Wellness
อยากสวยต้องทน แถมเสี่ยง ‘ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง’ จากการใส่ส้นสูง
ปัจจุบันมีรายงานข่าวในสื่อออนไลน์ พบว่ามี ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง คือสภาวะหัวแม่เท้าผิดรูปที่เกิดจากกระดูกปูดออกมาจากบริเวณข้อต่อของโคนนิ้วหัวแม่เท้า เนื่องจากนิ้วหัวแม่เท้าถูกเบียดให้เอนไปชิดกับนิ้วชี้ทำให้ข้อต่อบริเวณโคนนิ้วหัวแม่เท้ายื่นออกมา โดยบริเวณที่มีอาการอาจมีลักษณะบวมแดงและทำให้รู้สึกเจ็บปวดทางด้านข้างหัวแม่เท้า ใส่รองเท้าลำบาก มักจะเกิดขึ้นจากการใส่รองเท้าส้นสูง ปลายรองเท้าแคบ บางท่านอาจเคยสังเกตเห็นความผิดปกติบริเวณเท้า และบางครั้งอาจมีสีแดงระเรื่อบริเวณกระดูกที่ปูดนูนขึ้นมาอีกด้วย อยากสวยต้องทน แถมเสี่ยง ‘ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง‘ จากการใส่ส้นสูง ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง (Bunion) หรือ (Hallux Valgus) คือ ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียงชิดเข้าหานิ้วชี้ กระดูกหัวแม่เท้าด้านในจึงปูดบวมขึ้น ต่อมาข้อนิ้วหัวแม่เท้าจะมีปุ่มลักษณะกลมนูนออกมา ทางด้านข้างหัวแม่เท้า ซึ่งปุ่มที่นูนออกมานี้จะทำให้มีอาการปวด ใส่รองเท้าลำบาก มักจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูง และพบมากเมื่ออายุมากขึ้น ส่วนมากจะพบที่เท้าทั้ง 2 ข้างมากกว่าพบที่เท้าข้างเดียว ปัจจัยกระตุ้นการเกิดภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง เกิดจากการสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมเป็นประจำ เช่น รองเท้าส้นสูง รองเท้าหัวแหลม รองเท้าที่คับแน่นจนเกินไป การรักษามีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การรักษาเบื้องต้น ตั้งแต่พบอาการเริ่มแรก ไปจนถึงการผ่าตัดในผู้ที่มีอาการรุนแรง การรักษาเบื้องต้น เลือกใส่รองเท้าที่เหมาะสม ใส่รองเท้าขนาดพอดี ไม่คับ หัวรองเท้ากว้าง (wide toe box) เมื่อสวมใส่แล้วสามารถขยับนิ้วเท้าได้ไม่บีบรัดนิ้วเท้า พื้นรองเท้านุ่ม ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีหัวส่วนปลายที่แหลมและส้นรองเท้าสูงมากกว่า 2นิ้ว […]
‘ฮีโมโครมาโตซิส’ โรคที่มีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากเกินไป หากไม่รักษาอวัยวะอาจล้มเหลวได้
‘ฮีโมโครมาโตซิส’ โรคที่มีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากเกินไป เหล็กเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการสำหรับการทำงานหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น ธาตุเหล็กเป็นส่วนหนึ่งของฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนที่นำออกซิเจนจากปอดของเราไปทั่วร่างกาย ช่วยให้กล้ามเนื้อเก็บและใช้ออกซิเจน ธาตุเหล็กยังเป็นส่วนหนึ่งของโปรตีนและเอนไซม์อื่นๆ อีกมากมาย ร่างกายจึงต้องการธาตุเหล็กในปริมาณที่เหมาะสม หากมีธาตุเหล็กน้อยเกินไป อาจเป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุ เหล็ก สาเหตุของระดับธาตุเหล็กต่ำ ได้แก่ การเสียเลือด กินอาหารที่ไม่ดี หรือการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารไม่เพียงพอ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีธาตุเหล็กน้อยเกินไปคือเด็กเล็กและสตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือมีประจำเดือน ธาตุเหล็กมากเกินไปสามารถทำลายร่างกายได้เช่นเดียวกัน การเสริมธาตุเหล็กมากเกินไปอาจทำให้เกิดพิษจากธาตุเหล็กได้ บางคนมีโรคที่สืบทอดมาเรียกว่าฮีโมโครมาโตซิส ทำให้ร่างกายสร้างธาตุเหล็กมากเกินไป ‘ฮีโมโครมาโตซิส’ โรคที่มีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากเกินไป หากไม่รักษาอวัยวะอาจล้มเหลวได้ ซึ่ง ฮีโมโครมาโตซิส (Hemochromatosis) เป็นโรคที่มีธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากเกินไป จริงอยู่ที่ร่างกายต้องการธาตุเหล็ก แต่มากเกินไปก็เป็นพิษ หากคุณเป็นโรคฮีโมโครมาโตซิส แสดงว่าคุณดูดซึมธาตุเหล็กมากเกินความต้องการ ร่างกายของคุณไม่มีวิธีกำจัดธาตุเหล็กส่วนเกินตามธรรมชาติ เก็บไว้ในเนื้อเยื่อของร่างกาย โดยเฉพาะตับ หัวใจ และตับอ่อน ซึ่งธาตุเหล็กส่วนเกินสามารถทำลายอวัยวะ และหากไม่มีการรักษาอาจทำให้อวัยวะล้มเหลวได้ ฮีโมโครมาโตซิส มี 2 ประเภท โรคโลหิตจางปฐมภูมิ เป็นโรคที่สืบทอดมา และฮีโมโครมาโตซิสทุติยภูมิ มักเป็นผลจากอย่างอื่น เช่น โรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมีย โรคตับ หรือการถ่ายเลือด อาการหลายอย่างของฮีโมโครมาโตซิส คล้ายกับโรคอื่นๆ เช่น อาการปวดข้อ เหนื่อยล้า อ่อนแรงทั่วไป น้ำหนักลด และปวดท้อง ฯลฯ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีอาการ แพทย์จะวินิจฉัยโรคฮีโมโครมาโตซิสโดยพิจารณาจากประวัติทางการแพทย์และครอบครัว การตรวจร่างกาย และผลจากการทดสอบและขั้นตอนต่างๆ การรักษารวมถึงการนำเลือด (และธาตุเหล็ก) ออกจากร่างกาย ยา และการเปลี่ยนแปลงอาหารของคุณ NIH: National […]
