สำหรับสาว ๆ แล้วครีมกันแดดเป็นหนึ่งไอเท็ม ดูแลผิวสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย เพราะรังสียูวีจากแสงแดดเรียกว่าเป็นตัวการที่ทำร้ายผิว ทำให้ผิวเสื่อมโทรมและ บางคนยังต้องเจอกับฝ้า กระ ที่รักษาได้ยาก แถมในยุคนี้ ทุกคนมักจะใช้ชีวิตกับหน้าจอ ทำให้ต้องเผชิญกับอีกหนึ่งตัวการอย่างแสงสีฟ้าจากโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ อย่างเลี่ยงไม่ได้ ใครที่กำลังกังวลว่าตอนนี้ผิวหน้าโดนทำร้ายไปมากเท่าไหร่แล้ว อย่างบอกว่าเบาใจได้เลย เพราะ Heliocare 360 Fluid Cream (เฮลิโอแคร์ 360 ฟลูอิดครีม) ผลิตภัณฑ์เวชสำอางกันแดดประสิทธิภาพสูงสัญชาติสเปนที่จะมาช่วยดูแลผิวหน้าของคุณให้สวยครบจบในหลอดเดียว มาดูความเจ๋งกันเลย!

ด้วยความรักอิสระและเคารพตัวเองของผู้หญิงยุคใหม่ทำให้พวกเธอมักจะเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุด เพื่อออกจากข้อจำกัดเดิม ๆ และเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ การมองหาผลิตภัณฑ์กันแดดสักตัวก็ต้องมาช่วยเติมเต็มความสวยของพวกเธอได้ดีที่สุดเช่นกัน ซึ่งคุณสมบัติของ Heliocare 360 Fluid Cream ถือว่าเป็นมากกว่าครีมกันแดดด้วยประสิทธิภาพและจุดเด่นที่แตกต่างอย่างเหนือชั้นจากครีมกันแดดที่เคยมีมาในท้องตลาด โดยนำศิลปะการผสมผสานระหว่างคุณสมบัติของครีมกันแดดชนิด Physical และ Chemical ร่วมกับ Antioxidants และ Anti-aging agents ประสิทธิภาพสูง ทั้งยังเป็นกันแดดที่มีเนื้อครีมละเอียด บางเบา ซึมง่าย สบายผิว กระจายตัวได้ดีด้วย Galenic Technology ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการครีมกันแดด ที่สามารถปกป้องและฟื้นฟูผิวได้เหนือกว่า

โดยความพิเศษของ Heliocare 360 Fluid Cream ที่ต้องบอกว่าไม่เคยมีในครีมกันแดดตัวไหนมาก่อนและเป็นคุณสมบัติหลักที่ไม่เหมือนใครอย่าง นวัตกรรม Fernblock® Technology เทคโนโลยีลิขสิทธิ์ จาก Heliocare ที่ถูกคิดค้นโดยทีมงานของ Dr. Fitzpatrick (Founder of Modern Dermatology) บิดาของ วิทยาการแพทย์ผิวหนังสมัยใหม่จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งได้รับการยอมรับในวงการแพทย์และมีงานวิจัย ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์กว่า 60 ฉบับ

สิริมาส ศรีวัฒนา กรรมการบริหาร บริษัท สกินโนวา จำกัด กล่าวว่า “สกินโนวา ดำเนินงานในประเทศไทยมาแล้วกว่า 10 ปี ที่ผ่านมาเราคือผู้เชี่ยวชาญและเป็นผู้นำในการส่งมอบผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่ดีที่สุด เพราะเราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้ทุกคนได้ออกไปใช้ชีวิตเผชิญโลกได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลกับการพบเจอแสงในชีวิตประจำวันที่จะมาทำร้ายผิว Heliocare 360 Fluid Cream จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราภูมิใจนำเสนอ โดยจุดเด่นของครีมกันแดดนี้คือสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้ครบทุกรังสี พร้อมด้วยคุณสมบัติ ในการต้านการเกิดอนุมูลอิสระ ช่วยลดจุดด่างดำและริ้วรอยที่เกิดจากแสงแดด และปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงเลือกสรรค์ Heliocare 360 Fluid Cream เข้ามาวาง

จำหน่ายในประเทศไทย เพราะมีคุณสมบัติที่เหมาะกับหนุ่มสาวยุคใหม่วัยทำงานที่ต้องเจอทั้งแสงแดด แสงไฟ แสงคอมพิวเตอร์ แสงมือถือ   (High Energy Visible Light) และความร้อนจากอินฟราเรด

มารู้จัก Fernblock® Technology นวัตกรรมสุดล้ำที่มีเฉพาะในผลิตภัณฑ์จาก Heliocare 

Fernblock® Technology เป็นเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่ได้จดลิขสิทธิ์เป็นของแบรนด์ Heliocare ถูกคิดค้นโดยทีมแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการพัฒนากลไกการป้องกันแสงแดดด้วยตัวเอง โดยมีประสิทธิภาพที่น่าสนใจดังนี้

• ปกป้องแสงแดดได้แบบ Full Spectrum เป็นครีมกันแดดหนึ่งเดียวในโลกที่มีสามารถปกป้องอันตรายจากแสงแดดได้อย่างครอบคลุมทุกรังสี ไม่ว่าจะเป็นรังสียูวีเอ ยูวีบี แสงจากมือถือและคอมพิวเตอร์ และรังสีอินฟราเรดจากไมโครเวฟ
• Photoimmunoprotection คุณสมบัติที่โดดเด่นในการปกป้องผิวหนังให้มีความแข็งแรงดูแลเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ลึกล้ำถึงระดับใต้ผิวหนัง
• ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง ซึ่ง Fernblock® ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าสารต้านอนุมูลอิสระจากแหล่งอื่น ๆ และสามารถต้านความชราอันเกิดจากแสงแดดเป็นตัวกระตุ้น
• ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย และมีคุณสมบัติในการลดรอยแดงในผิวหนังที่ถูกทำลายโดยแสงแดด
• ช่วยลดจุดด่างดำ และยังมีความสามารถในการปกป้องผิวจากมลภาวะและฝุ่น PM 2.5 

คุณสมบัติของ Heliocare 360 Fluid Cream

• ครีมเนื้อนุ่ม ซึมง่าย ให้ความรู้สึกสบายผิว และช่วยให้ผิวดูสว่าง กระจ่างใส
• เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ถึงผิวแห้ง   
• มี SPF50+ PA++++ 
• มีสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เช่น วิตามินซี และสารสกัดชาเขียว     
• ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
• ไม่มีพาราเบนหรือสารกันเสีย

มาถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่าหลายคนคงร้องว้าวให้กับความล้ำและความเป็นมากกว่าครีมกันแดดของ Heliocare 360 Fluid Cream อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นกันแดดหนึ่งเดียวในโลกที่ครบ 360 องศา ปกป้องผิวได้ครบจบในหลอดเดียวแล้ว ยังมีงานวิจัยระดับโลกรับรองอีกด้วย นอกจากนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ Heliocare 360 ยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้เลือกใช้ อาทิ

• Heliocare 360 Fluid Cream (SPF50+ PA++++) กันแดดเนื้อครีมบางเบาให้ความรู้สึกสบายผิว เหมาะสำหรับผิวธรรมดา – ผิวแห้ง เนื้อครีมเกลี่ยง่ายไม่เหนอะหนะ ขนาด 50ml ราคา 1,450 บาท
• Heliocare Ultra Gel SPF90 (SPF50+) กันแดดเนื้อเจลซึมซับสู่ผิวได้อยางง่ายดายเหมาะสำหรับผิวผสมและผิวมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ขนาด 50ml ราคา 1,350 บาท
• Heliocare Advanced Spray (SPF50) กันแดดแบบสเปรย์บางเบาและซึมซับสู่ผิวได้ง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับใช้กับผิวกาย ขนาด 200 ml ราคา 1,250 บาท
• Heliocare COLOR Cushion Compact (SPF50+) คุชชั่นเนื้อบางเบาที่มาพร้อมคุณสมบัติในการปกป้องแสงแดดได้ในทุกรังสี เหมาะกับทุกสภาพผิวและสีผิว ใช้แล้วหน้าไม่ลอยแถมยังสามารถ กันน้ำได้อีกด้วย ขนาด 15 กรัม ราคา 1,600 บาท

