- Page 9 of 56

วิธีป้องกัน ‘มะเร็งตับและท่อน้ำดี‘ ภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทย พบมากเป็นอันดับหนึ่ง

มะเร็งตับและท่อน้ำดี ภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทย พบมากเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งทั้งหมดที่พบในประเทศไทย พบมากที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบี ไม่กินปลาน้ำจืดดิบ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ  สำหรับประเทศไทยมะเร็งตับและท่อน้ำดีถือเป็นมะเร็ง ที่พบเป็นอันดับ 1 ในเพศชาย และอันดับ 3 ในเพศหญิงจากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทย ปี 2561 พบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งตับ รายใหม่ 22,213 คน/ปี ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 15,650 คน/ปี (Cancer in Thailand Vol.X (2016-2018) สถาบันมะเร็งแห่งชาติและ สถิติสาธารณสุข ปี 2564) ซึ่งมะเร็งตับที่พบมากในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ มะเร็งของเซลล์ตับและมะเร็งท่อน้ำดีตับ โดยพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ  วิธีป้องกัน ‘มะเร็งตับและท่อน้ำดี‘ ภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทย พบมากเป็นอันดับหนึ่ง สาเหตุของมะเร็งตับส่วนมากเกิดจากการเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบชนิดบี ส่วนสาเหตุของมะเร็ง ท่อน้ำดีเกิดจากพยาธิใบไม้ตับร่วมกับการกินอาหารที่มีดินประสิว (ไนเตรท) และไนไตรท์ เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้มแหนม ฯลฯ นอกจากนี้ การดื่มสุราเป็นประจำ การรับสารพิษอะฟลาทอกซินที่เกิดจากเชื้อราบางชนิดที่พบในอาหารประเภทถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง รวมถึงไวรัสตับอักเสบชนิดซีก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งตับได้  ผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีแต่ละรายอาจมีการแสดงอาการแตกต่างกัน ซึ่งโดยทั่วไปมักไม่มีอาการในระยะแรก อาการส่วนใหญ่ที่พบคือ แน่นท้องท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ปวดหรือเสียดชายโครงขวา อาจคลำพบก้อนในช่องท้อง ตัวเหลืองตาเหลือง ท้องโต และมีอาการบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น หากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย เช่น การตรวจเลือดดูความผิดปกติการทํางานของตับ การตรวจระดับอัลฟาฟีโตโปรตีน การอัลตราซาวด์เพื่อดูก้อนที่ตับ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก เป็นต้น  การรักษามะเร็งตับและท่อน้ำดีมีหลายวิธี ซึ่งจําเป็นต้องประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย  เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องคํานึงหลายประการ สำหรับการป้องกันโรคทำได้โดยการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน ไม่กินปลาน้ำจืดดิบ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ กินอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่อาจปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน อาหารที่มีดินประสิว และอาหารหมักดอง เป็นต้น หากสงสัยว่ามีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับและท่อน้ำดี ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบหรือท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง ควรรับการตรวจหามะเร็งอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงทีและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับหรือมะเร็งท่อน้ำดีได้  สามารถติดตามความรู้ข่าวสารด้านโรคมะเร็งจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ส่งเสริมความรอบรู้สู้ภัยมะเร็ง http://allaboutcancer.nci.go.th/ เว็บไซต์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง https://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ และ Line : NCIรู้สู้มะเร็ง 

ร้อนระอุ! วิธีสังเกต ฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด ภาวะที่ทำให้เสี่ยงชีวิตได้

ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปของคุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นักธุรกิจและนักการเมืองชื่อดังที่เสียชีวิตด้วยภาวะฮีทสโตรก และด้วยความร้อนแผดเผาของประเทศไทยในช่วงนี้ จึงขอเสนอบทความเกี่ยวกับ ฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด ด้วยความเป็นห่วงลูกเพจที่รักทุกคน พร้อมวิธีสังเกตและรับมือ โดยหมอกรมการแพทย์ แนะว่ารับมืออากาศร้อนจัดให้อยู่ในที่ร่ม หลีกเลี่ยงแสงแดดจ้า ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อปรับอุณหภูมิของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากสภาพอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นในช่วงนี้ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาโดยเฉพาะโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงและได้รับความร้อนมากเกินไป ทำให้เกิดการทำงานที่ผิดปกติของสมองในส่วนการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย จนทำให้มีอุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ซึ่งส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมอง จำให้แม่น!! สัญญาณเตือนที่สำคัญของโรคฮีทสโตรก คือไม่มีเหงื่อออก แม้จะอากาศร้อน หน้าแดง ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก วิงเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว อาเจียน เกร็งกล้ามเนื้อ ชัก มึนงง สับสน  รูม่านตาขยาย ความรู้สึกตัว ลดน้อยลง อาจหมดสติ หัวใจเต้นเร็วแต่แผ่วเบา ถ้าไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องและทันเวลา อาจทำให้หัวใจหยุดเต้น และถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งแตกต่างจากอาการเพลียแดดทั่วๆ ไปที่จะมีเหงื่อออกด้วย สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคฮีทสโตรก คือ ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่อดนอน […]

ออกกำลังกายหนักไม่ใช่สาเหตุ ‘ภาวะกระดูกสันหลังคด’ เกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

