- Page 3 of 56

ชอบกินผัก รักสุขภาพ ดูแลรูปร่าง รู้หรือไม่ว่า ‘ผักสลัด’ แต่ละชนิด มีประโยชน์ต่างกันอย่างไรบ้าง

ผักสลัด เมนูหลักสำหรับคนรักสุขภาพ “สลัด” ที่ปรุงจากผักสลัดชนิดต่างๆ มีให้เลือกกันมากมาย ทั้งสลัดใบเขียวอ่อน เขียวเข้ม สีแดงๆ หน่อย ผักสลัดเหล่านี้ บางครั้งก็ไปเป็นเครื่องเคียงในอาหารจานโปรด บางครั้งก็ไปเป็นพระเอกในจานสลัด กับน้ำสลัดที่มีให้เลือกกันมากมายหลายชนิด หลายคนกินแล้วติดอกติดใจ แต่ก็อาจไม่รู้ว่าผักสลัดแต่ละชนิดนี่มีชื่อเรียกว่าอะไร แล้วมีประโยชน์อย่างไรกันบ้าง 1. กรีนโอ๊ค (Green Oak)ผักชนิดนี้จะเป็นรูปทรงพุ่มๆ ใบหยัก มีสีเขียว ใบจะนิ่มๆ อ่อนๆ ฟูๆ จับแล้วจะนุ่มมือ คล้ายกับผักกาดหอม เดิมกรีนโอ๊คเป็นผักที่ปลูกในต่างประเทศ ต่อมามีการนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากประเทศฮอลแลนด์เข้ามาในประเทศไทย จนทุกวันนี้มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายจนเป็นหนึ่งในผักยอดนิยมของคนรักผัก ก็เพราะความนุ่มของใบที่ทำให้ซึมซับน้ำสลัดได้ง่าย เมื่อเอามาปรุงจึงได้รสชาติที่อร่อย กินง่าย ประโยชน์เด่นๆ ของกรีนโอ๊ค คือ การช่วยในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือด บำรุงสายตา อุดมไปด้วยวิตามิน และเอนไซม์ที่มีประโยชน์ สามารถนำกรีนโอ๊คไปกินคู่กับเมนูที่หลากหลาย อย่างเช่น นำไปทำเป็นซูชิ พล่า ได้ 2. เรดโอ๊ค (Red Oak)ชื่อคล้ายๆ กับกรีนโอ๊ค นั่นเป็นเพราะรูปทรงที่คล้ายกัน จะแตกต่างกันก็ที่สีสันของผักทั้งสองชนิด เรดโอ๊คจะมีสีแดงเข้มบริเวณขอบใบ และกลางใบจะมีสีเขียวเข้ม ใบหยักนุ่ม […]

ประจำเดือนขาด แต่ ‘ไม่ท้อง’ อาจเป็นสัญญาณเตือนภาวะ PCOS 

เคยไหม? ประจำเดือนขาด ๆ หายๆ แอบดีใจคิดว่าท้อง แต่หลังตรวจตั้งครรภ์กลับพบว่าไม่ท้อง นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีภาวะ PCOS ซึ่งส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไข่ไม่ตก ส่งผลให้ท้องยาก   สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนขาดหาย เกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น อาหารที่กิน ความเครียด และการออกกำลังกายที่มากไปหรือน้อยไป หรือมีภาวะน้ำหนักตัวน้อยหรือมากเกินไป มีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ที่ผิดปกติ การสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่เกี่ยวกับข้องภาวะเจริญพันธุ์ในผู้หญิง เมื่อฮอร์โมนไม่สมดุลจึงส่งผลให้ไข่ไม่ตก และอาจส่งผลให้ไข่ไม่ตกเรื้อรังสะสมเป็นถุงน้ำในรังไข่เล็กๆ หลายใบ ซึ่งเรียกภาวะนี้ว่า PCOS หรือ Polycystic Ovary Syndrome ซึ่งอาจจะมีในรังไข่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง จึงทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ รอบประจำเดือนที่ปกตินั้นจะมีระยะเวลา 28 วัน หากรอบประจำเดือนน้อยกว่า 21 วัน หรือยาวเกินไป 35 วัน หรือประจำเดือนขาดหายไป 1 – 2 เดือน ในช่วงวัยเจริญพันธุ์และได้ทำการทดสอบการตั้งครรภ์แล้ว หากไม่ได้ตั้งครรภ์ อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนของการทำงานของระบบสืบพันธุ์ที่ผิดปกติ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือปัญหาที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์อื่นๆ เช่น 1. ความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ในผู้หญิง ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) หรือ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งต้องพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุอย่างละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุใด […]

‘วัยทองในผู้หญิง’ สามารถชะลอหรือรักษาได้หากรู้เท่าทันฮอร์โมน และเตรียมพร้อม 5 ข้อดูแลตัวเองแต่เนิ่นๆ

