เจ้าชายแอนดรูว์ หยุดปฎิบัติพระกรณียกิจ เหตุพัวพันผู้ต้องหาคดีทางเพศ

account_circle

เจ้าชายแอนดรูว์ ตกเป็นข่าวอื้อฉาวมาตลอดหลายสัปดาห์ หลัง นายเจฟฟรีย์ เอปสตีน นักการเงินผู้อื้อฉาวชาวสหรัฐฯ พระสหาย ของพระองค์ตกเป็นผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศ จึงเป็นเหตุให้เจ้าชายแอนดรูว์ขอหยุดปฎิบัติพระกรณียกิจไปสักระยะหนึ่งเจ้าชายแอนดรูว์

การนี้ เพจ Royal World Thailand ได้ออกมาให้ข้อมูลในประเด็นนี้ว่า เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ค ทรงออกมาพระราชทานสัมภาษณ์ด้วยพระองค์เองกับสำนักข่าวบีบีซี กรณีเรื่องความสัมพันธ์ฉันมิตรกับมหาเศรษฐีเจฟฟรีย์ เอปสตีน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาอื้อฉาวพัวพันกับการค้าประเวณีเด็ก และฆ่าตัวตายในเรือนจำระหว่างรอพิจารณาคดีเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นกว้างขวางไปอีก สื่อมวลชนและประชาชนให้ความเห็นแนวเดียวกันว่า แทนที่จะทรงเปิดพระทัยให้ลดความเคลือบแคลงใจกับสื่อ กลับทรง “เลิ่กลั่ก” และทรงพระพิรุธมากขึ้นไปอีกเมื่อถูกคาดคั้นจากผู้สื่อข่าว

โดยดยุคแห่งยอร์ค ทรงรู้สึกเจฟฟรีย์ครั้งแรกเมื่อปี 2542 ผ่านทางจิสเลน แม็กซ์เวลล์ แฟนสาวของเขา ซึ่งเป็นพระสหายกับพระองค์ ทรงตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ายังคบค้าสมาคมกับเอปสตีน หลังจากเขาถูกตัดสินว่ากระทำผิดทางเพศเมื่อปี 2551 โดยมีภาพที่ถูกเผยแพร่ตามสำนักข่าวต่างๆ ที่เสด็จออกจากบ้านพักหรูของเอปสตีนในนครนิวยอร์ก โดยมีพระดำรัสว่า การที่ยังมีความสัมพันธ์ฉันมิตรสหายกับเจฟฟรีย์ เอฟสตีน ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำการค้าประเวณีแต่อย่างใด และที่ไปประทับเพราะเห็นว่าสะดวกและเป็นเพื่อนคนเดียวที่อำนวยความสะดวกให้ อีกทั้งไม่ทรงทราบมาก่อนว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ทรงเสียพระทัยที่ทำเช่นนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมสำหรับพระราชวงศ์ และทรงทำให้พระราชวงศ์ผิดหวัง

BBC Thai

นอกจากนี้ ยังตกเป็นเป้าอีกครั้งหลังถูกแฉว่ามีเพศสัมพันธ์กับเวอร์จิเนีย โรเบิร์ตส์ ซึ่งขณะนั้นเป็นวัยรุ่นวัย 17 ปี ระหว่างปี 2544-2545 ณ บ้านพักหรูของเอปสตีนในนครนิวยอร์ก รวมทั้งเกาะส่วนตัวในทะเลแคริบเบียน เวอร์จิเนียยื่นคำร้องต่อศาลโดยระบุพระนามของพระองค์ไว้ด้วย และได้ให้รายละเอียดถี่ยิบว่ามีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในวันที่ 10 มีนาคม 2544 และได้มีโอกาสอาบน้ำกับพระองค์ โดยเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ทรงปฏิเสธทันควันว่า “จำไม่ได้ว่าเคยพบผู้หญิงคนนี้” ถึงแม้จะมีภาพที่โอบกอดเวอร์จิเนียเผยแพร่ออกมา และทรงถูกกราบทูลถามย้ำอีกครั้ง ก็ยังทรงยืนกรานว่า “จำไม่ได้จริงๆ” และทรงเชื่อว่านี่ไม่ใช่ภาพจริง และมีพระดำรัสว่า ทรงพาเจ้าหญิงเบียทริซ พระธิดาไปเสวยที่ร้านพิซซ่า เอ็กซ์เพรส ในเมืองโวกิ้งของมณฑลเซอร์เรย์ เนื่องจากอดีตพระชายาไม่อยู่ จึงเป็นกฎของที่บ้านว่า หากใครไม่อยู่ต้องมีอีกคนอยู่ที่บ้านกับพระธิดา

เจ้าชายแอนดรูว์

เอมิลี่ เมตลิส ผู้กราบทูลสัมภาษณ์และผู้ดำเนินรายการนิวส์ไนท์ของบีบีซี ได้กล่าวว่ามีการตระเตรียมการกราบทูลสัมภาษณ์นี้มาเป็นเวลาหลายเดือนกับสำนักพระราชวัง หลังการเสียชีวิตของเอปสตีน ซึ่งก่อนหน้านั้นสำนักพระราชวังบั๊คกิ้งแฮมได้ออกโรงปฏิเสธความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับเอปสตีนแล้ว เอมิลี่กล่าวว่า เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ได้ทรงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระราชินีนาถแล้วก่อนจะเสด็จออกมาเปิดพระทัยในครั้งนี้ ต่อมาแหล่งข่าวของสำนักข่าวเทเลกราฟได้ออกมาเปิดเผยว่า กราบพระราชทานสัมภาษณ์นี้ ไม่ได้มีพระบรมราชานุญาตลงมาแต่อย่างใด

ล่าสุด เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ ออกพระดำรัสด้วยพระองค์เองว่าจะทรงพักพระกรณียกิจซักระยะหนึ่ง หลังจากทรงเป็นข่าวอื้อฉาวมานาน และสมเด็จพระราชินีนาถได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว “หลายวันที่ผ่านมานี้ มีเหตุการณ์มากมายที่เกี่ยวข้องกับเจฟฟรีย์ เอปสตีนที่ทำให้กระทบกับงานและการกุศลต่างๆที่ข้าพเจ้าให้การสนับสนุนตลอดมา ข้าพเจ้าจึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตพักราชกิจซักระยะหนึ่ง ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ติดต่อกับเจฟฟรีย์ เอปสตีนโดยขาดการพิจารณาอย่างรอบคอบ การฆ่าตัวตายของเขาได้ทิ้งคำถามไว้หลายข้อ โดยเฉพาะต่อเหยื่อของเขา และข้าพเจ้ารู้สึกเห็นใจทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และต้องการให้เรื่องนี้จบลงทางใดทางหนึ่ง ข้าพเจ้าได้แต่เพียงหวังว่า ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาจะสามารถฟื้นฟูชีวิตของตัวเองได้ ข้าพเจ้ายินดีจะให้ความช่วยเหลือใดๆทางกฎหมายในการสืบสวนสอบสวนได้ ”


ภาพ  : Getty Image

Praew Recommend

keyboard_arrow_up