การติดต่อโรคฝอยละออง (droplet) หรือทางอากาศ (aerosol) นั้น มีการถกเถียงกันว่าการแพร่กระจายของ โควิด-19 (Covid-19) ติดจากอะไรกันแน่ ระหว่าง ฝอยละอองหรือทางอากาศ???
ซึ่ง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตอบไว้ว่า “ก็คงถูกทั้งสองฝ่าย”
เพราะจากตัวเลขที่มีการแพร่กระจายโรค ส่วนใหญ่อํานาจการกระจายโรค จะอยู่ที่ 2-3 (R0 = 2-3) คือผู้ป่วย 1 คนแพร่กระจายต่อไปได้ประมาณ 2-3 คน ใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ที่มีการแพร่กระจายทางฝนละออง ดังนั้น การใช้หน้ากากอนามัย การกำหนดระยะห่าง 2 เมตร ร่วมกับสุขอนามัยก็ถือว่าเป็นการเพียงพอ
แต่ในบางครั้งโควิด-19 การแพร่กระจาย จะไม่เป็นเพียงแค่ 2 หรือ 3 คน แต่อาจจะ ไปเป็น 10 หรือมากกว่า เส้นสนามมวย สถานบันเทิง แสดงว่าการติดต่อเป็นไปในทางอากาศ เช่นเดียวกับโรคหัด ที่มีการติดต่อกันง่ายมากทางอากาศ จากผู้ป่วย 1 คน กระจายไปได้ 12-16 คน ถ้าเป็นเช่นนั้น การใส่หน้ากากอนามัยธรรมดาจะไม่เพียงพอ ต้องใช้ N95 และชุดป้องกันตัว
ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วจึงมีโอกาสเป็นได้ทั้ง 2 แบบ ขึ้นอยู่กับสถานที่และสถานการณ์ ในภาวะปกติ การแพร่กระจายโรคจะเป็นแบบทางฝอยละออง การป้องกันที่ผ่านมาถือว่าเพียงพอ แต่ในภาวะที่หรือสถานที่ปกปิด เช่นสนามมวย สถานบันเทิง ในห้องปิด ในหอผู้ป่วยวิกฤต ที่มีการทำหัตถการ เช่น พ่นยา ดูดเสมหะ หรือแม้กระทั่งพูดเสียงดัง ก็จะทำให้เกิดละอองขนาดเล็กลอยไปในอากาศ ที่ไปได้ไกลกว่า 2 เมตร ดังนั้นในสถานที่ดังกล่าว การป้องกัน จะต้องใช้มาตรการเข้มงวดกว่าปกติ เช่น หน้ากากจะต้องใช้ ชนิด N95 และมีชุดป้องกันตัว การแพร่กระจายโรค ที่เป็นที่ถกเถียงกัน ก็คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สถานที่ สิ่งแวดล้อม เป็นสำคัญ
ข้อมูล : Yong Poovorawan
ภาพ : Pexels
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
“ศ.นพ.ยง” ชี้หากโควิด-19 สายพันธุ์G ระบาดรอบ2 ในไทย แพร่กระจายเชื้อง่ายขึ้น
“ผู้ใหญ่ก็ต้องฉีดวัคซีน” แม้จะเคยฉีดตอนเด็กๆ ป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา
Optimal Health Level อีกหนึ่งตัวเลือกของผู้บริโภคบนวิถี New Normal เพื่อสุขภาพ