ว่าด้วยเรื่อง วัคซีนป้องกันโควิด-19 คือความหวังที่มนุษยชาติจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม จากเพจ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ ว่าตอนนี้ในหลายประเทศที่เจริญแล้ว เริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้ประชาชนของตนเอง หลังจากที่วัคซีนผ่านการทดสอบในคนแล้วเพราะ
- มีความปลอดภัย ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงระยะสั้น
- มีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้ป่วยจากโรคโควิด 70-90% ต้องใช้เวลาหลังการฉีดเข็มวัคซีนเข็มที่ 2 ถึงจะมีภูมิคุ้มกันเพียงพอ และขณะนี้ยังไม่ทราบว่าภูมิคุ้มกันจะอยู่ได้นานเท่าไร
แต่ขอย้ำว่าวัคซีนลดการเจ็บป่วย แต่ไม่ทราบว่าลดการติดเชื้อหรือไม่ ถ้าไม่ลดการติดเชื้อ คนที่ได้รับวัคซีนเมื่อรับเชื้อ ก็อาจแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยถึงจะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม
คนในประเทศที่เจริญแล้วสามารถเข้าถึง (access) วัคซีนทุกคน แต่ก็มีบางคนไม่ยอมไปฉีด (vaccine hesitancy) วัคซีนเพราะ
- บางวัคซีนใช้เทคโนโลยีใหม่ ไม่เคยใช้มาก่อน กังวลกับผลข้างเคียงระยะยาว
- วัคซีนนี้ใช้ส่วนประกอบของเชื้อไวรัส เชื้อบรรพบุรุษ (ancestor) ตั้งแต่เริ่มระบาดใหม่ๆ ไม่แน่ใจว่าวัคซีนจะมีประสิทธิภาพกับเชื้อลูกหลานเหลนที่ปัจจุบันกลายพันธุ์ไปมากแล้ว
- บางคนคิดว่าตัวเองอยู่ในวัยหนุ่มสาว อายุยังน้อย ถึงติดเชื้อก็ไม่เป็นไร
- วัคซีนนี้ยังไม่มีการทดสอบในเด็กต่ำกว่าอายุ 12 ปี ต้องใช้ขนาดเท่าไหร่ ฉีดกี่ครั้ง ประสิทธิภาพเหมือนผู้ใหญ่หรือไม่
สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยกว่าจะได้วัคซีน ต้องรอประเทศที่ร่ำรวยสั่งยาให้คนของประเทศเขาครบทุกคนก่อน จำนวนวัคซีนที่ได้กลางปีนี้คาดว่า มีเพียงพอสำหรับคนไทยร้อยละ 20 เท่านั้น ระยะแรกจะให้วัคซีนกับกลุ่มเสี่ยงสูงสุดก่อน ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ คนชราในเนอร์สซิ่งโฮม ผู้สูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว ต้องฉีดวัคซีนให้คนในประเทศอย่างน้อยร้อยละ 70 เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ถึงจะหยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศได้
โดยคาดว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะมีวัคซีนล้นตลาด เพราะมีหลายสิบบริษัทแข่งขันกันผลิตวัคซีนสำหรับคนทั้งโลก กว่าจะถึงเวลานั้น ทุกคนยังต้องใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่างกันต่อไป
ข้อมูล : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC