ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับ “Stranger Things 3” (สเตรนเจอร์ ธิงส์ 3) ซีรีส์แนวย้อนยุคสุดโด่งดังที่สร้างกระแสมาแล้วทั่วโลกหลังจาก Netflix ปล่อยซีซั่นแรกไปเมื่อปี 2016 เชื่อว่าแฟนๆ ซีรีส์เรื่องนี้คงกำลังนับถอยหลังวันที่จะได้เห็นแก๊งค์เด็กเนิร์ดแห่งเมืองฮอร์กคินส์ออกมาผจญภัย พร้อมปลุกความระทึกกับเรื่องราวที่พวกเขาจะต้องเผชิญในโลก Upside Down อีกครั้ง!
หากใครยังจำกันได้ สเตรนเจอร์ ธิงส์ เล่าถึงเรื่องราวย้อนยุคในปี 1985 ที่เมืองฮอว์กคินส์ (Hawkins) รัฐอินเดียนา (Indiana) เกี่ยวกับการผจญภัยของเหล่าเด็กๆ อิเลเว่น (Eleven) ไมค์ (Mike) วิลล์ (Will) ลูคัส (Lucas) ดัสติน (Dustin) แนนซี่ (Nancy) และโจนาธาน (Jonathan) ที่ต้องไปพบเจอกับเหตุการณ์สุดประหลาดที่พวกเขาไม่อาจลืมได้ เผลอแป็ปเดียวเรื่องราวเดินทางมาถึงซีซั่น 3 เหล่าเด็กๆ นักแสดงในเรื่องก็เริ่มก้าวเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเต็มตัว
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ แพรวดอทคอม ได้มีโอกาสบินลัดฟ้าสู่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อสัมภาษณ์นักแสดงสาวเจ้าเสน่ห์ มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ (Millie Bobby Brown) นักแสดงสาวสวยวัย 15 ปี (เกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2004) ผู้รับบท อิเลเว่น จากซีรีส์ Stranger Things ทั้ง 3 ซีซั่น ทันทีที่เธอก้าวเข้ามาในห้องสัมภาษณ์ บอกตรงนี้เลยว่าลืมไม่ลง!!! เธอเป็นหนึ่งในนักแสดงที่น่าประทับใจมาก เป็นคนที่มีความสดใสในตัวเยอะมาก ที่สำคัญมีเอนเนอจี้สูงมาก พร้อมตอบทุกคำถามโดยไม่เคอะเขิน ชัด และตรงประเด็น รับส่งมุขได้รวดเร็วเชียวล่ะ ทำให้บรรยากาศตอนสัมภาษณ์มีแต่ความสนุกและแฮปปี้เว่อร์ แม้เราจะรู้ว่าทันทีที่เธอถึงโตเกียว เธอแทบไม่ได้พักเลย เพราะเดินสายโปรโมทซีรี่ส์เรื่องนี้ตลอด จนได้พูดคุยกัน แต่พลังเธอกลับไม่หมด
เอาล่ะ..ก่อนจะพาไปพูดคุยเกี่ยวกับ Stranger Things ซีซัน 3 แอดจะพาไปรู้จักเธอคร่าวๆ สำหรับบางคนที่อาจจะไม่คุ้นเธอ โดยผลงานที่ทำให้เธอเริ่มมีชื่อเสียงเลยก็ตอนที่ได้รับบท อิเลเว่น ในซีรีส์ Stranger Things ปี 2016 ตอนอายุได้ 11 ปี และบทบาทนี้เองที่ทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย และเป็นโอกาสสู่งานในวงการบันเทิงมากมาย ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นทูตยูนิเซฟ และได้เป็นหนึ่งในวัยรุ่นผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2017-2018 คัดเลือกโดยนิตยสาร Time อีกด้วย
นอกจากนี้ มิลลี่ ยังเกิดมาพร้อมหูข้างหนึ่งที่สูญเสียการได้ยินบางส่วน และสูญเสียการได้ยินของหูข้างนั้นโดยสมบูรณ์ไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเข้มแข็ง ใช้ชีวิตปกติ เป็นนักแสดงที่เก่ง และมีพลังชีวิตที่สดใสร่าเริงอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
