Chanel Cruise 2020 21

เจาะดีเทล Chanel Cruise 2020/21 ที่จะพาคุณเดินทางรอบเมดิเตอร์เรเนียน

Chanel Cruise 2020 21
Chanel Cruise 2020 21

พบกับแรงบันดาลใจของ Chanel Cruise 2020/21  ‘Balade en Méditerranée’ (การเดินทางรอบเมดิเตอร์เรเนียน) 

สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ วีร์จินี วิยาร์ด กล่าวว่า “ในตอนแรก ฉันตั้งใจใช้เกาะคาปรีเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสถานที่ที่เราตั้งใจจะจัดโชว์นี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ถูกจัดขึ้นเพราะล็อกดาวน์

เราจึงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ นอกจากการนำผ้าที่มีอยู่แล้วกลับมาใช้ และแรงบันดาลใจของคอลเล็คชั่นนี้ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้ไปสู่เส้นทางการเดินทางแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะ กลิ่นของต้นยูคาลิปตัส สีชมพูของดอกเฟื้องฟ้า”

การเคลื่อนไหวอย่างสบายและเรียบง่ายของเหล่านักแสดงสาวในยุค 60s และในช่วงเวลาที่พวกเธอกำลังเดินทางไปพักร้อนแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในแถบอิตาลีและเฟรนช์ริวีเอรา

Chanel Cruise 2020/21 Chanel Cruise 2020/21 Chanel Cruise 2020/21 Chanel Cruise 2020/21 Chanel Cruise 2020/21

เจาะดีเทล Chanel Cruise 2020/21 ที่จะพาคุณเดินทางรอบเมดิเตอร์เรเนียน

คอลเล็คชั่นนี้รังสรรค์เพื่อการเดินทาง “ชุดเสื้อผ้าที่สามารถพกพาไปได้ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก มาพร้อมกับกระเป๋าสะพายและกระเป๋าถือลายปัก” เสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ง่ายเหมาะในทุกวาระโอกาส กระโปรงยาวที่สามารถดัดแปลงให้เป็นเดรสเกาะอก แจ็คเก็ตยาวในผ้าชิฟฟอนสีดำที่สามารถสวมคลุมบิกินีสำหรับลุคกลางวัน หรือคลุมกับเสื้อลายปักคู่กับกางเกงยีนส์ในลุคกลางคืน

ถ้าหากใส่คลุมบนเรือนร่างเปลือยมันจะเป็นสไตล์ ‘déshabillé’ เดรสผ้าโปร่งเนื้อวาวจับคู่กับแจ็คเก็ตสวมแบบโคร่งและด้านในเป็นกางเกงขาสั้นผ้าเครป ในขณะที่อีกลุคเป็นเดรสแบบผูกเอวกับกระโปรงที่ให้อิสระต่อการเคลื่อนไหว สูทหนังสีชมพูเฟื่องฟ้าที่อ่อนนุ่มเสมือนผิวหนัง และมาในรูปแบบผ้าทวีตปราศจากซับในเพื่อความพลิ้วไหว

Chanel Cruise 2020/21 Chanel Cruise 2020/21 Chanel Cruise 2020/21

ค้นพบคอลเล็คชั่นที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความประณีตได้ที่ chanel.com


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

มันคืออุปทานหมู่! กระเป๋าแบรนด์ Louis Vuitton รุ่น Vanity โฉมใหม่ คนดังใช้ตรึม

ล้วงดีเทล กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa ไอเท็มที่ถูกตามหามากที่สุดแห่งยุค

กลับมาท็อปฟอร์ม! เมแกน ร่วมรำลึกทหารวีรชน ลุคเดียวฟาดไป 6 แสนบาท

 

เป๊ก ผลิตโชค The Final Odyssey Concert

โคตรฟิน! “เป๊ก ผลิตโชค” จัดเต็มคอนเสิร์ตปิดไตรภาคสุดอลังการครั้งแรกที่อิมแพค

เป๊ก ผลิตโชค The Final Odyssey Concert
เป๊ก ผลิตโชค The Final Odyssey Concert

โคตรฟิน! “เป๊ก ผลิตโชค” จัดเต็มคอนเสิร์ตปิดไตรภาคสุดอลังการครั้งแรกที่อิมแพค ใน THE CONCERT APPLICATION presents 15th Anniversary The Final Odyssey Concert

ถือเป็นการปิดไตรภาคคอนเสิร์ตใหญ่ของ “เป๊ก ผลิตโชค” ที่สมบูรณ์แบบที่สุดหลังจากที่ได้ออกเดินทางมอบความสุขให้กับทุกคนด้วยบทเพลงอันไพเราะตลอด15 ปี ใน “THE CONCERT APPLICATION presents Peck Palitchoke15th Anniversary The Final Odyssey Concert”

ซึ่งเกิดขึ้นไปแล้ว 2 รอบ ในวันที่ 7-8 พฤศจิกายนที่ผ่านม่า ณ Impact Arena เมืองทองธานีที่จัดเต็มอิ่มเอมกว่า 4 ชั่วโมงจัดขึ้นโดย Idea Fact” หน่วยงานภายใต้ GMM SHOWและคอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของ “เป๊ก” ที่เกิดขึ้นที่อิมแพค อารีน่า อีกด้วย

 

ที่สำคัญมาพร้อมกับแขกรับเชิญสุดพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ดา เอ็นโดรฟิน , ปั๊บ โปเตโต้ , ญาญ่า อุรัสยา , อ๊อฟ ปองศักดิ์และ ไอซ์ ศรัณยู” พร้อมทั้งโชว์ชั้นดีแบบจัดเต็มทุกช่วงเวลา เพราะคอนเสิร์ตนี้เป๊กตั้งใจเพื่อตอบแทนทุกความรู้สึกที่ทุกคนมอบให้มาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้นคอนเสิร์ตปิดไตรภาคนี้ยังเนรมิตเวทีได้สุดอลังการแบบจัดเต็มด้วยโปรดักชั่น แสง สี เสียงกราฟิกต่างๆ อีกทั้งยังจัดขึ้นภายใต้การควบคุมการแพร่ระบาดโรคอย่างเคร่งครัด ทั้งมีด่านคัดกรองวัดอุณหภูมิก่อนเข้าคอนเสิร์ต ส่วนภายในใช้มาตรการรักษาระยะห่าง Social Distancing โดยมีการจัดเว้นระยะห่าง 2 ที่นั่งเว้น 1 ที่นั่งและสวมหน้ากากตลอดเวลาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ให้แฟนๆ หายกังวล

กรี๊ดกระหึ่มอิมแพค อารีน่า เมื่อเป๊กปรากฏตัวมาแบบที่แฟนเพลงคาดไม่ถึงกับซีนโหนสลิงลงมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจกับเพลง You Are The One” ซิงเกิลใหม่ล่าสุดที่มาโชว์สดๆ เป็นครั้งแรกที่นี่อีกด้วย ต่อด้วยเพลง “ไม่อยากให้กลับ” และ Nobody  Like You” เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกในชีวิตของเป๊กพร้อมกล่าวทักทายเพลงแฟนทุกคน “ยินดีต้อนรับสู่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี  ตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้เจอ แถมกล่าวทักทายแฟนเพลงทุกๆ คนขอให้ทุกที่นั่งมีความสุข”

จากนั้นถึงคิวแขกรับเชิญคนแรก “ดา เอ็นโดรฟิน” มาในเพลง “Empire State Of Mind”  โดยเป๊กออกมาFeaturing ในท่อนแร็พโชว์สกิลร้องที่แทบจะไม่ได้หยุดหายใจทำเอาแฟนเพลง กรี๊ดกันไม่หยุดเพิ่มดีกรีความฟินขึ้นไปอีกในเพลง “ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ” ก่อนเป๊กปล่อยเวทีให้ดา เอ็นโดรฟินฉายเดี่ยวออกสเต็ปแดนซ์ในเพลง “รักเอย” ไม่ปล่อยให้ความสุขขาดตอน ยังไม่หมดเซอร์ไพรส์เพียงเท่านี้  ทำเอาแฟนๆ ต้องกรี๊ดถล่มทลายกับความเท่ความฮอตปรอทแตกบนเวทีเมื่อ2 หนุ่ม “ปั๊บ โปเตโต้” และเป๊กมา ในเพลง “เธอยัง, หยดน้ำตา, การ์ดใบหนึ่ง, กล้าพอไหม” เรียงเพลงไว้ได้อย่างลงตัว ผ่านซาวด์ดนตรีแสง สี และกราฟิคอันยอดเยี่ยม

จากนั้นปล่อยเวทีให้ปั๊บ โปเตโต้โซโลเดี่ยวโชว์เพลงฮิต “เพียงพอ” ต่อด้วยเพลง “ขอบคุณที่รักกัน” ที่เป๊กขึ้นมาร่วมแจมปิดท้ายพาให้แฟนๆ ร้องตามจนเคลิ้มและความพิเศษก็เกิดขึ้นเมื่อเป๊กขอโชว์การเล่นกีตาร์เป็นครั้งแรกบนเวทีคอนเสิร์ตในเพลง The Simple Things” แถมยังทำเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการมอบปิ๊กกีตาร์ที่ได้ซ่อนไว้ใต้ที่นั่งของทุกคน ตามด้วยการโชว์เสียงร้องสดๆ กับเพลงสากลประจำตัวอีกหนึ่งเพลงอย่าง Versace On The Floor” และแน่นอนว่าทุกคนชอบและรักเพลงนี้ ต่อด้วยเพลง Get to Know you”และ LoveOn Top”

ถึงเวลาเปิด Time Capsule อ่านข้อความเรื่องราวความประทับใจที่แฟนเพลงเขียนไว้ให้เป๊กก่อนนำเข้าเมดเล่ย์ฮิต นิทานหิ่งห้อย, ใจหนึ่งก็รัก อีกใจก็เจ็บ,หมดใจ, สัญญาไม่เป็นสัญญา, แล้วแต่หัวใจเธอ, รักครั้งแรกและครั้งสุดท้าย, ความลับ, ถูกคนแล้ว,ไม่ควรมีคนเดียว + โทษที่เอาแต่ใจ, I’m OK, มีหัวใจแต่ไม่อยากรัก” ต่อด้วย This is Love”เวอร์ชั่นพิเศษ 5 ภาษา (จีน, เกาหลี,  ญี่ปุ่น, ไทย,อังกฤษ) เพลงที่เป๊กอยากสื่อสารถึงแฟนเพลงต่างประเทศที่ไม่ได้มาร่วมคอนเสิร์ตในครั้งนี้พร้อมขึ้นภาพแฟนๆ บนจอ LED ทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งมิตรภาพ และความรักที่ไม่มีจุดสิ้นสุดของเป๊กและแฟนเพลง

เสียงกรี๊ดถล่มฮอลล์อีกครั้งเมื่อนางเอกสาวสุดฮ็อตอย่าง“ญาญ่า อุรัสยา” สลัดลุคสาวหวานพร้อมออกสเต็ปการแดนซ์ ในเพลง Bad guy” พร้อมพูดคุยความรู้สึกก่อนมอบเวทีให้ญาญ่าโชว์เดี่ยวในเพลง Ice Cream” และแล้วก็มาถึงพาร์ทของแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์ที็นการ่เป็นการรวมตัวกันครั้งแรกตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของเป๊ก- ผลิตโชค, อ๊อฟ- ปองศักดิ์และ ไอซ์- ศรัณยูกับ 3 เพลงสุดฮิตอย่าง “แค่คนโทรผิด, เรื่องไม่ดีไม่จำและ น่ารัก น่าLove” เรียกว่าพาร์ทนี้แฟนเพลงกรี๊ดสนั่นชนิดที่คอแทบแตกเลยทีเดียว

มาถึงพาร์ทสุดท้ายงานนี้เป๊กขอจัดเต็มด้วยเมดเล่ย์เพลงสากล Laxed, Yummy, Watch me, Crazy In Love, Worth it, Wannabe, Dynamite, Gangnam Style” ต่อด้วยความสนุกในเพลง “First Lady” ดึงบรรยากาศภายในฮอลล์ให้เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น ความผูกพัน แน่นตลบอบอวลทุกพื้นที่ต่อเนื่องด้วยความซาบซึ้งของเป๊กและแฟนๆ ด้วยการส่งพลังงานแห่งความรักไปทั่วทั้งฮอลล์ท่ามกลางทะเลดาวในเพลง “ไม่มีใครรู้” เพลงที่ทำให้ทุกคนรู้จักผู้ชายที่ชื่อ “เป๊ก” ผลิตโชค เพลงนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับเป๊กอย่างมาก จึงขอวิ่งไปหยิบโทรศัพท์มาถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำอีกด้วย

ในคอนเสิร์ตครั้งนี้เป๊กได้มอบเซอร์ไพร้ส์แฟนๆ มาโดยตลอดถึงคราวที่เจ้าตัวถูกเซอร์ไพร้ส์กลับเล่นเอาน้ำตาคลอกันทีเดียวด้วยแฟนโปรเจ็กต์ที่ไม่เหมือนกันทั้ง 2 รอบ ก่อนปิดท้ายคอนเสิร์ตนี้ด้วยเพลงYou Are The One” อีกครั้ง จึงทำให้คอนเสิร์ตใหญ่ปิดไตรภาค THE CONCERT APPLICATION presents 15th Anniversary The Final Odyssey Concert ปิดฉากได้อย่างประทับใจ ทำให้ค่ำคืนนี้กลายเป็นบทบันทึกของอีกหนึ่งคอนเสิร์ตอันยอดเยี่ยม และต้องจดจำของ“เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร” และแฟนเพลงทุกคนไปอีกนาน

ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Obanzai

ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเมนูอาหารรอเสิร์ฟทุกวันหน้าเคาน์เตอร์คือ แนวเมนูอาหาร สไตล์ โอบันไซ หรืออาหารแนวพื้นบ้านคนญี่ปุ่นที่ทำ สด ใหม่ ทุกวันเหมาะสำหรับคนที่ชอบกินอาหารแนวสุขภาพ และนอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมาย อาทิ เช่น เทมปุระ หมูย่างสไตล์ญี่ปุ่น  ไก่ทอดคาราเกะ

อาหารจากทางร้านก็ยังมีให้เลือกอีกมากมาย  อีกทั้งบรรยากาศภายในร้าน เงียบ สงบ รู้สึกผ่อนคลาย เหมือนรับประทานอาหารที่บ้านเลยค่ะ  ส่วนสไตล์การตกแต่งร้านที่นี่จะเป็นแนวญี่ปุ่นล้วนๆ เหมือนได้ฟิวส์เหมือนกำลังกินที่ญี่ปุ่นเลย และยังมีเมนูเครื่องดื่มสาเก ที่คอสาเกทุกคนห้ามพลาดเพราะที่นี่มีเมนูสาเกหลากหลายมากๆ   ยังไงก็ขอฝากร้านไว้ด้วยนะคะ

