เคล็ด(ไม่)ลับฉบับสาวยุคใหม่ ใช้มาสคาร่ายังไงให้ชีวิตง่ายขึ้น

2 in 1 มาสคาร่าก็แปลงร่างเป็นอายไลน์เนอร์ได้

ภาพ : www.hotvivo.com
ภาพ : www.hotvivo.com

นอกจากจะเป็นสิ่งสรรค์สร้างแผงขนตาคู่สวยของเราแล้ว มาสคาร่ายังสามารถช่วยกู้ชีพสาว ๆ ในวันที่ลืมอายไลน์เนอร์ได้ด้วยนะ! เพียงแค่ใช้แปรงไลน์เนอร์ลากถูสวนทางกับแนวแปรงมาสคาร่าให้สีติดแน่น จากนั้นก็วาดเส้นไลน์ตามกรอบตาได้ตามสะดวก…ได้ทั้งกรอบตาสวย ทั้งแพขนตาเลิศ ไม่ลองไม่ได้แล้ว!

งานขนตาปลอมหลบไป งานแป้งเด็กต้องมา!

ภาพ : http://www.glamourjournals.com
ภาพ : http://www.glamourjournals.com

อยากขนตาดูยาวสวยโดยไม่พึ่งขนตาปลอมหรือต่อขนตา แนะนำนี่เลยจ้า…แป้งเด็ก! วิธีการก็ง่ายมาก เพียงแค่ใช้สำลีปัดแป้งเด็กแล้วเอาตบเบา ๆ ระหว่างการปัดมาสคาร่าหรือจะใช้แปรงมาสคาร่าแตะแป้งเด็กเบา ๆ แล้วปัดก่อนจะปัดทับด้วยมาสคาร่าอีกทีก็ได้ เพียงเท่านี้ ขนตาก็จะดูหนา ยาว สวยกว่าเดิมโดยไม่ต้องพึ่งขนตาปลอมแล้ว…ทั้งง่าย ทั้งประหยัดอย่างนี้ ต้องจัดด่วน!

คิ้วสวยปังด้วยแปรงปัดมาสคาร่า

ภาพ : www.thegloss.com
ภาพ : www.thegloss.com

มาสคาร่าโปรดหมดแล้วอย่าเพิ่งทิ้งนะจ๊ะ สาว ๆ ยิ่งแปรงแจ่ม ๆ เลิศ ๆ โดนใจยิ่งห้ามทิ้ง! เพราะหน้าที่ของแปรงปัดมาสคาร่ายังไม่หมดเท่านี้ เพียงแค่นำไปล้างทำความสะอาด ผึ่งให้แห้งสามารถนำมาใช้เป็นแปรงปัดคิ้วเลิศ ๆ ได้โดยไม่ต้องไปหาแปรงที่ถูกใจให้เมื่อย…สวยทั้งขนตา สวยทั้งมงกุฎของหน้ากันไปเลย

ที่ดัดขนตา+ไดร์เป่าผม = ขนตาโดดเด้ง

ภาพ : http://4lashextensions.blogspot.com
ภาพ : http://4lashextensions.blogspot.com

ดัดขนตาแต่ละที กว่าจะได้ทรง ได้ส่วนโค้งที่ถูกใจก็ย้าก ยาก แถมอยู่ไม่นานอีก ปัญหานี้จะหมดไปด้วยทริคง่าย ๆ อย่างการ “อุ่น” ที่ดัดขนตาก่อนใช้ โดยการนำที่ดัดขนตาไปเป่าด้วยไดร์เป่าผมครู่หนึ่ง ประมาณ 5 วินาที (ระวังอย่าให้ร้อนมากนะจ๊ะ ถ้าร้อนมากก็พักให้เย็นนิดนึง) ก่อนจะนำมาใช้โดยดัดค้างไว้ประมาณ 10-30 วินาที เพื่อให้เคิร์ลขนตาอยู่ทน อยู่นาน สวยงอนได้ตลอดวันโดยไม่ต้องพึ่งที่ดัดขนตาไฟฟ้า…แต่ระวังเรื่องความร้อนกันด้วยนะจ๊ะ สาว ๆ

แก้ปัญหามาสคาร่าแห้ง เหนียว รู้แล้วอย่าทิ้ง!

ภาพ : tipsforher.com
ภาพ : tipsforher.com

เผลอแป๊บเดียว มาสคาร่าที่รักก็ดันแข็งเป้ก เหนียวไปหมด แถมยังไม่ติดแปรงอีก…นี่คงเป็นปัญหาใหญ่อันหนึ่งของสาว ๆ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะพระเอกขี่ม้าขาวอย่างน้ำยาคอนเทกเลนส์สามารถช่วยได้ เพียงแค่หยดน้ำยาคอนเทกเลนส์ลงไปในขวดมาสคาร่าประมาณ 2-3 หยดแล้วเขย่าเบา ๆ และลองทดสอบดู ถ้ายังไม่ได้ผล ให้นำมาสคาร่าใส่แก้วมัค เติมน้ำเล็กน้อยและอุ่นในไมโคเวฟประมาณ 3 นาที…รับรองว่าสามารถคืนชีพมาสคาร่าที่รักกลับมาใช้ได้ใหม่เหมือนเดิม

เรื่อง : แพรวดอทคอม

‘เจี๊ยบ-โสภิตนภา’ สุดปลื้ม ‘เบเน่’ ลูกชายได้อย่างใจ

Screen Shot 2015-07-03 at 3.36.55 PM copyScreen Shot 2015-07-07 at 2.28.55 PM copy

Screen Shot 2015-07-07 at 2.29.08 PM copy“เขาชอบวาดรูปมาก โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมต่างๆ พวกโรงแรม ตึกรามบ้านช่องสวยๆ ซื้อของเล่นอะไรให้ก็ไม่เอา ขอแต่กระดาษวาดรูปกับดินสอ เจี๊ยบจึงตั้งใจจะสนับสนุนเขาเต็มที่ อย่างไอแพด คนอาจจะคิดว่ากับชีวิตเด็กเป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ เจี๊ยบก็ใช้วิธีให้เขาเล่นวาดรูปบนไอแพดซะเลย “เจี๊ยบโชคดีที่เบเน่เป็นเด็กเลี้ยงง่ายตั้งแต่เล็กๆ ทำให้มีเวลาทำงานของตัวเองได้ ทีนี้เจี๊ยบทำงานไม่เป็นเวลา บางวันก็ว่างทั้งวัน หรือบางวันก็ยุ่งทำงานเป็นร้อยอย่าง ถ้าเล่นละครก็ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับถึงบ้านก็ 4-5 ทุ่มโน่น แต่ถ้าเป็นผู้จัดฯก็จะมีประชุมทั้งวัน คุยโทรศัพท์ เช็คไลน์ตลอดเวลา ซึ่งเขาเห็นแม่เป็นแบบนี้ตลอด เพราะเจี๊ยบพาเขาไปที่กองถ่ายด้วย เขาเลยค่อนข้างชิน

Screen Shot 2015-07-03 at 3.42.31 PM copyScreen Shot 2015-07-03 at 3.38.52 PM copyScreen Shot 2015-07-07 at 1.12.51 PM copy

“บ้านเราจะไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่แล้ว ชอบทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งว่ายน้ำ ตีเทนนิส ฯลฯ ซึ่งเบเน่เป็นเด็กที่ไม่เคยมีปัญหาเลย นั่งรถไปด้วยกัน 2 ชั่วโมง ไม่ต้องคุยก็ได้ เป็นเด็กนิ่งๆ เขาอยู่ของเขาได้ จะงอแงก็ต่อเมื่อหิวกับเหนื่อยเท่านั้น “เขาไม่ใช่คนเรียนเก่งมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรียนไม่ดี เรียนปานกลาง ไม่มีปัญหาอะไร เป็นเด็กที่ทำอะไรตามใจพ่อแม่ ไปเมืองนอกก็พาตะลุยไปได้หมด กินง่ายอยู่ง่าย

“เคยคิดว่าเราเป็นแม่ที่โชคดีจัง ที่มีลูกอย่างเบเน่ค่ะ”

เรื่อง : apinya

ภาพ : @jeabsopidnapa

 

 

 

 

 

10 อันดับเพลงสากลสุดฮิต ส่งตรงจาก Billboard charts

1. See You Again ศิลปิน Wiz Khalifa Featuring Charlie Puth แม้ภาพยนตร์ Furious 7 จะลาโรงไปแล้ว แต่ก็ยังส่งเพลง See You Again มาครองแชมป์อันดับ 1 ใน Billboard charts สำเร็จเป็นเวลาติดต่อกันหลายสัปดาห์ เป็นอีกหนึ่งเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ครองใจหลายคนมากจริงๆ

2. Bad Blood ศิลปิน Taylor Swift Featuring Kendrick Lamar คว้าอันดับ 2 ตามมาติดๆ ไม่แปลกใจที่ติดอันดับเพลงฮิตด้วย เพราะได้ Rapper ชื่อดัง Kendrick Lamar มาร่วม Featuring ด้วย และก็ได้ขนเพื่อนๆ เหล่านางแบบของเธอมาแสดงใน MV นี้ด้วย จึงคว้าอันดับ 2 ไปได้แบบสวยๆ

3. Trap Queen ศิลปิน Fetty Wap นอกจากซาวด์ดนตรีเพลงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้วเนื้อหาของเพลงยังแรงโดยใจวัยรุ่นซึ่งเกี่ยวกับเรื่องความรุ่นแรงและยาเสพติด แน่นอนว่า MV ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีตามเนื้อหาเช่นกัน อ่อ แล้วใครที่สงสัยว่าตาข้างซ้ายของ Fetty Wap เป็นอะไร ต้องบอกว่าตอนเด็กๆ เขาประสบอุบัติเหตุ ทำให้เกิดต้อหินที่ตาทั้งสองข้าง แต่หมอสามารถรักษาได้แค่ข้างเดียว ถึงแม้อาจจะดูเหมือนเป็นจุดด้อยของเขา แต่จริงๆ แล้วมันกลายเป็นจุดเด่นที่ทำให้หลายคนจำเขาได้เป็นอย่างดี

4. Shut Up And Dance ศิลปิน WALK THE MOON เพลงจังหวะที่ฟังแล้วสนุก ฟังไม่กี่ครั้งก็สามารถร้องตามได้ ติดหูคนฟังทั้งไทยและต่างประเทศแบบนี้ เหมาะสำหรับอันดับ 4 สุดๆ ว่าแต่จะขึ้นหรือจะดิ่งลงหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป

5. Cheerleader ศิลปิน OMI หรือ “โอมาร์ ซามูเอล พาสลีย์” ศิลปินชาวจาไมก้า ที่พาซิงเกิล Cheerleader เข้ามาติดท็อป 10 ได้สำเร็จ ถ้าใครได้ฟังเพลงแล้วต้องชอบแน่ๆ โดยเฉพาะ ชาวเร็กเก้และป๊อปทั้งหลาย ซึ่งไต่อันดับจากอันดับที่ 8 ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 อย่างรวดเร็ว

