เดือนแห่งความรักนี้ ถ้าไม่ได้สักช่อ ก็ต้องได้สักขวด Praew Survey จะพามาป้ายยา 6 น้ำหอม กลิ่นละมุน น่าค้นหาให้เป็นของขวัญแทนความรักที่เรียบง่าย แต่แสนจะคลาสสิก และดูมีคุณค่าน่าครอบครอง ถือเป็นไอเท็มที่สามารถส่งแมสเสจบอกรักได้อย่างหมดจด ทั้งความหอมที่ตราตรึง ได้กลิ่นเมื่อไหร่ก็ทำให้นึกถึงกันและกัน รวมทั้งดีไซน์ของขวดที่ดีเทลหรูหราตามสไตล์ของแต่ละแบรนด์ ใครได้รับแล้วมีแต่ความรู้สึกดีๆ ทวีคูณ หรือถ้าใครไม่มีหวานใจก็สามารถซื้อให้ตัวเอง เป็นการเพิ่มกลิ่นใหม่เข้าสต็อก เพราะคนเก๋ เขาต้องมีหลายขวด…xoxo

Jo Malone London Is Forever Loving Roses
โจ มาโลน ลอนคอน กับความหอมของดอกกุหลาบที่เปรียบเสมือนความรักอันไร้กาลเวลา ฉลองความสวยงามของดอกกุหลาบด้วยกลิ่นหอมที่เป็นอมตะ คอลเลคชั่นนี้คือกลิ่นหอมของกุหลาบที่ฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ตั้งแต่กลิ่นหอมอ่อนๆ อันแสนสดชื่น ไปจนถึงกลิ่นหอมที่ล้ำลึกและหรูหรา มาในรุ่นลิมิเอ็ดเอดิชั่น 3 กลิ่น ซึ่งในแต่ละกลิ่นนั้นแสดงให้เห็นมิติ และเสน่ห์ของกลิ่นหอมจากกุหลาบอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ Rose Blush, Rose & Magnolia และ Rose Amber โดยกลิ่นที่นำมาแนะนำครั้งนี้คือ Rose Blush สัมผัสซองกลีบกุหลาบอันละเอียดอ่อนที่ล่องลอยอยู่ในเยลลี่หวานอร่อย เสน่ห์ของกลีบดอกสีชมพูระเรื่อนี้ คือแรงบันดาลใจของกรรมวิธีในการถนอมอาหารอันทรงคุณค่าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการฉลองในช่วงฤดูร้อนที่ยิ่งใหญ่ของอังกฤษ เบซิลที่เจิดจ้ามีชีวิตชีวาและกลิ่นหอมหวานของลิ้นจี่แสนชุ่มฉ่ำช่วยเติมลูกเล่นที่ทันสมัยให้กับกลิ่นฟลอรัลอันนุ่มนวล และแสนสบายที่ห่อหุ้มอยู่ภายในความละมุนละไมของไวท์มัสก์

Le Labo Rose 31
สัมผัสกุหลาบแบบไม่เหมือนใครผ่าน Le Labo Rose 31 ทลายกรอบของความเป็นหญิงและชายบนภาพจำน้ำหอมกลิ่นกุหลาบอย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อพูดถึงน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ หลายๆ คนคงจะนึกถึงกลิ่นที่ดมแล้วให้ความรู้สึกเหมือนดอกกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ที่กลิ่นของกลีบกุหลาบหอมหวานฟุ้งอบอวลรอบกาย และแน่นอนว่าจะเป็นกลิ่นที่คุณผู้ชายหลายๆ คนไม่คิดจะใส่บนตัวเสียด้วยซ้ำ ทำให้กลิ่น ROSE 31 จาก Le Labo โดดเด่นและแตกต่างจากกลิ่นกุหลาบทั่วๆ ไป จากการตีความดอกกุหลาบใหม่ด้วยความตั้งใจจะเปลี่ยนดอกกุหลาบจากเมือง Grasses ซึ่งโด่งดัง อันเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้หญิงและความเย้ายวนใจ ให้กลายเป็นน้ำหอมที่สามารถแสดงออกถึงความเป็นชายได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์ที่ได้จึงกลายเป็นน้ำหอมที่ถ่ายทอดกลิ่นและความรู้สึกที่ไม่มีใครเหมือน โดดเด่นด้วยกลิ่นของกุหลาบสายพันธุ์ Centifolia Rose ประสานด้วยกลิ่นมัสก์, ไม้ Gaiac, หญ้าแฝก ,แอมเบอร์ ผสานกันอย่างลงตัวเพื่อส่งมอบกลิ่นดอกกุหลาบที่อบอุ่นปนความเผ็ดร้อน ให้ความรู้สึกลึกลับชวนค้นหาไม่ว่ากับใครที่ได้สัมผัส ฉีกกรอบของความเป็นหญิงและความเป็นชายลงอย่างสิ้นเชิง ตอกย้ำความเป็นน้ำหอม Genderless ของแบรนด์ที่ไม่ว่าเพศไหนก็สามารถใช้ได้

