ราชวงศ์อังกฤษ
พันโทจอห์นนี่ ทอมป์สัน มือขวารูปงามคนใหม่ของ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
พบกับ พันโทจอห์นนี่ ทอม์ปสัน อัศวรักษ์ (ผู้ดูแลอาวุโสที่มีหน้าที่ดูแลม้า) บอดี้การ์ดรูปงามของ ควีนเอลิซเบธที่ 2 ซึ่งปัจจุบันถูกแต่งตั้งให้เป็น ‘super equerry’ มือขวาคนใหม่ของ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 พันโทจอห์นนี่ ทอมป์สัน มือขวารูปงามคนใหม่ของ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 หลายคนที่เป็นแฟนราชวงศ์อังกฤษอาจจะคงคุ้นหน้ากันดีกับ พันโทจอห์นนี่ ทอม์ปสัน อัศวรักษ์ที่ปรากฏให้เห็นกันบ่อยครั้งในงานสำคัญของราชวงศ์ แต่ที่สร้างกระแสจนกลายเป็นไวรัลคือในพิธีประกาศการสืบราชย์ และ พิธีราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จนได้รับการขนานนามว่า ‘Major Eye Candy‘ ทั้งนี้ตามรายงานของสื่ออังกฤษได้มีการเผยว่า พันโทจอห์นนี่ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็น ‘super equerry’ การเป็นมือขวาของ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พันโทจอห์นนี่ ทอมป์สัน วัย 39 ปี รับราชการในกองพันที่ 5 กรมทหารหลวงแห่งสกอตแลนด์ ตามรายงานของสื่ออังกฤษ พันโทจอห์นี่เกิดในนอร์ธัมเบอร์แลนด์ สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Aberystwyth ในปี 2004 และสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์และการเมืองระหว่างประเทศ เขาเข้าร่วมกองทัพในปี 2006 และเชื่อกันว่าทำหน้าที่อัศวรักษ์ดูแลม้าร่วมกับพระเจ้าชาร์ลส์มาตั้งแต่ปี 2020 […]
เจ้าชายวิลเลียม พร้อมโต้กลับ หากเจ้าชายแฮร์รี่-เมแกนทำราชวงศ์แปดเปื้อนอีกครั้ง
สื่อต่างประเทศโดยเว็บไซต์ express.co.uk ได้ออกมารายงานว่า เจ้าชายวิลเลียม พร้อมโต้กลับ หากเจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน มาร์เคิล ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ทำราชวงศ์แปดเปื้อนอีกครั้ง หลัง Netflix ปล่อยตัวอย่างสารคดี Harry and Meghan ซึ่งสร้างความกังวลให้กับราชวงศ์อังกฤษ เจ้าชายวิลเลียม พร้อมโต้กลับ หากเจ้าชายแฮร์รี่-เมแกนทำราชวงศ์แปดเปื้อนอีกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์ไปในวงกว้างหลัง Netflix ได้มีการเผยแพร่ตัวอย่างสารคดี Harry and Meghan ในวันที่ เจ้าชายวิลเลียม และ เจ้าหญิงแห่งเวลล์ เสด็จไปยังบอสตัน สหรัฐฯ ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการบดบังความสำคัญของทั้งสองพระองค์ ทั้งนี้สื่อต่างๆ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านราชวงศ์มองว่า แฮร์รี่ และ เมแกนตั้งใจประกาศสงครามกับราชวงศ์อีกครั้ง ทั้งนี้ แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงไม่พอพระทัยเป็นอย่างมาก และมีคำสั่งให้ผู้ช่วยอาวุโสตั้งใจดูซีรีส์ทั้ง 6 ตอน หากมีจุดไหนที่กล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง หรือ ใส่ร้ายราชวงศ์อีกครั้ง พระองค์จะทรงเดินหน้าสู้อย่างเต็มที่ ไม่เพียงการปล่อยตัวอย่างสารคดีของ แฮร์รี่และเมแกน จะกลบความสำคัญของ เจ้าชายวิลเลียม และ เจ้าหญิงเคทแล้วก่อนหน้านี้ทั้งสองพระองค์ โดยเฉพาะเจ้าชายวิลเลียมได้เผชิญกับกรณีการเหยียดสีผิวของ เลดี้ซูซาน […]
เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน ถูกประณามมีพฤติกรรม “หน้าไหว้หลังหลอก”
