คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์

ลูกไม้ใต้ต้นพี่โด้ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์” ใครกันคือแม่ของลูก CR7

account_circle
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์

แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าเหล่าบรรดาๆ ลูกคนดังฮอลลีวู้ด แต่ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์” ลูกชายคนโตของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นักเตะชื่อดังระดับโลกชาวโปรตุเกส และ แข้งซุป’ตาร์ยูเวนตุส ก็ถูกสื่อจับตามองไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะเรื่องแม่ผู้ให้กำเนิดของหนุ่มน้อยวัย11 ปีคนนี้ที่ยังคงเป็นปริศนาว่าใครกันแน่คือแม่ของลูก CR7

ลูกไม้ใต้ต้นพี่โด้ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์” ใครกันคือแม่ของลูก CR7

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์

หนุ่มน้อยหน้าคม “คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์” นั้นเกิดวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะรู้วัน และสถานที่เกิดที่ชัดเจน แต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกว่ากลับไม่มีใครรู้ว่าแม่ของ โรนัลโด้ จูเนียร์นั้นคือใคร

ซึ่งเรื่องนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม โรนัลโด้ก็ได้ประคบ ประหงม ดูแล โรนัลโด้ จูเนียร์เป็นอย่างดี และสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกชายคนนี้มาตั้งแต่เกิด

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์

แม้จะผ่านมาแล้ว 11 ปีแต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ยังมีการตั้งคำถามว่า ใครกันแน่คือ แม่แท้ๆ ของ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์” ซึ่งพี่โด้เคยให้สัมภาษณ์กับโจนาธาน รอสส์” ในปี 2015 ผ่านรายการทอล์คโชว์ที่ชื่อว่า “The Jonathan Ross Show” ถึงตัวตนแม่ผู้ให้กำเนิดของลูกชายคนโตของเขาว่า

“จูเนียร์ไม่รู้ว่าแม่ของเขาเป็นใคร แต่นั้นก็ไม่ได้เอามาเป็นปัญหา” โรนัลโด้กล่าวต่อว่า “เด็กๆ จำนวนมากอยู่ได้โดยไม่มีพ่อกับแม่ หรือ หนึ่งในพ่อแม่ของพวกเขาเสียชีวิต”

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์

“ผมจะไม่โกหกคริสเตียโน่ เพราะเขาสมควรที่จะรู้ความจริง” เขากล่าวต่อไปว่า “แต่ผมจะไม่พูดความจริง เพียงเพราะมีคนต้องการให้ผมพูด”

เมื่อไหร่หรือที่ผมจะบอกความจริงเกี่ยวกับแม่ของเขา? คงไม่ช้าหรอก 10, 11, 12 ปี? เมื่อถึงเวลา” คริสเตียโนกล่าวเสริม ซึ่งคำที่โรนัลโด้พูดนั้นอาจจะดูโหดร้าย แต่เขาก็ได้รับความเคารพ แม้สถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อน แต่โรนัลโด้ก็จัดการได้เป็นอย่างดี

ในช่วงที่ โรนัลโด้ จูเนียร์ ลืมตาดูโลก เด็กน้อยได้รับการเลี้ยงดูโดย Maria Dolores dos Santos Aveiro คุณย่าของเขา ซึ่งในขณะนั้นพี่โด้กำลังคบหาดูใจกับ ไอริน่า ชาอิค แต่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นไปไม่ค่อยสวยมากนัก เพราะแม่ของเขาไม่ค่อยปลื้มนางแบบชาวรัสเซียคนนี้สักเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามมีข่าวว่า แม่ผู้ลึกลับของ โรนัลโด้ จูเนียร์เสียชีวิตแล้ว! ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2011 หนังสือพิมพ์ The Sun ได้ตีแผ่ว่า แม่ของลูกชายคนโต คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เสียชีวิตแล้ว ย่อหน้าแรกของสิ่งพิมพ์อ้างว่า คาเทีย อาเวโร น้องสาวของ โรนัลโด้ ปฏิเสธเรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนของผู้หญิงคนนี้

เธอกล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่มีผู้หญิงคนไหนโทรหาเขา ไม่มีแม่ ไม่มีโทรศัพท์มา ไม่มีอะไรเลย แม่ของเขาตายแล้ว เด็กน้อยไม่มีแม่แล้ว” อย่างไรก็ตาม คาเทียไม่ได้เปิดเผยว่าผู้หญิงคนนั้นเสียชีวิตอย่างไร หรือที่ไหน

ในเดือนธันวาคม 2010 หนังสือพิมพ์ British Sun ได้ออกมาประกาศว่าแม่ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์เป็นนักศึกษาอายุ 20 ปี สื่อเผยต่อไปว่า เธอได้รับเงิน 10 ล้านปอนด์จากโรนัลโด้จากการยกเลิกสิทธิการเป็นผู้ปกครอง หลังจากนั้นไม่นาน มีรายงานว่าแม่ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์เปลี่ยนใจ และเรียกร้องสิทธิ์ในการพบลูกของเธอ

ทั้งนี้น้องสาวของโรนัลโด้ ได้ออกมากล่าวว่า ข้อกล่าวหาเหล่านี้เป็นเพียงข่าวลือและไร้สาระ เธอกล่าวว่าเด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของครอบครัวเรา แม่ของฉันใช้เวลากับเขาทุกวัน คริสเตียโน่น้อยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพี่ชายฉัน

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จูเนียร์เรียกได้ว่าเป็นลูกไม้ใต้ต้นของ โรนัลโด้ แข้งพันล้าน โดยผู้เป็นพ่อมักจะถ่ายทอดความรู้ และทักษะการเตะฟุตบอลให้กับลูกชายของเขาเสมอ ซึ่งโรนัลโด้ จูเนียร์ก็ได้ฉายแววเป็นนักเตะที่ดีอีกด้วย ซึ่งครั้งหนึ่ง พี่โด้เคยถ่ายคลิปลงโซเชียล ในการสอนลูกชายเตะลูกโทษ โดยเขาพูดว่า ให้โอกาศเตะ 3 ครั้ง หากยิงไม่เข้าจะต้องวิดพื้น 10 ครั้ง

ปรากฏว่า โรนัลโด้ จูเนียร์ยิงเข้าโกลด์เพียง 1 ลูก โดยครั้งแรกยิงออกนอกเป้า ครั้งที่ 2 ยิงชนเสา จนมาครั้งที่ถึงจะยิงเข้าเป้า แม้จะพยายามแล้ว แต่ในสายตาผู้เป็นพ่อก็ยังมีความคิดเห็นลูกชายน่าจะทำได้ดีกว่านี้ เด็กน้อยจึงถูกวิดพื้นอยู่ดี

เห็นอายุเพียง 11 ปี แต่โรนัลโด้ จูเนียร์ ก็ฟิตไม่เบา เขาชอบออกกำลังกาย ฝึกฝนจนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ชัดเจน ซึ่งหนุ่มน้อยเคยโพสต์ท่าขณะเบ่งกล้าม พร้อมแคปชั่นว่า “แด๊ดดี้ ผมจะเป็นอย่างพ่อครับ”

นอกจากได้แรงบันดาลใจเรื่องฟุตบอลมาจากพ่อแล้ว หน้าตาของโรนัลโด้ จูเนียร์ ก็หล่อเหลาได้พ่อมาเต็มๆ อนาคตเราคงได้เห็นดาวซัลโว นักเตะพันล้าน CR7 อีกคนเป็นแน่แท้


ที่มา : cristianoronaldotabs, www.matichon.co.th

ภาพ : @cristiano/Instagram

ส่องชีวิตดุจเจ้าหญิง จอร์จิน่า โรดริเกซ จากเด็กเสิร์ฟ บ้านจน สู่หวานใจ โรนัลโด้

คริสเตียโน โรนัลโด ซื้อบ้านหรู บนเกาะมาเดรา พาครอบครัวอพยพหนี ไวรัสโคโรน่า

สวยแรงแพงทะลุเมฆ! กระเป๋า Hermes ‘จอร์จิน่า โรดริเกซ’ ภรรยาโรนัลโด้

 

ตอกกลับแซ่บเว่อร์ หลัง "อีจูยอง" พ่อครัวแห่งทันบัม โดนชาวเน็ตติงให้ "แต่งหน้าบ้าง"

ตอกกลับแซ่บเว่อร์ หลัง “อีจูยอง” พ่อครัวแห่งทันบัม โดนชาวเน็ตติงให้ “แต่งหน้าบ้าง”

Alternative Textaccount_circle
ตอกกลับแซ่บเว่อร์ หลัง "อีจูยอง" พ่อครัวแห่งทันบัม โดนชาวเน็ตติงให้ "แต่งหน้าบ้าง"
ตอกกลับแซ่บเว่อร์ หลัง "อีจูยอง" พ่อครัวแห่งทันบัม โดนชาวเน็ตติงให้ "แต่งหน้าบ้าง"

นักแสดงชื่อดังผู้รับบทบาท “มาฮยอนอี” พ่อครัวทรานเจนเดอร์แห่งทันบัม ซีรีส์ Itaewon Class ซึ่งแสดงโดย อีจูยอง” เธอได้รับความสนใจมากๆ เนื่องจากไม่บ่อยนักที่ซีรีส์จากเกาหลีใต้จะพูดถึงบุคคลที่มีเพศภาวะไม่สัมพันธ์กับเพศสภาพ ซึ่งนั่นทำให้ชื่อเสียงของนักแสดงสาวอีจูยองเพิ่มขึ้นแบบไม่เคยมีมาก่อน ทั้งๆ ที่เธออยู่ในวงการมานาน 10 ปีแล้ว เรียกได้ว่าบทนี้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปเลย

แม้ว่าในซีรี่ส์เราจะได้เห็นทั้งลุคที่ดูมาดแมนและสาวเปรี้ยวจี๊ดสลับกันไปมา แต่ในชีวิตจริงบอกเลยว่าเธอสวยโดดเด่นไม่แพ้นักแสดงหญิงเกาหลีใต้คนอื่นๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่แฟนๆ ได้เห็นจากอินสตาแกรมส่วนตัว หรืออย่างเช่นตอนงานประกาศรางวัลทางภาพยนตร์ Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 41 นักแสดงสาวสวย “อีจูยอง” ก็เผยให้เห็นสไตล์ที่เปลี่ยนไปจากสาวผมสั้นเป็นสาวผมยาว สวมชุดเดรสยาวสีขาวบริสุทธิ์ นับเป็นหนึ่งสาวสวยที่เป็นไฮไลต์บนพรมแดงเลยทีเดียว

"อีจูยอง" พ่อครัวแห่งทันบัม โดนชาวเน็ตติงให้ "แต่งหน้าบ้าง"

ล่าสุด เธอได้ลงภาพตัวเองบนอินสตาแกรมส่วนตัว @i_icaruswalks เป็นภาพใบหน้าสดไร้เมคอัพ ขณะอยู่บนรถยนต์ส่วนตัว ทำให้มีแฟนคลับบางคนเข้าไปคอมเม้นต์ว่า “แต่งหน้าหน่อย” 

ทางด้านอีจูยอง เธอเลยตอบกลับว่า “ทำไมหรอคะ? ปกติไม่ได้ทำงาน ฉันก็ไม่ได้แต่งหน้านะ ถ้าชอบการแต่งหน้าขนาดนั้นก็แต่งเองไปเลยสิคะ ถ้าไม่อยากเห็นหน้าฉัน ไม่ต้อง(กด)มาดูไม่ดีกว่าหรอ?” คำตอบนิ่มๆ แต่แซ่บพริกยกทั้งสวนเลยจ้า

ตอกกลับแซ่บเว่อร์ หลัง “อีจูยอง” พ่อครัวแห่งทันบัม โดนชาวเน็ตติงให้ “แต่งหน้าบ้าง”

 

 

อีจูยอง


ภาพ : i_icaruswalks

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฉันรู้สึกเซ็กซี่..โอเคนะ Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง หลังเธอฟิตหุ่นจนผอม

ส่องลิสต์ ลิปสติกสีนู้ด แท่งโปรดของ 5 เซเลบริตี้สุดฮ็อต ใช้สีไหนจึงสวยสู้แมสก์

ปังกว่าเดิมในบทนางเอก! เปิดเคล็ดลับผิวสวยออร่าจับของ ฮันโซฮี ทำตามได้ง่ายมาก

 

ครีมคนท้อง PregSkin

สกินแคร์ที่ควรใช้ระหว่างและหลังตั้งครรภ์ แบรนด์นี้ห้ามพลาด (ขอบอกต่อ)

ครีมคนท้อง PregSkin
ครีมคนท้อง PregSkin

คุณแม่ๆ ทั้งหลาย ฟังทางนี้! เพราะเราจะมาแชร์เคล็ดลับการดูแลผิวของคุณแม่ด้วยสกินแคร์ แบรนด์ดังที่ดาราหลายคนใช้กัน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับคุณแม่โดยเฉพาะ ปลอดภัยใช้ดีมากๆ จนอยากบอกต่อเลย ใช้ได้ทั้งตอนตั้งครรภ์ยันหลังคลอดกันเลยทีเดียว สาเหตุที่เราต้องนำเอาสกินแคร์คุณแม่มานำเสนอ ก็เพราะเราเข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่ดี ไหนจะปัญหาผิวแตกลาย ผิวหมองคล้ำ หิวแห้งเสียขาดความชุ่มชื้น เป็นสิวง่าย  เท่านั้นยังไม่พอ ฝ้า กระ และจุดด่างดำ ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่คอยตามมารังควานจิตใจด้วย ซึ่งหากคุณแม่เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไม่ดี ก็อาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยได้

ทำไมคุณแม่ต้องดูแลผิว
คุณแม่ตั้งครรภ์จะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเพิ่มสูงขึ้น ฮอร์โมนเหล่านี้ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารก แต่กลับส่งผลเสียต่อผิวพรรณของคุณแม่ซึ่งเห็นได้ชัดเจน รวมถึงปัญหาผิวแตกลายด้วย คุณแม่หลายคนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แต่บางครั้งผลิตภัณฑ์เหล่านั้น อาจไม่ปลอดภัย ถ้าเลือกไม่ดีล่ะก็ สารเคมีต่างๆ จะส่งผลเสียต่อทารกโดยตรง

แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะเพราะ PregSkin เขามีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับคุณแม่ที่ปลอดภัย หายห่วง ใช้ได้ทั้งตอนตั้งครรภ์ไปจนถึงช่วงให้นมบุตรหรือหลังคลอดเลย โดยผลิตภัณฑ์มี 3 ตัวหลักๆ ได้แก่

PregSkin Blemish Control Skin-Clearing Serum
ครีมคนท้อง PregSkin

PregSkin เซรั่ม ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ช่วยลดสิวอุดตัน เพิ่มความชุ่มฉ่ำให้กับผิว ลดการระคายเคืองทำให้รูขุมขนกระชับมากขึ้น คุณแม่ผิวบอบบาง หรือ ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ ไม่มีปัญหา เซรั่มตัวนี้ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวของคุณแม่และไม่มีความเสี่ยงต่อลูกน้อยด้วย

 

PregSkin Brightening Age-Defying Moisturizing Facial Cream
ครีมคนท้อง PregSkin

ครีม PregSkin เนื้อนุ่มๆ ละมุนมากเลย ขอบอก มาพร้อมสารสกัดที่ปลอดภัยต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย อย่าง Bidens Pilosa พืชในวงศ์ทานตะวัน ต้องยอมรับเลยว่าเป็นครีมคุณแม่ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย และจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี

PregSkin Intensive Hydrating Stretch Mark Butter
ครีมคนท้อง PregSkin

คุณแม่ท่านไหน มีปัญหาหน้าท้องแตกลาย ผิวแห้ง ผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่ขาวกระจ่างใส แนะนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เอาอยู่ เรากล้าท้าให้คุณพิสูจน์ เนื้อครีมซึมง่าย เข้มข้น แต่ไม่เป็นอันตรายต่อคุณแม่และทารก ช่วยแก้ปัญหาผิวแตกลาย ลดอาการระคายเคือง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เรียบเนียนและขาวกระจ่างใส ใช้ทาผิวได้ทุกส่วนที่ต้องการ

