- การแพ้สารน้ำที่ใช้สักแล้วเกิดผื่น หรือก้อน (Granuloma)
- การเกิดรอยคล้ำบริเวณผิวที่สัก
- การติดเชื้อที่เกิดจากการปนเปื้อนเชื้อโรคของเข็มสักและสารน้ำที่ใช้สัก เชื้อที่อาจติดได้ เช่น เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา, เชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี, เชื้อไวรัสเอชไอวี
- ผิวหนังที่ได้รับการทำ BB Glow Treatment มีความเสี่ยงต่อการไหม้ หรือสีผิวเปลี่ยนแปลงจากการยิงเลเซอร์ เพราะสีเนื้อที่สักเข้าไปบนผิวสามารถทำปฏิกิริยากับแสงเลเซอร์ได้ ขณะนี้มีแพทย์จากหลายประเทศออกมาเตือนประชาชนให้ระวังวิธีการสักผิวหนังแบบนี้
โดยความเห็นของ ศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ นั้น ตรงกับความเห็นของ Ashraf Badawi รองศาสตราจารย์ด้านผิวหนังจาก Dermatology at The National Institute of Laser Sciences ในมหาวิทยาลัยไคโร ที่เปิดเผยว่า “การทำ BB Glow Treatment นั้นมีส่วนผสมของสารที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เมื่อเวลาผ่านไป มีโอกาสที่จะเกิดการสะสมบนผิวหนังได้ และไม่เป็นผลดีเลยหากในอนาคตคุณจะรักษาผิวด้วยวิธีการทำเลเซอร์ เพราะหมึกที่ใช้ในการทำ BB Glow Treatment นั้น สามารถทำปฏิกิริยากับเลเซอร์ผิวหนัง ซึ่งเป็นผลให้ผิวหนังอาจเกิดการไหม้และอาจเป็นแผลเป็นได้”
เอาเป็นว่า ถ้าใครที่ตัดสินใจอยากลองทำต้องไตร่ตรองถึงผลดีและผลเสียให้ดีก่อนว่าคุ้มค่ากับการลองหรือไม่ และควรเลือกใช้สถานบริการความงามที่ได้มาตรฐาน โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้บริการด้วยตัวเอง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควรได้รับการรับรองจาก KFDA หรือ Korea Food & Drug Administration ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลเกาหลีที่ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร การแสดงฉลากอาหาร จะตรวจสอบข้อมูลสินค้าตั้งแต่ขั้นตอนการยื่นขอผลิต กระบวนการผลิต จนถึงการให้เครื่องหมายรับรอง และการจัดจำหน่าย ซึ่งจะเน้นการตรวจสอบสารที่ออกฤทธิ์ในร่างกาย การกล่าวอ้างสรรพคุณถูกต้องตามผลการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งตรวจสอบสินค้าที่นำเข้า เพื่อให้ได้สินค้าที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือกับผู้บริโภคด้วยนั่นเอง
ข้อมูลและภาพ : eiemedispa.ca , serenitymedspa , bbglow
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ดื้อโบคืออะไร และ 0% impurities เทรนด์ล่าสุดสาย Clean Beauty ที่น่าจับตาดู
เมื่อ สกินแคร์ ไม่ได้ผล! แพทย์แนะวิธีลัดเปลี่ยนผิวแห้งขาดน้ำ ให้อิ่มฟูดูสุขภาพดี
ฮ็อตยาวข้ามปี! ถอดรหัสช็อร์ตคัตอะไรที่ทำให้ ผิวสวยสู่ลุค GLASS SKIN ที่แท้ทรู