อนุสิทธิ์

เสียงติระงม! แบงค์ อนุสิทธิ์ The Face Thailand ไม่เหมาะเป็นเมนเทอร์

Alternative Textaccount_circle
อนุสิทธิ์
อนุสิทธิ์

The Face Thailand 5 Go on ระอุ! เมื่อผู้ชมบ่นระงม แบงค์ อนุสิทธิ์ ไม่เหมาะสมเป็นเมนเทอร์ ด้านเจ้าตัวต้านไม่ไหวแต่ไม่คิดลบ พร้อมน้อมรับทุกความเห็นต่าง

The Face Thailand เรียลลิตี้ที่ติดทุกเทรนด์ฮิตและเป็นทุกกระแสในโลกโซเชียล ที่วันนี้เดินหน้ามาถึงซีซั่นที่ 5 หลังจากเปิดตัวเมนเทอร์ใหม่ยกเซ็ต ที่มี “แบงค์ อนุสิทธิ์ แสงนิ่มนวล” หนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน The Face Men Thailand 1 ที่ซีซั่นนี้ได้รับโอกาสจากชีเต้ให้ขึ้นแท่นเมนเทอร์น้องใหม่ แต่ดูเหมือนว่าเมนเทอร์น้องใหม่ของเราเจอกับกระแสมวลชนที่ควบคุมไม่ได้ การมีตัวตนและบทบาทใหม่ของเขาถูกตั้งคำถามในโลกที่ยุคโซเชียลมีเดียว่องไวใกล้เคียงกับความเร็วแส’ว่า ผู้ชายคนนี้เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งล่าสุดหนุ่มแบงค์ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้

อนุสิทธิ์

เปิดใจหนุ่มแบงค์กับคำตำหนิที่ควบคุมไม่ได้

เมนเทอร์แบงค์ ทนายความ เกียรตินิยมอันดับ 1 จากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดีกรีปริญญาโทจาก London School of Economics and Political Science หนึ่งในสมาชิกวงบอยแบรนด์และนายแบบ จนมาถึงบทบาท “เมนเทอร์” ได้เปิดเผยกับเราว่า “ก่อนมารายการนี้ผมรู้อยู่แล้วรายการนี้ค่อนข้าง ดราม่า เพราะเคยผ่านจุดที่เป็นผู้เข้าแข่งขันมาก่อน ซึ่งก็เตรียมรับมือมาบ้าง และก็น้อมรับทุกคนติชม ทุกกระแสวิจารณ์ อะไรที่ผมเอากลับมาปรับปรุงตัวเองได้ก็อ่าน แต่อันไหนที่แรง ๆ มันก็เหมือนอาหาร ผมไม่กินอาหารที่บูด เพราะทุกคนต้องเลือกกินอาหารที่ดี ซึ่งยอมรับว่า การที่แบงค์จะสามารถรับมือกับกระแสต่าง ๆ ได้ นั้น ต้องใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาในหลากหลายบทบาทของตัวเอง บวกกับการคิดเชิงบวก จึงทำให้เขา “เข้าใจ”ในทุกดราม่าที่เกิดขึ้นใน The Face Thailand ซีซั่น 5 และดราม่าที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง

เมนเทอร์คนใหม่รับมือด้วยสติ

เมื่อถามว่าเหนื่อยไหมที่ต้องรับมือและน้อมรับคำตำหนิ เมนเทอร์แบงค์เปิดใจว่า “ทุกคนจะรู้สึกท้อและรู้สึกเหนื่อยอยู่แล้ว เมื่อเราทำดี และพยายามแต่ยังโดนตำหนิ โดนมองไม่ดี แต่ผมก็มีวิธีการแก้ปัญหาหรือรับมือ กับความท้อ ด้วยสติและความสงบนิ่ง เพราะเชื่อว่าถ้าเมื่อไรที่เราแข็งแกร่งเราก็พร้อมจะก้าวเดินต่อ และยิ่งบทบาทตรงนี้เราต้องรับผิดชอบน้องๆ ในทีมด้วย เรายิ่งต้องแข็งแกร่งขึ้นแล้วก็เดินต่อไปให้เร็วที่สุด ซึ่งหนุ่มแบงค์อยากฝากให้คนที่ท้อว่า เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่รู้สึกหนัก ถ้าเราพยายามอีกนิดหนึ่ง ประมาณร้อยสิบเราทำได้แน่นอน”

อนุสิทธิ์

ความยากของชื่อเสียงนั้นขึ้นอยู่กับมวลชนคนอื่นที่ควบคุมไม่ได้ ก่อให้เกิดทุกข์ แต่ผู้ชายคนนี้พยายามลืมความน้อยใจ

น้อยใจไหมเมื่อถูกเปรียบเทียบกับเมนเทอร์คนอื่น หนึ่งในคำถามที่อาจสะกิดใจหนุ่มแบงค์ แต่เจ้าตัวได้ตอบอย่างไม่รีรอว่า “ผมไม่น้อยใจ ผมรู้ผมเป็นใคร เขาเป็นใคร การที่เราดูเปรียบเทียบกับเมนเทอร์คนอื่น ๆ เราก็เข้าใจ เพราะอย่าง จีน่ามีความสามารถ พี่โทนี่เป็นไอดอลของเรา มารีญาตอนประกวดเราก็เชียร์ ซึ่งหนุ่มแบงค์ อยากบอกกับทุกคนว่า คนเราทุกคนมีความสามารถแตกต่างกัน

คนมองว่าแบงค์เป็นผู้ตาม จีน่า เป็นเมนเทอร์หลักของทีม จริงหรือไม่ ?

ภาพที่ออกไปหน้าจออาจทำให้คนดูหลายคนคิดว่าเราเป็นผู้ตาม แต่จริง ๆแล้ว การทำงานของทีมจีน่า-แบงค์ เรา 2 คนมีการบางหน้าที่ชัดเจน และแบ่งการทำงานตลอด โดยเรา 2 คนจะแบ่งว่าใครถนัดอะไรก็ให้คนนั้นทำ การสอนการพูดการแนะนำน้องๆ จีน่าทำได้ดีกว่า แต่การวิเคราะห์แคมเปญ การตีโจทย์การให้น้องๆ ไปฝึกซ้อมเราก็อาจจะทำได้ดีกว่า เรา2คนมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันเราก็จะไม่ทับกันมันก็ช่วยกันได้

อนุสิทธิ์

“กระแส”และ “บทเรียน”ที่มี ตัวตนและความหมายที่เขาทำนั้น “แบงค์ อนุสิทธิ์”มองว่าก่อให้เกิดคุณค่ามากกว่าที่จะคิดลบ

“จริงๆ แล้วรายการนี้เป็นรายการบันเทิง รายการเรียลลิตี้ คนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว เราใช้สื่อในการสร้างสรรค์ดีกว่ามาโจมตีกันเอง โจมตีกันไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นนอกจากความสบายใจของเรา ละครเรื่องหนึ่งมี นางเอก พระเอก ตัวร้าย ตัวร้ายคนไม่ชอบอยู่แล้วแต่ถ้าเราดูด้วยความบันเทิง เปิดใจเป็นอรรถรสรายการคนดูจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ เรื่องคอมเม้นต์ถ้าเราใช้โซเชียลในการสร้างสรรค์โลกเราจะพัฒนาได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม “แบงค์ อนุสิทธิ์ แสงนิ่มนวล” ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “จริง ๆ บนโลกใบนี้ท้ายสุดเราไม่ได้อยู่แค่คนเดียว เราอย่าดูถูกตัวเองว่าเราไม่ดี จากคำพูดของคนๆ หนึ่ง เพราะท้ายสุดมีคนอยู่ข้างเรา เชื่อเรา ถ้าวันหนึ่งเรารู้สึกไม่มีใครแล้ว ถ้าเราเริ่มรักตัวเองเป็นคนแรกท้ายสุดคนก็เริ่มรักเรา เราก็เป็นคนหนึ่งเป็นตัวอย่างให้เห็น ซึ่งผมอยากให้ทุกคนเห็นว่า ตัวผมเองไม่ยอมแพ้ และตั้งใจอย่างเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ในทุกครั้งที่ได้โอกาส


 

อาดิดาส Game of Thrones

เงินในกระเป๋าสั่น! อาดิดาส จับมือ อภิมหาซีรี่ส์แห่งยุค Game of Thrones เปิดตัวอัลตร้าบูสต์

อาดิดาส Game of Thrones
อาดิดาส Game of Thrones

สิ้นสุดการรอคอย WINTER IS HERE! อาดิดาส จับมือ อภิมหาซีรี่ส์แห่งยุค Game of Thrones เปิดตัวรองเท้า อัลตร้าบูสต์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น 6 รุ่น

อาดิดาส รันนิ่ง ประกาศความร่วมมือกับ Game Of Thrones ซีรี่ส์ยอดฮิตตลอดกาลที่เดินทางมาถึงซีซั่นสุดท้ายซีซั่นที่ 8 โดยอัลตร้าบูสต์ รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น มีทั้งหมด 6 รุ่น แต่ละรุ่นได้รับแรงบันดาลใจจากไฮไลท์ของซีรี่ส์คือ ตระกูลชั้นสูงและฝ่ายต่างๆ ในสงครามระหว่างอาณาจักรทั้ง 7 และสิ่งที่อยู่หลังกำแพงน้ำแข็ง อีกทั้งรองเท้าแต่ละรุ่นถูกออกแบบด้วยสีและคำขวัญเพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละฝ่าย

Game of Thrones เริ่มออกอากาศมาตั้งแต่ปี 2011 และได้กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงมากที่สุด จนเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของป๊อป คัลเจอร์ในยุคนี้ และสงครามอันยาวนานก็กำลังจะเดินทางมาถึงซีซั่นที่แปด ซึ่งเป็นซีซั่นสุดท้าย อาดิดาสจึงเอาใจแฟนๆ ด้วยการประกาศความร่วมมือกับ HBO ส่งอัลตร้าบูสต์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น รุ่น Game of thrones ที่นำเสนอความเป็นตัวตนของตัวละครทั้งฝ่ายฮีโร่และวายร้ายในโลกเวสเทอรอส (Westeros) ไว้ได้อย่างชัดเจน

อาดิดาส จับมือ Game of Thrones

อภิมหาซีรี่ส์แห่งยุค Game of Thrones

รองเท้าอาดิดาสรุ่น Game of Thrones ได้นำรายละเอียดของฝ่ายต่างๆ ในสงครามเวสเทอรอส มาใช้ออกแบบเพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นตราสัญลักษณ์บนลิ้นรองเท้า คติโดนๆ ประจำแต่ละฝ่ายที่ติดไว้บนแท็กด้านหลัง จนถึงเฉดสีของรองเท้าที่ได้แรงบันดาลใจจากสีประจำแต่ละตระกูล ผนวกกับรูปทรงอันโดดเด่นของอัลตร้าบูสต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสำหรับนักกีฬาฝีเท้าแรง อย่างบูสต์ (BOOST) ที่ช่วยฟื้นคืนพลังในทุกย่างก้าว พร้อมเสริมความมั่นคงและลดแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ Primeknit ที่โอบกระชับเท้า มีความยืดหยุ่น และซัพพอร์ทเท้าส่วนบน

Lannister
Night’s Watch
Stark

Alberto Uncini Manganelli ผู้จัดการทั่วไป อาดิดาส รันนิ่ง กล่าวว่า “การร่วมมือกันระหว่างอาดิดาสและทีวีซีรี่ส์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Game of Thrones เป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอของเรา เมื่อแบรนด์และทีวีซีรี่ส์ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของแพล็ตฟอร์มตัวเองและเป็นกระแสในป๊อป คัลเจอร์ อันเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับโปรเจ็กต์นี้”

Jeff Peters รองประธานฝ่ายการค้าและลิขสิทธิ์ HBO กล่าวว่า  “Ultraboost x Game of Thrones เป็นการรวมพลังของสุดยอดแบรนด์ที่ทรงพลัง ที่มั่นใจได้เลยว่าทั้งนักกีฬา นักสะสมรองเท้า เหล่าแฟชั่นนิสต้า และสาวก Game of Thrones จะต้องหมายตามองและอยากจับจองเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนๆ ซีรี่ส์ต่างก็ชื่นชอบโปรดักท์ผสมผสานเรื่องราวของซีรี่ส์สุดโปรดของพวกเขาเข้าไป เพราะถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่แฟนๆ จะได้แสดงออกถึงความรักที่มีต่อ Game of Thrones ดังนั้นเราจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับอาดิดาส ออกแบบอัลตร้าบูสต์คอลเล็คชั่นสุดพิเศษนี้ เพื่อต้อนรับซีซั่นสุดท้ายที่กำลังจะมาถึง”

Targaryen M
Targaryen W
White Walker

โดยรองเท้าอัลตร้าบูสต์ Adidas x Game of Thrones วางจำหน่ายแล้วในวันที่ 22 มีนาคม ณ ร้านอาดิดาส และร้านค้าชั้นนำที่ร่วมจำหน่าย ในราคาคู่ละ 7,300 บาท

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ดราม่าร้อน! ลูกค้าโวย ชุดว่ายน้ำ วิคตอเรีย ซีเคร็ท คอลเล็คชั่นใหม่ไซส์เล็กและแพงเกินไป

ยิ่งกว่าขุมทรัพย์! เปิดคลังกระเป๋า Chanel เจนนี่ BLACKPINK จะคอลเล็คชั่นไหนขอให้บอก

งดงามร่วมสมัย กระเป๋าหนังลายผ้าไหมไทย ดีไซน์โก้หรู สะพายได้ทุกโอกาส

มงกุฎหักเพราะเต้น? แคทรีโอนา เกรย์ เปิดใจ “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันสนุกมากไปหน่อย”

ลุคนี้คะแนนเต็มร้อย แต่มูลค่ารวมหลักแสน! ปริยังกา โจปรา สวยเผ็ดจนสามีตามคอมเม้นท์

ยังไม่ตกเทรนด์! ชุดว่ายน้ำ เจ้าหญิงไดอาน่า ดีไซน์คลาสสิกนานกว่า 20 ปี

แฟนคลับแซว แม่นาคเวอร์ชั่นเกาหลี? นานะ After School กับคอสตูมจากแบรนด์ดัง

เฉียบทุกลุค! 12 Princess Style ของพระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ

เกิดกระแสทุกยุค! 6 แฟชั่นไอเท็ม เทรนด์ฮ็อตที่มีอิทธิพลมาจาก เกิร์ลกรุ๊ป K-Pop

 แฟชั่นนี้เสี่ยงไปไหม! ทำไมดัชเชสเมแกนยังสวมส้นสูง 4 นิ้ว ขณะทรงพระครรภ์

พลัสไซส์แล้วไง ขอแค่มั่นใจ! ชี้เป้า 13 ชุดวันพีช ตัวช่วยเสริมความแซ่บของสาวเจ้าเนื้อ

บุกคลังกระเป๋า ‘อามัล คลูนีย์’ ทนายสาวผู้มีสไตล์ พระสหายดัชเชสเมแกน

ว่าที่เจ้าสาวปักหมุดด่วน! มาร์กี้-ราศรี ปล่อยเช่าชุดแต่งงานจาก 3 แบรนด์ดัง

 

สภาเตรียมเดือด! เปิดโผแกนนำฝ่ายค้าน ที่คาดว่าจะรวมตัวทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลลุงตู่

สภาเตรียมเดือด! เปิดโผแกนนำฝ่ายค้าน ที่คาดว่าจะรวมตัวทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลลุงตู่…นับว่าเป็นอีกก้าวสำคัญของการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการตื่นตัวทางการเมืองของประเทศไทย หลังจากที่เว้นจากการเลือกตั้งไปนานกว่า 8 ปี โดยผลการเลือกตั้งครั้งนี้แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าฝ่ายรัฐบาลนั้นแกนนำน่าจะไม่หลุดไปจากพรรคพลังประชารัฐที่ตอนนี้คะแนนเสียงมาเป็นลำดับที่ 1

ดังนั้นมาดูที่ฟากของฝ่ายค้านกันบ้างดีกว่า ว่าหลังจากประกาศผลเป็นที่แน่ชัดแล้ว แกนนำที่จะอาจจะมาร่วมเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งจะเข้าไปทำหน้าที่ในรัฐสภาหนนี้มีใครบ้าง ซึ่งก็อาจจะยังไม่ใช่ผลที่แท้จริงซะทีเดียว เป็นเพียงการคาดการณ์จากเมื่อครั้งที่พวกเขาได้เผยต่อสื่อมวลชนในช่วงการหาเสียงก่อนเลือกตั้ง ว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็จะขอยืนยันว่าจะไม่ร่วมทำงานกับพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน

คะแนนสูงสูสีกับเบียดพรรคพลังประชารัฐเลยทีเดียวสำหรับพรรคเพื่อไทย และคงจะได้รับหน้าที่เป็นแกนนำฝ่ายค้าน โดยมีหัวเรือใหญ่อย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และอ.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ นำทีม และอีกหนึ่งคนที่คะแนนตามมาติดๆ ชนิดที่ว่าทำเอาหลายพรรคช็อกกันสุดๆ สำหรับพรรคอนาคตใหม่ ที่เพิ่งลงสมัครเลือกตั้งครั้งแรก แต่สามารถกวาดคะแนนมาเป็นลำดับ 3 ของประเทศ

