เอพี ไทยแลนด์ กรุ๊ป ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้พันธกิจ ‘EMPOWER LIVING’ ที่มุ่งเติมเต็มทุกเป้าหมายของชีวิต ด้วยนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีคุณค่าและมีความหมาย เอ็มพาวเวอร์คนไทยผนึกพลังร่วมผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปกับแคมเปญรณรงค์เพื่อสังคม #SAVEหมอSAVEประเทศไทย นำร่องสมทบทุนบริจาคเงิน 3 ล้านบาท เดินหน้าส่งมอบหน้ากากอนามัย 3M รุ่น N95 จำนวน 1,120 ชิ้นให้กับทีมแพทย์ในโรงพยาบาลแถวหน้า กระตุ้นพลังโซเชียลร่วมบริจาคเพื่อการแพทย์กับ 19 หน่วยงานภาครัฐ นำไปจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้ป่วย พร้อมร่วมมือกับบมจ.เซ็นทรัลพัฒนาส่งมอบ ‘ถุงน้ำใจ’ แก่นักรบชุดขาวเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ที่อุทิศตน เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 อย่างปลอดภัยที่สุดไปด้วยกัน

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทฯ ได้มีการจัดทำแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ การบริหารจัดการกระแสเงินสด ตลอดจนแนวทางการดูแลลูกค้าและพนักงานอย่างสุดกำลัง พร้อมกันนี้ในมิติเพื่อสังคม บริษัทฯ พร้อมเอ็มพาวเวอร์ทุกคนในสังคมให้ผนึกพลังร่วมผ่านวิกฤตโควิด-19 นี้ไปด้วยกันกับแคมเปญรณรงค์ #SAVEหมอSAVEประเทศไทย

โดยบริษัทฯ ได้นำร่องแคมเปญด้วยการบริจาคเงินจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนซื้ออุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยแก่บุคลากรทางการแพทย์ไทย ตลอดจนอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้ป่วย COVID-19 ผ่านทางมูลนิธิรามาธิบดี มูลนิธิราชวิถี   รพ.จุฬา สถาบันบำราศนราดูร รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และศิริราชมูลนิธิ ท่ามกลางความกังวลใจในเรื่องของนำเข้าหน้ากากอนามัย N95 จากต่างประเทศ ตลอดจนการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากผ้า และส่งมอบหน้ากากอนามัยให้แก่ทีมแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้แทนนั้น บริษัทฯ จึงได้นำหน้ากาก 3M รุ่น N95 จำนวน 1,120 ชิ้น ส่งมอบให้กับทางโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมีรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นผู้รับมอบ เพื่อนำไปเสริมทัพอุปกรณ์ให้กับทีมแพทย์สู้ศึกต่อไป”

คอมมิวนิตี้ขนาดใหญ่ ทั้ง Facebook, Instagram, Twitter และ Line Official ซึ่งมีสมาชิกผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านคนเป็นเครื่องมือกระจายข้อมูล 19 ช่องทางการบริจาคของหน่วยงานภาครัฐทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  พร้อมเชิญชวนให้คนไทยถึงจะอยู่บ้าน Work From Home ก็สามารถร่วมแรงร่วมใจบริจาคและสนับสนุน ‘นักรบชุดขาว’ เหล่าบุคลากรทางการแพทย์ที่อุทิศตน เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 อย่างปลอดภัยที่สุดไปด้วยกัน ตลอดจนการร่วมมือกับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และพันธมิตรกว่า 20 บริษัท จัดทำ ‘ถุงน้ำใจ’ ซึ่งบรรจุอาหารแห้งและสิ่งของจำเป็น เพื่อนำส่งแก่หมอและบุคลากรทางการแพทย์ต่อไป

“จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าได้ส่งผลกระทบต่อหลายภาคธุรกิจ รวมไปถึงความมั่นใจของผู้บริโภค มาตรการต่างๆ ที่ทางภาครัฐได้ประกาศใช้ก็เพื่อควบคุมให้เกิดความเสียหายต่อประเทศน้อยที่สุด ซึ่งภาคเอกชนทุกรายพร้อมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหยิบยื่นความช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง ผมขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมสมทบทุนบริจาคเพื่อการแพทย์ ซึ่งเราได้รวบรวมช่องทางการบริจาคของ 19 หน่วยงานภาครัฐทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองในต่างจังหวัดที่ทำหน้าที่เป็นทัพแถวหน้าในการรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ วลีของไทยที่ว่า ‘มีน้อยให้น้อยมีมากให้มาก’ ยังคงใช้ได้ในทุกสถานการณ์ หรือเพียงแค่แชร์ข้อมูลช่องทาง การบริจาคจากบน Social Media ของ AP Thai ก็เท่ากับได้ช่วยเหลือแล้ว สุดท้ายอยากชวนคนไทยให้ใช้หน้ากากผ้า และบริจาคหน้ากากอนามัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นมากกว่าเราทุกคน” นายวิทการ กล่าวสรุป

แคมเปญรณรงค์เพื่อตอบแทนสังคม #SAVEหมอSAVEประเทศไทย โดยเอพี ไทยแลนด์ นำร่องด้วย 

1. สมทบทุนบริจาคจำนวน 3 ล้านบาท เพื่อสมทบทุนซื้ออุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยแก่บุคลากรทางการแพทย์ไทย ตลอดจนอุปกรณ์ช่วยชีวิตผู้ป่วย COVID-19 ผ่านทางมูลนิธิรามาธิบดี มูลนิธิราชวิถี รพ.จุฬา สถาบันบำราศนราดูร รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และศิริราชมูลนิธิ 
2. บริจาคหน้ากากอนามัย 3M รุ่น N95 แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นต้องใช้งาน    จำนวน 1,120 ชิ้น ผ่านทางโรงพยาบาลรามาธิบดี 
3. ใช้ AP Social Media ออนไลน์คอมมิวนิตี้ขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกกว่า 2.4 ล้านคน เป็นกระบอกเสียงรณรงค์ให้คนไทยร่วมบริจาคให้กับ 19 หน่วยงานภาครัฐทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 
4. ร่วมมือกับบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา และบริษัทพันธมิตรกว่า 20 แห่ง จัดทำ ‘ถุงน้ำใจ’ ซึ่งบรรจุอาหารแห้งและสิ่งของจำเป็น เพื่อนำส่งแก่หมอและบุคลากรทางการแพทย์ต่อไป

ร่วม #SAVEหมอSAVEประเทศไทย เพื่อให้เราคนไทยทุกคนผ่านวิกฤตโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน https://www.facebook.com/APthai/photos/pcb.2893416677373921/2893422170706705/?type=3&theater

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ได้มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน กลุ่มเซ็นทรัล จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญด้านความพร้อมในการรักษาและความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นด่านหน้าในการรับมือกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งกำลังขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และเครื่องมือในการป้องกันเป็นจำนวนมาก  

กลุ่มเซ็นทรัล จึงนำศักยภาพของกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่มีอยู่มาพัฒนาต่อยอดเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการรับมือและรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาทิ ไทวัสดุ ใช้ช่างที่ชำนาญการ ผลิตเครื่องป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสำหรับผู้ป่วย ขณะนอนบนเตียงช่วยป้องกันการแพร่เชื้อ, ท็อปส์–เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์–แฟมิลี่มาร์ท และ ซีพีเอ็น ให้อุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น,  เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) สนับสนุนอาหารจากแบรนด์ในเครือให้โรงพยาบาลทั้งหมด   6 แห่งแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่, โรงแรมในเครือเซ็นทารา สนับสนุนห้องพักให้กับ ผู้บริหารและ อาจารย์แพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยทั่วไป

ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มเซ็นทรัล ได้ สนับสนุนงบประมาณจำนวน 30  ล้านบาท เพื่อใช้ในสถานการณ์นี้ ให้แก่โรงพยาบาล 20 แห่ง ที่ขาดแคลนทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด

พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล  กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัล ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้เคียงข้างบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละและอุทิศตนต่อการรักษาและตรวจคัดกรองโรค เชื้อไวรัส  โคโรน่า ให้กับประชาชน ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลหลายแห่งยังขาดแคลนเครื่องมือที่จำเป็นรวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protection Equipment) หรือ PPE อีกจำนวนมาก กลุ่มเซ็นทรัล ในโครงการ “เซ็นทรัล ทำ” ในเบื้องต้น จึงได้สนับสนุน งบประมาณและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมทั้งอาหาร เครืองดื่ม เป็นจำนวนเงินรวมกว่า 30 ล้านบาท มอบให้แก่ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ขาดแคลน ประกอบด้วย 

• หน้ากากอนามัย N95 
• ถุงมือยาง 
• ชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 
• แว่นตากันเชื้อในห้องปฏิบัติการ 
• ชุดป้องกันสารเคมี 
• เสื้อกาวน์ของแพทย์ 
• เครื่องคอมพิวเตอร์ 
• เครื่อง ไอแพด 

ธุรกิจในเครือ กลุ่มเซ็นทรัล อาทิ  ไทวัสดุ ได้ส่งมอบเครื่องป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสำหรับผู้ป่วย อันอาจเกิดจากการไอ จาม เสมหะของผู้ปวย ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อไปยังบุคลากรทางการแพทย์หรือบริเวณโดยรอบ รวมทั้งสิ้น 9 โรงพยาบาล 6 จังหวัด  จำนวน 58 ชุด    ทั้งนี้อุปกรณ์ดังกล่าวถูกผลิตขึ้นด้วยฝีมือของพนักงานไทวัสดุและนายช่างที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งร่วมแรงร่วมใจกันประกอบอุปกรณ์ขึ้นมา โดยจะมีการผลิตเพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานต่อไป , ท็อปส์–เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์–แฟมิลี่มาร์ท เตรียมมอบหน้ากาก N95 , หน้ากากป้องกันละอองฝอย (face shield) และเจลแอลกอฮอลล์ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และซีพีเอ็น พนักงานทุกคนพร้อมใจกันทำหน้ากาก Face Shield จำนวนกว่า 60,000 ชิ้น ส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์กว่า 5,000 คน อีกด้วย, เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) สนับสนุนอาหารจากแบรนด์ในเครือให้โรงพยาบาลทั้งหมด   6 แห่ง รวมไปถึง โรงแรมในเครือเซ็นทารา สนับสนุนห้องพักให้กับ ผู้บริหารและ อาจารย์แพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยทั่วไป เพื่อความสะดวกในการประสานงานให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ที่โรงแรมเซ็นทารา แอท เซ็นทรัลเวิลด์ 

ดร.นพ.ประกิตพันธุุ์ ทมทิตชงค์,ยุวดี จิราธิวัฒน์,ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ แพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ ,
พิชัย จิราธิวัฒน์,นพ.วันชัย ศุภจัตุรัส

ทางด้าน ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ แพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภาและอดีตนายกแพทยสมาคมฯ กล่าวว่า “เรารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ กลุ่มเซ็นทรัล เห็นถึงความสำคัญต่อบุคคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อจัดส่งให้กับ 20 โรงพยาบาลทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้เป็นเครื่องมือที่จำเป็นอย่างยิ่งในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย N95 ที่ทางแพทย์ต้องการเป็นอย่างมาก เพราะในบางกรณีที่ต้องทำหัตถการบางอย่างกับคนไข้ เช่น ใช้เครื่องดูดเสมหะ การพ่นยาให้คนไข้แบบเป็นหมอก (nebulization) จะเกิดละอองลอยในอากาศ (aerosol) ซึ่งไวรัสจะแขวนลอยอยู่ได้นานกว่าปกติในอากาศ หน้ากาก N95 จึงจำเป็นต่อกระบวนการแพทย์ เพราะได้มาตรฐานและมีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานก็ยาวนาน ในส่วนของน้ำยาตรวจหาเชื้อไวรัส หรือถุงมืออนามัย ก็สำคัญไม่แพ้กัน และทางกลุ่มเซ็นทรัลสนับสนุนทำประกันชีวิตให้กับหมอและพยาบาลทั่วประเทศในเครือข่ายแพทยสภา ภายใต้โครงการประกันชีวิตหมออีก 1 ล้านบาท เพื่อเป็นหนึ่งในการมอบกำลังใจดีๆ ให้แก่ คุณหมอ และ พยาบาลทั่วประเทศ

