เคยมีอาการหรือโรคที่อยู่ดีๆ ก็เป็นโดยไม่ทราบสาเหตุ รักษาเท่าไรก็ไม่หายซักที เช่น สิวเรื้อรัง ทั้งทายา และทานยาก็ยังไม่หาย อ้วนง่าย อาการไมเกรนกำเริบบ่อยครั้ง แม้กระทั่งโรคซึมเศร้าก็เป็น
อาจเพราะว่าได้รับการรักษาไม่ตรงจุด หรือตรวจไม่พบสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเหล่านั้น ส่วนใหญ่เรามักจะไปโฟกัสเฉพาะอวัยวะหรือสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคเหล่านั้น แต่จริงๆ แล้วยังมีสาเหตุอื่นๆ แอบแฝงที่เราคาดไม่ถึง เพราะการทำงานของร่างกายเราเป็นแบบองค์รวม ที่ความบกพร่องของอวัยวะหนึ่ง อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะหรือระบบอื่นๆในร่างกายได้
พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ได้พูดถึงการทำงานของระบบหนึ่งในร่างกายเรา ที่หากเกิดความผิดปกติขึ้น อาจส่งผลให้เกิดโรคหรือความผิดปกติในระบบอื่นๆ ได้ นั่นก็คือ ระบบลำไส้และทางเดินอาหาร
หลายคนอาจสงสัยว่า ระบบลำไส้และทางเดินอาหารเกี่ยวข้องอะไรกับไมเกรน สิว ความอ้วน หรือโรคซึมเศร้า ได้อย่างไร
ปกติลำไส้ของคนเรามีหน้าที่หลักในการย่อย ดูดซึมสารอาหารและขับของเสียออกจากร่างกาย โดยอาศัยลักษณะโครงสร้างพิเศษของผนังลำไส้และการช่วยเหลือของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้ของเรา ปกติแล้วแบคทีเรียที่ดีจะช่วยลดการอักเสบ ทำให้ผนังลำไส้แข็งแรง แต่ถ้าร่างกายเรามีแบคทีเรียที่ไม่ดีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเกิดจากการได้รับเชื้อโรคเข้าไป หรือแบคทีเรียที่ดีลดลงจากการทานยาฆ่าเชื้อเป็นเวลานาน แบคทีเรียที่ไม่ดีจะทำให้ผนังลำไส้ไม่แข็งแรง และเกิดการรั่ว หรือที่เรียกว่า Leaky Gut ส่งผลให้เกิดการอักเสบ ซึ่งสารอักเสบที่ถูกสร้างขึ้นสามารถรั่วออกจากระบบทางเดินอาหารไปตามหลอดเลือดและทำให้อวัยวะอื่นๆรวมถึงสมองเกิดความบกพร่องได้ ส่งผลให้ร่างกายเราเกิดโรคหรืออาการต่างๆ ได้ เช่น ภูมิแพ้ อ้วน วิตกกังวล ซึมเศร้าหรือนำไปสู่การเกิดมะเร็งได้
ดังนั้น ต้องหมั่นสังเกตตัวเองว่ากำลังเข้าข่ายลำไส้ไม่แข็งแรงหรือเปล่า โดยการสังเกตตัวเองเบื้องต้นว่าถ้ามีสัญญาณเหล่านี้ แสดงว่าร่างกายกำลังฟ้องว่าลำไส้ไม่แข็งแรง ได้แก่
- ไมเกรน
- ไซนัสอักเสบ
- เครียด วิตกกังวล
- สิว
- แสบร้อนหน้าอก
- ไขมันพอกตับ
- ท้องอืด
- ท้องผูก
- อ้วน
- ปวดตามข้อ
ถ้ากำลังมีอาการเหล่านี้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเรื้อรัง รักษาไม่หายซักที คุณอาจจะกำลังมีภาวะลำไส้รั่ว หรือมีความไม่สมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ แต่ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ โชคดีที่ความก้าวหน้าทางการแพทย์ช่วยให้สามารถตรวจหาภาวะเหล่านี้ได้ พร้อมทั้งสามารถรักษาและฟื้นฟูให้ลำไส้กลับมาแข็งแรงและทำงานได้ปกติ หากมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและตรวจพบเจอแต่เนิ่นๆ ในทางกลับกันถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ไม่มาตรวจรักษา อาจนำไปสู่ภาวะหรือโรคร้ายแรงในอนาคตได้ ตรวจก่อนที่จะเสี่ยง ย่อมดีกว่านะคะ
ภาพ : Pexels
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
โชคดีที่ลดน้ำหนัก! ซูบิน ผอมจนคลำเจอก้อนที่คอ พบเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์
นั่งนานจนปวดหลัง ปวดคอ ลองยืดเส้นยืดสายด้วย 5 ท่าง่ายๆ ใช้พื้นที่ไม่เยอะ
อย่าทำตาม! รีวิวดัดขนตาด้วยไดร์เป่าผมจนงอนงาม เสี่ยงโรคตาแห้ง