เบียดพรรครุ่นเก๋าอย่างประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย ซึ่งที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็พูดชัดเจนมาตลอดว่า คะแนนเสียงไม่ว่าจะได้เท่าไหร่ก็ตาม แต่เขาก็ขอไม่ร่วมงานกับพลังประชารัฐและพลเอกประยุทธ์ อีกทั้งยังพร้อมทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ถ้าเกิดไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

อีกหนึ่งแกนนำที่มาแรงช่วงโค้งสุดท้ายก็คือ คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ถึงแม้คะแนนของพรรคจะไม่ได้ติดอยู่ในลิสต์TOP TEN ด้วยซ้ำ แต่พลังโหวตที่ชื่นชอบการนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจของเขา ก็อาจจะช่วยดันให้เข้าไปอยู่ในสภาได้ ซึ่งคุณมิ่งขวัญเองก็ได้ออกมาพูดชัดก่อนวันเลือกตั้งแล้วว่า ถ้าพลังประชารัฐได้จัดตั้งรัฐบาล ก็ขอยืนยันชัดเจนว่ายินดีที่จะไปเป็นฝ่ายค้านมากกว่า

และคนสุดท้ายที่แน่นอนว่าถ้าได้เข้าไปไปอยู่ในสภา จะขอทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับฝั่งของพลเอกประยุทธ์อย่างแน่นอน ก็คือพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งประกาศกร้าวมาตั้งแต่ลงสนามการเมืองว่าจุดยืนของตัวเองคือต่อต้านรัฐบาลทหาร แม้ว่าคะแนนเสียงที่ได้จะต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อาจจะมีลุ้นได้เข้าสภา และจะขอไปร่วมกับฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน

 

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ว่าใครจะเข้าไปเป็นรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายค้าน ก็ขอให้ทำงานตามหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ การเลือกตั้งเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เมื่อใดก็ตามที่เปิดสภาแล้ว คงได้เห็นลีลาและบทบาทของผู้ที่เข้าไปทำหน้าที่บริหารและตรวจสอบการทำงานอย่างจริงๆ งานนี้เชื่อว่าสภาเดือดทะลุจนปรอทแตกแน่นอน

 

อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่นี่

เลือกตั้งใหม่อาจได้คนเก่า พลังรัก “ลุงตู่” มาแรง ลุ้นขึ้นแท่นนายกอีกสมัย

พลิกประวัติศาสตร์การเมืองไทย กอล์ฟ ธัญญ์วาริน ว่าที่ ส.ส.ข้ามเพศคนแรกในสภา

พลิกประวัติศาสตร์การเมืองไทย กอล์ฟ ธัญญ์วาริน ว่าที่ ส.ส.ข้ามเพศคนแรกในสภา

account_circle

พลิกประวัติศาสตร์การเมืองไทย กอล์ฟ ธัญญ์วาริน ว่าที่ ส.ส.ข้ามเพศคนแรกที่เตรียมเข้าสภา จากพรรคอนาคตใหม่ เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเพศทางเลือกทุกๆ คน

กอล์ฟ ธัญญ์วาริน

เป็นอีกหนึ่งผู้สมัครที่พลิกประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะหลังจากการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งที่เกือบจะสิ้นสุดแล้วอย่างเป็นทางการชื่อของ กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ซึ่งเธอนั้นเป็นผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ลำดับที่ 9 ก็ติดหนึ่งในว่าที่ ส.ส.ที่เตรียมกำลังจะเข้าสภา โดยประวัติของคุณกอล์ฟนั้นน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งครั้งหนึ่งพรรคอนาคตใหม่ได้เคยลงเรื่องราวของเธอไว้ว่า

ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ หรือ กอล์ฟ หากจะเอ่ยถึงบุคคลในแวดวงสังคมไทยที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของวงการศิลปะภาพยนตร์ หนึ่งในชื่อนั้นคงหนีไม่พ้นชื่อของ กอล์ฟ ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง จากเรื่อง ‘Insects in the Backyard แมลงรักในสวนหลังบ้าน’ ธัญญ์วารินต่อสู้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ยาวนานถึง 7 ปี กว่าที่ ภาพยนตร์ “Insects in the Backyard” ซึ่งถูกสั่งแบนจะสามารถออกฉายได้ การต่อสู้ของ กอล์ฟ ธัญญ์วาริน ไม่ใช่แค่เพี่อให้หนังได้ฉาย แต่ต่อสู้เพี่ออยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก

กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน เคยได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย คนที่ 5 มีผลงานกำกับ ทั้งละคร ภาพยนตร์ และเคยได้รับรางวัลทั้งจากผลงานการกำกับ และการเป็นนักแสดง

กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน มองว่าการต่อสู้เรียกร้องในเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ ความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ คนพิการ ผู้มีเชื้อเอชไอวี เด็ก สตรี และผู้ต้องขัง ให้มีสิทธิ เสรีภาพเท่าเทียมกับคนอื่นๆ ในสังคม การช่วยให้ประชาชนไม่ถูกปิดกั้นเสรีภาพทางความคิด และการแสดงออกทางวัฒนธรรมอันหลากหลาย เป็นสิ่งที่จะต้องต่อสู้กันต่อไป เพื่อให้เกิดขึ้นเป็นจริงให้ได้

จากนี้ กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็น ส.ส. กะเทยแต่งหญิงคนแรกของไทยในสภา และตั้งใจว่าจะใช้ช่องทางการเมือง ในการเรียกร้อง ผลักดัน ประเด็นผู้มีความหลากหลายทางเพศและประเด็นศิลปวัฒนธรรมทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ

ปิยบุตร ชักชวน กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน มาทำงานในวงรับฟังความคิดเห็นนโยบายด้านวัฒนธรรมของพรรคอนาคตใหม่ บทบาททางการเมืองของกอล์ฟ คือการสร้างสัญลักษณ์ปักหมุดความหลากหลายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ต้องมีความหลากหลายเป็นตัวแทนของภาคศิลปวัฒนธรรมและสิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่ว่า ส.ส. ทุกคนจะมีหน้าตาเหมือนกันหมด


ข้อมูล และ ภาพ : พรรคอนาคตใหม่, Tanwarin Sukkhapisit ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์

"ลุงตู่"

เลือกตั้งใหม่อาจได้คนเก่า พลังรัก “ลุงตู่” มาแรง ลุ้นขึ้นแท่นนายกอีกสมัย

Alternative Textaccount_circle
"ลุงตู่"
"ลุงตู่"

รายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีสิทธิ์ขึ้นแท่นนายกอีกสมัย หลังพรรคพลังประชารัฐคะแนนเฉือนนำพรรคเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ประเทศไทย ได้มีการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป โดยเมื่อเวลา 21.28 น. “นายอิทธิพร บุญประคอง” ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ได้แถลงว่าภาพรวมการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ตั้งแต่เวลา 8.00-17.00 น. มีประชาชนตื่นตัวออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก โดยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดคือ 51,205,624 คน

“นายอิทธิพร บุญประคอง” เผยว่าจะแถลงข่าวเติมเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ระบุว่าจอการแสดงผลการนับคะแนนจะรายงานผลไปจนได้ 95% เมื่อครบตามกำหนดจะไม่มีการแสดงผล ซึ่งรายละเอียดแจ้งให้ทราบในวันพรุ่งนี้ (25 มีนาคม 2562) เวลา 10.00 น.

ทั้งนี้ผลการนับคะแนน 5 อันดับ 93%  ณ เวลา 22.36น. มีดังต่อไปนี้ พรรคพลังประชารัฐ 7,594,820 คะแนน พรรคเพื่อไทย 7,124,991 คะแนน พรรคอนาคตใหม่ 5,236,984 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ 3,234,082 คะแนน พรรคภูมิใจไทย 3,202,329 คะแนน

ขณะที่จำนวน สส. อย่างไม่เป็นทางการ 5 อันดับ ณ เวลา 22.40  มีดังต่อไปนี้ พรรคพลังประชารัฐ 148 พรรคเพื่อไทย 139 พรรคอนาคตใหม่ 83 ที่นั่ง พรรคภูมิใจไทย 53 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ 37 ที่นั่ง

อย่างไรก็ตามต่อจากนี้ กกต. จะพิจารณาข้อร้องเรียนคดีต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ผู้ชนะในการนับคะแนนถูกระงับสิทธิ์ ก่อนจึงจะสามารถนำมาคำนวณสัดส่วน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรค และจะประกาศผลอย่างเป็นทางการ หลังการเลือกตั้งไม่เกิน 60 วัน หรือไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม 62 โดย กกต. ยังรับปากว่าจะเร่งเสนอผลการเลือกตั้งให้ กกต. รับรอง ไม่เกินวันดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกินกำหนดตามกฎหมาย ที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จไม่เกิน 150 วัน คือก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม 62 เพราะ กกต .เข้าใจที่พรรคการเมืองต่างๆ รอผลการนับคะแนนเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

จันทร์โอชา

แคนดิเดตนายกพรรคพลังประชารัฐ บิ๊กตู่ -ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

จันทร์โอชา

แคนดิเดตนายกพรรคเพื่อไทย สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

จันทร์โอชา

แคนดิเดตนายกพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

จันทร์โอชา

แคนดิเดตนายกพรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ล่าสุดประกาศลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค)


 

คุณมูนา

หักเหลี่ยมเฉือนคมสุด! คุณมูนา เผยเบื้องหลังชีวิตหรูสะใภ้ดูไบ แซ่บยิ่งกว่าละครหลังข่าว

Alternative Textaccount_circle
คุณมูนา
คุณมูนา

ตำนานซินเดอเรลล่าดูไบ คุณมูนา อัลล์ ซารูนี่ณ์ เผยเบื้องหลังชีวิตสะใภ้สุดหรู หักเหลี่ยมเฉือนคม แซ่บยิ่งกว่าละครหลังข่าว

ก่อนหน้านี้ คุณมูนา อัลล์ ซารูนี่ณ์ เจ้าของฉายา “ตำนานซินเดอเรลล่าดูไบ”ได้เคยเปิดปากเล่าถึงวิถีชีวิตราวกับเจ้าหญิง ภายหลังได้แต่งงานกับ “ อาเหม็ด นูร์ ซารูนี่ณ์” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ติดอันดับมหาเศรษฐีรวยระดับต้นๆ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่าชีวิตที่นั่นเธอแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะมีคนรับใช้คอยดูแลเธอมากถึง 16 คน โดยชีวิตในทุกๆ วันหลังจากตื่นนอนเธอจะแต่งหน้าและใช้ชุดสวยๆ จากนั้นก็ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ในเวลากลางคืนมักจะมีปาร์ตี้สังสรรค์ ซึ่งเธอบอกว่าอันที่จริงแล้วเธอถูกเชิญแทบทุกคืน เพียงแต่เธอไม่ได้ไปทุกคืนงานเท่านั้นเอง

“ตำนานซินเดอเรลล่าดูไบ” ยังได้เปิดเผยเรื่องที่ทำให้หลายคนหูผึ่ง เกี่ยวกับการช้อปปิ้ง โดยเธอได้เล่าว่าในคฤหาสน์ที่ดูไบเธอมีรถทุกยี่ห้อ นอกจากนี้เธอยังเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเพชรมากๆ จึงเก็บสะสมไว้เป็นจำนวนมาก แต่ที่ทำให้หลายคนอึ้งไม่ใช่เพราะมีเยอะ แต่เพราะสร้อยเพชรของเธอบางเส้นราคาเท่ากับตึกในดูไบเลยทีเดียว

คุณมูนา

(10 เรื่องสุดเว่อร์วังของ มูนา อัลล์ ซารูนี่ณ์ เศรษฐีนีไทยในดูไบ)

ถึงแม้วิถีชีวิตดุจเจ้าหญิงอาจจะทำให้บางคนอิจฉาเธอมากๆ แต่เบื้องหลังชีวิตสุดหรูนี้จริงๆ แล้วก็น่าเหนื่อยใจไม่น้อย เมื่อเธอต้องหักเหลี่ยมเฉือนคมกับบรรดาสะใภ้คนอื่นทุกวัน โดย “มูนา อัลล์ ซารูนี่ณ์” ได้เผยชีวิตอีกมุมหนึ่งผ่านรายการ “ตีท้ายครัว” ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562

โดยคุณมูนาได้เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสเจอกับสามีเพราะเขาเป็นลูกค้าที่มาซื้อทัวร์ของบริษัท ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสเจอกันบ่อยๆ แต่ช่วงแรกไม่ได้มีการสานสัมพันธ์เนื่องจากคุณมูนามีสามีอยู่แล้ว แต่ว่าหลังจากที่เลิกรากับอดีตสามี ทั้งคู่จึงเริ่มใกล้ชิดสนิทกันมากขึ้น กระทั่งตกลงปลงใจกันในที่สุด

ทว่าเส้นทางความรักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ คุณมูนาบอกว่าด่านที่หนักที่สุดของความรักก็คือการต้องฝ่าด่านครอบครัวของสามีดูไบ เพราะทางบ้านได้หาเลือกผู้หญิงที่จะมาแต่งงานกับสามีไว้แล้ว ซึ่งผู้หญิงคนนี้ก็มีดีกรีความรวยไม่ธรรมดาเพราะเป็นลูกสาวของผู้นำเข้านาฬิกาสุดหรูยี่ห้อ Rolex ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่ายี่ห้อนี้ถึงจะมีราคาแพงหูฉี่แต่กลับขายดิบขายดีในดูไบมากๆ แต่ก็โชคดีที่ผู้หญิงทนรอเขาไม่ไหวจึงได้แต่งงานไปก่อนทำให้คุณมูนามีโอกาสได้เข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัวนี้อย่างสมบูรณ์

คุณมูนา

ถึงแม้จะฝ่าด่านครอบครัวมาได้ แต่ชีวิตสะใภ้ดูไบก็ยังไม่ได้ราบรื่นนัก คุณมูนาบอกว่าครอบครัวที่ดูไบอยู่รวมกัน ทำให้เธอต้องพบเจอกับสะใภ้คนอื่นๆ ทุกคนดูเหมือนจะมีความเขม่นกันไม่น้อย “ชีวิตที่นั่นมันไม่ได้ลำบากขนาดที่ว่าต้องไปแบกหามอะไร แต่มันเหนื่อยตรงนี้เวลาสะใภ้เจอกันมันเหมือนกับในละครต้องเชือดเฉือนกัน โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตัวที่นั่นให้ความสำคัญมาก มีการซุบซิบ วันนี้จะใส่ชุดอะไร จะใส่เพชรอะไร เวลาจะตัดเสื้อผ้าก็ต้องคอยหลบๆซ่อนๆ เป็นอย่างนี้ตลอด วันๆ ไม่ต้องทำงาน แค่สู้รบการสะใภ้ด้วยกันก็เหนื่อยแล้ว”

คุณมูนาเล่าต่อว่า “แต่คุณแม่สามีดีกับพี่มากๆ เพราะเราเป็นคนปรนนิบัติท่านทุกอย่าง บีบ,นวด,ปอกผลไม้ รวมถึงทำกับข้าวให้ด้วย ท่านจึงรักและค่อนข้างเอ็นดู นั่นจึงทำให้สะใภ้คนอื่นเขม่นเพราะรู้สึกหมั่นไส้ด้วย”

อย่างไรก็ตามคุณมูนายอมรับว่า “ตอนไปที่ดูไบใหม่ๆ พี่สู้พวกเขาไม่ได้เลยในเรื่องการแต่งตัว แต่ด้วยความที่เป็นคนพัฒนาเร็ว ตอนนี้จึงสู้กับพวกเขาได้แล้ว”

คุณมูนา


ข้อมูลจาก : รายการตีท้ายครัว ช่อง 3

Belei

ครั้งแรกที่ Amazon เว็บไซต์ขายของออนไลน์ออกสกินแคร์เป็นของตัวเอง

Alternative Textaccount_circle
Belei
Belei

ทุกวันนี้การซื้อขายออนไลน์เป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว ทำให้มีคนมาจับจองธุรกิจออนไลน์เยอะ แต่ถ้าพูดถึง Amazon คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ในวงการเว็บไซต์ขายของหลากหลายประเภท ถือเป็นเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่ในวงการตลาดสินค้าของโลก ที่มีสาขาอยู่หลายประเทศ อาทิเช่น อเมริกา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส โดยอเมซอนเป็นบริษัทที่ถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการซื้อขายสินค้าที่เกิดขึ้นมากกว่าปีละหลายล้านดอลลาร์ เดิมทีเป็นเพียงเว็บไซต์ฝากขายหนังสือ แต่ต่อมาเมื่อมีคนเริ่มรู้จักมากยิ่งขึ้น จึงเพิ่มหมวดหมู่สินค้าอื่นๆ อาทิเช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องสำอาง สกินแคร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ เรียกได้ว่าครอบคลุมจนมีคนกล่าวไว้ว่า ไม่มีสินค้าอะไรที่หาไม่ได้ที่เว็บนี้