บางครั้งรู้สึกหงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่ดี ซึมเศร้า ไม่อยากทำอะไร จนแอบสงสัยว่าเป็นวัยทองหรือเปล่า? เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยๆ แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมวัยทองแล้วต้องหงุดหงิด หรือนอกจากนี้ในช่วงวัยทองยังมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง แล้วใครบ้างที่เข้าข่ายวัยทอง จะมาไขข้อสงสัย พร้อมกับวิธีรับมือกับวัยทองกัน วัยทองในผู้หญิง ก็คือวัยที่หมดประจำเดือน หรือเริ่มจะหมดประจำเดือน ช่วงอายุประมาณ 45-55 ปี ซึ่งระดับฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป โดยฮอร์โมนที่สำคัญในเพศหญิงก็คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) เมื่ออายุมากขึ้นการสร้างฮอร์โมนไม่สมดุล มีการลดลงของระดับเอสโตรเจน จึงส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายหลายอย่าง ได้แก่ เมื่อก่อนปัญหาวัยทองเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องเจอ และทำใจยอมรับด้วยเหตุผลว่าเป็นไปตามวัย แต่อาการวัยทองสามารถชะลอหรือรักษาได้ถ้าเรารู้เท่าทันฮอร์โมนในร่างกายของเรา และเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้าสู่วัยทองเนิ่นๆ โดยสามารถดูแลตัวเองได้ง่าย คือ หากปฏิบัติตามนี้แล้ว ยังมีอาการวัยทองรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ทำงานไม่ได้หงุดหงิด นอนไม่หลับ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อตรวจวัดความสมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกาย และรับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน วัยทองไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรือเรื่องที่ต้องทำใจยอมรับโดยไม่มีทางแก้ไข แต่เราสามารถเตรียมตัวรับมือกับวัยทองได้ โดยไม่ต้องรอให้ถึงวัยทอง ยิ่งเริ่มดูแลตัวเองเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ข้อมูล: พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine […]

เตือน ‘ปัสสาวะเป็นเลือดหรือผิดปกติ’ อย่าชะล่าใจอาจเสี่ยง ‘มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ’

ใครที่มีอาการ ปัสสาวะเป็นเลือด อย่าชะล่าใจ ไม่ว่าจะปัสสาวะปนเลือดสดหรือมีสีน้ำตาลคล้ำ ปัสสาวะปนลิ่มเลือด ปัสสาวะไม่ออก ควรรีบพบแพทย์เพื่อค้นหาความผิดปกติ เพราะอาจเสี่ยงเป็น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ได้ ซึ่ง ปัสสาวะเป็นเลือด คือการที่มีเม็ดเลือดแดงปนมากับปัสสาวะ ถ้าเลือดมีปริมาณมากพอจะสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ อาจมีลักษณะเป็นเลือดสด สีน้ำตาลคล้ำ สีแดงจางคล้ายน้ำล้างเนื้อ หรือเป็นลิ่มเลือด โดยเฉพาะลิ่มเลือดถ้าเกิดในปริมาณมากจะนำไปสู่การอุดตันของท่อปัสสาวะทำให้ปัสสาวะไม่ออกได้ ถ้ากรณีเลือดที่ออกมามีปริมาณเพียงเล็กน้อยมักจะพบปัสสาวะมีสีเหลืองใสปกติ ต่อเมื่อนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการจึงจะพบเม็ดเลือดแดงที่อาจปนมาในปัสสาวะเป็นจำนวนที่มากเกินค่าปกติ ซึ่งกรณีนี้มักตรวจพบเจอจากการตรวจสุขภาพประจำปีโดยอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ได้ สาเหตุของการมีเลือดออกในปัสสาวะนี้ สามารถพบได้ตั้งแต่โรคนิ่วในระบบปัสสาวะ ทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ ต่อมลูกหมากโต การบาดเจ็บของอวัยวะในระบบปัสสาวะ ภาวะเลือดออกง่าย จนไปถึงมะเร็งในระบบปัสสาวะ ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 20 ของผู้ที่ปัสสาวะเป็นเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีอาการเจ็บปวดร่วมด้วยก็จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะพบมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมากยิ่งขึ้น กรณีที่ปัสสาวะเป็นเลือดควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการนำปัสสาวะไปตรวจโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ หากพบเม็ดเลือดแดงมากกว่า 3 ตัวจะเป็นการยืนยันว่ามีภาวะเลือดออกในปัสสาวะจริง จากนั้นจะมีการตรวจวินิจฉัยเพื่อตรวจดูทางเดินปัสสาวะส่วนบน ได้แก่ ไตและท่อไต ด้วยเอกซเรย์ระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบน ร่วมกับการส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy) เพื่อตรวจดูเยื่อบุบริเวณทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ได้แก่ กระเพาะปัสสาวะ หากมีมะเร็งกระเพาะปัสสาวะก็จะสามารถตรวจพบก้อนเนื้อจากการส่องกล้องดังกล่าว ในกรณีพบก้อนเนื้อบริเวณเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะแพทย์จะทำการเก็บชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาว่ามีลักษณะเป็นมะเร็งหรือไม่ หากพบว่ามีมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ จะได้รับการรักษาโดยวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับความลึกของมะเร็งว่าลุกลามถึงชั้นกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะหรือไม่ โดยถ้ามะเร็งยังอยู่ภายในชั้นเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะ กล่าวคือยังไม่ลุกลามถึงชั้นกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ การรักษาคือการผ่าตัดผ่านทางกล้องส่องกระเพาะปัสสาวะเพื่อตัดก้อนมะเร็งของจากเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะ […]

ไม่ใช่แค่ท้องเสีย! อาการและอาหารที่ควรระวังเสี่ยงเกิด ‘โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน’

