แคทรีโอน่า เกรย์

เบื้องหลังความสำเร็จ ฟ้าใส ปวีณสุดา – แคทรีโอนา ในวันที่ไม่ต้องเป็นรองอีกต่อไป

Alternative Textaccount_circle
แคทรีโอน่า เกรย์
แคทรีโอน่า เกรย์

2 เพื่อนเลือดนักสู้ “ ปวีณสุดา ดรูอิ้น – แคทรีโอนา เกรย์ ” เผยประสบการณ์นางงามและเบื้องหลังความสำเร็จ ในวันที่ไม่ต้องเป็นรองอีกต่อไป

ปวีณสุดา

“ล้มเหลว” ถึงจะเป็นคำที่ฟังแล้วรู้สึกหดหู่ แต่หลายคนก็บอกว่าเพราะคำนี่แหละที่เป็นแรงผลักดันให้ก้าวต่อไปจนบรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งบุคคลระดับโลกหลายคนก็เคยผ่านความล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน อย่าง “วอลท์ ดิสนีย์” เคยถูกปฏิเสธงานมา 302 ครั้ง ก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ในขณะที่ “โทมัส เอดิสัน” กว่าที่เขาจะประดิษฐ์หลอดไฟสำเร็จ เขาต้องใช้ความพยายามถึง 10,000 ครั้ง รวมถึงนักเขียนชื่อดัง “สตีเฟ่น คิง” ที่เคยถูกปฏิเสธผลงานมากกว่า 30 ครั้ง ปัจจุบันนิยายของเขาขายได้ 50 เรื่องและถูกตีพิมพ์ซ้ำกว่า 350 ล้านฉบับ ซึ่งทั้งหมดทำให้เห็นภาพชัดว่า ความล้มเหลวในวันนี้ไม่ได้แปลว่าวันหน้าจะไม่ประสบความสำเร็จ

ปวีณสุดา

และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แพรวดอทคอมได้มีโอกาสสัมภาษณ์แบบ Group Interview กับ 2 สาวงาม หนึ่งคือตัวแทนแห่งจักรวาลปี 2018 “แคทรีโอนา เกรย์” Miss Universe 2018 และ “ฟ้าใส – ปวีณสุดา ดรูอิ้น” Miss Universe Thailand 2019 ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งสดๆ ร้อนๆ ซึ่งหากใครได้อ่านประวัติของทั้งสองคนก็จะทราบว่า เส้นทางสู่จักวาลของพวกเธอนั้นไม่ง่ายเลย อย่าง “แคทรีโอนา” ในการประกวด Miss World 2016 เธอฝ่าฟันเข้าไปถึงรอบ 5 คนสุดท้ายเท่านั้น ก่อนจะเป็นผู้ชนะในการประกวด Miss Universe 2018 ด้าน “ฟ้าใส” ก็เคยพบกับความผิดหวังมานับครั้งไม่ถ้วน เธอประกวด Miss Thailand Chinese Cosmos ได้ตำแหน่ง “รองอันดับ 2”, นางสาวไทย 2013 ได้ตำแหน่ง รองอันดับ 1, Miss Universe Thailand 2017 ได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 Miss Earth 2017 เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย แต่ในการประกวดล่าสุดไม่เหมือนเดิม เมื่อ“ฟ้าใส” ได้ครองตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2019 และเป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดเวทีนางงามจักรวาล ซึ่งเพจนางงามทั้งไทยและต่างประเทศยกให้เธอเป็นนางงามที่น่าจับตามอง

ปวีณสุดา

“ฟ้าใส” รู้สึกอย่างไรบ้างหลังจากที่ได้ตำแหน่ง?

ฟ้าใส : ตามตรงเลยยังรู้สึกช็อก ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่ามันเกิดขึ้นแล้ว ความฝันที่รอมานานมันเกิดขึ้นแล้ว มีความสุขมากๆ และขอบคุณกรรมการที่เลือกให้เป็น Miss Universe Thailand

ลุค “ฟ้าใส” ไม่เหมือนคนไทยจะแสดงความเป็นไทยออกมาให้ชาวโลกได้เห็นอย่างไร?