ซึ่งที่ผ่านมาทางอเมซอนทำหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลาง ให้กับผู้ที่สนใจจะเข้ามาร่วมทำธุรกิจนำสินค้ามาฝากขายได้โดยหัก % จากราคาของสินค้า โดยที่ผู้ขายไม่ต้องส่งสินค้าด้วยตนเอง ไม่ต้องติดต่อลูกค้าเพื่อปิดการขายเอง ทางเว็บอเมซอนจะทำให้หมด นั่นหมายความว่าของที่ขายนั้นมาได้จากหลายแหล่งเลยทีเดียว แต่ล่าสุดทาง Amazon ได้ออกไลน์สกินแคร์เป็นของตัวเองเรียบร้อย ภายใต้ชื่อแบรนด์ที่ว่า “Belei” เป็นการผสมผสานของคำว่า “believe” and “beauty” โดยได้ออกสกินแคร์มาทั้งหมด 12 ชิ้น ไล่ไปตั้งแต่มอยส์เจอไรเซอร์ มาสก์ อายครีม เซรั่ม ทรีทเม้นต์ และแผ่นเช็ดเครื่องสำอาง ซึ่งสามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม และมาพร้อมกับแพ็คเกจจิ้งโทนสีเขียวสบายตาในราคาที่สาวๆ ซื้อได้สบายมาก ใครสนใจลองไปส่องกันดูนะจ๊ะ

 


ภาพ : Pexels
ข้อมูล + ภาพ IG : amazon

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Matt บิวตี้บล็อกเกอร์ชายสายละมุน ผู้คลั่งไคล้บิวตี้ไอเท็มในแพ็คเกจโทนหวาน

จบไม่สวย! SEPHORA ตัดสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Olivia Jade กรณีโกงเข้ามหาวิทยาลัย

เดย์หรือไนท์? ทาเวลาไหนดี “อายครีม” แก้ใต้ตาคล้ำ จุดอ่อนทำหน้าหมอง

สวยที่สุดในชีวิตจริง! จีซู-เจนนี่ Blackpink ติดอันดับจากผลโหวตของไอดอลด้วยกันเอง

กินอาหารตามธาตุ ช่วยปรับสมดุลร่างกายให้ไม่เจ็บป่วย ตามหลักการแพทย์แผนไทย

ชี้ทางแก้ “นอนไม่หลับ” จนตาคล้ำไม่สวย แถมเร่งแก่ เร่งป่วย ร่างกายทรุดเร็ว

 

 

สิงโต-ปราชญา

รู้แล้ว…ทำไมใครๆ ถึงรัก “สิงโต-ปราชญา” ผมขี้เกรงใจ และทุกวันนี้ยังใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา

Alternative Textaccount_circle
สิงโต-ปราชญา
สิงโต-ปราชญา

บอกเลยว่าเพราะเสน่ห์จากรอยยิ้มหวานๆ และความน่ารักเป็นกันเอง ทำให้แฟนๆ ตกหลุมรัก “สิงโต-ปราชญา เรืองโรจน์” นักแสดงหนุ่มที่โด่งดังมาจาก SOTUS The Series และไม่ใช่ตกหลุมรักกันแบบธรรมดาๆ แต่ต้องเรียว่าถอนตัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว จนตอนนี้อินสตาแกรมของหนุ่มสิงโตมียอดฟอลโลเวอร์กว่า 1.2 ล้านคนไปแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร อยากให้ลองไปทำความรู้จักกับหนุ่มคนนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ

สิงโต-ปราชญา

วัยเด็กของสิงโตเป็นอย่างไร

ผมค่อนข้างมีพื้นที่ส่วนตัวสูงมากครับ อาจเพราะเป็นลูกคนเดียว เวลาคุณพ่อคุณแม่ไปทำงาน ผมเลิกเรียนกลับมาก็ต้องอยู่คนเดียวก่อน ทำให้ชอบทำกิจกรรมคนเดียว ตั้งแต่อ่านหนังสือ ฟังเพลง เล่นเกม หรือหยิบกล้องออกไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆ ทั้งหมดนี้ผมทำโดยไม่ได้รู้สึกเหงานะ กลับสบายใจด้วยซ้ำ

พูดถึงเรื่องเรียน เล่าให้ฟังเรื่องการย้ายคณะที่เหมือนนับหนึ่งใหม่หน่อย

ตอนแรกผมเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร ์ ซึ่งเป็นคณะเดียวกับคริส เรียนจนถึงปี 4 เพื่อนๆ เตรียมรับปริญญากันแล้วด้วยนะ แต่ผมตัดสินใจบอกคุณพ่อว่า ที่เรียนอยู่ไม่ใช่สิ่งที่ชอบจริงๆ ขอไปเรียนใหม่ในสาขาที่ชอบคือ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แล้วทำเกรดให้ดีเลยดีกว่า ซึ่งคุณพ่อก็โอเค ที่ผ่านมาท่านก็ไม่เคยห้ามผมทำอะไร ท่านสนับสนุนให้ทำอะไรก็ได้ที่ตัวเองมีความสุข ผมชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น เพราะจริงๆ แล้วผมอ่อนเลขมาก แต่เลือกเศรษฐศาสตร์ เพราะคุณแม่อยากให้ทำงานเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์เหมือนญาติๆ ซึ่งตอนนั้นผมก็รู้สึกว่าน่าสนใจ บวกกับตอนเรียนมัธยม เศรษฐศาสตร์พื้นฐานเราก็พอทำได้ แต่พอระดับมหาวิทยาลัย เรียนไปถึงเศรษฐศาสตร์มหภาค จุลภาค ลงลึกบัญชี โอ้โฮ…มึนเลยครับ เคยนั่งทำบัญชีงบดุลเป็นชั่วโมง จบด้วยคำว่าไม่ดุล (หัวเราะ) ต้องทำใหม่ ถึงขั้นน้ำตาไหลเลยนะ (ทำหน้าเศร้า) แต่ที่เรียนมาถึงปี 4 ได้ เพราะตั้งใจไว้ว่าอยากเป็นพี่ว้าก ซึ่งพอขึ้นปี 3 ก็ได้เป็นสมใจ (หัวเราะ)

เรื่องงานในวงการบันเทิง คุณพ่อว่าอย่างไรบ้าง

คุณพ่อพูดเหมือนเดิมเป๊ะว่า ถ้าทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเลย ครั้งหนึ่งท่านเคยบอกว่า พ่อไม่ได้อยู่กับลูกไปตลอด ชีวิตเป็นของลูก อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็ทำไปเลย ขอให้ไม่เป็นสิ่งที่เลวร้ายก็พอ แต่ตัวผมเองกว่าที่จะตกลงเล่นซีรี่ส์ ก็ถามจากคนรอบตัวเยอะเหมือนกันครับ ทั้งคุณพ่อ ทั้งเพื่อน

สิงโต-ปราชญา

แต่เล่นเรื่องแรกก็แจ้งเกิดเลย

ดีใจมากๆ ครับ ประสบความสำเร็จกว่าที่คิดไว้มากๆ ก่อนหน้านี้ผมมีงานถ่ายแบบบ้างนิดๆ หน่อยๆ จากนั้นทีมงานของ SOTUS The Series เห็นรูปผมจากในทวิตเตอร์ จึงติดต่อมาให้ลองไปแคสติ้ง ตอนแรกไม่คิดเลยครับว่าจะได้ เพราะมีคนมาแคสต์เป็นพัน แล้วแต่ละคนดูดี มีความสามารถ ดูเพอร์เฟ็กต์กันทั้งนั้น ผมยังบอกพี่ผู้จัดการเลยว่าเรากลับไหม แต่สุดท้ายเขาไม่ได้เลือกจากคนที่หล่อที่สุดหรือเก่งที่สุด แต่เลือกจากคนที่คาแร็คเตอร์ตรงกับบท ซึ่งโชคดีที่ผมได้เป็นคนนั้น (รับบทเป็น ก้องภพ คู่กับคริส-พีรวัส) จากนั้นก็ทำให้มีแฟนคลับติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยอมรับว่าช่วงแรกกังวล เพราะผมมองตัวเองเป็นคนเรียบๆ ธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ทำไมแฟนๆ ถึงชอบเราขนาดนี้

ล่าสุดวันเกิดที่ผ่านมา แฟนๆ ซื้อป้ายบิลบอร์ดอวยพรวันเกิดให้เลยนะ

ผมได้รับอะไรดีๆ จากแฟนๆ เยอะครับ (ยิ้ม) แน่นอนว่าผมดีใจมาก แต่ก็ต้องบอกว่าเก็บเงินไว้บ้างนะครับ ผมเกรงใจ บางครั้งไม่ต้องทุ่มเทขนาดนี้ก็ได้ หรือถ้าอยากซัพพอร์ตผม ก็ขอให้เป็นอะไรที่ไม่ลำบากตัวเอง ขอให้อยู่ในความสุขของตัวเองเท่านั้นพอ แต่แฟนๆ ก็จะบอกว่าไม่ได้ลำบาก…เขาอยากทำจริงๆ แล้วก็ปิดท้ายว่า สิงอย่าพูดแบบนี้อีกนะ…ไม่เอาไม่พูด

พอเข้าวงการ…ชีวิตเปลี่ยนขนาดไหน

มาก-ก-กครับ (ลากเสียงยาว) ต้องเรียกว่าพลิกเลยดีกว่า สำหรับในเรื่องของการทำงานนะครับ แต่ชีวิตประจำวันยังเหมือนเดิม ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นซูเปอร์สตาร์ ผมนั่งรถเมล์ เดินไปไหนมาไหนคนเดียว หรือไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ได้ ซึ่งถ้าถึงขั้นเป็นซูเปอร์สตาร์จริงๆ ไปไหนมาไหนทุกคนต้องรู้จัก เป็นที่จับตามอง แต่ทุกวันนี้ผมยังใช้ชีวิตปกติครับ

พอทำงานอาจมีบางวันที่เหนื่อย แต่ผมมีความสุขที่ตัวเองสามารถทำให้คนอื่นยิ้มได้ มีโอกาสได้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนและทำให้เขามีความสุข ซึ่งตรงนี้ก็คือความสุขของผมเหมือนกัน แต่ในเรื่องของการพักผ่อน บางครั้งแค่ได้อยู่คนเดียวสักพัก ก็เป็นการชาร์จพลังแบบหนึ่งแล้วครับ ถ้ามีเวลาว่างอาจจะแค่ 1-2 ชั่วโมง ผมจะเลือกนอน แต่ถ้าว่างทั้งวัน เดี๋ยวขอคิดอีกทีว่าอยากทำอะไร (หัวเราะ) ตอนนี้วันจันทร์ถึงพฤหัสบดีเป็นเวลาเรียน แต่ถ้ามีงานก็ต้องเป็นช่วงเย็น ส่วนศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ รับงานเต็มที่ ช่วงนี้ผมได้นอนน้อยมาก ทั้งทำงาน ทั้งเรียน การบ้านเยอะด้วยครับ (ทำหน้าเศร้า) จึงเริ่มรู้สึกว่าการนอนเป็นสิ่งสำคัญนะ บางครั้งเหนื่อยๆ ก็จะบ่นในทวิตเตอร์บ้าง แต่เป็นแบบขำๆ คือไม่ได้รู้สึกท้อจริงจัง ยังแฮ็ปปี้ทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียน แค่บ่นไปอย่างนั้นเองครับ (หัวเราะ)

สิงโต-ปราชญา

มีวิธีรับมือกับกระแสดราม่าในโลกออนไลน์อย่างไร

ลอยตัว (หัวเราะ) ต้องดูก่อนว่าดราม่านั้นเราเป็นคนทำให้เกิดขึ้นหรือเปล่า ถ้าใช่ เราสามารถปรับตัว แก้ไขอย่างไรได้บ้าง แต่ถ้าเรื่องนั้นไม่ใช่ความผิดของเรา ก็ไม่จำเป็นต้องร้อนตัวครับ วางตัวอยู่เฉยๆ เดี๋ยวเรื่องก็จบไปเอง

ยอมรับว่าช่วงแรกเครียด เพราะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไร เพราะยังไม่ได้ทำอะไรเลย บวกกับค่อนข้างคิดเยอะด้วยกว่าจะพูดหรือทำอะไรแต่ละอย่าง จนบางครั้งมันช้าไปหมด แต่ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ทำได้ผ่านการไตร่ตรองแล้ว ทุกคำที่พูดหรือทุกครั้งที่เงียบ ผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ผ่านการคิดมาแล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าผมใจเย็น แต่จริงๆ ใจร้อนเหมือนกันนะครับ เพียงแต่บางอย่างผมรู้สึกว่าตัวเองรอบคอบ วางกรอบไว้ดีแล้ว ยังมีเรื่องที่คิดไม่ถึงหลุดกรอบไปได้อีก

ฉะนั้นตอนนี้จึงไม่คิดมากแล้วครับ ลอยตัวไป (หัวเราะ) อะไรปล่อยได้ก็ปล่อย แต่บางเรื่องที่กระทบคนอื่น ผมก็ปล่อยไม่ได้ อย่างเพื่อนผู้หญิงของผมที่มหาวิทยาลัยที่คอยช่วยตามงานให้ แต่มีคนกลุ่มหนึ่งนำรูปเขาไปว่าในโซเชียล ซึ่งพอหนักขึ้น ผมก็ต้องออกมาพูดเหมือนกันว่าแบบนี้ไม่ควรทำนะ

สิงโต-ปราชญา

ไอดอลของสิงโต

ในด้านการแสดง ผมชอบพี่ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ กับพี่เต๋อ-ฉันทวิชช์ พี่เขามีคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจน มีความสามารถด้านการแสดงสูงมาก และลอยตัวเหนือดราม่าของจริง (ยิ้ม) จนเหมือนไม่มีอะไรทำเขาได้ ฝ่ายหญิงผมชอบพี่นุ่น-ศิรพันธ์ กับพี่นก-สินจัย ครับ ฝีมือสุดยอด ยิ่งเวลาแสดง ยิ่งรู้สึกว่ามีเสน่ห์มากๆ

ถ้าให้คะแนนตัวเองเรื่องการแสดง เต็ม 10 ให้เท่าไร

ไม่ค่อยกล้าให้คะแนนตัวเองเลย สัก 7 แล้วกันครับ (ยิ้มเขิน) แม้จะยังไม่เก่ง แต่ก็พยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ


 

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 944

มิกกี้-อัลภาชน์

หุ่นแซ่บมัดใจ! “มิกกี้-อัลภาชน์” ไม่หวงเคล็ดลับ บอกละเอียดยิบ อยากหุ่นดีต้องทำยังไง

Alternative Textaccount_circle
มิกกี้-อัลภาชน์
มิกกี้-อัลภาชน์

แน่นอนว่าทุกคนปรารถนาอยากมีหุ่นดี ซึ่งของอย่างนี้ก็ต้องทำเอง คำถามต่อมาคือ อยากได้หุ่นดีแบบนักกล้ามหรือนักกีฬา ถ้าโจทย์ของคุณคืออย่างหลัง “มิกกี้-อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร” หนุ่มหุ่นแซ่บ ดีกรีมัดใจสาวเจนี่ เขามีหลากหลายคำแนะนำมาบอกกัน โดยเฉพาะโปรแกรมบอดี้เวตของผู้ชายสายสปอร์ตที่ยังใช้ชีวิตปาร์ตี้แบบสนุกๆ ได้ด้วยนะเออ

มิกกี้-อัลภาชน์

MY GOAL

ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีความต้องการในการออกกำลังกายแตกต่างกัน บางคนอยากมีกล้ามสวยทุกมัดก็มีวิธีฝึกแบบหนึ่ง โดยแบ่งวันในการเล่นอก ไหล่ หลัง ต้องเข้ายิมทุกวันและใช้ความตั้งใจสูง บางคนตั้งโจทย์ของตัวเองผิด เจอแบบนี้แล้วท้อจนเลิกออกกำลังกายไปเลยก็มี สำหรับผมไม่ได้อยากมีกล้ามสวยหรือกล้ามใหญ่ แต่อยากทำกิจกรรมต่างๆ แล้วรู้สึกคล่องตัว เคลื่อนไหวได้เร็ว โปรแกรมในการออกกำลังกายจึงเป็นแบบเดียวกับที่นักกีฬาใช้ เพื่อฝึกให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว ได้ทั้งความฟิตและรูปร่างแบบนักกีฬา โดยผมจะออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ วันละ 30-45 นาที ไม่นับวอร์มอัพ 5 นาที และแบ่งเป็นการออกกำลังกายหนัก 4 วัน กับโปรแกรมฟื้นฟู 1 วัน

มิกกี้-อัลภาชน์

2,700 cal กินทั้งที ต้องให้คุ้ม!

สมัยเรียนที่อเมริกาผมเคยจดสิ่งที่กินทุกมื้อว่าได้พลังงานไปกี่กิโลแคลอรี ทำให้มีข้อมูลในหัวว่าอาหารแต่ละชนิดให้พลังงานเท่าไร เช่น แอ๊ปเปิ้ล 1 ลูกให้พลังงานประมาณ 90 แคลอรี แบ่งเป็นแป้ง 25 กรัม โปรตีน 2 กรัม ไขมัน 1 กรัม การมีข้อมูลเหล่านี้ทำให้ผมกินอาหารได้ทุกประเภท ขอเพียงให้พอดีกับพลังงานที่ต้องการในแต่ละวัน (ในอินเทอร์เน็ต มีสูตรคำนวณแคลอรีหลายแบบให้เลือก)

อย่างผมต้องการพลังงานวันละ 2,700 แคลอรี โดยแบ่งเป็นการกินโปรตีน 30 เปอร์เซ็นต์ ไขมัน 20 เปอร์เซ็นต์ และแป้ง 50 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าคิดสูตรเป็นกรัม ผมก็หาว่าโปรตีน 30 เปอร์เซ็นต์ของ 2,700 กิโลแคลอรีคือกี่กรัม แล้วก็เลือกกินให้ได้ตามนั้น เช่น ผมกะได้คร่าวๆ ว่าผัดไทยหนึ่งจานต้องมี 800 แคลอรีละ เพราะแป้งเยอะ กุ้ง 2 ตัว แสดงว่าโปรตีนน้อย พอรู้แบบนั้นผมจะเลี่ยง เพราะรู้สึกว่ากินแล้วไม่คุ้มกับร่างกาย แถมไม่อยู่ท้องด้วย ผมจะเลือกอย่างอื่น เช่น ข้าวมันไก่ แต่เป็นข้าวสวยธรรมดา ไม่ใช่ข้าวมัน หรือไก่ย่าง-ส้มตำ-ข้าวเหนียวที่แคลอรีไม่เยอะ แต่โปรตีนสูง แป้งปานกลาง ไขมันไม่สูงมาก และอิ่มท้องด้วย แบบนี้ถือว่ากินแล้วคุ้ม

การรู้ว่าอาหารแต่ละจานมีกี่แคลอรี แบ่งเป็นโปรตีน ไขมัน หรือแป้งกี่กรัม ทำให้ผมกินอะไรก็ได้ ไม่ต้องเข้มงวดว่าห้ามกินมื้อเย็น ห้ามแตะต้องอาหารมัน เพราะถ้าวันนี้อยากกิน ไอศกรีมก็แค่เซตตารางมื้ออื่นๆ ให้พอดี เพื่อให้กินของหวานได้ คือผมใช้ชีวิตแบบยืดหยุ่น ซึ่งจะอยู่กับเราได้ยาวนานกว่าการไดเอต

มิกกี้-อัลภาชน์

Mickey’s Menu

มื้อเช้า : กรีกโยเกิร์ตที่โปรตีนสูง ไขมันต่ำ กับผลไม้และกาแฟดำ 1 แก้ว

หลังออกกำลังกายตอนเช้า : เวย์โปรตีน 1 สกู๊ป (1 ช้อนตวง ที่ให้มากับผลิตภัณฑ์เวย์โปรตีน) กับผลไม้ 1 ชิ้น

มื้อเที่ยง : ข้าวขาวกับสะโพกไก่ย่าง (ลอกหนังออก) ราดน้ำจิ้มแจ่ว

บ่าย : เวย์โปรตีน 1 สกู๊ป

มื้อเย็น : ผมมักจะเหลือแคลอรีไว้สำหรับมื้อเย็นค่อนข้างเยอะ จะได้เอนจอยกับการเจอเพื่อนๆ และกินสิ่งที่ชอบ โดยวางแผนกินโปรตีนในมื้อก่อนหน้านี้ให้มากที่สุดก่อน เหลือโควตาแป้งไว้ตอนเย็น เพราะมื้อเย็นมักจะเป็นแป้งกับไขมันสูง เรากินได้ครับ ขอแค่อย่าเกินพลังงานที่คำนวณไว้ในแต่ละวันก็พอ

มิกกี้-อัลภาชน์

PROGRAM 4+1

DAY 1 – HYPERTROPHY : โปรแกรมเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อด้วยการเวตเทรนนิ่งแบบ Full Body เป็นการเล่นเวตทั่วร่างกายในวันเดียว เพื่อให้กล้ามเนื้อทุกส่วนทำงาน เช่น การวิดพื้นก็ช่วยสร้างกล้ามเนื้ออก รวมถึงการใช้ดัมบ์เบลเพื่อสร้างกล้ามเนื้อตั้งแต่หัวไหล่ หน้าอก หลัง หน้าแขน หลังแขน กล้ามท้อง น่อง และต้นขา อยู่ที่ 8-12 ครั้งต่อหนึ่งท่า ถือเป็นความหนักระดับปานกลาง ทำให้เลือดมารวมตัวบริเวณกล้ามเนื้อที่ฝึกแบบชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อขยายตัวเพื่อรองรับกล้ามเนื้อที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น

DAY 2 – STRENGTH TRAINING : สร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อด้วยการเวตในจำนวนครั้งที่น้อย โดยใช้เปอร์เซ็นต์เทจในการคำนวณ โดยการทำ Strength Training จะยกน้ำหนักประมาณ 85-95 เปอร์เซ็นต์ของ 100 เปอร์เซ็นต์ที่แต่ละคนสามารถยกได้ เช่น ผมสควอตแล้วยกบาร์เบลได้มากที่สุด 100 กิโลกรัมต่อ 1 ครั้ง การทำ Strength Training ของผมจึงอยู่ที่ 85 เปอร์เซ็นต์ หรือ 85 กิโลกรัมต่อการยก 1 ครั้ง นี่คือรูปแบบเดียวกับที่นักกีฬาใช้ในการพัฒนาร่างกายของตัวเอง

DAY 3 – POWER TRAINING : เป็นการยกน้ำหนักเหมือนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก มีท่าคลีนแอนด์เจิร์ก (คลีนคือการยกน้ำหนักจากพื้นขึ้นมาอยู่ด้านหน้าของหน้าอก พร้อมกับยืนตัวตรง ส่วนเจิร์กเป็นการยกน้ำหนักไว้เหนือหัวพร้อมกับขาทั้งสองขนานกัน) กับสแนตช์ (ยกบาร์เบลด้วยจังหวะเดียวจนแขนเหยียดตรงเหนือศีรษะ) โดยผมยก บาร์เบลสแนตช์ในน้ำหนัก 60 กิโลกรัม แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องยกบาร์เบลแบบนี้ เพราะถ้าคุณยกบาร์เบลไม่ไหวก็สามารถเปลี่ยนเป็นดัมบ์เบลได้ ตัวแปรไม่ได้อยู่ที่น้ำหนักของลูกเหล็ก แต่เป็นท่าและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับความสามารถ

DAY 4 – FOCUS YOUR GOAL : วันที่ 4 ผมจะดูว่าเดือนนี้โฟกัสอะไร ถ้าเน้นความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อก็จะวนกลับมาที่ Strength Training แล้วผสมด้วย Hypertrophy

DAY 5 – RECOVERY DAY : เป็นวันฟื้นฟูกล้ามเนื้อและป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากโปรแกรมหนักๆ ใน 4 วันแรก ผมจะบอดี้เวตที่ไม่ใช้น้ำหนักจากภายนอกที่ต้องออกแรงต้าน โปรแกรมของผมจะเป็นการคาร์ดิโอในรูปแบบหนักสลับเบา เช่น การทำสควอตสลับกับวิ่งบนลู่ หรือขยับตัวซ้ายและขวาอย่างละ 30 วินาที นอกจากนี้ผมจะยืดเหยียดกล้ามเนื้อโดยเน้นที่ช่วงข้อต่อ เนื่องจากเวลาออกกำลังกายมาหนักๆ แม้แต่การนั่งทำงานในท่าเดิมตลอดเวลา จะทำให้กล้ามเนื้อตึง ซึ่งส่งผลให้ข้อต่อของเราตึงด้วย การยืดเหยียดข้อต่อจึงส่งผลให้กล้ามเนื้อดีขึ้นเช่นกัน ถ้าใครชอบเล่นโยคะก็อาจจัดตารางให้อยู่วันที่ 5 เพราะโยคะช่วยฟื้นฟูและยืดกล้ามเนื้อได้ดีครับ

มิกกี้-อัลภาชน์

Dream Big! ตั้งเป้าให้ไกลกว่าการลดไขมัน

เป้าหมายการออกกำลังกายของคนส่วนใหญ่คือเพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมัน ซึ่งผมคิดว่าสิ่งนั้นคือผลพลอยได้ของการออกกำลังกายอยู่แล้ว จึงอยากชวนให้ทุกคนมีเป้าหมายที่แข็งแรงกว่านั้น เช่น อยากวิ่งมาราธอนได้ อยากใส่สูทตัวนี้ในวันแต่งงาน หรืออยากลดความดัน สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้คุณมีวินัยในการออกกำลังกายเมื่อทำได้ตามเป้าหมายนั้น ผลที่ตามมาคือรูปร่างจะดีขึ้นแน่นอน


 

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 944

ชุดว่ายน้ำ วิคตอเรีย ซีเคร็ท

ดราม่าร้อน! ลูกค้าโวย ชุดว่ายน้ำ วิคตอเรีย ซีเคร็ท คอลเล็คชั่นใหม่ไซส์เล็กและแพงเกินไป

ชุดว่ายน้ำ วิคตอเรีย ซีเคร็ท
ชุดว่ายน้ำ วิคตอเรีย ซีเคร็ท

ขนาดและราคาคือปัญหาหรือไม่ ชุดว่ายน้ำ วิคตอเรีย ซีเคร็ท เจอกระแสแรงบนโลกโซเซียลหลังเปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ได้ไม่กี่วัน 

หลังจากหยุดการผลิตไปเมื่อปี 2559 เนื่องจากยอดขายตก แต่ชุดว่ายน้ำแบรนด์นางฟ้า วิคตอเรีย ซีเคร็ท ก็กลับมาเรียกเรตติ้งอีกครั้ง เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ไม่วายเกิดกระแสดราม่าเรื่องของขนาดและราคาที่สูงเกินไป แม้ว่าในตอนแรกหลายๆ คนจะตื่นเต้นที่วิคตอเรีย ซีเคร็ทหันกลับมาทำชุดว่ายน้ำ แต่พอสินค้าออกมาก็ต้องทำให้ลูกค้าผิดหวังไม่น้อย เพราะนอกจากจะไม่พอใจเรื่องราคาแล้ว อีกหนึ่งปัญหาคือไซส์ของชุดว่ายน้ำที่ถูกมองว่ามีตัวเลือกน้อย ไม่ปรับขนาดให้เข้ากับสาวๆ ทุกไซส์

 ชุดว่ายน้ำ วิคตอเรีย ซีเคร็ท

โดยชุดว่ายน้ำมีขนาดตั้งแต่ XS ถึง L และราคาเริ่มต้นที่ $28 หรือประมาณ 900 บาท จนถึง $182 หรือประมาณ 5,770 บาท ทำให้กระแสในโลกโซเชียลร้อนระอุ เมื่อลูกค้าต่างคอมเม้นท์แสดงความผิดหวัง เช่น

“มันเล็กมากและแพงกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย”

“ฉันรู้สึกตื่นเต้น เมื่อชุดว่ายน้ำของวิคตอเรีย ซีเคร็ทจะกลับมา แต่พวกเขาไม่ได้ปรับเรื่องขนาดเลย”

“ถ้าเป็นแบบนี้อย่ากลับมาเลย ฉันคาดหวังว่าขนาดจะพอดีกับผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ แถมราคายังแพงเอาเรื่อง บอกเลยว่าฉันลองไปซื้อชุดชั้นในแบรนด์อื่นมาแล้ว และคิดว่าชุดว่ายน้ำของแบรนด์นั้นก็กำลังจะตามมา”

“แม้ว่าฉันอยากจะใช้เงินหลายร้อยดอลลาร์เพื่อซื้อชุดว่ายน้ำของวิคตอเรีย ซีเคร็ท แต่แบรนด์ไม่มีไซส์ที่พอดีกับฉันเลย”

“การมีขนาดที่จำกัดคือปัญหาใหญ่ของวิคตอเรีย ซีเคร็ท”

ซึ่งจะเห็นได้ว่าคอมเม้นท์เหล่านี้พุ่งไปที่เรื่องของขนาด และน่าจะเป็นไปได้ยากที่แบรนด์จะปรับเรื่องนี้ เพราะ  Ed Razek ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของแบรนด์ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารชื่อดังว่า “ผู้ชมไม่สนใจที่จะเห็นนางแบบพลัสไซส์บนรันเวย์” จนกลายเป็นกระแสดราม่าในตอนนั้น ส่วนชุดว่ายน้ำในคอลเล็คชั่นล่าสุด ราคาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้บริโภคมองว่ามันแพงเกินไป และแพงกว่าคอลเล็คชั่นที่ผ่านๆ มา โดยราคาของบิกินี่ส่วนมากจะสูงกว่า $45 หรือประมาณ 1,427 บาท ในขณะที่ชุดวันพีชในราคาประหยัดที่สุดเริ่มต้นที่ $62 หรือประมาณ 1,966 บาท

 ชุดว่ายน้ำ วิคตอเรีย ซีเคร็ท

 ชุดว่ายน้ำ วิคตอเรีย ซีเคร็ท

หลังจากมีกระแสความไม่พอใจของกลุ่มลูกค้า ก็มีคนอีกกลุ่มแนะนำให้ไปอุดหนุนแบรนด์อื่นๆ แบรนด์ที่มีขนาดหลากหลาย เพราะวิคตอเรีย ซีเคร็ทตีตลาดเฉพาะคนไซส์เล็กเท่านั้น ซึ่งจะสังเกตได้ว่าเรื่องไซส์เป็นปัญหาของแบรนด์มานานพอสมควร แต่ทางแบรนด์ก็ไม่ได้ปรับตัวตามความต้องการของลูกค้า

จนเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา L Brands บริษัทแม่ของวิคตอเรีย ซีเคร็ท ออกมาประกาศว่าจะปิดช็อป 53 แห่งในอเมริกาเหนือ เหตุเพราะยอดขายตก โดยหลายปีที่ผ่านมาวิคตอเรีย ซีเคร็ท ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้แบรนด์คู่แข่งที่ปรากฏตัวขึ้น กลับได้รับความนิยมและมาแรงแซงวิคตอเรีย ซีเคร็ท ในไม่ช้า อย่างชุดชั้นในของ Rihanna Savage X Fenty , แบรนด์ Aerie และ ThirdLove

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โบกมือลา! วิคตอเรีย ซีเคร็ท เตรียมปิด 53 สาขาในอเมริกาเหนือ เหตุยอดขายตก

ยิ่งกว่าขุมทรัพย์! เปิดคลังกระเป๋า Chanel เจนนี่ BLACKPINK จะคอลเล็คชั่นไหนขอให้บอก

งดงามร่วมสมัย กระเป๋าหนังลายผ้าไหมไทย ดีไซน์โก้หรู สะพายได้ทุกโอกาส

มงกุฎหักเพราะเต้น? แคทรีโอนา เกรย์ เปิดใจ “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันสนุกมากไปหน่อย”

ลุคนี้คะแนนเต็มร้อย แต่มูลค่ารวมหลักแสน! ปริยังกา โจปรา สวยเผ็ดจนสามีตามคอมเม้นท์

ยังไม่ตกเทรนด์! ชุดว่ายน้ำ เจ้าหญิงไดอาน่า ดีไซน์คลาสสิกนานกว่า 20 ปี

แฟนคลับแซว แม่นาคเวอร์ชั่นเกาหลี? นานะ After School กับคอสตูมจากแบรนด์ดัง

เฉียบทุกลุค! 12 Princess Style ของพระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ

เกิดกระแสทุกยุค! 6 แฟชั่นไอเท็ม เทรนด์ฮ็อตที่มีอิทธิพลมาจาก เกิร์ลกรุ๊ป K-Pop

 แฟชั่นนี้เสี่ยงไปไหม! ทำไมดัชเชสเมแกนยังสวมส้นสูง 4 นิ้ว ขณะทรงพระครรภ์

พลัสไซส์แล้วไง ขอแค่มั่นใจ! ชี้เป้า 13 ชุดวันพีช ตัวช่วยเสริมความแซ่บของสาวเจ้าเนื้อ

บุกคลังกระเป๋า ‘อามัล คลูนีย์’ ทนายสาวผู้มีสไตล์ พระสหายดัชเชสเมแกน

ว่าที่เจ้าสาวปักหมุดด่วน! มาร์กี้-ราศรี ปล่อยเช่าชุดแต่งงานจาก 3 แบรนด์ดัง


ภาพและที่มา : www.dailymail.co.uk

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ อัญเชิญพระบรมราโชวาท ในหลวง ร.9 ‘ส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมือง’

Alternative Textaccount_circle

เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 23 มีนาคม 2562 สำนักพระราชวัง ได้ออกประกาศสำนักพระราชวัง มีใจความว่า

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เลขาธิการพระราชวังอัญเชิญพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานไว้ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พุทธศักราช 2512 ความหนึ่งตอนว่า

“ขอให้ทราบถึงสิ่งสำคัญในการปกครองไว้ว่าในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”

ทั้งนี้ ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนในชาติ ตลอดจนข้าราชการทุกหมู่เหล่า ทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร และตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความมั่นคงของประเทศชาติและบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน ได้ทบทวนและตระหนักถึงพระบรมราโชวาทที่ได้พระราชทานไว้ ด้วยทรงมีความห่วงใยในความมั่นคงของประเทศชาติ ความรู้สึกและความสุขของประชาชน จึงได้พระราชทานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นการเตือนสติ ให้น้อมนำมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความสมัครสามานสามัคคี ความมั่นคงของชาติบ้านเมือง และความสุขของประชาชน เป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ที่ทรงรักและห่วงใยในชาติบ้านเมืองและประชาชนมาโดยตลอด 


