ปรับบ้านรับทรัพย์

แนะเคล็ดลับ ปรับบ้านรับทรัพย์ ตามหลักฮวงจุ้ย กับหมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา

Alternative Textaccount_circle
ปรับบ้านรับทรัพย์
ปรับบ้านรับทรัพย์

แนะเคล็ดลับ ปรับบ้านรับทรัพย์ ตามหลักฮวงจุ้ย กับหมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา

บ้านคือศูนย์รวมความสุขของสมาชิกทุกคนในบ้าน และหากว่าบ้านมีการจัดฮวงจุ้ยที่ดี จะยิ่งเสริมให้ผู้อยู่ร่ำรวยมั่งมีได้อีกด้วย หมอช้าง-ทศพร ศรีตุลา หมอดูคนดัง จึงได้แนะไอเดียปรับฮวงจุ้ยบ้านให้รับทรัพย์ ด้วยวิธีที่ทุกคนทำตามได้ไว้อย่างน่าสนใจ ในงาน SCG HOME & Living Fair

“ฮวงจุ้ย” หรือในภาษาจีนกลางคือ Feng Shui (เฟิงสุ่ย) มาจากคำสองคำคือ ‘เฟิง’ แปลว่า ‘ลม’ และ ‘สุ่ย’ แปลว่า ‘น้ำ’ ดังนั้น ทฤษฎีของฮวงจุ้ยที่ดี จึงว่ากันด้วยทิศทางการหมุนเวียนของลมและการไหลเวียนของน้ำนั่นเอง

‘ลม’ ของฮวงจุ้ยจะพัดพาพลังชี่ (Shi) เข้ามาภายในบ้าน ฉะนั้น การจัดฮวงจุ้ยก็คือ การจัดพลังชี่ในบ้านให้ลมเกิดการหมุนเวียนในทิศทางที่ดีตามองศาของประตูและหน้าต่าง ถ้าจัดฮวงจุ้ยได้ถูกต้อง ตามตำราบอกว่า อยู่ 1 ปีก็รวย 10 เท่า ในทางกลับกันถ้าพลังชี่ไม่ดี อยู่ 1 ปีก็อาจจะจน 10 เท่าก็เป็นได้ สิ่งที่ต้องระวังเวลาจัดฮวงจุ้ยบ้านคือ ‘มุมของทางสามแพร่ง’ หรือ ‘เหลี่ยมของเสาหน้าบ้าน’ ห้ามมีมุมแหลมๆ พุ่งเข้ามาในบ้านเด็ดขาด และต้องระวังประตูที่เปิดเข้าตัวบ้าน (ไม่ใช่ประตูรั้ว เพราะประตูรั้วมีผลกับฮวงจุ้ยน้อยมาก) แนะนำว่าในวันที่อากาศดี ควรเปิดประตูตัวบ้านทิ้งไว้ให้ลมหมุนเวียนเข้ามา หรือเปิดหน้าต่างให้แสงแดดเข้ามาก็จะได้รับพลังชี่ที่ดี บ้านไหนที่มีประตูเข้าบ้าน 2 ประตู ควรใช้ประตูหลักที่ใหญ่กว่าให้บ่อยๆ เพราะตามหลักฮวงจุ้ยแล้วถือว่าประตูใหญ่เป็นทางเข้าของมังกร

หากทางสามแพร่งหรือเสาไฟฟ้าเกิดอยู่ตรงกับประตูหลักที่เข้าตัวบ้าน อันนี้ ถือว่าเป็นเรื่องไม่ดี เพราะทำให้พลังชี่เข้ามาได้น้อย สามารถแก้ไขได้โดยนำต้นไม้ขนาดเล็กที่กำลังนิยมมาตั้งไว้ หรืออาจแขวนโมบายที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊ง ก็จะช่วยลดพลังที่ไม่ดีลงได้ ส่วน ‘เลขที่บ้าน’ นั้น ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว เลขที่บ้านมีผลต่อฮวงจุ้ยน้อยมาก การจัดฮวงจุ้ยนั้นเป็นศาสตร์ที่ต้องควบคุมพลังชี่ที่อยู่รอบตัวเราเป็นหลัก ฉะนั้นสิ่งที่ทุกคนต้องทำก็คือ จัดการกับพลังชี่ในบ้านของเราให้ได้ก่อน

ปรับบ้านรับทรัพย์ ตามหลักฮวงจุ้ย

บ้านที่มีประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน

อันนี้ไม่ดี เพราะเมื่อพลังชี่เข้ามาในบ้านมันก็จะพุ่งออกไปเลย จึงเป็นบ้านที่เก็บเงินไม่ได้ แม้หาเงินได้เยอะ นั่นคือ พลังชี่อาจจะเข้ามาเยอะ แต่มันพุ่งออกไปเร็วมาก เปรียบดั่งหาเงินได้ แต่รายจ่ายก็เยอะ วิธีแก้คือ หาตู้โชว์ พาร์ทิชั่น หรือเฟอร์นิเจอร์ มาตั้งตรงกลางระหว่างประตูหน้าและประตูหลัง เมื่อพลังชี่เข้ามาก็จะถูกกักให้หมุน เวียนอยู่ในบ้าน ประตูเข้าตัวบ้านต้องเปิด-ปิดง่าย ปิดแล้วเสียงต้องไม่ดัง จะทำให้มีโชคลาภเงินทองไหลเข้ามา

ปรับบ้านรับทรัพย์ ตามหลักฮวงจุ้ย

ห้องนั่งเล่น (Living Room)

ห้องนั่งเล่นถ้าใช้งานบ่อยพลังงานที่ดีก็จะเข้ามาในบ้าน พูดง่ายๆ ว่าบ้านเปรียบเสมือนอวัยวะในร่างกาย ฉะนั้น ถ้ามีห้องไหนที่ทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งานนานๆ ก็เหมือนเราไม่ได้ขยับอวัยะส่วนต่างๆ ในร่างกายเลย พลังชี่จะไม่เข้ามา สิ่งที่อยากให้มีในห้องนั่งเล่น ถ้าชอบของมงคลแนวจีน แนะนำให้ตั้งรูปปั้นฮกลกซิ่ว จะช่วยให้พบกับความสำเร็จ 3 ประการคือ ครอบครัวดี หน้าที่การงานดี และสุขภาพดี แต่หากชอบของแต่งบ้านสมัยใหม่ ให้เลือกโคมไฟคริสตัล หรือคริสตัลสวย ๆ ตั้งในตู้โชว์ เพราะจะช่วยกระจายพลังชี่ได้ อีกอย่างที่ห้องนั่งเล่นไม่ควรมีคือ โต๊ะสำหรับทานข้าว

ห้องครัวคือหัวใจของบ้าน

ครัวคือโชคชะตาของผู้หญิงในบ้าน ถ้าครัวทรุดผู้หญิงที่อยู่ในบ้านจะมีปัญหาสุขภาพ ถ้าหลังคาครัวรั่วหมายถึงทรัพย์รั่ว ถ้าพื้นครัวมีโพรง ผู้หญิงบ้านนี้จะเจ็บป่วยได้ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ตำแหน่งของเตาไฟ คนจีนเชื่อว่าเตาไฟเป็นตัวแทนของหญิงผู้ให้กำเนิด จึงห้ามตั้งเตาไฟในทิศตรงข้ามกับอ่างล้างจาน หรือไม่ควรตั้งเตาไฟติดกับอ่างล้านจาน และ ห้ามตั้งเตาไฟโดยใช้ผนังร่วมกับห้องน้ำ เพราะจะทำให้ผู้หญิงในบ้านป่วย แถมโชคลาภก็จะไม่เข้ามาในบ้านด้วย หากมีเตาไฟในบ้านควรใช้บ่อย ๆ เพื่อหมุนเวียนพลังหยาง (ความร้อน) ซึ่งจะต้องบาลานซ์กับพลังหยิน (ความเย็น) ของน้ำในบ้านที่มีการเคลื่อน ไหวด้วย

ปรับบ้านรับทรัพย์ ตามหลักฮวงจุ้ย

ห้องนอนก็สำคัญเช่นกัน

ห้องนอนที่เก็บของเยอะเกินไปจนดูรก ก็เหมือนเป็นการสะสมพลังลบไว้ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้น ควรมีของให้น้อยที่สุด ข้อควรระวังอีกอย่าง อย่าให้ประตูห้องน้ำเปิดมาแล้วเจอเตียงเลย เพราะจะทำให้ป่วย สำหรับหัวเตียงไม่จำเป็นต้องหันไปทางทิศตะวันออกเสมอไป ถ้าในห้องนอนมีกระจก ไม่ควรให้กระจกหันหรือสะท้อนมาที่เตียงนอน เพราะจะสะท้อนพลังดี ๆ ออกไปหมด และถ้าห้องอยู่ชั้นล่างของบ้าน ห้ามนอนหันปลายเท้าไปทางประตูเข้าตัวบ้าน เพราะจะเหมือนการหามคนเจ็บคนตาย

ปรับบ้านรับทรัพย์ ตามหลักฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ยของบ้านที่ดีควรมีองค์ประกอบครบทั้ง 5 ธาตุ ดังนี้

‘ธาตุน้ำ’ ในบ้านควรมีสีฟ้า สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นตัวแทนของธาตุน้ำ หรือตั้งน้ำพุเล็ก ๆ ที่มีความเคลื่อนไหว ก็จะช่วยเสริมฮวงจุ้ยที่ดี

‘ธาตุไม้’ ควรหาต้นไม้ประดับเล็ก ๆ ที่มีใบสีเขียวมาไว้ในบ้าน หรือ หากบ้านไหนมีพื้นบ้านที่เป็นพื้นไม้ก็ถือว่าใช้ได้

‘ธาตุไฟ’ สีส้ม สีแดง และสีชมพู คือตัวแทนของธาตุไฟ อาจจะใช้หมอนอิง โคมไฟ หรือสิ่งของอื่น ๆ ที่มีสีเหล่านี้มาประดับไว้

‘ธาตุดิน’ อาจเลือกใช้พรมเช็ดเท้าที่มีสีน้ำตาล หรือสิ่งของที่อยู่ในหมวดสีเอิร์ธโทนนำมาตกแต่งในบ้านก็ช่วยเสริมธาตุดินได้

‘ธาตุโลหะ’ อาจเป็นสิ่งของที่ทำจากโลหะทั้งหลาย เช่น โต๊ะที่มีขาสเตนเลส หรือแจกันสีทองแววาวก็ได้

ถ้าบ้านไหนมีสิ่งของหรือการตกแต่งครบทั้ง 5 ธาตุแล้ว ก็ถือว่าบ้านนั้นมีฮวงจุ้ยที่ดีแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสริมฮวงจุ้ยด้านอื่นๆ ก็ได้


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

WORK FROM HOME ไม่น่าเบื่อ เพิ่มเสน่ห์ให้ตัวบ้าน เสมือนนั่งอยู่ในแกลลอรี่หรู

5 ทริคจัดฮวงจุ้ยโต๊ะทำงานรับปีไก่ งานดี เงินคล่อง ต้องทำแบบนี้!

สง่างาม น่าเกรงขาม รวมเครื่องประดับ “มังกร” ใส่แล้วมีโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง

 

 

 

นัท-จริยาวรรณ

ข้ามฟ้ามาพบรัก! เส้นทางหัวใจ นัท-จริยาวรรณ เซเลบสาวไทยกับหมอศัลย์เกาหลี

Alternative Textaccount_circle
นัท-จริยาวรรณ
นัท-จริยาวรรณ

หลายคนอาจใช้เวลายาวนานกว่าค่อนชีวิตตามหาความรัก แต่กับใครบางคน ความรักอาจจะกำลังตามหาเขาหรือเธออยู่ก็ได้ อย่างเช่นเรื่องราวความรักของคู่นี้ นัท-จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์ เซเลบสาวสวยจากเมืองไทย ผู้เคยมีหลักในการทำงานว่า จะไม่ให้เรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัว เธอจึงไม่มองหรือคิดจะศึกษาดูใจคนที่พบกันจากการทำงานเลย และที่แน่ๆ ต้องไม่ใช่หมอ เพราะเธออยู่กับธุรกิจโรงพยาบาลมาตลอด กระทั่งมาพบเขาคนนี้ “แซม-ซามูแอล ยู” (Sammuel Yoo) โอปป้าว่าที่คุณหมอศัลยกรรมพลาสติก โปรไฟล์เริ่ดจากเกาหลี ที่พกแหวนวงน้อยติดตัวไว้ตลอดกว่า 4 ปี ด้วยหวังว่าวันหนึ่งจะมีผู้หญิงสักคนที่สามารถสวมมันได้พอดี จนกระทั่งเขาพบเธอ

นี่คือเรื่องราวสุดโรแมนติกยิ่งกว่าซีรีส์เกาหลีราดน้ำผึ้ง ท็อปปิ้งด้วยน้ำตาลไอซิ่ง เมื่อโชคชะตาแห่งรักชักพาเขาและเธอมาพบกัน นำไปสู่การแต่งงานแบบสายฟ้าแล่บไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทั้งคู่บอกว่า “ถ้าเจอคนที่ใช่แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องรอ”

ข้ามฟ้ามาพบรักที่แท้ทรู! เส้นทางหัวใจ "นัท-แซม" เซเลบสาวไทยกับหมอศัลย์เกาหลี

ข้ามฟ้ามาพบรัก! เส้นทางหัวใจ นัท-จริยาวรรณ เซเลบสาวไทยกับหมอศัลย์เกาหลี

วันแรกพบ…ที่ไม่ใช่รักแรกพบ

ย้อนกลับไปในวันที่พวกเขาเจอกัน ทั้งคู่ตอบอย่างพร้อมเพรียงว่าไม่ใช่รักแรกพบ โดยคุณนัทเล่าก่อนว่า “ตอนนั้นนัทบินไปประชุมงานที่เกาหลีกับบริษัทของคุณพ่อแซม ตอนประชุมเราไม่ได้คุยกันเลย เพราะนัทไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แล้วเขาก็นั่งเฉยๆ ไม่ทักทาย เราจึงคุยงานแต่กับพาร์ตเนอร์ของเขา ยังแอบคิดว่าผู้ชายคนนี้คงยังเด็ก ไม่มีมารยาท แต่งตัวก็กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ฉันไม่คุยงานด้วยหรอก (หัวเราะ)

“พอคุยกันเสร็จ เราก็ไปกินข้าวเที่ยงแบบ Business Lunch พอดีมื้อนั้นมีปูดองเกาหลีที่นัทชอบมาก วิธีการกินคือใส่ถุงมือแล้วหยิบปูขึ้นมากัด เราก็กินจนเศษปูเต็มจานเลย สักพักมีถังใส่เศษอาหารยื่นมาตรงหน้า (หัวเราะ) พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นแซมนี่แหละที่ยื่นมาให้ เขาบอกว่าปูกองเต็มจานเลย ใส่ถังสิ คือเขาค่อนข้างเจ้าระเบียบ เราจึงเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีคนดูเราอยู่นี่นา แต่ก็ทำให้ได้คุยกัน

“จึงทำให้รู้ว่าเขาคือลูกชายของ Jea Sung Yoo คุณหมอศัลยกรรมพลาสติกอันดับหนึ่งของเกาหลี ซึ่งมีโรงพยาบาลของตัวเองและกิจการอื่นๆ รวมถึงบริษัทที่นัทกำลังคุยอยู่นี้ด้วย แต่แซมใช้ชีวิตอยู่ในหลายประเทศ เขาเกิดที่บราซิล โตที่เกาหลี แล้วไปเรียนต่อไฮสกูลกับด้านทันตกรรมที่อเมริกา ก่อนจะเปลี่ยนสายไปเรียนต่อเฉพาะทางด้านศัลยกรรมพลาสติกเพื่อตามรอยคุณพ่ออยู่ที่ฮังการี น่าจะจบกลางปีนี้ แต่เขาก็มักกลับมาเกาหลีเพื่อมาเรียนรู้งานของคุณพ่อด้วย”

แซมขอเคลียร์ “ความจริงวันนั้นผมไม่มีส่วนร่วมใดๆ กับการประชุมเลยครับ แค่เข้าไปนั่งฟังว่าเรามีวิธีการจัดการธุรกิจนี้อย่างไร ก็เลยคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องทักทายเธอ แต่พอตอนเที่ยงที่เห็นเธอกินปูได้แบบเละเทะ (หัวเราะ) ก็เลยรู้สึกว่าต้องทำอะไรหน่อยแล้วเซเลบสาวไทย นัท จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์

“หลังจากนั้นเราก็พบกันเรื่องงานบ้าง กระทั่งวันที่สามผมจึงเริ่มมองเธอจริงๆ พอดีก่อนกลับไทยเธอมีวันว่าง ผมจึงชวนนัทและพาร์ตเนอร์ของเธอไปโบสถ์ที่คุณพ่อผมสร้าง ปรากฏว่าพอจะไปจริงๆ พาร์ตเนอร์ของนัทไปไม่ได้ แต่เธอยังไปอยู่ ผมจึงได้โอกาสพาเธอไปโบสถ์ และเป็นครั้งแรกที่เธอได้พบคุณพ่อผมแบบเร็วๆ ประมาณ 3 วินาที”

นัทเล่าต่อ “ต้องบอกว่านัทเป็นคาทอลิก แต่เขาเป็นคริสเตียน แม้จะศาสนาเดียวกัน แต่เป็นคนละนิกาย มีความต่างพอสมควร แต่เราตกลงไป เพราะรู้สึกสนใจเรื่องที่คุณพ่อเขาสร้างโบสถ์ คือท่านบริจาคที่ดินกลางกรุงโซล ซึ่งแพงมากๆ แล้วยังบริจาคเงินในการสร้างโบสถ์สูงเท่าตึก 4-5 ชั้น นำรายได้กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ มาทุ่มลงตรงนี้ ยิ่งทำให้นัทประทับใจ

“ที่สำคัญตอนนัทเห็นคุณพ่อแซมครั้งแรก รู้สึกว่าท่านเหมือนคุณพ่อนัทมาก มาทราบทีหลังว่าท่านเกิดปีเดียวกันกับคุณพ่อนัท เช่นเดียวกับคุณแม่แซมที่เกิดปีเดียวกันกับคุณแม่นัท แล้วคุณแม่เขายังเกิดเดือนเดียวกันกับคุณพ่อนัท ส่วนคุณพ่อเขาก็เกิดเดือนเดียวกันกับคุณแม่นัท แปลกมากๆ”

แซมช่วยเสริม “ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าโบสถ์มาก่อนเลย เพราะคุณพ่อมีตำแหน่งสูงอยู่ที่นั่น ทุกคนจะจับตามองเราอยู่ตลอด จึงต้องระวังมากๆ นัทคือผู้หญิงคนแรกที่ผมพาไป แล้วทุกคนก็ถามว่าเธอเป็นแฟนผมหรือเปล่า ส่วนคุณพ่อ ผมบอกท่านแต่แรกแล้วว่านัทไม่ใช่คนเกาหลี และไม่ได้นับถือศาสนาเดียวกัน แต่หลังจากท่านได้ทักทายกับนัทสั้นๆ ผมได้ยินท่านโทร.ไปเล่าให้คุณแม่ฟังว่า วันนี้แซมพาผู้หญิงมาโบสถ์ เป็น ‘Wonderful Lady’ (ยิ้ม)

“ส่วนตัวผมเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงพานัทไป แค่รู้สึกว่าเธอมีอะไรบางอย่างที่ผมใฝ่ฝันถึง แล้วเรื่องศาสนาก็มีส่วนสำคัญมากในการที่ผมจะเลือกผู้หญิงให้เข้ามาอยู่ในชีวิต เช่นเดียวกับเรื่องครอบครัวและการเลี้ยงดู ซึ่งแค่ได้พบเธอ ผมก็บอกได้เลยว่านัทได้รับการเลี้ยงดูที่ดีมากจากครอบครัว”