ฟ้าใส : สิ่งสำคัญคือเรารู้ว่าเราเป็นคนไทย คนไทยยอมรับความแตกต่างกันของแบ็คกราวของแต่ละคน การที่คนจะมองใบหน้าฟ้าใสว่าเป็นลูกครึ่งฝรั่งนั้นใครจะคิดอย่างไรก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือ “ฟ้าใส”รู้ว่าฉันเป็นคนไทยและ “ฟ้าใส”ก็มีความเป็นไทยอยู่ในหัวใจ เราสามารถที่จะเป็นตัวแทนของประเทศไทยของคนไทยเพื่อไปทำสิ่งที่ดีที่สุดที่มีความภาคภูมิใจที่สุดบนเวทีระดับโลก เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยได้อย่างแน่นอน

“แคทรีโอนา” รู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง?

แคทรีโอนา : รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาเมืองไทยอีก ที่นี่เป็นที่พิเศษมากๆ สำหรับฉัน ฉันนับวันรอที่จะได้กลับมา นี่เป็นครั้งที่ 6 แล้วที่ฉันได้กลับมาเมืองไทย

ปวีณสุดา

ในฐานะที่ “แคทรีโอนา”และเคยผ่านประสบการณ์บนเวที Miss Universe มาแล้ว คิดว่า “ฟ้าใส” มีอะไรที่ต้องปรับปรุงไหมเพื่อที่จะได้เป็น Miss Universe คนต่อไป?

แคทรีโอนา : ฉันคิดว่าการเป็นตัวแทนประเทศต้องรู้จักพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ถึงยากและเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก แต่ฉันรู้ว่า “ฟ้าใส” ทำเรื่องท้าทายนี้ได้ 100 % “ฟ้าใส” ทำการบ้านมาอย่างหนัก เพื่อความฝันที่เธอรอคอยมายาวนาน จุดนี้ฉันไม่มีข้อสงสัยอะไรเลย ว่าเขาเตรียมตัวได้ดีสำหรับการไปประกวด Miss Universe

คุณทั้งคู่รู้จักกันได้อย่างไร?

แคทรีโอนา : รู้จักกันตอนที่ “ฟ้าใส” ไปประกวด Miss Earth ที่ประเทศฟิลิปปินส์

ปวีณสุดา

ในฐานะที่คุณทั้งคู่เคยผิดหวังกับการประกวดมาก่อน แต่สุดท้ายก็มุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จอย่างที่ฝัน อยากบอกอะไรกับสาวงามรุ่นน้องที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้ไหม?

ฟ้าใส : “ฟ้าใส”ประกวดมาหลายเวทีมาก แต่ความฝันคือการเป็น Miss Universe Thailand เวลาที่ประกวดครั้งแรกและไม่ได้ แน่นอนต้องรู้สึกแย่เหมือนกัน มีความคิดเยอะมากว่า เราไม่ดีพอหรือเปล่า เราไม่สามารถที่จะทำตามฝันได้เหรอ แต่ก่อนที่จะกลับมาประกวด เราก็ได้ย้อนกลับไปค้นหาตัวเองว่าอะไรที่เป็นจุดเด่นของเรา ถ้าเราหาจุดเด่นของเราได้ปุ๊บ เราก็สามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้โดยที่ไม่กดดันว่าคนนั้นก็สวยคนนี้ก็ดี แน่นอนสำคัญที่สุดคือเราต้องรู้ว่าเรามาประกวดเพื่ออะไร ถ้าสมมติคุณมีความฝันจริง ก็ต้องกล้าที่จะลงมือทำ มุ่งมั่นต่อเป้าหมาย และไม่ย่อท้อเมื่อเจออุปสรรค เชื่อว่าคุณก็จะประสบความสำเร็จเหมือนกับ “ฟ้าใส”ในวันนี้

แคทรีโอนา :พวกเราหลายๆ คนโตขึ้นมากับความฝันและเราได้รับรู้ว่า บางสิ่งมันไม่ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก แต่ความฝันมันมีค่าพอให้เราทำตามมันต่อไป และฉันคิดว่ามันทำให้ฉันรู้ถึงความแตกต่างของความรู้สึกว่าทำไมเราถึงทำแบบนี้ มันทำให้เรารู้สึกถึงความกระหาย จะทำมันเพื่อหาว่าทำไมเราไล่ตามสิ่งที่เราเป็น เพราะว่าตามประสบการณ์ที่ได้รับ ทำให้คุณเรียนรู้และเปล่งประกายได้นั่นเอง

ปวีณสุดา


ขอบคุณ : TPN (ผู้จัดการประกวด)

แปลโดย : สิริกาญจน์ จักราสุไพรที

เรียบเรียง/ภาพ โดย : นนทพร สุทธิพิบูลย์

Praew Recommend

keyboard_arrow_up