ถูกวิจารณ์อย่างต่อเนื่องสำหรับ เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน มาร์เคิล ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ซึ่งล่าสุดผู้เชี่ยวชาญราชวงศ์อังกฤษได้ออกมาประณามว่าทั้งสองพระองค์ชอบทำนิสัย “หน้าไหว้หลังหลอก” เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน ถูกประณามมีพฤติกรรม “หน้าไหว้หลังหลอก” ผู้เชี่ยวชาญราชวงศ์อังกฤษ “ฮิลารี ฟอร์วิช” กล่าวกับ Fox News ว่า แม้ แฮร์รี่ และ เมแกนจะถอยจากการเป็นราชวงศ์ชั้นสูงตั้งแต่ปี 2020 แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองพระองค์ยังคงต้องการสิทธิพิเศษทั้งหมด ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ต้องการกินเค้ก (ผลประโยชน์) และพวกเขากินมันด้วย ฮิลารี กล่าวต่อไปว่า “พวกเขาต้องการความความคุ้มครองจากราชวงศ์อังกฤษ รวมถึงอยากมีส่วนร่วมในงานต่างๆ เพื่อนำความลับไปเปิดเผย ในขณะเดียวกัน ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ก็ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่กลับจ้างบริษัทพีอาร์ถึง 3 แห่ง? เจ้าชายแฮร์รี่ต้องการสวมเครื่องแบบทหารในพระราชพิธีพระบรมศพ พระอัยยิกาผู้เป็นที่รักของพระองค์ แต่ไม่อยากทำงานให้กับราชวงศ์ อย่างไรก็ตาม เจาชายแฮร์รี่ได้รับอนุญาตให้สมเครื่องแบบของกองพันทหารม้า และ เป็นหนึ่งในพระราชปนัดดาที่ได้เข้าร่วมพิธียืนเฝ้าพระบรมศพพระอัยยิกา ขณะที่ แชนนอน เฟลตัน สเปนซ์ ผู้เชี่ยวชาญราชวงศ์อีกคน ได้ออกมาพูดถึงพฤติกรรมของ เจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน ว่า “ทั้งคู่คล้ายกับคนลาออกจากงาน แต่ยังคาดหวังให้บริษัทยังคงจ่ายเงินเพื่อผลประโยชน์ […]
พวงมาลาและการ์ด สัญลักษณ์แห่งความรัก จากลูกชายถึงแม่ ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’
ในความโศกเศร้ากับการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งวันที่ 19 กันยายน 2022 ได้มีการประกอบพระราชพิธีพระบรมศพอย่างยิ่งใหญ่และมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกนั้น พระราชพิธีสำคัญของอดีตกษัตริย์พระองค์นี้ ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจที่มีความหมายสุดลึกซึ้ง และนั่นก็ไม่ใช่สัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจบารมีใดๆ แต่คือสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก เพื่อเป็นการถวายความอาลัยต่อพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย นั่นก็คือ พวงมาลา และการ์ดที่วางไว้บนหีบพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก่อนหน้านี้หลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นที่ทราบกันดีว่า พระองค์ทรงโปรดที่จะเสด็จพักร้อนที่ปราสาทบัลมอรัล และพระองค์ก็เสด็จสวรรคตในที่แห่งนี้ จึงได้มีการนำดอกไม้จากสวนในพื้นที่รอบๆ ปราสาทบัลมอรัลมาใช้ในการทำพวงมาลา เพื่อวางบนหีบพระบรมศพตั้งแต่อยู่ที่สกอตแลนด์จนกระทั่งอัญเชิญมายังเวสต์มินส์เตอร์ ฮออล์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พวงมาลาและการ์ด สัญลักษณ์แห่งความรัก จากลูกชายถึงแม่ ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’ ทั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนพวงมาลาอีกครั้ง สำหรับวางบนหีบพระบรมศพฯ ซึ่งในวันนี้ที่มีการประกอบพระราชพิธีฯ จะเห็นได้ว่าเป็นพวงมาลาที่ประกอบด้วยดอกไม้หลากสีสัน ซึ่งตามรายงานของสำนักพระราชวังได้มีการระบุว่าเป็นไปตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่ต้องการให้ออกแบบพวงมาลาที่สวยงามและมีความคงทน ที่สำคัญคือยังเปี่ยมไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งอีกด้วย สำหรับพวงมาลาที่ใช้วางบนหีบพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันที่ 19 กันยายน 2022 นั้น เป็นพวงมาลาดอกไม้ที่นำมาจากสวนในพระราชวังบักกิงแฮม, Clarence House และ Highgrove House โดยได้เลือกไม้ใบมาเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่สื่อความหมายถึงความแข็งแกร่งทนทานและสะท้อนถึงความรักของอดีตกษัตริย์แห่งอังกฤษ ประกอบด้วย […]
เจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เสด็จร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ Gan Gan ผู้เป็นที่รัก
นับตั้งแต่ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักสวรรคต เหล่าสมาชิกราชวงศ์พระองค์น้อยอย่าง เจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เจ้าชายหลุยส์ ก็ยังไม่ปรากฎพระองค์ในที่สาธารณะ เจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เสด็จร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ Gan Gan ผู้เป็นที่รัก อย่างไรก็ตาม การที่ไม่ให้เด็กๆ ปรากฎตัวในสื่อนั้นเป็นความตั้งใจของ เจ้าชาย และ เจ้าหญิงแห่งเวลล์ ที่จะให้พระโอรส และ พระธิดา ยังดำเนินชีวิตตามวัยปกติของเด็กๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และ ยังเป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวในช่วงเวลาที่เจ็บปวด และแสนเศร้าของครอบครัว ทั้งนี้เจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เจ้าชายหลุยส์ ยังคงเสด็จไปเรียนหนังสือตามปกติ โดยเจ้าชายวิลเลียม และ เจ้าหญิงเคท ทรงต้องการให้แน่ใจว่าลูกๆ ของพระองค์รู้สึก “เป็นปกติที่สุด” แต่สำหรับพระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2022 ณ พระราชวังบั๊คกิ้งแฮม กรุงลอนดอน เจ้าชายจอร์จ และ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์จะทรงเสด็จร่วมพระราชพิธีในวันนี้ด้วย ทั้งสองพระองค์จะทรงเดินร่วมขบวนพร้อมกับ สมาชิกพระราชวงศ์องค์อื่นๆ […]
ต่อต้านระบอบกษัตริย์ไม่ผิดกฎ ความท้าทายหลังครองราชย์ คิงชาร์ลส์ที่ 3 แห่งอังกฤษ
การสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของราชวงศ์ แม้ว่าที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 70 ปีที่พระองค์ทรงครองราชย์จะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะเรื่องของการเรียกร้องจากประเทศในเครือจักรภพที่ต้องการแยกออกมาปกครองตนเอง รวมไปถึงชาวอังกฤษบางกลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ระบอบสาธารณรัฐแทนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แน่นอนว่าเมื่อกษัตริย์พระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์หลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชิชีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กระแสการต่อต้านสถาบันกษัตริย์ในอังกฤษก็ไม่ได้จางหายไปไหน ล่าสุดก็เริ่มมีการแสดงออกกันมากขึ้น ทั้งการเขียนป้ายชูขึ้นหน้าพระราชวังเวสต์มินส์เตอร์ หรือแม้กระทั่งในวันที่อัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จากพระราชวัง Holyroodhouse ไปยังมหาวิหารเซนต์ไจลส์ ก็เกิดเหตุโกลาหลมีชายคนหนึ่งตะโกนต่อว่าเจ้าชายแอนดรูว์ ขณะร่วมขบวนพระบรมศพฯ ต่อต้านระบอบกษัตริย์ไม่ผิดกฎ ความท้าทายหลังครองราชย์ คิงชาร์ลส์ที่ 3 แห่งอังกฤษ นอกจากนี้กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า Extinction Rebellion ก็ยังคงเดินหน้าประท้วงอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งหมดยังคงเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพของการแสดงออกที่อยู่ภายใต้กฎหมาย สถาบันกษัตริย์อังกฤษจึงทำได้เพียงการวางเฉย ในทางตรงข้ามบทบาทของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อาจจะยิ่งต้องเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้เห็นว่าสถาบันกษัตริย์ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชนชาวอังกฤษ และยินดีจะปรับตัวเข้าหาประชาชนให้มากขึ้นด้วย อย่างเมื่อปีที่แล้วในช่วงพระราชพิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ ก็เคยมีข่าวออกมาว่า