จุ๊บจิ๊บ ธนพร

งามแต้ งามว่า สาวเหนือ สวย หวาน ‘จุ๊บจิ๊บ ธนพร’ ภริยา ‘ร.อ.ธรรมนัส’ ในลุคผ้าไทย

account_circle
จุ๊บจิ๊บ ธนพร
จุ๊บจิ๊บ ธนพร

งามแต้ งามว่า งามปะล้ำปะเหลือ จริงๆ เจ้า ‘จุ๊บจิ๊บ ธนพร ศรีวิราช’ ภริยา ‘ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า’ ในลุคผ้าไทย สวยหวาน อย่างสาวเหนือ

จัดว่าเป็นภรรยานักการเมืองที่สวยยืนหนึ่งไม่แพ้ใครสำหรับ  ‘จุ๊บจิ๊บ ธนพร ศรีวิราช’ นางสาวไทยประจำปี 2559 ซึ่ง ปัจจุบันพ่วงตำแหน่ง “ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี” โดยเธอได้รับการแต่งตั้งเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา

จุ๊บจิ๊บ ธนพร

จุ๊บจิ๊บ ธนพร

จุ๊บจิ๊บ ธนพร

โดยปกติเรามักจะเห็นสาวจุ๊บจิ๊บในสไตล์ที่หรูหรา ใช้ของแบรนด์เนมราคาแพง โดยเฉพาะ กระเป๋าแอร์เมส และ การเป็นสาวกแบรนด์ Chanel รวมถึงแบรนด์ไฮเอนด์อื่นๆ ซึ่งเธอมีมากกว่า 42 ใบ นอกจากนี้เธอยังได้รับเชิญไปร่วมงานเอ็กซ์คลูซีฟของชาเนลบ่อยครั้งอีกด้วย

จุ๊บจิ๊บ ธนพร

แต่หากเป็นเวลาที่เธอไปทำบุญหรือออกไปปฏิบัติหน้าที่กับ ร.อ.ธรรมนัส จุ๊บจิ๊บก็มักจะใส่ชุดผ้าไทย หรือ ผ้าพื้นเมือง เป็นประจำ ทั้งนี้เธอยังได้แมตช์ชุดไทยกับแอคเซสซอรี่ต่างๆ ทั้งนาฬิกา และ เครื่องเพชร รวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนมได้อย่างลงตัว งานนี้แพรวได้รวบตึงบรรดาชุดไทย และ ชุดพื้นเมืองที่เธอใส่มาให้คุณๆ ได้ยลกัน

เริ่มกันที่ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยเรือนต้น และ ชุดไทยประยุกต์ ซึ่งจุ๊บจิ๊บมักใส่ไปทำบุญเนื่องในโอกาสสำคัญต่างๆ ยังวัดไทยอันวิจิตรงดงามบ่อยครั้ง ซึ่งเธอสั่งตัดจากห้องเสื้อชั้นนำ

จุ๊บจิ๊บ ธนพร
ชุดไทยเรือนต้น กับการตัดเย็บสุดประณีตจากร้าน วนัช กูตูร์
จุ๊บจิ๊บ ธนพร
ชุดไทยเรือนต้นสีฟ้าละมุนตา จากร้าน อมิตา
จุ๊บจิ๊บ ธนพร
ชุดไทยจิตลดาในโทนสีเทาจากร้าน อมิตา
จุ๊บจิ๊บ ธนพร
เสื้อลูกไม้สีขาวออฟไวท์ พร้อมกับผ้าซิ่นออกแบบและตัดเย็บโดยวนัชกูตูร์ ในงานทำบุญทอดกฐินวัดบ้านแก่น จ.ลำปาง

ชุดไทยจิตรลดาสีกลีบบัวในพิธีบวงสรวงพระบรมรูปรัชกาลที่ 5
ชุดไทยประยุกต์ เสื้อลูกไม้สีขาว แมตช์กับผ้าซิ่นสีเขียวมรกต
ชุดไทยประยุกต์ เสื้อลูกไม้แขนตุ๊กตา กราบเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เนื่องด้วยวันที่ 5 ธันวาคม 2562 เป็นวันเกิด
ชุดไทยเรือนต้นสีชมพูสด เสื้อและผ้าซิ่นปักลวดลายดอกไม้ และ ลายไทย

นอกจากนี้สาวจุ๊บจิ๊บยังนิยมนำผ้าทอ และ ผ้าพื้นเมืองมาตัดเป็นชุดไทย ชุดเดรส และชุดลำลอง อย่างการนำผ้าจากกลุ่มผ้าทอไทลื้อของพี่น้องภูซาง จ.พะเยา ซึ่งเธอได้เดินทางมาดูวิธีการทอ การย้อมผ้า ของชุมชน ซึ่งสาวจุ๊บจิ๊บได้เหมาผ้ากันไปเกือบ 20 ผืน เพื่อไปตัดเป็นชุดไทยแบบต่างๆ



ภาพ : @jarubjubjib

สวยและรวยมาก เปิดคลังกระเป๋าไฮเอนด์ ‘จุ๊บจิ๊บ ธนพร’ ภรรยา ร.อ.ธรรมนัส

เสริมความเป็นมงคลด้วยข้าวของ 4 อย่างที่ต้องมีใน พิธีรดน้ำสังข์

account_circle

พิธีรดน้ำสังข์ หรือ พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานวิวาห์ที่ทำให้บ่าวสาวหลายคู่ซาบซึ้งใจจนหลั่งน้ำตา โดยพิธีนี้มีมาแต่โบราณ เป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือหลายท่านต่างก็มาร่วมรดน้ำและให้พรอันประเสริฐ อีกทั้งยังถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ ใช้สิ่งของมงคล 4 อย่าง ต้องเตรียมให้ครบ จะขาดอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด

พิธีรดน้ำสังข์ ต้องใช้ข้าวของอะไรบ้าง? … เตรียมจดกันเลยจ้า

1. มงคลแฝด

พิธีรดน้ำสังข์

มงคลแฝด หรือ มงคลจักร คือด้ายมงคลสำหรับสวมศีรษะคู่บ่าวสาวในพิธีรดน้ำสังข์ เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลและสื่อความหมายถึงการเชื่อมโยงคู่บ่าวสาวให้กลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

2. มาลัยบ่าวสาว

พิธีรดน้ำสังข์

มาลัยคล้องคอบ่าวสาวที่นิยมใช้คือมาลัยสองชาย ซึ่งหมายถึงมาลัยที่ผูกต่อริบบิ้นหรือโบทั้งสองชาย และมีอุบะห้อยชายมาลัย โดยมีความเชื่อว่าให้ใช้มาลัยบ่าวสาวคู่เดียวกันคล้องคอทั้งพิธีรดน้ำสังข์ช่วงเช้าและพิธีฉลองสมรสช่วงเย็น เพราะจะทำให้คู่บ่าวสาวใช้ชีวิตกันอย่างราบรื่น ไม่มีการเลิกราหรือเปลี่ยนคู่

3. หอยสังข์

พิธีรดน้ำสังข์

เหตุที่ใช้หอยสังข์มาเป็นภาชนะใส่น้ำพระพุทธมนต์หลั่งอวยพรให้คู่บ่าวสาวนั้น เพราะว่าหอยสังข์เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 14 อย่าง อันเกิดจากการกวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทวดากับอสูร และยังเป็นหนึ่งใน 4 อย่างที่พระนารายณ์ทรงถือ ด้วยเหตุนี้หอยสังข์จึงเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่อุดมมงคลอย่างสูงและถูกนำมาใช้ในพิธีมงคลสมรส

4. น้ำพระพุทธมนต์

พิธีรดน้ำสังข์

น้ำเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังนั้นการใช้น้ำหลั่งอวยพรให้คู่บ่าวสาวจึงเสมือนเป็นการอวยพรให้ครองรักกันยั่งยืน อีกทั้งน้ำพระพุทธมนต์ที่หลั่งออกมาจากสังข์ยังถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเสริมสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาวอีกด้วย

คู่รักที่กำลังเตรียมงานแต่งพิธีไทยรีบดาวน์โหลด แจก!! ขั้นตอนลำดับพิธีแต่งงานไทยฉบับสมบูรณ์ เตรียมไว้ใช้จะได้ไม่ติดขัด

‘ดวงคุณพิเศษจากดวงอื่นๆ เพราะกำลังมีความรัก แล้วต้องการเวลาเต็มที่ด้วย’ ดูดวงรายวัน 6 กรกฏาคม 2564

ดูดวงรายวัน 6 กรฏาคม 2564 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

‘ดวงคุณพิเศษจากดวงอื่นๆ เพราะกำลังมีความรัก แล้วต้องการเวลาเต็มที่ด้วย’

ดูดวงรายวัน 6 กรกฏาคม 2564

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน  :   มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้เจ้านายคุณจะเอาแต่ใจ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมากดดันคุณให้ใช้ความรู้ ความสามารถ ทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม (ซึ่งก็หนักอยู่แล้ว)  เพราะฉะนั้นคุณจึงตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หรือไม่ก็อาจตกเป็นแพะรับบาป ต้องรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ขณะที่คุณเองก็ไม่ควรมีอีโก้ หรือเชื่อมั่นในตัวเองมาก จนไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเลย เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งกับผู้ร่วมงาน ทำให้งานเสียหาย  ทางที่ดีควรเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย หรือปรึกษาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ก่อนตัดสินใจทำอะไร

การเงิน  :  มีดวงผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลือ แม้ไม่ต้องทำงานหนัก ก็มีเงินใช้ตลอดๆๆ แต่ควรดูให้ดีนะคะ ว่ามาอย่างถูกต้อง โปร่งใส ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินใต้โต๊ะและเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้คุณเดือดร้อนในภายหลัง

ความรัก : วันนี้คู่คุณทำตัวเป็นแฟมิลี่แมนที่ดี เป็นหลักให้กับครอบครัว เป็นที่ปรึกษาและเป็นคู่คิดที่ดี ว่าอะไรก็ว่าตามกัน  คนโสด  คุณมีเสน่ห์ แต่เพราะวันนี้ทำงานเป็นหลัก เรื่องรักเป็นรอง ก็เลยไม่มีเวลาได้บริหารเสน่ห์ แต่ไม่เป็นไร เพราะดวงเนื้อคู่ต้องรออายุ 35-40 ปี โน่นแน่ะ

สุขภาพ  :  โหมงานหนักจนไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา จึงมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวกับระบบหมุนเวียนน้ำในร่างกาย และต่อมไร้ท่อต่างๆ มีโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิต้านทานโรคบกพร่อง เลือด และน้ำเหลืองไม่ดี

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน  :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานสายบุญ สายธรรมะ หรือสาย CSR ทำประโยชน์ให้กับสังคม ไม่ว่าจะออนไลน์ หรือออนไซท์ มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะถูกลดบทบาทความสำคัญลง เจ้านายไม่ให้ความสนใจในงานที่ทำเหมือนทุกครั้ง  ทางที่ดีควรใช้จุดแข็งของคุณคือ ขยันและตั้งใจในการทำงาน มองโลกในแง่ดี และชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นพลังในการเดินหน้าทำงานต่อไป เพราะอุปสรรคและปัญหาจะเหมือนบททดสอบว่า เราจะเข้มแข็งพอหรือไม่

การเงิน : มีความเสี่ยงที่จะถูกมิจฉาชีพแฝงตัวมาในคราบของนักบุญ ขอเรี่ยไรเงินทำบุญ เพราะเห็นว่าคุณใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ก็อย่าได้หลงเป็นเหยื่อเชียว เพราะจะทำให้คุณสูญเงินก้อนใหญ่เลยทีเดียว

ความรัก :  หากคุณแต่งงานอยู่ในครอบครัวใหญ่ ซึ่งเป็นครอบครัวที่ดี มีชาติมีตระกูล แต่มีกฎระเบียบเคร่งครัด วันนี้มีความเป็นไปได้ว่า คุณอบอุ่นจนร้อน ต้องขอแยกออกมาอยู่ตามลำพังบ้าง  คนโสด  วันนี้ผู้ใหญ่ในครอบครัวจะช่วยสแกนหนุ่มๆ ที่คุณคบ ก็ถือว่าดี  เพราะมีโอกาสที่คุณจะคบกับคนที่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

สุขภาพ  : ภูมิแพ้มาแล้วจ้า โดยเฉพาะจากมลพิษทางอากาศ ยิ่งหากเป็นผู้ที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ที่โรงงานพลาสติกไฟไหม้ด้วยแล้ว จะมีโอกาสแพ้อากาศ หายใจติดขัด แน่นหน้าอก ได้นะคะ ต้องสำรวจอาการตัวเองอย่างใกล้ชิด

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  มีความเป็นไปได้ว่า วันนี้คุณจะได้รับมอบหมายให้เป็นหลักของทีมทำงาน ด้วยความที่คุณมีอีโก้ เชื่อมั่นในตัวเองสูงจนไม่สนใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นเลย จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นบุคลากรทางการศึกษา เช่น ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ ไลฟ์ โค้ช ติวเตอร์ เทรนเนอร์ ฯลฯ จากเหตุการณ์นี้ จะส่งผลให้คุณขี้เกียจ ท้อแท้ ขึ้นมาซะงั้น

การเงิน : รายได้หลักมาจากงานประจำ จ้างคุณ 100 แต่ทำเป็น 1000  หากวันนี้อยากหารายได้เพิ่ม คุณสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ขอให้ทำด้วยตัวเองดีกว่าร่วมหุ้นลงทุนกับคนอื่น

ความรัก :  คุณมีความคิด ทัศนคติ ในการใช้ชีวิตคู่ขัดแย้งกันตลอดๆๆ ยิ่งวันนี้ยิ่งงงใหญ่ว่า ทำไมคุณต้องทำงานเป็นหลักของครอบครัวอยู่คนเดียว จากความเหนื่อย ความเครียด ทำให้คุณอาจต้องการที่ที่สงบๆ หรือสถานที่สัปปายะให้กับตัวเองบ้าง คนโสด  คุณทำงานเป็นหลัก เรียนเป็นรอง ส่วนความรักวันนี้มีโอกาสที่ผู้ใหญ่จะช่วยคิดให้นะคะ

สุขภาพ  :   โหมงานหนักจนไม่ได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา มีความเสี่ยงที่ระบบการย่อยอาหารจะมีปัญหา เป็นโรคกระเพาะ หรือลำไส้ ที่น่ากลัวคือการติดเชื้อ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  มีความเป็นไปได้ที่คุณจะพบกับปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องเดินทางเคลื่อนที่ เช่น รับ-ส่งเอกสาร ไรเดอร์ส่งอาหาร เดลิเวอร์รี่ โลจิสติกส์ หรือบริษัทรถยนต์ ฯลฯ หากวันนี้คุณมีโอกาสได้เดินทางไปขยายสาขายังสถานที่แปลกใหม่ จนถึงเปิดธุรกิจเอง ก็ควรใช้สติ ปัญญา มันสมอง และสองมือทำงาน มากกว่าจะใช้โมหะหรือโทสะ เพราะมีความเสี่ยงที่คุณจะขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งจะทำให้คุณเกิดความวิตกกังวลกับความสัมพันธ์ในระยะยาว