อากาศร้อนๆ แบบนี้ หากใครมีอาการท้องเสีย ก็อย่าชะล่าใจ ลองสังเกตตัวเองจะได้รักษาให้ถูกอาการ ซึ่ง โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน หรือการถ่ายอุจจาระเหลว หรือเป็นน้ำ 3 ครั้งขึ้นไปภายใน 24 ชม. และมีอาการมานานไม่เกิน 7 วัน อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง ไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว ซึ่งบทความนี้ได้อธิบายอาการของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันเอาไว้อย่างละเอียด สำหรับนำไปสังเกตตนเองและคนรอบข้าง หากมีอาการดังกล่าวจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างทันท่วงที โดยสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว หรือได้รับพิษของแบคทีเรียที่ปนเปื้อนในอาหาร เป็นต้น อาการของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน สาเหตุของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน นอกจากนั้นยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ใช่การติดเชื้อ ได้แก่ การกินอาหารรสจัด หรืออาหารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองของระบบทางเดินอาหาร ภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง การได้รับยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาเบาหวานบางชนิด ยารักษาโรคเก๊าท์ ยาระบาย อาหารที่อาจเป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน วิธีดูแลตัวเองหรือคนใกล้ชิดเมื่อมีอาการอุจจาระร่วงเฉียบพลัน วิธีป้องกันโรคอุจจาระร่วง ข้อมูล: พญ.จิตราภา แสนโภชน์ อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคระบบทางเดินอาหาร […]

ทำความรู้จัก ‘คาร์โนซีน’ สารอาหารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมอง

แม้ว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพ เพื่อป้องกันก่อนเกิดโรคกันมากขึ้น แต่หลายคนอาจจะลืมไปว่า “สมอง” ก็เป็นอวัยวะที่ต้องการการบำรุงเช่นกัน วันนี้จะพาไปทำความรู้จัก ‘คาร์โนซีน’ สารอาหารช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมอง  จากข้อมูลของกรมการปกครอง ในเดือนกันยายน ปี 2566 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปี จำนวน 13,043,793 คน หรือคิดเป็น 19.74% ของประชากรทั้งประเทศ 66,061,517 คน ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ โดยประชากรกลุ่มผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ความผิดปกติของระบบประสาทและสมอง การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และภาวะทุพพลภาพต่างๆ  ปัญหาหนึ่งของสังคมสูงวัย คือการลดลงของสัดส่วนจำนวนประชากรวัยทำงานที่รองรับผู้สูงอายุหนึ่งคน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการของผู้สูงอายุที่ประชากรวัยทำงานต้องแบกรับนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไมได้ ดังนั้น การส่งเสริมให้ประชากรเข้าสู่วัยผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ และการยืดอายุขัยของประชากรพร้อมสุขภาพที่ดี จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของสังคมในอนาคต ซึ่งผลการวิจัยจำนวนมากระบุว่า ‘คาร์โนซีน’ (Carnosine) ซึ่งเป็นไดเปปไทด์ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนสองชนิดมารวมกัน มีส่วนช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของสมองส่วนหน้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประมวลผล การตัดสินใจ ความคิด กระตุ้นการทำงานของสมองและระบบประสาท เพิ่มสมาธิและการจดจ่อ รวมถึงชะลอความเหนื่อยล้าของสมองและช่วยลดความกังวล แม้ร่างกายจะสามารถสร้างคาร์โนซีนได้เอง แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการสร้างคาร์โนซีนอาจลดน้อยลง นอกจากนี้ ร่างกายสามารถรับคาร์โนซีนจากการบริโภคเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น ไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อปลา ไข่ เท่านั้น […]

เหตุผลที่แต่ละช่วงอายุ ควรต้อง ‘ตรวจสุขภาพ’ ต่างกัน มีปัจจัยอะไรบ้าง

ปีนี้คุณตรวจเช็คอัพสุขภาพกันหรือยัง? ปัจจุบันมีโปรแกรมตรวจหลากหลายมากเลย แต่ที่สำคัญต้องเลือกให้เหมาะกับแต่ละช่วงอายุ สามารถตรวจได้ทุกช่วงวัย เพื่อค้นหาความเสี่ยงหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเหตุผลที่ทำไมแต่ละช่วงอายุ ตรวจสุขภาพ ต่างกัน เพราะในแต่ละช่วงอายุ ร่างกายเรามีความเสื่อม และปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ เพศหญิงและเพศชาย ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกัน โดยนอกจากจะมีความเสื่อมของอวัยวะแล้ว ยังมีในเรื่องของฮอร์โมน ค่าทางชีวเคมีต่างๆ ในร่างกายที่เสื่อมลงอีกด้วย นอกจากการตรวจสุขภาพตามช่วงวัยแล้ว อาจตรวจเพิ่มในกรณีที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม เช่น ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง โรคหัวใจ หรือมีการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เป็นต้น หมอขอยกตัวอย่างการตรวจ และความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพของแต่ละช่วงวัย ดังนี้ค่ะ นอกจากการตรวจสุขภาพตามช่วงวัยแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงถึงอีกอย่างก็คือ การฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันก็เริ่มอ่อนลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อบางชนิดได้ง่าย และอาจเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรงได้มากกว่าอายุยังน้อย เช่น ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ งูสวัด เป็นต้น ข้อมูล: พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จากศูนย์ตรวจสุขภาพแอดไลฟ์ ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)ภาพ: Pexels

