ชุดไทยสีทอง

ทริคต้องรู้! ชุดไทยสีทอง ตัวเลือกที่ใช่สำหรับเจ้าสาวทุกสีผิว

Alternative Textaccount_circle
ชุดไทยสีทอง
ชุดไทยสีทอง

ชุดไทยสีทอง หรือสีน้ำตาลประกายทอง ถือเป็นเพอร์เฟ็กต์แมตช์สำหรับเจ้าสาว ด้วยเป็นสีที่แสดงถึงความสง่างาม เปล่งประกายระยิบระยับส่งให้เจ้าสาวดูโดดเด่น แถมยังเป็นสีมงคลที่เหมาะกับวันสำคัญ นอกจากนั้นสีทองยังมีความเข้ากันได้ดีกับลักษณะของผ้าไทยที่มักมีประกายแวววาว รวมถึงการเข้าคู่กันอย่างสวยงามกับเครื่องประดับชุดไทยต่างๆ

ทริคต้องรู้! ชุดไทยสีทอง ตัวเลือกที่ใช่สำหรับเจ้าสาวทุกสีผิว

ที่สำคัญคือ ชุดไทยสีทอง ถือเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับเจ้าสาวทุกสีผิว สำหรับเจ้าสาวผิวขาวเหลืองไปจนถึงผิวเข้ม เฉดสีทองจะช่วยขับให้ผิวยิงดูเปล่งประกายโดยไม่จำเป็นต้องมีผิวขาวจั๊วะ แม้แต่เจ้าสาวผิวเข้มก็เปล่งออร่าได้ด้วยชุดไทยและเมคอัพโทนสีทอง

Color Matching Ideas

ด้วยความที่สีทองที่ใช้ในเมคอัพมักไม่ได้อยู่ในบริเวณที่เป็นสีหลักอย่างสีปาก แต่จะกระจายไปในดีเทลต่างๆ บนดวงตาหรือโหนกแก้ม จึงเป็นสีที่อยู่กับชุดไทยได้แทบทุกสี ยกเว้นกลุ่มสีเงิน หรือมีลายปักตกแต่งเป็นสีเงินชัดเจนจนอาจทำให้ดูขัด แต่ถ้าเป็นชุดผ้าไทยที่ใช้ลูกเล่นสีทองเข้ามาในลายผ้าถือว่าเข้าได้ทั้งหมด ที่เหมาะมากเป็นพิเศษคือกลุ่มชุดสีทอง ครีม แดง น้ำตาล ส้ม พีช ชมพู เมื่อจับคู่กับเมคอัพโทนทองเจ้าสาวจะยิ่งดูสวยผุดผ่องลงตัว

Tips

การใช้สีทองแต่งหน้าเจ้าสาวชุดไทยอาจไม่ถึงกับใช้เป็นสีหลัก แต่เป็นลูกเล่นที่แต่งนิดแต้มหน่อยแล้วจะช่วยอัพเกรดให้เมคอัพดูสวยแพงขึ้นได้มาก การใช้อายแชโดว์สีทองแต้มบริเวณกลางเปลือกตา หัวตา หรือแม้แต่การใช้เส้นไลเนอร์สีทองเพียงบางๆ ก็ช่วยให้เมคอัพดูน่าสนใจ แม้การใช้ลิปกลอสประกายสีทองทาทับลงบนพื้นที่เป็นสีนู้ด ส้ม พืช หรือน้ำตาลก็ช่วยเพิ่มความละมุนละไม่ได้โดยไม่ดูโฉ่งฉ่าง ที่ขาดไม่ได้คือไฮไลเตอร์สีทองที่สามารถใช้ปัดบางเบาทั่วทั้งหน้า หรือเน้นปัดเป็นไฮไลต์บริเวณจุดรับแสงอย่างโหนกแก้ม ปลายจมูก รอยหยักเหนือริมฝีปาก ดีเทลจากสีทองเหล่านี้จะช่วยทำให้ลุคดูอบอุ่นกลมกลืนกับชุดไทยได้ดีขึ้น


“ZEROBASEONE” ประกาศทัวร์แรกในประเทศไทย ก้าวแรกสู่ระดับโลก 5 ต.ค.นี้ ZEROSE ชาวไทยห้ามพลาด!

account_circle

ZEROBASEONE” (ซีโรเบสวัน)ศิลปินบอยแบนด์ภายใต้สังกัด WAKEONE ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของวงหลังจากเดบิวต์ภายใต้ชื่อ ‘TIMELESS WORLD’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่จะชวนแฟน ๆ เข้าสู่ดินแดนพิเศษ ที่จะดึงดูดสายตาของผู้ชม และเชื่อม “ZEROBASEONE” และ ZEROSE” (เจโรส:ชื่อกลุ่มแฟนคลับ) เข้าด้วยกัน ด้วยความเท่อย่างสง่างาม โดยจะเริ่มเปิดทัวร์ที่แรก ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ในเดือนกันยายนนี้ในสเกลระดับอารีน่า และจากนั้นจะทัวร์ต่อเนื่องในอีก 8 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยงานในประเทศไทยจะถูกจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของ “ไอคอนแห่งเจน 5” ได้อย่างชัดเจน

 “BEX” บริษัทอีเว้นท์ออกาไนเซอร์ในเครือเวิร์คพอยท์กรุ๊ป ร่วมกับ “YJ PARTNERS” และ “PROUD2” ผู้จัดทีมคุณภาพ ก็ไม่รอช้าคว้าตัวทั้ง 9 หนุ่ม “SUNG HAN BIN” (ซองฮันบิน) / “KIM JI WOONG” (คิมจีอุง) / “ZHANG HAO” (จางฮ่าว) / “SEOK MATTHEW” (ซอกแมทธิว) / “KIM TAE RAE” (คิมแทแร) / “RICKY” (ริคกี้) / “KIM GYU VIN” (คิมกยูบิน) / “PARK GUN WOOK” (พัคกอนอุค) และ “HAN YU JIN” (ฮันยูจิน) บินลัดฟ้ามาจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นของขวัญให้กับ ZEROSE ชาวไทย กับงาน 2024 ZEROBASEONE THE FIRST TOUR [TIMELESS WORLD] IN BANGKOK”

งานนี้แฟน ๆ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะหนุ่ม ๆ เตรียมพร้อมโชว์สุดพิเศษพร้อม SETLIST คุณภาพที่ผ่านการจัดเรียงมาเป็นอย่างดี เสริมทัพด้วย Production สุดปังที่กล้ารับประกันด้วยเครดิตของทีมผู้จัด เพราะได้สร้างความประทับใจให้กับแฟน ๆ มาแล้วในหลายคอนเสิร์ต โดยงานสุดพิเศษนี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567 เวลา 18:00 น. ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5-6 บัตรราคา 6,500 (บัตรยืน) / 5,900 / 5,500 (บัตรยืน) / 4,900 / 3,900 และ 2,900 บาท

เปิดขายบัตร 2 รอบ “รอบ Membership Pre-Sale” จะเปิดขายในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 10:00 – 22:00 น. ทาง www.thaiticketmajor.com โดยต้องสมัครเมมเบอร์ชิป ชำระค่าสมาชิกเสร็จสมบูรณ์ และลงทะเบียนยืนยันสิทธิ์ ภายในวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 เวลา 12:00 น. ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2567 เวลา 23:59 น. และ “รอบบุคคลทั่วไป จะเปิดขายในวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2567 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไปทาง www.thaiticketmajor.com

และถึงแม้ว่า “ZEROBASEONE” จะมีกิจกรรมมากมายทั้งในประเทศและทั่วโลก แต่ก็ยัง กำลังพยายามอย่างหนักในการทำเพลงและฝึกซ้อมเพื่อตอบแทนความรักของแฟน ๆ ผ่านทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนี้ แฟน ๆ ก็ต้องเตรียมตัวกดบัตรกันให้ดี แล้วมาร่วมสร้างความทรงจำ ครั้งแรก ในประเทศไทยกับ “ZEROBASEONE” ไปด้วยกัน! ติดตามข่าวสารกิจกรรมและข้อมูลต่าง ๆ ของงานเพิ่มเติมได้ที่ Official Facebook: BEXConcert  / X: @BEX_Concert 

Beyond The Vines เตรียมบุกไทยเปิดสาขาแรก พร้อมออกคอลฯ พิเศษ Metallic Poofy Bag สีเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับไทยเท่านั้น

Beyond The Vines เตรียมบุกไทยเปิดสาขาแรก พร้อมออกคอลฯ พิเศษ Metallic Poofy Bag สีเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับไทยเท่านั้น

Alternative Textaccount_circle
Beyond The Vines เตรียมบุกไทยเปิดสาขาแรก พร้อมออกคอลฯ พิเศษ Metallic Poofy Bag สีเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับไทยเท่านั้น
Beyond The Vines เตรียมบุกไทยเปิดสาขาแรก พร้อมออกคอลฯ พิเศษ Metallic Poofy Bag สีเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับไทยเท่านั้น

ไม่ต้องฝากเพื่อนหิ้วหรือพรีออเดอร์แล้ว ต่อไปนี้ไปเลือกเอง ลองเองที่ร้านเก๋ๆ ไปเลย เพราะ Beyond The Vines (บียอนด์ เดอะ ไวนส์) แบรนด์จากประเทศสิงคโปร์ที่มีชื่อเสียงทางด้านการออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์และเสื้อผ้า กำลังจะเปิดตัวสาขาแรกในกรุงเทพฯ ประเทศไทย พร้อมออกคอลเล็คชันพิเศษ Thailand-exclusive “Metallic Poofy Bag” ความเริ่ดคือเป็นสีพิเศษเฉพาะที่ไทยเท่านั้น!!

โดยกระเป๋ารุ่น Poofy Bag เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2023 และได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนขายหมดภายใน 2 วันหลังจากการเปิดตัว และได้กลายเป็นสินค้าที่ขายหมดเร็วที่สุดของแบรนด์ จึงมีการต่อยอดสู่คอลเลกชัน Metallic Poofy Bag ในสี Silver (เงิน) ซึ่งได้เน้นย้ำการเป็นไอเทมที่ต้องมีติดตู้ของเหล่าแฟชั่น และ Metallic Poofy Bag ในรอบนี้กลับมาพร้อมกับสีสันใหม่สุดพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย

Metallic Poofy Bag ผลงานการผลิตจากไนลอนเมทัลลิกที่ป้องกันน้ำ และได้รับการออกแบบให้สามารถใช้งานได้ในทุกโอกาส สายสะพายที่สามารถปรับได้ ช่วยให้สามารถเปลี่ยนจากกระเป๋าสะพายไหล่เป็นกระเป๋าสะพายข้างได้อย่างง่ายดาย ทำให้เหมาะกับสไตล์และโอกาสต่างๆ โดยมีให้เลือกในสี Metallic Purple (ม่วง), Metallic Navy (กรมท่า), Metallic Turquoise (ฟ้าน้ำทะเล) และ Metallic Green (เขียว) ในราคา 2,590 บาท ซึ่งจะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ผ่านเว็บไซต์ของ Beyond The Vines ประเทศไทย

Beyond The Vines เปิดตัวเว็บไซต์ www.beyondthevines.co.th สำหรับลูกค้าชาวไทย โดยสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก พร้อมบริการจัดส่งอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาเพียง 3-5 วัน ผ่านการบอกเล่า ตัวตนแบรนด์ในรูปแบบใหม่ แต่ยังคงความสนุกสนานจากสีที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Beyond The Vines อีกทั้งยังเพิ่มเติมพาเลทสีที่สดใสเพื่อสะท้อนความมีชีวิตชีวาของแบรนด์ โดยภายในเว็บไซต์ใหม่มีการเพิ่มฟังก์ชั่นการเปรียบเทียบสินค้า รวมถึงรายละเอียดไซส์และขนาดของสินค้า เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Beyond The Vines ยังมีแผนที่จะเปิดตัวร้านสาขาใหม่แห่งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้า Central World กรุงเทพฯ ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยจะเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของแบรนด์ บนพื้นที่กว่า 320 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย และสินค้าหลากหลาย เพื่อเตรียมพร้อมให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไม่เหมือนใคร

Photo: Courtesy of Brands


วัณโรค คืออะไร และติดต่อกันอย่างไร

รู้เร็ว รักษาได้ก่อนทรุด ‘วัณโรค’ แพร่เชื้อติดต่อง่าย หมั่นคอยสังเกตอาการ

Alternative Textaccount_circle
วัณโรค คืออะไร และติดต่อกันอย่างไร
วัณโรค คืออะไร และติดต่อกันอย่างไร