ร้านตั้งอยู่
6/12 หมู่บ้านพร้อมศรีปาร์ค ซอย สุขุมวิท39 จะตรงข้ามกับซอยพร้อมศรี2 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ 10110
สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ : 02-1080499
Facebook: Mutsuki
เวลาทำการ 18:00-23:30 หยุดทำการทุกวันอาทิตย์

ฟูจิฟิล์มรุกตลาดกล้องดิจิตอลระดับ Middle Hi-End เปิดตัว X-S10 ฟังก์ชั่นเทพ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

ฟูจิฟิล์มรุกตลาดกล้องดิจิตอลระดับ Middle Hi-End เปิดตัว X-S10 ฟังก์ชั่นเทพ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ภายใต้คอนเซ็ป “Your Style, Our Color” พร้อมเปิด FUJIFILM X Space ดันเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่สำหรับคนรักการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ

ฟูจิฟิล์มผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลมิลเลอร์เลส ประสบความสำเร็จจากกล้องระดับ Entry Level มาอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ฟูจิฟิล์มมองเห็นโอกาสในการทำตลาดใหม่ โดยเน้นเจาะกลุ่มตลาดระดับกลาง (Middle Level) ไปจนถึงระดับมืออาชีพ (Professional Level) เพราะมีสัดส่วนทางการตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มคนที่รักการถ่ายภาพ สนใจกล้องถ่ายภาพแบบจริงจัง ต้องการไฟล์ที่มีคุณภาพ เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย และได้ภาพสวยจบหลังกล้อง ฟูจิฟิล์มจึงได้พัฒนากล้อง X-S10 ให้ใช้งานได้คลอบคลุมทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เพื่อตอบโจทย์ต่อการใช้งานให้มากที่สุด FUJIFILM X-S10 จึงเป็นกล้องที่น่าจับตามอง และมาปลุกกระแสตลาดกล้องดิจิตอลให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาด Middle Hi-End และนอกจากนี้ฟูจิฟิล์มต้องการสร้างภาพลักษณ์การเป็นแบรนด์กล้องมิลเลอร์เลสระดับมืออาชีพ โดยการเปิด FUJIFILM X Space เพื่อใช้เป็นช่องทางการสื่อสารไปถึงลูกค้าที่สนใจกล้องระดับมืออาชีพ และสร้างเป็น community แบบ Professional ให้กับกล้องฟูจิฟิล์มอีกด้วย

มร.กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ฟูจิฟิล์มประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดกล้องมิลเลอร์เลส จากกล้องกระกลู X–Series ในระดับ Entry ทำให้ฟูจิฟิล์มขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของตลาดกล้องมิลเลอร์เลส และในปีนี้ฟูจิฟิล์มยังคงทำตลาดต่อเนื่อง ด้วยการรุกตลาดกล้องระดับกลาง (Middle, Hi-End) และระดับมืออาชีพ (Professional Level) ซึ่งถือเป็นมาร์เกตแชร์ที่สำคัญ ความน่าสนใจของตลาดกลุ่มนี้ คือเป็นกลุ่มที่ชอบใช้กล้องดิจิตอลถ่ายภาพอย่างมืออาชีพ เพราะต้องการไฟล์ภาพที่ได้คุณภาพ  ฟังก์ชั่นที่ใช้งานง่าย ถือว่ามีบทบาทต่อตลาดกล้องดิจิตอลในอนาคตเป็นอย่างมาก ฟูจิฟิล์มได้ตระหนักถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตามปรัชญาของฟูจิฟิล์ม “คุณภาพไฟล์ภาพเป็นอันดับ 1”  (The No.1 Image Quality)  ด้วยการเปิดตัว FUJIFILM X-S10 มาพร้อมกับภายใต้คอนเซ็ป Your Style, Our Color” เจาะกลุ่มคนทั่วไปที่สนใจการถ่ายภาพและอยากจะพัฒนาสู่ช่างภาพมืออาชีพ ซึ่งเน้นคุณภาพของไฟล์ภาพและฟังก์ชั่นการถ่ายวิดีโอที่สมบูรณ์แบบ และในครั้งนี้ฟูจิฟิล์มต้องการสร้างภาพลักษณ์การเป็นแบรนด์กล้องมิลเลอร์เลสระดับมืออาชีพ (Professional Level) ให้มากขึ้น ด้วยการเปิด FUJIFILM X Space เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์และการให้บริการกับผู้บริโภค ฟูจิฟิล์มหวังว่าการทำตลาดกล้องระดับมืออาชีพ (Professional Level) ในครั้งนี้ จะทำให้ฟูจิฟิล์มก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งตลาดกล้องมิลเลอร์เลสครบทุกเซกเมนต์ และสร้างภาพลักษณ์ของกล้องระดับมืออาชีพได้อย่างแข็งแกร่งในตลาดกล้องดิจิตอลต่อไป” วาตะนาเบ้ กล่าว

ด้าน คุณพรหมมินทร์ ชราเขต Business Unit Manager Electronic Imaging Division  บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า “ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาพฤติกรรมของผู้บริโภคของกลุ่มผู้ใช้งานเริ่มต้น (Entry Level) กลุ่มระดับกลาง (Middle Level) มีการเปลี่ยนค่อนข้างสูง บวกกับตลาดสมาร์ทโฟนมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้เทียบเท่ากับกล้องระดับล่าง ถือเป็น disruption ใหญ่สำหรับตลาดกล้องดิจิตอลในเวลานี้ ฟูจิฟิล์มมองเห็นโอกาสในการทำตลาดใหม่โดยเน้นที่กลุ่มระดับกลาง (Middle Level) ไปจนถึงระดับมืออาชีพ (Professional Level) เพราะมีสัดส่วนทางการตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากกกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่รักการถ่ายภาพ สนใจกล้องถ่ายภาพแบบจริงจัง ต้องการไฟล์ที่มีคุณภาพ ภาพสวยจบหลังกล้อง เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบและง่ายต่อการใช้งาน การออกแบบดีไซน์ตัวกล้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจพบว่า กลุ่มลูกค้าที่เคยใช้กล้องระดับเริ่มต้น หรือระดับกลาง จะเริ่มมองหากล้องดิจิตอลที่มีสเปกเทียบเท่ากับกล้องระดับมืออาชีพ เพราะต้องการคุณภาพของไฟล์ภาพ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับกิจกรรมของคนรุ่นใหม่สนใจการถ่ายวิดีโอมากขึ้น ตัวกล้องต้องใช้งานง่าย น้ำหนักเบา ฟูจิฟิล์มเลยพัฒนาเทคโนโลยี คุณภาพของไฟล์ภาพ และฟังก์ชั่นการใช้งาน จนทำให้ FUJIFILM X-S10 เป็นกล้องระดับมืออาชีพ ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อมารองรับตลาดสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพที่ผันตัวเองมาเป็นช่างภาพมืออาชีพ และกลุ่ม Video Content ที่กำลังเติบโตมากที่สุดในตอนนี้

FUJIFILM X-S10  มาพร้อมอิมเมจเซ็นเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด X-Trans CMOS 4 ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 26.1 ล้านพิกเซล และมีระบบ Auto focus ที่หาโฟกัสได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 0.02 วินาทีที่สามารถทำงานได้ในสภาพแสงที่น้อยถึง -7EV และยังมีระบบ Tracking AF ที่สามารถโฟกัสติดตามวัตถุที่ต้องการ และสามารถทำงานร่วมกับระบบ Face/Eye AF เพื่อที่จะจับโฟกัสที่หน้าหรือตาของแบบให้โดยอัตโนมัติ  ทำให้ FUJIFILM X-S10  สามารถจับโฟกัสได้อย่างแม่นยำในทุกๆสถานะการณ์ การถ่ายภาพวิดีโอสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวคุณภาพสูงแบบ 4K/30P 4:2:0 8บิต และ 4K/30P 4:2:2 10 บิต(ผ่านช่อง HDMI) รวมถึงการบันทึกแบบ F-Log มีช่องต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. ช่องต่อหูฟัง ผ่าน USB-C ตัวกล้องมีระบบกันสั่นในตัวกล้อง (IBIS) ทำงานแบบ 5 แกน ช่วยลดการสั่นไหวได้สูงถึง 6 Stops ทำให้ถ่ายวิดีโอมีความเสถียรขึ้น ได้ภาพนิ่งและนิ่มนวล ลดปัญหาภาพสั่นไหวเวลาถือกล้องถ่ายวิดีโอด้วยมือเปล่า นอกจากนั้นยังสามารถถ่ายวีดีโอความเร็วสูง Full HD 240 เฟรมต่อวินาที สามารถดูสโลวโมชั่นได้สูงสุดมากถึง 10 เท่า ตัวบอดี้ของกล้องมีการออกแบบให้มีขนาดที่เล็กลง และมีน้ำหนักเบาเพียง 465 กรัม ที่มาพร้อมกริปแบบใหม่ที่มีขนาดใหญ่ซึ่งทำให้จับกล้องได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นมีโหมดจำลองสีฟิล์มที่เป็นเอกลักษณ์ของ FUJIFILM ให้เลือกใช้ในการสร้างสรรค์ภาพมากถึง 18 แบบรวมถึงฟิล์มแบบใหม่ล่าสุดอย่าง CLASSIC Neg. และ ETERNA bleach bypass และมีหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3.0 นิ้ว ปรับหมุนได้ แบบ Vari-Angle ที่ช่วยให้ทั้งการถ่ายภาพวิดีโอและภาพนิ่งเป็นเรื่องง่ายในทุกๆมุม

สำหรับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของกล้อง FUJIFILM X-S10 บริษัทได้เตรียมแผนในการสื่อสารแบบ Total Communication ทั้งสื่อ Online และ Offline เพื่อให้การสื่อสารครั้งนี้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก โดยสื่อ Online ฟูจิฟิล์มได้นำเสนอ Key Opinion Leader (KOL) ที่มีประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ คุณแฝด ที่รู้จักกันในชื่อ 21DAY ช่างภาพชื่อดัง มาถ่ายทอดฟังก์ชั่นของกล้อง FUJIFILM X-S10 ให้ได้ภาพสวยจบหลังกล้องแบบมืออาชีพ #SOOC (Straight Out Of Camera) โดยสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก และในส่วน Offline เรามีการจัดกิจกรรม Touch & Try ให้กับผู้ที่สนใจมารวมทดสอบประสิทธิภาพ กล้อง FUJIFILM X-S10 ได้ก่อนใคร สามารถติดตามข่าวประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ผ่าน Social Media ทั้ง Facebook, Instagram และ Line Official Account: @FujifilmXThai

พรหมมินทร์ กล่าวต่อว่า “พร้อมกันนี้เรายังได้มีการเปิด FUJIFILM X Space เพื่อใช้เป็นช่องทางการสื่อสารไปถึงลูกค้าที่สนใจกล้องระดับมืออาชีพ และสร้าง community แบบ Professional ยกระดับกล้องฟูจิฟิล์มให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ซึ่งภายใน FUJIFILM X Space ได้มีการแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซน Gallery ถือเป็นโซนไฮไลท์ที่รวบรวมผลงานของช่างภาพชื่อดังมาจัดแสดง เพื่อเปิดมุมมองและเรื่องราวของภาพถ่ายผ่านกล้องและเลนส์ของแต่ละช่างภาพให้ได้ชม โซน  workshop รองรับการทำกิจกรรมสำหรับกล้องระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีการเชิญ KOL ชื่อดังมารวมทำกิจกรรม ซึ่งแต่ละครั้งก็จะมีการจัดคอร์สอบรมด้านการถ่ายภาพ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย และโซน Touch & Try สำหรับลูกค้าที่สนใจกล้องและเลนส์ฟูจิฟิล์ม สามารถมาทดลองประสิทธิภาพ กล้องและเลนส์ระดับมืออาชีพในตระกูล X-Series และ GFX ทุกรุ่น ได้ก่อนใคร

ฟูจิฟิล์มพร้อมก้าวเป็นผู้นำและสร้างภาพลักษณ์การเป็นแบรนด์กล้องมิลเลอร์เลสระดับมืออาชีพ (Professional Level) และหวังว่าการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพจะมาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้งานของผู้บริโภคและมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” พรหมมินทร์ กล่าว

แฟนทิ้งแล้วไง!? คุณหมอบราซิลแต่งงาน กับตัวเองก็ได้ รักตัวเองสำคัญที่สุด!

account_circle

เจ้าบ่าวสุดหล่อ Dr. Diogo Rebelo อายุ 33 ปี คุณหมอบราซิลแต่งงาน คนเดียวแต่ไม่เดียวดาย เพราะงานนี้มีเพื่อนพ้อง ญาติ พี่ น้อง มากมายมาร่วมยินดีในงานแต่งงาน แต่อย่าถามหาคนรักอีกคน! เพราะนางเทคุณหมอจนทำให้เขาต้องแต่งงานกับตัวเอง!

ถึงจะโดนคู่หมั้นเท แต่ คุณหมอบราซิลแต่งงาน คนเดียวกับตัวเองก็ได้!

หมอบราซิลแต่งงาน

The love must go on เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศบราซิล โดยคุณหมอดิโอโกสุดหล่อขอแต่งงานและหมั้นกับคนรัก Vitor Bueno ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน และมีแผนว่าจะแต่งงานกันในปี 2020 แต่แล้วเรื่องกลับตาลปัตร หลังจากมีปากเสียงกันหลายต่อหลายครั้ง เขาก็ถูกคนรักบอกเลิกในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ก่อนถึงกำหนดวันแต่งงานเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น!!

หมอบราซิลแต่งงาน

งานนี้คุณหมอดิโอโกเลยต้องเข้มแข็งเดินเข้าประตูวิวาห์เพื่อแต่งงานกับตัวเองในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเมือง Itacare, Bahia ประเทศบราซิล โดยกล่าวกับแขกเหรื่อคนสนิทที่มาร่วมงานว่า

“วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิต ผมได้ยืนอยู่กับกลุ่มคนที่ผมรักมากที่สุด งานวันนี้เกือบจะต้องกลายเป็นความโศกเศร้า แต่สุดท้ายผมก็เปลี่ยนมันเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ผมใช้เวลาครุ่นคิดกว่าหนึ่งเดือนเกี่ยวกับงานแต่งงานครั้งนี้ แล้วผมก็ตัดสินใจว่า ผมต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และกลับมารักตัวเอง…”

หมอบราซิลแต่งงาน

สุดท้ายคุณหมอดิโอโกก็ตัดสินใจเดินหน้าจัดงานแต่ง โดยมีแขกร่วมให้กำลังใจกว่า 40 คน (จากที่เชิญไป 50 คน) งานนี้คุณหมอสุดหล่อกล่าวถึงเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นและโพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง กลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียลและมีคนเข้าไปให้กำลังใจคุณหมอกันแบบไม่ขาดสาย

หมอบราซิลแต่งงาน

แพรวเวดดิ้งคิดว่า ถึงแม้ในเวลาที่โศกเศร้าจากความรัก เราต้องอดทนและผ่านไปให้ได้ พร้อมกับการรักตัวเองและคนรอบข้างให้มากขึ้น เหมือนกับคุณหมอดิโอโกคนนี้

ติดตามเรื่องราวความรักและภาพงานแต่งอีกมากมายได้ที่ Real Weddings

ข้อมูลจาก : www.republicworld.com, gotravelblogger.com

ภาพจาก (Photo Credit) : drdiogorabelo

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเชิญชวนร่วมประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 รายการยิ่งใหญ่แห่งปี ในงาน The Power Band  ชิงเงินรางวัล รวมมูลค่า 680,000 บาท!!