6. Want To Want Me ศิลปิน Jason Derulo ผลงานเพลงแดนซ์จังหวะสนุกๆ โดยเพลงนี้จะเป็นเพลงแรกใน อัลบั้มที่ 4 ของ Jason Derulo เพลง Want To Want Me แต่งโดย Jason Derulo ร่วมกับ Lindy Robiins,Mitch Allan, Ian Kirkpatrick และ Sam Martin มิวสิควีดีโอเป็นผลงานการกำกับของ Colin Tilley เป็นอีกเพลงที่วิทยุบ้านเราเปิดบ่อยมาก แต่น่าเสียดายที่โดนเบียดจากอันดับ 5 ตกมาอยู่ในอันดับ 6

7. Uptown Funk! ศิลปิน Mark Ronson Featuring Bruno Mars เป็นเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดนตรีฟังก์ในยุค 80 และดนตรี soul ขับร้องโดย Mark Ronson ร่วมกับ Bruno Mars และเพลงนี้ Ronson เจ้าตัวยังเป็นผู้กำกับ MV เองซะด้วย

8. Hey Mama ศิลปิน David Guetta Featuring Nicki Minaj, Bebe Rexha & Afrojack เป็นผลงานเพลงของดีเจชื่อดังจากกรุงปารีส ที่มียอดขายอัลบั้มทั่วโลกมากกว่า 2 ล้านอัลบั้ม และเพลงนี้ก็ได้สองสาว Nicki Minaj และ Afrojack มาร่วม Featuring ซึ่งหลายคนบอกว่าพวกเธอแร็ฟได้เจ็งสุดยอดไปเลยล่ะ

9. Earned It (Fifty Shades Of Grey) ศิลปิน The Weeknd เพลงนี้โดดเด่นด้านเนื้อหาเป็นหนึ่งในเพลงประกอบภาพยนตร์ Fifty Shades Of Grey เนื้อเพลงมีความหมายเกี่ยวกับความรักแบบผิวเผิน ความลุ่มหลงของคนทั้งคู่ เอาเป็นว่าเนื้อหาสอดคล้องกับตัวหนังภาพยนตร์ ส่งผลให้เพลงนี้ติดชาร์ตไปตามๆ กัน

10. Honey, I’m Good. ศิลปิน Andy Grammer อันดับสุดท้ายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะเป็นเพลง Honey, I’m Good ที่ยังคงอันดับ 10 นิ่งมาแล้ว 2 สัปดาห์ เนื้อหาเพลงน่ารักโดยเฉพาะคุณผู้ชายทั้งหลายต้องชอบแน่ๆ เพราะเกี่ยวกับความเป็น family man ในตัวชอบผู้ชาย ซึ่ง MV ก็ได้รวบร่วมเอาหลากหลายคู่รักมาถ่ายทอดความรักประกอบ MV เพลงนี้ด้วย

ที่มา : http://www.billboard.com/charts/summer-songs
ภาพ : pinterest

เจาะสไตล์ ‘พลอย แสงแข’ ดีไซเนอร์สาวแห่ง Viera สวย เก๋ เก่งไม่ธรรมดา

Screen Shot 2015-07-04 at 1.21.26 PM copy

“แบรนด์ที่ทำอยู่เป็นสไตล์ของตัวเองเลยค่ะ เน้นความเรียบ มีดีเทล และคลาสสิค แรกเริ่มพลอยออกแบบกางเกงยีนส์ปลายขาเป็นพู่ฟรุ้งฟริ้งไว้สำหรับเป็นสินค้าเปิดตัวแบรนด์ มีหลายคนชอบและขายดีมาก ดาราก็ใส่กันเยอะ พอเปิดคอลเล็คชั่นเต็มตัวเลยโอเคมาก ตอนนี้ทำมา 3 คอลเล็คชั่นแล้วค่ะ

Screen Shot 2015-07-04 at 1.21.56 PM copy

“ก่อนจะลงมือออกแบบแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหนังหรือเสื้อผ้าพลอยจะชอบเดินทางเพื่อไปหาแรงบันดาลใจ บวกกับทางแบรนด์ Viera เองก็จะส่งไปทุกปี เพื่อให้เราได้ไปเปิดหูเปิดตา เห็นอะไรแปลกใหม่ โดยเราจะมาวางแผนกันว่าปีนี้อยากไปไหน ซึ่งโดยส่วนตัวพลอยชอบเดินทางไปโซนยุโรปอย่างพวก อิตาลี ฝรั่งเศส  เป็นประเทศเก่าแก่ มีดีเทลรายละเอียดของตึกรามบ้านช่องที่สวยงาม รวมทั้งแฟชั่นที่หลากหลาย ดูแล้วเพลินมาก

Screen Shot 2015-07-04 at 1.22.31 PM copy

“ทีนี้เวลาไปไหนก็ต้องเสาะแสวงหาร้านขายของวินเทจด้วย เพราะรู้สึกว่าถ้าเป็นแบรนด์เนมจะซื้อที่ไหนก็ได้ แต่ของวินเทจไม่ซ้ำแบบใครหายาก อย่าง กระเป๋า เข็มขัด เครื่องประดับต่างๆ เวลาแต่งตัวเราก็เอามามิกซ์แอนด์แมทช์กับเสื้อสไตล์โมเดิร์น ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ
Screen Shot 2015-07-04 at 1.20.59 PM copy

“แม้จะทำงานในวงการแฟชั่น แต่พลอยไม่ค่อยตามเทรนด์เท่าไหร่ ชอบเลือกของที่มีความคลาสสิคมากกว่า อย่างแบรนด์ที่ชอบมากคือ Chanel ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หรือกระเป๋าที่สามารถใส่ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหน ชาแนลก็ยังดูใหม่ตลอด ส่วนรองเท้าที่ชอบมากตอนนี้คือแบรนด์ Nicholas Kirkwood พลอยชอบใส่รองเท้าที่มีดีเทล เปรี้ยวๆ แล้วแบรนด์นี้จะเยอะมาก แต่ละแบบไม่มีคำว่าน้อย เลยมีเยอะ ไม่ว่าจะใส่รองเท้าทรงไหนก็ไม่เคยโดนกัดเลย  เพราะพลอยเท้าเล็กและผอม ใส่ไซต์ 34-35 เอง

Screen Shot 2015-07-04 at 1.23.03 PM copy

“นับว่าโชคดี เลยทำให้เอ็นจอยด์กับการซื้อรองเท้ามากๆ ค่ะ”

เรื่อง : apinya

ภาพ : @ployhem_saenkhae




 

 

 

 

รวม 5 คอนเสิร์ตดังเจ้าปัญหา ดราม่ากระฉ่อนโลกโซเชียล

0

00
ซึ่งปมประเด็นดราม่าเรื่องคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น เพราะถ้าใครจำได้จะรู้ดีว่ามีอีกหลายคอนเสิร์ตเลยแหละที่ทำให้เกิดข่าวคาว ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตของศิลปินจากประเทศไทย หรือต่างประเทศก็มีมาให้เห็นกันบ่อย ตามไปส่องกันเลยว่ามีคอนเสิร์ตไหนบ้างที่มีกระแสดราม่ากันยืดยาวไม่จบไม่สิ้น

1. คอนเสิร์ต บอดี้สแลม ปรากฏการณ์ ดัม-มะ-ชา-ติ
1

1-1
มาเริ่มที่คอนเสิร์ตของศิลปินจากประเทศไทยก่อนเลยกับคอนเสิร์ตใหญ่ของบอดี้สแลม ที่ต้องยกเลิกคอนเสิร์ตทั้งหมดอย่างกะทันหัน เพราะมีปมดราม่าที่ผู้จัดคอนเสิร์ตขาดทุน 20 ล้านบาท และที่หนักสุดก็ดูจะเป็นความกดดันจากกระแสของแฟนคลับที่ออกมาขอเงินค่าบัตรคอนเสิร์ตคืน หลังมีการออกโปรโมชั่น โชว์บัตรเมืองไทย Smile Club หรือฝาเครื่องดื่ม EST 1 ฝา และซองมาม่า 1 ซอง ก็จะได้ส่วนลดในการซื้อบัตรคอนเสิร์ต จากราคา 1,500 บาท ลดเหลือ 399 บาท ซึ่งทำให้หลายคนก่อนหน้านี้ที่อุส่าแห่ไปซื้อบัตรมีเคือง ทางผู้จัดงานได้ออกมาจัดการกับปัญหานี้โดยจะให้ Photobook สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรราคาเต็มมาเป็นของแถม แต่ก็ดูเหมือนไม่ช่วยให้สถานการณ์มันดีขึ้น บทสรุปก็มาจบลงที่การยุติคอนเสิร์ตทั้งหมดลงไปอย่างน่าเสียดาย

2. คอนเสิร์ต MAGIC JAMES THE CONCERT
2

2-1
อีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่มีปมดราม่าและกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไม่จบไม่สิ้นก็คือ คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข ประเด็นดราม่าก็มีตั้งแต่ราคาบัตรคอนเสิร์ตที่สูงลิ่วถึง 6,000 บาท หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นและเปรียบเทียบราคาบัตรคอนเสิร์ตของหนุ่มเจมส์ กับ วงดนตรีชื่อดังระดับโลกอย่าง Maroon 5 ที่ราคาบัตรคอนเสิร์ตของ Maroon 5 ราคาสูงสุดอยู่ที่ 5,000 บาท เท่านั้น ซึ่งถูกกว่าของหนุ่มเจมส์ ทำให้กลายเป็นประเด็นดราม่าลากยาวไปถึงราคาที่สูงขนาดนี้กับศักยภาพของหนุ่มเจมส์ว่าเพียงพอให้จัดคอนเสิร์ตแล้วหรือไม่? เพราะเรื่องมันบานปลายไปตอนที่หนุ่มเจมส์ และคู่จิ้น อย่างสาว เบลล่า ราณี ออกมาร้องเพลงโปรโมทคอนเสิร์ตผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ซึ่งก็มีแต่กระแสด้านลบที่ออกมาว่า “ร้องแย่ขนาดนี้ยังกล้าจัดคอนเสิร์ตอีกหรือ” แต่สุดท้ายคอนเสิร์ตก็ถูกจัดขึ้นและผ่านไปด้วยดี แต่ก็ยังมิวายโดนเม้าส์ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่คุ้มราคาค่าตั๋วเอาเสียเลย

3. คอนเสิร์ต EXOPLANET #2 The EXO’luXion – in BANGKOK’
3

3-1
มาถึงฝั่งของศิลปินจากแดนกิมจิอย่างวง EXO กันบ้าง หลังจากติ่งเกาหลีทั้งหลายทราบข่าวการมาทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศไทย แต่ละคนก็กระตือรือร้น หาทางจับจองเป็นเจ้าของบัตรคอนเสิร์ตจนเกิดอาชีพใหม่คืออาชีพรับจ้างจองบัตรคอนเสิร์ต ไหนจะเรื่องตั๋วแท้ตั๋วผีที่มีออกมาขายกันว่อนเน็ตอีกล่ะ แต่มันก็กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่มีคนซื้อตั๋วจำนวนเยอะๆ แล้วมาขายต่อในราคาที่สูง หรือที่เราเรียกกันว่าตั๋วผี แต่ประเด็นคือตั๋วผีของคอนเสิร์ต EXO ครั้งนี้มีราคาสูงสุดถึง 13,500 บาท หรืออาจะมากกว่านั้น ซึ่งบัตรราคาเต็มจริงๆ สูงสุดแค่ 6,000 บาท เท่านั้น งานนี้ไม่รู้ว่ามีคนยอมจ่ายกันรึเปล่าแต่ที่แน่ๆ วันนั้นทั้งวัน twitter แทบล่ม เพราะมีคนเอาตั๋วผีมาขายกันผ่านสื่อเป็นว่าเล่น ไหนจะคนที่โจมตีและแอนตี้การขายตั๋วผีออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือด

4. คอนเสิร์ต Mariah The Elusive Chanteuse Show
4

4-1
อีกหนึ่งกรณีที่มีเหตุการณ์คล้ายๆ กับคอนเสิร์ตของ Maroon 5 เลยก็คือ คอนเสิร์ตระดับโลกของ Mariah Carey  ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับแฟนเพลงแล้วเป็นการรอคอยที่ยาวนานเกือบ 20 ปีเชียวนะ จึงไม่แปลกที่บัตรจะหมดไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ราคาบัตรคอนเสิร์ตจะเฉียดหมื่นเลยก็เถอะ แต่ที่แปลกก็คือตอนแถลงข่าวมีราคาบัตรแบบแพลทินั่มที่มีราคาสูงลิ่วถึง 10,000 บาท ขายด้วย แต่พอวันขายจริงกลับไม่มีซะงั้น ที่ดราม่าหนักกว่านั้นก็คือบัตรราคาสูงๆ อย่าง 8,000 6,000 ก็ถูกจองเกลี้ยงหายไปภายในไม่กี่นาที ซึ่งหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าคนที่ถือบัตรแถวหน้าราคาสูงเหล่านี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็พวกสปอนเซอร์ ดารา เซเลปอีกตามเคย งานนี้ทำให้แฟนเพลงที่รอกัน 20 ปีออกมาต่อว่าผู้จัดงานกันอย่างนัก แล้วก็ดราม่าไปตามระเบียบแต่ที่ข่าวไม่ยืดเยื้อเหมือนกรณีของสาวเอมมี่ก็เพราะ ไม่มีดาราเซเลปคนไหนเผลอถ่ายรูปอวดบัตรคอนเสิร์ตอย่างครั้งนี้ล่ะสิ เรื่องก็เลยจบไปแบบเงียบๆ ไงล่ะจ๊ะ

5. คอนเสิร์ต The On The Road Again 2015 Tour One Direction Live in Bangkok
5

5-1
สุดท้ายก็คือคอนเสิร์ตจาก 5 หนุ่ม One Direction งานนี้ที่มีดราม่าหนักไม่ใช่เพราะเรื่องตั๋วผี หรือบัตรราคาแพงอะไรหรอกนะ (เพราะคนไทยเขาคงชินกันแล้ว) แต่ที่ต้องพูดถึงแล้วเป็นข่าวดังไปทั่วโลกก็คือ สมาชิกหนุ่มหล่อเข้มอย่าง เซน มาลิค” ดันประกาศกลางคอนเสิร์ตว่าจะลาออกจากการเป็นสมาชิกของวง One Direction นี่สิ งานนี้อย่าว่าแต่แฟนเพลงทั้งไทยและเทศเลยที่ช็อก เพราะเพื่อนร่วมวงทุกคนต่างก็ช็อกไปตามๆ กัน บรรยากาศในงานที่สนุกสนานเปลี่ยนเป็นเศร้าโศกไปในทันที ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ หลังจากไม่กี่วันที่หนุ่ม เซน มาลิค ประกาศออกจากวงไป ก็มีแฟนคลับซึ่งเป็นผู้หญิงรายหนึ่งถึงขนาดก่อเหตุฆ่าตัวตายตามมาติดๆ เรียกได้ว่างานนี้มีแต่ดราม่าล้วนๆ

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : www.thaiticketmajor.com, news.you2play.com, www.facebook.com/smtruethailand, www.exodicted.net, www.idolator.com, www.hilyts.com, IG : @ jirayu_jj

บทความนี้ถือเป็นทรัพย์สินของเว็บไซต์แพรว ห้ามผู้ใดนำไปคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำ อนุญาตให้แชร์บทความนี้ได้จากลิ้งค์นี้เท่านั้น

เรทค่าเมื่อยนิ้ว จ้างดาราโพสต์ไอจี โปรโมทสินค้าอยากลงต้องจ่ายกี่บาท

การจะ จ้างดาราโพสต์ไอจี เพื่อโปรโมทสินค้าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อแลกกับการที่มีคนเห็นสินค้าเพิ่มมากขึ้นและยอดขายเพิ่มขึ้นจากฐานแฟนคลับของดาราคนนั้น

จะมีชื่อเสียงมากถึงขั้นซูเปอร์สตาร์ ไล่เรียงมาถึงนักแสดงสมทบก็ตาม สมัยนี้ถ้าได้ยอดฟอลโล่ในไอจีสูงๆ เพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเองในระดับนึงได้แล้ว ตรงนี้แหละก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำมาหากินที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำไม่น้อย

อีกหนึ่งสาวที่ไม่ขอรับงานโพสต์ลงไอจี ที่เห็นๆ ลงก็เพราะเป็นพรีเซ็นเตอร์ และช่วยเพื่อนซี้ที่ทำธุรกิจทั้งนั้น
อีกหนึ่งสาวที่ไม่ขอรับงานโพสต์ลงไอจี ที่เห็นๆ ลงก็เพราะเป็นพรีเซ็นเตอร์ และช่วยเพื่อนซี้ที่ทำธุรกิจทั้งนั้น

แต่นี่ก็ไม่ใช่ดาราทุกคนที่รับโพสต์โปรโมทสินค้าต่างๆ ให้ ซึ่งจากข้อมูลของผู้ที่เคยติดต่อบรรดานักแสดงเพื่อลงโปรโมทสินค้าต่างๆ อยู่เป็นประจำนั้นอธิบายว่าการจะให้พวกเขาโปรโมทผลิตภัณฑ์ต่างๆ ลงไอจีส่วนตัวได้นั้นก็แตกต่างกัน ซึ่งอาจไม่ใช่แค่เรื่องผลตอบแทน แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ ที่แต่ละคนจะตัดสินใจ บางคนอาจเป็นพรีเซ็นเตอร์ของสินค้านั้นอยู่แล้ว บางคนได้ทางเจ้าของโปรดักส์ให้สินค้ามาทดลองใช้ก่อน แต่การตัดสินใจว่าจะโพสต์หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวเอง หรือบางคนก็อาจจะรับสินค้ามาโพสต์และได้ค่าตอบแทนไปเลยก็มี ซึ่ง ค่าโพสต์ IG ละครั้งขึ้นอยู่กับความมีชื่อเสียงของดารา โดยมีการแบ่งเกรดความดังเพื่อคิดเรทราคาการจ้างโพสต์ไอจีแบบกว้างๆ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าแค่อัพโหลด โพสต์รูป และมีแคปชั่น แฮชแท็กอีกนิดหน่อย ก็ฟันเงินกันไปเหนาะๆ แล้ว

ระดับซุปเปอร์สตาร์อันดับ 1 ชัดเจนเลยว่าไม่่รับงานโพสต์สินค้าลงไอจี ที่เห็นมีแต่ช่วยเพื่อนๆ ในวงการเท่านั้นนะจ๊ะ
ระดับซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ชัดเจนเลยว่าไม่รับงานโพสต์สินค้าลงไอจี ที่เห็นมีแต่ช่วยเพื่อนๆ ในวงการเท่านั้นนะจ๊ะ
มีธุรกิจเป็นของตัวเอง แถมยอดไอจีก็สูงลิ่ว จะลงโปรโมทบ้างก็ไม่แปลกอะไร
มีธุรกิจเป็นของตัวเอง แถมยอดไอจีก็สูงลิ่ว จะลงโปรโมทบ้างก็ไม่แปลกอะไร

เริ่มตั้งแต่ดาราระดับเกรด A ค่าตอบแทนแล้วแต่ตกลงโดยจะคิดคำนวนตามยอดฟอลโล่ในไอจี ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 6 – 7 หลัก แต่ส่วนมากเจ้าตัวจะโพสต์สินค้าเฉพาะที่ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งมูลค่าที่พวกเขาจะได้นั้น ถ้าเป็นระดับซูเปอร์สตาร์ค่าตัวที่ได้จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์งานนึงมูลค่าก็ 7-8 หลักอยู่แล้ว แต่ถ้าเห็นสินค้าไหนที่ถ่ายรูปโพสต์เอง ถ้าไม่เป็นสินค้าที่เจ้าตัวทำเอง ก็เป็นของเพื่อนพี่น้องในวงการที่ช่วยโปรโมทโดยไม่คิดเงิน

อีกหนึ่งธุรกิจกับร้านอาหารญี่ปุ่นของหนุ่มบอย
อีกหนึ่งธุรกิจกับร้านอาหารญี่ปุ่นของหนุ่มบอย

ต่อมาที่ดาราระดับเกรด B ค่าโพสต์ IG อยู่ที่ประมาณ 20,000 – 30,000 บาท ส่วนดาราระดับเกรด C ค่าตอบแทนจะอยู่ที่ 5,000 – 10,000 บาท ทั้งนี้ในกลุ่มคนดังที่ไม่ใช่ดาราอย่างเซเลบริตี้ที่มีคนติดตามเยอะ ค่าตอบแทนจะอยู่ที่ 5,000 – 10,000 บาทเช่นกัน

แต่ทั้งหมดเป็นเรทราคาคร่าวๆนะ เพราะเงื่อนไขอีกอย่างที่จะตัดสินว่าควรให้เท่าไหร่ บางทีก็ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าที่เอามาโปรโมทด้วย

เอาเป็นว่าตอนนี้ใครที่อยากให้คนดังช่วยโปรโมทธุรกิจของตัวเองล่ะก็ ถ้าของที่จะขายไม่ดีจริง หรือไม่ซี้ปึกเป็นทุนเดิมก็คงจะยาก การคอมเม้นท์ฝากร้านเลยเป็นทางออกที่บรรดาพ่อค้า-แม่ค้าหลายคนทำกัน แต่ยังไงก็ตามก็อย่าให้มันเยอะเกินไป เพราะไอจียังไงก็เป็นพื้นที่ส่วนตัวนะจ๊ะ

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพประกอบ : IG @aum_pachraoa/@chomismaterialgirl/@boy_pakorn

Twitter : sriploi17

‘นาวิน ต้าร์’ ยอมรับ ผมบ้าพลังครับ! โอย…สงสารคิตตี้ดีไหม?

ตอนนี้ต้าร์กำลังทำอะไรบ้าง อัพเดทงานหน่อยค่ะ

ตอนนี้มีละครซีรีย์คลับฟรายเดย์ กับหนังเรื่อง ‘คนอกหัก’ ฉายเดือนสิงหาคมพร้อมกันเลยครับ เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่ 3 จริงๆ ตาร์ตั้งใจจะไม่เล่นหนังเยอะ เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง ที่ผ่านมามีคนติดต่อเข้ามาตลอด ก็ปฏิเสธไปเยอะ บางบทเราไม่ได้อยากเล่น คือตาร์ไม่ได้มีครอบครัวต้องเลี้ยง หรือไม่มีหนี้ต้องจ่าย (หัวเราะ) แต่ที่รับเรื่องนี้ เพราะได้ทำงานกับคนรู้จักๆ กับอยากทำจริงๆ เลยอยากให้ไปดูกัน

กับหนังเรื่อง คนอกหัก’ เป็นอย่างไรบ้างคะ

เรื่องนี้ตาร์ต้องเล่นเป็นนักการทูตที่ประจำอยู่ประเทศจีน แล้วต้องพูดจีนคล่อง บทต้องแปลจากไทยมาเป็นจีนอีกที แต่ตัวตาร์ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเลยต้องใช้วิธีเรียนทางลัดที่สุด โดยเรียนเป็นภาษาคาราโอเกะแล้วฝึกออกเสียง แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ใช่ กลายเป็นว่าสิ่งที่แปลนั้นเป็นประโยคที่ไม่มีใครเขาพูดกัน

จริงๆ ต้องเป็นนักแปลที่เขียนบทได้ เพื่อที่จะได้เข้าใจหนัง ทั้งเรื่องของความรู้สึก และอารมณ์ ซึ่งจะมีสักกี่คนที่ทำได้ เลยทำให้บทพูดของเราออกมาไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ได้แสดงออกถึงอารมณ์  ที่สุดต้องมานั่งปรับกันใหม่หมด

ink&lion0660 copy

ถ้านอกเหนือจากภาษามีอุปสรรคอะไรอีกบ้างไหมคะ

เยอะครับ เป็นการถ่ายทำในต่างประเทศที่มีความวุ่นวายมาก ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยมีงานไหนที่่งง และยากขนาดนี้ ต้องมีการสื่อภาษาระหว่างทีมไทยกับทีมจีน  เพราะตามกฎหมายระบุไว้ว่าต้องมีคนจีนร่วมทำงานอยู่ด้วยครึ่งหนึ่่ง อุปสรรคที่เยอะที่สุดคือ ตอนไปถ่ายที่หมู่บ้านม้าแห่งหนึ่่ง ซึ่งชาวบ้านไม่พูดภาษาจีนกลางเลย ก็ต้องแปลจากภาษาถิ่นเขามาเป็นจีนกลางก่อน แล้วแปลเป็นอังกฤษอีกที และถึงค่อยมาเป็นภาษาไทย เรียกว่าสื่อสารกันลำบากมากครับ แล้วเป็นฉากใหญ่มีเอ็กซ์ตร้าเกือบ 100 คน ตาร์ตอนนั้นอยู่ในที่พัก พอเดินออกมาเจอบรรยากาศทั้งโคมไฟที่ประดับประดาตามบ้าน และผู้คนที่แต่งกายชุดพื้นเมือง เห็นแล้วยังตกใจว่า เฮ้ย!โปรดักซั่นใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ แล้วฝนตกอีกก็ต้องถ่ายกลางฝน เพราะเราไม่สามารถย้อนกลับมาถ่ายได้อีก แต่ก็สนุกดีครับ

เป็นทั้งอาจารย์และนักแสดง ต้าร์แบ่งเวลาอย่างไรคะ

ช่วงนี้ปิดเทอมก็สบายหน่อย สามารถรับงานแสดงได้เยอะขึ้น แต่ถ้าช่วงเปิดเทอมแทบจะไม่ได้เห็นผลงานต้าร์หรอกครับ แล้วยังต้องหาเวลาซ้อมกีฬา แข่งกีฬาอีก ชีวิตต้าร์จะเป็นประมาณนี้ ต้าร์ว่าการเป็นอาจารย์กับการเป็นนักแสดงเป็นงานที่ต้องใช้อิมเมจทั้งคู่ และเป็นอิมเมจที่ต้องดูแลกันและกัน เพราะฉะนั้นจะให้มาแก้ผ้าใส่กางเกงในถ่ายแบบก็คงไม่ได้ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ แต่เราต้องดูเรื่องของกาลเทศะด้วย(หัวเราะ)

ink&lion0663 copy copy

แต่เห็นช่วงหลัง ตาร์เพิ่มบทบาทนักกีฬาขึ้นมาอีกพาร์ทด้วย เป็นยังไงมายังไงคะ

ต้าร์ว่าเป็นช่วงเวลาเดียวที่เราทำแล้วรู้สึกเคลียร์มาก ไม่ต้องสนใจว่ารอบข้างเราเป็นอย่างไร เหมือนการนั่งสมาธิครับ เสน่ห์ของมันอยู่ตรงความสงบ ทำให้เรามีสมาธิกับการได้จดจ่อกับสิ่งตรงหน้า ในแต่ละครั้งเป้าหมายไม่ได้อยากเป็นที่หนึ่ง แค่อยากเอาชนะตัวเองเท่านั้น  ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่วิ่งอยู่รอบๆ นั้นอยู่ในเอจกรุ๊ปเดียวกับเราหรือเปล่า เราไม่รู้ว่าเราแข่งกับคนไหน แต่ถ้าเรารู้นะคงรีบวิ่งแซงเรียบ (หัวเราะ)

แล้วเวลามีลมตีหน้าขณะกำลังวิ่งไปข้างหน้าที่ละนิดๆ เป็นความรู้สึกที่ดีมาก หลายคนบอกว่าคนอย่างต้าร์ไม่น่าจะเล่นกีฬาโหดขนาดนี้ แต่เชื่อไหมว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นแค่เพียงไม่กี่อย่างที่ทำได้ดีในชีวิต สมัยเด็กๆ ให้ไปตีเทนนิส เตะบอล ตีปิงปอง เล่นบาสเกตบอล ต้าร์ทำไม่ได้เลย เพราะเราไม่มีทักษะ เป็นคนเคลื่อนไหวตัวได้แย่มาก แต่รู้อย่างเดียวคือถ้าใช้แรงเราทำได้ จะบอกว่าบ้าพลังก็ได้ อะไรที่ใช้ความพยายาม ความอดทน และความมุ่งมั่น นั่นคือสิ่งที่เราทำได้ดี

เห็นว่าจริงจังถึงขั้นโกอินเตอร์แล้วหรือคะ

เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่่ผ่านมา ต้าร์ไปแข่งรายการไตรกีฬาที่ชะอำ ได้ที่หนึ่งของเอจกรุ๊ป 35-39 ปี ทำให้เรารู้สึกว่าไม่อยากจะหยุดอยู่แค่ตรงนี้ ลองไปแข่งนอกบ้านบ้างดีกว่า ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ต้าร์ตั้งใจจะไปแข่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้ง ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน นี่ก็ไปแข่งที่ฟิลิปปินส์มาสองรายการแล้ว โห… ช่วงนั้นเดินทางไป-กลับฟิลิปปินส์เป็นว่าเล่น เพราะเราไปได้แค่เสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากติดงานต้องบินกลับมาถ่ายละคร แล้วก็บินกลับไปฟิลิปินส์อีกครั้งเพื่อแข่งไตรกีฬาเสร็จก็ต้องบินกลับมาไทยถ่ายละครต่ออีก ในขณะที่นักกีฬาคนอื่นๆ นอนชิลล์อยู่ที่โน่น เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยครับที่สู้เขาไม่ได้(หัวเราะ)

จริงๆ ตอนที่แข่งตาร์ก็พยายามวิ่งเซฟแรงไว้นะ ตั้งใจว่าจะไปปล่อยช่วงหลังๆ แต่พอเอาเข้าจริงดันเป็นตะคริว ที่สุดเลยได้อันดับสี่มา ซึ่งนั่นคือดีที่สุดที่ต้าร์ทำได้ ก็ต้องยอมรับ แต่ไม่เคยพอใจนะ เพราะรู้ตัวเองว่าทำได้ดีกว่านี้ แค่ต้องขึ้นอยู่กับตารางชีวิตของเราด้วย นี่เดี๋ยวเดือนหน้าจะไปแข่งอีกรอบ ไปบ่อยจนเริ่มมีคอนเน็คชั่น ได้รู้จักคนในแวดวงไตรกีฬาที่กว้างขวางขึ้น ได้ไปสัมภาษณ์ออกสื่อด้วยนะ คนที่โน่นเล่นไตรกีฬาเยอะกว่าบ้านเรา มาตรฐานเขาจึงสูงกว่า อ๋อ…แล้วปีหน้าก็ว่าจะไปแข่งที่เยอรมันด้วย ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร (ยิ้ม)

ink&lion0727 copy

ตั้งแต่แข่งไตรกีฬามีแมชท์ไหนปราบเซียนบ้างคะ

น่าจะเป็นที่ดานัง เวียดนามครับ เพราะอากาศร้อนมาก ประมาณ 40 กว่าองศา แดดตอน 7-8 โมงเช้าร้อนเหมือนตอนเที่ยงบ้านเรา แทบไม่อยากจะเอาเท้าเหยียบพื้นเลยน่ะ แต่เรามั่นใจว่าซ้อมมาอย่างดี ร่างกายแข็งแรงมาก พอเริ่มวิ่งปุ๊บก็ออกตัวแรงวิ่งยับเลย เน้นเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แซงทุกคนมาหมดแล้วเราก็แฮปปี้มาก คิดในใจว่าต้องทำเวลาได้ดีแน่นอน จนถึงระยะ 6 กิโลเมตรสุดท้ายเริ่มรู้สึกแปลกๆ หายใจไม่ออก และหมดแรง เป็นครั้งแรกที่ทำให้ต้าร์รู้จักกับคำว่าโอเวอร์ฮีท เหมือนตัวจะแตก จนไปต่อไปไม่ได้  ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าสภาพอากาศก็สำคัญ คราวนี้พอไปแข่งที่ฟิลิปินส์อากาศไม่ร้อนเท่าเวียดนาม แต่ด้วยความที่กลัวเป็นอีกเลยคว้าน้ำแข็งมายัดใส่เสื้อแล้ววิ่งต่อ เย็นตลอดทาง (หัวเราะ)

เห็นว่าก่อนจะไปแข่งแต่ละครั้้ง ต้าร์ซ้อมหนักเอาเรื่อง   

ประมาณ 6 วันต่ออาทิตย์ครับ เฉลี่ยแล้ว 12-15 ชั่วโมง เริ่มจากตื่นเช้ามาตีห้าจะต้องซ้อมก่อน 1-2 ชั่วโมง ทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่ง ก็สลับหมุนเวียนกันไป บางคนชอบนอนดูทีวีอยู่บนโซฟาตัวเก่ง บางคนชอบหาหนังดีๆ มาดูอยู่บ้าน หรือออกไปหาอะไรอร่อยๆ กิน แต่ต้าร์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ต้าร์ใช้การออกกำลังกายเป็นการพักผ่อน ทำให้เราไม่เครียด แถมนอนหลับสนิทด้วย เลยรู้สึกแฮปปี้กับไลฟ์สไตล์แบบนี้

ทุกวันนี้ต้าร์สามารถใช้เวลา 5 ชั่วโมงในการว่ายน้ำ 2 กิโลเมตร ปั่นจักรยาน 90 กิโลเมตร แล้วก็วิ่งต่ออีก 21 กิโลเมตร หลายคนมองว่าเราเป็นซูเปอร์แมน จริงๆ เป็นคำพูดที่เขาใช้ปลอบใจตัวเองหรือเปล่าว่าคงไม่มีทางเป็นเหมือนเรา เพราะเขาไม่อยากทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ต้าร์ไม่เคยมองแบบนั้น ต้าร์ทำในสิ่งที่คิดว่าทำได้แล้วพยายามทำให้ดีกว่าเมื่อวาน จึงมาถึงตรงนี้ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ถึงแม้ตอนแรกจะดูยากมาก แต่ทำไปเรื่อยๆ เถอะเดี๋ยวจะได้เอง จริงๆ ครับ พิสูจน์มาแล้ว

ink&lion0650 copy
ต้าร์เริ่มจากวิ่งมาก่อน ค่อยมาปั่นจักรยาน แล้วถึงมาเป็นไตรกีฬา เมื่อก่อนไปงานวิ่งยังมีคนอยู่แค่ 100-200 คนเอง เดี๋ยวนี้คนเพียบแล้ว มีจัดกันทุกอาทิตย์ เพราะกระแสสุขภาพกำลังมา ก็ดีครับ ทำให้เราได้สัมผัสกับผู้คนเยอะขึ้น เดินๆ อยู่กลางถนน หรือกลางห้างก็จะมีคนมาถามเรื่องการออกกำลังกายตลอด กลายเป็นหัวข้อที่ทำให้เราสัมผัสคนอื่นได้มากขึ้น แฮปปี้มากครับ 

