'วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย' ผลงานคัมแบ็ก 'ซงจุงกิ' ในรอบ 2 ปี! 

เปิดใจ 3 ตัวละครหลัก ‘วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย’ ผลงานคัมแบ็ก ‘ซงจุงกิ’ ในรอบ 2 ปี! 

Alternative Textaccount_circle
'วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย' ผลงานคัมแบ็ก 'ซงจุงกิ' ในรอบ 2 ปี! 
'วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย' ผลงานคัมแบ็ก 'ซงจุงกิ' ในรอบ 2 ปี! 

ซีรีส์เกาหลีเดือดๆ ที่ไม่ควรพลาดในเดือนนี้ Vincenzo เรื่องราวของทนายมาเฟีย ฮีโร่สายดาร์กที่รับบทนำโดย ซงจุงกิ #สามีแห่งจักรวาล ที่เพิ่งมีผลงานภาพยนตร์ Space Sweepers กับทาง Netflix ในขณะที่ Vincenzo (วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย) เป็นซีรีส์ที่นำเสนอความแปลกใหม่ของตัวละครหลัก วินเซนโซ่ กาซาโน (รับบทโดย ซงจุงกิ) ดาร์กฮีโร่ที่เป็นทนายที่ปรึกษาให้กับมาเฟียอิตาลี ในที่สุดเขากลับมาเกาหลี ได้พบกับเพื่อนบ้านที่แปลกประหลาด และเข้าไปมีส่วนพัวพันกับการต่อสู้กับศัตรูที่น่าเกรงขาม โดยร่วมมือกับ ฮงชายอง (รับบทโดย ชอนยอบิน) พวกเขาจะลงโทษเหล่าคนชั่วแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน และทำให้เรื่องราวเดือดขึ้นไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันซีรีส์เรื่องนี้จะสอดแทรกฉากตลกๆ น่ารักๆ ให้ได้ฟินกันด้วย

ซงจุงกิ ซีรีส์เรื่องวินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย

และถือเป็นซีรีส์ต้อนรับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของซงจุงกิในรอบ 2 ปี ผลงานผู้กำกับคิมฮีวอน จาก The Crowned Clown, Money Flower ผู้เขียนบท พัคแจบอม จาก Blood, Good Manager, The Fiery Priest พร้อมนักแสดง แทคยอน ชอนยอบิน ยูแจมยอง เรื่องราวของวินเซนโซ่ กาซาโน (ซงจุงกิ) ทนายความที่ทำงานให้กับมาเฟียในอิตาลี ที่จริงๆ แล้วเป็นคนเกาหลีที่ถูกอุปการะไปตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อวินเซนโซ่พบความขัดแย้งรุนแรงในองค์กรจึงย้ายกลับมาเกาหลี และไปเกี่ยวข้องกับ ฮงชายอง (ชอนยอบิน) ทนายความสาวมือหนึ่งของบริษัทกฏหมายที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ชนะคดี พวกเขาจะสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม โดยไม่สนใจว่าจะได้มันมาด้วยวิธีไหนก็ตาม และก่อนที่จะฉายในวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ (อีกแค่ 3 วันเท่านั้น) เราไปคุยกับนักแสดงในเรื่องกันค่ะ

เปิดใจ 3 ตัวละครหลัก ‘วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย’ ผลงานคัมแบ็ก’ซงจุงกิ’ในรอบ 2 ปี!

วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย

  • คาแร็คเตอร์ในเรื่อง? คุณเป็นทนายแบบไหน?