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เชิญชวนร่วมประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ภายใต้ชื่อ The Power Band  ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 680,000 บาท เปิดเวทีให้นักดนตรีไทยได้แสดงศักยภาพทางดนตรีอย่างไร้ขีดจำกัด โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทบุคคลทั่วไป (Class E) ไม่จำกัดอายุ และสัญชาติ ประเภทมัธยมศึกษา (Class F) โดยต้องกำลังศึกษาไม่เกินระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ต้องอยู่ในสถาบันเดียวกันเท่านั้น) สำหรับการประกวดในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรีแถวหน้าของเมืองไทยร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน นำโดย พล-คชภัค ผลธนโชติ โปรดิวเซอร์มือทองค่ายเพลง Boxx Music, โอ-ทฤษฎี ศรีม่วง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ มิวสิกไดเรกเตอร์ แห่งวง Jetset’er รวมไปถึงนักปั้นศิลปินแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล เป็นต้น

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมการประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยมผสมเครื่องเป่า ประเภทบุคคลทั่วไป  (Class E)

1. สมาชิกในวง 8-14 คน โดยประกอบด้วยนักดนตรีในตำแหน่งดังต่อไปนี้
– นักร้อง  1 คน กลองชุด 1 คน
– เบส 1 คน กีตาร์ 1 คน
– คีย์บอร์ด 1 คน เครื่องเป่า 3 คน อื่นๆ (ถ้ามี) ไม่เกิน 6 คน

หมายเหตุ : อื่นๆ หมายถึง เครื่องดนตรีเพิ่มเติม อาทิ เครื่องสาย, เพอร์คัสชั่น, คอรัส, นักร้องนำหรือเครื่องเป่าเพิ่มเติมต้องระบุในแบบฟอร์มการสมัคร  (ไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ Sequencer Computer Data หรือดนตรีสำเร็จที่มีการเตรียมไว้ล่วงหน้า)

2. ไม่จำกัดอายุ และสัญชาติ

3. ผู้เข้าประกวดทุกคนต้องไม่อยู่ภายใต้สัญญากับสังกัดค่ายเพลงใดๆ

ประเภทมัธยมศึกษา (Class F)

1. สมาชิกในวง 8-14 คน โดยประกอบด้วยนักดนตรีในตำแหน่งดังต่อไปนี้
– นักร้อง  1 คน กลองชุด 1 คน
– เบส 1 คน กีตาร์ 1 คน
คีย์บอร์ด 1 คน เครื่องเป่า 3 คน อื่นๆ (ถ้ามี) ไม่เกิน 6 คน

หมายเหตุ : อื่นๆ หมายถึงเครื่องดนตรีเพิ่มเติม อาทิ เครื่องสาย, เพอร์คัสชั่น, คอรัส, นักร้องนำหรือเครื่องเป่าเพิ่มเติมต้องระบุในแบบฟอร์มการสมัคร  (ไม่อนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ Sequencer Computer Data หรือดนตรีสำเร็จที่มีการเตรียมไว้ล่วงหน้า)

2. กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยม (ไม่เกินระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และต้องอยู่ในสถาบันเดียวกันเท่านั้น)
3. ผู้เข้าประกวดทุกคนต้องไม่อยู่ภายใต้สัญญากับสังกัดค่ายเพลงใดๆ
4. ในรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องใส่ชุดนักเรียนของสถาบันของตัวเองเท่านั้น

ข้อกำหนดของผลงานที่ส่งเข้าแข่งขันรอบคัดเลือก

1. ใช้เพลงในการแข่งขันรอบคัดเลือกทั้งหมด 2 เพลง แบ่งเป็น เพลงเร็ว 1 เพลง และเพลงช้า 1 เพลง
2. ความยาวของเพลงที่ส่งเข้าแข่งขัน ในแต่ละเพลงจะต้องไม่ต่ำกว่า 3 นาที และไม่เกิน 6 นาที
3. อัพโหลดไฟล์วีดีโอที่ส่งเข้าประกวดขึ้น Youtube และในขั้นตอนการอัพโหลดต้องตั้งค่าวิดีโอให้เป็น
Unlisted เท่านั้น พร้อมแนบลิงค์วีดีโอที่ทำการอัพโหลดในใบสมัคร
4. เอกสารยืนยันตัวตน :
– ประเภทบุคคลทั่วไป สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาพาสปอร์ต ของสมาชิกทุกคนในวง จำนวนคนละ 1 ชุด
ประเภทมัธยมศึกษา สำเนาหนังสือรับรองการศึกษาจากสถาบัน / โรงเรียน ที่กำลังศึกษาอยู่ จำนวน 1 ชุด

สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าแข่งขันในงาน The Power Band  สามารถสมัครได้ฟรี!! และสมัครออนไลน์ได้ที่ www.music.mahidol.ac.th/tiwsc ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 – 5 มกราคม 2564 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 02-800-2525 ต่อ 3109 หรือ Facebook : Thailand International Wind Symphony Competition

อะเดล เมคอัพเด่น

ขึ้นชื่อว่า อะเดล เมคอัพเด่น ไม่เคยดร็อป ไม่ว่าจะอ้วนหรือผอมก็ปังทุกลุค

Alternative Textaccount_circle
อะเดล เมคอัพเด่น
อะเดล เมคอัพเด่น

ไม่ว่าจะมาในลุคอวบแบบเมื่อก่อนหรือผอมเพรียวลมแบบปัจจุบัน ก็ไม่มีอะไรสามารถปิดกั้น ความสวยของอะเดลได้ มิวสิกวิดีโอโปรดักชั่นสุดเจ๋ง ท่วงทำนองดราม่าจัดๆ เสียงร้องที่เหลือเชื่อ แต่ที่ขโมยซีนอีกอย่างก็คือ “เมคอัพ” เรียกได้ว่า อะเดล เมคอัพเด่น ไม่เคยดร็อปเลยจริงๆ

ก็บอกแล้วว่า อะเดล เมคอัพเด่น ลุคที่ทุกคนจำได้คือสไตล์ย้อนยุคเหมือนนางเอกหนังฮอลลีวู้ดรุ่นคุณแม่ เมคอัพที่มีความเป็นเฟมินีนอย่างแท้จริง งานผิวเรียบเนียนกริบราวกับกระเบื้องเคลือบ เรียวปากอิ่มขอบคมงดงาม คอนทัวร์แน่นๆ ชัดๆ เน้นโหนกแก้มให้ โดดเด่น และที่ขาดไม่ได้คืออายไลเนอร์ปังๆ ที่ส่งให้ดวงตาสะกดคนดูไปได้พร้อมกับเสียงเพลง

ขึ้นชื่อว่า อะเดล เมคอัพเด่น ไม่เคยดร็อป

ขึ้นชื่อว่า อะเดล เมคอัพเด่นไม่เคยดร็อป

เมื่อภาพถูกโคลสอัพจะรู้เลยว่าเมคอัพของอะเดลนั้น เนี้ยบชนิดที่เหมือนผ่านการโฟโต้ชอป แต่กว่าจะได้ลุคซิกเนเจอร์อย่างที่เห็นในเอ็มวีนั้น ต้องใช้บิวตี้โปรดักต์มากถึง 39 ชิ้น

สวยจับใจ แต่หลายคนสงสัยว่าทำไมอะเดลต้องมาในลุคย้อนยุค ให้เธอตอบเองเลยดีกว่า “เราทำการบ้านเรื่องนี้กันหนักมาก ต้องให้เครดิตทีมงานและเมคอัพอาร์ติสต์ ประจำตัว ‘Michael Ashton’ ที่ช่วยกันหาสไตล์ที่เป็นตัวฉันจนเจอ โดยฉันเล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัว แรงบันดาลใจในการทำเพลงให้ทีมงานฟัง บวกกับตัวเพลงที่มีความเป็นดราม่า เราจึงลงตัวที่การนำเรเฟอเรนซ์จากหนังย้อนยุค ภาพเก่า สไตล์ของละครเวทีมาผสมจนเป็นเมคอัพที่สวยสุดๆ อย่างที่เห็น

“อายไลเนอร์ของฉันไม่ได้เขียนสวยสำเร็จรูปในครั้งเดียว แต่เมื่อเมคอัพอาร์ติสต์ค่อยๆ ทำความรู้จักกับใบหน้าของฉันดีขึ้นเรื่อยๆ รูปทรงก็ค่อยๆ ถูกปรับจนกระทั่ง ทุกคนบอกว่ามันสมบูรณ์แบบ

“แม้จะคิดกันแทบแย่ แต่ก็ยังไม่วายถูกเปรียบเทียบ กับ ‘เอมี่ ไวน์เฮ้าส์’ ทั้งเพลงและลุค ดูสิ!…อะเดลทำทรงผมแบบรังผึ้งเลียนแบบเอมี่ ฉันอึดอัดใจมากๆ และไม่ชอบ การเปรียบเทียบเลย ต่อให้ฉันกับเอมี่ทำผมทรงเดียวกันเป๊ะ เราก็ดูดีกันคนละแบบ ผู้หญิงคืองานศิลปะ ไม่มีใครก๊อปใคร แล้วจะดูดีหรอก” ถ้าอินเนอร์ไม่ใช่ แต่งอย่างไรก็ไม่รอดค่ะ


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 961
ภาพ : #adele

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดราม่า Adele ผอมไป! อดีตเทรนเนอร์ออกโรงป้อง พร้อมแชร์ทิปส์ดูแลสุขภาพง่ายๆ

เกินต้าน! ส่องหุ่นสุดแซ่บ “แคธรีน ลี” นักแสดงสาวชาวมาเล เอวเล็กไซส์ XXS

ไม่เคยอดอาหาร! จีจี้ ฮาดิด กับสูตรไม่ลับฉบับหุ่นเพรียว แม้ชอบกินเบอร์เกอร์

 

 

พลังใจมาเต็ม! เจาะมุมมองชีวิตและการทำงาน 4 ผู้บริหารหญิงแกร่ง ดีกรีแม่ทัพ ปตท.

นี่คือบทสัมภาษณ์ที่ทำให้เราเห็นถึง พลังของผู้บริหารหญิงที่อยู่ในแวดวงไม่ธรรมดาอย่างเรื่องพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หนึ่งในองค์กรที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมกันในเรื่องการทำงาน เห็นได้จากบทสัมภาษณ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยไฟแห่งความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจในการทำงาน ซึ่งเกิดจากมุมมองการใช้ชีวิตของผู้หญิงที่เก่ง แกร่ง และสามารถก้าวขึ้นมาเป็นคนทำงานแถวหน้าได้อย่างแท้จริง

พรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ปตท.

หนึ่งในทีมผู้บริหารหญิงที่ทำหน้าที่ดูแลการเงินและบัญชีขององค์กรที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ชื่นชอบการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทั้งการท่องเที่ยวและติดตามเทคโนโลยี และนำมาปรับใช้กับงานและสร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิต 

ด้วยความที่งานค่อนข้างเครียด ช่วงวันหยุดมักหาโอกาสผ่อนคลายด้วยการเดินทางท่องเที่ยวกับเพื่อน ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้เวลาว่างหาข้อมูลท่องเที่ยวแล้วชวนเพื่อน ๆ ไปด้วยกัน สิ่งที่ชื่นชอบคือการท่องเที่ยวทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่นและเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 เวลาเดินทางและได้เห็นชาวบ้านที่ลำบาก รู้สึกเห็นใจและอยากช่วยสนับสนุน ดังนั้นในช่วงนี้เวลาที่เดินทางท่องเที่ยวก็จะโพสต์ชวนเพื่อน ๆ ในเฟซบุ๊กส่วนตัวให้ไปเที่ยวเมืองไทยกันเยอะ ๆ เพื่อช่วยกระจายรายได้ให้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

หากพูดถึง ปตท. นอกจากการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้ประเทศแล้ว ปตท. ยังให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย เป็นแรงขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งยังนำไปใช้ดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ปตท. ก็เป็นหนึ่งในกลไกของรัฐที่ดำเนินตามนโยบาย Restart Thailand ด้วยมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายด้าน เช่น การจ้างงานของกลุ่ม ปตท. มากกว่า 25,000 อัตรา (ปี2563 2564) สนับสนุนให้พนักงานท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน เป็นต้น ในส่วนของ ปตท. เองก็ต้องรักษาสภาพคล่อง วางแผนการใช้เงิน และการจัดหาเงินอย่างรอบคอบ เพราะไม่รู้ว่าวิกฤติครั้งนี้จะมีผลกระทบยาวนานขนาดไหน เราจึงต้องรักษาความแข็งแกร่งและเสถียรภาพทางการเงิน  รักษาวินัยทางการเงิน สร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทั้งนี้สายงานการเงินและการบัญชีมีบทบาทสำคัญในการร่วมกำหนดกลยุทธ์และนโยบายองค์กรในภาวะวิกฤติ เช่น ลด ละ เลื่อน ค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน จัดลำดับความจำเป็นของการลงทุน รวมถึงมีแผนบริหารความเสี่ยง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอน 

เช่น เราเตรียมจัดหาเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ โดยได้จัดหาเงินล่วงหน้า (PreFund) ผ่านการออกหุ้นกู้ทั้งสกุลเงินบาทและเหรียญสหรัฐ ช่วงเดือนมิถุนายน กรกฎาคม จำนวน 56,000 ล้านบาท รักษาอันดับความน่าเชื่อถือของ ปตท. ให้มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ดีเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน เจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นกู้ วิเคราะห์และบริหารความเสี่ยงของคู่ค้าและลูกค้า โดยจ่ายเงินให้คู่ค้าตามกำหนดเวลา ดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และมีมาตรการให้ความช่วยเหลือคู่ค้าที่เหมาะสม เรียกได้ว่า ‘ช่วยเขาด้วย  ช่วยเราด้วย’ และ ปตท. ขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคธุรกิจสามารถฟันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้ 

อีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนรู้และเข้าใจดีคือ โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว ไม่เว้นแม้แต่งานการเงินและบัญชีที่ดิฉันดูแลอยู่ เราจึงต้องศึกษาและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต เช่น FinTech, Big Data เป็นต้น ซึ่ง ปตท. ได้นำเทคโนโลยี Robotic Process Automation (RPA) มาช่วยทำงานด้านบัญชีในส่วนงานที่ทำซ้ำๆ ไม่มีความซับซ้อน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดเวลาการทำงาน เพราะ RPA ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

สิ่งที่สำคัญและท้าทายมากไม่แพ้เรื่องอื่นๆ คือ การเตรียมความพร้อมของพนักงานในสายงานการเงินและบัญชี ซึ่งมีจำนวนกว่า 300 คน ต้องสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นในการทำงาน (UpSkill) พร้อมทั้งยกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น (ReSkill) ให้มีความพร้อมทำงานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นรอบตัวให้เป็นประโยชน์มากที่สุด

ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนจึงเชื่อมั่นว่า ปตท. ในฐานะองค์กรชั้นนำของประเทศ  มีความแข็งแกร่ง  ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง สามารถบริหารจัดการด้านการเงินภายใต้ภาวะวิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพียงพนอ บุญกล่ำ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักกฎหมาย ปตท.