6 เทรนด์ออกกำลังกาย 2023 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในการเริ่มต้นปีใหม่คือ การเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ พร้อมกับโอกาสที่ไม่สิ้นสุด อีกทั้งการเริ่มต้นปีใหม่ยังเป็นสัญญาณของการปล่อยวางอดีต ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจสำหรับสิ่งที่เราจะทำให้สำเร็จลุล่วงภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า การบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นหนึ่งในปณิธานยอดนิยมที่ผู้คนมักตั้งขึ้นในทุกปีใหม่ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี อีกทั้งจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการให้ความสำคัญของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจะส่งผลกระทบกับทุกแง่มุมในชีวิตของคุณ รวมถึงช่วยพัฒนาสมาธิ ความจำ และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้เชื่อมโยงกันถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดูแลสุขภาพองค์รวม 6 เทรนด์ออกกำลังกาย 2023 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เป้าหมายในการออกกำลังกายของคุณไม่จำเป็นต้องเทียบเท่ากับของนักกีฬาอาชีพ อย่างการชนะการแข่งขันไตรกีฬาหรือการทำลายสถิติโลก เพราะแค่ขยับร่างกายเพียงเล็กน้อยในแต่ละวันก็สามารถสร้างประโยชน์ต่อสุขภาพและช่วยให้เริ่มต้นทำอย่างถูกทางได้ และเพื่อสุขภาพที่ดีในปี 2023 นี้ ขอแนะนำ เทรนด์การออกกำลังกาย ที่น่าสนใจมาฝาก เทรนด์การเดินและการวิ่งจะยังคงได้รับความนิยมต่อในปี 2023 เพราะเป็นกิจกรรมไม่มีค่าใช้จ่าย มีประสิทธิภาพ และสามารถทำได้ทุกที่ กล่าวง่ายๆ คือ การออกกำลังกายเช่นนี้เป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการเริ่มต้นเส้นทางในการออกกำลังกายของคุณ โดยจากผลการวิจัยพบว่า การเดินมีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษาความคล่องตัวและอิสระในการเคลื่อนไหวร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนี้การเดินยังเป็นการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ จึงส่งผลกระทบต่อส่วนข้อต่อน้อยกว่า รวมถึงการเดินบนทางลาดเอียง เช่น การเดินชันบนลู่วิ่งซึ่งเป็นรูปแบบการเดินที่ลงน้ำหนัก โดยจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อที่ทำงานหนักขึ้นจากการเดินต้านแรงโน้มถ่วง ซึ่งจะช่วยเพิ่มหรือรักษาความหนาแน่นของกระดูกที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ ได้แนะนำให้ออกกำลังกาย เช่น การเดินเร็วนาน 30 นาที เป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ พื้นฐานของการเดินและวิ่ง รวมถึงการออกกำลังกายต่างๆ คือ “การทำให้สำเร็จในสิ่งที่คุณเริ่มต้น” นอกจากนี้ การวิ่งหรือเดินกลางแจ้งยังช่วยให้ได้วิตามินดีจากแสงแดด ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียมที่มีความจำเป็นต่อกระดูกอีกด้วย […]
จริงหรือมั่ว? ผู้ที่เป็น ‘โรคไมเกรน’ เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกมากกว่าคนปกติถึง 46%
ตามที่มีการแชร์ข้อมูลสุขภาพในประเด็นเรื่องผู้ที่เป็น โรคไมเกรน เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกมากกว่าคนปกติถึง 46% ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ผู้ที่เป็น ‘โรคไมเกรน’ เสี่ยงเส้นเลือดสมองแตกมากกว่าคนปกติถึง 46% ประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีดังกล่าว ทางสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่าเนื้อหาข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ในปัจจุบันบอกถึงไมเกรนว่าจะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองแตกตามที่กล่าวอ้าง ดังนั้น ขอให้อย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ส่วนเรื่องหากเวลาปวดหัวไมเกรน สามารถกินยาแก้ปวดธรรมดาที่มีติดบ้านได้หรือเปล่า จะช่วยบรรเทาได้หรือไม่ อ่านเพิ่มเติมคลิกลิงค์ >>> (ปวดหัว “ไมเกรน” สามารถกินยาแก้ปวดธรรมดาได้หรือเปล่า ควรเช็คตามลิสต์นี้) ข้อมูล : สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขภาพ : Pexels บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
‘ภาวะกล้ามเนื้อมือเกร็ง’ อาการที่ไม่ควรมองข้าม ระวังลามไปสู่โรคทางระบบประสาทอื่นๆ
กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เผย ภาวะกล้ามเนื้อมือเกร็ง (Writer’s cramp) อาการเกร็งที่กล้ามเนื้อมือและแขนเมื่อเขียนหนังสือ และเขียนได้ช้าลง อาจทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น แนะควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย ‘ภาวะกล้ามเนื้อมือเกร็ง’ อาการที่ไม่ควรมองข้าม ภาวะกล้ามเนื้อมือเกร็ง (Writer’s cramp) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า task-specific dystonia ซึ่งเป็นอาการเคลื่อนไหวผิดปกติในรูปแบบของการบิดเกร็งผิดรูป ทีเกิดขึ้นเฉพาะบางท่าทาง เช่น เขียนหนังสือ พิมพ์ดีด เล่นดนตรี เล่นกีฬาบางชนิด เป็นต้น และอาการเกร็งจะหายไปเมื่อเลิกทำท่าทางนั้นหรือเมื่ออยู่เฉยๆ โดยจะพบอาการเกร็งมือเวลาเขียนหนังสือได้บ่อยที่สุดในผู้ป่วยกลุ่มโรคนี้ ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกแน่นหรือเกร็งนิ้วมือ มือ ข้อมือหรือแม้กระทั่งอาจลามถึงแขนเวลาใช้มือข้างนั้นเขียนหนังสือ ส่งผลให้ลายมือเปลี่ยนไป เขียนหนังสือช้าลง จนกระทั่งไม่สามารถเขียนหนังสือได้ บางครั้งอาจทำให้ผู้ป่วยต้องหัดเขียนหนังสือด้วยมืออีกข้างแทน ซึ่งจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยโดยตรง ผู้ป่วยประมาณ 10-20% อาจมีอาการของโรครุนแรงมากขึ้น จนมีอาการมือเกร็งเวลาทำกิจกรรมอื่นนอกจากเขียนหนังสือ เช่น จับช้อนหรือส้อมเวลาทานอาหาร ติดกระดุมเสื้อ เป็นต้น หรืออาจมีอาการเกร็งลามไปมืออีกข้างทำให้เป็นภาวะมือเกร็งทั้งสองข้างได้ ภาวะกล้ามเนื้อมือเกร็งอาจเป็นอาการนำของการเกิดโรคทางระบบประสาทอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น โรคกล้ามเนื้อบิดเกร็ง ทั่วตัวที่เป็นกรรมพันธุ์ เป็นต้น สาเหตุของโรคเกิดจากสมองที่มีวงจรทำงานผิดปกติ โดยส่งผลให้เกิดการบิดเกร็งของร่างกายส่วนนั้นๆ แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาผู้ป่วยโดยการกินยา และการทำกายภาพบำบัดเพื่อลด […]