การเงิน : หากคุณเป็นพ่อค้าเร่ หรือทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง วันนี้ไม่ว่าจะจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด อาจได้ยวดยานพาหนะใหม่ แต่ก็ไม่ควรหลงเชื่อคำพูดที่อ่อนหวาน ที่จะมาขอความช่วยเหลือหรือชักชวนให้ทำธุรกิจหรือธุรกรรมใดๆ เพราะคุณอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

ความรัก : คุณไม่ชอบอยู่ภายใต้กฎ กติกา และข้อบังคับใดๆ ชอบใช้ชีวิตอิสระเสรี จะให้อยู่กับบ้าน นั่งๆ นอนๆ ก็คงไม่ใช่คุณ กลับจะทำให้เครียดกันเปล่าๆ  ซึ่งวันนี้ครอบครัวก็ยอมตามใจทุกอย่าง  คนโสด กำลังจะมีโครงการเดินทางไปเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ด้วยกันหรือเปล่า ก็ต้องดูให้ดีว่า ใช่คนนี้แน่แล้ว เพราะดวงคู่ของคุณวันนี้ยังไม่นิ่งค่ะ

สุขภาพ :  มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเครียด กดดดัน คิดมาก จนส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารแปรปรวน แล้วคุณก็ไม่ชอบไปหาหมอด้วย จึงมีโอกาสที่จะเป็นเรื้อรัง

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน  : มีความเป็นไปได้ที่งานที่คุณหมกมุ่นครุ่นคิด ทุ่มเวลาทั้งหมดจนไม่ได้ปฏิบัติภารกิจอื่นใดเลย วันนี้คุณอาจยื้อไว้ไม่ไหว มีโอกาสที่จะดำเนินมาถึงวาระสุดท้าย  หรือไม่ได้รับการต่อสัญญา ก็ขอให้คิดในทางดีว่า จบวันนี้ เพื่อเริ่มต้นใหม่ที่ดีในวันพรุ่งนี้ ทางที่ดีควรเคลียร์เรื่องสัญญา หรือเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ให้ชัดเจน เพราะมีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาในภายหลัง

การเงิน : จะเดือดร้อนเพราะช่วยเหลือคนอื่น วันนี้จึงไม่ควรเป็นนายหน้ากู้ยืมเงิน หรือเซ็นสัญญาค้ำประกันให้ใคร เพราะคุณจะเดือดร้อนต้องรับผิดชอบหนี้สินแทน

ความรัก :  มีความเป็นไปได้ว่า จะมีบุคคลที่สามเข้ามาหลอกให้รัก เพื่อหวังผลประโยชน์ ซึ่งเธอทำได้สำเร็จเสียด้วย เพราะคุณกับคู่มีความเสี่ยงที่จะแยกย้าย ต่างคนต่างอยู่ วันนี้จึงควรหนักแน่น อย่าหลงเป็นเหยื่อ  คนโสด  แม้คุณจะตัดสินใจจบความสัมพันธ์ แต่วันนี้ก็ยังตัดกันไม่ขาด เพราะภาระต่างๆ ที่ยังคาราคาซังกันอยู่

สุขภาพ :  ควรระวังในเรื่องระบบย่อยอาหาร โรคกระเพาะ ลำไส้ ซึ่งจะมีอาการปวดและเสียดท้อง

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการใช้คำพูดหรือวาทศิลป์ ในการติดต่อประสานงาน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ดีเจ พิธีกร สื่อมวลชน พนักงานขาย ฯลฯ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษา วันนี้คุณมีโอกาสได้ทำงานที่นอกเหนือจากงานประจำ มีความท้าทาย และมีการแข่งขันสูง ก็มีความเป็นไปได้ที่คุณจะโชคดี ไม่มีปัญหาในการทำงานมากนัก มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนส่งเสริมจากผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดด้วย หากทำได้ดี ทำได้ปัง คุณจะได้รับการยอมรับจากทุกๆ คนที่อยู่รอบข้าง

การเงิน : มีผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือ อุปถัมภ์ ซึ่งคุณก็ใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจนไม่คิดถึงตัวเองเลย วันนี้ก็มีความเสี่ยงที่คุณอาจต้องเสียเงินด้วยเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก

ความรัก : หากคุณกำลังอยู่ในห้วงแห่งความรัก หรือในช่วงฮันนีมูน อยากให้คู่อยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา แต่วันนี้เขาอาจไม่สามารถอยู่กับคุณได้มากขนาดนั้น จึงเสี่ยงที่คุณจะมโนไปว่า เขาไปหาใครหรือเปล่า ก็ต้องเปิดโอกาสให้เขาไปทำงานบ้างนะคะ   คนโสด  กำลังมีความรักหรือเปล่าคะ แต่วันนี้หากใครคนนั้นต้องการเวลาจากคุณเต็มที่ ก็คงจะลำบากใจ เพราะคุณเปลี่ยนใจไปมา ยากจะเอาใจได้ถูก

สุขภาพ :  เดินทางไปไหนใกล้ไกล ทั้งทางบกและทางน้ำ ควรดูแลตัวเองให้ดี ขับขี่อย่างระมัดระวัง และมีสติ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากประมาท

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน :  มีความเป็นไปได้ที่คุณจะได้รับการชักชวนให้เข้าไปร่วมงานกับธุรกิจของครอบครัว ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะตกอยู่ในภาวะที่ต้องแบกรับงานหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้คุณต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะในด้านต่างๆ เริ่มต้นงานใหม่ ดังนั้น จึงควรเตรียมวางแผนงานให้ดี เพื่อป้องกันการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ผิดพลาด

การเงิน : มีโอกาสได้เงินปันผลจากธุรกิจของครอบครัว ซึ่งมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของคุณ แต่วันนี้อาจถูกหยิบยืมเงินจากผู้ใหญ่ หรือเพื่อนสนิท แต่เดี๋ยวเขาก็นำมาคืน

ความรัก :  หากคุณกำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูน วันนี้มีความเป็นไปได้ที่งานจะเข้ามาทำลายเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน  ซึ่งคุณก็ไม่ควรใส่ใจไต่ถามมากมาย เพราะเดี๋ยวจะเสียบรรยากาศกันเปล่าๆ  คนโสด  คุณอาจได้พบชายในฝันที่อยากจูงมือไปอยู่ด้วยกันเลย แต่วันนี้ด้วยงานที่รัดตัว จนไม่อยากรับผิดชอบใครเป็นจริงเป็นจัง เพราะเกรงว่าจะไม่มีเวลาให้ แต่หากจะแค่ one night stand ก็เกรงว่าจะเสี่ยงเกินไป

สุขภาพ : ทำงานหนัก ไม่ได้พักผ่อน มีความเสี่ยงที่ระบบหมุนเวียนเลือดจะมีปัญหานะคะ มีโอกาสที่จะเกิดภาวะเลือดจาง ทำให้หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ จนถึงเป็นลม

 

สวยเก่งใช่เล่น! “ชาเม-ยาหยี” สองสาวลูกไม้ใต้ต้นของคุณพ่อ "ติ๊ก ชิโร่”

สวยเก่งใช่เล่น! “ชาเม-ยาหยี” สองสาวลูกไม้ใต้ต้นของคุณพ่อ “ติ๊ก ชิโร่”

Alternative Textaccount_circle
สวยเก่งใช่เล่น! “ชาเม-ยาหยี” สองสาวลูกไม้ใต้ต้นของคุณพ่อ "ติ๊ก ชิโร่”
สวยเก่งใช่เล่น! “ชาเม-ยาหยี” สองสาวลูกไม้ใต้ต้นของคุณพ่อ "ติ๊ก ชิโร่”

รู้จัก “ชาเม-ยาหยี” สองสาวลูกไม้ใต้ต้นของคุณพ่อ “ติ๊ก ชิโร่” สวยเก่งใช่เล่น แถมดูจะฉายแววไปในทิศทางที่มีความสนใจเรื่องราวในวงการบันเทิงเหมือนคุณพ่อ

ชาเมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ คณะ Communication Arts เอก Digital Media เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

“คณะที่หนูเรียนค่อนข้างครอบคลุมหลายอย่าง ทั้งหนัง แอพพลิเคชั่น และการใช้สื่อ แต่ตอนนี้ยังตัดสินใจไม่ชัดว่าจะทำงานอะไร เพราะอยากทำเยอะมากค่ะ (หัวเราะ) ตอนแรกมีแพลนว่าจะทำ Youtube Channel กับน้อง ทำเป็น Vlog วิดีโอท่องเที่ยว ถ่ายเอง ตัดต่อเอง โดยจะไปถ่ายกันที่ญี่ปุ่น เพราะเราสองคนชอบที่นั่นมาก ไปครั้งหนึ่งก็ 15 วันเลย คือหนูกับน้องชอบไปเที่ยวกันเอง แบบเปลี่ยนแพลนไปเรื่อยๆ บางทีก็ไปลุยเอาดาบหน้า ให้สถานการณ์พาไป ชอบความรู้สึกของการที่ได้ผจญภัยนิดๆ ตื่นเต้นหน่อยๆ แต่ไม่ถึงขนาดผาดโผนนะคะ เสียดายว่าเจอโควิด-19 หนูก็เลย โอ๊ย…พับเก็บไปก่อน”

ยาหยีและชาเม

ส่วนยาหยีกำลังจะเรียนชั้นปีที่ 1 คณะนวัตกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “ที่หนูอยากเรียนคณะนี้ เพราะทั้งความเป็นคณะอินเตอร์กับเป็นคณะเปิดใหม่ น่าจะได้เรียนอะไรหลายอย่าง แล้วยังได้เรื่องภาษาที่หนูชอบด้วย น่าสนใจดีค่ะ ที่จริงเปิดเทอมตั้งแต่เดือนสิงหาคม แต่บางส่วนยังเป็นการเรียนออนไลน์อยู่ แอบเซ็งนิดหน่อย เพราะอยากไปมหาวิทยาลัย จะได้เจอเพื่อน นี่เพื่อนก็ชวนไปสมัครลงเชียร์ลีดเดอร์กับดาวคณะไว้ค่ะ

“หนูกับพี่ชาเมมีทั้งมุมที่เหมือนและต่างกัน พี่จะค่อนข้างเก็บตัว ชอบอยู่บ้าน อ่านหนังสือ แต่หนูชอบออกไปเที่ยวกับเพื่อน พี่ชาเมแต่งตัวเท่ๆ บอยๆ ของหนูออกแนวหวาน ชอบใส่กระโปรง แต่เราก็แชร์เสื้อผ้ากันได้นะคะ เพราะหุ่นเท่ากัน เราสองคนสนิทกันมาก ไม่ค่อยมีเรื่องงอน ถ้าจะมีก็แค่บ่นกันบ้างนิดหน่อย เช่น หนูโดนบ่นเรื่องหยิบเสื้อไปใส่แล้วไม่บอก ส่วนพี่ชาเมไม่ชอบออกกำลังกาย หนูเลยบ่น เพราะอยากให้เขาแข็งแรง ไม่อย่างนั้นจะชอบง่วงตลอดเวลา”

ชาเมยอมรับโดยดี “หนูขี้เกียจค่ะ ไม่ขยันฟิตเหมือนยาหยีที่ทำคาร์ดิโอกับสปินบาร์ได้ทุกวัน ชาเมกับยาหยีอายุห่างกันแค่ 2 ปีค่ะ จึงคุยกันได้ทุกเรื่อง บางทีแค่สะกิด แล้วมองตาก็รู้ใจ น้องคนนี้จึงเป็นเหมือนเพื่อนมากกว่า หนูยังคิดไม่ออกว่าถ้าหนูเป็นลูกคนเดียวจะเป็นยังไง รู้สึกโชคดีที่มีน้อง ถึงบางทีจะรู้สึกว่าน้องสวยจัง ทำไมหนูไม่สวย หนูพูดกับเขาตลอดว่าอยากสวยเหมือนยาหยี ซึ่งเวลาพูดแบบนี้ ยาหยีก็จะชมหนูกลับ (หัวเราะ) สรุปว่าชมกันไปชมกันมา”

เมื่อถามถึงความเป็นลูกคุณพ่อติ๊ก ชาเมตอบก่อน “คุณพ่อใจดีค่ะ ไม่ดุ เลี้ยงลูกแบบให้อิสระ ไม่ค่อยสอนหรือแนะนำอะไรมาก จะเป็นแนวผลักดันให้ทำมากกว่า ท่านจะบอกว่า ‘ทำเลย ทำได้’ กลายเป็นว่าหนูเองนี่แหละที่จะรู้สึกไม่มั่นใจ ถึงทำได้หลายอย่าง แต่หนูจะช้านิดหนึ่ง จะทำอะไรทีต้องใช้เวลา

“หนูว่าคุณพ่อคุณแม่มีความติสต์ทั้งคู่ คือต่างคนต่างมีกิจกรรมของตัวเอง แล้วบางทีคุณพ่อก็จะดูเข้าใจยากในบางมุม บางทีนั่งวาดรูปตี 2 ตี 3 ไม่นอน คือจะมีความแบบ…เข้าใจยากน่ะ” (หัวเราะ)

ยาหยีและชาเม

ยาหยีเล่าบ้าง “อย่างเรื่องหวง คุณพ่อก็ไม่พูดนะคะ แต่หนูก็รู้สึกว่าหวงนิดๆ แหละ ส่วนคุณแม่แค่บอกว่าถ้ามีคนมาคุยด้วย ก็ให้เช็กดูดีๆ แค่นั้นค่ะ

“อ้อ เร็วๆ นี้หนูจะมีถ่ายมิวสิควิดีโอ เป็นเพลงใหม่ของคุณพ่อนะคะ ชื่อ ไทม์แมชชีน น่าจะเป็นผลงานเปิดตัวงานในวงการของหนูเลย เพราะยังไม่เคยทำมาก่อน อยากลองทำดูเหมือนกันค่ะ ก่อนหน้านี้เคยแค่เต้นกับร้องเพลงสมัยอยู่โรงเรียน”

ชาเมก็มีแนวทางไว้เช่นกัน “หลังเรียนจบชาเมมีช่วยงานในออฟฟิศของคุณพ่อบ้างนิดหน่อย จริงๆ คุณพ่อก็อยากให้เข้าวงการเหมือนกัน แต่หนูอยากใช้ความสามารถตัวเองไปลองทำอะไรเองมากกว่า เช่น เคยเป็นแบ็กอัพแดนเซอร์ให้พี่ที่รู้จักกันบ้าง และก่อนที่จะมีโควิดหนูไปออดิชั่นละครเวที เขาให้ร้องเพลงกับเต้นตามจังหวะ ซึ่งปรากฏว่ายังไม่ผ่าน (หัวเราะ) คิดไว้แล้วว่าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่รู้สึกดีที่ได้ลองค่ะ”

ปิดท้ายว่าพี่น้องคู่นี้ใครฮ็อตกว่ากัน ยาหยีตอบทันที “พี่สวยกว่าค่ะ แค่ว่าเวลาพี่นิ่งๆ หน้าอาจจะดูดุ เลยไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าหาเท่าไร”

ชาเมก็ไม่ยอม “น้องสวยกว่าจริงๆ ค่ะ เพื่อนชมเยอะ หนูบอกแล้วไงคะว่าถ้าพูดเรื่องนี้ เราจะจบด้วยการชมกันไปมา” (หัวเราะ)


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 962

ภาพเพิ่มเติม : tikshirotoshirik

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

“เฌอเอม” ควง “เคน” เคลียร์ดราม่าทั้งน้ำตา ออกจากการประกวด MUT หรือไม่?