อาหารแบบไหน? ที่ควรระวังอาจทำให้เป็นพิษ เสี่ยงเกิดโรคยอดฮิตในหน้าร้อน

เดือนนี้ไทยกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนเต็มสูบจนถึงขั้นอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 42 องศา และไม่รู้จะสูงขึ้นไปกว่านี้อีกหรือไม่ ซึ่งการเลือกกินอาหารในช่วงหน้าร้อนนี้ นับเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดูแลสุขภาพ หากกินอาหารเป็นพิษเข้าไปสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียเข้าไป อาจจะทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสียถ่ายเหลวตามมา อาการเหล่านี้ทำให้สงสัยว่า “อาหารเป็นพิษ” บทความนี้จึงมาอธิบายถึงลักษณะอาหารที่ก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย สำหรับนำไปสังเกตตนเองและคนรอบข้าง เพื่อจะเลือกกินอาหารในช่วงหน้าร้อนให้ถูกสุขลักษณะที่สุด อาหารเป็นพิษ ประเภทไหนที่สามารถอาจจะก่อให้เกิดโรคในช่วงฤดูร้อน มีดังต่อไปนี้ 1.อาหารที่มีกะทิอาหารที่มีกะทิเมื่อตั้งทิ้งไว้นานช่วงหน้าร้อนจะทำให้บูด เสียได้ง่าย เช่น แกงกะทิ ขนมหวานที่ใส่กะทิ หรือราดน้ำกะทิ 2.ผักสดผักที่มาจากแหล่งผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน มีโอกาสพบสารปนเปื้อน ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี และอาจเสี่ยงมีเชื้อ Enteroaggregative E. coli ที่มากับมูลของสัตว์ ซึ่งบางร้านล้างผักไม่สะอาด ทำให้ผู้กินอาจเกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เช่น สลัดผัก ผักแกล้ม ผักแนม ผักจิ้ม 3.ส้มตำ ยำ ขนมจีนกลุ่มอาหารเหล่านี้เป็นกลุ่มอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนอย่างทั่วถึง จึงทำให้ปนเปื้อนจุลินทรีย์ได้ง่าย ส้มตำ และยำต่างๆ บางร้านอาจใช้น้ำปลาร้าไม่ได้มาตรฐาน ถั่วลิสงอาจขึ้นรา กุ้งแห้งใส่สี และมีรสชาติที่เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ซึ่งระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร ส่วนเส้นขนมจีนทำมาจากแป้ง รวมถึงน้ำยากะทิ […]

อาการปวดหัวแบบไหนคือ ‘ไมเกรน’ พร้อมแนะวิธีเลี่ยงปวดไมเกรนด้วยตัวเองเบื้องต้น

เวลาเกิดอาการปวดหัว มักมีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไมเกรน ซึ่งความจริงแล้วอาจเป็นแค่อาการปวดตึงจากกล้ามเนื้อแค่นั้น แล้วอาการแบบไหนที่เรียกว่า ‘ไมเกรน’ และเมื่อมีอาการจะบรรเทาด้วยตัวเองหรือป้องกันความเสี่ยงจะเกิดอาการปวดไมเกรนได้อย่างไร มาหาคำตอบกัน อาการปวดไมเกรน จะมีลักษณะของอาการปวดที่รุนแรง มากถึงมากจนแทบทนไม่ไหว ปวดแบบไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆ ต่อได้เลย ส่วนมากจะปวดแบบตุบๆ เพียงด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ นอนพักอาการก็ไม่ดีขึ้น ฯลฯ ไม่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร ในทางการแพทย์ไม่พบสาเหตุที่แน่นอนที่ทำให้เกิดอาการปวดไมเกรน แต่จะพบว่าตัวรับรู้ในผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงศีรษะจะไวต่อความรู้สึกมากกว่าปกติ และมีผลมาจากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่ง ปัจจัยภายใน เช่น ความเครียด การนอนพักผ่อนไม่พอ ฯลฯ ส่วนปัจจัยภายนอก เช่น แสงจ้า เสียงดัง กลิ่นฉุน อากาศร้อนหรือแปรปรวน การดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสม กินอาหารที่มีสารให้ความหวาน อาหารที่เป็นของหมักดอง ฯลฯ ก็มีส่วนทำให้เกิดไมเกรนได้ สำหรับ อาการปวดตึงจากกล้ามเนื้อเกร็งเรื้อรัง มีความต่างจากไมเกรนชัดเจน อาการปวดตึงจะปวดแน่นๆ หนักๆ ทั้งศีรษะมักร่วมกับอาการปวดท้ายทอย คอ บ่า ร้าวเข้ากระบอกตา ร้าวขึ้นศีรษะ ร้าวลงสะบัก และมักร่วมกับการเคลื่อนไหวคอไม่คล่อง บ่าและก้านคอจะหนักๆ ตึงๆ อาการจะเป็นมากเมื่อต้องใช้กล้ามเนื้อหนัก เช่น ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่อง […]

เดาอารมณ์ไม่ถูก! วิธีการรับมือ เมื่อคนใกล้ชิดเป็น โรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว

เนื่องจากวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นวันไบโพลาร์โลก World bipolar day ซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อให้ตระหนักถึงปัญหา สร้างความรู้ความเข้าใจ และเปิดใจให้กับโรคไบโพลาร์ เพราะครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการดูแลให้ผู้ป่วยกินยาและปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษา คอยให้กำลังใจ สังเกตอาการ ควบคุมกิจกรรมที่ผู้ป่วยทำในช่วง Mania และคอยรับฟังผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งวิธีสังเกตอาการ สาเหตุ วิธีที่ควรเลี่ยงในการดูแลผู้ป่วย โรคไบโพลาร์ สำหรับนำไปสังเกตตนเองและคนรอบข้าง หากมีอาการดังกล่าวจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อจะได้เข้าใจ และดูแลคนรอบข้างที่เป็นผู้ป่วยโรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์ 2 ขั้ว ได้ถูกต้อง สาเหตุโรค ปัจจุบันเชื่อว่าสาเหตุของความผิดปกติทางอารมณ์นั้น มีได้หลายสาเหตุซึ่งแบ่งออกได้เป็น วิธีสังเกตอาการ โรคไบโพลาร์ เป็นโรคที่มีความผิดปกติของอารมณ์เป็นหลัก มีอาการแสดงออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีลักษณะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่างอาการสองกลุ่มข้างต้น โดยอาการในแต่ละกลุ่มอาจเป็นอยู่นานเป็นสัปดาห์ หรือหลายๆ เดือนก็ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยทั้งในด้านการงาน การประกอบอาชีพ ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และการดูแลตนเองอย่างมาก ทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ วิธีดูแลผู้ป่วยเนื่องจากโรคนี้เกิดจากการเสียสมดุลของสารสื่อนำประสาท ดังนั้น ยา จึงเป็นปัจจัยหลักของการรักษาที่ช่วยปรับระดับสารสื่อนำประสาทให้เข้าสู่สมดุล ปัจจุบันมียาอยู่หลายชนิดที่มีประสิทธิภาพในการรักษา ไม่ทำให้ติดยาเมื่อใช้ในระยะยาว แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 […]