หนึ่งในล้าน ‘โรคคนแข็ง’ ความผิดปกติของระบบประสาทที่พบยาก แต่ ‘เซลีน ดิออน’ กำลังเผชิญ
ช่วงก่อนปีใหม่ที่ผ่านมา ‘เซลีน ดิออน’ ดีว่าตัวแม่ของโลก ศิลปินเจ้าของเพลงดัง My Heart Will Go On ประกาศยกเลิกตารางทัวร์คอนเสิร์ตทั้งหมดของเธอด้วยปัญหาสุขภาพ หลังจากแพทย์วินิจฉัยว่าเธอกำลังป่วยด้วย โรคคนแข็ง หรือ Stiff-person syndrome (SPS) เป็นโรคที่เป็นความผิดปกติของระบบประสาท มีผลต่อกล้ามเนื้อหดเกร็งส่งผลให้เกิดความผิดปกติในการทรงตัว อาการปวดเรื้อรัง การเคลื่อนไหวบกพร่อง ซึ่งพบยากเกิดขึ้นได้หนึ่งในล้าน รู้จัก ‘โรคคนแข็ง‘ STIFF-PERSON SYNDROME โรคทางระบบประสาทหายาก โรคคนแข็ง Stiff-person syndrome (SPS) เป็นโรคทางระบบประสาทส่วนกลางในกลุ่มที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งในภาวะปกติระบบภูมิคุ้มกันมีหน้าที่ป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย แต่เมื่อเกิดโรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดพลาดย้อนกลับมาทำลายเซลล์ของร่างกายตัวเอง มักพบได้น้อยมากประมาณ 1 ในล้านคน ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในโรคนี้ คือ สารต่อต้านเอนไซม์กลูตามิกดีคาร์บอกซิเลส (anti-GAD antibody) ปกติเอนไซม์ GAD ในระบบประสาทจะทำหน้าที่หลักในการเปลี่ยนสารสื่อประสาทกลูตาเมต (Glutamate) ให้เป็นสารสื่อประสาทกาบ้า (GABA) ซึ่งกาบ้ามีหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเซลล์ที่มากเกินจำเป็นและอย่างเหมาะสม ดังนั้น เมื่อสารสื่อประสาทกาบ้ามีปริมาณลดลง ส่งผลให้เซลล์ไม่มีระยะเวลาพักและทำงานตลอดเวลา จึงทำให้เกิดอาการผิดปกติ เซลล์ประสาทที่ได้รับผลกระทบอยู่ที่เซลล์ประสาทสั่งการ (motor neuron) […]
สัญญาณเตือน ‘มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง’ มะเร็งที่พบมากอันดับต้นๆ ในหลายประเทศทั่วโลก
กรมการแพทย์ โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ชี้สัญญาณเตือน มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง เป็นมะเร็งที่พบมากอันดับต้นๆ ในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป แนะเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม อาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ และเนื้อสัตว์แปรรูป สัญญาณเตือน ‘มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง‘ มะเร็งที่พบมากอันดับต้นๆ ในหลายประเทศทั่วโลก มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง เป็นมะเร็งที่พบมากอันดับต้นๆ ในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของประชากรส่งผลให้แนวโน้มอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่สาเหตุการตายและปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี สำหรับประเทศไทยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบมากในคนไทย มีอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นทุกปี ปัจจุบันพบมากเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 4 ในเพศหญิง ปัจจุบันวิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากโดยเฉพาะพฤติกรรมการบริโภค เช่น อาหารไขมันสูง อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น การกินอาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม อาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ และเนื้อสัตว์แปรรูป ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรค อีกทั้งยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การขาดการออกกำลังกาย การมีภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ตลอดจนการมีประวัติครอบครัวหรือตนเองเป็นติ่งเนื้อในลำไส้ เป็นต้น โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เริ่มจากการเกิดติ่งเนื้อในลำไส้ (polyp) และพัฒนาจนเป็นมะเร็งโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 ปี […]
5 สัญญาณเสี่ยง ‘โรคต้อกระจก’ รู้เร็ว รักษาให้หายขาดได้ ด้วยวิธีการผ่าตัดสองแบบ
ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ แต่ดวงตาที่ใช้งานมานานโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงวัยจะมีอาการเสื่อมถอยจากส่วนต่างๆ ของลูกตาหนึ่งในนั้นคือ เลนส์ตาซึ่งก็คือภาวะต้อกระจกส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และหากไม่รักษาอย่างจริงจังก็มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียการมองเห็นได้ ‘พญ.