ซงจุงกิ: จุดร่วมของเราสามคนคือ เป็นตัวละครที่ประกอบอาชีพทนาย แต่เอาจริงๆ แล้วตัวละครเราต่างกันมาก ผมเป็นมาเฟียมาจากอิตาลี เรียกว่า Consigliere ถ้าเกิดรู้สึกว่าเข้าใจยาก ให้นึกถึงภาพยนตร์ดังเรื่อง The Godfather มีตัวละครชื่อว่า ทอม เป็นทนายความที่ปรึกษา อยู่ใต้อัลปาชิโน่ คอยควบคุมการทำงาน บท วินเซนโซ่ เป็นมาเฟียอิตาลีที่มาเกาหลี ถึงแม้จะไม่มีใบประกอบอาชีพในเกาหลี แต่ก็มาช่วยจัดการเรื่องราวต่างๆ รับบทประมาณนั้นครับ

ชอนยอบิน: เป็นทนายตัวท็อปของบริษัทกฎหมายที่เกาหลี ฮงชายองไม่สนใจว่าอะไร ‘ดี’ หรือ ‘ไม่ดี’ แต่สนใจว่าทำแล้วตัวเองจะได้กำไรอะไร มองแต่ส่วนได้ส่วนเสีย เป็นคนที่วิ่งเข้าหาผลประโยชน์ของตัวเอง

อ๊กแทคยอน: จุนอูเป็นตัวละครที่ไร้เดียงสา ทำพลาดบ่อยๆ  มองแต่ชายองเสมอ เป็นตัวละครที่จะทำให้คนดูเกิดความสงสัยว่า สอบผ่านเข้ามาได้ยังไงเนี่ย เป็นทนายฝึกหัดที่น่ารักมากครับ

  • ตอนอ่านสคริปต์ครั้งแรกรู้สึกอย่างไร ทำไมถึงตกลงรับเล่นซีรีส์เรื่องนี้?

ซงจุงกิ: ซีรีส์ไม่ได้พูดถึงแค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง ไม่ว่าจะที่ไหน สังคมอะไร ประเทศใด ก็มีคนชั่วอยู่เสมอ ล่าสุดนี้เวลาดูข่าวที่เกาหลี ก็มีหลายเรื่องที่เห็นแล้วผมโกรธจนน้ำตาจะไหล ในซีรีส์เรื่อง Vincenzo มีตัวร้ายอยู่เยอะมาก ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นตัวร้ายที่มีอยู่จริงในโลกของเรา ซีรีส์มีวิธีการจัดการกับคนชั่วเหล่านั้นแบบแปลกใหม่ ทำให้รู้สึกโล่งใจ ทำให้มีความรู้สึกร่วมไปกับละครได้

ชอนยอบิน: ทุกตอนของซีรีส์ไม่สามารถคาดเดาได้ ดำเนินเรื่องไปแบบรวดเร็วและมีรายละเอียดเยอะ เลยรู้สึกว่าอยากร่วมงานนี้ ตัวละครแต่ละตัวในคดีเต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่ในบรรดาตัวละครเหล่านั้น ฮงชายองเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก รู้สึกทันทีเลยว่าอยากแสดงให้ได้ เป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นสัมผัสได้จากตัวบท นอกจากนี้ละครของเรายังเป็นละครที่ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ระหว่างความเยือกเย็นและความร้อนผ่าว สลับกันไปมา เป็นเสน่ห์ของละครเรื่องนี้

อ๊กแทคยอน: ตอนได้อ่านบท มีสองสิ่งที่ดึงดูดผม อย่างแรกคือ สตอรี่ไลน์ของบทและคำอธิบายที่อยู่ในนั้น ถูกเขียนออกมาอย่างดีมาก พอผมอ่านบทปุ๊บก็สามารถวาดภาพในหัวได้ปั๊บเลย สามารถเข้าใจสิ่งที่นักเขียนอยากจะสื่อออกมาได้ทันที เป็นบทที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นจริงได้ อีกอย่างคือ ตัวละครจุนอู เป็นตัวละครที่จะได้เห็นการเติบโต เริ่มจากการที่คอยมองแต่ชายอง จะทำให้เกิดความสงสัยว่าจุนอูจะพัฒนาต่อไปยังไงบ้าง ก็เลยตัดสินใจรับบทนี้ครับ

  • ความประทับใจแรกต่อนักแสดงท่านอื่นๆ เป็นอย่างไรบ้าง? และมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อได้ทำงานร่วมกัน?

ซงจุงกิ: ผมได้เจอกับทั้งคุณชอนยอบินและคุณแทคยอนเป็นครั้งแรกเลย ตอนได้ยินครั้งแรกว่าจะได้ร่วมงานกัน ผมได้เจอกับตัวละครผ่านจากในบทมาหมดแล้ว เลยรู้สึกว่าจับคู่ตัวละครกับนักแสดงได้ดีมาก เหมาะกับทั้งสองท่าน พอได้เจอตัวจริงครั้งแรก รู้สึกอุ่นใจ ตอนนั้นเจอกันที่มีตติ้งรวมกับสต๊าฟ รู้สึกมั่นใจขึ้นมาเลยว่าถ่ายทำละครกับสองคนนี้จะต้องสนุกแล้วก็มีกำลังใจมาก แน่นอนว่าถ้าเริ่มถ่ายเมื่อไหร่ ก็จะต้องมีความยากลำบากเกิดขึ้น แต่สองคนนี้จะช่วยทำให้ถ่ายได้อย่างสนุกและมีกำลังอย่างแน่นอนครับ

ชอนยอบิน: เท่าที่รู้ ฉันถูกแคสเป็นคนแรกในเรื่อง Vincenzo ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะมีรุ่นพี่ซงจุงกิและอ๊กแทคยอนร่วมด้วย ก็รอคอยมาตลอดว่าจะเป็นใคร พอได้ยินข่าวก็ดีใจมากๆ สำหรับรุ่นพี่แทคยอนเราเคยเจอกันนิดหนึ่งในละครเรื่อง Save Me ส่วนรุ่นพี่จุงกิ เป็นนักแสดงที่ฉันชอบที่สุดตอนสมัยเรียน เลยตื่นเต้นมาก รอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกัน พอได้มาเจอและร่วมงานกันรู้สึกว่ารุ่นพี่จุงกิเป็นคนที่ละเอียดมาก ได้เรียนรู้จากเขาเยอะมากทั้งในตอนนี้และตอนที่อยู่ในกองด้วย รู้สึกขอบคุณมากค่ะ ส่วนรุ่นพี่แทคยอน เราเข้ากันได้ดีมากตั้งแต่การถ่ายทำครั้งแรก จนสงสัยว่าได้รับพลังที่ดีและเข้ากันขนาดนี้ได้ยังไงนะ รู้สึกขอบคุณและถ่ายทำอย่างสนุกมาก

อ๊กแทคยอน: ผมก็เช่นกันครับ ตอนนี้เราก็กำลังถ่ายทำการอยู่ แต่ถ้าย้อนกลับไปครั้งแรกที่ได้เจอกัน รุ่นพี่จุงกิ เขาเป็น วินเซนโซ่ เรียบร้อยแล้วครับ มีทั้งความละเอียด ความเพอร์เฟ็คของ วินเซนโซ่ เห็นแล้วรู้สึกอิจฉาเลย เตรียมตัวมาไว้อย่างดีแล้ว ตอนที่เจอกันครั้งแรกและอ่านบทด้วยกัน จะมีความเป็นคอมมิกอยู่ในบท พอรุ่นพี่จุงกิพูดแค่คำเดียว คนในห้องก็ขำกันใหญ่เลย เห็นแล้วก็รู้สึกว่า ว้าว เขาเพอร์เฟ็คมากจริงๆ เป็นคนที่ทำให้คนรู้สึกอิจฉา ส่วนชอนยอบิน ปกติคนส่วนมากจะรู้สึกกังวลการถ่ายซีนแรก ถ่ายทำครั้งแรก แต่ว่าขนาดซีนแรกก็ไฟลุกเลย มุ่งมั่นมาก ผมตกใจเลยครับ ตอนถ่ายครั้งแรกเป็นฉากที่ยอบินลงไปนอนราบกับโต๊ะ รู้สึกว่าตัวละครกับบทละครเข้าไปซึมซับในตัวเขาเรียบร้อยแล้ว แล้วก็เคยเจอกันก่อนเรื่องนี้ด้วย ได้ซ้อมด้วยกันสองสามรอบ ผมรู้สึกว่าเขาเหมือนฟองน้ำ ซึมซับทุกอย่างแล้วปรับมาเป็นของตัวเอง และแสดงออกมาได้เท่มากครับ

  • ตัวละครของ ฮงชายอง รู้สึกอย่างไรเมื่อตัวละครหญิงที่คุณเล่นเป็นคนเย็นชาและพูดจาตรงไปตรงมา คิดว่าตัวละครของคุณจะเป็น ‘girl crush’ คนถัดไปของละครเกาหลีได้ไหม?