วันใดที่พระองค์เป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ พระองค์จะลดขนาดสถาบันกษัตริย์ให้เล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบันมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อประหยัดงบ ลดค่าใช้จ่าย โดยคาดว่าสมาชิกราชวงศ์ที่จะยังคงมีบทบาทในสถานะเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง และยังต้องทำงานต่างๆ ให้กับราชวงศ์อังกฤษจะเหลือเพียง 7 พระองค์ ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3,คามิลลา พระราชินีมเหสี,เจ้าชายวิลเลียมแห่งเวลส์,แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ พระวรชายา,เจ้าชายจอร์จ,เจ้าหญิงชาร์ลอตต์และเจ้าชายหลุยส์แห่งเวลส์ ในส่วนของ […]
เรียบง่าย ความหมายลึกซึ้ง พวงหรีดบนหีบพระบรมศพประดับดอกไม้จากบัลมอรัล
หลังจากในช่วงสายที่ผ่านมาตามเวลาของประเทศอังกฤษได้มีการอัญเชิญหีบพระบรมศพควีนเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งประทับอยู่ในปราสาทบัลมอรัลไปยังกรุงเอดินบะระ เพื่อประดิษฐาน ณ พระราชวังHolyroodhouse อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ทั้งนี้ขบวนพระบรมศพของพระองค์ไม่ได้มีสิ่งใดที่ซับซ้อนมากนัก แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความหมายสุดลึกซึ้ง ปราสาทบัลมอรัลไม่ใช่แค่ปราสาทอันหรูหราในสายตาคนทั่วไปเท่านั้น แต่สำหรับพระองค์ที่นี่คือ บ้านอีกหลังหนึ่งที่พระองค์ทรงโปรด และจะเสด็จมาพักผ่อนทุกฤดูร้อนกับเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ ที่นี่จึงเต็มไปด้วยความทรงจำ ความรักและความผูกพันระหว่างพระองค์กับเจ้าชายฟิลิป และบ้านหลังนี้ยังเป็นสถานที่สุดท้ายที่พระองค์สวรรคตอย่างสงบ เรียบง่าย ความหมายสุดลึกซึ้ง พวงหรีดบนหีบพระบรมศพฯ ประดับดอกไม้จากปราสาทบัลมอรัล เมื่อมีการอัญเชิญพระบรมศพฯ ออกจากปราสาทบัลมอรัล แน่นอนว่าการเดินทางครั้งสุดท้ายของพระองค์นั้นคงไม่ได้กลับมายังปราสาทแห่งนี้อีก พวงหรีดที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อถวายพระองค์ จึงมีความสำคัญ เป็นตัวแทนของความรักที่พระองค์มีต่อสถานที่แห่งนี้ สำหรับพวงหรีดที่ถูกนำไปวางบนหีบพระบรมศพของควีนเอลิซาเบธที่ 2 นั้น ประดับด้วยดอกไม้ที่ปลูกอยู่ที่ปราสาทบัลมอรัล ประกอบด้วย สน ดอกรักเร่ หรือดอกดาห์เลีย ซึ่งเป็นดอกไม้ทรงโปรดของพระองค์ และเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันมั่นคงตลอดชีวิตของพระองค์และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ นอกจากนี้ยังมี ดอกจากต้นถั่วลันเตา ซึ่งหมายถึงการจากลา ส่วนดอกฟลอกซ์นั้นเป็นดอกไม้ประจำเดือนประสูติของพระองค์ และดอกเฮเธอร์สีขาวเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องและความโชคดี อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อที่นี่
คิงชาร์ลส์ที่ 3 สั่งห้ามแฮร์รี่ ก่อนมาที่บัลมอรัล “เมแกนไม่มีสิทธิ์พบควีนก่อนสวรรคต”
กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ตอนนี้สื่ออังกฤษตีข่าวแทบทุกสำนัก หลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา สื่อจอมปั่นอย่าง The Sun เล่าว่าหลังจากที่เจ้าชายแฮร์รี่ ได้รับโทรศัพท์ปลายทางจากสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งขณะนั้นพระองค์กำลังเข้าเฝ้าควีนเอลิซาเบธที่ 2 ที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับพระพลานามัยของพระองค์อย่างมาก โดยพระองค์ทรงตรัสกับเจ้าชายแฮร์รี่ว่าไม่ควรพาภรรยาของเขามาที่ปราสาทบัลมอรัลด้วย เพราะควรจะจำกัดเพียงแค่สมาชิกราชวงศ์ที่สนิทเท่านั้น ทั้งนี้แม้กระทั่ง แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ก็ไม่ได้ไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินินาถฯ เช่นกัน แต่สื่ออังกฤษกลับตั้งข้อสังเกตว่า การที่แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ไม่ได้ไปที่ปราสาทบัลมอรัล ก็เพราะต้องดูแลพระโอรสและพระธิดา ซึ่งเพิ่งจะเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ไม่กี่วัน ส่วนเมแกนนั้นเป็นการถูกสั่งห้าม ซึ่งเป็นไปได้ว่าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อาจจะทำให้เห็นชัดเจนมากขึ้นว่าเมแกนจะไม่ได้รับการต้อนรับในฐานะสมาชิกราชวงศ์อีกต่อไป คิงชาร์ลส์ที่ 3 สั่งห้ามแฮร์รี่ ก่อนมาที่บัลมอรัล “เมแกนไม่มีสิทธิ์พบควีนก่อนสวรรคต” ในส่วนของเจ้าชายแฮร์รี่ที่เดินทางมายังปราสาทบัลมอรัลก็ค่อนข้างจะโดดเดี่ยว เพราะมีข่าวว่าพระองค์นั้นถูกปฏิเสธไม่ให้โดยสารเครื่องบินลำเดียวกับเจ้าชายแห่งเวลส์ พระเชษฐาของพระองค์ ที่มาพร้อมกับเจ้าชายแอนดรูว์ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด และโซฟี เคาน์เตสแห่งเวสเซกซ์ ไปยังสกอตแลนด์ พระองค์จึงตัดสินใจเดินทางเพียงลำพังแต่ก็ไม่ทันได้เข้าเฝ้าควีนเอลิซาเบธที่ 2 ในวาระสุดท้าย อย่างไรก็ตามแม้จะมีข่าวดราม่านี้ออกมา แต่ในวันที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ได้ออกมาถวายความอาลัยต่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ใจความตอนหนึ่งที่พระองค์ตรัสถึงเจ้าชายแฮร์รี่ ก็ยังคงเต็มไปด้วยความรักที่พระองค์มีต่อพระราชโอรสรวมถึงภรรยาของเขา แม้ว่าทั้งสองจะเลือกไปมีชีวิตใหม่ที่ต่างประเทศก็ตาม […]
ควีนคามิลล่า ราชินีมเหสีคนใหม่ ที่ยังอยู่ภายใต้เงาเจ้าหญิงไดอาน่า
หลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2565 ซึ่งพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์มายาวนาน70ปี ก็เป็นที่ทราบกันดีว่ารัชทายาทลำดับที่ 1 อย่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์จะได้ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ประมุขผู้ปกครองสหราชอาณาจักรและเครือจักรภพ เรื่องนี้เป็นไปตามกฎของราชวงศ์โดยอัติโนมัติ จะมีแต่เพียงสิ่งหนึ่งที่ชาวอังกฤษอาจจะยังไม่ยอมรับซะทีเดียวก็คือ คู่สมรสของพระองค์อย่าง ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ซึ่งฐานันดรใหม่ที่จะได้รับนั้นคือ Queen consort หรือราชินีมเหสี โดยตำแหน่งนี้เมื่อครั้งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้เคยตรัสถึงว่า ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์จะเป็นที่รู้จักในนามของราชินีมเหสีเมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ส์นั้นได้ขึ้นครองราชย์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าควีนเอลิซาเบธที่ 2 นั้นก็ทรงยอมรับคามิลล่าในฐานะสมาชิกราชวงศ์ ควีนคามิลล่า ราชินีมเหสีคนใหม่ ที่ยังอยู่ภายใต้เงาเจ้าหญิงไดอาน่า ถึงแม้ว่าควีนเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงยอมรับ แต่ด้วยกฎของราชวงศ์อังกฤษที่มีธรรมเนียมปฏิบัติที่เคร่งครัดมาอย่างยาวนาน อาจจะทำให้Queen consort อย่างคามิลล่า ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนมากนัก เพราะจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กับราชินีมเหสีผู้นี้ค่อนข้างมีความซับซ้อนและคาบเกี่ยวกับช่วงที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ยังมีเจ้าหญิงไดอาน่าแห่งเวลส์เป็นคู่สมรสอยู่ อีกทั้งตามประเพณีของราชวงศ์ได้กำหนดว่าตำแหน่งนี้จะต้องตกเป็นของภรรยาของพระมหากษัตริย์ที่มาอย่างถูกต้อง และหลังจากการหย่าร้างของทั้งสองพระองค์ กระแสความนิยมในเจ้าหญิงไดอาน่าก็มีความแข็งแกร่งมากขึ้น จวบจนวันนี้แม้ว่าพระองค์จะจากไปแล้ว ก็ยังคงมีกระแสการต่อต้านว่าดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์นั้นไม่ควรรับตำแหน่งQueen consort เพื่อเป็นการให้ความเคารพและให้เกียรติกับอดีตภรรยาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 อีกทั้งยังเป็นพระมารดาของรัชทายาทลำดับที่ 1 ว่าที่กษัตริย์อังกฤษองค์ต่อไปอย่างดยุกแห่งเคมบริดจ์ด้วย ทั้งนี้ตำแหน่ง […]
สมาชิกเคมบริดจ์ พร้อมหน้า เจ้าชายวิลเลียม ดัชเชสเคท ส่งลูกๆ ไปโรงเรียนวันแรก
ทำเอาแฟนๆ ราชวงศ์ต่างยิ้มกว้างที่ได้เห็นความน่ารักของ 3 สมาชิกเคมบริดจ์ เจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และ เจ้าชายหลุยส์ ขณะกำลังเสด็จไปโรงเรียนวันแรก โดยมี เจ้าชายวิลเลียม และ ดัชเชสเคท ทรงพาลูกๆ ไปส่งที่โรงเรียน สมาชิกเคมบริดจ์ พร้อมหน้า เจ้าชายวิลเลียม ดัชเชสเคท ส่งลูกๆ ไปโรงเรียนวันแรก หลังจากที่ครอบครัวเคมบริดจ์ย้ายจาก พระราชวังเคนซิงตัน เพื่อไปพำนักยัง พระราชวังวินด์เซอร์ ในช่วงฤดูร้อน เป็นเหตุให้ เจ้าหญิง ชายน้อย ทั้งสามพระองค์ต้องทรงย้ายโรงเรียนใหม่ ซึ่งเดิมที่ เจ้าชายจอร์จ และ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงศึกษาอยู่ที่โรงเรียน Thomas’s Battersea ในกรุงลอนดอน ทั้งนี้สื่ออังกฤษรายงานว่า ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงพาลูกๆ ไปส่งที่โรงเรียนวันแรก เด็กๆ ดูร่าเริง แจ่มใส โดยเฉพาะ เจ้าชายหลุยส์ ที่ดูจะตื่นเต้นกว่าๆ พระเชษฐา และ พระเชษฐภคินี เพราะนี่เป็นวันแรกที่เจ้าชายน้อยวัย 4 ชันษาเสด็จไปโรงเรียน อธิการบดี Jonathan Perry ทักทายเหล่าเจ้าหญิง […]
อีกกฎเคร่งครัด เหตุใดราชวงศ์อังกฤษต้องเตรียมชุดสีดำ เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
หาคำตอบ! เหตุใดราชวงศ์อังกฤษต้องเตรียมชุดสีดำ เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นกฎที่เหล่าสมาชิกปฏิบัติกันมาอย่างเคร่งครัดหลายสิบปี ในบรรดากฎและข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งกายที่ราชวงศ์อังกฤษต้องปฏิบัติตาม ก็มักจะแฝงไปด้วยขนบธรรมเนียมประเพณี ซึ่งมีที่มาและเหตุผลรองรับเสมอ เช่นเดียวกับกฎต่างๆ ที่เราเคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้ เช่น สุภาพสตรีในราชวงศ์อังกฤษต้องถือคลัทช์ด้วยสองมือ หรือการกำหนดให้สุภาพสตรีสวมหมวกในงานที่เป็นทางการ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดมาจากธรรมเนียมเก่าแก่ สมาชิกในราชวงศ์ต้องปฏิบัติตามด้วยความเคร่งครัดและอาจมีกฎบางข้อที่สามารถอะลุ่มอล่วยได้ ซึ่งกฎข้อหนึ่งที่สมาชิกทุกคนต้องทำตามอย่างเคร่งครัดก็คือ เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ สมาชิกทุกคนต้องจัดเตรียมชุดสีดำลงในกระเป๋าเดินทาง ในกรณีที่มีคนเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด จึงต้องเตรียมการไว้ เพราะสมาชิกราชวงศ์ต้องดูเรียบร้อยเสมอและมันจะดูไม่ดีหากยังคงแต่งกายด้วยชุดสีสันปกติ ในขณะที่สมาชิกในราชวงศ์เพิ่งจะจากไป โดยเรื่องนี้กลายเป็นกฎหลังจากที่ควีนเอลิซาเบธต้องรีบกลับจากประเทศเคนยาในปี 1952 หลังจากที่พระบิดาของพระองค์ สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 สิ้นพระชนม์ เพราะไม่ได้ถูกมองว่าเหมาะสมที่จะออกมาในกรุงลอนดอนด้วยชุดปกติหลังจากที่กษัตริย์สิ้นพระชนม์ จากบทความด้านบน หลายคนคงได้คำตอบกระจ่างชัดกับข้อสงสัยที่ว่า เหตุใดราชวงศ์อังกฤษต้องเตรียมชุดสีดำ เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นกฎที่สมาชิกในราชวงศ์ปฏิบัติมาแล้วหลายสิบปี และเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่สืบต่อกันไปอีกนาน ที่มา : www.bustle.com ภาพ : Getty Images บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ เรื่อง (ไม่) ลับในวัง! วิธีจัดการ ฉลองพระองค์ตัวเก่าของ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 อีกหนึ่งกฎควรรู้ ทำไมสมาชิกราชวงศ์อังกฤษต้องถือคลัทช์ด้วยสองมือ ชมพูคือพลังบวก! ‘ดัชเชสเคท’ ออกงานแรก ตอบกลับ แฮร์รี่-เมแกน […]