จึงประกาศมาให้ทราบ
สำนักพระราชวัง

ไอเท็มเด็ดสู้ฝุ่น ดูแลผิว-เส้นผม ด้วยเคล็ดลับจากธรรมชาติ

ไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตเผชิญกับปัญหามลภาวะฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองต่อผิวหน้าแล้ว ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับเส้นผมและหนังศีรษะ หากละเลยหรือปล่อยไว้นานยิ่งจะทวีความรุนแรงและส่งผลเสียในระยาวได้ ฝุ่นละออง PM 2.5 หรือ Particulate Matters 2.5 คือ ฝุ่นละอองเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 2.5 ไมครอนหรือไมโครเมตร ซึ่งเล็กกว่าเส้นผมเราถึง 40 เท่า (เส้นผมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 ไมครอน) เป็นอนุภาคที่ลักษณะขรุขระ สามารถนำพาสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายต่างๆ ติดมาด้วย อาทิ แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก ไฮโดรคาร์บอน เป็นต้น นอกจากนี้ฝุ่นละอองและมลภาวะสามารถเกาะตัวกับเส้นผมได้มากกว่าผิวหนังถึง 3 เท่า โดยเฉพาะผู้ที่มีผมหนาหรือยาวมักเกิดปัญหาผมเกิดความอ่อนแอ แห้งกรอบ หลุดร่วงง่าย รวมถึงการอุดตันรูขุมขนบนหนังศีรษะ และการเกิดสิว

‘ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม เปิดตัวสิกนแคร์ตัวใหม่  ‘ไรซ์ คอลเลกชั่น: เฟเชียล แคร์’ (Rice Collection: Facial Care) เป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิว มอบคุณค่าการบำรุงด้วยน้ำมันรำข้าวโมเลกุลขนาดเล็ก ซึมซาบสู่เซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็ว อุดมด้วยวิตามิน E และสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ (Anti-oxidant)  พร้อมรักษาสมดุลความชุ่มชื้น ลดการสูญเสียน้ำ และปกป้องผิวจากแสงแดด

ประกอบไปด้วย ดีท็อกซิฟายอิ้ง เคลย์ มาส์ก (Detoxifying Clay Mask) มาส์กสูตรดีท็อกซ์ผิวจากโคลนธรรมชาติ 3 ชนิด ได้แก่ ทานากุระ เคลย์ (Tanakura Clay) จากประเทศญี่ปุ่น, เกาลิน เคลย์ (Kaolin Clay) และเบนโทไนต์ เคลย์ (Bentonite Clay) ดูดซับความมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกตกค้างออกจากรูขุมขนได้อย่างดีเยี่ยม สารสกัดจากแตงกวา (Cucumber) และกุหลาบ (Rose) ปลอบประโลมผิว และกระชับรูขุมขน และ โอ๊ตมีล เฟซ สครับ (Oatmeal Face Scrub) สครับสำหรับผิวหน้า สูตรอ่อนโยน ด้วยเม็ดสครับเนื้อละเอียดจากธรรมชาติอย่าง ข้าวโอ๊ต (Oatmeal) และเมล็ดผลแอพพริคอท (Apricot seed) ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว พร้อมมอบคุณค่าการบำรุงด้วยสารสกัดจากดอกมาชเมลโล่ (Marsh Mallow) และใบบัวบก (Centella) อุดมด้วยวิตามินเอ, บี และซี ช่วยฟื้นฟูและเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว เผยผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังมี ‘แฮร์ แคร์ ซีรี่ส์’ (Hair care series) ที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาด ชำระล้างสิ่งสกปรกและสารเคมีที่ตกค้างบนเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมจากมลภาวะและความร้อน โดยทุกผลิตภัณฑ์ปราศจากสารพาราเบน (Paraben Free) ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ ‘ดีท็อกซิฟายอิ้ง แชมพู’ (Detoxifying shampoo) ขนาด 250 มล. ราคา 550 บาท แชมพูสูตรขจัดสิ่งสกปรกและสารเคมีตกค้าง ทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างล้ำลึก แต่คงความอ่อนโยน พร้อมคืนความชุ่มชื้นและเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผมด้วย น้ำมันมะกอกออร์แกนิค (Organic olive oil), โจโจ้บา ออยล์ (Jojoba oil), สารสกัดจากลูกเดือย (Coix seed extract) และโปรตีนสกัดจากข้าวสาลี (Wheat protein) มีให้เลือก 2 กลิ่น คือ ‘อะโรมาติก วูด’ (Aromatic wood) และ ‘โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์’ (Oriental essence)

‘อะโรม่าเธอราพี คอนดิชันเนอร์’ (Aromatherapy conditioner) ขนาด 200 ก. ราคา 550 บาท ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ 96 % อาทิ น้ำมันมะกอกออร์แกนิค (Organic olive oil), โจโจ้บา ออยล์ (Jojoba oil) และสารสกัดจากไหมข้าวโพดออร์แกนิค (Organic corn silk extract) ช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมให้นุ่มสลวยเป็นเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมปรับสภาพหนังศีรษะให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น มีให้เลือก 2 กลิ่น คือ ‘อะโรมาติก วูด’ (Aromatic wood) และ ‘โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์’ (Oriental essence)

            ‘นาโน ชิโซะ แฮร์ มาส์ก’ (Nano shiso hair mask) ขนาด 100 ก. ราคา 800 บาท ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ โดดเด่นด้วยส่วนผสมของสารสกัดอนุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ (Nano shiso extract) ช่วยเสริมความแข็งแรงกับเส้นผมที่แห้งเสีย รวมถึงทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ (Anti – oxidant) ตามธรรมชาติ พร้อมคุณค่าของน้ำมันสกัดเข้มข้นจากอาร์แกนออร์แกนิค (Organic argan oil), เซราไมด์ โปรตีน (Ceramide protein), โจโจ้บา ออยล์ (Jojoba oil) และโปรตีนสกัดจากข้าวสาลี (Wheat protein) ช่วยบำรุงผมที่แห้งเสีย แตกหักง่าย ให้แข็งแรง เงางาม

‘นาโน ชิโซะ แฮร์ เซรั่ม’ (Nano shiso hair serum) ขนาด 100 มล. ราคา 675 บาท เซรั่มบำรุงผมเพื่อการปกป้องและฟื้นฟูสภาพเส้นผมจากความร้อน และสารเคมีจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม สูตรบางเบา  พร้อมซึมซาบเข้าบำรุงเกล็ดผมทันทีที่ใช้ เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม อุดมด้วยคุณค่าสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ น้ำมันอาร์แกนออยล์ออร์แกนิค (Organic argan oil), น้ำมันมะกอกออร์แกนิค (Organic olive oil), สารสกัดอนุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ (Nano shiso extract) และสารสกัดจากรากมาคา (Maca root extract)

 

 

 

คุ้มราคาคุ้มค่าเงิน อาจารย์น้อง “รศ.นราพร จันทร์โอชา” สตรีต้นแบบ ที่เลือกสวยอย่างฉลาด

Alternative Textaccount_circle

ส่องแฟชั่นคุ้มราคาคุ้มค่าเงิน ของ ภริยานายกฯ อาจารย์น้อง “รศ.นราพร จันทร์โอชา” สตรีต้นแบบที่เลือกสวยอย่างฉลาด

เมื่อเอ่ยถึงแฟชั่นคุณหญิง-คุณนาย หลายคนอาจจะคิดไปถึง เสื้อผ้าหลักแสน กระเป๋าหลักล้าน รวมถึงเครื่องประดับมูลค่าแพงระยับ เวลาออกงานสังคม ทว่าอันที่จริงแล้วภริยาผู้นำในหลายๆ ประเทศถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็น “สตรีหมายเลขหนึ่ง” เหมือนกัน แต่กลับมีสไตล์ที่แตกต่างกัน ซึ่งมีทั้งมุมที่หรูหราอลังการดาวล้านดวง และสไตล์ที่พอเพียงแบบ นาง “โฮชิง” ภริยาของนาย “ลี เซียนลุง” นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ที่เคยสร้างกระแสแฟชั่นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ด้วยการถือกระเป๋าคลัทช์ผ้าเดนิม รูปไดโนเสาร์ ซึ่งเป็นผลงานของนักศึกษาของโรงเรียนเด็กพิเศษออทิสติก สนนราคาเพียงแค่ 400 บาทไทยเท่านั้น

ขณะที่ฟากฝั่งเมืองไทยก็มีสตรีหมายเลขหนึ่งที่สวยอย่างฉลาดไม่แพ้ใคร อาจารย์น้อง “รศ.นราพร จันทร์โอชา” ภริยา “บิ๊กตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่นอกจากการแต่งตัวจะเน้นเอกลักษณ์ไทยๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ “คุ้มราคาคุ้มค่าเงิน” วันนี้แพรวเลยถือโอกาสรวบรวม กระเป๋าที่ภริยานายกฯ ใช้บ่อยๆ มาให้ได้ชมกัน และกระซิบอีกนิดว่าแต่ละใบ อาจารย์น้องยังใช้มาเป็นระยะเวลานานอีกด้วย เรียกว่าเป็นสตรีต้นแบบที่เลือกสวยอย่างฉลาดจริงๆ

อาจารย์น้อง

ตะกร้าหวายจากอำเภอพนัสนิคม ถึงแม้ราคาจะไม่ได้แพงมาก แต่ด้วยเอกลักษณ์แบบไทยๆ ทำให้กระเป๋าใบนี้ได้ออกงานสำคัญหลายงาน ทั้งในการเยือนพม่า, งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว รวมถึงงานต้อนรับคณะคู่สมรสผู้นํากลุ่มประเทศยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี ที่ มิวเซียมสยาม

อาจารย์น้อง

อีกหนึ่งใบโปรดที่ภริยานายกฯ ใช้ออกงานอยู่เรื่อยๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ คือกระเป๋าแบรนด์ Jo’s BAG หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ สำหรับใบนี้ใช้มาตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปัจจุบัน

อาจารย์น้อง

และใบโปรดที่ใช้คุ้มสุดๆ ออกงานถี่ ต้องยกให้กระเป๋าแบรนด์  Jo’s BAG รุ่น Myria Bag สีน้ำตาลใบนี้ เหมาะกับทุกโอกาส สนนราคาอยู่ที่ 4,500 บาท

อาจารย์น้อง

ไม่ใช่แค่กระเป๋าเท่านั้นที่คุ้มค่า แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ออกงานก็ใช้อย่างคุ้มราคาไม่แพ้กัน อย่างชุดนี้อาจารย์น้องก็เคยใส่ไปเยือนจีน รวมถึงออกงานมอบรางวัลในประเทศไทยด้วย

อาจารย์น้อง

เช่นเดียวกับผ้าซิ่นผืนนี้ ดูภริยานายกฯ จะชื่นชอบมากๆ  แต่ทุกครั้งก็จะมีการปรับเปลี่ยนสีเสื้อเพื่อไม่ให้จำเจด้วย


ภาพจาก :ไทยรัฐ,กรุงเทพธุรกิจ,มติชน,มิวเซียมสยาม,FB @penthip pornchaded

สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆ ได้ที่นี่ 

ไอเท็มเด็ด! “Jo’s BAG” กระเป๋าผ้าแบรนด์ไทยคู่ใจ “ภริยานายกตู่” ราคาเพียงหลักพัน!

This Is Me วัลละภา เปิดคลังกระเป๋าหรูของสะใภ้ จันทร์โอชา พร้อมเจาะราคาชิ้นต่อชิ้น!

ย้อนวันวานวัยหนุ่ม “ลุงตู่” เล่าความประทับใจในหน้าที่ “ทหารเสือราชินี” อันทรงเกียรติ

 

สวยตาแตก! ชุดแต่งงานสุดอลังจากแบรนด์ดังระดับโอต์กูตูร์ของ อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร

account_circle

สวยตาแตก วิบวับกระแทกตาจริงๆ จ้า สำหรับชุดแต่งงานสุดอลังการของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อค่ำที่ผ่านมา สวยซะจนคนดังระดับ Super VIP หลายๆ คนยังต้องยอมแพ้

เป็นอีกหนึ่งท็อปปิคที่พูดกันให้อื้ออึง สำหรับชุดแต่งงานของสาวอุ๊งอิ๊ง ที่เธอใส่ในวันสำคัญของเธอ ทันทีที่เปิดตัวเจ้าสาว แขกในงานเป็นต้องร้องว้าวววว เพราะชุดแต่งงานที่เธอใส่นั้นหรูหรา เริ่ดซะจริงๆ

อุ๊งอิ๊ง

โดยชุดนี้มาจากแบรนด์ Elie Saab ห้องเสื้อดังระดับโอต์กูตูร์ ที่รังสรรค์ชุดสวยขั้นเทพมาแล้วหลากหลายชุด สำหรับชุดที่อุ๊งอิ๊งใส่นั้นเป็นชุดราตรียาวทรงเชท (Sheath) มีลักษณะแขนยาว คอปาด เปิดไหล่ สีไอวอรี่ ช่วงแขนปล่อยชายยาวจากไหล่ และติดชายกระโปรงด้านหลังเพื่อให้ชุดดูอลังการมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเป็นชายกระโปรงที่ยาวเอามากๆ เดินคนเดียวอาจจะไม่ไหว ต้องมีคนช่วยถือให้

ซึ่งชุดนี้ยังเป็นงานแฮนด์เมดที่ใช้คริสตัลปักด้วยมือกว่าล้านเม็ด เวลากระทบแสงนั้น ระยิบระยับ วิบวับ ฟาดตาสุด ทั้งนี้สาวอุ๊งอิ๊งยังใส่เวลซึ่งทำมาจากผ้าโปร่งแบบเรียบ เมื่อใส่พร้อมกับชุดก็ส่งให้เจ้าสาวดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ในส่วนของราคาชุดนั้นคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 7 หลัก!

แต่งหน้าทำผมโดยพี่ป้อม วินิจ เมคอัพอาร์ติสชื่อดังของประเทศไทย


ภาพ : Instagram : pom_vinij, pang_fifthseason, parisa2411, nannpiyada

 

 

ฟิตหุ่น

ซัมเมอร์ฮ็อตฉ่า! 8 เซเลบสาวประชันโฉมแซ่บ แนะทริคฟิตหุ่น ดูแลผิว ใส่ชุดว่ายน้ำแล้วปังสุด

Alternative Textaccount_circle
ฟิตหุ่น
ฟิตหุ่น

ซัมเมอร์นี้ทะเลลุกเป็นไฟ! เมื่อ แพรว ชวน 8 เซเลบริตี้สาวมาประชันหุ่นแซ่บสุดเซ็กซี่ในชุดว่ายน้ำ พร้อมเผยเคล็ดลับฟิตหุ่นและการดูแลผิวในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งคีย์สำคัญคือพวกเธอต้อง Keep Fit & Stay Strong ถ้าอยากรู้ว่าพวกเธอมีทริคเด็ดอย่างไรบ้าง ก็ต้องตามไปดูกันค่ะ แพรว เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนสวยได้และทำได้เช่นกัน…You Can Do it!

 

นิดหน่อย – ขนิษฐา ดรุณเนตร

ฟิตหุ่น

นิดหน่อยชอบเที่ยวทะเล แต่การจะใส่ชุดว่ายน้ำให้สวย ถ่ายรูปแล้วดูดี ก็ต้องดูแลรูปร่างและผิวพรรณ โดยเข้าฟิตเนสสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง เน้นเวตเทรนนิ่งบริเวณไหล่ เพราะเราตัวเล็ก การเฟิร์มไหล่จะช่วยให้ดูสง่าขึ้น หน้าท้องก็ต้องเฟิร์มให้มีโครงซิกซ์แพ็คเล็กน้อย อย่าให้ดูเป็นก้อนจะน่ากลัวไป เอาแค่พอดูเฮลตี้ นุ่มนวลเป็นเฟมินีน อยากขาสวย สะโพกสวย ต้องลงทุน เพราะพออายุเยอะจะมีความคล้อย ต้องทำท่าสควอตด้วยเครื่อง Smith Machine ที่สามารถใส่น้ำหนักได้ข้างละ 10 กิโล เพื่อให้เราเกร็งต้นขา ก้น และสะโพก เพื่อให้กระชับและเฟิร์ม ถ้ารู้ล่วงหน้าว่ามีทริปไปทะเล สิ่งแรกที่งดกินล่วงหน้า 2 สัปดาห์ก่อนใส่ชุดว่ายน้ำคือของหวาน และงดแป้งมื้อเย็น เพราะสองอย่างนี้ทำให้มีหน้าท้อง ใส่ชุดว่ายน้ำไม่สวย

ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกาย ล้วนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิง ต้องบำรุงผิวให้ดีแต่เนิ่นๆ ถ้ารอไปบำรุงที่หน้างานอาจทำให้ผิวสวยไม่ทัน ถ่ายรูปไม่สวย บางครั้งแค่ทาครีมทุกวันอาจยังไม่พอ นิดหน่อยจะสครับเพื่อผลัดเซลล์ผิวทุก 2 เดือนด้วย ตามด้วยการบำรุงโดยใช้ครีมทาผิวชนิดเข้มข้น การทาผิวให้โกลว์ด้วยออยล์ของ Tom Ford เวิร์คสุด แนะนำว่าควรทาก่อนออกแดด เพราะเป็นออยล์บำรุงผิวด้วย เวลาโดนแดดจะทำให้เห็นแสงเงาบริเวณไหปลาร้า ไหล่ น่อง ถ่ายรูปแล้วสวย นิดหน่อยทาครีมกันแดดที่หน้าเยอะมาก ไม่ได้กลัวดำนะคะ แต่กลัวฝ้า เนื้อครีมควรบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะทำให้แต่งหน้าไม่สวย อย่างโลชั่นน้ำนม EviDenS de Beautè ค่า SPF 50++ ทาซ้ำ 2 ครั้ง หลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้วจะใช้ Shiseido Clear Stick UV Protector ทาบริเวณโหนกแก้ม จมูก และจุดที่โดนแดดง่าย เป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง

 

จินนี่ – เขริกา โชติวิจิตร

ฟิตหุ่น

ถ้ารู้ล่วงหน้าว่ามีทริปไปทะเลกับเพื่อน จินนี่ต้องรีบคุมอาหาร เพราะปกติกินเยอะ เริ่มจากงดกินแป้ง 1 สัปดาห์ล่วงหน้า ยิ่งถ้าใส่บิกินี่ยิ่งต้องฟิตแอนด์เฟิร์ม เพราะถ้าไม่เฟิร์มจะเห็นพุง โดยจินนี่จะเล่นพิลาทีส โยคะ วิ่งกับเพื่อนๆ วันละ 1 ชั่วโมง รวมทั้งซิตอัพเพื่อให้หน้าท้องแบนราบ

จินนี่ไม่ชอบแดดเลย แต่ชอบไปทะเลมาก (ยิ้ม) เพราะฉะนั้นต้องใช้ครีมกันแดดของคุณหมอที่รักษาหน้า เวลาใส่ชุดว่ายน้ำแล้วจะใช้สเปรย์กันแดดของ Banana Boat SPF 50 ++ ฉีดที่ผิว ทำให้ผิวไม่ เหนอะหนะเหมือนทาครีม และหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด จากนั้นทาครีมกันแดดที่ผิวทุกชั่วโมง เพราะจินนี่ดำง่าย แต่ขาวยาก มีช่วงหนึ่งไปทะเลบ่อย ถึงขนาดว่าจินนี่ต้องเปลี่ยนจากรองพื้นเบอร์ 1 กลายเป็นเบอร์ 3 หลังจากถูกแดด

 

บิว – ศลิษฏพร กุลเพชรประสิทธิ์ฟิตหุ่น

ความที่บิวผอมมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะแขนกับขาเล็กมาแต่ไหนแต่ไร จึงทำให้ดูเหมือนผอมมาก เวลาใส่ชุดว่ายน้ำ ถ้าจะให้ถ่ายรูปสวยต้องวิดพื้นเพื่อให้แขนใหญ่ขึ้นเล็กน้อย กับบริหารต้นขาให้เรียวยาว กระชับก้นและสะโพกด้วยการทำท่าสควอตและ Donkey Kicks โดยการวางเข่าและมือสองข้างที่พื้น (คล้ายท่าคลาน) ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนมือและเข่า ยกขาเตะขึ้นข้างบน เป็นการออกแรงช่วงสะโพกและต้นขา ทำแบบนี้ทุกวัน

ฟิตหุ่น

บิวชอบอาบแดดเพื่อให้ผิวสีแทน จึงชอบใช้แทนนิ่งออยล์ของ Banana Boat ส่วนใบหน้าใช้ครีมกันแดดของ Shiseido Anessa ที่มีค่า SPF 50++ เวลานอนอาบแดดใช้ผ้าปิดหน้าอีกชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นฝ้า หลังจากอาบแดดจะทาโลชั่นอะโลเวราเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ก่อนนอนทาครีมที่ผิวให้มากกว่าปกติ บิวชอบใช้ของ Molton Brown เพราะซึมเข้าผิวง่าย แต่อาบแดดให้ผิวสีแทนได้แป๊บเดียวก็หายแล้ว เพราะฉะนั้นบิวจะชอบอาบแดดสัปดาห์ละครั้ง พอดีมีคอนโด Veranda ที่พัทยา บิวจึงชอบไปอาบแดดที่นั่นเดือนละ 2 ครั้ง ระหว่างอาบแดดชอบอ่านหนังสือ หรือไม่ก็ฟังเพลงไปด้วย รู้สึกว่าได้พักผ่อนไปในตัว

 

ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล สวัสดิ์-ชูโต

ฟิตหุ่น

ปกติออกกำลังกายฟิตหุ่นเตรียมตัวไว้ตลอด ไม่ได้ทำเฉพาะบางซีซั่น เพราะเราต้องใส่ชุดว่ายน้ำทั้งปี เนื่องจากหลายจังหวัดมีเวลาท่องเที่ยวต่างกันไป รวมๆ แล้วทะเลไทยเที่ยวได้ตลอดปี จึงต้องเตรียมรูปร่างให้สวยเข้าไว้ หรือต่อให้ใส่ชุดปกติ เราก็ต้องมีรูปร่างดี ฝเพื่อความมั่นใจ ก่อนอื่นคือเราต้องรู้จักตัวเองว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร แล้วค่อยนำเคล็ดลับที่ฟังจากคนอื่นมาปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเอง ต้องมีสติกับการกินตลอดเวลา เพื่อจะได้มีรูปร่างที่ดี ไม่เผลอตัวเผลอใจกินสแน็กที่ไม่มีประโยชน์ ถ้ารู้ว่าต้องไปทริปที่ใส่ชุดว่ายน้ำ สองสิ่งที่ควรงดแล้วเห็นผลทันทีโดยไม่ต้องออกกำลังกาย คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับอาหารรสเค็ม 7 วันก่อนเดินทาง จะทำให้เรารู้สึกลีนขึ้น เพราะสองสิ่งนี้ทำให้ตัวบวมโดยที่น้ำหนักไม่ขึ้น แม้ไม่ได้ออกกำลังกายที่ฟิตเนส เพราะเบื่อการวิ่งหรือเดินบนลู่ แต่มีเคล็ดลับคือใช้ชีวิตประจำวันให้แอ๊คทีฟ ขยับและเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันให้มากๆ เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้บันไดเลื่อน ก้นเราก็จะสวย ถ้าไปไหนไม่ไกลมากก็จะเดินแทนการขับรถ

ฟิตหุ่น

การอาบแดดให้ผิวแทนทำให้รูปร่างดูลีนและสุขภาพดี ถ้าใช้น้ำมันมะพร้าวทาผิวให้ชุ่มชื้นทั้งก่อนและหลังอาบแดดจะทำให้ผิวดูฉ่ำ สุขภาพดี ที่สำคัญคือช่วยให้เราดูเซ็กซี่ขึ้น ระหว่างอาบแดดควรดื่มน้ำมากๆ เตรียมไว้เลยอย่างน้อย 1 ลิตร หรือการดื่มน้ำมะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย การทำผิวแทนให้สวยควรเน้นความสม่ำเสมอของสีผิว บางคนอาบแดด จนผิวแทนเฉพาะด้านหน้า ลืมด้านหลัง พอเดินชายหาดแล้วกลายเป็นทูโทน เคล็ดลับส่วนตัวคือจะหาที่ที่เป็นส่วนตัวมากๆ หรือมุมลับตาคน ปลดบิกินี่ เพื่อให้ผิวด้านหลังมีสีแทนสม่ำเสมอทุกจุด

 

แก้ม – สามสรา เอี่ยมเอกดุลย์

ฟิตหุ่น

แก้มเป็นพีอาร์และกำลังเริ่มทำเกี่ยวกับออร์แกไนเซอร์จัดงาน ทำให้ต้องพบเจอผู้คนอยู่ตลอด ทั้งลูกค้าและเวลาไปออกงานอีเว้นต์ จึงต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและเฟิร์มอยู่เสมอ จะใช้วิธีแบ่งเวลาจากการทำงาน อย่างบางวันแก้มมีประชุมตอนเช้าก็ออกกำลังกายช่วงเย็น บางวันก็เปลี่ยนเป็นออกกำลังกายตั้งแต่เช้าก่อนไปทำงานด้วยการเข้ายิม มีเทรนเนอร์มาสอนสัปดาห์ละ 3 วัน เน้นบอดี้เวต การออกกำลังกายที่ใช้น้ำหนักตัวแทนอุปกรณ์กับครอสฟิต เป็นการออกกำลังกายแนวใหม่ ผสมผสานระหว่างยิมนาสติก แอโรบิก และเวตเทรนนิ่ง ส่วนเรื่องอาหาร แก้มกินปกติค่ะ ไม่ได้ควบคุมมาก ชานมก็ชอบดื่มเหมือนเดิม (หัวเราะ)

สำหรับผิวหน้าก่อนลงทะเล แก้มจะใช้ครีมกันแดดของ Shiseido Perfect UV Protector Wet Force SPF 50+ PA++++ ค่ะ ส่วนผิวกายจะใช้ La Mer The Reparative Body Sun Lotion SPF 30 ถ้าแบบด่วนๆ ก็จะใช้สเปรย์กันแดดของ Lancaster มีบ้างที่บางทริปอยากเป็นสาวผิวแทน จะใช้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผิวแทน Bondi Sands Protect & Tan SPF 15 ได้ทั้งผิวแทนและยังช่วยป้องกันซันเบิร์นอีกด้วย ปิดท้ายชิ้นที่ขาดไม่ได้คือ Tom Ford Soleil Blanc Shimmering Body Oil ช่วยให้ผิวโกลว์และฉ่ำวาว เพราะมีส่วนผสมของชิมเมอร์ แถมกลิ่นยังหอมมากนอกจากนี้หลังจากอาบแดด แก้มจะใช้ Neal’s Yard Remedies Chamomile & Aloe Vera Cooling After Sun Spray ชอบกลิ่นของคาโมมายล์ พอฉีดที่ผิวกายแล้วจะรู้สึกถึงความเย็นของอะโลเวรา รู้สึกผิวเบาสบาย ไม่เหนอะหนะ ขาดไม่ได้จริงๆ ขวดนี้

 

หญิง – กรุณา วัจนะพุกกะ

ฟิตหุ่น

ถ้ารู้ว่าต้องใส่ชุดว่ายน้ำ หญิงจะดูแลหุ่นตัวเอง มากกว่าเดิมอีกเท่าหนึ่ง เพราะเป็นชุดที่ใส่แล้วต้องสวยและมั่นใจ หญิงออกกำลังกายสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 1 ชั่วโมง เพราะเมื่อ 2 ปีก่อนหญิงเคย อ้วน น้ำหนักกว่า 60 กิโลกรัม ต้องเทรนวันละ 2 ชั่วโมง ตอนนี้น้ำหนักลดลงเหลือ 45 กิโลกรัมในระยะเวลาเพียงเดือนกว่า 1 สัปดาห์ก่อนจะต้องใส่ชุดว่ายน้ำ หญิงจะกินอาหารคลีนตลอด 7 วัน กินให้ครบมื้อ ครบหมู่ คือแป้งจากข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอรี่ ไขมันดีจากปลาแซลมอน ปลากะพง และปลาอินทรี ใช้วิธีย่างหรือนึ่งเท่านั้น อะโวคาโด นมอัลมอนด์ และกินผักให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ของมื้ออาหาร กินกับน้ำสลัดใสสูตรไม่มีน้ำตาล หรือ Low Fat ส่วนผลไม้ที่ดีคือมะละกอ ส้มโอ การรับประทานคลีนต้องห้ามอดเด็ดขาด ต้องกินเยอะแบบให้อิ่มเลย

หญิงดูแลผิวกายเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว เพราะอาบน้ำอุ่นจัดทุกวัน ทำให้ผิวแห้ง จึงต้องทาครีมมาตั้งแต่ เด็ก บอดี้ครีมที่ใช้แล้วดีเป็นของ Jo Malone จากที่ ผิวแห้งเป็นขุย แค่ทาเช้า กลางวัน เย็น ก็กลับมาชุ่มชื้นเหมือนเดิม ใช้มากว่า 5 ปีแล้ว ครีมกันแดดก็สำคัญมาก ชอบใช้แบบสเปรย์ของ Kosè Suncut Essence in UV Protect Spray SPF 50+ PA++++ ส่วนผิวหน้าหญิงดูแลเป็นพิเศษมากๆ เพราะเมื่ออายุเยอะขึ้น กระกับฝ้าเริ่มมาแล้ว หญิงใช้เซรั่ม 111Skin Y Theorem Repair Serum แล้วตามด้วยครีมกันแดด JILL STUART Aqua Chiffon Protector SPF 50+ PA++++ ซึมซาบสู่ผิวเร็วและกลิ่นหอมมาก

 

ส้ม – รัดเกล้า อู่วิเชียรฟิตหุ่น

ส้มพยายามไม่กินข้าวเย็น ถ้าหิว ขอเป็นอะโวคาโดเปล่าๆ วันละประมาณ 1 ลูก ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เพราะเป็นไขมันดี ช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ส้มไม่กินขนมจุกจิก ชากับกาแฟก็ไม่ใส่น้ำตาล และไม่อดให้อยาก อยากกินก็กินเต็มที่ บางครั้งกินมื้อละ 2 จานด้วยซ้ำ ส่วนการออกกำลังกาย ส้มชอบเต้นอย่างเดียว สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง เต้นสลับกันไป 3 ประเภทคือ Femme & Fierce การเต้นที่ดึงเสน่ห์ความเป็นผู้หญิงออกมาผ่านการใช้ร่างกายส่วนต่างๆ เน้นความเซ็กซี่ แข็งแรง การเต้น Twerk ช่วยเรื่องต้นขากับก้น เห็นผลได้ชัดเจน ส้มเรียนกับครูพลอยที่ Soul Flow Studio และ Pole Dance การเต้นกับเสาจะหนักสุด เพราะใช้ทุกส่วนของร่างกาย แต่ไม่ค่อยถนัด เพราะจะต้องแข็งแรงมากถึงจะพัฒนาฝีมือต่อไปได้

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผิวคือครีมกันแดด ใช้ของ แบรนด์ญี่ปุ่นที่เป็นเจล เพราะทำให้ไม่รู้สึกหนาหรือ หนักผิวหน้าจนเกินไป ที่ใช้อยู่คือ Kosè Sun Protect Essence Gel SPF 50+ PA++++ เวลาออกไปไหนส้มไม่เคยลืมทาครีมกันแดดเลย ส่วนผิวกายส้มไม่ใช้ครีมกันแดด แต่จะใช้ L’Occitane Almond Supple Skin Oil เพราะผิวแห้ง หลังอาบน้ำจะใช้ตัวนี้พอ

 

มินท์ – ณิชชา บุณยากร

ฟิตหุ่น

จริงๆ แล้วหุ่นมินท์ไม่ได้เฟิร์มมาก แค่ตัวเล็ก เคยน้ำหนักมากที่สุดประมาณ 53 กิโลกรัม ตอนนี้รักษาระดับให้อยู่ที่ 49 กิโลกรัม เมื่อก่อนไม่ชอบออกกำลังกายเลย พออายุเข้าเลข 3 รู้สึกว่าต้องออกกำลังกายแล้ว ไม่ได้กลัวอ้วนนะ แต่แปลกใจว่าทำไมป่วยบ่อย เป็นทั้งภูมิแพ้ แพนิก และไมเกรน จะละเลยกับร่างกายอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว จึงเข้ายิมกับฝึกคาร์ดิโอง่ายๆ สัปดาห์ละ 3 วัน ทำให้ไม่ค่อยกังวลเรื่องหุ่น เพราะดูแลอยู่ตลอด

สำหรับผิวหน้า มินท์ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ของ Clarins มาตลอด เวลาไปเที่ยวทะเล สิ่งที่ขาดไม่ได้คือผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์ Clarins Double Serum และครีมกันแดด Shiseido Perfect UV Protector SPF 50+ PA++++ ใช้มาเกือบ 20 ปีแล้ว แดดแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ มินท์จะดูแลผิวกายเป็นพิเศษด้วย เพราะน้ำเหลืองไม่ค่อยดีตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะบริเวณช่วงขามีรอยแผลเป็นเยอะมาก บางทีไม่ได้โดนยุงกัดก็คัน ทำให้มีรอยแผลเป็น หลังอาบน้ำจะทาโลชั่น Clarins Renew Body Serum ที่ใช้มาตั้งแต่เรียนมัธยม คุณแม่แนะนำ คอนเฟิร์มว่าดีจริงๆ มินท์จะทาทั้งตัวเลย บางคนคิดว่าทาแค่แขนกับขาก็พอ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวกายของเราแห้งขึ้น ส่วนไหนที่เว้นไว้จะเป็นขุยๆ ส่วนเวลาไปทะเล มินท์ใช้สเปรย์กันแดด La Roche-Posay Anthelios XL Invisible Mist เพราะไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะจนเกินไป


 

ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 944

คริส-พีรวัส

ล้วงความลับ “คริส-พีรวัส” สารภาพจากใจ จริงๆ แล้วผมเป็นผู้ชายขี้งอน

Alternative Textaccount_circle
คริส-พีรวัส
คริส-พีรวัส

ทอล์คกับหนุ่มหน้าตี๋ คริส-พีรวัส แสงโพธิรัตน์ หนุ่มที่ทำแฟนๆ กรี๊ดสลบกับบทรุ่นพี่สุดเข้มปนโหดในเรื่อง SOTUS The Series แต่เขากลับบอกว่าจริงๆ แล้ว “ผมขี้งอนนะครับ” ว่าแต่หนุ่มคนนี้จะขี้งอนเบอร์ไหน แล้วต้องง้อยังไง ถ้าอยากรู้ ก็ต้องตามไปอ่านกันเลย

คริส-พีรวัส

ข่าวว่าวีรกรรมสมัยเด็กของคริสไม่เบาเลย

ก็พอประมาณครับ อาม่ากับอากงเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็ก แต่เอาไม่อยู่ เพราะคริสดื้อมาก อย่างอาม่าบอกว่าห้ามกลับบ้านดึก ห้ามออกไปเล่นไกลๆ คริสทำไม่ได้เลย (หัวเราะ) เพราะบ้านอยู่ติดตลาด ก็จะมีแก๊งเพื่อนที่เป็นลูกแม่ค้าในตลาด ซึ่งซนๆ หน่อย ผมชอบออกไปเล่นกับเขา อาม่าก็ดุตลอดว่าอย่าออกไปนะ แต่ผมไม่เคยเชื่อเลย ผิดกับพี่น้องอีก 3 คนที่เชื่อฟัง อยู่บ้านตามอาม่าบอก