เซเลบสาวไทย นัท จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์

รักเกิดที่นัมซาน

หลังออกจากโบสถ์ แซมชวนนัทเดินขึ้นเขานัมซานที่ตั้งอยู่กลางกรุงโซล ก็ถ้าตัวละคร บรรยากาศ และเพลงประกอบจะพร้อมขนาดนี้ ก็ต้องปิ๊งกันบ้างละ โดยแซมเล่าถึงเหตุการณ์นั้นว่า “ที่ชวนเดินขึ้นเขานัมซานด้วยกัน เพราะเป็นที่ที่ผมชอบมาเดินเล่นเวลาต้องคิดอะไรเยอะๆ แล้วก็เป็นที่ประจำที่ผมมาวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าด้วย ผมอยากให้นัทได้เห็นมุมอื่นๆ ของโซลบ้าง เพียงแต่วันนั้นเราอยู่ในชุดทางการมากๆ เพราะเพิ่งไปโบสถ์มา แล้วอากาศก็ร้อน หลังจากเดินไปได้ 30 นาที นัทถามว่ากลับเลยได้ไหม (หัวเราะ) ผมบอกว่าไม่ได้ ต้องเดินต่อ กว่าจะเดินถึงด้านบนเล่นเอาผมเหงื่อท่วม นัทเลยชวนผมเข้าร้านสะดวกซื้อบนนั้น แล้วซื้อทิชชูเปียกมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ผม ทำให้ผมรู้สึกว่าเขามีน้ำใจ ในขณะเดียวกันการได้เดินคุยกันในวันนั้น ทำให้พบว่าเรามีความชอบและมีอะไรคล้ายกันหลายอย่าง”

นัทยืนยัน “จริงค่ะ ระหว่างเดินขึ้นเขา แซมเปิดเพลงในมือถือคลอไปด้วย ทำให้รู้ว่าเราฟังเพลงเดียวกัน เทสต์เหมือนกัน ใช้กระเป๋าสตางค์ยี่ห้อเดียวกัน แบบเดียวกัน แต่ละคนสี เพราะนัทใช้กระเป๋าสตางค์ผู้ชาย แถมยังมีบัตรเครดิตแบรนด์เดียวกันเก็บไว้ในช่องเดียวกันอีก มันประหลาดที่เราอยู่กันคนละประเทศ แต่กลับทำอะไรเหมือนกัน”

แซมเล่าต่อ “วันสุดท้ายผมขับรถไปส่งเธอขึ้นเครื่องบินกลับเมืองไทย แต่รถติดมากชนิดที่ผมส่งเธอทันขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้าย ระหว่างที่ผมรีบขับรถแทบแย่ นัทกลับบอกว่า จะรีบทำไม ขับช้าหน่อยก็ได้ เผื่อตกเครื่อง จะได้อยู่ต่ออีกหน่อย (หัวเราะ) พอส่งเธอแล้ว ผมก็ส่งข้อความไปว่า ‘It was a rush but it was worth it. I really enjoy the time with you. And I think I miss you already.’ ผมคิดว่าเธอเริ่มเปิดใจตั้งแต่ตอนนั้น แม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ 3 วัน สงสัยว่านัทคงกำลังเหงาเหมือนกัน” (หัวเราะชอบใจ)

เซเลบสาวไทย นัท จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์

นัทสารภาพว่า “ตอนแรกนัทคิดว่าเขาคงแค่เล่นๆ ตอนบอกลากันที่แอร์พอร์ต ยังคิดเลยว่าคงไม่ได้เจอกันอีก แต่พอเขาเมสเสจมาว่าคิดถึงแล้ว นัทก็แบบ…Oh yes! (หัวเราะ) กระทั่งกลับมาเมืองไทยแล้ว เขายังส่งข้อความและโทร.มาหาเรื่อยๆ หลังจากคุยกันได้สองสัปดาห์ เขาก็บินมาหาที่เมืองไทย”

แซมเล่าถึงความประทับใจในการมาเยือนเมืองไทยอย่างจริงจังครั้งแรกว่า “นัทจองที่พักให้ผมดีมาก อยู่โรงแรมพาร์ค ไฮแอท ซึ่งมีอาหารเช้าอร่อยสุดๆ แต่เขาให้ผมโดดอาหารเช้าโรงแรม แล้วมารับผมไปเที่ยวอยุธยา ระหว่างทางเขาแวะเข้าปั๊มน้ำมัน แล้วให้ผมไปซื้อกาแฟกับบราวนี่ในสตาร์บัคส์กิน ผมบอกว่าผมไม่กินอาหารเช้าแบบนี้ เธอก็เลยขับต่อไปจอดที่ KFC คือใครเขากินไก่ทอดเป็นอาหารเช้ากัน (หัวเราะ) หลังจากนั้นเขาก็พาผมไปเที่ยววัดในอยุธยา เพราะเป็นที่ที่เขามีความประทับใจดีๆ กับคุณแม่ จบทริปด้วยการกินกุ้งแช่น้ำปลาที่ทำผมท้องเสียและป่วยไปเลย” (หัวเราะ)

นัทเล่าต่อ “หลังจากทริปนั้น เราทั้งคู่ต่างสลับกันบินไปหากันแทบจะทุกสัปดาห์อยู่ราว 1 เดือน กระทั่งเขาขอพบคุณพ่อคุณแม่นัท เพื่อขออนุญาตเดตอย่างเป็นทางการ ซึ่งทีแรกเราคิดว่าเขาอาจจะคบเราเล่นๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าเขาซีเรียส”

เซเลบสาวไทย นัท จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์

จริงใจและจริงจัง

เชื่อว่าการพบคุณพ่อคุณแม่ของคนรักถือเป็นเรื่องลุ้นสุดขีดของผู้ชายทุกคน แต่ไม่ใช่กับแซม เพราะเขามุ่งมั่นมากว่าอยากทำทุกอย่างให้ถูกต้อง “อย่างแรกเลยคือผมไม่เคยทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน แต่ที่อยากพบคุณพ่อคุณแม่ของเธอเพราะรู้สึกว่า หนึ่ง อายุและวุฒิภาวะของเราได้แล้ว และผมคิดว่าเธอน่าจะเป็นคนที่ใช่ ผมจึงอยากทำให้ถูกต้องก่อนที่จะเริ่มมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง สุดท้ายนัทก็นัดให้ผมพบคุณพ่อของเธอได้ ส่วนคุณแม่ติดธุระ

“วันนั้นผมทำตัวปกติ ไม่ได้เกร็ง แค่เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันได้เอ่ยปากทักทายท่าน เรื่องแรกที่ท่านเอ่ยขึ้นมาคือการวางแผนธุรกิจ ท่านบอกว่าอยากเปิดคลินิกในกรุงเทพฯ เพราะมีลูกค้าเยอะ สนใจมาทำงานด้วยกันไหม (หัวเราะ) หลังจากคุยงานกันได้ 30 นาที ผมจึงได้ถามท่านไปตรงๆ ว่านัทน่าจะเป็นคนที่ใช่สำหรับผม ผมอยากมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง ขออนุญาตพานัทไปพบคุณพ่อคุณแม่ของผมที่เกาหลีได้ไหม ดูเหมือนท่านจะตกใจพอสมควร (หัวเราะเสียงดัง)

“สุดท้ายท่านก็ตอบว่าขอคุยเรื่องนี้กับคุณแม่ของนัทก่อน เย็นวันนั้นผมได้ไปร่วมโต๊ะดินเนอร์กับครอบครัวของนัทที่มีพี่ชายพี่สาวและหลานๆ ของนัทมาร่วมด้วย ทุกคนน่ารักกับผมมาก จนทำให้ผมรู้สึกว่าน่าจะใช้ชีวิตกับครอบครัวนี้ได้”

นัทแชร์เรื่องราวในมุมของเธอ “ตอนแรกที่นัทบอกคุณพ่อว่ามีคนที่เพิ่งคบกันได้ไม่นานอยากมาขอพบคุณพ่อ ท่านก็อึ้งไปเหมือนกัน แต่หลังจากฟังโปรไฟล์ว่าคุณพ่อเขาเป็นแพทย์ทางศัลยกรรมพลาสติกชื่อดัง มีโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมพลาสติกอยู่ที่เกาหลี และยังบริจาคเงินสร้างโบสถ์ด้วย ท่านก็เลยยอมให้พบ แต่ท่านกังวลถึงเรื่องที่ท่านเคยได้ยินมาว่า ผู้ชายเกาหลีมีการใช้ความรุนแรงบ้าง หัวโบราณบ้าง แต่พอท่านได้พบแซมแล้วก็รู้ว่าเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาสุภาพ เรียบร้อย นิ่ง ใจเย็น เป็นระเบียบ คือมีคุณสมบัติของความเป็นหมอที่ดีมากๆ ทำให้คุณพ่อและทุกคนอนุมัติให้เขาพานัทไปพบครอบครัวได้ (ยิ้ม)

เซเลบสาวไทย นัท จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์

“หลังจากนั้นแซมก็พานัทไปเกาหลี บอกเลยว่านัทกังวลและตื่นเต้นมาก ก่อนไปพบคุณพ่อคุณแม่เขาแต่งหน้าอยู่เกือบ 2 ชั่วโมงได้ เพื่อให้สวย แต่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด นึกออกไหม แล้วก็เช็กเสื้อผ้าตัวเองในกระจกบ่อยมากๆ นัทกังวล เพราะรู้ว่าการพบครอบครัวของคนเกาหลีเป็นเรื่องจริงจังมาก ถ้าครอบครัวไม่อนุมัติ เราก็ไม่สามารถจะคบกันได้ แต่สุดท้ายนัทก็เลือกเป็นตัวของตัวเอง และบอกท่านว่าไม่ต้องห่วง นัทจะดูแลแซมให้ดี หลังจากพูดไปแล้ว คุณแม่แซมน้ำตาคลอเลย”

แซมยิ้มภูมิใจ “ครอบครัวผมชอบนัทมากครับ ที่คุณแม่ร้องไห้คงเพราะที่ผ่านมาคุณพ่อคุณแม่ปฏิเสธผู้หญิงที่ผมเคยคบอยู่หมดเลย (หัวเราะ) ส่วนคุณพ่อผมชอบนัทมากตั้งแต่เจอกันครั้งแรก พอรู้ว่านัทจะมาก็ซื้อรถจากัวร์ไว้ให้ผมเซอร์ไพร้ส์เธอ เล่นเอานัทอึ้งไปเลย”

นัทเล่าอย่างทึ่งว่า “ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนอยู่ในซีรีส์เกาหลี หลังจากพบคุณพ่อคุณแม่ แซมก็พานัทไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ วันหนึ่งเขาขับรถพานัทไปที่อพาร์ตเมนต์ของเขา แล้วบอกว่าจะลงไปเอาของ ให้นัทรอในรถ สักพักเขาขับจากัวร์คอนเวอร์ทิเบิลแบบเปิดประทุนมาจอดข้างๆ แล้วบอกว่า ‘นี่รถของยู พ่อซื้อให้’ ซึ่งนัทตกใจมาก เพราะไม่เคยได้ของขวัญแบบนี้มาก่อน ที่อยู่ในหัวตอนนั้นคือทำยังไงดี (หัวเราะ) แต่แซมก็เล่าว่าที่พ่อซื้อรถคันนี้ให้ เพราะนัทเกิดปีเสือ เรียนจบอังกฤษจึงพูดสำเนียงบริติช เหมาะกับรถของอังกฤษที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปเสือ มาทราบทีหลังว่านัทมีคุณสมบัติของลูกสะใภ้ตรงตามที่คุณพ่อแซมอยากได้ คือเรียนจบอังกฤษ พูดภาษาฝรั่งเศสได้ และเล่นเปียโนเป็น” (หัวเราะ)

เซเลบสาวไทย นัท จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์

แต่งก่อน…ไม่รอแล้วนะ

หลังจากพบปะทั้งสองครอบครัวแล้ว ทั้งสองครอบครัวก็มาพบกันที่เมืองไทย สุดท้ายคุณพ่อฝ่ายหญิงเอ่ยปากให้ทั้งสองคนหมั้นหมายกัน แต่แซมไม่อยากรออีกต่อไป

“ตอนนั้นผมปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ผมว่าไหนๆ จะหมั้นกันแล้ว แต่งงานเลยเถอะ คือนอกจากตัวนัทแล้ว ครอบครัวของเราก็มีอะไรคล้ายๆ กัน คิดและทำอะไรเหมือนๆ กัน ทุกครั้งที่เจอก็คุยสนุก มีเรื่องให้หัวเราะตลอด จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องรออะไรอีก แล้ววางแผนแต่งงานเลย จำได้ว่าเราพบกันครั้งแรกปลายเดือนสิงหาคม 2019 หลังจากนั้น 3 เดือน เราก็คุยกันเรื่องแต่งงาน โดยมีพิธีหมั้นที่ไทยในวันที่ 2 ธันวาคม ส่วนงานแต่งจัดที่เกาหลี วันที่ 29 ธันวาคม 2019 ใกล้ปีใหม่พอดี”

นัทบ่นเล็กๆ ว่า “ความจริงนัทไม่ได้แพลนว่าเราจะแต่งงานกันเร็วขนาดนี้ คิดว่าคงคุยกันไปเรื่อยๆ จู่ๆ เขาก็รีบ ไม่รู้จะรีบไปไหน ถึงขนาดมีคนลือว่านัทท้อง แต่สำหรับแซมคงเป็นอารมณ์ประมาณว่าถ้าคุยกันแล้ว พ่อแม่ยอมรับแล้วก็แต่งงานได้ เขาไม่ได้ขอนัทด้วยซ้ำนะ เหมือนตอนที่เขาขอให้นัทคบกับเขาเป็นแพ็คเกจสำเร็จรวมการแต่งงานเข้าไปด้วยแล้ว ความโรแมนติกทั้งหมดจบลงตั้งแต่ตอนนั้น” (หัวเราะ)

เซเลบสาวไทย นัท จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์

แซมขออธิบายเอง “ผมขอนัทเป็นแฟนที่เกาหลี ทริปเดียวกันกับที่พาเขาไปพบคุณพ่อคุณแม่ จากนั้นผมก็ขับรถพานัทไปเที่ยวภูเขาซอรัค สถานที่ที่ผมชอบที่สุด ระหว่างขับรถขึ้นเขา ผมแวะจอดรถที่โค้งหนึ่งแล้วหยิบแหวนที่ผมซื้อมา 4 ปีแล้ว ออกมาสวมให้นัทระหว่างที่เราจูบกัน ซึ่งผมลุ้นมาก เพราะที่มาของแหวนวงนี้มาจากเรื่องซินเดอเรลลาครับ (ยิ้ม) ที่ว่าหากผู้หญิงคนไหนสามารถสวมรองเท้าคู่นั้นได้พอดี คนนั้นคือคนที่ใช่สำหรับเจ้าชาย ผมก็เลยซื้อแหวนน่ารักมากๆ ไว้วงหนึ่ง โดยที่ไม่รู้ไซส์นิ้วของผู้หญิงเลย แค่ตั้งใจไว้ว่าจะเก็บไว้ขอแฟนในอนาคตของผม และหวังว่าเธอจะสวมมันได้พอดี

“ผมเก็บแหวนไว้กับตัวตลอดเวลา แต่ไม่ว่าจะไปอยู่ฮังการี อเมริกา หรือเกาหลี ผมก็ไม่เคยเจอใครที่ใช่เลย กระทั่งมาเจอนัท ผมก็ได้แต่หวังว่าแหวนวงนี้จะพอดีกับนิ้วของเธอ แต่ความที่ผมสวมแหวนให้เธอตอนที่เราจูบกัน มันจึงไม่แม่นยำเท่าไร ผมจำได้ว่าผมจับมือซ้ายของเธอขึ้นมาแล้วสวมแหวนไปที่นิ้ว ซึ่งปรากฏว่าพอดี ผมดีใจมาก แต่พอลืมตาขึ้นมา กลายเป็นว่าผมสวมแหวนไปที่นิ้วกลางของนัท (หัวเราะสนุก) จึงลองสวมใหม่ที่นิ้วนาง ปรากฏว่าหลวมไปนิดนึง ผมเลยบอกว่า ไม่! มันพอดีแล้วกับนิ้วเมื่อกี้!”

เซเลบสาวไทย นัท จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์

นัทเล่าโดยที่ยังหัวเราะอยู่ “ใช่ พอนัทลืมตาขึ้นมาก็แบบ ตายแล้ว! ทำไมเขาใส่แหวนให้เราที่นิ้วกลาง หลังจากนั้นมาก็เลยใส่แหวนวงนี้ไว้ที่นิ้วกลางตลอด เล่าให้ใครฟังก็ขำกันหมด พอสวมแหวนเสร็จปุ๊บ แซมก็บอกว่า ‘Now, you are mine.’ จบ ปิดจ๊อบ (หัวเราะ) ไม่มีแล้วขอแต่งงาน”

แซมแก้ตัวว่า “ผมขอแล้วไง ที่ผมโพสต์รูปคุณลงไปในอินสตาแกรมแล้วติดแฮชแท็กว่า #dear #kun #nad #would #you #be #my #jaguar #question #mark แล้วนัทก็เข้าไปตอบผมว่า ‘Yes, I will and I will choose you over and over again without pause, without doubt in a heartbeat, I’ll keep choosing you.’ ซึ่งทำให้ทุกคนล้อผมมาจนถึงทุกวันนี้” (หัวเราะ)

เซเลบสาวไทย นัท จริยาวรรณ ธนกิจบวรพันธุ์

นัทสรุป “แล้วหลังจากนั้นเขาก็มาบอกให้นัทเลือกวันแต่งงานเลยค่ะ ถึงจะเร็วไปหน่อย แต่ที่ตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพราะนัทมองว่าเขามีคุณสมบัติครบในการเป็นหัวหน้าครอบครัว คือมีความเป็นผู้นำ สุขุม นิ่ง มีความรู้ นัทเคยถามตัวเองว่าถ้าตัดฐานะทางครอบครัวของเขาออก เหลือแค่คุณสมบัติของตัวเขาล้วนๆ จะยังรักเขาไหม คำตอบคือใช่ แล้วนัทก็เคยถามเขากลับว่าถ้าตัดเรื่องอื่นๆ ออกหมด เหลือแต่ตัวนัท เขายังรักนัทไหม เขาก็บอกว่ารัก เขาทำให้นัทรู้สึกว่าเราสามารถใช้ชีวิตที่เหลือกับเขาได้โดยไม่สงสัยและกลัวอะไรเลย”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 955

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดใจคู่กันครั้งแรก “มาดามแป้ง-อธิบดีเอ” ความรักดั่งบุพเพสันนิวาสครั้งสุดท้าย

รักดั่งบุพเพสันนิวาส ลูกแดง-ดวงภัทร ทายาทปาร์คนายเลิศ กับ เอเวน ไลซาแซก

จากลูกนายไม่กล้าจีบ สู่คู่รักมาราธอน ” ปิยวดี มาลีนนท์ – มาวิน ทวีผล “

วาง-ธรรมดา

จำได้ไหม วาง-ธรรมดา EVO NINE สลัดภาพบอยแบนด์ขอตามใจตัวเอง

Alternative Textaccount_circle
วาง-ธรรมดา
วาง-ธรรมดา

วาง-ธรรมดา คุณจักร อดีตหนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์สายแดนซ์ แห่งวง “EVO NINE” (อีโว ไนน์) ซึ่งตอนนี้เขากลับมาเดินบนเส้นทางสายดนตรีอีกครั้ง หลังจากผันตัวเองไปทำธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รีสอร์ท, คลินิกเสริมความงาม, ร้านกาแฟ, ค่ายลูกเสือ, บริษัทโปรดักชั่น แต่ด้วยใจรักในเสียงเพลง “วาง” ก็อดใจไม่ไหวขอทำตามความชอบของตัวเองอีกครั้ง ด้วยการพิสูจน์ฝีมือ กลับมาทำเพลงในสไตล์ของตัวเอง สลัดภาพบอยแบนด์ออกไปโดยสิ้นเชิง มาพร้อมกับเพลง “Click” ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกประเดิมการเป็นศิลปินเดี่ยว ภายใต้สังกัด KUN Records (เคยูเอ็น เรคคอร์ด) ที่เจ้าตัวนั่งแท่นผู้บริหารค่ายเองด้วย

โดย “วาง ธรรมดา” เล่าถึงการทำงานเพลงในซิงเกิลนี้ให้ฟังว่า “สนุกดีครับ ไม่ได้กลับมาทำเพลงนานแล้ว ซึ่งเอ็มวีตัวสุดท้าย น่าจะปี 2014 ถ้าเพลงสุดท้ายจริงๆ น่าจะ BATMAN (แบทแมน) ซึ่งเพลงนั้นถ่ายกับวง EVO NINE นานมาก ก็คือฟิลลิ่งจะต่างกับตอนนี้มาก สมัยนั้น มี 7 คน แต่ละซีน แต่ละคัทก็จะแบ่งๆ กัน แล้วเต้นก็เต้นด้วยกันไม่เหงา แต่พอตอนนี้อยู่คนเดียวก็จะเหงาๆ หน่อย แล้วทุกซีนมันโฟกัสที่เรา มันคือเรา ก็จะกลายเป็นว่าเราต้องโฟกัสเยอะหน่อย”

