- Page 3 of 56

นุ่น-สินิทธา กับประสบการณ์ Water Fasting ปรับสมดุลรักษาโรคด้วยน้ำเปล่า

นุ่น-สินิทธา บุญยศักดิ์ เผยประสบการณ์การปรับสมดุลรักษาโรคเนื้องอกด้วยน้ำเปล่า Water Fasting เผยชีวิตเปลี่ยนไปหันมาใส่ใจสุขภาพจนกลายมาเป็น ️Health Coach

เมื่อการอู้งานซื้อชานมเม้าท์กับโต๊ะข้างๆก็เป็นหนึ่งใน worklife balanced …พบกับหลากวิธีรับมืออาการเบิร์นเอาท์เบิร์นใจของคนวัยทำงาน

ภาวะเครียดจากการทำงาน ถ้าสะสมนานๆ จะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นอกจากจะหงุดหงิด ประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง ความสัมพันธ์ย่ำแย่ อาจจะส่งผลให้เป็นโรคซึมเศร้าไม่รู้ตัว วันนี้ ดร.แพม-ปรมา มุทิตาภรณ์ ผู้ก่อตั้ง A List Vision ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา จะมาแก้ปัญหาให้ตรงจุด ตรงใจ

ใครมีอาการแบบนี้บ้าง? แชร์วิธีบรรเทา ‘ปลายมือ-ปลายเท้าเย็น’ ท่ามกลางอากาศร้อนชื้น

แม้จะอยู่ในเมืองร้อนอย่างประเทศไทย แต่มีใครปลายมือปลายเท้าเย็นกันเป็นประจำกันบ้างไหมคะ? เชื่อไหมว่าช่วงที่อากาศร้อนสลับกับฝนตกแบบนี้ ยังมีหลายคนที่ขี้หนาวแบบที่เปิดแอร์ 30 องศา แล้วบอกว่าอากาศแบบนั่นกำลังเย็นสบาย โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนกันมาสักพักแล้ว หนึ่งในกลุ่มอาการที่อาจจะรู้สึกได้มากในวันฝนตก หรือช่วงที่อากาศเริ่มชื้นมากขึ้น คืออาการ “ปลายมือ-ปลายเท้าเย็น” บทความจะมาช่วยคลายข้อสงสัยต่างๆ สำหรับนำไปสังเกตตนเองและคนรอบข้าง หากมีอาการดังกล่าวจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาการปลายมือปลายเท้าเย็น มักเป็นอาการที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่จะพบได้บ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ตั้งแต่ในวัยเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และคนชรา และในฤดูฝนเป็นฤดูที่มีความชื้นค่อนข้างสูง ซึ่งมาพร้อมกับความเย็นลักษณะเด่นของความเย็นและความชื้น คือทำให้อัตราการไหลเวียนเลือดและพลังงานในร่างกายลดต่ำลง ช้าลง เกิดความหนืดความหน่วงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณปลายรยางค์หรือปลายมือปลายเท้า ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ห่างไกลจากหัวใจ จึงเป็นจุดที่มีปัญหามากกว่าส่วนอื่นๆ หากเป็นผู้ป่วยที่มีกลุ่มอาการ หนาวง่าย เหนื่อยง่าย หายใจได้ไม่ค่อยลึก ร่วมด้วย จะยิ่งทวีความรุนแรงของอาการปลายมือปลายเท้าเย็นให้มากยิ่งขึ้น ในบางรายอาจมีอาการ ปลายมือปลายเท้าชา เกิดตะคริวบ่อยๆ ช่วงกลางคืน เล็บซีดหรือม่วง ซึ่งในกลุ่มนี้ทางแพทย์แผนจีนจะเรียกว่า กลุ่มอาการที่เกิดจาก “หยางพร่อง” หรือกลุ่มอาการที่ร่างกายขาดพลังงานความร้อนนั่นเอง อาการขี้หนาวหรือหนาวง่ายกว่าปกติ มักเป็นอาการที่มาควบคู่กับอาการ “ปลายมือ- ปลายเท้าเย็น” อาจสังเกตได้ว่าในสถานที่หรือห้องที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส บางคนอาจรู้สึกกำลังเย็นสบาย แต่บางคนอาจรู้สึกร้อน และบางคนอาจรู้สึกหนาวสั่น […]

5 ทริคโภชนาการช่วยหุ่นฟิตกว่าเดิม พร้อมเผยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน น้ำ ต้องกินเท่าไร? เวลาไหนดี

