เคนดัลล์-ไคลีย์ เจนเนอร์ สองพี่น้องต่างไซส์ สูงยาว ปะทะ อวบอึ๋ม

เคนดัลล์-ไคลีย์ เจนเนอร์ สองพี่น้องต่างไซส์ สูงยาว ปะทะ อวบอึ๋ม

เรียกได้ว่าทั้งสวย แล้วก็โด่งดังกันทั้งบ้านจริงๆ ตระกูลนี้ โดยเฉพาะสองสาวสายเลือดใหม่อย่าง เคนดัลล์ เจนเนอร์ (Kendall Jenner) และ ไคลีย์ เจนเนอร์ (Kylie Jenner) ลูกสาวของ บรูซ เจนเนอร์ คู่พี่น้องที่มาแรงแซงทุกโค้ง ไม่ว่าจะเป็นงานไหน เวทีอะไรต้องเชิญพวกเธอไปทุกงาน เพราะนอกจากพวกเธอจะมาจากตระกูลที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียงกันแล้ว ความสวยของพวกเธอก็ไม่เป็นรองใคร แถมยังสวยกันคนละแบบคนละสไตล์อีกด้วย

เคนดัลล์-ไคลีย์ เจนเนอร์
ถึง Kendall Jenner จะหน้าอกเล็กกว่าน้องสาว (มาก) แต่ตอนนี้ก็มีข่าวว่าเธอไปเสริมหน้าอกมาแล้วนะ
เคนดัลล์-ไคลีย์ เจนเนอร์
หนุ่มๆ ชอบแบบไหนกันนะ หุ่นนางแบบหรือหุ่นเซ็กซี่ดีเอ่ย?

มาเริ่มกันที่คนพี่อย่าง เคนดัลล์ เจนเนอร์ ใครก็รู้ว่าตอนนี้เธอฮอตสุดๆ ไปเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นวงการนางแบบหรือในหมู่วัยรุ่นก็ยกให้เธอเป็นไอดอลกันทั้งนั้น เพราะเคนดัลล์เธอมีหุ่นที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันนั่นก็คือ สูง ยาว เข่าดี ไม่ว่าเธอจะใส่ชุดอะไรก็ดูสวยไปซะหมด และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่า ทำไมเธอถึงเป็นนางแบบที่กำลังเป็นที่จับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในขณะนี้

เคนดัลล์-ไคลีย์ เจนเนอร์
ตอนเด็กๆ Kylie Jenner หุ่นของเธอจะเนื้อนมไข่กว่านี้ ค่อนข้างอ้วนเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ถึงจะไม่ได้ผอมบางแต่ก็ดูมีน้ำมีนวลแบบนี้แหละฝรั่งชอบ
เคนดัลล์-ไคลีย์ เจนเนอร์
พวกเธอสวยกันคนละแบบจริงๆ คนพี่จะสวยหวานถึงแม้ว่าบางครั้งเธอจะแต่งตัวเซ็กซี่แล้วก็ตาม คนน้องก็เหมือนกัน คนอะไรไม่ว่าเธอจะใส่ชุดไหน โพสท่ายังไงก็ดูเซ็กซี่ไปหมด

ส่วนไคลีย์ เจนเนอร์ น้องสาวคนสวยที่ความฮอตก็ไม่แพ้พี่สาวเหมือนกัน ถึงแม้ว่าไคลีย์จะไม่ได้ผอมบางสูงยาวเท่าพี่สาว แต่หุ่นของเธอก็เป็นที่ดึงดูดสายตาใครๆ ได้ไม่แพ้กัน เพราะถ้าสองคนนี้มายืนเทียบกันจะเห็นเลยว่าไคลีย์อวบอึ๋มกว่า ทั้งหน้าอกทั้งสะโพกอยู่ในระดับเซ็กซี่มากทีเดียว

เคนดัลล์-ไคลีย์ เจนเนอร์
โอ๊ยยยย น่ารักทั้งคู่ หนักใจจริงๆ เลือกไม่ถูกขอรักทั้งสองคนเลยละกัน
เคนดัลล์-ไคลีย์ เจนเนอร์
ถึงแม้ว่าบ้านเราจะชอบผู้หญิงหุ่นบางๆ ร่างเล็ก แบบ Kendall Jenner แต่ในต่างประเทศหรือฝรั่งเขาชอบอวบๆ แบบ Kylie Jenner กันนะ เพราะฉะนั้นผู้หญิงผอมไม่ได้หมายความว่าสวย ผู้หญิงอวบ (อ้วน) ก็ไม่ได้หมายความว่าหุ่นไม่ดี ของแบบนี้มันอยู่ที่รสนิยมล้วนๆ

ซึ่งนั่นก็เป็นข้อดีที่พวกเธอทั้งสองคนเลือกที่จะแสดงความเป็นตัวเองออกมาอย่างแตกต่างกัน โดยไม่มีใครรู้สึกว่าด้อยกว่าใครเรียกได้ว่าเป็นคู่พี่น้องที่สวยกันคนละแบบคนละสไตล์ขนานแท้ แล้วเพื่อนๆ ล่ะชอบแบบไหนมากกว่ากัน สูงยาวหุ่นนางแบบหรืออวบอึ๋ม เซ็กซี่ขยี้ใจ

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : www.gettyimages.com

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

PRAEW SELECTED : แจกรางวัลสัปดาห์ที่ 42

คำถาม : คุณคิดว่าดาราสาวคนไหนแต่งสไตล์โบฮีเมียนได้น่ารักโดยใจที่สุด?

กติการ่วมสนุก

1. ตอบคำถามข้างต้นลงในหน้ากิจกรรมนี้เท่านั้น โดยพิมพ์คำตอบว่า

“ ร่วมกิจกรรม Praew Selected ลุ้นรับเครื่องสำอางจาก FLORMAR’S / ดาราที่แต่งสไตล์โบฮีเมียนได้โดนใจคือ….. พร้อมHashtag #Praewselected #แพรวดอทคอม ”

2. กดไลค์และแชร์ภาพกิจกรรมนี้ไปยังFacebook ของคุณ โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะ

3. กดไลค์เพจ praewmagazine ที่ https://www.facebook.com/praewmagazine

ผู้ที่ทำถูกต้องตามกติการายชื่อทั้งหมดจะนำมาคัดเลือกเพื่อหาผู้โชคดีที่ เพื่อรับของรางวัล

Gift set เครื่องสำอางคอลเลกชั่น “Bohemian Dream Collection” จาก FLORMAR’S มูลค่าชุดละ 2,920 บาท (7 ชิ้น) ประกอบด้วย

1. Puffy Eyeshadow 1 ชิ้น
2. Puffy Blush 1 ชิ้น
3. Color Liner 1 ชิ้น
4. Extra Color Lip Lacquer 2 ชิ้น
5. Triple Action Mascara 1 ชิ้น
6. DUO SHIMMERING & BODY LOTION 1 ชิ้น

จำนวน 5 ชุด รวมมูลค่าการสนับสนุน 14,600 บาท
หมดเขตร่วมสนุกวันที่ 27 กันยายน 2558 ประกาศชื่อผู้โชคดีวันที่ 28 กันยายน 2558

รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

1-1

  • Puffy Eyeshadow (ฟลอร์มาร์ พัฟฟี่อายแชโดว์) และ Puffy Blush (ฟลอร์มาร์ พัฟฟี่บลัช)  สู่ขั้นกว่าของอายแชร์โดว์และบลัชออนเนื้อครีมฟู ให้สัมผัสนุ่มดุจขนมหวานแมชเมลโล่ (Marshmallow) ทาง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสโดยไม่ต้องใช้แปรง เนื้อ Silky Pigment ช่วยให้เปลือกตาสว่าง สวยโดดเด่นจาก 8 เฉดสีคลาสสิค และพวกแก้มสีสว่างนุ่มสวยด้วยบลัชออน 4 เฉดสี ไม่ว่าจะในสีโทนพีชหรือชมพู รับรองว่าจะเป็นอีก Item ที่สาวๆหลงรักอย่างแน่นอน

2-2

  • Color Liner (ฟลอร์มาร์ คัลเลอร์ไลน์เนอร์) อายไลเนอร์หลากสีเนื้อเจลน้ำบางเบา เขียนง่าย สีสว่างชัดติดทน สร้างมิติให้ดวงตาคู่สวย ดูโดดเด่นหรูหรา ไม่ซ้ำแบบใคร

3-3

  • Extra Color Lip Lacquer (ฟลอร์มาร์ เอ็กซ์ตร้า คัลเลอร์ลิปแลคเกอร์) นวัตกรรมใหม่ในลิปสติกเนื้อครีมฟลูอิดแลคเกอร์เฉดสีใหม่ อุดมด้วยน้ำมันบำรุงหลากชนิด อาทิ Baobab Oil ให้เนื้อสีที่เงางามติดทนพิเศษ, Coconut Oil และ Mango Oil เข้าเคลือบและบำรุงให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้น

4-4

  • Triple Action Mascara (ฟลอร์มาร์ ทริปเพิ้ล แอคชั่น มาสคาร่า) เด็ดสุดๆกับสุดยอดนวัตกรรมใหม่ในมาสคาร่า หัวแปรงซิลิโคนบรัชปรับได้ 3 ระดับ สู่ขนตายาว งอนและหนาได้ใน 1 เดียว มาสคาร่าที่ออกแบบมาเพื่อการปัดขนตาทุกๆ รูปแบบได้อย่างน่าประทับใจ ขนแปรงชนิดพิเศษผสมผสานกับเนื้อมาสค่าร่าสูตรพิเศษของฟลอร์มาร์ อุดมด้วย Argan OIl และ OlIve OIl บำรุงขนตาและกระตุ้นให้รากขนตาให้ยาวและแข็งแรง หัวแปรงซิลิโคนช่วยเพื่มประสิทธิภาพต่อขนตาให้ยาว ยกขนตาให้งอนงามขึ้นพร้อมเพิ่มความหนาให้ขนตาได้เป็นอย่างดี และการหมุนของขนแปรงแต่ละระดับ จะช่วยกระจายขนตาไม่ให้จับตากันเป็นก้อน ขนตาจึงเรียงเส้นสวยยาวนานตลอดวัน

5-5

  •  DUO SHIMMERING & BODY LOTION (ฟลอร์มาร์ดูโอ ชิมเมอร์ริ่ง แอนด์ บอดี้โลชั่น) เพิ่มความงดงามเปล่งประกายให้ผิวกาย ด้วยผลิตภัณฑ์สุดพิเศษแบบ 2 อิน 1 ผสมผสานกันระหว่างชิมเมอร์เจลกับบอดี้โลชั่น ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและเพิ่มประกายสีทองระยิบระยับทั่วเรือนร่าง พร้อมกลิ่นหอมจากดอกกุหลาบ ไม้หอม ผสมผสานกับกลิ่นลูกแพร์และดอกแมกโนเลีย

หล่อบาดใจสาวหมวย ‘ป้อง ณวัฒน์’ ถึงกับช็อค! อยู่จีนมา 4 เดือน เจอดีเข้าจนได้!

