สวยกราบ! กระเป๋า Hermès Himalaya แพงยืนหนึ่ง ใครกันนะเป็นเจ้าของบ้าง

account_circle

สุดยอด กระเป๋า Hermès Himalaya แพงหูฉี่ แพงยืนหนึ่ง กระเป๋าหนังจระเข้สุดหรูนี้มีดีอย่างไร แล้วใครกันเป็นเจ้าของกระเป๋าใบละ 3-11 ล้าน นี้กันบ้างนะ

ขึ้นชื่อว่าแอร์เมส สาวๆ หลายคนคงรู้ดีว่าแต่ละไอเท็มของแบรนด์นี้แพงหูฉี่ขนาดไหน โดยเฉพาะกระเป๋ารุ่น Birkin และ Kelly ซึ่งหากคุณจะถอยออกจากช็อปโดยตรงจะต้องเป็นท็อปสเปนเดอร์ เป็นลูกค้า VIP หรือ ยอดมีใช้จ่ายจากแบรนด์ที่สูงประมาณหนึ่ง

ความยากในการซื้อกระเป๋าหนึ่งใบจากช็อปนั้นไม่ง่ายเลยใช่ไหมล่ะ และยิ่งเป็นกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอย่าง กระเป๋า Hermès Himalaya ที่จัดว่าเป็นกระเป๋าหายากและแพงที่สุดด้วยแล้วล่ะก็ ถ้าไม่ใช่ VIP ระดับ เจมี ฉัว ที่มี 200 กว่าใบเห็นทีจะยากในการซื้อ เพราะคุณอาจจะต้องรอคิวเป็นเดือนๆ หรือเป็นปีก็มี แม้คุณจะมีเงินมากพอที่จะซื้อมันก็ตาม

 กระเป๋า Hermès Himalaya

ทั้งนี้ในปี 2017 ที่ผ่านมา Hermès Himalaya ได้สร้างสถิติ โดยมีการประมูลจากคริสตี้สูงถึง 13 ล้านบาท โดยฮิมาลายาใบนี้ทำมาจากหนังจระเข้ที่เลี้ยงดูมาอย่างพิเศษ ลิ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม เดินอยู่บนหินอ่อน (จริงๆ จระเข้ที่นำหนังมาทำกระเป๋าของแอร์เมสเลี้ยงบนหินอ่อน ถูกแยกบ่อทุกตัว) มีการนำมาปรับแต่งสีให้เหมือนเทือกเขาหิมาลายา ด้านหน้าตรงตัวล็อกกระเป๋าทำจากทองคำขาว 18 กะรัต ประดับด้วยเพชรจำนวน 205 เม็ด มันว้าวววววตรงนี้ล่ะค่าาาาคุณ

แต่ใช่ว่าทุกใบจะราคา 10 ล้านอัพหมดนะ จริงๆ แล้ว กระเป๋า Hermès Himalaya ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ $100,000 (3 ล้านบาท) ไปจนถึง $380,000 (11 รุ่นที่แพงๆ ส่วนมากก็จะประดับเพชร เป็นใบหายาก และถูกนำมาประมูลซะส่วนใหญ่

อยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะว่า สาวๆ คนไหนเป็นเจ้าของ Hermès Himalaya กันบ้าง แพรวดอทคอมลิสต์มาให้คุณๆ ดูกันแล้วค่ะ

 กระเป๋า Hermès Himalaya

ใครจะคิดว่ากระเป๋าแพงใบเป็นล้านจะใส่กับชุดออกกำลังกายไม่ได้ เจนนิเฟอร์ โลเปซ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ฮิมาลายาก็ทำได้จ๊ะ

 กระเป๋า Hermès Himalaya

มากันที่ขุ่นแม่วิคตอเรีย เบ็คแฮม ยืนหนึ่งเรื่องแฟชั่น เป็นคุณแม่ลูก 4 ที่เป็นไอคอนสไตล์และเป็นแบบอย่างของผู้หญิงทั่วโลก ว่ากันว่าวิคตอเรียมีเบอร์กิ้นกว่า 100 ใบ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า $2 ล้านเหรียญสหรัฐ และหนึ่งในนั้นคือ แอร์เมส รุ่น ฮิมาลายา ประดับเพชร!!!

นิต้า อัมบานี

 กระเป๋า Hermès Himalaya

มากันที่ นิต้า อัมบานี ภรรยาของ มูเกซ อัมบานี มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในอินเดีย ติดอันดับ 2 ในเอเชีย แน่นอนล่ะว่ารวยขนาดนี้ จะใช้แอร์เมสเป็นพันๆ ใบ ก็คงไม่แปลกใจ ซึ่งเธอยังเป็นแฟนตัวยงของแอร์เมส ที่เลือกใช้กระเป๋าแบรนด์นี้เป็นประจำ และนิต้าก็มักจะหยิบกระเป๋าแอร์เมส ฮิมาลายา ประดับเพชร มาแมชต์กับลุคเรียบง่ายเพื่อไปทานข้าวกับเพื่อนๆ (ถือกระเป๋าใบสิบล้านไปทานข้าวกลางวัน เริ่ดไปอี้กกกก)

ทามารา เอคเคิลสโตน

ทามารา เอคเคิลสโตน ไฮโซสาว ทายาทฟอร์มูล่า 1 เป็นที่รู้จักกันดีในรายการทีวีเรียลลิตี้ของสหราชอาณาจักรรวมถึง Tamara’s World และ Tamara Ecclestone: Billion $$$ Girl เธอเป็นแฟนตัวยงของ Hermès ที่มีคอลเล็คชั่น เบอร์กิ้น กว่า 30 ใบ ไม่รวมกับ ฮิมาลายา ประดับเพชร ลูกรักใบใหม่ของเธอ แม้จะผ่านเรื่องน่าตกใจ โดยเมื่อเร็วๆ นี้เธอถูกโจรขึ้นบ้านกวาดทรัพย์สินไป โดยเฉพาะเครื่องประดับหรูมูลค่ารวมกว่า £50 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 2 พันล้านบาท แต่สุดท้ายก็ได้คืนมาแม้จะไม่ครบก็ตาม แต่ขอบอกว่าแอร์เมสยังอยู่ดี

เจมี ฉัว 

ไม่พูดเยอะเจ็บคอ สำหรับ มาดามเจมี ฉัว เศรษฐีนีแห่งสิงคโปร์ ที่มีกระเป๋าแอร์เมสกว่า 200 ใบ เยอะกว่าทุกช็อปมามัดรวมกัน หากกวาดตามองตู้เสื้อผ้าขนาด 700 ตารางฟุต จะพบว่าเธอมีกระเป๋าแอร์เมสนับไม่ถ้วน ละลานตาไปด้วย เบอร์กิ้น และ เคลลี่ ทุกสีสัน ทุกขนาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นหิมาลายาที่มีถึง 3 ใบ หนึ่งในนั้นคือรุ่นประดับเพชรซึ่งมีทั้ง Himalaya Birkin และ Himalaya Kelly สมกับเป็นเจ้าแม่แอร์เมสจริงๆ

คริส เจนเนอร์ / ไคลีย์ เจนเนอร์

พูดถึงเรื่องการใช้เงินแบบไม่แคร์สิ่งใดๆ ก็คงต้องยอกให้กับครอบครัว เจนเนอร์ โดยเฉพาะคุณแม่คริส และ สาวไคลีย์ สองแม่ลูกที่ชื่นชอบกระเป๋าแอร์เมสเป็นอย่างมาก แน่นอนล่ะว่าฮิมาลายาก็เป็นหนึ่งในคอลเล็คชั่นแอร์เมสของพวกเธอ

สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด  แม่อุ๊ มณฑ์ลัชชา สกุลไทย และ ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ 2 สาวเซเลบริตี้ไทยที่เราแอบเห็นทั้งคู่มีแอร์เมส ฮิมาลายา เช่นกัน

สำหรับแม่อุ๊นั้นเคยทำคลิปแชร์ประสบการณ์ซื้อ Hermes Himalaya ที่ลอนดอน กับน้องพะเพื่อน ลูกสาว ซึ่งในคลิปแม่อุ๊ก็เล่าว่าแม้ตอนนั้นจะไม่ได้มา แต่สุดท้ายพอกลับไทยก็ขอสนองความต้องการของตัวเองจัด Hermes Kelly Himalaya มาในราคาใบละ 3,xxx,xxx บาท

 กระเป๋า Hermès Himalaya

นอกจากนี้แม่อุ๊ยังมี Hermes Birkin Himalaya ไซส์ 30 ซึ่งใบนี้เธอบอกว่าหวงมากกกกกกกกกก และ รักมากกกกกกก จริงๆ

 กระเป๋า Hermès Himalaya

ด้าน ม.ล.พลอยนภัส ลีนุตพงษ์ ก็เป็นอีกหนึ่งเซเลบริตี้ไทยที่มีกระเป๋าแอร์เมสที่เยอะมากไม่แพ้กัน แน่นอนล่ะว่าหนึ่งในนั้นคือ Birkin Himalaya ไซส์ 28 แต่แอร์เมสที่เธอรักมากกก ชอบมากก เห็นจะเป็น แอร์เมส รุ่น Kelly Doll ที่มีถึง 4 ใบ เห็นใบจิ๋วๆ แบบนี้ใบละเกือบครึ่งล้าน เจ้าสีม่วงเท้าเขียวนั้นใบละเกือบล้านนะคุณ

CR : www.upsize.ph

ปิดท้ายกันที่ Drake เจ้าพ่อฮิปฮอป ที่ซื้อกระเป๋าแอร์เมสเก็บไว้ให้กับศรีภรรยาในอนาคต โดยกระเป๋าที่เดรคซื้อสะสมมานั้นมีเป็นร้อยๆ ใบ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือฮิมาลายาจ้าาาาา รับสมัครภรรยาไหมพ่อเอ้ยยยยย


CR : pursebop, @au_skulthai, @kwan_sharich

#ชื่อมันต้องมี เปิดโพย Hermès Guides แล้วจะรู้ว่ากระเป๋าดังไม่ได้มีแต่ Birkin และ Kelly!

คัลเลอร์โทนขายดี! 12 สียอดนิยมของ กระเป๋า Hermès Birkin ที่ใครเห็นเป็นต้องเลือก

สวยจนเลือกไม่ถูก! 12 เฉดสีขายดีของ กระเป๋า Hermes Birkin ที่ไม่ควรพลาด

 

 

 

 

 

 

เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน สร้างความมั่นใจได้ทุกวัน

เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน สร้างความมั่นใจได้ทุกวัน

Alternative Textaccount_circle
เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน สร้างความมั่นใจได้ทุกวัน
เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน สร้างความมั่นใจได้ทุกวัน

ง่ายและเห็นผลที่สุดเมื่อต้องการปรับอารมณ์ให้สดใสคือการใช้ น้ำหอม ปลดล็อกออกมาก็เจออากาศร้อนจัด น้ำหอมที่ใช้จึงควรเป็นกลิ่นที่สดชื่น สะอาด มีความโปร่งเบาไม่ชวนให้ถอยหนี ขอเลือก 6 กลิ่นนี้เป็นตัวแทนความสดใส เบาๆ เข้าใจง่าย ปลอบประโลมใจให้พร้อมสู้ใหม่ ไม่ว่าข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไร กลิ่นหอมจะช่วย เยียวยาจิตใจให้เรื่องหนักๆ นั้นเบาลง

เติมเสน่ห์ด้วย 6 น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน สร้างความมั่นใจได้ทุกวัน

เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน
BVLGARI Allegra

BVLGARI Allegra

กลิ่นหอมระดับไฮเอนด์ที่พร้อมเปิดประสบการณ์ให้สาวๆ มิกซ์สนุกในเอกลักษณ์ของตนเอง ให้หอมสนั่นแบบกลิ่นไม่ซ้ำซากจำเจ มาในคอนเซ็ปต์ Your Personalized Fragrance ให้สามารถสร้างกลิ่นที่แมตช์กับอารมณ์และคาแร็คเตอร์ของตัวเองในแต่ละวันได้ โดย Bvlgari Allegra ประกอบด้วยน้ำหอมทั้งหมด 5 กลิ่น ซึ่งมาเป็นขวดที่มีสีสันจะเรียกว่า Eaux De Parfum ประกอบด้วยกลิ่น Riva Solare, Dolce Estasi, Fiori D’Amore, Rock’N’Rome และ Fantasia Venteta

ส่วนขวดสีขาวเป็นกลิ่นสำหรับใช้ฉีดผสมกับกลิ่นหลัก เรียกว่า Magnifying Essence ทำหน้าที่ปรับ Eaux De Parfum ให้ตรงกับอารมณ์ในแต่ละวันของเรา โดยใช้ส่วนผสมที่คัดสรรอย่างประณีตและเป็นอัญมณีที่แท้จริงจากธรรมชาติ ซึ่งทั้ง 5 เอสเซ้นส์ ได้แก่ Magnifying Musk, Magnifying Bergamot, Magnifying Rose, Magnifying Vanilla และ Magnifying Patchouli ประกอบด้วยส่วนผสมที่ล้ำค่าที่มีความเข้นข้นสูงจากการเก็บเกี่ยวที่ดีที่สุด ผ่านกระบวนการของ Cavallier ที่ประณีต ส่วนผสมแต่ละชนิดเผยให้เห็นแง่มุมที่ยอดเยี่ยมด้วยการรังสรรค์กลิ่นแปลกใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ถือเป็นไอเดียสุดเก๋ที่ทำให้การฉีดน้ำหอมของสาวๆ พิเศษและเพิ่มเสน่ห์เกินต้านมากขึ้นกว่าที่เคย

เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน
FLOWER BY KENZO Poppy Bouquet, Eau de Parfum Florale

FLOWER BY KENZO Poppy Bouquet, Eau de Parfum Florale

กลิ่นหอมมีความเรียบง่าย คงไว้ถึงความรู้สึกของกลิ่นดอกไม้ขวดเก่าเพิ่มลูกเล่นด้วยช่อดอกป๊อบปี้สีชมพูสด ในขวดแก้วสูงเพรียวอันโค้งมน ชวนให้รัญจวนใจมากยิ่งขึ้น เป็นน้ำหอมแนวฟลอรัลที่มีเอกลักษณ์ความหอมเฉพาะตัว สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นและรากเหง้าอันฝังลึกได้อย่างแท้จริง ด้วยความหอมชุ่มฉ่ำของ ลูกแพรนาชิ, ดอกกุหลาบบัลแกเรีย, ดอกมะลิ และดอกการ์ดีเนีย เพิ่มความหอมละมุน เปลือกไม้อัลมอลด์ รวมตัวเป็นพลังของความหอมแห่งแมกไม้นานาพรรณสู่ความหอมเหนือกาลเวลาในแบบฉบับของ FLOWER BY KENZO Eau de Parfum ที่มิอาจลืมเลือน

เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน
GUCCI Guilty Eau de Toilette Pour Femme

GUCCI Guilty Eau de Toilette Pour Femme 

กลิ่นหอมสดชื่นและเปล่งประกายจากมวลหมู่ดอกไม้นานาพรรณ ที่พร้อมเปิดสุนทรีย์แห่งความหอมของกลิ่นแรกจากส้มแมนดาริน ผสมกับพริกไทยสีชมพู ที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา ตามด้วยกลิ่นถัดมาจากดอกไลแลค ผสานกลิ่นของผลไม้อย่างลูกพีช และราสเบอร์รี่ อีกทั้งกลิ่นหอมของดอกเจอเรเนียมอียิปต์ สร้างความหอมที่ละเอียดอ่อนอย่างลงตัว ก่อนปิดท้ายด้วยกลิ่นพิมเสน และอำพัน นำไปสู่ความรู้สึกที่อบอุ่นและนุ่มนวล สะท้อนถึงความหอมรัญจวนใจ และในส่วนดีไซน์ขวดน้ำหอม Gucci Guilty ใหม่นี้ นำไปสู่รหัสใหม่ที่แสดงถึงผู้หญิงที่ทรงเสน่ห์ ด้วยรูปทรงเรียวสูง ดูสง่างาม หรูหรามีระดับ เลือกใช้ขวดแก้วเนื้อหนาพิเศษสีโรสโกลด์เมทัลลิค เพิ่มความโดดเด่นให้ดูทันสมัยด้วยสีเมทัลลิคใหม่ที่เข้ากับฝาขวดอย่างลงตัว ทั้งยังโปร่งแสงเผยให้เห็นถึงน้ำหอมสีชมพูที่อยู่ภายใน บรรจุอยู่ในกล่องสีดำประดับโลโก้ interlocking G สีโรสโกลด์ของแบรนด์

เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน
CALVIN KLEIN Eternity Eau Fresh For Her EDP

CALVIN KLEIN Eternity Eau Fresh For Her EDP

กลิ่นหอมชวนคลายร้อนที่ออกแบบจากบรรยากาศสุดโรแมนติกในสวนดอกไม้ที่กำลังผลิบาน กลิ่นของ CK Eternity แม้จะมาในแนวกลิ่นดอกไม้สุดโรแมนติก แต่ก็ให้ความรู้สึกโมเดิร์น เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ไม่วินเทจ กลิ่นท็อปโน้ตที่เปิดตัวด้วยความสดชื่นของกลิ่นผลไม้อย่างแพร์ ตามด้วยกลิ่นหอมที่ผสมผสานระหว่างมะลิ การ์ดิเนีย กุหลาบ และพีโอนี มอบความรู้สึกสดใส ผ่อนคลาย ทำให้นึกถึงช่วงเวลาดีๆ ส่วนแพ็คเกจถูกตีความให้สดใหม่มาในทรงสูงดูเท่ น้ำหอมสีชมพูอ่อนที่ดูหวานสดใสและกลมกลืนไปกับตัวอักษรสีเทา

เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน
DIOR J’ADORE Eau de parfum infinissime

DIOR J’ADORE Eau de parfum infinissime

สมาชิกใหม่ในตระกูล J’adore Infinissime คือแนวกลิ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้ ความพิเศษของน้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุดนี้มีส่วนผสมดอก Tuberose ที่เก็บเกี่ยวได้เฉพาะในเวลากลางคืน ทำให้ได้กลิ่นหอมเย้ายวนกว่าที่เคย เมื่อผสมผสานกับจัสมินที่มีความหวานอยู่แล้ว กลิ่นจึงออกมาหอมหวานละมุนมากน่าหลงใหล และดึงดูดความหรูหราด้วยขวดนํ้าหอมที่เรียกว่า แอมโฟร่า โค้งเว้าดั่งเรือนร่างผู้หญิง ยิ่งไปกว่านั้นนํ้าหอมยังเป็นสีทองประกายเจิดจรัส จึงเป็นที่มาในไอคอนเด่นของ J’adore ที่สร้างคาแร็คเตอร์ให้แฟนคลับ J’adore ทุกคนเช่นกัน

เติมเสน่ห์ด้วย 6 ลิสต์น้ำหอม ปรุงกลิ่นกายให้หอมละมุน
DIPTYQUE Orphon

DIPTYQUE Orphon

กลิ่นหอมที่ได้แรงบันดาลใจจากสถานที่พบปะสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อนรักผู้ก่อตั้งแบรนด์ ณ บาร์ ลับๆ ในย่าน Latin Quarter ของปารีส ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยบรรยากาศการรวมตัวของศิลปิน นักคิด นักเขียน ไปจนถึงดาราดังที่มาแชร์ความคิดกันอย่างเสรีออกรสออกชาติ กลิ่นหอมนี้จึงมีความยูนีคไม่ซ้ำใคร ทั้งกลิ่นของ Juniper Berries ที่เป็นตัวแทนของเครื่องดื่มรสชุ่มฉ่ำ กลิ่นอายของซิก้า และกลิ่นแนวฟลอรัลที่เป็นตัวแทนของสุภาพสตรีในวงสังสรรค์


เรื่อง : Primphy_praewnista

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชี้เป้า 2 แบรนด์เทียนหอม เหมาะกับช่วง WFH มีทั้ง ‘กลิ่นกัญชา’ และ ‘กลิ่นออฟฟิศ’

ชี้เป้า 6 เจลแอลกอฮอล์ พกแล้วเก๋ ลักชัวรี่ดีต่อมือ ฆ่าเชื้อโรคได้จริง ไม่จกตา!!

