วิเคราะห์ วัคซีนโควิด-19 ผลิตเพื่อรักษา หรือหากำไร?

วิเคราะห์ วัคซีนโควิด-19 ผลิตเพื่อรักษา หรือหากำไร?

Alternative Textaccount_circle
วิเคราะห์ วัคซีนโควิด-19 ผลิตเพื่อรักษา หรือหากำไร?
วิเคราะห์ วัคซีนโควิด-19 ผลิตเพื่อรักษา หรือหากำไร?

วันนี้จะมาว่ากันด้วยเรื่อง วัคซีนโควิด-19 เผอิญได้ฟังข่าวประเด็นหนึ่งทางรายการ จั๊ด ซัดทุกความจริง ที่ได้พูดถึงการทำกำไรของบริษัทต่างๆ กับการผลิตวัคซีนโควิด-19 ผลิตเพื่อรักษา หรือทำเงินกันแน่? จำเป็นหรือไม่ว่าทุกบริษัทต้องผลิตวัคซีนโดยยืนอยู่บนฐานที่เราจะทำกำไรให้ได้มากที่สุด?

วันนี้มีชุดข้อมูลบางอย่างจะมาเล่าสู่กันฟัง ปกติแล้วในบรรดาอุตสาหกรรมยาทั้งหมดในโลกนี้ มีรายได้จากวัคซีน จากบริษัทยาทั้งหมดที่มีความสามารถในการผลิตวัคซีนประมาณ 2 – 3% เท่านั้น คือพูดง่ายๆ ว่าบริษัทยาในโลกนี้ ไม่ค่อยมีบริษัทไหนนิยมผลิตวัคซีนกัน แต่นิยมผลิตยารักษาโรคมากกว่า

แต่ก่อนอื่นเราตั้งข้อสงสัยกันก่อนว่า ทำไมบริษัทยายักษ์ใหญ่ระดับโลกถึงไม่ลงมาในอุตสาหกรรมการผลิตวัคซีนในช่วงต้น แต่กลับเป็น Pfizer , Moderna , Novavax , SINOVAC และอื่นๆ ฯลฯ ซึ่งหากย้อนหลับมาดูอันดับบริษัทที่ผลิตยา

  • อันดับหนึ่ง GSK บริษัทยาสัญชาติสหราชอาณาจักร
  • อันดับสอง MERCK บริษัทยาสัญชาติสหรัฐอเมริกา
  • อันดับสาม SANOFI บริษัทยาสัญชาติฝรั่งเศส
  • อันดับสี่ PFIZER บริษัทยาสัญชาติสหรัฐอเมริกา
  • อันดับห้า NOVAVAX บริษัทยาสัญชาติสหรัฐอเมริกา

ส่วนอันดับแปด SINOVAC บริษัทยาสัญชาติจีน ที่ประเทศไทยกำลังจะได้ล็อตแรก 200,000 โดส และนี่คือสัดส่วนยอดขายวัคซีน ซึ่งที่บอกตอนแรกว่ารายได้จากวัคซีนจากบริษัทยาทั้งหมดที่มีความสามารถในการผลิตวัคซีนประมาณ 2 – 3% 

วัคซีนโควิด-19 ผลิตเพื่อรักษา หรือทำเงิน

และนี่คือภาพรวมของอุตสาหกรรมผลิตยา คราวนี้จะมาเจาะ 3 บริษัทยาที่เลือกลงสนามผลิต วัคซีนโควิด-19 

NOVAVAX วัคซีนโควิด-19 ผลิตเพื่อรักษา หรือทำเงิน

เริ่มกันที่ NOVAVAX บริษัทยาสัญชาติสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทผลิตวัคซีนที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก หุ้นขึ้นลงผันผวนตลอด จนเจอภาวะขาดทุนเกือบจะปิดตัวไปในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แต่หลังจากการระบาดโควิด-19 นั้น Novavax จึงจำเป็นที่จะต้องลงสนามผลิตวัคซีน แล้วในที่สุดก็ผลิตวัคซีนประสบความสำเร็จ เพราะได้รับเงินพัฒนาจากรัฐบาลกว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และองค์กรไม่หวังผลกำไร ราคาหุ้นจึงดีดขึ้นมาเรื่อยๆ ข้อสรุปของ Novavax ก็คือ ต้องเข้ามาผลิตวัคซีนโควิด-19 ด้วยความจำเป็น เพราะถ้าไม่ทำบริษัทก็จะล้มละลาย

Pfizer วัคซีนโควิด-19 ผลิตเพื่อรักษา หรือทำเงิน

มาต่อกันที่ บริษัท Pfizer ในสหรัฐฯ ร่วมกับบริษัท BioNtech ในเยอรมนี รวมกันผลิตวัคซีน ซึ่งใช้ชื่อว่า BNT162b2 กลายเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดแรกของโลก ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้กับประชาชนเป็นวงกว้างเมื่อต้นเดือน ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา หลังจากข้อมูลของบริษัทไฟเซอร์แจ้งถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในการทดสอบเฟสที่ 3 สามารถป้องกันติดเชื้อโควิด-19 สูงกว่า 90 % ถึงแม้การทดสอบวัคซีนไฟเซอร์ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม

ซึ่งคาดว่า Pfizer และ BioNtech จะมีรายได้จากการผลิตวัคซีนอยู่ที่ 13,000 เหรียญสหรัฐ โดยรายได้ของ Pfizer  ในปี 2019 อยู่ที่ 16,273 เหรียญสหรัฐ และถ้าแบ่งรายได้กันคนละครึ่ง หมายความว่ารายได้จากการขายวัคซีนโควิด-19 จะมากเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด ดังนั้น ข้อสรุปที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า Pfizer ได้อะไรจากการผลิตวัคซีนโควิด-19 นั้น คือ เก็งกำไร

AstraZeneca วัคซีนโควิด-19

ต่อกันที่ AstraZeneca ที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไทย น่าจะได้ฉีดวัคซีนชนิดนี้กัน เป็นบริษัทที่ประกาศว่าจะไม่แสวงหาผลกำไรในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ ยอมขาดรายได้เพื่อมนุษยธรรม แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ยุติลง AstraZeneca ขอกลับมาขายวัคซีนในราคาปกติแบบตามท้องตลาด

เหตุผลที่บริษัท 3 อันดับแรกยักษ์ใหญ่ของโลกที่มีความสามารถในการผลิตยาสูง เทคโนโลยีล้ำ ถึงไม่เลือกที่จะลงสนามในตลาดวัคซีน

จากการสอบถามและเก็บข้อมูลต่างๆ ได้ความว่า บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นเลือกที่จะให้บริษัทที่ตั้งขึ้นมาในช่วงระบาดโดยเฉพาะเพื่อผลิตวัคซีนโควิด-19 ซึ่งในการผลิตแรกๆ อาจจะไม่สมบูรณ์มากนัก  เพื่อจุดสำคัญคือ นำมาฉีดให้คนที่จำเป็นในล็อตแรกก่อน เช่น บุคลากรทางการแพทย์

ดังนั้น บริษัทยักษ์ใหญ่จึงเลือกจะลงสนามช้ากว่า แต่ก็เข้าเส้นชัยเหมือนกัน เพราะว่าคนทั้งโลกมีจำนวนโดยประมาณเจ็ดพันล้านคน ซึ่งยังมีคนต้องการวัคซีนอีกเยอะ ฉะนั้น บริษัทยักษ์ใหญ่ 3 อันดับแรกนั้นรอเพื่อให้ช่วงของการระบาดหาย แล้วจึงผลิตวัคซีนออกมารองรับคนทั้งโลก ซึ่งอยู่ในปริมาณที่มากกว่าบริษัทที่กำลังผลิตวัคซีนโควิด-19 ตอนนี้กำลังผลิตอยู่!

“ตามประวัติศาสตร์แล้ว วัคซีนถูกผลิตด้วยราคาที่ต่ำและขายเอากำไรที่ต่ำมาก”  Neal Halsey ศาสตราจารย์ด้านโรคติดเชื้อในเด็กและสุขภาพระหว่างประเทศ

สำหรับข้อสรุในบทความนี้ เรื่องของวัคซีนนั้น ในแต่ละบริษัท มีจุดมุ่งหมายในการผลิต และมีจุดมุ่งหมายในการขายที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่เราจะต้องนำมาคิดตกตะกอนในตอนนี้คือ เรื่องของการจัดหาวัคซีนมากกว่า ว่าจะทำยังไงให้เพียงพอต่อจำนวนประมาณสักครึ่งหนึ่งของประชากรโลกก่อนในช่วงแรกที่โควิด-19 ระบาด แล้วจากนั้นเมื่อโควิด-19 สลายไปแล้ว เติมส่วนที่ขาดหายไปอย่างไร วางแผนพัฒนาวัคซีนให้ดี ดีกว่าที่จะมาทะเลาะเบาะแว้งในเรื่องที่เป็นรายละเอียดปลีกย่อยมากจนเกินไป และบางรายละเอียดจริงๆ แล้วก็อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่บางฝั่งบางฝ่ายสันนิษฐานเอาไว้ก็ได้


ข้อมูล : จั๊ด ซัดทุกความจริง
ภาพ Cover : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

วัคซีนป้องกันโควิด-19 คือความหวังที่มนุษยชาติจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม

วัคซีนปลอมระบาด! เปิดความรู้เรื่อง วัคซีนโควิด-19 ที่ผ่านการทดลอง

ทำยังไง? เมื่อเจอเคสฉีด วัคซีนต้าน Covid-19 แล้วเกิดผลข้างเคียงกระทบ ฟิลเลอร์

 

ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris)

ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris) แบรนด์ความงามยอดขายอันดับ 1 ของโลก

ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris)
ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris)

ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris)  แบรนด์ความงามยอดขายอันดับ 1 ของโลก ได้คิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อผู้หญิงมามากมายอย่างไม่หยุดยั้ง จนได้รับความนิยมและเป็นแบรนด์ผู้นำด้านการลดเลือนริ้วรอยอันดับ 1 ของเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ลอรีอัล ปารีส รีไวทัลลิฟท์ โปรเรตินอล เซรั่ม  (L’Oréal Paris Revitalift Pro-Retinol Serum) ที่สุด+ของนวัตกรรมของการลดเลือนริ้วรอยที่เห็นผลได้ชัดและวัดได้ สามารถลดเลือนริ้วรอยได้ เส้นต่อเส้น ที่บริเวณ 8 จุดสำคัญบนใบหน้า และลำคอ (หน้าผาก, หว่างคิ้ว, ร่องแก้ม, มุมปาก, หางตา, แก้ม, ใต้ตา และลำคอ)

ด้วยการคิดค้นวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมาอย่างยาวนานถึง 30 ปี ลอรีอัลได้ค้นพบ โปรเรตินอล (Pro-Retinol) ส่วนผสมสำคัญจากตระกูลเรตินอลที่มีความเสถียร ทรงประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ผสานพลังเข้ากับ แอนไทริงเคิล เอสเซนส์ (Anti-Wrinkle Essence) รวมกันถึง 4% ให้ผลลัพท์การลดเลือนริ้วรอยที่เหนือกว่า เพราะไม่เพียงแต่จะกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่า แต่ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่สำคัญ 4 ชนิดในชั้นผิวหนัง และลดทอนการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนในชั้นผิวอีกด้วย นอกจากนี้ผลการทดสอบยังแสดงให้เห็นว่า พลังของ 4% โปร-เรตินอล และแอนไท-ริงเคิล เอสเซนส์ ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจนได้ดีกว่า

ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris)ภาพการทดสอบการเพาะเลี้ยงเซลล์ไฟโบรบลาสต์ในหลอดทดลอง

ผลการทดสอบทางคลินิก ยังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยที่เห็นได้ชัดและวัดได้ ตามภาพที่แสดงด้านล่าง
ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris)

และเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องถึง 3 เดือน ลอรีอัล ปารีส รีไวทัลลิฟท์ โปร-เรตินอล เซรั่ม  ก็สามารถลดเลือนริ้วรอยได้หลายระดับ หรือหากมองด้วยตาเปล่าก็สามารถกล่าวได้ว่า ลดเลือนริ้วรอยได้เส้นต่อเส้นที่ 8 จุดสำคัญ บริเวณใบหน้าและลำคอ ตามตารางด้านล่าง

  ระดับริ้วรอยก่อนใช้ ระดับริ้วรอยหลังใช้ 3 เดือน ระดับริ้วรอยที่ลดลง เปอร์เซนต์ริ้วรอยที่ลดลง
บริเวณหน้าผาก 2.53 1.49 -1.04 -41%
ลำคอ 3.59 2.34 -1.25 -34%
แก้ม 2.63 1.49 -1.14 -43%
หว่างคิ้ว 2.00 1.29 -0.71 -35%
มุมปาก 2.02 1.66 -0.36 -17%
หางตา 3.31 2.76 -0.55 -16%
ร่องแก้ม 2.96 2.49 -0.47 -15%
ใต้ตา 3.86 3.50 -0.36 -9%

พิสูจน์การลดเลือนริ้วรอยที่ชัดและวัดได้ด้วยตัวคุณเอง ด้วยใหม่! ลอรีอัล ปารีส รีไวทัลลิฟท์ โปร-เรตินอล เซรั่ม ขนาด 30 มล. ราคา 1,299 บาท ได้ที่ Official Store ของลอรีอัล ปารีส  ที่ Shopee  https://bit.ly/2MSgf4f ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2564 และ ที่ วัตสัน, วัตสันออนไลน์ และช่องทาง Official Store ของลอรีอัล ปารีส ที่ LAZADA https://bit.ly/3qdMeKw  วางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2564

แฟชั่น 'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1

ชุดต้องไม่เด่นกว่างาน! เผยสไตล์ ‘จิล ไบเดน’ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ตลอดหลายสิบปี

แฟชั่น 'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
แฟชั่น 'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1

ถึงจะเลือกใช้แบรนด์ที่มีชื่อเสียง แต่ ‘จิล ไบเดน’ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ไม่อยากให้ชุดของเธอบดบังงานที่ตัวเองทำ และยังสนับสนุนแฟชั่นอย่างยั่งยืน เลือกที่จะสวมใส่เสื้อผ้าชิ้นสำคัญหลายครั้ง โดยไม่กังวลในฐานะคนดังที่ถูกจับตามองอยู่ตลอด

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 64 นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 46 พร้อมด้วยภริยา นางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลข 1 เข้าร่วมพิธีสาบานตนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ร่วมด้วย นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีหญิงผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ก็ได้เข้าร่วมสาบานตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

โจ ไบเดน 'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1

แน่นอนว่าสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐอเมริกาต้องเป็นจุดสนใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าเธอจะอยู่ในสปอร์ตไลท์มานาน ในตำแหน่งสุภาพสตรีหมายเลขสองของสหรัฐฯ ภรรยาของรองประธานาธิบดี เมื่อครั้งที่ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีในสมัยของบารัค โอบามา

ด้วยประสบการณ์อันยาวนานทางการเมืองและได้ขึ้นมาเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งในที่สุด เราจึงได้เห็นสไตล์การแต่งตัวของเธอที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับตำแหน่งใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม เรามาดูกันว่าสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่มีสไตล์ที่เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง กับการอยู่เคียงข้างสามีนักการเมืองมาหลายสิบปี

ชุดต้องไม่เด่นกว่างาน! เผยสไตล์ ‘จิล ไบเดน’ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ตลอดหลายสิบปี

'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิล ไบเดน ในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าและกระโปรงทรงดินสอในวอชิงตัน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2552
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิลในชุดเดรสสีแดงของ Reem Acra เข้าร่วมงาน Southern Regional Ball ที่ DC Armory เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2552 ในวอชิงตัน
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิล ไบเดน ในเสื้อเชิ้ตที่ได้แรงบันดาลใจจากเสื้อเบลเซอร์ เข้าร่วมการประชุมสตรีที่แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2553
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
โจ ไบเดน และจิล ไบเดน สวมเสื้อโค้ตเข้าร่วมขบวนพาเหรดครั้งแรกในวอชิงตัน เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2556
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิลในเสื้อคลุมสีแดงและรองเท้าบู๊ตยาวถึงเข่า ที่สนามบิน Orly ในปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิล ไบเดน ในชุดลายดอกไม้ที่เคยสวมใส่เพื่อเข้าเฝ้าเจ้าชายแฮร์รี มาถึง Gandhi Smriti พิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับมหาตมะคานธีในนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2556
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิลในชุดเดรสลายทางและเสื้อเบลเซอร์ ยืนปรบมือระหว่างพิธีมอบเหรียญที่ Invictus Games เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2557 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิลในชุดเดรสโทนสีอ่อน เดินข้าง Mai Thi Hanh สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเวียดนาม เยี่ยมชมวัด Van Mieu ในฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2558
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิล ไบเดน ในชุดของ Oscar de la Renta เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองที่ Chase Center ใน Wilmington รัฐเดลาแวร์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิล ไบเดน ในชุดเดรสรัดเข็มขัด เข้าร่วมงานแถลงข่าวเมื่อโจ ไบเดน ประกาศการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพรรคเดโมแครต ในปี 2531
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิลใส่แจ็คเก็ตโคบอลต์ติดกระดุมสีทองระหว่างงานแถลงข่าวในวอชิงตัน เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2530
'จิล ไบเดน' สุภาพสตรีหมายเลข 1
จิล ไบเดน ในชุดเสื้อคลุมสีขาวที่เข้ากับยุคสมัยในงานเลี้ยงอาหารค่ำ Unity Party Unity ของรัฐอิลลินอยส์ ในชิคาโก เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2530

อย่างไรก็ตาม เธอไม่อยากให้ชุดของเธอบดบังการทำงานสักเท่าไหร่ แม้ว่าเธอจะเป็นที่รู้จักในกลุ่มดีไซเนอร์ เช่น Reem Acra , Dolce & Gabbana และ Gabriela Hearst แต่ก็ไม่ค่อยมีใครพบเกี่ยวกับแบรนด์ที่เธอสวมใส่ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงของสามี นอกจากนี้เธอยังสนับสนุนแฟชั่นอย่างยั่งยืนอีกด้วย


ภาพและที่มา : amp.thenationalnews.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แฟชั่นนิสต้าระดับพันล้าน Nita Ambani มีกระเป๋า Hermes มูลค่าโหดทุกใบ!