องค์การอนามัยโลก จัดประเทศไทยเป็น 1 ใน 14 ประเทศ กลุ่มประเทศที่มีภาระวัณโรคสูง จากการรวบรวมสถิติของกองวัณโรค กรมควบคุมโรค พ.ศ. 2566 พบว่ามีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่และกลับเป็นซ้ำทั้งคนไทยและไม่ใช่คนไทย ขึ้นทะเบียนรักษา จำนวน 78,955 รายซึ่งบทความให้ความรู้โดย ได้อธิบายการติดต่อหรือการแพร่กระจายของวัณโรค รวมถึงอาการของโรค สำหรับนำไปสังเกตตนเองและคนรอบข้าง หากมีอาการดังกล่าวจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างทันท่วงที

วัณโรค คืออะไร และติดต่อกันอย่างไร
วัณโรค (TB) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Mycobacterium tuberculosis เกิดได้ในทุกอวัยวะของร่างกาย โดยร้อยละ 80 ติดเชื้อที่ปอด ซึ่งสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย ส่วนวัณโรคนอกปอด อาจพบได้ในอวัยวะอื่น ๆ เช่น เยื่อหุ้มปอด ต่อมน้ำเหลือง กระดูกสันหลัง ข้อต่อ ช่องท้อง ระบบประสาท เป็นต้น 

เมื่อผู้ป่วยวัณโรคปอด หลอดลม หรือกล่องเสียง ไอ จาม ทำให้เกิดละอองฝอยฟุ้งกระจาย  ผู้ใกล้ชิด สูดหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อวัณโรคเข้าไปสู่ถุงลมในปอด ทำให้เกิดการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกาย เชื้อวัณโรคอาจมีชีวิตอยู่ได้ถึง 1 สัปดาห์ในห้องที่ทึบอับแสง หากเสมหะที่มีเชื้อตกลงสู่พื้นที่ที่ไม่มีแสงแดดส่อง เชื้ออาจอยู่ได้ในเสมหะแห้งได้นานถึง 6 เดือน  

วัณโรค ไม่ติดต่อ โดยการจับมือ ทานอาหารหรือน้ำร่วมกัน การใช้ห้องน้ำร่วมกัน การใช้แปรงสีฟันร่วมกันหรือการจูบ คนที่สูดหายใจนำละอองฝอยที่มีเชื้อเข้าสู่ทางเดินหายใจ จะทำให้เกิดการติดเชื้อเพียงร้อยละ 30 ของผู้ได้รับเชื้อ และเพียงร้อยละ 10 ของผู้ที่มีการติดเชื้อในร่างกายที่จะเป็นโรคตั้งแต่ช่วงแรกของการติดเชื้อ ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 จะเป็นวัณโรคแฝง คือ ไม่มีอาการและไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้  โดยทั่วไปแล้วถ้าไม่ได้รับการรักษา โดยภาวะที่ร่างกายแข็งแรงดี เชื้อที่เข้าไปจะซ่อนตัวอยู่เงียบๆ โดยไม่ทำให้เกิดอาการของโรค และเมื่อสุขภาพอ่อนแอลง เชื้อที่สงบนิ่งอยู่ก็จะออกมาทำให้เกิดอาการของโรคได้ โดยร้อยละ 50 จะแสดงอาการออกมาใน 2 ปีแรกของการติดเชื้อ  

อาการสำคัญของวัณโรคปอด  

  • ไอเรื้อรัง มากกว่า 3 สัปดาห์ ไอมีเลือดหรือเสมหะปน  
  • เจ็บหน้าอก  
  • น้ำหนักลด เบื่ออาหาร 
  • ไข้ เหงื่อออกผิดปกติตอนกลางคืน  
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย  

กลุ่มเสี่ยงต่อวัณโรค  

  • กลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคปอด
  • ผู้ต้องขังในเรือนจำ  
  • บุคลากรสาธารณสุข  
  • แรงงานข้ามชาติและแรงงานเคลื่อนย้าย 
  • ผู้อาศัยในที่คับแคบแออัด ชุมชนแออัด  
  • ผู้ป่วยโรคร่วมต่างๆ ที่ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ เช่น HIV เบาหวาน ทานยากดภูมิต้านทาน เป็นต้น 

 สงสัย ไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นวัณโรคหรือไม่

  • หากมีอาการที่สงสัยวัณโรค เช่น ไอเรื้อรัง ไข้ เหงื่อออกผิดปกติตอนกลางคืน หรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบพบแพทย์และรับการตรวจรักษาทันที 
  • บุคคลที่สัมผัสผู้ป่วยวัณโรคปอดควรเข้ารับการตรวจสุขภาพและถ่ายภาพรังสีทรวงอก  
  • ตรวจสุขภาพร่างกายและถ่ายภาพรังสีทรวงอก อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ 

เมื่อติดวัณโรค ควรทำตัวอย่างไรดี

  • ทานยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ต่อเนื่อง และเฝ้าสังเกตผลข้างเคียงของยา ติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงยาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับอักเสบ
  • ควรหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ในระหว่างการรักษาวัณโรค 
  • แยกห้องกับคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2 สัปดาห์แรก ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ ควรเป็นห้องที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก จัดบ้านและสถานที่ทำงานให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องถึง
  • สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2 สัปดาห์แรก 
  • ควรบ้วนเสมหะลงในภาชนะหรือกระปุกที่มีฝาปิดมิดชิด และนำทิ้งโดยผูกปากถุงให้สนิท 
  • ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในที่สาธารณะที่มีผู้คนแออัด 

ปกติผู้ป่วยวัณโรคปอดที่ไม่ดื้อยาจะหยุดการแพร่เชื้อเมื่อมี 3 ข้อ ดังนี้ 

  • หลังทานยา แล้วมีอาการดีขึ้น เช่น ไข้ ไอลดลง เสมหะลดลง 
  • ทานยาต้านวัณโรคสูตรเหมาะสม ต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ 
  • ผู้ป่วยที่มีผลเสมหะย้อมสีทนกรดให้ผลเป็นบวก จะต้องมีผลเสมหะย้อมสีทนกรดเป็นลบอย่างน้อย 3 ครั้ง 

ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยว่าตนเองหรือคนรอบข้างมีอาการป่วยเป็นโรควัณโรคหรือไม่ แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อตรวจวิฉัยหรือทำการรักษาให้ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป

ข้อมูล: พญ.พวงรัตน์ ตั้งธิติกุล แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลนวเวช
ภาพ: ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลนวเวช


ความหอมเหนือจินตนาการ HEAVEN MOON OSMANTHUS

account_circle

ปัญญ์ปุริ (PAÑPURI) เวลเนสล์สไตล์แบรนด์ นำเสนอผลิตภัณฑ์คอลเลคชั่นล่าสุด HEAVEN MOON OSMANTHUS การผสมผสานของกลิ่นหอมละมุนของดอก Osmanthus Absolute หรือ ‘ดอกหอมหมื่นลี้’ และ Vetiver กลิ่นดอกหญ้าแฝก พร้อมพาคุณสู่โลกแห่งความสุขเหนือจินตนาการ มอบความสุข และความอิ่มเอมแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

Osmanthus หรือ ‘ดอกหอมหมื่นลี้’ เป็นดอกไม้ที่คนจีนโบราณเชื่อว่าเป็นดั่งดอกไม้สวรรค์ เพราะเติบโตบนดวงจันทร์ ถือเป็นดอกไม้ที่สวยสง่าทรงคุณค่า ตัวแทนแห่งความสุข และความโชคดี และยังเป็นดอกไม้ที่บอกเล่าเรื่องราวของ Jade Emperor เทพที่ชื่นชอบในกลิ่นหอมและความงามของหอมหมื่นลี้ พร้อมโปรยความหอมลงมาสู่โลกเพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสเสน่ห์ของความหอมในระยะหมื่นลี้ได้อย่างแท้จริง ปัญญ์ปุรินำเรื่องราวความสวยงามของดอก Ormanthus มารังสรรค์คอลเลคชั่น Heaven Moon Osmanthus กลิ่นหอมแห่งความสุขจากดวงจันทร์ที่จะพาคุณให้สัมผัสความดื่มด่ำ และตราตรึง

คอลเลคชั่นนี้เป็นความหอมหวานผสมของแนวดอกไม้ผสานกลิ่นแนวฟรุ๊ตตี้ และมีความลุ่มลึกของ Vetiver มาเจือเพิ่มเติมมิติให้กับกลิ่นนี้ได้อย่างมีเสน่ห์ โดย HEAVEN MOON OSMANTHUS มีในผลิตภัณฑ์เด่นดังนี้

PAÑPURI HEAVEN MOON OSMANTHUS Extract Perfume Oil 50 ml และ 10 ml

Perfume Oil หรือออยล์น้ำหอมที่มีความเข้มข้นของกลิ่นสูงถึง 25-30% ถือเป็นความเข้มข้นที่สูงที่สุด พร้อมคุณสมบัติในการบำรุงผิวพรรณจากส่วนผสมของ Certified Organic Moringa Seed Oil ซึ่งเป็นน้ำมันสกัดจากธรรมชาติที่นอกจากจะช่วยบำรุงผิว เพราะอุดมด้วยกรดโอเลอิค และกรดไขมันไม่อิ่มตัว สามารถซึมสู่ผิวได้รวดเร็ว และกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิวได้เป็นอย่างดี  ยังช่วยรักษากลิ่นหอมให้ติดตรึงอยู่กับผิวกายได้อย่างยาวนาน โดยการใช้สามารถแตะ หรือถู roller ของ PAÑPURI EXTRACT Perfume Oil  ที่บริเวณจุดชีพจร อาทิ ข้อมือ หลังใบหู ต้นคอ ข้อพับ หรือหลังข้อเข่า เพื่อมอบความหอมให้ติดผิวได้ตลอดทั้งวัน

PAÑPURI HEAVEN MOON OSMANTHUS Hydrating Glow Satin Oil Mist 250 ml

มอบการดูแลผิวด้วยพลังธรรมชาติ เพื่อผิวสวยเปล่งประกายในทุกวันด้วยพลังแห่งธรรมชาติ Body Oil Mist ที่มีส่วนผสมของสารสกัด Grapeseed oil ที่อุดมไปด้วย Antioxidant, Omega fatty acids, Vitamin E และ Squalane ช่วยเติมความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวเรียบเนียนและดูเปล่งประกายเป็นธรรมชาติ พร้อมเนื้อสัมผัสบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ จึงสามารถซึมซาบสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว หลังจากอาบน้ำสามารถสเปรย์ Body Oil Mist ลงบนผิวที่กำลังหมาดโดยตรง เพื่อเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวดูเปล่งประกายทันทีหลังใช้ และสามารถใช้คู่กับ Extract Perfume Oil เพื่อเติมความหอมให้ติดทนนานมากยิ่งขึ้น

นอกจากน้ำหอมในรูปแบบออยล์ Extract Perfume Oil ทั้ง 50 ml และ 10 ml  รวมถึง Body Oil Mist แล้ว ในกลิ่น HEAVEN MOON OSMANTHUS ยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องหอมอย่างเทียน Diffuser และถุงหอม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวกาย และมือ อีกด้วย

ให้กลิ่นหอมของ HEAVEN MOON OSMANTHUS มอบความหอมที่จะสร้างความสุขเหนือจินตนาการแก่คุณ สัมผัสคอลเลคชั่นนี้ได้ที่ปัญญ์ปุริทุกสาขาและ PANPURI.com สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook, Twitter, Instagram, Weibo ในชื่อ @panpuriofficial และ Line@ ในชื่อ @PANPURI

Waku Waku! เตรียมพร้อมสำหรับภารกิจสุดตื่นเต้นครั้งแรกของคอลเล็กชัน Skechers | SPYxFAMILY

account_circle

เตรียมพร้อมปลดปล่อยความเป็นสายลับในตัวคุณและพิชิตทุกภารกิจด้วยสไตล์และความสบาย เหนือระดับ กับคอลเล็กชัน Skechers | SPYxFAMILY ที่ทุกคนรอคอย! การผสมผสานอันลงตัวระหว่าง Skechers บริษัทเทคโนโลยีความสบาย™ และผู้นำระดับโลกด้านรองเท้าไลฟ์สไตล์และรองเท้าสมรรถนะ กับ SPYxFAMILY การ์ตูนสุดโด่งดัง

ลอยด์ ฟอร์เจอร์ (หรือที่รู้จักในชื่อ สนธยา) สายลับหนุ่มจากดินแดนเวสทาลิส อาเนีย ฟอร์เจอร์ (หรือที่รู้จักในชื่อ Test Subject “007”) สาวน้อยเทเลพาธที่น่ารัก ยอร์ ฟอร์เจอร์ (หรือที่รู้จักในชื่อ เจ้าหญิงหนาม) นักฆ่าจากกลุ่มการ์เดน และ บอนด์ ฟอร์เจอร์ (หรือที่รู้จักในชื่อ Subject 8) สุนัขพันธุ์ Pyrenean Mountain ที่สามารถเห็นอนาคตได้ โดยคอลเล็กชัน ของแบรนด์ในครั้งนี้ได้ผสมผสานเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละตัวละครเข้ากับองค์ประกอบจาก SPYxFAMILY ได้อย่างลงตัวที่จะปรากฏบน: 