ปัจจุบันมีรายงานข่าวบนสื่อออนไลน์ที่มีนักแสดงเกิดภาวะกระดูกสันหลังคด ทำให้ประชาชนสนใจเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น ซึ่ง ภาวะกระดูกสันหลังคด เป็นภาวะที่กระดูกสันหลังมีการคดเอียงออกทางด้านข้างตั้งแต่ 10 องศาขึ้นไป มักพบมากในช่วงวัยรุ่นหรือมีอายุระหว่าง 10 – 18 ปี (Adolescent idiopathic scoliosis (AIS)) และเกิดในเพศหญิงมากกว่าเพศชายในอัตราส่วน 10:1 ออกกำลังกายหนักไม่ใช่สาเหตุ ‘ภาวะกระดูกสันหลังคด‘ เกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยร้อยละ 80 ของภาวะนี้ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดได้แน่ชัด อย่างไรก็ตามในบางกรณีสามารถพบได้ในผู้ป่วยที่มีภาวะสมองพิการหรือในผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทและกล้ามเนื้อผิดปกติ ภาวะกระดูกสันหลังคดในวัยรุ่นนั้น มีปัจจัยเสี่ยงคือ เพศหญิงและอายุ โดยเฉพาะช่วงที่กำลังจะเข้าสู่วัยรุ่น การออกกำลังกายอย่างหนักไม่พบว่าเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะกระดูกสันหลังคด ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแต่ตรวจพบเจอโดยบังเอิญ มีส่วนน้อยเท่านั้นที่อาจมีอาการปวดหลัง บางรายที่มีการคดเอียงของกระดูกค่อนข้างมาก จึงจะตรวจพบว่ามีแนวกระดูกสันหลังไม่ตรง ระดับหัวไหล่ 2 ข้างไม่เท่ากัน ระดับเอวไม่เท่ากัน ด้านหลังนูน ผู้ป่วยจึงมักมาพบแพทย์ด้วยความกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง เมื่อผู้ป่วยเหล่านี้มาพบแพทย์จะทำการถ่ายภาพทางรังสีกระดูกสันหลัง เพื่อการวินิจฉัยและประเมินระดับความรุนแรงของกระดูกสันหลังคด รวมทั้งพิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสม ส่วนการถ่ายภาพทางรังสีคอมพิวเตอร์นั้นจะมีประโยชน์ในการช่วยวางแผนในการผ่าตัด การรักษาแบ่งออกได้เป็น 3 แนวทาง คือ การสังเกตอาการ การใส่เสื้อเกราะ และการผ่าตัด ในกรณีที่กระดูกสันหลังมีความคดน้อยกว่า 25 องศา แพทย์จะนัดตรวจติดตามอาการอย่างใกล้ชิดทุก […]

สัญญาณ ‘โรคฮาชิโมโต’ หรือภาวะต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน

แนะทุกวัยหมั่นตรวจเช็คอาการตนเองจากสัญญาณของ โรคฮาชิโมโต หากรู้เร็ว รักษาได้ทัน และควรกินอาหารครบหมู่ ใช้ชีวิตให้สมดุล แบ่งเวลาทำงานและพักผ่อนให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงสุราและบุหรี่หากมีอาการที่สงสัย เช่น คอโตขึ้น ควรมาพบแพทย์ หมั่นสังเกตสัญญาณ ‘โรคฮาชิโมโต‘ หรือภาวะต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน โรคฮาชิโมโต หรือภาวะต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน เป็นสาเหตุของภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำที่พบได้บ่อย เกิดจากการที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายไปทำให้ต่อมไทรอยด์เกิดการอักเสบเรื้อรังและทำงานลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อมไทรอยด์เป็นส่วนหนึ่งของระบบต่อมไร้ท่อที่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนที่สอดคล้องกับการทำงานหลายอย่างของร่างกาย โรคฮาชิโมโตมีจากหลายปัจจัย ได้แก่ กรรมพันธุ์ คนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นไทรอยด์ ไม่ว่าจะเป็นไทรอยด์เป็นพิษ ไทรอยด์อักเสบเรื้อรัง โรคเหล่านี้เป็นโรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของไทรอยด์ที่ผิดปกติ บางครั้งอาจแสดงในกลุ่มของอาการที่ไทรอยด์มากเกินไปหรือไทรอยด์น้อยเกินไป ขึ้นอยู่กับภูมิตัวนี้ไปยับยั้งหรือทำให้มีการสร้างฮอร์โมนมากขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าในครอบครัวมีคนเป็นโรคไทรอยด์จึงควรไปตรวจสุขภาพ อาจจะพบมากขึ้นในบางเชื้อชาติ การกินสารไอโอดีนมากเกินไป หรืออาจจะสัมพันธ์กับโรคภูมิคุ้มกันอื่นๆ เพศหญิงจะเป็นโรคไทรอยด์มากกว่าเพศชาย พบอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นตามอายุ แต่สามารถพบในเด็กวัยรุ่นและวัยกลางคนได้เช่นกันฃ อาการของโรคฮาชิโมโต ในระยะแรกผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใดๆ แต่เมื่อต่อมไทรอยด์มีขนาดโตขึ้น เกิดเป็นคอพอกที่ไม่มีอาการเจ็บปวด อาจจะมีอาการอื่นร่วมด้วย ได้แก่ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หน้าบวม รู้สึกหนาวง่าย ผิวแห้ง ปวดกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตามตัว ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ วิธีการดูแลสุขภาพ กินอาหารที่ดีมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ในวัยทำงานใช้ชีวิตให้สมดุล แบ่งเวลาทำงานที่เหมาะสม […]