สมกับ Ambassador แฟนจีนทุ่มเปย์ Chanel ของขวัญวันเกิด เจนนี่ BLACKPINK

พักยกชุดฮันบก! ส่องลุค ชินฮเยซอน นางเอก Mr.Queen ในชีวิตจริง

 

‘หากเคยผิดหวังเกือบปางตาย ดวงได้สมหวังแบบไม่น่าเป็นไปได้’ ดูดวงรายวัน 21 มกราคม 2564

ดูดวงรายวัน 21 มกราคม 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘หากเคยผิดหวังเกือบปางตาย ดวงได้สมหวังแบบไม่น่าเป็นไปได้’

ดูดวงรายวัน 21 มกราคม 2564

ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่มีรูปแบบเนื้อหาและกฎเกณฑ์ชัดเจนตายตัว เช่น งานในหน่วยงานราชการ งานวิชาการ งานเอกสาร หรือพวกงานเกษตร อาหาร คุณก็ทำได้ดี วันนี้นอกจากคุณจะมีความสามารถโดดเด่นในเรื่องการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และให้คำปรึกษาแนะนำแล้ว ผู้ใหญ่ยังให้การส่งเสริมสนับสนุน ส่วนเพื่อนร่วมงาน และเจ้านายก็เมตตาเอ็นดูคุณเป็นพิเศษด้วย เพราะฉะนั้นหากตั้งใจอะไรไว้ โอกาสเปิดแล้ว ควรรีบทำ อย่าช้า

การเงิน  : หมุนเวียนค่อนข้างสะดวก ไม่ติดขัด ยกเว้นแต่ว่าคุณจะหลงเชื่อคำพูดที่มีหลักการและเหตุผล ที่มาชักชวนให้คุณลงทุนในธุรกิจหรือธุรกรรมต่างๆ เพราะเขาจะมาตักตวงผลประโยชน์ไปจากคุณ

ความรัก : วันนี้คุณอารมณ์ดี โรแมนติก ฝันถึงความรักไว้อย่างสวยงาม แต่คู่คุณอาจซีเรียสเกินไปที่จะมีอารมณ์สวีทกับคุณ ดังนั้น จากความหวานอาจกลายเป็นความเซ็งได้   คนโสด แอบรักใครอยู่หรือเปล่าคะ อาจเพราะคุณเคยผิดหวังมาก่อนก็เลยไม่กล้าตัดสินใจ อาจต้องให้ผู้ใหญ่ช่วยดูด้วย

สุขภาพ : เดินดีๆ นะคะ ระวังหกล้ม ซึ่งจะเกิดอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะช่วงขาและหลังที่จะมีโอกาสปวดหลัง ปวดตามข้อและกระดูก

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถเฉพาะตัว หรือต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น นักบริหาร นักการเมือง การปกครอง ข้าราชการ บุคคลในเครื่องแบบ เจ้าของกิจการ ฯลฯ วันนี้หากคุณคิดจะรับอาสาเจ้านายไปทำงานที่เสี่ยงต่อความผิดพลาดสูง ก็ต้องระวังตัวให้มาก เพราะดวงของคุณขึ้นๆ ลงๆ  จะมีอุปสรรคขวากหนามให้ต้องฟันฝ่าและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างกะทันหัน อาจมีศัตรูปองร้าย และถูกทรยศหักหลัง

การเงิน : เก็บเงินไม่อยู่ จะมีปัญหาหนักใจบ่อยครั้ง อาจเกี่ยวกับการลงทุน เพราะคุณมั่นใจในตัวเองมากจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะขาดทุน ทางที่ดีควรหาผู้มาช่วยวางแผนจัดการให้จะดีกว่า

ความรัก : ชีวิตครอบครัวของคุณอาจติดอยู่ในกรอบขนบธรรมเนียมประเพณีและความเหมาะสมของสังคมมากกว่าจะเป็นความรักแบบหนุ่มสาว จึงทำให้บางครั้งคุณก็เบื่อๆ อยากๆ โดยออกไปเที่ยวหว่านเสน่ห์บ้าง   คนโสด คุณรักง่ายหน่ายเร็ว แต่เวลามีความรักก็ขี้หึง ชอบแสดงความเป็นเจ้าของ โดยในใจคุณคิดว่า หากไม่เจอคนที่ดีเพียบพร้อมก็อยู่คนเดียวไปก่อน

สุขภาพ : ควรใส่ใจในเรื่องของอาหารการกิน รับประทานอาหารให้ตรงเวลา เพราะคุณจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร พวกโรคกระเพาะ ลำไส้อักเสบ มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ งดดื่มแอลกอฮอลล์ ชา กาแฟ ไปก่อน

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  คุณเป็นผู้หญิงเก่ง มีความรู้ ความสามารถ และบารมีจากตำแหน่งหน้าที่การงาน ซึ่งวันนี้คุณจำเป็นต้องใช้สิ่งที่คุณมีให้เป็นประโยชน์ เพื่อนำเสนองานเข้าประมูลงาน หรือเข้าแข่งขัน ซึ่งคุณคาดหวังถึงความสำเร็จอย่างแรงกล้า สามารถทำได้ทุกอย่างแม้จะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรรมก็ตาม ก็ต้องระวัง เพราะคุณอาจต้องทำงานกับคนที่คิดเห็นขัดแย้งกับคุณในทุกๆ เรื่อง ซึ่งจะทำให้งานขับเคลื่อนช้าลง

การเงิน : อาจได้เงินพิเศษจากงานพิเศษ แต่ก็ไม่แน่นอน ดังนั้น จึงไม่ควรลงทุนแบบใจใหญ่ หรือใช้เงินมือเติบ เพราะอาจทำให้มีหนี้สินติดตัวได้

ความรัก : ระวังคำพูด อาจมีการก้าวล่วงกันโดยไม่รู้ตัว จนคุณรู้สึกถูกหยามเกียรติและศักดิ์ศรีแบบยอมไม่ได้ สุดท้ายก็จบลงที่การทะเลาะกัน  คนโสด คุณเป็นผู้หญิงเก่ง มีบารมี สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ และมีความคิดเป็นของตัวเองมากถึงมากที่สุด หนุ่มๆ หากไม่เจ๋งจริง ก็จะไม่กล้าจีบ

สุขภาพ  :  คุณเครียด จึงมีโอกาสที่จะเป็นไมเกรน หรือโรคทางระบบประสาท เช่น จิตซึมเศร้า จึงควรปล่อยวาง หากิจกรรมบันเทิงเริงรมย์ที่จะช่วยให้จิตใจได้ผ่อนคลายบ้าง

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  หากคุณได้รับการชักชวนจากผู้ใหญ่ในครอบครัว หรือคนรัก หรือเจ้านายให้ไปร่วมงานกับธุรกิจของเขาในลักษณะเป็นจ็อบพิเศษ โดยที่คุณก็ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากทุกๆ ท่านอย่างดี จนอาจไปขัดหูขัดตาขาใหญ่เข้าโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นจึงควรมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ใช้ความจริงใจสร้างมิตรไว้ก่อนดีกว่า

การเงิน :  คุณมีความสามารถบริหารจัดการเรื่องเงินอย่างรอบคอบ สามารถเป็นหลักให้กับครอบครัว ผู้ใต้บังคับบัญชา และบริวารได้ แต่ต้องระวังอาจเสียเงินกับเรื่องที่คาดไม่ถึง จนต้องสูญเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

ความรัก : คุณอาจแต่งงานใช้ชีวิตกันอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้ปรึกษาผู้ใหญ่ จึงไม่แปลกหากวันนี้คุณจะรู้สึกเบื่อหน่ายกันและกันอย่างรวดเร็ว หรือไม่ก็พบว่าคู่ไม่ซื่อสัตย์จนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป   คนโสดค่อยๆ ดูใจกันไปนะคะ หรือปรึกษาผู้ใหญ่ด้วยก็ได้ เพราะคุณคงไม่อยากเจ็บช้ำซ้ำๆ เหมือนที่ผ่านมา

สุขภาพ :  ระบบหมุนเวียนเลือดจะมีปัญหา ทำให้มีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม ระวังจะหกล้ม ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเอ็น

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้คำพูดในการติดต่อประสานงาน เช่น โฆษณาประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารมวลชน พนักงานขาย หากคุณอยากลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆ ที่แตกต่างจากงานประจำ แต่ยังไม่รู้จะทำอะไร วันนี้คุณมีความสามารถโดดเด่นทางการศึกษา หรืองานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว สามารถทำงานเป็นทีมได้อย่างดีเยี่ยม หากคุณทำได้ ทุกคนก็จะยอมรับในความสามารถของคุณ

การเงิน : รายได้มาจากการมีทีมงานและผู้บังคับบัญชาที่ดี ซึ่งคุณก็ใจดี ใจบุญ ชอบช่วยเหลือ แม้ตัวเองไม่มีก็จะไปเสาะแสวงหามาให้ เรียกได้ว่า ทำงานหาเงินเพื่อให้คนอื่นใช้แท้ๆ

ความรัก :  คุณอาจแต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่จัดสรร และใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่อีก จึงอาจทำให้คุณเครียด มีทิฐิสูง จนไม่สนใจที่จะประนีประนอม อยากจะเอาชนะกัน คนโสด คุณโรแมนติก วาดฝันถึงความรักไว้อย่างสวยงาม จนไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องเรียน หรือการทำงาน ซึ่งอาจทำให้คุณพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไป

สุขภาพ : โรคที่คุณต้องให้ความสำคัญคือ โรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ เช่น เส้นเลือดในหัวใจตีบ หรือไขมันอุดตันในเส้นเลือด ฯลฯ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  ก็ยังอยู่ที่ผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น บุคคลในเครื่องแบบ นักบริหาร นักการเมือง นักธุรกิจ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นระดับผู้ใหญ่ หรือผู้บริหาร วันนี้ต้องระวังอีโก้ในตัวคุณที่มีมากเกินจนไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเลย ที่จะทำให้เกิดการขัดแย้งจนถึงทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งจะส่งผลให้งานของคุณต้องหยุดลงกะทันหัน แล้วหากคุณล้มหรือผิดพลาดเมื่อไหร่ ก็จะถูกรุมกระหน่ำซ้ำเติมทันที

การเงิน : คุณมีความสามารถใช้เงินทำงานสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง แต่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอาชีพในสถานบันเทิง ร้านเหล้า หรือการเสี่ยงโชค เพราะจะทำให้รายได้ลดฮวบ แถมเป็นหนี้สินอีกต่างหาก

ความรัก :  คุณเคยผิดหวังกับความไม่ซื่อสัตย์ของชีวิตคู่มาแล้ว วันนี้อาจเป็นวันที่คุณจะได้เริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง จากที่คู่คุณเจ้าชู้ ชอบเที่ยว แต่วันนี้เขาจะเปลี่ยนไป เลิกงานแล้วรีบกลับบ้านเลย   คนโสด หากคุณผ่านความผิดหวังเกือบปางตายมาแล้ว วันนี้มีแนวโน้มที่จะได้เจอกับรักที่สมหวังในสถานบันเทิง  (ดูแล้วไม่น่าจะจริงจังกันได้)

สุขภาพ : ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ยิ่งหากเป็นนักดื่มด้วยแล้ว ยิ่งไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะคุณจะปัสสาวะบ่อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่ม หากกลั้นไว้นานๆ ต่อเนื่อง อาจทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : คุณใจกล้าบ้าบิ่นทำอะไรเกินตัวมากนะคะ อาจเพราะคุณตั้งเป้าหมายในการทำงานไว้ที่ความสำเร็จ หน้าที่การงาน ชื่อเสียง และเงินทอง โดยที่คุณก็คาดหวังสูงมาก แต่ดวงการงานช่วงนี้ยังไม่สู้ดี จึงทำให้มีปัญหาขลุกขลักตลอด เอกสารทางราชการอาจเกิดความผิดพลาด จนถึงขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งจะสร้างความวิตกกังวลให้กับคุณมาก ทางที่ดีควรหาเพื่อนรู้ใจหรือผู้รู้ผู้มีประสบการณ์มาเป็นตัวกลางคอยประสานดีกว่า

การเงิน : จะได้จากอำนาจ วาสนา บารมีที่อยู่ในตัวคุณ ทำให้มีรายได้ค่อนข้างดี แต่คุณก็ใช้จ่ายเงินไม่อั้นเช่นกัน หมดไปกับการเลี้ยงดูญาติสนิทมิตรสหาย บริวาร เพื่อเสริมบารมี แต่ก็ไม่ควรค้ำประกันเงินกู้หรือทำสัญญากู้ยืมเงินแทนบุคคลอื่น เพราะมีโอกาสผิดพลาดสูง

ความรัก : คุณอยู่ด้วยกันอาจเพราะหน้าที่การงาน หรือเพื่อครอบครัว เพราะคุณอาจต้องจับมือกันเพื่อหาเงินมาสร้างครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ทัดเทียมกับคนอื่น เพราะฉะนั้นจึงควรลดทิฐิและให้อภัย ลดความคาดหวังจากคู่ลง เพื่อจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข   คนโสด หากคุณจะมีแฟน ขอมองที่ต้องเกื้อหนุนช่วยเหลือกันได้ เพราะยุคนี้แค่ความรักอย่างเดียวอยู่ด้วยกันไม่รอดแล้ว

สุขภาพ :  คุณควรให้ความสำคัญกับหัวใจ และโรคที่เกี่ยวกับหัวใจเป็นหลัก รองลงมาคือเรื่องความสามารถทางการมองเห็น อาจได้ตัดแว่น หรือผู้ที่ใส่แว่นอยู่แล้วอาจต้องเปลี่ยนแว่นใหม่

 

6 ไอดอล K-Pop ชายผู้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ร้อง เล่น เต้น เก่ง ครบเครื่องสุดปัง

account_circle

หากเอ่ยถึงเหล่า ไอดอล K-POP ชายทั้งหลาย! เชื่อว่าหลายคนก็คงจะนึกถึงชายหนุ่มหน้าตาดี มีผลงานร้องเพลง เต้นเก่ง เปิดการแสดงคอนเสิร์ตแล้วบัตรหมดเกลี้ยงภายในพริบตา! แต่ใครจะคิดล่ะว่าเหล่าไอดอลทั้งหลายเหล่านี้จะมีความสามารถเกินตัว จนถูกทาบทามไปโชว์ฝีมือด้านการแสดงซีรีส์ต่างๆ จนซีรีส์เรื่องนั้นๆ ได้รับความนิยมไม่น้อยเช่นกัน!

6 ไอดอล K-Pop ชายผู้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ร้อง เล่น เต้น เก่ง ครบเครื่องสุดปัง 

เริ่มต้นที่คนแรก “คิมมยองซู” หรือที่หลายคนรู้จักเขาในชื่อว่า “แอล” หนุ่มหล่อชื่อดังจากวง K-POP ชื่อดังขวัญใจสาวๆ อย่าง Infinite ที่นอกจากจะได้รับความนิยมจากการร้องเพลงแล้ว “หนุ่มแอล” ยังได้โดดลงมาโชว์ฝีมือด้านการแสดงกับซีรีส์ “Miss Hammurabi ยอดทีมตุลาการ” กับบทบาท อิมบารึน หนุ่มผู้พิพากษาเจ้ากฎเกณฑ์ ที่เขาสามารถแสดงเข้าถึงบทบาททั้งสีหน้าและแววตาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว!

คนที่สอง “เยซอง” หนุ่มหล่อหนึ่งในสมาชิกวง ซุปเปอร์จูเนียร์ โดย เยซอง ยังได้แสดงซีรีส์ให้เหล่าแฟนคลับได้ชื่นชมอีกต่างหาก ซึ่งซีรีส์ที่เป็นที่พูดถึงของ เยซอง เห็นจะหนีไม่พ้นการสวมบทบาทเป็นตำรวจหนุ่มสุดเท่ห์ในซีรีส์สืบสวนเรื่องดังอย่าง “Voice ล่าเสียงมรณะ” นั่นเอง!