ปัจจุบันประเทศไทยมี CEO และผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้หญิงสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นอันดับ 2 ของโลก ดังนั้นในการทำงานทุกวันนี้จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะฝึกฝนหรือพัฒนาตัวเองอย่างไร

“ดิฉันชอบการอ่านหนังสือและการเดินทางท่องเที่ยวมาก ซึ่งไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นการไปเที่ยว  แต่รวมถึงการเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ สมัยอายุยังน้อยก็ชอบธรรมชาติ แต่พอมีอายุหน่อยก็มีความสนใจหลากหลายขึ้น ชอบศึกษาและเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ผู้คน ศิลปะ วัฒนธรรม เมื่อประกอบกับการชอบอ่านหนังสือทำให้เราเห็นโลกกว้าง เข้าใจผู้คนมากขึ้น เมื่อโลกเรากว้าง ใจก็กว้างขึ้นด้วยเช่นกัน 

ยิ่งเราทำงานด้านกฎหมายด้วยแล้ว ยิ่งต้องเปิดใจรับฟังและทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น บางคนอาจไม่เห็นว่ากฎหมายสำคัญกับชีวิต ทั้งที่ชีวิตผู้คนยุ่งเกี่ยวกับกฎหมายตลอดเวลา ยิ่งสังคมซับซ้อน ยิ่งมีปัญหายากขึ้น เราจึงได้ยินผู้คนพูดถึงเรื่องประเด็นทางกฎหมายบ่อยขึ้น 

แค่ขับรถออกจากบ้านก็เจอกฎหมายจราจรแล้ว คนทำธุรกิจอาจเจอปัญหาปลดพนักงานออก ต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายแรงงาน หรือถ้าต้องเลิกกิจการ ก็เกี่ยวข้องกับกฎหมายล้มละลายฟื้นฟูกิจการ หรือแม้จะไม่ได้ทำธุรกิจ ก็มี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ว่าโพสต์แบบไหนผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย รวมถึงกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ

จะเห็นว่าชีวิตเราอยู่กับกฎหมายตลอดเวลา ซึ่งกฎหมายเมืองไทยมีเยอะมาก เราจำได้ไม่หมดหรอก แต่นักกฎหมายถูกฝึกให้คิดถึงเหตุผลการออกกฎหมายแต่ละฉบับว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร กฎหมายบางฉบับไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เมื่ออ่านแล้วจะเข้าใจว่า วัตถุประสงค์ของกฎหมายนั้นๆ เพื่ออะไร ซึ่งคนที่ไม่ได้เรียนกฎหมายมักบ่นว่ากฎหมายพูดถึงอะไร เขาไม่เข้าใจภาษานักกฎหมาย

ดิฉันจึงได้เริ่มเปิดเพจในเฟซบุ๊ก ‘In House : Matters that Matter เขียนบทความอ่านง่ายๆ ให้นักกฎหมายภายในหรือ Inhouse Lawyers นำไปใช้ แต่พอเกิดโควิด-19 ธุรกิจได้รับผลกระทบมาก กิจการต่างๆ ทยอยปิดตัวลง สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีแนวคิดรวมผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีประสบการณ์ด้านต่างๆ รวมทั้งผู้ที่จะสื่อความด้านกฎหมายมาร่วมกันทำเพจ ‘ห่วงใย Thai Business เรารับจัด Legal in Action ตั้งใจพูดเรื่องกฎหมายให้ฟังเข้าใจง่ายๆ นำไปใช้กับธุรกิจได้ โดยไลฟ์สดหนึ่งชั่วโมงครึ่งจากเดิม 45 นาที มีคนติดตามเฉลี่ยในแต่ละตอน 4 5 พันคน ถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ต่อไปเราจะทำเป็นพ็อดแคสต์สั้นๆ 1530 นาทีให้ได้ฟังด้วย

ในฐานะที่ดิฉันทำงานด้านกฎหมายมานาน และดูแล ปตท. ซึ่งเป็นทั้งรัฐวิสาหกิจ และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สำนักกฎหมายของเรามีจำนวนนักกฎหมาย เทียบเท่าสำนักงานกฎหมายขนาดกลาง เนื่องจากมีกฎหมาย กติกา และธุรกรรมมากมาย จึงแบ่งการทำงานออกเป็นฝ่ายต่างๆ เหมือนสำนักงานกฎหมาย ทั้งฝ่ายดูแลคดี ดูแลสัญญา ดูแลการลงทุน หน่วย Compliance และหน่วยให้บริการด้านกฎหมายกับบริษัทในเครือ ถ้าขยายการลงทุนกับต่างประเทศ จำเป็นต้องประสานนักกฎหมายต่างประเทศหรือพึ่งพานักกฎหมายภายนอก ถ้ามีประเด็นใหญ่ๆ เกิดขึ้นกับบริษัทในเครือที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เราก็ต้องให้คำปรึกษาด้วย เรียกได้ว่ามีงานเต็มมือ

แต่งานที่ถือเป็นความท้าทายอย่างมากคืองานบริหาร โดยเฉพาะการสร้างคนรุ่นใหม่ให้สามารถนำพาและเป็นคู่คิดให้กับคนในองค์กรเพื่อก้าวไปข้างหน้า โดยมีฝ่ายกฎหมายช่วยระวังหลังให้ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน  ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกและเทคโนโลยีที่มีการแข่งขันและท้าทายมากขึ้น ถือเป็นความท้าทายสำหรับดิฉันว่าเราจะสร้างคนรุ่นใหม่แบบไหน อย่างไร 

“เรื่องสำคัญที่สุดคือการปรับ Mindset ว่าโลกภายนอกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ต้องยอมรับว่าทุกคนมีข้อผิดพลาดได้ ตราบใดที่ไม่ใช่เรื่องทุจริต รวมทั้งการลดขั้นตอนการบริหารจัดการ เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในการคิดและตัดสินใจ ส่วนเราทำหน้าที่เป็นโค้ช นอกจากนี้สำนักกฎหมายและนักกฎหมายต้องเข้าใจการทำธุรกิจสามารถเป็นคู่คิดได้ ขณะเดียวกันต้องรู้ว่าเส้นแบ่งไหนอันตราย ข้ามไม่ได้ เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องฝึกเรื่อยๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าในอนาคต”

อรวดี โพธิสาโร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร ปตท.

กิจกรรมที่ดิฉันชอบทำคือการไปเที่ยวพร้อมกับหาของอร่อยๆ ทานกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง เพราะเป็นคนชอบชิม ถ้าทราบว่าร้านไหนอร่อยจริง ต่อให้ไปไกลขนาดไหนหรือต้องรอเป็นชั่วโมงก็ไป ถือเป็นการปลดปล่อยและสอนให้รู้จักความอดทน ซึ่งการรอแบบนี้ก็ทำให้เราเข้าใจลูกน้องด้วย เพราะบางครั้งกว่าเขาจะส่งงานให้เราได้ เขาเองก็ต้องรอข้อมูลจากหน่วยงานอื่นเหมือนกัน การที่เราไปเร่งก็ไม่ต่างอะไรกับการนั่งรอคิวร้านอาหาร เพราะเร่งไป เมื่อไม่ได้ก็คือไม่ได้ ต้องรู้จักปล่อยวาง 

นอกจากนี้ดิฉันยังให้ความสำคัญกับสุขภาพ ยอมรับว่าเมื่อก่อนไม่ชอบออกกำลังกาย แต่พอคิดว่าถ้าตัวเราไม่ทำแล้วใครจะทำแทนได้ จึงชอบออกกำลังกายมาจนถึงทุกวันนี้ ยิ่งทำแล้วเห็นผล ยิ่งตั้งใจทำมากขึ้น  เวลาทำสิ่งใดจึงชอบมองเห็นผลที่จะได้ เพราะความตั้งใจอยู่ที่ตัวเรา ซึ่งตรงนี้สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานได้ด้วย เพราะงานด้านกลยุทธ์องค์กรคือการวางทิศทางการดำเนินธุรกิจหรือประเมินสภาพธุรกิจในอนาคต โดยใช้ข้อมูลที่คาดว่ามีโอกาสจะเกิด รวมทั้งประมวลจากสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันว่า ธุรกิจที่องค์กรทำนั้นจะไปต่อในระยะยาวได้แค่ไหน หรือถ้าธุรกิจปัจจุบันไม่ตอบโจทย์ ในอนาคต เราจำเป็นต้องวางกลยุทธ์ว่าจะทำแผนธุรกิจอย่างไรให้สามารถเสริมสร้างให้องค์กรได้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งแต่ละกลยุทธ์นั้นมีรายละเอียดและการนำไปใช้หลายระดับ ขึ้นอยู่กับการวางแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว รวมทั้งต้องมีการทบทวนกลยุทธ์เป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นการคาดการณ์ถึงผลที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง 

สำหรับกลยุทธ์ธุรกิจประจำที่ทุกบริษัทหรือองค์กรต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันคือ การลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ แต่พอเกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่ง ปตท. เองไม่เคยเจอมาก่อน  ส่งผลให้มีการลดการใช้พลังงาน ราคาน้ำมันและพลังงานตกลง การวางแผนอนาคตขององค์กรที่เราต้องมองล่วงหน้าสิบปี ในปีนี้เราจึงต้องทบทวนกลยุทธ์ใหม่หมด พร้อมกับนำกลยุทธ์ 4R ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใช้มองทั้งระยะสั้นและระยะยาวมาใช้ในวิกฤตินี้

4R ประกอบด้วย Resilience  ต้องปรับตัวให้ทันสถานการณ์  เช่น  ปตท. มองว่าวิกฤติโควิด-19 จะทำให้ภาวะต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศแย่ไปถึงสองปี หลักสำคัญในเวลานี้คือบริหารการเงินใช้อย่างระมัดระวัง ต้อง ลด  ละ  เลื่อน ดูว่าสิ่งใดต้อง ลดคือทำน้อย สิ่งใดที่ไม่ต้องการทำเลยคือละ และอะไรที่ต้องทำแต่เลื่อน ออกไปก่อนได้ สิ่งสำคัญในการทำให้กลยุทธ์นำไปสู่การปฏิบัติได้คือ ข้อมูลที่เรานำไปบอกคนอื่นหรือหน่วยงานอื่นๆ ต้องมีน้ำหนักพอที่จะทำให้เขาเชื่อว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความรุนแรงและเข้มข้นในระดับใดและควรเข้าไปดำเนินการอย่างไร Restart เมื่อทุกอย่างพร้อมกลับสู่สภาพปกติ ปตท.  ต้องพร้อมทำงานทันที บริษัทในเครือของเราทำธุรกิจคล้ายกันจำนวนมาก จึงต้องมาคุยกันมากขึ้นว่าจะบริหารองค์กรร่วมกันอย่างไร เป็นต้น  Re-imagination คือการจินตนาการว่าในอนาคตของ ปตท. ควรทำอะไรเพื่อรับกับ New Normal อย่างช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันลดลง และมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไประดับเดิมได้ยากมาก เพราะเป็นการปรับเปลี่ยน Demand/Supply อย่างฉับพลัน เมื่อก่อนสินค้าล้นตลาดจนไม่จำเป็นต้องผลิตเอง อาจนำเข้าจากประเทศที่มีฐานการผลิตต้นทุนต่ำ เช่น จีน แต่ทุกวันนี้โลจิสติกส์ระหว่างประเทศยังมีปัญหา หลายประเทศจึงต้องสร้างฐานการผลิตของตัวเองขึ้นมาเอง และ Reform คือปรับกระบวนการโครงสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในธุรกิจใหม่ๆ ที่มีความเป็นไปได้  เช่น New Energy, Battery & Hydrogen Fuel Oil หรือแม้กระทั่งธุรกิจ Life Science ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เมื่อเราวางกลยุทธ์แล้ว ต้องมีการติดตามผลอย่างจริงจังด้วย ถ้าทำแล้วดี ได้ตามเป้า ก็ดำเนินต่อไป  ถ้าไม่ดีต้องมาทบทวนกันใหม่ การทำหน้าที่วางกลยุทธ์จึงต้องประมวลผลการดำเนินงานของทุกฝ่ายในองค์กรได้ทั้งหมด

ดวงพร เที่ยงวัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กำกับดูแลองค์กรและกิจการสัมพันธ์ ปตท.

ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของดิฉันค่อนข้างเป็นไปตารมเทรนด์ในแต่ละยุคสมัย สมัยเด็กมีซีรี่ส์ญี่ปุ่นฮิตกันทั่วเมืองเรื่อง ยอดหญิงสิงห์สนาม ที่นางเอกมุ่งมั่นฝ่าฝันอุปสรรคจนเป็นแชมป์เทนนิส รู้สึกอยากเก่งอย่างนางเอกบ้าง ก็ไปฝีกเรียน แข่งรายการต่างๆ กลายเป็นกีฬาที่คลั่งไคล้ตลอดจนมาถึงวัยทำงาน

ในช่วงวัยทำงานเขาฮิตกอล์ฟกับดำน้ำ ก็ไปเรียน เมื่อมาเป็นผู้บริหารจะเน้นออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เช่น การปั่นจักรยาน การทำกิจกรรมยามว่างทำให้ได้เรียนรู้ว่า เมื่อเราสนใจอะไรและตั้งใจเรียนรู้สิ่งนั้น เท่ากับเป็นการฝึกทักษะ เปิดประสบการณ์ มุมมอง แนวคิด ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานได้เสมอ เช่น เทนนิส ทำให้เราได้ฝึกวางแผนกลยุทธ์ การดำน้ำเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ ได้เห็นวิถีชีวิตของสรรพสิ่งใต้น้ำที่แตกต่างไป ทำให้เข้าใจและยอมรับความแตกต่างของผู้คนได้มากขึ้น การปั่นจักรยานที่สนามบินสุวรรณภูมิที่มีความยาว 23.5 กิโลเมตร เมื่อเข้าในสนามแล้วต้องปั่นให้จบ เป็นการฝึกความมุ่งมั่นอดทนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

 หลายคนชอบถามว่าการเป็นผู้บริหารหญิงในองค์กรด้านพลังงานที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นสายงานของผู้ชาย ต้องมีวิธีคิดและวางตัวต่างออกไปไหม อยากจะบอกว่าการที่เราจะก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนา เพิ่มความรู้ความสามารถ ให้เขามั่นใจว่าเราสามารถรับผิดชอบงานระดับสูงได้ โชคดีที่ดิฉันเรียนด้านวิศวกรรมและการบริหารมา ทำให้เข้าใจในธุรกิจขององค์กรและสามารถบริหารงานได้ไม่ยากเกินไป เริ่มตั้งแต่สมัยทำงานเป็นวิศวกรโรงกลั่นน้ำมัน จนมาทำงานบริหารในสายธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมี ก่อนจะย้ายมาทำงานในตำแหน่งปัจจุบัน โชคดีที่ ปตท. และองค์กรหลายๆ แห่งของบ้านเราทุกวันนี้ให้โอกาสผู้หญิงมากกว่าแต่ก่อน โดยดูจากความสามารถมากกว่าจะมองว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ก็อยากเห็นว่าสักวันหนึ่ง CEO ปตท. จะเป็นผู้หญิง 

หลักสำคัญที่ดิฉันนำมาใช้ในการบริหารเสมอๆ คือ ต้องตัดสินใจให้ทันเวลาบนพื้นฐานข้อมูลและข้อเท็จจริงมากที่สุด ต้องตั้งเป้าหมายความสำเร็จที่ชัดเจนร่วมกับทีมงาน เปิดรับฟังข้อคิดเห็นหรือข้อกังวล  และคอยสนับสนุนพวกเขาให้ทำงานได้อย่างราบรื่น

งานที่รับผิดชอบมี 3 งานหลัก ได้แก่ งานกำกับกับดูแลธรรมาภิบาลขององค์กร (Governance, Risk, Compliance) ที่มุ่งเน้นให้มีการกำกับดูแลอย่างเหมาะสมในกระบวนการทำงานทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาด ทุจริต หรือการทำผิดกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ส่วนที่สองคือ งานกิจการเพื่อสังคม พัฒนาชุมชนและสังคมให้เติบโตไปพร้อมกับการเติบโตทางธุรกิจของ ปตท. อย่างยั่งยืน ส่วนสุดท้ายคือ งานบริหารชื่อเสียงองค์กร  ซึ่งต้องสื่อสารให้เข้าถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ให้เขาเข้าใจตัวตนและบริบทขององค์กร เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยเหลือสังคมของ ปตท. เพื่อให้เขาชื่นชอบและสนับสนุนการทำธุรกิจของ ปตท. ต่อไป 

เราได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ในการทำงาน เช่น การทำระบบรับข้อร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสทุจริตผ่านระบบออนไลน์ และใช้ Data Analytic เพื่อจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบและรวดเร็ว  รวมทั้งนำความรู้ความสามารถเรื่องเทคโนโลยีพลังงาน เทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ และการบริหารจัดการมาประยุกต์ ใช้ในโครงการ ‘ชุมชนยิ้มได้’ ที่ ปตท. ได้ริเริ่ม โดยมี  2 โครงการหลัก คือ

Smart Farming เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยเกษตรกรลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มผลิตผล เช่น ติดตั้งโซลาร์เซลล์ใช้กับเครื่องมือเกษตรกรรม การใช้โดรนวิเคราะห์พื้นที่ รดน้ำและปุ๋ย 

Smart Marketing เป็นการทำแพลตฟอร์มออนไลน์ www.ชุมชนยิ้มได้.com เพื่อให้ชุมชนนำผลผลิตมาโพสต์ขาย ช่วยยกระดับคุณภาพสินค้าและแพ็คเกจ รวมทั้งการจัดส่งและการตลาดออนไลน์ 

เชื่อมั่นว่าการพัฒนาชุมชนและสังคมในรูปแบบการมีส่วนร่วมจะส่งผลให้สังคม ชุมชน และประเทศมีความยั่งยืน

กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa

ล้วงดีเทล กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa ไอเท็มที่ถูกตามหามากที่สุดแห่งยุค

กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa
กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa

เตรียมเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีในปี 2021 กับการกลับมาอีกครั้งของ กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa สุดยอดไอคอนิก ที่สาวๆ หลายคนหลงรัก พร้อมทั้งพัฒนาวัสดุและขั้นตอนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

Mulberry เปิดตัวกระเป๋า Alexa เป็นครั้งแรกในปี 2010 ซึ่งการออกแบบนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากทัศนคติและความมั่นใจของนางแบบชื่อดังอย่าง Alexa Chung กระเป๋า Alexa ถูกประดับ Postman’s Lock ซึ่งเป็นตัวล็อกอันเป็นเอกลักษณ์ของ Mulberry

โดย Alexa Chung นั้นนับเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์ เรามักจะเห็นภาพเธอถือกระเป๋าเอกสารสไตล์วินเทจจาก Mulberry ติดตัวเสมอ และด้วยเหตุนี้ทีมดีไซน์จึงได้รังสรรค์กระเป๋ารุ่น Alexa ขึ้น ด้วยการนำกระเป๋าทรงคลาสสิกของแบรนด์มาปรับให้ดูทันสมัยและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น Alexa กลายเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์สำคัญของ Mulberry และเป็นกระเป๋าอีกหนึ่งรุ่นที่สาวๆ ตามหามากที่สุดแห่งยุค

กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa

กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa สีดำ

การกลับมาในครั้งนี้ Mulberry ได้ปรับดีไซน์เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อโลก โดยกระเป๋า Alexa ทั้งหมดจะถูกผลิตขึ้นจากหนังที่ฟอกสีตามมาตรฐาน gold standard ได้รับการรับรองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และจะถูกตัดเย็บขึ้นที่โรงงานของ Mulberry ในประเทศอังกฤษ ซึ่งจะมีการชดเชยปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์เพื่อช่วยลดภาวะเรือนกระจก (carbon-neutral) และทำให้กระเป๋า Alexa กลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของกระเป๋าลักซ์ชัวรี่ที่ดูทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

กระเป๋า Alexa จะถูกนำเสนออีกครั้งในหลากหลายเฉดสี ตั้งแต่สีในโทนสบายๆ อย่างเอิร์ธโทน เช่น สีเทา (Charcoal) สีน้ำตาล (Chestnut) และสีขาว (Chalk) ไปจนถึงสีที่ให้อารมณ์สนุกๆ อย่างสีชมพูนีออน (Neon Pink) และสีเหลืองนีออน (Neon Yellow) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสดใสให้กับเทศกาลแห่งความสุขที่ใกล้เข้ามา

กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa สีน้ำตาล กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa สีขาว

นอกจากนี้ Mulberry ยังได้นำเสนอกระเป๋า Alexa ในโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ อันได้แก่ สีเขียวเข้ม (Mulberry Green) สีเหลือง (Deep Amber) และสีดำ (Black) โดยกระเป๋า Alexa นั้นจะมีให้เลือกใน 3 ขนาด ได้แก่ ขนาดเล็ก (Mini Alexa) ขนาดกลาง (Alexa) และขนาดใหญ่ (Oversized Alexa)

ราคาของ กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa แต่ละไซส์คือ

Oversized Alexa (ขนาดใหญ่) 54,000 บาท

Alexa (ขนาดกลาง) 45,000 บาท

Mini Alexa  (ขนาดเล็ก) 37,000 บาท

กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa สีขาว ไซส์เล็ก กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa สีเขียวเข้ม กระเป๋าแบรนด์ Mulberry รุ่น Alexa สีเหลือง


ภาพ : Mulberry

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

มันคืออุปทานหมู่! กระเป๋าแบรนด์ Louis Vuitton รุ่น Vanity โฉมใหม่ คนดังใช้ตรึม

กลับมาท็อปฟอร์ม! เมแกน ร่วมรำลึกทหารวีรชน ลุคเดียวฟาดไป 6 แสนบาท

สวยหรูทุกมุม กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta รุ่น The Handle ถือแล้วคนต้องมอง!

 

คิง เพาเวอร์ คว้ารางวัลความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นเลิศระดับเอเชียเป็นปีที่ 2

คิง เพาเวอร์ คว้ารางวัลความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นเลิศระดับเอเชียเป็นปีที่ 2 ‘Asia Responsible Enterprise Awards 2020’ ด้าน Social Empowerment สร้างชุมชน สร้างสังคมเข้มแข็งอย่างยั่งยืนด้วยพลังคนไทย

กรุงเทพฯ 24 กันยายน 2563 – นับเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทคนไทยอีกครั้ง เมื่อ ‘คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย’ โครงการเพื่อสังคมโดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้รับมอบรางวัลอันทรงเกียรติต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากงานประกาศรางวัล ‘Asia Responsible Enterprise Awards 2020’ หรือ AREA 2020 ด้าน Social Empowerment หรือ การสร้างความเข้มแข็งให้สังคม จากจำนวนผู้ส่งโครงการเข้าประกวดทั้งสิ้น 200 โครงการ จาก 19 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย จัดขึ้นโดย Enterprise Asia องค์กรอิสระที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมแบบองค์รวมในเอเชีย และมุ่งส่งเสริมการพัฒนาความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรต่างๆ ในภูมิภาค เพื่อยกระดับสถานภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมให้ยั่งยืนต่อไป โดยในปีนี้ ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเป็น Virtual Event ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ และมีผู้ร่วมชมผ่านระบบออนไลน์กว่า 600 คนจากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจอันดีของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่เชื่อมั่นในศักยภาพ
และพลังของคนไทย และความสำเร็จนี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ พันธมิตรต่างๆ คณะผู้บริหาร พนักงานในองค์กร คู่ค้า ชุมชน และประชาชน ที่ล้วนแต่มีส่วนร่วมให้โครงการต่างๆ บรรลุความสำเร็จด้วยดี ตามที่ตั้งเป้าไว้ เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่เราได้บ่มเพาะ ดูแล และให้ความสำคัญจนถึงวันที่เราเห็นเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นแตกดอกออกผลอย่างงดงาม โดยรางวัลนี้ เป็นเพียงภาพสะท้อนของความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเจตนารมณ์อันดีของกลุ่มบริษัทฯ ที่ต้องการเห็นเยาวชน ชุมชน และสังคมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของชุมชน และสังคมไทย ครบทุกมิติต่อไป

นับตั้งแต่ปี 2560 คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้มอบโอกาส สร้างรอยยิ้ม และสร้างความเข้มแข็งในกว่า 4,000 โรงเรียน 400 ชุมชนทั่วประเทศ ครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่ กีฬา (Sport Power) ดนตรี (Music Power) และชุมชน (Community Power) ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย อาทิ โครงการล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย ที่ตั้งเป้ามอบลูกฟุตบอลมาตรฐานให้กับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลทั่วทั้งประเทศ 1 ล้านลูก, โครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย ที่สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมขนาดมาตรฐานระดับโลกและมอบให้กับโรงเรียน หรือชุมชนที่ขาดแคลน, โครงการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติเพื่อเป็นเวทีให้นักดนตรีจากทั่วโลกได้มีพื้นที่ในการแสดงความสามารถ และโครงการส่งเสริมสินค้าชุมชนไทยก้าวไกลไปเวทีโลก ชูจุดแข็งและภูมิปัญญาของชาวบ้าน และต่อยอดสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ พร้อมเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าชุมชนในระดับสากล “ผมเชื่อมั่นในพลังคนไทยเสมอมา หากนำพลังคนไทยมารวมกัน ทำในสิ่งที่ดีให้กับสังคม ช่วยพัฒนาประเทศ สิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน” นายอัยยวัฒน์ กล่าวสรุป

โครงการส่งเสริมสินค้าชุมชนไทยจากภูมิปัญญาชาวบ้าน 

รอยยิ้มของเยาวชนที่ได้รับมอบลูกฟุตบอลในโครงการ ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย

สำหรับในปีนี้ มีผู้ผ่านเข้ารับคัดเลือก 81 โครงการ จากกว่า 200 โครงการ ใน 19 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย,
ศรีลังกา, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินเดีย, ฟิลิปปินส์, บังคลาเทศ, เวียดนาม, ไต้หวัน, พม่า, บรูไน, กัมพูชา, ลาว, ฮ่องกง, ปากีสถาน,
มาเก๊า,ญี่ปุ่น, จีน และไทย โดยจะต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายอุตสาหกรรม หลายประเทศ และใช้เวลาในตัดสินผู้ชนะนานกว่า 3 เดือน โดยหลักเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย วิธีการนำเสนอผลงาน, ผลลัพธ์ที่วัด

ได้เชิงคุณภาพ, ประสิทธิภาพของการรังสรรค์โครงการ, ความมุ่งมั่นตั้งใจ, ความสัมพันธ์กับชุมชน, การตอบโจทย์ความต้องการ, ความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย, ความมีส่วนร่วม, ความมุ่งมั่นตั้งใจ และความสม่ำเสมอ เป็นต้น  นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับรางวัลในสาขาอื่นๆ อาทิ Taiwan Life Insurance ประเทศไต้หวัน, Accenture Inc. ประเทศฟิลิปปินส์, Taylor’s Education Group ประเทศมาเลเซีย, Novaland Group ประเทศเวียดนาม, Sinopharm Group สาธารณรัฐประชาชนจีน, Chow Tai Fook Jewellery Group เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และ Noritake Lanka Porcelain ประเทศศรีลังกา เป็นต้น

โครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย

นำ้พระราชหฤทัย ในหลวง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท

นำ้พระราชหฤทัย “ในหลวง” พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท

Alternative Textaccount_circle
นำ้พระราชหฤทัย ในหลวง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท
นำ้พระราชหฤทัย ในหลวง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 เฟซบุ๊กเพจ ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ ได้เผยแพร่เอกสารที่ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 128 ล้านบาท แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 2 โดยเอกสารดังกล่าวระบุอย่างละเอียดว่า
นำ้พระราชหฤทัย ในหลวง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท
โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เกิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ที่ทรงมีพระวิสัยทัศน์ อันกว้างไกล โดยทรงเห็นว่าสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ต้องขัง ซึ่งก็คือประชาชนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ทรงเห็นว่าการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ การพยาบาล รวมไปถึงการได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง เป็นสิทธิของผู้ต้องขัง ที่ควรได้รับ เท่าเทียมกับบุคคลภายนอกตามหลักมนุษยธรรม ข้อจำกัดในด้านการได้รับความรู้ด้านสุขอนามัย ตลอดจนการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพของผู้ต้องขังจึงมีความสำคัญที่จะต้องพิจารณาปรับปรุง จึงได้ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ริเริ่มโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ขึ้น เพื่อเป็นการเติมเต็มสิทธิของผู้ต้องขังให้ได้รับบริการทางสุขภาพ เฉกเช่น ประชาชนทั่วไป

