- Page 5 of 56

6 เทรนด์สุขภาพ และการออกกำลังกายปี 2024 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

เปิด 6 เทรนด์สุขภาพ และการออกกำลังกายปี 2024 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เมื่อเริ่มต้นปีใหม่แต่ละปี ผู้คนต่างพากันตั้งเป้าหมายเพื่อสุขภาพของตัวเอง หลายคนยังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เริ่มออกกำลังกายและใช้ชีวิตแบบสุขภาพดี ซึ่งความตื่นเต้นนี้เกิดจากความคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ และการได้ลองใช้อุปกรณ์ แอปพลิเคชัน หรือลองรูปแบบการออกกำลังกายใหม่ๆ โดยปี 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ได้การกลับมาเข้ายิมอีกครั้ง ทำให้เกิดการสร้างคอมมูนิตี้ของฟิตเนส และเกิดการออกกำลังกายแบบผสมผสานขึ้น เช่น พิลาทิสกับการฝึกความแข็งแกร่ง การออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง (HIITT) โดยใช้บาร์ และการวิ่งพร้อมฝึกกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว การออกกำลังกายในปีใหม่นี้จะง่ายขึ้นกว่าที่เคย เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม และวิทยาศาสตร์การกีฬาที่จะทำให้ปี 2024 นี้เป็นปีที่ยอดเยี่ยมในการมีร่างกายที่แข็งแรงและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ที่สุดในแบบของตัวเอง ซึ่งปีนี้จะมีเทรนด์อะไรที่น่าสนใจบ้าง เราได้รวบรวมมาให้แล้วที่ด้านล่างนี้ อุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย (Fitness Tracking)ปัจจุบันอุปกรณ์ติดตามมีความซับซ้อนมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ช่วยคุณเจาะลึกถึงการเคลื่อนไหว การพักผ่อน ประสิทธิภาพและอัตราการเต้นของหัวใจ รวมไปถึงด้านอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมาพร้อมกับการใช้งานที่เข้าใจง่าย สามารถสวมใส่ได้สะดวก มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งนาฬิกา แหวน และแอปที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเอง และถึงแม้ว่าอัลกอริธึมจะไม่ได้แม่นยำสมบูรณ์แบบ 100% แต่กลับพบว่าคนที่ใช้อุปกรณ์มีความรับผิดชอบและออกกำลังกายมากกว่าคนที่ไม่ได้ใช้ อย่างไรก็ตามแม้ว่าตลาดอุปกรณ์พวกนี้จะมีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ทำให้เรามีตัวเลือกในหลายระดับราคา และเหมาะกับทุกระดับการออกกำลังกาย ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ ทำให้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นซัพพอร์ตที่ดี และยังคงเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่น่าสนใจในปีนี้ พิลาทิสแม้พิลาทิสจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ยังคงเป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมของหลายๆ คน ซึ่งพิลาทิสมีต้นกำเนิดในช่วงปี 1920 และถือว่ามีประสิทธิภาพมากจนกลายเป็นเทรนด์ที่ยังอยู่เป็นแนวหน้าของโลกแห่งฟิตเนส ด้วยความยาวนานและความนิยมของพิลาทิส ทำให้ได้รับการขนานนามว่าเป็นตัวช่วยเสริมความมั่นใจให้ร่างกาย และความมั่นคงของกล้ามเนื้อโดยปราศจากแรงกระแทก […]

‘วัณโรค’ โรคติดต่อที่เกิดได้กับอวัยวะทุกส่วน แต่ส่วนมากจะเกิดที่ปอด ควรป้องกันและรักษาอย่างไร

จริงๆ แล้ว วัณโรค สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และกินยาตามแผนการรักษาอย่างเคร่งครัด เตือนผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยหมั่นสังเกตตนเอง หากมีอาการไอแห้งๆ หรือมีเสมหะ หรือไอเป็นเลือด เรื้อรังนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย หาสาเหตุที่แท้จริง วัณโรค เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดได้กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เช่น ต่อมน้ำเหลือง ผิวหนัง กระดูก แต่ส่วนมากจะเกิดที่ปอด เรียกว่า วัณโรคปอด สามารถติดต่อกันได้จากผู้ป่วยไอหรือจาม เชื้อวัณโรคจะปะปนออกมากับละอองเสมหะ หรือน้ำลาย หากผู้ที่อยู่ใกล้ชิดสูดรับเชื้อเข้าไป จะมีโอกาสป่วยเป็นวันโรคได้ แต่ไม่จำเป็นว่าผู้ที่ได้รับเชื้อทุกคนต้องป่วยเป็นวัณโรค เนื่องจากในร่างกายของทุกคนจะมีภูมิคุ้มกันที่สามารถต่อสู้กับเชื้อวัณโรคได้ แต่ในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (เอดส์) ผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้นกันนานๆ (สเตรียรอยด์) จะมีโอกาสป่วยเป็นวัณโรคได้ง่ายกว่าคนทั่วไป อาการบ่งชี้ของผู้ป่วยวัณโรคปอด คือ จะมีอาการไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ ติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ และบางครั้งอาจมีเลือดปน มีอาการเหนื่อยหอบ เจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลงหรือผอมลง มีไข้ต่ำๆ […]