มะเร็งหลังโพรงจมูก ภัยเงียบที่ซ่อนเร้น มีอาการคล้ายคลึงกับโรคที่พบได้ทั่วไป

มะเร็งหลังโพรงจมูก ภัยเงียบที่ซ่อนเร้น มีอาการคล้ายคลึงกับโรคที่พบได้ทั่วไป เช่น หวัด ภูมิแพ้ หรือไซนัสอักเสบ หากตรวจพบเจอในระยะเริ่มแรก ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาหาย อย่าชะล่าใจปล่อยไว้จนลุกลาม มะเร็งหลังโพรงจมูก ภัยเงียบที่ซ่อนเร้น มีอาการคล้ายคลึงกับโรคที่พบได้ทั่วไป มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นหนึ่งในมะเร็งบริเวณศีรษะและคอที่พบบ่อยในประเทศไทย พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ประมาณ 2.5 เท่า ผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ยวันละ 4 คน เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 2 คน (สถิติ Cancer in Thailand Vol.X,2016-2018 สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และและสถิติสาธารณสุข ปี 2564) ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมีหลายปัจจัย ได้แก่ การกินอาหารประเภทหมักดอง อาหารที่มีสารไนโตรซามีน เป็นประจำ การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การติดเชื้อเรื้อรังของไวรัส Epstein-Barr Virus (EBV) ความเสี่ยงทางพันธุกรรม เช่นเชื้อชาติจีน และประชากรในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น อาการของโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกมีหลายอาการ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง รักษาแบบโรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบแล้วไม่ดีขึ้น […]

อันตรายจากฝุ่น PM 2.5 เกี่ยวข้องอย่างไรกับ ‘โรคความจำเสื่อม’

ล่าสุดที่มีข่าวเรื่อง Bruce Willis เป็นโรคความจำเสื่อม Frontotemporal Dementia ซึ่งชื่ออาจจะไม่คุ้นหูกันเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่เรามักจะได้ยินว่า โรคสมองเสื่อม คือ อัลไซเมอร์ (Alzheimer) ซึ่ง นพ.ชยานุชิต ชยางศุ แพทย์อายุรศาสตร์ประสาทวิทยา ได้อธิบายความรู้ในเรื่องของ PM 2.5 กับโรคความจำเสื่อม เอาไว้ว่า อันตรายจากฝุ่น PM 2.5 เกี่ยวข้องอย่างไรกับ ‘โรคความจำเสื่อม’ Frontotemporal Dementia (FTD) คืออะไร?ก่อนอื่นอยากให้รู้จักคำว่า Dementia ก่อน คำนี้แปลว่าสมองเสื่อม ซึ่งจริงๆ แล้วโรคสมองเสื่อมมีหลายชนิด ที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือ Alzheimer นั่นเอง ส่วนกรณี Bruce Willis นั้นก็เป็นโรคสมองเสื่อมอีกชนิดที่มีอาการแตกต่างไปจาก Alzheimer ชื่อเรียกจึงแตกต่างกัน โดย Frontotemporal Dementia จะพบได้ในคนอายุน้อยกว่า อายุเฉลี่ย 40-65 ปี มีอาการได้หลากหลายตั้งแต่บางคนจะมีอาการหงุดหงิดฉุนเฉียว อารมณ์เกรี้ยวกราด พูดคำหยาบ ด่าทอ โดยอาจจะเป็นจากนิสัยเดิมของผู้ป่วยอยู่แล้ว […]

วิธีป้องกันตัวจาก ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 มลพิษร้ายที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพมหาศาล

ช่วงที่เปลี่ยนฤดูกาลจากฤดูหนาวสู่ฤดูร้อน บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมเป็นระลอกๆ มีผลให้ฝุ่น PM 2.5 เกิดขึ้นมาก พญ.พวงรัตน์ ตั้งธิติกุล แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ ศูนย์อายุรกรรม ได้อธิบายผลกะทบของ ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 เอาไว้อย่างละเอียด เพื่อให้นำไปสังเกตตนเองและคนรอบข้าง หากมีอาการดังกล่าวจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างทันท่วงที  ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดจิ๋วที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนก่อให้เกิดอันตราย เพราะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางพาสารอื่นๆ เช่น สารก่อมะเร็ง สารโลหะหนัก แทรกซึมเข้าไปในถุงลมปอดและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด รวมทั้งผ่านทางเส้นประสาทการรับกลิ่นที่อยู่ในโพรงจมูกเข้าไปยังสมองโดยตรง วิธีป้องกันตัวจาก ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 มลพิษร้ายที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพมหาศาล PM 2.5 ผลต่อสมอง กระตุ้นไมเกรน ฝุ่น PM 2.5 รวมทั้งมลพิษในอากาศชนิดอื่นๆ สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนอย่างรุนแรงขึ้นมาได้ ภาวะสมองเสื่อมเร็วกว่าปกติ หลังจากที่ฝุ่นจิ๋วเข้าไปยังสมองจะทำให้เกิดกระบวนการอักเสบในสมอง มีการหลั่งสารอักเสบชนิดต่างๆ ทำให้เซลล์สมองได้รับบาดเจ็บ เกิดภาวะสมองเสื่อมเร็วกว่าปกติและกระตุ้นให้เกิดการก่อตัวของก้อนโปรตีนที่ผิดปกติในสมอง (β-amyloid, α-synuclein, tau protein) ที่มีลักษณะคล้ายกับคนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์หรือโรคพาร์กินสัน รวมทั้งทำให้สมองมีการฝ่อเหี่ยวมากกว่าคนปกติอีกด้วย […]