ย้อนดูฉลองพระองค์ทรงคุณค่าของควีนเอลิซาเบธ ในวโรกาสฉลองครองราชย์ 70 ปี
นับเป็นอีกปีแห่งประวัติศาสตร์ สำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีการครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร หรือรู้จักกันในชื่อ Platinum Jubilee (แพลตินั่ม จูบิลี) สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้เพราะแพลตินั่มเป็นแร่ที่มีคุณค่าและราคาสูง จึงนำมาใช้เปรียบกับการครองบัลลังก์กว่าเจ็ดทศวรรษอันยาวนานที่สุดในประวัติราชวงศ์อังกฤษที่เป็นที่พูดถึงทั่วโลก ถือว่ายิ่งใหญ่ ควรค่าแก่การจารึก ย้อนดูฉลองพระองค์ทรงคุณค่าของควีนเอลิซาเบธ ในวโรกาสฉลองครองราชย์ 70 ปี โดยปกติแล้ว จูบิลี่ของอังกฤษที่นับว่ายาวนานมี Golden Jubilee (โกลเดน จูบิลี) สำหรับสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ที่มีกษัตริย์และราชินีเพียงบางพระองค์ได้เฉลิมฉลองมาบ้าง จากนั้นเป็น Diamond Jubilee (ไดมอนด์ จูบิลี) สำหรับ 60 ปี ที่มีสมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียและสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เท่านั้นที่ทรงผ่านพิธีฉลอง และ Sapphire Jubilee (แซฟไฟร์ จูบิลี) สำหรับ 65 ปี จากนั้นจึงเป็นแพลตินั่ม ซึ่งผู้ที่ผ่านทั้งแซฟไฟร์และแพลตินั่มมีเพียงควีนเอลิซาเบธเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ในโอกาสนี้ พระราชวังวินด์เซอร์จัดนิทรรศการแสดงของล้ำค่ามากมาย ซึ่งชิ้นที่เป็นไฮไลท์ของงานคือ เดรส ณ […]
สวยสง่าตามกฎราชวงศ์ 5 ลุคเรียบหรู ดัชเชสเคท ในงาน Platinum Jubilee
ในงาน Platinum Jubilee ที่เพิ่งผ่านพ้นไป การแต่งกายของดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ก็ดูเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และไม่ทำให้ผิดหวังในฐานะสไตล์ไอคอนระดับโลก
ราชวงศ์สุดประหยัด ดัชเชสเคท เลือกเดรส จากOutlet ให้เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ใส่ร่วมงานTrooping the Color
ในงานพระราชพิธีเฉลิมฉลองครองราชย์ 70 ปี ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เด็กๆ ของบ้านนี้พร้อมใจกันแต่งตัวมาในธีมสีฟ้า เพื่อให้เข้ากับคอสตูมของควีนเอลิซาเบธที่ 2 แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้หรอก เพราะเบื้องหลังความสมัครสมานสามัคคีในความเข้าธีมของทั้ง 3 พระองค์นั้น ก็ล้วนเป็นผลงานการตระเตรียมของดัชเชสเคท พระมารดาของเด็กๆ นั่นเอง
เมินคำวิจารณ์ “เมแกน มาร์เคิล” กลับอังกฤษครั้งแรก หลัง Megxit
แม้จะเจอกระแสวิพากษ์ วิจารณ์แต่ เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ก็มิได้หวั่น เดินทางกลับอังกฤษพร้อมกับ เจ้าชายแฮร์รี่เพื่อมาร่วมงาน พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี (Platinum Jubilee) เมินคำวิจารณ์ “เมแกน มาร์เคิล” กลับอังกฤษครั้งแรก หลัง Megxit เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ได้เสด็จไปร่วมงาน Trooping the Color ณ พระราชวังบัคกิงแฮม โดยทั้งสองไม่ได้เสด็จออกหน้าสีหบัญชรร่วมกับสมาชิกราชวงศ์องค์อื่นๆ ทั้งนี้ ดัชเชสเมแกนถูกจับภาพได้ขณะยืนชมพิธีสวนสนามของทหาร ที่หน้าต่างบานหนึ่ง ขณะกำลังกำลังหยอกล้อ อย่างสนุกสนาน กับ มีอา อิสลา และ สะวันนาห์ ลูกสาวของ ปีเตอร์ และ ออทัมน์ ฟิลลิปส์ พระธิดาใน เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี อย่างไรก็ตาม นี่ยังเป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกของ เจ้าชายแฮร์รี่ และ ดัชเชสเมแกน รวมถึงเป็นครั้งแรกที่ดัชเชสแห่งซัสเซกส์กลับมาเยือนอังกฤษอีกครั้ง หลังถอยออกจากการเป็นสมาชิกระดับสูง (Megxit) […]