คนที่สาม “ยุนดูจุน” หนุ่มหล่อสุดฮอตจากวง Highlight ซึ่งพ่อหนุ่มคนนี้ไม่เพียงแค่เป็นไอดอลให้สาวๆ กรี๊ดเท่านั้น! แต่เขายังได้รับบทบาทเป็นพระเอกซีรีส์ มากมาย ที่อิตสุดเห็นจะเป็นบทบาทบล็อกเกอร์หนุ่มสายกินจากซีรีส์ “Let’s Eat วุ่นรักสาวนักกิน” ทั้ง 3 ซีซั่น!

คนที่สี่ “อีแทฮวาน” หนึ่งในไอดอลจาก 5urprise และยังเป็นนายแบบนักแสดงหนุ่มที่มีผลงานดังมากมาย หลายคนอาจจะคุ้นหน้าเขาเพราะเขารับบทเป็น อีซองยอน พี่ชายของท่านรองอียองจุนในซีรีส์สุดฮิต “What’s Wrong With Secretary Kim เททั้งใจให้เลขาคิม” อีกด้วย

คนที่ห้า “กงมยอง” หนุ่มน่ารักประจำวง 5urprise ซึ่งมีผลงานการแสดงออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามนั่นก็คือซีรีส์ “The Bride of Habaek ดวงใจฮาแบ็ค” ร่วมกับดาราดังอย่าง นัมจูฮยอก, ชินแซคยอง และ คริสตัล

คนที่หก “” ลีดเดอร์ประจำวง 5urprise หนุ่มคนนี้เคยรับบทเป็นนักแสดงซัพพอร์ตบ่อยๆ แต่ความหล่อของเขาก็โดดเด่นเข้าตาผู้ชม จนได้รับรางวัล Hot Star Award จากการแสดงในซีรีส์ Hwajung แ ซีรีส์ Hwajung ละโด่งดังเป็นพลุแตกในบทบาทหนุ่มแบดบอยในซีรีส์ “Cheese in the Trap กับดักหัวใจนายจอมแสบ” จนได้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกในซีรีส์ดังหลายเรื่องเลยทีเดียว!


CR : @kim_msl, @yesung1106, @leetaehwan0221

เจิ้งส่วง นางเอก เวยเวยเธอยิ้มโลกละลาย

เจิ้งส่วง นางเอก เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย จ้างอุ้มบุญ พยายามบังคับทำแท้ง ทิ้งลูก

Alternative Textaccount_circle
เจิ้งส่วง นางเอก เวยเวยเธอยิ้มโลกละลาย
เจิ้งส่วง นางเอก เวยเวยเธอยิ้มโลกละลาย

ไม่กี่วันที่ผ่านมา วงการบันเทิงจีนมีข่าวใหญ่ที่เรียกได้ว่าเป็นข่าวช็อกวงการมากๆ เนื่องจาก เจิ้งส่วง นางเอก เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย (Wei Wei Beautiful Smile ) ถูกเปิดโปงจากอดีตคนรักว่าเธอจ้างอุ้มบุญ พยายามบังคับทำแท้ง ทิ้งลูก ทำให้ถูกตำหนิอย่างร้ายแรง ทั้งยังมีการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรมของเธอด้วย ซึ่งข้อสรุปด้านล่างนี้ได้จากข้อมูลหลายแห่งอาทิ wwd.com , bbc โดยเฉพาะ Fanpage : @thecrazysisterschannel มีการโพสต์บทสนทนาไว้อย่างถึงรสถึงชาติเลยทีเดียว

สรุปข่าวประเด็นร้อนของ เจิ้งส่วง นางเอก เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย จ้างอุ้มบุญ ทิ้งลูกบุญธรรม

1.ในเดือนสิงหาคม-กันยายน ปี 2018 เจิ้งส่วง ได้เปิดตัวคบหาดูใจกับแฟนหนุ่มที่ชื่อว่า “จางเหิง” (Zhang Heng) โดยในตอนนั้นสื่อจีนรายงานว่าหนุ่มคนนี้เป็นทายาทตระกูลเศรษฐี โดยตลอดเวลาที่ทั้งคู่คบหาดูใจกัน มีแต่ข่าวด้านดีๆ ออกมาตลอด แถมรักครั้งนี้นางเอกสาวก็ดูจะเปิดตัวมากกว่าความรักครั้งที่ผ่านๆ มาด้วย

เจิ้งส่วง นางเอก เวยเวยเธอยิ้มโลกละลาย

2. คู่รักคู่นี้ยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากๆ เนื่องจากเป็นคนดังที่ไม่ถือตัว แม้ขณะที่พวกเขากำลังเดทกันอยู่ เมื่อมีแฟนคลับเข้าไปขอถ่ายรูปหรือลายเซ็นก็ไม่ปฏิเสธ อีกทั้งเขายังเทคแคร์ดูแลแฟนสาวเป็นอย่างดี จนได้ขึ้นแท่น “แฟนหนุ่มตัวอย่าง” ที่สาวๆ ชาวจีนชื่นชอบมากๆ

เจิ้งส่วง นางเอก เวยเวยเธอยิ้มโลกละลาย

3. คู่รักได้คบหาดูใจกันมานานกว่า 1 ปี พวกเขาได้เกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องเงิน โดยเมื่อธันวาคม ปี 2019 มีข่าวลือว่าคู่รักได้แยกทางกัน ท่ามกลางความสงสัยว่าทั้งคู่มีปัญหาเพราะเรื่องเงิน ซึ่งสรุปว่าข่าวลือตรงเป๊ะ! (ความจริงเปิดเผยเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 “เจิ้งส่วง” เปิดเผยว่าเธอและแฟนหนุ่มมีประเด็นเรื่องเงินกันเมื่อเดือนกันยายนปี 2019 ทั้งคู่มีปากเสียงและได้เลิกรากัน  นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าฝ่ายหญิงได้ฟ้องร้องฝ่ายชายให้ชดใช้เงินที่ยืมเธอไปจำนวน 20 ล้านหยวนพร้อมดอกเบี้ย ซึ่งศาลได้ให้ฝ่ายชายชดใช้ แต่ตอนนี้มีการยื่นอุทธรณ์)

เจิ้งส่วง จางเหิง เลิก

4. หลังจากที่ไม่ได้มีข่าวคราวมานาน เมื่อต้นปี 2021 “จางเหิง” ได้ออกมาโพสต์ระบายความอัดอั้นในใจ หลังจากที่มีข่าวลือสะพัดว่า เขาโกงเงินบริษัทที่ทำร่วมกับอดีตแฟนสาว “เจิ้งส่วง” ทำให้ไม่เงินจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน จนต้องหนีไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา โดยเจ้าตัวยืนยันหนักแน่นว่าข่าวที่ออกมานั้นไม่เป็นเรื่องจริง พร้อมอธิบายว่าที่เขาต้องอยู่ที่สหรัฐอเมริกาก็เพราะต้องปกป้องชีวิตที่บริสุทธิ์ 2 ชีวิต

ลูก เจิ้งส่วง

5. เพื่อนของ “จางเหิง” ได้โพสต์ใบสูติบัตรของเด็กชาย-หญิง โดยในข้อความได้ระบุว่าเด็กชายเกิดวันที่ 19 ธันวาคม 2019 และเด็กหญิงเกิด 20 มกราคม 2020 ที่พีคกว่านั้นคือชื่อของแม่เด็กทั้งสองคนคือ “เจิ้งส่วง” นักแสดงหญิงแถวหน้าของวงการบันเทิงแดนมังกร ขณะที่ชื่อพ่อคือ “จางเหิง”

ใบเกิด

6. สกิลการสืบของชาวเน็ตแดนมังกรบอกเลยว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก เพราะมีรายงานว่ามีการไปสืบค้นเอกสารที่สหรัฐอเมริกา และเจอกับเอกสารการฟ้องหย่าของนักแสดงหญิงที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ซึ่งจะมีการตัดสินในวันที่ 22 มีนาคม 2564  นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวลือสะพัดว่าเด็กทั้งสองคนที่มีชื่อของ “เจิ้งส่วง” เป็นแม่ที่ไม่ได้ให้กำเนิดอย่างธรรมชาติ แต่เกิดจากการไปจ้างอุ้มบุญ! โดยแม่อุ้มบุญ 2 คน

Zheng Shuang
ภาพประกอบจากในรายการเด็กรายการหนึ่ง

7. ยังไม่ทันที่นักแสดงสาวจะได้อ้าปากแก้ข่าว งานก็เข้าอีกระลอก เมื่อเพื่อนของ “จางเหิง” ได้ออกมาเปิดเผยเทปบันทึกเสียงที่มีความยาว 6 ชั่วโมง โดยอ้างว่าเป็นการสนทนาระหว่างฝ่ายเจิ้งส่วงและครอบครัว กับฝ่ายจางเหิงและครอบครัว โดยพ่อของฝ่ายหญิงเสนอว่า ในเมื่อเลิกกันแล้วและไม่มีใครเลี้ยงไหว ก็ทิ้งให้คนอื่นเลี้ยงไป ด้านพ่อฝ่ายชายบอกว่ามันไม่ง่ายแบบนั้น เพราะที่อเมริกาเรื่องนี้มันผิดกฎหมาย แต่พ่อของฝ่ายหญิงก็ยืนยันเสียงแข็งว่าเอาไว้ไม่ได้และต้องทำแท้ง ฝั่งฝ่ายชายเลยตอบโต้ไปว่าเรื่องนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะเด็กอายุครรภ์ 7 เดือนแล้ว แม่ฝ่ายหญิงก็เสริมว่า ถ้าเช่นนั้นก็หาคนหรือองค์กรให้รับเลี้ยง นอกจากนี้ ยังมีเสียงที่คล้ายนางเอกคนดังพูดออกมาว่า “เด็กก็ทำแท้งไม่ได้แล้ว ฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว” ออกมาด้วย แน่นอนว่าคำพูดนี้ทำให้นักแสดงสาวถูกสังคมมองว่าโหดร้ายและเป็นแม่ที่ขาดความรับผิดชอบ

8. จากบทสนทนาที่ออกมานี้เอง ทำให้ชาวเน็ตพากันก่นด่าอย่างกระจุยกระจาย “ทิ้งก็ทิ้งไปสิ ไปหาเจ้าของมารับเลี้ยง ทำเหมือนเป็นหมาแมว” , “ครอบครัวนี้บ้าชัดๆ โชคดีที่พ่อจางเหิงยังรู้ว่าผิดกฎหมาย” , “เป็นพ่อแม่อะไรกัน ความรับผิดชอบไม่มีเลยเหรอ” ฯลฯ

9. ถึงดาราสาวจะยังไม่ออกมาแถลงข่าว แต่คลิปเสียงที่ออกมาทำให้คนที่รักเธอหลายคนหมดศรัทธาและความนับถือ โดยมีชาวเน็ตรายหนึ่งอ้างว่าเป็นประธานแฟนคลับที่ติดตามผลงานเธอมาเป็นสิบๆ ปี ได้ประกาศไม่ขอสนับสนุนนักแสดงสาวคนนี้อีกต่อไป ทั้งยังสาปส่งให้ว่าคนที่ทำเรื่องเลวร้ายต้องได้รับกรรม พร้อมเตือนเพื่อนๆ ที่ยังรักดาราสาวคนนี้อีกด้วยว่า อย่าได้ไปล้างแค้นแทนเธอ คนทำผิดกฎหมายจะล้างยังไงก็ไม่ได้!

10. หลังจากที่ถูกกดดันจากหลายฝ่ายในที่สุดนักแสดงสาว “เจิ้งส่วง” ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่าน Weibo โดยเธอได้ระบุว่าเหมือนมีคนพยายามที่จะเปิดเผยความลับของเธอทีละนิดๆ แม้จะไม่อยากพูด แต่สุดท้ายก็ต้องออกมาตอบ โดยเธอยอมรับเรื่องอุ้มบุญและยืนยันที่ผ่านมาทีมทนายทั้งที่จีนและสหรัฐอเมริกาไม่เคยละทิ้งการปกป้องผลประโยชน์และสิทธิตามกฎหมาย และไม่เคยละทิ้งการเจรจาไกล่เกลี่ยกับอีกฝ่าย แต่ในกระบวนการตามกฎหมายของจีน พวกเราปฏิเสธการแบล็คเมล์โดยการขู่เปิดเผยเรื่องส่วนตัวครั้งแล้วครั้งเล่า ในกระบวนทางกฎหมายของอเมริกา ฉันก็รักษาสิทธิ์ตามกฎหมายของฉัน และนี่คือคำตอบเรื่องข่าวที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ของเธอ

Zheng Shuang

11. ในส่วนของ “จางเหิง” นั้น อาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ซึ่งวีซ่านี้กำลังจะหมดอายุในไม่ช้านี้ แน่นอนหลังจากนั้น หากเขาไม่กลับจีนด้วยตัวเอง เขาจะต้องถูกเนรเทศให้กลับไปยังประเทศบ้านเกิดในที่สุด และหากพวกเขายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับอดีตแฟนสาว “เจิ้งส่วงด้วยดี เด็กทั้งสองคนจะถูกนำตัวไปดูแลที่แผนสวัสดิการของสหรัฐอเมริกา

12. แม้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ข่าวที่เกิดขึ้นกระทบกับชีวิตของ “เจิ้งส่วง” อย่างใหญ่หลวง จากคลิปเสียงที่ออกมาในประเด็นที่เธอและครอบครัวจะบังคับให้แม่อุ้มบุญทำแท้ง ถึงแม้มันไม่ได้เกิดขึ้น แต่ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงบนโลกออนไลน์ นำมาซึ่งสรรพนามที่เรียกขานเธอว่า “The Devil Wears Prada” (ชื่อภาพยนตร์) เนื่องจากเธอเพิ่งจะได้เป็นทูตของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง Prada แน่นอนว่ากว่าที่เธอจะได้มายืนในจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จากเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้เธอต้องสูญเสียตำแหน่ง เพราะทางแบรนด์ได้สั่งปลดเธอออกทันที หลังจากที่เกิดข้อพิพาทร้ายแรง

Zheng Shuang Prada

13. ด้าน The Tripod Awards ก็ได้ออกมาประกาศยกเลิกรางวัลที่เคยมอบให้กับนักแสดงสาว อาทิ “รางวัล 10 นักแสดงซีรีส์ที่ผู้ชมชื่นชอบที่สุด” ในการประกาศรางวัลครั้งที่ 13 รวมถึง “รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในซีรีส์ร่วมสมัย” ที่เคยมอบให้ในงานครั้งที่ 19 โดยระบุว่าการกระทำของเธอย่ำยีสิทธิของพลเมือง ทำลายจริยธรรมที่ทุกคนหวงแทน ซึ่งไม่มีใครยินยอมให้เกิดเรื่องเช่นนี้ได้

14.หลังจากที่มีข่าวฉาวของนางเอกดังออกมา สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล CCTV ก็ได้นำเสนอข่าวที่ระบุว่าจีนห้ามการตั้งครรภ์แทนทุกชนิด ทั้งยังระบุว่า “การตั้งครรภ์แทนและการทอดทิ้งเด็กเป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมทางสังคมและความสงบเรียบร้อย” ขณะที่ #DoYouSupportSurrogacy กลายเป็นแฮชแท็กที่ร้อนแรง และชาวเน็ตหลายคนได้ในความเห็นในทำนองเดียวกันว่า สิ่งนี้ว่าผิดศีลธรรมและเสริมว่านี่เป็นทางเลือกที่เปิดให้เฉพาะคนรวยเท่านั้นที่สามารถจ้างตัวแทนในต่างประเทศได้

15. อย่างไรก็ตามปีนี้ “เจิ้งส่วง” มีละครที่กำลังรอออกอากาศ 3 เรื่อง แต่ทว่างานนี้คงถูกดองยาว เพราะมีข่าวลือว่าทางการจีนจะแบนผลงานของนักแสดงสาวคนนี้ทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะกระทบต่อตัวเธอแล้ว ยังกระทบต่อผู้ผลิต ทีมงาน และนักแสดงคนอื่นด้วย

 เจิ้งส่วง นางเอก เวยเวยเธอยิ้มโลกละลาย


ข้อมูลจาก :  thecrazysisterschannel, wwd.com, bbc

สามารถติดตามอ่าน ข่าบันเทิงเอเชีย ได้ที่นี่

หูยงานดี! อิ่มตา อิ่มใจ Love O2O ยิ้มนี้โลกละลาย

การกลับมาในวัย 39 ปี ของซุปตาร์ไต้หวัน ไจ่ไจ๋ F4 กับซีรีส์ใหม่ Danger Zone

คู่รักดาราเกาหลี ที่สื่อแดนโสมขาวจับตา อาจลั่นระฆังวิวาห์ในปี 2021

บ้านหรู

เบิกตากว้างเน้นๆ เปิด 10 บ้านหรู อลังการดาวล้านดวง ขึ้นชื่อว่า มีมูลค่าแพงที่สุดในโลก

บ้านหรู
บ้านหรู

ที่สุดของโลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ต้องยอมรับจริงๆ ว่าผู้คนส่วนใหญ่ล้วนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยวันนี้ แพรวดอทคอม ก็ได้ไปส่อง 10 บ้านหรู ที่ขึ้นชื่อว่าแพงที่สุดในโลก อู้ฟู่ โอ่อ่า อลังการดาวล้านดวง จนบางทีก็ไม่กล้าเรียกว่าบ้านเต็มปากเต็มคำ เพราะเป็นยิ่งกว่าบ้านอีกน่ะสิจ๊ะ พิกัดจะอยู่ ณ ประเทศแห่งหนใดบ้าง อย่ารอช้า รีบไปดูกันเลย!