แพทยสภา และแพทยสมาคมฯ เห็นสมควรว่าการบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ควรกระจายส่งมอบโรงพยาบาลให้ทั่วทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะในกรุงเทพ ปริมลฑล หรือต่างจังหวัด ที่มีการขาดแคลนและร้องขอจริงๆ ซึ่งเบื้องต้นรวบรวมได้ทั้งหมด 20 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, โรงพยาบาลตำรวจ, สถาบันบำราศนราดูร, โรงพยาบาลกลาง, โรงพยาบาลตากสิน, ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, วชิรพยาบาล, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ, โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า,  โรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก, โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่, โรงพยาบาลศรีนครินทร์ (มหาวิทยาลัยขอนแก่น) จ.ขอนแก่น, โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก, โรงพยาบาลสงขลานครินทร์     จ.สงขลา, โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา

อย่างไรก็ตาม กลุ่มเซ็นทรัล ยังได้ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการดูแลความปลอดภัย ให้กับทั้ง พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และ พันธมิตร ทุกภาคส่วน ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด อาทิ การตรวจวัดไข้ ติดตั้งเทอร์โมสแกน ติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทุกวัน การติดตั้งเครื่องดักเชื้อโรคที่ระบบปรับอากาศ ทำความสะอาดราวบันไดเลื่อน ทำความสะอาดลิฟท์ ทุกครึ่งชั่วโมง และทุกจุดสัมผัสของพื้นที่ส่วนรวม ทั้งในศูนย์การค้า และ สำนักงาน 

ในส่วนของบุคลากรในองค์กรเราได้มีการแจกหน้ากากอนามัยให้พนักงาน และจัดทำประกันภัยโควิด-19 ให้กับพนักงานทุกคน การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเริ่มงาน และสนับสนุนให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน เป็นต้น  

สุดท้ายนี้ กลุ่มเซ็นทรัล จะยังคงเดินหน้าสนับสนุนทุกภาคส่วนโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง และขอเป็นกำลังใจให้ทุกหน่วยงานสามารถฝ่าฟันวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปด้วยกันด้วยความเข้มแข็ง รวมทั้งเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ  และหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว

กรุงเทพฯ, 7 เมษายน 2563 — เพราะ ‘ผู้หญิงยุคใหม่’ กับ ‘ความมั่นใจ’ คือของคู่กัน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสาวๆ ทั้งหลายจะต้องใช้ชีวิตแบบ Social Distancing อยู่ที่บ้านก็ตาม และด้วยความเข้าใจอินไซต์อย่างลึกซึ้ง ‘เมย์เบลลีน นิวยอร์ก’ แบรนด์เครื่องสำอางอันดับหนึ่งของโลก ขออาสาปลุกความมั่นใจและพลังในตัวของสาวๆ เหล่าซิสทุกคน ภายใต้แนวคิด #StayhomewithMaybelline จับมือ ‘ช้อปปี้’ ผู้นำแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เสิร์ฟความสวยสั่งได้ที่ทั้งสะดวกสบาย และคุ้มค่า ส่งตรงถึงหน้าประตูบ้านผ่านโปรโมชั่นสุดแซ่บใน Maybelline x Shopee Super Brand Day ในระหว่างวันที่ 7-13 เมษายน 2563 นี้