Screen Shot 2015-09-20 at 11.51.42 PM copy Screen Shot 2015-09-20 at 11.58.41 PM copyScreen Shot 2015-09-21 at 12.10.06 AM copy “ปกติที่ผ่านมาทางจีนจะซื้อละครที่ผมเคยเล่นไปแปลเป็นภาษาจีนอีกที แต่นี่นับเป็นครั้งแรกที่ผมได้เล่นละครโปรดักซั่นจีนทั้งหมด ก่อนไปก็ได้เรียนภาษาจีนมา 2 เดือน จริงๆ ไม่ค่อยได้อะไรมาก เพราะเราไม่ได้ใช้ ช่วงแรกๆ ที่ไปถึงจึงต้องปรับตัวเยอะ ยิ่งตอนเข้าบทเราฟังนักแสดงคนอื่นไม่ออกก็ต้องพยายามเดาใจกันว่าจะพูดจบประโยคหรือยัง พูดถึงไหนแล้ว ยิ่งถ้าฉากไหนมีนักแสดงเข้าเยอะผมต้องจำถึงขั้นว่าใครพูดกี่ประโยคบ้าง แต่พอใช้ชีวิตอยู่ที่โน่น ได้ฝึกใช้ภาษาจีนในชีวิตประจำวันสะกพักก็เริ่มพูดได้ ฟังออกมากขึ้น เวลาเข้าฉากก็เริ่มรู้แล้วว่าควรจะพูดตอนไหนScreen Shot 2015-09-20 at 11.49.03 PM copyScreen Shot 2015-09-20 at 11.52.27 PM copyScreen Shot 2015-09-20 at 11.52.43 PM copyScreen Shot 2015-09-21 at 12.09.32 AM copy“ส่วนบรรยากาศในกองก็คล้ายๆ กับกองละครที่เมืองไทยเลยครับ ทีมงานกับนักแสดงต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ใครซื้อของกินอะไรก็จะมาแชร์กัน วันหนึ่งมีคนซื้อซุปมาให้ ทีมงานก็ตักใส่ถ้วยเล็กแบ่งมาให้ผมกิน ตอนกินก็อร่อยดีนะ แต่พอเดินไปดูที่หม้อเห็นเป็นกระดองเต่า โอ้… ช็อคมาก (หัวเราะ) เขาก็งงว่าแปลกตรงไหน เพราะบ้านเขามองว่าเต่าเหมือนเป็นปลาชนิดหนึ่ง เราก็พยายามอธิบายไปว่าคนไทยไม่กิน หลังๆ เวลาจะกินอะไรเลยต้องดูดีๆ ครับScreen Shot 2015-09-20 at 11.59.10 PM copyScreen Shot 2015-09-20 at 11.48.40 PM copy“ผมเป็นคนชอบเที่ยวชอบเดินทางอยู่แล้ว พอได้มาเจออะไรแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่แปลกใหม่ดี ช่วงที่อยู่จีน ผมพักโรงแรมในเมืองซูโจ ถ้าวันไหนว่างก็ออกไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้เพราะอยู่ใกล้ๆ กัน ด้านแฟนคลับที่โน่นก็ดีใจที่เรามา แรกๆ มีส่งอาหารไทยมาให้กิน เพราะกลัวผมกินอาหารจีนไม่ได้ บางคนซื้อจักรยานมาให้ เพราะรู้ว่าผมชอบปั่นจักรยาน แล้วคงกลัวผมเบื่อ มีถึงขนาดเอาคูปองซักผ้าของโรงแรมมาให้ด้วย

“เป็นการดูแลในมุมที่น่ารักๆ ที่ผมประทับใจมากครับ”

เรื่อง : apinya
ภาพ : pongnawat

BIFF&BIL 2016 ปรับโฉมใหม่ส่ง Viral Video “ค้นหา ค้นพบ” เชื่อมั่นศักยภาพวงการแฟชั่นไทย

BIFF&BIL 2016 ปรับโฉมใหม่ส่ง Viral Video “ค้นหา ค้นพบ” เชื่อมั่นศักยภาพวงการแฟชั่นไทย

image001

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  นำเสนอเรื่องราวดีๆผ่าน viral video “ค้นหา ค้นพบ”  ให้ทุกคนได้มีโอกาสเห็นว่า ดีไซน์เนอร์ไทยมีดีไม่แพ้ใครในวงการแฟชั่นระดับโลก ช่วยเป็นแรงสนับสนุน ชูศักยภาพสินค้าไทยออกสู่ตลาดโลก เป็นตัวเปิดของงาน BIFF&BIL 2016  ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที 9 – 13 เดือนมีนาคม 2559  ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

1 2 3 4

 

ปรนนิบัติผิวหน้าให้ชุ่มชื่นสุดๆ ดุจดอกไม้แรกแย้ม เบิร์ตส์ บีส์ อินเทนส์ ไฮเดรชั่น นอริชชิ่ง เฟเชียล วอเตอร์

IHNW_printAD_0626

เบิร์ตส์ บีส์ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเพื่อการบำรุงผิวอันดับ 1 จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ จัดงานแนะนำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรใหม่ล่าสุด เบิร์ตส์ บีส์ อินเทนส์ ไฮเดรชั่น นอริชชิ่ง เฟเชียล วอเตอร์ (Intense Hydration Nourishing Facial Water)  ที่นำคุณค่าสำคัญจากธรรมชาติ ประสานเข้ากับการทำงานของผิวพรรณ เกิดเป็นความงามอย่างยั่งยืน
เบิร์ตส์ บีส์ ได้นำคุณสมบัติสำคัญจากธรรมชาติ 4 ประการ เพื่อช่วยให้ผิวหน้าทำงานได้อย่างงดงามสมบูรณ์แบบ ได้แก่

1.วงจรผิวที่สมดุล (Balanced Skin Cycle)

เช่นเดียวกับทุกสิ่งในธรรมชาติ ผิวก็มีวงจรของชีวิต เริ่มต้นจากเซลล์ผิวใหม่เกิดขึ้นชั้นล่างสุดของหนังกำพร้า (Epidermis) และมีชีวิตอยู่ประมาณ 28 วัน ระหว่างนั้นจะค่อยๆ เคลื่อนที่ขึ้นมาจนถึงชั้นบนสุด และจะอยู่บนนั้นในฐานะเป็นเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ จากนั้นอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ความชุ่มชื่นที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ทำให้เกิดชั้นผิวที่เรียกว่า ไฮโดรลิพิด (Hydro-lipid) ชั้นผิวนี้มีหน้าที่ปกป้องผิวจากภายนอก ถนอมความชุ่มชื่นไม่ให้สูญเสียไป และยังปกป้องกระบวนการเกิดเซลล์ผิวใหม่อันบอบบางให้เป็นไปตามปกติ

ในระหว่างนั้น หากชั้นหนังกำพร้าไม่แข็งแรง ก็จะทำให้ชั้นไฮโดรลิพิดไม่แข็งแรงตามไปด้วย กอปรกับเมื่อเกิดความเครียด การลดน้ำหนัก การขาดความชุ่มชื่น ฮอร์โมนในร่างกาย อากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือความกระด้างผิวจากการใช้คลีนเซอร์มากระทบชั้นไฮโดรลิพิดที่อ่อนแอ จึงเกิดภาวะสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวแห้งแตกเป็นขุย

2.โภชนาการผิว (Nutrition for Skin)

เมื่อรับประทานอาหารมีประโยชน์ ร่างกายก็จะได้ประโยชน์ เช่นเดียวกันกับผิว ถ้าได้รับการบำรุงจากอาหารผิวที่มีประโยชน์ ผิวก็จะสวยงาม ทั้งนี้การบำรุงผิวชั้นหนังกำพร้าให้แข็งแรงมีอยู่ 2 ประการคือ การบำรุงผิวด้วยความชุ่มชื่น เพื่อผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพออกจากชั้นไฮโดรลิพิดจะช่วยให้ผิวสดใส แลดูชุ่มชื่น ชุ่มฉ่ำและการบำรุงผิวด้วยคุณค่าสารบำรุง เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ผิวแลดูมีชีวิตชีวา

3.ธรรมชาติเป็นดังห้องทดลอง (Nature as Laboratory)

ธรรมชาติใช้เวลานับล้านปีในการพัฒนาและวิจัยส่วนผสมดีๆ ให้เรา ส่วนเราเพียงแค่เลือกใช้สิ่งที่ดีเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ต่อความงามก็พอ เบิร์ตส์ บีส์ได้แรงบันดาลใจจาก แคลรี เซจ (Clary Sage) พืชที่เติบโตในดินแดนกันดารและลมแรงของเนินเขาแถบเมดิเตอร์เรเนียน ความโหดร้ายของสภาพแวดล้อมนี้ทำให้แคลรี เซจ สร้างความสามารถในการ   กักเก็บความชุ่มชื่น เพื่อคงความสวยงามได้

4.สูตรสมบูรณ์แบบ (Whole Formulas)

ส่วนผสมจากธรรมชาติในผลิตภัณฑ์นี้ให้ประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไปและบางชนิดก็ทำหน้าที่ได้หลากหลาย  ธรรมชาติสร้างส่วนผสมต่างๆ ให้มีคุณสมบัติหลากหลายในตัวเอง  ที่สำคัญส่วนผสมดังกล่าวจะยิ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เมื่อได้นำไปใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ ในธรรมชาติ เช่น หากรับประทานแคลเซียมอย่างเดียวก็จะไม่ก่อเกิดอะไรต่อร่างกาย  แต่ถ้ารับประทานคู่กับ แมกนีเซียม และวิตามินดี ก็จะได้ประสิทธิภาพที่ดีทันที เราจึงไม่แยกส่วนประกอบใดออกมาเพื่อสร้างเป็นสารสกัดเข้มข้น เราเชื่อว่าธรรมชาติออกแบบมาลงตัวแล้ว เพราะเหตุนี้ผิวจึงได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่จากสูตรของเรา

IHNW_printAD_0626

จากคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ได้นำมารวมอยู่ใน อินเทนส์ ไฮเดรชั่น นอริชชิ่ง เฟเชียล วอเตอร์ (Intense Hydration Nourishing Facial Water) ที่ผสานคุณค่าอันโดดเด่นจากพืชพันธุ์ธรรมชาติหลากหลายชนิด เพื่อปรนนิบัติผิวหน้าให้ชุ่มชื่นถึงขีดสุดและซึมซาบอย่างรวดเร็ว เต็มเปี่ยมด้วยคุณค่าจาก แคลรี เซจ ซึ่งผ่านการทดสอบทางคลินิกว่า ช่วยให้ผิวพร้อมรับการบำรุงในทันที ปรับสภาพกรดด่างให้สมดุล ช่วยกระตุ้นความชุ่มชื่น เพียงใช้ก่อนขั้นตอนการบำรุงผิว เพื่อให้ผิวเรียบเนียน และชุ่มชื่นอย่างรู้สึกได้

คุณประโยชน์ของอินเทนส์ ไฮเดรชั่น นอริชชิ่ง เฟเชียล วอเตอร์  (Intense Hydration Nourishing Facial Water) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรใหม่ล่าสุด!
– ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนัง
– ให้ความชุ่มชื่นทันที
– ฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้น
– ช่วยให้ครีมบำรุงผิวทำงานได้ดียิ่งขึ้น
– ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
– เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้รูขุมขนอุดตันได้ (noncommedogenic)

ปรนนิบัติผิวหน้าให้สดใสชุ่มชื่นดุจดอกไม้แรกแย้ม ด้วย เบิร์ตส์ บีส์ อินเทนส์ ไฮเดรชั่น นอริชชิ่ง เฟเชียล วอเตอร์ ที่พร้อมให้เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้

เผยเคล็ดลับเช็คสุขภาพ สัญญาณเตือนเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมอง

เผยเคล็ดลับเช็คสุขภาพ สัญญาณเตือนเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมอง

กรุงเทพฯ 15 กันยายน 2558 – องค์การอัมพาตโลก (World Stroke Organization : WSO) รายงานว่า โรคหลอดเลือดสมอง เป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ของประชากรอายุมากกว่า 60 ปีทั่วโลก และยังเป็นสาเหตุการตายเป็นอันดับ 5 ของประชากรที่อายุระหว่าง 15-59 ปี ซึ่งในแต่ละปีมีคนเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองกว่า 6 ล้านคน ถือว่ามากกว่าคนที่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ วัณโรค และโรคมาลาเรียรวมกันซะอีก ทั้งนี้องค์การอัมพาตโลกคาดการณ์ว่า ในปีพ.ศ. 2558 นี้ ทั่วโลกจะมีคนเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองถึง 6.5 ล้านคน

โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย การทำงานของสมองหยุดชะงัก โดยสังเกตอาการได้จากมีอาการชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้า หรือบริเวณแขนขาครึ่งซีกของร่างกาย พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว น้ำลายไหล กลืนอาหารลำบาก มีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อนหรือเห็นครึ่งซีก เดินเซ ทรงตัวลำบาก เป็นต้น
โรคหลอดเลือดสมอง
เภสัชกรหญิงวิชชุลดา ผรณเกียรติ์ ผู้เชี่ยวชาญจากเมก้า วีแคร์ กล่าวว่า “โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ถือเป็นโรคที่อันตรายมาก ดังนั้น เมก้า วีแคร์ ในฐานะผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพในประเทศไทย จึงอยากกระตุ้นให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพ และดูแลสุขภาพให้ห่างไกลจากโรคหลอดเลือดนี้ โดยอันดับแรกเราต้องสำรวจพฤติกรรมของเราก่อนว่าเสี่ยงจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองหรือไม่ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา ชอบทานอาหารฟาสต์ฟู้ด-ปิ้งย่าง เพราะปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองทั้งสิ้น หากเราไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว เราอาจจะต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำทุกปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง เช่น ภาวะความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น ถ้าพบต้องรีบปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อป้องกันการเกิดโรคได้”
โรคหลอดเลือดสมอง
ผู้ที่เสี่ยงกับโรคหลอดเลือดสมอง ถ้ามีปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมดังนี้