“ซี-เอมี่” โชว์สวีทบนตึกเลอบัว ระลึกความหลัง เพื่อนดาราแห่เชียร์เตรียมอุ้มหลาน

กงยู & ยุนอึนฮเย เปิดอกคุยกัน เพราะอะไรพวกเขาถึงยังไม่ แต่งงาน ?

รู้จัก 'สารสไตรีนโมโนเมอร์' จากเหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ อันตรายมากหากสูดดม

รู้จัก ‘สารสไตรีนโมโนเมอร์’ จากเหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ อันตรายมากหากสูดดม

Alternative Textaccount_circle
รู้จัก 'สารสไตรีนโมโนเมอร์' จากเหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ อันตรายมากหากสูดดม
รู้จัก 'สารสไตรีนโมโนเมอร์' จากเหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ อันตรายมากหากสูดดม

จากเหตุการณ์ โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (5 ก.ค.64) ซึงเป็นโรงงานผลิตโฟมของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ที่ตั้งอยู่บนถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทางทิศตะวันตกของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีสารเคมีอันตรายชื่อ สไตรีนมอนอเมอร์ เก็บอยู่ปริมาณมาก ได้เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งมีรายงานความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตขึ้น อีกทั้งทางด้าน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ก็ได้ย้ำเตือนประชาชนว่าอย่าสูดดมควันจากโรงงานแห่งนี้ เพราะสารดังกล่าวอันตรายและอาจก่อมะเร็งได้

รู้จัก 'สารสไตรีนโมโนเมอร์' จากเหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้

รู้จัก ‘สารสไตรีนโมโนเมอร์’ จากเหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ อันตรายมากหากสูดดม

สไตรีนโมโนเมอร์ เป็นสารเคมีที่มีอันตรายต่อระบบอวัยวะสำคัญของร่างกาย ทั้งระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท ระบบสร้างเลือด ตับ และระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อได้รับไอระเหยของสารนี้ทางการสูดดม ส่งผลให้เวียนศีรษะ ง่วงซึม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย หมดสติ จะต้องย้ายผู้ป่วยไปบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ทันที หากได้รับทางผิวหนังจะมีอาการผิวหนังแดง ปวด ให้ใช้วิธีล้างผิวหนังทันทีด้วยสบู่และน้ำปริมาณมากๆ หากสัมผัสสารทางดวงตาจะทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง ปวดตา จึงควรล้างตาด้วยน้ำในปริมาณมาก ๆ เช่นกัน เพื่อเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ด้าน รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ว่า สารเคมีที่โรงงานนี้มีสารตั้งต้นหลายตัว ซึ่งสารประกอบหลักๆ คือ สไตรีน (styrene) เพราะเป็นโรงงานที่ทำ ฟองน้ำ โฟม นอกจากนี้ ยังมีสาร พอลิสไตรีน (polystyrene) โดยมีสไตรีนเป็นสารตั้งต้น และยังมีสารที่อยู่ในกลุ่มตัวทำละลาย เช่น คาร์บอน เตตระคลอไรด์ (carbon tetrachloride) โทลูอีน (toluene) สารเคมีที่เป็นตัวชะล้างทำความสะอาด ซึ่งเป็นสารประกอบ ฮาโลเจน (halogen) ซึ่งโดยรวมแล้ว จะเรียกว่าเป็นสารเคมีที่ไม่เป็นมิตรต่อมนุษย์ คือ สารที่เหนี่ยวนำที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งในอนาคต ด้วยเหตุนี้จึงใช้งานในอุตสาหกรรมระบบปิด ไม่ค่อยจะหลุดรอดออกมาสู่ชุมชน

ฝั่งทางด้าน เวิร์คพอยท์ทูเดย์ รศ.วีรชัย อธิบายว่า สารเคมีเหล่านี้ โดยเฉพาะ สารสไตรีน มีสารประกอบอื่นๆ เช่น เบนซิน เป็นสารไวไฟที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ เมื่อสารเหล่านี้เจอกับไฟก็เกิดการระเบิดปะทุขึ้นมา

ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นในอากาศที่มาจากการเผาไหม้ คือ ฝุ่น PM 2.5 พร้อมกับสารปนเปื้อนสารเคมี เป็นกลุ่มหมอกควัน กระทบต่อประชาชนที่อาศัยโดยรอบ และยังเป็นผลต่อสุขภาพในระยะยาว

เขากล่าวว่ามลพิษที่เกิดขึ้น “ไม่ได้มีพิษเฉียบพลัน แต่เป็นกลุ่มหมอกควันที่มีสารเคมีเจือปนมีผลต่อร่างกายในระยะยาว ถ้าสูดหายใจเข้าไปจะมีผลกระทบต่อทางเดินหายใจ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะเป็นมะเร็งกันทั้งหมด เพราะสารกลุ่มนี้เป็นสารที่สงสัยให้ก่อมะเร็ง แต่การรับเข้าไปเยอะๆ ก็มีผลต่อร่างกาย ในส่วนของกลุ่มผู้ป่วยที่มีร่างกายอ่อนแออยู่แล้วเมื่อต้องสูดดมสารพิษก็อาจทำให้ร่างกายแย่ลง แนะนำว่าประชาชนควรใส่หน้ากากแบบเต็มใบหน้า หรือหน้ากากที่ป้องกัน PM 2.5 ได้”

สารสไตรีนโมโนเมอร์ 1

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้มีไอระเหยของสารสไตรีน และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ กระจายออกไปโดยรอบในรัศมีประมาณ 5 กิโลเมตร โดยเฉพาะด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโรงงาน ซึ่งเป็นด้านท้ายลมในช่วงเช้า บริเวณแถบถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก แขวงดอกไม้ เขตประเวศ ทิศทางลมมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา

ขณะเดียวกัน ผลการตรวจของกรมควบคุมมลพิษพบว่า เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นได้ก่อให้เกิดมลพิษไกลถึง 9 กม.

โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่โดยรอบในระยะ 500 เมตร ถึง 9 กิโลเมตร โดยตรวจวัดระดับขีดจำกัดการติดไฟ (LEL) ปริมาณสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) พบว่าอยู่ในเกณฑ์ค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน

นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แสดงความกังวลว่าอาจมีฝนเพิ่มขึ้นในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ซึ่งฝนจะไปชะล้างกลุ่มควันจากเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นสารพิษแล้วตกลงสู่แม่น้ำ ลำคลอง หรือบ่อน้ำ อาจส่งผลต่อประชาชนในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้น้ำช่วงนี้ โดยในช่วง 1-2 วันนี้ ต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ 2

ขณะเดียวกัน โลกออนไลน์ต่างแชร์ภาพและคลิปกลุ่มควันจากเหตุไฟไหม้ที่ได้ลอยเข้าปกคลุมหลายพื้นที่ของ กทม. เช่น ย่านบางนา ลาดกระบัง หัวหมาก บางกะปิ รวมถึงบริเวณแยกรัชโยธิน และประชาชื่น

รศ.วีรชัย บอกกับเวิร์คพอยท์ทูเดย์ว่า การกำจัดหมอกควันที่มีสารพิษเหล่านี้ มีระยะเวลาสลายตัวตามธรรมชาตินานเป็นปี แต่ก็จะเกี่ยวข้องกับปัจจัยอย่างอื่นด้วย เช่น น้ำ ความชื้น ฝน ก็จะทำให้สลายตัวได้เร็ว และน้ำจะทำปฏิกิริยาทำให้กลายเป็นสารประกอบตัวอื่นที่สลายตัวได้ง่ายขึ้น และลงสู่พื้นดินซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวนกลับมาสู่มนุษย์ได้อีก

นักวิชาการเคมีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งข้อสงสัยว่าที่ตั้งโรงงานดังกล่าว อยู่ในพื้นที่สีแดงของผังเมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับอาคารพาณิชย์และแหล่งชุมชน ทั้งที่โรงงานขนาดใหญ่แบบนี้ควรจะเป็นพื้นที่สีม่วง จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป


ข้อมูล : bbc.com/thai , ไทยรัฐออนไลน์ , เวิร์คพอยท์ทูเดย์

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ฮาวทูเซฟชีวิตในวิกฤต ฝุ่น PM2.5 มหันตภัยร้ายเล็กจิ๋วที่ห้ามมองข้าม!

ชวนรู้ “แอนโดรกราโฟไลด์” ใน “ฟ้าทะลายโจร” ฮีโร่สมุนไพรไทย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

ฮาวทูดูแลผิวจาก ฝุ่นพิษ PM 2.5 ภัยเงียบที่ทำให้เกิดสิว ผดผื่น และหมองคล้ำ

ฟีบี้ เดนเวอร์

ชิคแต่มีเสน่ห์แบบ ฟีบี้ เดนเวอร์ สไตล์แต่งยีนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

Alternative Textaccount_circle
ฟีบี้ เดนเวอร์
ฟีบี้ เดนเวอร์

เปิดลุคนอกซีรีส์ของสาวสวยแห่ง Bridgerton ฟีบี้ เดนเวอร์ (Phoebe Dynevor) กับสไตล์แต่งยีนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

ขอสารภาพว่าวนดูซีรีส์ซ้ำสองก็ยิ่งตกหลุมรักสาวคนนี้มากขึ้น สำหรับ ฟีบี้ เดนเวอร์ (Phoebe Dynevor) ผู้รับบท “ดาฟนี่”สาวสวยแห่งตระกูล Bridgerton ที่ขโมยใจท่านดยุคและผู้ชมไปเต็มๆ เพราะนอกจากในเรื่องจะสวยสะพรึงตรึงใจในทุกลุคแล้ว ตัวจริงของเธอก็เก๋ไก๋จนน่าจะเป็นแฟชั่นไอคอนคนใหม่ได้เลย

หากคุณได้ติดตามเรื่อง Bridgerton ก็น่าจะหลงเสน่ห์นางเอกสาวผิวเนียนกริบ(เนียนจนอยากถามว่าใช้ผลิตภัณฑ์อะไร) และความสวยแบบคุณหนูผู้ดีไฮโซ แต่เป็นธรรมชาติ ไม่มากไม่น้อย ยิ่งดูยิ่งเพลินของเธอเอาได้ง่ายๆ จนสื่อเมืองนอกเปรียบเทียบลุคของเธอในเรื่องนี้กับ “ออเดรย์ เฮปเบิร์น” เลยทีเดียว แม้ปัจจุบันฟีบี้จะอายุ25 ปีแล้ว แต่เธอยังดูเด็กเสียจนเล่นเป็นสาววัยทีนได้สบายๆ ที่สำคัญเธอยังล็อกใจคนดูอยู่หมัดด้วยพัฒนาการของตัวละครจากสาววัยใสสุดอินโนเซ้นส์อ่อนต่อโลก ไปสู่การเติบโตที่รู้จักเคารพตัวเองและรับมือกับความสัมพันธ์ได้

นักแสดง Bridgerton 

แม้เพิ่งแจ้งเกิดในระดับอินเตอร์จากซีรีส์  Bridgerton แต่ฟีบี้เป็นที่รู้จักอยู่ บ้างแล้วในอังกฤษ ด้วยเคยผ่านงานแสดงมาแล้วมากมาย เพราะเธอเป็นนักแสดงมาตั้งแต่อายุ 14 ปี  โดยเรื่องแรกที่เธอเล่นคือซีรี่ส์เรื่อง Waterloo Road ของช่อง BBC ในปี2009 ตามด้วยเรื่อง Prisoners’ Wives และอื่นๆ ก่อนจะข้ามมาเล่นซีรี่ส์ฝั่งอเมริกาอย่าง Snatch (2016) และ Younger (2017) อันที่จริงการแสดงอยู่ในสายเลือดของเธอเลยด้วยซ้ำ เพราะเธอเป็นลูกสาว ของ Sally Dynevor นักแสดงชื่อดังของอังกฤษจากซีรีส์ Coronation Street โดยฟีบี้พูดถึงการเป็นลูกสาวของนักแสดงดังว่า “สำหรับฉัน ท่านเป็นแค่คุณแม่ ท่านรับมือกับความมีชื่อเสียงได้ดีมาก ถ่อมตัวและชิลเสมอ ฉันคิดว่าความรู้สึกกตัญญรู้คุณค่าของสิ่งที่ทำเป็นเรื่องสำคัญมาก”

เมื่อซีรีส์เรื่อง Bridgerton ดังระเบิด เธอจึงค่อนข้างระวังตัวกับชื่อเสียงที่ตามมา  “ฉันว่าความมีชื่อเสียงเป็นดาบสองคม ฉันจึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความโด่งดัง แต่ฉันก็ภูมิใจใน Bridgerton มาก ฉันนึกไม่ออกว่าอยากให้ผู้คนรู้จักฉันจากไหนนอกจากเรื่องนี้”

อีกหนึ่งด้านของเธอที่ได้รับคำชมจากสื่อหลายสำนักคือสไตล์การแต่งตัวนอกจอ ในวันปกติเธอมักปรากฏตัวในชุดเรียบง่ายแต่มีกิมมิ อย่างชุดจั๊มป์สูทยีนส์กับรองเท้าสนีกเกอร์,กางเกงยีนขายาวกับเสื้อสบายๆ แม้กระทั่งยามออกงานเธอมักเลือกชุดสีพื้น แต่แต่งแต้มด้วยรายละเอียดเก๋ไก๋ อย่างลิตเติ้ลแบล็กเดรสผ้าลูกไม้ตัดต่อ เมื่ออยู่กับรูปร่างที่เพรียวบางและหน้าตาสะสวยแล้ว เธอก็กลายเป็นสตาร์ของงานไปได้แบบง่ายๆ เลยล่ะค่ะ