และนี่คือบทสัมภาษณ์ที่ แพรวดอทคอม ได้พูดคุยกับ Millie Bobby Brown ผู้รับบทอีเลเว่น (Eleven) จาก Stranger Things ทั้ง 3 ซีซั่น
ดูเหมือนว่าซีซั่นนี้สไตล์ของอิเลเว่นมีเปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม
มิลลี่: ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น และได้โชว์เรียวขาด้วยนะ ซีซั่นนี้ฉันมีส่วนร่วมในสไตล์ของเธอ (บท อิเลเว่น) ด้วย ซึ่งฉันก็ได้คุยกับทั้งสองผู้กำกับโดยเฉพาะเรื่องทรงผมของอิเลเว่นในซีซันนี้ ซึ่งฉันต้องบอกเลยว่านี่จะเป็นเรื่องที่ยังไม่เคยบอกใครมาก่อน มีวันหนึ่งตอนที่อยู่ในกองถ่ายซีซั่น 3 เรากำลังดูกันว่าทรงผมฉันควรจะเป็นอย่างไร สั้นยาวขนาดไหน แฮร์สไตลิสต์ของซีรีส์ก็ดูว่าเราควรจะตัดผมสั้นขนาดไหน ซึ่งตอนนั้นผมฉันมีสีน้ำตาลธรรมชาติ ก็เลยคุยกันว่าจะย้อมผมให้ดูสีบลอนด์ขึ้นหน่อย แต่อย่าไปบอกสองพี่น้องดัฟเฟอร์นะ แน่นอนว่าเราไม่มีทางบอกเขาแน่ๆ เราจะเก็บมันเป็นความลับ หลังจากนั้นเราก็ย้อมผม แล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยเป็นเวลา 4 เดือน จนวันหนึ่งฉันเจอพี่น้องดัฟเฟอร์ ตอนนั้นสีผมของฉันกลับไปเป็นสีธรรมชาติแล้ว พวกเขาก็ถามเสียงดังขึ้นมาเลยว่าฉันทำอะไรกับผม? ฉันก็เลยเล่าให้พวกเขาฟัง ทั้งๆ ที่ทำสีใหม่ไปตั้ง 4 เดือนแล้ว แต่พวกคุณกลับไม่มีใครรู้เลย
รู้มาว่าซีซั่นนี้มีนักแสดงผู้หญิงหลายคนด้วย
มิลลี่: พวกเธอเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งมาก ทั้งมายา ฮอว์ค (Maya Hawke) นักแสดงที่เข้ามาเสริมในซีซั่นนี้ เธอเจ๋งมากและฉันรักเธอค่ะ นาตาเลีย ไดย์เออร์ (Natalia Dyer) ผู้หญิงอีกคนที่อยู่กับพวกเรามาตั้งแต่วันแรก เธอมหัศจรรย์มาก ปริอาห์ เฟอร์กูสัน (Priah Ferguson) สาวน้อยแสนซนที่ฉันรัก และสามารถทำทุกอย่างได้เพื่อเธอ เธอน่ารักและเกรี้ยวกราด แต่นั่นเป็นเรื่องดีเพราะเธอก็เป็นคนที่ตลกมาก อีกคนคือ ซาดี้ (Sadie Sink) ผู้เก่งกาจ เธอมีพลังอันเหลือล้นมากค่ะ เพียงแค่ดวงตาของเธอ วิธีที่เธอพูดจา มันเจ๋งจริงๆ และคนสุดท้าย วิโนน่า ไรด์เดอร์ (Winona Ryder) ผู้เป็นเสมือนแม่ของพวกเราทุกคน เธอเป็นแม่ของสาวๆ ทุกคนในเรื่องนี้ เธอคือไอคอน ซึ่งเธอเป็นไอคอนมาตั้งแต่ตั้น และจะเป็นแบบนั้นตลอดไปค่ะ และฉันรู้สึกว่าสาวๆ ทุกคนในซีรีส์นี้กำลังพยายามเดินตามรอยของวิโนน่าอยู่ซึ่งพวกเราคงไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้เพราะว่าเธอคือไอคอนตัวจริง และพวกเราทุกคนรักเธอค่ะ
ช่วยเล่าความรู้สึกที่มีต่อซีซั่น 2 และเปรียบเทียบกับความรู้สึกตอนที่ซีซั่น 1 ออกอากาศ