วิธีเอาชนะ ภาวะ Post Vacation Blues หรืออาการเฉาหลังหยุดยาว

เป็นอย่างไรกับวันหยุดยาวที่ผ่านมากันบ้างคะทุกคน? มีคนจำนวนไม่น้อยที่เพลิดเพลินกับวันหยุดยาว กินอาหารที่อยากกิน ดื่มเยอะจนลืมตัว ไม่กลัวน้ำหนักขึ้น สนุกสนานกับเพื่อนหรือครอบครัวจนไม่อยากกลับไปทำงานเพราะอารมณ์ยังค้างอยู่ การกลับไปทำงานต่อหลังจากวันหยุดยาวนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนแค่คิดเรื่องงาน ก็รู้สึกเหนื่อยหรือหดหู่แล้ว เพราะยิ่งเรามีความสุขกับวันหยุดพักผ่อนมากเท่าไร โอกาสเผชิญหน้ากับ ภาวะ Post Vacation Blues หรืออาการเฉาหลังหยุดยาว ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น คล้ายๆ สุขมากจนขาดสติก็จะกลับมาทุกข์มาก ถ้าไม่ได้รับความสุขนั้นอีกครั้ง วิธีเอาชนะ ภาวะ Post Vacation Blues หรืออาการเฉาหลังหยุดยาว ตามหลักจิตวิทยา ภาวะ Post-Vacation Blues นั้นไม่ใช่โรคทางจิตเวช ส่วนมากอาการซึมเศร้าหลังวันหยุดยาว จะเกิดขึ้นเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นอาการซึมเศร้าเหล่านี้ก็จะหายไปเอง เพราะคนปกติจะปรับตัวได้หลังจากเริ่มต้นใช้ชีวิตตามปกติ แต่ถ้าคิดว่าตัวเราเองมีอาการแบบนี้บ่อย ลองใช้วิธีเหล่านี้เผื่อจะช่วยให้การปรับตัวครั้งหน้าดีขึ้น มองหากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบเพื่อเบี่ยงเบนความเฉาในใจ ในช่วง 2-3 วันแรก หลังจากกลับมา จะเป็นช่วงที่หนักหนาเอาการอยู่ ในการปรับสภาพจิตใจ หากคุณมีงานอดิเรกที่ชอบ เช่น ปลูกต้นไม้ ดูหนัง ฟังเพลง ทำอาหาร วาดภาพ เล่นกับสัตว์เลี้ยง ออกกำลังกาย หรือกิจกรรมใดๆ ที่เรามีความสุขและทำได้ไม่เบื่อ หากไม่มีสิ่งใดชอบเลย […]

5 โรคร้าย ที่คนวัย 50+ ต้องระวังมีอะไรบ้าง และควรตรวจเช็คสุขภาพแบบไหน?

เมื่อเข้าสู่วัย 50+ จะสังเกตเห็นความเสื่อมในร่างกายของตนเอง เริ่มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปซึ่งวัยนี้เป็นช่วงวัยที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคร้ายได้ง่าย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจเช็คสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรับมือต่อความเสี่ยง และการเจ็บป่วยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต บทความนี้ได้อธิบายเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ที่สามารถตรวจวินิจฉัย 5 โรคร้าย ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งเต้านม และความผิดปกติในช่องท้อง เพื่อจะนำไปสังเกตตนเองหรือคนในครอบครัวว่าควรจะตรวจเช็คสุขภาพแบบไหนได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โรคหลอดเลือดสมอง และหลอดเลือดหัวใจเมื่ออายุมากขึ้นจึงเป็นวัยที่เสี่ยงสูงในการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือดที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยจะมีส่วนในการช่วยให้การตรวจวินิจฉัยหรือพยากรณ์โรคในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นการตรวจเช็คสุขภาพที่จะค้นหาความผิดปกติที่จะเสี่ยงก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง และหลอดเลือดหัวใจ ที่สำคัญมีแนะนำให้ตรวจ ดังนี้ โรคมะเร็งร้ายโรคมะเร็ง เป็นภัยร้ายที่ต้องระวังในผู้สูงอายุ จำเป็นต้องดูแลเอาใส่ใจเป็นพิเศษ อายุยิ่งมากความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งก็อาจจะมากขึ้นด้วย หากดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี เช่น อาหารการกิน ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ หลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง ก็จะช่วยชะลอการเกิดโรคร้ายดังกล่าวได้ โดยโรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรกในคนไทย ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ/ท่อน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่/ทวารหนัก และมะเร็งปากมดลูก เพราะฉะนั้นการตรวจสุขภาพที่จำเป็นในการค้นหาความเสี่ยงหรือค้นหาโรคมะเร็งตั้งแต่ในระยะเริ่มแรกเพื่อสามารถรักษาได้ทันท่วงทีนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากมีดังนี้ Source : พญ.สุวภัทร อินทปัญญ์ แพทย์เฉพาะทางด้านรังสีวิทยาวินิจฉัย-ภาพรังสีวินิจฉัยชั้นสูง แผนกรังสีวินิจฉัย […]

เรื่องวุ่นๆ ของวัยรุ่นมีรอบเดือน และนี่สิ่งที่ ไอดอลหญิง K-Pop ต้องเผชิญเมื่อปวดประจำเดือน