การวิ่งที่ดีจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย ส่งเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด สร้างความอดทนของกล้ามเนื้อ และเป็นวิธีที่ดีในการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตให้สดใสอีกด้วย จากผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ใน Neuroscience News พบว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างการวิ่ง สามารถช่วยเพิ่มระดับของเซโรโทนิน โดปามีน และ นอร์เอพิเนฟริน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ควบคุมอารมณ์ ช่วยให้นอนได้ดี ผ่อนคลายความเครียด และเพิ่มการทำงานของสมอง แต่ก่อนจะออกไปวิ่ง นอกเหนือจากการเตรียมรองเท้าที่เหมาะสม เพลย์ลิสต์เพลงออกกำลังกายสุดมันส์ และเลือกเส้นทางวิ่งที่น่าสนใจแล้ว การโฟกัสเรื่องโภชนาการก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะวิ่งระยะทางไกลหรือสั้น แม้ว่านักวิ่งส่วนใหญ่จะรู้ว่าต้องกินคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และน้ำ แต่ต้องกินเท่าไร? ควรกินก่อน ระหว่าง หรือหลังวิ่ง ในบทความนี้ จะชวนมาสำรวจเคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยให้เริ่มต้นออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยโภชนาการที่ดี ไม่ว่าความฟิตของคุณอยู่ระดับไหน โภชนาการก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ออกกำลังกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รู้แบบนี้แล้วอย่าลืมเติมโภชนาการดีๆ แล้วออกไปวิ่งกัน! ข้อมูล: ดร. ดาน่า ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายสมรรถนะด้านกีฬา โภชนาการ และการให้ความรู้ภาพ: Pexels

ทริคกินชะลอวัย “กรดอะมิโน” จากรังนกแท้ ที่มี สารต้านอนุมูลอิสระ

หากจะพูดถึงเทรนด์ไลฟ์สไตล์มาแรงของยุคนี้ หนึ่งในนั้นต้องมีเทรนด์การกินเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นการดูแลตัวเองจากภายในสู่ภายนอก โดยนอกจากการกินอาหาร

9 พฤติกรรมเสี่ยงเข้าข่ายเป็น Shopaholic หรือ โรคเสพติดการช้อปปิ้งโดยไม่รู้ตัว

ว่าด้วยเรื่องช้อปปิ้งในออนไลน์หรือออฟไลน์ถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันของใครหลายคน แต่ถ้าช้อปจนหยุดตัวเองไม่ได้ ซื้อของเกินความจำเป็น จนเกิดปัญหาหนี้สิน กระทบต่อความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว อาการเหล่านี้อาจเข้าข่ายเป็น Shopaholic หรือ โรคเสพติดการช้อปปิ้งโดยไม่รู้ตัว Shopaholic หรือ โรคเสพติดการช้อปปิ้ง เป็นโรคทางสุขภาพจิตประเภทหนึ่ง ผู้ที่เป็นโรคนี้จะเสพติดการซื้อของโดยที่ไม่คำนึงถึงสถานะทางการเงินของตัวเอง และมีความอยากจะไปช้อปปิ้งอยู่ตลอดเวลาโดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ปัญหาหนี้สิน ปัญหาความสัมพันธ์จนต้องทะเลาะกับคนในครอบครัว บางครั้งซื้อมาแล้วต้องโกหกคนในครอบครัวว่ามีคนให้มา หรือบอกราคาที่ถูกกว่าราคาจริงที่ซื้อ ซึ่งโรคนี้พบได้ตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นไปทั้งเพศหญิงและเพศชาย 9 พฤติกรรมที่เข้าข่ายการเป็น Shopaholic โรคเสพติดการช้อปปิ้ง เกิดได้ทั้งปัจจัยส่วนบุคคล และปัจจัยทางสังคม ซึ่งสาเหตุที่มาจากปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ มีภาวะซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล ขาดความภาคภูมิใจในตัวเอง มีปัญหาในการควบคุมตัวเองหรือยับยั้งชั่งใจ ส่วนปัจจัยทางสังคม เช่น การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ รวมไปถึงการใช้บัตรเครดิตในการซื้อของไปก่อนโดยยังไม่ต้องใช้เงินสด สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนกระตุ้นให้เกิดการเสพติดช้อปปิ้งได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน โรคเสพติดการช้อปปิ้ง สามารถรักษาให้หายได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการเปลี่ยนทัศนคติ เช่น การจำกัดวงเงินบัตรเครดิตหรืองดใช้บัตรเครดิต โดยส่วนใหญ่แล้วจิตแพทย์จะรักษาด้วยการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioural Therapy: CBT) ซึ่งจะเป็นการพูดคุยให้คำปรึกษา เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของการมีพฤติกรรมโรคเสพติดการช้อปปิ้ง จากนั้นจึงทำการปรับเปลี่ยนความคิด ปรับพฤติกรรม เพื่อให้ผู้รับคำปรึกษาเข้าใจตัวเองและปรับเปลี่ยนนิสัยการเสพติดการช้อปปิ้งได้ เช่น […]

‘กะหล่ำดอก’ ประโยชน์แน่น นักโภชนาการแนะนำกินแทนข้าว ช่วยย่อยอาหาร ต้านมะเร็ง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ

อยากลดน้ำหนักแต่หยุดกินข้าวขาวอร่อยๆ ไม่ได้ใช่ไหม? ต้องลองกิน กะหล่ำดอก แทนข้าวขาว เพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ โดยมีเพียงหนึ่งในหกของน้ำตาลและแคลอรี่ของข้าวขาว อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร วิตามินซีสูง และสารอาหารอื่นๆ และเป็นที่รู้จักในชื่อ “อาวุธต่อต้านมะเร็ง” ที่จริงแล้วการเตรียม “ข้าวกะหล่ำดอก” นั้นง่ายมาก เพียงสับดอกกะหล่ำแล้วแทนที่ข้าวขาวแบบเดิม ไม่เพียงแต่สามารถรักษารสชาติของข้าวได้เท่านั้น แต่ยังช่วยลดน้ำตาลและแคลอรี่และทำให้มีสุขภาพดีอีกด้วย “กะหล่ำดอก” มีวิตามินซีมากกว่ามะนาว และยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและแคลเซียมอีกด้วย สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นคือปริมาณน้ำตาลและแคลอรี่ของดอกกะหล่ำมีเพียง 1/6 ของข้าวขาวสำหรับอยากกินแบบไม่มีข้าว ให้ใช้ข้าวดอกกะหล่ำแทนข้าวขาว ซึ่งสามารถสนองความอยากอาหารได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณแป้งที่มากเกินไป สำหรับผู้ที่ควบคุมอาหาร แคลอรี่ และน้ำตาล การกินกะหล่ำดอกก็สามารถเพิ่มความอิ่มได้ และส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมถึงผลของการควบคุมลำไส้และการล้างกระเพาะอาหารทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น กะหล่ำดอกแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ สีเขียวและสีขาว ซึ่งทั้งสองอยู่ในวงศ์ Brassicaceae ในด้านรสชาติแนะนำให้ใช้ดอกกะหล่ำขาว ซึ่งจะได้รสชาติใกล้เคียงกับข้าวขาวเมื่อปรุงสุกกว่า Photo: Pexels

ชอบกินผัก รักสุขภาพ ดูแลรูปร่าง รู้หรือไม่ว่า ‘ผักสลัด’ แต่ละชนิด มีประโยชน์ต่างกันอย่างไรบ้าง

ผักสลัด เมนูหลักสำหรับคนรักสุขภาพ “สลัด” ที่ปรุงจากผักสลัดชนิดต่างๆ มีให้เลือกกันมากมาย ทั้งสลัดใบเขียวอ่อน เขียวเข้ม สีแดงๆ หน่อย ผักสลัดเหล่านี้ บางครั้งก็ไปเป็นเครื่องเคียงในอาหารจานโปรด บางครั้งก็ไปเป็นพระเอกในจานสลัด กับน้ำสลัดที่มีให้เลือกกันมากมายหลายชนิด หลายคนกินแล้วติดอกติดใจ แต่ก็อาจไม่รู้ว่าผักสลัดแต่ละชนิดนี่มีชื่อเรียกว่าอะไร แล้วมีประโยชน์อย่างไรกันบ้าง 1. กรีนโอ๊ค (Green Oak)ผักชนิดนี้จะเป็นรูปทรงพุ่มๆ ใบหยัก มีสีเขียว ใบจะนิ่มๆ อ่อนๆ ฟูๆ จับแล้วจะนุ่มมือ คล้ายกับผักกาดหอม เดิมกรีนโอ๊คเป็นผักที่ปลูกในต่างประเทศ ต่อมามีการนำเข้าเมล็ดพันธุ์จากประเทศฮอลแลนด์เข้ามาในประเทศไทย จนทุกวันนี้มีการปลูกกันอย่างแพร่หลายจนเป็นหนึ่งในผักยอดนิยมของคนรักผัก ก็เพราะความนุ่มของใบที่ทำให้ซึมซับน้ำสลัดได้ง่าย เมื่อเอามาปรุงจึงได้รสชาติที่อร่อย กินง่าย ประโยชน์เด่นๆ ของกรีนโอ๊ค คือ การช่วยในเรื่องของการสร้างเม็ดเลือด บำรุงสายตา อุดมไปด้วยวิตามิน และเอนไซม์ที่มีประโยชน์ สามารถนำกรีนโอ๊คไปกินคู่กับเมนูที่หลากหลาย อย่างเช่น นำไปทำเป็นซูชิ พล่า ได้ 2. เรดโอ๊ค (Red Oak)ชื่อคล้ายๆ กับกรีนโอ๊ค นั่นเป็นเพราะรูปทรงที่คล้ายกัน จะแตกต่างกันก็ที่สีสันของผักทั้งสองชนิด เรดโอ๊คจะมีสีแดงเข้มบริเวณขอบใบ และกลางใบจะมีสีเขียวเข้ม ใบหยักนุ่ม […]