อันดับ 10ปราสาทแดร็กคูลา (Dracula Castle) ประเทศโรมาเนีย (Romania)
ราคา $135 million (ประมาณ 4,800 ล้านบาท)

10_draculas-castle-romania

เปิดอันดับ 10 กันที่ประเทศโรมาเนีย ดินแดนที่ใครได้ยินแล้วต้องนึกถึงตำนานแดร็กคูลา สำหรับปราสาทแดร็กคูลานี้ตั้งอยู่ใกล้เมืองบราน (Bran) และติดท็อป 10 ปราสาทหรูที่สุดในโลก ซึ่งคนทั่วไปมักจะรู้จักปราสาทนี้ว่าเป็นบ้านของตัวละครแดร็กคูลา จนกระทั่งกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1980 ภายในปราสาทที่สวยงามหรูหรานี้มีห้องทั้งหมด 57 ห้อง และเป็นห้องนอนประมาณ 17 ห้อง พร้อมตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราณ

อันดับ 9คฤหาสน์ Updown Court สหราชอาณาจักร
ราคา $139 million (ประมาณ 4,900 ล้านบาท)

9_updown-court-england

โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์แคลิฟอร์เนีย (Californian Style) สำหรับคฤหาสน์ Updown Court แห่งอังกฤษ ที่ก่อตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Windlesham ในเซอร์รีย์ (Surrey) ทางตอนใต้ของอังกฤษ โดยสร้างขึ้นบนที่ดิน 58 ไร่ และมีห้องพักทั้งหมด 103 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรูมากมาย มีแทบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ที่โยนโบว์ลิ่ง และเมื่อปี 2005 คฤหาสน์หลังนี้ก็ได้เป็นบ้านส่วนตัวที่แพงที่สุดติดตลาดทุกแห่งระดับโลกอีกด้วย

อันดับ 8 – คฤหาสน์ The Manor ประเทศสหรัฐอเมริกา
ราคา $150 million (ประมาณ 5,300 ล้านบาท)

8_the-manor-holmby-hills-los-angeles

สะกดสายตาผู้คนทุกหนทุกแห่ง สำหรับคฤหาสน์ยักษ์ The Manor ที่โดดเด่นด้วยสีขาวเทา ตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศส Chateau และได้ชื่อว่าเป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา คฤหาสน์ส่วนตัวหลังนี้สร้างขึ้นในปี 1991 บนที่ดินขนาด 4.6 ไร่ และมีห้องรองรับทั้งหมด 123 ห้อง

อันดับ 7Franchuk Villa ลอนดอน สหราชอาณาจักร
ราคา $161 million (ประมาณ 5,700 ล้านบาท)

7_london-franchuk-villa

Franchuk Villa ก่อตั้งขึ้นใน Belgravia กลางกรุงลอนดอน อังกฤษ โดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์วิกตอเรีย มีทั้งหมด 6 ชั้น พร้อมมีสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรูหราจำนวนมากอยู่ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส โรงภาพยนตร์ส่วนตัว ฯลฯ เรียกว่าแค่อยู่ในบ้านหลังนี้ก็ไม่จำเป็นต้องออกไปเที่ยวแล้ว

อันดับ 6Victorian Villa ประเทศยูเครน (Ukraine)
ราคา $161 million (ประมาณ 5,700 ล้านบาท)

6_victorian-villa

ผ่านมาแล้วครึ่งทาง ขึ้นมาอันดับ 6 ที่ประเทศยูเครน สำหรับ Victorian Villa หนึ่งในบ้านหลังที่แพงที่สุดของยูเครน ซึ่งเจ้าของอาณาจักรมหึมาหลังนี้คือ Elena Franchuk นักธุรกิจยูเครนสุดใจบุญ ภายในบ้านมี 5 ชั้น มีพร้อมทั้งสระว่ายน้ำ โรงละคร ห้องหลบภัยกรณีฉุกเฉิน (Panic Room) และห้องซาวน่าบวกยิมสำหรับออกกำลังกาย 

อันดับ 5Hearst Mansion ประเทศสหรัฐอเมริกา
ราคา $165 million (ประมาณ 5,800 ล้านบาท)

5_hearst-mansion-san-simeon-california

Hearst Mansion บ้านหรูสุดงาม มองแล้วน่าประทับใจแทบทุกองศาหลังนี้ ก่อตั้งขึ้นบนชายฝั่งตอนกลางของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองซานไซเมียน (San Simeon) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งคือไอคอนหนังสือพิมพ์ของสหรัฐฯ อย่างนาย William Randolph หลังจากนั้นก็ได้มีทนายหนุ่ม Leonard Ross มาเป็นผู้ซื้อต่อในปี 1976 พื้นที่บ้านหรูสุดสวยนี้ขยายอาณาเขตอยู่บนที่ดิน 6 ไร่ มี 29 ห้องนอน อีกทั้งยังได้นำมาใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อันโด่งดังอย่างเรื่อง The Godfather ด้วย

อันดับ 4 Fairfield Pond นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ราคา $170 million (ประมาณ 6,000 ล้านบาท)

4_fairfield-pond-new-york

กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา สำหรับ Fairfield Pond บ้านและอาณาจักรอันใหญ่โตของนักลงทุนและนักธุรกิจชาวอเมริกันนามว่า Ira Rennert ซึ่งที่มาของชื่อบ้านหลังนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวบ้านของเขาติดกับบ่อน้ำ Fairfield โดยพิกัดบ้านหลังนี้ก่อตั้งขึ้นอยู่ในเมืองแฮมป์ตัน รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีอาณาเขตทั้งหมด 63 ไร่ และเป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ที่สำคัญยังได้ชื่อเรื่องความหรู เพราะมีที่สำหรับเล่นโบว์ลิ่งแยก และมีอ่างน้ำร้อนมูลค่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ

อันดับ 3The Penthouse ลอนดอน สหราชอาณาจักร
ราคา $200 million (ประมาณ 7,000 ล้านบาท)

3_penthouse-in-london

พูดถึงลอนดอนทีไร สิ่งที่จะต้องนึกตามมาและเป็นเรื่องที่นำมาพูดกันมากก็คือ เรื่องที่พักที่มักจะมีราคาแพงสูงลิ่วนี่แหละ โดย The Penthouse เป็นอพาร์ตเมนต์ที่ถูกยกให้มีราคาแพงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะอย่าง Hyde Park โดยพื้นที่อพาร์ตเมนต์นี้มีราคา 6,000 ปอนด์ต่อตารางฟุตเลยทีเดียว ซึ่งได้ทำให้เหล่าตัวแทนอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในลอนดอนถึงกับช็อกกับราคาที่แพงสูงลิ่ว

อันดับ 2Villa Leopolda ประเทศฝรั่งเศส
ราคา $506 million (ประมาณ 17,992 ล้านบาท)

2_villa-leopolda-french-riviera

เชื่อว่าเป็นบ้านหลังที่แพงที่สุดของยุโรปเลยทีเดียว สำหรับ Villa Leopolda ที่มีทั้งหมด 27 ชั้น ตั้งอยู่ใน French Riviera ประเทศฝรั่งเศส โดยชื่อของบ้านหลังแพงอันดับ 2 นี้ได้มาจากชื่อของพระมหากษัตริย์ Leopold ซึ่งได้ขึ้นมาในปี 1902 ให้แก่คนรัก Blanche Zélie Joséphine Delacroix มีพื้นที่ทั้งหมด 80,000 ตารางฟุต โดยได้แบ่งออกเป็นเกสต์เฮ้าส์ 2 แห่ง บนที่ดิน 20 ไร่ ที่สะดุดตาและเป็นที่ชื่นชอบคงหลีกไม่พ้นบริเวณหน้าหาดส่วนตัว ซึ่งเป็นริมชายหาดที่ดีที่สุดทางภาคใต้ของฝรั่งเศสเลย มีทั้งหมด 14 ห้อง 11 ห้องนอน พร้อมทั้งสวนขนาดใหญ่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกจำนวนมาก

อันดับ 1 – Antilla เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย 
ราคา $1 billion (ประมาณ 35,557 ล้านบาท)

1_antilla-luxurious-house-india

ในที่สุดก็มาถึงอันดับ 1 บ้านที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งตกเป็นของ Antilla คฤหาสน์ 27 ชั้นที่ก่อตั้งอยู่ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ซึ่งก็ได้รับการยอมรับว่าดีไซน์ทันสมัย สวยพอๆ กับทัชมาฮาล โดยมูลค่าของอภิมหาบ้านหรือคฤหาสน์หลังนี้อยู่ที่ $1 พันล้าน เจ้าของเป็นคนที่ร่ำรวยอันดับ 5 ของโลก มีชื่อว่า Mukesh Ambani และเมื่อมองความสูงอย่างทั่วถึง บ้านที่แพงที่สุดของโลกหลังนี้มีพื้นที่ 40,000 ตารางฟุต และบอกเลยว่าแต่ละชั้นหรูหราทุกชั้น

เห็นราคา อาณาเขตแต่ละที่กันแล้ว ขอยอมจริงๆ จ้า


เรื่อง: Gingyawee_แพรวดอทคอม
ข้อมูลและภาพ: http://www.wonderslist.com/top-10-luxurious-houses-world/

รู้จัก Simone Rocha หนึ่งใน แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวไอริช ที่น่าจับตามองในเวลานี้

รู้จัก Simone Rocha หนึ่งใน แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวไอริช ที่น่าจับตามองในเวลานี้

Alternative Textaccount_circle
รู้จัก Simone Rocha หนึ่งใน แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวไอริช ที่น่าจับตามองในเวลานี้
รู้จัก Simone Rocha หนึ่งใน แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวไอริช ที่น่าจับตามองในเวลานี้

H&M ร่วมมือครั้งใหม่กับแฟชั่นดีไซเนอร์จากกรุงลอนดอน “ซิโมน โรชา (Simone Rocha)” ในคอลเล็คชั่่นพิเศษ Simone Rocha x H&M ซึ่งนำเสนอเสื้อผ้าสตรีสไตล์โรชา รวมถึงเสื้อผ้าบุรุษและเด็กไปพร้อมกันด้วย การร่วมมือกันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของโรชาที่ออกแบบเสื้อผ้าสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยเป็นการออกแบบเสื้อผ้าแต่ละประเภทอย่างครบถ้วนสำหรับทุกโอกาส รวมถึงเสื้อผ้าสำหรับโอกาสพิเศษ เช่น เดรสผ้าทูลล์และชุดสูท เสื้อผ้าไหมพรม เสื้อเชิ้ต เสื้อตัวนอก เช่น เสื้อเทรนช์ เสื้อยืดสไตล์ลำลอง และแอ็กเซสซอรี่ต่างๆ ซึ่งรวมถึงเครื่องประดับที่มีประกายวิบวับและรองเท้าประดับไข่มุกตามสไตล์ของโรชา

รู้จัก Simone Rocha หนึ่งใน แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวไอริช ที่น่าจับตามองในเวลานี้

ซิโมน โรชา (Simone Rocha) นับว่าเป็นดีไซเนอร์ชาวไอริชคนแรกที่ได้มีโอกาสร่วมงานในโปรเจ็คคอลลาบอเรชั่นกับ H&M โดยคอลเล็คชั่่นนี้มีสิ่งที่เหมือนกับผลงานอื่นๆ ของเธอตรงที่เป็นการสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมของตัวดีไซเนอร์และแรงบันดาลใจต่างๆ ที่เธอได้รับ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์ของเธอเติบโตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ศิลปะและประเพณีของฮ่องกง ตลอดจนความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ศิลป์

 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by SIMONE ROCHA (@simonerocha_)

Simone Rocha x H&M เป็นคอลเล็คชั่นที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่ในด้านการออกแบบซิลลูเอต เนื้อผ้าที่ใช้ การประดับตกแต่ง และอิทธิพลที่ได้รับมา ซึ่งสะท้อนความหมายของโลกแห่ง Simone Rocha คอลเล็คชั่นนี้เป็นการตีความสไตล์ของเธอในรูปแบบใหม่ โดยยังสื่อถึงเรื่องราวของแบรนด์ Simone Rocha ด้วย ซึ่งเราเห็นได้จากเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอายของสไตล์ในยุคทิวดอร์ ดอกไม้ป่า ภาพถ่าย ตุ๊กตา และของเล่น อีกทั้งยังมีลายตาราง การตกแต่งลูกปัด ลายดอกไม้สีชมพู สีแดงหลากหลายเฉด และเนื้อผ้าพิเศษที่ผลิตขึ้นมาเองสำหรับการร่วมมือครั้งนี้โดยเฉพาะ ในการออกแบบคอลเล็คชั่นนี้ โรชาได้ใช้เวลาสำรวจเสื้อผ้าเก่าๆ ของแบรนด์เธอ ผสมผสานคอลเล็คชั่นเก่าและออกแบบเสื้อผ้าที่เธอชอบในรูปแบบใหม่ หลอมรวมเป็นดีไซน์ใหม่ที่เหมาะกับยุคสมัย

หากใครสนใจคอลเล็คชั่นนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 11 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป และยังเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 10 ปีของ
แบรนด์ Simone Rocha นับเป็นการฉลองความสำเร็จให้กับแบรนด์ของเธออีกด้วย โดย Simone Rocha เป็นแบรนด์แฟชั่นอิสระที่ก่อตั้งขึ้นในกรุงลอนดอน โด่งดังในเรื่องของวิสัยทัศน์ และความคงเส้นคงวาอย่างเห็นได้ชัดในการออกแบบเสื้อผ้าทุกชิ้น ทำให้ใครก็ตามที่สวมใส่สามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าในซีซั่นอื่นๆ ได้ คอลเล็คชั่น Simone Rocha x H&M ออกแบบมาด้วยความตั้งใจเดียวกัน คือเพื่อรังสรรค์เสื้อผ้าที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย มีดีไซน์ที่ถูกใจ สามารถใส่ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นนวัตกรรมซึ่งผสานเข้ากับโลกแห่ง Simone Rocha ที่พร้อมเปิดรับทุกคนให้ได้เข้ามาสัมผัส

“ฉันตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ H&M ในคอลเล็คชั่นพิเศษนี้ ผลงานในครั้งนี้เป็นการเฉลิมฉลองจุดเด่นของแบรนด์ Simone Rocha และอิทธิพลที่แบรนด์มีต่อตัวตนของดิฉันในฐานะดีไซเนอร์และลูกค้า ดิฉันติดตามคอนเซ็ปต์ในโปรเจ็คคอลลาบอเรชั่นของ H&M มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น มาร์เจลล่า (Margiela) อัลแบร์ เอลบาซ (Alber Elbaz)หรือ กอมม์ เดส์ การ์ซงส์ (Comme des Garcons) จึงรู้สึกยินดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็คนี้”

แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวไอริช

ซิโมน โรชา เป็นดีไซเนอร์ผู้หญิงที่ใส่ใจเรื่องความเป็นหญิงแบบร่วมสมัย รวมถึงใส่ใจเรื่องงานฝีมือและการออกแบบอย่างประณีต ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการรังสรรค์เนื้อผ้าใหม่ๆ รูปทรงที่แตกต่าง การออกแบบที่แปลกใหม่ เสื้อผ้าทุกชิ้นในคอลเล็คชั่นนี้มีเอกลักษณ์พิเศษ ซึ่งเกิดจากการทำงานและหาข้อมูลอย่างละเอียดมาเป็นเวลาหลายปี


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คุยกับ ‘คริสตอฟ’ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ ล้วงลึก Uniqlo U คอลเล็คชั่น SS 2021

ตามรอยรองเท้า เคนโตะ ยามาซากิ ที่ใส่วิ่งยับเอาชีวิตรอดใน Alice in Borderland

แว่นกันแดดไม่ใช่แค่แฟชั่น! รู้หรือไม่ สีของเลนส์แต่ละสีช่วยป้องกันดวงตาต่างกัน

 

 

MEKO CLINIC

นี่คลินิกหรือลักชัวรี่สปา!! ทำอัลเทอร่าแบบ VIP ที่ MEKO CLINIC มันก็จะเป็นอะไรที่หรูหราประมาณนี้

MEKO CLINIC
MEKO CLINIC

เล่าสู่กันฟังแบบไม่ได้อวยว่าพัดชาเป็นแฟนของเมโกะคลีนิคมาอย่างยาวนานเพราะนอกจากฝีมือคุณหมอที่การันตีว่าขั้นเทพด้วยการนำทัพของคุณหมอมนัส นพ.มนัส ฉายาวิจิตรศิลป์แห่งรายการ Let Me In Thailand แล้ว ที่นี่เขายังใส่ใจเรื่องการบริการและความรู้สึกที่ดีของคนไข้ทั้งในเรื่องของความสะอาด บรรยากาศหรูหราชวนผ่อนคลายและนวัตกรรมเครื่องไม้เครื่องมือที่อัพเดทที่สุดเสมอ

ดีงามแบบนี้ล่าสุดเมโกะคลีนิคเลยเพิ่งได้ได้รางวัล  ICONIC LUXURY SERVICE แห่งปีจากงาน Praew Iconic Beauty การันตีความไม่ธรรมดาของบริการที่นี่ว่านอกจากผลลัพธ์ที่โดนใจคนรักสวยแล้ว ความรู้สึกดีในการเข้าใช้บริการคือเรื่องที่เมโกะ คลินิกให้ความสำคัญยืนหนึ่ง

MEKO CLINIC

LUXURY SERVICE ในบรรยากาศสุดหรู คลินิกหรือสปาเอาให้ดี?