PregSkin ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับคุณแม่ สกินแคร์ที่ใช้ได้ทั้งตอนตั้งครรภ์และหลังคลอด ช่วงให้นมบุตรก็สามารถใช้ได้ ผลิตภัณฑ์ทุกตัวปลอดภัยต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย วางใจได้เลย ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังในประเทศสหรัฐอเมริกามาเป็นที่เรียบร้อย เรียกได้ว่าสกินแคร์ทั้ง 3 ตัวนี้ ตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณแม่ได้ครอบคลุมมากๆ ไม่เชื่อเรากล้า ท้าให้ลอง…

 

https://pregskin.com

เบลล่า ฮาดิด คานส์ 2021

ค่ำคืนแห่งคานส์ 2021 ‘เบลล่า ฮาดิด’ สวยวินเทจในชุดขนนกและเพชรเม็ดโต

เบลล่า ฮาดิด คานส์ 2021
เบลล่า ฮาดิด คานส์ 2021

ความแซ่บแบบย้อนยุคของนางแบบระดับโลกย่อมไม่ธรรมดา เมื่อ ‘เบลล่า ฮาดิด’ ใส่ชุดเดรสขนนกฟูฟ่อง พร้อมสวมเครื่องประดับชิ้นโตเด่นแยงตา เข้าร่วมงานดินเนอร์ในเมืองคานส์

เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 2021 ได้เริ่มขึ้นแล้ว หลังจากถูกยกเลิกไปเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยค่ำคืนแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 กรกฎาคม 2564) เปิดพรมแดงด้วยคนดังมากมายในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เพลงแนวแฟนตาซีเรื่อง Annette และในปีนี้ Cannes Film Festival 2021 จะจัดขึ้นในวันที่ 6-17 กรกฎาคม 2021

หลังจากจบช่วงเวลาของพรมแดงไป ก็ถึงคิวของงานเลี้ยงดินเนอร์ ซึ่งในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ประจำปีครั้งที่ 74 จัดโดยแบรนด์เครื่องประดับสุดหรู Chopard จึงไม่น่าแปลกใจที่บนตัวแขกคนดังทั้งหลายจะเต็มไปด้วยเครื่องเพชรวิบวับ และหนึ่งในคนดังที่ได้รับเชิญคือ เบลล่า ฮาดิด นางแบบดังที่ได้โชว์ลุคสวยๆ บนพรมแดงวันแรกไปแล้ว

โดยลุคในงานดินเนอร์ เธอมาแบบสไตล์ย้อนยุคในชุดเดรสสั้นสีดำตัดด้วยขนนกสีขาวแน่นๆ จาก Lanvin และเครื่องประดับเพชรน้ำงามของ Chopard ทั้งต่างหู แหวน และกำไลข้อมือ รวมถึงรองเท้าที่คุมโทนความคลาสสิกในสีดำก็เข้ากับลุคได้ดี

ค่ำคืนแห่งคานส์ 2021 ‘เบลล่า ฮาดิด’ สวยวินเทจในชุดขนนกและเพชรเม็ดโต

คานส์ 2021 'เบลล่า ฮาดิด' คานส์ 2021 เบลล่า ฮาดิด-1 คานส์ 2021 เบลล่า ฮาดิด-2 คานส์ 2021 เบลล่า ฮาดิด-3 คานส์ 2021 เบลล่า ฮาดิด-4 คานส์ 2021 เบลล่า ฮาดิด-5 คานส์ 2021 เบลล่า ฮาดิด-6  เบลล่า ฮาดิด  เบลล่า ฮาดิด-1  เบลล่า ฮาดิด-2


ภาพ : Twitter@bellahadidbth

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เซ็กซี่เปิดพรมแดงคานส์! ‘Candice Swanepoel’ ในจั๊มสูทสีนู้ด มุมไหนก็ปัง

ส่องความเรียบแต่โก้ พิม-ซอนย่า คูลลิ่ง บนพรมแดง Cannes 2021

ยืนหนึ่งพรมแดง Cannes 2021 “เบลล่า ฮาดิด” เฉิดฉายในชุด ฌอง ปอล โกลติเยร์

หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์

หมอเจี๊ยบ เล่าประสบการณ์โควิดตอนนี้แย่เป็นพันเท่า คนนอนรอเตียงล้นฉุกเฉิน

account_circle
หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์
หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์

หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ เล่าประสบการณ์ขณะที่กำลังทำหน้าที่เป็นแพทย์ด่านหน้าเพื่อทำการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 หมอวอนขอวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและทั่วถึงให้ประชาชนทุกคนอย่างเร็วที่สุด

ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติ โดยเฉพาะในวันนี้ที่มีผู้ติดเชื้อถึง 7 พันคน และ ผู้เสียชีวิต 70 ราย เรียกได้ว่าเป็นยอดสูงสุดนับตั้งแต่ที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดในประเทศไทย ขณะเดียวกันมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอีกไม่ช้านี้ โดยมีรายงานว่าอาจมีผู้ติดเชื้อถึงวันละหมื่นคนเลยทีเดียว

ในขณะที่ผู้ติดเชื้อทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กำลังแพทย์ด่านหน้าที่ตั้งรับผู้ป่วยโควิด และ ระบบสาธารณสุขของประเทศไทย ก็แทบจะต้านไม่ไหว โดย หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ว่า

หมอเจี๊ยบ เล่าประสบการณ์โควิดตอนนี้แย่เป็นพันเท่า คนนอนรอเตียงล้นฉุกเฉิน

วันนี้เจี๊ยบขอมาเล่าประสบการณ์ด่านหน้าให้ฟังกันนะคะ ในฐานะหมอในห้องฉุกเฉิน เจี๊ยบคลุกคลีกับเคสผู้ป่วยโควิดมาตลอดซึ่งสถานการณ์ในตอนนี้ ต้องยอมรับว่ามันทั้งแย่และหนักมากกว่าการระบาดครั้งก่อนๆ เป็นพันเท่าเลยค่ะ อย่างที่ทราบกันว่าคนไข้โควิดที่อาการหนักแต่ไม่มีเตียงต้องนอนรอเตียงกองกันอยู่ล้นหน้าห้องฉุกเฉิน แต่อย่าลืมว่า ที่โรงพยาบาลไม่ได้มีเฉพาะเคสโควิดอย่างเดียว ยังมีทั้งอุบัติเหตุและคนเจ็บป่วยหนักที่อันตรายถึงชีวิตที่ต้องเข้ารับการรักษา

ไม่กี่วันมานี้มีคนไข้อาเจียนพุ่งเป็นเลือด หัวใจหยุดเต้น การที่หมอจะกระโดดเข้าไปช่วยชีวิตปั๊มหัวใจทันทีเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่สามารถทำได้ ต้องไปใส่ชุด PPE ก่อน และยังมีรายละเอียดในขั้นตอนการรักษาอื่นๆอีกหลายอย่างมากขึ้น คนทำงานก็กดดันด้วยเวลาที่ต้องเร่งรีบและด้วยปริมาณเคส บางครั้งผู้ป่วยและญาติไม่เข้าใจคิดว่ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่รีบมารักษา

แต่ขณะนั้น พวกเราทุกคนกำลังเตรียมความพร้อมป้องกันเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตผู้ป่วยอย่างปลอดภัย ล่าสุด เพื่อนร่วมงานเจี๊ยบน้องพยาบาลเป็นลมในชุด PPE ระหว่างกำลังทำงาน

ห้องแยกโรคป้องกันการแพร่เชื้อ (ห้องความดันลบ) ที่ใช้สำหรับเคสผู้ป่วยโควิดมีจำกัด ไม่พอกับจำนวนผู้ป่วย จนคนไข้โควิดต้องออกมานอนรักษาอยู่ด้านนอก ทำได้เพียงเว้นระยะห่าง(ที่ไม่ห่าง) ระหว่างเตียง ผู้ป่วยใกล้เคียงรวมถึงเจ้าหน้าที่ก็ต้องเสี่ยงติดเชื้อไปตามกัน เพราะห้องแยกโรคเต็มหมด และเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากค่ะ เจี๊ยบเจอเคสที่คนไข้อายุมากกว่าเจี๊ยบแค่ปีเดียวไม่มีโรคประจำตัวอื่นใดๆ แต่ก็เป็นหนักจนเสียชีวิตลำพังบนเตียง ไม่มีโอกาสได้ร่ำลาใคร ญาติพี่น้องไม่สามารถเข้ามาพบได้ ลองนึกดูว่าถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวหรือคนใกล้ตัวของตัวเองจะทรมานใจขนาดไหน

เคสโควิดที่ป่วยหนักจนจำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจก็เกิดขึ้นทุกวัน ตั้งแต่ทำงานใส่ท่อช่วยหายใจให้คนไข้โควิดมายังไม่มีเคสไหนเลยที่รอด ทุกครั้งที่จะต้องใส่ท่อช่วยหายใจให้ผู้ป่วยเจี๊ยบรู้สึกเศร้ามาก

เพราะตัวหมอเองยังไม่รู้เลยว่าคนไข้จะมีโอกาสได้กลับบ้านไหม ที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนั้นคือจับมือและบอกว่าคนไข้ว่า “เดี๋ยวหมอจะใส่ท่อช่วยหายใจให้ ตอนตื่นมาจะมีท่ออยู่ในปากนะ”

มีเคสนึง คนไข้เป็นคนขับรถแท็กซี่ คุณลุงเล่าว่า ผู้โดยสารให้ไปส่งที่ รพ. ระหว่างทางก็ถามผู้โดยสารว่าไปส่งโรงพยาบาลเป็นอะไร เป็นโควิดหรือเปล่า? ผู้โดยสารเลี่ยงไม่ตอบ คนขับก็ไม่กล้าให้ลงจากรถเห็นผู้โดยสารขึ้นมานั่งแล้วจึงไปส่งให้ถึงที่หมาย หลังซักประวัติเสร็จไม่นาน คุณลุงก็อาการหนักจนต้องใส่ห่อช่วยหายใจ เป็นอีกเคสที่จากไป เจี๊ยบไหว้พระขออธิษฐานให้คุณลุงสงบสุขอยู่บนสวรรค์นะคะ

สถานการณ์ในตอนนี้หนักมาก บางเคสที่เจออายุไม่เยอะ ไม่มีโรคประจำตัวมาก่อนก็อาจมีโอกาสอาการหนักได้ ความเสี่ยงมีอยู่ทุกที่ เจี๊ยบขอเป็นหนึ่งเสียงในฐานะแพทย์และประชาชนคนหนึ่ง ขอวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและทั่วถึงให้ประชาชนทุกคนอย่างเร็วที่สุดเถอะนะคะ เพราะแต่ละวินาทีที่ช้าไปคือชีวิต หมอทุกคนอยากเห็นคนไข้ได้กลับบ้านไปหาคนที่เค้ารัก”

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย Lalana Kongtoranin (@jeab_lalana)


 

ใส่กี่ครั้งก็ยังสวย ดัชเชสเคท พระมารดารีไซเคิล ทุกไอเท็มไม่มีคำว่าตกรุ่น

account_circle

ยกตำแหน่ง พระมารดารีไซเคิล ให้ไปเลยจริงๆ สำหรับ ดัชเชสเคท เพราะหลายๆ ครั้งที่พระองค์ได้นำฉลองพระองค์ชุดเก่ามาใส่ใหม่ เพราะทุกไอเท็มสำหรับดัชเชสเคทนั้นไม่มีคำว่าตกรุ่น

ไม่เพียงแต่จะเป็นแฟชั่นไอคอน แต่ดัชเชสเคทแห่งเคมบริดจ์ ยังเป็นแบบอย่างให้กับสาวๆ ในเรื่องการนำฉลองพระองค์ชุดเก่า หรือแอคเซสซอรี่ต่างๆ กลับมาใส่ใหม่อีกครั้ง แม้ในหลายๆ ไอเท็มที่ใส่จะตกรุ่นไปแล้ว รวมถึงยังเคยใส่เมื่อครั้งเสด็จไปงานสำคัญๆ ระดับประเทศ แต่ดัชเชสเคทก็ได้หาแคร์ไม่ หรือกลัวว่าใครจะจำได้

อย่างเมื่อครั้งที่เสด็จร่วมงานพร้อมกับเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ เพื่อทรงเข้าร่วมชมการแสดงพิเศษของ Dear Evan Hansen ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนโครงการการกุศลของราชวงศ์ หรือ Royal Foundation ดัชเชสเคท ได้นำเดรสและรองเท้าคู่เก่า ซึ่งเคยใส่เมื่อครั้งเสด็จไปงานประกาศรางวัล BAFTA และงานกาล่าการกุศล Addiction Awareness Week เมื่อปีที่แล้ว นำกลับมาใส่ใหม่อีกครั้ง

โดยเดรสสีดำผ้าทวีดตัวนี้มาจากแบรนด์ Eponine ซึ่งพระองค์ทรงแมตช์กับรองเท้าส้นสูงกลิตเตอร์สีเงินจากแบรนด์  Jimmy Choo ราคา £525  (21,558 บาท) และกระเป๋าคลัทช์ใบใหม่ที่ดูเข้ากันกับรองเท้า ซึ่งมาจากแบรนด์เดียวกัน

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องประดับที่ดัชเชสเคททรงใส่คือต่างหูเพชรโคมระย้า ซึ่งเคยใส่แล้วเมื่อปี 2017 โดยพระกุณฑล (ต่างหู) ชิ้นนี้พระองค์ทรงยืมมาจากควีนเอลิซาเบธที่ 2  ความพิเศษของต่างหูคู่นี้คือ แม้กระทั่งควีนเองก็ยังไม่เคยได้ใส่มัน ซึ่งนี่น่าจะเป็นหนึ่งในกรุสมบัติ เครื่องถนิมพิมพาภรณ์ (เครื่องเพชร และเครื่องประดับ) ของควีนเอลิซาเบธที่ 2 อีกด้วย

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ดัชเชสเคทมักทรงนำชุดเก่ามาใส่หลายๆ ครั้งโดยไม่มีเบื่อ ในความเป็นจริงพระองค์จะใส่เสื้อฉลองพระองค์ตัวใหม่ทุกครั้งที่ออกงานก็เป็นได้ เพราะชีวิตของพระองค์ตรงข้ามกับคนปกติ นับตั้งแต่อภิเษกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียม ดัชเชสเคทต้องปรากฏกายต่อหน้าสื่อสาธารณะและปาปารัสซี่บ่อยครั้ง แต่ดัชเชสเคทก็ทรงเผยให้เห็นว่าชีวิตของพระองค์ก็ทรงเป็นเหมือนคนธรรมดาอย่างเราๆ ที่ชอบใส่เดรสตัวเก่ง รองเท้าคู่โปรดอยู่เสมอ

ใส่กี่ครั้งก็ยังสวย ดัชเชสเคท พระมารดารีไซเคิล ทุกไอเท็มไม่มีคำว่าตกรุ่น

ดัชเชสเคท
ฉลองพระองค์ตัวโปรด เสื้อเบลาส์และกระโปรงสีแดงเพลิงจากแบรนด์ Luisa Spagnoli ดัชเชสเคทใส่ชุดนี้ถึงสามครั้งในปี 2011, 2014 และ 2017
ดัชเชสเคท
ชุดราตรียาวปักเลื่อมสีทองระยิบระยับจากแบรนด์ Jenny Packham ทรงใส่ครั้งแรกเมื่อปี 2011 และใส่อีกครั้งในปี 2016
ดัชเชสเทค
ลุคนี้มีสิ่งเดียวที่แตกต่างกันคือ เทียร่าที่ดัชเชสเคททรงใส่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนคือชุดราตรียาวสีแดงจากแบรนด์ Jenny Packham ที่พระองค์ทรงใส่ร่วมงานสำคัญระดับประเทศถึงสองครั้ง คืองานเลี้ยงอาหารค่ำปี 2015 ที่ประเทศจีนและงานเลี้ยงต้อนรับปี 2016 ที่พระราชวังบักกิ้งแฮม
ดัชเชสเคท
ทรงผมเปลี่ยน อารมณ์ก็เปลี่ยน ดัชเชสเคทกับแบรนด์โปรดจาก Jenny Packham เดรสสีเนวี่เข้มอีกหนึ่งดีไซน์จากแบรนด์นี้ที่พระองค์ทรงใส่ถึง 3 ครั้ง
ดัชเชสเคท
เดรสตัวนี้มาจากแบรนด์ Orla Kiely จากปี 2012 สู่ปี 2015 ยังคงสิริโฉมงดงามไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
ดัชเชสเคท
สำหรับฉลองพระองค์เดรสสีฟ้าสดใสจาก Stella McCartney ชุดนี้พระองค์ทรงใส่ถึง 4 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2012 แต่ถึงจะใส่อีกสักกี่ครั้ง ก็ยังคงพระสิริโฉมงดงามอยู่เสมอ
ลุคนี้ของดัชเชสเคทมีกลิ่นอายของความวินเทจ โดยเสื้อเบลาส์และกระโปรงสีฟ้าชุดนี้มาจากแบรนด์ Alexander McQueen พระองค์ทรงสวมมันถึงสองครั้งในปี 2014 ครั้งที่สามในปี 2016 และอีกครั้งในปี 2019
ดัชเชสเคท
ดัชเชสเคททรงนำชุดคลุมท้องของพระองค์กลับมาใส่ใหม่ ทรงสวมเสื้อโค้ต Alexander McQueen ในขณะที่ตั้งครรภ์เจ้าชายจอร์จในปี 2013 จากนั้นทรงใส่มันอีกครั้งในขณะที่ตั้งครรภ์เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ในปี 2015
ดัชเชสเคท
ฉลองพระองค์เดรสโค้ตชุดนี้มาจากแบรนด์ Jane Troughton โดยภาพแรกดัชเชสเคททรงใส่ชุดนี้เมื่อปี 2006 ถัดมาคือปี 2011 และรูปสุดท้ายคือปี 2012
ชุดเดรสสีขาวลายฉลุจากดีไซเนอร์ชาวออสเตรเลียแบรนด์ label Zimmerman ทรงใส่เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จเยือนประเทศออสเตรเลียครั้งแรกในปี 2014 จากนั้นอีกสอง ถึงสามเดือนถัดมา พระองค์ก็ได้นำมันมาใส่อีกครั้งขณะเสด็จไปชม Wimbledon ในปีเดียวกัน
ชุดเดรสสีเขียวสดใสจากแบรนด์ Diane von Furstenberg ดัชเชสทรงใส่เดรสตัวนี้ถึง 2 ครั้งในเดือนเดียวกัน
รูปนี้ดูเผินๆ แล้วเหมือนถ่ายวันเดียวกันไม่มีผิด แต่อันที่จริงแล้ว รูปนี้มีช่วงเวลาที่ต่างกันถึง 3 ปี คือตั้งแต่ 2011 ถึง 2014
ชุดเดรสสีชมพูละมุนตาจากแบรนด์ Emilia Wickstead ในปี 2012 ดัชเชสเคททรงใส่ชุดนี้ถึงสองครั้ง ซึ่งมีระยะห่างกันเพียง 2 สัปดาห์จากที่ใส่ครั้งแรก
ดัชเชสเคท
อีกครั้งกับชุดราตรีจากแบรนด์โปรด Jenny Packham ที่ดัชเชสเคททรงใส่ถึงสองครั้งในเดือนพฤษภาคม ปี 2012 และพฤศจิกายน ปี 2018

เดรสโค้ตจากแบรนด์ Carolina Herrera ดัชเชสเคททรงใส่ตัวนี้ถึง 3 ครั้ง พระองค์ทรงสวมมันครั้งแรกในระหว่างเสด็จเยือนแคนาดา ในเดือนกันยายน 2016 จากนั้นทรงใส่อีกครั้งในขณะที่เข้าร่วมชมการแข่งขันรักบี้ RBS 6 Nations ระหว่างฝรั่งเศสและเวลส์ในเดือนมีนาคม 2017 และครั้งที่ 3 ในขณะเสด็จเยือนไอร์แลนด์เหนือ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2019 คราวนี้พระองค์ทรงจับคู่กับกางเกงสกินนี่และรองเท้าบู๊ตสีดำจากแบรนด์ L.K. Bennett อีกด้วย

ดัชเชสเคท

ชุดราตรีจากแบรนด์ Alexander McQueen  ตัวนี้สร้างความฉงนให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก เพราะมีเนื้อผ้าและลายเดียวกัน แต่ต่างกันที่ดีไซน์ช่วงบนของชุด ซึ่งดัชเชสเคททรงใส่ครั้งแรกเมื่อปี 2017 ขณะที่ไปร่วมงาน BAFTA และครั้งล่าสุดคือเสด็จไปร่วมงาน National Portrait Gallery ที่จัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้หลายคนเชื่อว่ามันคือเดรสตัวเดิมแต่นำมาดัดแปลงใหม่ แต่ก็มีคนบางกลุ่มเสนอความเห็นที่ต่างออกไปว่า ดัชเชสเคททรงซื้อฉลองพระองค์เดรสสองชุด โดยให้ทางแบรนด์ดีไซน์ให้ต่างกันตรงช่วงแขน เพราะดูจากลายผ้าตรงช่วงพระกฤษฎี (เอว) แล้ว เดรสสองตัวนี้มีความต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากฉลองพระองค์หลายชุดๆ ที่ดัชเชสเคททรงใส่ซ้ำกันหลายครั้ง ซึ่งแฟนๆ ราชวงศ์ได้กล่าวว่า การที่ดัชเชสเคทใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ กันนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าพระองค์ไม่ถือตัวและยังติดดิน นอกจากนี้ยังเผยให้เห็นถึงรสนิยมที่ไร้กาลเวลาในเสื้อผ้าของพระองค์ ปัจจุบันดัชเชสเคทยังคงสวมชุดที่เคยใส่ในปี 2011 และ 2012 ซึ่งใส่แล้วยังดูมีสไตล์และทรงสิริโฉมงดงามไม่มีเปลี่ยน


ภาพ : Getty Image, AP Images, www.insider.com

 

 

"แลมบ์ดา" ไวรัส โควิดสายพันธุ์ใหม่ อันตรายกว่าเดลต้า

“แลมบ์ดา” โควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่คาดว่าจะระบาดรุนแรงกว่า เดลต้า จริงหรือไม่?

Alternative Textaccount_circle
"แลมบ์ดา" ไวรัส โควิดสายพันธุ์ใหม่ อันตรายกว่าเดลต้า
"แลมบ์ดา" ไวรัส โควิดสายพันธุ์ใหม่ อันตรายกว่าเดลต้า

โควิดสายพันธุ์ใหม่ ชื่อว่า “แลมบ์ดา” (Lambda) หรือสายพันธุ์ C.37 กำลังแพร่ระบาดหนักในภูมิภาคอเมริกาใต้ โดยการกลายพันธุ์ที่ซับซ้อนและมีลักษณะพิเศษของสายพันธุ์นี้ ทำให้น่าหวั่นเกรงว่าอาจเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่สามารถเกิดการระบาดได้รวดเร็วและรุนแรง

ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์แลมบ์ดาแล้วในอย่างน้อย 29 ประเทศทั่วโลก โดยเมื่อวานนี้กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซียได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ชนิดนี้เป็นอันตรายร้ายแรงยิ่งกว่าสายพันธุ์เดลต้าเสียอีก

อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า แถลงการณ์ข้างต้นมีความถูกต้องมากน้อยแค่ไหน ทั้งยังไม่อาจทราบได้ว่า ต่อจากนี้สายพันธุ์แลมบ์ดาจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกอย่างไรกันแน่ ในขณะที่มีผลวิจัยทางการแพทย์ล่าสุดยืนยันว่า วัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) และค็อกเทลแอนติบอดีบางชนิด สามารถต้านทานเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดาได้

สายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง

ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกยังคงกำหนดให้สายพันธุ์แลมบ์ดาเป็น Variant of Interest (VOI) หรือไวรัสกลายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจเฝ้าระวังไว้ก่อน ซึ่งต่างจากสายพันธุ์เดลตาที่มีสถานะเป็น Variant of Concern (VOC) หรือไวรัสกลายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วงและวิตกกังวลไปเสียแล้ว

อันที่จริงสถานะสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าจับตามองหรือ VOI ของแลมบ์ดา หมายความว่ามีการปรากฏตัวของไวรัสกลายพันธุ์นี้ขึ้นในชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งมีลักษณะการกลายพันธุ์ที่ส่อแววว่าอาจมีผลต่อการแพร่ระบาดในอนาคตเท่านั้น

มีการตรวจพบสายพันธุ์แลมบ์ดาครั้งแรกที่ประเทศเปรูเมื่อเดือนสิงหาคมของปีก่อน โดยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้สูงถึง 81% ของผู้ป่วยโควิดในเปรู และพบมากถึง 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโควิดในประเทศชิลี รวมทั้งพบผู้ติดเชื้อเกือบร้อยรายในประเทศเม็กซิโกและอาร์เจนตินาอีกด้วย แต่เปรูนั้นมีอัตราการเสียชีวิตจากโควิดสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ล่าสุดเมื่อปลายเดือนมิถุนายน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ที่สหรัฐฯ กว่า 600 ราย และที่สหราชอาณาจักรอีก 7 ราย โดยคาดว่าส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

ไวรัสโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดานั้นมียีนกลายพันธุ์ที่ซับซ้อนในหลายตำแหน่ง โดยพบการกลายพันธุ์ถึง 7 จุดบนโปรตีนที่เป็นส่วนหนามของไวรัส เมื่อนำไปเทียบกับพันธุกรรมของไวรัสโควิดดั้งเดิมซึ่งพบครั้งแรกที่นครอู่ฮั่นของจีน

การกลายพันธุ์บางลักษณะที่พบในสายพันธุ์แลมบ์ดานี้ มีศักยภาพสูงที่จะทำให้ไวรัสมีความสามารถในการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล รวมทั้งสามารถลดทอนประสิทธิภาพของแอนติบอดีบางตัวที่ใช้เพื่อยับยั้งไวรัสได้อีกด้วย

ตัวอย่างเช่นการกลายพันธุ์ที่เรียกว่า F490S ซึ่งอยู่บนพื้นที่จับกับตัวรับ (RBD) ของหนามไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดา ถือว่าเป็นการกลายพันธุ์ที่อาจจะทำให้ไวรัสรอดพ้นจากวัคซีนไปได้ โดยจะทำให้แอนติบอดีที่วัคซีนสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพต่ำลง ไม่อาจทำให้ภูมิคุ้มกันจดจำและเข้าทำลายไวรัสกลายพันธุ์ได้

วัคซีน mRNA รับมือได้

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขอังกฤษ (PHE) แถลงยืนยันว่า “ปัจจุบันยังคงไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ได้แน่ชัดว่า ไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดาทำให้เกิดโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรงกว่าปกติ หรือทำให้วัคซีนที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพลดลง”

ล่าสุดทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กของสหรัฐฯ เผยแพร่ผลการศึกษาว่าด้วยไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดาในคลังเอกสารวิชาการออนไลน์ bioXiv โดยระบุว่าสายพันธุ์นี้มีความสามารถในการต้านทานแอนติบอดีจากวัคซีน สูงกว่าไวรัส SARS-CoV-2 แบบดั้งเดิม 3.3 เท่า

ทีมผู้วิจัยระบุว่าแม้ไวรัสกลายพันธุ์แลมบ์ดาจะทำให้แอนติบอดีจากการฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพต่ำลง แต่ก็เป็นตัวเลขที่ลดลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อทดลองใช้วัคซีนป้องกันโควิดชนิด mRNA ซึ่งได้แก่วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นากับไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดา ผลปรากฏว่าไวรัสมีความสามารถต้านทานแอนติบอดีจากวัคซีนต่ำลงกว่าเดิม โดยอยู่ในเกณฑ์ที่วัคซีน mRNA ซึ่งใช้กันอยู่ทั่วไป จะสามารถรับมือกับไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนี้ได้

นอกจากนี้ งานวิจัยดังกล่าวยังทดสอบพบว่า ค็อกเทลแอนติบอดีซึ่งเป็นยาแบบภูมิคุ้มกันบำบัดที่ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของบริษัทรีเจเนรอน (Regeneron) มีประสิทธิภาพดีในการต้านทานและทำให้ไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดาหมดฤทธิ์ได้อีกด้วย


ข้อมูล : bbc.com/thai
ภาพ : Pexels

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โควิดสายพันธุ์เดลต้า แพร่เร็วกว่าเดิม แค่เดินสวนกันเพียง 5 วินาทีก็เสี่ยงติดได้

รู้จัก ‘สารสไตรีนโมโนเมอร์’ จากเหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ อันตรายมากหากสูดดม

แนะวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นยังไงให้รอด เมื่อ ติดเชื้อโควิด-19 เเต่เตียงเต็ม!!!

ยล “5 แหวนหมั้นบันลือโลก” ของคนดังและเชื้อพระวงศ์

George Pragnell เจ้าของร้านเครื่องประดับรายใหญ่ และทรงอิทธิพลร้านหนึ่งในอังกฤษ ผู้คร่ำหวอดในแวดวงเครื่องเพชร ได้รวบรวมข้อมูล “แหวนหมั้นบันลือโลก” จำนวน 5 วง ของคนดังและเชื้อพระวงศ์ มานำเสนอเป็นรูปภาพ เพื่อเป็นวิทยาทานแด่ผู้อยากรู้อยากเห็นอย่างเรา ๆ

โดยอภิมหาแหวนหมั้นอันทรงคุณค่าและราคาสูง ที่จะกล่าวถึงนั้น ประกอบด้วยแหวนหมั้นของ Jacqueline Kennedy ภรรยาอดีตประธานาธิบดี John F. Kennedy แห่งสหรัฐฯ, Grace Kelly อดีตนักแสดงชาวอเมริกัน และพระชายาใน Prince Rainier III แห่งโมนาโค, Queen Elizabeth II แห่งราชวงศ์อังกฤษ, Audrey Hepburn แฟชั่นไอคอนคนดังชาวอังกฤษ, นักแสดงคนดัง Elizabeth Taylor และ Kate Middleton ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาใน Prince William องค์รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ

  • Jacqueline Kennedy (หมั้นกับอดีตประธานาธิบดี John F. Kennedy แห่งสหรัฐฯ)

Jacqueline-Kennedy_story
First Meeting : การพบกันครั้งแรก

Jacqueline และ John F. Kennedy พบกันครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 1951 ที่งานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.  ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มเพื่อนของทั้งสองที่รู้จักกัน

Engagement : หมั้นหมาย

ทั้งสองหมั้นกันเมื่อเดือนมิถุนายน 1953 หรือ 2 ปีถัดมาหลังจากพบกันครั้งแรก ส่วนเรื่องราวความเป็นมายังคงเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงทุกวันนี้ โดยคนรู้จักบางกลุ่มอ้างว่า อดีตประธานาธิบดี John F. Kennedy ขอหมั้นหมายผ่านสายโทรศัพท์ แต่อีกกลุ่มระบุว่า ขอหมั้นที่เมืองจอร์จทาวน์ ส่วนอีกกลุ่มบอกว่า ขอหมั้นที่โรงแรมในบอสตัน สถานที่ที่อดีตประธานาธิบดี เคยพูดต่อสาธารณะครั้งแรกในวัยเพียง 6 ขวบ