ปนียา ตปนียางกูร’ จักษุวิทยาต้อหิน ได้อธิบายให้ทราบถึงสัญญาณโรค สาเหตุ และการรักษา โรคต้อกระจก เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือผู้ที่พบอาการของโรคแล้ว ควรหมั่นสังเกตการมองเห็นของเราและคนใกล้ตัว เมื่อเริ่มรู้สึกว่าตามัว มองไม่ชัดเจน หรือเห็นแสงแตกกระจายในขณะขับรถถึงแม้จะใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์ก็ไม่หาย อาจเป็นสัญญาณโรคต้อกระจก ที่เกิดจากภาวะเสื่อมของเลนส์ตา ส่วนใหญ่พบมากในผู้สูงอายุ และยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิด ซึ่งไม่สามารถรักษาด้วยยาได้ ต้องรับการผ่าตัด แต่โรคต้อกระจกไม่จำเป็นต้องรับการผ่าตัดทุกคน ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดในรายที่เลนส์แก้วตาขุ่น มัว เป็นฝ้า บดบังการมองเห็น ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง เพราะหากปล่อยไว้นาน ตาจะมัวลงจนถึงขั้นมองไม่เห็น และอาจทำให้การผ่าตัดยากและต้องเปิดแผลใหญ่ขึ้น หรืออาจรุนแรงจนทำให้ตาบอดได้ ต้อกระจกสามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการผ่าตัดทำให้สายตากลับมาดีเหมือนเดิม 5 สัญญาณเสี่ยง ‘โรคต้อกระจก’ รู้เร็ว รักษาให้หายขาดได้ ด้วยวิธีการผ่าตัดสองแบบ ลองเช็คดูว่ามีสัญญาณ หรืออาการเหล่านี้หรือไม่ ตามัว มองเห็นไม่ชัด มองเห็นภาพเป็นเงาซ้อน มองเห็นแสงไฟกระจายแตกเป็นแฉก มองเห็นสีต่างๆ เปลี่ยนไปจากเดิม มีฝ้าขาว บริเวณกลางรูม่านตา อาการเหล่านี้ คือสัญญาณของโรคต้อกระจก สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการผ่าตัด ต้อกระจก (Cataract) คืออะไรโรคต้อกระจก คือภาวะเสื่อมของเลนส์ตา เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในคนสูงอายุ เกิดจากการเสื่อมไปตามวัย […]
8 ทริคเลือก ‘ของว่าง’ ที่ควรกินก่อนและหลังออกกำลังกาย เพื่อรูปร่างและสุขภาพสุดปัง
ของว่าง เพื่อสุขภาพเป็นส่วนสำคัญสำหรับมื้ออาหารของทุกคน แต่สำหรับนักกีฬาและบุคคลที่ใช้พลังงานอยู่ตลอดเวลานั้น การกินของว่างจะช่วยทำให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับการออกกำลังกาย ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางจิตใจ และช่วยรักษาองค์ประกอบร่างกายให้แข็งแรง ดาน่า ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาและการศึกษา เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น และในฐานะนักโภชนาการด้านกีฬา มักถูกนักกีฬาถามบ่อยครั้งว่าควรกินอะไรก่อนและหลังออกกำลังกาย? หรือของว่างที่ดีสำหรับนักกีฬาคืออะไร? ซึ่งดาน่ารู้สึกว่าคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่ดีและพร้อมที่จะตอบ 8 ทริคเลือก ‘ของว่าง’ ที่ควรกินก่อนและหลังออกกำลังกาย เพื่อรูปร่างและสุขภาพสุดปัง ของว่าง คือ “มื้ออาหารย่อยๆ” ระหว่างอาหารมื้อหลักและจำเป็นต่อการได้รับแคลอรีและสารอาหารที่ร่างกายของเราต้องการ ซึ่งปริมาณและประเภทของของว่างควรพิจารณาจากสัญญาณความหิว รวมถึงตารางการทำงาน การเรียน การเล่นกีฬา หรือการนอนของคุณ ทั้งนี้ กุญแจสำคัญคือการเลือกของว่างอย่างชาญฉลาด เพื่อให้คุณยังคงอยู่ในเส้นทางไปสู่เป้าหมายด้านโภชนาการและการสร้างสมรรถภาพ และนี่คือเคล็ดลับยอดนิยมเกี่ยวกับการกินของว่างเพื่อสุขภาพ 1. กินโปรตีนที่มีไขมันต่ำร่วมกับคาร์โบไฮเดรต และ/หรือไขมันที่ดีต่อสุขภาพโดยทั่วไปแล้วให้นึกถึงความสมดุลเมื่อมองหาขนมขบเคี้ยวเพื่อควบคุมความหิว โดยจับคู่กับอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันที่ดีต่อสุขภาพเพื่อเป็นของว่างที่สมดุล ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือต้องมีโปรตีนที่มีไขมันต่ำในทุกมื้ออาหารและของว่าง เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ โปรตีนยังช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มท้องและช่วยชะลอความหิวจนกว่าจะถึงมื้อต่อไปของคุณได้อีกด้วย ส่วนคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานแก่ร่างกายและสมอง ให้เลือกธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ขนมปังโฮลวีตแครกเกอร์ หรือซีเรียลที่มีเส้นใยสูงเพื่อให้ได้พลังงานที่ต่อเนื่อง ขณะที่ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น เนยถั่ว หรืออะโวคาโดให้พลังงานในปริมาณมาก โดยตัวอย่างของว่างที่สมดุล ได้แก่ กรีกโยเกิร์ตกับกราโนล่า แซนวิชไก่งวงครึ่งตัว สมูทตี้ผลไม้ที่ทำจากกรีกโยเกิร์ต 2. อย่าเพิกเฉยต่อความหิวของตัวเองจงฟังร่างกายและใส่ใจกับสัญญาณความหิวของตัวเอง โดยสัญญาณทั่วไป ได้แก่ ท้องร้อง […]
‘มะเขือเทศ’ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด ‘มะเร็งต่อมลูกหมาก’ ได้จริงหรือไม่
จากกรณีนักแสดงชายท่านหนึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตัวร้ายที่ผู้ชายทุกคนไม่ควรมองข้าม เมื่อมีภาวะที่ผิดปกติเกิดขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ มะเร็งต่อมลูกหมาก ตรวจพบได้เร็ว มีโอกาสรักษาหาย และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ‘มะเขือเทศ’ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด ‘มะเร็งต่อมลูกหมาก’ ได้จริงหรือไม่ ต่อมลูกหมาก เป็นอวัยวะของผู้ชายซึ่งทำหน้าที่เป็นหูรูดควบคุมการปัสสาวะ และสร้างน้ำเลี้ยงตัวอสุจิ บางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นอัณฑะได้ มะเร็งต่อมลูกหมาก คือเซลล์เนื้องอกผิดปกติที่เกิดในต่อมลูกหมาก พบในคนที่สูงอายุมากกว่า 50 ปี ซึ่งพบได้มากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย เนื่องจากเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งคนมีอายุยืนมากขึ้น โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ อายุและพันธุกรรม สำหรับโรคมะเร็งต่อมลูกหมากปัจจุบันพบมากเป็นอันดับ 4 ของมะเร็งที่พบทั้งหมดในเพศชาย จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทยโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (Cancer in Thailand Vol.X (2016-2018) สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข) รายงานผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากรายใหม่วันละ 10 ราย หรือ 3,755 รายต่อปี เสียชีวิตจากมะเร็งต่อมลูกหมาก วันละ 5 ราย หรือ 1,654 รายต่อปี อาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก ผู้ป่วยมักมาด้วยก้อนเนื้อมะเร็งกดเบียดท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะลำบาก ไม่พุ่ง ต้องเบ่ง […]