ประจำเดือนขาด แต่ ‘ไม่ท้อง’ อาจเป็นสัญญาณเตือนภาวะ PCOS 

เคยไหม? ประจำเดือนขาด ๆ หายๆ แอบดีใจคิดว่าท้อง แต่หลังตรวจตั้งครรภ์กลับพบว่าไม่ท้อง นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณอาจมีภาวะ PCOS ซึ่งส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไข่ไม่ตก ส่งผลให้ท้องยาก   สาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ประจำเดือนขาดหาย เกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น อาหารที่กิน ความเครียด และการออกกำลังกายที่มากไปหรือน้อยไป หรือมีภาวะน้ำหนักตัวน้อยหรือมากเกินไป มีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ที่ผิดปกติ การสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่เกี่ยวกับข้องภาวะเจริญพันธุ์ในผู้หญิง เมื่อฮอร์โมนไม่สมดุลจึงส่งผลให้ไข่ไม่ตก และอาจส่งผลให้ไข่ไม่ตกเรื้อรังสะสมเป็นถุงน้ำในรังไข่เล็กๆ หลายใบ ซึ่งเรียกภาวะนี้ว่า PCOS หรือ Polycystic Ovary Syndrome ซึ่งอาจจะมีในรังไข่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง จึงทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ รอบประจำเดือนที่ปกตินั้นจะมีระยะเวลา 28 วัน หากรอบประจำเดือนน้อยกว่า 21 วัน หรือยาวเกินไป 35 วัน หรือประจำเดือนขาดหายไป 1 – 2 เดือน ในช่วงวัยเจริญพันธุ์และได้ทำการทดสอบการตั้งครรภ์แล้ว หากไม่ได้ตั้งครรภ์ อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนของการทำงานของระบบสืบพันธุ์ที่ผิดปกติ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือปัญหาที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์อื่นๆ เช่น 1. ความไม่สมดุลของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ในผู้หญิง ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) หรือ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งต้องพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุอย่างละเอียดว่าเกิดจากสาเหตุใด […]

‘วัยทองในผู้หญิง’ สามารถชะลอหรือรักษาได้หากรู้เท่าทันฮอร์โมน และเตรียมพร้อม 5 ข้อดูแลตัวเองแต่เนิ่นๆ

บางครั้งรู้สึกหงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่ดี ซึมเศร้า ไม่อยากทำอะไร จนแอบสงสัยว่าเป็นวัยทองหรือเปล่า? เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยๆ แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมวัยทองแล้วต้องหงุดหงิด หรือนอกจากนี้ในช่วงวัยทองยังมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง แล้วใครบ้างที่เข้าข่ายวัยทอง จะมาไขข้อสงสัย พร้อมกับวิธีรับมือกับวัยทองกัน วัยทองในผู้หญิง ก็คือวัยที่หมดประจำเดือน หรือเริ่มจะหมดประจำเดือน ช่วงอายุประมาณ 45-55 ปี ซึ่งระดับฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป โดยฮอร์โมนที่สำคัญในเพศหญิงก็คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) เมื่ออายุมากขึ้นการสร้างฮอร์โมนไม่สมดุล มีการลดลงของระดับเอสโตรเจน จึงส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายหลายอย่าง ได้แก่ เมื่อก่อนปัญหาวัยทองเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องเจอ และทำใจยอมรับด้วยเหตุผลว่าเป็นไปตามวัย แต่อาการวัยทองสามารถชะลอหรือรักษาได้ถ้าเรารู้เท่าทันฮอร์โมนในร่างกายของเรา และเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้าสู่วัยทองเนิ่นๆ โดยสามารถดูแลตัวเองได้ง่าย คือ หากปฏิบัติตามนี้แล้ว ยังมีอาการวัยทองรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ทำงานไม่ได้หงุดหงิด นอนไม่หลับ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อตรวจวัดความสมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกาย และรับการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน วัยทองไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรือเรื่องที่ต้องทำใจยอมรับโดยไม่มีทางแก้ไข แต่เราสามารถเตรียมตัวรับมือกับวัยทองได้ โดยไม่ต้องรอให้ถึงวัยทอง ยิ่งเริ่มดูแลตัวเองเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ข้อมูล: พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine […]

เตือน ‘ปัสสาวะเป็นเลือดหรือผิดปกติ’ อย่าชะล่าใจอาจเสี่ยง ‘มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ’