เทรนเนอร์ไอดอล เผยความจริงเบื้องหลังวงการไอดอลเคป๊อป หากเด็กฝึกเดบิวต์ไม่ทัน

เมื่อไม่นานมานี้ เทรนเนอร์ไอดอลคนหนึ่งได้แบ่งปันความจริงเบื้องหลังวงการไอดอลเคป๊อปว่ามีเพียง 10% ของไอดอลที่เดบิวต์ในหนึ่งปีเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้ และยังเปิดเผยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเด็กฝึกไม่สามารถเดบิวต์ได้ทันเวลา In Jin Woong อดีต เทรนเนอร์ไอดอล ที่ผันตัวเป็น Youtuber ได้แชร์เกี่ยวกับด้านมืดของวงการไอดอล โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเด็กฝึกไม่สามารถเดบิวต์ได้ทันเวลา เกี่ยวกับกระบวนการที่ไอดอลได้รับการฝึกฝน และข้อเสียของเด็กฝึกหัดเหล่านี้ เขาเตือนอย่างตรงไปตรงมาว่ากระบวนการสร้างไอดอลกำลังเปลี่ยนเด็กฝึกหัดเหล่านี้ให้กลายเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เทรนเนอร์ไอดอล เผยความจริงเบื้องหลังวงการไอดอลเคป๊อป หากเด็กฝึกเดบิวต์ไม่ทัน เขาเริ่มต้นด้วยการแบ่งปันว่า “มันอาจจะแตกต่างกันสำหรับเอเจนซี่ต่างๆ แต่โดยปกติแล้วระยะเวลาของการเป็นเด็กฝึกจะอยู่ที่ 7-8 ปี หลังจากที่เด็กฝึกได้เดบิวต์กับทีมแล้ว อีก 1 ถึง 2 ปีก่อนที่พวกเขาจะเดบิวต์จริงๆ” “จริง ๆ แล้วมันเป็นรูปแบบพีระมิด มีเด็กหลายคนที่ไม่ได้เป็นเด็กฝึกด้วยซ้ำ เมื่อเอเจนซี่ใหญ่ประกาศรับสมัคร วิดีโอออดิชั่นมากกว่า 10,000 วิดีโอถูกส่งเข้ามา หลังจากเอาชนะการแข่งขันและได้เป็นเด็กฝึก เด็กๆ ผ่านกระบวนการสร้างเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เปลี่ยนวิธีคิดโดยพื้นฐาน” “เด็กเหล่านี้ไม่สามารถแม้แต่จะไปร้านสะดวกซื้อด้วยตัวเองได้จนกว่าพวกเขาจะมีประสบการณ์มาหลายปี ดังนั้น พวกเขาจึงต้องบอกผู้จัดการให้ไปซื้อกาแฟให้พวกเขาสักแก้ว พวกเขาถูกลิดรอนอิสรภาพในชีวิตประจำวัน ดังนั้น พวกเขาจึงได้รับการฝึกฝนจนเคยชินกับวิถีชีวิตเช่นนั้นหรือถูกครอบงำด้วยความเครียด” “มีคนบอกว่า ‘ถ้าคุณต้องการเป็นคนดัง ไลฟ์สไตล์นั้นถูกกำหนดไว้แล้ว’ ฉันรู้สึกว่ามันเป็นวิธีที่จะดักจับคนเข้ามาในบ่อนี้ที่เรียกว่าวงการบันเทิง”  “พวกเขาเข้าบริษัทตอนอายุ 8-10 ปี และฝึกฝนเป็นเวลาประมาณ […]

เจาะลึกประสบการณ์ตรงจากผู้เผชิญ “โรคฮิสโตพลาสโมซิส” ปอดติดเชื้อจากต้นไม้

เชื่อว่าหลายคนเพิ่งเคยได้ยินชื่อ “โรคฮิสโตพลาสโมซิส” ครั้งแรกในชีวิต จากเหตุการณ์ที่กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติเข้าไปในโพรงต้นช้างม่วงที่ป่าจังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วเกิดอาการติดเชื้อราในปอดกว่า 10 คน หนึ่งในนั้นคือ คุณไอซ์ – ศันสนีย์ เชี่ยววิทย์ ผู้จัดการฝ่ายขายและผู้จัดการแผนกทีมพัฒนาระบบ Mobile Application บริษัทจีเอเบิล จำกัด (มหาชน) บริษัทจัดการเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สำหรับผู้ประกอบการชั้นนำ เธอเป็นคุณแม่สายลุยที่รักธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจ ครั้งนี้มาเป็นตัวแทนแชร์ประสบการณ์ “ครั้งหนึ่ง” ที่ต้องเผชิญกับภัยเงียบจากเชื้อราแบบไม่คาดคิด เจาะลึกประสบการณ์ตรงจากผู้เผชิญ “โรคฮิสโตพลาสโมซิส” ปอดติดเชื้อจากต้นไม้ ทริปอนุรักษ์ “จุดเริ่มต้นของทริปเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนอนุรักษ์ธรรมชาติประมาณ 25 คน ที่ตั้งใจเดินทางไปศึกษาความสมบูรณ์ของธรรมชาติตามผืนป่าในแต่ละพื้นที่ ของประเทศที่มีความหลากหลายและแตกต่าง โดยถือโอกาสพาลูก ๆ ร่วมทริปไปด้วย ในฐานะเยาวชนที่รู้คุณค่าของธรรมชาติและพร้อมจะสืบสานให้คงอยู่ตลอดไป โดยมีผู้เชี่ยวชาญไปคอยให้ความรู้ ซึ่งทริปก่อนหน้านี้เราไปศึกษาธรรมชาติในป่า ดอยอินทนนท์ที่เป็นปลายสุดของเทือกเขาเอเวอเรสต์ และป่าที่จังหวัดสตูล ซึ่งเป็น ป่าชนิดเดียวกับเกาะบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเซีย เราสังเกตได้จากสัตว์และพันธุ์พืช “สำหรับทริปนี้เราไปช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เดินทางมาที่อุทยาน แห่งชาติน้ำตกโยงและป่าวังหีบ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นลักษณะผสมของ ป่าดิบชื้นและป่าดิบเขาที่คงความเป็นผืนป่าดึกดำบรรพ์ให้ศึกษาพรรณไม้และสัตว์ป่า โดยกลุ่มเรามีประมาณ 15 คน นั่งเครื่องจากกรุงเทพฯไปลงที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แล้วนั่งรถต่อไปอีกประมาณ […]