Guerlain L’Art & La Matière Néroli Plein Sud
กลิ่นหอมหวานสดชื่นจากดอกส้มเนโรลิ ผสานความผ่อนคลายของกลิ่นไม้หอม แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมชุดไปรษณีย์ใต้ของ อังตวน เดอ แซงแต็กซูเปรี นักเขียนและนักบินชื่อก้องโลก ตามรอยการเดินทางเหนือเส้นขอบฟ้าจรดทะเลทรายแห่งโมร็อกโก โดย Néroli Plein Sud มอบกลิ่นกรุ่นความเย็นสดชื่นของส้มซ่าเนโลริที่ผลิบาน ความหวานชื่น สดใส มีชีวิตชีวา ต้านไอร้อนแห่งทะเลทรายที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตาจรดเส้นขอบฟ้า ณ ประเทศโมร็อกโก ด้วยการผสานกลิ่นเครื่องเทศอย่าง ขมิ้นชัน, อบเชย, ขิง และกระวาน ชวนผ่อนคลายและเคลิ้มฝัน กลิ่นไม้หอมจากรากหญ้าแฝกและไม้จันทน์เทศให้ความกรุ่นอวลบนผิวกาย หลอมรวมเป็นจุดบรรจบที่ขัดแย้งแตกต่างแต่ทว่ากลมกลืน อันเป็นลูกเล่นเอกลักษณ์ประจำตัวของ เดลฟิน เฌลค์ (Delphine Jelk) สุคนธกรของ Guerlain ผู้ปรุงกลิ่นหอมของ Néroli Plein Sud ให้ได้จุดประกายจินตนาการถึงการเดินทางลงสู่โมร็อกโก ประเทศต้นกำเนิดของ ดอกเนโรลิ หรือดอกส้มซ่า โดยยังเพิ่มความพิเศษด้วยการตกแต่งกล่องด้วยลายเส้นต้นแบบฝีมือของ อังตวน เดอ แซงเต็กซูเปรี นักเขียนและนักบินผู้ยิ่งใหญ่ที่มีความสามารถด้านวาดภาพสุดเฉียบคม ผลงานรุ่นกล่องลายพิเศษนี้จำกัดเพียง 1,000 ชิ้นทั่วโลก

Gucci Guilty Elixir De Parfum Pour Femme
น้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุดนี้เปรียบเสมือนเป็นคำเชื้อเชิญอันทรงพลัง สู่ความรัก และการยอมรับในตนเอง ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเชื่อมต่อกับความเป็นตัวตนที่แท้จริง รังสรรค์จากคุณค่าของดอกไม้สีเหลืองอำพัน สู่น้ำหอม Gucci Guilty Elixir de Parfum Pour Femme ช่วยกระตุ้นพลังความสดชื่นและเพิ่มเสน่ห์ ยกระดับกลิ่นโน้ตอันเป็นเอกลักษณ์ของ Gucci Guilty พร้อมด้วยส่วนผสมจากดอกวิสทีเรียและผลแมนดอร่า ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับวานิลลาและถั่วทองก้า มอบกลิ่นหอมที่ดูมีทั้งความลึกลับและเสน่ห์เย้ายวนในเวลาเดียวกัน เติมความเหนือระดับด้วยกลิ่นของดอกกุหลาบและไวโอเล็ตที่ช่วยผสานความสง่างามและน่าหลงใหลให้กับกลิ่นนี้ สำหรับดีไซน์ขวดน้ำหอมมาในสีสันสดใส และบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบใหม่โดดเด่นจนน่าจับจองเป็นเจ้าของ

