สามีเตรียมรับมือ “อาการวัยทอง” ของภรรยา เคียงคู่และเข้าใจการเปลี่ยนแปลง

account_circle

เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่ร่างกายต้องเปลี่ยนตามกาลเวลา แต่ดูท่าว่าผู้หญิงจะเริ่มเปลี่ยนก่อนผู้ชายเล็กน้อย โดยเฉพาะ ภรรยา หลายๆ ท่าน ที่กำลังมี อาการวัยทอง เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่สุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีผลถึงความรู้สึกและสภาพจิตใจของผู้หญิงด้วย แพรวเวดดิ้ง จึงอยากให้คุณผู้ชายเข้าใจและคอยให้กำลังใจคนรักเยอะๆ

อาการวัยทอง ของ ภรรยา ที่สามีควรรู้ เข้าใจ และให้กำลังใจ

อาการวัยทอง ภรรยา
Photo by Gustavo Fring from Pexels

วัยทอง หรือ วัยหมดประจำเดือนในผู้หญิง (Menopause) อยู่ในช่วงอายุ 45 – 55 ปี เป็นช่วงที่รังไข่เริ่มหยุดทำงาน ไม่มีการตกไข่ ไม่สร้างฮอร์โมนเพศสหญิง (เอสโตรเจน และโปรเจนเตอโรน) ทำให้ผู้หญิงไม่มีประจำเดือน ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ คนไทยมักเรียกอาการนี้ว่า “เลือดจะไปลมจะมา”

เมื่อคุณสามีรู้แล้วว่า ภรรยาสุดที่รักเริ่มเข้าสู่ช่วงอายุดังกล่าว แนะนำให้สังเกตและเอาใจใส่ความเปลี่ยนแปลงของภรรยาอยู่เสมอๆ ว่าเริ่มมีสัญญาณเข้าสู่วัยทองหรือยัง ลักษณะอาการอาจไม่เห็นเด่นชัด แต่ถ้าภรรยาข้างกายเริ่มบ่นถึงเรื่องเหล่านี้ ก็เตรียมตัวรับมือกับวัยทองที่กำลังจะมาถึงได้เลย

  • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
  • ร้อนวูบวาบ เหนื่อยง่าย ใจสั่น
  • มีผื่นแพ้ตามผิวหนังและอาการคัน
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อและกระดูก
  • เวียนศีรษะ นอนไม่หลับ
  • ช่องคลอดมีน้ำหล่อลื่นน้อยกว่าปกติ
  • กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้

นอกจากอาการทางร่างกายแล้ว ยังมีอาการทางจิตใจที่อาจส่งผลกับความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย เช่น

  • หงุดหงิดง่าย
  • เครียดบ่อย
  • ซึมเศร้า ขี้น้อยใจ
  • อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ
อาการวัยทอง ภรรยา
Photo by krakenimages on Unsplash

อาการเหล่านี้นี่แหละ ที่ทำให้ผู้ชายหลายคนเกิดความสงสัย ไม่เข้าใจ จนบางครั้งทะเลาะกับภรรยาใหญ่โต เอาเป็นว่า ไปดูวิธีรับมือกับอาการวัยทองกันดีกว่า จะได้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และไม่กลายเป็นปัญหาในภายหลัง

  1. เผชิญความเปลี่ยนแปลงด้วยความเข้าใจ

อย่างแรกที่ต้องทำคือ ยอมรับความเปลี่ยนแปลงให้ได้ก่อน ต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติที่ร่างกายคนเราจะต้องเสื่อมถอย แต่พอเข้าใจแล้วใช่ว่าจะปล่อยเลยตามเลย ต้องช่วยกันดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ชวนกันออกกำลังกาย และพยายามมองโลกในแง่ดีเพื่อบรรเทาอาการหงุดหงิด

  1. หากิจกรรมทำเพื่อรักษาจิตใจ

จากแต่ก่อนที่เคยยุ่งกับการทำงาน เจอหน้ากันเฉพาะเวลากลับถึงบ้าน อาจต้องเปลี่ยนมาหาอะไรทำด้วยกันมากขึ้น เช่น ออกไปทานข้าว เดินเล่น หรือชวนกันไปเที่ยวต่างจังหวัดเมื่อมีเวลา ช่วยกันปลูกต้นไม้ หรือจะชวนกันไปวัดทำบุญก็เป็นไอเดียที่ดี

อาการวัยทอง ภรรยา
Photo by Esther Ann on Unsplash
  1. หากทะเลาะกันต้องเคลียร์ให้เข้าใจ

ข้อนี้หลายคนมองว่าเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับชีวิตคู่ แต่จะยิ่งสำคัญเมื่อเข้าสู่วัยทอง ด้วยอายุที่มากขึ้นบวกกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย การปล่อยปัญหาคาใจทิ้งไว้นานๆ จะเหนื่อยง่ายกว่าตอนสาวๆ หนุ่มๆ อีกทั้งอารมณ์ที่เหวี่ยงสวิงไม่คงที่ อาจเป็นต้นเหตุให้เรื่องทะเลาะบานปลายมากขึ้น แนะนำว่าถ้าดูแล้วยังสามารถพูดคุยกันได้ในขณะนั้น ควรใจเย็นแล้วนั่งคุยกัน แต่ถ้าภรรยาหงุดหงิดหนักมาก ต้องอาศัยคำโบราณว่า “น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง” รอให้เธอใจเย็นสักนิด แล้วค่อยเริ่มจับเข่าคุย

  1. ปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาตามอาการ

วัยทองเกิดขึ้นกับทุกคน แต่อาการมากน้อยไม่เท่ากัน บางคนไม่ออกอาการเลยก็มี แต่บางคนร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ทั้งปวดเมื่อย เป็นลม ครั่นเนื้อครั่นตัว เครียด ไปจนถึงอาการซึมเศร้า ถ้าเรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาหนัก แนะนำว่าให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างตรงจุด อาจต้องทานยาเพื่อรักษาสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย หรือในรายที่ซึมเศร้าหนักๆ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากจิตแพทย์

อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งนึกว่าอาการวัยทองเกิดขึ้นได้เฉพาะในผู้หญิงอย่างเดียวนะคะ ขอเตือนเลยว่าผู้ชายที่เริ่มมีอายุก็เข้าสู่วัยทองจะมีอาการทางร่างกายและจิตใจได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหมั่นดูแลร่างกายและใส่ใจคู่รักอยู่สม่ำเสมอ จะได้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างเข้าใจ

ปัญหาด้านสุขภาพของคู่รักยังมีอีกหลายเรื่องให้ต้องช่วยกันดูแลและทำความเข้าใจตามไปอ่านกันได้เลย

ภาพจาก : Unsplash.com

รองเท้าแตะ Birkenstock

ลุยได้ทุกที่! รองเท้าแตะ Birkenstock รุ่นใหม่ เป็นมิตรกับน้ำ ยืดหยุ่น นุ่มสบายเท้า

รองเท้าแตะ Birkenstock
รองเท้าแตะ Birkenstock

รองเท้าแตะ Birkenstock รุ่น EVA รองเท้าแตะที่เป็นมิตรกับน้ำ มีความยืดหยุ่น และอ่อนนุ่มเหมาะสำหรับทั้งครอบครัว สวมใส่ได้ในหลากหลายโอกาสและสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้าที่บ้าน ริมสระว่ายน้ำ ไปจนถึงริมชายหาดสุดชิล

ลุยได้ทุกที่! รองเท้าแตะ Birkenstock รุ่นใหม่ เป็นมิตรกับน้ำ ยืดหยุ่น นุ่มสบายเท้า

New Arizona EVA Sandals (ราคา 1,790 บาท)

Birkenstock Arizona ถือเป็นอีกหนึ่งไอคอนที่มีดีไซน์คลาสสิกและผลิตขึ้นจากพื้นไม้ค็อก ก่อนจะนำ EVA ที่เป็นวัสดุน้ำหนักเบาพิเศษ และมีความยืดหยุ่นสูงมาใช้ผลิตเป็นรองเท้าแตะรุ่น Arizona EVA ขึ้น โดยรองเท้ารุ่นพิเศษนี้มีคุณสมบัติดูดซับแรงกระแทก กันน้ำ เหมาะสวมใส่ริมชายหาด ในสวน หรือจะใส่สวยๆ เดินชิลๆ ช่วงวันหยุด มาพร้อมเฉดสีใหม่ให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สี Active Red , Active Lime และ Purple Fog

รองเท้าแตะ Birkenstock New Arizona EVA สีเขียว

รองเท้าแตะ Birkenstock New Arizona EVA

รองเท้าแตะ Birkenstock New Arizona EVA

รองเท้าแตะ Birkenstock New Arizona EVA

รองเท้าแตะ Birkenstock New Arizona EVA

รองเท้าแตะ Birkenstock New Arizona EVA สีเขียว

THE ARIZONA BIG BUCKLE COLLECTION (ราคา 7,490 บาท)

ไอคอนดั้งเดิมของ Birkenstock ขอยกระดับความคลาสสิกในคอลเล็คชั่น Big Buckle ไปอีกขั้น ด้วย Arizona Big Buckle ที่ประดับหัวเข็มขัดขนาดใหญ่ที่สามารถปรับขนาดได้บนสายรัดทั้งสองเส้น และหนังระดับพรีเมี่ยมอย่างหนังนูบัคสุดหรูที่มีทั้งความโดดเด่นและเรียบง่ายในคราวเดียวกัน มาพร้อมกับพื้นรองเท้าซึ่งทำจากไม้ค็อกสวมใส่สบาย ซับด้านในพื้นรองเท้าทำจากหนังแท้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์หลักของแบรนด์อีกด้วย สำหรับคอลเล็คชั่นยอดนิยมนี้มาในโทนสีรับลมหนาวหลากสไตล์ ได้แก่สี Jade , Cognac และ Light Rose

THE ARIZONA BIG BUCKLE รองเท้าแตะ Birkenstock สีชมพู

THE ARIZONA BIG BUCKLE รองเท้าแตะ Birkenstock สีดำ

THE ARIZONA BIG BUCKLE รองเท้าแตะ Birkenstock สีดำ

THE ARIZONA BIG BUCKLE รองเท้าแตะ Birkenstock

รองเท้าแตะ Birkenstock

รองเท้าแตะ Birkenstock

Arizona Big Buckle รองเท้าแตะ Birkenstock

Arizona Big Buckle รองเท้าแตะ Birkenstock


ภาพ : Birkenstock

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สมาชิกเบอร์ล่าสุด! Keds เปิดตัว รองเท้ารุ่น Champion TRX คลาสสิกแต่น่ารัก

เปิดลิสต์ 3 รุ่นต้องมี! กระเป๋า BAO BAO ISSEY MIYAKE คอลเล็คชั่น AW 2020

คุยกับ ดีไซเนอร์ระดับตำนาน จิล แซนเดอร์ ที่กลับมาจับมือ ยูนิโคล่ ในคอลเล็คชั่น +J

 

ที่นอนออร์แกนิก

เปิดตัว The Bed Experience by Omazz® จากที่นอนออร์แกนิกสู่โรงหนังพรีเมียม

Alternative Textaccount_circle
ที่นอนออร์แกนิก
ที่นอนออร์แกนิก

3 ธันวานี้ OMAZZ เบิกฤกษ์เผยแผนแคมเปญ “The Bed Experience by Omazz®” จากแบรนด์ที่นอนออร์แกนิก สู่โรงภาพยนตร์สุดพรีเมียม The Bed Cinema by OMAZZ®

OMAZZ® (โอมาซ) ผู้นำแบรนด์ที่นอนและเครื่องนอนออร์แกนิกที่คัดสรรวัสดุธรรมชาติจากแหล่งที่ดีที่สุดของโลก ผสานงานศิลป์ที่ถูกถักทอขึ้นอย่างประณีตผ่านช่างฝีมือชั้นเลิศ พร้อมเปิดมิติใหม่ในการดูหนัง และส่งมอบประสบการณ์การนอนชมภาพยนตร์บน Adjusto™ เตียงนวดปรับระดับไฟฟ้าที่ดีที่สุดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในโรงภาพยนตร์สุดหรู “The Bed Cinema by Omazz®” ในวันที่ 3 ธันวาคม 2563 ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า ชั้น 9 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

ที่นอนออร์แกนิก

เปิดตัว The Bed Experience by Omazz® จากที่นอนออร์แกนิกสู่โรงหนังพรีเมียม

นายทีปกร โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท Lotus Bedding Group เผยว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่แบรนด์โอมาซได้ทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ในการเนรมิตโรงภาพยนตร์แบบนอน จำนวน 40 ที่นั่ง ในพื้นที่กว่า 397.5 ตารางเมตร ของโรงภาพยนตร์ The Bed Cinema by Omazz® เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความสบายในแบบที่ต้องการ เพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านรีโมทไร้สาย ตลอดการรับชมภาพยนตร์เรื่องโปรดได้มากกว่าที่เคย บนเตียงนวดปรับระดับไฟฟ้า Adjusto™ หนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีชที่แบรนด์โอมาซภาคภูมิใจ ในฐานะแบรนด์ที่รังสรรค์ประสบการณ์การพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบและเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมภายใต้ปรัชญาของแบรนด์โอมาซที่ว่า “Peace is true happiness.” มานานกว่า 2 ทศวรรษ จนประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับมากมายในหลายประเทศทั่วโลก

ที่นอนออร์แกนิก

“ซึ่งโปรเจ็กต์โรงภาพยนตร์ “The Bed Cinema by Omazz®” ถือเป็นจุดเริ่มต้นการคิกออฟแผนแคมเปญ “The Bed Experience by Omazz®” ที่แบรนด์โอมาซ ตั้งใจจะมอบของขวัญให้กับผู้บริโภคผ่านการสร้างประสบการณ์ให้ผู้ชมได้เข้ามาดื่มด่ำกับทุกสัมผัสของทุกผลิตภัณฑ์คุณภาพโอมาซ ที่คัดสรรมาเพื่อโปรเจ็กต์นี้โดยเฉพาะมูลค่าการลงทุนต่อที่นั่ง 1 คู่ (รวมเตียงไฟฟ้า, ที่นอน และเครื่องนอน) อยู่ที่ 600,000 – 1,000,000 บาท ซึ่งผู้ชมสามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจทั้งแบบ 1 ท่าน 2 ท่าน หรือ 4 ท่าน พร้อมรับบริการป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มฟรี ที่บริเวณเลาจน์ด้านหน้าโรงภาพยนตร์ ก่อนเข้าชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์คุณภาพเยี่ยมจากเครือ SF Cinema ซึ่งแบรนด์โอมาซมีความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของทีมผู้บริหารและการให้บริการของ SF Cinema ว่าเป็นหนึ่งในผู้สร้างโรงภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่แบรนด์โอมาซได้เลือก SF Cinema มาร่วมเป็นพันธมิตรในการทำโปรเจ็กต์ Collaboration ภายใต้แนวคิด “The Next Level of Cinema Experience” ในครั้งนี้

ที่นอนออร์แกนิก

“ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันโอมาซยังคงมุ่งมั่นและใส่ใจในเรื่องการส่งมอบประสบการณ์ในการนอนที่พิเศษยิ่งขึ้นอยู่เสมอ เราจึงเป็นมากกว่าแบรนด์ที่ขายที่นอนและเครื่องนอนออร์แกนิก โดยในปีนี้แบรนด์โอมาซ มีแผนที่จะสร้างและขยายประสบการณ์เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นผ่านแคมเปญ “The Bed Experience by Omazz®” โดยเน้นรุกทำตลาด (Below the line) ผ่านรูปแบบ Living Billboard หรือ Live Showroom ด้วยการคัดสรรสถานที่ Luxury Property ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น อาทิ โรงแรม รีสอร์ท โรงภาพยนตร์ สถาบันเสริมความงาม รวมถึงสปา ฯลฯ เข้ามาเป็นหนึ่งในเครือข่ายของ The Omazz Luxury Property Collection โดยคัดสรรจากการให้บริการที่ดี บริหารงานโดยทีมงานมืออาชีพ และมีการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับปรัชญาของแบรนด์ โอมาซที่เน้นในเรื่องของความสงบ “Peace is true happiness” และส่งมอบประสบการณ์ความสบายทั้งในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก โดยทางแบรนด์โอมาซได้มีการตั้งงบลงทุนสำหรับแคมเปญ “The Bed Experience by Omazz®” ในแต่ละปีอยู่ที่ 100 – 200 ล้านบาท

ที่นอนออร์แกนิก

“เพราะโอมาซตั้งใจจะมอบสิทธิพิเศษและส่วนลดจากสถานที่ต่างๆ ในเครือข่าย The Omazz Luxury Property Collection ให้เป็นของขวัญแก่ฐานลูกค้าของโอมาซที่มีอยู่ทั่วโลก”


 

Sarita Reth มิสยูนิเวิร์ส กัมพูชา 2020

โฉมหน้าสาวงามเพื่อนบ้านอาเซียน Sarita Reth มิสยูนิเวิร์ส กัมพูชา 2020

Alternative Textaccount_circle
Sarita Reth มิสยูนิเวิร์ส กัมพูชา 2020
Sarita Reth มิสยูนิเวิร์ส กัมพูชา 2020

เสร็จสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการประกวด Miss Universe Cambodia 2020 โดยสาวสวยผู้ที่คว้ามงกุฎในครั้งนี้ได้สำเร็จก็คือ Sarita Reth วัย 25 ปี จากพนมเปญ โดยก่อนหน้านี้เธอมีผลงานแสดงและเดินแบบให้ได้เห็นกันมาบ้าง แต่ที่ทำให้หลายคนรู้จักเธอก็คือรายการทีวีที่มีชื่อว่า “Love9” ของ BBC Media Action  Sarita Reth มิสยูนิเวิร์ส กัมพูชา 2020

สำหรับ Sarita Reth จบกำลังศึกษาระดับปริญญาโทด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยภูมินทร์นิติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ เธอเป็นคนที่พูดจาฉะฉาน นอกจากนี้ยังมีสกิลภาษาอังกฤษใช้สื่อสารออกมาได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่พูดภาษาอังกฤษได้เท่านั้น แต่เธอยังพูดออกมาได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย

Sarita Reth มิสยูนิเวิร์ส กัมพูชา 2020

Sarita Reth มิสยูนิเวิร์ส กัมพูชา 2020

มิสยูนิเวิร์ส กัมพูชา 2020

ตั้งแต่อายุยังน้อย Sarita Reth ชื่นชอบในงานภาพยนตร์มากๆ โดยนักแสดงในความทรงจำของเธอก็คือ “แอนเจลีนา โจลี” จากเรื่อง “Tomb Raider” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากๆ ในหมู่ชาวกัมพูชา

Sarita Reth เริ่มต้นเข้าสู่วงการจากการประกวด โดยจากการแข่งขันในครั้งนี้เองทำให้เธอได้ไปสู่อีกบทบาทหนึ่งในฐานะนักแสดงจากซีรีส์  “Love9” และมีผลงานอื่นๆ ตามมาอย่างต่อเนื่อง  Happiness (2015), The Dinner (2016), Kidnap (2017), The Interview (2017) นอกจากนี้เธอยังเล่นภาพยนตร์สารคดีต่างประเทศ อาทิเรื่อง Mind Cage (2016), Love To The Power of Four (2016) และ HEX (2017)

อย่างไรก็ตามในปี 2016 เธอได้รางวัล Youth Champion Award จาก U.N.F.P.A. กัมพูชา (กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ) ในฐานะที่สนับสนุนการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์และการป้องกันความรุนแรงในบ้านเกิดของเธอนั่นเอง