ไร้เงา 3 สมาชิกราชวงศ์ ผู้อื้อฉาว ออกสีหบัญชร ร่วมฉลองควีนครองราชย์ 70 ปี
หลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดนั้นเริ่มเบาบางลง ในปีนี้การเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี ครองราชย์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก็จะมีการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง และในปีนี้ก็เป็นครั้งแรกที่พระองค์จะเสด็จออก ณ สีหบัญชร โดยที่ไม่มีเจ้าชายฟิลิปป์ ดยุกแห่งเอดินบะระ และ สมาชิกราชวงศ์ บางพระองค์ เคียงข้างพระวรกายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
สื่ออังกฤษตีข่าว เมแกน คือตัวการ ทำให้ประเทศเครือจักรภพเกลียดราชวงศ์
รอยร้าวความบาดหมางที่เกิดขึ้นหลังจากการลาออกจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษของดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ไม่ใช่แค่เกิดแรงสั่นสะเทือนภายในราชวงศ์เท่านั้น แต่ยังทำให้ทั่วโลกต่างจับตามองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ทั้งคู่ได้ไปออกรายการทอล์คโชว์ของ โอปราห์ วินฟรีย์ จนเกิดราม่าเรื่องการแบ่งแยกเชื้อชาติและสีผิว
การประสูติของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เปลี่ยนประวัติศาสตร์การปกครองของ ราชวงศ์
การประสูติของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ ได้เปลี่ยนประวัติศาสตร์การสืบทอดราชบัลลังก์ในการปกครองของราชวงศ์อังกฤษ และทลายประเพณีและกฎเกณฑ์โบราณของราชวงศ์ไปอย่างสิ้นเชิง! นับตั้งแต่ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระธิดาในเจ้าชายวิลเลียม และ เคท มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงประสูติ ดูเหมือนว่าปริ้นเซสองค์น้อยวัย 6 ชันษาจะโดดเด่น และทรงมีอิทธิพล กลายเป็นขวัญใจของคนทั่วโลกไม่แพ้ พระมารดา (ดัชเชสเคท) พระอัยยิกา (เจ้าหญิงไดอาน่า) และ พระปัยยิกา (ควีนเอลิซาเบธที่ 2) เลยทีเดียว ที่กล่าวเช่นนั้นก็เพราะ เพียงแค่เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ปรากฎพระวรกายต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล เซ็นต์ เจมส์ ก็เกิดปรากฎการณ์ตามล่าหาชุดที่เหมือนเจ้าหญิงองค์น้อยใส่กันยกใหญ่ หรือจะเป็นฉลองพระองค์เดรสสุดน่ารักที่ใส่มาอวดโฉมในงานสำคัญต่างๆ ก็ขายดี ขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่นาที เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ได้กลายเป็นไอคอนตัวจิ๋วของราชวงศ์ที่สร้างเม็ดเงินมูลค่าแสนล้านให้กับประเทศ การประสูติของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เปลี่ยนประวัติศาสตร์การปกครองของ ราชวงศ์ อันที่จริงแล้วอิทธิพลของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงแค่นั้น อย่างที่ทราบกันดีว่า ราชวงศ์อังกฤษยึดมั่นในประเพณีและกฎเกณฑ์โบราณ ซึ่งกำหนดมานานแล้วว่าใครจะได้รับตำแหน่งหรือมีบทบาทอย่างไรในการปกครอง แต่ทว่าการเปลี่ยนแปลงระบบการสืบทอดราชบัลลังก์ในการปกครองของราชวงศ์อังกฤษล่าสุด ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนตุลาคม 2554 นั้น เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ได้ทรงเปลี่ยนประวัติศาสตร์การขึ้นครองราชย์ของราชวงศ์อังกฤษ โดยทรงเป็นรัชทายาทหญิงพระองค์แรก ที่รักษาลำดับสืบสันตติวงศ์ไว้ได้ โดยไม่ต้องทรงถูกลดขั้นลงเมื่อทรงมีพระอนุชา ซึ่งแต่เดิมนั้นตามกฎการสืบสันตติวงศ์อังกฤษ มีกำหนดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1701 […]