Tiffany & Co. Rose Gold Intense Eau de Parfum
กลิ่นหอมโมเดิร์นสไตล์ฟลอรัลที่ไม่เหมือนใคร โดดเด่นด้วยความพิเศษเฉพาะของแพทชูลี่เกรดพรีเมี่ยมจาก Robertet เหมาะสำหรับผู้หญิงร่วมสมัยที่งามสง่าแบบมีแอตติจูด สะท้อนพลังของความมีชีวิตชีวา มองโลกในแง่ดี เย้ายวน อ่อนหวาน อีกทั้งยังบอกเล่าเรื่องราวของความรักอันเป็นนิรันดร์ ที่งดงามและเปล่งประกายราวกับเพชรเม็ดงามจากทิฟฟานี่ Rose Gold Intense ดึงดูดให้ดื่มด่ำตั้งแต่สัมผัสแรกอันมีชีวิตชีวาของซิตรัสและกลิ่นหอมฟรุตตี้ ที่บาลานซ์อย่างลงตัวกับความสดชื่นจัดจ้านของพริกไทยสีชมพู ในขณะที่หัวใจหลักนำเสนอผ่านบูเก้ช่องามที่ทั้งหอมหวานและเย้ายวนไปด้วยกลิ่นของดอกส้มและดอกมะลิแซมบัค ผสมผสานด้วยน้ำมันดอกกุหลาบตุรกีและออร์ริสบัตเตอร์ นำมาซึ่งมิติใหม่ของเสน่ห์ความหอมและเข้มข้นสุดตราตรึง ก่อนทิ้งท้ายด้วยความซับซ้อนที่แฝงไว้ด้วยพลังสนุกของแพทชูลี่จากแหล่งเพาะปลูกยั่งยืน เคล้าด้วยกลิ่นอบอุ่นของไม้ พิงค์ชูการ์ที่น่าหลงใหล และกลิ่นหอมอ่อนๆ จากทะเล

Photo: Courtesy of Brand

สำหรับหลายๆ คน การเริ่มต้นปีใหม่หมายถึงชีวิตที่สดใส การเริ่มต้นใหม่ และโอกาสโดยรวมในการรีเซ็ต อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ชื่นชอบความงาม ปีใหม่เป็นเวลาที่จะกำหนดเป้าหมายใหม่ในการดูแลผิวและปัดฝุ่นเทคโนโลยี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะต้องการกำหนดกิจวัตรความงามในปัจจุบันใหม่ และสำรวจผลิตภัณฑ์ เทคนิค เคล็ดลับ และเทรนด์ใหม่ๆ

ในปี 2023 ที่ผ่านมา เราได้เห็นความฮ็อตของ “Skinimalism” เทรนด์ผิวที่เน้นความเป็นธรรมชาติ เรียบง่ายมีความมินิมัล บำรุงและแต่งผิวบางเบาให้ดูสุขภาพดีมากกว่าการประโคมเพื่อปกปิดจุดบกพร่อง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ท้าทายความเชื่อที่มีมายาวนานที่ว่าขั้นตอนการดูแลผิวมากกว่า 12 ขั้นตอนเป็นสิ่งจำเป็น ในปี 2023 ที่ผ่านมา ยังกระตุ้นให้กระแสสังคมหลงใหลในการต่อต้านวัยมากขึ้น ซึ่งการรักษาด้วยสารเติมเต็มกลายเป็นหนึ่งในวิธีฉีดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด เนื่องจากผลลัพธ์ผิวที่อวบอิ่ม สุขภาพดี และแลกระจ่างใส ซึ่งทำให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น แล้วปี 2024 มีอะไรรออยู่บ้าง? สำหรับเทรนด์การดูแลผิวที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี

#1 Probiotic Skin Care
การมีผิวที่สวยเปล่งประกายและมีเสน่ห์นั้นไม่ได้เป็นเพียงการใช้ครีมหรือเซรั่มใหม่ล่าสุดเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการใส่ใจในผลิตภัณฑ์ที่บริโภคเพื่อสุขภาพทั้งภายในและภายนอกด้วย ซึ่งในปี 2024 การดูแลผิวด้วยโปรไบโอติกคาดว่าจะได้รับความโดดเด่น เพราะมีประโยชน์มากมาย เช่น ปรับสมดุลของไมโครไบโอมของผิวหนัง ลดการอักเสบ เพิ่มเกราะป้องกันผิว อาจช่วยในการจัดการสิว และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น” Evelyn Ramirez ผู้เชี่ยวชาญด้านสุนทรียศาสตร์ กล่าวว่า “อุตสาหกรรมความงามเองก็กำลังได้เห็นการบูรณาการส่วนผสมจากพืช การปรับแต่งผ่านการวิเคราะห์ DNA สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบโดยเฉพาะ และการมุ่งเน้นด้านสุขภาพแบบองค์รวม จัดการกับปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียด และการนอนหลับเพื่อสุขภาพผิวที่ครอบคลุม”