ลุคนอกเวทีของ Sarita Reth มิสยูนิเวิร์ส กัมพูชา 2020

นางงาม กัมพูชา นางงาม กัมพูชา นางงาม กัมพูชา


ภาพจาก : Miss Universe Cambodia 2020 

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เผยโฉมนางงามเกาหลีใต้ Kim Hye Jin เจ้าตำแหน่ง Miss Korea 2020

เพื่อนไม่คบ พ่อติดคุก! Asya Branch ชีวิตติดลบ พุ่งชนความฝันจนคว้ามงกุฎสำเร็จ

ไร้ผมแต่สวยปัง! Shudufhadzo Musida คว้าตำแหน่ง Miss South Africa 2020

ดูดวงประจำเดือนธันวาคม 2563

แพรวพยากรณ์ โดยหมอดูโสรัจ ดูดวงประจำเดือนธันวาคม 2563

Alternative Textaccount_circle
ดูดวงประจำเดือนธันวาคม 2563
ดูดวงประจำเดือนธันวาคม 2563

แพรวพยากรณ์ โดยหมอดูโสรัจ ดูดวงประจำเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งจะมาเจอกันเป็นประจำทุกเดือน ทั้งในนิตยสารแพรวและเว็บไซต์แพรวดอทคอม

 

CAPRICORN

16 มกราคม – 12 กมุภาพันธ์

ต้นเดือนมีเกณฑ์ได้รับลาภผล หรือข่าวอันชวนให้ปิติทางการงานและการศึกษา การติดต่อนัดหมายด้วยลักษณะเปิดเผยหรือมีการร่วมมือกระทำธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง จะได้รับความสนับสนุนและปรากฏผลสำเร็จไปในทางดี แต่กลางเดือนยังไม่ควรเริ่มธุรกิจซึ่งจำเป็นต้องประมูลแข่งขันกับผู้อื่น เพราจะมีศัตรูตั้งตนเป็นปฏิปักษ์อย่างออกหน้า ปลายเดือนคุณมักจะถูกจำกัดขีดขั้นในการแสดงออก ลูกน้องสบประมาทนินทา จิตใจแปรปรวน ผู้ใหญ่ที่เคยให้การสนับสนุนมาตลอดก็เริ่มห่างเหินหรือไม่มีบทบาท มีการซ้ำเติม ในบางรายอาจมีเหตุจะต้องย้ายงาน คุณควรปรับปรุงตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่มีคุณภาพ และมีผลงานใหม่ออกมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ อย่ามัวเสียเวลากับเรื่องไร้ค่า ความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ดูได้รับความสำเริงสำราญดี หากมีคู่เป็นตัวเป็นตนแล้วอย่าไปมีพฤติกรรมเร้นลับกับเพศตรงข้ามคนใหม่เข้าเชียวนา บางรายมีเกณฑ์ได้รับความสุขจากเพศตรงข้ามในรูปแบบที่แปลกประหลาด ชวนให้ลุ่มหลง คู่ครองที่แนบใกล้อาจต้องเหินห่างไปสักระยะ หรืออาจมีเพศตรงข้ามที่มีระดับความเป็นอยู่ทางสังคมสูงกว่าเข้ามาติดพัน

 

AQUARIUS

13 กุมภาพันธ์ – 13 มีนาคม

ต้นเดือนดวงการงานของคุณท่านมีวิถีโคจรไม่ปกติ อยู่ในเรือนที่แสดงความหมายถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน กลางเดือนหากจะเพิ่งเริ่มต้นได้รับการบรรจุเข้าทำงาน ยังไม่ได้รับความวางใจจากผู้ใหญ่ และยังไม่ได้รับความร่วมมือเป็นอันดีจากเพื่อนร่วมงานอย่างเต็มที่ ยังไม่มีช่องทางได้รับผลกำไรจากธุรกิจที่ลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งกิจการที่ต้องเสี่ยงโชค อาจมีคนแปลกหน้าท่าทางพิลึกนำงานจร หรือทรัพย์สินสิ่งของมาให้ ตำราท่านว่าอย่ารับเชียวนา มีเกณฑ์ว่าจะได้พบปะผู้คนแปลกหน้า มาติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือ ปลายเดือนมีเกณฑ์ต้องรับภาระงานเร่งด่วน ความสัมพันธ์กับญาติผู้ใหญ่ชวนให้อึดอัดใจอยู่หน่อยๆ ระวังเรื่องคู่ครองช่วงนี้ดูท่ากระด้างกระเดื่อง อวดดีพิกล ตำราท่านกล่าวเตือนว่า เรื่องความรักความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามขืนดื้อดึงตามอำเภอใจจะมีแต่เสียอย่างเดียว สำหรับคนมีครอบครัวแล้ว ทำไมจะต้องสุมฟืนไฟให้กลายเป็นปัญหาขึ้นมาเล่า แคลงใจเรื่องไหนก็ควรหยิบยกเอาเรื่องนั้นๆ ขึ้นมาซักถามเขาไป ขออย่างเดียว อย่าเผลอขู่ว่าจะเลิกหรือหย่าร้างเด็ดขาดเลยนะ เพราะเดี๋ยวมันจะเป็นจริง

 

PISCES

14 มีนาคม – 12 เมษายน

ต้นเดือนการงานยังคงค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีอะไรเป็นข้อผิดสังเกต แต่ตัวคุณเองรู้ว่า การขัดแย้งในที่ทำงานแบบคลื่นใต้น้ำ รอยร้าวซึ่งจะนำไปสู่การแตกแยกในเบื้องหน้า หรือรอยขีดข่วนเพียงนิดเดียว ซึ่งอาจกลายเป็นแผลกลัดหนองเนื้อร้ายในที่สุด กลางเดือนมีเกณฑ์ว่าเงินทองยังรั่วไหลจำนวนมาก ระวังจะมีเหตุขัดข้องชักหน้าไม่ถึงหลัง หรือมีเหตุต้องจับจ่ายอยู่ที่นั่นแล้ว ปลายเดือนระวังจะถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือมีผู้นำเรื่องที่เคยปกปิดไว้ขึ้นมาเปิดเผย ระวังจะมีเหตุกระทบใจกระทันหัน แต่บรรยากาศของความรักอบอวลด้วยกลีบกุหลาบ ความสัมพันธ์ระหว่างเพศ ที่เข้ามาอย่างปุบปับ ไม่รู้ตัวว่าจะเป็นจังหวะดี แต่สำคัญที่ตัวคุณเองจะตกลงปลงใจละ ช่วงนี้เพชรจะนำโชคดีเกี่ยวกับความรักเสมอ ใครมีคู่แล้วระวังจะมีปากเสียงด้วยเรื่องการเงิน หากความสัมพันธ์ทะร่อทะแร่มานานเต็มที เดือนนี้จะตัดสินใจได้แน่ชัดว่าจะฝืนอยู่ร่วมกันต่อไปหรือต่างแยกย้ายกันไป ระวังจะเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยเรื่องชู้สาว

 

ARIES

13 เมษายน – 13 พฤษภาคม

ต้นเดือนมีการลงทุนเพื่อกิจการใหญ่ๆ หรือกิจการเกี่ยวกับต่างประเทศ มีนโยบายพลิกแพลงในธุรกิจการงาน ความสำเร็จซึ่งได้มาด้วยการชิงไหวพริบ การเจรจาตกลงสัญญาและการลงลายมือชื่อ ต้องมีภารกิจมิได้ขาด ปลายเดือนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดิน อาจมีเรื่องจุกจิกเกี่ยวกับยวดยานพาหนะที่ใช้ขับขี่ ระวังจะประสบปัญหาในเรื่องการเงิน มีเกณฑ์ได้เดินทางไปพักผ่อนในระยะใกล้ๆ คุณจะวุ่นวายอยู่กับเรื่องความรัก ความสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศ อาจมีนัดหมาย อาจมีเรื่องราวติดพัน ความรักความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม หากเป็นวรรณะของสี เดือนนี้จะมีลักษณะหมองคล้ำ ระวังคู่ครองจะป่วยหรือมีเหตุหมางใจด้วยเรื่องราวแต่หนหลัง  ด้วยลักษณะอันสำคัญอีกประการหนึ่ง อาจเป็นเพราะตัวคุณเองเป็นต้นเหตุก็น่าจะเป็นได้ เพราะในพื้นดวงชวนให้ดูไปได้ว่า คุณมีจินตนาการช่างเพ้อฝัน นิสัยก็ดื้อดึง ลุ่มหลงง่าย บทคิดจะ “จี๋” ในเรื่องใดมักคลั่งไคล้รุนแรง ครั้นพอได้มาเหมือนใจ ไม่ช้าไม่นานก็จะเกิดความเบื่อ อยากรู้ อยากลองในของใหม่ต่อไป

 

TAURUS

14 พฤษภาคม – 13 มิถุนายน

ต้นเดือนผู้มีกิจการค้าที่ต้องหมุนเงินก้อนใหญ่ การตัดสินใจขึ้นอยู่กับเวลาที่มีค่า แต่ถ้าคิดจะเริ่มลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ สมควรระงับความคิดเอาไว้ก่อน การเงินขาดมือ เพราะคุณใช้จ่ายเพื่อความสนุกสนานบันเทิงจนเกินรายได้ ช่วงนี้คุณชอบทำตัวชวนให้ผู้อื่นฉงนได้เสมอ บุคลิกไม่คงที่ มักเปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ เดี๋ยวก็ทำเหมือนเป็นคนหัวสมัยใหม่ เดี๋ยวก็ทำคร่ำครึ มักผูกพันหลงใหลสิ่งหนึ่งสิ่งใดอยู่เสมอ กลางเดือนหากกำลังรอรับข่าวคราวใด มีเกณฑ์ว่าข่าวนั้นจะมาถึง นักธุรกิจ พ่อค้าจะได้ผลดีในการค้า เพราะเล่ห์เหลี่ยมในเชิงการค้ายอดเยี่ยม มีเกณฑ์ได้พบปะสนทนากับผู้มีประสบการณ์ชีวิตโชกโชนกว่า และอาจได้รู้จักมักคุ้นกับมิตรสหายผู้รู้ศาสตร์อันเก่าแก่ลึกลับ ช่วงนี้จะดูเป็นสุขสมใจเพราะมีเกณฑ์ว่าจะได้รับลาภผลเป็นอันดี การงาน ผู้ใหญ่ให้การเกื้อหนุนดี จะได้รับมอบหมายให้ทำงานในลักษณะแปลก จากผู้มีอาวุโสสูงกว่า ความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ถึงจะได้พบปะสนทนากัน แต่ก็มีลักษณะต้องซ่อนเร้นปิดบัง ระวังจะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงกับเพศตรงข้าม ความสัมพันธ์กับคนรักดูกระเพื่อมพิกล ไม่หรอก คุณเองต่างหากเล่าที่ควรระวังความรู้สึกนึกคิดไว้ให้ดี

 

GEMINI

14 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม

ต้นเดือนงานเกี่ยวกับการพูด การเขียน การพิมพ์ การประชาสัมพันธ์และการติดต่อต่างๆ เป็นช่วงที่คุณจะมีความนึกคิดแหลมคมและได้ใช้ปฏิภาณไหวพริบในเชิงเจรจาโต้ตอบ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขายผ้าเอาหน้ารอด ส่วนการเงินจะได้มาจากโชคลาภ หรือความเสน่หาอย่างไม่นึกฝัน กลางเดือนการงานแม้จะต้องรับภาระเพิ่มขึ้น แต่ผู้ใหญ่จะยกย่องและสนับสนุนด้วยดี ธุรกิจการงานใดที่หมายมั่นปั้นใจไว้ควรรีบทำ ทุกอย่างจะปราศจากอุปสรรค อาจได้รับข่าวจากเพื่อนเมืองไกล หรือไม่เพื่อนเก่าจะมาสู่หา มิตรสนิทบางคนจะนำโชคลาภมาให้ ปลายเดือนการเงิน มีเกณฑ์จับจ่ายสิ้นเปลือง หากคิดจะเปลี่ยนที่อยู่อาศัยหรือเปลี่ยนรถคันใหม่ ดูท่าจะมีปัญหา ระวังการเป็นปากเสียง ระวังเพศตรงข้ามจะก่อเหตุให้ทุกข์ใจ ระวังสุขภาพของญาติผู้ใหญ่ ความสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ระวังจะมีเหตุขุ่นข้องหมองใจกับคู่ครองคนรัก สำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว เรื่องความรักความสัมพันธ์กับคู่ครองไม่สู้ดี ระวังการเป็นปากเสียงอย่างรุนแรงถึงขั้นหย่าร้าง ระวังคู่ครองจะมีอุบัติเหตุ ถึงล้มหมอนนอนเสื่อ อย่างไม่มีอะไรเลย คู่ครองของคุณอาจมีเหตุต้องจากไปด้วยกิจธุระสักระยะหนึ่ง

 

CANCER

15 กรกฎาคม – 16 สิงหาคม

ต้นเดือนไม่ควรลงทุนดำเนินกิจการร่วมกับผู้อื่น ควรทำงานซึ่งต้องมีความรู้ความสามารถของตนเองและไม่ควรติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครให้ป่วยการ จะมีผู้อิจฉาริษยาตั้งตนเป็นปฏิปักษ์อยู่ลับหลัง หากมีธุรกิจซึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชา ที่มีอายุสูงกว่าร่วมด้วยให้เกรงว่าการงานซึ่งมอบหมายไว้ อาจไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ต้องคอยติดตามดูแลให้ใกล้ชิด ระวังปัญหาเกี่ยวกับการเงิน ถ้ามีหนี้สิน เจ้าหนี้จะเร่งรัดทวงถาม กลางเดือนระวังปัญหาเกี่ยวกับบุตร หากยังไม่มีควรระวังเหตุกระทบใจ หรือไม่ก็อาจลุ่มหลงอยู่ในอบายมุขอย่างใดอย่างหนึ่ง ในเรื่องการงานผู้อุปถัมภ์ในช่วงนี้ไม่กล้าให้ความสนับสนุนโดยเปิดเผย แต่ก็ยังติดช่วยเหลือคุณอยู่หลังฉากก็ยังนับได้ว่าไม่ว้าเหว่เสียทีเดียว ระวังเรื่องขัดแย้งในเรื่องธุรกิจ เกิดเรื่องคดีความ จะขาดทุนในการลงทุนจากตลาดหุ้น แต่ปลายเดือนจะมีลาภผลทางการเงิน ความรักใคร่เป็นเรื่องค่อนข้างไปในทางลุ่มหลง โลเล ไม่แน่นอน ฟู่ฟ่า แต่ขาดความหนักแน่นภายใน บางดวงคู่จะหลงในอบายมุข หรือพบคู่นักเลงต่างๆ

 

LEO

17 สิงหาคม – 16 กันยายน

ต้นเดือนจะได้รับเกียรติยศชื่อเสียง ตำแหน่งสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ดีให้ระวังการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน อุปสรรค หรือการขัดแย้งอย่างเฉียบพลันไว้ด้วย อาจได้รับส่วนแบ่งหุ้นนายหน้าทรัพย์สินจากกองมรดก และลาภผลที่เป็นของสวยงามประเภทโลหะมีค่า หรือเป็นเครื่องประดับ กลางเดือนการงานมีเกณฑ์ได้รับผลดี นับว่าเป็นโอกาสเหมาะ ควรรีบดำเนินการ การเงินมีทางจ่ายมาก แต่จะหาได้ง่าย มีเกณฑ์เดินทางอยู่บ่อยครั้ง หากเป็นการเดินทางเพื่อทำการติดต่อนัดหมาย กิจธุระต่างๆ จะสัมฤทธิ์ผล แต่ปลายเดือนขับขี่ยานพาหนะควรระวังอุบัติเหตุ ระวังปัญหาน่าหนักใจจากบริวาร ระวังจะเจ็บป่วยเกี่ยวกับ ตับและไต เรื่องการเงินดูแล้วน่ากลุ้มใจแทน ความรักดูดี เพราะดาวเจ้าเรือนลัคนาได้โคจรร่วมกับศุภเคราะห์ ออกกลุ่มเบ้อเร่อ  หากมีคู่ครอง ชวนให้ดูไปได้ว่าคู่ครองของคุณจะได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง หรือได้รับการยกย่องสรรเสริญ ความรักอยู่ใกล้ๆ เช่น ในหมู่มิตรสหาย ญาติพี่น้อง คนใกล้เคียง จะให้ความช่วยเหลือจะสมหวังคราวนี้ละ บางรายอาจมีเกณฑ์แต่งงาน ส่วนคนที่มีครอบครัวแล้ว  มีเกณฑ์เดินทางไปกับคู่และบุตรบริวาร

 

VIRGO

17 กันยายน – 16 ตุลาคม

ต้นเดือนการงานดีมาก มีท่าว่าผู้คนจากเมืองไกลจะมาหาสู่ถึงบ้าน เป็นช่วงที่ทำให้คุณกระตือรือร้น มีโอกาสโชว์ผลงานที่น่าภูมิใจ ช่วงนี้สิ่งที่น่าหวาดระแวงแคลงใจก็หายห่วงไปได้ คุณมีหลักการและเหตุผลที่ดีตัดสินใจในสิ่งที่มุ่งหวังได้อย่างถูกต้อง สามารถสร้างชื่อเสียงได้อย่างงดงาม การเงินก็ดีเช่นเดียวกับงาน กลางเดือนลาภผลเห็นมีรวยรินไม่ติดขัด ข้าราชการงานเมืองจะประกอบด้วยยศศักดิ์ หรือเริ่มเห็นช่องทางในความก้าวหน้า บุคคลซึ่งเป็นชาวต่างชาติต่างภาษาจะเข้ามาติดต่อธุรกิจ อาจจะต้องรับภาระนอกเหนือไปจากงานประจำ แต่ปลายเดือนระวังศัตรูจะฟื้นฝอยหาตะเข็บ ช่วงนี้ดวงชะตาไม่สู้ดี การงานน่าเซ็งเป็นบ้า ถ้าไม่เซ็ง นั่นก็หมายถึงการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายเข้าไปโน่น บริวารยังคงแสดงกิริยาท่าทีดูพิกลเหมือนก่อน อาจมีเหตุหมางใจกับน้องและเพื่อนบ้าน เดินทางระยะใกล้ๆ ควรระวังอุบัติเหตุ ความเป็นไปเกี่ยวกับคู่ครองและความสัมพันธ์กับเพื่อนต่างเพศ เมื่อดาวเจ้าเรือนท่านมีวิถีโคจรเป็นวิกล ความเป็นไปของเรือนนี้ต้องได้รับผลกระเทือนตามไปด้วย จะอะไรหรือไม่อะไร ผมว่าควรระวังไว้สักนิด ระวังจะมีเหตุขุ่นใจกับคู่ครอง

 