วีรกรรมแสบสุดของผมน่าจะเป็นขโมยเงินอาม่าไปซื้อขนม บางทีผมขอแล้วอาม่าไม่ให้ ก็แอบหยิบทีละห้าบาท สิบบาท อาม่าจับได้ เพราะท่านละเอียดมาก จะนับไว้ตลอดว่ามีเงินเท่าไหร่ ซึ่งอาม่าไม่ได้ทำโทษผมเอง แต่ฟ้องคุณพ่อคุณแม่ จากนั้นคุณพ่อจะมาจัดการผม ซึ่งท่านตีแรงมาก ผมโดนมาหมด แล้ว ทั้งไม้แขวนเสื้อ ก้านมะยม ไม้เสียบลูกโป่ง (หัวเราะ)

เรียกว่าไม้เรียวขจัดความดื้อหรือเปล่า

ใช่เลยครับ (หัวเราะ) ซึ่งจุดเปลี่ยนจริงๆ ของผม คือตอนเริ่มทำงานด้านขายตรงหรือเน็ตเวิร์คมาร์เก็ตติ้งควบคู่กับการเรียนไปด้วย ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 1 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งก่อนหน้านั้นผมยังเป็นเด็กดื้ออยู่เลย ขอเงินคุณพ่อคุณแม่ไปซื้อของ ไปช็อปปิ้ง ไปเที่ยว แต่เนื่องจากที่บ้านเริ่มมีปัญหาเรื่องเงิน ผมจึงอยากทำงาน อยากมีเงินจ่ายค่าเทอม ดูแลตัวเองได้ ซึ่งพอทำงานจึงทำให้ผมรู้จักใช้เงินมากขึ้นและช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้ด้วย

แต่ทำได้ปีเดียวก็ต้องเลิกครับ เพราะคริสเรียนภาคพิเศษ ซึ่งเรียนช่วงเย็น ประมาณ 4 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม พอเลิกเรียนต้องเข้าไปฟังประชุมที่ออฟฟิศจนเกือบเที่ยงคืน จากนั้นพุ่งไปร้านอินเทอร์เน็ต ทำงานจนถึงเช้าค่อยกลับบ้านนอน พอบ่ายก็ตื่นไปเรียน วันหนึ่งรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผมจะไม่ได้ทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยเลย จึงเลิกทำงานนี้ไป โชคดีว่าพอขึ้นปี 3 ก็ได้เข้าไปแคสติ้งซีรี่ส์ SOTUS The Series และได้ทำงานในวงการบันเทิงจนถึงตอนนี้ครับ (ยิ้ม)

คริส-พีรวัส

เข้าวงการบันเทิงได้เพราะเป็นพี่ว้ากใช่ไหม

(พยักหน้า) ผมคิดว่าที่ได้รับเลือกเพราะผมเป็นพี่ว้ากจริงๆ จึงทำให้เข้าใจบทหรือมีเครดิตมากกว่าคนอื่น บวกกับเคมีเข้ากับพี่สิงโตด้วย จึงได้รับเลือก และโชคดีที่กระแสตอบรับดีมากๆ แต่ก่อนจะรับงานนี้ ผมคิดหนักเหมือนกันครับ กลัวเพื่อนแซว เพราะผมเป็นพี่ว้ากที่คณะจริงๆ แล้วมารับบทเป็นพี่ว้ากในซีรี่ส์คู่กับผู้ชาย กลัวจะเสียลุคที่สร้างมา แต่ที่ตัดสินใจเล่น เพราะก่อนหน้านั้นผมตระเวนแคสต์งานมาเยอะ ไม่ผ่านเลยสักชิ้น พอมีโอกาสนี้เข้ามาก็น่าจะคว้าไว้ และคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เข้าใจว่าคือการทำงาน จึงตัดสินใจรับและทำอย่างเต็มที่ครับ

พี่ว้ากตัวจริงกับในซีรี่ส์…ใครโหดกว่ากัน

ชีวิตจริงโหดกว่าครับ เพราะในซีรี่ส์เป็นการแสดง สีหน้า การพูด จะตะโกนเสียงดังมากไม่ได้ เดี๋ยวหน้าไม่หล่อ (หัวเราะ) แต่ชีวิตจริงผมตะโกนจนเสียงแหบเลย ไม่ต้องแคร์ว่าหน้าจะเบี้ยวแค่ไหน (หัวเราะ) และไม่คุยกับใครเลย ต้องคีพลุคตลอดเวลา แต่น้องๆ กลับไม่ค่อยกลัวผมนะ กลายเป็นกรี๊ดแทน เขาบอกว่าผมว้ากยังไงก็ไม่น่ากลัว ดูตะมุตะมิมากกว่า ทั้งที่ผมมองตัวเองโหดมากเลยนะ (หัวเราะ)

คริส-พีรวัส

พอกลายเป็นนักแสดง ความซ่าน้อยลงไหม

น้อยลงเยอะเลยครับ (หัวเราะ) ผมต้องปรับตัวในบางเรื่อง ทั้งการทำงาน การเข้าสังคม การวางตัว เพราะมีคนรู้จักมากขึ้น จะทำตัวห่วงสนุกอย่างเมื่อก่อนไม่ได้ หรือจะออกไปเที่ยวเล่นดึกๆ ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะมีแฟนๆ ที่คอยติดตามเราอยู่ ฉะนั้นจะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบขึ้น

อะไรที่แฟนๆ ทำให้แล้วประทับใจที่สุด

ผมประทับใจหมดทุกอย่างครับ แต่สุดๆ น่าจะเป็นอวยพรวันเกิดผมบนป้ายบิลบอร์ด ผมเข้าใจว่าเขาอยากทำอะไรพิเศษ เพื่อให้ผมจำได้ แต่ผมก็บอกเขาอยู่บ่อยๆ เหมือนกันว่าอย่าทำบ่อย อย่าทำให้ตัวเองเดือดร้อน ซึ่งถามว่าผมใจฟูไหม มาก-ก-ก (ลากเสียงยาว) ครับ

ความสุขอีกอย่างที่ผมชอบมากคือเวลาที่ได้เจอ นัดเจอแฟนๆ ได้คุยทุกเรื่องที่อยากคุย แค่ 1-2 ชั่วโมงก็ดีใจแล้ว ผมชอบช่วงเวลาแบบนั้นมาก เมื่อก่อนจะนัดกันเรื่อยๆ ครับ แต่ตอนนี้ตารางงานค่อนข้างแน่น ก็อาศัยช่วงหลังงานอีเว้นต์ พูดคุยกับแฟนๆ ให้หายคิดถึงสักแป๊บก็ยังดี

คริส-พีรวัส

ในการทำงานเจอเรื่องที่ทำให้ท้อบ้างหรือยัง

ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากเนื้องานหรือความยาก แต่มาจากอารมณ์ความรู้สึกของผมมากกว่าครับ บางทีทะเลาะกับที่บ้าน ส่งผลไปถึงเรื่องงานด้วย ผมรู้ว่าตัวเองยังไม่ได้มืออาชีพขนาดนั้น แม้จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ แต่ถ้าแยกแยะให้ได้มากกว่านี้ งานก็จะดีกว่านี้ แล้วบางทีก็มีงอน น้อยใจเพื่อนด้วย

ยังไง เล่าหน่อย

(หยุดนึก) นิสัยขี้งอนของผมเป็นมาตั้งแต่เด็ก บวกกับผมติดเพื่อนมากๆ ขนาดที่ว่าไม่อยากอยู่คนเดียวเลยนะ อยากอยู่กับเพื่อนตลอด อาจจะขี้เหงาด้วย (หัวเราะ) อย่างเวลาที่เพื่อนๆ นัดกันไปไหนแล้วมีผมคนเดียวที่ไม่ได้ไป ก็จะนอยด์ติดอยู่ในใจ หรือว่าเพื่อนไปไหนกันแล้วไม่ได้บอกผม ก็จะยิ่งนอยด์หนัก เคยงอนเป็นเดือนก็มีนะ แต่ลึกๆ เรารู้ว่ามิตรภาพมันเหนียวแน่นแหละ แต่ยิ่งรักมากก็โกรธมาก รักแรงยิ่งงอนแรง และสุดท้ายผมก็หายงอนเองนะ เพราะเพื่อนผู้ชายแมนๆ มันไม่ง้อกันอยู่แล้ว (หัวเราะ)

ไอดอลของคริส

ผมปลื้มหลายคนเลยครับ ถ้าเรื่องร้องเพลง ผมชอบพลังเสียงของพี่เป๊ก-ผลิตโชค กับพี่อ๊อฟ-ปองศักดิ์ เพราะผมชอบเพลงแนวอาร์แอนด์บี ป็อป แต่ถ้าเป็นฟูลแบนด์ร็อคๆ หน่อย ชอบพี่ปั๊บ วงโปเตโต้ครับ ส่วนนักแสดงชอบพี่แดน-วรเวช เขาทำทั้งงานเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ซึ่งในอนาคตผมก็อยากเป็น แบบนั้นครับ


 

ติดตามอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มที่ นิตยสารแพรว ฉบับ 944

กิ๊ก-สุวัจนี

คำสารภาพของคนอยากผอม กิ๊ก-สุวัจนี เผยคัมภีร์ทวงบัลลังก์คุณแม่เอวเอส

Alternative Textaccount_circle
กิ๊ก-สุวัจนี
กิ๊ก-สุวัจนี

กิ๊ก-สุวัจนี พานิชชีวะ เธอเป็น “มัม” สายแข็งและฮาร์ดคอร์มากกับการลดน้ำหนัก ใครที่เคยเห็นภาพเธอวันเก่า วันนี้ต้องลบภาพเดิมออกนะจะบอกให้ เพราะเธอสู้กับความอ้วนที่สถิตอยู่กับเธอมานานกว่า 10 ปีสำเร็จแล้ว เรียกว่ากลับมาทวงบัลลังก์คุณแม่เอวเอสได้อย่างงดงามไม่มีที่ติ

กิ๊ก-สุวัจนี

ผอมเพื่อใคร

“กิ๊กอยากผอมเพื่อลูก” เป็นคำตอบที่จริงจังมากจากปากกิ๊ก-สุวัจนี

“ไม่เคยคิดว่าลดเพื่อให้แต่งตัวสวย เพราะชีวิตกิ๊กเป็นแม่บ้านทหารบกอยู่แล้ว (ยิ้ม) หรืออยากผอมเพื่อให้สามี (แจ็คกี้-ธรรมจักร พานิชชีวะ) รักหลงก็ไม่ใช่เลย เพราะเขาเฉยๆ อะไรก็ได้ ตอนกิ๊กหนัก 90 กว่ากิโลก็ไม่เคยบ่นว่าอ้วนไปแล้วนะ จนทำให้กิ๊กรู้สึกว่าความอ้วนเป็นเรื่องปกติ

“แต่เพราะกิ๊กมีลูก 3 คน (ธนัชญา 14 ปี, ธิญาดา 12 ปี, ธศธรรม 6 ปี) กิ๊กจึงอยากมีชีวิตยืนยาว ถ้าอยู่ในภาวะอ้วน ขี้เกียจ ขยับตัวยาก เหนื่อยง่าย คุยแล้วหายใจหอบ แบบนั้นคงไม่ไหว เราจะมีชีวิตยืนยาวถึงวันที่ลูกชายคนสุดท้องรับปริญญาหรือเปล่า ถ้าเราตายไป ลูกจะอยู่กับใคร คนที่อ้วนนานๆ จะอยู่ในภาวะที่เรียกว่า ‘จมปลัก’ อาจจะกลับไปผอมได้ แต่ต้องมีแรงบันดาลใจว่าลดน้ำหนักเพื่ออะไร ซึ่งกิ๊กตั้งเป้าว่าทำเพื่อลูก อยากอยู่กับลูกนานๆ

“เคยไปเล่นสกีกับลูก เวลาล้มลุกคลุกคลาน กว่าจะลุกขึ้นมาได้แทบไม่ไหว รู้สึกว่าปล่อยไว้แบบนั้นนานๆ คงแย่แน่ ซึ่งถ้ากิ๊กสุขภาพดีก็จะมีเรี่ยวแรงเล่นกับลูก ไปกับลูกได้ทุกที่”

กิ๊ก-สุวัจนี

ชีวิต “มัม”…วิ่งสู้ฟัด

นับตั้งแต่มีลูกคนแรก น้ำหนักตัวเธอมีแต่พุ่งขึ้นๆ ได้สามีบำรุงดีบวกกับชอบกินของอร่อย เธอสารภาพว่าตอนนั้นกินชนิดไม่ลืมหูลืมตา จนคลอดลูกคนเล็ก ลูกหนักแค่ 3 กิโลกว่า ที่เหลืออีกประมาณ 80 กิโลคือสิ่งที่ค้างอยู่กับเธอ

“ตอนลูกเล็กๆ ไม่เคยออกกำลังกายเลย เลี้ยงลูกอย่างเดียว เพราะกิ๊กไม่มีตรงกลาง จะมุ่งมั่นอยู่กับลูก ไม่ทำอย่างอื่น ไปไหนก็หอบลูกไปด้วย นั่งปั๊มนมอยู่นั่นแหละ ไม่คิดออกกำลังกายหรือทำอะไร ซึ่งเป็นข้อเสียของกิ๊กเหมือนกัน คือเรามุ่งมั่นตั้งใจทำอย่างเดียว แจ็คกี้ก็ไม่บ่นด้วยไง กิ๊กคิดว่าคุณแม่ที่ปล่อยตัวอ้วนสมัยนี้คงเหมือนกิ๊ก ไม่มีเวลาคิดออกกำลังกายหรอก จมอยู่กับลูก ไม่มีใจทำอะไรอย่างอื่น เพราะลูกยังเล็ก แต่คิดไว้ว่าเมื่อลูกโตเข้าโรงเรียนจะเริ่มออกกำลังกาย เพราะเริ่มมีเวลามองตัวเองว่าฉันจะอยู่ในสภาพอ้วนปุ๊กลุกแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าฉันตายไป ลูกฉันจะแย่

“ตอนที่น้ำหนัก 75-80 กิโลเคยเริ่มสตาร์ตออกกำลังกายด้วยการตีเทนนิส เป็นกีฬาที่เราชอบ แต่ด้วยความที่น้ำหนักมาก เข่าเจ็บอีก ต้องหยุดตี ทำไงดี พอลูกว่ายน้ำที่สปอร์ตคลับ เราก็ว่ายน้ำบ้าง แต่ไม่ได้ทำต่อเนื่อง บวกกับเป็นช่วงค้นหาตัวเองด้วยว่าชอบเล่นกีฬาอะไร

กิ๊ก-สุวัจนี

“วันหนึ่งพี่ไก่-สมพล ปิยะพงศ์สิริ โทร.มาชวนให้ไปเต้น เราเป็นแม่มา 14 ปี ไม่รู้ว่ามีกีฬาแบบนี้ จึงพูดกับพี่ไก่ว่า ‘จริงเหรอ มีการออกกำลังกายแบบเต้นด้วยเหรอ’ ความที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียวไง ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่บอกพี่ไก่ไปว่าสนใจ เดี๋ยวไปลอง ทำให้ได้มาเต้นกับครูหนุ่ม-ยอดชาย ยมะคุปต์ เพราะกิ๊กชอบเต้น ชอบสนุกสนานอยู่แล้ว บอกเลยว่ารักพี่ไก่มาก เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ค้นหาตัวเองเจอ ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้ไปเต้นกันเป็นแก๊งที่โน่นที่นี่ แต่ตอนหลังต่างคนต่างมีธุระเรื่องงานก็แยกย้ายกันไป เหลือกิ๊กที่ยังเต้นเอาจริงเอาจัง ยังสนุกกับการเต้น เป็นความเหนื่อยที่แฮ็ปปี้ เต้นแล้วเพลิน ถ้าถามว่าชอบกีฬาอะไร ก็บอกเลยว่าชอบเต้นซุมบ้า

“กิ๊กเต้นกับครูหนุ่มปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว ล้มลุกคลุกคลานกับการลดน้ำหนักมาตลอด เพราะกิ๊กไม่ได้คุมอาหาร จนปีที่แล้วเริ่มรู้สึกว่าครูหนุ่มชักจะรวยจากฉันมากเกินไปแล้วนะ (ยิ้ม) ปีหนึ่งผ่านไปน้ำหนักฉันไม่ลงเลย แล้วฉันมาเต้นอยู่กับเธอทุกวันแบบนี้ เจอหน้าครูมากกว่าสามีอีก (หัวเราะ) บางครั้งน้ำหนักลงไป 5 กิโล พอเทศกาลเลี้ยงฉลองผ่านไป เด้งกลับขึ้นมาอีกและขึ้นเร็วมาก พอกลับมาเต้นใหม่ น้ำหนักไม่ขึ้น แต่ก็ไม่ลง ทำให้กิ๊กเริ่มค้นหา สงสัยว่าฉันเต้นขนาดนี้แล้ว ทำไมน้ำหนักไม่ลง สงสัยฉันต้องกินผิดแน่เลย เพราะเพื่อนเคยบอกเหมือนกันว่ากิ๊กกินผิด แต่กิ๊กไม่เชื่อ”