  • รองเท้า Skechers: สนีกเกอร์และรองเท้าแตะ 
  • เครื่องแต่งกาย Skechers: เสื้อยืด ฮู้ดดี้ เสื้อพูลโอเวอร์ และกางเกงขาสั้น
  • เครื่องประดับ Skechers: หมวกเบสบอล กระเป๋าคาดเอว และกระเป๋าสะพายหลัง

เปิดตัวกรกฎาคมนี้! พบกับคอลเล็กชัน Skechers | SPYxFAMILY สุดพิเศษกับดีไซน์ที่โดดเด่น และสีสันที่สะดุดตา สำหรับผู้หญิงและผู้ชาย โดยสื่อถึงตัวละครและฉากต่างๆ ใน SPYxFAMILY เพื่อแฟนๆได้ “ประกาศความเป็นแฟนพันธุ์ แท้” ด้วยการสวมใส่คอลเล็กชันที่มีดีไซน์เกี่ยวข้องกับมังงะเรื่องนี้อย่างมีสไตล์

รองเท้าคู่สวยและมีสไตล์สำหรับภารกิจครั้งต่อไปของคุณ 

สำหรับคนรักสนีกเกอร์ คอลเล็กชัน Skechers | SPYxFAMILY ได้นำเสนอ Skechers Street™ Koopa Court ที่มีสองดีไซน์ มาพร้อมกับแผ่นรองเท้าชั้นใน Skechers Air-Cooled Memory Foam®  ที่มีการระบายอากาศได้ดีและ สามารถสวมใส่สบายตลอดวัน โดยแต่ละคู่มาพร้อมกับเชือกผูกรองเท้า และหนังสังเคราะห์ที่ทนทาน ประดับด้วยเสน่ห์ ของตุ๊กตาของอาเนีย อย่าง Chimera และบัคเกิลเชือกรองเท้าสีทองที่มีโลโก้ “SPYxFAMILY”

ดีไซน์แรกมาพร้อมกับสีสันที่ทันสมัยได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครหลักทั้งสามของเรื่อง โดยรองเท้าแต่ละคู่มีรูปภาพ เส้นศิลป์ของ ลอยด์ ฟอร์เจอร์ (หรือสนธยา) หรือ ยอร์ ฟอร์เจอร์ (หรือเจ้าหญิงหนาม) อยู่ด้านข้าง และอาเนีย ฟอร์เจอร์ (หรือ Test Subject “007”) ประดับด้วยไอเท็มที่เป็นเอกลักษณ์จากซีรีส์ เช่น Stella Star, เข็มกลัด WISE, ระเบิด, กล้องโทรทรรศน์ และอื่นๆ ทำให้ดีไซน์นี้จับความเป็นเอกลักษณ์ของอนิเมะเรื่องนี้ได้อย่างแท้จริง

เช่นเดียวกับที่สายลับพึ่งพาอุปกรณ์อเนกประสงค์เพื่อรับมือกับทุกความท้าทาย Skechers Foamies® Surge   ถูกออกแบบมาให้เป็นเพื่อนคู่ใจ พร้อมให้คุณปรับตัวรับมือในทุกสถานการณ์ที่เกินความคาดหมายของคุณ ไม่ว่าจะความ เร่งรีบในภารกิจ หรือเพลิดเพลินกับการเดินเล่นพักผ่อน ไม่ว่าจะฝนตก หรือแดดออก ทุกดีไซน์ออกแบบมาให้สามารถ ระบายอากาศได้ดี พร้อมมอบความสะดวกสบายเป็นพิเศษด้วยสายรัดที่ปรับได้ พื้นรองเท้าที่ยืดหยุ่น น้ำหนักเบาสุดๆ และวัสดุ EVA ที่กันน้ำและทำความสะอาดง่าย

รองเท้าแตะ Skechers Foamies® มีให้เลือกถึงสี่สีสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งรองเท้าทุกคู่มีการออกแบบลวดลาย เกี่ยวกับ SPYxFAMILY บนพื้นรองเท้าและโลโก้บนสายรัด เพื่อเพิ่มความน่ารักและความสนุกสนาน คอลเล็กชันนี้ยังมี Cali Bits สุดพิเศษเพื่อเสริมลุคของคุณให้สมบูรณ์แบบ! ซึ่งประกอบด้วย

  • Cali Bits ทรงกลมรูป ลอยด์ ฟอร์เจอร์, อาเนีย ฟอร์เจอร์ และยอร์ ฟอร์เจอร์
  • ปีนสายลับของเล่นของอาเนีย ฟอร์เจอร์  
  • เข็มกลัด WISE (Westalis Intelligence Service) ของลอยด์ ฟอร์เจอร์ 
  • ที่คาดผมดอกกุหลาบสีทอง และอาวุธส้นสูงสีทองของยอร์ ฟอร์เจอร์ 
  • Stella Star 
  • โลโก้ “SPYxFAMILY”

เครื่องแต่งกายสำหรับเหล่าสายลับ

ค้นพบคอลเล็กชันเสื้อยืด แจ็คเก็ต เสื้อคลุม และกางเกงขาสั้น ที่เต็มไปด้วยตัวเลือกสีสันและดีไซน์ที่แสดงถึงตัวละคร อย่างลอยด์ ฟอร์เจอร์, อาเนีย ฟอร์เจอร์, ยอร์ ฟอร์เจอร์ และบอนด์ ฟอร์เจอร์ พร้อมด้วยโลโก้และลวดลาย SPYxFAMILY

เครื่องแต่งกายเหล่านี้ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงความสบายและสไตล์เป็นหลัก เสื้อยืดแขนสั้นยูนิเซ็กส์, เสื้อครอปผู้หญิง และเสื้อยืดแขนสั้นผู้หญิง ผลิตจากผ้าซิงเกิลเจอร์ซีย์ และดีไซน์ให้มีทรงสวมใส่สบาย ผสมผสาน ระหว่างฝ้าย 65% และโพลีเอสเตอร์ 35% เพื่อให้ความนุ่มนวลและรู้สึกเบาสบายตลอดวัน

เสื้อแจ็คเก็ต และเสื้อคลุมยูนิเซ็กส์ รวมถึงกางเกงขาสั้นผู้หญิงและผู้ชาย ผลิตจากผ้าฝ้าย 100% โดยใช้ผ้าเบบี้เทอร์รี่เนื้อละเอียด และดีไซน์ที่สวมใส่สบาย เพื่อให้ดูชิคและรู้สึกสบายตลอดวัน

เครื่องประดับที่ได้รับการรับรองจากสายลับ: หมวกเบสบอลยูนิเซ็กส์, กระเป๋าคาดเอวยูนิเซ็กส์  และกระเป๋าสะพายหลังยูนิเซ็กส์ 

เติมแต่งลุคในชีวิตประจำวันของคุณด้วยความมีสไตล์และฟังก์ชันที่ไม่มีใครเทียบได้กับ หมวกเบสบอล กระเป๋าคาดเอว และกระเป๋าสะพายหลังยูนิเซ็กส์จาก Skechers | SPYxFAMILY

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปิดตัวคอลเล็กชันสุดพิเศษ Skechers | SPYxFAMILY

พิเศษสุด! รับฟรีผ้าห่ม Skechers | SPYxFAMILY เมื่อซื้อสินค้าจากคอลเล็กชันนี้ครบ 2 ชิ้น!

ของขวัญสุดพิเศษนี้มีจำนวนจำกัด และสามารถแลกได้เพียง 1 ชิ้นต่อใบเสร็จเท่านั้น รีบมาช้อปก่อนพลาด! ‍

คอลเล็กชัน Skechers | SPYxFAMILY นี้จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ ที่ร้านสเก็ตเชอร์ส สยามสแควร์วัน, ไอคอนสยาม, สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต, เดอะมอลล์ โคราช, เมย่า เชียงใหม่, เทอร์มินอล 21 พระราม 3, เอ็มโพเรียม, ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, แฟชั่นไอส์แลนด์, เทอร์มินอล 21 พัทยา, เทอร์มินอล 21 อโศก, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ บางแค, สยามพารากอน, เซ็นทรัล เวิลด์, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, ​เมกา บานา, เซ็นทรัล เวสเกต, เซ็นทรัล พระราม 9, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล พัทยา บีช, เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต, เซ็นทรัล เชียงใหม่, เซ็นทรัล หาดใหญ่, เซ็นทรัล ขอนแก่น รวมถึงเริ่มจำหน่ายสุดพิเศษผ่านร้านออนไลน์ที่แรกที่ LAZADA เท่านั้น

ในส่วนของเว็บไซต์ www.skechers.co.th/collections/spyxfamily และ Shopee จะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไป

ป็อปอัพ สโตร์คอลเล็กชัน Skechers | SPYxFAMILY ที่ ร้าน SKECHERS SIAM SQUARE ONE

พบกับคอลเล็กชัน Skechers | SPYxFAMILY มาสัมผัสประสบการณ์สุดคิวท์และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ฟอร์เจอร์ ณ ร้านสเก็ตเชอร์ส สยามสแควร์วัน ตั้งแต่วันที่ 2-4 สิงหาคม 2567 เตรียมตัวให้พร้อมมาร่วมกิจกรรมที่จะ ส่งมอบประสบการณ์สุดประทับใจให้คุณฟินสุดๆ ไปกับ SPYxFAMILY! พร้อมขนของรางวัลสุดพิเศษภายในงานฯ กลับบ้านแบบจัดเต็ม  

พลาดไม่ได้!

  • ถ่ายรูปสุดปังกับตุ๊กตาลม อาเนีย ฟอร์เจอร์ แชร์โมเมนต์ประทับใจกับตัวละครสุดน่ารัก
  • เก็บภาพคู่สุดชิคกับแบ็คดรอป ครอบครัวฟอร์เจอร์ เก็บความทรงจำดีๆ กับครอบครัวสายลับสุดเก๋
  • ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษจากเครื่องกาซาปองและเกมส์สนุกๆ ภายในงาน เพียงกดติดตามช่องทางโซเชียล มีเดียของ Skechers ทั้งคูปองส่วนลดสำหรับซื้อสินค้า Skechers มูลค่าสูงสุด 500บาท! และหมอน SPYxFAMILY
  • พบปะกับเหล่าคอสเพลเยอร์ SPYxFAMILY ร่วมสนุกกับบรรยากาศสุดคึกคักในวันที่ 3 และ 4 สิงหาคม 2567 ตลอดทั้งวัน!

ส่องกระเป๋าเดินทาง ‘นักกีฬาทีมชาติไทย’ ไปคว้าชัยโอลิมปิกเกมส์ 2024

Alternative Textaccount_circle

หนึ่งไอเท็มที่หลายคนพูดถึง กระเป๋าเดินทางลายธงชาติไทย สัญลักษณ์ของเหล่านักกีฬาที่เดินทางไปคว้าชัยชนะ โอลิมปิกเกมส์ 2024

ตอนนี้ก็ใกล้ถึงวันแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 เข้ามาทุกที และนักกีฬาทุกคนก็เดินทางถึงกรุงปารีสเพื่อเตรียมตัวเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ก้มีกำลังใจมากมายทั้งครอบครัว คนสำคัญ และแฟนคลับที่ไปรอส่งเหล่านักกีฬาเพื่อไปคว้าชัยชนะ ซึ่งในวันดังกล่าวก็มีตาดีสะดุดกับไอเท็มของเหล่านักกีฬา นั่นคือ ‘กระเป๋าเดินทางลายธงชาติ’ ที่ทุกคนใช้ จนเกิดการนำไปพูดต่อบนโลกโซเชียลในช่วงที่เกิดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับชุดพิธีการว่า แม้แต่กระเป๋าเดินทางยังดีไซน์มาเป็นอย่างดีเลย

สำหรับกระเป๋าเดินทางดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ Departure ในการออกแบบคอลเล็คชั่นเพื่อเหล่านักกีฬาทีมชาติมีทั้งหมด 3 ดีไซน์ 3 ไซส์ ซึ่งทุกใบจะมีลวดลายธงชาติไทยพาดไว้กลางกระเป๋าพร้อมประทับตัวอักษร TEAM THAILAND เอาไว้ ส่วนเรื่องความคงทนหมดห่วงได้เลย เพราะกระเป๋าทำมาจากโพลีคาร์บอเนตที่มีคุณสมบัติทนทาน และซับในโพลีเอสเตอร์กันคราบและน้ำ อีกทั้งล้อยังหมุนได้ถึง 360 องศาด้วย เรียกว่าไม่ใช่แค่เพียงดีไซน์ที่น่าชมเชย แต่เรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานก็ดีไม่แพ้กัน

ใครที่เป็นแฟนกีฬาสามารถซื้อเก็บสะสมไว้ได้ เพราะแบรนด์เปิดขายให้กับบุคคลทั่วไปมีทั้งราคา 17,000 บาท, 13,800 บาท และ 4,380 บาท