วันนี้พัดชาเลยขอเข้ามาอัพกรอบหน้าสวยๆ ด้วยบริการ MEKO ULTHERA SIGNATURE ที่ได้ยินว่าหรูหราหมาเห่าที่สุดจนอยากรู้เลยว่าจะแตกต่างจากการทำอัลเทอร่าทั่วไปแค่ไหน พอเดินเข้าคลีนิคเท่านั้นแหละ อุแม่เจ้า!!…สวยปิ๊งจริงอะไรจริง MEKO CLINIC ที่ชั้น 5 เซ็นทรัลเวิลด์คือสาขาที่ตกแต่งใหม่ไว้รองรับสายหรูโดยเฉพาะ บรรยากาศตกแต่งด้วยสีขาว/ทองวิ้งวิบ มีทั้งห้องทรีตเม้นท์และมุมแต่งหน้าที่ใหญ่โตโอ่โถงทำให้ผู้มาใช้บริการได้รับความสะดวกสบายไม่ต้องมานั่งหลบมุมเล็กๆ แอบๆ แต่งหน้าก่อนกลับ

MEKO CLINIC

พอแจ้งว่ามาทำ MEKO ULTHERA SIGNATURE ปุ๊บชีวิตก็อัพเกรดปั๊บ เพราะเจ้าหน้าที่ที่น่ารักเขาพาไปเปลี่ยนเครื่องทรงเป็นบาธโรปแจ่มๆ อย่างนี้เหมือนอยู่ในสปา พร้อมเข้ารับบริการในห้องวีไอพีที่หรูหรามีมุมสำหรับให้จิบน้ำชาที่เสริฟมาพร้อมขนมกรุบกริบระหว่ารอคุณหมอ การตกแต่งในห้องนี้บอกเลยว่าคือห้องสปาหรูดีๆ นี่เอง ทำไปนอนมองบรรยากาศการตกแต่งไปก็หายกังวลไปเยอะ

MEKO CLINICMEKO ULTHERA SIGNATURE ยิงไปนวดอโรม่าไป…ได้ด้วยเหรอ

พูดถึงความกังวลแน่นอนค่ะว่าคนที่ทำอัลเทอร่าจะรู้ดีว่ามีความหวาดเสียวแฝงอยู่ในขั้นตอนการยิง เพราะจะมีความรู้สึกเจ็บมากน้อยไม่เท่ากันในแต่ละจุดเรียกว่าเกร็งรอกันเลยทีเดียว โปรแกรม MEKO ULTHERA SIGNATURE นี้เขาเลยมีบริการนวด Aroma Therapy ช่วยลดความเกร็งจากความรู้สึกเจ็บ ด้วยน้ำมัน Natural Oil 100% ตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงศีรษะ การนวดไปด้วยแบบนี้จะช่วยอาการตึงเครียด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และเปิดต่อมน้ำเหลือง ซึ่งจะทำให้ร่างการสร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพผลลัพธ์ที่จะได้จากการทำอัลเทอร่าจึงชัดเจนเต็มที่อีกด้วย

MEKO CLINICงัดทุกเทคนิคเพื่อความเจ็บน้อย/บวมน้อย/คอลลาเจนมาเต็ม

ที่พัดชาชอบมากคือความใส่ใจในความกังวลและความรู้สึกเจ็บ ที่นี่เขามีเทคนิคการมาส์กยาชาที่เรียกว่านวดจนเข้าเนื้อชาจริงหายเจ็บจริง รอเวลาจริงๆ เพื่อให้ชัวร์ว่าคนไข้จะไม่ต้องอึดเกินเบอร์จึงจะผ่านไปได้ อันนี้รู้สึกดีมากเพราะเคยเจอบิวตี้คลีนิคบางที่ที่ทายาชาแบบผิวเผิน ไม่ครบทั่วทุกบริเวณและไม่รอระยะเวลาให้ยาชาออกฤทธิ์ ผลลัพธ์ออกมาคือเจ๊บ…เจ็บกว่าจะสวยต้องอดทน

เมื่อนวดยาชาเต็มที่ มีการนวดผ่อนคลายไปด้วยความรู้สึกเกร็งก็น้อยลงให้คุณหมอยิงอัลเทอร่าได้ชิลด์ๆ ไร้กังวลเรื่องอาการเจ็บ เมื่อยิงเสร็จปุ๊บยังไม่จบจ่ะ เขาทาผิวหน้าให้ด้วย ‘Calecim’ จากสายสะดือกวางแดง ซึ่งตัวนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปพร้อมกับลดอาการบวมแดงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ ทำให้ผิวยุบบวมเร็วขึ้นไปอีก จากนั้นยังมีการสะกิดผิวด้วย Vitamin C 1 โดยใช้เข็มเล็กๆ สะกิดวิตามินซีไปทั่วใบหน้าเพื่อกรตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง

MEKO CLINICอัลเทอร่าอีกครั้งก็ยังต้องที่เมโกะ

บอกเลยว่าประทับใจในการใส่ใจทุกขั้นตอนของเมโกะ คลีนิคมากจริงๆ เพราะกับทรีตเม้นท์ที่ใช้งบค่อนข้างสูงแบบการทำอัลเทอร่าลูกค้าย่อมต้องการเห็นผลที่ชัดเจน รวมไปถึงความรู้สึกลักชัวรี่สมราคาทั้งในส่วนของการบริการและสถานที่ ผลลัพธ์ของการทำอัลเทอร่าครั้งนี้ก็ออกมาปังสวยสมใจ ได้กรอบหน้ายกกระชับชัดเจนโดยที่บวมน้อย เจ็บน้อย จนส่วนตัวเรียกว่าการทำครั้งนี้ไม่เจ็บเลยดีกว่านาทีนี้คือถ่ายรูปง่ายได้ทุกมุม

นวัตกรรมที่ไหนๆ ก็มีได้แต่ความใส่ใจที่เมโกะ คลินิกเขายกมาหมดใจจริงๆ เริ่ดแบบนี้อัลเทอร่าคราวหน้าเจอกันอีกแน่ๆ ค่ะ

มาส์กหน้า

เหตุผลที่ควร มาส์กหน้า ทางลัดฟื้นฟูผิว หลังหลบอยู่ใต้หน้ากากอนามัยทั้งวัน!!

Alternative Textaccount_circle
มาส์กหน้า
มาส์กหน้า

ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นและไวรัสนอกบ้านทั้งวันแล้ว กลับบ้านมาอย่าลืมใส่หน้ากาก มาส์กหน้า บำรุงผิวบ้าง เสียเวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง

สำหรับสถานการณ์ช่วงนี้ทุกคนออกจากบ้านก็ต้องระวังป้องกันตัวเองจากฝุ่นพิษ มลภาวะทางอากาศ และไวรัส ด้วยการใส่หน้ากากป้องกันตัวเองไปทุกที่ ไม่เว้นแม้กระทั่งต้องคอยล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไปตลอดเวลา เอาเป็นว่าออกจากบ้านทีไรก็เหมือนออกไปสู้รบปรบมือกับสิ่งที่มองไม่เห็นทุกวินาที เหนื่อยใช่ไหมล่ะคะ

แต่เมื่อกลับมาบ้านที่แสนปลอดภัยของตัวเอง นอกจากจะต้องรีบอาบน้ำชำระสิ่งสกปรก และเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจติดแฝงมา ก็อยากจะย้ำกับทุกคนว่า ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมบำรุงกันต่อนะคะ ไหนๆ ช่วงนี้ก็จำเป็นต้องใส่หน้ากาก แต่เราก็เหมือนคุมขังผิวหน้าของเราไม่ได้หายใจเต็มที่ เผลอๆ อาจมีของแถมเป็นสิว ผด ผื่น ตามมาจากทั้งมลภาวะและเมคอัพอีก ยิ่งใส่หน้ากากซ้ำก็ยิ่งเสี่ยง

ดังนั้น เพื่อให้ผิวหายใจเต็มที่ ต้องมีตัวช่วยฉบับเร่งรัดสำหรับผิวหน้าที่ดีขึ้น เพราะถ้าการแว่บไปฉีดโบท็อกซ์หรือลอกหน้าตอนกลางวันไม่ใช่วิสัยของคุณ ทำไมไม่ลองหันไปใช้มาส์กหน้าแบบดั้งเดิมกันล่ะ แม้ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่เร็วทันใจเหมือนเวลาทำทรีตเม้นต์ที่สปาหรือคลินิกแพทย์ผิวหนัง แต่อย่างน้อยผิวหน้าคุณจะดูอิ่มเอิบและสดชื่นขึ้นมาทันที แถมมีรอยแดงและความมันน้อยลง แค่ยอมเสียเวลาไม่กี่นาทีในการพอกหน้าให้มาส์กเข้าไปเติมความสดชื่นให้ผิวคุณสัก 10 – 15 นาทีเท่านั้นเอง

มาส์กหน้า

สิ่งควรรู้ก่อน มาสก์หน้า

ทดลองก่อน ด้วยการลองแต้มมาสก์ปริมาณน้อยๆ บนหลังมือหรือท้องแขน ปล่อยไว้สัก 1-2 ชั่วโมง จากนั้นดูว่ามีผลข้างเคียงหรือไม่ เช่น รอยแดง รอยแดง ผื่นคัน หรืออาการปวดแสบปวดร้อน จากนั้นลองทำซ้ำอีกครั้ง “บางครั้งคุณจะไม่มีอาการแพ้ จนกระทั่งเริ่มใชมาส์กเป็นครั้งที่สอง” เอมี่ บี. ลูอิส ศาสตราจารย์ด้านผิวหนัง แห่งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล กล่าว

และอย่าทำมากเกินไป การทามาส์กทิ้งไว้บนหน้านานกว่าที่ควรจะเป็น ไม่ได้ทำให้ผิวหน้าดีขึ้น เพราะส่วนผสมในมาส์กจะหยุดทำงานตามเวลาที่ระบุไว้บนฉลาก สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากกว่า คือความถี่ในการมาส์กหน้า และจำนวนครีมที่คุณทา ถ้าหากใช้มาส์กได้ผลดีมาตลอด แต่วันหนึ่งเกิดรอยแดงบนผิว ก็ควรหยุดใชมาส์กตัวนั้นทันที “รอยสีชมพูจางๆ ไม่เป็นไร แต่ถ้าสีเข้มกว่านั้น แสดงว่าคุณมาสก์หน้าบ่อยเกินไป หรือทามาส์กเยอะเกินไปแล้ว” เดวิด แบงก์ แพทย์ผิวหนังจากนิวยอร์ก กล่าว


เรื่อง : Primphy_Praewnista
ภาพ : Pexels

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดเทคนิคเมคอัพเน้นงานผิวติดทน รองพื้นไม่ติดแมส พร้อมสวยสู้ทุกสถานการณ์

เตือน! เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ต้องเข้มข้นเกิน 70% ถึงฆ่าเชื้อ COVID-19 ได้

วิธีฟื้นฟูและรักษาสมดุลคนที่ผิวแพ้ง่าย จนเกิดผดผื่น สิว จากปัญหา ฝุ่น PM 2.5

 

 

 

ชุดแต่งงาน ของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์

มีความหมายทุกดีเทล 3 ชุดแต่งงาน 2 รองเท้าเจ้าสาว ของตัวแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์

Alternative Textaccount_circle
ชุดแต่งงาน ของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์
ชุดแต่งงาน ของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์

นอกจากงานแต่งงานจะน่ารักไม่ซ้ำใคร ในสไตล์คิ้วต์ๆ สวยคลีน ดูอบอุ่นสบายตาที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องปิ้ง ตกหลุกรักกับไอเดียนี้แน่ๆ สำหรับงานวิวาห์ริมทะเลของ “ดีเจซายน์ – ดร.วรัญญภัสสร์ สิรินิธิยประภา” อดีตดีเจคลื่น GET 102.5 แถมยังเป็นเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์ชื่อดัง (Bride to be Wedding Planner) ที่เหล่าเซเลบริตี้รู้จักกันเป็นอย่างดี

และแน่นอนด้วยความที่เป็นถึงเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์ชื่อดังที่คอยจัดการครีเอทไอเดียให้งานแต่งของคนอื่นมามากมาย พอถึงคราวงานแต่งตัวเองที่สวยโดดเด่นจนสะดุดตาขนาดนี้ ก็ต้องขอพามาอัพเดทกันหน่อยว่าดีเทลแต่อย่างกว่าจะลงตัว น่ารักดูเป็นงานแต่งที่อบอุ่น และเพอร์เฟ็คขนาดนี้ต้องตระเตรียมรายละเอียดอะไรบ้าง โดยครั้งนี้จะเป็นดีเทลในเรื่อง ชุดแต่งงาน และรองเท้าเจ้าสาวค่ะ

มีความหมายทุกดีเทล! 3 ชุดแต่งงาน และรองเท้าเจ้าสาวของตัวแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์

ชุดแต่งงาน รองเท้าเจ้าสาวของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์  ชุดแต่งงาน รองเท้าเจ้าสาวของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์

โดยล่าสุด ดีเจซายน์ ก็ได้อัพเดทผ่านอินสตาแกรมถึงเรื่องรองเท้าเจ้าสาว และ ชุดแต่งงาน ทั้ง 3 ชุดว่า “สำหรับรองเท้าชุดแรกชุดพิธีการที่ทะเล ทางเพื่อนรักอย่าง ploysrirathum มาดามสเปน จัดแจงช่วยออกไปซื้อทันที พร้อมหลานชายสุดที่รักหลังจากเราส่งรูปไป ฝ่าสถานการณ์ COVID-19 จัดการส่งมาให้ และตอนนั้นนางยังคิดว่าตัวเองน่าจะได้มาร่วมงาน สารภาพว่ามีรองเท้า 2 คู่ก่อนที่ชุดแต่งงานจะออกแบบ กลัวที่สุดคือไม่มีรองเท้าแต่งงาน สำหรับคู่แรกนี้ Meaningful มีความหมายมากจริงๆ ตอนวันจริงเห็นแล้วก็คิดถึงคนให้ตลอดเวลา เหมือนเพื่อนได้มาอยู่ตรงนี้ด้วยกัน คิดถึงที่สุด รองเท้ามาทันเวลาช่วงรอแบบและฟิตติ้งครั้งแรกพอดีๆ รองเท้าอีกคู่ก็พิเศษมากๆ เช่นกัน ออกแบบใหม่สั่งตัดวัดขนาดทาง @ceremony.shop ออกแบบขึ้นมาใหม่เป็นของขวัญเพื่อให้เข้ากับชุด After Party ที่ทะเล

ชุดแต่งงาน รองเท้าเจ้าสาวของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์ ชุดแต่งงาน รองเท้าเจ้าสาวของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์

ในส่วนของชุดแต่งงาน ตอน After ริมทะเลชื่อว่า Mermaid’s Dream แค่เห็นชื่อก็หลงรักแล้ว พี่เอ๋ย @pimstarr แห่ง @sretsisofficial ตั้งชื่อและตัดใหม่ รองเท้าคู่นี้กับชุดปลื้มมากเช่นกัน รองเท้าทำจากมุกสีขาวตามแบบชุดที่มีมุกปักๆ และเราชอบใส่รองเท้าพันๆ เวลาไปทะเล (ชอบรองเท้าที่ต้องพันๆ ข้อเท้า พันไปเลยสองคู่งานที่ทะเล) โจทย์ที่ให้ทางแบรนด์คือรองเท้าต้องเต้นบนทรายได้ ต้องเปิดหน้าเท้าด้วย จะได้ไม่เจ็บ ไม่เอาสูงมาก และอยากโชว์รองเท้าด้วย ทีม @ceremony.shop ออกแบบได้ถูกใจมากกกกก แถมตั้งชื่อรุ่นว่า VERSAILLE ด้วย น่ารักสุดๆ แต่ทางเราขอตั้งให้ใหม่ใช้ชื่อรุ่นว่า SUNSET และทางทีมก็ตกลงใช้ชื่อนี้ ขอบคุณสำหรับรองเท้าสุดพิเศษนี้นะคะ ไม่ต้องเป็นเจ้าสาวก็ไปสั่งมาใส่กันได้นะคะ  ดีต่อใจมากด้านหลังรองเท้าของเราได้สกรีน #VSXVP รายละเอียดงานเราไว้ได้ด้วย น่ารักมาก

ชุดแต่งงาน รองเท้าเจ้าสาวของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์ชุดแต่งงาน รองเท้าเจ้าสาวของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์ ชุดแต่งงาน รองเท้าเจ้าสาวของเจ้าแม่เวดดิ้งแพลนเนอร์

ส่วนอีกชุดช่วง First Dance พิเศษมากๆ ชุดแต่งงานของขวัญจาก MP เพื่อนสนิทสุดที่รักอีกคน ที่นางส่งคุยกับดีไซเนอร์เอง จัดการทุกอย่างเลยจ้า ไว้จะมาเล่าต่อในโพสต์ต่อๆ ไปนะคะ

แต่งหน้า ทำผมเจ้าสาว แต่งหน้า ทำผมเจ้าสาว

และนี่ก็คือโฉมหน้าของเมคอัพอาร์ติสต์และแฮร์สไตลิสต์ที่ช่วยเนรมิตรลุคในวันสำคัญแบบดีงามมาก สวยสู้ทะเล ลม ฝน (ใช่ค่ะมีเรื่องระทึก ฝนก็มาวันงานค่ะ ไว้เล่าในVlog linkที่ Bio นะคะ) และต่อด้วยน้ำตามารัวๆ แต่หน้าผมก็ยังเป๊ะค่ะ นึกถึงบรีฟหน้าผมละขำทุกที”

ชุดแต่งงาน เจ้าสาว ชุดแต่งงาน เจ้าสาว ชุดแต่งงาน เจ้าสาว ชุดแต่งงาน เจ้าสาว


ข้อมูลและภาพ : versaille

มาริสก้า ฮาร์จิเตย์

จากบทบาทตัวละคร สู่การเป็นผู้พิทักษ์เยียวยาเหยื่อของ มาริสก้า ฮาร์จิเตย์

account_circle
มาริสก้า ฮาร์จิเตย์
มาริสก้า ฮาร์จิเตย์

เมื่อ มาริสก้า ฮาร์จิเตย์ รับบทเป็น Olivia Benson ในเรื่อง Law & Order : Special Victims Unit ในปี1999 เนื้อหาที่สัมผัสเหมือนได้เปิดโลกอีกใบให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นสถิติเกี่ยวกับการข่มขืน ความรุนแรงในครอบครัว รวมทั้งการทารุณกรรมเด็กในสหรัฐอเมริกา

หลังจากซีรีส์ออกฉาย เธอได้รับจดหมายนับพันจากผู้รอดชีวิตจากการถูกทำร้าย ซึ่งเธอก็ตอบจดหมายเหล่านั้นด้วยตัวเอง จากนั้นเธอก็ก่อตั้งมูลนิธิ Joyful Heart Foundation ขึ้นในปี 2004

 มาริสก้า ฮาร์จิเตย์

Joyful Heart ถือเป็นองค์กรชั้นนำระดับนานาชาติ มีวัตถุประสงค์ให้คนในสังคมได้รับรู้ถึงความรุนแรงในครอบครัว การข่มขืน การทารุณกรรมเด็ก ไปจนถึงการช่วยเหลือเหยื่อที่รอดชีวิต และความพยายามที่จะยุติความรุนแรงทั้งหมดด้วยการบูรณาการด้านการศึกษา การปฏิรูปพัฒนานโยบายรวมไปถึงกฎหมาย เพื่อให้เหยื่อได้รับความยุติธรรมมากที่สุด ตัวอย่างของกิจกรรมที่มูลนิธิ Joyful Heart ได้เข้ามาช่วยเหลือ ได้แก่ จัดกิจกรรมให้เรียนรู้วิธีรับมือกับความเจ็บปวด ด้วยการไม่ต้องพูดคุยถึง

เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ใช้การบำบัดเข้าช่วย เช่น การเล่นโยคะ การอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และฝึกหายใจ ซึ่งมีเหยื่อกว่า 1,000 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยทางมูลนิธิทำงานร่วมกับ Dr. Mary Ann Dutton ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์

โดยก่อนเข้ากิจกรรมจะมีการประเมินสุขภาพจิต เพื่อลดอาการบาดเจ็บและความตึงเครียด รวมทั้งปรับชีวิตความเป็นอยู่ ไม่เพียงเท่านั้น ทาง Joyful Heart ยังได้ร่วมมือกับหลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็น Peace Over Violence, Center for Community Solutions, The Village Family Services, YWCA of Greater Los Angeles, Rainbow Services และ Homeboy Industries เพื่อรวบรวมข้อมูลการวิจัยที่ถูกต้องของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำไปใช้พัฒนาสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

ไม่เพียงเหยื่อเท่านั้นที่ได้รับการเยียวยา มูลนิธิ Joyful Heart ยังออกแบบโปรแกรม Heal the Healers ขึ้นในปี 2010 เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ใกล้ชิดที่ต้องพูดคุยกับเหยื่อเป็นประจำจะมีความตึงเครียด เจ็บปวดได้พอๆ กัน โครงการนี้เปิดโอกาสให้คนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นนักบำบัด นักกฎหมาย ทนายความ นักสังคมสงเคราะห์ ได้มีโอกาสพักผ่อนและพูดคุยกับนักจิตวิทยา เพื่อพัฒนาตัวเองให้มีแรงและมีกำลังใจกลับไปทำงานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีแพทย์มากกว่า 12,000 คน จากองค์กรกว่า 450 แห่งเข้าร่วม ถือเป็นการช่วยเยียวยาความรู้สึกเจ็บปวดของคนทำงานที่ประสบความสำเร็จโครงการหนึ่ง

อีกหนึ่งโปรเจ็กต์สำคัญคือ การยุติการข่มขืน ซึ่งโครงการ Joyful Heart ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับประเทศไปจนถึงองค์กรท้องถิ่น รวมทั้งองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรมต่อเหยื่อที่เคราะห์ร้าย โดยมูลนิธิจะเป็นแนวหน้าในการจัดการหลักฐานการข่มขืนที่ไม่ได้รับการตรวจสอบในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ รวมไปถึงการสนับสนุนระดมทุนเพื่อตรวจสอบหลักฐานที่คั่งค้าง โดยตรวจสอบไปแล้วมากกว่า 225,000 ชุด และเชื่อว่ายังมีอีกหลายแสนชุดที่ยังไม่ถูกค้นพบ และยังก่อตั้งเว็บไซต์ endthebacklog.org ซึ่งเป็นศูนย์กลางออนไลน์แห่งแรกและแห่งเดียวที่รวบรวมหลักฐานในคดีข่มขืนต่างๆ โดยมีเป้าหมายให้เกิดการปฏิรูปกฎหมายการข่มขืนครอบคลุมทั้ง 50 รัฐ

และเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจถึงสถานการณ์ความเลวร้ายของการเป็นเหยื่อที่ถูกข่มขืนและเห็นภาพมากที่สุด มาริสก้าก็ได้ขึ้นแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้างสารคดีในชื่อ I Am Evidence

ในปี2017 ฉายผ่านทางช่อง HBO ซึ่งภายหลังได้รับรางวัล The Best Documentary Emmy Awards จากการเล่าเรื่องราวของเหยื่อในคดีข่มขืนที่ไม่ได้ถูกตรวจสอบหรือพิจารณาหลายปี ในขณะที่เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายซึ่งเป็นผู้ดำเนินคดีนี้ก็ยังคงเพิกเฉยต่อคดีต่างๆ มาริสก้าหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการกระตุ้นให้เกิดการปฏิรูปและเกิดความรู้ความเข้าใจของคนในสังคม เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปกฎหมายข่มขืนให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น

คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคและการช่วยเหลือผ่านทางเว็บไซต์ www.joyfulheartfoundation.org


 

ป้อ กรกนก เจ้าของแบรนด์ Shu

ป้อ – กรกนก ดีไซเนอร์ผู้พลิกชีวิตจากโรครองช้ำ ไปสู่การมัดใจคนดังระดับโลก

ป้อ กรกนก เจ้าของแบรนด์ Shu
ป้อ กรกนก เจ้าของแบรนด์ Shu

เผยเรื่องราวของ ป้อ – กรกนก สว่างรวมโชค หัวเรือใหญ่แห่ง SHU แบรนด์รองเท้าชื่อดังของไทย ใครจะรู้ว่าอุบัติเหตุข้อเท้าหักที่ทำให้เธอรู้สึกท้อ จะกลับกลายมาเป็นจุดเปลี่ยนพลิกชีวิตของตัวเองและธุรกิจให้พุ่งทะยาน จนล่าสุดสามารถครองใจคนดังระดับโลกได้สำเร็จ 

ซึ่งคุณป้อ – กรกนก ได้เปิดเผยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของชีวิตไทยดีไซเนอร์กับ แพรวดอทคอม ว่าต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อตามให้ทันกระแส ที่สำคัญอยากให้คนดังเปิดใจต้องทำการบ้านอย่างหนัก เรามาฟังเรื่องราวที่น่าสนใจตั้งแต่จุดเริ่มต้น จุดเปลี่ยน จนถึงจุดมุ่งหมายใหม่ในอนาคตของรองเท้าแบรนด์ไทยที่กำลังฮ็อตที่สุดในขณะนี้กันค่ะ

ป้อ – กรกนก ดีไซเนอร์ผู้พลิกชีวิตจากโรครองช้ำ ไปสู่การมัดใจคนดังระดับโลก

 

ป้อ กรกนก เจ้าของแบรนด์ Shu

เริ่มต้นจากการออกแบบกระเป๋า จนกลายมาเป็นธุรกิจรองเท้า

“ตอนที่ทำกระเป๋าป้อยังเป็นนักศึกษา เริ่มทำจากกระเป๋าตัวอย่างแค่ใบเดียว แล้วก็ไปรับออเดอร์ จนสามารถมีรายได้มาเปิดร้าน พอเปิดร้านก็เลยเพิ่มสินค้านอกจากกระเป๋าก็มีเข็มขัด มีการออกแบบเสื้อผ้าเพิ่ม เพราะทุกอย่างมันครบแล้ว มีเสื้อผ้ากระเป๋า เข็มขัด แต่มันยังขาดรองเท้า

ช่วงนั้นที่ป้อมีร้าน มันไม่ค่อยมีความหลากหลายในเรื่องของรองเท้า ไม่ได้มีรองเท้าให้เลือกมากนัก รองเท้าที่สวยๆ ในตอนนั้นก็จะเป็นรองเท้าที่คนนำเข้ามาจากฮ่องกง และมีราคาแพง เราเลยรู้สึกว่ามันมีช่องว่างตรงนี้ เราก็เลยคิดทำรองเท้าที่ตอบโจทย์ตัวเราเองด้วย จริงๆ ป้อเป็นคนที่เน้นเรื่องรองเท้ามาก เพราะเป็นคนที่ตัวเล็ก ดังนั้นรองเท้าส้นสูงจึงมีความสำคัญมาก นอกจากมีความสูงต้องมีความสวย และเราต้องยืนบนส้นสูงได้ทั้งวัน และตัวเลือกในตอนนั้นมันมีน้อย เราเลยเลือกที่จะจับธุรกิจนี้”

ป้อ กรกนก เจ้าของแบรนด์ Shu

โรครองช้ำที่เกิดจากข้อเท้าหัก สามารถพลิกชีวิตและธุรกิจให้พุ่งทะยาน

“เหตุการณ์นี้ทำให้รองเท้า Sofa shoes เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีที่แล้ว และเป็นรองเท้าที่ได้รับรางวัลนวัตกรรม เพราะตอนนั้นป้อประสบอุบัติเหตุข้อเท้าหัก หลังจากนั้นก็มีปัญหาเป็นโรครองช้ำ (โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ) ทำให้เจ็บส้นเท้ามาก และหาซื้อรองเท้ามาปรนนิบัติตรงนี้ไม่ได้ เราก็เลยออกแบบรองเท้าเพื่อใส่เอง จนออกมาเป็นรองเท้า Sofa shoes

นอกจากจะเป็นรองเท้าที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตแล้ว ต้องบอกว่าตอนเป็นโรครองช้ำ หลายคนที่เป็นแบบนี้จะเข้าใจดีว่ามันมีความยากลำบากในการใช้ชีวิตมาก หารองเท้าใส่ยากมาก เพราะมันจะเจ็บส้นเท้ามาก ทำให้การใช้ชีวิต การออกสังคม ออกไปทำงานมันลำบาก และรูปแบบรองเท้าเพื่อสุขภาพบางครั้งดีไซน์อาจจะไม่ถูกใจ

ป้ออยากได้รองเท้าที่เน้นทั้งเรื่องของสุขภาพและความสวยงาม พอทำรองเท้ารุ่นนี้ขึ้นมาได้ก็เป็นจุดเปลี่ยนชีวิต ทำให้หายจากโรครองช้ำไปเลย กลับมาใส่รองเท้าส้นสูงได้อย่างมั่นใจ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยที่ไม่ต้องหาคุณหมอเลย ใช้รองเท้าเป็นตัวช่วยอย่างเดียวที่ทำให้เรากลับมาใช้ชีวิตได้ปกติและหายจากโรครองช้ำ

พอรองเท้ารุ่นนี้รักษาเราหาย ก็เลยได้รับรางวัล ทำให้กลายเป็นรองเท้าที่ทุกคนรู้จักมากขึ้น นอกจากจะเป็นรองเท้าที่เปลี่ยนชีวิตเราแล้ว ยังเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจด้วย ต้องบอกตรงๆ ว่าตอนนั้นธุรกิจเราก็ประสบปัญหาเหมือนกัน ช่วงนั้นเศรษฐกิจซบเซามาก บวกกับมีอินเตอร์แบรนด์ต่างๆ เข้ามาในประเทศเยอะมาก ถือว่าเป็นจุดที่เปลี่ยนจากขาลงพลิกขึ้นมาเป็นทะยานเลยก็ว่าได้”

ป้อ กรกนก รองเท้า Shu Sofa shoes
รองเท้า Sofa shoes

รองเท้าเป็นมากกว่าแค่รองเท้า

“จิตวิญญาณของรองเท้าจริงๆ จุดประสงค์ของมันก็เพื่อปกป้องเท้า ให้เราใส่เดินได้โดยไม่มีอะไรขีดข่วน แต่ในการทำแบรนด์ ป้อมองว่ารองเท้ามีความสำคัญมากกว่าแค่การปกป้อง มันไม่ใช่แค่ใส่เดิน แต่ยังช่วยเสริมบุคลิกเรา เสริมความมั่นใจ บางครั้งแต่งตัวดีหน้าผมดี แต่ถ้ารองเท้าไม่ได้ก็จะเสียลุคไปเลย กลับกันถ้าเราแต่งตัวที่ดูเรียบธรรมดา แต่รองเท้าดีมันจะช่วยเสริมลุคให้เราดูดีขึ้น

จากประสบการณ์ดูด้วยสายตาก็รู้เลยค่ะว่ารองเท้าทรงไหนใส่แล้วจะให้ความรู้สึกยังไง สโลปของรองเท้าประมาณไหนที่ใส่แล้วจะสบาย มันจะมีสโลปที่ใส่แล้วสบายหรือสโลปที่ใส่แล้วดูสง่า”

รองเท้า Shu

ไฟไอเดียในการทํางานไม่เคยมอด

“เรื่องของเติมไฟ ถึงตรงนี้ป้อก็ทำแบรนด์มาประมาณ 20 ปีแล้ว ยังรู้สึกเหมือนเดิมเลย เหมือนตอนเพิ่งเริ่มทำแบรนด์ใหม่ๆ ยังคงรู้สึกสนุก รู้สึกยังอยากคิดสิ่งต่างๆ อยู่เรื่อยๆ เรื่องเติมไฟป้อมองว่าเวลาที่เราทำธุรกิจ เราต้องรู้สึกสนุกเวลาที่เห็นมันพัฒนาขึ้น สนุกกับความท้าทายที่เข้ามา ไม่ได้ทำเพื่อคาดหวังจะให้มันนิ่งหรือดีที่สุด เพราะดีที่สุดไม่ได้อยู่ตลอดไป ดีที่สุดมันจะใช้ได้แค่ช่วงเวลาหนึ่ง เราต้องรู้สึกสนุกและทำให้มันดีที่สุดในทุกๆ ช่วงที่เปลี่ยนไป

ส่วนเรื่องของการเติมไอเดียต่างๆ โลกทุกวันนี้ก็ช่วยเราเยอะ มีโซเชียลมีช่องทางต่างๆ ให้เราหาข้อมูล หาแรงบันดาลใจ บางทีเล่นโซเชียลเห็นเพื่อนโพสต์ภาพหรือเห็นรูปอะไรเราก็คิดไอเดียออกแล้ว แต่แหล่งที่จะทำให้คิดออกส่วนใหญ่จะเป็นที่ร้าน หรือบางทีแค่เข้าไปดู Inbox ของลูกค้า ที่ลูกค้าคุยกับทางแบรนด์ ดูจากความต้องการของลูกค้า หรือลูกค้ามีปัญหาอะไร เราก็จะคิดอะไรใหม่ๆ ได้จากตรงนั้นด้วย”

 ป้อ กรกนก เจ้าของแบรนด์ Shu

แฟชั่นไปไวมาไว การแข่งขันสูง แต่ SHU ยังยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้

“สิ่งที่ทำให้ยืนหยัดก็คือเราไม่เคยหยุดนิ่ง และก็ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด เรารู้สึกว่ามันต้องพัฒนาอยู่ตลอดเวลา หลายคนอาจคิดว่าสินค้าแฟชั่นทำยังไงให้อยู่ได้นานขนาดนี้ การที่ไปไวมาไว จริงๆ ตรงนี้มันก็กลายเป็นจุดแข็งของเราด้วย เพราะการที่เราสามารถตามเทรนด์ได้ทัน ปรับเปลี่ยนตัวเองได้ทัน มันทำให้เราอยู่ตรงนี้ได้ตลอด