‘ฮันจีฮยอน’ เผยว่าเธอกินเยอะจนต้องอ้วก ขณะถ่ายทำซีรีส์ ‘Cheer Up’
นักแสดงสาว ฮันจีฮยอน (Han Ji Hyun) เผยว่าเธอกินเยอะจนต้องอ้วกขณะถ่ายทำซีรีส์เรื่อง ‘Cheer Up’ โดยเป็นบทสัมภาษณ์ของเธอกับ Wikitree ที่เธอได้แบ่งปันเรื่องราวเบื้องหลังการถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ ฮันจีฮยอน เผยว่า “ตอนสุดท้ายของออกอากาศซีรีส์เรื่องนี้ในวันที่ 13 ธค.ที่ผ่านมา แต่เป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่การถ่ายทำเสร็จสิ้น ฉันได้บอกลา ‘โดแฮอี‘ (ตัวละครในซีรีส์) แล้ว เธอจะยังคงเป็นมิตรแท้ในดวงใจ” ‘ฮันจีฮยอน’ เผยว่าเธอกินเยอะจนต้องอ้วก ขณะถ่ายทำซีรีส์ ‘Cheer Up’ เมื่อถูกถามว่าเธอรู้สึกหนักใจไหมในการถ่ายทำซีรีส์เรื่องแรกที่เธอเป็นนักแสดงหลัก ฮันจีฮยอนตอบว่า “ฉันครุ่นคิดเยอะมากนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดว่าฉันเตรียมตัวอย่างขยันขันแข็งมากขึ้นและเตรียมหลายอย่างที่จะแสดง ฉันคิดมากเกี่ยวกับตัวละครและวิเคราะห์เธอ ฉันถ่ายทำด้วยความคิดที่จะศึกษาแนวของตัวละครอื่นๆ และการสนทนาระหว่างนักแสดงในสถานที่และอื่นๆ” ฮันจีฮยอนยังได้แบ่งปันเหตุผลที่เธอได้รับบทบาทที่แตกต่างอย่างมากจากตัวละครจูซอกคยองจาก ‘Penthouse’ นักแสดงสาวกล่าวว่า “มันไม่ใช่การออดิชั่น แต่ฉันได้คุยกับผู้กำกับก่อน ฉันได้รับบทก่อนและฉันก็อยากเล้นซีรีส์เรื่องนี้ทันทีที่ได้อ่านบท เหตุผลหนึ่งก็คือฉันอยากจะสลัดภาพลักษณ์ ของ จูซอกคยอง จากเรื่อง Penthouse แต่ฉันคิดว่าบมทตัวละคร ‘โดแฮอี’ น่ารักและมีพลังมากจนฉันอยากจะลองสวมบทบาทแบบนั้น และต้องขอบคุณตัวละครที่น่ารักและร่าเริงของโดแฮอี ผู้ชมสามารถลืมตัวละครที่แข็งแกร่งของจูซอกฮยองได้” นอกจากนี้ ฮันจีฮยอนและสมาชิกคนอื่นๆ ยังได้รับคำชมจากการออกแบบท่าเต้นที่เฉียบคมในฐานะเชียร์ลีดเดอร์ นักแสดงหญิงกล่าวว่า “ใกล้จะครบ 1 ปีแล้วสำหรับการฝึกซ้อมของเราตั้งแต่เริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ เราปวดเมื่อยจากการฝึกซ้อมดังนั้นเราจึงต้องใส่แผ่นแปะเสมอ แต่ร่างกายของฉันก็ปรับตัวเมื่อเวลาผ่านไป” […]
ปวดหลังที่ไม่ใช่แค่ปวดหลัง ‘เนื้องอกไขสันหลัง’ หากปล่อยเรื้อรังอาจถึงขั้นเป็นอัมพาตได้
แพทย์เตือนหากมีอาการปวดหลังเรื้อรังมานาน อาจเป็นสัญญาณเตือน เนื้องอกไขสันหลัง หากปล่อยเรื้อรังไปนานๆ อาจส่งผลถึงขั้นเป็นอัมพาตได้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย ปวดหลังที่ไม่ใช่แค่ปวดหลัง ‘เนื้องอกไขสันหลัง’ หากปล่อยเรื้อรังอาจถึงขั้นเป็นอัมพาตได้ ระบบประสาทส่วนกลางของร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วยสมองและไขสันหลังที่มีความสำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเกิดความผิดปกติได้เช่นกัน โดยเฉพาะ เนื้องอกไขสันหลัง คือเนื้องอกที่อยู่ในโพรงกระดูกสันหลัง อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ระดับคอจากรอยต่อก้านสมอง ไปจนถึงระดับเอว หากเกิดการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ประสาทจะพัฒนากลายเป็นเนื้องอก โดยที่เซลล์ของเนื้องอกไขสันหลังส่วนใหญ่เป็นเซลล์ของเยื่อหุ้มไขสันหลัง เซลล์เยื่อหุ้มเส้นประสาท และเซลล์ภายในไขสันหลัง อาการของเนื้องอกไขสันหลัง ในแต่ละตำแหน่งจะมีความแตกต่างกัน เช่น ถ้าเนื้องอกอยู่ในระดับกระดูกสันหลังส่วนคอ จะมีอาการอ่อนแรงกล้ามเนื้อแขน ชาตามมือและแขนเป็นส่วนใหญ่ ส่วนอาการปวดต้นคอจะไม่มาก อาจมีอาการเพียงแค่ปวดตึงคอ ไม่ค่อยมีอาการปวดร้าวลงแขนแบบที่พบในโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน เวลาเดินบางครั้งอาจมีอาการเกร็งที่ขา 2 ข้าง ส่วนอาการเนื้องอกไขสันหลังในระดับเอวจะมีอาการอ่อนแรงขาข้างใดข้างหนึ่ง เวลาเดินขาอาจจะทรุดลงได้ หากยังไม่รับการรักษาอาการอ่อนแรงจะมากขึ้น หรืออาจทำให้อัมพาตทั้งแขนและขาทั้ง 2 ข้างได้ อาการส่วนใหญ่จะมีอาการอ่อนแรงที่ขาเป็นหลัก ร่วมกับมีอาการชาของลำตัวลงไปจนถึงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างได้ ในผู้ป่วยบางรายอาจพบอาการปวดบริเวณกลางหลัง ชา หรือปวดร้าวรอบๆ อกได้ เนื้องอกในระดับกระดูกสันหลังส่วนเอวจะมีเส้นประสาทไขสันหลัง และส่วนปลายของไขสันหลัง หากเกิดเนื้องอกบริเวณนี้ อาการอ่อนแรงจะไม่อ่อนแรงขาทั้งข้าง ซึ่งต่างจากเนื้องอกในตำแหน่งระดับคอหรืออก แต่ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลัง ปวดเอว ร่วมกับอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ […]
10 อาหารบำรุงเตรียมตั้งครรภ์ เพิ่มโอกาสสำเร็จ มีลูกน้อยสมบูรณ์แข็งแรงรับปีกระต่าย