ข้อมูลและรูปภาพ: @departure.luggage.thailand

งามสง่า เปิดดีเทล 2 ชุดผ้าไทยของ ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช

Alternative Textaccount_circle

‘ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช’ ไม่ว่าลุคไหนก็งามสง่า โดยเฉพาะในลุคผ้าไทยที่มีทั้งดีไซน์ตามขนบธรรมเนียมและประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย

เมื่อได้เห็นชุดผ้าไทยของ ศรีริต้า เจนเซ่น ณรงค์เดช ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ แล้วถึงกับตกตะลึงให้กับความแวววาวของชุด เพราะเธอสวมใส่ชุดผ้าไทยสีเงินดีไซน์ร่วมสมัย โดดเด่นด้วยเครปบริเวณช่วงไหล่ และคริสตัลระยิบระยับที่ประดับตกแต่งอยู่ทั่วเดรส ซึ่งชุดดังกล่าวออกแบบโดย Finale Wedding Studio ห้องเสื้อลำดับต้นๆ ของประเทศไทยที่เคยคว้ารางวีลนักออกแบบชุดแต่งงานยอดเยี่ยม ณ มหานครดูไบ ดีกรีขนาดนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึงชุดนี้ถึงตราตรึงเราได้อยู่หมัด

และอีกชุดหนึ่งที่สะดุดตาไม่แพ้กันคือชุดไทยบรมพิมาน หนึ่งในชุดไทยพระราชนิยม สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเธอได้สวมใส่ขณะเข้าเฝ้า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยชุดไทยบรมพิมาน เป็นฝีมือการตัดเย็บสุดวิจิตร ของสองกูตูริเยอร์ผู้ทรงอิทธิพลสังคมระดับสูง ดร.เกสินี กล่ำอยู่สุข และ คุณสุดจิตร์ สุดจิตต์ แห่งฟินาเล่ เวดดิ้ง สตูดิโอ จากผ้าไหมไทยยกดอกลำพูนสีงาช้าง บริเวณเชิงสลับทอยกสีเงินและยกสีทอง


ภาพ: @sriritajensen
ข้อมูล: @finaleweddingstudio

เมนูพรีเมียม สร้างสรรค์โดย เชฟต้น เจ้าของดาวมิชลิน

Alternative Textaccount_circle

กาตาร์ แอร์เวย์ส เปิดตัวเมนูชุดใหม่สำหรับห้องโดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ รังสรรค์โดยเชฟไทยชื่อดังอย่าง เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ที่ได้ร่วมงานกับสายการบินตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารบนเครื่องบิน ด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของเชฟต้นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารไทย

เชฟต้น ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารประจำร้าน ฤดู (Le Du) และ นุสรา (Nusara) ร้านอาหารชั้นนำของเอเชีย ได้ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมสู่กาตาร์ แอร์เวย์ส เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารบนเครื่องบินชั้นเยี่ยม โดยเมนูชุดใหม่นี้จะพร้อมให้บริการในเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-โดฮา บนห้องโดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป โดยเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ประกอบไปด้วย อาหารเรียกน้ำย่อยสุดพรีเมียมอย่าง ยำถั่วพลูล็อบสเตอร์ ต้มข่าแบบโบราณกับปลาสลิด สำหรับเมนูอาหารจานหลัก ได้แก่ แกงเขียวหวานไก่ใส่มะเขือย่าง หรือข้าวกะเพราซี่โครงเนื้อวากิว ปิดท้ายด้วยขนมหวานอย่างพานาคอตต้ามะพร้าวอ่อน มะนาวและแยมสับปะรด

คุณเดชา มิ่งขวัญ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาด้านการทำอาหารระดับภูมิภาคของกาตาร์ แอร์เวย์ส กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวเมนูพรีเมียมชุดใหม่ของเชฟต้น นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว เมนูซิกเนเจอร์ของเชฟต้นได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากทั้งผู้โดยสารชาวไทยและต่างชาติ ความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกาตาร์ แอร์เวย์ส ในการยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารบนเครื่องบิน พร้อมสานต่อความมุ่งมั่นในการเป็นสายการบินและห้องโดยสารชั้นธุรกิจที่ดีที่สุดในโลกต่อไป”

เชฟต้นกล่าวว่า “การร่วมงานกับกาตาร์ แอร์เวย์ส มอบโอกาสให้ผมได้นำเสนอเมนูอาหารไทยที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้คนทั่วโลก ผมรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งที่ทีมพัฒนาด้านการทำอาหารของทางสายการบินสามารถคงรสชาติอาหารจานเด่นของผมบนเครื่องบินให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันกับที่ร้านอาหารของผม ผมภูมิใจที่ได้คิดรังสรรค์และยกระดับเมนูอาหารให้กับสายการบินที่ดีที่สุดในโลก และหวังว่าในอนาคตจะได้มอบเอกลักษณ์อาหารไทยที่น่าจดจำและสร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง”

เชฟต้น

ในฐานะสายการบินที่ได้รับการยกย่องจาก Skytrax เป็นสายการบินยอดเยี่ยมแห่งปีติดต่อกัน 8 ปี และเป็นสายการบินชั้นธุรกิจยอดเยี่ยม 11 ปี กาตาร์ แอร์เวย์สยังคงมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การบริการอาหารบนเครื่องที่ยอดเยี่ยม ผ่านความร่วมมือกับเชฟชั้นนำจากทั่วมุมโลก ด้วยเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ ถึง 5 เที่ยวต่อวัน กาตาร์ แอร์เวย์สมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มที่และมอบบริการที่เหนือความคาดหมาย นอกจานี้ กาตาร์ แอร์เวย์สยังมุ่งมั่นในการขนส่งผู้โดยสารไปยังกว่า 170 จุดหมายปลายทางทั่วโลก ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัด ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกจาก Skytrax 

“FAB” ฟู้ดโฮดิ้ง ธุรกิจน้องใหม่จาก “เบียร์ ใบหยก” และ 2 พันธมิตรดัง

Alternative Textaccount_circle

จุดเริ่มต้นจากความรักและหลงใหลในเรื่องอาหาร เป็นแรงบันดาลใจให้ “เบียร์ – ปิยะเลิศ ใบหยก” ผู้บริหารทายาทรุ่นที่ 3 แห่งตึกใบหยก ก้าวสู่ธุรกิจอาหารจนประสบความสำเร็จ ล่าสุดร่วมมือกับ 2 พันธมิตรดังอย่าง อควา คอร์เปอเรชั่น และฟู้ด แฟคเตอร์ จัดงานเปิดตัว “FAB” Food Holding ยกระดับร้านอาหารหลากหลายแบรนด์ในไทย อาทิ เจ๊แดงสามย่าน, Ramen desu, Ikkousha Ramen, Sekai No Yamachan, Uchidaya Ramen, Santa Fe’, Santa Fe’ EASY, เหม็ง แซ็ปนัว  รวมกว่า 200 สาขา ที่พร้อมเชิญชวนทุกคนมาเติมเต็มความอร่อยด้วยประสบการณ์การทานอาหารที่คุ้นเคยให้พิเศษยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อดึงดูดนักชิมชาวไทยและชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น 

FAB เกิดจากการร่วมมือกันของ 3 บริษัท ได้แก่ F = Food Factors บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด, A = AQUA บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ B = เบียร์  ใบหยก ซึ่งสะท้อนภาพแบรนด์คาแรคเตอร์หลากสไตล์ที่มีทั้งโหมดสนุกสนานและจริงจังในการทำงานผ่านทีมผู้บริหารออกมาได้เป็นอย่างดี โดยกลุ่มเป้าหมายหลักเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะมีการตัดสินใจที่เฉียบขาด กล้าที่จะใช้จ่ายกับสินค้าและบริการที่คิดว่าตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง ซึ่งเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันนี้ชอบความชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง FAB ขึ้นมา 

คุณปิยะเลิศ ใบหยก รองประธานกลุ่มโรงแรมใบหยก, CEO บริษัท บีเอ็นเอฟ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท    เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด (FAB) กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง 3 กลุ่มบริษัทผู้จัดตั้ง “FAB” ในครั้งนี้ว่าผมมองว่ากรุงเทพฯ มีทั้งวัฒนธรรมและชื่อเสียงด้านอาหาร และยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นจึงนำประสบการณ์ในวงการธุรกิจอาหารกว่า 10 ปี มาต่อยอดร่วมกับทั้งสองพาร์ทเนอร์ ผสมผสานจุดแข็งซึ่งกันและกัน เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภค เพื่อให้เข้าถึงตัวลูกค้าได้ และต้องเป็นผู้นำทุกเทรนด์ โดยผมตั้งใจจะทำให้ดูวาไรตี้ ดูสนุก มีสีสันและจุดเด่นมากขึ้น ด้วยการดึงจุดเด่นของแต่ละแบรนด์มานำเสนอ อย่าง ร้านซานตาเฟ่ ในเรื่องรสชาติอาหารนั้นอร่อยอยู่แล้ว แต่เราจะเติมความน่าสนใจให้คนที่ไม่เคยทานมีความสนใจอยากจะเข้ามาลอง หรือในอนาคตจะมีการคอลแลบระหว่างแบรนด์ ก็จะเป็นการสร้างสีสันและดึงดูดผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือความจริงใจต้องมาก่อน เราจึงจะสามารถครองใจผู้บริโภคได้ในระยะยาว”

อีกหนึ่งพาร์ทเนอร์อย่าง คุณภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด และ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “อย่างที่คุณเบียร์ได้กล่าวไปครับว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ คือการดึงเอาจุดเด่นและความเชี่ยวชาญของแต่ละส่วนมารวมกัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งสอดคล้องไปกับแนวทางการทำงานของกลุ่มบริษัทของเราที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพมาโดยตลอด ซึ่งตอนนี้แต่ละบริษัทมีส่วนที่ดีของแต่ละคนอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อพอได้มารวมกัน และการ ได้คุณเบียร์มาช่วยบริหาร เรามั่นใจว่าจะดีและสร้างความสนุกสนานให้กับวงการอาหารบ้านเรามากขึ้นแน่นอน”

ปิดท้ายด้วย คุณฉาย บุนนาค รักษาการประธานกรรมการบริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA กล่าวว่า “ด้วยทั้ง 3 พาร์ทเนอร์เราต่างมีเป้าหมายเดียวกันและมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรามองว่าการทำงานร่วมกันในครั้งนี้จะผลักดันให้กลุ่ม AQUA ในฐานะ Investment Company สามารถสร้างแหล่งรายได้จากประเภทธุรกิจอาหารได้มากขึ้น และเรามั่นใจด้วยว่าการได้ร่วมงานกับทีมที่มีประสบการณ์ รวมถึงได้รับเกียรติจากคุณเบียร์ – ปิยะเลิศ ใบหยก มานำทัพเป็น CEO ของ FAB เอง จะทำให้ FAB เป็นส่วนผสมที่ลงตัว ถ้าเทียบกับอาหารจานหนึ่งแล้ว ผมคอนเฟิร์มว่าจะต้องเป็นเมนูที่อร่อย จัดจ้าน ทานได้ไม่เบื่อ และได้การการันตีรางวัลจากนักชิมอย่างแน่นอน”

ภายในงานแถลงข่าวเปิดตัว FAB ยังได้รับเกียรติจาก คุณชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), คุณวรภัทร ชวนะนิกุล Chief Strategy Officer and Chief Financial Officer บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด และ คุณพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ Chief Financial Officer บริษัท บีเอ็นเอฟ โฮลดิ้ง จำกัด, ม.ร.ว.จุลรังษี ยุคล, คุณสุนทรี ใบหยก,คุณจารุจิต ใบหยก, คุณสะธี ใบหยก,คุณพอใจ  บุนนาค และคุณพอเพียง บุนนาค มาร่วมงานอีกด้วย


วิธีสังเกตสัญญาณเสี่ยง 'ภาวะสิ้นยินดี' อาการร่วมที่พบบ่อยในผู้มีภาวะซึมเศร้า

วิธีสังเกตสัญญาณเสี่ยง ‘ภาวะสิ้นยินดี’ อาการร่วมที่พบบ่อยในผู้มีภาวะซึมเศร้า

Alternative Textaccount_circle
วิธีสังเกตสัญญาณเสี่ยง 'ภาวะสิ้นยินดี' อาการร่วมที่พบบ่อยในผู้มีภาวะซึมเศร้า
วิธีสังเกตสัญญาณเสี่ยง 'ภาวะสิ้นยินดี' อาการร่วมที่พบบ่อยในผู้มีภาวะซึมเศร้า