  1. อายุมากขึ้น ทำให้ร่างกายต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ได้ยากกว่าวัยหนุ่มสาว
  2. ภาวะความดันโลหิตสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองที่สำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากอายุที่เพิ่มขึ้น เพราะภาวะความดันโลหิตสูงส่งผลให้หลอดเลือดเสื่อมเร็วกกว่าปกติ
  3. โรคเบาหวาน เป็นปัจจัยสำคัญที่มักพบร่วมกับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง
  4. โรคหัวใจ เป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะโรคลิ้นหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และโรคกล้ามเนื้อหัวใจ
  5. การสูบบุหรี่ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุโดยตรงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และผู้ที่สูบบุหรี่ มากกว่า 40 มวน/วัน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองสูงถึง 2 เท่าของผู้สูบบุหรี่น้อยกว่า 10 มวนต่อวัน
  6. ตามใจปาก ขาดการออกกำลังกาย “ฟาสต์ฟูด-ปิ้งย่าง” อาหารก่อสารพัดโรคร้าย คนอเมริกันเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดกันเยอะ เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะรับประทานเนื้อสัตว์พวกวัวและหมูมาก
  7. การดื่มสุรา ผลของแอลกอฮอล์ต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองขึ้นกับปริมาณของแอลกอฮอล์ที่ดื่ม พบว่าผู้ที่ดื่มปานกลางจนถึงดื่มหนัก มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่าคนปกติ ในขณะที่ผู้ที่ดื่มปริมาณน้อยอาจช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง

เภสัชกรหญิงวิชชุลดา อธิบายเพิ่มเติมว่า “หากเราตรวจพบว่าเราเสี่ยง หรือเริ่มมีอาการโรคหลอดเลือดสมองแล้ว เราควรปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์โดยทันที แต่หากเรายังไม่พบปัจจัยเสี่ยง เราก็ควรต้องดูแลสุขภาพและหาแนวทางป้องกันการเกิดโรค โดยควรควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน ให้ได้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สำคัญ ควรเลือกรับประทานอาหารอย่างสมดุล หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม หวาน มัน และเลือกรับประทานปลามากๆ โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก อย่างปลาแซลมอน ปลาแองโชวี่ ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า เป็นต้น เพราะในปลาทะเลน้ำลึกมักพบกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญของร่างกาย ช่วยป้องกันโรคหัวใจและสมองขาดเลือดได้ เพราะกรดไขมันโอเมก้า-3 เป็นสารตั้งต้นของสารกลุ่มไอโคซานอยด์ (Eicosanoids) ที่มีส่วนช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด จึงมีส่วนช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดและช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ”

จะเห็นได้ว่าการดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่เราหันมาใส่ใจเรื่องการบริโภคอย่างสมดุล ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำลายสุขภาพ เพียงเท่านี้ เราก็จะมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคภัยทั้งปวง

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : เมก้า วีแคร์

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

ส่องลูกสาวบ้าน ‘ แอนโฟเน่ ’ เห็นเงียบๆ แต่สวยเป๊ะนะจ๊ะ!

ส่องลูกสาวบ้าน ‘ แอนโฟเน่ ’  เห็นเงียบๆ แต่สวยเป๊ะนะจ๊ะ!

แม้จะไม่ค่อยออกสื่อโชว์ภาพครอบครัวสักเท่าไหร่สำหรับบ้าน ‘ แอนโฟเน่ ‘ แต่ขอบอกว่าคู่รักนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง ‘นก จริยา’ กับ ‘จอนนี่’ กลับมีลูกสาวอย่างน้อง ‘เจมี่ จอมภักดิ์’ สวยน่ารักระดับปั้นเป็นนางเอกได้เลยทีเดียว

แอนโฟเน่ลูกสาวคนกลางของบ้าน ‘น้องเจมี่ จอมภักดิ์’ ขอบอกว่าสวยคมเหมือนคุณแม่นกสมัยสาวๆ จริงๆ

 

แอนโฟเน่ แอนโฟเน่

ฉายเดี่ยวเที่ยว CROATIA (ตอนจบ 2)

Dubrovnik ดินแดนแห่ง King’s Landing

ใครที่เป็นแฟนซีรี่ส์ดังของ HBO เรื่อง Game of Thrones คงพอรู้ว่าดูบรอฟนิกนั้นเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักสำหรับฉากเมืองหลวงคิงส์แลนดิ้งที่เป็นศูนย์กลางของเนื้อเรื่องอีกด้วย แต่ถึงไม่เคยดูดูบรอฟนิกก็ยังเป็นจุดหมายที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

1-2

ดูบรอฟนิกไข่มุกเม็ดงามแห่งทะเลเอเดรียติก อยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7 โดยชาวโรมันที่หนีการโจมตีของชาวสลาฟถอยร่นมายังพื้นที่ติดทะเลที่เต็มไปด้วยโขดหินแห่งนี้ และสร้างกำแพงขึ้นล้อมรอบเมืองเพื่อป้องกันข้าศึกกำแพงเมืองมีการต่อเติมจนสมบูรณ์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 และกลายเป็นเมืองที่มีอำนาจในการควบคุมการเดินเรือในเขตทะเลเอเดรียติกเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและคาบสมุทรบอลข่านในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นศูนย์กลางความเจริญในทุกด้าน มีฐานะการเงินร่ำรวย สามารถเนรมิตบ้านเรือนในเมืองให้งดงามราวกับภาพฝันได้

ฤดูใบไม้ร่วงในปี ค.ศ. 1991 กองทัพยูโกสลาฟเข้าประชิดพรมแดนโครเอเชีย ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าเขตตัวเมืองเก่าของดูบรอฟนิกซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจะถูกโจมตี โดยในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 1991 มีระเบิดตกลงกลางเขตเมืองเก่า บ้านเรือนและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก ก่อนสงครามสงบลงในอีก 8 เดือนต่อมา

โบสถ์นักบุญมาร์ค สังเกตบนหลังคาเป็นกระเบื้องสวยงามลายประจำเมืองของโครเอเชีย แดลเมเชีย และสโลวีเนีย
โบสถ์นักบุญมาร์ค สังเกตบนหลังคาเป็นกระเบื้องสวยงามลายประจำเมืองของโครเอเชีย แดลเมเชีย และสโลวีเนีย

หลังจากความช่วยเหลือในการบูรณะเมืองจากยูเนสโกนานหลายปีวันนี้ดูบรอฟนิกกลับมาเป็นไข่มุกเม็ดงามพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งฉันเดินออกจากที่พักตั้งแต่เช้าตรู่ จุดมุ่งหมายคือถนนสตราดุน (Stradun) ถนนสายหลักของดูบรอฟนิก มีความยาวเพียง 300 เมตร ทอดยาวสู่พิลีเกต (Pile Gate) ประตูทางเข้าหลักของเมือง

หลังจากหากาแฟและครัวซองต์อุ่นใส่ท้องเป็นมื้อเช้าแล้ว ฉันออกเดินอีกครั้ง มุ่งหน้าจากถนนสตราดุนสู่สปอนซาพาเลซ (Sponza Palace) สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่ทำการศุลกากรสำหรับชั่งตวงสินค้า ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการติดต่อค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าของพ่อค้าในสมัยนั้น ภายในโถงกลางมีคำสลักเหนือซุ้มประตูหินเป็นภาษาละตินว่า

“Fallere nostra vetant et falli pondera. Meque pondero cum merces ponderat ipse deus.” “การคดโกงทางการชั่งตวงเป็นสิ่งผิดที่รับไม่ได้ ในยามที่ข้าตรวจสอบสินค้า พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงตรวจสอบข้าเช่นกัน”

ฉันเดินต่อมาไม่กี่ก้าวก็เจอเรกเตอร์สพาเลซ (Rector’s Palace) เป็นอาคารรัฐสภาและที่พำนักของผู้ปกครองนครในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 – 18 เป็นอาคารสไตล์กอทิกผสมผสานกับศิลปะแบบเรอเนสซองซ์และบาโรกที่ต่อเติมขึ้น ผู้ครองนครที่ว่านี้ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งหมุนเวียนกันไปทุกเดือน ในอาคารนอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของมีค่าแล้ว ยังมีนิทรรศการแสดงภาพถ่ายขาวดำเหตุการณ์การโจมตีของกองทัพยูโกสลาฟในปี ค.ศ. 1991 อีกด้วย

อีกแห่งหนึ่งที่คนรักงานสถาปัตยกรรมไม่ควรพลาดคือ พิพิธภัณฑ์และพระอารามฟรานซิสกัน (Franciscan Monastery & Museum) ที่อยู่ไม่ไกลจากทางขึ้นกำแพงเมือง จากหน้าถนนสตราดุนเข้าไปทางแคบ ๆ ด้านในจะพบกับอาคารที่มีระเบียงรอบคอร์ตกลางอาคารสไตล์โรมัน ล้อมรอบสวนเล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นเมื่อกลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 นับเป็นที่พักหายใจ หลบความวุ่นวายจากโลกภายนอกอย่างดีในอาคารเป็นที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์ยา

ดูบรอฟนิกจากบนกำแพงเมืองเก่า
ดูบรอฟนิกจากบนกำแพงเมืองเก่า

ไฮไลท์ของดูบรอฟนิกที่พลาดไม่ได้คือ กำแพงเมืองเก่า (City Wall) มีความสูง 25 เมตร ที่ล้อมรอบเมืองอยู่ ค่าเข้าชมกำแพงเมืองนี้สามารถใช้เข้าป้อมแห่งนักบุญลอว์เรนซ์ (Fort Lovrijenac) ได้ด้วยและมุมที่มองมาจากป้อมนี้ก็จะมองเห็นวิวที่สวยงามของเมืองดูบรอฟนิกซุ้มประตูเหนือทางเข้าป้อมมีสลักคำขวัญประจำอาณาจักรของชาวรากูซ่าซึ่งเป็นผู้ที่ถือครองเมืองดูบรอฟนิกยามที่เมืองนี้รุ่งเรืองถึงขีดสุดในด้านการเดินเรือและการค้าทางทะเล ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 – 16 ว่า “Non bene pro toto libertas venditur auro” “อิสรภาพเป็นสิ่งที่ประมาณค่าและซื้อหาไม่ได้ แม้ว่าจะมีทองทั้งหมดในโลกหล้ามาแลกก็ตาม”

ฉันใช้เวลาอยู่ที่ดูบรอฟนิกราว 3 วัน ยังรู้สึกเที่ยวไม่ทั่ว เพราะเมืองเล็ก ๆ นี้สวยงามไปทุกซอกมุม จากดูบรอฟนิกสามารถนั่งรถเลยออกไปเที่ยวบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างบอสเนีย – เฮอร์เซโกวีนา หรือมอนเตเนโกร ซึ่งในอดีตเคยเป็น คู่รบ หากแต่ปัจจุบันหันมาจับมือเป็นคู่ค้าร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว หรือจะนั่งเรือออกไปเที่ยวเกาะใกล้เคียงอย่างลอครัม (Lokrum) แบบไปเช้า – เย็นกลับ หรือเลยออกไปค้างที่เกาะมิลเล็ต (Mljet) หรือคอร์ชูล่า (Kor ula) สักวันสองวันก็ได้

เมียงมอง Zagreb แบบแว้บๆ

ในที่สุดก็มาถึงวันสุดท้าย ฉันตื่นแต่เช้ามืด นั่งรถแท็กซี่ที่คุณป้าเจ้าของ Bed & Breakfast โทรศัพท์เรียกมารับถึงหน้าประตูบ้านตั้งแต่ตี 4 กว่าไปยังสนามบินดูบรอฟนิก เพื่อขึ้นเครื่องบินภายในประเทศไปยังกรุงซาเกร็บ เพื่อต่อเครื่องบินระหว่างประเทศกลับบ้าน สายการบิน Croatian Airlines พาฉันมาลงที่สนามบินซาเกร็บตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง โชคดีที่พนักงานเช็กอินที่สนามบินดูบรอฟนิกช่วยทำเรื่องเช็กสัมภาระจากต้นทางดูบรอฟนิกไปกรุงเทพฯได้เลย ไม่ต้องมาทำเรื่องโหลดกระเป๋าที่ซาเกร็บอีกรอบ ทั้งที่เป็นของคนละสายการบินกัน แถมยังใจดีแนะนำว่ากว่าไฟลท์จะบินออกจากซาเกร็บก็บ่าย ยังพอมีเวลาที่ฉันจะแว่บเข้าไปเดินเล่นในเมืองได้นะ

