ยลโฉม “Heirlooms of Elegance” ผลงานออกแบบจิเวลรี่ชั้นสูงของ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ 

account_circle

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงออกแบบคอลเล็คชั่น “Heirlooms of Elegance” ผลงานจิเวลรี่ชั้นสูงจากแบรนด์ SIRIVANNAVARI และขึ้นชิ้นงานจริงโดยช่างฝีมือของ BEAUTY GEMS ที่ถ่ายทอดสายใยแห่งรักนี้ผ่านภาพดอกกุหลาบควีนสิริกิติ์สีน้ำเงิน ดอกไม้ที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงโปรดปราน สู่การจัดพิมพ์เป็นแสตมป์ด้วยเทคนิคพิเศษดุจอัญมณีจริง

ยลโฉม “Heirlooms of Elegance” ผลงานออกแบบจิเวลรี่ชั้นสูงของ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ 

การนี้ไปรษณีย์ไทยได้รับพระกรุณาธิคุณให้ร่วมงานกับแบรนด์ SIRIVANNAVARI  นำภาพเครื่องประดับ
“Rosa Bhubing Love at First Sight Gradient Brooch” หนึ่งในผลงานทรงออกแบบโดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากคอลเล็คชั่น “Heirlooms of Elegance” 

ผนวกกับผลงานหัตถศิลป์ด้านอัญมณี โดยช่างฝีมือชั้นครูจาก BEAUTY GEMS มาจัดทำเป็นแสตมป์ชุดสื่อแห่งความรัก 2567 ถ่ายทอดเบื้องหลังแห่งแรงบันดาลใจในงานทรงออกแบบเรื่องราวอันเปี่ยมด้วยความหมาย เชื่อมโยงกับกุหลาบสีน้ำเงินอันเป็นที่ทรงโปรดของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งพสกนิกรได้นำดอกกุหลาบควีนสิริกิติ์ ดอกไม้พระนามอันงดงามซึ่งเป็นดอกกุหลาบสีเหลือง ปลายกลีบสีส้มอ่อน มาย้อมสีน้ำเงินสดทูลเกล้าฯ ถวาย เมื่อครั้งเสด็จมาทรงงาน ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์  

stamp diamondA1

โดยองค์ดีไซเนอร์ได้ทรงออกแบบชิ้นงาน ให้มีความละเอียดอ่อนช้อย และทรงเลือกวาง สีอัญมณี ลูกเล่นของกลีบดอก ก้านและใบ สู่ชิ้นงานสุดล้ำค่าสมบูรณ์แบบโดยไปรษณีย์ไทยได้เลือกใช้เทคนิคการพิมพ์ ซิลค์สกรีนหมึกพิมพ์หลากสี พร้อมเคลือบกลิตเตอร์ เพิ่มประกายระยิบระยับใกล้เคียงอัญมณีจริง


MIDO

6 เรือนเวลาจาก Mido ใส่เป็นคู่รับเทศกาลวาเลนไทน์

account_circle
MIDO
MIDO

หากใครกำลังมองหาของขวัญแทนใจมอบให้กับคนรักในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์นี้ Praew Survey ขอแนะนำเรือนเวลาจาก “มิโด” (MIDO)  ที่สามารใส่เป็นคู่ แถมยังมีดีไซน์โดดเด่น

6 เรือนเวลาจาก Mido ใส่เป็นคู่รับเทศกาลวาเลนไทน์

เริ่มกันที่คอลเล็คชั่นนาฬิกาดำน้ำดีไซน์สปอร์ตทั้ง “โอเชี่ยน สตาร์ 200” (Ocean Star 200) เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ โดดเด่นด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ตเหมาะกับคนรักกิจกรรมดำน้ำ มาในขนาดหน้าปัด 42.5 มิลลิเมตร ด้านบริเวณขอบตัวเรือนและขอบเบเซิลผลิตจากสแตนเลสสตีลพร้อมเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ มีขีดบอกเวลาเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) ช่วยมองเห็นในที่มืดหรือขณะดำน้ำ พร้อมเข็มนาฬิกาแบบโปร่งตรง 2 ตำแหน่งเวลา ได้แก่ 6 และ 12 นาฬิกา ช่วยให้ง่ายต่อการอ่านเวลาเมื่ออยู่ใต้น้ำ นาฬิกาดำน้ำเรือนนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำลึกได้สูงสุดที่ 20 บาร์ หรือ 200 เมตร นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยกลไกแบบอัตโนมัติ พร้อมการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง  

จับคู่กับคอลเลกชั่น “โอเชี่ยน สตาร์ 36.5” (Ocean Star 36.5) เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี มาในขนาด 36.5 มิลลิเมตร โอบรับกับทุกข้อมือหญิงสาวได้อย่างเหมาะสม นับเป็นครั้งแรกที่มิโดได้สร้างสรรค์เรือนเวลาดำน้ำที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกานักดำน้ำยุค 1960s  ในเวอร์ชั่นสำหรับผู้หญิง ที่เป็นการผสมผสานเอกลักษณ์ของนาฬิกาดำน้ำในดีไซน์สปอร์ตเข้ากับความสวยงามที่ประณีตด้วยเฉดสีแห่งความสวยงามของกรอบตัวเรือน PVD เคลือบสีโรสโกลด์ พร้อมประดับตกแต่งด้วยเพชรเพิ่มความโก้หรู ครอบทับหน้าปัดด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์สไตล์แบบ กลาสบ็อกซ์ (Glassbox) ชวนนึกถึงลูกแก้วอันน่าหลงใหลแห่งยุค 60 ตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกแบบอัตโนมัติ พร้อมการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง และกันน้ำลึกได้ถึง 20 บาร์ หรือ 200 เมตร

ถัดมาที่คู่คอลเลกชั่นนาฬิกาแบบเปลือยที่เผยให้เห็นถึงกลไกอันน่าทึ่งทั้ง “มัลติฟอร์ต สเกเลตัน เวอร์ติโก” (Multifort Skeleton Vertigo) เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ ขนาด 42 มิลลิเมตร ที่สามารถเผยตัวตนอันโดดเด่นผ่านรายละเอียดโครงสร้างและกลไกสุดประณีต โดยสามารถมองเห็นชัดบนหน้าปัด ด้วยดีไซน์สไตล์สปอร์ตแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมที่แข็งแกร่ง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ (Sydney Harbour Bridge) ถ่ายทอดสู่แถบลายเส้นเจนีวาสีดำแอนทราไซต์สุดโดดเด่นตัดกับเข็มนาฬิกาและหมุดบอกเวลาได้อย่างงดงาม ด้านตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ด้วยคุณสมบัติทนทานเป็นพิเศษ มาพร้อมกับบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก พร้อมการสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง และคุณสมบัติกันน้ำได้ถึง 10 บาร์ หรือ 100 เมตร 

จับคู่กับคอลเล็คชั่น “เรนฟลาวเวอร์ บลอสซั่ม” (Rainflower Blossom) เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี มาในขนาดหน้าปัด 34 มิลลิเมตร ที่นับเป็นครั้งแรกสำหรับมิโด (MIDO) ที่ได้สร้างสรรค์เรือนเวลาแบบเปลือยเผยให้เห็นโครงสร้างและกลไกของตัวเรือนบนนาฬิกาสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ คอลเลกชั่นนี้พร้อมนำเสนอความกล้าหาญที่มีเส้นสายอันละเอียดอ่อน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมรูปทรงดอกบัวจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ศิลปะ (ArtScience Museum) ประเทศสิงคโปร์ โดยกลีบดอกบัวที่สะท้อนความอ่อนช้อยของผู้หญิง ที่แม้จะอ่อนโยนแต่เด็ดเดี่ยว ถ่ายทอดสู่ลวดลายดอกไม้ฉลุลายประดับบริเวณกลางหน้าปัดในโทนสีขาวไข่มุก พร้อมเผยโชว์ตัวเครื่องคาลิเบอร์ 80 (Calibre 80) ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุด ที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมความสามารถกันน้ำได้ที่ 3 บาร์ หรือ 30 เมตร

ปิดท้ายที่คู่คอลเล็คชั่นเรือนเวลาสุดคลาสสิกอย่าง “คอมมานเดอร์ บลู เฉด” (Commander Blue Shade) เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษ มาในขนาดตัวเรือน 37 มิลลิเมตร ที่มีความโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของตัวเรือนทรงกลมคลาสสิกมาพร้อมกับหน้าปัดเฉดสีน้ำเงินไล่สีจนเป็นสีดำสนิทบริเวณขอบ ช่วยดึงดูดทุกสายตาให้ชวนหลงใหลในความสง่างาม ด้วยสไตล์การออกแบบย้อนยุคและมีกลิ่นอายดั้งเดิม อย่างตัวเรือนแบบโมโนค็อก (Monocoque case) เชื่อมตัวเรือนกับฝาหลังเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ เข้าคู่กับสายนาฬิกาถักแบบตาข่ายให้ความรู้สึกที่หรูหรา โดยตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ให้ความแม่นยำ พร้อมการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง และสามารถกันน้ำภายใต้แรงดันสูงสุด 5 บาร์ หรือ 50 เมตร 

