น้ำอัลคาไลน์

ข้อดีของ น้ำอัลคาไลน์ น้ำด่างเพื่อสุขภาพ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับสมดุลร่างกาย

น้ำอัลคาไลน์
น้ำอัลคาไลน์

น้ำอัลคาไลน์ หรือน้ำด่างเพื่อสุขภาพ คือ น้ำดื่มที่มีค่าความเป็นด่าง และมีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการผสมอยู่มากมาย อาทิเช่น แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม และโปรเทสเซียม อีกทั้งน้ำอัลคาไลน์เป็นน้ำที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้ง่ายเมื่อร่างกายทำการดูดซึมน้ำเข้าไปใช้ยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย

ทำให้เป็นน้ำมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าน้ำธรรมดา เนื่องจากมีความเป็นกรดด่างที่สมดุล พอเหมาะกับร่างกายของมนุษย์ จึงเข้าไปช่วยป้องกันร่างกายจากการทำลายของกรดส่วนเกิน ช่วยฟื้นฟูร่างกายด้วยการชะล้างของเสียลึกถึงระดับเซลล์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้แข็งแรงมากขึ้น

ทำความรู้จักกับน้ำอัลคาไลน์ในทางวิทยาศาสตร์

น้ำอัลคาไลน์เป็นผลของกระบวนการแยกองค์ประกอบทางเคมีของน้ำด้วยไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า กระบวนการอีเล็คโทรลิซิส (Electrolysis) ซึ่งเป็นการปล่อยกระแสไฟฟ้าโดยตรงไปในน้ำผ่านแผ่นตัวนำไฟฟ้าขั้วลบ (Cathode) ซึ่งจะได้น้ำอัลคาไลน์ที่มีประจุลบและแผ่นตัวนำไฟฟ้าขั้วบวก (Anode) ซึ่งจะได้น้ำอะซิดิกที่มีประจุบวกและผลที่ได้อีกอย่างคือ แร่ธาตุในน้ำที่มีความเป็นด่าง จะถูกแยกตัวออกจากแร่ธาตุในน้ำที่มีค่าความเป็นกรด ทำให้น้ำนี้ประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่มีความเป็นด่าง คือ แคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม และโปแตสเซียม ส่วนของน้ำอาซิดิกจะเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่มีความเป็นกรด คือ คลอไรด์ ฟลูออไรด์ ซัลเฟอร์ และฟอสฟอรัส นอกจากนี้ในระหว่างกระบวนการอีเล็คโทรลิซิส จะทำให้กลุ่มโมเลกุลในน้ำลดลงจากปริมาณ 11 ถึง 13 โมเลกุลต่อกลุ่ม ลดเหลือเพียง 6 โมเลกุลต่อกลุ่มน้ำ และนี้คือผลลัพธ์ที่ทำให้น้ำอัลคาไลน์มีขนาดโมเลกุลเล็กกว่าน้ำธรรมดา โดยในทางวิยาศาตร์เรียกชื่อน้ำที่มีจำนวนกลุ่มโมเลกุลที่ลดลงกว่าปกตินี้ว่า “Electrolyzed Reduced Water” หรืออีกชื่อว่า “Restructured Alkaline Water” ด้วยความที่น้ำอัลคาไลน์มีจำนวนของกลุ่มโมเลกุลเล็กลงไปครึ่งหนึ่ง จึงช่วยทำให้ร่างกายที่ดื่มน้ำนี้เข้าไปจะสามารถดูดซึมน้ำเข้าไปยังเซลล์ได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เซลล์ เนื้อเยื้อ ตลอดจนอวัยวะในร่างกายได้รับความชุ่มชื้นได้มากขึ้น และยังพาสารอาหารเข้าสู่เซลล์เพื่อเผาผลาญได้ดีและเร็วขึ้น ช่วยให้เซลล์ขับล้างของเสียที่ไม่ดีต่อร่างกายเผาผลาญออกทางเซลล์ได้ง่าย เป็นการช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย (Detoxification) จึงนับได้ว่าการดื่มน้ำอัลคาไลน์เป็นกระบวนการธรรมชาติในการขับล้างของเสียออกจากร่างกายที่ดีอีกทางหนึ่ง และในกระบวนการอิเล็คโทรลิซิสนั้น ทำให้น้ำอุดมไปด้วยไอออนประจุลบ (Native Ions) เป็นผลให้น้ำมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยต้านและทำลายสารอนุมูลอิสระในร่างกาย ชะลอวัย ชะลอการเสื่อมของร่างกาย รวมทั้งการเกิดโรคร้ายต่างๆ

น้ำอัลคาไลน์ที่ได้จากกระบวนการอิเล็คโทรลิซิส สะอาด ปลอดภัย ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย และเต็มไปด้วยคุณสมบัติดังนี้

  1. สมดุลความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่ต้องไปดึงแร่ธาตุอัลคาไลน์ที่เก็บสะสมไว้ เช่นในกระดูกและฟัน เพื่อมาทำการปรับสมดุลกรดของเสียในร่างกาย
  2. มีแร่ธาตุอัลคาไลน์ในรูปประจุอิออน ซึ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
  3. น้ำอัลคาไลน์ที่ได้จากกระบวนการอิเล็คโทรลิซิสจะมีโมเลกุลเล็กลง ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่าย และขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายได้อย่างดี เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ทำให้รู้สึกสดชื่น
  4. มีประจุลบสูงซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี (Excellence Antioxidant) และเป็นธรรมชาติ ช่วยชะลอวัย ความเสื่อมต่างๆ และโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้น เช่น โรคร้าย โรคข้อเสื่อม โรคกระดูกพรุน เป็นต้น

น้ำอัลคาไลน์ให้คุณประโยชน์ด้านใด

  1. ปรับสมดุลค่า pH ของกรดในร่างกาย (Neutralize Balance) น้ำอัลคาไลน์สามารถเข้าไปปรับสมดุลเป็นกรดในร่างกายที่เกิดจากความเครียด กังวล อาหารจานด่วน น้ำอัดลม กาแฟ เหล้า บุหรี่ มลพิษต่างๆ ผลวิจัยโดย ดร.โรเบิตท์ โอ ยัง ผู้เขียนหนังสือ “The pH Miracle for Weight loss” กล่าวว่า “ร่างกายจะสร้างเซลล์ไขมันเพื่อจะดักจับและสมดุลกรดเกินในร่างกาย” และนี่คือสาเหตุที่ทำให้เราอ้วนและมีไขมันส่วนเกิน ดังนั้นการดื่มน้ำอัลคาไลน์จะช่วยปรับสมดุลกรดเกินในร่างกาย นอกจากนั้นยังช่วยให้กระเพาะอาหารผลิตน้ำย่อยที่มีความเป็นกรดสูงแต่ตรงกันข้ามกันร่างกายก็จะผลิต bicarbonates ซึ่งมีความเป็นด่างสูง ซึ่งจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ซึ่งจะเป็นผลดีในการสมดุลกรดในร่างกายเป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรดื่มน้ำนี้ทันทีหลังจากที่เพิ่งรับประทานอาหารอิ่มเพราะจะทำให้ลดความเข้มข้นของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารจะทำให้ลดความเข้มข้นของน้ำย่อยในกระเพาะ
  2. น้ำอัลคาไลน์ช่วยต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย (Anti-Oxidant and Anti-Aging) โดยน้ำที่ได้จากกระบวนการอิเล็คโทรลิซิสจะมีประจุลบสูงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีเยี่ยม ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์ และดีเอ็นเอในร่างกายอย่างดี การเสื่อมของวัย การเกิดโรคของความเสื่อมต่างๆ เช่น  โรคกระดูกพรุน ไขข้อ ผิวหนัง เกิดมาจากการถูกทำลายของเซลล์ในร่างกายโดยกรดของเสียจากการเผาผลาญอาหารและสารอนุมูลอิสระในร่างกาย ดังนั้นการดื่มน้ำอัลคาไลน์จะช่วยสมดุลกรดของเสียในร่างกาย ยังช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคร้ายต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ป่วย โรคร้าย และการแก่ก่อนวันอันควรอีกด้วย
  3. มีขนาดโมเลกุลลดลง เนื่องจากกระบวนการอิเล็คโทรลิซิส ทำให้ขนาดโมเลกุลลดลงเหลือ 6 โมเลกุลต่อกลุ่ม วึ่งมีขนาดเล็กมากกว่ามากเมื่อเทียบกับน้ำธรรมดา เช่นน้ำปะปา น้ำจากเครื่องกรองน้ำระบบธรรมดาทั่วไป น้ำแร่ น้ำบรรจุขวดทั่วไป โดยน้ำที่มีโมเลกุลเล็กจะมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ดังต่อไปนี้
    • ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เช่น กระแสเลือดและผลังเซลล์ได้ง่าย (Better Penetration) จึงสามารถนำพาสารอาหาร อ็อกซิเจน สารต้านอนุมูลอิสระ เข้าสู่เซลล์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทำให้ร่างกายสามารถรับสารอาหารได้ดีขึ้น เผาผลาญอาหารได้มากขึ้น อีกทั้งยัง เหมาะสำหรับผู้ป่วย โรคร้าย
    • ช่วยขับล้างสารพิษออกจากเซลล์ได้ง่าย เนื่องจากกลุ่มโมเลกุลที่เล็กลงจึงซึมเข้าเซลล์ได้ง่ายก็สามารถออกจากเซลล์ได้ง่ายเช่นกัน และสามารถนำเอากรดของเสียที่เซลล์เผาผลาญขับล้างออกจากเซลล์เข้าสู่กระแสเลือดและขจัดออกทางไต ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้ที่ทดลองดื่มน้ำอัลคาไลน์เป็นครั้งแรก อาจจะมีอาการมึนงง เนื่องจากการที่น้ำถูกดูดซึมและทำการขับของเสียออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาตอบสนองฉับพลัน
    • ให้ความชุ่มชื้นที่ดีกว่า เพราะมีโมเลกุลน้ำที่เล็กลง ทำให้ดื่มได้ง่าย และดื่มได้มากขึ้น น้ำอัลคาไลน์มีรสชาติดี ด้วยกลุ่มโมเลกุลเล็กลงจึงไปกระตุ้นปุ่มรับรสบนลิ้นได้ดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายได้รับความชุ่มชื้น ทำให้ร่างกายทำงานดีขึ้น แข็งแรง มีภูมิต้านทานโรคสูงขึ้น

ดูแลร่างกายด้วยการดื่มน้ำอัลคาไลน์

น้ำอัลคาไลน์ มีประโยชน์ต่อทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้ใหญ่ คำแนะนำในวัยเด็กที่ดื่มน้ำอัลคาไลน์ อายุ 4 – 12 ปี ควรดื่มน้ำที่ค่า pH 8.5-9 ส่วนผู้ใหญ่ที่ดื่มน้ำอัลคาไลน์ใหม่ๆ ควรเริ่มต้นที่ pH 8.5-9 ก่อนเช่นกัน หลังจากนั้น 2 สัปดาห์ จะสามารถดื่มที่ 9 pH ได้เป็นประจำ และหากออกกำลังกายร่วมด้วยนั้น แนะนำที่ pH 9.5 ส่วนผู้ใดที่ต้องการนำน้ำอัลคาไลน์ไปใช้ในการล้างผักผลไม้ เนื้อสัตว์ หุงข้าว ชงกาแฟ สามารถทำได้ แต่ต้องใช้น้ำในระดับ pH ที่ 10

ผลวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของน้ำอัลคาไลน์ น้ำด่างในทางการแพทย์

ด้านการลดน้ำหนักไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของไขมัน คอสเลสโตรอล คาร์โบไฮเดรต หรือแคลอรี่ แต่มันเป็นเรื่องของกรด ถึงน้ำหนักที่เราใฝ่ฝันไว้ จึงเป็นเพียงเรื่องของการรักษาสมดุลค่า pH ที่ละเอียดอ่อนมากของเลือดในร่างกายเรา โดยผลการวิจัยของ ดร.โรเบิร์ต โอ ยัง เรื่องการดำเนินชีวิตเพื่อความสมดุลทางเคมีในร่างกายของคุณ เปลี่ยนรูปร่างในเบาบางลง รูปร่างให้เหมาะสมกับน้ำหนัก เป็นธรรมชาติและอยู่คงที่ถาวร สิ่งที่ดีที่สุดคือการขจัดเซลล์ไขมันที่ไม่จำเป็นในร่างกายออกไปได้ ร่างกายเรามีสภาวะความเป็นด่างอ่อนๆ แต่ด้วยสภาวะแวดล้อมในปัจจุบัน ไลฟ์สไตล์การกินการอยู่ล้วนก่อให้เกิดกรดเข้าไปในร่างกายแทบทั้งสิ้น เช่น การดื่มน้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว อาหารทอด ความเครียด เป็นต้น

มีนักวิจัยหลายท่านได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับน้ำอัลคาไลน์ ในเรื่องของประสิทธิภาพ อาทิเช่น การศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของน้ำด่าง น้ำอัลคาไลน์ในทางการแพทย์ ดร.อ๊อตโต วอร์เบิร์ก ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสรีระวิทยา ในปี พ.ศ.2474 ผู้ค้นพบสาเหตุของการเกิดโรคร้ายโดยร้อยละ 99 เกิดจากการที่ร่างกายมีสภาวะเป็นกรดมากกว่าสภาวะปกติถึง 1000 เท่า ทำให้ตัวร้ายสามารถเจริญเติบโตได้ดีในภาวะขาดอ็อกซิเจน เซลล์ปกติจะมีค่า pH อยุ่ 7.35 เมื่อเซลล์ร้ายมีค่า pH สูงกว่า 7.5 ก็จะตาย และถ้าถึง 8 เซลล์ร้ายจะตายในทันที

และยังมีผลการศึกษาของ ดร.ฮิโรมิ ชินย่า (Dr.Hiromi Shinya) ในปี พ.ศ.2511 ได้ใช้น้ำด่าง (Alkaline Water) ที่ผลิตจากเครื่องใช้ไฟฟ้า รักษาผู้ป่วยโรคร้ายในลำไส้และทำการตรวจโดยกล้องส่องลำไส้ พบว่าสามารถรักษาโรคร้ายได้ ต่อมาในปี 2547 จึงมีการเสนอให้ใช้น้ำอัลคาไลน์ (Alkaline Water) ในการช่วยป้องกันและรักษาโรคร้ายที่มหาวิทยาลัยคิวชู จังหวัดฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งผลการศึกษาประสิทธิภาพของน้ำอัลคาไลย์ โดย Jamie A. Koufman ได้ศึกษาเรื่อง Potential Benefits of pH8.8 Alkaline Drinking Water as an Adjunct in the Treatment of Reflux Disease พบว่า น้ำดื่มอัลคาไลน์ ที่มีค่า pH 8.8 มีความแตกต่างจากน้ำดื่มแบบธรรมดาปกติ โดยน้ำดื่มที่มีค่า pH 8.8 มีคุณสมบัติในยับยั้งน้ำย่อย pepsin ให้อยู่ในรูป inactive แบบ irreversible ดังนั้นการบริโภคน้ำอัลคาไลน์อาจมีผลประโยชน์ทางการรักษา สำหรับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนได้

ในเมื่อทุกคนทราบกันดีว่า น้ำ นั้นสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก ดังนั้น คุณภาพของน้ำที่ใช้ดื่มจึงสำคัญยิ่งยวดไม่แพ้ปริมาณของน้ำที่เราดื่มเช่นกันเพื่อที่จะรักษาความแข็งแรงและสมบูรณ์ของสุขภาพของเรา ร่างกายของเราถูกออกแบบมาให้เป็นอัลคาไลน์ และถูกออกแบบมาให้ทำงานในโหมดอะซิดิก น้ำอัลคาไลน์ จึงเหมาะกับร่างกายของเราที่สุด

สำหรับใครที่อยากดื่มน้ำอัลคาไลน์ง่ายๆ ได้ที่บ้านตัวเองตลอดเวลา ไม่ต้องคอยแบกน้ำเป็นแพ็คๆ แนะนำเครื่องกรองน้ำอัลคาไลน์ Live Healthy จากประเทศเกาหลี เป็นเครื่องทำน้ำร้อน & น้ำเย็น รุ่น Jewelry และรุ่น Elegance ด้วยขนาด กะทัดรัด น้ำหนักเพียง 17.5 กิโลกรัมที่สามารถผลิตน้ำอัลคาไลน์ที่ค่า pH 9.0 +-0.5 ไอออนประจุลบ(ORP) -150mv ถึง  -350mv  และยังมีระบบป้องกันการกดน้ำร้อนจากลูกน้อย ( Safrty Faucet for Children ) สะอาด สะดวก ประหยัด ปลอดภัย ทนทาน สวยงาม มีรสนิยม

จุดเด่นเครื่องนี้คือ เป็นน้ำร้อน น้ำเย็น และเป็น น้ำอัลคาไลน์ได้เลย 3 in 1 ถ้าอยากกินโจ้กคัพ มาม่า ก็ไม่ต้องเสียเวลาต้มน้ำ หรือเวฟ กดน้ำร้อนได้เลย หรืออยากกินชา กาแฟ จะร้อนหรือเย็น ก็ชงได้ทันที เพราะน้ำมีโมเลกุลเล็ก ละลายได้ง่าย ที่สำคํญ ไม่ทำให้ท้องอืดด้วย เพราะเป็นน้ำอัลคาไลน์ลดกรด


ข้อมูล : Live Healthy

 

 

 