ถ้าเทียบกับคู่แข่งที่ไม่สามารถปรับตรงนี้ได้ ตอนนี้คู่แข่งเก่าๆ จะไม่ค่อยมี ส่วนมากที่จะเจอตามเวลาที่เปลี่ยนไป ก็คือคู่แข่งที่เกิดขึ้นใหม่มาในแต่ละยุค สิ่งที่เป็นจุดแข็งคือพอเราสามารถผ่านมาได้ในแต่ละยุคแล้ว มันเป็นเหมือนประสบการณ์ที่เรามีเหนือกว่า”

ป้อ กรกนก รองเท้า Shu Sofa shoes

จัดการกับความรู้สึกของตัวเองในช่วงที่รู้สึกท้อ

“ป้อว่าคนทำธุรกิจ ถ้าผ่านมาหลายยุคอาจจะไม่ได้รู้สึกท้อเท่าไหร่ ที่ผ่านมาไม่ได้รู้สึกท้ออะไรเกี่ยวกับการทำงาน แต่กลับเป็นปัจจัยภายนอกที่ทำให้รู้สึกท้อเหมือนกัน นั่นก็คือตอนที่ข้อเท้าหัก มันเป็นเหตุการณ์ภายนอกที่ทำให้เรารู้สึกว่า พอเราขาหักเราไม่ได้ลองรองเท้า ลองแล้วมันไม่ได้ความรู้สึกเดิม ในตอนนั้นเลยทำให้รู้สึกท้อไปช่วงหนึ่งเหมือนกัน

ตอนนั้นก็ต้องเบรคตัวเองออกมาจากสิ่งที่เครียดบ้าง ออกมาพักผ่อน นอนคิดไปคิดมาก็คิดขึ้นได้ว่า ทำไมเราไม่ทำรองเท้าขึ้นมาแก้ปัญหาของเราเอง เพราะก่อนหน้านั้นไม่ได้คิดว่าจะทำรองเท้าเพื่อสุขภาพ เพราะเราทำรองเท้าแฟชั่นมาตลอด เอาแต่ไปสรรหาซื้อรองเท้าเพื่อสุขภาพมาใส่ แต่พอเราได้พักได้คิด มันก็อยู่ใกล้ตัวแค่นี้เอง”

Position ของแบรนด์ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

“ใน 5-10 ปีข้างหน้ามองว่าอยากเป็นแบรนด์ที่เป็น Global Brand มีคนทั่วโลกอยากจะครอบครองเรา อยากจะสวมใส่รองเท้าของเรา และมีลูกค้าไปทั่วโลก ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่เราก้าวเดินไปทางนั้นแล้ว เริ่มมีดาราฮอลลีวู้ดหลายคนใส่ เป้าหมายที่เราอยากจะตั้งไว้เลยนอกจากเป็น Global Brand แล้ว อยากสรรสร้างรองเท้าที่ให้ทุกคนได้สวมใส่แล้วรู้สึกว่าเขาภาคภูมิใจ มีศักดิ์ศรีเทียบเท่าการใส่สินค้าไฮแบรนด์

ป้อ กรกนก เจ้าของแบรนด์ Shu

 

สิ่งที่มัดใจให้คนดังระดับโลกเลือกใส่รองเท้า SHU 

“ต้องบอกว่าเซเลบริตี้ระดับโลก เขามี Super Brand ที่ส่งรองเท้า ส่งสินค้าให้เขาอยู่แล้ว และเราก็ทำเช่นเดียวกัน เราก็พยายามส่งรองเท้าไปให้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดก็คือการแค่ส่งไปให้ หลายๆ แบรนด์ก็ไม่ได้คาดหวังว่าดาราเหล่านั้นจะใส่ ขอแค่ได้ส่ง นั่นคือดีที่สุดแล้ว แต่การที่เขาหยิบขึ้นมาใส่ มันเป็นอะไรที่เกินความคาดหวังมากๆ ทำให้เรารู้สึกภูมิใจมากว่ารองเท้าเรา เขาหยิบไปใส่ในงานที่สำคัญมากๆ สำหรับเขา

จริงๆ เวลาเราส่งรองเท้าไปให้คนดัง เราจะมีการทำการบ้านอย่างดี ถึงแม้จะไม่ได้คาดหวัง แต่ในใจลึกๆ เราก็อยากให้เขาหยิบขึ้นมาลองก็ยังดี เราต้องศึกษาว่าเซเลบริตี้ระดับโลกเขาใส่รองเท้าแบบไหน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เขาใส่ออกงาน เราไม่ได้อยากให้เขาแค่ใส่เดินไปเดินมาในวันธรรมดา

รองเท้า Shu
ปารีส ฮิลตัน ใส่รองเท้า SHU รุ่น CELEB HEELS IN MILAN 4” SILVER COLORS

เราก็คิดว่าถ้าเขาใส่รองเท้าออกงาน เขาจะใส่แบบไหน ไปศึกษาแล้วก็มาดีไซน์ เพื่อให้รูปแบบมันตอบโจทย์ พอเขาเห็นแล้วต้องรู้สึกว่านี่คือดีไซน์ที่เขาชอบ ถึงจะเป็นรองเท้าที่มีดีไซน์คลาสสิกก็ตาม แต่ถ้าใครใส่รองเท้าสไตล์นี้อยู่แล้ว จะรู้ว่ามันทำยากที่จะให้ดูสวยโดดเด่นและแตกต่างกัน

ดังนั้นสิ่งที่เราดีไซน์จึงพยายามทำให้มันแตกต่างและสวย มันต้องสวยก่อน เขาถึงจะลองหยิบขึ้นมา แต่แค่ลองเฉยๆ แล้วถ้ามันใส่ไม่สบาย หรือไม่แตกต่างจาก Super Brand ก็ไม่มีทางที่เขาจะหยิบขึ้นมาใส่ ซึ่งฟังก์ชั่นด้านในเรามีตัวตนของความเป็น SHU อยู่แล้ว นั่นคือความใส่สบาย หลายแบรนด์จะทำได้ยาก เรารู้สึกมั่นใจว่าขอแค่เขาหยิบขึ้นมาลองเท่านั้นแหละ มันต้องมัดใจเขาได้เลย และก็ประสบความสำเร็จจริงๆ”

รองเท้า Shu

รองเท้า Shu

 

ทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ

“ป้อผ่านมาหลายวิกฤต ในทุกวิกฤตมันมีโอกาสจริงๆ ถ้าเรามองเห็นโอกาสตรงนั้น ทำอะไรก็ได้ที่มันไปตอบโจทย์ผู้คน แก้ปัญหาให้ผู้คนในช่วงเวลานั้นได้ มันก็เป็นโอกาสของเราที่จะเกิดทำเป็นธุรกิจได้ ตอนที่ป้อเริ่มต้นครั้งแรกตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา ป้อเริ่มในช่วงวิกฤต 40 ช่วงนั้นเศรษฐกิจมหาโหดมาก แต่ป้อเกิดในช่วงวิกฤตนั้น เป็นช่วงที่เศรษฐีประสบปัญหา

ซึ่งต้องบอกว่าธุรกิจของไทยก่อนปี 40 นั้นบูมมาก ทุกคนจะใช้แบรนด์เนมกันถ้วนหน้า พอเกิดวิกฤต 40 คนก็เลยไม่ได้ใช้แบรนด์เนมมากเหมือนเมื่อก่อน คนเริ่มมองหาอะไรใหม่ๆ ที่มาตอบโจทย์ มันเลยเป็นโอกาสให้เราออกแบบสินค้าที่เน้นงานดีไซน์มาเป็นทางเลือก แล้วคนก็เริ่มเน้นใส่ใจเรื่องของดีไซน์มากกว่าเรื่องของแบรนด์”


เรื่อง : ฮานะ_แพรวนิสต้า

ภาพ : วรสันต์ ทวีวรรธนะ และกิติภูมิ เธียรโกศล

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชุดนี้มีที่มา! โต๋ กระซิบสไตลิสต์ จัดชุดสวยให้ ไบรท์ เพื่อเตรียมขอแต่งงาน

#หวานไม่ไหวแล้วแม่ ชมพู่ ออกแบบรองเท้า ประดับดอกไม้ ส้นลายหินอ่อน

เผยดีเทลชุดไทยโบราณ ‘ครีม-ศุภากร’ เจ้าสาวของ ‘เปปเปอร์ UHT’ ในพิธีแต่งงาน

 

สวยเหนือกาลเวลา "จูเลีย โรเบิตส์"

สวยเหนือกาลเวลา “จูเลีย โรเบิตส์” วัยเลข 5 แต่หน้าเลข 3 ดูอ่อนเยาว์ไม่เคยแผ่ว

Alternative Textaccount_circle
สวยเหนือกาลเวลา "จูเลีย โรเบิตส์"
สวยเหนือกาลเวลา "จูเลีย โรเบิตส์"

คงไม่ต้องอธิบายถึงความสวยอมตะของนางเอกคนนี้ จูเลีย โรเบิตส์ (Julia Roberts) เพราะเธอมีการันตีจาก People Magazine ให้ครองตำแหน่ง “ผู้หญิงสวยที่สุดในโลก” มากถึง 5 ครั้ง แม้กระทั่งในช่วงวัย 40 – 50 ซึ่งก็ไม่ขอเถียงเธอสวยไม่เปลี่ยนด้วยความเป็นธรรมชาติสดใส แถมด้วยรอยยิ้มที่คนทั้งโลกตกหลุมรัก

สวยเหนือกาลเวลา “จูเลีย โรเบิตส์” วัยเลข 5 แต่หน้าเลข 3 ดูอ่อนเยาว์ไม่เคยแผ่ว

"จูเลีย โรเบิตส์" หน้าเด็ก

ปัจจุบันในฐานะคุณแม่ จูเลียไม่ได้รับงานมากเท่าเดิม เพราะเลือกที่จะให้เวลากับลูกๆ อย่างเต็มที่ “การเป็นแม่เป็นหน้าที่ที่ต้องเสียสละ จนบางครั้งทำให้เราหลงลืมการดูแลตัวเองไปเลย ฉันเคยใช้เวลากับการทากันแดดให้กับลูกๆ จนลืมตัวเอง มารู้ตัวอีกทีคือจมูกไหม้เป็นรอยแดงจนถลอก ทำให้เข้าใจถึงพลังของกันแดดเลยว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

“ช่วงที่ผ่านมาฉันใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านเต็มตัว เตรียมอาหารให้สามีและลูกๆ ล้างจานเสียจนมือแห้ง สำหรับผู้หญิงมือสำคัญมากนะคะมันฟ้องวัยได้ชัดเจน ฉันจึงหันมาทาแฮนด์ครีมอย่างจริงจัง ไม่ล้างมือด้วยน้ำอุ่นและไม่ใช้เครื่องเป่ามือลมร้อน เพราะนั่นเป็นตัวการทำให้มือแก่ก่อนวัย ก่อนนอนฉันจะล้างมือแล้วเช็ดให้หมาด ทาแฮนด์ครีมหนักๆ และใส่ถุงมือนุ่มๆ เพื่อล็อกมอยส์เจอไรเซอร์เอาไว้ตลอดทั้งคืน

"จูเลีย โรเบิตส์" หน้าเด็ก

“แม้ช่วงที่ห่างหายจากวงการฉันจะแต่งหน้าน้อยลง แต่ก็มีชิ้นที่ขาดไม่ได้เลยคือมาสคาร่า แม้จะไม่ได้แต่งหน้ามากมาย มาสคาร่าก็ช่วยให้ผู้หญิงดูสวยขึ้นมาได้ ความลำบากอยู่ที่ตอนล้างออก ยังรู้สึกสยองทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าดวงตามีคราบดำเกาะ แต่ LANCOME Bi-Facil Eye Makeup Remover เอาอยู่สุดๆ จัดการมาสคาร่าได้เกลี้ยงเกลาแบบไม่ต้องออกแรงให้เสี่ยงเกิดริ้วรอย”

"จูเลีย โรเบิตส์" หน้าอ่อนเยาว์ "จูเลีย โรเบิตส์" หน้าอ่อนเยาว์ "จูเลีย โรเบิตส์" หน้าอ่อนเยาว์ "จูเลีย โรเบิตส์" หน้าอ่อนเยาว์


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 960
ภาพ : #juliaroberts

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บอกเป็นรอบที่ 500 ล้านครั้ง! คุณแม่เจโล ตอกกลับชาวเน็ต ลั่นไม่เคยฉีดโบท็อกซ์

สวยออร่าพุ่ง! เปิดวาร์ป “โกยุนจอง” นักแสดงน้องใหม่มาแรงจาก Sweet Home

เข้าสู่วงการแม่ค้าเพิ่มหนึ่ง! Halsey เปิดตัว About-Face แบรนด์บิวตี้เป็นครั้งแรก

 

 

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร ‘ถานซงอวิ้น’ ในเดรสขาวโอต์ กูตูร์ สวยฟุ้งตลบพรมแดง

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'
ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร ‘ถานซงอวิ้น’ ถึงตัวจะเล็ก ก็พาชุดเดรสโอต์ กูตูร์ สีขาวลากยาวเดินบนพรมแดงได้สบาย ทั้งยังสวยสง่า จนละสายตาจากเธอไม่ได้เลย

ค่ำคืนที่ผ่านมา (19 ม.ค. 64) วงการบันเทิงจีนก็คึกคักอีกครั้ง กับงานพรมแดงและประกาศรางวัล Douyin Star Motion Night 2021 ที่เหล่าคนดังต่างมาเข้าร่วมกันมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือนักแสดงหญิงที่แฟนซีรีส์จีนคุ้นหน้าและรู้จักกันดีอย่าง ถานซงอวิ้น นักแสดงฝีมือดีระดับแนวหน้า ที่ถึงแม้จะยังดูละอ่อน แต่จริงๆ เธออายุ 30 แล้ว และเธอยังได้รับรางวัล Expressive Actor of the Year จากงานนี้ด้วย

ในงาน Douyin Star Motion Night 2021 ต้องบอกว่าลุคเดินพรมแดงของ ถานซงอวิ้น สวยละมุนราวกับเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ด้วยเดรสสีขาว มาพร้อมเข็มขัดสีเงิน ด้านบนตกแต่งขนนกฟุ้งๆ ซึ่งเป็นผลงานจากแบรนด์ Stephane Rolland คอลเล็คชั่น Haute Couture Spring/Summer 2020 ที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อเป็นชุดเจ้าสาว แต่พออยู่บนพรมแดงก็เข้ากันได้ดี

โดย ถานซงอวิ้น ได้ถูกพิธีกรถามตอนเดินพรมแดงว่าชุดวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าตัวก็ตอบว่า “ให้ 8 คะแนนค่ะ อีก 2 คะแนนสำหรับตัวฉันเอง เพื่อให้ตัวเองได้เติบโตไปข้างหน้า” แหม…ช่างตอบจริงๆ นะคะ

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร ‘ถานซงอวิ้น’ ในเดรสขาวโอต์ กูตูร์ สวยฟุ้งตลบพรมแดง

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'

ซูเปอร์สตาร์แดนมังกร 'ถานซงอวิ้น'


ภาพ : Weibo Tan Songyun Studio

แปลคำสัมภาษณ์ : Twitter@JinJin_Infinty

เรื่อง : ฮานะ_แพรวนิสต้า

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สมกับ Ambassador แฟนจีนทุ่มเปย์ Chanel ของขวัญวันเกิด เจนนี่ BLACKPINK

พักยกชุดฮันบก! ส่องลุค ชินฮเยซอน นางเอก Mr.Queen ในชีวิตจริง

แฟชั่นนิสต้าระดับพันล้าน Nita Ambani มีกระเป๋า Hermes มูลค่าโหดทุกใบ!