ใครที่มีอาการ ปัสสาวะเป็นเลือด อย่าชะล่าใจ ไม่ว่าจะปัสสาวะปนเลือดสดหรือมีสีน้ำตาลคล้ำ ปัสสาวะปนลิ่มเลือด ปัสสาวะไม่ออก ควรรีบพบแพทย์เพื่อค้นหาความผิดปกติ เพราะอาจเสี่ยงเป็น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ได้ ซึ่ง ปัสสาวะเป็นเลือด คือการที่มีเม็ดเลือดแดงปนมากับปัสสาวะ ถ้าเลือดมีปริมาณมากพอจะสามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้ อาจมีลักษณะเป็นเลือดสด สีน้ำตาลคล้ำ สีแดงจางคล้ายน้ำล้างเนื้อ หรือเป็นลิ่มเลือด โดยเฉพาะลิ่มเลือดถ้าเกิดในปริมาณมากจะนำไปสู่การอุดตันของท่อปัสสาวะทำให้ปัสสาวะไม่ออกได้ ถ้ากรณีเลือดที่ออกมามีปริมาณเพียงเล็กน้อยมักจะพบปัสสาวะมีสีเหลืองใสปกติ ต่อเมื่อนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการจึงจะพบเม็ดเลือดแดงที่อาจปนมาในปัสสาวะเป็นจำนวนที่มากเกินค่าปกติ ซึ่งกรณีนี้มักตรวจพบเจอจากการตรวจสุขภาพประจำปีโดยอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ได้ สาเหตุของการมีเลือดออกในปัสสาวะนี้ สามารถพบได้ตั้งแต่โรคนิ่วในระบบปัสสาวะ ทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ ต่อมลูกหมากโต การบาดเจ็บของอวัยวะในระบบปัสสาวะ ภาวะเลือดออกง่าย จนไปถึงมะเร็งในระบบปัสสาวะ ซึ่งพบได้ประมาณร้อยละ 20 ของผู้ที่ปัสสาวะเป็นเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่มีอาการเจ็บปวดร่วมด้วยก็จะทำให้มีความเสี่ยงที่จะพบมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมากยิ่งขึ้น กรณีที่ปัสสาวะเป็นเลือดควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการนำปัสสาวะไปตรวจโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ หากพบเม็ดเลือดแดงมากกว่า 3 ตัวจะเป็นการยืนยันว่ามีภาวะเลือดออกในปัสสาวะจริง จากนั้นจะมีการตรวจวินิจฉัยเพื่อตรวจดูทางเดินปัสสาวะส่วนบน ได้แก่ ไตและท่อไต ด้วยเอกซเรย์ระบบทางเดินปัสสาวะส่วนบน ร่วมกับการส่องกล้องกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy) เพื่อตรวจดูเยื่อบุบริเวณทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ได้แก่ กระเพาะปัสสาวะ หากมีมะเร็งกระเพาะปัสสาวะก็จะสามารถตรวจพบก้อนเนื้อจากการส่องกล้องดังกล่าว ในกรณีพบก้อนเนื้อบริเวณเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะแพทย์จะทำการเก็บชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาว่ามีลักษณะเป็นมะเร็งหรือไม่ หากพบว่ามีมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ จะได้รับการรักษาโดยวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับความลึกของมะเร็งว่าลุกลามถึงชั้นกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะหรือไม่ โดยถ้ามะเร็งยังอยู่ภายในชั้นเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะ กล่าวคือยังไม่ลุกลามถึงชั้นกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ การรักษาคือการผ่าตัดผ่านทางกล้องส่องกระเพาะปัสสาวะเพื่อตัดก้อนมะเร็งของจากเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะ […]

ไม่ใช่แค่ท้องเสีย! อาการและอาหารที่ควรระวังเสี่ยงเกิด ‘โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน’

อากาศร้อนๆ แบบนี้ หากใครมีอาการท้องเสีย ก็อย่าชะล่าใจ ลองสังเกตตัวเองจะได้รักษาให้ถูกอาการ ซึ่ง โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน หรือการถ่ายอุจจาระเหลว หรือเป็นน้ำ 3 ครั้งขึ้นไปภายใน 24 ชม. และมีอาการมานานไม่เกิน 7 วัน อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง ไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว ซึ่งบทความนี้ได้อธิบายอาการของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันเอาไว้อย่างละเอียด สำหรับนำไปสังเกตตนเองและคนรอบข้าง หากมีอาการดังกล่าวจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างทันท่วงที โดยสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว หรือได้รับพิษของแบคทีเรียที่ปนเปื้อนในอาหาร เป็นต้น อาการของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน สาเหตุของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน นอกจากนั้นยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ใช่การติดเชื้อ ได้แก่ การกินอาหารรสจัด หรืออาหารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองของระบบทางเดินอาหาร ภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่อง การได้รับยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาเบาหวานบางชนิด ยารักษาโรคเก๊าท์ ยาระบาย อาหารที่อาจเป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน วิธีดูแลตัวเองหรือคนใกล้ชิดเมื่อมีอาการอุจจาระร่วงเฉียบพลัน วิธีป้องกันโรคอุจจาระร่วง ข้อมูล: พญ.จิตราภา แสนโภชน์ อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคระบบทางเดินอาหาร […]

ทำความรู้จัก ‘คาร์โนซีน’ สารอาหารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมอง

แม้ว่าปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพ เพื่อป้องกันก่อนเกิดโรคกันมากขึ้น แต่หลายคนอาจจะลืมไปว่า “สมอง” ก็เป็นอวัยวะที่ต้องการการบำรุงเช่นกัน วันนี้จะพาไปทำความรู้จัก ‘คาร์โนซีน’ สารอาหารช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมอง  จากข้อมูลของกรมการปกครอง ในเดือนกันยายน ปี 2566 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปี จำนวน 13,043,793 คน หรือคิดเป็น 19.74% ของประชากรทั้งประเทศ 66,061,517 คน ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ โดยประชากรกลุ่มผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาด้านสุขภาพ เช่น ความผิดปกติของระบบประสาทและสมอง การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และภาวะทุพพลภาพต่างๆ  ปัญหาหนึ่งของสังคมสูงวัย คือการลดลงของสัดส่วนจำนวนประชากรวัยทำงานที่รองรับผู้สูงอายุหนึ่งคน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการของผู้สูงอายุที่ประชากรวัยทำงานต้องแบกรับนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไมได้ ดังนั้น การส่งเสริมให้ประชากรเข้าสู่วัยผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ และการยืดอายุขัยของประชากรพร้อมสุขภาพที่ดี จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของสังคมในอนาคต ซึ่งผลการวิจัยจำนวนมากระบุว่า ‘คาร์โนซีน’ (Carnosine) ซึ่งเป็นไดเปปไทด์ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนสองชนิดมารวมกัน มีส่วนช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของสมองส่วนหน้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับการประมวลผล การตัดสินใจ ความคิด กระตุ้นการทำงานของสมองและระบบประสาท เพิ่มสมาธิและการจดจ่อ รวมถึงชะลอความเหนื่อยล้าของสมองและช่วยลดความกังวล แม้ร่างกายจะสามารถสร้างคาร์โนซีนได้เอง แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการสร้างคาร์โนซีนอาจลดน้อยลง นอกจากนี้ ร่างกายสามารถรับคาร์โนซีนจากการบริโภคเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น ไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อปลา ไข่ เท่านั้น […]

เหตุผลที่แต่ละช่วงอายุ ควรต้อง ‘ตรวจสุขภาพ’ ต่างกัน มีปัจจัยอะไรบ้าง

ปีนี้คุณตรวจเช็คอัพสุขภาพกันหรือยัง? ปัจจุบันมีโปรแกรมตรวจหลากหลายมากเลย แต่ที่สำคัญต้องเลือกให้เหมาะกับแต่ละช่วงอายุ สามารถตรวจได้ทุกช่วงวัย เพื่อค้นหาความเสี่ยงหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเหตุผลที่ทำไมแต่ละช่วงอายุ ตรวจสุขภาพ ต่างกัน เพราะในแต่ละช่วงอายุ ร่างกายเรามีความเสื่อม และปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ เพศหญิงและเพศชาย ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกัน โดยนอกจากจะมีความเสื่อมของอวัยวะแล้ว ยังมีในเรื่องของฮอร์โมน ค่าทางชีวเคมีต่างๆ ในร่างกายที่เสื่อมลงอีกด้วย นอกจากการตรวจสุขภาพตามช่วงวัยแล้ว อาจตรวจเพิ่มในกรณีที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม เช่น ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง โรคหัวใจ หรือมีการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เป็นต้น หมอขอยกตัวอย่างการตรวจ และความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพของแต่ละช่วงวัย ดังนี้ค่ะ นอกจากการตรวจสุขภาพตามช่วงวัยแล้ว สิ่งที่ควรคำนึงถึงอีกอย่างก็คือ การฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันก็เริ่มอ่อนลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อบางชนิดได้ง่าย และอาจเกิดอาการแทรกซ้อนรุนแรงได้มากกว่าอายุยังน้อย เช่น ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ งูสวัด เป็นต้น ข้อมูล: พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จากศูนย์ตรวจสุขภาพแอดไลฟ์ ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)ภาพ: Pexels