‘ปิ๊งเด็กหนุ่มอนาคตไกล แต่หัวรุนแรงยากที่จะไปกันได้’ ดูดวงรายวัน 13 สิงหาคม 2563

ดูดวงรายวัน 13 สิงหาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  คุณหมกมุ่นครุ่นคิดถึงแต่ความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทรัพย์สิน ลาภ ยศ เงินทอง เสียจนลืมคิดถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองหรือเปล่าคะ ซึ่งวันนี้ผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดก็พร้อมที่จะสนับสนุนและช่วยเหลือให้คุณได้ทำในสิ่งนั้นเสียด้วยสิ

การเงิน :  ผู้ใหญ่มีเงินให้คุณใช้ได้โดยไม่เดือดร้อน ซึ่งวันนี้คุณอาจคิดถึงเรื่องวัตถุนิยมมาก จนไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย

ความรัก : คุณให้เวลากับงานมากกว่าเวลาของครอบครัว โดยปรารถนาอยู่ที่ทรัพย์สินเงินทอง เพราะอยากมีอยากเป็นให้เหมือนครอบครัวอื่น ซึ่งวันนี้คุณอาจเอาแต่ใจตนเอง เปลี่ยนใจไปมาวันละหลายๆ รอบ จนคนข้างๆ เดาใจไม่ถูก  คนโสด คุณทำแต่งานเพื่อต้องการความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนเรื่องความรักยังตัดสินใจไม่ได้ เบื่อๆ อยากๆ

สุขภาพ : เหนื่อยมากก็รับประทานมาก วันนี้อาจมีปัญหาในเรื่องน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระเพาะ หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร รวมถึงโรคที่มาพร้อมกับความอ้วนด้วย

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องเดินทางหรือเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น การติดต่อประสานงาน พนักงานขาย วันนี้คุณอาจได้บุกเบิกเริ่มต้นงานใหม่ หรือมีแผนที่จะพัฒนาและปรับปรุงงานที่ทำอยู่ ซึ่งคุณโชคดีได้ผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดสนับสนุนให้ทำตามที่ตั้งใจ แต่คุณก็อาจโชคไม่ดีที่เขาคาดหวังที่จะเห็นความสำเร็จจากคุณ จึงกลายเป็นความเครียด

การเงิน : ผู้ใหญ่สนับสนุนเงินทองให้คุณใช้ได้อย่างไม่เดือดร้อน แต่ก็ต้องระวังเรื่องคำพูดในการติดต่อประสานงาน โดยเฉพาะเรื่องเงินและผลประโยชน์ ควรคิดให้ร้อบคอบก่อนตกลง หรือลงนามในเอกสารสัญญาใดๆ รวมถึงไม่ควรเข้าไปพัวพันกับเงินที่ใต้โต๊ะ หรือสินบน

ความรัก : หากคุณรักใครแล้วก็จะทุ่มเทให้จนหมดหัวใจ ก็ถือว่าโชคดีที่คุณก็มีคู่ชีวิตที่ดี สามารถเป็นคู่คิดแนะนำแนวทางในการใช้ชีวิตที่ถูกต้องได้ แต่วันนี้เอาแน่เอานอนอะไรกับคุณไม่ค่อยได้ เปลี่ยนใจไปมาวันละหลายๆ รอบ จนคนที่อยู่ด้วยทำตัวลำบาก  คนโสด คุณชอบคนที่เป็นกันเอง ไม่ถือตัว แต่กว่าจะยอมตกลงปลงใจด้วยก็น่าจะดูใจกันน้านนาน

สุขภาพ : บิ๊กคลีนนิ่งบ้านบ้างนะคะ เพราะสมาชิกในบ้านเริ่มเป็นภูมิแพ้กันแล้ว

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : คุณก็ยังคาดหวังถึงความสำเร็จอย่างแรงกล้าอยู่ เพราะฉะนั้นจึงยังคงมีปัญหาขลุกขลักเข้ามาให้ต้องแก้ไขตั้งแต่เช้าจรดเย็น รวมถึงความผิดพลาดในเรื่องเอกสารทางราชการ ระวังจะเป็นคดีความทั้งทางแพ่งและอาญา วันนี้คุณยังต้องพึ่งผู้รู้ผู้มีประสบการณ์มาช่วยกันทำงาน รวมถึงใช้ความคิดและจินตนาการที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การเงิน : ก็ยังอยู่ที่อำนาจและบารมีจึงทำให้มีรายได้เข้ามาตลอด แต่ก็อาจสะดุดบ้างตรงที่ต้องช่วยเหลือญาติพี่น้อง หรือลงทุนผิดพลาด ซึ่งก็อาจเป็นระยะสั้นๆ นานๆ มาที

ความรัก :  คุณร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานาน เมื่อมาถึงวันนี้ที่ยังอยู่ด้วยกัน อาจเพราะเหตุปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นหากคุณลดทิฐิและความเชื่อมั่นในตัวเองลงบ้าง จะทำให้ชีวิตคู่มีความสุขกว่านี้    คนโสด แฟนเก่าอาจขอกลับมาคืนดี แต่ก็อย่าคาดหวังมาก เพราะเขามาแบบโยนหินถามทาง อาจแค่ต้องการเช็กเรตติ้งตัวเองก็ได้

สุขภาพ : อวัยวะที่ควรให้ความสำคัญคือหัวใจ และโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจทุกประเภท และความสามารถทางการมองเห็น ตระกูลต้ออาจถามหา

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : คุณอาจเครียด เพราะถูกผู้ใหญ่ชักชวนให้ไปช่วยงานของครอบครัว ซึ่งคุณรู้ว่าเป็นงานหนักและเหนื่อยแทบจะเรียกว่าสายตัวแทบขาดเลยทีเดียว ดังนั้น วันนี้ก่อนจะตกปากรับคำควรหาข้อมูลเพื่อความแน่ใจ ไม่เช่นนั้นจะถอนตัวลำบาก

การเงิน : หาเงินเก่งและก็ใช้เงินเก่งมาก โดยเฉพาะเรื่องสังสรรค์ปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินใต้โต๊ะหรือสินบน รวมถึงการเสี่ยงโชค เพราะวันนี้คุณไม่มีดวงด้านนี้

ความรัก : คุณอาจเซอร์ไพร์สจนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง กลับบ้านไปแล้วเจอคุณสานั่งรอคุณกลับมาทานข้าว แม้อาจเป็นแค่วันเดียว แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เห็นเลย คนโสด หากวันนี้ไปดื่มสังสรรค์ปาร์ตี้ หรือออกงานสังคม คุณอาจได้เจอผู้ชายในฝันจนอยากจูงมือไปอยู่ด้วยกัน โดยไม่สนโลกเลย

สุขภาพ : อาจมีปัญหาในเรื่องระบบหมุนเวียนเลือด ทำให้มีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ จนเป็นลมโดยไม่รู้ตัว จึงควรเตรียมยาดม ยาหม่องให้พร้อม

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : หากคุณกำลังที่จะรับอาสาเจ้านายไปปฏิบัติงาน วันนี้ต้องบอกว่าความสำเร็จไม่ได้มาเพราะความบังเอิญ แต่ต้องแลกมาด้วยพลังกายพลังใจที่เข้มแข็ง เนื่องจากคุณเชื่อมั่นในไอเดียของตัวเองมากจึงยากที่จะทำงานร่วมกับคนอื่น จึงควรรับเป็นโปรเจ๊คท์จะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้นอาจถูกใส่ร้ายป้ายสีได้

การเงิน : มีเงินเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย งานที่ทำมีผลตอบแทนสูง ซึ่งคุณก็ใจดีและใจบุญ ชอบช่วยเหลือเพื่อนสนิทมิตรสหาย ผู้ใต้บังคับบัญชา โดยไม่หวังผลตอบแทน บางทีก็อาจต้องเก็บเงินไว้บ้าง

ความรัก :  คุณมีอุดมการณ์สูงลิ่วจนยากที่จะยอมปรับเปลี่ยนตัวเอง ซึ่งคู่คุณก็ยอมให้คุณได้อยู่กับความคิดของตัวเอง โดยที่เขาก็ไม่ขัด เพราะบางทีเขาอาจมีคุณไว้เพื่อส่งเสริมและเกื้อหนุนในเรื่องหน้าที่การงานของเขาก็ได้ คนโสด คุณอาจได้เจอเด็กหนุ่มหน้าที่การงานดี อนาคตไกล แต่ก็อย่าหวังไกล อาจเป็นแค่อารมณ์หลงเท่านั้น เพราะเมื่อคุยกันแล้วความคิดอาจไปกันไม่ได้ ยิ่งตอนนี้ประเด็นเรื่องความคิดต่างระหว่างวัยมาแรงเสียด้วย

สุขภาพ : ปกติคุณดูแลและรักษาสุขภาพอย่างดีอยู่แล้ว แต่วันนี้อาจพลาดตรงที่ไปเดินตากฝน ทำให้เป็นไข้หวัด ไม่สบายก็ได้นะ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  ความรู้ความสามารถมาคู่กับการทำงานหนัก ต้องวงเล็บด้วยว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยนะ แต่ก็อย่าคาดหวังมาก ควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่ต่าง ไม่ควรมีอคติกับคนรอบข้าง อย่างน้อยคุณก็จะมีแนวทางและมุนมองในการทำงานที่กว้างไกลขึ้น

การเงิน : คุณทำงานหนัก สามารถสร้างรายได้จนเป็นกอบเป็นกำ แต่ก็อาจต้องยอมแลกกับบางสิ่งในชีวิตบ้าง แต่หากคุณทำแค่พอเลี้ยงชีวิตตัวเองและครอบครัว เก็บออม ก็ไม่ต้องเสียอะไรไป

ความรัก : คุณทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ค่อนข้างยึดติดอยู่กับขนบธรรมเนียมประเพณี จนทำให้สมาชิกในครอบครัวอยู่กันอย่างระวังตัว ก็ปล่อยวางบ้าง ดำเนินชีวิตอย่างพอดีและพอเพียงก็จะมีความสุขขึ้น คนโสด คุณทำงานหนักหาเลี้ยงครอบครัว ดูแลพวกเขาอย่างดี จนไม่อยากมีความรัก เพราะกลัวจะรับผิดชอบแฟนได้ไม่ดี

สุขภาพ : หักโหมงานหนักจนไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย จึงควรพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่ รับประทานอาหารให้ตรงเวลาจะดีกว่าฝืนทำงาน เพราะหากคุณป่วยก็ไม่สามารถทำงานได้ งานก็ไม่เสร็จ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องเดินทางหรือเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น การติดต่อประสานงาน พนักงานขาย วันนี้คุณอาจได้บุกเบิกเริ่มต้นงานใหม่ หรือมีแผนที่จะพัฒนาและปรับปรุงงานที่ทำอยู่ จึงควรลดอีโก้และความเชื่อมั่นลงบ้าง เพราะอาจขัดแย้งหรือทะเลาะกับผู้ร่วมงานจนอาจทำให้งานหยุดลงกลางคัน แล้วหากคุณล้มเมื่อไหร่ก็ถูกรุมกระหน่ำซ้ำเติมทันที

การเงิน : ควรระวังคำพูดก่อนจะตกลงรับปากหรือเซ็นสัญญากับใคร โดยเฉพาะเรื่องเงินและผลประโยชน์ ควรพิจารณาให้รอบคอบ เพราะอาจทำให้คุณเดือดร้อน ชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องทำงานหนักเพื่อใช้หนี้

ความรัก : คุณอาจทำงานหนักจนไม่ได้ทันระวังตัวว่า คู่คุณจะออกนอกลู่นอกทาง เมื่อคุณมารู้ก็อาจรับไม่ได้จนถึงมองหน้ากันไม่ติดเลยทีเดียว คนโสด คุณอาจตกอยู่ในสถานะเป็นรักที่ซ่อนเร้นของใครอยู่นะคะ

สุขภาพ : หักโหมงานหนัก ขับรถไปไหนมาไหนตลอดเวลา ก็ต้องระวังอวัยวะช่วงขาด้วย เพราะเหยียบเบรคเหยียบคันเร่งมากๆ อาจทำให้ปวดตึง ควรหาเวลาไปนวดบ้างก็ดี

 

เช็กดวงย้อนหลังกันได้ที่นี่

โอกาสดีไม่ได้มีมาบ่อยๆ หากเจอก็ควรฟาดเลย  ดูดวงรายวัน 8 สิงหาคม 2563

ตั้งมาตรฐานแฟนไว้สูงลิ่วๆ แต่สุดท้ายกลายเป็นที่สอง ดูดวงรายวัน 9 สิงหาคม 2563

หากกำลังรออยู่ วันนี้เขากลับมาแล้ว ดูดวงรายวัน 10 สิงหาคม 2563

คนที่คุณแอบรัก คงแก่เรียนมากกว่าคงแก่รัก ดูดวงรายวัน 11 สิงหาคม 2563

หมดสิทธิ์เช็กเรตติ้ง เพราะถูกผูกมัดเสียแล้ว ดูดวงรายวัน 12 สิงหาคม 2563

วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทอง เตรียมพร้อมก่อนงานแต่ง

account_circle

เจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งหลายที่มี เครื่องประดับทอง จากรุ่นสู่รุ่นหรือซื้อเก็บไว้ในคลังสมบัติมานาน และเมื่อได้ฤกษ์แต่งงานก็ถึงเวลาที่จะได้นำออกมาใช้สักที ไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้สวมใส่ หรือนำไปใช้เป็นสินสอด แต่เก็บไว้นานขนาดนี้บางทีเครื่องประดับก็อาจจะทรุดโทรมลงไปบ้าง ถ้าอย่างนั้นมาดูวิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทองเพื่อเตรียมพร้อมก่อนงานแต่งกันดีกว่า เพราะคงไม่มีบ่าวสาวคู่ไหนอยากนำทองสีหม่นๆ หมองๆ ออกมาโชว์หรอกจริงไหมคะ … แพรว wedding เลยนำวิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทองมาบอกเล่าให้คู่บ่าวสามารถนำไปทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งร้านมาฝากค่ะ

เครื่องประดับทอง

สิ่งที่ต้องเตรียมก็คือนำยาล้างจาน หรือซันไลต์ที่เรารู้จักกันเนี่ยแหล่ะค่ะ พร้อมกับแปรงสีฟันที่ใช้แล้ว หรือยังไม่ใช้ ก็ได้ เพราะแปรงสีฟันมีเนื้อแปรงที่อ่อนจะช่วยทำความสะอาดทองได้ดีและไม่ทำให้ทองช้ำ วิธีการทำก็ง่ายๆ คือ

  1. นำทองมาแช่ไว้ในน้ำเปล่าสะอาดสักครู่
  2. นำน้ำยาล้างจานมาพร้อมน้ำ แล้วค่อยๆ ขัดที่ตัวทองเบาๆ
  3. จุ่มน้ำแล้วขัดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสะอาด
  4. ล้างด้วยน้ำสะอาดให้น้ำยาล้างจานหลุดออกให้หมด
  5. ซับด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง แล้วเก็บให้เรียบร้อยค่ะ

*ถ้าตัวทองมีอัญมณีประดับอยู่ ควรทำความสะอาดเบาๆ เพื่อป้องกันอัญมณีหลุดนะคะ

ถ้าในกรณีที่ทองมีคราบไขมันจับอยู่มากๆ สามารถนำมาต้มในน้ำเดือดได้ โดยแช่ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วนำขึ้นมาซับให้แห้ง คราบไขมันก็จะหลุดออกจากตัวทองได้ค่ะ แต่อย่าต้มนานเกินไปนะคะไม่อย่างนั้นเครื่องประดับอาจจะเสียหายได้

วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทอง

ถ้าต้องการให้เครื่องประดับทองดูใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ ก็ควรทำความสะอาดบ่อยๆ หรือไม่จำเป็นก็เก็บไว้เพราะการใส่ติดตัวตลอดจะทำให้ทองมีคราบเหงื่อไคลติดอยู่ได้ และอีกสิ่งที่ทำให้ทอดซีดก็คือ คลอรีน ที่ผสมอยู่ในสระว่ายน้ำนั่นเองค่ะ ดังนั้นควรเก็บรักษาทองดีๆ และทำความสะอาดให้ถูกต้อง เพียงเท่านี้บ่าวสาวก็จะมีเครื่องประดับทองสวยๆ ใหม่เอี่ยมมาใส่ประดับในงานแต่งแล้ว แถมไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่หรือนำไปให้ร้านล้างให้เลยค่ะ

วิธีทำความสะอาดเครื่องประดับทอง

Read More : ความหมาย สีเครื่องประดับ รู้ไว้เพิ่มความมั่นใจให้เจ้าสาว

ภาพจาก : Pinterest.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

10 นิสัยผู้หญิงที่ผู้ชายถึงกับต้องส่ายหน้า ไม่อยากให้เขาหนีอย่าทำ!

account_circle

เป็นประเด็นฮอตฮิตติดชาร์ต ทอล์กกันเป็นอมตะไม่รู้จบ เข้าเว็บบอร์ดไหนเป็นต้องเจอทุกครั้งกับคำถามที่ว่า “ผู้ชายไม่ชอบให้ผู้หญิงทำนิสัยอะไรบ้าง?” คำตอบก็มีหลากหลายจิปาถะ ทั้งหญิงชายต่างก็เข้ามาตอบกันมากมาย เราเลยขอรวบรวมเอา 10 นิสัยผู้หญิง เด็ดๆ ที่เมื่อไหร่ผู้หญิงแสดงด้านนี้ออกมา รับรองว่าผู้ชายเดินหนีแน่นอน!

1. เรื่องมากเอาแต่ใจ

ผู้หญิงคนไหนที่มีไลฟ์สไตล์แบบคุณหนูเอาแต่ใจใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ชอบทำตัวแบบอันนี้ไม่เอา จะเอาอันนู้น สีนู้นไม่สวย เอาสีนี้ได้ไหม ไอ้นั่นไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ชอบ โอ้ยยย! สารพัดความเยอะมารวมอยู่ในตัวเธอคนเดียวเนี่ย ผู้ชายเขาจะหันหลังเดินหนี แถมบางทีก็ส่ายหน้าเบ้ปากใส่ด้วยนะจ๊ะ ระวังตัวไว้ ใครที่เป็นแบบนี้ก็ลดๆ ลงมาหน่อย หรือถ้าเปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนซะ แฟนของคุณเขาจะได้อยู่ทนอยู่นาน ไม่เดินหนีไปมีกิ๊กจนไม่กลับมาหาคุณอีกเลย

2. ทำตัวอย่างกับเป็นแม่คนที่สอง

ข้อนี้ทำความเข้าใจกันนิดนึงว่า ผู้ชายเขาแค่อยากจะมีแฟน ไม่ได้อยากมีแม่คนที่สองที่จะมาคอยตามจุกจิกจู้จี้ ซักไซ้ไล่เรียงเรื่องโน้นเรื่องนี้ของเขาอยู่ตลอดเวลา รวมถึงประเภทที่ชอบบอก ชอบสั่ง ชอบสอนให้เขาทำอย่างนั้นสิ อย่างนี้สิ เอาจริงๆ ผู้ชายก็เข้าใจนะว่าคุณเป็นห่วง แต่ในทางกลับกันเขาก็โตแล้วเนอะ ปล่อยให้เขาตัดสินใจเองเถอะว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ถ้าคุณเป็นห่วงก็คอยแนะนำอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ แบบนี้ดีกว่า

3. ขี้หึงและอารมณ์ร้าย

เข้าใจค่ะว่าคนรักกันเรื่องหึงหวงมันก็ต้องมีบ้าง คงไม่มีใครอยากให้แฟนเราไปเจาะแจะกับสาวคนอื่นหรอกใช่ไหม แต่ค่ะแต่! ดูตาม้าตาเรือหน่อยเนอะว่าผู้หญิงที่เขาคุยด้วยน่ะเป็นเพื่อน เป็นพี่ หรือว่าเป็นน้องของเขา ไม่ใช่เอะอะก็โทรจิก โทรตาม ผู้ชายไปไหนไกลสายตาก็คอยแต่จะระแวง แล้วก็กลายร่างเป็นนางมารร้ายโมโหโกรธาใส่เขาอยู่เรื่อย แบบนี้ก็เกินไป ต้องปล่อยให้เขาไปมีสังคมของเขาบ้าง

แต่เดี๋ยวก่อน! ข้อนี้มันยังไม่จบง่ายๆ ค่ะ เพราะถ้าเราเป็นคนดีไม่ขี้หึงหรืออารมณ์ร้ายแบบไร้เหตุผลแล้ว เขายังโกหกว่าแม่สาวพวกนั้นเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง แต่จริงๆ เป็นมากกว่านั้นล่ะก็ ถ้าคุณจับได้เมื่อไหร่อนุญาตให้กลายร่างเป็นนางมารระดับสิบ ปล่อยพลังแบบอันลิมิตใส่เขา และสุดท้ายก็หันหลังสะบัดบ็อบแล้วเดินสวยๆ ออกมาจากชีวิตเขาค่ะ เริดสุด!

4. ติดโรคช็อปปิ้ง ใช้เงินเกินตัว

ข้อนี้รู้ค่ะว่าผู้หญิงหลายๆ คนก็เป็น แต่ก็ควรจะรู้ว่าช็อปเท่าไหร่แล้วควรหยุด ควรกำหนดวงเงินในการช็อปปิ้งบ้างว่า เดือนนี้ซื้อแค่นี้พอ ไม่เช่นนั้นถ้ามัวแต่ช็อปเพลินจนเงินหมดกระเป๋าแล้วต้องไปหยิบยืมคนอื่นมาใช้ประทังชีวิตเนี่ย ผู้ชายเขาจะเบื่อและคิดว่ามันคือการเสียเงินโดยไม่จำเป็น รวมถึงเขาอาจจะมองว่าคุณไม่มีคุณสมบัติจะเป็นแม่ของลูกเขาด้วย เพราะว่าเรื่องเงินถือเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต ถ้าคุณไม่สามารถบริหารเงินได้อย่างดี เขาคงไม่อยากได้คุณมาเป็นคู่ชีวิตหรอกนะ

5. ทำตัวติดหนึบ

คุณผู้หญิงคนไหนที่ชอบติดสอยหอยตามแฟนไปทุกที่ทุกเวลา ขอให้รู้ไว้เลยนะคะว่าเขาก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกันนะ บางทีเขาอาจแค่อยากออกไปเที่ยวสังสรรค์ตามประสาชายหนุ่มกับแก๊งเพื่อนบ้างคุณก็ต้องปล่อยเขา จะไปคอยตามเขาต้อยๆ มันก็ไม่ใช่เรื่อง รวมถึงมันจะทำให้เขารู้สึกว่าเขาขาดอิสระ เพราะจะไปไหนแต่ละทีก็เหมือนมีคุณมาคอยคุมอยู่ตลอด เอาเป็นว่าเว้นระยะห่างให้คุณและเขาได้คิดถึงกันบ้าง แบบในเพลง “ที่ว่าง” ที่พี่โจ้ วงพอสเขาร้องบอกไว้ไง ลองไปฟังดูนะ

6. แต่งตัวโป๊วับๆ แวมๆ

แหม! เรื่องนี้ก็พูดยากนิดนึงเนอะ เพราะแม้ว่าผู้ชายส่วนใหญ่จะชอบเหล่ชอบมองผู้หญิงที่นุ่งน้อยห่มน้อย แต่พอเอาเข้าจริงๆ เวลาที่คุณแฟนสาวจะแต่งบ้างกลับร้องห้ามซะเสียงดัง เราไปหาคำตอบมาได้ว่า ที่เขาเป็นแบบนั้นมีอยู่ 2 เหตุผล หนึ่งคือ “หวง” ไม่อยากให้ใครมาใช้สายตาแทะโลมแฟนตัวเอง แต่ที่สำคัญกว่าหวงก็คือ “ห่วง” เพราะถ้าคุณแต่งตัวเซ็กซี่แบบล่อตาล่อใจออกไปนอกบ้าน จะเกิดอันตรายอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ (เห็นข่าวกันอยู่ทุกวันนะ) ถ้าจะให้ดีแต่งตัวให้เหมาะสม ถูกกาลเทศะก็แล้วกันจะได้ไม่เป็นปัญหา แถมตัวคุณเองก็ปลอดภัยด้วย แต่ถ้ามันอดใจไม่ไหวเห็นเสื้อผ้าสวยเซ็กซี่แล้วอยากใส่ ก็เก็บไว้ใส่ที่บ้านประมาณว่า “เรือนร่างนี้น้องโชว์ให้พี่เห็นแค่คนเดียว” อันนี้ปลุกใจเสือในบ้านสุดๆ

7. ทำตัวเจ้าชู้ไปเรื่อย

เรื่องเจ้าชู้ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็คงไม่มีใครชอบทั้งนั้นแหละค่ะ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้ดูแย่ขึ้นไปอีก บางคนก็แก้ตัวว่าฉันแค่เป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี แต่แหมคุณค่ะ! ความมีมนุษยสัมพันธ์ดีหรือที่เรียกกันว่าเฟรนด์ลี่เนี่ยก็ต้องดูเวล่ำเวลากันหน่อยเนอะ ไม่ใช่ว่าผู้ชายคนไหนเข้ามาคุยด้วยคุณก็จะหว่านเสน่ห์แจกเบอร์ให้เขาไปซะทุกคน ยิ่งคุณทำแบบนี้ให้เขาเห็นบ่อยๆ เขาก็คงจะต้องคิดว่าต่อหน้าคุณยังทำขนาดนี้ แล้วลับหลังคุณจะทำขนาดไหน ลองเป็นแบบนี้นอกจากผู้ชายเขาจะไม่ชอบแล้ว เขายังมองว่าคุณไม่มีคุณค่าในตัวเองอีกด้วยนะ

8. แข็งเกินไป อ่อนหวานเอาใจไม่เป็น

ข้อนี้ต้องขอบอกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักไม่ค่อยมีปัญหากันนะคะ เพราะโดยปกติก็มักจะมีลูกอ้อนลูกหยอด หรือว่าเอาใจแฟนหนุ่มเก่งอยู่แล้ว แต่สำหรับใครที่เป็นผู้หญิงสายดาร์ค สายฮาร์ดคอร์ คงต้องลองปรับลองเปลี่ยนดูบ้าง อาจไม่ต้องถึงขั้นหวานจนน้ำตาลเรียกพี่ แค่ทำให้เขารู้สึกว่าคุณเอาใจใส่เขา เป็นห่วงเขา และยังเห็นเขาเป็นคนสำคัญอยู่สำหรับคุณอยู่ก็พอ

9. พูดมาก ชอบนินทา และเพ้อเจ้อ

ลองเช็คตัวเองดูสักนิดว่าตัวคุณเองเป็นผู้หญิงประเภทนี้หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ต้องหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ต่อหน้าผู้ชายนะคะ เพราะเขาจะมองว่าการพูดนินทาคนอื่น หรือเพ้อเจ้อเพ้อฝันแบบไม่หยุดเนี่ย มันดูไร้สาระและน่ารำคาญ ถ้าสาวคนไหนเป็นคนชอบเม้าท์มอยคงต้องเก็บไปนั่งจ้อกับกลุ่มเพื่อนสาวแทนละกันนะ

ส่วนสาวคนไหนที่ชอบแก้ตัวว่า “ไม่ได้นินทาเลย ไม่ได้พูดมากเลย แค่บ่นนิดๆ หน่อยๆ เอง” เอ่อ…อันนี้ก็ต้องบ่น หรือระบายให้เขาฟังแต่พอดีนะจ๊ะ มิเช่นนั้นก็จะกลายว่าเป็นว่าสร้างความรำคาญให้เขาได้ไม่ต่างกันเลยจ้ะ

10. ขี้โกหก!

ข้อนี้ “สั้น ง่าย เข้าใจไม่ยาก” เพราะไม่ว่าใครที่ไหนก็คงไม่ชอบคนที่เอาแต่โกหก แถเก่ง ไหลลื่นไปได้ทุกสถานการณ์หรอกค่ะ ถ้าคิดจะรักกันก็ต้องมีความจริงใจให้กัน ซื่อสัตย์ต่อกัน ชีวิตรักมันถึงจะไปได้ยืนยาวไปได้ตลอดรอดฝั่ง

อุตส่าห์เขียน นิสัยผู้หญิง ที่ผู้ชายไม่ชอบมาตั้ง 10 ข้อ อยู่ๆ ก็ดันเกิดสงสัยขึ้นมาว่า “ผู้ชายเขาไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้จริงๆ หรือเปล่า?” เพราะจากเท่าที่สังเกตมา ผู้หญิงที่มีนิสัยประมาณนี้มักจะมีชายหนุ่มเดินควงแขน อินเลิฟกันหวานชื่น ส่วนผู้หญิงที่นิสัยไม่เข้าข่าย 10 ข้อนี้น่ะเหรอคะ ก็โสดใสไร้ชายเดินข้างไงคะ จบข่าว!

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย << 

ภาพ : www.themodernman.com

5 เคล็ดลับหน้าสวยให้เจ้าสาวสวยเด้งจนเจ้าบ่าวต้องร้องว้าว!

account_circle

แน่นอนว่าในวันแต่งงาน สิ่งที่เจ้าสาวทุกคนให้ความสำคัญคือเรื่องของใบหน้า เพราะฉะนั้นการมีพื้นฐานผิวที่ดี จึงเป็นบันไดขั้นแรกที่จะนำเจ้าสาวไปถึงความงดงามนั้น แพรว wedding จึงมี เคล็ดลับหน้าสวย สุดยอดการปรนนิบัติผิวแบบง่ายๆ ไม่เจ็บตัวมาฝากว่าที่เจ้าสาว ให้ได้เตรียมตัวกันยาวๆ

1. Daily Routine นั้นสำคัญไฉน

 

ภาพ : http://www.today.com

การปรนนิบัติผิวหน้าเป็นประจำเพียงวันละไม่กี่นาทีสามารถช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดีได้  วิธีดูแลผิวขั้นพื้นฐานนั้นมีเพียง 3 ขั้นตอนคือ  ทำความสะอาด  เช็ดด้วยโทนเนอร์  และตบท้ายด้วยครีมบำรุง  ซึ่งการทำความสะอาดไม่เพียงแต่ชำระสิ่งสกปรกบนผิวหน้าเท่านั้น  แต่ยังช่วยลดการอุดตันของสิว  ส่วนการเช็ดด้วยโทนเนอร์  เป็นขั้นตอนที่ช่วยทำให้ผิวสะอาดหมดจด  จากนั้นปิดท้ายด้วยการลงครีมบำรุงเพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้น  เพียง 3 ขั้นตอนนี้  ก็สามารถทำให้เจ้าสาวหน้าเด้งรับวันแต่งงานได้แล้ว

2. สครับแบบไหนใช่สำหรับผิว

เคล็ดลับหน้าสวย
ภาพ : http://www.allure.com
ความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น  การสครับผิวหน้าจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว  ส่งผลให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล  ซึ่งสภาพผิวแต่ละแบบสามารถปรนนิบัติได้ดังต่อไปนี้
  • ผิวธรรมดา  ควรขัดผิวหน้าเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง
  • ผิวแพ้ง่าย  สาวผิวแพ้ง่ายไม่ควรสครับผิวหน้า  เพราะจะยิ่งทำให้ผิวระคายเคือง  ควรใช้คลีนเซอร์เช็ดตามด้วยสำลีหรือผ้าสะอาดสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว
  • ผิวมัน  ให้ลืมความเชื่อผิดๆ ที่ว่าผิวมันควรสครับผิวหน้าบ่อยๆ เพราะการสครับบ่อยเกินไป จะยิ่งกระตุ้นให้ผิวหน้าผลิตไขมันออกมามากกว่าเดิม  ดังนั้นสาวผิวมันควรหลีกเลี่ยงการสครับหน้า
  • ผิวแห้ง  ให้เลือกสครับที่มีส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวซึ่งการปรนนิบัติผิวตรงตามความต้องการ จะช่วยให้เจ้าสาวเป็นเจ้าของผิวเปล่งปลั่งได้ไม่ยาก

3. กินผักนั้นดี  แต่ผักอะไรช่วยให้ผิวสวยล่ะ?

เคล็ดลับหน้าสวย

เคล็ดลับหน้าสวย อีกหนึ่งอย่างคือหากเจ้าสาวอยากมีสุขภาพผิวที่ดี  ให้เลือกรับประทานผักใบเขียวสีเข้ม อาทิ ผักคะน้า  ผักโขม   กะหล่ำปลี และผักชีฝรั่ง  เพราะผักกลุ่มนี้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ  นอกจากจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สำคัญแล้ว  กากใยจากผัก ยังช่วยในการขับถ่ายซึ่งส่งผลให้ผิวพรรณสดใส  ดังนั้นหากเจ้าสาวอยากมีผิวใส  อย่าลืมกินผักใบเขียวสีเข้มเป็นประจำ ยิ่งเพิ่มไว้ในมื้ออาหารทุกมื้อได้ยิ่งดี

4. เลี่ยงของหวาน

เคล็ดลับหน้าสวย

หลายคนอาจสงสัยว่าการรับประทานอาหารที่มีรสหวานจะส่งผลเสียต่อผิวได้อย่างไร  จริงๆ แล้วน้ำตาลมีโทษโดยตรงต่อผิวคือ  เร่งการเกิดริ้วรอยก่อนวัย  และขัดขวางการทำงานของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง  ผลเสียที่ตามมาคือ ผิวขาดความกระชับและหยาบกร้าน  ดังนั้นหากเจ้าสาวรู้สึกอยากทานของหวาน  ลองเปลี่ยนจากขนมและน้ำอัดลมเป็นผลไม้แทน วิธีนี้นอกจากจะได้ลิ้มรสหวานแล้ว  ยังช่วยรักษาผิวพรรณไปในตัวด้วย

5. อย่าเครียด

 

เคล็ดลับหน้าสวย
 “อย่าเครียด” พูดง่ายแต่ทำยาก  แต่เราก็ยังอยากย้ำประโยคนี้กับ (ว่าที่) เจ้าสาวอีกครั้งว่า “อย่าเครียด”  เพราะความเครียด จะไปเพิ่มระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งจะไปกระตุ้นการผลิตไขมันและขัดขวางการซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ  ผลที่ตามมาคือผิวจะเป็นสิว  ติดเชื้อง่าย  และซีดหมอง  ดังนั้นว่าที่เจ้าสาวที่ต้องเตรียมทั้งงานแต่งงานและแก้ปัญหาสารพัด  อย่าลืมหาเวลาไปทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายบ้างนะคะ
การดูแลผิวทั้ง 5 วิธีนี้นั้นแสนง่าย  นอกจากจะช่วยให้เจ้าสาวผิวสวยรับวันแต่งแล้ว  ยังสามารถนำไปดูแลผิวพรรณในระยะยาวได้อีกด้วย  รู้อย่างนี้แล้ว  อย่ามัวแต่นับถอยหลังรอวันวิวาห์จนลืมดูแลผิว  แล้วจะหาว่าเราไม่เตือน
ภาพเปิด : oilskin.org