แผนออกกำลังกายที่สมดุล คืออะไร? เพื่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่เร็ว และเริ่ดกว่าเดิม

ปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายใหม่ด้วย แผนออกกำลังกายที่สมดุล เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและเร็วขึ้น เริ่มต้นด้วยการค้นหาสิ่งที่ยังขาดหายไปจากตารางการออกกำลังกายของตัวเอง โดยแนวทางที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงมีสุขภาพดี คือการเลือกใช้แนวทางที่สมดุล เพราะการฝึกที่สมดุลและมีระเบียบแบบแผนจะช่วยให้ออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอาการบาดเจ็บ และอาจพัฒนาผลการฝึกโดยรวมให้ดีขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองได้เร็วกว่าเดิม  ส่วนที่อยากแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกายไว้คือ เราทุกคนต่างก็มีการออกกำลังกายแบบที่ชอบและไม่ชอบ ให้เราปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายโดยยึดตามสิ่งที่เรารัก ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้เรามีแรงบันดาลใจและยอมทุ่มเทเพื่อบรรลุเป้าหมาย โดยองค์ประกอบสำคัญที่ทุกแผนการออกกำลังกายที่ดีควรมี ได้แก่  การยืดกล้ามเนื้อ การยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำช่วยให้เรามีความมั่นใจและทำให้เราคุ้นเคยกับรูปแบบการเคลื่อนไหวของร่างกายในท่าต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งยังช่วยพัฒนาให้ข้อต่อมีความมั่นคง กล้ามเนื้อยืดหยุ่น และลดความตึงของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย การวอร์มอัพโดยการยืดกล้ามเนื้อด้วยท่าที่เน้นการเคลื่อนไหว (Dynamic Stretching) และการยืดกล้ามเนื้อแบบยืดเหยียดค้างไว้หลังการออกกำลังกาย (Static Stretching) อาจจะกินเวลาเพียง 10 นาที แต่สามารถสร้างความรู้สึกที่แตกต่างได้มาก ดังนั้นอย่าลืมวอร์มร่างกายก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง และปิดท้ายด้วยคูลดาวน์ คาร์ดิโอ เป็นกิจกรรมที่ดีต่อหัวใจ หลอดเลือด และเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกิน เพราะว่าหัวใจของเราคือกล้ามเนื้อ ดังนั้นการกระตุ้นให้หัวใจได้ทำงานหนัก 2-3 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น หากคุณทำกิจกรรมที่กระตุ้นสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเป็นประจำอยู่แล้ว ก็อาจช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักช้าลง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว มีกิจกรรมมากมายให้เลือก การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ ทุกกีฬาล้วนแล้วแต่เป็นที่นิยม แต่ไม่ว่าจะเลือกออกกำลังกายแบบไหน หากเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นถือว่าได้ผลดีทั้งนั้น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายแบบหนัก 75 นาทีต่อสัปดาห์ หรือทั้งสองอย่างผสมผสานกัน ถือเป็นความถี่ที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ฝึกความแข็งแกร่ง เมื่อเราเพิ่มการฝึกแบบใช้แรงต้านในตารางการออกกำลังกายประจำวัน เราจะเริ่มรับรู้ถึงรูปร่างและความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ไขมันส่วนเกินในร่างกายจะหายไป ส่วนมวลกล้ามเนื้อจะเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เพียงส่งผลดีต่อรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ร่างกายที่มีมวลกล้ามเนื้อในปริมาณมากจะใช้แคลอรี่ในการรักษากล้ามเนื้อมากกว่าคนที่มีน้ำหนักเท่ากันแต่มีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายสูงกว่า […]

อาการอะไรที่ต้องเฝ้าระวังว่าจะเป็น ‘โรคหืด’ และใครคือกลุ่มเสี่ยง?