ในฐานะ ไอดอลหญิง K-Pop ดูเหมือนว่าชีวิตของแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับตารางงานที่ยุ่งวุ่นวายทั้งการบันทึกเสียง การโปรโมต และการปรากฏตัวอย่างไม่สิ้นสุด จากการเป็นเด็กฝึกหัดจนถึงการเดบิวต์ งานดูเหมือนไม่มีวันสิ้นสุด และความอ่อนแอหรือปัญหาด้านสุขภาพอาจถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จของวงอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นสำคัญที่ ไอดอลหญิง K-Pop จะต้องจัดการคือ เรื่องประจำเดือน แม้จะมียาที่ช่วยบรรเทาอาการไม่สบายจากรอบเดือนเหล่านี้ แต่ผู้หญิงก็จะมีอาการต่างๆ เป็นประจำ เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ ปวดศีรษะ และเหนื่อยล้า Anthony Padilla ซึ่งเป็น YouTuber ชาวอเมริกันและผู้ร่วมก่อตั้ง Smosh ได้ปล่อยวิดีโอที่มีอดีตไอดอลหลายคน รวมถึง Tina อดีตสมาชิก Blady ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ Soobin หรือ Christine ออกมา โดยในระหว่างวิดีโอ Tina อธิบายว่าการฝึกซ้อมที่หนักหน่วงในวันนั้นของรอบเดือน เธอต้องทนกับอาการปวดประจำเดือนแสนสาหัส

ทรุดกว่าเดิม! Celine Dion สูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อ ขณะต่อสู้กับโรคคนแข็ง (SPS)

ก่อนหน้านี้นักร้องชื่อดัง Céline Dion ได้ประกาศผลการวินิจฉัยของตัวเองว่าเป็นโรคคนแข็ง (Stiff-Person Syndrome) หรือ SPS ทำให้ต้องเลื่อนคอนเสิร์ตออกไป ซึ่งโรคคนแข็งเป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้ยาก ทำให้เกิดอาการตึงของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงและร่างกายกระตุก และไม่นานมานี้ Claudette Dion พี่สาวของเธอได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่าน 7 Jours สื่อสิ่งพิมพ์ของฝรั่งเศส-แคนาดาอัพเดทเรื่องสุขภาพของเธอเพิ่มเติมว่า ในขณะที่เธอต่อสู้กับโรคคนแข็ง และตอนนี้เธอก็ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อร่างกายของตัวเองได้ และแม้ว่าตัวเธอเองและครอบครัว จะหวังว่าจะได้เห็นเธอกลับมาบนเวทีอีกครั้ง แต่การอาการป่วยของเธอ ก็ทำให้พวกเขาไม่แน่ใจ “เป็นเรื่องจริงที่ทั้งในฝันของเราและของเธอ เป้าหมายคือการกลับคืนสู่เวทีอีกครั้ง แต่จะเป็นในรูปแบบใด ฉันเองก็ยังไม่รู้” โดยจุดเริ่มต้นในเดือนธันวาคม ปี 2022 เธอได้ประกาศการวินิจฉัยของเธอเล่าว่าเป็นโรคที่พบได้ยากแค่หนึ่งในล้านเท่านั้น และในเดือนพฤษภาคม 2023 เธอประกาศจะยกเลิก Courage World Tour ปี 2024 อย่างเป็นทางการ เนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพของเธอที่ยังคงมีอยู่  “ฉันเสียใจอย่างยิ่งที่ทำให้ทุกคนผิดหวังอีกครั้ง ฉันทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของฉันกลับคืนมา แต่อาจเป็นเรื่องยากมากแม้ว่าคุณจะฟิต 100 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม มันไม่ยุติธรรมสำหรับพวกคุณที่จะเลื่อนการแสดงต่อไป และถึงแม้ว่ามันจะทำให้ใจฉันแตกสลาย แต่คงก็เป็นการดีที่สุดที่ฉันจะยกเลิกทุกอย่างตอนนี้จนกว่าจะพร้อมจริงๆ ที่จะกลับมาขึ้นเวทีอีกครั้ง และฉันอยากให้ทุกคนรู้ว่าฉันไม่ยอมแพ้ และฉันแทบรอไม่ไหวที่จะพบคุณอีกครั้ง” จากข้อมูลของ Yale Medicine โรค SPS เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองและระบบประสาทที่ทำให้เกิดอาการแข็งเกร็งและกระตุกในลำตัวและแขนขา ก่อนหน้านี้ดิออนยอมรับว่ามีอาการ “กล้ามเนื้อกระตุกอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง” Photo: […]

วิธีลดความเสี่ยงจาก ฝุ่นพิษ PM2.5 หนึ่งในสารก่อมะเร็ง ที่เริ่มกลับมาทำร้ายสุขภาพอีกครั้ง

ฝุ่นพิษ PM2.5 กลับมาอีกครั้งและรุนแรงกว่าเดิม โดยสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน อัพเดตในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เวลา 07.00 น. ปริมาณฝุ่นละออง วัดได้ 31.5 – 75.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งค่าฝุ่นที่เกินระดับมาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะเด็กเล็กและเด็กที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ การสูดเอาฝุ่นพิษเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการแสบจมูก น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก ไอ มีเสมหะและเจ็บคอ มีผื่นคันบริเวณที่สัมผัสฝุ่น หากได้รับเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้มีความผิดปกติด้านสติปัญญาและพัฒนาการ ทำให้ปอดอักเสบติดเชื้อง่ายขึ้น ทำให้โรคหืด ภูมิแพ้กำเริบได้ และถ้าได้รับ PM2.5 ในปริมาณมาก เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้ นอกจากนี้ ฝุ่น PM2.5 ที่มีขนาดเล็กมากจนสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือดและกระจายไปทั่วร่างกาย อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบและภาวะหลอดเลือดหดตัวได้ สำหรับกลุ่มเสี่ยงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็ก […]

นอนมากเท่าไหร่ก็รู้สึกไม่พอ ‘โรคนอนเกิน’ เสี่ยงซึมเศร้า ทำร้ายสมองจริงหรือไม่?