ชะลอวัยง่ายๆ ด้วย ‘เต้าหู้ขาว’ และ ‘ผักผลไม้สีม่วง’ ทางลัดที่ดีต่อสุขภาพ

ไม่ว่าใครก็ไม่อยากปล่อยให้ตัวเองดูแก่กว่าวัยกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นผู้หญิงก็ยิ่งอยากดูสาวและสวยอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าอายุอาจจะขึ้นเลขหลายหลักกันไปแล้วก็ตาม แต่จะทำอย่างไรดี เมื่อสภาพร่างกายเปลี่ยนไปตามวันเวลา และริ้วรอยต่างๆ เริ่มถามหา ครั้งนี้จึงขอนำทริคการเลือกกินอาหารโดยเฉพาะ ‘เต้าหู้ขาว’ และ ‘ผักผลไม้สีม่วง’ ที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายและสมองให้แข็งแรงเหมือนคนหนุ่มสาวอีกครั้ง ชะลอวัยง่ายๆ ด้วย ‘เต้าหู้ขาว’ และ ‘ผักผลไม้สีม่วง‘ ทางลัดที่ดีต่อสุขภาพ ชะลอผิวเหี่ยวย่นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น น้ำหล่อเลี้ยงผิวก็ลดลง ทำให้ผิวไม่เต่งตึงเหมือนดังก่อน “เต้าหู้” ขาวๆ อวบๆ ช่วยได้ เพราะเต้าหู้มีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง มีส่วนช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม ผิวพรรณผ่องใส ช่วยหยุดยั้งผิวที่ซีดเซียว เหี่ยวแห้งให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ชะลอผมขาวไม่น่ามองผมที่ค่อยๆ เปลี่ยนสีไปทีละเส้น อาจเป็นปัญหาที่คอยบั่นทอนความมั่นใจของคุณสาวๆ การย้อมผมอาจเป็นตัวช่วยหนึ่ง แต่อีกทางเลือกหนึ่งที่ดีไม่แพ้กันคือ การกิน “วอลนัท” เพราะวอลนัทอุดมไปด้วย ทองแดง และทองแดงนี้จะช่วยคงสภาพสีผมไม่ให้เปลี่ยนสีก่อนวัยอันควร ชะลอสายตาฝ้าฟางปัญหาเรื่องสายตาเป็นปัญหาอันดับต้นๆ เลยนะคะ สำหรับผู้ที่มีอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งการดูแลรักษาดวงตานั้นเราควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ลองเลือกผลไม้ที่มีประโยชน์ตามนี้ค่ะ ผลไม้ที่จะช่วยบำรุงสายตาได้แก่ผลไม้ในตระกูลเบอรี่ โดยเฉพาะ “บลูเบอรี่” ค่ะ เพราะผลสีม่วงๆ ของบลูเบอรี่จะมีแอนโทไซยานิน (anthocyanin) อยู่ และสารนี้เองล่ะค่ะที่ช่วยในเรื่องของการมองเห็น […]

ปรับพฤติกรรมการกิน ลดเสี่ยง ‘โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ’ ที่เป็นกันเยอะสุด และอันตรายถึงชีวิต