Wedding : พิธีวิวาห์

Jacqueline และ John F. Kennedy ครองรักกันและก้าวเข้าสู่ประตูวิวาห์ ในวันที่ 12 กันยายน 1953 ที่โบถส์เซนต์แมรี่ ในเมืองนิวพอร์ต รัฐโรดไอส์แลนด์ ส่วนงานเลี้ยงจัดขึ้นที่แฮมเมอร์สมิทธฟาร์ม ซึ่งเป็นอสังหาฯริมน้ำของพ่อเลี้ยง Jacqueline
Jacqueline-Kennedy_ring
Engagement Ring : แหวนหมั้นเลอค่า

อดีตประธานาธิบดี John F. Kennedy เลือกมรกตน้ำงาม ขนาด 2.84 กะรัต ประดับบนแหวนทองอร่าม ที่มีเพชรทรงรีล้อมเป็นเหมือนกับใบไม้อีก 2.88 กะรัต หลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งงานแล้ว จึงมีการปรับรูปแบบของแหวนหมั้น  โดยนำเพชรบางส่วนออก ทำให้ในส่วนของเพชรมีน้ำหนักเหลือ 2.12 กะรัต ปัจจุบันแหวนวงนี้มีมูลค่าสูงถึง 1.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 48.65 ล้านบาท)

  • Grace Kelly (หมั้นกับ Prince Rainier III แห่งโมนาโค)

Grace-Kelly_story
First Meeting : การพบกันครั้งแรก

Grace Kelly เป็นอดีตนักแสดงชาวอเมริกัน ผู้มีใบหน้าสวยหวาน พบกับ Prince Rainier III เจ้าชายแห่งโมนาโค ครั้งแรก จากการถ่ายภาพรวมกลุ่ม ณ งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ที่เมืองคานน์ ประเทศฝรั่งเศส

Engagement : หมั้นหมาย

หลังจากพบกันที่เทศกาลหนังเมืองคานน์แล้ว จึงมีการติดต่อระหว่างกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา โดย Grace Kelly ได้เดินทางไปพบ Prince Rainier III อีกครั้งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ในปี 1955 หลังจากนั้น 3 วัน เจ้าชายจึงขอหมั้น ก่อนประกาศพิธีหมั้นอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 1956

Wedding : พิธีวิวาห์

พิธีเสกสมรส ระหว่าง Grace Kelly และ Prince Rainier III จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 18-19 เมษายน 1956 โดยพิธีในวันแรกจัดขึ้นที่พระราชวังโมนาโค ส่วนอีกวันจัดขึ้นที่มหาวิหารโมนาโค ซึ่งพิธีเสกสมรสในครั้งนั้น ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดงานวิวาห์แห่งยุค “The Wedding of The Century” เลยทีเดียว
Grace-Kelly_ring
Engagement Ring : แหวนหมั้นเลอค่า

Grace Kelly ได้รับแหวนเพชรสี่เหลี่ยมมุมตัดเม็ดโต 10.47 กะรัต จากเจ้าชาย Prince Rainier III ปัจจุบันมูลค่าอยู่ที่ 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 150.5 ล้านบาท)

  • Queen Elizabeth II (หมั้นกับ Prince Philip)

Queen-Elizabeth-II_story
First Meeting : การพบกันครั้งแรก

Queen Elizabeth II พบกับ Prince Philip ครั้งแรก ที่พิธีอภิเษกสมรส ของ Princess Marina แห่งกรีซ ซึ่งเป็นพระญาติของ Prince Philip โดยขณะนั้น Queen Elizabeth II เพิ่งมีพระชนมายุเพียง 13 พรรษา

Engagement : หมั้นหมาย

Prince Philip ทรงขอหมั้นระหว่างทรงเดินเล่นกับ Queen Elizabeth II ในบริเวณสวนพระตำหนักบัลมอรัล ช่วงฤดูร้อนปี 1946 โดย Queen Elizabeth II ทรงตอบรับทันที โดยไม่ทรงปรึกษาพระบิดา หรือพระมารดาก่อน ทั้งนี้ พระบิดาของพระองค์จึงให้เก็บเรื่องการหมั้นไว้เป็นความลับ ก่อนจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ หลังวันเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติปีที่ 21 ของ Queen Elizabeth II

Wedding : พิธีวิวาห์

พระราชพิธีอภิเษกสมรสของทั้งสองพระองค์ จัดขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แอบบี ในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 1947 ได้ทรงเชื้อเชิญพระราชอาคันตุกะ และแขกเหรื่ออื่น ๆ จำนวน 2,000 คน และมีประชาชนรับฟังการถ่ายทอดสดพระราชพิธีอภิเษกสมรสผ่านทางวิทยุ มากถึง 200 ล้านคนทั่วโลก
Queen-Elizabeth-II_ring
Engagement Ring : แหวนหมั้นเลอค่า

ก่อนที่ Prince Philip จะทรงขอหมั้นหมายกับ Queen Elizabeth II เจ้าชายได้มอบหมายให้ Philip Antrobus ออกแบบแหวนแพลทตินั่ม โดยใช้เพชรจากพระมงกุฎของพระมารดา Princess Andrew แห่งกรีซและเดนมาร์ก มาประดับบนหัวแหวน เพชรที่นำมาประดับนั้นเป็นเพชรน้ำงามจำนวน 3 เม็ด ขนาดรวมกัน 3 กะรัต โดยเพชรเม็ดกลางที่มีขนาดใหญ่สุด ออกแบบให้เป็นแบบเพชรฝังมงกุฎ 8 หัว นอกจากนี้ ตรงไหล่แหวนยังมีเพชรประดับอยู่ด้วยทั้งสองฝั่ง ปัจจุบันราคาโดยประมาณคาดว่าอยู่ที่ 144,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,040,000 บาท)

  • Audrey Hepburn (หมั้นกับ Mel Ferrer)

Audrey-Hepburn_story
First Meeting : การพบกันครั้งแรก

คู่นี้พบกันครั้งแรกที่งานเลี้ยงฉลองของทีมงานภาพยนตร์ ในกรุงลอนดอน เมื่อเดือนธันวาคม 1953 โดยมีเพื่อนนักแสดง Gregory Peck เป็นผู้แนะนำให้ได้รู้จักกัน หลังจากนั้น Mel Ferrer จึงชวนให้ Audrey Hepburn มาแสดงละครบรอดเวย์ เรื่อง Ondine ด้วยกัน

Engagement : หมั้นหมาย

Mel Ferrer ขอหมั้นในขณะที่เขาโอบกอด Audrey Hepburn อยู่ในอ้อมแขน ระหว่างที่กำลังชมวิวทะเลสาบลูเซิร์น ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยกัน ในเดือนสิงหาคม 1954 Audrey Hepburn ตอบรับคำขอด้วยการส่งนาฬิกาข้อมือเรือนแพลตทินั่ม ที่สลักประโยคว่า “Mad About The Boy” จากเพลงของ Noel Coward กลับไปให้เขา

Wedding : พิธีวิวาห์

งานสมรสจัดขึ้นแบบส่วนตัว ในวันที่ 24 กันยายน 1954 ที่เดียวกับสถานที่ขอหมั้น ผู้ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงาน มีเพียงครอบครัว และเพื่อนสนิทเท่านั้น
Audrey-Hepburn_ring
Engagement Ring : แหวนหมั้นเลอค่า

Mel Ferrer พิจารณาจากสไตล์อันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของฝ่ายหญิง แล้วจึงเลือกแหวนหมั้นที่ไม่ได้มีรูปแบบดั้งเดิมตามธรรมเนียม แต่เลือกชุดแหวนที่มีสามวงแทน เพื่อให้ Audrey Hepburn ได้นำไปเลือกมิกซ์แอนด์แมทซ์ให้เข้ากับการแต่งการของเธอ โดยวงแรกเป็นแหวนหมั้นทองคำขาวประดับเพชรสี่เหลี่ยม นำหนักรวม 1.5 กะรัต ส่วนอีกสองวงเป็นแหวนแต่งงานสีทอง และสีโรสโกลส์ โดยตอนนี้ราคาแหวนชุดตกอยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 350,000 บาท)

  • Elizabeth Taylor (หมั้นกับ Richard Burton)

Elizabeth-Taylor_story
First Meeting : การพบกันครั้งแรก

นักแสดงทั้งสองพบกันครั้งแรกที่กองถ่ายคลีโอพัตรา ในปี 1963 โดยฉากเลิฟซีนที่ต้องจุมพิศกันครั้งแรก ทั้งคู่จุมพิศกันยาวนาน แม้ว่าผู้กำกับจะสั่ง “คัท” แล้วก็ตาม

Engagement : หมั้นหมาย

Richard Burton โชว์แหวนขอหมั้นต่อหน้า Elizabeth Taylor ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังล่องเรือยอตช์ ในแม่น้ำเทมส์ ในกรุงลอนดอน

Wedding : พิธีวิวาห์

Richard Burton และ Elizabeth Taylor สมรัสสมรสกันในวันที่ 15 มีนาคม 1964 ที่มอนทรีอัล โดยมีสักขีพยานเพียงแค่ 9 คนเท่านั้น ที่ได้เห็น Elizabeth Taylor กล่าวคำว่า “I do” แต่ความรักของทั้งสองก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ มีการหย่าและแต่งงานใหม่ถึง 2 ครั้ง
Elizabeth-Taylor_ring
Engagement Ring : แหวนหมั้นเลอค่า

แหวนหมั้นที่ Richard Burton มอบให้กับ Elizabeth Taylor บนเรือยอตช์ มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร มีเพชรน้ำงาม 33.19 กะรัต ประดับอยู่กลางหัวแหวน ส่วนไหล่แหวนสองข้างประดับด้วยเพชรตัดสี่เหลี่ยม ตัวแหวนเป็นแพลตทินัม ราคาปัจจุบันคาดว่าอยู่ที่ 8.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 287 ล้านบาท)

  • Kate Middleton (หมั้นกับ Prince William องค์รัชทายาท ลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ)

Kate-Middleton_story
First Meeting : การพบกันครั้งแรก

Prince William และ Kate Middleton พบกันครั้งแรกขณะศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ ในสก็อตแลนด์ โดย Prince William ตรัสเล่าว่าทรงตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ ขณะที่ Kate Middleton ร่วมเดินแฟชั่นโชว์การกุศลของมหาวิทยาลัย

Engagement : หมั้นหมาย

Prince William และ Kate Middleton หมั้นหมายกันระหว่างพักร้อนเป็นการส่วนตัว ที่ประเทศเคนย่า หลังจากที่เจ้าชายได้ทรงของอนุญาตและแจ้งให้กับบิดาของ Kate Middleton ทราบก่อนแล้ว หลังจากนั้นจึงมีการประกาศหมั้นอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2010

Wedding : พิธีวิวาห์

พิธีเสกสมรส มีขึ้นในวันที่ 29 เมษายน 2011 ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แอบบี ในกรุงลอนดอน โดยพิธีเสกสมรสระหว่าง Prince William และ Kate Middleton ถูกถ่ายทอดสดทางวิทยุ และโทรทัศน์ ไปกว่า 180 ประเทศทั่วโลก
Kate-Middleton_ring
Engagement Ring : แหวนหมั้นเลอค่า

แหวนหมั้นของ Kate Middleton เป็นแหวนทองคำขาว ประดับด้วยแซฟไฟร์สีน้ำเงิน ขนาด 12 กะรัต และล้อมด้วยเพชร 14 เม็ด แหวนวงนี้ Prince Charles พระบิดาของ Prince William เคยใช้ขอหมั้น Princess Diana มาก่อน สำหรับมูลค่าครั้งแรกที่ซื้อมาเมื่อปี 1981 อยู่ที่ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,400,00 บาท) ส่วนปัจจุบันประมาณการอยู่ที่ 430,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 15,050,000 บาท)

เรื่อง : Ladyfren

Source: Dailymail.co.uk
Images by George Pragnell and pragnell.co.uk

‘แม้จะเจ็บจนซึ้งว่า ‘มีรักก็มีทุกข์’ แต่วันนี้ดวงก็ไม่วาย หาทุกข์มาเพิ่มอีก’ ดูดวงรายวัน 8 กรกฏาคม 2564

ดูดวงรายวัน 8 กรฏาคม 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘แม้จะเจ็บจนซึ้งกับคำว่า ‘มีรักก็มีทุกข์’ แต่วันนี้ดวงก็ไม่วาย หาทุกข์มาเพิ่มอีก’

ดูดวงรายวัน 8 กรกฏาคม 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   มีความเป็นไปได้ว่า คุณอาจถูกลดบทบาทความสำคัญลง ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้านายเหมือนเดิม เสนองานไปก็ไม่ได้รับการตอบรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำงานเกี่ยวข้องกับการติดต่อประสานงาน  การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน รวมถึงงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านภาษาด้วยแล้ว วันนี้คุณมีโอกาสที่ต้องไปค้นหาความรู้  หรือไปเรียนเพิ่มเติม

การเงิน  :  รายได้มาจากเงินเดือนประจำ ซึ่งวันนี้มีโอกาสที่คุณจะเสียเงินกับเรื่องความรัก จนไม่พอใช้ ซึ่งคุณก็พยายามหารายได้พิเศษ เพื่อเพิ่มรายได้

ความรัก :  มีความเป็นไปได้ที่วันนี้คุณจะตกเป็นรอง อยู่ในสถานภาพงอนง้อให้คู่อยู่กับคุณ แต่เขาก็อาจไปไกลเกินกว่าจะกลับแล้ว เพราะฉะนั้นโอกาสที่คุณจะอยู่คนเดียวมีสูง คนโสด  หากคุณกำลังมอบหัวใจให้ชาวต่างชาติในที่ทำงานเดียวกัน วันอื่นเขาน่าจะใช่คู่คุณ แต่วันนี้ด้วยดวง เขาจึงยังไม่ใช่คนที่เหมาะสม

สุขภาพ  :  ระบบหมุนเวียนเลือดไม่ปกติ มีโอกาสเป็นโรคเหน็บชา เกล็ดเลือดแข็งตัวช้า รวมถึงความดัน นอกจากนั้นยังต้องระวังความเครียด ความวิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพจิตในระยะยาว

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  คุณมีปฏิภาณ ไหวพริบ มีความคล่องตัวในการทำงานสูง วันนี้ควรใช้จุดแข็งของคุณทำงานเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อความผิดพลาดและเสียหายไปก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานออกแบบดีไซน์ งานที่ต้องใช้มุมมองความสวยงามทำงาน คุณมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูง ทางที่ดีควรใช้ธรรมะนำทาง หรือมองโลกในแง่บวก งดการไขว่คว้า แสวงหาหรือทะยอทะยานก่อน

การเงิน :  วันนี้คุณพอใจ พอเพียงกับชีวิตสมถะ ประหยัดและอดออม แต่ก็มีโอกาสที่จะมีรายจ่ายก้อนใหญ่เข้ามา แต่ก็ยังดีที่มีผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือ

ความรัก :  มีความเป็นไปได้ที่คุณอาจต้องใช้หลักธรรม ดับความวุ่นวายในใจ ไม่ให้ออกไปไขว่คว้าหาความสุขนอกบ้าน เพราะในบ้านมีแต่เรื่องที่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ คนโสด แม้ความรักจะทำให้คุณผิดหวัง จนเข้าใจหลักธรรมที่ว่า ‘มีรักก็มีทุกข์’ แต่วันนี้ก็ยังไม่วายที่จะหาทุกข์มาเพิ่มอีก

สุขภาพ  : คุณชอบเสาะหาอาหารเลิศรสรับประทาน ก็ต้องระวังเรื่องน้ำหนัก ซึ่งอาจตามมาด้วยเบาหวาน ไขมัน ความดัน สำหรับผู้หญิงยังต้องระวังเรื่องช่องท้อง และมดลูกด้วย และหากเจ็บป่วยจะถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อเลย

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานประดิษฐ์ คิดค้น ค้นคว้า ทดลอง ช่างฝีมือ นักวิทยาศาสตร์ มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้เข้าไปทำงานกับธุรกิจของครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่เกี่ยวกับการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และการให้คำปรึกษา  วันนี้คุณมีโอกาสได้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสังคม โดยมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูงเสียด้วย แต่ก็ควรวางแผนงานให้ดี เตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า ป้องกันการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ผิดพลาด ซึ่งจากความสำเร็จอาจทำให้คุณร่วงสู่ดินได้ทันที