นำ้พระราชหฤทัย ในหลวง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท

นำ้พระราชหฤทัย ในหลวง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท
โดยกรมราชทัณฑ์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 217 ล้านบาท ในระยะที่ 1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้จัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 756 รายการ พระราชทานให้กับเรือนจำ/ทัณฑสถานเป้าหมาย 25 แห่ง ประกอบด้วย เรือนจำความมั่นคงสูงสุด 5 แห่ง เรือนจำกำหนดโทษสูง 12 แห่ง ทัณฑสถานหญิง 7 แห่ง และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 แห่ง
นำ้พระราชหฤทัย ในหลวง พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท
และในปลายปีนี้โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ได้ดำเนินงานเป็นระยะเวลา 1 ปี พระสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 128 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานโครงการฯ เข้าสู่ระยะที่ 2 สำหรับจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ ซึ่งได้แก่ เรือนจำอำเภอฝาง เรือนจำอำเภอเทิง เรือนจำอำเภอแม่สอด เรือนจำอำเภอสวรรคโลก เรือนจำอำเภอแม่สะเรียง เรือนจำอำเภอพล เรือนจำอำเภอสีคิ้ว เรือนจำอำเภอนางรอง เรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ เรือนจำอำเภอรัตนบุรี เรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี เรือนจำอำเภอธัญบุรี เรือนจำอำเภอทุ่งสง เรือนจำอำเภอปากพนัง เรือนจำอำเภอนาทวี เรือนจำอำเภอเบตง เรือนจำอำเภอหลังสวน เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ และเรือนจำอำเภอหล่มสัก

กรมราชทัณฑ์ และผู้ต้องราชทัณฑ์ รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ นับเป็นขวัญกำลังใจ และสิริมงคลของข้าราชการ ผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ต่างพร้อมน้อมรับพระบรมราโชบายใส่เกล้าใส่กระหม่อม นำไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเกิดสัมฤทธิผลต่อไป


ข้อมูลและภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์, Thairoyalfamily

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทรงสง่างาม “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ” เสด็จฯสนามยิงปืน เป็นการส่วนพระองค์

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานมูลนิธิสายใจไทยฯ ตามพระราชปณิธานพระอัยกา

“เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” ทรงแมตช์ พระมาลาแบรนด์ SIRIVANNAVARI กับชุดผ้าพื้นถิ่น

โปรโมชั่นงานแต่งงาน สุดคุ้มเพื่อบ่าวสาว และของแถมสุดว้าวจาก โรงแรมปรินซ์พาเลซ

account_circle

ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนเพิ่งตกลงปลงใจ Say Yes! และกำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานและ โปรโมชั่นงานแต่งงาน แบบพร้อมสรรพ ครบครัน แถมราคาสบายกระเป๋า โรงแรมปรินซ์พาเลซ ขอมอบประสบการณ์ดีๆ พร้อมความเป็นมืออาชีพเพื่อสร้างงานวิวาห์ในฝันของคุณให้เป็นจริง

โรงแรมปรินซ์พาเลซ จัดเต็ม โปรโมชั่นงานแต่งงาน สุดคุ้ม พร้อมของแถมสุดว้าว!

โปรโมชั่นงานแต่งงาน

ตอบโจทย์ทุกความรักด้วยแพ็กเกจงานแต่งงานที่คุ้มค่า มาพร้อมทีมงานที่มากด้วยประสบการณ์การจัดงานวิวาห์ พร้อมเนรมิตวันสำคัญแบบครบทุกอย่างโดยที่คุณไม่ต้องกังวล ในราคาแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 250,000 บาท (สำหรับแขกจำนวน 250 – 300 ท่าน) โดยคู่รักจะได้ ฟรี Flower Backdrop ไซส์ M, ช่อบูเกต์สำหรับเจ้าสาว, เครื่องฉาย LCD Projector, ห้อง Honeymoon One Bedroom Suite 1 คืน พร้อมอาหารเช้า, ห้อง Superior สำหรับญาติ 1 คืน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน และอื่นๆ อีกมากมาย

แพ็กเกจดีๆ แบบนี้ว่าที่บ่าวสาวคนไหนที่อยากนัดหมายปรึกษากับทีมงานเวดดิ้งเซลล์ของทางโรงแรม หรืออยากขอรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02-681-1111 ต่อ 1256 หรือทางอีเมล [email protected] และทางไลน์ไอดี @princepalacehotel

ติดตามข่าวสารแวดวงงานวิวาห์ สถานที่ และโปรโมชั่นดีๆ อีกมามาได้ที่ Praewwedding.com

น้องอชิ น้ำตาคลอ

ฟลุค-เกริกพล & นาตาลี เล่าโมเม้นต์ น้องอชิ น้ำตาคลอ ดีใจที่จะได้เป็นพี่ชาย

Alternative Textaccount_circle
น้องอชิ น้ำตาคลอ
น้องอชิ น้ำตาคลอ

ก่อนหน้านี้คู่รักสุดหวานชื่น ฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช และ นาตาลี เจียรวนนท์ ได้ออกมาประกาศข่าวดีว่า พวกเขากำลังจะมีทายาทคนแรกด้วยกัน ซึ่งสร้างความตื่นเต้นยินดีปรีดาให้กับเพื่อนๆ และคนใกล้ชิดเป็นอย่างมาก  โดยเมื่อไม่นานมานี้คู่รักได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวโดยละเอียด ผ่านทางคลิปวิดีโอในช่องออนไลน์ที่ชื่อว่า “Flukeleeน้องอชิ น้ำตาคลอ

โดยทั้งคู่ได้เล่าว่าหลังจากที่ตรวจครรภ์ด้วยตัวเองและรู้ว่าท้อง ก็ได้ไปปรึกษาแพทย์ ซึ่งคุณหมอบอกว่ายังไม่ต้องรีบมา รอให้ครบ 8 สัปดาห์ก่อน เพราะในระหว่างนี้สามารถครรภ์หลุดได้ง่ายมาก อีกทั้งถ้ามาในระยะนั้นก็จะสามารถอัลตร้าซาวด์ดูหัวใจทารกได้ด้วย ซึ่งจากคำพูดของหมอทำให้นาตาลีพยายามปรับอารมณ์ไม่ให้ดีใจจนเกินไป เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมาตนกลัวว่าจะผิดหวังมาก ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีจนครบกำหนดละได้เดินทางไปตรวจครรภ์อย่างจริงจัง ซึ่งหลังจากที่เธอได้เห็นภาพของทารกก็รู้สึกขึ้นมาฉับพลันเลยว่าท้องจริงๆ แล้ว หลังจากนั้นก็เริ่มที่จะดูแลตัวเองในทุกๆ ด้านอย่างดี

ฟลุค-เกริกพล & นาตาลี เล่าโมเม้นต์ น้องอชิ น้ำตาคลอ ดีใจที่จะได้เป็นพี่ชาย

น้องอชิ น้ำตาคลอ

หลังจากคุณหมอคอนเฟิร์มเรื่องตั้งท้อง นาตาลีและหนุ่มฟลุคจึงได้นำเรื่องนี้ไปบอกกับครอบครัว ซึ่งทุกๆ คนดูดีใจและตื่นเต้นมาก เพราะแต่ละครอบครัวก็อยากมีหลานเพิ่มมาตั้งนานแล้ว ทั้งฟลุคได้เล่าถึงโมเม้นต์ตอนที่ไปบอกเรื่องนี้กับลูกชาย “อชิ-อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช” ถึงข่าวดีที่เกิดขึ้น ฟลุคเล่าว่าลูกชายของเขาเมื่อทราบข่าวก็ตื่นเต้นจนน้ำตาคลอ ฟลุคยังเสริมว่าที่ผ่านมาลูกชายของเขารอที่จะมีน้องมา 18 ปี เมื่อพ่อมีน้องก็รู้สึกดีใจมากๆ

ที่ผ่านมาการตั้งครรภ์ในช่วงแรกนาตาลีไม่มีอาการแพ้ท้อง เธอยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายหรือกระทบกระเทือนเท่านั้น เนื่องจากเธออายุไม่น้อยแล้ว ทำให้ต้องระวังในช่วงแรกมากๆ 3 เดือนแรก เธอห่างหายจากการออกกำลังกายที่เคยทำประจำไปเลย แต่หลังจากนี้ครรภ์แข็งแรงขึ้น เธอก็จะกลับมาออกกำลังกายเหมือนเดิม

อชิ-อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช

อชิ-อชิรวัตติ์ มัสยวาณิช

ทั้งนี้สำหรับทายาทคนแรกที่ทั้งคู่อยากได้นั้นคิดเห็นตรงกันว่าอยากได้เป็นผู้หญิง นาตาลีให้เหตุผลว่าเพราะเด็กผู้หญิงน่ารักและตนก็อยากจับลูกแต่งตัว ในขณะที่ฟลุคเองก็บอกว่าเขายังไม่เคยมีลูกผู้หญิงมาก่อน ก็เลยอยากรู้ว่าการเลี้ยงลูกผู้หญิงจะเป็นแบบไหน เขาอาจจะมีประสบการ์ณใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนกันเลี้ยงลูกชาย แต่อย่างไรก็ดีถึงแม้ทายาทคนแรกจะเป็นผู้ชายพวกเขาก็ยังดีใจมากๆ อยู่ดี

ครอบครัวน้องอชิ


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ยินดีกับว่าที่คุณแม่ป้ายแดง นาตาลี เจียรวนนท์ ตั้งท้องทายาทคนแรก

เปิดใจคู่ ‘นาตาลี-ฟลุค’ ไม่ง่ายกว่าจะมีวันนี้ พิสูจน์รัก 10 ปี ลบคำว่าคาสโนวาเกลี้ยง

ฟลุค & นาตาลี ตอกย้ำ ฉายา คู่รักนักเดินทาง ด้วยการ์ดแต่งงานแบบ PASSPORT

‘รักใครชอบใครอย่าลังเล เดี๋ยวจะพลาด’ ดูดวงรายวัน 11 พฤศจิกายน 2563

ดูดวงรายวัน 11 พฤศจิกายน 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานการเกษตร เช่น เกษตรกร นักจัดตกแต่งสวน ศิลปินสาขาศิลปะหัตถกรรม โอท็อป ฯลฯ วันนี้คุณอาจได้ริเริ่มงานใหม่หรือถูกโยกย้ายหน่วยงานใหม่ที่ได้ผลตอบแทนมากขึ้น แต่ก็ท้าทายความสามารถมากขึ้น แม้จะราบรื่น แต่ก็ต้องระวังตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ให้ต้องรับผิดในสิ่งที่ไม่ได้ก่อ หรืองานงอกในสิ่งที่ไม่ได้ตกลงกันไว้ ควรรับฟังความคิดเห็นจากผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ด้วย

การเงิน :  หาเงินเก่ง มีไหวพริบในการหาเงินได้ทุกช่องทาง แต่คุณก็เชื่อคนง่าย ต้องระวังถูกมิจฉาชีพมาหลอกตักตวงผลประโยชน์ไปจากคุณ

ความรัก : คุณให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวเป็นอย่างดี ซึ่งสมาชิกในครอบครัวก็รักและดูแลเอาใจใส่คุณอย่างดีเช่นกัน ดูแล้วน่าจะราบรื่นได้ทั้งวัน  คนโสด คุณมีเสน่ห์โดดเด่น ใครเห็นก็อยากเป็นแฟนด้วย ยิ่งหากคุณลดความหึงหวง และความคาดหวังที่ไม่มีเหตุผลลงหน่อย เรียกว่าสวยเลือกได้เลยทีเดียว

สุขภาพ : ภูมิแพ้มาแล้วจ้า ต้องระวังการแพ้สารเคมีที่ผสมอยู่ในของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เจล แอลกอฮอลล์ จะทำให้คุณเป็นผื่นแพ้แสบคันบริเวณผิวหนังได้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องติดต่อประสานงาน เช่น พีอาร์ประชาสัมพันธ์ สื่อสารมวลชน ฝ่ายขาย หรือผู้ที่มีความสามารถทางด้านภาษา วันนี้คุณต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และบารมีจากตำแหน่งหน้าที่การงานในการติดต่อประสานงาน แต่ก็อาจต้องเตรียมใจไว้หน่อย เพราะคุณจะเกิดความร้อนรุ่มหรืออึดอัดไปหมด ทั้งบรรยากาศการทำงาน เพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชา จนอยากลาออกวันละหลายๆ รอบ

การเงิน :  คุณอาจมีรายจ่ายค่อนข้างมากกับคนรัก และลูกหลานในบ้าน จนอาจหมุนเงินไม่ทัน มีเกณฑ์หยิบยืมเงินเป็นหนี้สินจำนวนมาก

ความรัก :  คุณเป็นสาวเก่ง มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง และมีสถานภาพทางสังคม เพราะฉะนั้นหากวันนี้คุณพบว่า คู่ชีวิตเริ่มมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ คุณอาจตัดขาดได้โดยไม่ต้องเคลียร์เลย ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน คนโสด กำลังมีความรักอยู่หรือเปล่า ยังคบกันไม่ทันไร เขาก็นอกใจคุณเสียแล้ว ซึ่งอาจมีการทะเลาะกันเพราะความหึงหวงด้วยนะ

สุขภาพ : เดินทาง ไม่ว่าจะทางบกหรือทางน้ำ วันนี้ต้องระวังตัวให้ดี เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากประมาท

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานในสายกฎหมาย เช่น ทนายความ นักกฎหมาย อัยการ ผู้พิพากษา ฯลฯ หากคุณอยากเริ่มต้นงานใหม่ หรือมีโอกาสโยกย้ายเปลี่ยนแปลงหน่วยงานที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถมากขึ้น เพื่อแลกกับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น วันนี้คุณควรเน้นการเจรจาหรือใช้คำพูด เพื่อโน้มน้าวให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเกิดความคล้อยตาม แล้วคุณจะสมหวัง ได้เพื่อนที่จริงใจสามารถติดต่องานกันได้ยาวๆ เป็นผลพลอยได้อีกด้วย

การเงิน : หากคุณกำลังคิดจะลงทุนร่วมกับคู่ครองหรือแฟน วันนี้ผู้ใหญ่จะอุปถัมภ์ แต่ก็ควรซื้อของอย่างประหยัด เพราะคุณรสนิยมดี ซึ่งมักจะมาคู่กับราคาที่สูงเกินความจำเป็น