ในปัจจุบันคนไทยเสียชีวิตจาก ‘โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือตัน’ มากที่สุด เป็นอันดับ 3 รองจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง จากสถิติพบว่า มีผู้ป่วยเกิดขึ้นใหม่ 21,700 รายต่อปี ซึ่งมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยสาเหตุเกิดจากการรวมตัวกันของไขมันที่เกาะภายในผนังหลอดเลือดหัวใจหนาขึ้น ซึ่งไขมันนี้เกิดจากคอเลสเตอรอล ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวและหนาตัวขึ้น ร่างกายจึงไม่สามารถส่งเลือดไปยังกล้ามเนื้อหัวใจได้ สัญญาณเตือน ‘โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ’ อันตรายถึงชีวิต ปัจจัยเสี่ยงที่เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบนั้น มี 2 กลุ่ม คือ 1.ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ได้แก่ อายุที่มากขึ้นมีโอกาสเป็นเพิ่มขึ้น โดยเพศชายมีโอกาสเกิดโรคหัวใจได้มากกว่าเพศหญิงในวัยที่ยังมีประจำเดือน ในขณะที่วัยหมดประจำเดือนเพศหญิงมีโอกาสเกิดเท่ากับเพศชาย ปัจจัยด้านพันธุกรรม2.ปัจจัยที่ควบคุมได้ ได้แก่ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย น้ำหนักเกินมาตรฐาน กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และความเครียด ส่งผลทำให้เพิ่มโอกาสการเกิดหลอดเลือดหัวใจนั้นตีบตันในที่สุด อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเฉียบพลันผู้ป่วยสามารถมีอาการเจ็บที่บริเวณหน้าอกคล้ายของหนักมาทับในขณะพัก และอาจมีอาการร้าวไปที่บริเวณแขน สะบัก ไหล่ หรือขากรรไกรด้านซ้ายได้ นอกจากนี้ยังอาจพบว่ามีอาการร่วมอื่นๆ เช่น อาการหอบเหนื่อย นอนราบไม่ได้ ใจสั่น เหงื่อออกมาก คลื่นไส้อาเจียนหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม หรือหมดสติ หากสังเกตพบอาการดังกล่าวข้างต้น ควรพบแพทย์ที่ใกล้ที่สุดโดยทันที […]

เซอร์ไพรส์คนรักด้วยช่อ ‘ผลไม้สีแดง’ แทนดอกไม้หรือช็อคโกแลต เติมหวานแบบไม่เพิ่มน้ำตาล

แนะเซอร์ไพรส์คนรักด้วยช่อ ‘ผลไม้สีแดง‘ แทนดอกไม้หรือช็อคโกแลต เติมหวานแบบไม่เพิ่มน้ำตาล พอถึงวันวาเลนไทน์ คู่รักทั่วไปนิยมมอบของขวัญแทนใจเพื่อแสดงความรักให้แก่กัน นอกจากดอกกุหลาบสีแดงแล้ว ก็จะนิยมมอบขนมหวาน เช่น ช็อกโกแลต คุกกี้ ลูกกวาด เป็นต้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความรัก ความสุข ความหวานให้แก่คนรัก แต่ขนมหวานเป็นอาหารที่ให้พลังงานได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่มีสารอาหารที่ให้ประโยชน์น้อย (Empty Calories) หากกินโดยไม่มีการควบคุมบ่อยๆ เป็นระยะเวลานาน จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม ระบบภูมิคุ้มกันเสียสมดุล ทำให้ติดเชื้อง่าย และอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันในเลือดสูง และโรคอ้วนในระยะยาวได้ เซอร์ไพรส์คนรักด้วยช่อ ‘ผลไม้สีแดง’ แทนดอกไม้หรือช็อคโกแลต เติมหวานแบบไม่เพิ่มน้ำตาล ช็อกโกแลต คุกกี้ ลูกกวาด ฯลฯ ขนมหวานดังกล่าวเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง และพลังงานส่วนใหญ่มาจากน้ำตาล ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่มากไปอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ ได้ โดย ช็อกโกแลต 1 ชิ้น พอดีคำ ขนาด 10 กรัม ให้พลังงานประมาณ 50 กิโลแคลอรี คุกกี้ 1 […]

แพทย์ผิวหนังเผยวิจัย ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลให้ผิวเสื่อมชราและเกิดจุดด่างดำเพิ่มขึ้น

แพทย์ผิวหนังเผย ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบทางผิวหนังได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ฝุ่นละอองในอากาศเป็นปัญหาที่พบมากขึ้นทั่วโลกและกำลังเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทย โดยพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก มีเส้นผ่านศูนย์กลาง ไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกินค่ามาตรฐานทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑลและอีกหลายจังหวัด ฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากนี้ นอกจากจะทำให้มีปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อผิวหนังด้วยเช่นกัน แพทย์ผิวหนังเผยวิจัย ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลให้ผิวเสื่อมชราและเกิดจุดด่างดำเพิ่มขึ้น ผิวหนังเป็นอวัยวะหลักที่ต้องเผชิญกับสิ่งแวดล้อมและมลภาวะต่างๆ ตลอดเวลา ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝุ่นละอองดังกล่าวจะส่งผลต่อผิวหนัง ด้วยข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สามารถจับตัวกับสารเคมีและโลหะต่างๆและนำพาเข้าสู่ผิวหนัง มีผลทำร้ายเซลล์ผิวหนังโดยตรง และทำให้การทำงานของเซลล์ผิวหนังผิดปกติ ทั้งในด้านกลไกการป้องกันของผิวหนังจากสิ่งแวดล้อมภายนอกและการซ่อมแซมผิวหนัง กระตุ้นให้เกิดกระบวนการอักเสบของเซลล์ผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นคัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคผิวหนังอยู่เดิม เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนังหรือโรคผื่นผิวหนังอักเสบ จะมีการระคายเคืองคันมากยิ่งขึ้น ผื่นกำเริบมากขึ้นได้ การสัมผัสกับฝุ่นดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผิวเสื่อมชราได้เร็วขึ้น นอกเหนือจากปัจจัยทางแสงแดดและการสูบบุหรี่ การศึกษาในประเทศเยอรมนีและประเทศจีน พบว่าการสัมผัสกับฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นเวลานานมีผลทำให้ผิวเสื่อมชรา โดยพบการเกิดจุดด่างดำเพิ่มมากขึ้นบริเวณใบหน้าและการเกิดริ้วรอยบริเวณร่องแก้มมากยิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าฝุ่น PM2.5 มีผลกระทบต่อผิวหนังได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้น การปกป้องผิวหนังให้สัมผัสกับฝุ่นดังกล่าวให้น้อยที่สุดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีโรคผิวหนังอยู่เดิมเพื่อป้องกันไม่ให้โรคกำเริบมากยิ่งขึ้น ข้อมูล : […]