ทัวร์ Beauty Hall ศูนย์รวมบิวตี้ไอเท็มระดับโลก กว่า 35,000 รายการ ครบที่สุดในไทย

 

CPN

เซ็นทรัลพัฒนา รวมพลังคนไทยเปลี่ยนกล่องกระดาษเป็นเตียงสนามกระดาษเอสซีจีพี

CPN
CPN

เซ็นทรัลพัฒนา รวมพลังคนไทยเปลี่ยนกล่องกระดาษเป็นเตียงสนามกระดาษเอสซีจีพี ที่จุดบริจาค ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 25 สาขาทั่วประเทศ ตั้งเป้าร่วมเฉพาะกิจ 14 วัน 400 ตัน

  • จับมือพันธมิตรและร้านค้าในศูนย์ฯ คงความเป็นผู้นำศูนย์กลางในการช่วยแยกขยะที่ดีของคนในทุกจังหวัดอย่างยั่งยืน
  • ตั้งเป้าร่วมเฉพาะกิจ 14 วัน 400 ตัน พร้อมสานต่อโครงการระยะยาวร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่
  • เริ่มพร้อมกัน วันนี้ เป็นต้นไป ใน 25 สาขา ทุกภาคทั่วประเทศ

กรุงเทพฯ – บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จากัด (มหาชน) ร่วมกับเอสซีจีพี และพันธมิตรร้านค้าในศูนย์ฯ กว่า10,000 ราย สนับสนุนพื้นที่เสริมจุดตั้งรับคัดแยกกล่องกระดาษลัง เพื่อรีไซเคิลผลิตเตียงสนามกระดาษเพื่อผู้ป่วยโควิด ตั้งเป้าเฉพาะกิจ 400 ตัน ใน 14 วัน

CPN

ย้ำภาพผู้นำศูนย์กลางในการช่วยแยกขยะที่ดีของคนในทุกจังหวัดอย่างยั่งยืน เชิญชวนร้านค้าและลูกค้า ร่วมคัดแยกวัสดุเหลือใช้ประเภทกระดาษ เพื่อนำกลับมารีไซเคิล หมุนเวียนเป็นวัตถุดิบในการผลิต “เตียงสนามกระดาษเอสซีจีพี” ที่มุ่งสนับสนุนช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 และบุคลากรทางการแพทย์ เริ่มพร้อมกัน ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ใน 25 สาขา ทุกภาคทั่วประเทศ พร้อมสานต่อความร่วมมือระยะยาว

ลูกค้าและประชาชนที่สนใจ สามารถร่วมบริจาค ได้ที่สาขาที่เข้าร่วม ได้แก่ :

  • กรุงเทพฯและปริมณฑล (15 สาขา) : เซ็นทรัล เวิลด์,เซ็นทรัล วิลเลจ,เซ็นทรัล รามอินทรา,เซ็นทรัล ศาลายา,เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์,เซ็นทรัล เวสต์เกต,เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ,เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า,เซ็นทรัล ลาดพร้าว,เซ็นทรัล มหาชัย,เซ็นทรัล พระราม 2,เซ็นทรัล อีสต์วิลล์,เซ็นทรัล พระราม 9,เซ็นทรัล พระราม 3 และ เซ็นทรัล บางนา
  • ภาคเหนือ (2 สาขา) : เซ็นทรัล เชียงใหม่ และ เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต
  • ภาคอีสาน (3 สาขา) : เซ็นทรัล อุดร,เซ็นทรัล ขอนแก่น และ เซ็นทรัล โคราช
  • ภาคตะวันออก (4 สาขา) : เซ็นทรัล พัทยา,เซ็นทรัล มารีนา,เซ็นทรัล ระยอง และ เซ็นทรัล ชลบุรี

• ภาคใต้ (1 สาขา) : เซ็นทรัล หาดใหญ่

CPN

ทั้งนี้ ตลอดมาเซ็นทรัลพัฒนาเป็น ”ผู้นำ” และ“ศูนย์กลางในการช่วยแยกขยะที่ดีของคนในทุกจังหวัดอย่างยั่งยืน” ภายใต้โครงการ “Central Pattana Journey to Zero” ด้วยการติดตั้งถังขยะคัดแยก Recycle Station ซึ่งส่งเสริมการคัดแยกขยะตามประภท เช่น กระดาษ โลหะ แก้ว และ ขยะทุกประเภท มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการที่เป็นระบบ ถูกวิธี และนาขยะไป รีไซเคิลต่อยอดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ได้รับมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 มากถึง 31 โครงการ

CPN

รวมถึงตั้งเป้าเป็นต้นแบบองค์กรที่จัดการขยะการก่อสร้างนับตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง โดยมีโครงการที่น่าสนใจ อาทิ จับมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐ จัดทำโครงการ ‘มือวิเศษ x วน’ โดย PPP Plastics ตั้งถังวนถุง รับขยะพลาสติกประเภทยืดได้ ใน 17 สาขาทั่วประเทศ, ร่วมกับ AIS จัดการขยะ E-waste ตั้งถังสาหรับขยะอิเล็คทรอนิกส์ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 33 ศูนย์ทั่วประเทศ, ร่วมกับโค้ก (ประเทศไทย) คัดแยกบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วเพื่อนาไปแปรรูปกลับมาใช้ใหม่, ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภาคีผู้ประกอบการอาคารบนถนนรัชดาฯ ในการคัดแยกขยะพลาสติก ภายใต้โครงการ “Care The Whale”, ร่วมกับ SCG ลดขยะอันเกิดจากการก่อสร้างด้วยการบดเสาเข็มจำนวน 2,000 ตัน มาใช้แทนหินคลุกในการทาพื้น ซึ่งได้นำร่องแล้วที่ เซ็นทรัล ศรีราชา รวมถึงร่วมกับเขตบางนา สานักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และเทศบาลนครนนทบุรี ในโครงการคัดแยกขยะอาหาร-ผักผลไม้ตัดแต่งตั้งแต่ต้นทาง คือร้านอาหาร และซุปเปอร์มาร์เก็ตในศูนย์การค้า ซึ่งความสาเร็จทั้งหมดเกิดขึ้นล้วนมาจากความร่วมมือของท่านพันธมิตรร้านค้า พนักงาน ลูกค้าและพันธมิตร ทุกราย

 

ICONSIAM Luxury Fashion Privileges 2021

ไอคอนสยาม รวมกระเป๋าสีเบจ ไอเทม Must Have จากคอลเลคชั่นล่าสุด พร้อมจัดแคมเปญ ICONSIAM Luxury Fashion Privileges

ICONSIAM Luxury Fashion Privileges 2021
ICONSIAM Luxury Fashion Privileges 2021

ไอคอนสยาม รวมกระเป๋าสีเบจ ไอเทม Must Have จากคอลเลคชั่นล่าสุด พร้อมจัดแคมเปญ ICONSIAM Luxury Fashion Privileges ช้อปสุดคุ้มตั้งแต่วันนี้ – 17 พฤษภาคม 2564

สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการมีกระเป๋าหลายใบ ซึ่งหนึ่งในนั้นจะต้องมีสีเบสิค อย่างสีดำ แน่นอน แต่ยังมีอีก 1 สี ที่สาวๆ ไม่ควรพลาดการมีไว้ครอบครองเลย นั่นก็คือโทนสีเบจ หรือสีนู้ดหรือโทนสีธรรมชาติ ถึงแม้ว่าสีนี้จะดูธรรมดา แต่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะเป็นสีคลาสสิคที่เรียบ หรู เหมาะกับทุกลุค พร้อมหยิบมาใช้ได้ในทุกโอกาส

Bottega Veneta

SaintLaurent

Fendi

Fendi

BVLGARI

ไอคอนสยาม นำเสนอประสบการณ์ชอป เหนือระดับจาก ICONLUXE (ไอคอนลักซ์) ที่สุดของการรวบรวม World Class Brands ทั้งแฟชั่น เครื่องประดับ อัญมณี และนาฬิกา ไว้อย่างเอ็กซ์คลูซีฟและครบครันมากที่สุดกว่า 20 แบรนด์  จึงได้รวมกระเป๋าสีเบจ จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกจากคอลเลคชั่นล่าสุด มาให้สาวๆ ได้เลือกช้อปแบบไม่ตกเทรนด์ อาทิ Bottega Veneta (บอตเตก้า เวเนต้า)  SAINT LAURENT (แซงต์ โลรองต์) Fendi (เฟนดิ) BVLGARY (บุลการี) ที่สำคัญการช้อปปิ้งของสาวๆ นอกจากจะได้เลือกช้อปของดีแล้ว ยังได้รับสิทธิพิเศษสุดคุ้มอีกด้วย

ในโอกาสนี้ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์คระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา เอาใจนักช้อปกับแคมเปญ ICONSIAM Luxury Fashion Privileges ให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าแบรนด์หรูได้ช้อปสุดคุ้ม ยิ่งช้อปมาก ยิ่งรับมาก ตั้งแต่วันนี้ – 17 พฤษภาคม 2564

เมื่อช้อปครบ 30,000.- บาทขึ้นไป  / ใบเสร็จ จากลักซ์ชัวรี่แบรนด์ที่ร่วมรายการ รับบัตร Siam Gift Card  มูลค่า 2,000. 00 บาท* เพื่อใช้ซื้อสินค้าครั้งต่อไปที่มีมูลค่าขั้นต่ำ 4,000.- บาท / ใบเสร็จ เฉพาะร้านไอคอนสยามที่ร่วมรายการ จำกัดจำนวน

ช้อปครบ 120,000.- บาทขึ้นไป / ใบเสร็จ  จากลักซ์ชัวรี่แบรนด์ที่ร่วมรายการ รับบัตร Siam Gift Card 6,000. 00 บาท* เพื่อใช้ซื้อสินค้าครั้งต่อไปที่มีมูลค่าขั้นต่ำมูลค่า 12,000.- บาท / ใบเสร็จ เฉพาะร้านไอคอนสยามที่ร่วมรายการ จำนวนจำกัด

ช้อปสินค้าลักซ์ชัวรี่แฟชั่นแบรนด์กับแคมเปญ ICONSIAM Luxury Fashion Privileges ได้ที่ ICONLUXE ไอคอนสยาม ถนนเจริญนคร หรือสามารถเลือกชมสินค้าคอลเลคชั่นสุดหรูจากแบรนด์เนมชั้นนำ ส่งตรงจากรันเวย์ระดับโลกมาให้ลูกค้าได้เลือกช้อปได้ทุกที่ทุกเวลากับบริการช้อปปิ้งออนไลน์ ICONSIAM LUXURY CHAT & SHOP ผ่านทาง LINE OA ICONSIAM หรือบริการ Call & Shop บริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิก VIZ Card เพียงโทร 02-495-7011 หรือ 083-097-4622 ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.iconsiam.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไอคอนสยามโทร. 1338

งานแต่ง Elizabeth Lail

จัดแบบเรียบง่าย งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน เชิญแขกเพียง 22 คน

งานแต่ง Elizabeth Lail
งานแต่ง Elizabeth Lail

เรียบง่ายและอบอุ่นเป็นกันเอง สำหรับ งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงและนางแบบชาวอเมริกัน ซึ่งเธอมีชื่อเสียงในบทบาทนักแสดงจาก Dead of Summer (ซีรีส์โทรทัศน์อิสระปี 2016) นอกจากนี้นักแสดงหญิงวัย 29 ปี ก็มีชื่อเสียงหลังจากได้รับบทในซีรีส์โทรทัศน์ “ You” ในปี 2018 ประกบ Penn Badgley และ Shay Mitchell

สำหรับงานแต่งครั้งนี้ เธอเปิดเผยว่าหากไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจสามารถเชิญแขกได้ถึง 200 คน แต่ในเมื่อสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย เธอและแฟนหนุ่ม Nieku จึงเชิญแขกได้เพียง 22 คนเท่านั้น (ส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนและไม่ใช่ผู้ที่ต้องกักตัว) ซึ่งงานแต่งก็เป็นไปอย่างอบอุ่นและเหมาะกับบ่าวสาวในยุคนี้มาก โดยงานแต่งของพวกเขาจัดขึ้นที่ Hasbrouck House ใน Stone Ridge , New York อีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในการจัดงานแต่ง

ภายในงานแต่งงานมีรายละเอียดที่น่ารักและแฝงไปด้วยความอบอุ่น ซึ่งเป็นงานแต่งขนาดเล็กที่เห็นแล้วต้องอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นซุ้มเล็กๆ ที่บ่าวสาวสวมแหวนให้กัน ถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายบนสนามหญ้า โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับแขกก็จัดวางได้อย่างสวยงาม รวมถึงเค้กที่บ่าวสาวต้องตัดก็ไม่หวือหวามีเพียง 2 ชั้นกำลังดี ไปจนถึงชุดเจ้าสาวของ Elizabeth Lail ที่มาในดีไซน์เรียบง่ายแต่ประณีตด้วยฝีมือ Andrea Hawkes นักออกแบบจากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นชุดแต่งงานที่เข้ากับบรรยากาศโดยรวมได้อย่างลงตัว

จัดแบบเรียบง่าย งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน เชิญแขกเพียง 22 คน

งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน งานแต่ง Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน เจ้าบ่าว Elizabeth Lail นักแสดงชาวอเมริกัน งานแต่ง Elizabeth Lail งานแต่ง Elizabeth Lail งานแต่ง Elizabeth Lail งานแต่ง Elizabeth Lail งานแต่ง Elizabeth Lail งานแต่ง Elizabeth Lail งานแต่ง Elizabeth Lail งานแต่ง Elizabeth Lail งานแต่ง Elizabeth Lail งานแต่ง Elizabeth Lail


ภาพและที่มา : www.brides.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รักจะโกอินเตอร์ต้องรู้! เอกสาร + ขั้นตอน ในการ จดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ

ชุดขาวพิฆาตพรมแดง! 11 ชุดเจ้าสาว ที่เหล่าคนดังฮอลลีวู้ดหยิบมาใส่เดินพรมแดง

เปิดไอเท็มเด็ด! เครื่องประดับเจ้าสาว สุดปังจาก BRIDAL FASHION WEEK 2022

 

เพียเจต์ ประกาศเปิดตัวคอลเลคชั่น POSSESSION สีสันแห่งความสนุกครั้งใหม่

account_circle

เพียเจต์ (Piaget) ประกาศเปิดตัวคอลเลคชั่น POSSESSION ไปเมื่อปี 1990 แหวนรุ่นไอคอนิกที่ซ่อนเบื้องหลังงานดีไซน์อันน่าตื่นตาตื่นใจชิ้นนี้ ก็ถูกจับตาและอยู่ในกระแสนิยมในหมู่สุภาพสตรีเรื่อยมา

ว่ากันว่า POSSESSION เป็นมากกว่าเครื่องประดับชิ้นสวย เพราะนอกจากความสนุกของซิกเนเจอร์วงแหวนหมุนได้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เหล่าสาวๆ และ คอมพลีททุกลุคได้อย่างเหลือเชื่อแล้ว ยังเป็นเหมือนตัวแทนที่อยู่ในทุกช่วงเวลาอันแสนพิเศษอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การเฉลิมฉลอง ช่วงเวลาแห่งความโชคดี การดำเนินชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสุข

และนี่คือ สีสันแห่งความสนุกครั้งใหม่ ที่มาช่วยเติมเต็มไอเดียและลุคของคุณในปี 2021 นี้

THE BIRTH OF AN ICON

นับเป็นอีกหนึ่งสีสันของวงการจิวเวลรี่ยุคนั้นก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เพียเจต์ประกาศเปิดตัวคอลเลคชั่น Possession ไปเมื่อปี 1990 แหวนรุ่นไอคอนิกที่ซ่อนเบื้องหลังงานดีไซน์อันน่าตื่นตาตื่นใจชิ้นนี้ ก็ถูกจับตาและอยู่ในกระแสนิยมในหมู่สุภาพสตรีเรื่อยมา ก่อนเมซงจะทยอยปล่อยไลน์ใหม่อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น สร้อยข้อมือ สร้อยคอ กำไล ตุ้มหู โดยถ่ายทอดต้นฉบับความสนุกของ Possession ไว้อย่างครบครัน ก่อนปรับลุคอีกครั้งในปี 2017 ซึ่งเมซงเลือกแต่งแต้มคอลเลคชั่นให้คัลเลอร์ฟูลยิ่งขึ้น โดยหยิบเอาหินสีหายากมาใช้ในการสร้างสรรค์

MORE THAN A JEWEL

ว่ากันว่า Possession เป็นมากกว่าเครื่องประดับชิ้นสวย เพราะนอกจากความสนุกของซิกเนเจอร์วงแหวนหมุนได้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เหล่าสาว ๆ และ คอมพลีททุกลุคได้อย่างเหลือเชื่อแล้ว ยังเป็นเหมือนตัวแทนที่อยู่ในทุกช่วงเวลาอันแสนพิเศษอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การเฉลิมฉลอง ช่วงเวลาแห่งความโชคดี การดำเนินชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสุข และนี่คือ สีสันความสนุกครั้งใหม่ ที่มาช่วยเติมเต็มไอเดียและลุคของคุณในปี 2021

POSSESSION SLIDING PENDANTS IN EXTRAORDINARY COLOURS

กับ 3 เฉดสีล่าสุดที่สาว ๆ เห็นแล้วต้องเลิฟ โดยแบรนด์เลือกหยิบหินสีหายาก อย่าง มาลาไคท์ (G33PE300), คาร์เนเลี่ยน (G33PE400) และ เทอร์ควอยซ์ (G33PE200) มานำเสนอ ทุกโมเดลมาพร้อมตัวเรือนโรสโกลด์ และ จี้ประดับหินสีที่ล้อมรอบอีกชั้นด้วยเพชรบริลเลียนต์คัต 20 เม็ด (ราว 0.35 กะรัต) มาในดีไซน์ที่ง่ายต่อการมิกซ์แอนด์แมตช์ โดยออกแบบให้สามารถสไลด์ตัวจี้ขึ้นและลงเพื่อปรับระดับความยาวของสายได้ตามชอบใจ ปลายสายแต่ละด้านประดับหินสีชนิดเดียวกันและตุ้มทอง

POSSESSION LUCK PENDANTS

เผยโฉม 2 โมเดลใหม่ โดยหินสีเด่นที่นำมาใช้ในรุ่นนี้ยังคงเป็นเทอร์ควอยซ์ (G33PD200) และ คาร์เนเลี่ยน (G33PD600) เช่นเคย – สร้อยคอโรสโกลด์ประดับเพชรบริลเลียนต์คัต 20 เม็ด (ราว 0.28 กะรัต) มาพร้อมความยาว 39 – 42 เซนติเมตร และดีเทลสนุก ๆ ของจี้แบบหลังเบี้ยที่พลิกกลับไปมาได้อย่างอิสระ คอมพลีทลุคได้ทั้งแบบสีสันที่ชวนสนุกสนาน แบบประกายทองคลาสสิค ไปจนถึงแบบ Personalized ที่สามารถสลัก “ข้อความส่วนตัว” ลงบนด้านหลังของตัวจี้ อาทิ วันสำคัญ  ชื่อย่อ

POSSESSION BANGLE AND EARRINGS

ดับเบิ้ลความสนุกกันต่อกับ กำไลข้อมือโรสโกลด์ ในดีไซน์แบบ Double Tour (G36PG800) ปลายทั้ง 2 ด้านประดับมาลาไคท์ และ เพชรบริลเลียนต์คัต 30 เม็ด (ราว 0.42 กะรัต)  ต่อด้วยตุ้มหูโรสโกลด์ กับฟังก์ชั่นสุดเก๋ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ประจำวันของสาว ๆ ตั้งแต่ ใส่แบบติดหูอย่างเดียว, แบบพร้อมสายโซ่และตุ้มทอง, แบบพร้อมสายโซ่ ตุ้มทองและหินสี ไปจนถึงคละสไตล์แบบสั้นข้างยาวข้าง