“คุณมีความสุขไหมวันนี้?” คำถามง่ายๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยย้อนถามตัวเอง และอาจจะต้องนึกอยู่นานกว่าจะได้คำตอบว่าตกลงวันนี้ “มีความสุข”, “ไม่มีเลย” หรือ “ไม่รู้เหมือนกัน” เชื่อหรือไม่ว่ามีคนจำนวนหนึ่งไม่สามารถรู้สึกหรือบอกตัวเองได้ว่า “ฉันกำลังมีความสุข” ซึ่งหากคุณหรือคนใกล้ตัวเป็นเช่นนี้ อาจเป็นสัญญาณว่าคนๆ นั้นอาจกำลังมี “ภาวะสิ้นยินดี” อาการร่วมที่พบบ่อยในผู้มีภาวะซึมเศร้า ซึ่งมีแนวโน้มเกิดมากขึ้นในหมู่คนวัยทำงานยุคนี้

เป็นธรรมชาติของคนเราที่ต้องมีอารมณ์ความรู้สึก โดยเฉพาะการรับรู้หรือได้รับความรู้สึกเชิงบวก เช่น สบายใจ แช่มชื่นใจ ทั้งที่มาจากตัวเองหรือมาจากการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น แต่เมื่อไรที่เรามี “ภาวะสิ้นยินดี” จะรู้สึกเหนื่อย เนือย ไม่มีความรู้สึกเชิงบวกใดๆ ไม่ว่ากับอะไรหรือกับความสัมพันธ์ใด

ภาวะสิ้นยินดีเกิดขึ้นได้อย่างไร
“ภาวะสิ้นยินดี” เป็นความผิดปกติทางอารมณ์ที่ทำให้เจ้าต้วไม่รู้สึกรู้สากับอารมณ์ความรู้สึกเชิงบวก ทั้งนี้ ภาวะดังกล่าวเกิดได้จากหลายปัจจัย กล่าวคือ   

  • ปัจจัยทางกายภาพ ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ หรือสารเคมีในสมอง เช่น โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดในสมอง โรคซึมเศร้า เป็นต้น
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม อาจมีส่วนทำให้บางคนมีธรรมชาติและบุคลิกภาพค่อนข้างหม่นหมอง เศร้าง่าย
  • ปัจจัยทางสภาวะแวดล้อม เช่น ภาวะความเครียด เหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนใจ ภาวะหมดไฟ (Burnout Syndrome) หรือผู้ที่อยู่ในภูมิประเทศที่มีฤดูหนาวเป็นระยะเวลานาน เหล่านี้ทำให้เกิดความรู้สึกหม่นหมองต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลให้คนนั้นๆ มีแนวโน้มขรึม เก็บตัว ไม่สดใส
  • ปัจจัยต่างๆ ทั้งกายภาพ สภาพแวดล้อม จิตใจ ล้วนเชื่อมโยงกัน การที่คนเรารู้สึกหม่นหมอง เนือย เหนื่อย เป็นเวลานานๆ และต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลให้สารเคมีในสมองเกิดการเปลี่ยนแปลง ลดทอนความสามารถในการรู้สึกอารมณ์เชิงบวกได้เหมือนกัน

ภาวะสิ้นยินดีทางสังคมและทางกายภาพ 
ผู้ที่เป็นภาวะสิ้นยินดีมักจะมีปัญหาในการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิดหรือคนอื่นๆ ในสังคม พวกเขาจะไม่สามารถตอบรับความรู้สึกด้านบวกได้ ไม่ว่าความสุข ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ทำให้ผู้ที่มีภาวะสิ้นยินดีไม่สามารถมีประสบการณ์เชิงบวกร่วมกับผู้อื่นได้ ยกตัวอย่าง เพื่อนๆ หัวเราะกันสนุกสนาน แต่คนที่มีภาวะสิ้นยินดี จะไม่สามารถรู้สึกสนุกหรือหัวเราะกับคนอื่นๆ ได้ ซึ่งจะกระทบกับการเข้ากลุ่มและความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ นานวันเข้า ก็อาจส่งผลต่อบุคลิกภาพและความสัมพันธ์กับคนอื่น

ภาวะสิ้นยินดีแสดงออกได้ 2 ลักษณะหลักๆ คือ   

  1. ภาวะสิ้นยินดีทางสังคม (Social anhedonia) คนกลุ่มนี้จะไม่รู้สึกอยากใช้เวลาร่วมกับครอบครัว คนใกล้ชิด เพื่อนฝูง คนรอบข้าง และคนอื่นๆ ในสังคม
  2. ภาวะสิ้นยินดีทางกายภาพ (Physical anhedonia) ผู้ที่มีภาวะนี้จะมีการรับรู้ความรู้สึกทางกายเปลี่ยนไป หากเป็นเรื่องเพศสัมพันธ์ ก็จะเหมือนหมดความรู้สึกจนคล้ายคนหมดสมรรถภาพทางเพศได้ นอกจากนี้ อาจจะไม่สนุกกับกิจกรรมที่เคยทำเหมือนก่อน อาหารที่เคยชอบก็ไม่ชื่นชอบอีกต่อไป ไม่รู้สึกสนุกสนานร่าเริงและมีแนวโน้มที่จะมีอารมณ์ทางลบมากขึ้นได้

ผู้ที่มีภาวะสิ้นยินดีทั้ง 2 แบบ จะไม่มีแรงจูงใจในการเชื่อมความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ไม่อยากใช้เวลาหรือมีส่วนร่วมกับผู้อื่น หรืออาจจะมีอาการของโรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder) รู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าพวกกับคนอื่น หวาดกลัว วิตกกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องพบเจอรู้จักคนใหม่และสถานที่ใหม่ คนกลุ่มนี้จะเริ่มหายหน้าหายตา ปฎิเสธคำชวนไปร่วมกิจกรรมทางสังคม เริ่มมีชั่วโมงในการอยากอยู่คนเดียวนานขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อยๆ

ภาวะสิ้นยินดีกับภาวะความด้านชาทางความรู้สึก
มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าภาวะความด้านชาทางความรู้สึก (Emotional numbness) และภาวะสิ้นยินดี เป็นภาวะเดียวกัน จริงๆ แล้วภาวะทั้งสองไม่เหมือนกันสักทีเดียว ภาวะความด้านชาทางความรู้สึกจะคล้ายกับการฉีดยาชา ไม่มีความรู้สึกใดๆ ไม่ว่าอารมณ์ทางบวกหรือทางลบ เฉย เนือย ไร้อารมณ์กับทุกสิ่ง เหมือนไม่สุขไม่ทุกข์ ภาวะนี้มักมาจากการที่คนๆ นั้นมีประสบการณ์ทางลบด้านความรู้สึก จึงพยายามหลีกเลี่ยงอารมณ์ทางลบ กลายเป็นไม่รับรู้ความรู้สึกอะไรเลย เฉยชาด้านอารมณ์ทั้งหมด ส่วนภาวะสิ้นยินดีเป็นภาวะที่ไม่มีความรู้สึกทางบวก แต่ยังคงรับรู้และแสดงความรู้สึกเชิงลบได้อยู่ ผู้ที้มีภาวะสิ้นยินดีจะไม่รู้สึกถึงอารมณ์ในเชิงบวกเลย ไม่มีความรู้สึกอิ่มเอิบใจ ปลื้มใจ ไม่หัวเราะ อาจดูเหมือนรู้สึกเฉยๆ เหมือนภาวะด้านชา แต่ยังสามารถรับรู้และแสดงความรู้สึกเชิงลบได้ เช่น ความไม่สบายใจ ความกังวล กลัว เบื่อ ซึ่งอาการเหล่านี้ดูคล้ายและเกือบเป็นภาวะซึมเศร้าเลยทีเดียว

สิ้นยินดีนานๆ อาจทำซึมเศร้าหนักขึ้น
ภาวะสิ้นยินดีเชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า ร้อยละ 60 ของผู้ที่มีภาวะสิ้นยินดี มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น เพราะทั้งสองภาวะมีมีความเหมือนกันอยู่ 2 เรื่อง คือ อารมณ์ความรู้สึกทางลบ และสิ่งที่เคยทำให้รู้สึกชื่นชอบสบายใจ ไม่ได้ทำให้มีความสุขอีกต่อไป เวลาเป็นซึมเศร้า ใจจะดิ่ง อารมณ์ลบจะเยอะ พยายามทำสิ่งต่างๆ เพื่อดึงความรู้สึกให้ดีขึ้น ไม่ว่าดูหนัง ฟังเพลง เล่นกับน้องแมวที่บ้าน ก็อาจจะยังไม่ดีขึ้น ซึ่งถ้าเรามีภาวะซึมเศร้าต่อเนื่องนานๆ ก็จะเกิดภาวะสิ้นยินดีได้ ในอีกทางหากมีภาวะสิ้นยินดีบ่อยๆ เราก็จะหมดความรู้สึกสนใจหรือพึงพอใจในการทำสิ่งที่ชื่นชอบ ดึงอารมณ์เชิงบวกได้ยากหรือไม่ได้ จนในที่สุดก็จะเหลืออารมณ์เชิงลบอย่างเดียว นำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

สังเกตสัญญาณภาวะสิ้นยินดี
แต่ละคนจะมีสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็น “คู่มือความสุขเฉพาะตน” คือความรู้ตัวว่าทำอะไร ไปที่ไหน เจอใคร แล้วจะมีความสุข สนุก พอใจ อารมณ์ดีขึ้น เมื่อเวลามีอารมณ์ลบ เราก็จะไป ทำ หรือพบกับสิ่งที่เราชอบ เพื่อจะทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นได้ แต่หากสิ่งที่เราเคยทำแล้วมีความสุข ไม่อาจทำให้เกิดความรู้สึกดีได้อีก นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ชวนให้เราเริ่มถามตัวเองว่า “ตัวเรามีภาวะสิ้นยินดีแล้วหรือเปล่า?” ข้อสังเกตเบื้องต้น 3 เรื่อง ช่วยให้จับสัญญาณภาวะสิ้นยินดี

  • สังเกตความรู้สึก – เวลาที่ทำกิจกรรมที่ชอบ ยังรู้สึกชอบ สนุกหรือมีความสุขอยู่ไหม? ถ้าเราอ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือสิ่งที่เราเคยชอบทำ แล้วไม่รู้สึกสนุกหรือชอบเหมือนเดิม ก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะสิ้นยินดีได้ แต่ก็ไม่เสมอไป เราอาจจะต้องสังเกตต่อไปว่าอารมณ์ความรู้สึกทางบวกในเรื่องอื่นๆ หรือช่วงอื่นๆ มีน้อยลงด้วยหรือไม่
  • สังเกตความคิด – ความคิดของเราเป็นเชิงลบ หม่นหมองหรือไม่? เราได้พยายามปรับมุมมองให้เป็นบวกมากขึ้นแล้วหรือยัง ปรับมุมมองให้บวกได้สำเร็จหรือไม่ ถ้าเรามีความรู้สึกเชิงบวก เราจะมองคนในเชิงบวก อยากสร้างสัมพันธ์กับผู้คน แต่ถ้าเราตกอยู่ในภาวะสิ้นยินดีเราจะรู้สึกว่าโลกไม่น่าอยู่ ไม่อยากสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ หรือไม่รู้สึกกระตือรือร้นที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่มีอยู่แล้ว
  • สังเกตร่างกาย – รู้สึกเหนื่อยจากการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ มากกว่าปกติหรือไม่? ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่แจ่มใส รู้สึกล้า หมดแรงหรือเปล่า

สมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางเพศเป็นเกณฑ์ประเมินภาวะสิ้นยินดีได้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่กับทุกกรณี สิ่งที่เราพอสังเกตได้คือร่างกายของเรายังแข็งแรงเป็นปกติดีไหม ออกกำลังกายได้เท่าเดิมหรือเปล่า มีความเปลี่ยนแปลงด้านสมรรถภาพทางเพศหรือไม่ ที่สำคัญ เวลาที่รู้สึกอ่อนล้า เหนื่อย ถ้าได้พักผ่อน นอนแล้ว ร่างกายกลับมากระชุ่มกระชวย อารมณ์ดีสดใสขึ้น แต่ถ้านอนพักแล้ว ยังรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อย ล้า หมดแรงที่จะทำอะไร ก็อาจเป็นสัญญาณภาวะสิ้นยินดีได้

วิธีรับมือภาวะสิ้นยินดี
หากเราสังเกตเห็นอาการเบื้องต้นของภาวะสิ้นยินดีแล้ว เราต้องรีบปรับอารมณ์เสียตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้พลังบวกกลับมาในชีวิตให้เร็วที่สุด แนะวิธีการรับมือกับภาวะสิ้นยินดี ดังนี้     