พักเรื่องกีฬามาเรื่องความรักบ้างดีกว่า ตอนนี้กับน้องคิทตี้ (ชิชา อำมาตยกุล) เป็นอย่างไรบ้างคะ 

(ต้าร์ทำหน้าเขิน) โอเคมาก แฮปปี้ดี และชวนกันไปออกกำลังตลอด จำได้ว่าแมทช์แรกก็พาเขาลงแม่น้ำโขงเลย ระยะทาง 1.7 กิโลเมตร (หัวเราะ) น้องคิทมีความตั้งใจ และมุ่งมั่นมาก อยากจะทำอะไรโน่นนี่นั่นเยอะแยะ เราเองก็อยากมองเห็นอนาคตของเขา เพราะเราเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว เขาเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเองมากๆ เป็นเด็กที่มีความคิดโตเกินวัย ไม่ใช่เด็กอายุ 21 ปกติที่ชอบเที่ยวเล่น เขาเรียนจบมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 18 เป็นเด็กที่ฉลาดมาก นี่คือคำพูดจากปากครูนะ (หัวเราะ) ต้าร์ไม่แปลกใจว่าทำไมเราถึงคุยกันได้ตั้งแต่แรก เขาเป็นคนเก่ง อนาคตไกล เชื่อไหมว่าเขาสามารถอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจบภายในครึ่งชั่วโมง เหมือนกินข้อมูล ไม่เคยเห็นใครอ่านเร็วขนาดนี้มาก่อน ซึ่งขนาดต้าร์เป็นหนอนหนังสือนะยังอ่านไม่ได้ขนาดนั้นเลย แต่บางทีด้วยความที่เร็วไปก็มีพลาดบ้างเป็นเรื่องปกติ

“แต่นับจากที่เขาเข้ามาในชีวิต ก็ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องที่่ดีหมดเลยครับ” 

หิ๊ว…โมเม้นต์หวานๆ ของด็อกเตอร์หนุ่ม น่ารักเนอะ และที่สำคัญไม่ต้องสงสารสาวคิตตี้แล้วละ เพราะดูท่าเธอจะบ้าพลังไม่แพ้หนุ่มตาร์นะเออ

เรื่อง : apinya

ภาพ : กฤตธี

 

 

 

 

Praew Selected : แจกรางวัลสัปดาห์ที่ 31

คำถาม : อยากใช้สบู่ไข่ขาววิคตอเรียฯ แก้ปัญหาผิวตรงจุดไหนบ้าง

กติการ่วมสนุก

1. ตอบคำถามข้างต้นลงในหน้ากิจกรรมนี้เท่านั้น โดยพิมพ์คำตอบว่า

“ร่วมกิจกรรม Praew Selected อยากใช้สบู่ไข่ขาววิคตอเรียฯ มาแก้ปัญหาผิว …………พร้อมHashtag #Praewselected #แพรวดอทคอม”

2. กดไลค์และแชร์ภาพกิจกรรมนี้ไปยังFacebookของคุณ โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะ

3.กดไลค์เพจ praewmagazine ที่ https://www.facebook.com/praewmagazine

ผู้ที่ทำถูกต้องตามกติกา รายชื่อทั้งหมดจะนำมาคัดเลือกเพื่อหาผู้โชคดีที่ จะได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์สบู่ไข่ขาววิคตอเรีย เอ็กไวท์ เฟเชี่ยล แคร์ ขนาด 50 กรัมx6 จากประเทศสวีเดน เอาไปใช้ให้หน้าสวยใสกันถ้วนหน้า เพียงแค่ตีฟอง พอกหน้า ก็จะได้ผิวที่เนียนกระชับ เห็นผลจริงภายในไม่กี่วันที่ใช้

จำนวน 6 รางวัล รวมมูลค่า 11,880 บาท
หมดเขตร่วมสนุกวันที่ 12 สวีเดน กรกฎาคม 2558 ประกาศผลวันที่ 13 กรกฎาคม 2558
รายละเอียดเกี่ยวกับของรางวัล

Victoria_50x6
สบู่ไข่ขาว Victoria Eggwhite Facial Care 50 g.x6 นำเข้าจากประเทศ ด้วยมหัศจรรย์จากโปรตีนไข่ขาว ช่วยขจัดสิ่งอุดตันในร่องรูขุมขน,ช่วยกระชับผิว,ลดการเกิดสิวเสี้ยน สิวอุดตันได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากราชสำนัก ราชวงศ์สวีเดน ยาวนานกว่า 109 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 ใช้สำหรับทำความสะอาดผิวหน้า ซึ่งให้คุณสมบัติเลียนแบบ “การใช้ไข่ขาวพอกหน้า”ตีฟอง พอกหน้าเช้า-เย็น ง่ายๆ วันละ 1-3 นาทีใช้เพียงครั้งแรกเท่านั้น รูขุมขนกระชับ สิวเสี้ยนลดลงผิวหน้าเปล่งปลั่งสดใสขึ้น หมดปัญหาหน้ามัน หน้าหมองผิวหน้านุ่มชุ่มชื้น เรียบเนียน และยกกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

6 ไอเทมอัพสวยวันแต่ง

account_circle
          หากสาวๆ อยากสวยพร้อมสำหรับวันสำคัญในชีวิตอย่างวันแต่งงาน ลองมาดูบิวตี้ไอเทม 6 ชิ้นที่ช่วยอัพลุคสวยให้คุณเจิดทุกองศา

 
แช่ตัวด้วย Bath Soak
1          หากคุณมีอ่างอาบน้ำที่บ้าน  เราแนะนำให้คุณแช่ตัวใน Bath Soak  โดยคุณอาจเลือกแช่ตัวในตอนเช้าเพื่อให้รู้สึกสดชื่นพร้อมสำหรับวันงาน  หรือแช่ตัวหลังจบงานเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย  เลือก Bath Soak ที่มีส่วนผสมตรงตามความต้องการของคุณ  เช่น  ดีท็อกซ์ผิว  เพิ่มความชุ่มชื้น  หรือมีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง

ลงซีรั่ม
2          หากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองหรือไม่ได้ใช้สกินแคร์เป็นประจำ  เราแนะนำให้คุณลงซีรั่มบนผิวหน้าในวันงาน  เพราะนอกจากจะเป็นการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกแล้ว  ยังเป็นการช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้ายามคุณต้องเจอสภาพอากาศร้อนจัดหรือเย็นจัดในพิธีแต่งงาน

ลิปสติกสีชัด

3          เราแนะนำให้คุณใช้ลิปสติกที่ให้สีชัดและติดทน  จะได้ไม่ต้องคอยเติมสีปากบ่อยๆ และหมดปัญหาสีลิปสติกไม่ชัดในภาพถ่าย  อีกหนึ่งเคล็ดลับคือหากคุณเลือกลิปสติกที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์  จะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีกปากของคุณระหว่างงานได้อีกด้วย

แตะแต้มน้ำหอม
4          อย่าลืมจรุงกลิ่นกายของคุณในวันวิวาห์ด้วยน้ำหอม  เพราะนอกจากจะช่วยให้กลิ่นกายของคุณหอมอบอวลแล้ว  น้ำหอมแต่ละกลิ่นยังมีคุณสมบัติทางอโรมาเทอราปี  เช่น  กลิ่นมะนาวและกลิ่นส้มช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัว  กลิ่นมิ้นท์เย็นๆ ช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น  และกลิ่นลาเวนเดอร์ช่วยให้ผ่อนคลาย  เป็นต้น

อย่าลืมทาเล็บ

5          จริงอยู่ที่ว่าเล็บที่ไร้การตกแต่งนั้นดูสะอาด  แต่ในวันแต่งงานที่คุณแต่งตัวแบบจัดเต็ม  หากไม่แต่งแต้มสีสันใดๆ ลงบนเรียวนิ้ว  อาจทำให้มือของคุณดูโล่งจนเกินไป  เราแนะนำให้คุณแต่งแต้มสีสันลงบนเล็บโดยเลือกยาทาเล็บเฉดสีที่คุณชอบและเข้ากับชุด  หรือหากคุณไม่ชอบทาเล็บจริงๆ  คุณอาจทาเพียงท็อปโค้ทเพื่อให้เล็บเงางามก็ได้

ใช้ทรีตเมนท์ผม
6          คุณไม่จำเป็นต้องเข้าซาลอนเพื่อทำสปาผมหรือทรีตเมนท์ผมราคาแพง แต่สามารถซื้อชุดทรีตเมนท์สำหรับดูแลผมมาทำเองที่บ้าน ซึ่งมีทั้งแบบซีรั่มและแบบบำรุงผมหลังสระ หรือแบบมาส์กแล้วล้างออก โดยเลือกใช้สูตรที่ให้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการของคุณ
          นับเป็นการรวมบิวตี้ไอเทมแบบน้อยชิ้นที่ทำได้เองและไม่ยุ่งยาก ลองเอาคำแนะนำของเราไปใช้ในวันสำคัญของคุณ แล้วเตรียมสวยเจิดรับวันแต่งกันเลย

ภาพ : www.elipeycosmetics.com  www.rankandstyle.com  www.vse-gosty.ru  www.openlettersmonthly.com  www.bridetobride.com.br  http:// fashionstylebeauty.com  http://thewowstyle.com

จับตาดูคอลเลกชั่นใหม่จากยูนิโคล่ Fall and Winter 2015 LifeWear

สำหรับฤดูกาล ฟอล/วินเทอร์ นี้ ยูนิโคล่ ยังคงเน้นการใช้งานที่ตอบโจทย์ของผู้ใช้เช่นเคย จึงได้พัฒนาเนื้อผ้าให้ล้ำสมัยไปอีกขั้น เพื่อมอบความสบายสูงสุดให้แก่ผู้สวมใส่ในทุกสภาพอากาศ อีกทั้งยังเพิ่มคอลเล็กชั่นที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้สวมใส่ได้สนุกสนานไปกับการมิกซ์ แอนด์ แมชท์ เพื่อสร้างสรรคลุคของตนเองได้อย่างมีสไตล์และง่ายดาย