นอนน้อยไปก็ไม่ดีส่งผลเสียต่อสุขภาพ นอนมากเกินไปก็ไม่ดีหรือที่เรียกว่า โรคนอนเกิน ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพเช่นกัน แล้วโรคนี้เป็นอย่างไร เราจะพามารู้จักโรคนี้กัน โรคนอนเกิน (Hypersomnia) เป็นโรคที่หลับเกินพอดี หรือโรคขี้เซา ที่ยิ่งนอนมากเท่าไหร่ก็รู้สึกว่ายังไม่พอ แม้จะนอนหลับยาวนานเกิน 8 ชม.ขึ้นไป แต่กลับมีอาการดูเฉื่อยชา ไร้ชีวิตชีวา กินน้อยแต่กลับอ้วนง่าย เพราะการนอนทำให้กระเพาะอาหารไม่ย่อย จึงเกิดเป็นตัวอาหารและไขมันสะสม นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดอาการโรคซึมเศร้าได้ง่ายถึง 49% ซึ่งถือว่ามากกว่าคนปกติ ถือเป็นผลเสียระยะยาว ที่อาจทำให้เกิดการคิดสั้นฆ่าตัวตายได้ และมีอาการของโรคอื่นๆ ตามมา ดังนี้ การนอนที่ดี และถูกต้องควรนอนอย่างไร หากยังมีปัญหาสุขภาพการนอนไม่หลับ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้แพทย์ได้วางแผนโปรแกรมการรักษาได้อย่างถูกวิธี Photo : Pexels Source : พญ.บุษราลักษณ์ ธนวัฒนาเจริญ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) […]

วิธีดูแลตัวเองเพื่อลดผลกระทบจากวิกฤต PM2.5 เรื้อรัง ที่ส่งผลยีนส์กลายพันธุ์ก่อ โรคมะเร็งปอด

‘มะเร็ง’ ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย และด้วยมลพิษทางอากาศ รวมถึงฝุ่นควันต่างๆ โดยเฉพาะมลพิษจากอนุภาคฝุ่นละออง หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ PM2.5 ซึ่งเป็นสาเหตุกระตุ้นที่ทำให้เกิด โรคมะเร็งปอด ในกลุ่มคนที่ไม่สูบบุหรี่ ปัญหาดังกล่าวที่เรื้อรังมานานจึงสร้างความวิตกกังวลให้กับหลายๆ คน วิธีดูแลตัวเองเพื่อลดผลกระทบจากวิกฤต PM2.5 เรื้อรัง ที่ส่งผลยีนส์กลายพันธุ์ก่อ โรคมะเร็งปอด จากรายงานของคลังข้อมูลสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเทศไทยมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเมินได้จากจำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ปีละมากกว่าแสนรายซึ่งมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเฉียดหลักแสนรายด้วยเช่นกัน ซึ่งมะเร็งปอดถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย (เป็นอันดับ 2 ในผู้ชายรองจากมะเร็งตับและถุงน้ำดี และเป็นอันดับ 1 ในผู้หญิง) โดยในปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตประมาณ 14,586 คน หรือคิดเป็น 40 คนต่อวัน ทั้งนี้ จากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า มีปัจจัยในชีวิตประจำวันหลายด้านที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด ได้แก่ การสูบบุหรี่หรือการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่สูบบุหรี่ การทำงานที่มีการสัมผัสกับแร่ใยหินในรูปแบบต่างๆ และการส่งต่อผ่านกรรมพันธุ์ เป็นต้น ขณะที่สาเหตุอื่นๆ เช่น มลภาวะทางอากาศอย่างฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ก็กำลังทวีความรุนแรงและกลายมาเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปอด ซึ่งในปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจาก PM2.5 แล้วกว่า 71,184 ราย (สูงเป็นอันดับสามของอาเซียนรองจากอินโดนีเซียและเวียดนาม) แม้ว่าวิกฤตฝุ่นละออง PM2.5 จะได้รับการยกระดับการแก้ปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ เพราะเป็นปัญหาเรื้อรังและเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปี และดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ตลอดหลายปีมานี้ เราได้เห็นนักคิด นักวิชาการ รวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จำนวนมากที่ออกมาให้ความรู้ความเข้าใจเรื่อง PM2.5 ตลอดจนเตือนภัย และเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหา แต่เนื่องจากปัญหาดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไข ดังนั้นประชนชนจึงควรมีข้อมูลความรู้ในการเตรียมตัวและวางแผนเพื่อดูแลตนเองควบคู่ไปด้วยกัน โดยฝุ่นละออง PM 2.5 ถือเป็นสารก่อมะเร็งที่มีขนาดโมเลกุลเล็กเพียง 2.5 ไมครอน ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และสามารถลอยเข้าไปในหลอดลมจนถึงปอดได้โดยที่เราไม่รู้สึกตัว […]