จับคู่กับคอลเล็คชั่น “คอมมานเดอร์ พิงค์ เฉด” (Commander Pink Shade) เรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี มาในขนาด 37 มิลลิเมตร ตัวเรือนทรงกลมสุดคลาสสิกแบบโมโนค็อก (Monocoque case) ที่เชื่อมตัวเรือนกับฝาหลังเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ มาพร้อมกับหน้าปัดทูโทนที่ไล่เฉดสีเงินไปจนเป็นสีน้ำตาลเทาสุดโดดเด่น เข้ากับตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลพร้อม PVD เคลือบสีโรสโกลด์ได้อย่างงดงาม ด้านตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ให้ความแม่นยำและการสำรองพลังงานสูงสุด 80 ชั่วโมง และสามารถกันน้ำภายใต้แรงดันสูงสุด 5 บาร์ หรือ 50 เมตร


การแสดงอันเหนือชั้นที่มีเพียง TVXQ! เท่านั้นที่ทำถึง

Alternative Textaccount_circle

ตำนานตลอดกาลแห่งเค-ป๊อป TVXQ! (ทงบังชินกิ) ประกอบไปด้วย 2 สมาชิก คือ ‘U-KNOW’ (ยูโนว์) และ ‘’MAX CHANGMIN’ (แม็กซ์ ชางมิน) เปิดประสบการณ์การแสดงอันเหนือชั้น ในคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบฉลองครบรอบเดบิวต์ 20 ปี ‘2024 TVXQ! CONCERT [20&2] IN BANGKOK’ เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.00 น. ณ ยูเนี่ยน ฮออล์ 2

เมื่อแสงไฟสาดส่องพร้อมบีทแรกที่คุ้นเคยดังขึ้นในเพลงอันทรงพลัง ‘Rising Sun (순수)’ ที่โชว์เอกลักษณ์ความเป็น TVXQ! ความตื่นเต้นก็ถูกปลุกขึ้นท่ามกลางเสียงเชียร์แห่งความคิดถึงของ Cassiopeia 2 สมาชิก ‘U-KNOW’ และ ‘MAX CHANGMIN’ ได้ร่วมกันถ่ายทอดความสามารถและความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานานกว่า 20 ปี ผ่านการแสดงอันเป็นเลิศที่มีพียง TVXQ! เท่านั้นที่ทำถึง ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่สะกดผู้ชมดั่งต้องมนตร์ ‘주문-MIROTIC’ หรือเพลงที่โชว์เสน่ห์อันดุดัน ‘왜 (Keep Your Head Down)’ และเพลงฮิตในตำนานมากมาย อาทิ ‘운명 (The Chance of Love)’, ‘Wrong Number’, ‘Purple Line’, ‘Something’, ‘Catch Me’ รวมถึงผลงานใหม่ล่าสุด อัลบั้มเต็มชุดที่ 9 ‘20&2’ อย่างเพลงไตเติลจังหวะหนักหน่วง ‘Rebel’, ‘Jungle’ และเพลงอาร์แอนด์บี ‘Down’, ‘Rodeo’ ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีเวทีโซโล่ของแต่ละสมาชิก โดย ‘U-KNOW’ มาพร้อมกับลุคสุดแพรวพราวในเพลง ‘Vuja De’ และ ‘MAX CHANGMIN’ กับทักษะการร้องแบบระเบิดพลังในเพลง ‘Devil’

อีกหนึ่งช่วงที่สร้างสีสันความมีชีวิตชีวาให้กับคอนเสิร์ต คือ ช่วงเพลงย้อนวัยเยาว์อันสดใส ‘Hug’ ที่ TVXQ! (ทงบังชินกิ) ขึ้นเวทีมาพร้อมกับที่คาดผมหูแมว, ขับรถของเล่นในเพลง ‘Drive’, สนุกไปด้วยกันในเพลง ‘풍선 (Balloons)’ ท่ามกลางของตกแต่งน่ารัก ๆ รวมถึงเซอร์ไพรส์เดินลงเวทีมาทักทายแฟน ๆ ทั่วทั้งฮอลล์อย่างใกล้ชิดช่วงเพลง ‘Crazy Love’ กับ ‘항상 곁에 있을게 (Always With You)’ นอกจากนี้ ยังมีช่วงที่พาผู้ชมดื่มด่ำไปกับเพลงบัลลาดแสนไพเราะอย่าง ‘The Way U Are (Unplugged Ver.)’, ‘I’ll Be There’, ‘I Wanna Hold You’, ‘믿어요 (I Believe)’

ซึ่งผู้ชมทั้งฮอลล์ได้ร่วมใจกันเปิดแฟลชโทรศัพท์เปลี่ยนทะเลแท่งไฟสีแดงให้สุกสกาวดั่งดวงดาวสร้างบรรยากาศอันสวยงาม และในช่วงท้ายของคอนเสิร์ตทั้งสองคนได้เลือกเพลงช้าความหมายดี ๆ โชว์เสียงประสานอันตราตรึงใจอย่าง ‘Love In The Ice’, ‘Thanks To’ รวมถึง ‘I Wish’ และ ‘You’re My Miracle’ เพื่อแสดงความขอบคุณแฟน ๆ ที่คอยอยู่เคียงข้าง มอบความรักและการสนับสนุนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมมองแฟนโปรเจกต์อันซาบซึ้งจาก Cassiopeia บนแบนเนอร์ที่สื่อว่า “ฉันยังคงเป็นดวงดาวที่ส่องสว่างให้คุณเหมือนวันแรกที่ได้เจอกัน”

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้ง 2 สมาชิกแห่ง ‘U-KNOW’ และ ‘MAX CHANGMIN’ ได้สะท้อนเส้นทางความสำเร็จตลอด 20 ปี ตามชื่อคอนเสิร์ต [20&2] และตอกย้ำสายใยอันไม่เสื่อมคลายระหว่าง TVXQ! กับ Cassiopeia ที่ได้เดินทางร่วมกันมา ผ่านเซ็ตลิสต์ที่ตั้งใจเรียงร้อยมาอย่างพิถีพิถัน ตลอดช่วงเวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที กับ 26 บทเพลงที่เปี่ยมล้นไปด้วยท่วงทำนองแห่งความทรงจำตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และคำมั่นสัญญาที่จะก้าวไปข้างหน้าร่วมกันในอนาคต

ทรงพลัง ปังสุด เตนล์ ประกาศเพิ่มรอบการแสดงแฟนคอนเดี่ยว

Alternative Textaccount_circle

‘TEN’ (เตนล์) หรือ ชิตพล ลี้ชัยพรกุล ศิลปินสัญชาติไทยเพียงหนึ่งเดียวแห่งบริษัทบันเทิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของเกาหลีใต้อย่าง SM Entertainment ที่กำลังจะมีแฟนคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก 2024 TEN FIRST FAN-CON [1001] IN BANGKOK ณ อิมแพ็ค อารีน่า ในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2567 ซึ่งหลังจากที่เปิดจำหน่ายบัตรการแสดงไปเมื่อวันที่ 2 และ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา

กระแสตอบรับก็ปังสุดฉุดไม่อยู่จนบัตรทุกที่นั่งหมดเกลี้ยงทันที ยิ่งไปกว่านั้น ‘TEN’ ขึ้นแท่นศิลปินชายเดี่ยวคนแรกของค่าย SM Entertainment ที่สามารถจัดแฟนคอนเดี่ยว ณ อิมแพ็ค อารีน่าได้สำเร็จ ซึ่งล่าสุดทางค่ายและผู้จัดอย่าง SM True ได้ประกาศเพิ่มรอบการแสดงในวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 รวมทั้งสิ้น 2 รอบการแสดง ณ อิมแพ็ค อารีน่า

นอกจากนี้ ‘TEN’ กำลังเดินหน้าโปรโมตกิจกรรมเดี่ยวอย่างเต็มที่ ทั้งผลงานโซโล่มินิอัลบั้มแรกภายใต้ชื่อว่า ‘TEN’กับเพลงไตเติลที่จะโชว์เสน่ห์สุดดึงดูด ‘Nightwalker’ และเพลงภาษาอังกฤษอื่น ๆ รวมทั้งหมด 6 เพลง โดยทีเซอร์ภาพและคลิปที่เผยเสน่ห์อันมีศิลปะเฉพาะตัวได้ถูกทยอยปล่อยออกมาสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ จนแฮชแท็กหรือคำที่เกี่ยวข้องกับอัลบั้มนี้ต่างขึ้นอันดับ 1 บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หรือทวิตเตอร์เทรนด์ของประเทศไทยทุกวัน ก่อนที่อัลบั้มจะมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ตามเวลาประเทศไทย 16.00 น.