มิลลี่: เรามีความคาดหวังต่อซีซั่นสองสูงขึ้นมากค่ะ ฉันคิดว่าเป็นเพราะพวกเราค่อนข้างตกใจที่ซีซั่นหนึ่งได้รับการตอบรับดีมาก ซึ่งทำให้เราทุกคนสับสนมากจริงๆ ค่ะ พวกเราใช้เวลา 8 เดือนในการถ่ายทำซีซั่นแรกในจอร์เจีย โดยที่ฉันต้องโกนผม และเราไม่รู้จริงๆ ว่าเมื่อผู้ชมได้ดูแล้วพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร แต่เมื่อซีรีส์เริ่มออกอากาศ พวกเราก็รู้สึกว่า “อื้ม.. มันก็ไม่แย่นะ” และเมื่อซีซั่นสองออกอากาศก็ได้รับการตอบรับดีมาก เพราะว่ามีตัวละครใหม่ด้วย โดยเฉพาะ ซาดี้ (Sadie) ที่ช่วยเพิ่มมิติใหม่ๆ ให้กับซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ
ส่วนตัวชอบความสัมพันธ์ระหว่างแม็กซ์กับอีเลเว่นมาก ช่วยเล่าให้ฟังสักหน่อยได้ไหมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขาในซีซั่นนี้ว่าจะเป็นอย่างไร
มิลลี่: แม็กซ์กับเอลนั้นเจ๋งมากๆ ค่ะ ทั้งสองคนต่างสอนสิ่งใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตนเองให้แก่กัน ฉันสอนแม็กซ์เรื่องของความแข็งแกร่ง การใช้สิทธิ ใช้เสียง ซึ่งฉันว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะบอกความรู้สึกของตนเอง อีเลเว่นเป็นคนที่อ่อนไหวมาก เธอผ่านอะไรมามากมาย โดยแม็กซ์เองก็แสดงให้เอลเห็นว่าเธอไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายในชีวิตของเธอ และเธอก็ยังสามารถเจ๋งในแบบของเธอได้ ความสัมพันธ์ในซีซั่นนี้สุดยอดมากจริงๆ เพราะอีเลเว่นเองก็ไม่มีเพื่อนผู้หญิงที่เธอจะสามารถพูดคุยด้วยได้ในยามที่เธอเศร้าหรือเหงาเลย ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างแม็กซ์และเอลจึงพัฒนาขึ้นในซีซั่นนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีมากจริงๆ ค่ะ
เกิดขึ้นอะไรขึ้นกับอิเลเว่นในซีซั่นนี้เล่าให้ฟังหน่อย ว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นบ้าง
มิลลี่: เธอมีพ่อ และพวกเขาก็รักกัน มีการร่วมมือที่ดีเกิดขึ้นระหว่างผู้คน อีเลเว่นพยายามที่จะทำตัวเป็นวัยรุ่นปกติ แต่ก็มีบางอย่างไล่ตามเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายและน่ากลัวมาก ทำให้เธอไม่สามารถที่จะทำตัวเป็นวัยรุ่นปกติได้เพราะว่าสิ่งนั้นไม่ยอมปล่อยเธอ เธอจึงต้องคอยระวังตัวอยู่เสมอ และเตรียมพลังวิเศษของเธอให้พร้อมด้วย ทำให้ซีซั่นนี้เข้มข้นมากค่ะ
คิดอย่างไรเมื่อได้อ่านบทครั้งแรก เช่น ตอนที่คุณและไมค์จูบกัน เนื้อเรื่องของซีซั่นนี้แตกต่างจากซีซั่นที่แล้วมาก