ความรัก : วันนี้อารมณ์คุณปรวนแปรอย่างแรง ยิ่งหากคุณชอบทำตัวติดกันตลอดเวลา ห่างปุ๊บก็คิดไปในทางหึงหวงทันที  ยิ่งต้องวางตัวให้ดี เพราะเสี่ยงต่อการทะเลาะกันได้ง่ายมาก   คนโสด คุณโรแมนติก ชอบอยู่แบบตัวติดกันตลอดเวลา วันนี้แยกบ้างอะไรบ้างก็ได้

สุขภาพ : ควรให้ความสำคัญในเรื่องของการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  มาที่ผู้ที่อยู่ในสายงานหรือทำงานเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานโฆษณาประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารมวลชน งานในแวดวงบันเทิง วันนี้หากคุณต้องมีคิวเข้าเจรจาต่อรอง หรือประนีประนอม แม้คุณจะพยายามใช้ความรู้ ความสามารถ และเทคนิคเฉพาะบุคคลค่อนข้างสูง แต่ก็ดูเหมือนการเจรจาครั้งนี้จะไม่เป็นผล เขาไม่สนใจรับฟังคำขอจากคุณเลย

การเงิน : มีโชคลาภ อาจได้รับมรดกเป็นที่ดิน แต่คุณจะเก็บเงินไม่อยู่ อาจเสียรู้ให้กับคนใกล้ชิดที่จะมาหลอกลวงคุณในเรื่องของการลงทุน การเดินทางท่องเที่ยว หรือการเข้าสังคมใหม่ๆ

ความรัก : ปกติคุณก็แบกรับเรื่องราวของสมาชิกในครอบครัวไว้อย่างหนักอึ้ง วันนี้คุณอาจต้องพบความผิดหวังเพิ่มขึ้นอีก เพราะคู่ครองอาจไม่ใกล้ชิดคุณเหมือนเดิม แม้คุณพยายามเข้าหา แต่เขาก็ไม่กลับมาเหมือนเดิม   คนโสด วันนี้คนที่คุณกำลังเล็งอยู่ หากเป็นเพศเดียวกัน ดูอย่างไรก็ไม่เหมาะสมกับคุณเลย

สุขภาพ :  ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องยืนและเดินเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้คุณปวดตั้งแต่เอวลงมา อาจเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ หรือเส้นเอ็นตึงยึดผิดปกติ แ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้วาทศิลป์ในการติดต่อสื่อสาร เช่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารมวลชน พิธีกร หรือพนักงานขาย ฯลฯ วันนี้คุณอาจเครียดหรือถูกกดดันให้ต้องใช้ความรู้ ความสามารถในการทำงานที่เสี่ยงต่ออันตราย หรือเสี่ยงต่อความผิดพลาดสูงมาก ก็ต้องระวังคุณอาจถูกเพื่อนร่วมงานใส่ร้ายป้ายสี หรือตกเป็นแพะรับบาป ซึ่งเจ้านายคุณก็อาจช่วยอะไรไม่ได้เลย

การเงิน : มีความสามารถในการหาเงินได้อย่างคล่องตัว แต่ควรยกเว้นเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องทั้งบนโต๊ะและก็ใต้โต๊ะ เพราะจะส่งผลเสียกับตัวเองในอนาคต อาจต้องลดความใจบุญลงบ้าง ไม่เช่นนั้นคุณหาได้เท่าไหร่ก็ช่วยเหลือเขาหมด

ความรัก : คุณโชคดี ได้คู่ครองที่ช่วยส่งเสริมหน้าที่การงาน และสามารถเป็นคู่คิดแนะนำแนวทางชีวิตที่ถูกต้องให้กับคุณได้ ถึงอย่างไรคุณก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่า เขาจะทำแบบนี้ไปได้นานแค่ไหน คนโสด ไม่ว่าจะคบใคร คุณก็จะโลเล ไม่มั่นใจอยู่ดี จนอาจพลาดคนดีๆ โอกาสดีๆ ไปก็ได้นะ

สุขภาพ : นัดทันตแพทย์บ้างนะคะ เพราะสุขภาพฟันเริ่มมีปัญหาแล้ว หากทิ้งไว้นานจะส่งผลต่อสุขภาพในช่องปาก

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  คุณอาจถูกบิลด์ ให้ต้องเข้าสู่การแข่งขันแก่งแย่งชิงดีในเรื่องของผลประโยชน์และตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือถูกบีบบังคับให้ต้องทำงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด วันนี้คุณจึงขยันและตั้งใจทำงานเพื่องานนี้มาก จึงเต็มไปด้วยอีโก้และความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก จนไม่รับฟังความคิดเห็นของใครเลย ก็ต้องระวังอาจเกิดความขัดแย้งระหว่างคนทำงานด้วยกัน ซึ่งคุณก็ไม่สามารถไว้วางใจใครได้เลย

การเงิน : คุณเป็นนักลงทุนแบบใจใหญ่ ชอบเสี่ยง ทุ่มไม่อั้นแม้จะยังไม่เห็นผลตอบแทนก็ตาม วันนี้คุณใจดี ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับตัวเงินมากกว่างาน จึงเสี่ยงต่อการถูกเอาเปรียบอย่างมาก

ความรัก :  ชีวิตครอบครัวคุณจากที่เคยราบเรียบและราบรื่นดี วันนี้อาจมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันได้ เพราะคุณให้ความสำคัญกับงานมากกว่าครอบครัว โดยมีความหึงหวงแฝงอยู่ด้วย  คนโสด คุณเป็นหลักของครอบครัว หากมีแฟนก็อาจมีปัญหาเรื่องแบ่งเวลาไม่ได้อีก

สุขภาพ : อาจเกิดความเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุจากการปฏิบัติงาน รวมถึงจากความเร็ว และการทะเลาะวิวาท

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายอสังหาริมทรัพย์  เช่น บ้าน ที่ดิน คอนโดฯ หรืออาคารสำนักงาน วันนี้คุณอาจได้เริ่มต้นงานโปรเจ๊กท์ใหม่ หรือได้รับโอกาสได้การโยกย้ายหน่วยงานที่มีผลตอบแทนสูงกว่าเดิม งานก็ท้าทายกว่า แต่ก็ต้องระวังไอเดียของคุณที่ล้ำเกินกว่าใครจะเข้าใจ จนร่วมงานกับผู้อื่นลำบาก ทางที่ดีควรขอทำเป็นโปรเจ๊กท์ส่วนตัวจะดีกว่านะ

การเงิน :  อาจได้เงินเกี่ยวกับการซื้อ-ขายที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ แต่ควรดูให้ดีว่าได้มาอย่างถูกต้อง ไม่ควรเล่นแร่แปรธาตุ ปั่นราคา เพราะอาจได้ไม่คุ้ม

ความรัก :  คุณให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวอย่างดี ซึ่งคุณอาจกำลังวางแผนที่จะขยับขยายหรือโยกย้ายที่อยู่อาศัย ซึ่งใครก็ขัดไม่ได้ด้วยนะเนี่ย คนโสด คุณขยันทำมาหากิน มีหลักฐานมั่นคง หากคุณลดความเป็นตัวเองลงนิดหนึ่ง จะทำให้คุณมีเสน่ห์ขึ้นอีกเยอะเลย

สุขภาพ : ภูมิแพ้มาแล้วจ้า อาจแพ้สารเคมีที่ผสมอยู่ในข้าวของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น เจล แอลกอฮอลล์ น้ำยาล้างมือ ซึ่งจะมีผลให้คุณเกิดผื่นแพ้คันบริเวณผิวหนัง

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

เสน่ห์ก็ไร้ความหมาย เพราะผู้ใหญ่กำหนดคู่ไว้ให้แล้ว ดูดวงรายวัน 7 พฤศจิกายน 2563

กลับมาเพราะผลประโยชน์ อยู่คนเดียวดีกว่า ดูดวงรายวัน 8 พฤศจิกายน 2563

จงรักภักดี ประดุจทูลหัวของบ่าวเลยทีเดียว ดูดวงรายวัน 9 พฤศจิกายน 2563

ผู้ที่เกิดวันจันทร์ พฤหัส เสาร์ ดวงร้อนแรงจะเปิดศึกรักสามเส้า ดูดวงรายวัน 10 พฤศจิกายน 2563

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานมูลนิธิสายใจไทยฯ ตามพระราชปณิธานพระอัยกา

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานมูลนิธิสายใจไทยฯ ตามพระราชปณิธานพระอัยกา

Alternative Textaccount_circle
เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานมูลนิธิสายใจไทยฯ ตามพระราชปณิธานพระอัยกา
เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานมูลนิธิสายใจไทยฯ ตามพระราชปณิธานพระอัยกา

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14.00 . สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ไปยังไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานสานสายใยเพื่อผลิตภัณฑ์สายใจไทยประจำปี 2563” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 23 แล้ว

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานมูลนิธิสายใจไทยฯ ตามพระราชปณิธานพระอัยกา

สำหรับงานสานสายใยเพื่อผลิตภัณฑ์สายใจไทย ประจำปี 2563” จัดขึ้นโดยมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถกรรมคุณภาพดี ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือของเหล่าทหารและตำรวจ รวมถึงอาสาสมัครผู้ทุพพลภาพจากการเสียสละทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย ภายใต้การดูแลของมูลนิธิสายใจไทยฯ ที่ดำเนินงานครบรอบ 45 ปีในปีนี้ อีกทั้งเพื่อฝึกอาชีพให้สมาชิกผู้ทุพพลภาพสามารถช่วยเหลือตัวเอง มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวอย่างยั่งยืน

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานมูลนิธิสายใจไทยฯ ตามพระราชปณิธานพระอัยกา

และที่สำคัญอีกประการคือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระราชทานกำเนิดมูลนิธิสายใจไทยฯขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานมูลนิธิสายใจไทยฯ ตามพระราชปณิธานพระอัยกา

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานของมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามพระราชปณิธานของในหลวง รัชกาลที่ 9

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงสานต่องานมูลนิธิสายใจไทยฯ ตามพระราชปณิธานพระอัยกา

ทั้งนี้ งานสานสายใยเพื่อผลิตภัณฑ์สายใจไทย ประจำปี 2563” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-16 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 – 20.00 .   ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน


ข้อมูลและภาพ : Siam Paragon

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทรงสง่างาม “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ” เสด็จฯสนามยิงปืน เป็นการส่วนพระองค์

“เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” ทรงแมตช์ พระมาลาแบรนด์ SIRIVANNAVARI กับชุดผ้าพื้นถิ่น

คลิปพระดำรัสตรึงใจ “เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา” ทรงย้ำต่อหน้าพสกนิกร เงินทุกบาทเข้ามูลนิธิฯ

ปั๊บ โปเตโต้

แฟชั่นเท่คลูของ ใบเตย-สุวพิชญ์ ว่าที่ภรรยา ปั๊บ โปเตโต้ ไม่หวานเหมือนหน้าตา

ปั๊บ โปเตโต้
ปั๊บ โปเตโต้

ส่องลุค ใบเตย-สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ แฟนสาวที่อายุห่าง 11 ปี ของนักร้องหนุ่ม ปั๊บ โปเตโต้ หน้าหวานขนาดนี้ แต่จริงๆ มีมุมเท่เพียบ 

หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาสาวใบเตยอยู่บ้าง เพราะเธอคนนี้งานซุกยิ่งกว่ายุงซะอีก ถึงจะไม่ใช่นางเอกละครดังในช่องใหญ่ แต่ก็ถือว่าเป็นเจ้าแม่นางเอก MV นางเอกโฆษณาเลยทีเดียว ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวใบเตยถึงขึ้นแท่นเป็นหวานใจคนใหม่ของหนุ่มปั๊บได้ เห็นน่าตาน่ารักสดใส เหมือนเป็นผู้หญิงหวานๆ แบบนี้ แต่จริงๆ แล้วสาวใบเตยเขามีมุมเท่ๆ เก๋ๆ เหมือนกันนะ อย่างวันนี้เรามีแฟชั่นของสาวใบเตยมาฝาก ขอบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงหน้าหวานที่เท่มากเลยล่ะ ต้องแบบนี้สินะหนุ่มปั๊บจะได้ไม่เบื่อ

3
ถึงจะใส่กระโปรงแต่สาวใบเตยก็มีไอเท็มเพิ่มความชิคไว้เสมอ เช่น รองเท้าผ้าใบ ผ้าคาดผม กระเป๋า
1
เป็นผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์ดีนะ แทบจะไม่แต่งอะไรเลยก็ยังสวย
4
ถ้าอยากจะสวยเท่แบบสาวใบเตย ต้องใส่กางเกงขาดๆ ถึงจะใช่!
2
บางวันก็มาแบบสบายๆ กับชุดวอร์มและรองเท้าผ้าใบ ไม่ก็รองเท้าสนีกเกอร์
7
บอกแล้วว่าแค่เสื้อยืด กางเกงยีนส์เซอร์ๆ สักตัวหนึ่งก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอคนนี้
6
เห็นหน้าหวานๆ แบบนี้แต่จริงๆ แล้วเธอดูไม่บ๊องแบ๊งอย่างที่เราคิดเลยจริงๆ
5
นอกจากจะมีลุคเท่ๆ แล้ว ลุคมินิมอลสไตล์ก็มานะจ๊ะ
8
ไอเท็มที่ขาดไม่ได้ของสาวใบเตย ก็คงจะเป็นหมวก กับรองเท้าผ้าใบและรองเท้าสนีกเกอร์ นี่แหละ
9
เธอดูเป็นตัวของตัวเองดีนะ ไม่จำเป็นต้องเป็นสาวแฟชั่นจ๋า แต่มีสไตล์เป็นคนตัวเองแบบนี้แหละหนุ่มปั๊บชอบ

 


ข้อมูลภาพ : IG @iiitoei

Asya Branch

เพื่อนไม่คบ พ่อติดคุก! Asya Branch ชีวิตติดลบ พุ่งชนความฝันจนคว้ามงกุฎสำเร็จ

Alternative Textaccount_circle
Asya Branch
Asya Branch

เป็นเวลาหลายเดือนที่การประกวด “มิสยูเอสเอ 2020” Miss USA 2020 ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 แต่ล่าสุดการประกวดครั้งนี้ได้สิ้นสุดลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (10 พฤศจิกายน 2563) โดยจากสาวงามทั้งสิ้น 51 คน ผู้ที่สามารถคว้ามงกุฎไปในครั้งนี้ก็คือสาวงามลูกครึ่งแอฟริกา-อเมริกัน Asya Branch และเธอผู้นี้ยังได้สร้างประวัติศาสตร์ Miss Mississippi USA คนผิวสีคนแรกที่สามารถคว้าตำแหน่งสูงสุดจากเวที “มิสยูเอสเอ 2020″ได้สำเร็จ