ไม่เพียงเท่านี้ ‘TEN’ ยังได้รับเชิญให้ร่วมเป็นหนึ่งในเมนเทอร์ผู้ทรงเกียรติของรายการเซอร์ไววัลชื่อดังระดับอินเตอร์ CHUANG ASIA THAILAND เพื่อเฟ้นหาเกิร์ลกรุ๊ปนานาชาติภายใต้มาตรฐานระดับโลก ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 21.30 น. ทาง WeTV และช่อง one31 โดย ‘TEN’ ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมและผู้เข้าร่วมรายการ ผ่านทักษะที่โดดเด่นรอบด้าน ทั้งการร้องและเต้นที่ทรงพลัง รวมถึงความเป็นมืออาชีพและไหวพริบที่เป็นเลิศ ทำให้ทุกคนยิ่งตั้งตารอถึงสีสันทางดนตรีของ ‘TEN’ที่จะถูกส่งผ่านแฟนคอนเดี่ยวในครั้งนี้

2024 TEN FIRST FAN-CON [1001] IN BANGKOK [รอบการแสดงเพิ่มเติม] วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2567 เตรียมเปิดจำหน่ายบัตรรอบ WayZenNi Membership (GL) Pre-Sale (Weverse) ในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 19.00 น. – 21.00 น. เท่านั้น และรอบบุคคลทั่วไป ในวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ และทางเว็บไซต์ www.allticket.com

EXchange 3

กระแสแรงไม่มีตก! “EXchange 3” เรียลลิตี้หาคู่ที่ชวนลุ้นว่าพวกเขาจะไล่ตามความรักครั้งใหม่ หรือจะจุดถ่านไฟเก่าให้ติดอีกครั้ง!

Alternative Textaccount_circle
EXchange 3
EXchange 3

‘ถ้าตอนนั้นเธอบอกว่าขอโทษ ฉันคงไม่มาอยู่ในรายการนี้หรอก’ เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาที่สมการรอคอยของเหล่าแฟนคลับเป็นอย่างมาก จากกระแสการตอบรับอย่างท่วมท้นของวาไรตี้ “EXchange 3” รายการเรียลลิตี้ออกเดตหาคู่ที่ประสบความสำเร็จโด่งดังมาแล้วกว่า 2 ซีซั่น โดยในซีซั่น 3 ทุกๆ สัปดาห์จะมีพิธีกรรับเชิญมาร่วมด้วย อาทิ รยออุน, คังชานฮี และคิมมินกยู ซึ่งหลังออกอากาศไปก็ติดอันดับ TOP 10 ใน Viu (วิว) ถึง 3 สัปดาห์ซ้อน 

สำหรับ “EXchange 3” ครั้งนี้รายการจะถ่ายทอดความท้าทายครั้งใหม่ที่เหล่าแฟนเก่าจะต้องเผชิญหน้ากันพร้อมทำภารกิจต่างๆ รวมถึงชาเลนจ์ออกเดต ที่ผู้ร่วมรายการเป็นแฟนเก่าทั้ง 4 คู่ จะต้องมาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน และในช่วงแรกของรายการผู้ร่วมรายการทุกคนห้ามเปิดเผยว่าใครคือแฟนเก่า รวมถึงอายุ และอาชีพ โดยในแต่ละวันทางรายการจะแจ้งภารกิจและคอยส่งข้อความพูดคุยกับผู้เข้าแข่งขันเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในบ้าน และเช็คความรู้สึกของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนว่าคนไหนที่ทำให้พวกเขาใจเต้นแรงที่สุดตอนนี้เป็นใคร โดยรายการจะค่อยๆ บอกพวกเขาเองว่าใครมีความสัมพันธ์กับใคร แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์ของรายการพวกเขาสามารถเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่และทำความรู้จักคู่เดตคนใหม่ได้ แต่สำหรับคู่แฟนเก่าบางคู่ที่ยังเป็นแผลสด คงไม่ง่ายนักถ้าพวกเขาต้องทนเห็นแฟนเก่าไปเดตกับคนอื่น พวกเขาจะสามารถจัดการความรู้สึกของตัวเองได้หรือไม่ กับบททดสอบใหม่ที่เล่นกับหัวใจตัวเองแบบนี้ เพราะในวันสุดท้ายพวกเขาทุกคนจะต้องตัดสินใจว่า จะไล่ตามความรักครั้งใหม่ หรือจะจุดถ่านไฟเก่าให้ติดอีกครั้ง!

โดยผู้ร่วมรายการในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย อีจูวอน โปรดิวเซอร์ดนตรี, อียูจอง นางแบบโฆษณาแฟชั่นและความงาม, คิมควังแท ผู้จัดการฝ่ายขายอาหารนำเข้า, อีซอคยอง ทันตานามัย, โจฮวีฮยอน นักศึกษามหาวิทยาลัยเกาหลี สาขาวิชาสื่อและการสื่อสาร, ซงดาฮเย ไอดอลสมาชิกวง BESTie, ซอดงจิน ซีอีโอบริษัทผลิตอาหาร, อีฮเยวอน ครูสอนภาษาอังกฤษ และกงซังจอง อดีตนักกีฬาสเกตความเร็วและกรรมการสเกตความเร็ว สมาชิกใหม่ของรายการ

พวกเขาจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่กันอย่างไร จะตามหารักใหม่เจอหรือไม่ หรือว่าจะกลับไปหาคนรักเก่า! โดยสามารถรับชมซับไทยได้ทุกวันจันทร์ ในเวลา 08.00 น. ทาง Viu (วิว) 


น้องโรเตอร์

นักซิ่งดาวรุ่ง น้องโรเตอร์ ลูกชาย พีท ทองเจือ ได้เซ็นสัญญากับเกาหลีใต้

Alternative Textaccount_circle
น้องโรเตอร์
น้องโรเตอร์

จากการที่ได้เห็นคุณพ่อ พีท ทองเจือ เป็นนักแข่งรถมาตั้งแต่เด็กๆ จนกลายเป็นความหลงไหล และมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแข่งเหมือนคุณพ่อ

วันนี้ น้องโรเตอร์-ไพชยนต์ ทองเจือ วัย 15 ปี กลายเป็นความภาคภูมิใจของ คุณพ่อและครอบครัวเพราะนอกจากจะเป็นนักซิ่งดาวรุ่ง น้องโรเตอร์ ลูกชาย พีท ทองเจือ ได้เซ็นสัญญากับเกาหลีใต้ที่คว้ารางวัลในหลายรายการแล้ว

ล่าสุดเขายัง ได้เซ็นสัญญาร่วมทีมมอเตอร์สปอร์ตเกาหลีใต้ AMC Motorsport โดยเขาสจะเข้าร่วม การแข่งขัน “Super Race Championship” ฤดูกาล 2024 ณ ประเทศเกาหลีใต้

ซึ่งนับเป็นคนไทยคนแรกที่เข้าร่วมการแข่งขัน และเป็นนักแข่งที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

Victoria Beckham

4 เคล็ดลับเพื่อสุขภาพที่ต้องทำทุกวันของ Victoria Beckham

Alternative Textaccount_circle
Victoria Beckham
Victoria Beckham

หลายคนอาจอยากรู้ Victoria Beckham เริ่มต้นวันใหม่ของเธออย่างไร? คุณจะไม่แปลกใจเลยที่รู้ว่าเจ้าแม่แฟชั่นจะให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเธอเป็นอันดับแรก ซึ่งเธอได้แบ่งปัน 4 เคล็ดลับด้านสุขภาพประจำวันผ่านสตอรี่บนอินสตาแกรมเมื่อไม่นานมานี้

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล
เธอเริ่มต้นวันใหม่ด้วยน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล สิ่งแรกที่เธอทำเมื่อตื่นนอนคือกินน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลเพียวๆ สามช้อนโต๊ะในขณะท้องว่าง เพื่อช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดช่วยย่อยอาหาร และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งวิธีนี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ผสมกับน้ำก่อนเพื่อป้องกันการสึกกร่อนของฟัน

สมูทตี้สีเขียว
สมูทตี้เป็นวิธีที่ดีในการเริ่มต้นวันใหม่ เพราะย่อยง่ายและรวมส่วนผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมายไว้ในเครื่องดื่ม และสมูทตี้ตระกูลเบ็คแฮมประกอบด้วยผักโขม บรอกโคลี คื่นฉ่าย แตงกวา อะโวคาโด แอปเปิล มะนาว และขิง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ คุณประโยชน์จากพืชและไฟเบอร์

ออกกำลังกายห้าวันต่อสัปดาห์
Bobby Rich เทรนเนอร์ส่วนตัวของ The Beckhams ได้แชร์รายละเอียดกิจวัตรการออกกำลังกายประจำวันของพวกเขาก่อนหน้านี้ การออกกำลังกายเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถต่อรองได้สำหรับทั้งคู่ และวิกตอเรียก็ออกกำลังกายห้าวันต่อสัปดาห์ นอกจากการฝึกยกน้ำหนักหลายครั้งแล้ว Rich ยังสร้างแผนระยะยาวหนึ่งปี เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายของพวกเขาจะถูกท้าทายด้วยวิธีที่ถูกต้อง หลังออกกำลังกาย? วิกตอเรียจะมีสมูทตี้อีกชนิดหนึ่งที่รวมผงเวย์โปรตีนจากทุ่งหญ้า (รสวานิลลา), แบล็กเบอร์รี่, สตรอเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, อัลมอนด์, แอปเปิ้ล และกล้วย