มี 2 สีให้เลือก –  คาร์เนเลี่ยน (G38PW400) และ เทอร์ควอยซ์ (G38PW500) ซึ่งทั้ง 2 เวอร์ชั่นมาพร้อมเพชรบริลเลียนต์คัตรวม 28 เม็ด (ราว 0.32 กะรัต)

MALACHITE

หมู่บ้าน La Côte-aux-Fées สถานที่อันเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตนาฬิกาเพียเจต์ ซึ่งแทรกตัวอยู่ในพื้นที่เขียวขจี ณ เมือง Neuchâtel ในเขตเทือกเขา Jura ถือเป็นแรงบันดาลใจชั้นเลิศสำหรับ Valentin Piaget ในการสร้างสรรค์นาฬิกาและเครื่องประดับมาอย่างต่อเนื่อง เฉกเช่นสีเขียวของ มาลาไคท์ หนึ่งในหินสีที่เมซงโปรดปรานและหล่อหลอมอยู่ในชิ้นงานมาจนถึงทุกวันนี้

CARNELIAN

คาร์เนเลี่ยน คือ หินสีอีกตัวเลือกที่เมซงหยิบมาคอนทราสต์กับประกายทองอร่ามได้อย่างน่าค้นหา โทนสีแดงที่ให้ความรู้สึกร้อนแรง ทั้งยังสื่อถึงความมั่งคั่งในเชิงสัญลักษณ์ ทำให้หญิงสาวที่สวมใส่ดูเย้ายวน ปลดปล่อยตัวตนได้อย่างอิสระ และเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา

TURQUOISE


ถ้านิยามสีฟ้าของเพียเจต์ คือ สัญลักษณ์แห่งความเป็นนิรันดร์ – สำนวน “The sky is the limit” ก็คือคำบอกเล่าตัวตนของเมซงที่โหยหาความท้ายทายที่ไม่มีสิ้นสุดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สีฟ้าจากเทอร์ควอยซ์ ยังมีความหมายถึง การป้องกัน และ การต่อสู้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่มุ่งหวัง

อยู่ต่างประเทศ ทำงานกี่ชั่วโมง ถึงจะซื้อ กระเป๋าแบรนด์เนม ได้สักใบ

ลิสต์นี้ต้องดู! อยู่ต่างประเทศ ทำงานกี่ชั่วโมง ถึงจะซื้อ กระเป๋าแบรนด์เนม ได้สักใบ

อยู่ต่างประเทศ ทำงานกี่ชั่วโมง ถึงจะซื้อ กระเป๋าแบรนด์เนม ได้สักใบ
อยู่ต่างประเทศ ทำงานกี่ชั่วโมง ถึงจะซื้อ กระเป๋าแบรนด์เนม ได้สักใบ

อยู่ต่างประเทศสามารถเข้าถึงสินค้าไฮเอนด์ได้ไม่ยาก? เช่นของที่ถูกจัดอยู่ในประเภทสินค้าฟุ่มเฟือยอย่าง กระเป๋าแบรนด์เนม ทำงานเพียงไม่กี่วันก็คว้ามาเป็นเจ้าของได้แล้ว นี่คือพูดกันเล่นๆ หรือต่างประเทศเขาทำได้จริง เรามาดูกันค่ะ

ในช่วงสัปดาห์นี้กระแสย้ายประเทศในไทยก็ร้อนแรงไม่มีแผ่วและจริงจังขั้นสุด หลายคนเริ่มสัมภาษณ์งานกับต่างประเทศที่ตั้งใจอยากจะไปสร้างอนาคตที่นั่นแล้ว และอีกหลายคนก็กำลังศึกษาหาข้อมูลเรียนต่อ รวมถึงประเภทของงานต่างๆ ที่ตัวเองถนัด จนหลายเว็บไซต์ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ของประเทศต่างๆ กันให้พรึ่บ

เช่นเดียวกับ Rocket Media Lab ซึ่งทำงานด้านข้อมูลเพื่อการสื่อสารมวลชน ได้ทำข้อมูลเปรียบเทียบค่าแรงขั้นต่ำของประเทศต่างๆ (อ้างอิงตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2564) เพื่อสะท้อนอัตราค่าครองชีพ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายประจำที่ต้องจ่ายแก่รัฐ เช่น การจ่ายภาษี ประกันสังคม และข้อมูลที่ควรรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจอีกมากมาย โดยอ้างอิงจากเว็บไซต์ทางการและไม่เป็นทางการของแต่ละประเทศ

 กระเป๋าแบรนด์เนม

โดยเราได้นำข้อมูลค่าแรงขั้นต่ำของแต่ละประเทศ มาลองคำนวณเล่นๆ ดูบ้างว่าถ้าเกิดอยากได้ Prada สักใบ ต้องทำงานกี่ชั่วโมงถึงจะได้น้องมาครอบครอง ซึ่งพบว่าบางประเทศใช้เวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เลยปิ๊งไอเดียอยากจะรวมกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นดังเปรียบเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำโดยเฉลี่ยของประเทศต่างๆ มาให้ทุกคนได้ชมกันแบบเพลินๆ แต่ขอบอกก่อนว่าเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ราคาสินค้าในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน

ซึ่งจำนวนชั่วโมงและรายได้ที่สามารถซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมได้ เป็นข้อมูลที่ไม่ได้นำตัวแปรอื่นๆ มาคิดร่วมด้วย เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประวัน อย่างค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าที่พักอาศัย รวมถึงค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานที่ต้องจ่ายให้แก่รัฐ เอาเป็นว่าดูเพื่อความสนุกและเพลิดเพลินกันไปนะแม่

ลิสต์นี้ต้องดู! อยู่ต่างประเทศ ทำงานกี่ชั่วโมง ถึงจะซื้อ กระเป๋าแบรนด์เนม ได้สักใบ

เริ่มกันที่กระเป๋า Gucci GG Marmont Matelassé Leather Super Mini Bag ราคา 29,900 บาท (จำนวนวันโดยประมาณ)

กระเป๋าแบรนด์เนม

Gucci กระเป๋าแบรนด์เนม

LOEWE Basket bag in palm leaf and calfskin Medium ราคา 16,900 บาท (จำนวนวันโดยประมาณ)

กระเป๋าแบรนด์เนม LOEWE

กระเป๋าแบรนด์เนม LOEWE

CELINE SMALL DRAWSTRING BAG IN TRIOMPHE CANVAS AND TAN CALFSKIN ราคา 38,000 บาท (จำนวนวันโดยประมาณ)

กระเป๋าแบรนด์เนม Celine

กระเป๋าแบรนด์เนม

Prada Re-Edition 2000 Nylon Mini Bag ราคา 21,500 บาท (จำนวนวันโดยประมาณ)

กระเป๋าแบรนด์เนม Prada

กระเป๋าแบรนด์เนม

Burberry Mini Pocket Bag ราคา 38,500 บาท (จำนวนวันโดยประมาณ)

กระเป๋าแบรนด์เนม Burberry Mini Pocket Bag

Burberry Mini Pocket Bag


ภาพ : ลิขสิทธิ์แบรนด์

ข้อมูล : FB Rocket Media Lab

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

คุณค่าที่แม่คู่ควร! ซงฮเยคโย สวยแพงทั้งลุค ตั้งแต่ชุดยันเครื่องประดับ

ควีนเอลิซาเบธ ทรงมีรับสั่งให้ ดัชเชสเคท ปรับการแต่งตัว เมื่อต้องออกงาน

เกินวัยหรือมีสไตล์? ‘Maya Basol’ แฟชั่นนิสต้าวัย 6 ขวบ ใส่ชุดไหนก็สวยปัง

 

วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย

10 โมเมนต์แฟนทิพย์ที่ทำให้เราไม่อยากมูฟออนจาก ซงจุงกิ ซีรีส์ Vincenzo

Alternative Textaccount_circle
วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย
วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย

หลังจากซีรีส์ Vincenzo ( วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย ) ของหนุ่ม ซงจุงกิ  ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ นอกเหนือจากความเดือดและความตลกตลอด 20 อีพีแล้ว วินเชนโซ กาซาโน ยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักในเสน่ห์ของเขาแบบหัวปักหัวปำถึงขั้นที่ว่า อันกีซอก ปวารณาตนเป็นประธานแฟนคลับวินเชนโซกันไปแล้ว! งานนี้เลยจะชวนทุกคนมาดูกันว่า วินเชนโซ กาซาโน มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ใครหลายคนขอสมัครเป็นแฟนทิพย์ และไม่สามารถมูฟออนจากเขาได้!

10 โมเมนต์แฟนทิพย์ที่ทำให้เราไม่อยากมูฟออนจาก วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย

ซงจุงกิ ซีรีส์ Vincenzo

1. พูดได้สองภาษา

เริ่มจากสกิล ‘ภาษา’ ที่เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในยุคนี้ แน่นอนว่า วินเชนโซ กาซาโน หรือชื่อเดิม พัคจูฮยอง นั้นสามารถพูดได้คล่องทั้งสองภาษาอย่าง เกาหลี – เพราะอาศัยอยู่ที่เกาหลีใต้จนถึงอายุ 8 ขวบ และอิตาลี -อาศัยอยู่นานถึง 27 ปี ทำให้เขาสามารถสื่อสารกับทุกฝ่ายได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ

ซงจุงกิ ซีรีส์ Vincenzo

2. รสนิยมดี

เปิดตัวด้วยภาพลักษณ์สุดเนี้ยบ พร้อมสูทสั่งตัดอย่างดีจากอิตาลีแบรนด์บูรัลโร (Booralro) ที่แม้ภายหลังจะเปลี่ยนมาใส่สูทสั่งตัดในประเทศ แต่ด้วยรูปร่างสุดเป๊ะเหมือนหุ่นลองเสื้อ ทำให้ไม่ว่าจะชุดสูท ชุดนอน หรือชุดลำลอง วินเชนโซก็สามารถคอมพลีตลุคออกมาได้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

3. ฉลาด รอบรู้

อีกหนึ่งเสน่ห์เกินต้านของวินเชนโซ กับความฉลาด รอบรู้ (ด้านการเมือง, เศรษฐกิจ, กฎหมาย ฯลฯ) ที่มาพร้อมเทคนิคการไล่ล่าสุดครีเอทีฟจน จางฮันซอก (รับบทโดย อ๊กแทคยอน) ต้องร้องว้าว วินเชนโซไม่เพียงแต่คิดซับซ้อนและมองการณ์ไกลเท่านั้น แต่เขายังเตรียมรับมือพร้อมแผนสำรอง A B C มาดักทางจนคดีพลิกได้เสมอ

ซีรีส์ Vincenzo

4. ชอบเสพงานศิลป์

หลังใช้ชีวิตในอิตาลีมากว่า 20 ปี ทำให้แม้เปลือกนอกของวินเชนโซจะดูเหมือนผู้ชายเกาหลี แต่ภายในของเขาคือผู้ชายอิตาลีเต็มตัว วินเชนโซชื่นชอบแฟชั่น งานศิลปะ โอเปร่า ฟุตบอล และพาสต้า ทำให้ทุกครั้งที่เขามีโอกาสได้ใช้เวลาพักผ่อนเงียบๆ อยู่ในห้อง จะต้องจิบไวน์พร้อมเสพงานศิลป์ที่ชื่นชอบไปพลางอยู่เสมอ

5. พระเอกการละคร

นอกจากจะมีใจรักในงานศิลป์ด้านต่างๆ แล้ว วินเชนโซยังสามารถซึมซับสิ่งเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับทุกบทบาทในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสวมบทเป็นเซเลบจัดงานปาร์ตี้ ร่างทรงชุดขาว ไปจนถึงการเป็นโมเดล (แบบขัดใจ ที่แปลว่าไม่ขัดใจ) ให้กับบ๊ายบายบอลลูนของพักซอกโด

6. โดดเด่นด้านกีฬา

ถึงจะชอบเสพงานศิลป์ แต่วินเชนโซก็ไม่ได้ละทิ้งด้านกีฬา เพราะไม่ว่าจะปาเป้า ฮอกกี้ หรือขี่ม้า ขอเพียงแค่บอกมา วินเชนโซสามารถทำได้ทุกอย่างไม่ใช่ในระดับผิวเผิน แต่เขายังสามารถทำได้ดีชนิดหาตัวจับยากอีกด้วย

7. ต่อสู้เก่ง

อีกหนึ่งความพิเศษที่ทำให้ใครหลายคนโดนวินเชนโซขโมยหัวใจแบบไม่ทันตั้งตัว กับสกิลการต่อสู้ลุยเดี่ยวสุดเท่ ที่ไม่ว่าจะเป็นการสู้แบบตัวต่อตัวหรือมากันยกแก๊งก็ไม่หวั่น สู้ด้วยมือเปล่าหรือมีอาวุธครบมือก็ได้ทั้งนั้น ยืนยันความดุด้วยผลงานในฐานะคอนซีลเยเรของกาซาโนแฟมิลี่ที่ไม่ทำให้จางฮันซอกประทับใจ

8. รักสัตว์

นอกจากมุมดุเดือดเลือดพล่านแล้ว วินเชนโซยังมีมุมน่ารักๆ ที่ทำให้ใครหลายคนใจละลายไปกับโมเมนต์ระหว่างเขาและอินซากี นกพิราบตัวแสบริมหน้าต่างที่ทั้งสองค่อยๆ ละลายทิฐิของตัวเองลงและกลายเป็นเพื่อนที่อยู่ร่วมกันได้ในที่สุด

9. ธรรมะธัมโม

แม้จะใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลีมานาน แต่ทุกครั้งที่มีเรื่องไม่สบายใจ วินเชนโซก็เลือกที่จะใช้พุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เขามักจะไปนั่งพูดคุยกับเจ้าอาวาสวัดนานยัก (แม้ว่าในตอนแรกจะเป็นการตีเนียนเข้าวัดเพื่อดูลาดเลาห้องลับก็ตาม) เพื่อหาคำตอบให้จิตใจของเขาที่กำลังร้อนรุ่มได้สงบลง

10. รวย!

ปิดท้ายด้วยนิสัยที่ใครๆ ก็ชอบ กับความ ‘รวย’ ที่ไม่ต้องบอกเป็นตัวเลขก็สัมผัสได้ เพราะด้วยตำแหน่งคอนซีลเยเรของกาซาโนแฟมิลี่เพียงอย่างเดียวก็น่าจะทำให้วินเชนโซเป็นคนที่มีสภาพคล่องทางการเงินในระดับดีมาก และการที่เขาสามารถซื้อเสื้อผ้าให้กับชาวคึมกาพลาซ่า รวมถึงเครื่องประดับให้กับฮงชายอง และใช้เงินจำนวนมหาศาลจัดการเรื่องราวของกาซาโนแฟมิลี่ด้วยแล้ว คำเดียวสั้นๆ รวย!


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

7 เรื่องไม่ธรรมดาของ Song Joong Ki สามีมหาชน ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา

ส่องเมคอัพไอเท็ม 2 ชิ้นที่ ‘ทนายฮงชายอง’ ใช้เติมสวยจน ‘วินเซนโซ่’ ไม่ละสายตา

หลวงพี่เล่าถึงเบื้องหลัง! ความน่ารักและมีน้ำใจของ พระเอกเกาหลี ซงจุงกิ

โควิดอินเดีย

หาได้แคร์โควิด! นายกอินเดีย ผลาญงบสร้างรัฐสภาใหม่ แม้คนตายล้นไม่มีที่จะเผา

โควิดอินเดีย
โควิดอินเดีย

จะว่าตอนนี้ที่ประเทศอินเดียเกิดการระบาดโรคโควิดทิพย์ก็ไม่ใช่ เพราะข่าวก็ออกอยู่ทั่วโลกว่าถึงขั้นวิกฤติแล้วกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 21.1 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 2.3 แสนคนแล้ว แต่ นายกอินเดีย ผู้นี้ กลับมีข่าวว่า เขากำลังเร่งจัดการกำเรื่องอื่นมากกว่าการแก้ไขเรื่องการระบาดของไวรัสแทน

โควิดอินเดีย

นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี นั้น กำลังมุ่งมั่นเดินหน้าปรับปรุงรัฐสภาแห่งใหม่ รวมถึงบ้านหลังใหม่ของผู้นำประเทศ ซึ่งใช้งบประมาณมากถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แทนเรื่องเร่งด่วนอย่างการแก้ไขระบบสาธารณสุขของประเทศที่ตอนนี้เรียกได้ว่าพังไม่เป็นท่า

หาได้แคร์โควิด! นายกอินเดีย ผลาญงบสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ แม้คนตายล้นไม่มีที่จะเผา

โควิดอินเดีย
นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย

ทั้งนี้จากการรายงานข่าวของ CNN News ระบุว่า การปรับปรุงรัฐสภาแห่งใหม่นั้น เป็นโครงการที่ใช้ชื่อว่า โครงการพัฒนา Central Vista Redevelopment  ซึ่งถูกจัดประเภทให้เป็น “บริการที่จำเป็น” จึงมีผลทำให้ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างต่อ แม้ว่าโครงการอื่นๆ ส่วนใหญ่จะต้องหยุดชะงักลงจากวิกฤติการระบาดโควิด-19 ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวอินเดียจำนวนมาก เพราะโครงการนี้อาจจะกลายเป็นSuper-spreader และอาจจะยิ่งทำให้สถานการณ์การระบาดของโรคนั้นหนักกว่าเดิม อีกทั้งขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และยังมีปัญหาด้านการจัดการสาธารณสุขที่ไม่ครอบคุลมผู้ป่วยอย่างเพียงพอทั้งการขาดแคลนออกซิเจน ไปจนถึงสถานที่รักษาพยาบาลอีกด้วย

โควิดอินเดีย

ทั้งนี้การก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่คาดว่าจะมีการเกณฑ์คนประมาณ 46,700 คน เพื่อว่าจ้างชั่วคราวในระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2565 ส่วนบ้านพักของนายกรัฐมนตรีจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2565 โดยโครงการทั้งหมดจะแล้วเสร็จในปลายปี 2569 

เห็นการจัดลำดับความสำคัญของผู้นำประเทศเป็นแบบนี้มองภาพไม่ออกเลยว่าถ้าเกิดการระบาดของโควิด-19 จากแคมป์คนงานก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ความสูญเสียจะมากขึ้นขนาดไหน เพราะอย่าลืมว่า อินเดียนั้นมีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลก และมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกไม่น้อยเลย

 

 

 

เมแกน เขียน หนังสือเด็ก 'The Bench'

วิจารณ์หนัก หนังสือเด็ก ‘The Bench’ ที่เมแกนเขียน คล้ายกับหนังสือเด็กอีกเล่ม

account_circle
เมแกน เขียน หนังสือเด็ก 'The Bench'
เมแกน เขียน หนังสือเด็ก 'The Bench'

เกิดดราม่าอีกแล้ว เมื่อ เมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ถูกวิจารณ์ว่า หนังสือเด็ก ‘The Bench’ ที่เธอเขียนมีความคล้ายคลึงกับหนังสือเด็กอีกเล่มของ Corrinne Averiss นักเขียนชาวอังกฤษ

วิจารณ์หนัก หนังสือเด็ก ‘The Bench’ ที่เมแกนเขียน คล้ายกับหนังสือเด็กอีกเล่ม

สร้างงาน สร้างอาชีพจริงๆ หารายได้รัวๆ เลยสำหรับ เมแกน มาร์เคิล เพราะล่าสุดนั้น ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ วัย 39 ปี ได้ออกมาประกาศจะมีการตีพิมพ์หนังสือเด็กในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ โดย Random House ซึ่งหนังสือเล่มนี้เธอเขียน ดัชเชสเมแกนกล่าวว่าได้รับแรงบันดาลใจจากบทกวีที่เธอเขียนถึงเจ้าชายแฮร์รี่ ในช่วงเวลาที่อาร์ชี ลูกชายของทั้งคู่เกิด

เมแกน เขียน หนังสือเด็ก 'The Bench'

ต้องบอกเลยว่า ดัชเชสเมแกน ทำอะไรก็ถูกเป็นที่จับตามอง เพราะงานนี้เหล่าแฟนๆ ราชวงศ์ได้ออกมาชี้ให้เห็นถึงความคล้ายคลึงของเรื่องราวในหนังสือสำหรับเด็กระหว่าง The Boy ของ Corrinne Averiss ที่วางจำหน่ายในปี 2018 และ The Bench ของดัชเชสแห่งซัสเซกส์