โรคหืด เป็นผลจากการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม โดยแสดงอาการได้หลายรูปแบบ เช่น ไอ แน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หายใจเสียงหวีด ซึ่งอาการโรคหืด มักมีความแตกต่างในแต่ละบุคคล ทั้งในด้านอาการแสดง และความรุนแรง อาการอาจกลับเป็นซ้ำ หรือกำเริบ เมื่อมีปัจจัยกระตุ้น เช่น การติดเชื้อ การสัมผัสสิ่งกระตุ้นที่แพ้ หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง ซึ่งผู้ป่วยหอบหืด มีลักษณะหลอดลมไวต่อสิ่งกระตุ้น ดังนั้นเมื่อสัมผัสสารกระตุ้น หรือภาวะที่กระตุ้น จะทำให้เกิดภาวะหลอดลมตีบเฉียบพลันรุนแรง และอาจเสียชีวิตได้ หากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที อาการอะไรที่ต้องเฝ้าระวังว่าจะเป็นโรคหืด? ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ ควรเฝ้าระวังว่าจะมีโอกาสเป็นโรคหืด เมื่อไหร่ควรสงสัยว่าเป็นโรคหืด? การวินิจฉัยต้องประกอบด้วย 2 ส่วน ใครคือกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะเป็นโรคหืด? เนื่องจากโรคหืด สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม และพบว่าสัมพันธ์กับภาวะภูมิแพ้บางอย่าง ดังนั้น หากมีประวัติอาการระบบทางเดินหายใจช่วงวัยเด็ก ประวัติเยื่อบุจมูกอักเสบจากภาวะภูมิแพ้ หรือภูมิแพ้ผิวหนัง ของทั้งตัวเองและคนในครอบครัว อาจต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการระบบหายใจที่เข้าได้กับอาการแสดงของโรคหืด เมื่อสงสัยว่าเป็นโรคหืดควรทำอย่างไร?พิจารณาเข้าพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาอย่างเหมาะสม อีกทั้งควรได้รับคำแนะนำในการปฎิบัติตัว เรียนรู้การรักษาภาวะเบื้องต้นหืดกำเริบเฉียบพลัน คนไข้โรคหืดอาการแบบไหน? ที่ควรรีบพ่นยา และมาพบแพทย์หากผู้ป่วยโรคหืด รู้สึกว่าอาการหืดกำเริบเฉียบพลันรุนแรง อันได้แก่ แนะนำให้พ่นยาขยายหลอดลมพ่นสูดชนิดออกฤทธิ์เร็ว และรับนำส่งโรงพยาบาลทันที […]

สายหวาน สายคาเฟ่ ‘กินเบเกอรี่อย่างไร’ ให้มีความสุข ไม่เสียสุขภาพ

ขนมหวานต่างๆ โดยเฉพาะเบเกอรี่ เป็นอาหารหวานของโปรดของใครหลายคน โดยเฉพาะสุภาพสตรีในยุคปัจจุบัน รวมทั้งสุภาพบุรุษด้วย เปรียบเสมือนยาชโลมจิตใจเป็นวิธีการผ่อนคลายอารมณ์ ลดความเครียด มีความสุขได้ง่าย ใช้ต้นทุนทางเวลาต่ำ เพราะสามารถกินได้โดยทั่วไป เห็นแบบนี้มีทริกินเบเกอรี่อย่างไร ไม่เสียสุขภาพ ซึ่งจะเป็นการดี ถ้าจะมีความสุขจากการกินเบเกอรี่ โดยที่ไม่ส่งผลต่อการเกิดโรคในอนาคต เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ เป็นต้น เลือกกิน เบเกอรี่อย่างไร ให้อย่างเหมาะสมเพื่อสุขภาพที่ดี มีดังนี้ 1. กินอาหารอย่างสมดุล ให้ได้พลังงานหรือแคลอรีเพียงพอกับอายุและสภาวะของร่างกายขณะนั้น 2. กินอาหารในช่วงเวลาที่ร่างกายได้เผาผลาญ ใช้พลังงานในระหว่างวัน หลีกเลี่ยงการกินอาหารในช่วงเวลาพลบค่ำหรือก่อนนอน 3. ถ้ารักที่จะกินเบเกอรี่ ควรเลือกเบเกอรี่ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ เช่น นอกจากนี้ในปัจจุบันเป็นยุคที่กระแสด้านสุขภาพมาแรง การใช้แป้งต้านทานการย่อยหรือแป้งทนย่อย (Resistant Starch) มาเป็นวัตถุดิบช่วยให้ผู้บริโภค ไม่ต้องเปลี่ยนวิถีของการกินมากนัก เพราะเป็นแป้งที่สามารถต้านทานการถูกย่อยด้วยเอนไซม์ในระบบทางเดินอาหารตอนต้น ซึ่งจะไม่ถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็ก เมื่อไม่ถูกดูดซึม จึงทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานและผู้มีปัญหาด้านสุขภาพได้ดีขึ้น และเมื่อแป้งทนย่อยเดินทางไปถึงลำไส้ใหญ่ ยังเป็นแหล่งอาหารสำหรับจุลินทรีย์กลุ่มที่ดีต่อสุขภาพของคนเราได้อีกด้วย ต่อมาเมื่อถูกย่อยโดยจุลินทรีย์กลุ่มที่มีประโยชน์กับร่างกายในลำไส้ ใหญ่ ก็ยังให้ผลผลิตออกมาเป็นกรดไขมันสายสั้น เช่น อะซิเตต (C2) โพรพิโอเนต (C3) […]

เช็คลิสต์ 10 สัญญาณเตือน ‘ฮอร์โมนไม่สมดุล’ อาจทำร่างพัง อารมณ์เพี้ยน

ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่นอกจากการมี Work-Life Balance สร้างความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงาน และชีวิตส่วนตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ส่งผลต่อการมีสุขภาพดี ครอบครัวมีความสุขมากยิ่งขึ้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ Hormone Balance หรือ การสร้างสมดุลฮอร์โมน เพราะฮอร์โมนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยการทำงานของร่างกายในระบบที่จำเป็น ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำงานประสานกันได้อย่างเป็นระบบ ดังนั้น สมดุลของฮอร์โมนเพศจึงมีความสำคัญต่อระบบประสาทในการควบคุมอารมณ์ การนอนหลับ สมรรถภาพทางเพศ รวมถึงระบบการสร้างพลังงานของร่างกาย วันนี้มีโอกาสได้มาคุยกับ คุณหมอบาย – นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์ผู้อำนวยการ W9 Wellness Center และ W Ploenchit Wellness Center ศูนย์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความเสื่อมแบบองค์รวม เกี่ยวกับ “ฮอร์โมน” จุดเริ่มต้นและกุญแจไขความลับสู่การดูแล แก้ไข และปรับสมดุลสุขภาพและร่างกาย หงุดหงิดง่าย ผิวแห้ง หัวล้าน นอนไม่หลับ“ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลต่อสุขภาพ ประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปมากทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยในการวินิจฉัยโรค การรักษา รวมถึงการดูแลสุขภาพองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรคแบบรายบุคคล ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 5 ปีมานี้ เนื่องจากทุกคนตระหนักว่า หากปล่อยให้เกิดอาการเจ็บป่วย จะส่งผลต่อการใช้ชีวิต คนรอบข้าง รวมถึงการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ซึ่งจากสถิติโรคเรื้อรังยอดฮิตของคนไทย ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคความดันโลหิตสูง รวมถึงโรคอ้วนซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอื่นๆ อีกมากมาย โดยสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ นี้ มาจากพันธุกรรม […]