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำมีบุตรยากคือ การกินอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ หรือ เรียกว่า “ภาวะทุพโภชนาการ” ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ผิดปกติ ไข่ไม่โต ฮอร์โมนไม่สมดุล ครูก้อย – นัชชา ลอยชูศักดิ์ จาก Babyandmom.co.th ได้ศึกษาและรวบรวมงานวิจัยเกี่ยวกับหลักโภชนาการในการกินอาหารที่จะช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ ช่วยบำรุงไข่ บำรุงมดลูก และปรับสมดุลฮอร์โมน รวมถึงบำรุงคุณภาพสเปิร์มของฝ่ายชาย เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ ได้แนะนำ “10 อาหารบำรุงเตรียมตั้งครรภ์ เพิ่มโอกาสสำเร็จมีลูกน้อยที่สมบูรณ์แข็งแรง” ที่สามารถหากินได้ง่าย เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์แข็งแรงตามที่ปรารถนา 10 อาหารบำรุงเตรียมตั้งครรภ์ เพิ่มโอกาสสำเร็จ มีลูกน้อยสมบูรณ์แข็งแรงรับปีกระต่าย 1. โปรตีนผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ควรกินโปรตีนให้เพียงพอเพื่อบำรุงเซลล์ไข่ให้อ้วนโต สร้างผนังมดลูกให้แข็งแรง เน้นกินโปรตีนจากพืช ลดโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เพราะมีงานวิจัย จาก Harvard School of Public Health พบว่าผู้หญิงกินโปรตีนจากสัตว์จำนวนถึง 39% จะประสบปัญหาภาวะที่มีบุตรยากมากกว่าผู้หญิงที่กินโปรตีนจากพืชโดยแหล่งโปรตีนจากพืช ที่มีประโยชน์ ได้แก่ อัลมอนด์ วอลนัท ถั่วลูกไก่ ถั่วเหลือง เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน และยังเป็นหนึ่งในตัวช่วยของผู้หญิงที่อยากตั้งท้องอีกด้วย ส่วนแหล่งโปรตีนจากสัตว์ ที่เหมาะสำหรับผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ ได้แก่ ไข่เป็ด ไข่ไก่ ปลาทะเล ปลาแซลมอน ทานนมแพะแทนนมวัว เนื่องจากนมวัวมีน้ำตาลแลคโตสสูงกว่านมแพะจึงเสี่ยงต่อภาวะ PCOS ไข่ไม่ตกเรื้อรัง แถมยังโมเลกุลใหญ่ ย่อยยาก ตกค้างในลำไส้ นมแพะ มีโปรตีนที่ก่อให้เกิดการแพ้น้อยกว่านมวัวถึง 89% และเมื่อตั้งครรภ์แล้วลูกอาจเสี่ยงที่จะแพ้นมวัวได้ 2. ผักใบเขียวไม่ว่าจะเป็น ผักโขม ผักคะน้า บรอกโคลี ล้วนอุดมไปด้วยกรดโฟลิกช่วยสร้างและป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทของตัวอ่อน อีกทั้งช่วยซ่อมแซมพันธุกรรมสร้างกรดอะมิโนที่ใช้แบ่งเซลล์สร้างเม็ดเลือดแดงและขาวในไขกระดูกของลูกน้อย แคลเซียมมีส่วนช่วยป้องกันคุณแม่สูญเสียมวลกระดูกเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างกระดูกของทารกในครรภ์ และวิตามิน E ช่วยเร่งและเพิ่มอัตราไข่ตก, บำรุงครรภ์ อีกทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งผักใบเขียวยังมีวิตามินเอ และอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ที่เพิ่มออกซิเจนให้เลือด เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูกได้ดี ทำให้มดลูกแข็งแรง […]
ใครบ้างมีโอกาสเสี่ยงเป็น ‘โรคลิ้นหัวใจ’ และสามารถรักษาหายขาดได้หรือไม่
โรคลิ้นหัวใจ เกิดขึ้นเมื่อลิ้นหัวใจอย่างน้อยหนึ่งตัวทำงานได้ไม่ดี หัวใจคนเรามีสี่วาล์ว คือ วาล์ว tricuspid, pulmonary, mitral และ aortic วาล์วมีลิ้นเปิดและปิด แผ่นปิดช่วยให้แน่ใจว่าเลือดไหลเวียนไปในทิศทางที่ถูกต้องผ่านหัวใจและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เมื่อหัวใจเต้น ลิ้นอากาศจะเปิดออกเพื่อให้เลือดไหลผ่าน ระหว่างการเต้นของหัวใจ พวกมันจะปิดเพื่อหยุดเลือดไม่ให้ไหลย้อนกลับ หากลิ้นหัวใจอย่างน้อยหนึ่งลิ้นเปิดหรือปิดไม่ถูกต้อง อาจส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด โรคลิ้นหัวใจ มี 3 ประเภท การสำรอกหรือการไหลย้อนกลับเกิดขึ้นเมื่อลิ้นวาล์วปิดไม่แน่น สิ่งนี้ทำให้เลือดไหลย้อนกลับ สาเหตุทั่วไปของการสำรอกคืออาการห้อยยานของอวัยวะ ซึ่งลิ้นปีกผีเสื้อหลุดหรือนูนกลับ อาการห้อยยาน ของอวัยวะส่วนใหญ่มักส่งผลต่อวาล์วไมตรัล mitral valve การตีบเกิดขึ้นเมื่อลิ้นปีกผีเสื้อหนา แข็ง หรือติดกัน สิ่งนี้จะป้องกันไม่ให้ลิ้นหัวใจเปิดจนสุด เลือดไม่สามารถไหลผ่านวาล์วได้เพียงพอ ลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบเป็นการตีบชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย มีผลต่อวาล์วที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือดไปยังหลอดเลือดแดงใหญ่ที่นำเลือดออกจากหัวใจไปสู่ร่างกาย Atresianเกิดขึ้นเมื่อลิ้นหัวใจไม่ได้ก่อตัวอย่างถูกต้องและไม่มีช่องให้เลือดผ่าน บางครั้งวาล์วอาจมีทั้งสำรอกและตีบ โรคลิ้นหัวใจเกิดจากอะไร บางคนเกิดมาพร้อมกับโรคลิ้นหัวใจ สิ่งนี้เรียกว่าโรคลิ้นหัวใจพิการแต่กำเนิด อาจเกิดขึ้นเพียงลำพังหรือร่วมกับ ความบกพร่องของหัวใจแต่กำเนิดอื่นๆ โรคลิ้นหัวใจสามารถพัฒนาเมื่อเวลาผ่านไปเมื่ออายุมากขึ้นหรือมีภาวะบางอย่างที่ส่งผลต่อหัวใจ ใครมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคลิ้นหัวใจ อายุมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ลิ้นหัวใจจะหนาและแข็งขึ้น เคยมีอาการอื่นๆ ที่ส่งผลต่อหัวใจและหลอดเลือดของคุณ เหล่านี้รวมถึง ไข้รูมาติก คอ อักเสบที่ไม่ได้รับการรักษาอาจกลายเป็นไข้รูมาติกได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อลิ้นหัวใจ ความเสียหายอาจไม่ปรากฏขึ้นเป็นเวลาหลายปี ทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่ใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาโรคคออักเสบก่อนที่มันจะทำให้ลิ้นหัวใจเสียหาย เยื่อบุหัวใจอักเสบ นี่คือการติดเชื้อที่หายากในเยื่อบุของหัวใจและลิ้นหัวใจ มักเกิดจากแบคทีเรียในกระแสเลือด หัวใจวาย หัวใจล้มเหลว โรคหลอดเลือดหัวใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันส่งผลกระทบต่อหลอดเลือดแดงใหญ่ (หลอดเลือดแดงใหญ่ที่นำเลือดจากหัวใจไปสู่ร่างกาย) ความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วนและน้ำหนักเกิน ขาดการออกกำลังกาย ประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจระยะแรก พ่อหรือพี่ชายที่เป็นโรคหัวใจอายุน้อยกว่า 55 […]