ชิแต่มีเสน่ห์แบบ ฟีบี้ เดนเวอร์ สไตล์แต่งยีนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

ฟีบี้ เดนเวอร์
ชุดจั๊มสูท Alexachung แมทช์กับรองเท้า Adidas

Phoebe Dynevor แฟชั่น Phoebe Dynevor

ซีรีส์ Bridgerton

สาวสวยแห่ง Bridgerton
สาวสวยแห่ง Bridgerton

ภาพจาก : @phoebedynevor

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่นี่

แฟนคลับระดับโลก ‘จีจี้ ฮาดิด’ ใส่ เสื้อยืด BLACKPINK แรร์ไอเท็มที่ใครก็ตามหา

ชุดเรียบๆ ก็เอาอยู่! แฟชั่น ‘ใหม่ ดาวิกา’ ในเดรสขาว สวยแซ่บสไตล์สายฝอ

สวยเอวสับ! ญาญ่า ในชุดเดรส Poem สุดคลาสสิก ด้วยเทคนิคการพิมพ์ไล่สี

อปป้า

ย้อนความสำเร็จ ผลงานแรกของ 10 อปป้า กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

Alternative Textaccount_circle
อปป้า
อปป้า

กว่าจะมาเป็นพระเอกดังในวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ย้อนความสำเร็จ 10 ผลงานชิ้นแรกของ อปป้า นักแสดงหนุ่มเกาหลีขวัญใจสาวๆ ทั่วเอเชีย

น้อยมากที่คนธรรมดาจะจับพลัดจับผลูมาเป็นนักแสดงนำตั้งแต่ผลงานชิ้นแรก ดาราส่วนมาก กว่าที่จะได้รับบทบาทใหญ่ ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนฝีมืออยู่นานหลายปี โดยผลงานแรกของพวกเขาส่วนมากจะเป็นบทบาทเล็กๆ ที่ผู้ชมอาจจะไม่ได้จดจำด้วยซ้ำ วันนี้แพรวดอทคอม จะพาย้อนเวลาไปชมผลงานชิ้นแรก 10 อปป้า พวกคุณยังจดจำได้ไหมว่าหนุ่มๆเหล่านี้เคยสวมบทบาทเป็นอะไรมาก่อนที่จะกลายเป็นนักแสดงแถวหน้าขวัญใจสาวทั่วเอเชียอย่างทุกวันนี้

ย้อนความสำเร็จ ผลงานแรกของ 10 อปป้า กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

“ซงจุงกิ” (Song Joong Ki) : หนุ่มฮ็อตเจ้าของฉายาสามีแห่งชาติ เขาเริ่มต้นในวงการบันเทิงจากการรับบทเล็กๆ ในภาพยนตร์ดังแนวอีโรติก”A Frozen Flower” เป็นหนึ่งในทหารราชองครักษ์ โดยเขาปรากฏตัวในหนังเรื่องนี้น้อยมาก แต่หลังจาก 8 ปี ผ่านไป เขากลายเป็นพระเอกแถวหน้าที่มีแฟนคลับไปทั่วโลก และฉากอาบน้ำ 3 วินาทีในวันนั้น  กลับกลายเป็นฉากอมตะที่แฟนๆ ของพระเอกหนุ่มคนนี้ต้องหามาดูให้ได้

อปป้า
ซงจุงกิ
อปป้า
A Frozen Flower ภาพยนตร์เรื่องแรกของ ซงจุงกิ

“กงยู” (Gong Yoo) : พระเอกขวัญใจสาวๆ “กงยู” ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงมากฝีมือแถวหน้าของเกาหลีใต้ แต่ก็มีบางคนยังไม่รู้ว่าก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียงด้านการแสดงนั้นเขาเคยเป็นวีเจในรายการเพลงมากก่อน ในส่วนของงานแสดงเขาก็มีความสนใจมากและไปออดิชั่นอยู่เนื่องๆ โดยผลงานแสดงชิ้นแรกๆ ของเขาคือ “School 4” และมีผลงานตามต่อเนื่องอีกหลายเรื่อง ทว่า 17 ปีผ่านไป ในตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ “กงยู” พระเอกเจ้าของฉายาลมหายใจของภาคพื้นเอเชีย คนนี้!

อปป้า
“กงยู”
อปป้า
ซีรี่ส์ “School 4”

“อีมินโฮ” (Lee Min Ho) : มาถึงหนุ่มหล่อที่ทำให้สาวๆ หัวใจละลายกันเป็นแถว “อีมินโฮ” พระเอกที่สวมชุดยูนิฟอร์มนักเรียนในซีรี่ส์บ่อยที่สุด “กูจุนพโย” จากเรื่อง “Boys Over Flowers …รักฉบับใหม่หัวใจ 4 ดวง”, “คิมทัน” จากเรื่อง “The Heirs…หยุดหัวใจ นายไฮโซ” ฯลฯ ล้วนส่งให้เขาแจ้งเกิดมาแล้วทั้งสิ้น และไม่รู้บังเอิญหรืออย่างไร เพราะซีรี่ส์เรื่องแรกของเขา “Sharp” หนุ่มคนนี้ก็สวมบทบาทเป็นนักเรียน ถึงแม้จะไม่ใช่ผลงานแจ้งเกิด แต่เชื่อว่าแฟนๆ ของ “อีมินโฮ” ต่างจดจำกันได้เป็นอย่างดี

"อีมินโฮ"
“อีมินโฮ”
อปป้า
ซี่รี่ส์เรื่อง “Sharp”

“อีจงซอก”  (Lee Jung Suk) :  อีกหนึ่งพระเอกเกาหลีที่เป็นที่ชื่นชอบของสาวไทยมากๆ ก็คือ “อีจงซอก” เขาได้รับความนิยมจากซีรี่ส์ดังอาทิ “I Can Hear Your Voice”, “Doctor Stranger”, “Pinocchio”, “W” , “While You Were Sleeping” ฯลฯ “จงซอก” เป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนัก กว่าที่จะเริ่มเป็นที่รู้จักจากซีรี่ส์ “School 2013” เขาต้องพยายามออดิชั่นบทต่างๆ นาน 8-9 ปี ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้มากก่อนเขาเริ่มเล่นภาพยนตร์สั้นครั้งแรกในปี 2005 กับเรื่อง “Sympathy” แม้จะไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้รับโอกาสทางการแสดงในอีกหลายเรื่อง จนมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้

อปป้า
“อีจงซอก”

“นัมจูฮยอก” (Nam Joo Hyuk) : หากพูดถึงพระเอกรุ่นใหม่ที่เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่นมากๆ ก็คือ “นัมจูฮยอก” บางคนอาจจะทราบมาแล้วว่าก่อนที่จะมาจับงานแสดง เขาเป็นนายแบบที่ฮ็อตมาก โดยเฉพาะช่วงโซลแฟชั่นวีคเขาเป็นหนุ่มที่แบรนด์ต่างๆ ต้องการตัวมากที่สุด ไม่ใช่แค่เดินแบบได้ดีเท่านั้น แต่เขายังโดดเด่นเรื่องงานแสดง ซีรี่ส์เรื่องแรกที่ออกแนวแฟนตาซี “The Idle Mermaid” เขาแจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม และแม้ไม่ใช่พระเอกแต่สาวๆ กลับสนใจเขามากว่าพระเอกเสียอีก อาจจะเพราะบทบาทนักศึกษาที่ใกล้เคียงอายุจริงทำให้เขาแสดงออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งหลังจากเรื่องนี้ “นัมจูฮยอก” ก็ได้ขึ้นแท่นพระเอกเต็มตัวทันที

อปป้า
“นัมจูฮยอก”

“The Idle Mermaid”

“ยูซึงโฮ” (Yoo Seung Ho) : ถึงอายุจะน้อยแต่ประสบการณ์ทางการแสดงไม่น้อยเหมือนอายุ “ยูซึงโฮ” พระเอกหนุ่มที่มีผลงานในวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ไม่ใช่แค่เล่นได้เท่านั้น แต่เขายังทำให้คอหนังและคอละครเสียน้ำตามามากมาย โดยเฉพาะผลงานหนังเรื่องแรก “The Way Home” ซึ่งเล่าเรื่องราวระหว่างเด็กชายในเมืองและคุณยายชนบทได้อย่างซาบซึ้ง นับเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์สุดๆ ปัจจุบัน “ยูซึงโฮ” มีผลงานที่ตราตรึงใจหลายเรื่อง อาทิ “I Miss You”, “Remember – War of the Son” และ “I Am Not A Robot”

อปป้า
“ยูซึงโฮ”
อปป้า
“The Way Home”

“จองแฮอิน” (Jung HAE In) :  สำหรับพระเอกหนุ่มที่กำลังมาแรงสุดๆ ในช่วงนี้ก็คือ “จองแฮอิน” ที่สวมบทบาทหนุ่มน้อยที่ตกหลุมรักสาวรุ่นพี่ “Something in the Rain” โดยก้าวในวงการบันเทิงของ “จองแฮอิน” ไม่ง่ายเลย เพราะกว่าที่เขาจะมารับบทเด่นในละครเรื่องนี้ ก็เคยผ่านบทที่ไม่เด่นมากก่อน โดยซีรี่ส์เรื่องแรกของหนุ่มคนนี้คือ “Bride of the Century” โดยถึงเขาจะไม่ใช่นักแสดงนำ แต่การปรากฏตัวของเขาในหลายฉากก็น่าประทับใจจนละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว

อปป้า
“จองแฮอิน”
อปป้า
“Bride of the Century”

“คิมซูฮยอน” (Kim Soo Hyun) : “คิมซูฮยอน” เป็นพระเอกที่มาพร้อมกับภาพลักษณ์เนี้ยบตลอดเวลา ยิ่งในซีรี่ส์ “My Love from the Star” ซึ่งรับบทเป็น “โทมินจุน” หนุ่มหล่อจากต่างดาว ยิ่งตอกย้ำภาพความเนี้ยบของเขามากขึ้น โดยเฉพาะทรงผมที่แทบจะไม่กระดิกผิดองศาสักเส้น ทว่าผลงานซี่รี่ส์เรื่องแรกของเขา “Kimchi Cheese Smile” ฉีกภาพของหนุ่มคนนี้สุดๆ ไม่ว่าจะทรงผมหรือการแต่งตัวเรียกว่ายุ่งเหยิงสุดๆ ซึ่งหากนำภาพมาเปรียบเทียบกันจะเห็นความแตกต่างแบบสุดขั้วไปเลย

อปป้า
“คิมซูฮยอน”
อปป้า
“Kimchi Cheese Smile”

“พัคโบกอม” (Park Bo Gum) : “พัคโบกอม” โด่งดังอย่าสุดขีดจากซีรี่ส์แนววัยรุ่น “Reply 1988”, “Love in the Moonlight” เช่นนั้นเขามีโลโก้ของภาพลักษณ์ที่สดใส ซึ่งทำให้หลายคนมีข้อสงสัยว่านอกจากบทบาทเหล่านี้แล้ว เขาสามารถแสดงอะไรที่แตกต่างกว่านี้ได้หรือไม่? เอาเป็นว่าถ้าใครเคยลองย้อนผลงานของหนุ่มคนนี้จะเห็นเลยว่าเขาแสดงได้หลายบทบาท ซึ่งผลงานเรื่องแรกที่ประเดิมเข้าวงการบันเทิงออกแนวโหดๆ หน่อยชื่อเรื่องว่า “Blind..พยานมืดปมมรณะ” นอกจากเขายังเคยสวมบทร้ายในซีรี่ส์ “I Remember You” มาแล้วด้วย ถึงอายุน้อยแต่ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ

อปป้า
“พัคโบกอม”

อปป้า

“คิมวูบิน” (Kim Woo Bin) : ปิดท้ายที่พระเอกหนุ่มที่หลายคนคิดถึง “คิมวูบิน” ที่เข้ารักษาตัวจากโรคมะเร็งโพรงจมูก จากผลงานที่ผ่านมาภาพจำของ “คิมวูบิน” คือหนุ่มคูลๆ เท่ๆ แต่หากใครเคยติดตามผลงานเขาในช่วงแรก ก็จะเห็นอีกมุมหนึ่งของเขาที่คาดไม่ถึง “Vampire Idol” ซิทคอมเรื่องแรกของเขา ที่เล่าถึงการผจญภัยในโลกมนุษย์ของเหล่าแวมไพร์รูปหล่อ แม้จะมีความยาวหลายตอนแต่ทุกๆตอนก็สนุกจนต้องเผลออมยิ้ม

อปป้า

อปป้า


เปิดค่าตัว 10 พระเอกเอลิสต์ K-DRAMA อยากจ้างร่วมงานต้องใช้เงินเท่าไหร่?

สาวญี่ปุ่นวัย 53 ปี เผย เคล็ดลับบำรุงผิว

สาวญี่ปุ่นวัย 53 ปี เผย เคล็ดลับบำรุงผิว วันละ 5 ชั่วโมง เข้านอนตอน 5 ทุ่ม ทุกวัน!!

Alternative Textaccount_circle
สาวญี่ปุ่นวัย 53 ปี เผย เคล็ดลับบำรุงผิว
สาวญี่ปุ่นวัย 53 ปี เผย เคล็ดลับบำรุงผิว

ตอกย้ำอายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ สำหรับ มาซาโกะ มิซึทานิ (Masako Mizutani) คุณแม่ลูก 2 วัย 53ปี จากเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น แต่มีผิวที่ดูอ่อนเยาว์เหมือนสาวๆ ไมมีผิด ถ้าไม่กระซิบบอกอายุ เชื่อเลยว่าคงไม่มีใครทายถูก

เคล็ดลับดูแลผิว

เมื่อปี 2011 เธอเคยเข้าร่วมการประกวดนางงาม และได้รับรางวัล พร้อมยกย่องให้เธอเป็นหญิงสาวที่มีความอ่อนเยาว์มากเมื่อเทียบกับคนอายุเท่าเธอ นอกจากนั้นเธอยังถูกแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องสำอางมากมายทาบทามให้ร่วมงานด้วย หลังจากนั้นในปี 2015 เธอก็ได้รางวัลชนะเลิศในการประกวดผู้หญิงหน้าเด็กอีกครั้ง จนเธอถูกยกให้เป็น The Lady of Eternal Youth ไปเรียบร้อย

และเธอมักจะเล่ากิจวัตรประจำวันในการดูแลผิวหน้าของเธอให้กับผู้ที่ติดตามเธอบนอินสตาแกรม รวมถึงแม้กระทั่งการสัมภาษณ์ต่างๆ ที่เธอบอกหมดไม่มีกั๊ก และไม่ใช่เพียงผิวหน้าเท่านั้นที่อ่อนเยาว์ เธอยังสามารถรักษารูปร่างให้ดูดีอยู่เสมอด้วย ล่าสุดเธอก็รวมเล่มบิวตี้บุ๊คในแบบผู้หญิงวัย 50 วางขายเรียบร้อยแล้ว

เคล็ดลับดูแลผิว 6

โดยเคล็ดลับบำรุงผิวหลักๆ ที่น่าสนใจคือ เธอใช้เวลาในการดูแลผิวหน้า 5 ชั่วโมงต่อวัน ในตอนเช้าเธอจะทำความสะอาดผิวหน้าด้วย whitening facial cleanser และตามด้วยมาส์กใต้ตา และใช้ผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิวตามหลังจากนั้น ส่วนในตอนเย็น เธอจะล้างเครื่องสำอางให้สะอาดหมดจด และมาส์กผิวด้วย whitening mask รวมทั้งบำรุงผิวบริเวณคอด้วย นอกจากนี้ เธอยังบอกอีกว่าเธอมักเข้านอนตอน 5 ทุ่มของทุกวัน และตื่นเช้าตอนตี 5 ทุกวัน!!!