วาง-ธรรมดา  อดีตหนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์แห่งวง “EVO NINE”

 วาง-ธรรมดา

“สำหรับแนวเพลงก็เปลี่ยนไปเลย เพลงนี้เป็นสไตล์ Modern R&B (โมเดิร์น อาร์แอนด์บี) จะเป็นตัวเรามากขึ้น จากสมัยก่อน EVO NINE ก็จะเป็นแนวที่เขาเซ็ตมาอยากให้เราพรีเซนต์ตัวเองออกมาในรูปแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม แต่อย่างเพลงนี้ก็จะเป็นตัวเรามากขึ้น เป็นสิ่งที่เราชอบ สไตล์ที่เราชอบ แล้วก็จะเป็นแนวที่โตขึ้น อย่างสมัยก่อนเพลงจะออกแนวรักๆ ใสๆ และจะเน้นเต้น ซึ่งมันจะพลิกจากเดิมไปเลย สำหรับเพลงนี้วางโตขึ้นการแต่งกายก็จะเปลี่ยนไป แต่ยังมีเต้นนิดหน่อยให้พอไม่ลืมกัน เต้นให้รู้สึกว่านี่คืออดีตบอยแบนด์นะ ก็พอให้คนสามารถเต้นตามได้ ยังไงก็ขอฝากเพลง Click ซิงเกิลแรกกับการเป็นศิลปินเดี่ยวของวางด้วยนะครับ”

ติดตาม MV เพลง “Click” ได้ที่ช่อง Youtube : KUN Channel / Facebook : KUN Channel


 

เบลล์ Girly Berry

สวยประหยัดฉบับ เบลล์ Girly Berry สครับผิวหน้า-ผิวตัวด้วยข้าวโอ๊ต

เบลล์ Girly Berry
เบลล์ Girly Berry

ผิวเนียน ผิวใส ผิวดูสุขภาพดี ใครๆ ก็อยากมี ยิ่งเห็นคนผิวใสอย่างสาว เบลล์ Girly Berry หลายคนคงอดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีเคล็ดลับอะไรผิวถึงสวยใส สุขภาพดีขนาดนี้ วันนี้เลยมีสูตร สครับผิวหน้า-ผิวตัวของเธอมาฝากกันค่ะ

“จะว่าไปเบลล์เองบางครั้งยังแอบคิดว่าคงเพราะเขายังเด็กอยู่มั้ง ผิวจึงใสกว่าเรา ไม่รู้คิดเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่า แต่คนที่อายุเกินเลข 3 ไปแล้ว และสุขภาพผิวยังดูดีอยู่ เบลล์ขอยกนิ้วให้เลย ส่วนเทคนิคและเคล็ดลับการดูแลผิว ทำได้ไม่ยาก แถมยังทำเองได้ง่ายๆ นั่นคือการดูแลตัวเองสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยปละละเลยหรือผลัดวันประกันพรุ่งในการดูแลผิวของเราค่ะ เริ่มเสียตั้งแต่ตอนนี้ยังทัน จะช่วยให้สวยได้ในแบบฉบับของคุณแน่นอน ยิ่งถ้าผิวดูดี มีน้ำมีนวล ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งเราต้องไม่ยอมแพ้ค่ะ ผิวเนียน ผิวใส อยู่ใกล้แค่เอื้อม เพียงเราเตรียมส่วนผสมต่อไปนี้”

เบลล์ Girly Berry
เบลล์-มนัญญา ลิ่มเสถียร

สูตรสครับผิวหน้า-ผิวตัวด้วยข้าวโอ๊ต ฉบับ เบลล์ Girly Berry

Belle’s Beauty Blackboard

1. ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
2. น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนโต๊ะ
3. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ

ได้ส่วนผสมทั้งหมดแล้ว ลงมือทำเลยดีกว่า

1. แช่ข้าวโอ๊ตในน้ำเปล่า พอให้น้ำท่วมเล็กน้อยทิ้งไว้ให้นิ่มสัก 10-15 นาที
2. ผสมน้ำตาลทรายและโยเกิร์ตลงในข้าวโอ๊ตที่นิ่มแล้ว คนให้เข้ากัน

“จากนั้นนำมาขัดผิวหน้าและผิวตัว วนเป็นก้นหอยอย่างเบามือทั้งหน้าและตัวนะคะ เพื่อไม่ให้หน้าเหี่ยวหรือเกิดริ้วรอย สูตรนี้เบลล์ลองทำแล้ว ขอบอกว่าเริดเอาการอยู่ ช่วยดูแลความสวยให้ดูดีได้ทั้งร่างราคาก็ไม่แพงด้วย วิธีนี้ช่วยเผยผิวใหม่ของคุณให้สวยเทียบเท่ากับเข้าสปาแพงๆ เลย ไม่ลองไม่ได้แล้วนะคะ”

สูตรนี้เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง เพราะข้าวโอ๊ตมีวิตามินอีที่เป็นกลีเซอรีนตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ส่วนใครที่กลัวว่าสูตรนี้จะทำให้หน้ามัน สบายใจได้ค่ะ เพราะข้าวโอ๊ตสามารถดูดซับความมันออกจากผิวเราได้ด้วย เรียกว่าทำ 1 ได้ถึง 2 เลยละ

เบลล์-มนัญญา ลิ่มเสถียร

เบลล์-มนัญญา ลิ่มเสถียร

Girly Berry


สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

หล่อคูลดูเด็ก! เปิดไอเท็มดูแลผิวของ กงยู โอปป้า หน้าใส ริมฝีปากอมชมพูน่าจุ๊บ

บิวตี้ทิปส์ดูแลผิวและใต้ตาแบบ “มิว นิษฐา” ลุยงานหนักก็ยังสวยได้ ไม่โทรม!

สูตรนี้ทำตามได้! ทริคหุ่นเป๊ะ ผิวสวยจาก “บิ๊นท์ สิรีธร” มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019

ใหม่-ดาวิกา

ไสสเลี่ยงมาแบบสวยๆ ใหม่-ดาวิกา นางนพมาศ ในมหกรรมลอยกระทง ๒๕๖๓

Alternative Textaccount_circle
ใหม่-ดาวิกา
ใหม่-ดาวิกา

งดงามในชุดไทยโบราณ ดาราสาว ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ นางนพมาศ ที่งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ๒๕๖๓ สวยสะกดทุกสายตา

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ กรมศิลปากร เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสบรรยากาศงานประเพณีลอยกระทง “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นกรุงเก่า สะท้อนกลิ่นอายของกรุงศรีอยุธยาที่รุ่งเรืองและงดงามในอดีต ผ่านการชูจุดเด่นด้านประเพณี วัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่บ่งบอกคุณค่าความเป็นไทย ตั้งแต่วันนี้- 31 ตุลาคม 2563 ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซึ่งไฮไลท์ในวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากนางเอกพันล้าน ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ ได้สวมมชุดไทยโบราณแปลงโฉมเป็น นางนพมาศ ไสสเลี่ยงมาให้แฟนๆ ได้ชมความงามกันแบบใกล้ชิด

ใหม่-ดาวิกา แปลงโฉมเป็น นางนพมาศ ในมหกรรมลอยกระทง ๒๕๖๓

ใหม่-ดาวิกา

ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)สืบสานงานประเพณีลอยกระทง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้ชื่องาน “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” เพื่อถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตอันทรงคุณค่า โดยภายในงานพบกับกิจกรรมส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมของไทยหลากหลาย รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก อาทิ การแสดงโขน ชุดกวนน้ำอมฤต การแสดงหุ่นละครเล็กคลองบางหลวง การแสดงระบำศรีอโยธยา การแสดงนบบูชามหานที การแสดงโขน ตอนหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา โดยจัดให้มีพิธีเปิดงานด้วยขบวนแห่ประเพณีลอยกระทงวิถีไทย  สุดยิ่งใหญ่ โดยนางนพมาศ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” นักแสดงชื่อดัง จัดเต็มด้วยชุดไทยงดงามสุดอลังการ และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือพิธี “จองเปรียงลอยประทีป” ที่สืบทอดประเพณีตั้งแต่โบราณกาลที่ใช้ในราชสำนัก รวมไปถึงการออกร้านขายสินค้าหัตถกรรม Premium crafts and food นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดังคับคั่งอาทิ กัน นภัทร, แก้ม วิชญาณี, เบน ชลาทิศ และ ไข่มุก รุ่งรัตน์ ที่มาร่วมสร้างสีสัน ตลอด 3 วันของการจัดงาน

นางนพมาศ ในมหกรรมลอยกระทง ๒๕๖๓

“ททท.ได้จัดงานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ในครั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย ตลอดจนการรับรู้เอกลักษณ์และคุณค่าของวิถีไทยนำไปสู่ Top of Mind สืบสานและพัฒนากิจกรรม สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน อันจะนำไปสู่การเดินทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งจะสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายและก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมที่สะท้อนคุณค่าความเป็นไทย โดยใช้กิจกรรมเป็นจุดขาย สร้างการรับรู้ตอกย้ำความเข้มแข็งงานประเพณีลอยกระทงที่สำคัญของประเทศไทยไปสู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงสู่พื้นที่การจัดงานประเพณีลอยกระทงทั่วประเทศในรูปแบบ New Normal” นายพิพัฒน์ กล่าว

นางนพมาศ ในมหกรรมลอยกระทง ๒๕๖๓

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน “เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ประจำปี 2563” ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถเข้าร่วมได้ในวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 16.00-22.00 น. และวันที่ 31 ตุลาคม เวลา 16.00-24.00 น. ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยลงทะเบียนล่วงหน้าได้ทาง แอปพลิเคชัน QueQ  พร้อมเชิญชวนแต่งกายชุดไทยหรือผ้าไทยเข้าร่วมงาน


ภาพจาก : IG @davikah

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

หลากสีสัน! รวมดาวเด่นในคืน ลอยกระทง นางนพมาศ 2562 สวยงามในชุดไทย

เฟียซแบบไทยๆ “เมคอัพลุคนางนพมาศ” สวยแพงทองอร่ามงามดุจนางในวรรณคดี

 

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี

โก้หรูทรงพลัง! เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงเผยโฉมคอลเล็คชั่น AW 2020/21

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเผยโฉมคอลเล็คชั่นทรงออกแบบ
ออทั่ม-วินเทอร์ 2020/21 ภายใต้ชื่อ FRENCH FLAIR แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’Homme

คำว่า “ซุปเปอร์โมเดล”, “สีนีออน”, “วัฒนธรรมป๊อป ”และ “แคชวล ชิค” ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคทศวรรษที่ 90 ทั้งสิ้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นยุคที่โลกแฟชั่นถึงจุดรุ่งเรืองสูงสุดอีกยุคหนึ่ง จนถึงขนาดที่หญิงแกร่งในยุคนั้นต่างเชื่อในค่านิยมที่เรียกว่า พาวเวอร์ เดรสซิ่ง (Power Dressing) ด้วยจุดเด่นของสไตล์แห่งยุค 90s เหล่านี้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘French Flair’ (เฟรนช์แฟลร์) คอลเล็คชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลออทั่ม-วินเทอร์ 2020/21 ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’Homme ที่เอาโครงเสื้อแบบเซมิกูตูร์ ซึ่งเป็นไอคอนของแบรนด์มาผสมผสานกับรายละเอียดของสไตล์แห่งยุค 90s โดยเพิ่มเสน่ห์ของปารีเซียงสตรีตสไตล์เพื่อลุคอันโมเดิร์น

ภาพของหญิงสาวทรงพลังในเสื้อโค้ตผ้าทวีตที่ตกแต่งด้วยโซ่ทองตลอดลำแขนเสื้อ สวมรองเท้าบูตหุ้มข้อส้นตึกคู่หรู (Wedge Ankle Boots) เดินอยู่บนถนนในจัตุรัสปลาส ว็องโดม (Place Vendôme) พร้อมกับเพื่อนสาวสุดเฉี่ยวสวมเสื้อเคปแจ็คเก็ตผ้าทวีตทับกางเกงไบเกอร์สีขาว และรองเท้าส้นเข็มสีเหลืองนีออน กำลังมุ่งหน้าไปยังบาร์ของโรงแรมริทซ์ ปารีส (Ritz Paris) คือภาพที่องค์ดีไซเนอร์ทรงถ่ายทอดออกมาในคอลเล็คชั่นทรงออกแบบล่าสุดนี้

ซึ่งเป็นคอลเล็คชั่นที่ต้องการให้อิสระกับหญิงสาวได้แสดงถึงสไตล์ของตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด และสนุกกับการมิกซ์แมตช์และการทำสไตลิ่งสำหรับฤดูหนาว ที่ดูสวยสง่าและโรแมนติก โดยเน้นสไตล์ของเสื้อที่ดูอบอุ่นและโครงเสื้อแบบเฟมินีน/แมสคิวลีน (Feminine/Masculine) อยู่ภายใต้สีเอิร์ธโทน ที่แต่งแต้มด้วยสีสันบาดตาอย่างสีชมพูนีออน สีเขียวนีออน และสีเหลืองนีออน

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI รับสั่งว่า “สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นถึงวิธีการมิกซ์แมตช์ วิธีการสไตลิ่ง วิธีการเลเยอร์เสื้อผ้าหลายๆ ชิ้นทับกันให้ดูสวยงาม โมเดิร์น และสามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวันในช่วงฤดูหนาว โดยข้าพเจ้าได้นำเอารายละเอียดของสไตล์แห่งยุค 90s มาผสมผสานกับเทคนิคการตัดเย็บแบบเซมิกูตูร์ (Semi Couture) แล้วเพิ่มความโมเดิร์น ความขัดแย้งและความสนุกสนานด้วยการทำให้เสื้อผ้าดูเป็นสตรีตสไตล์แบบชาวปารีเซียง ซึ่งก็จะทำให้คอลเล็คชั่นดูทันสมัย จับต้องได้ และสวมใส่ได้ง่าย แต่ยังคงความสมาร์ตและโก้อยู่”

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา รับสั่งต่ออีกว่า “สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ ข้าพเจ้าเลือกที่จะใช้โครงสร้างเสื้อและเอกลักษณ์ที่สำคัญของแบรนด์มาผสมผสานกับวัสดุสำหรับฤดูหนาว อาทิ ผ้าทวีต ผ้าอิตาเลียนแคชเมียร์ ผ้าวูล ผ้าไหมซาติน มาผสมผสานกับขนนกฝรั่งเศสและโซ่ทอง แล้วถ่ายทอดออกมาให้เป็นไลฟ์สไตล์ของฤดูหนาวที่ดูโมเดิร์นขึ้น ดังเห็นได้จากเสื้อแจ็กเก็ตไบเกอร์ (Biker Jacket) โครงเสื้อแบบ Asymmetrical ซึ่งคือโครงเสื้อแบบไม่สมมาตร การทำเสื้อแคชเมียร์ นิตแวร์ (Cashmere Knitwear ) ไปจนถึงเสื้อเคปแจ็กเก็ต และเสื้อโอเวอร์โค้ต (Overcoat) หรือแม้กระทั่งรองเท้าบูตหุ้มข้อส้นตึกแบบใหม่ (Wedge Ankle Boots)”

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

สำหรับคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าทรงออกแบบประจำฤดูกาลออทั่ม-วินเทอร์ 2020/21 ประกอบด้วยจำนวนเสื้อผ้าทั้งสิ้น 38 ลุค แบ่งเป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรีของ SIRIVANNAVARI 31 ลุค และเสื้อผ้าสุภาพบุรุษของ S’Homme 7 ลุค
คอลเล็คชั่นเสื้อผ้าสุภาพสตรีของ SIRIVANNAVARI มีความโดดเด่นที่หลากหลาย ตั้งแต่เสื้อไบเกอร์ตัวสั้นที่ตัดเย็บจากผ้าทวีตสีขาวทองตกแต่งด้วยขนนกฝรั่งบริเวณไหล่ใส่กับกระโปรงเข้าชุด เสื้อเคปแจ็กเก็ตผ้าทวีตที่แมตช์กับกระโปรงผ้าทวีตโดดเด่นด้วยการเลเยอร์พลีตผ้าบุหงา เสื้อทวีตแจ็กเก็ตประดับโซ่ที่เข้าคู่กับกางเกงขาสั้นผ้าทวีตสวมทับถุงน่องลายข้าวหลามตัดทอลายโลโก้ตัว S ไปจนถึงชุดราตรีดำขลิบดิ้นทองประดับกระดุมทองที่สวมทับเสื้อผ้าตาข่ายซีทรูสุดเซ็กซี่ และชุดราตรียาวผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสที่ปักเลื่อมซ้อนและโดดเด่นด้วยชายกระโปรงแบบเพ็ปลัม (Peplum hem dress ) ตัดเย็บจากผ้าเมทาลิค รวมไปถึงคอลเล็คชั่นแคชเมียร์นิตแวร์ที่มีชุดทูนิคและเสื้อหนาวสีสดใส และคอลเล็คชั่นหมวกอันหลากหลายที่ตัดเย็บจากผ้าทวีตประดับขนนกและเพลกซี่กลาส (Plexiglass) สีนีออน

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี

สิ่งพิเศษอีกหนึ่งอย่างในคอลเล็คชั่นนี้ก็คือ งานปักชั้นเยี่ยมจาก SIRIVANNAVARI Atelier and Academy โดยซีซั่นนี้ ได้นำเสนองานปักหลายรูปแบบบนเสื้อผ้าหลากสไตล์ อาทิ การปักขนนกฝรั่งเศสบนโครงเสื้อและหมวก การปักลูกปัดและเลื่อมบนผ้าทวีต ผ้าไหมซาติน ผ้าบุหงา (ผ้า Tulle) และเดรสผ้าลูกไม้

SIRIVANNAVARI

เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่โดดเด่นของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ก็คือลายพิมพ์ภาพกราฟิกฝีพระหัตถ์ ซึ่งลายพิมพ์ภาพกราฟิกทรงออกแบบประจำซีซั่นนี้ องค์ดีไซเนอร์ได้ทรงออกแบบลายพิมพ์โดยทรงนำภาพศิลปะการเป่าสี (Blow painting) มาเป็นสัญลักษณ์ประจำซีซั่นนี้ โดยลายกราฟิกฝีพระหัตถ์นี้ได้ปรากฏให้เห็นตลอดคอลเล็คชั่น อาทิ ชุดทูนิคแคชเมียร์สีเขียวชาร์ทรูส (Chartreuse green) ที่คาดทับด้วยเข็มขัดโลหะทองโลโก้ตัวอักษร SIRI โดยสวมทับด้วยเบลเซอร์ลายกราฟิกประจำซีซั่น และชุดเพ็ปลัมราตรีสั้นที่ชายกระโปรงเลเยอร์ด้วยผ้าออกานซ่าลายพิมพ์ประจำซีซั่น ไปจนถึงคอลเล็คชั่นผ้าพันคอ และกระเป๋าผ้าลายกราฟิก

SIRIVANNAVARI

คอลเล็คชั่นเครื่องประดับจิวเวลรี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่สำคัญที่จะมาเติมคาแร็คเตอร์ของหญิงสาวให้สวยเต็มร้อยในช่วงวินเทอร์ โดยองค์ดีไซเนอร์ทรงนำภาพเขียนและลายเส้นฝีพระหัตถ์ที่โปรด อาทิ รูปเกือกม้า รูปดาว ริบบิ้น สัญลักษณ์ตัว S และเหรียญตรา มาผสมผสานกับรูปทรงและเทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์รูปแบบของเครื่องประดับแบบใหม่ๆ ให้แก่แบรนด์ ดังเห็นได้จากโช็คเกอร์ทองขดสปริงประดับด้วยริบบิ้น ดาว และโลโก้ตัว S หรือจะเป็นกำไลทองขดสปริงประดับด้วยเหรียญประทับลายนกยูง ม้า และใบโคลเว่อร์ รวมไปถึงแหวน ต่างหูและสร้อยข้อมือรูปสัญลักษณ์อย่างหัวซิป กระดุม โบว์ประดับคริสตัลอีกด้วย

นอกจากนี้ในคอลเล็คชั่นนี้ ยังมีเครื่องประดับสัญลักษณ์ใหม่ คือดอกไอริส (IRIS ) อันเปรียบได้กับดอกไม้สัญลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งนำดอกไอริสมาสร้างสรรค์เป็นทั้งจี้ เข็มกลัด และต่างหูบนตัวเรือนเงินวาวแบบฟิวเจอริสติก