  • เติมพลังบวก ซึ่งทำได้หลายรูปแบบ โดยอาจเริ่มจากลงมือทำในสิ่งที่เคยชอบ ฝึกเติมพลังบวกเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย เพิ่มอารมณ์บวกบ่อยๆ เพื่อกันอารมณ์ลบให้ไปห่างๆ
  • หมั่นสังเกตและรับรู้อารมณ์ตามที่เป็น ไม่ว่าจะอารมณ์ด้านลบหรือบวก
  • โอบกอดตัวเองและหมั่นเติมความรักให้ตัวเอง
  • ฝึกใจ ปรับโฟกัส ให้ชื่นชมกับการกระทำและความสำเร็จเล็กๆ ในชีวิต ยังไม่ต้องทำกิจกรรมที่ต้องลงแรงมาก ให้เริ่มจากทำสิ่งเล็กๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป และปล่อยให้ตัวเองมีความสุขระหว่างทำกิจกรรม
  • ปรึกษานักจิตวิทยาและจิตแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาและการรักษา

เวลาที่เป็นภาวะสิ้นยินดี เรามักจะเก็บตัวอยู่ในห้อง อยากอยู่คนเดียว ดังนั้น เราควรจะออกไปข้างนอกบ้าง ให้ร่างกายได้เจอแสงแดด ได้รับแสงสว่างบ้าง ลองทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ แล้วสังเกตว่าอะไรที่ช่วยดึงใจเราให้ดีขึ้นได้บ้าง สิ่งที่ช่วยให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง เท่านี้ก็ดีพอแล้ว”

รู้ไหมว่าการได้คุยกับใครสักคนช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ เรามีศูนย์สุขภาวะทางจิต (Psy Wellness) เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่มีนักจิตวิทยาการปรึกษา ช่วยให้คุณได้เข้าใจตัวเอง คนอื่น และสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ เรายินดีรับฟังและให้คำปรึกษาในทุกๆ เรื่อง

ข้อมูล: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กุลยา พิสิษฐ์สังฆการ รองคณบดี และอาจารย์ประจำแขนงวิชาจิตวิทยาการปรึกษา คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ภาพ: Pexels


Praew Talk 2024 “The Inspirations”

เวทีทอล์คสร้างแรงบัลดาลใจ Praew Talk 2024 “The Inspirations”

Alternative Textaccount_circle
Praew Talk 2024 “The Inspirations”
Praew Talk 2024 “The Inspirations”

ประสบความสำเร็จสมเป็นเวทีแห่งการเติมพลังชีวิตสำหรับ งาน Praew Talk 2024 “The Inspirations” ที่จัดขึ้นในโอกาสครบรอบ 45 ปี นิตยสารแพรว ในเครืออมรินทร์กรุ๊ป โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แรงบันดาลใจ” ที่เป็นเสมือนแรงผลักให้เกิดการขับเคลื่อนหลายสิ่งในชีวิต ทั้งในแง่มุมเรื่องงาน ความรัก หรือการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคม โดยงานจัดขึ้นระหว่าง  วันที่ 20 – 21 กรกฎาคม 2567 ณ ชั้น 1  Eden Zone เซ็นทรัลเวิลด์

Praew Talk 2024 “The Inspirations”

โดยภายในงานมีบุคคลที่มีชื่อเสียง มาร่วมทอล์คแชร์ประสบการณ์พร้อมคำพูดสร้างแรงบัลดาลใจ ที่บอกเล่าถึงตัวตนและประสบการณ์จริงจากเหล่าคนดังหลากหลายแวดวงสาขาอาชีพ อาทิ กฤทธิ์ ดนุเดชสกุล ทายาทรุ่นที่ 2 และผู้บริหารถุงขยะแชมเปี้ยน, พรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กรุงเทพ, ผู้การแต้ม – พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ  อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์, วรีรัตน์ อุดมคุณธรรม ผู้บริหารสาวแห่งบุราส่าหรี, ศวิษฐ์ อุทัยเฉลิม   เซเลบริตี้หนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่, นพรัตน์ อำภา ผู้บริหารสาวแห่งโรงแรมบันยันทรี, ดีไซน์เนอร์อาร์ตทอยไทย ณัฐทพงศ์ รัตนโชคสิริกูล เจ้าของผลงาน ‘Greenie & Elfie, บิว – วราภรณ์ อินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้ และ น้องฉัตร – ฉัตรชัย เมคอัพอาร์ทิสชื่อดัง

ดีไซน์เนอร์อาร์ตทอยไทย ณัฐทพงศ์ รัตนโชคสิริกูล เจ้าของผลงาน 'Greenie & Elfie
ดีไซน์เนอร์อาร์ตทอยไทย ณัฐทพงศ์ รัตนโชคสิริกูล เจ้าของผลงาน ‘Greenie & Elfie

บิว – วราภรณ์ อินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้
บิว – วราภรณ์ อินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้ และ นิน – ธนิน ศรีธวัชพงษา

น้องฉัตร – ฉัตรชัย เมคอัพอาร์ทิสชื่อดัง
น้องฉัตร – ฉัตรชัย เมคอัพอาร์ทิสชื่อดัง

พอร์ช-อภิวัฒน์ และ อาม-สัพพัญญู คู่รัก LGBTQ+
พอร์ช-อภิวัฒน์ และ อาม-สัพพัญญู คู่รัก LGBTQ+

ฟากคนบันเทิง โตโน่-ภาคิน ศิลปินและนักกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม, เชอรี่- เข็มอัปสร นักแสดงและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม,ไอดอลต้นแบบ เฌอปราง อารีย์กุล, ซูริ-สุริศา รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024, ชูการ์ O’daisy หรือ เหมย-อรทัย รองอันดับ 4 มิสแกรนด์ไทยแลนด์,ลิเกว่าที่ดอกเตอร์ ศรราม น้ำเพชร

ร่วมด้วยศิลปินรุ่นใหม่มากมาย อาทิ ฟอร์ด & พีท, มอส & แบงค์,  9 นักแสดงจาก “รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว” สายลับ – ภณ – กาฟิวส์ – เบนซ์-ไทเกอร์-เบลเล่-อ้น-ไมเคิล-ลี, ครูเจด้า BLKGEM & TIGGER , Stang Tari, Seya & Miya , YourMOOD, paiiinntt, Kaimook & BEN จาก PROJEXT 52, Marc x Wanwanwan, Praesun,KIN & MATCHA,MONICA

ภายในงานตลอด 2 วันยังมี โซน  Photo Exhibition จัดแสดงภาพของเหล่าคนดัง พร้อมคำพูดสร้างแรงบันดาลใจ  ที่เสริมสร้างพลังใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน

Praew Talk 2024 “The Inspirations”
โซน  Photo Exhibition
Praew Talk 2024 “The Inspirations”
โซน  Photo Exhibition

สำหรับผู้สนใจยังสามารถสมทบทุนผ่าน โครงการแพรวแชริตี้  บัญชี โครงการแพรวแชริตี้  เลขที่บัญชี 116 – 4 – 58459 – 9 ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางลำพู   โดยเงินทั้งหมดจะมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับน้องๆ ที่ขาดโอกาส 5 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านหนองแคทราย จ.นครราชสีมา, โรงเรียนวัดแหลมมะเกลือ จ.นครปฐม, โรงเรียนโพธิ์ศิลานาหว้า จ.อำนาจเจริญ, โรงเรียนบ้านคำน้ำสร้าง จ.ยโสธร และโรงเรียนวัดดอนขี้เหล็ก จ.ฉะเชิงเทรา

SPARKLES - I SEE THE LIGHTS

TEAM WANG design “SPARKLES – I SEE THE LIGHTS” เต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา

account_circle
SPARKLES - I SEE THE LIGHTS
SPARKLES - I SEE THE LIGHTS

TEAM WANG design เปิดตัวคอลเล็คชั่นล่าสุด SPARKLES – I SEE THE LIGHTS เสื้อผ้าสำหรับฤดูร้อนอันเต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ณ ป๊อปอัพ TEAM WANG design ชั้น M ศูนย์การค้า EMSPHERE ที่ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “ซัมเมอร์ มาเก็ต” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโทนสีอันสดใสของคอลเล็คชั่น

แฟน ๆ TEAM WANG design ห้ามพลาดการเปิดตัวแฟชั่นไอเทมที่นำโดยเสื้อเชิ้ตผ้าคอตตอน เสื้อเวสต์ เสื้อกล้าม กางเกงชิโน่ กางเกงขาสั้นเบอร์มิวดา หมวกแก๊ป รองเท้าสลิปเปอร์หนัง และไอเทมอื่น ๆ อีกมากมาย

“I SEE THE LIGHTS” คือ ตัวแทนแห่งการเริ่มต้นใหม่และความหวัง ซึ่งมีแรงบันดาลใจจากการเดินทางเข้าไปสำรวจเบื้องลึกของอารมณ์และความรู้สึกเพื่อค้นหาแสงที่ส่องสว่างภายในจิตใจของ JACKSON WANG ผู้เป็น ผู้ร่วมก่อตั้งของแบรนด์

โดยการถ่ายทอดผลงานดีไซน์ผ่านโทนสีสันอันสดใสและแสงสว่างอันเป็นสัญลักษณ์ของความสุข การยอมรับ ความมีอิสระ และการเฝ้าคอยอนาคตอันสดใสเบื้องหน้า อีกทั้งคอลเล็คชั่นยังนำเสนอบททดสอบอันไร้จุดสิ้นสุดของชีวิตอย่างการตามหาความรักและชีวิตที่ถูกหลอมรวมเข้ากับเส้นทางที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ MOBOLAJI DAWODU แฟชั่นไดเรคเตอร์ผู้อยู่เบื้องหลังการรังสรรค์ความน่าตื่นตาตื่นใจอันเป็นวิสัยทัศน์ของ TEAM WANG design ตั้งแต่แรกเริ่ม

TEAM WANG design ยังแสดงจุดยืนในการปฏิเสธให้ชีวิตถูกกำหนดโดยสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ต้องเป็นชีวิตที่พร้อมขยายขีดความสามารถในการเปิดรับเรื่องราวการผจญภัยใหม่ ๆ ได้อยู่เสมอ ไปจนถึงแนวความคิดของการค้นหาความเป็นไปได้ของชีวิต การได้รับการยอมรับ และการสนับสนุนให้ทุกคนสามารถแสดงออกได้อย่างเสรี สิ่งเหล่านี้มาพร้อมกับความเชื่อว่าทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะตามหาอารมณ์และความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองเพื่อเอาชนะอุปสรรคและเดินหน้าต่อไปด้วยความหวังจนทุกคนได้พบกับรุ่งอรุณอันสว่างสดใส

TEAM WANG design ภูมิใจนำเสนอคอลเล็คชั่น SPARKLES – I SEE THE LIGHTS โดย JACKSON WANG ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ของแบรนด์และ MOBOLAJI DAWODU แฟชั่นไดเรคเตอร์ ซึ่งคอ็ลเลคชั่นนี้โดดเด่นจากซีรีส์อื่น ๆ ด้วยเรื่องราวที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการทดลองและการก้าวข้ามขีดจำกัดของสิ่งต่าง ๆ ที่ดูเป็นทางการ คอลเล็คชั่นนี้คือตัวแทนจิตวิญญาณของการออกสำรวจ ความอยากรู้อยากเห็น และความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

“I SEE THE LIGHTS” เป็นผลงานแรกของ MOBOLAJI DAWODU ที่ได้ร่วมงานกับ TEAM WANG design ในฐานะแฟชั่นไดเรคเตอร์ ด้วยประสบการณ์ปัจจุบันที่ดำรงตำแหน่งบรรณาธิการแฟชั่นของนิตยสาร GQ นักออกแบบเครื่องแต่งกาย และสไตล์ไดเรคเตอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งมีผลงานด้านการออกแบบสไตล์สำหรับกแฟชั่นโชว์ แคมเปญโฆษณา และภาพยนตร์

นอกจากนี้ยังได้ร่วมงานการสร้างสรรค์สไตล์ให้กับศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เช่น RIHANNA KANYE WEST และ PHARRELL WILLIAMS ในการสร้างสรรค์ลุคในมิวสิควิดีโอ ทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลก และงานพรมแดง MOBOLAJI ยังได้รับการยกย่องเรื่องความชำนาญในด้านแฟชั่นและการสร้างสรรค์สไตล์ในแบบเฉพาะตัว ที่สามารถผสานเข้ากับวัฒนธรรมอันหลากหลายได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยสไตล์ที่มีชีวิตชีวาและนวัตกรรมสมัยใหม่


เฟม-พิมาเดช ศิวพรพิทักษ์

7 เรื่องเกี่ยวกับ เฟม-พิมาเดช ศิวพรพิทักษ์ ว่าที่เจ้าบ่าวของ แมท-ภีรนีย์

Alternative Textaccount_circle
เฟม-พิมาเดช ศิวพรพิทักษ์
เฟม-พิมาเดช ศิวพรพิทักษ์

เร่งเครื่องเดินสายแจกการ์ดแต่งงานอย่างขะมักเขม้น นางเอกลูกครึ่ง แมท-ภีรนีย์ คงไทย กับว่าที่เจ้าบ่าว เฟม-พิมาเดช ศิวพรพิทักษ์ แม้เจ้าตัวยังไม่ประกาศวันแต่งงาน แต่เพื่อนๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานมงคลสมรสของเธอจะถูกจัดขึ้นภายในปี 2024 นี้อย่างแน่นอน โดยก่อนที่จะถึงงานวิวาห์ แพรว ขอพาทุกคนไปรู้จักว่าที่เจ้าบ่าวของหนุ่มแมทให้ลึกขึ้นอีกนิดผ่านสกู๊ป 10 เรื่องราวที่พลาดไม่ได้นี้กันค่ะ

1.  ภีมเดช ศิวพรพิทักษ์ หรือ เฟม  เป็น ลูกชายนายอภิรัตน์ ศิวพรพิทักษ์ อดีตผู้ช่วยปลัด กทม. และเป็น น้องชายคนเล็กในพี่น้อง 3 คน คือ เฟย์ ศิวารี (อดีตนักแสดง)  , ฟาน อัครินทร์ (นักแสดงเรื่อง กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้)

เฟม-พิมาเดช ศิวพรพิทักษ์

2. เฟมจบการศึกษาจากโรงเรียนสาธิตปทุมวัน จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขารัฐศาสตร์ จาก San Francisco State University สหรัฐอเมริกา และจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

3.ปัจจุบัน เฟม เป็นรองประธานบริษัท Wing Advisory  ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาและวางแผนธุรกิจ  นอกจากนี้ยังหุ้นส่วน Home Bar & Restaurant

4จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ แมท เล่าว่าช่วงต้นปีประมาณเดือนมกราคม ระหว่างที่เธอทานข้าวอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ เพื่อนได้ชวนให้มาที่ Home Bar & Restaurant เพราะเป็นร้านที่มีดนตรีสด และได้แนะนำคุณเฟมที่เป็นหุ้นส่วนของร้านนี้ให้รู้จัก หลังจากนั้นก็เริ่มสานสัมพันธืสะสมความรู้สึกมาเรื่อยๆ กระทั่งตกลงเป็นแฟนกัน

เฟม-พิมาเดช ศิวพรพิทักษ์

5. 1 มิถุนายน 2024 ได้มีภาพ แมท ถูกแฟนหนุ่มทำเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงาน ที่ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งแมทยืนยันว่าเธอไม่รู้ตัวมาก่อนเพราะดูจากเสื้อผ้าหน้าผมเธอไม่ได้เตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์นี้เลย

เฟม-พิมาเดช ศิวพรพิทักษ์

6. ความน่ารักของเฟมคือ ก่อนที่จะทำเซอร์ไพร้ส์คนรัก เขาไปขออนุญาตพ่อกับแม่ของแมทแล้ว โดยเฉพาะคุณพ่อที่ปกติไม่ค่อยแข็งแรงและเป็นคนไม่ออกไปทานข้าวนอกบ้าน แต่การดินเนอร์ครั้งสำคัญนี้ท่านตั้งใจมาร่วมงานเพื่ออวยพรทั้งสองคน

7.ขณะที่แม่พัชนีย์ คุณแม่ของแมทได้โพสต์ภาพเล่าถึงความน่ารักของว่าที่ลูกเขยที่ส่งข้อความมาหา “สวัสดีครับคุณแม่ เฟมนะครับ วันนี้เฟมจะขออนุญาตคุณแม่ Surprise แมท ด้วยการขอแมทแต่งงานนะครับแม่ กลับไปไทย เฟมจะขอพาคุณพ่อไปสู่ขอกับแม่อย่างเป็นทางการนะครับผม”

เฟม-พิมาเดช ศิวพรพิทักษ์

อย่างไรก็ตามแมทยังได้พูดถึงว่าที่เจ้าบ่าวไว้อย่างซาบซึ้งว่า “เฟมเป็นคนดีมากๆ แม้เขาจะไม่ใช่คนที่เพอร์เฟค แต่เป็นคนที่รู้สึกว่าถ้าเราพลาดคนนี้ไปอาจจะไม่ได้คนเจอคนนี้อีกแน่นอน” จึงเป็นเหตุผลที่เธอตัดสินใจแต่งงาน

กำเนิดโมเมนต์แฟชั่น เมื่อ Blake Lively & Gigi Hadid ปรากฏตัวในลุคซูเปอร์ฮีโร่

Alternative Textaccount_circle

ตรงคาแร็คเตอร์จนกลายเป็นไวรัล เมื่อเซเลบริตี้สุดฮ็ฮต Blake Lively & Gigi Hadid คัฟเวอร์เป็นซูเปอร์ฮีโร่ ‘Deadpool & Wolverine’ ในงานฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์

ถือเป็นโมเมนต์แฟชั่นในงานฉายภาพยนตร์เรื่อง Deadpool & Wolverine รอบปฐมทัศน์ที่หลายคนต้องพูดถึง นั่นคือสองสาวเซเลบริตี้อย่าง Blake Lively & Gigi Hadid ที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงาน โดยทั้งคู่มาให้กำลังใจสามีของ Black อย่าง ‘Ryan Reynolds’ เจ้าตัวเลยสวมบอดี้สูทสีแดงเข้ารูปประดับลูกปัดสีดำจาก Atelier Versace ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละคร Deadpool ที่สามีของเธอเล่นนั่นเอง ฝั่ง Gigi Hadid มาให้กำลังใจเพื่อนสนิทอย่าง Hugh Jackman ที่รับบท Wolverine เธอเลยจัดเต็มด้วยเสื้อเกาะอกและกระโปรงหนังสีเหลืองจาก Miu Miu เรียกว่าเมื่อทั้งสองมายืนร่วมเฟรมกันพวกเธอก็กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่สาวที่น่าจับตามองทีเดียว Marvel Studio สนใจครีเอทคาแร็คเตอร์เพิ่มอีกสัก 2 ตัวไหมคะ


ภาพ: Instagram @deadpoolmovie

เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ปรับไลฟ์สไตล์ 6 เรื่องหลักของการมีสุขภาพดี ตามหลัก 'เวชศาสตร์วิถีชีวิต'

เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ปรับไลฟ์สไตล์ 6 เรื่องหลักของการมีสุขภาพดี ตามหลัก ‘เวชศาสตร์วิถีชีวิต’

Alternative Textaccount_circle
เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ปรับไลฟ์สไตล์ 6 เรื่องหลักของการมีสุขภาพดี ตามหลัก 'เวชศาสตร์วิถีชีวิต'
เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ปรับไลฟ์สไตล์ 6 เรื่องหลักของการมีสุขภาพดี ตามหลัก 'เวชศาสตร์วิถีชีวิต'

โรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs (Non-communicable diseases) เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตทั่วโลกถึง 74% โดยรายงานของ WHO ปี พ.ศ. 2565 คนไทยเสียชีวิตจาก NCDs มากถึง 380,400 คนต่อปี หรือประมาณ 44 คนต่อชั่วโมง ซึ่งนี้ถือเป็นภัยร้ายที่ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไข ซึ่งสาเหตุของโรคเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันของ เช่น การทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่บริโภคผักและผลไม้ ไม่ออกกำลังกาย นอนหลับไม่เพียงพอ มลภาวะฝุ่น PM2.5 สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงความเครียดสะสม

ซึ่งปัจจุบันโลกได้มีศาสตร์การแพทย์แขนงหนึ่ง คือ เวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) ที่มีหลักฐานยืนยันแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกัน รักษา และลดความรุนแรงของโรคได้ ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนด้วยการแก้ไขต้นเหตุของปัญหา นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ แห่งบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ได้แนะ 6 หลักปฎิบัติของการดูแลสุขภาพตามหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต เพื่อเป็นแนวทางการปรับไลฟ์สไตล์ง่ายๆ ทำได้ด้วยตนเอง

1. อย่าให้อ้วนลงพุง และทานอาหารที่มีประโยชน์
การรักษาน้ำหนักให้เหมาะสม และควบคุมมวลไขมันในร่างกายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพดี มวลไขมันที่มากเกินไปเป็นตัวก่อโรคหลายชนิด ดังนั้น การรักษามวลไขมันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ชายวัยกลางคนไม่ควรมีไขมันในร่างกายเกิน 25% และผู้หญิงวัยกลางคนไม่ควรมีไขมันเกิน 32% ซึ่งการวัดองค์ประกอบร่างกาย ด้วยวิธี DEXA scan (Dual-energy X-ray Absorptiometry) ถือเป็นวิธีมาตรฐานที่ให้ผลแม่นยำที่สุด แต่คนที่ไม่สามารถเข้าถึงวิธีการนี้ได้ การวัดเส้นรอบเอว เป็นวิธีที่ทำได้ง่าย โดยผู้ชายชาวเอเชียไม่ควรมีรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร (36 นิ้ว) และหญิงชาวเอเชียไม่ควรเกิน 80 เซนติเมตร (32 นิ้ว) โดยยึดหลัก ‘อย่าให้อ้วนลงพุง’

โดยสามารถเริ่มต้นจากการกินอาหารที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมหวาน ของทอด อาหารมันๆ ก็ถือว่าช่วยได้มาก แต่มีหนึ่งวิธีที่ได้รับการยืนยันว่าดีต่อสุขภาพและลดการเกิดโรค คือ การทานอาหารจากพืชที่ไม่ผ่านการแปรรูป (Whole food, plant-based diet) หมายถึง การเน้นทานพืชผักหลากชนิด ธัญพืช ถั่วต่างๆ ที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปทางอุตสากรรม เพราะอาหารเหล่านี้ยังอุดมไปด้วยกากใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

2. เคลื่อนไหวร่างกาย และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพ เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ ด้วยการเลือกกิจกรรมที่ช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ เพื่อเสริมสร้างระบบหัวใจและปอด นอกจากนี้ มองหากิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น ยกน้ำหนัก บอดี้เวท ร่วมกับการฝึกการทรงตัวและยืดเหยียดร่างกาย เช่น โยคะ ไทชี หรืออาศัยการเพิ่มกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน เช่น การทำงานบ้าน หรือการเดินขึ้นบันได ก็เป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มปริมาณการใช้พลังงาน แนะนำให้เราหากิจกรรมทางกายที่ชอบแล้วสอดแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวันเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวร่างกายให้มากที่สุด

3. จัดการความเครียด ดูแลสุขภาพจิต
ความเครียดเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่วิธีการรับมือและมุมมองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมและสุขภาพของบุคคลแตกต่างกันไป ความเครียดเพียงเล็กน้อยในระยะเวลาอันสั้น อาจเสริมสร้างประสิทธิผลในการทำงาน แต่เมื่อมีมากเกินไปและเรื้อรัง อาจนำไปสู่ภาวะวิตกกังวล ซึมเศร้า และปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ อยากรณรงค์ให้ทุกคนเรียนรู้และฝึกฝนการจัดการความเครียด โดยการฝึกสติลดความเครียด (Mindfulness-Based Stress Reduction; MBSR) เช่น การนั่งสมาธิ เดินจงกรม โดยกำหนดที่ลมหายใจเข้าออก ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย แต่ต้องอาศัยวินัยและการฝึกฝนอย่างมาก โดยอาจเริ่มต้นฝึกด้วยหลัก “วิทิสาสมาธิ” เป็นการทำสมาธิ 5 นาทีต่อครั้ง ในช่วงเช้า กลางวันและเย็น แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้น

การฝึกสมาธิปรับปรุงโครงสร้างทางสมองและเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าในสมอง เสริมสร้างสมาธิและอารมณ์เชิงบวก และช่วยให้เราเข้าใจและรับมือเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น แต่หากไม่สามารถจัดการความเครียดด้วยตัวเองได้ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำและวิธีจัดการที่เหมาะสม

4. นอนหลับให้ดีมีคุณภาพ
การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพอย่างมาก การนอนไม่เพียงพอหรือไม่มีคุณภาพส่งผลกระทบต่อร่างกาย เช่น ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น ภูมิคุ้มกันลดลง หรือควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี ซึ่งแต่ละช่วงวัยมีชั่วโมงการนอนที่แตกต่างกัน โดยวัยผู้ใหญ่ควรนอน 7-9 ชั่วโมงต่อคืน และควรมีช่วงหลับลึกประมาณ 25% ของการนอนหลับทั้งหมด หรือคิดเป็น 105-120 นาทีต่อคืน เพราะช่วยให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนที่สำคัญได้อย่างเหมาะสม เช่น เมลาโทนิน (Melatonin) ฮอร์โมนแห่งการนอน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ หรือ โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมร่างกาย เป็นต้น