เช็กให้ชัวร์ ‘ไขมันลงพุง’ หรือ ‘เนื้องอก’ ต้องสังเกตและมีอาการร่วมอย่างไร

พุงโต หน้าท้องไม่แบนราบ ปัญหาของผู้หญิงหลายคนๆ แม้ว่าจะออกกำลังกาย หรือคุมอาหารก็แล้ว พุงก็ยังไม่ยุบ ต้องขอบอกว่าพุงที่เห็น อาจไม่ได้เกิดจากไขมันส่วนเกิน ไขมันลงพุง แต่เกิดจากก้อนเนื้อ หรือเนื้องอกมดลูกได้ แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า พุงที่เห็นเกิดจากอะไร มีวิธีสังเกตตัวเองง่ายๆ มาฝากกันค่ะ เช็กให้ชัวร์ ‘ไขมันลงพุง’ หรือ ‘เนื้องอก‘ ต้องสังเกตและมีอาการร่วมอย่างไร วิธีสังเกตเบื้องต้น ให้นอนราบ แล้วสังเกตว่ามีพุงป่องขึ้นมาหรือเปล่า เมื่อใช้มือกดคลำบริเวณหน้าท้องว่ามีก้อนหรือไม่ รวมถึงมีอาการอื่นๆ ผิดปกติร่วมด้วย ได้แก่ ท้องอืด แน่นท้อง ปวดท้องประจำเดือนมากขึ้น ประจำเดือนมาผิดปกติ โดยก้อนในช่องท้องที่พบบ่อย ได้แก่ เนื้องอกในมดลูก ซีสต์ในรังไข่ โดยเฉพาะสตรีวัยเจริญพันธุ์ หรือ 25 – 40 ปี อาการเมื่อมีเนื้องอกในมดลูกอาจไม่มีอาการหรือมีอาการเกิดขึ้นได้ เช่น ปวดท้องประจำเดือนมากกว่าปกติ ประจำเดือนมามากผิดปกติ ถ้าก้อนมีขนาดใหญ่ อาจมีการคลำพบได้ที่หน้าท้อง ถ้าขนาดโตจนเบียดกระเพาะปัสสาวะ อาจมีอาการปัสสาวะบ่อย ถ้าไปเบียดลำไส้ หรือทวารหนัก อาจมีอาการท้องผูก ถ่ายลำบาก โดยเนื้องอกที่รังไข่ แบ่งเป็น […]

เนติเซนเกาหลี ไม่พอใจกับคำแนะนำด้านสุขภาพจิตที่ JYP แนะนำศิลปินของเขา

ลุงผัก หรือ พัคจินยอง (Park Jin Young) ผู้ก่อตั้ง JYP ENTERTAINMENT ถูก เนติเซนเกาหลี วิจารณ์สำหรับแนวทางการจัดการกับความอยู่ดีมีสุขทางอารมณ์ของศิลปินของเขา ในการปรากฏตัวครั้งล่าสุดที่ PSICK SHOW บน YouTube ซึ่งเขาได้ให้คำแนะนำศิลปินที่กำลังมีวันที่แย่ทั้งทางอารมณ์และร่างกายว่า “นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันบอกศิลปินของฉัน เช่น Stray Kids, TWICE ว่า “โอเค อาจมีวันที่แย่ แต่ถ้าคุณดูหดหู่ เศร้าโศก และเศร้า คุณจะทำให้ทุกคนไม่สบายใจ นั่นคือสิ่งที่เราเป็น แม้ในวันที่ยากที่สุด เราก็ต้องออกไปสร้างเรื่องตลก เพื่อทำให้ทุกคนที่สนับสนุนพวกคุณสบายใจ” ด้วยประโยคดังกล่าว จึงสร้างความรู้สึกขุ่นเคืองของชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ ที่เกิดขึ้นจากปรัชญาของ JYP ที่ว่าถึงแม้จะมีปัญหาส่วนตัว ศิลปินควรรักษาท่าทางร่าเริงและระงับความรู้สึกที่แท้จริงของตน เพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีสำหรับทุกคนที่อยู่รอบตัวพวกเขา ซึ่งผู้ชำนาญการด้านสุขภาพจิตแย้งว่าแนวทางดังกล่าวอาจทำให้ภายในจิตใจของศิลปินเกิดการต่อสู้รุนแรงขึ้น เพราะพวกเขาต้องเก็ดกดความรู้สึกไว้ ไม่สามารถเผยอารมณ์ที่แท้จริงออกมาได้ แฟนๆ หลายคนรู้สึกว่า การคาดหวังให้ศิลปินทำหน้าเข้มแข็งมีความสุขอยู่ตลอดเวลาก็เหมือนกับการปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้อารมณ์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อแสดงโดยไม่สะดุด พวกเขากังวลว่าสิ่งนี้อาจนำไปสู่เหตุการณ์อันตรายที่ศิลปินกดดันตัวเองจนอาจจะถึงจุดที่ไม่สนใจสัญญาณของความเหนื่อยล้าทางจิตใจจนกว่าจะสายเกินไป เห็นได้จากจำนวนไอดอลที่หยุดพักงานด้วยเหตุผลด้านสุขภาพจิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น การหายไปของ Lia จาก ITZY เมื่อเร็วๆ นี้ ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญในการถกเถียงครั้งนี้ การที่เธอหยุดพักจากกิจกรรมของ ITZYควบคู่ไปกับคำแนะนำของ JYP […]

‘วัคซีนสูงวัย’ ต้องฉีดอะไรบ้าง? ช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของโรคร้ายแรงบางชนิดได้