เมแกน เขียน หนังสือเด็ก 'The Bench'
The Bench หนังสือเด็กที่ดัชเชสเมแกนเขียน

ขณะเดียวกันผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า ‘ ‘The Bench’ ของเมแกน มาร์เคิล เกือบจะเหมือนกับหนังสือ The Boy On the Bench ของ Corrinne Averiss แม้แต่ตัวหน้าปก’

นอกจากนี้ยังมีความเห็นไปในทางที่ว่า “ก่อนที่คุณจะเสียเงินให้กับหนังสือเด็กของภรรยาแฮร์รี่ ให้ลองอ่าน The Boy on the Bench โดย Corrinne Averiss และ Gabriel Alborozo ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นออริจินัล”

อย่างไรก็ตาม Corrinne Averiss ได้ออกมายืนยันว่า ‘ฉันลองอ่านคำอธิบายและข้อความที่ตัดตอนมาจากหนังสือเล่มใหม่ของดัชเชสเมแกน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเดียวกันหรือธีมเดียวกับ The Boy on the Bench ฉันไม่เห็นความคล้ายคลึงใดๆ นอกเหนือจากการใช้ม้านั่ง ซึ่งมีอยู่ในเรื่องต่างๆ มาก พอๆ กับในสวนสาธารณะ และการ์เด้น’

ทั้งนี้แหล่งข่าวเผยว่า Katie Nicholl แห่ง Vanity Fair กล่าวว่า เมแกนมีแผนที่จะเขียนหนังสือเพิ่มเติมในอนาคต โดยเธอบอกว่า ‘เมแกนอยากเขียนหนังสือสำหรับเด็กก่อน และจะมีอะไรมากกว่านี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความสำเร็จของหนังสือเล่มนี้ นอกจากนี้ เธอยังกระตือรือร้นที่จะเขียนหนังสือสำหรับผู้ใหญ่อีกด้วย’

สำหรับหนังสือ The Boy on the Bench ของ Corrinne Averis เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อและลูกชายที่กำลังเพลิดเพลินกับธรรมชาติ ขณะที่ทั้งคู่นั่งอยู่บนม้านั่ง ซึ่งในเรื่องยังแสดงให้เห็นถึงความผูกพันของพ่อลูกที่มีต่อกันอีกด้วย

ในขณะที่หนังสือเด็กเรื่อง The Bench ของดัชเชสเมแกน ก็มีจุดมุ่งหมายในทำนองเดียวกัน โดยแสดงให้เห็นถึง ‘ความผูกพันระหว่างพ่อและลูก’ ที่ ‘มองเห็นได้จากสายตาของแม่’

เมแกน เขียน หนังสือเด็ก 'The Bench'

ในแถลงการณ์การตีพิมพ์หนังสือเด็กเล่มใหม่อย่างเรื่อง ‘The Bench’ ดัชเชสเมแกน ได้ใช้นามปากกาว่า Meghan, The Duchess of Sussex  (เมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์) ซึ่งเธอกล่าวว่า ‘The Bench’ เป็นบทกวีที่ฉันเขียนให้สามีในวันพ่อ ซึ่งเป็นเดือนหลังจากที่อาร์ชีเกิด ดัชเชสแห่งซัสเซกส์กล่าวต่อไปว่า

บทกวีเรื่องนี้ คริสเตียนได้จัดวางภาพประกอบสีน้ำที่สวยงาม ซึ่งถ่ายทอดความสัมพันธ์ อันอบอุ่น ความสุข และ การปลอบโยนระหว่างพ่อและลูกชายจากทุกสาขาอาชีพ ซึ่งตัวแทนในเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับฉัน คริสเตียนและฉันทำงานอย่างตั้งใจเพื่อที่จะพรรณนาความพิเศษผ่านหนังสือเล่มนี้ ความหวังของฉันคือ The Bench สะท้อนถึงทุกๆ ครอบครัวไม่ว่าคุณจะเป็นยังไงก็ตาม


ที่มา : www.dailymail.co.uk

ชีวิตคนดังใน LA ของเจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน อาจส่งผลกระทบต่อ อาร์ชี ในอนาคต

เรื่องราวดีๆ ในวันเกิด อาร์ชี แฮร์ริสัน ถึงตัวจะอยู่ไกลแต่ความอบอุ่นไม่จางหาย

 

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

ชุดขาวพิฆาตพรมแดง! 11 ชุดเจ้าสาว ที่เหล่าคนดังฮอลลีวู้ดหยิบมาใส่เดินพรมแดง

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง
ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

อีเว้นต์เดินพรมแดง ไม่ว่าจะงานประกาศรางวัลไหนๆ ต่างก็เป็นที่รอคอยและจับตามองของเหล่าผู้ชมเสมอ ว่าเหล่าศิลปินคนดังที่เราชื่นชอบนั้นจะออกมาเดินในลุคไหน หลายๆ ครั้งที่เซเลบริตี้ก็ปรากฏตัวบนพรมแดงในลุคที่ทำให้แฟนๆ อ้าปากค้างไปตามๆ กัน แถมลุคพรมแดงของเหล่าคนดังนั้นยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับวงการแฟชั่นอีกด้วย ไม่เว้นแม้แต่วงการแฟชั่น ชุดเจ้าสาว ครั้งนี้ แพรวเวดดิ้ง จึงรวบรวมเอาลุคเจ้าสาวสุดปัง ที่คนดังฮอลลีวู้ดทั้งหลายสวมใส่ขณะเดินบนพรมแดง ตบเท้าเข้างานประกาศรางวัล จะมีดีไซน์สะดุดตาถูกใจเหล่าเจ้าสาวกันขนาดไหน ตามไปดูกันเลย

ชุดขาวพิฆาตพรมแดง! 11 ชุดเจ้าสาว ที่เหล่าคนดังฮอลลีวู้ดหยิบมาใส่เดินพรมแดง

1. Maria Bakalova ในงาน Oscars Awards 2021

นักแสดงสาวผู้มีชื่อเข้าชิงรางวัล Oscars ในบท Tutar จากหนัง Borat 2 สวมชุดเดรส Ball Gown ของ Louis Vuitton ให้ความรู้สึกราวกับเจ้าหญิง Maria ยังสวมสร้อยและต่างหูเพชรจากแบรนด์ Moussaieff Jewellers เพิ่มความหรูหราราวราชนิกูลขึ้นไปอีก

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

2. Priyanka Chopra ในงานเทศกาลหนังเมืองคานน์ปี 2019

ชุดทูเล่ Ball Gown กระโปรงไล่ชั้นและดีไซน์เกาะอกที่เป็นเอกลักษณ์จากคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิของ Georges Hobeika จูงมือมาคู่กับสามีของเธอ Nick Jonas ในชุดสูทสีขาวล้วนและรองเท้าหนังสีดำ

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

3. Sarah Jessica Parker ในงาน Golden Globe Awards 2017

Sarah Jessica Parker นักแสดงดังเป็นที่รู้จักกันดีในบท Carrie Bradshaw ในซีรี่ย์ Sex and The City เดินพรมแดงงานประกาศรางวัล Golden Globe Awards 2017 ในชุดราตรีสีขาวคอวีแขนโอเวอร์ไซส์ จากคอลเล็คชั่นชุดเจ้าสาวฤดูใบไม้ผลิของแบรนด์ Vera Wang

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

4. Lady Gaga ในงาน SAG Awards 2019

ป็อปสตาร์ตัวแม่ Lady Gaga ปรากฏตัวบนพรมแดงงาน SAG Awards ปี 2019 ในลุคฮอลลีวู้ดวินเทจด้วย ชุดเจ้าสาวจากคอลเล็คชั่นโอต์กูตูร์ของแบรนด์ Dior ชุดเดรสคอวี ดีเทลผ้าทูเล่กระโปรงผ่าข้าง โดย Gaga แต่งหน้าทำผมสไตล์วินเทจ ลิปสีแดงเข้มเปลี่ยนลุคเจ้าสาวจ๋าให้กลายเป็นลุคที่เหมาะกับการเดินพรมแดงมากขึ้น

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

5. Adriana Lima ในเทศกาลหนังเมืองคานน์ปี 2017

ซูเปอร์โมเดล Adriana Lima สวมชุดเกาะอกสีขาวจากแบรนด์ชุดเจ้าสาวชื่อดังอย่าง Naeem Khan พร้อมด้วยสร้อยคอดีไซน์เก๋จาก Chopard เพิ่มความเป็นลุคเดินพรมแดงด้วย ทรงผมแบบ wet look ปาดหลัง และลิปสติกสีแดงแรงฤทธิ์

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

6. Margot Robbie ในงาน Oscars Awards ปี 2018

นักแสดงสาว Margot Robbie ปรากฏตัวในงานพรมแดงของ Oscars Awards ปี 2018 ชุดเดรสสีขาวดีเทลชายกระโปรงไล่ชั้น จากแบรนด์ Chanel ให้ลุคเจ้าสาวที่เรียบหรูสง่างามสมกับเอกลักษณ์ของแบรนด์กันเลยทีเดียว

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

7. Serena Williams ในงาน Oscars after-party ปี 2016

Serena Williams สวมชุดเจ้าสาวจากแบรนด์ Galia Lahav ชุดเดรสแขนยาวลูกไม้สไตล์วินเทจด้วยดีเทลลูกปัดและคริสตัลที่ปักอยู่ทั่วชุด จับทุกสายตาภายในงานได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

8. Elle Fanning ในงานเทศกาลหนังเมืองคานน์ปี 2019

อีกหนึ่งเจ้าหญิงแห่งวงการฮอลลีวู้ดอย่าง Elle Fanning ที่ปรากฎตัวในพิธีปิดงานเทศกาลหนังเมืองคานน์ปี 2019 ด้วยลุคเจ้าสาว ชุดเดรสสีแชมเปญปักลายลูกปัดและคริสตัลจาก Reem Acra และผ้าคลุมผ้าโปรงทำให้ Elle Fanning ดูเหมือนเจ้าหญิงในชุดเจ้าสาวเข้าไปอีก

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

9. Nicole Kidman ในงาน Hollywood Film Award ปี 2019

สำหรับใครที่เป็นสายวินเทจ พลาดไม่ได้เลยกับลุคของ นักแสดงฮอลลีวู้ดระดับเอลิสต์ ตัวแม่อย่าง Nicole Kidman ที่ปรากฏตัวในงาน Hollywood Film Award ปี 2019 ด้วยชุดเดรสแขนยาวสีขาวปักลายดอกไม้ผ้าจากคอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ผลิของแบรนด์ Loewe ด้วยเนื้อผ้าซาตินสีขาวทำให้ได้ลุควินเทจ และแมตช์กับรองเท้าส้นสูงสีแดงสดเพิ่มความเป็นลุคพรมแดงมากขึ้น

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

10. Jessica Biel ในงาน Emmy Awards ปี 2018

นักแสดงสาวสวย Jessica Biel ตบเท้าเดินพรมแดงเข้างานประกาศรางวัล Emmy Awards ปี 2018 ในชุด Ball Gown สีขาวดีเทลผ้าลายทรงเปลือกหอยของแบรนด์ Ralph & Russo ด้วยดีเทลแปลกตาของกระโปรงชุดเดรสและลายชุดที่เป็นเอกลักษณ์เรียกได้ว่าเป็นดีไซน์แฟชั่นจ๋า เหมาะกับเจ้าสาวสมัยใหม่สุดๆ

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 

11. Jennifer Aniston ในงาน SAG Awards ปี 2020

อีกหนึ่งดาราดังของฮอลลีวู้ดที่ออกมาในชุดสไตล์วินเทจ Jennifer Aniston ปรากฏตัวในงาน SAG Awards ปี 2020 ในชุดผ้าไหมสีขาวเข้ารูปทรงหางปลาจากแบรนด์ Dior อวดทรวดทรงหุ่นสวยเป๊ะในวัย 51

ชุดเจ้าสาว ลุคพรมแดง

 


ข้อมูล : bride.com, pinterest.com

เรียบเรียง : KimZ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สวยโลกต้องจำ 10 ชุดเจ้าสาว สุดปังแห่งทศวรรษของคนดังระดับเอลิสต์

ผ่านมา 10 ปีแล้ว ทำไมยังตราตรึงใจ ย้อนซูมทุกดีเทล ลุคเจ้าสาวของดัชเชสเคท

ต้องสวยทุกช่วงเวลา! เสิร์ฟ 10 Dinner Dresses สำหรับเจ้าสาวทุกสไตล์

ลิมิเต็ด เอดิชั่น UNIQLO x Marimekko คอลเล็คชั่นใหม่ สดใสในดีไซน์เดนิม

ลิมิเต็ด เอดิชั่น UNIQLO x Marimekko คอลเล็คชั่นใหม่ สดใสในดีไซน์เดนิม

ลิมิเต็ด เอดิชั่น UNIQLO x Marimekko คอลเล็คชั่นใหม่ สดใสในดีไซน์เดนิม
ลิมิเต็ด เอดิชั่น UNIQLO x Marimekko คอลเล็คชั่นใหม่ สดใสในดีไซน์เดนิม

ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่น เปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ UNIQLO x Marimekko ลิมิเต็ด เอดิชั่น แคปซูลคอลเล็คชั่นในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ คอลเล็คชั่นล่าสุดจากการร่วมมือกันระหว่างยูนิโคล่กับมารีเมกโกะ ดีไซน์เฮาส์ยอดนิยมจากฟินแลนด์ มาในธีม Joyful Summer หรือฤดูร้อนอันแสนสุข ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประเพณีการเฉลิมฉลองกลางฤดูร้อนของชาวนอร์ดิก

ยูกิ คัทซึตะ (Yuki Katsuta) หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของยูนิโคล่ กล่าวถึงคอลเล็คชั่นใหม่ว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาทำงานร่วมกับมารีเมกโกะอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราได้นำลายพิมพ์ของ ฟูจิโว อิชิโมโตะ (Fujiwo Ishimoto) นักออกแบบชาวญี่ปุ่นของมารีเมกโกะมาร่วมอยู่ในคอลเล็คชั่นนี้เป็นครั้งแรก

ลิมิเต็ด เอดิชั่น UNIQLO x Marimekko คอลเล็คชั่นใหม่ สดใสในดีไซน์เดนิม

UNIQLO x Marimekko

เสื้อผ้า UNIQLO x Marimekko

UNIQLO x Marimekko

โดยเป็นลายที่ผสมผสานระหว่างการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียกับความเป็นญี่ปุ่น ทำให้เกิดลวดลายที่มีความโดดเด่น ละเอียดอ่อนและมีเอกลักษณ์” ยูกิ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ลายพิมพ์ล่าสุดของเราสื่อความเรียบง่ายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของยูนิโคล่กับลายพิมพ์ที่สดใสของมารีเมกโกะเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสื่อถึงการใช้เวลาที่ดีกับครอบครัวและเพื่อน ผมหวังว่าเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใสของคอลเล็คชั่นนี้จะช่วยเติมความสนุกสนานให้กับทุกคนในหน้าร้อน”

UNIQLO x Marimekko

เสื้อผ้า UNIQLO x Marimekko

UNIQLO x Marimekko

“เรารู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับยูนิโคล่อีกครั้งสำหรับลิมิเต็ดเอดิชั่น แคปซูลคอลเล็คชั่นล่าสุดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสุขและการมองโลกในแง่ดีในช่วงกลางฤดูร้อนของชาวนอร์ดิก ลายพิมพ์ที่เราเลือกสื่อถึงความสวยงามและพลังของช่วงเวลาที่แสนมหัศจรรย์ของปี โดยเป็นการผสมผสานกันระหว่างลวดลายที่บ่งบอกถึงหน้าร้อนของมารีเมกโกะและเสื้อผ้าชิ้นสำคัญซึ่งสวมใส่ได้หลากหลายโอกาสจากยูนิโคล่

เสื้อผ้า UNIQLO x Marimekko

ชุดเด็ก UNIQLO x Marimekko

ชุดเด็ก UNIQLO x Marimekko

คอลเล็คชั่นนี้ยังมีลายพิมพ์ที่ออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงของมารีเมกโกะ ตั้งแต่ลายดอกไม้ที่งดงามโดยฟูจิโว อิชิโมโตะ (Fujiwo Ishimoto) และลายทางที่มีชีวิตชีวาโดยแอนนิกา ริมาลา (Annika Rimala) เราเชื่อว่าการออกแบบเป็นภาษาสากลและหวังว่าคอลเล็คชั่นนี้จะนำมาซึ่งความสุขของหน้าร้อนให้กับผู้คนทั่วโลก” มินนา คีเมล-คุตโวเนน (Minna Kemell-Kutvonen) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบลายพิมพ์และผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน มารีเมกโกะ กล่าว

ชุดเด็ก UNIQLO x Marimekko

ชุดเด็ก UNIQLO x Marimekko

รองเท้า UNIQLO x Marimekko

เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง ราคา (บาท) เสื้อผ้าสำหรับเด็กผู้หญิงและเด็กเล็ก ราคา (บาท)
เสื้อเชิ้ต 990 เดรสสำหรับเด็กผู้หญิง จั๊มสูท 790
เสื้อยืด 590 เดรสสำหรับเด็กเล็ก 590
กางเกง กระโปรง 990-1,490 เลกกิ้งสำหรับเด็กเล็ก 290
เดรส จั๊มสูท 990-1,990 บอดี้สูทสำหรับเด็กเล็ก (1 แพค 2 ชิ้น) 390
เครื่องประดับ 990

ภาพ : UNIQLO

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

รุ่นใหม่ปล่อยแล้ว! รองเท้าแตะ Onitsuka พื้นหนา น้ำหนักเบา ใส่สบาย

The Treats for Life “มารีเมกโกะ” ชวนเดินตลาดสดในช่วงฤดูร้อนแบบฟินแลนด์

สนุกทุกลวดลาย! ISSEY MIYAKE SS2021 ในชื่อ UNPACK THE COMPACT

 

หลิง จันทิมา ติยะวัชรพงศ์ HappyMate

20 ปี บนเส้นทางอาหารสุขภาพ “หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์” ผู้บุกเบิกแบรนด์ HappyMate

Alternative Textaccount_circle
หลิง จันทิมา ติยะวัชรพงศ์ HappyMate
หลิง จันทิมา ติยะวัชรพงศ์ HappyMate

ด้วยใจรักในอาหารสุขภาพและอยากส่งต่อสุขภาพที่ดี เป็นสิ่งที่ทำให้ “คุณหลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามพรานฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ HappyMate (แฮปปี้เมท) มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อสร้างแบรนด์และคงไว้ซึ่งคุณภาพของผลิตภัณฑ์มาตลอด 20 ปี

20 ปี บนเส้นทางอาหารสุขภาพ “หลิง-จันทิมา ติยะวัชรพงศ์” ผู้บุกเบิกแบรนด์ HappyMate

เล่าถึงแรงบันดาลใจของการทำธุรกิจอาหารสุขภาพสักนิดค่ะ

“ต้องย้อนเล่าไปสมัยวัยรุ่นค่ะ หลิงอ่านหนังสือต่างประเทศ A New World ที่บอกว่าร่างกายมนุษย์ไม่จำเป็นต้องกินเนื้อสัตว์หรือดื่มนม ซึ่งความจริงคุณแม่ก็ไม่กินเนื้อสัตว์นะคะ ท่านพยายามให้ลูกๆ เลิกกินด้วย แต่ไม่มีใครทำตาม พออ่านเล่มนี้หลิงอินมาก บวกกับตอนนั้นไปปล่อยปลากับเพื่อน เราไม่เคยเดินตลาดมาก่อน พอเห็นคนทุบหัวปลา เย็นนั้นเลิกกินเนื้อสัตว์เลย ซึ่งตอนนั้นหลิงอายุแค่ 19 ปีเอง ที่ทำได้ทันที คิดเองนะคะว่าอายุยังน้อย กิเลสจึงน้อย (ยิ้ม)

“หลังจากเลิกกินเนื้อสัตว์ ก็ทำให้สนใจต่อว่าแล้วเราจะกินอย่างไรให้ได้สารอาหารครบ หลิงเริ่มจากเน้นกินถั่ว ผักสด ถ้าไปกินข้าวข้างนอกแล้วไม่มีข้าวกล้อง ก็ทนหิวกลับมากินที่บ้าน ไม่แตะน้ำมันเลย ต้องมีถ้วยใส่น้ำร้อนวางไว้ข้างๆ สำหรับล้างอะไรที่มันๆ ออกก่อน

“ผลของความสุดโต่งครั้งนั้น ผ่านไป 3 เดือน ผมร่วง ตัวเหลือง อาจเพราะกินมะละกอและแครอตเยอะ จากนั้นประจำเดือนขาดๆ หายๆ หมอให้ฮอร์โมนมากิน แต่หลิงคิดว่าไม่ใช่ทางออก จึงหาหมอจีนด้วย หมอบอกว่าเรากินไม่ถูกต้อง ก็ลดความสุดโต่งลงมา ปรับอาหารไม่ให้เคร่งจนเกินไป สุดท้ายกว่าร่างกายจะฟื้นตัวได้ใช้เวลานานถึง 3 ปีเลยทีเดียว

“ช่วงเรียนปริญญาตรีหลิงมีโอกาสไปงานแฟร์ Natural Food Expo ที่แอลเอ พี่สาวคุณแม่ ซึ่งเป็นคนมาเลเซีย มีร้านอาหารสุขภาพอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ และต้องหาผลิตภัณฑ์ต่างประเทศมาขาย จึงชวนหลิงไปงานนี้ ความรู้สึกเราคือเหมือนเป็นสวรรค์ของเรา มีทั้งอาหารสุขภาพ วิตามิน สกินแคร์ออร์แกนิก ซึ่งเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้วเมืองไทยยังไม่มี เห็นแล้วอยากนำเข้ามาขายบ้าง โดยเฉพาะแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ ซึ่งคุณป้านำเข้ามาขายที่มาเลเซียอยู่แล้ว จริงๆ ที่เมืองไทยก็มีบ้าง แต่ไม่ใช่แบบไม่ผ่านการกรอง ไม่ผ่านความร้อน และออร์แกนิกเหมือนอย่างแบรนด์ Bragg ที่คุณป้านำเข้าจากอเมริกา ซึ่งคนรู้จักทั่วโลก

“ในงานแฟร์นั้น หลิงได้เจอแพททริเซีย ซึ่งเป็นลูกสาวของ Paul Bragg ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Bragg เธออายุ 70 กว่าแล้ว แต่ดูสดใส กระฉับกระเฉง พอรู้ว่าเขาเป็นมังสวิรัติและกินแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ หลิงจึงยิ่งอิน”

หลิง จันทิมา ติยะวัชรพงศ์ HappyMate

แล้วจากความสนใจ ต่อยอดเป็นธุรกิจได้อย่างไรคะ

“ตอนแรกหลิงมีแผนไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ แต่คุณพ่อ (สุรสิทธิ์ ติยะวัชรพงศ์) เห็นว่าสนใจแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ ท่านจึงแนะนำให้เรียนในไทย แล้วเริ่มทำธุรกิจไปเลยในขณะเรียน หลิงทำตำแหน่ง QMR (ตัวแทนฝ่ายบริหารด้านคุณภาพ) ให้โรงงานสิ่งทอของคุณพ่อ และขายอาหารสุขภาพให้พนักงานในโรงงาน โดยขับรถกระบะไปซื้อข้าวกล้องจากวัด ซื้อจมูกข้าว งา แชมพูสมุนไพรอัญชัน วุ้นเส้นไม่ฟอกสี ฯลฯ ซึ่งของเหล่านี้เรากินและใช้อยู่แล้ว จุดประสงค์ตอนนั้นคืออยากให้พนักงานได้รู้จักและกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ได้คิดกำไรมากมาย เช่น ซื้อข้าวกล้องมา 50 บาท ขาย 55 บาท โดยขายเดือนละ 2 ครั้ง ช่วงเงินเดือนออก

“หลิงขยันขายทุกเดือนจนคุณพ่อเห็นความตั้งใจ อนุญาตให้เปิดสหกรณ์เล็กๆ ดีใจมาก ไปรับน้ำนมข้าวโพด น้ำสมุนไพร ข้าวต้มมัดเจ้าอร่อยมาขายเพิ่มเติม อย่างข้าวต้มมัด เราซื้อมาคู่ละ 4 บาท แต่ขาย 2 บาท ตั้งใจขายขาดทุน เพราะรู้ว่ามีประโยชน์ สารอาหารครบ แถมไม่มีเนื้อสัตว์ ทั้งอิ่มและอร่อย

“ช่วงนั้นหลิงเรียนปริญญาโท MBA Inter ภาคค่ำที่นิด้า ทำวิทยานิพนธ์เรื่องแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ว่าจะปลูกที่ทางเหนือของไทยได้ไหม สรุปคือไม่ได้ แต่เรื่องน่าสนใจคือยังไม่มีใครนำแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ออร์แกนิกเข้ามาขายสักที จึงติดต่อแบรนด์ที่นิวซีแลนด์ โดยให้เขาผลิตให้เรา เพราะหลิงตั้งใจจะทำแบรนด์สินค้าไทยส่งขายต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็นำเข้าแบรนด์ Bragg มาขายในเมืองไทยด้วย นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการทำบริษัทอาหารสุขภาพ ตอบโจทย์ทั้งเราและคนอื่นๆ ที่รักอาหารสุขภาพ ซึ่งคุณพ่อไม่ว่าที่หลิงไม่รับช่วงต่อกิจการสิ่งทอ ท่านเห็นด้วยที่หลิงเลือกมาแนวอาหารสุขภาพ เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่ดี”

เส้นทางของการทำธุรกิจแรกเป็นอย่างไรคะ

“หลิงทำทุกอย่างเองทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องใหญ่อย่างเครื่องจักร จนถึงติดฉลากสินค้า ทำโบรชัวร์ ทำใบเสนอสินค้า นำสินค้าไปเสนอห้าง ซึ่งตอนนั้นหลิงเสนอแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ตัวเดียว เขางงกันหมด แต่โชคดีที่ Bragg เป็นแบรนด์มีชื่อและน่าสนใจ ทำให้หลายๆ ห้างยอมรับ แรกๆ เจอปัญหา ความที่คนยังไม่รู้จักโปรดักต์ พอเห็นตะกอนในขวด ซึ่งเป็นธรรมชาติของแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ ก็แจ้งให้มารับคืน เราก็ต้องอธิบายว่าไม่ได้เสียนะ ธรรมชาติเขาเป็นอย่างนั้น เนื่องจากการหมักแอ๊ปเปิ้ลออร์แกนิกจะไม่ผ่านการกรองและไม่ผ่านความร้อน จึงทำให้เกิดใย ไม่ใสกิ๊งเหมือนหลายแบรนด์ บางคนเข้าใจผิด คิดว่าตกตะกอน แต่จริงๆ แล้วเป็นเส้นใยบางๆ ที่เรียกว่า มาเธอร์ (Mother) เป็นส่วนที่มีสารอาหารทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากที่สุด

“หลังจากขายแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ หลิงก็ขายน้ำผึ้งป่าควบคู่ไปด้วย เพราะใช้ผสมทานด้วยกันได้ ตอนนั้นเราทำเป็นจุกก๊อก เพราะอยากใช้ของจากธรรมชาติ ปรากฏว่าจุกขวดกระเด็นออกจากขวดในโกดังเก็บของ เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ข้างในเกิดแรงดันบวกกับโดนอากาศร้อน จึงกระเด็นออกจากขวด สุดท้ายต้องเปลี่ยนเป็นแบบฝาเกลียวหมุน ยอมทิ้งจุกก๊อกหมด”

จากแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ คุณหลิงต่อยอดโปรดักต์อย่างไรคะ

“หลิงเริ่มจากความสนใจของตัวเอง เช่น ครีมงาดำ สำหรับใครที่กินมังสวิรัติ เราจะขาดงาไม่ได้ เนื่องจากเป็นแหล่งของแคลเซียมและโปรตีน จากนั้นก็มีน้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มบ๊วย ซึ่งหลิงไม่ใช้น้ำส้มสายชูกลั่นธรรมดา แต่ใช้แอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดงให้มีรสชาติหอมอร่อย สินค้าเหล่านี้หลิงคิดเองนะคะ ใช้เซ้นส์ล้วนๆ ไม่ได้มีการสำรวจตลาด กับมีความโชคดีผสมอยู่ด้วย อย่างผลิตภัณฑ์ซอสแมนดาริน หลิงได้สูตรจากคุณป้าท่านหนึ่งที่ทำร้านอาหาร ทำซอสเหล้าแดงกับกระเทียมโทนดองอร่อยมาก แล้วใจดียอมบอกสูตรให้

“แต่กระบวนการที่จะเปิดโรงงานไม่ง่ายนะคะ สินค้าทุกอย่างต้องผ่านมาตรฐานของ อย.ให้เรียบร้อยก่อน ต้องมีการตรวจสถานที่ การจัดวางสินค้า อีกเรื่องที่ยากคือการขอการรับรองว่าเป็นโปรดักต์ออร์แกนิก ซึ่งต้องตรวจว่าไม่มีสารอะไรที่ไม่ใช่ออร์แกนิกปนเปื้อนในอาหาร นอกจากนี้ยังมีมาตรฐาน HACCP คือการตรวจเพื่อไม่ให้เกิดจุดเสี่ยงติดเชื้อ เช่น เราผลิตถั่วขวด จุดเซ้นสิทีฟคืออุณหภูมิ เขาจะมาดูว่าควบคุมความร้อนอย่างไร อุณหภูมิประมาณไหน ภาชนะที่ใช้บรรจุต้องสะอาดจริงๆ

“แล้วกว่าที่แต่ละผลิตภัณฑ์จะได้เลข อย. คือนานมาก อย่างซีเรียลใช้เวลาขอ อย. นาน 2 ปี เพราะมีเรื่องของนมผง ต้องไปขอที่ อย. กลาง รวมไปถึงการตรวจคำโฆษณา อย่างยุคนั้นคำว่าออร์แกนิกยังไม่แพร่หลาย หลิงก็คิดว่าควรใช้คำว่าไร้สารพิษ แต่ อย. ให้ใช้คำว่าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเราก็กลัวลูกค้าจะคิดว่าเราขายปุ๋ย (หัวเราะ) แต่เขาก็ยังยืนยันให้ใช้คำว่าเกษตรอินทรีย์มาถึงตอนนี้”

ฟีดแบ็กจากธุรกิจแรกเป็นอย่างไรคะ

“ต้องบอกว่าผลิตภัณฑ์เราเป็นที่รู้จัก แต่ไม่ได้ทำเงิน เพราะคนไทยไม่ได้กินถั่วกับขนมปังเป็นหลัก จึงอาจจะไม่ได้ซื้อครีมถั่ว Peanut Butter ซ้ำใน 1 เดือน แต่เราไม่ขาดทุน เพราะมียอดขายจากแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ จึงพอมีกำไรจากตรงนั้นมาช่วย อย่างช่วงแรกเรานำเข้าแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์มาไม่เยอะ แต่ทุกวันนี้ต้องสั่งมาเป็นตู้คอนเทนเนอร์ (ยิ้ม)

“ถ้าพูดตามตรง หากขายเฉพาะผลิตภัณฑ์ของ HappyMate เราคงขาดทุน แต่ก็ขอทำต่อไป เพราะใจรักจริงๆ อย่างน้ำจิ้มไก่ คนไม่เข้าใจอาจจะบอกว่าแพง แต่ เพราะเราใช้แอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ ไม่ได้ใช้น้ำส้มสายชูกลั่นทั่วไป หรืออย่าง Peanut Butter ที่ช่วงแรกขายไม่ดี เพราะเขาคิดว่าที่น้ำมันแยกตัวคือเสีย ที่จริงมันเป็นธรรมชาติและดีต่อสุขภาพมากกว่า และที่เนื้อถั่วแยกเป็นชั้น เนื่องจากเราไม่ใช้เนยเทียม ซึ่งถ้าให้หลิงใส่เนยเทียมก็คงไม่ทำออกมาขาย เพราะพูดไม่ออกว่าดีต่อสุขภาพยังไง แรกๆ ที่ถูกตีคืน หลิงเสียดายของ จึงนำไปบดรวมกับช็อกโกแลต แล้วแจกบ้านเด็กกำพร้า หรืออย่างธัญพืชอื่นๆ ที่เหลือกลับมา แต่ยังไม่หมดอายุ หลิงบดรวมทำซุปงาดำแจกในเทศกาลกินเจที่หน้าบ้านคุณพ่อทุกปี เพิ่งมาเว้นช่วงตอนโควิด

“หรืออย่างเท็มเป้ (ทำจากถั่วเหลือง มีโปรตีนสูง ย่อยง่าย) เป็นสินค้าที่หลิงรักมาก แม้ไม่ใช่โปรดักต์ที่จะเลี้ยงบริษัท แต่ก็ทำและฝ่าฟันมาตั้งแต่ยุคแรก ไปขายในห้างก็ถูกตีกลับมาเยอะ เพราะคนไม่รู้จักว่าคืออะไร จนต้องเลิกขายในบางห้าง จนตอนหลังคนรู้จักเท็มเป้เยอะขึ้น ก็มีหลายที่มาขอสั่งกับเราประจำ และที่สุดก็ได้กลับไปขายในบางห้าง

“เช่นเดียวกับ Peanut Butter ที่เมื่อเราสู้ต่อ ที่สุดมีบล็อกเกอร์ฝรั่งพูดชมผ่านสื่อว่า Peanut Butter ของเราเป็นแบรนด์ไทยที่ดีที่สุด ฟังแล้วเหมือนได้รับรางวัลเลยทีเดียว เช่นเดียวกับตอนไปเจอผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการที่อยู่โรงแรมธัญปุระ เขาบอกว่าวันนี้เขาได้เจอฮีโร่ ที่ผ่านมาเขาแนะนำ Peanut Butter ของเราให้ลูกค้าหลายคน ฟังแล้วปลื้มมาก คือสินค้าเราอาจจะไม่ได้ทำเงิน แต่ทำชื่อเสียงและความภาคภูมิใจ”

หลิง จันทิมา ติยะวัชรพงศ์ HappyMate

ในช่วงที่คนไทยยังไม่อินเรื่องออร์แกนิก ทำอย่างไรให้สินค้าเป็นที่รู้จักคะ

“หลิงโชคดีที่ได้รับโอกาสเชิญไปเป็นนักพูดเรื่องสุขภาพผ่านทางรายการวิทยุ ทีวี และนิตยสาร จึงเป็นจุดที่มีโอกาสบอกต่อคนอื่นๆ แต่ก็เหมือนตอนที่คนยังไม่ฮิตเรื่องการดูแลสุขภาพ เวลาเราแนะนำว่าอย่ากินเนื้อสัตว์เลย คนก็ยังไม่เชื่อ เพราะยังไม่มีข้อมูลให้เขาค้นหามากพอ แต่ทุกวันนี้คนเข้าใจมากขึ้น เพราะสามารถเสิร์ชหาข้อมูลได้มากมาย การไม่กินเนื้อสัตว์ไม่ใช่แค่ดีเฉพาะร่างกายของเรา แต่ยังดีต่อโลกและสิ่งแวดล้อมด้วย หลิงคิดว่าเรื่องสุขภาพสำคัญมาก โดยทั่วไปถ้ายังไม่ป่วยก็มักจะยังไม่สนใจสุขภาพ ฉันยังแข็งแรงดี กินอะไรก็ได้ แต่หลิงกลับมองอีกมุมว่าไม่ต้องรอให้ป่วยดีกว่าไหม ถ้าเราอยากแข็งแรงจนวันตาย ไม่ต้องนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล”

อุปสรรคที่คนทำธุรกิจอาหารสุขภาพต้องเจอคืออะไรคะ

“ต้องทำใจว่าจะขายไม่ออกค่ะ สำหรับคนที่จะทำธุรกิจนี้ให้เตรียมใจไว้เลยว่า ต่อให้สินค้าดีแค่ไหนก็อาจจะขายไม่ได้ แม้จะอยู่ในเทรนด์สุขภาพก็ตาม เพราะบางคนเห็นผลิตภัณฑ์แล้วอาจไม่รู้ว่าจะนำไปทำเป็นอาหารอะไรดี

“สิ่งที่ต้องทำคือต้องใช้ความอดทนเข้าสู้ อย่าง 3 ปีแรกหลิงเหนื่อยมาก กลับบ้านคือหมดแรง เพราะเวลาไปออกบู๊ธแต่ละครั้งหลิงต้องพูดแนะนำโปรดักต์ตลอด เพราะเรารู้จักสินค้าดีที่สุด เรียกว่าตอบจนมึน ข้าวกลางวันได้กินตอนเย็น เลิกงานขับรถกระบะไปส่งลูกน้องที่บ้านอีก ทำทุกอย่างเองหมด จำได้ว่าไหล่เกร็งเป็นประจำ และไม่มีเวลา วันๆ ขลุกอยู่แต่ในโรงงาน

“เพราะฉะนั้นใจต้องรักจริงๆ ถึงของที่คุณผลิตจะขายไม่ออก แต่คุณก็ยังต้องรักและอยากขายมันต่อ แล้ววันหนึ่งลูกค้าจะสัมผัสได้เอง เคยไปออกบู๊ธแล้วมีลูกค้าชมว่าผลิตภัณฑ์ของเราคุณภาพดี ฉะนั้นวันแรกเราอาจจะขายไม่ได้ แต่ถ้าลูกค้ากินแล้วดี เขาจะบอกต่อเอง”

เมื่อไรที่พูดได้เต็มปากว่า แบรนด์ HappyMate ประสบความสำเร็จคะ

“ผ่านไป 3 ปี แฮปปี้เมทก็เริ่มเป็นที่รู้จักค่ะ เคยมีลูกค้ามาที่โรงงาน และถามว่าบริษัทก่อตั้งมา 3 ปีเองเหรอ เพราะเขาเห็นว่าแบรนด์เรามีผลิตภัณฑ์เยอะ ต้องอายุมากแล้วแน่ๆ เพราะตอนนั้นเรามีทั้งแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์ ครีมงา กระเทียมโทนดอง ซอสมะขาม น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มบ๊วย น้ำผึ้งป่า ซีเรียล งาดำ ช็อกโกแลต ห้างเองก็ยอมรับมากขึ้น ให้ไปทำชั้นวางของสำหรับอาหารสุขภาพ โดยเฉพาะบางห้างเชิญไปขายโดยไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าก็มี” (ยิ้ม)

ในยุคที่เทรนด์สุขภาพมาแรง การแข่งขันระหว่างแบรนด์อาหารสุขภาพดุเดือดไหมคะ

“พอสมควรค่ะ แต่หลิงไม่ได้เน้นทำการตลาดมากนัก ยึดมั่นเรื่องคุณภาพ แม้ลูกค้าอาจจะไปลองของเจ้าอื่นบ้าง แต่ถ้าของเราคุณภาพดี เชื่อว่ายังไงเขาก็กลับมา อย่างเครื่องดื่มธัญญาหาร เราเก็บคืนมากกว่าขาย เพราะรสชาติจืด คนอาจจะไม่คุ้น เนื่องจากไม่ใส่น้ำตาล ไม่ผสมสีหรือผสมแป้ง อย่างเช่น รสมันม่วงก็คือมันม่วง 100 เปอร์เซ็นต์ รสข้าวแดงก็เช่นกัน ซึ่งที่จริงสะดวกกับยุคนี้ เพราะคุณสามารถใส่กับน้ำร้อนต้มกินเป็นข้าวต้มได้เลย ถ้าได้ลองจะรู้เลยว่ามันดีต่อสุขภาพจริงๆ

“หรือผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่หลิงภูมิใจอย่างถั่วต้ม ที่ผ่านมาหลิงซื้อถั่วกระป๋องแบรนด์ต่างประเทศกินตลอด โดยต้องคอยระแวงสาร BPA (Bisphenol A เป็นสารเคมีที่ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากพลาสติก เพื่อให้บรรจุภัณฑ์นั้นมีความใสและแข็งแรง) แม้เขาจะบอกว่าถ้าเจือปนนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่เราไม่อยากได้ จึงคิดทำเอง โดยซื้อเครื่องที่ฆ่าเชื้อโรคในอาหาร และสามารถบรรจุในขวดแก้วได้โดยไม่ต้องแช่เย็น อีกอย่างคือถั่วของเราต้มด้วยน้ำ ไม่มีสารเคมี ไม่มีเกลือ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ และขวดแก้วยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย หลิงชอบเอาถั่วต้มมาทำเป็นซุปถั่ว ปรุงรสด้วยเกลือดำกับพริกไทย หรือใช้ทำสลัดก็ได้”

ในฐานะผู้บริหาร คุณหลิงมีวิธีบริหารจัดการอย่างไรคะ

“ด้วยปัจจุบันหลิงมีครอบครัวและมีลูก 3 คน หลิงจึงปล่อยงานบางจุดให้ลูกน้อง ไปทำ แทนที่ตัวเองจะจัดการเองทุกเรื่อง ตอนที่ท้องลูกคนโต (น้องพุด – ด.ช. พุฒิลักษณ์ 14 ปี) ยังทำงานเต็มร้อย เดินเยอะมาก สุดท้ายลูกคลอดก่อนกำหนดตอน 7 เดือน ถ้าวันไหนพี่เลี้ยงลากลับบ้าน หลิงกลัวมาก เพราะนอนกับลูกไม่เป็น เนื่องจากเราใช้พลังไปกับงานทั้งวัน ถ้าตอนกลางคืนลูกร้องกวนคงไม่ไหว พอมีลูกคนที่สอง (น้องกิมมี่ – ด.ญ.ภริดา 12 ปี) ก็ยังทำงานหนัก เครียดเหมือนเดิม จำได้เลยว่าตอนปีใหม่ขลุกอยู่ในโรงงาน เพราะกลัวทำกระเช้าส่งห้างไม่ทัน บวกกับต้องทำออร์เดอร์จากต่างประเทศด้วย จบช่วงปีใหม่ไปนั่งวิปัสสนา กินข้าวน้อย ไม่กิน เนื้อสัตว์ สุดท้ายลูกสาวคลอดออกมาเป็นโรคหัวใจ ทั้งที่ครอบครัวไม่เคยมีใครมีประวัติเลย ตอนนั้นทำให้หันมามองตัวเองว่าความเครียดมีส่วนมาก สุดท้ายพอมีลูกคนที่ 3 (น้องเคน – ด.ช.ภูริวัฒน์ 10 ปี) หลิงปล่อยงานบางส่วนให้ลูกน้องไปทำต่อ ปรากฏว่าลูกเลี้ยงง่าย แข็งแรง เล่นกีฬาแทบจะทุกอย่างในโรงเรียน

“ขณะเดียวกันพอปล่อยให้พนักงานทำเองในส่วนนั้นๆ เขากลับเก่งขึ้นด้วยซำ้ ต่างจากแต่ก่อนที่เราไม่เคยปล่อย ตอนนี้เขาวางแผนการผลิตได้ดีขึ้น จึงได้รู้ว่าที่จริงเราไม่ได้เก่งอยู่คนเดียว คนอื่นอาจจะเก่งกว่าก็ได้ ถ้าเราไว้ใจให้เขาแสดงฝีมือ

“เมื่อไหร่ที่มีโอกาสพูดกับทีมงาน หลิงจะบอกพวกเขาเสมอว่า ถ้าคุณทำ คุณ ได้ และงานของเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับสัตว์ ไม่ได้ทำบาป แล้วยังช่วยทำให้คนสุขภาพดี ถ้าคุณทำอาหารที่ดีมีคุณภาพออกไป คุณก็จะได้บุญด้วย ทำให้ทุกคนมีใจทำงาน”

อะไรคือแรงบันดาลใจในการทำงานของคุณหลิงคะ

“การที่ได้ทำประโยชน์ให้คนอื่นค่ะ หลิงภูมิใจมากที่ทำอาชีพนี้ ตอนแรกหลิงตั้งเป้าที่จะส่งออกขายต่างประเทศเยอะๆ ตอนนี้ไม่ได้เน้นแบบเดิม เพราะภูมิใจกับการขายในประเทศ ขณะเดียวกันลูกค้าฝรั่งที่ซื้อของเรากินและชมสินค้าเราก็มี ซึ่งเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าแรงบันดาลใจ หรือการไปเจอลูกค้าตอนออกบู๊ธ แล้วเขาบอกว่าช่วยทำขนมดีๆ อร่อยๆ ออกมาให้กินหน่อย แค่นี้ก็รู้สึกว่าเขาเชื่อมั่นในตัวเราแล้ว

“อีกอย่างที่รู้สึกว่าสินค้าเราตอบโจทย์ความตั้งใจของหลิงคือ แฮปปี้เมท เป็นผลิตภัณฑ์ที่กินได้ทั้งครอบครัว อย่างเด็กยังต้องการความหวาน เราก็มีโปรดักต์ช็อกโกแลต หรือผู้ใหญ่ต้องการความจืด เราก็มีซีเรียลที่ไม่มีน้ำตาล เพราะความต้องการอาหารของแต่ละวัยไม่เท่ากัน เราจึงใส่ใจที่จะทำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจคือเงิน เราไม่สามารถขาดทุนจนเลี้ยงตัวเองไม่ได้ สำหรับสินค้าที่ขายไม่ดี หลิงจะให้โอกาสเขาฝ่าฟันไปอีกสัก 2 ปี ถ้ายังขายไม่ได้จริงๆ ค่อยยกเลิก แต่ทั้งหมดคือเรามั่นใจว่าเราทำสิ่งที่ดี

“สิ่งสำคัญคือหลิงจะยึดความรู้สึกแรกไว้เตือนตัวเองเสมอว่าทำไมเราจึงทำผลิตภัณฑ์นี้ออกมา เราทำเพราะมันเป็นสิ่งดี เราไม่ได้หลอกลูกค้า ถ้าเขาได้กินก็จะรู้ นี่คือพลังและแรงบันดาลใจให้ยังสู้และทำต่อไปค่ะ”

HappyMate’S STYLE

  • ทำงานด้วยใจรัก
  • ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ยึดแนวทางธรรมชาติ
  • มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ดี ไม่เปลี่ยนไปตามกระแส
  • ปล่อยให้ลูกน้องทำงานเองบ้าง เพื่อให้เขาเก่งและเติบโต

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 969

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชีวิตจริงที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มาดามแป้ง นวลพรรณ CEO นักสู้หญิงเหล็ก

คัมภีร์นักสู้! ของคนจริง “ตัน ภาสกรนที” ยอมรับปัญหาให้ไว เริ่มแก้ไขให้เร็ว

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล & พราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ หัวเรือใหญ่แห่ง ZIPMEX ผู้นำวงการเงินดิจิทัล

มิสยูนิเวิร์สแคนาดา โดยคอมเม้นต์ เหยียดสีผิว!!

โดนว่าเหมือนผี!! มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เรียกร้องให้หยุดเหยียดสีผิว ชีวิตคนดำก็มีค่า

Alternative Textaccount_circle
มิสยูนิเวิร์สแคนาดา โดยคอมเม้นต์ เหยียดสีผิว!!
มิสยูนิเวิร์สแคนาดา โดยคอมเม้นต์ เหยียดสีผิว!!

โดนว่าเหมือนผี!! มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เรียกร้องให้หยุด เหยียดสีผิว ชีวิตคนดำก็มีค่า

เรื่องการเหยียดสีผิวชวนให้หวนคิดถึง แฮชแท็ก #BlackLivesMatter ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจคนทั่วโลกที่เมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา เมื่อตำรวจเข้าจับกุมชายผิวสีนามว่า George Floyd โดยใช้ช่วงเข่ากดต้นคอของจอร์จเอาไว้เป็นเวลานานจนขาดอากาศหายใจในที่สุด แต่การเสียชีวิตของจอร์จในครั้งนั้น เป็นเสมือนเชื้อเพลิงโหมกระพือให้กระแสสังคมหันกลับมาให้ความสำคัญกับ “มนุษยธรรม” และ “ความยุติธรรม” กับชนทุกสีผิว โดยกระแสการเรียกร้องความยุติธรรมดังกล่าวเริ่มคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เริ่มมีเหตุการณ์อีกนับสิบเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับคนผิวสีในสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดการรณรงค์ #BlackLivesMatter นั้นเริ่มขึ้น และกลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก

ซึ่งการรณรงค์เรียกร้อง #BlackLivesMatter ไม่ได้มีจุดประสงค์เพียงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ จอร์จ ฟลอยด์ คนเดียวเท่านั้น แต่รวมไปถึงกลุ่มคนผิวสีทั่วโลกที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์รุนแรง และความไม่ยุติธรรมในสังคมด้วย ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นหลายคนก็คงจะได้เห็นเหล่าศิลปินคนดังมากหน้าหลายตาออกมาเคลื่อนไหวเพื่อคนผิวสีกันมากขึ้น

เหตุผลที่เกริ่นเรื่อง #BlackLivesMatter มานั้น เพราะดูเหมือนการเหยียดสีผิวจะยังไม่หมดไป แม้ทั่วโลกจะช่วยกันรณรงค์มากน้อยแค่ไหน ล่าสุด “Nova Stevens” มิสยูนิเวิร์สแคนาดา (Miss Universe Canada) ได้โพสต์ภาพบนอินสตาแกรมของเธอ @thenovastevens โดยในภาพดังกล่าวมีแต่คอมเม้นต์ทัศนคติเชิงลบที่แสดงถึงการเหยียดผิวอย่างรุนแรง และคอมเม้นต์เหล่านั้นเป็นภาษาตากาล็อก

 

View this post on Instagram

 

A post shared by NOVA (@thenovastevens)

 

View this post on Instagram

 

A post shared by NOVA (@thenovastevens)

ความคิดเห็นในทัศนคติเชิงลบที่มีต่อรูปลักษณ์ของเธอเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นภาษาตากาล็อก (ภาษาฟิลิปปินส์ หรือ ภาษาฟิลิปีโน)

จากสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เธอจึงโพสต์ว่า ‘black lives matter’ ซึ่งเป็นคำพูดที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเหยียดสีผิว “ชีวิตคนดำก็มีค่า” เช่นกันกับ ชาวเอเชียก็เป็นมนุษย์ ที่ถูกเหยียดผิวไม่ต่างกัน เธอรู้สึกผิดหวังกับคอมเม้นต์เหล่านี้มาก เธอบอกว่าความสนุกของพวกคุณกำลังสร้างความเกลียดชังมากขึ้น พวกคุณไม่จำเป็นต้องสนับสนุนผู้เข้าประกวดทุกคน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเหยียดหยามใครเพื่อให้ใครอีกคนได้เปล่งประกายมากกว่า

พร้อมกันนี้ Nova Stevens ยังทิ้งท้ายว่า “เชียร์นางงามคนอื่นๆด้วยความรักและเคารพเหมือนกับที่เชียร์นางงามของคุณ เพราะพวกเธอก็สมควรได้รับมงกุฎมิสยูนิเวิร์สเช่นกัน มาช่วยกันส่งต่อความรักไม่ใช่ความเกลียดชังกันเถอะ”

หลังจากโพสต์นี้ของเธอถูกเผยแพร่ไปวันเดียว Nova Stevens  ก็ได้โพสต์ภาพใหม่ พร้อมกับคอมเม้นต์จากแฟนๆ ชาวฟิลิปปินส์ ที่เข้ามาขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นและให้กำลังใจเธอมากมาย ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ่งใจ พร้อมทั้งกล่าวว่าที่เธอโพสต์ไม่ได้ต้องการกระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังมากขึ้น และเข้าใจดีว่านั่นไม่ใช่ความเห็นจากคนฟิลิปปินส์ทั้งหมด เธอก็มีเพื่อนรักเป็นชาวฟิลิปปินส์เช่นกัน

เหตุการณ์นี้หวังว่าจะช่วยเตือนใจชาวโซเชี่ยลทั้งหลาย ให้ตั้งสติ ไตร่ตรอง คิดดีๆ ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นอะไรออกไป เพราะบางครั้งแค่คำพูดเล็กๆ ที่เราอาจไม่ทันคิดว่าอาจเป็นเรื่องราวใหญ่ มันอาจลุกลามจนอาจสร้างความเกลียดชังและประเด็นที่ไม่ควรเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน xoxo

มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เจอคอมเม้นต์เหยียดสีผิว มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เจอคอมเม้นต์เหยียดสีผิว มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เจอคอมเม้นต์เหยียดสีผิว มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เจอคอมเม้นต์เหยียดสีผิว มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เจอคอมเม้นต์เหยียดสีผิว มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เจอคอมเม้นต์เหยียดสีผิว มิสยูนิเวิร์สแคนาดา เจอคอมเม้นต์เหยียดสีผิว


ภาพ IG : thenovastevens

 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เหตุผลที่ Justin Bieber ทำผมทรงเดรดล็อค แล้วเจอดราม่าด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรม

สวยไม่สร่าง ‘แอนนา นาตาชา’ วัย 53 ปี หน้าใส หุ่นเป๊ะทุกสัดส่วนในชุดบิกิินี่สุดแซ่บ

แผนการกินแบบ ‘Sirtfood Diet’ สูตรลดน้ำหนักที่ Adele กินควบคู่ฟิตหุ่นแล้วได้ผล

มาริโอ้ เมาเร่อ

สื่อฮ่องกงยก พระเอกไทย มาริโอ้ เมาเร่อ Thailand No. 1 Handsome

Alternative Textaccount_circle
มาริโอ้ เมาเร่อ
มาริโอ้ เมาเร่อ

หลังจากตัดสินใจเล่นภาพยตร์ฮ่องกงครั้งแรก ในที่สุดผลงานหนังเรื่องใหม่ของ พระเอกไทย มาริโอ้ เมาเร่อ “Moved Her 77 Times” หรือชื่อไทย “77 จังหวะหัวใจกระซิบรัก” ได้คิวเตรียมฉายในวันที่ 14 พฤษภาคม นี้แล้ว (ที่ฮ่องกง) ซึ่งล่าสุดสื่อบันเทิงของฮ่องกง Oriental Daily News ได้เผยบทความถึงพระเอกหนุ่มชาวไทยคนนี้ พร้อมเรียกหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ ว่า  “Thailand No. 1 Handsome”

นักแสดงหนุ่มวัย 32 ปี  มาริโอ้ เมาเร่อ ที่เป็นที่รู้จักในนาม Thailand No. 1 Handsome  เขามีผลงานหนังอันโด่งดังและเป็นที่รู้จักของชาวฮ่องกงอาทิ “รักแห่งสยาม…The Love of Siam”, “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก…A Little Thing Called Love”, “พี่มากพระโขนง…PEE MAK” ล่าสุดได้ร่วมงานกับ  Charlene Choi และ Pakho Chau ในผลงานเรื่อง “Moved Her 77 Times” โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นผลงานแรกของในฮ่องกงอีกด้วย

มาดูสัมภาษณ์ของดาราหนุ่มคนนี้กันบ้างดีกว่า มาริโอ้ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า  เขาเองก็เป็นแฟนหนังฮ่องกง เพราะที่เมืองไทยมีคนชอบหนังฮ่องกงเยอะ โดยภาพยนตร์ที่เขาชื่นชอบที่สุดคือ กู๋หว่าไจ๋ มังกรฟัดโลก (Young and Dangerous) มาริโอ้ยังบอกอีกว่าผลงาน “Moved Her 77 Times”  ถือได้ว่าท้าทายสำหรับเขามากๆ แม้มีเรื่องติดขัดบ้างแต่เขาก็ผ่านไปได้จากความช่วยเหลือของผู้กำกับ Qiu Litao

อย่างไรก็ตาม มาริโอ้ยังได้พูดถึง 2 นักแสดงนำที่ต้องเข้าฉากด้วยอย่าง Charlene Choi โดยบอกว่าเขารู้สึกว่าเธอมีทัศนคติที่ดีและเป็นมิตรมากๆ ขณะที่ Pakho Chau เป็นคนที่มีน้ำใจมากและเป็นคนสบายๆ มาริโอ้รู้สึกโชคดีมากที่ได้ทำงานร่วมกับนักแสดงทั้งสองคน

พระเอกไทย มาริโอ้ เมาเร่อ  จากผลงาน “Moved Her 77 Times”

 

 มาริโอ้ เมาเร่อ

Mario Maurer


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

สื่อฮ่องกงพูดถึง นางเอกของเมืองไทย ใหม่-ดาวิกา สวยระดับนางงาม

ยกอันดับ 1 ให้เลย! สื่อเกาหลีพูดถึงสไตล์ ‘ลิซ่า’ แฟชั่นนิสต้าที่ได้รับการยอมรับ

‘วันศุกร์ ยุติ สิ้นสุดความสัมพันธ์กับเพื่อนหญิง ด้วยเรื่องของเด็กๆ’ ดูดวงรายวัน 7 พฤษภาคม 2564

ดูดวงรายวัน 7 พฤษภาคม 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘วันศุกร์ ยุติ สิ้นสุดความสัมพันธ์กับเพื่อนหญิง ด้วยเรื่องของเด็กๆ’

ดูดวงรายวัน 7 พฤษภาคม 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :  มีโอกาสได้รับการชักชวนให้เข้าไปทำงานในธุรกิจของครอบครัว หรือคนรู้จัก ซึ่งคุณมีปฏิภาณไหวพริบ เทคนิค แท็คติกแพรวพราว สามารถพลิกแพลงกลยุทธ์ ทำงานได้หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานหรือเกี่ยวข้องกับงานสายเอ็นเทอร์เทนเม้นท์ เช่น ดีเจ พิธีกร ศิลปิน นักร้อง นักแสดง ผู้ประกอบการสถานบันเทิง ฯลฯ วันนี้ควรระวังการตัดสินใจที่เด็ดขาด แต่ไม่รอบคอบ กับการไม่มีแผนงานล่วงหน้า เพราะจะทำให้การตัดสินใจต่างๆ ผิดพลาดเสมอ

การเงิน  : จะได้ลาภใหญ่เฮงๆ ปังๆ  ในรูปของเงินปันผลจากธุรกิจของครอบครัว ซึ่งคุณไม่คาดคิดว่าจะได้  แต่เมื่อได้มาแล้วก็นำไปเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนฝูง ญาติมิตร และบริวารจนหมด

ความรัก :  คุณตัวติดกันตลอดเวลา แต่มีแนวโน้มว่า วันนี้มีเหตุให้ต้องอยู่ห่างกัน คุณก็เริ่มจะคิดเล็กคิดน้อย หึงหวง และแสดงออกด้วยการเรียกร้องความสนใจ จนมีความเป็นไปได้ที่เขาจะไปจริงๆ คนโสด คุณมีดวงได้เจอชายหนุ่มในฝันแบบที่อยากจูงมือไปอยู่ด้วยกันเลย ก็ควรแต่แค่คิดนะคะ เพราะเสี่ยงต่อการถูกหลอกมาก

สุขภาพ :  ที่ต้องระวังมากที่สุด เกี่ยวกับระบบหมุนเวียนเลือด ทำให้คุณมีอาการอ่อนเพลีย หน้ามืด ตาลาย เวียนศีรษะ ที่มีสาเหตุมาจากโลหิตจาง หรือเซลล์เม็ดเลือดผิดปกติ จึงควรรับประทานอาหาร ผักและผลไม้ และวิตามินที่จะช่วยในการบำรุงเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่มีรูปแบบการทำงานเป็นลำดับขั้นตอน และระเบียบข้อบังคับเป๊ะ เช่น งานในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ งานบัญชี งานธุรการ งานเอกสาร ซึ่งคุณมีความรู้ ความสามารถ รับผิดชอบงานในหน้าที่ และมีความคิดสร้างสรรค์ หากกำลังทำโปรเจ็คท์อะไรอยู่ คุณมีโอกาสได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูง มีลูกน้องอยู่ในอำนาจการปกครอง ซึ่งคุณก็มีพลังกาย พลังใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคและปัญหาที่จะเข้ามาอีกเพียบเลย

การเงิน :  คุณสามารถใช้เงินทำงานหารายได้ที่สูงให้กับตัวเอง ชอบลงทุน แต่วันนี้ไม่ควรหลงเชื่อคำพูดที่มีหลักการและเหตุผลที่จะชักชวนให้คุณลงทุนในธุรกิจ ธุรกรรม อะไรก็ตาม เพราะมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ความรัก : จากที่คุณมีภาวะผู้นำสูงมาก จนถึงครอบครัวคุณก็ซีเรียสจนจริงจังไปเสียทุกเรื่อง ผ่อนคลายบ้างค่ะ คนข้างตัวจะได้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องเกร็งเวลาอยู่กับคุณ คนโสด คุณชอบแอบรัก อาจเพราะด้วยตำแหน่งหน้าที่การงาน ทำให้คุณไม่สามารถที่จะแสดงออกได้ วันนี้มีโอกาสได้พบคู่แท้นะคะ

สุขภาพ  :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่ายนะคะ ไม่ควรกลั้นปัสสาวะจนเคยชิน เพราะจะทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา ในกรณีรุนแรงมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อในกระแสเลือดได้

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  มีความเป็นไปได้สูงที่งานของคุณกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องแก้ไขปัญหาและอุปสรรคยาวนานเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งบรรจุเข้าทำงานใหม่ ซึ่งคุณมีความรู้ ความสามารถ รับผิดชอบงานได้ดี มีความคิดสร้างสรรค์ ในความเป็นจริงน่าจะผ่านงานได้ไม่ยาก แต่ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไป เพราะมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางอย่างติดขัด ทำให้คุณไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติเสียที ก็ควรใจเย็นๆ ไม่ควรโวยวาย พูดเท่าที่จำเป็น ไม่เช่นนั้นสถานการณ์อาจเลวร้ายกว่านี้

การเงิน :  เป็นนักลงทุน แต่ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ได้มาจากแหล่งเงินที่ไม่ถูกต้อง งานสีเทาทุกรูปแบบ รวมถึงการเสี่ยงโชคด้วย

ความรัก :  มีความเป็นไปได้สูงมากที่คุณจะถูกพวกปากหอยปากปูเม้าท์มอยว่า คุณงานยุ่งจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว แต่จริงๆ แล้วคุณแอบคบกิ๊ก ไปเที่ยวกับหนุ่มๆ หนักแน่นนะคะ เพราะมีโอกาสที่จะทำให้ครอบครัวเกิดความร้าวฉานขึ้นได้ คนโสด  คุณพยายามทำทุกอย่างเพื่อชนะใจคนที่ถูกใจ วันนี้มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ แต่พอสมใจแล้วคุณก็เบื่อ

สุขภาพ  :  หลีกเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ ไม่สด ไม่สะอาด ถูกสุขอนามัย เพราะจะทำให้คุณอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย จนถึงลำไส้อักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้คำพูดหรือวาทศิลป์ในการติดต่อประสานงาน การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน และงานส่งเสริมการขายทุกประเภท มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าทีมทำงาน หรืออยู่ในตำแหน่งบริหารงานระดับสูง บอกเลยว่า ความสำเร็จวันนี้ไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ แต่ต้องแลกด้วยพลังกายและพลังใจอย่างมากมาย วันนี้คุณควรลดอีโก้และความเชื่อมั่นในตัวเองลง และเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย เพื่อป้องกันดราม่าที่จะเกิดขึ้น

การเงิน :  สามารถทำงานสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับตัวเอง เมื่อได้มา คุณก็ใช้เงินซื้อความสุขหรูหราฟู่ฟ่าให้กับตัวเองไม่พอ ยังมอบให้กับเพื่อนฝูง พี่น้อง และญาติมิตรด้วย ควรเก็บเงินไว้บ้างนะคะ

ความรัก :  วันนี้คุณมีโอกาสได้ข่าวที่น่ายินดี เช่น การเฉลิมฉลองที่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับมอบหมายหน้าที่อันทรงเกียรติ คือเป็นหลักของธุรกิจครอบครัว ซึ่งคู่คุณก็จะช่วยเสริมหน้าที่การงานให้คุณได้อย่างดี คนโสด  มีโอกาสได้รับข่าวดี ข่าวมงคลนะคะ แต่น่าจะติดที่งานยุ่งและสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้  คุณจึงยังไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้

สุขภาพ :  คุณดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี แต่เพราะคุณทำงานหนักจนอาจประมาทไปนิด พักผ่อนน้อยไปหน่อย หรือรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา จึงมีความเสี่ยงที่คุณจะมีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานในวงการบันเทิง งานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ศิลปะ งานออกแบบดีไซน์ ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่คุณจะยังทำงานอยู่กับการติดต่อประสานงาน เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ การวางระบบและเครือข่าย ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถ work from home  ได้ วันนี้ไม่ควรวางตัวสนิทสนมกับลูกน้องมาก เพราะเขาจะมองไม่เห็นศีรษะคุณ ส่งผลให้คุณอึดอัด เหมือนถูกต้อนเข้าสู่ทางตัน ไปต่อไม่ถูก ต้องหาทางออกให้ตัวเองอย่างบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น

การเงิน :  มีโชคลาภ มีผู้ให้ความช่วยเหลือและอุปถัมภ์ มีโอกาสได้มรดกด้วยนะเนี่ย แต่คุณก็จะนำเงินไปลงทุน และทุ่มให้กับคนรักอย่างไม่อั้น อาจมีญาติพี่น้องมาขอหยิบยืมเงินนะคะ

ความรัก :  คุณเริ่มสับสนว่า จะอยู่กันแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน เพราะตอนนี้อยู่ด้วยกันบ่อยจนเริ่มเบื่อกันแล้ว ทางที่ดีคุณไม่ควรใส่ใจจนอีกฝ่ายขยับเขยื้อนตัวไม่ได้เลย คนโสด คุณรักคนง่ายมากและรวดเร็ว ไม่คิดเยอะ หากคุณอกหักก็ไม่คิดเยอะเช่นกัน เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

สุขภาพ :  มีความเป็นไปได้ที่ช่วงขาและข้อต่างๆ จะมีปัญหา เช่น โรคเก๊า หรืออัมพฤกษ์ รวมถึงเกิดจากการเดินตกจากขั้นบันได หรือตกจากขอบฟุตบาท ตกหลุม ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ จนถึงเส้นเอ็นตึงยึด

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  หากงานของคุณยังติดขัด คาราคาซัง วันนี้มีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินมาถึงวาระสุดท้าย ก็ควรคิดในทางบวกไว้ว่า จบเพื่อจะเริ่มต้นในสิ่งที่ดีกว่า เพราะวันนี้คุณมีโอกาสได้ร่วมงานหรือร่วมธุรกิจกับเพื่อนสนิทผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดและจินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงาน เช่น นักแสดง นักเขียน สื่อมวลชน ศิลปิน รวมถึงงานบริการ และเกี่ยวข้องกับเด็ก ซึ่งเป็นงานที่จำเป็นต้องตั้งใจอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

การเงิน : รายได้ประจำอาจติดตัวแดง สร้างความเดือดร้อนให้กับคุณอย่างมาก เพราะไม่ได้ใช้จ่ายอย่างสุขสบายเหมือนที่ผ่านมา หรือซื้อขนมนมเนยอย่างที่เคยซื้อ ก็ต้องอดทนให้ผ่านวันนี้ไปก่อนนะคะ

ความรัก :  มีความเป็นไปได้ที่คุณจะสิ้นสุดความสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้องผู้หญิง หรือเด็กๆ ในบ้าน ควรคุยกันปรับความเข้าใจกันดีกว่าค่ะ คนโสด มีโอกาสที่คุณจะสิ้นสุดความสัมพันธ์กับเพื่อนผู้หญิงที่สนิทนะคะ มีสาเหตุมาจากเรื่องของเด็กๆ

สุขภาพ :  ระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกาย เช่น น้ำเหลือง น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำย่อย น้ำในหู จนถึงระดับฮอร์โมนอาจสวิงหนักถึงหนักมากนะคะ

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  : มีความเป็นไปได้สูงที่คุณอยู่ในช่วงที่ต้องแก้ไขปัญหาและฝ่าฟันกับอุปสรรคที่จะเข้ามายาวเลย แต่ที่จะสร้างความหนักใจให้กับคุณอย่างมากก็คือ จะถูกมองข้ามหรือลดบทบาทความสำคัญลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอยู่มีหน้าที่การงานในระดับสูง ไม่ว่าจะนักธุรกิจ นักบริหาร นักการเมือง หรือบุคคลในเครื่องแบบ บอกเลยว่า ความสำเร็จไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ แล้วหากคุณอดทนจนผ่านจุดนี้ไปได้ ผลตอบแทนที่ได้รับถือว่าคุ้มกับความเหนื่อย

การเงิน : เงินแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงกาย ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง หรือการเสี่ยงโชค เพราะคุณจะสูญเงินก้อนใหญ่ให้กับคนใกล้ชิด ต้องระวัง!!

ความรัก : มีความเป็นไปได้ที่จะมีเสียงนกเสียงกาลอยลมมาให้เข้าหูคู่คุณว่า คุณมีกิ๊ก ซึ่งคุณก็พยายามที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง แต่ก็ไม่เป็นผลนะคะ เพราะเขาไปแล้ว เอ…ใครมีกิ๊กกันแน่เนี่ย    คนโสด คุณกำลังทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจคนที่คุณถูกใจ แต่วันนี้อย่าเพิ่งคาดหวังเลยค่ะ เพราะเขาไม่น่าจะเหมาะสมกับคุณ

สุขภาพ :  คุณดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองเป็นอย่างดี แต่ยิ่งระวังก็ยิ่งพลาด วันนี้มีความเสี่ยงที่คุณจะอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย ลำไส้อักเสบ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงไม่สุก หรือสุกๆ ดิบๆ รสจัดนะคะ

 

 

ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล

ตัวตนลึกๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ของ “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” #สามีแห่งชาติ คนล่าสุด

Alternative Textaccount_circle
ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล
ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล

หลายคนรู้จักและชื่นชม “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” จากบท “หลวงสรศักดิ์” ในละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส ที่แม้ไม่ใช่พระเอก แต่การแสดงของเขาได้ใจผู้ชมไปเต็มๆ หลายคนเรียกเขาว่า “ก๊อต ซิกซ์แพ็ค” ซึ่งเขาไม่อินกับคำชมนี้เท่าไร แต่จะปลื้มกว่าถ้าบอกว่าเขาเล่นละครดี จนมาถึงบทบาทล่าสุด “อำพน” ผู้ชายแสนอบอุ่น ในละครเรื่อง กระเช้าสีดา ที่ส่งให้เขาขึ้นแท่น #สามีแห่งชาติ คนล่าสุดไปเรียบร้อย

เขาเคยคิดอยากออกจากวงการหลายครั้ง เพราะคิดว่าทำได้ ไม่ดีพอ แต่ทุกครั้งเขากลับมาได้เพราะหาความรู้ ก๊อตเรียนไม่จบ แต่อาจจะอ่านหนังสือมากกว่าคนที่เรียนจบปริญญาเสียอีก นี่เป็นเพียงแง่มุมหนึ่งของ “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” ศิลปินนักแสดงที่ใช้ชีวิตไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน วันนี้ แพรว มีโอกาสนั่งคุยกับเขายาวๆ ถึงชีวิตที่ผ่านมา ตลอดจนแง่มุมความคิดและความติสต์

ตัวตนลึกๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ของ “ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล” #สามีแห่งชาติ คนล่าสุด

ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล

ก๊อตในวัยเด็กเติบโตมาอย่างไรคะ

“ผมเป็นลูกคนเดียว แต่โตมาในครอบครัวใหญ่ คืออยู่กับญาติพี่น้อง ฝั่งแม่ที่มีกว่าสิบคน แต่ละบ้านก็มีลูกครอบครัวละคน จึงมีเด็กอยู่รวมกันเยอะมาก เราอัดอยู่ด้วยกันในแฟลตย่านห้วยขวาง ค่อนข้างอบอุ่น ได้รวมกลุ่มเล่นกันไปตามประสาเด็ก ปั่นจักรยาน จุดประทัด เล่นลูกแก้ว

“เดิมผมเรียนใกล้บ้านมาตลอด กระทั่งขึ้น ม.ปลาย ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนวัดราชบพิธ เพราะพ่ออยากให้เรียนไกลบ้านบ้าง จะได้รู้จักถนนหนทาง ดูแลตัวเองเป็น

“เรื่องเรียนผมมีทัศนคติส่วนตัวว่าคนที่ได้เกรดดีไม่ได้เป็นคนดีทุกคน คนที่สอบได้เอบวก แต่จัดการอารมณ์ไม่ได้หรือเอาตัวไม่รอด มีให้เห็นเยอะแยะ ตอนอยู่โรงเรียนวัดราชบพิธ ผมอยู่สาขาวิชาการทั่วไป คือที่อื่นมีสายวิทย์-คณิต ศิลป์-คำนวณ ศิลป์-ภาษา แต่ที่นี่มีสายวิชาการทั่วไป คือรวมมนุษย์ที่เรียนห่วย ไม่เข้าเรียน อย่างผมเองตอน ม.6 ขาดเรียน 6 เดือน จนครูไม่รู้จะทำอย่างไรกับไอ้บ้านี่แล้ว

“แต่ผมไม่ได้หายไปเกเรที่ไหนนะ ผมไม่ตั้งใจเรียนในระบบก็จริง แต่ถ้าอยากรู้เรื่องอะไร ผมจะขวนขวายหาความรู้มาให้ได้ อย่างตอนที่หายไปหลายเดือน ผมไปเรียนภาคค่ำเป็นพวกวิชาชีพต่างๆ เช่น ซ่อมคอมพิวเตอร์ เขียนแบบอินทีเรียร์ เย็บผ้า แล้วก็ฝึกตัดต่อริงโทนเองเพราะชอบ คือเรียนในสิ่งที่อยากรู้ แต่ไม่มีสอนในโรงเรียน ค่าเรียนคลาสหนึ่งไม่แพง 700 บาท ผมเก็บจากค่าขนมบวกกับหารายได้เสริม เช่น ไรต์เพลงขายบ้าง รับจ้างซื้อหนังสือการ์ตูนให้เพื่อนบ้าง คือบวกค่าหิ้ว สมมติเล่มละ 35 บาท ผมคิด 38 บาท แล้วให้เพื่อนรวมกันสั่งทีละเยอะๆ จะได้ซื้อทีเดียว ไม่ต้องไปบ่อย แต่ได้กำไรหลายบาท”

มามีแววชอบงานวงการบันเทิงตอนไหนคะ

“ตอนเข้ามหาวิทยาลัยผมเลือกเรียนออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เพราะชอบวาดรูป กำลังจะขึ้นปีสอง รุ่นพี่ชวนไปเป็นเด็กฝึกงาน คอยยกฉากให้บริษัทโซนิกซ์ยูธ 1999 ของพี่ก้อง-ปิยะ ได้เงินวันละ 500 บาท พอยกฉากเสร็จผมก็นั่งดูเขาทำงานกัน ตอนนั้นพี่ท็อป-ดารณีนุช กับพี่ก้อง-ปิยะ เป็นผู้ดำเนินรายการ เอ๊ะ ดูสนุกดี เลยไปช่วยเขาทำหน้าที่อื่นด้วย ทั้งเคาะสเลต (Slate) เขียนบอร์ด ก็เริ่มรู้สึกว่างานวงการบันเทิงน่าสนใจ จากนั้นจึงตระเวนแคสต์งานไปทั่ว แต่ไม่เคยได้ ผ่านไปพักใหญ่จึงได้งานโฆษณาชิ้นแรก เป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลม ผมเล่นเป็นวุ้นอยู่ข้างหลัง (หัวเราะ) คือเป็นเอกซ์ตร้าเดินอยู่ไกลๆ เบลอๆ เขาบอกให้เดินก็เดิน ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่านักแสดงคืออะไร แค่อยากทำ

“กระทั่งวันหนึ่งเพื่อนชวนไปประกวดรายการ ดิ ไอดอล โปรเจ็กต์ ผมไปเพราะไม่รู้อะไรเลย เข้าใจว่า 12 วันก็จบ แต่ความจริงคือ 12 สัปดาห์ (ยิ้ม) แต่แค่ได้เป็นหนึ่งในคนที่เข้าประกวดก็โอเคแล้ว จึงลองดู ข้อดีคือมีเรียนการแสดง ร้อง เต้นทุกสัปดาห์ ยอมรับว่าผมทำได้ห่วยมาก อาศัยว่ากล้าไว้ก่อน กระทั่งวันสุดท้ายที่ประกวด ผมคิดว่ายังไงเราคงไม่ได้หรอก เพราะต้องชนะด้วยคะแนนโหวต บ้านเราไม่มีสตางค์ไปช่วยโหวตขนาดนั้น ขณะที่ผู้เข้าแข่งขันอื่นเขาโหวตกันเต็มที่ จำได้ว่าผมร้องเพลงของไมโคร เห็นญาติๆ มาดู เราก็สนุกเลย ใส่ไปเต็มเหนี่ยว ดันชนะซะงั้น (หัวเราะ) และเพราะรายการนี้ทำให้ผมได้งานจากพี่กอบสุข (กอบสุข จารุจินดา ผู้จัดละคร) เล่นละครเรื่องแรกคือ คุณนายสามสลึง”

ได้เข้าวงการบันเทิงเต็มตัวครั้งแรกเป็นอย่างไรคะ

“ช่วงแรกผมทำตามออร์เดอร์อย่างเดียว ไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับการแสดงเลย มาเริ่มสนุกขึ้นตอนเล่น หลวงตามหาชน เพราะได้เจอลุงโน้ต พี่เจี๊ยบ เชิญยิ้ม อากล้วย อาโย่ง ได้เห็นการทำงานของตลกที่เป็นเรื่องของจังหวะและไทมิ่งรับส่งมุกกัน และเป็นช่วงที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าทำงานวงการบันเทิงต้องระวังเรื่องเงิน เพราะหลังจากทำงานละครและซีรี่ส์อยู่ได้ประมาณ 3 ปี พบว่าเป็นหนี้สามแสน! อะไรวะ เล่นซีรี่ส์เป็นตอน ออกอากาศทุกสัปดาห์ ต้องมีเงินสิ ทำไมไม่มีล่ะ

“เพราะส่วนใหญ่เป็นการพูดอย่างจ่ายอย่าง ได้ไม่เท่าจำนวนจริงตามที่ตกลงไว้ อย่างตอนนั้นได้เงินจากละคร มีบริษัทต้นขั้วหักไป 30 เปอร์เซ็นต์ ผมต้องได้ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่พอรับเงินจริงๆ เขาให้ไม่ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ไหนจะเรื่องภาษีอีก ซึ่งเด็กใหม่ที่เข้ามาส่วนใหญ่จะไม่รู้เรื่องนี้ แต่ถือเป็นข้อดีที่ทำให้ผมฉลาดขึ้น บอกเลยว่าเรื่องเงินเราต้องจัดการเอง ต้องมีคนที่ไว้ใจได้คอยดูแล อย่างตอนนั้นผมก็ได้พ่อที่คอยจี้ตามถามให้ และด้วยเรื่องนี้แหละที่ทำให้รู้สึกว่านี่คือวงการมายาของแท้ เป็นการทำงานที่สร้างภาพให้ดูดี ส่งผลให้ผมมีทัศนคติที่ไม่ดี จนรู้สึกไม่อยากเป็นดารา อยากเป็นแค่นักแสดงอย่างเดียว ไม่อยากออกสื่อ ไม่ให้สัมภาษณ์ ไม่อยากคุยกับนักข่าว ผมทำงานแสดงโดยมีทัศนคติอย่างนี้จนอายุ 25 จึงได้เปลี่ยนมุมมอง”

ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล

เพราะอะไรจึงเปลี่ยนได้คะ แล้วมุมมองใหม่เป็นอย่างไร

“ช่วงอายุ 23-24 ปี ผมเริ่มอ่านหนังสือเยอะ ต้องบอกว่าแม้ผมจะเรียนไม่จบปริญญา เพราะออกมาเข้าวงการก่อน แต่ถ้าอยากรู้อะไร ผมจะหาอ่านเองอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพวกหนังสือนอกตำรา ทั้งการบริหารและด้านอื่นๆ ปรากฏว่ามันว้าวและเปิดหัวมาก เพราะให้ทั้งความรู้และแรงบันดาลใจ ผมจึงอ่านหนังสือทุกวัน พกติดตัวตลอดเวลา ผมเชื่อว่าคนอ่านหนังสือมีข้อได้เปรียบกว่าคนที่เสพข่าวทุกวัน ตรงที่สมองของคนที่เสพข่าวจะมีความชำนาญเรื่องด้านลบ เพราะข่าวส่วนใหญ่นำเสนอด้านลบ แต่ถ้าคนอ่านหนังสือดีๆ ทุกวัน เราจะมีความคิดเชิงบวก

“พออ่านเยอะ ผมจึงคิดใหม่ว่าแต่ละอาชีพมีองค์ประกอบส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องรับผิดชอบหลากหลายด้าน เหมือนกับต้นไม้ที่มีแค่ลำต้นไม่ได้ ต้องมีกิ่ง ก้าน ใบ นักแสดงก็เช่นกัน การออกสื่อหรือออกงานก็เป็นองค์ประกอบหนึ่ง ยิ่งเราขยายกิ่งก้านสาขาและดอกใบออกไปเยอะก็ยิ่งมีคนเห็นเยอะ ผมจึงตั้งใจใหม่ว่าเราจะเป็นนักแสดงดารา ไม่ใช่ดารานักแสดง คือดาราเป็นดาวบนท้องฟ้า จับต้องไม่ได้ ส่วนนักแสดงเป็นศิลปินหรืออาร์ติสต์ การเป็นนักแสดงดารา จึงหมายถึงเป็นนักแสดงที่มีฝีมือและความเข้าใจในการแสดง แต่สามารถจับต้องได้ ผมจึงเริ่มโอเคกับการออกงานมาเจอผู้คนบ้าง”

การทำงานเปลี่ยนไปไหมคะ

“เปลี่ยน แต่ไม่ใช่ในทันที ค่อยๆ ปรับตัว แต่ผมรู้ตัวว่าตั้งใจทำงานมากขึ้น อย่างตอนนั้นพี่หน่อง-อรุโณชา กำลังจะทำละครเรื่อง บางระจัน ซึ่งผมอยากเล่นมาก เพราะชอบฟันดาบ เรียกตัวเองว่าเป็นนักดาบเลยละ ที่จริงเคยเล่นซีรี่ส์เรื่อง ครัวซอง ทำนองรัก ให้พี่หน่องมาก่อน แต่เล่นบทตลก จึงไม่เคยมีใครรู้ว่าผมฟันดาบได้ บู๊ได้ ช่วงนั้นผมจึงเสนอตัวไปช่วยงานพี่หน่องตลอด จุดประสงค์คือเพื่อนำวิดีโอที่ผมโชว์ฟันดาบไปให้พี่หน่องดู คืออย่าให้มีจังหวะ ผมจะพุ่งเข้าไปหาทันที ผลของความพยายามในครั้งนั้น แม้ตอนแรกจะไม่มีบทให้ลง แต่สุดท้ายพี่หน่องก็เขียนบทเพิ่มขึ้นมาให้ผมเล่นคือ หมู่เคลิ้ม ครั้งนั้นผมจึงเล่นเต็มที่มาก ทั้งขี่ม้า ฟันดาบ ครบเซต สะใจ!” (ยิ้ม)

ตอนนั้นคิดไหมว่าละคร บุพเพสันนิวาส จะดังและสร้างชื่อเสียงให้ก๊อตขนาดนี้

“มีเรื่องหนึ่งที่ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ก่อนหน้าจะได้เล่น บุพเพสันนิวาส ผมฝันว่าได้ขี่ช้างตัวใหญ่มาก แล้วช้างก็พาวิ่งไปริมทะเล พอตื่นมาจึงวาดรูปสเก็ตช์ ไว้ให้แม่ดู กระทั่งวันที่ละครออนแอร์แล้วมีฉากที่ผมต้องขึ้นช้าง แม่นำรูปที่ผมสเก็ตช์ไว้มาให้ดู ไม่อยากบอกเลยว่าเหมือนมาก (ยิ้ม) อันนั้นคือฝัน แต่ความจริงคือเราทำอะไรเรารู้ตัว อย่างหลังถ่ายละคร 3 เรื่องนี้จบ ผมบอกทุกคนในครอบครัวว่าคอยดู 3 เรื่องนี้นะ ผมโคตรมั่นใจเลยว่าจะออกมาดี เพราะผมมีความรู้เพิ่มขึ้นจากการทำงาน และทำการบ้านหนักมาก จนรู้ว่าผมสามารถสร้างสรรค์อะไรในตัวละครเหล่านี้ได้มากมาย เพราะเข้าใจและรู้ว่าจะทำอย่างไรให้โดดเด่นและแตกต่าง ผมฝึกสังเกต ท่วงท่าและอารมณ์ผู้คนจนสายตาเฉียบคม ขนาดโบว์ทำท่าไม่พอใจนิดเดียว ผมก็รู้แล้ว ผมจึงนำการแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมสังเกตเห็นเหล่านี้มาใส่ในละครด้วย สมมติเรากำลังคุยเรื่องการเมืองอยู่ พอถึงตอนที่ผมต้องพูดเรื่องที่น้อยใจ ผมจะเปลี่ยนอารมณ์และสีหน้าแค่แว่บเดียว ซึ่งพอกล้องบันทึกไว้ คนดูจะมองเห็นทันที ดังนั้นผมจึงต้องเล่นละครและสวมบทบาทอยู่ตลอดเวลาที่เข้าฉาก ไม่มีหลุด

“จากกระแสต่างๆ ถ้าเป็นคำชมที่ว่าหล่อ หุ่นดี ซิกซ์แพ็ค ผมเฉยๆ แต่จะรู้สึกดีเวลาได้รับคำชมว่าแสดงดี ซึ่งได้ยินเยอะจากเรื่องนี้ ก็รู้สึกภูมิใจที่การทำงานหนักทำให้เห็นผลลัพธ์ที่แตกต่าง”

ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล

หลายคนบอกว่าก๊อตเป็นจอมขโมยซีน สามารถเล่นให้คนชื่นชอบผู้ร้ายหรือตัวรองได้

“ต้องอธิบายก่อนว่าเวลาเล่นผมไม่ได้ต้องการแย่งซีนใคร สำหรับผมการแสดงคือการสร้างงานศิลปะรูปแบบหนึ่ง นักแสดงแต่ละคนต่างมีสีของตัวเองที่จะใส่เข้าไปในตัวละคร ผมก็ใช้ความรู้ของผมสร้างสรรค์ตัวละครในแบบของผม อย่างตอนเล่นเป็น ‘แสน ราชสีห์’ ใน คมแฝก ทำไมจึงกลายเป็นตัวร้ายที่หลายคนเชียร์ เพราะผมรู้สึกว่าเราเล่นเป็นพระเอก ไม่ได้เล่นเป็นตัวร้าย ถ้าเราปักหลักความคิดว่าเราเป็นตัวร้าย เราจะทำเรื่องน่าเกลียด แต่ถ้าเราปักหลักว่าเรากำลังทำในสิ่งที่ถูก หมายถึงถูกในความคิดของตัวละครนั้นๆ นะ ไม่ใช่ถูกของผม ก็ทำให้เรามั่นใจ ความรู้สึกนั้นก็จะส่งออกมาถึงคนดู แล้วถ้าดูให้ดี ‘แสน ราชสีห์’ ไม่ได้มั่นใจแค่คมแฝกของเขานะ เขามั่นใจแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่เขาจ้างช่างเสื้อมาตัดให้ ดังนั้นแสนจึงมีความมั่นใจในตัวเองทุกท่วงท่า ไม่ว่าจะเดิน ยืน นั่ง สิ่งเหล่านี้เป็นแบ็กอัพสตอรี่ที่ผมสร้างขึ้นมาเองหมดเลย ซึ่งจะสร้างได้ ก็ต้องทำการบ้านหนักมากว่าเขาเจออะไรมาบ้าง จึงกำหนดให้เขาเป็นอย่างนี้ในวันนี้”

จนถึงตอนนี้ก๊อตคิดว่าเราเป็นนักแสดงจริงๆ แล้วหรือยัง แล้วในอนาคตวางแผนไว้ว่าอย่างไรคะ

“ส่วนตัวผมได้พิสูจน์มาส่วนหนึ่งแล้วว่าผมเป็นนักแสดงจริงๆ แต่คุณจะเอาความเป็นดารามาสวมให้ผมก็ได้ ไม่เป็นไร แต่อย่างที่บอกว่าจะดีใจกว่า ถ้าคนชมว่าแสดงดี ส่วนจะทำไปอีกนานแค่ไหน ผมวางแผนไว้ว่าจะทำงานด้านนี้ไปอีกประมาณ 7-8 ปี แต่นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ถ้าพูดถึงปัจจุบันในฐานะศิลปิน ทุกคนล้วนอยากสร้างงานที่สร้างแรงบันดาลใจดีๆ อยากทำหนังที่งดงาม หมายถึงหนังที่สามารถทำให้ลูกรักพ่อแม่ได้มากขึ้น หรือหนังรักโรแมนติกที่ทำให้คนพยายามฟังกันมากขึ้น หนังแอ๊คชั่นที่สอดแทรกบางสิ่งบางอย่างที่ดีงามเข้าไป

“อีกเป้าหมายที่ผมอยากทำให้เกิดขึ้น คืออยากรวบรวมคนเก่งหลายๆ ด้านมาไว้ด้วยกัน ผมเชื่อว่าถ้าผมมีศิลปะมากพอในการทำให้คนเก่งอยู่ร่วมกันได้ด้วยความสามัคคี และทำให้เขาเก่งมากขึ้นกว่าเดิม ผมก็คงไม่ต่างอะไรกับแจ็คกี้ ชาน ที่รวบรวมคนเก่งอย่างทีมกล้อง ทีมภาพ และอื่นๆ มาทำงานด้วยกัน จนกลายเป็นพยัคฆ์ของเอเชีย คือผมไม่ได้ต้องการเป็นพยัคฆ์ แต่อยากทำให้เห็นว่าถ้าเราสามารถสร้างระบบงานที่มีมาตรฐานและมีศิลปะได้ จะเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าอาจไม่ได้รับการยอมรับ แต่ควรจะมีคนเริ่ม”

หลายคนมองว่าก๊อตค่อนข้างติสต์และเจ้าความคิด มองตัวเองอย่างไรคะ

“ผมว่าติสต์มาจากการที่ผมไม่ได้ดำเนินชีวิตในแบบที่คนอื่นทำ เพราะมนุษย์เราล้วนเติบโตมาท่ามกลางคำสอนของพ่อแม่ โรงเรียน ชาติ ศาสนา ทุกคนดำเนินชีวิตไปตามนั้น โดยไม่ถามว่าฉันอยากดำเนินชีวิตแบบนี้หรือเปล่า สังคมให้เป็นแบบนนี้ ก็เลยเป็นแบบนี้ ผมแค่ไม่ทำตามเรื่องพวกนั้น แล้วหาหนทางของตัวเอง เปรียบเป็นนกแบบใน หนังสือเรื่อง โจนาทาน ลิฟวิงสตัน : นางนวล ที่บินหาที่อยู่อันเหมาะสมของตัวเอง โดยรับผิดชอบตัวเองเต็มที่ ทั้งเรื่องเงิน เรื่องงาน และชีวิต จึงมีอิสระ แต่คนที่ไม่มีอิสระ เพราะใช้ชีวิตโดยขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกทั้งหมด พอเราต่างจากเขาก็เลยดูผิดแผก แค่นั้นเอง

“แต่ก่อนผมก็เหมือนคนอื่น เป็นลูกแกะที่โดนต้อนให้ทำนั่นทีนี่ที วันหนึ่งอายุ 24-25 เราเปลี่ยนจากลูกแกะกลายเป็นสิงโต บอกว่าไม่เอาแล้ว ฉันจะออกล่าเหยื่อด้วยตัวเอง วิ่งเข้าหาทุกอย่างเอง ศึกษาเอง ล่าสิบครั้ง ได้หนึ่งครั้ง ก็ถือว่าชนะ แต่ตอนนี้ผมไม่ใช้ทั้งแกะและสิงโต แต่กลับไปเป็นเด็ก คือทำทุกอย่างเพราะสนุกและมีความสุข ไม่ต้องถามหาความหมายอะไรมากมาย ชีวิตควรดำรงอยู่ด้วยความเบิกบาน ยินดี และเห็นค่าของชีวิต เพราะเราไม่รู้จะตายเมื่อไร คิดแบบนี้ติสต์ไหมล่ะ ติสต์! (ตอบเองแล้วหัวเราะชอบใจ)

“แต่ที่คิดแบบนี้ได้เพราะผมไปฝึกนั่งสมาธิ ทำให้รู้ว่ามนุษย์มักจะคาดหวังความสุขในอนาคตอยู่ตลอด วันนี้ไม่เคยดีเลย วันหน้าถึงจะดี ต้องมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ จึงจะมีความสุข ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ชีวิตจะเน่าลงทุกวัน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องหาความสขุในปัจจุบันให้เจอ ซึ่งความสุขก็เหมือนความเงียบที่มีอยู่ตลอด แต่เพราะมีเสียงอื่นมากวน ทำให้เราไม่ได้ยิน แต่พอลองแยกทุกเสียงออกไป เราจะเห็นว่าความเงียบนั้นมีอยู่ เสียงรบกวนในที่นี้ก็คือความคิดของเรานั่นแหละ ความคิดเราไปแค่ 4 ที่ อดีต อนาคต ชอบ ไม่ชอบ วนเวียนอยู่แค่นี้ แต่ถ้าเรานั่งนิ่งๆ แยกความคิดออกไปให้หมด ชั่วขณะที่ไม่มีความคิดรบกวน นั่นแหละความสุขสงบ


อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 963

ภาพเพิ่มเติม : godfather1632

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หุ่นดีเพราะมีแรงบันดาลใจ “ก๊อต-จิรายุ” แชร์ทริคเวิร์คเอ๊าต์ให้สนุก เพื่อรูปร่างสุดฟิตแอนด์เฟิร์ม

ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ ผู้ชายภักดีต่อความรัก เสียงเพลง ธรรมชาติ และครอบครัว

ลูกเปลี่ยนชีวิต อุ้ม สิริยากร เผยชีวิตเรียบง่ายในสหรัฐฯ กับบทบาทคุณแม่ลูกสอง

เคล็ดลับบำรุงผมสลวยแบบ 'นุ่น วรนุช' ให้ดำขลับ มีน้ำหนัก เงางามสุขภาพดี

เคล็ดลับบำรุงผมสลวยแบบ ‘นุ่น วรนุช’ ให้ดำขลับ มีน้ำหนัก เงางามสุขภาพดี

Alternative Textaccount_circle
เคล็ดลับบำรุงผมสลวยแบบ 'นุ่น วรนุช' ให้ดำขลับ มีน้ำหนัก เงางามสุขภาพดี
เคล็ดลับบำรุงผมสลวยแบบ 'นุ่น วรนุช' ให้ดำขลับ มีน้ำหนัก เงางามสุขภาพดี

นักแสดงสาวสวย ‘นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี’ นอกจากจะสวย หน้าหวาน บุคลิกดี ฝีมือดีมากความสามารถจนขอยกให้เป็นนางเอกตลอดกาลแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ ผมสวยตลอดกาล เป็นนักแสดงที่ไว้ผมยาวสลวย และบำรุงเส้นผมเป็นอย่างดีมาตลอด ยิ่งช่วงนี้คาดว่าแฟนๆ หลายคนคงติดละครเรื่อง กระเช้าสีดา ที่นุ่น วรนุช รับบทนำนางเอกเช่นเคยนั้น ต้องบอกเลยว่บทคุณพิงค์หรือน้ำพิงค์ ที่นุ่นเล่นฟาดได้ฟาดทุกตอนจริง และนอกจากเนื้อเรื่องจะสนุกแล้ว แอดก็ไม่สามารถละสายตาจากความสวยของใบหน้า และความสลวยสุขภาพดีของเส้นผมของเธอไปได้เลย

ยิ่งล่าสุด นุ่น วรนุช เล่น TikTok ไดร์ผมยาวตรงสลวย สวยดำขลับ ดูมีน้ำหนักของเธอนั้น ยิ่งยอมรับเลยว่าเส้นผมคือ มงกุฏของใบหน้าไม่ต่างจากคิ้วเลยจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่ นุ่น วรนุช ขึ้นชื่อเรื่องการดูแลสุขภาพผม และห่วงใยเส้นผมจริงๆ ไม่ว่าจะพบเจอเธอที่ไหน งานอะไร เป็นต้องเห็นผมยาวสลวยจนกลายเป็นเสน่ห์ติดตัวเธอไปแล้ว

เคล็ดลับบำรุงผมสลวยแบบ ‘นุ่น วรนุช’ ให้ดำขลับ มีน้ำหนัก เงางามสุขภาพดี

วิธีดูแลเส้นผมให้ดูสวยสุขภาพดี 

ถ้าเป็นวันปกติที่ไม่ได้ทำงาน นุ่นจะไม่ทำอะไรกับเส้นผมเลย ปล่อยให้เส้นผมและหนังศีรษะได้พัก เพราะในวันทำงานผมนุ่นต้องต้องทั้งไดร์ ม้วน เจอความร้อนเยอะแล้ว ถ้าวันไหนไม่ได้ทำงาน นุ่นก็จะใช้วิธีง่ายๆ ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมให้ตรงกับสภาพเส้นผม ทุกครั้งหลังสระผม จะต้องใช้คอนดิชันเนอร์บำรุงผมทุกครั้ง ตามด้วยการหมักผมด้วยทรีทเมนท์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และเป็นคนที่ไม่ค่อยเข้าร้านทำผม ชอบทำผมเองที่บ้าน สะดวกและถูกใจตัวเอง

https://praew.com/beauty/beauty-celebrity/396674.html

คำแนะนำสำหรับสาวๆ ที่อยากมีเส้นผมแบบ นุ่น วรนุช

ปกตินุ่นเป็นคนให้ความสำคัญกับเส้นผมมาก นุ่นคิดว่าผมสวยเป็นเสน่ห์ของผู้หญิงอย่างหนึ่ง เวลาออกงานสังคมหรือไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม ถ้าผมสวย ก็จะยิ่งเสริมให้เราดูดีได้ และนุ่นก็เชื่อว่า ผู้หญิงที่รักสวยรักงามก็ต้องใส่ใจในการดูแลผมอยู่แล้ว ที่สำคัญไม่ควรไม่ทำร้ายเส้นผม อย่างเช่น การทำสี ไดร์ผม ทำเคมีต่างๆ ที่เกิดความร้อนและทำให้ผมเสียได้ และหาเวลาว่างทำทรีทเมนต์ ตลอดจนดูแลที่หนังศีรษะบ้าง เพียงแค่นี้ผมก็จะนุ่มสลวยแล้วค่ะ

https://praew.com/beauty/beauty-celebrity/396674.html https://praew.com/beauty/beauty-celebrity/396674.html https://praew.com/beauty/beauty-celebrity/396674.html https://praew.com/beauty/beauty-celebrity/396674.html


ภาพ IG : nuneworanuch
เคล็ดลับ : เกร็ดดี้ Sanook! Women

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สวยไม่สร่าง ‘แอนนา นาตาชา’ วัย 53 ปี หน้าใส หุ่นเป๊ะทุกสัดส่วนในชุดบิกิินี่สุดแซ่บ

เคล็ดลับเมคอัพสาวฝรั่งเศส Jeanne Damas เผยผิวจุดไม่เพอร์เฟ็กต์บ้างให้ดูเป็นธรรมชาติ

ทริคดูแลตัวเองของ “แอลลี่” ลูกสาวแห่งชาติ ครบเครื่องทั้งความน่ารัก และความสามารถ

 

keyboard_arrow_up