ยีนส์ (JEANS)
2
ยูนิโคล่เปิดหน้าใหม่ให้กับประวัติศาสตร์ของยีนส์ด้วยการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาใช้ในการผลิต ทำให้ยีนส์ของยูนิโคล่เป็นยีนส์ที่ใส่สบาย ง่ายต่อการเคลื่อนไหว และให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว โดยในซีซั่นนี้ ยูนิโคล่ได้เพิ่มยีนส์ไลน์ใหม่สำหรับสุภาพสตรี คือ กางเกงโยคะเดนิม (Denim Yoga Pants) ด้วยเนื้อผ้าไคฮาร่า (Kaihara) รวมถึงเทคโนโลยี มิราเคิล แอร์ (Miracle Air) เพื่อพัฒนาเนื้อผ้าในรุ่นกางเกงยีนส์สกินนี่ฟิตสำหรับสุภาพบุรุษ (Skinny Fit Tapered Jeans) ทำให้เนื้อผ้ามีความอ่อนนุ่มและเบากว่าเนื้อผ้าเดนิมทั่วไปประมาณ 20% นอกจากนั้น ยูนิโคล่ยังขยายไลน์สำหรับสุภาพสตรีในรุ่น ฮีทเทค (HEATTECH) และเป็นครั้งแรกที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ในรุ่นนี้สำหรับสุภาพบุรษด้วย

แฟลนแนล (Flannel)
3
ยูนิโคล่อัพเดทคอลเล็กชั่นแฟลนแนลในทุกซีซั่น เพื่อนำเสนอเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่สบายและมีสไตล์ รวมถึงเพิ่มตัวเลือกให้แต่ละ   ไอเท็มทั้งในด้านเนื้อผ้า สี และแพทเทิร์น เพื่อให้เข้ากับทั้งแฟชั่นในช่วงปลายฤดูร้อน ด้วยผ้าแฟลนแนลรุ่นบาง และฤดูหนาวกับโบอา แฟลนแนล (Boa Flannel) ที่สามารถสวมเป็นเสื้อโค้ทได้ในคราวเดียว สำหรับคอลเล็กชั่นของสุภาพบุรุษจะมีเนื้อผ้าหนาขึ้น และมีไอเท็มใหม่ๆ ในสีโทนวินเทจให้เลือกสรรมากขึ้น

สเวตเตอร์ (SWEATERS)
4
สเวตเตอร์ของยูนิโคล่ทุกรุ่นเป็นผลงานการสร้างสรรค์จากการคัดเลือกวัสดุที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้เสื้อทุกรุ่นนุ่มสบายที่สุด มีให้เลือกในหลากหลายสีสันและลวดลาย อาทิ  คอตตอนแคชเมียร์หลากหลายดีไซน์ เอ็กซ์ตร้า ไฟน์ เมอร์ริโน่ และแคชเมียร์แบบต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงเสื้อขนแกะที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่สวมใส่สบายและมอบความอบอุ่นอย่างดีเยี่ยม

ฟลีซ (FLEECE)
5
เมื่อนึกถึงฤดูหนาว แฟชั่นนิสต้าทั้งหลายต่างนึกถึงฟลีซของยูนิโคล่ โดยยูนิโคล่ได้นำวิวัฒนาการใหม่ของวัสดุฟลีซผนวกเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์การใช้งานสูงสุดของผู้สวมใส่ด้วยคุณสมบัติในการกักเก็บความร้อน และการป้องกันลมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามเสื้อฟลีซในแต่ละรุ่น รวมถึงเพิ่มรูปแบบของเสื้อฟลีซให้หลากหลายขึ้น อาทิ เสื้อฟลีซที่ดูนุ่มและสวยงามเสมือนขนแกะ และยังเพิ่มสไตล์ใหม่ๆ อาทิ เสื้อฟลีซลายขวาง ในซีซั่นนี้ ยูนิโคล่ยังนำเสนอเสื้อและแพทเทิร์นลายพริ้นท์ใหม่ๆ สำหรับไลน์ของเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ  และเพิ่มไอเท็มใหม่ๆ สำหรับสุภาพสตรี อาทิ เสื้อฟลีซแจ็คคาร์ด  (Jacquard Fleece) และเสื้อฟลีซลายสี่เหลียมข้าวหลามตัดหลากสี (Argyle Fleece) เสื้อฟลีซฮีทเทค (HEATTECH Fleece) รวมถึงเสื้อโค้ทฟลีซที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์ และฟลีซลายพริ้นท์ที่ดูสง่างามอย่างมีสไตล์

เสื้อโค้ทตัวนอก (OUTERWEAR)
6
เสื้อโค้ทของยูนิโคล่ผลิตด้วยเนื้อผ้าขนแกะแบบใหม่ที่ทั้งน้ำหนักเบา และนุ่มสบาย โดยยูนิโคล่แนะนำโค้ทขนแกะผสมแคชเมียร์ ที่จะเสริมความสง่างามให้กับทุกลุค ด้วยงานออกแบบให้เน้นรูปทรงเสื้อที่สวยงาม พร้อมด้วยสไตล์สุดประณีตในทุกรายละเอียด และในฤดูกาลนี้ ยูนิโคล่ยังได้พัฒนาให้ อัลตร้า ไลท์ ดาวน์ (Ultra Light Down) สามารถกันน้ำได้ดีขึ้น ทั้งยังใช้เทคโนโลยีการพิมพ์อลูมิเนียมในส่วนผ้าบุ เพื่อให้ตัวเสื้อให้ความอบอุ่นได้มากยิ่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

ฮีทเทค (HEATTECH)
7
ฮีทเทคยังคงเป็นไอเท็มสำคัญที่ปฏิวัติความอบอุ่น ด้วยเนื้อผ้าที่บางสบายมีความยืดหยุ่นสูง ปกป้องร่างกายได้ดีเยี่ยมจากสภาพอากาศหนาว โดยในซีซั่นนี้ ยูนิโคล่เพิ่มน้ำมันดอกคามิเลียในฮีทเทคสำหรับสุภาพบุรุษ จากที่มีเพียงในฮีทเทคสำหรับสุภาพสตรีในฤดูกาลที่แล้ว รวมถึงขยายไลน์ผลิตภัณฑ์คอลเล็กชั่นฮีทเทคอย่างครบครันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า อาทิ     เสื้อฟลีซ เสื้อสเวตเตอร์ หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ ปลอกสวมคอกันหนาว และที่ปิดหูกันหนาว

คอลเล็กชั่นเด็ก (UNIQLO Kids Collection)
8
ยูนิโคล่เชื่อว่าหนูน้อยควรสวมใส่เสื้อผ้าที่บ่งบอกความเป็นเด็ก ยูนิโคล่จึงมุ่งมั่นในการนำเสนอเสื้อผ้าที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ สวมใส่สบาย และง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่ ในฤดูกาลนี้ ยูนิโคล่นำเสนอไอเท็มใหม่ๆ ตั้งแต่แนวสปอร์ต ไปจนถึงคัตติ้งสุดประณีต ที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่เหมือนกับในคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าผู้ใหญ่ รวมถึงเสื้อชั้นนอกวอร์มแพด (Warm Padded Outerwear) ที่ผลิตจากเส้นใยเนื้อละเอียดคุณภาพสูง ช่วยให้สามารถกักเก็บความอบอุ่น มีน้ำหนักเบา และยังทนทานแม้ผ่านการซักหลายรอบ สำหรับไลน์ฟลีซ (Fleece) ของเด็กในซีซั่นนี้ ยูนิโคล่ได้เพิ่มแบบ สี และแพทเทิร์น ให้หลากหลายยิ่งขึ้น และสำหรับไอเท็มฮีทเทค (HEATTECH) ของเด็กนั้น ยังด้วยเคลือบน้ำมันดอกคามิเลียที่ทำให้รู้สึกราวกับเป็นผิวหนังชั้นพิเศษอีกด้วย

อิเนส เดอ ลา เฟรซองจ์ (INES DE LA FRESSANGE)

สำหรับคอลเล็กชั่น ฟอล/ วินเทอร์ 2015 นี้ อิเนสยังคงเน้นถึงความการสร้างสรรค์ความสง่างามให้กับผู้หญิงทั่วโลก โดยความงดงามตามธรรมชาติและไลฟ์สไตล์แบบฝรั่งเศสยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์โทนสีในคอลเล็กชั่นนี้ไม่ว่าจะเป็น สีเขียวเข้ม (Forest Green) แดงเข้ม (Vin Chaud) รวมถึงเฉดสีสดใสอื่นๆ โดยอิเนสนำเสนอเสื้อผ้าที่รังสรรค์จากผ้าวูลและใยผ้าธรรมชาติอื่นๆ ในรูปแบบและสีที่จะเติมเต็มทิวทัศน์ยามหิมะปกคลุมและท้องฟ้ายามหน้าหนาวให้สวยงามยิ่งขึ้น

ยูนิโคล่หวังว่าแฟชั่นนิสต้าทุกคนจะสนุกสนานไปกับการมิกซ์ แอนด์ แมชท์ ไฮไลท์ไอเท็มต่างๆ ในคอลเล็กชั่นไลฟ์แวร์ฟอล/ วินเทอร์ 2015 ของยูนิโคล่

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : ยูนิโคล่

LME เปิดอาณาจักรแห่งแฟชั่น 10 แบรนด์ดัง ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์แฟชั่น

เพื่อสะท้อนการเป็นผู้นำเข้าแฟชั่นแบรนด์ดังจากทั่วโลก ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของแฟชั่นนิสต้า ภายในงานจึงจัดเป็นเอ็กซิบิชั่นแฟชั่น โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 5 โซนเพื่อความสะดวกในการเลือกชมสินค้า โซนแรกได้แก่ โซน Dress Up เป็นเสื้อผ้าสำหรับโอกาสพิเศษ ปาร์ตี้สุดมันส์ และเสื้อผ้าทำงานที่ดูดีและมีความน่าสนใจ จากแบรนด์ชั้นนำอย่าง ESPADA, Ep, F. Fashion และ LTD  ที่เน้นดีไซน์ที่สะดุดตา เหมาะกับงานสังสรรค์หรือสวมใส่ไปทำงาน ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความสนุกสนาน

โซนที่สองคือ โซน Casual สำหรับเสื้อผ้าลำลองจากแบรนด์ Ep, ESP, Fox และ F. Fashion โซนนี้จะเน้นเสื้อผ้าที่สวมใส่ง่าย เหมาะสำหรับวันพักผ่อน หรือวันที่ต้องการลุคแบบเป็นกันเอง แต่แฝงไปด้วยดีเทลแฟชั่นที่สร้างความโดดเด่นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

โซนถัดมาคือ โซน Denim เป็นแหล่งรวมพลคนรักยีนส์ ด้วยแบรนด์สุดเท่อย่าง Von Dutch, ESP และ Rock X Press เน้นสินค้าประเภทยีนส์สำหรับทั้งหญิงและชาย มีหลายสไตล์ให้เลือก ไม่ว่าจะเปรี้ยว หวาน เท่ เซอร์ หรือฮิปสเตอร์ ทั้งหมดมารวมกันอยู่ในโซนนี้

ส่วนอีกโซนที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือโซน Accessories จำหน่ายสินค้าประเภทกระเป๋าถือสำหรับสุภาพสตรี มีให้เลือกหลากหลายแบบจากแบรนด์ ESPADA Accessories และ F. Fashion Bag

อีกหนึ่งแบรนด์ดังที่ LME ได้เป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่ผู้เดียวในประเทศไทย ก็คือโซนของแบรนด์ Onitsuka Tiger แบรนด์รองเท้ายอดฮิตจากญี่ปุ่นที่ยอดขายถล่มทลายในประเทศไทยในระยะหลายปีที่ผ่านมา ด้วยทรงที่สวมใส่สบายและลวดลายที่สดใส โดนใจทั้งหนุ่มๆ และสาวๆ ทำให้เป็นรองเท้ายอดนิยมสำหรับแฟชั่นนิสต้ายุคนี้


สำหรับ งาน LME Connect / Connect LME จะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าช้อปสินค้าของ LME ทุกแบรนด์ ในราคาพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 2-5 กรกฎาคม นี้ ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

 

Thunderbolt 3 มาตรฐานการเชื่อมต่อใหม่เพื่ออุปกรณ์คอมฯในอนาคต

thunderbolt-3 url-81c5135c5bb8b5cd4e5da2da840801e9-564x472-c thunderbolt3-640x640

ในปี 2016 นี้ Apple จะปล่อย Thunderbolt 3 ออกมา โดยคุณสมบัติสำคัญที่คุณจะได้สัมผัสจาก Thunderbolt 3 มีดังนี้ค่ะ

  • สามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลได้ไวกว่า Thunderbolt 2 เป็นสองเท่า และไวกว่า USB 3.1 ถึง 4 เท่า
  • สามารถรองรับ Display Port, HDMI, USB และVGA ได้
  • สามารถชาร์ตอุปกรณ์อื่นๆ หรือให้อุปกรณ์อื่นๆมาชาร์ตได้ด้วย โดยเฉลี่ยแล้ว Thunderbolt 3 จะให้พลังงาน 100 วัตต์
  • มีขนาดกะทัดรัด และ รองรับการส่งวิดีโอขนาด 4K
  • ให้ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 40Gbps

สำหรับผู้ใช้ Macbook หากต้องการความเร็วในการเชื่อมต่อข้อมูล ลองใช้ Thunderbolt 3 อินเตอร์เฟสใหม่ที่จะทำให้คุณเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วขึ้นได้นะคะ แต่หากใครสนใจอาจจะต้องรอหน่อย เพราะกว่าจะเข้าประเทศไทยก็น่าจะราวๆ ปี 2016 เลยค่ะ หากมีข่าวอัพเดทเพิ่มเติม จุ๊จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ

ติดตามเรื่องราวและความสนุกเพิ่มเติมได้ที่ http://www.iamsorada.com ค่ะ
Post Date :  TBC

The Hunk : ศุกลวัฒน์ คณารศ

account_circle

เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ
อายุ 30 ปี
นักแสดง

“คุณเวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” พระเอกหนุ่มสุดฮอตแห่งวิก 7 สี ที่ฝากผลงานไว้ในใจแฟนๆ ปีละหลายเรื่อง และล่าสุดกับบทบาทของ “ลอ” หนุ่มบ้านนาหล่อล่ำกล้ามโตแห่ง ”เพื่อนแพง”

อยู่ในวงการบันเทิงมานาน ผ่านฉากแต่งงานมาหลายสไตล์ แล้วงานแต่งในชีวิตจริงล่ะ เขาฝันไว้แบบไหน “ผมอยากให้งานแต่งของผมไม่เหมือนงานทั่วไปที่จัดตอนเย็น มีพิธีกรรม อาฟเตอร์ปาร์ตี้ แล้วจบ ผมอยากจัดเป็นเอ็กซ์คลูซีฟทริป 3-4 วัน เชิญแขกสัก 3 คันรถ นัดให้มาขึ้นพร้อมกันโดยไม่บอกว่าจะไปที่ไหน จากนั้นพาล่องเรือเที่ยวแล้วไปจบที่เกาะหนึ่ง จัดพิธีหมั้นวันหนึ่ง อีกวันเป็นพิธีแต่งงานริมทะเล แขกทุกคนแต่งตัวชิลๆ เพราะครั้งหนึ่งในชีวิตอยากให้เป็นความทรงจำดีๆ ทุกคนได้เที่ยวพักผ่อนและสนุกสนานกันตามสไตล์ของผม

“สำหรับปาร์ตี้สละโสดก็อยู่ในทริปนี้ล่ะครับ ก่อนถึงเกาะที่จะแต่งงาน เรือเจ้าบ่าวและเพื่อนชายล้วนอาจแวะเกาะหนึ่งก่อน ปาร์ตี้กันให้เต็มที่แต่ไม่ถึงกับแฮงค์โอเวอร์นะ (หัวเราะ) แล้วคนที่ขาดไม่ได้เลยในปาร์ตี้นี้คือคุณพ่อของผมเอง ลูกชายสละโสดทั้งทีใช่ไหมครับ อีกอย่างงานแบบนี้ต้องมีรุ่นใหญ่ ชิลๆ เข้าใจวัยรุ่นมาเป็นประธาน”

เอ้า …สาวๆ คนไหนอยากร่วมทริปกับหนุ่มเวียร์ยกมือขึ้น-น-น

เติมใจให้กัน…จนเต็ม

account_circle

The Bride To Be : สุทธดา จีระพันธุ (เอ๋ย) เจ้าของธุรกิจเบเกอรี่ Little Baker
The Groom To Be : สิรพัฐ พิพัฒน์วีรวัฒน์ (จอห์น) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทเดอมอนด์ ประเทศไทย จำกัด

The Romance
          นับเป็นอีกคู่ที่พิสูจน์คำว่า คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน สำหรับคุณเอ๋ยและคุณจอห์นที่การพบหน้ากันครั้งแรกเมื่อสมัยเรียนพิเศษเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวความรักอันยาวนานของคนทั้งสอง
          แม้คุณเอ๋ยจะไม่ได้รู้สึกชอบคุณจอห์นในทันที แต่เจ้าตัวก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เวลาเพื่อนพูดถึงฝ่ายชายขึ้นมา คุณเอ๋ยถึงยังนึกหน้าของหนุ่มคนนี้ออก ราว 10 ปีต่อมาทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งโดยเพื่อนสนิทของคุณเอ๋ยพาคุณจอห์นมากินข้าวด้วยกันในวันหนึ่ง แม้ แม่สื่อจำเป็น คนนี้จะเป็นคนที่ทำให้ทั้งสองได้เริ่มพูดคุย และก็เป็นแม่สื่อคนนี้อีกเช่นกันที่เล่ากิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของฝ่ายชายจนทำให้ฝ่ายหญิงตั้งกำแพงใจ แต่ด้วยแรงเชียร์จากเพื่อนๆ ที่ว่า ถ้าคิดจะรักก็ต้องเสี่ยง ทำให้คุณเอ๋ยตัดสินใจสานสัมพันธ์ต่อไปพร้อมๆ กับคุณจอห์นที่ต้องการหยุดหัวใจอยู่กับหญิงที่ตนรัก

The Honeymoon
          แม้ทั้งคู่จะยังไม่ได้วางแผนแน่นอนว่าจะไปฮันนีมูนหวานกันที่ไหน แต่มีแผนไว้ในใจว่าอยากจะท่องเที่ยวแบบ Road Trip ในประเทศแถบยุโรป ซึ่งต้องตกลงกันอีกทีว่าจะเป็นเมืองแห่งความรักอย่างปารีสหรือเมืองเล็กๆ ในชนบท

bg2
The Planning
          ทั้งคู่วางแผนแต่งงานข้ามปี โดยเมื่อได้ฤกษ์แล้วก็เริ่มจองโรงแรมเป็นอันดับแรก เพราะหากเตรียมทุกสิ่งพร้อมแต่หาสถานที่ไม่ได้ งานก็เกิดขึ้นไม่ได้ จากนั้นจึงจองช่างแต่งหน้าทำผมและช่างภาพ ตามด้วยการเฟ้นหาเวดดิ้งแพลนเนอร์เพื่อช่วยให้การจัดงานเป็นไปอย่างราบรื่นและช่วยจัดการในรายละเอียดยิบย่อย
          ในส่วนของการวางแผนเรื่องค่าใช้จ่าย คุณจอห์นเล่าให้เราฟังอย่างหมดเปลือกว่า พอรู้ราคาของแต่ละอย่างแล้ว ขอไม่รู้เสียดีกว่า จึงให้งบคุณเอ๋ยไปจัดสรรตามต้องการ

The Beauty
          เจ้าสาวมีใบหน้าที่สวยได้รูป จึงไม่ต้องใช้เฉดดิ้งหรือไฮไลท์เพื่อแก้ปัญหารูปหน้า และเพื่อให้การแต่งหน้าดูสมวัยสำหรับเจ้าสาวที่ยังวัยรุ่น จึงแต่งหน้าให้ดูบางเบาและสดใส โดยเน้นเพียงดวงตาให้สวยชัด และลงลิปสติกสีชมพู ปิดท้ายด้วยการลงกลอสเพื่อให้ริมฝีปากที่ค่อนข้างเล็กของเจ้าสาวดูอวบอิ่มขึ้น

bride
          สำหรับชุดเกาะอกเลือกเกล้าผมเพื่อความหรูหราและเหมาะกับพิธีการ โดยเกล้าหลวมๆ ให้ดูสมวัย ส่วนชุดเดรสสั้นเป็นทรงแสกกลางรวบเก็บครึ่งศีรษะด้านหลัง

The Dress
          เจ้าสาวดูสวยหวานในชุดแต่งงานเกาะอกประดับคริสตัล ช่วงเอวคาดโบขนาดเล็กดูน่ารัก ช่วงกระโปรงไล่ชั้นตกแต่งลูกไม้ดูหรูหรา สำหรับชุดเดรสสั้นมีชายด้านหลังแยกชิ้น เจ้าสาวสามารถสวมครบชุดหรือสวมเพียงเดรสเกาะอกเดี่ยวๆ ก็ได้

S6-210-rt
The Suit
          เจ้าบ่าวดูหล่อราวกับพระเอกหนังในชุดสูทสีดำสวมโบไท และเปลี่ยนเป็นเจ้าบ่าววัยรุ่นด้วยชุดสูทสีครีมที่ดึงลุคทันสมัยออกมาด้วยโบไทสีแดงเข้ม

WE Recommend
          เนื่องจากครอบครัวของเจ้าบ่าวเป็นเจ้าของธุรกิจร้านเพชร คุณจอห์นจึงเลือกแหวนเพชรรุ่น “Always Together” จาก Reverof by DER MOND เป็นของขวัญเซอร์ไพร้ส์ตอนขอคุณเอ๋ยแต่งงาน เพื่อสื่อถึงความรักของทั้งสองว่าจะครองคู่กันตลอดไปไม่ต่างจากแหวนคู่ ด้านในตัวแหวนยังสลักข้อความพิเศษสำหรับว่าที่บ่าว – สาวคู่นี้อีกด้วย

Venue
          สำหรับคู่บ่าว-สาวที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งสไตล์โมร็อกโกริมหาด Marrakesh Hua Hin Resort & Spa อาจตอบโจทย์ความต้องการของคุณ นอกจากสถานที่จะโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Neo-Moroccan ที่ดูหรูหราและสง่างาม โรงแรมยังมีบริการแพคเกจพรีเวดดิ้งหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกสรร

Marrakesh-Hua-Hin-Resort-&-Spa_Beach-Dinner-2
Pre Wedding Day-Use Package (12,000 บาทสุทธิ)
          คู่บ่าว-สาวจะได้รับห้องจากุซซี่ สวีท ประเภทไม่พักค้างคืน 1 วัน สถานที่สำหรับถ่ายภาพพรีเวดดิ้งบริเวณโรงแรม และชายหาดหน้าโรงแรม เวลา 8.00-18.00 น. และเซทอาหารไทยมื้อเที่ยง 1 มื้อ
Pre Wedding Overnight Package (17,000 บาทสุทธิ)
          คู่บ่าว–สาวจะได้รับห้องจากุซซี่ สวีท 1 คืน พร้อมอาหารเช้า สถานที่สำหรับถ่ายภาพพรีเวดดิ้งบริเวณโรงแรม และชายหาดหน้าโรงแรม และเซทอาหารนานาชาติมื้อค่ำ 1 มื้อ โดยทั้ง 2 แพ็กเกจคู่บ่าว – สาว ยังจะได้รับ
          • ส่วนลด 20% สำหรับคู่บ่าว-สาว และทีมงาน ที่นูรา สปา
          • ส่วนลด 10% สำหรับคู่บ่าว-สาว และทีมงาน ที่ห้องอาหาร อัล ฮัมรา (เฉพาะอาหารและเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์)
          • ส่วนลด 35% จาก Best Available Rate บนเว็บไซต์ www.marrakeshresortandspa.com สำหรับการเข้าพักครั้งถัดไป

Marrakesh Hua Hin Resort & Spa
63/411 ถนนเพชรเกษม ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110
โทร. 0-3261-6777
อีเมล [email protected]
เว็บไซต์ www.marrakeshresortandspa.com

WE Directory
แต่งหน้า : รัตนโชติ โพธิ์ขำ (เดียว) โทร. 08-1699-9695
ทำผม : ธานุพล ภู่เทพอมรกุล (แจ้) โทร. 08-1890-2355
ชุดแต่งงานบ่าว – สาว : Fullrich หมู่บ้านเพอร์เฟคพาร์ค ร่มเกล้า 6/1เฟส 2 โทร 0-2181-4362, 08-9988-9289 www.fullrichbride.com www.facebook.com/Fullrichbride IG : @fullrichbride
เครื่องประดับเพชร : DER MOND ชั้น 1 สยามพารากอน โทร. 0-2129-4355-6 www.dermond.co.th

The Free Spirit : อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม

account_circle

อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม
อายุ 33 ปี
นักแสดง

ลบภาพหนุ่มมาดเซอร์แบบไม่เหลือเค้าเดิมเลยทีเดียว เมื่อเรามีโอกาสได้สัมภาษณ์นักแสดงหนุ่มสุดหล่ออย่าง “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม “แบบเปิดอกหมดเปลือก ที่ทุกซอกหลืบของหัวใจไม่เหลือพื้นที่ให้เจ้าตัวได้ขอคืน

รู้สึกอย่างไรที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ้าบ่าวในฝันของสาวๆ เกือบทั้งประเทศ?

“จริงเหรอ? ผมเหมาะจะเป็นเจ้าบ่าวในฝันเหรอ พูดมาทั้งชีวิตว่าจะไม่แต่งงาน”

คิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของตัวเองที่ทำให้สาวๆ หลงใหล?

“คือจริงๆ อันนี้อาจจะต้องถามคนอื่นเพราะว่าผมอาจจะไม่ได้มานั่งวิเคราะห์สักเท่าไหร่ แต่ผมว่าถ้าถามผู้ชาย Sense of Humor หรือการที่ไม่ซีเรียสกับตัวเองเกินไปเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกับสิ่งที่เรียกว่าเสน่ห์ผมว่ามันก็ต่างกันนะ อาจจะต้องถามคนอื่น”

เคล็ดลับในการจีบสาว?

“ไม่มีครับ (เวลาปิ๊งผู้หญิงทำยังไง) สำหรับผมคือ No strategy is the strategy คือ ผมนึกไปถึงขั้นว่า ถ้าเรามีจุดประสงค์แค่จะจีบเฉยๆ มันไม่ได้มีโอกาสได้รู้จักเขาจริงๆ น่ะครับ ผมเลยรู้สึกว่า แค่อยากรู้จักเฉยๆ และถ้ามันเกิดชอบกันขึ้นมา ก็เป็นโบนัสชีวิตไป (หัวเราะ) เพราะอย่างน้อยเราก็ได้เป็นตัวเอง และเราก็ได้ฟังเขาด้วย อีกอย่างหนึ่งคือ ผมรู้สึกมาตลอดว่า คนทุกคนเสน่ห์มันอยู่ที่ความ unique มันไม่มีหนึ่งเคล็ดลับหนึ่งวิธีที่ใช้ได้กับทุกคน เคล็ดลับอาจจะแบบใช้หูให้มากที่สุด ฟังเขาเยอะๆ ใส่ใจและสังเกตให้มากๆ เพราะคนสมัยนี้ไม่ค่อยฟังกัน”

เวลารักใครสักคนแสดงออกยังไงให้เขารู้ว่ารัก?

“บอกเขาเลยครับ ผมว่าการที่เราจะบอกรักใครสักคน เป็นสิ่งที่วิเศษมาก ไม่ว่าเขาจะตอบแทนเราในคำพูดเดียวกันหรือไม่มันไม่สำคัญ และผมรู้สึกว่าการที่เราจะบอกรักใครสักคน มันไม่สำคัญด้วยซ้ำไปว่าเขารักเราหรือเปล่า เพราะว่ามันคือสิ่งที่ positive มาก ก็เลยไม่มีปัญหากับการที่จะบอกว่าเรารักเขา”

มีเจ้าสาวในฝันหรือผู้หญิงในอุดมคติไหม?

“ไม่มี ในอดีตเคย (อะไรคือจุดเปลี่ยน) ตั้งแต่ผมคบกับคนมา ก็ไม่เห็นจะตรงกับสเป็คหรืออุดมคติที่เราเคยวาดฝันไว้ แต่เราก็รักเขาอยู่ดี ซึ่งแปลว่าอะไร ก็แปลว่าเราไม่ควรจะไปสร้างภาพขึ้นมาว่า คนที่เรารัก จะต้องเป็นแบบไหน”

ถ้าวันหนึ่งอนันดาจะต้องแต่งงาน?

“คือผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการแต่งงาน ผมแค่นึกไม่ออกว่ามันจะต้องเป็นยังไง แต่การใช้ชีวิตกับใครสักคนอย่างนี้คือนึกออก ผมอาจจะไม่ได้มาจากครอบครัวที่ซีเรียสเรื่อง tradition หรือ ศาสนา หรืออะไรอย่างนี้น่ะครับ มันก็เลยไม่ได้มี condition แบบนั้นตั้งแต่เรายังเด็กด้วยไง มันไม่เคยมีใครบอกว่าคุณต้องแต่ง แต่ก็ไม่ได้แอนตี้ (มองเป็นภาพครอบครัวได้ไหม) เห็นชัดเลยครับ ครอบครัวที่ผมเห็นคือ คงไม่ได้ fixed มาก ถ้าจะมีลูกก็อยากให้ลูกวิ่งเล่นเพ่นพ่านตามสไตล์ ภรรยาจะเป็นยังไงก็ตามใจเขา ขอแค่ให้ครอบครัวรักกัน”

สมมติว่าแต่งงานไปแล้ว จะพาภรรยาไปฮันนีมูนที่ไหน?

“ส่วนตัวผมชอบอะไรที่สามารถไปได้เรื่อยๆ อาจจะไม่ใช่สถานที่ อาจจะเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่เราไปทำอะไรด้วยกันสักเดือนหนึ่งไหม ไปด้วยกันยาวๆ เรื่อยๆ มีเวลาให้กันและกัน ผมมีความสุขกับการที่ได้อยู่ใน journey มากกว่า มันอาจจะเป็น symbolic ด้วยมั้ง เป็นนัยยะของการไปสู่จุดมุ่งหมายอะไรบางอย่างด้วยกัน ถ้าจะขออะไร ผมขอเป็นเวลามากกว่า ไม่ใช่สถานที่”

เมื่อได้ฟังบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากพระเอกมาดเซอร์คนนี้ เราตอบได้เลยว่าไม่ใช่เพียงแค่ใบหน้าที่ทำให้เขาสามารถครองใจสาวๆ มาร่วม 18 ปีในวงการบันเทิง แต่หัวใจและแนวคิดที่หล่อไม่แพ้หน้าตาต่างหากที่ชนะใจสาวๆ อย่างเราจนถึงวันนี้

The Designer : ปิยะพงษ์ บุญฤทธิ์

account_circle

กอล์ฟ-ปิยะพงษ์ บุญฤทธิ์
อายุ 31 ปี
มัณฑนากร

แค่อาชีพก็คูลพอจะทำให้หลายคนสนใจแล้ว เมื่อบวกกับความหล่อเข้มแถมกล้ามโต ก็ส่งให้ “คุณกอล์ฟ-ปิยะพงษ์ บุญฤทธิ์” กลายเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ ที่นิยมชายไทยมาดแมนแอนด์แฮนด์ซัมได้ไม่ยาก

ในฐานะนักออกแบบ เรายิงคำถามแบบแอ็บสแตร็คใส่คุณกอล์ฟว่า “รักออกแบบได้หรือไม่ได้” ซึ่งเขาก็ตอบได้แบบชัดเจนไม่มีแอ็บ (สแตร็ก) ว่า “ผมว่าออกแบบไม่ได้ครับ เพราะเราควบคุมคนรักให้เป็นอย่างที่ต้องการไม่ได้ สุดท้ายแล้วความรักมันคือการที่คน 2 คนรับในสิ่งที่อีกคนเป็นได้

“ผมมองว่าความรักอยู่ที่ความพอดีของคน 2 คน ถ้าให้เปรียบเทียบกับงานออกแบบ เวลาทำงาน 1 งาน เราอาจจะชอบทุกอย่างเลย แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกหยิบบางอย่างที่อาจจะเหมือนหรือต่างกันมารวมกันให้ลงตัว ก็เหมือนกับความรักที่เราเลือกคนคนหนึ่งจากคนมากมาย แต่กับคนนี้เซ้นส์เราบอกว่าอยู่กับเราแล้วลงตัวได้พอดี แม้ว่าเขาและเราอาจจะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีทั้งความเหมือนและความต่าง”

เมื่อเราถามถึงการออกแบบที่ตอบโจทย์ของชีวิตคู่คุณกอล์ฟตอบได้อย่างน่าสนใจว่า “การออกแบบทำให้ทุกอย่างกลมกลืนได้ เช่น ในการแต่งบ้านที่ความชอบของผู้หญิงกับผู้ชายไม่ตรงกัน ถ้าผู้ชายชอบเรียบ ผู้หญิงชอบหวาน เราก็สามารถออกแบบบ้านเรียบๆ แต่มีดีเทลที่เป็นผู้หญิงขึ้นมาหน่อย หรือไม่อาจจะออกแบบให้แต่ละคนมีโซนของตัวเองแต่อยู่ในสเปซเดียวกันโดยไม่ต้องกั้นห้อง คือคิดหาทางให้ความชอบของเขาอยู่ด้วยกันได้ ซึ่งการออกแบบสมัยนี้ตอบโจทย์นี้มากขึ้นโดยคนที่เห็นไม่รู้สึกแปลกแล้ว แถมช่วยให้บ้านดูมีเอกลักษณ์ด้วยซ้ำ อย่างบ้านสไตล์เก่าๆ แต่เฟอร์นิเจอร์โมเดิร์น เป็นต้น” คุณกอล์ฟตอบผ่านมุมมองของนักออกแบบได้อย่างเป็นรูปธรรม แหม…ใครว่าหนุ่มติสท์เข้าใจยาก ไม่จริงเลยเนอะ

keyboard_arrow_up