ทุกคนย่อมเคยได้รับการฉีดวัคซีน เพราะตั้งแต่เมื่อแรกเกิดเด็กทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนด อาจมีทั้งวัคซีนพื้นฐาน และวัคซีนเสริม หลายคนเคยฉีดตั้งแต่ยังเด็กหรืออายุยังน้อย แต่เมื่อโตมากลับไม่ได้รับการฉีดวัคซีนอีกเลย เพราะอาจจะไม่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง บทความนี้จึงจะมาเสริมข้อมูลในเรื่องการฉีดวัคซีนในผู้ใหญ่ว่า ที่จริงแล้วผู้ใหญ่ก็ควรฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เนื่องจากวัคซีนจะช่วยป้องกันหรือช่วยลดความรุนแรงของโรคร้ายแรงบางชนิดได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ มะเร็งปากมดลูก งูสวัด ปอดอักเสบ เป็นต้น และนี่คือวัคซีนที่ควรฉีดในผู้ใหญ่ค่ะ ได้แก่ ทั้งนี้ก่อนการฉีดวัคซีน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งนะคะ เนื่องจากแต่ละคนย่อมมีสภาวะสุขภาพ โรคประจำตัว และข้อห้ามที่แตกต่างกันค่ะ ข้อมูล : พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี)ภาพ : Pexels

เช็คอาการ สัญญาณเตือน ‘โรคหมอนรองกระดูกคอเสื่อม’ มักพบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศ

ใครมีอาการเหล่านี้บ้าง? ปวดคอ ปวดกระดูกคอ ปวดบ่า ปวดไหล่ ร้าวลงไปที่แขน มีอาการชา และอ่อนแรง บางรายเป็นมากต้องระวัง เพราะอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนของ โรคหมอนรองกระดูกคอเสื่อม กดทับเส้นประสาทหรือไขสันหลังได้ หมอนรองกระดูกคอเสื่อม หรือโรคหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอกดทับเส้นประสาทหรือไขสันหลัง เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลัง หรือมีการฉีกขาดของเยื่อหุ้มหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ อาจเกิดจากอุบัติเหตุ การขยับคอผิดจังหวะอย่างรวดเร็วและรุนแรง ซึ่งส่งผลให้ชิ้นส่วนของหมอนรองกระดูกสันหลังบางส่วนเคลื่อนหลุดออกมากดทับเส้นประสาทหรือไขสันหลังได้ โดยแบ่งอาการได้เป็น 2 กลุ่ม 1. อาการของการกดทับเส้นประสาท ผู้ป่วยจะมีอาการ ปวดต้นคอ ร้าวไปตามต้นแขน แขนหรือมือตามตำแหน่งที่เส้นประสาทเส้นใดถูกกด ผู้ป่วยที่มีอาการมากขึ้นอาจมีอาการอ่อนแรงแขนหรือมือได้ 2. อาการของการกดไขสันหลัง ผู้ป่วยจะมีอาการ ขาอ่อนแรง เดินลำบาก เวลาเดินจะมีอาการขาตึงๆ ชาตามลำตัว และลามไปถึงขาทั้ง 2 ข้างได้ ผู้ป่วยบางรายมีอาการมืออ่อนแรงร่วมด้วย โดยที่ไม่มีอาการปวดตามขาหรือแขนที่อ่อนแรง ส่วนอาการปวดคออาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ การรักษาจะเริ่มจากการให้ผู้ป่วยกินยาแก้ปวด แก้อักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด การปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน ในผู้ป่วยบางรายที่ปวดมาก อาจจำเป็นต้องใช้เฝือกอ่อนพยุงคอ (soft collar) เพื่อช่วยลดการขยับคอ ซึ่งทำให้หายปวดได้เร็วขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นมากหรือหายได้ แต่ถ้าหากอาการปวดยังไม่หายหลังจากการรักษา […]

แพทย์แผนจีนเผย 4 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ ‘การลดน้ำหนักด้วยผลไม้’

ผลไม้ช่วยลดน้ำหนักได้ผลจริงหรือ? เพื่อรักษารูปร่างให้เพรียว หลายๆ คนจะลดปริมาณอาหารที่กิน และเลือกกินเฉพาะผลไม้กล่องหรือสลัดเป็นอาหารเช้า หรือรวมแม้กระทั่งมื้อกลางวันด้วย ในความเข้าใจของใครหลายคน ผลไม้นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการ การกินผลไม้สม่ำเสมอย่อมดีต่อร่างกาย และยังเป็นความคิดที่ดีในการลดน้ำหนักด้วย แต่จะเป็นเช่นนี้จริงหรือ? ล่าสุด Yang Mingxia แพทย์แผนจีนได้วิเคราะห์ 4 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับ ‘การลดน้ำหนักด้วยผลไม้’ ความเข้าใจผิดที่ 1: การกินผลไม้สามารถลดความอยากอาหารได้ก่อนหน้านี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียได้ทำการทดลองหลายชุดเพื่อทำความเข้าใจผลกระทบของฟรุกโตสในผลไม้ต่อร่างกายมนุษย์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ประการแรก พวกเขาให้เครื่องดื่มรสผลไม้แก่ผู้ตอบแบบสอบถาม แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเครื่องดื่มนั้นมีฟรุกโตสหรือกลูโคสหรือไม่ จากนั้น นักวิจัยขอให้ผู้ตอบแบบสอบถามให้คะแนนระดับความหิวของพวกเขา และในขณะที่ทำการสแกนสมอง พวกเขาได้แสดงภาพถ่ายของอาหาร เช่น ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ ฯลฯ ซึ่งการสแกนสมองแสดงให้เห็นว่าหลังจากดื่มเครื่องดื่มที่มีฟรุกโตส ผู้คนมีการตอบสนองต่อภาพถ่ายอาหารมากขึ้น เท่ากับไม่สามารถลดความอยากอาหารได้ ความเข้าใจผิดที่ 2: ผลไม้สามารถทดแทนมื้ออาหารได้การกินผลไม้แทนอาหารมื้อหลักอาจช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นระบบเผาผลาญในร่างกายจะเริ่มปรับตัวให้ทำงานน้อยลง หลังจากนั้น หากกลับมากินอาหารมื้อหลักอาหารตามปกติก็จะทำให้กลับมาอ้วนได้หรือโยโย่ได้ โดยวัตถุประสงค์หลักของการกินผลไม้คือการเสริมน้ำ วิตามิน แร่ธาตุ และธาตุอาหารรอง แต่ไม่ใช่เพื่อเสริมสารอาหารหลัก 3 ชนิด (โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน) ที่ร่างกายมนุษย์ต้องการ ซึ่งโปรตีนสามารถรักษาการเจริญเติบโต การต่ออายุ และการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของมนุษย์ ไขมันเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์ คาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างเซลล์ที่มีชีวิตและสารที่ให้พลังงานหลักและควบคุมการทำงานของเซลล์ ความเข้าใจผิดที่ […]