ชอนยอบิน: ฮงชายองเนี่ยน่าจะเป็นแค่ ‘crush’ เฉยๆ เลย ไม่เกี่ยวกับเพศ เป็นคนที่ซื่อสัตย์กับความต้องการของตัวเอง จนบางทีถ้ามองในมุมของศีลธรรม ภาพชายองที่ไม่รู้สึกอายอะไรเลย อาจจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ในกระบวนการที่ชายองวิ่งเข้าหาความปรารถนาของตัวเองก็เป็นอะไรที่สนุก ความตรงไปตรงมาของชายองที่ต่างจากตัวฉัน ชอนยอบินที่ตรงไปตรงมาน้อยกว่าเธอ ก็สนุกด้วย รู้สึกว่าเป็นความสนุกที่ท้าทาย ในส่วนของ ‘Girl Crush’ ชายองเป็นผู้หญิงแบบที่คุณจะไม่เคยได้พบมาก่อน หวังว่าจะรอชมกันค่ะ เป็นตัวละครที่คุ้มค่ากับการชมแน่นอน

  • ทั้ง 3 คน รับบทเป็นทนายความ มีทำการบ้านเพิ่มเติมอะไรบ้างหรือไม่

ซงจุงกิ: ผมพยายามจะนำเสนอความรู้สึกที่อยู่ในตัวละครออกมามากกว่า ผู้ชายที่เกิดและอาศัยในอิตาลีมาตลอดชีวิต กลับมาเกาหลีประเทศของแม่เขา เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย ความเหงาและความเปล่าเปลี่ยวในตัวเขา และความแตกต่างของตัวเขากับสิ่งที่เกิดขึ้นในโซล ผมก็เลยพยายามจะเข้าถึงความรู้สึกของเขามากกว่าจะโฟกัสที่อาชีพทนาย

ชอนยอบิน: ฮงชายองเป็นทนายที่หมกมุ่นกับการเอาชนะ สำหรับฉันแล้วคำขยายของตัวละครนี้ที่ว่า ‘หมกมุ่นกับการเอาชนะ’ สำคัญกับฉันมากกว่าจุดที่ว่าเธอเป็นทนาย ทำไมคนถึงอธิบายถึงเธอแบบนั้น เอาจริงๆ แล้วเป็นจุดที่ต่างกับตัวฉันค่อนข้างมาก ฉันไม่ค่อยชอบการแข่งขันเท่าไหร่ อยากจะเจอกันที่เส้นตรงกลางมากกว่า รอบนี้เธอชนะ รอบหน้าฉันชนะแล้วกัน เป็นคนที่ต่างกับฉันมาก เลยอยากหาตัวตนของเธอ การพูดเร็วๆ ท่าทางของเธอ ว่าโดยละเอียดแล้วมันเป็นยังไง แล้วลักษณะเหล่านั้น ความรวดเร็วในตัวของเธอมันมาจากอะไร โฟกัสตรงนั้นและสร้างตัวละครขึ้นมา

อ๊กแทคยอน: ในฐานะทนายฝึกหัด ผมไม่ได้เตรียมอะไรเลยครับ จุนอูเป็นทนายฝึกหัดก็จริง แต่ตามในบทแล้ว เขาไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลยครับ ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าตัวผมอ๊กแทคยอนน่าจะรู้อะไรเยอะกว่าจุนอูด้วยซ้ำ

  • การได้รับบทเป็นคนอิตาเลียน ในซีรีส์ต้องพูดภาษาอิตาลีบ้างไหม? ถ้าใช่, ต้องเรียนภาษาอิตาลีสำหรับถ่ายทำเรื่องนี้เลยไหม หรือว่าพอจะพูดได้บ้างมาก่อน?