คอลเล็คชั่นเครื่องหนังในซีซั่นนี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากโดยเห็นได้จากกระเป๋าหนังลูกวัวพิเศษจากอิตาลีสีดำขลิบสีชมพู Fuchsia และตกแต่งด้วยพู่หนังยาวที่ฝากระเป๋า หรือจะเป็นกระเป๋าทูเวย์แคร์รี่ (Two Way Carry) ไซส์นาโนสีเหลืองนีออนที่สามารถเป็นได้ทั้ง Belt Bag และ Crossbody Bag ในขณะที่คอลเล็คชั่นรองเท้าก็มีความโก้หรูไม่แพ้กันดูน่าสนใจด้วยรองเท้าบูตหุ้มข้อส้นตึกและรองเท้าบู๊ตสูงที่ใช้เทคนิคการตัดเย็บหนังชั้นสูงจากอิตาลีอันมีความละเอียดอ่อนโดยผสมผสานหนังลูกวัวเข้าไว้ด้วยกันกับส้นรองเท้าอะคริลิค ซึ่งมีให้เลือกทั้งสีดำและสีคาเมล และเพิ่มความพิเศษด้วยพื้นรองเท้าสีชมพู Fuchsia ซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ อีกทั้งยังมีรองเท้าส้นเข็มที่ตัดเย็บด้วยผ้าซาตินสีสดใสอย่างสีเหลือง และสีชมพูให้เลือกสรรอีกด้วย

นอกจากนี้ ไฮไลท์อีกอย่างอยู่ที่คอลเล็คชั่นแว่นตากันแดด ซึ่งเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่สร้างสรรค์แว่นตากันแดด โดยดีไซน์แรกนี้ มีกรอบแว่นที่เป็นทรงแปดเหลี่ยมและผลิตจากอาซิเตตชั้นดี ซึ่งประดับเหรียญประทับโลโก้นกยูงที่ขาแว่น โดยมีให้เลือก 3 เฉดสีด้วยกัน คือ สีกระ สีเขียว และสีน้ำตาล ที่มาพร้อมกับโซ่ทองคล้องแว่นเพื่อความเก๋และความสะดวกในการใช้งานของหญิงสาว

สำหรับคอลเล็คชั่นสุภาพบุรุษออทั่ม-วินเทอร์ 2020/21 ของ S’Homme (เอส ออม) นั้น มีความโก้หรูสไตล์แมสคิวลีน ซึ่งนำเอาโครงเสื้อแบบคลาสสิกมาดัดแปลงโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ ทำให้มีสไตล์ที่ดูโมเดิร์นและโก้หรูมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การปรับโครงสร้างเสื้อให้เข้ารูป ทำให้ไหล่ดูกว้างขึ้นและเอวดูเล็กลง การเลือกใช้ผ้าลายตารางหลายแบบมาผสมกันคล้ายงานแพทช์เวิร์ค ไปจนถึงการตัดเย็บแคชเมียร์นิ้ตแวร์ โดยผสมดีเทลแบบปารีเซียงสตรีตแวร์เข้าไปในรายละเอียดของเสื้อผ้า

ดังเห็นได้จากเสื้อสเวตเตอร์แคชเมียร์สีขาวกุ๊นปกด้วยเส้นกราฟิกสีส้มนีออนใส่คู่กับกางเกงลายทาง (Pintstripe) ประดับกุ๊นขอบกางเกงสีเขียวนีออน เสื้อแจ็คเก็ตดับเบิ้ลเบรสท์ (Double breasted jacket) และเสื้อโอเวอร์โค้ตที่โดดเด่นด้วยเทคนิคแพตช์เวิร์คที่นำผ้าลายตารางพริ้นซ์ ออฟ เวลส์ (Prince of Wales) มาผสมผสานกับผ้าวูลลายฮาวส์ทูธ (Houndstooth ) ได้อย่างลงตัวที่ใส่คู่กับเสื้อแคชเมียร์คอเต่า ไปจนถึงชุดสูททักซิโด้ที่สวมทับเสื้อเชิ้ตทักซิโด้ ในขณะที่คอลเล็คชั่นรองเท้าก็นำเสนอทั้งรองเท้าหนังบู๊ตหุ้มข้อตกแต่งด้วยแถบสีเขียวนีออน และรองเท้าโลเฟอร์ (Loafer) หนังกลับประดับโลหะประทับลายนกยูง

S’Homme

ส่วนคอลเล็คชั่นกระเป๋านำเสนอกระเป๋าผ้าลายกราฟิกประจำซีซั่น และที่ใส่การ์ดหนังลายเชฟรอนที่สามารถคล้องคอได้ นอกจากนี้แล้ว คอลเล็คชั่นล่าสุด ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างครบครัน ตั้งแต่แฟชั่นจิวเวลรี่ อาทิ แหวน สร้อยคอ และเข็มกลัดประดับเสื้อสูท (Pinsuit) ไปจนถึงผ้าพันคอ

สามารถชม ‘French Flair’ คอลเล็คชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลออทั่ม/วินเทอร์ 2020-2021 ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’Homme ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยาม
พารากอน


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ย้อนชม 7 รันเวย์ทรงพลัง! แบรนด์ SIRIVANNAVARI ใน “เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี”

ทรงงดงามทุกลุค ‘เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี’ ทรงสวมบทบาทนางแบบแบรนด์ในพระองค์

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี ทรงรับพระราชทานปริญญาบัตร ศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต

“บิณฑ์ บันลือฤทธิ์” 30 กว่าปี กับชีวิตที่อุทิศเพื่อเพื่อนมนุษย์ จนเลิกคิดเรื่อง ความรัก

account_circle

ตลอดระยะเวลา 30 ปี ของ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นักแสดงหนุ่มฉายา “พระเอกเก็บศพ” หรือ “พระเอกสัปเหร่อ” คนนี้ เผยว่าแม้ปัจจุบันจะลดบทบาทการเก็บศพลง แต่สิ่งที่ยังยึดมั่นเสมอคือ “ความตั้งใจ” ช่วยเหลือผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง แบบไม่มีผลตอบแทน เพราะทุ่มเทเวลาทำหน้าที่จิตอาสาตลอดเวลาจนทำให้เลิกคิดเรื่อง “ความรัก”

บิณฑ์ บันลือฤทธิ์  30 กว่าปี กับชีวิตที่อุทิศเพื่อเพื่อนมนุษย์  ทำงานจิตอาสาจนทำให้เลิกคิดเรื่อง “ความรัก”

เรียกว่าทิ้งวงการไปไหม เพราะภาพส่วนใหญ่ที่เห็นจะอยู่กับการช่วยเหลือ

บิณฑ์ : ไปๆมาๆครับ ถ้าช่วงไหนเรารู้สึกว่าเราอยากทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมกับประเทศชาติทำแล้วอยากจะแบ่งปันความสุขให้กับคนอื่นบ้าง เราก็เชิญชวนมาทำความดีร่วมกันเพราะมันไม่มีลิขสิทธิ์ในการทำความดีใครทำก็ได้ และเราก็ทำงานในวงการบันเทิงบ้างทำหนังบ้าง เล่นละครบ้าง ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ได้ทิ้งวงการนะ เราเกิดมาจากวงการบันเทิง

แล้วเคยไหมที่ตื่นมาแล้วขี้เกียจไม่อยากทำอะไรเลย รู้แหล่ะว่าลุกไปมันมีประโยชน์แต่วันนี้ขอสักวันที่ไม่อยากทำมีบ้างไหม

บิณฑ์  : ไม่เคยมีเลยนะ เพราะเราจะมีตารางเราเลยแล้วเราก็จะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเรามีอะไรต้องทำอะไรบ้าง ตื่นมาเราจะดูหน้าแฟนเพจก่อนเลยว่ามีใครเดือดร้อนไหมถ้ามีใครที่เดือดร้อนเราก็ออกไปช่วยเขาก่อนเลยเพื่อให้เขารู้สึกว่าได้มีกำลังใจ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องกังวล หรือ รอคอย ความช่วยเหลือเรารู้เราก็รีบยื่นมือไปช่วยเขาเลย

 แล้วเคยว่าแพลนไปเที่ยวหรือใช้ชีวิตส่วนตัวของตัวเองบ้างไหม

บิณฑ์ : สำหรับคนโสดแบบผม ไม่เคยมีแพลนแบบนั้นเลยครับ คือใน 10 ปีมานี้ผมไม่เคยมีแฟนเลย เพราะเคยมีแล้วเขาเข้าใจในการทำงานเรานะครับ แต่เขาก็น้อยใจ ถ้าเราจะทุ่มเทแบบนี้เราไม่มีแฟนดีกว่า การที่เราไม่มีแฟนมาเคยห่วงใย มาคอยโทรศัพท์รายงานตัวว่าเราอยู่ที่นั้นที่นี่ เรารู้สึกว่าการทำงานกับสังคมเราสบายใจ มันได้เต็มที่อยู่ไหนก็ชั่งเราไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ทุกเวลาทุกชั่วโมง มันเป็นอะไรที่มันไม่ใช่สำหรับตัวเรา เราเคยมีแฟนมา 2 คน คือ คนแรกที่คบเขาให้เราเลิกทำงานมูลนิธิให้เลือกเขา เราก็บอกเขาว่าก่อนที่เขาจะมาคบกับเราคือเราทำงานมูลนิธิอยู่แล้ว แล้วมาถึงจุดหนึ่งที่เขาเห็นเรารักเขามากขาดไม่ได้เขาเลยยื่นข้อเสนอนี้มา เรานั่งคิดอยู่สองวัน เราก็ตัดสินใจบอกเลิกเขาเลยเพราะงานมูลนิธิมันอยู่ในใจ คือ สายเลือด แต่เขาเพิ่งคบกันเราประมาณ 6-7 ปี มันคือ ความผูกพัน แต่ถ้าไม่ให้ผมทำงานเพื่อสังคมผมอยู่ไม่ได้ เลิกกับเขาแล้วผมทำใจอยู่ 2 เดือนแล้วผมอยู่ได้ เพราะว่าเรามีงานตรงนี้

 แล้วมีคู่จิ้นไหม พี่บุ๋ม ปนันดา

บิณฑ์ : ไม่มีครับ ไม่ใช่พี่บุ๋ม คือ เรามีใจตรงกันในการทำจิตอาสาเจอกันก็กอดกัน เขาบอกเราว่าพี่มีใจขนาดนี้ทุ่มเทให้กับตรงนี้เต็มที่มาๆนับถือใจเรา แล้วคือ อยากจะบอกว่าผมกับ บุ๋ม คือไม่มีอะไรเลย ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่เวลาเราเจอเราสนิทกับเราก็ทักทายกันถ่ายรูปลงคู่กันทุกคนก็จะแซวเราแต่จริงๆไม่มีอะไรครับ

 แปลว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมาคือ ปิดประตูหัวใจ

บิณฑ์ : ไม่ได้ปิดนะครับ ไม่ได้สนใจมากกว่า เพราะเราสนใจแต่งานนี้ แล้วคือ เราไม่ได้มีความมุ่งมั่น เราเจอผู้หญิงสวยๆเราต้องเข้าไปขอเบอร์ไม่เคยมีอย่างนั้น แต่มีแต่คนเข้ามาคุยกันเรื่องงาน ดูแลตัวเองด้วยนะ โน้นนี่ เราก็ขอบคุณมากๆครับ ถ้าต้องไปกินข้าว ดูหนัง ไม่มีตรงนั้นครับ

 ที่ไปไม่ได้เพราะทำงาน 7 วัน

บิณฑ์ : ก็ไม่ได้ถึงกับ 7 วันนะครับ ที่เราทำงานมาทั้งหมดก็ 33 ปี

 งานที่จะมาถึงหูได้ต้องเป็นเคสระดับไหนเอ่ย

บิณฑ์ : ผมจะพิจารณาดูว่าถึงเขาจะเป็นเคสเล็กๆแต่เขามีความจำเป็นจริงไหม เขาต้องการเงินไหม เขาต้องการความช่วยเหลือยังไงบ้าง

 ใครเป็นคนสแกนก่อนสำหรับงานต่างๆ

บิณฑ์ : จะมีแฟนคลับอยู่กลุ่มหนึ่งเข้าไปดูหน้าแฟนเพจของเรา เขาก็จะเป็นคนส่งเคสมาให้เราว่า พี่บิณฑ์     เคสนี้น่าสงสาร เคสนี้รอก่อนได้ไม่เป็นไร เคสนี้หนัก เราก็จะเหลือ บ้างวันออกสามเคส บางวันออกสี่เคส ถ้าเราออกต่างจังหวัดเราก็จะดูรายทางว่าเขามีเคสอะไรไหม เราจะได้แวะไปตามทางที่เราเดินทางไป

 ขนาดมีคนสกรีนให้แล้ว ตรวจแล้วแต่ยังมีเลือกเคสพลาด

บิณฑ์ : เราเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาทำกับเรา ที่เขาต้องการจากเรามันไม่ใช่เรื่องจริง อย่างเช่น ผมไปถึงหน้าเคสแล้วผมตัวสั่นมาก พยายามระงับสติอารมณ์ ผมโกรธมากผมขับรถจาก กรุงเทพ ไปนครสวรรค์ 3 ชั่วโมงกว่า เพราะเขาบอกเราว่า ลูกกำลังจะตาย ไม่มีเงินซื้อนม จะพาลูกไปหาหมอ เราก็เร่งรีบเพื่อที่จะไปช่วย พอเราถึงเขาก็ตะโกนกันใหญ่ว่าพี่บิณฑ์ มาแล้วเขาก็กระโดดมากอดเรากันใหญ่ คือ ไม่มีความเศร้า หรือ อะไรกันเลย เราก็ถามแล้วเคสที่น้องบอกพี่ล่ะ ไม่มรค่ะ อยากเจอพี่บิณฑ์เฉยๆชอบมากกอดหน่อย ตอนนั้นเราได้บอกเขาว่าทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก เพราะยังมีคนที่เดือดร้อนเขาอยากได้ความช่วยเหลือ

บิณฑ์ : ส่วนอีกเคส คือ เป็นการทำมาหากินของเขานะ เป็นมิจฉาชีพ มีคนพิมเคสมาให้เราว่าให้เราไปดูหน่อยผู้ชายคนนี้น่าสงสารมา ไม่มีข้าวจะกิน มาตามหาลูกสาว ไม่มีใครสนใจเลย จะกลับบ้านแต่ไม่มีเงิน เราก็ไปเลยที่ สมุทรปราการ เราก็ถามหาคนบริเวณนั้นเขาก็ไม่มีใครรู้จัก แต่อยู่ๆเขาก็เดินมาแล้วเป็นลมไปต่อหน้าเราเลย เราก็รีบวิ่งไปรับแกไม่ได้สติอะไร เราเลยนำส่งโรงพยาบาล แล้วบอกหมอว่าค่าใช้จ่ายเรารับผิดชอบเอง แล้วเราก็ไปงานต่อ แล้วก็กลับมาดูแกอีกครั้งช่วงบ่าย แต่พอไปถึงหมอบอกว่าลุงหนีไปแล้ว เราคิดว่าแกตื่นมาคงตกใจว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เราก็ไปตามหาแก แล้วไปเจออยู่ที่โรงพัก เราก็เข้าไปคุยกับลุงแกก็ดรามาาใส่เราเลยว่าแกมาตามหาลูกสาว แต่อยากกลับบ้านเราก็เลยถามว่าแล้วหนีออกจากโรงพยาบาลทำไม แกบอกอยู่แบบนั้นไม่ได้หรอกเพราะแกมาตามหาลูกสาว (แต่ลุงเขาไม่รู้นะครับว่าผมคือบิณฑ์)

ผมเลยถามว่าลุง จะเอายังไง แกบอกจะกลับบ้านเราก็สั่งให้ลูกน้องไปซื้อตั๋วให้ลุงเลย 2 ใบ ให้แกนั่งสบายๆ แล้วก็ให้เงินลุงไป 5,000 บาท เราก็บอกลุงไม่ต้องมา กรุงเทพ แล้วนะ เราก็บอกคนขับรถทัวร์ว่าถึงลุงถึง สุรินทร์ แล้วโทรมาบอกเราด้วยนะ พอเราแยกจากเขา สามทุ่ม ห้าทุ่มคนขับรถทัวร์โทรมาหาเราเลยว่า ลุง มันอาระวาดหนักมากเลยในรถแกจะลง แล้วก็ต้องจอดให้เขาลง เขาคงกลับมาหากินเหมือนเดิม มันก็มีอีกหลายๆเคยที่ผมเจอหนักบ้าง เบาบ้าง การหลอกหลวงมันมีหลายรูปแบบมากๆ แต่เราก็รู้สึกว่าเมื่อใจเราตั้งใจจะทำ จะช่วยเหลือแล้ว พวกเคสแบบนี้มันก็ต้องเจอบ้างเพราะจะได้เป็นกรณีศึกษาของเรา


สามารถรับชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ย้อนหลังได้ทางยูทูป: https://youtu.be/vAXzTSrY-MY

นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6

นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6 ฟังเพลงท่ามกลางฮอลล์ธรรมชาติที่ทองสมบูรณ์คลับ

นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6
นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6

Chang Music Connection Presents “นั่งเล่น Music Festival 6 เทศกาลดนตรีของคนรักธรรมชาติที่ชอบเที่ยวป่าเขา คนที่อยากออกไปพักผ่อนและสัมผัสกับธรรมชาติเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ในสถานที่ดีๆ หรือคนที่อยากใช้ชีวิตแบบ Slow life หยุดพักจากการทำงานหนัก แล้วไปใช้ชีวิตท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว ที่มีเสียงเพลง เสียงดนตรีเป็นสื่อกลาง แถมยังมีความบันเทิงและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกเพียบ ดังนั้น ผู้จัดอย่าง ‘IDEA FACT’ ภายใต้หน่วยงาน ‘GMM SHOW’ ขอประเดิมต้นปีจัด ‘นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6ขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2564 ณ ทองสมบูรณ์คลับ จ.นครราชสีมา ปีนี้จัดเต็มด้วยไลน์อัพศิลปินสุดฮิตมาแบบเน้นๆ ที่จะพาคุณไปนั่งเล่น นอนเล่น หรือยืนเต้นในบรรยากาศที่ดีที่สุดกลางฮอลล์ธรรมชาติและอากาศเย็นสบายบนพื้นหญ้าเขียวขจี

นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6

ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้าง Festival Culture ดังนั้น ‘นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6 จึงตั้งใจที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดด้วยความพิเศษกว่าทุกครั้งกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ณ สถานที่จัดงานใหม่ ใหญ่และสะดวกสบายกว่าเดิม บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร ณ ทองสมบูรณ์คลับ จ.นครราชสีมา รวมทั้งไลน์อัพศิลปินสุดฮิตมากมายที่จะมาสร้างความสุข ความสนุกกันแบบต่อเนื่องกว่า 10 ชั่วโมง บนเวทีคอนเสิร์ตที่มีภูเขาโอบล้อม กับจอพาโนรามาที่ใหญ่ที่สุดหน้ากว้างกว่า 70 เมตร นำโดย โปเตโต้, ปาล์มมี่, เดอะทอยส์, หนุ่ม กะลา, ทรีแมนดาวน์, ทิลลี่เบิร์ดส์, นนท์ ธนนท์, มิว ศุภศิษฏ์, ป๊อบ+ว่าน, โบกี้ไลอ้อน และ คล็อกเวิร์ค โมชั่นเลส พูดเลยว่างานนี้เหมือนยกคอนเสิร์ตในฮอลล์มาไว้ท่ามกลางธรรมชาติเลยทีเดียว

นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6

ยิ่งไปกว่านั้น ‘นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6 ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ได้แก่ ที่จอดรถสุดปลอดภัย การลงทะเบียนเข้างานด้วยจำนวนทางเข้าที่เยอะมาก ห้องน้ำสะอาดทุกโซนทั่วทั้งงานและ Street Food, Food Truck ที่จะทำให้คุณอิ่มอร่อยตลอดงาน แถมยังได้แยกจุดทานอาหารไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษที่คุณสามารถร่วมนั่งเล่นกันได้สบายๆ อาทิ นั่งบอลลูน ถ่ายรูปเก๋ๆ นั่งชิงช้าสวรรค์ชมวิว 360 องศา นั่งอัพรูปบรรยากาศในงานอวดโซเชียล นั่งสวยให้คนแต่งหน้าให้ มั่นใจได้ว่านั่งที่ไหนก็ไม่สบายเท่าที่นั่งเล่นอย่างแน่นอน!

นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6

ปีนี้ นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6 ถือเป็นการเริ่มต้นของการเป็น เทศกาลดนตรีรักษ์โลก กับการรณรงค์ต่อเนื่องการคัดแยกขยะภายในบริเวณงาน ด้วยถังขยะแยกสี รวมถึงร้านอาหารและเครื่องดื่มทุกร้านลดการใช้พลาสติกทุกชนิด เปลี่ยนมาใช้ภาชนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติเพื่อสอดคล้องกับการอนุรักษ์ดูแลป่าของ จ.นครราชสีมา ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้เรายังได้จัดพื้นที่สูบบุหรี่ไว้อย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้มีการสูบบุหรี่นอกพื้นที่ ที่กำหนดให้

นั่งเล่นมิวสิคเฟสติวัล 6

เตรียมพบกับเทศกาลดนตรีของคนชอบเที่ยวธรรมชาติและมีใจรักในเสียงเพลงกับการนั่ง นอน หรือยืนเต้นไปกับเสียงเพลงจากศิลปินสุดฮิตในบรรยากาศที่ดีที่สุดกลางฮอลล์ธรรมชาติ บนพื้นหญ้าเขียวขจี ใน Chang Music Connection Presents “นั่งเล่น Music Festival 6” โดยจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2564 ณ ทองสมบูรณ์คลับ จ.นครราชสีมา

เปิดจำหน่ายบัตร EARLY BIRD ถูกที่สุด 1,500 บาท (ราคาปกติ 2,500 บาท) ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เพียงวันเดียวเท่านั้น!!! ซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ ทิคเก็ต ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทั่วประเทศ หรือ www.allticket.com และ www.gmmlive.com

สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ FB : NanglenMusicFestival และ www.nanglenmusicfestival.com

 

 

 

 

ฉลองครบรอบ 11 ปี “ภัทรมหาราชานุสรณ์” สานหัวใจสร้างการแพทย์ไทยก้าวไกล

Alternative Textaccount_circle

ฉลองครบรอบ 11 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ “ภัทรมหาราชานุสรณ์” สานหัวใจสร้างการแพทย์ไทยก้าวไกล ชูความเชี่ยวชาญศูนย์การรักษาเฉพาะทางแบบครบวงจร 5 ด้าน พร้อมเปิดตัวของที่ระลึกการกุศลคอลเล็คชั่นล่าสุด จากภาพวาดฝีพระหัตถ์ หลากลาย หลายชีวิต ชุด “เสือ”

วันที่ 29 ตุลาคม 2563 ที่อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 11 ปี “ภัทรมหาราชานุสรณ์” สานหัวใจสร้างการแพทย์ไทยก้าวไกล ชูความเชี่ยวชาญศูนย์การรักษาเฉพาะทางแบบครบวงจร 5 ด้าน สานต่อพระปณิธาน ใน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานผู้ก่อตั้ง “โรงพยาบาลจุฬาภรณ์” ในการเป็นที่พึ่งทางสุขภาพให้กับประชาชนทุกชนชั้น และพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเลิศ พร้อมเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มช่องทางการสื่อสารคอนเทนต์สุขภาพสร้างสังคมไทยสุขภาพดี ผ่านเว็บไซด์และช่องยูทูป CHULABHORN CHANNEL และ 2 รายการใหม่ล่าสุด “PCCMS MED – MOMENT พลังขับเคลื่อนเพื่อนร่วมทางสุขภาพ” รายการสารคดีสั้นแนว Edutainment ที่จะพาไปเปิดประสบการณ์สู่โมเมนต์ของโลกวิทยาศาสตร์การแพทย์ในประเทศไทย และ “ท่องโรคกับหมอจุฬาภรณ์” รายการทอล์กเพื่อให้ข้อมูลการป้องกันดูแลสุขภาพในโรคต่างๆ โดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และศาสตราจารย์ แพทย์หญิงจิรพร เหล่าธรรมทัศน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ และรองอธิการบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด ขึ้นเวทีเสวนาพูดคุย พร้อมชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสร้างการแพทย์ไทยให้ก้าวไกล พัฒนาคุณภาพด้านการสาธารณสุขของประเทศไทยให้ก้าวหน้า ผ่านกิจกรรมระดมทุนแคมเปญ “ภัทรมหาราชานุสรณ์” สานหัวใจสร้างการแพทย์ไทยก้าวไกล เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นในการรักษาผู้ป่วยของศูนย์การรักษาต่างๆ และเตรียมพร้อมบริการทางการแพทย์ในอาคารศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง ที่มีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการกลางปี พ.ศ. 2565 ผู้ร่วมกิจกรรมทำบุญบริจาค 1,000 บาทขึ้นไป รับ Gift Set หน้ากากผ้าการกุศล 4 สี 4 ลายโรคไลฟ์สไตล์ที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 11 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

ภายในงานยังมีเหล่าคนดัง อาทิ แมท-ภีรนีย์ คงไทย, ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ, วาววา-ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด, โบ๊ท-ธารา ทิพา, ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ และเหล่าสาวงามจากเวทีประกวด Miss Universe Thailand 2020 ร่วมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ระลึกการกุศลคอลเล็คชั่นใหม่ หลากลาย หลายชีวิต ชุด “เสือ” โดยทางมูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ฯ ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ จำนวน 6 ภาพ เพื่อนำมาต่อยอดจัดทำผลิตภัณฑ์ที่ระลึกการกุศลหลากลายดีไซน์ หลากหลายไอเท็ม เพื่อให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมและเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการแพทย์ไทยให้ก้าวไกล ผ่านการสนับสนุนของที่ระลึกการกุศลคอลเล็คชั่นนี้ ซึ่งผู้บริจาคนอกจากจะได้รับของที่ระลึกที่สามารถนำไปมอบให้เป็นของขวัญแทนใจในเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีนี้ ยังสามารถขอรับใบเสร็จเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีจำนวน 2 เท่าด้วย

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า “โรงพยาบาลจุฬาภรณ์มีการพัฒนาการให้บริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2552 ซึ่งในปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 11 มีการเติบโตพัฒนาจากโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็งสู่การเป็นสถาบันการแพทย์ครบวงจรเพื่อเป็นที่พึ่งทางการรักษาพยาบาลยามเจ็บไข้ได้ป่วยแก่ประชาชนได้ครอบคลุมทุกโรค ด้วยพระกรุณาธิคุณในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานผู้จัดตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่ทรงห่วงใยถึงสุขภาพของประชาชนชาวไทย ตลอดจนพระปรีชาสามารถและพระวิสัยทัศน์กว้างไกลที่จะนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีทางการแพทย์มาใช้ในการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตและดูแลสุขอนามัยแก่ประชาชน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์จึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบริการทางการแพทย์และนำเทคโนโลยีใหม่ๆที่เป็นเลิศเข้ามารักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการรักษาพยาบาลให้ทัดเทียมนานาประเทศ

ตลอดจนให้ความช่วยเหลือผู้ยากไร้และด้อยโอกาสให้ได้รับการรักษาอย่างดีตามมาตรฐาน โรงพยาบาลได้พัฒนารูปแบบการบริการในด้านต่างๆ และนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้บริการแก่ผู้ป่วยเพื่อให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว รวมทั้งได้มีการปรับปรุงสถานที่ใหม่ในอาคารให้เป็นสัดส่วนเพื่อปรับการดูแลรักษาผู้ป่วยในลักษณะของศูนย์รักษาโรคเฉพาะทางต่างๆ เปิดคลินิกนอกเวลาราชการที่ให้บริการตรวจรักษาด้วยแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ 7 วัน ดังนั้นทุกครั้งที่เจ็บป่วย อยากให้โรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ผู้ใช้บริการนึกถึง”

พร้อมกันนี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ ได้ชูการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศ 5 ด้านของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เฉพาะทางแบบครบวงจร โดยเน้นการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศในความเชี่ยวชาญหลัก 5 ด้าน ได้แก่ ด้านมะเร็งที่ได้นำเทคโนโลยีการรักษาใหม่ๆ เข้ามาใช้อย่างต่อเนื่องรวมทั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI for Oncology ที่นำมาใช้ในการวางแผนรักษาแก่ผู้ป่วยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และบูรณาการความร่วมมือทางการแพทย์ในการเปิดให้โรงพยาบาลในเครือข่ายทั่วประเทศได้เข้าถึงบริการของระบบปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าว ผ่านหน่วยการวางแผนรักษาโรคมะเร็งของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกสิทธิการรักษาได้เข้าถึงการวางแผนการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานสากล

นอกจากนี้ยังเปิดช่องทางให้ผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ที่ต้องการเข้ามารับการรักษาสามารถปรึกษาโรคมะเร็งผ่านทาง LINE Official Account โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยสามารถส่งข้อมูลปรึกษา และนัดหมายล่วงหน้าเพื่อลดการมาโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น ด้านหัวใจและหลอดเลือดที่มีเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดทั้งห้องปฏิบัติการสวนหัวใจและห้องผ่าตัดไฮบริดเพื่อการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจอย่างครบวงจร ด้านกระดูกและข้อด้วยศัลยแพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อที่ครอบคลุมทุกด้าน ด้านอายุรกรรมเฉพาะทางด้วยอายุรแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในด้านต่างๆ อาทิ เบาหวานและต่อมไร้ท่อ ศูนย์โรคไต ศูนย์ทางเดินอาหาร สุดท้ายคือด้าน Imaging หรือภาพวินิจฉัยที่มีการให้บริการอยู่ 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ ศูนย์รวมนวัตกรรมเครื่องมือการสร้างภาพวินิจฉัยขั้นสูงในระดับโมเลกุลทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ เพื่อการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็ง โรคระบบประสาท และโรคหัวใจอย่างครบวงจร เรียกว่าเป็น One Stop Shop Imaging ซึ่งมีทั้งเครื่องเพทซีที PET/CT และ เพทเอ็มอาร์ไอ PET/MRI เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่นำเข้ามาให้บริการตรวจวินิจฉัยเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและการผลิตสารเภสัชรังสีซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากเครื่องไซโคลตรอน อีกส่วนคือ ศูนย์ภาพวินิจฉัยและร่วมรักษาเพื่อปวงชน ให้บริการตรวจวินิจฉัยด้วยเทคโนโลยีด้านรังสีวินิจฉัยและร่วมรักษาที่ทันสมัยโดยนักรังสีเทคนิคและรังสีแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ในอัตรากรมบัญชีกลาง

ด้าน ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงจิรพร เหล่าธรรมทัศน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ และรองอธิการบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด ได้กล่าวถึงการเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มช่องทางการสื่อสารคอนเทนต์สุขภาพสร้างสังคมไทยสุขภาพดี ผ่านเว็บไซด์และช่องยูทูป CHULABHORN CHANNEL เพื่อให้ประชาชนได้รู้จักภารกิจทั้งด้านการแพทย์การศึกษาวิจัยรอบรั้ววิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ที่มีโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นหนึ่งในหน่วยงานภายใต้สังกัด รวมถึงโครงการขับเคลื่อนต่างๆเพื่อพัฒนาการแพทย์และการสาธารณสุขไทยของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และจัดทำคอนเทนต์ผ่าน 2 รายการใหม่ ได้แก่ “PCCMS MED – MOMENT พลังขับเคลื่อนเพื่อนร่วมทางสุขภาพ” รายการสารคดีสั้นแนว Edutainment ที่จะพาผู้ชมไปดู ไปรู้ ไปสัมผัสเปิดประสบการณ์สู่โมเมนต์ของโลกวิทยาศาสตร์การแพทย์ในประเทศไทย ดำเนินรายการโดย แก๊ป-ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 12.45 – 12.55 น. ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และอีกรายการคือ “ท่องโรคกับหมอจุฬาภรณ์” โดยจัดทำเป็น 11 ตอนพิเศษในโอกาสครบรอบ 11 ปี
เป็นรายการทอล์กที่มุ่งเน้นการให้ข้อมูลทางสุขภาพของโรคต่างๆ โดยมี 3 พิธีกรอารมณ์ดี โบ-ธนากร ชินกูล, อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ และลูกแก้ว-กรกมล ชิตพงศ์ ที่จะนำพาผู้ชมท่องโรคไปกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ส่งเสริมการสร้างคอนเทนต์สุขภาพเพื่อทำให้เกิดประโยชน์ในการเปลี่ยน Lifestyle สุขภาพให้เรื่องโรคร้ายต่างๆ ไม่ใช่เรื่องเครียดที่ทุกคนก็สามารถรับมือได้ ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 11.00-11.30 น. ทางช่อง Youtube CHULABHORN CHANNEL หรือสามารถกดดูผ่านเมนู CHULABHORN CHANNEL ทาง LINE Official โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เริ่มตอนแรกในวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563 ทอล์กกับแพทย์จากศูนย์เต้านม โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ในตอน “โดนหักอกจนเจ็บใจ ไม่น่ากังวลใจเท่าเจ็บเต้านม”

สำหรับกิจกรรมครบรอบ 11 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ยังได้เชิญชวนประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสร้างการแพทย์ไทยให้ก้าวไกล พัฒนาคุณภาพด้านการสาธารณสุขของประเทศไทยให้ก้าวหน้า เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมระดมทุนในแคมเปญ “ภัทรมหาราชานุสรณ์” สานหัวใจสร้างการแพทย์ไทยก้าวไกล

ร่วมสมทบทุนกับมูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ฯ “สร้าง” ศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์ สถาบันการแพทย์แห่งใหม่ขนาด 400 เตียงของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และอาคารการเรียนการสอนของวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ โดยมุ่งหวังให้สถาบันการแพทย์แห่งนี้เป็นสถานพยาบาลของรัฐขนาดใหญ่และวิทยาลัยแพทย์เพื่อพัฒนาค้นคว้าวิจัยสร้างองค์ความรู้ สร้างแพทย์และบุคลากรในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ พร้อมทั้งช่วยเหลือประชาชนคนไทยให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ โดยสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามให้ศูนย์การแพทย์แห่งนี้ว่า “ภัทรมหาราชานุสรณ์” อันมีความหมายว่า ที่ระลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่ง ศูนย์การแพทย์แห่งนี้จัดสร้างอยู่ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ มีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการกลางปี พ.ศ. 2565 สำหรับผู้ร่วมบริจาคตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นในการตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ รวมทั้งช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ด้อยโอกาส ตลอดจนสนับสนุนด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัยของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะได้รับการจารึกชื่อในอาคาร “ศูนย์การแพทย์ภัทรมหาราชานุสรณ์”

นอกจากนี้ ยังได้จัดทำชุดหน้ากากผ้าการกุศล 4 สี 4 ลายโรคไลฟ์สไตล์ ร่วมดีไซน์ by ISSUE ถ่ายทอดภาพพิมพ์ลายที่แสดงถึงการรณรงค์ป้องกันรักษาสุขภาพจาก 5 ศูนย์การรักษาของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้แก่ ลายDNAสีส้มจากศูนย์มะเร็ง ลายหัวใจสีแดงดำจากศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ลายเซลล์สีฟ้าจากศูนย์อายุรกรรมเฉพาะทาง และลายสีชมพูแสดงถึงการรณรงค์สุขภาพในโรคทางสตรีจากศูนย์สุขภาพสตรีและศูนย์เต้านม โดยยอดบริจาคทุก 1,000 บาทขึ้นไป จะได้รับ Gift Set ที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 11 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ประกอบด้วย หน้ากากผ้าการกุศล 4 ลายโรคไลฟ์สไตล์ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 2 หลอด พร้อมการ์ดอวยพร

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ระลึกการกุศลคอลเล็คชั่นใหม่ หลากลาย หลายชีวิต ชุด “เสือ” ที่ทางมูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ฯ ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ จำนวน 6 ภาพ เพื่อนำมาต่อยอดจัดทำผลิตภัณฑ์ที่ระลึกการกุศล หลากลายดีไซน์ หลากหลายไอเท็ม เพื่อให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมและเป็นกำลังสำคัญในการสร้างการแพทย์ไทยให้ก้าวไกล ผ่านการสนับสนุนของที่ระลึกการกุศลคอลเล็คชั่นนี้ โดยมีเหล่าคนดังร่วมกิจกรรมการกุศล อาทิ แมท-ภีรนีย์ คงไทย, ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ, วาววา-ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด โบ๊ท-ธารา ทิพา ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ และเหล่าสาวงามจากเวทีประกวด Miss Universe Thailand 2020 ซึ่งผู้บริจาคนอกจากจะได้รับของที่ระลึกที่สามารถนำไปมอบให้เป็นของขวัญแทนใจในเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีนี้ ยังสามารถขอรับใบเสร็จเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีจำนวน 2 เท่าด้วย ทั้งนี้สามารถร่วมบริจาคในโครงการ “ภัทรมหาราชานุสรณ์” สานหัวใจสร้างการแพทย์ไทยก้าวไกล และสนับสนุนของที่ระลึกการกุศลคอลเล็คชั่นหลากลาย หลายชีวิต ชุด “เสือ” ได้ที่ ร้านผลิตภัณฑ์ที่ระลึกในพระดำริ ๙๐๖ ชั้น 1 อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ หรือช่องทางออนไลน์ทาง LINE My shop @bhadrafoundation และ Shopee ค้นหาคำว่า มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ และสามารถร่วมบริจาคสมทบทุนผ่านการโอนเงินได้ที่ชื่อบัญชี มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ ในพระอุปถัมภ์ฯ
ธนาคารทหารไทย เลขที่ 236-1-00491-0 และธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 942-3-00099-2 ติดต่อขอรับใบเสร็จเพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้จำนวน 2 เท่า ทาง LINE มูลนิธิภัทรมหาราชานุสรณ์ฯ รายละเอียดเพิ่มเติมทาง www.chulabhornchannel.com

จ้าวลู่ซือ นางเอกดังแดนมังกร สวยหวานในเดรส Poem

ชมพูหวานหยด! จ้าวลู่ซือ นางเอกแดนมังกร สั่งตัดเดรส Poem ใส่ออกงาน

จ้าวลู่ซือ นางเอกดังแดนมังกร สวยหวานในเดรส Poem
จ้าวลู่ซือ นางเอกดังแดนมังกร สวยหวานในเดรส Poem

แบรนด์ไทยใครใส่ก็สวย ไม่ได้อวยเลยจ้า เพราะภาพมันฟ้อง ล่าสุด จ้าวลู่ซือ นางเอกดังแดนมังกร ก็ใส่เดรสสีชมพูหวานจาก Poem ที่ Made-to-order เพื่อเธอโดยเฉพาะ

สำหรับใครที่เป็นแฟนซีรี่ส์จีน มีเหรอจะไม่รู้จักเธอคนนี้ จ้าวลู่ซือ เพราะซีรี่ส์ที่เธอแสดงแต่ละเรื่องโด่งดังจนเป็นที่พูดถึงทั้งนั้น ไม่ว่าจะ Oh! My Emperor ฮ่องเต้ที่รัก , ข้านี่แหละองค์หญิงสาม (The Romance of Tiger and Rose) และผลงานชวนจิ้นล่าสุด Dating in the Kitchen ฝากรักไว้ที่ท้ายครัว ก็ได้เสียงตอบรับจากแฟนๆ อย่างท่วมท้นเช่นกัน

 

ทำให้นักแสดงสาววัย 21 ปี ไม่ว่าจะไป ทำอะไรก็ถูกจับตามองเกือบทุกฝีก้าว นี่แหละนะความดัง จะทำอะไรก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนไปหมดจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องออกงานก็จะยิ่งมีความคาดหวังจากแฟนๆ มากกว่าปกติ ที่อยากจะเห็น จ้าวลู่ซือ ในลุคที่แตกต่างไปจากในซีรี่ส์ ซึ่งเธอก็ทำออกมาได้ดีทุกครั้ง เช่นเดียวกับครั้งล่าสุดที่เจ้าตัวออกงานอีเว้นต์ในลุคสาวหวาน ทำเอาแฟนๆ ปลื้มหนักมาก

