเตอร์) เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.30 น.- 20.00 น. หยุดวันจันทร์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line : @Roselinwellnesscenter Tel : 091-0109379 และ FB : Roselin wellness center เอกมัย

บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย

บู๊ทส์ ครบรอบ 23 ปี เผยโฉมโลโก้ใหม่ พร้อมโปรฯ สุดปัง “มากกว่าซื้อ 1 แถม 1”

Alternative Textaccount_circle
บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย
บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย

บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 23 ปี เผยโฉมโลโก้ใหม่ พร้อมโปรฯ สุดปัง “มากกว่าซื้อ 1 แถม 1” กับหลากแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่บู๊ทส์

บู๊ทส์ ประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามชั้นนำ จัดงานฉลองโอกาสครบรอบ 23 ปีในประเทศไทย พร้อมเผยโฉมโลโก้ใหม่ที่ทันสมัยและทำให้ทุกคนฟีลกู๊ดขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมโปรฯ เด็ดแห่งปีที่ทุกคนรอคอย “มากกว่าซื้อ 1 แถม 1” จากสินค้าแบรนด์ดัง อาทิ No7, Soap & Glory, Boots Vitamin C, Bioderma, Olay, Nivea, Vichy, Blackmores, Mega We Care และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมกับอีกหลายดีลสุดคุ้มที่บู๊ทส์ยกขบวนมาให้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 23 บาท! สมาชิกบู๊ทส์มีสิทธิ์รับคูปองส่วนลดทุกใบเสร็จ สูงสุดถึง 230 บาท และพิเศษเมื่อช้อปครบ 800 บาท สามารถเลือกรับกระเป๋าผ้าลดโลกร้อนลาย English Signature (จำนวนจำกัด) ฟรีผ่านแอปพลิเคชั่นบู๊ทส์ พลาดไม่ได้! ฟีลกู๊ดกับการดูแลสุขภาพและความงามที่บู๊ทส์ทุกสาขาและบู๊ทส์ออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 23 กันยายน 2563 เท่านั้น

มร. ไมค์ วานลิสส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่เริ่มกิจการในประเทศไทยในพ.ศ. 2540 บู๊ทส์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนไทยนับล้านตลอด 23 ปี ด้วยการช่วยให้คนไทยมีสุขภาพดีขึ้น ดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยให้บริการผลิตภัณฑ์ยา พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามต่าง ๆ ทั้งที่สาขาและช่องทางออนไลน์ ซึ่งบู๊ทส์ยังคงมุ่งสานต่อเจตนารมณ์ที่จะส่งมอบช่วงเวลาดี ๆ ให้ลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่องในฐานะร้านค้ารีเทลเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีที่เชื่อถือได้ ที่จะคอยดูแลสุขภาพให้คนไทยทั่วประเทศ”

“เพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญนี้ บู๊ทส์ ได้ปรับโลโก้และอัตลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ ให้มีความทันสมัย มีชีวิตชีวา พร้อมตอกย้ำจุดยืนในการสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้า สนับสนุนให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในสถานการณ์ New Normal ที่ลูกค้าต้องการสิ่งที่ตอบโจทย์ตรงใจ การปรับภาพลักษณ์ใหม่จะครอบคลุมถึง Boots LazMall บนลาซาด้า รวมทั้งการจัดกิจกรรมทางการตลาดและโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่จ่อคิวเตรียมมาสร้างประสบการณ์ที่สนุกและฟีลกู๊ดยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน” มร.ไมค์ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับวันเกิดครบรอบ 23 ปีในประเทศไทย บู๊ทส์ขอจัดโปรฯ เด็ดแห่งปีที่ทุกคนรอคอย “มากกว่าซื้อ 1 แถม 1” กับสินค้านับพันรายการจากแบรนด์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่บู๊ทส์ อาทิ No7, Soap & Glory, Boots Vitamin C และแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Bioderma, Olay, Nivea, Vichy, Blackmores, Mega We Care และอื่น ๆ อีกมากมาย