หากคุณสนใจ “อาหารสำหรับผิว” โปรไบโอติกสามารถช่วยจัดการกับปัญหาผิว เช่น สิว ฯลฯ เมื่อดูแลตัวเองด้วยการเสริมไมโครไบโอมในลำไส้ด้วยส่วนผสมจากพืชหลากหลายชนิดที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น ไฟเบอร์ และโพลีฟีนอล คุณจะเสริมสร้างและปรับสมดุลสภาพแวดล้อมของลำไส้ ลดการตอบสนองต่อการอักเสบ และในที่สุดสุขภาพผิวก็จะดีตามเช่นกัน

#2 LED Light Therapy
การบำบัดด้วยแสง LED ถือเป็นเรื่องใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และจะดำเนินต่อไปในปี 2024 หากคุณกำลังมองหาการกำจัดรอยดำ สิวปานกลาง และริ้วรอยต่างๆ Shani Darden ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามผู้มีชื่อเสียงเห็นพ้องต้องกันว่า “การลงทุนเริ่มแรกอาจมีราคาแพงเล็กน้อย แต่เมื่อเวลาผ่านไปจะช่วยประหยัดเงินได้ เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้ในการรักษาผิวอ่อนเยาว์และเปล่งประกาย ซึ่งมาส์ก LED เป็นอุปกรณ์ที่สมบูรณ์แบบในการต่อต้านวัยและการบำรุงผิวในระดับมืออาชีพที่สามารถทำได้เองที่บ้าน

@beautyshamans

Shop the seaweed skincare collection at beautyshamans.com! #beautyshamans #skincare #skintips #winterskin #esthetician

♬ original sound – BeautyShamans

#3 Facial Yoga
หากโยคะแบบดั้งเดิมไม่ใช่สิ่งที่คุณชอบ คุณอาจต้องการพิจารณา “โยคะหน้า” ในปีนี้ ด้วยยอดดู TikTok มากกว่า 2.8 พันล้านครั้งและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ #faceyoga เป็นวิธีการออกกำลังกายที่บ้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการมองเห็นริ้วรอยเล็กๆ น้อยๆ เน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อใบหน้าเพื่อรักษาโครงสร้างผิวตามอายุ

#4 Epigenetic Skin Care
Epigenetics นั้นอยู่ในทุกๆ หนแห่ง คือสภาพแวดล้อมภายนอกที่เราพบเจอทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร สิ่งแวดล้อมที่เราอยู่อาศัย น้ำ อากาศ และแม้แต่การเสื่อมวัย ทั้งหมดนี้สามารถก่อให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในเซลล์ซึ่งส่งผลต่อการเปิดหรือปิดการทำงานของยีนเมื่อเวลาผ่านไป Epigenetics เกิดขึ้นตลอดช่วงชีวิตของเรา ไม่เพียงแต่การเลี้ยงดูในช่วงวัยเด็ก แต่ไลฟ์สไตล์ของเรา ตั้งแต่การนอนหลับ การออกกำลังกาย การเลือกกินอาหาร เหล่านี้คือสภาพแวดล้อมที่ทำให้การแสดงออกของยีนที่ทำลายคอลลาเจนหรือยีนที่กระตุ้นการอักเสบทำงานมากขึ้น และทำให้เราแก่ไว ในทางตรงกันข้ามการอาศัยในที่มลพิษน้อยหรือการใช้สกินแคร์ที่ปกป้องผิวจากรังสียูวี หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารแอนติออกซิแดนท์หรือสารบำรุงต่างๆ ก็เหมือนการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดการไปสร้างโปรตีนที่ทำลายผิวได้น้อยลงหรือไปช่วยเปิดให้เกิดการสร้างโปรตีนที่ซ่อมแซมผิวมากขึ้น ทำให้ผิวซ่อมแซมตัวเองและชะลอวัยขึ้น

Photo: Pexels