และถึงแม้เธอจะอายุ 53 ปี มีลูกสาวอายุ 28 ปี และลูกชายอายุ 26 ปีแล้วก็ตาม แต่เธอยังดูเด็กและอ่อนเยาว์มากๆ จนหลายคนมักจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นลูกสาวของสามี อีกทั้งความอ่อนเยาว์ยังทำให้เธอดูเหมือนเป็นพี่สาวของลูกสาวตัวเองด้วย

เคล็ดลับดูแลผิว 2

เคล็ดลับดูแลผิวพรรณและรูปร่าง

  • ออกกำลังกายพร้อมๆ ไปกับการทำงานบ้าน และแม้จะนอนดึกก็ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ทานอาหารสดใหม่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น โดยเฉพาะพวก ผัก ผลไม้ ถั่ว นม น้ำเปล่าสะอาด มีประโยชน์ช่วยการดูแลผิวพรรณจากภายใน
  • บำรุงผิวด้วยครีมที่เหมาะกับปัญหาผิวและสภาพผิวของตัวเองเป็นประจำห้ามขาด เพราะช่วยปกป้องผิวจากภายนอก
  • ต้องรู้จัก แต่งหน้า และใช้เครื่องสำอางในโทนสีที่เหมาะกับเรา จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราดูดีได้ และถ้าจะให้ดี เลือกเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมี และต้องล้างออกให้หมดจดทุกครั้งก่อนนอน

สาวญี่ปุ่นวัย 53 ปี เผย เคล็ดลับบำรุงผิว วันละ 5 ชั่วโมง เข้านอนตอน 5 ทุ่ม ทุกวัน!!

เคล็ดลับดูแลผิว 1 เคล็ดลับดูแลผิว 4 เคล็ดลับดูแลผิว 5 เคล็ดลับดูแลผิว 7 เคล็ดลับดูแลผิว 8 เคล็ดลับดูแลผิว 9 เคล็ดลับดูแลผิว 10 เคล็ดลับดูแลผิว 11 เคล็ดลับดูแลผิว 11 เคล็ดลับดูแลผิว 12


ข้อมูล : mizutanimasako , mthai

 

บทความอื่นๆ ทีน่าสนใจ

ปังกว่าเดิมในบทนางเอก! เปิดเคล็ดลับผิวสวยออร่าจับของ ฮันโซฮี ทำตามได้ง่ายมาก

เปลี่ยนสีผมบ่อยๆ ต้องรู้! ทริค รักษาสีผม ให้เฟดช้าลงแบบ Rosé Blackpink

ทริคถนอมผิวกายฉบับ “มาร์โก ร็อบบี” ด้วยสูตร 90 วินาที ไม่ให้ผิวแห้งแตกรอย

 

เปิดเรือนหอ โทนี่

เปิดเรือนหอ โทนี่ & แก้ว เน้นเรียบง่ายพึ่งพาตนเอง นี่สิ! วิถีชีวิตแบบ off grid

Alternative Textaccount_circle
เปิดเรือนหอ โทนี่
เปิดเรือนหอ โทนี่

เปิดเรือนหอ  โทนี่ & แก้ว ไม่หรู ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำเน้นเรียบง่ายพึ่งพาตนเอง  นี่สิ! วิถีชีวิตแบบ off grid

ก่อนแต่งงานไม่นานนักแสดงหนุ่ม โทนี่ รากแก่น ได้ตัดสินใจซื้อบ้านพักหลังงามที่เขาใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง โดยมีทั้งหมด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัว ซึ่งเพียงพอสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่อาจมีสมาชิก 6-8 คน แต่หลังจากซื้อไปได้ไม่นานโทนี่ที่จะขายบ้านพักตากอากาศหลังนี้โดยเขาได้ให้เหตุผลว่าเขาไม่อยากยึดติดกับสิ่งที่มีอยู่ เพราะอยากให้ชีวิตที่เรียบง่าย จึงอยากหาคนที่สนใจนำไปดูแลต่อ

ล่าสุดหลังจากที่เล็งๆ มาพักใหญ่ ดูเหมือนว่า โทนี่ ได้ค้นพบบ้านที่ตรงกับความต้องการของเขาแล้ว ซึ่งบ้านหลังนี้ โทนี่ และ แก้ว ได้ลงมือลงแรงด้วยกันตั้งแต่การออกแบบ ขุดดินจำนวนมากและการสร้างทุกอย่าง ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้งบประมาณ 1 ล้านบาท เท่านั้น

เปิดเรือนหอ โทนี่ & แก้ว เน้นเรียบง่ายพึ่งพาตนเอง นี่สิ! วิถีชีวิตแบบ off grid

เปิดเรือนหอ โทนี่

สำหรับบ้านหลังนี้ทั้งคู่ได้ตั้งชื่อว่า รากแก้ว อัตตาหิ อัตโนเรือนหอ ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้แนวคิด พึ่งพาตนเอง ตัวบ้านมีพื้นที่ไม่มาก 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถงอเนกประสงค์ แต่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนนอก มีสระน้ำสำหรับใช้ในการเกษตร ปลูกผักเพื่อใช้ทำอาหาร โดยโทนี่ได้อธิบายว่าผ่านอินสตราแกรมถึงรายละเอียดต่างๆ

จุดเริ่มต้นของเรือนหอ

“เรือนหอแรกเริ่มของเรา เรือนหอที่มีแค่ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 โถงเอนกประสงค์ ที่เน้นการให้พื้นที่ส่วนมากในการขุดสระเก็บกักน้ำฝน และพื้นที่ปลูกป่าหลากหลาย เพื่อการฟื้นฟูธรรมชาติ และการทดลองปลูกอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต”

“เป็นการวางแผนระยะยาวร่วมกัน อย่างน้อยๆ 4-5 ปี ถึงจะเริ่มเห็นผลผลิตจริงจัง ระหว่างนี้ก็ฝึกฝนปลูกผักรายเดือนให้สำเร็จเพียงพอต่อการกินเองไปก่อน”

โทนี่ แก้ว

“ที่ทำทั้งหมดนี้ เพราะเราเกิดคำถามเกี่ยวกับวิถีชีวิตแบบ off grid นอกระบบ ต้องทำไง? อย่างเรื่องปัจจัย4 ถ้าต้องหาเองจะทำได้ยังไงบ้าง? พลังงานไฟฟ้า? น้ำสะอาด? อาหาร? ที่อยู่อาศัย? อยากรู้ว่าปัจจุบันนี้ ความสามารถในการพึ่งตัวเองของเรา มันเหลือน้อยแค่ไหน? แล้วมันจะต้องลงทุนเท่าไหร่? และจะต้องทำไงให้ใช้เงินน้อยที่สุด? ซึ่งก็คงไม่พ้นการลงมือทำเอง อันไหนทำเองได้ ลงมือทำเองให้มากที่สุดเท่าที่ไหว เหนื่อยก็พัก”

“อีกคำถามที่สำคัญมากๆสำหรับเราทั้งคู่ตอนนี้ คือเราจะต้องทำไงให้วิถีชีวิตของเราดำรงต่อไปได้ในแบบที่จะทำลายสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด?”

เปิดเรือนหอ แก้ว

เรือนหอเพิงหมางุ้ม

“เพิงหมางุ้ม2เดือนผ่านไป เราค่อยๆลงมือขุด ปลูก ปรับเปลี่ยน landscape ขุดคลอง ทำระบบน้ำไหลเวียน รอน้ำฝนบ้าง แอบเติมน้ำประปาลงบ่อบ้างเพราะฝนไม่มาเลย บ่อดินน้ำแห้งไวมาก แต่ก็ตามธรรมชาติ”

“2เดือนตั้งแต่บ้านเสร็จ เราลงมือขุดกันแทบทุกวัน ทั้งวัน วันละหลายๆชั่วโมง อยากรีบเห็นภาพจบแล้ว ทั้งๆที่อาจารย์หลายท่านก็แนะนำตลอดว่าอย่าใจร้อนเพราะเราควร เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง”

” ระบบโซล่าเป็นการลงทุนสูงมาก แต่โดยรวมแล้วตัวบ้านและโซล่ารวมกันยังคงอยู่ในราคาหลักแสนไม่ถึงล้าน”

“ทดสอบระบบโซล่า ใช้ได้ดีมีพลังงานเพียงพอสำหรับตู้เย็นและแอร์1ตัว บวกกับเสียบปลั๊กเครื่องปั้มน้ำได้ 3 ตัว ชาร์จแบ็ตได้ เปิดไฟได้”

เปิดเรือนหอ โทนี่

สิ่งที่รู้สึกว่าผิดพลาด

“ส่วนตัวคิดว่าแอบพลาดตรงที่เอาหญ้าเขียวๆมาลงเพื่อความสวยงาม ข้อเสียคือเปลืองตัง และยังทำให้การปลูกต้นไม้ยากขึ้นเพราะต้องค่อยๆทำเพราะมันจะเลอะเทอะมากเวลาขุดดินเพื่อปลูกบนหญ้า ไม่เหมือนตอนห่มฟาง จะปลูกตรงไหนก็แค่เปิดฟางแล้วขุดเลย แล้วพอหญ้ามันเริ่มยาวก็ต้องเล็มเรื่อยๆ ไม่เอาแล้วแบบนี้ พลาดมากๆ คือมันสวยจริง แต่สวยแบบดูประดิษฐ์ไปหน่อย เราอยากได้ภาพจบแบบป่าๆรกๆมากกว่า”

“ในพื้นที่ไม่ถึง1ไร่ ลงมือปลูกป่ากันหลายสิบต้นแล้ว เราเริ่มปลูกจากต้นกล้าเลย เพราะหวังว่าพอมันโตแล้วมันจะมีรากแก้ว ถ้าล้อมต้นไม้ใหญ่มา ราคาบางต้นเป็นแสน เราเอาต้นกล้าราคาหลัก10 หลัก100บาทมาปลูก รอโตนานหน่อย10-15ปี ถ้าไม่ตายซะก่อน แต่ที่ปลูกๆไปก็มีตายบ้าง รอดบ้าง แมงกินบ้าง รากเน่าบ้าง แห้งตายบ้าง แต่ประมาณ90%จะรอด เพราะไปลงเรียนอบรมขั้นพื้นฐานกันมา ค้นพบว่าสำคัญมากที่ต้องไปอบรมก่อนลงมือ “เลี้ยงดินให้ดินเลี้ยงพืช”

“ที่เห็นของตบแต่งหลายอย่างก็เอาที่มีอยู่แล้วมาใช้ หรือวัสดุตบแต่งเพื่อความสวยงามเช่นหินในสวนสวย ก็เป็นหินก่อสร้างที่ไว้ผสมปูนทั่วไปที่บางส่วนเอามาจากของเหลือหน้างาน และซื้อเพิ่มด้วยบางส่วน บวกกับของเก่าที่เคยมีตอนบ้าจัดตู้ปลาก็เอามาใช้หมด”

“ตบแต่งคลองให้เหมือนลำธาร เพื่อการไหลเวียนของน้ำ สร้างระบบนิเวศน์ ขุดบ่อเล็กเพิ่ม1บ่อเพื่อปลูกไม้ในน้ำไว้กรองน้ำ ให้รากไม้ดูดซับสารอาหารและสารพิษที่อาจมีเจือปน ตบแต่งลำธารด้วยหินถูกๆที่หาซื้อได้ทั่วไปราคาหลักสิบ ทำแบบประหยัด ทำเอง หาของเอง จับจอบจับเสียมถนัดมือขึ้น รู้สึกเหมือนจะอัพเลเวลแล้ว”

“ได้กินผักที่ปลูกไปแล้วรอบนึง ตอนนี้จริญญาเริ่มทำน้ำหมักจุลิทรีเองแล้ว ตั้งใจจะค่อยๆทำ ทำด้วยตัวเอง ประหยัดให้มากที่สุด ค่อยๆเรียนรู้และพัฒนากันไป”


ภาพจาก : @tonirakkaen

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ปาล์มมี่ (Palmy) กับตัวตนที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้านสีขาวที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้

Suan Sumraan Organic 1926 ความสุขด้านล่างเวทีของ แพท วงเคลียร์

แปรเล

Van Cleef & Arpels “แปรเล” ลูกปัดทองกับประกายระยับแสงแห่งโคลเวอร์

account_circle
แปรเล
แปรเล

Van Cleef & Arpels “แปรเล” ลูกปัดทองกับประกายระยับแสงแห่งโคลเวอร์ หนึ่งในงานการออกแบบอันทรงเอกลักษณ์ของเมซง ถูกนำมารังสรรค์ใหม่อีกครั้ง เพื่อก่ออารมณ์เบิกบาน สดใสขึ้นในใจของผู้สวมใส่และพบเห็น จิตวิญญาณแห่งความสุข สะท้อนตัวผ่านประกายสุกสกาววาววับของหกเครื่องประดับเพิ่มเติมในคอลเล็คชั่น “แปรเล”

(Perlée) ประกอบไปด้วยกำไลข้อมือ Perlée sweet clovers สามแบบสำหรับสวมสลับจับคู่กับแหวนสามสไตล์ ทั้งหมดล้วนรองรับการตกแต่งรายละเอียดโมทิฟทองคำต่างเฉด ฝังเพชรระยับแสงละมุนละไม อันเป็นผลจากกระบวนการผลิตสุดพิถีพิถัน และบ่งบอกถึงทุกแง่มุมเอกลักษณ์แห่งความเป็น Van Cleef & Arpels อย่างชัดเจน ท่ามกลางประกายสุกสว่างประดับผิว ลีลาล้อแสงระยิบระยับยังสร้างแรงบันดาลใจให้ความสนุกสนานในการเลือกจับคู่สวมใส่ร่วมกับเครื่องประดับต่างคอลเล็คชั่น ได้อย่างหลากหลายไร้ขีดจำกัด

Van Cleef & Arpels.เครื่องประดับ Perlée sweet clovers แต่ละชิ้น ล้วนมอบความหลากหลายในการเลือกสวมใส่กับคอลเลคชันอื่นๆ ของเมซงได้อย่างเสรี ไม่ว่าจะใช้เป็นเครื่องประดับชิ้นหลัก หรือใช้เป็นบทเติมเต็มในการก่อสไตล์เอกลักษณ์เฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนทองสีเหลือง, ทองคำขาว และทองคำสีกุหลาบ ไข่มุกทองทอประกายวาววามงามเงาบนแหวน และกำไลแปรเลก็กลมกลืนเข้ากับเครื่องประดับต่างๆ ได้อย่างลงตัว เพื่อทวีความหลากหลายในรูปแบบการจับคู่สวมใส่

Jo1- Travail sur la strucutre en or. / Jewelry work on the gold structure.