การเงิน : มีโอกาสได้เงินปันผลจากธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งวันนี้คุณอาจนำไปซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หากจะลงทุน ก็ไม่ควรกล้าได้กล้าเสีย หรือเสี่ยงจนน่ากลัว เพราะการลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง

ความรัก :  หากคุณตัดสินใจแต่งงานหรืออยู่ด้วยกัน โดยไม่ทันศึกษานิสัยใจคอกันให้ดีก่อน วันนี้คุณมีโอกาสพบว่า แต่ละคนมีทิฐิ มีความคิดเป็นของตนเองสูงมาก แล้วไม่มีใครยอมใคร หรืออยากประนีประนอม อย่างนี้อยู่ยากแล้ว  คนโสด  วันนี้มีโอกาสที่คุณจะได้พบกับชายหนุ่มในฝันแล้วจูงมือไปอยู่ด้วยกันเลย ซึ่งคุณวาดฝันไว้อย่างสวยงาม อาจมีเซอร์ไพร์ส

สุขภาพ  :   ออฟฟิศซินโดรมมาเยือน ปวดหลัง เส้นตึงดึงกันไปหมด ทั้งคอ บ่า ไหล่ เพราะฉะนั้นหากคุณนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมนานๆ ก็ควรลุกเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ ชั่วโมง รวมถึงทำโยคะ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อบ้าง

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องทำงานงอกจากที่ตกลงกันไว้ หรือตกเป็นแพะรับบาป ต้องรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานในวงการบันเทิง งานศิลปะ งานออกแบบดีไซน์ ฯลฯ จะยิ่งหมกมุ่นครุ่นคิดอยู่กับความสำเร็จ ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำงาน จนไม่ยอมปฏิบัติภารกิจอื่นเลย

การเงิน : ดวงการเงินดี แม้ไม่ต้องทำงานหนัก ก็มีเงินให้ใช้จ่ายอยู่ตลอด มีโอกาสได้รับมรดกจากผู้ใหญ่ด้วย แต่วันนี้อาจมีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือ ก็ไม่จำเป็นต้องช่วยสุดๆ จนตัวเองเดือดร้อนนะคะ

ความรัก : วันนี้จิตใจคุณไม่แน่นอนอย่างแรงว่า จะอยู่คนเดียวดีกว่าไหม ซึ่งคู่คุณก็ตามใจเสียด้วยสิ เอ…อย่างไรกันเนี่ย คนโสด คุณมีเสน่ห์ แต่ก็มีความลังเลสงสัย หวาดระแวงอยู่มากมายเช่นกัน จึงยังไม่สามารถที่จะยืนหนึ่งกับใครได้

สุขภาพ :  มีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยจากการทำงานของระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกาย และต่อมไร้ท่อต่างๆ บกพร่อง ทำให้มีโอกาสเป็นโรคที่เกี่ยวกับภูมิต้านทาน เลือด และน้ำเหลือง ไม่ดี

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  : มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับเลือกหรือแต่งตั้งให้เป็นหลักในทีมทำงาน ซึ่งวันนี้คุณมีความคิดและจินตนาการเป็นของตัวเองมาก จนยากที่จะร่วมงานกับคนอื่น ดังนั้น จึงควรลดอีโก้ตัวเองลงและคิดถึงความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นด้วย ไม่เช่นนั้นคุณจะทำงานด้วยความรู้สึกร้อนรุ่มและอึดอัดไปหมด ไม่ว่าจะบรรยากาศในออฟฟิศ เพื่อนร่วมงาน รวมถึงผู้บังคับบัญชา จนอยากลาออกให้รู้แล้วรู้รอดไป

การเงิน :  จ้างคุณร้อย แต่ทำเป็นล้าน ก็ต้องระวังดือดร้อน เงินไม่พอใช้นะคะ เพราะวันนี้อาจมีคนเดือดร้อนเข้ามาขอให้คุณช่วยเหลืออีก

ความรัก : หากช่วงนี้คุณทำงานๆๆ มากกว่าเวลาที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ต้องระวัง เพราะวันนี้อาจพบว่า คู่คุณมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ แอบคุยโทรศัพท์คนเดียวบ่อยๆ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่า ชีวิตคู่เริ่มไม่สงบแล้ว  คนโสด งานทำให้คุณมีเหตุผลที่จะตกเป็นมือที่สามโดยไม่รู้สึกผิด

สุขภาพ : โหมงานหนักจนไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา จึงทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย หากถูกฝนเข้าไปอีก ก็มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นไข้หวัด ปอดบวมได้เลย

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  คุณมีความคิดและจินตนาการในการทำงานสูงมาก จนยากที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่น หากเป็นไปได้จึงควรรับเป็นโปรเจ๊คท์ หรือเปิดธุรกิจของตัวเองเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการใช้คำพูดหรือวาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน การสื่อสารมวลชน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ พนักงานส่งเสริมการขาย วันนี้ถือว่าคุณโชคดี มีผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จด้วยดี

การเงิน : ผู้ใหญ่อุปถัมภ์ วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะเสียเงินก้อนใหญ่ ซื้อเครื่องประดับราคาแพง หรือช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน จนตัวเองเดือดร้อน

ความรัก :  คุณมีความคิดเป็นของตัวเองสูงมาก เพราะฉะนั้นวันนี้คุณจึงเอาใจยากเดาใจลำบาก ยิ่งหากต้องการอยู่ใกล้ชิดกันแบบตัวติดกันแล้วล่ะก็ คนอยู่ด้วยอาจมีงง เพราะคุณเปลี่ยนใจไปมาได้ตลอด  คนโสด มีโอกาสพูดถึงงานมงคลนะคะ ซึ่งคุณมีความคิดเป็นของตัวเองมาก ไม่ยอมคนละครึ่ง วันนี้จึงยังไม่จบ

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะเป็นสาเหตุของเบาหวาน จริงๆ อาจเป็นมานานแล้วโดยที่คุณไม่รู้ แต่วันนี้จะส่งสัญญาณเตือน จึงควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหาร และควบคุมน้ำหนัก รวมถึงไปตรวจเช็กร่างกาย

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  นับว่าคุณโชคดีในการทำงาน ผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดให้การสนับสนุน ส่งเสริม และช่วยเหลือให้ได้ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้   โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายยุติธรรม เช่น ตำรวจ ทนายความ อัยการ ศาล ผู้พิพากษา ฯลฯ ด้วยแล้ว วันนี้มีโอกาสที่จะได้ริเริ่มงานใหม่ หรือมีโครงการนำงานเก่าขึ้นมาพัฒนาและปรับปรุงใหม่ ก็มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จ

การเงิน :  หากคุณคิดจะลงทุนร่วมหุ้นกับคนรัก วันนี้ผู้ใหญ่จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือ แต่ก่อนจะรับปากกับท่าน หรือเซ็นเอกสารทำงาน ก็ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่า มีความเป็นไปได้ไหม เพราะมีโอกาสที่คุณจะเสียทั้งเงินและเสียเครดิตเลยทีเดียว

ความรัก : วันนี้การแยกกันอยู่น่าจะดีกว่าอยู่ด้วยกัน เพราะคุณขี้เบื่อ เปลี่ยนใจไปมา หากอยู่ด้วยกันก็เสี่ยงที่จะทะเลาะกันอีก คนโสด  คุณตั้งมาตรฐานของผู้ที่จะเป็นแฟนไว้สูงมาก อาจเพราะรู้นิสัยตัวเองว่า ชอบเปลี่ยนใจไปมา จึงตั้งเผื่อเลือกไว้สูงมาก

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมถึงควรดูแลความสะอาดด้วย เพราะมีความเสี่ยงที่กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะจะมีปัญหา ในกรณีที่รุนแรงจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดได้

 

Tyler Clinton

เปิดวาร์ปหนุ่มหล่อหุ่นเซ็กซี่ Tyler Clinton หลานชายอดีต ปธน.บิล คลินตัน

Tyler Clinton
Tyler Clinton

สาวๆ คนไหนชื่นชอบหนุ่มสาย ฝอ โปรดปักหมุดตรงนี้เลยค่ะคุณผู้ชม วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ ไทเลอร์ คลินตัน ( Tyler Clinton )  หนุ่มหล่อกล้ามแน่น ที่มีดีกรีเป็นหลานชายอดีต ปธน.บิล คลินตัน กันค่ะ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ในช่วงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐอเมริกา ที่ขณะนั้นกำลังเข้มข้นดุเดือด แต่ท่ามกลางกระแสความเข้มข้นในตอนนั้น สายตาของชาวเน็ตกลับพุ่งทะลุผ่านผู้สมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ เพราะออร่าความหล่อเจิดจ้าของ ไทเลอร์  สว่างวาบอยู่ในรูปภาพ

งานนี้ไม่ต้องสงสัยในความสามารถสืบค้นของชาวโซเชียล เพราะทันใดนั้นชื่อของไทเลอร์ คลินตันก็ถูกค้นหาในอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนั้นหนุ่มไทเลอร์ วัย 22 ปี ดีกรีเป็นถึงนายแบบแซ่บเว่อร์ มีรูปแฟชั่นอวดซิกแพคแน่นเปรี๊ยะชวนมอง เอ้า! ใครเล่าจะต้านทานไหว จึงเกิดการโพสต์ติดแฮชแท็กในทวิตเตอร์บวกแชร์กระหน่ำ จนสื่อเทศเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า The internet broke down/Internet Lose Its Mind กันเลยทีเดียว

ไทเลอร์ คลินตัน

เปิดวาร์ปหนุ่มหล่อหุ่นเซ็กซี่ Tyler Clinton หลานชายอดีต ปธน.บิล คลินตัน

สำหรับไทเลอร์ เกิดวันที่  12 พฤษภาคม ปี 1994 เป็นลูกชายของนักแสดงและนักดนตรีอย่าง ‘โรเจอร์ คลินตัน จูเนียร์’ (น้องชายต่างพ่อของบิล คลินตัน) กับ ‘มอลลี ดี แอน มาร์ติน’ เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย โลโยลา แมรีเมาท์ (Loyola Marymount University) นอกจากความหล่อฉลาดแล้วยังนิสัยดีอีกด้วย การันตีโดยช่างภาพผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น ซึ่งเป็นผู้ถ่ายรูปแฟชั่นเซ็ตขาวดำที่เคยฮือฮามากให้แก่หนุ่มไทเลอร์ อย่าง Adina Doria ที่ออกมาบอกว่า

อกจากความสามารถและความเป็นมืออาชีพในงานถ่ายแบบแล้ว ไทเลอร์’ยังมีบทบาทมากในการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนสิทธิของเพศที่3 หรือ LGBT (Lesbian, gay, bisexual, และ transgender) อีกด้วย

Tyler Clinton Tyler Clinton

ไทเลอร์ คลินตัน

ไทเลอร์ คลินตัน

ไทเลอร์ คลินตัน

ไทเลอร์ คลินตัน

Tyler Clinton


ภาพ : tclint

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ริชคิดส์หนุ่มสุดหล่อ มาร์ค ต้วน (Mark Tuan) ทายาทนักอสังหาริมทรัพย์จาก LA

ออเดิร์ฟยั่วๆ แฟชั่นเซ็ต โป๊ป ธนวรรธน์ หล่อทะลุทุกสิ่ง สมาร์ทในลุคหรูเกินต้าน

ขึ้นแท่นมหาเศรษฐี หวงจื่อเทา อดีต EXO พ่อเสียชีวิตทิ้งมรดกให้ 9 หมื่นล้านบาท

รองเท้าเจ้าสาว

8 สไตล์ รองเท้าเจ้าสาว ช่วยเสริมการแต่งกายออกมาให้สมบูรณ์แบบ

account_circle
รองเท้าเจ้าสาว
รองเท้าเจ้าสาว

นอกจากชุดแต่งงานและการแต่งหน้าทำผม  รองเท้าเจ้าสาว นับเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่เจ้าสาวควรเลือกอย่างพิถีพิถัน  วันนี้เรามีรองเท้าหลากสไตล์ที่ช่วยเสริมการแต่งกายของเจ้าสาวให้ออกมาสมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ

8 สไตล์ รองเท้าเจ้าสาว ช่วยเสริมการแต่งกายออกมาให้สมบูรณ์แบบ

1. ลุคคลาสสิกด้วยรองเท้าแต่งงานแบบเรียบ

หนึ่งในทรงรองเท้าที่ได้รับความนิยมในวันแต่งงานของเจ้าสาวคือ  รองเท้าที่ดูสุภาพและไร้การตกแต่ง  อาจตัดด้วยผ้าซาตินหรือผ้าไหม  โทนสีที่ได้รับความนิยมคือสีขาวและสีเบจที่เข้ากับสีชุดแต่งงานของเจ้าสาว  รองเท้าสไตล์นี้เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการความเป็นทางการและความเรียบง่าย

2. ลูกเล่นเล็ก ๆ แซมความเป็นทางการ

แม้เจ้าสาวจะต้องการรองเท้าที่ดูสุภาพเพื่อให้รับกับพิธีการในวันแต่งงาน  แต่การตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ บนรองเท้าอย่าง  โบ  คริสตัล  ลูกไม้  หรือไข่มุก  สามารถเพิ่มความน่ารักให้แก่รองเท้าได้โดยที่ยังคงความสุภาพอยู่

3. หรูหราด้วยผ้าซาติน  คริสตัล  และกลิตเตอร์

หากเจ้าสาวอยากได้ลุคหรู  อาจเลือกรองเท้าที่ตัดด้วยผ้าซาตินที่มีความเงางามและเนื้อละเอียด  รองเท้าที่ตกแต่งด้วยคริสตัล  หรือประดับด้วยกลิตเตอร์  ความสามารถในการสะท้อนแสงของเอเลเม้นต์เหล่านี้จะช่วยส่งให้รองเท้าดูสวยหรู

4. ดูน่ารักด้วยรองเท้าบัลเล่ต์แฟลต (Ballet Flat)

สำหรับเจ้าสาวที่อยากรู้สึกราวกับเป็นสาวน้อยในวันแต่งงาน  อาจเลือกรองเท้าพื้นเรียบทรงบัลเล่ต์แฟลต(Ballet Flat) ที่นอกจากจะดูสวยเก๋และน่ารักแล้ว  ยังทำให้เจ้าสาวสวมใส่สบายและเดินเหินได้สะดวก

5. อวดสีสันบนเล็บเท้าด้วยรองเท้าพีพโทว์ (Peep Toe)

ลักษณะพิเศษของรองเท้าพีพโทว์ (Peep Toe) คือเป็นรองเท้าที่เปิดปลายเท้า  รองเท้าสไตล์นี้เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่อยากเพิ่มความเก๋ด้วยการตกแต่งเล็บเท้า  และสามารถอวดสีสันเล็บผ่านรองเท้าคู่นี้ได้

Peep Toe)

6. สวยหวานด้วยรองเท้าแซนดัล (Sandal)

รองเท้าแซนดัล (Sandal) มีความพิเศษคือเป็นรองเท้าที่เปลือยช่วงเท้าและมีสายรัด  เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่อยากอวดเรียวเท้า  และเพิ่มความอ่อนหวานให้แก่เรียวขาผ่านเส้นสายและการตกแต่งลวดลาย

Sandal

7. สวยเฉี่ยวด้วยรองเท้าทรงพั้มพ์ (Pump)

เจ้าสาวสามารถสวยเฉี่ยวสไตล์สาวมั่นด้วยรองเท้าส้นแหลมอย่างทรงพั้มพ์ (Pump) ที่นอกจากจะเป็นรองเท้าหุ้มส้นเหมาะสำหรับพิธีการ  แต่ยังซ่อนความเปรี้ยวผ่านส้นที่สูงแหลม