 

นิ่ม-สาริศา

ถอดสไตล์ นิ่ม-สาริศา ล่ำซำ หลานสาวมาดามแป้ง แต่งตัวดีต้องมีเคล็ดลับ

นิ่ม-สาริศา
นิ่ม-สาริศา

แม้ไม่ค่อยได้เห็นเธอในงานสังคมบ่อยนัก แต่ทุกครั้งที่เจอ นิ่ม-สาริศา ล่ำซำ ลูกสาวคนสวยของคุณสาระ – สลิล ล่ำซำ เธอจะมาพร้อมลุคสวยเด่นที่ชวนให้กด Like รัวๆ ทุกครั้ง

“ชอบแต่งตัวและชอบช้อปปิ้ง สองสิ่งนี้ได้มาจากคุณแม่โดยตรงเลยค่ะ สมัยเด็กคุณแม่แต่งตัวให้ตลอด มีเสื้อผ้าเยอะมาก พอช่วงวัยรุ่นเริ่มสนุกกับการเลือกเสื้อผ้า จึงสนุกกับการช้อปปิ้งเอง

นิ่ม-สาริศา

“ส่วนใหญ่ไปช้อปกับคุณแม่ค่ะ เพราะชอบสไตล์คล้ายๆ กัน แต่ช่วงนี้นิ่มชอบช้อปปิ้งออนไลน์ เลื่อนดูรูปในอินสตาแกรมไปเรื่อยๆ เผลอแป๊บเดียวได้หลายชุดแล้วค่ะ (หัวเราะ) และถ้าเจอตัวที่ถูกใจก็จะส่งรูปไปให้คุณแม่ทางไลน์ ถามความคิดเห็นว่าตัวนี้สวยไหม ซื้อดีไหม เพราะคุณแม่แต่งตัวเก่ง เรื่องนี้ต้องยกให้ท่านค่ะ (ยิ้ม) ส่วนใหญ่เห็นตรงกัน มีแค่บางชิ้นที่คุณแม่บอกว่า ไม่โอเค เช่น รองเท้าแตะแบบสาน แต่นิ่มชอบ เพราะมันใส่สบาย ก็ไปแอบซื้อทีหลังอยู่ดี (หัวเราะ)

“และที่โชคดีมากๆ คือคุณแม่กับนิ่มแชร์เสื้อผ้าและรองเท้าด้วยกันได้ เพราะไซส์เดียวกัน จึงช้อปปิ้งได้เยอะแบบไม่รู้สึกผิด เพราะว่าเราซื้อมาสำหรับใส่ตั้ง 2 คนไงคะ (ยิ้มหวาน) บางชิ้น น้องสาว (นุ่ม – สุพิชชา) ก็ใส่ด้วย ฉะนั้นคุ้มค่าแน่นอนค่ะ และความที่แชร์เสื้อผ้ากัน บางวันนิ่มตื่นขึ้นมาแล้วรีบ เลือกชุดไม่ทัน ก็จะไปหยิบชุดที่คุณแม่เตรียมไว้ใส่ไปเลย คุณแม่ท่านแต่งตัวหลายสไตล์ค่ะ และนิ่มใส่ด้วยได้หมดทุกชุด จนคุณแม่บ่นว่านิ่มไปขโมยชุดอยู่บ่อยๆ (หัวเราะ)

“นิ่มคิดว่าตัวเองแต่งตัวได้ทุกสไตล์นะคะ ทั้งเรียบ เท่ หรือสบายๆ แต่อาจจะไม่ถึงขนาดหวานฟรุ้งฟริ้งที่แต่งระบายเยอะๆ ชุดที่ใส่บ่อยที่สุดคือเดรสค่ะ เพราะตัวเดียวจบ โดยเฉพาะเดรสลายพริ้นต์สีสันสดใสฟีลซัมเมอร์ เหมือนอยู่ริมทะเล รู้สึกว่าเป็นสไตล์ที่เข้ากับตัวเอง แบบ Casual Chic อย่างแบรนด์ Dolce & Gabbana ที่เขาเด่นเรื่องลวดลายอยู่แล้ว นำมาแมทช์กับรองเท้าแตะสานหรือรองเท้าผ้าใบ และกระเป๋าสะพายใบเล็กๆ ที่มีดีเทลน่ารักๆ อย่าง กระเป๋ารูปแมว แว่นตารูปหัวใจ เพื่อให้ลุคดูสนุกขึ้น แต่ถ้าไปงานที่เป็นทางการหน่อย ก็แมทช์เดรสกับรองเท้าส้นสูง เติมเครื่องประดับอีกนิด แค่นี้ก็เปลี่ยนลุคให้ดูหรูขึ้นได้แล้วค่ะ

“บางวันนิ่มก็แต่งลุคมินิมอลนะคะ ใส่แค่เสื้อยืด เสื้อกล้ามกับกางเกงยีนหรือกางเกงผ้า ก็ลงตัวแล้ว ชอบกางเกงของ Asava เพราะแพตเทิร์นดี ผ้าดี สามารถแมทช์กับท่อนบนได้ หลากหลาย ทั้งเสื้อเชิ้ต เสื้อยืด หรือเสื้อคร็อปพอดีตัวได้หมด

“สิ่งสำคัญที่สุดในการแต่งตัวคือ ต้องเลือกชุดให้เหมาะกับสถานที่ที่ไปค่ะ (ยิ้ม) อย่างนัดเพื่อนไปคาเฟ่กัน นิ่มจะทำการบ้านตั้งแต่ก่อนไป เสิร์ชดูรูปในเฟซบุ๊กว่าร้านเป็นอย่างไร สไตล์ไหน แล้วค่อยเลือกชุดให้เข้ากับร้าน จะได้ถ่ายรูปออกมาสวยๆ ไว้อัพลงอินสตาแกรมค่ะ

“นอกจากร้านกาแฟเก๋ๆ ทะเลเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นิ่มชอบมาก เสื้อผ้าส่วนใหญ่จึงเป็นฟีลสบายๆ และแน่นอนว่าต้องแมทช์ชุดให้เข้ากับสถานที่ด้วย ล่าสุดไปเที่ยวทะเลกับคุณแม่สองคน นิ่มเสิร์ชดูมุมโรงแรมไว้ หลายมุมมาก เซฟรูปส่งให้คุณแม่ดู จากนั้นเราก็ช่วยกันเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับมุมต่างๆ ทั้งสไตล์ของชุดและโทนสีว่าเข้ากับมุมตรงนั้นไหม และต้องระวังไม่ให้สีชุดกลืนไปกับบรรยากาศจนเกินไป นิ่มจะคิดภาพไว้ ในหัวเลยว่าชุดนี้แมทช์กับกระเป๋าใบนี้ แว่นตาอันนี้ เตรียมไปเป็นลุคๆ บางวันเปลี่ยนประมาณ 3 – 4 ชุดก็มี (ยิ้ม) อย่างเช่น พอไปถึงโรงแรม ก็อาจจะใส่เสื้อคร็อปสีขาวกับกางเกงยีนขาสั้นให้ดูสบายๆ เพื่อถ่าย ในห้องนอนก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นเดรสสีพาสเทลหรือลายพริ้นต์ ไปถ่ายรูปริมทะเลก่อนแสงจะหมด แล้วจึงเปลี่ยนอีกชุดสำหรับดินเนอร์ตอนค่ำเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศแต่ละที่

“เรียกว่าไปไหนนิ่มจะใส่ใจทำการบ้านก่อน ไม่ค่อยมีที่อยู่นอกเหนือแพลน จะเสิร์ชข้อมูลเพื่อวางแผนการแต่งตัวเป๊ะมาก (หัวเราะ) แม้บางครั้งจะไม่ได้ถ่ายรูป แต่ก็ยังอยากให้ชุดที่ใส่สวยเข้ากับบรรยากาศค่ะ”

FAVORITE ITEMS ของ นิ่ม-สาริศา ล่ำซำ

1. รองเท้า Miu Miu

2. แว่นตากันแดด Jeremy Scott

3. นาฬิกาข้อมือ Patek Philippe

4. กระเป๋า Charlotte Olympia

 


ภาพและที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 930 คอลัมน์ STYLE CONFIDENTIAL หน้า 52-55

หมู อาซาว่า ชวนฉลองตรุษจีน

หมู อาซาว่า ชวนฉลองตรุษจีนกับเซ็ตเมนูพิเศษ Sava All Day Dining และเสื้อผ้า Asv Resort 2021

Alternative Textaccount_circle
หมู อาซาว่า ชวนฉลองตรุษจีน
หมู อาซาว่า ชวนฉลองตรุษจีน

Asava Group (อาซาว่า กรุ๊ป) นำโดย หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง ชวนทุกท่านร่วมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศการเฉลิมฉลองของเทศกาลตรุษจีนด้วยเซ็ตเมนูพิเศษจากร้าน Sava All Day Dining ที่คัดสรรเมนูอาหารจานอร่อย ที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความประณีตบรรจงจากวัตถุดิบชั้นดีมาให้ได้ลิ้มลองกันตลอดเทศกาลนี้  อีกทั้งยังส่งคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุดจาก Asv Resort 2021 ที่หยิบยกความพิเศษของช่วงเทศกาลมาถ่ายทอดผ่านโทนสีที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน รังสรรค์ออกมาเป็นแคปซูลคอลเล็คชั่นที่จะมาช่วยเติมเต็มสีสันให้กับสาวๆ ในช่วงนี้ได้อย่างพอดิบพอดี

หมู อาซาว่า ชวนฉลองตรุษจีนกับเซ็ตเมนูพิเศษ Sava All Day Dining และเสื้อผ้า Asv Resort 2021

ทางด้านดีไซเนอร์คนเก่ง หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา เล่าว่า สำหรับเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้ เราขอพาทุกท่านไปสัมผัสกับกลิ่นอายและวัฒนธรรมการเฉลิมฉลองของเทศกาลตรุษจีนผ่านเซ็ตเมนูพิเศษจากร้านอาหาร Sava All Day Dining ซึ่งได้คัดสรรจานอร่อยออกมาต้อนรับทุกคนตลอดช่วงเทศกาลนี้ถึง 4 เมนูด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กุยช่ายเยาวราชทอด, ขนมผักกาดผัดไข่กุ้ง, มาม่าผัดซอส XO และ ข้าวหน้าไก่ ซึ่งแต่ละเมนูนั้นล้วนแล้วแต่มีความหมายอันเป็นมงคล เหมาะสำหรับการเฉลิมฉลองเป็นอย่างยิ่ง

แต่หากใครที่ไม่สะดวกมารับประทานที่ร้าน ก็ยังมีบริการ Delivery เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เพียงแค่กดสั่งผ่านแอปพลิเคชั่น Grab และ LINE MAN หรือโทร. 02-003-6208 , Line @savaallday ก็สามารถลิ้มรสความอร่อยจากครัวของ Sava All Day Dining ได้แล้ว

และในครั้งนี้เรายังส่งแคปซูลคอลเล็คชั่น Asv Resort 2021” ออกมาเพื่อช่วยเพิ่มสีสันให้กับสาวๆ ได้สนุกไปกับการแต่งตัว ด้วยการนำเสนอ ความสุข และความสนุกสนานในแบบ Festive ถ่ายทอดผ่านแคปซูลคอลเล็คชั่นที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสีสัน ด้วยโทนสีแดง สีพีช และสีม่วงอ่อนเป็นหลัก เพิ่มความพิเศษด้วยการสอดแทรกดีเทลคอจีน (Mandarin Collar) เข้ามาเป็นองค์ประกอบหลัก ผสมผสานเข้ากับการตกแต่งแถบปิเก้ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ในแบบฉบับเอเอสวี ที่ยังคงเน้นย้ำในทุกๆ ซีซั่น และถือเป็นอีกหนึ่งคอลเล็คชั่นที่จะมาช่วยเพิ่มสีสันและความมีชีวิตชีวาให้กับการใช้ชีวิตของสาวๆ ได้อย่างแท้จริง

เติมสีสันให้กับเทศกาลนี้ด้วยเซ็ตเมนูพิเศษจากร้าน Sava All Day Dining และคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าจาก Asv Resort 2021 ได้แล้วที่ โซน ไทยดีไซเนอร์ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม, ชั้น 1  โซนดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน,ชั้น 2  โซนไทยไทย ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม, ชั้น 2  โซน THAITHAI ห้างสรรพสินค้าเซ็น เซ็นทรัลเวิลด์, อาซาว่ากรุ๊ป แฟลกชิปสโตร์ ซ.สุขุมวิท 45 หรือและออนไลน์สโตร์ Website: https://asavagroup.com/product-category/asv/collection-asv/rs-2021/ Line Official: @asavagroup  และ Lazada: Asv Flagship Store

 

 

 

LINE Meeting

Work From Home แบบหน้าสดก็ไม่หวั่น LINE Meeting ฟีเจอร์สุดเจ๋งให้ประชุมผ่านจอพร้อมฟิลเตอร์หน้าใส

LINE Meeting
LINE Meeting
  • ใช้ฟรีผ่านแอป LINE ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่ม ไม่ต้องเป็นเพื่อนบน LINE ก็คุยได้
  • เปิดกล้องเผยหน้าสดได้ไม่หวั่น ใส่ฟิลเตอร์ แบคกราวด์และเอฟเฟกต์ เพิ่มสีสันให้การประชุม
  • พร้อมให้แชร์หน้าจอและไฟล์ผ่านกรุ๊ปแชท ใช้งานได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ รองรับสูงสุด 500 คน

LINE Meeting

เมื่อสถานการณ์โควิด – 19 กลับมาทำให้คนไทยต้องเฝ้าระวังมากขึ้นพร้อมนโยบาย Work From Home อีกครั้ง แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถรับมือและปรับไลฟ์สไตล์ให้เข้ากับวิถี New Normal ได้เร็วยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะการสื่อสารที่ต้องการแอปพลิเคชั่นที่จะช่วยให้การพูดคุยและประชุมกลุ่มในชีวิตประจำวันให้มีสีสันราวกับได้เจอกันตัวเป็นๆ เวลานี้ก็ต้องโหวตให้ LINE Meeting ฟีเจอร์ต้องห้ามพลาดบนแอปฯ LINE ถูกออกแบบมาได้ถูกจริตคนไทยที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นครบครัน ตอบโจทย์การสื่อสารในชีวิตประจำวันทั้งการประชุมงาน พบปะเพื่อนฝูงและครอบครัวในยามที่ต้องรักษาระยะห่าง ซึ่งได้รับความนิยมสุดๆ หลังจากเปิดตัวเมื่อปลายปี 2020 ลากยาวมาถึงตอนนี้ ที่คนต้องกลับมา Work From Home และ Stay at Home กันอีกครั้ง

LINE Meeting

ถอดรหัสความสำเร็จของ LINE Meeting ถึงเป็นฟีเจอร์เพื่อการ “ประชุมออนไลน์” ของพ.ศ.นี้ ที่พูดได้เลยว่า “ใช้สะดวก คุยสนุก ตอบโจทย์ทุกการสื่อสาร” ทั้งเรื่องงานและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ LINE

  1. เข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก – ไม่ต้องไปดาวน์โหลดแอปฯ ใหม่ให้ยุ่งยาก ไร้ขั้นตอนยุ่งหยุมหยิม เพราะไม่ต้องสร้าง Line Group ไม่ต้องเป็นเพื่อนบน LINE ก็ได้ เริ่มต้นใช้งานเพียงกดไปที่ไอคอน LINE Meeting สัญลักษณ์รูปกล้องวีดีโอที่มีเครื่องหมายบวก (+) ด้านใน ด้านบนหน้าแท็ปแชท จากนั้นก็แชร์ลิงก์ เชิญคนต้องการจะให้ร่วมประชุมก็คลิกกดเข้ามารวมตัวได้ทันที

 

  1. ฟังก์ชั่นประชุมครบครัน – ด้วยหน้าที่เป็น “ห้องประชุมเสมือนจริง” ดังนั้นทุกองค์ประกอบของ LINE Meeting จึงฟังก์ชั่นรองรับการทำงานประชุมจริง สามารถย่อหน้าจอระหว่างประชุม เพื่อมาตอบแชทอื่น หรือพิมพ์ในห้องแชทเฉพาะกิจสำหรับประชุมนั้น พร้อมให้แชร์ไฟล์งาน โดยระบบจะสร้างห้องแชทชั่วคราวขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และห้องแชทดังกล่าวจะหายไปเมื่อประชุมเสร็จสิ้น มาพร้อมฟังก์ชั่น Watch Together ไว้แชร์หน้าไฟล์วิดีโอออนไลน์หรือวิดีโอบนยูทูปให้ชมไปพร้อมๆกันทั้งภาพและเสียง ซึ่งใครจะเอาไว้ใช้ดูคลิปใหม่แล้วรีแอคร่วมกันก็น่าเอนจอยไม่น้อย

 

  1. ฟิลเตอร์ เอฟเฟค แบคกราวด์แน่น – จุดชนะใจผู้ใช้ LINE เห็นจะเป็นลูกเล่นแพรวพราว ทั้งภาพแบคกราวด์แบบสำเร็จรูป ให้เบลอพื้นหลังหรือจะตกแต่งเองได้ตามใจชอบ และที่ต้องใช้ให้ได้เลยคือ “ฟิลเตอร์” ปรับหน้าใสที่เหมาะกับใครที่กลัวเปิดกล้องเผยหน้าสด หรือถ้ายังไม่มั่นใจก็เพิ่มเอฟเฟกต์ตกแต่งใบหน้าก็ยิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ ทั้งหน้าหนู หน้าแมว หน้ากากอนามัย จนผู้ใช้บางรายยอมเข้ามารอประชุมในกรุ๊ปก่อนเพราะอยากเลือกเอฟเฟคเก๋ๆ ดังนั้นจะทางการหรือไม่ทางการ LINE Meeting ก็จัดให้ทุกโอกาส

 

  1. ฟีเจอร์ฟรี มีความปลอดภัย – LINE Meeting รองรับการใช้งานได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ ชวนผู้เข้าร่วมประชุมได้สูงสุดถึง 500 คน แถมผู้จัดการประชุมยังสามารถเชิญเพื่อนเข้าห้องเพิ่ม หรือลบคนออกจากห้องประชุมก็ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้การประชุมครั้งนั้นปลอดภัย ไม่มีใครรบกวนหรือทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมนั่นเอง

ต้องยอมรับว่า LINE Meeting มาช่วยให้เราๆที่ต้องรักษาระยะห่าง กักตัวอยู่บ้านยังคงรันงานต่อได้ไม่สะดุด แถมยังสร้างสีสันความสุขความสนุก ให้บางช่วงเวลาเครียดๆกลายเป็นช่วงเวลาน่าเอนจอยกันได้ง่ายๆ

keyboard_arrow_up