วันละช็อต
วันละช็อตที่ว่า…ไม่ใช่ประเภทเตกีล่า แต่เป็นการผสมผสานส่วนผสมที่ส่งเสริมสุขภาพให้วิกตอเรียกินในแต่ละวัน ได้แก่ ขิงสด มะนาว พริกไทยดำ และขมิ้น นี่คือสุดยอดส่วนผสมต้านการอักเสบ และสามารถช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วย ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส และช่วยในการย่อยอาหาร

Source: victoriabeckham


เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ADIDAS ต้องเข้า! เปิด 5 รองเท้าคู่ใจพร้อมลุยทุกทริป ‘พี่จอง-คัลแลน’

Alternative Textaccount_circle

ใส่บ่อยพกไปทุกทริป! เปิด 5 รองเท้า ADIDAS คู่ใจของ ‘พี่จอง-คัลแลน‘ ตัวแทนปรากฏการณ์ใจฟูทั้งประเทศไทย

ช่วงนี้เหนื่อยใจทีไรเป็นต้องเปิด Youtube ดู ‘컬렌 Cullen HateBerry’ ทุกที เพราะสมาชิกแต่ละคนไม่ว่าจะเป็น พี่จอง, คัลแลน, น้องแดน, จูดี้ หรือทีมเบื้องหลังอย่าง คุณอิง ก็ทำให้เราใจฟูกลับขึ้นมาได้เป็นปลิดทิ้ง เพราะความน่ารักและแสนดีของพวกเขาที่สามารถปลอบประโลมความใจร้ายของคนในชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกที่ยอดผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียของพวกเขาจะพุ่งทะยานจนหยุดไม่อยู่ในเวลานี้

หากให้พูดถึงเสน่ห์อีกอย่างของช่องโดยเฉพาะ ‘พี่จอง-คัลแลน’ คงเป็น ‘ความเรียบง่าย’ เพราะต่อให้อยู่ที่ไหนหรือกินอะไรก็ได้ทั้งหมด แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่สวมใส่กันก็มักเป็นลุคง่ายๆ สบายๆ ทั้งที่หลายคนอาจรู้อยู้แล้วว่าพวกเขาเคยทำธุรกิจกันมาก่อน แต่ความหรูหราบนตัวมีน้อยมากจริงๆ อย่างแบรนด์ที่ใส่บ่อยก็มีทั้ง H&M และ ADIDAS นานๆ ครั้งถึงจะได้เห็นแบรนด์เนมโผล่มาบ้าง

เราจึงจะพาทุกคนไปซูมอินรองเท้า ADIDAS 5 คู่โปรดของ ‘พี่จอง-คัลแลน’ ที่ขนมาให้ทั้งผ้าใบและแตะ พร้อมลุยทุกสถานการณ์

ถ้าบอกว่าเริ่มต้นกับดีไซน์เพลนๆ คงได้พูดแบบนี้ทุกคู่ เพราะไม่ว่าคู่ไหนก็เบสิคทั้งหมด เช่น รุ่น RIVALRY LOW SHOES ของคัลแลนกับผ้าใบสีขาวที่ถึงแม้จะดูธรรมดา แต่ขอรับรองว่าแมตช์ง่ายเข้ากับทุกลุคแน่นอน และด้วยพื้นรองเท้าที่ทำจากโฟม EVA น้ำหนักจึงเบา สวมใส่สบาย สำหรับราคาคู่นี้อยู่ที่ 3,600 บาท

ถัดมาสลับเป็นพี่จองกันบ้างมีสีสันขึ้นมาหน่อย แต่ก็เป็นสีเบจอยู่ดีกับรุ่น OZELLE CLOUDFOAM รองเท้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 90 แต่เพิ่มความโมเดิร์นลงไป รวมถึงอัปเปอร์ของรองเท้ายังผลิตจากกลุ่มวัสดุรีไซเคิลที่มีส่วนประกอบอย่างน้อย 50% ช่วยยุติปัญหาขยะพลาสติกอีกด้วย ราคา 2,400 บาท

คู่ต่อไปกับ GALAXY6 ของพี่จองที่แค่มองก็พอจะรู้ว่าต้องใส่เดินสบายแน่ๆ เพราะถูกออกแบบมาให้เป็นรองเท้าสำหรับวิ่งโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีอัปเปอร์ผ้าตาข่ายที่เบาและโปร่งทำให้เท้าเย็นสบาย ส่วนราคากำลังดีสุดๆ เพราะอยู่ที่ 1,900 บาท และตอนนี้ในเว็บไซต์กำลังลดเหลือ 760 บาทด้วยค่ะ

สองคู่สุดท้ายในวันชิลๆ กับรองเท้าแตะ ADIDAS รุ่น ADILETTE 22 ของคัลแลน และ ADILETTE CLOGS ของพี่จอง ราคา 2,000 และ 1,600 บาท หากสังเกตให้ดีถึงแม้ทั้งสองคนจะมีความมินิมอล เบสิคเหมือนกันอยู่ แต่ไอเท็มของพี่จองจะมีกิมมิกมากกว่าเล็กน้อย

หลังจากชม 5 ไอเท็ม ADIDAS ของ ‘พี่จอง-คัลแลน’ ไปแล้วมีคู่ไหนถูกใจบ้างคะ อย่าลืมรีบไปกดกันนะ เพราะมีบางคู่ราคากำลังดีเลยค่ะ!


รูปภาพ: Youtube: 컬렌 Cullen HateBerry, Instagram @cullen_hateberry, @jung_kt_ และ ADIDAS

แคโรไลนา ชิอิโนะ

สละมงกุฎ แคโรไลนา ชิอิโนะ Miss Japan แอบคบผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว

Alternative Textaccount_circle
แคโรไลนา ชิอิโนะ
แคโรไลนา ชิอิโนะ

แคโรไลนา ชิอิโนะ Miss Japan 2024 นางงามคนแรกที่เป็นพลเมืองญี่ปุ่นโดยการแปลงสัญชาติ ล่าสุดถูกขุดว่าเธอได้คบหากับผู้ชายที่มีภรรยา ทำให้ต้องประกาศสละมงกุฎ

กลายเป็นตำนานนางงามที่ชาวญี่ปุ่นไม่รักมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้ว สำหรับเจ้าของตำแหน่ง Miss Japan 2024 แคโรไลนา ชิอิโนะ (Carolina Shiino) นางแบบสาววัย 26 ปี ที่ก่อนหน้านี้ตกเป็นประเด็นดราม่าเรื่องความไม่สมมงเพราะไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น ล่าสุดเธอถูกแฉว่าเธอได้คบหากับคุณหมอหนุ่มที่มีภรรยาอยู่แล้วทำให้ต้องประกาศสละตำแหน่งหลังครองมงกุฎไม่ถึง 10 วัน

ย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา Carolina Shiino ได้คว้าตำแหน่ง Miss Japan 2024 แต่ยันไม่ทันลงจากเวทีก็ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเธอสมกับตำแหน่งนี้หรือไม่? เพราะนอกจากจะไม่มีรูปลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นแล้ว เธอทั้งยังไม่มีเชื้อชาคิญี่ปุ่นแม้สัก 1 % เนื่องจากเธอเป็นพลเมืองญี่ปุ่นโดยการแปลงสัญชาติ จากการมาอยู่ประเทศนี้ตั้งแต่ 5 ขวบ

แคโรไลนา ชิอิโนะ

ด้านสาวงามได้พูดถึงประเด็นนี้ว่า เธอได้สัญชาติญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว ภแม้รูปลักษณ์ภายนอกอาจจะดูไม่เหมือนคนญี่ปุ่นแต่จิตใจนั้นเป็นคนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง  ขณะที่ที่ผู้จัดการประกวดได้ให้เหตุผลว่าเธอเป็นผู้ชนะที่สมมง เธอเขียนภาษาญี่ปุ่นได้อย่างไร้ที่ติ อีกทั้งยังมีความสุภาพตามแบบฉบับชาวญี่ปุ่น

แคโรไลนา ชิอิโนะ

อย่างไรก็ตามยังไม่ทันสิ้นดราม่ารอบแรก ดราม่าลูกที่สองก็ตามมาติดๆ เมื่อสื่อจอมแฉท้องถิ่น Shukan Bunshun ออกมาเปิดเผยความสัมพันธ์ลับๆ ของสาวงามกับคุณหมอหนุ่มที่แต่งงานแล้ว ซึ่งทางต้นสังกัดได้ออกมาชี้แจงว่าสาวงามไม่รู้มาก่อนว่าชายหนุ่มแต่งงานแล้ว ซึ่งล่าสุดเธอได้ประกาศสละตำแหน่ง พร้อมขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอรู้สึกเสียใจและรู้สึกทรยศคนที่สนับสนุนเธอมาตลอด