กิ๊ก-สุวัจนี

ของอร่อยคือภาพลวงตา

“กิ๊กตัดสินใจจ้างนักโภชนาการมาดูแล เขาบอกว่ากินผิดหมด เมื่อก่อนกิ๊กกินเละเทะ ใครชวนกินอะไรก็ไป นึกว่ากินส้มตำจะผอม กลับบวม เพราะน้ำปลาร้าเค็มๆ หวานๆ ทำให้ผิวเรามีเซลลูไลต์ปูดตามขาและท้อง กินข้าวกลางวันเสร็จ ผ่านไป 2 ชั่วโมงมีของว่างเป็นผลไม้ บางทีดื่มน้ำผลไม้ ซึ่งนั่นคือน้ำตาล กว่าจะรู้ว่ากินผิดมาตลอดชีวิตก็ตอนแก่ แต่ยังไม่สายเกินไปที่จะเรียนรู้ การกินที่ถูกต้องคือต้องกินจบเป็นมื้อๆ และเว้นห่างกันอย่างต่ำ 4 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายเบิร์นของเก่าที่กินเข้าไป และมื้อเช้าควรเป็นอาหารมื้อหลักที่ให้พลังงาน

“คราวนี้เปลี่ยนวิธีกินใหม่หมด หักดิบตัวเอง เปลี่ยนมากิน ‘อาหารคลีน’ แรกๆ มันก็แหยะอยู่ แล้วกิ๊กไม่สั่งอาหารคลีนจากร้านด้วยนะ ซื้อวัตถุดิบทำเองเลย คิดเมนูเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จะได้ไม่เบื่อ ผักลวกน้ำบ้าง ผัดกับน้ำบ้าง ให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด คำเตือนจากนักโภชนาการคือ อย่าหลุดใช้ซอส น้ำปลา หรือเครื่องปรุงรส เพราะมีน้ำตาลแอบแฝงอยู่ อย่างรสเค็มที่ไม่ควรกิน เพราะทำให้บวม ถ้าจะเค็มควรเค็มจากเกลือนิดหน่อย

“สัปดาห์แรกที่เริ่มกินคลีนเป็นช่วงทรมานมาก จากที่เคยกินทุก 2 ชั่วโมง มีผลไม้เป็นของว่าง เปลี่ยนเป็นตอนเช้ากินนมอัลมอนด์หรือกล้วยหอมหนึ่งลูก ตอนหลังนักโภชนาการบอกว่าถ้าลดเหลือครึ่งลูกได้จะดีมาก เพราะเป็นแป้งอะกินแค่ครึ่งลูก แล้วไปเต้นซุมบ้า รอให้ครบ 4 ชั่วโมง ถ้าทนถึง 4 ชั่วโมงไม่ไหว กินขนมปังโฮลวีตได้นิดหน่อย แต่กิ๊กคิดว่ามาถึงจุดนี้แล้วต้องอึดเดินหน้า กระทั่ง 4 ชั่วโมงผ่านไป เชื่อไหมว่าหน้ากิ๊กเกิดอาการสั่น กระตุกๆ ทั่วตัวไปหมด ขนหัวลุกซู่ เป็นอาการของคนขาดน้ำตาล แต่ไม่ต้องห่วง ไม่ตาย นั่นคือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและเลือดของเรา

“พอถึงมื้อกลางวัน กิ๊กใช้วิธีแบ่งสัดส่วนสิ่งที่กินในหนึ่งจาน ครึ่งจานเป็นผักสด ถ้ากินสลัดผักจะไม่ราดน้ำสลัด ขี้เกียจดูฉลากว่ามีน้ำตาลเท่าไร งั้นตัดเลยแล้วกัน แค่โรยเกลือนิดหน่อยพอให้มีรส ที่เหลืออีกครึ่งจานแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นโปรตีน คืออกไก่หรือเนื้อปลา อีกส่วนเป็นคาร์โบไฮเดรต เลือกเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ 1 ทัพพีไม่พูน เพราะมีน้ำตาลต่ำสุดในบรรดาข้าวทั้งหมด ตอนเย็นก็กินแบบนี้เหมือนกัน ห้ามอด ถ้าไม่ไหวให้กินผลไม้น้ำตาลต่ำได้นิดหน่อย เช่น ฝรั่ง แอ๊ปเปิ้ล แก้วมังกร ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่กินได้หมด เพื่อให้ร่างกายได้น้ำตาล ทำให้กระปรี้กระเปร่า แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่กิน ถ้าโหยค่อยกิน เวลาจะกินอะไร ถ้าไม่แน่ใจ กิ๊กใช้วิธีถ่ายรูปสิ่งที่จะกินส่งไลน์ไปถามนักโภชนาการ ถ้าเขาไม่ว่าอะไรค่อยกิน

กิ๊ก-สุวัจนี

“ส่วนของหวานตัดเลย แค่มองแล้วเมิน กิ๊กพูดกับตัวเองว่า ‘มันเป็นภาพลวงตาที่หลอกล่อให้เรากิน ลองนึกสภาพตอนเต้นสิว่าเหนื่อยแค่ไหน ถ้ากินเข้าไป ที่เต้นมาหมดเลยนะ’ กิ๊กสื่อสารกับตัวเองตลอด เราต้องไม่ปล่อยให้ชีวิตผ่านเลยไป เพราะถ้าตั้งใจแล้วต้องคิดทุกเม็ด เพื่อไม่ให้ตัวเองพลาดโอกาส ไม่อย่างนั้นจะแพ้จุดเล็กๆ เช่น ซอสบ้างละ ขนมหวานสัก 2-3 คำบ้างละ กินผลไม้นิดหน่อยน่า แต่สำหรับกิ๊กไม่ได้ ต้องตัดเลย ต้องใจแข็งพอสมควร บอกลูกว่าแม่กำลังลดความอ้วน ตอนลูกกินอาหารเย็น แม่ขอไปเดินที่อื่นนะ เพราะยังอดใจไม่ได้ เราไม่อยากอยู่ตรงนั้น เวลาไปกินข้าวนอกบ้าน กิ๊กบอกลูกว่าสั่งของใครของมัน ไม่ต้องเผื่อกัน เพราะกิ๊กพกไข่ต้ม 3-4 ฟอง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และผักสดของตัวเองไปกินด้วย

“พอผ่านสัปดาห์แรก ร่างกายเริ่มปรับตัว กิ๊กสายแข็งและใจหนักแน่น ลูกกินพิซซ่า แต่ฉันกินผัก ลูกสั่งช็อกโกแลตปั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบนะ แต่สั่งน้ำเปล่า บอกตัวเองว่า ‘พวกนี้เป็นอาหารลวงตาฉัน คิดเหรอว่าจะเอาชนะฉันได้ ไม่มีทางหรอก ฉันต้องชนะให้ได้’ (เสียงดราม่ามาก) คุยกับตัวเองแบบจินตนาการว่าอาหารพวกนี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น (หัวเราะ) เวลาเห็นขนมที่ชอบ กิ๊กบอกตัวเองว่า ‘ก็แค่ขนม จะมาเอาชนะฉันเหรอ’ แล้วดื่มน้ำเปล่าอัดๆ ให้อิ่มท้อง จะได้ไม่อยาก แต่ก็เดินเลี่ยงไปด้วยนะ อย่าอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวมันชนะเรา (หัวเราะ)

“ในหนึ่งสัปดาห์คนอื่นๆ เขาต้องมี Cheat Day แต่กิ๊กไม่มี เพราะยังไม่ผ่านช่วงสำคัญ ถ้าเราได้กลิ่นอาหารที่ชอบแล้วอาจติดใจจนลืมภารกิจพิชิตความอ้วน เพราะฉะนั้นต้องตัดเลย อย่าเพิ่งชีตเดย์ กิ๊กใช้วิธีนี้เพราะรู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้ ถ้าเหลาะแหละหรือมีชีตเดย์จะติดลม วันรุ่งขึ้นจะอยากกินรสชาตินี้ พอเริ่มน้ำหนักลงแล้วค่อยกินแบบนั้นได้นิดหน่อย แต่ชีตเดย์ของกิ๊กไม่ได้หมายความว่าทั้งวัน แต่เป็นชีตมีล คือกินอะไรก็ได้ เลือกกินที่ไขมันน้อยหน่อย

“กิ๊กใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งปีในการเปลี่ยนพฤติกรรม ถึงวันนี้หนึ่งปีแล้วยังกินคลีนอยู่ แต่เลือกหลุดกินบางอย่าง และดูลูกกินได้บ้างแล้ว เพราะรู้สึกว่าอดใจไม่ให้อยากได้ จากน้ำหนัก 70 ปัจจุบันเหลือ 53 กิโล ทำกิจวัตรประจำวันเต้นซุมบ้าเหมือนเดิมทุกอย่าง พอน้ำหนักลง เริ่มเล่นเวตเพิ่ม ทั้งที่น่าเบื่อมากแต่กลัวเหี่ยว จึงต้องเล่นเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เฟิร์ม ปรากฏว่ามีคนชม คราวนี้ยิ่งปลื้มใหญ่ ทุกวันจันทร์, พุธ, ศุกร์ กิ๊กจะเต้นเพื่อออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ แล้วเล่นเวตวันอังคาร, พฤหัสฯ ครั้งละ 1 ชั่วโมง ถ้าวันเสาร์ยังไหว กิ๊กจะเต้นอีกหนึ่งวัน ส่วนวันอาทิตย์หยุดพักกล้ามเนื้อ”

กิ๊ก-สุวัจนี

“ผอมเมื่อไหร่ คุณคือผู้รอด”

“กิ๊กต้องการน้ำหนัก 50 กิโล เพราะ 50 อาจเด้งเป็น 53 ถ้ากลับไปกินบางมื้อที่อร่อยๆ แต่ถ้าน้ำหนักอยู่ที่ 53 จะเด้งเป็น 55 กิโล พยายามชั่งน้ำหนักทุกวัน ดูค่าไขมันว่าขึ้นหรือเปล่า น้ำหนักไม่สำคัญ อาจหนักกล้ามเนื้อก็เป็นได้ ซึ่งแผนการรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่คือ เรากินคลีนตลอดชีวิตไม่ได้ แต่กิ๊กจะพยายามกินคลีนให้ได้วันละหนึ่งมื้อ และจะพยายามไม่หลงระเริงไปกับสิ่งล่อตาล่อใจ เพราะการกินคลีนทำให้ผลเลือดดี แล้วทำไมเราจะไม่ทำล่ะ ถ้าไม่รักตัวเองก็ไม่มีวันเริ่มต้นได้

“บอกไม่ได้ว่าในอนาคตน้ำหนักจะเด้งไปถึงไหน แต่คงไม่กลับไปที่เดิม เพราะการย้อนกลับไปตรงนั้นมันทรมาน เราผ่านความทรมานมาแล้ว จะไม่กลับไปทรมานตัวเองอีก จำได้หรือเปล่าที่หน้าสั่น ขนหัวลุก ถ้าไม่เกิดกับตัวเองไม่รู้หรอกว่าเป็นอย่างไร ถ้าเรายั้งคิดสักนิดก่อนหยิบเข้าปากน่าจะดีกว่านะ กิ๊กจะคุยกับตัวเองแบบนี้บ่อยๆ เพราะไม่มีใครรู้ใจเราเท่าตัวเราเอง

กิ๊ก-สุวัจนี

“ที่สำคัญต้องมีเป้าหมายว่าทำเพื่ออะไร เพื่อข้ามความทรมาน ณ จุดเริ่มต้นไปให้ได้ บอกเลยว่า ‘ใจ’ เท่านั้น ไม่ต้องคิดอะไรมาก ใจอย่างเดียว บางทีเราเห็นเครื่องดื่มเย็นๆ ก็อยากดื่ม แต่ที่เต้นมาเมื่อกี้ล่ะ ถ้ากินหนึ่งแก้วแคลอรีเท่ากับที่เต้นเมื่อกี้ ถ้าดื่มแก้วนี้ ฉันก็ไม่ได้กินข้าวเย็นแล้วสิ กิ๊กคำนวณในหัวเสร็จสรรพว่าหนึ่งวันฉันกินได้ไม่เกิน 1,500 แคลอรี อย่างตอนนี้ลูกสาวสองคนของกิ๊ก คนโต 14 ปี คนกลาง 12 ปี เริ่มอ้วนเละเทะเหมือนกันเพราะหักห้ามใจไม่ได้ ก็บอกลูกเสมอว่าแม่เป็นผู้รอดคนเดียว ซึ่งถ้าเขาอยากผอมก็ต้องรู้จักหักห้ามใจ (ยิ้ม)

“ส่วนคุณแม่ที่อยากลดความอ้วน บอกเลยว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ต้องมาจากใจคุณเอง ถ้าคิดจะลดแล้ว ต้องเอาจริงเอาจัง อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆ อย่ากลับไปในจุดที่ต้องเริ่มใหม่เรื่อยๆ เพราะมันเซ็ง บอกตัวเองว่าถ้าเดินหน้าแล้วต้องสำเร็จ อย่าถอยหลัง กิ๊กเป็นคนทำอะไรแล้วทำสุด อาจช้าหน่อย ไม่ต้องเทียบกับใคร บางคนชอบคิดว่าทำไมน้ำหนักลงช้าจังเลย เราต้องไม่สน เพราะร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน ไม่ต้องมองคนอื่น ไม่ต้องเปรียบเทียบ ไม่มีประโยชน์ ไม่มีอะไรช่วยให้เราผอมได้ นอกจาก ‘ใจ’ ตัวเองเท่านั้น”


ที่มา : นิตยสารแพรว ฉบับ 944

Blink ชาวจีนทำโปรเจ็กต์ดีๆ เพื่อสังคม ฉลองวันเกิดลิซ่า BLACKPINK

account_circle

Blink ชาวจีนฉลองวันเกิดลิซ่า BLACKPINK จัดทำโปรเจ็กต์ดีๆ เพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ บริจาคเงินและอาหารให้น้องหมา พร้อมกับโปรเจ็กต์อื่นๆ ในวันคล้ายวันเกิดของยัยหนูลลิซ

วันเกิดของไอดอลระดับโลกอย่าง ลิซ่า BLACKPINK ทั้งที น่าจะเป็นอีกวันหนึ่งที่บริ๊งค์ทุกๆ คนรอคอย โดยเฉพาะแฟนคลับของลิซ่าด้วยแล้ว เราเชื่อว่าทุกคนก็คงจะตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้อวยพรวันเกิดให้กับน้อง พอๆ กับการรอวันคัมแบ็ค ที่ใกล้เข้ามาทุกที

แน่นอนว่าเป็นประจำทุกปีบริ๊งค์จะมีโปรเจ็กต์ทำเพื่อลิซ่าในวันเกิด ไม่ว่าจะเป็นการให้ของขวัญ การขึ้นป้ายอวยพรวันเกิดตามสถานีรถไฟ และ ตามห้าง รวมถึงจอ LCD ขนาดใหญ่กลางใจกลางเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย ที่แฟนคลับทำให้กับศิลปินที่พวกเขารัก

โดยปีนี้แฟนคลับชาวจีน หรือ LISABar แม่ทูนหัวของยัยนูลลิซ ก็มีโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจมากๆ อย่าง million forests project ซึ่งเป็นการบริจาคต้นไม้จำนวน 327 ต้น เพื่อนำไปปลูกในป่า โดยเป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อม และระบบนิเวศสำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกของประเทศจีน

และอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ที่ทำเพื่อสังคมคือ การบริจาคเงินและอาหารสัตว์ให้กับสถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้ง เพื่อช่วยเหลือน้องหมาและน้องแมวในกรุงปักกิ่ง

Blink

ทั้งนี้ยังโปรเจ็กต์อื่นๆ อีกเช่น การขึ้น AD บนหน้าจอขายตั๋วภาพยนตร์กว่า 560 ตู้ในเครือ CGV ของประเทศเกาหลี และขึ้น Vertical Screen ที่ Watch Tower ณ ห้างสรรพสินค้าสุดหรูย่านคังนัมอย่าง Shinsegae Department Store เป็นต้น

@StrugglePhD

ซึ่งในไทยเองแฟนคลับชาวจีนก็จัดให้ด้วยกับโปรเจ็กต์ “Support on Thailand Bangkok MBK commercial center led screen.” โดยการขึ้นจอขนาดใหญ่กลางใจกรุงเทพฯ หน้าห้างมาบุญครอง เพื่อฉลองวันเกิดให้กับลิซ่า หากใครแวะเวียนไปแถวนั้นก็อย่าลืมไปดูกันนะจ๊ะ

วันที่ 27 มีนาคมที่จะถึงก็จะเป็นวันเกิดน้องแล้ว แพรวดอทคอมขออวยพรวันเกิดให้กับน้องลิซ่าด้วยนะคะ ❤


ภาพ : LISABar

แบบเดียวในโลก! In Ear “ลิซ่า และสมาชิกวง BLACKPINK” ดูดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เปิดคลังแสง กล้องถ่ายรูป “LISA BLACKPINK” พร้อมฝีมือการถ่ายรูปที่ไม่ธรรมดา

ของขลังเพิ่มเสน่ห์ ลิซ่า BLACKPINK พกตะกรุดสีผึ้งเมตตามหานิยม

ละมุนมาก! “ลิซ่า BLACKPINK” สวยครบรสทุกลุค จะหวานก็ได้ เปรี้ยวแซ่บก็ไม่ติด

ต้องฟาดสักใบ! กระเป๋า Chanel Backpack ไอเท็มใหม่ล่าสุดของ ‘ลิซ่า BLACKPINK’

 

 

keyboard_arrow_up