Asya สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมด้วยคำตอบที่กลั่นกรองมาอย่างดีแม้ว่าจะใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น ซึ่งเธอได้ถูกถามว่า “สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างไม่เคยมีมาก่อน เราจะแก้ไขปัญหาความแตกแยกได้อย่างไร?” ซึ่งสาวงามได้ตอบคำถามนี้ว่า “ฉันคิดว่านี้เป็นปัญหาที่เกิดจากความไว้ใจ” เธอได้อธิบายเพิ่มว่า “เราสูญเสียความเชื่อมั่นและความไว้ใจวางใจในระบบต่างๆ ตั้งแต่สื่อ ธุรกิจ ไปสู่รัฐบาลเป็นทอดๆ จำเป็นที่เราต้องปฏิรูปและฟื้นฟูเรื่องความไว้วางใจคืนจากระบบ ที่ฉันกล่าวมาทุกคนต้องสานต่อให้ชาติเรายิ่งใหญ่ เราจะต้องเป็นตัวอย่างที่ดีกว่าวันเก่าๆ” (ข้อมูลจาก : Aishwarda Sirilaksana Na Lamphun)

Asya Branch

คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าการประกวดนางงามเป็นเรื่องของการพูดถึงประเด็นความสวยเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้ว ความงามเป็นเพียงภาพหนึ่งที่ทำให้คนเห็นชัดเท่านั้น เพราะที่จริงแล้วมันยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เป็นกระบอกเสียงที่ดีที่จะทำให้ผู้เข้าประกวดจะช่วยเหลือหรือสานฝันสิ่งดีๆ ที่พวกเธออยากทำได้ด้วย เช่น ปุ๋ย-พรทิพย์ นางงามผู้รักเด็กที่มีโอกาสได้สานฝันให้กับนักเรียนที่ไม่มีทุนการศึกษามานานถึง 30 ปี , นิโคลีน-พิชาภา ที่สนับสนุนและให้โอกาสกับผู้ป่วยโรคออทิสติก ฯลฯ โดยสิ่งที่น่าชื่นชมมากๆ เลยก็คือซึ่งแม้พวกเธอจะหมดภารกิจไปแล้วแต่ก็ยังไม่ทิ้งความตั้งใจ

เพื่อนไม่คบ พ่อติดคุก Asya Branch พุ่งชนความฝันจนคว้ามงกุฎ Miss USA 2020

เช่นเดียวกับ Miss USA ผู้นี้เธอก็มีโครงการที่อยากจะขับเคลื่อนเหมือนนางงามรุ่นพี่หลายๆ คนเหมือนกัน ซึ่งโครงการของเธอก็คือการได้ช่วยเหลือเด็กที่พ่อแม่ติดคุก เพราะพ่อของเธอเองก็คิดคุกเช่นเดียวกัน Asya เล่าว่าเรื่องราวของพ่อมักวนเวียนอยู่ในหัวของเธอเสมอตลอดการประกวด เนื่องจากในวัยเด็กคุณพ่อของเธอมักจะพูดถึงการประกวดเสมอ เวทีแรกที่เธอได้ประกวดตอน 7 ขวบก็เพราะพ่อของเธอสนับสนุนนั่นเอง

มิสยูเอสเอเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของเธอว่า ถ้าเธอมีทัศนคติที่ไม่ดี พ่อของเธอก็จะแนะนำเธอเสมอ เขาบอกว่าวิธีเปลี่ยนทัศนคติที่น่าเกลียดให้สวยงามขึ้นก็คือการทำความดี ดังนั้นชีวิตของเธอจึงเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับความเมตตาและความกรุณาจากคุณพ่อ พ่อของเธอมักจะช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ

พ่อ Asya Branch

ภาพของสาวงามในวัยเด็กกับคุณพ่อ

มิสสหรัฐอเมริกาได้ขยายเกี่ยวกับความใจกว้างของพ่อเธอต่อว่า เมื่อตอนที่เธออายุ 10 ขวบ พ่อได้รับลูกชายของเพื่อนมาอยู่ด้วย แม้ว่าครอบครัวของเธอต้องดิ้นรนเยอะในเรื่องการอยู่การกิน แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยกับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครั้งใหญ่ แม้จะมีเด็กมากมายรอบตัวพ่อ แต่เธอก็ยังรู้สึกพิเศษเสมอ ทุกวันที่เธอออกจากบ้าน พ่อจะตะโกนจากระเบียงเพื่อบอกกับเธอว่า “ขอให้มีความสุขมากๆ นะ พ่อรัก Asya!”

ครอบครัวใหญของ Miss USA

ครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกทั้งสิ้น 8 คนของสาวงาม

แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขดูเหมือนว่าจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันหนึ่งที่เธอกลับบ้านมาแต่เไม่ได้เห็นพ่อรออยู่ที่ระเบียงบ้านอย่างที่เคย แถมบ้านของเธอยังถูกล้อมไปด้วยรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภาพที่เห็นทำให้เธอกลัวมากๆ และคิดถึงแต่ว่าพ่ออยู่ที่ไหน กระทั่งมารู้ว่าเด็กผู้ชายที่เป็นลูกของเพื่อนพ่อที่อาศัยอยู่ที่บ้านของเธอ ได้ไปปล้นผู้หญิงคนหนึ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง พ่อพยายามช่วยเขาแต่สุดท้ายก็ถูกจับไปด้วย นับตั้งแต่พ่อถูกจับไปชีวิตของเธอและครอบครัวก็ไม่ง่ายอย่างที่ผ่านมา ถึงแม้แม่ของเธอจะทำทุกอย่างราวกับว่าสถานการณ์ปกติแต่มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป

ที่ผ่านมาฉันและเด็กๆ แถวบ้านจะพบเจอกันอยู่เสมอ แต่หลังที่เกิดเรื่องขึ้นกับพ่อ พ่อและแม่ของเพื่อนๆ ของเธอก็ไม่ยอมให้พวกเขามาเล่นกับเธออีก ตอนนั้นเธอไร้เดียงสาจึงไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร ซึ่งเมื่อเธอถามแม่ แม่ก็บอกกับว่า “เพราะพ่อของเธอไงล่ะ” เธอจึงถามแม่กลับไปว่า “พ่อไม่ใช่คนเลว ทำไมพวกเขาไม่เห็นล่ะ”

Asya Branch Miss USA 2020

นอกเหนือจากความรู้สึกที่คนรอบข้างไม่โอเคกับเธอแล้ว หลังจากที่พ่อถูกตัดสินจำคุก บ้านของเธอก็ถูกยึดทรัพย์ทันที พวกเขาเอาไปหมดที่เป็นชื่อของพ่อ แม้แต่อุปกรณ์ที่พ่อใช้ทำงาน ทำให้แม่ต้องขายทุกสิ่งที่ยังเป็นชื่อของแม่ เพื่อพาครอบครัวฉันและพี่ๆ น้องๆ ไปอยู่ในที่เล็กๆ

แต่เหตุการณ์เลวร้ายนี้ก็ทำให้เธอรู้จักกับคุณค่าของตัวเอง เธอชอบการแข่งขันและรักในการประกวด เพราะมันช่วยทำให้เธอลืมสิ่งที่สูญเสียได้ ช่วงเวลาที่น่าเศร้าหายไปเลยเมื่อเธออยู่บนเวที บางครั้งสาวงามก็คิดว่ามันอาจจะเป็นพรสวรรค์ของเธอเลยก็ได้ เพราะแม้ว่าเธอจะไม่ได้รับการฝึกฝนแต่ก็สามารถชนะรางวัลมาได้เสมอ โดยเฉพาะการประกวด Miss Mississippi USA 2018 ที่เป็นประตูสู่เส้นทางการประกวดในระดับนานาชาติของเธอ

เธอยอมรับว่าในตอนแรกเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าการที่เปิดเผยเรื่องพ่อออกไปจะเป็นผลดีหรือไม่ เวทีการประกวดที่มองหาสิ่งที่ดีที่สุดต้องการให้เธอพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะในขณะที่คนอื่นพยายามปกปิด แต่เมื่อนึกย้อนดูเธอก็จำได้ว่า พ่อเคยบอกกับเธอเรื่อง “ถ้าเรามีโอกาสเราควรทำดีกับทุกคน” ดังนั้นถ้าการยอมเปิดเผยประสบการณ์ของเธอจะสามารถช่วยเด็กคนอื่นได้ก็จะทำ เธอตัดสินใจก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับโครงการ “Empowering Children of Incarcerated Parents” ดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอกลัวที่สุดกลับทำให้เธอมีจุดแข็งมากที่สุด

หลังจากที่เธอได้ตำแหน่ง Miss Mississippi  USA 2018 เธอได้ไปเยี่ยมพ่อ โดยที่สื่อไม่รู้ เพราะไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่งกับพ่อของเธอ โดยในการเยี่ยมครั้งนี้เธอยังนำภาพที่เธอได้ตำแหน่งไปให้คุณพ่อของเธอดูด้วย สาวงามยังได้เล่าอีกว่า คุณพ่อถามเธอว่า “ลูกพร้อมหรือยัง?” ก่อนจะบอกว่า “ไปทำให้พวกเขาแพ้ให้หมด” และพ่อของเธอยังบอกอีกว่า “เขามีความสุขที่ฉันสามารถใช้อิทธิพลที่มีทำให้ชีวิตของผู้อื่นดีขึ้น”

อย่างไรก็ตามคาดว่าพ่อของ Asya มีกำหนดพ้นโทษในปี 2022 และแม้ว่าเขาจะถูกจองจำมาครึ่งชีวิต  แต่สิ่งที่เขาถ่ายทอดให้เธอกลับกลายเป็นพลังที่เปล่งประกายที่ไม่สามารถพรากไปจากเธอได้เลย


ข้อมูลจาก : Facebook Aishwarda Sirilaksana Na Lamphun และ  www.guideposts.org

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

มงลงหัว! สาวงามจากฮาวาย Ki’ilani Arruda คว้าตำแหน่ง Miss Teen USA

ไร้ผมแต่สวยปัง! Shudufhadzo Musida คว้าตำแหน่ง Miss South Africa 2020

เผยโฉมนางงามเกาหลีใต้ Kim Hye Jin เจ้าตำแหน่ง Miss Korea 2020

 

ELEMIS ลักซัวรี่สกินแคร์อันดับหนึ่งจากอังกฤษ

ไม่ต้องพรี! ELEMIS ยกทัพลักซ์ชัวรี่สกินแคร์อันดับหนึ่งจากอังกฤษบินลัดฟ้ามาไทย

Alternative Textaccount_circle
ELEMIS ลักซัวรี่สกินแคร์อันดับหนึ่งจากอังกฤษ
ELEMIS ลักซัวรี่สกินแคร์อันดับหนึ่งจากอังกฤษ

ELEMIS ลักซัวรี่สกินแคร์อันดับหนึ่งจากอังกฤษ เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของเหล่าเซเลบริตีส์ชื่อดังทั่วโลก ด้วยนวัตกรรมการดูแลผิวที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู และลดเลือนริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัดเจน อีกทั้งยังผ่านการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการันตีด้วยรางวัลสกินแคร์ชั้นเลิศกว่า 405 รางวัลทั่วโลก บินลัดฟ้ามาให้สายบิวตี้ชาวไทยได้สัมผัสประสบการณ์ความอ่อนเยาว์อย่างเห็นได้ชัดภายใน 2 สัปดาห์ แบบไม่ต้องรอพรีออเดอร์อีกต่อไป ELEMIS สโตร์ โซนบิวตี้ฮอล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ไม่ต้องพรี! ELEMIS ยกทัพลักซ์ชัวรี่สกินแคร์อันดับหนึ่งจากอังกฤษบินลัดฟ้ามาไทย

ไม่ต้องพรี! ELEMIS ยกทัพลักซ์ชัวรี่สกินแคร์อันดับหนึ่งจากอังกฤษบินลัดฟ้ามาไทย

ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ “ELEMIS” ที่พิถีพิถันในการเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุด ตั้งแต่กระบวนการคัดสรรวัตถุดิบด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย เพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนผสมอันบริสุทธิ์โดยคงคุณค่าของสารสกัดไว้ ได้รับการรงสรรค์ขึ้นมาเป็นเหล่าสกินแคร์ที่ดีที่สุดสำหรับการลดริ้วรอยและคืนความเยาว์วัยให้แก่ผิว โดยมีไฮไลท์ไอเท็มอยู่ที่ Pro-Collagen Marine Cream (ขนาด 30ml. ราคา 3,000 บาท / ขนาด 50ml. ราคา 4,400 บาท) เจลครีมที่ผสานคุณค่าสารสกัด Marine Algae Complex ที่ได้จากสาหร่ายทะเลสีรุ้ง Padina Pavonica จากเมดิเตอเรเนียนที่ใช้เวลาเจริญเติบโตถึง 7 ปี อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารอันทรงคุณค่าไว้อย่างเต็มเปี่ยม มาในรูปแบบเจลครีมเนื้อบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็วและไม่เหนอะหนะ ตรงเข้าบำรุงผิวให้เรียบเนียนและฟื้นฟูริ้วรอยเล็กๆ ให้ตื้นขึ้น พร้อมผิวอิ่มฟูและเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 2 สัปดาห์ ด้วยผลการทดสอบทางคลินิก (Clinically-proven)

ไม่ต้องพรี! ELEMIS ยกทัพลักซ์ชัวรี่สกินแคร์อันดับหนึ่งจากอังกฤษบินลัดฟ้ามาไทย

มาพร้อมกับ Pro-Collagen Cleansing Balm (ขนาด 100 g. ราคา 2,200 บาท) คลีนซิ่งบาล์มเนื้อสัมผัสสุดละมุนและอ่อนโยนต่อผิว ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดพร้อมบำรุงผิวไปในเวลาเดียวกัน เพื่อเผยผิวกระจ่างใสสุขภาพดี และเติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างทรงประสิทธิภาพด้วยอนุภาพการบำรุงจาก Essential Oil จากพืชพรรณกว่า 9 ชนิด เช่น Starflower ที่มีส่วนช่วยสร้างเกราะปกป้องผิว, Elderberry Oil ที่ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่น กระชับ และเรียบเนียน รวมไปถึง Optimega Oil ที่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้อย่างทรงพลัง พร้อมด้วยสาหร่ายทะเลสีรุ้ง Padina Pavonica จากเมดิเตอเรเนียนอันเป็นส่วนผสมเอกลักษณ์เพื่อเติมความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยจาก “ELEMIS” มาในฟอร์มูล่าที่รวมเอา 3 เนื้อสัมผัสไว้ในหนึ่งเดียว ทั้งเนื้อบาล์มอันอ่อนโยนและปลอบประโลมผิว ผสานเข้ากับคลีนซิ่งออยล์ที่ช่วยในการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก จากนั้นเมื่อสัมผัสกับน้ำจะแปรเปลี่ยนเนื้อสัมผัสเป็นคลีนซิ่งน้ำนมเป็นการปิดท้ายอย่างอ่อนละมุน อีกทั้งยังไม่มีพาราเบนและมิเนอรัลออยล์ เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย

 ELEMIS

 

 

keyboard_arrow_up