เซ็นทรัลรีเทลยืนหนึ่งองค์กรด้านความยั่งยืน โชว์ผลงาน Sensory Space ในงาน Wonderfruit 2023 ที่ได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลามเซ็นทรัลรีเทลยืนหนึ่งองค์กรด้านความยั่งยืน 

account_circle

บริษัท เซ็นทรัล รีเทลคอร์ ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ CRC โชว์ความสำเร็จ ในงาน Wonderfruit 2023 งาน
เทศกาลระดับโลกอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จากผู้เข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน สะท้อนภาพความร่วมมือกับพันธมิตรระดับสากลที่มีจุดยืนด้านความยั่งยืนร่วมกัน ในการขับเคลื่อนการอนุรักษ์
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตลอดระยะเวลาการจัดงานในช่วงวันที่ 14 – 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ เดอะฟิลด์ แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา ในพื้นที่ CRCSensory Space ได้รับความสนใจจากเหล่าวันเดอเรอร์ทั่วโลก ที่ได้เข้ามา
สัมผัสประสบการณ์ไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่เซ็นทรัล รีเทล ได้จัดเต็มนำแบรนด์ธุรกิจในเครือฯ อาทิ Central, L:A Bruket, Dyson, Tops และ Jing Jai Farmer Marketเป็นต้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับกิจ
กรรมและเวิร์กชอปแสนสนุก ที่สอดแทรกความยั่งยืนเข้ากันไว้ได้อย่างกลมกลืน ตอกย้ำจุดยืนในการเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย และความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งของ
ไทย ที่พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจ ควบคู่ไปกับการดูแลและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างแท้จริง

นางสาว ปิยวรรณ ลีละสมภพรอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เซ็นทรัล รีเทล มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน Wonderfruit 2023 ซึ่งเป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ชื่นชอบทั้งในด้านศิลปะ ดนตรี
วัฒนธรรม และธรรมชาติ โดยการเข้าร่วมงานครั้งนี้ เราได้มีการสอดแทรกเรื่องความยั่งยืนในทุกมิติผ่าน CRC Sensory Space ที่ออกแบบโดย Ab Rogers Design หรือ ARDดีไซน์เนอร์ชั้นนำระดับโลกที่ให้ความสำคัญในเรื่อง
ของสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิดการออกแบบ Zero Waste จึงได้ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติในการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นลำไม้ไผ่สูงโปร่งที่นำมาจากภายในพื้นที่จัดงาน ผืนผ้าหลากสีโทนแดงส้มเหลือง ที่ผสานเข้ากันกับ
ธรรมชาติสีเขียวได้อย่างลงตัว โดยมีพื้นที่รูปทรงสามเหลี่ยม ลักษณะคล้ายหัวใจ เปิดโล่งทั้ง3 ด้าน ให้ผู้มาเยือนสามารถมาร่วมสนุกกันได้จากทุกทิศทาง สะท้อน Brand Purpose ของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น Central to Life
หรือ ศูนย์กลางชีวิตของทุกคน ที่พร้อมต้อนรับและให้บริการลูกค้าทุกคนมาโดยตลอด

สำหรับ CRC Sensory Space สร้างขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจไปกับธรรมชาติรอบตัว ผ่าน
ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ประกอบด้วย รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ในขณะเดียวกันยังได้สอดแทรกกลยุทธ์ความยั่งยืน
CRC ReNEW ทั้ง 4 มิติ ภายในฮับอีกด้วย อาทิ เรื่อง Reduce Greenhouse Gases การลดการปล่อยก๊าซเรือน
กระจก ที่สะท้อนผ่านผลงานการออกแบบฮับ ด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Transpower
พาร์ทเนอร์ของไทวัสดุ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล บนหลังคาสีแดงที่มีลักษณะเทลง เพื่อรับพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะสาด
แสงลงมายังจุดศูนย์กลางของฮับ ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงประติมากรรม Happiness Forward ดอกไม้ยักษ์สีสันสดใส ความสูง 5เมตร ที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ 100% โดยทำจากวัสดุเหลือใช้ของงานเทศกาลต่าง ๆ ทั่วไทย เช่น เศษ
ผ้าไนลอน ตุ๊กตาลมตัวเก่า และฝาอลูมิเนียม มาฟื้นคืนชีวิตให้กลับมาจุดประกายและส่งต่อความสุขให้กับโลกใบนี้อีกครั้ง เพื่อเป็นศูนย์กลางแห่งความสุขของทุกคน 

โดยไอคอนิคอาร์ตชิ้นนี้ได้รับการออกแบบจากเอ๋-วิชชุลดาปัณฑรานุวงศ์ ศิลปินมากความสามารถ ผู้สร้างสรรค์ผล
งานศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ พร้อมทีมงานที่เป็นคนในพื้นที่ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากความสวยงามและความสว่างสดใสของพลุยามค่ำคืน เป็นสัญลักษณ์ของความสุขที่ได้หลีกหนีจากเมืองที่เร่งรีบ มาเพลิดเพลินกับอากาศบริสุทธิ์
ล้อมรอบด้วยสีสันที่สดใสและธรรมชาติรอบตัว โดยมาพร้อมกับตุ๊กตาเป่าลมอีก 5ชิ้น สะท้อนภาพธุรกิจทั้ง 5กลุ่ม ใน Ecosystemของเซ็นทรัล รีเทลได้แก่ ฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลธ์แอนด์เวลเนส 

นอกจาก Installation Art สุดป๊อปที่ชาว Wonderers แวะเวียนมาถ่ายรูปทั้งวันทั้งคืนแล้ว ยังมีทั้งกิจกรรมและเวิร์กชอปที่มีคนเข้ามาร่วมสนุกกันเป็นจำนวนมาก อาทิ กิจกรรม Lifting Your Holistic Spirit By L:A Bruket แบรนด์ชื่อดังจากสวีเดนที่ให้ทุกคนได้มาสัมผัสศาสตร์ของธรรมชาติ ผ่านการเลือกสรรดอกไม้นานาพันธุ์ลงในถุงหอม พร้อมผ่อนคลายด้วยผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคชั้นนำ,
ด้วยอุปกรณ์ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังมี 2เวิร์กชอปจาก
แบรนด์รักษ์โลกภายใต้ Central Edition Shop ได้แก่ แบรนด์ Wood & Mountain แบรนด์เสื้อผ้าบาติกสี
ธรรมชาติ โดยช่างฝีมือเยี่ยมของจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยกิจกรรม Hand Paintingผ่านการวาดลวดลายด้วยมือ และแบรนด์ Symp Symp กับกิจกรรม Beads n’ Crochetในการ D.I.Y.สร้อยด้วยเทคนิคการถักโครเชต์และร้อยลูกปัด
เพื่อสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเครื่องประดับที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก นอกจากนี้ยังมีมุม Hair Styling Station By Dyson ที่ยกอุปกรณ์จาก Dysonมาให้ผู้ร่วมงานได้ทดลองดีไซน์ทรงผมในแบบฉบับของตัวเอง

นอกจากกิจกรรมต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว เซ็นทรัล รีเทล ยังได้จัดเต็มความอิ่มอร่อย ทั้งอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม
ในโซน Jing Jai Farmer Market ที่สนับสนุนเกษตรกรไทยในการกระจายผลผลิตออกตลาด และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เกษตรกรมีอาชีพ รายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน สะท้อนกลยุทธ์ CRC ReNEW
ด้าน Navigate Society Well-Being โดยปัจจุบัน จริงใจ
ฟาร์เมอร์ มาร์เก็ต มีทั้งหมด 33 สาขาทั่วไทย อีกทั้งยังเอาใจเหล่า Wonderers สาย Foodie ทุกคนกับโซน Tops
Food Vendor ที่จัดเต็มความอร่อยกับอาหารจาก Tops Eatery และเบเกอรี่จาก The Baker พร้อม Tops Bar ที่เสิร์ฟเครื่องดื่มที่ได้แรงบันดาลใจจากสินค้าของเกษตรกรไทยรังสรรค์ออกมาเป็นเมนูเครื่องดื่มที่ทั้งอร่อยและดีต่อ
สุขภาพ จากบาร์เทนเดอร์ชื่อดังระดับโลก ซึ่งอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดใช้บรรจุภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้าน Eco-Friendly Product and Packaging เป็นอย่างดี ที่สำคัญภายใน
งานยังมีการจัดการขยะมูลฝอยและแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อให้สามารถนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ตามกลยุทธ์ Waste Management ที่เป็นส่วนหนึ่งของ CRC ReNEW ที่เซ็นทรัล รีเทล ยึดมั่นในการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจมาโดยตลอด

“การร่วมมือกับ Wonderfruit 2023 ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่เราได้จับมือกับพันธมิตรระดับโลก สะท้อนถึง
ความมุ่งมั่นของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนในทุกมิติ เราดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบประสบการณ์สุดแสนพิเศษและได้เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของผู้เข้าร่วมงานทุกคน ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณคณะผู้จัดงาน
Wonderfruit และผู้เข้าร่วมงานทุกคนที่ให้ความสนใจ และเข้ามาร่วมกิจกรรมของเราเป็นอย่างดี ตลอดการจัดงานทั้ง 5 วันเต็ม ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังคงมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยผลักดันแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่ง
แวดล้อม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและส่งต่อโลกที่ดีขึ้นให้แก่คนรุ่นหลังต่อไป” นางสาวปิยวรรณ กล่าวปิดท้าย

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ กลายเป็นเด็กที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เพราะ เจ้าหญิงแห่งเวลส์

account_circle
เจ้าหญิงชาร์ลอตต์
เจ้าหญิงชาร์ลอตต์

สื่อต่างประเทศรายงาน เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ กลายเป็นเด็กที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าประมาณ 3.9 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 174 แสนล้านบาท มากกว่า เจ้าชายจอร์จ และ เจ้าชายหลุยส์

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ กลายเป็นเด็กที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เพราะ เจ้าหญิงแห่งเวลส์

Outdoor Toys เผยบุตรของเจ้าชายวิลเลียม และ แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ คว้าอันดับ 1 และ อันดับ 2 เด็กที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยเจ้าชายจอร์จคาดว่าจะมีมูลค่าสุทธิ 2.8 พันล้านปอนด์

ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ชันษามากขึ้น “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกจะได้เห็นเสื้อผ้าที่ พระองค์สวม และ ‘เอฟเฟกต์เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์’ จะเข้มข้นขึ้นอีก”

ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงมีอิทธิพลต่อทรัพย์สินสุทธิของ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เนื่องจาก “การเลือกแฟชั่นของราชวงศ์ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเทรนด์แฟชั่น” เจ้าหญิงเคทมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบดังกล่าวเนื่องจากพระองค์ถูกมองว่า “ทรงมีอิทธิพลในด้านแฟชั่นของราชวงศ์มากที่สุด” และเสื้อผ้าที่เจ้าหญิงแห่งเวลส์สวมใส่ก็ได้รับความพึงพอใจเพิ่มขึ้น 38 เปอร์เซ็นต์ในอเมริกา

(Photo by Max Mumby/Indigo/Getty Images)

ด้านเจ้าชายหลุยส์ โอรสองค์ที่ 3 ของเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิงเคท วัย 5 ชันษา อยู่ในอันดับที่ 9 มีมูลค่าสุทธิ 98 ล้านปอนด์

Rza Athelston Mayers

ขณะที่ Rza Athelston Mayers ลูกชายวัย 1 ขวบของ Rihanna และ A$AP Rocky อยู่ในอันดับที่ 3 โดยมีมูลค่าสุทธิสูงถึง 943.5 ล้านปอนด์ ตามมาด้วย Blue Ivy Carter ลูกสาวของ Beyonce และ อันดับที่ 5 ได้แก่ Stormi Webster ลูกสาวของ Kylie Jenner และ Travis Scott ตามมาด้วยลูกสาวของ North West ลูกพี่ลูกน้องของเธอ Kim Kardashian และ Kanye West 


เก๋ให้โลกจำ ผลักดัน Soft Power! ไมค์ พิรัชต์ ใน ‘ชุดพระราม’ ที่ออกแบบเอง

Alternative Textaccount_circle

ปรากฏตัวทั้งทีต้องทำให้โลกจำ! ไมค์ พิรัชต์ ออกแบบ ‘คอสตูมพระราม’ ในโชว์ CHUANG ASIA ด้วยตัวเอง หวังผลักดัน Soft Power

เมื่อพูดถึงรายการที่น่าจำตามองของไทยตอนนี้ คงหนีไม่พ้น CHUANG ASIA 2024 ที่รวบรวมหญิงสาวที่มีความฝันเป็นไอดอลทั้งหมด 70 คน มาแข่งขันความสามารถเพื่อค้นหาคนที่จะได้ยืนอยู่บนเวทีตัวจริง โดยครั้งนี้ได้เมนเทอร์มากประสบการณ์อย่างแจ็คสัน หวัง, ไมค์ พิรัชต์, เตนล์ ชิตพล, เจฟ ซาเตอร์ และเนเน่ พรนับพัน มาให้คำปรึกษาตลอดทั้งรายการ

โดยใน Ep.1 เมนเทอร์ทั้ง 5 คนก็ได้แสดงโชว์ของตัวเองเพื่อเปิดรายการอย่างเป็นทางการ หนึ่งโชว์ที่คอสตูมสะดุดตาต้องยกให้ ‘ไมค์ พิรัชต์’ กับบอดี้สูทสีดำตกแต่งด้วยแถบผ้าสีเขียวและเครื่องประดับทองแบบจัดเต็มทั้งสร้อยกำไลและเข็มขัด

มารู้ทีหลังผ่านโซเชียลมีเดียของไมค์ พิรัชต์ว่าตัวเองเป็นคนออกแบบชุดนี้เอง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก วรรณคดีไทย เรื่องรามเกียรติ์ ในตัวละครเอกอย่างพระราม ทั้งนี้เขายังบอกอีกว่า ‘ตั้งใจเอามาใส่ในการแสดงนี้ให้ทั่วโลกได้เห็นกัน เผื่อจะมีความเป็นพลังนิ่มเนอะ’ เดาว่าพลังนิ่มที่ว่าคงหมายถึง Soft Power นั่นเอง

แถมความน่ารักหลังจากโพสต์ว่าแรงบันดาลใจชุดนี้มาจากพระรามแล้ว ไมค์ พิรัชต์ ยังได้โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ส่วนตัว @M1KEANGELO ว่า ‘จริงๆ คือเต้นแก้บน! เรื่องมีอยู่ว่าคนคิดโชว์นี้พอดีไปบนไว้แล้วบอกจะเต้นแก้บนให้ถ้าได้ เลยจัดเต้นแก้บนแบบให้ดูทั่วโลกไปเลย กลัวท่านไม่เห็น’ เอาเป็นว่าจุดเริ่มต้นจะมายังไง แต่ปลายทางจบที่ได้ถ่ายทอดวรรณคดีไทยก็พอค่ะ


รูปภาพ: Twitter @M1KEANGELO

ตราตรึงทุกมุมมอง Dua Lipa สวมเครื่องเพชร Tiffany & Co. ร่วมงาน GRAMMY AWARDS

account_circle

อีกหนึ่งลุคที่ตราตรึงของเซเลบริตี้ที่เข้าร่วมงาน GRAMMY AWARDS ครั้งที่ 66 คงต้องยอกให้กับนักร้องสาว Dua Lipa ในชุดสีเงินแวววับจากแบรนด์ Courreges โดดเด่นด้วยเครื่องเพชรจากแบรนด์ Tiffany & Co.

ตราตรึงทุกมุมมอง Dua Lipa สวมเครื่องเพชร Tiffany & Co. ร่วมงาน GRAMMY AWARDS

ดูอา ลิป้า ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัล  66TH  ANNUAL GRAMMY AWARDS สวมใส่สร้อยคอแพลทตินัมและทองคำ 18k ประดับด้วยพลอยสีส้ม (orange sapphire), อุมบ้า (Umba), พลอยพัดพารัดชา (padparadscha sapphires), รูเบลไลท์ (rubellites) และเพชร

พร้อมด้วยสร้อยข้อมือแพลทตินัมและทองคำ 18k ประดับด้วยพลอยพัดพารัดชา (padparadscha sapphires) และแหวนแพลทตินัมและทองคำ 18k ประดับด้วยพลอยศรีลังกาสุดหรู เข้าร่วมงาน  66TH ANNUAL GRAMMY AWARDS เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024 ที่ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย


RISERA (ไรซ์เซร่า) จัดงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ RISERA GRAND OPENING

account_circle

เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับแบรนด์ RISERA แบรนด์สกินแคร์แห่งอนาคตที่จะแก้ไขปัญหาผิวของคนไทยยุคใหม่ได้อย่างล้ำลึกสูงสุดถึง 4 ชั้นผิว ภายใต้เอกสิทธิ์ FILL Oléoactif (ฟิล โอลีโอแอคทีฟ) หนึ่งเดียวในไทยกับ RISERA The Ultimate Filler and Lifting Ampoule (ไรซ์เซร่า ดิ อัลทิเมต ฟิลเลอร์ แอนด์ ลิฟติ้ง แอมพูล)

            ไรซ์เซร่า ทุ่มงบก้อนใหญ่จัดงานเปิดตัว RISERA GRAND OPENING ณ ห้องจัดงานสุดหรูใจกลางเมือง Gaysorn Urban Resort, The Crystal Box ชั้น 19 เฉลิมฉลองนิยามใหม่ของความงาม ตามคอนเซป ‘The New Era of Beauty’ พร้อมประกาศเซอร์ไพรซ์ใหญ่ที่มากกว่าการเปิดตัวสินค้า RISERA – The Ultimate Filler and Lifting Ampoule กับ RISERA – Special Limited Edition ที่ผสานโลกของความงามเข้ากับโลกของแฟชั่น เพื่อสร้างพื้นที่ให้ทุกคนได้ เผยความคิด และความเป็นตัวตนได้อย่างอิสระ กับการร่วมงานกันครั้งแรก กับแฟชั่นแบรนด์ชื่อดังอย่าง มิลิน เติมเต็มคุณค่าความงามของคนยุคใหม่ในแบบฉบับของตัวเอง