สาเหตุและอาการ ‘โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน’ ถึงมือแพทย์เร็วยิ่งมีโอกาสรอด

งานหนักไม่เคยฆ่าใครจริงหรือ? สำหรับกรณีที่มีข่าวพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในไทยทำงานหนักจนเสียชีวิตคาโต๊ะทำงานด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย เราจึงขอนำข้อมูลการรักษา ‘โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน‘ มาแนะนำ ก่อนอื่นคำถามที่ว่า งานหนักไม่เคยฆ่าใครจริงหรือ? ทาง องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เคยเผยผลการศึกษา งานหนักไม่เคยฆ่าใครนั้นไม่จริง เพราะในปี 2016 มีคนตายจากการทำงานหนักเกือบ 8 แสนคน ยิ่ง Work From Home ยิ่งเป็นปัญหา เพราะคนส่วนใหญ่ทำงานมากขึ้นกว่าเดิม โดยจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากการทำงานหนักนี้ แบ่งออกเป็น เสียชีวิตจากเส้นเลือดในสมองแตก 398,000 คน เสียชีวิตจากโรคหัวใจ 347,000 คน ฉะนั้น รักงานแค่ไหนก็อย่าลืมรักและดูแลตัวเองให้ดีนะคะ เพราะเรามีเพียงคนเดียวเท่านั้น อะไรก็ทดแทนไม่ได้ สาเหตุและอาการ ‘โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน’ ถึงมือแพทย์เร็วยิ่งมีโอกาสรอด สำหรับ ‘โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน’ เป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตมากเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน หัวใจของเราเป็นอวัยวะหนึ่งที่ทำงานหนักที่สุดตลอดชีวิต หลอดเลือดที่มาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจประกอบด้วยหลอดเลือดแดงหลัก 2 ฝั่ง เป็นหลอดเลือดแดงที่อยู่ด้านขวาและด้านซ้าย ซึ่งหลอดเลือดแดงด้านซ้ายจะแตกแขนงออกเป็น 2 เส้นใหญ่ รวมหลอดเลือดแดงหลักๆ ทั้งหมดเป็น 3 เส้น นอกจากนั้นแต่ละเส้นยังมีการแบ่งออกเป็นแขนงย่อยๆ […]

‘มะเร็งหัวใจ’ พบยาก แต่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย หากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์

“มะเร็งหัวใจ” โรคร้ายที่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่พบได้น้อยมาก อีกทั้ง ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคและปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคที่แน่ชัด ควรหมั่นสังเกตอาการของตนเองเพื่อการรักษาที่ทันท่วงที มะเร็งหัวใจ (Cardiac cancer หรือ Heart cancer) เป็นโรคที่พบได้น้อยมาก แต่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยส่วนใหญ่เป็นมะเร็งของอวัยวะอื่นๆ แล้วกระจายมาที่หัวใจ เช่น มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม ซึ่งสามารถแพร่กระจายมาที่หัวใจได้ แต่ถ้าเป็นมะเร็งหัวใจเองส่วนใหญ่เกิดจากเซลล์ผนังหลอดเลือดที่เรียกว่า Angiosarcoma ส่วนที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจเรียกว่า Rhabdomyosarcoma ซึ่งมะเร็งหัวใจของทั้ง 2 กลุ่มนี้ไม่ค่อยตอบสนองต่อการฉายแสงและยาเคมีบำบัด จึงต้องใช้วิธีรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อเอามะเร็งออกให้หมด ‘มะเร็งหัวใจ’ พบยาก แต่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย หากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ โดย มะเร็งหัวใจ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด – มะเร็งหัวใจปฐมภูมิ ได้แก่ มะเร็ง Angiosarcoma, Rhabdomyosarcoma, Fibrosarcoma, Malignant schwannoma, Mesothelioma – มะเร็งหัวใจทุติยภูมิ (Secondary cardiac cancer หรือ Metastatic […]

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง ‘หลอดเลือดสมองโป่งพอง’ อันตรายที่ไม่มีสัญญาณเตือน

หลอดเลือดโป่งพองในสมอง (Brain หรือ Cerebral aneurysm) คือ ตำแหน่งของหลอดเลือดสมองที่มีการโป่งพองออกจากผนังปกติ การโป่งพองของหลอดเลือดบริเวณสมอง เกิดจากแรงดันในหลอดเลือดกระทบกับบริเวณผนังหลอดเลือดที่อ่อนแอและจนเกิดการดันให้ผนังโป่งพองขึ้น เมื่อมีแรงดันมากขึ้น ผนังบริเวณนี้จะยิ่งโป่งพองมากขึ้น ขนาดของหลอดเลือดโป่งพองที่ใหญ่ขึ้น เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการแตกของหลอดเลือดสมองที่เพิ่มขึ้นโดยตรง นำไปสู่การเกิดเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง หรือเนื้อสมองตามมา ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บของเนื้อสมองจน เกิดความทุพพลภาพ และมีอันตรายถึงเสียชีวิตได้  สาเหตุของ หลอดเลือดสมองโป่งพอง มีได้หลายสาเหตุ สาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติและความอ่อนแอลงของผนังหลอดเลือด ที่เกิดภายหลัง เช่น  ความดันโลหิตสูง  การสูบบุหรี่  ไขมันในหลอดเลือด  การใช้ยาเสพติด เช่น ยาบ้า หรือโคเคน  การดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะการดื่มครั้งละมาก ๆ   การบาดเจ็บที่บริเวณสมอง  การติดเชื้อในหลอดเลือด  การมีภาวะหลอดเลือดแดงฉีกเซาะ  โรคมะเร็งบริเวณศีรษะและคอ  ปัจจัยบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับโรคทางพันธุกรรม หรือทางกายภาพ ได้แก่  เพศหญิง  อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดโป่งพอง  เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด หรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น Fibromuscular dysplasia,  Hereditary hemorrhagic telangiectasis, Ehlers-Danlos […]