พิเศษยิ่งขึ้นสำหรับสมาชิกบู๊ทส์ ด้วยคูปองส่วนลดทุกใบเสร็จสูงสุดถึง 230 บาท และสำหรับสมาชิกบู๊ทส์ที่ซื้อสินค้าครบ 800 บาท สามารถกดแลกรับกระเป๋าผ้าลดโลกร้อนสุดคิวต์ลาย English Signature ทางแอปพลิเคชั่นบู๊ทส์ได้ฟรี (มีจำนวนจำกัด) นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2563 ยังมีกิจกรรมร่วมสนุกที่ร้านบู๊ทส์ 2 สาขา ได้แก่ สาขา ดิ เอ็มควอเทียร์ และเซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต เพื่อชิงรางวัลคูปองส่วนลดสุดเซอร์ไพรส์สมนาคุณแก่ลูกค้าแบบลดแล้วลดอีกอย่างจุใจ

มาฟีลกู๊ดกับสินค้าราคาสุดพิเศษได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 23 กันยายนศกนี้ ที่ร้านบู๊ทส์ทุกสาขาทั่วประเทศหรือช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Boots LazMall ทางลาซาด้า แฟนบู๊ทส์สามารถ ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น และกิจกรรมดี ๆ ของบู๊ทส์ ได้ทั้งทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊กเพจ และอินสตาแกรมของ Boots Thailand

 

เลอ กอร์บูร์ซิเย่

นวัตกรรมเรือนเวลา ผลงานสุดคลาสสิกของนักออกแบบชื่อดัง เลอ กอร์บูร์ซิเย่

Alternative Textaccount_circle
เลอ กอร์บูร์ซิเย่
เลอ กอร์บูร์ซิเย่

RADO ผนึกกำลังด้านการออกแบบกับนักออกแบบชื่อดัง เลอ กอร์บูร์ซิเย่ พบกับการกลับมาของคอลเล็คชั่นสุดพิเศษ “ราโด ทรู ทินไลน์ เลส์ คูล์เลอร์ เลอ กอร์บูร์ซิ เย่” อานุภาพแห่งสีสันองค์ประกอบที่ลงตัวของการออกแบบและชุดสีเชิงสถาปัตยกรรมบนเรือนเวลา

 เลอ กอร์บูร์ซิเย่

หลังจากที่ RADO ผู้สรรสร้างนวัตกรรมเรือนเวลาระดับโลก สุดยอดงานออกแบบล้ำสมัย ผู้นำเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์ของวงการนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ เลอ กอร์บูร์ซูซี่ (Les Couleurs Suisse) องค์กรที่อยู่ภายใต้ Foundation Le Corbusier ซึ่งถือสิทธิ์ในการออกใบอนุญาตการใช้ชุดสีเชิงสถาปัตยกรรม “Architectural Polychromy” ของนักออกแบบชื่อดังอย่าง เลอ กอร์บูร์ซิเย่ (Le Corbusier) แต่เพียงผู้เดียว และประสบความสำเร็จโดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากเมื่อปีที่ผ่านมา ในปีนี้ RADO จึงได้ผนึกกำลังร่วมมือกับพันธมิตรเดิมอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญในการต่อยอดความท้าทายด้านการออกแบบในโลกแห่งนวัตกรรมเรือนเวลาให้พัฒนาไปอีกระดับ

สีสันถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังและมีความสำคัญต่อการออกแบบอย่างแท้จริง อานุภาพของสีได้รับการรังสรรค์ขึ้นใหม่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยฟังก์ชั่นและเอฟเฟ็กต์ด้านการออกแบบสีนั้นได้รับการพัฒนาและวางแนวคิดใหม่ โดย Le Corbusier ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ส่งมอบสีสันให้กับงานด้านการก่อสร้าง ส่งมอบประสบการณ์จากความว่างเปล่าสู่ชุดสีเชิงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มอบความกลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติและสามารถผสมผสานได้ทุกแนวทาง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องให้ความสำคัญต่อผลลัพธ์ของสีที่มีอิทธิพลต่อการออกแบบและการออกแบบสีเชิงสถาปัตยกรรม