Zrinjevac Park สวนสวยใจกลางซาเกร็บ
Zrinjevac Park สวนสวยใจกลางซาเกร็บ

จากสนามบินที่ซาเกร็บ ฉันจึงนั่งแอร์พอร์ตชัตเทิลบัสไปลงในเมืองแบบไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน พอถึงสถานีรถบัสในเมืองถามคนขับว่าจะต่อเข้าไปเที่ยวในเขตเมืองเก่าได้ไหม คุณลุงคนขับรถชัตเทิลบัสอุตส่าห์ไปรื้อแผนที่ท่องเที่ยวซาเกร็บมาให้พร้อมอธิบายว่าให้นั่งรถรางสาย 6 เข้าไปในจัตุรัสกลางเมือง แต่ย้ำว่าให้กลับมาที่ป้ายรถนี้ เพื่อขึ้นรถบัสกลับไปเช็กอินที่สนามบินไม่เกิน 11 โมงครึ่ง เพราะเดี๋ยวจะตกเครื่อง

ซาเกร็บเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโครเอเชีย ดูจากแผนที่เขตเมืองเก่าของซาเกร็บแบ่งออกง่าย ๆ เป็นเขต Gornji Grad หรืออัปเปอร์ทาวน์ที่เต็มไปด้วยโบสถ์และตึกแลนด์มาร์คสำคัญ และเขต Donji Grad หรือโลเวอร์ทาวน์ที่เต็มไปด้วยแกลเลอรี่และพิพิธภัณฑ์สำหรับผู้ที่รักงานศิลปะ

บันไดทุกเส้นมุ่งเข้าสู่สตราดุน ถนนสายหลักของเมือง
บันไดทุกเส้นมุ่งเข้าสู่สตราดุน ถนนสายหลักของเมือง

ฉันเริ่มการทัวร์ซาเกร็บด้วยการเข้าใน Cathedral of the Assumption of the Blessed Virgin Mary มหาวิหารขนาดใหญ่กลางจัตุรัสแคปตอล (Kaptol Square) อยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสที่ลงรถรางออกจากโบสถ์ก็เดินเรื่อยมาจนเจอถนนทกาซิเซวา (Tkalciceva) ถนนสายหลักที่เต็มไปด้วยร้านรวง ก่อนมุ่งหน้าสู่ตลาดโดลัค (Dolac Market) ตลาดรวมผัก ผลไม้ และสินค้าท้องถิ่นจากพ่อค้าแม่ขายจากทั่วทุกสารทิศที่ตั้งอยู่ระหว่างเขตอัปเปอร์ทาวน์และโลเวอร์ทาวน์ มีความคึกคักตั้งแต่เช้ายันบ่าย และเดินทะลุสโตนเกต (Stone Gate) เรื่อยไปจนถึงโบสถ์นักบุญมาร์ค (St. Mark’s Church) เพื่อชมกระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์ลายตราประจำของโครเอเชีย แดลเมเชีย และสโลวีเนีย ที่ต่อเติมขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 1880 จนสวยงาม

ฮวาร์ในวันอากาศสดใส
ฮวาร์ในวันอากาศสดใส

ฉันนั่งรถรางสายเดิมกลับไปยังท่ารถชัตเทิลบัสเพื่อกลับไปยังสนามบินในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย พลางนึกย้อนไปถึงการเดินทางเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องขอบคุณโชคชะตาตัวเองที่พาให้มาพบกับเจ้าบ้านโครเอเชียที่แสนใจดี ให้ความช่วยเหลือเอื้ออาทรไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ตั้งแต่วินาทีแรกที่เท้าแตะพรมแดนจนถึงวินาทีที่จะลาจากกัน

ฉันพึมพำบอกตัวเองว่า สักวันหนึ่งเราคงได้พบกันใหม่

TIPS

ผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์ที่เกาะฮวาร์นั้นเป็นสินค้าท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ เนื่องจากเกาะฮวาร์เป็นแหล่งเพาะปลูกลาเวนเดอร์สำคัญของโครเอเชียใครที่ไปเยือนฮวาร์ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิจะได้เห็นดอกลาเวนเดอร์อวดโฉมเบ่งบานในท้องทุ่ง โด่งดังขนาดที่มีการจัดงานลาเวนเดอร์เฟสติวัลในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปีทีเดียวแนะนำมุมอร่อยในสปลิตมื้อกลางวัน ใครที่เดินเที่ยวอยู่ในตัวเมืองเก่าแล้วนึกหิว Trattoria Bajamont ตั้งอยู่ในตรอก Bajamontijeva ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวังไดโอคลีเชียนเสิร์ฟกูลาชสไตล์แดลเมเชียแบบอร่อยลืมโลก ส่วนมื้อเย็นขอแนะนำร้านดัง Konoba Marjan ร้านอาหารทะเลเล็กๆ อยู่ลึกเข้ามาในซอย ห่างจากบรรดาร้านขายนักท่องเที่ยวที่เรียงรายอยู่ริมน้ำ ทำกันเองแบบครอบครัว เสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ ที่ปรุงตามต้นตำรับแดลเมเชียแท้ๆ ใครอยากเดินเที่ยวชมดูบรอฟนิกแบบมีไกด์คอยบรรยาย แนะนำให้เข้าร่วมวอล์คกิ้งทัวร์ขนาดกลุ่มเล็ก ที่มีบู๊ธให้บริการด้านนอกกำแพงตรงประตูพิลีเกตมีทุกวัน วันละ 2 รอบไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าไปเช็กรอบก่อนเป็นใช้ได้ใครอยากเห็นเมืองดูบรอฟนิกจากมุมสูงในวันที่อากาศดีท้องฟ้าโปร่ง แนะนำให้ใช้บริการเคเบิลคาร์จากบริเวณ Petra Krešimira IV นอกเขตกำแพงเมืองเก่าใช้เวลาราว 4 นาที เพื่อขึ้นไปถึงสถานีด้านบนซึ่งมีจุดชมวิวเมืองจากจุดนั้นเดินเลยขึ้นเนินไปไม่ไกล มีป้อม Fort Imperial ที่จักรพรรดินโปเลียนเป็นผู้สร้างตอนที่ฝรั่งเศสยึดครองดูบรอฟนิกปัจจุบันเป็น Homeland War Museum จัดแสดงนิทรรศการเรื่องสงครามยูโกสลาเวีย

 

ที่มา : คอลัมน์สารคดีท่องเที่ยว นิตยสารแพรว ฉบับที่ 864 ปักษ์วันที่ 25 สิงหาคม 2558

บทความนี้ถือเป็นทรัพย์สินของเว็บไซต์แพรว ห้ามผู้ใดนำไปคัดลอก ดัดแปลง หรือทำซ้ำ อนุญาตให้แชร์บทความนี้ได้จากลิ้งค์นี้เท่านั้น

ไขความสำเร็จ 2 หญิงเก่ง แม่ลูกเจ้าของแบรนด์ S’UVIMOL

ด้วยการแตกไลน์กระเป๋าหนังสำหรับเด็กในนาม S’UVIMOL BABY กับการจัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เราจะพาคุณไปสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของหัวเรือใหญ่อย่าง คุณแพร พัชรพิมล ยังประภากร คุณแม่ผู้บริหารมากประสบการณ์ และ คุณฝน ชวมณฑ์ ปวโรดม คุณลูกผู้รังสรรค์ผลงานชั้นยอด ผ่านบนสัมภาษณ์จาก 10 คำถามว่าทั้งสองคนมีแนวคิดอย่างไรในการใช้ชีวิต และการขับเคลื่อนแบรนด์ S’UVIMOL BABY

เราเริ่มสัมภาษณ์ คุณฝนด้วยคำถามที่เรียบง่ายว่า

แพรว : ความชื่นชอบ ความถนัดและความใฝ่ฝันในวัยเด็กส่งผลต่อการทำงานในปัจจุบันหรือไม่อย่างไร?

คุณฝน : ก่อนอื่นฝนขอบอกว่า ทุกวันนี้ฝนโชคดีที่ได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองรัก จากผลของพรสวรรค์ทางด้านศิลปะที่่มีมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ งานประดิษฐ์ หรืองานประเภทดิจิตอลต่างๆ พรสวรรค์เหล่านี้ส่งผลให้อยากทำงานในด้านนี้โดยตรงค่ะ ซึ่งในการผลิตกระเป๋าแต่ละครั้ง ฝนใช้พรสวรรค์ที่มีผสมผสานกับทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญที่ได้จากการฝึกฝนเรียนรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะการเป็นคนที่รักจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้เกิดผลงานที่ไม่ซ้ำซากจำเจ อีกอย่างคือพรสวรรค์ในวัยเด็กก็ส่งผลต่อการทำงานที่ฝนรักในปัจจุบันอย่างมากค่ะ

แพรว : ในงานอีเว้นท์เปิดตัวแบรนด์ครั้งนี้ คุณคิดว่าคู่แม่ลูกดาราคนดังคู่ใด เหมาะจะเป็นตัวแทนคู่แม่ลูกในแบบ S’UVIMOL BABY

คุณฝน : สำหรับฝนคิดว่ามีทั้งหมดสามคู่ด้วยกันค่ะ ทั้งคู่ของ คุณกบ สุวนันท์ กับน้องณดา ที่เหมาะจะเป็นตัวแทนของความหวาน สดใส ตามมาด้วยคู่ คุณพอลล่ากับน้องไลลา ที่เป็นตัวแทนความเปรี้ยว ความมั่นใจ และคู่สุดท้าย คู่ของคุณนานากับน้องบีน่า เหมาะสมที่สุดกับการเป็นตัวแทนของความแอ็กทีฟและความร่าเริง

 คุณแพร พัชรพิมล ยังประภากร
คุณแพร พัชรพิมล ยังประภากร

แพรว : หากจะหาคำจำกัดความให้กับ S’UVIMOL BABY จำนวน 3 คำควรจะเป็นคำใดบ้าง?

คุณแพร : คำเพียง 3 คำ ดิฉันคิดว่าคงจะไม่ชัดเจนเท่ากับประโยคเพียงหนึ่งประโยคที่ว่า “สุนทรียภาพสำหรับคุณหนู”

คุณฝน : สำหรับฝนแล้ว 3 คำที่ว่าควรจะเป็น “น่ารัก น่าใช้ ต้องมี”

แพรว : คุณแพรกับคุณฝนมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไรบ้าง?