คัมภีร์ 4 ข้อต้องจำวิธีทำให้รักยืนยาว ต่อโปรรักให้ยืดยาวไม่มีสิ้นสุด

account_circle

“หวานตอนต้น จืดปลายแล้วแม่นบ่” ไม่ได้หมดรักแค่หมดโปร  แหม.. ทีมือถือหมดโปรก็รีบหาโปรใหม่มาใช้ต่อทันที แล้วรักหมดโปรควรรีบหาใหม่ เอ้ย!! รีบ ต่อโปรรัก ด่วน ทีนี้จะต่อกันตรงไหนยังไง  ให้ยิ่งใช้นานก็ยิ่งดี  แพรวเวดดิ้งเลยมีคัมร์ภีร์ 4 ข้อ วิธีทำให้รักยืนยาว มาต่อโปรรักให้หวานกันได้อีก

1.  การแสดงความรัก

หลายคู่เมื่อผ่านการใช้ชีวิตคู่มาได้สักระยะ ความรักที่เคยหวานก็เปลี่ยนเป็นความเฉยชา จนหลงลืมการแสดงความรักและเอาใจใส่ต่อกัน จึงควรมีของขวัญเซอร์ไพรส์ให้เพื่อบอกถึงความรักที่ยังคงมี กอดและหอมแก้มกัน บอกรักกันเท่าที่ทำได้ จะยิ่งเป็นการเพิ่มพลังให้รักยิ่งแนบแน่น

2. ความเข้าใจ

ยอมรับข้อบกพร่องของอีกฝ่ายแทนการเลือกจ้องจับนับแต่ข้อเสียของกันเพราะมันไม่ได้ทำให้เกิดผลดีอะไร  ลองเปลี่ยนมาชื่นชมข้อดีของกันดีกว่า เช่น พูดชมเรื่องเล็กที่ทำให้กันบ่อยๆ แล้วพฤติกรรมความรักของทั้งคุณและเขาจะเข้าใจกันอย่างไร้ข้อสงสัย

3. ความรับผิดชอบ

ที่ต้องมีร่วมกัน ไม่ใช่การคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองเพียงฝ่ายเดียว เมื่อร่วมชีวิตกันแล้วจากของฉันและของเธอก็เปลี่ยนมาเป็นของเราทั้งคู่ จึงควรคิดถึงความเป็นครอบครัวให้มาก ทั้งการเงินจับจ่ายอย่างมีสติหรือแม้การคบเพื่อนต่างเพศที่ไม่ให้ดูล้ำเส้นเกินไป

4. การแก้ปัญหา

หากเกิดปัญหาซึ่งเป็นสิ่งที่เกินการควบคุมได้ก็ต้องยอมรับ ที่สำคัญกว่านั้นคือการยืนเคียงข้างกัน ไม่ใช่เกิดปัญหาขึ้นก็ผลักให้อยู่ที่คนๆเดียว ควรเป็นคู่คิด แบ่งเบาความทุกข์ที่เกิด และร่วมแก้สิ่งที่เกิดไปด้วยกัน เพราะมากกว่าคำว่ารักคือการยืนข้างๆกันในวันที่ปัญหาเดินเข้ามา

จริงๆ ความรักคงไม่ต้องรอให้หมดช่วงหวานก็ได้ วันนี้หวานมาก พรุ่งนี้อาจหวานน้อยลงไปนิด แค่หันมาใส่ใจกันให้สม่ำเสมอ บอกรักกันเท่าที่ยังมีเสียง สัมผัสและกอดได้ในวันที่ยังไม่หมดแรง แค่นี้ก็เป็นพลังที่ทำให้รักของคุณทั้งคู่ ต่อโปรรักกันไปแบบตลอดชีพแล้ว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

เรื่อง : พญ. พรรณพิมล หล่อตระกูล
ภาพ : senseforyou.blogspot.com

ภาพที่พสกนิกรเฝ้ารอ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’ เสด็จออกในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

Alternative Textaccount_circle

ภาพที่พสกนิกรเฝ้ารอ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ เสด็จออกใน วันเฉลิมพระชนมพรรษา

วันนี้ 12 สิงหาคม 2563 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 88 พรรษา

ในการนี้ เวลา 15.22 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จออกพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา เป็นการส่วนพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จออกในการนี้ด้วย อีกทั้ง ท่านผู้หญิงพลอยไพลิน เจนเซน และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย


ข้อมูลและภาพ : โบราณนานมา

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระพันปีหลวง

ซาบซึ้งไม่เสื่อมคลาย “ชายรักแม่สุดหัวใจ” บทพระราชนิพนธ์ของ “ในหลวง ร.10”

งดงามเหนือกาลเวลา…เรื่องราวข้างหลังภาพ 4 พระบรมสาทิสลักษณ์ มหาราชินี

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระพันปีหลวง

Alternative Textaccount_circle

บรรยากาศเปี่ยมสุข ในหลวง-พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินไปในการ พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระพันปีหลวง

วันนี้ 12 สิงหาคม 2563 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 88 พรรษา

ในการนี้ เวลา 18.01 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พุทธศักราช 2563 ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรอเฝ้าฯรับเสด็จ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง

หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธี พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินจากพระบรมมหาราชวัง ออกทางประตูพิมานไชยศรี ทรงโบกพระหัตถ์พร้อมแย้มพระสรวลให้กับประชาชนสองข้างทางที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ บรรยากาศเต็มไปด้วยความปีติยิ่ง



ข้อมูลและภาพ : mgronline.com, โบราณนานมา, NationPhoto

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ซาบซึ้งไม่เสื่อมคลาย “ชายรักแม่สุดหัวใจ” บทพระราชนิพนธ์ของ “ในหลวง ร.10”

งดงามเหนือกาลเวลา…เรื่องราวข้างหลังภาพ 4 พระบรมสาทิสลักษณ์ มหาราชินี

ยลโฉม 6 มงกุฎอันทรงคุณค่า งดงามสมพระเกียรติ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

ปิดทองหลังพระ “แพนเค้ก – เขมนิจ” สร้างบ้านน้อยหลังใหม่อยู่แบบพอเพียงบนที่นาของตัวเอง

เป็นนางเอกที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะสาว “แพนเค้ก – เขมนิจ จามิกรณ์” เธอเป็นนางเอกทั้งในจอและนอกจอ ไม่ว่าจะเป็นงานราชงานหลวงหรืองานฟรี ขอแค่เป็นงานที่สร้างสรรค์สังคม สาวแพนเค้กเธอยินดีให้ความร่วมมือตลอด

หากใครได้ติดตามสาวแพนเค้กจะเห็นได้ในอินสตาแกรมส่วนตัวของเธออยู่บ่อยๆเกี่ยวกับการผันตัวเป็นเกษตรกรสาวสวย ปลูกไร่ ทำนา บนผืนแผ่นดินของตนเองที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นตัวอย่างในการนำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้แก่พี่น้องเกษตรกรชาวไทยให้เรียนรู้การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายใต้โครงการ “โคกหนองนาโมเดล” คงมีหลายคนที่คิดว่าสาวแพนเค้กทำเพื่อสร้างกระแสรึเปล่า เพราะเดี๋ยวนี้ดาราหันมาให้ความสนใจการใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามรอยพ่อหลวงกันเยอะ ต้องบอกก่อนเลยว่า จริงๆแล้วสาวแพนเค้กเนี่ยทำโครงการนี้มาได้ประมาณ 2 ปีแล้วนะจ๊ะ แต่คนอาจยังไม่รู้เพราะเรื่องดีๆในวงการบันเทิงคนไม่ค่อยจะสนใจกันสักเท่าไหร่

ล่าสุดสาวแพนเค้กได้มาอัพเดตโครงการว่าตอนนี้กำลังไปได้ด้วยดี แถมยังสร้างบ้านน้อยหลังใหม่กลางทุ่งนาของตัวเองซะด้วย ได้เห็นบ้านของสาวแพนเค้กแล้วบอกเลยว่าผิดคาดจากที่คิดไปเยอะ เพราะเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆที่แสนจะเรียบง่ายจนเราคิดไม่ถึงว่านางเอกระดับแนวหน้าของเมืองไทยจะอยู่แบบนี้ได้ ที่น่าประทับใจคือสาวแพนเค้กต้องการสร้างบ้านขึ้นมาเพื่ออยู่แบบพอเพียงตามแบบพ่อหลวงจริงๆ ไม่หรูหราแต่ดูตามความเหมาะสม ตามความจำเป็นในการใช้งาน เห็นแล้วรู้เลยว่าเธอตั้งใจและทุ่มเทสุดๆ ถึงขนาดลงทุนเกี่ยวข้าวเอง ขุดดินทำหนองน้ำ ลงต้นไม้ปรับพื้นที่ให้เขียวชอุ่มขึ้น เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนสาวแพนเค้กขอลงมือทำเองหมดจ้า

เชื่อว่าโครงการของสาวแพนเค้กคงไปอีกได้ไกล เพราะตอนนี้ก็ได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรกรรมมาช่วยหลายคนเชียวละ รวมถึงคนในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็สนใจมาดูงานบนที่นาของสาวแพนเค้กกันทั้งนั้น เห็นแล้วภูมิใจแทนสาวแพนเค้กจริงๆ

#แพนขออนุญาตไม่ฝากร้านนะคะ ขึ้นบ้านใหม่ หลังเขียวน้อยๆที่ที่นาของแพนค่ะ พื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นอีกแล้ว วันนี้เอากระทะมาออกภาคสนามด้วยค่ะ555 #สนุกสนานกันใหญ่ #กิจกรรมเยอะมากก #ผู้ช่วยก็เยอะมากกค่ะ #ตามรอยพ่อ #ศาสตร์พระราชา #โคกหนองนาแพนเค้กโมเดล

วิดีโอที่โพสต์โดย PANCAKE KHEMANIT JAMIKORN (@khemanito) เมื่อ

ขอมีพ่อหลวงเป็นต้นแบบค่ะ

รูปภาพที่โพสต์โดย PANCAKE KHEMANIT JAMIKORN (@khemanito) เมื่อ

#แพนขออนุญาตไม่ฝากร้านนะคะ เกี่ยวข้าว ครั้งแรกในชีวิต #ไม่ง่ายเลยค่ะ มีคุณครูมาช่วยสอนเพียบ ป้าๆยายๆบอก #กลัวเคียวจะเข้าตัวซะก่อน มือใหม่ค้าบ คราวหน้าจะดีขึ้นค่ะ5555 ยิ่งเห็นน้องๆใช้มือแทนเคียว เห็นแล้วภูมิใจ น้องๆเก่งจัง #ข้าวแต่ละเม็ดไม่ได้มาง่ายๆ นาซักผืนถ้าทำคนเดียวคงใช้เวลาเยอะ แต่เพราะน้ำใจของทุกคนงานเดินเร็วมาก เดินทางมาช่วยกัน ขอบคุณพี่ๆ #เครือข่ายสุรินทร์ค่ะ ขอบคุณที่มาช่วยแพนวันนี้นะคะ #โคกหนองนาแพนเค้กโมเดล

รูปภาพที่โพสต์โดย PANCAKE KHEMANIT JAMIKORN (@khemanito) เมื่อ

ชาวนามือใหม่ หัดเกี่ยวค่า #โคกหนองนาแพนเค้กโมเดล #ตามรอยพ่อ

รูปภาพที่โพสต์โดย PANCAKE KHEMANIT JAMIKORN (@khemanito) เมื่อ

สีเล็บธรรมชาติ #nature ⚘

รูปภาพที่โพสต์โดย PANCAKE KHEMANIT JAMIKORN (@khemanito) เมื่อ

ปลูกต้นกล้วยเพิ่มที่ ที่นาของแพนค่ะ พืชระยะสั้น รายล้อมไปด้วยต้นไม้ระยะยาว ต้นมะฮอกกะนี ต้นยางนา และสะเดาค่ะ #ทำแห้งชามน้ำชาม ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ และรดน้ำ พร้อมห่มฟางเพื่อความชุ่มชื้น เก็บสารอาหารไว้ให้กับต้นไม้ค่ะ ☘ #ศาสตร์พระราชา #ป่าสามอย่างให้ประโยชน์สี่อย่าง #โคกหนองนาโมเดล

รูปภาพที่โพสต์โดย PANCAKE KHEMANIT JAMIKORN (@khemanito) เมื่อ

เรื่อง : saipiroon_แพรวดอทคอม

ภาพ : IG@khemanito

ซาบซึ้งไม่เสื่อมคลาย "ชายรักแม่สุดหัวใจ" บทพระราชนิพนธ์ของ "ในหลวง ร.10"

ซาบซึ้งไม่เสื่อมคลาย “ชายรักแม่สุดหัวใจ” บทพระราชนิพนธ์ของ “ในหลวง ร.10”

Alternative Textaccount_circle
ซาบซึ้งไม่เสื่อมคลาย "ชายรักแม่สุดหัวใจ" บทพระราชนิพนธ์ของ "ในหลวง ร.10"
ซาบซึ้งไม่เสื่อมคลาย "ชายรักแม่สุดหัวใจ" บทพระราชนิพนธ์ของ "ในหลวง ร.10"

เปิดบทพระราชนิพนธ์สุดซาบซึ้ง “ชายรักแม่สุดหัวใจ” ของ “ในหลวง ร.10” ทรงถ่ายทอดความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อ “สมเด็จพระพันปีหลวง”

เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และวันแม่แห่งชาติ แพรวดอทคอม ขออัญเชิญบทพระราชนิพนธ์สุดซาบซึ้งของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อครั้งยังทรงดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จแม่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม พ.ศ. 2515

โดย ณ ขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา 20 พรรษา และทรงกำลังศึกษาวิชาการทหาร ณ โรงเรียนนายร้อยดันทรูน เครือรัฐออสเตรเลีย

“วันเฉลิม สมเด็จแม่ ได้แต่คิด
ขอน้อมจิต รำลึกถึง คะนึงหา
พระคุณแม่ มากล้น เหลือคณนา
ลูกเกิดมา โชคดี มีแม่งาม

ไปเมืองไหน ถูกถาม ถึงนามแม่
ว่าสวยแท้ ราชินี แห่งสยาม
ควีนสิริกิติ์ จำขึ้นใจ ในพระนาม
ชมว่างาม เพริศพริ้ง ยอดหญิงไทย

แม่รักชาย ห่วงชาย ชายก็รู้
ชายจะสู้ สุดชีวา อย่าสงสัย
จะทำตัว ให้สม แม่วางใจ
จะรักไทย กู้ศักดิ์ศรี จักรีวงศ์

จะรักหญิง ที่เขา เข้าใจแม่
จะแน่วแน่ พุทธศาสน์ ถือพระสงฆ์
การสวดมนต์ ไหว้พระ จะดำรง
จะมั่นคง รักชาวไทย ไม่เสื่อมคลาย

ขอถวาย สมเด็จแม่ เพียงแค่นี้
จงโชคดี มีสุข ทุกข์จากหาย
อย่าคิดมาก ทำพระทัย ให้สบาย
เรื่องลูกชาย แม่อย่าเศร้า เขารักดี

ชายขอกราบ ลงที่ตัก พร้อมรักแท้
ชายรักแม่ สุดหัวใจ ชายไม่หนี
ชายจะเป็น กำลังใจ ป้องไพรี
มอบชีวี และเลือดเนื้อ เพื่อแม่เอย”


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เรื่องเล่าจากพระราชโอรส-ธิดาถึง “สมเด็จพระพันปีหลวง” พระผู้ทรงเป็นแม่และครู

10 พระราชดำรัสแฝงธรรมทรงค่า ใน ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

เผยมุมกล้าหาญ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’ ผ่านนางสนองพระโอษฐ์ผู้ถวายงานใกล้ชิดมานาน

งดงามเหนือกาลเวลา…เรื่องราวข้างหลังภาพ 4 พระบรมสาทิสลักษณ์ มหาราชินี

ด้วยความสำนึกยิ่งในพระมหากรุณาธิคุณของมหาราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาที่เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง แพรวดอทคอม ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยด้วยการอัญเชิญ 4 พระบรมสาทิสลักษณ์อันประณีตงดงามจากฝีแปรงของ 4 จิตรกรไทยและต่างชาติ ที่ได้เขียนขึ้นถวายสักการะในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และด้วยความคิดที่ไม่เหมือนกัน

ทว่าสิ่งที่เหมือนกันของพระบรมสาทิสลักษณ์ทั้ง 4 องค์นี้คือ ล้วนมีจุดประดิษฐานอยู่ในพระราชวัง หรือบ้านของมหาราชินี และนี่คือเรื่องราวข้างหลังภาพพระบรมสาทิสลักษณ์แต่ละองค์ ที่ แพรวดอทคอม ขอนำมาบอกเล่า ดังนี้

พระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถชื่อภาพ : ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’