ซงจุงกิ: มีฉากที่ต้องพูดอิตาเลียนเยอะมากครับ มีแบ็คกราวฉากหลังเป็นอิตาลีด้วย ผู้กำกับและนักเขียนพยายามใส่องค์ประกอบต่างๆ ที่ทำให้เห็นความแตกต่างของวินเซนโซ่และความเป็นเกาหลีจ๋าๆ ด้วย พยายามใส่จุดเด่นของอิตาลีเข้าไป ซึ่งส่วนที่เด่นที่สุดก็น่าจะเป็นภาษา ผมตั้งใจเรียนภาษากับคุณครูอิตาเลียนโดยเฉพาะ

  • หลังจากการรับบทบาทในหนังและซีรีส์แนวแอ็คชั่นกับแฟนตาซีมาหลายเรื่อง อย่าง Space Sweepers, The Battleship Island และ Arthdal Chronicle รู้สึกอย่างได้บ้าง ที่ได้กลับมาสวมสูทอีกครั้งในซีรีส์เรื่องนี้?

ซงจุงกิ: ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เท่าไหร่ครับ เวลาที่เลือกเล่นเรื่องไหน ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกหรือวิชวลเท่าไหร่ แต่แฟนๆ หรือคนดูอาจจะสังเกตเห็นได้ชัดกว่า แต่สำหรับผมๆ ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ครับ พอได้ฟังคำถามแล้วก็รู้สึกว่ามีส่วนที่คล้ายกันตรงที่อย่าง Arthdal Chronicle กับ Space Sweepers เป็นแฟนตาซีที่ไม่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ชอบเป็นพิเศษถึงเลือกมา แต่พอได้คำถามนี้แล้วก็รู้สึกว่าบริบทมันคล้ายกัน Vincenzo ก็เหมือนกัน ในมุมหนึ่งอาจจะมองได้ว่าเป็นละครที่อิงตามความจริงวิจารณ์สังคม แต่ในอีกมุมนึงผมคิดว่า Vincenzo ก็เป็นแฟนตาซีเหมือนกัน เป็นอะไรที่ไม่ค่อยเห็นในชีวิตจริง บางทีก็อยากทำอะไรแบบที่ วินเซนโซ่ ทำ เวลาเห็นอะไรที่ผิด ก็อยากจะชี้ออกไปเลย แต่ก็ไม่กล้าพอ ลังเล เป็นแฟนตาซีที่รวบรวมความต้องการที่จะให้มีใครสักคนมาทำเรื่องพวกนี้แทน ถ้ามองในมุมนั้นก็มีความคล้ายกันกับเรื่องก่อนๆ ที่ผมเล่นมา พอได้คำถามที่ก็เลยเพิ่งจะได้รู้สึกว่า นี่น่าจะเป็นแนวที่ผมชอบ

  • ผู้หญิงมักจะอยากเป็น “ผู้หญิงของเจมส์บอนด์” แต่ทำไมบทบาทของคุณถึงอยากจะเป็น “เจมส์บอนด์ของฮงชายอง” ช่วยบอกใบ้ให้พวกเราพอจะได้ไหม?

อ๊กแทคยอน: มีพาร์ทที่จุนอูบอกว่าอยากจะเป็นเจมส์บอนด์ให้กับชาฮยอง จุนอูเป็นคนที่รักสนุก ชอบไล่ล่าสิ่งที่ตัวเองต้องการ สิ่งหนึ่งที่จุนอูต้องการก็คืออยากจะให้รุ่นพี่คนนี้เรียกหาตัวเองเวลาที่เธอต้องการอะไร ถ้าเธอเหนื่อยลำบาก ฉันสามารถเป็นทุกอย่างให้ได้แม้กระทั่งสปาย อยากให้เธอพึ่งพาฉัน ช่วยรอดูด้วยนะครับว่าผมจะได้เป็นเจมส์บอนด์ไหม

  • ทราบมาว่า เเทคยอนตัดสินใจเลือกทรงผมใหม่ เพื่อให้เข้ากับบทบาท จางจุนอู เพราะอะไรถึงตัดสินใจเลือกทรงนี้ เเละเข้ากับบทบาท จางจุนอู อย่างไร