คุณแพร : สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเรื่องของอายุ ซึ่งความแตกต่างทางอายุนั้นมีความสำคัญมากนะคะ เพราะจะทำให้เกิดความแตกต่างกันในเรื่องของประสบการณ์ชีวิต รวมถึงการมองโลกและความเข้าใจในชีวิตค่ะ แต่ก็มีสิ่งที่ดิฉันสู้ลูกไม่ได้ด้วย นั่นคือความสามารถทางศิลปะ ฝนเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะสูงมาก ซึ่งจริงๆแล้วดิฉันก็พอมีอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับลูกสาวแล้ว สู้ลูกไม่ได้แน่นอนค่ะ

แพรว : สิ่งของชิ้นใด ที่คุณแพรกับคุณฝนไม่สามารถขาดมันได้ เมื่อต้องก้าวออกจากบ้าน

คุณฝน : สำหรับฝนกับคุณแม่สิ่งที่ขาดไม่ได้แน่นอนที่สุดเลยคือกระเป๋า S’UVIMOL ค่ะ

แพรว : ในสงครามกระเป๋าที่นับวันยิ่งมีผู้ประกอบการมากขึ้นเรื่อยๆ อะไรเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ S’UVIMOL ได้รับชัยชนะอย่างสวยงาม

คุณแพร : สิ่งสำคัญประการแรกในเรื่องของวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นกระเป๋า ซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์ สิ่งนั้นก็คือ หนังจระเข้คุณภาพสูงที่เราสามารถผลิตได้เอง ทำให้เรามีความมั่นใจในการผลิตสินค้าว่ามีวัตถุดิบที่เพียงพอและไม่ขาดแคลน รวมถึงประสบการณ์ในกระบวนการผลิต ตั้งแต่วัตถุดิบจนไปถึงช่างที่มีฝีมือสำหรับการผลิตกระเป๋าคุณภาพดีออกมาให้ลูกค้า

คุณฝน ชวมณฑ์ ปวโรดม
คุณฝน ชวมณฑ์ ปวโรดม

คุณฝน : ฝนคิดว่ากุญแจที่สำคัญมี 3 ข้อด้วยกันคือ การที่เรามี Originality เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน ทั้งด้านรูปลักษณ์โดยรวมของกระเป๋า การใช้โทนสี และรายละเอียดต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นการออกแบบขึ้นมาเองทั้งหมดโดยไม่ได้ลอกเลียนแบบใครทั้งสิ้น

เรามีความซื่อสัตย์กับ Standard ในกระบวนการผลิตสินค้าของเรา สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งเลยคือ “คุณภาพ” เมื่อความต้องการทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ต้องเพิ่มกำลังในการผลิตมากขึ้นตาม
แต่เราก็ไม่เคยละทิ้งการคงไว้ซึ่งระดับคุณภาพของสินค้าเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งต้องพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก รวมทั้งมีความจริงใจต่อลูกค้า เรานำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดที่เรามีให้ลูกค้าอยู่เสมอ มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอย่างถูกต้อง และมีความรับผิดชอบต่อสินค้าที่เราผลิตขึ้นมา เช่น การเอาใจใส่ดูแลลูกค้ากับบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นการดูแลกระเป๋าลูกค้า หากมีการชำรุดเป็นต้น

แพรว : อีก 10 ปีข้างหน้าคุณคิดว่า S’UVIMOL จะเป็นอย่างไร

คุณฝน : ในการทำแบรนด์กระเป๋า S’UVIMOL ไม่ได้ต้องการให้สินค้าของเรารองรับลูกค้าภายในประเทศเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น แต่เราตั้งใจสร้างผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพสำหรับคนทั่วโลก และมุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในสินค้าประเภท Luxury ซึ่งหากชาวต่างชาติจะนึกถึงแบรนด์กระเป๋าชั้นสูงของไทยก็ยังไม่มี ต่างจากประเทศชั้นนำของโลกอย่างเช่น ประเทศฝรั่งเศสเรามักจะนึกถึง กระเป๋าแบรนด์ HERMES หรือ LOUIS VUITTON ส่วนประเทศญี่ปุ่นก็จะนึกถึงแบรนด์ ISSEY MIYAKE เป็นต้น เราจึงอยากทำตรงนี้ให้ประสบความสำเร็จค่ะ ในอีก 10 ปีข้างหน้าจึงคิดว่า S’UVIMOL จะมีวางจำหน่ายหลายสาขาในทุกๆ ทวีป เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากคนทั่วโลกค่ะ

แพรว : หากคุณฝนสามารถส่งข้อความถึงตนเองในตอนอายุ 10 ขวบได้ คุณฝนจะส่งข้อความนั้นว่าอย่างไร?

คุณฝน : ฝนจะส่งข้อความบอกกับตัวเองว่า “ให้เดินไปเลือกกระเป๋าหนังจระเข้ในตู้เสื้อผ้าของคุณแม่ แล้วเอาออกมาใช้ได้เลย เพราะคุณแม่มีกระเป๋าหนังจระเข้เยอะมาก”

แพรว : ICON คนใดที่คุณฝนชื่นชอบและนำเรื่องราวของคนๆ นั้นมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต

คุณฝน : คุณตาของฝนค่ะ คุณอุทัย ยังประภากร ผู้ก่อตั้งฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ สิ่งที่ฝนได้เรียนรู้จากคุณตา โดยนำมาเป็นข้อคิดในการทำงาน และใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตคือ คนเราต้องเข้มแข็ง ต้องเอาชนะใจตัวเองต่อการปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ชอบ ควรทำปัญหาใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ทำปัญหาเล็กให้หมดไป สุจริต สัจจะ อดทน อดกลั้น หากปฏิบัติได้ดังสามข้อนี้ ยังไงก็ต้องประสบความสำเร็จ และมีความสุขในการดำเนินชีวิต

แพรว : จาก S’UVIMOL สู่ S’UVIMOL BABY อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จนทำให้เกิดความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้

คุณแพร : ดิฉันคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือ เสียงตอบรับอย่างอบอุ่นจากลูกค้า ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เราสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆขึ้นมา ในการทำ S’UVIMOL BABY ออกมาเพื่อเด็กๆ นั้น ทำให้เราเกิดความสบายใจ และสุขใจ เหมือนเราได้สัมผัสกับความน่ารัก ความสวยงามของเด็กไปด้วย เพราะเด็กๆ มีความน่ารัก สดใส และเป็นความสวยงามของโลก

ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ สวยตะลึง! ตัดผมทรงใหม่ มัดใจเจ้าชายวิลเลียม

ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ สวยตะลึง! ตัดผมทรงใหม่ มัดใจเจ้าชายวิลเลียม

อย่างที่ทราบกันว่าเรื่องความสิริโฉมงดงามของเจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัน (Kate Middleton) ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ นั้นเป็นที่กล่าวขานกันมากมายของใครหลายๆคน และบ่อยครั้งที่เรามักจะนำสไตล์การแต่งตัวหรือการแต่งหน้าของเจ้าหญิงเคท มาพูดถึงบ่อยๆ อย่างวันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราจะมาพูดถึงทรงผม ทรงใหม่ล่าสุด ที่ถ้าใครเห็นแล้วต้องตะลึงในความสิริโฉมของเจ้าหญิงเคทแน่ๆ

ทรงผมใหม่ นั่นก็คือทรงผมหน้าม้านั่นเอง แน่นอนว่าพอภาพนี้ถูกปล่อยออกไปมีแต่คนชื่นชมแล้วเห็นว่าช่างเข้ากับเจ้าหญิงเคทมากๆ เพราะทำให้ใบหน้าของเจ้าหญิงดูอ่อนวัยกว่าเดิม แถมยังดูสดใสขึ้นอีกด้วย เชื่อว่าอีกไม่นานสาวๆ หลายคนอาจจะหันมาเปลี่ยนทรงผม ตัดหน้าม้าตามแบบของเจ้าหญิงเคทแน่ๆ เพราะอย่างที่รู้ว่าเจ้าหญิงเคทเป็นต้นแบบและไอดอลของใครหลายๆ คนไม่แพ้ดาราเลยล่ะ ไปชมภาพความน่ารักและทรงผมใหม่ของเจ้าหญิงเคทกันเลยดีกว่า

ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์ ดัชเชสส์แห่งเคมบริดจ์

 

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : www.gettyimages.com

 

ติดตามอัพเดตเรื่องราวต่างๆจากนิตยสารแพรวให้สนุกยิ่งขึ้นได้ที่

www.facebook.com/praewmagazine

Instagram : @praewmag

และติดตามอ่าน แพรว E-Magazine ได้แล้ววันนี้เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

  • Praew E-magazine
  • NaiinPann
  • Ookbee

ตามติดเทรนด์ปลายพู่ 6 ลุคสไตล์นางเอกดัง สวยเป๊ะ ปังทุกชุด

แฟชั่นฟริงจน์ (Fringe) หรือปลายพู่ในช่วงนี้เห็นทีจะมาแรงที่สุดแล้ว เพราะขนาดว่าบรรดานางเอกสุดฮอตหลายๆ คนต่างก็เริ่มหยิบเทรนด์นี้มาใช้เสริมลุคการแต่งตัวกันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หรือกระเป๋า ก็ต้องมีให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ อย่างวันนี้ที่รวมมาให้ดูกันต้องบอกเลยว่าแต่ละคนเลือกให้เป็นสไตล์ตัวเองได้เหมาะเจาะลงตัวมากๆ เลยล่ะ

อั้ม – พัชราภา ไชยเชื้อ
1
แฟชั่นปลายพู่ของสาวอั้ม ในชุดเดรสสั้น แลดูเรียบหรู สวยสะบัดไปเลย แต่พอมาเป็นชุดสบายๆ สไตล์โบฮีเมียน ก็ยังแอบเลือกกระเป๋าสะพายสีดำที่ตกแต่งด้วยปลายพู่มาเสริมลุคให้ดูเข้ากับชุดมากขึ้น
12

ชมพู่ – อารยา เอ ฮาร์เก็ต
2

มาที่ตัวแม่อย่างสาวชมพู่ ก็ใส่เสื้อผ้าสไตล์นี้เหมือนกัน ทั้งตัวชุดคลุมแขนกุดสุดพลิ้วแบบอินเดียนแดง หรือจะเป็นแบบเรียบๆ รับ หน้าหนาว ที่เลือกมาแค่ประเป๋าสไตล์ฟริงจน์มาเป็นไอเท็มที่ช่วยเสริมสร้างให้แฟชั่นปลายพู่ดูโดดเด่นขึ้นมา
13

ใหม่ – ดาวิกา โฮร์เน่

5
สาวสวยดีกรีนางเอกแถวหน้าอีกคนของฝั่งวิกหมอชิต ที่ได้รับคำชมในเรื่องการแต่งตัวอย่างมากมาย จนตอนนี้สาวใหม่เรียกว่ากำลังเป็นแฟชั่นไอคอนอีกคนที่วงการบันเทิงไทย ที่ใครๆ ก็อยากแต่งตัวตาม อย่างชุดนี้แค่กางเกงยีนส์ขาสั้น กับเสื้อยืดสีดำจริงๆ ก็ดูเรียบง่ายอยู่ แล้ว แต่พอใส่เสื้อแขนกุดตัวยาวสไตล์ฟริงจน์เข้าไปอีก ก็ยิ่งทำให้ชุดนี้ดูมีอะไรมากขึ้น

พลอย – เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์
6
เสื้อคลุมสีขาวตะแต่งด้วยปลายพู่ที่ขอบตะเข็บทั้งตัวของสาวพลอย เป็นอีกชุดที่ดูสบายๆ สามารถใส่กับเสื้อผ้าได้หลากหลายแนว จะออนเดอะบีชปกปิดผิวให้ดูเก๋ๆ แบบในรูปนี้ หรือใส่เข้าคู่กับกางเกงยีนส์ขายาวก็เท่อย่าบอกใคร
7

มาร์กี้ – ราศี บาเล็นซิเอก้า
10
เป็นอีกหนึ่งสาวที่แต่งตัวดูดีมีสไตล์ ซึ่งสำหรับเทรนด์ปลายพู่ของสาวมาร์กี้ ดูแล้วจะใส่สบายมากๆ อย่างชุดเดรสลายกล้วยที่สาวมาร์กี้ใส่ตัวนี้ ก็เคยทำให้ผู้หญิงหลายคนอยากซื้อมาใส่บ้างเหมือนกัน

เต้ย – จรินพร จุนเกียรติ
15
สาวหวานอย่างเต้ย จรินพร ก็มีเสื้อผ้าแฟชั่นปลายพู่กับเขาเหมือนกัน อย่างชุดนี้สาวเต้ยมาในชุดเสื้อแขนกุดกางเกงขาสั้นสีขาว ตัดกับเสื้อคลุมแขนกุดสีแดงกำมะหยี่ทิ้งปลายพู่คลุมเข่า เป็นความลงตัวของการแมตช์ชุดที่ดูมินิมอล แต่ดูโดดเด่นมากๆ

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : IG@aum_patchrapa,@davikah,@chermarn,@margie_rasri,@chomismaterialgirl,@toeyjarinporn

Twitter : sriloi17

ได้เวลา Tea Time นานาชาติกับ 7 ร้านดัง…ใจกลางกรุงเทพฯ

น้ำชายามบ่ายสไตล์ฝรั่งเศส @ ซิงก์ เบเกอรี่

IMG_0360 copy IMG_0362 copy IMG_0364 copy IMG_0382 copyรื่นรมณ์ไปกับของว่างแสนอร่อยที่เชฟเบเกอรี่คัดสรรมาแต่วัตถุดิบชั้นเลิศ ซึ่งแต่ละเมนูล้วนเป็นของยอดนิยมของชาวฝรั่งเศส โดยความโดดเด่นของชุดน้ำชานี้คือ การเสิร์ฟชาเกรดพรีเมียมจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่างTWG เริ่มต้นที่ชาดำรสเข้มข้นด้วยกลิ่นเบอร์กาม็อต ‘สโมกี้ เอิร์ลเกรย์’ ซึ่งควรกินคู่กับเมนูของคาวอย่าง แซลมอนรมควันราดซอสซาวร์ครีม, เทอร์รีนตับเป็ด และทูน่าทาร์ทาร์ ต่อด้วยชาแดงกลิ่นหอมสดชื่นอย่าง ‘อิเทอร์นัล ซัมเมอร์’ ซึ่งทำมาจากต้นกกตากแห้งแล้วนำมาทำกรรมวิธีคล้ายๆ ชาเลยไม่มีคาเฟอีน ไว้สำหรับกินคู่กับ มาการองสูตรพิเศษสอดไส้ครีมเนื้อนุ่มไม่หวานมาก มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ รวมทั้งเอแคลร์ช็อกโกแลต ขนมปารีสเบรสต์สอดไส้ครีมเฮเซลนัท และมิลล์เฟยวานิลลารสชาติกลมกล่อมไม่แพ้กัน พร้อมเสิร์ฟทุกวันระหว่างเวลา 15.00-17.00 น. ในราคาเพียง 699 บาทสำหรับ 2 ท่าน ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2558 ชั้น G โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์