เครื่องประดับ “แปรเล” ถือกำเนิดขึ้นในปี 2008 โดยอาศัยสุนทรียศิลป์ทางการออกแบบ และไหวพริบความชำนาญในการทำเครื่องประดับจากยุคสมัยต่างๆ ตามประวัติความเป็นมาของ Van Cleef & Arpels โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแง่ของการให้ความสำคัญแก่คุณภาพรัตนชาติ และการทำโมทิฟเพื่อเป็นรายละเอียดตกแต่งดังปรากฏให้เห็นบนผลงานสร้างสรรค์หลายชิ้นของเมซงนับจากทศวรรษ 1920 ลูกปัดทองคำเป็นที่นิยมแพร่หลายยิ่งขึ้นในปี 1948 ไม่ว่าจะนำไปใช้ก่อน้ำหนักทรวดทรง หรือเติมมิติความลึกให้แก่เครื่องประดับแฟชันต่างๆ ทั้งสร้อยคอ, สร้อยข้อมือ, แหวน และนาฬิกาข้อมือ

Perlée sweet clovers bracelet, rose gold, round diamonds, medium model; diamond quality DEF, IF to VVS.

และเมื่อปี 1963 ยุคสมัยที่เครื่องประดับมีบุคลิกเฉพาะตัวจากรูปทรงลื่นไหล เป็นเส้นสายต่อเนื่อง ให้ความรู้สึกอ่อนช้อย อ่อนโยน ลูกปัดทองซึ่งครองตำแหน่งตัวแทนสื่อความรู้สึกร่าเริง สนุกสนาน ถูกนำมาร้อยขึ้นสายเป็นแถวยาวสำหรับใช้ประกอบเข้าด้วยกันในลักษณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรียงแถวเส้นตรง หรือรวบเป็นสายบิดเกลียว นี่คือจุดกำเนิดของเครื่องประดับ “ขดเกลียว” หรือ Twist collection

 

Perlée sweet clovers ring, rose gold, round diamonds; diamond quality DEF, IF to VVS.

 

Perlée sweet clovers ring, yellow gold, round diamonds; diamond quality DEF, IF to VVS.
Perlée sweet clovers ring, white gold, round diamonds; diamond quality DEF, IF to VVS.

ในปี 1968 บรรดาโมทิฟกลมกลึง ผิวเรียบเนียน ต้องแสงทอประกายเปล่งปลั่งเป็นเงางามวามวาวเหล่านี้ ถูกนำมาใช้ร่วมกับเครื่องประดับอัลลองบรา (Alhambra collection) สำหรับเดินขอบเน้นรูปทรงให้แก่แผ่นโมทิฟนำโชค ปัจจุบัน Van Cleef & Arpels ได้ระดมลูกปัดทองแปรเลเหล่านี้       มาสรรค์สร้างขึ้นเป็นคอลเลคชันเครื่องประดับอันบ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิง ตัวแทนความสุข เบิกบานใจ ประกอบไปด้วยงานออกแบบรุ่นต่างๆ อย่าง Perlée signature, Perlée diamonds, Perlée clovers, Perlée couleurs และ Perlée pearls of gold

เติมเต็มอาณาจักรแห่งความสนุกสนาน ร่าเริงของเครื่องประดับคอลเลคชันนี้ เมซงระดมศิลปินต่างสาขา รวมถึงเหล่านักออกแบบงานกราฟิกผู้ชำนาญด้านการสร้างภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ ให้มาร่วมกั สรรค์สร้างผลงานสำหรับแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นเป็นหนึ่งของเครื่องประดับแปรเลเป็นการเฉพาะด้วยความคิดสร้างสรรค์ต่างมุมมองของอาร์เธอร์ ฮอฟฟ์เนอร์ (Arthur Hoffner), เคลเมนท์ เจี๋ย (Clement Chia) และเฟร็ดริก เนอมานน์ (Friedrich Neumann) ความละเมียดละไมในเส้นโค้ง และความวิจิตรบรรจงทางรูปทรงกลมกลึง ของเครื่องประดับแปรเลรุ่นต่างๆ รังสรรค์ผ่านชุดภาพนิ่งและภาพยนตร์สั้น ราวกับเป็นเวทีจัดแสดงความงามสง่าและลีลาล้อแสงได้อย่างน่าประทับใจ


 

นิว-เมษา

บ่าวสาวสายมู นิว-เมษา กว่าจะได้ฤกษ์แต่งงาน ต้องเฟ้นมาทุกศาสตร์

account_circle
นิว-เมษา
นิว-เมษา

หลังจากคุกเข่าขอแต่งงานในบรรยากาศสุดโรแมนติกริมทะเล นิว ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต และ  เมษา กิตติมา วงศ์สวัสดิ์ ก็ได้ออกมาเผยฤกษ์แต่งงานผ่านช่องยูปทูป New Chaiyapol ซึ่งทั้งคู่เล่าว่ากว่าจะได้ฤกษ์มานั้นต้องเฟ้นหาจากทุกศาสตร์

บ่าวสาวสายมู นิว-เมษา กว่าจะได้ฤกษ์แต่งงาน ต้องเฟ้นมาทุกศาสตร์

นิว : วันนี้ก็ตามชื่อคลิปเลย เราจะมาประกาศวันแต่งงาน และหลายคนยังไม่ได้ดู นี่คือแหวนแต่งงาน ที่ไปคุกเขาขอแต่งงานมา ก็เป็นแหวนของคุณแม่ แล้วก็เอาไปดัดแปลง ทำวงเรือนใหม่ ถอดเพชรตรงกลางไปทำใหม่ ออกแบบบอดี้ใหม่ เติมเพชรเม็ดเล็กๆเข้าไปเพื่อให้สวยงามมากขึ้น

เมษา : น่ารักมากเลย ถูกใจมากเลย ยิ่งตอนที่เซอร์ไพรส์

นิว : ถ้าใครดูคลิปที่นิวลงไปจะเห็นว่า เมษาตอนที่เปิดกล่องแหวนปุ๊บ ก้มลงไปดูก่อนเลยว่าแหวนเป็นยังไง

เมษา : คือเราอยากรู้ว่าแหวนเป็นยังไง อย่างพี่จะเลือกได้ถูกใจเราหรือเปล่า มันจะน่ารักไหม ก็คนอยากรู้เพรราตอนแรกกล่องมันปิดอยู่ เปิดปุ๊บดูแหวนก่อนเลย น่ารักถูกใจมาก

นิว : กลับมาที่เรื่องวันแต่งงานของเรา

เมษา : ก็ต้องบอกว่า หลังจากที่เริ่มลงรูปก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดี ก็ขอขอบคุณทุกคนเลยมาแสดงความยินดี เราอาจจะตอบไม่หมด แต่เราอ่านทุกอัน แล้วทีแรกเราคิดว่าเราจะตอบทุกอัน แล้วพอมันเยอะมากก็เลยกลัวคนจะน้อยใจอันไหนที่เราไม่ได้ตอบ แต่เราขอบคุณทุกคนจริงๆ

นิว : ของเมษามีหมื่นกว่าไลค์ ของนิวเป็นรูปแรกในไอจีที่มีคนไลค์แสนกว่าไลค์ และคอมเมนท์ถล่มทลาย พันกว่าเมนท์  แต่ผมอ่านทุกอันและพยายามกดหัวใจให้ทุกอันเลย

เมษา : และอีกหนึ่งคำถามยอดฮิตที่ตามมา นอกจากแสดงความยินดี เขาก็จะถามกันว่าแต่งเมื่อไหร่ แน่นอนก็ต้องตามธรรมเนียม ว่าเราต้องมีการไปดูกฤษ์ อันนี้แล้วแต่คนนะ บางคนอาจจะชิวๆไม่ซีเรียส อะไรก็ได้ แต่เราเป็นคนค่อนข้างซีเรียส ก็ถือเรื่องนี้นิดหนึ่งก็เลยไปดูฤกษ์ที่เป็นมงคล คือฤกษ์มีหลายแบบ แต่ละคนเชื่อแบบไหน ทั้งศาสตร์ไทย ศาสตร์จีน ศาสตร์ฝรั่ง

นิว : ผมนับถืออาจารย์คนหนึ่งสนิทกันเคยทานข้าวด้วยกัน ท่านเป็นพราหมณ์ อาจารย์ท่านนี้คุยด้วยแล้วถูกคอ คุยกับเราแล้วเราสบายใจก็เลยอยากให้อาจารย์ดูฤกษ์ให้กับเรา อาจารย์ก็เอาวันเกิดเดือนเกิดปีเกิดของพวกเราทั้งปีนักษัตร รวมถึงเวลาเกิดด้วย ที่นี้ก็เลยไปขโมย ไม่ใช่ขโมย ไปหลอกถามหม่าม้ามา ซึ่งเมษาก็ไม่รู้ ก็ให้ไปดูในใบสูติบัตรมา ก็ได้เวลาเกิดของเมษา กับผมเอาไปดู ก็ได้ฤกษ์งามยามดี  แต่ว่าแม่หมอเมก็ได้ดูเบื้องต้นไว้แล้ว

เมษา : จริงๆ เป็นคนชอบเรื่องอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ชอบอ่านหนังสือโฮโรสโคป หนังสือดวง ฮวยจุ๋ย วันธงชัย อะไรแบบนี้ ก็เป็นเรื่องความสบายใจของแต่ละคน ตอนแรกนิวก็บอกว่าแต่งอะไรเมื่อไหร่ก็ได้ เราก็บอกไม่ได้ ซึ่งในเบื้องต้นพอรู้ว่าจะต้องแต่งงานเราก็ เฮ้ย ปีนี้ปีฉลูวัวทอง ปีหน้าเป็นปีขาล

ซึ่งเมเกิดปีวอก ซึ่งวอกกับขาลจะเป็นปีชง งั้นเราจะต้องไม่แต่งงานปีขาล สิ่งที่ไปทำต่อคือรีเสิร์ช ก่อนเลยว่า ตรุษจีนเมื่อไหร่ เพราะตรุษจีนแต่ละปีไม่เหมือนกัน บางปีมันต้นกุมภาพันธ์ บางปีปลายมกราคม ก็ได้ข้อมูลมาว่า ตรุษจีนปีหน้าตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพราะฉะนั้นวันแต่งงานมันจะต้องก่อน 31 มกราคม

นิว : แล้วพอผมเอาวันที่และเวลาไปให้อาจารย์ดู ผ่านไปอาทิตย์หนึ่งก็ได้แล้ว ได้ฤกษ์งามยามดี สำหรับเราสองคนที่แบบที่ดีที่สุดเลย มีอยู่ 2 วันด้วยกัน พอเราเอามาบวกกับศาสตร์ของแม่หมอเม ทำให้เหลือแค่วันเดียว เพราะอีกวันหนึ่งมันเลย 31 มกราคม ต้องบอกว่า กับอาจารย์นั้นเป็นพราหม ศาสตร์แต่ละศาสตร์ก็อาจแตกต่างกัน แต่ก็คือเพื่อความสบายใจ เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดของเราอยู่แล้ว พยายามหาข้อมูลทั้งหลายฝ่าย เอาทั้งศาสตร์จีนและศาสตร์พราหมณ์มาผสมกัน ฉะนั้นเราจึงได้วันที่เราจะแต่งงานกัน ก็คือวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ครับผม


ที่มา : New Chaiyapol, Khaosod

เจี๊ยบ-พิจิตตรา

เจี๊ยบ-พิจิตตรา เล่าเรื่องราวดีๆ เมื่อรถพุ่มพวงวิ่งช่วยเหลือสังคมครบ 2 เดือน

Alternative Textaccount_circle
เจี๊ยบ-พิจิตตรา
เจี๊ยบ-พิจิตตรา

นักแสดงสาว เจี๊ยบ-พิจิตตรา เล่าเรื่องราวดีๆ ผ่านความทรงจำ เมื่อรถพุ่มพวงวิ่งช่วยเหลือสังคมครบ 2 เดือน

ผ่านไปครบ 2 เดือนแล้ว สำหรับโปรเจกท์ รถกับข้าวเคลื่อนที่ หรือรถพุ่มพวง ของคู่รักนักสู้ บอย-อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดีและ เจี๊ยบ-พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์ ที่ทั้งคู่ได้ออกแจกจ่ายอาหารเพื่อยังชีพให้กับพี่น้องผู้เดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็แจกไปแล้วกว่า 95 ชุมชน เกือบ 50,000 คนที่ได้รับอาหารยังชีพปันอิ่มปันสุขจาก บอย เจี๊ยบ เรียกว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ทั้งคู่ตั้งใจทำเพื่อสังคมจากใจจริง โดย สาวเจี๊ยบ ได้เล่าเรื่องราวดีๆในความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเมื่อรถพุ่มพวงครบรอบ 2 เดือน ผ่านอินสตรแกรมส่วนตัวอย่างซึ้งใจไว้ว่า