อยากมีของดีไม่ต้องรอช้าตามไปช้อปกันได้เลยที่ ใน Watsons ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ และสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญสำหรับผลิตภัณฑ์ Heliocare ได้ที่โรงพยาบาลและคลินิกความงามชั้นนำทั่วประเทศ
ติดตามข้อมูลข่าวสารดี ๆ จาก Heliocare ได้ที่
Facebook Page : Heliocare TH
Line : @heliocare-endocare
IG : heliocareendocareth

จากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจโดยรวมแล้วยังสร้างปัญหาทุพโภชนาการให้แก่เด็กยากจนพิเศษราว 100,000 คน ทั่วประเทศ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จับมือกับภาคเอกชน ร่วมลงมือทำแคมเปญ “มื้อนี้พี่เลี้ยง” ซึ่งเป็นแคมเปญระดมทุนภายใต้โครงการพัฒนาระบบอาหารเพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ให้แก่เด็กยากจนพิเศษ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านโภชนาการในระยะยาวให้แก่เด็กยากจนพิเศษทั่วประเทศ เพื่อให้โรงเรียนสามารถจัดหาอาหารเช้าที่ถูกหลักโภชนาการให้กับนักเ
รียนยากจนพิเศษซึ่งกำลังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

แคมเปญ CSR ที่ชวนให้บริจาคด้วยวิธีการ

ที่แตกต่างที่ผ่านมาเราได้เห็นภาคเอกชนต่าง ๆ ออกมาทำแคมเปญ CSR ในรูปแบบต่าง ๆ มากมายแต่โดยส่วนใหญ่จะเห็นการมุ่งเน้นไปที่การจัดกิจกรรมลงพื้นที่ไปช่วยเหลือชุมชนต่าง ๆ แต่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจจะไม่เหมาะในการทำโครงการ CSR แบบเดิมได้ ในขณะที่ยังมีเด็กๆ อีกหลายชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้อยู่ในสภาวะทุพโภชนาการ และกำลังรอการช่วยเหลือ แคมเปญ “มื้อนี้พี่เลี้ยง” จึงเกิดขึ้นภายใต้โจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดการบริจาคหรือแบ่งปันมื้ออาหารให้น้อง ๆ เหมือนเรากำลังเลี้ยงข้าวเพื่อน แฟน หรือครอบครัวอย่างเต็มใจ

ร้าน “ทุพโภชนาการ” ในแอปพลิเคชัน GrabFood

การสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันถือเป็นวิถีชีวิตของคนในยุคปัจจุบันไปแล้ว โดยเฉพาะในช่วงล็อคดาวน์ บริษัท แกร็บ ประเทศไทย จำกัด เป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่ร่วมมือกับ กสศ.ในการเปิดร้าน “ทุพโภชนาการ” ในแอปฯ GrabFood ซึ่งเป็นร้านอาหารเสมือนจริง (Virtual Store) ฉีกรูปกฏการทำ CSR ในแบบเดิม ๆ ด้วยการใช้ครีเอทีฟไอเดียมาใช้ในการเปิดช่องทางการรับบริจาคให้กับ
โครงการ “มื้อนี้พี่เลี้ยง” ให้ผู้บริโภคใจบุญที่กำลังมองหาร้านอาหารที่ถูกใจในแอปฯ และอยากจะเลี้ยงอาหารน้อง ๆ เด็กยากจนพิเศษ สามารถกดสั่งเพื่อเปลี่ยนเมนูอาหารที่เด็ก ๆ กลุ่มนี้รับประทานเป็นประจำซึ่งมีสารอาหารไม่ครบถ้วนให้เป็นมื้อเช้าที่ถูกหลังโภชนาการแทน นับเป็นการสื่อสารแคมเปญ CSR ที่ไม่มีแบรนด์ไหนเคยทำมาก่อน ซึ่งนอกจากจะช่วยเปลี่ยนมื้อ “อด” ของน้อง ๆ ให้เป็นมื้ออิ่ม แล้วยังให้ลูกค้าของ Grab สามารถแบ่งปันน้ำใจผ่านช่องทางการบริจาคเงินให้กับทางกสศ. เพื่อช่วยเหลือสังคมได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย

เมนูพิเศษเพื่อเด็กยากจนพิเศษจาก เกรฮาวด์ คาเฟ่

หากเรามีโอกาสได้สั่งข้าวเลี้ยงน้อง ๆ เด็กยากจนพิเศษในร้านอาหารดี ๆ สักมื้อคงจะดีไม่น้อย แค่เดินเข้าร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่ก็ทำได้เลย เพราะบริษัท เกรฮาวด์ คาเฟ่ จำกัด เป็นอีกหนึ่งในภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมระดมทุนกับกสศ. ในแคมเปญ“มื้อนี้พี่เลี้ยง”

ด้วยการทำเมนูพิเศษให้ผู้ที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านสามารถเลือกสั่งเมนูพิเศษนี้ เพื่อสมทบทุนมื้อเช้าให้แก่เด็กยากจนพิเศษ
เมื่อลูกค้าสั่งอาหารจากเมนูพิเศษดังกล่าว พนักงานเสิร์ฟจะนำจานอาหารเปล่าพร้อมแนบคำขอบคุณจากน้อง ๆ มาเสิร์ฟให้ผู้ร่วมบริจาคถึงโต๊ะ เป็นกิมมิคน่ารัก ๆ ที่ทุกคนต้องประทับใจ

ทิศทางการทำ CSR รูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องลงทุนเยอะแต่ใช้แค่ไอเดียในการนำเสนอ

การทำ CSR ของ GrabFood และ เกรฮาวด์ นับเป็นการปรับตัวของแบรนด์ในรูปแบบใหม่ในการสื่อสารและทำกิจกรรมเพื่อสังคมโดยไม่ต้องใช้การลงทุนมาก และเป็นการใช้ไอเดียที่น่าสนใจเข้ามานำเสนอและดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ทั้งยังสามารถสร้างการจดจำให้กับลูกค้าของแบรนด์ได้อย่างดีอีกด้วย นับเป็นการปรับเปลี่ยนเทรนด์ในการทำ CSR ที่สามารถตอบโจทย์สถานการณ์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ซึ่งในอนาคตเราอาจจะเห็นแบรนด์อื่น ๆ ออกมาสื่อสารแคมเปญเพื่อสังคมในรูปแบบที่แตกต่างออกไปกันมากขึ้น
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ยากจนพิเศษจำนวน กว่า 100,000 คนทั่วประเทศ ในโครงการ #มื้อนี้พี่เลี้ยง กับกสศ. ผ่าน GrabFood และ เกรฮาวด์ คาเฟ่ หรือบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี : กสศ.มาตรา 6(6) เลขบัญชี: 172-0-30021-6 หรือ www.eef.or.th หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-079-5475

ปฐม เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิว แบรนด์ไทยออร์แกนิกครบวงจร

ปฐมออร์แกนิกลีฟวิ่ง (Patom Organic Living) ภายใต้การบริหารงานจากทายาทรุ่น 3  ของสวนสามพราน จัดงาน “Patom traceable organic products, supporting community partnership”  เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ดูแลเส้นผมและผิว แบรนด์ไทยออร์แกนิกครบวงจร ที่ผสมผสานภูมิปัญญาไทย เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง โดยมีแหล่งวัตถุดิบออร์แกนิกจากเกษตรกร ผู้ปลูกอินทรีย์ในโครงการสามพรานโมเดล และในพื้นที่ของสวนสามพราน ที่ได้รับมาตรฐาน IFOAM EU และ CANADA

ปฐม มีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกหลายชนิดด้วยกัน เช่น

1. แชมพู และครีมนวดผม ออร์แกนิก กลิ่นไลม์ & เลม่อนกลาส มีคุณสมบัติโดดเด่น จากน้ำมันหอมระเหยตะไคร้และน้ำมันหอมระเหยมะนาว ซึ่งมีคุณสมบัติ ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อบนหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ชะลอการเกิดผมหงอก มีส่วนผสมของน้ำใบย่านาง น้ำมันมะพร้าว น้ำกลั่นมะกรูด และวิตามินบี5 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เส้นผมและทำให้ผมแข็งแรงเงางาม
2. ชาวเวอร์เจล ออร์แกนิก กลิ่นไลม์ & เลม่อนกลาส เจลอาบน้ำสูตรอ่อนโยนที่อุดมไปด้วยน้ำมันมะพร้าว มีวิตามิน E จากธรรมชาติ ช่วยบำรุงให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ผสมด้วยสารสกัดโหระพา สารสกัดมะระ น้ำกลั่นจากผิวมะนาว ที่มีสรรพคุณลดการอักเสบและคลายกล้ามเนื้อของผิว พร้อมคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความชรา โดยกลิ่นหอมของเจลยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายความเหนื่อยล้า
3. บอดี้ โลชั่น ออร์แกนิก กลิ่นไลม์ & เลม่อนกลาส มีคุณสมบัติโดดเด่น ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของผิว และช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น มีวิตามิน E3 จากธรรมชาติเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิว ลดริ้วรอย กระตุ้นให้ผิวกระจ่างใส อีกทั้งยังได้ส่วนผสมของนำมันรำข้าว ช่วยปรับสภาพผิวให้มีความยืดหยุ่น และส่วนผสมของ Allantoin ช่วยลดการระคายเคือง เสริมด้วย Shea Butter ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว

โดยภายในงานครั้งนี้ได้จัดกิจกรรม Workshop ทำผลิตภัณฑ์และร่วมทดลองผลิตภัณฑ์ ออร์แกนิกของปฐม ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน และเหล่าเซเลบริตี้เป็นอย่างดี เช่น เจนสุดา ปานโต / พีช-สิตมน ผลดี / เปิ้ล-จริยดี และเจย์ สเปนเซอร์ /  จ๋า-สิตาวีร์ คงธนะ / ปอนด์-หฤทัย ไชยยันต์ ณ อยุธยา /   พิมพยัพ ศรีกาญจนา /  จุ๋ย-จรสพรรณ     สวัสดิวัตน์ และอีกมากมาย โดยมี อนัฆ นวราช ผู้อำนวยการ  Patom Organic Living กล่าวให้การต้อนรับและพูดคุยภายในงานครั้งนี้  ณ ร้าน Patom Organic Living ซอยทองหล่อ 23

3% ของรายได้จากการจำหน่ายสินค้าทุกชนิด ปฐมมอบให้กับโครงการสามพรานโมเดล ภายใต้มูลนิธิสังคมสุขใจ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกอินทรีย์ และขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ โดยให้ความสำคัญกับนโยบายการค้าที่เป็นธรรม

เป้าหมายหลักขององค์กร (สวนสามพราน – สามพรานโมเดล – ปฐม) คือการสร้างสังคมอินทรีย์ จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ สามพรานโมเดล ได้ขับเคลื่อนต้นน้ำมากว่า 10 ปี ผ่านการทำเกษตรอินทรีย์ร่วมกับเกษตรกรในจังหวัดนครปฐม จังหวัดใกล้เคียง และภาคส่วนต่างๆ

ปัจจุบัน ปฐม ได้มีโอกาสร่วมสร้างสังคมอินทรีย์กับหลากหลายองค์กร อาทิ  PTT GC / Rakxa Wellness / Sukina / ชีวจิต / Thai Tafetta และ Scrap Lab คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์