สุขอนามัยการนอนหลับ (Sleep Hygiene) ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น เริ่มต้นจากการจัดการกับสิ่งที่อาจรบกวนการนอนหลับ เช่น เสียง แสง รักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาแน่นอน ไม่รับประทานคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม และอาหารมื้อใหญ่ใกล้เวลานอนมากเกินไป รวมถึงการสร้างความสงบ สบายใจก่อนการนอน จะช่วยให้มีการนอนหลับที่ดีขึ้นอีกด้วย อย่าลืมว่า การนอนหลับที่ดีเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพที่สามารถทำได้ทุกคนโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย เราจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลการนอนหลับให้ดีขึ้น

5. หลีกเลี่ยงสารอันตราย
สารอันตรายเช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ และมลภาวะทางอากาศ (ฝุ่น PM 2.5) ถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 โดย International Agency for Research on Cancer (IARC) องค์กรภายใต้ WHO การเลิกสารเสพติดบุหรี่และแอลกอฮอล์ ต้องใช้ความมุ่งมั่นและวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม ซึ่งอาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับมืออย่างถูกวิธี แต่หากเลิกได้จะส่งผลดีอย่างมากทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยง ฝุ่น PM 2.5 ในระดับบุคคลนั้นทำได้โดยหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ในช่วงที่ปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูง ใส่หน้ากากอนามัย และติดตั้งเครื่องกรองอากาศในบ้าน แต่ปัญหามลภาวะนั้นต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนในสังคม ในการลดการเผาป่า เผาขยะ การใช้รถยนต์ส่วนบุคคล รวมถึงดูแลสิ่งแวดล้อมโดยรวม เพราะปัญหาโลกเดือด (Global Boiling) ที่กำลังเกิดขึ้นทำให้ปัญหามลภาวะต่างๆ ทวีความรุนแรงขึ้น

6. มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
การเชื่อมโยงทางสังคมและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของเรา เพราะการมีความสัมพันธ์ทางสังคมที่แน่นแฟ้น หรือแม้แต่ปฏิสัมพันธ์ระยะสั้น ช่วยให้ระดับความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจดีขึ้น สมองเกิดการตอบสนองต่อรางวัลตามธรรมชาติ (Reward pathway) โดยปล่อยสารสื่อประสาทที่ให้ความรู้สึกดี เช่น Dopamine, Oxytocin, Serotonin, และ Endorphins (DOSE) ซึ่งส่งผลทางบวกต่อร่างกาย อาจใช้วิธีเข้าร่วมกิจกรรมอาสาสมัคร หรือพิธีกรรมทางศาสนา เข้าโบสถ์ เข้าวัด ฟังเทศน์ หรือทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนร่วมงานหรือคนในชุมชน เช่น การออกกำลังกาย งานประเพณีต่างๆ หรือการหาคอร์สเรียนใหม่ๆ ซึ่งนอกจากช่วยพัฒนาทักษะส่วนตัวและได้เพื่อนใหม่อีกด้วย

ทั้งหมดนี้คือ 6 เสาหลักตามหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต ที่ทุกคนสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้ด้วยตัวเอง ลองตั้งเป้าหมายเล็กๆ ง่ายๆ ก่อน แล้วค่อยๆ ขยับไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น การดูแลสุขภาพก็เหมือนงานระยะยาวที่ทุกคนต้องทำไปตลอดชีวิต ซึ่งต้องคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอเมื่อออกนอกลู่นอกทาง เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย คือการมีสุขภาพยืนยาวอย่างมีคุณภาพ

Photo: Pexels

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

  • Noncommunicable diseases progress monitor 2022. Geneva: World Health Organization; 2022. Licence: CC BY-NC-SA 3.0 IGO.
  • Sagner M, Katz D, Egger G, Lianov L, Schulz K, Braman M, et al. Lifestyle medicine potential for reversing a world of chronic disease epidemics: from cell to community. International journal of clinical practice. 2014;68(11):1289-92.
  • Medawar E, Huhn S, Villringer A, Veronica Witte A. The effects of plant-based diets on the body and the brain: a systematic review. Translational psychiatry. 2019;9(1):226.
  • Hölzel BK, Carmody J, Vangel M, Congleton C, Yerramsetti SM, Gard T, et al. Mindfulness practice leads to increases in regional brain gray matter density. Psychiatry research: neuroimaging. 2011;191(1):36-43.
  • ตนุพล วิรุฬหการุญ. นอนถูกวิธี สุขภาพดีตลอดชีวิต. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: อมรินทร์เฮลท์ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง; 2563
  • Patel AK, Reddy V, Shumway KR, Araujo JF. Physiology, sleep stages. InStatPearls [Internet] 2022 Sep 7. StatPearls Publishing.

หรูหราไปกับงานคราฟต์รุ่นใหม่ ซูมอินรองเท้า Christian Louboutin ‘Minny’ 

account_circle

ต้อนรับซีซั่นใหม่ด้วยความหรูหราไปกับงานคราฟต์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างรองเท้า ‘Minny’ ภายใต้คอลเล็คชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาวประจำปี 2024 จาก Christian Louboutin นำโดยนักแสดงและแฟชั่นนิสต้าอย่าง คริส-หอวัง และ แพต-ชญานิษฐ์ ที่มาคอมพลีทลุคด้วยรองเท้าส้นสูงในระดับ 70 มม.

หรูหราไปกับงานคราฟต์รุ่นใหม่ ซูมอินรองเท้า Christian Louboutin รุ่น ‘Minny’

โดยนำเสนอความโดดเด่นของดีไซน์แบบร่วมสมัยเพื่อเผยซิลูเอตสุดโมเดิร์นอย่างหรูหราแต่ยังคงมอบความสบายในการสวมใส่ มาพร้อมกับหัวรองเท้าทรงเหลี่ยมเสริมด้วยส้นรองเท้าที่ถูกดีไซน์แบบหนาเล็กน้อยราวกับลูกโป่งที่ถูกเติมลม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานอันโด่งดังอย่าง Balloon Dog (Blue) หรือประติมากรรมลูกโป่งรูปสุนัขจากศิลปินป๊อปอาร์ตชาวอเมริกัน Jeff Koons รวมถึงรองเท้าเป่าลมของ Minnie Mouse ซึ่งเคยเป็นแบบในการดีไซน์ให้กับรองเท้ารุ่นต่างๆก่อนหน้า มาให้เลือกสวมใส่ทั้งแบบในเวอร์ชั่นสายรัดส้นหรือดีไซน์คลาสสิกทรงพัมพ์ที่ทันสมัย และตัวเลือกของวัสดุที่หลากหลายทั้งหนังแก้ว หนังมิลเลอร์ ไปจนถึงหนังเมทัลลิก 

นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอเวอร์ชั่นที่หรูหราที่สุดภายในคอลเล็คชั่นนี้โดยการประดับตกแต่งเพิ่มเติมของเม็ดพลอยสะท้อนแสงในทุกย่างก้าวเพื่อต้อนรับคํ่าคืนอันร้อนแรงของฤดูร้อน นับว่าเป็นรองเท้าที่เหมาะสำหรับทุกโอกาสอย่างแท้จริง


Heritage Lounge ใหม่ แสนเก๋ชมวิวทะเลแบบพาโนราม่าที่ ​“พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา”

Heritage Lounge ใหม่ แสนเก๋ชมวิวทะเลแบบพาโนราม่าที่ ​“พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา”

Alternative Textaccount_circle
Heritage Lounge ใหม่ แสนเก๋ชมวิวทะเลแบบพาโนราม่าที่ ​“พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา”
Heritage Lounge ใหม่ แสนเก๋ชมวิวทะเลแบบพาโนราม่าที่ ​“พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา”

จะแฮปปี้ขนาดไหน ได้มาเติมพลังใจใกล้ชิดกับธรรมชาติ ใครที่มองหาเดสทิเนชั่นสวย สงบ พร้อทห้องพักวิวหลักล้าน ติดริมหาด มีความส่วนตัว กิจกรรมให้เลือกสรรแน่น และล้อมรอบด้วยภูเขาและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ต้องลองมาที่นี่สักครั้ง “พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา” (Pimalai Resort and Spa) รีสอร์ทแบรนด์ไทยระดับ 5 ดาว แห่งแรกบนเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ กว้างใหญ่ครอบคลุมกว่า 250 ไร่ โอบคลุมตั้งแต่ภูเขาจนถึงชายหาดติดทะเลอันดามันที่เปล่งประกายทอดยาวด้านหน้ารีสอร์ทถึง 900 เมตร เรียกได้ว่าเป็นรีสอร์ทที่ “เสมือนสวรรค์ลับแห่งการพักผ่อน” เหมือนเป็น “สวรรค์ลับกลางเกาะ” สมกับชื่อของรีสอร์ท “พิมาลัย” ในภาษาอินเดียโบราณที่แปลว่า “A Little Patch of Heaven”

สไตล์การออกแบบ Low Rise Southern Style มีความกลมกลืนกับความสวยงามตามธรรมชาติและความเงียบสงบของภูเขาโดยรอบ มีตั้งแต่ห้องสวีทริมทะเลไปจนถึงวิลล่า พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวริมผา ขนาดกว้างขวาง มองเห็นวิวธรรมชาติที่ล้อมรอบอย่างใกล้ชิด รวมถึงการตกแต่งที่กลมกลืนกับกลิ่นอายของไทยภาคใต้ และภายในรีสอร์ทครบวงจรด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสมกับระดับ 5 ดาว พร้อมการบริการมากมาย อาทิ ท่าเรือส่วนตัว, ห้องอาหารและเลาจน์, ห้องอาหารที่ปรุงโดยเชฟมิชลิน, สปา, สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 3 สระ, คิดส์คลับ, สนามเทนนิส และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่เพิ่มเติมมาล่าสุดคือ Herritage Lounge เลาจน์ใหม่ แสนเก๋ที่มองเห็นวิวทะเลอันกวา้งใหญ่ได้แบบเต็มตา โดยไม่มีอะไรมากั้น

ส่วนห้องพักที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ Hillside Ocean View Pool Villaบ้านพักตากอากาศบนเนินเขาริมผา ท่ามกลางแมกไม้ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอ่าวบากันเตียง ทะเลอันดามัน และป่าเขตร้อนอันเขียวชอุ่มโดยรอบ วิลล่าประกอบด้วยห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำขนาดใหญ่แบบซีทรู พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบอินฟินิตี้ขนาด 20 ตารางเมตร และศาลาไทยที่ให้บริการสปาส่วนตัว แยกโซนห้องนั่งเล่น ซึ่งมีมุมครัวและห้องน้ำขนาดเล็กอีกด้วย

พักผ่อนจนฟูฟีลแล้วก็ต้องอิ่มท้องด้วยเช่นกัน ที่นี่มีห้องอาหาร 3 แห่งให้บริการทั้งสไตล์ไทยและตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นSPICE’N RICEห้องอาหารไทยดั้งเดิมรวมถึงอาหารใต้รสเด็ด, RAK TALAY เมนูฟิวชั่นที่หลากหลายของร้านอาหารนี้ รวมถึงSurf and Turf Saturday Buffetทุกค่ำคืนวันเสาร์อาหารทะเลปิ้งย่างสดใหม่พร้อมดนตรีสด และการแสดงไฟให้ชม เป็นแหล่งรวมตัวของคนในรีสอร์ทที่ครื้นเครง และSEVEN SEASห้องอาหารตั้งอยู่บนเนินเขาสูง วิวสวยเกินจะบรรยาย มองเห็นทะเลอันดามันแบบสุดสายตา ข้างๆ เป็นหน้าผาสีเขียวที่ครึ้มไปด้วยไม้ใหญ่ ให้บริการอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฝรั่งเศส

แล้วไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือมาเป็นคู่ ก็มีกิจกรรมสันทนาการให้เลือกสรรแน่นๆ อาทิ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 2 สระ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก ศูนย์ดำน้ำ PADI Scubafish คลาสเรียนทำอาหารไทย กิจกรรมกีฬาบริการเรือใบขนาดเล็ก เรือแคนู กระดานพายบอร์ด โรงเรียนสอนมวยไทย สนามเทนนิส ห่วงบาสเกตบอล เปตอง สนามแบดมินตัน ปิงปอง จักรยาน หรือถ้าไม่ใช่สายกิจกรรมก็มีบริการสปาและซาวน่าเป็นช้อยส์ให้ได้ผ่อนคลาย หรือจะเลือกไปนั่งจิบค็อกเทลดื่มด่ำบรรยากาศก็ย่อมได้

ส่วนการเดินทางจากสนามบินกระบี่ มีบริการรับ-ส่ง มาขึ้น Speed Boat ที่ท่าเรือ Pimalai Jetty ของทางรีสอร์ท ให้นั่งชมวิวระหว่างทางตักตวงความฟินแบบฉ่ำๆ ด่านแรกก่อนถึงรีสอร์ท สนใจสอบถามข้อมูลหรือจองห้องพักสำรองล่วงหน้า ได้ที่เบอร์: 075 607 999, หรืออีเมล์: [email protected], www.pimalai.com


keyboard_arrow_up