เจี๊ยบ-พิจิตตรา เล่าเรื่องราวดีๆ เมื่อรถพุ่มพวงวิ่งช่วยเหลือสังคมครบ 2 เดือน

“@jeab_pijittra ถึงวันนี้ #รถกับข้าวบอยเจี๊ยบ  ครบ2เดือน 95 ชุมชนแล้วค่ะ 🤍เราคุยกันเสมอว่าเวลาที่เราออกไปตามชุมชนต่างๆในแต่ละวัน มันผ่านไปเร็วมาก เพราะต้องแข่งกับเวลาเพื่อไปให้ได้หลายชุมชนต่อวัน แต่สำหรับผู้ที่เดือดร้อนนั้น แต่ละวันของพวกเค้าผ่านไปช้ามาก จากที่ได้คุยกับทุกชุมชน ความรู้สึกแต่ละคนไม่ต่างกัน ที่สำคัญทุกคนมีความตั้งใจมากในการดูแลตัวเองเพราะไม่มีใครอยากให้ บุคลากรทางการแพทย์ ต้องเสี่ยงและทำงานหนัก🙏🏻 บางชุมชนรอวันรถกับข้าวของเราเพื่อต่อชีวิตได้ระยะหนึ่ง บางชุมชนรอวัคซีนว่าจะถึงคิวของพวกเขาเมื่อไหร่ บางชุมชนรอความหวังว่าที่จะมีเตียงเพียงพอมาถึงครอบครัวพวกเขา อย่าให้พวกเขาต้องรอ เพราะบางคนแม้แต่คำว่า “รอ” เขายังไม่มีโอกาสที่จะใช้มัน 🥺”

เจี๊ยบ-พิจิตตรา รถพุ่มพวง เจี๊ยบ-พิจิตตรา

กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag รุ่นฮ็อตที่น่าเป็นเจ้าของ

ทรงนี้ต้องเปย์! กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag รุ่นฮ็อตที่น่าเป็นเจ้าของ

กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag รุ่นฮ็อตที่น่าเป็นเจ้าของ
กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag รุ่นฮ็อตที่น่าเป็นเจ้าของ

กระแส Hobo Bag แรงดีไม่มีแผ่ว เพราะมีแทบทุกแบรนด์ เช่นเดียวกับ กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag แม้จะออกมาไม่นาน แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เรียกว่าฮ็อตจนต้องสั่งจองกันเลยทีเดียว

Saint Laurent นำเสนอผลงานกระเป๋าสุดคลาสสิกรุ่น Le 5A7 Hobo Bag หนังลูกวัว โดยประดับแต่งเเต้มกระเป๋าด้วยโลหะ YSL สีทองอร่ามคาดระหว่างตัวกระเป๋าเสมือนตัวล็อคเปิดปิด พร้อมด้วยสายสะพายที่สามารถปรับระดับได้ ช่วยขับดีไซน์ของรูปทรงกระเป๋าให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งยังเหมาะสำหรับทุกสไตล์การแต่งตัว ตั้งแต่เช้าจรดคร่ำและแสดงความสวยสง่างดงามในแบบฉบับ Saint Laurent ได้อย่างดีเยี่ยม

กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag

กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag-1

กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag-3

กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag-2

โดยกระเป๋า Le 5A7 Hobo Bag ราคาเริ่มต้นที่ 57,000 บาท ใครที่อยากเป็นเจ้าของก็สามารถเข้าไปช้อปกันได้ที่บูติกของ Saint Laurent แต่ด้วยกระแสที่แรงจนเกินต้าน ขอบอกว่าควรเช็กให้ดีว่าบูติกมีของพร้อมให้เราเสียตังค์ไหม หรืออาจต้องพรีออเดอร์รอกันต่อไป แต่หากได้มาครอบครองแล้วก็ถือว่าบรรลุ เพราะสวยจริงไม่จกตา แถมยังใช้งานง่าย ขนาดกำลังดี ที่สำคัญกระเป๋าทรง Hobo Bag ก็มาแรง ทุกแบรนด์ต้องมี!

ทรงนี้ต้องเปย์! กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag รุ่นฮ็อตที่น่าเป็นเจ้าของ

แน่นอนว่าปังขนาดนี้ คนดังต้องได้ถือ คนแรกประเดิมด้วย โรเซ่ BLACKPINK แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของ Saint Laurent ตามมาด้วยนางแบบดังระดับโลก เฮลีย์ บีเบอร์ ส่วนฝั่งไทยก็มี เต้ย จรินทร์พร ที่ไม่เคยตกขบวน

กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag โรเซ่ กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag กระเป๋า Saint Laurent Le 5A7 Hobo Bag เฮลีย์


ภาพ : IG#saintlaurent

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สวยทรงพลัง แฟชั่น NEW MODERN ฉบับ ‘ซงฮเยคโย’ เรียบหรูแต่ดูชิค

สไตล์ชุด รูปปั้นเจ้าหญิงไดอาน่า แสดงถึง ‘ความเมตตา’ และวาระสุดท้ายของชีวิต

ใครแต่งตัวเด็กแบบนั้น! ชุดสูท เจ้าชายจอร์จ ร่วมเชียร์บอลยูโร ทำแฟนๆ ไม่พอใจ

 

วิธีจัด บาร์ขนมหวานในงานแต่ง

14 วิธีจัด บาร์ขนมหวานในงานแต่ง ให้สวยเก๋ จนแขกเห็นแล้วอยากกิน

วิธีจัด บาร์ขนมหวานในงานแต่ง
วิธีจัด บาร์ขนมหวานในงานแต่ง

บ่าวสาวผู้รักความหวานต้องไม่พลาดกับ 14 ไอเดียการจัด บาร์ขนมหวานในงานแต่ง ให้ออกมาสวยมีสไตล์และน่ากิน ซึ่งจะช่วยให้งานแต่งของคุณมีสีสันและน่ารักขึ้น

เมื่อพูดถึงไอเดียขนมหวานสำหรับงานแต่งงานของคุณ ตั้งแต่คัพเค้กและเค้กที่เรียงเป็นชั้น ไปจนถึงมาการองและพาย การจัดเสิร์ฟหรือจัดวางขนมเหล่านี้อาจเป็นเรื่องยากอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะนอกจากต้องดูสวยงามแล้ว ยังต้องเข้ากับธีมงานและชนิดของขนมได้อย่างกลมกลืน ที่สำคัญขนมหวานในงานแต่งเป็นอีกจุดสำคัญที่แขกมักจะเลือกกิน เพราะทานได้ง่ายและอร่อย เพราะฉะนั้นคุณควรเลือกขนมหลากหลายชนิด เพื่อให้แขกได้เลือกตามความชอบ รวมถึงใส่ใจกับการตกแต่งมุมขนมหวานไปไม่น้อยกว่าส่วนอื่นๆ ของงาน

หากคุณอยากจัดงานแบบให้แขกสามารถเลือกหยิบขนมหวานได้ตามใจชอบ เราก็มีวิธีดีๆ ที่คุณเห็นแล้วต้องปิ๊งไอเดียที่จะนำไปใช้ในงานแต่งของคุณได้อย่างแน่นอน

14 วิธีจัด บาร์ขนมหวานในงานแต่ง ให้สวยเก๋ จนแขกเห็นแล้วอยากกิน

บาร์ขนมหวานในงานแต่ง บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-1 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-2 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-3 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-4 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-5 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-6 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-7 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-8 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-9 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-10 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-11 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-12 บาร์ขนมหวานในงานแต่ง-13


ภาพและที่มา : www.brides.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

น่ารักกินง่าย 15 เค้กโดนัท ที่เหมาะกับงานแต่งงานทุกแบบ

คลายร้อนอย่างมีสไตล์ แชร์ 10 วิธีเสิร์ฟ ไอศกรีมในงานแต่งงาน

เสิร์ฟ 7 ไอเดีย แคเทอริ่งงานแต่ง ทั้งเก๋ ทั้งกู๊ด เหมาะกับวิถีคนยุคใหม่

 

เจ้าหญิงเจนน่า ผู้ได้ฉายาว่า ลิซ่า BLACK PINK กัมพูชา

account_circle

ทำความรู้จัก หม่อมเจ้านโรดม เจนน่า หรือ เจ้าหญิงเจนน่า เจ้าหญิงน้อยที่ร้อง เล่น เต้น เก่ง เป็นดาวเด่นแห่งกัมพูชา แถมยังพูดภาษาไทยชัดแจ๋วอีกด้วย

เจ้าหญิงเจนน่า ผู้ได้ฉายาว่า ลิซ่า BLACK PINK กัมพูชา

น่ารัก สดใส ทำเอาหลายคนตกหลุมรักกันเลยทีเดียวสำหรับ ‘หม่อมเจ้านโรดม เจนน่า’ เจ้าหญิงน้อยแห่งกัมพูชา วัย 9 ชันษา ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง การเต้น อีกทั้งยังเป็นนางแบบ และ รอยัลแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับ Cellcardcard ของประเทศกัมพูชา

เจ้าหญิงเจนน่า เริ่มเข้าวงการบันเทิงได้เมื่ออายุประมาณ 5 ชันษา พระองค์ทรงเป็นนักแสดงรุ่นจิ๋ว ขณะเดียวกัน เจ้าหญิงน้อยยังได้มีช่องยูปทูปเป็นของตัวเองที่ชื่อว่า Jenna Norodom Official Music ปัจจุบันมีผู้ติดตาม 4.41 แสนคนซึ่งพระองค์มักขับร้องเพลงเป็นภาษาต่างๆ ซึ่งเจ้าหญิงเจนน่าสามารถพูดได้ถึง 5 ภาษา ได้แก่ เขมร อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และไทย ทั้งนี้พระองค์ยังได้คัฟเวอร์เพลงไทยอย่าง ช้ำคือเรา และ คู่กัด เป็นต้น

แม้จะยังเป็นเด็ก แต่ก็ต้องบอกเลยว่าเจ้าหญิงเจนน่าทรงมีอิทธิพลให้กับวัยรุ่นกัมพูชาเป็นอย่างมาก ทรงเป็นเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียง นอกจากจะคัฟเวอร์เพลงเป็นภาษาต่างๆ แล้ว เจ้าหญิงเจนน่ายังส่งเสริมวัฒนธรรมการฟ้อนรำแบบดั้งเดิมของกัมพูชา อีกทั้งยั้งสามารถร้องเพลงได้ทุกแนวเช่น สากล ลูกทุ่ง ลูกกรุง และโอเปร่า และที่ชื่นชอบในตอนนี้การร้องเพลงแร็ป

ทั้งนี้ เจ้าหญิงยังได้ฉายาว่า “ลิซ่า BLACKPINK” เนื่องจากมีใบหน้าที่คล้ายกับศิลปินคนดัง ซึ่งเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปที่เจ้าหญิงน้อยโปรดปรานอีกด้วย

สำหรับพระประวัติของ หม่อมเจ้านโรดม เจนน่า นั้นประสูติเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ทรงเป็นพระธิดาองค์ที่สองของ พระองค์เจ้านโรดม บุบผารี ซึ่งทรงประสูติแต่บิดาชาวฝรั่งเศสไม่ปรากฏนาม เจ้าหญิงน้องทรงเป็นพระนัดดาในสมเด็จพระมหิสสรานโรดม จักรพงศ์ และเป็นพระปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ และมีฐานันดรศักดิ์ในราชสำนักกัมพูชาเรียกว่าว่า “เนียะองค์มจะ” หรือ “หม่อมเจ้า” ในราชวงศ์ไทย  และเมื่อครั้งที่มีพระชันษาได้ 3 ปี ก็ได้ย้ายพระองค์กลับมาประทับที่กัมพูชา

นอกจากจะมีความสามารถรอบด้านแล้ว  เจ้าหญิงเจนน่ายังไปเดินเสด็จไปเมืองแถบชนบท เพื่อนำเงินเก็บส่วนพระองค์ไปบริจาคให้กับครอบครัวที่ยากจน เรียกได้ว่าทรงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในหมู่ประชาชนตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์และถือได้ว่าเป็นดาวเด่นคนใหม่ของตระกูลนโรดมที่จะมีบทบาททางการเมืองต่อไปในอนาคต


ที่มา :  matichonweekly, daydaynews.cc

พระองค์เจ้านโรดม พงสุริยา แห่งกัมพูชา เจ้าหญิงผู้งดงาม ที่รักของชาวเน็ตจีน

สุดซึ้ง! “เบลล่า” ได้รับเกียรติเข้าเฝ้า “พระวรราชมารดาแห่งกัมพูชา”

มูเกซ อัมบานี

1 ปีในการช่วยคนอินเดียในช่วงโควิด ของมหาเศรษฐี มูเกซ อัมบานี ตระกูลรวยที่สุดในเอเชีย

account_circle
มูเกซ อัมบานี
มูเกซ อัมบานี

รวยแล้วยังเผื่อแผ่ มหาเศรษฐีใจบุญ มูเกซ อัมบานี ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอินเดีย และ เอเชีย กับผลงาน 1 ปีในการช่วยเหลือประเทศ และ คนอินเดีย

อย่างที่รู้กันว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศอินเดีย ตอนนี้หนักหนาสาหัสเหลือเกิน ในอินเดียมีประชากรติดเชื้อหลักแสนคนต่อวัน อัตราการเสียชีวิตนับหมื่นต่อวัน เรียกได้ว่าคนตายเหมือนใบไม้ร่วง

แม้รัฐบาลอินเดียจะเร่งมือให้การช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนว่าก็ยังไม่มากพอ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ นายมูเกซ อัมบานี มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในอินเดีย ต้องยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเขาไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก แต่นับตั้งแต่ที่โควิดระบาด มูเกซก็ได้ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด และนี่คือผลงานของตระกูลอัมบานีในช่วง 1 ปีที่ทำเพื่อคนอินเดีย ซึ่งเพจ หลงอินเดีย เพจที่แบ่งปันเรื่องราวอินเดีย ในมุมมองที่แปลกใหม่ และที่คุณๆ อาจไม่เคยเห็นหรือรู้มาก่อน ได้รวมผลงานของนายมูเกซมาให้ดูกัน

ใช้โรงกลั่นน้ำมัน ติดตั้งเครื่องผลิตออกซิเจน ทางการแพทย์

ธุรกิจในเครือของ อัมบานี เรียกได้ว่ามีครอบจักรวาล หนึ่งในนั้นคือ ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันอย่าง Jamnagar ซึ่งตั้งอยู่ในคุชราต ซึ่งมูเกซได้นำโรงกลั่นน้ำมันนี้มาติดตั้งเครื่องผลิตออกซิเจน เดิมทีโรงกลั่นแห่งนี้สามารถผลิตออกซิเจนได้อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ต้องมีการแยกก๊าซออกมาด้วย ดังนั้นจึงต้องติดตั้งอุปกรณแยกก๊าซอีกที เพื่อให้ได้ออกซิเจนที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% ไว้สำหรับใช้ทางการแพทย์

ผลิตออกซิเจน เพื่อมอบให้โรงพยาบาลใช้ฟรี

ด้วยสถานการณ์โควิดที่รุนแรงในอินเดีย จึงเป็นเหตุให้มีผู้ป่วยหนักมากขึ้นจนต้องใช้ออกซิเจนช่วยในการหายใจ ซึ่งมูเกซได้ผลิตออกซิเจนถังมากถึง 700 ตัน เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลฟรีในๆ ทุกวัน ซึ่งออกซิเจนจำนวนนี้สามารถช่วยผู้ป่วยได้ประมาณ 70,000 คน อย่างไรก็ตามเขาได้มีแผนผลิตมากขึ้นเป็น 1,000 ตัน ซึ่งทั้งหมดฟรี

ร่วมมือกับมูลนิธิ ตั้งโรงพยาบาลสนาม

โรงพยาบาลของอินเดียในปัจจุบัน ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยจำนวนมากที่มากขึ้นทุกๆ วัน ด้วยเหตุนี้โรงพยาบาลสนามจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งนายมูเกซได้ร่วมมือกับ มูลนิธิ MBC ทำโรงพยาบาลสนาม ซึ่งจะรองรับผู้ป่วยได้มากถึง 875 เตียง และ ผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) อีก 125 เตียง

สร้างศูนย์กักตัว

ไม่เพียงแค่การสร้างโรงพยาบาลสนามเท่านั้น แต่นายมูเกซยังได้สร้างศูนย์กักตัวแบบสมบูรณ์แบบที่ Lodhivali ในรัฐมหาราษฏระ  ซึ่งศูนย์นี้จะมีแพทย์ พยาบาล รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์อย่างครบครัน ขณะเดียวกันนายมูเกซยังสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์กักตัวผู้ป่วยสำหรับแม่ และ เด็กที่ Spandan Holistic อีกด้วย

ผลิตชุด PPE และ แมสมอบให้เจ้าหน้าที่แพทย์

ชุด PPE และ แมส จัดว่าสำคัญเป็นอย่างมากในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้นายมูเกซได้ผลิตชุด PPE และ แมสกว่าหนึ่งแสนชิ้นทุกวัน เพื่อมอบให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ ฟรี!