5 สารอาหาร ที่ควรกินตอนกลางคืน เพื่อผิวสวยและการทำงานของลำไส้
กลางคืนเป็นเวลาที่ความเหนื่อยล้าของวันสะสม การกิน สารอาหาร ที่จำเป็นเพื่อกำจัดความเหนื่อยล้า จะทำให้มีสุขภาพที่ดีในวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ เนื่องจากมีเขตเวลาที่เรียกว่า “เวลาทองของลำไส้” ในตอนกลางคืน จึงแนะนำให้กินสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของลำไส้และสารอาหารที่จะช่วยให้นอนหลับสบายตลอดคืน แนะนำสารอาหารที่มีประโยชน์สำหรับการฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้า ทำให้ผิวสวย และการทำงานของลำไส้โดยการกินเข้าไปในเวลากลางคืน นักโภชนาการแนะนำ 5 สารอาหาร ที่ดีที่สุดที่ควรทานในเวลากลางคืน Limonene (ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเช่น มะนาว) ลิโมนีนเป็นส่วนประกอบที่มีอยู่ในเปลือกผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อลิโมนีนถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย คลื่นอัลฟาจะถูกสร้างขึ้นในสมอง คลื่นอัลฟ่าจะเกิดขึ้นเมื่อรู้สึกผ่อนคลาย ดังนั้น การกินลิโมนีนสามารถช่วยผ่อนคลายได้ ลิโมนีนสามารถให้ผลได้เพียงแค่เกาผิวของผลไม้รสเปรี้ยวแล้วปล่อยให้มีกลิ่น ดังนั้น แม้แต่คนที่ไม่มีเวลากินก็เพียงแค่ “ดมกลิ่น” เท่านั้น อิมิดาโซล ไดเปปไทด์ (ไก่) อิมิดาโซลไดเปปไทด์เป็นส่วนประกอบที่เรียกว่าเปปไทด์ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนสองชนิดขึ้นไปซึ่งมีอยู่มากในเนื้อไก่ ลักษณะของอิมิดาโซลไดเปปไทด์คือมีผลในการฟื้นฟูเมื่อยล้า ความเหนื่อยล้าสะสมทางร่างกายและจิตใจหมายความว่าความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันเพิ่มขึ้นในเซลล์กล้ามเนื้อและสมอง และออกซิเจนที่ใช้งานมีมากเกินไป อิมิดาโซลไดเปปไทด์มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้น จึงดูเหมือนว่ามีหน้าที่ในการกำจัดออกซิเจนที่ออกฤทธิ์และบรรเทาอาการเมื่อยล้า นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการสลายตัวของกรดแลคติกซึ่งเป็นสารตัวหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้า จึงมีประโยชน์ในการบรรเทาอาการเมื่อยล้าของวัน นอกจากนี้ imidazole dipeptides ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยในการต่อต้านริ้วรอย เนื่องจากไก่มีโปรตีนคุณภาพสูง การกินตอนกลางคืนจึงช่วยให้ผิวของสวยขึ้นในขณะนอนหลับ แคลเซียม (นม ผลิตภัณฑ์จากนม) แคลเซียมเป็นที่รู้จักในด้านความสามารถในการรักษาฟันและกระดูกให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังมีผลในการระงับความตึงเครียดและความตื่นเต้นและบรรเทาความเครียด นอกจากนี้มีรายงานว่าแคลเซียม สามารถดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อดื่มในเวลากลางคืน ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมและโยเกิร์ตอุดมไปด้วยแคลเซียม ดังนั้นอย่าลืมใส่ในมื้อเย็นด้วย หากดื่มก่อนนอนแนะนำให้ทานเป็น […]
5 ข้อควรรู้ก่อนเริ่มเล่น ‘โยคะ’ กิจกรรมยอดนิยมที่ช่วยทั้งร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้น
โยคะ โดยทั่วไปจะผสมผสานระหว่างท่าทางของร่างกาย การฝึกหายใจ และการทำสมาธิ นักวิจัยกำลังศึกษาว่าโยคะสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพได้อย่างไร เนื่องจากการศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับโยคะได้รวมคนเพียงจำนวนน้อยและไม่ได้มีคุณภาพสูง ในกรณีส่วนใหญ่สามารถพูดได้เพียงว่าโยคะมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยเฉพาะ หากกำลังคิดที่จะฝึกโยคะ นี่คือ 5 สิ่งที่ควรรู้ 5 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ โยคะ 1. การศึกษาชี้ให้เห็นว่า โยคะ อาจเป็นประโยชน์ต่อสภาวะสุขภาพหลายประการ รวมถึงอาการปวดหลังส่วนล่าง ปวดคอ และอาการวัยหมดระดู นอกจากนี้ยังอาจช่วยให้ผู้คนลดน้ำหนักหรือหยุดสูบบุหรี่ 2. โยคะอาจมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง การศึกษาแสดงให้เห็นว่าอาจช่วยให้ผู้คนจัดการกับความเครียด เสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี ปรับปรุงการนอนหลับและความสมดุล การฝึกโยคะเป็นประจำอาจเชื่อมโยงกับนิสัยการกินและการออกกำลังกายที่ดีขึ้น 3. โดยทั่วไปถือว่าโยคะเป็นกิจกรรมทางกายรูปแบบหนึ่งที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงเมื่อฝึกอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการออกกำลังกายในรูปแบบอื่นๆ การเล่นโยคะอาจทำให้คุณบาดเจ็บได้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ให้ฝึกโยคะภายใต้คำแนะนำของผู้สอนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม การฝึกโยคะด้วยการศึกษาด้วยตนเองโดยไม่มีผู้ดูแลมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น 4. โยคะอาจมีประโยชน์สำหรับเด็ก เป็นเครื่องมือในการจัดการความเครียดที่มีแนวโน้มดีสำหรับเด็ก และอาจเป็นประโยชน์สำหรับการลดน้ำหนักในเด็กที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน และลดความวิตกกังวล 5. ด้วยข้อควรระวังที่เหมาะสม โยคะจึงปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์ เป็นเรื่องปกติที่จะออกกำลังกายเมื่อคุณตั้งครรภ์ แต่ควรได้รับการประเมินจากผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อให้แน่ใจว่าการออกกำลังกายนั้นปลอดภัยสำหรับคุณ กิจกรรมบางอย่าง เช่น โยคะ อาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนระหว่างตั้งครรภ์ (เช่น หลีกเลี่ยงการนอนหงายเป็นเวลานาน) โยคะอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับสตรีมีครรภ์ ซึ่งรวมถึงการลดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ข้อมูล : nccih.nih.govภาพ : Pexels บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