Pump

8. เลซชูวส์ (Lace Shoes) รองเท้าที่สามารถให้อารมณ์ได้หลากสไตล์

เลซชูวส์ (Lace Shoes) เป็นรองเท้าส้นสูงตัดด้วยผ้าลูกไม้  โดยอาจเป็นผ้าลูกไม้ทึบหรือผ้าลูกไม้โปร่ง  น้อยคนจะรู้ว่ารองเท้าสไตล์นี้  หากเลือกสีผ้าลูกไม้ที่ต่างกัน  จะให้อารมณ์ที่ต่างกันออกไป  เช่น  หากเลือกรองเท้าในโทนสีขาว  ไอวอรี่  หรือเบจ  จะให้ความรู้สึกอ่อนหวาน  แต่หากเป็นผ้าลูกไม้สีดำจะให้ลุคเซ็กซี่แทน

เมื่อวันแต่งงานเป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ  เจ้าสาวอย่ามัวแต่ให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าหน้าผมจนละเลยการเลือกสรรรองเท้า  การเลือกรองเท้าแต่งงานอย่างพิถีพิถัน  สามารถช่วยให้ภาพรวมของเจ้าสาวออกมาสวยสมบูรณ์แบบ

Tips: 3 เคล็ดลับสำหรับการเลือกรองเท้าแต่งงาน

  •  เจ้าสาวควรเลือกรองเท้าที่ดูกลมกลืนไปกับชุด
  • เจ้าสาวอย่าลืมลองสวมใส่รองเท้าก่อนใช้ในวันจริง
  • หากเจ้าสาวเลือกรองเท้าแบบเปลือย  การทำสปาเท้าสามารถช่วยให้คุณเป็นเจ้าของเท้าคู่สวยได้

ขอบคุณภาพจาก: www.bagshoes.net  www.glamour.com  www.vera-wang-estelle115.blogspot.com   www.wedding007.com  http://wizaz.pl  http://fashion.eduheadlines.com  www.flowerweddingshoes.com  www.aliexpress.com  www.bridalbrid.com  www.shoeperwoman.com  http://pinkpatchouli.bl

5 กันแดด ควรสอย สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย

5 ลิสต์น่าสอย กันแดด สำหรับผิวเซ้นสิทีฟแพ้ง่าย เนื้อบางเบาไม่กระตุ้นให้ผิวมันระหว่างวัน

Alternative Textaccount_circle
5 กันแดด ควรสอย สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย
5 กันแดด ควรสอย สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย

สาวผิวบอบบางแพ้ง่ายจะเลือกอะไรสักชิ้นก็ยากสุดๆ กันแดด ที่ระบุว่าเป็นสูตร Hypoallergenic / For Sensitive Skin หรือ Fragrance Free แม้จะไม่ชัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะรอดปลอดภัย ไม่เกิดการแพ้ แต่ก็เป็นคำแรกๆ ที่ควรมองหาที่แพทย์ผิวหนังเน้นย้ำมาอีกข้อคือ ให้เลือกกันแดดสูตรที่เป็น Physical Sunscreen ซึ่งจะมีส่วนผสมของซิงค์ออกไซด์และไทเทเนียมไดออกไซด์ที่ใช้หลักการสะท้อนรังสียูวีออกจากผิว

ส่วนกันแดดสูตรที่เป็น Chemical จะทำงานโดยการดูดซับรังสีและเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนก่อนจะสลายไป ทำให้รังสีไม่สามารถซึมลงสู่ผิว ซึ่งอาจทำให้อนุมูลอิสระเสื่อมสลาย ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ไม่เหมาะกับสาวผิวบอบบางแพ้ง่าย

ฉะนั้น สำหรับผิวเซ้นสิทีฟแพ้ง่าย ควรมองหากันแดดแบบ Non-chemical ปราศจากสารเคมี สารกันเสีย แอลกอฮอล์ ไปจนถึงน้ำหอม เนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่กระตุ้นให้ผิวมันระหว่างวัน ช่วยให้โอกาสเกิดการระคายเคือง หรือสิวอุดตันน้อยลงเช่นกัน

5 ลิสต์น่าสอย กันแดด สำหรับผิวเซ้นสิทีฟแพ้ง่าย

กันแดด PHYSIOGEL Daily Defence UV Protection SPF 50+ Sunscreen

PHYSIOGEL Daily Defence UV Protection SPF 50+ Sunscreen

ครีมกันแดดสูตรครบเครื่อง ที่ออกแบบมาเพื่อผิวบอบบางแพ้ง่าย โดยเฉพาะให้การปกป้องพร้อมบำรุงผิวในขั้นตอนเดียว ด้วยส่วนผสมที่มีวิตามินซี ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนต์ จึงช่วยดูแลทั้งปัญหาริ้วรอย ความหมองคล้ำ ฝ้า และกระไปพร้อมกัน

กันแดด LA ROCHE-POSAY Uvidea XL Tone-up Light Cream SPF 50+

LA ROCHE-POSAY Uvidea XL Tone-up Light Cream SPF 50+

ตัวแม่ของเวชสำอางสำหรับผิวแพ้ง่ายอย่าง La Roche-Posay นำเสนอกันแดดที่โดดเด่น ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยปกป้องและปกปิดสีผิว ที่ไม่สม่ำเสมอ พร้อมปลอบประโลมผิวให้สดชื่น ตลอดวันด้วยน้ำแร่ธรรมชาติจาก La Roche- Posay สาวผิวแพ้ง่ายไว้ใจได้ เพราะผ่านการทดสอบกับผิวคนเอเชียที่บอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองภายใต้การควบคุมของแพทย์ผิวหนัง

กันแดด MIZUMI UV Water Serum SPF 50+ PA++++

MIZUMI UV Water Serum SPF 50+ PA++++

กันแดดแบบ Physical Sunscreen ที่มีเนื้อสัมผัสเบาสบายแบบเซรั่ม โดดเด่นที่คุณสมบัติในการกันน้ำ ทำให้ความสามารถในการปกป้องผิวแทบไม่ลดลงเมื่อเหงื่อออก ตัวนี้เป็นสูตรปราศจากเคมี อ่อนโยนสูงสุด ช่วยลดการอุดตัน จึงเหมาะกับผิวบอบบางเป็นสิวง่าย

กันแดด ANESSA Perfect UV Sunscreen Mild Milk SPF 50+ PA++++

ANESSA Perfect UV Sunscreen Mild Milk SPF 50+ PA++++

กันแดดเนื้อน้ำนมบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบเร็ว ที่เคลมความอ่อนโยนถึงขั้นใช้ได้ตั้งแต่กับผิวเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป โดดเด่นสำหรับการใช้ในเมืองร้อนชื้นและ กิจกรรมที่ต้องเปียกน้ำ เพราะมีเทคโนโลยี Aqua Booster ที่เมื่อผิวสัมผัสกับน้ำ หรือเหงื่อจะเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องผิวได้มากยิ่งขึ้น

กันแดด ALLIE Extra UV Gel SPF 50+ PA++++

ALLIE Extra UV Gel SPF 50+ PA++++

ชิ้นนี้โดดเด่นเป็นที่ปลาบปลื้มของสาวเมืองร้อน ด้วยสูตรเจลที่สามารถแตกตัวเป็นน้ำ ให้ความรู้สึกสดชื่นสบายผิวเหมือนเป็นเอสเซ้นส์บำรุงไปด้วยในตัว ขณะที่มีเทคโนโลยีเพิ่มระดับความติดทน และกันน้ำขั้นสุด ทำให้ช่วยปกป้องผิวได้ยาวนาน มีคุณสมบัติเป็น เมคอัพเบสบางเบามอบผิวกระจ่างใส ช่วยให้เมคอัพติดทนนาน


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ฉบับ 969

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พักกลอสฉ่ำๆ! รวบตึงลิป 4 แบบสวมแมสก์แล้วรอด พร้อมทริคเลือก ลิปติดแน่น สไตล์จีซู

ชอบทำสีต้องมีติดบ้าน! 5 ทรีทเมนต์บำรุงเส้นผม ฟื้นฟูผมเสียจากการทำสีแบบล้ำลึก

ผิวสวยใสใส่ใจสิ่งแวดล้อม! 5 กันแดด ปกป้องผิวดีและเป็นมิตรต่อปะการังใต้ท้องทะเล

 

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร

สาวสายลุยที่แท้ทรู “พลอยไพลิน ตั้งประภาพร” เที่ยว 8 ประเทศ 37 วัน คนเดียว!

Alternative Textaccount_circle
พลอยไพลิน ตั้งประภาพร
พลอยไพลิน ตั้งประภาพร

หลายคนคงยังจดจำภาพยนตร์เรื่อง Low Season ที่นางเอกรับบทโดย “พลอย – พลอยไพลิน ตั้งประภาพร” ตัดสินใจออกเดินทางเที่ยวคนเดียว เพื่อรักษาอาการอกหัก ซึ่งในชีวิตจริงก็ไม่ต่างจากตัวละคร เธอคือสายเที่ยวที่ลุยเดี่ยวทั้งเดินป่าในประเทศ ไปจนถึงการนั่งรถไฟทรานส์ไซบีเรียด้วยตัวคนเดียวมาแล้ว

สาวสายลุยที่แท้ทรู “พลอยไพลิน ตั้งประภาพร” เที่ยว 8 ประเทศ 37 วัน คนเดียว!

สายป่าเขาลำเนาไพร

“พลอยชอบถ่ายรูปตั้งแต่ตอนเรียนปี 1 (วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต) จึงเริ่มออกเดินทางเพื่อจะได้ถ่ายรูป บวกกับตอนนั้นอินกับหนังเรื่อง The Secret Life of Walter Mitty อยากออกไปเผชิญโลกเหมือนพระเอกบ้าง จึงจองทริปไปเที่ยวภูกระดึงกับ เพื่อน ซึ่งวิวสวยมาก เลยเสพติดกับการไปที่ใหม่ ๆ ตอนแรกเพื่อถ่ายรูป แต่พอตอนหลัง รู้สึกว่าการเดินทางสนุกกว่าการถ่ายรูปอีก เพราะได้เจออะไรใหม่ ๆ มากมาย

“ช่วงแรกพลอยชอบเดินป่า ส่วนใหญ่จะไปกับเพื่อนค่ะ แต่ถ้าไม่มีใครว่างก็ไป คนเดียวได้ โดยเลือกเส้นทางที่ไม่ยากมาก เช่น ดอยขุนตาล จังหวัดลำพูน ที่เดินง่าย สามารถไปคนเดียวได้ หรือแถบอีสานอย่างอุดรธานี นครพนม พลอยก็เคยไปเที่ยวคนเดียว ถ้าปลายทางดูโหดหน่อยก็จะรอไปเป็นกรุ๊ป

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร
ที่น้ำตกเปรโต๊ะลอซู ยอดดอยมะม่วงสามหมื่น จังหวัดตาก

“อย่างทริปขุนตาล พลอยกางเต็นท์นอนในป่าเลย อาจเพราะพอเราเป็นที่รู้จัก จึงมีคน มาช่วยดูแลเยอะ ทั้งช่วยกางเต็นท์ มากินข้าวเป็นเพื่อน จนเหมือนมีเพื่อนไปด้วยกัน (หัวเราะ)

“ตอนหลังที่บ้านชวนให้ไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง ก็ยังไม่ค่อยอยากไป เพราะรู้สึกว่าเที่ยวเมืองไทยดีอยู่แล้ว กระทั่งแม่ตั้งใจจัดทริปปีใหม่ไปยุโรป ทั้งครอบครัว ตอนนั้นพลอยวางแผนว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่ ทีแรกจึงปฏิเสธ แต่แม่บอกว่าลองเปิดใจดูบ้าง ซึ่งพอไปถึงมันสนุกกว่าที่คิด เพราะต่างประเทศ มีอะไรหลายอย่างที่ต่างจากบ้านเรา ทั้งวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม จึงเริ่มแพลน เดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่นั้น

“ทริปที่พลอยคิดถึงที่สุดคือทรานส์ไซบีเรีย (เส้นทางรถไฟสายยาวที่สุด ในโลก จากจีนผ่านมองโกเลีย ไปจบที่รัสเซีย) ซึ่งพลอยไปคนเดียวหลังจาก เรียนจบมหาวิทยาลัยช่วงปี 2561 ถือว่าเป็นที่สุดแล้ว นึกถึงทีไรก็อยากกลับไปอีก เพราะรู้สึกว่าแต่ละช่วงวัยความคิดของเราจะไม่เหมือนกัน ตอนนั้นพลอยเดินทาง ด้วยความสงสัยหลายอย่าง เช่น มีคำถามว่าเรียนจบแล้วฉันจะทำงานอะไร กับอีกส่วนหนึ่งคืออยากเปิดโลก”

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร
เตรียมขึ้นรถไฟแล้วน้า

ลุย 8 ประเทศ 37 วัน คนเดียว

“ที่จริงทริปทรานส์ไซบีเรีย พลอยไม่ได้ตั้งใจจะไปคนเดียวค่ะ ชวนเพื่อน หลายคน แต่ไม่มีใครว่าง เพราะเขาเริ่มทำงานกันแล้ว ยังลางานไม่ได้ รู้สึกว่า ถ้ามัวแต่รอเพื่อนคงไม่ได้ไป ส่วนพลอยเริ่มเข้าวงการแล้ว และช่วงนั้นมีโอกาส ได้ว่างนาน ๆ สุดท้ายตัดสินใจว่าเอาน่ะ ไปคนเดียวก็ได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ยอม อนุญาตเพราะเห็นในความตั้งใจ โดยทริปนี้พลอยใช้เงินเก็บของตัวเอง ไม่ได้ ขอเงินท่านเลยสักบาท

“ก่อนเดินทางพลอยมีเวลาเตรียมตัวไม่ถึงเดือนเพื่อวางแผนทริป ตั้งใจ จะบินไปจีน จากนั้นนั่งรถไฟไปมองโกเลีย รัสเซีย ซึ่งเส้นทางทรานส์ไซบีเรีย จะจบที่กรุงมอสโกที่รัสเซียค่ะ แต่พลอยอยากไปเที่ยวที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กต่อ แล้วพอดูแผนที่ เมืองนี้อยู่ต่อกับประเทศฟินแลนด์เลย แค่นั่งรถไฟไป 2 – 3 ชั่วโมงก็ถึง แล้วจากฟินแลนด์ก็อยู่ใกล้สวีเดนมาก ๆ สุดท้ายกลายเป็นทริป ลากยาวต่อเนื่องไปถึงฟินแลนด์ สวีเดน เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ และไป ปิดทริปที่ฝรั่งเศสค่ะ สาเหตุที่จบทริปที่นี่เพราะตอนไปเที่ยวกับครอบครัว พลอย ยังไม่ได้เข้าไปดูรูปโมนาลิซ่าที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ จึงอยากแก้มือ

“สำหรับการไปเที่ยวคนเดียว สิ่งที่ต้องเตรียมมากที่สุดคือข้อมูล ต้องรู้ ให้เยอะที่สุด ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานของแต่ละประเทศว่าเขาใช้ภาษาอะไร กินอะไร วัฒนธรรมเป็นยังไง รวมถึงมีสมุด Emergency Call ของแต่ละประเทศที่ไปด้วย”

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร

รัสเซีย…เหนือความคาดหมาย

“ไฮไลต์ของทริปนี้ ประเทศที่พลอยประทับใจมากที่สุดคือรัสเซียค่ะ เพราะปกติพลอยชอบเที่ยวธรรมชาติ จึงไม่ได้คาดหวังกับรัสเซีย เนื่องจากอยู่แต่ ในเมือง แต่ที่ไหนได้ พลอยอินมากกับความคลาสสิกและขลังของบ้านเมือง อย่างตอนที่ไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก พลอยศึกษามาว่าที่นี่เคยเกิดสงครามโลก เวลาเดินเที่ยว ใจก็คิดไปด้วยว่าทุกอย่างที่เราเห็นเป็นประวัติศาสตร์ และเรากำลังเดิน อยู่ในนั้น สามารถขลุกอยู่ในเมืองได้ทั้งวัน เดินดูพิพิธภัณฑ์ในเครมลิน เที่ยว จัตุรัสแดง มีข้อมูลให้ศึกษาเต็มไปหมด และสถาปัตยกรรมก็สวยมาก

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร
มหาวิหารเซนต์บาซิลที่รัสเซีย

“อีกเรื่องที่ผิดคาดมากคือคนรัสเซียไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แม้ตอนแรกเจอ จะหน้านิ่ง ๆ ดูดุ แต่กลายเป็นว่าเขามาช่วยยกกระเป๋า บางคนก็เดินมาถามว่า หลงทางเหรอ ให้ช่วยอะไรไหม สรุปคือน่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะเลย”

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร
บรรยากาศตอนเย็นที่รัสเซีย

ฝ่าพายุหิมะที่มองโกเลีย

“ช่วงที่พลอยไปถึงมองโกเลียไม่ใช่ฤดูหนาว จึงสวมแค่เสื้อกันหนาวปกติ วันหนึ่งเดินจากโรงแรมไปตลาดที่อยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 30 นาที ใช้วิธี เดินไปเพราะอยากดูบ้านเมืองด้วย ปรากฏว่าขากลับเกิดพายุหิมะ ปัญหาคือพลอยเรียกแท็กซี่ไม่เป็น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคันไหนคือแท็กซี่ เนื่องจากเขาไม่มีป้ายบอก เหมือนบ้านเรา แต่ที่พลอยเห็นคือคนเขาใช้วิธีโบกรถ ถ้าคันไหนรับก็ขึ้นไป แต่ เรารู้สึกทะแม่ง ๆ จึงไม่กล้าโบกตาม ได้แต่เดินก้มหน้าฝ่าพายุไป หนาวมากจนคิดว่า ต้องตายระหว่างทางแน่ ๆ แล้วยังเดินหลงทางอีก ต้องเดินไปหยุดพักไป จนสุดท้าย ก็หาทางเดินกลับมาถึงโรงแรมจนได้ ทรมานมาก พอกลับมาถึงห้องพัก พลอย เสิร์ชหาข้อมูลว่าระบบรถแท็กซี่ที่นั่นเขาเป็นยังไงกันแน่ ได้ข้อมูลว่าทุกคนที่มีรถ สามารถเป็นแท็กซี่ได้หมด ถ้าเราโบกแล้วเขารับก็คือขึ้นรถได้เลยค่ะ…ปัดโธ่เอ๊ย”

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร
วิวที่มองโกเลียสวยเว่อร์มากๆ

ประสบการณ์ที่อัมสเตอร์ดัม

“ด้วยความอยากประหยัด ตลอดทริปนั้นพลอยเลือกพักที่โฮสเต็ล สำหรับ ที่เนเธอร์แลนด์ พลอยจองที่พักไว้นอกกรุงอัมสเตอร์ดัม ราคาถูกมาก ตกคืนละ 100 – 200 บาท พอไปถึงสภาพคือเต็มไปด้วยฮิปปี้ที่มานอนและปาร์ตี้เสพกัญชากัน พลอยไม่ได้กลัวนะ แค่ไม่ชอบ จึงหลบเข้าห้องพักที่เป็นแบบนอนรวมกัน ประมาณ 20 เตียง หาอะไรทำของเราไป ขณะที่ข้างนอกก็โหวกเหวกกัน แล้ว จู่ ๆ เพื่อนชาวเยเมนที่เจอกันในที่พักก็มานั่งที่ปลายเตียง ถามว่าไม่ไปปาร์ตี้เหรอ พลอยตอบไปแค่ไม่ละ สักพักมีผู้หญิงจากนิวซีแลนด์มานั่งด้วย แล้วจู่ ๆ คนเยเมน ก็หันไปถามผู้หญิงคนนั้นว่ามีกัญชาไหม สรุปคือสองคนนั้นนั่งสูบกัญชาปลายเตียง พลอย ณ จุดนั้นก็รู้สึกพีคอยู่เหมือนกันนะ แต่ทำได้แค่ส่ายหน้า แล้วนอนมอง คนแปลกหน้าสูบกัญชาอยู่ที่ปลายเตียง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน สุดท้าย คืนนั้นก็ผ่านพ้นมาด้วยดีโดยมีสติครบทุกประการ”

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร
จุดแลนด์มาร์คหน้าพิพิธภัณฑ์ Rijksmuseum ที่อัมสเตอร์ดัม

ปิดจ๊อบกับโมนาลิซ่าสมายล์

“และแล้วก็ถึงฝรั่งเศส ประเทศสุดท้ายในทริป ได้เข้าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ดูโมนาลิซ่าสมใจ แต่สารภาพว่าไม่เหมือนอย่างที่คิดไว้เลย เพราะภาพเล็กมาก แทบมองไม่เห็น เนื่องจากคนแย่งกันถ่ายรูป ยังคิดเลยว่านี่คือสิ่งที่เราตามหามา ครึ่งโลกจริง ๆ เหรอ (หัวเราะ) แต่ก็ดีใจนะที่ได้ดูด้วยตาเสียที แล้วยังเป็นเป้าหมาย ของการเดินทางครั้งนี้ด้วย

“โดยรวมพลอยคิดว่าทริปนี้เรื่องที่โหดที่สุดคือความเหงาในการใช้ชีวิต คนเดียว ที่จริงอยากกลับบ้านตั้งแต่ตอนอยู่ที่รัสเซียแล้ว แต่ที่สุดก็ไม่ยอมแพ้ เพราะอยากทำให้ถึงเป้าหมาย กับอีกเรื่องคือต้องตัดสินใจเองทั้งหมด ไม่มีใคร คอยช่วยเหลือ บวกกับเรื่องภาษา อย่างที่จีน มองโกเลีย รัสเซีย เขาไม่ใช้ ภาษาอังกฤษ ต้องใช้เซ้นส์ล้วน ๆ หรือไม่ก็ภาษาใบ้เลยค่ะ

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร
ปิดจ๊อบที่ปารีส

“ถ้าพูดถึงข้อดีของการเที่ยวคนเดียวคืออยากทำอะไรก็ได้ทำ ที่สำคัญ การได้เจอผู้คนระหว่างทางเป็นสิ่งที่วิเศษมาก ๆ ยิ่งกว่าวิวทิวทัศน์ อย่างตอนที่ นั่งรถไฟจากจีนไปมองโกเลีย พลอยเจอคุณลุงชาวอเมริกันชื่อว่าไบรอัน เราอยู่ บนตู้รถไฟกันประมาณ 33 ชั่วโมงได้ ตอนแรกก็คุยเกร็ง ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ เขา กลายเป็นเพื่อนที่คุยสนุก เขาถามพลอยว่าทำไมมาคนเดียว พลอยบอกว่า กำลังเครียด เพราะเรียนจบแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับชีวิต ซึ่งตอนนั้นเรา กำลังกินบะหมี่ถ้วยสำเร็จรูป เขาก็พูดว่าที่จริงแค่มีบะหมี่ให้กินกับได้ดูวิวสวย ๆ ระหว่างทางก็วิเศษมากแล้ว ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากเลย แค่เอนจอยกับชีวิตที่อยู่ ตรงหน้าคือดีที่สุด คุณลุงคนนี้ยังสอนพลอยอีกหลายอย่าง มารู้ทีหลังว่าเขา เป็นไลฟ์โค้ช รับปรึกษาทางออนไลน์ พอถึงตอนแยกย้าย เราก็แลกอีเมลกัน ซึ่งตอนที่กลับจากทริปก็ส่งอีเมลถามไถ่กันว่าเป็นยังไงบ้าง

“หลังกลับมาจากทริป สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือความมั่นใจ พลอย คิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต เราคงผ่านไปได้ด้วยตัวคนเดียวได้เหมือนกัน ส่วนคำถามที่พลอยตั้งไว้ว่าอยากทำอะไร แม้จะไม่เชิงได้คำตอบที่เป็นรูปธรรม กลับมา แต่ก็รู้ว่าไม่ว่าอะไรก็ตาม ลองไปก่อนเถอะ เพื่อเราจะได้รู้ ก็เหมือนกับ ตอนเที่ยวที่บางครั้งกลัวขึ้นรถไฟพลาด แต่แค่ลองทำ ลองไปดูก่อน ที่สุดก็จะ หาหนทางได้เอง”

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร

ลุ้นจัดที่อินเดีย

“อีกทริปสนุกมีเรื่องลุ้น ๆ ก็คือตอนที่ไปเที่ยวแคว้นแคชเมียร์ที่อินเดีย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทริปนี้ไปกับเพื่อนอีก 2 คน เราไปเดินป่ากางเต็นท์นอนกัน 7 วัน วิวป่าที่นั่นสวยมาก จากนั้นก็เข้ามาในเมืองแคชเมียร์เพื่อเที่ยวในเมืองต่ออีก 3 วัน

“ช่วงที่เดินป่าพลอยไม่ได้ดูข่าว บวกกับอินเทอร์เน็ตก็ไม่มี จึงไม่รู้เรื่องว่า ตอนนั้นกำลังจะเกิดสงครามระหว่างปากีสถานกับอินเดียจากการขัดแย้งเรื่อง พื้นที่เขตปกครองพิเศษในแคชเมียร์ วันแรกที่พลอยกลับเข้าเมืองก็เจอประกาศ ว่าให้นักท่องเที่ยวย้ายออกให้หมดเพราะจะมีเคอร์ฟิว ตอนนั้นคิดว่าไม่น่าจะ ร้ายแรงหรอกมั้ง เราคงไม่ซวยขนาดนั้น จึงอยู่เที่ยวต่อ

พลอยไพลิน ตั้งประภาพร

“ที่ไหนได้ คืนถัดมาเขาตัดสัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ไม่สามารถติดต่ออะไรได้ แต่ยังเดินทางได้ พลอยยังไปเที่ยวมาร์เก็ตในเมืองได้อยู่ วันนั้นก็ยังไม่มีอะไร วันรุ่งขึ้นมีแพลนว่าจะเดินทางไปเที่ยวนอกเมือง พอถึง ตอนเช้าไกด์โทร.มาถามว่าขอเลื่อนไปเที่ยววันถัดไปได้ไหม เพราะมีประกาศว่า ให้อยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากสถานการณ์เริ่มรุนแรง พลอยก็โอเค ความที่ไม่มี อะไรทำในโรงแรมจึงขึ้นไปที่ดาดฟ้า เลยได้เห็นการจลาจล ประชาชนกำลังตีกับ ตำรวจ ทหาร มีรถขวาง คนกำลังเผาหนังสือพิมพ์ โห ตอนนั้นคือหิวมากนะ อยากออกไปซื้อขนมข้างนอก พอเห็นภาพนั้นเข้าไป ไม่กล้าไปไหนเลย วันสุดท้าย พลอยกับเพื่อนรีบไปสนามบินตั้งแต่ตี 4 เพราะกลัวสนามบินจะถูกปิด โชคดีมาก ที่ได้บินกลับไทยอย่างปลอดภัย…โล่งไป”

ทริปนี้ที่อยากไป

“พลอยอยากไปอเมริกาใต้มาก อยากไปทัวร์ทุกประเทศ ทั้งโบลิเวีย อาร์เจนตินา เพราะยังไม่เคยไปฝั่งนั้นเลย ซึ่งอเมริกาใต้ขึ้นชื่อว่าธรรมชาติและป่า อุดมสมบูรณ์มาก พลอยจึงอยากไปเดินป่าที่นั่นสุด ๆ

“แล้วช่วงสถานการณ์ที่ต้องอยู่บ้าน พลอยวางแผนเที่ยวในประเทศไว้เยอะ มาก อยากไปชุมพร เบตง และกระบี่ค่ะ ที่จริงเมืองไทยมีที่เที่ยวสวย ๆ อีกเยอะ เลยนะคะ อย่างจังหวัดตาก ปีที่แล้วพลอยไปเที่ยวมาตั้ง 3 รอบ ธรรมชาติ ยังสวยงามและอุดมสมบูรณ์มาก เขียวขจีไปหมด โดยเฉพาะฤดูฝนงามสุด ๆ อยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสค่ะ

“เคยมีคนถามพลอยว่าในชีวิตจริงเคยมีประสบการณ์อกหักเหมือนตอน แสดงเรื่อง Low Season ไหม…คำตอบคือมีค่ะ ตอนนั้นแบกเป้ไปเที่ยวอีสาน คนเดียวเลย ถ้าถามว่าช่วยได้ไหม แม้อาการในใจจะไม่ถึงกับหายสนิท แต่การเดินทางก็ทำให้มีเวลาเยียวยา และเข้าใจตัวเองมากขึ้นค่ะ”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 971

ภาพ : pigkaploy

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แม็ค กฤตธัช หนึ่งในทีมโดรนหาจุดปิดวาล์วถังสารเคมีหมิงตี้ ซีอีโอบริษัท NOVY

เปิดเรือนหอ โทนี่ & แก้ว เน้นเรียบง่ายพึ่งพาตนเอง นี่สิ! วิถีชีวิตแบบ off grid

เซฟไว้ก่อน! 3 ทริปที่รักของ “บาส Go Went Go” บล็อกเกอร์สายเที่ยวที่สาวๆ ปลื้ม

สรัย วัชรพล

จงภูมิใจในร่างกาย สรัย วัชรพล เผยรอยแตกผิว ก็เหมือนรอยสักแห่งการเดินทาง

account_circle
สรัย วัชรพล
สรัย วัชรพล

รอยแตกตามลำตัว หลายครั้งสร้างความไม่มั่นใจให้กับสาวๆ หลายคน พวกเธอต้องใส่เสื้อผ้าปกปิด และไม่กล้าโชว์ผิว  กลัวที่จะหยิบบิกินี่มาใส่ แต่สำหรับ  สรัย วัชรพล เธอกล่าวว่าอย่างภาคภูมิใจกับรอยแตกบนร่างกายของเธอว่า

จงภูมิใจในร่างกาย สรัย วัชรพล เผยรอยแตกผิว ก็เหมือนรอยสักแห่งการเดินทาง

สรัย วัชรพล เผยรอยแตกผิว

Because scars and stretch marks are the real tattoos…  Stretch marks หรือรอยแตกตามลำตัวเป็นเรื่องที่สาวๆ กลัวกันมาก เมื่อก่อนเวลาสรัยเห็นรอยแตกบนตัวของตัวเองก็เคยรู้สึกว่ามันดูไม่งาม แต่ ณ วันนี้สรัยพูดได้เต็มปากว่า “สรัยรัก stretch marks ของสรัยมากค่ะ”

สรัย วัชรพล เผยรอยแตกผิว

สำหรับสรัย… รอยแตกเหล่านี้คือ “real tattoos” คือรอยสักที่เกิดขึ้นมาจาก journey หรือการเดินทางในเชิงของ wellness and fitness ทั้งทางกายและทางใจ มันสะท้อนให้เราเห็นถึงความยากลำบากของการเดินทางครั้งนี้ จำได้ไปถึงสมัยที่เราวิ่งบนลู่วิ่งแค่ 3 นาทีก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้ว แต่เราก็สู้ต่อไปจนได้หุ่นที่ตัวเองพอใจและจิตใจที่ strong จิตใจที่เข้มแข็งขึ้นพร้อม กับ “วินัย” ที่มีมากขึ้นในทุกๆ เรื่องเป็นโบนัส

สรัย วัชรพล เผยรอยแตกผิว

นอกจากนั้นรอยแตกเหล่านี้คือเครื่องเตือนใจว่าเราผ่านอะไรมาบ้างและเป็นที่ระลึกแทนคำมั่นสัญญากับตัวเองว่าเราจะไม่กลับไปอยู่จุดเริ่มต้นเดิมอีก ปัจจุบันสรัยคิดว่ารอยแตกเหล่านี้ยิ่งมองยิ่งสวยและที่สำคัญแต่ละคนรอยแตกไม่เหมือนกัน มันเป็นหนึ่งในความ unique ที่สวยงามและน่าภูมิใจของเราทุกคนค่ะ


ที่มา : @sreivphol (Instagram)

แอชลีย์ เกรแฮม เผยทรวดทรง รอยแตกผิว อยากให้ผู้หญิง ‘รักผิวแบบที่คุณเป็น’

ชุดแต่งงาน Vera Wang

บ่งบอกความเป็นตัวตน 2 ชุดแต่งงานของ เกวน สเตฟานี่ จาก Vera Wang

account_circle
ชุดแต่งงาน Vera Wang
ชุดแต่งงาน Vera Wang

เกวน สเตฟานี่ นักร้องสาวชาวอเมริกัน สวมชุดแต่งงาน 2 ชุด 2 สไตล์จากแบรนด์ Vera Wang  เข้าพิธีแต่งงาน เบล็ค เชลตัน วัย  45 ปี

บ่งบอกความเป็นตัวตน 2 ชุดแต่งงานของ เกวน สเตฟานี่ จาก Vera Wang

ชุดแต่งงาน Vera Wang

เรียกได้ว่าเป็นชุดแต่งงานที่เข้ากับสไตล์ของ เกวน สเตฟานี่ เพราะตัวชุดนั้นไม่ได้มีความหวานเพียงอย่างเดียวแต่ยังแอบเซ็กซี่อีกด้วย โดยชุดแรกนั้นเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เกวนเลือกใส่ชุดแต่งงานเกาะอกมินิเดรสทำจากผ้าไหมอิตาลีสีดอกลิลลี่ ตัวกระโปรงทำจากผ้าทูลทอมือ ปักด้วยคริสตัลและเลื่อมอย่างประณีตตั้งแต่เอวลงมาจนถึงกระโปรง ความพิเศษของชุดนี้คือ เวลของเจ้าสาวปักเป็นนกเลิฟเบิร์ดหนึ่งคู่ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคู่รัก อีกทั้งยังมีนกเลิฟเบิร์ด 3 ตัว เป็นตัวแทนของลูกๆ เกวน สเตฟานี่ อีกด้วย

ชุดแต่งงาน Vera Wang

มากันที่อีกหนึ่งชุดที่มีความโมเดิร์น มินิมอล ชุดนี้มีความหวานซ่อนเปรี้ยว ตัวชุดด้านบนเป็นเกาะสีขาว ด้านล่างเป็นกระโปรงฟูฟ่องซึ่งทำมาจากผ้าทูล เป็นสองชุดที่มีความคล้ายกัน แต่ให้อารมณ์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน


ภาพ : @verawang (Instagram), @gwenstefani (Instagram)

Candice Swanepoe พรมแดงคานส์ 2021

เซ็กซี่เปิดพรมแดงคานส์! ‘Candice Swanepoel’ ในจั๊มสูทสีนู้ด มุมไหนก็ปัง

Candice Swanepoe พรมแดงคานส์ 2021
Candice Swanepoe พรมแดงคานส์ 2021

กราบหุ่นเซ็กซี่ตลอดกาลของคุณแม่ลูกสอง แคนดิซ สแวนโพเอล (Candice Swanepoel ) นางแบบชาวแอฟริกาใต้วัย 32 ปี ที่ล่าสุดปรากฏตัวเปิดพรมแดงคานส์ครั้งที่ 74 ในลุคที่พาทุกคนมองตาค้าง

เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 2021 กลับมาอีกครั้ง หลังจากถูกยกเลิกไปเมื่อปีที่แล้วเนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยค่ำคืนแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (6 กรกฎาคม 2564) เปิดพรมแดงด้วยคนดังมากมายในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เพลงแนวแฟนตาซีเรื่อง Annette ที่นำแสดงโดย Adam Driver และ Marion Cotillard

ในบรรดาคนดังที่เป็นดาวเด่นของพรมแดงคานส์ครั้งนี้ ขอยกให้นางแบบเซ็กซี่ตัวแม่ตลอดกาล แคนดิซ สแวนโพเอล ภายใต้ชุดจั๊มสูทขายาวสีนู้ดที่อวดให้เห็นความเป๊ะของรูปร่างที่ไม่เคยเปลี่ยน แม้จะเป็นคุณแม่ลูกสองแล้วก็ตาม แต่ยังสมกับตำแหน่งนางฟ้าวิคตอเรีย ซีเคร็ท ไม่แพ้รุ่นน้องอย่าง เบลล่า ฮาดิด ที่เดินพรมแดงในวันเดียวกัน

เซ็กซี่เปิดพรมแดงคานส์! ‘Candice Swanepoel’ ในจั๊มสูทสีนู้ด มุมไหนก็ปัง

สำหรับชุดของแคนดิซถือว่าฉีกกฎพรมแดงที่ไม่จำเป็นต้องใส่แค่เดรสเท่านั้น เพราะชุดจั๊มสูทจากแบรนด์ Etro ที่เธอเลือกก็สามารถสร้างความประทับใจได้ ด้วยลุคที่ดูสวยโฉบเฉี่ยว แหวกลึกเผยความแซ่บ ทั้งแขนเสื้อยังให้ความกรุยกรายได้ไม่ต่างจากชุดเดรส บวกกับลวดลายงานปักที่โดดเด่นบนชุดและเสริมลุคด้วยเครื่องประดับชิ้นใหญ่จาก Pomellato รวมถึงรองเท้าส้นสูง ทุกองค์ประกอบที่ว่ามานี้จะไม่ให้เรียกแสงแฟลชจากเหล่าช่างภาพได้ยังไง


ภาพ : Twitter@DCandiceCom

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ยืนหนึ่งพรมแดง Cannes 2021 “เบลล่า ฮาดิด” เฉิดฉายในชุด ฌอง ปอล โกลติเยร์

โตเป็นสาวแล้ว! แฟนๆ สังเกต ‘เลดี้ หลุยส์’ ทรงสวมเบลเซอร์ของเจ้าชายฟิลิป?

ใบนี้สุดคุ้ม! กระเป๋าผ้าแคนวาส ‘หมอคยออุล’ ในซีรีส์ดัง Hospital Playlist SS2

 

Cannes 2021

ยืนหนึ่งพรมแดง Cannes 2021 “เบลล่า ฮาดิด” เฉิดฉายในชุด ฌอง ปอล โกลติเยร์

account_circle
Cannes 2021
Cannes 2021

กลับมาเดินพรมแดง Cannes 2021 ได้อย่างเฉิดฉายสมกับเป็นนางแบบชื่อดังระดับโลกสำหรับ เบลล่า ฮาดิด ที่มาในลุคสวยสง่า กับชุดราตรีสีขาว-ดำ สไตล์วินเทจจากแบรนด์ ฌอง ปอล โกลติเยร์

หลังจากที่ต้องยุติการจัด Cannes Film Festival (เทศกาลหนังเมืองคานส์) เมื่อปี 2020 เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามปีนี้ เทศกาลหนังเมืองคานส์ได้กลับมาจัดงานมหกรรมภาพยนตร์โลกที่ทรงอิทธิพลที่สุดอีกครั้ง โดยในปีนี้ Cannes Film Festival 2021 จะจัดขึ้นในวันที่ 6-17 กรกฎาคม 2021

ยืนหนึ่งพรมแดง Cannes 2021 “เบลล่า ฮาดิด” เฉิดฉายในชุด ฌอง ปอล โกลติเยร์

Cannes 2021 "เบลล่า ฮาดิด"
PASCAL LE SEGRETAIN/GETTY IMAGES

และเป็นประจำทุกปีที่แฟนๆ ต่างรอคอยคือ แฟชั่นพรมแดงคานส์ ซึ่งจะมีเหล่านักแสดง นางแบบ เซเลบคนดังปรากฎตัวในคอสตูมสุดว้าว ซึ่งคอสตูมสุดปังในวันแรกของพรมแดง Cannes Film Festival 2021 รอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่อง Annette ก็คงต้องยกให้กับ เบลล่า ฮาดิด

Cannes 2021 "เบลล่า ฮาดิด"

เบลล่า ฮาดิดนางแบบสาววัย 24 ปรากฎตัวในชุดราตรีเกาะอกสีขาวสไตล์วินเทจ ช่วงอกเป็นคล้องคอผ้าทรูสีดำ ด้านหลังชุดมีหางลากยาวซึ่งทำมาจากผ้าทรูสีดำเช่นกัน โดยชุดนี้มาจากแบรนด์ ฌอง ปอล โกลติเยร์ คอลเล็กชั่น Spring 2002 Haute Couture

Kate Green/Getty Images

เบลล่าคอมพลีทลุคนี้ด้วยเครื่องประดับสุดหรูอย่างต่างหูทองคำขาวประดับเพชรทรงลูกแพร์สองเม็ด (รวม 18.05 กะรัต) และยังมีเพชรอื่นๆ อีก 5.82 กะรัต นอกจากนี้ เธอยังสวมแหวนอีกสองวง วงแรกเป็นแหวนเพชรจำนวน 5.45 กะรัต และอีกวงเป็นแหวนทับทิมรูปหัวใจจำนวน 2.42 กะรัต ซึ่งเครื่องประดับทั้งหมดนี้มาจากแบรนด์ Chopard


เส้นทางพรมแดงกว่าจะเป็น “ชมพู่ อารยา” Queen Of Cannes

แจ้งเกิดหรือดับคาพรมแดง โนบรา แหวกขา ซีทรู! คอสตูมสุดหวาดเสียวใน Cannes

 

Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง ที่ผอมมาก หลังเธอลดน้ำหนัก

ฉันรู้สึกเซ็กซี่..โอเคนะ Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง หลังเธอฟิตหุ่นจนผอม

Alternative Textaccount_circle
Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง ที่ผอมมาก หลังเธอลดน้ำหนัก
Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง ที่ผอมมาก หลังเธอลดน้ำหนัก

วันนี้จะขอหยิบยกเคสคนดังที่เคยเรียกเสียงฮือฮาในโซเชียลอย่าง Céline Dion นักร้องสาววัย 53 ปี เจ้าของเสียงสวยแห่งบทเพลงในตำนาน My Heart will go on ผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ที่เคยถูกวิพากษ์ วิจารณ์รูปร่าง ในตอนที่เธอเคยปรากฏตัวในงานแฟชั่นงานหนึ่ง

หลังจากนั้นก็มีเหล่าแฟนคลับจำนวนหนึ่งเริ่มรู้สึกเป็นห่วงเธอ เพราะเธอมีรูปร่างที่ผอมมากเกินไป หลายคนกังวลว่าเธอป่วยหรือไม่? ซึ่งก็มีคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องรูปร่างของเธอ ทั้งที่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ และก็ค่อนข้างไปทางวิจารณ์ อาทิเช่น ผอมไป , เป็นภาพที่ดูสุขภาพไม่ดี เหมือนร่างกายเธอต้องได้รับการช่วยเหลือ, คุณดูเศร้าและเหนื่อย, Celine ดูผอมเกินไป ดูมีอายุและสุขภาพไม่แข็งแรง” เป็นต้น และนอกจากนั้นยังมีคนตั้งข้อสังเกตว่า เธอเริ่มดูผอมลงอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่การเสียชีวิตของสามีเธอในปี 2016 เป็นต้นมา

 

 

View this post on Instagram

 

A post shared by FLARE (@flaredotcom)

สำหรับในเรื่องรูปร่างของเธอนั้นไม่มีคำยืนยันจากแหล่งใดๆ ว่าเธอลดน้ำหนักไปแล้วเท่าไหร่ แต่เธอเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับรูปร่างของเธอว่า เธอลดน้ำหนักเพราะต้องการดูแลสุขภาพมากขึ้น ตอนนี้รู้สึกถึงความแข็งแกร่ง สวย มีความเฟมินีน และเซ็กซี่ ซึ่งหากเธอชอบแบบนี้ เพราะฉะนั้นเธอไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงเรื่องการแต่งตัว พวกคุณก็แค่ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องถ่ายรูป ถ้าคุณชอบ ฉันจะอยู่ตรงนี้ ถ้าคุณไม่ชอบ ก็แค่ปล่อยฉันไว้คนเดียว

ซึ่งจากกระแสนี้หลายเสียงบอกว่า ยังไงเธอคือ Queen หรือแม้แต่การบอกว่าเธอนี่แหละคือตัวอย่างของคนที่ไม่ศัลยกรรม พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี รวมถึงการลงภาพโดยไม่ต้องมานั่งแต่งภาพให้ดูเกินจริงอีกด้วย

 

View this post on Instagram

 

A post shared by E! News (@enews)

และก่อนหน้า นี้เธอเคยบอกกับสื่อเดอะการ์เดียนว่า เธอไม่ได้เป็นโรคอะนอเร็กซ์ หรือโรคคลั่งผอม และไม่ได้พยายามทำอะไรแบบนั้น แต่ฉันผอมอยู่แล้ว ฉันผอมมาทั้งชีวิตและไม่มีใครในครอบครัวฉันที่อ้วน ฉันซ้อมบัลเล่ต์สี่ครั้งต่อสัปดาห์ ฉันทำงานหนัก ฉันชอบเคลื่อนไหวร่างกาย และมันก็มาพร้อมกับการได้ลดน้ำหนักไปในตัว

Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 9

Celine Dion ยังได้แชร์เมนูอาหารลดน้ำหนักของเธอ เพื่อปฏิเสธว่าเธอมีปัญหาเรื่องการกิน นี่คือเมนูอาหารประจำวันของเธอ

  • อาหารเช้า : กาแฟดำ + ครัวซองต์
  • อาหารกลางวัน : บาแกตต์ + สลัดหรือวิชิซอสกะหล่ำดอก หรือคีชพร้อมสลัด + คัสตาร์ดอิตาเลี่ยนแบบหวาน
  • อาหารเย็น : Sfihas (พายเนื้อสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน) + ดอกกะหล่ำทอดหรือเฟรนช์ฟรายส์เป็นครั้งคราว

และเธอก็ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกเหนือจากการกินเพื่อสุขภาพและการเต้นบัลเล่ต์ และในตอนนั้นที่เธอถูก Body Shaming เธอก็ได้บอกไว้ว่า “ฉันอยากใส่อะไรก็ได้ที่ฉันอยากใส่ ฉันอยากทำอะไรก็ได้ที่ฉันอยากทำ” , “คุณไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้” เรียกได้ว่าตอกกลับเบาๆ แต่แซ่บไม่น้อย

และยุคสมัยนี้แล้วควรเลิก Body Shaming กันได้แล้วนะคะ แม้จะเป็นห่วงก็ไม่ควรใช้เป็นข้ออ้างให้หยิบยกร่างกายคนอื่นมาพูดกัน ฝากไว้ให้ไตร่ตรอง เพราะยังมีอีกหลายคนที่มักถูกทักว่า อ้วนเกินไปหรือเปล่า , ผอมเกินไปหรือเปล่า , ทำไมผิวคล้ำจัง ฯลฯ อยู่ตลอด จนทำให้คนที่ถูกพูดถึงรู้สึกไม่ดี ไม่มั่นใจในร่างกายตนเอง ฉะนั้น เลิกได้เลิกนะคะ

Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 8 Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 10 Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 11 Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 7 Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 6 Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 4 Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 3 Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 2 Celine Dion ตอกกลับคน วิจารณ์รูปร่าง 1


ภาพและข้อมูล : celinedion , flaredotcom , enews

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เฟียร์สสุด! “ต่าย เพ็ญพักตร์” อัพลุคใหม่ทำสีผมสไตล์ Blue Ombre ไล่เฉดโทนฟ้าน้ำทะเล

“รถเมล์ คะนึงนิจ” แชร์วิธี ควบคุมน้ำหนัก และลีนรูปร่างให้ผอมเพรียวแบบง่ายๆ

เผยครั้งแรก! “อุ้ม ลักขณา” ศัลยกรรมอะไรบ้าง เสริมจมูกหมดเงินหลัก 1,xxx,xxx

 

 

keyboard_arrow_up