อาหารแบบไหน? ที่ควรระวังอาจทำให้เป็นพิษ เสี่ยงเกิดโรคยอดฮิตในหน้าร้อน

เดือนนี้ไทยกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนเต็มสูบจนถึงขั้นอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 42 องศา และไม่รู้จะสูงขึ้นไปกว่านี้อีกหรือไม่ ซึ่งการเลือกกินอาหารในช่วงหน้าร้อนนี้ นับเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดูแลสุขภาพ หากกินอาหารเป็นพิษเข้าไปสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียเข้าไป อาจจะทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสียถ่ายเหลวตามมา อาการเหล่านี้ทำให้สงสัยว่า “อาหารเป็นพิษ” บทความนี้จึงมาอธิบายถึงลักษณะอาหารที่ก่อให้เกิดพิษต่อร่างกาย สำหรับนำไปสังเกตตนเองและคนรอบข้าง เพื่อจะเลือกกินอาหารในช่วงหน้าร้อนให้ถูกสุขลักษณะที่สุด อาหารเป็นพิษ ประเภทไหนที่สามารถอาจจะก่อให้เกิดโรคในช่วงฤดูร้อน มีดังต่อไปนี้ 1.อาหารที่มีกะทิอาหารที่มีกะทิเมื่อตั้งทิ้งไว้นานช่วงหน้าร้อนจะทำให้บูด เสียได้ง่าย เช่น แกงกะทิ ขนมหวานที่ใส่กะทิ หรือราดน้ำกะทิ 2.ผักสดผักที่มาจากแหล่งผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน มีโอกาสพบสารปนเปื้อน ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยเคมี และอาจเสี่ยงมีเชื้อ Enteroaggregative E. coli ที่มากับมูลของสัตว์ ซึ่งบางร้านล้างผักไม่สะอาด ทำให้ผู้กินอาจเกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เช่น สลัดผัก ผักแกล้ม ผักแนม ผักจิ้ม 3.ส้มตำ ยำ ขนมจีนกลุ่มอาหารเหล่านี้เป็นกลุ่มอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนอย่างทั่วถึง จึงทำให้ปนเปื้อนจุลินทรีย์ได้ง่าย ส้มตำ และยำต่างๆ บางร้านอาจใช้น้ำปลาร้าไม่ได้มาตรฐาน ถั่วลิสงอาจขึ้นรา กุ้งแห้งใส่สี และมีรสชาติที่เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ซึ่งระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร ส่วนเส้นขนมจีนทำมาจากแป้ง รวมถึงน้ำยากะทิ […]

อาการปวดหัวแบบไหนคือ ‘ไมเกรน’ พร้อมแนะวิธีเลี่ยงปวดไมเกรนด้วยตัวเองเบื้องต้น

เวลาเกิดอาการปวดหัว มักมีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไมเกรน ซึ่งความจริงแล้วอาจเป็นแค่อาการปวดตึงจากกล้ามเนื้อแค่นั้น แล้วอาการแบบไหนที่เรียกว่า ‘ไมเกรน’ และเมื่อมีอาการจะบรรเทาด้วยตัวเองหรือป้องกันความเสี่ยงจะเกิดอาการปวดไมเกรนได้อย่างไร มาหาคำตอบกัน อาการปวดไมเกรน จะมีลักษณะของอาการปวดที่รุนแรง มากถึงมากจนแทบทนไม่ไหว ปวดแบบไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆ ต่อได้เลย ส่วนมากจะปวดแบบตุบๆ เพียงด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ นอนพักอาการก็ไม่ดีขึ้น ฯลฯ ไม่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร ในทางการแพทย์ไม่พบสาเหตุที่แน่นอนที่ทำให้เกิดอาการปวดไมเกรน แต่จะพบว่าตัวรับรู้ในผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงศีรษะจะไวต่อความรู้สึกมากกว่าปกติ และมีผลมาจากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่ง ปัจจัยภายใน เช่น ความเครียด การนอนพักผ่อนไม่พอ ฯลฯ ส่วนปัจจัยภายนอก เช่น แสงจ้า เสียงดัง กลิ่นฉุน อากาศร้อนหรือแปรปรวน การดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนผสม กินอาหารที่มีสารให้ความหวาน อาหารที่เป็นของหมักดอง ฯลฯ ก็มีส่วนทำให้เกิดไมเกรนได้ สำหรับ อาการปวดตึงจากกล้ามเนื้อเกร็งเรื้อรัง มีความต่างจากไมเกรนชัดเจน อาการปวดตึงจะปวดแน่นๆ หนักๆ ทั้งศีรษะมักร่วมกับอาการปวดท้ายทอย คอ บ่า ร้าวเข้ากระบอกตา ร้าวขึ้นศีรษะ ร้าวลงสะบัก และมักร่วมกับการเคลื่อนไหวคอไม่คล่อง บ่าและก้านคอจะหนักๆ ตึงๆ อาการจะเป็นมากเมื่อต้องใช้กล้ามเนื้อหนัก เช่น ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่อง […]

เดาอารมณ์ไม่ถูก! วิธีการรับมือ เมื่อคนใกล้ชิดเป็น โรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว

เนื่องจากวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นวันไบโพลาร์โลก World bipolar day ซึ่งกำหนดขึ้นเพื่อให้ตระหนักถึงปัญหา สร้างความรู้ความเข้าใจ และเปิดใจให้กับโรคไบโพลาร์ เพราะครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการดูแลให้ผู้ป่วยกินยาและปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษา คอยให้กำลังใจ สังเกตอาการ ควบคุมกิจกรรมที่ผู้ป่วยทำในช่วง Mania และคอยรับฟังผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งวิธีสังเกตอาการ สาเหตุ วิธีที่ควรเลี่ยงในการดูแลผู้ป่วย โรคไบโพลาร์ สำหรับนำไปสังเกตตนเองและคนรอบข้าง หากมีอาการดังกล่าวจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างเหมาะสม เพื่อจะได้เข้าใจ และดูแลคนรอบข้างที่เป็นผู้ป่วยโรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์ 2 ขั้ว ได้ถูกต้อง สาเหตุโรค ปัจจุบันเชื่อว่าสาเหตุของความผิดปกติทางอารมณ์นั้น มีได้หลายสาเหตุซึ่งแบ่งออกได้เป็น วิธีสังเกตอาการ โรคไบโพลาร์ เป็นโรคที่มีความผิดปกติของอารมณ์เป็นหลัก มีอาการแสดงออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีลักษณะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่างอาการสองกลุ่มข้างต้น โดยอาการในแต่ละกลุ่มอาจเป็นอยู่นานเป็นสัปดาห์ หรือหลายๆ เดือนก็ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยทั้งในด้านการงาน การประกอบอาชีพ ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และการดูแลตนเองอย่างมาก ทำให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ วิธีดูแลผู้ป่วยเนื่องจากโรคนี้เกิดจากการเสียสมดุลของสารสื่อนำประสาท ดังนั้น ยา จึงเป็นปัจจัยหลักของการรักษาที่ช่วยปรับระดับสารสื่อนำประสาทให้เข้าสู่สมดุล ปัจจุบันมียาอยู่หลายชนิดที่มีประสิทธิภาพในการรักษา ไม่ทำให้ติดยาเมื่อใช้ในระยะยาว แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 […]

แผนออกกำลังกายที่สมดุล คืออะไร? เพื่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพที่เร็ว และเริ่ดกว่าเดิม

ปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายใหม่ด้วย แผนออกกำลังกายที่สมดุล เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและเร็วขึ้น เริ่มต้นด้วยการค้นหาสิ่งที่ยังขาดหายไปจากตารางการออกกำลังกายของตัวเอง โดยแนวทางที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงมีสุขภาพดี คือการเลือกใช้แนวทางที่สมดุล เพราะการฝึกที่สมดุลและมีระเบียบแบบแผนจะช่วยให้ออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดอาการบาดเจ็บ และอาจพัฒนาผลการฝึกโดยรวมให้ดีขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเองได้เร็วกว่าเดิม  ส่วนที่อยากแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกายไว้คือ เราทุกคนต่างก็มีการออกกำลังกายแบบที่ชอบและไม่ชอบ ให้เราปรับเปลี่ยนการออกกำลังกายโดยยึดตามสิ่งที่เรารัก ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้เรามีแรงบันดาลใจและยอมทุ่มเทเพื่อบรรลุเป้าหมาย โดยองค์ประกอบสำคัญที่ทุกแผนการออกกำลังกายที่ดีควรมี ได้แก่  การยืดกล้ามเนื้อ การยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำช่วยให้เรามีความมั่นใจและทำให้เราคุ้นเคยกับรูปแบบการเคลื่อนไหวของร่างกายในท่าต่างๆ มากขึ้น รวมทั้งยังช่วยพัฒนาให้ข้อต่อมีความมั่นคง กล้ามเนื้อยืดหยุ่น และลดความตึงของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย การวอร์มอัพโดยการยืดกล้ามเนื้อด้วยท่าที่เน้นการเคลื่อนไหว (Dynamic Stretching) และการยืดกล้ามเนื้อแบบยืดเหยียดค้างไว้หลังการออกกำลังกาย (Static Stretching) อาจจะกินเวลาเพียง 10 นาที แต่สามารถสร้างความรู้สึกที่แตกต่างได้มาก ดังนั้นอย่าลืมวอร์มร่างกายก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง และปิดท้ายด้วยคูลดาวน์ คาร์ดิโอ เป็นกิจกรรมที่ดีต่อหัวใจ หลอดเลือด และเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกิน เพราะว่าหัวใจของเราคือกล้ามเนื้อ ดังนั้นการกระตุ้นให้หัวใจได้ทำงานหนัก 2-3 วันต่อสัปดาห์ จะช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น หากคุณทำกิจกรรมที่กระตุ้นสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดเป็นประจำอยู่แล้ว ก็อาจช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักช้าลง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว มีกิจกรรมมากมายให้เลือก การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ ทุกกีฬาล้วนแล้วแต่เป็นที่นิยม แต่ไม่ว่าจะเลือกออกกำลังกายแบบไหน หากเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นถือว่าได้ผลดีทั้งนั้น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือออกกำลังกายแบบหนัก 75 นาทีต่อสัปดาห์ หรือทั้งสองอย่างผสมผสานกัน ถือเป็นความถี่ที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ฝึกความแข็งแกร่ง เมื่อเราเพิ่มการฝึกแบบใช้แรงต้านในตารางการออกกำลังกายประจำวัน เราจะเริ่มรับรู้ถึงรูปร่างและความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ไขมันส่วนเกินในร่างกายจะหายไป ส่วนมวลกล้ามเนื้อจะเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เพียงส่งผลดีต่อรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ร่างกายที่มีมวลกล้ามเนื้อในปริมาณมากจะใช้แคลอรี่ในการรักษากล้ามเนื้อมากกว่าคนที่มีน้ำหนักเท่ากันแต่มีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายสูงกว่า […]

keyboard_arrow_up