สถาบันประสาทวิทยาเผย ‘โรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน anti-NMDAR’ มีอาการหลอนคล้ายผีเข้า

จากกระแสดังของ “ธี่หยด” ภาพยนตร์ไทยแนวสยองขวัญ ซึ่งบอกเล่าเอาไว้บนกระทู้พันทิป กระทั่งกลายเป็นนิยายขายดีในช่วงที่ผ่านมา จากอาการของ “น้องแย้ม” เป็นตัวละครหลักของเรื่องที่มีอาการไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่สามารถขยับตัวหรือควบคุมตัวเองได้ทั้งยังมีอาการสับสน หูแว่ว ประสาทหลอน และมีนิสัยก้าวร้าว ต่างไปจากนิสัยเดิม จึงทำให้เข้าใจว่า เธออาจถูกผีเข้าหรือไม่นั้น อาการดังกล่าวหากอธิบายตามหลักการทางการแพทย์ ทางสถาบันประสาทวิทยา ได้เผยความผิดปกตินี้ คล้ายอาการผีเข้าอาจเกิดจาก โรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน anti-NMDAR ที่มีอาการแสดงหลากหลายคล้ายโรคทางจิตเวชหรือเข้าใจว่าเป็นผลจากสิ่งเหนือธรรมชาติ หากไม่รักษาให้ทันท่วงทีอาการอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ สาเหตุการเกิด โรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน anti-NMDARโรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน anti-NMDAR สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันต่อตัวรับชนิด NMDA (NMDA Receptor) ซึ่งภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติอาจจะสร้างมาจากเนื้องอกรังไข่หรือเนื้องอกอัณฑะ หรืออาจจะเกิดขึ้นเองจากการติดเชื้อไวรัสในร่างกาย หรือบางครั้งอาจตรวจไม่พบสาเหตุ สามารถพบผู้ป่วยได้ทุกเพศและทุกช่วงอายุ แต่พบได้บ่อยในผู้ป่วยหญิงอายุน้อย โดยมากผู้ป่วยมักจะมีอาการไม่สบายแบบไม่จำเพาะ คล้ายเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ตามมาด้วยความผิดปกติทางระบบประสาท อาการโรคสมองอักเสบจากภูมิคุ้มกัน anti-NMDARผู้ป่วยจะมีอาการคือ มีไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยตามร่างกายนำมาก่อน ร่วมกับอาการที่ทำให้เข้าใจผิดว่าผู้ป่วยมีปัญหาสุขภาพจิต เช่น นอนไม่หลับ สับสน ก้าวร้าวหรือเซื่องซึม บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง ประสาทหลอน เป็นต้น หากผู้ป่วยไม่ได้รับการตรวจรักษา ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเคลื่อนไหวผิดปกติไม่สามารถควบคุมได้ เช่น เคี้ยวปาก […]

‘วีแกน’ และ ‘แพลนต์เบส’ ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือความยั่งยืนของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันผู้คนหันมาเลือก ‘ลดและงด’ การกินหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์มากขึ้น นอกเหนือจากการไม่เบียดเบียนสัตว์แล้ว ยังมีประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพของเราและโลกด้วย ซึ่งรูปแบบการบริโภคอาหารแบบเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่เป็นเทรนด์ในปัจจุบันคือการกินอาหารแบบ วีแกน (Vegan) และแพลนต์เบส (Plant-based)  วีแกน (Vegan) และแพลนต์เบส (Plant-based) ต่างกันอย่างไร? วีแกน คือการกินมังสวิรัติในรูปแบบหนึ่งที่เน้นการกินอาหารที่มาจากพืชหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ทุกชนิด เช่น นม เนย ชีส ไข่ โยเกิร์ต น้ำผึ้ง และยีสต์ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการไม่เบียดเบียนสัตว์ แต่ยังได้รับคุณประโยชน์จากสารอาหารในกลุ่มวิตามินและแร่ธาตุจากการกินพืชผักและผลไม้ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เส้นผมนุ่มสลวยเงางาม อีกทั้งช่วยเรื่องการควบคุมน้ำหนักและลดค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เพราะร่างกายจะได้รับปริมาณแคลอรี่ที่น้อยลง ในทางกลับกัน ร่างกายจะได้รับไฟเบอร์ที่มากขึ้น ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานและช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี และที่สำคัญช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดัน ไขมัน หลอดเลือด เบาหวาน เป็นต้น สายวีแกนไม่เพียงแต่ใส่ใจเรื่องอาหารการกินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การเลือกใช้เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า สบู่ โลชั่น ตลอดจนเครื่องสำอาง ที่ไม่มีวัสดุหรือส่วนผสมที่มาจากสัตว์ รวมไปถึงการไม่ทดลองกับสัตว์ในห้องแล็บ ซึ่งหลายวัฒนธรรมในต่างประเทศให้ความสำคัญและรณรงค์พิทักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อลดความสูญเสียและการทำร้ายสัตว์อย่างจริงจัง แพลนต์เบส เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจการดูแลสุขภาพแต่มีความยืดหยุ่นกว่า คือจะเน้นการกินพืชและผลไม้ ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ได้ […]

‘โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด’ สาเหตุของอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนที่พบได้บ่อยที่สุด

โรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด (Benign paroxysmal positional vertigo: BPPV) เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุด ที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนเป็นๆ หายๆ โดยมีความผิดปกติอยู่ที่หูชั้นใน มักสัมพันธ์กับการเปลี่ยนท่าทางของศีรษะ ซึ่งบทความนี้จะให้ความรู้ถึงสาเหตุ อาการ การรักษา รวมถึงคำแนะนำในการปฎิบัติตัวเพื่อลดโอกาสการกลับเป็นซ้ำของโรค สามารถนำไปใช้สังเกตตนเองและคนรอบข้าง เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างเหมาะสม โอกาสในการเกิดโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด กลไกการเกิดโรคโดยปกติแล้วภายในหูชั้นในของมนุษย์ มีอวัยวะควบคุมการทรงตัว (Utricle, Saccule, Semicircular canal) ซึ่งใน Utricle มีตะกอนหินปูน (Otoconia) ที่เคลื่อนไปมาโดยไม่หลุด เพื่อรับรู้การเคลื่อนไหวของศีรษะ หากมีสาเหตุที่ทำให้ตะกอนหินปูนหลุด จะทำให้ตะกอนหินปูนดังกล่าวเคลื่อนที่ไปมาใน Semicircular canal และส่งสัญญาณไปยังระบบประสาทส่วนกลาง กระตุ้นให้เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนได้ สาเหตุของการเกิดโรค อาการของโรค การวินิจฉัยโรคโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุดสามารถวินิจฉัยได้จากประวัติและตรวจร่างกายที่จำเพาะ การตรวจร่างกายเพื่อการวินิจฉัยโรคอาจกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีบ้านหมุนขณะตรวจได้ การรักษาโรคตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด คำแนะนำในการปฏิบัติตัว เพื่อช่วยลดโอกาสการกลับเป็นซ้ำของโรค ข้อมูล : นพ.สุเมธ เฟื่องกำลูน แพทย์เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิกวิทยา ศูนย์ หู คอ จมูก โรงพยาบาลนวเวชภาพ […]

เครียดเรื้อรังหรือแค่ขี้เกียจ? เช็คอย่างไรว่าเป็น ภาวะ Burnout จริงๆ

คุณเคยสับสนในตัวเองไหม ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาจะไปทำงาน สภาวะทางอารมณ์และความรู้สึกที่เป็น…เป็นอาการ Burnout หรือจริงๆ เราแค่ขี้เกียจกันแน่? ปัญหาสุขภาพจิตที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนวัยทำงาน นั่นก็คือ “ภาวะ Burnout” หรือภาวะหมดไฟในการทำงาน เป็นความเหนื่อยล้าทางอารมณ์และจิตใจที่เกิดจากการเผชิญกับความเครียดเรื้อรังเป็นเวลานานๆ มักเกิดขึ้นกับคนที่ทำงานหนัก มีภาระหน้าที่ที่มากเกินไป มีความคาดหวังจากบุคคลอื่นสูง หรือขาดการสนับสนุนจากผู้อื่นจนเกิดอาการทางร่างกาย เช่น สมาธิลดลง อารมณ์ไม่ดี มุมมองต่อตนเองแย่ลง จนเกิดผลกระทบต่อการทำงานและความสัมพันธ์ อาการสามารถแบ่งได้ 3 ด้าน 1. Emotional Exhaustion ความเครียดทางอารมณ์ คืออารมณ์ความรู้สึกเหนื่อย เพลีย อ่อนแรง อ่อนล้า ไม่อยากปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมในที่ทำงาน ไม่อยากการจัดการปัญหา เพราะความอ่อนเพลียที่เกิดขึ้น 2. Depersonalization คือทัศนคติและพฤติกรรมเชิงลบที่ไม่เหมาะสม อาจเป็นการแยกตัวจากสังคม ไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ รู้สึกตนเองแปลกแยกจากคนอื่น และความรับผิดชอบต่องานลดลง 3. Reduced Personal Achievement การประเมินตนเองเชิงลบ สงสัยและไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง รวมถึงทักษะในการเผชิญปัญหาลดลง แยกความต่างกันสักนิด ในทางการแพทย์ ภาวะ Burnout มักมีผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ในขณะที่ “ความขี้เกียจ”  มักส่งผลต่อแค่ความตั้งใจที่จะทำอะไรสักอย่างเท่านั้น อาการของภาวะ burn out มักมีอาการบ่งชีัอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ การป้องกันการเกิดภาวะ burnout 1. โดยองค์กร 2. โดยตัวพนักงานเอง ภาวะ Burnout เป็นเรื่องไม่ไกลตัว หากรู้ตัวหรือคนรอบข้างสังเกตได้เร็ว ทำให้การจัดการทำได้ง่าย […]

keyboard_arrow_up