LIBRA

17 ตุลาคม – 16 พฤศจิกายน

ต้นเดือนมีจังหวะดีในการเดินทาง เป็นโอกาสอันเหมาะสมที่จะแวะเวียนไปไต่ถามทุกข์สุขพี่น้องและวงศาคณาญาติ การเงินเห็นอีหลุกขลุกขลักเหมือนเดิม ไม่ควรจับจ่ายฟุ่มเฟือย ไม่ควรหวังว่าจะต้องได้จากการทวงถามหนี้สิน กลางเดือนยังไม่มีโชคลาภจากล็อตเตอรี่ คุณจะเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะเรื่องที่คาดหมายไว้ไม่ค่อยจะได้เหมือนกับที่คุณนึกอยากให้เป็น ระวังปัญหาเกี่ยวกับการเงิน หรือมีเหตุขัดข้องเกี่ยวกับกระแสสะพัดทางการเงิน โดยกระทันหัน ระวังอุบัติเหตุทางน้ำ แต่ปลายเดือนหากมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย จะได้ตำแหน่งสูงกว่าเก่า ถ้าเป็นข้าราชการมีเกณฑ์ได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ ถามถึงคู่ก็ได้คู่ ถามถึงแฟนก็ได้แฟน ถามถึงเกณฑ์ตกแต่งหมั้นหมาย มีเกณฑ์ดี จะได้พบคู่แท้ แต่บุคลิกซึ่งมีลักษณะต้องโฉลกเป็นที่สุด เป็นผู้มีอายุแกกว่า มีเชื้อชาติเป็นชาวต่างภาษาหรือเป็นบุคคลซึ่งมีฐานะและตำแหน่งหน้าที่การงานสูงกว่า

 

SCORPIO

17 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม

ต้นเดือนหากทำกิจการค้า จะมีลู่ทางได้รับผลกำไรจากธุรกิจซึ่งต้องร่วมมือกับชาวต่างชาติ หากกำลังรอฟังข่าวคราวเกี่ยวกับการบรรจุเข้ารับราชการ จะได้รับข่าวดี มีเกณฑ์ได้ร่วมประชุมสังสรรค์หรือต้องร่วมกิจกรรมกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งมียศมีตำแหน่งสูงกว่า กลางเดือนอาจต้องรับภาระงานหนักเหน็ดเหนื่อย หรือมีเกณฑ์เปลี่ยนแปลงงานใหม่ บุคคลซึ่งเคยใกล้ชิดที่เคยไว้เนื้อเชื่อใจอาจกลับใจหันมาหลอกลวง ช่วงนี้อย่าได้ไว้วางใจใคร ระวังจะถูกหลอกลวงเบียดเบียน หรือสูญเสียทรัพย์อันสูงค่า และปลายเดือนนี้ทั้งหัวทั้งหางของราหู โคจรเข้าไปทำมุมกับราศีพิจิกดูมืดมิดไปหมด การเงิน มีท่าว่าจะได้มาอย่างลับๆ หรือจากการเสี่ยงโชคในตลาดหุ้น อาจมีเหตุต้องสัญจรจากบ้านไปพักค้างอ้างแรมที่อื่น มีจังหวะดีในการปลงใจแต่งงานหมั้นหมาย มีเกณฑ์ได้พบเพศตรงข้ามที่ต้องใจ จะพบคู่นิสัยใจร้อน เปลี่ยนความรู้สึกง่าย ดื้อ ดวงดี ช่างเพ้อฝัน ลุ่มหลงง่าย บทจะปรารถนาสิ่งใดก็ครุ่นคิดแต่ให้ได้ดั่งใจ รักสวยรักงาม ลุ่มหลงในความสุขความสำราญ

 

SAGITTARIUS

16 ธันวาคม – 15 มกราคม

ต้นเดือนคิดจะลงทุนในกิจการใดควรงดไว้ก่อน เพราะการงานที่ผ่านมา คุณเองก็เห็นอยู่แล้วว่าออกจะขลุกขลัก เรื่องแรกควรระวังสุขภาพ ระวังจะมีปากเสียงกับคนใกล้ชิด บุตรบริวาร อาจเจ็บป่วยหรือมีเรื่องหนักใจมาให้ กลางเดือนระวังปัญหาและอุปสรรคในเรื่องการงาน แต่ไม่ได้หมายว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง งานบางอย่างที่เกี่ยวพันส่วนราชการ หรือมีความสัมพันธ์กับความเป็นอยู่ของผู้คนในวงสังคมชั้นสูง ยังดำเนินไปได้ดี มีที่ชวนให้ใส่ใจเป็นกังวลอยู่หน่อย ก็ด้วยเรื่องผู้ใหญ่อาจเจ็บไข้ได้ป่วย ด้วยเรื่องบริวารและผู้ใต้บังคับบัญชา ช่วงนี้อาจมีอุบัติการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เป็นไปได้ทั้งทางดีและร้าย ไม่ต้องกลัว นี่อาจหมายถึงการตัดสินใจในครั้งสุดท้ายต่อปัญหาซึ่งยืดเยื้อ คาราคาซังให้สุดสิ้นกันไปเสียทีก็เป็นได้ และปลายเดือนมีเกณฑ์ดีเกี่ยวกับการแสวงหาที่อยู่อาศัยใหม่ การซื้อขายที่ดิน และเปลี่ยนยวดยานพาหนะ หากเคยเจ็บไข้ได้ป่วย ช่วงนี้อาการป่วยจะทุเลาดีขึ้น มีเกณฑ์ได้รับลาภผลจากเพศตรงข้าม มีเกณฑ์ได้แต่งงานหมั้นหมายกับคู่ที่มีระดับความเป็นอยู่ทางสังคมสูงกว่า


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 965

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หมอช้าง เจาะดวงปี ๒๕๖๔ ทั้ง12 ราศี มีการเปลี่ยนแปลงต้องเตรียมพร้อมรับมือ!

เช็กดวงความรัก! ดูศาสตร์ไหน ราคาเท่าไหร่ เปิดลิสต์ 5 หมอดู การันตีความแม่น

แชร์เทคนิคแต่งหน้าเสริมโหงวเฮ้ง 4 จุดบนใบหน้า ให้สวยรวยโชคตลอดปี

SB ขานรับสังคมสูงวัย จับมือ เอ็มเทค สวทช. พัฒนาเตียงสำหรับผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยพักฟื้น

(27 พฤศจิกายน 2563 : กรุงเทพฯ) เอสบี ดีไซน์สแควร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ของเมืองไทย ล่าสุดจับมือเอ็มเท็ค-สวทช. พัฒนา Power Lift Bed เตียงนอนสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยพักฟื้น ที่มีกลไกช่วยให้ลุกนั่งยืนได้อย่างสะดวกสบาย มีความปลอดภัยสูงในการใช้งาน และควบคุมง่ายผ่านรีโมทคอนโทรล เพื่อเป็นทางเลือกใหม่และสร้างความอุ่นใจในการใช้ชีวิตภายในบ้านให้กับผู้สูงอายุ

 นายพิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เผยว่า ตลอดการดำเนินธุรกิจกว่า 50 ปี กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ เรามุ่งเน้นเรื่อง Customer Centric หรือการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการ เพื่อให้ทุกๆ การพัฒนาเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงและแนวคิดนี้ก็เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญขององค์กรจวบจนปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มของสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่สรุปว่าไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในปี 2564  กลุ่มบริษัทเอสบีฯ ในฐานะผู้ประกอบการภาคธุรกิจ เรามุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมให้มีความพร้อมรับกับแนวโน้มสังคมที่จะเกิดขึ้น และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความร่วมมือจากทีมเอ็มเทคในการพัฒนาโปรเจกต์ Power Lift Bed นี้ ให้เกิดขึ้นมาได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านรูปลักษณ์ที่สวยงามและฟังก์ชันใช้สอยที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เชื่อว่าน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงและเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

“เตียงนอน Power Lift Bed เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากผลงานวิจัยเตียงตื่นตัว (Joey – Active bed)

หรือเตียงนอนแบบมีกลไกช่วยผู้สูงอายุในการลุกนั่งและลุกยืน โดยเอสบีได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิประโยชน์จากผลงานวิจัยดังกล่าวในการผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์  ซึ่งนับเป็นรายแรกที่พัฒนาเตียงลักษณะนี้ขึ้นภายในประเทศ โดยเตียงนอน Power Lift Bed นี้ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุและผู้ป่วยพักฟื้นที่มีความลำบากในการขยับตัว เตียงมีกลไกที่จะช่วยปรับท่าทางให้ผู้ใช้งานสามารถลุก นั่ง ยืน ได้ด้วยตัวเอง ลดความเสี่ยงในการหกล้ม มีฟังก์ชันหมุนได้ 90 องศา และควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรล จึงสร้างความคล่องตัวได้มากกว่าเตียงธรรมดาทั่วไป”

กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท เอสบี กล่าวต่อว่า นอกจากเรื่องฟังก์ชันที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว เตียงนอน Power Lift Bed ยังได้รับการพัฒนาในด้านรูปลักษณ์ให้มีดีไซน์สวยงามดูเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งภายในบ้าน จึงให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเตียงผู้ป่วยแบบทั่วไป ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยเติมเต็มความสุขและการใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ทั้งผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ใช้งานและลูกหลานที่ทำหน้าที่ดูแลด้วย

ผมเชื่อว่าการมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีคือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตของทุกๆ คน เราจึงตั้งใจพัฒนาเตียงนอนนี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกหลานได้นำไปมอบแทนความรักความห่วงใยให้กับคุณพ่อคุณแม่ เพื่อเป็นการดูแลคนที่คุณรักด้วยสิ่งที่ดีที่สุด” นายพิเดช กล่าวทิ้งท้าย

ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับ เอสบี  ครั้งนี้ เอ็มเทค สวทช. ให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ประโยชน์ และสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีโดยกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับประโยชน์คือผู้สูงอายุที่พอดูแลตัวเองได้และผู้ป่วยพักฟื้น เนื่องจากปัจจุบันประชากรโลกเสียชีวิตน้อยลงกว่าในอดีตมาก ส่วนหนึ่งก็มาจากนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตตั้งแต่ด้านสุขภาพ การแพทย์ รวมถึงเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลในเชิงพฤติกรรมของผู้คนกลับมาเห็นความสำคัญในเรื่องของสุขภาพและสุขอนามัยมากขึ้น ทำให้เกิด New Normal หรือความปกติรูปแบบใหม่กับผู้สูงอายุที่ต้องออกห่างสังคมนอกบ้านมาใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น  การพัฒนานวัตกรรมเชิงป้องกันเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุที่ต้องการดูแลสุขภาพตนเองได้ใช้ประโยชน์เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว หรือช่วยลดความเสี่ยงด้านต่างๆ เช่น การพลัดตกหกล้ม โจทย์ที่สำคัญของการพัฒนานวัตกรรมคือ ต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้จริง เพื่อที่งานวิจัยจะมีโอกาสนำไปใช้ได้สูง ทีมวิจัยเอ็มเทคนำโดย ดร.ศราวุธ เลิศพลังสันติ หัวหน้าทีมวิจัยออกแบบและแก้ปัญหาอุตสาหกรรม กลุ่มวิจัยการออกแบบเชิงวิศวกรรมและการคำนวณ ใช้กระบวนการออกแบบที่นำเอาผู้ใช้มาเป็นศูนย์กลาง หรือ Human-centric design โดยให้ความสำคัญทั้งผู้ใช้และผู้เกี่ยวข้อง ในทุกช่วงของการออกแบบอุปกรณ์การใช้งาน 

ผลงานวิจัย “โจอี้ – เตียงตื่นตัว” เป็นตัวช่วยให้ผู้สูงอายุลุกนั่งและลุกขึ้นยืนได้สะดวกมากขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการหกล้ม และลดภาระของผู้ดูแล นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูหลังการผ่าตัดและผู้ป่วยที่มีความลำบากในการเคลื่อนที่ เช่น โรคอัมพฤกษ์ โดยเตียงตื่นตัว ได้รับการออกแบบจากมุมมองด้านต่างๆ ของผู้ใช้ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ดูแล แพทย์และพยาบาล และพัฒนาจนมั่นใจว่าสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้อย่างแท้จริง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในการผลิตและจำหน่ายจากบริษัทเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำอย่างบริษัท SB Design square ทำการปรับให้เข้ากับผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยเน้นความสวยงามน่าใช้ ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนเตียงผู้ป่วย และตอนนี้ก็พร้อมแล้วสู่การนำไปใช้จริงภายใต้ชื่อเตียง Power Lift Bed

สำหรับใครที่ต้องการพาผู้สูงอายุที่บ้านหรือคุณพ่อคุณแม่ไปทดลองสินค้าจริงสามารถไปสัมผัสกันได้ที่เอสบี ดีไซน์สแควร์ 4 สาขา คือ สาขาเดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์, สาขาคริสตัล ดีไซน์เซ็นเตอร์ (CDC) สาขาบางนา และสาขาพระราม 2 โดยมีโปรโมชันดีลดีราคาพิเศษ ที่จะทำให้ลูกๆ ได้มีของขวัญพิเศษรับปีใหม่นี้ให้คุณพ่อคุณแม่โดยมีส่วนลดเพิ่มให้อีก 10% และผ่อน 0% 4 เดือน (กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ) ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 2563

อเมซฟิตเปิดตัวอเมซฟิต จีทีอาร์ 2 และ จีทีเอส 2 เพื่อชีวิตสุดแอ็คทีฟ จัดเต็มฟีเจอร์เพื่อสุขภาพ แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนาน

อเมซฟิตเปิดตัวอเมซฟิต จีทีอาร์ 2 และ จีทีเอส 2 เพื่อชีวิตสุดแอ็คทีฟ จัดเต็มฟีเจอร์เพื่อสุขภาพ แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนาน ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง และฟีเจอร์ฟิตเนสและสุขภาพครบครัน

กรุงเทพฯ  — 25 พฤศจิกายน 2563อเมซฟิตเสริมทัพไลน์อัฟสมาร์ทวอชแฟชั่นอีกสองรุ่น ทั้งอเมซฟิต จีทีอาร์ 2 (Amazfit GTR 2) ที่ผสมผสานความเป็นนาฬิกาข้อมือแบบดั้งเดิมเสริมด้วยฟีเจอร์ฟิตเนสแบบจัดเต็ม พร้อมด้วยรุ่นอเมซฟิต จีทีเอส 2  (Amazfit GTS 2) สมาร์ทวอชที่เพรียวบางและมีสไตล์ที่สุดของอเมซฟิตเท่าที่เคยมีมา โดยทั้งสองรุ่นพร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 นี้ บนช่องทางออนไลน์ใน Shopee ในราคาเพียง 5,599 บาทสำหรับอเมซฟิต จีทีเอส 2 และ 5,799 บาทสำหรับอเมซฟิต จีทีอาร์ 2  พร้อมดีลพิเศษและของกำนัลมากมายในช่วงเปิดตัว

ดีไซน์หรู เทคโนฯ ล้ำ 

อเมซฟิต จีอีอาร์ 2 มีให้เลือกทั้งแบบตัวเรือนสเตนเลสสตีลและอะลูมิเนียมอัลลอยสีดำ ให้ลุคสุดคลาสสิก โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบบ AMOLED ทรงกลมขนาด 1.39 นิ้ว ขอบโค้งมน 3 มิติ อ่านชัด อ่านง่าย ทุกองศา ส่วนอเมซฟิต จีทีเอส 2 โดดเด่นด้วยความเพรียวบาง หน้าจอ AMOLED ทรงเหลี่ยมหรูขนาด 1.65 นิ้ว ตัวเรือนอะลูมิเนียมอัลลอย มีให้เลือก 3 สี คือ Midnight Black, Desert Gold และ Urban Grey  พร้อมสายรัดข้อมือสีเข้ากัน

หน้าปัดของทั้งสองรุ่นทำจากกระจก 3 มิติ Corning Gorilla เคลือบสาร oDLC (optical Diamondlike Carbon) และสารที่ช่วยป้องกันการเกิดรอยนิ้วมือ จึงป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี และทำความสะอาดได้ง่าย นอกจากนี้ หน้าปัดยังสามารถปรับเปลี่ยนมุมการแสดงข้อมูลเพื่อความสะดวกสำหรับการสวมทั้งบนข้อมือทั้งสองข้าง อีกทั้งมีธีมหน้าปัดให้เลือกกว่า 40 แบบ จึงเป็นสมาร์ทวอชแนวหน้าที่รองรับการปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์ส่วนบุคคล ผู้ใช้สามารถปรับแอป Quick Access ได้ จากนั้นก็เพียงปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวา เพื่อเข้าถึงแอปและฟีเจอร์คู่ใจด้านสุขภาพและฟิตเนส

ฟีเจอร์ครบเพื่อการดูแลสุขภาพและฟิตเนส

อเมซฟิต จีทีอาร์ 2 และ จีทีเอส 2 มาพร้อมกับฟังก์ชันการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจอย่างแม่นยำ ด้วยเซ็นเซอร์ BioTracker2 PPG ที่ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24/7 ไม่ว่าจะเป็นอัตราตอนพักผ่อน (resting heart rate) โซนอัตราการเต้นของหัวใจ (heart rate zones) และเตือนเมื่อหัวใจเต้นผิดปกติ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้คุณทราบความแข็งแรงของหัวใจได้ดีขึ้น

ฟีเจอร์ BioTracker2 PPG นี้ รองรับ OxygenBeats ในการวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เมื่อผู้ใช้ต้องเผชิญกับการทำงานนาน ๆ ที่ทำให้สมองเมื่อยล้า หรือการใช้ร่างกายหนัก ๆ จากกิจกรรมเช่นการวิ่งมาราธอนหรือกีฬากลางแจ้ง หากรู้สึกไม่สบายใจ ก็สามารถวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดได้โดยง่าย จะได้รู้สถานะของร่างกายและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยอุปกรณ์ที่สวมใส่

การติดตามคุณภาพการนอน ช่วยรักษาสมรรถนะร่างกายให้ฟิตที่สุดได้ ซึ่งสมาร์ทวอชของ Amazfit จะช่วยติดตามการนอน ทำให้คุณเข้าใจรูปแบบการนอนหลับและปรับปรุงการนอนให้ดีขึ้น เมื่อซิงก์ข้อมูลเข้ากับแอปแล้ว จะทราบได้ว่านอนในช่วงหลับตื้นหรือหลับลึกไปนานเท่าไร รวมทั้งช่วง REM (Rapid Eye Movement) และการงีบนอนในเวลากลางวัน

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบ PAIHealth Assessment System ที่สามารถแปลงข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ ติดตามกิจกรรม และข้อมูลสุขภาพอื่น ๆ ออกมาเป็นคะแนน PAI ให้ได้รู้สภาพความฟิตของคุณได้โดยสะดวก ค่า PAI หมายถึงข้อมูลกิจกรรมส่วนบุคคล (Personal Activity Intelligence) ที่อ้างอิงจากโปรไฟล์ส่วนตัวของแต่ละคน จึงเป็นค่าที่สร้างมาเพื่อคุณ ซึ่งผลการวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าระบบ PAIHealth Assessment System มีส่วนช่วยให้คุณรู้ว่าจะต้องทำกิจกรรมมากน้อยแค่ไหน ถึงจะแข็งแรงอยู่เสมอ หรืออยู่ในสภาพที่ฟิตที่สุด 

สมาร์ทวอชในซีรีส์ จีที 2 ทั้งสองรุ่นยังรองรับฟีเจอร์การติดตามความเครียด ซึ่งจะช่วยให้คุณรักษาสมดุลของระดับความเครียดได้ เมื่อรู้สึกเครียด ก็สามารถผ่อนคลายด้วยแนวทางใหม่ ๆ ในการดูแลความเครียดได้

การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงหมายถึงต้องแอ็คทีฟอยู่เสมอ จีทีอาร์ 2 และ จีทีเอส 2 จึงมีโหมดกีฬายอดฮิตมาให้เลือกถึง 12 โหมด ช่วยให้ชีวิตไม่หยุดนิ่ง พร้อมออกกำลังกายได้เสมอ สามารถบันทึกระยะทาง ความเร็ว การเปลี่ยนแปลงอัตราการเต้นของหัวใจ แคลอรีที่เผาผลาญ และข้อมูลอื่น ๆ ในช่วงที่ออกกำลังกาย ทั้งสองรุ่นนี้ ยังกันน้ำลึกสุด 5 ATM จึงสวมใส่และบันทึกข้อมูลที่ทำได้ในช่วงว่ายยน้ำหรือออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ทรหด และหากคุณหยุดยิ่งนานเกินไป ก็จะมีการเตือนให้รู้ว่าต้องเคลื่อนไหวบ้างแล้ว

ทั้งสองรุ่นสามารถเก็บเพลงในเมมโมรี่ได้ถึง 3GB ช่วยให้การออกกำลังกายได้เพลิน ๆ โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์ นอกจากนี้

ยังสามารถตั้งค่าความแรงในการสั่นเตือนได้ด้วย (haptic vibration) ไม่ว่าจะเป็นการสั่นให้รับโทรศัพท์หรือได้รับข้อความใหม่ ทั้งสองรุ่นจึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น เมื่อถอดนาฬิกา ฟังก์ชันตรวจจับการสวมใส่จะทำงาน และล็อกนาฬิกา ช่วยป้องกันความเป็นส่วนตัว ซึ่งสามารถใส่รหัสเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยได้ด้วย

ทั้งสองรุ่น มีไมโครโฟนและลำโพงในตัว จึงสามารถรับสายเรียกเข้าได้สะดวก เมื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ

ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น และสนุกขึ้น

ตอนนี้คุณสามารถสั่งการด้วยเสียงได้แล้วผ่านสามาร์ทวอชทั้งสองรุ่นนี้ จึงยิ่งฉลาดมากขึ้นไปอีกเพราะมาพร้อมกับการรองรับ Amazon Alexa ในตัว จึงทำได้ทั้งสอบถาม หาข้อมูล แปล สร้างรายการช็อปปิ้ง ตั้งปลุก ตั้งเวลาและการเตือน เช็คสภาพอากาศ ควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ในบ้าน และอื่น ๆ อีกมากมาย คุณสามารถคุยกับเครื่องสมาร์มวอชทั้ง 2 รุ่น ได้ โดย Alexa จะตอบสนองต่อคำสั่งเสียงของคุณเป็นข้อความบนหน้าจอ หรือยังสามารถสั่งการด้วยเสียงทำงานแบบออฟไลน์เพื่อเปิดการทำงานของโหมดกีฬา ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ และอื่น ๆ  

แบตเตอรีของซีรีส์ จีที 2 มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โดยคุณสามารถใช้เครื่องนี้ทุกวันไปตลอดทั้งสัปดาห์ได้ สำหรับ จีทีอาร์ 2 มีอายุแบตเตอรีที่ยาวนานกว่าเดิม โดยสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 14 วัน เมื่อใช้งานปกติ และใช้ได้นานถึง 38 วัน หากใช้ฟังก์ชันพื้นฐานเท่านั้น และสำหรับ จีทีเอส 2 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 7 วัน และใช้งานได้สูงสุดถึง 20 วัน เมื่อใช้งานฟังก์ชันพื้นฐาน

ราคาและการวางจำหน่าย

  • อเมซฟิต จีทีเอส 2 ราคา 5,599 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Desert Gold และ Urban Grey
  • อเมซฟิต จีทีอาร์ 2 มีให้เลือกสองสี คือ Sport Edition ราคา 5,599 บาท และ Classic Edition ราคา 5,799 บาท

สมาร์ทวอชทั้งสองรุ่นนี้ มีวางจำหน่ายที่ช่องทางออนไลน์ใน Shopee ที่ร้าน
Amazfit Official Store : Amazfit GTS 2 : https://bit.ly/3kLE4WS
Amazfit GTR 2 : https://bit.ly/3pSxRfA

ร้านตัวแทนจำหน่าย ThaiMall : Amazfit GTS 2 : https://bit.ly/3kJLr0Q
Amazfit GTR 2 https://bit.ly/35HShQ8

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่ ใครอยากมีความรักต้องจดไว้สวดก่อนเข้านอน

account_circle

ใครโสด ใครเหงา แล้วกำลังตามหาความรักเพื่อมาทำให้ใจกระชุ่มกระชวยลองมาดู บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่ และสมหวังในความรัก ของแบบนี้เชื่อไว้ไม่เสียหายนะคะ *โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่ สำหรับคนโสดที่อยากมีรัก

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่
Photo by Alex Azabache on Unsplash

ก่อนจะเริ่มกล่าวบทอธิษฐานขอความรักหรือขอเนื้อคู่จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ควรต้องตั้งจิตให้มั่น ทำจิตใจให้สงบ ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย เทพเทวดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพ แล้วจึงเริ่มท่องช้าๆ อย่างมีสติ ไม่ต้องรีบ

บทอธิษฐานขอเนื้อคู่

“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

 ปุพเพวะ สันนิวา เสนะ ปัจจะ บันนะ หิเตนะ วา เอวันตัง ชะยะเต เปมัง อุปะลัง วะ ยะโส ธะเกฯ”

สำหรับหญิงชายคนไหนมีคนที่หมายปองไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงเอยกันเสียที หากได้โอกาสนัดเจอกัน ให้คุณลองสวดบทคาถามหาเสน่ห์เพื่อเจอรักแท้ โดยอธิษฐานในใจถึงคนที่เรากำลังจะได้พบว่า หากมีบุญวาสนาที่ดีต่อกันแล้ว ขอให้ได้เคียงคู่เป็นรักแท้ต่อกัน จากนั้นให้ท่องคาถานี้ใส่ลูกอม เมื่อเห็นหน้ากันแล้วก็หยิบขึ้นมาอมในปาก แล้วพูดคุยกันตามปกติ หากมีดวงสมพงศ์กันจริงๆ ก็จะได้คบกันแน่นอน

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่
Photo by Giuliano Di Paolo on Unsplash

บทคาถามหาเสน่ห์เพื่อเจอรักแท้

“โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง สะระติจิตตังสะมาเรมะมะเอทิเอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ”

แถมให้อีกหนึ่งบทอธิษฐานสำหรับใครที่รอมานานแต่ไม่เจอคู่ใจเสียที อาจเป็นเพราะว่าคุณมีพันธะผูกพัน หรือสร้างกรรมความรักไว้ในชาติก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเอ่ยคำอธิษฐาน คำสาบาน คำสาปแช่ง หรือแม้แต่กระทำการใดเกี่ยวกับความรักจนทำให้ส่งผลมาถึงชาติปัจจุบัน คุณสามารถลองท่องบทอธิษฐานตัดกรรมเรื่องความรัก ขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรแต่ปางก่อน เพื่อให้คุณได้มีโอกาสพบรักที่ดีในปัจจุบันและอนาคต

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่
Photo by cottonbro from Pexels

บทอธิษฐานตัดกรรมเรื่องความรัก

“สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง

อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

ข้าพเจ้าขออาราธนาอานุภาพของพระพุทธเจ้า พระรัตนตรัย พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ และพระปัจเจกพุทธะเจ้าทุกพระองค์

ขอให้เทพเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเป็นสักขีพยานการยกเลิก เพิกถอน คำสัญญา คำสาบาน คำอธิษฐานจิตที่มีต่อคู่รัก คู่ใคร่ คู่เสน่หา ทุกภพทุกชาติ

หากข้าพเจ้าได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อ คู่รัก คู่ใคร่ คู่เสน่หา ในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี ตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ข้าพเจ้าขอโทษ ขอขมากรรม ขออโหสิกรรมต่อท่าน

และขอให้คำสัญญา คำสาบาน คำอธิษฐานจิตที่เคยได้อธิษฐานไว้ในทุกภพ ทุกชาติ เป็นโมฆะ ขาดสิ้นกันนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าขอชดเชยความผิดด้วยบุญกุศลที่ได้สั่งสมมา พร้อมด้วยการทำบุญทำทาน โปรดยกโทษและอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย

ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้าหลุดพ้นจากวิบากกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา ขออนุญาตมีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่ตามติดมาแต่คู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมต่อข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ขอถอนคำพยาบาท ความอาฆาต คำสาปแช่ง ในทุกภพทุกชาติ และขอให้ตัวข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นจากนรกภูมิ ขอให้พบแสงสว่างทั้งทางโลกและทางธรรม ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ”

การกล่าวบทอธิษฐาน เหล่านี้ หากพอมีเวลาคุณสามารถเตรียมธูป เทียน และดอกไม้บูชาพระก่อนเริ่มกล่าว หรือสามารถตั้งจิตอธิษฐานและทำตอนก่อนนอนได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนตัวของแต่ละคนด้วย สำหรับใครที่ลองทำแล้ว ได้ผลอย่างไรกันบ้าง อย่าลืมมาอัพเดทให้ แพรวเวดดิ้ง ทราบกันบ้างนะคะ

สาวๆ คนไหนมาสายมู ตามไปดู >>> 7 คาถามหาเสน่ห์ เสริมความเนื้อหอมแบบไม่ต้องพึ่งน้ำหอม!!

HARNN JUNIPER ATMOS รวมที่สุดแห่งการฟื้นฟูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

HARNN JUNIPER ATMOS รวมที่สุดแห่งการฟื้นฟูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

Alternative Textaccount_circle
HARNN JUNIPER ATMOS รวมที่สุดแห่งการฟื้นฟูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
HARNN JUNIPER ATMOS รวมที่สุดแห่งการฟื้นฟูตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

HARNN” (หาญ) แบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลก ผู้บุกเบิกบอดี้แคร์ สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์สปาและอโรมาเธอราพีแบบออร์แกนิครายแรกของไทย ส่งที่สุดของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม ที่รวบรวมพลังแห่งสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูและบำรุง ล้ำลึกอย่างตรงจุด กับคอลเลคชั่น “JUNIPER ATMOS” รวมกว่า 10 ผลิตภัณฑ์ ภายใต้แนวคิด Natural Made You Perfect”

นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารแบรนด์หาญ กล่าวว่า “แบรนด์ HARNN (หาญ) ในปีที่ 20 เรามุ่งมั่นศึกษา และทำความเข้าใจแบรนด์อย่างลึกซึ้ง เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้นำที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ทั้งชาวไทยและต่างชาติในระดับภูมิภาคเอเชีย ด้วยการมอบประสบการณ์ และอัตลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัยผ่านผลิตภัณฑ์ความงามธรรมชาติ 100% ตลอดจนการนำเสนอผลิตภัณที่มีจิตวิญญาณแห่งวัฒนธรรมอันล้ำค่าของไทย ภูมิปัญญาไทย ผสานเข้ากับความหรูหรา สะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัยและตัวตนของแบรนด์ ผ่านผลิตภัณฑ์ และบริการเพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด”

HARNN JUNIPER ATMOS

คุณขจรศักดิ์ เกษมสารโสภณ Product Development & Supply Chain Director บริษัท หาญ โกลบอล จำกัด กล่าวถึงการคิดค้นนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ Juniper Atmos เพิ่มเติมว่า “เราได้คิดค้น พัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ ด้วยการนำนวัตกรรมผสานความเป็นไทยจากสารสกัดของ 3 ส่วนผสมหลัก ได้แก่ Thai Jasmin Rice ที่ช่วยฟื้นฟูสู่เซลล์ชั้นในได้อย่างล้ำลึก อุดมด้วยสาร Antioxidant ที่ช่วยยับยั้งการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว ช่วยชะลอริ้วรอย ผสานกับ Thai Silk Protein เพื่อช่วยเสริมสร้างการกระตุ้นคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวดูกระชับแน่น และ Encapsulated Marine Complex ช่วยซ่อมแซมและลดการอักเสบจากการทำร้ายเซลล์ผิวหนังจากมลภาวะและสารอนุมูลอิสระ เพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวเรียบเนียน โดยหาญได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยี Niosome Technology ที่เป็นกระบวนการในการนำพาสารสกัดจากธรรมชาติให้เข้าสู่ผิวชั้นในได้อย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้น สำหรับคอลเลคชั่นนี้ ยังโดดเด่นด้วย Anti Pollution-Antioxidation-Revive ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยพิทักษ์ผิวให้คงความอ่อนเยาว์ แม้ต้องเผชิญภาวะบั่นทอนหลากรูปแบบในชีวิตประจำวัน       ทั้งฝุ่น ควัน มลพิษ และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งมาพร้อมกับกลิ่นหอมของสารสกัดจาก Juniper Berry ผลเบอร์รี่สีน้ำเงิน เจือด้วยกลิ่นไม้สนและผลไม้ ที่ให้ความสดชื่น หอมติดทนนาน โดยผลิตภัณฑ์ในคอลเลคชั่นนี้มีทั้งหมด 10 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ Body Care และ Hair Care ที่นำอาณุภาพของการฟื้นฟูและดูแลผิวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ภายใต้นิยามว่า “Natural Made You Perfect”

HARNN JUNIPER ATMOS

นอกจากนี้ HARNN Heritage Spa Krungthep (หาญ เฮอริเทจ สปา กรุงเทพ) สปาร่วมสมัย ที่รังสรรค์โดย HARNN (หาญ) แบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลก ตั้งอยู่ที่ เซน ทาวเวอร์ ชั้น 12M ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ยังได้นำผลิตภัณฑ์จากคอลเลคชั่น Juniper Atmos มารังสรรค์ใหม่ให้กลายเป็นทรีทเมนท์ซิกเนเจอร์ เพื่อการผ่อนคลายเหนือระดับอย่างสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดและแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้สัมผัสจริง ปัจจุบันHARNN Heritage Spa มีสาขาทั่วโลกทั้งในเอเชีย และยุโรป คุณสุภาพรรณ อิศรางกูร ณ อยุธยา Senior Spa Manager บริษัท หาญ โกลบอล จำกัด กล่าวเสริม

HARNN JUNIPER ATMOS มาพร้อมกันทั้ง 2 ซีรี่ย์ ในรูปแบบผลิตภัณฑ์บอดี้แคร์ และแฮร์แคร์

HARNN JUNIPER ATMOS

HARNN JUNIPER ATMOS

พบที่สุดแห่งผลลัพท์ของการฟื้นบำรุงผิวและเส้นผมอย่างล้ำลึกของ “HARNN JUNIPER ATMOS” ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน HARNN ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Shop Online ได้ทาง www.harnn.com

 

 

ตั๊ก บงกช เรียนทำเกษตร ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งพัฒนาแปลงเกษตรสมัยใหม่

account_circle

มุ่งมั่นไม่หยุด! ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล ตั้งใจเรียนรู้การทำเกษตร ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งพัฒนาที่ดินเปล่าให้เป็นแปลงเกษตรสมัยใหม่

ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวที่เมื่อตั้งใจทำอะไรแล้วต้องไปให้สุด ไม่มีหยุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานในวงการบันเทิง ครอบครัว การลดน้ำหนัก หรือล่าสุดในช่วงการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 ที่ทุกคนต้องล็อกดาวน์อยู่บ้าน สาวตั๊กก็ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หันมาปลูกผักไว้กินเองที่บ้าน

ทั้งนี้ตั๊กเคยให้สัมภาษณ์กับแพรวว่า “ตั๊กมองว่าการปลูกผักไม่ใช่แค่ผัก แต่เป็นเรื่องของอาหารและชีวิต ถ้าวันหนึ่งที่ไม่มีเงิน แต่เราปลูกผักได้ อนาคตก็สามารถสร้างรายได้และมีกินด้วย หรือการปลูกผักโดยใช้ปุ๋ยที่เป็นผักมาหมุนเวียน รีไซเคิลใหม่ เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาให้ถ่องแท้ว่าเราจะทำอะไรอย่างไร”

ตั๊ก บงกช เรียนทำเกษตร ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งพัฒนาแปลงเกษตรสมัยใหม่

ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง

จากการเริ่มปลูกผักในบ้าน สู่การพัฒนา “ไร่เบญจรงคกุล” ให้กลายเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวและต้นไม้นานาชนิด ล่าสุดตั๊กลุกหน้าไปอีกขั้น เติมความรู้เรื่องการทำเกษตรให้เข้มข้น ด้วยการมาเป็นนักเรียนของมูลนิธิชัยพัฒนา เรียนรู้การทำเกษตร ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง โดยเธอมีเป้าหมายว่าอยากจะพัฒนาที่ดินเปล่าให้เป็นแปลงเกษตรสมัยใหม่

ซึ่งมูลนิธิชัยพัฒนาได้เล่าถึงนักเรียนคนนี้ว่า….

ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง

คุณบงกช เบญจรงคกุล หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีว่า “คุณตั๊ก” เป็นอีกหนึ่งตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่สนใจเรียนรู้การทำเกษตร ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
วันหนึ่งคุณตั๊กได้ติดต่อมายัง #มูลนิธิชัยพัฒนา เล่าให้ฟังว่ามีที่ดินเปล่าและมีความสนใจอย่างมากที่จะพัฒนาที่ดินผืนนี้ให้เป็นแปลงเกษตรสมัยใหม่อย่างจริงจัง
ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง
มูลนิธิชัยพัฒนาจึงได้แนะนำ #โครงการศูนย์บริการวิชาการเกษตรของมูลนิธิชัยพัฒนา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ให้คุณตั๊ก เนื่องจากโครงการนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ให้ความรู้ด้านการเกษตรแบบครบวงจร
โดยเริ่มตั้งแต่ทฤษฎี การลงมือปฏิบัติ ไปจนถึงการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา คุณตั๊กได้เดินทางไปยังโครงการฯ ตามที่นัดแนะไว้โดยมีทีมงานมูลนิธิชัยพัฒนา นำโดย นายนนทธกร พุ่มกล่อม ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรของมูลนิธิชัยพัฒนา และนางภากมล รัตตเสรี กรรมการและรองเหรัญญิกมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านการเกษตรและการบริหารจัดการให้
ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง
หนึ่งวันที่ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ สังเกตได้ว่าคุณตั๊กมีความตื่นเต้นและกระตือรือร้นที่ได้เรียนรู้การทำการเกษตร ก่อนกลับยังได้นัดกับโครงการว่าจะมาลงมือเก็บผักที่โครงการด้วยตัวเองตั้งแต่ 6 โมงเช้า และหากมีข้อสงสัยใดๆ จะติดต่อขอความรู้มาเป็นระยะๆ…. เชื่อได้ว่าอีกไม่นานทีมงานมูลนิธิชัยพัฒนา จะได้มีโอกาสไปเยี่ยมแปลงเกษตรของคุณตั๊กอย่างแน่นอน
เห็นความตั้งใจของสาวตั๊กแล้ว แพรวเชื่อว่าอีกไม่นาน แฟนๆ คงได้เห็นแปลงเกษตรแบบสมัยใหม่ของเธอ ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : มูลนิธิชัยพัฒนา, @bong_kod_tak

จ๊ะจ๋า-พริมรตา เลื่อนงานวิวาห์

งานรุ่งพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง จิ๊บ-วสุ & จ๊ะจ๋า-พริมรตา เลื่อนงานวิวาห์ ครั้งที่ 2

Alternative Textaccount_circle
จ๊ะจ๋า-พริมรตา เลื่อนงานวิวาห์
จ๊ะจ๋า-พริมรตา เลื่อนงานวิวาห์

เมื่อกลางปี 2562 คู่รักต่างวัยใจตรงกัน นักร้องรุ่นใหญ่ “จิ๊บ-วสุ” ได้ทำเซอร์ไพร้ส์ขอแฟนสาวรุ่นน้อง จ๊ะจ๋า-พริมรตา แต่งงานไกลถึงทิเบต โดยทั้งสองได้วางแผนร่วมกันว่าจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการขึ้นในช่วงปลายปีเดียวกัน แต่ก็ปัจจัยความไม่พร้อมหลายอย่างทำให้ทั้งคู่เลือกที่จะเลื่อนงานออกไป บวกกับในเวลาต่อมา ทั่วโลกได้เจอกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงเมื่อไวรัสโควิด-2019 ได้ระบาดหนัก ทำให้ทั้งสองยังไม่กล้าที่จะจัดงานในช่วงนั้น โดยต่อมาทั้งสองได้ออกมาเปิดเผยว่า จะมีงานสำคัญในวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของสาวจ๊ะจ๋าด้วย แต่เมื่อถึงวันกลับไร้ข่าวงานแต่ง ซึ่งล่าสุดรายการรีวิวบันเทิง ช่อง 3 ได้ออกมาเปิดเผยว่าดาราทั้งสองเลือกที่จะเลื่อนงานวิวาห์อีกครั้ง

งานรุ่งพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง จิ๊บ-วสุ & จ๊ะจ๋า-พริมรตา เลื่อนงานวิวาห์ ครั้งที่ 2

จ๊ะจ๋า-พริมรตา เลื่อนงานวิวาห์

โดย “จิ๊บ-วสุ” ได้ให้สัมภาษณ์ว่า  เดิมทีแล้วมีการวางแพลนเอาไว้ว่าจะจัดงานแต่งงานกับ “จ๊ะจ๋า” ในวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมาจริงๆ แต่มีเหตุที่ต้องให้เลื่อนการจัดงานออกไปก่อน ซึ่งเป็นการเลื่อนครั้งที่ 2 แล้ว ส่วนสาเหตุของการเลื่อนนั้น เป็นเพราะว่าตอนนี้ “จ๊ะจ๋า” มีภารกิจหลายอย่างที่ต้องโฟกัส ทั้งธุรกิจร้านดอกไม้ที่ตั้งใจทำมาก รวมถึงการสร้างบ้านให้ครอบครัวที่เขาใหญ่ ก็เลยมีการพูดคุย และเห็นพ้องต้องกันว่าควรเลื่อนการจัดงานแต่งงานไปก่อน เพราะไม่มีเวลาในการเตรียมงานจริงๆ พร้อมกับพูดติดตลกบอกว่า การเลื่อนครั้งนี้ ถือเป็นการขยายเวลาให้ “จ๊ะจ๋า” ได้ใช้ คำนำหน้าว่า “นางสาว” ออกไปอีกหน่อย

จ๊ะจ๋า-พริมรตา เลื่อนงานวิวาห์

อย่างไรก็ตามในส่วนของฤกษ์ดีงานวิวาห์นั้นจะจัดขึ้นในปีหน้าอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพูดคุยหารือว่าจะเป็นวันไหน โดยยึดหลักการ 2 ส. คือ “สะดวกสบาย” และ “มีความสุข” ซึ่งจะสรุปลงเอยที่วันไหน “พี่จิ๊บ” บอกว่าหากชัวร์แล้ว จะแจ้งให้ทราบอย่างแน่นอน


ข้อมูล : @jaja_primrata @reviewbanterng

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เปิดใจว่าที่เจ้าสาวคนล่าสุด จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม หลังถูกแฟนหนุ่มขอแต่งงาน

สายเปย์ตัวจริง “จิ๊บ วสุ” ควักเงินพา “จ๊ะจ๋า พริมรตา” เที่ยวทริปอเมริกานานถึง 20 วัน

‘ถ้าเรากลัว เราจะไม่มีวันก้าวออกไปได้’ จ๊ะจ๋า พริมรตา อีกพรสวรรค์ด้านร้องเพลง ที่เคยวิ่งหนีมาแล้ว 3 ครั้ง!

‘ผิดคาด! ผู้ที่เกิดวันพุธและวันพฤหัส มองเพศเดียวกันแล้ว’ ดูดวงรายวัน 2 ธันวาคม 2563

ดูดวงรายวัน 2 ธันวาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน :  คุณก็ยังโดดเด่นในเรื่องของการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ และเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำกับผู้อื่น ซึ่งหากคุณนั่งในตำแหน่งผู้บริหารขององค์กร มีลูกน้องอยู่ในความปกครอง วันนี้คุณไฟแรง กล้าได้กล้าเสียจนน่ากลัว ก็คงต้องวางตัวให้ดี ไม่ควรให้ความสนิทสนมกับลูกน้องมากเกินไป เพราะอาจเปิดโอกาสให้เขาตัดสินใจแทนคุณได้โดยพลการ

การเงิน : ชอบลงทุน เพราะสามารถใช้เงินทำงานสร้างรายได้ที่สูงให้กับตัวเอง ก็ต้องระวังความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น แต่คุณก็มีดวงผู้ใหญ่อุปถัมภ์ หากพลาดพลั้งสามารถกลับไปขอท่านได้

ความรัก :  หากคุณแต่งงานอยู่กันมานาน ความหวานลดลง ทิฐิมากขึ้นเป็นธรรมดา แต่ที่ถูกต้องควรเพิ่มความหวาน แล้วลดทิฐิ ลดการเอาชนะ เน้นการประนีประนอม คนโสด คุณก็ยังโรแมนติกและวาดฝันถึงความรักไว้อย่างงดงาม วันนี้หากคุณผิดหวังมาไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง อาจได้เจอรักแท้

สุขภาพ :  ออกจากบ้านควรพกยาดม ยาหม่องติดกระเป๋าด้วย เพราะคุณอาจหน้ามืด เวียนศีรษะ จนถึงเป็นลม

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้แรงกายแรงใจ เพื่อเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เช่น ทหาร ตำรวจ นักกฎหมาย ฯลฯ รวมถึงผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยวดยานพาหนะ วันนี้คุณจะโดดเด่นในการติดต่อประสานงาน การบริหารจัดการ รวมถึงให้คำปรึกษาแนะนำ แม้จะเหนื่อยจนตัวแทบแตก แต่คุณก็ยังมีผู้ใหญ่ช่วยส่งเสริมสนับสนุน ส่วนเพื่อนร่วมงาน และเจ้านายก็เมตตาคุณเป็นพิเศษ

การเงิน : คุณชอบลงทุนแบบกล้าได้กล้าเสีย แล้วส่วนมากก็จะได้ด้วย แต่คุณก็ใช้เงินเก่ง ชอบเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนสนิทมิตรสหาย และดูแลญาติมิตร จนไม่เหลือเงินเก็บ

ความรัก : จากที่คุณสามีเลิกงานก็ไปดื่มสังสรรค์ต่อ วันนี้เขาอาจกลับบ้านเร็วมาอยู่กับผู้ใหญ่ ซึ่งคุณก็ไม่ควรมีทิฐิหรือยึดมั่นในเหตุผลของตัวเอง เพื่อต้องการเอาชนะ จะทำให้เสียบรรยากาศ คนโสด คุณโรแมนติกและมองโลกสวยงาม ตามสไตล์ผู้หญิงสวยคิดบวก จนผู้ใหญ่เป็นห่วง อาจเลือกคนที่เหมาะสมไว้ให้

สุขภาพ :  ระวังจะเกิดอุบัติเหตุจากของมีคมและแผลจากไฟไหม้

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานในสายยุติธรรม เช่น ทนายความ นักกฎหมาย ผู้พิพากษา ผู้ที่ดูแลความถูกต้องในสังคม ฯลฯ หากคุณกำลังอยู่ในช่วงสร้างสรรค์ผลงาน เช่น เขียนหนังสือ หรือคิดค้นงานวิจัยใหม่ๆ วันนี้คุณอาจถูกบังคับให้เข้าไปอยู่ในกระแสการแข่งขันแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นอย่างดุเดือด ทั้งในเรื่องผลประโยชน์และหน้าที่การงาน หรือถูกบังคับให้ต้องทำงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งความสำเร็จรอคุณอยู่หากก้าวผ่านจุดนั้นได้

การเงิน : หากคุณกำลังร่วมหุ้นร่วมทุนกับแฟน ผู้ใหญ่จะให้ความอุปถัมภ์  แต่ในช่วงแรกอาจต้องลงทุนสูงหน่อย เพราะคู่แข่งเยอะ แต่งานนี้มีรุ่ง ต้องใช้เวลาจึงจะถึงจุดสร้างผลกำไร

ความรัก :  คุณกำลังอยู่ในช่วงแย่งชิงบุตร หรือแย่งชิงความเป็นอิสระต่อกันอยู่หรือเปล่า หากใช่ วันนี้อาจมีการใช้กระบวนการทางกฎหมายเข้ามาตัดสิน คนโสด คุณเคยถูกแย่งคนรักไปจนรู้สึกเข็ดขยาดกับความรัก เพราะฉะนั้นวันนี้หากจะรักใครควรดูให้ดีกว่าเดิม

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับการขับถ่าย ไม่ควรกลั้นปัสสาวะต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้กรวยไตและกระเพาะปัสสาวะมีปัญหา เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  สำหรับผู้ที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานโฆษณาประชาสัมพันธ์ งานสื่อสารมวลชน ศิลปินดารา นักร้อง ดีไซเนอร์ วันนี้คุณโดดเด่นในเรื่องของการติดต่อประสานงาน เรียกว่าชีพจรลงเท้าไม่ได้อยู่ติดออฟฟิศเลยทีเดียว ซึ่งคุณก็จะได้ผู้ใหญ่และคนใกล้ชิดช่วยสนับสนุนให้ได้ทำอย่างที่ตั้งใจ แต่สิ่งที่ไม่ควรทำ คือวางตัวเป็นกันเองกับลูกน้องมาก เพราะเขาจะตัดสินใจแทนคุณโดยพลการ ทำให้เสียงานได้

การเงิน : คุณมีดวงผู้ใหญ่อุปถัมภ์ มีโชคลาภบ่อยๆ วันนี้อาจได้ทรัพย์มรดก หากจะนำไปลงทุนหรือเดินทางท่องเที่ยว หรือช็อปปิ้ง ก็ควรแบ่งเงินเก็บไว้ก่อน

ความรัก :  โดดเด่นในเรื่องของอารมณ์อย่างมาก เอาแน่เอานอนอะไรกับคุณไม่ได้เลย วูบไปวูบมาจนคนใกล้ชิดเดาใจลำบาก อยู่ด้วยยาก คนโสด วันนี้คุณก็ยังหลงใหลได้ปลื้มในเพศเดียวกัน เพราะหากคุณรักแล้วก็ทุ่มเทใจให้หมดอย่างไม่มีเหตุผล ก็ต้องระวังความผิดหวังไว้หน่อย

สุขภาพ :  ช่วงนี้คุณเอ็นจอยกับการรับประทานอาหารมาก นอกจากต้องระวังน้ำหนักขึ้นแล้ว ระบบการย่อยอาหาร กระเพาะอาหารอาจมีปัญหา

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ก็ยังไม่หยุดที่จะเดินทาง วันนี้อาจได้ไปยาวเลย ยิ่งหากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น งานโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ศิลปิน สื่อสารมวลชน ดีไซเนอร์ คุณมีโอกาสได้เดินทางไปบุกเบิกงานใหม่ยังสถานที่ที่แปลกใหม่ นับเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มั่นคงขึ้นกว่าเดิม

การเงิน : ก็ยังมีดวงผู้ใหญ่อุปถัมภ์อยู่ ยิ่งวันนี้อาจได้ลาภเป็นยวดยานพาหนะคันใหม่ หรือได้มรดก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าหลงเชื่อคำพูดที่อ่อนหวานที่จะมาชักชวนให้คุณลงทุน หรือขายของ เพราะคุณอาจถูกหลอก

ความรัก :  คุณอาจมีโครงการเดินทางโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างจังหวัด หากไม่ติดโควิด-19 ก็คงได้ไปต่างประเทศแล้ว แต่วันนี้คุณก็ยังโลเล ไม่มั่นใจว่า รักแท้จะแพ้ระยะทางหรือเปล่า  คนโสด อาจได้พบเจอคนถูกใจในระหว่างเดินทางนะคะ แต่เอ วันนี้คุณมองเพศเดียวกันซะงั้น

สุขภาพ : เดินทางเปลี่ยนสถานที่อาจมีปัญหาในเรื่องของการรับประทาน จึงต้องระวังตั้งแต่ทอลซินอักเสบ น้ำย่อย กระเพาะอาหาร และถุงน้ำดี

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  แม้คุณจะโดดเด่นในเรื่องของการเจรจาต่อรอง และการประนีประนอม แต่คุณอาจมาถึงจุดที่รู้สึกว่า เจรจาไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แถมยังจะเจ็บตัวเสียอีก วันนี้จึงควรหยุดพักน่าจะดีกว่า

การเงิน :  อาจมีรายจ่ายกับการลงทุนใหม่ๆ การเข้าสังคม และการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ควรใช้เงินตามใจ เพราะจะทำให้คุณเสียเงินก้อนใหญ่โดยไม่รู้ตัว

ความรัก : ปกติคุณก็แบกรับเรื่องราวต่างๆ ของสมาชิกในครอบครัวไว้อย่างหนักอึ้ง วันนี้คุณอาจมีปัญหากวนใจกับคู่ครองอีก ในเรื่องของทัศนคติในการใช้ชีวิตคู่ ซึ่งมีปัญหามาโดยตลอด คนโสด ที่ผ่านมาความรักทำให้คุณเจ็บจนเหนื่อย อยากพักร่างและใจไว้ที่ครอบครัวแล้ว

สุขภาพ :  หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องยืนและเดินเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้คุณปวดขาตั้งแต่สะโพกลงไป จนถึงข้อเข่าและข้อเท้า

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  คุณก็ยังคงต้องยึดอยู่กับการประกอบสัมมาอาชีพอยู่บนความถูกต้อง ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ซึ่งวันนี้คุณมีความเป็นศิลปินสูง ควรทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้ดี เช่น ดีไซเนอร์ ศิลปิน สถาปนิก เมคอัพอาร์ทติส ฯลฯ  ซึ่งวันนี้คุณจะขยัน ทำงานหนัก และชอบช่วยเหลือผู้อื่น น่าชมเชย

การเงิน :  โชคดีมาก เพราะหาเงินง่ายใช้เงินคล่อง ซึ่งคุณใจใหญ่ ชอบเลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนฝูงอย่างเต็มที่ แล้วยังใจบุญ ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนอีกต่างหาก

ความรัก : ชีวิตคู่ของคุณก็ราบเรียบและราบรื่นดี แต่ต้องวงเล็บด้วยว่า ควรดำเนินชีวิตอยู่บนความพอเพียง พอดี ไม่มากไปหรือน้อยไป ไม่สุขจนเกินพอดี หรือหึงหวงกันจนเกินงาม   คนโสด คุณเป็นคนน่ารัก ชอบเฮฮาปาร์ตี้ แต่ก็อยากให้อยู่ในความพอดีๆ เพราะไม่งั้นจะเกินคำว่า น่ารักไปแล้วจะกลายเป็นความหึงหวง คาดหวัง และเรียกร้องความสนใจ

สุขภาพ : คุณเอ็นจอยกับการดื่มกิน เสาะหาอาหารอร่อยรับประทาน ก็ต้องระวังโรคอ้วน หรือขาดสารอาหารที่มีประโยชน์

 เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

เป็นโสดดีกว่า หากมีความรักแล้วต้องเป็นที่สอง ดูดวงรายวัน 30 พฤศจิกายน 2563

โรแมนติกมาก จนไม่ทันสังเกตว่า เขามีคู่แล้ว ดูดวงรายวัน 1 ธันวาคม 2563

ฟิตหุ่นด้วยโยคะ

ข้อดีของการ ฟิตหุ่นด้วยโยคะ ท่านกพิราบและท่าพวงมาลัย ทำตามได้ไม่ยาก

Alternative Textaccount_circle
ฟิตหุ่นด้วยโยคะ
ฟิตหุ่นด้วยโยคะ

พูดถึงเรื่องการออกกำลังกาย การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และโยคะ เพิ่มความยืดหยุ่น และความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกาย ถือเป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนให้ความสนใจ สำหรับบทความนี้ Emine Basarir เทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมรรถภาพร่างกาย จะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง ฟิตหุ่นด้วยโยคะ เพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกาย และการประสานเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยเสริมสมรรถภาพร่างกายขณะออกกำลังกายและเล่นกีฬาให้ดียิ่งขึ้น

เริ่มจากการเลือกเวลายืดเหยียดกล้ามเนื้อให้เหมาะสม และแนะนำท่าโยคะที่จะช่วยให้เราเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีขึ้น และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย

ความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายแตกต่างกันอย่างไร

หากกล่าวแบบสรุป ความยืดหยุ่นก็คือความสามารถของกล้ามเนื้อที่จะยืดขยายออกไป ขณะที่ความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายเป็นเรื่องการเคลื่อนไหวของข้อต่อในยามที่ร่างกายขยับเปลี่ยนท่าและเคลื่อนไหวต่างๆ ได้อย่างคล่องตัวและไม่รู้สึกยากลำบากหรือเจ็บปวด

 

ฟิตหุ่นด้วยท่าโยคะ

ท่าบริหารร่างกายก่อนออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความคล่องตัว

เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและช่วยให้ข้อต่อในร่างกายเคลื่อนไหวได้หลากหลายแบบ เราสามารถฝึกท่าบริหารร่างกายดังต่อไปนี้ โดยใช้เพียงน้ำหนักร่างกายของเรา

ก่อนออกกำลังกาย ให้บริหารร่างกายและเตรียมความพร้อมร่างกาย 4 ส่วน ดังนี้

  • ข้อเท้า
  • สะโพก
  • กระดูกสันหลัง
  • ไหล่

ระมัดระวังและขยับเคลื่อนไหวร่างกายในท่าต่างๆ ให้มีความคล่องตัว

ท่าบริหารร่างกายหลังออกกำลังกาย เพื่อสร้างความยืดหยุ่น

หลังออกกำลังกาย ให้ยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบมีการเคลื่อนไหว (dynamic stretching) หรือยืดเหยียดแบบหยุดค้างเป็นระยะ (static stretching) เพื่อให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบ static stretching จะใช้เวลานานกว่าแบบ dynamic stretching

ฟิตหุ่นด้วยท่าโยคะ

สิ่งที่เรามักทำผิดพลาดกันบ่อยๆ เวลาออกกำลังกายก็คือยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบ static stretching ก่อนออกกำลังกาย ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ เนื่องจากเราพยายามยืดเหยียดกล้ามเนื้อที่เย็นและตึงอยู่

ที่เราต้องทำก็คือ ให้ยืดเหยียดและถนอมกล้ามเนื้อที่เพิ่งออกกำลังกายมาใหม่ๆ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกายจะช่วยบรรเทาอาการตึงของกล้ามเนื้อที่เกิดจากการออกกำลังกาย และช่วยลดการปวดเมื่อยหลังออกกำลังกายด้วย

โยคะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความยืดหยุ่นให้ร่างกายได้อย่างไร

เมื่อเราเข้าใจความแตกต่างระหว่างความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวร่างกายและความยืดหยุ่นของร่างกายแล้ว เราก็จะมาพูดถึงวิธีการที่โยคะช่วยให้บรรลุเป้าหมายสุขภาพและรูปร่างที่ดียิ่งขึ้น เพราะโยคะช่วยเรื่องกล้ามเนื้อและข้อต่อ จึงอยากแนะนำให้เล่นโยคะหลังออกกำลังกายหรือเล่นในวันถัดไปแทน

โยคะบางรูปแบบจะต้องอาศัยความคล่องตัวและความยืดหยุ่นมากกว่าแบบอื่น ยกตัวอย่างเช่น แอ็คโครโยคะ (Acro Yoga) ที่จะทดสอบขีดความสามารถร่างกายในเรื่องความคล่องตัวและความยืดหยุ่น

ในขณะที่ บูโดคอน โยคะ (Budokon Yoga) เป็นโยคะอีกรูปแบบที่ไม่เพียงต้องอาศัยทั้งความคล่องตัวและความยืดหยุ่นของร่างกายเท่านั้น แต่ยังต้องมีพละกำลังและความแข็งแรงของร่างกายด้วย ต่อไปเป็นท่าโยคะที่ Basarir อยากแนะนำให้ลองทำตาม

ข้อดีของการ ฟิตหุ่นด้วยโยคะ ท่านกพิราบและท่าพวงมาลัย ทำตามได้ไม่ยาก

ฟิตหุ่นด้วยโยคะ โยคะท่านกพิราบ
โยคะท่านกพิราบ

โยคะท่านกพิราบ

ท่านกพิราบเป็นท่าที่ดีที่ช่วยเปิดสะโพกและยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณสะโพก ตลอดจนเอ็นต้นขาด้านข้าง (Iliotibial band: ITB) ยาวไปจนถึงไลน์สะโพกด้านนอกด้วย

การยืดเหยียดต้นขาออกไปจะช่วยยืดกล้ามเนื้อสะโพกและลดอาการตึงของเส้นประสาทไซอาติก (sciatic nerve) ซึ่งแนะนำให้ผู้ที่มีอาการโรคปวดร้าวลงขา (sciatic problems) ทำท่านี้ เพราะจะช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อ psoas ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักที่เชื่อมต่อกระดูกสันหลัง กับขา และช่วยยืดเหยียดบริเวณขาหนีบ และกล้ามเนื้อ adductor ที่อยู่บริเวณต้นขาด้านใน

ฟิตหุ่นด้วยโยคะ โยคะท่าพวงมาลัย
โยคะท่าพวงมาลัย

โยคะท่าพวงมาลัย

ท่าพวงมาลัยช่วยยืดเหยียดสะโพกและต้นขาด้านใน รวมถึงกระดูกสันหลัง ท่านี้จะช่วยบริหารอุ้งเชิงกรานและข้อต่อสะโพกได้ดี

สรุปการทำงานประสานกันระหว่างความคล่องตัวและความยืดหยุ่น

ความคล่องตัวและความยืดหยุ่นอาจเป็นศัพท์คนละความหมายกัน แต่ในทางปฏิบัติมันทำงานประสานกันเพื่อช่วยเสริมสมรรถภาพร่างกายโดยรวมขณะออกกำลังกายและเล่นกีฬาให้ดียิ่งขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น หัวไหล่ที่มีอาการตึงอาจทำให้คุณมีปัญหากับข้อต่อเวลาขยับร่างกาย ดังนั้นหมั่นฝึกการออกกำลังกายที่เพิ่มทั้งความยืดหยุ่นและความคล่องตัวสำหรับตารางออกกำลังกายในแต่ละวัน

โยคะเป็นการบริหารร่างกายเพิ่มเติมชั้นดีหลังออกกำลังกายหรือเล่นในวันถัดไป จำไว้ว่า ถ้าคุณสังเกตว่าข้อต่อหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายมีความแข็งตึง ก็ควรฝึกท่าออกกำลังกายให้ถูกวิธีและเหมาะสมเพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการบาดเจ็บ


ภาพ : HerbalifeThailandOfficial , Pexels

 

บทความอื่นๆๆ ที่น่าสนใจ

7 เหตุผลที่ต้องเล่น โยคะ พร้อมเทียบความต่างจากการออกกำลังกายทั่วไป

ปวดคอบ่าไหล่เกินทน! ออฟฟิศซินโดรม ปล่อยไว้หายเองไหม หรือต้องแก้ด้วยวิธีนี้

อย่าทำตาม! รีวิวดัดขนตาด้วยไดร์เป่าผมจนงอนงาม เสี่ยงโรคตาแห้ง

 

ฟอร์ดยกทัพรถยนต์แห่งสมรรถนะ สะท้อนตัวตนที่แตกต่าง จัดแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2020 พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี

  • ฟอร์ด จัดแสดงรถยนต์ทุกรุ่นทั้งไลน์อัพ นำโดย ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่มาพร้อมดีไซน์อันโดดเด่น ระบบส่งกำลังที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น และสีใหม่สุดเร้าใจ ไปจนถึงมัสแตงรุ่นพิเศษ
  • พบกับรถแข่งจากทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง ที่เพิ่งคว้า 2 ถ้วยรางวัลจากการแข่งขันไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 
  • ฟอร์ด พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถรุ่นใหม่ภายในงานและที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม นี้ 
  • ลูกค้าที่ชม LIVE ถ่ายทอดสดจากบูธฟอร์ดในงาน Motor Expo ผ่าน YouTube และ Facebook Ford Thailand ในวันที่ 2 ธันวาคม 2563 สามารถลุ้นรับส่วนลด 50,000 บาท จำนวน 30 รางวัล มูลค่ารวม 1,500,000 บาท

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 1 ธันวาคม 2563 ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดฉากมหกรรมยานยนต์จัดแสดงรถรุ่นใหม่ ทั้งฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ไปจนถึง ฟอร์ด มัสแตง รุ่นพิเศษ ที่มาพร้อมดีไซน์อันโดดเด่น ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 13 ธันวาคม 2563 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี

ฟอร์ดพร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษตลอดระยะเวลาการจัดงาน โดยลูกค้าที่จองและออกรถฟอร์ด รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ยังจะได้รับโปรแกรมการขยายการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. 

สัมผัส ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่โดดเด่นด้วยรูปโฉมใหม่ทั้งไลน์อัพ สะท้อนตัวตนที่แตกต่างของผู้ขับขี่ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ ผู้เข้าชมบูธยังได้พบกับรถแข่งฟอร์ด เรนเจอร์ จากทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง ที่เพิ่งได้รับ 2 ถ้วยรางวัลจากการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในปีแรกที่สนามไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2020 เมื่อเร็วๆ นี้

“ด้วยรถแข่งฟอร์ด เรนเจอร์ จากทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง และฟอร์ด มัสแตง รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 55 ปี ฟอร์ด ยังคงสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดยานยนต์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เข้าชมบูธจะได้สัมผัสดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ ที่โดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์ สมรรถนะ และเทคโนโลยี อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เรามั่นใจว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ที่ได้รับการรูปโฉมใหม่ทั้งไลน์อัพ พร้อมเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ให้ลูกค้าของเราได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ไปอีกขั้น จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั้งภายในงานและที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ” นายวิชิตว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

ยกทัพจัดแสดงครบทุกรุ่น

ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่: สุดยอดรถกระบะ มาพร้อมดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยว ดุดัน ด้วยกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ระบบส่งกำลังและเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตรที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เทคโนโลยีอำนวยความสะดวก และสีใหม่สุดเร้าใจ นำโดย ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้ชีวิต อย่าง ฝาปิดกระบะท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้า (Power Roller Shutter) ซึ่งเป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะประเทศไทยที่ติดตั้งอุปกรณ์นี้มาจากโรงงาน นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถสัมผัสรถกระบะรุ่นย่อยใหม่ล่าสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ XL สตรีท ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งฟอร์ด เรนเจอร์ จากทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง รวมถึงรุ่นยอดนิยมอย่าง XLT และรุ่น XL และ XLS ซึ่งต่างสะท้อนนิยามการใช้ชีวิตที่หลากหลายของเจ้าของรถ ฟอร์ด เรนเจอร์ ตามแนวคิด ‘Live The Ranger Life’ 

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์: รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ ด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ส่งมอบกำลังสูงสุด 213 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ Terrain Management System 6 รูปแบบที่ปรับได้ตามสภาพเส้นทาง และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะมากมาย

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่: รถเอสยูวีขนาดกลาง มาพร้อมโฉมใหม่ดีไซน์สปอร์ตทั้งไลน์อัพ ด้วยกระจังหน้าใหม่เป็นเอกลักษณ์ ตัวอักษรนูน ‘EVEREST’ บนฝากระโปรงหน้า พร้อมมือจับ กระจกข้าง และล้ออัลลอยใหม่ในรุ่นเทรนด์ โดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังคงอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะมากมาย นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกสีภายนอกใหม่ อย่างสีขาว สโนว์ เฟลก ไวท์ เพิร์ล สำหรับรุ่นเทรนด์ ไทเทเนี่ยม และไทเทเนี่ยม พลัส และเพิ่มสีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู ในรุ่นสปอร์ต  

ฟอร์ด มัสแตง: ฟอร์ด มัสแตง รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 55 ปี มาพร้อมกับออปชั่นเสริมเพิ่มเอกลักษณ์ของเจ้าของรถ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ มีวางจำหน่ายในประเทศไทยสองรุ่น ได้แก่ รุ่นเครื่องยนต์ 5 ลิตร V8 GT Coupe Performance Pack และรุ่นเครื่องยนต์อีโคบูสต์ 2.3 ลิตร

ข้อเสนอสุดพิเศษ

ฟอร์ดพร้อมมอบข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมายภายในงานและที่ตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ตลอดระยะเวลาการจัดงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ดังนี้

  • ฟอร์ด เรนเจอร์ XL สตรีท มาในราคา 669,000 บาท พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ดาวน์เพียง 25,500 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
  • ฟอร์ด เรนเจอร์ DBL XLT รุ่นเกียร์ธรรมดา ราคาพิเศษช่วงแนะนำ เพียง 799,000 บาท จากราคาปกติ 854,000บาท พิเศษ รับฟรีชุดแต่งแท้จากฟอร์ด มูลค่ากว่า 10,000 บาท  และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
  • ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ราคาพิเศษช่วงแนะนำเริ่มต้นที่เพียง 979,000 บาท จนถึง 1,265,000 บาท ไวลด์แทรค ทุกรุ่นมาพร้อมโปรแกรมการขยายการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ นาน 4 ปี  หรือ 60,000 กม. และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 2 ปี 
  • ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น ด้วยราคาสุดเร้าใจเริ่มต้นเพียง 1,299,000 บาท ถึง 1,799,000 บาท ทุกรุ่นมาพร้อมโปรแกรมขยายการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. รับฟรีชุดอุปกรณ์เสริมไฟฟ้า กล้องหน้า-หลัง พร้อมแท่นชาร์จไร้สายมูลค่ากว่า 10,000 บาท และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ฟอร์ดยังมีกิจกรรมถ่ายทอดสด LIVE จากบูธฟอร์ดในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2020 ผ่านช่องทาง YouTube Ford Thailand และ Facebook Ford Thailand ตลอดช่วงการจัดงาน โดยในวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ลูกค้าที่ชม LIVE สามารถลุ้นรับลดมูลค่า 50,000 บาท จำนวน 30 รางวัล มูลค่ารวม 1,500,000 บาท ในช่วง LIVE 1: เวลา 12.30 – 13.00 น. LIVE 2: เวลา 15.00 – 15.30 น. และ LIVE 3: เวลา 18.00 – 18.30 น. ลูกค้าที่โทรเข้ามาที่ Ford Call Center 1383 กด 2 เป็น 10 สายแรกของแต่ละช่วง LIVE จะได้รับส่วนลดในการซื้อรถยนต์ฟอร์ด 50,000 บาท 1 รางวัลต่อ 1 สาย  รวมทั้งหมด 30 รางวัลของ LIVE ทั้ง 3 ช่วง โดยต้องจองรถภายในวันที่ 2 ธันวาคม 2563 – 13 ธันวาคม 2563 และออกรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่โชว์รูมฟอร์ดทั่วประเทศเท่านั้น โดยบริษัทฯ จะทําการรวบรวม ชื่อ-นามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ลูกค้าที่ได้รับส่วนลด และจะประกาศผลอย่างเป็นทางการผ่าน Facebook Ford Thailand ในวันที่ 2 ธันวาคม 2563 เวลา 20.00 น.

นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่ฟอร์ดให้ความสำคัญสูงสุดและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คือการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการเป็นเจ้าของรถฟอร์ด ดูแลลูกค้าเปรียบเสมือนคนในครอบครัว โดยย้ำคำมั่นสัญญาในการ “การันตีความใส่ใจ” ในทุกรายละเอียด ด้วยการพัฒนาบริการลูกค้าทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อให้ลูกค้าใช้รถด้วยความอุ่นใจและมั่นใจสูงสุด 

ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้เว็บไซต์ www.ford.co.th 

ดีแทคจับมือยารา เปิดตัว Kaset Go เครือข่ายดิจิทัลชุมชนเพื่อเกษตรกรแห่งแรกในประเทศไทย

ดีแทคจับมือยารา เปิดตัว Kaset Go เครือข่ายดิจิทัลชุมชนเพื่อเกษตรกรแห่งแรกในประเทศไทย แพลตฟอร์ม Kaset Go มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของภาคการเกษตรของประเทศไทย ด้วยการเชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้เชี่ยวชาญเข้ากับชุมชนเกษตรกร

ดีแทคและยาราประเทศไทย เปิดตัว Kaset Go แอปพลิเคชันบนมือถือที่เชื่อมต่อเกษตรกรเข้ากับข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อถือได้และเรียลไทม์ที่ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร แอปพลิเคชันได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้เกษตรกรไทยใช้ประโยชน์จากความรู้ด้านการเกษตรของ ยารา ประเทศไทยและเทคโนโลยีการสื่อสารจากดีแทค

ปัจจุบัน Kaset Go เปิดโอกาสให้เกษตรกรถามคำถามกับผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร และแบ่งปันความรู้กับเกษตรกรรายอื่นในชุมชนที่มีประสบการณ์คล้ายกัน นอกจากนี้ยังช่วยให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญเช่น ราคาพืชผลประจำวัน ข่าวเกษตร เคล็ดลับเกี่ยวกับพืชหลัก 8 ชนิดในประเทศไทย ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดไร่ ผัก ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้ม และมะม่วง รวมทั้งพืชอื่นๆ อีกกว่า 52 ชนิด เนื้อหามีความเหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของเกษตรกรในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย และจะมีเนื้อหาเฉพาะเพื่อสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรที่มีความสนใจเฉพาะทาง เช่น การให้คำแนะนำเรื่องมาตรฐานและใบรับรองทางการเกษตร การขนส่ง และการตลาด เนื้อหาในแอปพลิเคชันนี้ได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญจากกรมส่งเสริมการเกษตร ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด และ ยารา ประเทศไทย

นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า“ ดีแทคมีความมุ่งมั่นมาอย่างยาวนาน ในการเสริมสร้างศักยภาพให้กับเกษตรกรไทยด้วยการเชื่อมต่อการสื่อสารจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะผ่านแพลตฟอร์มข้อมูลหรืออินเทอร์เน็ตออฟธิงส์โซลูชัน ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรมเช่น กรมส่งเสริมการเกษตร มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด เพื่อสนับสนุนและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเกษตรกร Kaset Go เป็นตัวแทนของแพลตฟอร์มที่ทันสมัยที่สุดของเราซึ่งร่วมมือกับ ยารา เนื่องจากการทำการเกษตรเป็นส่วนหนึ่งของแรงงานในประเทศไทย และยังมีการใช้งานของสมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลายสูงที่สุดในภูมิภาค Kaset Go อาจเป็นตัวเปลี่ยนวิถีในการทำเกษตรแบบดิจิทัลของประเทศไทย”

นับตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนสิงหาคม Kaset Go มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 150,000 ครั้งและดึงดูดผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนการดาวน์โหลดและผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณดีแทค และ ยารา ประเทศไทย กำลังวางแผนการพัฒนาขั้นต่อไปของ Kaset Go ซึ่งจะรวมข้อมูลเกี่ยวกับพืชผลอีก 44 รายการ และฟีเจอร์หลักที่สำคัญในการเพาะปลูก เช่น คำเตือนสภาพอากาศ การแจ้งเตือนโรค การเปรียบเทียบราคาตลาด นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายไปสู่บริการเสริมอื่น ๆ เช่นอุปกรณ์ฟาร์มประกันภัยและการเงิน

นายเมดิ เซนท์-อังเดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด และรองประธานกลุ่มธุรกิจประเทศไทย และประเทศเมียร์มา ผู้นำผลิตภัณฑ์ธาตุอาหารพืชของโลก กล่าวว่า “ตั้งแต่ยาราเริ่มก่อตั้งในปี 2448 เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าความรู้เป็นกุญแจสำคัญในการสนับสนุนผลผลิตของเกษตรกร และด้วยเครือข่ายนักปฐพีวิทยาในพื้นที่ทั่วประเทศของยารา เราได้ให้บริการโซลูชั่นที่ยั่งยืนแก่เกษตรกรไทยมาตลอดเวลา 47 ปี ตั้งแต่ปี 2560 ยารา ได้เร่งดำเนินกลยุทธ์ดิจิทัลฟาร์มมิ่ง (Digital Farming) เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำการเกษตรที่แม่นยำแก่เกษตรกรทั่วโลก และการร่วมมือกันเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม Kaset Go ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้ เชื่อมโยงเกษตรกรกับข้อมูลที่เชื่อถือได้ซึ่งตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและชุมชนการเกษตร  คาดว่า Kaset Go จะกลายเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสำหรับเกษตรกรและเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย”

4 ฟีเจอร์เด่นแอป Kaset Go ที่สนับสนุนเกษตรกรไทยให้ก้าวไกล

  1. คำถามและคำตอบที่ได้รับการรับรอง  : ให้คำตอบที่เป็นประโยชน์ และให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรในแพลตฟอร์ม ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ของเกษตรกรในชุมชน โดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้รับรองความถูกต้อง
  2. เชื่อมต่อและแบ่งปันความรู้: ชุมชนที่เกษตรกรสามารถเชื่อมต่อกับผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่และเพื่อนเกษตรกรได้อย่างเปิดเผย เพื่อแบ่งปันความรู้เชิงปฏิบัติจากประสบการณ์จริงของตนเอง ส่งเสริมการสร้างชุมชนตามพืชผล หัวข้อ และพื้นที่ของเกษตรกร เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นในชุมชนจะได้รับการรวบรวม และแบ่งปันกลับไปยังเกษตรกรในแพลตฟอร์ม รวมถึงประสบการณ์จริงจากภูมิปัญญาท้องถิ่น และข้อมูลราคา
  3. ข้อมูลเชิงลึกที่ตรงความต้องการ และสามารถนำไปใช้ได้ทันที: เนื่องจากข้อมูลการเกษตรมีความหลากหลาย Kaset Go จึงช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการ จัดลำดับ และวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดแบบเรียลไทม์ และสามารถให้ข้อมูลสำคัญกลับไปยังเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที ช่วยให้เกษตรกรติดตามแนวโน้มการเพาะปลูกและเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้ในท้องถิ่นเพียงปลายนิ้วสัมผัส เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจที่ดีขึ้นสำหรับการเกษตรของตน
  4. บริการด้านการเกษตรแบบดิจิทัล: ฟีเจอร์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มการทำงานของแพลตฟอร์ม Kaset Go ได้แก่  เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สามารถตอบสนองความต้องการของเกษตรกรได้ดีขึ้นตามสถานที่ เช่น ราคาพืชผล การพยากรณ์อากาศ คำเตือนสภาพอากาศ และ การแจ้งเตือนศัตรูพืช

ทำไมต้อง Kaset Go

ในขณะที่ภาคเกษตรกรรมมีเกษตรกรประมาณหนึ่งในสามของแรงงานในประเทศไทย แต่ส่วนแบ่งของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) อยู่ที่ร้อยละ 8 ในปี 2562 เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาด้านผลผลิตที่ต่ำ เนื่องจากการขาดเทคโนโลยีและความรู้ ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรงเกิดบ่อยขึ้น โดยคาดว่าภัยแล้งในปีนี้จะทำให้การผลิตลดลงร้อยละ 2 ตามผลการวิจัยของกสิกร

การพัฒนาแอป Kaset Go เริ่มต้นขึ้นหลังจากการศึกษาร่วมกับเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศไทยซึ่งชี้ให้เห็นปัญหาหลัก 3 ประการในภาคเกษตรกรรม ได้แก่ 1) ผลผลิตต่ำจากการขาดความรู้และเทคนิคการทำการเกษตรที่ทันสมัย 2) การขาดประสิทธิภาพในการทำการเกษตรเนื่องจากการเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีของเกษตรกร และ 3) ความสามารถในการทำกำไรต่ำ อันเป็นผลมาจากศักยภาพในการเข้าถึงตลาด และความสามารถที่จำกัดของเกษตรกรรายย่อยในห่วงโซ่คุณค่าทางการเกษตรการ และขาดความโปร่งใสในการตลาด

Kaset Go มุ่งหวังที่จะเป็นโซลูชันที่เคียงข้างเกษตรกร (Go-to solution) ที่ช่วยยกระดับความรู้ของเกษตรกรแก้ปัญหาความท้าทายและสร้างชุมชนเกษตรกรรมที่เข้มแข็งด้วยระบบดิจิทัล

Kaset Go มีให้บริการบน iOS และ Android จาก App store และ Google Play ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://kasetgo.com/  

ชมภาพยนตร์โฆษณา Kaset Go ได้ที่ https://youtu.be/E-xM58O5zls

กว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน … ชำแหละวิวัฒนาการผลิตมือถือ ในยุคที่ผู้ผลิตต้องขับเคลื่อนชิ้นส่วนทางเทคโนโลยีไปพร้อมกับความยั่งยืน และทำไมต้อง “ทิ้งให้ดี” ที่ดีแทค

รู้หรือไม่? ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ใช้งานเลขหมายโทรศัพท์มือถือมากถึง 93.7 ล้านเบอร์ และทุก ๆ ปีจะมีโทรศัพท์มือถือใหม่จำหน่ายออกสู่ตลาดปีละประมาณ 14 ล้านเครื่อง โดยสัดส่วนราว 100,000 เครื่องต่อปี เป็นส่วนของผู้ใช้มือถือครั้งแรก และอีกประมาณ 14 ล้านเครื่องต่อปี เป็นการเปลี่ยนอุปกรณ์ของผู้ใช้มือถือเดิม (Replacement) ทั้งนี้ ยอดขาย 14 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนถึง 20% ของประชากรไทยเลยทีเดียวถ้าเช่นนั้นแล้ว โทรศัพท์มือถือเก่าราว 14 ล้านเครื่องต่อปีที่ถูกทดแทนที่ขายออกไปใหม่ในทุกปีนั้นไปอยู่ที่ไหนบ้าง

ดีแทคขอเชิญชวนท่านมาร่วมสนทนากับกูรูด้านมือถือและการออกแบบกับ “ทิ้งให้ดี” โครงการที่ขอชวนผู้ใช้บริการมาร่วมจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุการใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อนร่วมโลก

นายพีระพล ฉัตรอนันทเวช หรือ ปีเตอร์กวง ผู้อำนวยการแผนกอุปกรณ์สื่อสาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือนับเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่มีการเติบโตและมียอดขายสูงมากกว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ มาก ขีดความสามารถในการใช้งานก็สูงขึ้นในทุก ๆ ปี เนื่องด้วยวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ปัจจุบันประชากรผู้ใช้โทรศัพท์มือถือคิดเป็นสัดส่วนกว่า 130% ของประชากรไทย คือมีจำนวนเลขหมายเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกใช้มากกว่าจำนวนประชากรไปแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนทำงาน นักธุรกิจที่บางคนมีโทรศัพท์มือถือใช้งานถึง 2 เครื่อง 2 เลขหมายด้วยกัน หรืออาจจะเป็น 1 เครื่อง 2 เลขหมายก็มี

แต่ในการเติบโตนั้น ก็มาพร้อมกับ “ต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อม” ที่สูงขึ้น เนื่องจากอายุการใช้งานที่ลดลงเหลือ 18-24 เดือนต่อเครื่อง ขณะที่อดีต อายุการใช้งานอยู่ที่ 24-36 เดือน ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยด้านแฟชั่นนิยมและการตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีการเปลี่ยนเครื่องใหม่เร็วกว่าสมัยก่อนมาก (รุ่นที่มีราคาสูงกว่าหมื่น) ขณะที่เซ็กเมนต์ที่มีราคาต่ำกว่าหมื่นจะมีพฤติกรรมการใช้งานที่นานกว่า เน้นอรรถประโยชน์มากกว่าความสวยงาม

ตลาดโทรศัพท์มือถือมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก มีการแข่งขันสูงมาก แต่ละแบรนด์มีการออกสินค้ารุ่นใหม่ๆ รวมกันปีละนับร้อยรุ่น ทำให้อายุของผลิตภัณฑ์ (shelf life) ของโทรศัพท์มือถือเหลืออยู่เพียง 6 เดือนจากเดิม 12 เดือน แสดงให้เห็นถึงปริมาณการบริโภคโทรศัพท์มือถือใหม่อยู่ในระดับสูง ขณะที่การจัดเก็บมือถือเก่าที่ไม่ใช้แล้วยังคงถูกตั้งคำถาม โดยเฉพาะผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม” นายพีระพล กล่าว

ชำแหละอุปกรณ์มือถือ

ปัจจุบันตลาดโทรศัพท์มือถือจะมีสินค้าใหม่ ๆ ที่ถูกนำออกสู่ตลาดปีละนับร้อยรุ่น องค์ประกอบโดยรวมของชิ้นส่วนภายในเครื่องแบ่งออกได้เป็น 4 ส่วนหลัก ได้แก่

  1. Main board หรือ PCB (Printed Circuit Board) เป็นส่วนประกอบหลักโทรศัพท์มือถือที่มีชิ้นส่วนหลักๆมากมายประกอบกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็น CPU (หน่วยประมวลผล) ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผล สั่งการ คล้ายกับ “สมอง” ของโทรศัพท์มือถือ RAM/ROM (หน่วยความจำ) เพื่อเก็บข้อมูลและเป็นพื้นที่ให้ใช้ในการร่วมประมวลผลต่าง ๆ และยังมีอีกมากมายหลายชิ้นส่วน โดยชิ้นส่วนเหล่านี้ผลิตจากแร่มีค่าหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ ทองแดง ตะกั่ว เงิน แพลเลเดียม ซิลิคอน เป็นต้น โดยแร่มีค่าเหล่านี้มีบทบาทในการสร้างเป็นชิ้นส่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ ใช้ในการเหนี่ยวนำทางเดินของวงจรไฟฟ้า และอื่นๆ ซึ่งสามารถนำไปรีไซเคิลได้หากได้รับการแยกด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง
  2. หน้าจอ (Display) เป็นส่วนที่ผู้ใช้งานสัมผัสมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมาร์ทโฟนที่กระบวนการสั่งการดำเนินผ่านหน้าจอแบบ LCD หรือแบบ OLED ทั้งนี้ จอ LCD หรือ OLED นั้นมีส่วนประกอบเป็น “ผลึกเหลว” (Liquid crystal) สลับชั้นกับแผ่นแก้ว ซึ่งผลึกเหลวที่ถูกผนึกไว้ในหน้าจอนั้นมีเคมีที่มีความเป็นพิษอยู่ด้วย ซึ่งหากไม่ได้รับการจัดเก็บที่ดี จะส่งผลกระทบต่อคนและสิ่งแวดล้อมขึ้นได้
  3. เเบตเตอรี่ (Battery) เป็นชิ้นส่วนที่ให้พลังงานไฟฟ้าแก่โทรศัพท์มือถือของเรา ซึ่งในอดีตมักมีโลหะหนักเป็นสารประกอบโดยเฉพาะนิกเกิ้ล แคดเมียมและนิกเกิ้ล เมธัลไฮด์ดราย แต่ในปัจจุบัน ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนมาให้แบตเตอรี่แบบลิเธียมอิออน (Lithium-ion) หรือ ลิเธียมโพลีเมอร์ (Lithium-Polymer) ที่เพิ่มความจุของพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม ชาร์จได้ไวขึ้น ทำให้โทรศัพท์มือถือยุคหลังมีขนาดเล็กลงเบาขึ้นและอายุการใช้งานในแต่ละครั้งนานขึ้น ด้วยวัตถุดิบเดียวกันนี้เอง ก็เป็นเหตุผลให้โทรศัพท์มือถือต้องได้รับการจัดเก็บที่ดี ไม่เช่นนั้นอาจทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง
  4. ตัวเครื่อง (Body) เป็นโครงสร้างหลัก เป็นส่วนประกอบของโทรศัพท์ที่มีดีไซน์ความหลากหลายและแตกต่างกันไปตามกลุ่มเป้าหมายของตลาด ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นที่ผลิตจากพลาสติกแบบ PC+ABS อลูมิเนียม แสตนเลสสตีล กระจก ไปจนถึงโลหะไทเทเนียม ซึ่งนอกจากให้เรื่องความทนทานแล้ว ยังช่วยเสริมในแง่ของความสวยงามและภาพลักษณ์ของผู้ใช้งาน

มาตรฐาน RoHS เช็คลิสต์ที่ควรรู้

 

นายพีระพล กล่าวเสริมว่า จากปริมาณโทรศัพท์มือถือใหม่ที่ออกสู่ตลาดปีละ 14 ล้านเครื่องในประเทศไทยและนับร้อยล้าน นับพันล้านเครื่องทั่วโลก ทำให้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือในฐานะ “ต้นทาง” ต่างให้ความสำคัญกับ “มาตรฐานทางอุตสาหกรรมต่อสิ่งแวดล้อม” มากขึ้น โดยปัจจุบัน ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือได้ยึดมาตรฐาน RoHS (Restriction of Hazardous Substances) ของสหภาพยุโรป เฉกเช่นเดียวกับโรงงานประกอบสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ว่าด้วยเรื่องการใช้สารที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหลักเกณฑ์ในการกำหนดสารประกอบเพื่อผลิตเป็นโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้ สินค้าที่จะนำไปจำหน่ายในสหภาพยุโรปจะต้องผ่านมาตรฐาน RoHS ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2549 และได้เพิ่ม 4 สารต้องห้ามในปี 2019 เป็นต้นมา โดยมีสาระสำคัญ คือ ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องผ่านตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยสารที่จำกัดปริมาณในปัจจุบัน กำหนดไว้ 10 ชนิด ดังนี้

  1. ตะกั่ว (Pb) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  2. ปรอท (Hg) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  3. แคดเมียม (Cd) ไม่เกิน 0.01% โดยน้ำหนัก
  4. เฮกซะวาเลนท์ โครเมียม (Cr-VI) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  5. โพลีโบรมิเนต ไบเฟนนิลส์ (PBB) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  6. โพลีโบรมิเนต ไดเฟนนิล อีเธอร์ (PBDE) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  7. พาทาเลต Bis(2-Ethylhexyl) phthalate (DEHP) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  8. เบนซิล บูทิล พาทาเลต (Benzyl butyl phthalate (BBP) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  9. ไดบูทิล พาทาเลต (Dibutyl phthalate (DBP) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก
  10. ดิโซบูทิล พาทาเลต (Diisobutyl phthalate (DIBP) ไม่เกิน 0.1% โดยน้ำหนัก

ทั้งนี้ สินค้าใดที่ผ่านมาตรฐาน RoHS จะมีสัญลักษณ์วงกลม ที่มีตัวอักษร Pb คาดด้วยเส้นเฉียง หรือมีการระบุคำว่า RoHS compliant หรือ Pb-Free อยู่บนสินค้านั้น ๆ

นอกจากนี้ ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเอง ก็มีความตื่นตัวต่อประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่จากแบรนด์ชั้นนำที่ผ่านมา ผู้ผลิตประกาศว่าจะไม่มีอะแดปเตอร์หัวชาร์จเจอร์ และหูฟังแบบมีสายในบรรจุภัณฑ์ใหม่ของสินค้าทุกรุ่นอีกต่อไป ซึ่งทำให้ขนาดของกล่องบรรจุภัณฑ์ก็มีขนาดเล็กลงไปโดยปริยาย ใช้กระดาษน้อยลง ขณะที่การขนส่งต่อเที่ยวสามารถมีจำนวนของสินค้าได้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมทำให้การขนส่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ในภาพใหญ่ก็อาจจะทำจำนวนเที่ยวของการขนส่งของยานพาหนะลดลงไปด้วย ก็เป็นการลดลงของแก๊ซพิษคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ที่เกิดจากขับเคลื่อนของเครื่องบินขนส่งและรถขนส่งสินค้าไปอีกทาง นอกจากนี้ทางผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ ๆ ในโลกต่างก็พร้อมใจในการสร้าง “นโยบาย” การช่วยรักษาสิ่งแลดล้อมของตัวเองขึ้นมาอีกด้วย ขณะที่ผู้ผลิตรายใหญ่อื่น ๆ ก็อาจมีแนวโน้มว่าในอนาคตอาจจะไม่ให้อะแดปเตอร์ตัวชาร์จไฟในโทรศัพท์บางรุ่นกันบ้างแล้ว

แม้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือในฐานะต้นทางของอุตสาหกรรมจะมีความพยายามในการจัดการต่อผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเพียงใด แต่ผู้บริโภคในฐานะปลายทางของ value chain ก็มีความจำเป็นในการตระหนักรู้ถึงผลกระทบหากโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้ใช้แล้วนั้น ไม่ได้รับการจัดเก็บและคัดแยก เพื่อทิ้งอย่างเหมาะสม เพราะสุดท้ายผลกระทบก็จะตกที่ผู้บริโภคเสียเอง” นายพีระพล กล่าว

OPPO มุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

นายสุทธิพงศ์ อมรประดิษฐ์กุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท ออปโป้ ไทยแลนด์ กล่าวว่า OPPO มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการพัฒนาทุกกระบวนการ เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวเครื่อง การใช้วัสดุอุปกรณ์ การออกแบบซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ ดังจะเห็นได้จากการที่ OPPO มีฐานการผลิตและทีมงานด้าน R&D ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นที่เซินเจิ้น ตงกวน เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ซิลิคอนวัลเล สหรัฐอเมริกา

เช่นเดียวกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ที่ OPPO มีนโยบายในการลดการใช้พลาสติกในกระบวนการบรรจุภัณฑ์ ซึ่งได้เริ่มนโยบายดังกล่าวในตลาดยุโรปก่อน โดยมีการเปลี่ยนถาดรองอุปกรณ์ในกล่องมือถือเป็นกระดาษ พลาสติกบรรจุห่อสายชาร์จหรือกล่องพลาสติกใส่หูฟังถูกปรับมาใช้กระดาษจากธรรมชาติ ได้แก่ เยื่อไม่ไผ่ ซึ่งสามารถรีไซเคิลและย่อยสลายได้ง่าย จากนโยบายดังกล่าว ช่วยให้ OPPO Reno4 สามารถลดการใช้พลาสติกไปได้ถึง 93% เมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์แบบเดิม

นอกจากนี้ OPPO ยังได้ใช้มาตรฐาน RoHS ในกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแร่หายาก ซึ่งทำให้ขนาดขิปเซ็ตมีขนาดเล็กลง ลดปริมาณการใช้แร่หายากในกระบวนการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น ความร่วมมือกับ MediaTek ที่สามารถผลิตชิปเซ็ตขนาด 7 นาโนเมตร ซึ่งมีการติดตั้งในรุ่น Reno4 Z ในปัจจุบัน ความร่วมมือกับ Snapdragon ซึ่งได้คิดค้นนวัตกรรมชิปเซ็ตขนาด 5 นาโนเมตรสำหรับ Snapdragon 875

นอกจากนี้ ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ Qualcomm ที่ในการเป็นพันธมิตรเพื่อพัฒนาด้านเทคโนโลยีไว้ในงาน WMC 2019 และจะมีการเปิดตัวเทคโนโลยีชิปเซ็ตล่าสุดงาน Tech Summit Digital 2020 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-2 ธันวาคม นี้ ที่เมืองซาน ดิเอโก สหรัฐอเมริกา

เราจะได้เห็นนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนต่อไปในแผนงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการควบคุมและจัดการพลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ สร้างแบบจำลองเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อยู่ในกลยุทธ์ทางธุรกิจ นำแนวคิดด้านการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาให้มากขึ้น ซึ่งนี่เป็นทิศทางของ OPPO ที่กำลังก้าวไปในอนาคตอันใกล้” นายสุทธิพงศ์ กล่าว

เทรนด์ออกแบบผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสู่ Circular Economy

นางสาวกัลยา โกวิทวิสิทธิ์ นักออกแบบผลิตภัณฑ์และผู้ร่วมก่อตั้ง Fab Cafe กล่าวว่า การออกแบบผลิตภัณฑ์มีปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้องและต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การใช้สอย (function) ความสวยงามน่าใช้ (Aesthetics) ความสะดวกสบายในการใช้ (Ergonomics) ความแข็งแรงคงทน (Construction) ราคา (Cost) กรรมวิธีการผลิต (Production) รวมถึงปัจจัยด้าน “วัสดุ” (Materials) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับปริมาณขยะบนโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ในอดีต การอออกแบบผลิตภัณฑ์มักคำนึงถึงความทนทานเป็นหลัก จึงมีการใช้วัสดุที่แข็งแกร่ง แต่อาจมีราคาแพง แต่ด้วยปัจจัยทางการตลาดที่กระตุ้นให้มีการซื้อถี่ขึ้น ปัจจัยด้านแฟชั่นนิยมของลูกค้า ทำให้เทรนด์การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพต่ำลง ทำให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้น แต่ด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของแบรนด์หันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สอดรับกับแนวคิด Circular Economy” นางสาวกัลยา กล่าว

Circular Economy คือแนวคิดของระบบเศรษฐกิจที่ต้องการหมุนเวียนเอาทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจนครบเกิดเป็นวงจร ตั้งแต่ภาคการผลิต การบริโภค ไปจนถึงการจัดการของเสียด้วยกระบวนการใช้ซ้ำ (Reuse) หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) และการผลิตใหม่ (Re-material) ตลอดจนคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นระหว่างการขนส่งสินค้า อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนของทั้งระบบเศรษฐกิจเอง การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และลดมลภาวะที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม

นางสาวกัลยา กล่าวเสริมว่า ในแง่ของการพัฒนาวัตถุดิบเองก็มีความพยายามอย่างมากในกลุ่มนักวัสดุศาสตร์ (Material scientist) เพื่อให้วัตถุดิบสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ (Self-healing) หรือในกรณีของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก็มีแนวโน้มการเลือกใช้วัสดุจาก Electronics-based material สู่ Bio-degradeble materials (สามารถสลายตัวทางชีวภาพได้) ซึ่งจะเห็นการเปลี่ยนผ่านอย่างชัดเจนในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าของสินค้ารายใหญ่จะหันมาให้ความสำคัญกับ Circular Economy มากขึ้น แต่ปัญหาสำคัญคือ ต้นทุนของวัตถุดิบที่ได้มาจากการรีไซเคิล (recycled materials) มีราคาแพงกว่าวัตถุดิบบริสุทธิ์ (Virgin materials) อยู่มาก ทำให้การปรับใช้แนวคิด Circular Economy ในทางปฏิบัติยังคงเป็นไปได้ยากในสินค้าทั่วไป

ทั้งนี้ ภาครัฐและผู้กำกับนโยบายทางสิ่งแวดล้อมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันแนวคิด Circular Economy ให้เกิดขึ้นผ่านการออกนโยบายสนับสนุน (Subsidy measures) โดยร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม นอกจากนี้ ประเด็นดังกล่าวจะต้องมองให้ครอบคลุมทั้ง value chains ของผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การออกแบบ การผลิต ตลอดจนการจัดเก็บ เพื่อนำมาเข้าสู่กระบวนจัดหาวัตถุดิบใหม่อีกครั้ง

ทิ้งให้ดี” ที่ดีแทค

นางอรอุมา ฤกษ์พัฒนาพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานสื่อสารองค์กรและการพัฒนาที่ยั่งยืน ดีแทค กล่าวว่า  โทรศัพท์มือถือล้วนประกอบไปด้วยสารประกอบทั้งที่รีไซเคิลได้และรีไซเคิลไม่ได้ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น หัวใจสำคัญของเรื่องนี้ คือ กระบวนการจัดเก็บและการคัดแยก ดีแทคในฐานะหนึ่งในซัพพลายเชนของการบริโภคโทรศัพท์มือถือ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ “ทิ้งให้ดี” ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามสู่เป้าหมาย Zero Landfills หรือลดการฝังกลบขยะให้เหลือศูนย์ ภายในปี 2565 โดยลูกค้าดีแทคสามารถทิ้งโทรศัพท์มือถือที่ไม่ใช้แล้วได้ที่จุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่ศูนย์บริการดีแทค 51 สาขาทั่วประเทศ ตามเว็บไซต์ https://dtac.co.th/sustainability/ewaste/

ดีแทคส่งเสริมให้ลูกค้าและผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกต้อง มุ่งหวังว่าจะช่วยลดปัญหาเรื่องสารเคมีปนเปื้อนที่รั่วไหลจากซากอุปกรณ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง” นางอรอุมา กล่าว

"แคทรียา อิงลิช" ป่วยซึมเศร้า 10 ปี เคยคิดสั้น ถึงขั้นเอาหัวโขกเตียงระบายอารมณ์

“แคทรียา อิงลิช” ป่วยซึมเศร้า 10 ปี เคยคิดสั้น ถึงขั้นเอาหัวโขกเตียงระบายอารมณ์

Alternative Textaccount_circle
"แคทรียา อิงลิช" ป่วยซึมเศร้า 10 ปี เคยคิดสั้น ถึงขั้นเอาหัวโขกเตียงระบายอารมณ์
"แคทรียา อิงลิช" ป่วยซึมเศร้า 10 ปี เคยคิดสั้น ถึงขั้นเอาหัวโขกเตียงระบายอารมณ์

สถิติการเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายของคนไทยทุกวันนี้ ล้วนมีสาเหตุมาจากโรคซึมเศร้าที่ติดอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ โดยจากผลสำรวจของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีคนไทยกว่า 1.5 ล้านคน ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยทำงาน และผู้หญิงยังมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าผู้ชายถึง 1.7 เท่าอีกด้วย

ซึ่งวันนี้จะนำเรื่องราวที่ต่อสู้กับโรคซึมเศร้าของนักร้องและนักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง แคทรียา อิงลิช ป่วยซึมเศร้า มากว่า 10 ปี ได้มาถ่ายทอดผ่านรายการ Z story ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี 34 ถึงอาการที่ต้องเผชิญในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และวิธีตั้งรับให้ผ่านมาได้คืออะไร

"แคทรียา อิงลิช" ป่วยซึมเศร้า

“แคทรียา อิงลิช” ป่วยซึมเศร้า 10 ปี เคยคิดสั้น ถึงขั้นเอาหัวโขกเตียงระบายอารมณ์

รู้ตัวเองได้ไงว่ามีอาการของโรคซึมเศร้า?

“ตอนแรกก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า รู้แค่ว่าเราอารมณ์แปรปรวน อารมณ์สวิง ร้องไห้ง่าย บางทีบางวันไม่ได้ร้องไห้ แต่นั่งๆ อยู่แล้วสะอื้น เคยเป็นไหมเหมือนเราอยากร้องไห้ แต่มันแน่นหน้าอกอ่ะ ไม่มีเหตุผลเลย แต่รู้แค่ว่าทำไมวันนี้เราอยากร้องไห้จังเลย อยากร้องไห้โดยไม่มีเหตุผลอะไร ในช่วงนั้นเราถ่ายละคร เป็นครั้งแรกที่เล่นละครร้าย แล้วอารมณ์ตอนนั้นวันหนึ่งเล่นประมาณ 40 ฉาก ร้องไห้พอคัทปุ๊บออกมา เติมหน้าเติมตา กลับไปเข้าฉาก ร้องไห้อีก กรี๊ดแตกในฉาก มันเหมือนกับว่าเรารับอารมณ์ของตัวเองไม่ทัน มันก็เลยสวิงไปหมด”

คิดไหมว่าเราอาจจะอินกับบทมากเกินไป กลับบ้านมาเลยตัดไม่ได้?

“รู้สึกนะ แต่พอละครจบไปแล้ว ก็ยังรู้สึกอยู่แบบนั้นอยู่ คืออยากร้องไห้ อยากกรี๊ด ใครพูดอะไรก็พูดไม่เข้าหูทุกอย่าง ทุกอย่างเป็นเนกาทีฟไปหมด มองไปแง่ร้ายไปเลยเซ้นซีทีฟในทุกๆ เรื่อง คือเพื่อนออกไปเที่ยว แล้วเห็นในโซเชียลก็ร้อง เหมือนเพื่อนออกไปเที่ยวแล้วทำไมไม่ชวน เราจะสามารถน้อยใจได้กับทุกเรื่องเลย คือเราจะคิดเล็กคิดน้อยทุกอย่างเลย สิ่งที่เราจะคิดอยู่เสมอเลยคือเราไม่สำคัญ รู้สึกงอน น้อยใจไปหมดทุกเรื่องแม้ว่าจะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ”

"แคทรียา อิงลิช" ป่วยซึมเศร้า

ดิ่งสุดขนาดไหน เคยขนาดคิดสั้นเลยไหม?

“เคยมีนะ แต่ว่าไม่ได้ทำ ยังมีสติอยู่ สิ่งที่สำคัญคือเรื่องสติ การคิดสั้นหลายๆ คนก็เป็นนะ มันจะมีวูบเดียวว่า ฉันจะอยู่ทำไม ฉันรู้สึกทุกข์ ฉันหาทางออกไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันอยู่ที่จิตใจของเรามากๆ”

อะไรที่ทำให้เราดึงตัวเองกลับมาได้?

“นึกถึงครอบครัวค่ะ คือนึกในใจว่าถ้าฉันไป คนที่จะแย่ไม่ใช่เรา เพราะเราจะไม่รับรู้อะไรแล้ว คนที่จะแย่ก็คือคุณพ่อ คุณแม่ น้องชาย ซึ่งเรารู้ว่าลึกๆ แล้วอ่ะ น้องชายพึ่งเราพอสมควร ทำด้านจิตใจและหลายๆ อย่าง ส่วนคุณแม่นึกในใจว่าคุณแม่ให้ชีวิตเราคลอดเราออกมา แล้วจะทำกับเขาแบบนี้ได้ยังไง นี้จะเป็นสิ่งที่จะทำให้ดึงตัวเองกลับมาตลอดเวลา”

"แคทรียา อิงลิช" ป่วยซึมเศร้า

มีเข้ารับการรักษาหรือปรึกษากับทางการแพทย์บ้างไหม?

“ก็มีไปหาหมอ มีให้ยามาทาน หมอช่วยได้บ้างส่วน อย่างน้อยได้มีที่ระบาย มีคนที่เราสามารถจะปรึกษาได้ คุยได้ แล้วเขาก็ชำนาญในด้านนี้อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันอยู่ที่จิตใจเราจริงๆ บางคนก็มีคนทีรู้จักและเป็นหนักมากๆ ทำร้ายตัวเองด้วย ซึ่งในขณะที่คุณทำร้ายตัวเอง คุณก็มีสตินะ แต่ควบคุมสติไม่ได้ นี่คือสิ่งที่คุณต้องควบคุมให้ได้เลยคือ สติ!! แม้ว่ามันจะยากมากๆ”

ต่อสู้กับโรคนี้มานานแค่ไหนแล้ว?

“10 ปีแล้วค่ะ คือทำงานก็ก็ต่อสู้กับโรคนี้ไปด้วยตัวเอง แต่ที่หนักสุดเลยเคยเอาหัวไปโขกเตียง เหมือนกับว่าเรารู้สึกเจ็บจากข้างใน แต่ไม่รู้จะระบายออกมายังไง หมั่นเขี้ยวตัวเอง เจ็บปวดไม่รู้จะระบายยังไง เอาหัวโขกโป้ง โอเค เจ็บดีจังเลย แต่ละคนจะมีวิธีที่ระบายออกต่างกัน ไม่ได้แนะนำว่าทุกคนต้องทำแบบนี้นะ แต่มันผ่านมาแล้ว สติคือสำคัญมาก”

"แคทรียา อิงลิช" ป่วยซึมเศร้า

เคยได้ยินว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้า ถ้าใครบอกว่า สู้ๆ นะ แบบให้กำลังใจ ไม่ไช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น?

“ไม่ช่วย มองทุกอย่างในแง่ลบ เพราะฉะนั้นการที่บอกว่าสู้ๆ นะ สู้เพื่อ สู้กับอะไร ทั้งชีวิตของฉันมันไม่มีอะไรดี สู้เพื่อ คือคนปกติอาจจะโลกสดใส คนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะไม่มองแบบนี้ ทุกอย่างไปในแง่ลบหมดเลย ถ้าอยากจะให้กำลังใจก็แค่อยู่ข้างๆ เขา ไม่ต้องพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ ให้ความสำคัญกับเขา เพราะคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเขาไม่ได้เรียกร้องความสนใจ แต่เป็นสิ่งที่เขาต้องการ!! และอย่าพยายามไปเซ้าซี่ถามเขาว่าเป็นอะไร ถ้าเขาไม่อยากพูด แค่อยู่ข้างๆ ก็พอ”

ข้อมูลจาก : คลิปรายการ Z story เพราะทุกที่มีเรื่องเม้าท์” ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.50 น. ทางอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 หรือรับชมย้อนหลัง youtube : amarintvhd


ภาพ IG : katreeya_e

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เช็คด่วน! พฤติกรรมแบบไหนเสี่ยงเป็น “โรคซึมเศร้า” เราอาจไม่รู้ตัว

แพทย์เตือน..ผู้หญิงเสี่ยง โรคอ้วน อัลไซเมอร์ ซึมเศร้า มากกว่าผู้ชายสองเท่า!!

วิธีรับมือการถูก “บูลลี่” ในสังคมที่ไม่ใช่แค่โลกไซเบอร์ แต่ทุกที่ในชีวิตประจำวัน

 

 

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta

ที่สุดของงานสาน! เบิกลิสต์ 7 รุ่น กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta ที่ควรหาซื้อ

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta
กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta

ส่งท้ายคอลเล็คชั่น Fall 2020 ด้วย กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta ที่มีมาแนะนำจัดเต็มถึง 7 รุ่น 7 ดีไซน์ด้วยกัน รับรองว่าเห็นลิสต์นี้แล้ว คนรักงานสานจะต้องหวั่นไหวแน่นอน

Bottega Veneta ส่ง 7 ไอเท็มสุดปังที่พลาดไม่ได้จากคอลเล็คชั่น Fall 2020 กระเป๋ารูปทรงอันหลากหลายที่ทาง Daniel Lee ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ได้นำเสนอ ซึ่งถือเป็นไอเท็มที่โดดเด่นประจำคอลเล็คชั่น เพื่อสร้างสรรค์นิยามความสง่างามรูปแบบใหม่ที่เหมาะสำหรับทุกโอกาสของการแต่งตัว สะท้อนสไตล์สาวก Bottega Veneta

เชื่อว่าคนที่รักในฝีมืองานสานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโบเตก้า จะต้องเก็บหนึ่งในลิสต์นี้เพื่อไปตามหามาครอบครองอย่างไม่ต้องสงสัย ที่สำคัญกระเป๋าทั้ง 7 รุ่นเคยอวดโฉมบนรันเวย์มาแล้วด้วย จะบอกว่าคอลเล็คชั่นนี้นั่งส่องเพลินๆ ยังคุ้มเลยค่ะคุณ

ที่สุดของงานสาน! เบิกลิสต์ 7 รุ่น กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta ที่ควรหาซื้อ

The Crochet Shoulder Bag

กระเป๋า Crochet Shoulder Bag โดดเด่นด้วยเทคนิคงานโครเชต์ถักมือทั้งใบด้วย Tubular Jersey มาพร้อมสายโซ่โลหะสีทองที่สามารถถอดได้ เพื่อปรับเปลี่ยนดีไซน์เป็นกระเป๋าคลัทช์ ด้านหน้าของกระเป๋าตกแต่งตัวล็อคทรงกลมแบบปุ่มกด โดยเสน่ห์ของกระเป๋า Crochet Shoulder Bag เผยให้เห็นลายถักโครเชต์ในทุกมุมมอง

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Crochet Shoulder Bag

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Crochet Shoulder Bag สีขาว

The Intrecciato Hobo Bag

กระเป๋ารุ่นฮิตเหนือกาลเวลาอย่าง กระเป๋า Intrecciato Hobo จาก Bottega Veneta ที่สร้างสรรค์ด้วยงานฝีมือมือโดยการใช้วัสดุหนังนุ่มสานผ่านเทคนิค Intrecciato Nappa การสานอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ตกแต่งด้วยซิปแบบซ่อน ซึ่งยังคงคอนเซ็ปต์ไม่มีซับใน เพื่อโชว์ลายสานทั้งในและนอกกระเป๋าให้เป็นรูปแบบเดียวกัน ทั้งนี้ยัง Intreciatto Hobo ยังคงการออกแบบให้ดูหรูหราและเหมาะสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันของคุณ

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Intrecciato Hobo Bag

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta

The Crisscross or the Fringe Crisscross

The Crisscross และ the Fringe Crisscross กระเป๋าคลัทช์ ที่ Bottega Veneta ถ่ายทอดปรัชญาความสุขในการใช้ชีวิตของชาวฝรั่งเศส หรือ Joie de Vivre (Joy of Living) ด้วยรูปทรงที่แหวกแนวจากการสานหนังสไตล์ Intrecciato ของรุ่นอื่นๆ ด้วยระยางค์เส้นหนังทิ้งตัวสวยงามราวสายน้ำที่โปรยปรายของน้ำตก โดยยังคงยึดโทนสีเรียบง่าย เช่น สีดำ สีบราวนี่ และสีพอริจ ในขณะที่รูปแบบคลาสสิกที่ไร้ระยางค์เส้นหนัง สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสำหรับผู้ที่ชื่นชอบลุคเรียบหรูและเหมาะสมกับทุกโอกาส

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Crisscross or the Fringe

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Crisscross or the Fringe สีดำ

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta

The Intrecciato Tote Bag

นับเป็นไอเท็มที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกวัน อย่างกระเป๋าโท้ท Maxi ที่ยังคงใช้เทคนิคการสานแบบ Intrecciato Nappa มาพร้อมสายสะพายยาวที่สร้างสรรค์จากวัสดุหนัง อีกทั้งยังสามารถสะพายแบบสะพายคาดอกเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย มาพร้อมกระเป๋าซิปใบเล็กด้านในที่สามารถถอดออกได้ตามโอกาสการใช้งานที่เหมาะสม

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Intrecciato Tote Bag

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta

The Intrecciato Shoulder Bag

Intrecciato Shoulder Bag กระเป๋าลายสานอันเป็นเอกลักษณ์ขนาดใหญ่ที่กำลังเป็นที่นิยมในช่วงนี้มาพร้อมสายสะพายไหล่ปรับระดับได้ โดดเด่นด้วยโลหะสีทองรูปทรงสามเหลี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยตัวกระเป๋าที่มีขนาดกว้าง ซึ่งได้ลดทอนซิปปิดกระเป๋าออก แต่ยังคงสร้างลูกเล่นด้วยการเพิ่มกระเป๋าด้านในที่สามารถถอดออกได้ ทั้งยังคงคอนเซ็ปต์โชว์ลายสานทั้งใบ ด้วยการไม่เสริมซับในกระเป๋า

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Intrecciato Shoulder Bag

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta สีขาว

The Whirl

กระเป๋าคลัทช์ที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลุคสาวโบเตก้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการสร้างสรรค์ด้านนอกกระเป๋าเป็นลายคลื่น 3 มิติ บุภายในด้วยหนัง Nappa สามารถเปิด-ปิดกระเป๋าด้วยแม่เหล็กที่ซ่อนอยู่ภายใน อีกทั้งมาพร้อมกับสีสันสดใสให้สาวๆ ได้เลือกแมตช์ ถึง 5 สี อาทิ  Butter , Lollipop , Grass , Kiwi , Egg yolk , Scarlet , Peachy

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Whirl

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Whirl สีแดง

The Clasp

กระเป๋ารูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์และดีไซน์ที่ทันสมัย คล่องแคล่วต่อการใช้งาน กระเป๋าคลัทช์สำหรับคุณผู้ชายรุ่น The Clasp จาก Bottega Veneta สานต่อการออกแบบและพัฒนารูปลักษณ์เพื่อสะท้อนความหมายที่แท้จริงของความสุขุมที่แฝงไปด้วยภูมิฐาน โดยกระเป๋าคลัทช์ รุ่น The Clasp นั้นมีวิวัฒนาการมาจากกระเป๋ารุ่น Cabat ที่ได้พัฒนารูปทรงให้สะดวกสบายต่อการใช้งานพร้อมผิวสัมผัสที่นิ่มนวลยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยลวดลายการสานหนังในแบบ Intrecciato อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ดูอ่อนโยนและมีเสน่ห์

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta The Clasp

กระเป๋าแบรนด์ Bottega Veneta


ภาพ : Bottega Veneta 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ใช้กันถล่มทลาย! กระเป๋าแบรนด์ Prada รุ่น Cleo ไอเท็มมาแรง ทำไมถึงต้องมี?

ไขข้อสงสัย กระเป๋าแบรนด์เนม Lady Dior และ Lady D-lite ต่างกันยังไง?

น่าลงทุนกว่าสีดำ! 10 กระเป๋าแบรนด์ Chanel โทนนู้ด สีชานม ที่ควรหาตำ

 

keyboard_arrow_up