จ้าวลู่ซือ

จ้าวลู่ซือ

โดย จ้าวลู่ซือ มาในเดรสเกาะอกสีชมพูพลิ้วสวยดูโรแมนติก มีความสง่างาม แต่ยังคงน่ารักสดใส และมีออร่าเปล่งประกาย พร้อมเสริมลุคด้วยเครื่องประดับจาก Tiffany & Co. ดูเผินๆ อาจเป็นลุคเดินพรมแดงเข้างานอีเว้นต์สวยๆ ชุดก็ดูเหมาะและเข้ากับนางเอกสาวมาก แต่รู้หรือเปล่าว่าชุดเดรสสีชมพูนี้เป็นแบรนด์ไทยอย่าง Poem รังสรรค์ให้นะจ๊ะ

ซึ่งเป็นในส่วนของ Private POEM ที่จะ Made-to-order ให้กับลูกค้าคนนั้นๆ โดยเฉพาะ ความพิเศษคือรับลูกค้าประมาณ 3-4 คนต่อเดือนเท่านั้น เพราะลูกค้าเหล่านี้จะมีโจทย์ที่แตกต่าง แปลกใหม่ ซึ่งถือได้ว่าสินค้าประเภทนี้เป็นแกนหลักและสร้างเรื่องราวให้กับ POEM เลยก็ว่าได้


ภาพ : WeTv , 摄影师葛明

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เพราะอะไร นางเอกเกาหลี ฐานะไม่ร่ำรวย แต่ถือกระเป๋าแบรนด์เนมได้

งดงามอย่างไทย ศรีริต้า สวมผ้าไหมยกดอกลำพูน ทำบุญในวันเกิดครบ 39 ปี

การบินไทยเสริมรายได้ เปิดพรีออเดอร์ขาย กระเป๋ารีไซเคิล จากเสื้อชูชีพและแพยาง

 

สวย แซ่บ! ส่องความฮ็อตจนทะเลเดือด โอปอล์ ปานหทัย แฟนใหม่ ท็อป ณัฐเศรษฐ์

account_circle

แซ่บจนทะเลเดือด ฮ็อตจนปลอทแตกกันเลยจ้าสำหรับ โอปอล์ ปานหทัย แฟนใหม่ ท็อป ณัฐเศรษฐ์ ที่มาในชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ต้องบอกเลยว่าเธอสวยและหุ่นดีมากกกกกก

แฟนใหม่ ท็อป ณัฐเศรษฐ์แฟนใหม่ ท็อป ณัฐเศรษฐ์

ปกติเข้าไปส่องไอจีหนุ่มท็อปทีไรก็เห็นลงรูปซูเปอร์คาร์ซะเป็นส่วนใหญ่ แต่งานนี้ท็อปขอเติมความหวานสักนิดด้วยการลงรูปคู่กับแฟนสาว โอปอล์ ปานหทัย ขณะไปพักผ่อนที่ทะเลสมุย พร้อมกับแคปชั่นว่า “รูปขั้นที่ไม่ใช่รูปรถกันบ้าง” แหมะ สวีทจนน้ำทะเลที่ว่าเค็มปี๋ เจอคู่นี้เข้าไปกลายเป็นหวานเฉยนะจ๊ะ

สวย แซ่บ! ส่องความฮ็อตจนทะเลเดือด โอปอล์ ปานหทัย แฟนใหม่ ท็อป ณัฐเศรษฐ์ พูนทรัพย์มณี 

แฟนใหม่ ท็อป ณัฐเศรษฐ์แฟนใหม่ ท็อป ณัฐเศรษฐ์

แต่ถึงจะหวานแค่ไหนก็สู้ความแซ่บของสาวโอปอล์ไปไม่ได้เลย เมื่อทริปนี้เธอมาในชุดว่ายน้ำรัวๆ ทำเอาหนุ่มท็อปถึงกับแฟนสาวว่า “ถามจริง มาทะเลเอามากี่ชุด” เพราะมีทั้งวันพีช ทูพีช ซึ่งเผยให้เห็นรูปร่างของสาวโอปอล์ที่บอกเลยว่าฟิตแอนด์เฟิร์มมาอย่างดี ซิกแพคมาเต็ม

นอกจากลุคแซ่บๆ ในชุดว่ายน้ำ ลุคแคชชวล วันสบายๆ ของสาวโอปอล์ก็สวย เซ็กซี่ไม่เบา

สำหรับโปรไฟล์ของสาว “โอปอล์ ปานหทัย สมรรถศรบุศย์” นั้น เรียกได้ว่าเธอป็นนักธุรกิจสาวที่ทำธุรกิจหลากหลาย โดยเธอเป็นเจ้าของ Jewel Clinic และร้านทำผม The Mystiq Hair Bar นอกจากนี้ยังมีธรกิจออนไลน์อีกด้วย รวมถึงยังเป็นเพื่อนสนิทของนักแสดงสาวชื่อดัง คิมเบอร์ลี่ อีกด้วย


CR : @opallis

ท็อป ณัฐเศรษฐ์ ถอยรถ Porsche 13 ล้านจุกๆ ให้คุณพ่อ ภูมิใจยิ่งกว่าซื้อให้ตัวเอง

 

“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีชั่น 2” ฟุ้งกระแสตอบรับดีเงินอัดฉีดผู้ประกอบการไทย 165 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเฟ้นหาสุดยอดไอเดียธุรกิจพิชิตล้านเปิดรับสมัครซีซั่น 3

ปิดฉากซีซั่นลงไปแล้วกับการเฟ้นหาสุดยอดไอเดียทางธุรกิจ รายการ “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2” ซึ่งยังคงได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีไม่แพ้ซีซั่นแรกจากกลุ่มผู้ชมตลอดทั้ง 17 ตอน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7HD และช่องทางออนไลน์หลักของรายการ ทิ้งท้ายด้วยความประทับใจกับการปิดดีลไอเดียสุดเจ๋งของผู้เข้าแข่งขัน 24 ผู้ประกอบการ รวมมูลค่ากว่า 165 ล้านบาท โดยได้พิสูจน์แล้วว่า รายการ“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2” เป็นเรียลลิตี้ทางธุรกิจ หนึ่งเดียวในไทยที่สานฝันผู้ประกอบการไปสู่จุดหมายได้อย่างแท้จริง และยังเป็นที่พึ่งทางธุรกิจที่ได้มากกว่าความสนุก ยังเต็มไปด้วยเทคนิค รวมไปถึงข้อมูลที่ผู้ชมสามารถนำไปปรับใช้ในกิจการของตัวเองได้

“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์” เป็นรายการเรียลลิตี้ที่มีชื่อเสียงโดงดังระดับโลกมีต้นกำเนินจากสหรัฐอเมริกา โดยทาง คุณทรงสุดา พาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย แท็งค์ จำกัด เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์รูปแบบรายการเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทยมาจากรายการ “ชาร์กแท็งก์” (Shark Tank) ของโซนี่ พิคเจอร์

โดยรูปแบบรายการยังคงเป็นเรียลลิตี้เชิงธุรกิจ นำนักลงทุน หรือ Shark (ชาร์ก) มาฟังการนำเสนอจุดเด่น กลยุทธ์ และแผนธุรกิจของผู้ประกอบการ และจะได้รับการคอมเม้นต์อย่างตรงไปตรงมา ถ้า Shark (ชาร์ก) ให้ความสนใจในธุรกิจเหล่านั้น ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการต่อรอง เพื่อให้ได้มูลค่าลงทุนที่สองฝ่ายพึงพอใจ สำหรับไอเดียธุรกิจ SME ที่ได้รับคัดเลือกจากทางเหล่า Shark (ชาร์ก) ในรายการ จะได้โอกาสนำไปต่อยอดในแนวทางของ Shark (ชาร์ก) แต่ละท่านตามความเหมาะสม เพื่อนำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ

ในส่วนการคัดเลือกไอเดียของผู้เข้าแข่งขัน นักลงทุนจะให้ความสำคัญ กับการประเมินมูลค่าธุรกิจ ที่เหมาะกับการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ และอยู่รอดในยุคนิว นอร์มอล ซึ่งนับเป็นสีสันของรายการที่ห้ามพลาด นอกจากความสนุกของรูปแบบรายการที่เป็นเรียลลิตี้แล้ว ยังได้เรียนรู้วิธีการนำเสนอไอเดีย แผนธุรกิจ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ ตลอดจนผู้ชมที่สนใจ โดยรูปแบบของธุรกิจที่ร่วมในรายการ ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพ

ในซีซั่น 2 นี้มี 5 ชาร์ก ได้แก่ คุณเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด , คุณแอน -จักรพงษ์  จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น , คุณกฤษน์ ศรีชวาลา  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟิโก้ กรุ๊ป, คุณเบอร์ดี้-บดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด  , และคุณหมู- ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท อุ๊คบี จำกัด (Ookbee) แล้วนอกจากนี้ในตอนสุดท้ายก่อนปิดซีซั่นซึ่งถือเป็นตอนพิเศษยังได้รับเกียรติจากชาร์กพิเศษคุณประพล มิลินทจินดา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) มาร่วมด้วย

สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าแข่งขันที่ได้รับการสนับสนุนจากรายการ“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2” รวมทั้งสิ้น 24 ราย มูลค่ากว่า 165 ล้านบาท ได้แก่ มะม่วงกรอบ อาเสี่ยใหญ่, add on Taxi,Truly Hill Coffee กาแฟเพื่อสุขภาพ, Local Alke, (สสว.) Ananas ห้างหุ่นส่วนจำกัดครัวเจ๋ง สันในหมูฝอยไร้มัน,Alter:supplement gummy, ไมโครเวนดิ้งเทค จำกัด, ชุดทดลองการเรียนรู้ช่างไฟฟ้าระบบอัตโนมัติ, Lamotra, ข้าวเกรียบปลาทู, สเปรย์คลายเครียด, Logistics enabler, จีบต้มไฮโซ, หลอดน้ำที่ย่อยสลายเองได้, ผัดหมี่ไท-ยวน, เจียงอัจฉริยะสำหรับผู้ป่วยติดเตียง/ผู้สูงอายุ, พริกแกงแคทเทอริ่ง, ปั้นสี (มศว.),ธุรกิจชานมไข่มุก Liu cha, ครัวแต้จิ๋ว, บริษัท ฟิตทูฟลายสตูดิโอ จำกัดล (สสว.) ผลิตภัณฑ์น้ำมะปี๊ด, อิจิบังราเมน และDoter Tiw

ซึ่งผู้ประกอบการทั้ง  24 ราย ทำให้ชาร์กทั้ง 6 ท่าน สนใจถึงกับควักเงินสนับสนุนรวมถึงบางธุรกิจได้รับความสนใจจากชาร์กมากจนต้องมีการจับมือกันระหว่างชาร์กในการร่วมกันสนับสนุนธุรกิจนั้น ทั้งนี้ เราไปฟังถึงความรู้สึกของบรรดาชาร์กทั้ง 6 ท่าน เกี่ยวกับ รายการ“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2” และผู้ประกอบการที่เข้ามาแข่งขันกันดีกว่า

เริ่มจากคุณกฤษน์ ศรีชวาลา ประธานกรรมการบริษัท ฟิโก้ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้กล่าวถึงความรู้สึกของตัวเองว่า  รายการ“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2” นี้สนุกมาก ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้ามาร่วมรายการเก่งขึ้น มีการศึกษาเป็นอย่างดีจากซีซั่นที่ 1 มาก่อนที่จะเข้ามาร่วมแข่งขัน นอกจากนี้ รายการเองก็มีการพัฒนาและจัดรายการได้ดีขึ้น มีการคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีความแตกต่างกันมาร่วมแข่งขัน ทั้งนี้ รายการนี้น่าจะมีการพัฒนาไปอีกเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงจุดอิ่มตัว

ต่อมาเป็น คุณเบอร์ดี้ – บดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้กล่าวถึงความรู้สึกในฐานะชาร์กน้องใหม่ว่า ซีซั่น 2 เป็นซีซั่นแรกที่ตนได้เข้ามาร่วมเป็นชาร์กซึ่งถือว่าดี ได้เห็นผู้ประกอบการจากหลากหลายอุตสาหกรรม ได้เห็นประกายในแววตาและไฟในผู้ประกอบการที่เข้ามาแข่งขันทำให้อยากจะกลับมาพัฒนาตัวเองนำพลังที่เห็นกลับมาเติมเต็มในการทำงานของตัวเองได้อีกครั้ง และข้อดีของรายการ“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ” คือทำให้ได้เรียนรู้เทรนใหม่ๆ จากผู้ประกอบการ และชาร์กเองยังมีโอกาสได้เรียนรู้ของกันและกันรวมถึงยังได้สร้างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างกันได้ด้วย

เช่นเดียวกับชาร์กมือใหม่ คุณเต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ได้กล่าวถึงความรู้สึกในการที่มาเป็นชาร์กในครั้งนี้ว่า ตนได้มาเป็นชาร์กซีซั่นนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน รู้สึกสนุก ได้เรียนรู้จากรายการ“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ “นี้มาก ซึ่งมีธุรกิจบางธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตน แต่ต้องมานั่งฟังทำให้ต้องไปศึกษาเรียนรู้ในธุรกิจนั้นเพิ่มเติม เป็นการเปิดโลกทรรศน์ให้กับตน และสามารถนำความรู้ที่ได้กลับไปใช้ในการทำงาน สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงของเราได้ ซึ่งถือว่าเป็นการต่อไฟให้ทำงานได้ดีขึ้น

ด้าน ชาร์กสาวสวยหนึ่งเดียวของรายการ คุณแอน -จักรพงษ์  จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น ได้กล่าวถึงความรู้สึกในฐานะที่มาเป็นชาร์ก 2 ซีซั่นว่า คนที่ดูรายการ “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ” ส่วนมากจะชอบดูเพราะไม่รู้จะทำธุรกิจอะไร พอดูแล้วจะเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทำธุรกิจ ได้เห็นผู้ประกอบการที่เข้ามาแข่งขันเป็นตัวอย่าง ได้รับฟังคอมเมนท์จากชาร์กซึ่งจะนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเพื่อไม่ให้ขาดทุน

“สำหรับตนคือว่า รายการ“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ” ถือเป็น ธุรกิจพิชิตล้าน อย่าคิดว่ามาพิชิตเงินของชาร์ก แต่เอาชาร์กไปร่วมเพื่อพิชิตความสำเร็จของคุณ  เป็นการส่งเสริมทำให้คนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีแรงบันดาลใจในการทำมาหากินและมี Knowledge  Know how ในการที่จะไปประกอบกิจการได้อย่างถูกต้องและพลาดน้อยที่สุด ทั้งนี้ รายการนี้เป็นรายการที่มีสาระน่าดู สนุกตื่นเต้น ประเทศไทยมีรายการที่มีสาระและน่าดู สนุกและตื่นเต้น แถมยังลุ้นการทำมาหากินและสร้างความร่ำรวยให้กับเรา”

ทางด้าน คุณหมู– ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท อุ๊คบี จำกัด (Ookbee) ได้กล่าวความรู้สึกในฐานะที่มาเป็นชาร์กครั้งที่ 2 ว่า ผู้ประกอบการที่มาร่วมแข่งขันซีซั่นที่ 2 มีการเตรียมตัวมามากกว่าเดิม ซึ่งน่าจะได้ดูและศึกษาตัวอย่างจากซีซั่นที่1 ที่มีออนไลน์ไว้มาแล้ว เหมือนกับตนเองก็ชอบดูเวลาที่มีคนคอมเมนท์ทำให้รู้สึกมีลุ้นตาม สนุกดี ซึ่งคนที่ไม่ได้ไม่ใช่ว่าจะไปซ้ำเติม แต่เป็นการบอกวิธีการเตรียมตัวให้ดีก่อนจะมาแข่งขัน  ซึ่งถ้าพลาดจะเสียโอกาสที่มายืนอยู่ตรงนี้

ปิดท้ายที่ชาร์กรับเชิญพิเศษ คุณประพล มิลินทจินดา ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงการมาเป็นชาร์กในครั้งนี้ว่า ตนได้มาร่วมตอนสุดท้ายเป็นตอนพิเศษปิดซีซั่น ซึ่งตนอยากให้ทุกคนได้ลองติดตามดูรายการ“ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ “ คอยติดตามดูในแง่ของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง และความรู้ต่างๆ ไปประยุกต์ใช้หรือแก้ปัญหาในธุรกิจของตน ซึ่งปัญหาส่วนมากของผู้ประกอบการคือเรื่องของการบริหารจัดการภายในทางด้านบัญชี ต้นทุน และด้านการตลาด กล่าวคืออยากจะทำมีเงิน มีพลังแต่ยังขาด Knowledge ความรู้และประสบการณ์ในการบริหารงาน บริหารคน และต้นทุนของธุรกิจ ซึ่งท้ายสุดเมื่อไม่รู้อะไรเลยก็จะทำให้ชาดทุน

“นอกจากนี้ตนคิดว่ารายการ”ชาร์กแท็งก์” ถ้าออกอากาศในประเทศใด แสดงว่า ประเทศนั้นมีความเป็นมาตรฐานทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งรายการนี้อยู่ในประเทศไทยย่อมแสดงว่า ไทยมีความโดดเด่นและกำลังจะเป็นมาตรฐานสำหรับระดับธุรกิจสตาร์ทอัพ ตรงนี้เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักธุรกิจ ผู้ที่อยากเป็นนักธุรกิจใหญ่ ในโลกโซเชียลมีเดีย โลกของออนไลน์ ทุกคนเป็นนักธุรกิจได้หมด เป็นตัวของตัวเอง เรียนรู้กันไปดีที่สุด และในซีซั่นต่อไปตนอยากจะเห็นพอร์ตของการซื้อขายที่ใหญ่ขึ้นแบบก้าวกระโดด จากปัจจุบัน 2 ล้านบาทเป็น 10 ล้านบาท จาก 10 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาท และจาก 100 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท” คุณประพลกล่าวทิ้งท้าย

ตำนานบทใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น รายการ “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีชั่น 3 ”  ผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่ www.sharktankthailand.com หรือรับชมรายการย้อนหลัง และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
FB : Shark Tank Thailand
YouTube : MEDIA Tank
Line OA : @sharktankthailand

อีซูซุเปิดตัว “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ ความหรูหราเต็มพิกัดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยสุดล้ำ

อีซูซุเปิดตัว “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ยนตรกรรมอเนกประสงค์รุ่นใหม่หมดระดับมาสเตอร์พีซรุ่นล่าสุด ภายใต้นิยาม “เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ (ORIGINALITY REDEFINED)”

พลิกโฉมใหม่ทั้งภายนอกจรดภายในจากอัตลักษณ์แห่งดีไซน์ที่หรูหรา สะดวกสบาย ประณีตในทุกรายละเอียด พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยสุดล้ำ ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE ที่ครบครัน และเหนือกว่าด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่อัจฉริยะ รวมทั้งพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ให้นุ่มนวล มั่นคง ปลอดภัยยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับความต้องการและสะท้อนตัวตนในแบบฉบับของผู้ที่ประสบความสำเร็จไม่เหมือนใคร

กลุ่มตรีเพชร โดย มร.โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “ด้วยวิถีชีวิตยุคใหม่ทำให้กลุ่มลูกค้าผู้ใช้รถมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น จึงทำให้รถอเนกประสงค์เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ครบทุกด้าน เพราะมีอรรถประโยชน์และพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า ตลอดจนสมรรถนะที่สามารถขับขี่ได้บนทุกสภาพเส้นทาง ที่สำคัญยังเป็นรถที่สะท้อนภาพลักษณ์ตัวตนของผู้ขับขี่ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” อย่างมีเอกลักษณ์

โดยการพัฒนาให้เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่หรูหรา ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครันที่สุด บ่งบอกตัวตนสำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ภายใต้นิยาม “เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ (ORIGINALITY REDEFINED)” เป็นรถที่โดดเด่นทั้งในด้านภาพลักษณ์ ความหรูหราที่เหนือความคาดหมายจากความประณีตในทุกรายละเอียด ความอเนกประสงค์ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รถ สมรรถนะการขับขี่ที่ดีที่สุดแบบ 3S ได้แก่ ความนิ่งและมั่นคง (Stability) ความนุ่มนวล นั่งสบาย (Softness) ความปลอดภัยและการเกาะถนน (Safety and Road Holding) จากโครงสร้างแพลทฟอร์มที่ออกแบบใหม่ ด้วยแนวคิด ISUZU Symmetric Mobility ให้โครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ และช่วงล่างทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
โดยมาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยสำหรับรถอเนกประสงค์ที่ดี ที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ด้วย ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE ที่มุ่งเน้นพัฒนาเพื่อรวมทุกเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ขั้นสูง ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่อัจฉริยะ 3D Imaging Stereo Camera ช่วยตรวจจับวัตถุต่าง ๆ ด้วยการสแกนภาพ 3 มิติ แบบ Real Time แม่นยำกว่ากล้องระบบ Mono Camera ทั่วไป โดยทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ABS, EBD, BA, BOS, ESC, TCS, HSA, HDC และ TSC โดยมีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active พร้อมราคาพิเศษช่วงแนะนำเริ่มต้น 1,109,000 บาท “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” จึงพร้อมสุดกับการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย เพื่อเป็นรถธงคันใหม่ของ “อีซูซุ” ที่พร้อมจะสร้างปรากฏการณ์ “Next Normal” ให้กับวงการรถอเนกประสงค์ของไทย

นอกจากนี้อีซูซุยังภูมิใจที่จะประกาศให้ทราบว่าเราได้มียอดการผลิตรถ อีซูซุทุกรุ่นในประเทศไทยครบ 5 ล้านคันแล้วในเดือนตุลาคม” ความโดดเด่นที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ สะท้อนตัวตนของผู้อยู่เหนือทุกความสำเร็จของ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ประกอบด้วยหลักใหญ่ ๆ ดังนี้

• REFLECT YOUR UNIQUE SUCCESS

นิยามใหม่แห่งดีไซน์สมบูรณ์แบบ เพื่อความโดดเด่นที่แตกต่าง อีกระดับแห่งภาพลักษณ์หรู ล้ำสไตล์ สง่างาม โฉบเฉี่ยวเร้าอารมณ์
ภายใต้แนวคิด Emotional & Solid ผสานความหนักแน่นและพลิ้วไหวเข้าไว้ด้วยกันตลอดทั้งคัน อาทิ กระจังหน้าแบบ World Cross Flow ผสมผสานพื้นผิวสัมผัสที่หลากหลายของวัสดุพรีเมียมที่งดงามได้อย่างลงตัว ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ เติมอารมณ์สปอร์ตหรู ทอดยาวสู่ไฟท้าย LED ดีไซน์แบบ Winglet Signature เพิ่มมิติมุมมองให้โดดเด่นด้วยโคมไฟ 3-Line LED ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ ไดนามิคดีไซน์ คมเข้ม ดุดัน ขนาด 20” ในรุ่น Ultimate ขนาด 18” ในรุ่น Elegant และ Luxury และขนาด 17” ในรุ่น Active

• EMBRACE YOUR EXQUISITE LUXURY

เดินทางไปกับนิยามใหม่แห่งความหรูหราของห้องโดยสารกว้างขวางโอ่อ่า ด้วยแนวคิดการออกแบบ Fine, Rich & Impressive Craftsmanship ประณีตในทุกรายละเอียด ผสมผสานความสะดวกสบายในทุกฟังก์ชันการใช้งานได้ครบครันเป็
นหนึ่งเดียวกับดีไซน์ ด้วยวิธีการออกแบบ Integrated Cockpit คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกับคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู พร้อมเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดอยู่กับที่โดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และปลดเบรกอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง เบาะนั่งดีไซน์หรูสี Saddle Brown ตัดเย็บด้วยวัสดุพิเศษ เดินด้ายแบบเครื่องหนังชั้นหรู โอบกระชับรับทุกสัดส่วน พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อม Sequential Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า Power Tailgate ปลอดภัยด้วยระบบ Jam Protection พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความบันเทิงและความสะดวกสะบายครบครัน โดยมี Ambient Light และ Dome Light ช่วยเติมแต่งบรรยากาศหรูมีระดับ

• PROTECT YOUR EXCLUSIVE SERENITY

ก้าวล้ำสู่อีกขั้นแห่งความมั่นใจที่ครบครันกว่า ด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยล้ำหน้าล่าสุด ISUZU MATRIX
SAFETY INTELLIGENCE พัฒนาให้ระบบเพื่อความปลอดภัยทุกระบบทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างมีประสิทธิภาพ ล้ำหน้าไปอีกขั้นกับเทคโนโลยี ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ช่วยสอดส่อง เฝ้าระวัง ด้วยนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ช่วยตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time ด้วยมิติที่ชัดเจน พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยพื้นฐานครบครันทุกรุ่น ABS, EBD, BA, BOS, ESC, TCS, HSA, HDC และ TSC เพื่อส่งมอบความมั่นใจและอุ่นใจเหนือระดับยามขับขี่เทคโนโลยี ADAS ที่รวมไว้ใน “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” ได้แก่

  • ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop
    and Go
  • FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า
  • AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน
  • AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมติ
  • PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด
  • MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง
  • BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
  • RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์
  • Parking Aid System ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์
  • MCB (Multi-Collision Brake) ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

• DEFY YOUR ENDLESS POSSIBILITY

ดุลยภาพแห่งความเร้าใจ เสถียรภาพใหม่แห่งการขับขี่ กับโครงสร้างแพลทฟอร์มใหม่ ด้วยช่วงล่างใหม่ ออกแบบตามแนวคิด
ISUZU Symmetric Mobility ให้โครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ และช่วงล่างทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว
ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone ออกแบบจุดยึดปีกนกด้านบนใหม่ พร้อมคอยล์สปริง โช้คอัพแก๊สและเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension อันเลื่องชื่อที่พัฒนาไปอีกขั้น ออกแบบจุดยึดคานใหม่และเหล็กกันโคลงให้ยาวขึ้น พร้อมคอยล์สปริงและโช้คอัพแก๊ส เพื่อสร้างประสบการณ์และสมรรถนะการขับขี่ที่ดีที่สุดแบบ 3S ได้แก่ ความนิ่งและมั่นคง (Stability) ความนุ่มนวลนั่งสบาย (Softness) ความปลอดภัยและการเกาะถนน (Safety and Road Holding)
มอบดุลยภาพแห่งความนุ่มสบาย และการยึดเกาะถนนได้เต็มประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการขับสนุก เร้าใจ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์แห่งการขับขี่

• CRAFT YOUR ULTIMATE PLEASURE

สัมผัสใหม่แห่งความสะดวกสบายที่เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัวครบครันด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสุดล้ำตลอดทั้งคันพร้อมเติมเต็มสุนทรียภาพแห่งการเดินทางให้สมบูรณ์แบบในทุกห้วงเวลา

  • เบาะนั่งสามแถว ออกแบบให้นั่งสบายทั้ง 7 ที่นั่ง พร้อมปรับพับได้หลากหลายรูปแบบตามการใช้งาน
  • เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง
  • ระบบความบันเทิง ISUZU Ultimate Entertainment หน้าจอ Infotainment Display ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple
    CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto (เฉพาะสมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับการใช้งาน) พร้อมลำโพง 8 จุด
    ให้มิติเสียงรอบทิศทาง
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5
  • Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลายทั้ง USB Fast Charger ช่องต่อ AC Power Socket 220V
    และช่องต่อ DC 12V
  • Power Tailgate ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ Jam Protection
  • กุญแจ ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start และใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า

• FULFIL YOUR DISTINCTIVE DESIRE เลือกตัวตนที่บ่งบอกตัวคุณ “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์”

มีให้เลือกครบครันด้วยสไตล์ที่หลากหลายรวม 4 รุ่น ได้แก่ Ultimate, Elegant, Luxury และ Active เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue
Power ให้แรงบิดสูงทุกย่านความเร็ว และ 1.9 Ddi Blue Power Gen 2 เครื่องยนต์พัฒนาล้ำหน้าล่าสุด พร้อมทางเลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด ถ่ายทอดความแรงต่อเนื่องทุกช่วงความเร็ว ให้สมรรถนะการขับขี่เต็มอารมณ์สปอร์ต มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ พร้อมระบบขับเคลื่อน Rough Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ
ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และเบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคได้ดีขึ้น โดยทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L
อีกทั้งมีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ น้ำตาลมาราเกซ (Marrakesh Brown) ขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite Pearl White) แดงเอทนา (Etna Red) ดำบาวาเรียน ไมก้า (Bavarian Black Mica) เงินไอซ์เบิร์ก (Iceberg Silver) และเงินโบฮีเมียน เมทัลลิค (Bohemian Silver Metallic) แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ราคาตั้งแต่ 1,109,000 – 1,591,000บาท

นอกจากนี้อีซูซุยังมอบการใช้ชีวิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับเจ้าของรถ อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ด้วยการแนะนำ “Isuzu MU-X the Exclusive”
Exclusive Drive…Exclusive Life โปรแกรมมอบสิทธิพิเศษหลากหลายที่ตอบทุกไลฟ์สไตล์เหนือระดับได้แบบครบครัน ทั้งร้านอาหาร โรงแรมชั้นนำหรือกิจกรรมมอบความบันเทิงต่าง ๆ รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษจากอีซูซุ ด้วยการใช้งานที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นผ่านเวปแอปพลิเคชัน my-Isuzu

เชิญพบกับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์รุ่นใหม่หมด “ออลนิว อีซูซุมิว-เอ็กซ์” เหนือทุกความเชื่อ…เหนือทุกความสำเร็จ ("ALL-
NEW ISUZU MU-X"…ORIGINALITY REDEFINED) ที่จะสะท้อนความสำเร็จของคุณที่แตกต่างเหนือใคร ได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน ศกนี้

หรือติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com
Facebook page : All-New Isuzu MU-X
LINE Official : Isuzu Thailand

แคธรีน ลี

เกินต้าน! ส่องหุ่นสุดแซ่บ “แคธรีน ลี” นักแสดงสาวชาวมาเล เอวเล็กไซส์ XXS

Alternative Textaccount_circle
แคธรีน ลี
แคธรีน ลี

เกินต้าน! ส่องหุ่นสุดแซ่บ “แคธรีน ลี” นักแสดงสาวชาวมาเล เจ้าของเอวไซส์ XXS ที่เคยมีประเด็นดราม่าเหยียดรูปร่างคนอื่น

แคธรีน ลี หรือชื่อจีนว่า หลี่ หยวนหลิง สาวสวยวัย 32 ปี รูปร่างดีสุดเพอร์เฟ็คตามสไตล์สาวรักสุขภาพ และยังเป็นคนดังในโลกโซเชียล ที่หนุ่มๆ ติดตามชื่นชอบไม่น้อย และเธอไม่ได้มีดีแค่สวยเซ็กซี่เท่านั้นนะ แต่โปรไฟล์ของเธอไม่ธรรมดา เป็นทั้งนักแสดง นางแบบ และนักเปียโนสาวชาวมาเลเซีย

ซึ่งเธอรักและเริ่มเรียนดนตรีตั้งแต่ 17 ปี และศึกษาระดับปริญญาตรี วิชาเอกเปียโน ที่ประเทศอังกฤษ จบแล้วกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด ก่อนเซ็นสัญญาเข้าวงการบันเทิงของประเทศสิงคโปร์กับบริษัท Media Corp. นอกจากนี้เธอยังเคยร่วมงานกับวงการบันเทิงของฮ่องกงในปี 2015 ซึ่งผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘Special Female Force’ ถือเป็นการรับบทนำเต็มตัวเป็นครั้งแรกของเธอด้วย เรียกได้ว่า สวย เซ็กซี่ มีความสามารถครบเครื่องเลยจริงๆ

นอกจากนี้ เธอยังเคยมีประเด็นดราม่าในโลกโซเชียลจากการที่เธอโพสต์ข้อความเชิงเหยียดรูปร่างคนอื่นผ่านอินสตาแกรมว่า “สาวๆ ถ้าเธอสวมเสื้อผ้าไซส์ 6 หรือไซส์ S นั่นแปลว่าจริงๆ แล้วเธอน่ะไซส์ M และ M = อ้วน ได้โปรดหยุดกิน แล้วก็ย้ายก้นไปเข้ายิมด่วน” ทำเอากลุ่มคนที่ติดตามเธอนั้นหัวร้อนที่เธอพูดเหมือนเหยียดรูปร่างคนอื่นเลย!!

ล่าสุด เธอกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลอีกครั้ง เมื่อเธอโพสต์ภาพของตัวเองที่สวมชุดว่ายน้ำสีดำสุดเซ็กซี่ลงโซเชียล (อินสตาแกรมมากกว่า 1.7 ล้านคน ) ทำเอาแฟนๆ กดไลค์รัวๆ กลายเป็นที่สนใจถึงขนาดที่ ETtoday สื่อยักษ์ใหญ่ได้นำเรื่องราวของเธอไปนำเสนอ

โดยในอดีตเธอเคยมีน้ำหนักมากถึง 52 กิโลกรัม และมีรูปร่างที่ไม่สมส่วน แต่ด้วยความมุ่งมั่น ทำให้เธอมีวินัย ขยันออกกำลังกาย และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำให้เธอสามารถปั้นหุ่นออกมาได้เพอร์เฟ็คราวกับรูปปั้นนางแบบ ซึ่งเอวของเธอนั้นมีขนาดไซส์ XXS อีกด้วย แพรวดอทคอม เลยจะพาสาวๆ มาส่องหุ่นสุดเป๊ะของเธอ เผื่อเป็นแรงฮึดให้สาวๆ ฟิตหุ่นกันค่ะ


ภาพ IG : cathrynli

เปิดสเต็ปบิวตี้รูทีนจัดเต็มของ Lily Collins เน้นงานผิวทั้งสกินแคร์และเมคอัพ

หุ่นฟาดมาก! ‘ปนัดดา เรืองวุฒิ’ น.น.ลด 6 โลด้วยมือหมอ อวดเอวสับ เป๊ะทุกสัดส่วน

 

 

เอ-พศิน เรืองวุฒิ

ส่องลุคหนุ่มหน้าใสของ ภรรยา เอ-พศิน เรืองวุฒิ หลังเปิดตัวเป็นสาวหล่อ

Alternative Textaccount_circle
เอ-พศิน เรืองวุฒิ
เอ-พศิน เรืองวุฒิ

ฮ็อตไม่ใช่เล่น! แตงกวา-จิราพร ภรรยาของดาวร้ายหนุ่ม เอ-พศิน เรืองวุฒิ เปิดตัวเป็นสาวหล่อ พร้อมโพสต์คำคม “ถ้าต้องเอาเวลาทั้งชีวิตมานั่งอธิบายให้ทั้งโลกเข้าใจ สู้ทำทุกวันให้มีความสุขกับคนที่เข้าใจในตัวเราจะดีกว่า”

ก่อนหน้านี้ดาวร้ายหนุ่ม เอ-พศิน กับภรรยา แตงกวา-จิราพร ตกเป็นข่าวรักแตกแยกทาง แต่เมื่อไม่นานมานี้ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ซึ่งน่าจะเป็นข่าวดีเพราะทั้งคู่ก็มีน้อง “เลโก้” เป็นโซ่ทองคล้องใจอยู่ด้วย ทว่าการกลับมาครั้งนี้สถานะไม่ได้เหมือนเดิมอย่างที่หลายคนคิด เนื่องจากแตงกวาได้ชี้แจงว่า จริงๆ แล้วทั้งคู่หย่ากันแต่กลับมาอยู่ด้วยกันก็เพราะลูก

ขออธิบายครับ ทำไมถึงอยู่ด้วยกันได้ ทำไมเลิกกันแล้วต้องแยกทางก็ในเมื่อ เราคบกันเป็นเพื่อนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ความรักที่มีให้กันตั้งแต่เริ่มจนถึงวันนี้มันก็มากนะ ในสถานะเพื่อน รู้จักคำว่าเพื่อนตายป่าว 55555

เขาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตแตงไปแล้ว เขาเป็นทั้งเพื่อน พี่ พ่อ และพ่อของลูก มีอะไรคุยกันทุกเรื่อง เพราะเขาเป็นคนในครอบครัว ปัญหาที่คนอื่นคิดไปเองกัน ทั้งหมดมันผิด จะให้มานั้นอธิบาย เพื่อให้ทุกคนเข้าใจมันไม่ง่ายนะคะ เอาเป็นว่า ทุกวันนี้อยู่เพื่อลูก กันและกัน แตงก็ไม่มีญาติที่ไหนใน กทม. ถ้าวันหนึ่งพี่เขาหายไป แตงก็คงลำบาก

แตงกวา-จิราพร กับอดีตภรรยาของดาวร้ายหนุ่ม เอ-พศิน เรืองวุฒิ 

เอ-พศิน
ภาพจาก : ผู้จัดการออนไลน์

แต่ที่ทำให้พีคสุดๆ ก็ตรงที่ แตงกวา-จิราพร ออกมายอมรับตรงๆ ว่าตอนนี้เธอไม่ได้เป็นผู้หญิงแล้ว “อย่างที่บอก แตงเป็น ทอม ไปละ” ซึ่งหลังจากที่โพสต์ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันยกใหญ่ ทั้งให้กำลังใจเธอ รวมถึงเข้ามากรี๊ดความเท่ของสาวหล่อคนนี้ด้วย 

แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าก็มีคนบางส่วนที่ไม่เข้าใจเธอ ซึ่งทำให้เธอต้องออกมาระบายความอัดอั้นตันใจเล็กว่า “เราต้องเอาเวลาทั้งชีวิตมานั่งอธิบายให้คนทั้งโลกเข้าใจ แต่ถ้าเราควรเอาเวลาทั้งชีวิตทำ ทุกวันให้มีความสุขกับคนที่เข้าใจในตัวเราจะดีกว่าไหม”

ประมวลภาพลุคหนุ่มหน้าใสของ แตงกวา-จิราพร หลังเปิดตัวเป็นสาวหล่อ

เอ-พศิน เรืองวุฒิ
แตงกวา ในลุค ผมยาว และ ผมสั้น

แตงกวา-จิราพร แตงกวา-จิราพร


ภาพจาก : ภาพจาก IG @tangkwa_lego

สามารถติดตามอ่าน บทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

เซ็กซี่นิดๆ หวานหน่อยๆ ! “บีบี-เอกนรี” สลัดความเท่ขึ้นรันเวย์

นางพญามากแม่! ต่าย เพ็ญพักตร์ ในลุคผมสีม่วงพาสเทล สวยเปรี้ยวดูอินเตอร์

 

 

ไอรีน Red Velvet เจอดราม่า

หลังเกิดดราม่า “ไอรีน” โดนปลดป้ายโฆษณา แต่ยังคงสถานะพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ดัง

Alternative Textaccount_circle
ไอรีน Red Velvet เจอดราม่า
ไอรีน Red Velvet เจอดราม่า

หลังเกิดกระแสดราม่า “ไอรีน Red Velvet” โดนปลดป้ายโฆษณาออก แต่ยังคงสถานะพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ดังอยู่ ต้องรอการตัดสินใจดูสถานการณ์ต่อไปว่าจะโดยถอดพรีเซ็นเตอร์ด้วยหรือไม่

กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ในชัั่วพริบตาสำหรับเรื่องที่ไอดอลสาวสวย “ไอรีน” จากวง Red Velvet ถูกสไตลิสต์คนหนึ่งออกมาแฉถึงพฤติกรรมหยาบคายไม่เหมาะสม พร้อมติดแฮชแท็ก #psycho และ #monster จนทำให้คนทำงานเบื้องหลังในวงการแห่มากดไลค์กันสนั่น

ซึ่งทางด้าน ไอรีน ก็ได้เข้าพบสไตลิสต์ พร้อมขอโทษเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้ ยังมีการขอโทษต่อสาธารณะผ่านอินสตาแกรมถึงพฤติกรรมของตนเอง ที่ไม่เหมาะสม ไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของคนอื่นมากพอ

โดยหลังเหตุการณ์ดราม่าดังกล่าวนี้ ก็ทำให้กระทบกับงานทั้งหมดของ ไอรีน ทั้งในฐานะนักร้อง นักแสดง และพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ดัง ทางต้นสังกัดจึงได้สั่งเลื่อนงานทุกอย่างออกไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ด้านกิจกรรมของวง ก็ได้มีการยุติหน้าที่ลง โดยต้นสังกัด SM Entertainment ได้มีการประกาศว่า Red Velvet ถอนตัวออกจากงาน K-Culture Festival 2020 ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ (Brand Ambassador) ที่จัดขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมาอีกด้วย