อ๊กแทคยอน: ตอนได้รับบทจุนอูครั้งแรก ผมรู้สึกว่าเขาน่าจะเป็นคนต๊องๆ บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ตอนที่ต้องเลือกทรงผม ผมได้ทรงเดียวกับที่ทำอยู่ตอนนี้ ออกแนวเนี้ยบๆ ซึ่งมันก็เหมาะกับอาชีพทนาย แต่ถ้าจะแสดงภาพของจุนอู ผมว่าต้องนุ่มนิ่มมากกว่าเนี้ยบ ต้องดูไร้สติ วุ่นวาย ก็เลยเลือกดัดผม กลายเป็นสุนัขตัวโตเลยครับ

ชอนยอบิน: ทำไมไม่บอกว่าเป็นพุดเดิ้ลล่ะ

อ๊กแทคยอน:  กลายเป็นพุดเดิ้ลตัวโตครับ

  • ด้านไหนของซงจุงกิใน Vincenzo ที่พวกเราคาดหวังได้ว่า คุณไม่เคยแสดงให้เห็นในผลงานเรื่องอื่นๆ มาก่อน

ซงจุงกิ: ในส่วนของตัวละคร ผมคิดว่าไม่ต้องพยายามมองหาภาพใหม่ๆ จากผมก็ได้ครับ ที่พูดแบบนี้หมายความว่า ที่ผ่านมาผมดึงการแสดงทั้งหมดออกมาจากในตัวผม เพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วมันก็คือตัวผมนั่นแหละครับ แต่ในส่วนของประเภทซีรีส์จะสัมผัสได้ถึงความแปลกใหม่แน่นอนครับ เป็ซีรีส์ที่มีความยูนิคพิเศษ นำประเด็นที่ดาร์กออกมาแสดงแบบสดใสและแปลกใหม่ คิดว่าให้ตั้งตารอจุดนั้นดีกว่า

  • ทำไมควรจะติดตามชม Vincenzo ทันทีที่เริ่มฉาย? อะไรคือเสน่ห์ ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ ที่ทำให้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ

อ๊กแทคยอน: เพราะผมแสดงครับ ล้อเล่นครับ มีนักแสดงยอดเยี่ยมหลายท่าน เรื่องราวก็สุดยอด ผู้กำกับก็เยี่ยม มีหลายๆ ท่านที่ช่วยพยายามทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ออกมายอดเยี่ยม ส่วนตัวรู้สึกว่าเหตุผลที่ต้องดูคือ คลิฟแฮงเกอร์ ในทุกอีพี ตอนจบที่ทำให้อยากรู้ตอนต่อไป จะเกิดอะไรขึ้น เชื่อมต่อกันยังไง ฝากช่วยดูกันด้วยครับ

ชอนยอบิน: ก่อนอื่นก็เพราะฉันแสดงค่ะ (หัวเราะ) สิ่งที่รู้สึกจากตอนอ่านบทคือ ทุกตอนเหมือนโชว์ดอกไม้ไฟเลยค่ะ แต่ละตอนรู้สึกเหมือนมีคนจัดงานเทศกาลที่สนามและฉันได้รับเชิญไป เขาจัดงานขนาดนี้แล้ว คนที่ไม่มานี่น่าเสียดายนะ อยากให้ทุกคนมาสนุกด้วยกันค่ะ

ซงจุงกิ: เป็นละครคอมเมดี้ที่ไม่ได้เห็นกันมานานครับ ในช่วงที่ไม่มีเรื่องให้เราหัวเราะกันได้เท่าไหร่ อยากให้เป็นสุดสัปดาห์ที่ทำให้ทุกคนหัวเราะ สนุกสนานไปกับครอบครัวได้ ดูแล้วไม่รู้สึกว่าหนักไป ผมจึงอยากแนะนำละครเรื่อง Vincenzo ครับ

Vincenzo จะออกอากาศอีพีแรก วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ และจะออกอากาศทุกๆ คืนวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 21.00 น. ทาง Netflix 

 

 

 

Praew Recommend

keyboard_arrow_up