‘โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง’ อาการร้ายแรงระยะยาวจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง (CFS) เป็นโรคร้ายแรงระยะยาวที่ส่งผลต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย มีอีกชื่อหนึ่งคือ myalgic encephalomyelitis/chronic fatigue syndrome (ME/CFS) CFS มักทำให้คุณไม่สามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ บางครั้งอาจลุกจากเตียงไม่ได้ด้วยซ้ำ ‘โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง’ อาการร้ายแรงระยะยาวจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง สาเหตุกลุ่มอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง (CFS) คืออะไรไม่ทราบสาเหตุของ CFS อาจมีมากกว่าหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกิด เป็นไปได้ว่าตัวกระตุ้นสองตัวหรือมากกว่านั้นอาจทำงานร่วมกันเพื่อทำให้เกิดอาการป่วย ใครบ้างที่เสี่ยงต่อโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง (CFS)ทุกคนสามารถรับ CFS ได้ แต่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ที่มีอายุระหว่าง 40 ถึง 60 ปี ผู้หญิงวัยผู้ใหญ่มักมีมากกว่าผู้ชายวัยผู้ใหญ่ คนผิวขาวมีแนวโน้มที่จะได้รับการวินิจฉัยโรค CFS มากกว่าเชื้อชาติอื่น แต่หลายคนที่เป็นโรค CFS ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง (CFS) อาจรวมถึง ความเหนื่อยล้าอย่างรุนแรงที่ไม่ดีขึ้นจากการพักผ่อน ปัญหาการนอนหลับ อาการไม่สบายหลังออกแรง (PEM) ซึ่งอาการของคุณจะแย่ลงหลังจากทำกิจกรรมทางร่างกายหรือจิตใจ ปัญหาเกี่ยวกับการคิดและสมาธิ ความเจ็บปวด อาการวิงเวียนศีรษะ CFS ไม่สามารถคาดเดาได้ อาการของคุณอาจเกิดขึ้นและหายไป อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป บางครั้งอาจดีขึ้น และบางครั้งอาจแย่ลง การวินิจฉัยโรคอ่อนเพลียเรื้อรัง (CFS) เป็นอย่างไรCFS อาจวินิจฉัยได้ยาก ไม่มีการทดสอบเฉพาะสำหรับ CFS และการเจ็บป่วยอื่นๆ อาจทำให้เกิดอาการคล้ายคลึงกันได้ ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณต้องแยกแยะโรคอื่นๆ ก่อนทำการวินิจฉัยโรค CFS เขาหรือเธอจะทำการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด รวมถึง: […]
โรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล อาการซึมเศร้าประเภทหนึ่ง พบได้บ่อยในผู้หญิง
โรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล (SAD) เป็นโรคซึมเศร้าประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล โดยปกติจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงและต้นฤดูหนาวและจะหายไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน บางคนมีอาการซึมเศร้าที่เริ่มในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน แต่ก็พบได้น้อยกว่ามาก อาการของโรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล อาจรวมถึง ความเศร้า มุมมองที่มืดมน รู้สึกสิ้นหวัง ไร้ค่า และหงุดหงิดง่าย สูญเสียความสนใจหรือความสุขในกิจกรรมที่คุณเคยชอบ พลังงานต่ำ นอนหลับยากหรือนอนมากเกินไป ความอยากคาร์โบไฮเดรตและการเพิ่มน้ำหนัก ความคิดเรื่องความตายหรือการฆ่าตัวตาย โรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล อาการซึมเศร้าประเภทหนึ่ง พบได้บ่อยในผู้หญิง โรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล พบได้บ่อยในผู้หญิง คนหนุ่มสาว และผู้ที่อาศัยอยู่ห่างไกลจากเส้นศูนย์สูตร นอกจากนี้ คุณยังมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล หากคุณหรือสมาชิกในครอบครัวมีอาการซึมเศร้า ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของ โรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล นักวิจัยพบว่าผู้ที่มีภาวะ SAD อาจมีความไม่สมดุลของสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ส่งผลต่ออารมณ์ของคุณ ร่างกายของพวกเขายังสร้างเมลาโทนินมากเกินไป ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ และวิตามินดีไม่เพียงพอ การรักษาหลักสำหรับโรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล คือการบำบัดด้วยแสง แนวคิดเบื้องหลังการบำบัดด้วยแสงคือการแทนที่แสงแดดที่คุณพลาดไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว คุณนั่งอยู่หน้ากล่องบำบัดด้วยแสงทุกเช้าเพื่อรับแสงประดิษฐ์ที่สว่างสดใสทุกวัน แต่บางคนที่เป็นโรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาล ไม่ตอบสนองต่อการบำบัดด้วยแสงเพียงอย่างเดียว ยาต้านอาการซึมเศร้าและการบำบัดด้วยการพูดคุยสามารถลดอาการโรคอารมณ์แปรปรวนตามฤดูกาลได้ทั้งแบบเดี่ยวหรือร่วมกับการบำบัดด้วยแสง ข้อมูล : NIH สถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติภาพ : Pexels บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