ซึ่ง Charles Edouard Jeanneret Gris (ชื่อโดยกำเนิดของ Le Corbusier ) หนึ่งในสถาปนิกและนักออกแบบระดับตำนาน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานศิลปะ ภาพวาด กราฟิก ประติมากรรมและสิ่งทอ และเป็นผู้ที่สามารถจำแนกเฉดสีได้ถึง 63 เฉดสี จาก 2 คอลเล็คชั่น ซึ่งทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 9 กลุ่มด้วยเฉดและโทนสีที่ต่างกัน ระบบสีและสี 63 เฉดของ เลอ กอร์บูร์ซิเย่ นำไปสู่การพัฒนาชุดสีเชิงสถาปัตยกรรม “Architectural Polychromy” ที่ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันและได้รับการพิสูจน์โดยสถาปนิกและนักออกแบบชั้นนำว่าเป็นชุดสีเชิงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น

 เลอ กอร์บูร์ซิเย่

นอกจากนี้ระบบสีของ Le Corbusier ยังเป็นที่ยอมรับว่าสามารถถ่ายทอดข้อมูลด้านจิตวิทยาในทุกๆ เฉดสี โดยสีสันแห่งสถาปัตยกรรมของ เลอ กอร์บูร์ซิเย่ได้ถูกคิดค้นและเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1931 ก่อนพัฒนาต่อเนื่องและสร้างความฮือฮาอีกครั้งในปี 1959 ได้รับการพิสูจน์โดยสถาปนิกและนักออกแบบชั้นนำว่าเป็นชุดสีเชิงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มอบความกลมกลืนอย่างเป็นธรรมชาติและสามารถผสมผสานได้ทุกแนวทาง อีกทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ด้านการบุกเบิก เนื่องจากชุดสีนี้ยังคงได้รับการใช้งานอยู่ในปัจจุบันโดยสถาปนิกและนักออกแบบทั่วโลก และยังคงได้รับการยกย่องว่ามีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันและมีความสำคัญกับการออกแบบอย่างแยกกันไม่ได้ ตลอดระยะเวลาเกือบ 90 ปีหลังจากที่ชุดสีเหล่านี้ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรก

ขณะที่ RADO ผู้สรรสร้างนวัตกรรมเรือนเวลาระดับโลก เป็นผู้คิดค้นสุดยอดการออกแบบที่มีความล้ำสมัย เป็นที่รู้จักในนามว่า “ผู้นำเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์” ของวงการนาฬิกาในยุคปัจจุบัน ทั้งยังเป็นแบรนด์ที่เป็นผู้นำด้านการสร้างสีสันที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จในการสร้างสีสันลงบนวัสดุไฮเทคเซรามิกถึง 14 สี นับตั้งแต่เริ่มมีการใช้ไฮเทคเซรามิกครั้งแรกในปี 1986 และได้กลายเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาสีในวัสดุไฮเทคเซรามิกนับแต่นั้นเป็นต้นมา

เพื่อเฉลิมฉลองสีสันแห่งตำนานและพิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบ ในปีนี้ RADO มีความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอนาฬิการุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นจำนวน 9 สี 9 เรือน ในคอลเล็คชั่น True Thinline Les Couleurs™ Le Corbusier ที่มีชุดเซ็ตสีแบบพิเศษ ทำจากไฮเทคเซรามิก แต่ละเรือนเป็นตัวแทนของสีหนึ่งสีจากเก้ากลุ่มที่อยู่ในชุดสี แต่ละเรือนแสดงถึงความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยีของ RADO ในการฉีดขึ้นรูปไฮเทคเซรามิกแบบเป็นชิ้นเดียว ถือเป็นการปฏิวัติวงการการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ด้านการบุกเบิกของแบรนด์ โดยมีเพียง RADO เท่านั้นที่สามารถผลิตสีเหล่านี้บนตัวเรือนเวลาระดับโลกได้


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ปาเต็ก ฟิลิปป์ 7 เรือนลิมิเต็ด สุดหวงของ น้อย-ธัญญรัตน์ รุ่งเรืองมีดี

เผยที่มา นาฬิกา Hermès รุ่น Cape Cod Martelée ผลงานสุดประณีตและเลอค่า

ยลโฉม นาฬิกา Cartier คลาสสิค รุ่นยอดฮิตในตำนาน ที่หาซื้อไม่ได้อีกแล้ว

keyboard_arrow_up