มีดีมากกว่าช่วยขับถ่าย ‘โพรไบโอติกส์’ สายพันธุ์ไหนมีประโยชน์กับร่างกาย และด้านใดบ้าง

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “โพรไบโอติกส์” จนชินหู และรู้ถึงสรรพคุณเด่นในเรื่องระบบขับถ่าย แต่น้อยคนจะรู้ว่าโพรไบโอติกส์ในลำไส้ของเรามีประโยชน์ต่อระบบอื่นๆ ในร่างกายอีกมากมาย พอดีมีโอกาสได้พบกับ คุณหมอบาย – นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์ผู้อำนวยการ W9 Wellness Center ศูนย์ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความเสื่อมแบบองค์รวม ซึ่งคุณหมอบายไขข้อข้องใจในเรื่องนี้ว่า “โพรไบโอติกส์ คือจุลินทรีย์ที่อยู่ในร่างกายมนุษย์ มีหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 500 ชนิด มีชีวิตแบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน สามารถพบได้ในช่องปาก กระเพาะอาหาร ลำไส้ และระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งโพรไบโอติกส์แต่ละชนิดส่งผลต่อร่างกายแตกต่างกัน จุลินทรีย์ดีจะช่วยรักษาสุขภาพลำไส้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ช่วยการขับถ่าย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน เผาผลาญไขมัน และลดสารพิษในลำไส้ จุลินทรีย์ร้ายก่อให้เกิดโรคต่อร่างกาย” อยากเพิ่มจุลินทรีย์ดี ต้องเริ่มที่ลำไส้“ระบบทางเดินอาหารของมนุษย์เป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ หรือโพรไบโอติกส์หลายชนิด ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับระบบต่างๆ ของร่างกาย ทั้งระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท ระบบขับถ่าย รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ที่เป็นระบบหนึ่งที่สำคัญและช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ซึ่ง 70% ของระบบภูมิคุ้มกัน (Immunity System) เกิดขึ้นในลำไส้ของเรา รวมถึงเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สำคัญอย่าง NK Cells (Natural Killer Cells) ซึ่งเป็นเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นด่านหน้าที่ต่อสู้ป้องกันเชื้อโรคก็อาศัยอยู่ที่ลำไส้เช่นกัน เพราะกุญแจสำคัญของการมีสุขภาพที่ดีคือ การรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกายให้มีความสมดุลและมีความหลากหลายของสายพันธุ์ในร่างกาย” คุณหมอบาย กล่าว ประโยชน์ของโพรไบโอติกส์ในร่างกายมีมากมายหลายร้อยสายพันธุ์ ทำหน้าที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าโพรไบโอติกส์สายพันธุ์ไหนมีประโยชน์กับร่างกายเราในด้านใดบ้าง “อ้วนลงพุง” หัวขบวนโรคร้ายของคนยุคใหม่“ปัจจุบันพบว่าคนไทยเป็นโรคอ้วนลงพุง (Metabolic syndrome) เพิ่มมากชึ้น […]

ตรวจสุขภาพร่างกายแบบ Anti-Aging คืออะไร? ต่างจากตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างไร

คิดว่าตัวเองดูแลสุขภาพร่างกายดีหรือยัง? เพราะสุขภาพดีเริ่มได้ที่ตัวเรา อยากได้สุขภาพดี ต้องดูแลร่างกายให้ดี ช่วงต้นปีควรมาตรวจสุขภาพประจำปีกัน เพราะในแต่ละปีเราใช้ร่างกายกันหักโหม อยากตอบแทนร่างกายให้อยู่กับเราไปนานๆ ก็ต้องบำรุงรักษากันหน่อย และในปัจจุบันนอกจากจะตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไปแล้ว บางคนนั้นมีการตรวจสุขภาพในแบบ Anti-Aging เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการตรวจทั้ง 2 แบบมีการตรวจเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง การตรวจสุขภาพทั่วไป เป็นการตรวจหาความผิดปกติของร่างกาย ว่ามีแนวโน้มหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอะไรบ้าง หรือมีโรคเกิดขึ้นแล้วค่อยทำการรักษา แต่การตรวจทาง Anti-Aging เป็นการตรวจหาความผิดปกติก่อนที่จะเกิดโรค เพียงแค่มีอาการหรือความเสื่อมเกิดขึ้น เช่น อ่อนเพลียเรื้อรัง นอนไม่หลับ ความจำแย่ลง หรือสมรรถภาพทางเพศไม่ดีเหมือนเดิม ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดโรคก่อนแล้วค่อยมาตรวจ หรือไม่มีอาการอะไรก็สามารถมาตรวจได้ เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพเชิงรุก จะมีการตรวจลึกถึงระดับเซลล์ เช่น ตรวจระดับสารเคมี สารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ฮอร์โมน ตรวจดูสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย เป็นต้น ซึ่งจะทำให้สามารถค้นพบสาเหตุของอาการเสื่อมหรือความชราได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก่อนที่จะเกิดโรคหรือมีความผิดปกติในร่างกาย และยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง โรคหัวใจ เป็นต้น หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องการตรวจยีน การตรวจยีนเป็นหนึ่งในการตรวจแบบ Anti Aging เป็นการตรวจดูรหัสพันธุกรรมหรือ DNA ที่ประกอบมาเป็นร่างกายแต่ละบุคคล ซึ่งสามารถใช้บ่งเอกลักษณ์ตัวบุคคลได้ […]

‘งาดำ’ ซูเปอร์ฟู้ดเมล็ดจิ๋ว ประโยชน์สูง อีกหนึ่งตัวเลือกของสายรักสุขภาพ

เทรนด์รักสุขภาพยังคงมาแรงต่อเนื่องในปี 2024 และเชื่อว่าจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เทรนด์นี้ทำให้ ซูเปอร์ฟู้ด (Superfood) กลายเป็นที่สนใจและถูกพูดถึงบ่อยๆ มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใส่ใจสุขภาพอาจมีคำถามว่าอาหารแบบไหนที่เรียกว่า ซูเปอร์ฟู้ด จริงๆ แล้ว ซูเปอร์ฟู้ดก็คืออาหารในชีวิตประจำวันของเรานี่แหละ แต่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ใยอาหาร และกรดไขมันที่มีประโยชน์ ตัวอย่างซูเปอร์ฟู้ด เช่น ข้าวโอ๊ต ปลาแซลมอน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว เห็ด อัลมอนด์ โยเกิร์ต นมไขมันต่ำ และดาร์กช็อกโกแลต เป็นต้น ซูเปอร์ฟู้ดบางชนิดอาจมีราคาแพง แต่ก็มีซูเปอร์ฟู้ดราคาย่อมเยาให้เราเลือกเช่นกัน ถ้าใครกำลังมองหาอยู่ล่ะก็ อย่ามองข้าม งาดำ ธัญพืชเมล็ดเล็กแต่ประโยชน์ไม่เล็กเลย ซึ่งปัจจุบันมีการนำงาดำมาเป็นส่วนผสมในนมถั่วเหลือง ทำให้กินง่ายดื่มง่ายขึ้น และหาซื้อง่าย แถมยังได้ประโยชน์ 2 ต่อ จากงาดำและนมถั่วเหลือง ซึ่งถั่วเหลืองก็ถือว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่ดีมากเช่นกัน งาดำ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่นวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 แมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ซึ่งวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้จะช่วยบำรุงกระดูก บำรุงเลือด บำรุงผมและผิว บำรุงประสาทและสมอง ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น แก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำ ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ทำให้นอนหลับสบาย ป้องกันเหน็บชา และยังช่วยบรรเทาริดสีดวงได้ด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่าสารเซซามีนในงาดำเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในร่างกาย เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ช่วยเสริมคอลลาเจนในข้อเข่าให้กับสูงอายุ นอกจากนี้ เซซามีนยังช่วยลดความดัน และน้ำตาลในเลือด และช่วยลดโคเลสเตอรอล ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด […]

‘ฝากไข่’ แผนมีลูกในอนาคตของสาวยุคใหม่ มีความจำเป็นแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง?

ยุคนี้คนรุ่นใหม่หลายคนเริ่มแต่งงานกันช้าลง เพราะหันมาทุ่มเททำงาน เก็บเงินจนรู้สึกว่ามั่นคงในระดับหนึ่ง แล้วจึงค่อยวางแพลนแต่งงานสร้างครอบครัว แล้วพอคิดจะมีลูก ก็อายุมากขึ้น ความเสี่ยงก็มากขึ้น ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมาตอบโจทย์สาวๆ ยุคใหม่ที่อยากมีลูกในเวลาที่พร้อม และลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ด้วยการฝากไข่ไว้ก่อน ในอนาคตเมื่อพร้อมและเวลาที่เหมาะสม ค่อยนำไข่ที่ฝากมาวางแผนมีลูกต่อไป แล้วการ ฝากไข่ มีความจำเป็นแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง? การฝากไข่ คือ การนำไข่ ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ของผู้หญิงออกมาเก็บรักษาโดยการแช่แข็งไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อนำมาใช้สำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคต ทั้งนี้ไม่ได้มีข้อจำกัดของอายุที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับความพร้อมและปริมาณไข่ของแต่ละคน โดยอายุที่เหมาะสมในการฝากไข่คือ 28-35 ปี แล้วใครที่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการฝากไข่บ้าง ข้อดีของการฝากไข่ คือ เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ในอนาคต ซึ่งเป็นเวลาที่พร้อมตั้งครรภ์ แต่รังไข่ไม่พร้อม คือเหลือไข่ปริมาณน้อย และคุณภาพไม่ดี ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพไข่ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ทั้งอายุ ความเครียด การดูแลสุขภาพ การเลือกกินอาหาร การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การออกกำลังกาย หรือโรคต่างๆ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ สำหรับสาวๆ ที่ต้องการฝากไข่ควรเตรียมตัวดังนี้ การฝากไข่สามารถแช่แข็งไว้ได้นานมากกว่า 10 ปี ปัจจุบันมีรายงานการตั้งครรภ์จากไข่ที่แช่แข็งไว้นานถึง 14 ปี แต่แนะนำให้นำไข่มาใช้ก่อนอายุ […]

keyboard_arrow_up