คุณณัฎฐ์ชินภา นพกุลชัยธัช (คุณพีร์) – CEO แบรนด์ RISERA อธิบายว่าทางบริษัทฯ เล็งเห็นว่าคนยุคใหม่ให้ความสำคัญในการดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอกให้มีสุขภาพที่แข็งแรง และมีรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์ รวมถึงการเปิดกว้างสู่เทคโนโลยีใหม่ๆที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าอย่างแท้จริง ไรซ์เซร่า จึงได้เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านนวัตกรรมที่แก้ไขปัญหาผิวได้อย่างล้ำลึกแบบ Multi-Lifting หรือการเข้าแก้ปัญหาผิวสูงสุดถึง 4 ชั้นผิว เพื่อเข้าเร่งแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด

อีกทั้งยังบรรจงคัดสารสกัดจากธรรมชาติที่ดีที่สุดจากทุกมุมโลก โดดเด่นที่สุดด้วยการผสมผสานนมผึ้ง (Royalbiocyte PX) ที่ได้รับรางวัลการันตีว่า ‘ช่วยลดการระคายเคืองบนผิวหนังที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2017 จากเวที BSB Innovation Prize’ พร้อมอัดแน่นด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ได้รับขนานนามว่าเป็น ‘ราชินีแห่งเวชศาสตร์การชะลอวัย’ อย่าง Promogranate Extract ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxident) และ Vitamin B3

ไม่เพียงเท่านั้น ไรซ์เซร่าเจาะจงเลือกใช้เฉพาะ Collagen Dipeptide จากผู้ผลิตที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น        คอลลาเจน อันดับ 1 ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ Trademark ชื่อดังอย่าง Wellnex ในเครือบริษัท Nitta Gelatin ที่ออกแบบมาเฉพาะผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เพื่อประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่านั้น พร้อมผสานนวัตกรรมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวอย่าง D-Factor ที่เข้าช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว และเพิ่มความยืดหยุ่นในผิวชั้นหนังกำพร้า และยังมี BIOGF-M ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างและฟื้นฟูเซลล์ในร่างกายให้ผิวดูกระชับ รวมถึง SOYSQUALA ตัวช่วยสำคัญที่จะนำพาคุณค่าของวิตามิน แร่ธาตุและคุณประโยชน์ต่างๆเข้าสู่ชั้นผิวชั้นลึกสุดอย่างหนังแท้ได้อย่างล้ำลึก

การันตีความปลอดภัยด้วยผลการทดสอบว่า RISERA – The Ultimate Filler and Lifting Ampoule ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง อย่าง Mineral Oil  Paraben (พาราเบน) และ Silicone (ซิลิโคน) อีกทั้งยังผ่านการทดสอบความปลอดภัยต่อผิว ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังยืนยันความปลอดภัยว่า ไรซ์เซร่า ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองจาก สถาบันชั้นแนวหน้าอย่าง Asia Dermscan อีกด้วย

RISERA – The Ultimate Filler and Lifting Ampoule มีวางจำหน่ายแล้วเพียงราคาขวดละ 890 บาท และ RISERA – Special Limited Edition ราคา 2,670 บาท จะได้รับสินค้า ไรซ์เซร่า จำนวน 3 ขวด และ Risera x Milin Headband มูลค่า 2,600 บาท ฟรี โดยสินค้ามีเพียง 500 ชิ้นเท่านั้น เพราะไรซ์เซร่าอยากให้ทุกคนได้อิ่มเอมกับความงามในแบบของตัวเอง ตามคอนเซป ‘The New Era of Beauty’

สหฟาร์ม ยอดส่งออกโตพุ่ง 170,000 ตัน ครองเบอร์ 1 เจ้าธุรกิจไก่ไทย

account_circle

บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) ผู้ผลิตและส่งออกไก่สด ไก่แช่แข็งรายใหญ่ของไทย เปิดข่าวดีรับปี 2567 ผ่านงานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 93 ปี ดร. ปัญญา โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหารบริษัทฯ ประกาศขึ้นครองบัลลังก์ธุรกิจส่งออกไก่สดแช่แข็งไทยสำเร็จ โชว์สุดยอดผลประกอบการปีที่ผ่านมาโตกระฉูดถึง 147% ทำยอดส่งออก 170,000 ตัน

ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี การเงิน และเลขานุการประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) เปิดเผยว่า ภายใต้การกลับเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มกำลังของ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหารบริษัทฯ พร้อมได้มีการประกาศปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ทั้งหมดเมื่อปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สหฟาร์มเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีจำนวนไก่โตเพิ่ม 30% และสามารถทำยอดส่งออกไปยังนานาประเทศทั่วโลก 170,000 ตัน ทำให้ในปีที่ผ่านมา สหฟาร์มกลับมาในฐานะผู้ส่งออกไก่สดแช่แข็งอันดับ 1 ของประเทศไทยอีกครั้ง

จากผลงานของตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของสหฟาร์มที่ยังคงยืนหยัดและรักษามาตรฐานของความเป็นผู้บุกเบิกในภาคธุรกิจส่งออกไก่ไทย สะท้อนวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ ดร.ปัญญา ท่านประธานสหฟาร์ม จากตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมาที่ ดร. ปัญญาได้ทำมาตรฐานฟาร์มไก่ไทย โดยวางระบบ Compartmentalization อันสมบูรณ์แบบ ทำให้สร้างชื่อเสียงแก่วงการไก่ไทย ตลอดจนทั่วโลกเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าสหฟาร์มในฐานะยักษ์ใหญ่ผู้ส่งออกไก่สดแช่แข็งของประเทศไทยนับแต่นั้นเป็นต้นมา จวบจนปัจจุบันที่สหฟาร์มก็ยังยืนหนึ่งในวงการธุรกิจนี้ และภายใต้ปรัชญาการบริหารงาน โปรงแสง น้ำใส สะอาด บริสุทธิ์ ยุติธรรม ของดร.ปัญญา ทำให้ธุรกิจนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น เนื่องจากอณาจักรของสหฟาร์มมีเนื้อที่กว่า 30,000 ไร่ ซึ่งนอกเหนือจากเป็นฟาร์มที่มีมารตฐานระดับโลกแล้ว ยังมีโรงงานแปรรูป โรงงานอาหารสำเร็จรูป บนพื้นที่ 10,000 ไร่ ทั้งในจังหวัดลพบุรี และเพชรบูรณ์ ดังนั้นสหฟาร์มจึงเลือกใช้แรงงานในท้องถิ่นเพื่อเกิดรายได้มากกว่ากำลังเครื่องจักร นอกจากนี้ยังทำให้พนักงานมี Skill ในการตัดแต่งสินค้าได้สวยงาม สินค้าของสหฟาร์มจึงเป็นงาน Handcrafted ที่มีความประณีต และเป็นที่ชื่นชอบแก่ลูกค้าต่างประเทศ

ทั้งนี้เนื่องในโอกาสวาระโอกาสพิเศษ วันคล้ายวันเกิดครบรอบ 93 ปี ดร. ปัญญา โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัทในเครือ ผู้ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญที่เป็นปูชนียบุคคลและสมบัติอันล้ำค่าของสหฟาร์ม ทางบริษัทและชาวสหฟาร์มจึงร่วมใจจัดงานฉลองครบรอบ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าต่างประเทศ ลูกค้าภายในประเทศ ซัพพลายเออร์ สื่อมวลชน อีกทั้งผู้บริหารระดับสูง พนักงานบริษัท พันธมิตร และลูกค้ากิตติมศักดิ์ ที่ให้การสนับสนุนสหฟาร์มมาอย่างยาวนาน และยังถือเป็นโอกาสในการประกาศปีชัยพร้อมเปิดศักราชใหม่ ก้าวเข้าสู่ปีมังกรทอง 2567 โดยได้ทุ่มงบมากกว่า 30 ล้านบาท เนรมิตเวทีซุ้มดอกไม้ และพื้นที่จัดเลี้ยงอันยิ่งใหญ่ สวยงาม ณ บ้านสุขาวดี แหล่งท่องเที่ยวอันเป็นแลนด์มาร์กที่ติดอันดับท็อปของพัทยา เพื่อรองรับแขกผู้มีเกียรตินับพันเข้าร่วมงาน ภายใต้ธีมคอนเซ็ปต์ชุดไทย ตระการตาด้วยแสง สี เสียง และการแสดงพิเศษบนเวทีจากเหล่าผู้บริหาร และ Young Gen ของสหฟาร์มตัวน้อยที่เรียกความประทับใจต่อแขกอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ยังมีแขกผู้ใหญ่คนสำคัญ อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ อีกทั้งคณะผู้บริหารระดับสูงของสหฟาร์ม ขึ้นเวทีร่วมกล่าวแสดงความขอบคุณและอวยพรวันเกิดแก่ ดร.ปัญญา ก่อนจะชมความอลังการณ์ของพลุไฟนานกว่า 10 นาที อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 สหฟาร์ม ยังคงมุ่งมั่นในดำเนินงานภายใต้ปรัชญาการบริหารของ ดร.ปัญญา เช่นที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีแผนในการรีแบรนด์ดิ้ง (Rebranding) ขับเคลื่อนสหฟาร์มด้วยกลยุทธ์ใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในโลกธุรกิจยุคใหม่ ที่พร้อมจะประกาศแผนงานให้ทราบทั่วกันในเร็วๆ นี้ ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ กล่าวทิ้งท้าย

realme ชวนบอกรักด้วยสมาร์ตโฟน! ปรับราคา “realme C53” รับ ก.พ.