มิลลี่: ฉันถามพี่น้องดัฟเฟอร์ว่า “อิเลเว่นควรจะจูบอย่างไร และเธอจูบเป็นไหม มันน่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับอิเลเว่นไหม” มันเหมือนเป็นการจูบกับเอเลี่ยน เพราะไมค์ต้องจูบฉัน ซึ่งฉันจะรู้จักวิธีการจูบได้อย่างไรกันล่ะ มันเป็นไดนามิคที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะการจูบของเราไม่เหมือนการจูบของวัยรุ่นทั่วไป มันยากมากโดยเฉพาะในตอนที่เราซ้อมก่อนเข้าฉาก ซึ่งก็กระอักกระอ่วนมากเช่นกัน แต่แล้วเราก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดีเพราะฉันและฟินสนิทกันมาก และเราสามารถจูบกันได้โดยไม่มีคำถามใดๆ การพยายามที่จะทำตัวเป็นวัยรุ่นธรรมดาทั่วไปในตอนต้นของซีซั่นนี้เป็นอะไรที่สนุกมากๆ โดยเฉพาะสำหรับฉันที่สามารถเป็นเด็กที่หัวเราะและเล่นตลกได้ แต่แล้วเรื่องราวก็เริ่มเกิดขึ้นพร้อมกับความมืดมิดที่เริ่มเข้ามาปกคลุม
คิดว่าไมค์เป็นแฟนแบบไหน
มิลลี่: ไมค์เป็นแฟนที่ดีมากค่ะ ถ้าไมค์มีตัวตนในโลกนี้จริง ฉันคงจะเดตกับเขา เพราะไมค์เป็นตัวละครที่ซื่อสัตย์ และจริงใจกับความรู้สึกของตนเอง ซึ่งฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่วิเศษมากค่ะ และฉันรู้สึกว่าอิเลเว่นก็เป็นแฟนที่ดีมากเช่นกัน เพราะเธอใส่ใจไมค์ เธอเป็นผู้ปกป้องความสัมพันธ์นี้ รวมถึงปกป้องไมค์ด้วยพลังพิเศษของเธอ ทั้งนี้ เป็นเพราะเธอถูกสอนให้ปกป้องตนเองมาตลอด ทำให้เธอต้องการที่จะปกป้องผู้อื่นบ้าง ฉันคิดว่าสาเหตุที่ไมค์ไม่ได้ปกป้องเธอ เพราะนั่นไม่ใช่หน้าที่ของเขา หน้าที่ของเขาคือเป็นคนรักของเธอค่ะ
ชอบฉากไหนมากที่สุดในซีซั่นนี้
มิลลี่: ฉันชอบทุกฉากที่ฉันอยู่ในห้างสรรพสินค้าและสนุกกับซาดี้ค่ะ (Sadie Sink) เพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ฉันสามารถเป็นตัวของตัวเองและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ซาดี้คือเพื่อนสนิทของฉันในชีวิตจริง ทำให้ไม่ต้องมีใครบอกเราว่าควรทำอะไร พวกเรารู้สึกเหมือนเป็น 2 สาววัยรุ่นที่กำลังเล่นภาพยนตร์เรื่อง Girls Just Wanna Have Fun และใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุข
คิดว่าการที่มีห้างสรรพสินค้าในเมืองฮอร์คกิ้นส์ ส่งผลอย่างไรต่อเด็กๆ และคนทั่วไปในเมือง
มิลลี่: ห้างสรรพสินค้าหมายถึงยุคใหม่ค่ะ ในฤดูร้อนปี 1985 ห้างสรรพสินค้าคือสิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในเมืองฮอร์คกิ้นส์ ทำให้เมืองมีสีสันมากขึ้น ซึ่งมันสนุกและเจ๋งมากจริงๆ แต่ฉันไม่เคยรู้ว่ามีผู้คนมากมายอาศัยอยู่ในเมืองฮอร์คกิ้นส์ ซึ่งในวันนั้นมีตัวละครเสริมเป็นพันคน และฉันได้แต่คิดว่า “ว๊าว ผู้คนพวกนี้มาจากที่ไหนกัน” แต่อย่างที่เห็นค่ะ ทุกคนตั้งใจมาห้างสรรพสินค้านี้ เพราะมันเป็นที่ๆ ควรจะมา
ความแตกต่างระหว่างซีซั่น 2 และซีซั่น 3 และทำไมแฟนๆ ถึงจะต้องตื่นเต้นกับซีซั่นนี้