6 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ‘สุขภาพทั่วไป’ และการดูแลรูปร่าง

เคยมีความเชื่อแบบ 6 ข้อด้านล่างนี้กันบ้างหรือเปล่าคะ ลองมาทำความเข้าใจ พร้อมสาระดีๆ เกี่ยวกับ ‘สุขภาพทั่วไป’ และการดูแลรูปร่างกันค่ะ 6 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ‘สุขภาพทั่วไป‘ และการดูแลรูปร่าง กินโปรตีนเพิ่ม พละกำลังก็เพิ่มไม่ถูกซะทีเดียวค่ะ เพราะร่างกายของเรามีโปรตีนและไขมันที่เพียงพออยู่แล้ว การเพิ่มปริมาณโปรตีนที่พิเศษไปกว่าโปรตีนที่เรากินตามปกติไม่ได้ช่วยเรื่อง “พละกำลัง” แต่เป็นเรื่องของ “จิตใจ” มากกว่า เราอาจจะเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อทั้งหลาย ที่จูงใจด้วยสรรพคุณของอาหารเสริมโปรตีน ราวกับว่าโปรตีนคือยาวิเศษ แท้จริงแล้วพละกำลังเกิดจากกล้ามเนื้อ การบริหารร่างกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ให้กล้ามเนื้อแข็งแรง จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายในการเพิ่มพละกำลังมากกว่า น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น เมื่อเราอายุมากขึ้นอาจจะถูกส่วนหนึ่ง เพราะเมื่อเราอายุเพิ่มขึ้น ระบบการเผาผลาญอาหารและพลังงานของร่างกายก็ทำงานได้ลดลง ทำให้เกิดการสะสมในรูปแบบของไขมันส่วนเกินที่มากขึ้น ประกอบกับการสร้างกล้ามเนื้อก็ลดลง เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาไขมันสะสมเพราะไม่ได้ถูกนำไปใช้ เราจึงควรจะกำจัดส่วนเกินเหล่านั้นออกไป แล้วรักษาน้ำหนักให้สมดุล ดีกว่าที่จะปล่อยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นตามตัวเลขอายุที่เพิ่มมากขึ้นนะคะ ยาลดความอ้วนทำให้หายจากโรคอ้วนยาลดความอ้วนที่โฆษณาและวางขายตามท้องตลาดนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นยาขับปัสสาวะ ลดการดูดซึมไขมัน เมื่อใช้ยาอาจส่งผลให้ดูผอมในระยะหนึ่ง แต่เป็นความผอมแบบขาดสารอาหาร ร่างกายทรุดโทรม การลดความอ้วนที่ดีและได้ผลที่สุดนั้นไม่มีตัวยาเฉพาะเจาะจง แต่เป็นการควบคุมอาหาร และปริมาณสารอาหารที่ร่างกายได้รับ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายที่เหมาะสม แน่นอนว่าวิธีดังกล่าวต้องใช้เวลาและความพยายามมากพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ ป่วยต้องทานยาจากการปลูกฝังอย่างต่อเนื่องจากการแพทย์แผนปัจจุบันที่เน้นให้ผู้ป่วยทานยา ความจริงแล้ว 90 % ของโรคต่างๆ ร่างกายเราสามารถรักษาให้หายได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยา ยาเป็นเพียงตัวช่วยหนึ่งที่ลดอาการของความเจ็บป่วยนั้นๆ […]

จริงหรือไม่ ‘เปิดไฟนอน’ เสี่ยงต่อภาวะสุขภาพทางหัวใจและเมตาบอลิก

ตามที่มีข้อมูลในสื่อโซเชียลเกี่ยวกับประเด็นการ เปิดไฟนอน ส่งผลเสียต่อร่างกาย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันโรคทรวงอก โรงพยาบาลสงฆ์ พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความบนสื่อโซเชียลโดยระบุว่าการเปิดไฟนอนส่งผลเสียต่อร่างกาย ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่าการเปิดไฟนอนมีความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพทางหัวใจและเมตาบอลิก ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่าการ เปิดไฟนอน เสี่ยงต่อภาวะสุขภาพทางหัวใจและเมตาบอลิก แต่มีการศึกษาในห้องปฏิบัติการ พบว่าทำให้เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติเพิ่มขึ้น และภาวะดื้อต่ออินซูลินเพิ่มขึ้นในเช้าวันถัดไปเท่านั้น จึงสรุปได้ว่า ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่าการเปิดไฟนอนมีความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพทางหัวใจและเมตาบอลิก ข้อมูล : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ภาพ : Pexels บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

keyboard_arrow_up