‘ออสเตรีย อาฟเตอร์นูน ที เซต’ @ 1823 ทีเลานจ์ บาย รอนเนอเฟลด์

IMG_0235 copy IMG_0295 copy‘ออสเตรีย อาฟเตอร์นูน ที เซต’ ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมการจิบชาของชาวออสเตรีย นำโดยพระเอกของร้านอย่าง IMG_0284 copy‘อิมพีเรียล ทอร์ต’ เค้กช็อกโกแลตนมที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะของ เชฟจากโรงแรมอิมพีเรียล ประเทศออสเตรีย ที่ปรุงถวายจักรพรรดิ ฟรานซ์ โจเซฟ (Emperor Franz Joseph) ซึ่งเป็นเมนูไฮไลท์ของชุดน้ำชานี้ รวมทั้งช็อกโกแลต โมสาจ ซึ่งต้องสั่งนำเข้าจากออสเตรีย รสชาติช็อกโกแลตเข้มข้น จับคู่กินกับชาเลยทำให้ยิ่งลงตัว

IMG_0251 copyใครมาร้านนี้แนะนำให้ชิม ‘แบงค็อก เบลนด์’ ชาอู่ที่ผสมหอมกลิ่นของสับปะรดและมะละกอที่แสดงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน รวมทั้ง ‘เกสร เบลนด์’ ชาขาวจีนใส่กลิ่นดอกไม่กับมะม่วงน้ำดอกไม้ กลิ่นค่อนข้างหอมหวาน ขายดีมาก จนบางครั้งของหมด อยากชิมต้องสั่งจองล่วงหน้าถึง 3 เดือนเลยทีเดียว สามารถสัมผัสรสชาติ “ออสเตรีย อาฟเตอร์นูน ที เซต” ได้ในราคา 988 บาท++ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษร เปิดบริการเวลา 10.00 – 20.00 น.

‘ไทย อาฟเตอร์นูน ที เซต’ @ R Bar โรงแรมเรเนซองส์

นับเป็นการเพิ่มสีสันให้วัฒนธรรมการจิบชาน่าสนใจกว่าที่เคย โดยเติมแต่งเอกลักษณ์รสชาติความเป็นไทยร่วมกับเมนูสไตล์ตะวันตกได้อย่างน่าลงตัวในเซ็ท ‘ไทย อาฟเตอร์นูน ที’IMG_0175 copy

IMG_0154 copyนำโดย ชาเขียวมินต์และไวท์ช็อคโกแลตเย็น ซึ่งเป็นชาเขียวสูตรพิเศษที่ทางโรงแรมฯ ร่วมกับทาง Dilmah คิดค้นสูตรขึ้นมาเพื่อให้ผู้ที่ลิ้มลองได้สัมผัสความหอมของกลิ่นชาเขียวและมินต์ที่เข้ากันดีกับกลิ่นของไวท์ช็อคโกแลต เสิร์ฟคู่กับเมนูขนมของว่างคาวและหวานที่เลือกสรรส่วนผสมและวัตถุดิบสไตล์ไทย ดีไซน์ตกแต่งสไตล์คอนเทมโพลารี่อย่างIMG_0166 copyช็อคโกแลตจัสมินเค้กให้รสชาติหวานละมุนจากช็อคโกแลตคัดพิเศษผสมผสานความหอมจากเนื้อมะพร้าวอ่อนและกลิ่นมะลิแบบไทยๆ มาพร้อมเมนูเค้กแซนด์วิชข้าวเหนียวมะม่วงโรยหน้าด้วยไข่คราเวียกะทิ ชิฟฟ่อนเผือกและมะพร้าวอ่อน ทองม้วน สโคนรสทุเรียนและใบเตย มินิเบอร์เกอร์กระเพราหมู แซนด์วิชโรลแซลมอนต้มยำ ฯลฯ ไปชิมได้ที่ล็อบบี้ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการเฉพาะช่วงเวลา 14.00-17.00 น.

กรุ่นกลิ่นชามินต์และขนมหวานสไตล์โมร็อกโก

IMG_0180 copyใครมาที่บัลโคนี่ เลานจ์ ชั้นล็อบบี้ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ต้องลองชิม ‘ชุดน้ำชาสไตล์โมร็อกโก’ ซึ่งมีการนำวิถีชีวิตของชาวโมร็อกโกที่ชื่นชอบการดื่มชามินต์ มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชุดไฮทียามบ่าย

IMG_0223 copyซึ่งการดื่มชามินต์ของชาวโมร็อกโกดั้งเดิมจะต้องดื่มทั้งหมด 3 แก้ว เพื่อสัมผัสรสชาติที่แตกต่างกันอันเกิดจากการผสมผสานของส่วนผสมหลัก ได้แก่ ใบชาเขียว ใบมินต์ซาฮาร่า และน้ำตาล

IMG_0188 copy IMG_0204 copyเคียงคู่ขนมหวานสูตรต้นตำรับที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสไตล์อาหรับแท้ๆเช่น ผลฟิกซ์ และอินทผาลัม มาใช้เป็นส่วนผสมและที่พลาดไม่ได้ คือ “เซโมลีน่าเค้ก” เค้กกลิ่นหอมเนยสด ที่ให้รสชาติหวานลงตัวจากน้ำผึ้งแท้ เข้ากันดีกับเนื้อเค้กที่ทำจากเมล็ดข้าวโพดอ่อน นับเป็นเอกลักษณ์ของชาวโมร็อกโกซึ่งถือว่าเป็นความอร่อยลงตัวที่ต้องหาโอกาสลิ้มลองให้ได้ ราคา 550 บาท++ สำหรับ 1 ท่าน และ 850 บาท++ สำหรับ 2 ท่าน เปิดบริการเวลา 14.30 – 18.00 น.

ถอดรหัสนิยามแห่งการดื่มชาสไตล์อิตาเลียน

IMG_0075 copy‘ลา โดลเช วิต้า’ นิยามแห่งการดื่มชาที่สะท้อนการดำเนินชีวิตของชาวอิตาเลียนแบบเรียบง่าย ผ่านชุดน้ำชายามบ่าย โดยคัดสรรชาคุณภาพเยี่ยมหลากหลายชนิดจาก TWG แบรนด์ชาหรูระดับโลก  IMG_0079 copyเสิร์ฟพร้อมเมนูของว่าง โดยเฉพาะเมนูขนมหวานไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้กับเมนูของหวานอย่าง ‘คาโนลี’ ขนมแป้งทอดของอิตาลีมีต้นตำรับมาจากแคว้นซิลี โดยจะทำเฉพาะช่วงเทศกาลคาร์นิวัลเท่านั้น มีความกรอบตัดกับความนุ่มของไส้ที่อัดแน่นไปด้วยครีมคาโนลีรสหวานผสมกับ ช็อคโกแลต ผิวส้ม และผลไม้เชื่อม IMG_0092 copy ในราคา 1,250 บาท++ สำหรับ 2 ท่าน เสิร์ฟควบคู่กับเครื่องดื่มพิเศษ ณ ห้อง เดอะ ดรออิ้ง รูม และ เดอะ เซนต์ รีจิส บาร์ ชั้น 12 โรงแรม เดอะ เซนต์  รีจิส กรุงเทพฯ เปิดบริการเวลา 14.00 – 18.00 น.

ละเลียดจิบชาแบบต้นตำรับผู้ดีอังกฤษ

IMG_0340 copyอังกฤษถือเป็นดินแดนต้นกำเนิดวัฒนธรรมการจิบน้ำชายามบ่ายของโลก โดย ชาทไวนิงส์ จัดเป็นแบรนด์ชาอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นต้นตำรับสืบทอดมานานกว่า 300 ปี โดยขอแนะนำชา ‘ทไวนิงส์ ลาร์จ – ลีฟ ดิสคัฟเวอรี่ คอลเล็คชั่น’ ชาใบใหญ่คอลเลคชั่นใหม่จาก ทไวนิงส์ ที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยความรักผสานกับศิลปะการปรุงชาของทไวนิงส์มาสเตอร์เบลนด์เดอร์ IMG_0296 copy

กินคู่กับซิกเนเจอร์เมนูอย่าง ‘ทไวนิงส์ ซิกเนเจอร์ เอิร์ลเกรย์ ช็อคโกแลต เค้ก’ เค้กช็อคโกแลต ละมุนลิ้นที่เติมเต็มความหอมด้วยชาทไวนิงส์เอิร์ลเกรย์ นอกจากนี้ยังสามารถลิ้มลองขนมสไตล์ต้นตำรับได้จากเซ็ต ‘ทไวนิงส์ อิลิแกนท์ อาฟเตอร์นูน ที’ มาพร้อมเมนูที่หลากหลาย

IMG_0317 copyไม่ว่าจะเป็น สโคนรสออริจินัล และรสเอิรล์เกรย์ กินคู่กับคล็อตเต็ทครีมจากเมืองเดวอน เมืองที่ผลิตคล็อตเต็ทครีมที่ดีที่สุดในโลก พร้อมแยมสูตรพิเศษ 2 รสชาติ ทั้งกุหลาบ และเลมอน เป็นความหอมหวานที่เข้ากันอย่างลงตัว รวมไปถึง แซนด์วิช คานาเป้ มาการอง และ ครีมบรูเล่ ในราคาเซ็ต 1,290 บาท++ ณ ทไวนิงส์ ที บูทีค ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เปิดบริการเวลา 10.00 – 22.00 น.

การบรรจบกันของ 2 รสชาติที่ลงตัว

IMG_0124 copy‘อีส มีทส์ เวสต์ อาฟเตอร์นูน ที’ เป็นชุดน้ำชายามบ่ายที่รังสรรค์ขึ้นจากความลงตัวแห่งการผสมผสานของตะวันออกและตะวันตก โดยได้คัดสรรวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยมจากยุโรปและเอเชีย มาปรุงแต่งเป็นเมนูขนม และของว่างทั้งคาวหวาน ให้คุณได้เลือก

IMG_0137 copyทั้งโวลโอวองส์แพนงไก่

IMG_0130 copyหมั่นโถวไส้เป็ดย่าง

IMG_0120 copyมูสช็อกโกแลตวาโรน่า (Valrhona) สอดไส้เยลลี่มะกรูด ฯลฯ เป็นรสชาติที่เหมือนจะไม่เข้ากัน แต่กลับอร่อยลงตัวสุดๆ

IMG_0102 copyIMG_0109 copyโดยมีไฮไลท์เมนู ที่เสิร์ฟคู่กับ‘ชามารียาจค์ แฟรร์’ ชาชั้นสูงที่นับว่าเป็นมรดกของชาติฝรั่งเศสเลยทีเดียว เดิมทีมีทั้งหมด 700 ชนิด แต่เมืองไทยได้รับลิขสิทธิ์นำเข้ามาเพียงแค่ 200 ชนิด แล้วที่ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ นำเข้ามาเพียงแค่ 10 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดล้วนเป็นซิกเนเจอร์ทั้ง เออเกรย์ โพรวองซ์ ซึ่งใช้ดอกลาเวนเดอร์เข้าไปผสมผสานด้วย และมีขายที่นี่ที่เดียวเท่านั้น รวมทั้งโอเปร่า ที (Opera Tea) กลิ่นหอมจากขาเชียวหลากหลายชนิด นับเป็นชาชั้นดีที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกที่ควรค่าแก่การลิ้มลองสักครั้งในเซ็ตราคาเพียงแค่ 850 บาท++ /1 คน เปิดบริการเฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 14.00 – 18.00 น. ณ เดอะ ล็อบบี้ เลานจ์ ชั้น ล็อบบี้ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