เทคนิค : สีน้ำมันบนผ้าใบ

ปีที่วาด : พ.ศ.2503-2505

ขนาด : 272×150 เซนติเมตร

ที่ประดิษฐาน : พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

ศิลปิน : ระเด่นบาซูกิ อับดุลลาห์ จิตรกรชาวอินโดนีเซีย

ระเด่นบาซูกิเกิดที่ชวา ในครอบครัวสูงศักดิ์ เขาจึงมีโอกาสได้รับการปลูกฝังในเรื่องรสนิยมทางศิลปะมาตั้งแต่เล็ก เมื่ออายุ 18 ปี ได้เดินทางไปศึกษาศิลปะที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อกลับจากยุโรปก็ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมชั้นสูง ได้รู้จักทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ และได้เริ่มเขียนภาพบุคคลผู้มีชื่อเสียงเหล่านั้น ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในสังคมอินโดนีเซีย และเป็นหนทางที่ได้เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย

ในระหว่างปี 2503 อันเป็นช่วงเวลาที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงสนพระทัยศึกษาแนวทางการเขียนภาพจิตรกรรมสมัยใหม่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ระเด่นบาซูกิเดินทางเข้ามาเขียนภาพพระบรมสาทิสลักษณ์เพื่อประดับไว้บนพระที่นั่งในพระบรมมหาราชวัง

ผลงานของระเด่นบาซูกิในช่วงสิบปีที่พำนักอยู่ในราชสำนักไทย มีลักษณะของงานจิตรกรรมในแนวเหมือนจริงผสมแบบโรแมนติก แสดงออกด้วยสีสันที่หนักแน่น มีพลัง และอ่อนไหวคล้ายอารมณ์ฝัน โดยเขามักจะเน้นความสำคัญเฉพาะที่องค์ประธานของภาพ ด้วยการใช้แสงเงาคมชัดตัดกับส่วนหลังของภาพที่มีความเข้ม และมักจะสอดใส่อารมณ์โรแมนติกที่เป็นบุคลิกเฉพาะลงไป เช่น การแต่งพระวรกายให้ดูสูงเพรียวขึ้น สีพระฉวีมีความคมเข้มตามรสนิยมของชาวอินโดนีเซีย และส่วนหลังของภาพก็มักจะเขียนให้ดูกึ่งจริงกึ่งฝัน เพื่อให้ผู้ชมที่อยู่เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์เกิดความรู้สึกคล้ายกับว่ากำลังถวายสักการะแด่องค์สมมติเทพ

ระเด่นบาซูกิ อับดุลลาห์ เสียชีวิตในวัย 78 ปี (วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536) ที่กรุงจาการ์ตา

ที่มาภาพ : หนังสือจิตรกรรมและประติมากรรมแบบตะวันตกในราชสำนัก

 

พระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถชื่อภาพ : ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’

เทคนิค : สีน้ำมันบนผ้าใบ

ปีที่วาด : พ.ศ.2505

ขนาด : 197×108 เซนติเมตร

ที่ประดิษฐาน : พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

ศิลปิน : จูดี้ คาสซาบ จิตรกรหญิงชาวออสเตรเลีย

พระบรมสาทิสลักษณ์องค์นี้ รัฐบาลออสเตรเลียทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  เมื่อครั้งเสด็จประพาสออสเตรเลียในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน พ.ศ.2505

การส่งภาพถึงกันเป็นวัฒนธรรมประเพณีของฝรั่งตะวันตกมาช้านานแล้ว ยุคสมัยหนึ่งสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษก็เคยทรงแสดงความเป็นมิตรไมตรีต่อสยามประเทศด้วยการส่งพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์มาถวาย ทำให้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องทรงจัดฉายพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์และพระราชินีส่งถวายเป็นการตอบแทน

การที่รัฐบาลออสเตรเลียจัดถวายพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในครั้งนั้น นอกจากจะเป็นการแสดงความเป็นมิตรไมตรีที่ลึกซึ้งแล้ว ยังแสดงให้เห็นรสนิยมอันดีของผู้ถวาย รวมทั้งสะท้อนว่าได้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดแล้วว่าพระมหากษัตริย์และพระมหาราชินีของไทยโปรดงานศิลปะในแนวทางนี้ด้วย

พระบรมสาทิสลักษณ์องค์นี้ มิใช่เขียนขึ้นเพียงให้เหมือนเท่านั้น แต่ยังถอดเอาพระบุคลิกภาพที่งามสง่าสมกับที่ทรงเป็นราชินีออกมาด้วย ทรงมงกุฎเพชร สร้อยพระศอ และพระกุณฑลเพชรส่องประกายระยิบระยับอยู่ท่ามกลางวรรณะทองอร่ามของฉลองพระองค์

จูดี้ คาสซาบ เป็นจิตรกรฝรั่ง จึงเขียนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง งามแตกต่างไปจากที่ระเด่นบาซูกิเขียน มีสีพระฉวีสว่างสดใส เธอกล้าหาญที่แสดงแสดงออกในฉลองพระองค์และส่วนหลังของภาพด้วยการใช้พู่กันและเครื่องป้ายปัดไปมา เหมือนกับว่าเธอกำลังเขียนภาพนามธรรมสมัยใหม่ รอยสีและพู่กันที่เคลื่อนไหวรุนแรงนี้ช่วยเน้นพระพักตร์ให้ดูงดงามและอ่อนหวานยิ่งขึ้น

จูดี้ คาสซาบ เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน(วันที่ 3 พฤศจิกายน 2558) ด้วยวัย 95 ปี

ที่มาภาพ : หนังสือจิตรกรรมและประติมากรรมแบบตะวันตกในราชสำนัก

 

พระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถชื่อภาพ : ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’

เทคนิค : สีน้ำมันบนผ้าใบ

ปีที่วาด : พ.ศ.2519

ขนาด : 87×57 เซนติเมตร

ที่ประดิษฐาน : ศาลาว่าการสำนักพระราชวัง พระบรมมหาราชวัง

ศิลปิน : สนิท ดิษฐพันธุ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์(จิตรกรรม) ปี 2532

อาจารย์สนิทเป็นศิษย์รุ่นแรกๆ ของศาสตรจารย์ศิลป์ พีระศรี สมัยที่มหาวิทยาลัยศิลปากรยังเป็นโรงเรียนประณีตศิลปกรรม อีกทั้งยังศึกษาวิชาจิตรกรรมจากพระสรลักษณ์ลิขิต จิตรกรไทยคนแรกที่ได้ไปเรียนการเขียนภาพสีน้ำมันจากประเทศอิตาลี ในสมัยรัชกาลที่ 5

อาจารย์สนิทเข้ารับราชการในกรมศิลปากรเมื่ออายุเพียง 17 ปี เข้าร่วมแสดงงานครั้งประวัติศาสตร์กับกลุ่มจักรวรรดิศิลปิน ซึ่งก่อตั้งโดยนักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ สด กูรมะโรหิต จัดแสดงผลงานที่ศาลาเฉลิมกรุงในช่วงปี 2492-2496

อาจารย์สนิทเขียนภาพเหมือนและภาพศิลปะด้วยสีน้ำ สีชอล์ก และสีน้ำมัน จนเป็นที่เลื่องลือในความสามารถ แต่ในการทำงานช่วงหลัง ด้วยความสำนึกจงรักภักดีที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและพระราชวงศ์ไทย อาจารย์จึงเขียนแต่พระบรมสาทิสลักษณ์เสียเป็นส่วนมาก โดยมีผลงานเด่นปรากฏอยู่มากมายหลายที่  ซึ่งพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  ในฉลองพระองค์ผ้าทองอร่าม ประทับยืนท่ามกลางบรรยากาศของสีที่เย็นฉ่ำองค์นี้ ก็เป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่อาจารย์ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

อาจารย์สนิทได้รับการประกาศให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์(จิตรกรรม) เมื่อปี 2532 ขณะมีอายุได้ 67 ปี หลังจากนั้น 20 ปี จึงได้เสียชีวิตด้วยอาการเลือดออกในสมองแบบเฉียบพลัน

ที่มาภาพ : หนังสือจิตรกรรมและประติมากรรมแบบตะวันตกในราชสำนัก

 

พระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถชื่อภาพ : ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ’

เทคนิค : สีน้ำมันบนผ้าใบ

ปีที่วาด : พ.ศ.2535

ขนาด : 66×52 เซนติเมตร

ที่ประดิษฐาน : พระตำหนักสิริยาลัย พระนครศรีอยุธยา

ศิลปิน : จักรพันธุ์ โปษยกฤต ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์(จิตรกรรม) ปี 2543

หากเมื่อห้าสิบปีก่อนนี้เอ่ยนาม เหม เวชกร ว่าเป็นจิตรกรเอกของไทยแล้วไม่มีคนรู้จัก ถือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งคงเหมือนกับวันนี้ที่ถ้าเอ่ยนามอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต แล้ว ผู้ที่สนใจงานศิลปะจะบอกว่าไม่รู้จัก ก็ดูจะเป็นไปไม่ได้เช่นกัน

อาจารย์จักรพันธุ์มีชีวิตอยู่ในโลกของศิลปะมาโดยตลอด เริ่มจากศึกษาเล่าเรียนด้านการวาดรูปโดยตรง จบมาแล้วก็มีอาชีพวาดรูป วาดได้ทั้งภาพจิตรกรรมสมัยใหม่และภาพจิตรกรรมไทย เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนาฏศิลป์หุ่นเชิด และเป็นนักประพันธ์ที่มีแฟนอยู่ทั่วเมือง

พระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์นี้ เป็นภาพที่งดงามที่สุดภาพหนึ่ง บรรยากาศของสีที่อบอุ่น อ่อนหวาน มีชีวิตชีวา เป็นบุคลิกภาพของจิตรกรหนึ่งเดียวคนนี้ ไม่มีใครเลียนแบบได้ คนที่เขียนรูปด้วยกันเท่านั้นที่จะรู้ดีว่าการเขียนภาพด้วยโครงสีภาพเป็นสีชมพูนั้น ถ้าไม่แน่จริงแล้วอย่าเขียน

ส่วนที่มาของพระบรมสาทิสลักษณ์นี้เริ่มต้นจากที่คุณสุทิน จิรมณีกุล ได้มาขอให้อาจารย์วาดภาพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายเนื่องในวาระเฉลิมพระชนมพรรษา 60 พรรษา ปี 2535 อาจารย์เล่าว่าอาจารย์เริ่มต้นด้วยการหาพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาเลือกเป็นจำนวนมาก พบว่าประทับใจพระพระบรมฉายาลักษณ์ที่ผินพระพักตร์เล็กน้อย ส่วนฉลองพระองค์นั้นเปลี่ยนใหม่ ไม่ได้ใช้ตามพระบรมฉายาลักษณ์เดิม ซึ่งอาจารย์ใช้วิธีจัดหานางแบบเพื่อมาห่มสไบนั่งเป็นแบบให้เขียนจริง จะได้เห็นแสงเงาและรอยยับของผ้าได้ชัดเจน โดยใช้เวลาเขียนนานหนึ่งเดือน

ทั้งหมดนี้คือพระบรมสาทิสลักษณ์ มหาราชินี ที่งดงามเลอค่าหาใดเปรียบ และไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ยุคสมัย ความงามของภาพก็จะอยู่เหนือกาลเวลาตลอดไป


เรื่อง : พิษณุ ศุภนิมิตร

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับที่ 431

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ยลโฉม 6 มงกุฎอันทรงคุณค่า งดงามสมพระเกียรติ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

ยลโฉมเครื่องประดับ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง-สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ’ ทรงเคยสวมใส่

เข็มกลัดสุดที่รัก ของขวัญล้ำค่า แทนความหมายลึกซึ้งใน ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

มุมกล้าหาญ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ

เผยมุมกล้าหาญ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’ ผ่านนางสนองพระโอษฐ์ผู้ถวายงานใกล้ชิดมานาน

มุมกล้าหาญ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ
มุมกล้าหาญ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ

นับเป็นเวลาเนิ่นนานที่ “ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ” นางสนองพระโอษฐ์และราชเลขานุการในพระองค์ ได้ตามเสด็จและถวายงานแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

จากเวลาที่ผ่านมา หลายคนอาจได้เห็นและได้ฟังเรื่องราวต่างๆ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 กันไปเป็นจำนวนมาก และหลายคนคงจะรับรู้ได้ว่า เมื่อพ่อหลวงของเราเสด็จพระราชดำเนินไปเยือนที่แห่งใด ย่อมมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคียงข้างกายอยู่เสมอ แม้กระทั่งจะเสด็จพระราชดำเนินลงพื้นที่ที่ลำบากมากเพื่อเยี่ยมเยือนราษฎรชาวไทยก็ตาม

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ฉลองพระองค์ชุดไทยจักรพรรดิ

ต้องยอมรับกันโดยแท้จริงว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นพระราชินีที่ทรงพระสิริโฉม ซึ่งพระนามาภิไธยของพระองค์ได้ปรากฏอยู่ในหอแห่งเกียรติยศ นครนิวยอร์ก ในฐานะทรงเป็น 1 ใน 12 สตรีที่แต่งกายงามที่สุดในโลก และชาวต่างชาติต่างเห็นพ้องต้องกันว่าพระองค์ทรงงามด้วยพระรูปโฉมและฉลองพระองค์ ซึ่งหากถามคนไทยแล้ว พระราชินียังทรงงามด้วยพระราชจริยวัตร งามด้วยพระเมตตา และงามในน้ำพระราชหฤทัยอีกด้วย และพระองค์ยังทรงสนับสนุนงานผ้าไทยให้โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งนอกจากความสง่างาม ความอ่อนหวานของพระราชินีที่หลายคนได้เห็นเบื้องหน้า อีกมุมแห่งความกล้าหาญ ความเข้มแข็งของพระราชินี ผู้หญิงที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ผู้ชายซึ่งได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ ก็เป็นสิ่งที่หากใครได้รับรู้แล้ว จะรู้สึกซาบซึ้งที่ได้เกิดมาอยู่ใต้ร่มพระบารมีของทั้งสองพระองค์อย่างแน่นอน

ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ
ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ

เรื่องราวต่อจากนี้เปรียบเหมือนบันทึกประวัติศาสตร์ชาติไทย ผ่านคำบอกเล่าและความทรงจำของท่านผู้หญิง ถึงการได้มีโอกาสตามเสด็จไปยังพื้นที่ทุรกันดารทั่วประเทศ ได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ พระราชกิจ และพระเมตตาอีกนับไม่ถ้วนที่ทำให้ประชาชนของพระองค์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น (บทสัมภาษณ์เมื่อปี 2559)

ทราบมาว่าท่านผู้หญิงถวายงานมานานมากแล้ว
ใช่ค่ะ  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 ตอนนั้นท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ซึ่งเป็นนางสนองพระโอษฐ์ผู้ใหญ่รู้จักกับคุณแม่ดิฉันมานาน (ท่านผู้หญิงเจือทอง อุรัสยะนันทน์) ท่านผู้หญิงมณีรัตน์บอกคุณแม่ให้พาลูกสาวมาทำงานถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ดิฉันจึงมีโอกาสเข้ามาทำงานในฐานะนางพระกำนัล และรับราชการในกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ แต่ก่อนหน้านั้นสมัยเด็กดิฉันเคยเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องจากคุณพ่อ (นายจาด อุรัสยะนันทน์) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีนานหลายปี เวลาทั้งสองพระองค์เสด็จฯแปรพระราชฐานไปประทับ ณ วังไกลกังวลทางรถไฟหรือรถยนต์ คุณพ่อคุณแม่ก็ได้เตรียมการรับเสด็จ และถ้าตรงกับช่วงที่ดิฉันปิดเทอมก็ได้เฝ้าฯรับเสด็จด้วย เวลามีงานที่วังไกลกังวลก็จะทรงเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์เข้าร่วมงานด้วยเสมอ

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงถือดอกไม้

มีพระราชกรณียกิจหรือการเสด็จพระราชดำเนินครั้งไหนที่ยากลำบากหรือเสี่ยงอันตรายไหม

ยากทุกแห่งเลยค่ะ (หัวเราะ) ขอย้อนเล่าสมัยที่พรรคคอมมิวนิสต์มีอิทธิพลอีกครั้ง ตอนนั้นพลเอกเปรม  ติณสูลานนท์ ดํารงตําแหน่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ เสด็จพระราชดำเนินไปกิ่งอำเภอดงหลวง (ปัจจุบันเป็นอำเภอดงหลวง) จังหวัดนครพนม ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่ค่อนข้างรุนแรงมาก

ท่านผู้หญิงสุประภาดากับดิฉันมีหน้าที่สังเกตการณ์พื้นที่ล่วงหน้า เราต้องปลอมตัวเป็นชาวบ้านเข้าไปที่ตลาดนาแก นุ่งผ้าถุง ไม่แต่งหน้า ใส่แว่นสายตา หิ้วตะกร้าหนึ่งใบ เหลือแต่ไม่ได้เคี้ยวหมากเท่านั้น (หัวเราะ) แล้วนั่งรถสองแถวเข้าไปในพื้นที่ พอไปถึงปรากฏว่าทางการเปลี่ยนแผนไม่ให้พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปบริเวณนั้น เพราะเกรงจะเกิดอันตราย จึงให้เสด็จฯไปโรงเรียนที่อยู่ห่างกัน ขณะนั้นชาวบ้านมารอกันเต็มไปหมดแล้ว พอรู้ว่าทางการเปลี่ยนแผนจึงน้อยใจว่าทำไมพระราชินีมาบ้านเขาไม่ได้ จากที่นั่งอยู่เป็นร้อยๆ คนลุกเดินกลับเข้าหมู่บ้านหมดในทันที