account_circle

realme ชวนคุณบอกรักแบบปัง ๆ ด้วยสมาร์ตโฟนแชมป์เปี้ยน! ประกาศดั๊มราคา “realme C53” ทุกสเปกต้อนรับเดือนกุมภาพันธ์ ให้คุณจับจองเป็นของขวัญสำหรับคนพิเศษได้ราคาสบายกระป๋ายิ่งกว่าเดิม ทั้งรุ่นความจุมาตรฐาน 6+128GB เหลือเพียง 4,499 บาท (จากราคาเปิดตัว 4,999 บาท) และรุ่นความจุพิเศษ 8+256GB ในราคาเพียง 5,499 บาท (จากราคาเปิดตัว 5,999 บาท) ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้เป็นต้นไป ที่ realme Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ! (ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/realmeTH/posts/pfbid02Ehh6JyG1xRH57AuifxKBjyr4tHRYT7uwQGzgSi1U9nASPX9LyZuCY4obamdMsgVAl)

realme C53 เจ้าของฉายา “สมาร์ตโฟนแชมป์เปี้ยนแห่งเซกเมนต์” มอบสุดยอดความคุ้มค่าด้วยการอัปเกรดประสิทธิภาพ 4 ฟีเจอร์หลัก ทั้งกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh หน่วยความจำประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยี DRE (Dynamic RAM Expansion) สามารถขยาย RAM ได้อีกเท่าตัว และไฮไลต์ดีไซน์สุดหรูเกินราคา โดดเด่นด้วยฝาหลังแบบ Shiny Champion ที่งดงามด้วยเส้นแสงสปอตไลต์ที่กระจายออกทุกทิศทาง มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 6.74 นิ้ว Refresh rate 90Hz ที่มอบความสวยงาม คมชัด ดูคอนเทต์ได้อย่างลื่นไหลสบายตา จนทำให้ realme C53 ครองตำแหน่งแชม์สมาร์ตโฟนที่ให้สเปกและประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเยี่ยมที่สุดในระดับ Entry-level

วาเลนไทน์นี้ จัด realme C53 เป็นของขวัญแทนใจให้คนพิเศษของคุณเซอร์ไพรส์กันแบบสุด ๆ พร้อม Gadget และสินค้าไอทีสุดล้ำให้เลือกสรรกันอีกมากมายที่ realme Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายชั้นนำใกล้บ้านคุณ!

‘2.2 คุ้มมงลง เที่ยวมงคล’ กับไทยเวียตเจ็ท ตั๋วเริ่มต้น 22 บาท

account_circle

ออกเดินทางเสริมพลังบุญกับสายการบินไทยเวียตเจ็ทด้วยโปรโมชั่น “2.2 คุ้มมงลง เที่ยวมงคล (2.2 Limited Offers)” เสนอบัตรโดยสารราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 22 บาท (ราคาไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม) สำหรับเดินทางบนเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศและระหว่างประเทศของไทยเวียตเจ็ท สามารถสำรองบัตรโดยสารได้ระหว่างวันที่ 1 – 4 กุมภาพันธ์ 2567 ใช้เดินทางได้ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 26 ตุลาคม 2567 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ที่ www.vietjetair.com

บัตรโดยสารราคาโปรโมชั่นนี้สามารถใช้เดินทางได้กับทุกเส้นทางบินบนเครือข่ายเส้นทางบินภายในประเทศของไทยเวียตเจ็ท ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ขอนแก่น และอุบลราชธานี รวมถึงเส้นทางบินข้ามภูมิภาคจาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย และทุกเส้นทางบินบนเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างประเทศของไทยเวียตเจ็ท ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เวียดนาม พนมเปญ สิงคโปร์ ฟูกุโอกะ ไทเป เซี่ยงไฮ้ และหางโจว รวมถึงเส้นทางบินตรงจาก เชียงใหม่ สู่ โอซาก้า ผู้โดยสารสามารถสำรองบัตรโดยสารราคาพิเศษนี้ได้ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com แอปพลิเคชัน “Vietjet Air” หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊กที่ www.facebook.com/VietJetThailand (คลิกที่แถบ “จองเลย”) รวมทั้งตัวแทนจำหน่ายหรือสำนักงานจำหน่ายบัตรโดยสาร พร้อมกันนี้ผู้โดยสารสามารถชำระเงินด้วย “ทรูมันนี่ วอลเล็ท” และบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต

สายการบินไทยเวียตเจ็ทให้บริการครอบคลุม 11 เส้นทางบินภายในประเทศ ได้แก่ เส้นทางบินจาก กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต กระบี่ อุดรธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี รวมถึงเที่ยวบินข้ามภูมิภาค จาก ภูเก็ต สู่ เชียงใหม่ และเชียงราย พร้อมกันนี้ สายการบินฯ ได้ขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่หลากหลายจุดหมายปลายทางในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เชื่อมต่อประเทศไทยกับเวียดนาม จีน สิงคโปร์ กัมพูชา ญี่ปุ่น ไทเป และอีกหลายจุดหมายปลายทางทั่วทั้งภูมิภาค

Guilty Bangkok เปิดตัว ‘La Noche Loca’ Night Brunch

account_circle

Guilty Bangkok (กิลตี้ แบงค็อก) ห้องอาหารสไตล์อเมริกาใต้ เปิดตัวคอนเซ็ปต์ใหม่  ‘La Noche Loca’ Night Brunch บรั๊นช์ยามเย็นทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ หวังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ชื่นชอบการสังสรรค์ ปาร์ตี้ และแฮงเอาท์ ไวบ์สุดชิค โดยสามารถเพลิดเพลินกับมื้อเย็นในสไตล์ Southอเมริกัน รสชาติจัดจ้าน มีให้เลือกหลากหลาย พร้อมดื่มด่ำกับเครื่องดื่มอาทิ ค็อกเทล, เบียร์, ไวน์ และแชมเปญเสิร์ฟไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม นอกจากนี้ ยังมีความบันเทิงจากดีเจชั้นนำ เพื่อมอบประสบการณ์ความสนุกสนาน คึกคักในสไตล์ของ Guilty Bangkok ให้ครบรสมากยิ่งขึ้น 

สำหรับความพิเศษของ  ‘La Noche Loca’ Night Brunch คุณจะได้อิ่มอร่อยไปกับสารพัดอาหารสไตล์อเมริกาใต้, อาหารเปรูเวียนที่ผสมผสานวัฒนธรรมของอาหารนิเคอิ เสิร์ฟแบบไม่จำกัด ตั้งแต่ Appetizer และ Hot Appetizer ในแบบพอดีคำ อาทิ กัวคาโมเล่, Jicama Mango Salad สลัดมะม่วงและ  อโวคาโดเปรี้ยวหวานกำลังดี, หมูสามชั้นบาร์บีคิว, เชวิเซ่ปลากระพง, หอยเชลล์ฮอกไกโดย่างฉ่ำ, ทอสตาดาหน้ากุ้ง, โครเกต์ชีสและผักขมท็อปด้วยมายองเนสและเครื่องเทศเปรู ฯลฯ  

โดยมี 2 แพคเกจให้เลือกคือราคา 1,950++ บาทต่อท่าน (รวมอาหาร,ของหวานและเครื่องดื่มค็อกเทล/ไวน์/เบียร์ Free Flow) และราคา 3,700++ บาทต่อท่าน (รวมอาหาร,ของหวานและเครื่องดื่มค็อกเทล/ไวน์/เบียร์และแชมเปญ Free Flow)

นอกจากนี้ ยังมีเมนูซิกเนเจอร์ของ Guilty ที่สามารถเลือกสั่งเพิ่มในแบบ A-La-Cart ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย, อาหารจานหลัก รวมถึงของหวาน ในราคาเริ่มต้นที่ 425++ บาท ถึง 4,750++บาท อาทิ เมนู Australian Wagyu T-Bone Grade 5 อีกด้วย

  Guilty Bangkok (กิลตี้แบงค็อก) ชวนมาเชคอินประเดิมสีสันความสนุกกับคอนเซ็ปต์การรับประทานอาหารมื้อค่ำใหม่แบบอัลลิมิเตท ‘La Noche Loca’ Night Brunch ได้ทุกวันศุกร์ และเสาร์ตั้งแต่เวลา 20.00-22.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่โทร.0-2126-8866

keyboard_arrow_up