บอกเลยว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม 

เรื่อง : แพรวดอทคอม

ภาพ : วรสันต์

เกาะขอบรันเวย์ NY Fashion Week ฟันธง! แฟชั่นFringe ปลายพู่ มาแรงแน่ๆ

ทั้งจากนางแบบตัวแทนแบรนด์ดังต่างๆ ที่มาเดินอวดโฉมบนแคทวอล์ก และจากเหล่าเซเลบริตี้ที่แต่งองค์ทรงเครื่องมาประชันกันแบบไม่ยอมน้อยหน้า และหากพินิจจากโชว์ของหลายแบรนด์ดังตลอดหลายวันมานี้แล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เทรนด์ปลายพู่สุดพริ้ว หรือเรียกกันว่า Fringe จะมาแรงในช่วงปี 2016 อย่างแน่นอน

GettyImages-488341500เพราะแบรนด์ใหญ่หลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Givenchy, Rebecca Minkoff, Ralph Lauren, Marissa Webb, Hervé Leger, Banana Republic และ Alexander Wang ต่างนำเสนอเครื่องแต่งกายที่มีดีเทล Fringe ผสมอยู่ ทั้งการตกแต่งชายเสื้อ ชายกระโปรง ประดับบนแจ็คเก็ต และชุดเดรส ลามไปถึงเครื่องประดับ อาทิ ต่างหู รองเท้า สร้อยคอ และแม้แต่กระเป๋า ต่างก็มีปลายพู่ Fringe ห้อยระย้ากันทั้งนั้น
GettyImages-488341558ขนาดนักเทนนิสหญิงอันดับ 1 ของโลก Serena Williams ที่เพิ่งก้าวตามความฝันวัยเด็กในสายอาชีพแฟชั่นดีไซน์ได้ไม่นาน ก็นำเสนอคอลเล็คชั่นเครื่องแต่งกาย ชุดที่ 2 ของเธอ ที่งาน New York Fashion Week ด้วยเช่นกัน ภายใต้ชื่อ HSN Signature Statement ที่เน้นเสื้อและกระโปรง ดีเทลปลายพู่ Fringe ล้วนๆ

GettyImages-488341498

แฟชั่น Fringe ดีเทลปลายพู่คืออะไร?

ดีเทลปลายพู่นี้ มักเห็นบ่อยในเครื่องแต่งกาย ของเหล่าศิลปิน นักดนตรี เสื้อผ้าย้อนยุคสไตล์วินเทจ โบฮีเมียน หรือนึกภาพง่ายๆ ราวชุดของคาวบอย หรือชุดพื้นเมืองอินเดียแดง โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้น Fringe คือการตัดตกแต่งริมขอบผ้า เช่น ผ้าม่าน ธง หรือ อินทรธนู (เครื่องประดับยศบนบ่า) ซึ่งการทำ Fringe แต่ก่อนนั้น มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันการร่นหลุดของผ้า หรือเส้นด้าย

GettyImages-488341316
ดีเทลปลายพู่ Fringe มีประวัติมายาวนานแล้ว ยกตัวอย่างจาก เสื้อผ้าเครื่องประดับระดับหรูหรา ในแถบยุโรปตะวันตก ที่ตกแต่งด้วยชายผ้า Fringe มีให้เห็นมากในช่วงยุคเรอเนสซองส์ และเริ่มเข้ามาเป็นที่นิยมบนเกาะอังกฤษ ราวปี 1688
GettyImages-487955574ปัจจุบันมีการนำดีเทลแบบปลายพู่ Fringe มาออกแบบร่วมกับเครื่องประดับและเครื่องแต่งกาย โดยดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น ส่วนของปลายพู่ทำจากผ้าหลายชนิด เช่น ผ้าขนสัตว์ ผ้าไหม ลินิน หรือหนัง เป็นต้น

แต่งตัวด้วย Fringe อย่างไรไม่ให้ดับ?

สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบดีเทล Fringe อยู่แล้ว การแต่งกายที่มีปลายพู่พลิ้วไหว อาจไม่ใช่เรื่องยากหรือเรื่องต้องกังวล แต่สาวๆ บางราย ที่กำลังจะหันมาลองสวมใส่บ้างอาจเริ่มจากสิ่งของบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น เลือกกระเป๋าปลายพู่ สะพายในวันสบายๆ พร้อมสวมรองเท้าปลายเปิดหุ้มส้นที่มีระบาย Fringe มองแล้วลงตัว

GettyImages-487988004หรือเลือกท่อนบนเป็นเสื้อดีเทล Fringe มีปลายพู่ห้อยพริ้ว ระไปกับเอวและสะโพก ส่วนท่อนล่างอาจเลือกเป็นกางเกงยีนส์ หรือกระโปรงเข้ารูปแบบเรียบๆ ก็เพียงพอแล้ว

อีกแนวทางหนึ่งคือเลือกท่อนบนเรียบๆ และเล่นสนุกกับรายละเอียดฟรุ้งฟริ้งกับกระโปรงชาย Fringe แทน ก็เก๋ไม่หยอกเช่นกัน

GettyImages-487889440

ทั้งนี้หลังจบเวที New York Fashion Week แล้ว สาวๆ ยังสามารถตามอัพเดทเทรนด์แฟชั่นอ ย่างใกล้ชิดได้อีกกับงานระดับโลก London Fashion Week ระหว่างวันที่ 18-22 กันยายนนี้ ตามด้วย Milan Fashion Week ระหว่างวันที่ 23-29 กันยายน และสุดท้ายกับงาน Paris Fashion Week ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 7 ตุลาคม 2558 เรียกได้ว่า เป็นช่วงนาทีทองแห่งการอัพเดทเทรนด์แฟชั่นต้อนรับปี 2016 เลยก็ว่าได้

เรื่อง : Ladyfern

ภาพ : Getty Image

ประกาศชื่อผู้โชคดี : Beauty Advice (แพรว ปักษ์ 25 ส.ค. 58)

LANCÔME: Rose Lancôme #368

1. คุณสิรีรัตน์ เกียรติชัย กรุงเทพฯ
2. คุณสุรีย์รัตน์ อำพันสุข สงขลา
3. คุณจุฑามาศ จงสุขประเสริฐ ภูเก็ต
4. คุณพรจันทร์ นุกูลประดิษฐ์ กรุงเทพฯ
5. คุณจุรีรัตน์ ศรีสุข สงขลา

NARS: Audacious Lipstick สี Jane

1. คุณวรนุช ลีลา กรุงเทพฯ
2. คุณชนิสรา เล็บสังวาลย์ เชียงใหม่
3. คุณชุลีพร จันทร์สิงห์ ชุมพร
4. คุณวันเรารวี ธนกัญญา กรุงเทพฯ
5. คุณกษิษฐา สัตตะยุกต์ นนทบุรี

Bobbi Brown: สี Sweet Nectar

1. คุณอภิรดี ศักดิ์สมวาศ ระยอง
2. คุณชนัญชิดา เชียงวันนา กรุงเทพฯ
3. คุณภัคจิรา เสมอสมัย หนองคาย
4. คุณวันวิสาข์ กมลวิทย์ ระนอง
5. คุณศิริวรรณ ของเมืองพรวน กรุงเทพฯ

ESTÉE LAUDER: Pure Color Envy สี Envious

1. คุณวิไลลักษณ์ บังเกิดสิงห์ นนทบุรี
2. คุณสมหมาย เจริญศุข กรุงเทพฯ
3. คุณศุภากานต์ รุ่งแสงทิวากร กรุงเทพฯ
4. คุณสายพิณ สังขสุข กรุงเทพฯ
5. คุณปุณิกา ฉายเสมแสง กาฬสินธุ์

SHISEIDO: Perfect Rouge สี Spellbound

1. คุณชลจิต คำพัฒน์ สมุทรปราการ
2. คุณพรวรรณ สินธุมงคล กรุงเทพฯ
3. คุณรัตนา ละอองจิต นนทบุรี
4. คุณชญาดา รุจิพงคานนท์ กรุงเทพฯ
5. คุณพรรณปวีณ์ อยู่สวัสดิ์ กรุงเทพฯ

SHU UEMURA: Rouge Unlimited Lip # PK340

1. คุณวาสนา ปัญจสินชัย ลำปาง
2. คุณสุกัญญา คร้ามอ่อน ตาก
3. คุณชนัญญาดาห์ เตชปาล เชียงใหม่
4. คุณสมพร ทวีประเสริฐ กรุงเทพฯ
5. คุณถนอมศรี ทองธรรมชาติ กรุงเทพฯ

URBAN DECAY: Revolution Lip Sheer สี F-Bomb

1. คุณยุทธวีร์ ธรรมประดิษฐ์ กรุงเทพฯ
2. คุณนิธินันท์ โตศิริวราพงศ์ ปราจีนบุรี
3. คุณไพลิน เชิดสุข อุบลราชธานี
4. คุณเฉิดฉัน โชติยานนท์ กรุงเทพฯ
5. คุณทองศุกร์ ทองจุล นนทบุรี

M.A.C: Ruby Woo
1. คุณจิตกมล เกษแก้ว สมุทรปราการ
2. คุณวลัยพร ชัยสิริมั่นคง กรุงเทพฯ
3. คุณนฤมล อัจฉริยวรพงศ์ นครสวรรค์
4. คุณศิริรัตน์ ตันติกนกพร สมุทรสาคร
5. คุณชลธิชา จันทร์ทัด สมุทรสาคร

YSL: Rouge Pur Couture สี Le Rouge

1. คุณนันทนา สุพรรณ์ สระแก้ว
2. คุณศิวพร ปลื้มสติ ปทุมธานี
3. คุณศักดิ์สิทธิ์ อิงค์สุวัฒน์ กรุงเทพฯ
4. คุณเนครนภา แม่นศรแผลง นนทบุรี
5. คุณณัฐิกานต์ พิริยะบุญยิ่ง นครพนม

Laura Mercier: Crème Smooth Lip Colour สี Rose

1. คุณศศิธร สุวรรณศรี สมุทรปราการ
2. คุณสายทอง ธรรมโร ร้อยเอ็ด
3. คุณสุจิตรา เรือนหลวง สุโขทัย
4. คุณรัดกมล วสุวานิช กรุงเทพฯ
5. คุณโรจนันทร์ กิตติเลิศพัฒน์ กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ผู้โชคดีทั้ง 50 ท่าน ทางนิตยสารแพรวจะจัดส่งของรางวัลไปให้ถึงบ้าน

ประกาศชื่อผู้โชคดี : Beauty Speak (แพรว ปักษ์ 25 ส.ค. 58)

1. คุณโชคอนันต์ มลังเมลือง กรุงเทพฯ
2. น.ต.โกศล คำทอง สมุทรปราการ
3. คุณกชนันท์ แซ่เฮีย เชียงใหม่
4. คุณนภัสพร อโณทัยไพบูลย์ นครราชสีมา
5. คุณฉัตรลดา กันติรัตนาวงศ์ กรุงเทพฯ
6. คุณยินดี วรรณสิน กรุงเทพฯ
7. คุณเฉิดฉัน โชติยานนท์ กรุงเทพฯ
8. คุณนภาพร แซ่อั่ว แพร่
9. คุณวันชัย เตชะงามเลิศ กรุงเทพฯ
10. คุณพวงเพ็ญ ฉินประเสริฐผล นครสวรรค์
11. คุณอุทัยทิพย์ สุวรรณ์ สงขลา
12. คุณกานรินทร์ พิสิฐพิพัฒนา ลำปาง

ทั้งนี้ผู้โชคดีทั้ง 12 ท่าน ทางนิตยสารแพรวจะจัดส่งของรางวัลไปให้ถึงบ้าน

สีสันบนรันเวย์ New York Fashion week 2015 ชุดแบบนี้ใส่ได้ในชีวิตจริงหรือ?