และร้านขายเครื่องสำอางหลายแห่งในประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการถอดสื่อโฆษณาที่มี ไอรีน เป็นพรีเซนเตอร์ อาทิเช่น Clinique Korea โดนปลดป้ายสื่อโฆษณาออก แต่ยังคงสถานะแบรนด์แอมบาสเดอร์อยู่ , ร้าน Olive Young ที่ถูกสำนักงานใหญ่ประกาศแจ้งให้ลบสื่อโฆษณาการโปรโมทของไอรีนทั้งหมด , ช้อปปิ้งมอล SSG.com เกรงว่าข่าวของไอรีนจะส่งผลกระทบต่อยอดขาย

ไอรีน Red Velvet

สำหรับในประเทศไทยนั้น Clinique Thailand ได้เปิดตัว ไอรีน ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของคลีนิกข์ ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และร่วมโปรโมทแคมเปญแรกร่วมกับไอรีน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเพจ IRENE THAILAND ได้มีการสอบถามไปยัง Clinique Thailand

โดยในส่วนของประเทศไทยตอนนี้ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่มีการถอดป้ายออก มีแค่เฉพาะในเกาหลีใต้เท่านั้นที่ถอดออก เพราะสถานการณ์ที่เกาหลียังไม่ดีขึ้น และยังไม่มีข่าวว่าถอดพรีเซนเตอร์ ซึ่งเรื่องการถอดป้ายทาง Clinique Thailand แจ้งว่าทางทีม regional ว่าจะดูสถานการณ์ และปัจจัยหลายอย่างในแต่ละประเทศ ตอนนี้ที่ไทยสถานการณ์ยังดีอยู่ แต่ก็ยังไม่สามารถการันตีได้ 100% ว่าจะไม่เอาออกในอนาคต!! เรื่องนี้คงต้องติดตามกันต่อไป

 

 

 ไอรีน Red Velvet ไอรีน Red Velvet ไอรีน Red Velvet ไอรีน Red Velvet


ภาพ : irene.redvelvet

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทริคผิวเปล่งปลั่งของ ไอรีน แบรนด์แอมบาสเดอร์คลีนิกข์คนใหม่ ในเอเชีย แปซิฟิก

ท็อป 3 สาวไอดอล ที่นิยมนำมาเป็นต้นแบบศัลยกรรมในเกาหลีใต้มากที่สุด

เทียบภาพ ซอจีฮเย-ไอรีน สวยไม่ต่าง หน้าคล้ายกันเหมือนพี่น้อง

OMG! แฮร์สไตล์ของ ไอรีน วง Red Velvet กลายเป็นแบบฮิต ทรงผมเกาหลีเหนือ

 

 

 

‘ยามรักให้เต็ม 100 แต่ยามอกหักเจ็บเกิน 100 สงสารหัวใจตัวเองบ้าง’ ดูดวงรายวัน 29 ตุลาคม 2563

ดูดวงรายวัน 29 ตุลาคม 2563 #หมอปุ้ยพยากรณ์ เช็กทุกวัน เป๊ะปังทุกดวง ทั้งการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ

ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

การงาน : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานด้านการออกแบบดีไซน์ ไม่ว่าจะดีไซเนอร์ อินทิเรีย ดีไซเนอร์ สถาปนิก นักจัดแต่งสวน หรือเมคอัพอาร์ทติส หรืองานที่ต้องใช้มุมมองความสวยงามมาเกี่ยวข้อง วันนี้คุณอาจต้องเดินทางติดต่อประสานงานตลอดทั้งวัน แทบไม่ได้อยู่ติดออฟฟิศเลย วันนี้ก็เป็นอีกวันที่คุณจะได้รับพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยเสริมให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ

การเงิน : มีโชคลาภอย่างฟลุ๊คๆ มีดวงผู้ใหญ่ให้การอุปถัมภ์ เช่น ได้รับมรดก แต่ก็ยังมีรายจ่ายในเรื่องของความรัก เช่น ช็อปปิ้งเสื้อผ้าเพื่อแต่งสวยไปเดท

ความรัก :  คุณแต่งงานหรือใช้ชีวิตคู่กันมานาน ความหวาน การดูแลเอาใจใส่ระหว่างกันก็ค่อยๆ ลดลงไปตามกาลเวลา จนถึงวันนี้คุณก็ยังเรียกร้องให้คู่ปฏิบัติกับคุณเหมือนเดิม แต่เมื่อไม่เหมือนเดิมจึงกลายเป็นปัญหา ควรหาโอกาสไปเที่ยวด้วยกันบ้าง สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ จะช่วยให้ความรู้สึกดีขึ้น คนโสด มีเสน่ห์ทั้งกับเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน หากคุณรักใครแล้วก็ทุ่มใจให้เต็ม 100 ซึ่งที่ผ่านมาคุณก็เสียใจเกิน 100 ก่อนจะเลือกใครควรศึกษากันให้นานๆ อย่าใจอ่อน สงสารหัวใจตัวเองบ้าง

สุขภาพ :  ออกจากบ้านวันนี้เตรียมยาดม ยาหม่อง ยาหอมไปด้วยนะคะ ร่างกายอาจอ่อนเพลียเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ จนมีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ เป็นลมได้

 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

การงาน : หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับการประดิษฐ์คิดค้น ไม่ว่าจะช่างฝีมือทุกประเภท สถาปนิกที่ออกแบบก่อสร้างสถาปัตยกรรม หรือนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังค้นคว้าทดลองสิ่งใหม่ๆ ฯลฯ เน้นใปในแนวจิตอาสา ทำประโยชน์เพื่อสังคม วันนี้คุณควรเตรียมแผน B สำรองไว้ด้วย เพราะโครงสร้างองค์กรอาจเปลี่ยนแปลง ซึ่งกระทบกับงานที่ทำอย่างต่อเนื่อง จนคุณเข้าสู่ทางตัน ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ อย่างไรก็ตามขอให้อดทนรอคอยจังหวะและโอกาส ไม่ควรใช้อารมณ์ด้านลบในการตัดสินใจ เพราะอาจทำให้คุณเลือกทางผิด

การเงิน :  คุณทำงานจิตอาสาไม่หวังผลตอบแทน แถมยังทุ่มเงินตัวเองทำงานอีก เพราะฉะนั้นก็ต้องยอมรับว่า รายได้อาจสะดุด ต้องบริหารจัดการการเงินตัวเป็นเกลียวเลยทีเดียว

ความรัก : คุณวาดภาพชีวิตคู่ไว้อย่างสวยสดงดงาม ดูแลเอาใจใส่คู่อย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งคุณก็คาดหวังว่าจะได้รับเท่ากับที่ให้ไป แต่เมื่อผิดหวังก็กลายเป็นปัญหา  คนโสด เสน่ห์ของคุณอยู่ที่การทำเซอร์ไพร์สให้กับคนพิเศษ แล้วเล็กๆ โลกไม่จำค่ะ วันนี้เล่นใหญ่เลย

สุขภาพ :  เส้นเอ็นอาจยึดทั้งตัว โดยเฉพาะหลัง หากนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานจะปวดตามแนวกระดูกสันหลัง รวมถึงคอ บ่า ไหล่ ก็ตึงแน่น ยังลามไปถึงข้อเข่า ข้อเท้าด้วย จึงควรลุกเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ หรือหาหมอนวดฝีมือดีมาแก้อาการก็ดีนะ

 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

การงาน :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานบุญงานกุศล หรือเกี่ยวกับงานออนไลน์ ระบบเครือข่ายการสื่อสารต่างๆ วันนี้คุณอาจกำลังคิดงานเพื่อไปประมูลงาน หรือเข้าสู่การแข่งขันกับต่างประเทศ ซึ่งคุณคาดหวังความสำเร็จอย่างแรงกล้า โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรม ก็ต้องระวังการตัดสินใจที่เฉียบขาด แต่ขาดความรอบคอบ และบริวารที่ไม่ซื่อสัตย์ อาจเกิดความผิดพลาดล้มเหลวอย่างไม่น่าเกิดขึ้น

การเงิน :  อาจได้เงินพิเศษจากงานพิเศษ ก็ควรนำไปทำบุญทำทาน หรือบริจาคคืนกลับสู่สังคมบ้าง

ความรัก :  คุณแต่งงานอยู่กินกันในครอบครัวใหญ่มีกฎระเบียบตึงเป๊ะ ทุกวันก็อยู่กันได้ด้วยดี แต่วันนี้อารมณ์คุณผาดโผนขึ้นลงแบบสุดโต่ง จากคำพูดเดียวกันที่เคยรับได้ แต่วันนี้คุณอาจยั่วยุจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้น  คนโสด ด้วยสถานภาพทางสังคมของครอบครัวคุณ จึงทำให้คุณไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้มากนัก

สุขภาพ : ภูมิแพ้มาแล้วจ้า อากาศกำลังจะเปลี่ยนอีกแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้คุณแพ้อากาศ หายใจไม่สะดวก เป็นไซนัส จนถึงเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันพุธ

การงาน :  หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือทำงานเกี่ยวข้องกับงานเอ็นเทอร์เทนเม้นท์ เช่น ศิลปินนักร้อง ดีเจ พิธีกร เอ็นเทอร์เทนเนอร์ จนถึงผู้ประกอบการสถานบันเทิง วันนี้คุณอาจมีช่องทางได้ศึกษาหาความรู้หรือเข้าอบรมในคอร์สต่างๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งคุณมีความเป็นผู้นำสูง หากตั้งใจแล้ว ใครก็ขวางไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงบางเรื่องก็ต้องรอคอยจังหวะและโอกาส จึงควรอดทน ไม่ควรใช้อารมณ์ช่วงชิงเพื่อให้ได้โอกาสมา

การเงิน : รายได้หลักมาจากงานประจำ วันนี้คุณอาจได้ทำงานเสริมเป็นงานเอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ซึ่งมีรายได้สูง แต่หากคุณใช้ไปกับการเสี่ยงโชค เงินอาจสะดุดเป็นหนี้สินแทน

ความรัก : อาจมีปัญหาชู้สาวเกิดขึ้นกับชีวิตคู่ของคุณ โดยผู้ใหญ่อาจเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย แต่คุณไม่ชอบถูกจำกัความคิดและอิสรภาพ ดังนั้น ใครก็บังคับคุณไม่ได้ คนโสด หากคุณกำลังตกหลุมรักผู้ที่อยู่บนเวที เช่น คุณครู ผู้อบรม ไลฟ์ โค้ช เทรนเนอร์ วัยผู้ใหญ่ ก็ควรระวังจะเป็นรักสามเส้า เพราะเขามีแฟนแล้ว

สุขภาพ :  ควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สดสะอาด ปรุงไม่สุก ไม่ถูกสุขอนามัย เพราะคุณอาจอาหารเป็นพิษ หรือมีพยาธิ์ ทำให้ท้องเสีย

 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี

การงาน : ช่วงนี้คุณอาจถูกชักชวนจากญาติๆ ให้ไปร่วมบุกเบิกงานใหม่กับธุรกิจของครอบครัว เกี่ยวกับงานประดิษฐ์คิดค้น อาจเป็นได้ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือศิลปะ ซึ่งเป็นงานด้านสาธารณะประโยชน์ คุณอาจต้องเตรียมทำการบ้านก่อนว่า รับได้ไหม เพราะเงินอาจได้ไม่คุ้ม หนักไปในทางได้ชื่อเสียงและโปรไฟล์มากกว่า

การเงิน :  คุณอาจจำเป็นต้องใช้เงินในการทำงาน หากไม่อยากเป็นหนี้สิน ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเสี่ยงโชคหรือเงินที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง

ความรัก : คุณให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวมาก ยิ่งตอนนี้คุณอาจอยู่ในช่วงฮันนีมูน เพราะฉะนั้นตัวจึงแทบจะติดกันตลอดๆ เลยทีเดียว คนโสด คุณมีเสน่ห์โดดเด่น วันนี้จึงอาจได้เจอคนในฝันแบบอยากไปอยู่กับเขาเลย อย่าใจร้อนค่ะ ยังต้องศึกษาและปรับความเข้าใจกันอีกเยอะ เพราะแต่ละคนก็โลกส่วนตัวสูงกันทั้งนั้น

สุขภาพ : ภูมิแพ้มาแล้วจ้า คุณอาจแพ้สารเคมีที่ผสมอยู่ในแอลกอฮอลล์ เจล หรือน้ำยาล้างมือ ซึ่งจะทำให้คุณเป็นผื่นคันบริเวณผิวหนัง จนถึงอักเสบ

 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

การงาน :  หากคุณทำงานหรือเกี่ยวข้องกับงานการเกษตร เช่น เกษตรกร นักออกแบบสวน ศิลปินพื้นบ้าน งานศิลปหัตถกรรม งานโอท็อป ฯลฯ คุณอาจได้รับการได้รับการชักชวนจากญาติๆ ให้เข้าไปร่วมทำงานของครอบครัวในระยะเวลาอันใกล้นี้ ก่อนตัดสินใจควรศึกษาเรื่องเอกสารสัญญา หรือเงื่อนไข กฎ กติกา มารยาท ให้ถี่ถ้วน เพราะหากเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่ต้องผิดใจกันทีหลัง

การเงิน : มีแนวโน้มที่จะได้รับมรดกเป็นเรือกสวนไร่นาของตระกูล แต่ก็อย่าได้วางใจหรือเชื่อใจใครง่ายๆ เพราะคุณจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรือนักต้มตุ๋นที่มาในรูปของคนใกล้ชิดและคนรัก

ความรัก :  ก็ยังโชคดีที่มีครอบครัวรักและดูแลเอาใจใส่คุณอย่างดี จนอาจไปทำให้สาวอื่นอยากโชคาดีอย่างคุณบ้าง ดังนั้น ต้องระวังพวกปอกลอก หลอกให้รักแล้วก็จากไปพร้อมผลประโยชน์ คนโสด คุณอาจได้เจอชายหนุ่มในฝัน แค่สบตาก็พาให้คุณมืออ่อนเท้าอ่อนไปต่อไม่เป็นเลย

สุขภาพ : มีปัญหากับระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกาย ทำให้ร่างกายคุณอ่อนเพลีย เลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงไม่สะดวก จึงอาจทำให้คุณหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ จนถึงเป็นลมได้ จึงควรับประทานผัก ผลไม้ และอาหารที่ช่วยในการบำรุงเลือด

 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์

การงาน  :  เช่นกันที่ว่าความสำเร็จไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ แต่ต้องแลกด้วยพลังกายพลังใจที่เกิน 100 วันนี้คุณมีเกณฑ์ได้เดินทางไปบุกเบิกงานใหม่ยังสถานที่ๆ แปลกใหม่ อาจเกี่ยวกับธุรกิจการโรงแรม การท่องเที่ยว หรือยวดยานพาหนะ ก็ควรลดอีโก้และความมั่นใจในตัวเองลงบ้าง เพราะการที่คุณไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นจะทำให้ถูกเพื่อนร่วมงานเขม่น อาจถูกใส่ร้ายป้ายสี จนส่งผลร้ายกับหน้าที่การงานได้อย่างกะทันหัน

การเงิน : รายได้ยังมาจากอำนาจและบารมีหนุนหนำ แม้วันนี้คุณจะให้ความสำคัญกับตัวงานมากกว่าตัวเงิน อย่างไรก็ตามยังต้องอุดหนุนเพื่อนร่วมงาน หรือญาติพี่น้องที่มีบุญคุณกับคุณอยู่

ความรัก : หากคุณกำลังตัดสินใจโยกย้ายไปทำงานยังสถานที่ที่แปลกใหม่ วันนี้อาจติดปัญหาที่คู่คุณไม่ยอมไปด้วย ซึ่งคุณก็ไม่ชอบให้ใครมาจำกัดความคิดและอิสรภาพของคุณด้วย หากตกลงกันไม่ได้ก็แยกกันอยู่แล้วกันค่ะ คนโสด คุณอาจได้พบข้าราชการหนุ่มหน้าที่การงานดี จิตใจดีในระหว่างการเดินทาง ก็อย่ามัวแต่ทำงานนะคะ สานต่อความสัมพันธ์ก่อน เพราะมีเวลาพบกันไม่นาน

สุขภาพ : ปกติคุณดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองอย่างดีมาตลอด แต่เพราะคุณหักโหมทำงานหนัก จนร่างกายไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา วันนี้อาจล้มป่วยได้นะคะ

เช็กดวงย้อนหลังได้ที่นี่

ฆ่าได้หยามไม่ได้ ขอแย่งชิงให้รู้แล้วรู้รอดไป ดูดวงรายวัน 24 ตุลาคม 2563

คนรักเก่าไปไหนไม่ได้ไกลหรอก วันนี้เขาจะกลับมา ดูดวงรายวัน 25 ตุลาคม 2563

ฝันหวานอาจกลายเป็นฝันสลาย แต่คุณก็จะไม่หยุดฝัน ดูดวงรายวัน 26 ตุลาคม 2563

อย่าเพิ่งคาดหวังกับคู่เดท เพราะคุณอาจผิดหวัง ดูดวงรายวัน 27 ตุลาคม 2563

พร้อมที่จะเป็นภรรยาและแม่ แต่ก็แค่ยั่วให้รักแล้วก็จากไป ดูดวงรายวัน 28 ตุลาคม 2563

จอย รินลณี หน้าตาที่สวนทางกับอายุ MTI JOY FF Collagen Serum

จอย รินลณี ศรีเพ็ญ นักแสดงสาวสวยมากความสามารถ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอางแบรนด์ของตัวเอง
“MTI JOY” ที่สร้างปรากฎการณ์ยอดขายถล่มทลายกับ MTI JOY CC SPF30PA+++
รองพื้นเนื้อครีมที่ช่างแต่งหน้าและดาราเลือกใช้
และล่าสุด “จอย รินลณี” ได้สร้างปรากฏการณ์แห่งวงการเครื่องสำอางเมืองไทยอีกครั้งด้วย “MTI JOY FF
Collagen Serum ผิวหน้าที่เปลี่ยนไปจนคุณสัมผัสได้”
หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะดูแลผิวหน้าของคุณ ซึ่งคำว่า FF หรือ “Future Facial Face
ผิวหน้าในอนาคต” จอยขอแนะนำ MTI JOY FF Collagen Serum ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื้อเซรั่มสูตรเข้มข้น
เนื้อบางเบา ซึบซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมปรนนิบัติผิวด้วยคอลลาเจนระดับพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่น
ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้จอยได้มีส่วนร่วมพัฒนาและทดลองแล้วว่า เหมาะกับผิวของคนหนุ่มสาววัย 30 ต้น ๆ
ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้มีคุณสมบัติถึง 7 ประการ อีกทั้งคุณสมบัติเด่นๆ อีกด้วยค่ะ

  • FF Collagen ซึ่งเป็นCollagen ที่มีประสิทธิภาพในการซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไป 4 เท่า ที่จะมอบความชุ่มชื่นให้ผิวดูอิ่มเอิบ ริ้วรอยดูจางลง
  • Double Hyaluron ซึ่งจะทำให้ผิวแลดูเรียบเนียน อิ่มน้ำ เต่งตึง ดูกระจ่างใส ร่องลึกริ้วรอยต่าง ๆ ให้ตื้นขึ้น
  • Oligopeptide ที่จะเสริมการทำงานของผิวให้ผิวแข็งแรง ปกป้องริ้วรอยและความเสื่อมของผิว

นอกจาก 3 คุณสมบัติเด่น ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก็จะมี่คุณสมบัติอื่น ๆ ที่จะทำให้ผิวกระจ่างใส จุดด่างดำดูเลือนลง ทั้งยังปกป้องผิวจากฝุ่น ควันและมลภาวะต่าง ๆ ให้ผิวแข็งแรงดูสุขภาพดี และทาง MTI ได้ปรับเปลี่ยน LOGO ของเครื่องสำอางให้ดูทันสมัย ให้เข้าคนยุคดิจิตัลสมัยใหม่ หากว่าซื้อมาแล้วเห็นLogo เครื่องสำอางของ MTI ที่เปลี่ยนไป ไม่ต้องตกใจกันนะคะ ยังเป็นเครื่องสำอางของ MTI เหมือนเดิมค่ะ

หากต้องการหาซื้อผลิตภัณฑ์นี้ สามารถซื้อได้ที่ Facebook MTI Cosmetic, ช่องทางการขายทั้ง Shopee, Lazada, JD Central, เคาน์เตอร์ MTI ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศค่ะ บริษัท เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 249
อาคารสุขภัณฑ์เซ็นเตอร์ ชั้นใต้ดิน ถ.รัชดาภิเษก แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม. 10400

อย่าลืมนะคะ… “FF Collagen Serum ผิวหน้าที่เปลี่ยนไป จนคุณสัมผัสได้”

keyboard_arrow_up