พอเห็นอย่างนั้น ท่านผู้หญิงสุประภาดาบอกดิฉันว่าท่านจะดูแลสถานการณ์ตรงนั้น ให้ดิฉันนั่งรถไปกับทหารเพื่อกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ขอพระราชทานวินิจฉัยว่าเมื่อเสร็จพระราชกิจตรงนั้น จะขอพระราชทานให้เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์มาที่นี่ จากนั้นดิฉันก็นั่งรถยนต์ของทหารที่มีปืนประทับอยู่ด้านบน เขาเรียกรถอะไรก็ไม่ทราบ เนื่องจากทหารเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ถูกซุ่มยิง แต่ตอนนั้นไม่ทันคิดกลัว ต้องรีบไปถึงให้เร็วที่สุด พอไปถึง ดิฉันรีบบอกท่านแม่ทัพว่าท่านผู้หญิงสุประภาดาให้มากราบบังคมทูลตามที่เล่าไว้ข้างต้น ตอนนั้นพลเอกเปรมไม่อยากให้พระองค์ท่านเสด็จฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็เช่นกัน แต่ดิฉันบอกว่าท่านผู้หญิงสั่งมาให้กราบบังคมทูล คงต้องเฝ้าฯกราบบังคมทูล และเมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็รับสั่งทันทีว่าจะเสด็จฯไป โดยให้ทูลกระหม่อมทั้งสองพระองค์รออยู่ที่เดิม จะเสด็จฯไปพระองค์เดียว ให้ดิฉันรีบกลับไปบอกท่านผู้หญิงตามนั้น

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ประทับรถยนต์

พระองค์ท่านไม่เคยละทิ้งประชาชน หลังจากนั้นดิฉันกับท่านผู้หญิงสุประภาดาจึงแสดงตัวและประกาศว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จฯ เท่านั้นแหละ ชาวบ้านดีอกดีใจ รีบกลับมากันเนืองแน่นเหมือนเดิมในพริบตา และเมื่อพระองค์เสด็จฯมาถึงก็มีพระราชปฏิสันถารกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง ระหว่างนั้นจะมีเครื่องบินอารักขาบินสังเกตการณ์อยู่รอบๆ พอเครื่องบินไปถึงชายป่าก็มีเสียงปืนดังปังๆ ดิฉันเห็นแสงไฟพุ่งวาบไปทางเครื่องบิน พระองค์ท่านก็ทรงได้ยิน แต่ไม่ทรงแสดงว่าจะต้องรีบเสด็จฯกลับ ยังมีรับสั่งถามสารทุกข์สุกดิบและทรงเยี่ยมราษฎรจนเสร็จ

ท่านผู้หญิงต้องปลอมตัวแบบนั้นบ่อยไหม

ครั้งนั้นครั้งเดียวค่ะ แต่มีเหตุการณ์ตื่นเต้นแบบนั้นอีกเยอะ เช่น ครั้งที่ท่านผู้หญิงสุประภาดากับดิฉันตามเสด็จไปจังหวัดตราดในปี พ.ศ.2522 ตอนนั้นเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชานับแสนคนอพยพมาอยู่บริเวณชายหาดบ้านเขาล้าน อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ขณะนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับที่หัวหิน ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้เขียนจดหมายผ่านมาที่สภากาชาดไทยว่ามีกัมพูชาเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทุกคนอยู่ในสภาพหิวโหย ทางจังหวัดพยายามช่วยเหลือสุดความสามารถแล้ว แต่คงจะแบกรับสถานการณ์นั้นไม่ไหว จึงขอความช่วยเหลือมาที่สภากาชาดไทย ซึ่งพระองค์ท่านเป็นสภานายิกาสภากาชาดไทย เมื่อทรงทราบก็รับสั่งว่าจะเสด็จฯไปทอดพระเนตรเพื่อพระราชทานความช่วยเหลือจากหัวหิน

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับเครื่องบินข้ามทะเลไปที่จังหวัดจันทบุรี แล้วประทับเฮลิคอปเตอร์ต่อ พอเสด็จฯถึงก็ทอดพระเนตรแล้วรับสั่งว่า สถานการณ์ที่ทอดพระเนตรเห็นไม่เป็นอย่างที่ผู้ว่าฯบรรยายในจดหมายเลย ชาวกัมพูชาที่มาคอยอยู่นั้นดูร่างกายแข็งแรง ทรงจับได้ว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้พาพระองค์ไปพื้นที่จริง เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงให้ทหารขนชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งนั่งรถมาเข้าเฝ้าฯที่โรงเรียนบ้านไร่  ซึ่งชาวกัมพูชาที่ปีนขึ้นรถทหารได้ก็ต้องแข็งแรง พระองค์จึงทรงยืนยันว่าจะเสด็จฯไปบ้านเขาล้าน

ขณะเสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์ เมื่อใกล้ถึงที่หมายแล้ว ดิฉันมองลงไปพื้นเบื้องล่างก็ตกใจมาก เพราะเห็นคนอยู่เบื้องล่างมากเกินประมาณ ทุกคนใส่เสื้อผ้าสีดำ โพกศีรษะด้วยผ้าสีดำ นั่งกันอยู่เต็มไปหมด ไม่มีทั้งอาหารและน้ำ ที่ติดตัวมาก็หมดไปกลางทาง เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลงถึงพื้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระดำเนินไปในพื้นที่เปียกแฉะ แล้วคิดดูว่ามีคนจำนวนมาก กิน นอน ถ่ายอยู่ตรงนั้น กลิ่นไม่พึงประสงค์คลุ้งไปหมด ขณะที่ดิฉันตามเสด็จ ได้เห็นภาพที่น่าเวทนาสุดจะบรรยาย เด็กเล็กๆ ที่แม่อุ้มอยู่เหลือแต่ซี่โครง อ้าปากเหมือนลูกนกคอยอาหารจากแม่ หลายคนอยู่ในภาวะขาดอาหารขั้นรุนแรง เพราะเดินเท้ารอนแรมข้ามภูเขามา บางคนมาถึงก็ล้มตายอยู่ตรงนั้น เห็นกันคาตา

ในครั้งนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงเลี้ยงเด็กกำพร้าจำนวนมาก ทรงชงนมให้ดูเป็นตัวอย่าง และทรงสอนว่าเด็กที่ขาดอาหาร ถ้าชงนมเหมือนปกติอาจทำให้ท้องเสีย ต้องให้นมเจือจางที่สุดและป้อนทีละน้อย ให้สภาพร่างกายเคยชินก่อนจึงเพิ่มนมให้เข้มข้นขึ้น ทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยนะคะ สิ่งของเหล่านี้ก่อนเสด็จฯมา ได้ทรงให้ตระเตรียมมาพร้อมกับขบวนเสด็จฯ ทรงคาดเดาได้จากรายละเอียดในจดหมายของผู้ว่าราชการจังหวัด ก่อนที่พระองค์ท่านเสด็จฯกลับ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ท่านผู้หญิงสุประภาดา ดิฉัน และคุณชวลี อมาตยกุล อยู่ช่วยชาวกัมพูชาต่อ โดยนำเครื่องหมายกาชาดพระราชทานติดที่เสื้อ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งศูนย์สภากาชาดขึ้นในบริเวณนั้น ทั้งยังพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือตามมาอีกจำนวนมาก เช่น  น้ำสะอาด เกลือไอโอดีน นมผง ข้าวสาร เสื้อผ้า พลาสติก เครื่องปั่นไฟ

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯไปในงานเลี้ยง

ถ้าให้ท่านผู้หญิงสรุปความทรงจำในฐานะผู้ได้ถวายงานใกล้ชิดแม่ของแผ่นดินไทยมาเป็นเวลาหลายสิบปี

เป็นบุญเหลือเกินค่ะ ที่ได้เข้ามารับใช้พระองค์ท่านอย่างใกล้ชิดขนาดนี้ ไม่ได้คิดฝันเลย และเมื่อมีโอกาสถวายงานก็ได้เห็นน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่าทรงรักประเทศชาติ ทรงอยากให้ประเทศไทยมีความมั่นคงยั่งยืน คนไทยเราโชคดีที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงงามพร้อมด้วยพระจริยวัตรและน้ำพระทัยที่ใสสะอาด ดิฉันคิดว่าคนไทยควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ดูพระราชกรณียกิจของทั้งสองพระองค์ให้ลึกซึ้ง อย่าดูแต่ฉาบฉวย ทุกพระราชกรณียกิจทรงทำเพื่อประชาชนคนไทยทั้งสิ้น ไม่เคยทรงหวังผลตอบแทนอะไรเลย นอกจากอยากทอดพระเนตรเห็นคนไทยรักและสามัคคี ช่วยกันดูแลประเทศชาติ สำหรับดิฉัน การได้ถวายงานรับใช้ถือเป็นความภูมิใจสูงสุดของชีวิตและจะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานต่อไปค่ะ

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ และในหลวงรัชกาลที่ 9

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสอนสมเด็จพระบรมราชินีนาถเกี่ยวกับกลไกของปืน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ


ข้อมูล : นิตยสารแพรว ปี 2559 ฉบับที่ 887 (10 ส.ค. 2559)
ภาพ : แฟนเพจ Facebook : กรกฎ มโนรัตน์, ทรรศมน สุนทรจักร

ยลโฉม 6 มงกุฎอันทรงคุณค่า งดงามสมพระเกียรติ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

account_circle

ยลโฉม 6 มงกุฎอันทรงคุณค่า งดงามเกินคำบรรยาย สมพระเกียรติ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’

 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สมพระเกียรติเป็นอย่างยิ่งกับคำกล่าวที่ว่า “พระราชินีแห่งสยาม พระสิริโฉมงดงามที่สุดในโลก” ซึ่งต่างชาติยกย่องสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ โดยหนังสือพิมพ์ต่างชาติหลายฉบับต่างตีพิมพ์และเผยแพร่พระสิริโฉมอันงดงามของพระองค์ นอกจากนี้ยังยกให้พระองค์เป็นสตรีที่แต่งพระองค์ได้งดงามมากที่สุดในโลกอีกด้วย

 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

นอกจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงงดงามจนเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สง่างาม สูงค่า สมพระเกียรติไม่แพ้กันก็คือ เครื่องถนิมพิมพาภรณ์ (เครื่องประดับ) โดย ‘มงกุฎ’ เป็นหนึ่งในนั้นที่พระองค์ทรงสวมเวลาเสด็จพระราชดำเนินไปยังงานสำคัญต่างๆ ทั่วโลก

แพรวดอทคอม จึงขอพาทุกท่านไปชม 6 มงกุฎอันทรงคุณค่าของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งแต่ละองค์นั้นมีความวิจิตรงดงามเป็นอย่างมาก

Diamond Fringe Tiara

 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

นับว่าเป็นมงกุฎองค์ที่มีความพิเศษมากเลยทีเดียว โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมเทียร่าองค์นี้เป็นทั้งมงกุฎและสร้อยพระศอ ซึ่งเทียร่าองค์นี้เก่าแก่มากที่สุดเลยก็ว่าได้ เดิมทีนั้นเทียร่าองค์นี้เป็นของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงได้รับพระราชทานเป็นของขวัญ เมื่อครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรป

โดยภาพแรกด้านซ้ายนั้น เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ขณะทรงสวมมงกุฎองค์นี้ในปี 2463 ภายหลังจากนั้น  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงนำมาสวมเป็นสร้อยพระศออยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งในปี 2513 พระองค์ทรงสวมมงกุฎองค์นี้เป็นเป็นประจำมากขึ้น ซึ่งเมื่อปี 2546 พระองค์ยังทรงสวมเทียร่าองค์นี้ขณะเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศสวีเดนอีกด้วย

Diamond Necklace Tiara

 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สำหรับมงกุฎองค์นี้สร้างขึ้นในปี 2503 โดยแบรนด์  Van Cleef & Arpels เพื่อถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเฉพาะ ซึ่งมงกุฎองค์นี้มีความทันสมัยและมีความพิเศษเป็นอย่างมาก โดยแต่เดิมนั้นเป็นสร้อยพระศอ ต่อมาได้ปรากฏภาพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมเป็นมงกุฎขณะที่เสด็จพระราชดำเนินเยือนหลายๆ ประเทศสำคัญ รวมถึงงานกาล่าอีกด้วย ซึ่งมงกุฎองค์นี้นับว่าเป็นองค์โปรดของพระองค์มากเลยทีเดียว

Thai Tiara

 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เป็นมงกุฎอีกหนึ่งองค์ที่ทำขึ้นโดยแบรนด์ Van Cleef & Arpels ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการดีไซน์มงกุฎแบบดั้งเดิมของไทย โดยเพชรสีเหลืองที่อยู่ตรงกลางสามารถถอดออกมาเป็นสร้อยพระศอ และสร้อยข้อพระหัตถ์ได้ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเลือกใช้งานมงกุฎองค์นี้บ่อยครั้ง เช่น เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จเยือนยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1960 พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อีกทั้งสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ก็เคยทรงสวมมงกุฎองค์นี้ด้วย

Floral Bandeau Tiara

 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีที่มาอย่างชัดเจนว่าผู้ใดเป็นคนรังสรรค์มงกุฎองค์นี้ขึ้น แต่มีการคาดเดาว่าน่าจะเป็นฝีมือของแบรนด์ Van Cleef & Arpels ซึ่งทำขึ้นเป็นรูปดอกไม้ ประดับประดาด้วยเพชร เกสรตรงกลางของแต่ละดอกประดับด้วยทับทิม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสวมมงกุฎองค์นี้บ่อยครั้ง เช่น เมื่อครั้งที่เสด็จเยือนยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1960 แต่ภายหลังไม่ค่อยได้เห็นมงกุฎชิ้นนี้มากนัก ทำให้มีการสันนิษฐานว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงแปลงโฉมมงกุฎองค์นี้ให้กลายเป็นสร้อยพระศอ

Modern Floral Tiara

งดงามจริงๆ สำหรับมงกุฎรูปดอกไม้องค์นี้ ที่สำคัญยังถูกรังสรรค์ขึ้นให้ดีไซน์มีความทันสมัย โดยฝีมือของแบรนด์ Van Cleef & Arpels อีกครั้ง ซึ่งในช่วงปี ค.ศ. 1980 พระองค์ทรงเลือกสวมมงกุฎองค์นี้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศสเปน

Coronation Tiara

มงกุฎไทยโบราณองค์นี้ เป็นมงกุฎที่หาชมได้ยากยิ่ง โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงสวมมงกุฎองค์นี้เพียง 2 ครั้ง คือ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และอีกครั้งในช่วงปี ค.ศ. 1960 สำหรับมงกุฎองค์นี้ทำมาจากทองคำ ประดับด้วยเพชรเหลี่ยมกุหลาบ งดงามจับใจและทรงคุณค่ายิ่งนัก


ข้อมูล : royalwatcherblog.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ยลโฉม 7 เครื่องประดับ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง-สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ’ ทรงสวมใส่เหมือนกัน

ยลโฉมฉลองพระองค์สุดเรียบง่ายที่ไม่ค่อยได้เห็นนักของ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

เข็มกลัดสุดที่รัก ของขวัญล้ำค่า แทนความหมายลึกซึ้งใน ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

 

‘หมดสิทธิ์เช็กเรตติ้ง เพราะถูกผูกมัดเสียแล้ว’ ดูดวงรายวัน 12 สิงหาคม 2563

ดูดวงรายวัน 12 สิงหาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานทางการเกษตร เช่น นักออกแบบภูมิสถาปัตย์ นักธุรกิจนำเข้าส่งออกเครื่องประดับ หรือสินค้าทางการเกษตร จนถึงศิลปินพื้นบ้าน วันนี้คุณมีความสามารถทางการจดจำ และรู้จักการพลิกแพลงกลยุทธ์ จึงอาจได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหาร หรือทำงานบริหาร ซึ่งก็ได้รับความสำเร็จด้วยดี

การเงิน : มีความสามารถใช้เงินทำงานสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง อาจได้รับมรดกเป็นที่ดินทางการเกษตร จึงควรเก็บเงินไว้บ้าง เพราะอุปสรรคในการสร้างฐานะของคุณก็คือ ไม่ประหยัด

ความรัก : คุณได้รับการดูแลและเอาใจใส่อย่างดีจากครอบครัว วันนี้อยู่ในฐานะผู้นำ จึงค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียดของสมาชิกในครอบครัวจนดูเหมือนซีเรียส เครียดไปเสียทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องหึงหวง คนโสด เสน่ห์ยังคงอยู่กับคุณ แต่วันนี้ความหึงก็มาด้วย หากผิดหวังมาเกิน 2 ครั้งแล้ว วันนี้มีลุ้นได้เจอคู่แท้นะคะ

สุขภาพ : ควรให้ความสำคัญเรื่องการขับถ่ายด้วย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะจนติดเป็นนิสัย เพราะอาจทำให้กรวยไตหรือกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับสายบุญ สายธรรมะ รวมถึงจิตอาสาทำประโยชน์ให้กับสังคม วันนี้ต้องระวังอาจถูกใส่ร้ายป้ายสี ในความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ หรืออยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะต้องรับผิดชอบงานหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น หรือก่อนที่จะทำงานอะไรก็ตามควรปรึกษาหรือขอคำแนะนำจากผู้รู้ผู้มีประสบการณ์

การเงิน : ไม่ควรหลงเชื่อคำพูดที่อ่อนหวาน ชักชวนให้คุณทำบุญ ทำทาน หรือบริจาคเพื่อสังคม เพราะคุณอาจถูกหลอกลวง หรือเสียผลประโยชน์

ความรัก : คุณอาจแต่งงานอยู่ในครอบครัวที่ดี มีชาติตระกูล มีกฎกติกามารยาทเคร่งครัด ซึ่งวันนี้หากคุณอยู่ในฐานะทำงานหนัก รับผิดชอบครอบครัว ไม่ว่าจะทำอะไร คู่คุณก็จะเห็นดีเห็นงามด้วยในทุกๆ เรื่อง  คนโสด คุณทำงานหนักเป็นหัวหน้าครอบครัว เพราะฉะนั้นหากจะมีแฟนก็ต้องผ่านด่านผู้ปกครองกันหน่อย

สุขภาพ : ภูมิแพ้มาแล้วจ้า อากาศหนักๆ อึมครึม ทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก ระวังจะเป็นไซนัส หรือเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน : คุณอาจได้รับมอบหมายให้ไปทำงานสายบุญ สายธรรมะ หรือเป็นจิตอาสาทำประโยชน์เพื่อสังคม วันนี้คุณคาดหวังความสำเร็จสูงมาก ก็ต้องระวังจะมีปัญหาขลุกขลักตลอดวัน เอกสารทางราชการอาจเกิดความผิดพลาด ควรหาผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์มาช่วยทำงาน แต่อย่าใช้คนที่เคยไว้ใจ เพราะเขาจะเปลี่ยนท่าทีมาหักหลังคุณ

การเงิน : รายได้มาจากการที่คุณใช้อำนาจและบารมี จึงอาจหมดกับการเลี้ยงดูเพื่อนฝูงญาติมิตร เพื่อเสริมบารมี ควรทำบุญทำกุศล หรือบริจาคเงินคืนให้กับสังคมด้วย แต่ก็ไม่ควรให้ใครกู้ยืมเงิน หรือเซ็นค้ำประกันให้ เพราะอาจต้องรับผิดชอบแทน

ความรัก :  ก็ยังคงหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี แต่วันนี้คุณอาจอยู่ด้วยกันเพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ไม่ใข่ความรัก จึงมาพร้อมทิฐิและความเชื่อมั่นในตัวเองมากมาย ต้องการเอาชนะ ไม่เน้นประนีประนอม คนโสด การมีแฟนของคุณค่อนข้างลำบาก เพราะมีผู้ใหญ่คอยพิจารณาอยู่ตลอด จึงออกแนวรักนะ แต่ไม่จริงจัง

สุขภาพ : ปัญหาที่คุณควรให้ความสำคัญอันดับหนึ่งคือ หัวใจ รวมถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจทุกประเภท รองลงมาคือ ความสามารถทางการมองเห็น ตระกูลต้ออาจถามหานะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน : คุณเป็นคนที่มีสติปัญญาดี มีความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จ วันนี้จึงมีโอกาสได้เริ่มต้นงานใหม่ เพื่อเตรียมไว้สำหรับสร้างอนาคต ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสูง ก็ต้องระวังเรื่องของเอกสารสัญญา หรือสัญญาใจที่จะบีบคุณให้ต้องทำในสิ่งที่อึดอัด คับข้องใจ จนต้องแก้ปัญหาตั้งแต่เช้ายันค่ำเลยทีเดียว

การเงิน : มีโชคลาภ เพราะคุณรู้จักช่องทางในการทำมาหากิน แต่ก็ต้องระวังอาจถูกหยิบยืมจากญาติพี่น้อง เพื่อไปใช้ในการลงทุน ซึ่งมีผลให้การเงินสะดุด แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นๆ

ความรัก : คุณมีความเป็นผู้นำสูง ต้องทำงานหาเงินมารับภาระรายจ่ายหลักภายในครอบครัว แต่วันนี้ก็ยังมิวายที่จะมีบุคคลที่สามเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างเดียวเลย แล้วเมื่อได้สมใจแล้วก็ตีจาก แต่เพราะความรับผิดชอบทำให้คุณไม่สามารถตัดเขาออกจากชีวิตได้ แม้ใจจะขาดกันไปนานแล้ว คนโสด จริงๆ แล้วคุณชอบหว่านเสน่ห์ แต่วันนี้อาจหมดสิทธิ์ เพราะถูกผูกมัดเสียแล้ว

สุขภาพ : อาจมีปัญหาในเรื่องของการรับประทานอาหาร เช่น กลืนอาหารลำบาก เป็นทอนซิล หรือหลอดลมอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้คำพูด หรือความสามารถในการใช้วาทศิลป์ เช่น พีอาร์ประชาสัมพันธ์ ออร์กาไนซ์ งานสื่อสารมวลชน พนักงานขาย ฯลฯ วันนี้วันหยุดแห่งชาติ แต่งานคุณไม่หยุด อาจกำลังสู้รบความขี้เกียจที่อยากนอนตื่นสายๆ แต่ดูแล้วคงไม่ได้นอน เพราะอาจมีงานเข้าให้คุณต้องไปทำงาน ก็ควรระวังคนที่จะไปติดต่องานด้วย จากที่เคยน่ารักก็อาจเปลี่ยนเป็นหักหลังคุณได้

การเงิน : มีโชคในการทำธุรกิจและการลงทุน จึงควรใช้กำลังความรู้ ความสามารถของตัวเองเป็นหลักมากกว่าที่จะเข้าหุ้นหรือลงทุนร่วมกับบุคคลอื่น

ความรัก :  คุณอารมณ์ไม่นิ่ง วีนเหวี่ยงง่ายมาก จึงควรอยู่นิ่งๆ ไว้เป็นดี เพราะคุณอ่อนไหวกับทัศนคติในเรื่องการใช้ชีวิตคู่อยู่แล้ว แค่แตะคำเดียวอาจแตกได้ง่ายๆ  คนโสด คุณชอบที่จะค่อยๆ คบค่อยๆ ดูใจกันไป เพื่อความมั่นใจในการเลือกคู่ชีวิต แต่ที่เจอกลายเป็นพวกรักง่ายหน่ายเร็วทั้งนั้นเลย วันนี้ก็นอนรอไปก่อนนะ

สุขภาพ : เดินทางไปหาคุณแม่ หรือพาท่านไปเที่ยว ควรดูแลสุขอนามัย รักษาความสะอาดส่วนตัวให้ดี การ์ดอย่าตก โดยเฉพาะสถานที่สาธารณะ เพราะมีโอกาสติดเชื้อหรือเป็นภูมิแพ้สูง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  วันนี้วันหยุดแห่งชาติ คุณอาจอยากหยุดงานเพื่ออยู่กับคุณแม่บ้าง แต่ดูจากสภาพการณ์แล้วอาจต้องแวบเพราะงานที่คุณลุยเดี่ยว โดยไม่ฟังความคิดเห็นของใครเลย วันนี้อาจมีปัญหาเรื่องบริวารไม่ซื่อสัตย์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้คุณต้องแก้ไขตั้งแต่เช้าเลย

การเงิน : มีโชคในการลงทุน แต่ควรทำด้วยตัวเองมากกว่าร่วมหุ้นกับผู้อื่น เพราะอาจสะดุด แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นๆ

ความรัก : คุณมีปัญหาในเรื่องทัศนคติในการใช้ชีวิตคู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว วันนี้คุณจึงอาจไม่แคร์ ขอหว่านเสน่ห์ให้โลกเห็นกันหน่อย คนโสด คุณมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามมาก หากคุณถูกใจแล้วก็ไม่แคร์ว่าจะถูกต้องหรือเปล่า

สุขภาพ : หากออกไปไหว้คุณแม่ หรือพาท่านไปทานข้าวนอกบ้าน ควรดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล รวมถึงคนที่รัก อย่าประมาท การ์ดอย่าตก โดยเฉพาะการใช้สถานที่สาธารณะ เพราะอาจติดเชื้อหรือเป็นภูมิแพ้

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : สำหรับผู้ที่กำลังจะรับอาสาเจ้านายไปปฏิบัติงานก็อาจต้องหยุดคิดนิดหนึ่ง  เพราะโครงสร้างขององค์กรกำลังมีการเปลี่ยนแปลง งานที่คุณจะรับอาสาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา คนที่เคยไว้ใจก็อาจเปลี่ยนท่าที ก็จะมีแต่ผู้ใหญ่ที่ยังอยู่เป็นที่ปรึกษาให้กับคุณได้ วันนี้คุณอาจต้องอึดอัดและกดดัน เพราะต้องให้คำตอบว่า จะรับหรือไม่รับ

การเงิน : เข้ามือขวาออกมือซ้ายตลอดเวลา โดยเฉพาะอาจต้องช่วยเหลือญาติสนิทมิตรสหายที่เดือดร้อน ก็ควรช่วยเท่าที่จะช่วยได้

ความรัก : คุณอาจได้อยู่กับผู้ใหญ่ในบ้านเพียงลำพัง เพราะคู่คุณอาจไม่ว่างในวันสำคัญนี้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะผู้ใหญ่ต้องการคุณ คนโสด หากคุณกำลังหลงใหลในบุคลิกอันอบอุ่นของผู้ใหญ่ ก็อย่าเพิ่งให้ใจไปทั้งหมด เพราะเขาอาจแค่เพียงหมาหยอกไก่ ไม่ได้คิดจริงใจ

สุขภาพ : เดินดีๆ นะคะ เพราะอาจก้าวพลาดตกจากที่สูง ทำให้ข้อเท้าพลิก หรือเส้นเอ็นผิดปกติ

 

เช็กดวงย้อนหลังกันได้ที่นี่

โอกาสดีไม่ได้มีมาบ่อยๆ หากเจอก็ควรฟาดเลย  ดูดวงรายวัน 8 สิงหาคม 2563

ตั้งมาตรฐานแฟนไว้สูงลิ่วๆ แต่สุดท้ายกลายเป็นที่สอง ดูดวงรายวัน 9 สิงหาคม 2563

หากกำลังรออยู่ วันนี้เขากลับมาแล้ว ดูดวงรายวัน 10 สิงหาคม 2563

คนที่คุณแอบรัก คงแก่เรียนมากกว่าคงแก่รัก ดูดวงรายวัน 11 สิงหาคม 2563

10 พระราชดำรัสแฝงธรรมทรงค่า ใน 'สมเด็จพระพันปีหลวง'

10 พระราชดำรัสแฝงธรรมทรงค่า ใน ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

10 พระราชดำรัสแฝงธรรมทรงค่า ใน 'สมเด็จพระพันปีหลวง'
10 พระราชดำรัสแฝงธรรมทรงค่า ใน 'สมเด็จพระพันปีหลวง'

12 สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เวียนมาอีกวาระ

ปีนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 88 พรรษา ในวาระมิ่งมหามงคลนี้ แพรวดอทคอม ขออัญเชิญ 10 พระราชดำรัสแฝงธรรมที่พระองค์ทรงเคยมีรับสั่งในโอกาสต่างๆ เพื่อให้ลูกหลานไทยน้อมใส่เกล้าใส่กระหม่อม ใช้เป็นหลักชัยในการดำเนินชีวิต และจะได้เป็น ‘คนดี’ สมดังความมุ่งพระราชหฤทัยของพระองค์

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ“…ความเจริญทางด้านวัตถุ ทำให้โลกของเรามีความก้าวหน้าและสะดวกสบายขึ้นอย่างยิ่ง จึงต้องนับว่าความเจริญทางวัตถุนี้เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากสำหรับชีวิต แต่ชีวิตของเรายังต้องการความเจริญอย่างอื่นด้วย คือความเจริญด้านจิตใจ ซึ่งสำคัญและจำเป็นไม่น้อยไปกว่าความเจริญทางวัตถุเลย…”

“…มนุษย์เรานี้ควรจะมีการให้ต่อกันบ้าง อย่างน้อยก็เวลาสดับตรับฟังความทุกข์ของผู้อื่น ไม่ใช่จะงกๆ เงิ่นๆ ละโมบแต่หาความสุข กอบโกยหาโชคลาภสู่ตนเองโดยไม่นึกถึงผู้อื่น เมื่อเราไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือซึ่งกันและกันแล้ว เราจะมีความสุขได้อย่างไร โลกนี้ก็จะมีแต่ความแห้งแล้ง ไร้น้ำใจ จิตใจของคนก็จะพลอยโหดเหี้ยมไปด้วยความเห็นแก่ตัว และจะขาดความสงบสุขในที่สุด…”

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ“….ในการรวมตัวกันเพื่อทำงานต่างๆ นั้นย่อมจะมีปัญหาเกิดขึ้นบ้าง แต่ปัญหาใดๆ ก็ย่อมขจัดเสียได้โดยอาศัยความสามัคคีเป็นคุณธรรมที่จะร้อยรัดให้ทุกคนเป็น น้ำหนึ่งใจเดียวกัน ขอเพียงให้แต่ละคนไม่ยึดถือ “อัตตา” คือ ตัวตนของผู้หนึ่งผู้ใดเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น…”
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ“…ศาสนาทุกศาสนามุ่งสอนให้คนประพฤติดี ให้ตั้งอยู่ในสุจริตธรรม ศาสนาเป็นที่พึ่งตลอดไปของมนุษย์ ทั้งในยามสุขและในยามทุกข์ ช่วยเตือนสติเราไม่ให้ประมาทหลงระเริงในยามยินดีมีความสุข ช่วยเราไม่ให้หมดสติ รู้สึกเคว้งคว้างในยามมีทุกข์…”

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ“…บุคคลแม้จะเป็นผู้ที่ขาดความมั่นคงทางวัตถุ แต่ร่ำรวยยิ่งในด้านคุณธรรม มีความรักและห่วงใยในเพื่อนมนุษย์ จึงนับว่าเป็นผู้ที่พระพุทธศาสนายกย่องแล้วว่าเจริญแท้…”

 

“…ชุมชนใดที่มนุษย์รู้จักแผ่เมตตาต่อกัน ชุมชนนั้นเป็นแหล่งที่เจริญ ถ้าราษฎรของชาติมุ่งประกอบกรรมดี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รู้จักรับผิดชอบในสังคมใหญ่ ก็นับได้ว่า ชาตินั้นเจริญแล้ว และจะก้าวหน้าสืบไป สันติภาพอันแท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมนุษย์เรามีความอิ่มทางจิตใจจากการสร้างแต่ความดี…”

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

“…ในโลกปัจจุบัน เราจะมีความสุขแต่ลำพังโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอีกหลายคนที่แวดล้อมเราอยู่นั้นไม่ได้ ผู้มีความเมตตาจิตหวังประโยชน์ส่วนรวม ย่อมรู้จักแบ่งปันความสุขเพื่อผู้อื่นและพร้อมที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ของผู้อื่น ตามกำลังและโอกาสเสมอ…”

 

“…ปัญญา เปรียบเสมือนแก้วอันมีค่าประจำตัวมนุษย์ที่สมบูรณ์ ปัญญาเกิดได้จากการฟังครูสอน ได้อ่านประกอบ แล้วนำมาคิดพิจารณาให้ถี่ถ้วนตามคำพระท่านว่า ปัญญาย่อมเกิดเพราะการฝึกฝน ผู้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แล้ว จะทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมได้ก็โดยใช้ปัญญาเพ่งพิจารณาว่าอะไรเป็นประโยชน์และไม่เป็นภัยแก่ตนเองและแก่สังคม…”

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

“…คนเรานี่ถ้าเผื่อรักษาจิตที่มุ่งมั่นที่จะดำรงความกตัญญูกตเวทีต่อชาติบ้านเมือง ต่อแผ่นดิน นั่นแหละเป็นของดี เป็นของยั่งยืนนาน แม้ร่างกายจะชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ความปรารถนาดีที่มีต่อคนส่วนรวมและต่อประเทศชาตินั้นจะดำรงอยู่…”

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

“…เรื่องที่น่าคิดอยู่ไม่น้อยว่า เหตุใดเมืองไทยของเราจึงรอดพ้นจากอันตรายร้ายแรงมาแล้วหลายครั้ง อาจกล้าตอบได้ว่าเพราะในบ้านเมืองของเรายังมีคนดี ที่สร้างสมความดีอยู่เป็นจำนวนมาก หมายความว่าคนไทยทั้งชาติ ยังนิยมที่จะประกอบกุศลกรรมความดี บารมีของคนดีเหล่านั้นจึงยังสนับสนุนให้ผืนแผ่นดินนี้ เป็นดินแดนสงบร่มเย็นอยู่ได้…”


ที่มาข้อมูล : www.dhammajak.net

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ยลโฉมเครื่องประดับ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง-สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ’ ทรงเคยสวมใส่

ยลโฉมฉลองพระองค์สุดเรียบง่ายที่ไม่ค่อยได้เห็นนักของ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’

6 มงกุฎ อันทรงคุณค่า งดงามสมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ดอเรีย แร็กแลนด์ แม่ผู้เคียงข้างดัชเชสเมแกนทั้งยามทุกข์และยามสุข

account_circle

นอกจากเจ้าชายแฮร์รี่ และ อาร์ชี จะเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของ ดัชเชสเมแกนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งคนสำคัญที่เป็นทุกอย่างในชีวิตคือ ดอเรีย แร็กแลนด์ แม่ที่คอยอยู่เคียงข้างดัชเชสเมแกนทั้งยามทุกข์ และ ยามสุข

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ท่ามกลางแขกเหรื่อที่มาร่วมพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ หนึ่งในนั้นที่กล้องจับภาพตลอดเวลาจนได้โมเม้นต์สุดประทับใจ ไม่ต่างกับ แครอล มิดเดิลตัน พระมารดาของดัชเชสเคท ในปี 2011 คือ ดอเรีย แร็กแลนด์ แม่ของดัสเชสเมแกนที่กำลังยิ้มอย่างปลื้มปิติ และอิ่มใจที่ได้เห็นลูกสาวกำลังมีความสุขในวันสำคัญที่สุดในชีวิต

ดอเรีย แร็กแลนด์
เด็กหญิงแร็กแลนด์ ในชุดนักเรียนไฮสคูล

ดอเรีย แร็กแลนด์ เป็นบุตรสาวของ นางเจเนตต์ อาโนลด์ กับสามีคนที่สอง นายอัลวิน แร็กแลนด์ เธอมีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ซึ่งทำให้ดัชเชสเมแกนทรงมีเชื้อสายนี้ด้วย ตามประวัติของตระกูลแร็กแลนด์นั้นว่ากันว่าสืบเชื้อสายมาจากชาวอเมริกัน-แอฟริกันที่ถูกจับไปเป็นทาสในประเทศจอร์เจีย เดิมครอบครัวแร็กแลนด์อาศัยกันอยู่ที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ก่อนย้ายไปลอสแอนเจลิสในเวลาต่อมา โดยเด็กหญิงแร็กแลนด์เริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนแฟร์แฟกซ์ ไฮสคูล

ดอเรีย แร็กแลนด์
พิธีแต่งงานของดอเรีย แร็กแลนด์ และ โทมัสมาร์เคิล ในวันที่ 23 ธันวาคม 2522 ท่ามกลางญาติสนิทของทั้งคู่ ในนครลอสแอนเจลิส

ด้วยนิสัยสดใส ร่าเริง ทำให้เธอเข้ากับเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันได้ดี หลังจากเรียนจบไฮสคูล ดอเรียเริ่มอาชีพแรกด้วยการเป็นช่างแต่งหน้า และได้เข้าไปเป็นพนักงานในสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง Genaral Hospital ที่นี่เองที่ทำให้เธอได้พบรักกับนายโทมัส มาร์เคิล กระทั่งแต่งงานกันในปี 1979 และได้ถือกำเนิดลูกสาวตัวน้อย เมแกน มาร์เคิล ในปี 1981 และยังเป็นลูกสาวคนเดียวของเธออีกด้วย

ดอเรีย แร็กแลนด์
นางดอเรีย แร็กแลนด์ และลูกสาวตัวน้อย เมแกน มาร์เคิล
ดอเรีย แร็กแลนด์
โทมัส มาร์เคิล กับ ลูกสาว เมแกน มาร์เคิล

แต่ชีวิตคู่ก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ใจหวัง อีกแปดปีต่อมาเธอได้หย่าร้างกับนายโทมัส มาร์เคิล ในขณะที่ลูกสาวมีอายุเพียง 6 ขวบ ดัชเชสเมแกนทรงอยู่ในความดูแลของดอเรียนับแต่นั้น แต่เธอก็ให้ลูกสาวติดต่อพ่อได้อย่างสม่ำเสมอ

สองแม่ลูกใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตามอัตภาพ โดยดอเรียครองตัวเป็นโสดมานับแต่หลังการหย่าจนถึงปัจจุบัน ครั้งหนึ่งเธอเคยเล่าว่ามีความสุขมากที่ได้ดูแลนางฟ้าตัวน้อยๆ การได้เห็นเด็กหญิงเมแกนเติบโตขึ้นทุกวันคือคุณค่าของการเป็นมนุษย์แม่ แม้จะต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ตาม

นอกจากอาชีพช่างแต่งหน้า และพนักงานในสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์แล้ว ดอเรียยังทำงานอีกหลายหลายอาชีพ เช่น แอร์โฮสเตส และในวัย 62 ปี เธอยังเป็นครูสอนโยคะ และเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เธอให้ความสำคัญอย่างมากในด้านงานช่วยเหลือสังคม เห็นได้จากบทสัมภาษณ์ของดัชเชสแห่งซัสเซกส์ที่ว่า ในตอนที่พระองค์ยังเป็นเด็กนั้น แม่ของพระองค์เป็นนักบำบัดทางจิตให้กับผู้ที่ต้องการปรึกษาฟรี แม่ของพระองค์มุ่งเน้นการทำงานให้กับคนในพื้นที่ยากจน และยังสอนพระองค์ให้รู้จักคำว่าให้ และเป็นที่มาให้พระองค์เขียนใน The Tig บล็อกส่วนตัวในปี 2016 ว่า “การซื้อไก่งวงให้กับคนไร้บ้านในวันขอบคุณพระเจ้า นำอาหารไปให้กับผู้ป่วย หรือจะเป็นการกอด การยิ้ม ถือเป็นการให้กำลังใจต่อคนอื่นที่ไม่ต้องลงทุน ลงแรงมากมายอะไร”

ดอเรีย แร็กแลนด์

เรียกได้ว่านางดอเรียคือต้นแบบที่สอนดัชเชสเมแกนให้ทรงรู้จักการให้  และถึงแม้จะมีกระแสข่าวโจมตีเรื่องถูกเหยียดหยาม จงเกลียดจงชังด้านเชื้อชาติอย่างหนัก หลังจากที่มีข่าวเจ้าชายแฮร์รี่ทรงหมั้นหมายกับลูกสาวเธอ แต่นางดอเรียก็ยังคงทำงานเป็นนักจิตบำบัดอยู่ที่ศูนย์สุขภาพ Didi Hirsh ควบกับการเป็นครูสอนโยคะที่เมืองคัลเวอร์ รัฐแคลิฟอเนียร์ จนถึงปัจจุบัน

ดอเรีย แร็กแลนด์
ภาพถ่ายในวันงานจบการศึกษา ของ ดอเรีย และดัชเชสเมแกน

นอกจากเรื่องงานที่นางดอเรียตั้งใจทำอย่างเต็มที่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เธอไม่คิดทิ้งคือเรื่องเรียน ถึงแม้อายุจะล่วงเลยจนเข้าวัยสูงอายุแล้วก็ตาม โดยเธอเพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทในปี 2015 ในหัวข้อวิชา Master of Social Work (MSW) สาขาที่เน้นด้านสังคมสงเคราะห์ ช่วยเหลือและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของบุคคล และสังคม ที่มหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับดัชเชสเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าด้วยความมีน้ำจิตน้ำใจเปี่ยมล้น ทำงานเพื่อผู้อื่นมาตลอด เธอจึงเป็น ‘แม่ยาย’ ที่ลูกเขยอย่างเจ้าชายแฮร์รี่ทรงให้การยอมรับอย่างแท้จริง โดยเจ้าชายเคยให้ประทานสัมภาษณ์กับ สื่อ BBC ว่า “Her mum’s amazing”(แม่ของเธอนั้นน่าทึ่ง) โดยดอเรียได้พบกับเจ้าชายแฮร์รี่ในงานพิธีปิดการแข่งขันกีฬาอินวิคตัสเกมส์ ที่นครโตรอนโต ประเทศแคนาดาเมื่อกันยายน ปี 2016

และเมื่อครั้งที่ดัชเชสเมแกนให้กำเนิด อาร์ชี ลูกชายคนแรกนั้น คุณยายดอเรีย ก็บินมาจากอเมริกาเพื่อมาคอยมาดูแลหลานคนแรกอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก

แม้ดัชเชสเมแกนจะเจอมรสุมต่างๆ มากมาย แม้คนมากมายจะไม่ค่อยปลื้มใจเธอมากนัก แต่หนึ่งคนที่ไม่เคยห่าง ไม่เคยหนีไปไหน อยู่ด้วยทั้งยามทุกข์ และยามสุข ก็คือ แม่….


ขอบภาพและข้อมูล : http://www.dailymail.co.uk, www.townandcountrymag.com, www.thesun.co.uk, www.express.co.uk

หลากหลายไอเดียเค้กแต่งงาน สวยปังถึงขั้นบ่าวสาวไม่กล้าลงมีด!!

account_circle

ถึงแม้ว่าบางครั้ง เค้กแต่งงาน มักจะมาพร้อมกับแพ็คเกจเมื่อจองโรงแรมเป็นสถานที่แต่งงาน แต่ก็นั่นแหละคะ มันก็มักจะไม่ได้สวยถูกใจเหมือนที่คู่บ่าวสาวอยากได้เสมอไปใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นลองเผื่องบไว้สักนิด แล้วมองหาเค้กแต่งงานสวยๆ ที่ช่วยเสริมให้งานแต่งของบ่าวสาวออกมาดูดี มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างเช่น 5 ไอเดียเค้กแต่งงานที่แพรว wedding นำมาฝาก บอกเลยว่าสวยจนหมอ เอ๊ย! บ่าวสาวไม่กล้าลงมีดเชียวล่ะ

เค้กแต่งงานประดับดอกไม้ & ใบไม้

เค้กแต่งงาน

อีกหนึ่งสไตล์เค้กแต่งงานที่ให้อารมณ์ดูหรูหรากึ่งทางการนิดๆ กับเค้กแต่งงานที่ประดับประดาไว้ด้วยเหล่าหมู่มวลใบไม้และดอกไม้ที่ดูแล้วสดชื่นสุดๆ แถมยังไม่ต้องคิดดีไซน์เค้กให้ปวดหัว เพราะเพียงแค่เลือกเป็นเค้กก้อนสีขาวสะอาดตา ส่วนจะกี่ชั้นก็แล้วแต่ว่าบ่าวสาวอยากได้สูงแค่ไหน แล้วนำใบไม้ดอกไม้มาประดับตกแต่ง ซึ่งหากว่าที่บ่าวสาวหรือมีเพื่อนๆ ที่มีหัวครีเอทหน่อยในส่วนการตกแต่งนี้อาจจะทำเองก็ได้ แล้วสั่งแค่เค้กปอนด์สีขาวธรรมดา ที่บ่าวสาวถูกใจกับรสชาติมาก็พอ

เค้กแต่งงานขนาดใหญ่สไตล์คลาสสิค

สำหรับคู่ไหนที่อยากได้ความเป็นทางการและความคลาสสิค แค่แต่งงานขนาดใหญ่ความสูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไปนี่แหละที่ตอบโจทย์สุด แถมยังเป็นรูปแบบแขกแต่งงานที่เหมาะกับทั้งงานแต่งงานแบบอินดอร์และเอ้าท์ดอร์อีกต่างหาก แถมแขกแต่งงานขนาดใหญ่นี้ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้งานแต่งงานของบ่าวสาวดูหรูหราขึ้นอีกด้วย และถ้าหากอยากได้ความคลาสสิคที่ดูไม่จำเจ เราขอแนะนำให้เลือกเค้กแต่งงานทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ รับรองว่าแกรนด์กว่าใครแน่นอน

เค้กแต่งงานสไตล์แฮนด์เมด

คู่รักสายชิคที่จัดงานแต่งท่ามกลางบรรยากาศแบบสบายๆ เป็นกันเอง ไม่เน้นความหรูหราฟูฟ่าของงานแต่งมากมายนัก เค้กแต่งงานแบบแฮนด์เมดที่ไม่เน้นรูปลักษณ์ที่สวยเป๊ะเรียบกริบมากนักเป็นอะไรที่เข้ากับสไตล์งานแต่งงานของบ่าวสาวที่สุด โดยอาจจะเน้นเป็นเค้กปอนด์เล็กๆ แบบสองชั้น หรือจะเลือกเป็นเค้กขนาดใหญ่ก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ความสะดวกใจหรือฝีมือของบ่าวสาว และอาจจะตกแต่งด้วยใบไม้ใบจิ๋ว หรือดอกไม้ดอกสวยสักนิดเพื่อให้เค้กแต่งงานของบ่าวสาวดูสดชื่นขึ้นมาหน่อย

เค้กแต่งงานพร้อมข้อความกินใจ

ล้ำกว่าใครแถมยังกินใจเป็นที่สุด กับเค้กแต่งงานที่มีข้อความหรือบทกลอนแปะอยู่บนเค้กแต่งงานก้อนโต ซึ่งข้อความเหล่านี้อาจจะมาจาก โค้ดคำพูดจากหนังที่คุณชอบ เนื้อเพลงความหมายดี หรือจะเป็นข้อความจากไดอารี่ หรือจดหมายรักก็โรแมนติกสุดๆ ไปเลย แล้วอย่าลืมเลือกฟร้อนต์สวยๆ ด้วยนะ จะได้ช่วยเพิ่มความฟินขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ

เค้กแต่งงานประดับผลไม้

ถ้าอยากได้ของตกแต่งเค้กแต่งงานแบบที่สามารถรับประทานได้ ผลไม้ นี่แหละเวิร์กสุดๆ เพราะนอกจากจะทานได้ไม่เสียของ การประดับผลไม้ที่มีรูปทรงหลากหลายและสีสันที่ต่างกันออกไป เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับเค้กแต่งงานของว่าที่บ่าวสาวได้เป็นอย่างดี แถมแขกหรือผู้ใหญ่ที่ไม่ถนัดรับประทานของหวานอย่างเค้ก ก็อาจจะเลือกทานเป็นผลไม้สดๆ ที่ประดับอยู่แทนได้

ภาพ marthastewartweddings.com, pinterest

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

บ่าวสาวต้องอ่าน! 5 วิธีรับมือกับความขัดแย้งช่วงเตรียมงานแต่ง

account_circle

ถึงแม้ว่าช่วง เตรียมงานแต่ง จะสร้างความเครียดไม่น้อยให้กับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว ไม่ว่าจะเรื่องเงิน เรื่องญาติ หรือแม้แต่เรื่องท็อปฮิตติดชาร์ตอย่าง “ความเห็นไม่ตรงกัน” ฉันจะเอาแบบนี้ ส่วนเธอต้องการแบบนั้น สุดท้ายก็ทะเลาะกันจนกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต บางคนเกิดอาการท้อจนไม่อยากแต่งงานเลยทีเดียว อย่ากังวลไปเลยค่ะ ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาโลกแตกซะหน่อย เราขอนำเสนอ 5 วิธีที่จะช่วยคุณรับมือกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ลองทำตามข้างล่างนี้ดูนะ รับรองว่าความเครียดจะกลายเป็นปัญหาจิ๊บๆ ไปเลย

1. สร้างช่วงเวลาที่มีแค่เพียงคุณสองคน

ถึงแม้การแต่งงานจะเป็นเรื่องของคนสองคน แต่การเตรียมงานนั้นมักจะได้คนรอบข้าง เช่น ญาติผู้ใหญ่หรือเพื่อนพ้องมาช่วยออกความคิดเห็นอยู่เสมอ บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกขัดใจหรือมีอารมณ์กับคำแนะนำจากผู้หวังดีเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจรายละเอียดต่างๆ ของงานแต่งก็ควรจะมาจากคุณสองคนเสียส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นลองหาช่วงเวลาหรือสถานที่ที่เป็นส่วนตัว มีเพียงแค่คุณและคนรักเพื่อที่จะได้ใช้เวลาปรึกษา พูดคุย และเลือกสิ่งที่คุณทั้งคู่ต้องการจริงๆ

2. เปิดใจคุยกัน

เมื่อเกิดความคิดเห็นไม่ตรงกันขึ้นมาก็ขอให้คุณทั้งคู่ใจเย็นๆ เข้าไว้ ลองนั่งลงคุยกันว่าคุณสองคนคิดแตกต่างกันอย่างไร อาจจะใช้เวลาสัก 15-30 นาที ผลัดกันเป็นผู้พูดและเป็นผู้ฟังที่ดี จำไว้เสมอว่าอย่าเอาแต่เป็นคนพ่นไฟอยู่ฝ่ายเดียว เพราะอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม

3. อย่าเสียงดังใส่กันเด็ดขาด

อีกครั้งที่ต้องขอย้ำคำว่า “ใจเย็นๆ” เพราะการปรึกษากันเกี่ยวกับรายละเอียดของงานก็อาจจะมีบางช่วงบางตอนที่กระทบกระทั่งกัน แต่สิ่งที่จะช่วยให้เรื่องราวไม่ลุกลามใหญ่โตก็คือการควบคุมอารมณ์ ท่าทาง และน้ำเสียง ควรใช้น้ำเสียงแบบเรียบๆ นุ่มๆ บวกกับเลือกใช้คำพูดที่ไม่รุนแรง ยึดหลักประนีประนอมค่อยพูดค่อยจากันเข้าไว้ แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดี

4. ตกลงกันให้ชัดเจน

ทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้งสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือ ตกลงกันให้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่คุยกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไรและจะแก้ไขกันอย่างไร คงจะไม่ใช่เรื่องดีที่จะต้องกลับมาทะเลาะกันในเรื่องเดิมซ้ำๆ เพราะฉะนั้นเคลียร์กันให้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกไปเลยดีกว่า

5. จุมพิตปิดท้าย

หลังจากที่คุณทั้งคู่ได้นั่งคุยกันและปรึกษาหาทางแก้ไขเรื่องราวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นแล้ว อย่าลืมที่จะปิดท้ายด้วยอ้อมกอดหรือจูบเบาๆ สักเล็กน้อย เพื่อเติมเต็มกำลังใจให้แก่กันและสัญญากันไว้ด้วยว่า ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น คุณทั้งสองคนก็จะช่วยกันฟันฝ่าจนกว่าจะถึงวันสำคัญที่พวกคุณรอคอย

ลองเอา 5 วิธีนี้ที่เราแนะนำไปใช้ รับรองได้ว่าต่อให้มีปัญหาขัดใจอีกสักร้อยพัน คุณก็จะรักษาความรักที่มีต่อกันไปจนถึงวันวิวาห์ได้แน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

เรียบเรียง : www.thespringsevents.com
ภาพ : www.brides.com, www.popsugar.com

keyboard_arrow_up