ผลิตน้ำมันสำรองสำหรับรถพยาบาล

นอกจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันแล้ว ปั๊มน้ำมันก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจของตระกูลอัมบานี ซึ่งนายมูเกซ ได้สำรองน้ำมันกว่า 550,000 ลิตร ไว้ใช้สำหรับรถพยาบาลกว่า 14,000 คัน ใน 249 เขต สำหรับ 18 รัฐทั่วโลก

จัดทำชุดทดสอบโควิด-19

นายมูเกซได้ใช้ Dhirubhai Ambani Life Sciences Centre ในการจัดทำชุดทดสอบตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเป็นชุดใช้แล้วทิ้ง เพื่อการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

Mission Anna Seva ของ นิต้า อัมบานี

ปากท้องของคนอินเดียก็สำคัญ นิต้า อัมบานี ศรีภรรยาของนายมูเกซ ได้จัดตั้งศูนย์อาหารที่ใหญ่ที่สุดเพื่อชุมชนที่ห่างไกล และถูกปิดกั้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด โดยปัจจุบัน Mission Anna Seva ได้แจกจ่ายอาหารไปแล้วกว่า 55,000,000 ล้านชุด

Mission Covid Surakshaa

สำหรับ Mission Covid Surakshaa เป็นโครงการที่ผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อแจกจ่ายให้กับคนอินเดียในชุมชน และสหภาพแรงงาน ปัจจุบันโครงแจกหน้ากากอนามัยไปแล้วกว่า 6,700,000 ชิ้น

Reliance Mission R-Surakshaa

วัคซีนโควิด-19 เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในตอนนี้ ซึ่งนายมูเกซก็ได้เตรียมฉีดวัคซีนให้กับพนักงาน Reliance ของเขาทั้งหมดกว่า 600,000 คน พร้อมกับคนในครอบครัวทุกๆ คนของพนักงานอีกด้วย

สำหรับ นายมูเกซ อัมบานี เรียกได้ว่าเป็นลูกไม้ใต้ต้น เขาได้ต้นแบบความดี และ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาจาก นายธิรูไพ อัมบานี คุณพ่อของเขา ที่ทำเพื่อคนอินเดียมาตลอด ซึ่งนายธิรูไพ มักสอนนายมูเกซเสมอว่า

“คนอินเดียทุกคนคือครอบครัวของเรา คือพ่อแม่พี่น้องลูกหลานของเราทั้งหมด จะทอดทิ้งพวกเขาไม่ได้เด็ดขาด เพราะทุกคนมีพระคุณแก่เราเสมอ เราต้องรักและทำแต่สิ่งที่ดีที่สุดฝากไว้ในโลกนี้ และฝากไว้แก่แผ่นดินแม่ของเรา นั่นก็คือ อินเดีย ”


ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ หลงอินเดีย

พบกับ อัมบานี ตระกูลที่รวยที่สุดในเอเชีย ผู้ครอบครองคฤหาสน์ 3 หมื่นล้านจุก

เลี้ยงลูกแบบ อัมบานี ตระกูลที่รวยที่สุดในเอเชีย เนี้ยบเป๊ะ ระเบียบจัด ประหยัดสุด

จากคลุมถุงชน สู่รักแท้ มูเกซ-นิต้า อัมบานี คู่รักมหาเศรษฐี ตระกูลรวยที่สุดในอินเดีย

 

 

 

 

 

Lockdown Brain Fog

รู้จัก Lockdown Brain Fog ภาวะสมองตื้อจากการอยู่บ้านนานๆ ในช่วง WFH

Alternative Textaccount_circle
Lockdown Brain Fog
Lockdown Brain Fog

เชื่อว่ามีหลายคนที่ยัง WFH กันอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ใช่ว่าการทำงานที่บ้านจะสะดวกสบายอย่างที่คิด เพี่อบางครั้งการ WFH อาจจะเครียดกว่าเดิม เพราะความไม่สมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัว และก็ยังมีความเสี่ยงอย่างอื่นมาแทนที่

ด้วยโลกของเราได้ก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 อย่างเต็มตัวแล้ว เทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกต่อยอดและพัฒนาเป็นอุปกรณ์ดิจิทัล เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของแต่ละอาชีพ สู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่างๆ ของมนุษย์  การทำงานหรือทำธุรกิจในปัจจุบัน สามารถทำที่ไหนก็ได้เพียงแค่มีอุปกรณ์สื่อสาร เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ต ทำให้ชีวิตมีความสะดวกสบาย ไม่ติดความจำเจ แต่บางครั้งถ้าไม่ได้ทันระวังหรือติดอยู่กับสิ่งเหล่านี้จนไม่สนใจคนรอบข้างหรือครอบครัว อาจส่งผลให้เกิดโรคต่างๆตามมามากมาย เช่น โรคเครียด โรคซึมเศร้า โรคออฟฟิศซินโดรม โรคจอประสาทตาเสื่อม เป็นต้น และยังมีอีกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้คือ Lockdown Brain Fog ภาวะสมองตื้อจากการอยู่บ้านนานๆ

Lockdown Brain Fog คืออะไร 

คำนี้เป็นคำที่ใช้เรียกอาการสมองตื้อ เบลอ คล้ายๆ เวลาที่เรานอนไม่พอ จนรู้สึกงงๆ มึนๆ ทำอะไรได้ไม่เต็มที่ คำนี้เป็นคำที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการล็อกดาวน์

มีรายงานว่าคนทั่วโลกเกิดอาการนี้กันมากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาเพราะต้องอยู่แต่บ้าน ไม่ค่อยได้ทำอะไร สาเหตุที่เกิดมาจาก 3 ปัจจัยหลักด้วยกันคือ

  1. เราไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับใคร ขาดสังคม ขาดการสื่อสารทำให้สมองออาจถูกใช้งานน้อยลง
  2. การอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ เช่นที่บ้าน ไม่ได้ไปไหนมาไหน ไม่ได้เห็นอะไรใหม่ๆ
  3. ความเหงา ความเบื่อที่ต้องอยู่คนเดียว ทำอะไรเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา

จากรายงานชี้ว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต เพราะขัดต่อธรรมชาติของมนุษย์ที่ปกติต้องใช้สมองในการจัดการ สื่อสาร คิด วิเคราะห์ มีการทดสอบพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่อยู่บ้านนานๆ การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพลดลงไปจริงๆ พอได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมประสิทธิภาพของสมองก็ค่อยๆ กลับมา

อาการ Lockdown Brain Fogนั้นอาจจะส่งผลต่อการทำงาน งานที่ออกมาอาจจะมีประสิทธิภาพลดลงเนื่องจากประสิทธิภาพของสมองลดลง

รับมือหรือป้องกันยังไงดี

  • สื่อสารพูดคุยให้มากขึ้น ไม่ว่าจะคุยกับที่บ้าน โปรแกรมออนไลน์ โทรหาเพื่อน โทรหาคนรู้จัก
  • ทำกิจกรรมให้มากขึ้น ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ออกไปเดินเล่นหน้าบ้าน
  • ลุกให้บ่อยขึ้น อย่านั่งทำงานหรือนอนอยู่บ้านอย่างเดียว เดิน ลุกไปเข้าห้องน้ำ ไปเดินเล่นให้บ่อยขึ้น
  • หาอะไรผ่อนคลาย ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ กินอะไรที่ชอบ หาอะไรทำให้ตัวเองผ่อนคลายจะช่วยได้
  • ทานอาหารบำรุงสมอง
  • นอนหลับให้เพียงพอ

Lockdown Brain Fogเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไหนใครอยู่บ้านและต้องทำงานที่บ้านมาแล้วนานๆ ช่วยบอกหน่อยว่ารู้สึกเหมือนกันไหม


ข้อมูล : bbc.com , innnews.co.th
ภาพ : Pexels 

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Work From Home ปั่นงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน เสี่ยงจอประสาทตาเสื่อม

โควิดสายพันธุ์เดลต้า แพร่เร็วกว่าเดิม แค่เดินสวนกันเพียง 5 วินาทีก็เสี่ยงติดได้

แนะวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นยังไงให้รอด เมื่อ ติดเชื้อโควิด-19 เเต่เตียงเต็ม!!!

ทำไม “ผู้ป่วยมะเร็ง” ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ชนิดเชื้อตายเท่านั้น

 

ลูกแก้ว-ศรีกานต์

ลูกแก้ว-ศรีกานต์ เกิร์ลกรุ๊ปวงซาวด์ครีม จัดงานจดทะเบียนสมรสกับ ซีตู นักธุรกิจพม่า

Alternative Textaccount_circle
ลูกแก้ว-ศรีกานต์
ลูกแก้ว-ศรีกานต์

ลูกแก้ว-ศรีกานต์ นาคะวิสิทธิ์ อดีตเกิร์ลกรุ๊ปวง ซาวด์ครีม จัดงานจดทะเบียนสมรสกับ ซีตู  นักธุรกิจชาวพม่าเจ้าของกิจการอุตสาหกรรมเหล็กรายใหญ่ที่สุด

หายหน้าไปนานล่าสุดทำเซอร์ไพร้ส์จัดงานจดทะเบียนสมรสเรียบง่ายโรแมนติกอบอุ่นจนชาวโซเชียลพม่าแห่แชร์กันเป็นหมื่น แถมยกให้เป็นไอดอลคู่รัก สำหรับ ลูกแก้ว-ศรีกานต์ นาคะวิสิทธิ์ นักแสดง-พิธีกรสาว อดีตเกิร์ลกรุ๊ปวง ซาวด์ครีม ค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่มนักธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็ก GI Hollow รายใหญ่สุดในพม่า ที่ชื่อว่า “ซีตู” ที่นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันเครื่องยนต์, ทำท่าเรือส่งสินค้า, อุตสาหกรรมถั่ว ฯลฯ

งานวันแรก วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 (สถานการณ์โควิดช่วงนั้นที่พม่าดีขึ้นบ้างแล้ว) เป็นงานจดทะเบียนสมรส จัดแบบกันเองที่บ้านเจ้าสาว ( คือคล้าย “งานหมั้น” ของบ้านเรา แต่ที่นี่เค้าจะนิยมจัดเป็น งานจดทะเบียนกันแทน (signing Ceremony) ในงานจะมีแค่ญาติทั้งสองฝ่ายไม่ได้เชิญแขก บ่าวสาวใส่ชุดประเพณีดั่งเดิมของพม่าสีฟ้าที่เป็นงานแฮนด์เมดออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังของพม่า “Paing Paing” งานจัดในบ้านตรงมุมที่มีต้นไม้ปกคลุมร่มรื่น และแต่งเสริมด้วยดอกไม้สีขาวและคริสตัลห้อยลงมา ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นภาพงานในฝันของชาวพม่าไปแล้วเพราะไม่ใช่แค่มีการแชร์ แต่ได้กลายเป็นต้นแบบงานแต่งของอีกหลายๆคู่ในพม่า โดยเฉเพาะชุดสีฟ้าของบ่าวสาวเป็นที่พูดถึงกันเยอะมาก และมีคนเอาไปตัดตามด้วย

ลูกแก้ว-ศรีกานต์ ลูกแก้ว-ศรีกานต์ แต่งงาน

งานวันที่สองเป็นประเพณีทำบุญเลี้ยงเพลพระแบบไทใหญ่จัดที่วัดพระธาตุแสงเมือง และรับพรจากท่านครูบาแสงหล้า ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพม่า บ่าวสาวใส่ชุดประจำชาติพม่าสีเทา หรือ ผ้าถุงเมียนมาร์ซึ่งเรียกว่า ผ้าถุงลองจี (Longyi) ถ้าเป็นผืนทอมือชื่อดังของพม่า Luntaya Acheik (Cheit) จะใช้ 50-200กระสวยในการทอ ใช้ช่างฝีมือสองคนขึ้นไป เป็นลวดลายคลื่นพลิ้วไหวสวยงาม จะมีราคาตั้งแต่ 4-5พัน บางผืน หมื่น สอง สามหมื่น เป็นแสนเป็นล้านก็ยังมี ถือว่ามีค่ามากชุดแบบที่ลูกแก้วใส่ในงานทั้งสองชุดออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังที่มัณฑะเลย์ @mdypaingpaing เป็นงานปักมือ ซึ่งต้องใช้เวลาทำถึงสองเดือน ดีเซอร์เนอร์จะออกแบบขึ้นมาใหม่ทีละชุดทีละชุดตามความต้องการของลูกค้า โดยชุดนี้มีราคาประมาณหกหมื่นบาท

ลูกแก้ว-ศรีกานต์ เกิร์ลกรุปวงซาวด์ครีม จัดงานจดทะเบียนสมรสกับ ซีตู นักธุรกิจพม่า

เกิร์ลกรุปวง ซาวด์ครีม ซีตู นักธุรกิจพม่า


ข้อมูลจา่ก : https://www.facebook.com/sithusrikarn/ และ FB, IG @loveisclassicss

keyboard_arrow_up