มิลลี่: เพราะซีซั่นนี้จะมีสีสันและชีวิตชีวามากขึ้น และจะทำให้คนดูมีความสุขมากขึ้นเช่นกัน โดยในซีซั่น 1 เหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่ 1 เมื่อวิลหายตัวไป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความโศกเศร้า ส่วนจุดเริ่มต้นของความประหลาดในซีซั่น 2 เกิดขึ้นในตอนที่ 2 นั้นทำให้ฉันต้องการที่จะแหกกฎที่ถูกตั้งขึ้นทันที แต่สำหรับซีซั่นนี้ ความสุขจะยังคงอยู่และหลายอย่างจะยังคงเป็นปกติซึ่งมันเจ๋งและแตกต่างจากซีซั่นก่อนๆมากค่ะ และฉันคิดว่านี่ละคือสิ่งที่แฟนๆ ต้องการ
ทำไมซีซั่น 3 ถึงน่าติดตาม และผู้ชมจะได้เห็นอะไรจากซีซั่นนี้ ภายในเวลา 30 วินาที
มิลลี่: Stranger Things 3 จะแตกต่างจากซีซั่นก่อนๆ รวมถึงหนัง/ซีรีส์เรื่องอื่นๆ เพราะว่านอกจากจะมีตัวละครใหม่แล้ว ยังมีร้านค้าใหม่ในเมือง มีห้างสรรพสินค้า เราจะได้เห็นอีเลเว่นในมิติใหม่ เสื้อผ้าใหม่ เพลง รวมถึงวัฒนธรรมใหม่ด้วยค่ะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอีกแง่มุมของ Stranger things ที่พวกเราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนค่ะ
อยากบอกอะไรกับแฟนๆ ของ Stranger Things 3 บ้างคะ
มิลลี่: ถึงแฟนๆ ของ Stranger Things ทุกคน พวกเรารักคุณ เราเห็นทุกคำติชม คำแนะนำ และงานศิลป์ที่พวกคุณทำให้กับเราทุกวันค่ะ จริงๆ ฉันจำได้ว่าพวกเราเคยกำลังถ่ายทำฉากหนึ่งอยู่ และตอนนั้นฉันมีความรู้สึกว่า “แฟนๆ บางคนคงไม่ชอบฉากนี้” เราจึงไม่ได้ถ่ายทำฉากนั้นต่อ ดังนั้น เราจึงอยากบอกคุณว่าเรารักพวกคุณ และนึกถึงคุณทุกครั้งที่เราเข้าฉาก
รู้สึกอย่างไรที่ได้ทำงานกับพี่น้องตระกูลดัฟเฟอร์ (Duffer brothers) และชอว์น เลวี่ (Shawn Levy)
มิลลี่: ฉันรักพวกเขามาก พี่น้องดัฟเฟอร์เก่งที่สุด พวกเขาเป็นเหมือนกับพี่ชายที่ฉันทั้งเกลียดและรักในเวลาเดียวกัน ซึ่งมันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีมากจริงๆ
ตัวอย่างซีรีส์ใหม่ของ Stranger Things 3 เรียกน้ำย่อยให้แฟนๆ ได้ชมกันก่อนออกอากาศในวันที่ 4 กรกฎาคมบน Netflix
เรื่อง : PP_แพรวดอทคอม
ภาพ : Netflix
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
หุ่นเป๊ะราวซูเปอร์โมเดล “ลิซ่า” ผอมเพรียวจนสื่อเกาหลียกฉายา”เอวมด”อันดับหนึ่ง
ร้อนนักตัดเลย “ไคอา เกอร์เบอร์” หั่นผมสั้นระดับคางอัพลุคใหม่สุดเฟียซ
เปิดวาร์ป JORJA SMITH ทูตความงามใหม่ดิออร์ เมคอัพ สวยคมผิวแทนดูอินเตอร์
กินไปก่อนเดี๋ยวผอมเอง! แชร์เคล็ดลับหุ่นเป๊ะของ 4 สาว BLACKPINK
คิ้วเข้มนัยน์ตาคม! เปิดบิวตี้ทิปส์ “นาโอมิ สก็อตต์” ผู้รับบท เจ้าหญิงจัสมิน
หุ่นเป๊ะเหมือนตอนเข้าวงการใหม่ๆ “ตั๊ก บงกช” ฟิตหุ่นจนเซี๊ยะ กล้ามหน้าท้องแน่น
ริฮานน่า ต้อนรับ อแมนด์ล่า สเตนเบิร์ก สู่ครอบครัวเฟนตี้บิวตี้ในฐานะ Fenty Face
เผ็ชชช! ซูมความสวยเซ็กซี่ “Alexina Graham” นางฟ้าคนใหม่ของ Victoria’s Secret
เปิดวาร์ป “ซันนี่ เกวลิน” สาวหล่อหน้าใสกิ๊งที่ติดอันดับสวยที่สุดในเอเชียแปซิฟิก
สวยไม่หยุด! แง้มเคล็ดลับเมคอัพแสนละมุน และทริคเซฟหุ่นของ “พัคมินยอง”