1.แบรนด์ Daniel Silverstain คอลเลกชั่น Spring 2016
Daniel Silverstainย - Runway - Spring 2016 New York Fashion Weekถึงชุดแรกอาจจะไม่ได้ดูแปลกตามากเท่าไหร่ แต่ก็ให้ความรู้สึกล้ำสมัย อารมณ์เหมือนหลุดมาจากโลกอนาคต ซึ่งถ้าใครใส่ชุดนี้ก็คงต้องพกความมั่นใจระดับแฟชั่นนิสต้าเลยล่ะ เพราะถ้าคนธรรมดาอย่างเราใส่ออกจากบ้านก็เกรงว่าจะดูไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะการออกแบบทุกชุดของแบรนด์นี้ จะเล่นกับสีเงินหรือสีทองซึ่งเป็นเอกลัษณ์ของเขาอยู่แล้ว อย่างชุดนี้จุดเด่นอยู่ที่เสื้อแจ็คเก็ตและกางเกงทรงโอเวอร์ไซส์สีทอง

2.แบรนด์ Daniel Silverstain คอลเลกชั่น Spring 2016
Daniel Silverstainย - Runway - Spring 2016 New York Fashion Week
ชุดนี้เป็นแบรนด์เดียวกันกับชุดแรก แต่ต่างกันตรงที่แจ็คเก็ตเป็นสีเงิน (Silver) ซึ่งทำให้ลุคนี้ดูใส่ง่ายกว่าชุดแรก ที่ชอบในลุคนี้ก็คือกระโปรงดีไซน์เก๋ กับเสื้อตัวใน ที่ใส่ลูกเล่นด้วยการเพิ่มเฉดสีที่หลากหลายมาขึ้น ดูแล้วลงตัวกว่าชุดแรก แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมคือให้ความรู้สึกถึงความล้ำสมัย ซึ่งไม่แน่ว่าในอีกไม่กี่ปี แฟชั่นเซตนี้อาจกลายเป็นชุดธรรมดาที่เราใส่กันในชีวิตประจำวันก็เป็นได้

3. แบรนด์ Laurel DeWitt คอลเลกชั่น Spring 2016
Laurel DeWitt - Runway - Spring 2016 New York Fashion Week
ส่วนชุดนี้อาจดูสวยแปลกไปสักนิดหนึ่ง การดีไซน์ของชุด แค่เห็นก็รู้เลยว่าใส่ไปแล้วต้องคันแน่ๆ เพราะเล่นใช้หมุดดอกไม้ปลอมเย็บติดกับเสื้อซีทรูทั้งชุด ยังมีเดรสตัวในที่ปักด้วยหมุดรูปดอกไม้เล็กๆ อีกนะ ถึงแม้ดูด้วยตาเปล่าจะเห็นว่าชุดนี้ก็เป็นอีกชุดหนึ่งที่ทำออกมาน่ารักดี แต่เชื่อเถอะว่าใส่ได้ไม่ถึงวันก็คันไปทั้งตัวจนต้องถอดออกแน่จ้า

4. แบรนด์ Laurel DeWitt คอลเลกชั่น Spring 2016
Laurel DeWitt - Runway - Spring 2016 New York Fashion Week
เป็นการดีไซน์ที่ทำออกมาค่อนข้างแปลกจริงๆ ถ้าชุดนี้ไม่ใช้นางแบบหน้าอินเตอร์มาสวมใส่ จะทำให้ดูเหมือนชุดหางเครื่องบ้านเรามากๆ เพราะทั้งตัวดีไซน์ของชุด กับตัวหมุดดอกไม้ปลอมที่ใช้ตกแต่ง ยังทำออกมาได้ไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่ก็เป็นแบรนด์ใหญ่ แต่ทำออกมากลับให้ความรู้สึกไม่ค่อยสมราคาของแบรนด์

5. แบรนด์ Gypsy Sport คอลเลกชั่น Spring 2016
Gypsy Sport - Runway -Spring 2016 MADE Fashion Week
แฟชั่นเซตนี้เป็นแฟชั่นเกี่ยวกับชุด Sport โดยปกติแล้วเราจะเห็นชุดเล่นกีฬาส่วนใหญ่เป็นชุดง่ายๆ สบายๆ แต่แบรนด์นี้ออกแบบให้ชุดกีฬาดูมีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น ซึ่งแค่ฟังคอนเซ็ปต์แล้วก็ดูจะเข้าท่านะ แต่พอออกแบบมาไหงกลายเป็นชุดแบบนี้ไปซะแล้วนี่สิ ไม่รู้ว่าจะมีใครใจกล้าใส่บ้างไหมนะ

6. แบรนด์ Gypsy Sport คอลเลกชั่น Spring 2016
Gypsy Sport - Runway -Spring 2016 MADE Fashion Week
นี่ก็เป็นอีกชุดของแบรนด์ Gypsy Sport ที่ดีไซน์มันช่างขัดในแม่ซะเหลือเกิน แต่ถ้าใครมั่นใจอยากใส่ก็ไม่ว่ากันนะ เพราะบางทีความชอบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่างชุดนี้ถึงจะดูแปลกไปซักหน่อย แต่ถ้าหยิบเอามาใส่ในงานปาร์ตี้ก็คงไปกันได้อยู่

7. แบรนด์ Gypsy Sport Spring คอลเลกชั่น 2016
Gypsy Sport - Runway -Spring 2016 MADE Fashion Week
พยายามมองให้มันเป็นแฟชั่นก็แล้ว แต่ชุดนี้ก็ยังขัดตาอยู่ดี เพราะชุดที่ดูพะรุงพะรังเกินไป บวกกับสีสันที่แสบตาแล้ว ทำให้ลุคที่แม้แต่นางแบบใส่ออกมายังดูเพี้ยนๆ อยู่เลย แนะนำว่าถ้าเราอยากใส่ชุดที่มีลูกเล่นมาก ให้ลดอย่างอื่นให้เบาลง อย่างเช่นทรงผม ก็ควรทำให้ดูไม่รก ไม่ไม่งั้นทุกชุดทั้งคนจะดูเยอะไปซะหมด

8. แบรนด์ Nicholas K คอลเลกชั่น Spring 2016
Nicholas K - Runway - Spring 2016 New York Fashion Week: The Shows
ชุดนี้ถึงจะดูแปลก แต่ก็เท่เหมือนออกมาจากในหนังฝรั่งเลยล่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรารึเปล่านะ เพราะใส่ไปมีหวังเป็นลมเป็นแล้งแน่ ถึงแม้ว่าจะเห็นนางแบบใส่ออกมาแล้วดูดี แต่ถ้าคนธรรมดาอย่างเราใส่ คงเหมือนเอาจีวรพระมาใส่แน่ๆ

9. แบรนด์ Leanne Marshall คอลเลกชั่น Spring 2016
Leanne Marshall - Runway - Spring 2016 New York Fashion Week: The Shows

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนออกแบบชุดนี้คงได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ จากต้นไม้แน่ๆ เพราะตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ใช้สีเขียวทั้งชุด ซึ่งจริงๆ แล้วการนำแรงบันดาลใจจากอะไรสักอย่างมาสร้างเป็นผลงาน ไม่จำเป็นต้องเอามาทั้งหมดก็ได้ เอามาแค่พอมีกลิ่นอาย มีลูกเล่นจะดีกว่า

10. แบรนด์ Nolcha shows คอลเลกชั่น Spring/Summer 2016
Nolcha Shows During New York Fashion Week Spring/Summer 2016 Collections NYFW - Planet Zero Motersports
เพิ่งจะรู้ว่าเดี๋ยวนี้แฟชั่นแนว Motersports เขาไปไกลขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย สาวๆ คนไหนที่รักความเร็ว ชอบความท้าทาย ลองหาซื้อใส่ได้นะ แต่บอกไว้เลยว่าชุดนี้กันแดดกันลมไม่ได้นะจ๊ะ งานนี้ไม่รู้ว่าคนออกแบบเขาคิดยังไง แต่ก็ถือว่าเป็นสีสันบนรันเวย์ได้ดีทีเดียว

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : www.gettyimages.com

4x4Man เผยโฉมคอลเลกชั่นประจำฤดูหนาว ‘จีนิซิส’ (Genesis) ลายเส้นแห่งความคลาสสิก

สำหรับฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2015 4X4 MAN มองไปยังผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของ เรียวจิ อิเคดะ ศิลปินชาวญี่ปุ่นผู้สร้างสรรค์ศิลปะจากเสียง โดยงานของอิเคดะ สะท้อนถึงลวดลายที่เป็นกราฟิก อาทิเช่ยลายตาราง (grid) ลายจุด และลายทาง ที่สลับซ้อนทับกันไปมา เนื่องจากเป็นภาพที่ถูกฉายแบบไดนามิก และออกแบบการเคลื่อนไหวตามความถี่ของเสียง เส้นสายและลวดลายกราฟิกแปลกตาเหล่านี้ ถูกถ่ายทอดลงบนเสื้อผ้าของ 4X4 MAN ผ่านเทคนิคและรายละเอียดบนแพทเทิร์น รวมไปถึงการตัดเย็บอย่างแยบยล อาทิเช่น เสื้อเชิ้ตที่มีการตัดต่อระหว่างลายผ้า การตีเกล็ดเพื่อเพิ่มเท็กซ์เจอร์และเส้นสายให้กับเสื้อ การทอลายปกโปโล การลดทอนปกแบบคลาสสิกเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ การเลือกใช้ผ้าที่ทอเป็นลายในตัว (Jacquard) และการเพิ่มลูกเล่นบนผ้าโดยการเดินเส้นด้ายเป็นลายทาง รวมไปถึงการปักไหมเป็นลายต่างๆ และการปักเลื่อมและลูกปัด ที่ปรากฏบนชุดสูทในคอลเลคชั่นพิเศษ
1

2

เสื้อเชิ้ตที่เป็นคีย์พีซของแบรนด์ ยังคงแอบซุกซ่อนดีเทลบนความเรียบง่ายของผ้าค้อตต้อนเนื้อละเอียด สวมใส่สบายและผ้าอ๊อกซ์ฟอร์ด โดยมีผ้าทอลายเสริมเข้ามาสำหรับหนุ่มๆที่ต้องการความพิเศษ ทั้งในคอลเลคชั่นเสื้อเชิ้ตและสูทนอกเหนือไปจากวัสดุหลักอย่างผ้าที่มีส่วนประกอบของโพลีเอสเตอร์ เรยอน และPU ที่ให้ความยืดหยุ่น คงทน ไม่ยับง่ายและระบายอากาศได้ดีด้วยเช่นกัน โครงสีหลักของแบรนด์ยังคงเป็นขาว ดำ เทา และน้ำเงินกรมท่า โดยมีสีแดงกำมะหยี่ และสีเขียวเข้มเข้ามาเพิ่มความน่าสนใจ
3

4

สำหรับกระเป๋าและเครื่องประดับ ในคอลเลคชั่น หนังชามัวส์ได้ถูกนำมาใช้คู่กับผ้าไหมทอลายและผ้าแคนวาส โดยชิ้นเด่นของแบรนด์ยังคงเป็นกระเป๋าคลัตช์โอเวอร์ไซส์สำหรับหนุ่มๆ โดยเทคนิกการผสมหนังกับผ้าไหม ยังปรากฏให้เห็นในคอลเลคชั่นเทคไท และโบไทอีกด้วยเช่นกัน

เรื่อง : แพรวดอทคอม
ภาพ : 4x4Man

เคล็ด (ไม่) ลับแก้เล็บเหลือง

account_circle

เรื่อง : กวินทรา

          จะเป็นอะไรไหมหากสวมแหวนด้วยเล็บเหลืองๆ ที่ถูกละเลยการดูแลในวันแต่งงานของตัวเอง บอกเลยว่าเป็นแน่นอน! ลองคิดดูว่า ถ้าทุกคนจะจับจ้องแหวนเพชรอันงดงามที่กำลังจะสวมเข้านิ้วนางข้าง แต่กลับต้องมาสะดุดตาเพราะเล็บเหลืองๆ ของเจ้าสาว คราวนี้ได้อายกันไปสามบ้านแปดบ้าน เพราะฉะนั้นมาฟื้นฟูก่อนที่จะสายเกินแก้ดีกว่า
          สูตรเด็ดเคล็ดไม่ลับที่ WE-MAG.COM นำมาคราวนี้ทำง่ายมาก เพียงแช่เล็บและมือในน้ำอุ่น ประมาณ 15 นาที จากนั้นพักทิ้งไว้ซัก 2 นาที นำมะนาวหรือมะกรูดมาหั่นแล้วถูเล็บให้ทั่วทุกนิ้ว พักเล็บทิ้งไว้อีกครั้งประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด อย่าลืมทาครีมบำรุงมือและเล็บหรือครีมบำรุงผิวทั่วไปก็สามารถใช้ได้ ทำแบบนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง รับรองว่าเล็บคุณจะกลับมาสวยไม่เหลืองอ๋อยจนต้องอายแขกในงานแต่งแน่นอน

ภาพ : www.girlsallaround.com

keyboard_arrow_up