ในแคมเปญ Maybelline x Shopee Super Brand Day นี้มาพร้อมกับธีมเก๋ๆ อย่าง Colors of New York 7 วัน 7 โปรส่งตรงจากนิวยอร์ค เอาใจสาวๆ ทุกเฉดสีผิว ทุกสไตล์ โดย ‘เมย์เบลลีน นิวยอร์ก’ และ ‘ช้อปปี้’ จัดหนักด้วยโปรโมชั่นสุดปังมาให้เหล่าซิสได้เสริมลุคสวยเผ็ดตามใจสั่ง ได้ง่ายๆ จากที่บ้าน ด้วยโปรโมชั่นส่งฟรีทุกรายการ ลดกระหน่ำสูงสุด 60% รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 100% ในรูปแบบ Shopee Coins พร้อมมีสิทธิ์รับลิปสติกเนื้อครีม Maybelline Color Sensational Creamy Matte Mini Lipstick มูลค่า 99 บาท ฟรีทุกวัน

เหล่าซิสเตรียมตัวให้ดี เพราะในแคมเปญ Maybelline x Shopee Super Brand Day นี้ ยังมีลุคเด็ดที่ ‘เมย์เบลลีน นิวยอร์ก’ ได้คัดสรรคอลเลคชั่นพิเศษมาโดยเฉพาะ เอาใจสาวๆ ครีเอทหลากลุคสนุกๆ จากที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น

• เพิ่มดีกรีความแซ่บ เป็นตัวแม่สุดจี๊ด ด้วยเซ็ท “FIERCE REDS ลุคแดง แรงไม่หยุด”
• เนียนนี สดใส ด้วยเซ็ท “BOLD NUDES นู๊ดเนียนโดดเด่น ฟิตทุกเฉดผิว”
• อัพลุคหวาน ซ่อนเปรี้ยว ด้วยเซ็ท “POPPING CORALS ชมพู-พีช ฉ่ำเข้าทุกลุค”
• สาวสายแฟ เตรียมเติมความมั่นด้วยเซ็ท “POWER PINKS เทรนด์สีใหม่ ที่ใครๆ ต้องหลีกทาง”

ตัวห่างไกล แต่ความมั่นใจต้องไม่ห่างกันนะคะซิส … ปักหมุดรอแล้วเตรียมตัวช้อปกันได้เลยกับ Maybelline x Shopee Super Brand Day ในระหว่างวันที่ 7-13 เมษายน 2563 นี้ ได้เลยที่ https://shopee.co.th/maybelline_thailand

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/maybellinethailand หรือ www.maybelline.co.th 

#StayhomewithMaybelline #ShopeeFromHome #อยู่บ้านก็ช้อปปี้ได้

บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร ร่วมส่งกำลังใจให้กับทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยมอบอาหารกล่อง ผลิตภัณฑ์คุกกี้ และขนมเค้ก ให้แก่ 14 โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้โครงการ “S&Pร่วมใจ สู้ภัยโควิด-19” ในระหว่างวันที่ 1-9 เมษายน 2563

คุณมณีสุดา ศิลาอ่อน กล่าวถึงการร่วมส่งกำลังใจในครั้งนี้ว่า “เอส แอนด์ พี ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและให้กำลังใจทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละ ทุ่มเททั้งแรง กายแรงใจในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยบริษัทฯ ได้ส่งมอบอาหารกล่อง ผลิตภัณฑ์คุกกี้เดลิโอ ขนมบัทเทอร์เค้กซองและเค้กกล้วยหอม มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,106,820 บาท ให้แก่ 14 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลหัวเฉียว ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุชลประทาน รวมถึงโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โรงพยาบาลนครพิงค์ และโรงพยาบาลสันกำแพง นอกจากนี้ยังสนับสนุนหน้ากากป้องกันเชื้อ Face Shield สำหรับดูแลผู้ป่วย จำนวน 6,000 ชิ้น โดยจะจัดส่งไปที่โรงพยาบาลทั่วประเทศอีกด้วย”

เอส แอนด์ พี ขอเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนสังคม และขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ทุกท่าน เราจะก้าวข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน